Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ

หนังสือการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ

Published by Sofia Hayeenrowheng, 2019-02-13 23:15:20

Description: หนังสือการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ

Search

Read the Text Version

แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ (เชน่ กำ�หนดวิสยั ทัศนแ์ ละพนั ธกิจประเทศให้มีการสรา้ งภูมคิ ุม้ กันเพอ่ื รองรับผลกระทบ จากการเปล่ยี นแปลงสภาพภมู ิอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาต)ิ แผนการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (เช่น กำ�หนดใหก้ ารบูรณาการการลดความเส่ียงจาก ภัยพบิ ตั เิ ปน็ หนึ่งในยุทธศาสตร์สำ�คญั ในการบริหาร จัดการความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั ิ) ยุทธศาสตรแ์ ละแผนกระทรวง ทบวง กรม ยทุ ธศาสตร์และแผนพัฒนาจังหวัด (เช่น นโยบายและแผนพฒั นาการศึกษาใหค้ วาม (เช่น ก�ำ หนดยทุ ธศาสตร์การพฒั นาคุณภาพคนและ ส�ำ คญั กบั การยกระดบั คุณภาพและมาตรฐานการ สงั คม เพ่ือเสริมสรา้ งชุมชนเข้มแขง็ โดยให้ความ ศึกษาสสู่ ากล จึงใหค้ วามสำ�คญั กบั การกอ่ สรา้ ง ส�ำ คญั กับการพฒั นาความรูค้ วามสามารถของคนใน อาคารใหม้ ีความมั่นคงตอ่ สภาพความเสี่ยงจาก ชมุ ชนให้รู้เท่าทันภยั พิบตั ิและสามารถลดความเสย่ี ง ภัยพบิ ตั ิ ใหค้ วามส�ำ คญั กับการพฒั นาหลกั สูตร จากภัยพิบัตไิ ด้ ฯลฯ) การศกึ ษาและพัฒนาบุคลากรครูให้มีความรู้ความ แผนปฏิบตั ิราชการประจ�ำ ปีของจังหวดั สามารถในการสร้างความร้รู ับ ปรบั ตวั และมคี วาม (เช่น จัดทำ�โครงการเพ่อื พฒั นาครูและบคุ ลากร พร้อมของนกั เรียนและชุมชนตอ่ การเกดิ เหตกุ ารณ์ ด้านการศกึ ษาให้สามารถจัดการเรียนการสอน ภัยพบิ ตั ิ ฯลฯ) และถ่ายทอดองค์ความรู้ส�ำ คัญให้กบั นักเรยี นใน แผนปฏบิ ัตกิ ารของกระทรวง ทบวง กรม การเตรยี มพร้อมรบั มอื ภัยพิบัติ / ตรวจสอบ ซอ่ ม (เชน่ สพฐ. ก�ำ หนดให้มีการจัดท�ำ หลักสตู รการเตรียม บำ�รุงอาคารเรียนให้มคี วามแข็งแรงและพร้อมรับ ความพรอ้ มเพือ่ รับมือกับภยั พบิ ตั ิ การเสรมิ สร้างทักษะ สถานการณภ์ ัยพบิ ตั ิ / พัฒนาอาคารโรงเรยี นในเขต การเอาตัวรอดจากเหตกุ ารณ์ภยั พบิ ัติ และบรรจุเปน็ พ้นื ท่ปี ลอดภยั เพอื่ ให้เปน็ สถานทอ่ี พยพ ฯลฯ) หลักสตู รภาคบงั คบั ในการเรยี นการสอนระดับชน้ั ประถมศกึ ษา ฯลฯ) ภาพท่ี 4.1 แผนภาพแสดงตัวอย่างของนโยบายและแผนพัฒนาในทกุ ระดบั ทมี่ ีการบรู ณาการและ เช่ือมโยงประเด็นเรอ่ื งการลดความเส่ยี งจากภยั พิบัตอิ ย่างเป็นระบบ การลดความเส่ยี งจากภัยพิบตั ิสู่การพัฒนาที่ย่ังยนื 99

4.2.2 ส่งเสริมและสนับสนนุ การประเมินความเส่ียงและการจดั ทำ�ขอ้ มลู ความเสย่ี ง เพอ่ื การวางแผนพฒั นา การประเมินความเสี่ยงเป็นขั้นตอนสำ�คัญเพื่อให้ทราบถึงระดับความเสี่ยงจากภัย ชนิดต่าง ๆ ตลอดจนปัจจัยที่ทำ�ให้เกิดความเสี่ยงในพื้นที่ ซึ่งข้อมูลความเสี่ยงดังกล่าวมี ประโยชน์อย่างยิ่งในการพิจารณาตัดสินใจวางแผนและดำ�เนินกิจกรรมการพัฒนาต่าง ๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เคยเกิดภัยซึ่งมีความล่อแหลมเปราะบาง (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน บทที่ 2) ภาครัฐจำ�เป็นต้องให้การสนับสนุนการประเมินความเสี่ยงจากภัยพิบัติประเภทต่าง ๆ (multi-hazard risk assessment) ทั้งในระดับประเทศ ระดับจังหวัด และระดับท้องถิ่น เพื่อใช้ประกอบการวางนโยบายการบริหารจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติในภาพรวมของ ทั้งประเทศให้มีความสอดคล้องกัน และต้องมีการเผยแพร่แลกเปลี่ยนข้อมูลความเสี่ยง ระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะในระดับพื้นที่ จังหวัดและกลุ่มจังหวัด เพื่อให้ภาคส่วน ต่าง ๆ นำ�ไปใช้พิจารณากำ�หนดนโยบายยุทธศาสตร์การพัฒนาให้มีการคำ�นึงถึงความเสี่ยง จากภัยพิบัติในพื้นที่ กำ�หนดมาตรการเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ตลอดจนกิจกรรม ปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้ ควรมีการ พัฒนาศักยภาพของบุคลากรในการประเมินความเสี่ยงจากภัยพิบัติ พัฒนาระบบเทคโนโลยี สารสนเทศที่จำ�เป็นในการประเมินความเสี่ยง เช่น ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (จีไอเอส) และระบบคลังข้อมูลด้านภัยพิบัติ รวมทั้งส่งเสริมให้มีการจัดทำ�และเผยแพร่เอกสารข้อมูล ความเสี่ยงภัยในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เช่น รูปแบบแผนที่เสี่ยงพร้อมคำ�อธิบายประกอบ ตัวอย่างสิ่งที่สามารถทำ�ได้เพื่อสนับสนุนการประเมินความเสี่ยงจากภัยพิบัติและให้ เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูล ตลอดจนการนำ�ข้อมูลความเสี่ยงไปใช้ปฏิบัติได้จริง คือ • พัฒนาแผนที่เสี่ยง (risk map) จากผลการประเมินความเสี่ยงที่พิจารณาภัย (hazard) และองค์ประกอบที่มีความเสี่ยง (elements at risk) ทั้งองค์ประกอบ ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดภัย (exposure) และองค์ประกอบที่มีความ เปราะบางต่อการได้รับผลกระทบ (vulnerability) ร่วมด้วย • เนื่องจากผลการประเมินความเสี่ยงภัยที่อยู่ในรูปแบบแผนที่เสี่ยงต้องอาศัยความ รู้ทางเทคนิคเฉพาะด้านในการทำ�ความเข้าใจ จึงควรจัดทำ�สรุปเนื้อหาสาระสำ�คัญ ในรูปแบบข้อมูลประวัติความเสี่ยง (risk profile) ที่เข้าใจง่ายและสามารถนำ� 100 การลดความเส่ียงจากภัยพิบัติสู่การพัฒนาทีย่ ั่งยืน

ไปใช้ประกอบกับแผนที่เสี่ยงได้อย่างกว้างขวาง ไม่จำ�กัดเฉพาะผู้มีความรู้เฉพาะ ด้านเท่านั้น • หน่วยงานที่จัดทำ�การประเมินความเสี่ยงจากภัยพิบัตินำ�เสนอข้อมูลความเสี่ยง หรือหารือร่วมในระดับต่าง ๆ เพื่อให้ผู้บริหารกระทรวง ทบวง กรม และหน่วย งานด้านการพัฒนาในสาขาต่าง ๆ รับรู้และเข้าใจว่าพื้นใดมีความเสี่ยงจาก ภัยอะไรบ้าง มีองค์ประกอบใดในพื้นที่ที่อยู่ในความเสี่ยง มีปัจจัยใดบ้างที่ ทำ�ให้เกิดความล่อแหลมและเปราะบางต่อการเกิดภัยพิบัติ • รวบรวมและส่งเสริมให้มีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำ�ปรึกษาด้านการประเมิน ความเสี่ยงจากภัยพิบัติและให้ข้อมูลความเสี่ยงอย่างรอบด้าน ทั้งในระดับชาติ ระดับภูมิภาค กลุ่มจังหวัด จังหวัด และระดับท้องถิ่น • ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการประเมินความเสี่ยงได้ ด้วยตัวเอง เพื่อให้สามารถประเมินความเสี่ยงแบบเจาะลึกในพื้นที่ (site specific risk assessment) จัดทำ�ข้อมูลประวัติความเสี่ยงตามความต้องการของส่วนงาน ที่รับผิดชอบ และนำ�ไปใช้ได้จริงในการวางแผนพัฒนาสำ�หรับภาคส่วนนั้น ๆ • วางกลไกให้มีการประเมินความเสี่ยงซ้ำ�ใหม่เป็นระยะ ๆ และปรับปรุงข้อมูล ประวัติความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องให้เป็นปัจจุบันเสมอ เพื่อใช้ในการวางแผน นโยบายและมาตรการที่เหมาะสมในการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติต่อไปได้ อย่างสอดคล้อง กับบริบทของความเสี่ยงที่เป็นปัจจุบันที่สุด • จัดทำ�ระบบการเผยแพร่แผนที่เสี่ยงและข้อมูลประวัติความเสี่ยงให้หน่วยงานที่ เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน ตลอดจนประชาชนทั่วไปเข้าถึงและนำ�ไปใช้ในการลด ความเสี่ยงจากภัยพิบัติได้ การลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั สิ กู่ ารพัฒนาทีย่ ง่ั ยนื 101

กล่องที่ 4.1 แผนทเี่ สยี่ งภยั ดนิ ถลม่ ระดบั ชมุ ชนเพ่ือการวางแผนเตรยี มความพรอ้ ม รับมือกับภยั ดนิ ถล่มท่อี าจเกิดข้ึนในอนาคต กรมทรัพยากรธรณี ได้จดั ทำ�โครงการเพม่ิ ประสทิ ธิภาพระบบการเฝ้าระวังแจ้งเตือน ภยั ดนิ ถลม่ โดยในช่วงแรกไดม้ ีการด�ำ เนนิ การในพื้นทีเ่ สยี่ งภัย 17 จังหวดั แบ่งเปน็ พืน้ ท่ีภาคใต้ จำ�นวน 7 จังหวดั ไดแ้ ก่ จังหวดั ระนอง ชุมพร กระบ่ี สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลงุ และ ตรัง และพน้ื ทีภ่ าคเหนอื จ�ำ นวน 10 จงั หวดั ไดแ้ ก่ จงั หวดั แม่ฮอ่ งสอน เชยี งราย เชียงใหม่ นา่ น ลำ�พูน ลำ�ปาง พะเยา แพร่ อุตรดิตถ์ และตาก เพ่อื จัดทำ�แผนทเ่ี สยี่ งภยั ดนิ ถล่มระดับชุมชนท่ี ครอบคลมุ บรเิ วณพ้ืนที่ลาดชนั เชิงเขาซ่งึ มีโอกาสเกิดดินถลม่ สงู ลงมาตามแนวร่องน้ำ� จนถงึ พืน้ ท่ี ตั้งชมุ ชนตง้ั แต่ตน้ น�ำ้ กลางน้�ำ และปลายนำ้� มจี ุดประสงคเ์ พือ่ ใช้สำ�หรบั การวางแผนเตรยี ม ความพร้อมในการรับมือกับภยั พบิ ัติดนิ ถลม่ ที่อาจเกิดขึน้ ในอนาคตและเพื่อสรา้ งเครอื ขา่ ยและ จัดท�ำ แผนบรู ณาการดา้ นการเฝ้าระวงั แจ้งเตอื นภัยกบั หน่วยงานทเี่ ก่ยี วขอ้ งในพนื้ ที่เสีย่ งภยั จากการด�ำ เนนิ โครงการฯ ในจงั หวัดอตุ รดติ ถ์ ทำ�ให้มีการวิเคราะห์และจัดท�ำ แผนที่ เสี่ยงภัยดินถล่มที่แสดงหมบู่ ้านประชาชนท่ีมโี อกาสได้รับผลกระทบดนิ ถลม่ โดยตรง ซง่ึ แผนที่ มีองค์ประกอบหลัก 2 ส่วน คอื 1) ส่วนแสดงรายละเอียดร่องรอยดนิ ถล่มท่ีเกดิ ขน้ึ ขอบเขต ต�ำ บลพรอ้ มสถานทสี่ �ำ คัญ ขอบเขตพ้ืนที่เสีย่ งภยั ดนิ ถล่ม น�ำ้ ป่าไหลหลากและนำ้�ท่วมฉบั พลนั ต�ำ แหน่งหมู่บ้านท่ไี ดร้ ับผลกระทบ ต�ำ แหน่งบา้ นเสีย่ งภยั และสถานท่ีปลอดภยั ส�ำ หรบั จัดต้งั ศนู ยอ์ พยพช่ัวคราว และ 2) สว่ นทแี่ สดงต�ำ แหนง่ บ้านทรี่ ว่ มเป็นอาสาสมคั รเครือขา่ ยเฝา้ ระวงั แจ้งเตือนภยั ดินถล่ม ตำ�แหน่งคนวัดปรมิ าณนำ้�ฝน และตำ�แหน่งเฝ้าระวังบรเิ วณตน้ น้ำ� นอกจากน้ี องค์การปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ ยังไดน้ ำ�ขอ้ มลู ความเสยี่ งดังกลา่ วไปใช้ก�ำ หนดแผน รับมือกับเหตกุ ารณ์ดนิ ถล่ม นำ�้ ปา่ ไหลหลาก และน�ำ้ ท่วมฉับพลนั ในระดบั ตำ�บลและหมบู่ า้ น ที่มา: กรมทรัพยากรธรณี, 2554 102 การลดความเสยี่ งจากภยั พบิ ตั ิสู่การพฒั นาทย่ี ั่งยืน

4.2.3 จดั ท�ำ กฎระเบยี บขอ้ บงั คับเพอื่ การลดความเส่ยี งจากภยั พิบตั ิอยา่ งบรู ณาการ การก�ำ หนดกฎระเบียบและข้อบงั คบั ตา่ ง ๆ เปน็ ปัจจยั ส�ำ คัญทชี่ ่วยส่งเสรมิ ใหเ้ กดิ การบูรณาการการลดความเสยี่ งจากภยั พิบตั ใิ นทางปฏบิ ัติ เนอ่ื งจากมีผลบงั คับใชใ้ นทาง กฎหมาย ท�ำ ใหห้ นว่ ยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนตอ้ งดำ�เนนิ ตาม และเปน็ ตวั กระตุ้นใหท้ ุกฝ่ายเกิดความใสใ่ จทจี่ ะนำ�ไปปฏิบตั จิ ริง โดยแบ่งเปน็ 2 ลกั ษณะ คอื ระเบียบ ข้อบังคบั เพอ่ื ควบคุม (control approach) และระเบยี บข้อบงั คับเพื่อสร้างแรงจูงใจใน การน�ำ ไปปฏิบัติ (incentive approach) ตวั อยา่ งระเบยี บขอ้ บงั คับเพอื่ ควบคมุ ให้เกดิ ความปลอดภัยจากภัยพิบตั ิ ไดแ้ ก่ • ข้อกำ�หนดผงั ชุมชนใหม้ อี งค์ประกอบท่ีช่วยลดความเสีย่ งในพ้ืนท่ี เชน่ การวางระบบ ระบายนำ้� ระบบกำ�จัดของเสยี ระเบยี บการประกอบกิจการนำ�้ บาดาล เพื่อคงสมดลุ ทางธรรมชาติและลดความเสย่ี งการทรดุ ตัวของพ้นื ดิน • กฎหมายข้อบงั คบั ในการสร้างอาคารใหไ้ ดม้ าตรฐาน • ระเบยี บการก่อสรา้ งบ้านเรอื นรมิ ตลิง่ และการจดั การชุมชนแออัดริมทางน�ำ้ สาธารณะ • กฎหมายเพ่อื ควบคมุ การใช้และก�ำ จดั สารเคมี วตั ถมุ พี ษิ • ขอ้ ก�ำ หนดด้านชวี ะอนามัย • ขอ้ บงั คบั การจดั ทำ�รายงานการวิเคราะหค์ วามเส่ียงและแผนบริหารจัดการความเส่ียง ในโรงงาน • กฎหมายการใชท้ ด่ี ินและการจัดโซนนิง่ เพือ่ หลกี เล่ยี งการตง้ั ถนิ่ ฐานหรอื กิจการใน พื้นท่ีเสย่ี ง • กฎหมายบงั คับให้น�ำ การประเมินความเส่ยี งจากภัยพบิ ัติสอดแทรกเป็นสว่ นหนึง่ ของ การประเมินผลกระทบดา้ นส่ิงแวดลอ้ มสำ�หรับโครงการลงทุนขนาดใหญเ่ พ่อื ใหก้ าร ประเมนิ ครอบคลุมผลกระทบทีโ่ ครงการอาจได้รับจากการเกดิ ภยั พิบัติ และให้ไดม้ ีการ พจิ ารณาวา่ โครงการดังกล่าวทำ�ให้ความเสี่ยงจากภัยพิบตั ใิ นชุมชนมีมากข้ึนหรือไม่ ทั้งน้ี กฎเกณฑ์ดงั กล่าวต้องมีการบังคับใชอ้ ยา่ งเข้มงวด ต้องมกี ารสร้างความรู้ ความเข้าใจกับหน่วยงานและผู้มีส่วนเก่ียวข้อง รวมถงึ ส่งเสริมและพฒั นาศักยภาพของ หน่วยงานและภาคสว่ นต่าง ๆ ให้ดำ�เนินงานตามทกี่ ฎระเบียบท่กี ำ�หนดไว้ได้อย่างเครง่ ครัด การลดความเสยี่ งจากภัยพบิ ตั ิสู่การพัฒนาท่ยี ั่งยืน 103

กลอ่ งท่ี 4.2 กฎหมายดา้ นมาตรฐานการกอ่ สร้างอาคารเพื่อลดความเสย่ี งจาก ภยั พบิ ัติแผน่ ดินไหว เพอื่ เป็นการสง่ เสรมิ การลดความเสยี่ งจากแผน่ ดินไหว กระทรวงมหาดไทยได้ บญั ญตั กิ ฎกระทรวง ก�ำ หนดการรับน้�ำ หนัก ความตา้ นทาน ความคงทนของอาคารและ พ้ืนดินท่ีรองรบั อาคารในการตา้ นทานแรงสนั่ สะเทือนของแผ่นดินไหว พ.ศ. 2550 ในพนื้ ท่ี กรงุ เทพมหานครและปริมณฑลทเ่ี ส่ยี งจากภยั แผ่นดินไหวในระยะไกล และพ้ืนทภี่ าคใต้บาง ส่วนของประเทศไทยซึ่งตง้ั อยู่ในบริเวณรอยเล่ือนระนองและรอยเล่ือนคลองมะรยุ่ รวมทงั้ มีการปรบั ปรงุ หลักเกณฑ์การรับนำ้�หนัก ความต้านทานความคงทนของอาคาร และพ้ืนดนิ ทรี่ องรับอาคารในการตา้ นทานแรงสัน่ สะเทือนของแผ่นดนิ ไหวเสียใหมต่ ามมาตรฐานสากล โดยก�ำ หนดบรเิ วณเฝา้ ระวงั พื้นทท่ี ี่ดินอ่อนมาก เชน่ กรงุ เทพมหานคร ปทุมธานี และพน้ื ท่ี ใกลร้ อยเลอื่ น เชน่ เชยี งราย เชยี งใหม่ ระบุประเภทของอาคาร เชน่ สถานพยาบาล อาคาร สาธารณะท่มี ีผู้ใช้ไดต้ ัง้ ตงั้ แต่ 300 คนขึ้นไป เช่น หอประชุม สนามกฬี า หา้ งสรรพสนิ คา้ โรงแรม ท่ตี อ้ งปฏบิ ัติตามหลกั เกณฑ์ นอกจากน้ี ยงั มีกฎกระทรวงกำ�หนดหลกั เกณฑก์ ารอนญุ าตดดั แปลงอาคารเพ่อื เสริมความมน่ั คงแข็งแรงของอาคารใหส้ ามารถต้านแรงสัน่ สะเทอื นจากแผ่นดินไหว พ.ศ. 2555 เป็นหลักเกณฑแ์ ละข้อกำ�หนดเพื่อใหเ้ จ้าของอาคารทุกประเภทและทุกขนาดใน บริเวณทีก่ าํ หนดในกฎกระทรวง กาํ หนดการรบั น�ำ้ หนกั ความตา้ นทาน ความคงทนของ อาคาร และพ้นื ดินที่รองรบั อาคารในการต้านทานแรงสัน่ สะเทือนของแผน่ ดินไหว พ.ศ. 2550 สามารถยน่ื คําขออนุญาตดดั แปลงอาคารเพอื่ เสรมิ ความม่นั คงแขง็ แรงของอาคารให้ สามารถตา้ นแรงสัน่ สะเทอื นจากแผน่ ดินไหวได้ ทมี่ า: กรมโยธาธิการและผงั เมือง 104 การลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั สิ กู่ ารพฒั นาท่ียง่ั ยนื

ส่วนระเบียบข้อบังคบั เพ่อื สรา้ งแรงจงู ใจให้เกดิ การน�ำ ไปปฏิบัติ โดยมากมักใช้ มาตรการทางภาษแี ละการให้สทิ ธิพิเศษเพอื่ สรา้ งแรงจงู ใจใหภ้ าคเอกชนและประชาชน ปฏิบตั กิ ารเพอื่ ลดความเส่ยี ง เช่น • การลดหยอ่ นภาษีโรงเรอื นส�ำ หรับสง่ิ ปลกู สร้างทีม่ ีโครงสร้างท่ีปลอดภัยได ้ มาตรฐาน • การลดหยอ่ นภาษีการคา้ สำ�หรบั ภาคธรุ กิจที่จัดกจิ กรรมเพอื่ ลดความเสย่ี งจาก ภัยพบิ ตั ใิ นองคก์ รเองและใหก้ ารสนับสนุนกิจกรรมเพอ่ื ลดความเส่ยี งจากภัยพบิ ตั ิ ในชมุ ชน • การจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมส�ำ หรับบคุ คล ภาคเอกชน และภาคธุรกจิ ทีม่ ีสว่ นทำ�ให ้ ความเส่ยี งจากภยั พบิ ตั ิในชุมชนเพิ่มขึ้น • การก�ำ หนดเบ้ยี ประกันในอตั ราท่ีสูงกว่าปกติส�ำ หรบั กจิ การทีท่ �ำ ใหช้ ุมชนมคี วาม เสย่ี งจากภยั พบิ ัตเิ พิ่มข้นึ เพื่อเป็นกลไกท่สี ร้างแรงต้านไม่ให้เกิดการกระท�ำ ท ่ี ก่อใหเ้ กดิ ความเส่ียงภัย • การให้สิทธพิ เิ ศษดา้ นการประกนั ภัยพบิ ัติ หากกิจการมีการลงทนุ เพอ่ื ลดความเส่ยี ง จากภยั พบิ ตั ิ • การจัดตัง้ กองทนุ เพ่อื การช่วยเหลอื ฉุกเฉิน (emergency fund) แก่วิสาหกิจขนาด กลางและขนาดยอ่ ม (Small and Medium Enterprises: SMEs) ที่ผา่ นการฝกึ อบรมเรอ่ื งการเตรียมตวั รองรับภาวะวิกฤต มกี ารจัดเตรียมแผนการดำ�เนนิ กิจการ อยา่ งต่อเนื่องแลว้ เสรจ็ และไดข้ ้ึนทะเบียนล่วงหนา้ เพื่อรบั สิทธใ์ิ นการกูย้ ืมจาก กองทุนช่วยเหลอื ฉุกเฉนิ ในกรณีได้รบั ผลกระทบจากภัยพบิ ตั ิได้ อย่างไรก็ดี การจัดทำ�กฎระเบยี บและขอ้ บังคับตา่ ง ๆ ควรน�ำ ขอ้ มูลความเสี่ยงมาใช้ พจิ ารณาร่วมด้วย โดยตอ้ งมีการพจิ ารณาทบทวนขอ้ บงั คับทางกฎหมาย ปรบั ปรงุ ให้ทนั สมัย และมคี วามสอดคลอ้ งกับความเส่ียงจากภัยพบิ ตั ิทเ่ี ปลีย่ นแปลงไป การลดความเสยี่ งจากภัยพบิ ตั สิ ู่การพฒั นาทีย่ ัง่ ยนื 105

กลอ่ งท่ี 4.3 มาตรการทางกฎหมายของญีป่ นุ่ ทชี่ ว่ ยใหช้ ุมชนลดผลกระทบจากสนึ ามิ เมืองและชุมชนชายฝง่ั ซง่ึ มกั ไดร้ บั ผลกระทบจากคลนื่ สึนามิในประเทศญี่ปุน่ เชน่ พ้นื ท่ี ชายฝงั่ ซันรคิ ุ (Sanriku) ได้ด�ำ เนินมาตรการท้งั ท่ีใช้โครงสรา้ งและไมใ่ ช้โครงสรา้ งเพือ่ ชว่ ย ผลกระทบจากคล่นื สนึ ามิ ตัวอย่างเชน่ การย้ายพ้นื ทีซ่ ง่ึ เป็นอย่อู าศัยและอาคารสาธารณะไป อยบู่ นพื้นที่สงู และให้เส้นทางอพยพหนีภยั ซ่ึงเชอื่ มตอ่ กับอาคารสาธารณะตา่ ง ๆ อยบู่ นพ้ืนที่ สูง ปลกู ตน้ ไมอ้ ยา่ งหนาแน่นบรเิ วณชายฝ่งั เพอ่ื ใช้เป็นกำ�แพงกนั คลื่นตามธรรมชาติ ระบใุ ห้ใช้ อาคารคอนกรตี ทสี่ งู เกนิ กวา่ 4-5 ชน้ั เปน็ พืน้ ทอี่ พยพ รวมถึงการสรา้ งทางหลวงซ่ึงสามารถใช้ เป็นกำ�แพงกันคลน่ื สนึ ามชิ น้ั ทสี่ องได้ด้วย นอกจากน้นั รัฐบาลประเทศญ่ปี ่นุ ไดอ้ อกกฎหมาย the Act on Tsunami Resilient Community เพ่ือสนับสนนุ การสรา้ งชุมชนเขม้ แขง็ รบั มือกับภยั คล่ืนสนึ ามิ กฎหมายดังกล่าว สนับสนุนมาตรการท้ังที่ใช้โครงสร้างและไมใ่ ช้โครงสร้างในพืน้ ท่เี ทศบาลทเี่ สยี่ งภัยจากคลน่ื สึนามิ โดยมขี ้อบังคบั เก่ยี วกบั การอนุญาตก่อสรา้ งอาคารในพืน้ ทเี่ สย่ี งภยั แนะน�ำ เก่ยี วกับ การบูรณาการในการวางแผนบรรเทาความเส่ยี งจากคลื่นสึนามิ เส้นทางอพยพและสง่ิ อำ�นวย ความสะดวกในการอพยพ การฝกึ ซ้อมแผน การจดั ท�ำ แผนทเี่ สยี่ งภยั ระบบเตือนภยั รวมถงึ การผอ่ นปรนอตั ราส่วนการใช้สอยพน้ื ทีอ่ าคารเพ่อื สง่ เสริมใหป้ ระชาชนสร้างอาคารทมี่ คี วาม สูงเพมิ่ ข้นึ ลดภาษีโรงเรอื นและท่ีดนิ สำ�หรับอาคารทก่ี ำ�หนดใหใ้ ช้เปน็ ศนู ย์อพยพ รวมถึงการ ยา้ ยบ้านเรือนไปสรา้ งในพน้ื ท่ีสูง ทม่ี า: World Bank, 2014a (พ.ศ. 2557) 4.2.4 วางแผนเชิงพน้ื ท่แี ละวางแผนการใชท้ ี่ดนิ โดยค�ำ นงึ ถงึ การลดความเสยี่ งจาก ภัยพบิ ตั ิ ในการพัฒนาประเทศ ต้องพิจารณาการใชพ้ ้ืนที่ทีม่ อี ยอู่ ยา่ งจ�ำ กดั ให้เกิดประโยชน์ อย่างสมดลุ โดยคำ�นงึ ถงึ สภาพพนื้ ที่ ลักษณะทางภูมิศาสตร์ เพอื่ วางแผนการใช้ทดี่ ินที่เหมาะ สมกบั สภาพวิถีชิวิตความเป็นอยู่และทรพั ยากรในทอ้ งถ่นิ อย่างไรกด็ ี ที่ผา่ นมามีการวางแผน เชิงพื้นทแี่ ละการใช้ทีด่ ิน (spatial and land use planning) เพื่อการลดความเส่ียงจาก ภยั พบิ ตั ไิ มม่ ากนกั เนอ่ื งจากข้อจำ�กดั หลายประการ กลา่ วคอื แทบจะทกุ พืน้ ทขี่ องประเทศมี การจับจอง มีเจา้ ของ มีการปลกู สรา้ งท่ีอยอู่ าศยั และสง่ิ อำ�นวยความสะดวกตา่ ง ๆ ท�ำ ให้มี 106 การลดความเสีย่ งจากภัยพิบตั ิสกู่ ารพฒั นาที่ยง่ั ยนื

พืน้ ท่ีว่างทีจ่ ะนำ�ไปใช้ประโยชนใ์ นการลดความเสีย่ งจากภัยพิบัติไดอ้ ย่างจำ�กดั นอกจากนี้ การวางแผนพัฒนาและการใชป้ ระโยชน์พ้นื ทย่ี ังเป็นการด�ำ เนินการแบบแยกสว่ น ทำ�ใหม้ ี โอกาสน้อยครงั้ ท่ีจะเกดิ การบรู ณาการระหวา่ งภาคสว่ นทห่ี ลากหลายในการพฒั นาเชิงพน้ื ท่ี รว่ มกัน อย่างไรกด็ ี การใชป้ ระโยชน์ทางทด่ี นิ มีส่วนส�ำ คัญมากในการบริหารจดั การและลด ความเสย่ี งจากภัยพิบตั ใิ นเชงิ พ้นื ที่ หากมกี ารบรหิ ารจดั การทด่ี ีจะทำ�ให้การใชพ้ ้ืนทซี่ ่ึงมอี ยู่ อยา่ งจำ�กัดเกดิ ประโยชนท์ ่ีหลากหลายได้ ทัง้ ในเชิงการพัฒนาประเทศและการลดความเสย่ี ง จากภัยพบิ ตั ิ ตวั อย่างการวางแผนเชิงพ้ืนทแ่ี ละการวางแผนใช้พืน้ ทที่ ่มี สี ว่ นชว่ ยในการลดความ เส่ียงจากภยั พิบัติ มดี ังนี้ • จำ�กัดการพัฒนาในพื้นทีท่ ่เี คยเกดิ ภยั และกำ�หนดใหม้ ีพ้ืนทเ่ี พื่อใชป้ ระโยชนใ์ นการ ลดความเส่ียงจากภัยพบิ ัตโิ ดยเฉพาะ เช่น ใช้เป็นพนื้ ทรี่ ับนำ้� เปน็ แนวกันไฟ รักษา ให้เป็นพืน้ ทสี่ ีเขยี วเพอื่ ใชเ้ ปน็ แนวปอ้ งกนั ลมพายุ หรอื ก�ำ หนดใหเ้ ป็นเขตพื้นท ี่ เฉพาะเพอ่ื ใชใ้ นยามฉุกเฉิน เช่น ระบุให้เปน็ ท่ีตง้ั ศนู ยพ์ กั พิงชั่วคราว • จดั ประเภทพื้นท่สี �ำ หรับการใช้ประโยชนล์ ักษณะต่าง ๆ ใหเ้ หมาะสมกบั ระดับ ความเสย่ี ง เชน่ พืน้ ทล่ี าดชนั หรอื บริเวณเชิงเขา ไม่สมควรใช้เปน็ ทพ่ี ักอาศยั เพราะ เสย่ี งต่อภยั ดนิ โคลนถล่มสงู แต่สามารถใชป้ ระโยชนใ์ นการท�ำ การเกษตรได้ • จัดวางผงั เมือง โดยจำ�กัดความหนาแนน่ ของการกอ่ สรา้ งบ้านเรือน ส่ิงปลกู สร้าง และกำ�หนดมาตรฐานการก่อสรา้ งใหเ้ หมาะกบั ภยั ทีม่ กั เกดิ ข้ึนในพื้นท่ี • วางแผนร่วมกันระหว่างผ้มู ีสว่ นได้เสยี ในพื้นทแี่ ละภาคส่วนที่เก่ียวขอ้ งเพ่ือกอ่ สร้าง ส่ิงปลูกสรา้ งทม่ี ีประโยชน์ในการใช้สอยทีห่ ลากหลาย (multi-functions) ท่ี สามารถกอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชน์ในเชงิ การพัฒนาประเทศและในการลดความเสย่ี งจาก ภยั พิบัติ เชน่ - การสร้างถนนทม่ี ปี ระโยชน์เปน็ คันกนั น้ำ�ตามธรรมชาติ - การสรา้ งสวนสาธารณะรมิ น้ำ�ทใี่ ชเ้ ปน็ แก้มลิงรับน�้ำ ได้ในฤดนู ้�ำ หลาก - การสร้างอาคารเรียนทใ่ี ช้เปน็ ที่อพยพของชมุ ชน การลดความเสี่ยงจากภยั พิบตั สิ กู่ ารพฒั นาที่ย่ังยนื 107

กล่องที่ 4.4 การจัดสรรพ้ืนทข่ี องประเทศเนเธอรแ์ ลนด์เพื่อลดความเสี่ยงจากอทุ กภยั ในเขตเมอื ง ประเทศเนเธอรแ์ ลนดอ์ ยตู่ ่�ำ กว่าระดบั นำ�้ ทะเล และตอ้ งเผชิญกบั ผลกระทบจากอุทกภยั ท่ี รุนแรงอย่เู สมอ จึงไดน้ �ำ มาตรการทีห่ ลากหลายมาใชเ้ พือ่ ลดความเสีย่ ง โดยเนน้ การพฒั นาเมอื ง ท่สี ามารถอยู่รว่ มกนั กับนำ�้ ไดอ้ ยา่ งปลอดภัย มีการจดั สรรพื้นทีเ่ พอ่ื ลดผลกระทบจากอทุ กภยั และเพอ่ื ประโยชน์ใช้สอยอยา่ งอื่นควบคกู่ ันไป เมืองรอตเตอร์ดมั ซึง่ มคี วามเสี่ยงจากท้ังน�้ำ ใต้ดิน น�ำ้ จากแมน่ ้ำ� นำ้�ฝน และน้ำ�ทะเลหนนุ สูง จัดท�ำ โครงการ ‘water plazas’ หรอื จัตรุ สั น้ำ� เพ่ือรองรบั น้�ำ ฝนจากพืน้ ผิวถนนและพ้นื ท่ี ใกล้เคียง และยงั สามารถใช้เป็นสวนสาธารณะเพ่อื การออกกำ�ลังกายและพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ มี การสรา้ งบอ่ พักน้ำ�ใตด้ นิ เพื่อกกั เก็บน้ำ�บรเิ วณใจกลางเมอื งโดยออกแบบพืน้ ท่ีใตล้ านจอดรถให้ สามารถรองรับน�ำ้ ได้ และมีการปลูกพืชบนหลังคาอาคารต่าง ๆ เพอ่ื ให้ดดู ซบั น�ำ้ ฝนบางส่วน ชว่ ยชะลอการไหลและปริมาณน้ำ�ฝนทจ่ี ะเข้าสรู่ ะบบระบายน�้ำ เป็นการสรา้ งสรรพื้นทเี่ ดมิ ๆ ให้สามารถรองรบั นำ�้ ฝนได้ยามฝนตกอย่างหนกั นบั เปน็ นวัตกรรมทต่ี อบโจทยก์ ารลดความเสี่ยง อุทกภยั ภยั ในเขตเมืองทม่ี ีพนื้ ท่ีวา่ งอย่างจ�ำ กดั ที่มา: Rotterdam.Climate.Initiative 108 การลดความเสย่ี งจากภัยพิบตั สิ ูก่ ารพฒั นาทยี่ ั่งยนื

กลอ่ งท่ี 4.5 พ้ืนที่แกม้ ลงิ และศนู ย์กีฬาทางนำ�้ บงึ หนองบอน บึงหนองบอน เปน็ สถานท่ีเลน่ กฬี าทางน�้ำ แตใ่ นฤดนู ้ำ�หลากสามารถใชเ้ ป็นพ้นื ที่แก้มลิง ในเขตเมอื ง เป็นหน่ึงในโครงการแกม้ ลิงในพระราชดำ�ริ แต่แรกบึงหนองบอนสร้างขน้ึ โดยมี วัตถุประสงค์ใหเ้ ป็นพ้ืนที่ชะลอนำ้�เพอ่ื แก้ไขปญั หาน�ำ้ ทว่ มในพนื้ ทดี่ ้านตะวนั ออกของกรุงเทพฯ เนอื่ งจากกรงุ เทพ ฯ ประสบปัญหาน้ำ�ท่วมอยา่ งหนักต้งั แต่ปี พ.ศ. 2526 ทำ�ให้การระบาย น้ำ�ทางด้านตะวนั ออกลงสู่แมน่ ้ำ�เจา้ พระยาและอ่าวไทยท�ำ ไดย้ ากเน่อื งจากเป็นทล่ี ุ่ม ตอ้ งหา พืน้ ทก่ี ักเก็บนำ�้ ฝน จงึ ได้เริ่มกอ่ สรา้ งโครงการบึงหนองบอนขึ้นในปี พ.ศ. 2539 เพื่อใช้รบั น�้ำ มี ลกั ษณะเปน็ บึงขุดจ�ำ นวน 3 บงึ ตอ่ เน่ืองกนั มีเนอ้ื ที่รวม 538 ไร่ มีความลึกเฉล่ีย 10 เมตร มี ทางระบายนำ�้ เช่อื มตอ่ กนั สามารถเกบ็ กกั น�ำ้ ได้ 5,000,000 ลูกบาศก์เมตร ตอ่ มาได้พฒั นา พ้นื ท่แี ก้มลงิ บงึ หนองบอนน้ใี หก้ ลายเปน็ ศูนย์ กฬี าทางน�ำ้ บงึ หนองบอนในปี พ.ศ. 2548 และ เป็นศูนยก์ ีฬาทางน�้ำ แหง่ แรกและแหง่ เดยี วใน พนื้ ท่กี รงุ เทพฯ ที่รองรบั การเลน่ กฬี าทางน้ำ�ได้ หลายชนิด ท่มี า: สำ�นกั งานเขตประเวศ 4.2.5 จัดสรรงบประมาณสำ�หรับการลดความเสย่ี งจากภยั พิบัติ การลงทุนในโครงการเพื่อลดความเสย่ี งกอ่ นทภี่ ัยพิบตั ิจะเกดิ ขนึ้ มกั มขี อ้ จำ�กดั ดา้ น งบประมาณ เนอ่ื งจากหนว่ ยงานท่รี ับผดิ ชอบดา้ นงบประมาณและผู้มอี ำ�นาจตดั สินใจมักเห็น ว่าไมม่ ีความจ�ำ เป็นเร่งดว่ นเหมือนงบประมาณในการเผชญิ เหตกุ ารณ์ฉกุ เฉินและการฟ้นื ฟู ภายหลงั การเกดิ ภยั พิบตั ิ อกี ท้งั อาจรู้สึกว่าการจดั สรรงบประมาณเพ่อื การพฒั นาประเทศใน ด้านอ่ืนมคี วามสำ�คญั มากกวา่ อยา่ งไรกด็ ี การด�ำ เนินกิจกรรมเพื่อการลดความเส่ียงจาก ภยั พิบัตจิ ะเกดิ ขึ้นไมไ่ ดเ้ ลยหากไม่ได้รบั งบประมาณเพอื่ ด�ำ เนนิ การ ภาครัฐจงึ จำ�เป็นต้องให้ ความสำ�คญั กบั การจดั สรรงบประมาณเพื่อการลดความเส่ียงจากภัยพิบตั อิ ย่างเหมาะสมและ เพียงพอ ดงั ตัวอยา่ งตอ่ ไปนี้ • สรา้ งความเข้าใจในความส�ำ คัญของการลดความเสย่ี งจากภัยพบิ ัติกบั หนว่ ยงานดา้ น งบประมาณและผู้มีอำ�นาจตัดสินใจ โดยเช่ือมโยงกบั นโยบายและยทุ ธศาสตร์ ประเทศในการขับเคลื่อนการลดความเส่ียงจากภยั พิบัติ การลดความเส่ยี งจากภัยพิบัตสิ กู่ ารพฒั นาทยี่ ่ังยนื 109

• ทบทวนการจัดสรรงบประมาณและวเิ คราะห์สัดสว่ นของงบประมาณเพอ่ื การลด ความเส่ียงจากภัยพิบัติเมือ่ เทียบกบั งบประมาณเพอื่ การเผชญิ เหตกุ ารณฉ์ ุกเฉนิ และการฟืน้ ฟู รวมท้ังงบประมาณดา้ นการพฒั นาอ่ืน ๆ • วเิ คราะหค์ วามคมุ้ คา่ ของการลงทนุ เปรยี บเทยี บตน้ ทนุ และประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั จากการ ลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั เิ พอ่ื ประกอบการตดั สนิ ใจจดั สรรงบประมาณ • ก�ำ หนดแนวทางให้ภาคการพฒั นาในทกุ ระดับมีการบรู ณาการการลดความเสี่ยง จากภัยพบิ ัตใิ นการด�ำ เนนิ ภารกิจของตนอยา่ งเปน็ ระบบ เพ่ือให้งบประมาณที่จัดสรร ให้กบั ภาคการพฒั นาต่าง ๆ ส่งประโยชน์ตอ่ การลดความเสยี่ งจากภยั พบิ ตั ดิ ้วย • จัดสรรงบประมาณประจ�ำ ปีในสดั ส่วนทเ่ี หมาะสมเพ่ือการลดความเสี่ยงจากภยั พบิ ัติ ใหม้ ีความสอดคลอ้ งกับระดบั ความเสยี่ งและเพอื่ ให้บรรลุเปา้ หมายของการลด ความเส่ยี งจากภัยพิบัติของประเทศ • สนับสนุนความรว่ มมอื ระหว่างภาครัฐ-เอกชนในการระดมทนุ สนบั สนุนกจิ กรรม และโครงการเพ่ือลดความเสี่ยงจากภยั พิบัติ • พจิ ารณาอนุมตั ิงบประมาณโครงการท่อี าจสูงข้ึนกว่าเดมิ แต่ชว่ ยให้เกดิ ความปลอดภยั ยิง่ ขนึ้ ในระยะยาว โดยเฉพาะการสร้างคืนใหม่ให้ดีกว่าเดิม กลอ่ งที่ 4.6 กฎหมายด้านการบรหิ ารจดั การและการลดความเสีย่ งจากภัยพบิ ัติ ประเทศฟิลิปปินส์ ในปี พ.ศ. 2553 รฐั บาลฟลิ ปิ ปนิ ส์ได้มีการตราพระราชบญั ญตั ิ มาตรา 10121 หรอื ท่ี รูจ้ ักกันในชอ่ื “พระราชบัญญตั ิเสรมิ สร้างศกั ยภาพในการจดั การระบบการบรหิ ารจัดการและ การลดความเส่ยี งจากภัยพบิ ตั ิของประเทศฟลิ ิปปินส”์ หรือ “An Act: Strengthening the Philippines Disaster Risk Reduction and Management System” เพอ่ื สง่ เสรมิ ให้มีการ บริหารจัดการภยั พบิ ัตขิ องประเทศเป็นแบบเชงิ รกุ โดยให้ความสำ�คญั กบั มาตรการเพ่ือการลด ความเสีย่ งและการเตรยี มความพรอ้ มรับมอื กับภยั พบิ ัติ และหน่งึ ในประเด็นสำ�คญั ที่มกี ารปรบั แกจ้ ากพรบ. ฉบบั เดิม คอื การจดั สรรงบประมาณใหแ้ กร่ ัฐบาลทอ้ งถิ่นเพอ่ื ใช้ในการลดความ เส่ียงและการเตรยี มความพร้อมรับมอื ภัยพิบัติ โดยรัฐบาลทอ้ งถิ่นสามารถเบิกจ่ายงบประมาณ รอ้ ยละ 70 เพอ่ื ใช้ในกจิ กรรมเพอื่ ลดความเส่ียงจากภยั พิบัติ และอกี ร้อยละ 30 เพอื่ การเผชญิ เหตุการณ์ฉุกเฉนิ ซงึ่ ตามกฎหมายเดิมสามารถใชง้ บประมาณน้เี พอื่ การเผชญิ เหตุฉกุ เฉินเท่านั้น ที่มา: DRR Knowledge Center, 2013 (พ.ศ. 2556) 110 การลดความเสยี่ งจากภัยพบิ ตั ิส่กู ารพัฒนาที่ย่งั ยืน

4.2.6 ส่งเสริมความรว่ มมือระหวา่ งหน่วยงานภาครัฐ ในการด�ำ เนินโครงการพฒั นาเพ่ือลดความเส่ียงจากภัยพบิ ตั ิ หน่วยงานภาครัฐใน แตล่ ะภาคส่วน จำ�เป็นท่จี ะต้องทำ�งานและสนับสนนุ ภารกจิ ซึง่ กนั และกนั มกี ารวางแผน ดำ�เนินงานรว่ มกนั โดยอาศัยความเชย่ี วชาญเฉพาะด้านของแต่ละองคก์ ร มีการเช่ือมโยงและ แลกเปลี่ยนข้อมูลระหวา่ งหน่วยงาน ตลอดจนเผยแพรข่ อ้ มูลเพอ่ื เปน็ ประโยชนใ์ นการเพมิ่ ขีดความสามารถในลดความเสย่ี งจากภยั พิบตั ิ หน่วยงานต่าง ๆ สามารถระดมทรัพยากรและ งบประมาณเพื่อดำ�เนนิ โครงการรว่ มกนั ทำ�ใหล้ ดความซ�ำ้ ซ้อน เป็นการใช้งบประมาณอยา่ ง คุ้มคา่ และยังชว่ ยสร้างเครอื ข่ายและเสริมสรา้ งความสัมพันธอ์ ันดรี ะหว่างหน่วยงาน ตวั อย่างความรว่ มมอื ระหว่างหนว่ ยงานภาครัฐทส่ี ามารถด�ำ เนนิ โครงการพฒั นาเพ่ือ ลดความเส่ยี งจากภยั พบิ ัติร่วมกัน ไดแ้ ก่ • ความรว่ มมือระหว่างหนว่ ยงานด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศ หน่วยงานด้านภัยพิบัติ หน่วยงานดา้ นการโยธาธิการ หนว่ ยงานดา้ นการจัดการนำ้� และอื่น ๆ เพอ่ื การ ประเมินความเส่ียงจากภยั พบิ ัติ • ความร่วมมือระหวา่ งหน่วยงานภาคการศกึ ษาและสาธารณสุข เพอ่ื ฝกึ อบรม เตรียมความพร้อมให้กบั โรงเรียนและชุมชนในการปฐมพยาบาลและรักษาชวี ติ หากเกดิ ภยั พบิ ัติ • ความร่วมมอื ระหวา่ งหน่วยงานดา้ นการเกษตรกรรม ด้านทรพั ยากรสิ่งแวดลอ้ ม และการจัดการชายฝั่งทะเล เพื่อใหค้ วามรกู้ บั ชมุ ชนในการปรบั เปล่ยี นวถิ ี การทำ�เกษตรเพือ่ รักษาระบบนิเวศชายฝ่งั และเพ่อื สรา้ งแนวกนั ลมตามธรรมชาติ • ความรว่ มมือระหว่างหน่วยงานด้านการคมนาคมและด้านการจัดการน้ำ� ในการ วางแผนและดำ�เนนิ มาตรการเชิงโครงสรา้ งและใช้เส้นทางการคมนาคมในการ ช่วยระบายนำ้� • ความรว่ มมือระหวา่ งหนว่ ยงานดา้ นการเคหะและหน่วยงานดา้ นงบประมาณ ในการพจิ ารณางบประมาณท่ีเพียงพอในการกอ่ สร้างท่อี ยูอ่ าศัยทีม่ ีความแข็งแรง ทนทานและสามารถต้านทานความรนุ แรงของภัยได้ การลดความเสย่ี งจากภัยพิบตั สิ กู่ ารพฒั นาทีย่ งั่ ยนื 111

กลอ่ งท่ี 4.7 ความรว่ มมือระหว่างภาครัฐในโครงการปรบั ปรงุ โครงสรา้ งเมอื งโคลัมโบ และเพอื่ ลดความเสีย่ งจากอุทกภัย กระทรวงกลาโหมและการพฒั นาเมือง (Ministry of Defense and Urban Development) ประเทศศรีลังกา ดำ�เนินโครงการพัฒนาเมืองเมโทรโคลอมโบ (Metro Colombo Urban Development Project: MCUDP) โดยการสนบั สนนุ ด้านเงนิ ทนุ จาก Global Facility for Disaster Reduction and Recovery (GFDRR) มวี ตั ถุประสงคเ์ พอ่ื สนบั สนุนใหห้ นว่ ยงานภาครฐั ทำ�งานรว่ มกนั ในการวางแผนพฒั นาเมอื งระยะยาวเพ่ือปรบั ปรงุ โครงสรา้ งเมอื งโคลอมโบ ใหส้ ามารถลดผลกระทบด้านกายภาพ เศรษฐกิจ และสงั คมจาก อุทกภยั และน�้ำ ทว่ มขงั ในช่วงท่ีมฝี นตกหนักในเขตเมืองหลวง และยงั ให้ความสำ�คัญกับการ พฒั นาศกั ยภาพแกร่ ัฐบาลท้องถ่นิ ให้สามารถบรหิ ารจดั การเมือง ให้บริการพืน้ ฐานแก่ประชาชน และปฏิบตั ิงานสนับสนุนโครงการพัฒนาต่าง ๆ ในเขตเมืองได้ โดยโครงการมกี จิ กรรมหลัก สองประการ คอื 1) บรหิ ารจดั การอุทกภยั และการระบายน้ำ� และ 2) การพฒั นาเมืองและ ปรบั ปรุงโครงสรา้ งพน้ื ฐานในพืน้ ที่เมโทรโคลัมโบ โดยได้ปรบั ปรุงแหล่งเสอื่ มโทรมต่าง ๆ ทัง้ ด้านทัศนียภาพและประโยชน์ใช้สอยเพอ่ื ลดความเสย่ี งจากอุทกภัย โดยยา้ ยแหลง่ เสอ่ื มโทรม ออกจากแนวทางระบายนำ้� เพ่มิ ประสทิ ธภิ าพในการระบายนำ้� ขยายคูคลองทแี่ คบและตืน้ เขิน ให้รับน้ำ�ไดม้ ากขึ้น มีการทำ�เนนิ หญา้ เพ่ือเปน็ คันก้ันน�ำ้ และสามารถใชเ้ ปน็ ทพี่ กั ผ่อนหย่อนใจได้ ในเวลาเดยี วกัน ท่ีมา: Rodrigo, Chatura, 2013 (พ.ศ. 2556) และ World Bank, 2014b (พ.ศ. 2557) 112 การลดความเสี่ยงจากภยั พบิ ัติสกู่ ารพฒั นาทย่ี งั่ ยืน

4.2.7 ใช้หลกั ธรรมาภิบาลในการบริหารจดั การเพ่อื ลดความเสี่ยงจากภยั พิบัติ หลกั ธรรมมาภิบาล คือ หลักการที่ใชเ้ พอื่ ให้เกดิ การปกครองท่ีเป็นธรรม เปน็ การ บรหิ ารกิจการบา้ นเมอื งท่ดี เี พอ่ื ประโยชน์สุขของประชาชน โดยการวางนโยบายทเี่ กย่ี วกบั รฐั สงั คม และส่งิ แวดลอ้ ม ต้องคำ�นึงถึงผู้รบั บริการ ผมู้ สี ว่ นไดส้ ่วนเสีย องคก์ รและผ้ปู ฏบิ ตั งิ าน ประกอบด้วยหลกั การส�ำ คญั 6 ประการ คือ 1) หลกั คณุ ธรรม คือ การยึดถอื และเชอ่ื ม่นั ในความถกู ตอ้ งดีงาม 2) หลกั นติ ธิ รรม คือ การตรากฎหมาย กฎ ระเบียบข้อบงั คบั และกติกาตา่ ง ๆ ท ่ี เปน็ ธรรมและเปน็ ท่ียอมรับของคนในสังคม 3) หลักความโปรง่ ใส คอื การเปิดเผยข้อมลู ข่าวสารอย่างถูกตอ้ ง ตรงไปตรงมา และ สามารถตรวจสอบได้ 4) หลักความมีส่วนรว่ ม คือ การใหป้ ระชาชนมสี ว่ นรว่ มรบั ร้แู ละร่วมเสนอแนะ ความ เหน็ ในการตดั สินใจสำ�คัญ ๆ ของสงั คม 5) หลกั ความรบั ผิดชอบ คือ การทผ่ี ้บู ริหารและขา้ ราชการ ทง้ั ฝ่ายการเมอื งและ การปกครองมคี วามต้งั ใจในการปฏบิ ตั ภิ ารกิจตามหน้าทีอ่ ยา่ งดีและมีความ รับผดิ ชอบตอ่ ความบกพรอ่ งในหนา้ ทก่ี ารงานที่อยใู่ นความรบั ผดิ ชอบ 6) หลกั ความคุ้มค่า คอื การบรหิ ารจัดการโดยยึดหลักความประหยดั และมีการ จัดสรรทรัพยากรทม่ี อี ย่อู ยา่ งจำ�กดั ใหเ้ กดิ ประโยชน์สงู สดุ กบั สังคมและประชาชน โดยรวม การลดความเสีย่ งจากภัยพบิ ตั เิ พอ่ื ใหเ้ กดิ ประสิทธิผลสงู สุดสำ�หรับประชาชนในประเทศ จำ�เปน็ ต้องอาศัยความรว่ มมือจากหนว่ ยงานทกุ ภาคส่วนและประชาชนทกุ คน หากเกดิ ความไม่ เชอื่ มน่ั ในประสิทธิภาพและความโปรง่ ใสในการทำ�งาน หรือคลางแคลงใจในเจตนา ยอ่ มมกี าร ตอ่ ต้านและไมใ่ ห้ความร่วมมอื กบั ภาครฐั การลดความเสีย่ งจากภัยพบิ ัตอิ ย่างเป็นระบบยอ่ มเกิด ข้นึ ได้ยาก ดงั นั้น ภาครฐั จงึ จำ�เปน็ ตอ้ งมีการดำ�เนินการโดยยึดหลักธรรมาภิบาล เพือ่ สร้างความ เข้าใจและความเชอ่ื ม่ันศรทั ธาวา่ นโยบายหรอื โครงการท่ดี ำ�เนนิ การโดยภาครัฐไมไ่ ด้ด�ำ เนินไป เพอ่ื ตอบสนองผลประโยชนข์ องกลุ่มใดกลุม่ หนง่ึ แตเ่ น้นทีประโยชนข์ องสว่ นรวม มกี ารรับฟัง ความคิดเหน็ จากผู้เก่ยี วข้องเพ่ือรับทราบขอ้ มลู อยา่ งรอบด้านกอ่ นตดั สนิ ใจ พิจารณาเลือกการ ปฏบิ ตั ิท่มี ีประสทิ ธภิ าพ ได้ผลคมุ้ ค่า และรักษาผลประโยชน์และงบประมาณของชาตเิ ป็นส�ำ คญั ซ่งึ การดำ�เนนิ งานโดยยดึ หลกั ธรรมภบิ าลดังที่ไดก้ ลา่ วมาจะท�ำ ใหเ้ กดิ ความสมานฉันทแ์ ละความ เหน็ พ้องต้องกนั ของคนในสังคมในการรว่ มกันลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั อิ ยา่ งบรู ณาการ ทั้งฝ่าย การลดความเสยี่ งจากภัยพิบตั ิสกู่ ารพัฒนาท่ีย่งั ยืน 113

บริหารประเทศ ขา้ ราชการผู้ปฏบิ ตั งิ าน ประชาชนผู้รับบรกิ าร ตลอดจนภาคเอกชน และผ้มู ี ส่วนได้เสยี อ่นื ๆ ตัวอย่างการด�ำ เนินงานโดยอาศัยหลักธรรมาภบิ าลในการบรหิ ารจัดการความเสีย่ ง จากภยั พิบัติ เชน่ • เผยแพรข่ อ้ มลู และส่ือสารกับหน่วยงานท่ีมีสว่ นเก่ยี วข้องและผ้มู ีส่วนไดเ้ สียผา่ นช่อง ทางการส่อื สารทห่ี ลากหลาย เพือ่ เสรมิ สร้างความเข้าใจและแลกเปล่ียนทัศนคติ รวมท้งั มีการเผยแพร่ทางสอ่ื สาธารณะให้ประชาชนได้รับรอู้ ย่างท่ัวถึง • เปดิ รับความคิดเห็นในวงกว้างจากนักวิชาการ นักพัฒนาในภาคส่วนต่าง ๆ และ ภาคประชาสังคม เพ่ือมุมมองทีห่ ลากหลายในการบริหารจัดการความเส่ยี ง • พจิ ารณามาตรการเพอื่ ลดความเส่ยี งจากภยั พิบัตทิ ่ีหลากหลาย สอดคลอ้ งกบั สภาพ พืน้ ที่ มกี ารเปิดเผยถึงผลดี ผลเสียเพอ่ื เป็นขอ้ มลู ประกอบการพิจารณา รวมทงั้ ให้ ประชาชนมสี ่วนรวมในการพิจารณาเลอื กมาตรการท่ีเหมาะสมและเป็นท่ียอมรับ โดยเฉพาะกบั ผูอ้ าศยั อยู่ในพื้นท่ีเสีย่ งและบริเวณใกลเ้ คยี ง • พิจารณาดา้ นงบประมาณ โดยเน้นมาตรการเพอ่ื ลดความเสี่ยงจากภยั พบิ ัติท่ใี ช้ งบประมาณน้อย แตไ่ ดผ้ ลประโยชน์ที่คมุ้ คา่ สามารถใหช้ ุมชนมีสว่ นร่วมใน การบริหารจัดการและบำ�รงุ รกั ษา เป็นมติ รกับสภาพแวดลอ้ ม ไมม่ ุ่งเนน้ แต่ โครงสรา้ งขนาดใหญ่หรือการลงทนุ มหาศาลเพียงอย่างเดียว • สร้างความร่วมมือกบั ชมุ ชน ภาคเอกชน และภาคประชาสงั คมให้เป็นภาครี ว่ มใน การพฒั นา โดยเฉพาะโครงการในระดบั ทอ้ งถนิ่ โดยให้มสี ่วนรว่ มในการออกแบบ กจิ กรรมดำ�เนนิ งาน และติดตามผลรว่ มกับภาครฐั ไม่เรง่ รบี จดั ท�ำ แผนงาน และอนุมตั ิโครงการใด ๆ ในเวลาอนั รวดเรว็ ท่ไี ม่ได้พจิ ารณาประเดน็ สำ�คญั ต่าง ๆ อย่างถีถ่ ้วน โดยเฉพาะการอนุมัตโิ ครงการขนาดใหญ่ที่ไม่ไดศ้ กึ ษาผลกระทบ อยา่ งรอบดา้ น แต่ควรพิจารณาผลไดผ้ ลเสียและมาตรการทางเลอื กอื่นประกอบ อย่างรอบคอบกอ่ นตดั สินใจ • ค�ำ นงึ ถงึ ความเป็นธรรมตอ่ กลมุ่ ผู้มีส่วนได้เสียและให้ได้ประโยชนอ์ ย่างสมดุลกนั หากมกี ลุม่ ใดทีอ่ าจไดร้ บั ผลกระทบจากการดำ�เนนิ โครงการ จำ�เป็นตอ้ งมีการ พจิ ารณาทางเลือกในการชดเชยหรอื ให้การช่วยเหลืออยา่ งเป็นธรรมและเปน็ ที่ ยอมรบั ของผไู้ ด้รับผลกระทบ • มกี ารติดตามผลการดำ�เนินงาน ปญั หา และอปุ สรรค และหารือเพอ่ื แกไ้ ข มีความ 114 การลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ัติสู่การพฒั นาทย่ี ่ังยนื

ยดื หยุน่ ที่จะปรบั เปลย่ี นการดำ�เนินงานตามสภาพแวดลอ้ มและปญั หาที่เปลยี่ น แปลงไป • เปิดโอกาสให้ภาคเอกชน ชุมชน และทอ้ งถิ่นตา่ ง ๆ มสี ว่ นรว่ มในการบรหิ ารจัดการ ของภาครัฐและส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมคี วามเข้าใจและตระหนกั ถึงผลกระทบจาก ภัยพบิ ัติ ทำ�ให้มีความตนื่ ตัว รเิ ร่มิ และลงมอื ปฏบิ ตั ิเพอ่ื ลดความเสย่ี งดว้ ยตนเอง การรบั ผดิ ชอบร่วมกนั ระหวา่ งภาครัฐและภาคประชาสงั คมจะช่วยสรา้ งความ โปร่งใสและความรสู้ กึ เปน็ เจ้าของรว่ มกัน โดยเฉพาะกิจกรรมพฒั นาในระดบั ท้องถ่นิ ซึง่ จะชว่ ยลดการพึง่ พาภาครฐั และเกดิ เป็นการสนบั สนุนการท�ำ งาน ของภาครัฐด้วย 4.2.8 เตรยี มการใหภ้ าครัฐสามารถดำ�เนนิ การไดอ้ ยา่ งตอ่ เน่ืองแม้เกดิ ภัยพิบัติ นอกจากภาครฐั จะมหี นา้ ท่ีใหบ้ ริการและอำ�นวยความสะดวกแกป่ ระชาชนและ ภาคเอกชนตามภารกิจหลกั ของแตล่ ะหน่วยงานแล้ว เมอื่ เกดิ ภัยพบิ ัติ ยังมบี ทบาทใน การรับมอื และใหค้ วามช่วยเหลอื ผปู้ ระสบภยั อยา่ งทันทว่ งที พร้อมทัง้ ตอ้ งด�ำ เนนิ การเพ่ือ คลีค่ ลายสถานการณใ์ หเ้ ข้าสสู่ ภาวะปกติ แมว้ า่ อาคารสถานท่แี ละอุปกรณต์ า่ ง ๆ ทางราชการ อาจได้รบั ความเสยี หาย รวมทั้งเจา้ หน้าที่และบุคลากรอาจตกอยู่ในฐานะผู้ประสบภัยเช่น เดียวกัน จึงมคี วามจำ�เป็นอยา่ งยงิ่ ทีห่ นว่ ยงานสว่ นราชการทกุ ส่วนต้องมีความพรอ้ มและมี การวางแผนเพื่อรบั มือกบั สถานการณ์วกิ ฤต เพอ่ื ใหม้ ีความพร้อมในการให้บรกิ ารประชาชน ไดอ้ ย่างต่อเนอื่ ง มแี ผนสำ�รองฉุกเฉิน และการซกั ซอ้ มแผนเพื่อเตรียมรบั สถานการณว์ ิกฤติได้ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ กลอ่ งท่ี 4.8 การจัดทำ�แผนการดำ�เนินภารกิจอยา่ งตอ่ เนอ่ื งของหนว่ ยงาน ภาครฐั ในสภาวะวกิ ฤติ ส�ำ นกั งานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร) เลง็ เหน็ ถึงความสำ�คญั ที่ หนว่ ยงานภาครัฐตอ้ งมกี ารจดั ทำ�แผนดำ�เนนิ กิจการอย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Plan: BCP) เพอ่ื เตรียมความพร้อมใหห้ น่วยงานสามารถเผชญิ สภาวะฉกุ เฉินท่สี ง่ ผลให้การ ปฏิบตั งิ านของหนว่ ยงานตอ้ งหยดุ ชะงกั หรอื ไมส่ ามารถใหบ้ ริการได้อย่างตอ่ เน่ือง เชน่ อุทกภยั อคั คีภยั การก่อการประท้วง การกอ่ การจลาจล การก่อวินาศกรรม จงึ ก�ำ หนด ให้ทกุ สว่ นราชการท้งั ระดับกรม จังหวดั สถาบันอุดมศกึ ษา องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ การลดความเสย่ี งจากภยั พิบัติสกู่ ารพฒั นาท่ยี ั่งยนื 115

องคก์ ารมหาชน และรัฐวสิ าหกจิ ด�ำ เนินการเพือ่ สรา้ งความพร้อมใหแ้ กห่ น่วยงานในสภาวะ วกิ ฤต คณะรฐั มนตรตี ามหนังสือส�ำ นกั เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ทน่ี ร 0505/ 10817 ลง วนั ท่ี 30 เมษายน พ.ศ. 2555 มีมตเิ ห็นชอบให้ ก.พ.ร. ด�ำ เนนิ โครงการบรหิ ารความพรอ้ มต่อ สภาวะวิกฤต ร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย) กระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร และสำ�นักงานตำ�รวจ แหง่ ชาติ เพื่อสง่ เสรมิ และสนบั สนุนใหท้ กุ หน่วยงานของรัฐมกี ารจัดท�ำ แผนรองรบั การดำ�เนนิ ภารกิจการใหบ้ ริการประชาชนไดอ้ ยา่ งต่อเนอ่ื งในสภาวะวกิ ฤต มกี รอบแนวทางการดำ�เนนิ การเตรยี มความพรอ้ มต่อสภาวะวิกฤต 2 ระยะ คอื 1) ระยะเร่งด่วน ประกอบด้วย - การสร้างความร้คู วามเขา้ ใจ ผ่านการจดั ประชมุ เชงิ วิชาการเรือ่ งการบริหารความ พรอ้ มต่อสภาวะวิกฤต พร้อมทัง้ ก�ำ หนดแบบประเมนิ ความพร้อมของการบรหิ ารจัดการใน สภาวะวกิ ฤต (checklist) และพฒั นาหลกั สตู รการเรยี นรู้ด้วยตนเอง (e-learning) - การเตรียมความพรอ้ มให้ส่วนราชการ ด้วยการทบทวนแผนสำ�รองฉุกเฉินของสว่ น ราชการเพ่ือน�ำ ไปส่กู ารจัดท�ำ แผนการบรหิ ารความพร้อมตอ่ สภาวะวิกฤต ครอบคลุมการระบุ งานส�ำ คัญท่จี ะส่งผลกระทบอยา่ งมนี ัยส�ำ คัญตอ่ การส่งมอบงานบรกิ าร การประเมินความเส่ยี ง และโอกาสทีง่ านสำ�คัญจะหยดุ ชะงัก การวเิ คราะห์ผลกระทบท่จี ะเกดิ ขน้ึ เพื่อประเมินความ เสียหายของงานส�ำ คัญที่จะหยดุ ชะงกั และจดั เตรียมความพร้อมของสว่ นราชการทัง้ ในด้าน กระบวนการ ดา้ นบุคลากร ดา้ นข้อมูล และดา้ นสถานทีแ่ ละงบประมาณ - ซักซ้อมแผนและนำ�ไปปฏบิ ตั ิจริง เพื่อทดสอบแผนการบรหิ ารความพร้อมต่อ สภาวะวกิ ฤตท่ีไดจ้ ดั ท�ำ ขน้ึ และปรับปรุงใหเ้ หมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์จริง 2) ระยะยาว ไดแ้ ก่ - การส่งเสรมิ ให้มีการบริหารความพรอ้ มต่อสภาวะวิกฤตอย่างย่งั ยนื โดยสว่ น ราชการตอ้ งติดตามประเมินผลการปฏบิ ัติตามระบบท่วี างแผนไว้ ปรบั ปรุง ส่อื สารสร้างความ เขา้ ใจ และซักซ้อมแผนการบริหารความพร้อมตอ่ สภาวะวิกฤตอย่างสม�่ำ เสมอ - การด�ำ เนินงานมเี ป้าหมายสำ�คัญ คอื เพื่อใหห้ น่วยงานสว่ นราชการท้ังหมดมคี วาม พรอ้ มและสามารถปฏิบัตงิ านในสภาวะวกิ ฤตหรอื เหตกุ ารณฉ์ กุ เฉินไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ และ ช่วยลดผลกระทบในด้านตา่ ง ๆ เชน่ ด้านเศรษฐกิจการเงนิ การให้บรกิ าร สังคม ชมุ ชน ส่ิง แวดลอ้ ม ตลอดจนชวี ติ และทรัพย์สนิ ของประชาชน ทีม่ า: ส�ำ นกั งานคณะกรรมการพฒั นาระบบราชการ, 2555 116 การลดความเสีย่ งจากภยั พบิ ตั ิสกู่ ารพฒั นาที่ยั่งยืน

4.3 บทบาทของภาคเอกชนในการขบั เคลื่อนการลดความเสยี่ งจากภยั พบิ ัติ ภาคเอกชนมีบทบาทส�ำ คญั มากในการขับเคลอ่ื นการพฒั นาโดยเฉพาะทางด้าน เศรษฐกจิ ของประเทศ เป็นภาคสว่ นทม่ี ีเมด็ เงินในการลงทนุ สงู และมโี อกาสไดร้ ับผลกระทบ หากเกดิ เหตุการณภ์ ยั พบิ ตั ทิ ่ที ำ�ให้การด�ำ เนินกิจการตอ้ งหยุดชะงัก จงึ เปน็ เรื่องส�ำ คัญมากที่ ภาคเอกชนจะร่วมสง่ เสริมให้มกี ารลดความเสยี่ งจากภัยพิบตั ิเพ่ือความยง่ั ยืนขององค์กรของ ตนและรกั ษาการเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกิจให้สามารถดำ�เนินไปได้อยา่ งต่อเน่อื ง เชน่ ตอ้ ง ลงทุนโดยคำ�นึงถงึ ความเสีย่ ง มีการวางแผนด�ำ เนนิ ธรุ กจิ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง สรา้ งความร่วมมือ ระหวา่ งภาคเอกชน-เอกชนในการเตรยี มพร้อมรับมือภัยพบิ ัติ รวมทัง้ ชว่ ยลงทนุ หรือด�ำ เนนิ กิจกรรมเพ่ือเสรมิ สร้างศักยภาพและชว่ ยลดความเสีย่ งจากภยั พบิ ตั ิของชมุ ชนและสงั คม เช่น จดั ท�ำ โครงการซเี อสอาร์ (Corporate Social Responsbility: CSR) และจดั ตั้งกองทุนเพื่อ การลดความเสี่ยงจากภัยพบิ ตั ิชุมชน ดังรายละเอยี ดต่อไปน้ี 4.3.1 ลงทนุ โดยคำ�นึงถึงความเส่ยี ง (risk-informed investment หรอื risk- proofing investment) จากรายงานการประเมนิ ระดับโลกว่าด้วยการลดความเส่ียงจากภัยพิบตั ิ ปี พ.ศ. 2556 (Global Assessment Report on Disaster Risk Reduction: GAR 2013) พบวา่ การ ลงทุนท่ัวโลกถงึ รอ้ ยละ 70-85 มาจากการลงทนุ ของภาคเอกชน และทกุ วนั นี้ภาคเอกชนมี แนวโนม้ ทจี่ ะลงทนุ ในพน้ื ทท่ี มี่ คี วามเสยี่ งต่อการเกิดภยั พิบัติทางธรรมชาติมากขึน้ ดงั น้ัน เพื่อ เปน็ การแสดงความรบั ผดิ ชอบต่อชุมชนและสงิ่ แวดล้อม ภาคเอกชนตอ้ งคำ�นงึ ถึงความเส่ียง จากภยั พิบตั ิก่อนตดั สนิ ใจลงทุน โดยให้มกี ารประเมินความเสีย่ งจากภัยพบิ ัตเิ พ่ือประเมนิ ว่าการลงทนุ นน้ั จะไดร้ บั ผลกระทบจากภัยพิบัตหิ รอื ไม่ จะเปน็ สาเหตุเพ่ิมความเส่ยี ง หรือมี สว่ นช่วยลดความเสยี่ งจากภัยพิบตั หิ รือไม่ อย่างไร หากการลงทนุ มีความเส่ยี งจากภยั พบิ ัติก็ ควรหลกี เล่ียงการลงทุน หรอื อาจดำ�เนนิ มาตรการในการลดความเสีย่ งควบคู่ไปดว้ ย เช่น หาก ตอ้ งสรา้ งส่ิงปลูกสรา้ งในพน้ื ที่เส่ียงต่อแผน่ ดนิ ไหว ก็ควรก่อสรา้ งใหไ้ ดม้ าตรฐานทจี่ ะสามารถ ตา้ นทานความรุนแรงของแผ่นดนิ ไหวได้ นอกจากนี้ ภาคเอกชนสามารถประเมินตน้ ทนุ เปรียบเทียบกบั ผลประโยชน์ท่ไี ด้รับ (cost-benefit analysis) ทงั้ จากผลประโยชน์โดยตรงของโครงการและผลประโยชน์ทางอ้อม ในการชว่ ยลดความเสยี่ งจากภยั พิบัติ เพอ่ื ประเมินความคุ้มค่าของการลงทุนและเพื่อใหแ้ นใ่ จ ว่าโครงการดังกลา่ วจะมีความปลอดภัยและไม่ทำ�ให้ชุมชนมคี วามเส่ียงจากภัยพิบัติมากขนึ้ การลดความเสยี่ งจากภยั พิบตั ิส่กู ารพัฒนาที่ยั่งยืน 117

การลงทนุ โดยค�ำ นึงถงึ ความเสยี่ งจะช่วยลดโอกาสในการไดร้ ับผลกระทบจากภัยพิบัติ ช่วยลดตน้ ทนุ ทีอ่ าจเพ่มิ ขึน้ จากผลกระทบจากภยั พิบตั ิ อกี ทั้งยังเปน็ การสรา้ งภาพลักษณ์ท่ีดี ใหก้ บั องค์กรและเป็นการสรา้ งความเช่อื ม่ันให้กับนักลงทนุ อกี ด้วย กลอ่ งท่ี 4.9 ตกึ ระฟ้าไทเป 101 ต้านทานพายุไตฝ้ นุ่ และแผ่นดนิ ไหว ตกึ ไทเป 101 (Taipei 101) เป็นตกึ ระฟ้า ต้ังอยใู่ นยา่ นซินยี กรงุ ไทเป ประเทศ ไต้หวัน มีความสูง 508 เมตร แบง่ เป็นชน้ั เหนือพนื้ ดนิ 101 ชนั้ และช้นั ใต้ดนิ อกี 5 ชั้น เปน็ ตึกท่ีสูงทีส่ ดุ เปน็ อนั ดบั 2 รองจากตกึ บุรจญเ์ คาะลีฟะฮ์ (Burj Khalifa) เมืองดไู บ ประเทศ สหรัฐอาหรับเอมเิ รตส์ มคี วามโดดเด่นด้านนวตั กรรมการออกแบบ โดยได้รบั เอกสารรับรอง ลีดแพลตนิ ัม รางวลั สูงสุดในระบบการจัดอนั ดบั ผู้น�ำ การออกแบบพลังงานและสง่ิ แวดล้อม (Leadership in Energy and Environmental Design: LEED) และกลายเป็นอาคารสี เขียวสูงที่สุดและใหญท่ ่ีสุดในโลก โครงสรา้ งท้ังหมดถูกออกแบบใหท้ นทานต่อพายุไตฝ้ นุ่ และแผน่ ดินไหว มลี กู ตมุ้ เหล็กสที องขนาดใหญ่ (wind damper) หนัก 660 ตัน เสน้ ผา่ ศูนย์กลาง 5.5 เมตร แขวนยึดอยบู่ นยอดอาคารด้วยขาไฮดรอลิค กินพน้ื ท่ตี งั้ แต่ชัน้ 87-92 เพ่ือชว่ ยลดแรงส่ันสะเทอื นหรือการโคลงของตวั ตกึ เนือ่ งจากแรงลมและแผ่นดินไหวได้ โดย เม่ืออาคารเกดิ การโยกตัว ลกู เหล็กจะช่วยถว่ งน�้ำ หนักไปยังทิศทางตรงกันขา้ มเพ่อื ใหต้ วั ตกึ กลบั มาทรงตัวอยไู่ ด้ตามเดิม ท่มี า: Wikipedia, n.d. 118 การลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติสู่การพัฒนาท่ยี งั่ ยืน

4.3.2 วางแผนด�ำ เนินธุรกจิ อยา่ งตอ่ เน่ือง มาตรฐานผลติ ภณั ฑอ์ ุตสาหกรรม ระบบการบริหารความต่อเน่ืองทางธรุ กจิ (มอก. 22301-2556) ได้นยิ าม “ความตอ่ เนอ่ื งทางธรุ กจิ (business continuity)” วา่ คอื “ความสามารถขององค์กรในการสง่ มอบผลิตภณั ฑ์หรือบริการตอ่ ไปได้ภายหลังเกดิ อุบตั ิ การณ์ทที่ �ำ ให้เกิดการหยดุ ชะงกั ในระดับท่ยี อมรับได้ตามทีก่ �ำ หนดไว้” การเกิดเหตุการณ์ภยั พบิ ตั ิ อาจส่งผลใหอ้ งคก์ รตา่ ง ๆ ไม่สามารถด�ำ เนนิ กิจการได้ อย่างตอ่ เน่อื งหากไม่มกี ารเตรียมพร้อมรับมือไว้ลว่ งหน้า ซง่ึ อาจส่งผลกระทบลกู โซต่ ่อชุมชน และสังคมท่ีไมส่ ามารถเขา้ ถึงผลติ ภณั ฑ์หรือบรกิ ารเหล่าน้นั ได้ ด้วยเหตนุ ี้ จึงมีความจำ�เป็น อย่างย่ิงทีภ่ าคเอกชนผู้ดำ�เนนิ ธุรกจิ ตา่ ง ๆ จะต้องเตรียมความพร้อมใหก้ บั องค์กรของตน ด้วยการจดั เตรยี ม “แผนการดำ�เนินธรุ กจิ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง หรอื business continuity plan (BCP)” หรือเอกสารขนั้ ตอนการดำ�เนินงานท่ีใหแ้ นวทางแก่องค์กรในการตอบสนอง การ ฟน้ื ฟู การกลบั มาด�ำ เนินการ และการติดตัง้ เพ่ือใหส้ ามารถดำ�เนินงานไดใ้ นระดบั ทกี่ �ำ หนดไว้ ภายหลังจากการหยุดชะงกั ซงึ่ โดยทว่ั ไปจะครอบคลมุ ถึงทรพั ยากร การบริการ และกิจกรรม ต่าง ๆ ท่จี ำ�เป็นเพือ่ ให้มน่ั ใจว่าภารกจิ หรอื หนา้ ทท่ี ่ีมคี วามสำ�คญั ตอ่ การด�ำ เนนิ ธรุ กจิ จะยังคง ดำ�เนินงานไดอ้ ย่างต่อเนื่องแม้ประสบกับเหตุการณ์ภัยพิบตั กิ ต็ าม แผน BCP มีความแตกตา่ งจากแผนรองรบั วกิ ฤตหรอื ภัยพบิ ัติแบบดง้ั เดมิ ตรงท่ี วตั ถุประสงค์ของการจดั ท�ำ BCP น้ันไม่ได้ครอบคลมุ แค่การปกป้องชวี ติ และทรัพย์สินเท่านัน้ แต่รวมไปถึงการปกปอ้ งและฟน้ื ฟูกจิ การหลักให้ดำ�เนนิ ต่อไปได้ การส�ำ รวจของ Business Continuity Institute ในปี พ.ศ. 2554 พบว่าร้อยละ 82 ของธรุ กิจในสหราชอาณาจกั รเหน็ ว่า BCP สามารถชว่ ยบรรเทาผลกระทบทเ่ี กดิ ขึน้ จากภยั พบิ ตั ิได้ การจัดทำ� BCP ไมใ่ ช่เรือ่ งยาก แต่หากตอ้ งการไดร้ ับการรับรองมาตรฐานดา้ นน้จี ากไอ เอสโอ (ISO) อาจต้องใช้เวลาและทรพั ยากรไมน่ ้อย โดยมาตรฐานน้ีเปน็ ท่รี จู้ กั ในระดบั สากล ว่า ISO 22301 ส่วนในประเทศไทย หนว่ ยงานภายใตก้ ารก�ำ กับของกระทรวงอุตสาหกรรม อาทิ ส�ำ นกั งานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) สถาบนั รับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.) และสถาบนั เพม่ิ ผลผลิตแห่งชาติ ไดม้ ีการจดั อบรมเพือ่ จดั ท�ำ แผนดงั กล่าวให้สอดคลอ้ งกับ มาตรฐานสากลอยู่เป็นระยะ นอกจากน้ี ภาคเอกชนสามารถศึกษาตัวอย่างการจัดทำ� BCP ไดจ้ ากคมู่ ือทจ่ี ัดท�ำ โดยหน่วยงานของรัฐ อาทิ สำ�นกั งานคณะกรรมการพฒั นาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และส�ำ นกั งานสง่ เสริมวิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) การลดความเส่ยี งจากภยั พบิ ัติสู่การพฒั นาทยี่ ั่งยนื 119

สิ่งทข่ี าดไมไ่ ด้ในการน�ำ BCP มาใช้อย่างได้ผล คือ การซ้อมและปรับปรุงแผนอย่าง สม่ำ�เสมอเพอ่ื ให้พนกั งานสามารถปฏบิ ัตติ ามแผนได้โดยมีขอ้ บกพรอ่ งนอ้ ยที่สดุ รวมทง้ั ยัง ชว่ ยเพิ่มความมนั่ ใจตอ่ องค์กรในหมู่ลกู ค้าและห้นุ สว่ นอกี ด้วย 4.3.3 สร้างความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน-เอกชนในการเตรียมพร้อมรับมอื ภยั พบิ ตั ิ เมือ่ เกิดเหตกุ ารณ์ภัยพิบัติ องค์กรเอกชนอาจไมส่ ามารถรกั ษาความต่อเนอ่ื งของการ ด�ำ เนนิ ธรุ กจิ ของตนไดเ้ พยี งล�ำ พงั การสรา้ งความรว่ มมอื ระหวา่ งหนว่ ยงานภาคเอกชนเอง จะ ชว่ ยใหส้ ามารถเตรยี มความพร้อมรบั มือเหตกุ ารณ์ภยั พิบตั ไิ ด้อย่างมีประสทิ ธิภาพมากขึน้ ท้ังน้ี ภาคเอกชนสามารถร่วมมอื ชว่ ยเหลือกนั และกันเพ่อื ลดความเสยี่ งจากภยั พิบัตไิ ด้หลาก หลายรปู แบบ เชน่ • จัดตงั้ เครอื ขา่ ยธุรกจิ (business network) เพ่อื แลกเปล่ยี นข้อมลู ความเสีย่ งแผนท่ี เสยี่ งภยั ขอ้ มูลการเปลี่ยนแปลงของสภาพภมู อิ ากาศ ขอ้ มูลหรอื สถิติการเกิด ภัยพิบตั ใิ นแตล่ ะพนื้ ทีก่ ารลงทนุ เพ่อื ประกอบการตัดสนิ ใจในการลงทนุ • บริษทั ขนาดใหญ่ท่มี คี วามรคู้ วามเชยี่ วชาญด้านการบรหิ ารจัดการความเสยี่ งจาก ภยั พิบตั ิชว่ ยถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ หรือให้ความช่วยเหลอื บริษัทหุ้นส่วน ซพั พลายเออร์ และบรษิ ัทขนาดยอ่ มทอี่ ยู่ในภาคธุรกิจเดยี วกนั เพอื่ สรา้ งความ เขม้ แขง็ ใหภ้ าคธุรกิจของตน • บริษัทหรอื โรงงานในนคิ มอุตสาหกรรมภายใต้กลุ่มอตุ สาหกรรม (cluster-base) จดั เตรยี มมาตรการการลดความเสีย่ งจากภยั พิบัตริ ว่ มกนั เพอื่ ให้ความชว่ ย เหลือซึง่ กนั และกนั ในชว่ งระหว่างและหลงั จากเกิดภยั พบิ ัติ กล่าวคือมกี าร แสวงหาคู่พนั ธมติ รทางธรุ กจิ หรือกลุม่ ทางธรุ กิจท่ีผลติ สินค้าชนดิ เดยี วกนั เพื่อเปน็ ฐานการผลิตส�ำ รองใหก้ นั และกัน เพ่ือใหแ้ น่ใจว่าบรษิ ทั จะมีสินค้าหรือ ผลติ ภัณฑ์ปอ้ นสตู่ ลาดอย่างต่อเนอื่ งและทำ�ใหล้ ูกคา้ เกดิ ความเชือ่ ม่นั ใน ประสิทธิภาพการประกอบการได้อย่างตอ่ เน่อื ง แมในระยะทีเ่ กดิ ภัยพบิ ัติ • บรษิ ทั ทตี่ งั้ อยใู่ นพ้นื ที่เดียวกนั รวมตวั กนั สร้างเครือข่ายเพือ่ ด�ำ เนินโครงการลด ความเสีย่ งจากภัยพบิ ัติในพนื้ ทร่ี ่วมกัน 120 การลดความเสีย่ งจากภยั พิบตั สิ กู่ ารพฒั นาท่ียง่ั ยนื

กล่องที่ 4.10 แนวคดิ การดำ�เนินธุรกิจอยา่ งต่อเน่อื งแบบโอตาไก กระทรวงอุตสาหกรรมและสำ�นักงานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสังคม แห่งชาติ ไดน้ ำ�แนวคดิ เกยี่ วกบั การสร้างเครือขา่ ยการดำ�เนนิ ธรุ กจิ อยา่ งตอ่ เนอื่ งรว่ มกัน (business continuity network) ที่ใช้ภายในนคิ มอุตสาหกรรมของประเทศญปี่ ุน่ มาปรับ ใช้กับธุรกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (SMEs) ในประเทศไทย โดย “แนวคดิ การด�ำ เนนิ ธุรกิจอยา่ งต่อเนือ่ งแบบโอตาไก (Otagai Business Continuity: Otagai B.C.)” สนับสนุน ให้กล่มุ ธุรกจิ ชว่ ยเหลอื กนั และกนั ในการผลติ ในระดับเครือขา่ ยวสิ าหกจิ หรอื ในระดับนคิ ม อตุ สาหกรรม บนพนื้ ฐานของขอ้ ตกลงเครือข่ายวสิ าหกิจแบบพ่นี ้อง หรือ sister cluster agreement ซง่ึ มกี ารจดั ทำ�ล่วงหนา้ เพอ่ื เชือ่ มโยงเครอื ข่ายในห่วงโซอ่ ปุ ทานการผลิตในกรณี เกดิ ภยั พิบตั ิ หรอื การสรา้ งเครือข่ายเพ่อื ให้การช่วยเหลือซึ่งกันและกันเมื่อตอ้ งเผชิญกบั ปัญหา โดยแนวคิดนม้ี ีลกั ษณะคล้ายคลงึ กบั การจบั คทู่ างธรุ กิจ โดยไดร้ เิ ร่ิมโครงการน�ำ รอ่ ง ในภาคธรุ กิจการเกษตร (ข้าว) ระหว่างกล่มุ ธรุ กจิ ในจังหวัดนครสวรรคแ์ ละจงั หวดั นีงะตะ (Niigata Prefecture) ประเทศญปี่ ุ่น โดยมุง่ หวงั ให้บรษิ ัทท่ีจับคูก่ นั เป็นแหลง่ สำ�รองขา้ ว ใหแ้ กก่ นั และกนั ยามเกิดภยั พิบตั ิ และหากโครงการน�ำ รอ่ งประสบความสำ�เร็จกจ็ ะขยาย โครงการไปยังภาคธุรกิจอืน่ ๆ ทัว่ ประเทศ ทมี่ า: Matsushima, Daisuke, 2014 (พ.ศ. 2557) 4.3.4 จดั ทำ�โครงการ CSR เพ่ือเสริมสรา้ งศักยภาพให้ชมุ ชนด้านการลดความเสี่ยง จากภัยพบิ ตั ิ ภาคเอกชนมีบทบาทหน้าท่ใี นการด�ำ เนนิ กจิ กรรมเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสงั คม หรือการด�ำ เนนิ กจิ กรรมซีเอสอาร์ (Corporate Social Responsibility: CSR) ซ่งึ เป็นส่วน หน่งึ ของการด�ำ เนินธรุ กจิ ตามหลกั บรรษทั ภิบาล (corporate governace) ซึง่ นอกจากการ ค�ำ นึงถงึ ความเสีย่ งจากภัยพิบตั ิกอ่ นการลงทุนแล้ว หากหนว่ ยงานภาคเอกชนจำ�เปน็ ต้อง ลงทุนในพน้ื ท่ีเส่ียง ควรมีมาตรการรองรับเพือ่ ลดความเส่ยี งของกิจการเองและของชมุ ชน โดยรวม และสามารถแสดงความรบั ผิดชอบเชงิ รกุ ต่อชมุ ชนและส่ิงแวดลอ้ มไดด้ ว้ ยการ สนบั สนุนให้มีการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในชุมชน เช่น การลดความเสีย่ งจากภยั พบิ ตั ิสู่การพฒั นาที่ยัง่ ยนื 121

• ร่วมมอื กับหนว่ ยงานต่าง ๆ ในการใหค้ วามร้แู ละฝกึ อบรมประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ภยั ใหร้ ้จู ักการลดความเสยี่ งจากภัยพบิ ตั ิ และมกี ารเตรียมพรอ้ มรับมือกบั ภยั พบิ ตั ิ • จดั กจิ กรรมกระชบั ความสมั พนั ธข์ องคนในองคก์ รดว้ ยการปลกู ป่าชายเลนเพ่อื เป็น แนวกันลมช่วยป้องกันชุมชนรมิ ทะเล หรอื ชว่ ยเหลอื ชุมชนในการจดั ท�ำ ฝายกนั น้�ำ และจัดท�ำ แนวกันดินโคลนถลม่ • สนบั สนุนอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ทจ่ี �ำ เปน็ ในการเตรยี มพรอ้ มรบั มือและช่วยยงั ชีพในยาม ฉุกเฉนิ แกช่ มุ ชน เชน่ บริษัทท่ผี ลติ ข้าวสารอาหารแหง้ อาจสนบั สนนุ อาหารและน้ำ� ด่ืมส�ำ หรับชมุ ชน • จัดเตรยี มศนู ย์อพยพช่วั คราวเพ่ือชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั ในชมุ ชน • ตดิ ต้งั เทคโนโลยีเพือ่ เตอื นภัยพิบตั ิ และซกั ซอ้ มการเตอื นภยั กบั ชุมชนขา้ งเคยี ง • ใหก้ ารสนบั สนนุ กิจกรรมการลดความเส่ยี งโดยหน่วยงานในชุมชนหรือหน่วยงาน ภาคประชาสงั คม กล่องท่ี 4.11 ความร่วมมือของภาคเอกชนเพอ่ื การซ่อมสร้างบ้าน วดั และ โรงเรยี นในพ้นื ทปี่ ระสบภัยแผ่นดินไหวจงั หวดั เชียงรายใหม้ ีความพร้อมรับมือ แผน่ ดนิ ไหวในอนาคต จากเหตกุ ารณแ์ ผ่นดินไหวในพ้นื ทจ่ี งั หวัดเชียงราย เมอื่ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2557 กอ่ ใหเ้ กดิ ความเสียหายแกอ่ าคารบา้ นเรือน โรงเรยี นและวัดหลายแหง่ หนว่ ยงานเอกชน อัน ไดแ้ ก่ สมาคมสถาปนกิ สยามในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมวิศวกรรมสถานแหง่ ประเทศไทย ในพระบรมราชูปถมั ภ์ สมาคมวิศวกรที่ปรึกษาแห่งประเทศไทย สมาคมอุตสาหกรรม กอ่ สรา้ งไทยในพระบรมราชูปถมั ภ์ และกลุม่ สถาปนิก Design for Disasters จงึ ได้รว่ ม กนั จดั ทำ�โครงการซอ่ มสร้าง บา้ น วดั โรงเรียน ในพืน้ ท่ปี ระสบภยั แผน่ ดนิ ไหว จ.เชยี งราย เพอ่ื ระดมความชว่ ยเหลอื ในการซ่อมสรา้ งสรา้ งโรงเรยี น 9 แหง่ บ้านพกั อาศยั 9 หลัง และ บูรณะซ่อมแซมวดั 2 แห่ง โดยมบี ริษัทสถาปนกิ เอกชน 9 แห่งรบั อาสาออกแบบโรงเรียน แตล่ ะแห่ง มกี รรมาธกิ ารสถาปนิกลา้ นนารบั อาสาบูรณะซอ่ มแซมวัด 2 แหง่ โดยมีหลักการ ในการออกแบบและซอ่ มสร้างบ้าน โรงเรยี น และวดั เหล่าน้ีแบบพอดี พอดี ดว้ ยแนวคิดการ ก่อสร้างใหม่ใหด้ กี วา่ เดิม หรือ build back better เพ่ือใหม้ คี วามพรอ้ มในการตา้ นทาน แผ่นดินไหวท่ีอาจเกดิ ข้นึ อีกในอนาคต 122 การลดความเส่ยี งจากภัยพิบตั ิส่กู ารพัฒนาท่ียงั่ ยนื

โครงการดงั กลา่ วยงั ไดร้ ับการสนบั สนนุ การดำ�เนินงานจากหน่วยงานเอกชนและ ประชาชนจ�ำ นวนมาก เชน่ • บรษิ ทั ช. การช่าง จำ�กดั (มหาชน) บริจาคทนุ และชว่ ยก่อสร้างโรงเรียนบ้านทา่ ฮ่อ • บรษิ ทั ซเี ค พาวเวอร์ จ�ำ กัด (มหาชน) สนบั สนุนการวางระบบไฟฟา้ ใหอ้ าคารเรียน • บรษิ ทั อติ าเลียนไทย ดเี วล๊อปเมนต์ จำ�กดั (มหาชน) สนบั สนนุ การกอ่ สร้างทั้งหมด ของศนู ย์พฒั นาเด็กเล็กบา้ นหัวรนิ • บริษทั โตโยตา้ เชียงราย จำ�กดั สนับสนุนรถกระบะ สำ�หรับทีมงานชา่ งภาพสารคดี เพ่อื เดนิ ทางไปยงั พ้นื ทก่ี ่อสร้าง เปน็ เวลา 6 เดือน • บรษิ ทั บางจากปิโตรเลยี ม จำ�กัด (มหาชน) สนับสนุนบตั รเตมิ นำ�้ มนั • บรษิ ทั การบินกรงุ เทพ จ�ำ กดั (มหาชน) บางกอกแอร์เวย์ส สนับสนนุ ตัว๋ เครอื่ งบนิ ไปกลบั กรงุ เทพฯ - เชยี งรายจำ�นวน 220 ท่นี ่ังส�ำ หรับทีมงานตลอดโครงการ • บรษิ ทั หา้ งร้าน ผูบ้ รจิ าคสิ่งของวัสดุรายย่อยตา่ ง ๆ ใหก้ ารอนุเคราะหไ์ มแ้ บบ ก่อสร้างมอื สอง สนับสนุนการขนส่งโดยรถบรรทกุ สบิ ล้อ การลดราคาคา่ โรงแรมท่ีพัก และยังมีบรษิ ทั ผผู้ ลิตวัสดกุ ่อสร้างตา่ ง ๆ ให้การสนับสนุนวสั ดุกอ่ สร้าง • รว่ มด้วย ผบู้ ริจาคอกี จ�ำ นวนมากทรี่ ่วมสมทบทุนผ่านทางสมาคมสถาปนิกสยามฯ ไทยพีบีเอส เครอื ข่ายร่วมกู้วิกฤตแผ่นดนิ ไหว เครอื ขา่ ยจัดการภยั พิบตั ภิ าคประชาชน จ. เชยี งราย มลู นิธิพัฒนาชุมชนและเขตภเู ขา และกองทนุ กองทนุ ช่วยเหลอื ผปู้ ระสบ ภัยแผ่นดินไหว จ. เชยี งราย ทีม่ า: Design for Disaster, 2557 การลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ัติส่กู ารพฒั นาทีย่ งั่ ยืน 123

4.3.5 จดั ต้งั กองทนุ เพ่ือการลดความเส่ียงจากภัยพบิ ัตใิ นชมุ ชน ภาคธุรกจิ มีบทบาทเปน็ อยา่ งมากในการใหค้ วามช่วยเหลือชุมชนและสงั คมเมือ่ เกดิ เหตกุ ารณ์ภัยพิบัตทิ างธรรมชาติ โดยเฉพาะในการระดมทุนเพื่อชว่ ยเหลือฟ้ืนฟแู ละช่วยท�ำ ให้ ชุมชนกลับมาดำ�เนนิ ชีวิตอยา่ งปกติไดโ้ ดยเรว็ อย่างไรกด็ ี ภาคเอกชนสามารถมีบทบาทเชิงรกุ ทจี่ ะช่วยใหช้ มุ ชนและสังคมมคี วามสามารถในการลดความเส่ียงจากภัยพบิ ตั ไิ ด้ตั้งแต่ก่อน เกิดเหตุ โดยเฉพาะชุมชนทีม่ พี น้ื ท่ตี ้งั เดยี วกบั กจิ การ ดว้ ยการจดั ต้งั กองทุนเพื่อการลดความ เส่ียงจากภยั พิบตั ขิ นึ้ เพ่ือใหช้ มุ ชนหรือหน่วยงานท่ใี หก้ ารชว่ ยเหลอื พฒั นาชุมชนสามารถก้ยู มื หรอื ขอรับการสนับสนุนทางการเงินเพอื่ ด�ำ เนินโครงการเพ่ือลดความเสีย่ งจากภัยพบิ ตั ไิ ด้ กลอ่ งที่ 4.12 กองทนุ ฮอนดา้ เคียงข้างไทย หลงั จากเหตุการณอ์ ุทกภยั ในปี พ.ศ. 2554 บรษิ ัทฮอนดา้ ออโตโมบิล จำ�กดั ซ่ึงมี ทต่ี ง้ั ในนิคมอุตสาหกรรมในจงั หวดั พระนครศรีอยุธยาไดร้ บั ความเสยี หายอยา่ งหนัก ดงั นนั้ เมื่อบรษิ ัทไดฟ้ ืน้ ตัวแล้ว กลมุ่ บรษิ ทั ฮอนด้าประเทศไทยจงึ ได้ต้ัง “กองทุนฮอนดา้ เคยี งข้าง ไทย” ในปี พ.ศ. 2555 เพื่อช่วยเหลอื ประชาชนในยามเกดิ ภยั พบิ ัติ โดยนอกจากเงนิ บริจาค และการมอบรถยนต์ฮอนดา้ เพือ่ น�ำ ไปดดั แปลงเพอ่ื ใชใ้ นยามฉกุ เฉนิ แล้ว กองทุนฮอนด้าเคยี ง ขา้ งไทยยังไดร้ ว่ มมอื กบั กรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จัดกิจกรรมภายใต้โครงการ “เสริมสร้างศักยภาพชมุ ชนด้านการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัย” เพ่อื เสริมสรา้ งขีด ความสามารถใหก้ บั ชมุ ชนในจังหวัดน่าน ล�ำ พูน และนครพนมในการจดั ท�ำ แผนปอ้ งกันและ บรรเทาสาธารณภยั ตามหลักการจัดการความเสีย่ งจากภยั พบิ ัตโิ ดยอาศัยชมุ ชนเปน็ ฐาน (Community Based Disaster Risk Management: CBDRM) อกี ด้วย โดยเนอ้ื หาการ ฝึกอบรมครอบคลุมไปถึงการศกึ ษาข้อมูลภัยของชมุ ชน การจดั ท�ำ แผนท่ีเส่ยี งภยั การจดั ต้งั คณะกรรมการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ของชมุ ชน และการจดั ท�ำ และฝกึ ซ้อมแผน อพยพ เปน็ ตน้ ทมี่ า: บรษิ ทั ฮอนดา้ ออโตโมบลิ (ประเทศไทย) จำ�กัด, 2557 และ Pruckwattananon, Oranuch, 2014 (พ.ศ. 2557) 124 การลดความเสีย่ งจากภัยพบิ ตั ิสกู่ ารพัฒนาทยี่ ง่ั ยืน

4.4 ความร่วมมอื ระหวา่ งภาครฐั -เอกชนในการขับเคลอื่ นการลดความ เส่ียงจากภยั พบิ ัติ ความรว่ มมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน หรือ public-private partnership (PPP) แต่เดมิ มกั เป็นการร่วมลงทุนในกจิ การของภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทุนทางโครงสร้าง พื้นฐาน หรือโครงการบรกิ ารสาธารณะในระยะยาว ซึง่ เป็นทางเลือกในการด�ำ เนินงานท่เี พิม่ ประสิทธภิ าพของการลงทนุ มากกว่าทจี่ ะให้ภาครัฐเปน็ ผ้ดู �ำ เนินการเอง อยา่ งไรกด็ ี ขอบเขต ของความร่วมมอื ระหวา่ งภาครฐั และเอกชนในปจั จุบันไม่ได้จำ�กัดอยแู่ ต่เพยี งการรว่ มลงทุนใน โครงสรา้ งพืน้ ฐานเพยี งเท่าน้นั แตภ่ าครัฐและเอกชนสามารถร่วมมอื ในการด�ำ เนินงานในด้าน อน่ื ๆ เพ่อื การพฒั นาประเทศไทย โดยเฉพาะในการลดความเสย่ี งจากภยั พิบตั ิ ดงั ตัวอย่าง ตอ่ ไปนี้ 4.4.1 สง่ เสรมิ การท�ำ ประกันภยั พบิ ัติ การประกนั ภยั ถอื วา่ มีส่วนส�ำ คญั อย่างมากในการจัดการภัยพบิ ัติ ถึงแม้ว่าจะไม่ สามารถปอ้ งกันหรือลดความเส่ยี งจากภัยพิบตั ิได้โดยตรง ทว่าการประกันภัยช่วยทำ�ใหผ้ ู้ ทำ�ประกันภัยมีความคลอ่ งตัวทางการเงิน มีแหลง่ เงินทนุ เพอื่ ใช้ฟ้ืนฟจู ากความเสยี หายและ ความสญู เสยี จากภยั พบิ ัติได้ จงึ เปน็ การชว่ ยลดผลกระทบจากภัยพิบัติไดท้ างหน่งึ เพื่อใหก้ ารท�ำ ประกนั ภัยมบี ทบาทในการชว่ ยถ่ายโอนความเสย่ี งจากภัยพิบัตไิ ด้จรงิ ภาครฐั และภาคเอกชนจำ�เปน็ ต้องรว่ มมือกันสร้างความรูค้ วามเขา้ ใจกบั ประชาชนเกี่ยวกบั การประกันภยั และจำ�เป็นตอ้ งกระตนุ้ ให้บรษิ ัทประกนั ภัยจดั ท�ำ แผนการประกนั ภยั ที่ เกีย่ วขอ้ งกบั ภัยพบิ ัติท่หี ลากหลาย ให้ประชาชนไดม้ ที างเลอื กในการทำ�ประกันภยั พบิ ัตทิ ี่ เหมาะสมกบั สภาพความเส่ียงของตน อกี ทงั้ ภาครฐั ควรมกี ารส่งเสริมใหบ้ รษิ ทั หา้ งรา้ น และ หน่วยงานตา่ ง ๆ ในทกุ ภาคสว่ นได้มีการท�ำ ประกนั ภยั สำ�หรับกิจการท่ีมคี วามเสย่ี งจาก ภยั พิบัติ เพือ่ ชว่ ยลดภาระทางการเงนิ ของรฐั บาลในการเยียวยาและให้การชว่ ยเหลอื ทางการ เงนิ แก่ผู้ประสบภยั ภายหลงั จากเหตุการณภ์ ยั พบิ ัตดิ ้วย การลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั ิส่กู ารพฒั นาทีย่ ั่งยนื 125

กล่องที่ 4.13 จัดตง้ั กองทนุ สง่ เสริมการประกนั ภัยพิบัติ สืบเน่อื งจากเหตุการณ์อทุ กภัยคร้ังใหญใ่ นปี พ.ศ. 2554 รัฐบาลพบว่าธรุ กจิ จ�ำ นวน มากต้องเสยี คา่ ดอกเบ้ยี สูง หรือไมส่ ามารถเอาประกนั ได้เน่อื งจากระบบประกันภัยมีปัญหา ดังนน้ั จึงมกี ารจัดตง้ั กองทนุ สง่ เสรมิ การประกันภัยพบิ ัตขิ นึ้ โดยรว่ มมอื กับบริษัทประกนั ภัย เอกชนใหค้ วามคมุ้ ครองผ้ปู ระกอบการท่ีประสบภัยพิบัตดิ ้านอทุ กภัย แผ่นดนิ ไหว และพายุ เพ่ือใหผ้ ู้ประกอบการสามารถเอาประกนั ภัยไดอ้ ยา่ งทวั่ ถึง เพียงพอ และดว้ ยอัตราดอกเบ้ีย ทตี่ ำ�่ เพียงรอ้ ยละ 0.5-1 การจัดตงั้ กองทนุ สง่ เสรมิ การประกันภยั พบิ ตั ิ ถอื เปน็ ความรว่ มมอื ระหวา่ งภาครัฐและเอกชนอย่างแท้จริง เน่อื งจากเปน็ การสร้างความม่ันใจให้กับประชาชน และผ้ปู ระกอบการ รวมถึงบรษิ ทั ประกนั ภัย โดยมรี ัฐบาลเป็นผู้ค�ำ้ ประกัน และรับความ เสีย่ งสว่ นหน่งึ เอาไว้เอง จึงสามารถมนั่ ใจไดว้ ่ากองทุนฯ มีศักยภาพเพยี งพอในการรองรับ ภยั พบิ ัตใิ นอนาคต และมีอตั ราดอกเบีย้ ประกนั ทเี่ หมาะสมสามารถแข่งขนั ได้ ทัง้ นี้ ปจั จบุ นั มบี รษิ ทั ประกนั ภัยทีเ่ ขา้ รว่ มโครงการทง้ั หมด 50 แห่ง ที่มา: ส�ำ นักงานคณะกรรมการกำ�กบั และส่งเสรมิ การประกอบธรุ กจิ ประกนั ภยั , 2555 4.4.2 สร้างแรงจูงใจและส่งิ แวดล้อมท่ีเอ้อื อ�ำ นวยต่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบตั ิ ภาคเอกชนโดยเฉพาะธรุ กจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ มอาจไมส่ ามารถรเิ ริ่มกจิ กรรม เพ่ือลดความเส่ียงจากภัยพบิ ัติได้หากปราศจากการสนบั สนนุ จากภาครฐั เนื่องจากธรุ กจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ มมกั มีเงนิ ทนุ อันจ�ำ กัด จงึ มเี ปา้ หมายหลักในการแสวงหาผลก�ำ ไร เพือ่ ความอยู่รอดของบรษิ ัทมากกว่าจะสนใจลงทนุ เพม่ิ เติมเพ่ือความปลอดภยั ของบริษัทและ พนกั งานในระยะยาว ด้วยเหตุนี้ หน่วยงานภาครัฐท่เี กย่ี วข้องควรสรา้ งแรงจงู ใจ (incentive) และส่ิงแวดลอ้ มท่เี อ้ืออำ�นวย (enabling environment) เพื่อใหธ้ รุ กิจเหล่านัน้ ตระหนักถึง ความส�ำ คญั ของการลดความเสยี่ งจากภยั พบิ ัติ โดยเฉพาะในการดแู ลให้ธุรกจิ ของตนมีความ ปลอดภยั จากภยั พบิ ัติไดม้ ากท่ีสุด ในการนี้ ภาครัฐและหน่วยงานทเ่ี กีย่ วขอ้ ง ซง่ึ รวมไปถงึ ภาคการเงนิ และการธนาคาร อาจพิจารณาใหก้ ารสนับสนุนและสทิ ธพิ ิเศษดา้ นการเงินตา่ ง ๆ ดังตัวอย่างตอ่ ไปน้ี 126 การลดความเสยี่ งจากภยั พบิ ตั ิสกู่ ารพฒั นาทยี่ ่ังยนื

• ใหส้ ิทธพิ เิ ศษในการลดหยอ่ นภาษบี างประเภทส�ำ หรับกิจการท่ีมกี ารลงทนุ โดย คำ�นึงถึงความเสี่ยงจากภัยพบิ ัติ มีการเตรียมแผนการด�ำ เนินธรุ กิจอย่างตอ่ เน่อื ง หรือมีการดำ�เนินกิจกรรมเพื่อชว่ ยลดความเสีย่ งจากภยั พิบัติให้กับชมุ ชน • ให้สทิ ธพิ ิเศษในอตั ราเบ้ยี ประกันภยั พิบตั ิ สำ�หรบั กิจการที่มกี ารเตรยี มพร้อมและ ดูแลความปลอดภยั ของบริษทั ได้อย่างมมี าตรฐาน • มขี อ้ พิจารณาพเิ ศษในการอนุมัติเงินทุนกยู้ มื ส�ำ หรบั โครงการหรอื ทางธุรกจิ ที่ชว่ ย ส่งเสริมการลดความเสยี่ งจากภัยพบิ ตั ิ กลอ่ งท่ี 4.14 รัฐบาลประเทศสงิ คโปรใ์ หก้ ารชว่ ยเหลอื ทางการเงนิ แก่ SME เพอ่ื สรา้ งแรงจูงใจในการจัดทำ�แผนด�ำ เนินธุรกจิ อย่างตอ่ เนือ่ ง คณะกรรมการมาตรฐานผลิตภาพและนวตั กรรม (Standard Productivities & Innovation Board: SPRING) ภายใต้กระทรวงการคา้ และอตุ สาหกรรมของประเทศ สงิ คโปร์ ซึง่ มหี นา้ ทใ่ี หค้ วามช่วยเหลือและใหค้ ำ�ปรกึ ษาเพ่อื พฒั นาขีดความสามารถของ ธุรกิจในประเทศสิงคโปร์ ได้เลง็ เห็นความสำ�คัญของการส่งเสริมใหธ้ รุ กจิ ในประเทศมีวิธี การเตรยี มพรอ้ มรบั มือกับเหตฉุ กุ เฉินได้ตามมาตรฐาน จึงได้สร้างแรงจูงใจดว้ ยการใหค้ วาม ช่วยเหลอื ทางการเงนิ แก่ SME เพือ่ จดั ท�ำ แผนดำ�เนินธรุ กจิ อยา่ งตอ่ เนอ่ื งและขอรับรอง มาตรฐาน ISO-22301 เมอื่ SME สมคั รเข้าร่วมโครงการ ทางหนว่ ยงาน SRPING จะทำ�การ ประเมนิ และให้ความชว่ ยเหลอื ทางการเงนิ ตามขดี ความสามารถของ SME แต่ละราย สงู สดุ ทีร่ อ้ ยละ 70 ของคา่ ใช้จ่ายทง้ั หมดในการจดั ทำ� ท้ังคา่ ใชจ้ ่ายการฝกึ อบรม การจา้ งท่ปี รกึ ษา พิเศษ การซ้อื อุปกรณ์ทีจ่ ำ�เปน็ เพ่มิ เติม และการเข้ารบั รองมาตรฐาน ISO-22301 นอกจากนี้ ธนาคารเพอ่ื การพฒั นาแห่งญป่ี ุ่น (Development Bank of Japan) ได้จัด ทำ�โครงการเงนิ กภู้ ายใต้ช่ือ “DBJ Disaster Preparedness Ratings” ซ่ึงมีการจัดอนั ดับ เรตติ้งบรษิ ัทเอกชนทตี่ อ้ งการเขา้ รว่ มโครงการเงินกจู้ ากผลการประเมนิ ความพรอ้ มในการ รับมือภยั พบิ ตั ิและประสทิ ธภิ าพของแผนดำ�เนินธรุ กิจอยา่ งตอ่ เน่ือง โดยบริษัทจะได้รบั อัตราดอกเบย้ี เงนิ กู้พเิ ศษแตกตา่ งกันไปตามการจัดอนั ดับเรตตง้ิ ดงั กลา่ ว ซ่งึ นับเป็นการ รเิ รม่ิ ครง้ั แรกของโลกทมี่ ีใชก้ ารจดั อนั ดบั เรตติ้งการเตรียมความพร้อมดา้ นภัยพิบตั เิ ปน็ ขอ้ พจิ ารณาอตั ราดอกเบ้ยี เงินกู้ ทีม่ า: ADPC, 2014b (พ.ศ. 2557) การลดความเสย่ี งจากภยั พิบตั ิส่กู ารพฒั นาทีย่ ัง่ ยนื 127

4.4.3 ร่วมมือดา้ นขอ้ มูลและการลงทุนในโครงสร้างพ้นื ฐานเพ่อื การลดความเสี่ยง จากภัยพบิ ตั ิ ภาครฐั และภาคเอกชนควรมกี ารรว่ มมอื กนั ในการบริหารจดั การขอ้ มลู ทีจ่ �ำ เปน็ ส�ำ หรับการบรหิ ารจดั การและลดความเส่ียงจากภยั พบิ ตั ิอย่างเป็นระบบ เนอ่ื งจากขอ้ มูล จ�ำ นวนมากท่สี �ำ คญั ตอ่ การประเมินความเส่ยี งจากภยั พิบตั ิและการจัดการสถานการณ์ ในภาวะฉุกเฉิน โดยมากจดั เกบ็ โดยภาครฐั ในขณะทีภ่ าคเอกชน โดยเฉพาะบรษิ ทั ทีม่ ี ความพรอ้ มทางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถเขา้ มาช่วยในการจดั ท�ำ ระบบฐานข้อมูล ระบบประมวลผล และระบบแสดงขอ้ มลู ใหส้ ามารถนำ�ขอ้ มูลทจี่ ัดเกบ็ โดยภาครัฐมาใชใ้ น การประเมินความเส่ียงและประเมนิ สถานการณใ์ นภาวะฉุกเฉนิ ได้อย่างรวดเร็ว และสามารถ น�ำ ขอ้ มูลไปใช้เพือ่ ประโยชน์ในการวางมาตรการเพ่ือจัดการและลดความเส่ียงจากภยั พบิ ัตไิ ด้ อย่างทนั ท่วงที ภาคเอกชนสามารถให้การสนบั สนุนภาครฐั ในการจัดทำ�ระบบแลกเปลี่ยนข้อมลู ดา้ น ภยั พิบตั ิ รวมทงั้ ระบบการจัดเก็บขอ้ มลู จากมวลชนในแบบ crowdsourcing platform ส�ำ หรบั การบรหิ ารขอ้ มลู ส�ำ คญั ทอ่ี าจไม่ไดม้ ีการจัดเกบ็ โดยภาครัฐในกระบวนการปกติ เชน่ ระบบการคน้ หาข้อมลู ผู้สญู หายจากเหตุการณภ์ ัยพบิ ตั ิ นอกจากนี้ ภาครฐั และเอกชน สามารถรว่ มกันลงทนุ ในโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพเพอ่ื ช่วยในการลดความเสี่ยงจาก ภัยพิบตั ิอกี ด้วย กล่องท่ี 4.15 รัฐบาลญปี่ ุ่นจัดท�ำ ขอ้ ตกลงฉกุ เฉนิ กบั บรษิ ทั เอกชนด้านการบรกิ าร ภาพถา่ ยทางอากาศ บรษิ ัท โคคไุ ซ โคเกยี ว จำ�กัด (Kokusai Kogyo Co., Ltd.) พรอ้ มด้วยบรษิ ทั เอกชน ภายใตส้ มาคมการสำ�รวจแบบละเอยี ดและเทคโนโลยปี ระยุกต์ (Association of Precise Survey and Applied Technology: APA) ได้ลงนามในข้อตกลงการส�ำ รวจภาพถา่ ยทาง อากาศฉุกเฉิน (Emergency Aerial Photography Survey Agreement) กับองคก์ ร ทางดา้ นการส�ำ รวจและจัดท�ำ แผนทขี่ องญปี่ ุ่น (Geospatial Information Authority of Japan: GSI) และมกี ารเตรยี มการท้ังในดา้ นมาตรฐานคณุ ภาพ กระบวนการท�ำ งาน รายนามผรู้ บั ผิดชอบ และขอ้ มลู จ�ำ เปน็ อนื่ ๆ ลว่ งหนา้ เพอื่ ความรว่ มมือในการส�ำ รวจและ จดั ท�ำ ภาพถ่ายทางอากาศหากเกดิ เหตกุ ารณ์ฉุกเฉนิ 128 การลดความเสย่ี งจากภัยพบิ ตั ิสู่การพัฒนาท่ยี ง่ั ยนื

เม่อื เกิดเหตุการณ์แผน่ ดินไหวและสนึ ามิครง้ั ใหญ่ในปี พ.ศ. 2554 จึงทำ�ใหบ้ รษิ ัท โคคไุ ซ โคเกียว และสมาชิก APA อืน่ ๆ สามารถสง่ เครอ่ื งบินเพ่ือถ่ายภาพพืน้ ท่ีประสบภัย และจัดสง่ ภาพถ่ายทีม่ ีคุณภาพตามมาตรฐานให้องคก์ รภาครฐั ทเ่ี กย่ี วข้องได้ นอกจากนั้น บริษัท โคคุไซ โคเกียว ยังไดม้ อบภาพถ่ายท้ังก่อนและหลังเกิดภยั พบิ ัติใหก้ บั หนว่ ยงานทอ้ ง ถิน่ เพอื่ ชว่ ยในการดำ�เนนิ การช่วยเหลอื ประชาชนในพืน้ ท่ี และชว่ ยให้การประเมนิ ความเสยี หายทำ�ได้ง่ายมากข้ึน นับเปน็ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนเพือ่ ใหก้ ารเตรยี ม พรอ้ มรบั มือและการฟืน้ ฟจู ากภัยพิบัติมีประสทิ ธภิ าพและเกดิ ประสิทธิผลมากยง่ิ ข้นึ ท่มี า: UNISDR, 2013b (พ.ศ. 2556) กล่องที่ 4.16 ความรว่ มมอื ระหวา่ งภาครฐั และเอกชนในการสร้างอุโมงคเ์ พ่ือผัน นำ้�ทว่ มและลดปญั หาการจราจร SMART ยอ่ มาจาก Stormwater Management and Road Tunnel หรอื โครงการบริหารจัดการน�ำ้ จากพายุและอุโมงคถ์ นน เปน็ โครงการของรัฐบาลมาเลเซยี ซ่งึ มอบหมายให้กรมทางหลวง และกรมชลประทานลงทนุ ร่วมกับบริษทั MMC Corp Berhad และ Gamuda Berhad บรษิ ัทลงทุนดา้ นโครงสร้างพนื้ ฐาน โดยมเี ป้าหมายเพอ่ื แกป้ ญั หา น�ำ้ ทว่ มซ�้ำ ซากในกรงุ กัวลาลัมเปอร์ ซง่ึ เปน็ ศนู ย์กลางทางการเงนิ และเศรษฐกิจของประเทศ มาเลเซยี ระบบ SMART หรืออโุ มงค์ใต้ดนิ จะทำ�การผันน�ำ้ จากแมน�ำ้ Klang ทไี่ หลผา่ นกรุง กัวลาลมั เปอร์ไปยงั บอ่ พกั น�ำ้ ทงิ้ อุโมงค์บายพาส และอ่างเก็บน�ำ้ ท�ำ ให้ระดบั น�้ำ ทสี่ ะพาน Jalan Tun Perak ลดลง เพอ่ื ป้องกันนำ�้ เออ่ ล้น ในขณะเดยี วกนั โครงการ SMART ยังมงุ่ ท่ี การลดความเสี่ยงจากภัยพบิ ตั สิ ู่การพฒั นาท่ียัง่ ยนื 129

จะช่วยลดปญั หาการจราจรทต่ี ิดขดั ในเมืองกวั ลาลมั เปอรอ์ กี ด้วย โดยในยามปกติ อุโมงค์ ดังกล่าวเป็นเสน้ ทางพิเศษให้รถวิ่งเพือ่ ลดการจราจรติดขดั ตรงบริเวณดา่ นทางทิศใตท้ ่ีม่งุ หนา้ สกู่ รงุ กัวลาลัมเปอร์ ทมี่ า: Stormwater Management and Road Tunnel 4.4.4 จัดทำ�ขอ้ ตกลงความร่วมมือล่วงหน้าในการให้ความชว่ ยเหลอื เม่ือเกดิ ภยั จากปญั หาการขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภคในพืน้ ทป่ี ระสบอุทกภยั ในปี พ.ศ. 2554 ทำ�ใหม้ กี ารวิเคราะห์ถึงต้นเหตุของปญั หาดงั กล่าว และพบวา่ นอกจากจะเป็นเพราะการผลติ ลดลงจากการปดิ ตวั ชัว่ คราวของโรงงาน และการขาดแคลนวตั ถุดิบแล้ว ยงั มกี ารกกั ตนุ โดยผู้ บริโภค รวมท้ังมีปญั หาทางการคมนาคมขนสง่ ทำ�ใหไ้ ม่สามารถกระจายสินคา้ อุปโภคบริโภค ไปยังพน้ื ทต่ี ่าง ๆ ได้ นอกจากน้ี ภาครัฐยงั ประสบปัญหาในการขนส่งสง่ิ ของบรรเทาทกุ ขด์ ว้ ย สาเหตเุ ดยี วกนั เพอื่ เปน็ การเตรียมพรอ้ มลว่ งหน้าก่อนเกดิ ภัย ภาครฐั ควรจดั ท�ำ ข้อตกลงรว่ มกับ ภาคเอกชนที่ด�ำ เนนิ การดา้ นลอจิสติกส์ในการประสานงานความชว่ ยเหลอื ในการขนสง่ สินค้า และสง่ิ ของบรรเทาทุกข์ ตลอดจนการจัดท�ำ ข้อตกลงกบั ห้างคา้ ปลกี เพอ่ื ให้แนใ่ จวา่ จะมี การกระจายสนิ ค้าอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพรวมถึงความร่วมมือในการสงั่ ซ้ือและขนส่งสนิ ค้าเพ่ือ การบรรเทาทุกข์ และใหค้ วามช่วยเหลือดา้ นเคร่ืองมือ อปุ กรณ์ต่าง ๆ จากภาคเอกชนด้วย 130 การลดความเส่ียงจากภัยพิบตั สิ กู่ ารพฒั นาทยี่ งั่ ยืน

4.5 บทบาทของชุมชนและภาคประชาสังคมในการขบั เคล่ือนการลดความ เสยี่ งจากภัยพบิ ัติ เมือ่ เกิดภัยพบิ ตั ิ ชุมชนเป็นคนกลุ่มแรกทไ่ี ด้รบั ผลกระทบโดยตรงจากภยั พบิ ตั ิกอ่ นที่ ภาครัฐหรอื หน่วยงานต่าง ๆ จะเข้าไปใหค้ วามช่วยเหลือ และเนือ่ งจากชุมชนเปน็ ผู้อาศยั อยู่ ในพ้ืนท่ีจึงมคี วามเขา้ ใจในสภาพพนื้ ท่ีและความเส่ยี งของตนได้ดีที่สดุ ดงั นน้ั การสรา้ งความ ตระหนกั และการพัฒนาศักยภาพแก่ชุมชนให้สามารถรับมือและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัตไิ ด้ ดว้ ยตนเองจงึ เป็นกุญแจส�ำ คัญท่ีสุดในการลดผลกระทบจากภัยพบิ ัติในชุมชนเอง อย่างไรกด็ ี การสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนเพอ่ื สรา้ งศักยภาพของชมุ ชนในการรับมือและลดความ เส่ียงจากภยั พิบตั ิอาจท�ำ ไดไ้ มท่ ั่วถงึ เน่ืองจากข้อจำ�กัดดา้ นบคุ ลากรและทรพั ยากร ด้วยเหตุน้ี ภาคประชาสงั คมจึงมบี ทบาทสำ�คญั ในการสนบั สนุนให้ชุมชนมคี วามรู้ความสามารถในการ ลดความเสย่ี งจากภัยพบิ ัติ ทงั้ ในการประเมนิ ความเส่ยี ง การปรับตัวให้เหมาะกบั สภาพความ เสี่ยงในพน้ื ที่ การวางแผนเตรียมความพรอ้ มเพอื่ รับมอื กบั ภยั พบิ ตั ิ การซ้อมแผนและดำ�เนิน กจิ กรรมตา่ ง ๆ เพ่อื ลดความเสีย่ งจากภัยพิบตั ิในชมุ ชนไดด้ ้วยตนเองอย่างท่ัวถงึ ดังน้ี 4.5.1 จดั กจิ กรรมเพอื่ เสรมิ สร้างความรู้เรือ่ งการลดความเสย่ี งจากภัยพบิ ตั ิในชุมชน แนวคิดเร่อื งการบริหารจัดการความเสี่ยงจากภัยพบิ ัตโิ ดยใชช้ ุมชนเปน็ ฐาน หรือ Community-Based Disaster Risk Management (CBDRM) เปน็ แนวคิดทีน่ านาประเทศ รวมทง้ั ประเทศไทยนำ�มาใชใ้ นการจดั การดา้ นภยั พบิ ตั ิ โดยม่งุ เน้นในการสรา้ งขีดความ สามารถในระดบั ชุมชนเพ่อื ใหช้ ุมชนเองสามารถปฏิบตั แิ ละจดั กจิ กรรมต่าง ๆ เพือ่ บรหิ าร จดั การภัยในระดับชุมชนได้ด้วยความรว่ มมอื จากสมาชกิ ในชมุ ชน รวมท้ังการสร้างเครือขา่ ย กบั ชุมชนใกล้เคยี ง หนว่ ยงานภาครฐั ภาคธรุ กิจเอกชน และหน่วยงานพฒั นาเอกชนตา่ ง ๆ ท้ังน้ี เพ่ือบรรลุวัตถุประสงค์หลกั คอื ใหช้ มุ ชนสามารถลดผลกระทบจากภยั เพอื่ ความ ปลอดภยั ของชวี ติ และทรพั ทยส์ ินของชุมชนเอง และเพ่อื พฒั นาชุมชนจากการเปน็ แต่เพียง ผู้รอรบั ความชว่ ยเหลือจากหนว่ ยงานภายนอกเพียงอยา่ งเดยี ว ให้เปน็ ผู้ที่มบี ทบาทใน กระบวนการบรหิ ารจดั การความเส่ยี งจากภยั พิบัติ และมคี วามสามารถในการรรู้ บั ปรับตวั และสามารถฟน้ื คืนกลบั จากเหตกุ ารณภ์ ยั พิบตั ิไดอ้ ยา่ งมั่นคง หน่วยงานภาคประชาสังคมสามารถประยกุ ต์องคค์ วามรดู้ ้าน CBDRM เพอ่ื ใชใ้ นการ ดำ�เนนิ งานกับกล่มุ เป้าหมายของตน เช่น หนว่ ยงานทด่ี �ำ เนนิ งานกับผูส้ งู อายหุ รือผพู้ กิ าร สามารถจดั ฝึกอบรมเพ่อื เพมิ่ ศกั ยภาพใหผ้ ูส้ งู อายแุ ละผพู้ กิ ารในเครอื ขา่ ยมศี กั ยภาพในการ การลดความเสยี่ งจากภัยพิบัติสกู่ ารพัฒนาท่ียง่ั ยนื 131

เตรยี มความพรอ้ มเพื่อรับมอื จากภยั พบิ ัตไิ ด้ นอกจากน้ี หนว่ ยงานภาคประชาสังคมที่มี ภารกิจในการเผยแพร่องคค์ วามรู้ดา้ นการบรหิ ารจัดการความเส่ยี งจากภยั พบิ ตั ิอยู่แล้ว สามารถดำ�เนินงานกบั ชมุ ชนเพอ่ื เสรมิ สรา้ งความเข้มแข็งให้ชุมชนในการประเมินความเสี่ยง และการดำ�เนนิ กจิ กรรมเพือ่ ลดความเสี่ยงจากภัยพิบตั ไิ ด้เชน่ กนั กล่องท่ี 4.17 กจิ กรรมลดความเสย่ี งจากภัยพบิ ตั ิโดยอาศยั ชุมชนเปน็ ฐานทค่ี น พกิ ารมีส่วนร่วม มูลนิธธิ ดิ าเมตตาธรรม สาขาเลย ร่วมกบั องคก์ ร CBM (Christoffel Blinden Mission) โดยการสนบั สนนุ ดา้ นวิทยากรและการพัฒนาหลกั สตู รจากศูนยเ์ ตรียมความ พรอ้ มป้องกันภยั พบิ ตั ิแหง่ เอเชีย (ADPC) ไดจ้ ดั ฝึกอบรมจัดท�ำ แผนชุมชนเกีย่ วกบั การ เฝา้ ระวังและแจง้ เตอื นภัยล่วงหนา้ และการฝกึ ซอ้ มอพยพชุมชนในพ้นื ท่ตี ำ�บลภหู อและ ตำ�บลทา่ ลี่ จังหวัดเลย ภายใตโ้ ครงการลดความเส่ียงภัยพบิ ัติที่คนพกิ ารมีส่วนรว่ มโดยใช้ ชุมชนเป็นฐาน โครงการดงั กล่าวเป็นโครงการเพื่อลดความเสยี่ งจากภยั พิบัตโิ ดยใช้ชุมชนเปน็ ฐาน ที่คนพิการมีสว่ นรว่ ม มีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเส่ียงภยั พิบัติ สร้างกระบวนการชว่ ยเหลอื คนพิการ ผูส้ งู อายุ ผเู้ ปราะบางเมอ่ื เกิดภัยพบิ ตั ใิ นชุมชน จดั ทำ�แผนลดความเสย่ี งภัยพิบตั ิ โดยใชช้ มุ ชนเป็นฐานและฝกึ ซอ้ มอพยพเพ่อื ลดความเสย่ี งภยั พบิ ตั ทิ ี่คนพิการมีสว่ นร่วม การ ฝกึ อบรมจดั เปน็ 2 ระยะ โดยระยะที่ 1 เป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการและลงพ้ืนท่จี ดั ทำ�แผน ชมุ ชนทั้ง 2 พน้ื ท่ี และระยะที่ 2 เป็นการซ้อมอพยพทตี่ �ำ บลภหู อ อำ�เภอภหู ลวง จังหวดั เลย โดยกลุ่มเปา้ หมายโครงการประกอบด้วยผแู้ ทนฝ่ายปกครองในพน้ื ท่ีและสมาชกิ องค์การ บรหิ ารส่วนต�ำ บลภูหอและต�ำ บลท่าล่ี คณะกรรมการหมูบ่ า้ น อสม. กลุม่ ผ้สู งู อายุ คนพิการ และผู้ดแู ลเข้ารว่ ม เพ่ือรับรถู้ ึงความเสี่ยงจากภยั พิบตั ิในพ้นื ท่ี เกดิ แนวคิดการลดความเส่ยี ง จากภยั พิบตั ิและมที กั ษะในการเตรยี มตวั ทั้งในระดบั ครอบครวั และหมูบ่ า้ น รวมท้ังมีระบบ การลดความเสยี่ งจากภยั พิบตั ิโดยอาศยั ชมุ ชนเป็นฐานทีส่ ามารถถ่ายทอดกระบวนการเรียน รใู้ หก้ ับพืน้ ที่อ่ืนไดต้ ่อไป ทม่ี า: สำ�นกั ขา่ วกรมประชาสัมพันธ,์ 2557 132 การลดความเสยี่ งจากภยั พบิ ตั ิส่กู ารพัฒนาทย่ี ่งั ยนื

4.5.2 เสริมสรา้ งความสามารถในการปรบั ตัวของชมุ ชน การเปลย่ี นแปลงสภาพภูมิอากาศ สง่ ผลให้ฤดกู าลและปรมิ าณน้�ำ ฝนเปล่ยี นแปลงไป อณุ หภมู ทิ ่ีสงู ขนึ้ ทำ�ใหน้ ้�ำ แขง็ ขั้วโลกละลายและท�ำ ให้ระดบั น้ำ�ทะเลสงู ขึ้น ภัยทางธรรมชาติ กม็ ีแนวโนม้ ความถ่แี ละความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อสิ่งมชี วี ิตในระบบนเิ วศตาม ธรรมชาติ การเกษตร สขุ ภาพอนามยั ตลอดจนการพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คม ซงึ่ ผลกระทบ ที่เกิดขึน้ กับชุมชนจะแตกตา่ งกันไปตามลกั ษณะภมู ิประเทศและปจั จัยแวดลอ้ มอื่น ๆ ชุมชน แต่ละชมุ ชนจงึ จ�ำ เปน็ ทจี่ ะต้องเรยี นร้แู ละปรับตวั รวมท้ังปรบั เปล่ยี นวถิ ีการดำ�รงชวี ิตเพอ่ื ให้ สอดคล้องกับสภาพแวดลอ้ มและธรรมชาตทิ ่ีเปล่ยี นแปลงไปและสามารถดำ�เนินชวี ิตไดอ้ ย่าง ปลอดภัย หนว่ ยงานภาคประชาสังคมมีบทบาทเปน็ อย่างมากท่จี ะจดั กิจกรรมหรอื โครงการเพือ่ ชว่ ยชุมชนประยกุ ต์ใช้ภมู ิปญั ญาทอ้ งถน่ิ และช่วยเผยแพร่องค์ความร้เู พอ่ื ใหช้ มุ ชนมีความ สามารถในการปรบั ตวั ใหเ้ ข้ากับสภาพแวดล้อมและสภาพความเสยี่ งได้อย่างเหมาะสม กล่องท่ี 4.18 การจดั ทำ�โครงการเพ่อื สนับสนนุ การปรับตัวของชุมชนชายฝง่ั ทเ่ี ส่ียง ต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภมู ิอากาศ สภากาชาดไทย มูลนิธเิ พอื่ การพฒั นาทีย่ ัง่ ยนื และกรมปอ้ งกันและบรรเทา สาธารณภัย รว่ มกบั กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ศนู ย์เครือขา่ ยงาน วเิ คราะหว์ ิจัยและฝึกอบรมการเปล่ยี นแปลงของโลกแหง่ ภมู ภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ (South East Asia Global Change System for Analysis และ Research and Training: SEA START RC) ในความร่วมมอื จากสำ�นกั งานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาติ (UNDP) ประจ�ำ ประเทศไทย ภายใตก้ ารสนบั สนุนงบประมาณจากกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (Global Environment Facility: GEF) จัดทำ�โครงการเพ่มิ ศักยภาพการปรับตวั ของชุมชนชายฝ่งั ทเี่ ส่ยี งตอ่ การเปล่ยี นแปลงสภาพภมู ิอากาศหรือโครงการอินคา (Strengthening the capacity of Vulnerable Communities to Address the Risk of Climate Change and Extreme Weather Events: INCA Project) ดำ�เนินการในพ้นื ทเี่ ปา้ หมายในชุมชน 3 จังหวัด ไดแ้ ก่ จังหวดั นครศรธี รรมราช พัทลงุ และตรงั การลดความเส่ยี งจากภัยพบิ ตั สิ กู่ ารพัฒนาทย่ี ัง่ ยนื 133

โครงการอินคามงุ่ เน้นให้ชุมชนมีความต่นื ตวั และสามารถวิเคราะห์ผลกระทบจากการ เปล่ยี นแปลงสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนเสริมสร้างศักยภาพในการปรับตัวและรบั มือกับ ผลกระทบท่ีเกิดข้นึ ตอ่ การทำ�มาหากินและการด�ำ รงชวี ิต ซึง่ โครงการฯ และคนในพ้ืนทร่ี ว่ มกนั ประเมินความเสยี่ งจากมุมมองของชมุ ชนซึง่ เปน็ ผู้ที่สัมผัส รบั รู้ และสามารถระบถุ ึงความเสี่ยง ตา่ ง ๆ ในพืน้ ที่ ตลอดจนใหช้ ุมชนจดั ล�ำ ดับความสำ�คญั ของความเสี่ยงและออกแบบกจิ กรรม อยา่ งเหมาะสม โดยชมุ ชนได้สรา้ งแผนปฏิบตั กิ ารชมุ ชนเพ่ือลดความเสี่ยงจากการเปลีย่ นแปลง สภาพภูมอิ ากาศ ซ่ึงประกอบดว้ ยกิจกรรมแบบผสมผสานเพอ่ื ลดความเส่ยี งแบบองคร์ วม ให้ ชุมชนมีความยดื หย่นุ และมคี วามสามารถในการปรับตวั สร้างความหลากหลายในการประกอบ อาชีพ เชน่ โครงการแปรรูปอาหารทะเล โครงการปรบั ปรุงเคร่ืองมือประมง โครงการลดความ เปราะบางของชมุ ชนโดยวิธกี ารเชิงนิเวศ เชน่ การอนุรักษ์สัตวท์ ะเล การบริหารจดั การพืน้ ที่ ซบั น้�ำ ธรรมชาติ การฟื้นฟปู ่าชายเลน การปลูกพชื ร่วมยางและ ทำ�ธนาคารต้นไม้เพื่อเพมิ่ พ้นื ที่ ปา่ การปรบั เปลี่ยนพันธ์ุขา้ วและวิธีปลูกขา้ วพนั ธุ์พ้นื บ้าน การปรบั เปลีย่ นจากการท�ำ นาดำ� และนาหว่านเป็นนาโยน การท�ำ ฝายชะลอน้ำ� การทำ�ปยุ๋ ชวี ภาพ ฯลฯ นอกจากน้ี โครงการยงั สรา้ งความสามารถในการบรหิ ารจดั การเชงิ นเิ วศและทรพั ยากรทอ้ งถิน่ โดยทำ�งานแลกเปล่ยี น ประสบการณ์รว่ มกนั กับชมุ ชนและใหช้ ุมชนเปน็ ผูร้ ิเรมิ่ ลงมือปฏบิ ตั ิ โครงการดงั กลา่ วเปน็ ตวั อย่างของการเช่อื มโยงแนวทางและการปฏบิ ตั ิเพอื่ ลดความ เส่ยี งจากภยั พบิ ตั ิโดยการผสมผสานเข้ากบั การดำ�เนินวิถชี ุมชน เป็นการสร้างองค์ความรู้ของ ชุมชนเพอื่ ใหร้ เู้ ท่าทันความท้าทายจากการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ การบรหิ ารจดั การ ทรพั ยากรท้องถิ่นเพ่ืออนุรกั ษ์และคงความอุดมสมบรู ณ์ของทรพั ยากรเพ่อื ใชป้ ระโยชนไ์ ดใ้ น ระยะยาว ตลอดจนสร้างความหลากหลายในการดำ�รงชพี และการปรบั ตวั โดยหากชมุ ชนตอ้ งได้ รับผลกระทบอยา่ งหน่งึ อยา่ งใดในอนาคตกส็ ามารถฟ้ืนกลบั คนื ได้อยา่ งมน่ั คง ท่ีมา: สภากาชาดไทย, 2557 134 การลดความเสี่ยงจากภยั พิบตั ิสกู่ ารพัฒนาท่ยี งั่ ยนื

4.6 บทบาทของสื่อสารมวลชนในการขับเคล่ือนการลดความเส่ียงจาก ภัยพบิ ตั ิ ส่อื สารมวลชน อันได้แก่ หนังสือพมิ พ์ นติ ยสาร วทิ ยุ โทรศพั ท์ ภาพยนตร์ รวมทงั้ ส่ือออนไลนต์ า่ งมีบทบาทอย่างมากในสนับสนนุ การลดความเส่ียงจากภยั พบิ ัติ เน่ืองจากสือ่ มี อิทธิพลในการสร้างความตระหนกั และความสนใจของมวลชนในประเดน็ ต่าง ๆ และสามารถ สื่อสารกับประชาชนจำ�นวนมากได้อยา่ งรวดเรว็ อย่างไรก็ดี สอ่ื ในปจั จุบนั มมี ากมายหลาย ช่องทาง แตล่ ะช่องทางกเ็ หมาะสมกับผรู้ ับขา่ วสารต่างประเภทกัน การใช้ส่ือจึงถือเป็นกลยทุ ธ์ ที่ผเู้ ชี่ยวชาญด้านสอื่ สารมวลชนและผทู้ ี่ทำ�งานดา้ นการลดความเส่ียงจากภยั พิบตั ิจะต้อง ท�ำ งานรว่ มกันเพือ่ เลือกชอ่ งทาง รปู แบบ และเนอื้ หาสาระเพื่อการส่อื สารอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ภาคส่วนตา่ ง ๆ อาจใช้สอื่ เป็นช่องทางในการส่อื สารเพอ่ื จดุ ประสงคแ์ ละกลุม่ เป้าหมาย ที่แตกต่างกนั ดงั ตัวอย่างต่อไปนี้ ผู้ใช้สื่อ วัตถุประสงค์ในการใช้สื่อ กลุ่มเป้าหมาย ภาครัฐ เพื่อให้เกิดความตระหนักในทุกภาคส่วนในเรื่องการลดความเสี่ยง หน่วยงานผู้มีส่วน จากภัยพิบัติ การทำ�งานเชิงรุกเพื่อลดความเสี่ยง และการกระตุ้น เกี่ยวข้องในภาครัฐ ให้ภาคส่วนต่าง ๆ มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันกับภาครัฐ หรือเป็นผู้ ภาคประชาสังคม ริเริ่มกิจกรรมเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในทุก ๆ ด้าน ประชาชนและภาค เอกชน ภาคเอกชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กรในการเป็น ภาครัฐ ผู้ส่งเสริม สนับสนุนภาครัฐและภาคประชาสังคมในการดำ�เนิน ภาคประชาสังคม กิจกรรมเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ เพื่อให้เห็นถึงบทบาทและ และประชาชน ความรับผิดชอบที่บริษัทมีต่อสังคม ภาคประชาสังคม เพื่อนำ�เสนอข้อเรียกร้องหรือสภาพความเสี่ยงในพื้นที่ หรือ ภาครัฐ และประชาชน ประเด็นความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการดำ�รงชีวิตที่ต้องได้รับการ แก้ไข เพื่อให้ได้รับทราบและเกิดการแก้ปัญหา รวมทั้งเป็นการ ประชาสัมพันธ์กิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความเข็มแข็งของชุมชนและ กิจกรรมลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในชุมชนที่ประสบผลสำ�เร็จ ภมวาคลสชื่อนสาร เพื่อตีแผ่ประเด็นปัญหาและผลกระทบของภัยพิบัติและตัวอย่าง ประชาชนทั่วไป การปฏิบัติหรือกิจกรรมเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติที่ประสบ ผลสำ�เร็จในระดับสากลเพื่อชี้นำ�สังคมไปในแนวทางการพัฒนาที่ ยั่งยืนซึ่งบูรณาการแนวคิดการลดความเสี่ยงภัยในการพัฒนาที่ ประสบผลสำ�เร็จ การลดความเสี่ยงจากภยั พิบัติส่กู ารพัฒนาที่ยงั่ ยนื 135

นอกจากนี้ สือ่ สารมวลชนควรมสี ่วนร่วมในการส่งเสรมิ และขบั เคลือ่ นการลดความ เส่ียงจากภยั พบิ ตั ไิ ด้ ดงั นี้ • ช่วยเผยแพร่ความรู้ สร้างความตระหนัก และชี้นำ�ให้การลดความเส่ียงจากภยั พบิ ตั ิ เป็นประเดน็ สาธารณะ • ชแี้ จงข้อเท็จจริงและใหค้ วามรู้ ตลอดจนขยายผลเพอื่ กระตนุ้ เตอื นภาคส่วนตา่ ง ๆ ใหเ้ ข้าใจบทบาทของตนในการลดความเส่ยี งจากภยั พบิ ัตแิ ละสรา้ งความรว่ มมอื กนั • นำ�เสนอขา่ วสารเก่ยี วกับการพัฒนาทีไ่ มไ่ ด้คำ�นงึ ถงึ ความเสี่ยงจากภยั และผลเสยี ที่เกิดขึ้น เพอ่ื ช่วยกระตุ้นให้ทุกภาคสว่ นให้ความสำ�คัญกบั การคำ�นึงถึงการลด ความเสีย่ งจากภยั พบิ ัตเิ มอ่ื วางแผนและด�ำ เนินกิจกรรมการพัฒนาทกุ ครัง้ • น�ำ เสนอการปฏบิ ัตเิ ชงิ รุกและการบูรณาการงานของหนว่ ยงานในภาคการพัฒนา ต่าง ๆ ทีส่ ง่ เสริมการลดความเสยี่ งจากภยั พบิ ตั ิ • น�ำ เสนอแนวทางการปฏบิ ตั ิที่หลากหลายในการลดความเสีย่ งจากภัยพิบตั ิเพ่ือ จดุ ประกายความคิด โดยจัดทำ�เป็นรายการทางโทรทศั น์ สารคดี ภาพยนตร์ส้นั หรอื คอลัมนใ์ นส่อื ส่ิงพิมพต์ า่ ง ๆ • นำ�เสนอพืน้ ทห่ี รือกิจกรรมในเชิงเปรยี บเทยี บสภาพกอ่ นและหลงั การนำ�มาตรการ เพอื่ ลดความเสีย่ งจากภยั พิบัติมาใช้ • น�ำ เสนอประโยชนแ์ ละความคุม้ ค่าจากการลงทุนเพ่อื ลดความเสยี่ งจากภัยพิบตั ิ เมอ่ื เทียบค่าใช้จ่ายทางงบประมาณกับผลประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั และความสามารถใน การลดผลกระทบจากภัยพิบัตไิ ดใ้ นระยะยาว • ติดตามความคบื หน้าของประเดน็ ตา่ ง ๆ เรือ่ งการลดความเสย่ี งจากภยั พิบตั ิเพ่ือ รายงานใหส้ ังคมไดร้ บั ทราบ • ตรวจสอบขอ้ มูลด้านภัยพบิ ตั ิกอ่ นการน�ำ เสนอทุกคร้งั เพื่อให้เกดิ ความชดั เจนใน การสอ่ื สารท�ำ ใหข้ อ้ มูลมีนำ้�หนกั มแี หล่งทม่ี าท่ีน่าเชอ่ื ถอื และไมส่ ร้างความสบั สน ให้กบั ประชาชน โดยเฉพาะในภาวะฉุกเฉินทผี่ ู้คนตกอยู่ในความตระหนกอยแู่ ล้ว • ประสานความร่วมมือกับภาครัฐในระบบการแจง้ เตอื นภัย เพื่อให้มีการแจง้ เตอื นภัยแก่ประชาชนท่ตี กอยู่ในความเส่ยี งได้อย่างทนั ท่วงที ท้ังนี้ ส่อื จ�ำ เปน็ ต้อง กลั่นกรองข้อมูลใหเ้ หมาะสมกบั ผู้รับสาร และสอื่ สารด้วยภาษาท่ีเข้าใจงา่ ย สั้น กระชบั และครอบคลมุ ข้อมูลส�ำ คญั ไดอ้ ย่างครบถว้ น 136 การลดความเส่ยี งจากภัยพิบตั ิส่กู ารพฒั นาท่ียงั่ ยนื

• เผยแพร่กิจกรรมลดความเสย่ี ง ประชาสัมพนั ธใ์ หเ้ กิดความตน่ื ตวั แก่ประชาชนใน พน้ื ทตี่ า่ ง ๆ เพอ่ื ใหค้ วามรแู้ ละความเขา้ ใจตอ่ ประชาชนในการปฏบิ ตั ติ วั ทเ่ี หมาะสม ในช่วงก่อน ระหว่าง และหลังการเกดิ ภัยพบิ ตั ิ • นำ�เสนอสารด้านบวกเพ่อื ให้ตระหนักวา่ ผลกระทบจากภัยพบิ ตั ิสามารถจัดการให้ อย่ใู นระดบั ทคี่ วบคุมได้ หรือผ้คู นสามารถอยไู่ ดอ้ ย่างปลอดภยั ไม่เกดิ ความโกลาหล วนุ่ วายเมอื่ เผชญิ สถานการณ์ภยั พิบัติหากมีการเตรยี มการและด�ำ เนนิ กิจกรรมเพ่ือ ลดความเสี่ยงอยู่เสมอ กล่องที่ 4.19 สถานโี ทรทัศนไ์ ทยพีบเี อสส่งเสริมการลดความเส่ยี งจากภัยพบิ ตั ิ จากประสบการณ์เหตุการณม์ หาอุทกภัยปี พ.ศ. 2554 ที่สง่ ผลกระทบต่อประชาชน ในประเทศไทยเปน็ วงกวา้ ง ท�ำ ใหส้ ถานโี ทรทัศนไ์ ทยพีบีเอสได้เล็งเหน็ ถงึ ความสำ�คญั ของ บทบาทสอ่ื สารมวลชนในการให้ขอ้ มลู ความรู้ดา้ นภยั พิบัตทิ ีถ่ กู ต้องกบั ประชาชน และช่วย ให้ประชาชนมีความรู้และความพรอ้ มในการรบั มอื กบั เหตุการณภ์ ยั พบิ ตั ิทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ อกี ในอนาคต จึงได้สนับสนุนให้มกี ารรายงานข่าวสารและตดิ ตามสถานการณท์ ัง้ ระหว่างและ ภายหลงั เกิดภยั พิบัติ ผา่ นรายการข่าวในชว่ งตา่ ง ๆ อยา่ งสม่�ำ เสมอ และยงั ได้จัดท�ำ รายการ และกจิ กรรมเผยแพรข่ อ้ มูลที่เป็นประโยชน์ใหส้ งั คมมคี วามรเู้ ทา่ ทันทจี่ ะรบั มอื กับเหตกุ ารณ์ ภัยพบิ ตั ิได้ เชน่ รายการ “รู้สภู้ ยั พบิ ัต”ิ ซง่ึ เปน็ รายการสารคดีเชิงขา่ ว เพอ่ื สรา้ งองค์ความรู้ และความรว่ มมือในดา้ นการรับมือภัยพิบตั ใิ ห้แกป่ ระชาชนและสังคม น�ำ เสนอทงั้ ขอ้ มูลจาก การลงพน้ื ทจี่ ริงและการน�ำ เสนอในรปู แบบกราฟฟิคทจ่ี ะทำ�ให้ผ้ชู มเขา้ ใจไดง้ า่ ย ท้งั ยงั ช่วย ติดตามการดำ�เนินงานด้านภยั พบิ ตั โิ ดยภาครฐั และเผยแพร่กิจกรรมการลดความเสี่ยงจาก ภยั พบิ ตั ทิ ี่ด�ำ เนินการโดยหน่วยงานอื่น ๆ เพือ่ สนับสนุนให้เกดิ ความร่วมมอื ในการเสริมสร้าง สงั คมใหม้ คี วามพรอ้ มรับมอื กบั ภยั พบิ ตั ิ การลดความเส่ยี งจากภยั พบิ ัติสู่การพฒั นาท่ยี ่งั ยนื 137

นอกจากนี้ ยังไดม้ ีการจดั ทำ�สื่อสร้างสรรค์ไทยพีบเี อส อนิ โฟกราฟฟกิ (ThaiPBS Infographic) เพ่อื ช่วยใหค้ วามรู้เก่ยี วกบั ภัยแผ่นดินไหว สนึ ามิ ดนิ ถล่ม และภาวะวกิ ฤต หมอกควัน พร้อมท้ังขอ้ ปฏบิ ัติตนใหพ้ รอ้ มรบั มือกับเหตุการณด์ งั กลา่ ว ผา่ นข้อมลู ใน รปู แบบอนิ โฟกราฟฟิก แอนิแมชน่ั มกี ารจัดตงั้ โต๊ะขา่ วอากาศและภยั พบิ ัติ ใหก้ ารสนบั สนนุ การศึกษาวจิ ยั ด้านภยั พบิ ัติโดยสถาบนั วิชาการสือ่ สาธารณะ และท�ำ หน้าทีเ่ ช่อื มโยงภาคส่วน ตา่ ง ๆ ในการสร้างความรว่ มมอื เพื่อเตรยี มความพรอ้ มรบั มือภัยพบิ ัติรว่ มกัน ที่มา: องค์การกระจายเสยี งและแพร่ภาพสาธารณะแหง่ ประเทศไทย, 2557 จากท่ีไดก้ ล่าวมา จะเหน็ ว่า การลดความเส่ียงจากภัยพบิ ตั ิ ตอ้ งอาศยั ความร่วมมอื จากทกุ ภาคส่วน ท้งั ภาครฐั ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ประชาชน และส่อื สารมวลชน และต้องอาศยั ปัจจัยตา่ ง ๆ ในการขบั เคลอ่ื นร่วมกนั ดงั นนั้ ทกุ ภาคสว่ นจึงควรมคี วามรู้ ความเขา้ ใจถงึ ความส�ำ คญั และหนา้ ที่ของตนในการลดความเส่ยี งจากภัยพิบตั ิ ท�ำ หนา้ ที่ ในสว่ นของตน และชว่ ยเหลอื อำ�นวยความสะดวกให้กบั ภาคส่วนอน่ื ๆ เพ่ือใหบ้ รรลุ เป้าหมายเดยี วกนั คอื การลดความเสยี่ งจากภัยพบิ ตั แิ ละการพัฒนาทีย่ ่ังยนื ของประเทศ 138 การลดความเส่ยี งจากภัยพิบัตสิ ู่การพฒั นาท่ีย่ังยนื

บทส่งท้าย ชวี ิตทกุ ชวี ติ ลว้ นต้องการความมัน่ คงปลอดภัย ทง้ั ในการอยอู่ าศยั และในชวี ติ การ ท�ำ งาน เมื่ออาศยั อย่ใู นสังคมใด ๆ กต็ ้องการใหส้ ังคมนัน้ ๆ มคี วามปลอดภัย และหาก ประกอบอาชีพหรือมหี น้าท่รี ับผิดชอบในกจิ การงานใด ๆ กต็ า่ งต้องการให้งานน้ันมีความ ราบรนื่ ประสบความสำ�เรจ็ ลลุ ่วง ค้มุ ค่า เป็นประโยชน์ ไมม่ ีอุปสรรคมาขดั ขวางหรือทำ�ให้ เกิดความเสยี หายล่าช้า ในแวดวงของผ้ทู ่ีต้องท�ำ งานท่ีมคี วามเสย่ี ง จึงมีสโลแกนท่วี ่า จะท�ำ อะไรต้อง “ปลอดภยั ไวก้ ่อน (safety first)” เพอ่ื ใชเ้ ตือนใจใหผ้ ปู้ ฏบิ ตั งิ านทุกคนไดฉ้ กุ คดิ อยา่ งรอบคอบก่อนกระทำ�การส่ิงใด ว่าส่งิ ต่าง ๆ เหลา่ นัน้ จะไม่กอ่ ใหเ้ กิดอันตรายต่อสขุ ภาพ อนามัย ชวี ติ ทรัพยส์ นิ ตลอดจนสงั คมส่วนรวม เป็นการสร้างวฒั นธรรมความปลอดภยั ที่ ดีตอ่ การท�ำ งาน ซ่ึงต่อมาไดน้ �ำ มาปรับใชเ้ พอ่ื สง่ เสรมิ ความปลอดภัยในชีวติ ประจำ�วันของ ประชาชนทวั่ ไปดว้ ย แนวคดิ ด้านการบูรณาการการลดความเสยี่ งจากภัยพบิ ัติ ก็มีลกั ษณะเฉกเช่นเดยี วกบั หลักการ “ปลอดภยั ไวก้ ่อน” คือ ต้องการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยจากภยั พบิ ตั ใิ ห้กับ ประชาชน ชมุ ชน สังคม ตลอดจนหน่วยงานทุกภาคส่วนในทุกระดับ ใหไ้ ดค้ ิดอยา่ งรอบคอบ ครอบคลมุ และรอบดา้ น กอ่ นทจี่ ะดำ�เนนิ กิจกรรม แผนงาน หรือโครงการใด ๆ โดยมี ประเดน็ ส�ำ คัญ 3 ประการทต่ี อ้ งค�ำ นึงถงึ เสมอ ได้แก่ 1) ส่งิ ที่วางแผนจะดำ�เนนิ การ จะไดร้ ับผลกระทบหรือไม่หากเกดิ ภัยพิบตั ิ 2) ส่ิงทีว่ างแผนจะด�ำ เนินการ จะทำ�ใหค้ วามเส่ยี งจากภัยพบิ ตั ิเพิม่ มากขน้ึ หรอื ไม่ 3) สง่ิ ที่วางแผนจะดำ�เนนิ การ จะมสี ว่ นท�ำ ใหค้ วามเสย่ี งจากภัยพบิ ตั ลิ ดลงหรือไม่ หากค�ำ ตอบท่ีไดค้ อื ส่งิ ที่วางแผนไว้อาจไดร้ บั ผลกระทบจากภัยพิบัตแิ ละท�ำ ให้ความ เส่ียงจากภัยพิบตั ิเพม่ิ มากข้นึ กค็ วรทีจ่ ะทบทวนแก้ไขประเด็นทที่ �ำ ให้เกดิ ความเส่ียง แตห่ าก ส่ิงท่วี างแผนไว้ปลอดภัย ไมไ่ ด้รับผลกระทบจากภยั พบิ ัติ ไม่เพิ่มความเส่ยี ง และยังชว่ ยลด ความเสยี่ งจากภยั พบิ ัตทิ ่อี าจเกิดขน้ึ ได้ในอนาคต แสดงว่าโครงการพฒั นาเหล่าน้นั เปน็ การ พฒั นาทีช่ ่วยลดความเสี่ยงจากภยั พิบตั ขิ องชุมชนและสังคมในภาพรวม และยงั ช่วยสง่ เสริม การพฒั นาทย่ี ง่ั ยนื ด้วย การลดความเส่ยี งจากภยั พบิ ตั ิสู่การพัฒนาทีย่ ง่ั ยนื 139

การบูรณาการการลดความเส่ียงจากภัยพบิ ัติในการพฒั นา เพอ่ื ชว่ ยเสรมิ สร้าง วัฒนธรรมความปลอดภยั ดังกล่าว ไม่ใช่เป็นเพยี งความรับผิดชอบของผใู้ ดผ้หู น่งึ หรอื หน่วยงานใดหนว่ ยงานหน่ึง หากต้องอาศัยร่วมมือ ความรู้ ความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยี ประสบการณ์ ภูมิปัญญา และทรพั ยากรตา่ ง ๆ จากทกุ ภาคสว่ น เพือ่ เติมเตม็ ซึง่ กันและกัน หากประชาชนทุกคนและหน่วยงานทกุ ภาคส่วนในทกุ ระดับให้ความส�ำ คัญ ช่วยสง่ เสริม และสนับสนนุ ให้เกดิ การลดความเส่ยี งจากภยั พิบัติ จากกจิ กรรมเล็ก ๆ ทต่ี นเองรบั ผิดชอบ ขยายผลจากระดบั ปจั เจกบุคคล ไปยงั กิจกรรมและการด�ำ เนินงานพัฒนาของชุมชน หน่วยงาน องคก์ รต่าง ๆ ทงั้ ภาครฐั เอกชน ประชาสงั คม และสอ่ื สารมวลชน ยอ่ มชว่ ยให้สงั คมบรรลุ เป้าหมายเดยี วกนั ในการช่วยสร้างความปลอดภัยให้เกิดกบั สงั คมของเราได้อยา่ งยงั่ ยืน ******************************** 140 การลดความเส่ียงจากภยั พบิ ตั ิสู่การพฒั นาที่ย่งั ยนื

เอกสารอ้างองิ เอกสารภาษาไทย • กรมทรพั ยากรธรณี. (2554). แผนทเ่ี ส่ียงภัยดนิ ถล่มระดับชุมชนจังหวดั อุตรดิตถ์. กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ ม. เข้าถงึ ได้จาก http://www.dmr.go.th/download/north/Uttaradit_final.pdf. (สืบคน้ เมื่อ 15 สงิ หาคม พ.ศ. 2557). • กรมป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั กระทรวงมหาดไทย. (2552). แผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาติ พ.ศ. 2553-2557. กรงุ เทพฯ. • _________________________________________. (2557). หนงั สือคำ�ศัพท์ด้านการบริหารจัดการความ เสยี่ งจากภยั พบิ ัติ. กรงุ เทพฯ. • กรมโยธาธิการและผังเมอื ง. กฎหมายควบคมุ อาคาร. เข้าถึงได้จาก http://www.dpt.go.th/wan/lawdpt/ menu2.asp. • การประชมุ ระดบั รัฐมนตรแี หง่ เอเชยี ว่าดว้ ยการลดความเสีย่ งจากภยั พิบัติ คร้งั ท่ี 6. (2557). ปฏญิ ญากรุงเทพ วา่ ดว้ ยการลดความเส่ยี งจากภัยพิบัติในเอเชียและแปซิฟิก พ.ศ. 2557 (ฉบับแปลจาก Bangkok Declaration on Disaster Risk Reduction in Asia and the Pacific 2014). เอกสารประกอบการประชุมระดับรฐั มนตรี แหง่ เอเชียว่าด้วยการลดความเสยี่ งจากภยั พิบัติ คร้ังท่ี 6. 22–26 มิถนุ ายน 2557. กรุงเทพฯ. เขา้ ถงึ ได้จาก http://61.19.54.141/inter/amcdrr/bkkdecth.pdf. (สบื คน้ เม่ือ 2 ตลุ าคม พ.ศ. 2557). • เกษตรพอเพียงคลบั .คอม. เขา้ ถึงได้จาก http://www.kasetporpeangclub.com. • เจแปนฟาวนเ์ ดชั่น กรุงเทพฯ. (2557) โครงการประชุมเชงิ ปฎิบัติการและฝกึ อบรมการเตรยี มพร้อมรับมือ ภยั พบิ ตั ิ Red Bear Survival Camp in Thailand. เข้าถึงได้จาก http://www.jfbkk.or.th/japan_intellec_ jsie2014th_02.php. • บรษิ ทั ปนู ซเี มนต์ไทย จำ�กัด (มหาชน). เข้าถงึ ได้จาก http://www.scg.co.th. • บรษิ ัท รถไฟฟ้ากรงุ เทพ จ�ำ กดั (มหาชน). เข้าถงึ ได้จาก http://bmcl-th.listedcompany.com. • บรษิ ัท ฮอนดา้ ออโตโมบลิ (ประเทศไทย) จ�ำ กดั . (2557). กองทนุ ฮอนดา้ เคยี งข้างไทยและกรมปอ้ งกนั และ บรรเทาสาธารณภยั เปดิ โครงการฝกึ อบรม “เสริมศกั ยภาพชุมชนป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั ” เตรยี มความ พรอ้ มแก่ชมุ ชนในพนื้ ทีเ่ สีย่ งภัยในจังหวัดน่านและลำ�พนู . เขา้ ถงึ ไดจ้ าก http://www.honda.co.th/th/ newsrelease/post/lumpoon2014. (สบื คน้ เม่อื 20 ตลุ าคม พ.ศ. 2557). • มทุ รกิ า พฤกษาพงษ.์ (2556). การลดความเสีย่ งภยั พบิ ัติและการพัฒนา (Disaster Risk Reduction & Development). เอกสารประกอบการบรรยาย. ศูนยเ์ ตรียมความพรอ้ มป้องกนั ภัยพบิ ตั ิแห่งเอเซยี . 7 มถิ นุ ายน 2556. • วริ ัช วิรัชนภิ าวรรณ. (ม.ป.ป.). ความหมายของการพัฒนา ค�ำ ทม่ี คี วามหมายใกล้เคยี ง และแนวคดิ พนื้ ฐานของการ พัฒนา. บทความวิชาการ. สาขาวิชาวิทยาการจดั การ มหาวิทยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธิราช. เข้าถึงไดจ้ าก http:// mgmtsci.stou.ac.th/downloads/ความหมายของการพัฒนา.pdf (สบื คน้ เมื่อ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2557). • ศริ นิ นั ท์ สุวรรณโมล.ี (2554). ข้อเสนอตอ่ การจัดการภัยพบิ ัติของจังหวดั เชยี งราย. เครือขา่ ยจดั การภยั พิบัตภิ าค ประชาชนจงั หวดั เชยี งราย. การลดความเส่ยี งจากภัยพบิ ัติสู่การพฒั นาที่ย่งั ยนื 141

• ศูนย์ข้อมลู ขา่ วสารด้านการแพทย์ฉุกเฉนิ ไทย สถาบนั การแพทย์ฉกุ เฉินแหง่ ชาติ. เขา้ ถึงได้จาก http://www. thaiemsinfo.com/. • ศูนย์เตรยี มความพรอ้ มป้องกนั ภัยพบิ ตั ิแหง่ เอเชยี . (2556). เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสตู รการบริหาร จัดการความเส่ยี งด้านอุทกภัยอย่างบูรณาการ. กรงุ เทพฯ : Themma Group. • ศูนย์วิจยั และพัฒนาการปอ้ งกนั และจัดการภยั พิบตั ิ. เขา้ ถึงไดจ้ าก http://dpm.nida.ac.th. • สถาบนั อยุธยาศกึ ษา. (2552). รายงานพเิ ศษเรื่อง ระบบปอ้ งกนั น้�ำ ทว่ มโบราณสถานแบบใหม.่ เข้าถงึ ไดจ้ าก http://www.ayutthayastudies.aru.ac.th/content/view/574/127/. (สืบค้นเม่ือ 10 ตลุ าคม พ.ศ. 2557). • สภากาชาดไทย. (2556). โครงการเพิม่ ศักยภาพการปรับตวั ของชุมชนชายฝง่ั ทเี่ ส่ยี งตอ่ การเปลยี่ นแปลงสภาพ ภมู อิ ากาศ (INCA Project). เข้าถึงได้จาก http://www.redcross.or.th/article/29809. (สืบคน้ เมอ่ื 30 ตุลาคม พ.ศ. 2557). • สนั ติ บางออ้ . (2546). การพัฒนาที่ย่งั ยืนของไทย ตอนที่ 2. บทความเผยแพรใ่ นหนังสือพมิ พโ์ พสตท์ เู ดย์ คอลมั น์ สภาพฒั น์กบั การพฒั นาประเทศ. 21 มถิ นุ ายน 2546. • ส�ำ นกั ขา่ วกรมประชาสัมพันธ.์ (2557). มลู นิธิธดิ าเมตตาธรรมสาขาเลย ฝกึ อบรมจดั ท�ำ แผนชมุ ชนจดั สัญญาณ เตอื นภัยและการฝกึ ซอ้ มอพยพชุมชนในพนื้ ทเ่ี สี่ยงภยั . เข้าถงึ ไดจ้ าก http://thainews.prd.go.th/centerweb/ News/NewsDetail?NT01_NewsID=TNSOC5706060010170. (สบื คน้ เมอื่ 28 ตลุ าคม พ.ศ. 2557). • สำ�นักงานเขตประเวศ. ศูนยก์ ฬี าทางน�้ำ บงึ หนองบอน. เขา้ ถึงได้จาก http://portal.bangkok.go.th/subsite/ index.php?strOrgID=001027&strSection=aboutus&intContentID=209&intListID=35662. (สบื ค้นเมอ่ื 17 ตุลาคม พ.ศ. 2557). • สำ�นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน. เขา้ ถงึ ได้จาก http://www.obec.go.th. • _________________________________. (2556). ภัยพิบตั ทิ างธรรมชาต.ิ หนังสอื อ่านเพิ่มเตมิ ระดับประถม ศกึ ษาและมัธยมศึกษา. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พช์ มุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. • ส�ำ นักงานคณะกรรมการก�ำ กบั และส่งเสรมิ การประกอบธรุ กจิ ประกนั ภัย. (2555). กองทุนสง่ เสรมิ การประกนั ภัยพบิ ัต.ิ เข้าถงึ ได้จาก http://www.oic.or.th/th/circle/incircle_new_th.pdf. (สืบค้นเมือ่ 31 ตลุ าคม พ.ศ. 2557). • ส�ำ นกั งานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาต.ิ (2554). รายงานการศกึ ษาเบื้องต้น การจัดการ ภัยพิบตั ิและการฟ้ืนฟบู ูรณะหลงั การเกิดภยั กรณีศึกษาไทยและต่างประเทศ. เข้าถงึ ไดจ้ าก http://eaneo. nesdb.go.th/pdf/102002-001.pdf. (สบื ค้นเมอื่ 22 กนั ยายน พ.ศ.2557). • ______________________________________________. (2555). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแห่ง ชาติ ฉบับท่ีสบิ เอ็ด พ.ศ. 2555-2559. ส�ำ นักนายกรัฐมนตร.ี • ส�ำ นักงานคณะกรรมการพฒั นาระบบราชการ. (2555). สรปุ ผลการประชมุ คณะรัฐมนตรีวันที่ 24 เมษายน 2555 เร่อื งการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต. เขา้ ถงึ ไดจ้ ากhttp://www.opdc.go.th/content.php?menu_ id=3&content_id=2286. (สืบคน้ เมอ่ื 10 กันยายน พ.ศ. 2557). • _________________________________. (2556). คู่มือการบริหารความพร้อมตอ่ สภาวะวกิ ฤต. เข้าถึงได้ จาก http://www.opdc.go.th/lite/book_bcmup.pdf. (สืบคน้ เมอ่ื 20 กนั ยายน พ.ศ. 2557). • ส�ำ นกั พฒั นาอาหารสตั ว์ กรมปศุสตั ว์. เขา้ ถึงไดจ้ าก http://nutrition.dld.go.th. 142 การลดความเส่ยี งจากภยั พบิ ัตสิ ่กู ารพฒั นาที่ย่งั ยนื

• สวุ ฒั น์ กขิ นุ ทด. (2554). “หาดทนงโมเดล” วิธรี ับมอื กบั ภัยน้ำ�ท่วมของคนเมอื งอทุ ยั ธานี (ชุมชนตน้ แบบดา้ นการ จดั การภัยพบิ ตั นิ ้ำ�ทว่ ม-น้�ำ แล้งโดยใชภ้ มู ปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ และความร่วมมอื รว่ มใจของคนท้ังตําบล). ใน พรรณทพิ ย์ เพชรมาก และคณะ (บรรณาธิการ). เอกสารประกอบการสัมมนาพลงั ชุมชนทอ้ งถ่ิน จัดการภัยพิบัตอิ ย่างยั่งยนื . 27-28 ธันวาคม 2554. คณะวศิ วกรรมศาสตร์ สถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกล้าเจ้าคณุ ทหารลาดกระบัง. กรุงเทพฯ: วสิ คอมเซ็นเตอร์. เขา้ ถึงได้จาก http://www.openbase.in.th/files/pdf_111.pdf. (สืบค้นเมอื่ 2 ตลุ าคม พ.ศ. 2557). • องคก์ ารกระจายเสยี งและแพร่ภาพสาธารณะแหง่ ประเทศไทย. (2557). เข้าถงึ ไดจ้ าก http://www.thaipbs. or.th. (สบื ค้นเมอ่ื 4 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2557). • อรรณุวฒั น์ วฒั นวรรณ. (2556). การปรับเปลย่ี นกระบวนทศั น์ในการจัดการภัยพบิ ัติแห่งชาติ กรณีศกึ ษาจาก ประเทศฟลิ ปิ ปินส์. เขา้ ถึงไดจ้ าก http://www.ocsc.go.th/ocsc/th/files/Sample_2.pdf. (สบื คน้ เม่ือ 7 ตลุ าคม พ.ศ. 2557). • Design for Disaster. (2557). เข้าถงึ ไดจ้ าก https://th-th.facebook.com/DesignForDisasters. (สืบค้นเมื่อ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557). เอกสารภาษาอังกฤษ • ADPC. (2011). Framework for Mainstreaming DRR into Development. Presentation for 2nd Regional Training Course of the Regional Consultative Committee on ‘Mainstreaming DRR into National Development Processes”. 6-10 June 2011. Bangkok, Thailand. • _____. (2013). Thai Hospitals Step Up Emergency Response. Program for Enhancement of Emergency Response: PEER. www.adpc.net/blog/?p=2151. (Accessed 10 September 2014). • _____. (2014a). Participant’s Workbook. 5th Regional Learning Workshop on Mainstreaming Disaster Risk Reduction into Development. 22-26 September 2014. Bangkok. • _____. (2014b). Small and Medium Enterprises (SMEs) and Business Continuity Planning (BCP): Good Practices from APEC Economies. Bangkok. • Cheechern, Hathaipat. (2014). Model Student in Resilient Business Continuity Management. In Asian Disaster Management News Special Edition (June 2014): 20-21. • Climate Change in Asia. (2013). Konrad-Adenauer-Stiftung Media Programme Asia. http://ejap. org/environmental-issues-in-asia/natural-disasters-asia.html (Accessed 28 September 2014). • Disaster Management Institute, Bhopal (DMI). (2014). Assessment of the Risk. http://www.hrdp- idrm.in/e5783/e17327/e28866/e29375/. (Accessed 1 November 2014). • Disaster Management Training Programme (DMTP). (1994). Disasters and Development. Training Module. 2nd Edition. • DRR Knowledge Center. (2013). Philippine Laws Related to Disaster Risk Reduction. http:// drrknowledge.net/phil-laws-drr/. (Accessed 1 November 2014). การลดความเส่ียงจากภัยพิบัติสกู่ ารพัฒนาท่ยี ั่งยนื 143

• Matsushima, Daisuke. (2014). Concept of Otagai Project: Overcoming Fragility of GVCs. Presentation at Towards a Resilient Business Community in Thailand: Small and Medium Enter- prises (SMEs) and Disaster Risk Reduction (DRR). The Sukosol Hotel, Bangkok. 9 October. 2014. • Munich Re. (2013). 2012 Natural Catastrophe Year In Review. http://www.munichreamerica.com/ site/mram/get/documents_E1227251636/mram/assetpool.mr_america/PDFs/4_Events/ MunichRe_III_NatCat01032013.pdf. (Accessed 28 September 2014). • Provention Consortium. (2007). Tools for Mainstreaming Disaster Risk Reduction: Guidance Notes for Development Organisations. Geneva: Provention Consortium Secretariat. • Pruckwattananon, Oranuch. (2014). Honda Khieng KhangThai Fund. Presentation at Towards a Resilient Business Community in Thailand: Small and Medium Enterprises (SMEs) and Disaster Risk Reduction (DRR). The Sukosol Hotel, Bangkok. 9 October 2014. • Rodrigo, Chatura. (2013). The Need for Climate Change Resilience in Urban Infrastructure: A Closer Look at Sri Lanka. IPS CLIMATEnet Blog: Climate change policy network of Sri Lanka. http://climatenet.blogspot.com/2013/02/the-need-for-climate-change-resilience.html. (Accessed 2 September 2014). • Rotterdam.Climate.Initiative. http://www.rotterdamclimateinitiative.nl/en. (Accessed 1 November 2014). • Stormwater Management and Road Tunnel. http://smarttunnel.com.my. (Accessed on 28 October 2014) • UNDP. (2013). Mainstreaming Disaster Risk Reduction into Development in UNDP. Panel 3: Strategies for Mainstreaming Disaster Risk Management in Development. In Mitigating Disasters, Promoting Development: The Sendai Dialogue and Disaster Risk Management in Asia. 10 May 2013. The Brookings Institution. • UNICEF. (2011). Sichuan Earthquake: Three Year Report. Beijing. • UNISDR. (n.d.). Hospital Safe from Disasters: 2008-2009 World Disaster Reduction Campaign. http://www.unisdr.org/2009/campaign/wdrc-2008-2009.html. (Accessed 20 October 2014). • ______. (2007). Hyogo Framework for Action 2005-2015: Building the Resilience of Nations and Communities to Disasters. • ______. (2009). Terminology on Disaster Risk Reduction. Geneva: United Nations. • ______. (2013a). Business and Disaster Risk Reduction, Good Practices and Case Studies. 1st Edition. • ______. (2013b). Private Sector Strengths Applied: Good Practices in Disaster Risk Reduction from Japan. • ______. (2014a). Asia-Pacific Input Document for the Post-2015 Framework for Disaster Risk Reduction (HFA2): Risk sensitive development as the cornerstone of resilience and sustainability. 144 การลดความเสย่ี งจากภัยพบิ ตั ิสู่การพฒั นาทยี่ ง่ั ยนื

• ______. (2014b). Comprehensive School Safety: A global framework in support of The Global Alliance for Disaster Risk Reduction and Resilience in the Education Sector and The Worldwide Initiative for Safe Schools, in preparation for the 3rd U.N. World Conference on Disaster Risk Reduction, 2015. http://www.preventionweb.net/files/31059_31059comprehensiveschoolsafety frame.pdf. (Accessed 20 October 2014). • ______. (2014c). Post-2015 Framework for Disaster Risk Reduction: a Proposal for Monitoring Progress. • United Nations. (2011). Rio+20 United Nations Conference on Sustainable Development: 7 Critical Issues at Rio+20. http://www.uncsd2012.org/7issues.html. (Accessed on 5 September 2014). • Wikipedia. (n.d.). Taipei 101. http://en.wikipedia.org/wiki/Taipei_101. (Accessed 24 October 2014) • World Bank. (2012a). Knowledge Notes, Cluster 2: Nonstructural Measures, Note 2–2 Disaster Management Plans. • __________. (2012b). Thai Flood 2011: Overview Rapid Assessment for Resilient Recovery and Reconstruction Planning. Bangkok, Thailand. • __________. (2014a). Knowledge Note 6-5, Cluster 6: The Economics of Disaster Risk, Risk Management, and Risk Financing: Strategies for Managing Low-probability, High-impact Events. https://wbi.worldbank.org/wbi/Data/wbi/wbicms/files/drupal-acquia/wbi/drm_kn6-5.pdf. (Accessed 20 October 2014). • __________. (2014b). Metro Colombo Urban Development Project FAQ. http://www.worldbank. org/en/news/feature/2014/04/29/metro-colombo-urban-development-project-faq. (Accessed 27 October 2014). • World Commission on Environment and Development (WCED). (1987). Our common future. Oxford: Oxford University Press. การลดความเสีย่ งจากภัยพบิ ตั ิสกู่ ารพัฒนาท่ียงั่ ยนื 145

คณะที่ปรกึ ษาและผ้จู ดั ท�ำ คณะท่ปี รึกษา พรหมเลิศ อธิบดีกรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัย แกว้ กังวาล รองอธิบดีกรมปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัย นายฉตั รชัย เพญ็ พาส รองอธิบดกี รมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั นายอนุสรณ ์ โพธิป์ ภาพนั ธ ์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายพรพจน ์ นายสุปกิต คณะผจู้ ัดทำ� บุญอรณะ ผู้อำ�นวยการสำ�นักนโยบายปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัย บุญพีระณชั ผูอ้ �ำ นวยการสว่ นนโยบายภัยธรรมชาติ นายกอบชัย เลาหวฒั น ์ หวั หนา้ ส�ำ นกั งานปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั จังหวดั สระบุรี น.ส. ชชฎาภร จรรยา รองผู้อำ�นวยการวทิ ยาลยั ป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั นายอภวิ ฒั น์ บรรณวฒั น ์ นกั วเิ คราะหน์ โยบายและแผนชำ�นาญการพเิ ศษ น.ส. เภาร�ำ ไพ กจิ พทิ กั ษ์ นิติกรชำ�นาญการพเิ ศษ น.ส. สร้อยสิริ บุษบงทอง นกั วิเคราะหน์ โยบายและแผนช�ำ นาญการ นายปกรณ์ นิลโชต ิ นกั วิเคราะหน์ โยบายและแผนชำ�นาญการ นายสนั ติ อุตตมางคพงศ ์ นกั วเิ ทศสมั พันธ์ช�ำ นาญการ นางประภัสสร วจิ ติ รวัชรผล นักวเิ คราะห์นโยบายและแผนช�ำ นาญการ น.ส. ดวงนภา วชั รายน นกั วิชาการเงินและบัญชีช�ำ นาญการ น.ส. อารรี ตั น์ แกว้ ยนต์ นักวชิ าการเผยแพรช่ ำ�นาญการ นางเดอื นเพญ็ ใยงเู หลือม วศิ วกรโยธาช�ำ นาญการ น.ส. ฉัตราภรณ ์ ลิมปกรณ์วณชิ นักวิชาการเผยแพรช่ �ำ นาญการ นายบัญญตั ิ มุสิกพงศ์ นักวิเคราะหน์ โยบายและแผนชำ�นาญการ นายทวีป จงจติ ดงั จง นักวิชาการเผยแพรช่ �ำ นาญการ นายณรงค์ ปรดี ารมยโ์ รจน์ นกั วิเคราะหน์ โยบายและแผนชำ�นาญการ นายวีรฉัตร ศรีประไพ นักสังคมสงเคราะหช์ ำ�นาญการ น.ส. สปุ รยี า เอกโชต ิ นักวเิ คราะห์นโยบายและแผนปฏิบตั กิ าร น.ส. วิภาวี น.ส. กมลวรรณ ผเู้ ขียน สนิ สพุ รรณ ผจู้ ดั การโครงการ ศนู ยเ์ ตรียมความพร้อมป้องกนั ภัยพบิ ตั ิแห่งเอเชยี (ADPC) สมบรู ณ ์ เจา้ หน้าทโ่ี ครงการ ศนู ยเ์ ตรียมความพรอ้ มปอ้ งกันภยั พิบตั แิ ห่งเอเชยี (ADPC) น.ส. ฐิติพร ยกุ ตะทัต ผชู้ ่วยโครงการ ศนู ย์เตรยี มความพร้อมปอ้ งกันภยั พบิ ัติแห่งเอเชีย (ADPC) น.ส. พรรณวด ี น.ส. ชนิดาภา ผู้เรียบเรยี ง พฤกษาพงษ์ เจ้าหนา้ ท่ีโครงการ ส�ำ นักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ดร. มทุ ริกา 146 การลดความเส่ียงจากภยั พิบัตสิ ู่การพัฒนาทยี่ ่ังยืน




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook