Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 10

Description: บทที่ 10

Search

Read the Text Version

ก คำนำ การจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้นับเป็นวิธีหนึ่งท่ีทาให้ครูผู้สอนได้มีการเตรียมการสอน ลว่ งหน้า ก่อนท่จี ะทาการสอนจรงิ โดยมกี ารเตรยี มเน้อื หาเตรียมกิจกรรม เตรยี มส่อื การเรยี นการสอน รวมท้ังวิธีการวัดผลประเมินผลซึ่งการเตรียมการสอนจะช่วยให้ครูผู้สอนมีความพร้อมที่จะสอนให้ ผ้เู รยี นบรรลตุ ามจุดมุง่ หมายของหลักสูตร การจดั ทาแผนการจดั การเรยี นรูฉ้ บบั นี้ ผู้จดั ทาได้ศึกษาค้นคว้าหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศักราช 2560) เอกสารอื่นๆ ทีเ่ กยี่ วข้อง วิเคราะห์ หลกั สูตร จัดทากาหนดการสอน โครงสรา้ งรายวิชา และหารูปแบบการทาแผนการจัดการเรียนรู้โดย เน้นใหผ้ เู้ รียนไดเ้ รียนผ่านกระบวนการคดิ ด้วยตนเอง โดยคานงึ ถงึ สภาพแวดล้อมของผเู้ รียน โรงเรยี น และชุมชนเป็นหลัก แผนการจัดการเรียนรู้ฉบับน้ี เป็นแผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 การวัดน้าหนัก เพื่อพัฒนาความเข้าใจเก่ียวกับ สัญลักษณ์ และการดาเนนิ การตอ่ วชิ าคณติ ศาสตร์ โดยเน้นขัน้ ตอนหรอื วธิ ีการทางคณิตศาสตร์ จัดทา ไว้เพอื่ สะดวกต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน สามารถนาไปประยุกต์ใช้ไดท้ ุกปีการศกึ ษา ผู้ทจ่ี ะ นาไปใชค้ วรอ่านคาชี้แจงการใช้แผนการจดั การเรียนรูใ้ ห้เขา้ ใจกอ่ นนาไปใชจ้ ริง ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างย่ิงว่า แผนการจัดการเรียนรู้ฉบับน้ีจะช่วยให้การเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ดาเนินไปด้วยดี และทาให้ผู้เรยี นมีความรู้ ความสามารถ มที กั ษะกระบวนการและมีคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ตรงตามจดุ มงุ่ หมายของหลักสตู ร ต่อไป ....................................

สารบัญ ข เรือ่ ง หนา้ สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ 1 ตัวชวี้ ดั และสาระการเรยี นร้แู กนกลาง 2 คาอธิบายรายวิชา 7 โครงสรา้ งเวลาเรยี น 9 โครงสร้างรายวิชา 10 กาหนดแผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 10 การวดั นา้ หนกั 11 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 12 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2 16 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 20 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 4 25 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 5 29 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 33 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 7 37 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 8 41 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 9 45 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 10 49 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 11 53 แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 12 57 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 13 61 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 14 65 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 15 69

1 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 1 จานวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของ จานวน ผลท่ีเกิดขึ้นจากการดาเนินการ สมบัติของการดาเนินการ และการ นาไปใช้ มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน ลาดับและอนุกรม และ นาไปใช้ มาตรฐาน ค 1.3 ใช้นิพจน์ สมการ และอสมการ อธิบายความสัมพันธ์หรือช่วยแก้ปัญหาที่ กาหนดให้ สาระท่ี 2 การวัดและเรขาคณติ มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพ้ืนฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงท่ีต้องการวัดและ นาไปใช้ มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวเิ คราะห์รปู เรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหว่าง รูปเรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนาไปใช้ สาระที่ 3 สถติ แิ ละความน่าจะเป็น มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรทู้ างสถิติในการแก้ปัญหา มาตรฐาน ค 3.2 เข้าใจหลกั การนับเบอ้ื งตน้ ความน่าจะเป็น และนาไปใช้

2 ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระท่ี 1 จานวนและพชี คณิต มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของ จานวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดาเนินการ สมบัติของการดาเนินการ และการ นาไปใช้ ชัน้ ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป. 3 จานวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0 1. อ่านและเขียน ตัวเลขฮนิ ดอู ารบกิ - การอ่าน การเขยี นตวั เลขฮินดูอารบกิ ตวั เลขไทย และตัวหนังสอื แสดง ตัวเลขไทย และตัวหนังสอื แสดงจานวน จานวนนบั ไมเ่ กิน 100,000 และ 0 - หลัก คา่ ของเลขโดดในแต่ละหลกั และ 2. เปรียบเทยี บและเรยี งลาดับจานวนนับ การเขียนตวั เลขแสดงจานวนในรปู ไม่เกิน 100,000 จากสถานการณ์ตา่ งๆ กระจาย - การเปรยี บเทยี บและเรยี งลาดบั จานวน เศษส่วน 3. บอก อ่าน และเขียนเศษสว่ นแสดง - เศษส่วนทมี่ ตี ัวเศษนอ้ ยกวา่ หรือเทา่ กบั ปรมิ าณสิง่ ต่างๆ และแสดงสง่ิ ต่างๆ ตัวสว่ น ตามเศษส่วนทก่ี าหนด - การเปรยี บเทียบและเรียงลาดับ 4. เปรียบเทียบเศษสว่ นทตี่ ัวเศษเทา่ กัน เศษส่วน โดยท่ีตัวเศษน้อยกวา่ หรอื เท่ากับตัว สว่ น การบวก การลบ การคูณ การหารจานวน 5. หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยค นับไมเ่ กิน 100,000 และ 0 สญั ลักษณแ์ สดงการบวกและประโยค - การบวกและการลบ สญั ลักษณ์แสดงการลบของจานวนไม่ - การคณู การหารยาวและการหารส้นั เกนิ 100,000 และ 0 - การบวก ลบ คูณ หารระคน 6. หาคา่ ของตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยค - การแก้โจทยป์ ญั หาและการสร้างโจทย์ สญั ลักษณ์ แสดงการคณู ของจานวน 1 ปัญหา พร้อมท้งั หาคาตอบ หลักกบั จานวนไม่เกิน 4 หลกั และ จานวน 2 หลักกับจานวน 2 หลัก 7. หาคา่ ของตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยค สญั ลักษณ์ แสดงการหารที่ตวั ต้งั ไมเ่ กนิ 4 หลัก ตัวหาร 1 หลกั

3 ชน้ั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ป. 3 8. หาผลลัพธก์ ารบวก ลบ คณู หารระคน ของจานวนนบั ไมเ่ กิน 100,000 และ 0 9. แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา 2 ขัน้ ตอน ของจานวนนบั ไม่เกิน 100,000 และ 0 การบวก การลบเศษสว่ น 10. หาผลบวกของเศษส่วนทมี่ ีตัวสว่ น - การบวกและการลบเศษส่วน เทา่ กนั และผลบวกไมเ่ กิน 1 และหาผล - การแก้โจทย์ปญั หาการบวกและโจทย์ ลบของเศษส่วนทม่ี ีตัวส่วนเท่ากัน ปญั หาการลบเศษส่วน 11. แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาการ บวกเศษสว่ นทีม่ ีตวั ส่วนเทา่ กันและ ผลบวกไมเ่ กนิ 1 และโจทยป์ ญั หาการ ลบเศษสว่ นทีม่ ีตัวสว่ นเท่ากัน สาระที่ 1 จานวนและพชี คณติ มาตรฐาน ค 1.2 เขา้ ใจและวเิ คราะหแ์ บบรูป ความสมั พนั ธ์ ฟังก์ชัน ลาดับและอนกุ รม และ นาไปใช้ ชน้ั ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป. 3 แบบรูป 1. ระบจุ านวนทีห่ ายไปในแบบรูปของ - แบบรปู ของจานวนท่ีเพม่ิ ข้นึ หรอื ลดลง จานวนที่เพม่ิ ข้นึ หรอื ลดลงทลี ะเทา่ ๆ กัน ทลี ะเท่าๆ กนั สาระที่ 1 จานวนและพชี คณติ มาตรฐาน ค 1.3 ใช้นิพจน์ สมการ และอสมการ อธิบายความสมั พันธห์ รอื ช่วยแกป้ ัญหาท่ี กาหนดให้ ช้นั ตัวชี้วดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ป. 3 - -

4 สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณติ มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพื้นฐานเกีย่ วกับการวัด วดั และคาดคะเนขนาดของสง่ิ ทีต่ อ้ งการวดั และ นาไปใช้ ชนั้ ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป. 3 เงนิ 1. แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา - การบอกจานวนเงนิ และเขยี นแสดง เกยี่ วกับเงิน จานวนเงนิ แบบใชจ้ ดุ 2. แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา - การเปรยี บเทียบจานวนเงินและการ เกยี่ วกับเวลา และระยะเวลา แลกเงนิ - การอา่ นและเขียนบนั ทึกรายรบั รายจา่ ย - การแก้โจทย์ปญั หาเกย่ี วกับเงนิ เวลา - การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ าและนาที - การเขยี นบอกเวลาโดยใชม้ หัพภาค (.) หรอื ทวิภาค (:) และการอ่าน - การบอกระยะเวลาเปน็ ช่ัวโมงและนาที - การเปรยี บเทียบระยะเวลาโดยใช้ ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งช่ัวโมงกบั นาที - การอา่ นและการเขยี นบนั ทกึ กิจกรรมท่ี ระบเุ วลา - การแกโ้ จทย์ปญั หาเก่ยี วกับเวลาและ ระยะเวลา ความยาว 3. เลือกใช้เครื่องมือวัดความยาวท่ี - การวดั ความยาวเป็นเซนตเิ มตรและ เหมาะสมวัดและบอกความยาวของส่งิ มลิ ลิเมตร เมตรและเซนตเิ มตร ต่างๆ เป็นเซนตเิ มตรและมลิ ลิเมตร กโิ ลเมตรและเมตร เมตรและเซนตเิ มตร - การเลอื กเคร่อื งมอื วดั ความยาวท่ี 4. คาดคะเนความยาวเปน็ เมตรและเป็น เหมาะสม เซนติเมตร - การคาดคะเนความยาวเปน็ เมตรและ 5. เปรียบเทียบความยาวระหว่าง เปน็ เซนติเมตร เซนตเิ มตรกบั มลิ ลเิ มตร เมตรกับ - การเปรียบเทยี บความยาวโดยใช้ เซนติเมตร กโิ ลเมตรกบั เมตร จาก ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งหนว่ ยความยาว สถานการณต์ ่างๆ - การแก้โจทย์ปญั หาเก่ียวกบั ความยาว

5 ชน้ั ตัวช้วี ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ป. 3 6. แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา เกีย่ วกับความยาวทีม่ หี น่วยเปน็ เซนติเมตรและมลิ ลเิ มตร เมตรและ เซนติเมตร กิโลเมตรและเมตร น้าหนัก 7. เลือกใชเ้ ครือ่ งชัง่ ท่เี หมาะสม วดั และ - การเลอื กเครอ่ื งชัง่ ทเ่ี หมาะสม บอกน้าหนกั เป็นกิโลกรัมและขีด - การคาดคะเนน้าหนกั เปน็ กิโลกรมั และ กโิ ลกรมั และกรัม เปน็ ขดี 8. คาดคะเนน้าหนกั เป็นกิโลกรัมและเป็น - การเปรยี บเทียบนา้ หนกั โดยใช้ ขีด ความสัมพันธ์ระหว่างกโิ ลกรมั กบั กรัม 9. เปรยี บเทยี บน้าหนักระหว่างกิโลกรมั เมตรกิ ตันกับกโิ ลกรมั และกรมั เมตริกตันกบั กิโลกรมั จาก - การแกโ้ จทยป์ ญั หาเก่ียวกบั นา้ หนัก สถานการณต์ ่างๆ 10. แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทยป์ ัญหา เกย่ี วกบั นา้ หนักทมี่ หี นว่ ยเปน็ กโิ ลกรมั กบั กรมั เมตรกิ ตันกบั กิโลกรัม นา้ หนัก 11. เลือกใชเ้ คร่ืองตวงท่ีเหมาะสม วดั และ - การวัดปรมิ าตรและความจเุ ป็นลิตร เปรยี บเทียบปรมิ าตร ความจุเปน็ ลิตร และมลิ ลลิ ิตร และมลิ ลลิ ิตร - การเลือกเคร่ืองตวงทเี่ หมาะสม 12. คาดคะเนปรมิ าตรและความจเุ ป็นลิตร - การคาดคะเนปรมิ าตรและความจุเปน็ 13. แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา ลติ ร เก่ียวกับปรมิ าตรและความจุทมี่ หี นว่ ย - การเปรยี บเทียบปรมิ าตรและความจุ เป็นลิตรและมลิ ลลิ ิตร โดยใชค้ วามสมั พนั ธร์ ะหว่างลติ รกบั มลิ ลลิ ติ ร ช้อนชา ชอ้ นโตะ๊ ถ้วยตวงกบั มลิ ลลิ ิตร - การแก้โจทยป์ ญั หาเกี่ยวกบั ปรมิ าตร และความจทุ มี่ ีหนว่ ยเปน็ ลติ รและ มลิ ลิลิตร

6 สาระที่ 2 การวดั และเรขาคณติ มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะหร์ ปู เรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณติ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง รปู เรขาคณิต และทฤษฎบี ททางเรขาคณิต และนาไปใช้ ชน้ั ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป. 3 รปู เรขาคณิตสองมิติ 1. ระบรุ ปู เรขาคณิตสองมิตทิ ม่ี ีแกน - รปู ทมี่ แี กนสมมาตร สมมาตรและจานวนแกนสมมาตร สาระท่ี 3 สถิตแิ ละความนา่ จะเป็น มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถติ ิ และใชค้ วามรทู้ างสถิติในการแกป้ ัญหา ชั้น ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป. 3 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู และการนาเสนอ 1. เขียนแผนภูมริ ปู ภาพ และใชข้ ้อมลู จาก ขอ้ มลู แผนภูมริ ูปภาพในการหาคาตอบของ - การเกบ็ รวบรวมข้อมูลและจาแนก โจทยป์ ัญหา ขอ้ มลู 2. เขยี นตารางทางเดียวจากขอ้ มลู ทเี่ ป็น - การอา่ นและการเขยี นแผนภมู ริ ปู ภาพ จานวนนบั และใชข้ ้อมูลจากตารางทาง - การอ่านและการเขยี นตารางทางเดยี ว เดียวในการหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา (one – way table) สาระท่ี 3 สถติ แิ ละความน่าจะเป็น มาตรฐาน ค 3.2 เข้าใจหลกั การนบั เบอ้ื งต้น ความนา่ จะเปน็ และนาไปใช้ ช้ัน ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ป. 3 - -

7 คาอธบิ ายรายวชิ า รายวชิ าพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 เวลา 200 ช่ัวโมง/ปี ศึกษาการอ่านและการเขียนตัวเลขฮนิ ดอู ารบกิ ตวั เลขไทย ตัวหนังสอื แสดงจานวนนบั หลัก คา่ ของเลขโดดในแต่ละหลัก และการเขียนตัวเลขแสดงจานวนในรปู กระจาย การเปรยี บเทยี บจานวน การเรียงลาดับจานวน แบบรูปของจานวนที่เพิม่ ข้ึนและลดลง การบวกจานวนนับทีม่ ีผลบวกไม่เกนิ 100,000 การบวกจานวนสามจานวนที่มีผลบวกไม่เกิน 100,000 โจทย์ปัญหาและการสร้างโจทย์ ปัญหาการบวก การลบจานวนทีม่ ตี ัวต้งั ไมเ่ กนิ 100,000 การลบจานวนสามจานวน การหาตัวไมท่ ราบ ค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและการลบ โจทย์ปัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหาการลบ การคูณจานวนหนงึ่ หลกั กับจานวนไม่เกินส่ีหลัก การคณู กบั จานวนสองหลกั กบั จานวนสองหลัก โจทย์ ปญั หาและการสรา้ งโจทย์ปญั หาการลบ การหารที่มตี วั ต้งั ไมเ่ กินส่หี ลักและตัวหารมหี นึ่งหลกั การหา ตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการคูณและการหาร โจทย์ปัญหาและการสรา้ งโจทย์ปัญหา การหาร การวัดความยาวเป็นเซนติเมตรและมิลลิเมตร เมตรและเซนติเมตร กิโลเมตรและเมตร การเลือกเครอ่ื งมอื วัดความยาวทเ่ี หมาะสม การคาดคะเนความยาวเปน็ เมตรและ เป็นเซนติเมตร การ เปรียบเทยี บความยาวโดยใชค้ วามสมั พนั ธร์ ะหวา่ งหน่วยความยาว โจทย์ปัญหาเกยี่ วกับความยาว รปู ที่มีแกนสมมาตรและจานวนแกนสมมาตร การบอก อ่านและเขียนเศษส่วนที่ตัวเศษน้อยกว่าหรือ เท่ากับตัวสว่ น การเปรยี บเทียบเศษส่วน การเรยี งลาดับเศษส่วน การบวกเศษสว่ นที่มีตัวสว่ นเท่ากนั การลบเศษส่วนที่มตี ัวส่วนเท่ากัน โจทย์ปัญหาการบวกและการลบเศษส่วน การวัดและบอกนา้ หนกั เป็นกิโลกรัมและขีด กิโลกรัมและกรัม การเลือกเคร่ืองช่ังที่เหมาะสม การคาดคะเนน้าหนักเป็น กิโลกรมั และเป็นขีด การเปรยี บเทียบน้าหนกั โดยใช้ความสมั พันธ์ระหว่างกิโลกรัมกบั กรัม เมตรกิ ตัน กับกิโลกรัม โจทยป์ ญั หาเก่ยี วกบั น้าหนกั การวดั ปริมาตรและความจุเป็นลิตรและมิลลิลติ ร การเลอื ก เคร่ืองตวงท่ีเหมาะสม การคาดคะเนปริมาตรและความจุเป็นลิตร การเปรียบเทียบปริมาตรและ ความจุโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างลิตรกับมิลลิลิตร ช้อนชา ช้อนโต๊ะ ถ้วยตวงกับมิลลิลิตร โจทย์ ปัญหาเกีย่ วกับปริมาตรและความจทุ ่ีมหี น่วยเป็นลิตรและมลิ ลิลิตร การเก็บรวบรวมขอ้ มลู และจาแนก ข้อมลู การอา่ นและเขียนแผนภมู ิรูปภาพ การอา่ นและเขียนตารางทางเดยี ว การบอกเวลาเป็นนาฬิกา และนาที การเขียนบอกเวลาและการอ่าน การบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมงและนาที การเปรียบเทียบ ระยะเวลาโดยใชค้ วามสมั พันธร์ ะหวา่ งชัว่ โมงกับนาที การอ่านและการเขียนบันทึกกิจกรรมท่ีระบเุ วลา โจทย์ปัญหาเก่ียวกับเวลาและระยะเวลา เงินเหรยี ญและธนบัตรชนดิ ต่างๆ การบอกจานวนเงนิ และ เขียนแสดงจานวนเงินแบบใช้จดุ และการอ่าน การเปรียบเทยี บจานวนเงินและการแลกเงิน การอ่าน และการเขียนบันทึกรายรับ รายจ่าย โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเงิน การบวก ลบ คูณ หารระคน โจทย์ ปัญหาและการสรา้ งโจทยป์ ญั หาการบวก ลบ คูณ หารระคน

8 โดยการจดั ประสบการณห์ รอื สร้างสถานการณ์ทีใ่ กลต้ ัวผู้เรยี นไดศ้ กึ ษา คน้ ควา้ ฝกึ ทกั ษะ โดย การปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปญั หา การให้เหตุผล การเชื่อมโยง การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนาประสบการณ์ ด้านความรู้ ความคิด ทักษะและกระบวนการท่ไี ดไ้ ปใช้ในการเรียนรู้ส่งิ ต่าง ๆ และใช้ในชีวติ ประจาวัน อย่างสร้างสรรค์ เพ่ือให้เห็นคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานได้อย่างเป็นระบบ มี ระเบียบ รอบคอบ มคี วามรบั ผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความคิดริเร่ิมสรา้ งสรรคแ์ ละมีความเช่อื มั่นใน ตนเอง ตัวช้วี ดั ค 1.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6, ป.3/7, ป.3/8, ป.3/9, ป.3/10, ป.3/11 ค 1.2 ป.3/1 ค 2.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6, ป.3/7, ป.3/8, ป.3/9, ป.3/10, ป.3/11, ป.3/12, ป.3/13 ค 2.2 ป.3/1 ค 3.1 ป.3/1, ป.3/2 รวม 28 ตวั ชว้ี ัด

9 โครงสรา้ งเวลาเรยี น ภาคเรยี นท่ี 2 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 บทท/่ี เรื่อง เวลา (ช่วั โมง) ภาคเรียนท่ี 2 บทท่ี 8 การหาร 19 บทท่ี 9 การวัดความยาว 20 บทท่ี 10 การวดั น้าหนกั 15 บทท่ี 11 การวัดปรมิ าตร 16 บทที่ 12 เงินและบนั ทกึ รายรับรายจ่าย 13 บทท่ี 13 การบวก ลบ คูณ หารระคน 12 รวมภาคเรยี นที่ 1 95

10 โครงสร้างรายวิชา หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา การวัดน้าหนัก เรยี นรู้/ตวั ชว้ี ัด (ชม.) ค 2.1 การวัดน้าหนักโดยใช้หน่วยมาตรฐาน จะบอก 15 ป.3/7 น้าหนักเป็นขดี กรัม กิโลกรมั ซ่งึ สามารถนานา้ หนกั ป.3/8 ของส่ิงต่าง ๆ มาเปรียบเทียบกันได้โดยใช้ ป.3/9 ความสมั พันธ์ระหว่างกโิ ลกรมั กบั กรัม เมตรกิ ตันกบั ป.3/10 กิโลกรัม สามารถหาค่าของน้าหนักได้จากการ เลือกใช้เคร่ืองชั่งที่เหมาะสม ส่วนการแก้โจทย์ ปัญหาเก่ียวกับการวัดน้าหนักสามารถทาได้หลาย วธิ แี ตค่ วรเลือกวธิ ีการแก้ปัญหาท่ีเหมาะสม

11 กาหนดแผนการจดั การเรยี นรู้ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 10 การวดั นา้ หนกั แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ เรอ่ื ง จานวน (ช่วั โมง) 1 การวดั น้าหนักเป็นกโิ ลกรัมและขดี 2 การวดั น้าหนักเปน็ กโิ ลกรมั และกรัม 1 3 การเลอื กเคร่ืองชง่ั ทเี่ หมาะสม 1 4 การคาดคะเนนา้ หนกั เป็นกโิ ลกรมั และขดี 1 5 ความสมั พนั ธร์ ะหว่างหนว่ ยน้าหนกั 6 การเปรยี บเทียบน้าหนกั 1 7 การเปรียบเทียบนา้ หนกั 1 8 การบวกเกยี่ วกบั น้าหนัก 1 9 การลบเกย่ี วกบั นา้ หนกั 1 10 การคูณเกี่ยวกบั นา้ หนกั 1 11 การหารเกยี่ วกบั น้าหนกั 1 12 โจทยป์ ัญหาการบวกเก่ียวกบั นา้ หนกั 1 13 โจทยป์ ญั หาการลบเก่ยี วกับน้าหนกั 1 14 โจทยป์ ญั หาการคณู เก่ียวกับนา้ หนกั 1 15 โจทยป์ ญั หาการหารเก่ียวกบั นา้ หนัก 1 รวม 1 1 15

12 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 10 การวัดน้าหนัก เวลาเรียน 15 ชวั่ โมง เรือ่ ง การวัดนา้ หนกั เป็นกิโลกรมั และขดี เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง สอนวันท.่ี ...... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพ้ืนฐานเก่ยี วกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสง่ิ ท่ีตอ้ งการ วดั และนาไปใช้ ตัวชวี้ ดั ค 2.1 ป.3/7 : เลือกใช้เคร่ืองชั่งที่เหมาะสม วัดและบอกน้าหนักเป็นกิโลกรัมและขีด กิโลกรัมและกรมั สาระสา้ คญั การบอกน้าหนักของส่ิงต่างๆ ทมี่ ากกว่า 1 กโิ ลกรัม อาจบอกน้าหนกั เปน็ กโิ ลกรมั และขดี จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกหน่วยการวดั น้าหนกั เปน็ กิโลกรมั และขีดได้ (K) 2. วัดนา้ หนกั เป็นกิโลกรัมและขดี ได้ (P) 3. นาความรู้เกี่ยวกับการวัดและบอกนา้ หนักเปน็ กโิ ลกรัมและขีดไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้ (A) สาระการเรียนรู้ การวัดนา้ หนกั เป็นกิโลกรมั และขดี ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการสอื่ สารและการสอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชอ่ื มโยง คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน

13 กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นา้ เข้าส่บู ทเรยี น 1. ให้นักเรียนทบทวนเรื่อง การอ่านน้าหนักจากเคร่ืองช่ังสปริง โดยครูนาหนังสือมา วางไว้บนโต๊ะหน้าช้ันเรียน ให้นักเรียนทายว่า หนังสือมีน้าหนักเท่าไร (ครูควรเตรียมหนังสือให้มี น้าหนักเป็นกิโลกรัมพอดี เช่น 2 กิโลกรัม) ครูบนั ทึกคาตอบไว้บนกระดาน จากน้ัน นาหนังสือไปช่ัง น้าหนักโดยใชเ้ ครื่องชัง่ สปริง ให้ผแู้ ทนนักเรียนออกมาบอกนา้ หนัก แลว้ เขยี นคาตอบลงบนกระดาน 2. ครตู ดิ ภาพเครอ่ื งช่ังสปริงทไ่ี ม่มีเข็มบนกระดาน จากนนั้ ครูถือภาพแตงโม 1 ผล แลว้ บอกวา่ แตงโมผลน้ีหนัก 1 กิโลกรัม ครูติดภาพแตงโมบนจานของเครอ่ื งชั่ง ให้นกั เรียนรว่ มกันบอกว่า เข็มของเครื่องชง่ั ควรจะชี้ทีต่ วั เลขใดบนหน้าปดั (ตวั เลข 1) ครูตดิ เข็มชท้ี ี่ตวั เลขบนหนา้ ปดั ตามคาบอก ของนกั เรยี น 3. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้อง ขน้ั สอน 1. ครูใหน้ กั เรียนสงั เกตเครื่องช่งั สปรงิ โดยครูตดิ ภาพเคร่อื งชั่งจาลองที่มีขนาดใหญ่บน กระดานเพอื่ ให้นกั เรียนมองเห็นได้ชัดเจนข้ึน จากน้ัน ครูถามคาถามกระต้นุ ความคดิ ของนักเรยี น ดงั น้ี - เครื่องชงั่ น้มี ที ัง้ หมดก่ีชอ่ งใหญ่ (7 ช่องใหญ่) - ใน 1 ช่องใหญ่ ประกอบดว้ ยช่องเล็ก ๆ กชี่ อ่ ง (10 ชอ่ ง) - ถ้าเข็มของเครอ่ื งช่ังเคลอ่ื นท่ไี ป 1 ชอ่ งใหญ่ อ่านนา้ หนกั ไดเ้ ทา่ ไร (1 กโิ ลกรมั ) - ถา้ เขม็ ของเครอื่ งช่งั เคลอ่ื นไป 1 ช่องเล็ก อา่ นน้าหนกั ได้เทา่ ไร (1 ขดี ) - ดงั นั้น นา้ หนกั 1 กิโลกรมั เทา่ กบั น้าหนักเท่าไร (10 ขีด) - ถา้ น้าหนกั 5 ขีด จะเทา่ กบั นา้ หนกั กก่ี โิ ลกรมั (ครึ่งกิโลกรมั ) 2. ครนู าหนงั สอื เรยี นคณติ ศาสตร์ไปชง่ั นา้ หนกั เพียงเล่มเดียว ใหผ้ ูแ้ ทนนกั เรียนออกมา บอกว่าเข็มช้ีอยู่ตาแหน่งใด (เล่ือนจากตัวเลข 2 มา 4 ช่อง) ครูติดเข็มช้ีบนภาพเครือ่ งช่ังจาลอง แล้ว ใหน้ กั เรยี นร่วมกันบอกวา่ หนงั สอื เรียนคณิตศาสตร์หนกั เท่าไร (2 กโิ ลกรัม 4 ขีด) ครเู ขยี นคาตอบบน กระดาน แลว้ ร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้อง 3. ครูนาสิ่งของมาช่ังบนเครื่องชั่ง เช่น แปรงลบกระดาน หนังสือ 3 เล่ม เป็นต้น ให้ ผ้แู ทนนกั เรยี นออกมาอ่านน้าหนกั และบอกวา่ สิ่งของมีน้าหนักเท่าไร ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันตรวจสอบความ ถกู ต้อง 4. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 1 การวัดน้าหนักเป็นกิโลกรัมและขีด เมื่อเสร็จแล้วให้ นักเรยี นช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนน้ั ครูและนกั เรียนร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 1 ขั้นสรุป 1. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ส่ิงทีไ่ ดเ้ รยี นรู้ร่วมกนั ดงั นี้ ขดี เปน็ หนว่ ยการชัง่ ส่ิงของที่ มีนา้ หนักเบา สว่ น กิโลกรัม เป็นหนว่ ยการช่ังสิ่งของท่ีมนี ้าหนักมากขนึ้ กโิ ลกรมั และขดี เป็นหนว่ ยการ ชัง่ ที่นิยมใชใ้ นชวี ิตประจาวัน

14 สือ่ การเรียนรู้ 1. เครือ่ งชงั่ สปริง 2. ภาพเคร่อื งชัง่ จาลอง 3. ภาพแตงโม 4. สงิ่ ของต่าง ๆ เช่น แปรงลบกระดาน หนงั สือเรียน หนงั สอื เป็นต้น 5. ใบงานท่ี 1 การวัดนา้ หนกั เป็นกิโลกรัมและขดี การวดั ผลและประเมินผล สง่ิ ท่ตี ้องการวดั วธิ ีวดั เครอื่ งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 1 70% ขึ้นไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 1 การประเมิน 2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดับ กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีขึ้นไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ดา้ นคุณลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดับ ที่พึงประสงค์ คุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขึ้นไป คุณลกั ษณะ ท่ีพึงประสงค์ ความคดิ เห็นผู้บรหิ าร ลงชื่อ.....................................ผู้ตรวจ () ผ้อู านวยการโรงเรียน ..../................../........

15 บันทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ นกั เรยี นไดค้ ะแนนเฉลีย่ รอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมินทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยใู่ นระดบั ดมี าก คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรบั ปรงุ คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ นักเรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอย่ใู นระดบั ปรบั ปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ัญหา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........

16 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 10 การวดั น้าหนัก เวลาเรยี น 15 ชว่ั โมง เรื่อง การวัดนา้ หนักเป็นกโิ ลกรมั และกรมั เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง สอนวันท่ี....... เดือน.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพน้ื ฐานเก่ียวกบั การวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงท่ีต้องการ วัดและนาไปใช้ ตวั ชี้วัด ค 2.1 ป.3/7 : เลือกใช้เคร่ืองช่ังท่ีเหมาะสม วัดและบอกน้าหนักเป็นกิโลกรัมและขีด กิโลกรมั และกรมั สาระสา้ คญั การบอกนา้ หนักของสง่ิ ตา่ งๆ ทมี่ ากกวา่ 1 กโิ ลกรมั อาจบอกน้าหนกั เปน็ กโิ ลกรัมและกรมั จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกหน่วยการวัดนา้ หนักเป็นกิโลกรัมและกรมั ได้ (K) 2. วดั นา้ หนกั เปน็ กิโลกรัมและกรมั ได้ (P) 3. นาความรเู้ กย่ี วกบั การวดั และบอกน้าหนักเปน็ กิโลกรัมและกรมั ไปใช้ในชีวติ ประจาวันได้ (A) สาระการเรียนรู้ การวัดน้าหนกั เป็นกิโลกรมั และกรัม ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการสอื่ สารและการสอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชอ่ื มโยง คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทางาน

17 กจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นนา้ เข้าสู่บทเรยี น 1. ครูติดภาพเคร่ืองชั่งสปริงทไี่ ม่มีเข็มบนกระดาน จากน้ัน ครูถือภาพมะละกอ 1 ผล แล้วบอกว่า มะลอกอผลนี้หนัก 1 กิโลกรัม 8 ขีด ครูติดภาพมะละกอบนจานของเครื่องชั่ง ให้ นักเรียนร่วมกันบอกว่า เข็มของเครื่องชั่งควรจะช้ีท่ีตัวเลขใดบนหน้าปัด (เล่ือนจากตัวเลข 1 มา 8 ช่อง) ครูติดเข็มชี้ท่ีตัวเลขบนหน้าปัดตามคาบอกของนักเรียน 2. ดาเนินกิจกรรมนี้อีกครั้ง โดยใช้ภาพทุเรียน หนัก 2 กิโลกรัม 4 ขีด ให้ผู้แทน นักเรียนออกมาติดเข็มของเคร่ืองช่ังตามคาบอกของเพื่อน ข้ันสอน 1. ครูใหน้ ักเรยี นสังเกตเครื่องชัง่ สปรงิ โดยครตู ดิ ภาพเครอื่ งชั่งจาลองทม่ี ขี นาดใหญ่บน กระดานเพ่ือให้นกั เรียนมองเหน็ ไดช้ ดั เจนข้ึน จากน้ัน ครถู ามคาถามกระตนุ้ ความคิดของนักเรยี น ดงั นี้ - เคร่อื งชัง่ น้ีมที ้งั หมดกีช่ ่องใหญ่ (7 ชอ่ งใหญ่) - ใน 1 ช่องใหญ่ ประกอบดว้ ยช่องเล็ก ๆ กช่ี อ่ ง (10 ช่อง) - ถา้ เข็มของเครอ่ื งชัง่ เคล่อื นท่ไี ป 1 ช่องใหญ่ อ่านนา้ หนักไดเ้ ท่าไร (1 กิโลกรัม) - ถา้ เขม็ ของเคร่อื งช่งั เคล่อื นไป 1 ชอ่ งเลก็ อา่ นน้าหนกั ไดเ้ ท่าไร (1 ขีด) - 1 ขดี มีน้าหนักเท่าไร (100 กรมั ) - ดงั นนั้ น้าหนัก 1 กโิ ลกรัม เท่ากบั นา้ หนักกกี่ รมั (10 ขดี หรอื 1,000 กรัม) 2. ครูนานา้ ตาล 1 ถงุ ไปชั่งน้าหนกั ใหผ้ ู้แทนนักเรียนออกมาบอกวา่ เข็มชี้อยู่ตาแหนง่ ใด (เล่ือนจากตัวเลข 1 มา 3 ช่อง) ครูติดเข็มชี้บนภาพเครื่องช่ังจาลอง แล้วให้นักเรียนร่วมกันบอกวา่ น้าตาล 1 ถุงหนักเท่าไร (1 กิโลกรัม 300 กรัม) ครูเขียนคาตอบบนกระดาน แล้วร่วมกันตรวจสอบ ความถกู ต้อง 3. ครูนาสิ่งของมาช่ังบนเครื่องช่ัง เช่น ถุงข้าวสาร ถุงเกลือ เป็นต้น ให้ผู้แทนนกั เรียน ออกมาอ่านนา้ หนกั และบอกว่าสง่ิ ของมนี ้าหนักเท่าไร ครแู ละนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้อง 4. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 2 การวัดน้าหนักเป็นกิโลกรัมและกรมั เมื่อเสร็จแล้วให้ นักเรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนั้นครแู ละนกั เรียนรว่ มกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 2 ข้ันสรปุ 1. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปสง่ิ ทไ่ี ด้เรียนรูร้ ่วมกัน ดังนี้ กรัม เปน็ หนว่ ยการช่ังสิ่งของ ทม่ี ีน้าหนักเบา ส่วน กิโลกรัม เป็นหน่วยการชัง่ สิง่ ของที่มีนา้ หนกั มากขึ้น กิโลกรัมและกรมั เปน็ หน่วย การช่งั ท่นี ิยมใช้ในชีวติ ประจาวัน ส่ือการเรียนรู้ 1. เครอ่ื งชั่งสปริง 2. ภาพทุเรียน ภาพมะละกอ 3. ส่ิงของตา่ ง ๆ เช่น ถุงขา้ วสาร ถงุ เกลือ เป็นต้น 4. ใบงานที่ 2 การวัดน้าหนักเปน็ กโิ ลกรมั และกรัม

18 การวดั ผลและประเมนิ ผล สิ่งทีต่ ้องการวัด วิธีวัด เคร่ืองมือวดั เกณฑ์การประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 2 70% ขึน้ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 2 การประเมนิ 2. ด้านทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดบั กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขึ้นไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรียนได้คะแนนระดบั ทีพ่ งึ ประสงค์ คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดขี นึ้ ไป คุณลักษณะ ท่ีพึงประสงค์ ความคดิ เห็นผบู้ รหิ าร ลงชื่อ.....................................ผูต้ รวจ () ผอู้ านวยการโรงเรียน ..../................../........

19 บันทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ นกั เรยี นไดค้ ะแนนเฉลีย่ รอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมินทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยใู่ นระดบั ดมี าก คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรบั ปรงุ คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ นักเรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอย่ใู นระดบั ปรบั ปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ัญหา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........

20 แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 3 รายวิชาคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 10 การวัดนา้ หนกั เวลาเรยี น 15 ชว่ั โมง เรอ่ื ง การเลอื กเครื่องชง่ั ท่ีเหมาะสม เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง สอนวันที่....... เดือน.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพน้ื ฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสง่ิ ที่ต้องการ วัดและนาไปใช้ ตวั ชว้ี ดั ค 2.1 ป.3/7 : เลือกใช้เคร่ืองชั่งที่เหมาะสม วัดและบอกน้าหนักเป็นกิโลกรัมและขีด กโิ ลกรมั และกรมั สาระส้าคญั การช่ังน้าหนักของสิ่งต่างๆ ควรเลือกเครอื่ งช่ังให้เหมาะสมและช่ังใหถ้ ูกวิธี โดยใช้ กิโลกรมั กรมั และขีด เปน็ หนว่ ยมาตรฐานในการชงั่ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความแตกตา่ งของเครื่องชัง่ ชนดิ ต่างๆ ได้ (K) 2. เลอื กเคร่ืองช่ังที่เหมาะสมกบั สิง่ ท่ีต้องการช่งั ได้ (P) 3. นาความรเู้ ก่ียวกบั การเลอื กเครื่องชง่ั ท่เี หมาะสมไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้ (A) สาระการเรียนรู้ การเลอื กเคร่ืองชั่งที่เหมาะสม ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชื่อมโยง คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุง่ มนั่ ในการทางาน

21 กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั น้าเข้าส่บู ทเรียน 1. ครูสนทนากบั นกั เรียนเกย่ี วกบั การช่งั และน้าหนกั เช่น - นักเรยี นแตล่ ะคนหนกั เท่าไร - ทาไมนักเรยี นจึงทราบน้าหนักของตนเอง (โดยการช่ัง) - นักเรียนใชอ้ ะไรในการชงั่ น้าหนักตวั (เครือ่ งชั่ง) 2. ครูแนะนาเครื่องมือช่ังชนิดต่าง ๆ ที่เป็นของจรงิ เช่น เคร่ืองชั่งสองแขน เครื่องชง่ั น้าหนกั ตวั เครอื่ งชั่งสปรงิ เครอ่ื งช่งั แบบตมุ้ เลือ่ น ขน้ั สอน 1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับการเลือกเครื่องช่ังชั่งน้าหนักของส่ิงตา่ งๆ จนได้ข้อสรุปว่า การเลือกใช้เคร่ืองช่ังชนิดต่างๆ ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับส่ิงของท่ีจะชั่ง และ น้าหนักของส่งิ ของต่างๆ โดยครนู าภาพเครอ่ื งชนดิ ต่างๆ ใหน้ ักเรยี นดู พร้อมอธิบายประกอบ ดังน้ี - เครื่องชั่งสปริงมักใช้ช่ังเนื้อสัตว์ผักผลไม้เมล็ดพืชและอื่นๆ ที่มีน้าหนักไม่เกิน พิกัดกาลังของเครอ่ื งช่ัง เครื่องช่ังสปรงิ มีพิกัดกาลัง 3 กิโลกรัม 7 กิโลกรัม 15 กิโลกรัม 20 กิโลกรัม 35 กิโลกรัม และ 60 กิโลกรัม (อาจมีแตกต่างจากน)้ี เคร่ืองชั่งสปรงิ จะมีหน้าปัด 2 ด้าน เพ่ือให้ผู้ซือ้ และผู้ขายสามารถเหน็ ผลการชั่งไดพ้ ร้อมกนั มักนิยมใช้ในตลาดสดและร้านคา้ ทว่ั ไป - เคร่ืองช่ังน้าหนักตั ใช้สาหรับชั่งน้าหนักตัว ปัจจุบันมีท้งั แบบเข็มชี้บอกนา้ หนัก และแบบตวั เลขเคร่ืองช่งั ดจิ ิทลั )

22 - เครอื่ งชง่ั สองแขน เครื่องชงั่ ชนดิ นใี้ ช้ชัง่ สิ่งของทม่ี นี า้ หนักน้อย เช่น สมนุ ไพร แร่ ธาตุขนาดเล็ก สารเคมี นิยมใชช้ งั่ สมุนไพร จึงเรยี กว่า เครอื่ งชง่ั ยา รา้ นขายทองก็ใช้ เคร่อื งช่ังชนิดนี้ไม่ มหี น้าปัดบอกนา้ หนัก แต่จะมตี มุ้ นา้ หนกั อยู่ต่างหาก เวลาช่ังจะต้องนาสิ่งของใส่ในจานข้างหนงึ่ แลว้ นาตุ้มน้าหนักใส่จานอีกข้างหนึ่ง สังเกตให้แขนทั้งสองข้างของเคร่อื งชั่งอยู่ในระดับเดียวกนั แลว้ อา่ น น้าหนกั จากตุ้มน้าหนกั - เครื่องช่ังแบบตุ้มถ่วง เครื่องชั่งชนิดนี้เป็นเคร่ืองช่ังขนาดใหญ่มีท่ีวางของเป็น แทน่ ชงั่ นา้ หนกั ไดค้ รง้ั ละมากๆ เช่น ข้าวสาร หรอื น้าตาลเปน็ กระสอบ หีบห่อ หรอื ลงั บรรจุของขนาด ใหญ่ เครือ่ งชั่งชนิดนบ้ี างเครอ่ื งสามารถชงั่ นา้ หนกั ได้ถึง 2,000 กโิ ลกรัม 2. ครูให้นักเรียนบอกชื่อส่ิงของคนละชื่อ แล้วร่วมกันอภิปรายเพื่อเลือกเครื่องชั่งที่ เหมาะสมกับส่งิ ของนน้ั 3. ครูทบทวนหนว่ ยนา้ หนกั โดยให้นักเรียนบอกหนว่ ยน้าหนกั ที่นักเรียนร้จู กั (กิโลกรัม กรัม ขีด) จากน้ันให้นักเรียนยกตัวอย่างสิ่งของและบอกปริมาณของของสิ่งนั้นพร้อมเลือกหน่วย น้าหนักท่เี หมาะสม เชน่ - น้าหนกั ตัวของนกั เรียน (กโิ ลกรัม) - ส้ม 15 ผล (กโิ ลกรัมและขดี หรอื กโิ ลกรัมและกรมั ) - ผกั คะนา้ 1 ต้น (กรัมหรือขดี ) - ขา้ วสาร 1 ถุง (กิโลกรมั ) - จดหมาย 1 ซอง (กรัมหรอื ขดี ) 4. ครูนาคาตอบของนักเรียนมาร่วมกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปว่า สิ่งต่างๆ มีน้าหนัก ต่างกัน ดงั นน้ั การช่งั น้าหนกั ควรเลือกเคร่อื งชัง่ และหนว่ ยน้าหนักให้เหมาะสมกบั สิง่ ของท่ีตอ้ งการชงั่ และต้องชงั่ ใหถ้ กู วิธี 5. ครใู หน้ ักเรยี นทาใบงานท่ี 3 การเลือกเครื่องช่ังที่เหมาะสม เมื่อเสรจ็ แลว้ ให้นักเรยี น ช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนนั้ ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 3 ขนั้ สรปุ 1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ สง่ิ ท่ีได้เรียนร้รู ว่ มกนั ดงั น้ี ในการชั่งน้าหนกั ต้องช่งั ให้ถูก วิธี เคร่ืองช่ังบางชนิดใช้ช่ังของที่มีน้าหนักน้อยบางชนิดใช้ช่ังส่ิงของท่ีมีน้าหนักมาก จึงต้องรู้จักใช้ เครอ่ื งชงั่ และหนว่ ยการชงั่ ทีถ่ ูกตอ้ งและเหมาะสม

23 สื่อการเรียนรู้ 1. ภาพเคร่ืองชั่งสองแขน 2. ภาพเครอื่ งชั่งนา้ หนกั ตัว 3. ภาพเครอ่ื งชั่งสปรงิ 4. ภาพเครอื่ งชั่งแบบตุ้มเลือ่ น 5. ใบงานท่ี 3 การเลอื กเคร่อื งชัง่ ทเ่ี หมาะสม การวดั ผลและประเมินผล ส่งิ ท่ตี ้องการวดั วธิ วี ดั เคร่ืองมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 3 70% ข้นึ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 3 การประเมนิ 2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรียนไดค้ ะแนนระดับ กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดขี ึ้นไป ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดับ ท่พี ึงประสงค์ คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดขี ึ้นไป คณุ ลกั ษณะ ท่พี งึ ประสงค์ ความคดิ เห็นผู้บริหาร ลงชื่อ.....................................ผู้ตรวจ () ผู้อานวยการโรงเรียน ..../................../........

24 บันทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรียนร้ตู ามจุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นได้คะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดมี าก คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรับปรุง คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ปรับปรงุ คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........

25 แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 4 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 10 การวดั น้าหนกั เวลาเรียน 15 ช่ัวโมง เร่อื ง การคาดคะเนน้าหนักเป็นกโิ ลกรัมและขีด เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง สอนวันท่.ี ...... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพนื้ ฐานเกยี่ วกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสง่ิ ทีต่ อ้ งการ วัดและนาไปใช้ ตัวชี้วัด ค 2.1 ป.3/8 : คาดคะเนนา้ หนกั เปน็ กิโลกรมั และเปน็ ขีด สาระสา้ คัญ การคาดคะเนน้าหนักเป็นการคาดเดาหรอื การประมาณน้าหนักของส่ิงต่างๆ ด้วยสายตาและ ความร้สู กึ โดยไม่ใช้เครือ่ งมอื ในการชง่ั ให้มคี ่าใกล้เคียงคา่ จรงิ มากทสี่ ุด จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. คาดคะเนนา้ หนกั เปน็ กโิ ลกรัมและเปน็ ขีดได้ (K) 2. ใชเ้ ครื่องชัง่ สปรงิ เปรยี บเทยี บค่าทไ่ี ดจ้ ากการคาดคะเนกับค่าที่ได้จากการชั่งได้ (P) 3. นาความรเู้ กี่ยวกับการคาดคะเนนา้ หนักเป็นกิโลกรมั และเปน็ ขีดไปใช้ในชีวติ ประจาวันได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การคาดคะเนนา้ หนักเป็นกโิ ลกรัมและขีด ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการสอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชื่อมโยง คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ม่งุ มั่นในการทางาน

26 กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นา้ เข้าสบู่ ทเรียน 1. ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยการนาแตงโม 2 ผล มาให้นักเรียนดู จากน้นั ขออาสาสมคั รนักเรยี น 2 คน คาดคะเนนา้ หนักของแตงโม 2 ผล โดยให้ลองยกดแู ล้วเปรยี บเทยี บกัน จากนน้ั จงึ ตรวจสอบด้วยการชั่งด้วยเครอ่ื งช่งั สปริง 2. ครูชั่งน้าหนักแตงโมท้ัง 2 ผล แล้วให้ตัวแทนนักเรียนอ่านน้าหนักที่ชั่งได้ เป็น กโิ ลกรัมหรือเป็นขีด จากน้นั รว่ มกนั เปรยี บเทียบวา่ แตงโมลกู ใดมนี ้าหนักมากกว่า 3. ครูและนักเรียนรว่ มกนั เฉลยคาตอบว่าใครคาดคะเนน้าหนักของแตงโมได้ใกล้เคยี ง ท่สี ดุ และมคี วามคลาดเคลอื่ นเทา่ ใด ขั้นสอน 1. ครูนาสิ่งของ เช่น ผัก ผลไม้ มา 1 ชนิด มาให้นักเรียนดู จากน้ันให้นักเรียนตอบ คาถาม ดังน้ี - นักเรยี นคิดวา่ สิ่งใดในห้องนี้หนักกวา่ สงิ่ ของนีบ้ ้าง (ตามสง่ิ ของทีค่ รนู ามา) - หากไม่มีเครื่องช่ังน้าหนัก นักเรียนจะทราบได้อยา่ งไรว่าส่ิงของใดหนักกว่ากัน (คาดคะเนน้าหนกั ดว้ ยการประมาณน้าหนกั จากการใชส้ ายตาและความร้สู กึ ในการลองยกน้าหนัก) - นกั เรียนคิดว่าสง่ิ ของท่ีครูเตรยี มมาหนกั เทา่ ใด (ตามสิ่งของที่ครูนามา) - นกั เรยี นคดิ วา่ ส่งิ ของทน่ี ักเรียนคิดหนกั เทา่ ใด (ตามสง่ิ ของท่นี ักเรียนคดิ ) 2. ครูขออาสาสมัครนักเรยี นชาย 1 คน และนักเรยี นหญิง 1 คน ออกมาลองคาดคะเน น้าหนักของสิ่งของที่ครูเตรียมมา แล้วให้ลองไปหยิบสิ่งของในห้องเรยี นทีค่ ิดว่าหนักกว่าสิง่ ของท่ีครู เตรยี มมา จากนน้ั ครูนาส่งิ ของทัง้ 3 ช้ิน ไปช่ังน้าหนักบนตาช่ังสปริง จากนั้นครูเลอื กตวั แทนนกั เรียน ออกมาอา่ นว่าเข็มอยทู่ ่ีตาแหน่งใดบนตาชั่ง 3. ครูติดเข็มชี้ของเครื่องช่ังลงบนภาพเคร่ืองช่ังสปริงจาลองบนกระดาน ให้นักเรียน ร่วมกันตอบคาถามวา่ “สิง่ ของดงั กล่าวหนักกีก่ โิ ลกรมั หรือกขี่ ีด” ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันเฉลยคาตอบ 4. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั เปรยี บเทียบนา้ หนกั ของสง่ิ ของทง้ั 3 ชน้ิ ว่าสงิ่ ใดหนักกว่ากัน จากน้ันครูถามนักเรียนว่า “ใครคาดคะเนได้ใกล้เคียงบ้าง และมีความคลาดเคลื่อนจากน้าหนักจรงิ เทา่ ไร” ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ 5. ครใู ห้นกั เรยี นทาใบงานที่ 4 การคาดคะเนน้าหนกั เป็นกโิ ลกรัมและขดี เมอ่ื เสร็จแลว้ ใหน้ ักเรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนนั้ ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 4 ขัน้ สรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การคาดคะเนน้าหนักเป็น การคาดเดาหรือการประมาณนา้ หนักของสิ่งต่างๆ ด้วยสายตาและความรู้สึก โดยไม่ใช้เคร่ืองมอื ใน การช่งั ให้มคี ่าใกล้เคยี งคา่ จริงมากทสี่ ดุ

27 ส่ือการเรยี นรู้ 1. เครือ่ งช่งั สปริง 2. แตงโม 3. ผัก ผลไม้ 4. ภาพจาลองเคร่อื งช่งั สปรงิ 5. ใบงานที่ 4 การคาดคะเนนา้ หนกั เปน็ กโิ ลกรมั และขีด การวัดผลและประเมนิ ผล สงิ่ ท่ีต้องการวัด วธิ วี ัด เครื่องมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 4 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 4 การประเมิน 2. ด้านทักษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดับ กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดีขึ้นไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดับ ที่พงึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ พฤตกิ รรมด้าน คุณภาพดขี ึ้นไป คุณลกั ษณะ ที่พงึ ประสงค์ ความคดิ เห็นผบู้ รหิ าร ลงชื่อ.....................................ผู้ตรวจ () ผู้อานวยการโรงเรียน ..../................../........

28 บันทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรียนร้ตู ามจุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นได้คะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดมี าก คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรับปรุง คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........

29 แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 5 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 10 การวดั น้าหนกั เวลาเรียน 15 ชว่ั โมง เรือ่ ง ความสมั พันธร์ ะหว่างหน่วยน้าหนัก เวลาเรียน 1 ช่วั โมง สอนวันท่ี....... เดือน.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพน้ื ฐานเกี่ยวกบั การวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงที่ต้องการ วดั และนาไปใช้ ตัวชวี้ ัด ค 2.1 ป.3/7 : เลือกใช้เคร่ืองชั่งท่ีเหมาะสม วัดและบอกน้าหนักเป็นกิโลกรัมและขีด กโิ ลกรัมและกรมั สาระส้าคญั กิโลกรัม กรมั ขีด เป็นหน่วยวดั นา้ หนกั ท่เี ป็นมาตรฐาน โดยท่ี 1 มิลลเิ มตร เท่ากับ 1 ขดี 1 ขีด เทา่ กับ 100 กรมั 1 กโิ ลกรมั เทา่ กับ 1,000 กรมั จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความสมั พันธร์ ะหว่างหนว่ ยนา้ หนักได้ (K) 2. ระบคุ วามสมั พนั ธร์ ะหว่างหน่วยน้าหนกั ได้ (P) 3. นาความรู้เกีย่ วกบั ความสมั พันธ์ระหวา่ งหนว่ ยนา้ หนกั ไปใชใ้ นชีวติ จรงิ ได้ (A) สาระการเรียนรู้ ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งหนว่ ยน้าหนกั ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชอื่ มโยง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ มั่นในการทางาน

30 กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นา้ เขา้ สู่บทเรียน 1. ครูทบทวนความสัมพันธ์ของหนว่ ยน้าหนักโดยถามนักเรยี นดงั น้ี - 1 กิโลกรมั เท่ากบั ก่ีขดี (10 ขดี ) - 1 ขดี เทา่ กบั กก่ี รัม (100 กรัม) - 1 กโิ ลกรมั เท่ากบั กี่กรัม (1,000 กรมั ) - 100 กรมั เทา่ กับกขี่ ีด (1 ขีด) ขั้นสอน 1. ครตู ดิ แผนภูมแิ สดงความสมั พันธ์ของหน่วยนา้ หนักดงั น้ี 1 กโิ ลกรมั เทา่ กับ 10 ขดี 1 ขีดเทา่ กบั 100 กรัม 1 กิโลกรมั เทา่ กบั 1,000 กรมั 100 กรมั เทา่ กบั 1 ขีด 2. ให้นักเรียนอ่านความสัมพันธ์ของหน่วยน้าหนักจากน้ันครูจัดกิจกรรมการเปล่ียน หนว่ ยน้าหนกั โดยให้นักเรยี นตอบคาถามและบอกวธิ คี ิด เช่น - 2 กโิ ลกรมั เท่ากบั ทขี่ ดี นกั เรยี นอาจใหเ้ หตผุ ลวา่ เนือ่ งจาก 1 กโิ ลกรมั เทา่ กับ 10 ขีด ดังนน้ั 2 กิโลกรมั จึงเท่ากบั 10 + 10 = 20 ขีด - 1 กโิ ลกรมั 5 ขีด เท่ากบั กีข่ ดี นักเรยี นอาจใหเ้ หตผุ ลว่า 1 กิโลกรัม เทา่ กบั 10 ขดี ดงั น้นั 1 กิโลกรมั 5 ขีด จงึ เทา่ กบั 10 + 5 = 15 ขดี - 18 ขีด เท่ากับกก่ี โิ ลกรมั ก่ขี ดี นักเรยี นอาจใหเ้ หตผุ ลวา่ 18 รีด เทา่ กับ 10 ขีด กบั 8 ขดี และ 10 ขดี เทา่ กับ 1 กิโลกรมั ดังนั้น 18 ขดี จงึ เท่ากับ 1 กโิ ลกรมั 8 ขีด - 4,600 กรมั เท่ากบั กก่ี ิโลกรัม ก่กี รัม นกั เรยี นอาจใหเ้ หตผุ ลว่า 4,600 กรัม เทา่ กับ 4,000 กรมั กบั 600 กรมั และ 1,000 กรมั เทา่ กบั 1 กิโลกรมั ดงั น้นั 4,600 กรัม จึงเทา่ กบั 4 กิโลกรมั 600 กรมั 3. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 5 ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยน้าหนัก เมื่อเสร็จแล้วให้ นกั เรยี นชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นครแู ละนกั เรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 5

31 ขนั้ สรุป 1. ครูและนกั เรียนร่วมกันสรปุ สง่ิ ทไ่ี ด้เรียนรรู้ ่วมกัน ดังน้ี กิโลกรัม กรัม ขีด เป็นหนว่ ย วัดน้าหนักที่เป็นมาตรฐาน โดยท่ี 1 มิลลิเมตร เท่ากับ 1 ขีด 1 ขีด เท่ากับ 100 กรัม 1 กิโลกรัม เทา่ กับ 1,000 กรมั สื่อการเรียนรู้ 1. แผนภูมแิ สดงความสัมพันธข์ องหน่วยน้าหนกั 2. ใบงานท่ี 5 ความสมั พันธ์ระหว่างหนว่ ยน้าหนกั การวดั ผลและประเมินผล สิ่งท่ีตอ้ งการวดั วิธวี ดั เครือ่ งมอื วัด เกณฑ์การประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 5 70% ขนึ้ ไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์ 5 การประเมนิ 2. ด้านทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมด้าน คุณภาพดีขนึ้ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั ทพี่ งึ ประสงค์ คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึ้นไป คณุ ลกั ษณะ ที่พึงประสงค์ ความคิดเห็นผบู้ รหิ าร ลงช่ือ.....................................ผู้ตรวจ () ผอู้ านวยการโรงเรยี น ..../................../........

32 บันทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรียนร้ตู ามจุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นได้คะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดมี าก คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรับปรุง คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ปรับปรงุ คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........

33 แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 6 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 10 การวดั นา้ หนัก เวลาเรยี น 15 ช่วั โมง เรอื่ ง การเปรยี บเทียบน้าหนัก เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง สอนวันท.่ี ...... เดือน.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพ้นื ฐานเกย่ี วกบั การวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งทต่ี อ้ งการ วดั และนาไปใช้ ตวั ชว้ี ดั ค 2.1 ป.3/9 : เปรียบเทียบน้าหนักระหว่างกิโลกรัมและกรมั เมตริกตันกับกิโลกรัม จาก สถานการณ์ตา่ งๆ สาระส้าคญั การเปรียบเทียบน้าหนักเป็นกิโลกรัมและกรมั กิโลกรัมและขีดของส่ิงต่างๆ สองสิ่ง ส่ิงที่มี น้าหนักเป็นกิโลกรัมมากกว่าจะหนักกว่า ถ้าน้าหนักเป็นกิโลกรัมเท่ากัน ส่ิงที่มีน้าหนักเป็นกรมั หรือ เปน็ ขีดมากกวา่ จะหนกั กวา่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายการเปรียบเทียบน้าหนักได้ (K) 2. เขยี นแสดงการเปรียบเทียบนา้ หนกั ได้ (P) 3. นาความร้เู กีย่ วกับการเปรียบเทียบน้าหนกั ไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้ (A) สาระการเรียนรู้ การเปรียบเทียบน้าหนกั ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการสื่อสารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชือ่ มโยง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุง่ มัน่ ในการทางาน

34 กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นน้าเข้าสู่บทเรียน 1. ครจู ดั วางสิง่ ของที่มีน้าหนักต่างๆ กนั เช่น ขวดใสน่ ้า กระเปา๋ นักเรยี น หนงั สอื ฯลฯ ประมาณ 10 – 12 ชิ้น 2. ให้นักเรียนมาเลอื กส่ิงของ 2 ช้ิน แล้วประมาณน้าหนักว่าของสิง่ ใดมีน้าหนักมากกว่า ของสง่ิ ใดมีน้าหนักน้อยกว่า โดยจัดวางไวเ้ ปน็ คๆู่ จนครบทุกช้นิ 3. ให้นักเรียนคนอ่ืนๆ ประมาณน้าหนักสิ่งของที่เพ่ือนเลือกไว้ว่ามีความคิดเห็นตรงกัน หรอื ไม่ จนครบทกุ คู่ ขั้นสอน 1. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มฝึกทกั ษะการเปรียบเทียบน้าหนัก โดยครตู ิดแผนภาพการชงั่ น้าหนักบนกระดาน ให้นักเรียนรว่ มกันเขียนคาตอบลงในกระดาษเปลา่ ท่ีครแู จกใหจ้ ากนั้น ให้ผูแ้ ทน กล่มุ ออกมานาเสนอผลงานหน้าช้นั เรียน ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง - แอปเปิลท่ีครูกาหนด มนี ้าหนักเท่าไร (1 กิโลกรัม 5 ขดี ) - หวั หอมทค่ี รูกาหนด มนี า้ หนกั เทา่ ไร (9 ขีด) - สิ่งใดเบากว่ากัน เพราะอะไร (หัวหอมเบากว่าแอปเปลิ เพราะน้าหนักที่แสดง น้าหนกั ของแอปเปลิ เป็นกโิ ลกรมั แต่ของหัวหอมยังไมถ่ ึงกโิ ลกรัม) - ฟกั ทองทีค่ รกู าหนด มีน้าหนกั เท่าไร (1 กโิ ลกรมั 4 ขีด) - แตงโมท่คี รูกาหนด มีนา้ หนกั เทา่ ไร (1 กโิ ลกรมั 6 ขีด) - สิ่งใดหนักกว่ากัน เพราะอะไร (แตงโมหนักกว่าฟักทอง เพราะน้าหนักท่ีแสดง นา้ หนักเปน็ ขดี ของแตงโมมากกว่าฟักทอง) 2. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 6 การเปรียบเทียบน้าหนัก เม่ือเสร็จแล้วให้นักเรียน ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนัน้ ครแู ละนักเรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 6

35 ข้ันสรปุ 1. ครูและนกั เรียนร่วมกันสรุปสงิ่ ท่ีได้เรียนรรู้ ว่ มกัน ดังน้ี กิโลกรมั กรัม ขีด เป็นหนว่ ย วัดน้าหนักท่ีเป็นมาตรฐาน โดยท่ี 1 มิลลิเมตร เท่ากับ 1 ขีด 1 ขีด เท่ากับ 100 กรัม 1 กิโลกรัม เทา่ กับ 1,000 กรัม ส่ือการเรยี นรู้ 1. ขวดใส่น้า กระเป๋านักเรยี น หนงั สือ 2. แผนภาพการชั่งนา้ หนกั 3. ใบงานที่ 6 การเปรยี บเทยี บน้าหนัก การวัดผลและประเมินผล ส่ิงที่ต้องการวัด วิธีวดั เครือ่ งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ 1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 6 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์ 6 การประเมนิ 2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึน้ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรียนไดค้ ะแนนระดับ ที่พงึ ประสงค์ คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ พฤตกิ รรมดา้ น คณุ ภาพดีขึน้ ไป คณุ ลกั ษณะ ทีพ่ ึงประสงค์ ความคิดเห็นผู้บริหาร ลงชือ่ .....................................ผตู้ รวจ () ผู้อานวยการโรงเรยี น ..../................../........

36 บันทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นไดค้ ะแนนเฉลีย่ รอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมินทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยใู่ นระดบั ดมี าก คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรบั ปรุง คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอย่ใู นระดบั ปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........

37 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 การวัดน้าหนกั เวลาเรียน 15 ชวั่ โมง เร่ือง การเปรียบเทียบน้าหนัก เวลาเรียน 1 ชั่วโมง สอนวันท.ี่ ...... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพนื้ ฐานเก่ยี วกบั การวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิง่ ท่ีต้องการ วัดและนาไปใช้ ตวั ช้วี ัด ค 2.1 ป.3/9 : เปรียบเทียบน้าหนักระหว่างกิโลกรัมและกรัม เมตริกตันกับกิโลกรัม จาก สถานการณต์ ่างๆ สาระสา้ คญั การเปรยี บเทียบน้าหนักที่มีหน่วยต่างกันตอ้ งเปล่ียนหน่วยให้เปน็ หน่วยเดียวกันกอ่ นแล้วจึง นามาเปรยี บเทียบกัน จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายการเปรียบเทียบน้าหนักโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างกิโลกรัมกับกรัม กิโลกรัม และขีดได้ (K) 2. เขยี นแสดงการเปรียบเทยี บน้าหนักโดยใชค้ วามสัมพนั ธ์ระหว่างกิโลกรมั กับกรมั กิโลกรมั และขีดได้ (P) 3. นาความรู้เกี่ยวกับการเปรยี บเทียบน้าหนักโดยใช้ความสมั พันธ์ระหว่างกิโลกรัมกบั กรมั กิโลกรมั และขีดไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การเปรียบเทียบนา้ หนกั ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชอ่ื มโยง

38 คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นา้ เขา้ สู่บทเรยี น 1. ครูให้นักเรียนเลือกส่ิงของรอบตัวมาคนละ 1 ชิ้น (ต้องเป็นส่ิงของยกด้วยมือได้) เพือ่ ให้นักเรียนร่วมกันเล่นเกม “หนกั เบา เราสู้” ดังน้ี - ครูถือส่ิงของ 1 ชิ้น และเป็นผู้กาหนดว่าให้ผแู้ ทนนักเรยี นนาสิ่งของท่ีหนักกว่า หรือเบากว่าสิง่ ของของครูออกมา 1 คน แล้วรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง โดยการยกด้วยมอื - ถ้าถูกต้อง ผู้แทนนักเรียนคนดังกล่าวจะมีสิทธิเลือกผู้แทนนักเรียนอีก 1 คน แลว้ ดาเนินกิจกรรมต่อไป - ถ้าผิด ให้ผู้แทนนักเรียนคนต่อไปออกมาเปรียบเทียบ ถ้าถูกต้องให้ดาเนิน กิจกรรมต่อไปจนครบหมดทกุ คน ขัน้ สอน 1. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มฝึกทักษะการเปรียบเทยี บน้าหนัก โดยครูติดแถบน้าหนกั บน กระดาน ให้นกั เรียนร่วมกันเขยี นคาตอบลงในกระดาษเปลา่ ที่ครแู จกให้จากนัน้ ให้ผแู้ ทนกลมุ่ ออกมา นาเสนอผลงานหน้าช้นั เรยี น ครูและนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง 2 กโิ ลกรมั 500 กรมั 2 กโิ ลกรมั 1 ขดี 2 กิโลกรมั 500 กรมั เท่ากบั 2 กิโลกรัม 5 ขดี ดงั นัน้ 2 กิโลกรมั 500 กรัม มากกว่า 2 กโิ ลกรมั 1 ขดี 3 กโิ ลกรมั 3 ขดี 3 กโิ ลกรมั 800 กรัม 3 กิโลกรมั 3 ขีด เทา่ กบั 3 กโิ ลกรัม 300 กรมั ดังนั้น 3 กโิ ลกรมั 3 ขีด นอ้ ยกวา่ 3 กิโลกรมั 800 กรมั

39 4 กโิ ลกรมั 500 กรัม 4 กิโลกรมั 5 ขดี 4 กิโลกรมั 500 กรัม เท่ากบั 4 กโิ ลกรมั 5 ขีด ดงั น้นั 4 กโิ ลกรมั 500 กรัม เทา่ กบั 4 กโิ ลกรมั 5 ขีด 2. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 7 การเปรียบเทียบน้าหนัก เม่ือเสร็จแล้วให้นักเรียน ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนั้นครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 7 ข้นั สรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปส่งิ ทีไ่ ด้เรยี นรู้ร่วมกนั ดังนี้ การเปรียบเทียบน้าหนักท่มี ี หน่วยตา่ งกันตอ้ งเปลี่ยนหน่วยให้เป็นหน่วยเดียวกันก่อนแล้วจึงนามาเปรียบเทยี บกนั สือ่ การเรยี นรู้ 1. แถบน้าหนกั 2. ใบงานท่ี 7 การเปรยี บเทยี บน้าหนกั การวดั ผลและประเมินผล สงิ่ ทีต่ อ้ งการวัด วิธวี ดั เครื่องมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 7 70% ขึ้นไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ 7 การประเมนิ 2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรียนไดค้ ะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดขี ึ้นไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรียนไดค้ ะแนนระดับ ที่พึงประสงค์ คุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขึน้ ไป คณุ ลักษณะ ทพ่ี งึ ประสงค์

40 ความคดิ เห็นผู้บรหิ าร ลงช่อื .....................................ผู้ตรวจ () ผู้อานวยการโรงเรียน ..../................../........ บันทกึ หลงั การเรียนการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรียนได้คะแนนเฉลยี่ รอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ดี คน คดิ เปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดบั ปรับปรงุ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 1.3 ผลการประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ นักเรียนอยู่ในระดบั ดมี าก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั พอใช้ คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยใู่ นระดบั ปรับปรุง คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ัญหา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........

41 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 8 รายวิชาคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 10 การวดั น้าหนัก เวลาเรยี น 15 ช่ัวโมง เรื่อง การบวกเกี่ยวกบั น้าหนกั เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง สอนวันท.ี่ ...... เดือน.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพ้ืนฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งทีต่ ้องการ วดั และนาไปใช้ ตวั ชี้วัด ค 2.1 ป.3/10 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับน้าหนักท่ีมีหน่วยเปน็ กิโลกรัม กับกรัม เมตริกตนั กบั กิโลกรมั สาระสา้ คญั การหาผลบวกเกี่ยวกบั นา้ หนกั ทาได้โดยนาน้าหนกั ท่ีเปน็ หน่วยเดียวกนั มาบวกกนั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. สามารถบอกวิธีหาผลบวกเกยี่ วกับน้าหนักทกี่ าหนดให้ได้ (K) 2. หาคาตอบของการบวกเกยี่ วกับน้าหนักไดถ้ กู ต้อง (P) 3. นาความรเู้ กยี่ วกับการบวกเก่ยี วกบั น้าหนักไปใช้ในชวี ิตจริงได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การบวกเก่ียวกบั น้าหนกั ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 2. ความสามารถในการสื่อสารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชอ่ื มโยง คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมัน่ ในการทางาน

42 กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้ันน้าเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1. ครูถามว่า 1,200 กรัม เท่ากับก่ีกิโลกรมั ก่ีกรัม ให้นักเรียนช่วยกันหาคาตอบพรอ้ ม ทง้ั นาเสนอแนวคิดซงึ่ นกั เรียนอาจนาเสนอแนวคิดดงั นี้ 1,000 กรมั เท่ากบั 1 กโิ ลกรมั ดังน้ัน 1,200 กรมั เทา่ กับ 1 กิโลกรมั 200 กรมั ข้ันสอน 1. ครูยกตัวอย่างการบวกเกย่ี วกบั น้าหนกั ท่ีมหี น่วยเปน็ กิโลกรัมและกรัมโดยการเขียน แสดงวธิ ีหาคาตอบ ใหเ้ ขยี นหนว่ ยไว้บรรทดั บน แลว้ นาน้าหนกั ท่มี หี นว่ ยเดยี วกันมาบวกกัน ถา้ ผลรวม ในหน่วยกรัมมากกว่า 1,000 กรัม ต้องทด 1 กิโลกรัม ไปรวมกับผลบวกของความยาวในหน่วย กิโลกรัม ดงั น้ี 5 กโิ ลกรมั 500 กรมั รวมกบั 3 เซนติเมตร 600 กรัม เท่ากบั เทา่ ไร วธิ ีทา้ กโิ ลกรมั กรัม 5 500 + 3 600 8 1100 หรอื 9 100 1,000 กรัม เท่ากบั 1 กิโลกรมั ตอบ ๙ กโิ ลกรมั ๑๐๐ กรมั 2. ครูยกตัวอย่างการบวกเกี่ยวกับน้าหนักท่ีมีหน่วยเปน็ กิโลกรมั และขีดโดยการเขยี น แสดงวธิ ีหาคาตอบ ใหเ้ ขยี นหนว่ ยไวบ้ รรทัดบน แล้วนานา้ หนกั ท่ีมหี นว่ ยเดียวกันมาบวกกัน ถ้าผลรวม ในหน่วยกรัมมากกว่า 10 ขีด ต้องทด 1 กิโลกรัม ไปรวมกับผลบวกของความยาวในหนว่ ยกิโลกรมั ดังน้ี 6 กิโลกรมั 4 ขีด รวมกบั 7 เซนติเมตร 8 ขีด เท่ากบั เท่าไร วิธที า้ กิโลกรัม กรัม 6 4 + 4 8 10 12 หรือ 11 2 10 ขดี เทา่ กบั 1 กโิ ลกรมั ตอบ ๑๑ กิโลกรัม ๒ ขีด 3. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 8 การบวกเกี่ยวกับน้าหนัก เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรียน ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากน้นั ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 8

43 ข้นั สรุป 1. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปส่ิงทไ่ี ดเ้ รยี นรู้รว่ มกัน ดงั น้ี การหาผลบวกเกยี่ วกบั นา้ หนกั ท่มี หี นว่ ยเป็นกิโลกรัมและกรัม กโิ ลกรัมและขีด ทาไดโ้ ดยนานา้ หนักท่เี ป็นหนว่ ยเดียวกนั มาบวกกัน ส่อื การเรยี นรู้ ใบงานท่ี 8 การบวกเกีย่ วกบั น้าหนัก การวดั ผลและประเมินผล ส่งิ ทตี่ อ้ งการวัด วิธวี ดั เครือ่ งมือวดั เกณฑ์การประเมิน 1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 8 70% ขึน้ ไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ 8 การประเมนิ 2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤตกิ รรมด้าน คณุ ภาพดขี ้ึนไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ดา้ นคุณลักษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดับ ทีพ่ งึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ พฤตกิ รรมด้าน คณุ ภาพดีขนึ้ ไป คณุ ลกั ษณะ ท่พี งึ ประสงค์ ความคดิ เห็นผู้บริหาร ลงช่อื .....................................ผูต้ รวจ () ผอู้ านวยการโรงเรียน ..../................../........

44 บันทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นได้คะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยใู่ นระดบั ดมี าก คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นักเรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ปรับปรุง คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยูใ่ นระดบั ดีมาก คน คดิ เปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดบั ดี คน คดิ เป็นร้อยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดบั พอใช้ คน คิดเป็นร้อยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ปรับปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงช่อื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........

45 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 10 การวัดน้าหนัก เวลาเรียน 15 ชว่ั โมง เร่ือง การลบเกย่ี วกับนา้ หนัก เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง สอนวันท่.ี ...... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพ้นื ฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการ วัดและนาไปใช้ ตวั ช้ีวัด ค 2.1 ป.3/10 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับน้าหนักท่ีมหี น่วยเป็นกิโลกรมั กบั กรัม เมตรกิ ตันกับกิโลกรัม สาระส้าคญั การหาผลลบเก่ยี วกับนา้ หนกั ทาได้โดยนาน้าหนกั ทเี่ ปน็ หนว่ ยเดยี วกนั มาลบกนั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. สามารถบอกวธิ ีหาผลลบเกย่ี วกับน้าหนกั ทกี่ าหนดให้ได้ (K) 2. หาคาตอบของการลบเกยี่ วกับน้าหนักไดถ้ กู ตอ้ ง (P) 3. นาความรเู้ ก่ียวกบั การลบเกี่ยวกับนา้ หนกั ไปใช้ในชวี ติ จรงิ ได้ (A) สาระการเรียนรู้ การลบเก่ยี วกบั น้าหนัก ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 2. ความสามารถในการสอื่ สารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชอ่ื มโยง คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน

46 กิจกรรมการเรียนรู้ ข้ันนา้ เขา้ สูบ่ ทเรยี น 1. ครูทบทวนการบวกเก่ียวกับน้าหนัก โดยติดแถบประโยคบนกระดานให้นักเรียน ชว่ ยกันแสดงวิธหี าคาตอบ ดงั น้ี 7 กิโลกรมั 5 ขีด รวมกบั 5 กิโลกรมั 8 ขีด เท่ากับเท่าไร 6 กโิ ลกรมั 600 กรมั รวมกบั 13 กิโลกรมั 700 กรมั เท่ากบั เท่าไร ข้ันสอน 1. ครูยกตัวอย่างการลบเก่ียวกับน้าหนักที่มีหน่วยเป็นกิโลกรมั และกรมั โดยการเขียน แสดงวธิ ีหาคาตอบ ใหเ้ ขยี นหน่วยไวบ้ รรทดั บน แลว้ นาน้าหนักท่ีมหี นว่ ยเดียวกนั มาลบกนั ถา้ ตัวตงั้ ใน หนว่ ยกรัมมคี า่ น้อยกวา่ ตวั ลบ ใหก้ ระจายน้าหนักในหน่วยกิโลกรมั มา 1 กโิ ลกรมั หรือ 1,000 กรัม มา รวมกบั ตัวต้ังในหนว่ ยกรัม ดังนี้ 15 กิโลกรมั 700 กรมั นอ้ ยกว่า 20 กิโลกรัม 450 กรมั เท่ากับเท่าไร วธิ ีท้า กิโลกรัม กรมั - 19 1450 20 450 15 700 4 750 ตอบ ๔ กโิ ลกรัม ๗๕๐ กรมั 2. ครูยกตัวอย่างการลบเกี่ยวกับน้าหนักท่ีมีหน่วยเป็นกิโลกรัมและขีดโดยการเขียน แสดงวิธีหาคาตอบ ให้เขียนหน่วยไว้บรรทัดบน แล้วนาน้าหนกั ทม่ี หี น่วยเดียวกันมาบวกกนั ถ้าตัวตง้ั ในหน่วยขีดมีค่าน้อยกว่าตัวลบ ให้กระจายน้าหนักในหน่วยกิโลกรัมมา 1 กิโลกรัม หรือ 10 ขีด มา รวมกบั ตัวตงั้ ในหนว่ ยขีด ดงั นี้

47 9 กิโลกรมั 4 ขดี มากกว่า 7 เซนติเมตร 8 ขีด เทา่ กบั เท่าไร วธิ ีท้า กโิ ลกรัม กรัม 8 14 9 4 - 7 8 16 ตอบ ๑ กโิ ลกรมั ๖ ขดี 3. ครใู หน้ กั เรียนทาใบงานท่ี 9 การลบเกย่ี วกบั นา้ หนัก เม่อื เสรจ็ แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนน้ั ครูและนักเรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 9 ขัน้ สรปุ 1. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุปสง่ิ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ร่วมกนั ดงั นี้ การหาผลลบเกีย่ วกับนา้ หนัก ที่มีหนว่ ยเปน็ กิโลกรมั และกรัม กโิ ลกรัมและขดี ทาไดโ้ ดยนาน้าหนักทเ่ี ป็นหน่วยเดียวกนั มาลบกัน ส่อื การเรียนรู้ ใบงานท่ี 9 การลบเกีย่ วกบั นา้ หนัก การวัดผลและประเมินผล สิง่ ท่ีต้องการวัด วิธีวดั เครอื่ งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ 1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 9 70% ขึ้นไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์ 9 การประเมิน 2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นักเรียนได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขนึ้ ไป ทักษะกระบวนการ 3. ดา้ นคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดบั ท่พี งึ ประสงค์ คุณลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีขึ้นไป คณุ ลักษณะ ท่พี งึ ประสงค์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook