เวทคี ณุ ภาพ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ 2554 ผ้พู ิมพ์ สํานกั งานประกันคณุ ภาพ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปีที่พิมพ์ กันยายน 2554 จาํ นวน 400 เลม่ สํานกั งานประกันคณุ ภาพ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ โทรศัพท์ 0-7428-2822, 0-7428-2940 โทรสาร 0-7428-2822 โทรศพั ทภ์ ายในมหาวิทยาลัย 2822, 2940 Homepage : http://www.qa.psu.ac.th E-mail : [email protected]
คาํ นาํ จากกระบวนการเทียบเคียงสมรรถนะภายใน (Internal Benchmarking) คณะกรรมการพิจารณาแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ และคณะกรรมการอํานวยการขับเคล่ือน ยุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้พิจารณาแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practices) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จํานวน 3 กิจกรรม/กระบวนการ จาก 3 คณะ/หน่วยงาน ในด้านการเรียนการสอนและคุณภาพบัณฑิต บริการวิชาการ และ ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร ต า ม ภ า ร กิ จ ห ลั ก แ ล ะ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ แ ผ น พั ฒ น า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปี 2550 - 2554 เวทีคุณภาพ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 2554 เป็นการบูรณาการการ จัดการความรู้ (Knowledge Management) กับการประกันคุณภาพ โดยการ ถ่ายทอดประสบการณ์แนวปฏิบัติที่เป็นเลิศด้วยการจัดบรรยาย ซ่ึงผู้ท่ีสนใจสามารถ นาํ ไปประยกุ ต์และพฒั นาวิธีการปฏิบัติ ลดระยะเวลาท่ีใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพ ในกระบวนการปฏิบัตงิ าน รวมทง้ั เพ่อื สร้างความผกู พันระหว่างผู้บริหารกับบคุ ลากร ขอขอบคุณคณะ/หน่วยงานที่ได้จัดทํารายละเอียดเทคนิค วิธีการ กระบวนการพัฒนา ในการได้มาซึ่งแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ เพื่อจัดทําคลังความรู้ สําหรับ การพฒั นาระบบคุณภาพของมหาวทิ ยาลัยอย่างตอ่ เน่อื ง และยงั่ ยนื (รองศาสตราจารย์ ดร.บญุ สม ศริ ิบาํ รุงสขุ ) อธิการบดีมหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์ I
สารบญั I III คํานํา สารบัญ 3 แนวปฏิบตั ิที่เป็นเลศิ 23 ดา้ นการเรียนการสอนและคณุ ภาพบัณฑติ 63 การพฒั นาการจัดการเรียนการสอนระบบ PBL 77 คณะแพทยศาสตร์ 79 83 ดา้ นบรกิ ารวิชาการ 84 การบูรณาการบริการวชิ าการกับการเรยี นการสอน และการวจิ ัย คณะการแพทยแ์ ผนไทย ด้านบรหิ ารจดั การ สุนทรยี สนทนา (Dialogue) ศูนย์เคร่อื งมือวิทยาศาสตร์ ภาคผนวก กระบวนการคัดเลอื กแนวปฏบิ ตั ทิ ีเ่ ป็นเลิศ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์ คําส่ังแต่งตง้ั คณะกรรมการพจิ ารณาแนวปฏบิ ตั ทิ เ่ี ปน็ เลิศ มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ ประกาศมหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ เร่ืองหนว่ ยงานทม่ี ีแนว ปฏิบตั ิทเี่ ป็นเลศิ ประจาํ ปี 2554 III
ด้านการเรียนการสอน และคณุ ภาพบัณฑติ 1
2
แนวปฏิบัติที่เปน็ เลิศ การพัฒนาการจดั การเรียนการสอนระบบ PBL ด้านการเรียนการสอนและคุณภาพบณั ฑิต หนว่ ยงาน หน่วยแพทยศาสตรศึกษา คณะแพทยศาสตร์ 1. คณะทาํ งานพัฒนาแนวปฏิบัติทเี่ ปน็ เลศิ ท่ีปรกึ ษา 1.1 คณบดี กรรมการ 1.2 รองคณบดฝี ่ายวชิ าการและแพทยศาสตรศึกษา กรรมการ 1.3 ผ้ชู ว่ ยคณบดฝี ่ายวิชาการและแพทยศาสตรศึกษา กรรมการ 1.4 คณาจารย์ประจํากลมุ่ PBL 2. ข้อมูลทว่ั ไปของคณะ 2.1 วสิ ยั ทัศน/์ พนั ธกิจ วสิ ัยทศั น์ เปน็ คณะแพทยศาสตรช์ ้ันเลิศทมี่ งุ่ สู่ระดบั นานาชาติ พนั ธกิจของคณะ 1) ผลิตและพฒั นาแพทย์ บุคลากรทางการแพทยท์ มี่ ีคณุ ภาพ คุณธรรม และจรยิ ธรรม 2) ให้บริการดา้ นสุขภาพทีเ่ ป็นเลิศระดบั มาตรฐานสากล 3) สร้างงานวจิ ัยที่มีคณุ ภาพ องคค์ วามรู้ และนวตั กรรม 4) บูรณาการภารกจิ สําคัญเพอ่ื ชนี้ ําสงั คมและมงุ่ สู่ระดับนานาชาติ 2.2 บุคลากร / นักศึกษา 2.2.1 อาจารย์ จาํ นวน 294 คน 2.2.2 นกั วิชาการศกึ ษา/บคุ ลากรสนบั สนนุ งานด้านวิชาการ จํานวน 53 คน 2.2.3 นักศกึ ษา หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต จาํ นวนประมาณชั้นปลี ะ 200 คน 3
2.3 งบประมาณ 3,120 บาท 975 บาท 1. คา่ อาหารในการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกอาจารย์ 10,000 บาท 1.1 ค่าอาหารเท่ยี งการประชมุ คณะกรรมการคดั เลอื ก 3,125 บาท อาจารย์ (3 คร้ัง X 80 บาท X 13 คน) 228,000 บาท 1.2 คา่ อาหารว่างและเครอื่ งดมื่ การประชุม 2,850,000 บาท คณะกรรมการคัดเลอื กอาจารย์ (3 ครัง้ X 25 3,095,220 บาท บาท X 13 คน) 2. ค่าอาหารในการประชมุ /สัมมนาอาจารย์ประจํากลมุ่ 2.1 คา่ อาหารเทยี่ งการประชุมอาจารยป์ ระจํากลุ่ม (5 ครั้ง X 80 บาท X 25 คน) 2.2 ค่าอาหารว่างและเครอ่ื งดืม่ การประชุมอาจารย์ ประจาํ กลุ่ม (5 คร้งั X 25 บาท X 25 คน) 3. ค่าอาหารวา่ งและเคร่ืองดืม่ ในการพบปะระหวา่ ง อาจารยแ์ ละนกั ศึกษา เหมาจ่าย 1,200 บาท/กลุ่ม/ เดอื น ภาคการศกึ ษาละ 5 เดอื น (1,200 บาท X 10 เดอื น X 19 กลมุ่ ) 4. คา่ ตอบแทนอาจารยป์ ระจาํ กลุ่ม เดือนละ 15,000 บาท ภาคการศึกษาละ 5 เดอื น (15,000 บาท X 19 คน X 10 เดอื น) รวม หนว่ ยแพทยศาสตรศึกษา เป็นหน่วยงานที่ดําเนินการในเรื่องพัฒนาหลักสูตร อาจารย์และบุคลากรที่ทํา หน้าท่ีสนับสนุนด้านการศึกษา โดยดําเนินการตามนโยบายและเป้าหมายของการจัด การศึกษาของคณะ มีภาระหนา้ ทค่ี วามรับผดิ ชอบดังน้ี 1) พัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรให้เป็นไปในทิศทางท่ีสอดคล้องกับการจัด การศกึ ษาที่พงึ ประสงค์ของคณะ 2) จดั เตรียมทรัพยากรทงั้ ด้านสถานท่ี และสงิ่ แวดลอ้ มเพอื่ การจัดการเรียนการ สอนทีม่ ีคุณภาพ 4
3) พัฒนาความรดู้ ้านแพทยศาสตรศกึ ษาให้แก่อาจารย์และบคุ ลากรทท่ี ําหน้าท่ี สนับสนุนดา้ นการศึกษา 4) เผยแพรข่ ้อมูล ข่าวสารแพทยศาสตรศึกษา 5) สนับสนุนงานด้านการประกันคุณภาพการเรียนการสอนกับหน่วยงาน/ สถาบนั อ่นื ทง้ั ภายในและภายนอกคณะ 3. หลักการและเหตุผล คณะแพทยศาสตร์ได้จัดการเรียนการสอนหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต ในชั้น ปรีคลินิก (ช้ันปีท่ี 2 และ 3) โดยใช้กระบวนการเรียนการสอนแบบ PBL มีการเรียน การสอนแบบกลุ่มย่อย ประกอบกับผลการตรวจประเมินคณะแพทยศาสตร์ โดย คณะกรรมการตรวจประเมินคณะแพทยศาสตร์ ปีการศึกษา 2550 มีความเห็นว่ายัง ไม่สามารถประกันคุณภาพการจัดการเรียนการสอนได้อย่างเป็นรูปธรรม และการ ประเมินกระบวนการกลุ่มยังไม่มีความเท่ียงตรง เน่ืองจากอาจารย์ท่ีเป็น Facilitator มีความหลากหลายและขาดการพัฒนานักศึกษาแพทย์อย่างต่อเน่ือง ดังนั้นเพ่ือแก้ไข ปัญหาดังกล่าวจึงเห็นควรจัดให้มีโครงการพัฒนาอาจารย์ด้านการเรียนการสอน โดย ทําเปน็ โครงการนาํ รอ่ งสาํ หรบั นกั ศึกษาแพทย์ชนั้ ปีที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2552 ในส่วนของ โควตาอาจารยค์ ณะแพทยศาสตร์ ท้ังน้ี เพ่ือพัฒนาการจัดการเรียนการสอนแบบ PBL ใหม้ ีคุณภาพย่งิ ข้ึน 4. วัตถปุ ระสงค์ของโครงการ 4.1 เพื่อให้นักศึกษาได้รับการพัฒนาทักษะ กระบวนการคิด ในการเรียนรู้ แบบ PBL อย่างตอ่ เนอื่ งโดยสมบรู ณ์ 4.2 เพมิ่ คณุ ภาพการประเมินกระบวนการกล่มุ (มาตรฐาน เทย่ี งตรง) 4.3 เพิ่มคุณภาพการกระตุ้นการเรียน และ กิจกรรมกลุ่มผ่านการผลักดัน กระตุ้น โดย Facilitator 4.4 พัฒนาคณุ ลกั ษณะการเป็นแพทย์ทีด่ ีของนกั ศกึ ษาอยา่ งเปน็ มาตรฐาน 4.5 เพม่ิ การประกันคุณภาพการเรียนการสอนในระบบ PBL 5
5. แผนงาน (Approach) เม.ย. พ.ค. ขัน้ ตอนการดําเนนิ งาน ิม.ย. ก.ค. 1. เสนอขออนุมัตโิ ครงการ ส.ค. 2. แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกอาจารยป์ ระจาํ กลมุ่ ก.ย. 3. ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกอาจารยป์ ระจาํ กลุม่ ต.ค. 4. ได้รายชื่ออาจารยป์ ระจํากล่มุ พ.ย. 5. จัดอาจารยป์ ระจํากล่มุ และกําหนดเวลาการคุมกล่มุ ธ.ค. PBL ม.ค. 6. อาจารย์ทาํ หน้าที่ Facilitator ก.พ. 7. จัดประชมุ /อบรม/สัมมนาอาจารยป์ ระจาํ กลุ่ม ีม.ค. 8. ประชุมจดั ทําแบบประเมนิ และวธิ กี ารประเมนิ การ 6 ปฏบิ ัติงานอาจารย์ประจาํ กลุ่ม 9. ประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานอาจารยป์ ระจาํ กลุ่ม 10. สรุปผลโครงการ
6. กระบวนการ (Process) หรือการปฏิบตั ิงานตามแผน (Deployment) 6.1 แตง่ ต้ังคณะกรรมการคัดเลอื กอาจารย์ โครงสร้างคณะกรรมการ ประกอบด้วย 6.1.1 คณบดี ประธาน 6.1.2 รองคณบดีฝา่ ยวชิ าการและแพทยศาสตรศกึ ษา รองประธาน 6.1.3 รองคณบดฝี า่ ยพฒั นานกั ศกึ ษา กรรมการ 6.1.4 รองคณบดีฝ่ายพฒั นาบคุ ลากร กรรมการ 6.1.5 ผู้ชว่ ยคณบดีฝ่ายวิชาการและแพทยศาสตรศกึ ษา กรรมการ ดา้ นปรีคลินกิ 6.1.6 ผ้ชู ่วยคณบดฝี า่ ยวิชาการและแพทยศาสตรศึกษา กรรมการ ดา้ นคลินกิ 6.1.7 ผู้ช่วยคณบดีฝา่ ยพัฒนานกั ศึกษา กรรมการ 6.1.8 รองศาสตราจารย์แพทยห์ ญงิ พรรณทพิ ย์ ฉายากลุ กรรมการ 6.1.9 รองศาสตราจารย์แพทย์หญงิ จิตเกษม สวุ รรณรัตน์ กรรมการ 6.2 การดําเนินการคัดเลือกอาจารย์ประจํากลุ่มจากคณะแพทยศาสตร์ จํานวน 19 คน โดยการประเมินจากคะแนนประเมินการสอน PBL ของปี การศึกษาท่ีผ่านมา 6.3 นิเทศบทบาทอาจารย์ประจํากลุ่ม โดยมีข้อกําหนดและบทบาทของ อาจารย์ประจาํ กลุ่มดังน้ี 6.3.1 อาจารย์แต่ละท่านจะเป็นอาจารย์ประจํากลุ่มนักศึกษาแพทย์กลุ่ม เดมิ ต่อเนือ่ งตลอดปีการศึกษา ตามจํานวน PBL ท่ีกําหนด (นักศึกษา แพทย์ทุกกลุ่มจะผ่านการดูแลจากอาจารย์ประจํากลุ่มของคณะ แพทยศาสตร)์ 6.3.2 อาจารย์แต่ละท่านต้องเป็นอาจารย์ประจํากลุ่มอย่างน้อยจํานวน 5 PBL ต่อภาคการศกึ ษา 6.3.3 อาจารย์มีหน้าที่พัฒนากระบวนการเรียนรู้ กระบวนการคิด กระบวนการกลุ่ม และทักษะชีวิตและสังคม รวมถึงการประเมิน ความก้าวหน้าของนักศึกษาแพทย์ภายในกลุ่ม โดยพบนักศึกษา แพทย์อยา่ งนอ้ ยสปั ดาห์ละ 1 คร้งั 7
6.3.4 อาจารย์ท่ีเป็นอาจารย์ประจํากลุ่มจะต้องมีการพัฒนาเรียนรู้ร่วมกัน ในการพัฒนาบทบาทของ Facilitator และSupervisor ตามกําหนด โดยมีการประเมินผลการปฏบิ ัตงิ านตามระยะเวลาท่กี ําหนด 6.3.5 ถือวา่ บทบาทการเป็นอาจารยป์ ระจาํ กลุ่มเป็นภาระงานท่ีเพ่ิมขึ้นจาก งานประจํา และสามารถนํามานับเป็นภาระงานด้านการเรียนการ สอนได้ โดยมีคา่ ตอบแทนพเิ ศษ 6.4 การแบ่งกลุ่มนักศึกษาแพทย์ชั้นปีท่ี 2 ปีการศึกษา 2552 แบ่งเป็นจํานวน 19 กลมุ่ กลมุ่ ละ 9-10 คน 6.5 การดําเนนิ การตามโครงการ 6.5.1 อาจารย์ที่ปรึกษาเข้าเป็น Facilitator ตามกําหนด จํานวน 11 PBL ต่อปีการศึกษา 6.5.2 อาจารย์ที่ปรึกษาพบนักศึกษาประจํากลุ่มตามกําหนด ให้ข้อมูล ปอ้ นกลับแก่นักศึกษาแพทย์ท้ังกลุ่มและรายบุคคล เพ่ือพัฒนาทักษะ ด้านการเรยี นรู้และทักษะอน่ื ๆท่ีพงึ ประสงค์ 6.5.3 จัดการประชุมเพื่อทบทวนการจัดการสอน PBL การพัฒนานักศึกษา แพทย์ และรวบรวมองค์ความรู้ด้านการสอนแบบ PBL จาก ประสบการณข์ องอาจารยท์ ป่ี รกึ ษา จาํ นวน 5 คร้งั 6.6 การประเมินผลการดําเนนิ การ 7. การประเมนิ ทบทวน ผลการดําเนินงาน (Assessment and Review) ได้จัดให้มีการประชุมอาจารย์ประจํากลุ่มจํานวน 5 คร้ัง โดยมีการประชุมเพื่อ พัฒนาการจดั การเรยี นการสอน PBL ดงั นี้ 7.1 ทบทวนมาตรฐานการสอน PBL การประเมินกระบวนการกลุ่มและการ เรยี นของนักศึกษาแพทย์ ปญั หาทเี่ กดิ ขึ้น และหาแนวทางแก้ไข 7.2 รายงานปัญหานักศึกษาแพทย์ที่ดูแลโดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาแพทย์ท่ีมี โอกาสพัฒนา รวมท้ังการพัฒนานักศึกษาแพทย์ท่ีได้ดําเนินการ และหารือ แนวทางพัฒนาและชว่ ยเหลอื 7.3 การจัดการความรู้ด้านการสอน PBL (Knowledge Management) โดย การเสวนาและรวบรวมองค์ความรู้ด้านการสอนแบบ PBL จาก ประสบการณ์การสอน PBL ของอาจารย์ประจํากลุ่ม และมีการสรุปเพ่ือ นําไปสูก่ ารปฏบิ ัติตอ่ ไป 8
8. แผน หรือแนวทางการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเน่ืองในอนาคต องคค์ วามรทู้ ไ่ี ด้จากโครงการฯ จะนําสู่การพัฒนาเพื่อเพิ่มคุณภาพการสอนระบบ PBL ดังนี้ 8.1 พัฒนาการจัดอาจารย์ประจํากลุ่มเป็นทีม 2-3 คน ต่อ 1 กลุ่มนักศึกษา เพื่อเพิ่มความหลากหลาย แต่ยังคงความต่อเน่ืองในการพัฒนาการเรียนรู้ ของนกั ศกึ ษา 8.2 ความรู้การสอนแบบ PBL จากประสบการณ์ของอาจารย์ประจํากลุ่ม นํามาใช้สําหรับการอบรมอาจารย์ด้านการสอนแบบ PBL เพ่ือนําสู่การ ปฏิบัติต่อไป 8.3 อาจารย์ประจํากลุ่มที่มีประสบการณ์การสอนแบบ PBL จะได้รับ มอบหมายในการเป็นพีเ่ ลย้ี งอาจารย์ใหม่ทจี่ ะเริ่มสอน PBL 8.4 จัดทําระบบการพัฒนากลุ่มนักศึกษาที่มีโอกาสพัฒนาต้ังแต่เริ่มเห็นปัญหา โดยให้อาจารย์ประจํากลุ่มช่วยในการพัฒนา และจัดระบบสอนเสริมเป็น พิเศษเฉพาะกล่มุ 8.5 จัดให้มีการสัมมนา โดยนําความรู้จากโครงการฯ เพื่อพัฒนาการสอน PBL ท้งั ระบบให้มีคุณภาพและมมี าตรฐานมากขึน้ 9. จดุ แข็ง (Strength) หรือสง่ิ ทีท่ ําไดด้ ีในประเดน็ ทีน่ ําเสนอ 9.1 ผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ ให้ความสําคัญและให้การสนับสนุนด้านการ พัฒนาคณุ ภาพการจดั การเรยี นการสอน 9.2 คณาจารยม์ คี วามทุ่มเทใหก้ ับการเรียนการสอนและการพฒั นานักศึกษา 9.3 มบี คุ ลากรและระบบงานสนบั สนุนบริหารการศกึ ษาทม่ี ีประสิทธภิ าพ 9.4 นักศกึ ษามคี วามม่งุ มน่ั และทุ่มเทกับการเรยี นรสู้ ูง 10. กลยุทธห์ รือปจั จัยท่ีนาํ ไปส่คู วามสาํ เร็จ 10.1 ผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ให้การสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนและ การพัฒนานักศกึ ษาใหเ้ ป็นไปตามปรัชญาท่ีคณะตัง้ ไว้ 10.2 ผูบ้ ริหารคณะแพทยศาสตร์ให้คุณค่าและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาด้านการ เรียนการสอนแก่อาจารย์ และจัดให้มีแรงจูงใจในภาระงานด้านการสอน ของอาจารย์ 9
10.3 อาจารย์ให้ความร่วมมือและทุ่มเทให้กับการพัฒนากระบวนการจัดการ เรยี นการสอนให้มีคุณภาพ และการพัฒนานักศึกษาให้เป็นไปตามบัณฑิตที่ พงึ ประสงค์ 10.4 จดั ใหม้ รี ะบบทเ่ี ออ้ื ตอ่ การพฒั นานักศึกษาอยา่ งตอ่ เนือ่ ง 10.5 จัดให้มีระบบการค้นหานักศึกษาท่ีมีโอกาสพัฒนา และมีการดําเนินการ พัฒนานักศึกษารายบคุ คล 10.6 คณะแพทยศาสตร์ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมนอกหลักสูตรที่ส่งเสริม การเรียนรขู้ องนักศกึ ษา 10.7 มีระบบการบริหารจัดการและการสนับสนุนของหน่วยแพทยศาสตรศึกษา และนกั วิชาการท่มี ปี ระสิทธภิ าพ 11. ผลการดําเนนิ งาน (Result) ได้ประเมินผลการดําเนินการโดยทําสนทนากลุ่ม (Focus Groups) เพื่อสอบถาม ความคิดเหน็ ของนกั ศึกษาตอ่ โครงการฯ และประเมินผลสัมฤทธ์ิการศึกษา 2 ด้าน คือ ด้านการพฒั นาการเรยี นรู้และความรู้ของนกั ศกึ ษา โดยมผี ลการดําเนินงานดังตอ่ ไปนี้ 11.1 ความคิดเห็นของนักศึกษาแพทย์จากการทําสนทนากลุ่ม (Focus Groups) ความคดิ เหน็ ตอ่ การจัดใหม้ ีอาจารยป์ ระจํากลุ่มสอน PBL มขี อ้ ดแี ละขอ้ เสยี ดงั นี้ การจัดใหม้ อี าจารย์ประจาํ กลมุ่ เพ่อื สอน PBL ข้อดี 1) อาจารย์ร้ถู งึ การพัฒนาของนกั ศกึ ษาแพทยร์ ายบุคคล ทําให้ได้รับการพัฒนา และกระตนุ้ ให้เกิดการเรยี นรู้อย่างตอ่ เน่ือง 2) อาจารย์ให้ข้อมูลป้อนกลับแก่นักศึกษาแพทย์ท้ังด้านการเรียนและทักษะ ดา้ นอืน่ ๆ เชน่ ทักษะการดาํ เนินชวี ิตและสงั คมเปน็ อยา่ งดี 3) รปู แบบกระบวนการกลมุ่ มมี าตรฐานเดยี วกนั 4) นักศึกษาแพทย์มีความสนิทสนมกับอาจารย์ ทําให้กล้าที่จะถาม และ บรรยากาศการเรียนไม่เครยี ด 5) ในกรณีท่ีมีนักศึกษาแพทย์ท่ีมีผลการเรียนอ่อน อาจารย์จะให้การดูแล ชว่ ยเหลอื เป็นพเิ ศษ 6) อาจารย์เป็นที่ปรกึ ษาเร่ืองอ่นื ๆทนี่ อกเหนือการเรียนไดด้ ว้ ย 10
ขอ้ เสยี 1) ขาดความหลากหลายของอาจารย์ทสี่ อนถา้ มีอาจารย์ประจํากลุ่มสอนซํ้าบ่อย เกินไป 2) การประเมินการเรียน PBL ยังไม่เป็นมาตรฐานเดียวกนั 3) เกิดความเครียดหรืออึดอัดกับอาจารย์ประจํากลุ่มบางท่านที่คาดหวังในการ พฒั นานักศึกษาแพทย์มากเกนิ ไป 4) เมื่อเวลาผ่านไป ความกระตือรือร้นอาจลดลงกับการเรียนรูปแบบเดียวจาก อาจารยป์ ระจาํ กลุ่มคนเดมิ การจดั ใหม้ อี าจารย์หลายคนสอน PBL ขอ้ ดี 1) ได้อาจารยท์ ่ีหลากหลาย ซ่งึ มีการกระตุ้นการเรยี นรู้ทไี่ มเ่ หมอื นกนั 2) การเปลี่ยนอาจารย์สอน PBL ทําให้นักศึกษาแพทย์มีความกระตือรือร้นมาก ข้ึน เน่ืองจากอาจารย์แต่ละคนจะมีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ แนะนําการค้นหา ความรู้ และมีความถนดั ไมเ่ หมอื นกนั 3) ไดร้ บั ขอ้ มูลปอ้ นกลบั ทีห่ ลากหลาย มคี วามแตกต่างมากกวา่ อาจารยค์ นเดียว ข้อเสีย 1) อาจารย์ไม่รู้จักนักศึกษาแพทย์ ความสนิทสนมกับอาจารย์มีไม่มาก ทําให้ นกั ศึกษาแพทยต์ ้องปรบั ตัวมาก บางครง้ั บรรยากาศการเรียนจะเครง่ เครียด 2) การเปล่ียนอาจารย์บ่อยครั้ง อาจารย์จะไม่เห็นการพัฒนาของกลุ่มหรือ นักศกึ ษารายบคุ คล จากการสนทนากลุ่มนักศึกษา นักศึกษาต้องการให้มีอาจารย์ประจําโดยให้ ความเหน็ วา่ อาจารย์ประจํากลุ่มมีผลมากต่อการพัฒนาการเรียนรู้ในระยะเร่ิมต้นการ เรียนแบบ PBL คือการเรียนในชั้นปีท่ี 2 อาจารย์ได้เห็นพัฒนาการของนักศึกษาอย่าง ต่อเน่ือง รู้ข้อดีข้อเสียของกลุ่ม และเห็นการพัฒนาของนักศึกษาแต่ละคนว่าเป็น อย่างไร สามารถแนะนําให้พัฒนาหรือปรับปรุงได้ถูกต้อง ทําให้นักศึกษาได้รับ ประโยชน์ในการพัฒนาตนเองมาก 11
11.2 ผลสัมฤทธ์ิการศกึ ษา การจัดการเรียนการสอนแบบ PBL มีผลสัมฤทธิ์ 2 ด้าน คือ การพัฒนา กระบวนการเรียนรู้ของนักศึกษา (Process of Learning) และความรู้ที่เกิดจากการ เรยี นรู้ (Process of Learning) ผลการพัฒนากระบวนการเรยี นรขู้ องนักศึกษา (Process of learning) จากการศึกษาพบว่า กระบวนการเรียนรู้ที่จัดตามโครงการน้ี สามารถพัฒนา นักศกึ ษาใหม้ ีทกั ษะการเรยี นรแู้ บบ PBL ได้ดขี น้ึ ดงั รายงานการวจิ ยั ตอ่ ไปนี้ การศึกษาเปรียบเทียบผลการประเมินทักษะการเรียนรู้แบบ PBL โดยตนเอง และโดยอาจารย์ วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาเปรียบเทียบผลการประเมินทักษะการเรียนแบบ PBL โดยนักศึกษาประเมินตนเองและประเมินโดยอาจารย์ประจํากลุ่ม หลังจากผ่านการ เรียนแบบ PBL ที่กําหนดให้มีอาจารย์ประจํากลุ่มดูแลนักศึกษาอย่างต่อเน่ืองใน 1 ปี การศกึ ษา วิธีการศึกษา เม่ือสิ้นสุดการศึกษาในภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2552 ใช้ แบบประเมินให้นักศึกษาประเมินทักษะการเรียนรู้แบบ PBL ของตนเอง และอาจารย์ ประจํากลุ่มที่ติดตามนักศึกษาตลอดปีการศึกษาเป็นผู้ประเมินนักศึกษา โดยประเมิน ใน 3 ช่วงเวลา คือ ต้นปีการศึกษา, กลางปีการศึกษา และปลายปีการศึกษา ซ่ึงมีค่า คะแนนแต่ละช่วง 1-10 โดยช่วง 1 หมายถึง มีทักษะน้อยท่ีสุด และช่วง 10 หมายถึง มที กั ษะมากทส่ี ุด และเปรยี บเทียบผลการประเมินระหวา่ งนกั ศกึ ษาและอาจารย์ ผลการศึกษา นักศึกษาได้ประเมินตนเองว่ามีการพัฒนาทักษะการเรียนรู้แบบ PBL ดีขึ้นในแต่ละช่วงเวลา (จากคะแนนเต็ม 10 ต้นปีการศึกษา 6.11±1.51 กลางปี การศึกษา 7.17±1.15 ปลายปีการศึกษา 7.92±1.02) เช่นเดียวกับการประเมินของ อาจารย์ประจํากลุ่ม (จากคะแนนเต็ม 10 ต้นปีการศึกษา 6.81±1.08 กลางปี การศึกษา 7.82±1.04 ปลายปีการศึกษา 8.41±1.09) โดยนักศึกษาจะประเมินทักษะ ของตนเองต่าํ กวา่ อาจารย์ (รูปที่ 1) 12
10 8 6 ตนปี 4 กลางปี ปลายปี 2 0 อาจารย นศพ รปู ท่ี 1 เปรยี บเทยี บผลการประเมินทกั ษะการเรียนรแู้ บบ PBL: การประเมินโดย ตนเองและโดยอาจารยป์ ระจาํ กลมุ่ สรุปผลการดําเนินงาน ผลการประเมินความสามารถด้านทักษะการเรียนรู้แบบ PBL โดยนักศึกษาประเมินตนเองและโดยอาจารย์เป็นผู้ประเมิน พบว่านักศึกษามี ทักษะในการเรียนแบบ PBL เพิ่มมากขึ้นหลังจากผ่านการเรียนแบบ PBL ที่จัดให้มี อาจารย์ประจํากลุ่มติดตามพัฒนาการเรียนรู้ของนักศึกษาในระยะเวลา 1 ปี โดย คะแนนประเมนิ ของนักศึกษาแพทยป์ ระเมินตนเองตาํ่ กวา่ อาจารย์เป็นผปู้ ระเมิน การศึกษาผลการประเมินทักษะการเรียนรู้แบบ PBL ในนักศึกษาแพทย์ที่ผ่าน เรียนในระบบ PBL ซึง่ กําหนดใหม้ อี าจารยป์ ระจาํ กลุ่มดแู ลอย่างตอ่ เน่อื ง วัตถุประสงค์ เพ่ือศึกษาว่าการจัดการเรียนรู้แบบ PBL ท่ีกําหนดให้มีอาจารย์ ประจํากลุ่มดูแลนักศึกษาอย่างต่อเน่ืองตลอด 2 ปีการศึกษา นักศึกษามีการพัฒนา ทกั ษะการเรยี นรแู้ บบ PBL อยา่ งไร วิธีการศึกษา ได้จัดการเรียนการสอนนักศึกษาแพทย์ชั้นปีท่ี 2 ปีการศึกษา 2552 โดยกําหนดให้มีอาจารย์ประจํากลุ่มสอนนักศึกษากลุ่มเดิมอย่างต่อเนื่องตลอด 2 ปีการศึกษา เมื่อนักศึกษากลุ่มนี้ศึกษาจบชั้นปรีคลินิกในปีการศึกษา 2553 นํา คะแนนประเมินทักษะกระบวนการเรียนรู้แบบ PBL จาก 3 ช่วงของการศึกษา คือ ต้นปีการศึกษา 2552 ปลายปีการศึกษา 2552 และปลายปีการศึกษา 2553 เลือก คะแนนประเมินกระบวนการเรียนรู้จาก PBL จํานวน 3 เร่ือง คือ PBL ในรายวิชาแรก ของช้ันปีที่ 2 รายวิชาสุดท้ายของชั้นปีท่ี 2 และรายวิชาสุดท้ายของชั้นปีที่ 3 นํา 13
คะแนนประเมินที่ได้จาก PBL 3 ช่วงเวลามาเปรียบเทียบหาความแตกต่างของ ค่าเฉลย่ี ผลการศึกษา นักศึกษามีคะแนนประเมินทักษะด้านต่างๆ ใน 3 ช่วง คือ ต้นปี การศึกษา 2552 ปลายปีการศึกษา 2552 และปลายปีการศึกษา 2553 ตามลําดับ ดังน้ี ทักษะการเรียนแบบ PBL (คะแนนเต็ม 15) เท่ากับ 10.39±1.42, 11.97±2.01 และ 12.58±1.96 ทักษะการคิดวิเคราะห์ (คะแนนเต็ม 9) เท่ากับ 6.17±1.22, 7.34±1.29 และ 7.56±1.20 ทักษะการส่ือสาร (คะแนนเต็ม 6) เท่ากับ 4.40±0.67, 5.26±0.79 และ5.27±0.74 และทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง (คะแนนเต็ม 12) เท่ากบั 8.69±1.33, 10.08±1.66 และ10.30±1.63 (รปู ที่ 2) ทกั ษะการเรียนแบบ PBL ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ 15 11.97 12.58 9 7.34 7.56 12 10.39 8 ปลายปี 2 ปลายปี 3 7 6.17 9 6 5 6 4 3 3 2 1 0 ปลายปี 2 ปลายปี 3 0 ตน ปี 2 ตน ปี 2 ทกั ษะการสื่อสาร ทกั ษะการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง 6 5.26 5.27 12 10.08 10.3 5 4.4 10 8.69 4 ปลายปี 2 ปลายปี 3 ปลายปี 2 ปลายปี 3 3 8 2 6 1 4 0 2 0 ตน ปี 2 ตน ปี 2 รปู ที่ 2 เปรยี บเทียบผลการประเมนิ ทักษะการเรยี นรู้แบบ PBL ในดา้ นตา่ งๆ ใน 3 ชว่ งการศึกษา สรุปผล กระบวนการเรียนรู้ตามโครงการฯ ทําให้นักศึกษาสามารถพัฒนา ทักษะการเรียนรู้ในทุกด้าน ซ่ึงประกอบด้วยทักษะ 4 ด้าน ได้แก่ ทักษะการเรียนรู้ 14
แบบ PBL การคิดวิเคราะห์ การสอื่ สาร และการเรียนรู้ด้วยตนเอง มีคะแนนเฉลี่ยของ ทักษะทกุ ดา้ นเพม่ิ สูงขึ้นในช่วงปลายชน้ั ปที ่ี 3 เมอื่ เทยี บกับในช่วงปลายและตน้ ปีที่ 2 11.3 ผลการประเมินความรขู้ องนกั ศึกษา (Product of learning) การพัฒนาให้นักศึกษามีด้านความรู้ จะมีปัจจัยจากหลายกระบวนการ ได้แก่ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในหลักสูตรทุกรูปแบบ ตลอดจนการสนับสนุน กิจกรรมการเรียนรู้นอกหลักสูตร โครงการพัฒนาการสอนระบบ PBL เป็น กระบวนการหน่ึงที่พัฒนาให้นักศึกษามีทักษะการเรียนรู้ท่ีดีขึ้น อาจารย์ประจํากลุ่ม นอกจากมบี ทบาทในการพฒั นากระบวนการเรยี นร้ใู ห้แก่นักศึกษา ยังมีบทบาทในการ ให้คําปรึกษา ให้ข้อมูลป้อนกลับ เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาด้านการเรียนแก่นักศึกษา อย่างต่อเน่ือง กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่ผสมผสานท้ังหมดท่ีได้ดําเนินการ เป็นปัจจัยที่ทําให้นักศึกษามีผลการสอบเพื่อประเมินความรู้ความสามารถในการ ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของศูนย์ประเมินและรับรองความรู้ความสามารถในการ ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ข้ันตอนที่ 1 (การสอบครั้งแรก) ของแพทยสภา เมื่อคิด เฉพาะนักศึกษาแพทย์ในโครงการของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลา- นครินทร์ ไม่รวมโครงการแพทย์เพ่ือชาวชนบท (โรงพยาบาลหาดใหญ่) และโครงการ แพทย์เพื่อ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (โรงพยาบาลยะลา) ร้อยละของนักศึกษาที่สอบ ผ่านเท่ากับ ร้อยละ 92.90 เป็นลําดับที่ 2 เม่ือเทียบกับคณะแพทยศาสตร์ทั่วประเทศ (รูปท่ี 3) และมีคะแนนของการสอบเฉล่ียเท่ากับ 188.70 คะแนน จากคะแนนเต็ม 300 คะแนน เป็นลําดับที่ 3 ของประเทศ (รูปที่ 4) เมื่อรวมนักศึกษาแพทย์ทุก โครงการ จาํ นวนนกั ศึกษาแพทย์ท่ีสอบผ่านเท่ากับ ร้อยละ 83.50 เป็นลําดับท่ี 5 ของ ประเทศ (รปู ที่ 5) 15
รปู ที่ 3 ร้อยละการสอบผ่านใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม ขัน้ ตอนที่ 1 เฉพาะ นกั ศกึ ษาแพทย์ ม.อ. เทียบกับคณะแพทย์ท่ัวประเทศ รปู ที่ 4 คะแนนเฉล่ยี ของการสอบเพือ่ ใบประกอบวิชาชพี เวชกรรม ขัน้ ตอนท่ี 1 เฉพาะนักศึกษาแพทย์ ม.อ. เทียบกับคณะแพทย์ทว่ั ประเทศ 16
รูปท่ี 5 ร้อยละการสอบผา่ นใบประกอบวชิ าชีพเวชกรรม ข้นั ตอนท่ี 1 นกั ศึกษา แพทย์รวมทุกโครงการ เทยี บกบั คณะแพทยท์ ั่วประเทศ หมายเหตุ : - คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์ ไม่มีนักศึกษาแพทย์โครงการ ผลติ แพทยเ์ พอื่ ชาวชนบท - คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มีนักศึกษาแพทย์โครงการผลิตแพทย์ เพ่อื ชาวชนบทจํานวน 16 คน/ปี การพัฒนากลุ่มนกั ศกึ ษาท่ีมโี อกาสพัฒนา โครงการพัฒนาการสอนระบบ PBL อาจารย์ประจํากลุ่มจะมีบทบาทสําคัญใน การพัฒนานักศึกษาแพทย์รายบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักศึกษาท่ีมีโอกาสพัฒนา หรือนักศกึ ษาท่มี ผี ลการเรยี นอ่อน พบวา่ นักศึกษากลุ่มที่มีโอกาสพัฒนาในปีการศึกษา ท่ีมีการดําเนินโครงการนี้ (รหัส 51) มีจํานวนสอบผ่านการสอบประมวลความรู้ (Comprehensive) และการสอบเพอื่ ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม (NLE) ข้ันตอนท่ี 1 เพิ่มสูงข้ึนกว่านักศึกษาในปีการศึกษาก่อนหน้า (รหัส 50) ซึ่งไม่มีการดําเนินโครงการ นี้ (รูปที่ 6) 17
รปู ที่ 6 รอ้ ยละของนักศึกษาทมี่ ีโอกาสพฒั นาทส่ี อบผา่ นการสอบประมวลความรแู้ ละ การสอบเพื่อใบประกอบวิชาชพี เวชกรรม ขน้ั ตอนท่ี 1 12. นวตั กรรม การจัดการเรียนการสอน PBL โดยจัดให้มีอาจารย์ประจํากลุ่มติดตามดูแลการ พัฒนากระบวนการเรียนรู้ของนักศึกษาเป็นกระบวนการใหม่และการจัดให้มีการ จัดการความรู้จากประสบการณ์การสอนของอาจารย์ประจํากลุ่ม ทําให้ได้องค์ความรู้ ใหม่ด้านการสอน PBL เช่น การแก้ปัญหาในกรณีท่ีนักศึกษาไม่พูด การให้คําแนะนํา แกน่ กั ศึกษาแบบต่างๆ เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรแู้ บบ PBL 13. บทสรุป โครงการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนระบบ PBL ก่อให้องค์ความรู้ด้านการ สอนแบบ PBL และนําไปสู่กระบวนการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียน การสอนอย่างต่อเนื่อง กลุ่มอาจารย์ท่ีเข้าร่วมโครงการฯ ได้รับการพัฒนาให้มีทักษะ ด้านการสอนแบบ PBL และเป็นกําลังสําคัญในการพัฒนาอาจารย์รุ่นต่อไปในอนาคต และท่ีสําคัญคือ นักศึกษาได้รับการพัฒนาให้มีทักษะการเรียนรู้แบบ PBL การคิด วเิ คราะห์ ส่งเสรมิ ใหม้ กี ารค้นคว้าและเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นพ้ืนฐานท่ีสําคัญต่อการ เรียนรู้ในระยะยาว นอกจากน้ี อาจารย์ประจํากลุ่มยังมีบทบาทสําคัญในการดูแล นักศึกษากลุ่มเส่ียง และมีพัฒนาอย่างต่อเน่ืองตั้งแต่แรกเริ่มท่ีเจอปัญหา การ ดําเนินการเก็บข้อมูลด้านต่างๆ และข้อมูลป้อนกลับจากนักศึกษาและอาจารย์ ทําให้ เห็นถึงจุดท่ีมีโอกาสพัฒนาของโครงการฯ ท่ีจะนําไปสู่การปรับปรุงพัฒนาการจัดการ เรียนการสอนต่อไปในอนาคต 18
14. เอกสารอ้างองิ 14.1 สรุปผลการทํากิจกรรมแลกเปลย่ี นรขู้ องอาจารยป์ ระจาํ กลุ่ม 14.2 ผลการสอบเพอ่ื ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม (NLE) ข้ันตอนท่ี 1 14.3 รายงานการสรปุ การพฒั นานักศึกษารายบุคคลโดยอาจารย์ประจํากลมุ่ 14.4 ผลการจัดทําสนทนากลุ่ม (Focus Groups) ปีการศึกษา 2552 และปี การศกึ ษา 2553 19
20
ดา้ นบรกิ ารวชิ าการ 21
22
แนวปฏิบัติท่เี ป็นเลิศ การบูรณาการบริการวิชาการกับการเรียนการสอน และการวิจัย ดา้ นบรกิ ารวชิ าการ หนว่ ยงาน คณะการแพทย์แผนไทย 1. คณะกรรมการพัฒนาแนวปฏบิ ตั ิทเ่ี ปน็ เลศิ 1.1 คณบดีคณะการแพทยแ์ ผนไทย ที่ปรกึ ษา 1.2 นายมานะ รักษ์วงศ์ ประธานกรรมการ 1.3 นางสาวอารินี กติ ตบิ ุญญาทิวากร กรรมการ 1.4 นางสาวอษุ ณยี ์ ชนะวรรโณ กรรมการ 1.5 นายธีรวัฒน์ สุดขาว กรรมการ 1.6 นางสาวปิยะพร สงิ ห์มหาศกั ด์ิ กรรมการและเลขานกุ าร 2. ข้อมลู ท่วั ไปของคณะ 2.1 วสิ ัยทัศน/์ พันธกจิ วิสัยทศั น์ เปน็ คณะชน้ั นาํ ในระดับภูมภิ าคเอเชีย ทําหน้าท่ผี ลติ บัณฑิต วิจัยและบริการ วิชาชีพดา้ นการแพทย์แผนไทย พนั ธกิจ 1) ผลิตบัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิต ให้มีความรู้และทักษะ วิชาชีพ มีผลการเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา แหง่ ชาติ มีหลกั เศรษฐกิจพอเพียง และมีสมรรถนะสากล 2) ผลิตผลงานวิจัยท่ีเน้นการพัฒนาความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย และ การแพทย์พ้ืนบ้านให้เป็นท่ียอมรับท้ังในระดับชาติและนานาชาติ และ เป็นประโยชน์ตอ่ สังคม 3) บริการวิชาการและวิชาชีพด้านการแพทย์แผนไทยแก่สังคมในรูปแบบ ตา่ งๆ และเป็นทีย่ อมรับในระดับภูมภิ าคเอเชยี 2.2 บุคลากร/นักศกึ ษา คณะการแพทย์แผนไทยมีบุคลากร/นักศึกษา ประจําปีการศึกษา 2553 ดังตาราง 1-3 23
2.2.1 บคุ ลากร จํานวน 41 คน จาํ แนกตามสถานภาพและตําแหน่งทาง วชิ าการ ดังตาราง 1 และตาราง 2 ตาราง 1 จํานวนบุคลากรจาํ แนกตามสถานภาพ สถานภาพ จํานวน (คน) ข้าราชการสายอาจารย์ - พนักงานมหาวิทยาลัยสายอาจารย์ 14 ข้าราชการสายสนบั สนุน 3 พนักงานมหาวิทยาลยั สายสนบั สนนุ (เงนิ งบประมาณ) 8 พนักงานมหาวทิ ยาลัยสายสนบั สนนุ (เงนิ รายได้) 4 ลกู จา้ งประจํา - พนักงานเงินรายได้ 10 ลูกจ้างชั่วคราวเงนิ งบประมาณ 2 รวมทงั้ หมด 41 ตาราง 2 จาํ นวนบุคลากร จําแนกตามตําแหน่งทางวชิ าการ ตําแหนง่ ทางวชิ าการ จาํ นวน (คน) ศาสตราจารย์ - รองศาสตราจารย์ - ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ - อาจารย์ 14 รวม 14 2.2.2 นักศึกษา จาํ นวน 263 คน จาํ แนกระดบั การศึกษา ดังนี้ ตาราง 3 จํานวนนักศึกษา จาํ แนกตามระดบั การศกึ ษา ระดับการศึกษา จํานวน (คน) ระดับปรญิ ญาตรี 253 ระดบั ปรญิ ญาโท 4 257 รวม 24
2.3 งบประมาณรายจ่าย ประจาํ ปงี บประมาณ 2553 คณะการแพทย์แผนไทย ดังนี้ - งบประมาณแผน่ ดนิ 2,061,200 บาท - งบประมาณเงินรายได้ 5,878,000 บาท - รวม 7,939,000 บาท 3. หลกั การและเหตุผล คณะการแพทย์แผนไทยได้กําหนดการให้บริการวิชาการและวิชาชีพด้าน การแพทย์แผนไทยแก่สังคมในรูปแบบต่างๆ เป็นหน่ึงในพันธกิจของคณะ และด้วย ลักษณะของสาขาวิชาการแพทย์แผนไทยที่คณะเปิดสอน ซึ่งเป็นวิชาชีพทางด้าน วิทยาศาสตร์สุขภาพ เป็นองค์ความรู้ทางด้านการแพทย์แผนไทยท่ีเน้นการส่งเสริม ป้องกันโรคต่างๆ การให้บริการวิชาการและวิชาชีพแก่ชุมชน จึงเป็นการจัดโครงการ/ กิจกรรมท่ีมุ่งเน้นส่งเสริมสุขภาพท่ีดีแก่ประชาชนด้วยวิธีการการแพทย์แผนไทย เช่น การรับประทานอาหารให้เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย โดยใช้หลักการของ เรื่องธาตุเจ้าเรือนเข้ามาวิเคราะห์และปรับใช้อย่างเหมาะสม การรับประทานอาหาร เป็นยาเพื่อป้องกันการเกิดโรค การใช้ชีวิตโดยยึดหลักการอยู่กับธรรมชาติและ หลีกเล่ียงพฤติกรรมก่อเกิดโรคตามทฤษฎีการแพทย์แผนไทย การบริหารร่างกายโดย ใชท้ ่าฤๅษีดัดตน การนวดประคบ เพ่ือบรรเทาอาการปวดเมื่อยหรือเพ่ือการผ่อนคลาย การใช้สมุนไพรเพื่อการรักษาโรค เป็นต้น องค์ความรู้เหล่านี้ได้รับการสั่งสมมาอย่าง ช้านาน และได้แทรกซึมอยู่ในวิถีชีวิตของคนไทย ถึงแม้ว่าในปัจจุบันวิทยาการด้าน การแพทย์แผนปัจจุบันได้มีการพัฒนาไปอย่างมาก แต่จะเน้นการรักษามากกว่าการ ส่งเสรมิ ป้องกัน ซง่ึ แตกต่างจากองคค์ วามรู้ของการแพทย์แผนไทย ในการให้บริการวิชาการและวิชาชีพคณะการแพทย์แผนไทย ได้เร่ิมดําเนินการ มาต้ังแต่ปี 2549 และได้มีการดําเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจําทุกปี ด้วยความ ตระหนักถึงภารกิจที่จะเป็นที่พ่ึงของชุมชน การมีส่วนร่วมในการพัฒนาด้านสุขภาพ ของประชาชนในชุมชน จากโครงการบริการวิชาการและวิชาชีพ ที่คณะได้จัด ดําเนินการ มีโครงการเด่น คือ “โครงการภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยสู่ชุมชน” มีวัตถุประสงค์ของโครงการฯ เพื่อให้บริการวิชาการและวิชาชีพ โดยใช้ภูมิปัญญา การแพทย์แผนไทย ครอบคลุมใน 4 ประเภทของวิชาชีพ คือ เวชกรรมไทย, เภสัช กรรมไทย, นวดไทย และผดุงครรภ์ไทย จากการดําเนินงานตลอดระยะเวลา 5 ปีท่ี 25
ผ่านมา และจากการติดตามผลการจัดโครงการฯพบว่า ได้รับการตอบรับท่ีดีจาก ประชาชน ทําให้ประชาชนเห็นความสําคัญในการดูแล ป้องกัน และรักษาสุขภาพ ตัวเองด้วยวิธีการด้านการแพทย์แผนไทยมากข้ึน เข้าใจ รู้จัก และให้การยอมรับ การแพทย์แผนไทยมากข้ึน และเพ่ือให้เกิดประโยชน์อย่างต่อเน่ืองและยั่งยืน สามารถ เข้าถึงปัญหาสุขภาพ สามารถแก้ปัญหาด้านสุขภาพของประชาชนได้อย่างถูกต้อง และเกิดประโยชน์ในการเรียนการสอน จึงมีการนําผลการให้บริการวิชาการและ วิชาชีพ ไปใช้ประโยชน์ในการดําเนินการของคณะ ดังน้ี 3.1 มีการประมวลความรู้และประสบการณ์จากการให้บริการวิชาการและ วิชาชีพ ไปใช้ประโยชน์ในการบูรณาการกับการเรียนการสอนในรายวิชา ชีพทเ่ี กี่ยวข้อง ได้แก่ 3.1.1 รายวิชา 170-203 เภสชั วัตถุและสรรพคุณเภสชั 3.1.2 รายวชิ า 170-205 สมนุ ไพรกับโรคทีพ่ บบ่อย 3.1.3 รายวชิ า170-206 การนวดไทย 1 3.1.4 รายวชิ า 170-209 สมฏุ ฐานโรค 3.1.5 รายวชิ า 170-302 การนวดไทย 2 3.1.6 รายวชิ า 170-303 เวชกรรมไทย 1 3.1.7 รายวิชา 170-307 เวชกรรมไทย 2 3.1.8 รายวิชา 170-308 เวชกรรมไทย 3 3.1.9 รายวชิ า 170-309 เวชกรรมไทย 4 3.1.10 รายวิชา 170-390 การฝึกปฏบิ ัตงิ านการนวดไทย 3.1.11 รายวิชา 107-490 การฝกึ ปฏิบัติงานเวชกรรมไทย 1 3.1.12 รายวชิ า 170-491 การฝึกปฏิบัตงิ านเวชกรรมไทย 2 3.2 มีการนําความรู้และประสบการณ์จากการให้บริการวิชาการและวิชาชีพไป ใช้ในการทําวิจัยเพ่ือศึกษาพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้หรือแก้ปัญหาด้าน สุขภาพที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพการแพทย์แผนไทย งานวิจัยท่ีได้ดําเนินการ แล้วเสร็จ มดี ังนี้ 3.2.1 ประสิทธิผลของเถาวัลย์เปรียงแคปซูลในการรักษาผู้ป่วยท่ีมี อาการปวดข้อเรื้อรังในโรคชคิ นุ กนุ ยา 3.2.2 ผลของชาชงตะไคร้แทรกเกลือต่อการลดอาการปวดท้อง ประจาํ เดือน 26
3.2.3 ผลต่อการผ่อนคลายในอาสาสมัครของนํ้ามันหอมระเหยจากว่าน สาวหลง 3.2.4 ผลต่อความผ่อนคลายในอาสาสมัครของนํ้ามันหอมระเหยจาก ดอกสายหยดุ 3.2.5 การศึกษาความคงตัวและประสิทธิภาพในการฆ่าเหาของเจลสาร สกัดใบยอ 3.2.6 การศึกษาผลการรักษาโรคเช้ือราที่เล็บ ด้วยตํารับยาสมุนไพรของ หมอสมพร ชาญวณิชย์สกลุ 3.2.7 ฤทธ์ิต้านเช้ือแบคทีเรียจากตํารับยาแผนไทยท่ีใช้รักษาโรคผิวหนัง ในภาคใต้ 3.2.8 ผลของเกสรทงั้ หา้ ต่อระบบหลอดเลอื ดหัวใจในอาสาสมัครสุขภาพ ดี 3.2.9 การพัฒนาการผลิตตาํ รับยาสมนุ ไพรสาํ หรับโรคชคิ ุนกนุ ยา 3.2.10 การศึกษาการปนปลอมไฮโรควิโนนในเคร่ืองสําอางสมุนไพรใน อาํ เภอหาดใหญ่ 3.2.11 การสํารวจพฤติกรรมและความเส่ียงในการใช้ยาแผนโบราณที่มี การปนปลอมสาร เพรดนิโซโลน และเด็กซ่าเมทธาโซน เพื่อรักษา โรคตา่ งๆ ในอาํ เภอหาดใหญ่ จงั หวดั สงขลา 3.2.12 การพัฒนาและควบคุมคุณภาพการผลิตเถาวัลย์เปรียงแคปซูล สําหรับโรคชคิ นุ กนุ ยา 3.2.13 ภูมิปัญญาการใช้สมุนไพรของหมอพื้นบ้านบริเวณเทือกเขา บรรทัด ในเขตจังหวัดพทั ลงุ 3.2.14 ภูมิปัญญาการใช้สมุนไพรรักษาพิษงูของหมอพื้นบ้านในจังหวัด นครศรธี รรมราช 3.2.15 รวบรวมภูมิปัญญาการใช้สมุนไพรของหมอพื้นบ้าน : กรณีศึกษา หมอพื้นบ้านนายวงศ์ พิมท่าทอง และนายวัน พิมท่าทอง อําเภอ บ้านตาขุน จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี 3.2.16 ภูมิปัญญาของหมอพื้นบ้านจังหวัดสงขลาในการใช้พืชสกุลข่า (Alpinia spp.) เพ่ือประโยชนใ์ นการรกั ษา 27
3.2.17 องค์ความรู้ในการดูแลผู้ป่วยโรคชิคุนกุนยาตามแนวทาง การแพทยแ์ ผนไทยในจงั หวัดสงขลา 3.2.18 ฤทธ์ิต้านแบคทีเรียของตํารับยาแผนไทยท่ีใช้ในภาคใต้ต่อเชื้อ แบคทเี รยี ทเ่ี ปน็ สาเหตุของโรคทอ้ งร่วง 3.2.19 ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียจากตํารับยาแผนไทยที่ใช้รักษาโรคผิวหนัง ในภาคใต้ 3.2.20 ประสิทธิภาพการนวดไทยรักษาอาการหัวไหล่ติดโดยวิธีของหมอ คณิต เขมะพันธ์ุมนสั 3.2.21 รวบรวมภูมิปัญญาของหมอพ้ืนบ้านในอําเภอรัตภูมิ จังหวัด สงขลา : กรณศี กึ ษา หมอไข่ โกสินทธ์ุ 3.2.22 โครงงานพิเศษทางด้านการแพทย์แผนไทย เรื่อง “การศึกษาภูมิ ปัญญาหมอพ้นื บ้าน : กรณศี กึ ษา หมอผล ช่วยรักษ”์ 3.2.23 การศึกษาภูมิปัญญาหมอพ้ืนบ้านไทย : กรณีศึกษา หมอประวิทย์ แก้วทอง โครงการภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยสู่ชุมชน เป็นโครงการหลักในการให้บริการ วชิ าการและวิชาชพี แก่สังคม ซ่งึ เปน็ โครงการหนึ่งจากหลายๆ โครงการทม่ี ีการกาํ หนด แนวทางการดําเนินงานไว้ชัดเจน โดยมุ่งเน้นที่จะส่งเสริม ป้องกัน รักษาสุขภาพของ ประชาชนตามแนวทางการแพทย์แผนไทย และการนําประโยชน์จากการให้บริการ วิชาการและวชิ าชีพ ไปใชใ้ นการเรียนการสอนและการวิจยั การใหบ้ รกิ ารวิชาการและ วิชาชีพดังกล่าวมีส่วนสําคัญอย่างยิ่งที่ทําให้ประชาชนให้การยอมรับ เช่ือถือในภูมิ ปัญญาแพทย์แผนไทยมากย่ิงขึ้นและเป็นการสืบทอด สานต่อการใช้ภูมิปัญญา การแพทย์ดั้งเดิมของไทย การลงชุมชนเพื่อให้เข้าถึงชุมชนเพ่ือเผยแพร่ภูมิปัญญา แพทย์แผนไทย จึงเป็นเรื่องจําเป็นอย่างย่ิง ซึ่งคณะได้คาดหวังไว้ว่า การแพทย์แผน ไทย จะเปน็ ทางเลอื กหนึ่งของประชาชนในการดูแล ส่งเสริม ป้องกัน รักษา และฟ้ืนฟู สุขภาพ เพื่อคุณภาพชีวิตท่ีดี ซึ่งจะเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของการแพทย์แผน ปจั จุบันไดอ้ กี ทางหน่ึง 28
4. วัตถปุ ระสงค์ของโครงการ 4.1 เพื่อให้บรกิ ารดา้ นสขุ ภาพแก่ประชาชนตามแนวทางการแพทยแ์ ผนไทย 4.2 เพ่อื ให้ความรู้ในการดแู ลรักษาสขุ ภาพแกป่ ระชาชนตามแนวทางการแพทย์ แผนไทย 4.3 เพือ่ นาํ ความรูแ้ ละประสบการณ์จากการใหบ้ ริการวชิ าการและวิชาชีพไปใช้ ประโยชน์ในการบูรณาการกับการเรียนการสอนและการวิจัย 5. แผนงาน (Approach)/งบประมาณในการจดั โครงการ-กจิ กรรม คณะการแพทย์แผนไทยกําหนดแผนงานในการจัดโครงการบริการวิชาการและ วิชาชีพแก่ชุมชนในโครงการ “ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยสู่ชุมชน” ใช้งบประมาณใน การดําเนินการจัดโครงการฯ จํานวนเงินประมาณ 30,000 บาท (สามหมื่นบาทถ้วน) มแี ผนงานการจดั โครงการฯ ดงั ตาราง 4 29
ตาราง 4 แผนงานการจัดโครงการภูมปิ ัญญาแพทยแ์ ผนไทยสชู่ ุมชน 2 ปกี ารศกึ ษา 2552 ปีการศกึ ษา 2553 เดือน/ปี แผนงาน ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. 1.เสนอแผนงานการ ของบประมาณไปยัง มหาวิทยาลัย 2 . ม ห า วิ ท ย า ลั ย พิจารณาการของบ ประมาณ 30 3. มหาวิทยาลัยแจ้ง ผลการพจิ ารณา 4 . ค ณ ะ แ ต่ ง ต้ั ง คณะกรรมการดําเนิน การจัดโครงการฯ 5. ประชุมวางแผน กําหนดแนวทางการ ดําเนนิ งาน
เดอื น/ปี ปกี ารศึกษา 2552 ปีการศกึ ษา 2553 แผนงาน ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. 6. ออกสํารวจพื้นที่ เป้าหมายในการจัด โครงการ/กิจกรรม และประสานงานกับ ชุมชน เพื่อดําเนิน การจดั โครงการฯ 7. ดําเนินการจัด โครงการฯ 31 8 . ส รุ ป ผ ล ก า ร ดํ า เ นิ น ก า ร จั ด โครงการฯ 9 . ส รุ ป ผ ล ก า ร ดํ า เ นิ น ก า ร เ ส น อ ท่ี ประชุมคณะกรรม- การ ดําเนินการจัด โครงการฯ พร้อมท้ัง จัดทําประเด็นการนํา ผ ล จ า ก ก า ร ดํ า เ นิ น การไปบูรณาการเข้า
เดือน/ปี ปกี ารศึกษา 2552 ปีการศกึ ษา 2553 แผนงาน ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. กับการเรียนการสอน และการวิจยั 10. เสนอผลการ ดําเนินงานและการ ทบทวนผลการ ดํ า เ นิ น ง า น ต่ อ ท่ี ป ร ะ ชุ ม ค ณ ะ ก ร ร ม การประจาํ คณะ 32
6. กระบวนการ (Process) หรือการปฏบิ ตั งิ านตามแผน (Deployment) ในการดําเนินการจัดโครงการบริการวิชาการและวิชาชีพแก่สังคม “โครงการภูมิ ปัญญาแพทย์แผนไทยสู่ชุมชน” มีกระบวนการหรือการปฏิบัติงานตามแผน ดัง แผนภูมิ 1 แผนภมู ิ 1 กระบวนการปฏิบัติงาน ผู้รบั ผดิ ชอบ ข้นั ตอนการปฏิบตั ิ - งานบริการวิชาการของคณะ เสนอแผนการของบประมาณ ไปยงั มหาวทิ ยาลยั - มหาวทิ ยาลยั มหาวิทยาลยั พิจารณาอนุมตั ิ - งานบริการวิชาการของคณะ คณะฯ แต่งต้งั คณะกรรมการ ดําเนนิ การจดั โครงการฯ - คณะกรรมการดําเนิน การจัดโครงการฯ - จัดประชมุ วางแผน กาํ หนดแนวทาง การดําเนินงาน - ออกสาํ รวจพ้นื ทีเ่ ปา้ หมายในการจัด โครงการฯ และประสานงานกับ ชมุ ชนเพือ่ ดาํ เนินการจดั โครงการฯ A 33
ผู้รับผิดชอบ ขน้ั ตอนการปฏิบตั ิ - คณะกรรมการดาํ เนนิ A การจดั โครงการฯ จัดโครงการ/กจิ กรรมตาม - คณะกรรมการดาํ เนนิ แผนงาน การจัดโครงการฯ สรุปผลการดําเนนิ การจดั โครงการฯ - งานบรกิ ารวชิ าการคณะ สรุปงบประมาณทใ่ี ช้ สรุปผลการประเมิน ในโครงการฯ พร้อม การจัดโครงการ/กจิ กรรมและ เสนอทป่ี ระชุมคณะกรรมการ สง่ เอกสารเบิกจา่ ย ดาํ เนินการจดั โครงการฯ เพือ่ ทราบและพิจารณาทบทวนผลการ ต่อเจ้าหน้าท่ีการเงิน ดําเนินงาน/การบูรณาการเข้ากบั - งานการเงนิ ของคณะ ดําเนนิ การเบกิ จา่ ย การเรยี นการสอน ตามระเบียบ และการวจิ ัย กระทรวงการคลงั - งานบริการวชิ าการของคณะ สรปุ ผลการดําเนนิ งานและทบทวน ผลการดําเนินงาน/การบรู ณาการ กบั การเรียนการสอนและการวจิ ยั ตามมตทิ ่ปี ระชมุ คณะกรรมการ ดําเนินการจัดโครงการฯ A 34
ผรู้ ับผดิ ชอบ ข้ันตอนการปฏิบัติ - งานบริการวชิ าการของคณะ - งานบริการวชิ าการของคณะ A เสนอเปน็ วาระเพือ่ ทราบในทปี่ ระชุม คณะกรรมการประจาํ คณะฯ และรบั ความเหน็ /ข้อเสนอแนะ หรือมตทิ ี่ประชุม เกย่ี วกบั การดาํ เนนิ งานของโครงการฯ เก็บรวบรวมเป็นขอ้ มูล ในการจดั โครงการ/ กจิ กรรมในครั้งต่อไป 7. การประเมนิ ทบทวน ผลการดาํ เนนิ งาน (Assessment and Review) คณะการแพทย์แผนไทย ได้มีการประเมินทบทวนผลการดําเนินงานการจัด โครงการภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยสู่ชุมชนทุกครั้งท่ีจัดโครงการแล้วเสร็จ โดยใช้แบบ ประเมินการจัดโครงการฯ และนําผลการประเมินไปพิจารณาทบทวนผลการ ดําเนินงาน เพื่อปรับปรุง พัฒนาการจัดโครงการฯ ในครั้งต่อไป มีขั้นตอนในการ ประเมนิ ทบทวนผลการดาํ เนนิ งาน ดงั แผนภมู ิ 2 35
แผนภมู ิ 2 ขัน้ ตอนในการประเมินทบทวนผลการดาํ เนินงาน เขียนโครงการบรกิ ารวิชาการและวชิ าชีพแก่สงั คม “โครงการภูมปิ ญั ญาแพทย์แผนไทยสู่ชุมชน” จัดทําแบบประเมินการจดั โครงการฯ จัดโครงการฯ ตามแผนงาน เกบ็ ขอ้ มูล/แบบประเมนิ จากผรู้ ับบริการ และวเิ คราะห์ ประมวลผล การประเมินการจัดโครงการฯ จดั ทาํ รายงานผลการประเมนิ โครงการฯ เสนอรายงานผลการประเมินโครงการแก่ คณะกรรมการดาํ เนนิ การจดั โครงการฯ คณะกรรมการฯ พิจารณาผลการประเมนิ โครงการฯ และพิจารณาทบทวนผลการ ดาํ เนินงานและกาํ หนดแนวทางในการปรับปรงุ พฒั นาการจัดโครงการฯ เสนอผลการดาํ เนนิ การจดั โครงการฯ/ผลการทบทวนผลการดําเนินงาน/การบูรณาการ กับการเรยี นการสอนและการวิจัย และการปรับปรุง พัฒนา เสนอเป็นวาระแจ้งเพื่อ ทราบในทีป่ ระชมุ คณะกรรมการประจําคณะฯ และรบั ความเห็น/ข้อเสนอแนะ หรอื มตทิ ป่ี ระชมุ เกี่ยวกบั การดําเนนิ งานของโครงการฯ งานบริการวิชาการคณะฯ เกบ็ รวบรวมเป็นข้อมูลผลการดําเนนิ การ จัดโครงการฯ และผลการทบทวนการดําเนินงาน ไปใชใ้ นการปรบั ปรุง พัฒนารูปแบบ การจัดโครงการฯ ในครง้ั ต่อไป 36
การประเมินทบทวนผลการดําเนินงานจากการจัดโครงการภูมิปัญญาแพทย์ แผนไทยสู่ชุมชน ครั้งท่ี 6 (ปีการศึกษา 2553) ท่ีผ่านมา จากผลการประเมินการจัด โครงการฯ ผลการประเมินความพงึ พอใจในการเข้าร่วมกิจกรรมการให้บริการวิชาการ และวิชาชีพ พบว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมหรือผู้รับบริการมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ทส่ี ดุ ( X = 4.60, SD = 0.65) หากพจิ ารณาตามลักษณะของกิจกรรมด้านต่างๆ ท่ีจัด พบว่า กิจกรรมการตรวจวินิจฉัยโรคผู้เข้ารับบริการมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ท่ีสุด ( X =4.79, SD = 0.45) รองลงมา ผู้เข้ารับบริการมีความพึงพอใจอยู่ในระดับ มาก ได้แก่ กิจกรรมการให้คําแนะนําการใช้สมุนไพรเพ่ือการบําบัดอาการต่างๆ ( X = 4.33, SD = 0.64) ประโยชน์ที่ได้รับจากเอกสารแผ่นพับและนิทรรศการความรู้ด้าน การแพทย์แผนไทย ( X = 4.25, SD = 0.83) กิจกรรมชุมชนสัมพันธ์และสันทนาการ ( X = 4.28, SD = 0.65) ตามลําดับ ในส่วนของความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอื่นๆ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมหรือผู้รับบริการ ได้ให้ความเห็นไว้ว่า ได้รับความรู้ทางด้าน การแพทย์แผนไทยและสามารถนําไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจําวันได้ ต้องการให้มา จัดกจิ กรรมในคร้ังตอ่ ไปอีก และอยากใหม้ าสอนเร่อื งการใชส้ มนุ ไพร จากผลการประเมินดังกล่าว คณะกรรมการดําเนินการจัดโครงการฯ ได้มีการ พิจารณาทบทวนผลการดําเนินงานในการจัดกิจกรรม เช่น ได้เพ่ิมเติมกิจกรรมการ สอน/บรรยายเร่ืองท่ีเกี่ยวข้องกับการใช้สมุนไพร ในการจัดโครงการครั้งต่อไป ส่วน การปรับปรุงในกิจกรรมอ่ืนๆ ตามท่ีระบุในตาราง 5 และในการพิจารณาการทบทวน ผลการดําเนินงาน จะเสนอเป็นวาระเพ่ือทราบในท่ีประชุมคณะกรรมการประจําคณะ และรับความเห็น/ข้อเสนอแนะ หรือมติที่ประชุมเกี่ยวกับการดําเนินงานของ โครงการฯ ไปปรับปรุง/เพ่ิมเติมตั้งแต่ในข้ันตอนการเขียนโครงการ เพ่ือให้การจัด กิจกรรมครอบคลุมในส่วนท่ไี ดม้ ีการปรบั ปรุง (ดังแผนภูมิ 2) สําหรับข้อมูลรายวิชาท่ีมี การนําไปบูรณาการเขา้ กับการเรียนการสอนและการวิจัย ได้มีการดําเนินการมาอย่าง ตอ่ เนือ่ งต้ังแต่ปีการศึกษา 2549 เป็นต้นมา และมีการนําผลจากการจัดโครงการฯ ไป ทบทวน ปรับปรุงในการบูรณาการกับการเรียนการสอนในรายวิชาท่ีเกี่ยวข้อง และนํา ความรู้ ประสบการณ์จากการให้บริการวิชาการและวิชาชีพไปทําวิจัย/โครงงานพิเศษ ทางด้านการแพทย์แผนไทย เพ่ือศึกษา แก้ไขปัญหาด้านสุขภาพของประชาชน หรือ เป็นแนวคิด/เชื่อมโยงไปสู่หัวข้อการวิจัยที่เก่ียวข้อง ดังข้อมูลในตาราง 5 (นําเสนอ เฉพาะกิจกรรมที่มีการปรับปรุงการดําเนินงานและมีผลการดําเนินงานที่เก่ียวข้องกับ การบรู ณาการ กับการเรียนการสอนและการวจิ ยั ) 37
ตาราง 5 การพิจารณาทบทวนผลการดําเนินงานในการจดั กิจกรรม และข้อมูลการบรู ณาการการเรยี นการสอนและการวจิ ยั การนาํ ไปบรู ณาการ งานวจิ ัยที่เก่ียวข้อง เขา้ กับการเรียนการ (งานวจิ ยั ทเ่ี กิดจากการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนอื่ งตง้ั แตป่ กี ารศึกษา 2549 เปน็ ต้นมา) สอน/รายวชิ าที่ การจัดกจิ กรรม เกี่ยวข้อง จัดทําเปน็ 1. กิจกรรมการให้ 3 ชอื่ งานวจิ ยั CAI และจด ตพี มิ พ์ในวารสาร นําเสนอผลงานวิจยั คํ า แ น ะ นํ า ก า ร ใ ช้ 190-203 เภสัชวัตถุ สมุ น ไ พ ร เ พ่ือ ก า ร และสรรพคณุ เภสชั ลขิ สิทธ์ิ บําบดั อาการต่างๆ 170-205 สมุนไพร กบั โรคท่พี บบ่อย 1. โครงงานพิเศษทางด้าน - 3 3 การปรบั ปรงุ เพิ่มเติมกิจกรรมการ การแพทย์แผนไทย เร่ือง ชื่อเรื่อง : ประสิทธิผลของ “ก า ร ป ร ะ ชุ ม วิ ช า ก า ร สอน/บรรยาย เ ก่ี ย ว กั บ เ ร่ื อ ง “ป ร ะ สิ ท ธิ ผ ล ข อ ง เถาวัลย์ เปรียงแคปซูลในการ ประจําปี การแพทย์แผน สมุ น ไ พ ร เ พ่ือ ก า ร ดูแล ป้องกัน รักษา เถาวลั ย์เปรียงแคปซูลในการ รักษาผู้ป่วยท่ีมีอาการปวดข้อ ไทย การแพทย์พ้ืนบ้าน สขุ ภาพ 38 รักษาผู้ป่วยท่ีมีอาการปวด เร้ือรงั ในโรคชคิ นุ กนุ ยา และการแพทย์ทางเลือก ขอ้ เร้อื รงั ในโรคชคิ ุนกุนยา” ช่ือวารสาร : วารสาร ค ร้ั ง ที่ 7” เ มื่ อ วั น ที่ 1 ก า ร แ พ ท ย์ แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ กันยายน 2553 ณ ศูนย์ การแพทย์ทางเลือก ปีที่ 8 แ ส ด ง สิ น ค้ า แ ล ะ ก า ร ฉบับท่ี 2 พ.ค.-ส.ค. (ฉบับ ประชุมอิมแพค เมืองทอง เสริม) 2553. หน้า 22. ธานี กรุงเทพฯ 2. โครงงานพิเศษทางด้าน - - - การแพทย์แผนไทย เรื่อง “ผลของชาชงตะไคร้แทรก เกลือต่อการลดอาการปวด ท้องประจาํ เดอื น”
การนําไปบรู ณาการ งานวิจยั ที่เก่ียวข้อง เข้ากบั การเรยี นการ (งานวจิ ยั ทเ่ี กดิ จากการจดั กจิ กรรมอย่างตอ่ เน่ืองตง้ั แต่ปกี ารศึกษา 2549 เปน็ ต้นมา) สอน/รายวิชาที่ การจดั กิจกรรม เกี่ยวข้อง จัดทําเป็น ชือ่ งานวจิ ยั CAI และจด ตีพมิ พ์ในวารสาร นาํ เสนอผลงานวิจยั ลขิ สทิ ธ์ิ 3. โครงงานพิเศษทางด้าน - - - การแพทย์แผนไทย เรื่อง “ผ ล ต่ อ ก า ร ผ่ อ น ค ล า ย ใ น อาสา สมัครของนํ้ามันหอม ระเหยจากวา่ นสาวหลง” 39 4. โครงงานพิเศษทางด้าน - - - การแพทย์แผนไทย เร่ือง - - - “ผลต่อความผ่อนคลายใน อาสาสมัครของน้ํามันหอม ระเหยจากดอกสายหยดุ ” 5. โครงงานพิเศษทางด้าน การแพทย์แผนไทย เร่ือง “การศึกษาความคงตัวและ ประสิทธิภาพในการฆ่าเหา ของเจลสารสกัดใบยอ”
การนําไปบรู ณาการ งานวิจยั ทเี่ กี่ยวข้อง เข้ากบั การเรยี นการ (งานวิจยั ทเี่ กิดจากการจัดกจิ กรรมอย่างต่อเน่ืองต้ังแต่ปกี ารศกึ ษา 2549 เป็นตน้ มา) สอน/รายวชิ าท่ี การจดั กจิ กรรม เกี่ยวขอ้ ง จดั ทาํ เปน็ ชอ่ื งานวิจัย CAI และจด ตพี มิ พใ์ นวารสาร นาํ เสนอผลงานวจิ ยั ลิขสิทธิ์ 6. โครงงานพิเศษทางด้าน - 3 3 การแพทย์แผนไทย เรื่อง” ชื่อเร่ือง: Anti-Onychomycosis “ก า ร ป ร ะ ชุ ม วิ ช า ก า ร การศึกษาผลการรักษาโรค ofHerbalRecipeofTraditionalThai ประจําปี การแพทย์แผน เช้ือราท่ีเล็บ ด้วยตํารับยา Doctor,SompornChanwanisakul ไทย การแพทย์พื้นบ้าน ส มุ น ไ พ ร ข อ ง ห ม อ ส ม พ ร ชอ่ื วารสาร : วารสาร และการแพทย์ทางเลือก 40 ชาญวณชิ ยส์ กลุ ” การแพทยแ์ ผนไทยและ ค รั้ ง ท่ี 6” เ มื่ อ วั น ท่ี 6 การแพทย์ทางเลือก ปีท่ี 7 กันยายน 2552 ณ ศูนย์ ฉบับที่ 2 พ.ค.-ส.ค.(ฉบบั เสริม) แ ส ด ง สิ น ค้ า แ ล ะ ก า ร 2552. หน้า 75. ประชุมอิมแพค เมืองทอง ธานี กรงุ เทพฯ 7. โครงงานพิเศษทางด้าน - 3 - การแพทย์แผนไทย เรื่อง ช่ือเรื่อง: antibacterial activity of “ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียจาก ethanol extracts of medicinal plant ตํารับยาแผนไทยท่ีใช้รักษา formulasusedforskininfections โรคผิวหนงั ในภาคใต้” ชื่อวารสาร : Journal of Medicinal Plants Research (Submitted to Journal)
การนาํ ไปบูรณาการ งานวิจยั ท่เี ก่ยี วขอ้ ง เข้ากบั การเรียนการ (งานวิจยั ทเ่ี กิดจากการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนอื่ งตัง้ แตป่ กี ารศึกษา 2549 เป็นต้นมา) สอน/รายวิชาที่ การจัดกิจกรรม เกย่ี วขอ้ ง จดั ทําเป็น ชื่องานวจิ ยั CAI และจด ตพี มิ พ์ในวารสาร นําเสนอผลงานวจิ ยั 8. โครงงานพิเศษทางด้าน ลิขสทิ ธิ์ การแพทย์แผนไทย เร่ือง - - - “ผลของเกสรท้ังห้าต่อระบบ ห ล อ ด เ ลื อ ด หั ว ใ จ ใ น อาสาสมัครสุขภาพด”ี 9. โครงงานพิเศษทางด้าน การแพทย์แผนไทย เร่ือง - - - 41 “การพัฒนาการผลิตตํารับ ยาสมุนไพรสําหรับโรคชิคุน กนุ ยา” 10. โครงงานพิเศษทางด้าน การแพทย์แผนไทย เร่ือง - - - “การศึกษาการปนปลอมไฮ โรควิโนนในเครื่องสําอาง สมุนไพรในอาํ เภอหาดใหญ่” 3 11. โครงงานพิเศษทางด้าน - - ช่ือเร่ือง : การศึกษาการ การแพทย์แผนไทย เร่ือง ปนปลอมสารสเตียรอยด์ เพ “การสํารวจพฤติกรรมและ
การนาํ ไปบูรณาการ งานวจิ ยั ท่เี ก่ียวขอ้ ง เข้ากบั การเรยี นการ (งานวิจัยทเี่ กดิ จากการจัดกิจกรรมอย่างต่อเน่อื งตง้ั แต่ปกี ารศึกษา 2549 เป็นตน้ มา) สอน/รายวิชาท่ี การจัดกิจกรรม เกี่ยวขอ้ ง จดั ทําเป็น ชือ่ งานวิจัย CAI และจด ตีพมิ พใ์ นวารสาร นําเสนอผลงานวจิ ยั ลขิ สิทธิ์ ความเส่ียงในการใช้ยาแผน รดนิโซโลนและเด็กซ่าเมทธา โบราณที่มีการปนปลอมสาร โซนในยาแผนโบราณ ใน เพรดนิโซโลน และเด็กซ่า อําเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมทธาโซน เพ่ือรักษาโรค ชื่อวารสาร : วารสาร ต่างๆ ในอําเภอหาดใหญ่ มหาวทิ ยาลัยทักษิณ Vol.13 42 จังหวัดสงขลา” No.1 Jan.-Jun. 2010 (page 21-30) 12. โครงงานพิเศษทางด้าน - - - การแพทย์แผนไทย เร่ือง “ก า ร พั ฒ น า แ ล ะ ค ว บ คุ ม คุ ณ ภ า พ ก า ร ผ ลิ ต เ ถ า วั ล ย์ เ ป รี ย ง แ ค ป ซู ล สาํ หรบั โรคชคิ ุนกุนยา” 13. โครงงานพิเศษทางด้าน - - - การแพทย์แผนไทย เร่ือง “ภูมิปัญญาการใช้สมุนไพร ของหมอพ้นื บ้านบริเวณ
Search