อเนกปรยิ าเยนาวโุ ส สมณทุ เฺ ทส อนตฺ รายกิ า ธมมฺ า อนตฺ รายิกา วตุ ตฺ า ภควตา อลญจฺ ปน เต ปฏเิ สวโตอนตฺ รายายา”ติ เอวญจฺ โส สมณทุ เฺ ทโส ภกิ ฺขหู ิ วจุ จฺ มาโน ตเถว ปคคฺ ณเฺ หยยฺ โส สมณทุ เฺ ทโส ภกิ ขฺ หู ิ เอวมสสฺวจนโี ย “อชชฺ ตคเฺ ค เต อาวโุ สสมณทุ เฺ ทส น เจว โส ภควา สตถฺ า อปทสิ ติ พโฺ พ ยมปฺ ิ จญเฺ ญ สมณทุ เฺ ทสา ลภนตฺ ิภกิ ฺขหู ิ สทธฺ ึ ทริ ตตฺ ตริ ตตฺ สหเสยยฺ สาปิ เต นตฺถิ จร ปเิ ร วนิ สสฺ า”ต.ิ โย ปน ภกิ ฺขุ ชาน ตถานาสติ สมณทุ เฺ ทสอุปลาเปยยฺ วา อุปฏฐฺ ฃาเปยยฺ วา สมภฺ ุญฺเชยยฺ วา สห วา เสยยฺ กปเฺ ปยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . ถา้ สมณทุ เทสกลา่ วอย่างนี้ว่า “เรารู้ทั่วถงึ ธรรมทีพ่ ระผู้มีพระภาคทรงแสดงแลว้ จนกระท่ังว่าธรรมตามท่ีพระผู้มีพระภาคตรัสวา่ เปน็ ธรรมก่ออันตราย ก็หาสามารถก่ออนั ตรายแก่ผู้ซอ่ งเสพได้จรงิ ไม่” สมณทุเทสนนั้ อนั ภิกษุ ทั้งหลายพึงว่ากลา่ วตักเตือนว่า “เธออย่าไดก้ ลา่ วอย่างน้ี อย่ากล่าวตู่พระผู้มีพระภาค การกลา่ วตู่พระผู้มีพระภาคไม่ดีเลย เพราะพระผู้มีพระภาคไม่ได้ตรสั อย่างนั้น สมณทุ เทส พระผู้มีพระภาคตรัสธรรมที่ก่ออันตรายว่าเป็นธรรมกอ่ อนั ตรายไวโ้ ดยประการต่างๆ และธรรมเหล่านั้น ก็สามารถก่ออนั ตรายให้แกผ่ ็ซ่องเสพได้จริง” สมณุทเทสนนั้ อนั ภิกษทุ ั้งหลายวา่ กล่าวตกั เตือนอยู่อยา่ งน้ี ก็ยงั คงยนื ยันอยู่อยา่ งนั้นสมณุทเทสน้นั อันภิกษุทัง้ หลายพงึ วา่ กลา่ วตกั เตือนวา่ “สมณุทเทส ตง้ั แต่วันนเ้ี ธอไม่พงึ อ้างพระผู้มีพระภาควา่เปน็ ศาสดา และเธอจะไมม่ ีการนอนร่วมกัน ๒-๓ คนื กบั ภกิ ษุท้ังหลายเหมือนสมณุทเทสเหล่าอ่นื ได้ เธอจงไปที่อ่ืน เธอจงไปให้พ้น” ก็ ภิกษุใดรู้อยู่ ก็ยงั ปลอบโยนสมณทุ เทสผู้ถกู สงฆ์นาสนะแลว้ อยา่ งนน้ั ใช้เธอให้อุปัฏฐากคบหา หรอื นอนรว่ ม ต้องอาบัติปาจติ ตีย์ ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถี ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุฉัพพัคคีย์ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษฉุ พั พัคคีย์เกลี้ยกล่อมสามเณรช่ือกณั ฏกะผ้ถู กูสงฆล์ งทณั ฑ์ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญตั ทิ วั่ ไปทั้งภกิ ษุและภิกษุณี สหธมั มกิ วรรค วเิ ลขนสกิ ขาบท ๗๒. โย ปน ภกิ ขฺ ุ ปาตโิ มกเฺ ข อทุ ฺทสิ สฺ มาเน เอว วเทยยฺ “กึ ปนเิ มหิ ขุททฺ านขุ ทุ ทฺ เกหิ สกิ ฺขาปเทหิอุทฺทฏิ เฐฃหิ ยาวเทว กกุ กฺ จุ จฺ าย วเิ หสาย วเิ ลขาย สวตตฺ นตฺ ี”ติ สกิ ขฺ าปทววิ ณฺณเก ปาจติ ตฺ ยิ . [๔๓๙] ก็ ภิกษใุ ด เม่ือมผี ู้ยกปาตโิ มกขข์ ึ้นแสดงอยูก่ ล่าวอย่างนวี้ า่ “สิกขาบทเล็ก ๆ น้อย ๆทีย่ กข้ึนแสดงเหลา่ น้ี จะมปี ระโยชน์อะไร ย่อมเปน็ ไปเพ่ือความราคาญ เพ่ือความลาบาก เพอ่ื ความยุ่งยาก”ตอ้ งอาบตั ปิ าจติ ตยี ์ เพราะดูหมน่ิ สิกขาบท ๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถี ๒) บคุ คลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษฉุ ัพพัคคยี ์ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษุฉพั พคั คยี ห์ ม่ินพระวนิ ัย
๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบัญญัตทิ ัว่ ไปทั้งภกิ ษุและภกิ ษุณี โมหนสกิ ขาบท ๗๓. โย ปน ภกิ ขฺ ุ อนวฺ ทธฺ มาส ปาตโิ มกเฺ ข อทุ ทฺ สิ สฺ มาเน เอว วเทยยฺ “อทิ าเนว โข อห ชานามิอยมปฺ ิ กริ ธมโฺ ม สตุ ตฺ าคโต สตุ ตฺ ปรยิ าปนโฺ น อนวฺ ทธฺ มาส อทุ เฺ ทส อาคจฉฺ ตี”ต.ิ ตญเฺ จ ภกิ ขฺ ุ อญเฺ ญ ภกิ ขฺ ูชาเนยยฺ ุนสิ นิ นฺ ปพุ ฺพ อมิ ินา ภกิ ขฺ นุ า ทวฺ ตตฺ กิ ขฺ ตตฺ ุ ปาตโิ มกเฺ ข อทุ ทฺ สิ สฺ มาเน โก ปน วาโท ภยิ โฺ ย น จ ตสสฺ ภกิ ฺขโุ นอญญฺ าณเกน มุตตฺ ิ อตถฺ ิ ยญจฺ ตตถฺ อาปตฺตึ อาปนโฺ น ตญจฺ ยถาธมโฺ ม กาเรตพโฺ พ อตุ ฺตริ จสสฺ โมโหอาโรเปตพโฺ พ “ตสสฺ เต อาวโุ ส อลาภา ตสสฺ เต ทลุ ลฺ ทธฺ ย ตวฺ ปาตโิ มกเฺ ข อทุ ฺทสิ สฺ มาเนน สาธุก อฏฐฺ ฃึ กตวฺ ามนสกิ โรส”ี ติ อทิ ตสมฺ ึ โมหนเก ปาจติ ฺตยิ . ก็ ภิกษใุ ด เมื่อภกิ ษยุ กปาตโิ มกข์ขึน้ แสดงอยู่ทุกก่งึ เดือน กล่าวอยา่ งน้ีวา่ “กระผมเพ่งิ ทราบเด๋ียวนี้เองว่า ทราบวา่ ธรรมแม้นี้มาในพระสตู ร อยู่ในพระสตู ร มีการยกข้นึ แสดงทุกกงึ่ เดือน” ถา้ ภกิ ษุเหลา่ อน่ื จาภกิ ษนุ น้ั ได้วา่ “เม่ือภกิ ษยุ กปาติโมกข์ขนึ้ แสดงอยู่ ภิกษุนี้เคยนัง่ อยู่ ๒-๓ ครงั้ มาแลว้ ไมจ่ าต้องกล่าวถึงมากครั้งยง่ิ กว่า” ภกิ ษุน้ันย่อมไม่พน้ เพราะความไม่รู้ แต่ ภกิ ษนุ ้ันจะตอ้ งอาบตั ิใดเพราะประพฤติไมเ่ หมาะสมนัน้ พึงปรับอาบัตนิ ั้นตาม ธรรม และพึงยกโมหาโรปนกรรมข้ึนมาปรับเพมิ่ ให้ย่ิงข้ึนไปอีกว่า “ท่าน ไม่ใชล่ าภของท่านท่านได้ไมด่ ี ท่เี มื่อภกิ ษุยกปาติโมกข์ขึน้ แสดงอยู่ ทา่ นไม่ ใส่ใจฟังให้สาเร็จประโยชนด์ ้วยดี” ต้องอาบัติปาจิตตีย์เพราะแสร้งทาผูอ้ น่ื ให้ หลงนน้ั ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถี ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคยี ์ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษุฉัพพัคคีย์แสรง้ ทาให้ผ้อู ื่นหลง ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบัญญตั ิท่ัวไปท้ังภกิ ษุและภิกษุณี ปหารสกิ ขาบท ๗๔. โย ปน ภกิ ฺขุ ภกิ ฺขสุ สฺ กปุ โิ ต อนตตฺ มโน ปหาร ทเทยฺย ปาจติ ตฺ ยิ . ก็ ภิกษุใดโกรธ ไมพ่ อใจ ทาร้ายภิกษุ ต้องอาบตั ิปาจิตตยี ์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถี ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคีย์ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษฉุ พั พคั คีย์โกรธ ไมพ่ อใจ ทารา้ ยภิกษุ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญัตทิ ัว่ ไปทั้งภิกษุและภิกษุณี
ตลสตั ตกิ สกิ ขาบท ๗๕. โย ปน ภกิ ขฺ ุ ภกิ ขฺ สุ สฺ กปุ โิ ต อนตตฺ มโน ตลสตตฺ ิก อคุ ฺคเิ รยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . ก็ ภิกษุใดโกรธ ไม่พอใจ เง้ือหอกคือฝ่ามือใหภ้ ิกษุ ตอ้ งอาบัติปาจติ ตยี ์ ๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถี ๒) บุคคลผ้กู อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษุฉัพพัคคีย์ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษฉุ ัพพัคคียโ์ กรธ ไม่พอใจ เงื้อหอกคือฝ่ามือให้ภกิ ษุ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบัญญัติทว่ั ไปท้ังภิกษุและภิกษุณี อมลู กสกิ ขาบท ๗๖. โย ปน ภกิ ขฺ ุ ภกิ ฺขุ อมลู เกน สงฆฺ าทเิ สเสน อนุทธฺ เสยยฺ ปาจิตตฺ ยิ . ก็ ภิกษใุ ดใส่ความภกิ ษุดว้ ยอาบตั สิ งั ฆาทเิ สสท่ีไมม่ ีมลู ต้องอาบตั ิ ปาจิตตีย์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุฉัพพัคคยี ์ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษุฉพั พัคคยี ์ใส่ความภิกษุด้วยอาบัตสิ งั ฆาทิเสสท่ีไม่มีมูล ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญตั ทิ วั่ ไปท้ังภกิ ษุและภิกษุณี สญั จจิ จสิกขาบท ๗๗. โย ปน ภกิ ฺขุ ภกิ ขฺ สุ สฺ สญจฺ จิ จฺ กกุ กฺ จุ จฺ อปุ ทเหยยฺ “อติ สิ สฺ มหุ ุตตฺ มปฺ ิ อผาสุ ภวสิ สฺ ตี”ติ เอตเทว ปจจฺ ย กริตวฺ า อนญญฺ ปาจิตตฺ ยิ . ก็ ภิกษุใดจงใจก่อความราคาญให้แก่ภกิ ษดุ ว้ ยหวังวา่ “เธอจกั ไม่มีความผาสุกแม้ชวั่ ครู่ดว้ ยอุบายนี้” ประสงค์เพยี งเท่าน้ี ไม่มีอะไรอนื่ ต้อง อาบตั ปิ าจติ ตยี ์ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถี ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษฉุ ัพพัคคยี ์ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ พั พคั คยี จ์ งใจกอ่ ความราคาญใหแ้ กภ่ กิ ษุ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญตั ิทั่วไปท้ังภกิ ษุและภิกษุณี อปุ สั สตุ สิ กิ ขาบท
๗๘. โย ปน ภกิ ขฺ ุ ภกิ ขฺ นู ภณฺฑนชาตาน กลหชาตาน ววิ าทาปนนฺ าน อปุ สสฺ ตุ ึ ตฏิ เฐฃยยฺ “ย อเิ มภณสิ สฺ นฺติ ต โสสสฺ ามี”ติ เอตเทว ปจจฺ ย กรติ วฺ า อนญญฺ ปาจติ ฺตยิ . ก็ ภกิ ษุใดยืนแอบฟังภกิ ษผุ ู้บาดหมาง ทะเลาะ ววิ าทกนั ดว้ ย ต้ังใจวา่ “เราจะฟงั คาที่ภกิ ษพุ วกนี้กล่าว” ประสงค์เพียงเท่านี้ ไม่มีอะไรอ่นื ต้องอาบตั ิปาจิตตีย์ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ พั พัคคีย์ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษุฉัพพัคคยี ย์ ืนแอบฟังภิกษผุ ู้บาดหมาง ทะเลาะวิวาทกนั ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บัญญตั ิทวั่ ไปทั้งภิกษุและภิกษุณี กัมมปั ปฏพิ าหนสกิ ขาบท ๗๙. โย ปน ภกิ ขฺ ุ ธมมฺ ิกาน กมฺมาน ฉนทฺ ทตวฺ า ปจฺฉา ขยี นธมมฺ อาปชเฺ ชยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . ก็ ภิกษใุ ดให้ฉนั ทะเพ่ือกรรมท่ีทาถูกต้องแล้ว กลบั ติเตยี นในภายหลัง ต้องอาบตั ิปาจติ ตยี ์ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคยี ์ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุฉพั พัคคยี ์ใหฉ้ นั ทะเพ่ือกรรมที่ทาถกู ต้องแลว้กลับติเตยี นในภายหลงั ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บัญญัตทิ ัว่ ไปทั้งภกิ ษุและภกิ ษุณี ฉันทงั อทตั วาคมนสกิ ขาบท ๘๐. โย ปน ภกิ ขฺ ุ สงเฺ ฆ วนิ จิ ฉฺ ยกถาย วตตฺ มานาย ฉนทฺ อทตวฺ า อฏุ ฐฺ ฃายาสนา ปกกฺ เมยยฺ ปาจติ ฺตยิ . ก็ ภิกษุใด เมื่อยังมเี ร่ืองท่ีต้องวนิ จิ ฉัยในสงฆ์ ไม่ใหฉ้ นั ทะแล้วลกุ จากอาสนะจากไป ต้องอาบัติปาจติ ตยี ์ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถี ๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษุรูปหน่ึง ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษุรปู หนึ่งไม่ให้ฉนั ทะแลว้ ลุกจากอาสนะจากไป ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญัตทิ ั่วไปทั้งภิกษุและภิกษุณี ปริณามนสกิ ขาบท
๘๒. โย ปน ภกิ ฺขุ ชาน สงฺฆกิ ลาภ ปรณิ ต ปคุ คฺ ลสสฺ ปรณิ าเมยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . ก็ ภิกษใุ ดรู้อยู่ นอ้ มลาภทเ่ี ขาน้อมไว้เปน็ ของจะถวายสงฆ์ไปเพ่อื บุคคล ต้องอาบัติปาจติ ตยี ์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษุฉัพพัคคยี ์ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคียร์ ู้อยู่นอ้ มลาภท่เี ขาน้อมไว้เปน็ ของจะถวายสงฆไ์ ปเพ่อื บุคคล ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญัติท่ัวไปทั้งภิกษุและภิกษุณี รตนวรรค อนั เตปรุ สกิ ขาบท ๘๓. โย ปน ภกิ ฺขุ รญโฺ ญ ขตตฺ ยิ สสฺ มทุ ธฺ าภสิ ติ ตฺ สสฺ อนกิ ขฺ นตฺ ราชเก อนคิ คฺ ตรตนเก ปุพเฺ พอปปฺ ฏสิ วทิ โิ ต อนิ ทฺ ขลี อตกิ กฺ าเมยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . ก็ ภิกษุใดไม่ไดร้ ับแจ้งลว่ งหนา้ กา้ วลว่ งธรณีประตเู ขา้ ไปในตาหนกั ทีบ่ รรทมของพระราชาผเู้ ป็นกษัตริยท์ ่ีไดร้ บั มรู ธาภเิ ษกแลว้ ท่ีพระราชายงั ไม่เสดจ็ ออก ท่ีนางรัตนะยงั ไม่เสด็จออก ตอ้ งอาบัตปิ าจิตตีย์ ๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถี ๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ได้แก่ พระอานนท์ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ทา่ นพระอานนท์ยงั ไม่ได้รบั แจ้งล่วงหน้า เข้าไปในพระราชฐานชน้ั ในของพระราชา ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญัติเฉพาะภกิ ษุ รตั นสิกขาบท ๘๔. โย ปน ภกิ ขฺ ุ รตน วา รตนสมมฺ ต วา อญญฺ ตรฺ อชฌฺ ารามา วา อชฌฺ าวสถา วา อุคคฺ ณเฺ หยยฺวา อุคฺคณหฺ าเปยยฺ วา ปาจติ ตฺ ยิ . รตน วา ปน ภกิ ฺขนุ า รตนสมมฺ ต วา อชฺฌาราเม วา อชฌฺ าวสเถ วา อุคคฺ เหตฺวา วา อคุ คฺ หาเปตวฺ า วา นิกขฺ ปิ ติ พพฺ “ยสสฺ ภวสิ สฺ ติ โส หรสิ สฺ ตี”ติ อย ตตฺถ สามจี .ิ อนงึ่ ภิกษุใดเก็บหรอื ใชใ้ หเ้ ก็บรัตนะหรอื ของทส่ี มมตวิ ่าเป็นรัตนะ ตอ้ งอาบตั ปิ าจิตตยี ์ เวน้ ไวแ้ ต่ในอารามหรือในที่พัก อนง่ึ ภิกษุพงึ เกบ็ หรือใช้ใหเ้ ก็บรัตนะหรือของทสี่ มมติว่าเป็นรตั นะในอารามหรือในที่พกัแลว้ รกั ษาไวด้ ว้ ยตงั้ ใจวา่ เจา้ ของจะรบั คนื ไป น้ีเป็นการทาที่สมควรในเรอื่ งน้นั ๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถี ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษรุ ูปหนง่ึ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุรูปหนึง่ เก็บรัตนะ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ ๒ พระอนุบญั ญตั ิ
๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บัญญัตทิ ว่ั ไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณี วกิ าลคามปั ปเวสนสกิ ขาบท ๘๕. โย ปน ภกิ ขฺ ุ สนตฺ ภกิ ขฺ ุ อนาปจุ ฉฺ า วกิ าเล คาม ปวเิ สยยฺ อญญฺ ตรฺ ตถารปู า อจจฺ ายกิ า กรณียา ปาจติ ตฺ ยิ . อนง่ึ ภิกษุใดไมบ่ อกลาภกิ ษทุ ี่มอี ยู่แล้ว เข้าหมูบ่ า้ นในเวลาวิกาล ต้องอาบตั ิปาจติ ตยี ์ เวน้ ไว้แตม่ ีเหตุจาเป็นรบี ดว่ นเชน่ นั้น ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษฉุ ัพพัคคยี ์ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ ัพพัคคีย์ไม่บอกลาภกิ ษทุ ่ีมีอยแู่ ล้วเข้าหมู่บา้ นในเวลาวิกาล ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๓ พระอนบุ ัญญตั ิ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบญั ญัติเฉพาะภกิ ษุ มญั จปฐี สกิ ขาบท ๘๗. นว ปน ภกิ ขฺ นุ า มญจฺ วา ปฐี ฃ วา การยมาเนน อฏฐฺ ฃงคฺ ลุ ปาทก กาเรตพฺพ สุคตงฺคเุ ลน อญญฺ ตรฺเหฏฐฺ ฃมิ าย อฏนยิ า. ต อตกิ ฺกามยโต เฉทนก ปาจติ ตฺ ยิ . ก็ ภกิ ษุผจู้ ะทาเตียงหรอื ตั่งใหม่ พงึ ทาให้มีเทา้ เพยี ง ๘ น้วิ โดยน้วิ สคุ ต นบั แต่แม่แคร่ลงมา ทาให้เกนิ กว่ากาหนดน้ัน ต้องอาบัติปาจติ ตีย์ ที่ชอื่ วา่ เฉทนกะ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถี ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ พระอุปนันทศากยบุตร ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ พระอุปนนั ทศากยบุตรนอนบนเตียงสูง ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบญั ญัติทั่วไปท้ังภิกษุและภิกษุณี ตโู ลนัทธสกิ ขาบท ๘๘. โย ปน ภกิ ฺขุ มญจฺ วา ปฐี ฃ วา ตโู ลนทธฺ การาเปยยฺ อทุ ทฺ าลนก ปาจติ ตฺ ยิ . ก็ ภิกษใุ ดทาเตียง หรือต่ังห้มุ นุ่น ต้องอาบตั ปิ าจติ ตีย์ ที่ชื่อว่า อุททาลนกะ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคีย์ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคยี ์ให้ทาเตียงหรอื ต่ังห้มุ ด้วยนนุ่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญัติท่วั ไปทั้งภกิ ษุและภกิ ษุณี
นสิ ที นสกิ ขาบท ๘๙. นสิ ที น ปน ภกิ ฺขนุ า การยมาเนน ปมาณกิ กาเรตพพฺ ตตรฺ ทิ ปมาณ ทฆี โส ทเฺ ว วทิ ตถฺ โิ ยสคุ ตวทิ ตถฺ ยิ า ตริ ยิ ทยิ ฑฒฺ ทสา วทิ ตถฺ .ิ ต อติกกฺ ามยโต เฉทนก ปาจติ ตฺ ยิ . อนึ่ง ภิกษุผจู้ ะทาผ้ารองน่ัง พึงทาใหไ้ ด้ขนาด ขนาดในข้อน้ัน คือ ยาว ๒ คบื กวา้ งคืบครงึ่ ชายคบืหนึง่ โดยคืบสคุ ต ทาใหเ้ กินขนาดนั้น ต้องอาบตั ปิ าจิตตีย์ที่ช่ือวา่ เฉทนกะ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษุฉัพพัคคยี ์ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคยี ์ใช้ผ้ารองน่งั ไม่ได้ขนาด ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ ๑ พระอนุบญั ญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบัญญัตทิ ัว่ ไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณี กัณฑปุ ปฏจิ ฉาทสิ ิกขาบท ๙๐. กณฑฺ ปุ ปฺ ฏจิ ฉฺ าทึ ปน ภกิ ขฺ นุ า การยมาเนน ปมาณกิ า กาเรตพพฺ า ตตรฺ ิท ปมาณ ทฆี โส จตสโฺ สวทิ ตถฺ โิ ย สคุ ตวทิ ตฺถยิ า ตริ ิย ทฺเว วทิ ตถฺ โิ ย. ต อตกิ ฺกามยโต เฉทนก ปาจติ ตฺ ยิ . ก็ ภกิ ษผุ ู้ทาผ้าปดิ ฝี ต้องทาใหไ้ ด้ขนาด ขนาดในข้อนัน้ คือ ยาว ๔ คืบ กว้าง ๒ คืบ โดยคืบสคุ ตทาใหเ้ กนิ ขนาดนั้น ต้องอาบัติปาจติ ตีย์ ท่ีชอ่ื วา่ เฉทนกะ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถี ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษุฉัพพัคคีย์ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุฉพั พัคคยี ์ใช้ผา้ ปิดฝไี ม่ได้ขนาด ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญตั ทิ ั่วไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณี วสั สกิ สาฏิกสกิ ขาบท ๙๑. วสสฺ กิ สาฏิก ปน ภกิ ฺขนุ า การยมาเนน ปมาณกิ า กาเรตพพฺ า ตตรฺ ทิ ปมาณ ทฆี โส ฉ วทิ ตถฺ โิ ยสคุ ตวทิ ตถฺ ยิ า ตริ ยิ อฑฒฺ เตยยฺ า. ต อติกกฺ ามยโต เฉทนก ปาจติ ฺตยิ . ก็ ภิกษผุ ู้จะทาผ้าอาบนา้ ฝน พงึ ทาใหไ้ ด้ขนาด ขนาดในข้อนัน้ คอื ยาว ๖ คบื กวา้ ง ๒ คืบครง่ึ โดยคืบสุคต ทาให้เกินขนาดนนั้ ต้อง อาบัติปาจิตตยี ์ที่ชื่อว่าเฉทนกะ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถี ๒) บคุ คลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษุฉัพพัคคยี ์ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษุฉพั พัคคีย์ใช้ผา้ อาบนา้ ฝนไม่ได้ขนาด ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญตั ิเฉพาะภิกษเุ ทา่ น้ัน
นนั ทสกิ ขาบท ๙๒. โย ปน ภิกขฺ ุ สคุ ตจวี รปปฺ มาณ จวี ร การาเปยยฺ อตเิ รก วา เฉทนก ปาจิตตฺ ยิ ตตรฺ ทิ สคุ ตสสฺสคุ ตจวี รปปฺ มาณ ทฆี โส นว วทิ ตถฺ โิ ย สคุ ตวทิ ตถฺ ยิ า ตริ ยิ ฉ วทิ ตถฺ โิ ย อทิ สคุ ตสสฺ สคุ ตจวี รปปฺ มาณ ก็ ภกิ ษทุ าจีวรมีขนาดเทา่ กับสคุ ตจีวร หรือใหญก่ ว่า ตอ้ งอาบัติ ปาจิตตีย์ที่ชือ่ วา่ เฉทนกะ ขนาดเท่าสุคตจีวรของสคุ ตในขอ้ น้นั คอื ยาว ๙ คืบ กวา้ ง ๖ คบื โดยคบื สุคต นเี้ ป็นขนาดเทา่ สคุ ตจีวรของพระสุคต ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ พระนนั ทะ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ พระนันทะหม่ จวี รมีขนาดเท่ากับจีวรพระสคุ ต ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญตั ทิ ัว่ ไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณีปาจติ ตยี ์ ๖๗ สกิ ขาบท สาหรบั ภกิ ษแุ ละภกิ ษุณี จบ
ปาจติ ตยี ์ เฉพาะภิกษุณี ๘๙ สิกขาบท (บาลดี ูใน กงขฺ าวิตรณอี ฏฐฺ ฃกถา คาแปลดูในวนิ ยั ปฎิ ก เลม่ ๓, สถานท่ี บุคคล มลู เหตุ บญั ญตั ิและประเภทบญั ญัติ ดูใน กงขฺ าวติ รณอี ฏฐฺ ฃกถา และ วนิ ัยปฎิ ก เลม่ ที่ ๘ ) ลสณุ วรรค ลสณุ สกิ ขาบท ๑. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ลสุณ ขาเทยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . ก็ภิกษณุ ีใดฉันกระเทียม ตอ้ งอาบตั ิปาจติ ตยี ์ ๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถี ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษณุ ีถลุ ลนันทา ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษณุ ถี ลุ ลนนั ทาให้นากระเทียมไปโดยไมร่ ู้จักประมาณ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญัตเิ ฉพาะภกิ ษุณี สมั พาธโลมสกิ ขาบท ๒. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี สมพฺ าเธ โลม สหราเปยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . ก็ภกิ ษุณีใดให้ถอนขนในที่แคบ ตอ้ งอาบตั ปิ าจติ ตีย์ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถี ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษุณีฉัพพัคคยี ์ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษณุ ฉี พั พคั คียใ์ หถ้ อนขนในท่แี คบ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบัญญัตเิ ฉพาะภกิ ษุณี ตลฆาตกสกิ ขาบท ๓. ตลฆาตเก ปาจติ ตฺ ยิ . ภิกษุณีต้องอาบัตปิ าจติ ตยี ์ เพราะใชฝ้ ่ามอื ตบองค์กาเนดิ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถี ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษณุ ี ๒ รปู ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษณุ ี ๒ รูป ใชฝ้ า่ มือตบองค์กาเนดิ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญัตเิ ฉพาะภิกษณุ ี ชตมุ ฏั ฐกสกิ ขาบท
๔. ชตมุ ฏฐฺ ฃเก ปาจติ ตฺ ยิ . ภิกษุณตี ้องอาบตั ิปาจิตตยี ์ เพราะใช้ท่อนยาง ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถี ๒) บุคคลผูก้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษณุ ีรูปหนึ่ง ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษณุ ีรูปหนึ่งใช้ท่อนยาง ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญตั เิ ฉพาะภกิ ษุณี อุปตฏิ ฐนสิกขาบท ๖. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ภกิ ขฺ สุ สฺ ภญุ ชฺ นฺตสสฺ ปานเี ยน วา วธิ ปู เนน วา อปุ ตฏิ เฐฃยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . ก็ภิกษณุ ีใดปรนนบิ ตั ิภิกษุผู้กาลังฉนั อยู่ ด้วยนา้ ดม่ื หรือดว้ ยการพดั วี ตอ้ งอาบตั ิปาจติ ตยี ์ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษุณีรูปหน่งึ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษณุ ีรปู หนึง่ ปรนนิบตั ิภกิ ษุผูก้ าลงั ฉนั อยู่ ด้วยน้าดืม่ หรือด้วยการพัดวี ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบญั ญัตเิ ฉพาะภิกษุณี อามกธญั ญสกิ ขาบท ๗. ยา ปน ภกิ ฺขนุ ี อามกธญญฺ วิญญฺ ตวฺ า วา วญิ ญฺ าเปตวฺ า วา ภชชฺ ติ วฺ า วา ภชชฺ าเปตวฺ า วาโกฏเฺ ฏตวฺ า วา โกฏฏฺ าเปตวฺ า วา ปจิตวฺ า วา ปจาเปตวฺ า วา ภญุ เฺ ชยยฺ ปาจติ ตฺ ิย. ก็ภกิ ษณุ ีใดออกปากขอหรือใช้ให้ออกปากขอ ค่วั หรอื ใชใ้ ห้ค่ัว ตาหรอื ใชใ้ ห้ตา หงุ หรือใช้ใหห้ ุงข้าวเปลอื กดบิ แล้วฉัน ตอ้ งอาบัตปิ าจติ ตีย์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถี ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญัตเิ ฉพาะภกิ ษุณี ปฐมอจุ จารฉัฑฑนสกิ ขาบท ๘. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี อจุ จฺ าร วา ปสสฺ าว วา สงกฺ าร วา วฆิ าส วา ตโิ รกฏุ เฺ ฏ วา ตโิ รปากาเร วาฉฑเฺ ฑยยฺ วา ฉฑฑฺ าเปยฺย วา ปาจติ ตฺ ยิ .
กภ็ กิ ษณุ ีใดเทหรือใชใ้ หเ้ ทอุจจาระหรอื ปัสสาวะ หยากเยื่อหรือของเป็นเดนภายนอกฝาหรือภายนอกกาแพง ตอ้ งอาบัติปาจติ ตีย์ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถี ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญัติเฉพาะภกิ ษุณี ทุตยิ อจุ จารฉัฑฑนสกิ ขาบท ๙. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อจุ จฺ าร วา ปสสฺ าว วา สงกฺ าร วา วฆิ าส วา หรเิ ต ฉฑเฺ ฑยยฺ วา ฉฑฑฺ าเปยยฺ วาปาจติ ตฺ ยิ . กภ็ กิ ษณุ ีใดเทหรือใช้ใหเ้ ทอจุ จาระหรือปสั สาวะ หยากเย่ือหรือของเปน็ เดนลงบนของเขียว ตอ้ งอาบัติปาจิตตยี ์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถี ๒) บุคคลผูก้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญตั ิเฉพาะภิกษุณี รตั ตนั ธการวรรค รตั ตนั ธการสิกขาบท ๑๑. ยา ปน ภกิ ขฺ ุนี รตตฺ นธฺ กาเร อปฺปทเี ป ปรุ เิ สน สทธฺ ึ เอเกเนกา สนตฺ ฏิ ฺเฐฃยฺยวา สลลฺ เปยยฺ วาปาจติ ตฺ ยิ . ก็ภกิ ษณุ ีใดยืนเคียงคู่กนั หรือสนทนากันสองตอ่ สองกบั ชายในเวลาคา่ คนื ไม่มปี ระทีป ตอ้ งอาบัติปาจิตตยี ์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถี ๒) บุคคลผูก้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบัญญตั ิเฉพาะภกิ ษุณี ปฏจิ ฉันโนกาสสิกขาบท
๑๒. ยา ปน ภกิ ฺขนุ ี ปฏจิ ฺฉนเฺ น โอกาเส ปรุ เิ สน สทธฺ ึ เอเกเนกา สนตฺ ฏิ ฺเฐฃยยฺ วา สลลฺ เปยยฺ วาปาจติ ตฺ ยิ . กภ็ กิ ษณุ ีใดยืนเคียงคกู่ ัน หรือสนทนากันสองตอ่ สองกบั ชายในโอกาสท่ีกาบัง ต้องอาบตั ิปาจิตตยี ์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถี ๒) บคุ คลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบัญญัติเฉพาะภิกษณุ ี อชั โฌกาสสลั ลปนสกิ ขาบท ๑๓. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี อชโฺ ฌกาเส ปรุ เิ สน สทธฺ ึ เอเกเนกา สนตฺ ฏิ ฺเฐฃยยฺ วา สลลฺ เปยยฺ วา ปาจติ ตฺ ยิ . กภ็ ิกษุณีใดยนื เคยี งคกู่ นั หรือสนทนากันสองตอ่ สองกับชายในท่แี จง้ ต้องอาบัติปาจิตตยี ์ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญตั ิเฉพาะภิกษณุ ี ทตุ ยิ กิ อยุ โยชนสิกขาบท ๑๔. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี รถกิ าย วา พยฺ เู ห วา สงิ ฆฺ าฏเก วา ปรุ เิ สน สทธฺ ึ เอเกเนกา สนตฺ ฏิ เฺ ฐฃยยฺ วาสลลฺ เปยยฺ วา นกิ ณณฺ ิก วา ชปเฺ ปยยฺ ทตุ ยิ กิ วา ภิกขฺ นุ ึ อยุ โฺ ยเชยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . กภ็ ิกษณุ ีใดยนื เคยี งค่กู นั หรือสนทนากัน หรือพดู กระซิบข้างหูสองต่อสองกับชายในถนน หรอืตรอกตนั หรือทางสามแพร่ง หรือสง่ ภกิ ษุณผี ูเ้ ปน็ เพ่ือนกลับไป ต้องอาบตั ิปาจติ ตีย์ ๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญัตเิ ฉพาะภิกษณุ ี อนาปจุ ฉาปักกมนสกิ ขาบท ๑๕. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี ปเุ รภตฺต กลุ านิ อปุ สงกฺ มติ วฺ า อาสเน นสิ ที ติ วฺ า สามเิ ก อนาปุจฉฺ า ปกกฺ เมยยฺปาจติ ตฺ ยิ .
กภ็ ิกษุณีใดเขา้ ไปสู่ตระกูลในเวลาก่อนฉันภตั ตาหาร นง่ั บนอาสนะ แล้วจากไปโดยไมบ่ อกเจ้าของบา้ น ตอ้ งอาบัตปิ าจิตตยี ์ ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถี ๒) บุคคลผูก้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบัญญัตเิ ฉพาะภิกษุณี อนาปจุ ฉาอภนิ สิ ที นสกิ ขาบท ๑๖. ยา ปน ภกิ ฺขนุ ี ปจฉฺ าภตตฺ กลุ านิ อปุ สงฺกมติ วฺ า สามิเก อนาปจุ ฉฺ า อาสเน อภนิ สิ เี ทยยฺ วาอภนิ ปิ ชเฺ ชยยฺ วา ปาจติ ตฺ ยิ . ก็ภิกษณุ ีใดเข้าไปสตู่ ระกูลภายหลงั ฉนั ภัตตาหาร นั่งหรือนอนบน อาสนะโดยไมบ่ อกเจ้าของบา้ นต้องอาบตั ิปาจติ ตยี ์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถี ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญัตเิ ฉพาะภิกษณุ ี อนาปจุ ฉาสนั ถรณสิกขาบท ๑๗. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี วกิ าเล กลุ านิ อปุ สงกฺ มติ วฺ า สามิเก อนาปจุ ฺฉา เสยยฺ สนถฺ รติ วฺ า วาสนฺถราเปตวฺ า วา อภนิ สิ เี ทยยฺ วา อภนิ ปิ ชเฺ ชยยฺ วา ปาจิตตฺ ยิ . กภ็ กิ ษุณีใดเขา้ ไปส่ตู ระกลู ในเวลาวกิ าล ปหู รอื ใชใ้ หป้ ทู ่ีนอนโดยไมบ่ อกเจา้ ของบ้านแล้วน่ังหรอืนอน ตอ้ งอาบตั ิปาจติ ตยี ์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถี ๒) บุคคลผ้กู อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญัติเฉพาะภกิ ษณุ ี ปรอชุ ฌาปนกสิกขาบท ๑๘. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ทคุ คฺ หเิ ตน ทปู ธารเิ ตน ปร อชุ ฺฌาเปยยฺ ปาจิตตฺ ยิ . ก็ภกิ ษณุ ีใดเพราะเขา้ ใจผิด เพราะใคร่ครวญผิด ให้ผอู้ ื่นโพนทะนา ต้องอาบตั ปิ าจิตตยี ์
๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถี๒) บคุ คลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญตั ิเฉพาะภิกษุณีปรอภสิ ปนสกิ ขาบท๑๙. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อตฺตาน วา ปร วา นริ เยน วา พรฺ หมฺ จรเิ ยน วา อภสิ เปยฺย ปาจติ ตฺ ยิ .กภ็ ิกษุณีใดสาปแช่งตนเองหรือผู้อ่นื ดว้ ยนรกหรือด้วยพรหมจรรย์ ตอ้ งอาบัติปาจติ ตีย์๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถี๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ได้แก่๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญัติเฉพาะภกิ ษุณีโรทนสิกขาบท๒๐. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี อตฺตาน วธติ วฺ า วธติ วฺ า โรเทยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ .กภ็ กิ ษุณีใดร้องไหท้ ุบตีตนเอง ตอ้ งอาบตั ิปาจติ ตยี ์๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถี๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญัตเิ ฉพาะภกิ ษุณีนคั ควรรคนคั คสกิ ขาบท๒๑. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี นคคฺ า นหาเยยยฺ ปาจิตตฺ ยิ .ก็ภกิ ษุณีใดเปลอื ยกายอาบน้า ต้องอาบัติปาจิตตยี ์๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถี๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบัญญัตเิ ฉพาะภิกษุณี
อทุ กสาฏกิ สกิ ขาบท ๒๒. อทุ กสาฏกิ ปน ภกิ ขฺ นุ ยิ า การยมานาย ปมาณกิ า กาเรตพฺพา ตตรฺ ทิ ปมาณ ทฆี โส จตสโฺ สวทิ ตถฺ โิ ย สคุ ตวทิ ตฺถยิ า ตริ ยิ ทฺเว วทิ ตฺถโิ ย. ตอตกิ กฺ าเมนตฺ ยิ า เฉทนก ปาจติ ตฺ ยิ . กภ็ ิกษณุ ผี จู้ ะให้ทาผ้าอาบน้า พึงทาให้ได้ขนาด ขนาดในข้อนน้ั คือ ยาว ๔ คืบ กวา้ ง ๒ คืบ โดยคืบสุคต ทาใหเ้ กนิ ขนาดนน้ั ต้องอาบตั ปิ าจิตตีย์ท่ีชอื่ วา่ เฉทนกะ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถี ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญัตเิ ฉพาะภกิ ษุณี จวี รสิพพนสิกขาบท ๒๓. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี ภกิ ขฺ นุ ยิ า จวี ร วสิ พิ เฺ พตวฺ า วา วสิ พิ พฺ าเปตวฺ า วา สาปจฉฺ า อนนตฺ รายิกนิ ี เนวสิพเฺ พยยฺ น สิพพฺ าปนาย อสุ สฺ กุ กฺ กเรยยฺ อญญฺ ตรฺ จตหู ปญจฺ าหาปาจติ ฺตยิ . กภ็ ิกษุณีใดเลาะหรือใช้ให้เลาะจวี รของภิกษณุ ีแลว้ ภายหลงั ภิกษณุ ีนั้นผู้ไม่มีอันตราย ไมเ่ ยบ็ ไม่ขวนขวายใช้ผอู้ ืน่ ใหเ้ ย็บ พ้น ๔-๕ วัน ตอ้ งอาบัติปาจติ ตยี ์ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถี ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบัญญตั ิเฉพาะภิกษณุ ี สงั ฆาฏจิ ารสกิ ขาบท ๒๔. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี ปญจฺ าหิก สงฺฆาฏจิ าร อตกิ กฺ าเมยยฺ ปาจติ ฺตยิ . กภ็ ิกษณุ ีใดให้วาระผลดั เปล่ียนสังฆาฏิ ทีม่ กี าหนดระยะเวลา ๕ วันลว่ งเลยไป ต้องอาบตั ิปาจติ ตยี ์ ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถี ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบญั ญตั เิ ฉพาะภิกษณุ ี จวี รสงั กมนยี สกิ ขาบท ๒๕. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี จวี รสงกฺ มนยี ธาเรยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ .
ก็ภกิ ษุณีใดหม่ จีวรสบั เปล่ียนกัน ต้องอาบัติปาจิตตยี ์๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถี๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบัญญัติเฉพาะภิกษณุ ีคณจวี รสิกขาบท๒๖. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี คณสสฺ จวี รลาภ อนตฺ ราย กเรยยฺ ปาจติ ฺตยิ .กภ็ ิกษุณีใดทาอนั ตรายแกจ่ วี รท่ีคณะจะพงึ ได้ ตอ้ งอาบตั ิปาจิตตีย์๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถี๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญัตเิ ฉพาะภิกษณุ ีปฏพิ าหนสิกขาบท๒๗. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี ธมมฺ กิ จวี รวภิ งคฺ ปฏพิ าเหยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ .ก็ภกิ ษณุ ีใดคัดคา้ นการแจกจีวรทช่ี อบธรรม ตอ้ งอาบัติปาจิตตยี ์๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถี๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบัญญตั ิเฉพาะภกิ ษณุ ีจวี รทานสกิ ขาบท๒๘. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อคาริกสสฺ วา ปรพิ ฺพาชกสสฺ วา ปริพฺพาชกิ าย วา สมณจวี ร ทเทยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ .กภ็ กิ ษณุ ีใดใหส้ มณจวี รแก่ชาวบ้าน แก่ปรพิ าชก หรือปริพาชกิ า ต้องอาบตั ปิ าจิตตยี ์๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถี๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญัตเิ ฉพาะภกิ ษุณี
กาลอตกิ กมนสกิ ขาบท๒๙. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ทุพพฺ ลจวี รปจจฺ าสาย จวี รกาลสมย อตกิ ฺกาเมยยฺ ปาจติ ตฺ ิย.กภ็ ิกษณุ ีใดให้ลว่ งเลยสมยั แห่งจวี รกาลดว้ ยความหวังในจีวรทเี่ ลอ่ื นลอย ต้องอาบัตปิ าจิตตีย์๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถี๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญัติเฉพาะภกิ ษณุ ีกถนิ ุทธารสกิ ขาบท๓๐. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ธมมฺ กิ กถนิ ุทธฺ าร ปฏพิ าเหยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ .กภ็ ิกษณุ ีใดคดั ค้านการเดาะกฐนิ ท่ีชอบธรรม ตอ้ งอาบตั ิปาจติ ตีย์๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถี๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบัญญตั ิเฉพาะภกิ ษุณีตวุ ฏั ฏวรรคเอกมญั จตวุ ฏั ฏนสกิ ขาบท๓๑. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ โิ ย ทเฺ ว เอกมญฺเจ ตวุ ฏฺเฏยยฺ ุ ปาจติ ตฺ ยิ .ก็ภกิ ษณุ ีเหลา่ ใด ๒ รปู นอนบนเตยี งเดียวกัน ตอ้ งอาบัติปาจิตตยี ์๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถี๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญตั ิเฉพาะภกิ ษุณีเอกตั ถรณตวุ ฏั ฏนสกิ ขาบท๓๒. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ โิ ย ทเฺ ว เอกตถฺ รณปาวรุ ณา ตวุ ฏฺเฏยยฺ ุ ปาจติ ตฺ ยิ .ก็ภกิ ษณุ เี หลา่ ใด ๒ รูปใช้ผา้ ผืนเดยี วเปน็ ทั้งผ้าปนู อนและผ้าห่ม นอนร่วมกัน ต้องอาบัตปิ าจิตตีย์๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถี๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่
๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบญั ญตั เิ ฉพาะภกิ ษณุ ี อผาสกุ รณสิกขาบท ๓๓. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ภิกขฺ นุ ิยา สญจฺ จิ จฺ อผาสุ กเรยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . ก็ภกิ ษุณีใดจงใจก่อความไมผ่ าสุกแกภ่ กิ ษณุ ี ต้องอาบัตปิ าจิตตยี ์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญัติเฉพาะภกิ ษณุ ี นอปุ ฏั ฐาปนสกิ ขาบท ๓๔. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ทกุ ขฺ ติ สหชวี นิ ึ เนว อปุ ฏฐฺ ฃเหยยฺ น อปุ ฏฐฺ ฃาปนาย อสุ สฺ กุ กฺ กเรยยฺ ปาจติ ฺตยิ . ก็ภกิ ษุณีใดไมด่ แู ลช่วยเหลอื หรือไม่ใส่ใจมอบหมายใหผ้ ูอ้ ื่นดูแลชว่ ยเหลอื สหชวี ินผี ไู้ ด้รบั ความลาบาก ตอ้ งอาบัตปิ าจิตตยี ์ ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถี ๒) บคุ คลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบญั ญตั ิเฉพาะภกิ ษณุ ี นิกกัฑฒนสกิ ขาบท ๓๕. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ภกิ ขฺ นุ ยิ า อปุ สสฺ ย ทตวฺ า กุปติ า อนตตฺ มนา นิกกฺ ฑเฺ ฒยยฺ วา นกิ ฺกฑฺฒาเปยฺยวา ปาจติ ตฺ ยิ . กภ็ กิ ษุณีใดให้ท่ีพักแกภ่ กิ ษณุ แี ล้ว โกรธ ไม่พอใจ ฉุดลากออกไป หรือใชใ้ ห้ฉดุ ลากออกไป ต้องอาบัตปิ าจิตตีย์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถี ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบัญญัติเฉพาะภกิ ษณุ ี
สงั สฏั ฐสกิ ขาบท ๓๖. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี สสฏฐฺ ฃา วหิ เรยยฺ คหปตนิ า วา คหปตปิ ตุ เฺ ตน วา สา ภกิ ขฺ นุ ี ภิกขฺ นุ ีหิ เอวมสสฺวจนยี า “มายเฺ ย สสฏฐฺ ฃา วหิ ริ คหปตนิ าปิ คหปตปิ ตุ เฺ ตนาปิ ววิ จิ จฺ ายเฺ ย วเิ วกญเฺ ญว ภคนิ ยิ า สงโฺ ฆ วณเฺ ณตี”ต.ิเอวญจฺ สา ภกิ ขฺ นุ ี ภกิ ฺขนุ หี ิ วจุ จฺ มานา ตเถว ปคฺคณเฺ หยยฺ สา ภกิ ขฺ นุ ี ภกิ ขฺ ุนหี ิ ยาวตตยิ สมนภุ าสติ พพฺ า ตสสฺปฏนิ สิ สฺ คคฺ าย ยาวตตยิ ญเฺ จ สมนภุ าสยิ มานา ต ปฏนิ สิ สฺ ชเฺ ชยยฺ อจิ ฺเจต กสุ ล.โน เจ ปฏนิ สิ สฺ ชเฺ ชยยฺ ปาจิตตฺ ยิ . กภ็ กิ ษณุ ีใดอยู่คลุกคลีกับคหบดหี รือกบั บุตรคหบดี ภกิ ษุณีนัน้ อนั ภิกษณุ ีทง้ั หลายพงึ ว่ากลา่ วตกั เตอื นอย่างน้วี า่ น้องหญิง ทา่ นอย่าอย่คู ลุกคลกี บั คหบดีหรือกับบุตรคหบดี น้องหญงิ จงแยกกนั อยู่เถิด สงฆ์ยอ่ มสรรเสริญการ แยกกันอยู่ของน้องหญิง กภ็ ิกษุณนี น้ั อนั ภิกษุณีทัง้ หลายว่ากล่าวตกั เตือนอยา่ งนีย้ ังยืนยันอยู่อยา่ งนั้น ภิกษณุ นี ้นั อนั ภิกษุณีทง้ั หลายพึงสวดสมนุภาสน์จนครบ ๓ ครัง้ เพอื่ ใหส้ ละเรือ่ งนนั้ ถ้าเธอกาลังถูกสวดสมนภุ าสนก์ วา่ จะครบ ๓ ครั้ง สละเรอื่ งนน้ั ได้ น่ันเปน็ การดี ถ้าไมส่ ละ ต้องอาบตั ิปาจิตตยี ์ ๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถี ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญัตเิ ฉพาะภิกษณุ ี อนั โตรฏั ฐสกิ ขาบท ๓๗. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี อนโฺ ตรฏฺเฐฃ สาสงกฺ สมฺมเต สปฺปฏภิ เย อสตฺถกิ า จาริก จเรยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . กภ็ กิ ษณุ ีใดเที่ยวจาริกไปไมม่ ีกองเกวียนเปน็ เพอื่ นในท่ีท่รี ู้กนั ว่าน่าหวาดระแวง มภี ยั น่ากลวั ภายในรฐั ต้องอาบัตปิ าจติ ตยี ์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถี ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญัตเิ ฉพาะภิกษณุ ี ตโิ รรฏั ฐสกิ ขาบท ๓๘. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี ตโิ รรฏฺเฐ สาสงฺกสมฺมเต สปฺปฏภิ เย อสตฺถกิ า จาริก จเรยยฺ ปาจิตตฺ ยิ . กภ็ กิ ษุณีใดเทยี่ วจาริกไปไม่มีกองเกวยี นเปน็ เพือ่ นในท่ีท่ีรู้กนั ว่าน่าหวาดระแวง มภี ัยนา่ กลวัภายนอกรัฐ ตอ้ งอาบตั ปิ าจิตตีย์ ๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถี ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่
๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบญั ญัตเิ ฉพาะภกิ ษุณี จติ ตาคารวรรค ราชาคารสกิ ขาบท ๔๑. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ราชาคาร วา จติ ตฺ าคาร วา อาราม วา อยุ ยฺ าน วา โปกขฺ รณึ วา ทสสฺ นายคจเฺ ฉยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . ก็ภิกษณุ ีใดไปดูโรงละครหลวง หอจิตรกรรม สวนสาธารณะ อทุ ยาน หรือสระโบกขรณี ต้องอาบัติปาจิตตยี ์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถี ๒) บุคคลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญัตเิ ฉพาะภิกษณุ ี อาสนั ทปิ รภิ ญุ ชนสกิ ขาบท ๔๒. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี อาสนฺทึ วา ปลลฺ งกฺ วา ปรภิ ุญเฺ ชยยฺ ปาจติ ฺตยิ . ก็ภิกษณุ ีใดใชต้ ่ังยาวหรือแทน่ ต้องอาบตั ิปาจติ ตีย์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบญั ญัติเฉพาะภกิ ษณุ ี สตุ ตกนั ตนสกิ ขาบท ๔๓. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี สตุ ตฺ กนฺเตยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . ก็ภิกษณุ ีใดกรอดา้ ย ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถี ๒) บุคคลผูก้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญตั เิ ฉพาะภกิ ษณุ ี
คหิ เิ วยยาวจั จสิกขาบท ๔๔. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี คหิ เิ วยฺยาวจจฺ กเรยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . ก็ภกิ ษุณีใดช่วยทาการขวนขวายเพอื่ คฤหัสถ์ ต้องอาบตั ปิ าจิตตีย์ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถี ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบญั ญัติเฉพาะภิกษณุ ี อธกิ รณสกิ ขาบท ๔๕. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ภกิ ขฺ นุ ยิ า “เอหายเฺ ย อมิ อธกิ รณ วปู สเมหี”ติ วจุ จฺ มานา“สาธู”ติ ปฏสิ สฺ ณุ ิตวฺ าสา ปจฺฉา อนนตฺ รายกิ ินี เนว วปู สเมยยฺ น วปู สมาย อสุ สฺ ุกกฺ กเรยยฺ ปาจติ ตฺ ิย. ก็ภิกษณุ ีใดอนั ภิกษุณีขอร้องอยวู่ า่ แมเ่ จ้าโปรดมาช่วยระงับอธิกรณน์ ด้ี ว้ ยเถิด รบั ปากแล้วภายหลังภกิ ษุณีน้นั ผู้ไม่มีอันตราย ไม่ช่วยระงบั ไม่ขวนขวายใหผ้ ู้ อู ่นื ชว่ ยระงับ ต้องอาบัตปิ าจติ ตีย์ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถี ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญตั ิเฉพาะภิกษุณี โภชนทานสิกขาบท ๔๖. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อคาริกสสฺ วา ปรพิ พฺ าชกสสฺ วา ปรพิ พฺ าชกิ าย วา สหตถฺ าขาทนยี วา โภชนยีวา ทเทยยฺ ปาจติ ตฺ ิย. กภ็ กิ ษุณีใดให้ของเคยี้ วหรอื ของฉันดว้ ยมือตนแกช่ าวบา้ น แก่ ปรพิ าชก หรือแก่ปริพาชิกา ต้องอาบัติปาจิตตยี ์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถี ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญตั ิเฉพาะภิกษุณี อาวสถจวี รสกิ ขาบท ๔๗. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อาวสถจวี ร อนสิ สฺ ชเฺ ชตวฺ า ปรภิ ญุ ฺเชยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ .
ก็ภิกษณุ ีใดใช้ผา้ ซบั ระดแู ลว้ ไม่ยอมสละ ต้องอาบตั ปิ าจติ ตีย์๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถี๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บัญญตั เิ ฉพาะภิกษุณีอาวสถวหิ ารสิกขาบท๔๘. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี อาวสถ อนสิ สฺ ชชฺ ติ วฺ า จาริก ปกกฺ เมยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ .กภ็ กิ ษุณีใดไมส่ ละที่พักแล้วหลีกจารกิ ไป ต้องอาบตั ปิ าจิตตีย์๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถี๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบัญญัตเิ ฉพาะภกิ ษณุ ีตริ จั ฉานวชิ ชาปรยิ าปณุ นสิกขาบท๔๙. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี ตริ จฉฺ านวชิ ชฺ ปรยิ าปเุ ณยยฺ ปาจติ ตฺ ิย.กภ็ กิ ษุณีใดเรียนดิรัจฉานวิชา ต้องอาบัตปิ าจิตตีย์๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถี๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญัตเิ ฉพาะภิกษณุ ีตริ จั ฉานวชิ ชาวาจนสิกขาบท๕๐. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี ตริ จฉฺ านวชิ ชฺ วาเจยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ .ก็ภกิ ษุณีใดสอนดริ ัจฉานวชิ า ตอ้ งอาบัตปิ าจติ ตยี ์๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถี๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบัญญตั เิ ฉพาะภกิ ษุณี
อารามวรรค อารามปวสิ นสกิ ขาบท ๕๑. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ชาน สภกิ ขฺ กุ อาราม อนาปจุ ฺฉา ปวเิ สยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . [๑๐๒๔] อนง่ึ ภกิ ษุณีใดรอู้ ยู่ เขา้ ไปสูอ่ ารามที่มภี ิกษุโดยไม่บอก ต้องอาบตั ิปาจิตตีย์ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถี ๒) บคุ คลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๒ พระอนุบญั ญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบญั ญัตเิ ฉพาะภกิ ษณุ ี คณปรภิ าสนสกิ ขาบท ๕๓. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี จณฑฺ กี ตา คณ ปรภิ าเสยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . กภ็ กิ ษุณีใดขง้ึ เคียด บริภาษคณะ ต้องอาบัตปิ าจติ ตยี ์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถี ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบัญญัตเิ ฉพาะภิกษุณี ปวาริตสกิ ขาบท ๕๔. ยา ปน ภกิ ฺขนุ ี นิมนตฺ ติ า วา ปวารติ า วา ขาทนีย วา โภชนยี วาขาเทยยฺ วา ภญุ ฺเชยยฺ วาปาจติ ตฺ ยิ . ก็ภิกษุณีใดได้รบั นิมนตแ์ ลว้ บอกห้ามภตั ตาหารแลว้ เคีย้ วของเค้ียว หรือฉนั ของฉัน ต้องอาบตั ิปาจิตตีย์ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบัญญัติเฉพาะภกิ ษณุ ี กุลมจั ฉรนิ สี กิ ขาบท ๕๕. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี กลุ มจฉฺ รนิ ี อสสฺ ปาจติ ตฺ ยิ . [๑๐๔๓] กภ็ ิกษณุ ีใดหวงตระกูล ตอ้ งอาบัตปิ าจติ ตีย์
๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบัญญตั เิ ฉพาะภกิ ษุณี อภกิ ขกุ าวาสสกิ ขาบท ๕๖. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อภกิ ฺขเุ ก อาวาเส วสสฺ วเสยยฺ ปาจิตตฺ ยิ . กภ็ กิ ษณุ ีใดจาพรรษาในอาวาสท่ีไม่มภี ิกษุ ต้องอาบัติปาจติ ตีย์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถี ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญตั เิ ฉพาะภกิ ษุณี อปวารณาสกิ ขาบท ๕๗. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี วสสฺ วฏุ ฐฺ ฃา อภุ โตสงเฺ ฆ ตหี ิ ฐฃาเนหิ น ปวาเรยยฺ ทฏิ ฺเฐฃน วาสเุ ตน วา ปรสิ งกฺ ายวา ปาจติ ตฺ ยิ . กภ็ ิกษุณีใดจาพรรษาแล้ว ไม่ปวารณาในสงฆ์ ๒ ฝ่ายดว้ ยฐานะ ๓ คอื ด้วยไดเ้ ห็น ดว้ ยไดย้ นิ หรือด้วยระแวงสงสยั ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบัญญัตเิ ฉพาะภกิ ษุณี โอวาทปู สงั กมนสกิ ขาบท ๕๙. อนวฺ ทธฺ มาส ภกิ ขฺ นุ ยิ า ภิกขฺ สุ งฆฺ โต ทเฺ ว ธมมฺ า ปจจฺ าสสี ติ พฺพา อโุ ปสถปจุ ฺฉกญจฺโอวาทปู สงกฺ มนญจฺ . ต อตกิ กฺ าเมนตฺ ยิ า ปาจติ ฺตยิ . กภ็ ิกษุณีพึงหวงั ธรรม ๒ อยา่ งจากภิกษุสงฆ์ทกุ กึง่ เดือน คือ การถามอโุ บสถ ๑ การเข้าไปขอโอวาท๑ ผู้ฝา่ ฝืนธรรม ๒ อย่างนัน้ ตอ้ ง อาบัตปิ าจติ ตยี ์ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บคุ คลผ้กู อ่ เหตุ ไดแ้ ก่
๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญตั เิ ฉพาะภกิ ษณุ ี ปสาเขชาตสกิ ขาบท ๖๐. ยา ปน ภกิ ฺขนุ ี ปสาเข ชาต คณฑฺ วา รธุ ติ วา อนปโลเกตวฺ า สงฆฺ วา คณ วา ปรุ เิ สน สทธฺ ึเอเกเนกา เภทาเปยยฺ วา ผาลาเปยยฺ วาโธวาเปยยฺ วา อาลมิ ฺปาเปยฺย วา พนธฺ าเปยยฺ วา โมจาเปยฺย วาปาจติ ตฺ ยิ . กภ็ ิกษุณีใดไมบ่ อกสงฆ์หรือคณะ ใช้ใหบ้ ง่ ใหผ้ า่ ให้ชะล้าง ใหท้ า ให้พนั หรือใหแ้ กะฝหี รือบาดแผลที่เกิดในร่มผา้ อยู่กันสองต่อสองกบั ชาย ตอ้ งอาบัติปาจิตตยี ์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถี ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญัตเิ ฉพาะภกิ ษณุ ี คัพภนิ วิ รรค คพั ภนิ สิ ิกขาบท ๖๑. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี คพภฺ นิ ึ วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจติ ฺตยิ . ก็ภิกษณุ ีใดบวชให้สตรมี ีครรภ์ ต้องอาบตั ปิ าจติ ตยี ์ ๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถี ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบัญญตั เิ ฉพาะภกิ ษุณี ปายนั ตสี กิ ขาบท ๖๒. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี ปายนตฺ ึ วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . กภ็ กิ ษณุ ีใดบวชใหส้ ตรีมลี กู ยงั ดื่มนม ตอ้ งอาบัติปาจติ ตีย์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถี ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ
๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บัญญตั เิ ฉพาะภกิ ษุณี ปฐมสกิ ขมานสิกขาบท ๖๓. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ทเฺ ว วสสฺ านิ ฉสุ ธมเฺ มสุ อสกิ ขฺ ติ สิกขฺ สกิ ขฺ มาน วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . ก็ภิกษุณีใดบวชใหส้ ิกขมานาผู้ยงั ไม่ได้ศึกษาสกิ ขาในธรรม ๖ ขอ้ ตลอด ๒ ปี ต้องอาบัตปิ าจิตตีย์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถี ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญัตเิ ฉพาะภิกษณุ ี ทตุ ยิ สกิ ขมานสกิ ขาบท ๖๔. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี ทเฺ ว วสสฺ านิ ฉสุ ธมเฺ มสุ สกิ ขฺ ิตสกิ ฺข สิกขฺ มาน สงเฺ ฆน อสมมฺ ต วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺปาจติ ตฺ ยิ . ก็ภิกษุณีใดบวชให้สกิ ขมานาผู้ศึกษาสิกขาในธรรม ๖ ขอ้ ตลอด ๒ ปีแล้วแต่สงฆ์ยงั ไม่ไดส้ มมติ ต้องอาบัติปาจติ ตีย์ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญตั ิเฉพาะภกิ ษุณี ปฐมคหิ คิ ตสกิ ขาบท ๖๕. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อนู ทวฺ าทสวสสฺ คหิ คิ ต วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจติ ฺตยิ . ก็ภิกษุณีใดบวชให้หญิงท่มี ีครอบครัวมีอายุตา่ กวา่ ๑๒ ปี ตอ้ งอาบัตปิ าจติ ตยี ์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บุคคลผูก้ อ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญตั เิ ฉพาะภิกษณุ ี ทตุ ยิ คหิ ิคตสกิ ขาบท
๖๖. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ปรปิ ุณณฺ ทวฺ าทสวสสฺ คหิ คิ ต ทเฺ ว วสสฺ านิ ฉสุ ธมเฺ มสุ อสิกขฺ ติ สกิ ฺข วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺปาจติ ตฺ ยิ . ก็ภกิ ษุณีใดบวชให้หญิงทมี่ ีครอบครวั มีอายุครบ ๑๒ ปยี ังไม่ได้ ศึกษาสิกขาในธรรม ๖ ขอ้ ตลอด ๒ปี ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถี ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบญั ญตั ิเฉพาะภิกษุณี ตตยิ คหิ ิคตสกิ ขาบท ๖๗. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ปรปิ ณุ ณฺ ทวฺ าทสวสสฺ คหิ คิ ต ทฺเว วสสฺ านิ ฉสุ ธมเฺ มสุ สกิ ขฺ ติ สกิ ขฺ สงฺเฆนอสมฺมต วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . กภ็ กิ ษุณีใดบวชใหห้ ญิงท่ีมีครอบครัวมีอายคุ รบ ๑๒ ปผี ้ไู ด้ศึกษา สิกขาในธรรม ๖ ขอ้ ตลอด ๒ ปีแตส่ งฆย์ ังไมไ่ ดส้ มมติ ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บคุ คลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญตั เิ ฉพาะภกิ ษุณี ปฐมสหชวี นิ สี กิ ขาบท ๖๘. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี สหชวี นิ ึ วฏุ ฐฺ ฃาเปตวฺ า ทเฺ ว วสสฺ านิ เนว อนคุ คฺ ณเฺ หยยฺ น อนคุ ฺคณหฺ าเปยฺยปาจติ ตฺ ยิ . กภ็ กิ ษุณีใดบวชให้สหชวี ินีแลว้ ไมอ่ นุเคราะห์ ไมใ่ ห้อนเุ คราะหต์ ลอด ๒ ปี ต้องอาบัติปาจิตตยี ์ ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญตั ิเฉพาะภกิ ษณุ ี ปวตั ตนิ นี านุพันธนสกิ ขาบท ๖๙. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี วฏุ ฐฺ ฃาปิต ปวตตฺ นิ ึ ทเฺ ว วสสฺ านิ นานพุ นเฺ ธยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ .
ก็ภิกษุณีใดไม่ติดตามปวตั ตนิ ีผบู้ วชใหต้ ลอด ๒ ปี ตอ้ งอาบัติ ปาจิตตยี ์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถี ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญตั ิเฉพาะภกิ ษณุ ี ทุตยิ สหชวี นิ สี กิ ขาบท ๗๐. ยา ปน ภกิ ฺขนุ ี สหชวี นิ ึ วฏุ ฐฺ ฃาเปตวฺ า เนว วปู กาเสยยฺ น วปู กาสาเปยยฺ อนตฺ มโสฉปปฺ ญจฺ โยชนานปิ ิ ปาจติ ตฺ ยิ . ก็ภิกษุณีใดบวชให้สหชีวนิ ีแลว้ ไม่พาหลีกไป ไม่ให้พาหลีกไป โดยทสี่ ุดแม้สิน้ ระยะทาง ๕-๖ โยชน์ตอ้ งอาบตั ิปาจิตตยี ์ ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบญั ญัตเิ ฉพาะภกิ ษุณี กมุ ารภิ ตู วรรค ปฐมกุมารภิ ตู สิกขาบท ๗๑. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี อนู วสี ตวิ สสฺ กมุ ารภิ ตู วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจติ ฺตยิ . กภ็ กิ ษณุ ีใดบวชใหก้ มุ ารีมีอายุตา่ กวา่ ๒๐ ปี ต้องอาบตั ิปาจิตตีย์ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญตั ิเฉพาะภกิ ษณุ ี ทตุ ยิ กมุ ารภิ ตู สกิ ขาบท ๗๒. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ปริปณุ ณฺ วสี ตวิ สสฺ กมุ ารภิ ตู ทเฺ ว วสสฺ านิ ฉสุ ธมเฺ มสุ อสิกขฺ ิตสกิ ฺข วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺปาจติ ตฺ ยิ . ก็ภกิ ษณุ ีใดบวชใหก้ ุมารผี ู้มีอายุครบ ๒๐ ปผี ู้ยังไมไ่ ด้ศึกษาสิกขา ในธรรม ๖ ข้อตลอด ๒ ปี ต้องอาบัติปาจติ ตีย์
๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บุคคลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญตั เิ ฉพาะภิกษณุ ี ตตยิ กุมารภิ ตู สกิ ขาบท ๗๓. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี ปรปิ ุณณฺ วสี ตวิ สสฺ กุมารภิ ตู ทเฺ ว วสสฺ านิ ฉสุ ธมเฺ มสุ สกิ ขฺ ติ สกิ ขฺ สงเฺ ฆนอสมฺมต วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . กภ็ กิ ษณุ ีใดบวชใหก้ ุมารีมีอายุครบ ๒๐ ปี ผไู้ ดศ้ กึ ษาสิกขาใน ธรรม ๖ ขอ้ ตลอด ๒ ปีแล้วแตส่ งฆ์ยงั ไม่ได้สมมติ ต้องอาบตั ปิ าจิตตีย์ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถี ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบัญญตั ิเฉพาะภิกษุณี อนู ทวาทสวสั สสกิ ขาบท ๗๔. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อนู ทวฺ าทสวสสฺ า วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . ก็ภกิ ษุณีใดมีพรรษาตา่ กวา่ ๑๒ บวชให้กุลธดิ า ตอ้ งอาบัติ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถี ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญตั เิ ฉพาะภกิ ษุณี ปรปิ ุณณทวาทสวัสสสกิ ขาบท ๗๕. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี ปรปิ ณุ ฺณทวฺ าทสวสสฺ า สงเฺ ฆน อสมมฺ ตา วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจติ ฺตยิ . กภ็ ิกษุณีใดมีพรรษาครบ ๑๒ แล้วแต่สงฆ์ยงั ไม่ได้สมมติ บวชใหก้ ุลธิดา ตอ้ งอาบัติปาจิตตยี ์ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถี ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่
๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบัญญตั เิ ฉพาะภกิ ษุณี ขยิ ยนธมั มสกิ ขาบท ๗๖. ยา ปน ภกิ ฺขนุ ี “อล ตาว เต อยฺเย วฏุ ฐฺ ฃาปเิ ตนา”ติ วจุ จฺ มานา “สาธ”ู ติ ปฏสิ สฺ ณุ ติ วฺ า สา ปจฺฉา ขยิ ยฺ นธมมฺ อาปชเฺ ชยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . กภ็ กิ ษุณีใดอนั สงฆก์ ล่าวอยู่วา่ “แมเ่ จ้า เธออย่าบวชให้กุลธิดาเลย” รับคาแล้ว ภายหลงั กลับบ่นว่าต้องอาบตั ปิ าจติ ตยี ์ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถี ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญัติเฉพาะภิกษุณี ปฐมสกิ ขมานนวฏุ ฐาปนสกิ ขาบท ๗๗. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี สิกขฺ มาน “สเจ เม ตวฺ อยเฺ ย จวี ร ทสสฺ สิ เอวาหต วฏุ ฐฺ ฃาเปสสฺ ามี”ติ วตวฺ า สาปจฉฺ า อนนตฺ รายกิ นิ ี เนว วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ น วฏุ ฐฺ ฃาปนาย อสุ สฺ กุ กฺ กเรยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . ก็ภิกษุณีใดกลา่ วกับสิกขมานาวา่ “แม่คุณ ถ้าเธอจักให้จวี รแกเ่ รา เม่ือเปน็ อยา่ งน้ี เราก็จะบวชให้เธอ” ภายหลงั ภิกษุณีน้นั ผู้ไม่มอี ันตราย ไม่บวชให้ ไม่ขวนขวายใชใ้ ห้บวชให้ ต้องอาบตั ิปาจิตตยี ์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถี ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบัญญัติเฉพาะภิกษณุ ี ทตุ ยิ สกิ ขมานนวฏุ ฐาปนสกิ ขาบท ๗๘. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี สกิ ขฺ มาน “สเจ ม ตวฺ อยเฺ ย ทเฺ ว วสสฺ านิ อนุพนธฺ สิ สฺ สิ เอวาห ต วฏุ ฐฺ ฃาเปสฺสาม”ี ติ วตวฺ า สา ปจฉฺ า อนนตฺ รายกิ นิ ี เนววฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ น วฏุ ฐฺ ฃาปนาย อสุ สฺ ุกกฺ กเรยยฺ ปาจติ ฺตยิ . ก็ภิกษุณีใดกล่าวกบั สิกขมานาวา่ แม่คุณ ถา้ เธอจักติดตามเราตลอด ๒ ปี เมอ่ื เปน็ อยา่ งนน้ั เราก็จะบวชให้เธอ ภายหลงั ภิกษณุ ีน้นั ผไู้ มม่ ีอนั ตรายไม่บวชให้ ไม่ขวนขวายใชใ้ ห้บวชให้ ตอ้ งอาบัตปิ าจิตตีย์ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถี ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่
๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบัญญัตเิ ฉพาะภิกษณุ ี โสกาวาสสกิ ขาบท ๗๙. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี ปรุ สิ สสฏฐฺ ฃ กมุ ารกสสฏฐฺ ฃ จณฺฑึ โสกาวาส สิกขฺ มาน วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจติ ฺตยิ . ก็ภกิ ษุณีใดบวชให้สกิ ขมานาผู้คลุกคลีกบั ชาย คลกุ คลกี บั เด็ก ดุร้าย ผู้ทาชายให้ระทมโศก ตอ้ งอาบตั ิปาจติ ตยี ์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถี ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบญั ญัติเฉพาะภิกษุณี อนนญุ ญาตสิกขาบท ๘๐. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี มาตาปติ หู ิ วา สามเิ กน วา อนนญุ ญฺ าต สิกขฺ มาน วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . ก็ภกิ ษณุ ีใดบวชให้สกิ ขมานาที่มารดาบดิ าหรือสามยี งั ไม่ไดอ้ นญุ าต ต้องอาบัตปิ าจติ ตยี ์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถี ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบัญญตั เิ ฉพาะภกิ ษณุ ี อนวุ สั สสกิ ขาบท ๘๒. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี อนวุ สสฺ วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ . ก็ภิกษุณีใดบวชใหส้ ิกขมานาทุก ๆ ปี ต้องอาบตั ปิ าจติ ตยี ์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถี ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบัญญัตเิ ฉพาะภิกษุณี เอกวสั สสกิ ขาบท ๘๓. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี เอก วสสฺ ทเฺ ว วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ .
กภ็ ิกษณุ ีใดบวชให้สิกขมานา ๒ รปู ใน ๑ ปี ตอ้ งอาบตั ิปาจิตตีย์๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถี๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญตั เิ ฉพาะภิกษุณีฉัตตปุ าหนวรรคฉัตตปุ าหนสกิ ขาบท๘๔. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี อคลิ านา ฉตตฺ ปุ าหน ธาเรยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ .อนง่ึ ภิกษุณใี ดผู้ไมเ่ ป็นไข้ กั้นร่มและสวมรองเท้า ต้องอาบัติ ปาจิตตยี ์๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถี๒) บุคคลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ ๑ พระอนุบญั ญัติ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญตั เิ ฉพาะภิกษุณียานสกิ ขาบท๘๕. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี อคลิ านา ยาเนน ยาเยยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ .อนงึ่ ภกิ ษุณีใดผไู้ มเ่ ป็นไข้ โดยสารยานไป ต้องอาบัติปาจติ ตีย์๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถี๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ได้แก่๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๑ พระอนุบญั ญัติ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญตั ิเฉพาะภิกษณุ ีสงั ฆาณสิ กิ ขาบท๘๖. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี สงฆฺ าณึ ธาเรยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ .กภ็ กิ ษณุ ีใดใช้เครื่องประดับเอว ตอ้ งอาบัติปาจติ ตยี ์๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถี๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ
๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญัตเิ ฉพาะภกิ ษณุ ีอิตถาลงั การสกิ ขาบท๘๗. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อติ ถฺ าลงฺการ ธาเรยยฺ ปาจติ ฺตยิ .ก็ภิกษณุ ีใดใชเ้ คร่ืองประดบั ของสตรี ต้องอาบัติปาจติ ตีย์๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถี๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญัตเิ ฉพาะภิกษุณีคันธวณั ณกสกิ ขาบท๘๘. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี คนธฺ วณฺณเกน นหาเยยยฺ ปาจิตตฺ ยิ .ก็ภิกษณุ ีใดสรงสนานด้วยของหอมและเครื่องยอ้ มผวิ ตอ้ งอาบตั ิ ปาจติ ตยี ์๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถี๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบญั ญตั ิเฉพาะภกิ ษุณีวาสติ กสกิ ขาบท๘๙. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี วาสิตเกน ปญิ ญฺ าเกน นหาเยยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ .กภ็ ิกษณุ ีใดสรงสนานด้วยแปง้ อบกลิน่ ต้องอาบัติปาจิตตีย์๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถี๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบญั ญัติเฉพาะภกิ ษณุ ีภกิ ขนุ ิอมุ มัททาปนสิกขาบท๙๐. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ภกิ ขฺ นุ ยิ า อมุ มฺ ทฺทาเปยฺย วา ปรมิ ททฺ าเปยยฺ วา ปาจติ ตฺ ิย.ก็ภิกษณุ ีใดใช้ภกิ ษุณใี ห้บีบหรือใหน้ วด ต้องอาบัตปิ าจติ ตีย์๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถี
๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญตั เิ ฉพาะภกิ ษุณีสกิ ขมานอมุ มทั ทาปนสิกขาบท๙๑. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี สกิ ขฺ มานาย อมุ มฺ ททฺ าเปยยฺ วา ปรมิ ททฺ าเปยยฺ วา ปาจติ ตฺ ิย.ก็ภกิ ษุณีใด ใชส้ ิกขมานาให้บีบหรือให้นวด ต้องอาบัตปิ าจิตตยี ์๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถี๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญตั เิ ฉพาะภกิ ษุณีสามเณรีอุมมัททาปนสกิ ขาบท๙๒. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี สามเณรยิ า อมุ ฺมทฺทาเปยยฺ วา ปรมิ ททฺ าเปยยฺ วา ปาจติ ตฺ ยิ .ก็ภิกษุณีใด ใชส้ ามเณรีใหบ้ ีบหรือใหน้ วด ต้องอาบตั ิปาจิตตีย์๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถี๒) บุคคลผ้กู อ่ เหตุ ไดแ้ ก่๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญัตเิ ฉพาะภิกษณุ ีคิหนิ อิ ุมมัททาปนสกิ ขาบท๙๓. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี คหิ นิ ยิ า อมุ ฺมทฺทาเปยยฺ วา ปรมิ ททฺ าเปยยฺ วา ปาจติ ตฺ ยิ .กภ็ กิ ษุณีใด ใชห้ ญิงคฤหัสถ์ให้บีบหรือใหน้ วด ตอ้ งอาบตั ปิ าจติ ตยี ์๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถี๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบัญญตั เิ ฉพาะภกิ ษุณีอนาปจุ ฉาสกิ ขาบท
๙๔. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี ภิกขฺ สุ สฺ ปรุ โต อนาปจุ ฉฺ า อาสเน นสิ เี ทยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ .กภ็ ิกษุณีใดไมบ่ อกก่อนน่งั บนอาสนะข้างหนา้ ภกิ ษุ ต้องอาบัตปิ าจิตตีย์๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถี๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบญั ญัตเิ ฉพาะภกิ ษุณีปัญหาปจุ ฉนสกิ ขาบท๙๕. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อโนกาสกต ภิกขฺ ุ ปญหฺ ปจุ เฺ ฉยยฺ ปาจิตตฺ ยิ .ก็ภิกษุณีใดถามปัญหาภกิ ษุทตี่ นยงั ไม่ได้ขอโอกาส ตอ้ งอาบัติปาจติ ตยี ์๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถี๒) บคุ คลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญตั ิเฉพาะภกิ ษุณีอสงั กจั จกิ สกิ ขาบท๙๖. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี อสกจจฺ กิ า คาม ปวเิ สยยฺ ปาจิตตฺ ยิ .ก็ภิกษณุ ีใดไมม่ ผี า้ รดั ถนั เข้าหม่บู า้ น ต้องอาบัตปิ าจิตตีย์๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถี๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญัติเฉพาะภิกษณุ ี
๕. ปาฏเิ ทสนยี ะ ๑๐ สกิ ขาบท เฉพาะภิกษภุ ิกษุ ๒ สกิ ขาบท (บาลดี ใู น กงฺขาวิตรณีอฏฐฺ ฃกถา คาแปลดูในวนิ ยั ปิฎก เลม่ ๒,สถานท่ี บุคคล มลู เหตุ บญั ญัติและประเภทของบญั ญตั ิ ดูใน กงขฺ าวติ รณีอฏฐฺ ฃกถา และ วินัยปฎิ ก เลม่ ๘) ปฐมปาฏเิ ทสนยี สกิ ขาบท ๑. โย ปน ภกิ ฺขุ อญญฺ าติกาย ภกิ ขฺ นุ ยิ า อนตฺ รฆร ปวฏิ ฐฺ ฃาย หตฺถโต ขาทนยี วา โภชนยี วา สหตถฺ าปฏิคคฺ เหตวฺ า ขาเทยยฺ วา ภญุ ฺเชยยฺ วา ปฏเิ ทเสตพฺพ เตน ภกิ ขฺ นุ า “คารยหฺ อาวโุ ส ธมมฺ อาปชชฺ ึ อสปปฺ ายปาฏเิ ทสนยี ต ปฏเิ ทเสม”ี ต.ิ ก็ ภกิ ษใุ ดรับของเคี้ยวหรอื ของฉันดว้ ยมือตนเองจากมือของภกิ ษุณีผู้ไม่ใชญ่ าติผู้เข้าไปในละแวกบ้าน เค้ยี วหรอื ฉนั ภิกษนุ ั้นพงึ แสดงคืนวา่ “ท่าน กระผมต้องธรรมคอื ปาฏิเทสนยี ะ เปน็ ธรรมที่น่าตาหนิ ไม่เปน็ สปั ปายะ กระผมขอแสดงคนื ธรรมนนั้ ๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๑๔ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุรปู หน่งึ ๑๑๕ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษุรปู หนึง่ รับอามสิ จากมือของภิกษุณผี ไู้ ม่ใช่ญาตผิ ู้เขา้ ไปสู่ละแวกบ้าน๑๑๖ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ๑๑๗ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญัตเิ ฉพาะภกิ ษุ ตตยิ ปาฏเิ ทสนยี สกิ ขาบท ๓. ยานิ โข ปน ตานิ เสกขฺ สมมฺ ตานิ กลุ านิ โย ปน ภกิ ขฺ ุ ตถารเู ปสุ เสกขฺ สมมฺ เตสุ กเุ ลสุ ปพุ เฺ พอนมิ นฺตโิ ต อคลิ าโน ขาทนีย วา โภชนยี วา สหตถฺ า ปฏคิ ฺคเหตวฺ า ขาเทยยฺ วา ภญุ เฺ ชยยฺ วา ปฏเิ ทเสตพพฺ เตนภกิ ขฺ นุ า “คารยหฺ อาวโุ ส ธมมฺ อาปชชฺ ึ อสปปฺ าย ปาฏเิ ทสนยี ต ปฏเิ ทเสมี”ต.ิ อนึ่ง ภกิ ษใุ ดไมไ่ ด้รับนิมนต์ไว้ก่อน ไม่เปน็ ไข้ รับของเคี้ยวหรือของฉนั ในตระกลู ทไี่ ดร้ ับสมมติเปน็เสขะเช่นนนั้ ด้วยมอื ตนเองแล้วเคย้ี วหรอื ฉนั ภิกษุน้นั พงึ แสดงคนื ว่า “ท่านท้ังหลาย กระผมต้องธรรมคือปาฏิเทสนียะ เป็นธรรมท่นี า่ ตาหนิ ไม่เปน็ สปั ปายะ กระผมขอแสดงคืนธรรมน้ัน ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถ๑ี ๑๘ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษุหลายรูป๑๑๙ ๑๑๔ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๔๖/๙๗ ๑๑๕ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๔๖/๙๗ ๑๑๖ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๔๖/๙๗ ๑๑๗ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๔๖/๙๗ ๑๑๘ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๔๖/๙๗
๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษหุ ลายรูปรบั ภตั ตาหารโดยไมร่ ้ปู ระมาณ๑๒๐๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๑ พระอนุบญั ญัติ๑๒๑๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญัติเฉพาะภกิ ษุ๑๑๙ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๔๖/๙๘๑๒๐ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๔๖/๙๘๑๒๑ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๔๖/๙๘
เฉพาะภกิ ษณุ ี ๘ สกิ ขาบท (บาลดี ูใน กงขฺ าวิตรณอี ฏฺฐฃกถา คาแปลดูในวินัยปฎิ ก เลม่ ๓, สถานที่ บคุ คล มลู เหตุ บญั ญัติและประเภทของบญั ญัติ ดใู น กงฺขาวติ รณีอฏฺฐฃกถา และ วนิ ัยปิฎก เล่ม ๘) สปั ปวิ ญิ ญาปนสิกขาบท ๑. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อคลิ านา สปปฺ ึ วญิ ญฺ าเปตวฺ า ภญุ เฺ ชยยฺ ปฏเิ ทเสตพฺพ ตาย ภกิ ขฺ นุ ยิ า “คารยหฺอยเฺ ย ธมมฺ อาปชชฺ ึ อสปปฺ าย ปาฏเิ ทสนยี ต ปฏเิ ทเสม”ี ต.ิ อนึ่ง ภกิ ษุณีใดผู้ไม่เปน็ ไข้ออกปากขอเนยใสมาฉัน ภิกษุณนี ัน้ พึงแสดงคืนว่า “แมเ่ จ้า ดิฉันตอ้ งธรรมคอื ปาฏิเทสนียะ เปน็ ธรรมทน่ี ่าตเิ ตียน ไมเ่ ปน็ สัปปายะ ดิฉันขอแสดงคืนธรรมน้นั ” ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๒๒ ๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษณุ ีฉพั พัคคยี ์๑๒๓ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุณีฉพั พัคคยี อ์ อกปากขอเนยใสมาฉัน๑๒๔ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๑ พระอนุบญั ญัติ๑๒๕ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญตั เิ ฉพาะภิกษุณี เตลวิญญาปนสิกขาบท ๒. ยา ปน ภกิ ฺขนุ ี อคลิ านา เตล วญิ ญฺ าเปตวฺ า ภญุ เฺ ชยยฺ ปฏเิ ทเสตพฺพ ตาย ภกิ ฺขนุ ยิ า “คารยหฺอยเฺ ย ธมฺม อาปชชฺ ึ อสปฺปาย ปาฏเิ ทสนยี ต ปฏเิ ทเสมตี .ิ อนง่ึ ภกิ ษุณีใดผู้ไมเ่ ป็นไข้ออกปากขอนา้ มนั มาฉัน ภกิ ษุณีนน้ั พงึ แสดงคืนว่า “แม่เจ้า ดฉิ นั ต้องธรรมคือปาฏิเทสนยี ะ เป็นธรรมท่นี า่ ตเิ ตยี น ไมเ่ ปน็ สัปปายะ ดฉิ นั ขอแสดงคนื ธรรมนัน้ ” ๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถ๑ี ๒๖ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษณุ ีฉัพพัคคีย์๑๒๗ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษุณฉี ัพพคั คยี อ์ อกปากขอน้ามันมาฉนั ๑๒๘ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๑ พระอนุบญั ญัติ๑๒๙ ๑๒๒ วิ.ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๖ ๑๒๓ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๖ ๑๒๔ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๖ ๑๒๕ วิ.ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๖ ๑๒๖ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๗ ๑๒๗ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๗ ๑๒๘ วิ.ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๗ ๑๒๙ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๗
๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบัญญัตเิ ฉพาะภกิ ษณุ ี มธวุ ญิ ญาปนสิกขาบท ๓. ยา ปน ภกิ ฺขนุ ี อคลิ านา มธุ วญิ ญฺ าเปตวฺ า ภญุ เฺ ชยยฺ ปฏเิ ทเสตพพฺ ตาย ภกิ ขฺ นุ ยิ า “คารยหฺอยเฺ ย ธมมฺ อาปชชฺ ึ อสปฺปาย ปาฏเิ ทสนยี ต ปฏิเทเสมตี .ิ อน่ึง ภิกษณุ ีใดผู้ไมเ่ ป็นไข้ออกปากขอน้าผ้งึ มาฉัน ภิกษุณีนั้นพงึ แสดงคนื ว่า “แมเ่ จา้ ดิฉันต้องธรรมคือปาฏิเทสนียะ เปน็ ธรรมท่ีน่าติเตียน ไม่เปน็ สัปปายะ ดิฉันขอแสดงคืนธรรมน้นั ” ๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถ๑ี ๓๐ ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษุณีฉัพพัคคีย์๑๓๑ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษณุ ฉี ัพพัคคียอ์ อกปากขอน้าผง้ึ มาฉนั ๑๓๒ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๑ พระอนุบัญญัติ๑๓๓ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญตั ิเฉพาะภกิ ษณุ ี ผาณติ วญิ ญาปนสิกขาบท ๔. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี อคลิ านา ผาณติ วิญญฺ าเปตวฺ า ภญุ ฺเชยยฺ ปฏเิ ทเสตพพฺ ตาย ภกิ ขฺ นุ ยิ า “คารยหฺอยเฺ ย ธมมฺ อาปชชฺ ึ อสปปฺ าย ปาฏเิ ทสนยี ต ปฏิเทเสมตี .ิ อน่งึ ภิกษุณใี ดผู้ไม่เปน็ ไข้ออกปากขอนา้ ออ้ ยมาฉนั ภกิ ษุณนี ้นั พงึ แสดงคนื วา่ “แม่เจา้ ดฉิ ันต้องธรรมคือปาฏิเทสนียะ เป็นธรรมทน่ี ่าติเตียน ไม่เปน็ สัปปายะ ดฉิ ันขอแสดงคนื ธรรมนัน้ ” ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๓๔ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษณุ ีฉพั พัคคีย์๑๓๕ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษุณฉี พั พคั คยี อ์ อกปากขอน้าอ้อยมาฉนั ๑๓๖ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๑ พระอนุบัญญตั ิ๑๓๗ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบัญญัตเิ ฉพาะภิกษุณี มจั ฉวญิ ญาปนสกิ ขาบท ๑๓๐ วิ.ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๗ ๑๓๑ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๗ ๑๓๒ วิ.ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๗ ๑๓๓ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๗ ๑๓๔ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๘ ๑๓๕ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๘ ๑๓๖ วิ.ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๘ ๑๓๗ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๘
๕. ยา ปน ภกิ ฺขนุ ี อคลิ านา มจฉฺ วญิ ฺญาเปตวฺ า ภญุ เฺ ชยยฺ ปฏเิ ทเสตพฺพ ตาย ภกิ ขฺ ุนยิ า “คารยฺหอยเฺ ย ธมมฺ อาปชชฺ ึ อสปฺปาย ปาฏเิ ทสนยี ต ปฏเิ ทเสมตี .ิ อนงึ่ ภกิ ษุณีใดผู้ไมเ่ ปน็ ไข้ออกปากขอปลามาฉนั ภิกษณุ นี ้ันพึงแสดงคนื ว่า “แม่เจา้ ดิฉันต้องธรรมคือปาฏิเทสนียะ เป็นธรรมทีน่ ่าติเตียน ไม่เปน็ สปั ปายะ ดิฉันขอแสดงคืนธรรมนน้ั ” ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๓๘ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษุณีฉัพพัคคีย์๑๓๙ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุณีฉัพพคั คยี อ์ อกปากขอปลามาฉนั ๑๔๐ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๑ พระอนุบัญญัติ๑๔๑ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบัญญตั เิ ฉพาะภิกษณุ ี มังสวญิ ญาปนสกิ ขาบท ๖. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อคลิ านา มส วญิ ฺญาเปตวฺ า ภญุ เฺ ชยยฺ ปฏเิ ทเสตพพฺ ตาย ภกิ ขฺ นุ ิยา “คารยหฺอยเฺ ย ธมฺม อาปชชฺ ึ อสปฺปาย ปาฏเิ ทสนยี ต ปฏเิ ทเสมตี .ิ อนง่ึ ภิกษณุ ีใดผู้ไม่เป็นไขอ้ อกปากขอเน้ือมาฉัน ภกิ ษณุ ีนั้นพึงแสดงคืนว่า “แม่เจ้า ดิฉันต้องธรรมคอื ปาฏเิ ทสนยี ะ เป็นธรรมที่น่าตเิ ตียน ไม่เป็นสปั ปายะ ดิฉันขอแสดงคืนธรรมนนั้ ” ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถ๑ี ๔๒ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษณุ ีฉพั พัคคีย์๑๔๓ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุณฉี ัพพคั คยี อ์ อกปากขอเนอื้ มาฉัน๑๔๔ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๑ พระอนุบัญญตั ิ๑๔๕ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญัติเฉพาะภกิ ษณุ ี ขรี วญิ ญาปนสกิ ขาบท ๗. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อคลิ านา ขรี วญิ ญฺ าเปตวฺ า ภญุ เฺ ชยยฺ ปฏเิ ทเสตพฺพ ตาย ภกิ ขฺ นุ ิยา “คารยหฺอยเฺ ย ธมฺม อาปชชฺ ึ อสปปฺ าย ปาฏเิ ทสนยี ต ปฏเิ ทเสมตี .ิ๑๓๘ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๘๑๓๙ วิ.ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๘๑๔๐ วิ.ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๘๑๔๑ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๘๑๔๒ วิ.ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๙๑๔๓ วิ.ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๙๑๔๔ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๙๑๔๕ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๙
อน่งึ ภกิ ษณุ ใี ดผู้ไมเ่ ปน็ ไข้ออกปากขอนมสดมาฉนั ภิกษุณีน้ันพึงแสดงคนื ว่า “แม่เจา้ ดฉิ ันต้องธรรมคอื ปาฏิเทสนียะ เปน็ ธรรมท่ีน่าติเตียน ไม่เปน็ สปั ปายะ ดฉิ ันขอแสดงคืนธรรมนั้น” ๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๔๖ ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษณุ ีฉัพพัคคยี ์๑๔๗ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษณุ ฉี พั พัคคยี อ์ อกปากขอนมสดมาฉนั ๑๔๘ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ ๑ พระอนุบัญญตั ิ๑๔๙ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญัตเิ ฉพาะภกิ ษุณี ทธวิ ญิ ญาปนสกิ ขาบท ๘. ยา ปน ภกิ ฺขนุ ี อคลิ านา ทธึ วญิ ฺญาเปตวฺ า ภญุ เฺ ชยยฺ ปฏเิ ทเสตพฺพ ตาย ภกิ ฺขนุ ยิ า “คารยหฺอยเฺ ย ธมฺม อาปชชฺ ึ อสปปฺ าย ปาฏเิ ทสนยี ต ปฏิเทเสมี”ต.ิ อนงึ่ ภิกษุณีใดผู้ไมเ่ ปน็ ไข้ออกปากขอนมเปร้ยี วมาฉัน ภิกษุณีน้นั พึงแสดงคืนว่า “แม่เจ้า ดฉิ ันต้องธรรมคือปาฏเิ ทสนยี ะ เป็นธรรมทนี่ า่ ติเตียน ไม่เป็นสปั ปายะ ดิฉันขอแสดงคนื ธรรมนั้น” ๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๕๐ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษณุ ีฉัพพัคคีย์๑๕๑ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุณีฉัพพัคคยี อ์ อกปากขอนมเปรยี้ วมาฉนั ๑๕๒ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๑ พระอนบุ ญั ญัติ๑๕๓ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญัตเิ ฉพาะภิกษุณี ๑๔๖ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๙ ๑๔๗ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๙ ๑๔๘ วิ.ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๙ ๑๔๙ วิ.ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๗๙ ๑๕๐ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๘๐ ๑๕๑ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๘๐ ๑๕๒ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๘๐ ๑๕๓ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๒๒๘/๒๘๐
๖. เสขยิ วัตร ๗๒ สกิ ขาบท (บาลดี ูใน กงขฺ าวิตรณีอฏฺฐฃกถา คาแปลดใู นวินยั ปิฎก เลม่ ๒, สถานที่ บคุ คล มลู เหตุ บญั ญตั แิ ละประเภทของบญั ญัติ ดใู น กงขฺ าวติ รณอี ฏฺฐฃกถา, วินัยปิฎก เล่ม ๘ และภิกขปุ าติโมกข์แปล พรอ้ มมาตกิ าสาหรบัวนิ จั ฉยั สกิ ขาบท ของพระมหาธติ พิ งศ์ อตุ ตมปญั โญ) ๗๒ ขอ้ บญั ญัตทิ ่ีสาวตั ถี ปรารภภกิ ษุฉพั พัคคีย์ (กงฺขาวติ รณีอฏฺฐฃกถา หน้า ๓๒๓ ยอ่ หน้าที่ ๓) ขอ้ ท่ีไม่ได้บัญญัติท่สี าวตั ถี มี ๓ สกิ ขาบท คือ ๕๑ (โกสัมพี ปรารภภกิ ษุหลายรปู ) (กงฺขาวติ รณอี ฏฐฺ ฃกถา หนา้ ๓๒๓ ยอ่ หนา้ ที่ ๓) ๕๕ (แควน้ ภคั คะ ปรารภภิกษุหลายรปู ) (กงขฺ าวิตรณอี ฏฐฺ ฃกถา หน้า ๓๒๓ ยอ่ หน้าที่ ๓) ๕๖ (แควน้ ภัคคะ ปรารภภกิ ษหุ ลายรูป) (กงฺขาวติ รณีอฏฺฐฃกถา หน้า ๓๒๓ ย่อหน้าที่ ๓) ท้ัง ๗๕ ขอ้ เปน็ สาธารณบัญญตั ิ คอื เป็นข้อบญั ญัติทั่วไปทั้งภกิ ษแุ ละภิกษณุ ี ปริมณั ฑลวรรค ปรมิ ณั ฑลสกิ ขาบท ๑. ปรมิ ณฺฑล นวิ าเสสสฺ ามีติ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๕๔ พงึ ทาความสาเหนยี กว่า เราจักครองอนั ตรวาสกให้เรียบรอ้ ย ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๕๕ ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคยี ์๑๕๖ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ พระฉัพพัคคีย์นงุ่ ผา้ เลื้อยหนา้ บ้าง เลื้อยหลังบา้ งชาวบา้ นพากันเพ่งโทษ ติเตยี น โพนทะนาว่า ไฉน พระสมณะเชอื้ สายพระศากยบุตร จงึ ไดน้ ุ่งผ้าเลื้อยหนา้ บ้างเลอ้ื ยหลังบ้าง เหมอื นพวกคฤหัสถ์ผบู้ รโิ ภคกามเล่า ภกิ ษทุ งั้ หลายได้ยนิ ชาวบ้านเหล่าน้นั พากนั เพง่ โทษ ตเิ ตียนโพนทะนา๑๕๗ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ๑๕๘ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบัญญตั ิท่วั ไปท้ังภิกษุและภิกษุณี๑๕๙๑๕๔ วิ.มหา. ๒/๕๗๖/๔๕๖ (ทยฺย) ว.ิ มหา. ๒/๕๗๖/๒๓๙ (ม)๑๕๕ กงขฺ า.อฏฺ. ๓๒๓๑๕๖ กงฺขา.อฏ.ฺ ๓๒๓ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๙๙๑๕๗ กงขฺ า.อฏฺ. ๓๒๓ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๙๙๑๕๘ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๙๙๑๕๙ กงขฺ า.อฏ.ฺ ๓๒๓
ทตุ ยิ ปริมณั ฑลสกิ ขาบท ๒. ปรมิ ณฑฺ ล ปารปุ สิ สฺ ามตี ิ สกิ ฺขา กรณยี า.๑๖๐ พงึ ทาความสาเหนยี กวา่ เราจักครองอตุ ตราสงค์ให้เรียบร้อย ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๖๑ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษุฉัพพัคคีย์๑๖๒ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษฉุ พั พคั คยี ์ห่มผา้ ไมเ่ รียบรอ้ ย๑๖๓ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ อันภกิ ษนุ งุ่ ปิดมณฑลสะดอื มณฑลเขา่ ชอื่ วา่ นุ่งเปน็ ปริมณฑล. ภกิ ษใุ ดอาศัยความไม่เอ้ือเฟื้อ น่งุ ผา้ เล้ือยหนา้ หรือเล้ือยหลงั ต้องอาบตั ิทุกกฏ๑๖๔ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบญั ญตั ิทวั่ ไปทั้งภกิ ษุและภิกษุณี๑๖๕ สปุ ปฏจิ ฉนั นสกิ ขาบท ๓. สปุ ปฺ ฏจิ ฉฺ นโฺ น อนตฺ รฆเร คมสิ สฺ ามตี ิ สิกขฺ า กรณยี า.๑๖๖ พึงสาเหนยี กวา่ เราจักปกปดิ กายใหด้ ี ไปในละแวกบ้าน ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถ๑ี ๖๗ ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคยี ์๑๖๘ ๓) มูลเหตุแห่งการบัญญัติสิกขาบท ได้แก่ ภิกษุฉัพพัคคีย์ไม่ปกปิดกายด้วยดีเข้าไปในละแวกบา้ น ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ๑๖๙ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบัญญัติทว่ั ไปท้ังภิกษุและภกิ ษุณี๑๗๐ ทตุ ยิ สปุ ปฏจิ ฉนั นสกิ ขาบท ๔. สปุ ปฺ ฏจิ ฉฺ นโฺ น อนตฺ รฆเร นสิ ที สิ สฺ ามตี ิ สิกขฺ า กรณยี า.๑๗๑๑๖๐ ว.ิ มหา. ๒/๕๗๗/๔๕๗ (ทยฺย) ว.ิ มหา. ๒/๕๗๗/๒๔๐ (ม)๑๖๑ กงฺขา.อฏ.ฺ ๓๒๓๑๖๒ กงฺขา.อฏฺ. ๓๒๓ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๐๑๖๓ กงฺขา.อฏฺ. ๓๒๓ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๐๑๖๔ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๐๑๖๕ กงฺขา.อฏฺ. ๓๒๓๑๖๖ วิ.มหา. ๒/๕๗๘/๔๕๗ (ทยฺย) ว.ิ มหา. ๒/๕๗๘/๒๔๐ (ม)๑๖๗ กงฺขา.อฏ.ฺ ๓๒๓๑๖๘ กงฺขา.อฏ.ฺ ๓๒๓๑๖๙ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๐ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๐๑๗๐ กงขฺ า.อฏ.ฺ ๓๒๓
พึงทาความสาเหนียกว่า เราจักปกปดิ กายใหด้ ี นงั่ ในละแวกบา้ น๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๗๒๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุฉัพพัคคีย์๑๗๓๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ พั พคั คีย์ไม่ปกปิดกายด้วยดนี ่ังในละแวกบ้าน๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ๑๗๔๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญตั ิทว่ั ไปทั้งภกิ ษุและภิกษุณี๑๗๕สสุ งั วตุ สกิ ขาบท๕. สสุ วโุ ต อนตฺ รฆเร คมสิ สฺ ามตี ิ สกิ ฺขา กรณยี า.๑๗๖พึงทาความสาเหนยี กวา่ เราจักสารวมดี ไปในละแวกบ้าน๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถ๑ี ๗๗๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษุฉัพพัคคีย์๑๗๘๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษุฉพั พัคคยี ์ไมส่ ารวมเข้าไปในระแวกบา้ น๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ๑๗๙๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญตั ิท่ัวไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณี๑๘๐ทุตยิ สสุ งั วตุ สกิ ขาบท๖. สสุ วโุ ต อนตฺ รฆเร นสิ ที สิ สฺ ามตี ิ สกิ ฺขา กรณยี า.๑๘๑พงึ ทาความสาเหนยี กวา่ เราจักสารวมดี นั่งในละแวกบ้าน๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถ๑ี ๘๒๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคยี ์๑๘๓๑๗๑ ว.ิ มหา. ๒/๕๗๙/๔๕๘ (ทยยฺ ) ว.ิ มหา. ๒/๕๗๙/๒๔๐ (ม)๑๗๒ กงขฺ า.อฏฺ. ๓๒๓๑๗๓ กงขฺ า.อฏ.ฺ ๓๒๓๑๗๔ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๐ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๐๑๗๕ กงฺขา.อฏฺ. ๓๒๓๑๗๖ ว.ิ มหา. ๒/๕๘๐/๔๕๘ (ทยยฺ ) ว.ิ มหา. ๒/๕๘๐/๒๔๑ (ม)๑๗๗ กงขฺ า.อฏ.ฺ ๓๒๓๑๗๘ กงฺขา.อฏ.ฺ ๓๒๓๑๗๙ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๑ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๐๑๘๐ กงฺขา.อฏฺ. ๓๒๓๑๘๑ ว.ิ มหา. ๒/๕๘๑/๔๕๙ (ทยยฺ ) ว.ิ มหา. ๒/๕๘๑/๒๔๑ (ม)๑๘๒ กงขฺ า.อฏฺ. ๓๒๓
๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ ัพพัคคยี ์ไม่สารวมนง่ั ในระแวกบา้ น๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ๑๘๔๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บัญญัติท่วั ไปทั้งภิกษุและภกิ ษุณี๑๘๕โอกขติ ตจักขสุ ิกขาบท๗. โอกขฺ ิตตฺ จกขฺ ุ อนตฺ รฆเร คมสิ สฺ ามตี ิ สิกขฺ า กรณยี า.๑๘๖พึงทาความสาเหนียกวา่ เราจักทอดจักษุลง ไปในละแวกบ้าน๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๘๗๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคีย์๑๘๘๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ พั พคั คยี ์ไม่ทอดสายตาลงไปในละแวกบ้าน๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ๑๘๙๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญัติทั่วไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณี๑๙๐ทตุ ยิ โอกขิตตจกั ขสุ ิกขาบท๘. โอกขฺ ติ ตฺ จกขฺ ุ อนตฺ รฆเร นสิ ที สิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๙๑พงึ สาเหนียกว่า เราจกั มจี ักษุทอดลง น่ังในละแวกบ้าน๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถ๑ี ๙๒๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุฉัพพัคคีย์๑๙๓๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคีย์ไมท่ อดสายตาลงน่งั ในละแวกบ้าน๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ๑๙๔๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บัญญัติทว่ั ไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณี๑๙๕๑๘๓ กงขฺ า.อฏ.ฺ ๓๒๓ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๑๑๘๔ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๑๑๘๕ กงฺขา.อฏฺ. ๓๒๓๑๘๖ วิ.มหา. ๒/๕๘๒/๔๕๙ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๕๘๒/๒๔๑ (ม)๑๘๗ กงขฺ า.อฏ.ฺ ๓๒๓๑๘๘ กงฺขา.อฏฺ. ๓๒๓๑๘๙ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๑ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๑๑๙๐ กงฺขา.อฏฺ. ๓๒๓๑๙๑ ว.ิ มหา. ๒/๕๘๓/๔๖๐ (ทยฺย) วิ.มหา. ๒/๕๘๓/๒๔๒ (ม)๑๙๒ กงขฺ า.อฏ.ฺ ๓๒๓๑๙๓ กงขฺ า.อฏ.ฺ ๓๒๓๑๙๔ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๒ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๑
อกุ ขติ ตกสิกขาบท๙. น อุกฺขติ ตฺ กาย อนตฺ รฆเร คมสิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๙๖พงึ ทาความสาเหนยี กว่า เราจักไม่เวกิ ผ้า ไปในละแวกบ้าน๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถ๑ี ๙๗๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษุฉัพพัคคยี ์๑๙๘๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษฉุ ัพพคั คยี ์เดินเวิกผ้า ไปในละแวกบา้ น๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ๑๙๙๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญัติท่ัวไปทั้งภกิ ษุและภกิ ษุณี๒๐๐ทุตยิ อกุ ขติ ตกสกิ ขาบท๑๐. น อุกขฺ ติ ตฺ กาย อนตฺ รฆเร นสิ ที สิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๒๐๑พงึ ทาความสาเหนยี กว่า เราจักไมน่ ่ังเวิกผ้าในละแวกบ้าน๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถ๒ี ๐๒๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคีย์๒๐๓๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคีย์น่ังเวิกผ้าในละแวกบ้าน๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ๒๐๔๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญตั ิทัว่ ไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณี๒๐๕อุชชคั ฆิกวรรคอุชชคั ฆิกสิกขาบท๑๑. น อชุ ชฺ คฆฺ กิ าย อนตฺ รฆเร คมสิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๒๐๖๑๙๕ กงฺขา.อฏ.ฺ ๓๒๓๑๙๖ ว.ิ มหา. ๒/๕๘๔/๔๖๐ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๕๘๔/๒๔๒ (ม)๑๙๗ กงฺขา.อฏฺ. ๓๒๓๑๙๘ กงขฺ า.อฏฺ. ๓๒๓๑๙๙ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๒ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๒๒๐๐ กงขฺ า.อฏ.ฺ ๓๒๓๒๐๑ วิ.มหา. ๒/๕๘๕/๔๖๑ (ทยฺย) ว.ิ มหา. ๒/๕๘๕/๒๔๒ (ม)๒๐๒ กงขฺ า.อฏ.ฺ ๓๒๓๒๐๓ กงฺขา.อฏฺ. ๓๒๓๒๐๔ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๒ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๒๒๐๕ กงขฺ า.อฏ.ฺ ๓๒๓๒๐๖ วิ.มหา. ๒/๕๘๖/๔๖๑ (ทยฺย) วิ.มหา. ๒/๕๘๖/๒๔๓ (ม)
พงึ ทาความสาเหนยี กว่า เราจักไมห่ ัวเราะดัง ไปในละแวกบ้าน๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถ๒ี ๐๗๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคีย์๒๐๘๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคยี ์หัวเราะดัง ไปในละแวกบา้ น๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ๒๐๙๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญตั ิท่ัวไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณี๒๑๐ทุตยิ อชุ ชคั ฆกิ สกิ ขาบท๑๒. น อชุ ชฺ คฆฺ กิ าย อนตฺ รฆเร นสิ ที สิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๒๑๑พึงทาความสาเหนยี กวา่ เราจักไม่นั่งหวั เราะดังในละแวกบ้าน๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๒ี ๑๒๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษุฉัพพัคคีย์๒๑๓๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ พั พคั คยี ์นั่งหวั เราะดังในละแวกบ้าน๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ๒๑๔๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญัติท่วั ไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณี๒๑๕อจุ จสทั ทสกิ ขาบท๑๓. อปปฺ สทโฺ ท อนฺตรฆเร คมสิ สฺ ามตี ิ สกิ ฺขา กรณยี า.๒๑๖พงึ ทาความสาเหนยี กวา่ เราจักพดู เสยี งเบา ไปในละแวกบ้าน๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถ๒ี ๑๗๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษฉุ ัพพัคคีย์๒๑๘๒๐๗ กงขฺ า.อฏฺ. ๓๒๓๒๐๘ กงขฺ า.อฏฺ. ๓๒๓๒๐๙ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๓ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๒๒๑๐ กงขฺ า.อฏฺ. ๓๒๓๒๑๑ ว.ิ มหา. ๒/๕๘๗/๔๖๒ (ทยยฺ ) ว.ิ มหา. ๒/๕๘๗/๒๔๓ (ม)๒๑๒ กงฺขา.อฏ.ฺ ๓๒๓๒๑๓ กงขฺ า.อฏ.ฺ ๓๒๓๒๑๔ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๓ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๓๒๑๕ กงฺขา.อฏฺ. ๓๒๓๒๑๖ วิ.มหา. ๒/๕๘๘/๔๖๒ (ทยยฺ ) ว.ิ มหา. ๒/๕๘๘/๒๔๔ (ม)๒๑๗ กงฺขา.อฏ.ฺ ๓๒๓๒๑๘ กงฺขา.อฏฺ. ๓๒๓ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๓
๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ พั พัคคยี ์เดนิ ตะโกนเสียงดงั ไปในละแวกบา้ น๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ๒๑๙๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญัติทั่วไปทั้งภิกษุและภิกษุณี๒๒๐ทตุ ยิ อจุ จสทั ทสกิ ขาบท๑๔. อปปฺ สทโฺ ท อนตฺ รฆเร นสิ ที สิ สฺ ามตี ิ สิกขฺ า กรณยี า.๒๒๑พงึ ทาความสาเหนียกว่า เราจักนง่ั พดู เสียงเบาในละแวกบา้ น๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถ๒ี ๒๒๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษฉุ ัพพัคคยี ์๒๒๓๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุฉัพพคั คีย์นงั่ พูดตะโกนเสยี งดงั ในละแวกบา้ น๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ๒๒๔๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บัญญตั ิทั่วไปทั้งภิกษุและภกิ ษุณี๒๒๕กายปั ปจาลกสิกขาบท๑๕. น กายปปฺ จาลก อนตฺ รฆเร คมสิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๒๒๖พึงทาความสาเหนียกวา่ เราจักไม่เดินโคลงกายไปในละแวกบ้าน๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถ๒ี ๒๗๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษฉุ ัพพัคคีย์๒๒๘๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษฉุ พั พัคคยี ์เดินโคลงกายไปในละแวกบ้าน๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ๒๒๙๒๑๙ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๓๒๒๐ กงฺขา.อฏฺ. ๓๒๓๒๒๑ วิ.มหา. ๒/๕๘๙/๔๖๓ (ทยฺย) ว.ิ มหา. ๒/๕๘๙/๒๔๔ (ม)๒๒๒ กงขฺ า.อฏ.ฺ ๓๒๓๒๒๓ กงฺขา.อฏฺ. ๓๒๓๒๒๔ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๓ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๓๒๒๕ กงฺขา.อฏฺ. ๓๒๓๒๒๖ วิ.มหา. ๒/๕๙๐/๔๖๓ (ทยยฺ ) ว.ิ มหา. ๒/๕๙๐/๒๔๔ (ม)๒๒๗ กงฺขา.อฏ.ฺ ๓๒๓๒๒๘ กงฺขา.อฏ.ฺ ๓๒๓๒๒๙ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๔ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๔
๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบัญญัติทั่วไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณี๒๓๐ทุตยิ กายปั ปจาลกสิกขาบท๑๖. น กายปปฺ จาลก อนตฺ รฆเร นสิ ีทสิ สฺ ามตี ิ สิกขฺ า กรณยี า.๒๓๑พงึ ทาความสาเหนียกว่า เราจักไม่น่ังโคลงกายในละแวกบา้ น๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๒ี ๓๒๒) บุคคลผูก้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ ัพพัคคยี ์๒๓๓๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุฉพั พัคคยี ์นั่งโคลงกายในละแวกบา้ น๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ๒๓๔๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญตั ิท่ัวไปทั้งภิกษุและภกิ ษุณี๒๓๕พาหปุ ปจาลกสิกขาบท๑๗. น พาหปุ ปฺ จาลก อนตฺ รฆเร คมสิ สฺ ามีติ สกิ ฺขา กรณยี า.๒๓๖พงึ ทาความสาเหนียกวา่ เราจักไมเ่ ดินแกว่งแขนไปในละแวกบ้าน๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถ๒ี ๓๗๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคยี ์๒๓๘๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษพุ พัคคีย์เดนิ แกว่งแขนไปในละแวกบา้ น๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ๒๓๙๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญัติทัว่ ไปท้ังภิกษุและภิกษุณี๒๔๐ทตุ ยิ พาหปุ ปจาลกสิกขาบท๑๘. น พาหปุ ปฺ จาลก อนตฺ รฆเร นสิ ที สิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๒๔๑๒๓๐ กงขฺ า.อฏ.ฺ ๓๒๓๒๓๑ วิ.มหา. ๒/๕๙๑/๔๖๔ (ทยยฺ ) ว.ิ มหา. ๒/๕๙๑/๒๔๕ (ม)๒๓๒ กงฺขา.อฏ.ฺ ๓๒๓๒๓๓ กงขฺ า.อฏฺ. ๓๒๓๒๓๔ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๔ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๔๒๓๕ กงฺขา.อฏ.ฺ ๓๒๓๒๓๖ ว.ิ มหา. ๒/๕๙๒/๔๖๔ (ทยฺย) วิ.มหา. ๒/๕๙๒/๒๔๕ (ม)๒๓๗ กงฺขา.อฏ.ฺ ๓๒๓๒๓๘ กงฺขา.อฏฺ. ๓๒๓๒๓๙ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๔ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๔๒๔๐ กงฺขา.อฏฺ. ๓๒๓
พึงทาความสาเหนียกว่า เราจักไม่น่ังแกว่งแขนในละแวกบา้ น๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถ๒ี ๔๒๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ ัพพัคคีย์๒๔๓๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ ัพพคั คีย์นั่งแกว่งแขนในละแวกบา้ น๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ๒๔๔๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบัญญตั ิทั่วไปท้ังภิกษุและภิกษุณี๒๔๕สสี ปั ปจาลกสิกขาบท๑๙. น สสี ปปฺ จาลก อนตฺ รฆเร คมสิ สฺ ามตี ิ สกิ ฺขา กรณยี า.๒๔๖พึงทาความสาเหนียกว่า เราจักไม่เดินโคลงศรี ษะไปในละแวกบา้ น๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถ๒ี ๔๗๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคยี ์๒๔๘๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ ัพพคั คยี ์เดนิ โคลงศรี ษะไปในละแวกบ้าน๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ๒๔๙๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บัญญตั ิท่ัวไปทั้งภกิ ษุและภกิ ษุณี๒๕๐ทุตยิ สสี ปั ปจาลกสิกขาบท๒๐. น สสี ปปฺ จาลก อนตฺ รฆเร นสิ ที สิ สฺ ามตี ิ สิกขฺ า กรณยี า.๒๕๑พึงทาความสาเหนยี กวา่ เราจักไมน่ ่ังโคลงศีรษะในละแวกบ้าน๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถ๒ี ๕๒๒๔๑ ว.ิ มหา. ๒/๕๙๓/๔๖๕ (ทยฺย) วิ.มหา. ๒/๕๙๓/๒๔๕ (ม)๒๔๒ กงขฺ า.อฏฺ. ๓๒๓๒๔๓ กงฺขา.อฏฺ. ๓๒๓๒๔๔ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๔ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๔๒๔๕ กงฺขา.อฏฺ. ๓๒๓๒๔๖ ว.ิ มหา. ๒/๕๙๔/๔๖๕ (ทยฺย) ว.ิ มหา. ๒/๕๙๔/๒๔๖ (ม)๒๔๗ กงฺขา.อฏ.ฺ ๓๒๓๒๔๘ กงฺขา.อฏ.ฺ ๓๒๓๒๔๙ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๕ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๕๒๕๐ กงฺขา.อฏฺ. ๓๒๓๒๕๑ วิ.มหา. ๒/๕๙๕/๔๖๖ (ทยฺย) วิ.มหา. ๒/๕๙๕/๒๔๖ (ม)๒๕๒ กงฺขา.อฏฺ. ๓๒๓
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125