Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Description: 7

Search

Read the Text Version

การวางแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยที่ 7   วเิ คราะห์สาระมาตรฐานและขอบข่ายการจดั การเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ระดบั ช้ัน ประถมศกึ ษาปี ที่ 3 ช่ือหน่วยการเรียนรู้ คาคลอ้ งจอง เพอื่ นพอ้ ง คาขวญั เวลา 4 ชวั่ โมง สาระสาคญั ตามมาตรฐาน เวลา 4 ชวั่ โมง การเรียนรู้ท่ี ท 1.1 / ท 4.1 / 1. วรรณคดีเรื่อง สงั ขท์ อง เวลา 9 ชว่ั โมง ท 5.1 2. คาคลอ้ งจอง เวลา 3 ชว่ั โมง 3. คาขวญั ลาดบั แผนการจัดการเรียนรู้ 4. บทอาขยาน - แผนการเรียนรู้ท่ี 7 กิจกรรมที่ กระบวนการเรยี นรู้หลกั 1. คลอ้ งจอง คลอ้ งคา 2. คาขวญั 3. วรรณคดีเรื่อง สังขท์ อง 4. บทอาขยาน - กระบวนการเรียนภาษา - กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการเรียนรู้บูรณาการ - บูรณาการสู่การคดิ โดยใหน้ กั เรียนแต่งคาขวญั เก่ียวกบั การรณรงค์ เร่ืองการอ่าน โดยแต่งคาขวญั แลว้ เขียนลงบนกระดาษ และตกแตง่ ให้สวยงาม จากน้นั จดั ป้ายนิเทศเพือ่ นาเสนอผลงาน 222

 กาหนดเป้าหมายการจดั การเรียนรู้ ประจาหน่วยที่ 7 ด้านความรู้ (K) ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) ด้านคุณลักษณะ 1. วรรณคดีเร่ือง สงั ขท์ อง 1. การฟังส่ิงทีค่ รูและเพือ่ นพูด 2. คาคลอ้ งจอง 2. การพดู ตอบคาถาม และการพดู ท่พี ึงประสงค์ (A) 3. คาขวญั 1. เห็นคุณคา่ ของการใชภ้ าษาไทย 4. บทอาขยาน แสดงความคดิ 3. การอ่านออกเสียงสะกดคา ในชีวติ ประจาวนั 4. การเขยี นสะกดคา 2. มคี วามกระตือรือรน้ สนใจใฝ่รู้ 5. การคดิ วเิ คราะห์ 3. มคี วามรับผิดชอบในงานของตน 6. การคดั ลายมอื ตวั บรรจง และมสี ่วนร่วมในการทากิจกรรม เตม็ บรรทดั 4. มีนิสัยรกั การอ่านและเขยี น เป้าหมายการเรียนรู้ คาคล้องจอง เพ่ือนพ้อง คาขวัญ หลกั ฐานการเรยี นรู้ ภาระงานท่ปี ฏบิ ัตริ ะหว่างเรียน ผลงานการเรียนรู้รวบยอด ผลงานการประเมนิ ตนเอง - ฝึกกระบวนการเรียนรูโ้ ดยการ - ฝึกกระบวนการคิดวิเคราะห์ ผลงานคาขวญั หรรษา อา่ น เขียน และคิดจากกิจกรรม จากกิจกรรมพฒั นาการคิด พฒั นาการเรียนรู้ และใบงาน (จานวน 10 ชิ้น) (จานวน 8 ชิน้ ) 223

 ออกแบบการจดั การเรียนรู้ 1. กาหนดเป้าหมายการเรียนรู้ สาระที่ 1 : การอ่าน มาตรฐาน ท 1.1 : ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิด เพื่อนาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนินชีวิต และมีนิสยั รักการอ่าน (1) อ่านออกเสียงคา ขอ้ ความ เร่ืองส้ันๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ ไดถ้ กู ตอ้ ง คลอ่ งแคล่ว (2) อธิบายความหมายของคา และขอ้ ความทอี่ า่ น สาระที่ 4 : หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท 4.1 : เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลงั ของ ภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ (5) แตง่ คาคลอ้ งจอง และคาขวญั สาระที่ 5 : วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท 5.1 : เขา้ ใจและแสดงความคดิ เห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคุณคา่ และนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตจริง (3) แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั วรรณคดีท่อี ่าน (4) ท่องจาบทอาขยานตามทก่ี าหนด และบทร้อยกรองท่ีมคี ุณคา่ ตามความสนใจ 2. ความคดิ รวบยอด เมอื่ เรียนจบหน่วยการเรียนรู้น้ีแลว้ นกั เรียนจะตอ้ งมีความรู้ความเขา้ ใจทคี่ งทน ดงั น้ี - การฝึกอ่านออกเสียงสะกดคา จะทาใหอ้ ่านคา ขอ้ ความและเร่ืองส้ันๆ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง คลอ่ งแคลว่ - คาคลอ้ งจอง เป็นคาท่ใี ชส้ ระเดียวกนั และมตี วั สะกดมาตราเดียวกนั แต่มีพยญั ชนะตน้ ต่างกนั - คาขวญั เป็นถอ้ ยคาท่ีสัมผสั คลอ้ งจองกนั ซ่ึงแต่งข้นึ เพือ่ เตอื นใจ จูงใจให้เห็นคณุ ค่าของสิ่งตา่ งๆ - การแสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีทอี่ า่ น เป็นการแสดงความรู้สึกของผอู้ ่านทม่ี ตี ่อวรรณคดี เร่ืองน้นั ๆ - อาขยาน เป็นบททอ่ งจาทเ่ี ป็นร้อยกรองทไี่ พเราะ และใหข้ อ้ คดิ สอนใจ 224

3. แก่นสารสาคญั ของการเรียนรู้ 1. การเรียนรู้คาคลอ้ งจอง และคาขวญั มีความจาเป็นตอ่ การดารงชีวติ ของนกั เรียนอยา่ งไร 2. นกั เรียนคดิ ว่าขอ้ คิดท่ไี ดจ้ ากบทอาขยาน มปี ระโยชน์ตอ่ การนาไปใชใ้ นชีวิตของนกั เรียน อยา่ งไร 4. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 4.1 การประเมินก่อนเรียน 1) การใชค้ าถามเพ่อื ประเมนิ ความรู้เดิมของนกั เรียน 2) การทากิจกรรมนาสู่การเรียน - การเตมิ คาทก่ี าหนดให้ลงในช่องว่างให้คลอ้ งจองกนั 4.2 การประเมนิ ระหว่างเรียน 1) การเรียงคาทกี่ าหนดใหค้ ลอ้ งจองกนั 2) การเตมิ คาท่ีคลอ้ งจองตอ่ จากคาท่ีกาหนด 3) การเติมคาลงในช่องว่างให้เป็นคาขวญั ทีส่ มบรู ณ์ 4) การอา่ นสะกดคาบทอา่ น และหาความหมายของคาทีก่ าหนด 5) การตอบคาถามจากเรื่องทีอ่ า่ น 6) การแสดงบทบาทสมมตจิ ากวรรณคดีทอี่ า่ น 7) การสืบคน้ ขอ้ มลู เร่ืองทีก่ าหนดเพ่มิ เติมจากแหล่งขอ้ มูลตา่ งๆ 8) การคดั บทอาขยานทีก่ าหนดดว้ ยตวั บรรจงเต็มบรรทดั แลว้ ฝึกทอ่ งจาบทอาขยาน 4.3 การประเมนิ หลังเรียน - แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิ ประจาหน่วยท่ี 6-10 4.4 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเรียนรู้รวบยอด 1) การเติมคาทค่ี ลอ้ งจองตอ่ จากคาที่กาหนด 2) การจบั คู่ขอ้ ความทคี่ ลอ้ งจองและสมั พนั ธก์ นั ให้เป็นคาขวญั ท่ถี ูกตอ้ ง 3) การคดิ และเขียนคาขวญั ในหัวขอ้ ทีก่ าหนด แลว้ วาดรูปประกอบใหส้ วยงาม 4) การเติมคาทก่ี าหนดให้ลงในช่องวา่ งใหถ้ กู ตอ้ ง ตามสมั ผสั คลอ้ งจองของบทอาขยาน 5) ใบงานที่ 32 เรื่อง คลอ้ งจอง คลอ้ งคา 6) ใบงานที่ 33 เร่ือง วรรณคดี เรื่อง สงั ขท์ อง ตอนที่ 1 7) ใบงานที่ 34 เร่ือง วรรณคดี เรื่อง สังขท์ อง ตอนที่ 2 8) ใบงานท่ี 35 เร่ือง วรรณคดี เรื่อง สงั ขท์ อง ตอนที่ 3 9) ใบงานที่ 36 เรื่อง วรรณคดี เร่ือง สงั ขท์ อง ตอนท่ี 4 10) ใบงานท่ี 37 เรื่อง วรรณคดี เรื่อง สงั ขท์ อง ตอนท่ี 5 225

4.5 การประเมินตนเอง - ผลงานคาขวญั หรรษา 5. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. สื่อการเรียนรู้ ( ตวั อยา่ ง : สื่อฯ มมฐ. หลกั สูตรแกนกลางฯ ภาษาไทย ป. 3 ) 2. บตั รคาคาคลอ้ งจอง 3. เกม คลอ้ งจอง คลอ้ งคา 4. คาขวญั เดก็ ดี มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ คูค่ ณุ ธรรม 5. รูปพระสงั ขต์ อนเป็นเจา้ เงาะ 6. ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้ เช่น หอ้ งสมดุ อินเทอร์เน็ต 226

แผนการเรียนรู้ท่ี 7 คาคล้องจอง เพ่ือนพ้อง คาขวญั รหสั วิชา / ช่ือรายวิชา.......................................................................................................................................................................กลุม่ สาระภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปี ที่ 3 เวลา 20 ชั่วโมง ภาคเรี ยนท่ี........................................... ผสู้ อน โรงเรียน............................................................................................................... ............................................................................................................................. 1. สาระสาคญั คาคลอ้ งจอง เป็นคาที่ใชส้ ระเดียวกนั และมีตวั สะกดอยใู่ นมาตราเดียวกนั แต่มพี ยญั ชนะตน้ ต่างกนั และถอ้ ยคาท่ีสมั ผสั คลอ้ งจองกนั คาคลอ้ งจองแต่งข้นึ เพอ่ื เตอื นใจ หรือเพอ่ื จงู ใจใหเ้ ห็นคณุ ค่า และความสาคญั ของส่ิงท่ีกล่าวถึง เรียกวา่ คาขวญั ดงั น้นั การเรียนรู้และทาความเขา้ ใจคาคลอ้ งจอง จะทาให้สามารถแต่งคาขวญั ได้ และเป็นการอนุรกั ษภ์ าษาไทย 2. ตวั ชี้วัด / จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อา่ นออกเสียงคา ขอ้ ความ เร่ืองส้นั ๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง คลอ่ งแคลว่ (ท 1.1 ป. 3/1) 2. อธิบายความหมายของคา และขอ้ ความทอี่ ่าน (ท 1.1 ป. 3/2) 3. แต่งคาคลอ้ งจอง และคาขวญั (ท 4.1 ป. 3/5) 4. แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั วรรณคดีที่อา่ น (ท 5.1 ป. 3/3) 5. ท่องจาบทอาขยานตามทกี่ าหนด และบทร้อยกรองทม่ี คี ุณคา่ ตามความสนใจ (ท 5.1 ป. 3/4) 3. สาระการเรียนรู้ ความรู้ 1. วรรณคดีเรื่อง สังขท์ อง 2. คาคลอ้ งจอง 3. คาขวญั 4. บทอาขยาน ทักษะ/กระบวนการ 1. การฟังส่ิงที่ครูและเพอ่ื นพดู 2. การพดู ตอบคาถาม และการพดู แสดงความคิด 3. การอ่านออกเสียงสะกดคา 227

4. การเขยี นสะกดคา เวลา 4 ชั่วโมง 5. การคดิ วิเคราะห์ 6. การคดั ลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทดั คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ 1. เห็นคุณค่าของการใชภ้ าษาไทยในชีวิตประจาวนั 2. มีความกระตอื รือร้น สนใจใฝ่ รู้ 3. มีความรับผดิ ชอบในงานของตน และมสี ่วนร่วมในการทากิจกรรม 4. มีนิสยั รกั การอ่านและเขยี น 4. กจิ กรรมการเรียนรู้ กิจกรรมที่  คล้องจอง คล้องคา กระบวนการเรียนภาษา ช่ัวโมงที่ 1 กจิ กรรมนาสู่การเรยี น 1. ครูให้นกั เรียนดูบตั รคาบนกระดาน ดงั น้ี ชูใจ ใย บัว หัวใจ นกั เรียน เขยี น คา น้าใจ 2. ครูให้นกั เรียนสังเกตลกู ศร และตวั อกั ษรพมิ พห์ นาที่ขดี เส้นใตว้ า่ แต่ละคามคี วามคลา้ ยคลึงกนั อยา่ งไร 3. ครูช้ีแจงใหน้ กั เรียนทราบว่า ลกั ษณะของคาดงั กล่าวเรียกวา่ คาคลอ้ งจอง 4. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมนาสู่การเรียน ในหนงั สือเรียน (หนา้ 135) โดยเติมคาท่ีกาหนด ลงในช่องวา่ งใหค้ ลอ้ งจองกนั จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบของกิจกรรม 228

กจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้ 1. ครูให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน (หนา้ 136) หัวขอ้ คาคลอ้ งจอง แลว้ ครูอธิบายให้นกั เรียนเขา้ ใจ เก่ียวกบั คาคลอ้ งจอง โดยใชต้ วั อยา่ งในหนงั สือเรียน (หนา้ 136) ประกอบการอธิบาย จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงคาคลอ้ งจอง ในหนงั สือเรียน (หนา้ 136) พร้อมกนั 2. ครูให้นกั เรียนเล่นเกม “คลอ้ งจอง คลอ้ งคา” โดยให้นกั เรียนแบง่ ออกเป็นกล่มุ กลุม่ ละ 4-5 คน เพอ่ื ช่วยต่อคาคลอ้ งจอง กลมุ่ ใดตอ่ คาคลอ้ งจองไม่ไดใ้ หบ้ อกผ่าน กลมุ่ ใดต่อคาคลอ้ งจอง ถกู ตอ้ งได้ 1 คะแนน กลุม่ ทไี่ ดค้ ะแนนมากทีส่ ุดถอื เป็นผชู้ นะ 3. ครูและนกั เรียนสรุปความรู้เรื่อง คาคลอ้ งจอง ร่วมกนั ช่ัวโมงที่ 2 4. ครูใหน้ กั เรียนทาใบงานที่ 32 คลอ้ งจอง คลอ้ งคา ทค่ี รูแจก โดยใหน้ กั เรียนเขียนคาคลอ้ งจอง ตอ่ จากคาท่ีกาหนดใหถ้ กู ตอ้ ง 5. ครูใหน้ กั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียกนกั เรียนใหเ้ ฉลยคาตอบในใบงานหากตอบผดิ ใหน้ กั เรียน คนอนื่ ในห้องช่วยกนั แกไ้ ขคาตอบใหถ้ กู ตอ้ ง ชั่วโมงที่ 3 6. ครูทบทวนความรู้เดิมเก่ียวกบั คาคลอ้ งจอง ใหน้ กั เรียนฟังอกี คร้งั 7. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 1 ขอ้ 1-2 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 137-138) โดยเรียงคาทกี่ าหนดให้คลอ้ งจองกนั และเติมคาทค่ี ลอ้ งจองตอ่ จากคาทกี่ าหนดให้ 8. ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบของกิจกรรม ช่ัวโมงท่ี 4 กิจกรรมรวบยอด 1. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการคิด ขอ้ 1 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 148) โดยเติมคาทีค่ ลอ้ งจอง ต่อจากคาที่กาหนดให้ 2. ครูและนกั เรียนเฉลยคาตอบร่วมกนั 3. ครูให้นกั เรียนคิดแลว้ เขียนคาคลอ้ งจองอีก 3 คาตอ่ จากคาในกิจกรรมพฒั นาความคดิ ขอ้ 1 ลงในสมุด 229

4. ครูให้นกั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียกนกั เรียนใหบ้ อกคาคลอ้ งจองทต่ี นเองคิดเพื่อตรวจสอบ ความเขา้ ใจ จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เรื่อง คาคลอ้ งจอง กิจกรรมท่ี  คาขวญั เวลา 4 ช่ัวโมง กระบวนการเรียนภาษา ช่ัวโมงที่ 1 กิจกรรมนาสู่การเรียน 1. ครูให้นกั เรียนอ่านคาขวญั บนกระดานพร้อมกนั เดก็ ดี มวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ คคู่ ุณธรรม 2. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกคุณคา่ และความสาคญั ของคาขวญั จากน้นั ครูนาเขา้ สู่การเรียน เกี่ยวกบั คาขวญั กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ 1. ครูอธิบายให้นกั เรียนเขา้ ใจเกี่ยวกบั ความหมาย และวธิ ีการแตง่ คาขวญั โดยใชห้ นงั สือเรียน (หนา้ 137) ประกอบการอธิบาย 2. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ท่ี 1 ขอ้ 3 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 138) โดยเตมิ คา ลงในช่องว่างให้เป็นคาที่สมบรู ณ์ 3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ จากน้นั สรุปความรู้เกี่ยวกบั คาขวญั ร่วมกนั ช่ัวโมงท่ี 2 4. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการคิด ขอ้ 2 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 148) โดยจบั คู่ขอ้ ความ ทคี่ ลอ้ งจองกนั ให้เป็นคาขวญั ทีถ่ กู ตอ้ ง แลว้ เขียนลงในสมุด จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ 230

5. ครูให้นกั เรียนแบ่งออกเป็นกล่มุ กลุ่มละ 4 – 5 คน เพื่อช่วยกนั แตง่ คาขวญั เก่ียวกบั “การอนุรกั ษ์ ธรรมชาติ” กลมุ่ ละ 1 คาขวญั จากน้นั ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ออกมานาเสนอผลงานที่หนา้ ช้นั เรียน โดยครู และเพ่อื นในช้นั เรียนคอยแสดงความคดิ เห็นและใหข้ อ้ เสนอแนะ ช่ัวโมงท่ี 3 กจิ กรรมรวบยอด 1. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการคดิ ขอ้ 3 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 148) โดยคดิ แลว้ เขียน คาขวญั เพอื่ รณรงคล์ ดภาวะโลกร้อนลงในสมดุ แลว้ วาดรูปประกอบให้สวยงาม 2. ครูให้นกั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียกนกั เรียนให้ออกมานาเสนอผลงานที่หนา้ ช้นั เรียน โดยครูและเพื่อนนกั เรียนคอยแสดงความคิดเห็นและให้ขอ้ เสนอแนะ ชั่วโมงที่ 4 3. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมบูรณาการสร้างสรรค์ ในหนงั สือเรียน (หนา้ 149) โดยแต่งคาขวญั เก่ียวกบั การรณรงคเ์ ร่ืองการอ่าน แลว้ เขียนลงบนกระดาษและตกแต่งให้สวยงาม จากน้นั จดั ป้ายนิเทศเพอ่ื นาเสนอผลงาน กจิ กรรมท่ี  วรรณคดี เรื่อง สังข์ทอง เวลา 9 ชั่วโมง กระบวนการเรียนภาษา ชั่วโมงที่ 1 กิจกรรมนาสู่การเรียน 1. ครูนารูปพระสงั ขต์ อนเป็นเจา้ เงาะให้นกั เรียนดู จากน้นั ถามนกั เรียนว่า รู้จกั หรือเคยเห็นบุคคลน้ี มากอ่ นหรือไม่ 2. ครูเฉลยใหน้ กั เรียนเขา้ ใจวา่ บุคคลในรูปคือ พระสงั ข์ ในวรรณคดีเร่ือง สังขท์ อง จากน้นั ครูเล่า วรรณคดีเร่ือง สงั ขท์ อง พอสังเขปใหน้ กั เรียนฟัง เพื่อเป็นการปพู ้ืนฐานก่อนเรียนรู้วรรณคดี เร่ือง สงั ขท์ อง ตอน พระสังขต์ คี ลี ทีน่ กั เรียนจะไดเ้ รียนตอ่ ไป 231

กจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้ 1. ครูใหน้ กั เรียนอา่ นบทร้อยกรองวรรณคดีเร่ือง สังขท์ อง ในหนงั สือเรียน (หนา้ 140) พร้อมกนั 2. ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปเร่ืองจากบทร้อยกรองที่ไดอ้ า่ นทลี ะบท 3. ครูให้นกั เรียนเขียนสรุปเรื่องโดยยอ่ จากทีเ่ รียนลงในใบงานท่ี 33 วรรณคดี เรื่อง สังขท์ อง ตอนท่ี 1 4. ครูสุ่มนกั เรียนเพอื่ ผลดั กนั เลา่ เรื่อง สงั ขท์ อง จากทีไ่ ดเ้ รียนเพื่อตรวจสอบความเขา้ ใจ ชั่วโมงท่ี 2 5. ครูทบทวนความรู้เดิม จากน้นั ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงบทร้อยกรองเรื่อง สังขท์ อง ในหนงั สือเรียน (หนา้ 141) พร้อมกนั 6. ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปเร่ืองจากบทร้อยกรองทีไ่ ดอ้ ่านทลี ะบท 7. ครูให้นกั เรียนเขยี นสรุปเรื่องโดยยอ่ จากที่เรียนลงในใบงานท่ี 34 วรรณคดีเรื่อง สังขท์ อง ตอนที่ 2 8. ครูสุ่มนกั เรียนเพือ่ ผลดั กนั เล่าเร่ือง สังขท์ อง จากที่ไดเ้ รียนมาท้งั 2 ชวั่ โมง ช่ัวโมงท่ี 3 9. ครูทบทวนความรู้เดิม จากน้นั ให้นกั เรียนอ่านออกเสียงบทร้อยกรองเรื่อง สงั ขท์ อง ในหนงั สือเรียน (หนา้ 142) พร้อมกนั 10. ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปเรื่องจากบทร้อยกรองที่ไดอ้ า่ นทลี ะบท 11. ครูให้นกั เรียนเขียนสรุปเรื่องโดยยอ่ จากทเ่ี รียนลงในใบงานที่ 35 วรรณคดีเรื่อง สังขท์ อง ตอนท่ี 3 12. ครูสุ่มนกั เรียนเพื่อผลดั กนั เล่าเรื่อง สงั ขท์ อง จากทไ่ี ดเ้ รียนมาท้งั 3 ช่ัวโมง ช่ัวโมงที่ 4 13. ครูทบทวนความรู้เดิม จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงบทร้อยกรองเร่ือง สงั ขท์ อง ในหนงั สือเรียน (หนา้ 143) พร้อมกนั 14. ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปเร่ืองจากบทร้อยกรองที่ไดอ้ ่านทลี ะบท 15. ครูให้นกั เรียนเขียนสรุปเรื่องโดยยอ่ จากทเ่ี รียนลงในใบงานที่ 36 วรรณคดีเร่ือง สังขท์ อง ตอนท่ี 4 232

16. ครูให้นกั เรียนช่วยกนั เล่าเรื่อง สังขท์ อง จากทไ่ี ดเ้ รียนมาท้งั 4 ชั่วโมง ชั่วโมงท่ี 5 17. ครูทบทวนความรู้เดิม จากน้นั ให้นกั เรียนอ่านออกเสียงบทร้อยกรองเร่ือง สงั ขท์ อง ในหนงั สือเรียน (หนา้ 144 – 145) พร้อมกนั 18. ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปเร่ืองจากบทร้อยกรองทีไ่ ดอ้ า่ นทลี ะบท 19. ครูใหน้ กั เรียนเขียนสรุปเร่ืองโดยยอ่ จากทีเ่ รียนลงในใบงานท่ี 37 วรรณคดีเร่ือง สังขท์ อง ตอนที่ 5 20. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั เล่าเรื่อง สงั ขท์ อง จากท่ีไดเ้ รียนมาท้งั หมดโดยสรุป ชั่วโมงท่ี 6 กิจกรรมรวบยอด 1. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 2 ขอ้ 1 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 145) โดยให้ฝึกอา่ น บทร้อยกรองวรรณคดี เร่ือง สังขท์ อง พร้อมกนั 2. ครูให้นกั เรียนช่วยกนั หาความหมายของคาที่พิมพด์ ว้ ยตวั สีฟ้า แลว้ ให้นกั เรียนเขียนลงในสมดุ จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ ช่ัวโมงที่ 7 3. ครูและนกั เรียนช่วยกนั เลา่ สรุปโดยยอ่ เก่ียวกบั วรรณคดีเร่ือง สังขท์ อง ทไ่ี ดเ้ รียนมา 4. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ท่ี 2 ขอ้ 2 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 145) โดยตอบคาถาม แลว้ เขียนลงในสมุด 5. ครูสุ่มนกั เรียนใหพ้ ดู แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั คาถามในกิจกรรม ชั่วโมงที่ 8 6. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 2 ขอ้ 3 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 145) โดยแบ่งนกั เรียนออกเป็นกลมุ่ กลุ่มละเทา่ ๆ กนั แลว้ ใหแ้ ต่ละกลุม่ คดิ บทและแสดงบทบาท สมมตเิ รื่อง สงั ขท์ อง ตอน พระสังขต์ คี ลี จากวรรณคดีทีอ่ า่ น 7. ครูให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ออกมาแสดงบทบาทสมมติหนา้ ช้นั เรียน โดยครูและเพอื่ นนกั เรียน ร่วมกนั แสดงความคิดเห็นและให้ขอ้ เสนอแนะ 8. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกล่มุ ทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 2 ขอ้ 4 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 145) 233

โดยสืบคน้ ขอ้ มลู เก่ียวกบั การตคี ลี เพ่มิ เติมจากแหล่งขอ้ มลู ต่างๆ เป็นการบา้ นเพื่อนามานาเสนอ ในชว่ั โมงเรียนต่อไป ช่ัวโมงที่ 9 9. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอการสืบคน้ ขอ้ มลู เก่ียวกบั การตคี ลีทไ่ี ดไ้ ปศึกษาคน้ ควา้ มาที่หนา้ ช้นั เรียน 10. ครูให้นกั เรียนกลมุ่ อนื่ พูดแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั การนาเสนอผลงานของเพ่ือน 11. ครูและนกั เรียนสรุปวรรณคดีเรื่อง สงั ขท์ อง และการตคี ลี ร่วมกนั กจิ กรรมท่ี  บทอาขยาน เวลา 3 ชั่วโมง กระบวนการปฏิบตั ิ ชั่วโมงท่ี 1 กิจกรรมนาสู่การเรยี น 1. ครูให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงบทอาขยาน เดก็ นอ้ ย ในหนงั สือเรียน (หนา้ 147) พร้อมกนั 2. ครูให้นกั เรียนช่วยกนั สรุปความหมาย และจดุ ม่งุ หมายของบทอาขยานทอ่ี า่ น กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ 1. ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน (หนา้ 146) หัวขอ้ บทอาขยาน แลว้ ให้นกั เรียนอา่ นออกเสียง พร้อมกนั 2. ครูอธิบายให้นกั เรียนเขา้ ใจเก่ียวกบั ความหมาย และหลกั การอา่ นบทอาขยาน โดยใช้ตวั อยา่ ง ในหนงั สือเรียน (หนา้ 146) ประกอบการอธิบาย 3. ครูให้นกั เรียนเขียนแผนผงั ความคิดเก่ียวกบั หลกั การอ่านบทอาขยานให้เขา้ ใจ ลงในสมุด 4. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุป ความหมาย และหลกั การอา่ นบทอาขยาน ชั่วโมงที่ 2 5. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 3 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 147) โดยให้คดั บท อาขยาน เดก็ นอ้ ย ดว้ ยตวั บรรจงเต็มบรรทดั ลงในสมุด แลว้ ฝึกท่องบทอาขยาน เด็กนอ้ ย 6. เมอ่ื นกั เรียนท่องจาบทอาขยานไดแ้ ลว้ ครูให้นกั เรียนออกมาทอ่ งบทอาขยานกบั ครูทลี ะคน 234

ช่ัวโมงท่ี 3 กิจกรรมรวบยอด 1. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการคิด ขอ้ 4 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 149) โดยเตมิ คาท่กี าหนด ลงในช่องวา่ งตามสมั ผสั คลอ้ งจองของบทอาขยาน 2. ครูและนกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบจากกิจกรรมพฒั นาการคิด แลว้ ครูใหน้ กั เรียนท่องบท อาขยานในกิจกรรมพฒั นาการคิด ในหนงั สือเรียน (หนา้ 149) พร้อมกนั 3. ครูใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบท่ี 7 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 150) เพ่ือทบทวนความรู้ท่ีเรียนมา 5. ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1. ส่ือการเรียนรู้ (ตวั อยา่ ง : สื่อฯ มมฐ. หลกั สูตรแกนกลางฯ ภาษาไทย ป. 3) 2. บตั รคาคาคลอ้ งจอง 3. เกม คลอ้ งจอง คลอ้ งคา 4. คาขวญั 5. รูปพระสังขต์ อนเป็นเจา้ เงาะ 6. ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้ เช่น หอ้ งสมดุ อินเทอร์เนต็ 6. การวัดและประเมนิ ผล 6.1 หลกั ฐานการเรยี นรู้ (ชิน้ งานสุดท้ายทแี่ สดงพฤตกิ รรมการเรียนรู้รวบยอด) 1. กิจกรรมพฒั นาการคดิ ขอ้ 1-4 2. ใบงานที่ 32 เรื่อง คลอ้ งจอง คลอ้ งคา 3. ใบงานท่ี 33 เร่ือง วรรณคดี เรื่อง สงั ขท์ อง ตอนท่ี 1 4. ใบงานท่ี 34 เร่ือง วรรณคดี เร่ือง สังขท์ อง ตอนที่ 2 5. ใบงานที่ 35 เร่ือง วรรณคดี เร่ือง สงั ขท์ อง ตอนท่ี 3 6. ใบงานที่ 36 เร่ือง วรรณคดี เร่ือง สงั ขท์ อง ตอนท่ี 4 7. ใบงานที่ 37 เร่ือง วรรณคดี เรื่อง สงั ขท์ อง ตอนท่ี 5 8. ผลงานคาขวญั หรรษา 6.2 วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล 1. ตรวจการทากิจกรรมพฒั นาการคิด ขอ้ 1-4 2. ตรวจการทาใบงานท่ี 32 เร่ือง คลอ้ งจอง คลอ้ งคา 3. ตรวจการทาใบงานท่ี 33 เร่ือง วรรณคดี เร่ือง สังขท์ อง ตอนที่ 1 235

4. ตรวจการทาใบงานที่ 34 เรื่อง วรรณคดี เรื่อง สงั ขท์ อง ตอนท่ี 2 5. ตรวจการทาใบงานที่ 35 เร่ือง วรรณคดี เร่ือง สงั ขท์ อง ตอนที่ 3 6. ตรวจการทาใบงานท่ี 36 เร่ือง วรรณคดี เร่ือง สังขท์ อง ตอนท่ี 4 7. ตรวจการทาใบงานที่ 37 เร่ือง วรรณคดี เรื่อง สงั ขท์ อง ตอนที่ 5 8. ประเมนิ ผลงานคาขวญั หรรษา 9. สงั เกตทกั ษะการอ่านออกเสียง การพดู และการเขยี น 10. สงั เกตพฤติกรรมในขณะปฏบิ ตั ิกิจกรรม 6.3 เครื่องมือวดั และประเมนิ ผล และเกณฑ์ 1. กิจกรรมพฒั นาการคดิ ขอ้ 1-4 2. ใบงานท่ี 32 เร่ือง คลอ้ งจอง คลอ้ งคา 3. ใบงานท่ี 33 เรื่อง วรรณคดี เร่ือง สงั ขท์ อง ตอนที่ 1 4. ใบงานที่ 34 เร่ือง วรรณคดี เร่ือง สังขท์ อง ตอนที่ 2 (ร้อยละ 70 ผ่านเกณฑ์) 5. ใบงานท่ี 35 เรื่อง วรรณคดี เรื่อง สงั ขท์ อง ตอนท่ี 3 6. ใบงานท่ี 36 เรื่อง วรรณคดี เร่ือง สังขท์ อง ตอนที่ 4 7. ใบงานท่ี 37 เรื่อง วรรณคดี เร่ือง สังขท์ อง ตอนที่ 5 8. แบบประเมนิ ทกั ษะการอา่ นออกเสียง 9. แบบประเมินทกั ษะการพูด 10. แบบประเมินทกั ษะการเขียน 11. แบบประเมินคณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ (ดเู กณฑ์ในแบบประเมิน) 12. แบบประเมนิ ผลงาน 13. แบบประเมนิ สมรรถนะผเู้ รียน 5 ดา้ น 14. แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 ดา้ น 7. กจิ กรรมเสนอแนะ ¯............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................................................................................................................. 236

8. บนั ทกึ ผลการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผเู้ รียนที่ ผ่าน ตวั ช้ีวดั มีจานวน ........................................................ คน คิดเป็นร้อยละ............................................... 1.2 ผเู้ รียนที่ ไม่ผ่าน ตวั ช้ีวดั มจี านวน ........................................................ คน คดิ เป็นร้อยละ............................................... 1) ................................................................สาเหตุ (ถา้ ทราบ) ................................................... 2) ................................................................สาเหตุ ....................................................................... แนวทางแกป้ ัญหา .......................................................................................................................... ............................................................................................................................................. ............... ........................................................................................................................................................... . 1.3 ผูเ้ รียนทม่ี คี วามสามารถพเิ ศษ ไดแ้ ก่ 1) ........................................................................ 2) .................................................................... แนวทางการพฒั นา / ส่งเสริม ...................................................................................................... ก ............................................................................................................................................................ ................................................................................................................. ........................................... .................................................................................................................. .......................................... 1.4 ผเู้ รียนไดร้ ับความรู้ (K)………..................................................................................................... 1.5 ผเู้ รียนเกิดทกั ษะกระบวนการ (P)…………................................................................................ 1.6 ผเู้ รียนมีคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม (A)…................................................................................ 2. ปัญหาอุปสรรค (ถ้าม)ี .......................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................... ........................................ 3. ข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) .............................................................................................................................. ................................................................................................................ ................................................... ลงช่ือ.......................................................... (.........................................................) 237

ใบงานที่ 32 คล้องจอง คล้องคา ชื่อ – นามสกุล .......................................................................... ช้ัน ป. 3 / ............ เลขที่ ............ คาส่ัง เติมคาที่กาหนดลงในช่องว่างให้คล้องจองกนั และเตมิ คาคล้องจอง 2 คา ด้วยตนเองให้คล้องจองกนั จุดพลุ ป้ายสี มนี ้าใจ ชวนฝัน ใฝ่ ดี ชมเชย ใฝ่ เรียนรู้ ดูหมน่ิ ร้านขายของ มปี ัญญามาก 1. มงั แคุด 2. น้าใจ 3. ใจร้าย 4. ความรู้ 238

5. สงั คม 6. ภาษาไทย 7. หนงั สือดี 8. นิ่มนวล 9. ทาการบา้ น 10. คุณครูใจดี การประเมนิ ผลงาน : ระบายสีในสัญลกั ษณร์ ูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง   เพอ่ื น ☺ คณุ ครู ☺ 239

ใบงานท่ี 33 วรรณคดี เรื่อง สังข์ทอง ตอนท่ี 1 ช่ือ – นามสกุล .......................................................................... ช้ัน ป. 3 / ............ เลขท่ี ............ คาส่ัง เขียนสรุปโดยย่อจากวรรณคดเี ร่ือง สังข์ทอง ทีไ่ ด้เรียน ตอนท่ี 1 ........................................... _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ ๊_________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ การประเมินผลงาน : ระบายสีในสัญลกั ษณร์ ูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง   เพ่ือน ☺ คุณครู ☺ 240

ใบงานท่ี 34 วรรณคดี เรื่อง สังข์ทอง ตอนที่ 2 ชื่อ – นามสกุล .......................................................................... ช้ัน ป. 3 / ............ เลขท่ี ............ คาส่ัง เขียนสรุปโดยย่อจากวรรณคดเี รื่อง สังข์ทอง ทีไ่ ด้เรียน ตrอนที่ 2 _________________________________________________________ _________________._.._.._.._._.._.._.._.._._.._.._.._.._._.._.._.._.._._.._.._.._.._________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ ๊_________________________________________________________ การประเมนิ ผลงาน : ระบายสีในสญั ลกั ษณร์ ูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง   เพื่อน ☺ คุณครู ☺ 241

ใบงานท่ี 35 วรรณคดี เร่ือง สังข์ทอง ตอนท่ี 3 ช่ือ – นามสกลุ .......................................................................... ช้ัน ป. 3 / ............ เลขที่ ............ คาสั่ง เขียนสรุปโดยย่อจากวรรณคดเี รื่อง สังข์ทอง ทีไ่ ด้เรียน ตrอนท่ี 3 _________________________________________________________ _________________._.._.._.._._.._.._.._.._._.._.._.._.._._.._.._.._.._._.._.._.._.._________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ ๊ การประเมนิ ผลงาน : ระบายสีในสญั ลกั ษณร์ ูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง   เพอ่ื น ☺ คุณครู ☺ 242

ใบงานท่ี 36 วรรณคดี เรื่อง สังข์ทอง ตอนท่ี 4 ชื่อ – นามสกุล ..........................ใ..บ...ง..า..น...ท...่ี.4...บ...นั....บ...ร...ร...ส...ร..ร...ค..า..ช. ุชด้ทัน่ี 1ป. 3 / ............ เลขที่ ............ คาส่ัง เขียนสรุปโดยย่อจากวรรณคดเี ร่ือง สังข์ทอง ทไี่ ด้เรียน ตอนท่ี 4 _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ การประเมินผลงาน : ระบายสีในสญั ลกั ษณ์รูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง   เพอ่ื น ☺ คุณครู ☺ 243

ใบงานท่ี 37 เร่ือง วรรณคดี เรื่อง สังข์ทอง ตอนท่ี 5 ช่ือ – นามสกลุ .......................................................................... ช้ัน ป. 3 / ............ เลขท่ี ............ คาส่ัง เขียนสรุปโดยย่อจากวรรณคดเี ร่ือง สังข์ทอง ที่ได้เรียน ตอนที่ 5 ........................................... _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ ๊_________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ การประเมินผลงาน : ระบายสีในสญั ลกั ษณ์รูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง   เพื่อน ☺ คุณครู ☺ 244

เกณฑ์ประเมนิ ชิ้นงาน = 5 คะแนน = 4 คะแนน กิจกรรมพัฒนาการคดิ ข้อ 1 ( 5 คะแนน ) = 3 คะแนน = 2 คะแนน การเขียนคาคล้องจองให้ถกู ต้อง ( 5 คะแนน ) = 1 คะแนน - เขยี นคาคลอ้ งจองถูกตอ้ ง 9 – 10 คา = ไม่มีคะแนน - เขยี นคาคลอ้ งจองถูกตอ้ ง 7 – 8 คา - เขยี นคาคลอ้ งจองถกู ตอ้ ง 5 – 6 คา = 5 คะแนน - เขยี นคาคลอ้ งจองถกู ตอ้ ง 3 – 4 คา = 4 คะแนน - เขยี นคาคลอ้ งจองถกู ตอ้ ง 1 – 2 คา = 3 คะแนน - เขยี นคาคลอ้ งจองผิดทุกคา = 2 คะแนน = 1 คะแนน กิจกรรมพัฒนาการคิด ข้อ 2 ( 5 คะแนน ) = ไมม่ ีคะแนน การจับค่ขู ้อความท่คี ล้องจองให้เป็ นคาขวัญท่ถี กู ต้อง ( 5 คะแนน ) - จบั คู่ขอ้ ความท่คี ลอ้ งจองถูกตอ้ งทุกขอ้ ความ - จบั คู่ขอ้ ความทค่ี ลอ้ งจองถูกตอ้ ง 4 ขอ้ ความ - จบั คู่ขอ้ ความทค่ี ลอ้ งจองถกู ตอ้ ง 3 ขอ้ ความ - จบั คู่ขอ้ ความท่ีคลอ้ งจองถูกตอ้ ง 2 ขอ้ ความ - จบั คู่ขอ้ ความท่คี ลอ้ งจองถกู ตอ้ ง 1 ขอ้ ความ - จบั คขู่ อ้ ความทค่ี ลอ้ งจองผดิ ทกุ ขอ้ ความ 245

เกณฑ์ประเมินชิน้ งาน = 5 คะแนน = 4 คะแนน กจิ กรรมพัฒนาการคิด ข้อ 3 ( 10 คะแนน ) = 3 คะแนน = 2 คะแนน 1. การเขยี นสะกดคา ( 5 คะแนน ) = 1 คะแนน - เขยี นสะกดคาถกู ตอ้ งทกุ คา = ไม่มีคะแนน - เขียนสะกดคาผิด 1-2 คา - เขียนสะกดคาผิด 3 คา = 5 คะแนน - เขยี นสะกดคาผิด 4 คา = 4 คะแนน - เขียนสะกดคาผิด 5 คา = 3 คะแนน - เขียนสะกดคาผิดมากกวา่ 5 คา = 2 คะแนน = 1 คะแนน 2. การเขียนคาขวัญ ( 5 คะแนน ) = ไมม่ ีคะแนน - เขียนคาขวญั ตรงกบั หัวขอ้ ท่กี าหนด และจูงใจให้เห็นคุณคา่ มากทส่ี ุด - เขียนคาขวญั ตรงกบั หวั ขอ้ ทกี่ าหนด และจูงใจให้เห็นคณุ คา่ มาก - เขยี นคาขวญั ตรงกบั หวั ขอ้ ที่กาหนด และจงู ใจใหเ้ ห็นคุณค่าปานกลาง - เขยี นคาขวญั ตรงกบั หวั ขอ้ ทีก่ าหนด และจูงใจให้เห็นคณุ คา่ นอ้ ย - เขียนคาขวญั ตรงกบั หัวขอ้ ท่ีกาหนด และจูงใจใหเ้ ห็นคุณค่านอ้ ยมาก - เขยี นคาขวญั ไม่ตรงกบั หวั ขอ้ ที่กาหนด และไมจ่ ูงใจให้เห็นคณุ ค่า 246

เกณฑ์ประเมนิ ชิน้ งาน = 5 คะแนน = 4 คะแนน กิจกรรมพฒั นาการคิด ข้อ 4 ( 5 คะแนน ) = 3 คะแนน = 2 คะแนน การเตมิ คาคล้องจองตามสัมผสั คล้องจองของบทอาขยาน ( 5 คะแนน ) = 1 คะแนน - เตมิ คาถูกตอ้ งทกุ คา = ไมม่ ีคะแนน - เตมิ คาถกู ตอ้ ง 6 – 7 คา - เตมิ คาถกู ตอ้ ง 4 – 5 คา - เติมคาถกู ตอ้ ง 2 – 3 คา - เตมิ คาถูกตอ้ ง 1 คา - เตมิ คาผดิ ทุกคา 247

ประแเบมบินประเมิน ทักษะการอ่านออกเสียง ช้นั ป. 3 /…………………....หน่วยท่ี ...................................................................……………………………….…….………….......................... กิจกรรม ………..……….…………………………………………………………………………………………………………...………………….... คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สงั เกตการใชท้ กั ษะการอา่ นออกเสียงของผเู้ รียนในขณะปฏิบตั ิกิจกรรม โดยเขยี นระดบั คะแนนลงในตารางทตี่ รงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑ์การให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1= ควรปรับปรุง รายการประเมิน สรุปผล การประเมิน รวม เลขที่ ช่ือ – นามสกลุ อ่านออกเสียง อ่านออกเสียง คะแนน ผ่าน ไม่ วรรณกรรม สะกดคา ✓ ผ่าน ท่ีกาหนด  และข้อความ ลงชื่อ ................................................................................. ผปู้ ระเมนิ เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนได้ 4 คะแนนข้นึ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ประเมิน 248

แบบประเมิน ทักษะการเขยี น ช้นั ป. 3 /…………………....หน่วยที่ ...................................................................……………………………….…….………….......................... กิจกรรม ………..……….…………………………………………………………………………………………………………...………………….... คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตการใชท้ กั ษะการเขียนของผเู้ รียนในขณะปฏบิ ตั กิ ิจกรรม โดยเขยี นระดบั คะแนน ลงในตารางที่ตรงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑ์การให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1= ควรปรับปรุง รายการประเมิน สรุปผล การประเมิน รวม เลขที่ ช่ือ – นามสกุล เขียน เขียนด้วย ความ คะแนน ผ่าน ไม่ สะกดคา ลายมือท่ี สะอาด ✓ ผ่าน ถกู ต้อง สวยงาม เรียบร้อย  ลงชื่อ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนได้ 6 คะแนนข้ึนไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ประเมิน 249

แบบปปรระะเมเมนิ นิ ทกั ษะการพูด ช้นั ป. 3 /…………………....หน่วยที่ ...................................................................……………………………….…….………….......................... กิจกรรม ………..……….…………………………………………………………………………………………………………...………………….... คาชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตการใชท้ กั ษะการพดู ของผเู้ รียนในขณะปฏิบตั กิ ิจกรรม โดยเขยี นระดบั คะแนน ลงในตารางทตี่ รงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑ์การให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1= ควรปรับปรุง รายการประเมิน รวม สรุปผล คะแนน การประเมิน พูดได้ การลาดับ มมี ารยาท เลขท่ี ชื่อ – นามสกลุ คล่องแคล่ว เนือ้ หาสาระ ในการพูด ผ่าน ไม่ ✓ ผ่าน ในการพูด  ลงช่ือ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนได้ 6 คะแนนข้ึนไป ถอื ว่า ผ่านเกณฑ์ประเมิน 250

ประเมิน แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ ช้นั ป. 3 / วชิ า…......…… ............................................................................................………………….……………………………………….... คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมการทางาน การปฏิบตั งิ านของนกั เรียนวา่ มีการปฏิบตั ิหรือไม่ ถา้ มกี ารปฏบิ ตั ใิ นรายการใดให้ขีด ✓ ถา้ ไมม่ ีให้เวน้ วา่ ง รายการประเมนิ สรุปผล การประเมิน เลขท่ี ชื่อ - นามสกลุ เห็น ุคณ ่คาของการใ ้ชภาษาไทย รวม ไม่ ใน ีชวิตประจาวัน มีความกระ ืตอ ืรอ ้รนและสนใจใ ่ฝ ู้ร คะแนน ผ่าน ผ่าน มีความ ัรบ ิผดชอบ ✓  ีม ่สวน ่รวมในการทากิจกรรม ีมนิ ัสย ัรกการ ่อานและเขียน ลงช่ือ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนมีการปฏิบตั ิ 3 รายการข้ึนไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ประเมิน 251

ประเมิน แบบประเมิน ผลงาน ช่ือ - นามสกลุ .............................................................................................. ช้นั ป. 3 / …………….... เลขที่ ……………………… หน่วยการเรียนรู้ที่ .................................................................... กิจกรรม ……………….………………………………………….... คาชีแ้ จง : ใหผ้ ปู้ ระเมินขีด ✓ ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดบั คะแนน (ดเู กณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงานในหนา้ ถดั ไป) รายการประเมนิ ผ้ปู ระเมนิ ตนเอง เพอื่ น ครู 432143214321 1. ตรงจดุ ประสงคท์ ่ีกาหนด 2. มีความถูกตอ้ งสมบรู ณ์ 3. มีความคดิ สร้างสรรค์ 4. มคี วามเป็นระเบยี บ 5. เสร็จตามเวลาทก่ี าหนด รวม รวมทกุ รายการ เฉลย่ี ผปู้ ระเมนิ ................................................................................. (ตนเอง) ผปู้ ระเมนิ ................................................................................. (เพ่อื น) ผปู้ ระเมิน ................................................................................. (ครู) 252

เกณฑ์การให้คะแนนผลงาน ประเดน็ ท่ปี ระเมนิ คะแนน 1. ผลงานตรงกบั 43 2 1 จดุ ประสงคท์ กี่ าหนด ผลงานทท่ี า ผลงานทที่ า ผลงานทีท่ า ผลงานท่ที า 2. ผลงานมีความถูกตอ้ ง สอดคลอ้ ง ไมส่ อดคลอ้ ง สมบรู ณ์ สอดคลอ้ ง สอดคลอ้ ง กบั จดุ ประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ บางประเดน็ 3. ผลงานมคี วามคิด กบั จดุ ประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ เน้ือหาสาระของ เน้ือหาสาระของ สร้างสรรค์ ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานไมถ่ กู ตอ้ ง ทกุ ประเดน็ เป็ นส่วนใหญ่ เป็ นบางส่วน เป็ นส่วนใหญ่ 4. ผลงานมคี วามเป็น ผลงานมคี วาม ผลงานไมแ่ สดง ระเบียบ เน้ือหาสาระของ เน้ือหาสาระของ น่าสนใจ แต่ยงั แนวคิดใหม่ ไม่มีแนวคิด 5. ผลงานเสร็จตามเวลา ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานถกู ตอ้ ง แปลกใหม่ ผลงานส่วนใหญ่ ทก่ี าหนด ไม่เป็นระเบยี บ ครบถว้ น เป็ นส่วนใหญ่ ผลงานมคี วาม และมขี อ้ บกพร่อง เป็ นระเบียบแต่มี มาก ผลงานแสดงออก ผลงานมแี นวคิด ขอ้ บกพร่อง ค่อนขา้ งมาก ส่งผลงานชา้ กวา่ ถึงความคิด แปลกใหม่แตย่ งั เวลาทก่ี าหนดเกิน ส่งผลงานชา้ กวา่ กวา่ 5 วนั สร้างสรรค์ ไม่เป็ นระบบ เวลาทกี่ าหนด 3-5 วนั แปลกใหม่ และเป็ นระบบ ผลงานมีความเป็น ผลงานส่วนใหญ่ ระเบยี บ แสดงออก มคี วามเป็น ถึงความประณีต ระเบยี บแต่ยงั มี ต้งั ใจ ขอ้ บกพร่อง เล็กนอ้ ย ส่งผลงานตามเวลา ส่งผลงานชา้ กว่า ท่ีกาหนด เวลาท่ีกาหนด 1-2 วนั เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 17 - 20 ดีมาก 12 - 16 ดี 8 - 11 5-7 ปานกลาง ปรบั ปรุง 253

ประเมิน แบบประเมนิ สมรรถนะผู้เรียน 5 ด้าน คาชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกบั ระดบั คะแนน สมรรถนะทปี่ ระเมนิ ระดับคะแนน 3 21 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1.1 มคี วามสามารถในการรบั – ส่งสาร 1.2 มคี วามสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม 1.3 ใชว้ ิธีการส่ือสารท่เี หมาะสม 2. ความสามารถในการคิด 2.1 มคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ เพ่อื การสรา้ งองคค์ วามรู้ 2.2 มคี วามสามารถในการคิดเป็นระบบ เพ่ือการสรา้ งองคค์ วามรู้ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3.1 แกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตผุ ล 3.2 แสวงหาความรูม้ าใชใ้ นการแกป้ ัญหา 3.3 ตดั สินใจโดยคานึงถึงผลกระทบตอ่ ตนเองและผอู้ นื่ 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 4.1 ทางานและอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ื่นดว้ ยความสมั พนั ธ์อนั ดี 4.2 มวี ธิ ีแกไ้ ขความขดั แยง้ อยา่ งเหมาะสม 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5.1 เลอื กใชข้ อ้ มูลในการพฒั นาตนเองอยา่ งเหมาะสม 5.2 เลอื กใชข้ อ้ มลู ในการทางานและอย่รู ่วมกบั ผอู้ ืน่ อย่างเหมาะสม ลงช่ือ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน / /........................ ......................... ............................. เกณฑ์การให้คะแนน : - พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั ิชดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤตกิ รรมท่ีปฏิบตั ชิ ดั เจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบตั บิ างคร้งั ให้ 1 คะแนน 254

ประเมิน แบบประเมิน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 8 ด้าน คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั ระดบั คะแนน คุณลักษณะอนั พึง รายการทีป่ ระเมิน ระดบั ประสงค์ด้าน คะแนน 321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 มีความรกั และภูมิใจในความเป็นชาติ กษัตริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ธรรมของศาสนา 1.3 แสดงออกถงึ ความจงรักภกั ดีตอ่ สถาบนั พระมหากษตั ริย์ 2. ซื่อสัตย์สุจริต 2.1 ปฏบิ ตั ิตามระเบยี บการสอนและไมล่ อกการบา้ น 2.2 ประพฤติ ปฏิบตั ิ ตรงตอ่ ความเป็นจริงต่อตนเอง 3. มีวินัย 2.3 ประพฤติ ปฏิบตั ิ ตรงตอ่ ความเป็นจริงต่อผอู้ ่นื 3.1 เขา้ เรียนตรงเวลา 4. ใฝ่ เรียนรู้ 3.2 แต่งกายเรียบร้อยเหมาะสมกบั กาลเทศะ 3.3 ปฏิบตั ติ ามกฎระเบียบของห้องและของโรงเรียน 5. อย่อู ย่างพอเพียง 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรียนรู้ต่างๆ 6. ม่งุ มัน่ ในการทางาน 4.2 มกี ารจดบนั ทึกความรู้อยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรุปความรู้ไดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ ินและสิ่งของของโรงเรียนอย่างประหยดั 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรียนอย่างประหยดั และรู้คุณค่า 5.3 ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยดั และมกี ารเก็บออมเงนิ 6.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทางานที่ไดร้ ับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออุปสรรค เพื่อใหง้ านสาเร็จ 255

ประเมิน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 8 ด้าน (ต่อ) คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องท่ตี รงกบั ระดบั คะแนน คุณลักษณะอันพึง รายการท่ปี ระเมิน ระดบั ประสงค์ด้าน คะแนน 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย 321 7. รักความเป็ นไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รู้จกั การให้เพอื่ ส่วนรวมและเพอื่ ผอู้ ืน่ 8. มจี ิตสาธารณะ 8.2 แสดงออกถงึ การมีน้าใจหรือการให้ความชว่ ยเหลอื ผูอ้ นื่ 8.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมบาเพญ็ ตนเพือ่ ส่วนรวมเม่อื มโี อกาส ลงช่ือ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน / /......................... ......................... ............................. เกณฑ์การให้คะแนน : - พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤตกิ รรมท่ีปฏบิ ตั ชิ ดั เจนและบ่อยคร้งั ให้ 2 คะแนน - พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ตั บิ างคร้ัง ให้ 1 คะแนน 256


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook