การวดั และประเมนิ ผลในศตวรรษที 21 โดย ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.พินดา วราสุนนั ท์
ทีอยู่ คณะศึกษาศาสตร์และพฒั นศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาํ แพงแสน - ปริญญาตรี การสอนวิทยาศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ (2544) - ปริญญาโท วิจยั การศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั (2548) - ปริญญาเอก การวดั และประเมินผลการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลยั (2555) 21/03/64
ภาพรวมของกิจกรรมในช่วงเชา้ สอบปรนยั 10 ขอ้ ก่อนและหลงั อบรม งานเดียว (15 นาที) บงั คบั และรายงานคะแนน สาํ รวจการใชว้ ธิ ีการสอนแบบต่างๆ งานเดียว (2 นาที) บงั คบั ไม่มีคะแนน ออกแบบการวดั และประเมินในศตวรรษที 21 งาน งานกลุ่ม (15 นาที) บงั คบั ไม่มีคะแนน กลุ่ม 21/03/64
ทาํ แบบทดสอบก่อนฝึกอบรม แบบสอบเกบ็ คะแนน ปรนัย 10 ข้อ 15 นาที 21/03/64
ป. 4 ครูให้ปลูกผกั บุ้ง ป. 6 ครูให้ชํากงิ
ปัญหาการสอนและการวดั ผลประเมินผลแบบเดิม ผกั บุ้ง การชํากงิ - ครูไม่ประเมินตามสภาพจริง ไม่คาํ นึงถงึ บริบท - ครูควรตดิ ตามการชํากงิ ไม่ควรทิงไว้ยาวนาน ความเป็ นจริง และมปี ัจจัยอืนทนี ักเรียนควบคุม เกนิ ไปเพือพฒั นา ให้ข้อเสนอแนะก่อนกงิ ตาย ไม่ได้ - ครูทราบว่านักเรียนเอาต้นจริงมาส่งแต่ให้ - ครูควรให้ความสําคญั กบั การเจริญเตบิ โตของ คะแนนรับผดิ ชอบ พืชทุกวนั - การสอนทเี น้นคะแนนมากเกนิ ไป
จดุ ประสงคก์ าร ปลูกผักบุ้ง ชาํ กงิ เรยี นรู้ สามารถปลกู ผกั บงุ้ ไดจ้ รงิ สามารถชาํ กิงได้ มีราก เครอื งมือ วธิ ีการเก็บขอ้ มลู การตดั สนิ 21/03/64
• นาํ คะแนนป. 1 มาจดั เรียงเพือจดั หอ้ งสอบ ก่อนเรียน • สร้างขอ้ ตกลงกบั ผปู้ กครองเกียวกบั การเรียน การบา้ น ชินงานทีผปู้ กครองตอ้ งมีส่วนร่วม • ครูใหน้ กั เรียนนงั ตามใจชอบ และสงั เกตนกั เรียนสมาธิสันเพอื ส่งรายชือใหแ้ นะแนว ระหวา่ ง • เมือครูทราบพฤติกรรมนกั เรียนแลว้ จะจดั ทีนงั ใหน้ กั เรียนแบบเพอื นช่วยเพือน เรียน • การสอนวทิ ยาศาสตร์ ฝึกใหน้ กั เรียนทาํ เช่น นาํ คุกกีชอ็ กโกแลตมาสอนเรืองฟอสซิล ทาํ เจลลีสอนเรืองการเปลียน สถานะ • สงั งานทีใหผ้ ปู้ กครองไดม้ ีส่วนร่วมดว้ ย และมีการสอบเกบ็ คะแนนเป็นระยะๆ ทุกเดือน • ชินงานนกั เรียนตอ้ งนาํ มารายงานและนาํ ไปปรับปรุงไดก้ ่อนส่งชินสมบูรณ์ หากใหป้ ลูกตน้ ไมใ้ หไ้ วใ้ นชนั เรียน • มีกิจกรรมอิสระและพฒั นาตนเองในการประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ พร้อมทาํ วจิ ยั กบั ครูทงั โรงเรียน • หากใหน้ กั เรียนทาํ งานกล่มุ นอกจากครูประเมินนกั เรียนแลว้ นกั เรียนตอ้ งประเมินตนเองและเพือนในกลุ่มร่วมประเมิน ปลายภาค • สอบปลายภาค โดยคะแนนตอ้ งนอ้ ยกวา่ คะแนนเกบ็ (ปลายภาค 30 ระหวา่ งเรียน 70)
• นาํ คะแนนป. 1 มาจดั เรียงเพือจดั หอ้ งสอบ : จดั ตาํ แหน่ง Placement ก่อนเรียน • ชินงานทีผปู้ กครองตอ้ งมีส่วนร่วม : การประเมินแบบมีส่วนร่วม การประเมินจดั • สงั เกตนกั เรียนสมาธิสันเพอื ส่งรายชือใหแ้ นะแนว : การประเมินวนิ ิจฉยั ตาํ แหน่ง Formative ระหวา่ ง • จดั ทีนงั ใหน้ กั เรียนแบบเพือนช่วยเพอื น : เพือนช่วยเพอื น การเรียนรู้แบบร่วมมือ assessment เรียน • ฝึกใหน้ กั เรียนทาํ เช่น นาํ คุกกีช็อกโกแลตมาสอนเรืองฟอสซิล : การสอนแบบลงมือปฏิบตั ิ • สงั งานทีใหผ้ ปู้ กครองไดม้ ีส่วนร่วมดว้ ย และมีการสอบเกบ็ คะแนนเป็นระยะๆ ทุกเดือน : formative Summative • ชินงานปรับปรุงไดก้ ่อนส่งชินสมบูรณ์ หากใหป้ ลูกตน้ ไมใ้ หไ้ วใ้ นชนั เรียน : formative assessment • มีกิจกรรมอิสระและพฒั นาตนเองในการประเมิน : ประเมินตามสภาพจริง • นกั เรียนตอ้ งประเมินตนเองและเพือนในกลมุ่ ร่วมประเมิน : การประเมิน 360 องศา ปลายภาค • สอบปลายภาค โดยคะแนนตอ้ งนอ้ ยกวา่ คะแนนเก็บ (ปลายภาค 30 ระหวา่ งเรียน 70) : summative
การเรียนรู้ ยคุ โควดิ
เอกสารบรรยายโดย รศ.ดร. ณฏั ฐภรณ์ หลาวทอง ศูนยน์ วตั กรรมการเรียนรู้ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั
1. การสอบข้อเขียน online 9. การประเมินบนั ทกึ อนุทนิ 15. การประเมนิ โดยใช้สถานการณ์จําลอง 2. การสอบปากเปล่า online 10. การประเมนิ การนําเสนอ 16. การประเมนิ แบบปรับเหมาะโดยใช้ 3. การทดสอบทักษะปฏิบัติ การอดั คลปิ วดี โี อ 11. การประเมินโดยเพือน คอมพวิ เตอร์ (CAT) 4. การสังเกตพฤติกรรม 12. การประเมินตนเอง 17. การใช้คอมพวิ เตอร์อจั ฉริยะช่วยสอน 5. การประเมินชินงาน 13. การประเมนิ จากการสะท้อนการทาํ งาน 18. การเรียนรู้พเิ คราะห์ 6. การประเมินรายงาน 14. การประเมินโดยใช้เกม 7. การตรวจการบ้าน 8. การประเมินแฟ้มสะสมผลงานแบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์
ดงั นนั ยคุ โควดิ ทาํ ใหค้ รูทุกท่าน ไดด้ าํ เนินการวดั และประเมินผล ทกั ษะในศตวรรษที 21 ช่วงโควดิ ท่านไดเ้ คยใช้ การสอนประเมินผลการเรียนรู้ แบบใดบา้ ง และความ ประทบั ใจ/สิงทีไดเ้ รียนรู้ใหม่ๆ
การเรียนการสอนแบบเดิม การเรียนการสอนในศตวรรษที 21
ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น เ พื อ พั ฒ น า การวดั และประเมินเพือ สดั ส่วนของ ผู้เรียน หรือเรียกว่า การวัดและประเมิน สรุปผลการเรียนรู้ หรือ การ formative ควร ระหว่างเรียน การวัดประเมินผลย่อย วดั และการประเมินตดั สินผล วิธีการประเมินจากการสังเกต ซักถาม การเรียนรู้เมือจบหน่วยการ มากกวา่ ระดมความคิด แฟ้ มสะสมงาน การ เรียน จบรายวิชา รับรองวฒุ ิ ปฏิบัติงานและการทดสอบ ผู้ประเมินคือ การเลือนชนั หรือจบหลกั สูตร summative ครู ตนเอง หรื อเพือนร่ วมห้ อง โดยมี จุด ปร ะสงค์ เพื อห า จุด เด่ นแ ละ จุด ทีต้ อ ง summative assessment ปรับปรุง formative assessment ประเภทของการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู ้
เป้าหมายการวดั และประเมินผลในศตวรรษที 21 Summative การใหข้ อ้ มูลยอ้ นกลบั เพอื assessment ทีนาํ ขอ้ มูลจาก พฒั นาผเู้ รียน formative assessment รูปแบบของการใหข้ อ้ มลู มาตดั เกรด ยอ้ นกลบั แบบเขียน แบบวาจา แบบเพือน ฯลฯ การเรียนรู้ด้วยการนาํ ตนเอง การกาํ กบั ตนเอง การสะท้อนตนเอง meta cognition 21/03/64
3R คือ ทกั ษะด้านความรู้ (Hard Skills) • Reading : อ่านออก อ่านจบั ใจความได้ มีนิสยั รักการอ่าน • (W)Riting : เขียนได้ สามารถสือสารใหค้ นอืนเขา้ ใจ ยอ่ ความเป็น สรุปในความสาํ คญั ได้ รู้วธิ ีการเขียนหลาย ๆ แบบ • (A)Rithemetics : คิดเลขเป็น มีทกั ษะในการคิดแบบนามธรรม 8C คือ ทกั ษะทางอารมณ์ (Soft Skills) • Critical Thinking and Problem Solving : ทกั ษะดา้ นการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และทกั ษะในการแกป้ ัญหา • Creativity and Innovation : ทกั ษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวตั กรรม • Cross-cultural Understanding : ทกั ษะดา้ นความเขา้ ใจความต่างวฒั นธรรม ต่างกระบวนทศั น์ • Collaboration, Teamwork and Leadership : ทกั ษะดา้ นความร่วมมือ การทาํ งานเป็นทีม และภาวะผนู้ าํ • Communications, Information, and Media Literacy : ทกั ษะดา้ นการสือสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทนั สือ • Computing and ICT Literacy : ทกั ษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือสาร • Career and Learning Skills : ทกั ษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้ • Compassion : มีความเมตตากรุณา มีคุณธรรม และระเบียบวินยั
Griffin และคณะ (2012) Griffin และคณะ (2012) ทกั ษะทีสาํ คญั ในการ กล่าวว่า ประเมิน คือ - การเลือกใชเ้ ทคโนโลยี ความสามารถทางเทคโนโลยี การประเมินทกั ษะในศตวรรษที 21 โดยตรงในชันเรียนอย่างเดยี วนัน - การสร้างนวตั กรรม เป็ นไปได้ยาก - การสือสาร - การอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ืน - ความเป็นพลเมือง
ทกั ษะพสิ ยั แตกเป้าหมาย (แบบประเมนิ /แบบสังเกต) การเรียนรู้ที ตอ้ งการใหช้ ัดเจน จติ พสิ ัย ความคดิ พฤตกิ รรม เพอื กาํ หนด (แบบประเมนิ /แบบสงั เกต) เครืองมอื วัดและ ประเมนิ ต่อไป พทุ ธพิ สิ ัย วดั ความรู้ (แบบสอบ) 21/03/64
หลกั ในการสอนและการประเมนิ ในศตวรรษที 21 (Griffin และคณะ, 2012 และ Aghazadeh, 2019) • อยู่บนพืนฐานของการศึกษาความกา้ วหน้า มีการบนั ทึกการตอบสนอง ของนักเรียนระหว่างดาํ เนินการ การพฒั นาของความรู้ความเขา้ ใจและ ทกั ษะของนกั เรียน • การประเมินตามสภาพจริง มีความเป็ นพลวตั สามารถปรับเปลียนได้ มีความยดื หยนุ่ มีวธิ ีการประเมินทีหลากหลาย • นกั เรียนมีการทบทวน แกไ้ ข มีการทดลองซาํ โดยครูให้ขอ้ เสนอแนะทีมี ประโยน์ • มีการใชป้ ระโยชน์จากเทคโนโลยีเพือไดส้ ารสนเทศทีเป็ นประโยชน์กบั ครูและนกั เรียน • มีเกณฑท์ ีดี ยตุ ิธรรม สร้างขอ้ ตกลงร่วมกนั ระหวา่ งครูและนกั เรียน
รูปแบบการประเมิน ทกั ษะในศตวรรษที 21
การใชแ้ บบทดสอบ วตั ถุประสงค์ สามารถใช้กบั formative assessment และ summative assessment รูปแบบ วเลือก เตมิ คาํ ตอบสัน เติมคาํ ตอบยาว ปัจจุบนั ทําแบบออนไลน์ ข้อดี บริหารจัดการง่าย สามารถวดั มสรรถนะหลกั ได้ดี ข้อจํากดั - หากดาํ เนินการรูปแบบออนไลน์อาจมีการคดั ลอก ต้องจาํ กดั เวลาให้พอดแี ละทาํ แบบสอบคู่ขนาน สลบั โจทย์ สลบั ตวั เลือก - หากเป็ นแบบสอบอตั นัย เกณฑ์ต้องชัดเจนและแจ้งให้นักเรียนทราบล่วงหน้า
ตวั อยา่ งแบบสอบคู่ขนาน ชดุ 1 ชดุ 2 ขอ้ ใดกลา่ วถงึ ความหมายของการวดั ได ้ ถกู ตอ้ ง “การการกาํ หนดคา่ หรอื ตวั เลขใหก้ บั สงิ นันๆ” ก. การตดั สนิ คณุ ค่า ตรงกบั ความหมายขอ้ ใด ข. การกาํ หนดคา่ หรอื ตวั เลขใหก้ บั สงิ นันๆ ก. การวดั ค. การกาํ หนดเกณฑก์ ารประเมนิ ข. การประเมนิ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ค. การตดั สนิ ง. ถกู ทกุ ขอ้
คุณภาพข้อสอบรายข้อ 1. ความยาก(Item Difficulty Index) ในกรณีของขอ้ สอบปรนยั ความยาก คือ สดั ส่วนของผทู้ ีตอบขอ้ สอบ ขอ้ นนั ถูกเมือเทียบกบั ผสู้ อบทงั หมด ใชส้ ญั ลกั ษณ์ยอ่ p โดยมีสูตรการคาํ นวณดงั นี (0.2-0.8 ถือวา่ ใชไ้ ด)้ ความยาก (p) = จาํ นวนของผทู้ ีตอบขอ้ สอบขอ้ นนั ถูก จาํ นวนผสู้ อบทงั หมด ค่าความยาก ความหมายระดบั ความยาก คุณภาพข้อสอบ ร้อยละ สัดส่วน ง่ายมาก ไม่ดีตอ้ งตดั ทิงหรือปรับปรุง ค่อนขา้ งง่าย พอใชไ้ ด้ 80-100 0.8-1.0 ปานกลาง ดีมาก คอ่ นขา้ งยาก พอใชไ้ ด้ 60-79 0.6-0.79 ยากมาก ไม่ดีตอ้ งตดั ทิงหรือปรับปรุง 40-59 0.4-0.59 20-39 0.2-0.39 0-19 0-0.19
2. อาํ นาจจาํ แนก (Item Discrimination)ในส่วนของขอ้ สอบปรนยั หมายถึง ความสามารถของขอ้ สอบในการจาํ แนกกลุ่มผสู้ อบทีมีความสามารถแตกต่างกนั (กลุ่มเก่ง-กลุ่มอ่อน) ออกจากกนั สูตรในการคาํ นวณค่าอาํ นาจจาํ แนกดงั แสดง (อาํ นาจจาํ แนก 0.2 ขึนไปถือวา่ ใชไ้ ด)้ ดชั นีอาํ นาจจาํ แนก = สดั ส่วนของกลุ่มผตู้ อบถูกในกลุ่มสูง-สดั ส่วนของกล่มุ ผตู้ อบถูกในกลุ่มตาํ ค่าอาํ นาจจาํ แนก การแปลผล มากกว่า 0.4 ดีมาก ดี 0.3-0.39 พอใช้ 0.11-0.29 ควรปรับปรุง เฉลยผดิ หรือ concept ผดิ พลาด 0.00-0.10 ตดิ ลบ
การประเมินตนเอง วตั ถุประสงค์ ส่วนใหญ่ใช้กบั formative assessment แต่อาจใช้ร่วมกบั summative assessment รูปแบบ แบบตรวจสอบรายการหรือมาตรประมาณค่าโดยสามารถดาํ เนินการในรูปแบบ ออนไลน์หรือเขยี น ข้อดี บริหารจดั การง่าย ข้อจาํ กดั - อาจมอี คติในการประเมนิ จงึ ควรมกี ารประเมนิ แบบ 360 องศา - หากเป็ นเดก็ เลก็ ต้องมกี ารปรับรูปแบบคาํ ถาม
การประเมินโดยผอู้ ืน วตั ถุประสงค์ ส่วนใหญ่ใช้กบั formative assessment แต่อาจใช้ร่วมกบั summative assessment รูปแบบ แบบตรวจสอบรายการหรือมาตรประมาณค่าโดยสามารถดาํ เนินการในรูปแบบ ข้อดี ออนไลนห์ รือเขียน ข้อจาํ กดั มีความลาํ เอียงนอ้ ยกวา่ การประเมินตนเอง - อาจเกิดการประเมินแบบมากเกินความจริง จึงควรมีการประเมินแบบ 360 องศา - หากเป็นเดก็ เลก็ ตอ้ งมีการปรับรูปแบบคาํ ถาม
วตั ถุประสงค์ แฟ้มสะสมผลงาน รูปแบบ แสดงถึงความกา้ วหนา้ ในการเรียนรู้ของผเู้ รียน แต่ไม่เหมาะกบั การประเมินทีมีวตั ถุประสงค์ ข้อดี เดียวหรือการเปรียบเทียบกบั บุคคลอืน ข้อจาํ กดั เดิมเป็นกระดาษแต่ปัจจุบนั นิยม e-portfolio สะทอ้ นความสามารถทีแทจ้ ริง เป็นการประเมินตามสภาพจริง - ใชเ้ วลามาก - ความเทียงในการตรวจสอบอาจไม่เท่ากบั แบบสอบ - หากวตั ถุประสงคแ์ ละเกณฑก์ ารประเมินไม่ชดั เจน การเกบ็ ขอ้ มูลในแฟ้มอาจไม่สะทอ้ น ความสามารถทีแทจ้ ริง รวมถึงผใู้ ชไ้ ม่ทราบวา่ จะใชก้ ารประเมินความสามารถจากแฟ้มอยา่ งไร - ตดั สินใจไม่ไดว้ า่ เนือหาอะไรทีควรอยใู่ นแฟ้ม - ไม่ทราบวิธีการแปลเนือหาสารสนเทศในแฟ้ม
แนวทางในการประเมินแฟ้มสะสมผลงาน (ชวลิต ชูกาํ แพง, 2006) • -ตรเปว็จนสผอลบงาดนูวทา่ ีตผรลงงกานบั ใเปน้าแหฟม้มาแยต่ละชินมีลกั ษณะครบ 3 ประการ หรือไม่ ประกอบดว้ ย - มีการสะทอ้ นขอ้ มูลยอ้ นกลบั ของผลงาน (reflection) และ - มีการรับรองคุณคา่ (captions) ของผลงาน • ยงั พไมิจาบ่ รรณราลดุจูคุดวปารมะกสา้ งวคห์ หนรา้ ือแนลกะั คเรวียานมยสงั าํไเมร็จก่ ขา้ อวหงผนลา้ งคานรูตวอ้า่ งบพริจราลรุตณาามใจหุดน้ ปกั รเะรสียนงคสท์ รีต้างงั ผไวลหง้ ารนือใไนม่ ถา้ เรืองนนั เพมิ เติม เพอื เป็นการซ่อมเสริมหรือการพฒั นาผเู้ รียน • ปัญหาทีพบในการประเมินแฟ้มสะสมผลงานของนกั เรียน โดยครูควรใหค้ าํ แนะนาํ นกั เรียนอยา่ ง สมาํ เสมอในการเกบ็ สะสมผลงานหรือหลกั ฐานใหส้ อดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
การตรวจสอบคุณภาพของแฟ้ม ความตรง (Validity) ความเทียง (Reliability) - ความเห็นพอ้ งระหวา่ งผปู้ ระเมิน - เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนขึนกบั อะไร - ความคงทีระหวา่ งผปู้ ระเมิน - ความคงทีของคะแนนนักเรียนคนเดิมในงานลักษณะที - ชินงานเลือกมาอยา่ งไร คลา้ ยกนั แต่ต่างโอกาส - ความคงทีของคะแนนชินงานแบบเดียวกนั แต่ต่างรูปแบบ - คะแนนใชว้ นิ ิจฉยั ไดห้ รือไม่ - ความคงทีของคะแนนในงานทีคลา้ ยกนั - เมือนกั เรียนไดค้ ะแนนสูงหมายถึงอะไรในเชิงปฏิบตั ิ - หากนกั เรียนไดค้ ะแนนนอ้ ยบอกไดไ้ หมว่าควรทาํ อยา่ งไรจะทาํ ใหน้ กั เรียนดีขึน และทราบไดอ้ ยา่ งไรวา่ นกั เรียนปรับปรุง - การใชแ้ ฟ้มสะสมผลงานแลว้ มีผลอะไรบา้ งต่อนักเรียน วิชาเรียน โรงเรียน และ นาํ ไปสู่การพฒั นาอยา่ งไร
21/03/64
แบบทดสอบวดั สถานการณ์ วตั ถุประสงค์ ส่วนใหญ่ใช้กบั formative assessment รูปแบบ แบบวดั สถานการณ์ อาจเป็นแบบออนไลน์ วีดีโอ แบบสอบ ข้อดี - เป็นการวดั ทกั ษะทีเป็นความรู้และไม่ใช่ความรู้ ข้อจํากดั - อยบู่ นฐานของสถานการณ์เชิงคิดวิเคราะห์ จึงใกลเ้ คียงสภาพจริง - การใหค้ ะแนนนบั เป็นความทา้ ทายเพราะไมม่ ีคาํ ตอบตายตวั ทีถูกตอ้ งชดั เจน - ไม่เหมาะสมกบั นกั เรียนอายนุ อ้ ยทีขาดทกั ษะการตดั สิน
การวดั ความสามารถในการปฏิบตั ิ วตั ถุประสงค์ ส่วนใหญ่ใช้กบั formative assessment รูปแบบ การแสดงความสามารถ เช่น การแสดงนิทรรศการ การทาํ งานกลุ่ม การทดลอง การนาํ เสนอ การทาํ โครงงาน การแสดงบทบาทในบริบทจริง สามารถดาํ เนินการทงั แบบ face to face ข้อดี และ online ข้อจาํ กดั - ประเมินความสามารถจริง มีปฏิสมั พนั ธ์ ผเู้ รียนตอ้ งวิเคราะห์บริบท วเิ คราะห์ปัญหา หาขอ้ มูล โดยในการแกป้ ัญหาตอ้ งใชท้ กั ษะการคิดวิเคราะห์ การแกป้ ัญหาและทกั ษะต่างๆ - ระดบั การตดั สินค่อนขา้ งกวา้ ง มีหลายระดบั เพราะผลการตดั สินมีความแตกต่างกนั ส่งผลต่อ ความคงเส้นคงวาของการวดั - การประเมินทกั ษะทางอาชีพตอ้ งมีการกาํ หนดเป้าหมาย องคป์ ระกอบหลกั
21/03/64
การประเมินโดยใชค้ อมพิวเตอร์เป็นฐาน วตั ถุประสงค์ ใชก้ บั formative assessment และ summative assessment รูปแบบ มีหลายรูปแบบทงั แบบตวั เลือก ตอบสนั ตอบยาว ข้อดี - ตรวจใหค้ ะแนนไว ข้อจาํ กดั - รูปแบบการสอบมีความยดื หยนุ่ สามารถใหข้ อ้ เสนอแนะทนั ที - อาจมีการคดั ลอกสูง ควรมีแบบสอบหลายฉบบั และจาํ กดั เวลาในการตอบ - ความสามารถดา้ น ICT ของนกั เรียนอาจเป็นขอ้ จาํ กดั - อาจเกิดจากความบกพร่องทางดา้ นเทคโนโลยี
การสอนแบบโครงงาน วตั ถุประสงค์ ใชก้ บั formative assessment และ summative รูปแบบ ข้อดี assessment ข้อจํากดั เป็นวิธีการเรียนรู้ทีเกิดจากความสนใจของผเู้ รียนทีอยากจะศึกษาคน้ ควา้ เกียวกบั สิงใด สิงหนึงหรือหลายสิงทีสงสยั และอยากรู้คาํ ตอบใหล้ ึกซึง ใชท้ กั ษะกระบวนการขนั สูง ความคิดสร้างสรรค์ มีการลงมือปฏิบตั ิ ใชป้ ระเมินได้ ครอบคลุมทุกสมรรถนะ - ตอ้ งมีการประเมินอยา่ งต่อเนือง มิฉะนนั จะประเมินแคผ่ ลผลิต ขาดกระบวนการ - เรืองทีทาํ ตอ้ งเหมาะสมกบั วยั ของเดก็ - ครูและผสู้ อนตอ้ งมีความรู้ความเขา้ ใจในเรืองนนั ๆ
การปฏบิ ัติการประเมนิ กบั ทกั ษะต่างๆ ตามช่วงเวลา (f=formative และ s=summative) (Redecker, 2013 อ้างถึงใน Siarova, Sternadel และ Mašidlauskaite, 2017) การสือสารภาษาหลกั แบบสอบ แบบสอบ แบบสํารวจ การประเมนิ องิ การประเมนิ ตนเอง มาตรฐาน หลายตัวเลือก ความสามารถ สมรรถนะเป็ นฐาน โดยครู โดยเพือน s ทศั นคติ f-s สมรรถนะหลัก ss การสือสาร s s s f-s ภาษาต่างประเทศ s s s f-s ความสามารถทาง คณติ ศาสตร์และพืนฐาน s s s f-s ทางวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ความสามารถทางดจิ ทิ ลั ทกั ษะการเรียนรู้ s f-s f ความเป็ นพลเมือง f-s ความตระหนักรู้ทาง f สังคมและวฒั นธรรม ความเป็ นผู้ประกอบการ f
การประเมนิ โดยใช้ การทดสอบแบบ แฟ้มสะสมผลงาน การประเมนิ โดยใช้ ใช้การจําลอง การใช้คอมพวิ เตอร์ เรียนรู้พเิ คราะห์ คอมพวิ เตอร์ ปรับเหมาะด้วย ช่วยสอนอจั ฉริยะ Learning อเิ ลก็ ทรอนิกส์ เกม สถานการณ์ คอมพวิ เตอร์ Analytics การสือสารภาษาหลกั s s สมรรถนะหลกั f f-s f-s การสือสารภาษาต่างประเทศ s s f-s f-s f-s f-s f-s f-s ความสามารถทางคณิตศาสตร์ s s f-s f-s f-s และพืนฐานทางวทิ ยาศาสตร์ f-s และเทคโนโลยี s s f f-s f-s s ff ความสามารถทางดจิ ทิ ัล f f-s ทกั ษะการเรียนรู้ f-s f-s ความเป็ นพลเมือง ความตระหนักรู้ทางสังคมและ f-s วัฒนธรรม ความเป็ นผู้ประกอบการ
แบบสอบ แบบสอบหลาย แบบสํารวจ การประเมนิ องิ การประเมนิ มาตรฐาน ตวั เลือก ความสามารถ สมรรถนะเป็ น ตนเอง โดยครู ทัศนคติ การแก้ปัญหา s สมรรถนะรอง ฐาน โดยเพือน การประเมนิ ความเสียง s s ความคดิ ริเริม ff การตัดสินใจ s f การจัดการความรู้สึก การคดิ เชิงวเิ คราะห์ ss ff ความคดิ สร้างสรรค์ ff f ff ff
การประเมิน การทดสอบ แฟ้มสะสม การประเมิน ใช้การจาํ ลอง การใช้ เรียนรู้พเิ คราะห์ โดยใช้ แบบปรับ ผลงาน โดยใช้เกม สถานการณ์ คอมพวิ เตอร์ Learning คอมพวิ เตอร์ เหมาะด้วย อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ช่วยสอน Analytics คอมพวิ เตอร์ อจั ฉริยะ การแก้ปัญหา s s สมรรถนะรอง f f-s f-s s s ff การประเมนิ ความเสียง ff ความคดิ ริเริม f การตดั สินใจ ff การจดั การความรู้สึก การคดิ เชิงวเิ คราะห์ f ความคดิ สร้างสรรค์ f
คุณภาพของเครืองมือในศตวรรษที 21 ความตรง /ความเทยี งตรง ความเทยี ง/ความเชือมนั (ความสามารถของเครืองมือทวี ดั ได้ตรงตามทตี ้องการ) (ความสอดคล้องกนั ของผลการวดั เช่น ข้อมูลจากการ อดตี เน้นการตรวจสอบความสอดคล้องของเนือหาและข้อคําถาม ประเมนิ ตนเอง ครู เพือนประเมนิ มคี วามสอดคล้องกนั ) โดยให้ผ้เู ชียวชาญตรวจ จากนนั คาํ นวณค่า IOC ปัจจบุ ัน ระดบั ชันเรียนจงึ เน้นการใช้แหล่งข้อมูลทหี ลากหลาย เครืองมือการประเมนิ ทหี ลากหลายในการทําความเข้าใจ ประสิทธิภาพการสอนและการเรียนรู้ 21/03/64
ลองทาํ ข้อสอบใน google form โดยใช้แนวคดิ การให้ข้อมูล ย้อนกลบั คลิป ทบทวน
สรุปข้อค้นพบการประเมนิ ในศตวรรษที 21 (Siarova, Sternadel และ Mašidlauskaite, 2017) • ไม่มวี ธิ ีใดวธิ ีหนึงทีดที สี ุดในการประเมนิ ทักษะในศตวรรษที 21 ครูต้องใช้วธิ ีการทหี ลากหลายโดยมคี วาม ยืดหยุ่น • วธิ ีการประเมนิ ตามมาตรฐาน เช่น การสอบ ข้อสอบแบบตวั เลือก ยงั คงถูกใช้ในการประเมนิ สมรรถนะหลกั ด้าน ภาษา คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ความสามารถทางดจิ ทิ ลั • การประเมนิ ทีเน้นองิ ความสามารถเป็ นฐานควรมกี ารบูรณาการการให้ข้อเสนอแนะ โดยคาํ นึงถึงคุณลกั ษณะ ของนักเรียน และมกี ารกาํ หนดเป้าหมายกบั นักเรียนทชี ัดเจน มกี ารให้ข้อเสนอแนะทที นั เวลา • การประเมนิ ตนเองและโดยเพือนทําให้นักเรียนเกดิ การเรียนรู้เชิงลกึ และการกาํ กบั ตดิ ตามตนเองเป็ นสิงสําคญั ในการบูรณาการกบั กรอบการประเมนิ ผู้วจิ ยั พบว่าแนวคดิ การประเมนิ โดยเพือนสามารถใช้ประโยชน์กบั การ ประเมนิ ทไี ม่ใช่การพฒั นาความสามารถแบบดงั เดมิ ทักษะทเี หมาะสม เช่น คดิ วเิ คราะห์ สร้างสรรค์ แก้ปัญหา
ข้อค้นพบจากแนวคดิ การให้ข้อมูลย้อนกลบั โดยเพือน จุดเด่น คือ เพือนเป็ นบุคคลที ขอ้ เสนอแนะคือ นักเรียนเปิ ดใจและรับฟัง และ • ครูตอ้ งสร้างความเชือมนั ใหน้ กั เรียน เพราะนกั เรียนจะ ภาษาในการสือสาร รุ่นเดยี วกนั จะง่ายกว่าการที ขาดความเชือมนั ในการใหข้ อ้ มูลยอ้ นกลบั กบั เพือน ครูอธิบาย • ครูตอ้ งมนั ใจวา่ นกั เรียนมีความรู้เพียงพอทีจะอธิบายให้ เพอื นฟัง เพราะการทีจะสามารถใหข้ อ้ มูลยอ้ นกลบั ได้ นนั นกั เรียนตอ้ งมีความรู้ในเรืองนนั ๆอยา่ งเพยี งพอ พนิ ดา วราสุนนั ท.์ (2558). การพฒั นาผเู้ รียนดว้ ยกระบวนการใหข้ อ้ มลู ยอ้ นกลบั โดย เพือน. วารสารมหาวิทยาลยั ราชภฏั มหาสารคาม, 9(1): 33-40. 21/03/64
ข้อค้นพบการให้ข้อมูลย้อนกลบั แบบวาจาและแบบเขียน สุวิมล ทองเรือนเหมือน และคณะ. การพฒั นาผลสัมฤทธิทางการเรียนวชิ าคณติ ศาสตร์ โดยการให้ข้อมลู ย้อนกลบั เรือง ทฤษฎบี ทพที าโกรัส ของนักเรียนชันมธั ยมศึกษาปี ที 2. 1. จากข้อค้นพบในการวจิ ัยการให้ข้อมลู ย้อนกลบั แบบวาจามปี ระสิทธิภาพดกี ว่าแบบเขยี น แต่ทังนีการให้ข้อมูล ย้อนกลบั แก่ผู้เรียนด้วยวาจานัน ครูควรให้นักเรียนเข้ามารับข้อมลู ย้อนกลบั แบบวาจาด้วยรายบุคคล และไม่ให้ เพือนเข้ามารับฟังด้วยเพือให้ผู้เรียนได้รับข้อมูลย้อนกลบั แบบมปี ระสิทธิภาพและมสี มาธิในการรับฟัง หากมเี พือน เข้ามาฟังด้วยจะก่อให้เกดิ ความวุ่นวายและอาจส่งผลต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนในการนําข้อเสนอแนะไปปรับปรุง 2. กระบวนการดาํ เนินงานทีมคี วามสําคญั เป็ นอย่างยงิ คือสําหรับครูทจี ะนํากระบวนการให้ข้อมูลย้อนกลบั ไปใช้ ทังแบบเขยี นและแบบวาจาคือ การกาํ หนดเป้าหมายและทําความเข้าใจร่วมกนั ระหว่างครูและผู้เรียนว่าเป้าหมายที ครูต้องการคืออะไร ผู้เรียนต้องดาํ เนินการอย่างไร นําไปสู่การสร้างข้อตกลงร่วมกนั ทยี ดึ ความต้องการและระดบั ความสามารถของผู้เรียนเป็ นหลกั โดยดาํ เนินการตังแต่ช่วงเริมต้นของโครงการ
ขอ้ คน้ พบการจดั การเรียนรู้ STEM STEAM • ควรใช้แนวคดิ การจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการระหว่างวชิ าควบคู่กบั ผู้สอน • เพศส่งผลต่อความสามารถในการสร้างชินงานในส่วนของการออกแบบทางวศิ วะ โดยเพศชายจะมคี วามสามารถกว่า จงึ ออกแบบการทาํ งานกลุ่มแบบคละเพศ • การวดั ผลต้องมกี ารสร้างชินงานทีนักเรียนสามารถแก้ไขผลงานให้ดขี นึ โดยชินงานต้องไม่ยากจนเกนิ ไป หากยากแล้ว นักเรียนจะไม่สนใจ ไม่ชอบ x 21/03/64
ข้อค้นพบการใช้ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ • ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้สามารถนํามาใช้ในยุคโควดิ ได้ดี แต่ครูต้องมคี วามรู้ทางด้าน เทคโนโลยี • คลปิ ในการสอนควรยาวไม่เกนิ 10 นาที เพราะหากยาวเกนิ 10 นาที ทําให้นักเรียนเบือ หน่าย • หากนําชุดกจิ กรรมมาใช้ในการสอนเหมาะสมกบั การออกแบบให้นักเรียนไปดูคลปิ จากนัน ต้องมกี ารเปิ ดห้องเรียน อาจเป็ นแบบออนไลน์กไ็ ด้เพือเป็ นช่องทางให้นักเรียนได้ซักถาม เวลามีข้อสงสัย 21/03/64
Search