โครงสร้างการท�ำ งานใหส้ อดคล้องกับภารกิจด้านการลดความเสยี่ งจากภัยพิบัติที่ เพ่มิ ขึ้น โดยอาศยั การทำ�งานรว่ มกนั ระหว่างผู้เช่ยี วชาญหลากหลายด้านและหลาย ภาคส่วน นอกจากนัน้ หน่วยงานต่าง ๆ ยงั สามารถพิจารณาถึงบทบาทของตนใน การสนบั สนุนและใหค้ วามร่วมมือกบั หนว่ ยงานอื่น ๆ ด้านการลดความเสี่ยงจาก ภยั พิบตั ิ และสร้างกลไกที่จำ�เป็นในการประสานงาน เช่น การท�ำ บนั ทึกความเขา้ ใจ (Memorandum of Understanding: MOU) การท�ำ ข้อตกลง รวมท้งั การจดั ตัง้ คณะกรรมการร่วม • การวางแผนงานและโครงการพัฒนาซงึ่ บรู ณาการประเดน็ ดา้ นการลด ความเสี่ยงจากภยั พบิ ัติ เมอ่ื ไดร้ ับการชี้นำ�ในระดบั นโยบายและมีการปรับเปลี่ยน โครงสร้างและระบบการทำ�งานให้เอื้อกับการบูรณาการการลดความเสยี่ งจาก ภัยพบิ ตั ิแล้วหนว่ ยงานต่าง ๆ สามารถริเร่มิ จดั ทำ�แผนงานและโครงการพฒั นา (development programmes & projects) โดยคำ�นึงถงึ และสอดแทรกการลด ความเส่ยี งจากภัยพบิ ัตเิ ข้าเป็นประเดน็ ส�ำ คัญ โดยเฉพาะในพน้ื ท่ที ่ีมีความเส่ยี งสงู ท้งั นี้ ในการวางแผนงานและจดั ทำ�รายละเอียดของโครงการ ตลอดจนการจัดสรร งบประมาณ หน่วยงานอาจพบกบั อุปสรรคปญั หาและขอ้ จ�ำ กัดตา่ ง ๆ และอาจ ต้องมกี ารแสวงหาหนว่ ยงานสนบั สนุนหรือร่วมดำ�เนนิ โครงการ ทง้ั ยังตอ้ งสรา้ ง ความร่วมมอื กบั ภาคกี ารพัฒนา ทั้งหนว่ ยงานภาคเอกชน นักวชิ าการ นักพฒั นา ชมุ ชน ภาคประชาสังคม ฯลฯ เพอื่ ใหเ้ กิดความตระหนกั และมกี ารร่วมมอื อยา่ ง แขง็ ขนั ในกจิ กรรมลดความเส่ยี งจากภยั พิบัตใิ นด้านต่าง ๆ • การสร้างองค์ความรู้และความเขา้ ใจในการดำ�เนินงานส�ำ หรบั ผ้ปู ฏิบตั งิ าน ใน การดำ�เนนิ โครงการพัฒนาที่มีกจิ กรรมเพื่อลดความเส่ียงจากภยั พบิ ตั ิสอดแทรกอยู่ ด้วยนน้ั เจ้าหน้าทผี่ เู้ ก่ยี วข้องตอ้ งไดร้ ับการพัฒนาองคค์ วามรู้ และสรา้ งความเข้าใจ เกย่ี วกบั การลดความเสย่ี งจากภัยพิบัติเพือ่ ให้สามารถปฏิบตั งิ านไดอ้ ย่างลลุ ว่ ง ได้ผลสัมฤทธขิ์ องโครงการตามทตี่ ้ังเป้าหมายไว้ และสามารถลดความเสีย่ งจาก ภัยพบิ ัตใิ นกจิ กรรมและขอบข่ายงานท่ีรบั ผดิ ชอบไดอ้ ยา่ งเปน็ รูปธรรม 2) การบรู ณาการในแนวด่ิง คอื การบรู ณาการใหก้ ารลดความเสย่ี งจากภยั พิบัติเปน็ ประเดน็ ส�ำ คญั ในการพฒั นาในทกุ ระดบั ทง้ั ในระดบั ชาติ ระดบั ภมู ภิ าค และระดบั ทอ้ งถน่ิ • หน่วยงานสว่ นกลางระดับชาตริ เิ ริ่มและขยายผลสู่หนว่ ยงานในระดับอน่ื ๆ กล่าวคือ เริม่ จากการบรู ณาการประเดน็ ดา้ นการลดความเสี่ยงจากภัยพบิ ัตใิ ห้เป็น การลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ัตสิ กู่ ารพฒั นาท่ยี ั่งยนื 49
ท่ีตระหนกั กับหน่วยงานระดบั ชาติ ท�ำ ใหห้ น่วยงานส่วนกลางผู้ก�ำ หนดนโยบายและ วางแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ ตลอดจนกระทรวง ทบวง กรมตา่ ง ๆ ซ่ึงก�ำ หนดนโยบายและวางแผนพฒั นาแตล่ ะภาคสว่ น สามารถวางกรอบนโยบายและ แผนพัฒนาระยะสนั้ กลาง และยาว ซงึ่ คดิ คำ�นึงถงึ การลดความเสยี่ งจากภัยพบิ ัติได้ พรอ้ มกันน้ี ใหส้ ามารถผลกั ดันและถ่ายทอดกรอบการทำ�งานและยุทธศาสตรก์ ารลด ความเส่ียงจากภัยพบิ ัตจิ ากส่วนกลางลงไปสู่ระดบั การปกครองที่เล็กกวา่ ท้ังในระดบั ภูมภิ าค ระดบั จังหวดั ระดับอ�ำ เภอ และระดับท้องถิน่ เพ่อื ให้เกดิ การทำ�งานอย่างมี เอกภาพครอบคลมุ ประเดน็ ความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั ิ และมกี จิ กรรมเพอ่ื ลดความเส่ยี ง จากภัยพิบัติทสี่ อดคลอ้ งกนั กนั ในทุกระดบั เพอื่ ผลสมั ฤทธิข์ องการลดความเสย่ี งจาก ภยั พบิ ัติของประเทศในภาพรวม • หนว่ ยงานแต่ละระดับพจิ ารณาขอบข่ายภารกิจและด�ำ เนนิ กิจกรรมการลด ความเสยี่ งจากภยั พิบตั ิ กล่าวคอื ผลกั ดนั ใหห้ น่วยงานทีเ่ ก่ียวขอ้ งในทกุ ระดับสามารถ พจิ ารณานำ�ขนั้ ตอนการประเมินความเสย่ี งและมาตรการเพ่อื ลดความเสย่ี งจาก ภยั พิบัติมาเปน็ สว่ นหน่ึงในกระบวนการการจดั ท�ำ นโยบาย แผนงาน โครงการและ การปฏบิ ตั ิงาน การกำ�หนดงบประมาณ และกจิ กรรมต่าง ๆ เพื่อใหแ้ น่ใจว่า “ทุก ขัน้ ตอนและทกุ การตดั สนิ ใจท่เี กยี่ วข้องในการวางแผนพัฒนาในทุกระดับนั้นได้ พจิ ารณาแง่มมุ ดา้ นการลดความเส่ยี ง และได้ออกแบบกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีเป้าหมาย การปฏบิ ตั เิ พอื่ ลดความเสย่ี งจากภัยพบิ ตั ิด้วย” • หนว่ ยงานในระดบั ท้องถน่ิ ขยายผลส่รู ะดับนโยบาย นอกจากการบรู ณาการจากบน ลงล่างแล้ว ยงั สามารถด�ำ เนินการผลกั ดนั จากระดบั ล่างสู่ระดบั บนได้ กลา่ วคือ ให้นำ� ผลทไี่ ด้จากการปฏบิ ตั ิงาน โดยเฉพาะในระดบั ท้องถนิ่ ซึง่ รับทราบปัญหาและความ ตอ้ งการในพ้ืนทม่ี ากท่สี ดุ น�ำ เสนอกลับสู่ระดบั ชาตเิ พอื่ พจิ ารณาผลสัมฤทธใิ์ นภาพรวม ในการลดความเส่ยี งจากภยั พิบตั ิ ตลอดจนขยายผลจากพ้ืนทท่ี ี่ประสบความสำ�เร็จใน การลดความเส่ยี งจากภยั พบิ ตั ิ และสามารถเป็นตัวอยา่ งในการดำ�เนนิ กจิ กรรมให้กบั พน้ื ท่อี น่ื ๆ ท่ีมคี วามเสย่ี งคล้ายคลึงกัน ตัวอยา่ งในการบรู ณาการการลดความเสีย่ งจากภัยพบิ ตั ิในขัน้ ตอนการวางแผนพัฒนา ดังแสดงในตารางที่ 2.2 50 การลดความเสีย่ งจากภัยพิบตั สิ ู่การพัฒนาที่ย่งั ยนื
ตารางท่ี 2.2 ตัวอยา่ งการบรู ณาการการลดความเสี่ยงจากภัยพบิ ตั ใิ นขั้นตอนการวางแผนพัฒนา ขั้นตอนการวางแผนพัฒนา ประเด็นด้านการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติที่ควรคำ�นึงถึง การจัดทำ�แผน วิเคราะห์สภาพปัจจุบัน สิ่งที่ทำ�ได้สำ�เร็จแล้วใน • พิจารณาถึงผลกระทบจากภัยพิบัติในรอบการวางแผนพัฒนาที่ผ่านมา แผนพัฒนาที่ผ่านมา ปัญหา อุปสรรค หรือความ มีความเสี่ยงมากขึ้น หรือน้อยลงหรือไม่ อย่างไร ภาคส่วนใดบ้างที่ได้รับ ท้าทายที่เกิดขึ้น ทรัพยากรที่มี ความต้องการของ ผลกระทบ ประชาชน บริบทการพัฒนาที่เปลี่ยนไป กำ�หนดประเด็นการพัฒนา วิสัยทัศน์ ระบุ • พิจารณาว่าการลดความเสี่ยงจะช่วยให้ประเด็นการพัฒนา หรือ วัตถุประสงค์ และกำ�หนดกรอบเวลา ยุทธศาสตร์การพัฒนาสำ�เร็จ ปลอดภัย ยั่งยืนได้อย่างไรในระยะยาว คาดการณ์ถึงแนวโน้ม ปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจส่ง • พิจารณาถึงแนวโน้มการเกิดภัย และความเสี่ยงในอนาคต ภาคส่วนที่ ผลกระทบต่อประเด็นการพัฒนาที่กำ�หนดไว้ อาจได้รับผลกระทบประเมินความเสี่ยงภัยในภาคส่วนการพัฒนา พิจารณาถึงวิธีการที่จะทำ�ให้บรรลุวัตถุประสงค์ • พิจารณาทางเลือกที่ลดความเสี่ยงได้อย่างมีระสิทธิภาพ หรือใช้หลาย ที่กำ�หนดไว้ และข้อจำ�กัดของทางเลือกต่าง ๆ วิธีผสมผสานกัน พิจารณาข้อดี ข้อเสีย งบประมาณ และตัดสินใจเลือก ทางเลือกที่เหมาะสม กำ�หนดแผนงาน โครงการ และกิจกรรมการ • สอดแทรกกิจกรรมเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติเข้าในแผนงาน พัฒนา โดยระบุถึงวิสัยทัศน์ วัตถุประสงค์ โครงการและกิจกรรมในภาคส่วนการพัฒนา หรือกำ�หนดแผนงาน แนวทาง และกิจกรรม (ในกรณีแผนงานระยะ และกิจกรรมในการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติโดยตรง (อาจออกแบบ สั้น และแผนงานประจำ�ปี หรือแผนปฏิบัติการ กิจกรรมการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติร่วมกันระหว่างภาคการพัฒนา จะมีการระบุรายละเอียด กิจกรรม เป้าหมาย ต่าง ๆ) ระยะเวลาและงบประมาณด้วย) • หน่วยงานผู้พิจารณาและอนุมัติแผนงาน ให้ความสำ�คัญกับโครงการที่มี อนุมัติแผนงาน ความเชื่อมโยงกับกิจกรรมลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ การนำ�แผนไปปฏิบัติ • หน่วยงานผู้รับผิดชอบนำ�แผนไปสู่การปฏิบัติ และเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับ การดำ�เนินการตามแผนอย่างจริงจัง โดย มอบหมายมีองค์ความรู้ ความเข้าใจ และทักษะ ที่สามารถนำ�การลด มอบหมายภารกิจแก่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องให้ ความเสี่ยงจากภัยพิบัติที่กำ�หนดไว้ไปปฏิบัติได้จริง เห็นผลเป็นรูปธรรม ดำ�เนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จตามกรอบ • หน่วยงานอาจปรับโครงสร้างหน่วยงานเพื่อให้มีเจ้าหน้าที่ที่มีความ เวลาที่กำ�หนด เชี่ยวชาญด้านการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติให้การสนับสนุนในการ ดำ�เนินกิจกรรมที่มีการสอดแทรกการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติได้ การติดตามและประเมินผล ติดตามความก้าวหน้าของแผนงานหรือโครงการ • เพิ่มมุมมองด้านความเสี่ยงจากภัยพิบัติในการติดตามและประเมินผล พัฒนา ปัญหาและอุปสรรค ตลอดจนการใช้จ่าย เช่น ในการดำ�เนินโครงการในปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ งบประมาณ ประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการ หรือไม่ มากน้อยเพียงใด โครงสร้างเสียหายหรือทำ�ให้งานล่าช้าหรือ ประโยชน์ที่ได้รับ (impact) โดยเปรียบเทียบกับ ไม่ อย่างไร โครงการทำ�ให้เกิดความเสี่ยงแก่ชุมชนแวดล้อมอย่างไร มี วัตถุประสงค์ และกรอบเวลาที่กำ�หนดไว้ (เสร็จ การแก้ไขอย่างไร ผลที่ได้รับเป็นอย่างไร กิจกรรมโครงการสามารถช่วย สิ้น/เป็นไปตามแผน/ล่าช้า/ยกเลิก) และเพื่อ ลดความเสี่ยงได้มากน้อยเพียงไร สามารถลดความเปราะบาง หรือเพิ่ม ชี้วัดความสำ�เร็จของนโยบาย หรือยุทธศาสตร์ ศักยภาพให้กับชุมชนหรือประชาชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้หรือไม่ และ การพัฒนาที่ตั้งไว้ มากน้อยเพียงไร เพื่อนำ�มาทบทวนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยง ภัยที่เป็นอุปสรรค และพิจารณาแก้ไข ปรับปรุงต่อไป ทม่ี า: ดดั แปลงจาก ADPC, 2011 (พ.ศ. 2554) การลดความเสีย่ งจากภัยพบิ ตั ิสกู่ ารพัฒนาทีย่ ง่ั ยืน 51
2.4 แนวคดิ ด้านการลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ัติอยา่ งบรู ณาการในระดบั สากล และระดบั ชาติ 2.4.1 กรอบสากลในการบูรณาการการลดความเส่ยี งจากภัยพบิ ัตใิ นการพฒั นา 1) กรอบการดำ�เนนิ งานเฮียวโกะ (Hyogo Framework for Action: HFA)4 เปน็ กรอบความร่วมมือระดับสากลในการลดความเส่ยี งจากภยั พบิ ตั ิซึ่งรับรองโดย รัฐบาลของประเทศสมาชิกองคก์ ารสหประชาชาตจิ �ำ นวน 168 ประเทศ กำ�หนดแนวทาง ปฏิบัติทสี่ ำ�คัญเพ่ือให้ประเทศตา่ ง ๆ สามารถสรา้ งกลไกเพ่ือลดความเสีย่ งจากภัยพิบตั ิอยา่ ง เปน็ ระบบ มีระยะเวลาด�ำ เนนิ การ 10 ปี ระหวา่ งปี พ.ศ. 2548–2558 มีจุดมุ่งหมายเพ่ือลด การสญู เสยี จากภัยพิบตั ิใหไ้ ด้มากที่สดุ ภายในปี พ.ศ. 2558 โดยต้งั เปา้ หมายไว้ 3 ประการ ได้แก่ • การบูรณาการการลดความเสยี่ งจากภัยพิบัติใหอ้ ยใู่ นนโยบายและแผนพฒั นาท่ยี ่ังยนื • การพฒั นาและเสรมิ สรา้ งองคก์ ร กลไก และศักยภาพในการร้รู ับ ปรบั ตวั และฟืน้ คืนกลบั จากเหตกุ ารณ์ภยั พบิ ัติ (resilience) • การผสานแนวทางการลดความเส่ียงอย่างเปน็ ระบบในการปฏบิ ตั กิ ารในภาวะฉุกเฉนิ ภายใตโ้ ครงการการเตรียมความพรอ้ ม การเผชญิ เหตุการณ์ฉุกเฉิน และการฟื้นฟู กรอบการดำ�เนนิ งานเฮียวโกะให้ความส�ำ คัญกับการบูรณาการการลดความเส่ียงจาก ภัยพบิ ัติในการพฒั นา โดยยกให้เป็นเปา้ หมายสำ�คญั ในการดำ�เนนิ งานดา้ นภยั พบิ ตั ิเชิงรุก โดยได้มีการวางยุทธศาสตรต์ ามล�ำ ดบั ความสำ�คญั ของการปฏบิ ตั ิการไว้ทง้ั หมด 5 ขอ้ เพ่ือ สนับสนุนการด�ำ เนินการลดความเสยี่ งจากภัยพบิ ตั ิอย่างเปน็ ระบบ ได้แก่ 1) จัดให้การลด ความเสยี่ งจากภยั พบิ ตั ิเป็นประเดน็ ท่มี คี วามสำ�คัญระดบั ชาติและระดับท้องถิ่น โดยมีพืน้ ฐาน นโยบายท่ีเข้มแข็งรองรบั เพอ่ื น�ำ ไปสูก่ ารปฏิบัติ 2) รูจ้ กั ประเมนิ และตดิ ตามความเสี่ยงจาก ภัยพบิ ัติ พรอ้ มปรบั ปรงุ ระบบการเตือนภัยล่วงหนา้ 3) ใช้ความรู้ นวัตกรรม และการศึกษา เพือ่ สรา้ งวัฒนธรรมความปลอดภยั และความสามารถในการร้รู บั ปรับตัว และฟื้นคนื กลบั 4 จากการเกิดภัยพิบัติทัว่ โลกท่ีมแี นวโน้มเพ่มิ สูงขน้ึ ทำ�ใหป้ ระชาคมโลกเกดิ ความตระหนักทจี่ ะต้องรว่ มมอื กันเพอื่ ลดความเสีย่ ง จากภยั พบิ ตั ิ องคก์ รสหประชาชาติจึงจัดการประชมุ ว่าด้วยการลดภยั พิบตั ิ (World Conference on Disaster Reduction: WCDR) ที่จงั หวดั เฮียวโกะ ประเทศญ่ีปนุ่ ในรอบหนง่ึ ทศวรรษ ท่ีเมืองเฮยี วโกะฟนื้ ตัวจากแผ่นดนิ ไหวครัง้ ใหญ่ในปี พ.ศ. 2547 เพ่อื พิจารณาแนวทางการลดความเสย่ี งจากภัยพิบัตริ ่วมกัน โดยไดก้ �ำ หนดกรอบการด�ำ เนนิ งานเฮียวโกะ (HFA) เพ่ือใช้ ปฏบิ ัติในระยะเวลา 10 ปี ระหวา่ งปี พ.ศ. 2548-2558 52 การลดความเสี่ยงจากภัยพิบัตสิ ู่การพฒั นาท่ยี ง่ั ยนื
จากภัยพิบตั ิ 4) ลดปัจจยั ทก่ี ่อใหเ้ กดิ ความเสี่ยง และ 5) สรา้ งความเขม้ แขง็ ในการเตรียม ความพรอ้ มด้านภยั พิบตั ิเพือ่ การเผชิญเหตอุ ย่างมีประสทิ ธภิ าพในทุกระดับ แมก้ รอบการด�ำ เนนิ งานเฮยี วโกะจะไมไ่ ดเ้ ปน็ กฎขอ้ บงั คบั หรอื เปน็ ขอ้ ผกู มดั ในการ ด�ำ เนนิ งานดา้ นภยั พบิ ตั ิ แตป่ ระเทศสมาชกิ รวมทง้ั ประเทศไทยไดเ้ หน็ ความส�ำ คญั ของ แนวทางดงั กลา่ วในการสรา้ งความปลอดภยั ของประเทศจากภยั พบิ ตั ิ พรอ้ มยอมรบั กรอบการ ด�ำ เนนิ งานดงั กลา่ วเปน็ พมิ พเ์ ขยี วในการด�ำ เนนิ งานดา้ นการลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั เิ ชงิ รกุ และใหค้ วามส�ำ คญั กบั การบรู ณาการการลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั ใิ นการพฒั นามากขน้ึ ภายหลงั ท่ีกรอบการดำ�เนนิ งานเฮยี วโกะสนิ้ สุดลงในปี พ.ศ. 2558 กรอบการ ด�ำ เนนิ งานเพ่อื ลดความเส่ยี งจากภัยพิบัตริ ะยะต่อไป หรอื Post-2015 Framework for Disaster Risk Reduction (HFA2) ยังคงมแี นวทางทมี่ งุ่ เน้นประเด็นการลดความเส่ยี งจาก ภยั พบิ ัตใิ นกจิ กรรมการพัฒนาอยา่ งต่อเน่อื ง โดยจากการหารอื ในระดับภมู ภิ าคเอเชียและ แปซิฟกิ ระหว่างปี พ.ศ. 2554–2557 ไดม้ ขี ้อสรุปตอ่ หลักการของ HFA2 ว่า “การพัฒนาที่ คำ�นงึ ถึงความเสยี่ งจากภยั พบิ ตั ิ เป็นรากฐานใหป้ ระเทศและชุมชนสรา้ งความสามารถในการ รู้รบั ปรับตัว และฟน้ื คนื กลับไดอ้ ย่างรวดเร็วและท�ำ ใหม้ ีความยัง่ ยนื ” นอกจากน้ี ยงั ให้ความสำ�คญั กับการบูรณาการการลดความเสย่ี งจากภยั พิบตั ใิ น หนว่ ยงานท่ดี ูแลดา้ นการวางแผนพัฒนา หน่วยงานทจี่ ัดท�ำ งบประมาณ และหน่วยงานของ แต่ละภาคส่วนทส่ี �ำ คัญ เชน่ หนว่ ยงานด้านโยธา การกอ่ สรา้ งถนนและโครงสร้างคมนาคม การพลงั งาน การพฒั นาเมือง การสาธารณสขุ การพฒั นาสังคม การชลประทาน การบรหิ าร จดั การทรัพยากรน�ำ้ การทำ�เหมอื งแร่ การทอ่ งเทีย่ ว ท้ังยงั มงุ่ เนน้ ใหเ้ กิดความสอดคล้องกนั ระหวา่ งแผนบริหารจดั การภยั พบิ ตั ใิ นภาพรวมกับแผนพัฒนาในแต่ละภาคส่วน เพ่ือใหง้ าน ดา้ นการพฒั นาของแตล่ ะภาคสว่ นมีบทบาทในการลดความเสย่ี งจากภยั พิบตั นิ อกเหนือจาก บทบาทการพฒั นาเฉพาะด้าน และใหแ้ นใ่ จวา่ การพฒั นาแตล่ ะภาคส่วนดำ�เนนิ ไปในทศิ ทาง เดียวกัน และไม่ขดั แย้งกนั กบั แนวทางการลดความเสี่ยงจากภยั พบิ ตั โิ ดยรวม ทง้ั นี้ HFA2 ยงั ให้ความสำ�คัญกบั การผสานให้การลดความเสีย่ งจากภยั พบิ ตั ิเปน็ ส่วนหนึ่งของแนวทางการ พัฒนาประเทศอกี ด้วย การลดความเสี่ยงจากภยั พบิ ัติสกู่ ารพัฒนาทยี่ ง่ั ยืน 53
2) Rio+20 การประชุมสหประชาชาติว่าดว้ ยการพัฒนาอยา่ งย่งั ยนื (United Nations Conference on Sustainable Development: UNCSD) ในการประชมุ Rio+20 หรือการประชุมสหประชาชาติว่าดว้ ยการพัฒนาอยา่ งยงั่ ยนื ที่นครรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล ระหว่างวนั ที่ 20–22 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2555 ประเทศ สมาชิกได้ร่วมหารือถงึ ประเดน็ สำ�คัญในการลดความยากจน เสรมิ สร้างความเทา่ เทียมกันใน สังคม และการปกป้องส่งิ แวดลอ้ มให้กบั โลกที่มปี ระชากรเพม่ิ ขนึ้ ทกุ ๆ วัน โดยท่ปี ระชุมได้ ใหค้ วามส�ำ คญั กบั เรื่องความพร้อมด้านภัยพบิ ตั ิเปน็ 1 ใน 7 ประเดน็ ส�ำ คัญสำ�หรับการพัฒนา อย่างยั่งยนื ควบคูไ่ ปกับประเดน็ ดา้ นการประกอบอาชีพ ด้านพลงั งาน ดา้ นชมุ ชนเมืองยง่ั ยนื ดา้ นความม่นั คงทางอาหารและการเกษตรยงั่ ยืน ดา้ นน�้ำ และดา้ นทรัพยากรทางทะเล ทง้ั น้ี ทป่ี ระชมุ เหน็ พอ้ งตอ้ งกันวา่ การพฒั นาจะย่งั ยืนไดน้ ัน้ การลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั ิและการ ปรับตัวต่อการเปลีย่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศเปน็ ประเด็นทส่ี �ำ คัญยง่ิ ทีต่ อ้ งบูรณาการเขา้ เปน็ ส่วนหนึ่งของนโยบาย แผนงาน และโครงการพฒั นาในทกุ ระดบั ทง้ั ยังให้ความส�ำ คญั กบั การ กำ�หนดยุทธศาสตรแ์ ละบทบาทของภาครฐั และภาคเอกชน ในการจดั สรรงบประมาณ การ ลงทุน การตัดสนิ ใจดา้ นนโยบาย และการวางแผนพัฒนาเพ่ือสรา้ งความพรอ้ มในการรับมือ ก บั ภัยพิบัตดิ ้วย ประเทศสมาชกิ ยังเห็นพ้องตอ้ งกนั วา่ ควรมีการก�ำ หนดเปา้ หมายการพัฒนาท่ยี งั่ ยนื (Sustainable Development Goals: SDGs) เพือ่ หารอื ร่วมกันในการประชุมสมชั ชาแห่ง สหประชาชาติในปี พ.ศ. 2558 โดยมีผู้แทนจากประเทศสมาชกิ ทั่วโลก และหน่วยงานว่าด้วย การพฒั นาต่าง ๆ เขา้ รว่ ม ทั้งนี้ แนวทางการพัฒนาท่ียงั่ ยนื ดงั กลา่ วสอดรบั กันกบั HFA2 ซึง่ เนน้ ย้�ำ ถงึ วสิ ัยทัศน์รว่ มกนั ในระดบั สากลที่มองว่าการลดความเสีย่ งจากภยั พิบตั ิ การปรบั ตวั ตอ่ การเปล่ียนแปลงสภาพภมู ิอากาศ และการพฒั นาอยา่ งยงั่ ยืนเป็นประเดน็ ที่ไม่สามารถ แยกจากกันได้ 54 การลดความเสยี่ งจากภยั พิบตั ิสูก่ ารพฒั นาท่ียัง่ ยืน
3) การประชมุ ระดับรฐั มนตรีแหง่ เอเชียวา่ ดว้ ยการลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ัติ ครัง้ ท่ี 6 (The 6th Asian Ministerial Conference on Disaster Risk Reduction: AMCDRR6) รฐั บาลไทย ร่วมกบั สำ�นักงานเพ่อื การลดความเสยี่ งจากภยั พิบัติแหง่ สหประชาชาติ (United Nations Office for Disaster Risk Reduction: UNISDR) เปน็ เจ้าภาพจัดการ ประชุมดงั กล่าวขึ้นในเดือนมถิ ุนายน พ.ศ. 2557 และได้แถลงปฏิญญากรุงเทพฯ (Bangkok Declaration) ว่าด้วยการลดความเสีย่ งจากภยั พิบตั ใิ นภูมภิ าคเอเชียและแปซฟิ กิ พ.ศ. 2557 โดยมุง่ เน้นถงึ การส่งเสริมการลงทุนของภาครฐั ทค่ี ำ�นึงถงึ การควบคุมและปอ้ งกนั ความเส่ยี ง ตอ่ ภยั พิบัติ ให้เกิดการพฒั นาที่รับผดิ ชอบต่อความเสีย่ งจากภยั พิบตั ิ และระบุมาตรการ เพอื่ ลดความเสย่ี งจากภัยพบิ ัตใิ นแผนพัฒนาของทุกภาคส่วน ตลอดจนเสริมสร้างขีดความ สามารถของสถาบันและองค์กรตา่ ง ๆ ในการพัฒนา เพ่อื วเิ คราะห์ และใช้ขอ้ มลู ความเสี่ยง ในการวางแผน และน�ำ ไปปฏิบัตใิ ห้เกดิ ผล โดยเฉพาะในพ้ืนทที่ ม่ี คี วามเสย่ี งสูง ใหภ้ าคสว่ น ต่าง ๆ ทั้งภาคเอกชน และชุมชนมสี ่วนร่วมกบั ภาครัฐ และมีบทบาทในการลดความเสี่ยงจาก ภัยพบิ ตั ิ 2.4.2 กรอบการบูรณาการการลดความเสีย่ งจากภยั พิบตั ใิ นการพัฒนาระดบั ชาติ 1) แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาตฉิ บบั ท่ี 11 (พ.ศ. 2555–2559) ส�ำ หรบั การพฒั นาในประเทศไทย มแี ผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติเปน็ แผน แมบ่ ทกำ�หนดแนวทางการพัฒนาในภาพรวมส�ำ หรับหนว่ ยงานทกุ ระดบั และทกุ ภาคส่วน รวมท้ังก�ำ หนดทิศทางและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศเพอื่ สรา้ งภมู คิ ุม้ กันใหเ้ พียงพอ พร้อมรับผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงทัง้ ภายนอกและภายในประเทศ โดยแผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตฉิ บับท่ี 11 (พ.ศ. 2555–2559) ได้เชือ่ มโยงประเด็นการพฒั นา และภยั พบิ ัติข้ึนเปน็ คร้งั แรก โดยกล่าววา่ ภยั พิบัติเปน็ ปัจจัยท่สี ร้างผลกระทบตอ่ ฐานการผลิต ภาคเกษตร ความม่นั คงด้านอาหาร พลงั งาน สขุ ภาวะและคุณภาพชีวติ ของประชาชน ดงั น้ัน ยุทธศาสตร์หนึ่งท่สี ำ�คญั ในแผนฯ ฉบบั น้ี คอื “การจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม อยา่ งยง่ั ยืน ใหค้ วามสำ�คัญกบั การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม ให้ เพยี งพอตอ่ การรกั ษาสมดลุ ของระบบนเิ วศ บนพนื้ ฐานของการมสี ว่ นร่วมของชมุ ชนในการ ดูแล รกั ษาและใช้ประโยชน์ การปรับกระบวนทศั นก์ ารพฒั นาและขบั เคลื่อนประเทศ ไปสู่ การเป็นเศรษฐกจิ และสังคมคารบ์ อนต่ำ�และเปน็ มิตรกบั สงิ่ แวดลอ้ ม ควบคูไ่ ปกบั การเตรียม การลดความเสีย่ งจากภัยพิบตั ิสู่การพัฒนาท่ียง่ั ยนื 55
ความพรอ้ มรองรับการเปลีย่ นแปลงภูมิอากาศและภัยพบิ ัติทางธรรมชาติ สรา้ งภูมิคมุ้ กนั ดา้ น การคา้ จากเง่ือนไขดา้ นสิง่ แวดล้อมและเพม่ิ บทบาทของไทยในเวทปี ระชาคมโลกเพ่ือใหส้ งั คม มภี ูมคิ ุ้มกนั สามารถสนบั สนุนการพัฒนาเศรษฐกจิ และยกระดบั คณุ ภาพชวี ิตใหค้ นในสังคม ไทย” กล่าวคือ ให้ความส�ำ คญั กับการบูรณาการประเดน็ เรื่องการลดความเสย่ี งจากภยั พิบัติ ในภาคการพฒั นา โดยเฉพาะในด้านการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมนน่ั เอง ยุทธศาสตร์การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มอย่างยงั่ ยนื ในแผน พฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาตฉิ บบั ที่ 11 ว่าด้วยการพัฒนาและบรหิ ารจัดการทรพั ยากร เพ่ือเป็นฐานในการผลติ ภาคเกษตรกรรม เปน็ ทางเลอื กดา้ นพลังงาน และเสริมสรา้ งความ มนั่ คงแกป่ ระเทศชาติ ช่องว่างของนโยบายการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการ ขนาดใหญ่ทส่ี ่งผลกระทบตอ่ ทรัพยากรธรรมชาติ และยงั ให้ความส�ำ คญั กับประเด็นภยั พบิ ัติท่ี ตอ้ งได้รับการจัดการ ท้ังการกัดเซาะชายฝัง่ การเสื่อมโทรมของทรัพยากรดิน ความขัดแย้ง ในการใชป้ ระโยชนท์ ่ีดนิ มลพษิ และภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาติ รวมทัง้ การรบั มอื กับการ เปล่ยี นแปลงสภาพภูมิอากาศทีอ่ าจเป็นปัจจยั ทที่ ำ�ใหภ้ ยั พบิ ัตมิ คี วามถี่และความรุนแรง เพ่ิมข้นึ ในหลายพื้นทข่ี องประเทศ ซ่ึงส่งผลกระทบต่อความมัน่ คงของมนษุ ย์ โดยเฉพาะ ประชากรที่มขี ดี ความสามารถในการรบั มือกบั ผลกระทบดว้ ยตนเองไมม่ ากนกั 2) แผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัยแหง่ ชาติ พ.ศ. 2558 ประเทศไทยยงั มแี ผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาตซิ งึ่ เปน็ กรอบ การด�ำ เนนิ การในการจดั การความเส่ียงจากภยั พิบัติของประเทศ โดยแผนการปอ้ งกันและ บรรเทาสาธารณภยั แห่งชาติ พ.ศ. 2558 ซง่ึ จะเร่ิมนำ�ใช้ภายหลังแผนฯ ฉบบั ปัจจบุ นั ส้ินสุด ลงในปี พ.ศ. 2557 ไดใ้ ห้ความสำ�คัญกบั ยทุ ธศาสตร์การลดความเส่ยี งจากภยั พบิ ัติ ทัง้ การ ก�ำ หนดกลยทุ ธ์ส�ำ คญั ในการประเมินความเสย่ี งจากภัยพิบัติ กลยทุ ธก์ ารจัดการเพือ่ ลดความ เสย่ี งจากภัยพบิ ัติ และกลยุทธก์ ารสร้างธรรมาภบิ าลในการลดความเสี่ยงจากภัยพบิ ตั ิ ซึง่ มุ่ง เนน้ ให้ทกุ ภาคส่วนมีการร่วมมอื กนั เพ่อื ดำ�เนินกจิ กรรมในการลดความเสีย่ งจากภยั พิบตั ิใหม้ ี ประสทิ ธภิ าพ เพอ่ื นำ�ไปสกู่ ารพัฒนาทย่ี ่งั ยืนและเสริมความเข้มแขง็ หรือสร้างภมู ิคมุ้ กนั ใหแ้ ก่ ประเทศในการ “ร้รู ับ–ปรับตัว–ฟื้นเร็วทว่ั อยา่ งยง่ั ยืน” โดยไดม้ ีการเชอ่ื มโยงกลยทุ ธ์ดงั กล่าว กับแนวทางที่ก�ำ หนดไวใ้ นแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ดังทไี่ ด้กลา่ วไปแลว้ ใน ข้างต้นอีกด้วย 56 การลดความเสย่ี งจากภยั พิบัติสูก่ ารพัฒนาทยี่ ง่ั ยนื
การบรู ณาการการลดความเสย่ี งจากภยั พิบตั ใิ นการพฒั นามีความส�ำ คญั มากในการ เตรยี มความพรอ้ มของประเทศในการรบั มือกับเหตกุ ารณภ์ ยั พบิ ตั ิท่อี าจเกิดขนึ้ ไดใ้ นอนาคต และจะเหน็ ได้วา่ การลดความเสีย่ งจากภัยพิบตั ใิ หไ้ ดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพนน้ั ทกุ ภาคส่วนต่าง เปน็ ก�ำ ลังสำ�คญั ทีจ่ ะช่วยขับเคล่อื นใหส้ �ำ เรจ็ ลลุ ว่ งได้ จึงมคี วามจำ�เป็นท่แี ตล่ ะภาคสว่ นตอ้ งมี ความรูค้ วามเข้าใจและใหค้ วามสำ�คญั ในการบูรณาการการลดความเสย่ี งจากภัยพบิ ัติเข้าใน การวางแผนพฒั นาอย่างจริงจงั และเปน็ ระบบระเบยี บ โดยตวั อยา่ งแนวทางปฏบิ ัตทิ ี่แต่ละ ภาคส่วนจะสามารถด�ำ เนนิ การได้ในการร่วมกันลดความเสย่ี งจากภยั พิบัติอย่างบูรณาการจะ นำ�เสนอในบทต่อไป การลดความเสย่ี งจากภัยพิบตั สิ ู่การพัฒนาท่ยี ่ังยืน 57
58 การลดความเสีย่ งจากภัยพบิ ตั สิ กู่ ารพัฒนาทย่ี ัง่ ยนื
แบอยนท่าวทงท่ี บ3าูรงณปฏากิบาัตริเพอื่ ลดความเส่ียงจากภยั พบิ ตั ิ 3.1 ประเด็นทที่ ุกภาคสว่ นตอ้ งตระหนักเมอ่ื วางแผนการพัฒนา ในการวางแผนการพฒั นาทกุ ครง้ั ควรตั้งคำ�ถามสำ�คัญ 3 ประการ เพื่อช่วยทบทวน ว่าการพฒั นาไดม้ ีการค�ำ นงึ ถงึ ประเดน็ ดา้ นความเสีย่ งจากภัยพบิ ัติแลว้ หรอื ไม่ ดังน้ี 1) การพัฒนาจะได้รับผลกระทบหรอื ไม่ หากเกิดภยั พิบตั ิ การวางแผนพฒั นาใด ๆ โดยเฉพาะในพนื้ ทเี่ ส่ียงหรือเคยประสบภยั พบิ ตั มิ าก่อน จ�ำ เป็นตอ้ งพจิ ารณาผลกระทบจากภยั พิบตั ิทอี่ าจเกดิ ข้นึ กบั โครงการพัฒนานนั้ ๆ เพ่ือให้ แนใ่ จว่าโครงการจะไม่ถูกท�ำ ลายเสียหายหากเกิดภยั พบิ ตั ขิ ้นึ ในอนาคต และเพ่อื ช่วยตัดสินใจ ว่าควรด�ำ เนินการตอ่ ไปหรือไม่ หากเห็นควรวา่ จะด�ำ เนนิ การตอ่ ก็ตอ้ งสรรหามาตรการเพื่อลด ความเสี่ยงอย่างเหมาะสม เช่น หากจะก่อสรา้ งโรงเรยี นในพื้นท่ีเส่ยี งภยั แผ่นดนิ ไหว ต้องให้ แน่ใจว่าโรงเรยี นมีโครงสรา้ งทีท่ นทานแขง็ แรง ไม่พังทลายเมอื่ เกดิ แผ่นไหว 2) การพฒั นาจะทำ�ให้ความเสีย่ งจากภัยพบิ ัตเิ พ่ิมมากขน้ึ หรือไม่ ในการวางแผนพัฒนาตอ้ งให้แนใ่ จว่าโครงการพฒั นาน้ัน ๆ จะไมเ่ ปน็ ต้นเหตทุ �ำ ให้ ความเสยี่ งจากภัยพิบัตเิ พิม่ มากขึน้ ท้ังตอ่ โครงการพัฒนาเอง ตอ่ พื้นทขี่ า้ งเคยี ง ต่อภาคสว่ น อื่น ๆ และตอ่ สงั คมโดยรวม เช่น การก่อสร้างถนนอาจกีดขวางทางน�ำ้ เมอ่ื ถงึ ฤดนู �ำ้ หลาก ท�ำ ใหน้ ้ำ�ไมส่ ามารถไหลระบายได้สะดวกตามธรรมชาติ ส่งผลใหพ้ น้ื ทโี่ ดยรอบเกดิ น�้ำ ท่วมขงั เป็นระยะเวลานาน และทำ�ให้ถนนได้รับความเสยี หาย ในกรณเี ชน่ นจ้ี งึ ควรมีการทบทวนและ วางแผนพัฒนาใหม่อีกครงั้ 3) การพัฒนาจะมีสว่ นทำ�ให้ความเสย่ี งจากภัยพิบตั ใิ นภาพรวมลดลงไดห้ รือไม่ การวางแผนพฒั นาในพนื้ ทซ่ี ง่ึ เคยได้รับผลกระทบจากภัยพิบัตหิ รือมแี นวโนม้ ทีจ่ ะ เกดิ ภัยพิบตั ใิ นอนาคต จำ�เป็นตอ้ งพจิ ารณาถงึ มาตรการท่ีจะชว่ ยลดความเสย่ี งจากภยั พิบัติ ในพ้นื ที่ ทง้ั ทีเ่ ปน็ มาตรการเพ่ือปอ้ งกันและเพอ่ื ลดผลกระทบ ทง้ั แบบทใ่ี ชโ้ ครงสร้างและ ไมใ่ ช้โครงสรา้ ง หรือกจิ กรรมที่สนบั สนุนใหช้ ุมชนมศี ักยภาพและความพร้อมในการรบั มือ การลดความเสีย่ งจากภยั พบิ ัตสิ ู่การพัฒนาทีย่ ั่งยนื 59
กับภยั พบิ ตั ิได้มากขึ้น และในการฟื้นฟพู ื้นที่ประสบภยั พิบัติ ควรน�ำ แนวคิดด้านการสร้าง คืนใหม่ใหด้ กี วา่ เดิม (build back better) มาพจิ ารณาร่วมด้วย เช่น การซอ่ มสร้างอาคาร เอนกประสงค์ในพืน้ ท่ีเคยประสบภัยคลื่นสนึ ามิจ�ำ เป็นตอ้ งทำ�ใหม้ โี ครงสร้างท่แี ขง็ แรง มพี ้ืน ยกสูงใหน้ ำ้�ไหลผา่ นได้ มีช้นั ดาดฟ้าที่ผู้คนหนขี ้นึ ไปหลบภัยไดเ้ มือ่ เกิดคลนื่ สนึ ามิ รวมถึงมี ป้ายบอกเส้นทางอย่างชดั เจน เพอื่ ชว่ ยลดความเสย่ี งของชมุ ชนจากภัยสึนามิทอ่ี าจเกดิ ขึน้ อีก ในอนาคต 3.2 แนวทางการปฏิบัติเพ่อื ลดความเส่ียงจากภัยพบิ ตั ใิ นภาคการพฒั นา กิจกรรมส�ำ คญั ประการแรกท่ีทกุ ภาคสว่ นควรพิจารณานำ�ไปปฏิบตั ใิ หเ้ ปน็ ภารกจิ ประจ�ำ ในกระบวนการพัฒนา คอื “การประเมนิ ความเส่ียงจากภยั พบิ ตั ิ” ซ่ึงเป็นข้ันตอนท่ี ส�ำ คัญมากในกระบวนการลดความเสย่ี งจากภยั พิบัติ โดยเฉพาะในโครงการทีจ่ ำ�เป็นต้องมี การกอ่ สรา้ งสิ่งปลกู สร้างต่าง ๆ ซึ่งผลจากการประเมนิ ความเสี่ยงมีประโยชนต์ อ่ การตัดสนิ ใจ เลือกพ้ืนท่ตี ัง้ โครงการให้มคี วามเสีย่ งนอ้ ยทีส่ ดุ หรือหากมคี วามจ�ำ เปน็ ทจ่ี ะต้องดำ�เนิน โครงการในพ้นื ท่เี ส่ยี งอย่างหลีกเลย่ี งไมไ่ ด้ ข้อมูลจากการประเมนิ ความเส่ยี งจะช่วยในการ พิจารณากำ�หนดมาตรการเพื่อลดความเส่ยี งท่ีเหมาะสมท่ีจะชว่ ยให้โครงการไดร้ บั ผลกระทบ จากภยั พิบัตไิ ดน้ ้อยทสี่ ุดและไม่สร้างความเส่ียงเพม่ิ เติมใหก้ บั ชุมชน ส�ำ หรบั โครงการขนาดใหญม่ ขี อ้ กำ�หนดให้มีการวิเคราะห์ผลกระทบสง่ิ แวดล้อม (Environmental Impact Assessment: EIA) อยแู่ ล้ว ซ่งึ เป็นการประเมนิ และคาดการณ์ ผลกระทบสิง่ แวดล้อมท้งั ในทางบวกและทางลบท่อี าจเกดิ ขนึ้ จากการด�ำ เนินโครงการ เพ่ือ ใช้ประกอบการตัดสินใจในการด�ำ เนินโครงการนนั้ ๆ และกำ�หนดมาตรการป้องกนั และแกไ้ ข ผลกระทบตอ่ ส่ิงแวดล้อม ซงึ่ การวเิ คราะห์ผลกระทบดา้ นส่งิ แวดล้อมสามารถเพิม่ มุมมองดา้ น ภัยพิบัติเขา้ ไปไดด้ ้วย เชน่ • โครงการดา้ นเหมอื งแร่และการพฒั นาปิโตรเลียม นอกจากจะมโี อกาสสง่ ผลต่อ ระดับนำ้�ผิวดิน ยงั อาจท�ำ ให้เกดิ ความแหง้ แล้ง อทุ กภัย หรอื การรวั่ ไหลของนำ้�มนั สารเคมีและของเสียอันตรายต่าง ๆ • โครงการด้านอตุ สาหกรรม อาจตอ้ งการน�้ำ ในกระบวนการผลติ จ�ำ นวนมาก อาจสง่ ผลให้เกิดการขาดแคลนน�้ำ ในภาคเกษตรหรอื ภาคครัวเรือน 60 การลดความเสยี่ งจากภัยพิบัติส่กู ารพัฒนาท่ยี ่งั ยนื
• โครงการดา้ นคมนาคม ระบบเครือข่ายถนน อาจสง่ ผลใหส้ ภาพความลาดชันของ พืน้ ทเ่ี ปลี่ยนแปลงไป ท�ำ ใหเ้ กดิ น้ำ�ทว่ มขงั ทั้งน้ี ไม่เพียงแตโ่ ครงการขนาดใหญเ่ ทา่ น้นั แตโ่ ครงการขนาดเลก็ ก็สามารถน�ำ ผลการ ประเมินความเสีย่ งจากภัยพิบัตเิ พื่อประกอบการตัดสินใจในการด�ำ เนินโครงการต่าง ๆ ด้วย เช่นกนั 5 จากทไี่ ดก้ ล่าวไปแลว้ ในบทท่ี 1 ภยั พบิ ตั สิ ามารถสรา้ งผลกระทบตอ่ การพฒั นาทุก ภาคส่วน และการพัฒนาในแตล่ ะภาคสว่ นสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากภัยพบิ ัตไิ ด้ ในสว่ น ตอ่ ไปน้ี จะนำ�เสนอตัวอยา่ งกิจกรรมการลดความเส่ียงจากภัยพิบตั ทิ ส่ี ามารถบูรณาการเปน็ สว่ นหนงึ่ ของกจิ กรรมในภาคสว่ นการพฒั นาได้ โดยแบ่งเปน็ ตวั อยา่ งสำ�หรับภาคเกษตรกรรม ภาคการทอ่ งเทย่ี ว ภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจ การค้าและการลงทนุ ภาคโครงสรา้ งพื้นฐาน ภาคการศกึ ษา ภาคสาธารณสขุ และภาคการเคหะ โดยมีตวั อย่างสำ�หรบั ภาคสงิ่ แวดล้อม สอดแทรกอยู่ในตวั อย่างที่ปรากฏในภาคสว่ นอืน่ ๆ เนอ่ื งจากประเด็นดา้ นสง่ิ แวดลอ้ มซึ่ง เกย่ี วขอ้ งกบั ระบบนิเวศและทรพั ยากรธรรมชาติมีความเก่ียวขอ้ งกับการพัฒนาในภาคสว่ น อ่นื ๆ แทบทกุ ภาคสว่ น ในการน�ำ เสนอ จะเรม่ิ จากการพจิ ารณาผลกระทบจากภยั พบิ ตั ทิ ม่ี ตี อ่ ภาคสว่ นนน้ั ๆ รวมทง้ั การด�ำ เนินโครงการพฒั นาโดยภาคสว่ นดังกล่าวที่อาจท�ำ ให้สงั คมมคี วามเส่ยี งจาก ภยั พิบตั ิเพม่ิ มากขึน้ แลว้ จึงยกตวั อยา่ งกิจกรรมท่ีแต่ละภาคส่วนสามารถดำ�เนินการได้เพอ่ื ลด ความเส่ียงจากภัยพบิ ัตอิ ย่างบรู ณาการ โดยแบง่ กิจกรรมออกเปน็ 2 สว่ นหลกั ได้แก่ 1) กิจกรรมเพอื่ ปอ้ งกนั และลดผลกระทบจากภัยพิบัติ เปน็ กจิ กรรมที่มงุ่ เนน้ ในการ ช่วยลดความรุนแรงและโอกาสในการเกดิ ภัยต่าง ๆ เป็นส�ำ คญั แบง่ ออกเปน็ • กจิ กรรมท่ใี ชโ้ ครงสร้าง คอื การใชส้ งิ่ ปลกู สร้างทงั้ ทางธรรมชาติและการกอ่ สรา้ ง ในการปอ้ งกนั และลดผลกระทบ • กจิ กรรมทไ่ี มใ่ ชโ้ ครงสรา้ ง คอื กจิ กรรมทไ่ี มใ่ ชส้ งิ่ ปลกู สรา้ ง ทช่ี ว่ ยสนบั สนนุ ใหเ้ กดิ การป้องกนั และลดผลกระทบได้ 5 Provention Consortium, 2007 (พ.ศ. 2550). การลดความเสี่ยงจากภยั พบิ ตั สิ ูก่ ารพัฒนาท่ยี ัง่ ยนื 61
2) กิจกรรมเพือ่ เตรียมความพรอ้ ม เป็นกจิ กรรมท่มี ่งุ เน้นใหท้ ุกภาคสว่ นมคี วาม พร้อมในการรักษาชวี ิตและทรพั ยส์ นิ และสามารถรบั มือกับภัยได้อย่างมี ประสิทธภิ าพและทันทว่ งที แบง่ ออกเป็น • กจิ กรรมเชงิ รุกทีม่ ุ่งเน้นการปรบั ตวั หรอื การปรบั เปลย่ี นวถิ ีชวี ติ ให้เหมาะสมเพ่ือ ลดความเสยี่ งจากภัยพิบตั ิ • กิจกรรมเชงิ รับท่มี ่งุ เน้นการเตรียมพรอ้ มรบั มือจากเหตกุ ารณ์ภยั พิบัติ อยา่ งไรก็ดี กิจกรรมท่ีแนะน�ำ ไว้ในหนงั สือเลม่ นเี้ ปน็ ตัวอยา่ งพอสงั เขป ไมไ่ ด้ ครอบคลมุ กจิ กรรมทส่ี ามารถท�ำ ได้ทง้ั หมด เนอ่ื งจากหนว่ ยงานและบุคลากรท่ีทำ�งานใน แต่ละภาคส่วนยอ่ มมคี วามเขา้ ใจดที ่ีสดุ ถงึ ปจั จัยทสี่ ่งผลกระทบตอ่ ภาคส่วนท่ีรบั ผิดชอบ จึง หวังเป็นอยา่ งยง่ิ ว่าหน่วยงานและบุคลากรท่ีเก่ยี วขอ้ งจะสามารถปรับใช้องคค์ วามรู้ ความ เช่ียวชาญ ประสบการณ์และความคดิ สรา้ งสรรค์ เพอื่ พจิ ารณามาตรการในการลดความเส่ยี ง จากภัยพิบตั ิได้อยา่ งเหมาะสมท่สี ุด และสามารถดำ�เนินกิจกรรมน้นั ๆ ให้เกดิ ผลประโยชนต์ อ่ สังคมร่วมกนั 62 การลดความเส่ยี งจากภยั พิบตั ิสกู่ ารพฒั นาที่ยง่ั ยนื
ภาคเกษตรกรรม ภาคการผลิตของไทยโดยเฉพาะภาคเกษตรกรรม มีความออ่ นไหวตอ่ สภาพ ดิน ฟา้ อากาศ และสภาพภมู อิ ากาศทเี่ ปล่ียนแปลง เน่อื งจากมนี �ำ้ เปน็ ปัจจัยหลักในการผลิต เมอื่ ปริมาณน้�ำ ไม่สมดลุ กับความต้องการจึงสง่ ผลกระทบต่าง ๆ มากมาย เช่น ภยั แล้ง ท�ำ ใหพ้ ืช ขาดน้ำ� แห้งตาย ปศสุ ัตวข์ าดน้�ำ และอาหาร เช่นเดยี วกบั อทุ กภัยซ่ึงสง่ ผลทำ�ใหพ้ ชื ผลทางการ เกษตรไดร้ บั ความเสียหาย ปศุสัตว์ลม้ ตาย และอาจเกดิ โรคระบาดเชน่ กัน ผลของภยั พิบตั ิ ท�ำ ให้เกษตรกรขาดรายได้และมหี นส้ี ิน นอกจากนนั้ ยงั ส่งผลต่อเนอ่ื งท�ำ ให้สนิ ค้าทางการ เกษตรขาดแคลน มีราคาแพง นอกจากภัยพบิ ตั ิจะสง่ ผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรมแลว้ การท�ำ การเกษตรโดยไม่ ค�ำ นึงถงึ ผลกระทบต่อสิง่ แวดล้อม ท�ำ ลายสมดลุ ของระบบนเิ วศ ก็เปน็ สาเหตุท�ำ ให้ความเส่ียง จากภยั พิบัติมีเพ่ิมมากข้ึน เชน่ การหักร้างถางป่าและปลูกพชื เชงิ เด่ียวในพน้ื ที่ลาดชันเปน็ การ ท�ำ ลายพืชซึ่งช่วยยึดและชะลอการพงั ทลายของหนา้ ดิน ทำ�ให้เพม่ิ ความเสีย่ งจากภัยน้ำ�ทว่ ม ฉับพลันและดินโคลนถลม่ อยา่ งไรก็ดี ผลกระทบจากภัยพบิ ตั ติ ่อภาคเกษตรกรรมไมไ่ ด้มแี ตด่ า้ นลบเท่านน้ั ใน กรณีของภัยน้ำ�ท่วม อาจมผี ลกระทบด้านบวกดว้ ย เช่น น้ำ�ทว่ มพดั พาดนิ ตะกอนทม่ี ีความ อุดมสมบรู ณ์มาชว่ ยเพม่ิ ปุย๋ ใหพ้ ้นื ท่ีเพาะปลกู ช่วยกำ�จดั วัชพชื และหนนู า ชาวบา้ นสามารถ จบั ปลาเป็นอาหารและขายสรา้ งรายได้ ดงั น้นั เม่ือเกิดอทุ กภยั ขึน้ เกษตรกรจึงควรพจิ ารณา ว่าจะสามารถสร้างประโยชนจ์ ากน�้ำ ทว่ มเพื่อทดแทนความเสียหายท่ีเกิดข้ึนกับผลติ ผลทาง เกษตรอ่นื ๆ ไดอ้ ย่างไร จากสภาพปัญหาขา้ งต้น ทำ�ใหห้ น่วยงานในดา้ นเกษตรกรรม รวมท้ังหนว่ ยงาน สนบั สนุนต่าง ๆ ตอ้ งทำ�งานร่วมกันเพ่อื แก้ไขปัญหาทเ่ี กดิ ขึ้นอยา่ งต่อเน่อื ง มาตรการเพอ่ื ลด ความเสี่ยงจากภัยพบิ ัตใิ นภาคเกษตรกรรมสามารถดำ�เนนิ การได้หลากหลาย ดังตวั อยา่ ง ตอ่ ไปน้ี การลดความเสี่ยงจากภยั พบิ ตั สิ ่กู ารพัฒนาทย่ี ่งั ยนื 63
ตัวอย่างกิจกรรมการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ มาตรการป้องกันและลดผลกระทบ มาตรการที่ • พัฒนาแหล่งน้ำ� ระบบชลประทานเพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัย ใช้โครงสร้าง และภัยแล้ง • ปลูกป่าชายเลนเพื่อป้องกันน้ำ�เซาะตลิ่ง ใช้เป็นแนวกันลม และเป็นแหล่ง อนุบาลสัตว์น้ำ� เพิ่มความอุดมสมบูรณ์แก่ระบบนิเวศ • ปลูกพืชคลุมดินเพื่อป้องกันดินโคลนถล่ม • ปลูกพืชเกษตรเพิ่มผืนป่าเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์แก่ระบบนิเวศ มาตรการที • วางแผนการจัดสรรน้ำ�เพื่อให้เพียงพอแก่การเพาะปลูกและไม่ให้ประสบ ่ไม่ใช้โครงสร้าง ปัญหาภัยแล้ง • จัดทำ�แผนปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อลดความรุนแรงของภัยแล้ง • ส่งเสริมการจัดการน้ำ� ในชุมชนให้มีเพียงพอต่อความต้องการในการเพาะ ปลูกและเลี้ยงสัตว์ และจัดหาแหล่งน้ำ� สำ�รองเพื่อป้องกันภัยแล้ง • กำ�หนดเขตพื้นที่ (zoning) สำ�หรับกิจกรรมทางการเกษตรให้เหมาะสมกับ สภาพภูมิประเทศ และปริมาณน้ำ� เพื่อลดผลกระทบจากอุทกภัยหรือภัยแล้ง มาตรการเตรียมความพร้อม การปรับตัว • พยากรณ์สภาพภูมิอากาศและปริมาณน้ำ�และใช้นโยบายด้านการเกษตรที่ สมดุลกับดินฟ้าอากาศ เช่น เลื่อนฤดูกาลเพาะปลูกและเก็บเกี่ยว จำ�กัดการ ปลูกข้าวเพียงปีละ 1-2 ครั้งในพื้นที่ประสบภัยแล้ง • พัฒนาพันธุ์พืชให้สามารถต้านทานสภาพแล้งและน้ำ�ท่วมได้ • ปรับเปลี่ยนวิธีการทำ�การเกษตรให้เหมาะกับสภาพพื้นที่ เช่น ทำ�การ เกษตรลอยน้ำ�ในพื้นที่ที่มักประสบภัยน้ำ�ท่วมขังเป็นระยะเวลานาน เปลี่ยน ชนิดพืช หรือวางแผนปลูกพืชให้เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศ • ลดการใช้สารเคมีในการเกษตร เพื่อลดโอกาสการปนเปื้อนสารเคมีไปกับ น้ำ�เมื่อเกิดอุทกภัย • ส่งเสริมอาชีพเสริม หรือวิสาหกิจชุมชนให้แก่เกษตรกรเพื่อเป็นทางเลือกใน การประกอบอาชีพ และสร้างรายได้แก่ชุมชน • ปรับเปลี่ยนวิถีการทำ�เกษตรเป็นเกษตรทฤษฎีใหม่แบบผสมผสาน ปลูกพืช และเลี้ยงสัตว์หลากหลายชนิด ไม่ใช้สารเคมี ช่วยให้มีผลผลิตตลอดปี ลด ต้นทุน เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้ระบบนิเวศ เพิ่มความมั่นคงทางอาหาร และช่วยกระจายความเสี่ยงหากเกิดภัยจะได้ไม่เสียหายทั้งหมด 64 การลดความเส่ียงจากภัยพิบตั สิ ู่การพัฒนาทยี่ งั่ ยืน
ตัวอย่างกิจกรรมการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (ต่อ) มาตรการเตรียมความพร้อม (ต่อ) การเตรียมรับมือ • แจ้งเตือนเรื่องปริมาณการปล่อยน้ำ�จากทางการ เพื่อเกษตรกรจะได้ทำ�การ กับภัยพิบัติ เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทันเวลา • สำ�รองเสบียงสัตว์และเวชภัณฑ์ • วางแผนการอพยพสัตว์และจัดเก็บพันธุ์พืช • ประชาสัมพันธ์และให้ความรู้ ฝึกอบรมเกษตรกรให้รู้จักเตรียมความพร้อม เช่น การเตรียมความพร้อมยานพาหนะ เครื่องจักรกล เครื่องมืออุปกรณ์ ต่าง ๆ ได้แก่ รถบรรทุกน้ำ� เครื่องสูบน้ำ� อุปกรณ์สูบน้ำ� เตรียมการเก็บกัก น้ำ� เตรียมอาหารสัตว์ และสิ่งจำ�เป็นต่าง ๆ ก่อนฤดูแล้งและฤดูมรสุม • จัดทำ�แผนปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร เช่น - แผนเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เพื่อป้องกันโรคระบาดพืชและสัตว์ - แผนการจัดหน่วยเฉพาะกิจลงพื้นที่เพื่อให้คำ�แนะนำ�และความช่วยเหลือ เกษตรกรในพื้นที่ประสบภัย - แผนอพยพสัตว์ไปไว้ที่ปลอดภัย รักษาสัตว์ป่วยและบาดเจ็บ - แผนการสำ�รวจและประเมินความเสียหายของเกษตรกรผู้ประสบภัยและ วิธีการให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร - แผนซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างและระบบชลประทานเพื่อการเกษตร กล่องที่ 3.1 เตรยี มความพร้อมเพ่ือรบั มอื การขาดแคลนอาหารสตั วใ์ นชว่ งภัยพิบัติ ในปี พ.ศ. 2554 ประเทศไทยเกิดมหาอุทกภยั ทำ�ให้พ้ืนทเ่ี กษตรกรรมเสียหายกวา่ 11 ลา้ นไร่ ปศสุ ตั วไ์ ดร้ บั ผลกระทบ 13 ล้านตวั กรมปศสุ ตั ว์จงึ ไดด้ ำ�เนนิ โครงการเพ่อื เตรียมความพรอ้ มดา้ นเสบยี ง สตั ว์ไว้ลว่ งหนา้ โดยบูรณาการรว่ มกันระหว่างหน่วยงาน ภาครฐั เกษตรกร และเอกชน จัดตง้ั คลงั เสบยี งสัตว์ตำ�บล โดยหนว่ ยงาน 29 แหง่ แห่งละ 2 คลัง รวม 58 คลัง และ ให้การสนับสนนุ หญ้าแห้งแห่งละ 5,000 กิโลกรมั ตอ่ ปี รวม 290,000 กิโลกรมั ตอ่ ปี นอกจากน้ี ยงั มีโครงการ นาหญ้า เพอ่ื สนับสนุนใหเ้ กษตรกรมีอาชพี ผลติ เสบยี ง สัตว์ไวจ้ ำ�หนา่ ย และเปน็ แหลง่ ผลิตเสบยี งสัตว์สำ�รองเพื่อ ใชใ้ นการช่วยเหลอื เกษตรกรเมื่อประสบภัยธรรมชาติ ท่มี า: สำ�นกั พฒั นาอาหารสตั ว์ กรมปศสุ ัตว์ การลดความเสีย่ งจากภัยพิบัติสู่การพฒั นาทย่ี ่งั ยืน 65
กล่องท่ี 3.2 ท�ำ นาลอยน้�ำ ปรบั วิถีการปลูกข้าวใหเ้ ขา้ กับสภาพพ้นื ทน่ี ำ�้ ทว่ มขงั เป็นเวลานาน จากเหตุการณน์ ำ�้ ท่วมซ้ำ�ซากท�ำ ให้พน้ื ที่เกษตรกรรมไดร้ ับความเสยี หายบอ่ ยครง้ั ประกอบกับการเปลีย่ นแปลงของสภาพแวดล้อมอย่างรวดเร็วจนส่งผลกระทบต่อการทำ� เกษตรกรรม ท�ำ ให้นายสุพรรณ เมธสาร เกษตรกรแหง่ บ้านสามชุก จ. สพุ รรณบุรี ได้คดิ คน้ วธิ ีปลูกข้าวในแมน่ �้ำ แทนการปลกู บนดนิ ซ่ึงนอกจากจะทำ�ให้สามารถดำ�รงชีวิตได้ในภาวะ นำ�้ ท่วมแลว้ ยังเป็นวิธที ่ชี ว่ ยประหยดั ต้นทนุ ในเรอ่ื งการเตรียมดนิ เตรยี มนำ�้ มันเชือ้ เพลิง ปุ๋ย ยาฆา่ แมลง รวมถงึ การบริหารจดั การน�ำ้ อีกทง้ั ผลผลิตท่ีไดก้ เ็ ป็นข้าวทสี่ ะอาดปราศจากสาร เคมีตกค้าง เป็นประโยชน์ตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม และเปน็ ทางเลอื กในการปรบั ตวั ใหส้ ามารถทำ�การ เกษตรกรรมไดอ้ ยา่ งตอ่ เน่อื งแมเ้ กดิ น�ำ้ ทว่ มเป็นเวลานาน ที่มา: เกษตรพอเพียงคลับ.คอม 66 การลดความเสีย่ งจากภยั พบิ ตั สิ ่กู ารพัฒนาทยี่ ่ังยนื
ภาคการทอ่ งเทย่ี ว การท่องเทย่ี วมีความอ่อนไหวตอ่ สถานการณ์ทกุ ประเภท ภัยพิบัติท่ีเกดิ ขน้ึ ในพื้นท่ี ใด ๆ มกั ทำ�ให้การทอ่ งเท่ยี วซบเซา เน่อื งจากนกั ทอ่ งเที่ยวขาดความเช่ือมั่นในความปลอดภัย และสวัสดภิ าพ ภยั พบิ ัตสิ ่งผลให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเทย่ี วไมว่ ่าจะเปน็ โรงแรม รีสอรต์ บรกิ ารน�ำ เท่ียว และผปู้ ระกอบธุรกจิ ในสถานทท่ี ่องเที่ยวขาดรายได้ ต้องเสียทั้งงบประมาณ ในการซ่อมแซมฟ้ืนฟู และตอ้ งใช้เวลาสร้างความเช่ือมน่ั จากนกั ท่องเท่ียวใหก้ ลับคืนมา การสำ�รวจสถานทที่ ่องเท่ียวและสถานประกอบการเพ่อื ประเมินความเสี่ยงจาก ภัยพบิ ัติจึงเปน็ สง่ิ จำ�เปน็ อันดบั แรกเพ่อื ให้รู้วา่ หากเกิดภัยจะต้องดูแลป้องกันสว่ นใดก่อนเปน็ อันดบั แรก หรือมสี ว่ นใดท่ตี ้องดูแลรักษาไม่ใหเ้ กดิ ความเสียหายโดยเดด็ ขาด เช่น สถานที่ ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมหรอื สถานทีท่ ่องเทย่ี วซงึ่ เป็นมรดกโลก นอกจากน้ี การพิจารณา มาตรการท่ีจำ�เปน็ ในการลดความเสยี่ ง ทงั้ การเตรยี มพรอ้ ม ปรบั ตวั และรบั มอื ของภาคการ ท่องเที่ยวเพ่ือความปลอดภยั ของกิจการ และเพื่อใหน้ ักทอ่ งเที่ยวมั่นใจในศกั ยภาพของพ้นื ท่ี ก็เปน็ ส่งิ จำ�เป็นอย่างยิง่ ตวั อย่างกจิ กรรมในการลดความเสย่ี งจากภัยพบิ ตั ิทภี่ าคการท่องเที่ยวสามารถดำ�เนิน การได้ มีดงั น้ี ตัวอย่างกิจกรรมการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ มาตรการป้องกันและลดผลกระทบ มาตรการที่ • ก่อสร้างโรงแรม รีสอร์ท สถานประกอบการให้มีโครงสร้างแข็งแรงได้ ใช้โครงสร้าง มาตรฐาน โดยเฉพาะหากตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิ • ใช้โครงสร้างป้องกันน้ำ�ท่วมในสถานประกอบการ สถานที่ท่องเที่ยวและ โบราณสถานในพื้นที่น้ำ�ท่วมถึง มาตรการที่ • หลีกเลี่ยงการเลือกทำ�เลที่ตั้งของกิจการในพื้นที่ล่อแหลม โดยเฉพาะ ไม่ใช้โครงสร้าง การบุกรุกก่อสร้างในพื้นที่ป่าสงวนและอุทยานแห่งชาติ ซึ่งนอกจากจะผิด กฎหมายแล้ว ยังทำ�ลายระบบนิเวศและทรัพยากรธรรมชาติ เป็นสาเหตุเพิ่ม ความเสี่ยงจากภัยพิบัติ และยังเสี่ยงในการได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติด้วย การลดความเสีย่ งจากภัยพบิ ตั ิสู่การพัฒนาทยี่ ง่ั ยนื 67
ตัวอย่างกิจกรรมการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (ต่อ) มาตรการป้องกันและลดผลกระทบ (ต่อ) มาตรการที่ • จัดระบบและจัดทำ�แผนรักษาความปลอดภัยในสถานที่ท่องเที่ยวโดยมี ไม่ใช้โครงสร้าง ผู้เชี่ยวชาญและมีทักษะดูแล (ต่อ) • จัดระบบการทิ้งและกำ�จัดขยะ ของเสีย น้ำ�เสีย จัดทำ�ระบบบำ�บัดน้ำ�เสีย และสิ่งปฏิกูลในสถานประกอบการที่ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันการแพร่ กระจายเชื้อโรค มาตรการเตรียมความพร้อม การปรับตัว • ส่งเสริมและสนับสนุนข้าราชการ ตำ�รวจท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ อาสาสมัคร พนักงานและบุคลากรด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ ฯลฯ ให้สื่อสารภาษา ต่างประเทศได้ เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ • จัดทำ�แผนที่บอกเส้นทาง ปรับปรุงระบบป้ายสาธารณะให้ชัดเจน และติดตั้ง ในแหล่งชุมชน การเตรียมรับมือ • กำ�หนดเส้นทางอพยพ วิธีการอพยพและจุดปลอดภัย รวมถึงมีป้ายบอก กับภัยพิบัติ เส้นทางที่ชัดเจน เช่นเดียวกับเส้นทางหนีไฟในโรงแรม • ให้ความรู้แก่ผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวและพนักงานเรื่องความปลอดภัย และข้อปฏิบัติในการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ รวมทั้งแบ่งหน้าที่ ความรับผิดชอบที่ชัดเจน • ซ้อมแผนอพยพหนีไฟ และร่วมซ้อมแผนอพยพคลื่นสึนามิ (ในกรณีอยู่ใน พื้นที่เสี่ยง) ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่และชุมชน • จัดเตรียมอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย และติดตั้งระบบดับเพลิงที่ได้ มาตรฐาน มีการตรวจสอบให้สามารถใช้งานได้เมื่อเกิดภัย • เตรียมพร้อมด้านการช่วยเหลือพนักงานและนักท่องเที่ยวหากเกิดภัย • จัดเตรียมอาหาร น้ำ�ดื่ม และเครื่องใช้เพื่อการยังชีพเก็บไว้ในจุดปลอดภัย และตรวจสอบวันหมดอายุอยู่เสมอ • เตรียมพร้อมระบบสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ มีช่องทางรับส่งข้อมูลข่าวสาร หลายช่องทางเพื่อการแจ้งเตือนภัย และสามารถสื่อสารให้นักท่องเที่ยว รับทราบและเข้าใจได้ทันเวลาและทันท่วงที ตลอดจนจัดเตรียมระบบ สื่อสารสำ�รองไว้ใช้ยามฉุกเฉิน • จัดทำ�เอกสารแนะนำ�เรื่องความปลอดภัยไว้ในโรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยว เช่น แผ่นพับประชาสัมพันธ์ หรือสื่อวิดีทัศน์ หลากหลายภาษา เพื่อให้ ข้อมูลเรื่องภัยพิบัติ การปฏิบัติตัวเมื่อเกิดภัย เส้นทางอพยพ พื้นที่ปลอดภัย • ทำ�ประกันความเสียหายหากเกิดภัยต่าง ๆ 68 การลดความเสี่ยงจากภยั พิบัตสิ ู่การพฒั นาทีย่ ั่งยนื
กลอ่ งที่ 3.3 จดั ท�ำ ระบบป้องกนั นำ้�ทว่ มทม่ี ีประสิทธภิ าพเพ่ือป้องกันแหล่งท่องเท่ียว โบราณสถานท่ีสำ�คัญ เพอ่ื ปอ้ งกนั โบราณสถานในจังหวัดพระนครศรอี ยธุ ยาจากภยั น�ำ้ ทว่ ม กรมศลิ ปากร ร่วมกบั กรมโยธาธิการและผงั เมอื ง ได้จดั ทำ�ระบบปอ้ งกันนำ�้ ทว่ มโบราณสถานแบบใหม่ที่มี ประสทิ ธภิ าพบรเิ วณวดั ไชยวฒั นาราม โดยมรี ะบบป้องกันน้�ำ ใต้ดนิ พร้อมตดิ ตง้ั แผ่นบานพับ สแตนเลส ความสงู 2.5 เมตร ยาว 180 เมตร ปเู ปน็ ทางเดนิ และสามารถยกข้นึ เปน็ กำ�แพงก้ันน้ำ�เมื่อ ระดับน�้ำ ในแม่น�ำ้ เจา้ พระยาลน้ ตล่ิง พรอ้ มนำ�ผ้าใบ มาคลุมกัน้ ไมใ่ หน้ ำ�้ ไหลผ่าน เสรมิ ความหนาแนน่ ดว้ ย กระสอบทราย และสามารถพบั เก็บได้เมอื่ ยามน�ำ้ ลด เพอ่ื ไมใ่ หบ้ ดบังทศั นยี ภาพของวดั ท่มี า: สถาบันอยธุ ยาศึกษา, 2552 กลอ่ งท่ี 3.4 ปา้ ยเตือนภัย หอเตือนภยั สนึ ามิ และการซอ้ มหนีภัย สถานทีท่ อ่ งเทีย่ วในพน้ื ท่จี งั หวดั ภาคใตซ้ งึ่ เคยประสบภยั คลืน่ สึนามใิ นปี พ.ศ. 2547 ได้ ปรบั ปรุงระบบแจ้งเตอื นภัยในพ้นื ที่ ระบเุ สน้ ทางอพยพและจดุ ปลอดภัย จัดท�ำ ป้ายเตอื นภัย พรอ้ มสัญลกั ษณ์ท่เี ข้าใจงา่ ย เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จัดทำ�หอเตือนภัย พร้อมทัง้ มกี าร ประชาสมั พนั ธ์และการจัดซอ้ มหนีภัยเปน็ ประจ�ำ ทุกปี นอกจากเปน็ การเตรียมพร้อมรับมอื ภัยพบิ ัตแิ ล้ว ยังเป็นการสรา้ งความม่ันใจแก่นักท่องเทย่ี วด้านความปลอดภัยอกี ดว้ ย ทม่ี า: ศนู ย์วจิ ัยและพฒั นาการปอ้ งกนั และจดั การภยั พิบัติ และ กรมปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั การลดความเสย่ี งจากภยั พิบตั ิสู่การพัฒนาทย่ี ัง่ ยนื 69
ภาคอตุ สาหกรรม ธรุ กจิ การค้าและการลงทุน การด�ำ เนนิ กิจการในภาคอตุ สาหกรรม ธรุ กิจ และการค้า จ�ำ เป็นต้องมกี ารลงทุนสูง ทั้งในดา้ นการก่อสรา้ ง ด้านเครือ่ งจักร และแรงงาน อกี ทั้งดว้ ยข้อกฎหมายต่าง ๆ ทีค่ วบคมุ ความปลอดภัยในสถานประกอบการ การดูแลสขุ ภาพ อนามัย และความปลอดภยั ของ พนักงาน รวมถึงผลกระทบตอ่ สิง่ แวดลอ้ ม ทำ�ใหภ้ าคอตุ สาหกรรม ธรุ กจิ การคา้ ตอ้ งมกี าร วางระบบตา่ ง ๆ อย่างรัดกมุ เพือ่ ความปลอดภัยในกระบวนการผลติ และการขนส่ง ตลอดจน ตอ้ งมีการตรวจสอบทเ่ี ข้มงวด ให้เปน็ ไปตามมาตรฐานและข้อกำ�หนดทางกฎหมาย ทำ�ให้ จ �ำ เปน็ ต้องคำ�นึงถึงตน้ ทุน ผลกำ�ไร และความคุ้มคา่ ในการลงทุนอย่างหลีกเลย่ี งไมไ่ ด้ อย่างไรก็ดี เม่อื เกิดเหตกุ ารณภ์ ัยพิบตั ขิ น้ึ ภาคอตุ สาหกรรม ธรุ กจิ การคา้ และการ ลงทุน ก็ยังมีโอกาสได้รบั ผลกระทบท้ังโดยตรงและโดยออ้ มมากมาย ซึ่งส่งผลต่อความคุม้ ค่า ของการลงทนุ เป็นอยา่ งมาก อาทิ • สถานประกอบการ อาคาร โรงงาน เคร่ืองมอื อปุ กรณ์ เครอื่ งจักรได้รับความ เสยี หาย ไมส่ ามารถด�ำ เนนิ การผลติ ได้ • ความเสยี หายดา้ นโครงสรา้ งอาจส่งผลตอ่ เนอื่ งรนุ แรง เชน่ เกดิ การร่ัวไหลของ ของเสยี น้ำ�เสีย สารเคมี สารกัมมนั ตรังสี วัตถอุ ันตรายต่าง ๆ ระบบไฟฟ้าลัดวงจร ท�ำ ให้เกดิ อคั คภี ัย • สินคา้ และวตั ถดุ ิบไดร้ บั ความเสยี หาย แหลง่ วัตถดุ บิ ได้รบั ผลกระทบ ทำ�ใหข้ าดแคลน วตั ถุดิบในการผลิต หรือหากบรษิ ัทที่ประสบภัยเปน็ ผผู้ ลิตวัตถุดบิ กเ็ ปน็ เหตทุ ำ�ให ้ ขาดแคลนวตั ถดุ บิ ในพน้ื ทอ่ี ื่น และกระทบไปถงึ คูค่ ้าและลกู ค้า • ผู้ประกอบการและพนักงานได้รบั บาดเจ็บและเสยี ชวี ิต พนกั งานไม่สามารถมาท�ำ งาน และสูญเสียรายได้ เนือ่ งจากโรงงานหรอื สถานประกอบการตั้งอยู่ในพืน้ ทป่ี ระสบภยั หรอื บ้านพกั พนักงานอยใู่ นพ้นื ทปี่ ระสบภัย • โกดังและจดุ พกั สินคา้ ได้รับผลกระทบ ท�ำ ใหส้ นิ ค้าท่ีเก็บไว้เสยี หาย ไม่สามารถนำ�สง่ จำ�หน่ายได้ • เสน้ ทางเข้าสู่สถานประกอบการ โรงงาน โกดงั จุดพกั สินค้า หรอื บริษทั คู่คา้ ถูกตดั ขาด ทำ�ให้เสยี ค่าใช้จา่ ยในการขนสง่ มากข้นึ หรอื ส่งสินค้าไม่ได้ 70 การลดความเสยี่ งจากภยั พิบัติสู่การพฒั นาท่ียงั่ ยนื
• สินค้าขาดตลาด ผู้บรโิ ภคเกดิ ความต่ืนตระหนกเร่อื งสนิ คา้ ขาดตลาดจงึ กว้านซือ้ สนิ คา้ จนหมด เกดิ การกักตุนสนิ คา้ ของผูข้ ายเพือ่ โกง่ ราคา • ผปู้ ระกอบการสญู เสียรายได้จากการท่ีสนิ คา้ ได้รับความเสยี หาย ไม่สามารถ ท�ำ การผลติ ได้ ขาดรายไดจ้ ากการขายสินค้า และมคี ่าใช้จา่ ยท่ีเพม่ิ มากข้ึนจาก การหาวัตถดุ ิบจากแหลง่ อ่นื จากคา่ ใชจ้ า่ ยในการขนสง่ โดยใช้เสน้ ทางอ่นื จากการ ซ่อมแซม โรงงานอาคารและเครอ่ื งจกั รทีไ่ ด้รบั ความเสียหาย และค่าชดเชยให้ แก่พนกั งาน ทำ�ให้ต้นทุนการผลิตเพ่ิมมากขนึ้ อาจตอ้ งปดิ กิจการ หรอื ลดจ�ำ นวน พนักงาน อาจถกู ฟอ้ งร้องหรือไดร้ ับโทษตามกฎหมาย • นักลงทนุ ขาดความเชือ่ มนั่ และยา้ ยฐานการผลิต ด้วยเหตนุ ้ี ผูด้ �ำ เนนิ ธุรกิจ การคา้ อุตสาหกรรมและการลงทนุ ตา่ ง ๆ มีความจ�ำ เปน็ อย่างยง่ิ ทจ่ี ะต้องท�ำ การวิเคราะห์และวางแผนอยา่ งรอบคอบกอ่ นการดำ�เนินงานทกุ ข้ันตอน เพ่อื ใหแ้ นใ่ จว่าการลงทุนมคี วามคุ้มคา่ ซึ่งการประเมินความเส่ยี งจากภัยพบิ ตั ิเป็นกจิ กรรมท่ี จ�ำ เป็นมาก เพ่อื ช่วยให้มีความเขา้ ใจสภาพความเสีย่ งและสามารถวางมาตรการเพื่อจัดการ และลดความเสี่ยงเหลา่ นัน้ ไดอ้ ย่างเหมาะสม นอกจากน้ี ควรท�ำ การประเมนิ ความเสี่ยงซำ้� เป็นระยะ ๆ เพอื่ ใหม้ ขี ้อมลู ความเสีย่ งที่เปน็ ปัจจุบันมากทีส่ ุด อนึ่ง มาตรการเพ่อื ลดความเสีย่ งบางประการ แม้วา่ จะเป็นผลดตี ่ออุตสาหกรรม ธรุ กิจ การคา้ และการลงทุนหน่งึ ๆ แตอ่ าจท�ำ ใหเ้ กิดผลกระทบตอ่ เนอ่ื งกับชุมชนและพืน้ ท่ขี ้างเคยี ง จึงควรมีการพจิ ารณาอย่างถ่ถี ้วนและคำ�นึงถงึ ผลกระทบภาพรวมในเชงิ พื้นที่อย่างรอบดา้ น เพ่ือใหส้ ามารถลดความเสีย่ งแบบองคร์ วมได้ และไม่เปน็ การแยกมองเฉพาะภาคส่วน แยก หน่วยงาน หรือกจิ การของตนเพยี งอยา่ งเดยี ว นอกจากน้ี เมื่อไดด้ �ำ เนินมาตรการต่าง ๆ เพ่อื ลดความเส่ียงจากภยั พิบัตแิ ลว้ ยงั สามารถใช้ในการสือ่ สารเพื่อสรา้ งความเช่อื ม่ันกับผบู้ รโิ ภค เป็นการช่วยเพมิ่ มูลคา่ ให้กบั สินคา้ บริการ และกจิ การของตนได้ว่ามคี วามปลอดภัย และ เป็นการลงทุนที่ชว่ ยให้สงั คมมคี วามเสย่ี งจากภยั พิบัตลิ ดลงอีกด้วย ตวั อยา่ งกจิ กรรมเพือ่ เป็นแนวทางปฏบิ ัติในการลดความเสีย่ งจากภยั พิบัติโดยภาค อตุ สาหกรรม ธรุ กิจ การค้าและการลงทนุ ไดแ้ ก่ การลดความเสย่ี งจากภัยพิบัตสิ กู่ ารพัฒนาที่ยง่ั ยืน 71
ตัวอย่างกิจกรรมการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ มาตรการป้องกันและลดผลกระทบ มาตรการที่ • ก่อสร้างโรงงานและสถานประกอบการให้มีโครงสร้างแข็งแรงถูกต้องตาม ใช้โครงสร้าง มาตรฐาน • ปรับปรุงโครงสร้างอาคารให้สามารถต้านทานน้ำ�ท่วมได้หากอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ต่อน้ำ�ท่วม เช่น ทำ�ชั้นล่างของอาคารให้มีพื้นที่น้ำ�ไหลผ่าน • สร้างแนวป้องกันน้ำ�ท่วมสำ�หรับกิจการที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อน้ำ�ท่วม อย่างไร ก็ดี การสร้างกำ�แพงกั้นน้ำ�รอบนิคมอุตสาหกรรม อาจส่งผลให้น้ำ�ท่วมใน พื้นที่อื่นมากขึ้น จึงควรทำ�การสำ�รวจพื้นที่และประเมินความเสี่ยงร่วมกับ ชุมชนและเกษตรกรโดยรอบ เพื่อหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน เช่น การสร้าง แก้มลิงเพื่อเก็บน้ำ�ในพื้นที่การเกษตร ซึ่งสามารถใช้เป็นแหล่งเก็บกักน้ำ�ใน ฤดูแล้งด้วย มาตรการที่ • ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยประหยัดพลังงาน ไม่ใช้โครงสร้าง และลดของเสีย มลภาวะ และไม่เกิดการรั่วไหลปนเปื้อนเมื่อเกิดภัยพิบัติ • มีระบบบำ�บัดน้ำ�เสียที่ได้มาตรฐานและมีมาตรการป้องกันการรั่วไหล • มีระบบป้องกันอัคคีภัย ระบบป้องกันการรั่วไหลของสารเคมี • จัดทำ�กฎระเบียบ และบังคับใช้มาตรฐานความปลอดภัยในสถาน ประกอบการและมีการตรวจสอบเป็นระยะ • ผลักดันให้การประเมินความเสี่ยงจากภัยพิบัติเป็นส่วนหนึ่งของการ ประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) มาตรการเตรียมความพร้อม การปรับตัว • จัดหาแหล่งวัตถุดิบสำ�รอง หรือจับคู่ธุรกิจที่ผลิตสินค้าแบบเดียวกัน เพื่อให้ สามารถส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทันเวลา หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องหยุดกิจการ ชั่วคราวในช่วงเกิดภัยพิบัติ การเตรียมรับมือ • มีระบบการผลิตที่ต่อเนื่อง มีเครื่องจักรสำ�รอง กับภัยพิบัติ • มีโกดังและจุดกระจายสินค้าตั้งอยู่ต่างพื้นที่กัน ในกรณีที่แห่งหนึ่งประสบภัย จะยังสามารถใช้อีกแห่งหนึ่งดำ�เนินการแทนได้ • มีแผนป้องกันและเผชิญอุบัติภัยในโรงงานและมีการฝึกซ้อมพนักงานอย่าง สม่ำ�เสมอ • มีระบบสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและช่องทางสำ�รองให้สามารถใช้ติดต่อ สื่อสารได้ยามเกิดภัย และมีการสื่อสารกับคู่ค้าอย่างสม่ำ�เสมอ 72 การลดความเสี่ยงจากภยั พิบัตสิ กู่ ารพฒั นาท่ยี ัง่ ยืน
ตัวอย่างกิจกรรมการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (ต่อ) มาตรการเตรียมความพร้อม (ต่อ) การเตรียมรับมือ • เตรียมช่องทางการขนส่งสินค้าสำ�รอง ในกรณีเส้นทางการขนส่งถูกตัดขาด กับภัยพิบัติ • เตรียมระบบสำ�รองข้อมูลเพื่อไม่ให้ข้อมูลสูญหายเมื่อเกิดภัยพิบัติ (ต่อ) • วางแผนการดำ�เนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อให้กลับมาดำ�เนินกิจการได้อย่าง รวดเร็ว • ทำ�ประกันความเสียหายสำ�หรับโรงงานและสถานประกอบการ และทำ� ประกันสุขภาพและประกันชีวิตให้กับพนักงาน • เตรียมมาตรการควบคุม แก้ไข และป้องกันผู้ค้าที่ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า เอาเปรียบผู้บริโภคในช่วงสินค้าขาดแคลนภายหลังเกิดภัยพิบัติ และมีบท ลงโทษต่อผู้กระทำ�ผิด • ทำ�ความตกลงระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อให้การช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ เมื่อเกิดภัยพิบัติ เช่น สนับสนุนเครื่องจักรหนัก เครื่องเจาะ เครื่องปั่นไฟ เครื่องส่องสว่าง ผู้เชี่ยวชาญ ฯลฯ กล่องท่ี 3.5 ห้างสรรพสินค้าท่ีช่วยลดความเสี่ยงจากอุทกภยั ในชุมชน หา้ งสรรพสินคา้ SM City Masinag ประเทศฟลิ ปิ ปินส์ เปน็ หา้ งสรรพสินค้าในเครือบรษิ ทั เอส เอ็ม มอลล์ (SM Mall) ทต่ี ง้ั อยใู่ นพน้ื ท่ีทม่ี คี วามเสย่ี งต่อการเกิดอุทกภัย บริษัท เอส เอ็ม มอลล์ ได้ ออกแบบห้างสรรพสนิ คา้ โดยใชเ้ ทคโนโลยีท่เี ป็นมติ รกับส่ิงแวดลอ้ ม และไดส้ ร้างถังขนาด 150,000 ลกู บาศกเ์ มตร เพอ่ื รองรับน�้ำ ฝนจากหลังคาและทอ่ ระบายน�้ำ จากถนนในยามเกดิ พายุไต้ฝุ่น โดยถงั ดังกลา่ วสามารถรบั ปริมาณน้�ำ ได้เทยี บเทา่ กับปรมิ าณน้ำ�ฝนจากพายุไตฝ้ ่นุ ออนดอย หรือทีร่ ู้จกั กนั ใน ชอ่ื พายุไตฝ้ ุ่นเกดสะนา ไดน้ านถึง 12 ช่ัวโมง ซ่งึ นอกจากจะชว่ ยกกั เกบ็ น้ำ�ไมใ่ ห้ท่วมบริเวณในและนอก ห้างสรรพสินคา้ เพ่อื ให้ธรุ กิจสามารถด�ำ เนนิ ต่อไปไดแ้ ลว้ ยังชว่ ยปอ้ งกันการเกดิ น้�ำ ทว่ มบริเวณชมุ ชน โดยรอบ และลดการใชน้ ำ�้ และภาระค่าใชจ้ ่ายในการใชน้ �ำ้ ของห้างสรรพสินคา้ อกี ดว้ ย ท่ีมา: UNISDR, 2013a (พ.ศ. 2556) การลดความเส่ยี งจากภัยพิบตั ิส่กู ารพฒั นาท่ยี ่ังยนื 73
กล่องท่ี 3.6 การบรหิ ารความต่อเน่อื งของธุรกิจเพื่อรบั มอื สถานการณภ์ ยั พบิ ตั ิ บรษิ ัท ปูนซเี มนต์ไทย จ�ำ กัด (มหาชน) หรือ เอสซีจี ริเร่มิ การบริหารความตอ่ เนอ่ื ง ทางธุรกจิ หลังจากเหตกุ ารณ์ความไมส่ งบทางการเมอื งเมือ่ ปี พ.ศ. 2543 จดุ ประสงคข์ องการ พัฒนาการบรหิ ารความต่อเน่อื งทางธรุ กิจ หรือ BCM (Business Continuity Management) คอื เพ่ือรกั ษาธุรกจิ ใหส้ ามารถดำ�เนินต่อได้อย่างต่อเนื่อง ไมห่ ยดุ ชะงัก และสรา้ งความเชื่อมั่นให้ ลกู ค้าแม้ในภาวะวิกฤต โดยทีม BCM ของบรษิ ทั ประกอบไปด้วยผู้บริหารและตัวแทนพนกั งาน จากหน่วยงานต่าง ๆ มีการประชุมเป็นประจ�ำ ในภาวะปกตถิ ึง 2 ครง้ั ตอ่ เดอื นเพื่อตดิ ตาม สถานการณ์ตา่ ง ๆ อยา่ งใกล้ชิดและประเมนิ ความเสีย่ งท่จี ะทำ�ให้ธรุ กิจหยุดชะงกั รวมทัง้ จดั เตรียมและซักซอ้ มแผนการควบคมุ ความเสยี่ ง แผนการจดั การวิกฤต และแผนการบรหิ าร ความตอ่ เนอื่ งทางธุรกจิ (Business Continuity Plan: BCP) และเม่อื มสี ัญญาณว่าจะเกดิ เหตุการณท์ ่รี ุนแรงทั้งจากภัยธรรมชาตหิ รือเหตุการณ์ไมส่ งบ ทีม BCM จะจดั ตัง้ วอรร์ ูม (war room) เพอื่ ติดตามสถานการณ์และก�ำ หนดแผนด�ำ เนินการเพื่อป้องกันความเสียหายและ แนวปฏบิ ัตติ ่าง ๆ รวมท้งั ประสานงานกบั หนว่ ยงานทีร่ ับผดิ ชอบ เชน่ ส�ำ นักงานส่อื สารองค์กร หนว่ ยงานการบคุ คล ฯลฯ ด�ำ เนินการใหข้ ้อมลู ขา่ วสารขอ้ เท็จจริง เพ่อื สอื่ สารและทำ�ความ เข้าใจกบั พนกั งานและบคุ คลทเ่ี กย่ี วขอ้ งทั้งภายในและภายนอกเอสซจี ี 74 การลดความเสีย่ งจากภยั พิบัตสิ กู่ ารพฒั นาทย่ี ่ังยืน
เอสซีจเี ร่มิ ใช้ BCM อยา่ งเต็มรปู แบบเพ่อื รับมือจากเหตกุ ารณอ์ ุทกภยั ในปี พ.ศ. 2554 โดยทมี BCM ได้ตดิ ตง้ั Call Center 24 ชวั่ โมงเพ่อื ให้ค�ำ แนะน�ำ และชว่ ยเหลือพนักงานที่ไดร้ บั ความเดือดร้อนจากเหตกุ ารณด์ ังกลา่ ว นอกจากนั้น ยังได้สรา้ งสำ�นกั งานเคล่ือนทีเ่ พ่ือตดิ ต่องาน กับลกู ค้า ซ่ึงการทำ�งานในลกั ษณะนมี้ ปี ระสิทธิภาพเทยี บเท่ากบั การทำ�งานในส�ำ นักงานปกติ เ นอ่ื งจากได้มกี ารเตรยี มความพร้อมตามแผนฯ เป็นอยา่ งดี ระบบ BCM ของเอสซจี เี ปน็ ทยี่ อมรับของพนักงานในบรษิ ทั และของสงั คมในวงกว้าง เป็นอย่างมาก โดยในกรณีของพนกั งานเอสซีจนี ้ัน ทมี BCM ได้มีการจดั ซอ้ มแผน BCM เปน็ ประจำ� และได้อบรมพนกั งานแรกเขา้ ทุกคนเก่ียวกับ BCM ในวนั ปฐมนิเทศเพอ่ื ให้พนักงานทกุ คนมีความตระหนกั รู้ และร่วมมือกบั การซอ้ มแผน รวมถึงปฏบิ ัติตามแผนยามเกิดเหตกุ ารณ์ วกิ ฤต ที่มา: Cheechern, Hathaipat, 2014 (พ.ศ. 2557) และ บรษิ ทั ปูนซีเมนต์ไทย จ�ำ กดั (มหาชน) การลดความเสย่ี งจากภยั พิบตั สิ กู่ ารพัฒนาท่ีย่งั ยืน 75
ภาคโครงสรา้ งพ้ืนฐาน ภายหลงั เหตกุ ารณภ์ ัยพบิ ตั ิ โครงสร้างพ้นื ฐาน ระบบผลิตและจ่ายไฟฟ้า น�ำ้ ประปา โทรศพั ท์ เครือข่ายอินเตอรเ์ นต ระบบกำ�จดั ขยะ ระบบระบายนำ�้ ระบบบำ�บัดน้�ำ เสยี ระบบ ขนสง่ ทางบกและทางราง (เช่น ถนน สะพาน รถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟใตด้ ิน) ระบบขนสง่ ทาง อากาศ (เช่น สนามบิน) และระบบขนสง่ ทางนำ�้ (เช่น เรือ ทา่ เรือ) มักไดร้ ับความเสยี หาย ไมม่ ากกน็ ้อย โครงสร้างทางกายภาพเหล่านไี้ ดร้ บั ความเสียหายในระดบั ทแ่ี ตกตา่ งกันขึ้น อยู่กับความรนุ แรงของภัยและความเปราะบางของโครงสร้างท่ีไมส่ ามารถตา้ นทานภยั พิบัติ ได้ นอกจากความเสียหายในตวั โครงสร้างเองแลว้ ยังส่งผลกระทบตอ่ หน้าท่กี ารท�ำ งานของ โครงสร้างดงั กล่าว ซ่งึ ท�ำ ใหเ้ กดิ ผลกระทบตอ่ เนื่องไปยังประชาชนผู้ใช้บริการโครงสรา้ ง พน้ื ฐานเหล่าน้ันอีกด้วย อาทเิ ช่น โครงสร้างพื้นฐาน ตัวอย่างผลกระทบ การไฟฟ้า • โครงข่ายไฟฟ้าถูกทำ�ลาย เสาไฟฟ้าหักโค่น ไฟดับ ส่งผลให้ประชาชน โรงงาน อุตสาหกรรม ธุรกิจต่าง ๆ ไม่มีไฟฟ้าใช้ เกิดไฟฟ้าลัดวงจร การประปา • ไม่สามารถจ่ายน้�ำ ประปาให้แก่ประชาชน โรงงานอุตสาหกรรม และธุรกิจต่าง ๆ • นำ้�ประปาเกิดการปนเปื้อนจากนำ้�เสีย หรือสารเคมีที่รั่วไหล การประปา • โครงสร้างถนน สะพาน ในพื้นที่ประสบภัยได้รับความเสียหาย ทำ�ให้การอพยพ และการเข้าถึงที่เกิดเหตุเพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำ�บากไม่ทันการณ์ • เส้นทางคมนาคมขนส่งไม่สามารถใช้สัญจรไปมาได้ หรือทำ�ให้การเดินทางติดขัด ล่าช้า อาจต้องหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น ทำ�ให้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น • ระบบขนส่งมวลชนซึ่งมีการลงทุนสูง เช่น รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน สนามบิน ซึ่งมีความ ซับซ้อนทางเทคโนโลยี ใช้ระบบไฟฟ้าควบคุม หากเสียหายทำ�ให้ต้องหยุดให้บริการ กระทบผู้ใช้บริการเป็นจำ�นวนมากและมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมสูง การสื่อสาร • ระบบสื่อสารได้รับผลกระทบ การติดต่อสื่อสารถูกตัดขาด ไม่สามารถติดต่อและขอ ความช่วยเหลือได้ การประปา • ระบบบำ�บัดน้ำ�เสียไม่สามารถใช้การได้ และอาจทำ�ให้น้ำ�เสียไหลสู่ชุมชนพื้นที่ ใกล้เคียง และแหล่งน้ำ� • ไม่สามารถจัดเก็บขยะและสิ่งปฏิกูลได้ เกิดการปนเปื้อนและโรคติดต่อตามมา 76 การลดความเสยี่ งจากภัยพบิ ัตสิ ู่การพัฒนาทีย่ งั่ ยนื
นอกจากนน้ั ยังท�ำ ให้เสยี คา่ ใช้จ่ายในการซ่อมแซมระบบสาธารณปู โภคต่าง ๆ ผูเ้ ชยี่ วชาญอาจบาดเจ็บหรือเสยี ชีวติ หรือไมส่ ามารถมาปฏิบัตหิ น้าทใ่ี นพน้ื ที่ได้ ท�ำ ให้การ บรกิ ารสาธารณะต้องหยุดชะงกั ทั้งยังกระทบตอ่ การด�ำ เนินชวี ิตประจำ�วัน การเรยี น สุขภาพ อ นามัย ความปลอดภัยในชีวิตและทรพั ยส์ ิน ภาคการผลิต การลงทุน การท่องเทย่ี ว ฯลฯ จะเหน็ ไดว้ ่า ผลกระทบของภยั พิบตั ทิ ่มี ีต่อโครงสรา้ งพ้ืนฐาน สง่ ผลตอ่ เนอ่ื งเปน็ วงกวา้ งถงึ ทุกภาคส่วน พร้อมกันน้ี หากการวางแผนและดำ�เนนิ การโครงสร้างพื้นฐานอย่าง ไม่รัดกมุ อาจเปน็ สาเหตขุ องการเกิดภัยพิบตั ิ เชน่ การยกระดบั ถนนหลักใหส้ ูงกว่าพน้ื ท่ี ขา้ งเคียง ท�ำ ใหน้ ำ้�ระบายลงสทู่ ตี่ ่�ำ พน้ื ผวิ ถนนปราศจากนำ�้ ทว่ มขัง แต่กลับเปน็ การกกั น�ำ้ ไม่ ใหส้ ามารถระบายออกจากพน้ื ที่โดยรอบ หรือการสรา้ งทางยกระดบั ทีไ่ ม่มีระบบระบายนำ�้ ที่เหมาะสม ท�ำ ใหน้ ้�ำ ฝนตกลงกระแทกพืน้ ถนนดา้ นลา่ งและรถท่สี ญั จรไปมา อาจท�ำ ใหเ้ กิด อุบตั ิเหตุขน้ึ ได้ การประเมินความเสี่ยงของพ้นื ทแ่ี ละโครงการก่อนการก่อสร้าง โดยค�ำ นงึ ถึงผล กระทบจากภัยพิบัติต่อพ้นื ทแ่ี ละส่งิ แวดลอ้ มบริเวณใกล้เคยี งร่วมดว้ ยจงึ เปน็ สิง่ จ�ำ เป็น เพอ่ื พจิ ารณากำ�หนดมาตรการในการลดความเส่ยี งจากภยั พิบตั ิ ท้งั กิจกรรมเพื่อลดความเสย่ี ง โดยเฉพาะ หรอื บูรณาการเขา้ กับกิจกรรมพฒั นาโครงสร้างพนื้ ฐานท่มี ปี ฏบิ ตั ิอยู่แลว้ ตวั อย่างกจิ กรรมเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัตใิ นการลดความเสยี่ งจากภัยพิบตั ิในภาค โครงสร้างพน้ื ฐาน ไดแ้ ก่ การลดความเส่ียงจากภัยพิบัตสิ กู่ ารพฒั นาทยี่ ัง่ ยืน 77
ตัวอย่างกิจกรรมการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ มาตรการป้องกันและลดผลกระทบ มาตรการที่ • ออกแบบและก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ให้มีความคงทน แข็งแรง ใช้โครงสร้าง ได้มาตรฐาน โดยพิจารณาข้อมูลภัยพิบัติย้อนหลังที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ และ สามารถให้บริการได้แม้ยามเกิดภัยพิบัติ • ใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้โครงสร้างสามารถทนทานและมี ความปลอดภัยจากภัยพิบัติ • ออกแบบก่อสร้างเส้นทางการคมนาคมขนส่ง เช่น ถนนและสะพาน ไม่ให้ กีดขวางเส้นทางการไหลของน้ำ� และให้ช่วยระบายน้ำ� หากก่อสร้างบน เชิงเขาหรือพื้นที่ลาดชันก็ควรคำ�นึงถึงดินถล่ม แผ่นดินไหว • ออกแบบและจัดทำ�ระบบบำ�บัดน้ำ�เสียและระบบจัดการขยะโดยคำ�นึงถึง การรั่วไหล ปนเปื้อนและวางมาตรการป้องกันไว้ล่วงหน้า • ออกแบบก่อสร้างระบบเก็บกักและระบายน้ำ� โดยสามารถใช้เป็นสถานที่ พักผ่อนหย่อนใจ หรือใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ยามไม่เกิดอุทกภัย มาตรการที่ • ควบคุมการทิ้งขยะในพื้นที่สาธารณะและในแม่น้ำ�ลำ�คลอง ไม่ให้อุดตันท่อ ไม่ใช้โครงสร้าง และเส้นทางการระบายน้ำ� • ออกกฎระเบียบและมาตรฐานการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ทั้งในเรื่องสถานที่ตั้ง คุณภาพของระบบ ตลอดจนระบบป้องกันความ ปลอดภัย • จัดพื้นที่ติดตั้งระบบสาธารณูปโภคให้อยู่ในที่ปลอดภัย มาตรการเตรียมความพร้อม การเตรียมรับมือ • เตรียมแผนรับมือและมีแผนสำ�รองให้สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง กับภัยพิบัติ แม้ยามเกิดเหตุฉุกเฉิน และซักซ้อมให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายสามารถปฏิบัติการ ได้เมื่อเกิดเหตุ • จัดทำ�แผนอพยพ และช่วยเหลือกรณีเกิดภัยพิบัติ เช่น แผนอพยพออกจาก สนามบิน รถไฟใต้ดิน • มีเทคโนโลยี เครื่องมือ อุปกรณ์ ผู้เชี่ยวชาญควบคุม และอบรมพนักงานให้ มีความรู้ในการรับมือฉุกเฉิน เน้นถึงความสำ�คัญด้านความปลอดภัยในการ ปฏิบัติงาน • ทำ�ประกันความเสียหายจากภัยต่าง ๆ 78 การลดความเสยี่ งจากภัยพิบตั ิสู่การพัฒนาทยี่ งั่ ยืน
กลอ่ งท่ี 3.7 การออกแบบระบบขนสง่ มวลชนขนาดใหญ่โดยคำ�นงึ ถึงการลดความ เสย่ี งจากภยั พิบัติ กรงุ เทพมหานครเปน็ พนื้ ท่ที ีป่ ระสบอทุ กภยั หลายต่อหลายครงั้ ในอดีต ดงั น้ัน การ พฒั นาโครงสร้างระบบคมนาคมและระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ย่อมต้องพิจารณาถงึ ประเดน็ ความเส่ยี ง โดยเฉพาะความเส่ียงจากอุทกภัย เพือ่ นำ�มาประกอบการตดั สินใจในการออกแบบ โครงสร้างและระบบบริหารจดั การให้มีความปลอดภัยท่ีสุด สามารถลดความเสย่ี งและอันตราย ท่ีจะเกดิ แก่โครงสร้างนั้นเองและตอ่ ผู้ใช้บรกิ ารจ�ำ นวนมาก และให้แน่ใจวา่ ระบบสามารถท�ำ งาน ไดแ้ ม้ในยามทเ่ี กดิ ภยั ระบบรถไฟฟ้าใตด้ นิ (Mass Rapid Transit: MRT) ไดค้ ำ�นึงถงึ ความเส่ียงจากภยั น้ำ�ทว่ ม ท้ังในและนอกสถานี จึงไดอ้ อกแบบสถานีใหม้ บี นั ไดยกสูงขนึ้ มาเหนือพื้นผวิ ถนนก่อน เข้าสูส่ ถานที ุกแห่ง โดยค�ำ นวณจากสถติ นิ �ำ้ ทว่ มสูงสุดในรอบ 200 ปี ซึ่งสามารถท�ำ หนา้ ทีเ่ ป็น เข่อื นป้องกันน�ำ้ ได้ในตัว ไม่ใหน้ �้ำ เขา้ ท่วมตัวสถานแี ละชานชาลา นอกจากน้ี สว่ นโครงสร้าง อโุ มงค์ยงั ตดิ ตัง้ ฟิวส์ป้องกนั น้�ำ และมีระบบปอ้ งกันน�ำ้ ซมึ ซ่งึ กันน้�ำ ไมใ่ หเ้ ขา้ สูร่ ะบบอุโมงค์ ระบบ ปฏิบัติการ และระบบไฟฟ้าภายใน พรอ้ มกันน้ี อโุ มงค์ระหว่างสถานยี งั เปน็ ท้องช้างรองรับนำ้� หากมนี �ำ้ ซมึ ออกมา สามารถสูบน�ำ้ ออกหรือปล่อยใหน้ �้ำ ซึมลงไปได้ ในเหตุการณ์มหาอทุ กภยั ปี พ.ศ. 2554 ระบบรถไฟฟา้ ใตด้ ินสามารถใหบ้ รกิ ารไดอ้ ยา่ ง ต่อเนื่อง แม้จะมสี ถานอี ยใู่ นจดุ เสี่ยงนำ้�ทว่ มถงึ 9 สถานี และมนี �ำ้ ทว่ มผิวการจราจรในบรเิ วณ ใกลเ้ คียงราว 50 เมตร แตก่ ไ็ มเ่ กิดผลกระทบต่อการให้บรกิ ารแต่อย่างใด ทำ�ใหก้ ารเดนิ ทางโดย รถไฟฟา้ ใตด้ นิ เป็นอีกทางเลอื กหนง่ึ ท่สี ำ�คัญในยามที่เส้นทางจราจรของกรงุ เทพฯ หลายสายถูก น้�ำ ทว่ ม ที่มา: บรษิ ทั รถไฟฟา้ กรุงเทพ จ�ำ กัด (มหาชน) การลดความเสีย่ งจากภยั พบิ ัตสิ กู่ ารพัฒนาทย่ี ่งั ยนื 79
ภาคการศกึ ษา ภาคการศกึ ษามีความส�ำ คัญมากตอ่ การพฒั นาประเทศ เป็นภาคส่วนทีช่ ่วยปลูกฝัง ให้ความรู้ หล่อหลอมนักเรียน นสิ ิต นกั ศกึ ษาซ่งึ เปน็ อนาคตของชาติ ท้งั ยังมีความส�ำ คญั กบั ชมุ ชน เนื่องจากสถานศึกษาทงั้ ท่ีเปน็ ทางการและไมเ่ ปน็ ทางการ ในรูปแบบบา้ น วดั หรือ โรงเรยี น ต่างเปน็ สว่ นหน่ึงของชมุ ชน ในขณะทนี่ กั เรยี นนักศกึ ษาตา่ งกเ็ ป็นสมาชกิ ของชมุ ชน และโรงเรียนในพนื้ ท่บี างแหง่ ก็กอ่ ตง้ั ข้ึนโดยชุมชน จึงมีความสัมพนั ธก์ นั อยา่ งใกล้ชดิ และ มีบทบาทในสรา้ งวฒั นธรรมความปลอดภยั ในชุมชนเป็นอยา่ งมาก เมือ่ เกิดภัยพบิ ตั ิ ปัญหาทมี่ กั เกิดขน้ึ ในสถานศึกษา ได้แก่ การทคี่ รู นกั เรียน และ ผู้ปกครอง ไมท่ ราบขั้นตอนการปฏิบตั ิตนให้ปลอดภยั เมือ่ เกดิ สถานการณ์วกิ ฤตข้ึน ทำ�ให้เกดิ ความสบั สนว่นุ วาย ไดร้ บั บาดเจ็บหรือเสยี ชวี ติ อาคารสถานท่ีและวสั ดุอปุ กรณข์ าดการบำ�รงุ รักษาและไม่ได้มาตรฐานจงึ เกดิ ความเสียหาย ครู นกั เรยี นไม่สามารถเดนิ ทางมาโรงเรยี นได้ สถานศกึ ษาต้องปิดท�ำ การเมื่อเกิดภยั ทำ�ให้การเรียนการสอนหยุดชะงักไมต่ อ่ เน่อื ง อีกท้งั เมื่อเกดิ ภัยพิบัติ มักมกี ารก�ำ หนดใหใ้ ช้สถานศกึ ษาเป็นจุดปลอดภัยหรือศูนย์อพยพ โดยลืม ค�ำ นึงวา่ สถานศกึ ษาน้นั ต้งั อยใู่ นพื้นทเ่ี สย่ี งจากภยั พบิ ัตหิ รือมีโครงสรา้ งท่ปี ลอดภัยในการ รองรบั ผ้คู นจ�ำ นวนมากหรอื ไม่ อยา่ งไรกด็ ี แตล่ ะพืน้ ทย่ี ่อมมคี วามเสย่ี งตอ่ ภยั ท่ีแตกตา่ งกนั สถานศกึ ษาที่อยบู่ นพืน้ ทีส่ งู อาจปลอดภัยจากภยั น้ำ�ทว่ มและคล่ืนสึนามิ แตอ่ าจมีความเส่ียง มากจากภยั แผ่นดนิ ไหว น้�ำ ป่าไหลหลาก หรอื ดินโคลนถลม่ ดังนั้น จงึ ตอ้ งทำ�การประเมนิ ความเส่ยี งส�ำ หรบั สถานศกึ ษา เพ่ือให้มคี วามเข้าใจถึงความเสี่ยงในพนื้ ทเี่ ปน็ อยา่ งดกี ่อนการ ตดั สนิ ใจสร้างสถานศกึ ษาและใชเ้ ปน็ ศนู ย์อพยพ ในภาพรวม การศกึ ษาสามารถมสี ่วนชว่ ยในการสรา้ งพฤตกิ รรมท่ีเหมาะสมกับเด็ก เยาวชน และประชาชนทวั่ ไปในเร่อื งการเอาตัวรอด การรับมอื กบั ภัยพิบัติ การอนามยั สว่ น บุคคลเพือ่ ป้องกันโรค การสรา้ งส�ำ นกึ จิตสาธารณะในการให้ความช่วยเหลอื ต่อสงั คมเทา่ ทจ่ี ะ สามารถทำ�ได้ การนำ�ประเดน็ เร่ืองการลดความเสย่ี งจากภัยพิบัตมิ าพจิ ารณาและบูรณาการ ในกิจกรรมต่าง ๆ เพอื่ สร้างความปลอดภยั ให้กบั ระบบการศึกษา ฯลฯ ทงั้ นี้ ส�ำ นกั งานเพอ่ื การลดความเสี่ยงจากภัยพบิ ัตแิ หง่ สหประชาชาติ (UNISDR) ไดน้ ำ�เสนอแนวทางในการ บูรณาการการลดความเสี่ยงจากภยั พบิ ัติในภาคการศึกษา6 โดยแบง่ ออกเป็น 3 ดา้ น คอื 6 UNISDR, 2014b 80 การลดความเส่ยี งจากภัยพบิ ัติสกู่ ารพัฒนาทย่ี ่ังยนื
1. โครงสร้างและสิ่งอ�ำ นวยความสะดวกทีป่ ลอดภัยกบั การเรียนรู้ (Safer Learning Facilities): การเลอื กท�ำ เลทตี่ ัง้ ขอ้ บงั คบั และกฎหมายในการออกแบบ และกอ่ สรา้ งอาคารเรยี นใหไ้ ดม้ าตรฐาน ตลอดจนการตดิ ต้งั จดั วางวสั ดอุ ปุ กรณ ์ ภายในโรงเรยี นต้องค�ำ นงึ ถึงความปลอดภยั เปน็ สำ�คัญ การประเมนิ ความเสยี่ งจาก ภัยพบิ ัตเิ ปน็ ข้นั ตอนท่ีสำ�คญั เพ่อื ประกอบการตัดสินใจในการออกแบบและกอ่ สรา้ ง อาคารให้สามารถลดผลกระทบจากภัยพิบัติได้ 2. ความพรอ้ มในการบรหิ ารจดั การภัยพิบัตใิ นสถานศกึ ษา (School Disaster Management): บุคลากรทางการศึกษาทกุ แหง่ ตอ้ งมศี ักยภาพในการจัดการเพ่อื ลดความเส่ียงและความเสยี หายจากภยั พิบตั ิ มีการซกั ซอ้ มทำ�ความเขา้ ใจใหบ้ คุ ลากร นักเรียน ผูป้ กครอง และชุมชนแวดล้อมให้สามารถเผชิญกบั สถานการณฉ์ กุ เฉนิ ได ้ อย่างทันท่วงที สามารถลดการสูญเสยี ชวี ติ และทรัพย์สนิ และสามารถฟน้ื ฟูกลบั ส ู่ สภาพเดิมไดอ้ ย่างรวดเร็ว ในกรณีท่โี รงเรียนไดร้ บั ผลกระทบและตอ้ งปดิ ทำ�การ ให ้ เตรยี มแผนการจัดการเรียนการสอนส�ำ รองเพื่อให้การเรยี นการสอนเปน็ ไปได้อยา่ ง ตอ่ เน่อื ง 3. การให้ความรูด้ ้านการลดความเสย่ี งและการรรู้ ับปรบั ตวั จากภัยพบิ ัติ (Risk Reduction and Resilience Education): การพฒั นาหลกั สูตรและจัดการ เรียนการสอนให้นกั เรยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ มีเจตคติทีด่ ี มคี วามสามารถในการ ปอ้ งกนั ตนเองและเผชิญเหตกุ ารณฉ์ กุ เฉนิ ได้ โดยอาจเช่อื มโยงบทเรยี นที่มีอยู่ ในหลักสตู รเข้ากบั ประเดน็ ภยั พบิ ัตใิ นท้องถิ่น เพอ่ื ให้นกั เรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจ เก่ียวกับภยั ท่เี กดิ ขนึ้ ในพืน้ ท่ี ลกั ษณะของผลกระทบทอ่ี าจเกดิ ข้ึน และการปฏิบัติ ตัวทเ่ี หมาะสม รวมทั้ง จดั กจิ กรรมเสริมเพือ่ การเรยี นรู้เรอื่ งความปลอดภัยจาก ภยั พบิ ตั ใิ นโรงเรยี น และจดั การฝกึ ซอ้ มแผนเผชญิ เหตกุ ารณฉ์ กุ เฉนิ ตา่ ง ๆ ในโรงเรยี น นอกจากน้ี ในระดบั อดุ มศึกษาควรสนบั สนุนการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ ตลอดจน คิดคน้ นวตั กรรมและใชภ้ ูมิปญั ญาทอ้ งถ่ินเพอ่ื บริหารจดั การและลดความเสยี่ งจาก ภัยพิบตั ิ นอกจากบทบาทในการลดความเสย่ี งในสถานศกึ ษาเพอื่ ความปลอดภัยของนักเรยี น ครู และบคุ ลากรด้านการศกึ ษาแล้ว ภาคการศกึ ษายงั มีความส�ำ คัญในการสร้างวัฒนธรรม ความปลอดภยั ใหก้ บั ชุมชน ด้วยการสนับสนุนช่วยเหลือการป้องกนั และลดผลกระทบจาก การลดความเสย่ี งจากภัยพบิ ัตสิ กู่ ารพฒั นาทย่ี ่งั ยนื 81
ภัยพิบตั ิในชุมชนรอบสถานศกึ ษา อกี ทัง้ นักเรียน นักศกึ ษายงั สามารถช่วยในการส่ือสารและ ถ่ายทอดความรเู้ รอ่ื งภัยพบิ ัตใิ หก้ บั ผปู้ กครองและคนในชุมชนอีกดว้ ย ตวั อย่างกิจกรรมในการบูรณาการการลดความเสยี่ งจากภยั พบิ ตั ใิ นภาคการศึกษา มี ดงั ตอ่ ไปนี้ ตัวอย่างกิจกรรมการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ มาตรการป้องกันและลดผลกระทบ มาตรการที่ • ก่อสร้างอาคารเรียนและโครงสร้างต่าง ๆ เช่น อัฒจันทร์ ห้องประชุม ใช้โครงสร้าง โรงพละศึกษา ห้องน้ำ� โดยใช้โครงสร้างที่แข็งแรงและได้ตามมาตรฐานที่ กำ�หนดไว้อย่างเคร่งครัด • ปรับปรุง ซ่อมแซม และบำ�รุงรักษาอาคารสถานศึกษาให้มีความแข็งแรง • การติดตั้งวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยคำ�นึงถึงการใช้สอยและความปลอดภัย มาตรการที่ • หลีกเลี่ยงการก่อตั้งสถานศึกษาในพื้นที่เสี่ยงภัย ไม่ใช้โครงสร้าง • จัดทำ�ข้อบังคับและกฎหมายในการก่อสร้างอาคารเรียนให้มีความปลอดภัย ได้มาตรฐาน • รวบรวมองค์ความรู้และเผยแพร่แนวทางการออกแบบอาคารเรียนที่ได้ มาตรฐานละมีความต้านทานต่อภัยต่าง ๆ • จัดทำ�หลักสูตรด้านการป้องกันและลดผลกระทบจากภัยพิบัติและสอดแทรก ความรู้เข้าในการเรียนการสอนและกิจกรรมสำ�หรับนักเรียน นักศึกษาในทุก ระดับชั้น เพื่อให้เด็กและเยาวชนรู้เท่าทันภัยพิบัติ • อบรมครู เรื่องการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติและการบูรณาการการลด ความเสี่ยงเข้าในการเรียนการสอน โดยเน้นให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับภัยพิบัติ ในแต่ละท้องที่ • จัดกิจกรรมศึกษาดูงานของคณาจารย์และนักเรียนที่เกี่ยวข้องกับการลด ความเสี่ยงจากภัยพิบัติ • จัดเตรียมระบบป้องกันอัคคีภัยและฝึกอบรมด้านความปลอดภัยใน สถานศึกษา มาตรการเตรียมความพร้อม การปรับตัว • จัดทำ�โครงการพัฒนาทักษะชีวิตสำ�หรับนักเรียนในโรงเรียนในพื้นที่ เสี่ยงภัย 82 การลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั สิ กู่ ารพัฒนาท่ีย่งั ยืน
ตัวอย่างกิจกรรมการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (ต่อ) มาตรการเตรียมความพร้อม (ต่อ) การปรับตัว (ต่อ) • พัฒนาองค์ความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นให้ชุมชนสามารถปรับตัวให้อยู่กับภัย ได้อย่างปลอดภัย • ฟื้นฟู ส่งเสริม และต่อยอดการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยร่วมกับชุมชนให้ ความรู้กับนักเรียนด้านการปรับตัวอย่างเหมาะสมให้เข้ากับสภาพความ เสี่ยงภัยในแต่ละท้องที่ เช่น จัดให้นักเรียนมีกิจกรรมร่วมกับชุมชน ในการ ฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ทรัพยากรน้ำ� ดิน ชายฝั่งอย่าง เป็นประโยชน์และคุ้มค่าไม่ให้เกิดความเสื่อมโทรม และให้สามารถปรับตัว ต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ การเตรียมรับมือ • ตั้งศูนย์เฝ้าระวังภัยพิบัติในเครือข่ายสถาบันการศึกษา กับภัยพิบัติ • จัดทำ�แผนเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์วิกฤตสำ�หรับสำ�นักงานเขต พื้นที่การศึกษาในพื้นที่เสี่ยงภัย • ให้ความรู้ในการปฏิบัติตนแก่นักเรียน ครู และบุคลากรให้พ้นจากอันตราย • ส่งเสริมให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา พัฒนาองค์ความรู้หรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ช่วยให้โรงเรียนและชุมชนของตนเองสามารถรับมือกับภัยพิบัติได้ • ซักซ้อมทำ�ความเข้าใจให้บุคลากร นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนแวดล้อม ให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที • พัฒนาแผนปฏิบัติการเพื่อป้องกันและรับมือภัยพิบัติของโรงเรียน ทั้งใน ช่วงก่อน ระหว่าง และหลังเกิดภัย และจัดให้มีการฝึกซ้อมแผนการเผชิญ เหตุการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งการอพยพไปยังที่ปลอดภัย • หลีกเลี่ยงการใช้โรงเรียนหรือสถานศึกษาในพื้นที่เสี่ยงภัยเป็นสถานที่อพยพ • สร้างเสริมทักษะที่จำ�เป็นเมื่อประสบภัย เช่น การสอนว่ายน้ำ�ในโรงเรียน การดัดแปลงนำ�อุปกรณ์ที่ใช้ในการลอยตัวได้ การปฐมพยาบาล การรักษา สุขอนามัยส่วนบุคคลเพื่อลดการบาดเจ็บ การเจ็บป่วย และลดการแพร่ กระจายของเชื้อโรคในโรงเรียน • สนับสนุนให้โรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงจัดกิจกรรมด้านความปลอดภัยใน โรงเรียน โดยมีผู้ปกครองและชุมชนเข้าร่วม • พัฒนาคู่มือ แบบเรียน สื่อการสอนและกิจกรรมการเรียนการสอนที่สนุก น่าสนใจ และมีเนื้อหาที่เหมาะสมสำ�หรับแต่ละระดับชั้น เพื่อให้ความรู้ด้าน การปฏิบัติตนให้ปลอดภัยเมื่อเกิดภัยพิบัติ • จัดเตรียมแผนการดำ�เนินการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่องในภาวะวิกฤต การลดความเสีย่ งจากภัยพิบัตสิ ู่การพัฒนาท่ยี งั่ ยืน 83
กล่องที่ 3.8 ฟ้ืนฟอู าคารเรยี นใหส้ ามารถรบั มอื กบั นำ�้ ท่วมไดใ้ นอนาคต โรงเรียนวดั หัวหนิ อ.ทา่ เรือ จ.พระนครศรอี ยุธยา ตอ้ งประสบปัญหานำ�้ ท่วมซำ้�ซาก เป็นประจ�ำ แทบทกุ ปี ภายหลงั นำ�้ ลดไดท้ �ำ การสำ�รวจความเสยี หาย พบว่านำ้�ที่ทว่ มขงั บรเิ วณ ช้นั หน่งึ ของอาคารเรียนท�ำ ใหส้ ่วนประกอบของอาคารช�ำ รุด เชน่ ประตูไม้พองต้องเปล่ียนใหม่ ผนังต้องซอ่ มแซมและทาสใี หม่ อกี ท้ัง หอ้ งเรยี นและอปุ กรณ์การเรยี นในบริเวณช้ันหนึ่งไดร้ บั ความเสียหายอยา่ งมาก ทางโรงเรียนเลง็ เห็นถงึ ความเสย่ี งจากภยั น�้ำ ทว่ มในพน้ื ท่ซี ่งึ มีโอกาสเกดิ ขึ้นทุกปี ประกอบกับมีความเข้าใจในมุมมองดา้ นการลดความเสยี่ งจากภยั พบิ ัติ จงึ เลือกทจี่ ะ ไมใ่ ชว้ ัสดแุ ละวิธกี ารแบบเดิมในการซ่อมแซมโรงเรียน แตเ่ ปล่ียนจากประตไู ม้เปน็ ประตูโลหะ โปรง่ ทำ�ใหน้ ้�ำ สามารถไหลผา่ นได้และยังช่วยลดแรงดนั ของน�ำ้ ท่ีจะทำ�ใหเ้ กิดความเสียหายตอ่ โครงสร้างอาคารเรยี น และใชก้ ารปกู ระเบอ้ื งแทน การทาสีผนังใหม่ โดยปูกระเบอ้ื งใหส้ ูงกว่าระดบั ท่ี น�้ำ เคยท่วมถงึ รวมทง้ั ยา้ ยหอ้ งเรียนและอุปกรณท์ ม่ี ี ราคาแพง เช่น ห้องคอมพวิ เตอร์ เคร่ืองดนตรแี ละ ห้องสมดุ ไปไวท้ ่ีชนั้ สอง หากเกิดนำ้�ทว่ มข้ึนอีกก็ สามารถลดความเสียหายและลดงบประมาณใน การซอ่ มแซมโรงเรยี นได้ กล่องท่ี 3.9 จัดท�ำ คูม่ อื จดั การเรียนรเู้ ร่อื งการลดความเส่ียงจากภยั พบิ ตั ิ ส�ำ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน (สพฐ.) รว่ มกับองค์การแพลน อนิ เตอร์ เนชนั่ แนล และองคก์ ารชว่ ยเหลอื เดก็ สากล จดั พมิ พแ์ ละเผยแพร่เอกสาร “แนวทางการจดั การ เรียนรเู้ รื่องการลดความเสย่ี งจากภัยพบิ ัตแิ ละการรบั มอื กบั ความ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ฉบับทดลอง” เพ่ือให้ครไู ด้ใชเ้ ป็น เครอื่ งมอื ในการด�ำ เนินตามนโยบายของรฐั ในการจัดกจิ กรรม การเรียนการสอนเร่ืองการเปลย่ี นแปลงสภาพภูมิอากาศและภัย พบิ ตั ิทางธรรมชาติแก่นักเรียนทกุ ระดับช้ัน โดยบรู ณาการในทกุ รายวิชา หรอื บรรจไุ วใ้ นหลักสูตรการศึกษาทุกชว่ งชนั้ และพัฒนา ส่ือการเรียนการสอนท่เี หมาะสม ท่ีมา: ส�ำ นักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน 84 การลดความเสยี่ งจากภัยพบิ ัตสิ ู่การพฒั นาทยี่ ่งั ยืน
กลอ่ งท่ี 3.10 จัดกิจกรรมเพื่อเสรมิ สร้างทักษะดา้ นความปลอดภัยในโรงเรียน เจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ (The Japan Foundation, Bangkok) รว่ มกับกลุ่ม “รู้แล้วรอด” Design for Disaster (D4D) และเอน็ พโี อ พลสั อารต์ (NPO Plus Arts) ประเทศ ญี่ปุ่น จัดกิจกรรม “Red Bear Survival Camp in Thailand” เพือ่ ใหค้ รู นกั เรยี น และ อาสา สมัครปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั ไดเ้ รียนรู้และสรา้ งเสรมิ ประสบการณก์ ารเอาตัวรอดเม่ือ เกดิ ภยั พิบตั แิ บบตา่ ง ๆ อาทิ นำ�้ ท่วม แผน่ ดนิ ไหว ไฟไหม้ ดินโคลนถลม่ โดยมกี ิจกรรมฐานการ เรียนร้ทู ง้ั หมด 13 ฐานที่ถูกคดิ คน้ ขึน้ มาใหมเ่ พ่ือใหเ้ ดก็ ๆ และผู้เข้าร่วมได้สนกุ สนานกบั การ เตรยี มพรอ้ มกบั ทุกสภาวะการณ์ ด้วยการฝึกทักษะทงั้ ทางรา่ งกายให้มีความแข็งแรงและทาง ปญั ญาใหม้ ีความคดิ สรา้ งสรรค์และจินตนาการทจ่ี ะช่วยเหลอื ตัวเองได้ในภาวะฉุกเฉินยามเกดิ ภยั พบิ ตั ิ โดยได้รบั การสนบั สนนุ จากองค์กรภาคเอกชนมากมาย ได้แก่ บรษิ ทั AIG Holding (ประเทศญปี่ นุ่ ) จ�ำ กัด บรษิ ทั ROHM Integrated Systems (ประเทศไทย) จ�ำ กัด บรษิ ัท ไทย ประกนั ชวี ติ จ�ำ กดั (มหาชน) บริษทั บิ๊กซี ซปุ เปอรเ์ ซน็ เตอร์ จำ�กัด (มหาชน) บรษิ ทั KWE – คินเท็ทซุ เวิร์ล เอก็ ซเ์ พรส (ประเทศไทย) จำ�กดั และมีองคก์ รสนบั สนุนในการเผยแพร่ ไดแ้ ก่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั และศูนยเ์ ตรียมพรอ้ มและปอ้ งกันภยั พิบตั ิแห่งเอเชยี (ADPC) และองค์การช่วยเหลือเด็กสากล กจิ กรรมครง้ั แรกจัดขนึ้ ทโ่ี รงเรียนสมถวิล กรุงเทพฯ ในเดือนมถิ ุนายน พ.ศ. 2557 และไดข้ ยายผลกิจกรรมไปยงั โรงเรยี นอ่ืน ๆ ในพ้นื ท่กี รุงเทพฯ และโรงเรยี นในพื้นท่ีเสีย่ งภยั แผน่ ดนิ ไหวจงั หวัดเชียงราย ทม่ี า: เจแปนฟาวนเ์ ดชนั่ กรุงเทพฯ, 2557 การลดความเสยี่ งจากภัยพบิ ัติสกู่ ารพัฒนาทีย่ ่งั ยนื 85
ภาคสาธารณสุข ภาคสาธารณสขุ มบี ทบาทหลกั ในการควบคุมและเฝา้ ระวงั โรคระบาดซึ่งเป็นภยั ท่ี ส�ำ คญั อย่างหน่งึ และยงั มบี ทบาทในการรักษาพยาบาลและใหบ้ รกิ ารทางการแพทยแ์ ละ สาธารณสุข ซึ่งเปน็ กิจกรรมทีส่ ำ�คญั ยงิ่ สำ�หรบั การเผชิญเหตุการณฉ์ กุ เฉนิ (emergency response) ที่ต้องรกั ษาชวี ติ ผบู้ าดเจบ็ ในสถานการณภ์ ัยพบิ ตั ิ ซ่งึ ต้องด�ำ เนนิ การอยา่ งรวดเรว็ แข่งกับเวลา ทำ�ให้ต้องมคี วามพรอ้ มอยเู่ สมอท้งั ด้านบุคลากร เวชภณั ฑ์ ระบบการส่ือสารและ การแจง้ เหตุ เพือ่ เช่ือมโยงกบั หน่วยงานเผชญิ เหตุและบรรเทาทกุ ข์อืน่ ๆ ได้อยา่ งทันทว่ งที ภัยพบิ ัตสิ ามารถสง่ ผลกระทบกบั การบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขหลาย ประการ เช่น เกิดความเสียหายตอ่ อาคารสถานพยาบาล อุปกรณเ์ ครื่องมือทางการแพทย์ ระบบไฟฟา้ ประปาได้รบั ความเสยี หายทำ�ใหไ้ มส่ ามารถดำ�เนนิ การรักษาต่อไปได้ เส้นทางถูก ตดั ขาดทำ�ใหป้ ระชาชนไม่สามารถเขา้ ถงึ บรกิ ารทางการแพทยไ์ ด้ ตอ้ งทำ�การยา้ ยผ้ปู ว่ ยออก จากพน้ื ท่ี เกิดการแพร่กระจายของเชือ้ โรคโดยเฉพาะจากขยะตดิ เชอื้ ประชาชนไม่ได้รับการ รกั ษาอยา่ งทนั ทว่ งที ญาตผิ ้ปู ว่ ยไม่สามารถตดิ ต่อผปู้ ่วยได้ ขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ สำ�นกั งานเพ่ือการลดความเสย่ี งจากภัยพิบัติแห่งสหประชาชาติ (UNISDR) ไดจ้ ัดท�ำ โครงการรณรงค์ส่งเสริมใหส้ ถานพยาบาลมีความปลอดภัย และไดก้ �ำ หนดแนวทางการลด ความเส่ียงจากภยั พิบตั ทิ ีส่ ำ�คญั ในภาคสาธารณสขุ ไว้ 3 ประการ คอื 7 1. อาคารสถานพยาบาลต้องปลอดภยั สามารถตา้ นทานต่อผลกระทบจากภยั เพื่อรักษาชีวติ ของผูป้ ่วยและบคุ ลากรดา้ นสาธารณสขุ 2. สถานพยาบาลและการใหบ้ ริการดา้ นการแพทย์และสาธารณสขุ ตอ้ งสามารถ ด�ำ เนินการไดอ้ ยา่ งต่อเน่ืองเพอื่ ให้บริการกับผปู้ ว่ ยและผปู้ ระสบภัยในสถานการณ์ ฉกุ เฉนิ ได้ 3. บคุ ลากรและสถาบันการแพทยแ์ ละสาธารณสุขต้องมีความสามารถในการลด ความเสี่ยงจากภัยพบิ ัตแิ ละมคี วามพร้อมในการจดั การในภาวะฉกุ เฉนิ ท้ังนี้ ในประเทศไทย กระทรวงสาธารณสขุ ได้จดั ท�ำ นโยบายด้านสาธารณสขุ ในการ รับมือกบั ภยั พิบัตซิ ึ่งมคี วามสอดคลอ้ งกบั แนวทางสากลที่กล่าวมาขา้ งต้น และไดจ้ ดั ทำ�แผน 7 UNISDR, n.d. 86 การลดความเสยี่ งจากภัยพิบัตสิ กู่ ารพฒั นาที่ย่งั ยนื
เตรียมพรอ้ มด้านการแพทย์และการสาธารณสขุ เพ่ือเป็นแนวทางปฏิบตั ิใหก้ ับสถานพยาบาล และบุคคลากรทเี่ ก่ียวขอ้ งในทกุ ภาคส่วน ทงั้ ในภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสงั คม ได้ดำ�เนิน การรว่ มกันเพอื่ ใหเ้ กิดผลกระทบและความเสียหายใหน้ ้อยทส่ี ุด ตัวอยา่ งกจิ กรรมเพือ่ ลดความเส่ยี งจากภัยพิบัตทิ ีส่ ามารถด�ำ เนินการโดยภาค สาธารณสขุ มีดงั น้ี ตัวอย่างกิจกรรมการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ มาตรการป้องกันและลดผลกระทบ มาตรการที่ • ก่อสร้างอาคารสถานพยาบาลด้วยโครงสรา้ งทแ่ี ขง็ แรงและไดต้ าม ใช้โครงสร้าง มาตรฐานท่ีก�ำ หนดไวอ้ ย่างเคร่งครัด • โครงสร้างโรงพยาบาลและสถานีอนามัยทุกแห่งตอ้ งมคี วามแขง็ แรง และคงทนตอ่ ทกุ สภาวะ โดยเฉพาะในพืน้ ที่ทเ่ี สี่ยงภยั • ป้องกนั สถานพยาบาลจากการเกดิ ภัย เช่น การทำ�แนวป้องกนั นำ�้ ท่วม อยา่ งไรกด็ ี ควรมกี ารหารือรว่ มกันกับชมุ ชนข้างเคียงเพ่อื วางแนวทาง การปอ้ งกนั สถานพยาบาลในรูปแบบท่ชี ุมชนใหก้ ารยอมรับ มาตรการที่ • ประเมนิ ความเสีย่ งจากภัยพบิ ัติในสถานพยาบาลเป็นระยะ เพ่อื ใหท้ ราบถึง ไม่ใช้โครงสร้าง ความเสย่ี งในพ้ืนทีส่ ถานพยาบาล และจดั เตรียมเคร่ืองมือ อปุ กรณ์ และ ระบบสนบั สนนุ อ่ืน ๆ และบรเิ วณโดยรอบสถานพยาบาล • หลีกเลี่ยงการก่อสร้างสถานพยาบาลในพ้ืนที่เสี่ยงภัย • จดั วางอปุ กรณท์ างการแพทย์และเวชภณั ฑ์ในพืน้ ท่ีเหมาะสม โดยคำ�นงึ ถึง การใช้สอยและความปลอดภยั • ปรบั ปรุง ทบทวนกฎหมายทเี่ กี่ยวขอ้ ง ให้สนับสนุนการเตรียมความพรอ้ ม และจดั ทำ�มาตรฐานความปลอดภัยในสถานพยาบาลอย่างเครง่ ครดั • จดั ทำ�ระบบประกันคุณภาพโรงพยาบาล โดยมีประเด็นเรื่องการลดความเสี่ยง จากภัยพิบตั ิ • สนับสนนุ ให้มกี ารวิจัยและพฒั นารปู แบบระบบการบรกิ ารทางการแพทย์ และสาธารณสุขในภาวะฉกุ เฉิน และงานวิจยั อนื่ ๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ งเพอ่ื น�ำ ไปสู่ การปฏบิ ตั ไิ ด้จริง • ตดิ ตงั้ ระบบไฟฟา้ น้�ำ ประปา และการโทรคมนาคม พรอ้ มระบบส�ำ รอง และ ทดสอบการใช้งานเปน็ ระยะ • พฒั นาระบบการเฝา้ ระวังโรคระบาดใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพ • ใหค้ วามรู้ด้านอนามยั และสาธารณสขุ เพอ่ื ป้องกันการตดิ เช้ือโรคระบาดต่าง ๆ การลดความเส่ยี งจากภยั พบิ ตั สิ ู่การพฒั นาทย่ี ัง่ ยนื 87
ตัวอย่างกิจกรรมการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (ต่อ) มาตรการเตรียมความพร้อม การเตรียมรับมือ • ซ่อมบ�ำ รงุ เคร่ืองมอื และอุปกรณท์ างการแพทย์ให้มคี วามพร้อมในการใช ้ กับภัยพิบัติ ปฏบิ ัติงานเสมอ • จัดทำ�แผนเตรยี มความพร้อมในภาวะฉุกเฉินของโรงพยาบาลและ แผนการใหบ้ ริการทางการแพทยแ์ ละสาธารณสุขอย่างตอ่ เน่ือง พร้อมท้งั ซกั ซอ้ มแผนฯ อย่เู สมอ • เตรียมระบบการเคล่อื นยา้ ยผูป้ ่วยหรือส่งต่อผปู้ ่วยท่จี �ำ เปน็ หาก โรงพยาบาลได้รบั ผลกระทบจากภยั พิบัติ • สร้างเครอื ข่ายทางการแพทยแ์ ละสาธารณสุขเพ่ือให้มภี าครี ่วมปฏบิ ตั งิ าน หากเกินขดี ความสามารถของสถานพยาบาลจะรบั มอื เหตุการณฉ์ กุ เฉิน ไดเ้ อง • จัดเตรยี มระบบการแพทยฉ์ กุ เฉนิ • อบรมบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขในการบรหิ ารจัดการใน ภาวะฉกุ เฉิน รวมทง้ั ระบบบญั ชาการทางการแพทย์ และการดำ�เนนิ การ ร่วมกับหน่วยงานเผชญิ เหตกุ ารฉุกเฉินอืน่ ๆ • ฝึกอบรมแพทยแ์ ละพยาบาลใหม้ ีความรู้ ความสามารถ และความพรอ้ ม ในการบริหารจัดการผู้ประสบภัยและเสียชีวติ จ�ำ นวนมากได้ • ฝกึ ฝนการดแู ลสภาพจิตใจของผปู้ ระสบภัย • จัดใหม้ ีศนู ย์เตรียมพร้อมดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ ใหเ้ ป็นศนู ยก์ ลาง ในการสั่งการ • จัดเตรียมระบบและกลไกการสอื่ สาร การแจ้งเตือนภยั และการกระจาย ขอ้ มลู ขา่ วสารระหวา่ งหน่วยงานท่เี กี่ยวข้องไดอ้ ยา่ งทันท่วงทีและมีระบบ สำ�รองเพื่อความตอ่ เนือ่ งในการปฏบิ ัติงาน • สำ�รองทรพั ยากรทสี่ �ำ คัญ โดยเฉพาะสำ�หรบั ใหบ้ รกิ ารผ้ปู ่วยวิกฤต เชน่ ออกซิเจน เลอื ด นำ้� เวชภณั ฑ์ และเชือ้ เพลิง อยา่ งนอ้ ยให้เพยี งพอ 7-10 วนั เพอื่ ให้พรอ้ มในการดำ�เนนิ งานในภาวะฉกุ เฉิน • จัดใหม้ หี น่วยกชู้ พี /กู้ภยั เพื่อปฏบิ ตั ิหน้าทใ่ี นการเคลอื่ นยา้ ยผ้บู าดเจบ็ จากพื้นทีเ่ กิดเหตุไปสสู่ ถานบรกิ ารทางการแพทย์ • ใหค้ วามรู้กับประชาชนในการปฐมพยาบาลและการชว่ ยชีวิตเบ้อื งตน้ เช่น การหา้ มเลอื ด การทำ�แผล การเข้าเฝอื กเบื้องต้น การปัม้ หวั ใจ • จัดท�ำ แผนควบคมุ โรคระบาดหรอื โรคแทรกซอ้ นจากการเกิดภยั พบิ ตั ิ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 88 การลดความเสย่ี งจากภัยพิบตั สิ ู่การพฒั นาทย่ี งั่ ยืน
กลอ่ งที่ 3.11 แผนงานโครงการตอบโตใ้ นภาวะฉกุ เฉนิ เพ่ือเตรยี มความพร้อมรบั มอื ภัยพบิ ตั ใิ นภาคสาธารณสุข แผนงานโครงการตอบโตใ้ นภาวะฉกุ เฉนิ (Program for Enhancement of Emergency Response: PEER) ซ่งึ ดำ�เนินการในปี พ.ศ. 2556-2557 เป็นความร่วมมือ ระหวา่ งกระทรวงสาธารณสขุ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉนิ แห่งชาติ กรมปอ้ งกันและบรรเทา สาธารณภยั กรงุ เทพมหานคร และศูนยเ์ ตรียมความพรอ้ มป้องกันภัยพิบัตแิ ห่งเอเซีย (ADPC) เพอื่ สร้างความเข้าใจและพัฒนาทกั ษะแกบ่ คุ ลากรทางการแพทย์และสาธารณสขุ ในการ ประเมนิ ความเสี่ยงของโรงพยาบาลทต่ี ง้ั อยใู่ นพน้ื ท่เี สี่ยงอทุ กภัย 4 จงั หวดั ซง่ึ ได้รบั ผลกระทบ จากมหาอทุ กภยั ปี พ.ศ. 2554 ไดแ้ ก่ ปทมุ ธานี อยธุ ยา นครสวรรค์และกรงุ เทพมหานคร โครงการฯ ได้ริเรม่ิ จัดฝกึ อบรมในหลักสตู ร Hospital Preparedness for Emergencies (HOPE) เพื่อเตรียมพร้อมสถานพยาบาลในการรบั มือสถานการณฉ์ ุกเฉิน โดยใช้ การประเมินความเส่ยี งในโรงพยาบาลทัง้ 4 ดา้ น คอื ดา้ นโครงสร้าง (structural elements) ด้านส่วนประกอบที่ไม่ใช่โครงสรา้ ง (non-structural elements) เช่น การตดิ ต้งั วัสดอุ ปุ กรณ์ การจัดระบบการทำ�งานและการใหบ้ รกิ าร (functional elements) และความพร้อมของ บุคลากรและเจา้ หนา้ ที่ (human resource management) เพ่อื ประเมนิ ผลกระทบจาก ภัยพบิ ตั ิต่อการให้บริการของโรงพยาบาล และพิจารณาก�ำ หนดกจิ กรรมทจ่ี ำ�เป็นเพอ่ื เสริมสรา้ ง ศักยภาพในการให้บรกิ ารรกั ษาพยาบาลในสถานการณ์ฉกุ เฉินให้ดียิ่งขน้ึ ที่มา: ADPC, 2013 (พ.ศ. 2556) การลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติส่กู ารพัฒนาท่ยี ั่งยนื 89
กลอ่ งที่ 3.12 สถาบันการแพทยฉ์ กุ เฉนิ แหง่ ชาติจัดทำ�คู่มอื เตรยี มรับภัยพิบัติส�ำ หรับผู้ พกิ ารทางการมองเหน็ ผู้พกิ ารเปน็ กล่มุ หน่ึงทม่ี ีความเปราะบางและมีโอกาสไดร้ บั ผลกระทบจากภยั พิบัติ มากกว่าผคู้ นท่ัวไป เนือ่ งจากขอ้ จ�ำ กดั หลายด้านท่ีท�ำ ให้ข้อมลู ขา่ วสารเร่ืองภยั พิบัติไม่สามารถ สอื่ สารไปยังกลุ่มผู้พกิ ารได้อยา่ งทั่วถงึ และการชว่ ยเหลือจากหน่วยงานภายนอกในบางครัง้ ไม่ ตรงกบั ความต้องการของผู้พกิ ารเอง ด้วยเหตุนี้ สถาบนั การแพทยฉ์ ุกเฉินแหง่ ชาติ (สพฉ.) จึงไดจ้ ดั ท�ำ คมู่ ือเตรยี มรับภยั พิบัตสิ �ำ หรับผู้พิการทางการมองเห็นข้นึ ประกอบด้วยชุดความรู้ ท่ผี ู้พกิ ารทางสายตาสามารถน�ำ ไปปฏบิ ัตไิ ดจ้ รงิ หากเกดิ ภยั พบิ ตั ิ เชน่ วธิ ีการรบั มอื กับภัยพิบตั ิ ต่าง ๆ และวธิ กี ารเตรียมกระเปา๋ ยงั ชพี และได้ตพี ิมพค์ ่มู อื เพื่อเผยแพรใ่ ห้กับผู้พกิ ารทางสายตา ทว่ั ประเทศ รวมถึงประชาสัมพันผ์ ่านสายดว่ นคลังความรู้ 1144 ดว้ ย โดยการจัดท�ำ คูม่ อื ดังกล่าวเป็นการนำ�รอ่ งการเตรียมพร้อมรบั มอื ภยั พิบตั ิส�ำ หรับผู้พกิ าร ได้รบั การสนบั สนุน จากโครงการ Royal Thai government (RTG) – World Health Organization (WHO) collaboration Thematic Area “Disaster Management” ซงึ่ เปน็ โครงการความรว่ มมอื ระหวา่ งรฐั บาลไทยกบั องคก์ ารอนามยั โลก พร้อมกันน้ี สพฉ. ไดร้ ว่ มมอื กบั ภาคีเครือข่ายจดั ทำ�หนงั สอื เสียงเดซี่ (Digital Accessible Information System: DAISY) ส�ำ หรบั ผู้พกิ ารทางสายตา โดยใช้การอ่านออก เสียงและบนั ทึกเสียงให้ผู้พิการทางสายตาไดเ้ ปิดฟัง มีข้อมูลเรื่องการเตรยี มตวั รับมือในชว่ ง ภัยหนาว สนึ ามิ พายุ และดนิ โคลนถลม่ โดยได้นกั รอ้ งช่อื ดงั ธนชัย อชุ ชิน หรือ ปอ๊ ด โมเดิร์นด็อก มาร่วมบนั ทกึ เสยี งหนังสือเสยี งเดซ่ดี งั กลา่ วด้วย ที่มา: ศูนย์ขอ้ มลู ขา่ วสารดา้ นการแพทยฉ์ กุ เฉนิ ไทย สถาบันการแพทย์ฉกุ เฉินแห่งชาติ 90 การลดความเส่ียงจากภัยพบิ ตั สิ กู่ ารพัฒนาทย่ี ่ังยนื
ภาคการเคหะ ภาคการเคหะในท่นี ้ีหมายรวมถึงการด�ำ เนินงานดา้ นท่ีอย่อู าศัยท้ังหมด ทัง้ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง กับการจัดหาทีด่ ิน การกอ่ สร้างบา้ นเรอื นท่ีอยอู่ าศยั ของประชาชนทัว่ ไป การบริหารจดั การ และดแู ลสภาพแวดลอ้ มของที่อยูอ่ าศยั รวมทัง้ การดแู ลความปลอดภยั และอำ�นวยสะดวกแก่ ผูอ้ ยูอ่ าศัย ท้งั โดยภาครฐั เชน่ โครงการเคหะชมุ ชน บ้านเออ้ื อาทร และท่ดี ำ�เนินงานโดยภาค เอกชนและนิตบิ ุคคล เชน่ หมู่บา้ นจัดสรร อาคารชดุ ซึ่งมกั มีการรวมกลุม่ ของเจ้าของหรือผู้ พักอาศัยในรปู แบบคณะกรรมการหมูบ่ า้ นหรืออาคารชุดเพ่อื ดแู ลสวัสดภิ าพและอำ�นวยความ สะดวกในด้านตา่ ง ๆ ของชมุ ชน ในอดตี ท่ีผ่านมา การสร้างบา้ นเรือนของประชาชนโดยเฉพาะในบรเิ วณนำ�้ หลากมี การใช้ภูมิปญั ญาในการสร้างบา้ นใตถ้ ุนสูงเนอ่ื งจากต้องประสบกับภัยนำ้�ท่วมเปน็ ประจำ� ซ่งึ นอกจากจะปลอดภัยตอ่ ผอู้ ยอู่ าศัยแล้ว บา้ นเรือนยังไมข่ วางทางน้ำ� ทำ�ให้เกิดการไหลและ ระบายนำ�้ ไปตามธรรมชาติ แตภ่ ายหลัง เมอ่ื มกี ารตง้ั ถ่ินฐานหนาแน่นมากขึ้น ลกั ษณะการ ใช้ทดี่ นิ เปลยี่ นแปลงไป พน้ื ที่เขตเมืองขยายตัวอย่างรวดเร็ว จงึ ไม่สามารถจัดทำ�ผงั เมืองเพอื่ ก�ำ หนดการใชป้ ระโยชน์ทด่ี นิ ตามความเสี่ยงของพนื้ ทไ่ี ดเ้ ท่าทันกับการขยายตัวของชุมชนได้ ทำ�ให้มีการสร้างท่พี กั อาศยั ในพนื้ ท่เี ส่ยี งต่อภยั พบิ ตั ติ า่ ง ๆ เกดิ ขึ้นมากมาย เนื่องจากบ้านเปน็ หนึ่งในปจั จัยสี่ เปน็ สถานท่ซี ึ่งผูอ้ ยู่อาศัยมีส่วนในการตัดสนิ ใจเพื่อ ใชเ้ ป็นทีอ่ ยอู่ าศัยและพักผ่อน การเลือกทำ�เลและควบคมุ คุณภาพการกอ่ สรา้ งจงึ มีความ จ�ำ เป็นทต่ี ้องใหแ้ น่ใจวา่ มีความปลอดภยั สูงสดุ ซ่งึ เป็นส่ิงจำ�เปน็ ทภี่ าคการเคหะต้องคำ�นงึ ถงึ ตัวอยา่ งกิจกรรมเพือ่ ลดความเส่ียงจากภัยพบิ ตั ิในภาคการเคหะ มดี งั น้ี การลดความเส่ยี งจากภัยพบิ ตั สิ ู่การพัฒนาที่ย่ังยนื 91
ตัวอย่างกิจกรรมการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ มาตรการป้องกันและลดผลกระทบ มาตรการที่ • หากจำ�เป็นต้องปลกู สร้างบา้ นเรือนในพื้นท่เี ส่ยี ง ต้องออกแบบโครงสรา้ ง ใช้โครงสร้าง และใช้วสั ดปุ ลกู สรา้ งทมี่ ีความคงทนและปลอดภยั ต่อภัยท่มี กั เกดิ ขึ้นใน พืน้ ที่นั้น ๆ เช่น - สรา้ งอาคารทพี่ กั อาศยั บนพื้นทสี่ ูง สร้างบา้ นยกพ้นื สูง ไมข่ วางทางนำ้� ในพ้ืนที่เสย่ี งน�้ำ ท่วม - หากสรา้ งบา้ นรมิ ตลง่ิ ตอ้ งมฐี านรากและโครงสรา้ งทแ่ี ขง็ แรง ไมใ่ ห้ อาคารทรดุ ตวั และตอ้ งปอ้ งกนั บรเิ วณทพ่ี กั อาศยั จากการกดั เซาะของน�ำ้ - หากสร้างบ้านเรอื น อาคารท่พี กั อาศยั ทใี่ นพืน้ ท่เี สย่ี งต่อแผน่ ดินไหว ต้องมีโครงสรา้ งที่ทนทานตอ่ แผน่ ดินไหว หรือใช้วัสดธุ รรมชาติ เชน่ ไม้ ไมไ้ ผ่ วัสดมุ งุ หลงั คาทมี่ นี �้ำ หนกั เบาและยดื หยุ่นต่อแรงสน่ั ไหว และมีการ ติดตง้ั และยึดเครื่องเรอื นตา่ ง ๆ ไมใ่ ห้หล่นใส่ผอู้ ยูอ่ าศยั เมอื่ เกดิ เหตุ - ในพื้นท่ีเสยี่ งต่อลมพายุ ตอ้ งออกแบบอาคารและหลังคาใหม้ คี วามคงทน แขง็ แรง ยดึ ตดิ กับโครงสรา้ ง - หากสร้างบา้ นเรือนบรเิ วณเชงิ เขา การออกแบบต้องระมัดระวังเร่อื ง ความชนั และไม่ให้ท�ำ ลายเสถยี รภาพของดิน มีโครงสร้างและฐานราก ทแ่ี ข็งแรง - ระบบอ�ำ นวยความสะดวกตา่ ง ๆ เชน่ ลิฟต์โดยสาร ระบบไฟฟา้ ประปา เคร่ืองปรบั อากาศ ตอ้ งออกแบบและติดตัง้ ด้วยโครงสรา้ งทีส่ ามารถ ทนทานต่อภยั พบิ ตั ไิ ด้ และมีการจดั เตรยี มระบบส�ำ รองเพ่ือใช้ในยาม ฉุกเฉิน • ปลูกตน้ ไม้เปน็ แนวบงั ลมและลดความแรงของกระแสน้ำ� และยังเป็นการ ชว่ ยเพม่ิ พน้ื ที่สีเขียว และอากาศบรสิ ทุ ธิ์ให้กับผู้อยู่อาศัย โดยพืชบางชนิด สามารถช่วยดูดซบั น�ำ้ เพือ่ ปอ้ งกนั น้ำ�ท่วมขงั ได้ • ปลูกพชื หรือสรา้ งแนวยืดหน้าดินเพอ่ื ป้องกนั ดนิ โคลนถล่มในพื้นทลี่ าดชัน • สรา้ งบา้ นประหยดั พลงั งานท่ีระบายอากาศและความรอ้ นไดด้ ี ใช้วัสดทุ ี่ เปน็ มิตรตอ่ สิง่ แวดล้อม • มถี งั เกบ็ นำ้� เครื่องสูบน้ำ� บ่อดกั ไขมนั ระบบบำ�บดั น้ำ�เสยี ทอ่ ระบายน�้ำ ท่ี ไดม้ าตรฐาน ตดิ ตัง้ บ่อเกรอะบ่อซึมใหห้ ่างจากแหล่งนำ้�ใต้ดนิ เพ่ือป้องกัน การร่ัวไหลและปนเปือ้ นเมอ่ื เกดิ ภัยพบิ ตั ิ • ซอ่ มบำ�รงุ โครงสร้างและสว่ นประกอบของโครงสร้างอาคารให้มีความ แข็งแรงปลอดภัยอยเู่ สมอ 92 การลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ัติส่กู ารพฒั นาท่ียง่ั ยืน
ตัวอย่างกิจกรรมการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (ต่อ) มาตรการป้องกันและลดผลกระทบ (ต่อ) มาตรการที่ • หลีกเลี่ยงการสร้างบา้ นเรอื น อาคาร ท่พี ักอาศยั ในพน้ื ทเ่ี สี่ยงตอ่ การเกิด ไม่ใช้โครงสร้าง ภัยพิบตั ทิ กุ ประเภท • ออกแบบใหม้ ถี นนในชุมชนทีอ่ ยอู่ าศัย และสามารถเชอื่ มตอ่ กับเสน้ ทางหลัก หรือระบบคมนาคมขนสง่ เพ่ือให้สามารถเดนิ ทางและเข้าถงึ ระบบ สาธารณูปโภคตา่ ง ๆ ได้อยา่ งสะดวกสบาย • จัดทำ�ผงั ชุมชน ผังเมือง โดยค�ำ นงึ ถึงผลกระทบตอ่ สงิ่ แวดลอ้ มและ ความเสย่ี งจากภยั พบิ ัติ และมีการบังคับใช้อยา่ งเคร่งครดั • ควบคุมการก่อสรา้ งอาคารในพ้ืนทีเ่ สีย่ ง รวมทั้งปรบั ปรงุ กฎระเบยี บ และ กระบวนการพิจารณาการก่อสรา้ งอาคารท่พี ักอาศัยในพ้นื ทเ่ี สยี่ งภัย พรอ้ มบงั คบั ใช้กฎเกณฑอ์ ย่างเครง่ ครดั • มีกฎระเบียบและมาตรการควบคมุ เพ่อื ให้บรษิ ทั ผ้อู อกแบบและรบั เหมา กอ่ สรา้ งมคี วามเป็นมอื อาชีพ เช่ือถือได้ และฝึกอบรมใหม้ ีทกั ษะในการ สรา้ งอาคารอย่างถูกต้องตามแบบและได้มาตรฐานเพอื่ ต้านทานภยั ตา่ ง ๆ • ตรวจสอบสภาพความแข็งแรง การเส่ือมสภาพของโครงสร้าง และการ ท�ำ งานของระบบต่าง ๆ ภายในอาคารเป็นระยะ พรอ้ มท้งั บ�ำ รงุ รักษาใหอ้ ย่ใู น สภาพดีอยู่เสมอ • จดั ท�ำ แบบบา้ นและอาคารมาตรฐานทีเ่ หมาะสมกับพ้ืนที่เสย่ี งภยั ต่าง ๆ และเผยแพร่ให้กับหนว่ ยงานทเ่ี กีย่ วขอ้ งไดใ้ ช้ประโยชนร์ ่วมกนั • จัดท�ำ กฎระเบยี บมาตรฐานด้านความปลอดภัยในชุมชนทอ่ี ยู่อาศยั ท้งั ส�ำ หรับหมู่บ้าน ชุมชนเคหะ อาคารชดุ ฯลฯ มาตรการเตรียมความพร้อม การปรบั ตัว • ใช้ประสบการณ์ และภูมิปัญญาท้องถิ่นปรับปรุงบ้านเรือนให้สามารถอยู่ กับภัยได้อย่างปลอดภัย การเตรยี มรบั มอื • ตดิ ตัง้ อุปกรณ์เพอ่ื ความปลอดภยั และฝึกฝนการใชง้ านไดอ้ ยา่ งคล่องแคล่ว กับภยั พิบัติ เช่น ถังดบั เพลงิ กล้องวงจรปิด สญั ญาณกันขโมย • คณะกรรมการหมู่บ้าน นติ บิ คุ คลผดู้ แู ลอาคารชุดท่อี ยอู่ าศยั เตรยี มระบบ เตือนภยั จุดรวมพล จดั ทำ�แผนฉกุ เฉนิ และประสานงานกับเจา้ หน้าท่ี ทอ้ งถิน่ เพือ่ เตรียมพร้อมหากเกดิ เหตุการณ์ฉกุ เฉิน • สำ�หรับอาคารชดุ และที่พักอาศยั ทมี่ ชี าวต่างชาติอาศยั อยู่ดว้ ย ต้องเตรยี ม การสอื่ สาร ใหค้ วามรกู้ ับคนตา่ งชาตใิ นขอ้ มูลเก่ยี วกับภยั ตา่ ง ๆ ในพนื้ ที่ รวมท้งั แผนรบั มือเหตุการณฉ์ กุ เฉนิ การลดความเส่ียงจากภัยพิบตั ิส่กู ารพฒั นาที่ย่งั ยนื 93
กล่องที่ 3.14 ตอ่ ยอดภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ ในการก่อสร้างบา้ นเรอื นเพ่ือใหส้ ามารถ ต้านทานภัยแผ่นดนิ ไหว จากเหตุการณ์แผน่ ดินไหวในพน้ื ทจี่ ังหวดั เชียงราย ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2554 ได้ เกิดกิจกรรมต้นแบบในการสอนเพอ่ื ซอ่ มแซมและสร้างบ้านทไ่ี ด้รับความเสยี หายเพอ่ื ใหค้ วาม ชว่ ยเหลือผ้ปู ระสบภัยจากแผน่ ดินไหว เรยี กวา่ “ดงลานโมเดล” โดยมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลลา้ นนา จ. เชยี งราย รว่ มกับเครือขา่ ยจัดการภัยพิบัติภาคประชาชนจังหวัดเชียงราย จัดฝกึ อบรมเจา้ บา้ นและช่างประจำ�ถิน่ หรอื สลา่ ใหส้ ามารถประเมนิ ความเสียหายของบา้ นท่ี ได้รบั ความเสยี หายหลังแผ่นดินไหว วา่ มคี วามปลอดภยั สามารถกลบั เข้าไปอยู่ไดห้ รือไม่ และให้ รู้จกั การเลอื กใชว้ ัสดุ รวมถึงใชเ้ ทคนิคและวิธีการที่ถกู ตอ้ งในการซอ่ มแซมและกอ่ สรา้ งบา้ นเรือน ใหม้ ีความแขง็ แรง โดยเม่ือช่างประจ�ำ ถิ่นไดเ้ ข้าใจถงึ หลักการและมีความร้ทู ่ีถูกต้อง นอกจาก จะสนบั สนนุ ให้เกิดกลไกในการร่วมแรงรว่ มใจในชมุ ชนแล้ว ยังท�ำ ใหเ้ กิดการบริหารจดั การด้วย ตนเองภายในชุมชนตอ่ ไปโดยอัตโนมตั ิ ท่ีมา: ศริ นิ ันท์ สุวรรณโมลี, 2554 94 การลดความเสีย่ งจากภัยพบิ ตั สิ ู่การพฒั นาทีย่ ั่งยนื
กลอ่ งที่ 3.15 การปรบั ปรงุ บา้ นเรอื นใหอ้ ยกู่ ับภยั น�ำ้ ทว่ มไดอ้ ยา่ งปลอดภัย จากประสบการณท์ ชี่ ุมชนตลาดเกา่ อ. กบินทรบ์ ุรี จ. ปราจีนบุรี ไดร้ ับผลกระทบจาก นำ้�ท่วมเปน็ ประจำ�ทุกปี ทำ�ใหช้ ุมชนปรบั ปรงุ บ้านเรือนใหส้ ามารถอยู่ไดอ้ ย่างปลอดภยั เมื่อเกิด นำ�้ ท่วม โดยการพาดบนั ไดหน้าบา้ นขน้ึ สชู่ นั้ 2 และเจาะพ้ืนไม้กระดานช้นั 2 เพือ่ ใชช้ กั รอกสง่ ของไปไว้ชน้ั บน นอกจากนน้ั เมอื่ ถึงฤดนู ำ�้ หลาก จะเตรยี มยาเรือ รวมท้งั สังเกตระดบั และสขี อง นำ�้ รมิ แควหนมุ านเพ่อื เตรยี มพรอ้ มยกขา้ วของขนึ้ ส่ทู ส่ี งู การรเิ ริ่มและดำ�เนินมาตรการเพือ่ การลดความเสี่ยงจากภยั พบิ ตั ิในภาคการพฒั นา ดงั ทีไ่ ดย้ กตัวอย่างมาข้างต้นจะสามารถสำ�เร็จได้หากภาคสว่ นทเ่ี กี่ยวข้องมีความตระหนกั เลง็ เห็นความสำ�คัญ รวมถงึ มีความรู้ ความเขา้ ใจในการลดความเสีย่ งภยั พบิ ัติในภาคสว่ น ของตน และจำ�เปน็ ตอ้ งอาศยั ปัจจยั ความรว่ มมอื จากทกุ ภาคสว่ นในทุกระดับของประเทศ เพ่อื สนบั สนุนการขบั เคลือ่ นการลดความเสยี่ งจากภัยพิบัตสิ กู่ ารปฏบิ ัตจิ ริงอยา่ งบรู ณาการ ซง่ึ จะไดอ้ ธิบายถงึ รายละเอียดในบทต่อไป การลดความเส่ยี งจากภัยพบิ ตั สิ กู่ ารพฒั นาท่ยี ัง่ ยนื 95
96 การลดความเสีย่ งจากภัยพบิ ตั สิ กู่ ารพัฒนาทย่ี ัง่ ยนื
กบเพาท่ือรทขล่ี บัด4คเควลาื่อมนเสไป่ยี งสจกู่ าากรภปัยฏพิบบิตั ตัิ อิ ย่างบูรณาการ 4.1 ความสำ�คญั ของการขบั เคล่ือนไปสู่การปฏิบัตเิ พ่อื ลดความเส่ียงจาก ภยั พิบัติ ดงั ทีไ่ ดอ้ ธิบายในบทที่ 3 แล้ววา่ หน่วยงานทกุ ภาคสว่ นต่างมีบทบาทสำ�คัญในการชว่ ย ลดความเสีย่ งจากภยั พบิ ตั ทิ ง้ั สน้ิ แตด่ ว้ ยข้อจ�ำ กัดต่าง ๆ โดยเฉพาะการขาดความรู้ ความ เขา้ ใจถึงความสัมพันธข์ องการลดความเสย่ี งจากภัยพบิ ัตกิ บั การพัฒนา การขาดความเข้าใจ ถงึ บทบาท หน้าทแี่ ละแนวทางปฏิบัตเิ พื่อลดความเสยี่ งจากภัยพบิ ตั โิ ดยภาคส่วนการพัฒนา ประกอบกบั ความเขา้ ใจว่ามีหน่วยงานกลางซ่ึงทำ�หนา้ ทด่ี �ำ เนินการประสานงานและมีภารกจิ ตรงด้านการบริหารจดั การภยั พบิ ัติอยู่แล้ว ทำ�ใหก้ ารลดความเสี่ยงจากภัยพบิ ัตใิ นภาพรวม ของประเทศไมม่ ีความก้าวหนา้ อยา่ งเปน็ รปู ธรรม เมอ่ื ภัยยังมีโอกาสเกิดข้นึ ไดต้ ลอดเวลา และมีแนวโน้มของความถ่ีและความรนุ แรง เพิม่ มากข้ึน การลดความเส่ียงจากภยั พิบตั ิจงึ เป็นสง่ิ ส�ำ คัญที่ทกุ ภาคส่วนตอ้ งรว่ มกนั ด�ำ เนนิ การอยา่ งจริงจงั ในบทน้ีจะกล่าวถงึ ปจั จยั สนบั สนุนการขับเคลอื่ นไปสกู่ ารปฏิบตั ิให้เกดิ การ บูรณาการการลดความเสยี่ งจากภยั พบิ ัติเข้ากับขอบขา่ ยงาน ภารกิจและโครงการพัฒนาใน ทกุ ภาคส่วนและในทกุ ระดับ ซงึ่ ตอ้ งอาศยั ท้งั การผลกั ดนั จากภาครฐั ร่วมด้วยการสนบั สนนุ จากภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ประชาชนและส่อื สารมวลชน เพือ่ ให้การบรู ณาการเกดิ ผล สำ�เรจ็ อยา่ งเปน็ รปู ธรรม 4.2 การผลักดันของภาครัฐเพ่ือขับเคลือ่ นไปสกู่ ารลดความเส่ียงจากภยั พบิ ัติ อย่างบรู ณาการ ภาครฐั มบี ทบาทที่ส�ำ คัญมากในการวางรากฐานการขบั เคล่ือนการลดความเสย่ี งจาก ภยั พิบัตขิ องประเทศ ทัง้ ในการก�ำ หนดทิศทางเชิงกลยทุ ธ์และวางกลไกให้เกดิ การปฏบิ ัตจิ รงิ ในภาพรวม ทง้ั นี้ ภาครัฐจ�ำ เป็นตอ้ งชว่ ยผลักดนั การขบั เคลือ่ นทัง้ ภายในหน่วยงานภาครัฐเอง และช่วยสง่ เสริมสนบั สนุนการดำ�เนินการโดยภาคส่วนอ่นื ๆ ซ่ึงมแี นวทางปฏบิ ตั ิ ดังนี้ การลดความเส่ยี งจากภัยพิบัตสิ ู่การพัฒนาที่ยัง่ ยืน 97
• จดั ทำ�นโยบายและแผนพัฒนาทกุ ระดบั ใหม้ ีประเด็นเรื่องการลดความเส่ียงจากภัยพิบัติ • สง่ เสริมและสนับสนุนการประเมนิ ความเสย่ี งและการจดั ท�ำ ข้อมลู ความเส่ยี งเพอื่ การ วางแผนพัฒนา • จดั ท�ำ กฎระเบียบข้อบังคบั เพอ่ื การลดความเสยี่ งจากภัยพบิ ตั ิอย่างบูรณาการ • วางแผนเชงิ พน้ื ท่ีและวางแผนการใชท้ ดี่ นิ โดยคำ�นงึ ถึงการลดความเสย่ี งจากภัยพบิ ัติ • จัดสรรงบประมาณสำ�หรับการลดความเสีย่ งจากภัยพบิ ตั ิ • ส่งเสรมิ ความรว่ มมอื ระหว่างหน่วยงานภาครฐั • ใชห้ ลักธรรมาภิบาลในการบรหิ ารจัดการเพือ่ ลดความเสย่ี งจากภัยพิบตั ิ • เตรียมการให้ภาครัฐสามารถดำ�เนินการไดอ้ ย่างต่อเนอ่ื งแม้เกิดภยั พิบัติ 4.2.1 จัดท�ำ นโยบายและแผนพฒั นาทกุ ระดับใหม้ ปี ระเด็นเรอื่ งการลดความเสยี่ ง จากภัยพิบตั ิ ภาครัฐในฐานะเป็นองคาพยพหลักที่กำ�หนดแนวทางการพัฒนาประเทศ มีอำ�นาจ หน้าที่ในการวางนโยบาย จัดทำ�ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศและการพัฒนาแต่ละภาค ส่วนในระดับต่าง ๆ และมีโครงสร้างการบริหารประเทศทั้งส่วนกลาง ภูมิภาค และท้องถิ่น จึงมีบทบาทที่สำ�คัญยิ่งในการเป็นผู้ผลักดันให้ประเด็นเรื่องการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ เป็นวาระสำ�คัญในการพัฒนาประเทศ ผู้บริหารระดับสูงตั้งแต่ระดับชาติถึงระดับท้องถิ่นจะต้องเห็นความสำ�คัญและแสดง เจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ โดยกำ�หนดให้การบูรณาการ การลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในแผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และเชื่อมโยงสู่ระดับนโยบายยุทธศาสตร์ แผนพัฒนา และ แผนปฏิบัติการของแต่ละกระทรวง ทบวง กรม ตลอดจนถ่ายทอดสู่แผนยุทธศาสตร์ การพัฒนาและแผนปฏิบัติการของจังหวัด อำ�เภอและท้องถิ่น และมอบหมายให้การลด ความเสี่ยงจากภัยพิบัติเป็นภารกิจจำ�เป็นที่ทุกภาคส่วนในทุกระดับจะต้องนำ�ไปปฏิบัติ โดยเฉพาะในพื้นที่ล่อแหลมและมีความเปราะบาง (ตัวอย่างดังแสดงในภาพที่ 4.1) เมื่อ ยุทธศาสตร์ นโยบายและแผนพัฒนาในทุกระดับและทุกภาคส่วนของประเทศให้ความ สำ�คัญกับประเด็นเรื่องการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแล้ว จะเป็นทิศทางในการลดความ เสี่ยงจากภัยพิบัติของประเทศได้อย่างเป็นระบบ และเป็นกรอบแนวทางให้เกิดการปฏิบัติ จริงเพื่อให้ทุกภาคส่วนของสังคมมีบทบาทในการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติร่วมกัน 98 การลดความเสีย่ งจากภัยพบิ ตั ิสกู่ ารพฒั นาที่ยั่งยืน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150