Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ทวีปเอเชีย.pdf

ทวีปเอเชีย.pdf

Published by Panparanu's Thongthai, 2021-07-23 14:41:38

Description: ทวีปเอเชีย.pdf

Search

Read the Text Version

เอเชียกลาง ภมู ิภาคเอเชยี กลาง ประกอบดว้ ย ๕ ประเทศ ไดแ้ ก่ คาซคั สถาน อซุ เบกสิ ถาน ทาจกิ สิ ถาน เตริ ก์ เม- นิสถาน และสาธารณรฐั คีรก์ ีซ ประเทศคาซคั สถาน ธงชาตขิ องคาซคั สถาน

ตราแผน่ ดนิ ของคาซคั สถาน ทตี่ งั้ ของคาซคั สถาน

เมอื งหลวง นรู -์ ซลุ ตนั

การแต่งกาย

อาหาร อาหารคาซคั แบบดงั้ เดมิ เป็นทีร่ ูจ้ กั ของนกั ชิมท่วั โลก เรื่องราวเก่ียวกบั พวกเขาควรเร่มิ ตน้ ดว้ ยขนม ปังทเ่ี ป็นที่นยิ มในคาซคั สถาน มอี ย่สู องสายพนั ธุ์ ตวั เลือกแรกคอื baursaki ซึ่งเป็นชนิ้ สว่ นของ แป้งยา่ งในนา้ํ มนั เดอื ด ตวั เลอื กทีส่ องคือเคก้ tandyr พวกเขาจะอบดา้ นในของเตาอบ tandyr เนอ่ื งจาก baursaks สามารถปรุงสกุ ในหมอ้ ในเงอ่ื นไขธุดงคไ์ ดเ้ สมอมากขึน้ ในความ ตอ้ งการ นอกจากนขี้ นมปังคาซคั ยงั สามารถแสดงดว้ ยผลติ ภณั ฑเ์ ช่น shilpek (เคก้ แบนบาง ๆ ), tandyr-nan, ยาสบู - นา (อบบนถา่ น) และ shek-shek





ประเพณีตา่ งๆ งานแต่งงานเป็นเหตกุ ารณส์ าํ คญั สาํ หรบั ผคู้ นท่วั โลก แตส่ าํ หรบั คาซคั นนั้ เป็นงานสาํ คญั โดยเฉพาะ ทีม่ าพรอ้ มกบั ประเพณแี ละพิธีกรรมจาํ นวนมาก พอ่ แมข่ องค่บู ่าวสาวในอนาคตเรมิ่ สมคบคิดกนั นานก่อนงานแต่งงาน จากนน้ั การจบั คแู่ ละการจ่ายเงนิ ของ kalym (ราคาเจา้ สาว) ก็มาถงึ งาน แต่งงานเองแบ่งออกเป็นสองสว่ นคอื งานแตง่ งานในบา้ นเจา้ สาวและงานแต่งงานในบา้ นเจา้ บา่ ว

ท่อี ยอู่ าศยั



อซุ เบกิสถาน ธงชาติ

ภมู ปิ ระเทศ เมืองหลวงทาชเคนต์ (องั กฤษ: Tashkent หรือ Toshkent; อซุ เบก: Тошкент; รสั เซยี : Ташкент; ชื่อมีความหมายในภาษาอซุ เบกว่า \"นครศิลา\") เป็นเมอื งหลวงและเมอื งใหญส่ ดุ ของประเทศอซุ เบกสิ ถาน มีประชากรประมาณ 2 ลา้ นคน

การแต่งกาย เครอื่ งแต่งกายของชาวอซุ เบ๊กดงั้ เดมิ นนั้ ไม่มกี ารเปลย่ี นแปลงและยงั คงอย่จู นกระท่งั สนิ้ สดุ ของ ศตวรรษท่1ี 9 เพราะในประเทศเป็นชาวมสุ ลิมทงั้ หมด ชนชาวมสุ ลิมในอเุ บกสิ ถานไดม้ กี ารสะทอ้ น ในเรอื่ งของเคร่ืองแตง่ กาย ผชู้ ายและผหู้ ญิงแต่งกายจากเสอื้ ผา้ ท่มี จี าํ กดั ในตเู้ สอื้ ผา้ รวมถึงเสอื้ คลมุ ทีใ่ หญย่ าวและมีแขน กางเกงขายาว และเสือ้ คลมุ สนั้



สถานท่ที ่องเทย่ี ว สถานทีท่ ่องเที่ยวยอดนิยมใน อซุ เบกสิ ถาน · 1. Metro Taschkent · 2. Chorsu Bazaar · 3. เรจิสถาน · 4. Teleshayakh Mosque · 5. Navoi Opera Theater

1. Metro Taschkent

2. Chorsu Bazaar

3. เรจิสถาน

4. Teleshayakh Mosque

5. Navoi Opera Theater

เทศกาลดนตรพี นื้ เมอื ง ชารค์ ทาโรนาลารี นบั เป็นเวทรี ะดบั โลกท่เี ปิดโอกาสใหศ้ ิลปินพืน้ บา้ นจาก นานาประเทศมาแสดงดนตรีพืน้ เมอื ง ทา่ มกลางฉากหลงั ทมี่ ีความเขม้ ขน้ ทางวัฒนธรรมและขนึ้ บญั ชีเป็นมรดกโลกอย่างจตรุ สั เรกสิ ถานในเมืองซามารค์ านด์

อาหารอาหารของชาวอซุ เบกจะเนน้ การใชเ้ สน้ ก๋วยเต๋ียวและเนือ้ แกะ อาหารทีข่ ึน้ ชอ่ื คอื Palov ซึ่งเป็นขา้ วผดั ผสมชิน้ เนือ้ , แครอทและหวั หอมห่นั ฝอย ปกติ Palov นอกจากจะเป็นอาหารที่ รบั ประทานกนั ในครวั เรอื น และไวส้ าํ หรบั แขกผมู้ าเยือนแลว้ Palov ยงั เป็นอาหารสาํ หรบั งาน สาํ คญั เชน่ งานแต่งงานอกี ดว้ ย อาหารอีกอย่างหนง่ึ คือ Shurpa ซง่ึ เป็นซปุ ...



นาน (non) ทาํ จากแปง้ โดยการอบในเตาดนิ เหนียวท่ีเรียกกนั ว่า ทานดีร์ (Tandir) ซึ่งผทู้ าํ มกั จะเป็นแม่บา้ น ชาวอซุ เบกมกั จะนยิ มทานกบั นา้ํ ผึง้ เนย แยมผลไม้ โดยการทานรว่ มกบั เครอื่ งเคยี งประเภทดังกลา่ วทาํ ใหม้ รี สชาติทีก่ ลมกล่อมย่ิงขนึ้

เอเซยี ตะวนั ออก มองโกเลยี องั กฤษ: Mongolia; มองโกเลีย: Монгол Улс มงกลอลุ สุ ) เป็นประเทศในทวปี เอเชยี ท่ี ไมม่ ที างออกส่ทู ะเลท่ใี หญ่เป็นอนั ดบั ท่ีสองของโลกรองจากประเทศคาซคั สถาน มพี รมแดนทาง เหนือตดิ กบั ประเทศรสั เซยี และทางใตต้ ิดกบั ประเทศจีน มพี นื้ ท่ีท่สี ามารถใชส้ าํ หรบั การเกษตรได้ นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละหนงึ่ มองโกเลียมีประชากรเพยี ง 3 ลา้ นกวา่ คน แตม่ ีพืน้ ที่ใหญ่กวา่ ประเทศไทยถงึ กว่า 3 เท่า ซึ่งทาํ ให้ ประเทศมองโกเลียเป็นหน่ึงในประเทศท่มี คี วามหนาแน่นของประชากรนอ้ ยทส่ี ดุ ในโลก ประชากร

ส่วนมากนบั ถอื ศาสนาพทุ ธนิกายวชั รยานแบบทเิ บต และประชากรรอ้ ยละ 38 อาศยั อยใู่ นเมือง หลวงอลู านบาตาร์ ภมู ิศาสตร์ ภาพถ่ายประเทศมองโกเลยี จากดาวเทยี ม ทีต่ งั้ และอาณาเขต ทศิ เหนือ ตดิ กบั ประเทศรสั เซยี ทิศใต้ ตดิ กบั ประเทศจนี ภมู ปิ ระเทศ พนื้ ทีส่ ่วนใหญเ่ ป็นท่รี าบทะเลทราย ทาํ ใหเ้ ป็นประเทศที่มีประชากรเบาบางที่สดุ ในโลก





ภมู ิอากาศ ในฤดรู อ้ นอากาศไม่รอ้ นมาก แต่ในฤดหู นาวอากาศหนาวมากและมีหมิ ะตก การแต่งกาย



อาหาร อาหารมองโกเลยี ไดร้ บั อิทธิพลอย่างมากจากการเลยี้ งปศุสตั วซ์ ่งึ มาตงั้ แต่สมยั โบราณมสี ว่ นรว่ ม โดยประชาชนทอ่ี าศยั อย่ใู นดินแดนของประเทศ ดังนน้ั อาหารของมองโกเลยี สว่ นใหญ่จะทาํ บน พนื้ ฐานของเนือ้ สตั วแ์ ละนม ในเร่อื งนีอ้ าหารของผอู้ ยอู่ าศยั มีความหลากหลายมาก พวกเขากิน ผลิตภณั ฑเ์ นอื้ สตั วท์ กุ ชนิด อาหารมองโกเลียใหบ้ ริการเนอื้ หลากหลายชนดิ เนือ้ ววั , เนอื้ แกะ, เนือ้ มา้ , เนือ้ แพะ, เนอื้ sarlik (ยาก)ิ ฯลฯ มีการบริโภค. คณุ สมบตั ิหลกั ของการปรุงอาหาร เพือ่ รกั ษาสารท่เี ป็นประโยชนใ์ นผลติ ภณั ฑม์ นั ไมไ่ ดน้ าํ ไปส่สู ภาพมาตรฐานน่นั คอื เนือ้ ถกู ทงิ้ ใหช้ นื้ ใน

อาหารของมองโกลมีซปุ จาํ นวนมากตามธรรมเนยี ม พวกเขาเกอื บจะไม่กนิ อาหารทอด คณุ ลกั ษณะนไี้ ดม้ กี ารพฒั นาในอดตี ไม่มอี ะไรจะทอดในบรภิ าษ ดงั นน้ั อาหารทกุ จานจึงถกู น่งึ หรอื ตม้ สว่ นใหญ่เนือ้ รมควนั และแหง้ อกี วิธีที่น่าสนใจในการเตรยี ม: วางแถบเนอื้ แคบ ๆ ไวใ้ ตอ้ าน พวกเขาเคม็ แลว้ ในตอนเยน็ จากนนั้ พวกเขาก็กนิ .



ประเพณี ชาวมองโกลนาํ วิถชี วี ติ ทีค่ ่อนขา้ งแยกจากกนั ดงั นนั้ ประเพณแี ละประเพณีโบราณจาํ นวนมากจึง ไดร้ บั การเกบ็ รกั ษาไวจ้ นถงึ ทกุ วนั นี้ ทีอ่ าศยั อย่ใู นประเทศเชื่อในลางบอกเหตยุ งั คงใหเ้ ด็กเล็กชอ่ื \"ไมม่ ตี วั ตน\" ท่ีแปลกและเกลีย้ กลอ่ มวิญญาณทม่ี กี ารเสยี สละในรูปแบบของกาํ มอื ขา้ ว. วนั หยดุ ของพวกเขาคอื การแข่งขนั ในความสามารถทจ่ี ะอย่ใู นอานมา้ และยงิ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งจากธนแู ละที่ สาํ คญั ทสี่ ดุ ในหม่พู วกเขา - เดือนสขี าว - คลา้ ยกบั ปีใหมแ่ ละเป็นครอบครวั มากที่สดุ และเป็นท่ี เคารพ. ชาวมองโกลเลน่ หมากรุกและหมากรุกบอ่ ยครงั้ ทม่ี ีหรอื ไม่มีการจดั กฬี ากลางแจง้ พวกเขา ไดพ้ ฒั นาลทั ธิความเคารพตอ่ ผปู้ กครองและผสู้ ูงอายแุ ละความแขง็ แกรง่ ของการผกู ติดกับถ่นิ กาํ เนดิ ทาํ ใหค้ นหน่มุ สาวยงั คงอาศยั อย่ทู ีบ่ า้ นหรอื กลบั มาที่น่นั หลังจากไดร้ บั การศึกษา. แมจ้ ะอยู่ ในวฒั นธรรมสมยั ใหม่ของประเทศมองโกเลยี แต่ยงั คงรกั ษาจติ วญิ ญาณแบบดงั้ เดมิ เอาไว้ ประชากรส่วนใหญข่ องประเทศอาศยั อยใู่ น yurts แมใ้ นวนั นใี้ นเมอื งหลวง มนั อย่ใู นจติ วญิ ญาณ ทีเ่ ราสามารถสมั ผสั ถงึ เสน่หพ์ ิเศษของอาหารมองโกเลยี ผลิตภณั ฑท์ ่สี ตั วข์ องพวกเขามอบให้

เนอื้ สตั วแ์ ละนมทีน่ ่ีกไ็ ม่ธรรมดา: เนอื้ แกะและเนอื้ แกะเป็นที่นยิ มมากขนึ้ และเขา้ ถึงไดม้ ากขนึ้ สาํ หรบั ชาวมองโกลและนมของแมม่ า้ วปิ ครมี จากนมอฐู หรือ koumiss มาจากนม.

เทศกาลประจาํ ปีนาดมั ชาวมองโกเลยี นบั พนั คนรวมตวั กนั ในเมอื งเลก็ ๆอยา่ งซูนม๊อด ของจงั หวดั เทฟิ เพื่อรว่ มเฉลิม ฉลองเทศกาลประจาํ ปีนาดมั (Naadam festival) ประเพณเี กา่ แก่ท่มี กี ารแข่งมา้ ,มวยปลาํ้ และยงิ ธนู โดยมา้ 70 ตวั พรอ้ มดว้ ยจ๊อกกี้ ซงึ่ สว่ นใหญ่อายตุ ่าํ กวา่ 10 ขวบ ไดเ้ ขา้ รว่ มการแขง่ มา้ ระยะทางไกลกว่า 10 กิโลเมตร ท่ามกลางกองเชียรท์ ีส่ ง่ เสียงโห่รอ้ งยนิ ดีเมอื่ ผชู้ นะเขา้ ส่เู สน้ ชยั ใน การแขง่ ขนั นีเ้ หล่ามา้ มองโกเลยี ไดร้ บั อนญุ าตใหเ้ ขา้ รว่ มได้ แมว้ า่ จะมขี นาดลาํ ตวั สนั้ และวิ่งชา้ กว่า มา้ อาหรบั ชาวมองโกเลยี เช่ือกนั ว่าฝ่นุ ทีฟ่ ้งุ กระจายจากพนื้ ดินอนั เกิดจากการกระทบของเกือกมา้ นน้ั ถอื เป็นโชคดี



มวยปลา้ํ เป็นกฬี าที่นยิ มในมองโกเลยี โดยชาวมองโกเลยี วยั 72 ปีรายหนึง่ กลา่ วว่า มคี วามสขุ กบั เทศกาลนาดมั มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแข่งมา้ เพราะไมเ่ พียงแคต่ ่นื เตน้ เรา้ ใจ แตก่ ารแข่งขนั ดงั กลา่ วยังนาํ โชคดีมาถงึ ชาวมองโกเลียดว้ ย

ภาษา ภาษามองโกเลีย เป็นภาษาทางการของประเทศมองโกเลีย และเป็นภาษาหลกั ของชาวมองโกเลยี สว่ นใหญ่ ซงึ่ คนพดู ส่วนใหญ่จะพดู แบบคอลคา (Khalkha) นอกจากนี้ ภาษามองโกเลียกพ็ ดู ใน พนื้ ทร่ี อบนอกในบางมณฑลของสาธารณรฐั ประชาชนจนี และสหพนั ธรฐั รสั เซีย ภาษามองโกเลีย เป็นภาษารูปคาํ ติดตอ่ คลา้ ยภาษาตรุ กีหรือภาษาฟินน์ มกี ารเติมปัจจยั ทร่ี ากศพั ท์ ภาษามองโกเลีย มเี พยี งสรรพนามบุรุษที่หน่ึงและสอง แตไ่ มม่ บี ุรุษทสี่ าม แต่ใชส้ รรพนามชเี้ ฉพาะ เชน่ นี่ (en) น่นั (ter) น่ีทง้ั หลาย (ed nar) และน่นั ทง้ั หลาย (ted nar) แทน ดบู ทความหลกั ที:่ ภาษามองโกเลยี ปัจจุบนั มผี พู้ ดู ภาษามองโกลรอ้ ยละ 95 ของประชากรในประเทศ (ส่วนมากใชภ้ าษามองโกล สาํ เนยี งคลั คา)

ศาสนา ศาสนาในประเทศมองโกเลยี [8] ศาสนาพทุ ธ 1,009,357 คน ศาสนาอสิ ลาม 57,702 คน ศาสนาเชมนั 55,174 คน ศาสนาครสิ ต์ 41,117 คน ศาสนาอน่ื ๆ 6,933 คน ไมม่ ศี าสนา 735,283 คน วฒั นธรรม

ท่อี ย่อู าศยั กระโจมชาวมองโกล ชาวมองโกลจะอาศยั อย่สู ิ่งทีเ่ รยี กวา่ \"เกอร\"์ ท่ีสามารถรอื้ ถอนไดง้ า่ ย และชาวมองโกลส่วนใหญ่เป็นพวกเร่ร่อน ในปีหนึ่งชาว มองโกลจะยา้ ยทีอ่ ยู่ไปเรอ่ื ย ๆ ถงึ 20 ครงั้

ประเทศญ่ีป่ นุ

ประเทศญ่ีป่นุ (ญี่ป่นุ : 日本 โรมาจิ: Nihon/Nippon ทบั ศพั ท:์ นิฮง/นิปปง, ช่อื อยา่ งเป็น ทางการ ญ่ีป่นุ : 日本国 โรมาจ:ิ Nihon-koku/Nippon-koku ทบั ศพั ท:์ นฮิ งโกก/ุ นิปปงโกก)ุ เป็นรฐั เอกราชหม่เู กาะในเอเชยี ตะวนั ออก ตงั้ อยใู่ นมหาสมทุ รแปซิฟิกนอกฝ่ังตะวนั ออก

ของแผ่นดินใหญเ่ อเชยี ทางตะวนั ตกติดกบั คาบสมุทรเกาหลีและประเทศจีน โดยมที ะเลญี่ป่นุ กน้ั ส่วนทางทิศเหนือติดกบั ประเทศรสั เซยี มที ะเลโอคอ็ ตสคเ์ ป็นเสน้ แบ่งแดน ภาษา ในภาษาญี่ป่นุ ช่ือประเทศญ่ีป่นุ เรียกว่า にっぽんนปิ ปง にほんหรอื นิฮง 日本ซง่ึ ใชค้ นั จติ วั เดยี วกนั คอื คาํ ว่านปิ ปง มกั ใชใ้ นกรณที เ่ี ป็นทางการ สว่ นคาํ วา่ นฮิ ง จะเป็นศพั ทท์ ี่ใชโ้ ดยท่วั ไป

วฒั นธรรม วฒั นธรรมญี่ป่นุ มวี ิวฒั นาการมายาวนานตงั้ แต่วฒั นธรรมยคุ โจมงซ่ึงเป็นวฒั นธรรมดงั้ เดมิ ของ ประเทศ จนถงึ วฒั นธรรมผสมผสานรว่ มสมยั ซึง่ ไดร้ บั อิทธิพลมาจากเอเชยี ยโุ รป และอเมรกิ าเหนอื ศิลปะดงั้ เดิมของญ่ีป่นุ มที งั้ งานฝีมือ เช่น อิเกะบะนะ (การจดั ดอกไม)้ โอะริงะมิ อกุ ิโยะ-เอะ[137] ต๊กุ ตา เครอ่ื งเคลือบ เครื่องป้ันดินเผา การแสดง เชน่ คะบุกิ โน บนุ ระก[ุ 137] ระกโุ งะ และประเพณีตา่ ง ๆ เช่น การละเล่น พิธีชงชา ศลิ ป การตอ่ สู้ สถาปัตยกรรม การจดั สวน ดาบ และอาหาร การผสมผสานระหว่างภาพพมิ พก์ บั ศิลปะ ตะวนั ตก นาํ ไปสกู่ ารสรา้ งสรรคม์ งั งะหรือหนงั สือการต์ นู ของญี่ป่นุ ทเี่ ป็นทีน่ ยิ มทง้ั ในและนอกญ่ีป่นุ [138] แอนิเมชนั ท่ีไดร้ บั อทิ ธิพลมาจากมงั งะเรียกว่า อนเิ มะ วงการเกมคอนโซลของญี่ป่นุ เจรญิ รุง่ เรอื งอย่างมากตงั้ แต่ พ.ศ. 2523[139]

ดนตรี การเล่นโคะโตะ ดนตรญี ี่ป่นุ ไดร้ บั อทิ ธิพลจากวฒั นธรรมขา้ งเคียงเช่นจีนและคาบสมทุ รเกาหลี รวมทงั้ จากโอกินาวะ และฮกไกโด ตงั้ แต่โบราณ เครอ่ื งดนตรหี ลายชนิ้ เชน่ บิวะ โคะโตะ ถกู นาํ เขา้ มาจากจนี ตงั้ แต่ ครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 7[140] และชะมิเซ็งเป็นเครอื่ งดนตรที ีด่ ดั แปลงจากเครื่องดนตรโี อกนิ าวะซ่งึ มี จดุ เริม่ ตน้ ท่ีกลางพทุ ธศตวรรษที่ 21[140] ญี่ป่นุ มเี พลงพนื้ บา้ นมากมาย เช่นเพลงที่รอ้ งระหวา่ งการ เตน้ บงโอะโดะริ เพลงกลอ่ มเดก็ ดนตรตี ะวนั ตกเร่มิ เขา้ มาในตน้ พทุ ธศตวรรษที่ 25 และถกู ผนวก

เป็นส่วนหนึง่ ของวฒั นธรรม หลงั สงคราม ญ่ีป่นุ ไดร้ บั อิทธิพลทางดา้ นดนตรสี มยั ใหมจ่ ากอเมรกิ า และยโุ รปเป็นอย่างมาก กอ่ ใหเ้ กิดการพฒั นาแนวดนตรที ี่เรียกว่า เจ-ป็อป[141] ญี่ป่นุ มีนกั ดนตรี คลาสสกิ ทมี่ ชี ื่อเสยี งระดบั โลกหลายคน เช่น วาทยากร เซจิ โอะซะวะ[142] นกั ไวโอลิน มิโดะริ โกะ โต[143]นกั เปียโน อาเอมิ โคบายาชิ มือกลองวงเอ็กซเ์ จแปนและนกั เปียโน โยชกิ ิ ฮายาชิ เมอ่ื ถึง ช่วงสนิ้ ปี จะมีการเลน่ คอนเสิรต์ ซมิ โฟนีหมายเลข 9 ของเบโทเฟนท่วั ไปในญ่ีป่ ุน[144] วรรณกรรม ภาพจากเรือ่ งตาํ นานเก็นจิ

วรรณกรรมญี่ป่นุ ชิน้ แรกไดแ้ กห่ นงั สอื ประวตั ศิ าสตรท์ ชี่ อื่ โคะจกิ ิ และ นฮิ งโชะกิ[145] และหนงั สอื บทกวีสมยั ศตวรรษที่ 8 ท่ีชอ่ื มงั โยชู ซ่งึ เขยี นดว้ ยภาษาจนี ทง้ั หมด[146] ในชว่ งตน้ ของยคุ เฮองั มี การสรา้ งระบบการเขยี นแทนเสียงท่เี รียกวา่ คะนะ (ฮริ ะงะนะ และ คะตะคะนะ) นิทานคนตดั ไมไ้ ผ่ ถกู พจิ ารณาว่าเป็นงานทเ่ี กา่ แกท่ ีส่ ดุ ที่เขยี นดว้ ยภาษาญี่ป่นุ [145] ตาํ นานเก็นจิ ทีเ่ ขยี นโดยมรุ ะซะ กิ ชกิ ิบุมกั ถกู เรยี กว่าเป็นวรรณกรรมชิน้ แรกของโลก[147] ระหว่างยคุ เอะโดะ วรรณกรรมไมอ่ ย่ใู น ความสนใจของซามไู รเทา่ กบั โชนิน ชนชน้ั ประชาชนท่วั ไป ตวั อยา่ งเช่น โยะมฮิ ง กลายเป็นทีน่ ยิ ม และเผยใหเ้ หน็ การเปลี่ยนแปลงท่ลี กึ ซึง้ ระหว่างนกั อา่ นกบั นกั เขยี น ในสมยั เมจิ วรรณกรรมดงั้ เดิม ไดเ้ ส่อื มสลายลง ขณะท่ีวรรณกรรมญี่ป่นุ ไดร้ บั อทิ ธิพลจากตะวนั ตกมากขึน้ [148] โซเซะกิ นะสเึ มะ และโองะอิ โมริเป็นนกั แต่งนยิ ายสมยั ใหมร่ ุน่ แรกของญ่ีป่นุ [148] ตามมาดว้ ย รวิ โนะซเุ กะ อะคตุ ะ กะวะ, ทะนซิ ะกิ จนุ อชิ โิ ระ, ยะซุนะริ คะวะบะตะ, มชิ ิมะ ยกุ โิ อะ และล่าสดุ ฮะรุกิ มรุ ะกะมิ[149] ญี่ป่นุ มนี กั เขียนทไี่ ดร้ บั รางวลั โนเบลสาขาวรรณกรรม 2 คน ไดแ้ ก่ ยะซนุ ะริ คะวะบะตะ (พ.ศ. 2511) [150] และ เคน็ ซะบุโร โอเอะ (พ.ศ. 2537) [151]

กีฬา การแข่งขนั ซูโมใ่ นเรียวโงกุ โคกงุ ิกัง ใน โตเกยี ว หลงั จากการปฏริ ูปเมจิ กีฬาตะวนั ตกกเ็ ร่ิมเขา้ มาในญี่ป่นุ และแพรห่ ลายไปท่วั ประเทศดว้ ยระบบ การศึกษา[152] ในญี่ป่นุ กีฬานบั เป็นกจิ กรรมยามว่างทีด่ ีตอ่ สขุ ภาพ ชว่ ยพฒั นาวนิ ยั การเคารพ กฎกตกิ า และชว่ ยส่งั สมนา้ํ ใจนกั กฬี า ชาวญ่ีป่นุ ทกุ วยั ใหค้ วามสนใจกบั กีฬาทง้ั ในฐานะผชู้ มและผู้ เล่น[152] กีฬาทีไ่ ดร้ บั ความนยิ มในญ่ีป่นุ ไดแ้ ก่

ซโู ม่เป็นกฬี าประจาํ ชาติของญี่ป่นุ ทมี่ ีประวตั อิ นั ยาวนาน[153] และเป็นกฬี าที่ไดร้ บั ความนิยม อยา่ งมากในญี่ป่นุ ศิลปะปอ้ งกนั ตวั ของญี่ป่นุ เช่น ยโู ด คาราเต้ และเคนโด้ กเ็ ป็นกีฬาทีม่ ีผเู้ ล่นและ ผชู้ มมากเช่นเดียวกนั การแข่งขนั เบสบอลอาชีพในญ่ีป่นุ เริม่ ตน้ ขึน้ ใน พ.ศ. 2479[154] มี 2 ลีก คือเซน็ ทรลั ลีกและ แปซิฟิกลีก ในปัจจบุ นั เบสบอลเป็นกีฬาทมี่ ีผชู้ มมากท่ีสดุ ในประเทศ ในระหว่างฤดกู าลการแข่งขัน จะมกี ารถ่ายทอดการแข่งขนั เกอื บทกุ คืนและมอี ตั ราผชู้ มรายการท่สี งู [152] นกั เบสบอลญี่ป่นุ ที่โด่ง ดงั ที่สดุ คือ อจิ ิโร ซุซุก,ิ ฮเิ ดะกิ มะสอึ ิ [149] และโชเฮย์ โอทานิ ตงั้ แตม่ ีการกอ่ ตงั้ ลีกฟตุ บอลอาชพี ของญี่ป่นุ ใน พ.ศ. 2535 ฟุตบอลในประเทศญี่ป่ นุ ก็เป็นทน่ี ยิ ม มากขนึ้ [155] ญ่ีป่นุ เป็นสถานท่ีจดั ฟตุ บอลชิงแชมป์ สโมสรโลก ตงั้ แต่ พ.ศ. 2524 ถงึ พ.ศ. 2547 และเป็นเจา้ ภาพรว่ มกบั เกาหลีใตใ้ นการแข่งฟตุ บอลโลก 2002 ทีมฟตุ บอลญ่ีป่นุ เป็นทมี ทป่ี ระสบ ความสาํ เรจ็ มากทส่ี ดุ ทีมหนง่ึ ในเอเชยี สามารถชนะเลิศเอเชียนคพั 3 ครงั้ และลกี ฟตุ บอลอาชพี ของญี่ป่นุ ไดร้ บั การยกย่องว่าเป็นลกี ท่ีมาตรฐานสงู ที่สดุ อกี แหง่ หนงึ่ ของโลก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook