เล่มวิชาการ ฉบับสมบูรณ์

คมู่ ือการบรหิ ารจดั การเรยี นการสอน ในสถานการณก์ ารแพร่ระบาด ของ โรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ปีการศกึ ษา 2563 โรงเรียนแมเ่ มาะวทิ ยา สานกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 35 สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

ก โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา คานา จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) ในปัจจุบัน พบว่า ประเทศไทยยังมีการระบาดของโรคน้ี อยู่อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการตรวจพบยอดผู้ติดเช้ือไวรัส โคโรนา จะอยู่ใน สถานการณท์ ี่ดีขึ้นตามลาดบั ตามคาส่ัง ศธ 04265/ว 2062 เร่ือง แนวทางการเปิด-ปิด ภาคเรียน ปีการศึกษา2563 ให้สถานศึกษา เตรียมความพร้อมเพ่อื เฝา้ ระวังและปอ้ งกนั การแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา (COVID-19) ให้ปลอดภัย และลดความเสี่ยงต่อการติดต่อของโรคดังกล่าวโดยให้สอดรับกับมาตรการของสาธารณสุข ท้ังนี้เพ่ือไม่ให้ภาวะ ดังกล่าวกระทบต่อสุขภาพและการจัดการศึกษาในสถานศึกษาเมื่อเปิดภาคเรียน ซ่ึงมีนักเรียนและบุคลากร จานวนมากมาปฏิบัติหน้าท่ี ดังนั้นโรงเรียนแม่เมาะวิทยา จึงได้จัดทาคู่มือการบริหารจัดการเรียนการสอนน้ี ข้ึนเพื่อเป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอน ประจาปีปีการศึกษา 2563 ซ่ึงดาเนินการตามบริบท ของสถานศึกษาโดยศึกษาองค์ประกอบของ พ้ืนท่ีตั้งของโรงเรียน ซ่ึงมีความเส่ียงน้อย ตลอดจนสภาพนักเรียน และบคุ ลากรท่มี ี จานวนที่สามารถดาเนนิ การไดอ้ ย่างรัดกมุ ทงั้ นี้ข้ึนอยู่กับตัวแปรของสถานการณ์ท่ีเปล่ียนแปลง และมาตรการต่าง ๆ อาจปรับเปล่ียนให้เหมาะสมตามสถานการณ์ปัจจุบันโดยคานึงถึงความปลอดภัย ของนกั เรียนและบุคลกรทกุ คนเป็นสาคัญ (นายถนอม อปุ วัฒนานนั ท์) ผู้อานวยการโรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา

ข โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา สารบญั คานา.........................................................................................................................................................ก สารบญั ......................................................................................................................................................ข ความร้เู กย่ี วกบั สถานการณ์โรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)…………………………………………………..……1 สถานศกึ ษากับสถานการณโ์ รคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)…………………………………………………..……2 ข้อมูลสถานศึกษา สงั กดั สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน...............................................................3 การประเมินความพร้อมของสถานศึกษาในการเปิดภาคเรยี น ปกี ารศกึ ษา 2563..............................................12 การประเมินความพร้อมของนกั เรียนในการเปิดภาคเรยี น ปีการศกึ ษา 2563....................................................13 แนวทางการเปิด – ปดิ ภาคเรียน......................................................................................................................14 การเตรียมความพรอ้ มการจดั การเรียนการสอนในวนั เปิดภาคเรยี น...................................................................15 รูปแบบการจัดการเรียนการสอน.......................................................................................................................16 แนวการปฏบิ ัตใิ นการจดั การเรยี นการสอน........................................................................................................17 การจดั การเรียนการสอนในชนั้ เรยี น..................................................................................................................19 การจัดกจิ กรรมในสถานศกึ ษา...........................................................................................................................21 การใช้บริการหอ้ งปฏบิ ัติการและห้องพเิ ศษต่างๆ..............................................................................................22 การจดั สภาพแวดล้อมในหอ้ งเรยี น....................................................................................................................23 มาตรการดูแลนักเรยี นที่มคี วามบกพร่อง...........................................................................................................24 การจดั เตรียมแผนรองรบั การจัดการเรียนการสอนสาหรบั นกั เรียนป่วย กักตัว หรือกรณีปดิ โรงเรยี น...............25 การจัดเตรยี มแนวปฏิบตั ิการส่อื สารเพ่ือลดการรังเกยี จและการตีตราทางสังคม (Social stigma).....................26 การคัดกรองบคุ คลในครอบครวั เพ่อื ลดความเสี่ยงการเดินทางต่างพนื้ ท่ีหรือพ้ืนท่ีเสีย่ ง......................................27 แบบประเมนิ ความเส่ียงในการแพร่ระบาดโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา (COVID-19)................................................28 ภาคผนวก................................................................................................................................................29

1 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา ความรเู้ กยี่ วกบั สถานการณโ์ รคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) โรคตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) คอื อะไร โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coroavirus Disease 2019 : COVID-19) เป็นตระกูลของไวรัส ที่ก่อให้เกิดอาการป่วยตั้งแต่โรคไข้หวัดธรรมตา ไปจนถึงโรคท่ีมีความรุนแรงมาก เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ ในตะวันออกกลาง (MERS - CoV) โรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SAR-CoV) เป็นตัน ซ่ึงเป็น สายพันธใุ์ หมท่ ่ีไม่เคยพบมาก่อนในมนุษย์ ก่อให้เกิดอาการป่วยระบบทางเดินหายใจในคน และสามารถแพร่เชื้อ จากคนสคู่ นไต้ โดยเชื้อไวรัสน้ีพบการระบาดครัง้ แรกในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเปย์ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วง ปลายปี 2019 หลังจากนั้นได้มีการระบาดไปทั่วโลก องศ์การอนามัยโลกจึงต้ังซ่ือการติดเช้ือไวรัสโคโรนาสาย พนั ธุ์ใหมน่ ้ีว่า โรค COVID-19 อาการของผ้ปู ว่ ยโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อาการท่ัวไป ได้แก่ อาการระบบทางเดินหายใจ มีไข้ ไอมีน้ามูก เจ็บคอ หายใจลาบาก เหนื่อยหอบ ไมไ่ ดก้ ลิน่ ไมร่ ู้รส ในกรณีที่อาการรุนแรงมาก อาจทาให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม ปอดอักเสบ ไตวาย หรอื อาจเสยี ชวี ิต โรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) แพร่กระจายเชื้อได้อย่างไร โรคชนิดนี้มีความเป็นไปได้ท่ีมีสัตว์เป็นแหล่งรังโรค ส่วนใหญ่แพร่กระจายผ่านการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ ผ่านทางละอองเสมหะจากการไอ น้ามูก น้าลาย ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนการแพร่กระจายเช้ือผ่านทาง พืน้ ผวิ สัมผัสท่มี ีไวรัสแล้วมาสัมผัสปาก จมูก และตา สามารแพรเช้ือผ่านทางเชื้อที่ถูกขับถ่ายออกมากับอุจจาระ เขา้ ส่อู ีกคนหนง่ึ โดยผ่านเข้าทางปากได้ด้วย โรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รกั ษาได้อย่างไร ยังไมม่ ียาสาหรับปอ้ งกันหรือรักษาโรคโควิด 19 ผูท้ ่ตี ดิ เช้อื อาจตอ้ งไดร้ บั การรักษาแบบประคับประคอง ตามอาการ โดยอาการท่ีแสดงแตกต่างกัน บางคนรุนแรงไม่มาก ลักษณะเหมือนไข้หวัดทั่วไป บางคนรุนแรมาก ทาใหเ้ กิดปอดอักเสบไต้ ต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิต ร่วมกับการรักษาด้วยการประคับประคองอาการจนกว่า จะพ้นอาการชว่ งน้ัน และยังไม่มยี าตวั ใดที่มหี ลักฐานชัดเจนวา่ รักษาโรคโควิด 19 ได้โดยตรง

2 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา สถานศกึ ษากบั สถานการณโ์ รคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) สถานศึกษาเป็นสถานท่ที ีม่ นี กั เรียนอยู่รวมกันจานวนมาก มักจะมีความเสี่ยงสูง หากมีระบบการจัดการ ที่ไม่ดี อาจจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อ COVD 19 ได้ในกลุ่มเด็ก เนื่องจากพบว่าการติดเชื้อ COVD-19 ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีอาการหรือมีอาการแสดงค่อนข้างน้อย ความรุนแรงจะน้อยมาก แต่เด็กนักเรียนจะเอาเช้ือ กลับบ้าน อาจทาให้การแพร่ระบาดเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว (Super spread) ไปยังบุคคลในบ้าน หากมีการ ระบาดในกลุ่มเด็กข้ึน จะมีผลกระทบในสังคมหรือผู้ใกล้ชิดเช่น ครู พ่อแม่ ผู้สูงอายุที่ติดเชื้อจากเด็ก ดังนัน้ หากมกี ารเปดิ เรยี น มีโอกาสสูงที่จะเกิดการติดเช้ือในกลุ่มเด็กเพ่ิมมากข้ึน ซึ่งเด็กเป็นกลุ่มที่ต้องได้รับการ ดูแลและระมัดระวังในการกระจายเชื้อเป็นอย่างมาก มาตรการในการเปิดเทอม จึงมีความสาคัญมากในการ ควบคุมการระบาดการวางแผนเปิดเทอมจึงต้องมั่นใจว่า สามารถควบคุมไม่ให้เกิดการระบาดของโรคในเด็ก นักเรยี นได้

3 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา ขอ้ มลู สถานศกึ ษา สงั กดั สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน ขอ้ มลู ครู บุคลากร >>> ผบู้ รหิ าร 1 คน ครู 43 คน พนกั งานราชการ 1 คน ครูอตั ราจา้ ง 10 คน ลกู จา้ งประจา 1 คน เจ้าหนา้ ทธ่ี ุรการ 2 คน เจา้ หนา้ ทบี่ รรณารกั ษ์ 1 คน รวม 65 คน ลกู จา้ งชว่ั คราว 6 คน ขอ้ มลู ณ วนั ที่ 24 มิถนุ ายน 2563

4 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา ขอ้ มลู สถานศกึ ษา สงั กดั สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน ขอ้ มลู ครู บคุ ลากร >>>

5 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา ขอ้ มลู สถานศกึ ษา สงั กดั สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน ขอ้ มลู ครู บคุ ลากร >>>

6 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา ขอ้ มลู สถานศกึ ษา สงั กดั สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน ขอ้ มลู ครู บคุ ลากร >>>

7 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา ขอ้ มลู สถานศกึ ษา สงั กดั สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน ขอ้ มลู ครู บคุ ลากร >>>

8 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา ขอ้ มลู สถานศกึ ษา สงั กดั สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน ขอ้ มลู ครู บคุ ลากร >>>

9 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา ขอ้ มลู สถานศกึ ษา สงั กดั สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน ขอ้ มลู นกั เรยี น >>> ชัน้ มัธยมศกึ ษาตอนตน้ จานวน 605 คน ชั้นมัธยมศกึ ษาตอนปลาย จานวน 241 คน รวม 846 คน จานวนหอ้ งเรยี น ปกี ารศกึ ษา 2563 >>> หัวหนา้ ระดบั : นางสาวมญั ชรี สนทิ วงศ์ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 : 205 คน เพศชาย 94 คน เพศหญงิ 111 คน

10 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา ข้อมลู สถานศกึ ษา สงั กดั สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน จานวนหอ้ งเรยี น ปีการศกึ ษา 2563 >>> หวั หนา้ ระดบั :นาง มะลวิ ลั ย์ ขวญั กิจศกั ดา ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 : 192 คน เพศชาย 99 คน เพศหญงิ 93 คน หวั หนา้ ระดบั :นายสนั ษร วรรณแก้ว ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 : 208 คน เพศชาย 102 คน เพศหญงิ 106 คน

11 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา ข้อมลู สถานศกึ ษา สงั กดั สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน จานวนหอ้ งเรยี น ปกี ารศกึ ษา 2563 >>> หวั หนา้ ระดบั : นาย ปณุ ณภพ มาปลกู ชั้นมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย : 241 คน เพศชาย 46 คน เพศหญงิ 195 คน

12 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา การประเมนิ ความพรอ้ มของสถานศกึ ษาในการเปิดภาคเรยี น ปีการศกึ ษา 2563 การประเมินความพร้อมของสถานศึกษา ในการเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2563 มีแนวทางในการ ดาเนินการ ดังนี้ ส ถ า น ศึ ก ษ า ป ร ะ เ มิ น ต น เ อ ง โ ด ย ผ่ า น ค ว า ม เ ห็ น ช อ บ ข อ ง ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ส ถ า น ศึ ก ษ า ขนั้ พ้ืนฐาน ตามแบบประเมินตนเองสาหรับสถานศึกษาในการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน เพ่ือเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ท่ีปรากฏใน \"คู่มือการปฏิบัติสาหรับ สถานศกึ ษาในการปอ้ งกนั การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19\" ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ซึง่ ผลการประเมนิ สามารถแบง่ ออกได้เปน็ 3 ระดบั ไดแ้ ก่

13 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา การประเมนิ ความพรอ้ มของนกั เรยี นในการเปดิ ภาคเรยี น ปีการศกึ ษา 2563 ให้นักเรียนทาแบบประเมินตนเองสาหรับนักเรียนในการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาค เรียน เพ่ือเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 12 ตาม \"คู่มือการปฏิบัติสาหรับ สถ า น ศึ ก ษ า ใ น ก า ร ป้ อ ง กั น ก า ร แ พ ร่ ร ะ บ าด ข อ ง โ ร ค โ ค วิ ด 1 9 \" ข อ ง ก ร ม อ น า มั ย กระทรวงสาธารณสขุ

14 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา แนวทางการเปดิ – ปิด ภาคเรยี น

15 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา การเตรยี มความพรอ้ มการจดั การเรยี นการสอน ในวนั เปดิ ภาคเรยี น วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 จัดห้องเรยี นใหม้ กี ารเวน้ ระยะหา่ งทางสงั คม >>>(Social Distancing) ขนาดหอ้ งเรยี น โต๊ะ และเก้าอี้ นกั เรยี น มาตรฐานตามระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ าร พ.ศ.2549 ห้องเรยี น โตะ๊ และเกา้ อี้ นักเรยี น ต้องมีขนาดห้องไม่ตา่ กว่า โตะ๊ กว้าง 60 X ลกึ 40 X สงู 76 ซม. เก้าอี้ กว้าง 30 X ลึก 40 X สงู 85 ซม. 6 เมตร X 8 เมตร

16 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา รูปแบบการจดั การเรียนการสอน การจดั การเรยี นการสอนแบบผสมผสาน >>>(Blended Learning) >>> การสลบั ชน้ั มาเรยี นของนกั เรยี นแบบสลบั วนั เรยี น เร่ิมเรยี น เวลา 08.00 – 16.00 น. เรียน 12 คาบ/วนั เวลาเรยี น คาบละ 40 นาที ***หมายเหตุ ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น แ บ บ ออนไลน์เป็นการศึกษาผ่าน เ ค รื อ ข่ า ย อิ น เ ท อ ร์ เ น็ ต โดยใช้ช่องทางการส่ือสาร ผ่าน E-mail, Chat, Social Network และโปรแกรม การเรียนออนไลนต์ า่ งๆ

17 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา แนวปฏบิ ตั ใิ นการจดั การเรยี นการสอน สาหรบั นกั เรยี น >>> กรณมี าเรียนที่โรงเรยี น ในบางกลุ่มสาระท่จี ะต้องมีการแบ่งกลุม่ นักเรยี นเป็นกลมุ่ ยอ่ ย เพ่ือทากิจกรรม หรอื ทาการทดลอง ควรแบ่งกลุ่มย่อยไม่ควรเกิน 4 คน และให้นั่งเว้นระยะห่างจากเพ่ือนในกลุ่ม และระยะห่างจาก กลุ่มอ่นื ๆ 1 – 2 เมตร ตามมาตรการเว้นระยะทางสงั คม (Social Distancing) กรณีเรยี นอย่ทู ่บี า้ น เรยี นผ่านระบบการสอนทางไกล /ช่องทางการเรยี นอ่นื ๆ และทาใบกิจกรรม ใบงาน และการบ้าน ที่ ครมู อบหมายในวนั มาเรียน ***หมายเหตุ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ อาจให้นกั เรยี นชว่ ยงานบา้ น ดูแลสุขภาพและออกกาลังกาย และปฏบิ ัตภิ าระงานส่งตามทีไ่ ด้รบั มอบหมาย

18 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา แนวปฏบิ ตั ใิ นการจดั การเรยี นการสอน สาหรบั ครู >>> > ครูกาหนดประเด็นหรือหัวข้อ พร้อมทั้งให้แหล่งข้อมูลให้นักเรียนไปศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองล่วงหน้า >> เม่ือมาเรียนในห้อง ครูจะเป็นผู้อานวยความสะดวกให้เกิดการเรียนรู้ในการอภิปราย ถกแถลงและ แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ >>> ตรวจสอบความเขา้ ใจการเรยี นรู้ของนกั เรยี น และงานทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย กรณีมาเรยี นท่ีโรงเรียน เน้นกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีเน้ือหาซับซ้อน และ ภาคปฏิบัติ สามารถดูจากการแสดงความ คิดเห็น การทากิจกรรม ระหว่างเรียน การทาแบบฝึก การสรุปการเรียนรู้ เช่น Mind Map เปน็ ตน้ กรณีเรียนอย่ทู ีบ่ ้าน เน้นเน้อื หา ท่สี ามารถเรยี นรูไ้ ดด้ ว้ ยตนเอง และปฏิบัตงิ านตามทีค่ รมู อบหมาย เช่น เรยี นรู้ จากแบบเรยี น/ ใบความร/ู้ DLTV /สอ่ื การสอนทางไกลผ่านทาง Online ***หมายเหตุ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน กิจกรรมลูกเสือ – เนตรนารี - ยุวกาชาด กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ อาจปรับวธิ กี ารจัดกิจกรรมหรอื บรู ณาการ กบั กจิ กรรมการเรียนการสอน

19 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา การจดั การเรยี นการสอนในชน้ั เรยี น >>>การเปลย่ี นห้องเรยี น > การเปล่ยี นคาบเรยี นให้นักเรยี นต้งั แถวเรียงตามเลขท่ีและเดินเป็นแถว เม่ือถึงห้องเรียนแล้วให้ตั้งแถวรอหน้า หอ้ งก่อน เพือ่ ให้ครปู ระจาวิชาใชแ้ อลกอฮอล์หรือเจล แอลกอฮอล์ให้นักเรียนทกุ คนลา้ งมือกอ่ นเข้าหอ้ งเรยี น >> นักเรียนทุกคนเดินเข้าห้องเรียนทางประตูหน้าและเม่ือหมดคาบเรียนให้เดิน ออกจากห้องเรียน ทางประตูหลัง >>> การวางรองเทา้ ใหน้ กั เรียนถอดรองเท้าและวางเรยี งตามเลขทบี่ นชัน้ วาง รองเท้าหรือบริเวณหน้าห้องเรียน โดยให้นักเรียนท่ีเรียนคาบก่อนหน้าหยิบรองเท้าออกไปให้หมดก่อน นักเรียนที่จะเข้าเรียน ใหม่จึงนารองเท้าไป วางตามตาแหนง่ เลขท่ีของตนเอง

20 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา การจดั การเรยี นการสอนในชนั้ เรยี น >>>การจดั การเรยี นการสอนภายในหอ้ งเรยี น > ครูสวมหน้ากากอนามยั หนา้ กากผ้าหรือใส่เฟสชลิ ตลอดเวลาในขณะสอน >> ครูใช้แอลกอฮอล์หรือเจลแอลกอฮอล์ล้างมือก่อน ทาการสอนทุกคาบเรียน >>> ครูกาชับให้นักเรียนทุกคนสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผา้ ตลอดเวลาท่ี มกี ารเรยี นการสอน >>>> ครูคอยกากับดูแลเรื่องการเว้นระยะห่าง ของนักเรียนขณะจัดการเรียน การสอนอย่าง เคร่งครัด

21 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา การจดั กจิ กรรมในสถานศกึ ษา > นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือ หน้ากากผ้าหรือเฟสชิล ในการ เขา้ ร่วมกิจกรรมของสถานศึกษาทกุ ครงั้ อยา่ งเคร่งครัด >> การจัดกิจกรรมทกุ กจิ กรรมต้องมีการเว้นระยะหา่ ง 1 - 2 เมตร >>> ในการจัดกิจกรรมเคารพธงชาติ จัดจุดยืนเว้นระยะห่างตามมาตรการเว้นระยะทางสังคม (Social Distancing) >>>> ให้นกั เรยี น ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาทุกคนลา้ งมอื ให้สะอาดกอ่ นการทากจิ กรรมทกุ ครงั้ >>>>> ในการจัดกิจกรรมท่ีมีความจาเป็นต้องจัดในหอประชุม ให้แบ่งการจัดกิจกรรมเป็น 2 คร้ัง กล่าวคือ แบ่งระดับช้นั เขา้ ทากิจกรรม ในหอประชมุ คนละช่วงเวลา หรอื เลือกบางห้องใหเ้ ขา้ รว่ มกิจกรรม >>>>>> กิจกรรมการทาความสะอาดเขตพ้ืนที่ให้นักเรียนเช็ดทาความสะอาดอุปกรณ์ทาความสะอาดเขตพ้ืนที่ ทุกคร้งั หลงั ใชง้ าน

22 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา การใชบ้ รกิ ารหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร และห้องพเิ ศษตา่ ง ๆ > สวมหนา้ กากอนามัยหรอื หนา้ กากผ้าหรือเฟสชลิ ก่อนเข้าใชบ้ รกิ าร >> มกี ารกาหนดจดุ ระหวา่ งเขา้ แถวรอเขา้ ใชบ้ ริการ ใหม้ กี ารเว้นระยะหา่ งกัน อยา่ งน้อย 1 เมตร >>> มีจดุ ให้บรกิ ารแอลกอฮอล์หรอื เจลแอลกอฮอล์ สาหรับล้างมือก่อนเขา้ ใช้บริการ >>>> ตรวจวดั อณุ หภมู ิร่างกายนกั เรยี นก่อนเขา้ ใชบ้ ริการ >>>>> ใหน้ ักเรยี นน่งั เรยี นตามจุดทกี่ าหนดไว้ โดยจดั ใหท้ ี่นงั่ แตล่ ะจุดมีระยะหา่ งกนั ประมาณ 1 เมตร >>>>>> หลงั เสรจ็ สิ้นการเรียนการสอนใหค้ รแู ละนักเรียน รว่ มกันทาความสะอาดหอ้ งเรยี น ทุกครงั้ >>>>>>> จัดห้องปฏิบัติการให้มีอากาศ ถ่ายเทได้สะดวก โดยการจัดห้องปฏิบัติการ และ การกาหนดจุดที่น่ังสาหรับนักเรียน ในการใช้บริการห้องปฏิบัติการแต่ละห้อง มลี กั ษณะ ดงั นี้ ผังการจดั ห้องปฏิบัตกิ ารคอมพวิ เตอร์ ผงั การจดั ห้องคหกรรม ผงั การจดั ท่นี ่ังหอ้ งสมุด >> ผงั การจดั ห้องปฏบิ ัตกิ ารวิทยาศาสตร์ แผนผงั การจดั ทนี่ ง่ั หอ้ งพระพทุ ธศาสนา หอ้ งดนตรี หอ้ งนาฏศิลป์

23 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา การจดั สภาพแวดลอ้ มในหอ้ งเรยี น ทาความสะอาดหอ้ งเรียน โตะ๊ เรยี น และเก้าอี้ ตง้ั จดุ วางเจลแอลกอฮอลล์ ้างมอื ในห้องเรยี น ทกุ คร้ังด้วยนา้ ยาฆ่าเช้ือ ทั้งก่อนเรยี น พกั กลางวนั (บริเวณโตะ๊ ครู) และหลงั เรยี น โดยมกี ารบนั ทกึ ข้อมูลอยา่ งเครง่ ครัด ขณะทาการสอน ครผู สู้ อนและนกั เรียนต้องใส่ ใหน้ กั เรียนเล่ียงการยมื สิ่งของตา่ งๆ เชน่ อปุ กรณ์ หน้ากากอนามัยตลอดเวลา การเรียนและของเล่นจากเพือ่ น งดการสมั ผสั ร่างกายซึ่งกนั และกนั

24 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา มาตรการดแู ลนกั เรยี นที่มคี วามบกพรอ่ งดา้ นพฒั นาการ การเรยี นรู้ หรือดา้ นพฤตกิ รรมอารมณ์ รวมถงึ ภาวะ สมาธสิ นั้ และเดก็ ออทิสตกิ ทีส่ ามารถเรยี นรว่ มกบั เดก็ ปกติ 1. ด้านการจัดการเรียนการสอน 1.1 ครูผู้สอนควร กากบั ติดตาม นกั เรียนเปน็ รายบคุ คล รว่ มกบั ผู้ปกครอง 1.2 จดั ทาใบงาน ใบความรู้ ทเี่ หมาะสมกบั นกั เรยี นในแตล่ ะบคุ คล 1.3 เน้นเน้ือหาทักษะพ้นื ฐานที่เด็กสามารถนาไปใช้ในชีวติ ประจาวันได้ เช่น การเขา้ ใจส่อื ความหมาย การ รู้จักคา่ ของตัวเลข ฯลฯ 1.4 ครผู ูส้ อนควร สังเกต บนั ทึกความก้าวหน้าของเดก็ เป็นรายบุคคลเปน็ ระยะ ๆ ตลอดเวลาสอน 2. ด้านอารมณ์และสังคม 2.1 หากมปี ัญหากา้ วร้าว เกเร ฯลฯ ครผู ู้สอนหรือครูท่ีปรกึ ษาต้องชี้แนะ 2.2 จัดให้นงั่ แถวหนา้ ด้านใน เลอื กเดก็ ปกตทิ ี่ไม่เกเรนงั่ ใกล้กันเว้นระยะห่าง 1 – 2 เมตร 2.3 พัฒนาทักษะการเรียนรเู้ พื่อนาไปส่กู ารเรยี นร่วมในสังคมได้ เชน่ การรู้จกั ปรบั ตวั ให้เขา้ กบั คนอืน่ ได้ มคี วามรับผดิ ชอบตอ่ งานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย

25 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา การจดั เตรยี มแผนรองรบั การจดั การเรยี นการสอนสาหรบั นกั เรยี นปว่ ย กักตวั หรือกรณปี ิดโรงเรยี น > การใชก้ ารสอนผ่านระบบออนไลน์ หรือ e-learning เช่น Line , facebook , Zoom , Meet , Google Classroom >> การกาหนดให้มีการจัดทา ใบความรู้ ใบงาน และแบบฝึกหัดสาหรับให้นักเรียนศึกษาท่ีบ้าน พร้อมกับการใช้ ระบบออนไลน์ >>> การจัดการเรยี นการสอนโดยใชก้ ารศกึ ษาทางไกลผา่ นดาวเทียม (DLTV) พร้อมกับการใชร้ ะบบออนไลน์ >>>> มอบหมายให้ครูผู้สอนและครู ท่ีปรึกษาทาการติดตามระยะไกล รายวัน หรอื รายสปั ดาห์กบั นักเรยี น

26 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา การจดั เตรยี มแนวปฏบิ ตั ิการสอื่ สารเพอื่ ลดการรงั เกยี จ และการตตี ราทางสงั คม (Social stigma) ปอ้ งกัน ไมต่ ตี ราและให้กาลังใจ > กระตนุ้ ใหน้ กั เรยี นปอ้ งกันและจัดการกับปญั หา เร่อื งการตตี ราหรือทาใหเ้ กิดความอับอาย โดยพูดคุย เกี่ยวกับ ปฏิกิรยิ าตา่ งๆ ทพ่ี วกเขาพบเจอ และอธบิ ายถึงสถานการณ์ท่ีผิดปกติจากการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ กระตุ้น ให้เขาไดแ้ สดงออกและส่อื สารความรสู้ กึ ของตนเองออกมา >> ให้ครู บุคลาการทางการศึกษา และนักเรียนเลือกใช้คาอย่างระมัดระวัง ไม่ให้ผู้มีความเส่ียง หรือผู้ติดเชื้อ รวมถงึ ครอบครวั อับอาย และถกู รังเกยี จ >>> รว่ มกนั เปดิ โรงเรียนปลอดภัย ไม่รงั เกียจ ไมข่ บั ไล่ เพอ่ื ให้นักเรียนท่ีมคี วามเส่ยี ง หรอื นักเรยี นท่ตี ดิ เชอ้ื โค วิด-19 ไมก่ ังวลทจี่ ะใหข้ ้อมลู และเขา้ รับการรักษา

27 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา การคดั กรองบคุ คลในครอบครวั เพอื่ ลดความเสยี่ งการเดนิ ทาง ตา่ งพน้ื ทห่ี รอื พนื้ ทเ่ี สี่ยง ได้กาหนดมาตรการในการคัดกรองข้อมูลบุคคลในครอบครัว นักเรียนเพื่อลดความเส่ียงในการแพร่ ระบาดโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา (COMID-19) ร่วมท้ังคัดกรอง ข้อมูลเก่ียวกับ การเดินทางไปต่างพื้นที่หรือพ้ืนท่ี เส่ยี งของนกั เรียนและบุคคลในครอบครัว โดยมี รายละเอยี ดข้นั ตอน ดังนี้ > จัดทาแบบประเมินความเสี่ยงในการแพร่ระบาด >> ดาเนนิ การเก็บรวบรวมขอ้ มูลโดยใช้แบบประเมนิ โรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา (COVID-19) สาหรับ ทจี่ ดั ทาขึน้ นักเรียนและผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนแม่เมาะ วิทยา >>> รวมรวมขอ้ มูล คดั กรอง ประเมินความเสีย่ ง >>>> หากพบนักเรยี นท่ีเป็นกลมุ่ เส่ยี งในการเป็น และรายงานการสรปุ ผล โรคตดิ เช้อื ไวรัสโคโรนา (COMID-19) ให้ ดาเนินการแจ้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจา ตาบลหรือสาธารณสุขอาเภอแม่เมาะเพื่อทาการ กัก ตัว 14 วนั ตามมาตรการป้องกันของกระทรวง สาธารณสขุ

28 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา แบบประเมนิ ความเสี่ยงในการแพรร่ ะบาดโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา (COVID-19) แบบประเมนิ ความเส่ยี งในการแพรร่ ะบาดโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา (COVID-19) สาหรับนักเรยี นและผปู้ กครองของนกั เรียนโรงเรียนแม่เมาะวทิ ยา ช่ือ....................................................... ช้นั ...................... เลขท่ี.............. คาชแ้ี จง : ในช่วง 14 วนั ที่ผ่านมา (ระหวา่ งวนั ท่ี 17 - 30 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2563) นกั เรยี นมีประวตั เิ สีย่ งตอ่ การติดเชื้อ ดังต่อไปน้หี รือไม่ 1. ในชว่ ง 14 วนั ทผ่ี ่านมา นักเรียนพกั อาศยั อย่ใู นจังหวดั ลาปางใชห่ รือไม่ o ใช่ o ไม่ใช่ ระบุสถานที่ .......................................... 2. ในชว่ ง 14 วนั ทผี่ ่านมา นกั เรยี นไดเ้ ดินทางไปต่างประเทศหรือเดนิ ทางไปยังพ้นื ที่ท่มี ีการระบาดของ โรคติดเชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) หรอื ไม่ o ใช่ ระบสุ ถานที่ ............................................ o ไม่ใช่ 3. ในช่วง 14 วนั ที่ผา่ นมา นกั เรียนประวัตไิ ปในสถานทที่ ี่มีประชาชนหนาแนน่ หรอื มีการรวมกลุ่มคน เช่น ตลาดนดั หา้ งสรรพสนิ คา้ สถานพยาบาล หรือขนสง่ สาธารณะหรอื ไม่ o ใช่ ระบุสถานท่ี ............................................ o ไมใ่ ช่ 4. ในชว่ ง 14 วนั ทผ่ี า่ นมา นกั เรียนมีประวตั ิสัมผสั กับผปู้ ว่ ยยืนยันโรคตดิ ต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) หรือไม่ o ใช่ o ไมใ่ ช่ 5. ในครอบครัวของนักเรยี นมบี ุคคลทีเ่ ดินทาง หรือกลับมาจากพืน้ ทีเ่ สี่ยงที่มกี ารระบาดของโรคติดเชอื้ โคโรนา 2019 (COVID-19) ในช่วง 14 วนั ทผ่ี ่านมาใชห่ รือไม่ o ใช่ ระบคุ วามสัมพนั ธ์........................................ o ไมใ่ ช่ ระบสุ ถานท.ี่ ......................................... 6. นักเรยี นมบี ุคคลในครอบครัวเป็นบคุ ลากรทางการแพทย์หรอื สาธารณสขุ ใชห่ รือไม่ o ใช่ ระบคุ วามสัมพนั ธ์........................................ o ไมใ่ ช่ ระบอุ าชพี ............................................

29 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา ภาคผนวก

30 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา ภาคผนวก

31 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา ภาคผนวก

32 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา ภาคผนวก