เลอื ดขน้ เหมอื นโคลน กนิ น�ำ ป้ น่ั ใบไมส้ ดหาย.!! ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขออนุญาตเขียนบทความเรื่องเลือดข้นเหมือน โคลน มียารักษาได้ครับ คนที่เลือดข้นเหมือนโคลนหรือเลือดข้นผิดปกติหากไม่รีบแก้ไขหรือ ไม่รีบรักษา อาจเสียชีวิตเพราะเลือดข้นมาก ทําให้เกิดความหนืดไหลเวียน ไปเลีย้ งสมองหรอื หวั ใจไมพ่ อ ทาํ ใหห้ วั ใจขาดเลอื ด คน้ หาสาเหตเุ ลอื ดขน้ ผดิ ปกติเกิดจากอะไร คําตอบคือกินนำ�ตาลเกินเป็นประจํา นำ�ตาลในร่างกาย มีมากเกินความจําเป็น เป็นเหตุให้เลือดข้นผิดปกติ ส่วนใหญ่รักษาโดยกิน ยาละลายลิ่มเลือด (ทําให้เลือดจาง) คนทั่วไปมักกินแอสไพริน (aspirin) หรือยาทําให้เลือดจางตัวอื่นที่ดีกว่าราคาแพงกว่า แต่ยาแอสไพรินก็ดี ยาทําให้เลือดจางตัวอื่นก็ดี มีผลทําให้ไตเสื่อม กินประจํานานไปทําให้ไตเสื่อมหนักถึงขั้นฟอกไตได้ครับ ขอเรียนเสนอให้ กินนำ�ปั่นผลไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน กรองกากทิ้ง หลัง 18.00 น. ไม่กินของหวานรวมทั้งผลไม้หวาน และนอนไม่เกิน 22.00 น. นอนให้ หลับ จะนอนให้หลับลึก ใส่ใบขี้เหล็กครั้งละ 8 ก้านหรือมากกว่านิดหน่อย กับตะไคร้วันละ 2 ต้น ปั่นรวมกับใบไม้อื่นๆ หลายชนิด ใบไม้สดและผักสด ช่วยลดน�ำ ต าลในเลอื ดและเอน็ ไซมค์ ือ โปรตีนในพชื ชว่ ยฟน้ื ฟใู หเ้ ลือดข้นผิด ปกติเจือจางลงจนเป็นปกติเหมือนคนทั่วไป แต่ต้องนอนหลับลึก ช่วงเวลา 24.00 น. ถึง 01.30 น. ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ออกมากระตุ้นให้เอ็นไซม์ ไปทําหน้าที่ฟื้นฟูเลือดข้นให้เป็นเลือดปกติ ถ้า ไม่ได้รับการกระตุ้นจากโกรทฮอร์โมน เอ็นไซม์จะไม่ทํางานครับ เคยมีตัว อย่างทํากิน 4 เดือน เลือดข้นเหมือนโคลนหายเป็นปกติครับ สําหรับตะไคร้ อย่ากินติดต่อนานเกินไป ต้องกินบ้างหยุดบ้าง กินต่อเนื่องนานๆ ไตทํางาน หนักครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 51
โรคหลอดเลอื ดตบี ..ไมม่ ยี ารกั ษา.!! ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าท่านใดที่ตรวจพบว่าเส้นเลือดหัวใจ หรือ เส้นเลือดสมองเริ่มตีบ อย่าเพิ่งตกใจ แม้ไม่มียารักษา (ยาขยายหลอด เลือดเป็นยาใช้แก้ปัญหา ไม่ใช่รักษาให้หายขาด) ขอเรียนว่า ขอให้ท่าน ลองกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน กินวันละ 1,200 cc. กินก่อนอาหารเที่ยง 700 cc. ก่อน อาหารเย็น 500 cc. แบบเข้มข้นกรอง กากทิ้ง กินเพียง 1-2 เดือนก็รู้ผล แต่ท่านต้องปฏิบัติตามด้วย 2 ข้อ หลัง 18.00 น. ไม่กินของหวานทุกชนิดและนอนไม่เกิน 22.00 น. นอนให้หลับ ลึก หากเกิน 2 เดือนยังไม่หาย หยุดกินได้เลยครับ เน้นต้องนอนหลับลึก นะครับ ถ้านอนหลับไม่ลึกไม่หายครับ เป็นการรักษาโดยหมอร่างกาย ตาม บทความหมอร่างกายที่ผมเคยเขียนส่งมาแล้วครับ ควรลองกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน ยอมเหม็น เขียว ขมบ้าง ฝาดบ้างดีกว่าเป็นอัมพฤกษ์ หรืออัมพาตนอนติดเตียงนะครับ ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ใจของเราครับ หากใจกําหนดให้กินก็กินได้และเคยชิน ไปเองครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 52
..วันนี้ท่านกินนำ�ปั่น ใบไม้สดและผักสด ที่ไม่ผ่านความร้อน แล้วหรือยัง ? 53
54
กินยาเบาหวาน ยาลดไขมนั ยาลดความดนั ลว้ นทําให้ไตเส่อื ม ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขออนุญาตเขียนบทความยำ�เตือนเพื่อนพ้อง น้องพี่ว่ากินยาเบาหวาน ยาลดไขมันและยาลดความดัน ล้วนทําให้ไตเสื่อม เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่าโรคเบาหวาน โรคไขมันตัวเลว (LDL) สูง โรคความ ดันสูง มีสาเหตุมาจากกินนำ�ตาลเกิน ซึ่งร่างกายยอมให้กินเกินได้เพียง 30 ปี หลังจากนั้นพออายุย่างเข้า 50 ปี โรคดังกล่าวจะสําแดงให้เห็นบางคน เป็นโรคเบาหวาน บางคนไขมันตัวเลว (LDL) สูงหรือไขมันทรานส์ (Trans Fat) สูงหรือเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคทั้งสามเกิดจากพฤติกรรมการกิน เป็นสําคัญ ยาที่ใช้รักษาโรคเบาหวาน ไขมัน ความดันมีผลโดยตรงต่อไต ทําให้ ไตเสอื่ ม หากกนิ ยาตอ่ เนอื่ งเปน็ เวลานาน ไตจะเสอื่ มเรอ้ื รงั ถงึ ขน้ั ตอ้ งฟอกไต ทรมานที่สุดครับ ท่านไม่ต้องวิตกกังวล หากเป็นโรคเบาหวาน ไขมัน ความดัน ขอให้ กินนำ�ใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน หลังหกโมงเย็น ห้ามกินของ หวานและควรนอนไม่เกินสี่ทุ่ม ท่านจะหายเป็นโรคทั้งสามโดยไม่ใช้ยา ไตก็ไม่เสื่อม ประหยัดงบประมาณแผ่นดินปีละหลายล้านบาทด้วยครับ หากมีประโยชน์บ้าง กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 55
กนิ ขนมปงั ทกุ วนั ..ไตเสอ่ื ม ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าขนมปังนิยมกินกันบ่อย เพราะเข้า ถึงง่าย กินเข้าไปในห้องอาหารโรงแรมได้กลิ่นขนมปัง ตั้งแต่เหยียบธรณี ประตูแล้ว ขนมปังหาง่าย กินง่าย เก็บได้ 5 วันสําหรับขนมปังที่ไม่ใส่สาร กันบูด และที่ใส่สารกันบูดสามารถเก็บได้นานกว่านี้มาก เราเคยทราบมาว่ากินโซเดียม Na มากทําให้ไตเสื่อม คําว่า โซเดียม หมายถึง เกลือเค็ม คือ โซเดียมคลอไรด์ (NaCl) และเกลือหวาน คือ ผงชูรส โมโนโซเดียมกลูตาเมท และรวมทั้งโซเดียมไบคาร์บอเนต คือ ผงฟูที่ใช้ทํา ขนมปังไงครับ กินขนมปังประจําโรค แรกที่จะเป็น คือ โรคความดันโลหิตสูง ตาม มาติดๆ คือ โรคไตเสื่อม บางทีอาจแถมโรคมะเร็งอีกด้วย เนื่องจากโซเดียม กินนานๆทําให้เลือดเป็นกรด ยิ่งขนมปังที่ใส่สารกันบูดด้วย ยิ่งทําให้เลือด เป็นกรดเร็วขึ้น เซลล์ในร่างกายจึงปรับตัวผ่าเหล่า (Mutation) เป็นเซลล์ มะเร็งร้าย เพื่อความอยู่รอดของเซลล์ หิวกินผลไม้สดดีกว่า ดีกว่ากินอาหารที่เข้าถึงง่าย สะดวกพกพา สะดวกกินและกินได้ทั้งบ้าน โรคแรกที่หายทันที คือโรคความดันโลหิตสูง เพราะนำ�ปั่นใบไม้สด และผักสดโดยไม่ผ่านความร้อน มีคุณสมบัติลดความดันชัดเจน สามารถ ใช้เครื่องวัดความดันทดสอบได้เองกินเพียง 4-5 วัน ความดันค่อยๆ ลดลง และไม่ต้องกินยา เนื่องจากยาลดความดันตัวนี้ยิ่งทําให้ไตเสื่อมหนักขึ้น ถ้า หมอถามว่าใครแนะนําไม่ให้กนิ ยา ขอให้ตอบว่าขอใหเ้ ปดิ กูเกิ้ลแล้วพมิ พค์ าํ ว่า “Phytochemical” จะมีตําราเล่มหนา ให้อ่านแล้วจะถึงบางอ้อครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 56
ปลอ่ ยใหไ้ ตเสอ่ื ม..ยากแกก่ ารรกั ษา ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรยี นวา่ ไตเป็นอวัยวะสําคัญควรแกก่ ารดูแล รกั ษาเปน็ อยา่ งดี ไตประกอบดว้ ยเสน้ เลอื ดเลก็ ๆ จาํ นวนมาก มองดว้ ยตาเปลา่ ไม่เห็น คนไตเสื่อมแปลว่า เส้นเลือดในไตบางเส้นเสียกรองของเสียไม่ได้ ค่าไต (Creatinine) ของคนปกติ 0.6-1.25 ถ้าสูงถึง 2 หมายถึง ไต เสื่อม 50 เปอร์เซ็นต์ ไตเสื่อมไม่มียารักษาไม่ว่ายากินหรือยาฉีดไม่มีครับ เหลือช่องทางเดียวที่จะรักษาได้คือ กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่าน ความรอ้ น กอ่ นอาหารเทย่ี ง 250 cc. กอ่ นอาหารเยน็ 350 cc. หลงั 18.00 น. ไม่กินของหวานทุกชนิดและนอนไม่เกิน 22.00 น. ช่วงขณะนอนหลับลึก ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ออกมากระตุ้นเอ็นไซม์ ให้ไปซ่อมเส้นเลือดที่เสีย ให้กลับดีเหมือนเดิม อย่าลืมนะครับ ต้องนอนหลับลึกและหลัง 18.00 น. ต้องไม่กินของ หวานทุกชนิด เพราะถ้ากินของหวานต่อม Islet of langer hans ในตับ อ่อนจะหลั่งอินซูลินฮอร์โมนออกมานํานำ�ตาลไปใช้ หากอินซูลินหลงเหลือ อยู่ โกรทฮอร์โมนจะไม่หลั่งออกมา ซึ่งเป็นเรื่องของธรรมชาติ เอ็นไซม์ก็ไม่ ได้รับการกระตุ้น มันใส่เกียร์ว่างไม่ทําหน้าที่ซ่อม ไตเราก็เสื่อมต่อไป หากปล่อยให้ไตเสื่อมหนัก เช่นถึงขนาดขาบวมนำ�หรือนำ�ออกในช่อง ท้อง หากหมอจะเจาะนำ�ออกโดยใส่สายท่อคาไว้ จะรู้สึกเจ็บและรบกวน การนอน ทําให้นอนหลับไม่ลึก ถ้านอนหลับไม่ลึก การกินนำ�ปั่นใบไม้สดก็ ไม่ได้ผล ฉะนั้นหากไตเริ่มจะเสื่อมก็ควรรีบรักษาเสียแต่เนิ่นๆนะครับ อย่า กนิ บะหมสี่ าํ เรจ็ รปู และสารปรงุ รสทกุ ชนดิ ตลอดทงั้ อาหารแปรรปู ไมก่ นิ เคม็ กินนำ�วันละ 2 ลิตรครึ่ง ถึง 3 ลิตร ไม่กลั้นปัสสาวะบ่อยๆ ไม่กินอาหารปน เปื้อนสารเคมี ไม่ควรกินยาแก้อักเสบในกลุ่ม NSAID เช่น Arcoxia เป็นต้น เพราะทําให้ไตเสื่อม กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 57
รกั ษาไต ดว้ ยนำ�้ป่ันใบไมส้ ด ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขออนุญาตเขียนบทความจากประสบการณ์ ตวั เอง เรอ่ื งการรกั ษาไตเสอ่ื มดว้ ยน�ำ ป น่ั ใบไมส้ ดและผกั สดทไ่ี มผ่ า่ นความรอ้ น ไตเป็นอวัยวะสําคัญของร่างกายและอ่อนไหวต่อสิ่งเร้า เช่น เลือดไป เลี้ยงไม่พอไตวายได้ ร่างกายติดเชื้อรุนแรงไตวายได้ เป็นต้น สาเหตุทําให้ ไตเสอ่ื มมหี ลายปจั จยั เชน่ กนิ เคม็ จดั หวานจดั กนิ อาหารแปรรปู กินสารปรุงรส ประจํา กินอาหารที่ปนเปื้อนสารเคมี กินยาในกลุ่มเอ็นเตรด เช่น arcoxia , brufen, finamic แก้อักเสบ, แอสไพริน (ยาละลายลิ่มเลือด) เป็นต้น ยา เหล่านี้ทําให้ไตเสื่อม การดื่มนำ�น้อยเป็นประจํานานๆ ทําให้ไตเสื่อมได้ วัน หนึ่งควรดื่มนำ�ไม่น้อยกว่าสองลิตรครึ่ง ผมเองดื่มนำ�น้อยเป็นนิสัยและกินยาแก้อักเสบดังกล่าวหลายครั้ง และไม่เคยเจาะเลือดตรวจประจําปี เพราะกลัวเข็มในการฉีดยาเข้าเส้น เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2558 ผมเจาะเลือดดูค่าไต (Creatinine) วัดได้ 1.57 เกิน 1.25 บ่งบอกเตือนว่าไตเริ่มจะเสื่อม (แต่ยังไม่เสื่อม) ความ สามารถในการกรองของไต คนปกติไม่น้อยกว่า 60 ของผมเหลือ 46 ครับ หมอบอกวา่ ให้ผมทําใจ คา่ ไตของผมไม่สามารถทําให้ต่�ำ กว่า 1.25 ได้ อกี แลว้ มแี ตท่ รงกบั ทรดุ ขนึ้ อยกู่ บั พฤตกิ รรมการกนิ การนอน การออกกาํ ลงั กายของผม ผมขอบคุณหมอและบอกว่าไม่เป็นไรครับ ผมทํานำ�สลัดจิ้มผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน กินมื้อเที่ยงกับมื้อเย็นทุก วันเป็นเวลา 3 เดือน เจาะเลือดใหม่ปรากฏว่า ค่าไตผมลดลงจาก 1.57 เหลือเพียง 0.90 ความสามารถการกรองของไตเพิ่มจาก 46 เป็น 89.7 ครับ หมอบางท่านบอกว่า ต้องฉีกตําราทิ้ง ผมพยายามบอกต่อให้คนรู้จักและเพื่อนทํานำ�สลัดกินแบบผม ไม่ ประสบความสําเร็จ เพราะเข้าถึงยาก ทํายาก ผมจึงเปลี่ยนเป็นนําใบไม้สด 58
และผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนมาปั่นแทน เริ่มทํากินในเดือนมีนาคม 2559 เป็นต้นมา คราวนี้สําเร็จครับ เนื่องจากเข้าถึงง่าย เมื่อวานผมเจาะเลือดดูค่าไตวัดได้ 0.95 ความสามารถในการกรอง ของไต 83 ยัง OK อยู่ครับ หมอบอกเราไม่มีอะไรกันแล้ว หมายถึง ไตคุณ ปกติทุกอย่างแล้ว ส่วนนำ�ปั่นใบไม้สดกับผักสดหมอบอกให้กินต่อไปครับ นเ่ี ปน็ กรณศี กึ ษาอกี กรณหี นง่ึ เพอื่ ยนื ยนั วา่ น�ำ ป น่ั ใบไมส้ ดและผกั สดที่ ไม่ผ่านความร้อน รักษาไตเสื่อมได้ครับ โปรดบอกต่อเพื่อคนไทยที่ไตเสื่อม จะได้ไม่ต้องฟอกไต กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 59
ขอ้ พงึ ระวงั .!! คนไตเสอ่ื ม 4 ผม สรุ นิ ทร์ วตั ตธรรม ขอเรียนว่าค่าไต (Creatinine) คนปกติ 0.6- 1.25 ค่าไต 2 แปลว่าไตเสื่อม 50 เปอร์เซ็นต์ สําหรับค่าไต 4 จัดว่าเสื่อม มาก เนื่องจาก ค่าไตขึ้นถึงเลข 4 การขับของเสียที่เป็นของเหลวได้น้อยลง ในแต่ละวัน จึงดื่มนำ�มากไมไ่ ด้ จะทําใหข้ าบวมนำ� การขบั ท้งิ สารอาหารก็ ไมด่ ี คือขับทิ้งไดไ้ มห่ มด เช่นสารโปแตสเซียม เป็นต้น สารโปแตสเซียม มมี ากในฝรงั่ และกลว้ ยหอม จงึ ควรเลยี่ งการกินฝร่งั และกล้วยหอม ตลอดทั้งอาหารอย่างอื่น ที่มีโปแตสเซียมสูง เพราะเมื่อไต ขับสารโปแตสเซียมได้น้อย เกิดการสะสมสารโปแตสเซียม หากในร่างกาย มีโปแตสเซียมสูง หัวใจหยุดเต้นเสียชีวิตครับ ปริมาณสารโปแตสเซียมใน ร่างกายตำ�มากหรือสูงมาก ทําให้หัวใจหยุดเต้นครับ นอกจากนี้ ไม่ควรกินผลไม้หรือใบไม้ที่มีสารอ๊อกซาเลทสูง ได้แก่ ลกู ยอ ใบยอ ผล มะเฟอื ง ใบมะเฟอื ง ใบแค ดอกแค เปน็ ตน้ เน่ืองจากไตขับ สารอ๊อกซาเลทได้น้อย ในร่างกายสะสมสารอ๊อกซาเลทมากขึ้น ทําให้ตก ผลึกเป็นนิ่วในไตครับ ขอยำ�ว่า ท่านไม่ต้องวิตกกังวล แม้ไม่มียารักษาไต แต่กินนำ�ปั่นใบไม้ สดและผกั สดทไ่ี มผ่ า่ นความรอ้ น หลงั 18.00 น. ไมก่ นิ ของหวานทกุ ชนดิ และ นอนไมเ่ กิน 22.00 น. นอนใหห้ ลบั ลึก ไม่กนิ สารปรงุ รส เชน่ ผงชรู ส นำ�ปลา ซอี วิ้ ขาว ซอี วิ้ ดาํ ซอส น�ำ จ มิ้ สาํ เรจ็ รปู สารฟอกขาว สารกนั บดู อาหารแปรรูป ไม่กินบะหมี่สําเร็จรูป ไม่กินเค็ม ค่าไต (Creatinine) จะค่อยๆลดลง เพราะ เอ็นไซม์ที่ได้จากนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน ช่วยซ่อมเส้น เลือดที่เสียในไต ให้กลับดีกรองของเสียได้เป็นปกติ ตามหลักการให้หมอ รา่ งกาย รักษาตัวเองครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 60
กนิ น�ำ ป้ น่ั ใบไมส้ ด ตบั ไต ไมพ่ งั หรอื ? ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขออนุญาตเขียนบทความตอบคําถามที่ว่ากิน นำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน ตับ ไต ไม่พังหรือ? ขอเรียนว่า ตรงกันข้ามครับ กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่าน ความร้อนช่วยรักษาตับและไต กรณีช่วยรักษาตับ ได้แก่ คุณหมอบุญชัย ขอโทษที่เอ่ยนามท่าน คุณหมอเป็นแผลในตับมานานหลายปี ไม่มียารักษา คุณหมอกินพืชผักที่ไม่ผ่านความร้อน 4 เดือน หายเป็นปกติครับ กรณีรักษาไตได้แก่ ตัวผมเองเจาะเลือดค่าไต (Creatinine) 1.57 เกิน 1.25 ยังไม่เสื่อม แต่เตือนว่าให้ใช้ชีวิตอย่างระวัง โดยเฉพาะอาหารที่ทําให้ ไตเสอ่ื มตอ้ งงด เชน่ สารปรงุ รสทง้ั หลาย ผงชรู ส คนอร์ รสดี น�ำ ป ลา ซอี ว้ิ ขาว ซีอิ้วดํา ซอส ปลากระป๋อง อาหารแปรรูปจากโรงงานอุตสาหกรรม บะหม่ี สาํ เร็จรูป ซเี รียล อาหารกรุบกรอบ เป็นตน้ งดรสเคม็ จัด ไม่กินนำ�ตาลเกิน ความสามารถการกรองของไต คนปกติ 60 ของผมเหลือ 46 ผมกนิ น�ำ ป น่ั ใบไม้สดและผักสดท่ไี มผ่ า่ นความรอ้ น 3 เดือน เจาะเลือดดูใหม่ ค่าไตผมลด ลงเหลือ 0.90 จากเดิม 1.57 ความสามารถการกรองของไตขึ้นถึง 89.7 จากเดิมเหลือ 46 กรณีคุณหมอบุญชัยและกรณีผมเอง เห็นได้ชัดตอบโจทย์ ได้เคลียร์ ว่ากินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนช่วยรักษาตับ ช่วยรักษา ไตให้เป็นปกติครับ เพราะใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน นอกจาก มีสารอาหารเป็นยา ช่วยลดนำ�ตาลกับไขมันแล้ว ยังมีเอ็นไซม์ (Enzyme) คือ โปรตีนในพืชช่วยซ่อมอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย ที่เสื่อม สึกหรอหรือ ผิดเพี้ยนไปให้ดีเหมือนเดิมครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 61
คนไตเสอ่ื มไมย่ อมกนิ น�ำ ป้ น่ั ใบไมส้ ด ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขออนุญาตเขียนบทความเรื่อง คนไตเสื่อมบาง คนไมย่ อมกนิ น�ำ ป น่ั ใบไมอ้ า้ งวา่ เกดิ มากต็ ายทกุ คน ขอเรยี นวา่ ไตเสอ่ื มไม่มียา รักษาให้หายขาด ยิ่งกินยา ยิ่งทําให้ไตเสื่อมเร็วขึ้น ในที่สุดไตเสื่อมหนัก ถึง ขนาดต้องฟอกไตทกุ ๆ 3 วัน หรอื ล้างไตด้วยนำ�ยาทางหนา้ ทอ้ งวันละ 4 ครั้ง การฟอกไตหรอื การลา้ งไตกด็ ี เปน็ ภาระตอ่ ตวั ผปู้ ว่ ยเอง คนในครอบครวั ลกู หลาน สามารถยดื อายไุ ปไดอ้ ยา่ งทรมานถงึ 10 ปนี ะครบั ไมใ่ ชไ่ ตเสอื่ มหนกั แลว้ เสยี ชีวิตเลย หมอโรงพยาบาลจะทาํ การฟอกไตหรือล้างไตใหท้ กุ ราย ฉะนนั้ ผมขอวงิ วอนนะครบั ยอมกนิ น�ำ ป นั่ ใบไมส้ ดและผกั สดทไี่ มผ่ า่ น ความร้อนเสียแต่เนิ่นๆ อย่าปล่อยให้ไตเสื่อมหนักจะทําให้รักษายากครับ เพียงแต่ท่านกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนก่อนอาหาร เช้า 600 cc. ก่อนอาหารเย็น 300 cc. หลัง 18.00 น. ไม่กินของหวานทุก ชนิดและนอนไม่เกิน 22.00 น. นอนให้หลับลึก ใส่ใบขี้เหล็ก 7-8 ก้านต่อ กับตะไคร้ 2 ต้นต่อครั้ง ปั่นรวมกับใบไม้อื่น ช่วยให้นอนหลับลึก ช่วงเวลา 24.00 น. ถึง 01.30 น.ร่างกายจะหลงั่ โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ออกมากระตุ้นเอ็นไซม์ (Enzyme) ที่ได้จากใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่าน ความร้อน (ถ้าถูกความร้อนเอ็นไซม์หายหมด) ให้ไปซ่อมเส้นเลือดในไตที่ เสียให้ดีเป็นปกติ ไตก็หายเสื่อม มขี อ้ แมว้ า่ ตอ้ งไมก่ นิ อาหารแสลงทที่ าํ ใหไ้ ตเสอื่ ม ไดแ้ ก่ อยา่ กนิ น�ำ ต าล เกิน ไม่กินเค็มจัด ไม่กินสารปรุงรส เช่น ผงชูรส คนอร์ รสดี นำ�ปลา ซีอิ้ว ขาว ซีอิ้วดํา ซอสนำ�มันหอย นำ�จิ้มไก่ ปลาเป็นต้น ไม่กินอาหารปนเปื้อน สารเคมี สารกันบูด สารทําให้เนื้อเปื่อย สารทําให้อาหารกรอบ ตลอดจน สารเคมีอื่นๆ และอาหารแปรรูปจากโรงงานอุตสาหกรรม เช่น ปลากระป๋อง ลูกชิ้น เป็นต้น หลีกเลี่ยงการกินยารักษาโรคอื่นๆ เพราะยาทําจากสารเคมี ทําให้ไตเสื่อม 62
หากกลัวนำ�ปั่นใบไม้เหม็นเขียว ให้ใส่สับปะรดเปรี้ยวสําหรับแกงชิ้น เล็กๆ 1 ชิ้น รสชาติดีขึ้น กินได้ครับ กินนำ�ปั่นใบไม้และไม่กินอาหารแสลง โรคไต 2 สัปดาห์ ไปเจาะเลือดดูค่าไต (Creatinine) จะได้ค่าลดลงแน่นอน ครับ ทํากินเถอะครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 63
64
โรค NCDs เกดิ จาก ? ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าโรค NCDs ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค แตเ่ กดิ จากพฤตกิ รรมการกนิ เปน็ สาํ คญั ซงึ่ โรคดงั กลา่ วเกดิ จากกนิ น�ำ ต าลเกนิ การรักษาที่ถูกต้องคือการเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเสียใหม่ เป็นการ ยากมาก หากจะเปลี่ยนด้วยการงดกินอาหารก่อโรคทั้งหมดในเวลาเดียวกัน จึงค่อยๆเป็นค่อยๆไป ฝึกลิ้นให้ชิมรสที่อ่อนลง เช่น งดกินผงชูรส เปลี่ยน เป็นใส่เกลือหรือนำ�ปลานิดหน่อย ใส่นำ�ตาลปี๊บนิดหน่อย จากนั้นสําหรับ รสหวานอาจใส่ผลไม้แทน เช่น สับปะรด หอมใหญ่ เป็นต้น รสชาติจะจืด กว่าเดิม ลิ้นค่อยๆ ชินไปเอง ไม่กินของหวานนอกจานข้าว อดใจไม่กินขนม หวาน ไม่กินทุเรียน ไม่กินชาเย็น จะชินไปเอง บางคนพูดว่าถ้าให้กินอาหารรสจืดชืด ยอมตายดีกว่า ขอเรียนว่าคน เราไม่ตายกันง่ายๆ ที่น่ากลัวคือ มีชีวิตอยู่อย่างทรมาน เช่น ไตเสื่อมถูก ฟอกไตทุก 3 วัน ชีวิตได้แต่คอยหาคิวรอฟอกไต ทรมานกายทรมานใจเหลือ เกินและทรมานถึง 10 ปี จึงจะเสียชีวิต หากรอให้ถึงวันนั้นก็สายเสียแล้ว เปลี่ยนพฤติกรรมการกินดีที่สุด ด้วยการกินอาหารไม่ปรุงแต่งหรือปรุงแต่ง น้อยที่สุด พยายามกนิ อาหารทไี่ มม่ สี ารปรงุ รสและรสไมจ่ ดั เลยี่ งการทอดและผดั ด้วยนำ�มันพืชทุกชนิด ควรกินอาหารประเภทต้ม แกง นึ่ง ย่าง ยํา เป็นต้น รักษาโรค NCDs ด้วยการกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน เพื่อลดนำ�ตาลลง ลดความดันโลหิตสูง และคงความเป็นด่างของเลือดใน กายไว้ไม่ให้เป็นกรด เพื่อป้องกันโรคมะเร็ง กินผลไม้ไม่หวานนักเป็นอาหาร เพื่อคงความเป็นด่างในกาย เช่น เดียวกันใช้ชีวิตกินอาหารอร่อยมามากแล้ว ถึงเวลาที่ต้องถอยเพื่อคืนชีวิต ให้หมอร่างกายรักษาตัวเองต่อไป กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 65
หมอรา่ งกายรกั ษาโรค NCDs หายขาด ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าโรค NCDs คือ โรคที่ไม่ได้เกิดจาก เชื้อโรค หากแต่เกิดจากพฤติกรรมการกินเป็นสําคัญ โดยเฉพาะกินนำ�ตาล เกิน ได้แก่ โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิต สูง โรคไตเสื่อม โรคเข่าเสื่อม โรคเซ็กส์เสื่อม โรคภูมิแพ้ โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือโรคพุ่มพวง โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ โรคเส้นเลือดสมองตีบ โรคผิวหนัง เหี่ยวย่นแก่เกินวัย โรคสะเก็ดเงิน โรครูมาตอยด์ โรคมะเร็ง เป็นต้น ยากิน หรือยาฉีดที่ใช้รักษาโรค NCDs ดังกล่าวล้วนเป็นยาใช้ยับยั้งโรคหรือเป็นยา รักษาตามอาการก็ไม่ผิด แต่ไม่อาจรักษาให้หายขาดได้ และยาที่ใช้รักษา โรคดังกล่าว มีผลข้างเคียงทําให้ไตเสื่อม กินนานไปไตวาย หากฟอกไตหรือ ล้างไตไม่ทันเสียชีวิตได้ครับ หากคืนชีวิตให้หมอร่างกายรักษาตัวเอง โรค NCDs จะหายขาด และ ไม่มีอาการดื้อยา โดยกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนก่อน อาหารเช้า 600 cc. ก่อนอาหารมือ้ เย็น 300 cc. และหลงั 18.00 น. ไมก่ ิน ของหวานทุกชนิด นอนไม่เกิน 22.00 น. นอนให้หลับลึก ชีวิตประจําวัน ไม่กินนำ�ตาลนอกจานข้าว ไม่กินสารปรุงรส ไม่กิน ของทอด ด้วยนำ�มันพืช เพราะมีไขมันทรานส์ (ไขมันวายร้าย) ยกเว้นนำ�มัน มะพร้าว ถ้าได้ออกกําลังกายต่อเนื่องวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน ก็ จะดีมากครับ ท่านสามารถพิสูจน์การรักษา ของหมอร่างกายได้ ด้วยการ เจาะเลือด ดูค่าเบาหวาน ไขมัน ค่าไต (Creatinine) ค่ามะเร็ง เป็นต้น ให้ เห็นประจักษ์ (Empirical) ได้ครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 66
ใบไมอ้ ะไร ? ทใ่ี ชป้ น่ั กนิ รกั ษาโรค NCDs ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าโรค NCDs คือ โรคที่ไม่ได้เกิดจาก เชื้อโรค หากแตเ่ กดิ จากพฤตกิ รรมการกนิ เป็นสาํ คัญ โดยเฉพาะเกดิ จากการ กินนำ�ตาลเกิน โรค NCDs ได้แก่ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรค ไขมันในเลือดสูง โรคไตเสื่อม โรคภูมิแพ้ โรคแพ้ภูมิตัวเองหรือโรคพุ่มพวง โรคสะเก็ดเงิน โรครูมาตอยด์ โรคอ้วน โรคเข่าเสื่อม โรคเซ็กส์เสื่อม โรค ผิวหนังเหี่ยวย่นแก่เกินวัย เป็นต้น รู้แล้วว่าโรคดังกล่าวเกิดจากกินนำ�ตาลเกิน (ชอบกินหวาน) ฉะนั้น เราต้องกินใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน เพราะมีตัวยาลดนำ�ตาล โดยตรง รวมทั้งลดความดันโลหิตสูงด้วย นอกจากนั้นยังสามารถป้องกัน และรกั ษาโรค NCDs หายขาดได้ เนอ่ื งจากตวั ยาไดจ้ ากพชื สดทเี่ ปน็ ธรรมชาติ ร่างกายรับได้ไม่มีอาการดื้อยา ถามว่าใช้ใบไม้อะไร คําตอบง่ายๆ คือ ใบไม้อะไรก็ได้ที่กินได้ เช่น ใบบัวบก ใบขี้เหล็ก ใบเตย ใบมะม่วง ใบมะละกอ ใบมะยม ใบตําลึง ใบ มะกรูด ใบมะนาว ใบม่อนเบอร์รี่ ใบหนานเฉาเหว่ย ใบเสาวรส ใบชะมวง ใบมันปู ใบวอเตอร์เครส ใบแปะตำ�ปึง ใบจิงจูฉ่าย ใบผักแผ้ว ใบผักหวาน ใบสะระแหน่ ใบสะเดา ใบแสงจันทร์ ใบขลู่นา ใบเท่านา ใบรามเบอร์รี่ ใบกระเจี๊ยบแดง ใบตั้งตรง ใบกระเพราแดง ใบทับทิม เป็นต้น ท่านที่เป็น โรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง หยุดยาได้เลย กินนำ�ปั่นใบไม้สด และผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนก่อนอาหารเที่ยง 350 cc. ก่อนอาหารมื้อเย็น 350 cc. หลงั 18.00 น. ไมก่ ินของหวานทุกชนดิ และนอนไมเ่ กิน 22.00 น. นอนให้หลับลึก พิสูจน์ได้ด้วยการเจาะเลือดดูค่านำ�ตาล และวัดความดัน ด้วยด้วยเครื่องวัดดิจิทัล กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 67
68
เป็นมะเรง็ ..ทา่ นไมจ่ ําเป็นตอ้ งตาย ผม สรุ ินทร์ วัตตธรรม ขออนุญาตเขียนบทความโรคมะเรง็ กอ่ นหน้าน้ี ประมาณ 50 ปี ไม่มีใครรู้จัก จากการผลิตอาหารตามความเจริญของโลก อันเป็นอาหารท่ีเปยี่ มดว้ ยนำ�ตาล ประกอบกับกินโปรตีนสูง นอนดกึ เป็นนิจ ไม่ออกกําลังกาย กินอาหารที่มีสารปนเปื้อนหรือสารก่อมะเร็งทั้งหลายและ เครียดเป็นนิสัยสะสมนานๆ อนุมูลอิสระ (Free Radical) ซึ่งมีอยู่ทุกตัวคน จะสําแดงให้เห็นว่าท่านกําลังเป็นโรคมะเร็งร้ายแล้วครับ โรคมะเรง็ ไมม่ ยี ารกั ษา การกาํ จดั เซลลม์ ะเรง็ ดว้ ยคโี มกด็ ี ดว้ ยการฉาย แสงเฉพาะที่ก็ดี ไม่ใช่การรักษาให้หายขาด เพียงแต่ยับยั้งการเติบโตและ ขยายของโรคมะเร็งเท่านั้น ซึ่งอาจจะสงบลงได้เพียง 2 ปีก็กลับมาเป็นใหม่ ผลเสยี จากการใหค้ โี ม เปน็ การทาํ ลายเซลลด์ ๆี ของอวยั วะตา่ งๆทีแ่ บง่ ตัวเร็ว เช่น กระเพาะอาหาร ลําไส้เล็ก รากผม เป็นต้น และผลเสียจากการ ฉายแสง ได้แก่ รังสีจะทําลายอวัยวะที่รังสีผ่าน เช่น ถ้าฉายบริเวณคอ รังสี จะทําลายต่อมรับรส จนใช้การไมไ่ ด้ กลายเป็นลิ้นจระเข้ ทาํ ลายตอ่ มนำ�ลาย เป็นต้น ที่สําคัญคีโมจะทําลายเม็ดเลือดขาว หากเม็ดเลือดขาวตำ�กว่า 500 จะติดเชื้อได้ง่าย ถ้าติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรงถึงแก่ความตายได้ครับ หากจาํ เปน็ ตอ้ งใหค้ โี ม เพอื่ ปอ้ งกนั แพค้ โี มใหก้ นิ ยาเมด็ ละ 1,000 บาท 3 เม็ดก่อนฉีดคีโม มีชื่อว่า อีเม็น หมอสั่งซื้อพิเศษได้ครับ วิธีรักษาโรคมะเร็ง ที่ควรทํา ตามที่กล่าวมาแล้วว่าโรคมะเร็งเกิดจากอนมุ ูลอิสระทีท่ กุ ทา่ นมีอยู่ จึงควรรักษาโดยไม่กําจัดให้มะเร็งหมดไปจากตัวผู้ป่วย หากแต่เราต้องไม่ให้ อาหารมัน มะเร็งก็ไม่เติบโตไม่แพร่ขยายและจะฝ่อเล็กลงไปเอง ด้วยการ ไม่กินหวาน มัน เค็ม รสจัด และกินโปรตีนทุกวันวันละนิดหน่อย (ไม่กิน เลยไม่ได้ จะเป็นโรคเริม) และกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความ ร้อน เพื่อให้หมอร่างกายรักษาตัวเอง ท่านกับมะเร็งก็จะอยู่กันได้ ใช้ชีวิต ตามปกติครับ หากมีประโยชน์ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 69
โรคมะเรง็ เกดิ จากอะไร ? ผม สุรินทร์ วัตตธรรม เขียนบทความเรื่องโรคมะเร็งเกิดจากอะไร ย้อนหลังไป 50 ปีที่แล้วไม่มีใครรู้จักโรคมะเร็ง แต่กลับผกผัน ปัจจุบัน โรคมะเร็งเป็นกันมาก รัฐสูญเสียงบประมาณ ในการรักษาโรคมะเร็งปีละ หลายล้านบาท ทุกคนมีเซลล์มะเร็งเรียกว่า Free Radical อนุมูลอิสระอยู่ ในร่างกายค้นหาต่อไป พบว่าโรคมะเร็งเกิดจากเซลล์ในร่างกายของเรา เปลี่ยนแปลงผ่าเหล่า (Mutation) เพื่อความอยู่รอด เนื่องจากสภาพ แวดล้อมภายในร่างกายเปลี่ยนแปลง 3 อย่าง ได้แก่ ประการแรก ปกตเิ ลอื ดคนเรามสี ภาพเปน็ ดา่ ง แตก่ ลบั มสี ภาพเปลีย่ น เป็นกรด เพราะกินนำ�ตาลเกินและกินเนื้อสัตว์มากเกินไป ประการที่สอง เกิดจากภูมิต้านทานตำ� เพราะมีความเครียดเป็นนิสัย หรือเป็นคนแบบ Perfectionist คือ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องทําได้ตามใจตัวเอง เป็นคนเจ้าระเบียบ เห็นเส้นผมตกอยู่ที่พื้น ถ้าไม่เก็บกวาดจะเครียดทันที ความเครียดกดภูมิ ต้านทานให้ตำ�ครับ ประการสุดท้าย เซลล์ในร่างกายต้องการอากาศออกซิเจน เมื่อ ออกซิเจนเข้าไปในร่างกายน้อย แต่คาร์บอนไดออกไซด์มีปริมาณมาก การรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีฆ่าเซลล์มะเร็งโดยให้คีโมและฉายแสงเป็น วิธีรักษาที่ไม่ถูกนัก ควรรักษาโดยไม่ฆ่าเซลล์มะเร็ง แต่รักษาด้วยการปรับ สภาพแวดล้อม ให้เซลล์มะเร็งอยู่ในภาวะปกติ และกินอาหารรสจืด โปรด นึกอยู่เสมอว่า มะเร็งชอบอาหารรสหวาน มัน เค็ม วธิ ปี รบั สภาพแวดลอ้ มคอื กรณเี ลอื ดทเ่ี ปน็ กรด ตอ้ งทาํ ใหเ้ ลอื ดเปน็ ดา่ ง ด้วยการกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน หลัง 18.00 น.ไม่ กินของหวานทุกชนิดและควรนอนไม่เกิน 22.00 น. และกินผลไม้ไม่หวาน เป็นอาหารหลัก กินข้าวมื้อละ 2 ช้อนส้อม 70
ประการที่สองหากมีความเครียด ต้องหาทางบริหารความเครียดให้ จงได้ ภูมิต้านทานจะไม่ตำ� ประการสุดท้าย สูดอากาศออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายลึกๆ ให้มีปริมาณ มากเพียงพอ อย่าอยู่ในห้องจํากัดที่มีกลิ่นสารเคมีหรือมีกลิ่นอับเหม็นหรอื ในบริเวณทมี่ ีการจราจรพลุกพล่าน เต็มไปด้วยแกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ การออกกําลังกายต่อเนื่อง วันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน ช่วย คลายเครียดได้ดีด้วยครับ ตอ้ งงดกนิ อาหารแสลงโรค ไดแ้ ก่ ไมก่ นิ ไขแ่ ดง นม น�ำ เ ตา้ หู้ ปลารา้ ปลา เจ่า ปลาเค็ม ของหมักดอง และไม่กินโปรตีนสูง กินโปรตีนทุกวัน วันละ ไม่มาก ไม่กินโปรตีนนานไปภูมิต้านตำ�จะเป็นโรคเริม อย่าลืมนะครับ ดูแล ร่างกายให้เลือดเป็นด่าง ได้รับออกซิเจนเพียงพอ และมีภูมิต้านทานสูง ท่านจะไม่เป็นโรคมะเร็งครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 71
ทําใหเ้ ลอื ดเปน็ กรด..จะเปน็ มะเรง็ ผม สรุ นิ ทร์ วตั ตธรรม ขอเรยี นวา่ โรคมะเรง็ เพงิ่ ปรากฏใหเ้ หน็ ประมาณ หลัง 50 ปีมานี้เอง อันเป็นผลมาจากโลกเจริญ การผลิตอาหารก้าวหน้าให้ ชวนกิน ด้วยการเนน้ รสหวาน โดยเฉพาะกนิ น�ำ ต าลเกิน ทาํ ให้เลอื ดเป็นกรด กินสารปรงุ รส ก็ทําให้เลือดเป็นกรด กินเนื้อสัตว์มาก ทําให้เลือดเป็นกรด สมัยก่อนต้องออกแรงล่าสัตว์จึงจะได้กิน ปัจจุบันเลี้ยงสัตว์ไว้กิน มีเนื้อสัตว์ หลายชนิดง่ายต่อการนํามาประกอบอาหาร และเนื้อสัตว์มีรสชาติอร่อย เชิญชวนเราให้กินโปรตีนเกิน ปกติคนเรามีเลือดเป็นด่าง เมื่อเลือดเป็นกรด ประกอบกับหายใจเอา ออกซิเจนเข้าร่างกายน้อย ถูกแทนที่ด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และแก๊ส พิษ รวมทั้งมีภูมิต้านทานตำ� เนื่องจากความเครียดด้วยนิสัยหรือปัจจัยอื่น เมอื่ สงิ่ แวดลอ้ มเปลยี่ น เซลลใ์ นรา่ งกายจงึ เปลยี่ นผา่ เหลา่ เพอื่ ความอยู่ รอด เกิดการ Mutation ผา่ เหลา่ เปน็ เซลล์มะเรง็ รา้ ย ส่วนรา่ งกายจะสําแดง โรคมะเร็งให้เห็นที่อวัยวะส่วนไหน ไม่มีใครบอกได้ ถึงมือหมอใช้วิธีรักษา ด้วยคีโมหรือเคมีบําบัดและหรือฉายแสงเฉพาะที่ เพื่อยับยั้งการเติบโตและ แพร่กระจายของเซลมะเร็งในระยะหนึ่ง ภายในประมาณ 2 ปี มะเร็งจะ กลับมาเป็นใหม่ (Recurrent) ในที่สุด ก็หลับไม่ตื่น หากเราไม่ทําตัวเองไม่ให้เลือดเป็นกรด กล่าวคือรักษาความเป็นด่าง ของเลือด ด้วยการไม่กินนำ�ตาลเกิน ไม่กินโปรตีนสูง ไม่กินสารปรุงรส ไม่ เน้นกินอาหารอร่อย มะเร็งก็ไม่มาเยือน เราก็ปลอดภัยจากโรคร้าย ถึงเวลาแล้วครับ ให้ธรรมชาติช่วยชีวิตโดยกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผัก สดที่ไม่ผ่านความร้อน และกินผลไม้ไม่หวานเป็นอาหารหลัก กินข้าวมื้อละ 2 ช้อนส้อม หิวให้กินผลไม้ ไม่ใช่ข้าว กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 72
รกั ษาโรคมะเรง็ ดว้ ยน�ำ ป้ น่ั ใบไมส้ ด ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าหลักการรักษาโรคมะเร็งที่ถูกต้อง ไม่ใช่กําจัดเซลล์มะเร็งด้วยคีโมหรือฉายแสง เพราะไม่อาจกําจัดให้หมด ไปได้และทั้งคีโมและฉายแสงทําลายอวัยวะส่วนที่ดี เช่น กระเพาะอาหาร ลําไส้ รากผม ฉายแสงที่บริเวณลําคอรังสีจะทําลายต่อมรับรส ต่อมนำ�ลาย วธิ รี กั ษามะเรง็ ควรงดใหอ้ าหารแกเ่ ซลลม์ ะเรง็ ไดแ้ ก่ การไมก่ นิ อาหาร ที่มะเร็งชอบ คือ รสหวาน มัน เค็ม มะเร็งไม่ชอบรสจืด เปรี้ยว ฝาด ขม นำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน ส่วนที่เป็นพฤกษะเคมี (Phytochemical) มีสารต้านมะเร็งไม่ให้เติบโตแพร่กระจาย และส่วนที่ เป็นเอ็นไซม์ (Enzyme) ช่วยซ่อมอวัยวะทุกส่วนที่เสื่อมและสึกหรอ ทําให้ผู้ ป่วยสดชื่น แข็งแรง ไม่เพลีย มีภูมิต้านทานโรคสูง ป้องกันโรคมะเร็งกําเริบ แต่ต้องควบคุมอาหาร และต้องไม่เครียดด้วยนะครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 73
ฉายแสงทค่ี อ อนั ตราย.!! ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนกรณีที่ภรรยาผมป่วยเป็นโรคมะเร็ง ต่อมนำ�เหลือง Lymphoma กลับมีก้อนมะเร็งที่คางใต้ขากรรไกร หมอฉาย แสงที่คอ 5 แสง ผลปรากฏว่า ผิวหนังที่คอดํา ต่อมรับรสใช้การไม่ได้ ต่อมนำ�ลายถูก ทําลายหดหายหมดครับ ผมเรียนถามหมอที่ดูแลการฉายแสงได้รับคําตอบ ว่าไม่มีอะไรสู้แสงได้ ไม่มียารักษาต่อมรับรสและต่อมนำ�ลาย เสียแล้วเสีย เลย ผมใชฟ้ จู คิ รมี หรอื บวั หมิ ะของจนี ทาทีค่ อบรเิ วณทีไ่ หม้ ใชเ้ วลาเดอื นกวา่ รอยไหม้สีดําจางหายเป็นปกติครับ ส่วนการเรียกคืน ต่อมรับรสกับต่อมนำ�ลาย ให้กินนำ�ปั่นใบไม้สด และผักสดไม่ผ่านความร้อน กินก่อนอาหารเช้า 600 cc. ก่อนอาหาร เย็น 300 cc. กรองกากทิ้ง กินทุกวันเป็นเวลา 4 เดือน ต่อมรับรสและ ต่อมนำ�ลาย กลับฟื้นดีขึ้น 80 เปอร์เซ็นต์และดีขึ้นเรื่อยมาเกือบเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ครับ เขียนบทความนี้เพื่อให้กําลังใจต่อท่านที่เป็นโรคร้ายอย่าได้สิ้นหวัง นะครับ การเกิดมาเป็นมนุษย์ ถือว่าประเสริฐแล้ว จึงต้องดูแลชีวิตให้อยู่ ได้อย่างมีคุณภาพ ขอเรียนว่านำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน สามารถตอบ โจทย์ได้เกือบทุกโรคครับ อย่าได้มองข้าม เพราะเป็นการคืนให้หมอร่างกาย รักษาตัวเอง ซึ่งเป็นหมอที่เก่งที่สุดในโลก กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 74
ปญั หาจากการฉายแสงทบ่ี รเิ วณคอ ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขออนุญาตเขียนบทความประสบการณ์จาก คนใกล้ตัว การฉายแสงบริเวณคางและคอ เพื่อยับยั้งการเติบโตก้อนมะเร็ง ใต้คาง โดยปกติจะฉายประมาณ 25 แสง เกิดปัญหาตามมาประการแรก บริเวณลําคอจะมีสีคลำ� อันเกิดจากรังสีเผาไหม้ ทําอย่างไรจะขจัดสีคลำ�เหล่านั้นได้ ให้กลับคืนเหมือนเดิม ไม่มียา กินยาฉีดแผนปัจจุบันรักษาครับ ท่านต้องใช้ฟูจิครีม หรือเรียกว่าบัวหิมะ ของจีนทาวันละ 2-3 เวลา ประมาณ 1 เดือนก็หายเป็นปกติครับ ปัญหา ต่อมา รังสีทําลายเยื่อบุในคอ ทําให้คออักเสบกินอาหารไม่ได้ แม้กระทั่ง ดื่มนำ�ยังเจ็บหนัก จะทําอย่างไร หากกินอาหารและดื่มนำ�ไม่ได้ติดต่อกัน หลายวัน ทําให้ร่างกายขาดโปแตสเซียม หัวใจหยุดเต้น เสียชีวิตได้ ไม่มียา รักษาคออักเสบที่เกิดจากการฉายแสง กินอาหารไม่ได้ หมออาจเจาะหน้า ท้องให้อาหารทางสายยาง อย่างไรก็ตามหากผู้ป่วยกินอาหารไม่ได้ 3-4 วัน จะมีอาการท้องผูก เนื่องจากไม่มีอะไรให้ถ่าย แล้วจะเกิดโรคร้อนในที่ผู้ป่วยทุรนทุราย บางราย ถึงขนาดไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป เพราะร้อนในเสมือนมีเตาไฟอยู่ในท้อง จะนั่ง จะนอน จะเดินก็ไม่เป็นสุข ขอเรียนว่า โรคร้อนในไม่มียารักษาเช่น กัน ถึงตอนนั้นเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ท่านก็ให้ผู้ป่วยกินยานอนหลับ ชื่อ แอนติแวน ฤทธิ์สั้น 5 ชั่วโมง กับยาพาราเซตามอล 2 เม็ด นอนหลับจน สว่างแล้วค่อยว่ากันใหม่ อย่าเพิ่งสิ้นหวังครับ ยาสมุนไพรสําหรับแก้ร้อนใน ชื่อ จั่วจิเช่า แปลว่า หญ้าลิ้นงู อัดเม็ดบรรจุซองละ 20 เม็ด กินมื้อละ 5 เม็ด กินให้หมด ใน 1 วัน จากประสบการณ์ผมให้กิน 10 เม็ดครั้งเดียว หลังกินยาอาการ ร้อนในก็หายหมด กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 75
ฉายแสงทค่ี อ ไมต่ อ้ งใหอ้ าหารทางหนา้ ทอ้ ง ? ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขออนุญาตเขียนบทความต่อจากบทความเมื่อ ครั้งก่อนครับ เมื่อผู้ป่วยโรคมะเร็งรับแสงที่คอมากๆ จะทําให้คออักเสบจนกินอะไร ไม่ได้ แม้กระทั่งนำ�ก็ดื่มไม่ได้ ปรึกษาหมอรังสี คุณหมอบอกว่า ไม่มีอะไร สู้แสงได้หรอก และบอกให้อดทน เป็นการบ้านที่ผมต้องคิดหาทางกินให้ได้ โดยไม่ต้องเจาะหน้าท้อง จึงตัดสินใจโทรหาเพื่อนที่เป็นหมอ ผมถามว่า ตอนหมอจะหยิบก้างออก จากคอคนไข้ หมอพ่นอะไรให้คอชา หมอบอกว่า ไซโลเคน ชนิดสเปรย์ พี่ จะใช้ทําอะไรเหรอ ผมบอกให้หมอช่วยติดต่อ ขอแบ่งจากโรงพยาบาลให้ หน่อย ผมขอซื้อจากโรงพยาบาลหลอดละ 600 บาท นํามาพ่นคอก่อนกิน ข้าวทุกมื้อ พ่น 2 ครั้ง รู้สึกชาก็รีบกิน กนิ ไปไมน่ านก็เจ็บอีก พ่นใหม่อกี 2 ครง้ั เหมอื นเดมิ สามารถกนิ ขา้ วได้หมดจาน ทําอย่างนี้ประมาณ 3-4 วัน คอ ที่เจ็บก็ค่อยทุเลาลง จึงกินอาหารได้เป็นปกติ โดยไม่ต้องพ่นยาไซโลเคนอีก ต่อไป เป็นประสบการณ์ตรงจึงบอกต่อครับ ขอบคุณครับ.. 76
คนเปน็ มะเรง็ ..ตอ้ งระวงั เรอ่ื งกนิ ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าโรคมะเร็งรักษายาก เพราะต้อง กินอาหารรสจืดเท่านั้นและต้องเป็นอาหารที่ไม่ใส่สารปรุงรสทุกชนิด เช่น ผงชูรส คนอร์ รสดี ซีอิ้วขาว-ดํา ซอส นำ�จิ้มสําเร็จรูป อาหารแปรรูปจาก โรงงานอุตสาหกรรม กินแบรนด์ยอดซุปไก่ก็กินไม่ได้ เพราะใส่สารปรุงรส กินก๋วยเตี๋ยวก็ไม่ได้ เพราะในนำ�สต๊อกใส่ผงชูรส ห้ามกินอาหารแสลงมะเร็ง ได้แก่ ปลาร้า ปลาเจ่า ของเหม็น ของคาว ไข่ แดง นม นำ�เต้าหู้ อินทผาลัม นำ�มะพร้าวอ่อน กินโปรตีนที่เป็นปลา ปู กุ้ง วันละ 200 กรัม (รวมโปรตีนทุกชนิดใน 1 วัน) กินโปรตีนมากมะเร็ง ชอบ ไม่กินเนื้อแดงสัตว์ใหญ่ เช่น หมู วัว เพราะทําให้เลือดเป็นกรด ไม่กิน หวานจัด ไม่กินเค็มจัด เพราะทําให้เลือดเป็นกรด กินผลไม้ไม่หวานเป็นอาหารหลัก กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ ผ่านความร้อนก่อนอาหารเที่ยง 700 cc. หรือ 600 cc. กินก่อนอาหารเย็น 300 cc. ตามด้วยข้าวมื้อละ 4 ช้อนส้อม พร้อมกับข้าวรสจืด รสหวาน มัน เค็ม มะเร็งชอบ กินไข่ขาววันละไมเ่ กิน 6 ฟอง กินงาดาํ คั่ววนั ละ 3 ช้อนแกง หิวก่อนเวลาอาหารให้กินผลไม้ไม่หวาน กินอาหารแต่ละมื้อควรกิน กล้วยนำ�ว้าห่ามๆ ข้าวโพดต้มครึ่งฝัก ฟักทองนึ่ง 2 ชิ้น มันม่วง 1 หัว กระเจี๊ยบเขียวลวก 8 ดอก ตามด้วยผลไม้สด เช่น แตงโม ส้มโอ พุทรา มะม่วงมัน เป็นต้น กินเกือบอิ่ม ตามด้วยนำ�ปั่นใบไม้สดและตามด้วยข้าว ดังกล่าว ถามว่าอยากกินอาหารเหมือนคนทั่วไปได้หรือไม่ ต้องวิเคราะห์ดูว่า กินแล้วเลือดเป็นกรดหรือไม่ กินแล้วแสลงโรคมะเร็งหรือไม่ ใครบอกว่าคน เป็นมะเร็ง กินได้ทุกอย่าง...ครับกินได้ แต่เสียชีวิตไวนะครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 77
อะไรทําใหก้ อ้ นมะเรง็ โต ? ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนถึงสารเคมีทําให้ก้อนมะเร็งโต ถามว่า รู้ได้อย่างไร? คําตอบคือรู้จากการสังเกตภรรยาผมเป็นมะเร็งต่อมนำ�เหลือง Lymphoma ย่างเข้าปีที่15 กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความ ร้อนก่อน อาหารเที่ยง 700 cc. ก่อนอาหารเย็น 300 cc. กินอาหารรสจืด อย่างมีวินัย ไม่กินอาหารแสลงโรคมะเร็ง สามารถควบคุมโรคมะเร็งได้โดย ก้อนมะเร็งที่รักแร้ ขาหนีบ เป็นก้อนเล็กขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย ใช้ชีวิตได้ ตามปกติและร่างกายแข็งแรงมาก ดูไม่รู้ว่าเธอเป็นมะเร็ง วันใดใช้สารเคมี เช่น ทําความสะอาดเครื่องดูดควันในครัวต้องใช้ นำ�ยาเคมี มือสัมผัส จมูกสูดหายใจเข้าสู่ร่างกาย วันรุ่งขึ้นจะปรากฏให้เห็น ว่าก้อนมะเร็งที่แขนและที่รักแร้โตขึ้น แล้วค่อยๆเล็กลงไปเอง ผงซักฟอกถ้า ซักต้องชักนาน สัมผัส สูดดมนาน ก็ทําให้ก้อนมะเร็งโตขึ้น เช่นกัน อาหารปนเปื้อนสารเคมีก็มีผลเช่นเดียวกัน ฉะนั้นสารเคมีจัดเป็นของ แสลง โรคมะเร็งที่รุนแรงร่างกายจะสําแดงให้เห็นทันที กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 78
เปน็ มะเรง็ ทม่ี า้ ม..ไมค่ วรตดั มา้ มทง้ิ ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขออนุญาตเขียนบทความเรื่องเป็นมะเร็งที่ ม้าม ไม่ควรตัดม้ามทิ้ง ม้าม คือ ต่อมนำ�เหลืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีหน้าที่สําคัญในการ กําจัดเชื้อโรคและทําลายเม็ดเลือดที่หมดอายุ วิธีบริหารม้ามให้แข็งแรงด้วย การเดินหรือวิ่ง เพราะการบีบตัวของกล้ามเนื้อขา จะกระตุ้นให้ม้ามทํางาน ท่านใดที่ทํางานนั่งโต๊ะ ควรลุกเดินทุกครึ่งชั่วโมง เพื่อกระตุ้นให้ม้ามทํางาน ม้ามแข็งแรง คนแข็งแรง ต่อมนำ�เหลืองมีอยู่ทั่วร่างกาย ปัจจุบันมะเร็งต่อมนำ�เหลืองเป็นไม่ใช่ น้อย ส่วนมะเร็งที่ม้ามนานๆจะพบเจอ อย่างไรก็ตามหากเป็นมะเร็งที่ม้าม ไม่ควรตัดม้ามทิ้ง เนื่องจากไม่มีม้าม ทําให้เกิดเชื้อโรคเพิ่ม ทําให้ร่างกาย อ่อนแอไปตลอด การรักษามะเร็งที่ม้าม ก็โดยกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่าน ความรอ้ น งดอาหารแสลงมะเรง็ และไม่กินโปรตนี จากเนื้อสตั วม์ ากเกินไป ระหวา่ งวนั ไมก่ นิ หวาน เพราะน�ำ ต าลกบั เนอ้ื สตั ว์ ทาํ ใหเ้ ลอื ดเปน็ กรด มะเรง็ เติบโตในสิ่งแวดล้อม เลือดเป็นกรด ควรหายใจสูดอากาศออกซิเจนให้เพียง พอ ในแต่ละวัน ปล่อยวาง ไม่เครียด กินผลไม้ไม่หวานเป็นอาหารหลัก กิน ข้าวมื้อละ 2 ช้อนส้อม กินไข่ขาววันละ 6 ฟอง มากกว่านี้ท้องอืด กินงาดํา คั่ววันละ 3 ช้อนแกง ป้องกันก้อนมะเร็งโต นีค่ อื แนวทางการรกั ษาโรคมะเรง็ ทกุ ชนดิ ทีถ่ กู ตอ้ ง การรกั ษาดว้ ยคโี ม และฉายแสงเป็นเพียงยับยั้งการเติบโตของมะเร็งชั่วระยะหนึ่งเท่านั้น แต่มี ผลเสียในการทําลายเซลล์ดีๆของร่างกาย และทําลายเม็ดเลอื ดขาว จงึ งา่ ย ตอ่ การตดิ เชอ้ื และมโี รคแทรก มจี าํ นวนไมน่ อ้ ยทเี่ สยี ชวี ติ เพราะโรคแทรก เช่น ติดเชื้อในกระแสเลือด กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 79
มะเรง็ ปอด ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนเรื่องโรคมะเร็งปอด ไม่ว่ามะเร็งชนิด ไหน สาเหตุมาจากการกินอาหารที่ทาํ ใหเ้ ลอื ดเป็นกรด ซึ่งธรรมชาติคนเรามี เลือดเป็นด่าง หากกินอาหารที่ทําให้เลือดเป็นกรด เซลล์ในร่างกายจะปรับ ตัวผ่าเหล่าเป็นเซลล์มะเร็งร้าย เพื่อความอยู่รอดของเซลล์ ถ้าเซลล์ไม่ปรับ ตัวมันจะตายหมด อาหารที่ทําให้เลือดเป็นกรด ได้แก่ กินนำ�ตาลเกิน กิน สารปรงุ รสทกุ ชนดิ เชน่ ผงชรู ส ซอี ว้ิ ขาว-ดาํ ซอส น�ำ ม นั หอย น�ำ จ ม้ิ สาํ เรจ็ รูป เปน็ ตน้ เนอ้ื แดงสตั วใ์ หญ่ เชน่ หมู ววั เปน็ ตน้ ของหมกั ดอง เครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอล์ ความเครียดมีผลให้ตับผลิตนำ�ตาลเพิ่ม ทําให้เลือดเป็นกรดดังกล่าวแล้ว สถานีแรกที่มะเร็งจะเดินทางไปคือกระดูกสันหลังจะมีก้อนแข็งที่ ไขสันหลัง เสยี ดสกี บั เส้นประสาท เจบ็ มากถงึ ขนาดกินมอรฟ์ นี ก็ยังเจ็บ หมอ จะผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งแข็งๆออก แต่เอาออกไม่หมด สําหรับก้อนที่ติดกับ เส้นประสาทหมอไม่กล้าเสี่ยงที่จะผ่าตัด กลัวถูกเส้นประสาท สถานีต่อไป ขึ้นสมอง จะมีอาการอย่างไร ขึ้นอยู่กับก้อนมะเร็งเสียดสีกับสมองส่วนไหน บางคนถึงกับเดินเซ บางคนความจําเสื่อมขี้ลืมไปเลย บางคนปวดหัวได้ยิน เสียงนกร้องยังหงุดหงิดเลย สถานีนี้มักเป็นสถานีสุดท้าย วิธีรักษาใช้หลักการเดียวกันคือทําให้เลือดเป็นด่าง เซลล์มะเร็งจะ ไม่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เลือดเป็นด่าง ด้วยการกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสด ที่ไม่ผ่านความร้อน ก่อนอาหารเทยี่ ง 700 cc. ก่อนอาหารม้ือเย็น 300 cc. หลัง 18.00 น. ไม่กินของ หวานทุกชนิดและควรนอนไม่เกิน 22.00 น. นอนให้หลับลึก และกินผลไม้ไม่หวานนักเป็นอาหารหลักกินข้าวเพียง 2-4 ช้อนส้อม พร้อมโปรตีนจากปลา กุ้ง ปู หอยนิดหน่อย ต้องกินอาหารรสจืด เท่านั้น รสหวาน มัน เค็ม มะเร็งชอบอย่ากิน ทั้งนำ�ปั่น ใบไม้สดและผักสด ทีไ่ มผ่ า่ นความรอ้ นและผลไม้ไม่หวานนกั กินเข้าไปทาํ ใหเ้ ลอื ดเป็นด่าง เซลล์ มะเร็งจะไม่เติบโต ไม่กระจาย 80
แต่อย่ากินอาหารแสลงมะเร็ง ได้แก่ ของเหม็น ของคาว ปลาเจ่า ปลาร้า ปลาเคม็ ของหมกั ดอง เชน่ กะปิ นม ไข่ แดง นำ�เ ต้าหู อินทผาลมั ควรกินไข่ขาววันละไม่เกิน 6 ฟอง (กินมากท้องอืด) และกินงาดําคั่ววันละ 3 ช้อนแกง กิน Blendera วันละ 1 แก้ว (6 ช้อน) กินมากกว่านี้เท่ากับ ให้อาหารแก่มะเร็ง ก้อนมะเร็งจะเติบโต เราต้องการรักษาโรคมะเร็งโดย ไม่ให้อาหารแก่เซลล์มะเร็ง ความยากในการรักษาโรคมะเร็งอยู่ที่ต้องมี วินัยเคร่งครัด ในการกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน ต้อง กินให้ได้วันละ 1,000 cc. ถ้ากินเล่นๆ กินบ้างไม่กินบ้าง โรคมะเร็งไม่หาย ครับ หากท่านกินอย่างมีวินัย สารต้านมะเร็งและความเป็นด่าง ตลอดทั้ง เอ็นไซม์ในนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนจะหยุดการเติบโต และการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้ ท่านไม่ต้องให้คีโมซำ�อีก กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 81
แนวทางเลอื กรกั ษาโรคมะเรง็ ปอด ผม สรุ นิ ทร์ วตั ตธรรม ขอเรยี นเสนอแนวทางรกั ษาโรคมะเรง็ ปอด การ รักษาโรคมะเร็งทุกชนิด ในปัจจุบันด้วยการให้คีโมและหรือฉายแสงเฉพาะ ที่ เป็นเพียงยับยั้งการเติบโตและการแพร่กระจายของเซลมะเร็งไว้ ชั่วระยะ เวลาหนึ่งเท่านั้น ส่วนใหญ่ประมาณ 2 ปี จะกลับมาเป็นอีก (Recurrent) แนวทางรักษาที่ถูก ควรจะใช้วิธีทําให้เลือดเป็นด่าง เพราะมะเร็งเติบโตใน สภาพแวดลอ้ มทเ่ี ลอื ดเปน็ กรด และสดู อากาศออกซเิ จนเขา้ สรู่ า่ งกายใหเ้ พยี ง พอ ในแต่ละวันและไม่เครียด เนื่องจากความเครียดทําให้ภูมิต้านทานตำ� ง่ายที่มะเร็งเข้าโจมตี การทําให้เลอื ดเปน็ ด่าง ด้วยการกนิ นำ�ป่นั ใบไมส้ ดและผักสดทีไ่ มผ่ า่ น ความรอ้ นกอ่ นอาหารเชา้ 600 cc. กอ่ นอาหารมอ้ื เยน็ 300 cc. หลงั 18.00 น. ไมก่ ินของหวานทุกชนิดและนอนไมเ่ กนิ 22.00 น. นอนให้หลับลึก กนิ ผลไมเ้ ปน็ อาหารหลกั ไมใ่ ชก่ นิ ขา้ วเปน็ อาหารหลกั ขา้ วเปน็ อาหาร อารยธรรม ในแต่ละวันกินผลไม้ไม่หวานแต่ละมื้อ ให้เกือบอิ่ม ตามด้วยกิน ข้าว 2 ช้อนส้อม เนื่องจากข้าวเป็นแป้งที่มีนำ�ตาลสูง พร้อมกินโปรตีนนิด หน่อย โปรตีนต้องกินทุกวัน แต่อย่ากินมาก ถ้ากินมากเป็นการเลี้ยงมะเร็ง ให้เติบโต ถ้าไม่กินโปรตีนติดต่อกันนานๆ ภูมิต้านทานจะตำ� โรคเริมเข้า โจมตีกลายเป็นงูสวัด เสียชีวิตได้ครับ ผลไม้ทําให้เลือดเป็นด่างเช่นกัน ใช้ชีวิตโดยทําให้เลือดเป็นด่างและ ไม่ให้อาหารแก่เซลล์มะเร็ง มันก็ไม่เติบโต ไม่แพร่กระจาย ฉะนัน้ จาํ เป็นตอ้ งงดกินอาหารทม่ี ะเรง็ ชอบ เชน่ โปรตีนจากเนอื้ สัตว์ (อย่ากินมาก) นม ไข่แดง ปลาเจ่า ปลาร้า ของหมักดอง ปลาเค็ม นำ�เต้าหู้ หรือผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เพราะถั่วเหลืองมีสารทองแดง (Cu) จะช่วย สร้างเส้นเลือด เพิ่มในเซลมะเร็ง มะเร็งเติบโตด้วยการสร้างเส้นเลือดเพิ่ม ไม่กินอาหารที่ทําให้เลือดเป็นกรด เช่น กินนำ�ตาลเกิน กินโปรตีนสูง สาร 82
ปรุงรสทุกชนิด เป็นต้นว่า ผงชูรส นำ�ปลา ซีอิ้วขาว ซีอิ้วดํา ซอส นำ�จิ้ม สําเร็จรูป คนอร์ รสดี กินอาหารที่มีไขมันมาก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต้องกินอาหารรสจืด เพราะมะเร็งชอบอาหารรสหวาน มัน เค็ม กิน ไข่ขาววันละ 6 ฟอง มากกว่านี้ทําให้ท้องอืด เนื่องจากไข่ขาวย่อยยาก กิน งาดําคั่ววันละ 3 ช้อนแกง เพื่อป้องกันการสร้างเส้นเลือดเพิ่มในเซลล์ มะเร็ง มะเร็งจะไมเ่ ติบโต ควรท�ำ อาหารกนิ เอง เน่อื งจากอาหารตามรา้ น อาหารท่ัวไป ใส่ผงชูรสหรือสารปรุงรส เช่น ก๋วยเตี๋ยวนำ� เป็นต้น สารปรุง รสทําให้อาหารมีรสชาติอร่อย ต่อไปนี้ ต้องหยุดกินอาหารอร่อยครับ หาก ยังกินอาหารอร่อยเหมือนเดิม ขอยืนยันว่ามะเร็งไม่หาย และแพร่กระจาย เร็วมาก จะกระจายไปยงั กระดกู สนั หลัง เปน็ กอ้ นแขง็ เบียดเสน้ ประสาทเจ็บ มาก ต่อจากนั้นจะแพร่กระจายไปยังสมองเป็นก้อนแข็งเบียดเส้นประสาท เช่นกัน ก้อนมะเร็งในสมองผ่าตัดไม่ได้ เจ็บมากเช่นกัน หงุดหงิด แม้กระทั่ง ไม่อยากได้ยินเสียงคนพูดคุยกัน สุดท้ายแพร่กระจายเข้าตับอันเป็นอวัยวะ สําคัญมาก หลังจากนั้นไม่นานก็ถึงวาระสุดท้ายครับ ถึงเวลาแล้วครับ หยุดกินอาหารอร่อย หันมาคืนชีวิตให้หมอร่างกาย รกั ษาตวั เอง ดว้ ยการกนิ น�ำ ใ บไมส้ ดและผกั สดทไ่ี มผ่ า่ นความรอ้ น ใสส่ บั ปะรด ชิ้นเล็กๆ 1 ชิ้นกับกล้วยนำ�ว้าครึ่งผล ปั่นรวมกับใบไม้ กรองกากทิ้ง ทําให้ กินง่ายไม่เหม็นเขียว ไม่ขม กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 83
มะเรง็ ตอ่ มลกู หมาก ผม สุรนิ ทร์ วตั ตธรรม ขอเรียนว่าโรคมะเรง็ ต่อมลูกหมากเป็นกนั มาก เช่นกัน มักจะแพร่กระจายไปยังไขสันหลังและอวัยวะอื่นๆ บางคนแพร่ไป เป็นก้อนบริเวณสีข้างและอวัยวะอื่นๆ สาเหตุเกิดจากกินอาหารที่ทําให้ ภาวะเลือดเป็นกรดเหมือนกับมะเร็งชนิดอื่น ใชว้ ธิ รี ักษาเช่นเดยี วกบั มะเรง็ ชนดิ อืน่ โดยกนิ อาหารทีท่ ําใหเ้ ลอื ดเปน็ ด่างตลอด ด้วยการกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน ทําให้ เลอื ดเปน็ ด่าง กนิ ผลไมไ้ มห่ วานเป็นอาหารหลักกนิ ขา้ วมื้อละ 1 ทพั พี พรอ้ ม โปรตีนที่เป็นปลา กุ้งนิดหน่อย กินยาลดฮอร์โมนตามแพทย์สั่งด้วยก็ดี อย่ากินโปรตีนมากแสลง มะเร็งต่อมลูกหมาก (กินโปรตีนวันละ2 กรัมต่อคน) ไม่กินโปรตีนไม่ได้ ทํา ให้ภูมิต้านทานตำ�เป็นเริม กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนก่อนอาหารมื้อเที่ยง 700 cc. ก่อนอาหารมื้อเย็น 300 cc. โดยกินกล้วยนำ�ว้าห่ามๆ 1-2 ลูก และผลไม้ไม่หวานครึ่งท้อง จึงกินข้าวพร้อมโปรตีน ห้ามกินอาหารแสลงโรคมะเร็งได้แก่ ไข่แดง นม นำ�เต้าหู้ อินทผาลัม นำ�มะพร้าวอ่อน ของเหม็น ของคาว ปลาเจ่า ปลาร้า ปลาเค็ม เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ ของหมกั ดอง ใหก้ นิ ไขข่ าววนั ละไมเ่ กนิ 6 ฟอง กนิ งาดาํ คว่ั วนั ละ 3 ช้อนแกง กิน Blendera วันละ 1 แก้ว 6 ช้อน (เป็นอาหารสําเร็จรูป) กิน อาหารรสจืดเท่านั้น ห้ามกินอาหารหวาน มัน เค็ม เพราะมะเร็งชอบ หลัง 18.00 น. ไม่กินของหวานทุกชนิดและนอนไม่เกิน 22.00 น. ไม่กินสารปรุงรสทุกชนิด เช่น ผงชูรส เนื้อแดงสัตว์ใหญ่ เพราะทําให้เลือด เป็นกรด ถ้าทําตามนี้หายครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 84
เปน็ มะเรง็ กนิ ของแสลง..สําแดงทนั ท.ี !! ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าคนเป็นมะเร็งต้องมีวินัยการกิน อาหาร ซึ่งควรกินอาหารที่ทําให้เลือดคงความเป็นด่างไว้ อย่าให้เปลี่ยน เป็นกรด เพราะเลือดเป็นกรด เซลล์ในร่างกายจะปรับตัวผ่าเหล่าเป็นเซลล์ มะเรง็ รา้ ย จงึ ตอ้ งกนิ ผลไมไ้ มห่ วานนกั เปน็ อาหารหลกั กนิ ขา้ วมอ้ื ละ 2-4 ชอ้ น ส้อม พร้อมโปรตีนปลา กุ้ง ปูนิดหน่อย ตอ้ งกนิ น�ำ ป ัน่ ใบไมส้ ดและผกั สดทีไ่ มผ่ า่ นความรอ้ นเพราะทาํ ใหเ้ ลอื ด คงความเปน็ ดา่ งไวไ้ ด้ ควรกนิ อาหารรสจดื เนอ่ื งจากอาหารรสหวาน มนั เคม็ มะเร็งชอบ ห้ามกินอาหารหรือของแสลง เช่น ของเหม็น ของคาว ปลาร้า ปลาเจ่า ปลาเค็ม ไข่แดง นม นำ�เต้าหู อินทผาลัม เป็นต้น ภรรยาผมเป็นมะเร็งต่อมนำ�เหลือง Lymphoma มาเป็นเวลาถึง ปัจจุบัน 15 ปี กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนและปฏิบัติ ว่าด้วยเรื่องการกินอาหารอย่างเคร่งครัด ก้อนมะเร็งไม่โต ไม่แพร่กระจาย เมื่อ 3 วันที่ผ่านมาภรรยา ผมชิมกะปิดิบๆ เพื่อทดสอบว่าเค็มมากไปไหม เพียงแตะปลายลิ้นไม่ได้กลืนลงท้อง วันรุ่งขึ้นมีอาการแพ้ให้เห็นประจักษ์ ขึ้นเป็นตุ่มขอบแดงๆ ที่ขาทั้งสองข้าง ข้างละเกือบ 10 ตุ่ม และรู้สึกร้อน วูบวาบที่น่อง เนื่องจากกะปิเป็นของหมักดอง และเหม็นคาว ยกตัวอย่าง ใหเ้ หน็ พอเปน็ สงั เขปวา่ คนเปน็ มะเรง็ ตอ้ งระวงั เรอื่ งอาหารการกนิ ใหจ้ งหนกั มิใช่ว่ากินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนแล้ว จะกินอาหารได้ ทุกอย่างเหมือนคนที่ไม่เป็น กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 85
มะเรง็ มดลกู ..นา่ กลวั .!! ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าสุภาพสตรีควรตรวจมะเร็งมดลูก ปีละ 1-2 ครั้ง หากพบว่าเป็นมะเร็งระยะแรกๆ หมอจะตัดมดลูกทิ้งเพื่อ สกัดการแพร่เชื้อไปยังอวัยวะส่วนอื่นของร่างกาย แต่ถ้าพบในระยะ 3 หรือ ระยะ 4 (สุดท้าย) หมอจะไม่ตัดมดลูกทิ้ง เพราะมะเร็งลามไปยังอวัยวะ สว่ นอืน่ แล้ว จึงยากแก่การรกั ษา ภรรยาเพ่ือนผมเป็นมะเร็งมดลูกเพิง่ พบใน ระยะสดุ ทา้ ย หมอรกั ษาจนยอม เพราะไมต่ อบสนองทงั้ คโี มและการฉายแสง จงึ ยอมให้กลับไปรกั ษาตัวท่บี ้านกลบั มาบ้าน เธอกินขา้ วได้นอ้ ย นานเข้าทาํ ใหน้ �ำ ต าลต�ำ เมอ่ื กนิ น�ำ ป น่ั ใบไมส้ ดและผกั สดทไ่ี มผ่ า่ นความรอ้ นกอ่ นอาหาร เชา้ 300 cc มอี าการมนึ หวั คลนื่ ไสแ้ ละอาเจยี นจนน�ำ ป นั่ ใบไมส้ ดและผักสดที่ ไม่ผ่านความร้อนออกหมด ถามว่าภายหลังกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดโดย ไม่ผ่านความร้อนแล้ว ทําไมมีอาการดังกล่าว จนกระทั่งอาเจียน ขอเรียน ว่าเกิดจากนำ�ตาลตำ�มาก กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน ยิ่งทําให้นำ�ตาลตำ�ลงไปอีก ในที่สุดก็อาเจียนขับทิ้ง บางคนอาจจะอาเจียน เพราะมีรสขมมากเกินไป ตับรับไม่ไหวก็ขับทิ้งเช่นกัน มะเร็งมดลูกรายนี้ที่ตัดว่าแปลก เพราะถึงเวลาขับถ่ายอุจจาระ ไม่ได้ ออกทางทวารหนัก แต่กลับออกทางอวัยวะเพศ เป็นเพราะเชือมะเร็งลาม ไปทาํ ให้ มดลกู (Uterus) กบั ลาํ ไสใ้ หญ่ (Rectum) ทะลเุ ชอ่ื มตอ่ กนั เนอ่ื งจาก อวัยวะสองอย่างนี้ มีตําแหน่งเรียงขนานชิดกัน ถ้าเป็นอย่างนี้อาจมีผลให้ มดลูกติดเชื้อได้ เป็นกําลังใจให้สู้ต่อไป ด้วยการกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่าน ความร้อน กินก่อนอาหารเที่ยง 300 cc. ก่อนอาหารมื้อเย็น 300 cc. โดย ก่อนกินนำ�ปั่นใบไม้สดฯ ให้กินกล้วยนำ�ว้าห่ามๆ 1-2 ลูก ตามด้วยกระเจี๊ยบ เขยี ว 5 ฝกั ลวกดว้ ยน�ำ ร อ้ น 10 วนิ าที ตามดว้ ยผลไม้ เชน่ มะละกอ แอปเปล้ิ แตงโม แก้วมังกร พุทรา เป็นต้น แล้วจึงกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ 86
ผ่านความร้อน ตามด้วยข้าวสวยหรือข้าวต้ม 1 ถ้วย พร้อมโปรตีนที่เป็น ปลา ปู กงุ้ นดิ หนอ่ ย ในเวลา 10.30 น. กนิ Blenders เปน็ อาหารสาํ เรจ็ รปู 1 แก้ว 6 ช้อน ชงด้วยนำ�อุ่น มื้อเช้าให้กินผลไม้แต่ไม่ต้องกินนำ�ปั่นใบไม้ สดและผกั สดทไ่ี มผ่ า่ นความรอ้ น สว่ นมอ้ื เยน็ ใหก้ นิ เหมอื นมอื้ เทย่ี ง อาการมนึ หวั หรอื หวิวๆ คลื่นไส้และอาเจียนน่าจะหาย เพราะนำ�ตาลจะไม่ตำ� แต่หลัง 18.00 น. ไม่กินของหวานทุกชนิดและนอนไม่เกิน 22.00 น. นอนให้หลับ ลึก เพื่อให้เอ็นไซม์ที่ได้จากนำ�ปั่นใบไม้สด ช่วยซ่อมอวัยวะที่สึกหรอหรือ ผิดเพี้ยนไปให้กลับดีเหมือนเดิม หากยังหลับไม่ลึก ควรขอยานอนหลับชื่อ แอตติแวนฤทธิ์สั้น 5 ชั่วโมง กินไปสักระยะก่อน ซื้อยาตัวนี้ได้จากใบสั่ง ของหมอเท่านั้น อย่าลืม ต้องไม่กินไข่แดง นม นำ�เต้าหู นำ�มะพร้าวอ่อน ปลาเจ่า ปลาร้า ของเหม็น ของคาว ไม่กินโปรตีนมาก ไม่กินสารปรุงรสทุกชนิด ให้ กินอาหารรสจืด ไม่กินหวาน มัน เค็ม รักษาโดยไม่ให้อาหารแก่เซลล์มะเร็ง มันก็ไม่โต ไม่ทําร้ายเรา ให้หายไวๆ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 87
กนิ น�ำ ป้ น่ั ใบไมส้ ด รกั ษามะเรง็ ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนวิธีการรักษาโรคมะเร็ง ภรรยาผมเป็น มะเร็งต่อมนำ�เหลือง (Lymphoma) มาเป็นเวลาย่างเข้าปีที่ 15 เคยให้ คีโมมาแล้ว 10 ปี 5 ครั้งและฉายแสงที่บริเวณคอ 25 แสง บริเวณไขสันหลัง 11 แสง (บริเวณนี้ฉายมากไม่ได้) ไม่มีคีโมที่จะให้อีกต่อไปแล้ว เข็มละล้าน บาทก็เคยให้มาแล้ว ปัจจุบันผมปั่นนำ�ใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน กรองกากทิ้ง ให้กินก่อนอาหารเที่ยง 700 cc.ก่อนอาหารเย็น 300 cc. โดยกินกล้วยนำ�ว้า ห่ามๆ 1-2 ลูก และผลไม้อื่นก่อน ตามด้วยข้าว 4 ช้อนส้อมพร้อมไข่ขาววัน ละ 4 ฟอง และปลาหรือกุ้งนิดหน่อย ช่วงบ่ายกิน Blendera 1 แก้ว 6 ช้อน ชงกับนำ�อุ่น (กินมากกว่านี้ ก้อนมะเร็งโตขึ้น) และกินเม็ดมะม่วงหิมพานต์ คั่วไม่ใส่เกลือนำ�ตาล กินพร้อมกับงาดําคั่ว 3 ช้อนแกง (กินเกิน 4 ช้อนแกง ท้องเสีย) งาดําช่วยไม่ให้เซลล์มะเร็งสร้างเส้นเลือดเพิ่ม มะเร็งก็ไม่โต งดอาหารแสลงมะเร็งทง้ั หมด เนน้ กินอาหารรสจดื เทา่ นนั้ ไมเ่ คยออก กําลังกายอย่างอื่น นอกจากทํางานบ้านทั้งวันทุกวันแข็งแรงมาก ทํางาน จนลืมว่าตัวเองเป็นโรคมะเร็ง ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าเป็นมะเร็ง ก็จะดูไม่ออกว่า ป่วยครับ การกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน ทําให้คงความ เป็นด่างของเลือดไว้ได้ กินผลไม้สดก็ทําให้เลือดเป็นด่าง ในแต่ละวันไม่มี อาหารที่ทําให้เลือดเป็นกรด ฉะนั้นก้อนมะเร็งเดิม มีขนาดเท่าไข่ไก่ที่ขา หนีบ รักแร้ ช่องท้อง ปัจจุบันมีขนาดเท่าปลายนิ้วเท่าปลายนิ้วก้อยและ บางก้อนหายไปเลย หมอนัดตรวจเลือดทุก 4 เดือน เลือดดีทั้งขาวทั้งแดง ค่ามะเร็งไม่เคยเกินเกณฑ์มาตรฐาน หลังฉายแสงใหม่ๆ ต่อมรับรสกลายเป็นลิ้นจระเข้ ต่อมนำ�ลายเหือด แห้ง ถามหมอที่ฉายแสงหมอบอกเสียแล้วเสียไปรักษาไม่ได้ กินนำ�ปั่นใบไม้ 88
สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน 4 เดือน ต่อมรับรสและต่อมนำ�ลายกลับ คืนมา 80 เปอร์เซ็นต์ กินต่อไปอีกเดือนหนึ่ง ทั้งสองต่อมกลับคืนมาเกือบ เต็มร้อยจนถึงปัจจุบัน ส่วนเส้นเลือดที่เคยให้คีโมมา 10 ปี ผลจากกินนำ�ปั่นใบไม้สดและ ผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนทําให้เส้นเลือดนุ่มสามารถเจาะเลือดได้ปกติ (เส้นเลือดไม่แตก) ค่าตับ ค่าไต (Creatinine) ก็ดีมาก 0.60 เห็นว่าการ รักษาด้วยวิธีนี้ได้ผลดีครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 89
ผปู้ ว่ ยรว่ มมอื ..รกั ษาโรคมะเรง็ ไดผ้ ล ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าการรักษาโรคมะเร็งจําเป็นมากที่ผู้ ป่วยต้องให้ความร่วมมือ เนื่องจากวิธีรักษาโรคมะเร็ง เราต้องไม่ให้อาหาร แก่เซลล์มะเร็ง จึงต้องกินอาหารรสจืด ห้ามกินรสหวาน มัน เค็ม เพราะ มะเร็งชอบ มีผู้ป่วยหลายคนที่ทําไม่ได้ เนื่องจากกินอาหารอร่อยด้วยสาร ปรุงรสมาตลอด จะมากินอาหารรสจืดจึงทําใจยาก ประการต่อไป เปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมไม่ให้มะเร็งเติบโต ด้วยการ ควบคมุ ใหเ้ ลอื ดเปน็ ดา่ งตลอด มะเรง็ เตบิ โตในสภาพแวดลอ้ มทเ่ี ลอื ดเปน็ กรด โดยกนิ ผลไม้ไม่หวานนักเปน็ อาหารหลัก และกนิ นำ�ป ั่นใบไมส้ ดและผกั สดที่ ไม่ผ่านความร้อนก่อนอาหารเที่ยง 700 cc. ก่อนอาหารเย็น 300 cc. หลัง 18.00 น. ไม่กินของหวานทุกชนิดและนอนไม่เกิน 22.00 น. นอนหลับลึก เพราะผลไม้กับพืชสดที่ไม่ผ่านความร้อน ทําให้เลือดเป็นด่างและพืชสดมี พฤกษะเคมีธรรมชาติหลายชนิด เป็นยาสมุนไพรที่มีความเป็นยาเต็มเปี่ยม งดอาหารแสลงโรคมะเร็ง ได้แก่ ปลาร้า ปลาเจ่า ปลาเค็ม ของเหม็น ของคาว ของหมักดอง ไข่แดง นม นำ�เต้าหู้ นำ�มะพร้าวอ่อน อินทผาลัม เป็นต้น กินไข่ขาววันละไม่เกิน 6 ฟอง กินเกินท้องอืดเพราะย่อยยาก กิน งาดําคั่ว วันละ 3 ช้อนแกง ป้องกันสร้างเส้นเลือดเพิ่มในเซลล์ มะเร็งมัน ก็ไม่เติบโต ฉะนน้ั ถา้ ผปู้ ว่ ยไมใ่ หค้ วามรว่ มมอื ยงั กนิ สารปรงุ รสและอาหารแปรรปู จากโรงงานอุตสาหกรรม เช่น ปลากระป๋อง เป็นต้น ทําให้เลือดเป็นกรด มะเรง็ กไ็ มห่ าย กนิ เนือ้ แดงสตั วใ์ หญม่ ไี ขมนั อิม่ ตวั ทาํ ใหเ้ ลอื ดเปน็ กรดมะเรง็ ก็ไม่หาย ตรงกันข้ามถ้าผู้ป่วยให้ความร่วมมือด้วยดี สามารถคุมมะเร็งได้ ไม่เติบโต ไม่แพร่กระจาย ผู้ป่วยกับเซลล์มะเร็งอยู่ด้วยกันได้เป็นปกติ ครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 90
คนเปน็ มะเรง็ ควรกนิ ไขข่ าววนั ละ 6 ฟอง ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่า โรคมะเร็งเกิดจากเลือดเป็นกรด และภายในร่างกายมีออกซิเจนไม่เพียงพอ มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ค่อน ข้างมากและมีภูมิต้านทานตำ� อันเกิดจากความเครียด เซลล์จึงปรับตัวเพื่อ ความอยู่รอด จนเกิดการผ่าเหล่า Mutation เป็นเซลล์มะเร็งร้าย ปกติคนเราเลือดเป็นด่าง แต่เพราะกินนำ�ตาลเกินและหรือกินเนื้อ สัตว์มาก เกินไปทําให้เลือดเป็นกรด จําเป็นต้องกินอาหารที่ทําให้เลือดเป็น ด่างกลับสู่สภาพเดิม ด้วยการกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความ ร้อนหลัง 18.00 น. ไม่กินของหวานทุกชนิดและควรนอนไม่เกิน 22.00 น. กินผลไม้ไม่หวานเป็นอาหารหลัก (ไม่ใช่ข้าวเป็นอาหารหลัก) กินข้าวมื้อ ละ 2 ช้อนส้อม( ถ้ากินข้าวกล้องยิ่งดี) หายใจเอาออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย ลึกๆ ชีวิตประจําวันหลีกเลี่ยงความเครียด ออกกําลังกายต่อเนื่องวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน เป็นการคลายเครียด และนอนหลับลึก งดกินอาหาร แสลงมะเร็ง กินโปรตีนจากพืชเช่น ถั่วทั้งหลาย ยกเว้นถั่วเหลืองหรือถั่วที่ ไม่มีสารทองแดง กินไข่ขาววันละ 6 ฟอง กินเกินทําให้ท้องอืดเพราะย่อย ยาก ควรกินงาดําคั่ววันละ 3 ช้อนแกง เพื่อป้องกันการสร้างเส้นเลือดเพิ่ม ในเซลล์มะเร็ง เนื่องจากก้อนมะเร็งเติบโตด้วยการสร้างเส้นเลือดเพิ่ม และ ห้ามกินถั่วเหลือง เพราะมีสารทองแดง (Cu) มันจะช่วยให้มีการสร้างเส้น เลือดเพิ่มทําให้ก้อนมะเร็งโตเร็ว กินอาหารรสจืดเท่านั้น มะเร็งชอบรสหวาน มัน เค็ม เราไม่ให้อาหาร มะเร็งก็ไม่โต มันไม่ทําร้ายเรา จึงอยู่ด้วยกันได้เป็นปกติ อย่าลืมว่าทุกคนมี เซลล์มะเร็งอยู่ ในร่างกายตามที่เรียกกันว่า อนุมูลอิสระ (Free Radical) การรักษาโรคมะเร็งที่ถูก ต้องไม่ให้คีโมหรือฉายแสง เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง เพราะมันจะทําลายเซลล์ดีๆ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 91
ผลไมอ้ ะไร ? คนเปน็ มะเรง็ ไมค่ วรกนิ ..!! ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ไดร้ ับคาํ ถามว่าผลไม้อะไรบ้างคนเปน็ โรคมะเร็ง ไมค่ วรกิน? คําตอบคอื ผลไม้รสหวานจดั เช่น ทุเรยี น ลาํ ไย ลองกอง องุ่นแดง สบั ปะรด ลิน้ จี่ กลว้ ยหอม กลว้ ยไข่ เป็นต้น เพราะกินน�ำ ต าลมากทําให้เลือด เป็นกรด เซลล์มะเร็งเติบโตในสิ่งแวดล้อมที่เลือดเป็นกรด อินทผาลัมไม่ควรกิน เพราะมีสารทองแดง (Cu) ช่วยสร้างเส้นเลือด เพิ่มในเซลล์มะเร็งทําให้ก้อนมะเร็งเติบโตเช่นเดียวกัน ถั่วเหลืองก็มีสาร ทองแดงไม่ควรกินเช่นกัน พืชตระกูลถั่วตัวอื่นกินได้ครับ สําหรับพืชที่มีแป้งไม่ควรกินมาก เช่น มันม่วง ฟักทอง เป็นต้น เนอื่ งจากแป้งจะเปลี่ยนเปน็ นำ�ต าล อาจมีนำ�ตาลเกินทาํ ใหเ้ ลือดเปน็ กรดได้ เพือ่ ความไมป่ ระมาท กนิ น�ำ ป ัน่ ใบไมส้ ดและผกั สดทีไ่ มผ่ า่ นความรอ้ น ก่อนอาหารเที่ยง 700 cc. ก่อนอาหารเย็น 300 cc. กรองกากทิ้ง เนื่องจาก นำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน มีคุณสมบัติลดนำ�ตาลได้ดีและ คงความเป็นด่างในร่างกายไว้ได้ เซลล์มะเร็งก็ไม่เติบโตในสภาพแวดล้อมที่ เลือดเป็นด่าง และกินผลไม้ไม่หวานนักเป็นอาหารหลัก เพราะผลไม้ทําให้ เลอื ดเปน็ ดา่ งเชน่ กนั มะเรง็ ไมโ่ ต ไมโ่ จมตเี รา ไมแ่ พรก่ ระจายไปยงั อวยั วะอน่ื ๆ เราก็อยู่กันได้อย่างปลอดภัย กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 92
ความยากของการรกั ษาโรคมะเรง็ คอื ? ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าการรักษาโรคมะเร็งที่ถูกต้อง ด้วย การทําให้เลือดเป็นด่างอยู่เสมอ อย่าให้เลือดเป็นกรด การควบคุมไม่ให้ เลือดเป็นกรด ก็ด้วยการกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน ก่อนอาหารเช้า 600 cc. ก่อนอาหารเย็น 300 cc. หลัง 18.00 น. ไม่กิน ของหวานทุกชนิดและนอนไม่เกิน 22.00 น. กินผลไม้ไม่หวานเป็นอาหาร หลักให้เกือบอิ่ม จึงกินข้าว 2 ช้อนส้อม พร้อมโปรตีนนิดหน่อยและอาหาร ทุกมื้อต้องมีรสจืดเท่านั้น มะเร็งชอบรสหวาน มัน เค็ม เราไม่ให้อาหารแก่ มะเร็ง มันก็ไม่เติบโต ไม่แพร่กระจาย ไม่ทําร้ายเรา นอกจากนี้ ต้องไม่กินอาหารแสลงโรคมะเร็ง เช่น ไม่กินปลาร้า ปลาเค็ม ของหมักดอง ไข่แดง นม นำ�เต้าหู้หรืออาหารทําจากถั่วเหลือง ไม่ กินเนื้อแดง (Red Meat) สัตว์ใหญ่ ได้แก่ วัว หมู เพราะเนื้อแดงมีไขมันอิ่ม ตัวทําให้เลือดเป็นกรด ไม่กินสารปรุงรส เช่น ผงชูรส เปน็ ต้น เพราะสาร ปรุงรสทําให้เลือดเป็นกรด ไม่ดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ เพราะทําจะให้ เลือดเป็นกรด หากผูป้ ่วยโรคมะเรง็ ไมม่ ีวนิ ัยการกิน ยังกนิ อาหารอร่อยไม่เลอื ก เซลล์ มะเร็งจะอาละวาด ทําร้ายเราอย่างรวดเร็วและเจ็บอย่างทรมาน แม้กระทั่ง มอร์ฟีนก็เอาไม่อยู่ ต้องฉีดโดมิคุ่มให้นอนหลับยาวเท่านั้น บอกรายละเอียด เพื่อให้ท่านที่ป่วยเป็นมะเร็ง งดกินอาหารอร่อยที่เคยกิน หันมากินอาหาร รสจืด มีชีวิตทดี่ เี พ่อื ตวั เองและครอบครัวตอ่ ไป กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 93
เดก็ อายไุ มถ่ งึ 10 ขวบเปน็ มะเรง็ ผม สรุ นิ ทร์ วตั ตธรรม ขอเรยี นวา่ หลานของเพือ่ นอายยุ งั ไมถ่ งึ 10 ขวบ ป่วยเป็นโรคมะเร็ง (ลืมถามว่าเป็นที่อวัยวะส่วนไหน) สอบถามรายละเอียด ปรากฏว่า ชอบกินขนมกรุบกรอบประจํา ถึงขนาดไม่ยอมกินข้าว หากแต่ กินขนมจนอิ่มแทนข้าวทุกวัน ผมเคยเรียนแล้วว่าขนมกรุบกรอบ นอกจาก ทําให้ไตเสื่อมแล้ว ยังทําให้เลือดที่ปกติเป็นด่างกลายเป็นกรดอีกด้วย จะ เห็นได้ว่าความเป็นเด็ก น่าจะยังไม่มีภาระหรือเรื่องที่ทําให้เครียด ฉะนั้น สาเหตุโรคมะเรง็ มาจากเลอื ดเปน็ กรด ต้องใหค้ วามสําคญั ภรรยาผมซึ่งเป็น มะเรง็ ตอ่ มน�ำ เ หลอื งมาเปน็ เวลา 14 ปแี ลว้ กนิ ขา้ วนอกบา้ นเพยี ง 4 วนั มะเรง็ กําเริบเป็นไข้และก้อนมะเร็งโตขึ้น ต้องกินน�ำ ป น่ั ใบไมส้ ดและผกั สดทไี่ มผ่ า่ น ความรอ้ น และกนิ อาหารรสจดื 1 เดอื นจงึ หายเปน็ ปกติ เป็นการยำ�เตอื นวา่ อาหารการกินของคนเป็นโรคมะเรง็ ต้องใหค้ วามสาํ คญั เปน็ หนง่ึ ครบั หลานของเพอ่ื นทเี่ ปน็ มะเรง็ ไมย่ อมกนิ น�ำ ป นั่ ใบไม้ เพราะไมอ่ รอ่ ยและ เหม็นเขียว นี่คือปัญหาหนักใจของพ่อแม่ในการตั้งใจรักษาลูกรัก ก็ต้องหา ทางกล่อมลูก และอาจใช้สลิงค์ดูดนำ�ปั่นใบไม้ฉีดลงในคอทีละนิด เลยโคน ลิ้น จะไม่รู้สึกขม และผสมสับปะรด ฝรั่ง กล้วยนำ�ว้าห่ามๆลงไปบ้าง จะกิน ง่ายขึ้นครับ อย่าลืมกรองกากทิ้งนะครับ กินก่อนอาหารเช้า 300 cc. ก่อน อาหารเย็น 300 cc. แต่ต้องเปลี่ยนมากินผลไม้ไม่หวานเป็นอาหารหลักกิน ข้าว 2 ช้อนส้อมในแต่ละมื้อ หยุดกินของหวาน และอาหารแสลงโรคมะเร็ง ทั้งหลาย ที่ทําให้เลือดเป็นกรด โรคมะเร็งไม่มียารักษานะครับ พยายามให้ กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนดีที่สุดครับ เป็นกําลังใจให้ ผู้ป่วยมะเร็งทกุ ทา่ นนะครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 94
ฟงั เสยี งจากคนเปน็ มะเรง็ ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่าเมื่อคนเป็นมะเร็ง มีข้อจํากัดเรื่อง การกินอาหาร มีเสียงบ่นตามมาทันทีว่า ต่อไปนี้กินอะไรไม่ได้เลยหรือ เช่น กนิ ก๋วยเตีย๋ วกไ็ ม่ได้ เพราะใสผ่ งชูรส กินแบรนดย์ อดซปุ ไกก่ ็ไม่ไดเ้ ช่นกัน กิน เนื้อแดงสัตว์ใหญ่ก็ไม่ได้เพราะทําให้เลือดเป็นกรด กินราดหน้าใส่เต้าเจี้ยว ก็ไม่ได้ เพราะเป็นของหมักดองทําให้เลือดเป็นกรด สรุปว่าอาหารที่เคยกิน อร่อย ต่อไปนี้กินไม่ได้เลย ขอให้ทบทวนดูนะครับ เพราะกินอาหารอร่อยๆที่ผ่านมา จึงเป็นโรค มะเร็ง ผู้ป่วยจึงต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเสียใหม่ โดยกินผลไม้ไม่หวาน เป็นอาหารหลัก เพราะกินผลไม้ทําให้เลือดเป็นด่าง มะเร็งจะไม่เติบโตใน สภาพแวดล้อมที่เลือดเป็นด่าง ทุกมื้ออาหารกินผลไม้ให้เกือบอิ่มแล้ว จึง กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนก่อนอาหารมื้อเที่ยง 600 -700 cc. ก่อนอาหารมื้อเย็น 300 cc. ตามด้วยข้าวมื้อละ 4 ช้อนส้อมพร้อม โปรตีนที่เป็นปลา กุ้ง ปู นิดหน่อย วันหนึ่งกินโปรตีนไม่เกิน 200 กรัม (รวม ไข่ขาววันละไม่เกิน 6 ฟอง) กินงาดําคั่ววันละ 3 ช้อนแกง ไม่กินอาหารแสลงมะเร็ง ไม่กินสารปรุงรสทุกชนิด ไม่กินอาหาร แปรรูปจากโรงงานอุตสาหกรรม ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของหมักดอง จะเห็นว่าในแต่ละวันเรากินผลไม้มาก จึงกินอาหารอื่นได้น้อยลง และถ้า อยากกินอาหารอร่อยที่เคยกิน ขอให้คิดเสมอว่าอาหารอร่อยนั่นแหละกิน แล้วมะเร็งอาละวาดทันที ตัดใจยอมอดดีกว่าครับ อย่าลืมว่าอาหารทุกมื้อ อย่ากินเผื่อมะเร็ง เพราะหลักการรักษาโดยให้เซลล์มะเร็งอดอาหารมันก็ไม่ โต มะเร็งชอบรสหวาน มัน เค็ม เราจึงไม่กินอาหารที่มะเร็งชอบ ขอให้ระลึกว่า เรากินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน เลิกหาความสุขด้วย การกินตลอดชีวิตได้แล้วครับ ท่านกับมะเร็งก็อยู่ด้วยกันได้ สู้ๆๆๆ ครับ กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 95
หนานเฉาเหวยรกั ษามะเรง็ ใหห้ ายได้ ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ได้รับไลน์จากเพื่อนคนหนึ่งเขาเล่าว่า มีคนเปน็ โรคมะเรง็ กระเพาะอาหารระยะสดุ ทา้ ย หมดทางรกั ษา กนิ หนานเฉาเหวย่ เช้า เที่ยง เย็นและก่อนนอนมื้อละ 3 ใบ ค่ามะเร็งจาก 7 ลดเหลือ 0 ปัจจุบัน ออกรอบตีกอล์ฟฉลุยเลย ขอเรียนว่าหนานเฉาเหว่ยเป็นชื่อภาษาจีน ชื่อภาษาไทยภาคเหนือ คือ ป่าเห่วหมอง ชื่อไทยว่ากระท่อมมาเลย์ ต้นร้อยโรค ต้นครอบจักรวาล ต้นป่าช้าเหงา ลดความดันโลหิตสูงดีนักแล ลดนำ�ตาลในเลือดก็ดีและใช้ รักษาโรคอื่นอีก 98 โรค ครบ 100 โรคพอดี จึงได้ชื่อว่าต้นร้อยโรค หนานเฉาเหว่ยใช้รักษาโรคมะเร็งได้ ผมเชื่อว่าจริง แต่ถ้าให้แน่นอน ควรใชใ้ บไมส้ ดและผกั สดทไ่ี มผ่ า่ นความรอ้ นหลายชนดิ รวมทง้ั หนานเฉาเหวย่ ด้วย ใส่โถปั่นรวมกัน กรองกากทิ้งกินนำ�ที่ได้จากการปั่นจะดีกว่า เนื่องจาก มี Phytochemical พฤกษะเคมีหลายอย่างช่วยรักษาโรค NCDs ซึ่งรวม โรคมะเรง็ อยดู่ ว้ ย อนั เกดิ จากน�ำ ต าลเกนิ สาํ หรบั หนานเฉาเหวย่ กนิ คนละ 3-4 ใบต่อคนต่อวันครับ ไม่ต้องกินวันละ 4 มื้อครับ ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดตีบ ภูมิแพ้ แพ้ภูมิตัวเองหรือโรคพุ่มพวง โรคอ้วน เขา่ เสอื่ ม เซก็ สเ์ สื่อม ผวิ หนังเห่ยี วย่นแกเ่ กนิ และโรคมะเร็งครบ เลยครับ นอกจากนี้ยังเป็นยาแก้ท้องผูกได้ดี คนท้องผูกไม่ต้องกินมะขาม แขก กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนก่อนอาหารมื้อเที่ยง 300 cc. กอ่ นอาหารมอ้ื เยน็ 300 cc. ดกี วา่ สว่ นคนเปน็ มะเรง็ ตอ้ งกนิ เพิ่ม มื้อเที่ยงเป็น 700 cc. กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 96
..วันนี้ท่านกินนำ�ปั่น ใบไม้สดและผักสด ที่ไม่ผ่านความร้อน แล้วหรือยัง ? 97
98
ตอ่ มลกู หมากโต ปสั สาวะขดั ..อยา่ ตกใจ ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนว่า ใครที่เป็นต่อมลูกหมากโต ปัสสาวะ ขัด อย่าตกใจ เพื่อนผมกินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนก่อนอาหาร เช้า 300 cc. ก่อนอาหารเย็น 300 cc. เพื่อรักษาโรคเบาหวาน กินเป็น เวลาเดือนเศษ โรคเบาหวานหายขาด ผลพลอยได้ปรากฏว่า ต่อมลูกหมาก โตมีขนาดเล็กลง จากการซาวนด์ดูและอาการปัสสาวะขัด หายเป็นปกติ ปัจจุบันเขายังกินนำ�ปั่นใบไม้ตามปกติ เสมือนกินอาหารเป็นยา ลองใช้ทางเลือกนี้ โดยไม่ใช้ยารักษาดูนะครับ ใช้ใบไม้อะไรก็ได้ที่กิน ได้ อย่าลืมใส่มะเขือเทศราชินีครั้งละ 1 กํามือ ป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก ต้มนำ�ให้เดือดปิดไฟ ใส่มะเขือเทศลงไปทิ้งไว้ครึ่งนาที นํามาแช่นำ�ให้เย็น ใส่ ในโถปั่นรวมกับผักอื่นๆ ปั่นเสร็จกรองกากทิ้ง หลัง 18.00 น. ไม่กินของ หวานทุกชนิดและควรนอนไม่เกิน 22.00 น. นอนให้หลับลึก กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 99
น�ำ ป้ น่ั ใบไมส้ ด ใชร้ กั ษาโรครมู าตอยด์ ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขออนุญาตเขียนบทความจากเรื่องจริง กล่าว คือ แม่ของเพื่อนรุ่นน้องเป็นโรครูมาตอยด์เรื้อรังมานานหลายปี กินยา หลายขนานรักษาไม่หาย เจ็บกระดูกอย่างทรมาน ลูกชายที่เป็นเพื่อนผมมา ปรึกษากับผม ผมคิดว่า โรครูมาตอยด์ เป็นโรคเกิดจากแพ้ภูมิตัวเองเหมือน โรคพุ่มพวง จึงแนะนําให้กินนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไมผ่ า่ นความรอ้ นวนั ละ 600 cc. กนิ กอ่ นอาหารเชา้ กนิ ประมาณเดอื นเศษ โรครูมาตอยด์หายขาด ไม่เจ็บกระดูกต่อไปแล้ว จึงนํายาไปทิ้งถังขยะเทศบาลหมดครับ แกบอกว่า ไม่คบกับยาอีกต่อไปแล้ว เพราะกินมานานยังไม่หาย ทํากินเถอะครับนำ�ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนใส่ สับปะรด ชิ้นเล็กๆ 1 ชิ้น ป้องกันเหม็นเขียว กรุณาบอกต่อ ขอบคุณครับ.. 100
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143