หญ้าแฝกหญ้าแรกในดวงใจ Vetiver Grass in My Mindนายกนั ตินันท์ สมภพ รหสั 60460118นายกาแพง ศรีวยิ ะ รหัส 60460125นางสาวกลุ นิษฐ์ ชีพธารง รหัส 60460132นายเกรียงศักด์ิ อ่นุ บุญธรรม รหสั 60460149นางสาวเกวลนิ นราธรศิรกลุ รหัส 60460156นายไกร บูรณะกรณ์ รหสั 60460163นางสาวขวญั ชนก กรี ตวิ งศา รหัส 60460170นางสาวเขมจิรา ดาวสดใส รหสั 60460187นายคงเทพ คุณประทุม รหสั 60460194นายคณนิ อมรางกลู รหสั 60460200 คณะแพทยศาสตร์ กล่มุ เรียนที่ 2รายงานฉบบั นีเ้ ป็ นส่วนหน่ึงของรายวชิ า 001221 สารสนเทศศาสตร์เพ่ือการศึกษาค้นคว้า มหาวทิ ยาลยั นเรศวร ภาคการศึกษาต้น ปี การศึกษา 2560
หญ้าแฝกหญ้าแรกในดวงใจ Vetiver Grass in My Mindนายกนั ตินันท์ สมภพ รหัส 60460118นายกาแพง ศรีวยิ ะ รหัส 60460125นางสาวกลุ นิษฐ์ ชีพธารง รหัส 60460132นายเกรียงศักด์ิ อ่นุ บุญธรรม รหัส 60460149นางสาวเกวลนิ นราธรศิรกลุ รหัส 60460156นายไกร บูรณะกรณ์ รหัส 60460163นางสาวขวญั ชนก กรี ตวิ งศา รหัส 60460170นางสาวเขมจิรา ดาวสดใส รหสั 60460187นายคงเทพ คุณประทุม รหัส 60460194นายคณนิ อมรางกลู รหัส 60460200 คณะแพทยศาสตร์ กล่มุ เรียนที่ 2รายงานฉบบั นีเ้ ป็ นส่วนหน่ึงของรายวชิ า 001221 สารสนเทศศาสตร์เพ่ือการศึกษาค้นคว้า มหาวทิ ยาลยั นเรศวร ภาคการศึกษาต้น ปี การศึกษา 2560
ช่ือหวั ข้อโครงงาน หญา้ แฝกหญา้ แรกในดวงใจผู้ดาเนินโครงงาน นายกนั ตินนั ท์ สมภพ รหสั 60460118ทป่ี รึกษาโครงงาน นายกาแพง ศรีวยิ ะ รหสั 60460125 นางสาวกุลนิษฐ์ ชีพธารง รหสั 60460132 นายเกรียงศกั ด์ิ อุ่นบุญธรรม รหสั 60460149 นางสาวเกวลิน นราธรศิรกลุ รหสั 60460156 นายไกร บูรณะกรณ์ รหสั 60460163 นางสาวขวญั ชนก กีรติวงศา รหสั 60460170 นางสาวเขมจิรา ดาวสดใส รหสั 60460187 นายคงเทพ คุณประทุม รหสั 60460194 นายคณิน อมรางกลู รหสั 60460200 รศ.ดร.สุชาติ แยม้ เม่น ดร.ศิริวรรณ วชิ ยั ผศ.ดร.พนมขวญั ริยะมงคล ดร.ศศิธร ติณะมาศ นางปราณี คาแหง นายสมทั รชา เนียมเรือง นางสาวศิริรัตน์ ไกรกล่ิน ก
สาขาวชิ า สารสนเทศศาสตร์เพื่อการศึกษาและคน้ ควา้ภาควชิ า กองการศึกษาทวั่ ไปปี การศึกษา 2560 บทคดั ย่อ โครงงานน้ีเป็ นการศึกษาโครงการในพระราชดาริของพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โครงการหญา้ แฝก ซ่ึงเป็นโครงการที่เกิดข้ึนเน่ืองจากท่านทรงตระหนกั ถึงความสาคญัและความจาเป็นในการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาการชะลา้ งพงั ทลายของดินท่ีมีผลตอ่ ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรดิน จึงพระราชทานพระราชดาริใหม้ ีการนาหญา้ แฝกมาใชใ้ นการอนุรักษด์ ินและน้าเน่ืองจากหญา้ แฝกเป็นพชื ท่ีสามารถนามาใชป้ ระโยชนไ์ ดง้ ่าย มีรากยาวแผก่ ระจายลงไปในดินตรง ๆเป็ นแผงและง่ายต่อการดูแล ข
Project title Vetiver Grass in My MindName Mr. Kuntinan Sompop ID. 60460118Mr. Kampang Sriviya ID. 60460125Ms. Kunlanit Chipthamrong ID. 60460132Mr. Kriangsak Ounboontham ID. 60460149Ms. Keawalin Naratornsirakul ID. 60460156Mr. Krai Buranakorn ID. 60460163Ms. Khwanchanok Keeratiwongsa ID. 60460170Ms. Khemjira Doasodsai ID. 60460187Mr. Khongthep Khunpratum ID. 60460194Mr. Kanin Amarangkul ID. 60460200Project advisor Assc.Prof.Dr.Suchart YammenDr.Siriwan WichaiAsst.Prof.Dr.Panomkhawn RiyamongkolDr.Sasithorn TinamasMrs.Pranee KhamhaengMr.Samatcha NiamrerngMs.Sirirat Kraiklin ค
Major Information Science for Study and ResearchDepartment Division of General EducationAcademic year 2017 Abstract This project is about studying The Royal Project, Vetiver Grass Project by His Majesty KingBhumibol Adulyadej’s remark given that had paid close attention to and observed the loss of topsoiland soil erosion is one of the country’s major problems leading to the deterioration of earth resource.Recognizing how necessary it is to find measures to alleviate such problem, His Majesty the Kinginitiated the use of vetiver grass for soil and water conservation, land rehabilitation and embankmentstabilization because its roots penetrates deep down into the soil at great depth and easy to maintain. ง
กติ ตกิ รรมประกาศ รายงานฉบบั น้ีสาเร็จลงไดด้ ว้ ยดี เนื่องจากไดร้ ับความเมตตากรุณาอยา่ งสูงจากคณาอาจารยท์ ุกทา่ นในรายวชิ า 001221 สารสนเทศศาสตร์เพื่อการศึกษาคน้ ควา้ ภาคการศึกษาตน้ ปี การศึกษา 2560 ที่กรุณาใหค้ าแนะนา ปรึกษา ตลอดจนปรับปรุงแกไ้ ขขอ้ บกพร่องตา่ งๆดว้ ยความเอาใจใส่อยา่ งดียงิ่ คณะผจู้ ดั ทาตระหนกั ถึงความต้งั ใจจริงและความทุม่ เทของคณาจารย์ และขอกราบขอบพระคุณเป็นอยา่ งสูงไว้ ณ ที่น้ี ขอขอบพระคุณเพ่ือนนิสิตทุกคนในคณะจดั ทาท่ีใหค้ วามร่วมมือในการคน้ ควา้ หาขอ้ มูลตา่ งๆตลอดจนคาเสนอแนะ จนทาใหร้ ายงานเล่มน้ีสาเร็จลุล่วงไปดว้ ยดี อน่ึง คณะผจู้ ดั ทาหวงั วา่ รายงานฉบบั น้ีจะมีประโยชนอ์ ยไู่ มน่ อ้ ย จึงขอมอบส่วนดีท้งั หมดน้ีใหแ้ ก่เหล่าคณาจารย์ ที่ไดป้ ระสิทธิประสาทวชิ าจนทาใหร้ ายงานน้ีเป็นประโยชนแ์ ก่ผทู้ ่ีเกี่ยวขอ้ ง และขอมอบความกตญั ญูกตเวทิตา แด่บิดา มารดา และผมู้ ีพระคุณทุกทา่ นของคณะผจู้ ดั ทา สาหรับขอ้ บกพร่องต่างๆท่ีอาจจะเกิดข้ึนน้นั คณะผจู้ ดั ทาขอนอ้ มรับผดิ เพียงผูเ้ ดียว และยนิ ดีที่จะรับฟังคาแนะนาจากทุกท่านที่ไดเ้ ขา้ มาศึกษา เพอื่ เป็นประโยชน์ในการพฒั นาตอ่ ไป คณะผจู้ ดั ทา พฤศจิกายน 2560 จ
สารบญั หนา้บทคดั ยอ่ ภาษาไทย….………………………………………………………………………………….กบทคดั ยอ่ ภาษาองั กฤษ……………………….………………………………………………………....คกิตติกรรมประกาศ……………………………………………………………………………………...จสารบญั …………………………………………………………………………………………………ฉสารบญั ตาราง…………………………………………………………………………………………..ซสารบญั รูป...............................................................................................................................................ฌบทที่ 1 บทนา……………………………………………………………………….…………………..1 1.1 ความเป็นมาและความสาคญั ของโครงการ………………………….........................................1 1.2 วตั ถุประสงค.์ ..............................................................................................................................2 1.3 ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะไดร้ ับ…………………...……………………….…………...…….….....2 1.4 ขอบเขตการดาเนินงาน……………………………………………………………….…….….3 1.5 ข้นั ตอนการดาเนินงาน................................................................................................................3 1.6 แผนการดาเนินงาน………………………………………………………………...………..…4 1.7 รายละเอียดงบประมาณตลอดโครงการ…………………………………………………...…...5บทท่ี 2 เน้ือหาและทฤษฎี.........................................................................................................................6 2.1 พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช…….………...……6 2.2 ความเป็นมาของโครงการหญา้ แฝก………………………………………….…………...……7 2.3 หญา้ แฝก………………………………………………………………………….....…………8 2.4 พนั ธุ์หญา้ แฝกที่เหมาะสมกบั เน้ือดิน………………………………….…….………..…….....11 2.5 พนั ธุ์หญา้ แฝกท่ีเหมาะสมกบั สภาพพ้นื ท่ี………………………………….……….…..……..11 ฉ
สารบัญ (ต่อ) หนา้ 2.6 ลกั ษณะพเิ ศษของหญา้ แฝก…………………………………………………………....……12 2.7 การขยายพนั ธุ์หญา้ แฝก………………………………………………….………………….13 2.8 การเตรียมกลา้ และดินเพื่อปลูกหญา้ แฝก………..…………………………….…………… 14 2.9 การดูแลรักษาหญา้ แฝก……………………………………………………….…………….15 2.10 รูปแบบการปลูกหญา้ แฝกตามหลกั วชิ าการ…………………………….…………………..16 2.11 ศูนยส์ าธิตการพฒั นาและรณรงคก์ ารใชห้ ญา้ แฝกดา้ นป่ าไม.้ .................................................18 2.12 การใชป้ ระโยชน์จากหญา้ แฝกเพือ่ การอนุรักษด์ ินและน้า……………………..……………21 2.13 ประโยชน์เอนกประสงคอ์ ื่นๆของหญา้ แฝก…………………………….…………………..22 2.14 การปลูกหญา้ แฝกในพ้นื ที่เกษตรกรรม…………….……………………………………….23 2.15 แนวพระราชดาริเก่ียวกบั การปลูกหญา้ แฝกเพือ่ การอนุรักษด์ ินและน้า……….…………….25บทท่ี 3 วธิ ีการดาเนินโครงการหญา้ แฝก…………………………………………………....…………27บทที่ 4 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูล………………………………………………………….….…………..29บทท่ี 5 สรุปและอภิปราย…………………………………………………………….………………..30เอกสารอา้ งอิง………………………………………………………………………..…………….…..31ประวตั ิผดู้ าเนินโครงงาน........................................................................................................................32 ช
สารบญั ตารางตารางท่ี หนา้1. แผนการดาเนินงาน………………………………………………………………………..………....42. งบประมาณที่ใชใ้ นโครงการ………………………………………………………………………...5 ซ
สารบญั รูปรูปท่ี หนา้1.ลกั ษณะหญา้ แฝก................................................................................................................................12 ฌ
บทท่ี 1 บทนา1.1 ความเป็ นมาและความสาคญั ของโครงการ เน่ืองจากรายวชิ า 001221 สารสนเทศศาสตร์เพื่อการศึกษาคน้ ควา้ ไดม้ ีการมอบหมายใหน้ ิสิตไปทาการศึกษาเก่ียวกบั โครงการในพระราชดาริ โครงการหญา้ แฝก เพ่ือใหไ้ ดท้ ราบถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงติดตามปัญหาสภาวการณ์ส่ิงแวดลอ้ มอยา่ งต่อเน่ืองและทรงห่วงใยพสกนิกรชาวไทย และเพอื่ ใหร้ ู้จกั กบั หญา้ แฝก ลกั ษณะของหญา้ แฝกและประโยชน์ของหญา้ แฝก รวมถึงรู้จกั โครงการหญา้ แฝกและรู้ถึงการดาเนินงานของโครงการ โดยโครงการหญา้ แฝกมีความสาคญั ในการป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดินซ่ึงบางพ้นื ท่ีในประเทศไทยเกิดปัญหาอยา่ งรุนแรง ช่วยปรับปรุงคุณภาพดิน ช่วยในการอนุรักษด์ ินและน้าขณะเดียวกนั หญา้ แฝกกม็ ีประสิทธิภาพในการดกั ตะกอนดิน ป้องกนั ดินถล่ม น้าทว่ มฉบั พลนั ไดใ้ นระดบั หน่ึงและความคงทนสามารถอยไู่ ดน้ านหลายปี พร้อมเป็ นการรักษาสภาพแวดลอ้ มอีกดว้ ย และจากการที่ไดไ้ ปคน้ ควา้ ศึกษาหาขอ้ มูลในเร่ืองโครงการหญา้ แฝกเพ่ือจดั ทารายงานและนาเสนอ ทาใหไ้ ดใ้ ชว้ ชิ าความรู้ที่ไดเ้ รียนในรายวชิ าสารสนเทศศาสตร์เพ่ือการศึกษาและคน้ ควา้ มาใช้ใหเ้ กิดประโยชน์และไดฝ้ ึกทกั ษะในการนาเสนอหนา้ ช้นั เรียนเพื่อใหเ้ พือ่ นนิสิตไดร้ ับความรู้เกี่ยวกบัโครงการหญา้ แฝกอีกดว้ ย
21.2 วตั ถุประสงค์ของโครงการ ในการจดั ทาโครงการน้ี คณะผจู้ ดั ทามีวตั ถุประสงค์ ดงั น้ี 1.เพอ่ื เชิดชูเกียรติและเพอ่ื เป็ นการสานึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย 2.เพอ่ื เป็ นการเพ่มิ พนู ความรู้ เกี่ยวกบั โครงการหญา้ แฝก โครงการในพระราชดาริและช้ีใหเ้ ห็นถึงความสาคญั ประโยชน์และตระหนกั ในคุณค่าของโครงการหญา้ แฝก 3.เพือ่ เป็ นการเพ่ิมพูนความรู้เก่ียวกบั หญา้ แฝกและประโยชน์ของหญา้ แฝก 4.เพื่อนาความรู้ที่ไดม้ านาเสนอให้กบั เพ่ือนนิสิตในรายวิชาสารสนเทศศาสตร์เพ่อื การศึกษาและคน้ ควา้ และนาความรู้ที่ไดร้ ับไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ตอ่ ไป1.3 ประโยชน์ทค่ี าดว่าจะได้รับ ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะไดร้ ับจากการทาโครงการเก่ียวกบั โครงการหญา้ แฝก โครงการในพระราชดาริ คือไดต้ ระหนกั ถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงปฏิบตั ิพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรชาวไทยและทรงทุม่ เทพระวรกายทรงงานอยา่ งหนกัโดยมิรู้สึกเหน็ดเหน่ือย เพราะหวงั ใหป้ ระชาชนทุกคนอยดู่ ีมีสุข อีกท้งั ยงั ไดร้ ับความรู้เก่ียวกบั ลกั ษณะของหญา้ แฝก การขยายพนั ธุ์ ดูแลรักษาตลอดจนประโยชนข์ องหญา้ แฝก และไดเ้ ผยแพร่ความรู้ท่ีไดร้ ับน้ีแก่เพื่อนนิสิตร่วมช้นั ในรายวชิ าสารสนเทศศาสตร์เพ่ือการศึกษาและคน้ ควา้ ตลอดจนผทู้ ่ีสนใจอีกดว้ ย
31.4 ขอบเขตการดาเนินงาน ในการจดั ทาโครงการน้ี เป็นการศึกษาเกี่ยวกบั โครงการหญา้ แฝก ซ่ึงเป็นโครงการในพระราชดาริ โดยศึกษาเกี่ยวกบั ความเป็นมาของโครงการ พระราชดาริเก่ียวกบั โครงการ การดาเนินงานของโครงการ ลกั ษณะของหญา้ แฝก การขยายพนั ธุ์หญา้ แฝกและการใชป้ ระโยชนจ์ ากหญา้ แฝก แลว้ นาความรู้ท่ีไดม้ าจดั ทารายงานและนาเสนอต่อเพอ่ื นนิสิต เพื่อใหท้ ราบถึงความสาคญั ของโครงการหญา้แฝก ลกั ษณะของหญา้ แฝก ประโยชนข์ องหญา้ แฝกและไดเ้ ห็นหญา้ แฝกของจริง1.5 ข้นั ตอนการดาเนินงาน 1.ทาความเขา้ ใจเก่ียวกบั โครงการหญา้ แฝก 2.แบง่ หนา้ ท่ีความรับผดิ ชอบ โดยมีฝ่ ายหาขอ้ มูลส่วนตา่ งๆ ฝ่ ายจดั ทาการนาเสนอ ฝ่ ายจดั ทารูปเล่มรายงาน 3.รายงานความคืบหนา้ ต่ออาจารยแ์ ละเพอ่ื นนิสิตหนา้ ช้นั เรียน 4.รวบรวมและสรุปเน้ือหารายงาน 5.จดั ทารายงาน โดยจดั ทารายงานตามรูปแบบปริญญานิพนธ์ของมหาวยิ าลยั นเรศวรและเตรียมการนาเสนอใหเ้ ขา้ ใจง่ายและน่าสนใจ 6.นาเสนอรายงานหนา้ ช้นั เรียนและทารูปเล่มรายงานเป็นหนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ 7.ปลูกหญา้ แฝกเพ่ือเตรียมไปนาเสนอ
41.6 แผนการดาเนินงานตารางที่ 1 แผนการดาเนินงานกิจกรรม ตุลาคม พฤศจิกายน 3-9 10-16 17-23 24-31 1-7 8-14 15-20ทาความเขา้ ใจโครงการหญา้ แฝกและแบง่ หนา้ ที่ความรับผดิ ชอบหาขอ้ มลู เกี่ยวกบั โครงการหญา้ แฝกประชุมและจดั ทาส่ือนาเสนอเพื่อรายงานความคืบหนา้รายงานความคืบหนา้ การทางานประชุมเพอื่ รวบรวมและสรุปเน้ือหาจดั ซ้ือหญา้ แฝกจดั ทารายงานจดั ทาส่ือเพอื่ นาเสนอปลูกหญา้ แฝกประชุมเพื่อดูความกา้ วหนา้ ของงานเตรียมตวั นาเสนออพั โหลดรายงานและส่ือการนาเสนอข้ึนบนอินเทอร์เน็ตนาเสนอโครงการหญา้ แฝกหนา้ ช้นั เรียน
51.7 รายละเอยี ดงบประมาณตลอดโครงการ ราคา(บาท) 70ตารางท่ี 2 งบประมาณที่ใชใ้ นโครงการ 20 200 วสั ดุอปุ กรณ์ 30 หญา้ แฝก ดินสาเร็จรูป ท่อพีวซี ี ลวด งบประมาณตลอดโครงการรวมท้งั สิ้น 320 บาท
บทที่ 2 เนื้อหาและทฤษฎี2.1 พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช “...ทุกคนควรจะไดส้ นใจสงั เกต ศึกษาเร่ืองราว บุคคลและสิ่งตา่ ง ๆ ที่แวดลอ้ มและเกี่ยวขอ้ งกบั ตวั เองให้มากอยา่ ละเลยหรือมองขา้ มแมแ้ ต่สิ่งเล็กนอ้ ยเช่น ตน้ หญา้ ซ่ึงถา้ ศึกษาพจิ ารณาใหด้ ีกจ็ ะก่อใหเ้ กิดปัญญาได้ หญา้ น้นั มีท้งั หญา้ ท่ีเป็นวชั พชื ซ่ึงเป็นโทษ และหญา้ ท่ีมีคุณอยา่ ง \"หญา้ แฝก\"ซ่ึงเป็นประโยชน์อยา่ งยง่ิ แก่การอนุรักษด์ ินและน้า เพราะมีรากที่หยง่ั ลึกแผก่ ระจายลงไปตรง ๆ ทาใหอ้ ุม้ น้าและยดึ เหนี่ยวดิน ไดม้ นั่ คงและมีลาตน้ ชิดติดกนั แน่นหนา ทาใหด้ กั ตะกอนดินและรักษาหนา้ ดินไดด้ ี... ” พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เม่ือวนั ท่ี 24 กรกฎาคม 2540
72.2 ความเป็ นมาของโครงการหญ้าแฝก พ.ศ. 2534 ประเทศไทยเริ่มพฒั นาสู่สังคมเศรษฐกิจแบบอุตสาหกรรม มีการลงทุนจากต่างประเทศ การคา้ พาณิชยเ์ พอ่ื การส่งออกและการทอ่ งเท่ียว ขณะเดียวกนั ก็มีการใชแ้ ละทาลายทรัพยากรอยา่ งกวา้ งขวางเช่น การตดั ไมท้ าลายป่ า ส่งผลใหเ้ กิดอุทกภยั บอ่ ยและรุนแรง หนา้ ดินพงั ทลาย เกิดสภาวะแหง้ แลง้ รุนแรงและยาวนาน เกิดน้าเสีย เกษตรกรเผชิญปัญหาเก่ียวกบั ดิน ไม่สามารถเพาะปลูกเล้ียงชีพไดเ้ พยี งพอ พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงติดตามปัญหาและสภาวการณ์สิ่งแวดลอ้ มอยา่ งต่อเนื่อง ทรงศึกษาเอกสารของธนาคารโลกเกี่ยวกบั การอนุรักษด์ ินดว้ ยหญา้ แฝกทรงเห็นวา่ เป็นประโยชน์ต่อการแกไ้ ขปัญหาหนา้ ดิน เช่น ดินพงั ทลาย ดินถล่ม ดินเส่ือมโทรม ดินดานและดินทราย ไดเ้ สด็จพระราชดาเนินไปยงั ศูนยศ์ ึกษาการพฒั นาหว้ ยทรายอนั เน่ืองมาจากพระราชดาริ มีพระราชดาริใหท้ ดลองปลูกหญา้ แฝกตามแนวขวางของพ้ืนท่ีลาดเขา เกบ็ ขอ้ มูลการเจริญเติบโตของลาตน้ และราก บนั ทึกความอุดมสมบูรณ์ของดินก่อนและหลงั ปลูก ศึกษาหาพนั ธุ์ที่เหมาะสมกบั พ้ืนที่ เสดจ็ พระราชดาเนินไปทรงติดตามงานและมีพระราชดารัสแนะนาเพื่อปรับปรุงและพฒั นาการใชห้ ญา้ แฝกอยา่ งต่อเนื่อง
82.3 หญ้าแฝก หญ้าแฝก (ชื่อวทิ ยาศาสตร์: Chrysopogon zizanioides) เป็นพืชที่มีระบบรากลึกและแผก่ ระจายลงไปในดินตรงๆ เป็ นพืชท่ีมีอายไุ ดห้ ลายปี ข้ึนเป็นกอแน่น มีใบเป็ นรูปขอบขนานแคบปลายขอบแหลม ยาว 35-80 เซนติเมตร มีส่วนกวา้ ง 5-9 มิลลิเมตร สามารถขยายพนั ธุ์ที่ไดผ้ ลรวดเร็ว โดยการแตกหน่อจากลาตน้ ใตด้ ิน ในบางโอกาสสามารถแตกแขนงและรากออกในส่วนของกา้ นช่อดอกได้ เมื่อหญา้แฝกโนม้ ลงดินทาใหม้ ีการเจริญเติบโตเป็นกอหญา้ แฝกใหม่ได้ หญา้ แฝกมีอยู่ 2 สายพนั ธุ์คือ 1. หญ้าแฝกลุ่ม มีถ่ินกาเนิดทางตอนกลางของทวปี เอเชีย สนั นิษฐานวา่ อยใู่ นประเทศอินเดียพบในพ้นื ท่ีลุ่ม มีความช้ืนสูงหรือมีน้าขงั ลกั ษณะกอเป็นพมุ่ สูงเตม็ ที่ประมาณ 150-200 เซนติเมตร ใบยาวต้งั ตรงสูงข้ึนสีเขียวเขม้ มีไขเคลือบทาให้ดูมนั ใบออ่ นใชเ้ ป็นอาหารสัตวไ์ ด้ ช่อดอกสีอมม่วง รากมีความหอมเยน็และหยงั่ ลึกลงดินต้งั แต่ 100-300 เซนติเมตร เป็นสมนั ไพรใชท้ าน้ามนั หอม สบู่ และใชก้ นั แมลงในตู้เส้ือผา้ ฯลฯ พนั ธุ์ที่กรมพฒั นาที่ดินส่งเสริม ไดแ้ ก่ พนั ธุ์สุราษฎร์ธานี กาแพงเพชร ๒ ศรีลงั กา สงขลา ๓และพระราชทาน ฯลฯ - กลุ่มพนั ธุ์สุราษฎร์ธานี เจริญเติบโตในสภาพพ้ืนที่เป็นดินร่วนเหนียวและดินลูกรัง แตกกอ 22ตน้ ต่อกอ เส้นผา่ ศูนยก์ ลางกอ 13 เซนติเมตร สูง 108 เซนติเมตร แตกกอหลวม หน่อกลมอวบ ยดื ปลอ้ งเร็ว ทรงพุม่ กางมาก ใบสีเขียวอ่อน ทอ้ งใบขาว ดอกสีม่วงแดง ออกดอกเม่ืออายปุ ระมาณ 1 เดือนหลงั จากปลูก - กลุ่มพนั ธุ์กาแพงเพชร ๒ เจริญเติบโตดีในสภาพพ้นื ที่เป็ นดินทรายถึงดินลูกรัง แตกกอ18 ตน้ตอ่ กอ เส้นผา่ ศูนยก์ ลางกอ 8 เซนติเมตร สูง 94 เซนติเมตร แตกกอคอ่ นขา้ งหลวม หน่อกลมคอ่ นขา้ งเล็กยดื ปลอ้ งเร็ว ทรงพมุ่ กาง ใบสีเขียวเขม้ ทอ้ งใบสีขาว ดอกสีมว่ งแดง ออกดอกเม่ืออายปุ ระมาณคร่ึงเดือนหลงั จากปลูก ตน้ โตปลอ้ งไม่ตรง ใหน้ ้าหนกั สดสูง ใหค้ ุณค่าทางอาหารสัตวด์ ีกวา่ สายพนั ธุ์อ่ืน ๆ ท้งั ในดา้ นปริมาณโปรตีน วตั ถุแหง้ ท่ียอ่ ยได้ อายตุ ดั 4 สัปดาห์ (มีโปรตีน 5.2% น้าหนกั แหง้ )
9 - กลุ่มพนั ธุ์ศรีลงั กา เจริญเติบโตดีในสภาพพ้ืนท่ีเป็นดินลูกรัง อากาศหนาวเยน็ มีร่มเงาแตกกอ10 ตน้ ต่อกอ เส้นผา่ ศูนยก์ ลางกอ 11 เซนติเมตร สูง 101 เซนติเมตร แตกกอคอ่ นขา้ งหลวม หน่อกลมยดื ปลอ้ งเร็ว โคนกอเลก็ ใบแก่ค่อนขา้ งเล็ก ทอ้ งใบสีขาวนอ้ ยใกลเ้ คียงไปทางดา้ นใบหญา้ แฝกดอนดอกมีสีมว่ ง เร่ิมออกดอกเม่ืออายปุ ระมาณ 1 เดือน หลงั จากปลูกขยายพนั ธุ์ง่าย ในสภาพที่มีความช้ืนสูงแสงนอ้ ยจะไมต่ า้ นทานโรคโคนเน่า - กลุ่มพนั ธุ์สงขลา ๓ เจริญเติบโตดีในสภาพพ้ืนท่ีเป็นดินร่วนเหนียวทรายถึงลูกรัง แตกกอ 24ตน้ ต่อกอ เส้นผา่ ศูนยก์ ลางกอ 13 เซนติเมตร สูง 112 เซนติเมตร แตกกอหลวม หน่อกลมอวบ ยดื ปลอ้ งเร็ว ใบสีเขียวอ่อน ทอ้ งใบสีขาว ดอกสีม่วงแดง ออกดอกเม่ืออายปุ ระมาณ 1เดือนคร่ึงหลงั จากปลูก 2. หญ้าแฝกดอน มีถิ่นกาเนิดทางเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ในประเทศไทย ลาว เขมร เวยี ดนาม พบไดท้ วั่ ไปในที่ค่อนขา้ งแลง้ ลกั ษณะกอเป็นพุม่ สูงเตม็ ท่ีประมาณ 100-150 เซนติเมตร ปลายใบจะแผโ่ คง้ ลงคลา้ ยกอตะไคร้ ใบสีเขียวซีด เน้ือใบหยาบ ดูกร้านไมเ่ หลือบมนั ชาวพ้นื บา้ นใชเ้ ป็นวสั ดุมุงหลงั คา ช่อดอกสีขาวครีม สีมว่ ง รากไมม่ ีความหอมและส้ันกวา่ หญา้ แฝกลุ่ม โดยหยงั่ ลึกลงไปในดินประมาณ 80-100เซนติเมตร พนั ธุ์ท่ีกรมพฒั นาท่ีดินส่งเสริม ไดแ้ ก่ พนั ธุ์ราชบุรี ประจวบคีรีขนั ธ์ ร้อยเอด็ กาแพงเพชร ๑นครสวรรค์ และเลย - กลุ่มพนั ธุ์ราชบุรี เจริญเติบโตดีในสภาพพ้ืนที่เป็ นดินทรายถึงดินร่วนเหนียว แตกกอ32 ตน้ ต่อกอ เส้นผา่ ศูนยก์ ลางกอ 12 เซนติเมตร สูง 110 เซนติเมตร แตกกอแน่น ต้งั ตรง ใบสีเขียวออ่ น กาบใบออกสีน้าตาล เร่ิมออกดอกเมื่ออายปุ ระมาณ 1 เดือนหลงั จากปลูก เป็นสายพนั ธุ์ท่ีใหน้ ้าหนกั พชื สดดี - กลุ่มพนั ธุ์ประจวบคีรีขนั ธ์ เจริญเติบโตดีในสภาพพ้นื ท่ีเป็นดินร่วนเหนียวและลูกรัง แตกกอ26 ตน้ ต่อกอ เส้นผา่ ศูนยก์ ลางกอ 14 เซนติเมตร สูง 112 เซนติเมตร แตกกอแน่น หน่อใหญต่ ้งั ตรงใบหนาสีเขียวเขม้ ร่องโคนใบขาว กาบใบออกสีขาวนวล ออกดอกชา้ บางแห่งใน2 ปี แรกยงั ไม่ออกดอกหรือมีเปอร์เซ็นตอ์ อกดอกนอ้ ย ดอกสีมว่ งช่อดอกเลก็
10 - กลุ่มพนั ธุ์ร้อยเอด็ เจริญเติบโตดีในสภาพพ้นื ที่เป็นดินทราย แตกกอ 26 ตน้ ต่อกอเส้นผา่ ศูนยก์ ลางกอ 7 เซนติเมตร สูง 70 เซนติเมตร แตกกอแน่น ต้งั ตรง ใบสีเขียว ดอกสีน้าตาล เร่ิมออกดอกเมื่ออายปุ ระมาณคร่ึงเดือนหลงั จากปลูก - กลุ่มพนั ธุ์กาแพงเพชร ๑ เจริญเติบโตในสภาพพ้ืนที่เป็นดินทรายถึงดินร่วนเหนียวแตกกอ 34ตน้ ต่อกอ เส้นผา่ ศูนยก์ ลางกอ 12 เซนติเมตร สูง 106 เซนติเมตร แตกกอแน่น ต้งั ตรง ใบสีเขียวนวลกาบใบสีฟ้านวล ดอกสีม่วง เริ่มออกดอกเม่ืออายปุ ระมาณคร่ึงเดือนหลงั จากปลูก แปลงศึกษาทดลองเปรียบเทียบการเจริญเติบโต - กลุ่มพนั ธุ์นครสวรรค์ เจริญเติบโตในสภาพพ้นื ท่ีเป็ นดินทรายถึงร่วนเหนียว แตกกอ35 ตน้ ต่อกอ เส้นผา่ ศูนยก์ ลางกอ 13 เซนติเมตร สูง 108 เซนติเมตร การแตกกอแน่น ต้งั ตรง ใบสีเขียว กาบในสีชมพู ดอกสีมว่ ง เร่ิมออกดอกอายปุ ระมาณ 1 เดือนหลงั จากปลูก - กลุ่มพนั ธุ์เลย เจริญเติบโตดีในสภาพพ้ืนท่ีเป็นดินร่วนเหนียว แตกกอ 26 ตน้ ต่อกอเส้นผา่ ศูนยก์ ลางกอ 13 เซนติเมตร สูง 108 เซนติเมตร การแตกกอแน่น ต้งั ตรง ใบสีเขียว กาบใบสีชมพูดอกสีมว่ งเริ่มออกดอกอายปุ ระมาณ 1 เดือนหลงั จากปลูก
112.4 พนั ธ์ุหญ้าแฝกทเี่ หมาะสมกบั เนื้อดิน พืน้ ทดี่ ินทราย -หญา้ แฝกดอน 4 กลุ่มพนั ธุ์ คือ นครสวรรค,์ กาแพงเพชร ๑, ร้อยเอด็ และราชบุรี -หญา้ แฝกหอม 2 กลุ่มพนั ธุ์ คือ กาแพงเพชร ๒ และสงขลา ๓ พืน้ ทด่ี ินร่วน – เหนียว -หญา้ แฝกดอน 5 กลุ่มพนั ธุ์ คือ เลย, นครสวรรค,์ กาแพงเพชร ๑, ราชบุรี และ ประจวบคีรีขนั ธ์ -หญา้ แฝกหอม 2 กลุ่มพนั ธุ์ คือ สุราษฎร์ธานี และสงขลา ๓ พืน้ ทดี่ ินลกู รัง -หญา้ แฝกดอน 2 กลุ่มพนั ธุ์ คือ เลย และประจวบคีรีขนั ธ์ -หญา้ แฝกหอม 4 กลุ่มพนั ธุ์ คือ ศรีลงั กา, กาแพงเพชร ๒, สุราษฎร์ธานี และสงขลา ๓2.5 พนั ธ์ุหญ้าแฝกทเี่ หมาะสมกบั สภาพพืน้ ท่ี - ภาคเหนือ กลุ่มพนั ธุ์ที่เหมาะสมคือ ศรีลงั กา นครสวรรค์ และกาแพงเพชร ๑ - ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ กลุ่มพนั ธุ์ที่เหมาะสมคือ ร้อยเอด็ และสงขลา ๓ - ภาคกลางและภาคตะวนั ออก กลุ่มพนั ธุ์ท่ีเหมาะสมคือ ประจวบคีรีขนั ธ์ ราชบุรีกาแพงเพชร ๑กาแพงเพชร ๒ สุราษฎร์ธานี และสงขลา ๓ ท่ีสามารถข้ึนไดใ้ นสภาพดินเคม็ คือ ราชบุรีประจวบคีรีขนั ธ์ - ภาคใตก้ ลุ่มพนั ธุ์ท่ีเหมาะสมคือ สงขลา ๓ และสุราษฎร์ธานี หญา้ แฝกหอม กลุ่มพนั ธุ์ศรีลงั กา
122.6 ลกั ษณะพเิ ศษของหญ้าแฝก 1. มีการแตกหน่อรวมเป็ นกอ เบียดกนั แน่น ไมแ่ ผข่ ยายดา้ นขา้ ง 2. มีการแตกหน่อและใบใหม่ ไมต่ อ้ งดูแลมาก 3. หญา้ แฝกมีขอ้ ท่ีลาตน้ ถี่ ขยายพนั ธุ์โดยใชห้ น่อไดต้ ลอดปี 4. ส่วนใหญ่ไมข่ ยายพนั ธุ์ดว้ ยเมล็ด ทาใหค้ วบคุมการแพร่ขยายได้ 5. มีใบยาว ตดั และแตกใหมง่ ่าย แขง็ แรงและทนต่อการยอ่ ยสลาย 6. ระบบรากยาว สานกนั แน่น และช่วยอุม้ น้า 7. บริเวณรากเป็ นท่ีอาศยั ของจุลินทรีย์ 8. ปรับตวั กบั สภาพต่าง ๆ ไดด้ ี ทนทานต่อโรคพืชทว่ั ไป 9. ส่วนที่เจริญต่ากวา่ ผวิ ดิน ช่วยใหอ้ ยรู่ อดไดด้ ีในสภาพต่าง ๆ รูปท่ี 1 ลกั ษณะของหญา้ แฝกท่ีมา: โครงการพระราชดาริหญ้าแฝก (หนา้ 8). โดย ฝ่ ายวชิ าการสถาพรบุค๊ ส์, 2560, กรุงเทพฯ: สถาพรบุค๊ ส์.
132.7 การขยายพนั ธ์ุหญ้าแฝก การขยายแม่พนั ธุ์ คือ การนาแมพ่ นั ธุ์หญา้ แฝกที่มีลกั ษณะดีมาทาการขยายเพ่ิมปริมาณท้งั การปลูกลงดิน ปลูกลงถุงพลาสติกขนาดใหญ่ หรือการเพาะเล้ียงเน้ือเยื่อ ส่วนการขยายพนั ธุ์กลา้ หญา้ แฝกคือการนาหน่อที่ไดจ้ ากการขยายแม่พนั ธุ์มาเพาะชา เพือ่ นาไปปลูกในพ้นื ที่ ไดแ้ ก่ กลา้ ในถุงพลาสติกขนาดเลก็ และกลา้ หญา้ แฝกแบบรากเปลือย ซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ี 1.การขยายแม่พนั ธ์ุหญ้าแฝก 1.1 การขยายพนั ธุ์ในแปลงขนาดใหญ่ เหมาะสมกบั พ้นื ที่ท่ีมีการชลประทานและระบายน้าดี สามารถปลูกเป็นแปลงขนาดใหญ่ โดยไมต่ อ้ งยกร่องกไ็ ด้ การเตรียมตน้ พนั ธุ์โดยแยกหน่อจากกอนามาตดั ใบใหเ้ หลือความยาว 20 เซนติเมตร และตดั รากใหส้ ้นั แช่ในระดบั น้าสูง 5 เซนติเมตร เป็นระยะเวลา 5 - 7 วนั รากจะแตกออกมาใหม่นาไปปลูกโดยใชร้ ะยะปลูกห่างตน้ 5 เซนติเมตร และระหวา่ งแถว 50 เซนติเมตร หลงั จากปลูกตอ้ งใหน้ าอยา่ งสม่าเสมอ เมื่ออายไุ ด้ 1 เดือน ใส่ป๋ ุยสูตร 15-15-15 ตน้ ละ 1 ชอ้ นชา เมื่อถึงอายุ 4 - 6 เดือน ใหข้ ดุ น้าไปเพาะชาในถุงพลาสติก หรือเตรียมเป็นกลา้ รากเปลือยสาหรับใชป้ ระโยชน์ไดต้ อ่ ไป 1.2 การขยายพนั ธุ์ในถุงพลาสติกขนาดใหญ่ โดยวางเป็นแถวคู่ติดกนั ระยะห่างระหวา่ งแถวคู่ 1 เมตร ยาวตามพ้ืนท่ีใชว้ สั ดุปลูกที่มีการระบายน้าดี เช่น ดินร่วนทราย และข้ีเถา้ แกลบ หรือขยุมะพร้าว ในสัดส่วน 1:2:1 การติดต้งั ระบบน้าพน่ ฝอย หรือมีตาขา่ ยพรางแสง นาหน่อมาปักชาดูแลจนกระทง่ั อายุ 4 เดือน จึงนาไปแยกหน่อเพาะชาต่อไป 2.การขยายกล้าหญ้าแฝกสาหรับใช้ปลูก 2.1 การเตรียมกลา้ หญา้ แฝกในถุง โดยตดั รากใหส้ ้นั และแยกหน่อจากกอตดั ใบใหย้ าว 10เซนติเมตร นามาลา้ งน้า มดั รวมกนั วางลงบนขยุ มะพร้าวที่ช้ืน หรือแช่ในระดบั น้าสูง 5 เซนติเมตร ในที่ร่มเงา 4 วนั แลว้ จึงคดั หน่อท่ีออกรากมาปักชาในถุงพลาสติกขนาดเล็ก (2x6 นิ้ว) และใส่วสั ดุเพาะชาที่ระบายน้าดีมีธาตุอาหารสมบูรณ์ ดูแลรดน้าในสภาพเรือนเพาะชา เม่ืออายุ 45 - 60 วนั ใหน้ าไปปลูกในพ้ืนที่ขณะท่ีดินมีความช้ืน
14 2.2 การเตรียมกลา้ หญา้ แฝกแบบรากเปลือย โดยการแยกหน่อจากกอ ตดั ใบใหย้ าว 20เซนติเมตร ตดั รากใหส้ ้นั วางบนขยุ มะพร้าวท่ีช้ืน หรือแช่ในน้าใหท้ ่วมราก จนกระทงั่ รากงอกข้ึนมายาว1-2 เซนติเมตร นานประมาณ 5 - 7 วนั จึงนาไปปลูกในช่วงตน้ ฤดูฝน และหลงั จากปลูกดินควรมีความช้ืนติดต่อกนั อยา่ งนอ้ ย 15 วนั2.8 การเตรียมกล้าและดินเพื่อปลูกหญ้าแฝก 1. การกาจดั วชั พืชและเตรียมพ้นื ที่ 2. การปลูกหญา้ แฝกในช่วงตน้ ฤดูฝน พ้นื ที่ปลูกตอ้ งมีความชุ่มช้ืน 3. การเตรียมแนวร่องปลูก โดยการวางแนวร่องปลูกขวางความลาดชดั ตามแนวระดบั ขนานไปตามสภาพพ้ืนที่ 4. การใส่ป๋ ุยหมกั รองกนั หลุมในแนวร่องปลูก เพอ่ื เพ่มิ ความอุดมสมบูรณ์แก่ดิน 5. การปลูกกลา้ หญา้ แฝกในแปลงปลูก โดยการใชก้ ลา้ เพาะชาถุงขนาดเล็ก ใชร้ ะยะปลูก 10เซนติเมตร หรือกลา้ รากเปลือยใชร้ ะยะปลูก 5 เซนติเมตร 6. ความห่างของแถวหญา้ แฝกแตล่ ะแถว ข้ึนกบั ความลาดเทของพ้ืนท่ี และชนิดของพ้ืนท่ีปลูกโดยขอคาแนะนาเพ่ิมเติมจากเจา้ หนา้ ที่ แต่โดยทว่ั ไปจะใชร้ ะยะห่างทางแนวดิ่ง 1.5 - 3 เมตร 7. กลบดินในร่องปลูกใหต้ ่ากวา่ ระดบั ผวิ ดินปกติ เพื่อใหน้ ้าขงั และซึมลงดินได้ ช่วยใหด้ ินชุ่มช้ืนข้ึน 8. ควรปลูกซ่อมแซมใหไ้ ดแ้ นวร้ัวหญา้ แฝกท่ีเป็นแนวยาวตอ่ เนื่อง
152.9 การดูแลรักษาหญ้าแฝก 1. การคดั เลือกกลา้ ที่มีคุณภาพ กลา้ หญา้ แฝกที่มีคุณภาพโดยทว่ั ไปเป็นกลา้ ท่ีมีอายุ 45 ถึง 60วนั เมื่อนากลา้ ท่ีแขง็ แรงมาปลูกกจ็ ะไดแ้ นวร้ัวหญา้ แฝก ท่ีมีการเจริญเติบโตแขง็ แรงอยา่ งสม่าเสมอ 2. การเลือกช่วงเวลาปลูก การปลูกหญา้ แฝกในช่วงตน้ ฤดูฝนจะเหมาะสมท่ีสุด สภาพของดินท่ีปลูกในช่วงตน้ ฤดูฝนจะมีความชุ่มช้ืนสูงติดต่อกนั มากกวา่ 15 วนั ข้ึนไป 3. การตดั ใบ ในช่วงตน้ ฤดูฝนใหต้ ดั ใบหญา้ แฝกใหส้ ้ัน สูงจากพ้นื ผวิ 5 เซนติเมตร เพ่ือใหเ้ กิดการแตกหน่อใหม่ และกาจดั หน่อแก่ท่ีแหง้ ตาย ในช่วงกลางฤดูฝนใหเ้ กี่ยวใบสูง ไมต่ ่ากวา่ 45เซนติเมตร เพื่อใหม้ ีแนวกอที่หนาแน่นในการรับแรงปะทะของน้าไหลบา่ และในช่วงปลายฤดูฝน เก่ียวใบใหส้ ้นั 5 เซนติเมตร อีกคร้ังเพอื่ ใหห้ ญา้ แฝกแตกใบเขียว ในฤดูแลง้ 4. การดูแลรักษาตามความเหมาะสม ในตน้ ฤดูฝนใหใ้ ส่ป๋ ุยหมกั ตามแถวหญา้ แฝกกจ็ ะเป็นการช่วยใหห้ ญา้ แฝกมีการเจริญเติบโตดีข้ึน และกาจดั วชั พืชขา้ งแนวจะเป็ นการช่วยใหส้ งั เกตแนวหญา้ แฝกไดช้ ดั เจน ช่วยใหห้ ญา้ แฝกเจริญเติบโตไดอ้ ยา่ งเตม็ ที่ และเพ่ือป้องกนั การไถแนวทิ้งเน่ืองจากสังเกตไม่เห็น 5. การปลูกซ่อมและแยกหน่อแก่ออก การปลูกซ่อมแซมในช่วงฤดูฝนจะทาใหไ้ ดแ้ นวร้ัวหญา้แฝกที่แขง็ แรง และควรตดั แยกหน่อแก่ท่ีออกดอก หรือแห้งออกไป เพ่ือจะใหห้ น่อใหม่ไดแ้ ทรกข้ึนมาไดอ้ ยา่ งเตม็ ที่
162.10รูปแบบการปลูกหญ้าแฝกตามหลกั วชิ าการ เพอื่ ใหก้ ารดาเนินการปลูกหญา้ แฝกตามโครงการน้ีมีรูปแบบท่ีชดั เจน จึงไดม้ ีการกาหนดรูปแบบการปลูกท่ีสามารถนาไปปฏิบตั ิในพ้นื ท่ีได้ ซ่ึงประกอบดว้ ย 1. การปลูกในระบบอนุรักษ์ดินและนา้ การปลูกหญา้ แฝกเป็ นแถวเดี่ยวขวางความลาดชนั ของพ้ืนที่ ถา้ ใชก้ ลา้ แบบรากเปลือยจะปลูกระยะระหวา่ งตน้ 5 เซนติเมตร ถา้ เป็นกลา้ ถุงพลาสติก ใชร้ ะยะปลูกระหวา่ งตน้ 10 เซนติเมตร โดยปลูกหญา้แฝกเป็นแถวตามแนวระดบั ใหม้ ีระยะห่างระหวา่ งแถว ตามแนวดิ่งไมเ่ กิน 2 เมตร ความยาวของแถวหญา้ แฝกข้ึนกบั สภาพพ้นื ท่ี และพ้ืนที่วา่ งระหวา่ งแถวหญา้ แฝกจะเป็นพ้ืนที่ปลูกพชื หลกั 2. สระนา้ ปลกู 2 แถว - แถวท่ี 1 ปลูกห่างขอบบ่อ 50 เซนติเมตร จนรอบบ่อ - แถวท่ี 2 ปลูกท่ีระดบั ทางน้าเขา้ จนรอบบ่อ 3. อ่างเกบ็ นา้ ปลกู 3 แถว - แถวท่ี 1 ปลูกท่ีระดบั ทางน้าลน้ จนรอบอ่าง ยกเวน้ บริเวณคนั หรือสันอา่ งเก็บน้า - แถวท่ี 2 ปลูกที่ระดบั สูงกวา่ แถวที่ 1 ตามแนวต้งั 20 เซนติเมตร จนรอบอา่ ง ยกเวน้บริเวณคนั หรือสันอ่างเก็บน้า - แถวที่ 3 ปลูกที่ระดบั ต่ากวา่ แถวที่ 1 ตามแนวด่ิง 20 เซนติเมตร จนรอบอ่าง ยกเวน้บริเวณคนั หรือสันอ่างเกบ็ น้า 4. ปลูกริมคลองส่งนา้ 1 แถว ห่างขอบคลองส่ง 30 เซนตเิ มตร 5. ปลกู บนร่องสวน 1 แถว ห่างขอบแปลง 30 เซนตเิ มตร 6. ปลกู อยู่บนไหล่ถนน 1 แถว สาหรับถนนหรือทางลาเลยี ง 7. ปลูกครึ่งวงกลมล้อมต้นไม้
17 - ตน้ ไมข้ นาดเล็ก รัศมีขนาด 1 เมตร เป็นระยะทาง 3 เมตร - ตน้ ไมข้ นาดกลาง รัศมีขนาด 2 เมตร เป็ นระยะทาง 6 เมตร - ตน้ ไมข้ นาดใหญ่ รัศมีขนาด 3 เมตร เป็ นระยะทาง 9 เมตร 8. ปลกู วงกลมล้อมต้นไม้ - ตน้ ไมข้ นาดเลก็ รัศมีขนาด 1 เมตร เป็นระยะทาง 6 เมตร - ตน้ ไมข้ นาดกลาง รัศมีขนาด 2 เมตร เป็ นระยะทาง 12 เมตร - ตน้ ไมข้ นาดใหญ่ รัศมีขนาด 3 เมตร เป็ นระยะทาง 18 เมตร การปลูกหญา้ แฝกทุกคร้ังจะตอ้ งปลูกใหต้ น้ ชิดติดกนั เป็นแถว ไมว่ า่ จะเป็นกรณีแถวตรงหรือแถวโคง้ รอบตน้ ไมก้ ็ตาม ถา้ ใชก้ ลา้ ถุงมีระยะปลูกระหวา่ งตน้ 10 เซนติเมตร และกลา้ รากเปลือยระยะปลูก 5เซนติเมตร
182.11 ศูนย์สาธติ การพฒั นาและรณรงค์การใช้หญ้าแฝกด้านป่ าไม้ศูนยส์ าธิตการพฒั นาและรณรงคก์ ารใชห้ ญา้ แฝกดา้ นป่ าไม้ ท่ี 1 (จงั หวดั เชียงใหม่)บา้ นโป่ งแยงใน หมู่ 1 อาเภอแมร่ ิม จงั หวดั เชียงใหม่ศูนยส์ าธิตการพฒั นาและรณรงคก์ ารใชห้ ญา้ แฝกดา้ นป่ าไม้ ที่ 2 (จงั หวดั สุโขทยั )บา้ นยางตอย หมู่ท่ี 22 ตาบลแมส่ ิน อาเภอศรีสชั นาลยั จงั หวดั สุโขทยัศูนยส์ าธิตการพฒั นาและรณรงคก์ ารใชห้ ญา้ แฝกดา้ นป่ าไม้ ที่ 3 (จงั หวดั สุรินทร์)บา้ นนาสวน หมูท่ ่ี 4 ตาบลจรัส อาเภอบวั เชด จงั หวดั สุรินทร์ศูนยส์ าธิตการพฒั นาและรณรงคก์ ารใชห้ ญา้ แฝกดา้ นป่ าไม้ ที่ 4 (จงั หวดั กาญจนบุรี)บา้ นหว้ ยสมจิต หมูท่ ี่ 5 ตาบลสหกรณ์นิคม อาเภอทองผาภูมิ จงั หวดั กาญจนบุรีศูนยส์ าธิตการพฒั นาและรณรงคก์ ารใชห้ ญา้ แฝกดา้ นป่ าไม้ ท่ี 5 (จงั หวดั สงขลา)บา้ นนาโรย หมูท่ ี่ 6 ตาบลทุง่ หมอ อาเภอสะเดา จงั หวดั สงขลาศูนยส์ าธิตการพฒั นาและรณรงคก์ ารใชห้ ญา้ แฝกดา้ นป่ าไม้ ท่ี 6 (จงั หวดั ขอนแก่น)บา้ นท่าพระยาณรงคต์ าบลศรีสุขสาราญ อาเภออุบลรัตน์ จงั หวดั ขอนแก่นวตั ถุประสงค์ของการจัดต้ังศูนย์สาธิตการพฒั นาและรณรงค์การใช้หญ้าแฝกด้านป่ าไม้ 1. เพ่อื สาธิตการนา้ หญา้ แฝกมาใชใ้ นกิจกรรมการอนุรักษด์ ินและน้าโดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในพ้ืนท่ีรับผดิ ชอบของกรมอุทยานแห่งชาติ สตั วป์ ่ า และพนั ธุ์พืช 2. จดั ทา้ แปลงรวบรวมสายพนั ธุ์หญา้ แฝก เพ่ือใชใ้ นการศึกษาหาความเหมาะสมที่จะใชใ้ นแต่ละสภาพพ้ืนท่ี 3. สาธิตการทา้ แนวกนั ไฟโดยใชห้ ญา้ แฝก
19 4. เป็นแหล่งเรียนรู้ของเจา้ หนา้ ที่ ประชาชน และเยาวชนในเร่ืองประโยชน์ของหญา้ แฝกดา้ นป่ าไมใ้ นรูปแบบต่าง ๆ 5. ศึกษาวจิ ยั ถึงความเป็นไปไดข้ องการนา้ หญา้ แฝกมาใชใ้ นกิจกรรมการอนุรักษด์ ินและน้าโดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในพ้ืนที่สูง ซ่ึงเป็นแหล่งตน้ น้าลาธารภารกจิ ของศูนย์ 1. สาธิตกิจกรรมเก่ียวกบั การใชห้ ญา้ แฝกดา้ นป่ าไม้ เพอ่ื การศึกษาดูงานแบบครบวงจร 2. ศึกษา วจิ ยั สร้างองคค์ วามรู้ พฒั นากระบวนการเรียนรู้เก่ียวกบั การใชห้ ญา้ แฝกดา้ นป่ าไม้ 3. อบรมใหค้ วามรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยดี า้ นการใชห้ ญา้ แฝกใหก้ บั ขา้ ราชการ เจา้ หนา้ ที่ภาคสนามผนู้ า้ ชุมชนเยาวชน นกั เรียน นกั ศึกษา และผสู้ นใจทวั่ ไป 4. รณรงคส์ ่งเสริมและเผยแพร่ประชาสัมพนั ธ์ สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนใหเ้ ห็นคุณค่าของหญา้ แฝก 5. ประสานงานเก่ียวกบั กิจกรรมหญา้ แฝกกบั หน่วยงานภายในและภายนอก ตลอดจนองคก์ รต่าง ๆ ที่เกี่ยวขอ้ งด้านการศึกษาวจิ ัย - ศึกษาการใชห้ ญา้ แฝกเพื่อลดการชะลา้ งพงั ทลาย - ศึกษาประสิทธิภาพของการปลูกหญา้ แฝกบนไหล่ถนน - ศึกษาประสิทธิภาพของการปลูกหญา้ แฝกเป็นฝายตน้ น้า - ศึกษาสายพนั ธุ์หญา้ แฝกท่ีทนร่มเงา - ศึกษาชนิดสายพนั ธุ์ท่ีเหมาะสมในพ้นื ท่ีตน้ น้าด้านการสาธิตและส่ งเสริมการใช้ หญ้าแฝก - การปลูกหญา้ แฝกเป็นแนวกนั ไฟป่ า
20 - การปลูกหญา้ แฝกป้องกนั แนวตล่ิงและควบคุมร่องน้า - การปลูกหญา้ แฝกขวางร่องน้าเป็นรูปวคี ว่า - การปลูกหญา้ แฝกเป็นฝายตน้ น้า - การปลูกหญา้ แฝกเพื่อป้องกนั การพงั ทลายในพ้ืนท่ีป่ า - การปลูกหญา้ แฝกบนไหล่ถนนป่ าไม้ - การปลูกหญา้ แฝกรอบอา่ งเก็บน้า - การปลูกหญา้ แฝกเพอ่ื สาธิตระบบราก - การปลูกหญา้ แฝกเพื่อปรับปรุงภูมิทศั น์ - การปลูกหญา้ แฝกเพื่อรวบรวมพนั ธุ์หญา้ แฝก ๒๘ สายพนั ธุ์ - จดั ทา้ แปลงเพาะกลา้ หญา้ แฝกเพื่อแจกจา่ ย - ส่งเสริมและสนบั สนุนการใชห้ ญา้ แฝกใหก้ บั ชุมชน - ส่งเสริมและสนบั สนุนเป็นแหล่งเรียนรู้การใชห้ ญา้ แฝกนกั เรียนด้านการรณรงค์และเผยแพร่ประชาสัมพนั ธ์ - การจดั ทา้ ทางเดินศึกษาพร้อมป้ายส่ือความหมาย - การจดั ทา้ หอ้ งสาธิตและนิทรรศการใหค้ วามรู้ - การฝึกอบรมเก่ียวกบั หญา้ แฝกใหก้ บั ขา้ ราชการ - ผนู้ า้ ชุมชน เกษตรกร และเยาวชน ฯลฯ - การจดั ทา้ เอกสารเผยแพร่และสื่อประชาสมั พนั ธ์ - การจดั กิจกรรมเก่ียวกบั หญา้ แฝกร่วมกบั ชุมชนในวนั สาคญั ตา่ ง ๆ
212.12 การใช้ประโยชน์จากหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและนา้ 1. การปลูกเป็นแถวตามระดบั ขวางความลาดชนั เพ่ือชะลอความเร็วของน้า และดกั ตะกอนดินส่วนน้าจะไหลซึมลงไปสู่ดินช้นั ล่างไดม้ ากข้ึน เป็นการเพิ่ม ความชุ่มช้ืนในดิน ส่วนรากหญา้ แฝกจะหยง่ั ลึกลงไปในดินอาจถึง 3 เมตร ซ่ึงสามารถยดึ ดินป้องกนั การพงั ทลายได้ 2. การปลูกเพอ่ื แกป้ ัญหาการพงั ทลายของดินเป็นร่องน้าลึก 3. การปลูกในพ้นื ท่ีที่มีความลาดชนั โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคใต้ ใหป้ ลูกหญา้ แฝกเป็นแนวร้ัวบริเวณคนั คูขอบเขา หรือริมข้นั บนั ไดดินดา้ นนอก โดยควรปลูกเป็นแถวตามแนวขวางความลาดเทในตน้ ฤดูฝน 4. การปลูกเพอื่ การอนุรักษค์ วามชุ่มช้ืนในดิน โดยปลูกแถวหญา้ แฝกขนานไปกบั แถวของไม้ผล ปลูกแบบวงกลมรอบไมผ้ ล และปลูกแบบคร่ึงวงกลมหงายรับน้าฝน 5. การปลูกเพื่อป้องกนั การเสียหายของข้นั บนั ไดดินหรือคนั คูรับน้ารอบเขา 6. การปลูกเพอื่ ป้องกนั ตะกอนดินทบั ถมลงสู่คลองส่งน้า ระบายน้า อ่างเก็บน้าในไร่นาตลอดจนปลูกรอบสระ หรือปลูกเป็นแถวขนานไปกบั แม่น้า ลาคลองเพ่อื กรองตะกอนดิน 7. การปลูกเพ่อื ฟ้ื นฟูท่ีดินเสื่อมโทรม 8. การปลูกเพือ่ ป้องกนั การพงั ทลายของไหล่ถนนที่ลาดชนั สูง โดยปลูกหญา้ แฝกเพ่อื ยดึ ดินและเบ่ียงเบนทางน้าไหลบริเวณไหล่ทาง และปลูกขวางแนวลาดเท เพื่อป้องกนั การพงั ทลายและเล่ือนไหลของดิน 9. การปลูกในพ้ืนท่ีดินดาน รากหญา้ แฝกสามารถหยง่ั ลึกลงไปในดินดาน ทาให้ดินแตกร่วนข้ึนและหนา้ ดินจะมีความช้ืนเพ่ิมข้ึน 10. การปลูกเพ่ือป้องกนั การปนเป้ื อนของสารพษิ ในแหล่งน้า รากหญา้ แฝกจะเป็ นกาแพงกกั ก้นัดินและสารพิษที่ปะปนมากบั น้าไม่ใหไ้ หลลงสู่แหล่งน้าเบ้ืองล่างและรากยงั มีประสิทธิภาพในการดูดซบั ธาตุโลหะหนกั และสารเคมีบางอยา่ งไดด้ ีกวา่ พืชชนิดอ่ืน
222.13 ประโยชน์เอนกประสงค์อ่ืน ๆ ของหญ้าแฝก1. ปลูกหญา้ แฝกบนคนั นา เพอื่ ใหค้ นั นาคงสภาพอยไู่ ดน้ าน 2. ปลูกหญา้ แฝกเพื่อใชป้ ระโยชนม์ ุงหลงั คา ตบั หลงั คาท่ีทาจากหญา้ แฝกสามารถผลิตจาหน่ายได้ ส่วนรากที่มีความหอมน้นั คนไทยรุ่นเก่าเคยนามาแขวนในตูเ้ ส้ือผา้ ทาใหม้ ีกลิ่นหอมและช่วยไล่แมลงท่ีจะทาลายเส้ือผา้ ได้ 3. หญา้ แฝกมีสรรพคุณช่วยขบั ลมในลาไส้ แกอ้ าการทอ้ งอืดเฟ้อ และแกไ้ ขไ้ ด้ ส่วนรากสามารถนามาสกดั ทาน้ามนั ที่มีประโยชน์และคุณค่าทางการคา้ ได้ อาทิเช่น ฝร่ังเศสผลิตน้าหอมจากรากหญา้ แฝก ช่ือ “Vetiver”
232.14การปลูกหญ้าแฝกในพืน้ ทีเ่ กษตรกรรม สาหรับการปลูกหญา้ แฝกในพ้นื ที่เกษตรกรรมมีจุดประสงคท์ ่ีสาคญั เพื่อการฟ้ื นฟูทรัพยากรดินและการอนุรักษด์ ินและน้า ซ่ึงประกอบดว้ ย 1.การปลกู หญ้าแฝกในพืน้ ทล่ี าดชัน ควรปลูกหญา้ แฝกเป็นแถวตามแนวระดบั ขวางความลาดเทในตน้ ฤดูฝน โดยการทาแนวร่องปลูกตามแนวระดบั ใชร้ ะยะระหวา่ งตน้ 5 เซนติเมตร สาหรับกลา้ รากเปลือยและระยะ 10เซนติเมตร สาหรับกลา้ ถุง ระยะห่างแถวตามแนวด่ิงไม่เกิน 2 เมตร หญา้ แฝกจะเจริญเติบโตแตกกอชิดกนั ภายใน 4 - 6 เดือน 2. การปลูกเพื่อควบคุมร่องนา้ และกระจายนา้ นากลา้ หญา้ แฝกในถุงพลาสติกท่ีมีการแตกกอ และแขง็ แรงดีแลว้ ไปปลูกในร่องน้า โดยขดุ หลุมปลูกขวางร่องน้า เป็ นแนวตรง หรือแนวหวั ลูกศรช้ียอ้ นไปทิศทางน้าไหล อาจใชก้ ระสอบทรายหรือกอ้ นหิน ช่วยทาคนั เสริมฐานใหม้ น่ั คงตามแนวปลูกหญา้ แฝก ระยะห่างระหวา่ งตน้ 5 เซนติเมตรสาหรับกลา้ รากเปลือย และ 10 เซนติเมตร สาหรับกลา้ ถุง และระหวา่ งแนวปลูกหญา้ แฝกไม่เกิน 2 เมตรตามแนวต้งั หลงั จากเกิดคนั ดินก้นั น้า ควรปลูกหญา้ แฝกต่อจากแนวคนั ดินก้นั น้าออกไปท้งั สองขา้ ง เพื่อเป็นการกระจายน้าเขา้ สู่พ้นื ที่เพาะปลูก 3. การปลกู เพื่อรักษาความชุ่มชื้นในสวนผลไม้ ควรปลูกหญา้ แฝกในสวนผลไม้ ระยะที่ไมผ้ ลยงั ไมโ่ ต หรือปลูกก่อนท่ีจะลงไมผ้ ล โดยปลูกแถวหญา้ แฝกขนานไปกบั แถวของไมผ้ ลที่ระยะก่ึงกลางของแถวไมผ้ ล หรือปลูกเป็ นรูปคร่ึงวงกลมใหห้ ่างจากโคนตน้ ไมผ้ ล 2.5 เมตร เพือ่ ไมผ้ ลเจริญเติบโตข้ึนมาคลุมพ้นื ที่ หญา้ แฝกจะตายไปกลายเป็นอินทรียวตั ถุในดินตอ่ ไป 4. การปลกู หญ้าแฝกในพืน้ ทด่ี อนทป่ี ลกู พืชไร่ การปลูกหญา้ แฝกตามแนวระดบั ในพ้ืนท่ีดอนท่ีปลูกพืชไร่ โดยการขดุ ร่องปลูกตามแนวระดบั ระยะห่างระหวา่ งตน้ 5 เซนติเมตร สาหรับกลา้ รากเปลือย และ 10 เซนติเมตร สาหรับกลา้ ถุง ควร
24ใชป้ ๋ ุยหมกั รองพ้ืนก่อนปลูกหญา้ แฝก หรือปลูกหญา้ แฝกเป็นแนะระหวา่ งแถวปลูกพืชไร่ และควรปลูกในสภาพดินท่ีมีความชุ่มช้ืน ในช่วงตน้ ฤดูฝน 5. การปลกู หญ้าแฝกในพืน้ ทรี่ าบหรือพืน้ ทลี่ ุ่ม ในสภาพพ้นื ที่ราบหรือพ้ืนที่ลุ่ม ที่มีการปรับสภาพเป็นแปลงยกร่องเพือ่ ปลูกพชื น้นัสามารถปลูกหญา้ แฝกเป็นแถวรอบขอบเขตพ้นื ที่ หรือปลูกที่ขอบแปลงยกร่องหญา้ แฝก จะช่วยยดึ ดินไม่ใหพ้ งั ทลาย และรักษาความช้ืนในดินเอาไว้ 6. การปลูกรอบขอบสระเพื่อกรองตะกอนดนิ ควรปลูกตามแนวที่ระดบั น้าสูงสุดทว่ มถึง 1 แนว และปลูกเพิ่มข้ึนอีก 1 - 2 แนวเหนือแนวแรก ซ่ึงข้ึนอยกู่ บั ความลึกของขอบสระ ระยะห่างระหวา่ งตน้ 5 เซนติเมตร สาหรับกลา้ รากเปลือย และ10 เซนติเมตร สาหรับกลา้ ถุง โดยขดุ หลุมปลูกตอ่ เน่ืองกนั ไป ในระยะแรกควรดูแลปลูกซ่อมแซมให้แถวหญา้ แฝกเจริญเติบโตหนาแน่น เมื่อน้าไหลบ่ามาลงสระ ตะกอนดินท่ีถูกพดั พามากบั น้า จะติดคา้ งอยกู่ บั แถวหญา้ แฝก ส่วนน้าจะ ค่อย ๆ ไหลผา่ นลงสู่สระ และระบบรากของหญา้ แฝกยงั ช่วยยดึ ติดดินรอบ ๆ ขอบสระไม่ใหเ้ กิดการพงั ทลาย
252.15 แนวพระราชดาริเกย่ี วกบั การปลูกหญ้าแฝกเพ่ืออนุรักษ์ดนิ และนา้ พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงงานเก่ียวกบั หญา้ แฝกอยา่ งจริงจงัตอ่ เน่ืองนบั สิบปี เร่ิมข้ึนในช่วง พ.ศ.2534-2536 มีการคน้ ควา้ ทดลอง วจิ ยั เพ่ือนาหญา้ แฝกมาปลูกตามสภาพพ้ืนที่ดว้ ยวธิ ีการปลูกท่ีเหมาะสม เช่น ปลูกขวางแนวลาดภูเขากนั ดินทลาย ปลูกรอบแหล่งน้าเพ่ือกรองมลภาวะในน้า หรือ ปลูกเป็นแนวกนั ไฟป่ าพ.ศ.2535 ในระหวา่ งเสด็จพระราชดาเนินไปทรงงานที่จงั หวดั เชียงใหม่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดชมีพระราชดารัสใหก้ องบญั ชาการตารวจตระเวนชายแดนนาหญา้ แฝกไปปลูกตามฐานปฏิบตั ิการ และหมู่บา้ นใกลเ้ คียงและท่ีโครงการหลวง ซ่ึงรวบรวมพนั ธุ์พ้นื เมืองทว่ั ประเทศไทยและตา่ งประเทศในปี เดียวกนั น้ีไดท้ รงอธิบายเร่ืองระบบรากหญา้ แฝกท่ีหยง่ั ลึกปราการธรรมชาติที่มีชีวติ และคุณสมบตั ิอ่ืน ๆ ของหญา้ แฝกอีกหลายโอกาส เช่น วนั ท่ี 14 มีนาคม พ.ศ.2535 ท่ีศูนยศ์ ึกษาพฒั นาหว้ ยฮ่องไคร้อนั เนื่องมาจากพระราชดาริ ทรงอธิบายเร่ืองหญา้ แฝกกกั เกบ็ ก๊าซไนโตรเจนและกาจดั สารพษิ ไมใ่ หไ้ หลลงแหล่งน้า ที่โครงการหลวงแมล่ านอ้ ย จงั หวดั แม่ฮ่องสอน ทรงแนะนาใหช้ าวไทยภูเขาเผา่ มง้ ปลูกหญา้แฝกระหวา่ งแถวกะหล่าปลี วนั ท่ี 8 มิถุนายน พ.ศ.2535 ที่เขาชะงุม้ จงั หวดั ราชบุรี มีพระราชดาริใหท้ ดลองปลูกหญา้ แฝกเพอ่ื ควบคุมหญา้ คาระบาด วนั ท่ี 14 พฤษภาคม พ.ศ.2535 ท่ีพระตาหนกั จิตรลดารโหฐาน พระราชวงั ดุสิต มีพระราชดารัสแก่คณะรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้เร่งปลูกหญา้ แฝกทวั่ ประเทศไทยภายใน 2 ปีเพอ่ื ป้องกนั ปัญหาดินทลาย ทรงเนน้ เรื่องการคดั พนั ธุ์หญา้ แฝกท่ีไม่สามารถขยายดว้ ยเมลด็พ.ศ.2536 เกิดแผนแมบ่ ทการพฒั นาและรณรงคก์ ารใชห้ ญา้ แฝกอนั เน่ืองมาจากพระราชดาริ ฉบบั ท่ี 1 ถึงฉบบั ท่ี 4 (พ.ศ.2536 - พ.ศ.2554) และมูลนิธิชยั พฒั นาไดจดั ต้งั รางวลั The King of Thailand Vetiver
26Award ซ่ึงจะมอบเงินจานวน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ แก่งานวจิ ยั และการส่งเสริมเทคโนโลยที ่ีเกี่ยวกบัหญา้ แฝกท้งั ในระดบั ประเทศและระดบั สากลระหว่าง พ.ศ.2536-2541 พระราชกรณียกิจเก่ียวกบั หญา้ แฝกดาเนินไปอยา่ งต่อเนื่อง เสด็จพระราชดาเนินไปยงั พ้ืนที่ทรงงาน เช่น หว้ ยทราย จงั หวดั เพชรบุรี เขาชะงุม้ จงั หวดั ราชบุรี เขาหินซอ้ น จงั หวดั ฉะเชิงเทรา ทรงปลูกหญา้ แฝกเป็ นแบบอยา่ ง ทรงอา่ นรายงานวจิ ยั ทดลอง ทรงร่วมคิดคานวณและพระราชทานแนวทางใหมๆ่ เช่น การใชส้ วา่ นเจาะดินดานแลว้ เติมดินดีลงไปในหลุมก่อนปลูกหญา้ แฝก การปลูกหญา้ แฝกรอบแนวป่ า การทดลองประสิทธิภาพการทนความเคม็ ของหญา้ แฝก การปลูกตน้ สาธรร่วมกบั หญา้ แฝกในพ้นื ที่ดินดาน ทรงคน้ ควา้ ทรงติดตามความกา้ วหนา้ ในวงการหญา้ แฝกระดบั ประเทศและระดบั โลกทรงสนบั สนุนใหห้ น่วยงานที่ศึกษาเรื่องหญา้ แฝกในประเทศไทยไดเ้ ชื่อมต่อกบั เครือข่ายหญา้ แฝกโลกเพอ่ื ขยายขอบเขตความรู้ นอกจากน้ี ยงั มีพระราชดารัสย้าถึงประโยชน์ของหญา้ แฝกในหลายโอกาส เช่น เมื่อมีผูเ้ ขา้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทที่ศาลาดุสิดาลยั วงั ไกลกงั วล ที่โครงการส่วนพระองคส์ วนจิตรลดา หรือ ในพระราชพธิ ีพระราชทานปริญญาบตั รแก่บณั ฑิตมหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ เม่ือ พ.ศ.2540 เป็นตน้พ.ศ.2544 การใชห้ ญา้ แฝกขยายขอบเขตกวา้ งขวางข้ึน เมื่อมีพระราชดารัสแก่เจา้ หนา้ ที่โครงการหลวงให้ทดลองก่อสร้างยงุ้ ขา้ วดว้ ยหญา้ แฝกผสมดินเหนียว ศึกษาเร่ืองการใชห้ ญา้ แฝกอดั ในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ใชเ้ ยอื่ หญา้ แฝกในอุตสาหกรรมภาชนะเมลามีน ฯลฯ พร้อมท้งั ดาเนินการจดสิทธิบตั รส่ิงท่ีคิดคน้ ข้ึนเพ่ือเป็ นทรัพยส์ ินของแผนดินในภายหนา้ ต่อมาทรงแนะนาใหส้ ภาวิจยั ผลิตกาวเพ่อื ใชก้ บัวสั ดุก่อสร้างชนิดเบาคือ แผน่ แฝกอดั ซ่ึงมีลกั ษณะเดียวกบั ไมอ้ ดั ปัจจุบนั ประโยชนข์ องหญา้ แฝกเป็นที่รับรู้กวา้ งขวาง นกั เรียนทวั่ ประเทศรู้จกั หญา้ แฝกเกษตรกรไทยใชห้ ญา้ แฝกรักษาดิน ราษฎรที่ใชถ้ นนเลียบภูเขาเดินทางสะดวกข้ึน เพราะมีหญา้ แฝกยดึดินไมใ่ หพ้ งั ทลายปิ ดเส้นทางและมีผลวจิ ยั เก่ียวกบั หญา้ แฝกมากกวา่ 100 เร่ือง
บทท่ี 3 วธิ ีการดาเนินโครงการหญ้าแฝกพระราชดาริพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ วั ท่ีใหห้ น่วยงานต่างๆ ดาเนินการศึกษาและปลูกหญา้ แฝกมีใจความสรุปไดว้ า่ 1. หญา้ แฝกเป็นพืชที่มีระบบรากลึก แผก่ ระจายลงไปในดินตรง ๆ เป็ นแผงเหมือนกาแพง ช่วยกรองตะกอนดินและรักษาหนา้ ดินไดด้ ี จึงควรนามาศึกษาทดลองปลูก ใหท้ ดลองปลูกหญา้ แฝกเพ่ือป้องกนั การพงั ทลายของดินในพ้นื ที่ศูนยศ์ ึกษาการพฒั นาและพ้นื ท่ีอ่ืน ๆ ที่เหมาะสมอยา่ งกวา้ งขวาง 2. การดาเนินการทดลองการปลูกหญา้ แฝก ใหพ้ จิ ารณาลกั ษณะของภูมิประเทศ ซ่ึงแบ่งตามลกั ษณะของพ้ืนที่ดงั น้ี ก. การปลูกหญา้ แฝกบนพ้ืนที่ภูเขา ใหป้ ลูกหญา้ แฝกตามแนวขวางของความลาดชนั และในร่องน้าของภูเขา เพื่อป้องกนั การพงั ทลายของหนา้ ดินและช่วยเก็บความช้ืนในดินไวด้ ว้ ย ข. การปลูกหญา้ แฝกบนพ้ืนที่ราบ ใหด้ าเนินการในลกั ษณะดงั น้ี - ปลูกโดยรอบแปลง - ปลูกลงในแปลง แปลงละ 1 หรือ 2 แนว - สาหรับแปลงพชื ไร่ ใหป้ ลูกตามร่องสลบั กบั พืชไร่ ค. การปลูกหญา้ แฝกรอบสระน้า เพื่อป้องกนั อ่างเกบ็ น้ามิใหต้ ้ืนเขินอนั เนื่องมาจากตะกอนจากการพงั ทลายของดิน ตลอดจนช่วยรักษาดินเหนืออ่างและช่วยใหป้ ่ าไมใ้ นบริเวณพ้ืนที่รับน้าทวคี วามสมบูรณ์ข้ีนอยา่ งรวดเร็ว ง. การปลูกหญา้ แฝกเหนือบริเวณแหล่งน้า ปลูกแฝกเป็ นแนวป้องกนั ตะกอนดินและกรองของเสียต่าง ๆ ที่ไหลลงในแหล่งน้าท้งั น้ีใหบ้ นั ทึกภาพก่อนดาเนินการและหลงั การดาเนินการไวเ้ ป็นหลกั ฐาน
28หน่วยงานต่าง ๆ ไดใ้ หค้ วามสาคญั และนาเทคนิควธิ ีการหญา้ แฝกมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดินเชิงลาดถนน และไดม้ ีการฝึกอบรมถ่ายทอดความรู้เทคนิคการปลูกหญา้ แฝกในงานทางแก่เจา้ หนา้ ที่ เพือ่ ใหม้ ีความรู้เขา้ ใจถึงประโยชนข์ องหญา้ แฝกในการป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดิน เป็นการป้องกนั ความเสียหายท่ีจะเกิดข้ึนและประหยดั งบประมาณดา้ นการบารุงรักษา ไดม้ ีการนาหญา้ แฝกมาใชป้ ระโยชน์โดยการปลูกในสายทางต่าง ๆ ที่มีปัญหาเรื่องการชะลา้ งพงั ทลายของดินเช่น ในสายทางพ้นื ท่ีภูเขาภาคเหนือ-ภาคใต้ ในลกั ษณะที่เป็นงานส่วนหน่ึงซ่ึงสามารถกระทาไดเ้ ป็นปกติ ท่ีดาเนินการไดเ้ อง เมื่อเกิดปัญหาในงานบารุงปกติ งานก่อสร้างแกไ้ ขการเคลื่อนตวั ของเชิงลาด(Slide) ตลอดจนแขวงการทางบางแห่งไดม้ ีการปลูกขยายพนั ธุ์กลา้ หญา้ แฝกสารองไวใ้ ชเ้ อง
บทท่ี 4 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล จากผลการทดลองศึกษาในการทดลองปลูกหญา้ แฝกในโครงการพฒั นาดอยตุงพบวา่ ใหผ้ ลเป็นที่น่าพอใจ รากหญา้ แฝกยาวถึง 3 เมตร ในระยะเวลา 8 เดือน และระบบรากแผก่ ระจายในดินตลอดความลึก 3 เมตรและความกวา้ ง 50 เซนติเมตร การปลูกหญา้ แฝก ถา้ ปลูกกอเลก็ ควรปลูกใหใ้ กลแ้ ละชิดกนั จะไดผ้ ลเร็วกวา่ และสิ้นเปลืองนอ้ ยกวา่ การปลูกกอใหญ่และมีระยะห่างกนั ควรปลูกตามความห่างของแถวในแนวลาดเทประมาณเท่าความสูงของคน คือ 1.50 เมตร และทาแถวใหข้ นานกบั ทางลาดเทดว้ ย ในโครงการศึกษาวธิ ีการฟ้ื นฟูดินเส่ือมโทรมเขาชะงุม้ ตามแนวพระราชดาริที่อาเภอโพธารามจงั หวดั ราชบุรี สรุปไดเ้ ป็ น 2 ประการ คือ 1. ควรปลูกหญา้ แฝกลอ้ มรอบไมผ้ ล เพือ่ ป้องกนั ไมใ่ หด้ ินรอบๆตน้ ไมเ้ ป็นหลุม ใน ขณะเดียวกนั กใ็ ชใ้ บหญา้ แฝกที่ตดั ออกจากกอมาคลุมดินรอบๆตน้ ไม้ เพื่อรักษาความชุ่ม ช้ืนใหแ้ ก่ตน้ ไม้ 2. การปลูกหญา้ แฝกในแปลงเพาะปลูกพืช สามารถทาไดห้ ลายรูปแบบ เช่น ปลูกโดยรอบ แปลงปลูก ในแปลง ๆ ละ 1 หรือ 2 แถว และปลูกตามร่องสลบั กบั พืชไร่ เป็นตน้ จากการทดลองปลูกหญา้ แฝกของศูนยศ์ ึกษาการพฒั นาฯ การปลูกหญา้ แฝกระหวา่ งแถวของขา้ วโพดและถว่ั ลิสง ในพ้ืนท่ีที่มีความลาดเท 5% มีการสูญเสียหนา้ ดินเพียง 0.92 - 2.27 ตนั ต่อไร่ตอ่ ปีในขณะท่ีพ้นื ท่ีลาดเทเทา่ กนั แตไ่ ม่มีการปลูกหญา้ แฝก มีการสูญเสียหนา้ ดิน 5.27 ตนั ต่อไร่ต่อปีนอกจากน้ี พ้ืนท่ีท่ีปลูกหญา้ แฝกยงั รักษาความชุ่มช้ืนของดินไดม้ ากกวา่ อีกดว้ ย
บทท่ี 5 สรุปและอภปิ ราย จากการท่ีไดศ้ ึกษาเกี่ยวกบั โครงการหญา้ แฝก โครงการในพระราชดาริพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทาใหไ้ ดเ้ ห็นถึงพระอุตสาหะที่พระองคท์ รงทุ่มเทพระวรกายอยา่ งไมร่ ู้จกัเหน็ดเหน่ือยเพือ่ ความสุขของพสกนิกรชาวไทยอยา่ งแทจ้ ริง และเห็นประโยชน์ของโครงการหญา้ แฝกที่สามารถช่วยแกป้ ัญหาการชะลา้ งพงั ทลายของดินที่มีผลตอ่ ความเส่ือมโทรมของทรัพยากรดิน มีส่วนช่วยในการอนุรักษด์ ินและน้า เนื่องจากหญา้ แฝกเป็นหญา้ ที่มีระบบรากยาว แผก่ ระจายลงไปในดินตรง ๆ เป็นแผง ทาใหช้ ่วยกรองตะกอนดินและรักษาหนา้ ดินไดด้ ีอีกท้งั ยงั เป็นพชื ที่ปลูกง่าย ดูแลรักษาไม่ยาก อีกท้งั ยงั มีประโยชนใ์ นการนาไปปลูกในพ้ืนที่เกษตรกรรมเพื่อรักษาความชุ่มช้ืนในดินดว้ ย นอกจากหญา้ แฝกจะมีประโยชนด์ งั กล่าวขา้ งตน้ แลว้ หญา้ แฝกยงั มีประโยชน์อ่ืน ๆ อีกหลายอยา่ งเช่น นามาใชเ้ ป็นวสั ดุมุงหลงั คา นามาสกดั น้ามนั ทาน้าหอม ใชไ้ ล่แมลงในตูเ้ ส้ือผา้ เป็นตน้
31เอกสารอ้างองิกรมพฒั นาที่ดิน. (2541). ความรู้เร่ืองหญ้าแฝก. (พมิ พค์ ร้ังท่ี 1). กรุงเทพฯ: กรม.บริษทั ทรู ทรี เปอร์สเปกทีฟ จากดั . (ม.ป.ป.). หญ้าแฝก. สืบคน้ เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2560, จาก http://www.weloveroyalty.com/main/th/project/detail/%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B 9%89%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%9D%E0%B8%81/7.htmlประพนั ธ์ ผลพนั พวั . (ม.ป.ป.). หญ้าแฝก เกบ็ ดินให้อยู่กบั ท่ี. สืบคน้ เม่ือ 1 พฤศจิกายน 2560, จาก http://www.dnp.go.th/watershed/knowledge_files/6%20%CB%AD%E9%D2%E1%BD% A11.pdfพรี ิยา พงษส์ าริกนั และ จอห์น John Viano. (2560). หญ้าแฝก. (พิมพค์ ร้ังที่ 1). กรุงเทพฯ: สถาพรบุค๊ ส์.วจี สลกั คา. (ม.ม.ป.). โครงการหญ้าแฝก. สืบคน้ เม่ือ 1 พฤศจิกายน 2560, จาก https://sites.google.com/site/020thekingthailand56/khorngkar-phra-rachdari/khorngkar-hya-faekสานกั งานคณะกรรมการพเิ ศษเพ่อื ประสานงานโครงการอนั เนื่องมาจากพระราชดาริ. (ม.ป.ป.). แฝก. สืบคน้ เม่ือ 1 พฤศจิกายน 2560, จาก http://km.rdpb.go.th/Knowledge/View/19สานกั วจิ ยั และพฒั นาการจดั การท่ีดิน. (21 กุมภาพนั ธ์ 2546). หญ้าแฝกเฉลมิ พระเกียรติ. สืบคน้ เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2560, จาก https://www.ldd.go.th/link_vetiver/index.html
32ประวตั ผิ ้ดู าเนินโครงการช่ือ นายกนั ตินนั ท์ สมภพภูมิลาเนา 363 ม.1 ต.น้าริด อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ประวตั ิการศึกษา - จบระดบั มธั ยมศึกษาจากโรงเรียนอุตรดิตถ์ - ปัจจุบนั กาลงั ศึกษาในระดบั ปริญญาตรีช้นั ปี ท่ี 1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวรE-mail: [email protected]ช่ือ นายกาแพง ศรีวยิ ะภูมิลาเนา 58 หมู่ 8 ต.สองพี่นอ้ ง อ.ท่าใหม่ จ.จนั ทบุรีประวตั ิการศึกษา - จบระดบั มธั ยมศึกษาจากโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม - ปัจจุบนั กาลงั ศึกษาในระดบั ปริญญาตรีช้นั ปี ที่ 1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวรE-mail: [email protected]
33ช่ือ นางสาวกุลนิษฐ์ ชีพธารงภูมิลาเนา 341/7 ต.เมือง อ.ในเมือง จ.พิษณุโลกประวตั ิการศึกษา - จบระดบั มธั ยมศึกษาจากโรงเรียนเฉลิมขวญั สตรี - ปัจจุบนั กาลงั ศึกษาในระดบั ปริญญาตรีช้นั ปี ท่ี 1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวรE-mail: [email protected]ชื่อ นายเกรียงศกั ด์ิ อุน่ บุญธรรมภูมิลาเนา 18/1 หมู่ 6 ต.หนองชา้ งคืน อ. เมือง จ.ลาพูนประวตั ิการศึกษา - จบระดบั มธั ยมศึกษาจากโรงเรียนจกั รคาคณาทร จงั หวดั ลาพนู - ปัจจุบนั กาลงั ศึกษาในระดบั ปริญญาตรีช้นั ปี ท่ี 1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวรE-mail: [email protected]ช่ือ นางสาวเกวลิน นราธรศิรกลุภูมิลาเนา 135/10 หมู่ 3 ต.หวั รอ อ.เมือง จ.พษิ ณุโลกประวตั ิการศึกษา - จบระดบั มธั ยมศึกษาจากโรงเรียนเฉลิมขวญั สตรี - ปัจจุบนั กาลงั ศึกษาในระดบั ปริญญาตรีช้นั ปี ท่ี 1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวรE-mail: [email protected]
34ช่ือ นายไกร บูรณะกรณ์ภูมิลาเนา 834/171 ถ.มิตรภาพ อ.เมือง ต.ในเมือง จ.พิษณุโลกประวตั ิการศึกษา - จบระดบั มธั ยมศึกษาจากโรงเรียนพษิ ณุโลกพทิ ยาคม - ปัจจุบนั กาลงั ศึกษาในระดบั ปริญญาตรีช้นั ปี ที่ 1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวรE-mail: [email protected]ชื่อ นางสาวขวญั ชนก กีรติวงศาภูมิลาเนา 29/273 ถ. เทพาพฒั นา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ประวตั ิการศึกษา - จบระดบั มธั ยมศึกษาจากโรงเรียนจิตพิมล - ปัจจุบนั กาลงั ศึกษาในระดบั ปริญญาตรีช้นั ปี ที่ 1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวรE-mail: [email protected]ช่ือ นางสาวเขมจิรา ดาวสดใสภูมิลาเนา 736 ม.7 ต.ซบั สมอทอด อ.บึงสามพนั จ.เพชรบูรณ์ประวตั ิการศึกษา - จบระดบั มธั ยมศึกษาจากโรงเรียนนครสวรรค์ - ปัจจุบนั กาลงั ศึกษาในระดบั ปริญญาตรีช้นั ปี ท่ี 1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวรE-mail: [email protected]
35ช่ือ นายคงเทพ คุณประทุมภูมิลาเนา 444 ม.4 ต.แมเ่ ปิ น อ. แม่เปิ น จ.นครสวรรค์ประวตั ิการศึกษา - จบระดบั มธั ยมศึกษาจากโรงเรียนนครสวรรค์ - ปัจจุบนั กาลงั ศึกษาในระดบั ปริญญาตรีช้นั ปี ที่ 1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวรE-mail: [email protected]ช่ือ นายคณิน อมรางกูรภูมิลาเนา 14/219-220 ถ.สระหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิจิตรประวตั ิการศึกษา - จบระดบั มธั ยมศึกษาจากโรงเรียนนครสวรรค์ - ปัจจุบนั กาลงั ศึกษาในระดบั ปริญญาตรีช้นั ปี ท่ี 1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวรE-mail: [email protected]
Search
Read the Text Version
- 1 - 48
Pages: