นว่ิ ในไต ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขออนุญาตเขียนบทความเรื่อง “นิ่วในไต” เชื่อว่าหลายคนอยากรู้ว่า นิ่วในไตเกิดจากสาเหตุอะไร ประการแรก เกิดจากกรดยูริกสูง สะสมนานๆ กรดยูริกตกผลึกเป็น ก้อน ทําให้ไตกรองของเสียที่เป็นของเหลวไม่ได้ จนไตวาย ประการที่สอง เกิดจากกินพืชผักที่มีสารออกซาเลท (Oxalate) สูง เช่น ใบยอ ใบมะเฟือง ใบแค เป็นต้น สารออกซาเลทสะสมมากๆกลายเป็น แคลเซียมอ๊อกซาเลท (Calcium Oxalate) สะสมมากๆ ก็ตกผลึกเป็นก้อน ทําให้ไตกรองของเสียไม่ได้เช่นกัน ประการที่สาม อาจเกิดจากเชื้อโรคบางชนิดที่ทําให้เป็นนิ่วในไตได้ อย่างไรก็ตามหากดื่มนำ�วันละ 3 ลิตร จะช่วยให้กรดยูริก แคลเซียม ออกซาเลท ไมอ่ าจจบั ตวั กนั ตกผลกึ ได้ และเพือ่ ความมัน่ ใจไมค่ วรกนิ อาหาร ที่มีพิวรีน (Purine) สูง เพราะกินเข้าไปจะเปลี่ยนเป็นกรดยูริก และไม่ควร กินพืชผักที่มีสารออกซาเลทสูง เช่น ใบยอ ลูกยอ ใบมะเฟือง ผลมะเฟือง ใบแค ดอกแค เป็นต้น เพราะกินมาก จะสะสมเป็นแคลเซียมออกซาเลท ดังกล่าว หากท่านใดเป็นนิ่วในไต ให้รีบไปพบแพทย์ ปัจจุบันใช้เลเซอร์ยิงก้อน นิ่ว หรือผ่าตัดด้วยกล้องแล้วแต่กรณี อย่าลืมนะครับในแต่ละวันดื่มนำ�สะอาดมากๆไว้ก่อน ประมาณวันละ 3 ลิตรนะครับ ดื่มมากเกินไปสมองบวม กลายเป็นอื่นไปอีก กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 101
กนิ น�ำ ป้ น่ั ใบไมส้ ด รกั ษา 4 โรค ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขออนุญาตเขียนบทความเรื่องนำ�ปั่นใบไม้ รักษา 4 โรคในเวลาเดียวกัน ผู้ป่วยรายนี้ เป็นผู้ชายแต่งงานกับญาติผมอายุ 69 ปี เป็นเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันสูงและไตเริ่มเสื่อม ค่าไต (Creatinine) เกิน 2 นิดหน่อย ถือว่าไตเสื่อม เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อนส่งบทความของผมทางไลน์ให้แกอ่านทุกวัน แกหักดิบนำ�ยาที่ กินแก้โรคทั้ง 3 ไปทิ้งหมด ยกเว้นโรคไตเสื่อมไม่มียารักษา แกป่วยเป็นโรค ทั้ง 4 มา 10 กว่าปี นํายาไปทิง้ ตัง้ ใจกนิ นำ�ปัน่ ใบไมส้ ดและผกั สดที่ไมผ่ า่ นความร้อนกอ่ น อาหารเช้า 600 cc. ก่อนอาหารมื้อเย็น 300 cc. และหลัง 18.00 น. ไม่กิน ของหวานทุกชนิด และนอนไม่เกิน 22.00 น. กินมาแล้ว 7 เดือน เมื่อคืนวันที่ 1 ตุลาคม 2560 บอกผมว่าโรคทั้ง 4 หายเป็นปกติหมด แล้ว เจาะเลือดดูค่านำ�ตาลไม่เกิน 100 ค่าไขมันตัวเลว (LDL) ไม่สูงกว่า เกณฑ์ และค่าความดันไม่สูงเกินเกณฑ์ ส่วนค่าไต (Creatinine) ลดเหลือ 1.10 ไม่เกิน 1.25 ถือว่าไตปกติไม่เสื่อมแล้ว ความสามารถการกรองของ ไตก่อนหน้านี้ ตำ�กว่า 60 ปัจจุบันขึ้นถึง 80 ครับถือว่าหายจากไตเสื่อมแล้ว แกบอกว่า กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน อย่างมีวินัย กนิ ทุกวัน ทําตามคําแนะนําในบทความได้ผลดีครับ ผมจึงเรียนขอร้องท่านทํา กินเถอะครับ จะได้ห่างไกลโรค มีคุณภาพชีวิตที่ดีครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 102
บอลลนู หวั ใจ 3 เสน้ ไตเสอ่ื ม 4 รกั ษาอยา่ งไร? ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรยี นวา่ เสน้ เลือดหวั ใจตีบ เกิดจากไขมนั ตัว เลว (LDL) สูง เกิดจากการกินนำ�ตาลเกินหรือกินของหวานมากเป็นประจํา เพราะกินนำ�ตาลเกินร่างกาย เปลี่ยนเป็นพลังงานไม่ทัน จึงนําไปเก็บในรูป ไขมันสะสมมาก จนเส้นเลือดหัวใจตีบ จนต้องใส่ขดลวดถ่างออกให้เลือด ไหลเวียนได้สะดวก เรียกว่า ทําบอลลูน หมอจะให้กินยาละลายลิ่มเลือดตลอดชีวิต ซึ่งยาตัวนี้อยู่ในกลุ่ม NSAID มี ผลข้างเคียงทําให้ไตเสื่อมเร็ว และการกินนำ�ตาลเกิน ก็มีผลทํา ให้ไตเสื่อมเป็นทุนอยู่แล้ว ไตจึงเสื่อมเร็วเป็น 2 เด้งเลยครับ ค่าไต (Creatinine) คนปกติ 0.6-1.25 หากขึ้นถึง 2 แปลว่า ไตเสื่อม 50 เปอร์เซ็นต์ สําหรับกรณีนี้ค่าไตถึง 4 แปลว่า การขับนำ�ของไตน้อยลงทํา ให้ขาบวม นำ�ได้อาจต้องกินยาช่วยขับนำ�ด้วย ไตเสื่อมไม่มียารักษาครับ ต้องคืนชีวิตให้หมอร่างกายรักษาเท่านั้น แล้วจะหายขาด ห้ามกินของหวานทุกชนิดและนอนไม่เกิน 22.00 น. ต้อง นอนหลับลึก ถ้านอนหลับไม่ลึก ไตเสื่อมไม่หายครับ วิธีการรักษาของหมอร่างกาย ระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง 02.00 น. ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ออกมากระตุ้นให้ เอน็ ไซม์ (Enzyme) ทีไ่ ดจ้ ากใบไมส้ ดและผกั สดทีไ่ มผ่ า่ นความรอ้ นทาํ หนา้ ที่ ซ่อมเส้นเลือดในไตที่เสีย ให้กลับฟื้นดีเป็นปกติ มีข้อจํากัด 2 ประการต้อง นอนหลับลึก และห้ามกินของหวาน ทา่ นทป่ี ว่ ยมอี าการดงั กลา่ ว จาํ เปน็ ตอ้ งใหค้ วามรว่ มมอื กบั หมอรา่ งกาย โดยไม่กินของหวาน กินผลไม้ไม่หวานเป็นอาหารหลัก กินข้าวเพียงมื้อละ 2 ช้อนส้อม เพราะข้าวเป็นแป้งที่มีนำ�ตาลสูง กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 103
ใชใ้ บไมอ้ ะไร ? รกั ษาเสน้ เลอื ดหวั ใจตบี ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าสืบเนื่องจากบทความเรื่องทํา บอลลูนหัวใจ 3 เส้นและไตเสื่อมถึงเลข 4 รักษาอย่างไร? มีคนสนใจถาม ว่า ใช้ใบไม้อะไรบ้าง ที่นํามาปั่นรวมกัน ? คําตอบคือใบไม้อะไรก็ได้ที่กิน ได้ ใบไมท้ ด่ี ที ส่ี ดุ คอื บวั บกใสท่ ง้ั ใบ กา้ น ราก ใบขเ้ี หลก็ ใสค่ รง้ั ละ 3 ใบ ทาํ ให้ นอนหลบั ลึก นอกนนั้ ใสใ่ บอะไรกไ็ ด้ แตต่ อ้ งสด สะอาด และไม่ใหถ้ ูกความ ร้อน เช่น ใบเตยหอม ใบมะกรูด ใบกระเพรา ใบกระท่อมมาเลย์ ใบมะยม ใบแสงจันทร์ ใบมะม่วง ใบชมพู่นำ�ดอกไม้ ใบชะมวง ใบผักนำ� ใบเม่านา ใบเสาวรส ใบเฟอ่ื งฟา้ ใบเลบ็ ครฑุ ใบมะขามเทศ ใบหมอ่ นเบอรร์ ่ี ใบมะละกอ เป็นต้น ใสน่ �ำ ล งปั่น 300 cc. กินก่อนอาหารเช้า และ 300 cc. กินก่อน อาหารเย็น รวมวันละ 600 cc. กินมากกว่านี้ไม่ได้ขาจะบวมนำ� เพราะไต ขับนำ�ทิ้งได้น้อย เนื่องจากไตเสื่อมถึงเลข 4 แล้ว ระหว่างวัน ก็ต้องไม่กินของหวาน ต้องนอนหลับลึกด้วย การออก กําลังกายให้เหงื่อออกและหอบหายใจวันละครึ่งชั่วโมง จะช่วยในการนอน หลับและขับไขมันทิ้งทางรูเหงื่อ ไม่กินของทอดด้วยนำ�มันพืช เพราะมี ไขมันทรานส์ (Trans Fat) เช่น ปาท่องโก๋ กล้วยแขก ไก่ทอดเป็นต้น และ ไม่กินอาหารที่มีส่วนผสมไขมันทรานส์ ตลอดทั้งอาหารแปรรูปจากโรงงาน อุตสาหกรรม อาหารเจือปนสารเคมี เป็นต้น หากท่านมีวินัยต่อการกิน โดยเฉพาะ ไม่กินหวาน โรคเส้นเลือดหัวใจ ตีบและโรคไตเสื่อม ก็จะหายขาดครับ ทั้งนี้พร้อมจะเริ่มเป็นใหม่ได้อีก เมื่อท่านละเลยเรื่อง การกินอาหาร และหยุดกินนำ�ปั่นใบไม้ครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 104
โรคไต โรคเบาหวานและโรคไขมนั หายขาดได้ ผม สรุ นิ ทร์ วตั ตธรรม ขออนญุ าตเขยี นบทความกรณศี กึ ษานอ้ งภรรยา ผมป่วย 3 โรคในเวลาเดียวกัน ได้แก่ เป็นเบาหวานนานกว่า 30 ปี ไขมัน เลว (LDL), เส้นเลือดหัวใจอุดตันได้ทําบายพาสหัวใจแล้ว กินยาเบาหวาน และยาลดไขมันตลอดมา การกินยาเบาหวานและยาลดไขมันมีผลโดยตรง ทําให้ไตเสื่อม ค่าไต (Creatinine) สูงมาก ใกล้ฟอกไตแล้ว ผมห้ามไม่ให้ฟอกไต แนะนําให้กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่าน ความรอ้ น หยดุ ฉีดอินซลู ินและหยุดยาทกุ ชนิด มาถงึ วันนเี้ กอื บ 2 เดอื นคร่งึ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2559 หมอโรงพยาบาลราชวิถี นัดตรวจใหญ่ หมอเห็นค่าแล็ป ตั้งคําถามผู้ป่วยทันทีว่า คนไข้ไปทําอะไรมา โรคทั้งสาม หายปกติหมดแล้ว เขาบอกว่าพี่เขยเป็นอัยการสงขลาแนะนําให้กินนำ�ปั่น ใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน คุณหมอบอกให้กินต่อไป ผู้ป่วย บอกความรู้สึกว่า หลังจากกินนำ�ปั่นใบไม้สด และผักสดที่ไม่ผ่าน ความรอ้ น ไม่ถึงเดือน รู้สึกเหมือนหายหมด เสมือนได้ชีวิตใหม่ กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน ขอสองอย่าง คือ หลังหกโมงเย็นห้ามกินของหวาน และควรนอนไม่เกินสี่ทุ่ม เจาะเลือดดู ค่านำ�ตาลทุกวันจันทร์ วันนี้เวลา 06.30 น. วัดค่านำ�ตาลได้ 100 (ไม่เกิน 125 ถือว่าเบาหวานหายแล้ว) ค่านำ�ตาล 100 เป็นค่าที่นิ่งแล้ว กรณีศึกษาดังกล่าวเป็นการยืนยันว่า โรคร้ายทั้งหลายที่เกิดจากกิน น�ำ ต าลเกิน เช่น โรคเบาหวาน, ไขมัน, ความดนั สูง, โรคมะเรง็ , โรคพมุ่ พวง, โรคภูมิแพ้, โรคเข่าเสื่อม, โรคไตเสื่อม เป็นต้น ซึ่งเรียกว่าโรค NCDs เพียง กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสด ก็หายขาดได้โดยไม่ใช้ยา กรุณาบอกต่อเพื่อให้ทุกท่านมีชีวิตที่ดี ขอบคุณครับ.. 105
106
หมอทด่ี คี อื ตวั คณุ ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าธรรมชาติให้ชีวิตเรามา ได้ให้หมอ มาคอยรักษาเราด้วย เคยสังเกตไหมว่า ยามเราป่วยไปหาหมอ ยาที่หมอใช้ รักษาโรคเกือบทุกโรคไม่หายขาด เพียงยับยั้งรักษาตามอาการ เช่น เป็นโรค เบาหวานกินยา เพื่อลดนำ�ตาล แต่ไม่หายขาด ยิ่งกินยา ยิ่งเพิ่มปริมาณยา มากขึ้น เพราะร่างกายไม่ยอมรับยาที่เป็นสารเคมี จึงเกิดอาการดื้อยา บาง คนเพิ่มยาแล้ว ยังคุมนำ�ตาลไม่ได้ ในที่สุดต้องฉีดอินซูลิน โรค NCDs อื่นๆ ก็เช่นกัน เกิดจากกินนำ�ตาลเกิน มักเกิดกับคนชอบกินหวาน โรคที่กล่าวมา ไม่มียารักษาให้หายขาดได้ โดยเฉพาะโรคไตเสื่อมไม่มี ยารกั ษา โรคมะเรง็ กไ็ มม่ ยี ารกั ษา การใหค้ โี มกด็ ี ฉายแสงกด็ ี เปน็ เพยี งยบั ยงั้ การเติบโตของเซลมะเร็งชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น เมื่อรู้ว่าโรค NCDs เป็นโรคร้ายที่เกิดจากกินนำ�ตาลเกิน ก้าวแรกของ การเป็นหมอให้กับตัวเอง คือ การกินอาหารอย่างมีสติ ไม่ใช่กินไม่บันยะ บันยัง เราไม่เน้นกินหวาน ไม่เน้นอาหารอร่อย เบื้องต้น คุมนำ�ตาลให้ได้ นำ�ตาลไม่เกิน ก็ห่างไกลโรค ขอเรียนบอกดังๆ ว่าใบไม้สดสีเขียว มีคุณสมบัติลดนำ�ตาลได้ทุกชนิด นําหลายๆชนิดมาปั่นรวมกัน ผมจึงเรียนเสนอ นำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ ไม่ผ่านความร้อน กรองกากทิ้ง ท่านอาจกินหลังอาหารเช้า เที่ยง เย็นก็ได้ หรือเช้าเย็นก็ได้ วันใดรู้ตัวว่ากินนำ�ตาลมาก ก็กินนำ�ปั่นใบไม้หน่อย ข้อควร ระวังให้สังเกตตัวเองว่า หลังจากกินรู้สึกหวิวๆหรือไม่ ถ้าเปน็ เชน่ นนั้ แสดง วา่ น�ำ ต าลต�ำ มาก แกไ้ ขดว้ ยการกนิ นำ�ตาลป๊ิบ 2 ช้อนชาก็หายครับ เสนอให้ กินหลังกินข้าว 1 ชั่วโมง เพื่อให้สมองได้รับนำ�ตาลไว้ก่อน จะได้ไม่หวิวไม่ วูบ นำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน ใช้ทั้งป้องกันและรักษาโรค NCDs ดังกล่าวนะครับ คราวนี้รู้แล้วว่าตัวเองเป็นหมอ ช่วยดูแลตัวเอง อย่าหวังพึ่งคนอื่นนะครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 107
อยากมแี รง..ตอ้ งออกแรง ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขออนุญาตเขียนบทความนี้โดยปรารถนาอย่าง แรงกล้า ให้ทุกท่านมีสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรงครับ ใชแ่ ลว้ ครบั อยากไดแ้ รงตอ้ งออกแรง ไมม่ ยี าขนานใดกนิ ใหม้ แี รง มกี าํ ลงั วังชาตามที่เราต้องการ เข้าทํานองสุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทําเอง ถามว่ามีความจําเป็นเพียงใดที่ทุกคนต้องออกกําลังกาย จําเป็นครับ เพราะการออกกําลังกายมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการเป็นต้นว่า ทําให้กล้ามเนื้อหัวใจหนาขึ้น สูบฉีดโลหิตได้ทั่วถึง กระตุ้นให้ต่อมนำ�เหลือง ทํางาน ระหว่างออกกําลังกายจะมีสารเอนโดฟิน (สารแห่งความสุข) หลั่ง ออกมาเป็นสารขจัดความเครียดครับ พัฒนาเซลล์สมองทําให้มีความจํา ดีเสื่อมช้า ทําให้มวลกระดูกหนาแน่น (สร้างความแข็งแรงให้กระดูก) เหงื่อ ออกช่วยขับของเสียและกรดยูริกออกจากร่างกาย สร้างภูมิคุ้มกันต้านทาน โรค ช่วยให้นอนหลับง่าย รา่ งกายคนเรา ขาเป็นอวยั วะที่มีกล้ามเน้อื ใหญ่ จงึ ต้องบริหารตวั เอง ใหข้ าแข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการออกกําลังกายและสร้างมวลกระดูกขาให้ หนาแน่นด้วย การใช้ท่าออกกําลังกายให้เกิดแรงต้านนำ�หนักลงในแนวดิ่ง เช่น การเดิน, การวิ่งด้วยปลายเท้า, กระโดดเชือกโดยไม่ต้องใช้เชือก ให้ จินตนาการว่ากําลังเหวี่ยงเชือกให้มือกับเท้าสัมพันธ์กัน อย่าลืมนะครับให้ นำ�หนักลงปลายเท้าเท่านั้น เพื่อป้องกันข้อเสื่อมครับ นับจํานวนครั้งในใจ เป็นการฝึกสมาธิไปด้วยอาจจะ 200-300 ครั้ง ก็สุดแท้แต่หรือบางท่านอาจ ใช้วิธีเดินขึ้นลงบันไดหลายๆครั้งก็ดีครับ บางท่านเดินขึ้นเนิน แล้วแต่ความ สะดวกเป็นต้น สว่ นการออกกาํ ลงั กายใหแ้ ขนแขง็ แรง ไดแ้ ก่ ทา่ วดิ พืน้ หรอื ดนั ขอ้ เกดิ แรงต้านแนวดิ่งทําให้มวลกระดูกแขนหนาแน่น, หิ้วของที่มีนำ�หนัก เป็นต้น มีกีฬาหลายอย่างที่แต่ละคนถนัดไม่เหมือนกัน ขอให้ได้ออกกําลัง 108
กายวันละประมาณ 20 นาทีหรือ 30 นาที ให้เหงื่อออก และหอบหายใจก็ พอครับ การแกว่งแขนก็เป็นการออกกําลังกายที่ดีนะครับ ท่านอาจจะออก กาํ ลงั กายสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ถ้าทําได้ทุกวันก็ยิ่งดีครับ อย่าลืมนะครับ อวัยวะคนเราส่วนไหนที่ไม่ค่อยได้ใช้ จะหย่อนยาน เห่ยี วย่น ไม่ถึงกบั หดหายแต่ไมแ่ ข็งแรงเทาทค่ี วรครบั ขอใหท้ ุกทา่ นหาเวลา ออกกําลงั กายกันนะครับ ขอบคุณครับ.. 109
ไขแ่ ดงควรกนิ หรอื ไม่ ? ผม สุรินทร์ วัตตธรรม เคยเขียนบทความเรื่องอย่าไว้ใจไข่แดง เพราะ ไขแ่ ดงมไี ขมนั ตวั เลว (LDL) สงู แตม่ ปี ระโยชนม์ ากมายหลายอยา่ ง ผมพยายาม ค้นหาความจริงต่อไป จึงพบว่าไข่แดงควรกินหรือไม่ กินได้วันละกี่ฟอง ขึ้นอยู่กับปัจจัยค่าไขมันของคนที่จะกิน ถ้าคอเลสเตอรอล (Cholesterol) รวมไม่เกิน 200 และไขมันตัวเลว (LDL) ไม่เกิน 130 ก็กินไข่แดงได้ทุกวัน ถามต่อไปว่า กินได้วันละกี่ฟอง ? คําตอบขึ้นอยู่กับไขมันตัวเลว (LDL) มี ค่าเท่าไร หากไขมันตัวเลว (LDL) มีค่าตำ� เช่น 70 ท่านสามารถกินไข่แดง หรือกินไข่ได้วันละ 5-8 ฟอง ก็ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย เพื่อความไม่ประมาท ควรเจาะเลือดดูไขมันตัวเลว (LDL) และคลอเลสเตอรอลรวมทุก 3 เดือน ขอให้เน้นพจิ ารณาที่ไขมันตวั เลว (LDL) เปน็ หลกั หากเจาะเลอื ดแลว้ ไขมนั ตัวเลว (LDL) สูงขึ้น ปริ่มหรือเกิน 130 ก็ต้องลดจํานวนไข่ลง หากเกิน 130 ไปมาก อาจต้องหยุดกินไข่แดงชั่วคราว ต่อไปนี้ความสับสนเรื่องการกินไข่แดงคงหมดไปนะครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 110
อาหารเกอื บทกุ ชนดิ มพี ษิ ..!! ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าอยากมีชีวิตที่ดีในวัยชรา ควรหลีก เลี่ยงการไปหาหมอและเข้าโรงพยาบาล เว้นแต่ไปเจาะเลือดดูค่านำ�ตาล ความดัน ไขมันในเลือด ตลอดทั้งตรวจดูค่าไต ค่าตับ ค่ามะเร็ง เป็นต้น แต่ ยกเว้นกรณีเกิดอุบัติเหตุรุนแรงนะครับ การดูแลร่างกายที่ถูกต้องใช้เชิงรุกป้องกันดีกว่ารักษาโรค คือ กินเป็น อยู่เป็น กินอย่างมีสติ ด้วยการไม่กินอาหารแสลงโรค เช่น ป้องกันโรคเบา หวาน เราก็ไม่กินหวานนอกจากข้าว ป้องกันโรคความดันโลหิตสูงต้องนอน พักผ่อนเพียงพอ ไม่กินเค็ม ไม่กินสารปรุงรส ไม่กินหวาน ป้องกันโรคไต เสอื่ ม ไม่กนิ อาหารหวานจดั เคม็ จดั ไม่กนิ สารปรงุ รส ไมก่ นิ บะหมส่ี าํ เรจ็ รูป ไม่กินอาหารปนเปื้อนสารเคมี เลียงกินยาแก้อักเสบในกลุ่ม NSAID เช่น Arcoxia 90 มิลลิกรัม ป้องกันโรคมะเร็ง ไม่กินอาหารที่ทําให้เลือดเป็นกรด เช่น ไม่กินเนื้อ แดงสัตว์ใหญ่ เช่น หมู วัว เป็นต้น เพราะไขมันอิ่มตัวในเนื้อแดงทําให้เลือด เป็นกรด ไม่กินสาร ปรุงรส ไม่กินของหมักดอง ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควรกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน ทําให้เลือดเป็น ด่าง และป้องกันโรคดังกล่าวข้างต้นและโรค NCDs อื่นๆ และกินผลไม้เป็น อาหารหลัก ไม่ใช่กินข้าว สําหรับข้าวให้กินมื้อละ 4 ช้อนส้อมหรือ 1 ทัพพี เนื่องจากข้าวเป็นแป้งที่มีนำ�ตาลสูงและโรค NCDs เกิดจากกินนำ�ตาลสูง นำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนทําให้เลือดเป็นด่างด้วย กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนจะไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่ ต้องใช้ยาให้เป็นพิษต่อร่างกายครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 111
ชนะโรค..ตอ้ งรจู้ กั กนิ ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขออนุญาตเขียนเรื่อง ชนะโรค ต้องรู้จักกิน ขอเรียนว่าโรคร้ายที่เกิดจากเชื้อโรคลดน้อยลง แต่โรคร้ายที่เกิดจาก พฤติกรรมการกินอาหารเพิ่มขึ้นเร็วมาก เช่น โรคไต ปัจจุบันผู้ป่วยฟอก ไตมีจํานวน 70,000 คน ผู้ป่วยไตเสื่อมรอฟอกไตมีจํานวน 6.4 ล้านคน โรค เส้นเลือดสมองตีบ และเส้นเลือดหัวใจตีบก็มีมากแน่นโรงพยาบาลเช่นกัน สําหรับผู้ป่วยเข้าคิวรอทําบายพาสหัวใจ คิวยาวครับ โรคมะเร็งก็เกิดจาก การกินนำ�ตาลเกิน เช่นเดียวกับโรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดัน โลหิตสูง และไตเสื่อม โรคมะเร็งจัดว่าเป็นโรคร้ายที่เป็นกันมาก หากรู้จัก กินอาหารเป็นการป้องกันตัวเอง จะไม่เป็นโรคทั้งหลาย ก่อนอื่นต้องศึกษาให้รู้ว่า อาหารอะไรแสลงโรคอะไร จะได้ไม่กิน เป็น ต้นว่า นำ�ตาลก่อโรค NCDs ได้แก่ โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดัน โลหติ สงู ไตเสือ่ ม เขา่ เสือ่ ม ภมู แิ พ้ แพภ้ มู ติ วั เองคอื โรคพุม่ พวง โรคมะเรง็ โรค สะเก็ดเงิน โรคเซ็กส์เสื่อม โรคผิวหนังเหี่ยวย่นแก่เกินวัย เลือดข้นผิดปกติ กินอาหารเค็มจัดทําให้ไตเสื่อม กินสารปรุงรส เช่น ผงชูรส คนอร์ รสดี นำ�ปลา ซีอิ้วขาว ซีอิ้วดํา ซอส สารกันบูด นำ�จิ้มไก่ ปลา นำ�มันหอย กินอาหารแปรรูปจากโรงงานอุตสาหกรรม เช่น ลูกชิ้น บะหมี่สําเร็จรูป ยา รักษาโรค ล้วนทําให้ไตเสื่อม กินของทอดด้วยนำ�มันพืชมีไขมันทรานส์ (Trans Fat) ทําให้หลอด เลือดตีบ ยกเว้น นำ�มันมะพร้าว กินข้าวโพดคั่ว มันฝรั่งทอด โดนัท คุกกี้ เนยถว่ั มาการีน เคก้ ขนมกรุบกรอบ ซาลาเปา ขนมปังบางชนดิ เครือ่ งดม่ื ทรีอินวัน เป็นต้น อาหารที่กล่าวมีไขมันทรานส์เช่นกันครับ กนิ โปรตนี สูงประจาํ และมีความเครียด โรคมะเรง็ มาเยอื นถงึ บ้านครบั กินอาหารแสลงโรคเก๊าท์ เช่น สัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ นำ�สต็อก ยอดผัก แตงกวา พืชตระกูลถั่ว ปลาอินทรีย์ ปลาดุก หน่อไม้ แตงกวา ชา กาแฟ 112
ล้วนมีพิวรีน (Purine) สูงกินเข้าไปทําให้กรดยูริกสูง กรดยูริคเข้ากระดูก เม็ดเลือดขาวเข้าไปทําลาย จึงเกิดอักเสบรู้สึกเจ็บตามข้อ เมื่อไม่กินอาหารแสลงโรคดังกล่าวแล้ว ควรกินผลไม้ไม่หวานเป็น อาหารหลัก กินข้าวมื้อละ 2 ช้อนส้อม ยกเว้นผู้ใช้แรงงาน อาจต้องกินข้าว มาก เพื่อเพิ่มพลังในการทํางานโดยใช้แรงกาย และกินนำ�ปั่นใบไม้สดและ ผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน หลัง 18.00 น. ไม่กินของหวานทุกชนิดและควร นอนไม่เกิน 22.00 น. นอนให้หลับลึก รู้จักกินเช่นนี้ ก็ชนะโรคครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 113
รวยเงนิ แตส่ ขุ ภาพไมด่ ี กก็ ลบั จน ผม สรุ ินทร์ วัตตธรรม ขอเรยี นว่าเรื่องสุขภาพของคนเราตอ้ งเปน็ หนึง่ บางคนจบหลายปริญญา ทส่ี ดุ จบปริญญาเอก ทํางานตาํ แหนง่ ดีเงนิ เดือนสงู บางคนมีฐานะดรี �ำ รวยมาแตก่ าํ เนดิ แต่ถา้ สขุ ภาพไมด่ จี นเปน็ ผูป้ ว่ ยติดเตียง จะกลับกลายเป็นคนจนทันทีครับ ดูดีๆการป้องกันเป็นผู้ป่วยติดเตียง โดยต้องระวังเรื่องอาหารการกิน นั่นคือ ให้ระวังอาหารอร่อยไว้ก่อน เพราะอาหารอร่อยร้อยทั้งร้อย ใส่สาร ปรุงรส เช่น ผงชู รส นำ�ปลา ซีอิ้วขาว ซีอิ้วดํา ซอส นำ�จิ้มสําเร็จรูป คนอร์ รสดี เป็นต้น รู้ไหมครับ สารปรุงรสทําให้ไตเสื่อมและทําให้เลือดซึ่งปกติ เป็นด่างกลายเป็นกรด เลือดเป็นกรดบ่งบอกว่าจะเป็นโรคมะเร็ง อาหาร รสหวานจัด เป็นอาหารอร่อย เชน่ กนั กินเพลินจนนำ�ต าลท่วมเลือด กอ่ โรค NCDs ได้แก่ โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ไตเสื่อม เข่า เสื่อม เซ็กส์เสื่อม โรคอ้วน โรคมะเร็ง ภูมิแพ้ แพ้ภูมิตัวเองหรือโรคพุ่มพวง เส้นเลือด สมองตีบ เส้นเลือดหัวใจตีบ ผิวหนังเหี่ยวย่นแก่เกินวัย สะเก็ด เงิน รูมาตอยด์ เป็นต้น ของทอดก็จัดว่าอร่อยไม่น้อยหน้า ระวังนะครับ ของทอดด้วยนำ�มัน พืช มีไขมันทรานส์ (Trans Fat) ยกเว้นน�ำ มันมะพรา้ ว เป็นไขมันวายรา้ ยทํา ให้หลอดเลือดตีบ อาหารแปรรูปจากโรงงานอุตสาหกรรม กินมากสะสม ไขมันตัวเลว (LDL) ทําให้หลอดเลือดตีบ รา่ ยยาวมาถงึ ตอนนี้ บางคนบน่ วา่ กนิ อะไรไมไ่ ดเ้ ลยหรอื นี่ ยงั มอี าหาร อีกมากครับที่กินแล้วมีประโยชน์ คนรักสุขภาพเลือกกินได้ครับ ขอบคุณที่ ทุกท่าน ไม่เป็นทาสอาหารแสลงโรคร้าย กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 114
กนิ อยา่ งไร..ไดอ้ ยา่ งนน้ั ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าการกินอาหาร กินอย่างไรได้อย่าง นั้น เช่น กินอาหารที่มีส่วนผสมไขมันทรานส์ (Trans Fat) ไขมันวายร้าย ได้แก่ โดนัท คุกกี้ เค้ก ซาลาเปา มาการีน เนยเทียม ครีมเทียม เครื่องดื่มทรี อินวัน ข้าวโพดคั่ว เป็นต้น และหรือกินของทอดด้วยนำ�มันพืช ยกเว้นนำ�มัน มะพร้าว มีไขมันทรานส์ เช่นกัน ที่รู้จักกันดี คือ ปาท่องโก๋ กล้วยแขก ไก่ ทอด และคนส่วนใหญ่ชอบกินเนื้อหมู ติดมัน หมูกรอบ หมูยอ กุนเชียง ลูก ชิ้นเอ็น หนังไก่หรือหนังหมูทอด เป็นต้น อาหารชนิดนี้มีไขมันตัวเลว (LDL) ทําให้หลอดเลือดตีบ กินอาหารอย่างนี้ ผลเป็นอย่างนั้น คือ เป็นโรคไขมันในเลือดสูงและ เส้นเลือดสมองตีบโดยไม่รู้ตัวหรือบางคนเส้นเลือดหัวใจตีบ ต้องทําบอลลูน หรือบายพาสหัวใจ เมื่อร่างกายสําแดงโรคดังกล่าว คราวนี้รู้ตัวว่า ต้องดูแล สุขภาพ โดยไม่กินอาหารดังกล่าวข้างต้น คนส่วนใหญ่ชอบกินสารปรุงรส เช่น ผงชูรส เป็นต้น สารปรุงรสทํา ให้เลือด ซึ่งปกติเป็นด่างกลายเป็นกรด มะเร็งคืบคลานมาหา กินนำ�ตาล เกิน ก็ทาํ ใหเ้ ลอื ดเปน็ กรด มะเรง็ มาเคาะประตูเช่นกนั กินนำ�ตาลเกนิ ทาํ ให้ เส้นเลือดในไตเสื่อม กินสารปรุงรส ก็ทําให้ไตเสื่อม กลา่ วโดยสรปุ กนิ อาหารแสลงโรคอะไรจะเปน็ โรคนัน้ ซึง่ รา่ งกายยอม ใหก้ นิ อาหารแสลงโรคไดเ้ พยี ง 30 ปเี ทา่ นนั้ เมอื่ อายยุ า่ งเชา้ วยั 50 ปี ร่างกาย จะสําแดงโรค ตามที่เรากินของชอบประจํา หากป่วยจริงอย่าได้ท้อใจ ทาง เลือกโดยกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน หลัง 18.00 น. ไมก่ ินของหวานทกุ ชนดิ และนอนไมเ่ กิน 22.00 น. นอนใหห้ ลบั ลึกและงด อาหารแสลงโรคดังกล่าวครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 115
ขา้ วไมใ่ ชอ่ าหารหลกั ของคน ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขออนุญาตเขียนบทความเรื่องข้าวไม่ใช่อาหาร หลักของคน คนพัฒนามาจากลิง ธรรมชาติของลิงกินผลไม้เป็นอาหาร ถ้ามีอาการ ป่วย มันจะกินใบไมเ้ ปน็ ยารกั ษา ฉะนั้น ผลไมก้ เ็ ป็นอาหารหลักของคน สว่ น ข้าวเป็นอาหารอารยธรรม ข้าวเป็นอาหารประเภทแป้ง (คารโ์ บไฮเดรต) กินมากทาํ ให้นำ�ต าลเกนิ เป็นตวั ก่อโรค NCDs คอื โรคทไ่ี ม่แพร่ด้วยเชื้อโรค ได้แก่ โรคเบาหวาน ไขมัน ความดัน ไตเสื่อม เข่าเสื่อม เส้นเลือดสมองตีบ เส้นเลือดหัวใจตีบ ภูมิแพ้ แพ้ภูมิตัวเองหรือโรคพุ่มพวง เซ็กส์เสื่อม ผิวหนัง เหี่ยวย่นแก่เกินวัย สะเก็ดเงิน เป็นต้น คนที่วัยย่างเข้า 50 ปี และคนที่ใช้ แรงงานหรือใช้กําลังไม่มาก ควรกินข้าวมื้อละ 2 ช้อนส้อม อาจมีคนแย้งว่า ข้าวเป็นแป้งเป็นอาหารหลักของคนเพราะในปาก คนเรามีนำ�ย่อยแป้งด้วย ถูกต้องครับ ภายในปากมีนำ�ย่อยแป้ง เห็นว่า ธรรมชาติสร้างให้มีนำ�ย่อยแป้งในปาก คงเป็นเพราะแป้งให้พลังงานสูง คน สมัยก่อนต้องใช้แรงงานมาก ในด้านล่าสัตว์มากินเป็นอาหาร ปีนป่ายต้นไม้ ทํางานหาเลี้ยงชีพ ที่ต้องใช้แรงกายเพราะไม่มีเทคโนโลยีช่วย จะไปไหนก็ ต้องเดินไม่มีรถ เรือ เหมือนโลกปัจจุบัน หากไม่กินแป้ง (ข้าว) ก็ไม่มีแรง ขาดพลังงาน ปัจจุบันนี้ยังใช้ได้กับผู้ใช้แรงงานหรือผู้ที่ทํางานด้วยแรงกาย จึงต้องกินข้าวมื้อละ 1-2 จาน ไม่ใช่เพียง 2 ช้อนส้อม แต่ผู้ใช้แรงงานหรือ ใช้แรงกายในการทํางาน เขาใช้นำ�ตาลที่ได้จากกินข้าวหมดไปในแต่ละวัน จึงไม่มีนำ�ตาลเกินให้ก่อโรค NCDs ท่านใดสงสัยลองดูก็ได้ครับ กินข้าวมากทั้ง 3 มื้อเป็นเวลา 1 เดือน โรคอ้วนลงพุงมาเยือนทันทีครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 116
อยา่ ชะลา่ ใจ.!! ตอ่ อาหารแสลงโรค ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขออนุญาตเขียนบทความเรื่องอย่าชะล่าใจ ต่ออาหารแสลงโรค ด้วยความมุ่งหวังตั้งใจเป็นห่วงสุขภาพของทุกท่าน เนื่องจากร่างกายยอมให้กินอาหารแสลงโรคได้เพียง 30 ปี เช่น กินนำ�ตาล เกิน กินไขมันเกิน เป็นต้น เมื่ออายุย่างเข้า 50 ปี หากยังกินอาหารแสลง โรคอยู่อีก ร่างกายจะเตือนด้วยการสําแดงโรคให้เห็น เช่น เป็นเบาหวาน ไขมันสูง ความดันสูง ไตเสื่อม เป็นต้น แต่ภัยเงียบที่น่ากลัวที่สุด กลัวว่าร่างกายจะสําแดงโรคเส้นเลือดใน สมองตบี อยูๆ่ มือข้างหนึ่งยกไมข่ ึน้ เสยี แล้วหรือเสน้ เลือดหวั ใจตบี หากเป็น แบบด่วนเกิน 20 นาทีเสียชีวิตได้ หรือบางรายเป็นมะเร็งโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย โรคมะเร็งเป็นแล้ว รักษายาก เพราะไม่มียารักษา การให้คีโมก็ดีการฉาย แสงก็ดี เป็นเพียงยับยั้งไม่ให้มะเร็งโตและขยาย แต่ในที่สุดก็สู้มะเร็งไม่ได้ ฉะนั้นอย่าชะล่าใจครับ ต่อไปนี้ตัดสินใจเปลี่ยนพฤติกรรมเสียใหม่ ไม่กินนำ�ตาลเกิน ไม่กินไขมันเกิน ไม่กินอาหารแสลงโรคทุกชนิด ร่างกายจะ หยุดสําแดงโรคให้ร้ายต่อท่านทันที ท่านเป็นผู้หนึ่งได้ชื่อว่ามีคุณภาพชีวิต ที่ดีจนกว่าหมดอายุไข 120 ปีครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 117
ไมอ่ ยากเปน็ คนปว่ ยนอนตดิ เตยี ง ? ผม สรุ นิ ทร์ วตั ตธรรม เปน็ คนหนึง่ ทีไ่ มอ่ ยากเปน็ คนปว่ ยนอนตดิ เตยี ง และอยากไม่เห็นคนอื่นป่วยนอนติดเตียงเช่นกัน คนป่วยนอนติดเตียงไม่ได้ เดิน กล้ามเนื้อขาไม่บีบตัวจึงไม่กระตุ้นม้ามให้ทํางานนานไป ม้ามอ่อนแอ หัวใจไม่ได้มีแรง เพราะไม่ได้ออกกําลังกายให้หอบหายใจ กล้ามเนื้อหัวใจ จะค่อยๆบางลง จนไปสูบฉีดไม่ถึงปลายมือปลายเท้าทําให้เลือดไปเลี้ยง อวัยวะดังกล่าวไม่เพียงพอเป็นแผลเปื่อยเรื้อรังได้ นอนนานๆเกิดแผลกด ทับบริเวณหลังตะโพกง่าย การติดเชื้อนอนติดเตียงนาน แขนขายึดยกแขนยกขาไม่ได้ อวัยวะทุก ส่วนเสื่อม เพราะไม่ได้เคลื่อนไหวไม่ได้ออกกําลังกาย ผู้ป่วยจะเครียดมาก เนื่องจากทําอะไรไม่ได้ดังใจ แล้วจะทําอย่างไร มาดูกันว่าสาเหตุที่เป็นโรคนอนติดเตียง มีหลาย สาเหตุ เป็นต้นว่า ปล่อยให้อ้วนเพราะชอบกินหวานชอบกินแป้ง นำ�หนัก มาก ทําให้เข่าเสื่อม ซึ่งปกติกินนำ�ตาลเกินทําให้เข่าเสื่อมอยู่แล้ว นำ�หนัก มากถาโถมลงไปอีกยิ่งเสื่อมเร็วขึ้น ไม่รักษาจริงจังปล่อยจนกระทั่งไม่กล้า ลงนำ�หนักที่เข่า เนื่องจากรู้สึกเจ็บและเสียว ลูกหลานก็ไปหาซื้อเตียงไฟฟ้า มาให้นอนรับแขกบนเตียงนอน สาเหตุต่อไปเส้นเลือดในสมองแตกเป็นเจ้า ชายนิทราหรือเจ้าหญิงนิทราบางคนมีชีวิตอยู่ถึง 10 ปี กินอาหารทางสาย ยางหน้าท้อง ส่วนใหญ่เกิดจากมีโรคความดันโลหิตสูงและโรคไขมันตัวเลว (LDL) ในเลือดสูงจนเส้นเลือดในสมองแตก (เป็นเส้นโลหิตแตก ถ้าเป็นเส้น ใหญ่เสียชีวิตเลย) บางคนไม่แตกแต่ตีบ ถ้าถึงขั้นเป็นอัมพาตก็นอนติดเตียง เช่นกัน ส่วนใหญ่มักเกิดจากชอบกินอาหารประเภททอดและผัดด้วยนำ�มัน พืช ชอบกินแกงกะทิ หมูสามชั้น ชอบอาหารที่มีไขมันทรานส์ (Trans Fat) ได้แก่ โดนัท เค้ก คุกกี้ มาการีน ครีมเทียม เนยเทียม เครื่องดื่มทรีอินวัน ขนมกรุบกรอบ ข้าวโพดคั่ว เนยถั่ว ขนมปังบางชนิด ไขมันทรานส์เป็น 118
ไขมันวายร้าย กระตุ้นให้เส้นเลือดตีบ ชอบกินหวานก็เป็นเบาหวาน คุมนำ�ตาลไม่ได้ ถ้านำ�ตาลเกิน 170 ประจํา ระวังเป็นแผลที่ขาจะไม่หาย บางคนถูกตัดขาทั้งสองข้างก็ต้องนอน ติดเตียง ขอจบบทความนี้ไว้ก่อน เพราะยิ่งเขียนยิ่งรู้สึกสงสารคนที่ชอบกิน อาหารอร่อย ทั้งๆที่รู้ว่า ผลลัพธ์สุดท้ายอาจต้องเป็นคนป่วยนอนติดเตียง ก็ยังเดินหน้ากินอย่างไม่เกรงกลัว กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 119
กนิ นอ้ ยตายยาก กนิ มากตายไว ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าควรกินอาหารให้ตรงเวลามื้ออาหาร และกินเมื่อรู้สึกหิว กิน 80 เปอร์เซ็นต์ของความหิว กินน้อยตายยาก กิน มากตายไว เพราะกินมากตับ ไต หัวใจทํางานหนัก เสื่อมเร็ว เนื่องจากกิน มาก เพราะรสชาดอาหารอร่อย อาหารอร่อยๆร้อยทั้งร้อย ใส่ผงชูรสหรือ สารปรุงรส มีผลทําให้ไตเสื่อม ทําให้เลือดเป็นกรดเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง ชอบกินเนื้อแดงสัตว์ใหญ่ เช่น เนื้อหมู วัว เป็นต้น มีไขมันอิ่มตัวทํา ให้เลือดเป็นกรด เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง ชอบกินหมูสามชั้น ไข่แดง กะทิ แตกมันมีไขมันตัวเลว (LDL) สูงทําให้เส้นเลือดตีบ ชอบกินของทอดด้วย นำ�มันพืชมีไขมันทรานส์ (Trans Fat) เป็นไขมันตัวเลว (LDL) และเป็น วายร้ายกระตุ้นให้ไขมันที่ละลายในเลือด ไปเกาะผนังหลอดเลือดทําให้ เส้นเลือดตีบ ชอบกินหวาน กินนำ�อัดลม ชาเขียว กาแฟเย็น ชาเย็น นมเปรี้ยวกิน ประจํา นำ�ตาลเกินทําให้เลือดเป็นกรด เสี่ยงต่อโรคมะเร็งและโรค NCDs ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ไตเสื่อม อ้วน เข่า เสื่อม เซ็กส์เสื่อม ภูมิแพ้ แพ้ภูมิตัวเองหรือโรคพุ่มพวง เส้นเลือดสมองตีบ เส้นเลือดหัวใจตีบ ผิวหนังเหี่ยวย่นแก่เกินวัย เป็นต้น ชอบกินอาหารแปรรูปจากโรงงานอุตสาหกรรม ทําให้ไตเสื่อมและทํา ใหเ้ ลอื ดเปน็ กรด เสย่ี งตอ่ โรคมะเรง็ ขอใหส้ งั เกตอาหารทม่ี นษุ ยท์ าํ ขนึ้ ปรงุ แตง่ ขึ้นอร่อยทั้งนั้น จึงกินมากโรครุมเร้าตายไว ในทางกลับกันกินอาหารที่ยังคง ความเป็นธรรมชาติ เช่น ผลไม้ไม่หวานนัก กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ ไมผ่ า่ นความรอ้ น ทาํ ใหค้ งความเปน็ ดา่ งของเลอื ดไวไ้ ดจ้ ะไมเ่ ปน็ มะเรง็ ไมเ่ ปน็ โรค NCDs และกินได้ไม่มากนัก เพราะไม่อร่อย ตายยาก เขียนบทความนี้ เพื่อสร้างจิตสํานึก (Cognitivism) ในการกินอาหาร จะได้ไม่เจ็บ ไม่ป่วย กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 120
กนิ อาหารเปน็ ยา ถา้ ไมอ่ ยากกนิ ยาเปน็ อาหาร ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าโรค NCDs เกิดจากพฤติกรรม การกินเป็นสําคัญไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค คร่าชีวิตผู้คนด้วยโรคนี้ถึง 73 เปอร์เซ็นต์ จําเป็นต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน โดยเน้นอาหารที่ไม่ปรุง แต่ง คนสมัยก่อนทําอาหารอร่อย ด้วยฝีมือล้วนๆ ผิดกับยุคปัจจุบันไม่ต้อง ใช้ฝีมือมากนัก เพียงใส่ผงชูรส รสดี คนอร์ และสารปรุงรสอื่นๆ เช่น ซีอิ้ว ขาว-ดาํ ซอส น�ำ ม นั หอย น�ำ จิม้ สาํ เรจ็ รูปกอ็ รอ่ ยเด็ด ทาํ ให้คนตดิ ทั้งประเทศ อย่าลืมว่าสารปรุงรสทั้งหลาย ล้วนทําให้ไตเสื่อม ทําให้เลือดเป็นกรดเป็น เหตุให้เซลล์ในร่างกายปรับตัวผ่าเหล่า (Mutation) เป็นเซลล์มะเร็งร้าย จนกระทั่งคนไทยเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งมากเป็นอันดับ 1 โรคร้ายอันดับ 2 เกิดจากหลอดเลือดตีบ ไม่ว่าจะเป็นหัวใจตีบหรือสมอง ตีบบางคนแตก ถ้าเป็นเส้นเลือดใหญ่ก็เสียชีวิต ถ้าเป็นเส้นเล็กก็พิการเป็นเจ้าชายหรือ เจ้าหญิงนิทรา อยากรู้แล้วใช่ไหมครับว่าอะไรเป็นสาเหตุให้หลอดเลือดตีบ คําตอบคือ ไขมันตัวเลว (LDL) กับไขมันทรานส์ (Trans Fat) ครับ ของทอดด้วยนำ�มันพืช มีไขมันทรานส์เป็นไขมันตัวเลว (LDL) จัดเป็น วายร้ายที่ทําให้หลอดเลือดตีบ อาหารที่ทําด้วยการผัดก็ควรเลี่ยง ผัดกับนำ� แทนจะดีกว่า นอกจากนี้อาหารสําเร็จรูปที่มีไขมันทรานส์ก็ควรเลี่ยง ถึงเวลาแล้วครับที่เราต้องกินอาหารเป็นยา มิเช่นนั้น ท่านจะต้อง กินยาเป็นอาหาร ขอเรียนเสนอให้ท่านกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ ผ่านความร้อนก่อนอาหารมื้อเที่ยง 300 cc. ก่อนอาหารมื้อเย็น 300 cc. หลัง 18.00 น. ไม่กินของหวานทุกชนิดและนอนไม่เกิน 22.00 น. นอนให้ หลับลึก กินผลไม้ไม่หวานนักเป็นอาหารหลักกินให้เกือบอิ่ม จะได้กินข้าว เพียง 2-4 ช้อนส้อม พร้อมปลา กุ้ง ปู หอยนิดหน่อย กินอาหารถูกต้องจะ ไม่เป็นภาระกับลูกหลาน เนื่องจากสุขภาพดีไม่พิการ เรียกว่าเดินขึ้นเมรุได้ กระทั่งตาย กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 121
กนิ น�ำ ป้ น่ั ใบไมส้ ดแลว้ ทอ้ งเสยี ..อยา่ ตกใจ.!! ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่ากินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ ผ่านความร้อนแล้วท้องเสีย อย่าได้ตกใจ เพราะนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสด ที่ไม่ผ่านความร้อน มีคุณสมบัติแก้ท้องผูก ช่วยขับถ่าย คนที่ท้องผูกถ่าย 3 วันต่อครั้ง หากกินนำ�ปั่นใบไม้สดฯจะถ่ายวันละ 1-2 ครั้ง ท่านใดกินนำ�ปั่นใบไม้สดแล้วท้องเสียหรือถ่ายเหลว วันต่อไปให้ลด ปริมาณลง เมื่อถ่ายปกติแล้ว ค่อยๆเพิ่มปริมาณขึ้น สําหรับคนเป็นมะเร็ง ควรกินวันละ 1,000 cc. โดยกินก่อนอาหารเที่ยง 700 cc. กินก่อนอาหาร มื้อเย็น 300 cc. ส่วน คนเป็นเบาหวานควรกินวันละ 700 cc. ถ้านำ�ตาลลด ลงน้อยกินเพิ่มเป็นวันละ 1000 cc. ก็ได้ครับ นำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ ผ่านความร้อนเป็นอาหารยาธรรมชาติที่ร่างกายไม่ต่อต้าน ถ้ากินวันแรกๆ ท้องเสีย อย่าตกใจลดปริมาณกินก่อน ร่างกายจะปรับสมดุลย์ได้เอง กินยาสมุนไพรที่ได้จากพืชสดและไม่ผ่านความร้อน มีตัวยาครบถ้วน หากถูกความร้อน ความเป็นยาหายเกือบหมดและเอ็นไซม์ (Enzyme) หาย หมดครบั การดแู ลรกั ษารา่ งกายดว้ ยสมนุ ไพรธรรมชาตหิ รอื เรยี กวา่ ธรรมชาติ บําบัดไม่มีอาการดื้อยา ไม่มีผลข้างเคียงต่อไตและตับ รักษาหายขาดได้ครับ ต่างกับยาแพทย์แผนปัจจุบันใช้รักษาตามอาการ ไม่อาจรักษาให้หายขาด ได้ รักษาไปเพิ่มปริมาณ ไป จนกระทั่งดื้อยาแล้วเปลี่ยนยาตัวใหม่ ทั้งมีผล ข้างเคียงทําให้ไตเสื่อม เนื่องจากยาผลิตจากสารเคมี ยาเกือบทุกชนิดมีพิษ ถึงเวลาที่เราทุกคนควรดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง โดยกินนำ�ปั่นใบไม้ สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน หลัง 18.00 น. ไม่กินของหวานทุกชนิด และนอนไม่เกิน 22.00 น. นอนให้หลับลึก กินผลไม้ไม่หวานนักเป็นอาหาร หลัก กินข้าวมื้อละ 2-4 ช้อนส้อม กินปลา ปู กุ้ง หอยนิดหน่อย วันละไม่เกิน 250 กรัม ให้พอร่างกายสร้างภูมิต้านทานสู้กับเชื้อไวรัสป้องกันโรคเริมและ งูสวัด ไม่กินนำ�ตาลเกิน ไม่กินเค็มจัด ไม่กินของทอด ของผัดด้วยนำ�มันพืช 122
เพราะมีไขมันทรานส์ (Trans Fat) ไม่กินสารปรุงรสทุกชนิด ไม่กินอาหาร ปนเปื้อนสารเคมี เลี่ยงอาหารมีไขมันทรานส์ ได้แก่ โดนัท คุกกี้ เค้ก มาการีน ครีมเทียม เนย เทียม เครื่องดื่มทรีอินวัน ขนมกรุบกรอบ เนยถั่ว ข้าวโพดคั่วเป็นต้น เลี่ยงอาหารแปรรูปจากโรงงานอุตสาหกรรม เช่น ปลา กระป๋อง อาหารมีส่วนสําคัญในการก่อโรค ไม่กินอาหารดังกล่าวที่แสลงโรค ท่านก็ไม่ป่วยเป็นโรค หมอมีเวลาไปเที่ยวต่างประเทศบ้าง กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 123
ลบชอ่ื ออกจากบญั ชผี ปู้ ว่ ย ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขออนุญาตเขียนบทความจากกรณีศึกษานอ้ ง ภรรยาผมปว่ ยเป็นเบาหวานกว่า 30 ปี ฉีดอินซลู นิ มาแลว้ 11 ปี ไขมันตัวเลว (LDL) สูงนาน เป็นเหตุให้เส้นเลือดหัวใจตีบทําบายพาสหัวใจที่โรงพยาบาล ราชวิถีมาแล้ว กินยาเบาหวาน ยาลดไขมันหลายปีต่อเนื่องทําให้ไตเสื่อม เรื้อรัง ใกล้ถูกฟอกไต ขอบตาเขียวเหมือนหมีแพนด้า ผมห้ามฟอกไต และแนะนําให้กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่าน ความร้อน กินมาถึงวันนี้เป็นเวลา 5 เดือนเศษ หยุดยาทั้งหมด รวมทั้ง อินซูลินเป็นเวลา 3 เดือนเศษ เมือ่ วนั ที่ 12 กรกฎาคมปนี ี้ หมอโรงพยาบาลราชวถิ นี ดั ตรวจใหญ่ เมื่อ หมอเห็นค่าแล็ป ก็ถามขึ้นทันทีว่า คุณไปทําอะไรมา โรคทั้งสามหายเป็น ปกติแล้ว เขาบอกว่าพี่เขยอัยการสงขลา แนะนําให้กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผัก สดที่ไม่ผ่านความร้อน หมอบอกให้กินต่อไป มีคําถามต่อไปว่า ใช้ใบไม้สดและผักสดอะไรปั่น กรณีน้องภรรยาผม แนะนําให้ใช้ใบมะกรูด ใบขี้เหล็ก ใบข่อย ใบมะยม ใบสะเดา ใบบัวบก ใบ เตย ใบชะมวง ใบมันปู มะระขี้นก 2 ลูก แครอท 1 ใน 4 หัว กระชาย 2 หัวเล็กๆ กระเพราแดง ใบมะม่วงหิมพานต์ ใส่เต็มโถ ปั่นใส่นำ� 600 cc. ปั่นละเอียดเขาไม่กรองกากทิ้ง กินก่อนอาหารเช้า และปั่นอีก 300 cc. กิน ก่อนอาหารเย็น หากท่านใดกินทั้งกากไม่ได้ ก็ให้กรองกากทิ้งนะครับ โรคดงั กล่าวเกดิ จากกินนำ�ต าลเกินประจาํ เป็นเวลานาน ไมไ่ ด้เกิดจาก เชื้อโรค หากเกิดจากพฤติกรรมการกิน วิธีลบชื่อออกจากบัญชีผู้ป่วยด้วย การเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเสียใหม่ โดยไม่กินหวาน และหลังหกโมงเย็น ห้ามกินของหวานเด็ดขาด อีกทั้งนอนไม่เกิน 4 ทุ่ม เพราะโกรทฮอร์โมนจะ หลั่งออกมา ระหว่างเวลา 4 ทุม่ ถงึ ตี 2 ตอนนอนหลบั ลกึ ถ้าหลับๆ ต่นื ๆหรอื 124
หลับยังฝันอยู่ แปลว่าหลับไม่ลึก โกรทฮอร์โมนไม่หลั่ง โกรทฮอรโ์ มนจะกระตนุ้ เอน็ ไซม์ ทไี่ ดจ้ ากการกนิ พชื สดในแตล่ ะวนั ให้ ซอ่ มอวัยวะทุกส่วนที่เสอื่ มและสกึ หรอให้หายเปน็ ปกติ ต้องนอนหลับลึกนะ ครับ ใบขี้เหล็กทําให้หลับลึก ใบป่าโหมทําให้อยากนอน กล้วยนำ�ว้าทําให้ นอนหลับ ออกกําลังกายให้เหงื่อออกและหอบหายใจ ทําให้หลับลึก ต่อไปนี้ งดอาหารหวาน มัน เค็ม และไม่กินของทอดด้วยนำ�มันพืชทกุ ชนดิ นะครบั เพราะของทอดจากน�ำ ม นั พชื มไี ขมนั เลว ชอ่ื ไขมนั ทรานส์ (Trans Fat) ทําให้เส้นเลือดอุดตัน ปฏิวัติชีวิตไม่กินหวาน มัน เค็ม (กินได้เท่าที่จํา เป็น) โรคNCDs ที่เกิดจากกินนำ�ตาลเกิน หายขาดทุกโรค เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว น้องภรรยาผม เจาะเลือดวัดค่านำ�ตาลได้ 101 วนั นว้ี ดั ได้ 100 ไมเ่ กนิ 125 หมออนญุ าตคดั ชอ่ื ออกจากบญั ชผี ปู้ ว่ ยเบาหวาน ได้แล้วครับ กรุณาบอกต่อ เพื่อทุกคนทุกท่านไม่เจ็บ ไม่ป่วย มีคุณภาพชีวิตที่ดี นะครับ ขอยำ�ยาเบาหวาน ยาลดไขมัน ยาลดความดันล้วนทําให้ไตเสื่อม และควรเลี่ยงการฟอกไตนะครับ ขอบคุณครับ.. 125
รไู้ วใ้ ชว่ า่ ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขออนุญาตเขียนบทความจากเรื่องจริงเกี่ยว กับประโยชน์การกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน ภรรยาผมป่วยเป็นมะเร็งต่อมนำ�เหลืองมาเป็นเวลา 14 ปีมานี้ เคยให้ คโี มครัง้ ใหญ่ๆมา 5 ครัง้ และฉายแสงทีค่ อ 1 ครั้ง เพือ่ ให้กอ้ นมะเร็งยบุ ขณะ นี้ไม่มีคีโมที่จะให้ต่อไปอีก เนื่องจากคีโมที่ดีที่สุดให้มาหมดแล้วครับ มีคํา ถามว่าการรับคีโมและฉายแสง เป็นการรักษาให้หายขาดหรือไม่ คําตอบ คือไม่ใช่ครับ เป็นเพียงยับยั้งการเติบโตของก้อนมะเร็งและยับยั้งการแพร่ กระจายในระยะหนึ่งเท่านั้น ส่วนใหญ่ไม่เกิน 2 ปีจะกลับมาเป็นอีก ปัจจุบันผมรักษาด้วยการให้กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่าน ความร้อน หยุดให้คีโมมาประมาณ 4 ปีเศษ ก้อนมะเร็งที่รักแร้ ที่ขาหนีบ ในช่องท้องมีขนาดเท่าไข่ไก่ บัดนี้ยุบเหลือขนาดปลายนิ้วก้อย และก้อน มะเร็งที่คางและลาํ คอ กย็ บุ เลก็ ลงเชน่ กนั สามารถใชช้ วี ติ เหมอื นบคุ คลทว่ั ไป ตามปกติ สิ่งที่น่าแปลกใจ ภายหลังฉายแสงที่คอ ทําให้ต่อมรับรสเสื่อม กลาย เป็นลิ้นจระเข้ คือ รับรสทุกอย่างไม่ได้ และต่อมนำ�ลายก็ถูกทําลาย มีปัญหา ต่อการกลืนอาหาร ผมเรียนถามคุณหมอที่ดูแลการฉายแสง ได้รับคําตอบว่าไม่มีอะไรสู้ แสงได้หรอก ไม่มียารักษาเสียแล้วเสียเลย ผมก็ทําใจ แต่ท่านที่เคารพครับ กินนำ�ปั่นพืชสดที่ไม่ผ่านความร้อนประมาณ 4 เดือน ต่อมรับรสและต่อม นำ�ลายกลับฟื้นคืนดีขึ้น 80 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันกินมา 5 เดือนกว่า ต่อม รับรสและต่อมนำ�ลายดีขึ้น 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ครับ นอกจากนี้ เพื่อนผมเป็นเบาหวานค่านำ�ตาล 145 ยังไม่กินยาลด น�ำ ต าล ผมแนะนาํ ใหก้ นิ น�ำ ป ัน่ พชื สดทีไ่ มผ่ า่ นความรอ้ น กนิ มาได้ 2 เดอื นค่า นำ�ตาลลดลง เหลือ 70 และแถมปสั สาวะไม่ติดขัด เนื่องจากในเวลาเดียวกนั 126
ต่อมลูกหมากเขาโต ทําให้ปัสสาวะติดขัดด้วย ปัจจุบันเพื่อนผมเขามีความ สขุ มาก และผมแนะนําต่อไปว่า ทุกครั้งทีป่ ัน่ นำ�พ ชื สดใหใ้ ส่มะเขือเทศราชนิ ี หรือมะเขือเทศสีดาครั้งละ 1 กํามือ เพื่อป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากครับ ภรรยาผมกนิ น�ำ ป ัน่ พชื สดกรองกากทิง้ ใสใ่ บไมจ้ าํ นวนมากหลายชนดิ เช่น ใบบัวบก ใบตําลึง ใบมะยม ใบมะกรูด ใบมะนาว ใบชะมวง ใบมันปู ใบโหระพา ใบป่าโหม ใบกระเจี๊ยบแดง ใบเม่า ใบเตย ใบข่า ใบสมุยหอม ใบชมพู่นำ�ดอกไม้ ใบขลู่นา ใบสะเดา ใบแป๊ะตำ�ปึง ใบเล็บครุฑ ใบขี้เหล็ก ใบป่าช้าเหงา หรือกระท่อมมาเลย์ ผลมะระขี้นก 3 ผล มะเขือเทศราชินี 1 กาํ มอื ใสน่ ำ� 900 cc. ภรรยาผมกิน 600 cc. ผมกินเพื่อสุขภาพ 300 cc. เนื่องจากผมไม่เป็นโรค NCDs มื้อเย็นผมกับภรรยากินคนละ 300 cc. รวม แล้ววันหนึ่ง ภรรยาผมกิน 900 cc. ไม่กินของหวาน และงดอาหารรส มัน เค็ม นอนไม่เกิน 23.00 น. ครับ ปัจจุบันถ้าท่านไม่รู้มาก่อน ว่าเธอ เป็นมะเร็งก็จะทายไม่ถูกว่าเธอเป็นมะเร็ง เนื่องจากมีสุขภาพแข็งแรง ทํางานบ้านตลอด จ่ายตลาดทุกวันศุกร์ครับ หากมีประโยชน์บ้าง กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 127
อยา่ ทํารา้ ยตวั เอง ผม สุรินทร์ วัตตธรรม เขียนบทความนี้เพื่อสร้างจิตสํานึก (Cogni- tivism) ให้ทุกคนหยุดทําร้ายตัวเอง การทําร้ายตัวเอง หมายถึง การกินอาหารเน้นความอร่อยเป็นหลัก และกินตามใจปาก โดยไม่ฟังเสียงเตือนหรือการทักท้วงใดๆ เช่น บอกว่า อย่ากินนำ�ตาลเกิน หรืออย่ากินหวานเกิน เชื่อว่าความหวานจากนำ�ตาล ในจานอาหารคงมีไม่มากนัก แต่ปากอยากกินขนมหวาน อยากกินไอศกรีม อยากกินนมเย็น นำ�ตาลเกินทันที ข้ออ้างว่ากินติดแล้วต้องกินอีก เป็นการ ทําร้ายตัวเอง เพราะร่างกายยอมให้กินนำ�ตาลเกินได้ 30 ปีเท่านั้น เมื่ออายุ ย่างเข้า 50 ปีร่างกายจะลงโทษโดยการสําแดงโรค เช่น เป็นเบาหวาน ไขมัน สูง ความดันสูง เป็นต้น การกินโปรตีนสูง กินเนื้อสัตว์ติดมัน ขาหมูพะโล้ หนังไก่ หนังหมูทอด หมูกรอบ หมูยอ กุนเชียง ลูกชิ้นเอ็น เป็นต้น ทําให้ ไขมันสูงและหลอดเลือดหัวใจหรือหลอดเลือดสมองอุดตัน หากยังชอบกิน อยู่อีกเป็นการทําร้ายตัวเอง ชอบกนิ ของทอดดว้ ยน�ำ ม นั พชื (ยกเวน้ น�ำ ม นั มะพรา้ ว) มไี ขมนั ทรานส์ (Trans Fat) ทําให้หลอดเลือดอุดตันเช่นกัน หยุดทําร้ายตัวเองด้วยการหยุด กินของทอดด้วยนำ�มันพืช เช่น ปาท่องโก๋ กล้วยแขก จําปาดะทอด ไก่ทอด เต้าหู้ทอดจิ้ม นำ�จิ้มหวานๆ เป็นต้น ถึงเวลาหยุดทําร้ายตัวเอง หยดุ ขน้ึ ลงโรงพยาบาล อย่บู ้าน กนิ อาหาร เป็นยา ไม่กินอาหารก่อโรค ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง ยอมเสียรสชาติอาหาร อร่อยดีกว่าร่างกายพิการนะครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 128
หมอบญุ ชยั เปน็ หมอตวั อยา่ ง ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขออนุญาตยกย่องหมอบุญชัย เป็นหมอ ตัวอย่างเป็น Model ที่ควรปฏิบัติตาม คุณหมอบุญชัยจบการศึกษาจาก ศิริราช เป็นเจ้าของโรงพยาบาลแถวละแวกบางไทร มีหมอร่วมงาน 50 คน คุณหมอบุญชัยเป็นโรคหลายโรค ได้แก่ เบาหวาน ไขมันสูง ความดันสูง เลือดข้นผิดปกติ เป็นแผลในตับเรื้อรัง นอกจากนี้ยังเป็นโรคอ้วนนำ�หนัก ตัว 113.5 กิโลกรัม คุณหมอบุญชัยไม่ใช้ยาแพทย์แผนปัจจุบัน แต่กลับปฏิวัติชีวิต ด้วย การกินผลไม้ไม่หวานเป็นอาหารหลัก กินพืชสดที่ไม่ผ่านความร้อน หลัง 18.00 น. ไม่กินของหวานทุกชนิด และนอนไม่เกิน 22.00 น. ออกกําลัง กายตามสมควร กระโดดเชือกวันละ 500 ครั้ง ให้นำ�หนักลงที่ปลายเท้า งดกินนำ�ตาลและไม่กินอาหารแสลงโรค เช่น ไม่กินของทอดด้วยนำ�มันพืช ที่มีไขมันทรานส์ (Trans Fat) ไม่กินแกงกะทิแตกมัน เพราะมีไขมันทรานส์ เช่นกัน ไม่กินอาหารแสลงอื่นๆ เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน ไม่กินโปรตีนสูง ไม่ กินสารปรุงรส ความคิดครั้งแรกเมื่อทราบว่ามีโรครุมเร้า ไม่อยากกินยาวันละ 15 เม็ด เพราะยาเบาหวาน ไขมัน ความดัน ล้วนทําให้ไตเสื่อม ในที่สุดต้องถูก ฟอกไต คุณหมอจึงต้องเลี่ยงการถูกฟอกไต โดยการกินผลไม้ไม่หวานและ กินพืชสดที่ไม่ผ่านความร้อนเป็นอาหาร คุณหมอกินอาหารแบบนี้เพียง 4 เดือนก็หายทุกโรค คุณหมอบุญชัยเป็น Model เพื่อยืนยันว่า นำ�ปั่นใบไม้สดและผักสด ที่ไม่ผ่านความร้อน ที่ผมกําลังส่งบทความให้ทุกท่านทํากินอยู่ใช้รักษาโรค ได้ดี กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 129
กนิ มะพรา้ วใหไ้ ดป้ ระโยชน์ ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่า นำ�มะพร้าวอ่อนมีประโยชน์มาก คนสมยั กอ่ น ให้ลกู กนิ น�ำ ม ะพร้าวอ่อนแทนนมในยามจาํ เปน็ ภูมิปญั ญาชาว บ้านยังบอกอีกว่า นำ�มะพร้าวอ่อนสะอาดบริสุทธิ์ โดยเฉพาะผู้หญิงดื่ม นำ�มะพร้าวอ่อน ทาํ ให้หน้าอกโตขึ้น ก้นผายออกนิดหน่อย เพราะมีฮอร์โมน เพศหญิงมาก คนที่มีประจําเดือน ต้องงดดื่ม เนื่องจากจะทําให้ประจําเดือน มามากกว่าปกติ มีข้อจํากัด อย่าดื่มเกินวันละ 1 แก้ว เนื้อมะพร้าวไม่ว่า อ่อนหรือแก่ มีเกลือแร่ วิตามิน นำ�ตาล นำ�มัน เกือบจะ ครบ 5 หมู่ มีข้อ จํากัด ให้กินได้วันละไม่เกิน 2 ขีด ถ้ากินมากประจําจะสะสมเป็นไขมันตัว เลว (LDL) ทั้งที่ตัวมันเป็นไขมันดี (HDL) ส่วนนำ�มันมะพร้าวกลั่นเย็น เป็น ไขมันดี (HDL) กินทุกเช้าไม่เกิน 1 ช้อนแกง ถ้ากินเกินจะสะสมไขมันตัว เลว (LDL) เช่นกันครับ กะทิกินสดได้ไขมันดี (HDL) แต่กินได้ไม่เกินวันละ 1 ช้อนแกง อย่า ให้กะทิโดนความร้อนจนแตกมัน จะเป็นไขมันทรานส์ (Trans Fat) เป็น ไขมันตัวเลว (LDL) และได้ชื่อว่าไขมันวายร้าย ทําให้เส้นเลือดตีบและผนัง หลอดเลือดอักเสบ ของดีก็มีโทษหากไม่เข้าใจในการใช้ให้ได้ประโยชน์ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 130
เอน็ ไซม์ (Enzyme) จากใบไมส้ ด ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าเอ็นไซม์ (Enzyme) ที่ได้จากนำ�ปั่น ใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน มีประโยชน์ช่วยซ่อมหรือฟื้นอวัยวะ ทุกส่วนของร่างกายที่เสื่อม สึกหรอหรือผิดเพี้ยนไปให้กลับดีเหมือนเดิม เช่น ช่วยซ่อมเส้นเลือดในไตที่เสีย ช่วยปรับเลือดข้นเหมือนโคลนให้เป็น ปกติ ช่วยคนปวดหัวไม่รู้สาเหตุหายเป็นปกติ ช่วยคนลิ้นหัวใจรั่ว ช่วยคน ที่เส้นเลือดหัวใจตีบให้หายเป็นปกติ เป็นต้น ปกติร่างกายสร้างเอ็นไซม์ (Enzyme) ได้เองเมื่ออายุล่วงเลย 30 ปี เอ็นไซม์จะลดน้อยถอยลง จึงต้องกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่าน ความร้อน หากถูกความร้อนเอ็นไซม์หายหมด เอ็นไซม์จะทําหน้าที่ซ่อม อวัยวะ ต่อเมื่อได้รับการกระตุ้นจากโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) เท่านั้น โกรทฮอร์โมนจะหลั่งออกมา ระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง 02.00 น. ขณะนอนหลับลึก และหลัง 18.00 น. ต้องไม่กินของหวานทุกชนิด หากกิน ของหวาน ฮอร์โมนอินซูลิน (Isulin Hormone) จะหลั่งออกมา นํานำ�ตาล ไปใช้ เมื่อฮอร์โมนอินซูลินยังเหลือ ใกล้เวลาโกรทฮอร์โมนจะหลั่งออกมา โกรทฮอร์โมนจะไม่หลั่งออกมาเป็นเรื่องของธรรมชาติ ฉะนั้น ถ้าหลัง 18.00 น. ยังกินของหวานหรือนอนหลับไม่ลึกอย่าง หนึ่งอย่างใด โกรทฮอร์โมนจะไม่หลั่งออกมา เอ็นไซม์ก็ไม่ทําหน้าที่ซ่อม อวัยวะที่เสื่อม ควรใส่ใบขี้เหล็กในการปันใบไม้สด 2--4 ก้านตามความ เหมาะสม เน่อื งจากขเ้ี หลก็ ทําให้นอนหลับลกึ และควรนอนไมเ่ กิน 22.00 น. การออกกําลังกายต่อเนื่อง ให้เหงื่อไหลและหอบหายใจช่วยให้นอนหลับ เช่นกนั กนิ เถอะครับ เดด็ ใบไม้สดข้างบ้านหลายชนดิ รวมกนั ปนั กินเลยครบั กรองกากทิ้ง ทั้งใส่สับปะรดชิ้นเล็กและฝรั่งครึ่งลูกกลิ่นเหม็นเขียวหายไป กินง่าย กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 131
ตอ้ งกนิ น�ำ ป้ น่ั ใบไมส้ ดตลอดชวี ติ หรอื ไม่ ? ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่านำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่าน ความร้อนใช้รักษาโรค NCDs คือ โรคที่ไม่แพร่ด้วยเชื้อโรค หากแต่เกิดจาก พฤติกรรมการกิน ได้แก่ โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ไตเสื่อม เข่าเสื่อม ภูมิแพ้ แพ้ภูมิตัวเองคือโรคพุ่มพวง สะเก็ดเงิน รูมาตอยด์ เส้นเลือดสมองตีบ เส้นเลือดหัวใจตีบ เซ็กส์เสื่อม ผิวหนังเหี่ยวย่นแก่เกินวัย เลือดข้นผิดปกติ แผลในตับ มะเร็ง เป็นต้น โรคทั้งหมดที่กล่าวมาเกิดจากกินนำ�ตาลเกิน นำ�ปั่นใบไม้สดและผัก สดที่ไม่ผ่านความร้อน มีพฤกษะเคมีหรือมีตัวยาสมุนไพรช่วยลดนำ�ตาลลด ไขมัน และขณะนอนหลับลึก เอ็นไซม์ (Enzyme) ซึ่งได้จากใบไม้สดและ ผกั สดทไ่ี มผ่ า่ นความรอ้ น ชว่ ยซอ่ มหรอื ฟน้ื อวยั วะทกุ สว่ นของรา่ งกายที่เสื่อม หรือสึกหรอหรือผิดเพี้ยนไปจากเดิม ให้กลับดีเหมือนเดิม โดยไม่ใช้ยาที่ ผลิตจากสารเคมีเป็นการคืนชีวิตให้ หมอร่างกายรักษาตัวเอง มีคําถามว่า ต้องกินนำ�ปั่นใบไม้ตลอดชีวิตหรือไม่ คําตอบคือ ต้องกิน ตลอดชวี ติ คดิ วา่ กนิ อาหารเปน็ ยา หากกนิ แลว้ หยดุ ไมก่ นิ ตอ่ โรคจะกาํ เรบิ อีก เช่น เป็นเบาหวาน กินนำ�ปั่นใบไม้ ค่านำ�ตาลจะอยู่ที่ 100 หยุดกินน�ำ ป ั่น ใบไม้ แล้วกินหวาน เพราะพล้งั เผลอ คา่ น�ำ ต าลจะข้นึ ถึง 150 เมื่อกินนำ�ปั่น ใบไม้อีก ค่านำ�ตาลจะลดลงไม่เกิน 100 เป็นโรคมะเร็งก็เช่นเดียวกัน หาก หยุดกินนำ�ปั่นใบไม้ทําให้ก้อนมะเร็งโตขึ้น เมื่อกินนำ�ปั่นใบไม้ ก้อนมะเร็ง จะเล็กลง โรคอื่นก็เช่นกัน จึงจําเป็นต้องกินตลอดชีวิตนะครับ หยุดได้บ้าง แต่อย่าให้นานเกินไป กินนำ�ปั่นใบไม้ ตื่นเช้าสดชื่น ไม่เพลีย กินบ่อยๆ จะเคยชิน ไม่รู้สึก เหม็นเขียวครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 132
รายงานผลการกนิ น�ำ ป้ น่ั ใบไมส้ ดเพม่ิ เตมิ ผม สุรนิ ทร์ วตั ตธรรม ขอเรยี นรายงานผลการกินนำ�ปั่นใบไม้สดและ ผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนเพิ่มเติม รายแรก เป็นข้าราชการผู้หญิงสํานักงานอัยการคดีศาลสูงภาค 9 เมื่อวาน (24 กันยายน 60) เธอได้ไปร่วมวิ่งฟันรันที่หาดใหญ่ ระยะทาง 4 กิโลเมตร วิ่งช้าๆไม่หยุด เดินไม่หยุดแวะถึงเส้นชัย โดยยังไม่รู้สึกเหนื่อย เธอบอกว่าเพราะ กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนนั่นเอง ปีก่อนเคยไปร่วมวิ่งฟันรันที่เดียวกันระยะ 4 กิโลเมตร เช่นกัน ไม่มีแรงวิ่ง ได้แต่เดินๆหยุดๆ วิ่งได้ไม่เกิน 10 ก้าว ก็ต้องหยุดเดิน เพราะไม่มีแรง ปัจจุบันเธอแข็งแรงมาก หลังตื่นเธอดื่มนำ�ปั่นใบไม้เวลา 03.30 น. ทุกวัน รู้สึกสดชื่น ไม่เพลีย รายทส่ี อง เปน็ ผู้ชายอายุใกล้ 60 ปี เปน็ นกั ว่ิงมาราธอน บอกวา่ หลงั จากวิ่งเสร็จ จะปวดเมื่อยขา ขาตั้ง กล้ามเนื้อขาอักเสบ เดินไม่สะดวกใน วันรุ่งขึ้น ติดต่อกัน 3-4 วัน ปัจจุบัน กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ ผ่านความร้อน แข็งแรงมาก วิ่งมาราธอนระยะทาง 20 กิโลเมตร ไม่เหนื่อย ไม่เพลีย โชว์ถ้วยรางวัลให้ดู 2 ครั้งแล้ว และบอกว่าหลังจากวิ่งในวันรุ่งขึ้น ขาไม่ตึง ไม่เมื่อย เดินได้ตามปกติ มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเจน จึงขอเรียนยืนยันว่า กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน ทําให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรงตื่นเช้าสดชื่น ไม่เหนื่อย ไม่เพลีย กินเถอะครับ โดยไม่ต้องรอให้ป่วย กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 133
คดิ อะไรไมอ่ อก...กนิ น�ำ ป้ น่ั ใบไมส้ ด ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าปัจจุบัน คนเราป่วยเป็นโรคที่ไม่รู้ สาเหตุและไม่มียารักษา แต่ยังไม่จนปัญญานะครับ คิดอะไรไม่ออกบอก ให้กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน แนะนําอย่างนี้เพราะ ใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน มีพฤกษะเคมี (Phytochemical) มีคุณสมบัติช่วยลดนำ�ตาลกับไขมัน นอกจากนี้ ยังมีโปรตีนในพืชที่ เรียกว่า เอ็นไซม์ (Enzyme) เมื่อได้ รับการกระตุ้นจากโกรทฮอร์โมน (Growth hormone) มันจะไปทําหน้าที่ ซ่อมหรือฟื้นอวัยวะทุกส่วนของร่างกายที่เสื่อม สึกหรอหรือผิดเพี้ยนไปจาก เดิม ให้ดีเหมือนเดิม ใช้งานได้เป็นปกติ โกรทฮอร์โมนจะหลั่งออกมา เมื่อประการแรก ไม่กินของหวาน ถ้ากิน ของหวานอินซูลินฮอร์โมน (Insulin Hormone) จะหลั่งออกมานํานำ�ตาล ไปใช้ หากมีอินซูลินหลงเหลือ อยู่ในช่วงเวลา 22.00 น. ถึง 02.00 น. โกรท ฮอร์โมนจะไม่หลั่ง เพราะไม่ถูกกัน ประการที่สองต้องนอนหลับลึก ในช่วง เวลาระหว่าง 22.00 ถงึ 02.00 น. ขณะหลบั ลึก โกรทฮอร์โมนจะหล่งั ออกมา ไปกระตุ้นเอ็นไซม์ ที่ได้จากกินอินซูลินปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความ ร้อนในแต่ละวัน โรคแปลกประหลาด ที่กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความ ร้อนหายมาแล้ว เช่น ปวดหัวโดยไม่รู้สาเหตุ ลิ้นหัวใจรั่ว เพราะมีตุ่มขึ้น ที่ลิ้นหัวใจจึงปิดไม่สนิท เส้นเลือดหัวใจตีบ มีกลิ่นอันไม่พึงปรารถนาที่ อวัยวะเพศผู้หญิง มีถุงนำ�ในตับ ไขมันเกาะตับ เลือดข้นเหมือนโคลน เป็น แผลเรื้อรังในตับ ต่อมลูกหมากโต ประจําเดือนมาไม่ปกติ นำ�ตาออกมาก ผิดปกติ ผู้สูงวัยอ่อนเพลียไม่มีแรง เป็นต้น ถามต่อไปว่า ใช้ใบไม้และผักอะไรบ้าง? คําตอบคือใบไม้และผักอะไร ก็ได้ที่กินได้ ที่ไม่ใช่ใบไม้พิษ ใบไม้พิษ ได้แก่ ลั่นทม ชวนชม รําเพย ต้นรัก 134
ลําโพง ย่ีโถ หมามุ่ย ตําแย ตนี เปด็ ต้นหรือพญาสตั ตบรรณ ใบมนั สาํ ปะหลัง ไชยา สาวน้อยปะแป้ง เป็นต้น ใบไม้จําพวกนี้มีสารไซยาไนด์ ใบไม้และผัก อื่นที่นํามาใช้ปั่นได้ เช่น ใบเตยหอม ใบมะกรูด ใบมะนาว ใบเสาวรส ใบมะยม ใบมะมว่ ง ใบแสงจนั ทร์ ใบชยั พฤกษ์ ใบมะขามเทศ ใบแปะตำ�ปึง ใบชะพลู ใบกระเพราแดง ใบจิงจูฉ่าย ใบว่านฮ็อก ใบขลู่นา ใบเม่านา ใบพาโหม ใบขี้เหล็ก ใบมันปู ใบตะลิงปลิง ใบผักแผ้วหรือจันทน์หอม ใบกระท่อมมาเลย์หรือป่าช้าเหงา ใบหูกวาง ใบเล็บครุฑ ใบกระเจี๊ยบแดง ใบพิกุล ใบรามเบอร์รี่ ใบหม่อนเบอร์รี่ ใบมะละกอ ใบชะมวง ใบตั้งตรง ใบวอเตอร์เครส (ผักนำ�) ใบผักลิ้น ผักบุ้ง ใบตําลึง ใบผักหวาน ใบสะเดา เป็นต้น ดีที่สุดคือ บัวบก ใส่อย่างละเท่าไรก็ได้ ยกเว้นใบป่าช้าเหงา ถ้าคน ที่มีความดันตำ� กินได้คนละวันละ 2 ใบ ถ้ามีความดันสูงกินคนละวันละ 3-4 ใบก็ได้ กินมากเกินไป ทําให้ความดันตำ�มากช็อกได้ กินนำ�ปั่นใบไม้ สดแล้วขอสองอย่าง หลัง 18.00 น. ห้ามกินของหวานทุกชนิดและนอนไม่ เกิน 22.00 น. นอนให้หลับลึก การปั่นใบไม้แต่ละครั้งใส่ใบไม้เต็มโถ ปั่น หลายชนิดยิ่งดี แต่ถ้าหาไม่ได้ขอสัก 9-10 อย่าง ใส่นำ� 600 cc. ปั่นเสร็จ กรองกากทิ้ง คนไม่มีโรคประจําตัวกินก่อนอาหารเช้า 300 cc. ก่อนอาหาร เย็น 300 cc. ถ้ากินใช้รักษาโรคเพิ่มมื้อเช้าอีก 300 cc. เป็น 600 cc. หาก กินยากให้ใส่สับปะรดเปรี้ยวชิ้นเล็กๆ 1 ชิ้นและกล้วยนำ�ว้าเพิ่งสุกครึ่งลูก จะกินง่ายขึ้น กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 135
อยากมสี ขุ ภาพด.ี .เชญิ ทางน้ี ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าคนที่มีสุขภาพดี ต้องกินนำ�ปั่นใบไม้ สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน ก่อนอาหารเช้า 300 cc. ก่อนอาหารเย็น 300 cc. หลัง 18.00 น.ไม่กินของหวานทุกชนิดและนอนไม่เกิน 22.00 น. นอนให้หลับลึก ทุกมื้ออาหาร กินผลไม้ไม่หวานเป็นอาหารหลักให้เกือบอิ่ม ตามด้วย ข้าว 2 ช้อนส้อม พร้อมโปรตีนนิดหน่อย และก่อนอาหาร กินกล้วยนำ�ว้า เพิ่งสุก 1 ผล เพื่อเคลือบกระเพาะอาหาร ออกกาํ ลังกายตอ่ เนื่อง เชน่ เดนิ หรอื วง่ิ ชา้ ๆ ตามความถนดั 30 นาที ให้เหงื่อออกและหอบหายใจก็เพียงพอ ออกกําลังกายมากจะเกิดของเสีย มาก เกิดการเผาผลาญมากเกินไป หายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ร่างกาย ขับเหงื่อทิ้ง ระบบนำ�เหลืองหมุนเวียนดี กระตุ้นการทํางานของหัวใจของ หลอดเลือดและของกล้ามเนื้อ กระดูก เอ็น และข้อ อายุเป็นร้อยปี ยังเดิน แข็งแรงปกติ ปอดแข็งแรง หัวใจแข็งแรง ไขมันดี ไม่เจ็บไม่ป่วยครับ ในทางกลับกัน หากกินเนื้อสัตว์อย่างเดียว ไม่กินพืชผักและผลไม้ กิน อาหารแสลงโรคทั้งหลาย รวมทั้งสารปรุงรส อายุจะสั้นครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 136
..จากประสบการณ์ เพ่ือนพช่ี ายผมนายพิพัฒน์ หมน่ื เมอื ง อดีตหัวหนา้ ไปรษณีย์ สทิงพระ (สะทิ้งพระ, จะทิ้งพระ) กระแสสินธุ์ เมื่อ 2 เดือนที่แล้วป่วยได้มารักษา ที่รพ.พระนั่งเกล้า นนทบุรี ด้วยหลายโรค มะเร็งต่อมนำ�เหลือง โรคไต เป็นเนื้องอกในไต ก่อนเข้ารพ.ผมได้ส่งข้อความของเพื่อนไปให้ดู กินนำ�ปั่น ใบไม้สด 3 วัน ก่อนเข้ารพ. อยู่ใน รพ.พระนั่งเกล้า ก็กินทุกวันจนถึงวันนี้ ประมาณ 2 เดือน หมอนัดตรวจ อาการปกติหายเกือบ 100% หมอพยายามซกั วา่ ไปกนิ อะไรมาจงึ หายรวดเรว็ ซกั กนั นาน จงึ ไดบ้ อก หมอว่า กินนำ�ผักสดใบไม้สดที่ไม่ผ่านความร้อน หมอเลยโอเคตามใจคนไข้ ไดเ้ ลย พชี่ ายผมดใี จมาก กนิ ขา้ วได้ นอนหลบั ไมเ่ ครยี ด เพราะหมอตรวจแทบ ไม่พบอะไรแล้ว จึงขอขอบคุณเพื่อนมา ณ ที่นี้ ด้วยความเคารพ ผมพยายาม สง่ ขอ้ ความตอ่ ไปใหพ้ รรคพวกหลายคน วนั กอ่ น พ.ต.อ. ปราโมทย์ ก็ขอสูตร ไป เห็นว่าพี่มีเพื่อนคนรู้จักเป็นมะเร็ง ส่วนไหนไม่ทราบ แต่ผมไม่เซ้าซื้ถาม เกรงใจเขา หวังว่าเพื่อนคงเข้าใจนะ ขอขอบคุณเพื่อนมากๆ 137
แปลกแตจ่ รงิ ..!! ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าขอให้ท่านที่กินนำ�ปั่นใบไม้สดและ ผักสดไม่ผ่านความร้อนประจํา ขับรถทางไกลจะไม่รู้สึกเหนื่อย ตัวผมเอง เมื่อปีที่แล้ว ขับรถจากสงขลาไปสุพรรณบุรีระยะทาง 1,000 กิโลเมตร ขับคนเดียวไม่ได้พักทางที่ไหน ใช้เวลา 12 ชั่วโมงถึงที่หมายโดยไม่รู้สึก เหนื่อย ขากลับก็เช่นกัน จากสุพรรณบุรีถึงสงขลาไม่เหนื่อยเช่นกัน เห็น ความแตกต่างกับเมื่อก่อนยังไม่กินนำ�ปั่นใบไม้สดชัดเจนครับ เพื่อนผมอีกหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า กินนำ�ปั่นใบไม้สดและ ผักสดโดยไม่ผ่านความร้อน ขับรถทางไกลไม่เหนื่อยไม่เพลียเช่นกันครับ คง เป็นเพราะเอ็นไซม์ (Enzyme) ที่ได้จากนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่าน ความร้อน ช่วยซ่อมช่วยฟื้นอวัยวะที่เสื่อมหรือสึกหรอหรือผิดเพี้ยนไป ให้ กลับดีเหมือนเดิม ตื่นเช้าจะรู้สึกสดชื่น ไม่เพลีย ฉะนั้นขับรถทางไกลจึง ไม่เพลีย ผมคิดว่าเป็นเรื่องแปลกแต่จริง รวู้ า่ กนิ น�ำ ป นั่ ใบไมส้ ดแลว้ ดี บางคนคิดว่าต่อไปนี้ กินแทนนำ�ดีกว่า ไม่ ดีนะครับ เพราะนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดโดยไม่ผ่านความร้อน มีคุณสมบัติ ลดนำ�ตาลและลดความดัน หากกินมากเกินไป จะทําให้นำ�ตาลตำ�มากเกิน ไป รู้สึกหวิวๆหรือวูบได้และทําให้ความดันตำ�เกินไปได้ ถ้าความดันตัว ล่างตำ�กว่า 60 อาจหน้ามืดเป็นลมได้ครับ จึงควรกินในปริมาณพอดี แต่ละ คนต้องปรับเองให้พอดีนะครับ 138
...ไดแ้ คบ่ อก ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ได้รับคําถาม 3-4 คนว่าทําอย่างไรที่จะไม่กิน ไขมันทรานส์ (Trans Fat) ผมตอบทันทีว่าอยู่ที่ใจของคุณ ใจบอกว่าไม่กิน ปากก็ไม่กิน แต่คนส่วนมากทําใจไม่ได้ที่ต้องกินไขมันทรานส์ต่อไป เพราะอาหารที่มีไขมันทรานส์ล้วนเป็นของอร่อย เช่น ของทอดด้วย นำ�มันพืชอาหารที่ทอดด้วยนำ�มันพืช อาหารที่ทําด้วยการผัดด้วยนำ�มัน พืชทําง่ายใช้เวลาน้อย รสอร่อยแม้มีไขมันทรานส์ก็ยังกิน โดยไม่กลัวว่าสัก วันหนึ่งเส้นเลือดฝนสมองอาจตีบจนเป็นอัมพฤกษ์ได้ ยิ่งไปกว่านั้นอาหารที่มีส่วนผสมไขมันทรานส์ ได้แก่ โดนัท คุ้กกี้ เค็ก มาการีน ครีมเทียม เนยเทียม ขนมกรุบกรอบ เครื่องดื่มทรีอินวัน ขนมปงั บางชนดิ เนยถว่ั ขา้ วโพดคว่ั ลว้ นเปน็ ของชอบของคนทว่ั ไป กนิ อรอ่ ย กลน่ิ หอม น่ากนิ ท่ีสดุ กินเพลินจนลืมไปวา่ มนั มไี ขมันทรานสอ์ นั เป็นไขมนั ตวั เลว (LDL) เป็นไขมันวายร้ายกระตุ้นให้ ไขมันที่ละลายในเลือดไปเกาะผนังหลอดเลือด ทําให้เส้นเลือดตีบ บางคนเส้นเลือดสมองตีบ บางคนเส้นเลือดหัวใจตีบ อย่าลืมว่าโรคหลอดเลือดตีบเป็นกันมาก จัดอยู่ในอันดับ 2 รองจาก โรคมะเร็ง ใครเป็นโรคหลอดเลือดตีบใช้ชีวิตอย่างทรมานที่สุด และเป็น ภาระต่อลูกหลาน บางคนบอกว่าจะเป็นโรคอะไรแล้วแต่ดวง ไม่จริงครับ หากเราไม่กินอาหารก่อโรคก็จะไม่เป็นโรค เช่น ไม่กินนำ�ตาลเกินท่านก็ไม่ เป็นเบาหวาน เป็นต้น โดยเฉพาะโรค NCDs เกิดจากอาหารการกินโดยตรง ได้แค่บอกนะครับ และขอบอกวา่ อย่ากนิ ไขมันทรานส์ (Trans Fat) นะครบั กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 139
เสยี ดาย... ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าบทความนี้มาแปลก ชื่อสั้นๆคํา ว่าเสียดาย เรื่องจากภรรยาของเพื่อนเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเต้านม ปกติ สามารถตรวจกอ้ นมะเรง็ เต้านมดว้ ยตัวเองได้ หากคลําเจอกอ้ นแข็ง (เหมือน ก้อนหิน) ก็น่าจะเป็นระยะแรก ไปหาหมอ หมอจะตัดเต้านม แต่ถ้าเป็น ระยะ 3-4 เป็นระยะมะเร็งแพร่กระจายไปยังปอดหรืออวัยวะอื่นแล้ว หมอ จะไม่ตัดเต้านม ผมไม่รู้มาก่อนว่าภรรยาของเพื่อนเป็นโรคมะเร็งเต้านม น่าเสียดาย ต่อไปน้ที ่านใดหรอื ญาตใิ ครเป็นมะเรง็ ไมต่ อ้ งเกรงใจและไม่ต้องอายนะครบั ทุกคนมีสิทธิเป็นมะเร็งได้ทั้งนั้น ควรจะปรึกษาหารือกัน ผมขอเรียนว่าปัจจัยหลักของการเกิดมะเร็ง คือ เลือดซึ่งตามปกติ เป็นด่าง กลายเป็นกรด เซลล์ในร่างกายปรับตัวผ่าเหล่า (Mutation) เป็น เซลล์มะเร็งร้ายเพื่อความอยู่รอดของเซลล์ เราจึงต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการ กินอาหารโดยกินผลไม้ไม่หวานเป็นอาหารหลัก กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผัก สดที่ไม่ผ่านความร้อนก่อนอาหาร เที่ยง 700 cc. ก่อนอาหารเย็น 300 cc. เพราะผลไม้และนำ�ปั่นใบไม้สดทําให้เลือดเป็นด่าง สามารถยับยั้งมะเร็ง ไม่ให้เติบโตและไม่แพร่กระจาย ตามด้วยข้าวมื้อละ 2 ทัพพี พร้อมโปรตีน ที่เป็นปลา กุ้ง ปู หอย นิดหน่อย กินโปรตีนมากมะเร็งชอบ และต้องไม่ กินอาหารแสลงมะเร็ง ได้แก่ ของเหม็นของคาว ปลาเจ่า ปลาร้า ปลาเค็ม ไข่แดง นำ�เต้าหู้ นำ�มะพร้าวอ่อน อินทผาลัม นม ให้กินไข่ขาววันละ 6 ฟอง กิน งาดำ�คั่ววันละ 3 ช้อนแกง ไม่กินอาหารที่ทําให้เลือดเป็นกรด ได้แก่ สารปรุงรสทุกชนิดเช่น ผงชูรส เป็นต้น เนื้อแดงของสัตว์ใหญ่ เช่น หมู วัว เป็นต้น เพราะไขมันอิ่มตัวในเนื้อแดงสัตว์ใหญ่ทําให้เลือดเป็นกรด ไม่ดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่กินนำ�ตาลเกิน เน้นกินอาหารรสจืดเท่านั้น ไม่กินอาหารรสหวาน มัน เค็ม เพราะ 140
มะเร็งชอบ อาหารอะไรที่มะเร็งชอบเราจะไม่กิน เป็นการตัดวงจรอาหาร ของมะเร็งวิธีนี้ได้ผลดีครับ มะเร็งไม่เติบโต ไม่ทําร้ายเรา ยังไม่มีใครฆ่ามะเร็งได้สําเร็จ การให้คีโม การฉายแสง เป็นเพียงยับยั้ง มะเร็งไว้ระยะหนึ่งเท่านั้น ในที่สุดทั้งคีโมและการฉายแสงไม่ตอบสนองต่อ มะเร็ง ถึงตอนนั้นสายเสียแล้ว เพราะมัวแต่ให้คีโมและฉายแสงร่างกายจะ ถูกทําลายอย่างหนัก ไม่มีเวลากินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความ ร้อน จึงไม่มีอะไรยับยั้ง หรือรักษาโรคมะเร็งได้อย่างถาวร ก่อนจบบทความ ขอยำ�ว่า การปั่นนำ�ใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่าน ความร้อน ต้องทําแบบเข้มข้นโดยใส่ใบไม้มากหน่อย มิฉะนั้นจะเหมือน ตํานำ�พริกละลายแม่นำ� จะไม่ได้ผลครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 141
เรอ่ื งเลา่ วนั น้ี ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขออนุญาตเล่าเรื่องการดูแลไตไม่ให้เสื่อมซึ่ง เป็น กรณีตัวอย่างจากตัวผมเอง กล่าวคือ เมื่อปีที่แล้วผมเจาะเลือดพบว่า ค่าไต (Creatinine) 1.57 เกินเกณฑ์มาตรฐาน 1.25 ยังไม่เสื่อมแต่จัดอยู่ ในกลุ่มเสี่ยงไตเสื่อม ผมไม่กินยาลดกรดยูริกชื่อ Allopurinol โดยก่อนหน้า นี้ ผมกินวันละ 1 เม็ด และกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน ก่อนอาหารเที่ยง 350 cc. ก่อน อาหารเย็น 350 cc. เป็นเวลาติดต่อกัน 3 เดือนเจาะเลือดดูใหม่ ค่าไต (Creatinine) ลดจาก 1.57 เหลือ 0.90 (ถือว่าปกติแล้ว) หลังจากนั้นผมกินยา Allopurinol วันละเม็ดครึ่งทุกวัน ต่อเนื่องถึงทุกวันนี้ปีเศษ เจาะเลือดดูเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 ค่าไต (Creatinine) สูงขึ้นเป็น 1.0 ระหว่างเวลานั้น ผมกินอาหารที่คิดว่ามีส่วน ทําให้ค่าสูงขึ้น ได้แก่ กินไข่แดงวันละ 3-4 ฟองทุกวัน กินกะทิแตกมันบ่อย มาก กินเนื้อมะพร้าวอ่อนวันละ 1 ลูกเกือบทุกวันและกินนำ�มันมะกอกกลั่น เย็นวนั ละ 1 ช้อนแกง กนิ น�ำ มันมะพร้าวกล่ันเยน็ วนั ละ 1 ช้อนแกงกนิ ทุกวัน ต่อมาหลังจากเดือนพฤศจิกายน 2560 เป็นเวลา 3 เดือน ผมเลิกกิน อาหารดังกล่าว แต่ยังกินยา Allopurinol วันละเม็ดครึ่ง เหมือนเดิม เจาะเลือดดูเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 ค่าไต (Creatinine) ลดจาก 1.00 เป็น 0.93 แสดงว่าโปรตีนจากไข่แดงและไขมันทรานส์ จากกะทิ แตกมัน, ไขมันจากเนื้อมะพร้าวอ่อน, นำ�มันมะกอกและนำ�มันมะพร้าว กลั่นเย็น ที่กินมากเกินไปมีผลทําให้ไตเสื่อม ซึ่งเมื่อหยุดกินค่าไตก็ดีขึ้น ลืมบอกไปว่าหลัง 18.00 น. ผมไม่กินของหวานทุกชนิดและนอน ไม่เกิน 22.00 น. นอนหลับลึกด้วยครับ บทความนี้พอเป็นความหวังได้บ้าง สําหรับท่านที่ตั้งใจดูแลรักษาไตตัวเองไม่ให้เสื่อมนะครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 142
โลกเจรญิ หนธี รรมชาตไิ มพ่ น้ ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าโลกเจริญก้าวหน้า การผลิตอาหาร และสารปรุงรส ก้าวหน้าตามไปด้วยมักเน้นกลิ่นหอมรสหวานชวนกิน ใคร ได้สัมผัสติดกันทั่วและยากที่จะบอกลา โลกเจรญิ ผลิตไขมนั ทรานส์ (Trans Fat) สาํ เร็จรปู ในรูปของมาการนี เนยเทียม นําไปผสมกับเค้ก คุ้กกี้ โดนัท กลิ่นหอมอบอวล ชอบทั้งเด็กและ ผู้ใหญ่ กินประจําร่างกายสําแดงโรคเส้นเลือดสมองตีบหรือเส้นเลือดหัวใจ ตีบ จนง่อยเปลี้ย เสียแขนเสียขา เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตมาเป็นอันดับ 2 รอง จากโรคมะเร็ง โลกเจริญยังผลิตอาหารเน้นรสหวานได้แก่เครื่องดื่มนำ�อัดลมทั้ง หลาย ชาเขียว นมเปรี้ยว ล้วนมีส่วนผสมนำ�ตาลค่อนข้างมาก กินประจํา นำ�ตาลเกิดเป็นโรค NCDs เกิดจากพฤติกรรมการกิน โลกเจริญยังผลิตเกลือ หวาน เช่น ผงชูรส คนอร์ รสดี ใช้ปรุงอาหารให้อร่อย กินทุกวัน ร้านอาหาร ใช้เกือบทุกร้าน มีผลให้ไตเสื่อม รอฟอกไตขณะนี้ 6.4 ล้านคน นอกจากนี้ ยังทําให้เลือดเป็นกรด เสี่ยงต่อโรคมะเร็งอีกด้วย โรค NCDs โรคเสน้ เลอื ดสมองตบี หรอื เสน้ เลอื ดหัวใจตบี และไตเสือ่ ม ไม่มีวิธีรักษาให้หายได้ ในที่สุดต้องพึ่งธรรมชาติด้วยการกินนำ�ปั่นใบไม้สด และผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน ก่อนอาหารเที่ยง 350 cc. ก่อนอาหารเย็น 350 cc. กรองกากทิ้ง หลัง 18.00 น.ไม่กินของหวานทุกชนิดและนอนไม่ เกิน 22.00 น. นอนหลับลึก สามารถรักษาโรคดังกล่าวหายได้โดยไม่ใช้ยา เข้าทํานองโลกเจริญหนีไม่พ้นธรรมชาติ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. “วันนี้ท่านกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนแล้วหรือยัง?” 143
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143