ระบบส่งกำลังรถยนต์

1 หน่วยท่ี 1 เร่ือง ระบบส่งกำลงั รถยนต์ (Powertrain System)

2 แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ ช่ือวชิ ำ งานส่งกาลงั รถยนต์ จำนวน 5 ชวั่ โมง รหสั วชิ ำ 2101-2003 ชื่อหน่วย ระบบส่งกาลงั รถยนต์ หวั ข้อเรื่อง-หัวข้อย่อย 1.1 ส่วนประกอบของรถยนต์ 1.2 ส่วนประกอบและหนา้ ที่ของระบบส่งกาลงั 1.3 ชนิดของการส่งกาลงั 1.4 ระบบการขบั เคลื่อน สำระสำคัญ 1.1 ส่วนประกอบของรถยนตส์ ามารถแบง่ ได้ 4 ส่วน คือ 1.1.1 เครื่องยนต์ ทาหนา้ ท่ี เป็นแหล่งกาเนิดพลงั งาน 1.1.2 ระบบส่งกาลงั ทาหนา้ ที่ ถ่ายทอดกาลงั จากเคร่ืองยนตไ์ ปยงั ลอ้ รถยนต์ 1.1.3 โครงรถ ทาหนา้ ท่ี รองรับเคร่ืองยนต์ ระบบบงั คบั เล้ียว ระบบรองรับ น้าหนกั ระบบพวงมาลยั และตวั ถงั 1.1.4 ตวั ถงั รถยนต์ ประกอบดว้ ยโครงสร้างภายใน รวมถึงท่ีนง่ั ระบบปรับอากาศ ระบบไฟแสงสวา่ ง ระบบความปลอดภยั และอื่น ๆ 1.2 ส่วนประกอบและหนา้ ท่ีของระบบส่งกาลงั ระบบส่งกาลงั ประกอบดว้ ย คลตั ช์ กระปุกเกียร์ เพลากลาง เฟื องทา้ ย เพลาทา้ ย 1.3 ชนิดของการส่งกาลงั 1.3.1 การวางตาแหน่งเครื่องยนต์ (Engine Position) 1.3.2 การติดต้งั เคร่ืองยนต์ (Engine Location) 1.4 ระบบการขบั เคล่ือน 1.4.1 ระบบขบั เคลื่อนลอ้ หลงั (Rear Wheel Drive , RWD) 1.4.2 ระบบขบั เคล่ือนลอ้ หนา้ (Front Wheel Drive , FWD) 1.4.3 ระบบขบั เคล่ือน 4 ลอ้ (Four Wheel Drive , 4 WD)

3 จุดประสงค์กำรเรียนรู้ จุดประสงค์ทว่ั ไป เพ่ือใหม้ ีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ส่วนประกอบของรถยนต์ ส่วนประกอบและ หนา้ ที่ของระบบส่งกาลงั ชนิดของการส่งกาลงั และระบบการขบั เคลื่อน จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม เม่ือศึกษาจบหน่วยการเรียนน้ีแลว้ นกั เรียนจะสามารถ 1. บอกส่วนประกอบของรถยนตไ์ ด้ 2. บอกส่วนประกอบของระบบส่งกาลงั รถยนตไ์ ด้ 3. บอกหนา้ ท่ีของส่วนประกอบในระบบส่งกาลงั ได้ 4. บอกระบบขบั เคล่ือนลอ้ หนา้ ได้ กจิ กรรมกำรเรียนกำรสอน กจิ กรรมครู กจิ กรรมกำรสอน 1. ปฐมนิเทศบอกการปฏิบตั ิตวั ในการเรียนบอกวธิ ีการวดั ผล 2. แจกแบบประเมินผลก่อนเรียนใหก้ บั นกั เรียนทาแบบประเมิน ข้นั นำ 1. ช้ีแจงวตั ถุประสงคก์ ารเรียนรู้ที่ 1 – 4 แสดงอุปกรณ์ของระบบส่งกาลงั รถยนตใ์ ชเ้ วลา ประมาณ 10 นาที เพอ่ื นาเขา้ สู่บทเรียน ข้ันให้ข้อมูล 1. ครูแจกใบเน้ือหา อธิบายความหมายความสาคญั เน้ือหาสาระ หลกั การทางานของระบบ ส่งกาลงั รถยนตใ์ นหวั ขอ้ ต่างๆ ในเอกสารประกอบการสอน 2. แจกแบบฝึกหดั หน่วยที่ 1 ใหก้ บั นกั เรียนทาแบบฝึกหดั 3. แจกแบบประเมินผลหลงั เรียนใหก้ บั ผเู้ รียนทาแบบทดสอบ 4. มอบหมายงานใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิงานตามใบงาน และควบคุมดูแลการปฏิบตั ิงานของ นกั เรียน 5. ตรวจแบบฝึกหดั แบบประเมินผลก่อนเรียนและหลงั เรียน 6. ตรวจผลงานการปฏิบตั ิงานและการนาเสนอผลงาน ข้นั สรุป สรุปสาระสาคญั เร่ืองระบบส่งกาลงั รถยนต์ สรุปผลคะแนนแบบประเมินผลก่อนเรียนหลงั เรียนและสรุปผลจากการปฏิบตั ิงานตามใบงาน

4 กจิ กรรมนักเรียน กจิ กรรมกำรเรียน 1. นกั เรียนฟังการปฐมนิเทศ และถามขอ้ สงสยั 2. นกั เรียนทาแบบประเมินผลก่อนเรียน 3. ศึกษาเอกสารประกอบการสอนหน่วยท่ี 1 ระบบส่งกาลงั รถยนต์ 4. ฟังการบรรยาย และบนั ทึกสรุปสาระสาคญั ของหวั ขอ้ ตา่ งๆ 5. ซกั ถาม ขอ้ สงสัยในเน้ือหาสาระตา่ งๆ 6. ปฏิบตั ิงานตามใบงาน สรุปรายงานผลการปฏิบตั ิงาน และนาเสนอผลงานส่งครู 7. ทาแบบฝึกหดั 8. ทาแบบประเมินผลก่อนเรียนและหลงั เรียน สื่อกำรเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการสอนหน่วยที่ 1 ระบบส่งกาลงั รถยนต์ 2. ส่ือนาเสนอ (Presentation) 3. แบบฝึกหดั / แบบประเมินผล / ใบงาน 4. เคร่ืองมือและอุปกรณ์ของจริง กำรประเมินผล 1. จากแบบฝึกหดั 2. แบบประเมินผลก่อนเรียนและหลงั เรียน 3. ประเมินผลจากการปฏิบตั ิงานตามใบงาน

5 แบบประเมินผลก่อนกำรเรียน หน่วยท่ี 1 ระบบส่งกำลงั รถยนต์ คำส่ัง : จงทาเครื่องหมายกากบาท (x) ลงในคาตอบท่ีถูกที่สุดเพยี งขอ้ เดียว 1. ขอ้ ใดไม่ใช่ส่วนประกอบของระบบส่งกาลงั รถยนต์ ก. เพลากลาง ข. เพลาทา้ ย ค. ขอ้ ต่อเลื่อน ง. เพลาขอ้ เหวยี่ ง 2. ขอ้ ใดหมายถึงระบบส่งกาลงั รถยนต์ ก. การถ่ายทอดกาลงั งานจากเครื่องยนตไ์ ปขบั ลอ้ รถยนต์ ข. รับกาลงั งานจากการจุดระเบิดภายในหอ้ งเผาไหม้ ค. การเปลี่ยนแปลงอตั ราทดของเฟื องเกียร์ ง. การส่งกาลงั งานจากกา้ นกระทุง้ ไปยงั กระเด่ืองกดลิ้น 3. ขอ้ ใดคือส่วนประกอบของระบบส่งกาลงั ของรถยนต์ ก. เครื่องยนต์ กระปุกเกียร์ ขอ้ ต่อ เพลาขบั ลอ้ เฟื องทา้ ย เพลากลาง ข. เครื่องยนต์ กระปุกเกียร์ ขอ้ ต่ออ่อน ขอ้ ต่อ คลตั ช์ เฟื องทา้ ย เพลาขบั ลอ้ ค. เครื่องยนต์ คลตั ช์ กระปุกเกียร์ ขอ้ ตอ่ เพลากลาง เฟื องทา้ ย เพลาขบั ลอ้ ง. เครื่องยนต์ กระปุกเกียร์ ขอ้ ต่อ เพลากลาง เฟื องทา้ ย เพลาขบั ลอ้ 4. ขอ้ ใดคือส่วนประกอบท่ีทาหนา้ ท่ีปรับเปล่ียนกาลงั งานท่ีรับมาจากเคร่ืองยนต์ ก. คลตั ช์ ข. กระปุกเกียร์ ค. เพลากลาง ง. เฟื องทา้ ย 5. การวางเคร่ืองยนตแ์ ละการขบั เคล่ือนแบบใดกระจายน้าหนกั ดีที่สุด ก. เคร่ืองยนตอ์ ยหู่ ลงั ขบั เคล่ือนลอ้ หลงั ข. เครื่องยนตอ์ ยกู่ ลางขบั เคล่ือนลอ้ หลงั ค. เครื่องยนตอ์ ยหู่ นา้ ขบั เคลื่อนลอ้ หลงั ง. เคร่ืองยนตอ์ ยหู่ นา้ ขบั เคล่ือนลอ้ หนา้

6 6. รถยนตท์ ี่ไมใ่ ชเ้ พลากลางเป็นการขบั เคล่ือนแบบใด ก. เคร่ืองยนตอ์ ยหู่ ลงั ขบั เคลื่อนลอ้ หลงั ข. เครื่องยนตอ์ ยกู่ ลางขบั เคล่ือนลอ้ หลงั ค. เครื่องยนตอ์ ยหู่ นา้ ขบั เคลื่อนลอ้ หลงั ง. เคร่ืองยนตอ์ ยหู่ นา้ ขบั เคล่ือนลอ้ หนา้ 7. ขอ้ ใดไม่ใช่ระบบขบั เคลื่อนลอ้ หลงั ก. เครื่องยนตอ์ ยหู่ นา้ ขบั เคล่ือนลอ้ หนา้ ข. เครื่องยนตอ์ ยกู่ ลางขบั เคลื่อนลอ้ หลงั ค. เครื่องยนตอ์ ยหู่ นา้ ขบั เคลื่อนลอ้ หลงั ง. เคร่ืองยนตอ์ ยหู่ ลงั ขบั เคลื่อนลอ้ หลงั 8. เคร่ืองยนตอ์ ยหู่ นา้ และลอ้ หลงั เป็นลอ้ ตามเป็นการขบั เคล่ือนแบบใด ก. เครื่องยนตอ์ ยหู่ ลงั ขบั เคล่ือนลอ้ หลงั ข. เครื่องยนตอ์ ยกู่ ลางขบั เคลื่อนลอ้ หลงั ค. เครื่องยนตอ์ ยหู่ นา้ ขบั เคล่ือนลอ้ หลงั ง. เครื่องยนตอ์ ยหู่ นา้ ขบั เคลื่อนลอ้ หนา้ 9. ขอ้ ใดเป็นขอ้ เสียของระบบขบั เคล่ือนลอ้ หนา้ ก. น้าหนกั รถเบาและประหยดั น้ามนั เช้ือเพลิง ข. มีพ้นื ท่ีหอ้ งโดยสารเพม่ิ ข้ึน ค. เพิ่มสมรรถนะในการขบั ขี่ขณะเล้ียวโคง้ ง. ขบั ข่ีสบายกวา่ รถขบั เคลื่อนลอ้ หลงั 10. ขอ้ ใดเป็นขอ้ ดีของระบบขบั เคล่ือนลอ้ หลงั ก. ควบคุมทิศทางการเล้ียวโคง้ ไดแ้ ม่นยา ข. น้าหนกั รถเบาและประหยดั น้ามนั เช้ือเพลิง ค. มีพ้นื ที่หอ้ งโดยสารเพ่ิมข้ึน ง. การบารุงรักษาสะดวก เพราะเฟื องทา้ ยและกระปุกเกียร์แยกกนั +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

7 เฉลยแบบประเมนิ ผลก่อนกำรเรียน หน่วยที่ 1 ระบบส่งกำลงั รถยนต์ ข้อท่ี ก ข ค ง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 

8 หน่วยท่ี 1 ระบบส่งกำลงั รถยนต์ (Powertrain System) ระบบส่งกาลงั ในรถยนต์ คือการส่งกาลงั ที่เกิดข้ึนจากเครื่องยนตไ์ ปขบั เคลื่อนลอ้ รถยนตใ์ ห้ สามารถเคล่ือนท่ีไปได้ ในการส่งถ่ายกาลงั น้ี จะประกอบด้วยเคร่ืองยนต์ คลตั ช์ เกียร์ เพลากลาง เฟื องทา้ ย และเพลาขบั ลอ้ ดงั น้นั นกั เรียนจะตอ้ งศึกษาให้เขา้ ใจถึงหลกั การในการส่งกาลงั รถยนต์ เพ่อื จะไดน้ าความรู้ไปปฏิบตั ิงานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 1.1 ส่วนประกอบของรถยนต์ ส่วนประกอบของรถยนตส์ ามารถแบ่งได้ 4 ส่วน คือ 1.1.1 เครื่องยนต์ ทาหนา้ ที่ เป็นแหล่งกาเนิดพลงั งาน 1.1.2 ระบบส่งกาลงั ทาหนา้ ที่ ถ่ายทอดกาลงั จากเคร่ืองยนตไ์ ปยงั ลอ้ รถยนต์ 1.1.3 โครงรถ ทาหนา้ ที่ รองรับเครื่องยนต์ ระบบบงั คบั เล้ียว ระบบรองรับน้าหนกั ระบบ พวงมาลยั และตวั ถงั 1.1.4 ตวั ถงั รถยนต์ ประกอบดว้ ยโครงสร้างภายใน รวมถึงที่นงั่ ระบบปรับอากาศ ระบบ ไฟแสงสวา่ ง ระบบความปลอดภยั และอ่ืน ๆ การออกแบบระบบส่งกาลงั ในรถยนตม์ ีจุดประสงคพ์ ้นื ฐานอยหู่ ลายประการดงั น้ี  การถ่ายทอดกาลงั จากเครื่องยนตไ์ ปยงั ลอ้  ตดั และต่อกาลงั จากเคร่ืองยนตท์ ่ีส่งไปยงั ลอ้  เปลี่ยนแปลงอตั ราความเร็วตามสภาพการใชง้ าน  เปล่ียนทิศทางการขบั เคลื่อนใหเ้ คลื่อนที่ไปขา้ งหนา้ และถอยหลงั

9 1.2 ส่วนประกอบและหน้ำทข่ี องระบบส่งกำลงั ระบบส่งกาลงั ประกอบดว้ ย คลตั ช์ กระปุกเกียร์ เพลากลาง เฟื องทา้ ย เพลาทา้ ย เคร่ืองยนต์ ตกุ๊ ตาเพลากลาง เพลาทา้ ย กระปุกเกียร์ เพลากลาง ขอ้ ตอ่ อ่อน คลตั ช์ ขอ้ ต่อเลื่อน เฟื องทา้ ย ภาพที่ 1.1 แสดงส่วนประกอบของระบบส่งกาลงั รถยนต์ ที่มา : http://www.headlightmag.com 1.2.1 คลตั ช์ (Clutch) คลตั ช์ ทาหนา้ ที่ตดั และตอ่ กาลงั ระหวา่ งเคร่ืองยนตก์ บั กระปุกเกียร์ โดยอาศยั ความ ฝืดของแผน่ คลตั ช์และลอ้ ช่วยแรงในการขบั เคล่ือนรถยนต์ กระปุกเกียร์ ลกู ปื นกดคลตั ช์ ลอ้ ช่วยแรง แผน่ คลตั ช์ ขากดคลตั ช์ ฝาครอบแผน่ คลตั ช์ ภาพที่ 1.2 แสดงลกั ษณะของชุดคลตั ช์ ท่ีมา : http://www.auto2drive.com

10 1.2.2 กระปุกเกียร์ (Transmission) กระปุกเกียร์ ทาหนา้ ท่ีเปลี่ยนอตั ราทดเพอื่ เพ่ิมหรือลดแรงบิดใหเ้ หมาะสมกบั ภาระ งาน โดยรับกาลงั จากเคร่ืองยนตผ์ า่ นแผน่ คลตั ชส์ ่งมายงั ชุดเฟื องในกระปุกเกียร์และส่งต่อไปยงั ลอ้ ภาพท่ี 1.3 แสดงลกั ษณะของกระปุกเกียร์ ที่มา : คู่มือการอบรมระบบส่งกาลงั บริษทั โตโยตา้ มอเตอร์ ประเทศไทย 1.2.3 เพลากลาง (Propeller Shaft) เพลากลาง ทาหนา้ ที่ส่งกาลงั จากกระปุกเกียร์ไปยงั เฟื องทา้ ยในระบบขบั เคล่ือน ลอ้ หลงั ประกอบดว้ ย ขอ้ ต่อเล่ือน (Slip joint) ขอ้ ต่ออ่อน (Universal joint) เพลากลาง (Propeller Shaft) ขอ้ ตอ่ อ่อน เพลากลาง ขอ้ ต่อเลื่อน ภาพท่ี 1.4 แสดงลกั ษณะของเพลากลาง ท่ีมา : คูม่ ือการอบรมระบบส่งกาลงั บริษทั โตโยตา้ มอเตอร์ ประเทศไทย

11 1.2.4 เฟื องทา้ ย (Differential) เฟื องทา้ ย ทาหนา้ ที่รับกาลงั จากเพลากลางและส่งกาลงั ต่อไปยงั ลอ้ ในขณะรถวง่ิ ทางตรงเฟื องทา้ ยจะทาให้ล้อท้ังสองข้างถูกขบั ให้หมุนดว้ ยความเร็วเท่ากัน แต่เม่ือรถเล้ียวโค้ง เฟื องทา้ ย จะทาใหล้ อ้ ดา้ นนอกหมุนเร็วกวา่ ลอ้ ดา้ นใน ทาใหล้ อ้ ดา้ นนอกหมุนเร็วกวา่ ลอ้ ดา้ นใน เรือนเฟื องทด เฟื องขา้ ง เฟื องบายศรี รูปท่ี 1.5 แสดงลกั ษณะของเฟื องทา้ ย แผน่ ชิม แหวนรอง เฟื องเดือยหมู ลกู ปื นเฟื องเดือย ซีลเฟ่ื อง หมู หนา้ แปลน ภาพท่ี 1.5 แสดงลกั ษณะของเฟื องทา้ ย ท่ีมา : คู่มือการอบรมระบบส่งกาลงั บริษทั โตโยตา้ มอเตอร์ ประเทศไทย 1.2.5 เพลาทา้ ย (Rear Axles) เพลาทา้ ย ทาหนา้ ท่ี รับน้าหนกั ในส่วนทา้ ยของรถยนต์ เพลาทา้ ยถูกออกแบบมาใช้ งานกบั รถยนตช์ นิดต่างๆ ไม่เหมือนกนั ท่ีใชง้ านปัจจุบนั แบ่งออกได้ 3 ชนิด คือเพลาทา้ ยแบบลอย เพลาทา้ ยแบบก่ึงลอย เพลาทา้ ยแบบลอย ¾ เส้ือเพลาทา้ ย แหวนก้นั ลกู ปื น เพลาทา้ ย ปะเก็น ลูกปื น ซีล ภาพท่ี 1.6 แสดงลกั ษณะของเพลาทา้ ย

12 1.2.5.1 เพลาทา้ ยแบบลอย (Full-Floating Axel) เพลาทา้ ยแบบลอยมีลูกปื นติดต้งั อยบู่ นเส้ือเพลาทา้ ย (Axel Housing) โดย เส้ือเพลาทา้ ยจะรับน้าหนกั ท้งั หมดของรถยนต์ เพลาทา้ ยแบบน้ีนิยมใชก้ บั รถบรรทุกขนาดใหญ่ ลกู ปื นลอ้ ดรัมเบรก เส้ือเฟื องทา้ ย ดา้ นนอก เส้ือเพลาทา้ ย เพลาทา้ ย ดุมลอ้ ลกู ปื นลอ้ ดา้ นใน ภาพที่ 1.7 แสดงลกั ษณะของเพลาทา้ ยแบบลอย ท่ีมา : http://enginemechanics.tpub.com 1.2.5.2 เพลาทา้ ยแบบก่ึงลอย (Sami-Floating Axel) เพลาทา้ ยแบบก่ึงลอยมีลูกปื นติดต้งั อยทู่ ี่เส้ือเพลาทา้ ย เพลาทา้ ยแบบน้ีมี เส้ือเพลาทา้ ยและเพลาขบั (Axel Shaft) จะเฉลี่ยกนั รับน้าหนกั ของรถยนต์ นิยมใชก้ บั รถเก๋งและ รถบรรทุกขนาดเลก็ ลูกปื นลอ้ เส้ือเฟื องทา้ ย เส้ือเพลาทา้ ย ลอ้ เพลาขบั ดรัมเบรก ภาพที่ 1.8 แสดงลกั ษณะของเพลาทา้ ยแบบก่ึงลอย ท่ีมา : http://enginemechanics.tpub.com

13 1.2.5.3 เพลาทา้ ยแบบลอย ¾ (Three-Quarter Floating Axel) เพลาทา้ ยแบบน้ีจะใชก้ บั รถกระบะและรถบรรทุกขนาดกลาง การรับ น้าหนกั เพลาขบั จะรับน้าหนกั ¼ ส่วนเส้ือเพลาทา้ ยจะรับน้าหนกั ¾ ลูกปื นลอ้ ดรัมเบรก เส้ือเฟื องทา้ ย ดา้ นนอก เส้ือเฟื องทา้ ย เส้ือเพลาทา้ ย เพลาทา้ ย ดุมลอ้ ลกู ปื นลอ้ ดา้ นใน ภาพท่ี 1.9 แสดงลกั ษณะของเพลาทา้ ยแบบลอย ¾ ท่ีมา : http://enginemechanics.tpub.com 1.3 ชนิดของกำรส่งกำลงั การออกแบบการส่งกาลงั ข้ึนอยกู่ บั สิ่งต่อไปน้ี 1.3.1 การวางตาแหน่งเคร่ืองยนต์ (Engine Position) การวางตาแหน่งเคร่ืองยนต์ จะมีวิธีการ วางได้ 2 แบบ คือ 1. การวางตาแหน่งเครื่องยนตใ์ นแนวตามยาว (Longitudinal Engine) ลกั ษณะ การวางจะวางขนานกบั โครงรถยนต์ 2. การวางตาแหน่งเครื่องยนตใ์ นแนวขวาง (Transverse Engine) ลกั ษณะการ วางจะวางต้งั ฉากกบั โครงรถยนต์ 3.2 การติดต้งั เครื่องยนต์ (Engine Location) เคร่ืองยนตต์ ิดต้งั อยดู่ า้ นหนา้ ดา้ นหลงั หรือตรงกลางของรถยนต์ มีดงั น้ี (ก) เคร่ืองยนตอ์ ยดู่ า้ นหนา้ ขบั เคลื่อนลอ้ หลงั (ข) เคร่ืองยนตอ์ ยดู่ า้ นกลางขบั เคลื่อนลอ้ หลงั

14 (ค) เครื่องยนตอ์ ยดู่ า้ นหนา้ ขบั เคล่ือนลอ้ หนา้ (ง) เคร่ืองยนตอ์ ยดู่ า้ นหลงั ขบั เคล่ือนลอ้ หลงั หมำยเหตุ : A : เคร่ืองยนต์ B : เพลาส่งกาลงั C : เกียร์ D : เฟื องทา้ ย ภาพท่ี 1.10 แสดงลกั ษณะของการติดต้งั เครื่องยนต์ ที่มา : นายสุรพงษ์ พงษศ์ รีและคณะ 1.4 ระบบกำรขบั เคลอื่ น การส่งกาลงั จากเคร่ืองยนตไ์ ปยงั ลอ้ รถยนต์ แบ่งระบบขบั เคล่ือนได้ 3 ชนิด คือ 4.1 ระบบขบั เคล่ือนลอ้ หลงั (Rear Wheel Drive , RWD) ระบบขบั เคลื่อนลอ้ หลงั เครื่องยนตจ์ ะส่งกาลงั ผา่ นเกียร์ไปยงั ลอ้ ขบั เคลื่อน ระบบน้ี แบ่งไดอ้ ีก 3 แบบ คือ 1) เคร่ืองยนตต์ ิดต้งั ดา้ นหนา้ ขบั เคลื่อนลอ้ หลงั (Front Wheel Drive) ดงั รูปท่ี 1.11 2) เคร่ืองยนตต์ ิดต้งั ตรงกลางขบั เคลื่อนลอ้ หลงั (Middel Engine Rear Wheel Drive) ดงั รูปที่ 1.12 ดา้ นหนา้ เฟื องบงั คบั เล้ียว เครื่องยนต์ กระปุกเกียร์ เฟื องทา้ ย ภาพที่ 1.11 แสดงลกั ษณะของเคร่ืองยนตต์ ิดต้งั ดา้ นหนา้ ขบั เคลื่อนลอ้ หลงั

15 ดา้ นหนา้ เฟื องบงั คบั เล้ียว ชุดส่งกาลงั เครื่องยนต์ ภาพท่ี 1.12 แสดงลกั ษณะของเคร่ืองยนตต์ ิดต้งั ตรงกลางขบั เคล่ือนลอ้ หลงั ที่มา : นายสุรพงษ์ พงษศ์ รีและคณะ 3) เครื่องยนตต์ ิดต้งั ดา้ นหลงั ขบั เคลื่อนลอ้ หลงั (Rear Engine Rear Wheel Drive) ดงั รูปที่ 1.13 ดา้ นหนา้ เฟื องบงั คบั เล้ียว เคร่ืองยนต์ ชุดส่งกาลงั ภาพท่ี 1.13 แสดงลกั ษณะของเคร่ืองยนตต์ ิดต้งั ดา้ นหลงั ขบั เคลื่อนลอ้ หลงั ท่ีมา : นายสุรพงษ์ พงษศ์ รีและคณะ

16 4.2 ระบบขบั เคล่ือนลอ้ หนา้ (Front Wheel Drive , FWD) ระบบส่งกาลังแบบขบั เคลื่อนลอ้ หน้า เครื่องยนต์จะติดต้งั อยู่ดา้ นหน้าของรถยนต์ ระบบน้ีสามารถแบ่งออกได้ 2 แบบ คือ เครื่องยนต์วางขวางโครงรถ (Transverse) และเครื่องยนต์ วางตามยาวขนานกับโครงรถ (Longitudinal) ระบบส่งกาลังแบบน้ีจะนิยมใช้กันมากในรถยนต์ ขนาดเลก็ ขนาดกลาง ชุดส่งกาลงั เครื่องยนต์ ภาพท่ี 1.14 แสดงลกั ษณะของเคร่ืองยนตว์ างขวางตามยาว โครงรถแบบขบั เคลื่อนลอ้ หนา้ ท่ีมา : นายสุรพงษ์ พงษศ์ รีและคณะ เคร่ืองยนต์ เฟื องทา้ ย ชุดส่งกาลงั ภาพที่ 1.15 แสดงลกั ษณะของเคร่ืองยนตว์ าง ขนานกบั โครงรถแบบขบั เคล่ือนลอ้ หนา้ ที่มา : นายสุรพงษ์ พงษศ์ รีและคณะ 4.3 ระบบขบั เคลื่อน 4 ลอ้ (Four Wheel Drive , 4 WD) ระบบการส่งกาลงั แบบขบั เคลื่อน 4 ลอ้ จะมีการส่งกาลงั ท้งั ลอ้ หนา้ และลอ้ หลงั ระบบ น้ีสามารถแบ่งออกได้ 2 แบบ คือ ระบบขบั เคล่ือนแบบบางเวลา และระบบขบั เคลื่อนตลอดเวลา ระบบขบั เคล่ือนแบบน้ีจะนิยมใชก้ บั รถยนตต์ รวจการณ์ และรถยนตท์ ี่ใชใ้ นพ้ืนที่ทุรกนั ดาร

17 เฟื องทา้ ยอยดู่ า้ นหนา้ เครื่องยนต์ กระปุกเกียร์ เฟื องทา้ ยอยดู่ า้ นหลงั ภาพท่ี 1.16 ลกั ษณะการขบั เคลื่อน 4 ลอ้ บางเวลา ชุดเพลาขบั ดา้ นหนา้ เครื่องยนต์ ชุดเกียร์ธรรมดา 5 ความเร็ว เฟื องทา้ ยกลาง ชุดเพลาขบั ดา้ นหลงั เพลาขบั ภาพท่ี 1.17 ลกั ษณะการขบั เคล่ือน 4 ลอ้ ตลอดเวลา ท่ีมา นายสุรพงษ์ พงษศ์ รีและคณะ

18 แบบฝึ กหดั หน่วยท่ี 1 เร่ือง ระบบส่งกำลงั รถยนต์ คาส่ัง : จงตอบคาถามดงั ต่อไปน้ี 1. จากรูปใหน้ กั เรียนเขียนช่ือส่วนประกอบของระบบส่งกาลงั แบบระบบขบั เคล่ือนลอ้ หลงั ตามหมายเลขท่ีกาหนด ท้งั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ 34 5 8 9 11 12 6 7 10 12 1........................................................... 7............................................................... 2........................................................... 8............................................................... 3........................................................... 9............................................................... 4........................................................... 10............................................................. 5........................................................... 11............................................................. 6........................................................... 12.............................................................

19 2. จงบอกส่วนประกอบของระบบส่งกาลงั รถยนต์ A) Slip joint คาสั่ง : ใหน้ าตวั อกั ษรดา้ นขวามือมาเติมใหส้ มั พนั ธ์กนั B) Rear axle C) Propeller shaft …………… 1. เครื่องยนต์ D) Engine …………… 2. คลตั ช์ E) Clutch …………… 3. กระปุกเกียร์ F) Center support bearing …………… 4. เพลากลาง G) Transmission …………… 5. เพลาทา้ ย H) Drive shaft …………… 6. เฟื องทา้ ย I) Differential …………… 7. ลูกปื นรองรับเพลากลาง J) Universal joint …………… 8. เพลาขบั …………… 9. ขอ้ ต่อเล่ือน …………… 10. ขอ้ ต่ออ่อนแบบกากบาท 3. จงบอกหนา้ ท่ีของส่วนประกอบในระบบส่งกาลงั 1. ระบบส่งกาลงั ทาหนา้ ท่ี............................................................................................................ 2. คลตั ช์ ทาหนา้ ที่....................................................................................................................... 3. กระปุกเกียร์ ทาหนา้ ที............................................................................................................... 4. เพลากลาง ทาหนา้ ที่................................................................................................................. 5. เฟื องทา้ ย ทาหนา้ ท่ี.................................................................................................................... 6. เพลาทา้ ยทาหนา้ ที่..................................................................................................................... 4. การออกแบบการส่งกาลงั ข้ึนอยกู่ บั ส่ิงใด 1...................................................................................................................................................... 2………………………………………………………………………………………………….. 5. ระบบขบั เคล่ือนสามารถแบ่งออกได้ 3 ชนิด คือ 1...................................................................................................................................................... 2…………………………………………………………………………………………………. 3………………………………………………………………………………………………….

20 6. จงทาเคร่ืองหมายถูก  หนา้ ขอ้ ความท่ีถูกตอ้ งและเคร่ืองหมายผดิ  หนา้ ขอ้ ความที่ผดิ ………1. รถยนตท์ ี่มีการขบั เคล่ือนแบบ FR ไมจ่ าเป็นตอ้ งมีเพลากลาง ……….2. ในยคุ ปัจจุบนั นิยมออกแบบรถยนตน์ ง่ั เป็นลกั ษณะการขบั เคล่ือนแบบ FR ……….3. ขอ้ ดีของการขบั เคลื่อนลอ้ หนา้ คือ ไม่มีเพลาทา้ ยจึงทาใหน้ ้าหนกั เบาและประหยดั เช้ือเพลิง ……….4. ในถ่ินทุรกนั ดารควรใชร้ ถยนตท์ ี่มีการขบั เคล่ือนแบบ 4 WD ……….5. เม่ือรถเล้ียวโคง้ เฟื องทา้ ยจะทาใหล้ อ้ ดา้ นนอกหมุนชา้ กวา่ ลอ้ ดา้ นใน ……….6. รถยนตท์ ี่มีการขบั เคลื่อนแบบ FR ลอ้ หนา้ ทาหนา้ ที่ขบั เคลื่อนและลอ้ หลงั ทาหนา้ ท่ี บงั คบั เล้ียว ……….7. คุณสมบตั ิของรถยนตท์ ี่มีการขบั เคลื่อนลอ้ หลงั คือสามารถระบายความร้อนไดด้ ี และ สามารถกระจายน้าหนกั บรรทุกลงท่ีตาแหน่งลอ้ หลงั ……….8. เพลาทา้ ยทาหนา้ ท่ีรองรับน้าหนกั และเป็นท่ีติดต้งั ส่วนประกอบต่าง ๆ ของรถยนต์ เช่น เฟื องทา้ ย แหนบ และเพลาขา้ ง เป็นตน้ ……….9. ขอ้ ต่อเลื่อน ทาหนา้ ที่ เปลี่ยนอตั ราทดความเร็วของรถยนต์ ……….10. ขอ้ ต่ออ่อนแบบกากบาท ทาหนา้ ท่ีปรับการเปล่ียนแปลงเชิงมุมของเพลากลาง +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

21