Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Description: 2

Search

Read the Text Version

การวางแผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ 2   วิเคราะห์สาระมาตรฐานและขอบข่ายการจดั การเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ระดับช้ัน ประถมศึกษาปี ท่ี 3 ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตราตวั สะกด น่าจดจา สาระสาคญั ตามมาตรฐาน 1. การอ่านสะกดคา การเรียนรู้ที่ ท 1.1 / ท 4.1 2. วรรณกรรมเร่ือง เลน่ กีฬา 3. ขอ้ ควรปฏิบตั ใิ นการอ่าน 4. การต้งั คาถาม และตอบคาถามจากการอา่ น 5. มารยาทในการอ่าน 6. มาตราตวั สะกดแม่ ก กา มาตรา กง มาตรา กม มาตรา กก มาตรา กบ และมาตรา กน ลาดบั แผนการจัดการเรยี นรู้ กิจกรรมท่ี เวลา 3 ชวั่ โมง - แผนการเรียนรู้ท่ี 2 1. ก กา กง กม น่ารู้ เวลา 6 ชวั่ โมง 2. กก กบ กน แสนสนุก เวลา 2 ชว่ั โมง กระบวนการเรยี นรู้หลกั 3. วรรณกรรมเรื่อง เลน่ กีฬา เวลา 5 ชว่ั โมง กระบวนการเรียนรู้บูรณาการ 4. อา่ นเสริม เพ่ิมความรู้ - กระบวนการเรียนภาษา - กระบวนการปฏิบตั ิ - บรู ณาการสู่การคิด โดยสืบคน้ เรื่องทีส่ นใจจากแหลง่ เรียนรู้ต่างๆ มา 1 เรื่อง อ่านและคดั ลอกเร่ืองดงั กลา่ ว พร้อมท้งั เขยี นบอกท่มี า ของเร่ือง แลว้ เขยี นต้งั คาถาม ตอบคาถาม และสรุปใจความสาคญั ของเร่ือง จากน้นั ใหจ้ าแนกคาตามมาตราตวั สะกด มาตรา กง กม กก กบ และกน และจดั ทาเป็นรูปเลม่ ให้สวยงาม เพ่อื เป็นหนงั สือ สาหรับคน้ ควา้ ขอ้ มลู ต่างๆ ประจาหอ้ ง 27

 กาหนดเป้าหมายการจัดการเรียนรู้ ประจาหน่วยที่ 2 ด้านความรู้ (K) ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) ด้านคุณลกั ษณะ 1. การอา่ นสะกดคา 1. การฟังสิ่งท่ีครูและเพือ่ นพดู 2. วรรณกรรมเรื่อง เลน่ กีฬา 2. การพูดตอบคาถาม และการพูด ทพ่ี งึ ประสงค์ (A) 3. ขอ้ ควรปฏิบตั ิในการอา่ น 1. เหน็ คณุ คา่ ของการใชภ้ าษาไทย 4. การต้งั คาถาม และตอบคาถาม แสดงความคิด 3. การอา่ นออกเสียงสะกดคา ในชีวิตประจาวนั จากการอ่าน 4. การเขียนสะกดคา 2. มีความกระตือรือร้น สนใจใฝ่รู้ 5. มารยาทในการอ่าน 5. การคดิ วเิ คราะห์ 3. มคี วามรับผดิ ชอบในงานของตน 6. มาตราตวั สะกดแม่ ก กา มาตรา 6. การคดั ลายมอื ตวั บรรจง และมีส่วนร่วมในการทากิจกรรม กง มาตรา กม มาตรา กก เตม็ บรรทดั 4. มีนิสัยรกั การอา่ นและเขยี น มาตรา กบ และมาตรา กน 5. มีมารยาทในการอ่าน เป้าหมายการเรียนรู้ มาตราตวั สะกด น่าจดจา หลกั ฐานการเรียนรู้ ภาระงานท่ีปฏบิ ตั ิระหว่างเรียน ผลงานการเรียนรู้รวบยอด ผลงานการประเมินตนเอง - ฝึกกระบวนการเรียนรู้โดยการ - ฝึกกระบวนการคิดวิเคราะห์ - ผลงานหนงั สือสื่อความรู้ อ่าน เขียน และคดิ จากกิจกรรม จากกิจกรรมพฒั นาการคิด พฒั นาการเรียนรู้ และใบงาน (จานวน 9 ชิ้น) (จานวน 5 ชิน้ ) 28

 ออกแบบการจัดการเรียนรู้ 1. กาหนดเป้าหมายการเรียนรู้ สาระท่ี 1 : การอ่าน มาตรฐาน ท 1.1 : ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพอ่ื นาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน (1) อ่านออกเสียงคา ขอ้ ความ เรื่องส้นั ๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง คล่องแคลว่ (2) อธิบายความหมายของคา และขอ้ ความทอี่ ่าน (3) ต้งั คาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผลเก่ียวกบั เรื่องท่อี ่าน (9) มีมารยาทในการอา่ น สาระที่ 4 : หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท 4.1 : เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ขิ องชาติ (1) เขยี นสะกดคาและบอกความหมายของคา 2. ความคิดรวบยอด เมื่อเรียนจบหน่วยการเรียนรู้น้ีแลว้ นกั เรียนจะตอ้ งมคี วามรู้ความเขา้ ใจที่คงทน ดงั น้ี - การฝึกอ่านออกเสียงสะกดคา จะทาให้อา่ นคา ขอ้ ความ และเร่ืองส้ันๆ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง คลอ่ งแคลว่ - ในการอา่ นจะตอ้ งอา่ นใหถ้ ูกตอ้ งตามอกั ขรวธิ ีของภาษาไทย และควรฝึกต้งั คาถาม และตอบคาถามเพ่ือเป็ นการทบทวนสรุปความรู้ - การสะกดคาทม่ี ีตวั สะกด จะทาใหอ้ า่ นและเขียนคาตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง คลอ่ งแคลว่ 3. แก่นสารสาคญั ของการเรียนรู้ 1. การเรียนรู้มาตราตวั สะกด และการอ่าน มีความจาเป็นตอ่ การดารงชีวิตของนกั เรียนอยา่ งไร 2. นกั เรียนคดิ ว่า ถา้ นกั เรียนอ่านเรื่องแตไ่ ม่สามารถต้งั คาถาม และตอบคาถามเพอ่ื การสรุปเน้ือ เรื่องได้ นกั เรียนจะอ่านเพอื่ เพมิ่ พนู ความรู้ไดอ้ ยา่ งไร 29

4. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 4.1 การประเมนิ ก่อนเรียน 1) การใชค้ าถามเพอ่ื ประเมนิ ความรู้เดิมของนกั เรียน 2) การทากิจกรรมนาสู่การเรียน - การอา่ นออกเสียงคา และระบายสีคาท่ีอยใู่ นมาตรา กก และมาตรา กบ 4.2 การประเมนิ ระหว่างเรียน 1) การเลือกตวั สะกดที่กาหนด เตมิ ลงในช่องวา่ งให้ไดค้ วามหมาย 2) การเตมิ ตวั สะกดในมาตรา กม กก กบ กง และกน ลงในช่องว่างให้เป็นคาท่ีมคี วามหมาย แลว้ เขยี นคาอา่ นของคา และจาแนกคาตามมาตราตวั สะกด 3) การอา่ นสะกดคาบทอา่ น และหาความหมายของคาทกี่ าหนด 4) การตอบคาถามจากเรื่องท่ีอา่ น 5) การอ่านออกเสียงเร่ืองทกี่ าหนด แลว้ ให้เพื่อนประเมินผลการอ่าน จากน้นั ต้งั คาถาม ตอบคาถาม และสรุปใจความสาคญั ของเร่ืองท่ีอ่าน 4.3 การประเมินหลงั เรียน - แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิ ประจาหน่วยท่ี 1-5 4.4 การประเมนิ พฤติกรรมการเรียนรู้รวบยอด 1) การเขยี นจาแนกคาที่กาหนดให้ตามมาตราตวั สะกด พร้อมท้งั เขยี นคาอา่ น และพูดอธิบาย ความหมายของคาทเ่ี ขียน 2) การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองท่ีกาหนด แลว้ เขียนบอกขอ้ คดิ ทีไ่ ด้ จากน้นั เขียนต้งั คาถาม และตอบคาถามจากเรื่องท่กี าหนด 3) การเตมิ ตวั อกั ษรลงในช่องวา่ งให้เป็นคาทถ่ี ูกตอ้ งตรงตามความหมายที่กาหนด 4) ใบงานที่ 3 เรื่อง ก กา กง กม น่ารู้ 5) ใบงานท่ี 4 เร่ือง ภาพส่ือคา 6) ใบงานที่ 5 เร่ือง คาใดถูก คาใดผิด 7) ใบงานที่ 6 เร่ือง สานวน ชวนคดิ 8) ใบงานท่ี 7 เร่ือง จ๊ิกซอว์ ตอ่ ความรู้ 9) ใบงานที่ 8 เรื่อง อา่ นสนุก 4.5 การประเมนิ ตนเอง - ผลงานหนงั สือสื่อความรู้ 30

5. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. สื่อการเรียนรู้ ( ตวั อยา่ ง : ส่ือฯ มมฐ. หลกั สูตรแกนกลางฯ ภาษาไทย ป. 3 ) 2. บตั รภาพรูปงู ลิง ไก่ ชา้ ง ร่ม และสม้ 3. เกม ฉันคอื ใคร 4. เกม กก หรือกบ 5. เกม กก กบ กน แสนสนุก 6. วรรณกรรมเรื่อง เตา่ ทะเล และจระเขช้ อบร้องไห้จริงหรือ 7. กิจกรรมฐานการเรียนรู้ จ๊ิกซอว์ ต่อความรู้ 8. วรรณกรรมเร่ือง สวสั ดี 9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ เช่น หอ้ งสมุด อินเทอร์เนต็ 31

แผนการเรียนรู้ที่ 2 มาตราตัวสะกด น่าจดจา รหสั วิชา / ช่ือรายวิชา..........................................................................................................................................................................กลุ่มสาระภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 3 เวลา 16 ชว่ั โมง ภาคเรี ยนท่ี........................................... ผสู้ อน โรงเรียน.................................................................................................... ........................................................................................................................................ 1. สาระสาคญั มาตราตวั สะกด คือ พยญั ชนะท่อี ยทู่ า้ ยพยางค์ โดยมาตราตวั สะกดในภาษาไทยมที ้งั หมด 8 มาตรา ไดแ้ ก่ มาตรา กง กม กก กบ กน กด เกย และเกอว ส่วนคาที่ไมม่ ตี วั สะกด คอื แม่ ก กา ดงั น้นั การสะกดคา ตามมาตราเป็นพ้ืนฐานสาคญั ของการอา่ น และเขยี นคาในภาษาไทย 2. ตวั ชี้วัด / จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อา่ นออกเสียงคา ขอ้ ความ เรื่องส้ันๆ และบทร้อยกรองงา่ ยๆ ไดถ้ กู ตอ้ ง คลอ่ งแคล่ว (ท 1.1 ป. 3/1) 2. อธิบายความหมายของคา และขอ้ ความทอ่ี ่าน (ท 1.1 ป. 3/2) 3. ต้งั คาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผลเก่ียวกบั เร่ืองทีอ่ ่าน (ท 1.1 ป. 3/3) 4. มมี ารยาทในการอ่าน (ท 1.1 ป. 3/9) 5. เขียนสะกดคา และบอกความหมายของคา (ท 4.1 ป. 3/1) 3. สาระการเรียนรู้ ความรู้ 1. การอา่ นสะกดคา 2. วรรณกรรมเรื่อง เลน่ กีฬา 3. ขอ้ ควรปฏิบตั ใิ นการอา่ น 4. การต้งั คาถาม และตอบคาถามจากการอา่ น 5. มารยาทในการอ่าน 6. มาตราตวั สะกดแม่ ก กา มาตรา กง มาตรา กม มาตรา กก มาตรา กบ และมาตรา กน 32

ทักษะ/กระบวนการ 1. การฟังส่ิงท่คี รูและเพื่อนพดู 2. การพูดตอบคาถาม และการพูดแสดงความคดิ 3. การอา่ นออกเสียงสะกดคา 4. การเขยี นสะกดคา 5. การคดิ วเิ คราะห์ 6. การคดั ลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ 1. เห็นคณุ ค่าของการใชภ้ าษาไทยในชีวติ ประจาวนั 2. มคี วามกระตอื รือร้น สนใจใฝ่ รู้ 3. มีความรับผิดชอบในงานของตน และมสี ่วนร่วมในการทากิจกรรม 4. มนี ิสยั รกั การอา่ นและเขยี น 5. มีมารยาทในการอ่าน 4. กจิ กรรมการเรียนรู้ กิจกรรมที่  ก กา กง กม น่ารู้ เวลา 3 ช่ัวโมง กระบวนการเรียนภาษา ชั่วโมงท่ี 1 กิจกรรมนาสู่การเรียน 1. ครูติดบตั รภาพบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนทายว่า ภาพดงั กล่าวคือภาพอะไร 2. ครูเขยี นคาที่นกั เรียนทายบนกระดานใตภ้ าพ ไดแ้ ก่ คาวา่ งู ไก่ ลิง ชา้ ง ร่ม และส้ม จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงสะกดคาพร้อมกนั 33

3. ครูให้นกั เรียนสังเกตความแตกตา่ งระหวา่ งตวั พยญั ชนะทา้ ยพยางคข์ องคาแตล่ ะคา รวมถึงคา ทไี่ ม่มีตวั สะกดดว้ ย แลว้ ครูถามนกั เรียนว่า การสะกดดว้ ยตวั พยญั ชนะดงั กล่าวเป็นคาทอ่ี ยใู่ น มาตราตวั สะกดใด จากน้นั ครูและนกั เรียนเฉลยคาตอบร่วมกนั 4. ครูให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน (หนา้ 22-23) หัวขอ้ มาตราตวั สะกด หวั ขอ้ ยอ่ ย แม่ ก กา มาตรา กง และมาตรา กม แลว้ ครูอธิบายให้นกั เรียนเขา้ ใจเกี่ยวกบั มาตราตวั สะกดแม่ ก กา มาตรา กง และมาตรา กม โดยใชต้ วั อยา่ งในหนงั สือเรียน (หนา้ 22 – 23) ประกอบการอธิบาย 5. ครูใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงคาในแม่ ก กา มาตรา กง หรือแมก่ ง และมาตรา กม หรือ แมก่ ม ในหนงั สือเรียน (หนา้ 22-23) พร้อมกนั ชั่วโมงท่ี 2 กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ 1. ครูให้นกั เรียนเลน่ เกม “ฉันคอื ใคร” โดยครูแจกบตั รคาใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผ่น แลว้ ให้นกั เรียน พิจารณาว่า บตั รคาของตนเป็นคาที่อยใู่ นมาตราใด (แม่ ก กา แมก่ ง หรือแม่กม) จากน้นั ให้นา บตั รคาไปตดิ บนกระดานตามมาตราทก่ี าหนด 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจคาตอบ จากน้นั ครูให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงคาท่อี ยบู่ นกระดาน พร้อมกนั ช่ัวโมงที่ 3 กจิ กรรมรวบยอด 1. ครูใหน้ กั เรียนทาใบงานท่ี 3 ก กา กง กมน่ารู้ โดยเขยี นชื่อของสตั วแ์ ละสิ่งของที่กาหนด ใหต้ รงตามมาตราตวั สะกดในแม่ ก กา แมก่ ง และแม่กม 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ จากน้นั ครูให้นกั เรียนอ่านออกเสียงคาในแตล่ ะมาตรา พร้อมกนั 34

กจิ กรรมท่ี  กก กบ กน แสนสนุก เวลา 6 ชั่วโมง กระบวนการเรียนภาษา ชั่วโมงที่ 1 กิจกรรมนาสู่การเรียน 1. ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียน และทบทวนความรู้ทีไ่ ดเ้ รียนมาเกี่ยวกบั มาตราตวั สะกด แม่ ก กา แม่กง และแม่กม จากน้นั ครูอธิบายใหน้ กั เรียนฟังว่า ยงั มีมาตราตวั สะกดอนื่ อกี ในภาษาไทย 2. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมนาสู่การเรียน ในหนงั สือเรียน (หนา้ 21) โดยอ่านออกเสียงคา และ ระบายสีคาท่ีอยใู่ นมาตรา กก และมาตรา กบ จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ 3. ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน (หนา้ 23 – 24) หัวขอ้ ยอ่ ย มาตรา กก หรือ แม่กก และมาตรา กบ หรือ แม่กบ แลว้ ครูอธิบายให้นกั เรียนเขา้ ใจเก่ียวกบั มาตราตวั สะกดท้งั 2 มาตรา โดยใชต้ วั อยา่ ง ในหนงั สือเรียน (หนา้ 23-24) ประกอบการอธิบาย จากน้นั ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงสะกดคา มาตรา กก และมาตรา กบ ในหนงั สือเรียน (หนา้ 23-24) พร้อมกนั กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ 1. ครูให้นกั เรียนเล่มเกม “กก หรือ กบ” โดยใหน้ กั เรียนสุ่มเลอื กบตั รคาพยญั ชนะซ่ึงเป็นตวั สะกด ในมาตรา กก และมาตรา กบ จากในกลอ่ งคนละ 1 บตั รคา เม่อื นกั เรียนไดบ้ ตั รคาแลว้ ให้นกั เรียน คดิ คาท่ลี งทา้ ยดว้ ยพยญั ชนะในบตั รคาของตน แลว้ นาไปเขยี นบนกระดานตามมาตราตวั สะกด ให้ถกู ตอ้ ง 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของคาท่นี กั เรียนเขยี น จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่าน ออกเสียงคาบนกระดานพร้อมกนั ช่ัวโมงที่ 2 3. ครูทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกบั มาตราตวั สะกด มาตรา กก และมาตรา กบ 4. ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน (หนา้ 25) หัวขอ้ ยอ่ ย มาตรา กน หรือ แม่กน แลว้ ครูอธิบาย ใหน้ กั เรียนเขา้ ใจในมาตราตวั สะกด มาตรา กน โดยใชต้ วั อยา่ งในหนงั สือเรียน (หนา้ 25) ประกอบการอธิบาย 35

5. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งออกเป็นกล่มุ กลุ่มละ 4 – 5 คน เพ่อื ทาใบงานที่ 4 ภาพส่ือคา โดยให้นกั เรียน ดภู าพในใบงาน และเขียนคาตามมาตราตวั สะกด มาตรา กน ใหถ้ ูกตอ้ ง จากน้นั ครูและนกั เรียน ร่วมกนั เฉลยคาตอบ และให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงคาในใบงานพร้อมกนั ชั่วโมงที่ 3 6. ครูใหน้ กั เรียนทาใบงานที่ 5 คาใดถูก คาใดผดิ โดยใหน้ กั เรียนระบายสีลงในคาที่เขียนถกู ตอ้ ง ตามมาตราตวั สะกด มาตรา กน 7. ครูให้นกั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียกนกั เรียนออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียนเพ่ือตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง จากน้นั ครูให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงคาพร้อมกนั ชั่วโมงท่ี 4 กจิ กรรมรวบยอด 1. ครูให้นกั เรียนเล่นเกม “กก กบ กน แสนสนุก” โดยให้นกั เรียนแบง่ ออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน แลว้ ครูให้แตล่ ะกล่มุ ช่วยกนั คดิ คาท่ีสะกดตามมาตรา กก กบ และกน ให้ไดม้ ากทส่ี ุด กลุ่มใดคิด คาไดม้ าก และมคี วามถกู ตอ้ งมากท่ีสุดถอื เป็นผชู้ นะ 2. ครูใหน้ กั เรียนทาใบงานที่ 6 สานวน ชวนคดิ โดยให้นกั เรียนเตมิ คาตามมาตรา กก กบ และกน ลงในสานวนใหถ้ กู ตอ้ ง แลว้ ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบในใบงาน ชั่วโมงท่ี 5 3. ครูทบทวนความรู้มาตราตวั สะกดทุกมาตรา ไดแ้ ก่ แม่ ก กา มาตรา กง กม กก กบ และกน 4. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ท่ี 1 ขอ้ 1 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 26) โดยการเลอื ก ตวั สะกดในกรอบมาเตมิ ลงในช่องวา่ งใหไ้ ดค้ วามหมาย 5. ครูใหน้ กั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียกนกั เรียนให้เฉลยคาตอบ โดยออกมาเขียนคาตอบบน กระดาน จากน้นั ครูและเพอ่ื นในช้นั เรียนคอยตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากน้นั ครูให้นกั เรียน อ่านออกเสียงคาบนกระดานพร้อมกนั 6. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ท่ี 1 ขอ้ 2 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 27) โดยเติม ตวั สะกดในมาตรา กม กก กบ กง และกน ลงในช่องว่างให้เป็นคาทมี่ ีความหมาย เขียนคาอา่ น ของคาแลว้ จาแนกคาตามมาตราตวั สะกดให้ถกู ตอ้ งเป็นการบา้ น 36

ช่ัวโมงท่ี 6 7. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการคิด ขอ้ 1 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 36) โดยให้นกั เรียน เขยี นจาแนกคาทก่ี าหนดใหต้ ามมาตราตวั สะกด พร้อมท้งั เขียนคาอา่ น และพูดอธิบาย ความหมายของคาทเ่ี ขียน จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ แลว้ ให้นกั เรียนอา่ น ออกเสียงคาพร้อมกนั 8. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการคิด ขอ้ 3 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 38) โดยเติมตวั อกั ษร ลงในช่องว่างให้เป็นคาท่ถี ูกตอ้ งตรงตามความหมายที่กาหนดเป็นการบา้ น กจิ กรรมที่  วรรณกรรมเร่ือง เล่นกีฬา เวลา 2 ชั่วโมง กระบวนการปฏิบตั ิ ชั่วโมงท่ี 1 กจิ กรรมนาสู่การเรียน 1. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลมุ่ ออกเป็น 4 กลมุ่ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั แลว้ ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ผลดั กนั อา่ นออกเสียงวรรณกรรมเรื่อง เล่นกีฬา ในหนงั สือเรียน (หนา้ 28 – 29) 2. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียกบางกลุม่ ออกมาแสดงบทบาทสมมติเป็นกลา้ และเพอื่ นของกลา้ ทหี่ นา้ ช้นั เรียน โดยแสดงบทบาทตามเน้ือเรื่องในหนงั สือเรียน (หนา้ 28) 3. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั อภปิ รายว่า ความคดิ ของกลา้ เก่ียวกบั การเลน่ กีฬาถูกตอ้ งหรือไม่ และถา้ นกั เรียนเป็นเพ่ือนของกลา้ นกั เรียนจะทาอยา่ งไร กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ 1. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ท่ี 2 ขอ้ 1 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 29) โดยครูให้นกั เรียนเขียนคาทพี่ มิ พด์ ว้ ยสีฟ้าลงในสมดุ และบอกความหมายให้ชดั เจน 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยความหมายของคา และใหน้ กั เรียนฝึกอ่านออกเสียงบทอ่าน พร้อมกนั อกี คร้งั 37

ช่ัวโมงท่ี 2 กิจกรรมรวบยอด 1. ครูให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงพระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวภมู ิพลอดุลยเดช มหาราช ในกรอบสีฟ้า ในหนงั สือเรียน (หนา้ 29) พร้อมกนั 2. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ท่ี 2 ขอ้ 2 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 29) โดยช่วยกนั ตอบคาถามหลงั อา่ นบทอา่ นจบ 3. ครูให้นกั เรียนอาสาสามคั รหรือสุ่มเรียกนกั เรียนใหบ้ อกประโยชน์ของการเล่นกีฬา และพดู ให้ เพอื่ นฟังวา่ ชอบเลน่ กีฬาหรือไม่ เพราะเหตุใด 4. ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายถึงประโยชน์ของการเล่นกีฬา และผลเสียของการไม่เลน่ กีฬา 5. ครูและนกั เรียนสรุปวรรณกรรมเร่ือง เล่นกีฬา ร่วมกนั กจิ กรรมท่ี  อ่านเสรมิ เพมิ่ ความรู้ เวลา 5 ช่ัวโมง กระบวนการปฏิบตั ิ ชั่วโมงที่ 1 กจิ กรรมนาสู่การเรยี น 1. ครูใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงเรื่อง “เต่าทะเล และจระเขช้ อบร้องไห้จริงหรือ” พร้อมกนั เต่าทะเล และจระเข้ชอบร้องไห้จริงหรือ ความจริงน้าทไี่ หลออกมาจากตาของเต่า และจระเขไ้ ม่ใช่ น้าตา แตเ่ ป็นน้าเกลอื เพราะบริเวณใกลๆ้ ลูกตาของสัตวเ์ หล่าน้ี มตี ่อมอยเู่ ป็นจานวนมากขนานไปกบั เสน้ เลอื ด หนา้ ท่ขี องตอ่ ม เหลา่ น้ีคือ ขบั ถา่ ยเอาเกลอื ทเี่ หลือใชใ้ นเลือดออกจากร่างกาย เพ่อื รักษาระดบั ความเขม้ ขน้ ของเกลอื ในเลือด เน่ืองจากตาแหน่ง ของตอ่ มอยใู่ กลก้ บั ตามาก เมอื่ เต่าทะเล และจระเขข้ บั เอาน้าเกลอื ออกมา มนุษยจ์ ึงเขา้ ใจว่าพวกมนั กาลงั ร้องไห้นนั่ เอง (ทีม่ า: ชีวติ สตั วอ์ ศั จรรย)์ 38

2. ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปใจความสาคญั ของเร่ืองที่อา่ น โดยครูต้งั คาถามถามนกั เรียน แนวคาถาม เช่น - เตา่ ทะเล และจระเขร้ ้องไห้ไดห้ รือไม่ - น้าทไ่ี หลออกจากตาของเตา่ ทะเล และจระเขค้ ืออะไร - ทาไมเต่าทะเล และจระเขต้ อ้ งหลง่ั น้าออกมา 3. ครูอธิบายให้นกั เรียนเขา้ ใจวา่ การอา่ น เป็นทกั ษะในการสื่อสารอยา่ งหน่ึง และให้นกั เรียนเห็น ความสาคญั ของการอ่านโดยนกั เรียนจะตอ้ งฝึกอา่ น และจบั ใจความสาคญั ของเร่ืองที่อ่านใหไ้ ด้ กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ 1. ครูให้นกั เรียนแบง่ ออกเป็นกลมุ่ กล่มุ ละ 5 คน เพอื่ ทากิจกรรม “จิ๊กซอว์ ต่อความรู้” โดยใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ต้งั ช่ือบา้ น และแต่งต้งั หัวหนา้ บา้ น ซ่ึงนกั เรียนที่ไดร้ บั ตาแหน่งหัวหนา้ บา้ น จะตอ้ งเป็นผูม้ อบหมายงานให้สมาชิกในบา้ นไปศกึ ษาความรู้ตามฐานการเรียนรู้ท้งั หมด 5 ฐาน โดยมอบหมายใหส้ มาชิกรวมท้งั ตนเองไปศึกษาความรู้ตามฐานคนละ 1 ฐานการเรียนรู้ จากน้นั ใหน้ าความรู้ของแตล่ ะคนทไี่ ดม้ ารวมกนั เพอื่ ช่วยกนั ทาใบงานท่ี 7 จิ๊กซอว์ ตอ่ ความรู้ ให้สาเร็จ โดยฐานการเรียนรู้มีดงั น้ี - ฐานการเรียนรู้ที่ 1 ศึกษาเรื่อง ความหมายของการอ่าน - ฐานการเรียนรู้ที่ 2 ศกึ ษาเรื่อง ประเภทของการอ่าน - ฐานการเรียนรู้ท่ี 3 ศึกษาเรื่อง ขอ้ ควรปฏิบตั ิในการอา่ นขอ้ ท่ี 1 – 4 - ฐานการเรียนรู้ที่ 4 ศกึ ษาเรื่อง ขอ้ ควรปฏบิ ตั ใิ นการอา่ นขอ้ ที่ 5 – 7 - ฐานการเรียนรู้ท่ี 5 ศึกษาเร่ือง มารยาทในการอา่ น 2. ครูสุ่มถามนกั เรียนแต่ละบา้ นเพื่อเป็นการตรวจความถูกตอ้ งของคาตอบในใบงาน 3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเกี่ยวกบั ความหมาย ประเภท ขอ้ ควรปฏิบตั ิ และมารยาทในการอา่ น ช่ัวโมงท่ี 2 4. ครูใหน้ กั เรียนทาใบงานที่ 8 อา่ นสนุก โดยใหน้ กั เรียนอ่านบทอา่ นเรื่อง สวสั ดี จากน้นั ตอบคาถามในใบงานใหถ้ กู ตอ้ ง 5. ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงบทอ่านพร้อมกนั อกี คร้ัง 39

ชั่วโมงท่ี 3 6. ครูใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงเรื่อง โลหะปราสาท หน่ึงเดียวในโลก ในหนงั สือเรียน (หนา้ 32-33) พร้อมกนั 7. ครูให้นกั เรียนร่วมกนั สรุปใจความสาคญั ของเรื่อง โลหะปราสาท หน่ึงเดียวในโลก จากการต้งั คาถามและตอบคาถามเกี่ยวกบั เร่ือง โดยใชต้ วั อยา่ งในหนงั สือเรียน (หนา้ 33) ประกอบ 8. ครูสุ่มเรียกนกั เรียนให้ฝึกต้งั คาถามเก่ียวกบั เร่ืองที่อ่านดว้ ยตนเอง และเมือ่ ต้งั คาถามแลว้ ใหเ้ รียกเพอ่ื นนกั เรียนในหอ้ งเป็นผตู้ อบ 9. ครูและนกั เรียนสรุปความรู้เรื่อง โลหะปราสาท หน่ึงเดียวในโลก ร่วมกนั ชั่วโมงที่ 4 10. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 3 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 35) โดยอา่ นออกเสียง เร่ืองท่ีกาหนด แลว้ ให้เพอื่ นประเมินผลการอ่านลงในตาราง จากน้นั ต้งั คาถาม ตอบคาถาม และสรุปใจความสาคญั ของเร่ืองท่อี ่านลงในสมดุ 11. ครูให้นกั เรียนช่วยกนั สรุปใจความสาคญั ของเรื่องทอ่ี ่านในกิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ท่ี 3 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 33) และสุ่มเรียกนกั เรียนให้ต้งั คาถาม และตอบคาถามจากเรื่องทอ่ี ่าน 12. ครูใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงบทอา่ นพร้อมกนั อีกคร้งั และให้นกั เรียนคดั ลอกบทอา่ นดว้ ยลายมือ ตวั บรรจงเตม็ บรรทดั ลงในสมุดเป็นการบา้ น ช่ัวโมงท่ี 5 กิจกรรมรวบยอด 1. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการคดิ ขอ้ 2 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 37) โดยให้นกั เรียน แบ่งออกเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 – 5 คน เพอ่ื อา่ นออกเสียงบทร้อยกรอง หนงั สือคือเพือ่ น ในหนงั สือเรียน (หนา้ 37) ให้ครูฟัง แลว้ ช่วยกนั เขียนบอกขอ้ คิดทไ่ี ด้ จากน้นั ต้งั คาถาม และตอบคาถามจากบทร้อยกรองลงในสมุด 2. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน โดยบอกขอ้ คิดที่ไดร้ ับจากเรื่อง และต้งั คาถามจากเร่ืองที่คิดไว้ โดยให้นกั เรียนกลมุ่ อืน่ เป็นผตู้ อบ 3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปใจความสาคญั ของบทร้อยกรอง หนังสือคอื เพอื่ น 40

4. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมบรู ณาการสร้างสรรค์ ในหนงั สือเรียน (หนา้ 38) โดยสืบคน้ เร่ืองท่ี สนใจจากแหลง่ การเรียนรู้ต่างๆ มา 1 เร่ือง พร้อมท้งั เขยี นบอกทมี่ าของเร่ือง เขยี นต้งั คาถาม ตอบคาถาม และสรุปใจความสาคญั ของเร่ือง แลว้ เขียนจาแนกคาตามมาตราตวั สะกด มาตรา กง กม กก กบ และกน จากน้นั นาผลงานมารวมกนั และจดั ทาเป็นรูปเล่มให้สวยงาม เพือ่ เป็น หนงั สือสาหรับคน้ ควา้ ขอ้ มูลตา่ งๆ ประจาห้อง 5. ครูให้นกั เรียนทาแบบทดสอบท่ี 2 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 39) เพ่อื ทบทวนความรู้ท่เี รียนมา 5. ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1. สื่อการเรียนรู้ (ตวั อยา่ ง : ส่ือฯ มมฐ. หลกั สูตรแกนกลางฯ ภาษาไทย ป. 3) 2. บตั รภาพ รูปงู ลิง ไก่ ชา้ ง ร่ม และสม้ 3. เกม ฉันคอื ใคร 4. เกม กก หรือกบ 5. เกม กก กบ กน แสนสนุก 6. วรรณกรรมเรื่อง เต่าทะเล และจระเขช้ อบร้องไห้จริงหรือ 7. กิจกรรมฐานการเรียนรู้ จิ๊กซอว์ ต่อความรู้ 8. วรรณกรรมเรื่อง สวสั ดี 9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ เช่น หอ้ งสมุด อนิ เทอร์เนต็ 6. การวัดและประเมนิ ผล 6.1 หลกั ฐานการเรียนรู้ (ชิน้ งานสุดท้ายที่แสดงพฤตกิ รรมการเรียนรู้รวบยอด) 1. กิจกรรมพฒั นาการคิด ขอ้ 1-3 2. ใบงานที่ 3 เร่ือง ก กา กง กม น่ารู้ 3. ใบงานท่ี 4 เร่ือง ภาพสื่อคา 4. ใบงานท่ี 5 เร่ือง คาใดถกู คาใดผิด 5. ใบงานท่ี 6 เร่ือง สานวน ชวนคิด 6. ใบงานท่ี 7 เร่ือง จิ๊กซอว์ ต่อความรู้ 7. ใบงานที่ 8 เรื่อง อ่านสนุก 8. ผลงานหนงั สือส่ือความรู้ 6.2 วิธกี ารวดั และประเมินผล 1. ตรวจการทากิจกรรมพฒั นาการคิด ขอ้ 1-3 2. ตรวจการทาใบงานท่ี 3 เร่ือง ก กา กง กม น่ารู้ 41

3. ตรวจการทาใบงานท่ี 4 เร่ือง ภาพส่ือคา (ร้อยละ 70 ผ่านเกณฑ์) 4. ตรวจการทาใบงานท่ี 5 เรื่อง คาใดถูก คาใดผดิ (ดูเกณฑ์ในแบบประเมิน) 5. ตรวจการทาใบงานท่ี 6 เร่ือง สานวน ชวนคดิ 6. ตรวจการทาใบงานที่ 7 เรื่อง จิ๊กซอว์ ต่อความรู้ 7. ตรวจการทาใบงานที่ 8 เร่ือง อา่ นสนุก 8. ประเมนิ ผลงานหนงั สือส่ือความรู้ 9. สงั เกตทกั ษะการอา่ น และการเขยี น 10. สงั เกตพฤตกิ รรมในขณะปฏิบตั ิกิจกรรม 6.3 เคร่ืองมือวัดและประเมินผล และเกณฑ์ 1. กิจกรรมพฒั นาการคดิ ขอ้ 1-3 2. ใบงานท่ี 3 เรื่อง ก กา กง กม น่ารู้ 3. ใบงานท่ี 4 เร่ือง ภาพส่ือคา 4. ใบงานที่ 5 เรื่อง คาใดถกู คาใดผดิ 5. ใบงานที่ 6 เรื่อง สานวน ชวนคดิ 6. ใบงานที่ 7 เร่ือง จิ๊กซอว์ ตอ่ ความรู้ 7. ใบงานที่ 8 เรื่อง อา่ นสนุก 8. แบบประเมนิ ทกั ษะการอ่านออกเสียง 9. แบบประเมนิ ทกั ษะการเขยี น 10. แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ 11. แบบประเมนิ ผลงาน 12. แบบประเมินสมรรถนะผเู้ รียน 5 ดา้ น 13. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 8 ดา้ น 7. กิจกรรมเสนอแนะ ¯............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... 42

8. บันทึกผลการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผเู้ รียนที่ ผ่าน ตวั ช้ีวดั มจี านวน ........................................................ คน คิดเป็นร้อยละ............................................... 1.2 ผเู้ รียนที่ ไม่ผ่าน ตวั ช้ีวดั มีจานวน ........................................................ คน คิดเป็นร้อยละ............................................... 1) ................................................................สาเหตุ (ถา้ ทราบ) ................................................... 2) ................................................................สาเหตุ ....................................................................... แนวทางแกป้ ัญหา .......................................................................................................................... ............................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................... ....... 1.3 ผูเ้ รียนท่ีมคี วามสามารถพิเศษ ไดแ้ ก่ 1) ........................................................................ 2) .................................................................... แนวทางการพฒั นา / ส่งเสริม ...................................................................................................... ก ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ .................................................................................................................. .......................................... 1.4 ผเู้ รียนไดร้ บั ความรู้ (K)………..................................................................................................... 1.5 ผเู้ รียนเกิดทกั ษะกระบวนการ (P)…………................................................................................ 1.6 ผเู้ รียนมีคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม (A)…................................................................................ 2. ปัญหาอปุ สรรค (ถ้าม)ี .......................................................................................................................... ....................................................................................................................... ............................................ ........................................................................................................................... ........................................ 3. ข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) .............................................................................................................................. .......................................................................................................................................... ......................... ลงช่ือ.......................................................... (.........................................................) 43

ใบงานท่ี 3 ก กา กง กม น่ารู้ ช่ือ – นามสกลุ .......................................................................... ช้ัน ป. 3 / ............ เลขท่ี ............ คาสั่ง เขยี นชื่อของสัตว์ และสิ่งของทกี่ าหนดให้ตรงตามมาตรา ตัวสะกด ลิง ช้าง ถุง เต่า ส้ม กวาง ม้งุ ม้า ปลา มะขาม ร่ม สุ่ม ย่าม เงาะ ไข่ แ แม่ ก กา 1. ………………………………… 2. ………………………………… 3. ………………………………… 4. ………………………………… 5. ………………………………… 44

แม่ กง 1. ………………………………… 2. ………………………………… 3. ………………………………… 4. ………………………………… 5. ………………………………… แม่ กม 1. ………………………………… 2. ………………………………… 3. ………………………………… 4. ………………………………… 5. ………………………………… การประเมนิ ผลงาน : ระบายสีในสัญลกั ษณ์รูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ดี พอใช้ ควรปรับปรุง   เพือ่ น ☺ คณุ ครู ☺ 45

ใบงานที่ 4 ภาพสื่อคา ชื่อ – นามสกลุ .......................................................................... ช้ัน ป. 3 / ............ เลขท่ี ............ คาส่ัง เขยี นคาให้ตรงกบั ภาพตามมาตราตวั สะกดมาตรา กน ให้ถูกต้อง 1. ................................…....…....…... ……….... 2. …………………. 3. …………………. 4. ๊ ............................. 5. ………………….. การประเมนิ ผลงาน : ระบายสีในสญั ลกั ษณร์ ูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง พอใช้ ควรปรบั ปรุง ดี  เพ่อื น ☺   46 คุณครู ☺

ใบงานท่ี 5 คาใดถกู คาใดผิด ชื่อ – นามสกุล .......................................................................... ช้ัน ป. 3 / ............ เลขท่ี ............ คาสั่ง ระบายสีลงในช่องที่เขยี นคาได้ถกู ต้อง 111. ธนาคาน ธนาคาร ธนาคาล สังหาล สงั หาญ 2. สังหาร ปลาวาฬ ปลาวาน 3. ปลาวาล เหรียญ เหรียน 4. เหรียณ ทหาล ทหาน 5. ทหาร กญุ แจ กุนแจ 6. กุณแจ ขา้ วสาล ขา้ วสาร 7. ขา้ วสาน รฐั บาร รฐั บาณ 8. รัฐบาล ประมวล ประมวณ 9. ประมวญ บุณคุณ บุนคุน 10. บญุ คุณ การประเมนิ ผลงาน : ระบายสีในสัญลกั ษณร์ ูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ดี พอใช้ ควรปรับปรุง   เพ่อื น ☺ คณุ ครู ☺ 47

ใบงานที่ 6 สานวน ชวนคิด ช่ือ – นามสกลุ .......................................................................... ช้ัน ป. 3 / ............ เลขท่ี ............ คาส่ัง เตมิ คาลงในสานวนให้ถูกต้อง แม่ กน 1. ____________ ใตน้ ้า 2. ____________ เสือให้ววั กลวั 3. จบั แพะ ____________ แกะ 4. ปลาใหญ่ _________ ปลาเลก็ 5. หนูตกถงั ขา้ ว __________ แม่ กก 1. กาคาบ __________ 2. กลิ้ง _________ ข้ึนภเู ขา 3. กินน้าใต้ __________ 4. คาง ________ ข้ึนวอ 5. ดิน _________ หางหมู 48

แม่ กบ 1. ____________ ข้ไี กไ่ มฝ่ ่อ 2. ปากวา่ ตา ____________ 3. ปากกดั ตีน __________ 4. สวยแต่ ________ ________ ไม่หอม 5. ___________ ในดิน ________ ในน้า การประเมินผลงาน : ระบายสีในสัญลกั ษณร์ ูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง ดี พอใช้ ควรปรับปรุง   เพอ่ื น ☺ คุณครู ☺ 49

ใบงานที่ 7 จิก๊ ซอว์ ต่อความรู้ คาสั่ง นาความรู้จากฐานการเรียนรู้ท่ี 1 - 5 มาตอบคาถามให้ถูกต้อง การอา่ น คือ __________________________________________________ ____________________________________________________________ ____________________________________________________________ ____________________________________________________________ ____________________________________________________________ การอ่านออกเสียง คือ ___________________________________________ ____________________________________________________________ ____________________________________________________________ ____________________________________________________________ การอา่ นในใจ คอื ______________________________________________ ____________________________________________________________ ____________________________________________________________ ขอ้ ควรปฏบิ ตั ใิ นการอา่ น 1. _______________________________________________________ _______________________________________________________ 2. _______________________________________________________ _______________________________________________________ 3. _______________________________________________________ _______________________________________________________ 50

4. _______________________________________________________ _______________________________________________________ 5. _______________________________________________________ _______________________________________________________ 6. _______________________________________________________ _______________________________________________________ 7. _______________________________________________________ _______________________________________________________ มารยาทในการอ่าน คือ 1. _______________________________________________________ _______________________________________________________ 2. _______________________________________________________ _______________________________________________________ 3. _______________________________________________________ _______________________________________________________ 4. _______________________________________________________ _______________________________________________________ การประเมินผลงาน : ระบายสีในสัญลกั ษณร์ ูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง   เพ่อื น ☺ คุณครู ☺ 51

ใบงานที่ 8 อ่านสนุก ช่ือ – นามสกลุ .......................................................................... ช้ัน ป. 3 / ............ เลขท่ี ............ คาส่ัง อ่านบทอ่านต่อไปน้ี และตอบคาถามให้ถกู ต้อง สวสั ดี ผทู้ ่รี ณรงคใ์ ห้ใชค้ าว่า “สวสั ดี” คือ พระยาอปุ กิตศิลปสาร โดยทมี่ าของเรื่องมีอยวู่ ่า เจา้ หนา้ ทวี่ ิทยกุ ระจายเสียงไดใ้ ชค้ าวา่ “ราตรีสวสั ด์ิ” ลงทา้ ยคาพดู เมื่อจบการกระจายเสียง แต่มีผคู้ ดั คา้ นเพราะเห็นวา่ ไม่เหมาะ เจา้ หนา้ ท่ีวิทยกุ ระจายเสียงจึงขอมาทางกระทรวงธรรมการ (กระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบนั ) เพือ่ ใหก้ รรมการชาระปทานุกรมช่วยคิด คาลงทา้ ยให้ กรรมการเห็นพร้อมกนั ใหใ้ ชค้ า “สวสั ดี” พระยาอปุ กิตศิลปสารไดแ้ นะนาใหน้ ิสิตจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั ทกั ทายปราศรยั กนั ดว้ ยคาวา่ “สวสั ดี” ปรากฏว่าไดร้ บั การตอบสนองดว้ ยดี จึงไดช้ กั ชวนให้ครูอาจารยอ์ บรมศษิ ยใ์ หใ้ ชค้ าว่า “สวสั ดี” ในทีส่ ุดคาน้ีกใ็ ช้ กนั มาจนปัจจบุ นั โดยปี พ.ศ. ท่ีเร่ิมใชค้ า “สวสั ดี” เขา้ ใจวา่ เป็นปี พ.ศ. ๒๔๘๐ (ทมี่ า: หนงั สือ 108 ซองคาถาม เล่ม 4) 1. ใครเป็นผรู้ ณรงคใ์ หใ้ ชค้ าวา่ “สวสั ดี” _______________________________________________________ _______________________________________________________ 52

2. ใครเป็นผคู้ ิดคาว่า “สวสั ดี” _________________________________________________________ _________________________________________________________ 3. คาวา่ “สวสั ดี” เกิดข้ึนเพราะเหตใุ ด _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ 4. พระยาอุปกิตศิลปสารไดแ้ นะนาให้ใครทกั ทายปราศรยั ดว้ ยคาวา่ “สวสั ดี” _________________________________________________________ _________________________________________________________ 5. ประเทศไทยเร่ิมใชค้ าวา่ “สวสั ดี” เมอ่ื ใด _________________________________________________________ _________________________________________________________ การประเมนิ ผลงาน : ระบายสีในสญั ลกั ษณร์ ูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง ดี พอใช้ ควรปรับปรุง   เพอื่ น ☺ คุณครู ☺ 53

เกณฑ์ประเมินชิน้ งาน = 5 คะแนน = 4 คะแนน กจิ กรรมพัฒนาการคดิ ข้อ 1 ( 10 คะแนน ) = 3 คะแนน = 2 คะแนน 1. การจาแนกคาตามมาตราตัวสะกด ( 5 คะแนน ) = 1 คะแนน - จาแนกคาตามมาตราตวั สะกดถูกตอ้ งทกุ คา = ไมม่ ีคะแนน - จาแนกคาตามมาตราตวั สะกดถกู ตอ้ ง 15 - 19 คา - จาแนกคาตามมาตราตวั สะกดถูกตอ้ ง 10 - 14 คา = 5 คะแนน - จาแนกคาตามมาตราตวั สะกดถกู ตอ้ ง 5 - 9 คา = 4 คะแนน - จาแนกคาตามมาตราตวั สะกดถกู ตอ้ ง 1 - 4 คา = 3 คะแนน - จาแนกคาตามมาตราตวั สะกดผดิ ทุกคา = 2 คะแนน = 1 คะแนน 2. การเขียนคาอ่าน ( 5 คะแนน ) = ไม่มีคะแนน - เขยี นคาอ่านไดถ้ กู ตอ้ งทกุ คา - เขียนคาอ่านไดถ้ ูกตอ้ ง 15 - 19 คา - เขยี นคาอา่ นไดถ้ กู ตอ้ ง 10 - 14 คา - เขียนคาอา่ นไดถ้ ูกตอ้ ง 5 - 9 คา - เขียนคาอา่ นไดถ้ กู ตอ้ ง 1 - 4 คา - เขียนคาอา่ นผิดทกุ คา 54

เกณฑ์ประเมนิ ชิ้นงาน = 5 คะแนน = 4 คะแนน กจิ กรรมพฒั นาการคดิ ข้อ 2 ( 10 คะแนน ) = 3 คะแนน = 2 คะแนน 1. การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ( 5 คะแนน ) = 1 คะแนน - อา่ นเวน้ วรรคตอนถกู ตอ้ ง และออกเสียงคา ออกเสียง ร ล = ไมม่ ีคะแนน และคาควบกล้าไดถ้ ูกตอ้ งชดั เจน - อ่านเวน้ วรรคตอนถกู ตอ้ ง และออกเสียงคา ออกเสียง ร ล = 5 คะแนน และคาควบกล้าไดถ้ กู ตอ้ ง แต่ยงั ไมช่ ดั เจน = 4 คะแนน - อา่ นเวน้ วรรคตอนถกู ตอ้ ง แต่ออกเสียงคา ออกเสียง ร ล = 3 คะแนน และคาควบกล้าผดิ บางคา = 2 คะแนน - อา่ นเวน้ วรรคผดิ เลก็ นอ้ ย ออกเสียงคา ออกเสียง ร ล = 1 คะแนน และคาควบกล้าผิดบางคา = ไมม่ คี ะแนน - อ่านเวน้ วรรคตอนผิด ออกเสียงคา ออกเสียง ร ล และคาควบกล้าผดิ หลายคา - อ่านเวน้ วรรคตอนผิด ออกเสียงคา ออกเสียง ร ล และคาควบกล้าผิดเป็ นส่วนใหญ่ 2. การเขียนต้งั คาถาม และตอบคาถาม ( 5 คะแนน ) - เขียนต้งั คาถาม และตอบคาถามได้ 5 ขอ้ ข้นึ ไป และคาถาม คาตอบมีความชดั เจนมาก - เขยี นต้งั คาถาม และตอบคาถามได้ 4 ขอ้ และคาถาม คาตอบ มคี วามชดั เจน - เขยี นต้งั คาถาม และตอบคาถามได้ 3 ขอ้ และคาถาม คาตอบ คอ่ นขา้ งชดั เจน - เขียนต้งั คาถาม และตอบคาถามได้ 2 ขอ้ และคาถาม คาตอบ ไมค่ อ่ ยชดั เจน - เขียนต้งั คาถาม และตอบคาถามได้ 1 ขอ้ และคาถาม คาตอบ ไมค่ อ่ ยชดั เจน - เขยี นต้งั คาถาม และตอบคาถามไม่ไดเ้ ลย 55

เกณฑ์ประเมินชิ้นงาน = 5 คะแนน = 4 คะแนน กิจกรรมพฒั นาการคดิ ข้อ 3 (คะแนนเตม็ 5 คะแนน ) = 3 คะแนน = 2 คะแนน การเติมตวั อกั ษรให้ถกู ต้องตามความหมาย ( 5 คะแนน ) = 1 คะแนน - เตมิ ตวั อกั ษรไดถ้ กู ตอ้ งทุกคา = ไม่มีคะแนน - เติมตวั อกั ษรไดถ้ ูกตอ้ ง 8 – 9 คา - เติมตวั อกั ษรไดถ้ ูกตอ้ ง 6 – 7 คา - เติมตวั อกั ษรไดถ้ กู ตอ้ ง 4 – 5 คา - เติมตวั อกั ษรไดถ้ ูกตอ้ ง 2 – 3 คา - เตมิ ตวั อกั ษรไดถ้ ูกตอ้ ง 1 คา หรือเติมอกั ษรไมถ่ ูกตอ้ งเลย 56

ประแเบมบนิ ประเมิน ทักษะการอ่านออกเสียง ช้นั ป. 3 /…………………....หน่วยที่ ...................................................................……………………………….…….………….......................... กิจกรรม ………..……….…………………………………………………………………………………………………………...………………….... คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตการใชท้ กั ษะการอ่านออกเสียงของผเู้ รียนในขณะปฏิบตั กิ ิจกรรม โดยเขียนระดบั คะแนนลงในตารางทต่ี รงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑ์การให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1= ควรปรบั ปรุง รายการประเมิน สรุปผล การประเมนิ รวม เลขที่ ชื่อ – นามสกุล อ่านออกเสียง อ่านออกเสียง คะแนน ผ่าน ไม่ วรรณกรรม สะกดคา ✓ ผ่าน ทก่ี าหนด  และข้อความ ลงช่ือ ................................................................................. ผปู้ ระเมนิ เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนได้ 4 คะแนนข้ึนไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ประเมิน 57

แบบประเมิน ทกั ษะการเขยี น ช้นั ป. 3 /…………………....หน่วยท่ี ...................................................................……………………………….…….………….......................... กิจกรรม ………..……….…………………………………………………………………………………………………………...………………….... คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตการใชท้ กั ษะการเขยี นของผเู้ รียนในขณะปฏบิ ตั กิ ิจกรรม โดยเขยี นระดบั คะแนน ลงในตารางท่ีตรงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑ์การให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1= ควรปรับปรุง รายการประเมนิ สรุปผล การประเมนิ รวม เลขท่ี ชื่อ – นามสกลุ เขยี น เขยี นด้วย ความ คะแนน ผ่าน ไม่ สะกดคา ลายมือที่ สะอาด ✓ ผ่าน ถูกต้อง สวยงาม เรียบร้อย  ลงช่ือ ................................................................................. ผปู้ ระเมนิ เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนได้ 6 คะแนนข้ึนไป ถอื ว่า ผ่านเกณฑ์ประเมิน 58

ประเมนิ แบบประเมนิ คุณลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ ช้นั ป. 3 / วชิ า…......…… ............................................................................................………………….……………………………………….... คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤตกิ รรมการทางาน การปฏบิ ตั งิ านของนกั เรียนวา่ มกี ารปฏิบตั หิ รือไม่ ถา้ มกี ารปฏิบตั ิในรายการใดใหข้ ดี ✓ ถา้ ไม่มใี ห้เวน้ วา่ ง รายการประเมนิ สรุปผล การประเมิน เลขท่ี ชื่อ - นามสกุล เห็น ุคณ ่คาของการใ ้ชภาษาไทย รวม ไม่ ใน ีชวิตประจาวัน มีความกระ ืตอ ืรอ ้รนและสนใจใ ่ฝ ู้ร คะแนน ผ่าน ผ่าน มีความ ัรบ ิผดชอบ ✓  ีม ่สวน ่รวมในการทากิจกรรม ีมนิ ัสย ัรกการ ่อานและเขียน ลงช่ือ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนมีการปฏบิ ตั ิ 3 รายการข้ึนไป ถือว่า ผ่านเกณฑ์ประเมนิ 59

ประเมนิ แบบประเมนิ ผลงาน ช่ือ - นามสกุล .............................................................................................. ช้นั ป. 3 / …………….... เลขท่ี ……………………… หน่วยการเรียนรู้ที่ .................................................................... กิจกรรม ……………….………………………………………….... คาชีแ้ จง : ใหผ้ ปู้ ระเมินขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกบั ระดบั คะแนน (ดเู กณฑก์ ารให้คะแนนผลงานในหนา้ ถดั ไป) รายการประเมนิ ผ้ปู ระเมิน ตนเอง เพ่ือน ครู 432143214321 1. ตรงจุดประสงคท์ ่ีกาหนด 2. มีความถกู ตอ้ งสมบรู ณ์ 3. มคี วามคิดสร้างสรรค์ 4. มีความเป็นระเบียบ 5. เสร็จตามเวลาที่กาหนด รวม รวมทุกรายการ เฉล่ยี ผปู้ ระเมิน ................................................................................. (ตนเอง) ผปู้ ระเมนิ ................................................................................. (เพื่อน) ผปู้ ระเมนิ ................................................................................. (ครู) 60

เกณฑ์การให้คะแนนผลงาน ประเดน็ ท่ีประเมิน คะแนน 1. ผลงานตรงกบั 43 2 1 จดุ ประสงคท์ ่กี าหนด ผลงานทท่ี า ผลงานท่ที า ผลงานทที่ า ผลงานที่ทา 2. ผลงานมีความถูกตอ้ ง สอดคลอ้ งกบั ไมส่ อดคลอ้ ง สมบูรณ์ สอดคลอ้ ง สอดคลอ้ ง จุดประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ บางประเดน็ 3. ผลงานมคี วามคดิ กบั จุดประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ เน้ือหาสาระของ เน้ือหาสาระของ สร้างสรรค์ ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานไมถ่ กู ตอ้ ง ทกุ ประเดน็ เป็ นส่วนใหญ่ เป็ นบางส่วน เป็ นส่วนใหญ่ 4. ผลงานมีความเป็น ผลงานมคี วาม ผลงานไมแ่ สดง ระเบียบ เน้ือหาสาระของ เน้ือหาสาระของ น่าสนใจ แตย่ งั แนวคดิ ใหม่ ไม่มแี นวคิด 5. ผลงานเสร็จตามเวลา ผลงานถกู ตอ้ ง ผลงานถูกตอ้ ง แปลกใหม่ ผลงานส่วนใหญ่ ท่ีกาหนด ไม่เป็นระเบยี บ ครบถว้ น เป็ นส่วนใหญ่ ผลงานมีความ และมขี อ้ บกพร่อง เป็นระเบยี บแตม่ ี มาก ผลงานแสดงออก ผลงานมีแนวคดิ ขอ้ บกพร่อง คอ่ นขา้ งมาก ส่งผลงานชา้ กวา่ ถึงความคดิ แปลกใหมแ่ ต่ยงั เวลาที่กาหนดเกิน ส่งผลงานชา้ กวา่ กวา่ 5 วนั สร้างสรรค์ ไม่เป็ นระบบ เวลาทีก่ าหนด 3-5 วนั แปลกใหม่ และเป็ นระบบ ผลงานมีความเป็น ผลงานส่วนใหญ่ ระเบียบ แสดงออก มีความเป็น ถึงความประณีต ระเบียบแต่ยงั มี ต้งั ใจ ขอ้ บกพร่อง เล็กนอ้ ย ส่งผลงานตามเวลา ส่งผลงานชา้ กว่า ทีก่ าหนด เวลาท่กี าหนด 1-2 วนั เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 17 - 20 ดีมาก 12 - 16 ดี 8 - 11 5-7 ปานกลาง ปรบั ปรุง 61

ประเมนิ แบบประเมิน สมรรถนะผ้เู รียน 5 ด้าน คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในชอ่ งทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน สมรรถนะท่ีประเมนิ ระดบั คะแนน 3 21 1. ความสามารถในการส่ือสาร 1.1 มคี วามสามารถในการรบั – ส่งสาร 1.2 มคี วามสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม 1.3 ใชว้ ธิ ีการสื่อสารที่เหมาะสม 2. ความสามารถในการคดิ 2.1 มีความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ เพ่ือการสรา้ งองคค์ วามรู้ 2.2 มคี วามสามารถในการคดิ เป็นระบบ เพื่อการสร้างองคค์ วามรู้ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3.1 แกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตุผล 3.2 แสวงหาความรูม้ าใชใ้ นการแกป้ ัญหา 3.3 ตดั สินใจโดยคานึงถึงผลกระทบต่อตนเองและผอู้ นื่ 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ 4.1 ทางานและอยูร่ ่วมกบั ผอู้ นื่ ดว้ ยความสมั พนั ธอ์ นั ดี 4.2 มวี ิธีแกไ้ ขความขดั แยง้ อย่างเหมาะสม 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5.1 เลอื กใชข้ อ้ มลู ในการพฒั นาตนเองอย่างเหมาะสม 5.2 เลอื กใชข้ อ้ มลู ในการทางานและอยู่ร่วมกบั ผอู้ ื่นอย่างเหมาะสม ลงชื่อ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน / /........................ ......................... ............................. เกณฑ์การให้คะแนน : - พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบตั ชิ ดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤตกิ รรมท่ีปฏบิ ตั ชิ ดั เจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบตั บิ างคร้ัง ให้ 1 คะแนน 62

ประเมิน แบบประเมิน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 ด้าน คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดบั คะแนน คุณลักษณะอนั พึง รายการทปี่ ระเมิน ระดับ ประสงค์ด้าน คะแนน 321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 มคี วามรักและภูมใิ จในความเป็นชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ธรรมของศาสนา 1.3 แสดงออกถึงความจงรักภกั ดตี อ่ สถาบนั พระมหากษตั ริย์ 2. ซื่อสัตย์สุจริต 2.1 ปฏิบตั ติ ามระเบยี บการสอนและไม่ลอกการบา้ น 2.2 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเป็นจริงตอ่ ตนเอง 3. มวี นิ ยั 2.3 ประพฤติ ปฏิบตั ิ ตรงต่อความเป็นจริงต่อผอู้ ืน่ 3.1 เขา้ เรียนตรงเวลา 4. ใฝ่ เรียนรู้ 3.2 แตง่ กายเรียบร้อยเหมาะสมกบั กาลเทศะ 3.3 ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบียบของหอ้ งและของโรงเรียน 5. อย่อู ย่างพอเพยี ง 4.1 แสวงหาขอ้ มูลจากแหลง่ การเรียนรู้ตา่ งๆ 6. ม่งุ ม่ันในการทางาน 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรูอ้ ยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรุปความรูไ้ ดอ้ ยา่ งมีเหตุผล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ ินและสิ่งของของโรงเรียนอย่างประหยดั 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และรูค้ ณุ คา่ 5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และมีการเก็บออมเงนิ 6.1 มีความต้งั ใจและพยายามในการทางานทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรค เพ่อื ใหง้ านสาเร็จ 63

ประเมิน แบบประเมิน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 8 ด้าน (ต่อ) คาชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะอนั พงึ รายการที่ประเมิน ระดับ ประสงค์ด้าน คะแนน 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย 321 7. รักความเป็ นไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รู้จกั การใหเ้ พือ่ ส่วนรวมและเพ่อื ผอู้ ื่น 8. มจี ิตสาธารณะ 8.2 แสดงออกถึงการมนี ้าใจหรือการใหค้ วามช่วยเหลอื ผอู้ ื่น 8.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมบาเพญ็ ตนเพอ่ื ส่วนรวมเม่ือมีโอกาส ลงช่ือ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน / /......................... ......................... ............................. เกณฑ์การให้คะแนน : - พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบตั ชิ ดั เจนและบ่อยคร้งั ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบตั บิ างคร้งั ให้ 1 คะแนน 64


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook