Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 8

Description: บทที่ 8

Search

Read the Text Version

48 บันทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นไดค้ ะแนนเฉลีย่ รอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมินทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยใู่ นระดบั ดมี าก คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรบั ปรุง คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอย่ใู นระดบั ปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........

49 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 8 รายวิชาคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 8 การหาร เวลาเรียน 19 ชว่ั โมง เรือ่ ง การหารทตี่ วั ตง้ั สองหลกั ตัวหารหน่งึ หลักโดยการหารสั้น เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง สอนวันท่.ี ...... เดือน.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนินการของจานวน ผลทเ่ี กิดข้ึนจากการดาเนินการ สมบัติของการ ดาเนนิ การ และการนาไปใช้ ตัวช้ีวดั ค 1.1 ป.3/7 : หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์ แสดงการหารท่ตี ัวตงั้ ไมเ่ กนิ 4 หลกั ตวั หาร 1 หลัก สาระสาคญั การหารสัน้ เปน็ การต้ังหารโดยที่นาตัวหารไปหารตวั ตงั้ ทีละหลกั เริม่ หารจากหลักทางซา้ ยมอื ก่อนแล้วจึงหารในหลักถัดไปทางขวามือ การหารไม่ลงตัวเป็นการหารที่เหลอื เศษ เศษมากกว่าศนู ย์ และต้องนอ้ ยกวา่ ตวั หาร จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. แสดงวธิ หี าผลหารทต่ี วั ตัง้ สองหลัก ตวั หารหนึง่ หลกั โดยใช้วิธกี ารหารสั้นได้ (K) 2. เขียนแสดงวิธีหาผลหารทตี่ ัวตัง้ สองหลัก ตัวหารหนึง่ หลกั โดยใช้วธิ ีการหารสัน้ ได้ (P) 3. นาความรู้เก่ียวกับการหารท่ีตัวต้ังสองหลัก ตัวหารหนึ่งหลักไปใช้แก้ปัญหาทาง คณิตศาสตรไ์ ด้ (A) สาระการเรียนรู้ การหารทีต่ ัวต้ังสองหลกั ตัวหารหน่งึ หลกั โดยการหารส้ัน ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการสอื่ สารและการสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ 2. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล

50 คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ นาเข้าสู่บทเรยี น 1. ครูเขียนโจทย์การหาร 736 ÷ 8 =  และ 484 ÷ 4 =  บนกระดาน แล้วให้ นักเรยี นชว่ ยกนั บอกวิธีหารสน้ั และตรวจคาตอบ ครูเพ่ิมเตมิ พรอ้ มกบั เขียนกระดาน ดงั น้ี 8 7 73 16 4484 92 121 ตรวจคาตอบ 8 × 92 = 736 ตรวจคาตอบ 4 × 121 = 484 ดังน้นั 736 ÷ 8 = 92 ดังนั้น 484 ÷ 4 = 121 ข้ันสอน 1. ครูสอนเร่ืองการหารที่ตัวตั้งสองหลัก ตัวหารหนึ่งหลักโดยการหารสั้น โดยเขียน แสดงวิธีทาโดยหาผลหารของ 367 ÷ 4 =  ซง่ึ จะได้ ดงั น้ี 4 3 36 7 9 1 เศษ 3 ตรวจคาตอบ (4 × 91) + 3 = 367 ดงั น้นั 367 ÷ 4 ได้ 91 เศษ 3 ขั้นที่ 1 หารในหลกั รอ้ ย นา 4 มาหาร 3 ได้ 0 เหลือเศษ 2 ขั้นที่ 2 หารในหลกั สิบ นา 4 มาหาร 36 ได้ 9 เหลือเศษ 0 ข้นั ที่ 3 หารในหลักหนว่ ย นา 4 มาหาร 7 ได้ 1 เศษ 3 2. ครเู ขยี นโจทย์การหาร 879 ÷ 6 =  764 ÷ 6 =  466 ÷ 7 =  268 ÷ 3 =  บนกระดาน ให้นักเรยี นอา่ นโจทย์พร้อมกนั และลงมือทาในสมดุ เม่ือนักเรียนทาเสรจ็ แลว้ ครู ให้นกั เรยี นชว่ ยกันบอกวธิ ีการหารสน้ั โดยครเู ขยี นวธิ ลี ดั บนกระดาน ดงั น้ี 6 8 27 39 6 7 16 44 1 4 6 เศษ 3 1 2 7 เศษ 2 ตรวจคาตอบ (6 × 146) + 3 = 879 ตรวจคาตอบ (6 × 127) + 2 = 764 ดังนนั้ 879 ÷ 6 ได้ 146 เศษ 3 ดังน้ัน 764 ÷ 6 ได้ 127 เศษ 2

51 7 4 46 46 3 2 26 28 6 6 เศษ 4 8 9 เศษ 1 ตรวจคาตอบ (4 × 66) + 7 = 466 ตรวจคาตอบ (3 × 89) + 1 = 268 ดังนั้น 466 ÷ 7 ได้ 66 เศษ 4 ดังนน้ั 268 ÷ 3 ได้ 89 เศษ 1 3. ครูยกตัวอย่างการหารที่ตัวตั้งสองหลัก ตัวหารหนึ่งหลักโดยการหารสั้นอีก 3 – 5 ตวั อย่าง จนนักเรยี นเข้าใจและเกดิ ความชานาญ 4. ครูให้นักเรยี นทาใบงานท่ี 8 การหารท่ีตัวตั้งสองหลกั ตัวหารหนึ่งหลักโดยการหาร ส้ัน เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกันเฉลย กิจกรรมในใบงานที่ 8 ขั้นสรุป 1. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรุปสิง่ ท่ไี ด้เรยี นรู้ร่วมกนั ดังนี้ - การหารลงตัวเป็นการหารทีไ่ ม่เหลือเศษหรอื เศษเปน็ 0 - การหารลงตัว ตัวต้ัง ตัวหาร และผลหารมีความสัมพันธ์กัน คือ ตัวหาร × ผลหาร = ตัวต้ัง ส่ือการเรยี นรู้ ใบงานที่ 8 การหารทีต่ ัวตัง้ สองหลัก ตวั หารหนงึ่ หลกั โดยการหารสั้น การวัดผลและประเมนิ ผล ส่งิ ทตี่ ้องการวัด วิธีวัด เครอ่ื งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 8 70% ขึ้นไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 8 การประเมนิ 2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรียนได้คะแนนระดบั กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดีข้นึ ไป ทักษะกระบวนการ 3. ดา้ นคณุ ลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดบั ทพ่ี ึงประสงค์ คุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ พฤตกิ รรมด้าน คณุ ภาพดีขนึ้ ไป คุณลกั ษณะ ที่พึงประสงค์

52 ความคดิ เห็นผู้บรหิ าร ลงชอ่ื .....................................ผู้ตรวจ () ผู้อานวยการโรงเรียน ..../................../........ บันทกึ หลงั การเรียนการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจุดประสงค์การเรียนรู้ นกั เรียนได้คะแนนเฉลยี่ รอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ดี คน คดิ เปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดบั ปรบั ปรุง คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 1.3 ผลการประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ นักเรียนอยู่ในระดบั ดมี าก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั พอใช้ คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยใู่ นระดบั ปรบั ปรุง คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........

53 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 9 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 8 การหาร เวลาเรียน 19 ช่วั โมง เร่อื ง การหารท่ีตัวต้งั สามหลัก ตัวหารหน่งึ หลกั โดยการหารส้ัน เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง สอนวันท.ี่ ...... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนินการของจานวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดาเนนิ การ สมบัตขิ องการ ดาเนนิ การ และการนาไปใช้ ตัวช้วี ดั ค 1.1 ป.3/7 : หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงการหารท่ตี ัวต้งั ไมเ่ กิน 4 หลกั ตวั หาร 1 หลัก สาระสาคัญ การหารสัน้ เป็นการตง้ั หารโดยทน่ี าตวั หารไปหารตัวตัง้ ทีละหลัก เรม่ิ หารจากหลกั ทางซ้ายมอื ก่อนแล้วจึงหารในหลกั ถดั ไปทางขวามอื การหารทลี่ งตวั เปน็ การหารท่มี เี ศษเปน็ 0 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. แสดงวิธหี าผลหารท่ีตัวต้งั สามหลกั ตัวหารหนึง่ หลักโดยใชว้ ธิ กี ารหารส้นั ได้ (K) 2. เขยี นแสดงวธิ หี าผลหารที่ตัวต้งั สามหลกั ตวั หารหนงึ่ หลักโดยใชว้ ธิ ีการหารสนั้ ได้ (P) 3. นาความรู้เกี่ยวกับการหารท่ีตัวตั้งสามหลัก ตัวหารหน่ึงหลักไปใช้แก้ปัญหาทาง คณติ ศาสตรไ์ ด้ (A) สาระการเรยี นรู้ การหารทตี่ วั ตั้งสามหลกั ตวั หารหน่งึ หลกั โดยการหารส้นั ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการสื่อสารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งม่ันในการทางาน

54 กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ครูเขียนโจทย์การหาร 736 ÷ 8 =  และ 484 ÷ 4 =  บนกระดาน แล้วให้ นักเรียนช่วยกันบอกวิธหี ารสนั้ และตรวจคาตอบ ครเู พิ่มเตมิ พร้อมกบั เขยี นกระดาน ดงั นี้ 3 5 27 3 8 7 73 16 191 92 ตรวจคาตอบ 3 × 191 = 573 ตรวจคาตอบ 8 × 92 = 736 ดังนน้ั 573 ÷ 3 = 191 ดงั น้ัน 736 ÷ 8 = 92 2425 6 1 13 13 2 1 2 เศษ 1 2 2 เศษ 1 ตรวจคาตอบ (6 × 146) + 3 = 879 ตรวจคาตอบ (6 × 22) + 1 = 133 ดังน้ัน 879 ÷ 6 ได้ 146 เศษ 3 ดงั นั้น 133 ÷ 6 ได้ 22 เศษ 1 ขั้นสอน 1. ครูสอนเร่ืองการหารที่ตัวต้ังสามหลัก ตัวหารหนึ่งหลักโดยการหารส้ัน โดยเขียน แสดงวิธีทาโดยหาผลหารของ 207 ÷ 9 =  ซึง่ จะได้ ดังนี้ 9 2 20 27 23 ตรวจคาตอบ 9 × 23 = 207 ดงั นั้น 207 ÷ 9 = 23 ขน้ั ที่ 1 หารในหลกั ร้อย นา 9 มาหาร 2 ได้ 0 เหลอื เศษ 2 ขั้นท่ี 2 หารในหลกั สบิ นา 9 มาหาร 20 ได้ 2 เหลอื เศษ 2 ขัน้ ที่ 3 หารในหลกั หน่วย นา 9 มาหาร 27 ได้ 3 เศษ 0 ครูให้นักเรียนสังเกตว่าผลหารจะเขียนอยู่ข้างล่างของตัวต้ัง ซึ่งจะแตกต่างกับ การหารยาวทีผ่ ลหารจะเขยี นอยขู่ า้ งบน สว่ นการหาผลหารให้ใชห้ ลกั เดียวกบั การหารยาว 2. ครูเขียนโจทยก์ ารหาร 495 ÷ 3 =  955 ÷ 5 =  534 ÷ 6 =  434 ÷ 7 =  บนกระดาน ให้นักเรียนอ่านโจทย์พรอ้ มกันและลงมอื ทาในสมุด เมื่อนักเรยี นทาเสรจ็ แล้ว ครูให้ นกั เรียนชว่ ยกันบอกวธิ กี ารหารส้ัน โดยครเู ขยี นวิธีลัดบนกระดาน ดังน้ี 3 4 19 15 5 9 45 5 165 191 ตรวจคาตอบ 3 × 165 = 495 ตรวจคาตอบ 5 × 191 = 955 ดงั น้ัน 495 ÷ 3 = 165 ดังน้นั 955 ÷ 5 = 191

55 6 5 53 54 7 4 43 14 89 62 ตรวจคาตอบ 6 × 89 = 534 ตรวจคาตอบ 7 × 62 = 434 ดังนน้ั 534 ÷ 6 = 89 ดังน้ัน 434 ÷ 7 = 62 3. ครูยกตัวอย่างการหารท่ีตัวต้ังสองหลัก ตัวหารหนึ่งหลักโดยการหารสั้นอีก 3 – 5 ตัวอย่าง จนนกั เรียนเข้าใจและเกิดความชานาญ 4. ครูให้นักเรยี นทาใบงานท่ี 9 การหารท่ตี ัวตั้งสามหลกั ตัวหารหน่ึงหลักโดยการหาร ส้ัน เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันเฉลย กจิ กรรมในใบงานที่ 9 ข้นั สรุป 1. ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรุปส่ิงทไี่ ดเ้ รยี นรู้รว่ มกัน ดังน้ี - การหารลงตัวเปน็ การหารทีไ่ ม่เหลือเศษหรือเศษเป็น 0 - การหารลงตัว ตัวตั้ง ตัวหาร และผลหารมีความสัมพันธ์กัน คือ ตัวหาร × ผลหาร = ตวั ต้งั สื่อการเรียนรู้ ใบงานที่ 9 การหารท่ีตัวตงั้ สามหลกั ตัวหารหน่งึ หลักโดยการหารสน้ั การวดั ผลและประเมินผล ส่งิ ทตี่ อ้ งการวัด วิธวี ัด เครื่องมือวดั เกณฑก์ ารประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 9 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์ 9 การประเมนิ 2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นักเรียนได้คะแนนระดบั กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดีขึ้นไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดับ ทพ่ี ึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีขึน้ ไป คุณลักษณะ ทพ่ี ึงประสงค์

56 ความคดิ เห็นผู้บรหิ าร ลงชอ่ื .....................................ผู้ตรวจ () ผู้อานวยการโรงเรียน ..../................../........ บันทกึ หลงั การเรียนการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจุดประสงค์การเรียนรู้ นกั เรียนได้คะแนนเฉลยี่ รอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ดี คน คดิ เปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดบั ปรบั ปรุง คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 1.3 ผลการประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ นักเรียนอยู่ในระดบั ดมี าก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั พอใช้ คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยใู่ นระดบั ปรบั ปรุง คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........

57 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 10 รายวิชาคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 8 การหาร เวลาเรียน 19 ชว่ั โมง เร่อื ง การหารที่ตวั ต้ังสามหลกั ตัวหารหนึ่งหลกั โดยการหารสัน้ เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง สอนวันที่....... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนินการของจานวน ผลท่เี กิดขนึ้ จากการดาเนินการ สมบัตขิ องการ ดาเนินการ และการนาไปใช้ ตวั ชว้ี ัด ค 1.1 ป.3/7 : หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์ แสดงการหารท่ีตัวตงั้ ไม่เกนิ 4 หลกั ตัวหาร 1 หลัก สาระสาคัญ การหารสนั้ เป็นการต้งั หารโดยที่นาตัวหารไปหารตัวตั้งทลี ะหลัก เริม่ หารจากหลักทางซา้ ยมอื ก่อนแล้วจึงหารในหลักถัดไปทางขวามือ การหารไม่ลงตัวเป็นการหารที่เหลอื เศษ เศษมากกว่าศนู ย์ และตอ้ งนอ้ ยกวา่ ตัวหาร จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. แสดงวธิ หี าผลหารที่ตัวตัง้ สามหลัก ตัวหารหนึง่ หลกั โดยใช้วิธีการหารส้นั ได้ (K) 2. เขยี นแสดงวธิ ีหาผลหารท่ีตัวตั้งสามหลัก ตัวหารหนงึ่ หลกั โดยใช้วธิ ีการหารส้นั ได้ (P) 3. นาความรู้เกี่ยวกับการหารที่ตัวต้ังสามหลัก ตัวหารหนึ่งหลักไปใช้แก้ปัญหาทาง คณิตศาสตรไ์ ด้ (A) สาระการเรยี นรู้ การหารทต่ี วั ตั้งสามหลกั ตวั หารหนงึ่ หลักโดยการหารสนั้ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่อื สารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล

58 คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ นาเข้าสู่บทเรยี น 1. ครูเขียนโจทย์การหาร 736 ÷ 8 =  และ 484 ÷ 4 =  บนกระดาน แล้วให้ นักเรยี นชว่ ยกนั บอกวิธีหารสน้ั และตรวจคาตอบ ครูเพ่ิมเตมิ พรอ้ มกบั เขียนกระดาน ดงั น้ี 8 7 73 16 4484 92 121 ตรวจคาตอบ 8 × 92 = 736 ตรวจคาตอบ 4 × 121 = 484 ดังน้นั 736 ÷ 8 = 92 ดังนั้น 484 ÷ 4 = 121 ข้ันสอน 1. ครูสอนเร่ืองการหารที่ตัวตั้งสองหลัก ตัวหารหนึ่งหลักโดยการหารสั้น โดยเขียน แสดงวิธีทาโดยหาผลหารของ 367 ÷ 4 =  ซง่ึ จะได้ ดงั น้ี 4 3 36 7 9 1 เศษ 3 ตรวจคาตอบ (4 × 91) + 3 = 367 ดงั น้นั 367 ÷ 4 ได้ 91 เศษ 3 ขั้นที่ 1 หารในหลกั รอ้ ย นา 4 มาหาร 3 ได้ 0 เหลือเศษ 2 ขั้นที่ 2 หารในหลกั สิบ นา 4 มาหาร 36 ได้ 9 เหลือเศษ 0 ข้นั ที่ 3 หารในหลักหนว่ ย นา 4 มาหาร 7 ได้ 1 เศษ 3 2. ครเู ขยี นโจทย์การหาร 879 ÷ 6 =  764 ÷ 6 =  466 ÷ 7 =  268 ÷ 3 =  บนกระดาน ให้นักเรยี นอา่ นโจทย์พร้อมกนั และลงมือทาในสมดุ เม่ือนักเรียนทาเสรจ็ แลว้ ครู ให้นกั เรยี นชว่ ยกันบอกวธิ ีการหารสน้ั โดยครเู ขยี นวธิ ลี ดั บนกระดาน ดงั น้ี 6 8 27 39 6 7 16 44 1 4 6 เศษ 3 1 2 7 เศษ 2 ตรวจคาตอบ (6 × 146) + 3 = 879 ตรวจคาตอบ (6 × 127) + 2 = 764 ดังนนั้ 879 ÷ 6 ได้ 146 เศษ 3 ดังน้ัน 764 ÷ 6 ได้ 127 เศษ 2

59 7 4 46 46 3 2 26 28 6 6 เศษ 4 8 9 เศษ 1 ตรวจคาตอบ (4 × 66) + 7 = 466 ตรวจคาตอบ (3 × 89) + 1 = 268 ดงั นัน้ 466 ÷ 7 ได้ 66 เศษ 4 ดงั นั้น 268 ÷ 3 ได้ 89 เศษ 1 3. ครูยกตัวอย่างการหารที่ตัวต้ังสองหลัก ตัวหารหนึ่งหลักโดยการหารสั้นอีก 3 – 5 ตวั อย่าง จนนักเรียนเขา้ ใจและเกิดความชานาญ 4. ครูใหน้ ักเรยี นทาใบงานท่ี 10 การหารทีต่ วั ตงั้ สองหลกั ตัวหารหนึง่ หลักโดยการหาร สั้น เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกันเฉลย กิจกรรมในใบงานท่ี 10 ขัน้ สรปุ 1. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรุปสิง่ ท่ไี ดเ้ รยี นรู้รว่ มกัน ดังน้ี - การหารลงตัวเปน็ การหารท่ไี ม่เหลือเศษหรอื เศษเป็น 0 - การหารลงตัว ตัวต้ัง ตัวหาร และผลหารมีความสัมพันธ์กัน คือ ตัวหาร × ผลหาร = ตัวต้ัง ส่ือการเรยี นรู้ ใบงานที่ 10 การหารทีต่ วั ตง้ั สามหลัก ตัวหารหน่งึ หลกั โดยการหารสัน้ การวัดผลและประเมนิ ผล ส่ิงทต่ี อ้ งการวัด วธิ วี ดั เคร่ืองมอื วัด เกณฑ์การประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 10 70% ขนึ้ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ 10 การประเมิน 2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรียนไดค้ ะแนนระดับ กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดีขน้ึ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดบั ทพี่ งึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดขี ้นึ ไป คณุ ลกั ษณะ ทพี่ งึ ประสงค์

60 ความคดิ เห็นผู้บรหิ าร ลงชอ่ื .....................................ผู้ตรวจ () ผู้อานวยการโรงเรียน ..../................../........ บันทกึ หลงั การเรียนการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจุดประสงค์การเรียนรู้ นกั เรียนได้คะแนนเฉล่ยี รอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมินทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ดี คน คดิ เปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดบั ปรบั ปรุง คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 1.3 ผลการประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ นักเรียนอยู่ในระดบั ดมี าก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั พอใช้ คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยใู่ นระดบั ปรับปรุง คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอื่ .....................................ผสู้ อน () ..../................../........

61 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 11 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 8 การหาร เวลาเรยี น 19 ชั่วโมง เรือ่ ง การหารทตี่ ัวตั้งสีห่ ลกั ตัวหารหนงึ่ หลักโดยการหารสนั้ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง สอนวันท่ี....... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนินการของจานวน ผลทเี่ กิดขึน้ จากการดาเนินการ สมบตั ิของการ ดาเนนิ การ และการนาไปใช้ ตัวชว้ี ดั ค 1.1 ป.3/7 : หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ แสดงการหารทตี่ ัวต้งั ไมเ่ กิน 4 หลัก ตวั หาร 1 หลัก สาระสาคัญ การหารสน้ั เปน็ การตั้งหารโดยที่นาตวั หารไปหารตวั ต้งั ทีละหลกั เรม่ิ หารจากหลกั ทางซา้ ยมอื ก่อนแลว้ จึงหารในหลักถัดไปทางขวามอื การหารทล่ี งตวั เป็นการหารทมี่ ีเศษเป็น 0 จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. แสดงวธิ หี าผลหารที่ตัวต้ังสี่หลกั ตัวหารหน่งึ หลักโดยใช้วิธีการหารสน้ั ได้ (K) 2. เขยี นแสดงวิธีหาผลหารทต่ี ัวตัง้ ส่ีหลัก ตัวหารหน่งึ หลักโดยใชว้ ิธกี ารหารสั้นได้ (P) 3. นาความรู้เกี่ยวกับการหารทต่ี ัวต้ังส่ีหลัก ตวั หารหนึ่งหลักไปใชแ้ กป้ ัญหาทางคณิตศาสตร์ ได้ (A) สาระการเรียนรู้ การหารท่ีตัวตัง้ ส่ีหลกั ตวั หารหนงึ่ หลักโดยการหารสัน้ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการสอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์ 2. ความสามารถในการให้เหตุผล คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ม่งุ มน่ั ในการทางาน

62 กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นาเข้าส่บู ทเรียน 1. ครูเขียนโจทย์การหาร 736 ÷ 8 =  และ 484 ÷ 4 =  บนกระดาน แล้วให้ นักเรยี นช่วยกนั บอกวิธีหารส้นั และตรวจคาตอบ ครเู พ่มิ เตมิ พรอ้ มกับเขยี นกระดาน ดังน้ี 3 5 27 3 8 7 73 16 191 92 ตรวจคาตอบ 3 × 191 = 573 ตรวจคาตอบ 8 × 92 = 736 ดงั นน้ั 573 ÷ 3 = 191 ดงั น้นั 736 ÷ 8 = 92 2425 6 1 13 13 2 1 2 เศษ 1 2 2 เศษ 1 ตรวจคาตอบ (6 × 146) + 3 = 879 ตรวจคาตอบ (6 × 22) + 1 = 133 ดงั น้นั 879 ÷ 6 ได้ 146 เศษ 3 ดังนน้ั 133 ÷ 6 ได้ 22 เศษ 1 ข้ันสอน 1. ครูสอนเรื่องการหารท่ีตวั ตั้งส่หี ลกั ตัวหารหน่งึ หลักโดยการหารส้ัน โดยเขียนแสดง วธิ ที าโดยหาผลหารของ 5,415 ÷ 5 =  ซงึ่ จะได้ ดังน้ี 5 5 4 41 15 1083 ตรวจคาตอบ 5 × 1,083 = 5,415 ดงั นัน้ 5,415 ÷ 5 = 1,083 ขั้นท่ี 1 หารในหลักพนั นา 5 มาหาร 5 ได้ 1 เหลอื เศษ 0 ข้นั ท่ี 2 หารในหลกั รอ้ ย นา 5 มาหาร 4 ได้ 0 เหลอื เศษ 2 ขน้ั ท่ี 2 หารในหลักสบิ นา 5 มาหาร 41 ได้ 4 เหลอื เศษ 1 ขั้นท่ี 3 หารในหลกั หนว่ ย นา 5 มาหาร 15 ได้ 3 เศษ 0 ครูให้นักเรียนสังเกตว่าผลหารจะเขียนอยู่ข้างล่างของตัวตั้ง ซ่ึงจะแตกต่างกับ การหารยาวที่ผลหารจะเขยี นอยขู่ า้ งบน สว่ นการหาผลหารใหใ้ ชห้ ลักเดียวกบั การหารยาว 2. ครูเขียนโจทย์การหารบนกระดาน ให้นักเรียนอ่านโจทย์พร้อมกันและลงมือทาใน สมดุ เมอ่ื นกั เรียนทาเสร็จแล้ว ครใู ห้นักเรยี นช่วยกนั บอกวิธกี ารหารส้ัน โดยครูเขยี นวิธีลดั บนกระดาน ดงั น้ี

63 4 8 4 2 20 3 3 0 5 27 2105 1019 ตรวจคาตอบ 4 × 2,105 = 8,420 ตรวจคาตอบ 3 × 1,019 = 3,057 ดังนั้น 8,420 ÷ 4 = 2,105 ดงั นน้ั 3,057 ÷ 3 = 1,019 8 2 24 8 0 6 1 13 18 6 310 231 ตรวจคาตอบ 8 × 310 = 2,480 ตรวจคาตอบ 6 × 231 = 1,386 ดงั นนั้ 2,480 ÷ 8 = 310 ดังน้ัน 1,386 ÷ 6 = 231 3. ครูยกตัวอย่างการหารที่ตัวตั้งสี่หลัก ตัวหารหนึ่งหลักโดยการหารสั้นอีก 3 – 5 ตัวอย่าง จนนกั เรยี นเขา้ ใจและเกดิ ความชานาญ 4. ครูให้นักเรยี นทาใบงานที่ 11 การหารที่ตัวต้งั สห่ี ลกั ตัวหารหน่งึ หลกั โดยการหารสน้ั เมื่อเสร็จแลว้ ให้นักเรยี นช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยกจิ กรรม ในใบงานท่ี 11 ขั้นสรุป 1. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ สงิ่ ที่ไดเ้ รียนรรู้ ่วมกัน ดงั นี้ - การหารลงตวั เปน็ การหารที่ไม่เหลอื เศษหรือเศษเปน็ 0 - การหารลงตัว ตัวตั้ง ตัวหาร และผลหารมีความสัมพันธ์กัน คือ ตัวหาร × ผลหาร = ตัวตัง้ สอ่ื การเรยี นรู้ ใบงานท่ี 11 การหารทีต่ ัวตง้ั สห่ี ลัก ตัวหารหน่งึ หลักโดยการหารสั้น

64 การวดั ผลและประเมนิ ผล สิง่ ทต่ี ้องการวดั วิธวี ัด เครอ่ื งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 11 70% ข้ึนไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ 11 การประเมนิ 2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดขี ้นึ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรียนได้คะแนนระดับ ที่พึงประสงค์ คุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดขี ้นึ ไป คุณลักษณะ ท่พี งึ ประสงค์ ความคดิ เห็นผบู้ ริหาร ลงช่ือ.....................................ผู้ตรวจ () ผูอ้ านวยการโรงเรยี น ..../................../........

65 บันทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ นกั เรยี นไดค้ ะแนนเฉลีย่ รอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมินทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยใู่ นระดบั ดมี าก คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรบั ปรงุ คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ นักเรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอย่ใู นระดบั ปรบั ปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ัญหา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........

66 แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 12 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 8 การหาร เวลาเรียน 19 ชั่วโมง เรื่อง การหารทต่ี วั ตง้ั สห่ี ลัก ตัวหารหนึง่ หลกั โดยการหารสน้ั เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง สอนวันท.่ี ...... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนินการของจานวน ผลที่เกิดข้นึ จากการดาเนนิ การ สมบัติของการ ดาเนินการ และการนาไปใช้ ตัวชี้วดั ค 1.1 ป.3/7 : หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ แสดงการหารทต่ี ัวตง้ั ไมเ่ กิน 4 หลัก ตวั หาร 1 หลัก สาระสาคญั การหารสัน้ เปน็ การตั้งหารโดยท่ีนาตัวหารไปหารตัวต้งั ทีละหลัก เรม่ิ หารจากหลกั ทางซา้ ยมอื ก่อนแล้วจึงหารในหลักถัดไปทางขวามือ การหารไม่ลงตัวเป็นการหารท่ีเหลือเศษ เศษมากกว่าศูนย์ และต้องนอ้ ยกวา่ ตัวหาร จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. แสดงวธิ หี าผลหารท่ตี ัวตง้ั ส่ีหลัก ตัวหารหนง่ึ หลกั โดยใชว้ ิธีการหารส้นั ได้ (K) 2. เขยี นแสดงวิธหี าผลหารท่ีตวั ตง้ั ส่หี ลกั ตัวหารหนงึ่ หลกั โดยใช้วิธกี ารหารสัน้ ได้ (P) 3. นาความรู้เกย่ี วกับการหารทีต่ วั ต้ังส่หี ลัก ตัวหารหน่งึ หลกั ไปใช้แก้ปญั หาทางคณิตศาสตร์ ได้ (A) สาระการเรียนรู้ การหารที่ตัวต้ังสหี่ ลกั ตัวหารหนึ่งหลกั โดยการหารส้นั ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่อื สารและการสอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์ 2. ความสามารถในการให้เหตุผล

67 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน 1. ครูเขียนโจทย์การหารบนกระดาน แล้วให้นักเรยี นช่วยกนั บอกวิธีหารสั้นและตรวจ คาตอบ ครูเพมิ่ เตมิ พรอ้ มกบั เขียนกระดาน ดงั น้ี 5 5 6 18 35 9 8 81 6 6473 1137 9 0 ตรวจคาตอบ 5 × 1,137 = 5,685 ตรวจคาตอบ 9 × 907 = 8,163 ดงั น้นั 5,685 ÷ 5 = 1,137 ดงั น้นั 8,163 ÷ 9 = 907 ข้นั สอน 1. ครูสอนเรือ่ งการหารที่ตัวตั้งสหี่ ลัก ตัวหารหนงึ่ หลักโดยการหารสน้ั โดยเขียนแสดง วิธที าโดยหาผลหารของ 367 ÷ 4 =  ซงึ่ จะได้ ดังน้ี 3 1 14 20 28 4 6 9 เศษ 1 ตรวจคาตอบ (3 × 469) + 1 = 1,408 ดงั นั้น 1,408 ÷ 3 ได้ 469 เศษ 1 ขนั้ ท่ี 1 หารในหลกั พัน นา 3 มาหาร 1 ได้ 0 เหลือเศษ 1 ขั้นที่ 2 หารในหลกั ร้อย นา 3 มาหาร 14 ได้ 4 เหลือเศษ 2 ขน้ั ท่ี 3 หารในหลักสิบ นา 3 มาหาร 20 ได้ 6 เหลอื เศษ 2 ขนั้ ท่ี 4 หารในหลักหน่วย นา 3 มาหาร 28 ได้ 9 เศษ 1 2. ครูเขียนโจทย์การหารบนกระดาน ให้นักเรียนอ่านโจทย์พร้อมกันและลงมือทาใน สมุด เม่อื นักเรยี นทาเสร็จแล้ว ครใู ห้นักเรยี นช่วยกนั บอกวธิ กี ารหารสั้น โดยครูเขยี นวธิ ีลัดบนกระดาน ดังนี้ 7 8 11 43 16 6 7 14 21 38 1 1 6 2 เศษ 2 1 2 3 6 เศษ 2 ตรวจคาตอบ (7 × 1,162) + 2 = 8,136 ตรวจคาตอบ (6 × 1,236) + 2 = 7,418 ดังนัน้ 8,136 ÷ 7 ได้ 1,162 เศษ 2 ดงั นน้ั 7,418 ÷ 6 ได้ 1,236 เศษ 2

68 5 4 47 20 4 8 6 62 61 50 9 4 0 เศษ 4 7 7 6 เศษ 2 ตรวจคาตอบ (5 × 4,704) + 4 = 4,704 ตรวจคาตอบ (5 × 4,704) + 4 = 4,704 ดงั นั้น 4,704 ÷ 5 ได้ 940 เศษ 4 ดังนน้ั 4,704 ÷ 5 ได้ 940 เศษ 4 3. ครูยกตัวอย่างการหารที่ตัวตั้งส่ีหลัก ตัวหารหน่ึงหลักโดยการหารส้ันอีก 3 – 5 ตวั อย่าง จนนกั เรียนเขา้ ใจและเกิดความชานาญ 4. ครูใหน้ กั เรียนทาใบงานท่ี 12 การหารท่ตี วั ตัง้ สหี่ ลกั ตัวหารหน่งึ หลกั โดยการหารสนั้ เมื่อเสรจ็ แล้วใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากน้ันครแู ละนักเรยี นร่วมกนั เฉลยกจิ กรรม ในใบงานที่ 12 ข้นั สรปุ 1. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปสง่ิ ทไ่ี ด้เรียนรู้ร่วมกัน ดงั น้ี - การหารลงตวั เป็นการหารท่ไี ม่เหลอื เศษหรอื เศษเปน็ 0 - การหารลงตัว ตัวตั้ง ตัวหาร และผลหารมีความสัมพันธ์กัน คือ ตัวหาร × ผลหาร = ตวั ต้ัง ส่ือการเรียนรู้ ใบงานที่ 12 การหารท่ตี ัวต้งั ส่หี ลกั ตัวหารหนงึ่ หลกั โดยการหารส้นั การวดั ผลและประเมนิ ผล สิง่ ทต่ี อ้ งการวดั วิธีวัด เครื่องมือวดั เกณฑ์การประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 12 70% ขึ้นไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์ 12 การประเมนิ 2. ด้านทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นักเรียนไดค้ ะแนนระดบั กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดขี ้นึ ไป ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรียนไดค้ ะแนนระดับ ทพี่ งึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดขี น้ึ ไป คุณลกั ษณะ ทีพ่ งึ ประสงค์

69 ความคดิ เห็นผู้บรหิ าร ลงชอ่ื .....................................ผู้ตรวจ () ผู้อานวยการโรงเรียน ..../................../........ บันทกึ หลงั การเรียนการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจุดประสงค์การเรียนรู้ นกั เรียนได้คะแนนเฉลยี่ รอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ดี คน คดิ เปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดบั ปรบั ปรุง คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 1.3 ผลการประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ นักเรียนอยู่ในระดบั ดมี าก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั พอใช้ คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยใู่ นระดบั ปรบั ปรุง คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........

70 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 13 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 8 การหาร เวลาเรียน 19 ชัว่ โมง เรื่อง การหาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์แสดงการหาร เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง สอนวันท่ี....... เดือน.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนนิ การของจานวน ผลทีเ่ กดิ ขึ้นจากการดาเนินการ สมบตั ขิ องการ ดาเนนิ การ และการนาไปใช้ ตัวชีว้ ดั ค 1.1 ป.3/7 : หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ แสดงการหารทีต่ ัวต้ังไม่เกิน 4 หลัก ตัวหาร 1 หลกั สาระสาคัญ การหาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณก์ ารหาร อาจทาไดโ้ ดยใชค้ วามสมั พันธ์ของ การคูณและการหาร จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายวธิ กี ารหาตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสัญลักษณแ์ สดงการคณู และการหารได้ (K) 2. เขียนแสดงวิธีหาตัวไม่ทราบค่าโดยใชค้ วามสมั พนั ธข์ องการคณู และการหารไดถ้ ูกต้อง (P) 3. นาความรู้เกี่ยวกับการหาตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ไปใช้แกปัญหาทาง คณติ ศาสตร์ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การหาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการหาร ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการสื่อสารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเช่อื มโยง คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทางาน

71 กิจกรรมการเรียนรู้ ข้ันนาเข้าสู่บทเรยี น 1. ทบทวนเร่ืองการหารที่มีตัวตั้งไม่เกินส่ีหลัก ตัวหารหน่ึงหลัก โดยครูตั้งโจทย์บน กระดานใหน้ ักเรยี นช่วยกันหาคาตอบ ใครตอบได้ถกู ก่อน เพอื่ นในชั้นรว่ มกนั ปรบมอื ชมเชย 2. ทากิจกรรมเช่นเดียวกบั ในข้อ 1. อีกประมาณ 5 ขอ้ ใครหาคาตอบไดเ้ รว็ และถูกต้อง มากท่ีสดุ ครูให้คาชมเชย ขน้ั สอน 1. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายว่าโจทย์การคูณและการหารสัมพันธ์กันอย่างไร จากนั้น ให้นกั เรยี นจับค่ทู งั้ หมด 10 คู่ แต่ละคู่หยบิ สลากโจทย์การหารในกลอ่ งแล้วเขียนบนกระดานพร้อม เติมคาตอบให้ถกู ตอ้ ง เช่น 84 ÷ 7 = 12 69 ÷ 3 = 23 72 ÷ 2 = 36 2. ครูติดแถบโจทย์การหารหรือเขยี นโจทยก์ ารหารบนกระดาน ดงั น้ี 648 ÷  = 216 814 ÷  = 407 864 ÷  = 96 342 ÷  = 57 ครถู ามนกั เรยี นว่า - สิง่ ที่โจทยใ์ ห้มาทั้ง 4 ข้อคืออะไร (ตัวต้งั และคาตอบ) - ส่งิ ทโ่ี จทยใ์ ห้หาคอื อะไร (ตวั หาร) 3. ใหน้ ักเรยี น 3 คนออกมาแสดงการหาคาตอบและเติมคาตอบ ดงั น้ี 648 ÷ 3 = 216 814 ÷ 2 = 407 864 ÷ 9 = 96 342 ÷ 6 = 57 ครูอธิบายเพม่ิ เติมวา่ - 648 ÷  = 216 เน่ืองจาก 216 × 3 = 648 ดงั น้นั 648 ÷ 3 = 216 - 814 ÷  = 407 เนือ่ งจาก 407 × 2 = 407 ดังนน้ั 814 ÷ 2 = 407 - 864 ÷  = 96 เนื่องจาก 96 × 9 = 96 ดังนั้น 864 ÷ 9 = 96 - 342 ÷  = 57 เนื่องจาก 57 × 6 = 57 ดงั น้นั 342 ÷ 6 = 57 4. ครใู ห้นักเรียนทากจิ กรรมทานองเดยี วกันนอ้ี กี 3 – 4 ขอ้ จนนกั เรียนเขา้ ใจ

72 5. ครูใหน้ ักเรียนทาใบงานที่ 13 เร่ือง การหาคา่ ของตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงการหาร เมื่อเสร็จแลว้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากน้ันครแู ละนกั เรยี นรว่ มกัน เฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 13 ขน้ั สรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังน้ี การหาตัวไม่ทราบค่าใน ประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการหาร เราอาจใช้ความรเู้ ก่ียวกับความสมั พันธ์ของการคูณและการหารมา ชว่ ยในการหาคาตอบ สอื่ การเรียนรู้ ใบงานท่ี 13 การหาค่าของตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการหาร การวัดผลและประเมนิ ผล สงิ่ ท่ีตอ้ งการวัด วิธวี ดั เครอ่ื งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 13 70% ข้ึนไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์ 13 การประเมิน 2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดบั กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีข้ึนไป ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลักษณะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดับ ทีพ่ งึ ประสงค์ คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดขี น้ึ ไป คุณลกั ษณะ ท่ีพงึ ประสงค์ ความคิดเห็นผู้บริหาร ลงช่ือ.....................................ผตู้ รวจ () ผอู้ านวยการโรงเรยี น ..../................../........

73 บันทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นไดค้ ะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมินทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยใู่ นระดบั ดีมาก คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรับปรงุ คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ปรบั ปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........

74 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 14 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 8 การหาร เวลาเรียน 19 ช่วั โมง เรื่อง การหาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์แสดงการหาร เวลาเรียน 1 ชั่วโมง สอนวันท่ี....... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนินการของจานวน ผลท่เี กดิ ข้นึ จากการดาเนนิ การ สมบตั ิของการ ดาเนนิ การ และการนาไปใช้ ตัวชีว้ ดั ค 1.1 ป.3/7 : หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์ แสดงการหารทต่ี ัวตั้งไมเ่ กิน 4 หลัก ตัวหาร 1 หลกั สาระสาคัญ การหาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลักษณก์ ารหาร อาจทาไดโ้ ดยใชค้ วามสมั พันธ์ของ การคูณและการหาร จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายวธิ ีการหาตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการคูณและการหารได้ (K) 2. เขยี นแสดงวธิ ีหาตวั ไมท่ ราบค่าโดยใช้ความสมั พนั ธข์ องการคูณและการหารได้ถูกต้อง (P) 3. นาความรู้เกี่ยวกับการหาตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ไปใช้แกปัญหาทาง คณติ ศาสตรไ์ ด้ (A) สาระการเรยี นรู้ การหาค่าของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการหาร ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการสื่อสารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเช่ือมโยง คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุง่ มนั่ ในการทางาน

75 กจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าสูบ่ ทเรยี น 1. ทบทวนเรอื่ งการหาค่าของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณก์ ารหารท่ีไดเ้ รียนมา ในชั่วโมงท่ีผ่านมา โดยครูตัง้ โจทย์บนกระดานใหน้ กั เรียนชว่ ยกันหาคาตอบ ใครตอบได้ถกู ก่อน เพื่อน ในชั้นรว่ มกันปรบมอื ชมเชย 515 ÷  = 103 894 ÷  = 298 462 ÷  = 66 765 ÷  = 85 ขั้นสอน 1. ครตู ดิ แถบโจทย์การหารหรอื เขียนโจทยก์ ารหารบนกระดาน ดังน้ี  ÷ 2 = 713  ÷ 8 = 823  ÷ 4 = 1,606  ÷ 3 = 2,504 ครูถามนกั เรยี นว่า - สง่ิ ทีโ่ จทยใ์ หม้ าทงั้ 4 ข้อคืออะไร (ตัวหารและคาตอบ) - สงิ่ ท่ีโจทยใ์ ห้หาคืออะไร (ตัวต้งั ) 2. ให้นักเรยี น 3 คนออกมาแสดงการหาคาตอบและเติมคาตอบ ดงั นี้ 1,426 ÷ 2 = 713 6,584 ÷ 8 = 823 6,424 ÷ 4 = 1,606 7,512 ÷ 3 = 2,504 ครูอธบิ ายเพิ่มเตมิ วา่ -  ÷ 2 = 713 เน่ืองจาก 2 × 713 = 1,426 ดงั นั้น 1,426 ÷ 2 = 713 -  ÷ 8 = 823 เนอ่ื งจาก 8 × 823 = 6,584 ดงั นั้น 6,584 ÷ 8 = 823 -  ÷ 4 = 1,606 เน่ืองจาก 4 × 1,606 = 6,424 ดังนัน้ 6,424 ÷ 4 = 1,606 -  ÷ 3 = 2,504 เนื่องจาก 3 × 2,504 = 7,512 ดงั นั้น 7,512 ÷ 3 = 2,504 3. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมทานองเดียวกนั นอี้ ีก 3 - 4 ข้อ จนนักเรยี นเขา้ ใจ 4. ครใู หน้ ักเรียนทาใบงานท่ี 14 เรอื่ ง การหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงการหาร เมอ่ื เสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนัน้ ครแู ละนักเรียนร่วมกัน เฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 14

76 ข้ันสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังน้ี การหาตัวไม่ทราบค่าใน ประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการหาร เราอาจใช้ความร้เู ก่ียวกับความสมั พันธ์ของการคูณและการหารมา ช่วยในการหาคาตอบ สอ่ื การเรยี นรู้ ใบงานท่ี 14 การหาค่าของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการหาร การวดั ผลและประเมินผล สงิ่ ทต่ี ้องการวดั วธิ วี ัด เคร่อื งมอื วดั เกณฑ์การประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 14 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์ 14 การประเมิน 2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นักเรียนได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขึ้นไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรียนได้คะแนนระดับ ทพี่ ึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดขี ึน้ ไป คณุ ลักษณะ ทพ่ี งึ ประสงค์ ความคิดเห็นผู้บรหิ าร ลงชื่อ.....................................ผตู้ รวจ () ผอู้ านวยการโรงเรยี น ..../................../........

77 บันทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรียนร้ตู ามจุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นได้คะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดมี าก คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรับปรุง คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........

78 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 15 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 8 การหาร เวลาเรียน 19 ชว่ั โมง เรือ่ ง การวเิ คราะห์โจทย์ปัญหาการหารและหาคาตอบ เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง สอนวันที่....... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนนิ การของจานวน ผลทเ่ี กิดขน้ึ จากการดาเนินการ สมบัตขิ องการ ดาเนินการ และการนาไปใช้ ตัวชวี้ ดั ค 1.1 ป.3/9 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน ของจานวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0 สาระสาคญั โจทย์ปัญหาการหารเป็นการวิเคราะห์โจทย์ปัญหาตามข้ันตอน นาผลวิเคราะห์เขียนเป็น ประโยคสญั ลกั ษณแ์ ละหาคาตอบ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. สามารถวิเคราะห์เขยี นประโยคสัญลักษณแ์ ละหาคาตอบโจทย์ปัญหาการหารได้ (K) 2. เขยี นประโยคสัญลักษณ์และหาคาตอบไดจ้ ากโจทย์ปัญหาการหารได้ (P) 3. นาความรูเ้ กยี่ วกบั โจทย์ปญั หาไปใช้แกป้ ัญหาในชวี ติ จริงได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การวิเคราะห์โจทยป์ ัญหาการหารและหาคาตอบ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 2. ความสามารถในการส่อื สารและการสอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์ 3. ความสามารถในการเช่ือมโยง 4. ความสามารถในการให้เหตผุ ล

79 คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ ม่ันในการทางาน กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน 1. ครูทบทวนหาร โดยติดบตั รโจทยก์ ารหารบนกระดาน ดังนี้ 759 ÷ 3 =  654 ÷ 6 =  7,521 ÷ 3 =  4,924 ÷ 4 =  1,460 ÷ 5 =  6,186 ÷ 6 =  ข้นั สอน 1. ครูตดิ โจทยป์ ญั หาการหารบนกระดาน พรอ้ มทั้งอา่ นโจทย์ใหน้ กั เรยี นอา่ นตาม ดงั นี้ ขนม 484 ชิน้ นามาแบง่ ใสก่ ล่องๆ ละ 8 ชน้ิ จะใส่ขนมไดก้ กี่ ล่อง 2. ครูใหน้ กั เรียนฝึกวิเคราะห์โจทย์ปญั หา โดยตอบคาถามดงั ต่อไปนี้ - โจทยก์ าหนดอะไรมาให้บา้ ง (ขนม 484 ชนิ้ นามาแบง่ ใสก่ ลอ่ งๆ ละ 8 ชน้ิ ) - โจทยถ์ ามอะไรบา้ ง (จะใส่ขนมได้กีก่ ล่อง) - ใชว้ ิธใี ดหาคาตอบ (วธิ ีหาร) - เขยี นเป็นประโยคสัญลักษณไ์ ด้อย่างไร (484 ÷ 8 = ) - คาตอบท่ีได้คอื เทา่ ใด (61 ชนิ้ ) 3. ครูฝึกวิเคราะห์โจทย์ปญั หาการหารตามลักษณะกิจกรรมที่ทามาข้างต้นอีก 2 – 3 ตวั อย่าง 4. ครใู ห้นักเรยี นทาใบงานท่ี 15 เรอื่ ง การวเิ คราะห์โจทย์ปัญหาการหารและหาคาตอบ เมื่อเสรจ็ แลว้ ให้นกั เรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากน้ันครูและนักเรยี นรว่ มกนั เฉลยกจิ กรรม ในใบงานที่ 15 ขน้ั สรปุ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ โจทย์ปัญหาเป็นการนา จานวนหรือสถานการณ์ต่างๆ มาเขยี นเปน็ คาถาม เพื่อให้คิดหาคาตอบ ซึง่ เราต้องอา่ นโจทยใ์ หเ้ ข้าใจ พจิ ารณาวา่ โจทยก์ าหนดอะไรใหบ้ ้าง โจทย์ถามหาอะไร ควรใชว้ ิธีการแกไ้ ขปัญหาอยา่ งไร

80 ส่อื การเรยี นรู้ 1. บัตรโจทยก์ ารหาร 2. โจทยป์ ัญหาการหาร 3. ใบงานที่ 15 การวเิ คราะหโ์ จทย์ปญั หาการหารและหาคาตอบ การวดั ผลและประเมนิ ผล สิ่งท่ีต้องการวดั วธิ วี ดั เครอ่ื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 15 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 15 การประเมนิ 2. ด้านทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรียนไดค้ ะแนนระดับ กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดขี ึ้นไป ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดับ ท่พี งึ ประสงค์ คณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค์ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดีขึ้นไป คุณลกั ษณะ ทีพ่ ึงประสงค์ ความคดิ เห็นผูบ้ ริหาร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ () ผ้อู านวยการโรงเรียน ..../................../........

81 บันทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นไดค้ ะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมินทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยใู่ นระดบั ดีมาก คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรับปรงุ คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ปรบั ปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........

82 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 16 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 8 การหาร เวลาเรียน 19 ชว่ั โมง เรือ่ ง การวเิ คราะห์โจทย์ปัญหาการหารและหาคาตอบ เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง สอนวันที่....... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนนิ การของจานวน ผลทเ่ี กิดขน้ึ จากการดาเนินการ สมบัตขิ องการ ดาเนินการ และการนาไปใช้ ตัวชวี้ ดั ค 1.1 ป.3/9 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน ของจานวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0 สาระสาคญั โจทย์ปัญหาการหารเป็นการวิเคราะห์โจทย์ปัญหาตามข้ันตอน นาผลวิเคราะห์เขียนเป็น ประโยคสญั ลกั ษณแ์ ละหาคาตอบ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. สามารถวิเคราะห์เขยี นประโยคสัญลักษณแ์ ละหาคาตอบโจทย์ปัญหาการหารได้ (K) 2. เขยี นประโยคสัญลักษณ์และหาคาตอบไดจ้ ากโจทย์ปัญหาการหารได้ (P) 3. นาความรูเ้ กยี่ วกบั โจทย์ปญั หาไปใช้แกป้ ัญหาในชวี ติ จริงได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การวิเคราะห์โจทยป์ ัญหาการหารและหาคาตอบ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 2. ความสามารถในการส่อื สารและการสอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์ 3. ความสามารถในการเช่ือมโยง 4. ความสามารถในการให้เหตผุ ล

83 คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งม่นั ในการทางาน กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนาเขา้ ส่บู ทเรียน 1. ครูนาแถบโจทย์ปัญหามาติดบนกระดาน ให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์โจทย์ปญั หา เพ่ือเป็นการทบทวนเนือ้ หาทเี่ พง่ิ เรียนมาในชัว่ โมงทีผ่ า่ นมา พ่อคา้ มผี ลไม้ 243 ผล แบง่ ใสจ่ าน จานละ 8 ผล จะได้ท้งั หมดกีจ่ าน และเหลือผลไม้กผี่ ล 2. ครฝู ึกใหน้ กั เรยี นฝกึ วิเคราะหโ์ จทยโ์ ดยตอบคาถามตอ่ ไปนี้ - โจทย์ข้อน้เี ก่ยี วกบั อะไร (การแบ่งผลไม้ของพอ่ ค้า) - โจทยถ์ ามอะไร (จะไดท้ ้งั หมดกจ่ี าน และเหลอื ผลไม้กีผ่ ล) - โจทย์กาหนดอะไรมาใหบ้ ้าง (พ่อค้ามผี ลไม้ 243 ผล แบ่งใสจ่ าน จานละ 8 ผล) - พ่อคา้ จะไดท้ งั้ หมดก่จี าน และเหลอื ผลไม้ก่ผี ล (30 จาน เหลือ 3 ผล) ข้ันสอน 1. ครูติดแถบโจทย์ปัญหาการหารให้นกั เรียนคดิ หาคาตอบ ดังนี้ หนงั สืออา่ นประกอบการเรยี น 4,095 เล่ม นาไปแจกโรงเรียนละเทา่ ๆ กนั 9 โรงเรยี น แต่ละโรงเรียนได้รบั หนงั สอื คนละก่ีเลม่ ครใู หน้ ักเรียนทกุ คนอ่านโจทย์ปญั หาพรอ้ มกนั แลว้ ฝกึ วเิ คราะห์โจทย์และหาคาตอบ โดยใหน้ กั เรียนตอบคาถาม ดังนี้ - โจทย์ถามอะไร (แตล่ ะโรงเรยี นได้รบั หนังสอื คนละก่ีเล่ม) - โจทยก์ าหนดอะไรให้บา้ ง (หนังสอื อา่ นประกอบการเรยี น 4,095 เลม่ นาไปแจก โรงเรียนละเท่าๆ กัน 9 โรงเรียน) - หาจานวนหนังสอื ท่แี ต่ละโรงเรยี นจะได้รบั ไดอ้ ย่างไร (4,095 ÷ 9 = ) - 4,095 ÷ 9 ได้คาตอบเทา่ ใด (455 เลม่ ) - สรปุ คาตอบได้อยา่ งไร (แต่ละโรงเรยี นได้รบั หนงั สอื คนละ 455 เล่ม) 2. ครฝู ึกวิเคราะหโ์ จทยป์ ญั หาการหารตามลกั ษณะกิจกรรมทท่ี ามาขา้ งตน้ อกี 2 – 3 ตัวอย่าง

84 3. ครใู หน้ กั เรยี นทาใบงานที่ 16 เร่อื ง การวิเคราะห์โจทยป์ ญั หาการหารและหาคาตอบ เม่ือเสรจ็ แล้วใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนั้นครูและนักเรยี นรว่ มกนั เฉลยกิจกรรม ในใบงานท่ี 16 ขนั้ สรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ โจทย์ปัญหาเป็นการนา จานวนหรอื สถานการณ์ตา่ งๆ มาเขยี นเป็นคาถาม เพื่อใหค้ ดิ หาคาตอบ ซ่ึงเราตอ้ งอา่ นโจทยใ์ ห้เข้าใจ พิจารณาว่าโจทย์กาหนดอะไรใหบ้ ้าง โจทย์ถามหาอะไร ควรใชว้ ธิ ีการแก้ไขปญั หาอย่างไร สือ่ การเรยี นรู้ 1. แถบโจทยป์ ัญหาการหาร 2. ใบงานที่ 16 การวเิ คราะห์โจทย์ปัญหาการหารและหาคาตอบ การวัดผลและประเมินผล สง่ิ ทตี่ อ้ งการวดั วธิ วี ัด เครือ่ งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ 1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 16 70% ขนึ้ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ 16 การประเมนิ 2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดับ กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดขี ึ้นไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ดา้ นคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดับ ท่ีพึงประสงค์ คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ พฤตกิ รรมดา้ น คณุ ภาพดขี น้ึ ไป คุณลักษณะ ท่พี งึ ประสงค์ ความคิดเห็นผูบ้ รหิ าร ลงชอ่ื .....................................ผู้ตรวจ () ผูอ้ านวยการโรงเรยี น ..../................../........

85 บันทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรียนรตู้ ามจุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นได้คะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมินทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดมี าก คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรับปรุง คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........

86 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 17 รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 8 การหาร เวลาเรยี น 19 ชวั่ โมง เร่อื ง การแสดงวิธีทาโจทยป์ ัญหาการหาร เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง สอนวันท.่ี ...... เดือน.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนนิ การของจานวน ผลทีเ่ กดิ ข้นึ จากการดาเนินการ สมบตั ิของการ ดาเนนิ การ และการนาไปใช้ ตวั ชวี้ ดั ค 1.1 ป.3/9 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน ของจานวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0 สาระสาคญั การแสดงวิธที าจากโจทยป์ ญั หาการหารเป็นการนาโจทยป์ ัญหามาเขียนเรียงลาดับในแนวตั้ง จานวนตวั เลขในแตล่ ะหลกั ใหต้ รงกันแลว้ หาผลหารจานวนตวั เลขในแตล่ ะหลัก จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สามารถแสดงวธิ ีทาและหาคาตอบโจทยป์ ัญหาการหารได้ (K) 2. เขยี นประโยคสัญลกั ษณแ์ ละหาคาตอบได้จากโจทย์ปญั หาการหารได้ (P) 3. นาความรเู้ กี่ยวกับโจทย์ปญั หาไปใช้แกป้ ัญหาในชวี ติ จริงได้ (A) สาระการเรียนรู้ การแสดงวธิ ีทาโจทยป์ ัญหาการหาร ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแก้ปญั หา 2. ความสามารถในการสอื่ สารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเช่อื มโยง 4. ความสามารถในการให้เหตผุ ล

87 คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. ครูนาแถบโจทย์ปัญหามาติดบนกระดาน ให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์โจทย์ปญั หา เพื่อเปน็ การทบทวนเนอื้ หาที่เพิง่ เรยี นมาในช่วั โมงทผี่ ่านมา - มีสมุด 11 เล่ม แบง่ ใหเ้ ดก็ คนละ 2 เลม่ จะได้ก่คี นและเหลืออกี กีเ่ ล่ม - นักเรียน 12 คน แบง่ เปน็ กล่มุ กล่มุ ละ 5 คน จะไดก้ ่กี ล่มุ และเหลอื อกี กค่ี น ขั้นสอน 1. ครูกาหนดแถบโจทย์ปัญหาการหาร จากนั้นครูให้นักเรียนวิเคราะห์โจทย์ตาม ขน้ั ตอนตอ่ ไปนี้ ร้านคา้ ขายเส้ือแบบเดียวกันได้ 8 ตวั เป็นเงนิ 1,432 บาท รา้ นค้าขายเสอ้ื ไป ตัวละกบ่ี าท - ส่ิงท่ีโจทย์กาหนดให้ (ร้านค้าขายเสื้อแบบเดียวกันได้ 8 ตัว เป็นเงิน 1,432 บาท) - ส่ิงทีโ่ จทยต์ อ้ งการทราบ (ร้านคา้ ขายเสื้อไปตัวละก่ีบาท) - เขียนเปน็ ประโยคสัญลักษณไ์ ด้อย่างไร (1,432 ÷ 8 = ) 2. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั แสดงวธิ ีทาเพอ่ื หาคาตอบจากประโยคสญั ลักษณ์ ประโยคสญั ลกั ษณ์ 1,432 ÷ 8 =  วธิ ีทา ร้านค้าขายไดเ้ งิน 1432 ÷ บาท รา้ นขายเสอื้ แบบเดียวกันได้ 8 ตวั รา้ นค้าขายเสือ้ ไปตวั ละ 179 บาท ตอบ ร้านคา้ ขายเสือ้ ไปตัวละ 179 บาท 3. ครูฝึกวิเคราะห์โจทย์ปัญหาการหารและแสดงวิธีทาตามลักษณะกิจกรรมที่ทามา ข้างต้นอีก 2 – 3 ตัวอย่าง 4. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 17 เร่ือง การแสดงวิธีทาโจทย์ปัญหาการหาร เมื่อเสร็จ แลว้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนัน้ ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 17

88 ขนั้ สรปุ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสง่ิ ทีไ่ ด้เรียนร้รู ว่ มกัน ดังน้ี การแก้โจทย์ปัญหาการหาร ทาได้โดยการวิเคราะห์โจทย์ปัญหาเพือ่ ทาความเข้าใจโจทยว์ างแผนว่าจะใชว้ ธิ ใี ดหาคาตอบ แล้วลงมอื ทาโดยการแสดงวธิ ีทาหาคาตอบ และตรวจสอบคาตอบ ส่วนการเขยี นข้อความเพ่ือสรา้ งโจทยป์ ัญหา จะต้องให้สอดคล้องกับท่ีโจทย์กาหนด และมีความสมเหตุสมผล เราสามารถนาความรู้เรื่อง การแก้ โจทย์ปญั หาการหาร ไปใช้แก้ปัญหาเกีย่ วกบั จานวนต่างๆ ในชีวติ ประจาวนั ได้ สือ่ การเรยี นรู้ 1. แถบโจทยป์ ญั หาการหาร 2. ใบงานท่ี 17 การแสดงวธิ ีทาโจทยป์ ัญหาการหาร การวดั ผลและประเมินผล ส่ิงทต่ี ้องการวดั วิธีวดั เครอ่ื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 17 70% ขนึ้ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ 17 การประเมิน 2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดับ กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึน้ ไป ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดบั ท่พี งึ ประสงค์ คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขน้ึ ไป คุณลกั ษณะ ที่พงึ ประสงค์ ความคิดเห็นผู้บรหิ าร ลงชอื่ .....................................ผูต้ รวจ () ผู้อานวยการโรงเรยี น ..../................../........

89 บันทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรียนร้ตู ามจุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นได้คะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดมี าก คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรับปรุง คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........

90 แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 18 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 8 การหาร เวลาเรียน 19 ชั่วโมง เร่ือง การสร้างโจทยป์ ญั หาการหารจากภาพ เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง สอนวันที่....... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนินการของจานวน ผลท่ีเกดิ ขน้ึ จากการดาเนินการ สมบตั ิของการ ดาเนินการ และการนาไปใช้ ตวั ชี้วดั ค 1.1 ป.3/9 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน ของจานวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0 สาระสาคญั การสร้างโจทย์ปญั หา ตอ้ งมที งั้ ส่วนท่ีโจทย์บอกและสว่ นท่ีโจทยถ์ าม นอกจากนโี้ จทย์ปัญหาท่ี สรา้ งตอ้ งมคี วามเปน็ ไปได้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. สรา้ งโจทย์ปญั หาการหารจากภาพทกี่ าหนดให้ได้ (K) 2. เขียนแสดงการสร้างโจทยป์ ญั หาการหารไดถ้ กู ต้อง (P) 3. เขียนแสดงวธิ ีหาคาตอบจากโจทยป์ ัญหาการหารทีส่ ร้างขน้ึ ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง (P) 4. นาความรู้เกีย่ วกับโจทยป์ ญั หาการหารไปใชแ้ ก้ปญั หาในชีวติ จริงได้ (A) สาระการเรียนรู้ การสร้างโจทยป์ ญั หาการหารจากภาพ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแก้ปญั หา 2. ความสามารถในการสื่อสารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชือ่ มโยง 4. ความสามารถในการให้เหตุผล 5. ความสามารถในการคดิ สรา้ งสรรค์

91 คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุง่ ม่ันในการทางาน กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ นาเข้าสบู่ ทเรียน 1. ครูติดแถบโจทย์การหารบนกระดานทีละข้อ ให้นักเรียนช่วยกนั พิจารณาว่าโจทยถ์ าม อะไร และโจทย์บอกอะไร เช่น พอ่ มมี ะมว่ ง 120 ผล จัดใส่ถงุ ถงุ ละ 9 ผล จะใส่ไดก้ ีถ่ ุง และเหลอื กผี่ ล แมม่ เี งนิ 1,500 บาท แบ่งใหล้ กู 5 คน คนละเท่าๆ กนั ลกู จะได้รับเงนิ คนละกบี่ าท มานพไปเที่ยวตา่ งจังหวดั เป็นเวลา 105 วัน มานพไปเทย่ี วกส่ี ปั ดาห์ ขน้ั สอน 1. ครูใช้การถาม - ตอบ ประกอบการอธิบายเก่ียวกับสิ่งที่ต้องคานึงถึง สาหรับการ สรา้ งโจทย์ปัญหาการหาร โดยจะได้ว่า จะต้องคานงึ ถงึ ความเหมาะสมและความเปน็ ไปได้ของสถานท่ี กับจานวนที่ใช้ นอกจากนี้จะต้องเลือกใช้คาหรือข้อความให้สอดคล้องกับการดาเนินการที่ต้องการ จากน้นั ครตู ิดภาพบนกระดาน ดงั น้ี 240 ดวง สมุด 4 เล่ม ครูสาธิตวิธีการสร้างโจทย์ปญั หาการหารจากภาพที่กาหนด พรอ้ มทั้งแสดงวิธีการแก้ โจทย์ปัญหา และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ เช่น “ดาวมีแสตมป์ 240 ดวง จัดใสส่ มดุ สะสมแสตมป์ 4 เล่ม เลม่ ละเท่าๆ กัน แต่ละเลม่ จะมแี สตมป์อยูก่ ่ีดวง”

92 ประโยคสญั ลักษณ์ 240 ÷ 4 =  240 ÷ ดวง วธิ ีทา ดาวมแี สตมป์ 4 เล่ม จัดใสส่ มุดสะสมแสตมป์ 60 ดวง แต่ละเล่มจะมีแสตมปอ์ ยู่ ตอบ แต่ละเลม่ จะมแี สตมป์อยู่ ๖๐ ดวง 2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 – 5 คน จากนั้นครูกาหนดภาพให้นักเรียนให้ นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั สร้างโจทย์ปัญหาการหารจากรูปภาพท่กี าหนดให้ 3. ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชัน้ เรยี น ครแู ละนกั เรียนทเ่ี หลือ ร่วมกันตรวจผลงานและชมเชยกลุ่มทท่ี าไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม ครูพจิ ารณาโจทย์ปญั หาในขอ้ ทยี่ งั ไม่ ถูกตอ้ ง โดยให้นกั เรียนรว่ มกนั แก้ไขปรบั ปรุงให้ถูกตอ้ ง 4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและสรุปความรู้เกี่ยวกับการสร้างโจทย์ปัญหาวา่ มี ขัน้ ตอนอย่างไร และสง่ิ สาคญั ในการสร้างโจทยป์ ัญหาการหารคอื อะไร 5. ครูฝึกวิเคราะห์โจทย์ปัญหาการหารและแสดงวิธีทาตามลักษณะกิจกรรมท่ีทามา ขา้ งต้นอีก 2 – 3 ตัวอย่าง 6. ครใู ห้นกั เรยี นทาใบงานที่ 18 เรอื่ ง การสร้างโจทยป์ ญั หาการหารจากภาพ เม่อื เสรจ็ แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนน้ั ครแู ละนักเรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 18 ขั้นสรุป 1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปสง่ิ ทีไ่ ดเ้ รยี นรรู้ ว่ มกนั ดังนี้ การสร้างโจทยป์ ญั หาการหาร ตอ้ งประกอบไปด้วย 2 ส่วนคอื ส่วนท่ีโจทยก์ าหนดให้ กับส่วนทีโ่ จทยถ์ าม ซึ่งประโยคในการสรา้ งควร เป็นเรื่องท่มี ีความเช่ือมโยงและสัมพันธ์กันท้ังหมด และควรสร้างใหเ้ หมาะสมกับสถานการณ์ในชีวติ จรงิ และสร้างใหค้ รบท้งั สองส่วน สื่อการเรียนรู้ 1. แถบโจทย์ปญั หาการหาร 2. บตั รภาพ 3. ใบงานที่ 18 การสรา้ งโจทยป์ ัญหาการหารจากภาพ

93 การวดั ผลและประเมนิ ผล สิง่ ทต่ี ้องการวดั วิธวี ัด เครอ่ื งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 18 70% ข้ึนไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ 18 การประเมนิ 2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดขี ้นึ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรียนได้คะแนนระดับ ที่พึงประสงค์ คุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดขี ้นึ ไป คุณลักษณะ ท่พี งึ ประสงค์ ความคดิ เห็นผบู้ ริหาร ลงช่ือ.....................................ผู้ตรวจ () ผูอ้ านวยการโรงเรยี น ..../................../........

94 บันทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรียนร้ตู ามจุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นได้คะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดมี าก คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรับปรุง คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........

95 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 19 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 8 การหาร เวลาเรยี น 19 ชว่ั โมง เรื่อง การสร้างโจทยป์ ญั หาการหารจากประโยคสัญลักษณ์ เวลาเรียน 1 ช่วั โมง สอนวันท.่ี ...... เดือน.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนินการของจานวน ผลทเ่ี กิดขึน้ จากการดาเนนิ การ สมบตั ิของการ ดาเนินการ และการนาไปใช้ ตัวชวี้ ดั ค 1.1 ป.3/9 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ข้ันตอน ของจานวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0 สาระสาคัญ การสรา้ งโจทย์ปัญหา ต้องมีท้ังส่วนท่ีโจทย์บอกและสว่ นที่โจทยถ์ าม นอกจากนโ้ี จทยป์ ัญหาท่ี สรา้ งตอ้ งมคี วามเป็นไปได้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. สร้างโจทย์ปัญหาการหารจากประโยคสญั ลักษณท์ กี่ าหนดให้ได้ (K) 2. เขียนแสดงการสร้างโจทย์ปัญหาการหารได้ถูกตอ้ ง (P) 3. เขยี นแสดงวิธีหาคาตอบจากโจทยป์ ญั หาการหารท่ีสร้างขึ้นไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง (P) 4. นาความรเู้ กย่ี วกับโจทย์ปญั หาการหารไปใช้แกป้ ญั หาในชีวิตจริงได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การสร้างโจทย์ปัญหาการหารจากประโยคสัญลักษณ์ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 2. ความสามารถในการสอื่ สารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชอ่ื มโยง 4. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล 5. ความสามารถในการคิดสรา้ งสรรค์

96 คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1. ครูทบทวนความร้เู ร่ือง การสร้างโจทยป์ ัญหาการหารจากภาพ โดยครูติดบัตรภาพ บนกระดาน แลว้ ครูสุม่ นักเรียนออกมา 2-3 คน ออกมาสรา้ งโจทย์ปัญหาการหาร 2. จากน้ันครูใช้การถาม - ตอบ เพื่อให้นกั เรียนบอกสว่ นที่โจทยถ์ าม ส่วนท่ีโจทย์บอก ซึง่ ครคู วรเนน้ ย้าว่าโจทย์ปญั หาทส่ี รา้ งมคี วามเป็นไปไดห้ รอื ไม่ และคาตอบเป็นเทา่ ไร ขน้ั สอน 1. ครูติดบัตรประโยคสัญลักษณ์บนกระดาน แล้วครูสาธิตวิธีการสร้างโจทย์ปัญหา การหารจากประโยคสัญลักษณ์ท่ีกาหนด พร้อมท้ังแสดงวิธีหาคาตอบและตรวจสอบความ สมเหตสุ มผลของคาตอบ เช่น 1,835 ÷ 5 =  ครูสาธิตวธิ ีการสรา้ งโจทย์ปัญหาการหารจากประโยคสญั ลักษณ์ท่กี าหนด พร้อมทง้ั แสดงวิธีการแก้โจทย์ปัญหา และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ “โรงงานผลิตลูกบอล 1,835 ลูก จดั ใสก่ ลอ่ ง กลอ่ งละ 5 ลูก จะจดั ได้กี่กล่อง” ประโยคสญั ลักษณ์ 1,835 ÷ 5 =  วธิ ีทา โรงงานผลติ ลกู บอล 1835 ÷ ลกู จัดใสก่ ล่อง กล่องละ 5 ลูก จะจัดได้ 367 กลอ่ ง ตอบ จะจัดได้ ๓๖๗ กล่อง 2. ครูใหน้ กั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 4 – 5 คน จากนน้ั ให้นักเรียนแต่ละกลุม่ ร่วมกันสรา้ ง โจทยป์ ญั หาการหารจากประโยคสญั ลกั ษณท์ ก่ี าหนดให้ ดงั น้ี 428 ÷ 4 =  6,906 ÷ 6 =  7,016 ÷ 8 = 

97 3. ครใู ห้นกั เรยี นแต่ละกล่มุ ออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรยี น ครแู ละนักเรยี นท่ีเหลอื รว่ มกันตรวจผลงานและชมเชยกลมุ่ ทที่ าได้ถูกต้องและเหมาะสม ครพู ิจารณาโจทย์ปัญหาในข้อทีย่ งั ไม่ ถูกตอ้ ง โดยให้นกั เรียนรว่ มกนั แก้ไขปรับปรุงให้ถกู ตอ้ ง 4. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 19 เรื่อง การสร้างโจทย์ปัญหาการหารจากประโยค สัญลักษณ์ เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกัน เฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 19 ขนั้ สรปุ 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปสง่ิ ท่ีไดเ้ รียนรรู้ ว่ มกัน ดังนี้ การสรา้ งโจทย์ปัญหาการหาร ตอ้ งประกอบไปดว้ ย 2 สว่ นคือ สว่ นท่โี จทย์กาหนดให้ กับสว่ นทีโ่ จทย์ถาม ซง่ึ ประโยคในการสรา้ งควร เป็นเรื่องที่มีความเชื่อมโยงและสัมพันธ์กันทั้งหมด และควรสร้างให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในชวี ิต จรงิ และสรา้ งให้ครบท้ังสองสว่ น สือ่ การเรียนรู้ 1. บตั รภาพ 2. บตั รประโยคสญั ลักษณ์ 3. ใบงานท่ี 19 การสร้างโจทย์ปัญหาการหารจากประโยคสญั ลกั ษณ์ การวัดผลและประเมินผล สิง่ ทต่ี อ้ งการวดั วิธีวดั เครอื่ งมือวัด เกณฑ์การประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 19 70% ขึน้ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ 19 การประเมิน 2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดบั กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดขี ึ้นไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลักษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดบั ที่พึงประสงค์ คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ พฤตกิ รรมด้าน คณุ ภาพดีขนึ้ ไป คุณลักษณะ ทพี่ งึ ประสงค์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook