10

การวางแผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ 10   วเิ คราะห์สาระมาตรฐานและขอบข่ายการจัดการเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ระดบั ช้ัน ประถมศกึ ษาปี ที่ 3 ช่ือหน่วยการเรียนรู้ การใชพ้ จนานุกรม สาระสาคญั ตามมาตรฐาน 1. วรรณกรรมเรื่อง อ่ิมเอ๋ย อม่ิ ก่อน การเรียนรู้ที่ ท 1.1 / ท 2.1 / 2. แผนภาพ แผนท่ี แผนภมู ิ ท 4.1 3. การเขยี นบนั ทกึ ประจาวนั 4. การใชพ้ จนานุกรม ลาดับแผนการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมที่ เวลา 7 ชวั่ โมง - แผนการเรียนรู้ที่ 10 1. การใชพ้ จนานุกรม เวลา 2 ชวั่ โมง 2. วรรณกรรมเร่ือง อ่มิ เอ๋ย อม่ิ กอ่ น เวลา 4 ชวั่ โมง 3. แผนภาพบอกความคิด เวลา 4 ชวั่ โมง 4. แผนที่บอกเสน้ ทาง เวลา 4 ชวั่ โมง 5. แผนภมู ิบอกขอ้ มลู เวลา 3 ชวั่ โมง 6. เขยี นบนั ทกึ ฝึกเป็นนิสยั กระบวนการเรียนรู้หลกั - กระบวนการเรียนภาษา - กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการเรียนรู้บูรณาการ - บรู ณาการสู่การคดิ โดยให้นกั เรียนทาบตั รคาศพั ทต์ า่ งๆ ที่เกี่ยวกบั กลมุ่ สาระตา่ งๆ พร้อมเขียนความหมายของคา จากน้นั นาคาศพั ท์ ของทุกคนมารวมกนั แลว้ เรียงลาดบั ตามพจนานุกรม และนามาจดั ป้ายนิเทศ 354

 กาหนดเป้าหมายการจดั การเรียนรู้ ประจาหน่วยที่ 10 ด้านความรู้ (K) ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) ด้านคณุ ลักษณะ 1. วรรณกรรมเรื่อง อ่มิ เอ๋ย อิ่มกอ่ น 2. แผนภาพ แผนที่ แผนภูมิ 1. การฟังส่ิงท่คี รูและเพื่อนพดู ทพี่ ึงประสงค์ (A) 3. การเขยี นบนั ทึกประจาวนั 2. การพูดตอบคาถาม และการพูด 1. เหน็ คณุ คา่ ของการใชภ้ าษาไทย 4. การใชพ้ จนานุกรม แสดงความคิด ในชีวติ ประจาวนั 2. มีความกระตือรือรน้ สนใจใฝ่รู้ 3. การอ่านออกเสียงสะกดคา 3. มคี วามรบั ผดิ ชอบในงานของตน 4. การเขียนสะกดคา 5. การคดิ วิเคราะห์ และมีส่วนร่วมในการทากิจกรรม 6. การคดั ลายมอื ตวั บรรจง 4. มีนิสัยรักการอา่ นและเขยี น เต็มบรรทดั เป้าหมายการเรียนรู้ การใช้พจนานุกรม หลักฐานการเรียนรู้ ภาระงานทป่ี ฏบิ ัตริ ะหว่างเรียน ผลงานการเรียนรู้รวบยอด ผลงานการประเมนิ ตนเอง - ฝึกกระบวนการเรียนรูโ้ ดยการ - ฝึกกระบวนการคดิ วิเคราะห์ ผลงานบตั รคาตามลาดบั พจนานุกรม อ่าน เขียน และคดิ จากกิจกรรม จากกิจกรรมพฒั นาการคดิ พฒั นาการเรียนรู้ และใบงาน (จานวน 10 ชิ้น) (จานวน 8 ชิ้น) 355

 ออกแบบการจัดการเรียนรู้ 1. กาหนดเป้าหมายการเรียนรู้ สาระที่ 1 : การอ่าน มาตรฐาน ท 1.1 : ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพ่อื นาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนินชีวิต และมีนิสยั รกั การอา่ น (1) อา่ นออกเสียงคา ขอ้ ความ เร่ืองส้นั ๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง คลอ่ งแคล่ว (2) อธิบายความหมายของคา และขอ้ ความทอ่ี า่ น (8) อธิบายความหมายของขอ้ มูล จากแผนภาพ แผนท่ี และแผนภมู ิ สาระที่ 2 : การเขยี น มาตรฐาน ท 2.1 : ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ และเขยี นเรื่องราวในรูปแบบ ต่างๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ (3) เขียนบนั ทึกประจาวนั สาระท่ี 4 : หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท 4.1 : เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ (3) ใชพ้ จนานุกรมคน้ หาความหมายของคา 2. ความคดิ รวบยอด เมื่อเรียนจบหน่วยการเรียนรู้น้ีแลว้ นกั เรียนจะตอ้ งมคี วามรู้ความเขา้ ใจทีค่ งทน ดงั น้ี - การฝึกอ่านออกเสียงสะกดคา จะทาใหอ้ ่านคา ขอ้ ความและเรื่องส้ันๆ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง คล่องแคลว่ - แผนภาพ เป็นการแสดงโครงสร้างของความคิด แผนที่ เป็นการเขียนยอ่ จากพ้ืนทจ่ี ริง โดยใชส้ ัญลกั ษณ์ตา่ งๆ แทน ส่วนแผนภูมิ เป็นภาพอยา่ งหน่ึงท่แี สดงจานวนของส่ิงตา่ งๆ ท่ีกาหนด - การเขียนบนั ทึกประจาวนั เป็นการเขียนบนั ทึกเรื่องราวหรือเหตุการณ์ตา่ งๆ ท่ีเกิดข้ึนกบั ตวั เรา - การใชพ้ จนานุกรม เป็นการคน้ หาความหมายของคาศพั ท์ และเป็นการตรวจสอบการเขยี น สะกดคาใหถ้ ูกตอ้ ง 356

3. แก่นสารสาคัญของการเรียนรู้ 1. การเรียนรู้การใชพ้ จนานุกรม มปี ระโยชนต์ อ่ การใชภ้ าษาในชีวิตประจาวนั ของนกั เรียนอยา่ งไร 2. การเรียนรู้แผนภาพ แผนที่ และแผนภมู ิช่วยนกั เรียนในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งไร 4. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 4.1 การประเมินก่อนเรียน 1) การใชค้ าถามเพ่ือประเมนิ ความรู้เดิมของนกั เรียน 2) การทากิจกรรมนาสู่การเรียน - การเขียนคาจากภาพทก่ี าหนด แลว้ นาคามาเรียงลาดบั ตามพจนานุกรม พร้อมเขียนความหมายของคา 4.2 การประเมนิ ระหว่างเรียน 1) การเขยี นคาจากภาพทกี่ าหนด แลว้ เรียงลาดบั คาตามพจนานุกรม 2) การเขียนความหมายของคาท่กี าหนด แลว้ เรียงลาดบั คาตามพจนานุกรม 3) การอา่ นสะกดคาบทอา่ น แลว้ หาความหมายของคาทกี่ าหนด 4) การตอบคาถามจากเร่ืองท่ีอ่าน 5) การเขยี นแผนภาพจากเรื่องทีก่ าหนด 6) การเขยี นบอกความหมายของสญั ลกั ษณ์จากแผนทท่ี ่กี าหนด 7) การอ่านแผนภมู ิทีก่ าหนด แลว้ ตอบคาถาม 8) การเขียนบนั ทึกเหตกุ ารณ์ประจาวนั 4.3 การประเมินหลังเรียน - แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิ ประจาหน่วยที่ 6-10 4.4 การประเมนิ พฤติกรรมการเรียนรู้รวบยอด 1) การเขยี นเรียงลาดบั คาทกี่ าหนดตามพจนานุกรม พร้อมหาความหมายของคา 2) การเขียนแผนภาพเกี่ยวกบั เรื่องอาหารหลกั 5 หมู่ 3) การสืบคน้ แผนท่ีจากแหล่งตา่ งๆ และเขยี นอธิบายสญั ลกั ษณใ์ นแผนที่ 4) การสารวจขอ้ มูลรายวชิ าทเ่ี พอื่ นในหอ้ งชอบเรียน แลว้ นามาเขยี นแผนภมู ิรูปภาพ 5) การเขียนบนั ทึกเหตุการณ์ประจาวนั ของตนเอง 5 วนั 6) ใบงานที่ 57 เรื่อง มาเรียงลาดบั คากนั เถอะ 7) ใบงานที่ 58 เรื่อง แผนภาพบอกความคิด ชุดท่ี 1 8) ใบงานท่ี 59 เร่ือง แผนภาพบอกความคดิ ชุดท่ี 2 9) ใบงานท่ี 60 เรื่อง แผนภูมบิ อกขอ้ มลู ชุดท่ี 1 10) ใบงานที่ 61 เรื่อง แผนภูมบิ อกขอ้ มลู ชุดที่ 2 357

4.5 การประเมินตนเอง - ผลงานบตั รคาตามลาดบั พจนานุกรม 5. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. สื่อการเรียนรู้ ( ตวั อยา่ ง : ส่ือฯ มมฐ. หลกั สูตรแกนกลางฯ ภาษาไทย ป. 3 ) 2. เกม สระใด สระไหน มาก่อน 3. เกม เรียงลาดบั จบั พยญั ชนะ 4. เกม ว่องไว ใชพ้ จนานุกรม 5. เกม จงั หวดั น้ีอยแู่ ห่งใด 6. กิจกรรม แผนที่บอกเสน้ ทาง 7. ขอ้ มูลจานวนนกั เรียนในระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปี ท่ี 3 ของโรงเรียนแห่งหน่ึง 8. ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้ เช่น หอ้ งสมดุ อนิ เทอร์เนต็ 358

แผนการเรียนรู้ท่ี 10 การใช้พจนานุกรม รหสั วิชา / ชื่อรายวิชา.......................................................................................................................................................................กลุ่มสาระภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปี ที่ 3 เวลา 24 ชั่วโมง ภาคเรี ยนท่ี........................................... ผสู้ อน โรงเรียน........................................................................................................... ................................................................................................................................. 1. สาระสาคัญ การใชพ้ จนานุกรม เป็นการคน้ หาความหมายของคาศพั ท์ และเป็นการตรวจสอบการเขยี นสะกดคา ให้ถกู ตอ้ ง ดงั น้นั การเรียนรู้การใชพ้ จนานุกรมจะทาใหน้ กั เรียนสามารถใชภ้ าษาไทยไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสม มากย่ิงข้นึ นอกจากน้ีการทาความเขา้ ใจแผนภาพ แผนท่ี และแผนภูมจิ ะทาให้นกั เรียนเก็บรวบรวมขอ้ มลู ต่างๆ ไดอ้ ยา่ งเป็นระบบ 2. ตัวชีว้ ัด / จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อา่ นออกเสียงคา ขอ้ ความ เร่ืองส้ันๆ และบทร้อยกรองงา่ ยๆ ไดถ้ กู ตอ้ ง คลอ่ งแคลว่ (ท 1.1 ป. 3/1) 2. อธิบายความหมายของคา และขอ้ ความทอี่ า่ น (ท 1.1 ป. 3/2) 3. อธิบายความหมายของขอ้ มลู จากแผนภาพ แผนที่ และแผนภมู ิ (ท 1.1 ป. 3/8) 4. เขียนบนั ทึกประจาวนั (ท 2.1 ป. 3/3) 5. ใชพ้ จนานุกรมคน้ หาความหมายของคา (ท 4.1 ป. 3/3) 3. สาระการเรียนรู้ ความรู้ 1. วรรณกรรมเร่ือง อิม่ เอ๋ย อิม่ ก่อน 2. แผนภาพ แผนที่ แผนภูมิ 3. การเขยี นบนั ทกึ ประจาวนั 4. การใชพ้ จนานุกรม ทกั ษะ/กระบวนการ 1. การฟังสิ่งทีค่ รูและเพือ่ นพดู 2. การพดู ตอบคาถาม และการพูดแสดงความคิด 3. การอา่ นออกเสียงสะกดคา 359

4. การเขยี นสะกดคา 5. การคดิ วเิ คราะห์ 6. การคดั ลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทดั คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1. เห็นคณุ ค่าของการใชภ้ าษาไทยในชีวติ ประจาวนั 2. มคี วามกระตอื รือร้น สนใจใฝ่ รู้ 3. มีความรบั ผิดชอบในงานของตนและมีส่วนร่วมในการทากิจกรรม 4. มนี ิสัยรักการอา่ นและเขยี น 4. กจิ กรรมการเรียนรู้ กิจกรรมท่ี  การใช้พจนานุกรม เวลา 7 ช่ัวโมง กระบวนการเรียนภาษา ช่ัวโมงที่ 1 กิจกรรมนาสู่การเรียน 1. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งออกเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 6 – 7 คน โดยครูแจกพจนานุกรมให้นกั เรียน กล่มุ ละ 1 เล่ม จากน้นั ให้นกั เรียนทากิจกรรมนาสู่การเรียนในหนงั สือเรียน (หนา้ 201) โดยเขียนคาจากภาพท่ีกาหนด แลว้ นาคามาเรียงลาดบั คาตามพจนานุกรม พร้อมเขียน ความหมายของคา เพื่อเป็นการประเมินความรู้ของนกั เรียนก่อนเรียน 2. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบของกิจกรรม จากน้นั ครูถามนกั เรียนวา่ นกั เรียนทราบวธิ ี การใชพ้ จนานุกรมท่ถี ูกตอ้ งหรือไม่ และหากนกั เรียนไมท่ ราบวธิ ีการใช้ นกั เรียนคิดว่า ตนเอง มคี วามลาบากในการคน้ ความหมายของคา หรือใชเ้ วลานานในการคน้ ความหมายของคาหรือไม่ 3. ครูช้ีแจงใหน้ กั เรียนทราบวา่ ในชวั่ โมงเรียนน้ีนกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้เก่ียวกบั วธิ ีการใชพ้ จนานุกรม ทถ่ี กู ตอ้ งเพอื่ ความสะดวกและรวดเร็วในการคน้ ความหมายของคา กจิ กรรมพัฒนาการเรียนรู้ 1. ครูให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน (หนา้ 202) พร้อมกนั แลว้ ครูอธิบายให้นกั เรียนเขา้ ใจเกี่ยวกบั ความหมาย และวิธีการใชพ้ จนานุกรม โดยใช้หนงั สือเรียน (หนา้ 202) ประกอบการอธิบาย จากน้นั ครูให้นกั เรียนอ่านออกเสียงการใชพ้ จนานุกรมพร้อมกนั 360

2. ครูให้นกั เรียนอ่านคาพูดในกรอบสีชมพู ในหนงั สือเรียน (หนา้ 203) พร้อมกนั จากน้นั ครู อธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจเก่ียวกบั การเรียงลาดบั พยญั ชนะ และสระในการใชพ้ จนานุกรม โดยใชต้ วั อยา่ งในหนงั สือเรียน (หนา้ 203) ประกอบการอธิบาย 3. ครูให้นกั เรียนปิ ดหนงั สือเพอื่ เลน่ เกม “สระใด สระไหน มากอ่ น” โดยครูใหน้ กั เรียน แบง่ ออกเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 6 – 7 คน จากน้นั ครูแจกบตั รคาสระ 10 ใบ ตอ่ 1 กลุม่ แลว้ ให้ นกั เรียนช่วยกนั เรียงลาดบั สระใหถ้ กู ตอ้ ง เม่ือเรียงเสร็จเรียบร้อยแลว้ ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ส่งตวั แทน ออกมาเรียงบตั รคาสระตามลาดบั ลงในกระเป๋ าใส่บตั รคาทีต่ ดิ อยบู่ นกระดานให้ถกู ตอ้ ง โดยครู และนกั เรียนกลุ่มอื่นช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง โดยกลุม่ ใดเรียงไดถ้ กู ตอ้ งมากทส่ี ุดถอื เป็น ผชู้ นะ 4. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เร่ือง การเรียงลาดบั พยญั ชนะ และสระในการใชพ้ จนานุกรม ช่ัวโมงท่ี 2 5. ครูใหน้ กั เรียนเลน่ เกม “เรียงลาดบั จบั พยญั ชนะ” โดยใหน้ กั เรียนแบ่งออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 7-8 คน จากน้นั ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมาท่หี นา้ ช้นั เรียนแข่งกนั เรียงลาดบั บตั รคาพยญั ชนะท่ีอยใู่ นกระเป๋ าใส่บตั รคาท่ตี ดิ อยบู่ นกระดานของแตล่ ะกลมุ่ โดยครูเตรียมชุดบตั รคาพยญั ชนะ เรียงไวใ้ นกระเป๋ าใส่บตั รคาทีละ 5 บตั รคา ต่อนกั เรียน 1 คน หากตวั แทนนกั เรียนของแต่ละกลุ่มเรียงเสร็จแลว้ ให้รีบยกมอื ข้ึน 6. ครูใหน้ กั เรียนกลุม่ อน่ื ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง กลุ่มใดเรียงไดร้ วดเร็วและถกู ตอ้ ง มากที่สุดถอื เป็นผชู้ นะ ช่ัวโมงท่ี 3 7. ครูให้นกั เรียนอ่านออกเสียงขอ้ ควรปฏิบตั ใิ นการใชพ้ จนานุกรม ในหนงั สือเรียน (หนา้ 204) พร้อมกนั จากน้นั ครูอธิบายขอ้ ควรปฏบิ ตั ิในการใชพ้ จนานุกรมใหน้ กั เรียนเขา้ ใจมากข้ึน 8. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 1 ขอ้ 1-2 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 205) โดยเขยี นคา จากภาพท่ีกาหนดแลว้ เรียงลาดบั ตามพจนานุกรมให้ถูกตอ้ ง และเขียนความหมายของคา ทก่ี าหนดให้ จากน้นั เขยี นหมายเลข 1-5 ลงในช่องวา่ ง เพอื่ เรียงลาดบั คาตามพจนานุกรม 9. ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบของกิจกรรม ช่ัวโมงท่ี 4 10. ครูใหน้ กั เรียนทาใบงานท่ี 57 มาเรียงลาดบั คากนั เถอะ โดยให้นกั เรียนเรียงลาดบั คา ตามพจนานุกรมให้ถกู ตอ้ ง 361

11. ครูให้นกั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียกนกั เรียนใหเ้ ฉลยคาตอบในใบงาน หากผิดให้เพ่อื น ในหอ้ งช่วยกนั แกไ้ ข ชั่วโมงท่ี 5 12. ครูทบทวนความรู้เดิมของนกั เรียนเก่ียวกบั การใชพ้ จนานุกรม 13. ครูให้นกั เรียนเล่นเกม “ว่องไว ใชพ้ จนานุกรม” โดยใหน้ กั เรียนแบง่ ออกเป็นกลมุ่ กล่มุ ละ 4 – 5 คน ครูแจกพจนานุกรมให้นกั เรียนกลมุ่ ละ 1 เลม่ จากน้นั ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่ม เปิ ดคน้ ความหมายของคาท่ีครูกาหนด กลุม่ ใดเปิ ดหาเจอกอ่ นใหร้ ีบยกมอื ข้ึน กลมุ่ ทคี่ น้ ความหมายไดร้ วดเร็วและถกู ตอ้ งมากทสี่ ุดถอื เป็นผชู้ นะ กจิ กรรมรวบยอด ช่ัวโมงท่ี 6 1. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการคดิ ขอ้ 1 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 215) โดยเขียนลาดบั คา ทก่ี าหนดตามพจนานุกรม พร้อมหาความหมายของคา จากน้นั ครูและนกั เรียนช่วยกนั เฉลย คาตอบของกิจกรรม 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเร่ือง การใชพ้ จนานุกรม ชั่วโมงที่ 7 3. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมบรู ณาการสร้างสรรค์ ในหนงั สือเรียน (หนา้ 216) โดยทาบตั รคาศพั ท์ ต่างๆ ที่เก่ียวกบั กลุ่มสาระตา่ งๆ และเขยี นความหมายของคา จากน้นั นาคาศพั ทม์ ารวมกนั แลว้ เรียงลาดบั ตามพจนานุกรม และนามาจดั ป้ายนิเทศแสดงผลงานของนกั เรียน กจิ กรรมท่ี  วรรณกรรมเร่ือง อิ่มเอ๋ย อม่ิ ก่อน เวลา 2 ช่ัวโมง กระบวนการปฏิบัติ ชั่วโมงที่ 1 กจิ กรรมนาสู่การเรียน 1. ครูให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน (หนา้ 206) แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงวรรณกรรมเร่ือง อม่ิ เอ๋ย อม่ิ กอ่ น พร้อมกนั จากน้นั ใหน้ กั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียกนกั เรียนออกมาแสดง บทบาทสมมตเิ ป็นคุณยาย และมีนาตามบทในเรื่อง 362

2. ครูถามนกั เรียนวา่ ใครเคยมพี ฤตกิ รรมแบบมนี าบา้ ง และคดิ ว่าพฤตกิ รรมดงั กลา่ วเป็นการกระทา ท่ดี ีและเหมาะสมหรือไม่ เพราะเหตใุ ด โดยให้นกั เรียนช่วยกนั แสดงความคดิ เห็น กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ 1. ครูใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงวรรณกรรมเร่ือง อม่ิ เอ๋ย อม่ิ กอ่ น ในหนงั สือเรียน (หนา้ 206 – 207) พร้อมกนั อกี คร้งั 2. ครูใหน้ กั เรียนแบง่ ออกเป็นกลุม่ กลุ่มละ 4 -5 คน เพอ่ื ทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 2 ขอ้ 1 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 207) โดยให้นกั เรียนช่วยกนั หาความหมายของคาทพี่ มิ พต์ วั สีฟ้า จากพจนานุกรม และเรียงลาดบั คาตามพจนานุกรมให้ถูกตอ้ ง 3. ครูใหน้ กั เรียนฝึกอ่านบทกลอน ในหนงั สือเรียน (หนา้ 207) จนอ่านไดค้ ล่อง ชั่วโมงที่ 2 กิจกรรมรวบยอด 1. ครูให้นกั เรียนช่วยกนั เล่าเรื่อง อ่ิมเอ๋ย อิ่มก่อน เพอื่ เป็นการทบทวนความรู้ 2. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 2 ขอ้ 2 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 207) โดยตอบคาถาม ในกิจกรรม 3. ครูสุ่มนกั เรียนให้แสดงความคดิ เห็นในกิจกรรม 4. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปวรรณกรรมเร่ือง อมิ่ เอ๋ย อมิ่ กอ่ น 5. ครูให้นกั เรียนคดั ลายมอื บทกลอนในหนงั สือเรียน (หนา้ 207) ดว้ ยตวั บรรจงเตม็ บรรทดั ลงในสมดุ เป็นการบา้ น กจิ กรรมท่ี  แผนภาพบอกความคดิ เวลา 4 ชั่วโมง กระบวนการปฏิบตั ิ ชั่วโมงท่ี 1 กิจกรรมนาสู่การเรยี น 1. ครูใหน้ กั เรียนดตู วั อยา่ งการเขียนแผนภาพ เรื่อง ประเภทของสัตวเ์ ล้ียง ในหนงั สือเรียน (หนา้ 209) แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั อธิบายว่า แผนภาพบอกอะไรกบั นกั เรียนบา้ ง 363

2. ครูอธิบายให้นกั เรียนเขา้ ใจวา่ แผนภาพเป็นการนาเสนอขอ้ มูลแบบหน่ึง ที่ไมไ่ ดน้ าเสนอขอ้ มลู เป็นตวั หนงั สือ แต่นาเสนอเป็นภาพ หรือสญั ลกั ษณเ์ พอ่ื ทาใหเ้ ขา้ ใจภาพรวมไดด้ ีย่งิ ข้ึน กจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้ 1. ครูให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน (หนา้ 208) หัวขอ้ แผนภาพ แลว้ ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจ เก่ียวกบั แผนภาพมากข้ึน โดยใชต้ วั อยา่ งการเขียนแผนภาพ เรื่อง ประเภทของสตั วเ์ ล้ยี ง ในหนงั สือเรียน (หนา้ 209) ประกอบการอธิบาย 2. ครูให้นกั เรียนฝึกเขียนแผนภาพในใบงานที่ 58 แผนภาพบอกความคิด ชุดที่ 1 โดยเตมิ แผนภาพ ให้สมบูรณ์ ช่ัวโมงที่ 2 3. ครูให้นกั เรียนแบง่ ออกเป็นกลมุ่ กล่มุ ละ 4 – 5 คน เพ่ือทาใบงานท่ี 59 แผนภาพบอกความคิด ชุดท่ี 2 โดยใหน้ กั เรียนช่วยกนั คิดแผนภาพตามหัวขอ้ ท่ีนกั เรียนสนใจ แลว้ ออกมานาเสนอ ท่หี นา้ ช้นั เรียน 4. ครูใหน้ กั เรียนออกมานาเสนอผลงานทห่ี นา้ ช้นั เรียนทลี ะกลมุ่ และใหเ้ พ่ือนนกั เรียนกลมุ่ อน่ื พดู แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั การนาเสนอของเพ่อื นดว้ ย ชั่วโมงท่ี 3 5. ครูทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกบั การเขยี นแผนภาพ จากน้นั ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการ เรียนรู้ที่ 3 ขอ้ 1 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 212) โดยเขียนแผนภาพเกี่ยวกบั เรื่อง เส้ือผา้ ลงในสมุด 6. ครูให้นกั เรียนออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน โดยครูและเพอื่ นนกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง ชั่วโมงที่ 4 กจิ กรรมรวบยอด 1. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการคิด ขอ้ 2 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 216) โดยให้นกั เรียนเขยี น แผนภาพเกี่ยวกบั เร่ือง อาหารหลกั 5 หมู่ 2. ครูให้นกั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียกนกั เรียนออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน โดยครูและเพื่อนนกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง 364

กจิ กรรมท่ี  แผนท่ีบอกเส้นทาง เวลา 4 ช่ัวโมง กระบวนการปฏิบตั ิ ชั่วโมงท่ี 1 กจิ กรรมนาสู่การเรยี น 1. ครูให้นกั เรียนเลม่ เกม “จงั หวดั น้ีอยแู่ ห่งใด” โดยให้นกั เรียนแบง่ ออกเป็นกลุม่ กลุ่มละ 4-5 คน แตล่ ะกลมุ่ จะไดร้ ับแผนทป่ี ระเทศไทยขนาดเลก็ กลุ่มละ 1 แผน่ จากน้นั ใหช้ ่วยกนั คน้ หา ตาแหน่งของจงั หวดั ทีค่ รูกาหนด ถา้ หาเจอแลว้ ให้ส่งตวั แทนออกมาช้ีตาแหน่งของจงั หวดั บนแผนที่ประเทศไทยขนาดใหญท่ ่ตี ิดอยบู่ นกระดานหนา้ ช้นั เรียน กลมุ่ ใดตอบไดร้ วดเร็ว และถูกตอ้ งมากทีส่ ุดถอื เป็นผชู้ นะ 2. ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจวา่ แผนท่ีประเทศไทย และแผนที่ตา่ งๆ ทน่ี กั เรียนเคยเห็นน้นั เป็นแบบท่เี ขยี นยอ่ จากพ้ืนทจี่ ริง โดยใชส้ ัญลกั ษณต์ า่ งๆ แทน ซ่ึงนกั เรียนควรเรียนรู้และทา ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั แผนที่เพ่อื เป็นประโยชน์ตอ่ ตวั นกั เรียนเอง ชั่วโมงที่ 2 กจิ กรรมพัฒนาการเรียนรู้ 1. ครูให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน (หนา้ 210) หัวขอ้ ยอ่ ย แผนท่ี แลว้ ครูอธิบายให้นกั เรียนเขา้ ใจ เก่ียวกบั แผนที่ โดยใชห้ นงั สือเรียน (หนา้ 210) ประกอบการอธิบาย 2. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมการเรียนรู้ที่ 3 ขอ้ 2 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 212) โดยให้นกั เรียนเขยี น บอกความหมายของสญั ลกั ษณ์ในแผนทท่ี ี่กาหนดให้ จากน้นั ครูและนกั เรียนช่วยกนั เฉลย คาตอบของกิจกรรม ชั่วโมงท่ี 3 3. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรม “แผนทีบ่ อกเสน้ ทาง” โดยให้นกั เรียนแบ่งออกเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 4-5 คน แตล่ ะกลมุ่ จะไดร้ ับแผนท่แี ตกต่างกนั จากน้นั ใหน้ กั เรียนแต่ละกล่มุ ช่วยกนั ดูสญั ลกั ษณ์ แลว้ บอก ความหมายของสัญลกั ษณ์ในแผนท่ี และวาดภาพสญั ลกั ษณป์ ระกอบลงในสมุด พร้อมกบั ยกตวั อยา่ งสถานทที่ ีใ่ ชส้ ัญลกั ษณ์ทใี่ ชใ้ นแผนทีด่ ว้ ย 4. ครูให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน โดยครูและเพ่ือนนกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 365

กิจกรรมรวบยอด 1. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการคดิ ขอ้ 3 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 216) โดยให้นกั เรียน หาแผนทจ่ี ากสื่อตา่ งๆ มาติดลงในสมุด และเขียนอธิบายสญั ลกั ษณ์ในแผนท่นี ้นั ๆ เพื่อนาเสนอ ในชว่ั โมงเรียนตอ่ ไป ช่ัวโมงท่ี 4 2. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละคนออกมานาเสนอแผนที่ทต่ี นเองไดไ้ ปหามาจากส่ือตา่ งๆ พร้อมท้งั อธิบาย สัญลกั ษณ์ให้เพื่อนฟังอยา่ งละเอยี ด โดยครูและเพ่อื นนกั เรียน ช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเร่ือง แผนที่ กจิ กรรมท่ี  แผนภมู บิ อกข้อมลู เวลา 4 ชั่วโมง กระบวนการปฏบิ ัติ ชั่วโมงที่ 1 กจิ กรรมนาสู่การเรยี น 1. ครูให้นกั เรียนดขู อ้ มลู จานวนนกั เรียนในระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 3 ของโรงเรียนแห่งหน่ึง บนกระดาน หอ้ ง ป. 3/1 มจี านวนนกั เรียน 30 คน ห้อง ป. 3/2 มจี านวนนกั เรียน 35 คน หอ้ ง ป. 3/3 มจี านวนนกั เรียน 30 คน ห้อง ป. 3/4 มจี านวนนกั เรียน 40 คน ห้อง ป. 3/5 มจี านวนนกั เรียน 35 คน 2. ครูให้นกั เรียนช่วยกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั วธิ ีทีจ่ ะนาเสนอขอ้ มลู ไดเ้ ขา้ ใจง่าย และเห็นภาพรวมมากที่สุด 3. ครูอธิบายให้นกั เรียนเขา้ ใจวา่ วิธีการนาเสนอขอ้ มลู ไดเ้ ขา้ ใจงา่ ย และเห็นภาพรวมมากท่สี ุด คือ การทาเป็ นแผนภูมิรูปภาพ 366

กจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้ 1. ครูให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน (หนา้ 210) หัวขอ้ ยอ่ ย แผนภูมิ แลว้ ครูอธิบายให้นกั เรียนเขา้ ใจ เกี่ยวกบั ความหมาย และวธิ ีการอา่ นแผนภมู ิ โดยใชต้ วั อยา่ งในหนงั สือเรียน (หนา้ 210) ประกอบการอธิบาย 2. ครูใหน้ กั เรียนฝึกอา่ นแผนภมู ใิ นตวั อยา่ ง แผนภมู ริ ูปภาพแสดงจานวนนกั เรียนท่วี ่ายน้าเป็น ของโรงเรียนแห่งหน่ึง ในหนงั สือเรียน (หนา้ 211) เมอื่ ฝึกดแู ผนภูมิแลว้ ครูให้นกั เรียนปิ ดขอ้ มลู ทเ่ี ป็นตวั หนงั สือดา้ นลา่ ง จากน้นั ครูต้งั คาถามใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบเพ่อื ตรวจสอบความเขา้ ใจ ของนกั เรียน เช่น - นกั เรียนในช้นั ใดว่ายน้าเป็นมากท่สี ุด - นกั เรียนในช้นั ใดวา่ ยน้าเป็นนอ้ ยที่สุด - นกั เรียนในช้นั ป.1 มีคนว่ายน้าเป็นนอ้ ยกวา่ นกั เรียนช้นั ป. 6 เทา่ ใด 3. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 3 ขอ้ 3 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 213) โดยให้นกั เรียน อ่านแผนภมู ิที่กาหนดแลว้ ตอบคาถาม 4. ครูและนกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบของกิจกรรม ชั่วโมงที่ 2 5. ครูใหน้ กั เรียนทาใบงานที่ 60 แผนภมู ิบอกขอ้ มูล ชุดที่ 1 โดยใหน้ กั เรียนทาแผนภมู ริ ูปภาพ จากขอ้ มลู ท่ีกาหนดให้ 6. ครูใหน้ กั เรียนแลกกนั ตรวจใบงานกบั เพ่อื น โดยนกั เรียนจะตอ้ งตรวจสอบความถูกตอ้ ง ของขอ้ มลู ถา้ ผิดตอ้ งแกไ้ ขให้เพ่อื นใหถ้ กู ตอ้ งดว้ ย ชั่วโมงท่ี 3 7. ครูใหน้ กั เรียนทาใบงานท่ี 61 แผนภมู ิบอกขอ้ มูล ชุดท่ี 2 โดยให้นกั เรียนแบง่ ออกเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 6 – 7 คน เพ่อื สารวจขอ้ มูลของเพอื่ นในห้องเกี่ยวกบั เร่ืองทสี่ มาชิกในกลมุ่ สนใจสารวจ จากน้นั นาขอ้ มลู มาเขยี นเป็นแผนภมู ิรูปภาพระบายสีใหส้ วยงาม พร้อมกบั อธิบายขอ้ มูล ประกอบ 8. ครูให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงานของตนเองท่ีหนา้ ช้นั เรียน โดยครูและเพอ่ื น นกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 367

ช่ัวโมงท่ี 4 กิจกรรมรวบยอด 1. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการคดิ ขอ้ 4 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 216) โดยสารวจขอ้ มลู รายวชิ าที่เพอื่ นในหอ้ งชอบเรียน แลว้ นาขอ้ มูลมาเขยี นเป็นแผนภูมริ ูปภาพลงในสมุด พร้อมกบั อธิบายขอ้ มูลประกอบ 2. ครูใหน้ กั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียกนกั เรียนให้ออกมานาเสนอผลงานแผนภูมิรูปภาพของตน โดยครูและเพ่ือนนกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุป ความรู้เรื่อง แผนภมู ิ กิจกรรมท่ี  เขยี นบันทึก ฝึ กเป็ นนสิ ัย เวลา 3 ช่ัวโมง กระบวนการปฏบิ ัติ ชั่วโมงท่ี 1 กจิ กรรมนาสู่การเรยี น 1. ครูถามนกั เรียนว่า เคยเขยี นบนั ทึกเหตุการณ์ประจาวนั หรือไม่ และนกั เรียนคดิ วา่ การเขียน บนั ทึกเหตุการณ์ประจาวนั เป็นการเขยี นเก่ียวกบั อะไร 2. ครูช้ีให้นกั เรียนเห็นถงึ ความสาคญั ของการเขยี นบนั ทึกเหตกุ ารณ์ประจาวนั ว่า การเขียนบนั ทึก เหตุการณ์ประจาวนั เป็นการบนั ทกึ เร่ืองราว และเหตุการณต์ ่างๆ ที่เกิดข้นึ กบั เรา ทาใหก้ ารเขยี น บนั ทึกสามารถเป็นเคร่ืองเตอื นความทรงจาของเราได้ กจิ กรรมพัฒนาการเรียนรู้ 1. ครูให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน (หนา้ 214) หัวขอ้ การเขยี นบนั ทึกเหตุการณ์ประจาวนั แลว้ ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจความหมาย และหลกั ปฏิบตั ใิ นการเขียนบนั ทกึ เหตกุ ารณ์ ประจาวนั มากข้ึน โดยใชต้ วั อยา่ ง การเขยี นบนั ทึกเหตุการณ์ประจาวนั ในหนงั สือเรียน (หนา้ 214) ประกอบการอธิบาย 2. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 4 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 214) โดยเขียนบนั ทกึ เหตกุ ารณ์ประจาวนั เป็นเวลา 1 วนั ลงในสมุด 3. ครูใหน้ กั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มใหน้ กั เรียนออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน โดยครูและเพอื่ นช่วยกนั แสดงความคดิ เห็น 368

ช่ัวโมงท่ี 2 4. ครูให้นกั เรียนสมมติสถานการณ์ หรือนึกถงึ เหตุการณท์ เ่ี คยออกไปเดินทางทอ่ งเทย่ี ว กบั ครอบครวั แลว้ เขยี นเป็นบนั ทึกเหตกุ ารณ์ประจาวนั โดยระบุสถานที่ วนั เวลา และเหตุการณ์ ทเ่ี กิดลงในสมุด 5. ครูให้นกั เรียนออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน โดยครูและเพือ่ นนกั เรียนร่วมกนั แสดง ความคิดเห็นและให้ขอ้ เสนอแนะ ชั่วโมงที่ 3 กจิ กรรมรวบยอด 1. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการคดิ ขอ้ 5 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 216) โดยเขียนบนั ทกึ เหตกุ ารณ์ประจาวนั ของตนเอง 5 วนั ลงในสมดุ 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เรื่อง การเขียนบนั ทึกเหตุการณป์ ระจาวนั 3. ครูให้นกั เรียนทาแบบทดสอบที่ 10 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 217) เพอื่ ทบทวนความรู้ที่เรียนมา 5. ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1. ส่ือการเรียนรู้ (ตวั อยา่ ง : สื่อฯ มมฐ. หลกั สูตรแกนกลางฯ ภาษาไทย ป. 3) 2. เกม สระใด สระไหน มากอ่ น 3. เกม เรียงลาดบั จบั พยญั ชนะ 4. เกม วอ่ งไว ใชพ้ จนานุกรม 5. เกม จงั หวดั น้ีอยแู่ ห่งใด 6. กิจกรรม แผนท่บี อกเสน้ ทาง 7. ขอ้ มลู จานวนนกั เรียนในระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 3 ของโรงเรียนแห่งหน่ึง 8. ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้ เช่น ห้องสมดุ อนิ เทอร์เน็ต 6. การวัดและประเมินผล 6.1 หลักฐานการเรยี นรู้ (ชิ้นงานสุดท้ายทีแ่ สดงพฤตกิ รรมการเรียนรู้รวบยอด) 1. กิจกรรมพฒั นาการคดิ ขอ้ 1-5 2. ใบงานท่ี 57 เรื่อง มาเรียงลาดบั คากนั เถอะ 3. ใบงานท่ี 58 เร่ือง แผนภาพบอกความคดิ ชุดที่ 1 4. ใบงานท่ี 59 เรื่อง แผนภาพบอกความคิด ชุดที่ 2 369

5. ใบงานที่ 60 เร่ือง แผนภมู ิบอกขอ้ มลู ชุดที่ 1 6. ใบงานที่ 61 เรื่อง แผนภูมิบอกขอ้ มูล ชุดท่ี 2 7. ผลงานบตั รคาตามลาดบั พจนานุกรม 6.2 วิธกี ารวดั และประเมินผล 1. ตรวจกิจกรรมพฒั นาการคิด ขอ้ 1-5 2. ตรวจการทาใบงานท่ี 57 เรื่อง มาเรียงลาดบั คากนั เถอะ 3. ตรวจการทาใบงานที่ 58 เรื่อง แผนภาพบอกความคดิ ชุดที่ 1 4. ตรวจการทาใบงานที่ 59 เร่ือง แผนภาพบอกความคิด ชุดที่ 2 5. ตรวจการทาใบงานท่ี 60 เร่ือง แผนภูมบิ อกขอ้ มลู ชุดท่ี 1 6. ตรวจการทาใบงานที่ 61 เร่ือง แผนภูมิบอกขอ้ มลู ชุดท่ี 2 7. ประเมินผลงานบตั รคาตามลาดบั พจนานุกรม 8. สังเกตทกั ษะการอา่ นออกเสียง การพูด และการเขียน 9. สงั เกตพฤตกิ รรมในขณะปฏิบตั กิ ิจกรรม 6.3 เครื่องมือวดั และประเมนิ ผล และเกณฑ์ 1. กิจกรรมพฒั นาการคิด ขอ้ 1-5 2. ใบงานท่ี 57 เรื่อง มาเรียงลาดบั คากนั เถอะ 3. ใบงานที่ 58 เรื่อง แผนภาพบอกความคดิ ชุดท่ี 1 (ร้อยละ 70 ผ่านเกณฑ์) 4. ใบงานท่ี 59 เรื่อง แผนภาพบอกความคิด ชุดที่ 2 5. ใบงานท่ี 60 เร่ือง แผนภูมิบอกขอ้ มลู ชุดท่ี 1 6. ใบงานท่ี 61 เร่ือง แผนภูมิบอกขอ้ มูล ชุดท่ี 2 8. แบบประเมินทกั ษะการอา่ นออกเสียง 9. แบบประเมินทกั ษะการเขียน 10. แบบประเมินทกั ษะการพูด (ดูเกณฑ์ในแบบประเมิน) 11. แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ 12. แบบประเมนิ ผลงาน 13. แบบประเมนิ สมรรถนะผเู้ รียน 5 ดา้ น 14. แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 8 ดา้ น 7. กิจกรรมเสนอแนะ -............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... 370

8. บันทึกผลการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผเู้ รียนท่ี ผ่าน ตวั ช้ีวดั มจี านวน ........................................................ คน คิดเป็นร้อยละ............................................... 1.2 ผเู้ รียนที่ ไม่ผ่าน ตวั ช้ีวดั มีจานวน ........................................................ คน คดิ เป็นร้อยละ............................................... 1) ................................................................สาเหตุ (ถา้ ทราบ) ................................................... 2) ................................................................สาเหตุ ....................................................................... แนวทางแกป้ ัญหา .......................................................................................................................... ................................................................................................... ......................................................... ..................................................................................................................................................... ....... 1.3 ผเู้ รียนทีม่ ีความสามารถพเิ ศษ ไดแ้ ก่ 1) ........................................................................ 2) .................................................................... แนวทางการพฒั นา / ส่งเสริม ...................................................................................................... ก ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ .................................................................................................................. .......................................... 1.4 ผเู้ รียนไดร้ ับความรู้ (K)………..................................................................................................... 1.5 ผเู้ รียนเกิดทกั ษะกระบวนการ (P)…………................................................................................ 1.6 ผเู้ รียนมีคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม (A)…................................................................................ 2. ปัญหาอปุ สรรค (ถ้าม)ี .......................................................................................................................... ....................................................................................................................... ............................................ ................................................................................................................................................................... 3. ข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) .............................................................................................................................. .......................................................................................................................................... ......................... ลงช่ือ.......................................................... (.........................................................) 371

ใบงานที่ 57 มาเรียงลาดบั คากันเถอะ ชื่อ – นามสกุล .......................................................................... ช้ัน ป. 3 / ............ เลขท่ี ............ คาส่ัง เรียงลาดับคาตามพจนานุกรมให้ถกู ต้อง 1. โกงกาง ระนอง ขโมย โทรศพั ท์ ____________ ___._.._.._.._.._._.._.._.._.._...._.._.._._.._.._.._.._._.._.._.._.__ _____________ 2. ผชู้ าย หนงั สือ เรือใบ ปากกา ____________ _____________ ______________ _____________ 3. ดินสอ กระดาษ รถยนต์ ตะกร้า ____________ _____________ ______________ _____________ ๊4. ขมิ ขบั เขยี่ เขา ____________ _____________ ______________ _____________ 5. หมอน หมดั หมาย เหมาะ ____________ _____________ ______________ _____________ 372

ชื่อ – น6า. มสกกบั ลุ ...................ก...ร..ะ...ท...ะ..................ก...ะ..ท....ิ ................. ชก้ันินป.3 / ............ เลขท่ี ............ _ค__า_ส_่ัง_______ ห_า_ข__้อ_ค_ิด__จ_า_ก_เ_ร_่ือง_ท_่ีก__า_ห_น__ด_ใ_ห_้___ _____________ 7. ไทย ทะลุ ทน ที่ ____________ _____________ ______________ _____________ 8. เมา มะเขอื มา มนั ____________ _____________ ______________ _____________ 9. หีบ โหน หา หนั ____________ _____________ ______________ _____________ 10. กางเกง กระตา่ ย เกเร เกลือ ____________ _____________ ______________ _____________ การประเมินผลงาน : ระบายสีในสัญลกั ษณร์ ูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง   เพ่อื น ☺ คณุ ครู ☺ 373

ใบงานท่ี 58 แผนภาพบอกความคิด ชุดท่ี 1 ช่ือ – นามสกุล .......................................................................... ช้ัน ป. 3 / ............ เลขท่ี ............ คาส่ัง เตมิ แผนภาพให้สมบรู ณ์ ปลาฉลาม r ........................................... ปลา ปลาน้าจืด ปลานิล การประเมินผลงาน : ระบายสีในสญั ลกั ษณ์รูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง ดี พอใช้ ควรปรับปรุง   เพือ่ น ☺ คุณครู ☺ 374

ใบงานท่ี 59 แผนภาพบอกความคิด ชุดที่ 2 ช่ือ – นามสกลุ .......................................................................... ช้ัน ป. 3 / ............ เลขท่ี ............ คาสั่ง เขียนแผนภาพเกยี่ วกับเรื่องทส่ี นใจ 1 เร่ือง การประเมนิ ผลงาน : ระบายสีในสัญลกั ษณ์รูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ดี พอใช้ ควรปรับปรุง   เพื่อน ☺ คณุ ครู ☺ 375

ใบงานท่ี 60 แผนภมู บิ อกข้อมลู ชุดท่ี 1 ช่ือ – นามสกลุ ..........................ใ..บ...ง..า..น...ท...ี่.4...บ...ัน....บ...ร...ร...ส...ร..ร...ค..า..ช. ุชด้ทัน่ี 1ป. 3 / ............ เลขท่ี ............ คาสั่ง เขยี นแผนภูมิรูปภาพจากข้อมูลทีก่ าหนด ในสวนผลไมแ้ ห่งหน่ึง มผี ลไมท้ ่ีปลูกไว้ ดงั น้ี มงั คุด มีจานวน 15 ตน้ ทเุ รียน มจี านวน 40 ตน้ เงาะ มจี านวน 20 ตน้ ฝร่ัง มจี านวน 25 ตน้ ลน้ิ จี่ มจี านวน 35 ตน้ ลาไย มีจานวน 50 ตน้ 376

เขียนสรุปคเวขายี มนรแู้ทผน่ไี ดภ้จมู าิรกูปฐภาานพการเรียนรู้ การประเมินผลงาน : ระบายสีในสญั ลกั ษณ์รูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง   เพอ่ื น ☺ คุณครู ☺ 377

ใบงานท่ี 61 แผนภมู บิ อกข้อมลู ชุดท่ี 2 ชื่อ – นามสกุล .......................................................................... ช้ัน ป. 3 / ............ เลขท่ี ............ คาสั่ง เขยี นแผนภมู ริ ูปภาพจากข้อมลู ทสี่ ารวจของเพื่อนในห้อง การประเมินผลงาน : ระบายสีในสญั ลกั ษณ์รูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง   เพ่ือน ☺ คณุ ครู ☺ 378

เกณฑ์ประเมนิ ชิ้นงาน = 5 คะแนน = 4 คะแนน กจิ กรรมพฒั นาการคิด ข้อ 1 ( 10 คะแนน ) = 3 คะแนน = 2 คะแนน 1. การเรียงลาดับคาตามพจนานุกรม ( 5 คะแนน) = 1 คะแนน - เรียงลาดบั คาถูกตอ้ งตามพจนานุกรม 9 – 10 คา = ไม่มีคะแนน - เรียงลาดบั คาถกู ตอ้ งตามพจนานุกรม 7 – 8 คา - เรียงลาดบั คาถูกตอ้ งตามพจนานุกรม 5 – 6 คา = 5 คะแนน - เรียงลาดบั คาถกู ตอ้ งตามพจนานุกรม 3 – 4 คา = 4 คะแนน - เรียงลาดบั คาถูกตอ้ งตามพจนานุกรม 1 – 2 คา = 3 คะแนน - เรียงลาดบั คาไมถ่ ูกตอ้ งตามพจนานุกรมทกุ คา = 2 คะแนน = 1 คะแนน 2. การหาความหมายของคาจากพจนานุกรม ( 5 คะแนน) = ไม่มีคะแนน - หาความหมายไดถ้ ูกตอ้ ง 9 – 10 คา - หาความหมายไดถ้ ูกตอ้ ง 7 – 8 คา - หาความหมายไดถ้ ูกตอ้ ง 5 – 6 คา - หาความหมายไดถ้ ูกตอ้ ง 3 – 4 คา - หาความหมายไดถ้ ูกตอ้ ง 1 – 2 คา - หาความหมายผดิ ทุกคา 379

เกณฑ์ประเมนิ ชิ้นงาน = 5 คะแนน = 4 คะแนน กิจกรรมพัฒนาการคดิ ข้อ 2 ( 5 คะแนน ) = 3 คะแนน = 2 คะแนน การเขยี นแผนภาพเกย่ี วกบั เร่ืองทีก่ าหนด ( 5 คะแนน ) = 1 คะแนน - เขยี นแผนภาพไดช้ ดั เจนและตรงประเด็นมากท่สี ุด = ไม่มีคะแนน - เขยี นแผนภาพไดช้ ดั เจนและตรงประเดน็ มาก - เขยี นแผนภาพไดช้ ดั เจนและตรงประเด็นปานกลาง - เขียนแผนภาพไดช้ ดั เจนและตรงประเด็นนอ้ ย - เขียนแผนภาพไดช้ ดั เจนและตรงประเด็นนอ้ ยมาก - เขยี นแผนภาพไมช่ ดั เจนและไม่ตรงประเด็นเลย กิจกรรมพัฒนาการคดิ ข้อ 3 ( 5 คะแนน ) = 5 คะแนน = 4 คะแนน การเขียนอธิบายสัญลกั ษณ์ ( 5 คะแนน ) = 3 คะแนน - เขียนอธิบายสญั ลกั ษณ์ถกู ตอ้ งท้งั หมด = 2 คะแนน - เขียนอธิบายสญั ลกั ษณผ์ ดิ 1 สัญลกั ษณ์ = 1 คะแนน - เขียนอธิบายสญั ลกั ษณผ์ ดิ 2 สญั ลกั ษณ์ = ไม่มคี ะแนน - เขียนอธิบายสัญลกั ษณ์ผดิ 3 สญั ลกั ษณ์ - เขยี นอธิบายสัญลกั ษณ์ผดิ 4 สญั ลกั ษณ์ - เขียนอธิบายสัญลกั ษณผ์ ดิ มากกว่า 5 สญั ลกั ษณ์ 380

เกณฑ์ประเมินชิน้ งาน = 5 คะแนน = 4 คะแนน กจิ กรรมพฒั นาการคดิ ข้อ 4 ( 10 คะแนน ) = 3 คะแนน = 2 คะแนน 1. การเขยี นแผนภูมิรูปภาพจากข้อมูล ( 5 คะแนน ) = 1 คะแนน - เขยี นแผนภมู ริ ูปภาพถูกตอ้ งตามขอ้ มลู = ไม่มีคะแนน - เขียนแผนภูมริ ูปภาพผิด 1 ขอ้ มลู - เขยี นแผนภูมิรูปภาพผดิ 2 ขอ้ มลู = 5 คะแนน - เขียนแผนภมู ิรูปภาพผดิ 3 ขอ้ มูล = 4 คะแนน - เขียนแผนภูมิรูปภาพผิด 4 ขอ้ มูล = 3 คะแนน - เขียนแผนภมู ิรูปภาพผิดมากกว่า 5 ขอ้ มูล = 2 คะแนน = 1 คะแนน 2. การเขยี นอธิบายข้อมูล ( 5 คะแนน ) = ไมม่ ีคะแนน - เขียนอธิบายขอ้ มลู ไดถ้ กู ตอ้ งทกุ ขอ้ มูล - เขยี นอธิบายขอ้ มูลผดิ 1 ขอ้ มูล - เขียนอธิบายขอ้ มูลผดิ 2 ขอ้ มูล - เขยี นอธิบายขอ้ มลู ผดิ 3 ขอ้ มลู - เขยี นอธิบายขอ้ มูลผิด 4 ขอ้ มูล - เขยี นอธิบายขอ้ มูลผดิ มากกวา่ 5 ขอ้ มลู 381

เกณฑ์ประเมินชิน้ งาน = 5 คะแนน = 4 คะแนน กิจกรรมพฒั นาการคดิ ข้อ 5 ( 5 คะแนน ) = 3 คะแนน = 2 คะแนน การเขยี นบนั ทกึ เหตุการณ์ประจาวัน ( 5 คะแนน ) = 1 คะแนน - เขยี นคาในบนั ทกึ ถูกตอ้ งทกุ คา = ไมม่ ีคะแนน - เขยี นคาในบนั ทกึ ผิด 1 คา - เขียนคาในบนั ทกึ ผดิ 2 คา - เขยี นคาในบนั ทึกผิด 3 คา - เขียนคาในบนั ทึกผดิ 4 คา - เขียนคาในบนั ทกึ ผิดมากกว่า 5 คา 382

ประแเบมบินประเมิน ทักษะการอ่านออกเสียง ช้นั ป. 3 /…………………....หน่วยท่ี ...................................................................……………………………….…….………….......................... กิจกรรม ………..……….…………………………………………………………………………………………………………...………………….... คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สงั เกตการใชท้ กั ษะการอา่ นออกเสียงของผเู้ รียนในขณะปฏบิ ตั ิกิจกรรม โดยเขียนระดบั คะแนนลงในตารางทตี่ รงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑ์การให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1= ควรปรบั ปรุง รายการประเมิน สรุปผล การประเมนิ รวม เลขที่ ช่ือ – นามสกลุ อ่านออกเสียง อ่านออกเสียง คะแนน ผ่าน ไม่ วรรณกรรม สะกดคา ✓ ผ่าน ท่ีกาหนด  และข้อความ ลงชื่อ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนได้ 4 คะแนนข้นึ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ประเมิน 383

แบบประเมิน ทักษะการเขยี น ช้นั ป. 3 /…………………....หน่วยที่ ...................................................................……………………………….…….………….......................... กิจกรรม ………..……….…………………………………………………………………………………………………………...………………….... คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตการใชท้ กั ษะการเขียนของผเู้ รียนในขณะปฏบิ ตั กิ ิจกรรม โดยเขยี นระดบั คะแนน ลงในตารางที่ตรงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑ์การให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1= ควรปรับปรุง รายการประเมิน สรุปผล การประเมิน รวม เลขที่ ช่ือ – นามสกุล เขยี น เขียนด้วย ความ คะแนน ผ่าน ไม่ สะกดคา ลายมือท่ี สะอาด ✓ ผ่าน ถกู ต้อง สวยงาม เรียบร้อย  ลงชื่อ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนได้ 6 คะแนนข้ึนไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ประเมิน 384

แบบปปรระะเมเมนิ นิ ทกั ษะการพูด ช้นั ป. 3 /…………………....หน่วยที่ ...................................................................……………………………….…….………….......................... กิจกรรม ………..……….…………………………………………………………………………………………………………...………………….... คาชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตการใชท้ กั ษะการพดู ของผเู้ รียนในขณะปฏิบตั กิ ิจกรรม โดยเขยี นระดบั คะแนน ลงในตารางทตี่ รงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑ์การให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1= ควรปรบั ปรุง รายการประเมิน รวม สรุปผล คะแนน การประเมิน พูดได้ การลาดับ มมี ารยาท เลขท่ี ชื่อ – นามสกลุ คล่องแคล่ว เนือ้ หาสาระ ในการพูด ผ่าน ไม่ ✓ ผ่าน ในการพูด  ลงช่ือ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนได้ 6 คะแนนข้ึนไป ถอื ว่า ผ่านเกณฑ์ประเมิน 385

ประเมิน แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ ช้นั ป. 3 / วชิ า…......…… ............................................................................................………………….……………………………………….... คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมการทางาน การปฏิบตั งิ านของนกั เรียนวา่ มีการปฏบิ ตั ิหรือไม่ ถา้ มกี ารปฏบิ ตั ใิ นรายการใดให้ขีด ✓ ถา้ ไมม่ ีให้เวน้ วา่ ง รายการประเมนิ สรุปผล การประเมิน เลขท่ี ชื่อ - นามสกลุ เห็น ุคณ ่คาของการใ ้ชภาษาไทย รวม ไม่ ใน ีชวิตประจาวัน มีความกระ ืตอ ืรอ ้รนและสนใจใ ่ฝ ู้ร คะแนน ผ่าน ผ่าน มีความ ัรบ ิผดชอบ ✓  ีม ่สวน ่รวมในการทากิจกรรม ีมนิ ัสย ัรกการ ่อานและเขียน ลงช่ือ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนมีการปฏิบตั ิ 3 รายการข้ึนไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ประเมิน 386

ประเมิน แบบประเมิน ผลงาน ช่ือ - นามสกลุ .............................................................................................. ช้นั ป. 3 / …………….... เลขที่ ……………………… หน่วยการเรียนรู้ที่ .................................................................... กิจกรรม ……………….………………………………………….... คาชีแ้ จง : ให้ผปู้ ระเมินขีด ✓ ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดบั คะแนน (ดูเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงานในหนา้ ถดั ไป) รายการประเมนิ ผ้ปู ระเมิน ตนเอง เพ่อื น ครู 432143214321 1. ตรงจดุ ประสงคท์ ่ีกาหนด 2. มีความถูกตอ้ งสมบรู ณ์ 3. มีความคดิ สร้างสรรค์ 4. มคี วามเป็นระเบยี บ 5. เสร็จตามเวลาที่กาหนด รวม รวมทกุ รายการ เฉล่ีย ผปู้ ระเมิน ................................................................................. (ตนเอง) ผปู้ ระเมิน ................................................................................. (เพอ่ื น) ผปู้ ระเมนิ ................................................................................. (ครู) 387

เกณฑ์การให้คะแนนผลงาน ประเดน็ ท่ปี ระเมนิ คะแนน 1. ผลงานตรงกบั 43 2 1 จดุ ประสงคท์ กี่ าหนด ผลงานทท่ี า ผลงานทีท่ า ผลงานที่ทา ผลงานท่ที า 2. ผลงานมีความถกู ตอ้ ง สอดคลอ้ ง ไมส่ อดคลอ้ ง สมบรู ณ์ สอดคลอ้ ง สอดคลอ้ ง กบั จุดประสงค์ กบั จุดประสงค์ บางประเด็น 3. ผลงานมคี วามคิด กบั จดุ ประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ เน้ือหาสาระของ เน้ือหาสาระของ สร้างสรรค์ ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานไมถ่ ูกตอ้ ง ทกุ ประเดน็ เป็ นส่วนใหญ่ เป็ นบางส่วน เป็ นส่วนใหญ่ 4. ผลงานมคี วามเป็น ผลงานมคี วาม ผลงานไม่แสดง ระเบียบ เน้ือหาสาระของ เน้ือหาสาระของ น่าสนใจ แตย่ งั แนวคิดใหม่ ไมม่ ีแนวคดิ 5. ผลงานเสร็จตามเวลา ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานถกู ตอ้ ง แปลกใหม่ ผลงานส่วนใหญ่ ทก่ี าหนด ไม่เป็นระเบยี บ ครบถว้ น เป็ นส่วนใหญ่ ผลงานมีความ และมขี อ้ บกพร่อง เป็ นระเบียบแต่มี มาก ผลงานแสดงออก ผลงานมีแนวคิด ขอ้ บกพร่อง คอ่ นขา้ งมาก ส่งผลงานชา้ กว่า ถึงความคิด แปลกใหม่แต่ยงั เวลาที่กาหนดเกิน ส่งผลงานชา้ กวา่ กว่า 5 วนั สร้างสรรค์ ไม่เป็ นระบบ เวลาท่กี าหนด 3-5 วนั แปลกใหม่ และเป็ นระบบ ผลงานมีความเป็น ผลงานส่วนใหญ่ ระเบยี บ แสดงออก มคี วามเป็น ถึงความประณีต ระเบยี บแต่ยงั มี ต้งั ใจ ขอ้ บกพร่อง เล็กนอ้ ย ส่งผลงานตามเวลา ส่งผลงานชา้ กว่า ท่ีกาหนด เวลาท่ีกาหนด 1-2 วนั เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 17 - 20 ดีมาก 12 - 16 ดี 8 - 11 5-7 ปานกลาง ปรบั ปรุง 388

ประเมิน แบบประเมนิ สมรรถนะผ้เู รียน 5 ด้าน คาชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องท่ีตรงกบั ระดบั คะแนน สมรรถนะทีป่ ระเมนิ ระดับคะแนน 3 21 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1.1 มคี วามสามารถในการรบั – ส่งสาร 1.2 มคี วามสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม 1.3 ใชว้ ธิ ีการสื่อสารท่ีเหมาะสม 2. ความสามารถในการคิด 2.1 มคี วามสามารถในการคิดวเิ คราะห์ เพอื่ การสร้างองคค์ วามรู้ 2.2 มีความสามารถในการคดิ เป็นระบบ เพอ่ื การสร้างองคค์ วามรู้ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3.1 แกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตุผล 3.2 แสวงหาความรูม้ าใชใ้ นการแกป้ ัญหา 3.3 ตดั สินใจโดยคานึงถึงผลกระทบตอ่ ตนเองและผอู้ ่ืน 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 4.1 ทางานและอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่นื ดว้ ยความสัมพนั ธ์อนั ดี 4.2 มีวิธีแกไ้ ขความขดั แยง้ อยา่ งเหมาะสม 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5.1 เลอื กใชข้ อ้ มลู ในการพฒั นาตนเองอย่างเหมาะสม 5.2 เลอื กใชข้ อ้ มลู ในการทางานและอยู่ร่วมกบั ผอู้ ่นื อยา่ งเหมาะสม ลงชื่อ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน / /........................ ......................... ............................. เกณฑ์การให้คะแนน : - พฤตกิ รรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบตั ิบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน 389

ประเมิน แบบประเมิน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 8 ด้าน คาชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะอนั พึง รายการท่ีประเมิน ระดบั ประสงค์ด้าน คะแนน 321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 มีความรกั และภูมใิ จในความเป็นชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ธรรมของศาสนา 1.3 แสดงออกถึงความจงรักภกั ดีตอ่ สถาบนั พระมหากษตั ริย์ 2. ซื่อสัตย์สุจริต 2.1 ปฏบิ ตั ิตามระเบยี บการสอนและไมล่ อกการบา้ น 2.2 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงตอ่ ความเป็นจริงต่อตนเอง 3. มวี นิ ัย 2.3 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงตอ่ ความเป็นจริงต่อผอู้ ่นื 3.1 เขา้ เรียนตรงเวลา 4. ใฝ่ เรียนรู้ 3.2 แตง่ กายเรียบร้อยเหมาะสมกบั กาลเทศะ 3.3 ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบียบของห้องและของโรงเรียน 5. อย่อู ย่างพอเพียง 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรียนรู้ต่างๆ 6. ม่งุ มั่นในการทางาน 4.2 มีการจดบนั ทึกความรู้อยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรุปความรู้ไดอ้ ย่างมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ ินและสิ่งของของโรงเรียนอย่างประหยดั 5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอย่างประหยดั และรู้คณุ ค่า 5.3 ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยดั และมกี ารเก็บออมเงนิ 6.1 มีความต้งั ใจและพยายามในการทางานที่ไดร้ ับมอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออุปสรรค เพื่อใหง้ านสาเร็จ 390

ประเมิน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 8 ด้าน (ต่อ) คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั ระดบั คะแนน คุณลักษณะอันพึง รายการท่ปี ระเมิน ระดบั ประสงค์ด้าน คะแนน 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย 321 7. รักความเป็ นไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รู้จกั การให้เพอื่ ส่วนรวมและเพอื่ ผอู้ ื่น 8. มจี ติ สาธารณะ 8.2 แสดงออกถงึ การมีน้าใจหรือการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผูอ้ นื่ 8.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมบาเพญ็ ตนเพือ่ ส่วนรวมเม่อื มโี อกาส ลงช่ือ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน / /......................... ......................... ............................. เกณฑ์การให้คะแนน : - พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยคร้งั ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั บิ างคร้ัง ให้ 1 คะแนน 391

2 ชั่วโมง กจิ กรรมทบทวน 1. ครูทบทวนสาระสาคญั ของหน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 -10 ใหน้ กั เรียนเขา้ ใจ 2. ครูเปิ ดโอกาสให้นกั เรียนซกั ถามเก่ียวกบั เรื่องทเ่ี รียนผ่านไปแลว้ แตน่ กั เรียนยงั ไมเ่ ขา้ ใจ หรือมีขอ้ สงสัย การประเมินหลังเรียน 1. ครูจดั ทดสอบเพอ่ื วดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนประจาหน่วย โดยให้นกั เรียนทาแบบทดสอบ วดั ผลสมั ฤทธ์ิประจาหน่วยการเรียนรู้ที่ 6 -10 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 219-223) (หมายเหตุ : การจัดเวลาทดสอบขึน้ อย่กู บั ดลุ ยพินิจของครูผ้สู อน) 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยแบบทดสอบ หากใครมีขอ้ สงสัยเกี่ยวกบั คาตอบ ให้ครูอธิบาย ใหน้ กั เรียนเขา้ ใจถูกตอ้ ง จากน้นั รวบรวมหนงั สือส่งครูตรวจอกี คร้ังหน่ึง 3. ครูตรวจให้คะแนนการทาแบบทดสอบเป็นรายบุคคล เพื่อใชเ้ ป็นส่วนหน่ึงในการวดั และประเมิน ผลการเรียน 392