Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานภูมิศาสตร์

รายงานภูมิศาสตร์

Published by saowalucksaptavetam, 2021-02-11 02:20:04

Description: รายงานภูมิศาสตร์

Search

Read the Text Version

ทต่ี งั้ ภูมศิ าสตร์ เมอื ง ปารสี จัดทำโดย นางสาวเสาวลกั ษณ์ ทรพั ยท์ วธี รรม ม.5/1 เลขท่ี 17 นำเสนอ คณุ ครูไพศาล เทศเอม รายงานฉบบั นี้เปน็ สว่ นหนึง่ ของรายวชิ า ส32102 สงั คมศกึ ษา 4 โรงเรยี นวัดราชาธิวาส ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2563

คำนำ รายงานเลม่ นจ้ี ดั ทำขึน้ เพอ่ื เป็นสว่ นหนงึ่ ของวิชาสังคมศึกษา 4 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่5เพื่อใหไ้ ด้ ศึกษาหาความรู้ในเร่ืองทีต่ ั้งภมู ิศาสตร์ ประกอบไปด้วย ภูมปิ ระเทศ ภูมิอากาศ ที่ตั้งตามพกิ ดั ภมู ศิ าสตร์ การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพท่ีสง่ ผลต่อความเปน็ เมือง ลักษณะความเปน็ เมืองในปัจจุบนั การกอ่ ต้ัง จำนวนประชากร ลกั ษณะของพรี ะมดิ ประชากรลักษณะกิจกรรมทางเศรษฐกิจของเมอื งนน้ั ว่ามีกจิ กรรมหลกั ๆ อะไรบา้ ง เกิดจากอะไรแลว้ มผี ลอย่างไรต่อโลกใบน้ี ทงั้ ขอ้ ดแี ละขอ้ เสีย มใี คร สงสยั สามารถติดต่อสอบถามได้และได้ศกึ ษาอยา่ งเข้าใจเพ่อื เปน็ ประโยชน์กบั การเรียน ผ้จู ัดทำหวังว่า รายงานเลม่ นจ้ี ะเปน็ ประโยชนก์ ับผู้อ่าน หรือนักเรียน นักศึกษา ท่กี ำลังหา ข้อมลู เรื่องนี้อยูห่ ากมีข้อแนะนำหรอื ขอ้ ผิดพลาดประการใด ผู้จดั ทำขอน้อมรบั ไว้และขออภัยมาณ ทนี่ ้ี ดว้ ย เสาวลกั ษณ์ ทรพั ยท์ วธี รรม ผจู้ ัดทำ

สารบญั หน้า เรื่อง 1 บทนำ 1 ภมู ิศาสตร์ 2 ภูมอิ ากาศ 3 ทต่ี งั้ ตามพิกดั ภมู ิศาสตร์ 3 การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพท่ีส่งผลต่อความเปน็ เมืองของปารีส 3 ลกั ษณะความเปน็ เมืองในปัจจบุ ันของปารีส 4 การกอ่ ต้งั 5 จำนวนประชากร 6 ลักษณะของพรี ะมดิ ประชากร 7 ลักษณะกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ 12 บรรณานุกรม

1 ปารสี บทนำ ปารสี (ฝร่ังเศส: Paris /paˈʁi/ ปารี) เป็นเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ตงั้ อยบู่ นแม่นำ้ แซน บรเิ วณตอนเหนือของประเทศฝรัง่ เศส บนใจกลางแควน้ อีล-เดอ-ฟร็องส์ (Île-de-France หรอื Région parisienne (RP) ) ภายในกรุงปารีสมีประชากรประมาณ 2,167,994 คน เขตเมอื งปารสี (Unité urbaine) ซงึ่ มพี นื้ ทีข่ ยายเกนิ ขอบเขตอำนาจการปกครองของเมอื งนัน้ มปี ระชากรกว่า 9.93 ล้านคน (พ.ศ. 2547) ในขณะท่เี ขตมหานครปารสี (Agglomération parisienne) มีประชากรเกอื บ 12 ล้านคนและเป็นหน่ึงในพื้นทท่ี ่มี ปี ระชากรสูงทีส่ ุดแห่งหน่งึ ในทวีปยโุ รป ภมู ิศาสตร์ ปารีสต้ังอยู่บนแม่นำ้ แซน ซง่ึ รวมถึงเกาะอีกสองเกาะคือ อลี แซงต์-หลยุ ส์และ อีล เดอ ลา ซิ เต้ ซง่ึ เปน็ ส่วนท่ีเก่าแก่ท่ีสุดของเมอื ง ภูมิประเทศของปารสี โดยรวมคือ เป็นท่ีราบลุม่ โดยมีจดุ ต่ำสุดอยู่ ท่ี 35 เมตร (114 ฟตุ ) เหนอื ระดบั น้ำทะเล ท้งั ยังมเี นนิ เขาอีกหลายแหง่ เนินเขาท่สี งู ที่สดุ คอื มงต์ มารต์ ร์ (130 เมตร (426 ฟตุ )) พื้นทข่ี องปารสี ซึง่ ไมร่ วมสวนสาธารณะบวั ส์ เดอ บูโลญ และบวั ส์ เดอ แวงแซนน์คือประมาณ 86.928 ตารางกโิ ลเมตร (33.56 ตารางไมล)์ การแบ่งและรวมเขตคร้งั สดุ ทา้ ย ท่ใี หญ่ทส่ี ดุ คือในปี พ.ศ. 2403 ซ่ึงทำให้มีขนาดอย่างที่เห็นในปัจจบุ ัน ทัง้ ยงั ทำให้เกดิ เขตท่ีหมนุ รอบๆ ตามเข็มนาฬกิ าอีกดว้ ย ตงั้ แต่ปี พ.ศ. 2403 เปน็ ตน้ มา เมืองปารสี มีขนาด 78 กม.² (30.1 ม.²) และได้ ขยายออกไปเปน็ 86.9 กม.² (34 ม.²) ในปี พ.ศ. 2463 และตงั้ แตป่ ี พ.ศ. 2472 เปน็ ตน้ มา สวนสาธารณะบวั ส์ เดอ บูโลญและบัวส์ เดอ แวงแซนน์ไดผ้ นวกกับตวั เมืองปารสี อยา่ งเป็นทางการ ทำ ใหก้ รุงปารีสมขี นาด 105.397 กม.² (40.69 ม.²) จนถงึ ปัจจบุ นั ขนาดของกรุงปารสี หรือเขตเมอื งปารีส นั้นมกี ารขยายตัวออกไปเกนิ เขตเมือง ทำใหเ้ กิดรูปร่างเปน็ วงรขี ยายตวั ไปตามแม่นำ้ แซนและแม่น้ำ มารน์ ทางทศิ ตะวันออกและตะวันออกเฉยี งใตข้ อของตัวเมอื งและตามแมน่ ำ้ แซนและแม่น้ำอวสทางทิศ ตะวนั ตกและตะวนั ตกเฉียงเหนือและถ้าเลยไปยงั ชนบทความหนาแน่นของประชากรจะลดลงอยา่ ง

2 เหน็ ได้ชัดเน่อื งจากมีป่าและท่ีดนิ ไว้สำหรบั การเพาะปลกู อย่างไรก็ตามเขตมหานครปารสี มีเนือ้ ทถ่ี งึ 14,518 กม² (5,605.5 ไมล²์ ) ซึ่งใหญก่ วา่ เน้อื ท่ีกรุงปารสี ถงึ 138 เท่า ภูมอิ ากาศ ปารสี มภี มู อิ ากาศแบบมหาสมทุ ร ซึง่ มผี ลมาจากกระแสนำ้ แอตแลนตกิ เหนือ เพราะฉะน้นั อุณหภมู ิในเมืองไมค่ อ่ ยมีอุณหภูมสิ งู หรอื ต่ำเกนิ ไป อุณหภูมเิ ฉลีย่ ของกรุงปารสี คอื 15 °C (59 °F) และ จะอยรู่ าว 7 °C (45 °F) สถิติอุณหภูมสิ งู ทสี่ ุดทว่ี ัดไดค้ อื 40.4 °C (104.7 °F) ในวันท่ี 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2491 และต่ำทสี่ ุดท่เี คยวัดไดค้ อื −23.9 °C (−11.0 °F) เมือ่ วันที่ 10 ธนั วาคม พ.ศ. 2422 เมอื ง ปารสี ไดป้ ระสบกบั อณุ หภูมริ อ้ นจดั ในปี พ.ศ. 2547 และหนาวจดั ในปี พ.ศ. 2549 มาเอง ฝนสามารถตกทุกเมอ่ื และปารีสกเ็ ปน็ ทร่ี ูจ้ กั ดีกบั ฝนตกฉับพลนั ปารีสมปี รมิ าณนำ้ ฝนเฉล่ยี 641.6 มม. (25.2 นิว้ ) ตอ่ ปี สว่ นหิมะมักจะเกดิ ขึน้ น้อยครั้ง สว่ นมากมกั จะตกในชว่ งเดือนมกราคม และกมุ ภาพนั ธ์ (แตเ่ คยตกถงึ เดอื นเมษายนมาแล้ว) และไมค่ อ่ ยพบว่าหมิ ะตกตดิ ตอ่ กนั เกนิ วัน

3 ที่ต้ังตามพกิ ัดภมู ศิ าสตร์ อยู่ที่ละตจิ ดู / ลองจจิ ดู : 48° 51' 12\" N / 2° 20' 55\" E ตง้ั อยทู่ างทศิ ตะวนั ตกของทวปี ยโุ รป ทิศเหนือตดิ กับเบลเยียม และ ลักเซมเบิร์ก ทศิ ตะวันออกตดิ กับเยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์และ อติ าลี ทิศตะวนั ตกตดิ กับมหาสมุทรแอตแลนตกิ และทศิ ใต้ติดกบั อนั ดอรร์ า สเปน และทะเลเมดเิ ตอร์ เรเนยี น การเปล่ียนแปลงทางกายภาพทีส่ ง่ ผลต่อความเป็นเมอื งของปารสี กรุงปารีสเปน็ หนึ่งในศนู ย์กลางทางเศรษฐกจิ และวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแหง่ หน่ึงของโลก และ ด้วยอทิ ธพิ ลของการเมอื ง การศึกษา บนั เทิง สือ่ แฟชัน่ วทิ ยาศาสตรแ์ ละศลิ ปะ ทำใหก้ รงุ ปารีสเปน็ หนึ่งในเมืองทสี่ ำคญั ท่ีสดุ แหง่ หนง่ึ ของโลก แควน้ อีล-เดอ-ฟรอ็ งส์เปน็ ศูนยก์ ลางทางเศรษฐกิจของ ประเทศฝรงั่ เศส ดว้ ยจำนวนเงินกวา่ 500.8 ล้านล้านยูโร (628.9 ล้านล้านดอลลารส์ หรฐั ) ซึ่งมากกว่า หนึ่งส่วนส่ีของผลติ ภณั ฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศฝรง่ั เศสในปี พ.ศ. 2548 กรุง ปารีสยังเป็นสถานท่ที ำการของบรษิ ัทยกั ษใ์ หญ่ 36 บรษิ ทั จากบริษทั ยกั ษใ์ หญ่ 500 บรษิ ัทจากการ สำรวจของฟอร์จูน โกลบลั 500 (Fortune Global 500) อกี ด้วย โดยเฉพาะย่านธุรกจิ ที่สำคญั แหง่ หนงึ่ ของทวีปยโุ รป ลา เดฟองซ์ ทง้ั ยังเป็นทีจ่ ดั งานนิทรรศการตา่ งๆ ซ่งึ รวมถงึ สหประชาชาติ ฯลฯ ปารสี เปน็ สถานทท่ี ่องเทยี่ วทโ่ี ดง่ ดงั แห่งหน่ึงในโลก โดยมนี กั ทอ่ งเท่ียวต่างชาตมิ ากกว่า 30 ล้านคนต่อปี กรงุ ปารีสเป็นหนึ่งใน 4 นครสำคญั ของโลก อกี สามนครคือ ลอนดอน, โตเกยี ว และ นวิ ยอร์ก ลักษณะความเปน็ เมืองในปัจจบุ ันของปารีส ตอนน้ปี ารีสมคี วามเจริญมากในด้านตา่ งๆทำใหเ้ มืองมคี วามอุดมสมบรู ณ์ไปด้วยประชากรที่ หนาแน่นและอกี ท้งั ยงั เป็นสถานทีท่ ่องเที่ยวทที่ ำให้คนต่างชาติเขา้ มาเทยี่ วมากขึน้ เช่น

4 ดา้ นสถาปัตยกรรม โดม แกรนดพ์ าเลซ สร้างจากโครงเหล็กและแก้ว ถือ สถาปัตยกรรมแก้ว ท่ีใหญท่ ีส่ ดุ ในโลก หลังจากทพ่ี ระราชวงั ครสิ ตัลคริสตลั ในลอนดอน ถกู ทำลายจากไฟไหม้ เมอ่ื ปี ค.ศ. 1936 แกรนด์พาเลซ เคยถูกปิดปรับปรุงเป็นเวลากว่า 10 ปี เน่ืองจากอุบตั ิเหตุกระจกหลังคาตกลงมา ในปี ค.ศ. 1993 กอ่ นจะกลบั มาเปิดให้บริการไดส้ ว่ นหนง่ึ ใน ในปี ค.ศ. 2004 และส่วนท่เี หลอื ในปี ค.ศ. 2007 นวัตกรรมลำ้ ท่เี ปน็ อกี หน่ึงจดุ เด่นของ แกรนด์พาเลซ คอื Virtual Tour ระบบท่ีสามารถเข้า ชมนทิ รรศการแบบเสมอื นจรงิ ผ่านทางเว็บไซต์ ผชู้ มจะไดส้ มั ผัสความยงิ่ ใหญส่ ุดอลงั การของ แกรนด์ พาเลซ ผ่านภาพ 3D แบบ 360 องศา โดยเลือกภาษาที่ต้องการได้ ระหวา่ ง อังกฤษ หรือ ฝร่ังเศส และในงานมหกรรมดนตรี Monumenta 2012 แกรนดพ์ าเลซ ถกู แปลงโฉมใหเ้ ปน็ โดมแกว้ มหศั จรรยแ์ ห่งแสงสี ทวั่ ทงั้ อาคารถกู สาดส่องดว้ ยแสงไฟและเลเซอร์ตกกระทบแผน่ แก้ว เกิดเปน็ ห้อง กระจกหลากสสี ัน แสงวบิ วับเคล่ือนไหวสลับโทนไปตามจงั หวะของเสยี งเพลง ผูเ้ ข้าชมผนั ตวั เองเป็น เฉดหนึง่ ในงาน ด้วยการใส่เสอ้ื สีขาวสแู้ สง black light เพม่ิ ความสนาน เตมิ ความสนุกแบบสุด ๆ ท่ี โดมมหศั จรรย์ แกรนด์พาเลซ เป็นต้น การก่อต้งั การตัง้ ถิน่ ฐานมากว่า 2 พันปี ปัจจุบันกรงุ ปารีสเปน็ หน่ึงในศนู ย์กลางทางเศรษฐกจิ และ วฒั นธรรมทล่ี ้ำสมยั แห่งหนึง่ ของโลก และด้วยอิทธิพลของการเมอื ง การศกึ ษา บันเทิง สอ่ื แฟชั่น วทิ ยาศาสตรแ์ ละศลิ ปะ ทำให้กรงุ ปารีสเปน็ หนง่ึ ในเมอื งทีส่ ำคัญที่สุดแหง่ หน่งึ ของโลก แควน้ อลี -เดอ- ฟรอ็ งสเ์ ปน็ ศนู ย์กลางทางเศรษฐกจิ ของประเทศฝรัง่ เศส ดว้ ยจำนวนเงนิ กว่า 500.8 ลา้ นล้านยูโร (628.9 ลา้ นล้านดอลลารส์ หรัฐ) ซ่ึงมากกว่าหน่งึ สว่ นสี่ของผลิตภณั ฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศฝรงั่ เศสในปี พ.ศ. 2548 กรุงปารสี ยังเป็นสถานที่ทำการของบริษทั ยักษ์ใหญ่ 36 บรษิ ทั จากบรษิ ทั ยกั ษ์ใหญ่ 500 บรษิ ัทจากการสำรวจของฟอรจ์ นู โกลบัล 500 (Fortune Global 500) อีก ด้วย โดยเฉพาะย่านธุรกจิ ท่สี ำคญั แห่งหนึ่งของทวปี ยโุ รป ลา เดฟองซ์ ทง้ั ยังเปน็ ที่จดั งานนทิ รรศการ

5 ต่าง ๆ ซ่ึงรวมถงึ สหประชาชาติ ฯลฯ ปารีสเป็นสถานทที่ ่องเที่ยวท่ีโดง่ ดงั แห่งหนง่ึ ในโลก โดยมี นกั ท่องเทยี่ วตา่ งชาตมิ ากกว่า 30 ล้านคนตอ่ ปี กรุงปารีสเป็นหนง่ึ ใน 4 นครสำคัญของโลก อีกสาม นครคอื ลอนดอน, โตเกยี ว และ นวิ ยอร์ก จำนวนประชากร ประชากร 67.028 ล้านคน (ม.ค. 2562) เพิ่มขน้ึ 0.15% วัยเด็ก (0-14 ป)ี 18.1% วยั รุ่นถึงวยั กลางคน (15-64 ปี) 62.1% และวยั ชรา (65 ปขี น้ึ ไป) 19.7% อายุขยั เฉลยี่ 82.70 ปี เพศชาย 79.6 ปี เพศหญงิ 85.6 ปี อัตราการเกิด 11.3 คนต่อ ประชากร 1,000 คน อตั ราการตาย 9.2 คนต่อประชากร 1,000 คน บทบญั ญัตริ ฐั ธรรมนญู ฝร่ังเศสไมใ่ ห้มีการจัดรวบรวมข้อมูลประชาชนด้วยการแบง่ แยกเชอื้ ชาติ และสีผวิ กลมุ่ เชื้อชาติตา่ ง ๆ ทำใหไ้ มไ่ ดม้ ีการสำรวจตวั เลขดงั กลา่ ว อย่างไรก็ตาม ชาวฝรัง่ เศส ประกอบด้วยคนหลากหลายชาติพันธุ์ เนื่องจากประวัติศาสตร์ และการอพยพจากประเทศอาณานิคม เช่น ชาวเคลต์ สลาฟ แอฟริกาเหนือ อนิ โดจีน ชนกลุ่มนอ้ ยบาสก์ ลาติน สว่ นอาณาเขตโพ้นทะเลของ ฝร่ังเศสเปน็ คนผิวดำ ผิวขาว ลูกคร่งึ ระหว่างผิวขาวกบั ผวิ ดำ (Mulatto) อนิ เดีย จนี ศาสนา รฐั ธรรมนญู ให้เสรีภาพการนบั ถอื ศาสนา และไม่กำหนดศาสนาประจำชาติ แตอ่ าจ แบ่งเปน็ ศาสนาคริสต์ ซง่ึ ส่วนใหญ่เป็นนิกายโรมนั คาทอลิก (63-66%) อิสลาม (7-9%) พทุ ธ (0.5- 0.75%) ยดู าย (0.5-0.75%) ไมน่ ับถือศาสนา (23-28%) ทัง้ นี้ ฝรัง่ เศสเปน็ ประเทศที่มีประชากร มสุ ลมิ มากทสี่ ดุ ในยโุ รป ภาษา ภาษาราชการ ได้แก่ ภาษาฝรง่ั เศส การศึกษา งบประมาณรายจ่ายด้านการศกึ ษา 5.43% ของ GDP วันชาติ 14 ก.ค. (ปี 2333) Fete de la Federation หรือ Bastille Day

6 ลักษณะของพรี ะมิดประชากร

7 ลักษณะกิจกรรมทางเศรษฐกจิ เม่ือดูจากมลู ค่าผลิตภณั ฑ์มวลรวมในประเทศ ประเทศฝรัง่ เศสนบั เปน็ มหาอำนาจทาง เศรษฐกจิ อนั ดบั 4 ของโลก ประเภทของอตุ สาหกรรมทเ่ี ป็นท่ีมาของความสำเร็จดังกลา่ ว ไดแ้ ก่ อุตสาหกรรมทางด้านการขนสง่ โทรคมนาคม อตุ สาหกรรมอาหาร ผลิตภณั ฑ์ยา รวมไปถึงภาค ธนาคาร การประกนั ภยั การท่องเท่ยี ว และสินค้าฟมุ่ เฟอื ย (เคร่ืองหนงั เส้อื ผ้าสำเร็จรปู น้ำหอมและ เหล้า) ในปี พ.ศ. 2547 ประเทศฝรง่ั เศสเสียเปรียบดุลการคา้ ถึง 6.6 พันลา้ นยโู ร ถอื เป็นผสู้ ่งออกราย ใหญ่เป็นอนั ดบั 4 ของโลกทางดา้ นสนิ ค้าทนุ (สว่ นมากจะเปน็ เครอื่ งจกั รและอุปกรณ์) และเปน็ อันดบั 2 ในส่วนของภาคบริการและทางดา้ นเกษตรกรรม (โดยเฉพาะธัญพืชและอตุ สาหกรรมอาหาร) ส่วน ในระดบั ภูมภิ าคยุโรป ประเทศฝรั่งเศสนบั เป็นท้ังผผู้ ลิตและผู้สง่ ออกสินค้าการเกษตรรายใหญ่ท่สี ดุ นอกจากน้ี สัดส่วนการคา้ ระหว่างประเทศฝรั่งเศสกับประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปคดิ เปน็ รอ้ ยละ 70 (ร้อยละ 50 เฉพาะประเทศในโซนยโู ร) ในดา้ นการลงทุน ประเทศฝรง่ั เศสเปน็ ประเทศทม่ี กี ารลงทนุ จากตา่ งประเทศมากเป็นอนั ดับ 2 ของโลก ทั้งนเี้ พราะผ้ลู งทนุ พอใจในคณุ ภาพของแรงงานชาวฝรั่งเศส การคน้ คว้าวจิ ัยข้ันสูง เทคโนโลยี ช้ันสงู ท่ีก้าวหน้ามาก เสถียรภาพของค่าเงิน และการควบคมุ ตน้ ทุนการผลิต ผลติ ภณั ฑม์ วลรวมในประเทศ (PIB) ปี พ.ศ. 2547 มีมลู ค่า 1,648.4 พันล้านยโู ร อตั ราการขยายตวั ของผลติ ภัณฑม์ วลรวมในประเทศ ปี พ.ศ. 2549 คดิ เป็นรอ้ ยละ 2 รายไดเ้ ฉล่ียต่อหัว 30,100 ดอลลาร์สหรัฐ (พ.ศ. 2549) อตั ราเงนิ เฟ้อคดิ เปน็ ร้อยละ 2.0 (ปี พ.ศ. 2549) ดลุ การคา้ ขาดดุลมมี ลู ค่า 6.6 พนั ลา้ นยโู ร (พ.ศ. 2547)

8 ประเทศฝรง่ั เศสยงั เปน็ ประเทศทีม่ โี รงไฟฟา้ พลงั งานนิวเคลียรม์ ากเปน็ อนั ดับ 2 ของโลก รองลงมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา (59 เตาปฏิกรณ์นวิ เคลยี ร์ ใน 19 โรงงานปรมาณูทั่วประเทศ) การผลติ กระแสไฟฟ้าในประเทศ 88% มาจากพลังงานนวิ เคลยี ร์ ค่าไฟฟา้ ในประเทศราคาถกู กวา่ ประเทศใกลเ้ คยี ง จงึ มกี ารส่งออกกระแสไฟฟ้าไปยงั ประเทศอนื่ เกษตรกรรม ประเทศฝร่ังเศสมีจำนวนพ้ืนทถ่ี ือครองเพ่ือการเกษตรกวา่ 590,000 แหง่ มปี ระชากรในวัย ทำงานในภาคการเกษตร 1,189,000 คน และมีพนื้ ท่เี พาะปลูก 27,668,000 เฮกตารห์ รอื เทา่ กับรอ้ ย ละ 50.7 ของประเทศฝร่ังเศสแผ่นดนิ ใหญ่ โดยมีผลิตผลทางการเกษตรหลกั ดังนี้ ธญั พชื 69.7 ล้านตัน ในจำนวนน้ี 37.6 ล้านตนั เปน็ ขา้ วสาลีและ 16.4 ล้านตันเป็นเมล็ด ข้าวโพด ประเทศฝรั่งเศสเป็นผูผ้ ลิตรายใหญท่ สี่ ุดของสหภาพยุโรปและเป็นอันดบั 5 ของโลก ไวน์ 48 ล้านเฮกโตลติ ร อันดบั 2 ของโลกและในสหภาพยุโรปรองจากประเทศอติ าลี นม 22.2 ล้านลิตร อนั ดับ 2 ของสหภาพยโุ รปรองจากประเทศเยอรมนีและเปน็ อันดับ 5 ของ โลก หัวผกั กาดหวาน 29.4 ล้านตนั ผลิตได้เป็นอันดบั 1 ของสหภาพยโุ รปและอนั ดับ 2 ของโลก เมลด็ พชื ทใ่ี หน้ ำ้ มัน 6 ลา้ นตนั ผลิตได้เปน็ อนั ดบั 1 ของสหภาพยโุ รป สว่ นด้านการทำปศุสัตว์และการผลิตเนื้อสตั วน์ น้ั มดี ังนี้ โค จำนวน 19.2 ล้านตัว / เน้อื โค ปรมิ าณผลติ 1.8 ลา้ นตัน สุกร จำนวน 15.2 ล้านตวั / เนอื้ สุกร ปรมิ าณผลติ 2.3 ล้านตัน แกะ จำนวน 8.9 ลำ้ นตวั , แพะ จำนวน 1.2 ลำ้ นตวั / เนอื้ แพะและแกะ ปรมิ ำณผลิต 1.3 ลำ้ นตนั

9 เนอื้ สตั วป์ ีก ปรมิ ำณผลติ 2.1 ลำ้ นตนั ประเทศคคู่ ำ้ ท่สี ำคญั ภำยกลมุ่ ประชำคมยโุ รปกวำ่ รอ้ ยละ 58.6 ของกำรคำ้ ทงั้ หมดของ ประเทศฝร่งั เศสคือ ประเทศเยอรมนี เบลเย่ยี ม เนเธอรแ์ ลนด์ ลกั เซมเบริ ก์ สหรำชอำณำจกั ร สเปน และอติ ำลี ท่เี หลอื ไดแ้ ก่ สหรฐั อเมรกิ ำ ประเทศสวติ เซอรแ์ ลนดแ์ ละแอลจีเรยี การคา้ ตา่ งประเทศ เครื่องบินแอรบ์ สั เอ 380 เคร่ืองแรกท่ผี ลิตในเมอื งตลู สู เม่อื วนั ท่ี 18 มกรำคม พ.ศ. 2548 โดยเคร่อื งบนิ แอรบ์ สั เป็นเสมือนสญั ลกั ษณข์ องควำมสำเรจ็ ทำงเศรษฐกิจของประเทศฝร่งั เศสและ สหภำพยโุ รป ในอดตี ประเทศฝร่งั เศสขำดดลุ กำรคำ้ มำโดยตลอดจนถงึ ปี พ.ศ. 2525 ซ่งึ ไดม้ กี ำรปรบั โครงสรำ้ งใหม่ เชน่ กำรไมร่ วมอตั รำรำยไดก้ บั ดชั นเี งินเฟอ้ และกำรปรบั ควำมสำมำรถในกำร แขง่ ขนั สง่ ผลใหส้ ภำวะกำรคำ้ ของประเทศฝร่งั เศสดขี นึ้ และตงั้ แตป่ ี พ.ศ. 2535 เป็นตน้ มำ ประเทศ ฝร่งั เศสก็ไดเ้ ปรยี บดลุ กำรคำ้ ติดต่อกนั เร่ือยมำ โดยปัจจยั ท่สี ง่ ผลใหฝ้ ร่งั เศสไดเ้ ปรยี บดลุ กำรคำ้ คอื รำคำพลงั งำนท่ฝี ร่งั เศสตอ้ งนำเขำ้ ไดล้ ดลง ประเทศฝร่งั เศสทำกำรคำ้ กบั สหภำพยโุ รปเป็นสำคญั โดยรอ้ ยละ 60 ของกำรสง่ ออกของฝร่งั เศสสง่ ไปยงั ตลำดสหภำพยโุ รป ซ่งึ เดิมถือวำ่ เป็นจดุ อ่อนของ ประเทศฝร่งั เศส แต่สภำวะเศรษฐกิจในปัจจบุ นั ไดก้ ลำยเป็นขอ้ ไดเ้ ปรยี บ และกำรสง่ ออกสนิ คำ้ มลู คำ่ สงู เช่น เคร่ืองบินแอรบ์ สั และอปุ กรณก์ ำรบิน ดำวเทียม อปุ กรณด์ ำ้ นกำรทหำร และรถไฟ ควำมเรว็ สงู (TGV) ไดข้ ยำยตวั อยำ่ งมำกโดยมสี ดั สว่ นถึงรอ้ ยละ 20 ของกำรสง่ ออกของประเทศ ฝร่งั เศสทง้ั หมด

10 แนวโนม้ สภำวะเศรษฐกิจในอนำคต คำดว่ำประเทศฝร่งั เศสจะไดเ้ ปรียบดลุ กำรคำ้ ลดลง เน่อื งจำก กำรถดถอยของอปุ สงคโ์ ลก ซง่ึ เป็นผลกระทบจำกวิกฤตกำรณเ์ ศรษฐกิจเอเชีย ในปี พ.ศ. 2541 และกำรถดถอยของเศรษฐกิจสหรฐั อเมรกิ ำ ภำยหลงั เหตกุ ำรณก์ ่อกำรรำ้ ยในสหรฐั อเมรกิ ำและ สงครำมในอิรกั การท่องเทยี่ ว พพิ ิธภณั ฑล์ ฟู ร์ สถำนท่ที ่องเท่ยี วช่อื ดงั แห่งหน่งึ ของประเทศฝร่งั เศส จำนวน 81.9 ลำ้ นคนนี้ ไม่รวม นกั ท่องเท่ยี วท่อี ำศยั ในประเทศฝร่งั เศสนอ้ ยกวำ่ 24 ช่วั โมง เช่น ชำวยโุ รปทำงตอนเหนือท่ีเดนิ ทำงผำ่ นประเทศฝร่งั เศสเพ่อื ไปประเทศสเปนหรอื อิตำลีในฤดรู อ้ น ประเทศฝร่งั เศสมีสถำนท่ี ทอ่ งเท่ยี วในทกุ ๆ บรรยำกำศไมว่ ำ่ จะเป็น สถำนท่ีทอ่ งเท่ยี วทำงดำ้ นวฒั นธรรมหรือธรรมชำติ ท่ี ประกอบไปดว้ ยทะเล หำดทรำย ป่ำ แม่นำ้ ภเู ขำ บำ้ นพกั ตำกอำกำศ ฯลฯ สถำนท่ที อ่ งเท่ยี วท่เี ป็น ท่นี ยิ มมำกท่สี ดุ มดี งั น[ี้ 3] หอไอเฟล (6.2 ลำ้ น), พิพิธภณั ฑล์ ฟู ร์ (5.7 ลำ้ น) , พระรำชวงั แวรซ์ ำยส์ (2.8 ลำ้ น) , พิพธิ ภณั ฑอ์ อรเ์ ซ (2.1 ลำ้ น) , ประตชู ยั ฝร่งั เศส (1.2 ลำ้ น) , ซองตร์ ปอมปิดู (1.2 ลำ้ น) , มง-แซ็ง-มแี ชล (1 ลำ้ น) , พระรำชวงั ชอ็ งบอร์ (711,000) , วิหำรแซ็งต-์ ชำแปล (683,000) , ชำโต ดู โอต-์ โคนคิ บรู ก์ (549,000) , ปยุ เดอ โดม (5 แสน) , พพิ ธิ ภณั ฑป์ ิกสั โซ (441,000) และกำรก์ ำ ซอน (362,000) ประเทศฝร่งั เศสมโี รงแรมกวำ่ 18,217 แหง่ สถำนท่ีตงั้ แคมป์ 8,289 แห่ง หม่บู ำ้ นตำก อำกำศ 1001 แห่ง บำ้ นพกั เยำวชน 188 แห่ง ท่พี กั รำคำยอ่ มเยำในตำ่ งจงั หวดั 63,158 แห่ง หอ้ งพกั พรอ้ มอำหำรเชำ้ ตำมบำ้ นคนทอ้ งถ่ิน 31,013 หอ้ ง โดยประเทศฝร่งั เศสมรี ำยไดจ้ ำกกำร ทอ่ งเท่ยี ว 32.8 พนั ลำ้ นยโู ร นบั เป็นอนั ดบั 3 ของโลกรองจำกสหรฐั อเมรกิ ำและอติ ำลี และมดี ลุ กำร ท่องเท่ยี วเกินดลุ กว่ำ 9.8 พนั ลำ้ นยโู ร

11 วัฒนธรรม ชำวฝร่งั เศสมีวฒั นธรรมกำรนอนกลำงวนั จงึ สง่ ผลใหป้ ระเทศอำณำนคิ มของฝร่งั เศสชอบ นอนกลำงวนั ตำมไปดว้ ย อย่ำงไรก็ตำมในสว่ นลกึ ของวฒั นธรรม คลำ้ ยคลึงกบั ขององั กฤษและ อิตำลีอยแู่ ลว้ ไม่สำมำรถแบ่งไดช้ ดั เจนเดน่ ชดั เช่น กำรจบั มือ ภำษำ เป็นตน้ เน่อื งจำกชนพืน้ เมือง เป็น ชนผวิ ดำ และสีผิว จงึ ไดว้ ฒั นธรรมตำมกนั มำ

12 บรรณานุกรม http://www.thaiembassy.fr/republic-of-france/general/ https://sites.google.com/site/parisparis2102/home/phumisastr http://www.mapnall.com/th/%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E 0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88- %E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%AA_1112550.h tml https://www.populationpyramid.net/france/2015/ https://fuji2541.wordpress.com/%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3 %E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88/


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook