Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดที่-4-กินอย่างไรห่างไกลโรค

ชุดที่-4-กินอย่างไรห่างไกลโรค

Published by moowhanwongtawan, 2021-11-18 09:26:37

Description: ชุดที่-4-กินอย่างไรห่างไกลโรค

Search

Read the Text Version

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรือ่ งโภชนาการกับสุขภาพ ชุดที่ 4 กนิ อยา่ งไรหา่ งไกลโรค ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรือ่ งโภชนาการกับสขุ ภาพ ชดุ ท่ี 4 กนิ อยา่ งไรห่างไกลโรค

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรือ่ งโภชนาการกับสขุ ภาพ ชดุ ท่ี 4 กนิ อยา่ งไรห่างไกลโรค

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรือ่ งโภชนาการกับสขุ ภาพ ชดุ ท่ี 4 กนิ อยา่ งไรห่างไกลโรค

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรือ่ งโภชนาการกับสขุ ภาพ ชดุ ท่ี 4 กนิ อยา่ งไรห่างไกลโรค

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรือ่ งโภชนาการกับสขุ ภาพ ชดุ ท่ี 4 กนิ อยา่ งไรห่างไกลโรค

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรือ่ งโภชนาการกับสขุ ภาพ ชดุ ท่ี 4 กนิ อยา่ งไรห่างไกลโรค

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรือ่ งโภชนาการกับสขุ ภาพ ชดุ ท่ี 4 กนิ อยา่ งไรห่างไกลโรค

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่อื งโภชนาการกับสุขภาพ 1 ชดุ ที่ 4 กินอย่างไรห่างไกลโรค ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชดุ ท่ี 4 กินอยา่ งไรหา่ งไกลโรค สาระการเรยี นร้ทู ี่ 4การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ สมรรถภาพและการปอ้ งกันโรค มาตรฐานการเรยี นรู้ พ 4.1 เหน็ คณุ ค่าและมีทักษะในการสร้างเสริมสขุ ภาพ การดารงสขุ ภาพ การปอ้ งกันโรค และการสรา้ งเสริมสมรรถภาพเพือ่ สขุ ภาพ ตัวชว้ี ดั พ 4.1 ม.1/1 เลือกกนิ อาหารที่เหมาะสมกับวยั จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกประเภทของสารอาหารได้ (K) 2. ออกแบบเมนอู าหารท่มี ีปริมาณอาหารให้ถูกสดั ส่วนตามธงโภชนาการได้ (K) 3. ปฏิบัติการทาอาหารท่ีมีสารอาหารถูกสัดส่วนตามธงโภชนาการและตามความต้องการในวัย ของตนเองได้ (P) 4. วเิ คราะหป์ ัญหาสุขภาพทเี่ กิดจากการรับประทานอาหารของวัยรนุ่ ได้ (K) 5. เห็นคณุ ค่าของการรบั ประทานอาหารทถี่ กู สดั ส่วนตามหลักโภชนาการ(A) สาระสาคญั การรับประทานอาหารให้ถูกสัดส่วนตามธงโภชนาการจะทาให้มีการเจริญเติบโตที่สมวัย และ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาโรคท่ีเกิดจากภาวะโภชนาการ ซ่ึงเป็นโรคท่ีก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพกาย รุนแรงจนถึงข้ัน เสียชีวิต และทาให้สิ้นเปลืองงบประมาณของภาครัฐบาลในการจดั การกับโรคท่ีเกิดจากภาวะโภชนาการอีก ดว้ ย อีกท้ังการรับประทานอาหารให้ถูกสัดส่วนยังสง่ ผลให้มีพัฒนาการด้านร่างกายเจริญเติบโตตามวัยอีก ด้วย

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เร่อื งโภชนาการกบั สุขภาพ 2 ชดุ ท่ี 4 กนิ อย่างไรหา่ งไกลโรค แบบทดสอบก่อนเรียน เร่อื งกินอยา่ งไรหา่ งไกลโรค คาช้ีแจง โปรดเลือกคาตอบท่ีถูกต้องที่สุด แล้วทาเคร่ืองหมายกากบาท (×)ลงในกระดาษคาตอบ ใช้เวลา ในการทาแบบทดสอบ 10 นาที ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………...... 1. พฤตกิ รรมของบุคคลใดตอ่ ไปน้ที ี่นำไปส่ปู ัญหำสุขภำพตำ่ งๆ ได้ 1. แพน รบั ประทำนอำหำรไมเ่ ป็นเวลำและงดบำงม้ือ 2. เงำะ รับประทำนผักผลไม้ทุกมื้อ 3. จบิ๊ ชอบรับประทำนไข่ไกว่ นั ละ 1 ฟอง 4. เอ็ม ด่มื นมวนั ละ 1-2 แกว้ ทกุ วนั 2. ขอ้ ใดคือภำวะโภชนำกำรเกนิ 2.โรคโลหติ จำง 1. โรคขำดสำรอำหำร 4.โรคอว้ น 3. โรคปำกนกกระจอก 3. โรคอ้วนเปน็ โรคหนึ่งซง่ึ อำจส่งผลให้เป็นโรคใดตำมมำได้ 1. โรคตำฟำง 2. โรคควำมดนั โลหิตสงู 3. โรคตำนขโมย 4. โรคหอบ 4. ผ้ทู ปี่ ว่ ยเปน็ โรคลกั ปิดลักเปิด ควรรบั ประทำนอำหำรประเภทใดเพอ่ื เปน็ กำรป้องกนั 1. นม เนย เคร่ืองในสตั ว์ 2. ตับ ไขแ่ ดง น้ำมนั ตับปลำ 3. ผักผลไมท้ ่มี ีวติ ำมนิ ซสี ูง 4. นม ถ่วั ขำ้ วโพด 5. หำกเรำถอื ศีล กนิ เจ งดกำรบริโภคเนอื้ สัตว์ เรำควรทำนอำหำรประเภทใดทดแทนเพ่ือให้ไดร้ ับสำรอำหำร ประเภทโปรตนี อย่ำงเพยี งพอต่อควำมต้องกำรของร่ำงกำย 1. ผัก ผลไมท้ ี่มรี สหวำน 2. นำ้ เตำ้ หู้ ถ่ัวเหลอื ง เตำ้ หู้ก้อน 3. เผือก มัน เมล็ดข้ำวโพด ขำ้ วสำลี 4. ฟกั ทอง มนั เทศ ผกั คะน้ำ ผกั กำดขำว

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่ืองโภชนาการกบั สขุ ภาพ 3 ชดุ ที่ 4 กนิ อยา่ งไรหา่ งไกลโรค 6. โรคที่เกดิ จำกภำวะโภชนำกำรขำดคือโรคในข้อใด 1. โรคเบำหวำน 2. โรคอ้วน 3. โรคตำนขโมย 4. โรคหัวใจและหลอดเลือด 7. ข้อใดเป็นกำรปฏบิ ตั ติ ำมธงโภชนกำร 1. ผู้สงู อำยกุ นิ เนื้อสตั วใ์ หม้ ำก ๆ 2. ผูใ้ หญ่ควรดืม่ นมสดวนั ละ1 แก้ว 3. เด็กวัยเรยี นควรงดกนิ อำหำรเช้ำ 4. เดก็ วยั รนุ่ ควรกนิ อำหำรประเภทวติ ำมิน 8. เพรำะเหตุใดเรำจึงควรกินอำหำรใหค้ รบทัง้ 5 หมู่ 1. ทำใหม้ ีรปู รำ่ งดี 2. ทำใหม้ หี น้ำตำสวยงำม 3. ทำให้เลือกซือ้ อำหำรได้งำ่ ย 4. ทำใหไ้ ดร้ บั สำรอำหำรครบถ้วน 9. อำหำรประเภทใดทวี่ ัยรนุ่ ควรเลือกรบั ประทำน 1. น้ำอัดลม 2.นมสด 3. อำหำรกงึ่ สำเร็จรปู 4.อำหำรฟำสต์ฟูด้ 10. ผทู้ ี่ป่วยเปน็ โรคคอพอก ควรได้รับสำรอำหำรจำพวกใด 1. ธำตเุ หลก็ 2.วิตำมินบี 1 3. ธำตไุ อโอดนี 4.วติ ำมินบี 2

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรือ่ งโภชนาการกับสขุ ภาพ 4 ชดุ ท่ี 4 กินอยา่ งไรหา่ งไกลโรค ชือ่ ...........................................สกุล................................................เลขท่.ี ................ช้ัน............... กระดาษคาตอบ ขอ้ ท่ี 1 2345 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ต้งั ใจทาแบบทดสอบกันนะคะเดก็ ๆ

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรื่องโภชนาการกบั สขุ ภาพ 5 ชดุ ท่ี 4 กนิ อยา่ งไรห่างไกลโรค แนะนาตวั ละคร วาวา ขวญั ครมี

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เร่อื งโภชนาการกบั สุขภาพ 6 ชุดที่ 4 กินอยา่ งไรหา่ งไกลโรค ตอนรับประทานอาหารตามหลักโภชนาการ ครีม ขวัญ และวาวา ได้ศึกษาเร่ืองราวต่าง ๆ เก่ียวกับสุขภาพแล้วพบว่าส่วนใหญ่ เกิดจากการ รับประทานอาหารเป็นหลัก จึงคิดว่าเราควรจะกิน อย่างไรให้มีสุขภาพดี จึงไปค้นหาข้อมูลในการทา เมนอู าหารเพือ่ สขุ ภาพ ที่อร่อยและถกู หลักโภชนาการ ---------000---------- ณ ห้องเรียน ม. 1/2 ครีม ขวัญ วาวา น่ังคุยกันอยบู่ ริเวณหนา้ หอ้ งเรยี น นีพ่ วกเธอฉนั ว่ำนะ ตัง้ แต่ได้เรียนรู้ ทำไมเธอคดิ แบบน้นั ละ่ เรือ่ งโภชนำกำรกบั สุขภำพ ฉันวำ่ กำรเกิดโรคตำ่ งๆ ไมว่ ่ำจะเป็น ก็ฉนั ประเมินภำวะกำร เบำหวำน ควำมดนั ฯ โรคอว้ น เจรญิ เตบิ โตของตวั เอง ล้วนเกดิ จำกกำรรับประทำนอำหำร แล้ว ปรำกฏวำ่ เป็นโรค ทไ่ี ม่ถูกหลกั โภชนำกำรทัง้ น้ันเลย อ้วน แถมยงั เสยี่ งต่อโรค อื่น ๆ อกี และทส่ี ำคัญ ฉันเองคงต้องปรบั เปลยี่ น คือฉันอยำกหุ่นดีเผอ่ื พฤติกรรมเกีย่ วกับกำรบริโภค พคี่ ิมจะได้หนั มำมองฉนั อำหำรแลว้ ล่ะ ดว้ ย ออิ ิ ฉันเองกผ็ อมเกินไป ทำให้เสี่ยงต่อ เท่ำท่ีเรำศึกษำกันผำ่ นมำ กำรเป็นโรคขำดสำรอำหำรด้วยนะ ฉนั วำ่ ทุกอย่ำงลว้ นเกิด จำกกำรกินเปน็ หลักเลย งนั้ เรำจะทำยังไงกนั ดี ล่ะ! นะ

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรอ่ื งโภชนาการกบั สขุ ภาพ 7 ชุดท่ี 4 กินอยา่ งไรห่างไกลโรค งน้ั เรำก็ควรเรมิ่ ตน้ ทีก่ ำรกนิ ฉนั วำ่ เรำไปศึกษำในอนิ เทอร์เน็ตดี ใหถ้ ูกหลักโภชนำกำรก่อนดีไหม ไหมวำ่ ควรทำนอำหำรอย่ำงไรให้ถกู แลว้ เรำจะกนิ อยำ่ งไร หลักโภชนำกำร และห่ำงไกล ให้ถูกหลกั โภชนำกำร จำกโรคต่ำง ๆ ล่ะ!ละ่ ปะ่ ! ไปกนั เถอะ

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรือ่ งโภชนาการกับสขุ ภาพ 8 ชุดที่ 4 กินอย่างไรห่างไกลโรค ใบความรู้ เร่อื ง ความรู้ทวั่ ไปเกย่ี วกับอาหาร และโภชนาการ ความรู้ทั่อาหารถือได้ว่าเป็นหน่ึงในปัจจัย 4 ท่ีมีความจาเป็นต่อการดารงชีวิตของมนุษย์ทุกคน ไม่สามารถ ขาดได้ เพราะหากขาดแล้วอาจส่งผลต่อพัฒนาการด้านรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ และสติปัญญาของมนุษย์เราได้ อีกทั้งยังอาจส่งผลทาให้การเจริญเติบโตหยุดชะงักไปด้วยการรับประทานอาหารเพ่ือให้มีสุขภาพที่ดี จาเป็นต้องมีความรู้ทางด้านโภชนาการและอาหาร เพื่อจะได้เลือกรบั ประทานอาหารท่ีมีประโยชน์ ได้สัดส่วน เหมาะสมตามหลักโภชนาการและตามความต้องการของร่างกาย เพ่ือเป็นการเสริมสรา้ งสขุ ภาพท่ีดใี ห้ห่างไกล จากโรคภัยไข้เจบ็ ความหมายของอาหาร ทม่ี า : https://www.babybbb.com/ อาหาร หมายถึง สารใด ๆ ซ่ึงรับประทานแล้วก่อให้เกิดประโยชน์แก่ร่างกาย อาหารมักมาจากพืชหรือ สตั ว์ และมีสารอาหารสาคัญ ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต ไขมนั โปรตีน วิตามิน แรธ่ าตุ สิง่ มีชวี ิตย่อยและดูดซึมสสาร ที่เป็นอาหารเข้าสู่เซลล์เพ่ือนาไปสร้างพลังงาน คงชีวิต และ/หรือ กระตุ้นการเจริญเติบโตหากส่ิงใดท่ี รับประทานไปแล้วไม่ก่อให้เกิดประโยชน์และอาจก่อให้เกิดโทษแก่ร่างกายได้นั้น ไม่จัดเป็นอาหาร เช่น เคร่ืองดืม่ ท่มี แี อลกอฮอล์ สารปรงุ อาหาร ผงชูรส เป็นตน้ ความสาคัญของอาหารต่อสุขภาพ การรับประทานอาหารท่ีถูกหลักโภชนาการจะทาให้ร่างกายได้รับประโยชน์และคุณค่า ซ่ึงส่งผลต่อ สุขภาพ ดงั น้ี 1. ช่วยใหร้ ่างกายเจริญเติบโต 2. ช่วยซ่อมแซมสว่ นทีส่ ึกหรอของร่างกาย 3. ให้พลังงานและความอบอุ่นแกร่ า่ งกาย 4. ชว่ ยใหอ้ วัยวะตา่ ง ๆ ภายในรา่ งกายทางานได้ตามปกติ 5. ช่วยเสรมิ สร้างภมู ิตา้ นทานโรคใหแ้ ก่ร่างกาย

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เร่ืองโภชนาการกบั สขุ ภาพ 9 ชดุ ที่ 4 กนิ อย่างไรหา่ งไกลโรค ประเภทของสารอาหาร สารอาหาร คือ สารเคมีท่ีเป็นองคป์ ระกอบที่จาเป็นต่อการดารงชีวิตและการเจรญิ เติบโตของสิ่งมชี ีวิต บนโลกสาหรับมนุษย์ได้รบั สารอาหารโดยการกิน ซึ่งจะช่วยในกระบวนการสร้าง ย่อยสลายและซ่อมแซมส่วน ต่าง ๆ ของรา่ งกาย ในร่างกายของเราต้องการสารอาหารมากกว่า 40 ชนิดทจ่ี าเปน็ ตอ่ ร่างกาย สารอาหารแบ่ง ออกเปน็ 6 ชนิด ไดแ้ ก่ 1.คาร์โบไฮเดรต 2.โปรตนี 3.ไขมนั 4.วติ ามิน 5.เกลือแร่ ทม่ี า : https://ngthai.com/science 6.น้า สารอาหาร ทงั้ 6 กลมุ่ ใหญ่น้ีจะทาหนา้ ที่ควบคู่กนั มกี ารเปลี่ยนแปลงในร่างกายคนแตกตา่ งกนั ดงั น้ี ประเภทของสารอาหาร แหลง่ อาหาร ประโยชน์ คารโ์ บไฮเดรต ข้าว แป้ง นา้ ตาล เผอื ก และมัน 1. ให้พลังงานและความอบอุ่นแก่ ที่มำ https://medium.com/ arincare-com/คำรโ์ บไฮเดรต ร่างกาย ปศี ำจรำ้ ยในควำมเข้ำใจผิดของ คนอยำกผอม- 2. ชว่ ยให้รา่ งกายสามารถนาโปรตีนไป โปรตนี ใช้ประโยชน์ไดโ้ ดยการสลายโปรตนี เพือ่ ท่มี ำ : https://sukkaphap- ทาให้เกิดพลังงานเม่ือร่างกายได้รับ d.com/สำรอำหำร-6-ประเภท คาร์โบไฮเดรตน้อย คุณคำ่ ท/ 3. ใชเ้ ปน็ พลงั งานสารองของร่างกาย 4. เปน็ องคป์ ระกอบทสี่ าคัญของตบั ซงึ่ ตับเป็นอวัยวะท่ีกาจดั สารพิษในเลอื ด เน้อื สตั ว์ตา่ ง ๆ ไข่ นม และถ่วั 1. สร้างความเจริญเตบิ โตและซ่อมแซม เมล็ดแห้ง (โปรตนี ที่ได้จากสัตว์ ส่วนทสี่ ึกหรอให้แก่รา่ งกาย จะมีคุณค่าทางโภชนาการ 2. ใหพ้ ลงั งานแก่รา่ งกาย มากกวา่ โปรตีนที่ไดจ้ ากพืช 3. สร้างนา้ ย่อย ฮอร์โมน และภูมคิ มุ้ กัน ยกเว้นโปรตีนที่ได้จากถ่ัวเหลือง โรคให้แกร่ ่างกาย และผลิตภณั ฑจ์ ากถ่ัวเหลอื ง) 4. ชว่ ยรักษาสมดุลของน้าในหลอดเลอื ด เนือ้ เย่อื และเซลล์ 5. ชว่ ยรักษาความสมดุลของสภาพความ เปน็ กรดและด่างภายในร่างกาย

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื งโภชนาการกบั สุขภาพ 10 ชดุ ที่ 4 กินอย่างไรห่างไกลโรค ประเภทของสารอาหาร แหลง่ อาหาร ประโยชน์ ไขมัน ไขมันต่าง ๆ จากพชื และสตั ว์ 1. ให้พลังงานแก่รา่ งกาย ทม่ี ำhttps://www.cigna.co. th/health-wellness/tip/ เช่น นา้ มันถว่ั เหลือง น้ามันงา 2. ชว่ ยใหค้ วามอบอ่นุ แกร่ า่ งกาย cholesterol-care น้ามนั มะพร้าว น้ามันหมู (ไขมัน 3. ชว่ ยปอ้ งกนั การกระทบกระเทือนของ วิตามนิ ที่ได้จากพชื จะมคี ุณค่าทาง อวยั วะในรา่ งกาย ทีม่ าhttps://sites.google. com/site/nattidamcu/hna โภชนาการมากกว่าไขมนั ท่ีได้ 4. ละลายวิตามินเอ ดี อี และเค เพ่ือให้ จากสัตว์ ร่างกายดูดซึมวิตามินเหล่านี้เขา้ สู่ รา่ งกาย 5. เปน็ ส่วนประกอบท่สี าคญั ของอวัยวะ บางอยา่ งของร่างกาย เชน่ เนื้อสมอง เส้นประสาท เปน็ ตน้ 6. เปน็ พลังงานสารองของร่างกาย 1. วติ ามนิ ทล่ี ะลายในไขมัน 1. ชว่ ยในการเจริญเติบโตของรา่ งกาย ได้แก่ 2. ช่วยใหร้ ่างกายทางานไดต้ ามปกติ - วติ ามนิ เอ พบมากในตบั 3. ช่วยเสริมสรา้ งภมู ติ า้ นทานโรคให้แก่ ไขแ่ ดง ปลา พืชผกั ร่างกาย - วิตามินดี พบมากในปลา ไขแ่ ดง นมเปร้ียว และร่างกาย สามารถสรา้ งวิตามนิ ดีขน้ึ เองได้ ภายในผิวหนงั เมอ่ื รา่ งกายถูก แสงแดด - วิตามนิ อี พบมากใน เนยเทียม นา้ มนั พชื เมล็ดพืช เปลอื กแขง็ ไขแ่ ดง ผกั สีเขียว - วิตามนิ เค พบมากในผักสี เขียว ไขแ่ ดง เนยแขง็ เนื้อหมู ตบั 2.วติ ามนิ ท่ีละลายในนา ไดแ้ ก่ - วิตามินบี พบมากในถ่ัวชนิด ตา่ ง ๆ ธัญพชื เนือ้ สัตว์ - วติ ามนิ ซี มีอยูใ่ นผลไม้ และ ผักชนดิ ต่าง ๆ

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรอ่ื งโภชนาการกบั สขุ ภาพ 11 ชุดท่ี 4 กนิ อยา่ งไรห่างไกลโรค ประเภทของสารอาหาร แหล่งอาหาร ประโยชน์ เกลอื แร่ - แคลเซยี ม เปน็ สารอาหารที่ 1. ช่วยเสริมสรา้ งและซอ่ มแซม มอี ยใู่ นนม ไข่แดง ถว่ั เมลด็ แห้ง โครงสร้างของร่างกาย เช่น กระดกู ฟนั ผักใบเขียว ปลาเลก็ ปลาน้อย เลอื ด เป็นตน้ - ฟอสฟอรัส เปน็ สารอาหาร 2. ชว่ ยควบคุมการทางานของอวยั วะ ท่มี ีอยู่ในนม ผลติ ภัณฑจ์ ากนม ตา่ ง ๆ ของร่างกายใหเ้ ป็นไปตามปกติ ถัว่ เมลด็ แห้ง ที่มา https://medthai.com/ - เหลก็ มีอย่ใู นตับ หัวใจ เกลือแร่ เลือด เนอื้ วัว ไข่แดง ถ่วั เมล็ด แห้ง ผกั ใบเขียว - ไอโอดนี มีอย่ใู นเกลอื ทะเล และสัตว์ทะเลทุกชนิด - โซเดียม มอี ยใู่ นเกลือนม เนยแข็ง และไข่ นา นา้ สะอาด 1. ช่วยให้รา่ งกายมีความชมุ่ ชน้ื ทาให้ ผิวพรรณเปลง่ ปลง่ั 2. เป็นส่วนประกอบของเซลล์ใน รา่ งกาย 3. ชว่ ยในการยอ่ ยและดดู ซึมอาหาร 4. ชว่ ยขบั ของเสยี ออกจากร่างกาย เชน่ เหงือ่ ปสั สาวะ เป็นต้น ที่มา http://www.setsocialim 5. ช่วยควบคุมอณุ หภูมิของร่างกาย pact.com/Article/Detail/609 ไมใ่ หเ้ ปลีย่ นไปตามมลภาวะแวดลอ้ ม 74 6. ช่วยรักษาสภาพความเป็นกรด – ด่าง ของเลอื ด และความสมดุลของเกลอื ในรา่ งกาย 7. ชว่ ยนาอาหารและออกซิเจนไปเลยี้ ง ส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกาย 8. ชว่ ยในการหล่อเลย้ี งอวัยวะตา่ ง ๆ ใหเ้ คล่ือนไหวได้ดี และปอ้ งกันการ กระทบกระเทอื น

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรอ่ื งโภชนาการกบั สุขภาพ 12 ชุดที่ 4 กนิ อย่างไรห่างไกลโรค คะแนน ประเภทของสารอาหาร ชือ่ ......................................................สกุล.......................................................ช้ัน..................เลขท่ี............ คาชีแจง จากรูปอาหารที่กาหนดให้ ให้นักเรียนวิเคราะห์และบอกว่าหากนักเรียนรับประทานแล้วจะได้รับ สารอาหารประเภทใดบา้ ง ประเภทของสารอาหารท่ไี ดร้ ับ………………………………………….. ………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………. ประเภทของสารอาหารทไี่ ด้รับ………………………………………….. ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………. ประเภทของสารอาหารท่ีได้รับ………………………………………….. ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………. ประเภทของสารอาหารทไ่ี ดร้ บั ………………………………………….. ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………. ประเภทของสารอาหารที่ไดร้ ับ………………………………………….. ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………….

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรอื่ งโภชนาการกับสุขภาพ 13 ชุดที่ 4 กินอยา่ งไรห่างไกลโรค ตอนเมนอู าหารปลอดภยั ใสใ่ จผ้บู ริโภค ณ โรงอาหาร ใช่ ๆ แล้วอาหารแตล่ ะอยา่ ง ก็ให้ประโยชนต์ ่างกันด้วย คาบเรียนสขุ ศึกษาเม่อื เช้านีเ้ ราเรียนเกีย่ วกบั นน่ั ซิ ถึงว่าทาไมคณุ ครถู ึงชอบ ประเภทของอาหารกัน บอกพวกเราเปน็ ประจาเลยวา่ ให้กนิ อาหารให้หลากหลาย ครใู หด้ ูรปู อาหาร อยา่ เลอื กกินอย่างใดอย่างหนึ่ง น่ากนิ มากเลยเนาะ อุย๊ ! พ่คี ิมพีเ่ ซน มาทาน วาวาเธอทาใจเรอ่ื งพ่ีคิมเถอะ ข้าวด้วยกนั ไหมคะ เธออว้ นขนาดน้เี ขาคงไม่สนใจเธอหรอก พอดีพีต่ ้องไป ไม่ !!! ฉันตอ้ ง กินขา้ วกบั เพือ่ น ๆ เอาชนะใจพ่ีคิม ครบั พนี่ ดั เพอ่ื นไว้ ใหไ้ ด้คอยดซู ิ เมื่อเช้าครแู น๊ตบอกวา่ คาบหน้า กเ็ ปน็ เสยี แบบเน้ยี ะ จะใหเ้ ราวางแผนการทาอาหาร เม่ือไหร่จะหนุ่ ดี แลว้ ดว้ ยนะ เราจะทาอะไรกนั ดี เอาชนะใจพีค่ ิมไดเ้ นี่ย ว้าว !!! ทาอาหาร ยัยวาวา ฉันชอบทีส่ ดุ เลย เอาไวก้ ่อนละกนั นะ ออิ ิ ^_^

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรอ่ื งโภชนาการกับสุขภาพ 14 ชดุ ที่ 4 กินอยา่ งไรหา่ งไกลโรค ใบความรู้ การออกแบบเมนูอาหารใหไ้ ดต้ ามสัดส่วน เรอ่ื ง การออกแบบเมนอู าหารให้ได้ตามสดั สว่ นในธงโภชนาการและถกู หลกั โภชนบญั ญัติ โภชนบัญญตั ิและธงโภชนาการ จากปัญหาทุพโภชนาการท่ีก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ ทางสานักโภชนาการกรมอนามัยกระทรวง สาธารณสุข ได้เชิญนักวิชาการทางด้านโภชนาการจากสถาบันต่าง ๆ มาช่วยกันคิด และระดมความรู้ ได้เป็น ข้อสรุปในการรับประทานอาหารเพ่ือสุขภาพที่ดีของคนไทย เรียกว่า “ข้อปฏิบัติการกินอาหารเพ่ือสุขภาพท่ีดี ของคนไทย หรือโภชนบัญญตั ิ 9 ประการ” มีใจความสาคญั ดังนี้ หลกั โภชนบญั ญัติ 9 ประการ 1. กนิ อาหารให้ครบ 5 หมู่ แตล่ ะหมูใ่ หห้ ลากหลายและหมั่นดแู ลนา้ หนักตัว 2. กินข้าวเปน็ อาหารหลกั สลับกบั อาหารประเภทแป้งเปน็ บางม้ือ 3. กนิ พชื ผกั ใหม้ าก และกินผลไมเ้ ปน็ ประจา 4. กนิ ปลา เนอื้ สตั วไ์ มต่ ิดมัน ไข่ และถว่ั เมลด็ แห้งเปน็ ประจา 5. ดื่มนมใหเ้ หมาะสมตามวยั 6. กนิ อาหารท่ีมไี ขมนั อาหารประเภททอด ผัด และแกงกะทแิ ต่พอควร 7. หลีกเล่ียงการกนิ อาหารรสหวานจดั และเคม็ จดั 8. กินอาหารทส่ี ะอาดปราศจากการปนเป้ือน 9. งดหรอื ลดเครื่องดืม่ ท่ีมแี อลกอฮอล์

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องโภชนาการกบั สขุ ภาพ 15 ชดุ ท่ี 4 กินอย่างไรห่างไกลโรค ธงโภชนาการ ธงโภชนาการเป็นสัญลักษณ์ท่ีส่ือให้คนไทย เขา้ ใจถงึ ปริมาณและความหลากหลายของอาหารท่คี วร รับประทาน เพื่อให้มีสุขภาพดีตามหลักโภชนบัญญัติ 9 ประการโดยเน้นให้ “กินพอดีและหลากหลาย”มี ลักษณะเป็นธงสามเหลี่ยมแบบธงแขวน เอาปลาย แหลมลง โดยแสดงกลุ่มอาหารแต่ละกลุ่มให้เห็นภาพ ชัดเจน บอกสัดส่วน ปริมาณ และความหลากหลายใน การรับประทานอาหารแต่ละกลุ่มมากน้อยตามพ้ืนที่ใน แต่ละวัน เพ่ือให้ได้สารอาหารครบถ้วน โดยทาง ดา้ นบนจะเน้นให้รบั ประทานมาก และปลายธงข้างล่าง จ ะ เ น้ น ใ ห้ รั บ ป ร ะ ท า น น้ อ ย ๆ ดงั แสดงในภาพ ท่มี า : https://thaihealthlife.com/ธงโภชนาการ การรับประทานอาหารควรคานึงถึงสัดส่วน ปริมาณ และความหลากหลาย หมุนเวียนกันไป เพราะ การรับประทานอาหารอย่างใดอย่างหน่ึงอยู่เป็นประจา โดยที่ไม่ค่อยได้เปล่ียนแปลงประเภทของอาหารท่ี บริโภค ก็จะทาใหร้ ่างกายไดร้ ับสารอาหารชนดิ น้ันเปน็ ประจา และจะขาดสารอาหารท่ีจาเป็นชนดิ อ่นื ได้ อาจ มีผลทาให้ร่างกายเจริญเติบโตไม่เต็มท่ี แคระแกร็น เฉื่อยชา และสมองช้า ซ่ึงในการรับประทานอาหารก็ควร คานึงถึงดว้ ยวา่ อาหารท่ีบรโิ ภคเขา้ ไปใหส้ ารอาหารครบทัง้ 6 ประเภท (คารโ์ บไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วติ ามิน เกลอื แร่ และน้า) และเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายหรือไม่ ควรรบั ประทานมากหรอื น้อยเพียงใด ท่ีมา : http://www.healthcarethai.com

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรอื่ งโภชนาการกับสุขภาพ 16 ชดุ ท่ี 4 กินอย่างไรหา่ งไกลโรค กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้จดั ทาตารางแนะนาการบรโิ ภคอาหารใน 1 วัน ของคนไทย ดังนี้ ตารางแนะนาการบรโิ ภคอาหารใน 1 วนั ของคนไทย กลุ่มอาหาร หน่วยครัวเรอื น พลังงาน(กิโลแคลอรี) 1,600 2,000 2,400 ขา้ ว – แปง้ ทัพพี 8 10 12 ผัก ทพั พี 4 (6) 5 6 ผลไม้ ส่วน 3(4) 5 5 เนอื้ สตั ว์ ช้อนกินขา้ ว 6 9 12 นม แก้ว 2(1) 1 1 นา้ มัน น้าตาล และเกลอื ช้อนชา ใช้แตน่ อ้ ยเทา่ ท่จี าเปน็ หมายเหตุ : เลขใน ( ) คือปริมาณแนะนาสาหรบั ผู้ใหญ่ ทมี่ า : กองโภชนาการ กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ พลงั งาน (กโิ ลแคลอรี) ตารางพลงั งาน (กิโลแคลอรี) 1,600 ชว่ งวยั 2,000 2,400 สาหรับเด็กอายุ 6 – 13 ปี หญงิ วยั ทางานอายุ 25 – 60 ปี ผู้สงู อายุ 60 ปีข้นึ ไป สาหรับวยั รนุ่ หญงิ – ชาย อายุ 14 – 25 ปี ชายวัยทางานอายุ 25 –60 ปี สาหรบั หญงิ – ชาย ท่ใี ชพ้ ลังงานมาก ๆ เชน่ เกษตรกร ผใู้ ช้แรงงาน นักกีฬา เปน็ ตน้ ทมี่ า : https://sites.google.com/site/nutritionbyage830/life-cycle

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่ืองโภชนาการกับสุขภาพ 17 ชุดท่ี 4 กนิ อยา่ งไรหา่ งไกลโรค ประเภทของสารอาหารที่วัยรุน่ ควรไดร้ บั ในแต่ละวัน วยั รนุ่ ควรได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนทงั้ 6 ประเภท และเพียงพอตอ่ ความต้องการของ ร่างกายในแตล่ ะวัน โดยในอาหาร 1 อย่าง อาจประกอบด้วยสารอาหารทเ่ี ปน็ ประโยชนต์ อ่ รา่ งกายมากกว่า 1 ชนิด ซึง่ สารอาหารในแตล่ ะวันทค่ี วรได้รับ มดี งั น้ี ประเภทของสารอาหาร ปรมิ าณสารอาหารท่ีควรไดร้ ับในแตล่ ะวัน คาร์โบไฮเดรต วัยรุ่นตอ้ งใชพ้ ลังงานโดยเฉลีย่ วนั ละ 2,000 – 3,300 กิโลแคลอรี ถา้ ใช้กาลังมาก ก็จะต้องใชพ้ ลังงานมากขึ้นดว้ ย ซ่ึงวัยรนุ่ ควรจะได้รบั คาร์โบไฮเดรตวนั ละ โปรตีน ประมาณ 4 – 6 กรัมต่อนา้ หนกั ตัว 1 กิโลกรัม วัยรนุ่ ตอ้ งการโปรตนี วนั ละประมาณ 1.2 – 2.1 กรัม ต่อน้าหนกั ตวั 1 กิโลกรัม ไขมัน สว่ นเดก็ ทารก หญิงมคี รรภ์ หญงิ ให้นมบตุ ร ผู้ป่วย นักกีฬา หรอื ผู้ท่ใี ช้กาลังมาก ควรไดร้ บั โปรตนี ในปรมิ าณท่ีมากกว่าปกติ วิตามิน วัยรุ่นตอ้ งการไขมนั วันละประมาณ 1 กรมั ต่อนา้ หนักตวั 1 กโิ ลกรมั หรือ ประมาณร้อยละ 15 – 20 ของพลงั งานทั้งหมดที่ไดจ้ ากอาหารใน 1 วัน สาหรับ เกลอื แร่ ผ้ทู ใ่ี ช้กาลงั มากควรได้รบั ไขมันในปริมาณท่ีมากกว่าปกติ นา เป็นสารอาหารท่ีไมใ่ ห้พลงั งานและไมช่ ว่ ยสร้างเน้ือเย่ือของร่างกายโดยตรง รา่ งกายจงึ ต้องการวติ ามินปริมาณนอ้ ย แต่วติ ามินก็มีความจาเป็นต่อร่างกายมาก เพราะถ้าขาดวิตามนิ ชนดิ ใดชนิดหน่งึ อาจทาใหเ้ กิดโรคต่าง ๆ ได้ เป็นสารอาหารที่ไม่ให้พลังงานและความอบอนุ่ ต่อร่างกาย ถงึ แม้จะต้องการใน ปริมาณน้อยแต่ก็ขาดไมไ่ ด้ เนือ่ งจากร่างกายสญู เสียนา้ อยู่ตลอดเวลาจากการขับถา่ ยของเสียออกจาก ร่างกาย เชน่ เหง่อื ปัสสาวะ อจุ จาระ เปน็ ตน้ รา่ งกายจึงตอ้ งการนา้ เพื่อชดเชย สว่ นท่ีสญู เสีย ปกติคนเราควรจะด่มื นา้ วันละ 8 – 10 แก้ว ซึง่ ถ้าร่างกายขาดน้า หรือสญู เสียนา้ ประมาณร้อยละ 20 ของน้าท่ีมีอยู่ในรา่ งกาย จะกอ่ ใหเ้ กิด อนั ตรายต่อรา่ งกายได้

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรือ่ งโภชนาการกบั สขุ ภาพ 18 ชดุ ที่ 4 กนิ อย่างไรหา่ งไกลโรค การกาหนดรายการอาหารทีเ่ หมาะสมกับวัย 1 หลกั การกาหนดรายการอาหารการกาหนดรายการอาหารทเี่ หมาะสม มีหลักการ ดังนี้ 1.1 ยึดสัดส่วน ปรมิ าณ และความหลากหลายในแต่ละวนั 1.2 ดคู วามพอดีของอาหาร ปริมาณทเ่ี หมาะสมกับความต้องการของรา่ งกาย โดยยดึ นา้ หนักตามเกณฑ์ 1.3 รายการอาหารไมค่ วรซากนั ในแต่ละมื้อของวัน 1.4 ไม่ควรอดอาหารมือใดมือหน่งึ แตค่ วรเลือกรับประทานให้ครบปริมาณและสัดส่วน 1.5 เลอื กรับประทานอาหารใหเ้ หมาะสมกับวัย 2 รายการอาหารท่เี หมาะสมกบั วยั รุ่นอายุ 12-20 ปี วยั รุ่นเปน็ ชว่ งวัยท่มี กี ารเจริญเตบิ โตอยา่ งรวดเรว็ มกี ารทากจิ กรรมต่างๆ ท่ตี ้องออกแรงอย่เู สมอ และ เปน็ ชว่ งวยั ทม่ี กี ารเปลีย่ นแปลงของฮอรโ์ มน จงึ ต้องการพลังงานและสารอาหารสงู เพอ่ื ใหร้ ่างกายมกี าร เจรญิ เติบโตทีส่ มบรู ณ์ ปริมาณพลังงานโดยประมาณทีว่ ยั รนุ่ ควรได้รบั ใน 1 วนั คอื ผู้ชาย อายุ 12-16 ปี 2,100 กิโลแคลอรี อายุ 17-20 ปี 2,300 กโิ ลแคลอรี ผู้หญิง อายุ 12-16 ปี 1,800 กโิ ลแคลอรี อายุ 17-20 ปี 1,850 กิโลแคลอรี

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรือ่ งโภชนาการกับสขุ ภาพ 19 ชดุ ท่ี 4 กนิ อยา่ งไรห่างไกลโรค ตวั อยา่ งรายการอาหารใน 1 วัน สาหรับวยั รุน่ 12-20 ปี (1,800-2,300 กิโลแคลอรี) รายการอาหาร ข้าวแปง้ ผกั ตามความ เนือสัตว์ นม ผลไม้ ไขมัน 4-6 ส่วน 6-8 ช้อนชา 8-11 ทพั พี ต้องการ 6-12 ชอ้ นกนิ ข้าว 1 แก้ว 2 ชอ้ น (มือเชา้ ) 1 สว่ น เกาหลาลกู ชนิ ปลา 2 ชอ้ นชา ขา้ วสวย 2 ทัพพี ส้มเขยี วหวาน 1 เกาเหลาลูกชนิ ปลา -ลูกชนิ้ ปลา 2 ชอ้ น -ถวั่ งอก,ผักกาด 2 ทพั พี -กระเทยี มเจยี ว สม้ เขียวหวาน อาหารวา่ งเช้า 1 แกว้ - นมสด ( มือกลางวนั ) ก๋วยเตี๋ยวเป็ด - เส้นก๋วยเตีย๋ ว 2 ทัพพี - เนือ้ เป็ด 2 ชอ้ นกินข้าว - เลอื ดเปด็ 1 ช้อนกินขา้ ว - ถ่ัวงอก, ผักชี, 1 ทัพพี ตน้ หอม -กระเทียมเจยี ว 1 ชอ้ นกินข้าว -ถวั่ ลิสง อาหารวา่ งบ่าย 1 ส่วน สบั ปะรด, ผรั่ง 1 ส่วน - สับปะรด 8 ชน้ิ - ฝรง่ั 1 ผล

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื งโภชนาการกบั สขุ ภาพ 20 ชุดที่ 4 กินอย่างไรหา่ งไกลโรค รายการอาหาร ขา้ วแปง้ ผกั ตามความ เนอื สัตว์ นม ผลไม้ ไขมนั 4-6 ส่วน 6-8 ช้อนชา 8-11 ทพั พี ตอ้ งการ 6-12 ชอ้ นกนิ ขา้ ว 1 แก้ว 2 ช้อนชา (มือเย็น) 1 ส่วน ขา้ วสวยปลาทูทอด 1 สว่ น - ข้าวสวย 4 ทัพพี - ปลาทู 2 ชอ้ นกนิ ข้าว - น้ามัน ตม้ ยาไกใ่ สเ่ ห็ด -เนือ้ ไก่ 2 ช้อนกินข้าว - เห็ดฟาง, นางฟา้ 2 ทัพพี แอปเป้ิล 1 ผล - แอปเปิล้ (มือกอ่ นเขา้ นอน) กล้วยนา้ ว้า 2 ลกู

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่อื งโภชนาการกับสุขภาพ 21 ชุดที่ 4 กนิ อยา่ งไรห่างไกลโรค คะแนน ออกแบบเมนอู าหารท่ไี ด้สัดส่วน ตามธงโภชนาการและถูกหลักโภชนบญั ญัติ คาชแี จง ให้นักเรยี นออกแบบเมนูอาหาร 1 เมนูทใ่ี หป้ ริมาณอาหารในสดั ส่วนที่เหมาะสมตามวัย และตามหลักโภชนาการ แลว้ วิเคราะหช์ นิดของสารอาหารท่จี ะไดร้ บั จากเมนอู าหารนดี้ ว้ ย ชื่อเมนูอาหาร......................................................................... รายชื่อสมาชิกในกลุ่ม 1................................................................................................เลขที.่ ..............ชนั้ ................. 2................................................................................................เลขท.่ี ..............ชัน้ ................. 3................................................................................................เลขท.่ี ..............ชน้ั ................. 4................................................................................................เลขที่...............ช้นั ................. 5................................................................................................เลขท.่ี ..............ช้นั ................. ส่วนประกอบของอาหาร ปริมาณ หน่วยครัวเรือน 1……………………………………………………………….. …………………… ………………………… 2……………………………………………………………….. …………………… ………………………… 3……………………………………………………………….. …………………… ………………………… 4……………………………………………………………….. …………………… ………………………… 5……………………………………………………………….. …………………… ………………………… 6……………………………………………………………….. …………………… ………………………… 7……………………………………………………………….. …………………… ………………………… 8……………………………………………………………….. …………………… ………………………… 9……………………………………………………………….. …………………… ………………………… 10……………………………………………………………….. …………………… ………………………… 11……………………………………………………………….. …………………… ………………………… 12……………………………………………………………….. …………………… ………………………… 13……………………………………………………………….. …………………… ………………………… 14……………………………………………………………….. …………………… …………………………

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่องโภชนาการกบั สขุ ภาพ 22 ชดุ ท่ี 4 กินอย่างไรหา่ งไกลโรค วสั ดอุ ุปกรณ์ท่ีใช้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ขันตอนการทา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรือ่ งโภชนาการกบั สุขภาพ 23 ชดุ ท่ี 4 กินอยา่ งไรห่างไกลโรค คะแนน ทาอาหารตามเมนทู ่กี าหนด คาชีแจง ให้นกั เรียนปฏิบัตกิ ารทาอาหารตามเมนูทก่ี าหนดไว้ แล้วนารปู ภาพผลการปฏบิ ัตกิ าร ทาอาหารมาติดลงในใบกจิ กรรมนี้ ช่อื เมนอู าหาร........................................................................ รปู วัสดอุ ุปกรณใ์ นการทา รูปขันตอนการทาอาหาร รูปอาหารที่ทาสาเร็จ รูปสมาชกิ ในกลุ่ม สรปุ ผลการทาอาหาร ปญั หา อุปสรรค และแนวทางแก้ไขปญั หาในการทาครงั ตอ่ ไป ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. .................................................

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องโภชนาการกับสขุ ภาพ 24 ชดุ ที่ 4 กินอยา่ งไรห่างไกลโรค ตอนปญั หาสขุ ภาพจากการรับประทานอาหาร ณ ลานเอนกประสงค์ ใช่ ๆ แล้วอาหารแต่ละอย่าง ก็ใหป้ ระโยชนต์ า่ งกนั ดว้ ย นพี่ วกเธอเม่ือวานช่วงที่ พวกเราทาอาหารกันนะ่ ดใี จด้วยนะวาวา ฉันว่านะ พ่ีเขานา่ จะเริม่ สนใจเธอ พ่คี ิมมาชิมอาหาร กลุ่มฉนั ดว้ ยละ่ ล่ะซินะ แล้วชมว่าอร่อยดว้ ย ถ้าเปน็ แบบน้ันก็ดีซิ นข่ี วัญเธอจะปลอบฉัน แต่ยงั ไงเขาคงไม่มองคนหนุ่ แบบฉันหรอก หรอื เธอจะซ้าเติมฉนั กนั แน่เนี่ย อย่าน้อยใจนะวาวา โอ้ ๆ อย่าเพ่ิงใจน้อยซจิ ๊ะ ฉนั วา่ ดอี อก กอดแลว้ จรงิ เหรอ ฉนั วา่ อันตรายนะวาวา ร้สู กึ อบอ่นุ ดี น่าลองเนาะ ฉนั เคยเหน็ ข่าวคนท่ี เหมือนกอดตุ๊กตาหมี กนิ ยาลดความอว้ น แลว้ ช็อกตายก็เยอะ ฉนั วา่ ฉนั ตอ้ งหาวธิ ีการ ลดความอ้วนแล้วละ่ จะทายังไงกนั ดลี ่ะ นะ ฉันเห็นพี่ทีบ่ ้านกนิ จริงเหรอขวัญ ยาลดความอว้ น ฉนั ยงั ไม่อยากตาย แล้วผอมเร็วมากเลย นะ

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เร่ืองโภชนาการกับสขุ ภาพ 25 ชดุ ท่ี 4 กินอย่างไรหา่ งไกลโรค พวกพี่กาลงั พดู กนั เร่ือง ลดความอ้วนอยู่คะ่ พีว่ าวา ทาอะไรกันอยู่คะ ยายหนูกอ็ ว้ นนะคะ แตต่ อนน้ีเริ่มผอมลงแลว้ ยายนอ้ งทายังไง น้าหวาน แม่หนวู างแผนเร่อื งการกนิ อาหารกบั ดีจังเลย การออกกาลังกายให้ยายทาตามคะ่ วาวา งัน้ เธอลอง ไปปรึกษาครูแน๊ตดูซิ ปะ! น้าหวาน น้าขิง พ่ีไปส่งหาแมน่ ะ จะได้ถามเร่ืองลดความอว้ นด้วย

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรอ่ื งโภชนาการกับสุขภาพ 26 ชดุ ที่ 4 กนิ อยา่ งไรหา่ งไกลโรค ใบความรู้ เรอื่ ง อาหารสาหรับวยั รนุ่ และปัญหาสขุ ภาพ จากการรบั ประทานอาหารของวยั รุ่น อาหารทเี่ หมาะสมสาหรบั วยั รนุ่ วยั รุ่นนอกจากต้องรับประทานอาหารท่ีมีคุณค่าให้ครบ 5 หมู่ หรือได้รับสารอาหารครบ 6 ประเภทใน แต่ละวัน ในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายแล้ว สิ่งสาคัญอีกประการหนึ่ง คือ จะต้อง รับประทานอาหารให้หลากหลาย หรือที่เรียกกันว่า “กินให้พอดี” และ“กินให้ครบ” อาหารที่วัยรุ่นควร รับประทานในปรมิ าณที่เพยี งพอนัน้ มีดังนี้ 1) ควรดื่มนมวันละ 1 – 2 แก้ว อาจเป็นนมวัวหรือนมถ่ัวเหลืองก็ได้ และควรดื่มนมอุ่น ๆ มากกว่าท่ีจะด่ืมนมที่มคี วามเย็น เนอ่ื งจากนมทีม่ ีความอุ่นนั้น จะทาให้โปรตีนและแคลเซียมแตกตัวไดด้ ี ช่วย ขยายหลอดเลอื ดฝอยทาให้สารอาหารถูกลาเลียงเข้าส่รู ่างกายได้ดยี ง่ิ ขึน้ 2) รับประทานเนือสัตว์ชนิดต่าง ๆ ให้เพียงพอ วัยรุ่นควรได้รับประทานอาหารประเภทเน้ือสัตว์ เชน่ ไก่ หมู เนื้อ ที่ไม่ติดมันมาก ประมาณ 6 – 12 ช้อนกินข้าวต่อวัน รวมถึงอาหารทะเลโดยเฉพาะปลา เนอ่ื งจาก มไี ขมันต่า และยอ่ ยง่าย แตอ่ าหารทะเลบางชนดิ เชน่ ก้งุ หอย ปลาหมึก มคี ลอเลสเตอรอลสูงมาก จึงควรรบั ประทาน แต่พอควร วัยรุ่นควรรับประทานอาหารทะเลอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง และควรรับประทานเคร่ือง ในสัตวอ์ ย่างนอ้ ยสัปดาห์ละ 2 ครง้ั 3) รบั ประทานไข่ได้วนั ละ 1 ฟอง แต่สาหรับวัยรุน่ ที่เป็นโรคอ้วน หรอื น้าหนกั เกนิ ควรรับประทาน เฉพาะไขข่ าว และหลีกเล่ียงขนมต่าง ๆ ท่ีทาจากไข่แดง เช่น ทองหยอด ทองหยบิ ฝอยทอง เพราะในไข่แดงจะ มีคลอเลสเตอรอลสูง สาหรับผู้ท่ีไม่มีปัญหาคลอเลสเตอรอลสามารถบรโิ ภคไข่แดงได้ตามปรมิ าณดังกลา่ ว และ ในขณะเดยี วกันกค็ วรมีการออกกาลังกายอย่างสม่าเสมอโดยจะชว่ ยให้การใช้คลอเลสเตอรอลในรา่ งกายเป็นไป ด้วยดี ไมส่ ะสมมากจนเป็นปัญหาต่อสุขภาพ ซ่งึ ทางท่ีดคี วรรับประทานไข่สกุ เพราะย่อยงา่ ย

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เร่อื งโภชนาการกับสขุ ภาพ 27 ชดุ ท่ี 4 กนิ อย่างไรหา่ งไกลโรค 4) รบั ประทานพืชผักผลไมต้ ่าง ๆ ใหเ้ พียงพอ ผักสเี ขียวมใี ยอาหารท่ีชว่ ยในการขับถ่ายโดยนาคลอ เลสเตอรอลและสารพิษท่ีก่อให้เกิดมะเร็งบางชนิดออกจากร่างกาย ซ่ึงจะช่วยลดการสะสมของสารพิษเหล่านั้น ผัก จะช่วยในการเจริญเติบโตและเสริมสร้างให้ทุกระบบในร่างกายทางานได้ปกติ ผักท่ีควรรับประทาน ได้แก่ ผักบุ้ง ผักคะน้า ตาลงึ ฟักทอง แครอท มะเขอื เทศ หรือผกั ชนิดอนื่ ตามแตค่ วามชอบโดยควรรบั ประทานผกั ทกุ ม้อื วันละ ประมาณ 4 – 6 ทัพพี ควรรับประทานผลไม้สดตามฤดูกาลวันละ 1 – 2 คร้ัง หรือประมาณ 3 – 5 ส่วนต่อวัน และควรหลีกเล่ียงผลไม้ที่มีรสหวานจัด เช่น ทุเรียน มะม่วงสุก เป็นต้น หรือควรรับประทานเพียงเล็กน้อยเพราะ หากรับประทานผลไมท้ ่มี ีรสหวานจดั มากเกนิ ไป อาจทาให้เป็นโรคอว้ นได้ 5) รับประทานอาหารประเภทแป้งให้พอเหมาะกับความต้องการ ข้าวท่ีจะให้สารอาหารแก่ รา่ งกายดีท่ีสุด คือ ข้าวกลอ้ ง หรือข้าวขัดสีแต่น้อย ควรหุงแบบไม่เช็ดน้าหรือนึ่ง ซึ่งวัยรุน่ ควรรับประทานข้าว ประมาณวันละ 8 – 12 ทัพพี โดยโภชนบัญญัติ 9 ประการ ข้อที่ 1 ได้กาหนดไว้ว่า ให้รับประทานข้าวเป็นอาหาร หลักสลับกับอาหารประเภทแป้งบางมื้อ เลอื กรับประทานขา้ วกลอ้ งหรอื ข้าวซอ้ มมอื แทนขา้ วขาวจะได้วติ ามินแร่ธาตุ ใยอาหารมากกวา่ และสามารถรับประทานขนมปงั โฮลวีท เผอื ก มัน ขา้ วโพด ทดแทนเปน็ บางมื้อ 6) รับประทานอาหารที่ใหไ้ ขมันพืชและสัตว์ให้พอเหมาะ ไขมันต่าง ๆ ที่ได้จากพืชและสตั ว์จะให้ พลังงานแก่ร่างกาย เป็นตัวทาละลายวิตามินเอ ดี อี และเค แต่ต้องรับประทานไขมันในปริมาณที่พอเหมาะ โดยเฉพาะไขมันจากสัตว์ ซึ่งเป็นแหล่งไขมันอิ่มตัว ซึ่งถ้าหากรับประทานเป็นประจา จะทาให้ไขมันสะสมอยู่ ในร่างกาย โดยเฉพาะหลอดเลือดก่อให้เกิดโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคหัวใจขาดเลือด และโรคอ่ืน ๆ ตามมาได้ ดังนนั้ วัยรนุ่ ควรรบั ประทานไขมันจากพืชมากกวา่ การรบั ประทานไขมันจากสัตว์ เพราะเปน็ ไขมันไม่ อ่ิมตัว อกี ทงั้ ยังชว่ ยลดคลอเลสเตอรอลในรา่ งกายอกี ดว้ ย ที่มา : https://health.kapook.com

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องโภชนาการกับสขุ ภาพ 28 ชุดท่ี 4 กินอย่างไรห่างไกลโรค ปญั หาสขุ ภาพจากการรับประทานอาหารของวัยรุ่น พฤติกรรมในการรับประทานอาหารของวัยรุ่นมีผลต่อสุขภาพเป็นอย่างมากเน่ืองจากการมี พฤติกรรมการรบั ประทานอาหารทไ่ี ม่ถกู ต้อง อาจนาไปสปู่ ญั หาสุขภาพดา้ นต่าง ๆ ได้ ดังนี้ 1) การรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา และงดอาหารบางมือ วัยรุ่นควรจะรับประทานอาหารให้ ครบ 3 มื้อ คือ ม้ือเช้า ม้ือกลางวัน และม้ือเย็น และควร รับประทานอาหารให้ตรงเวลา เพราะร่างกายต้องใช้ พลังงานจากอาหารเพื่อปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ในชีวิต ประจาวันในกรณีท่ีรับประทานอาหารไม่เป็นเวลาหรือไม่ ตรงเวลา กระเพาะอาหารจะหลั่งน้าย่อยออกมา โดยท่ียัง ท่ีมา : http://www.childanddevelopment.com ไมไ่ ดร้ บั ประทานอาหาร นา้ ย่อยซ่งึ มีฤทธเิ์ ป็นกรด จะกดั ผนังกระเพาะอาหาร ทาใหเ้ กิดเป็นแผลได้ ส่วนการงดอาหารม้ือเช้าหรือม้ือกลางวัน จะทาให้ร่างกายขาดพลังงานที่จะปฏิบัติภารกิจ ตา่ ง ๆ ซง่ึ มีผลต่อประสิทธิภาพของการเรยี นหรอื การทางาน เนอ่ื งจากวัยรุ่นต้องการพลังงานจากอาหาร เพื่อ นาไปทากิจกรรมทั้งการใช้ความคิดและการปฏิบัติ ดังนั้น อาหารเช้าและกลางวันจึงถือว่าเป็นสิ่งสาคัญ ที่จาเป็นต่อสมองและการเจรญิ เตบิ โต 2) การรับประทานอาหารรสจัด ได้แก่ เค็มจัด เผ็ดจัด หรือเปรี้ยวจัด เหล่าน้ีจะทาให้ เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุทางเดินอาหาร โดยเฉพาะใน กระเพาะอาหาร ซึ่งมีผลทาให้การย่อยอาหารไม่เป็นไปตามปกติ อาจมีอาการท้องอืด และปวดท้อง ยกตัวอย่างเช่น อาหารท่ีมีรส เค็มจัดจะมีเกลือโซเดียมคลอไรด์ ซ่ึงเป็นอันตรายต่อไตทาให้ไต ต้องทางานหนัก และมีผลทาให้ไตเสื่อมสภาพได้ นอกจากน้ี ใน เกลือโซเดียมคลอไรด์ยังเป็นสาเหตุทาให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง อีกด้วย ดังน้ัน จึงควรเลือกรับประทานอาหารท่ีไม่มีรสจัดมาก ทม่ี า : https://health.mthai.com เกนิ ไป

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรื่องโภชนาการกับสขุ ภาพ 29 ชุดท่ี 4 กินอยา่ งไรหา่ งไกลโรค 3) การรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ทม่ี า : https://www.108health.com/ การใช้เนื้อสัตว์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เน้ือปลา เน้ือหมู เนื้อ วัว หรืออาหารจาพวกแหนมสดในการประกอบอาหาร เช่น อาหารจาพวกลาบ ก้อย น้าตก ซ่ึงปรุงโดยไม่สุกน้ัน อาจทาให้เกิดโรคพยาธิต่าง ๆ ได้ เพราะในเน้ือสัตว์ท่ีใช้ ประกอบอาหารอาจมีพยาธิอาศัยอยู่ เช่น พยาธิใบไม้ พยาธิตัวจ๊ีด เป็นต้น ซ่ึงจะมีอันตรายต่อสุขภาพมาก ด้วย เหตุน้ี จึงควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทาน อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ดังกล่าว มาเป็นการรับประทาน อาหารที่ปรงุ สกุ ใหม่ ๆ เพอื่ การมภี าวะโภชนาการท่ดี ี 4) การด่ืมนาอัดลมเป็นประจา น้าอัดลมโดยส่วนมากประกอบไปด้วย น้า น้าตาล แก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์ สารแตง่ สี กลิ่น รส และกาเฟอีน โดยใน 1 แกว้ ของน้าอัดลมจะประกอบได้ด้วยน้าตาลประมาณ 8 – 12 ช้อนชา ซึ่ง ถ้าหากได้ด่ืมเป็นประจา ร่างกายจะได้รับน้าตาลมากเกินความ จาเป็น ทาใหม้ รี ะดับน้าตาลในเลือดสูงขึ้น นาไปสกู่ ารเกิดโรคฟัน ผุ และโรคอว้ นได้ นอกจากนี้ น้าอดั ลมบางชนิดทใ่ี ชน้ ้าตาลเทียม เช่น แซคคารีน (Saccharin) แทนน้าตาล หากรับประทานใน ปรมิ าณมาก ๆ หรือบ่อย ๆ อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ สาหรับแก๊ส ท่ีมา : https://board.postjung.com คาร์บอนไดออกไซดใ์ นน้าอัดลมจะไปทาอันตรายต่อกระเพาะอาหาร เน่อื งจากมฤี ทธ์เิ ป็นกรด ดงั น้นั จึงควรด่มื นา้ เปลา่ แทนน้าอัดลม เพราะมีประโยชนต์ อ่ รา่ งกายมากกว่า 5) รับประทานอาหารจานด่วน ปัจจบุ ันวัยรุ่นมักนิยมรบั ประทานอาหารจานด่วน เช่น พิซ ซา แฮมเบอรเ์ กอร์ แซนดว์ ิช มันฝรง่ั ทอด เป็นต้น ซ่งึ สว่ นใหญ่อาหารเหล่านีท้ ามาจากแป้งและนา้ ตาล มกั ใช้ นา้ มันหรือเนยในการทาให้สุก และแป้งท่ีใชก้ ็มักจะเป็นแป้งขาวท่ีผ่านการขัดสี หรอื ผ่านกรรมวิธีต่าง ๆ ซ่ึงจะ ขจัดสารอาหารที่จาเป็นต่อรา่ งกายไป ทาใหค้ ุณประโยชน์ท่ไี ด้รบั จากอาหารเหล่านจ้ี ึงมีน้อยเมือ่ เปรียบเทียบใน ดา้ นคณุ ค่าของอาหารและราคา ซึ่งการรับประทานอาหารเหล่าน้ีบอ่ ย ๆ อาจก่อให้เกดิ การขาดสารอาหารบาง ประเภท เช่น เกลอื แร่ วิตามนิ ใยอาหาร เป็นต้น อีกท้งั ยังมีไขมนั สูงและมีรสเค็ม ซ่ึงเปน็ อันตรายตอ่ สุขภาพ

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรื่องโภชนาการกบั สุขภาพ 30 ชุดท่ี 4 กินอยา่ งไรหา่ งไกลโรค 6) การรับประทานอาหารจุบจิบ รับประทานจุ การรับประทานอาหารจุบจิบหรือ รับประทานอาหารจุ โดยไม่พิจารณาถึงคุณค่าของ อาหารและปริมาณอาหารท่ีร่างกายควรไดร้ ับในแตล่ ะ วัน จะทาให้ร่างกายได้รับอาหารบางชนิดมากเกินไป เชน่ อาหารกรุบกรอบ จะมแี ป้งและน้าตาลมาก ซึ่ง การเตรียมก็จะผ่านการทอดโดยใช้น้ามันเพราะฉะน้ัน ที่มา : https://www.naewna.com รา่ งกายกจ็ ะไดร้ ับอาหารจาพวกแป้งและนา้ ตาล รวมถึงเกลือมากเกินความต้องการ อันจะนาไปสู่การเป็นโรคอ้วน ซ่ึงมีผลทาให้เกิดโรคอ่ืน ๆ ตามมา เช่น โรคเบาหวาน โรคหวั ใจ โรคความดันโลหิตสูง เปน็ ตน้ 7) ความผิดปกติเกี่ยวกับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร (Eatting Disorders) เป็นโรค หรือความผิดปกติท่ีวัยรุ่นมีความรู้สึกต่อรูปร่าง น้าหนัก และการรับประทานอาหารบิดเบือนจากความจริง อย่างรุนแรง ทาให้มีพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และพฤติกรรมการควบคุมน้าหนักผิดจากปกติอย่าง มาก ซึง่ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1. อะนอเร็กเซีย เนอร์โวซา (Anorexia Nervosa) เป็นโรคที่ผู้ป่วยจะมีภาวะบกพร่องของ พฤติกรรมการรบั ประทานอาหาร ตลอดจนมีความผดิ ปกติทางจิต เน่ืองจากคิดว่าตนเองอ้วนอยเู่ สมอ ทั้ง ๆ ทีร่ ปู รา่ งของตนนนั้ ผอมมากอย่แู ล้ว จงึ ไมย่ อมบรโิ ภคอาหารหรอื บริโภคแต่นอ้ ย 2. บูลิเมีย เนอโวซา (Bulimia Nervosa) เป็นโรคที่ผู้ป่วยมักจะมีความเช่ือที่ผิดเก่ียวกับ รปู ร่างของตนเอง ซ่ึงจะมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารคร้ังละมาก ๆ นอกจากนั้นจะรีบชดเชยด้วยวิธีการ ล้วงคอใหอ้ าเจียนหรือรับประทานยาระบายชนดิ รนุ แรง เน่ืองจากกลัววา่ ตวั เองจะอ้วน ดงั นั้นวัยรุ่นจึงควรจะสร้างนิสัยและพฤติกรรมที่ถูกต้องในการเลือกรับประทานอาหารโดยไม่ ควรรับประทานจุบจิบ และไมร่ ับประทานมากเกินไป เพราะไม่เช่นน้นั แล้วการรับประทานอาหารท่ีไม่ถกู ตอ้ ง จะมีผลต่อสุขภาพร่างกายของเรา ดังคากล่าวท่ีว่า “รับประทานอย่างไรได้อย่างนั้น” (“You are what you eat”) You are what you eat

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่อื งโภชนาการกบั สุขภาพ 31 ชุดท่ี 4 กินอย่างไรหา่ งไกลโรค คะแนน ปัญหาจากการรบั ประทานอาหารของวัยรุ่น ใหน้ ักเรยี นอ่านบทความที่กาหนดให้แล้วตอบคาถาม หนมุ่ เผยป่วยคล่ังผอม โรคฮิตวัยร่นุ หงดุ หงดิ -หนา้ มดื แพทย์ชี้ลดนา้ หนักผิดวิธเี ส่ยี งถงึ ตาย กำรคลั่งผอมในหมู่วัยรุ่นปัจจุบันมีจำนวนเพิ่มมำกขึ้น อำจเป็นเพรำะกำรโฆษณำชวนเช่ือท่ีว่ำ ต้องขำวและหุ่นดีเท่ำนั้นถึงจะทำให้มีรูปลักษณ์ภำยนอกที่ดี ทำให้เกิดทัศนคติท่ีผิดๆต่อรูปร่ำงที่เห็น น้ำหนักเป็นศัตรู กลัวอ้วนจนเกิดกำรวิตกกังวล ทำให้เกิดสุขภำวะทำงจิตป่วย นำไปสู่กำรเกิดโรคอะนอ เรก็ เซีย เนอรโ์ วซำ (Anorexia Nervosa) นำยรัชชำนนท์ ชมศิริ ผู้ป่วยโรคอะนอเร็กเซีย เนอร์โวซำ (Anorexia nervosa) หรือโรคคลั่ง ผอม ให้สัมภำษณ์ข่ำวสดออนไลน์ ถึงอำกำรคลั่งผอม โดยใช้หลำกหลำยวิธีเพื่อทำให้น้ำหนักลดลงให้เร็ว ท่ีสุดทั้งกินยำลดน้ำหนัก และหนักสุดคือล้วงคอให้อ้วกหลังจำกกินอำหำรเสร็จ เนื่องจำกอดีตตนมี น้ำหนัก 103 กิโลกรัม โดนเพ่ือนล้อตลอด จึงพยำยำมลดน้ำหนักเพรำะอยำกหุ่นดี เวลำส่องกระจกมัก รู้สึกว่ำตนเองอ้วนใครจะบอกว่ำผอมก็ไม่สนใจ เพรำะคิดว่ำตนเองอ้วนตลอดเวลำ ส่งผลให้มีควำมกังวล และขำดควำมมั่นใจ ส่วนเร่ืองกำรรับประทำนอำหำรนั้นตนจะเน้นทำนผักและทำนข้ำวแค่วันละ 1 มื้อ จนทำให้บำงคร้ังรู้สึกหงุดหงิด อำรมณ์แปรปรวน หน้ำมืด “เวลำกินเยอะจะเกิดกำรรู้สึกผิดท่ีกินลงไป และหำวิธีนำอำหำรออก โดยล้วงคอเพ่ือให้สิ่งที่กินเข้ำไปอำเจียนออกมำ เมื่อได้ล้วงคออำเจียนออกก็จะ รู้สกึ ดแี ละมคี วำมมั่นใจข้นึ ” เคยทำนยำลดควำมอ้วนของหมอที่คลนิ ิก มีวัดคลื่นหัวใจ อัตรำกำรเต้นหัวใจ และตรวจไขมันจึง จะสำมำรถจ่ำยยำได้ ทำนแล้วเห็นผลดีน้ำหนักลดแต่รู้สึกเหน่ือย พอหยุดทำนหมอจะให้ยำหยุดมำทำน แต่ก็กลับมำอ้วนเช่นเดิม ยอมรับเคยศึกษำหำข้อมูลเกี่ยวกับโรคคลั่งผอม และพบว่ำโรคน้ีอันตรำย ร้ำยแรงถึงขั้นอำจทำให้เสียชีวิตได้ ตนจึงพยำยำมปรับวิธีคิดและปรับกำรทำนอำหำรใหม่ ซึ่งปัจจุบันมี น้ำหนกั 60 กโิ ลกรมั ด้ำน พญ.วนำพร วัฒนกูล แพทย์ชำนำญกำร โรงพยำบำลขอนแก่น ให้ข้อมูลว่ำ โรคคล่ังผอม เกดิ จำกสขุ ภำวะทำงจติ ทีม่ คี วำมตอ้ งกำรอยำกอำหำรแตก่ ลัวอว้ น โรคคล่ังผอมมี 2 ประเภท 1.อะนอเร็กเซีย ท่ีมีควำมผิดปกติเก่ียวกับกำรรับประทำน คือกำรอดอำหำรเพื่อให้น้ำหนักลด และไมร่ สู้ ึกตอ่ ควำมหิว 2.บูลิเมีย คืออยำกกินอำหำรในปริมำณมำก แล้วจึงกินยำถ่ำยหรือล้วงคอให้อำเจียนเพรำะกลัว อ้วน และมีผลร้ำยต่อร่ำงกำย เพรำะกำรอ้วกมำกๆ ทำให้ร่ำงกำยขำดเกลือแร่ผิดสมดุล เกร็ง กล้ำมเนื้อ อ่อนแรง หวั ใจเตน้ ผดิ จังหวะ อำกำรไตวำยเส่ยี งตอ่ กำรเสยี ชีวิต กำรรักษำต้องเร่ิมจำกกำรเข้ำใจตนเอง โดยคนรอบข้ำงต้องเข้ำใจและให้กำลังใจเป็นกำรรักษำ แบบองคร์ วม และรักษำร่วมกับจติ แพทยร์ ว่ มกับหมอรักษำทำงกำยด้วย ทม่ี ำ : ขำ่ วสดออนไลน์

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรอ่ื งโภชนาการกบั สขุ ภาพ 32 ชุดที่ 4 กินอยา่ งไรห่างไกลโรค ชื่อ.....................................................สกลุ ....................................................เลขท.่ี .................ช้ัน...................... จากบทความจงตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 1. ปญั หำทเ่ี กิดขึ้นจำกบทควำมด้ำนบนคอื อะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหำโรคคล่ังผอมมีสำเหตมุ ำจำกอะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. อำกำรของโรคคลัง่ ผอมมีอะไรบ้ำง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. โรคคลง่ั ผอมมีกีป่ ระเภท อะไรบ้ำง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. โรคคลั่งผอมสง่ ผลตอ่ ร่ำงกำยอยำ่ งไรบ้ำง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เร่อื งโภชนาการกับสขุ ภาพ 33 ชุดที่ 4 กินอย่างไรห่างไกลโรค แบบทดสอบหลังเรียน เร่อื งกนิ อยา่ งไรห่างไกลโรค คาชี้แจง โปรดเลือกคาตอบทถี่ กู ต้องทีส่ ุด แล้วทาเคร่อื งหมายกากบาท (×)ลงในกระดาษคาตอบ ใช้เวลาในการทาแบบทดสอบ 10 นาที ............................................................................................................................................................. 1. ข้อใดคือภำวะโภชนำกำรเกนิ 1. โรคอ้วน 2.โรคโลหิตจำง 3. โรคปำกนกกระจอก 4.โรคขำดสำรอำหำร 2. โรคอ้วนเป็นโรคหนงึ่ ซึง่ อำจส่งผลใหเ้ ป็นโรคใดตำมมำได้ 1. โรคหอบ 2.โรคตำฟำง 3. โรคตำนขโมย 4. โรคควำมดันโลหติ สงู 3. ผ้ทู ป่ี ว่ ยเป็นโรคลกั ปดิ ลกั เปดิ ควรรับประทำนอำหำรประเภทใดเพอื่ เปน็ กำรป้องกัน 1. นม ถ่วั ข้ำวโพด 2. ผกั ผลไมท้ ี่มีวิตำมินซสี งู 3. นม เนย เครอื่ งในสัตว์ 4. ตับ ไข่แดง น้ำมันตับปลำ 4. พฤตกิ รรมของบุคคลใดต่อไปนที้ น่ี ำไปสปู่ ัญหำสุขภำพตำ่ งๆ ได้ 1. เงำะ รับประทำนผกั ผลไม้ทกุ ม้อื 2. เอม็ ดม่ื นมวนั ละ 1-2 แกว้ ทุกวนั 3. จบิ๊ ชอบรับประทำนไข่ไกว่ ันละ 1 ฟอง 4. แพน รบั ประทำนอำหำรไมเ่ ปน็ เวลำและงดบำงมอื้ 5. ข้อใดเป็นกำรปฏิบัตติ ำมธงโภชนกำร 1. ผ้สู งู อำยุกินเน้ือสตั วใ์ หม้ ำก ๆ 2. เดก็ วัยเรียนควรงดกนิ อำหำรเช้ำ 3. ผู้ใหญ่ควรด่มื นมสดวนั ละ1 แกว้ 4. เดก็ วยั รนุ่ ควรกินอำหำรประเภทวติ ำมนิ

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เร่อื งโภชนาการกับสขุ ภาพ 34 ชดุ ที่ 4 กนิ อยา่ งไรห่างไกลโรค 6. โรคท่เี กิดจำกภำวะโภชนำกำรขำดคอื โรคในขอ้ ใด 1. โรคอ้วน 2. โรคตำนขโมย 3. โรคเบำหวำน 4. โรคหัวใจและหลอดเลอื ด 7. หำกเรำถอื ศีล กนิ เจ งดกำรบริโภคเนอ้ื สัตว์ เรำควรทำนอำหำรประเภทใดทดแทนเพื่อให้ได้รบั สำรอำหำร ประเภทโปรตนี อย่ำงเพียงพอตอ่ ควำมต้องกำรของร่ำงกำย 1. ฟกั ทอง มนั เทศ ผักคะน้ำ ผกั กำดขำว 2. เผือก มัน เมล็ดขำ้ วโพด ขำ้ วสำลี 3. นำ้ เต้ำหู้ ถัว่ เหลอื ง เตำ้ หู้ก้อน 4. ผกั ผลไม้ท่ีมรี สหวำน 8. อำหำรประเภทใดท่ีวยั รนุ่ ควรเลือกรับประทำน 1. นมสด 2.น้ำอัดลม 3. อำหำรกึง่ สำเรจ็ รูป 4.อำหำรฟ้ำสต์ฟดู้ 9. ผู้ที่ปว่ ยเปน็ โรคคอพอก ควรได้รับสำรอำหำรจำพวกใด 1. วิตำมนิ บี1 2.วิตำมนิ บี 2 3. ธำตุไอโอดีน 4.ธำตเุ หล็ก 10. เพรำะเหตุใดเรำจึงควรกินอำหำรใหค้ รบทัง้ 5 หมู่ 1. ทำให้ไดร้ ับสำรอำหำรครบถว้ น 2. ทำให้เลือกซอ้ื อำหำรได้ง่ำย 3. ทำให้มหี นำ้ ตำสวยงำม 4. ทำให้มรี ูปรำ่ งดี

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เร่อื งโภชนาการกบั สขุ ภาพ 35 ชดุ ที่ 4 กนิ อยา่ งไรหา่ งไกลโรค ช่อื ..................................................สกลุ ...........................................เลขท.่ี ............ชั้น................... กระดาษคาตอบ ขอ้ ท่ี 1 2345 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ขอใหโ้ ชคดีในการทาแบบทดสอบนะคะ

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เรอ่ื งโภชนาการกบั สุขภาพ 36 ชดุ ที่ 4 กินอย่างไรหา่ งไกลโรค บรรณานุกรม กติ ติ ปรมตั ถผล, ปรชี ำ ไวยโภคำ, กำไลทิพย์ ระน้อย, ศิรริ ัตนส์ เี หลอื ง, วชิ ำญ มะวิญธร และประภำพร บุญมำ (ผเู้ รียบเรียง). (2557) หนงั สือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐานสุขศึกษา ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1. กรุงเทพฯ: สำนกั พิมพเ์ อมพนั ธ.์ พรสขุ หนุ่ นิรนั ดร์, ประภำเพ็ญ สวุ รรณ, สุรยี ์พนั ธุ์ วรพงศธร และอนนั ต์ มำลำรัตน์ (ผ้เู รยี บเรียง). (2556). หนังสอื เรียนรายวชิ าพ้ืนฐานสขุ ศึกษา ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1. กรงุ เทพฯ:ไทยร่มเกล้ำ. สถำบันพฒั นำคุณภำพวชิ ำกำร(พว.) (ผเู้ รยี บเรยี ง).(2560). ชดุ กจิ กรรมพัฒนาการคดิ เสริมสรา้ งสมรรถนะ สาคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรยี น สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ บริษัทพัฒนำคณุ ภำพวชิ ำกำร. สจุ ิตรำ สุคนธทรพั ย,์ อรชร อนิ ทกุล และชยั วฒั น์ ดรณุ ธรรม (ผ้เู รยี บเรยี ง).(2557). หนังสอื เรยี น รายวิชาพ้ืนฐานสุขศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. กรงุ เทพฯ: บรษิ ทั แอ๊ดวำนซ์ อนิ เตอร์พรนิ้ ตง้ิ . สชุ ำดำ วงศใ์ หญ่ และปรชี ำ ไวยโภคำ (ผเู้ รยี บเรียง).(2551). หนงั สอื เรียนรายวชิ าพน้ื ฐานสุขศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. กรุงเทพฯ : ไทยรม่ เกลำ้ .

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่องโภชนาการกบั สุขภาพ 37 ชุดท่ี 4 กินอย่างไรห่างไกลโรค ภาคผนวก

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่ืองโภชนาการกบั สุขภาพ 38 ชุดท่ี 4 กนิ อยา่ งไรห่างไกลโรค เฉลยแบบทดสอบก่อนและหลังเรยี น เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนเรอื่ งกินอย่างไรห่างไกลโรค ข้อท่ี 1 234 5 1× × 2 × 3 4 × 5 × 6 7 × 8 × 9 10 × × × เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี นเร่อื งกนิ อยา่ งไรห่างไกลโรค ข้อท่ี 1 234 5 1× × 2 × 3 4 × 5 × 6 × 7 × 8× 9 × 10 ×

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เร่อื งโภชนาการกับสุขภาพ 39 ชุดที่ 4 กนิ อยา่ งไรห่างไกลโรค คะแนน แนวคาตอบ ประเภทของสารอาหาร ชื่อ......................................................สกุล.......................................................ชั้น..................เลขที.่ ........... คาชีแจง จากรูปอาหารท่ีกาหนดให้ ให้นักเรียนวิเคราะห์และบอกว่าหากนักเรียนรับประทานแล้วจะได้รับ สารอาหารประเภทใดบา้ ง ประเภทของสารอาหารทีไ่ ด้รบั ……วิตามิน เกลอื แร่……………… คาร์โบไฮเดรต โปรตนี ไขมนั ……………………………………………… ………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………. ประเภทของสารอาหารที่ได้รบั ………………………………………….. …………คารโ์ บไฮเดรต ไขมนั โปรตีน เกลอื แร่…………………….. ……………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………. ประเภทของสารอาหารที่ได้รบั ………………………………………….. ……………โปรตีน และไขมัน………………………………………………. ……………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………. ประเภทของสารอาหารท่ไี ด้รับ………………………………………….. ………………วิตามิน เกลือแร่ โปรตนี คารโ์ บไฮเดรต……………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ………………………………………………………. ประเภทของสารอาหารทไี่ ด้รบั ………………………………………….. ……………คาร์โบไฮเดรต โปรตนี เกลอื แร่ ไขมัน………………….. ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… …………………………………………………….

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เรอื่ งโภชนาการกับสขุ ภาพ 40 ชุดท่ี 4 กินอยา่ งไรหา่ งไกลโรค คะแนน แนวคาตอบ ออกแบบเมนูอาหารท่ีได้สัดส่วน ตามธงโภชนาการและถูกหลักโภชนบญั ญตั ิ คาชีแจง ใหน้ ักเรียนออกแบบเมนูอาหาร 1 เมนูทใ่ี หป้ รมิ าณอาหารในสัดส่วนท่ีเหมาะสมตามวัย และตามหลกั โภชนาการ แล้ววิเคราะหช์ นิดของสารอาหารท่จี ะได้รับจากเมนอู าหารนด้ี ้วย ชอ่ื เมนอู าหาร....................ขา้ วผัดกะเพรา ไข่ต้ม นาส้มคนั ................................. รายชอ่ื สมาชิกในกลุ่ม 1................................................................................................เลขที่...............ชั้น.... ............. 2................................................................................................เลขท.ี่ ..............ช้ัน................. 3................................................................................................เลขท.ี่ ..............ชน้ั ................. 4................................................................................................เลขที่...............ชนั้ ................. 5................................................................................................เลขที.่ ..............ชั้น................. ส่วนประกอบของอาหาร ปริมาณ หน่วยครวั เรือน 1. ข้าวสวย 2. หมบู ด 2 ทพั พี 3. ใบกะเพรา 4. หอมหัวใหญ่ 4 ชอ้ นกนิ ขา้ ว 5. กระเทียมโขลกหยาบ 6. นา้ มนั พืช 2 ทพั พี 7. ไขต่ ม้ 8. พริกช้ฟี ้าโขลกหยาบ 1 ทพั พี 9. ซอี วิ๊ 10. นา้ มนั หอย 1 ช้อนกนิ ข้าว 11. น้าตาล 12. สม้ เขียวหวาน 2 ชอ้ นชา 1 ฟอง 1 ช้อนกินข้าว 1 ชอ้ นกินข้าว 1 ช้อนกินขา้ ว 1 ช้อนชา 2 ลกู

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรื่องโภชนาการกับสขุ ภาพ 41 ชดุ ท่ี 4 กินอยา่ งไรหา่ งไกลโรค วัสดอุ ุปกรณท์ ่ีใช้ 1. กระทะไฟฟ้า 2. ตะหลวิ 3. จาน 4. ช้อน ส้อม 5. แก้วนา้ 6. ที่คน้ั น้าผลไม้ ขันตอนการทา 1. เตรียมวสั ดอุ ุปกรณท์ ี่ใชใ้ นการทาและเครื่องปรุงให้พรอ้ ม 2. เติมน้ามันพชื ลงในกระทะแลว้ ตง้ั ไฟ 3. จากนัน้ นากระเทยี มโขลกและพริกชฟี้ า้ โขลกแลว้ ลงไป เจยี วพอหอมแล้วใสห่ อมหวั ใหญท่ ี่ซอยแลว้ ลงไป 4. เตมิ เนอ้ื หมูบด ผดั พอสุก แลว้ เติมใบกะเพราลงไป 5. ปรุงรสดว้ ยนา้ มันหอย ซีอิ๊ว และน้าตาล จากนัน้ เติมนา้ ลงไปเลก็ น้อย 6. ยกลงจากเตาเพ่ือเตรียมเสริ ฟ์ พรอ้ มกบั ขา้ วและไขต่ ้ม 7. ผ่าส้มออกเปน็ 2 ซีก แลว้ นาไปคน้ั กับเครื่องคนั้ นา้ ผลไม้ 8. ตกแต่งจานอาหารและแก้วน้าผลไมใ้ ห้สวยงาม

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่ืองโภชนาการกับสขุ ภาพ 42 ชุดที่ 4 กนิ อยา่ งไรหา่ งไกลโรค คะแนน แนวคาตอบ ทาอาหารตามเมนูท่กี าหนด คาชีแจง ใหน้ ักเรียนปฏิบตั ิการทาอาหารตามเมนูทก่ี าหนดไว้ แล้วนารูปภาพผลการปฏบิ ัติการ ทาอาหารมาตดิ ลงในใบกจิ กรรมน้ี ช่อื เมนอู าหาร........................................................................ รปู วสั ดอุ ุปกรณ์ในการทา รปู ขนั ตอนการทาอาหาร ถ่ายรปู วสั ดุอุปกรณ์ในการทา ถา่ ยรูปขน้ั ตอนในการทา แล้วนามาตดิ ในชอ่ งน้ี แล้วนามาตดิ ในช่องนี้ รปู อาหารทท่ี าสาเร็จ รูปสมาชิกในกลุ่ม ถา่ ยรปู อาหารที่ทาสาเร็จ ถ่ายรูปสมาชกิ ในกลุม่ แลว้ นามาตดิ ในชอ่ งน้ี แลว้ นามาตดิ ในชอ่ งน้ี สรปุ ผลการทาอาหาร ปญั หา อุปสรรค และแนวทางแก้ไขปญั หาในการทาครังตอ่ ไป ปญั หาและอปุ สรรค เช่น เพือ่ นไม่ชว่ ยเตรียมของ วัสดอุ ปุ กรณ์ไม่ครบ ขาดทักษะในการทาอาหาร แนวทางในการแก้ไขปัญหา เช่น วางแผนในการเตรียมวสั ดุอุปกรณ์ใหช้ ัดเจนมากขน้ึ หาซือ้ เคร่ืองปรงุ จาก รา้ นคา้ ใกลโ้ รงเรยี น ฝกึ ทักษะในการทาอาหารมาจากทบ่ี ้านก่อนลงมือทาจริง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook