Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานผลการจัดการเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

รายงานผลการจัดการเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

Published by kimfc101, 2021-09-28 15:33:11

Description: รายงานผลการจัดการเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 วิชาวิทยาการคำนวณ

Search

Read the Text Version

รายงานผลการจดั การเรียนรู้ รายวิชา วทิ ยาการคำนวณ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 โรงเรียนอนบุ าลแมเ่ มาะ(ชมุ ชน1) ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 จัดทำโดย นายศภุ กานต์ รนิ วงศ์ นักศึกษาฝึกประสบการณ์วชิ าชพี ครู คณะครุศาสตร์ สาขาวิชาคอมพวิ เตอร์ ช้นั ปีท่ี 5 รายงานน้ีเปน็ ส่วนหนง่ึ ของการปฏิบัติการสอนในสถานศกึ ษา ภาคเรียนท่ี 1/2564 คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏลำปาง

รายงานผลการจัดการเรยี นรู้ วชิ า วทิ ยาการคำนวณ 1.สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ ชั้น ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 โรงเรยี น อนุบาลแม่เมาะ (ชมุ ชน1) 2.ผู้รายงาน นายศภุ กานต์ รนิ วงศ์ 3.ปดี ำเนนิ การ 2564 4.ผลการวเิ คราะห์ผู้เรยี น 4.1 คุณลกั ษณะ/จำนวนนักเรยี นโดยภาพรวม นักเรียนบางคนจะไม่ตัง้ ใจเรียนเลยถ้าหากผูส้ อนไม่เข้าไปกำชับติดตาม แต่ถ้าหากเขา้ หานกั เรียนแลว้ นักเรียนก็จะตั้งใจเรียนทันที่ นักเรียนส่วนมากจะไม่ค่อยเข้าใจในเนื้อหา ต้องทบทวนให้ท้ายคาบเพื่อให้ นักเรียนเข้าใจขั้น ในส่วนของการตอบคำถามในชั้นเรียนจะมีนักเรียนไม่กี่คนที่ชอบตอบคำถามในชั้นเรียน ผู้สอนจึงต้องมีการสุ่มมีกจิ กรรมให้ตอบคำถามเพ่ือใหท้ ุกคนในห้องมสี ว่ นรว่ มในการตอบคำถามในชน้ั เรียน 4.2 ความตอ้ งการและการมีสว่ นรว่ มของนกั เรียน นักเรยี นมีความต้องการการจัดการเรยี นการสอนที่ไมช่ อบเน้นเนื้อหาการเรยี นรู้ แต่จะชอบกิจกรรมที่ นักเรยี นมสี ่วนรว่ ม นกั เรยี นไม่ชอบมกี ารบ้านแตจ่ ะทำงานใหเ้ สรจ็ ภายในช่ัวโมงเรียน นกั เรียนจะมีขอ้ ต่อรองว่า ตอ้ งสอนในเร็วแล้วปล่อยใหเ้ ลน่ คอมพวิ เตอร์ ซึง่ ผ้สู อนจะแบ่งเวลาใหเ้ ลน่ ประมาณ 10 นาทีต่อช่ัวโมงเรยี น 5. รปู แบบ เทคนิค กระบวนการ การบรูณาการการจัดการเรยี นรู้โดยสรปุ 5.1 การจดั การเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ 5.2 การจดั การเรียนรูแ้ บบบรรยาย 5.3 การจดั การเรียนรู้แบบเนน้ ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง 6. สื่อ / นวัตกรรม / แหล่งเรียนรู้ 6.1 สอ่ื นำเสนอ PowerPoint 6.2 เอกสารประกอบการเรยี นการสอน (ใบงาน) 6.3 หอ้ งปฏบิ ัติการคอมพิวเตอร์ 6.4 เครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ 6.5 บทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ่วยสอน

7. ผลท่เี กิดกับนกั เรียน (หลักฐานอ้างอิง/เกณฑก์ ารวัดการประเมนิ ) 7.1 ผลการเรียนรู้ 1. นักเรียนท่เี รยี นในรายวิชาท่สี อน จำนวน 23 คน 2. นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมินความรคู้ วามเข้าใจขั้นต่ำ 70% จำนวน 23 คน 7.2 นกั เรยี นมสี มรรถนะสำคัญของนักเรยี นในแต่ละด้านจดั ลำดับคุณภาพ ดังนี้ รายการ ระดบั คุณภาพ ทักษะ/อนั ดบั คณุ ภาพ 4 3 2 1 หมายเหตุ ดมี าก ดี ปานกลาง ปรับปรุง 1. ความสามรถในการสอ่ื สาร ✓- - - 2. ความสามารถในการคดิ -✓ - - 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา -✓ - - 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ - ✓ - - 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - ✓ - - รวม 4 12 - - 7.3 นักเรียนมีคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ในแต่ละดา้ นจดั ลำดับคุณภาพ ดงั นี้ รายการ ระดับคุณภาพ ทักษะ/อันดบั คุณภาพ 43 2 1 หมายเหตุ ดีมาก ดี ปานกลาง ปรับปรงุ 1. ซื่อสตั ย์สจุ ริต ✓- - - 2. มวี นิ ัย ✓- - - 3. ใฝเ่ รียนรู้ -✓ - - 4. อยอู่ ยา่ งพอเพียง ✓- - - 5. ม่งุ ม่ันในการทำงาน -✓ - - รวม 13 6 - -

7.4 ความพงึ พอใจของนกั เรียนท่ีมตี ่อการจดั กระบวนการเรียนรู้ ดังน้ี รายการ ระดับคุณภาพ ทักษะ/อนั ดบั คุณภาพ 43 2 1 หมาย ปรับปรุง เหตุ ดมี าก ดี ปานกลาง - 1.เน้อื หาความรู้ -✓ - - - 2.กิจกรรมมีความหลากหลาย ✓- - - - 3.สือ่ มคี ุณภาพ -✓ - - - 4.การวัดประเมินผลมีความชดั เจนเหมาะสม -✓ - - 5.ผลงานท่ปี ฏิบัติมคี วามเหมาะสม -✓ - 6.ใหน้ ักเรียนมสี ่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ -✓ - 7.สามารถนำไปประยกุ ต์ใช้ได้ -✓ - รวม 4 18 - 8. อปุ สรรคปญั หาและข้อจำกดั ในการจดั กระบวนการเรียนรู้ ปัญหาในการจักการเรียนรู้คือนักเรียนไม่สนใจในการเรียน ชอบเข้ามาเล่นเกมในคอมพิวเตอร์ นกั เรียนไม่ยอมทำการบา้ นสง่ และคอมพวิ เตอร์ไมเ่ อื้อต่อการจดั การเรียนรู้ การปรับแกต้ ามสภาพจริง จากปญั หาทพ่ี บผรู้ ายงานใช่การเดนิ เข้าหาตัวนกั เรียนเป็นรายบุคคลเพื่อเน้นย้ำเรื่องการเรียนและการ ทำแบบฝึกหัดในชั้นเรียน ในส่วนของการบ้านผู้สอนจะให้นักเรียนทำชั่วโมงเรียนให้เสร็จ ในส่วนของ คอมพิวเตอร์ในบางชั่วโมงเรียนผู้รายงานจะเปิดรอนักเรียนไว้เพราะคอมพิวเตอร์จะได้ไม่ช้าและพร้อมในการ เรียนการสอน 9. ข้อค้นพบ และขอ้ เสนอแนะทจ่ี ะนำไปสู่การพัฒนาการเรยี นการสอน จากการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาวิทยาการคำนวน พบว่านักเรียนค่อนข้างใช้งานมือถือและเล่น เกมส์ในเวลาเรียนค่อนข้างมาก เพราะฉนั้นผู้สอนต้องมีความกระตือรือร้นในการสอนและให้มีกิจกรรมในการ เรียนการสอนให้ผู้เรียนได้มีส่วนรว่ มในกิจกรรม เพื่อดึงดูดความสนใจใหผ้ ูเ้ รียนตัง้ ใจเรียนมากขึ้นและต้องเน้น ย้ำกำชบั ใหน้ กั เรียนตัง้ ใจเรียนและทำงาท่ไี ดร้ มั อบหมายในเวลาเรียน 10. ความพงึ พอใจของครูผู้สอน ผู้สอนมีความพึงพอใจในระดับมาก เพราะว่านักเรียนส่วนมากให้ความร่วมมือกล้าคิดกล้าตอบและ เป็นกนั เอง แตบ่ างส่วนอาจมีความซนไม่ตั้งใจเรียนตุถ้าหากเราบอกเราเนน้ ย้ำใหต้ ั้งใจนักเรียนก็จะต้ังใจทำงาน ใหเ้ สรจ็

11. ความคิดเห็นของผ้บู ังคับบญั ชา ครพู ่ีเลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ……………………………………....... (นายศุภกานต์ รนิ วงศ์) ผ้รู ายงาน วนั ………เดอื น……………….……พ.ศ………..

ภาคผนวก

แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 2

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ การรวบรวมข้อมลู ปฐมภมู ปิ ระมวลผล นาํ เสนอข้อมลู รหสั – ชื่อรายวชิ า วทิ ยาการคํานวณ กลุม่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 10 ชั่วโมง ครู นายศภุ านต์ รินวงศ์ โรงเรยี น อนุบาลแม่เมาะ (ชุมชน 1) มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคาํ นวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชวี ติ จรงิ อยา่ งเป็นขั้นตอนและเปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาไดอ้ ย่างมี ประสิทธิภาพ รูเ้ ท่าทนั และมีจรยิ ธรรม ตัวชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้ ว 4.2 ม. 1/2 ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างง่ายเพื่อแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์หรือวทิ ยาศาสตร์ สาระสำคัญ 1. การออกแบบและเขียนโปรแกรมทีม่ ีการใชต้ วั แปร เงอ่ื นไข วนซ้ำ 2. การออกแบบอัลกอริทึม เพื่อแก้ปัญหา ทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์อย่างง่าย อาจใช้แนวคิด เชิงนามธรรมในการออกแบบเพอ่ื ให้การแก้ปญั หามีประสทิ ธภิ าพ 3. การแก้ปัญหาอย่างเป็นขนั้ ตอนจะช่วยให้แกป้ ัญหาได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ 4. Kidbright คอื ไร 5. ส่วนประกอบของ Kidbright 6. การเขยี นโคด้ ของ บอรด์ kidbright 7. Kidbrightทำอะไรไดบ้ ้าง 8. โปรแกรมทใ่ี ช้ในการใช้งานสำหรับ kidbright 9. ความความของแหลง่ ขอ้ มูลปฐมภูมิ 10. ธีรวบรวมขอ้ มูลจากแหลง่ ขอ้ มูลปฐมภมู ิ 11. การใชซ้ อฟต์แวร์ในการประมวลผลข้อมลู 12. การใช้บริการบนอินเทอรเ์ น็ตที่หลากหลายในการรวบรวมขอ้ มูล

13. การออกแบบและเขียนโปรแกรมทีม่ กี ารใช้ตวั แปร 14. ซอฟตแ์ วร์ทีใ่ ช้ในการเขยี นโปรแกรม เช่น Scratch, python, java, c, KidBright IDE 15. เซนเซอร์และการใช้งาน 16. เขยี นโปรแกรมแบบทางเลอื กได้ สาระการเรียนรู้ อัลกอริทึม (algorithm) เป็นระเบียบวิธีหรือขั้นตอนวิธีที่ดำเนินการด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ในการ แก้ปัญหาต่าง ๆ อย่างมีระบบ มีลำดับขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนกระทั่งได้ผลลัพธ์ ซึ่งสามารถเขียนได้หลายรูปแบบ การเลอื กใชต้ ้องเลือกใชข้ ้ันตอนวธิ ีทเี่ หมาะสม กระชบั และรดั กุม KidBright คือ บอร์ดสมองกลฝังตัว ขนาดเล็ก ที่ประกอบไปด้วย ไมโครคอนโทรลเลอร์ ESP32 ทำ หน้าท่ี ประมวลผล และควบคุมสั่งงานอุปกรณ์ ที่ประกอบอยู่บนบอร์ด ซึ่งได้แก่หน้าจอแสดงผลแบบ Matrix LED ขนาด 168 จุด และเซ็นเซอร์ตรวจจับพื้นฐาน ที่สามารถปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้แก่ เซ็นเซอร์วัด ระดบั ความเข้มของแสง และ เซน็ เซอรว์ ัดอณุ หภูมิ ในการทำงานบางอย่างที่ต้องมีการตัดสินใจ เลือกว่าจะทำหรือไม่ทำ ตามเงื่อนไขที่กำหนดขึ้น โปรแกรม Kidbright IDEมีบล็อกคำสั่ง f และ if-else เพื่อจัดการการทำงานดังกล่าวข้างต้น สำหรับบล็อก คำส่งั f ถ้าเงือ่ นไขหลัง if เปน็ จริง จะทำคำสงั่ ภายในบลอ็ ก if ตัวแปรเป็นชื่อที่กำหนดขึ้นเพื่อใช้เก็บข้อมูลและเรียกใช้ในการทำงานต่าง ๆ การกำหนดค่าอย่างใด อย่างหนึ่งให้กับตัวแปรสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การรับค่าจากภายนอก การกำหนดค่าจากค่าคงท่ี หรือตัว แปรอื่น หรือการกำหนดค่าจากการคำนวณซึ่งใช้ ตัวดำเนินการ การตั้งชื่อตัวแปรควรตั้งชื่อให้เหมาะสมกับ คา่ ท่ีเกบ็ ในตวั แปร ในระบบสมองกลฝังตัว เซนเซอร์ คืออุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ตรวจวัดปริมาณทางกายภาพต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิ แสง เสยี ง การสัมผสั เป็นต้น และแปลงสญั ญานทางไฟฟ้าใชต้ รวจสอบเง่อื นไขสำหรบั การสง่ั งานส่วน ควบคุมแบบอัตโนมัติหรือตรวจข้อมูลต่าง ๆ สำหรับการเก็บบันทึกข้อมูล เช่น เซนเซอร์ตรวจสัดแสงสว่าง เซนเซอร์ตรวจวัดระดับเสียง เซนเซอร์ตรวจวัดความเข้มของสนามแม่เหล็ก เซนเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิและ ความชนื้ สัมพัทธ์ เปน็ ต้น

จุดประสงค์การเรยี นรู้ ความรู้ 1. มคี วามร้คู วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั ความหมายของอัลกอริทมึ และการเขียนอลั กอริทมึ 2. บอกส่วนประกอบของบอร์ด KidBright ได้ 3. อธบิ ายความหมายของบล็อกท่ใี ช้เขียนโปรแกรมได้ 4. แกไ้ ขปญั หาโดยการใช้งานตวั แปร 5. อธบิ ายความสำคัญของเซนเซอรพ์ น้ื ฐานได้ ทักษะกระบวนการ 1. สามารถปฏบิ ตั ิการเขียนอัลกอริทึมในรปู แบบตา่ ง ๆ ไดใ้ ช้ซอฟต์แวรใ์ นการประมวลผลได้ 2. สามารถปฏบิ ตั ิการเขยี นโปรแกรมเบ้ืองต้นใหบ้ อร์ด KidBright ได้ 3. เขียนโปรแกรมแสดงผลบนหนา้ จอแสดงผล LED ได้ 4. ออกแบบและเขยี นโปรแกรมแก้ปัญหาทางคณิตศาสตรห์ รือวทิ ยาศาสตร์อย่างงา่ ย 5. เขียนแผนผังการประยุกต์ใช้งานเซนเซอร์ได้ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ซื่อสัตย์สุจรติ 2. มวี นิ ัย 3. ใฝเ่ รยี นรู้ 4. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง 5. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

การประเมนิ ผลรวบยอด 1. แบบทดสอบหลังเรยี น Kahoot! เรอ่ื ง สัญลักษณ์ผงั งาน 2. แบบฝกึ หัด เรือ่ ง ส่วนประกอบของ kidBright 3. แบบฝกึ หดั เรอื่ ง สนกุ คดิ กบั KidBright 4. แบบฝกึ หัด เรอ่ื ง ตัวแปรและตันดำเนินการ 5. แบบฝกึ หัด เรือ่ ง เซนเซอร์และการใชง้ าน 6. ใบงาน เร่ือง ผังงาน 7. กจิ กรรม การเขียนโปรแกรมเบ้อื งต้นให้กับ ตัวบอรด์ kidBright 8. กจิ กรรม ชอบร้อนหรือชอบเย็น 9. ทำกิจกรรมที่ เร่อื ง ตวั แปรด้วยโปรแกรม KidBright 10. กิจกรรมนำเสนอแบบร่างโครงงาน การประเมนิ ผล ระดบั คุณภาพ นำ้ หนกั ประเดน็ การประเมิน ดีมาก ดี (3) พอใช้ ปรบั ปรุง คะแนน (4) (2) (1) แบบทดสอบหลังเรียน Kahoot! เร่ือง สัญลกั ษณผ์ งั งาน 10 8-9 6-7 0-5 5 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน แบบฝึกหัด เรอ่ื ง ส่วนประกอบของ kidBright 10 8-9 6-7 0-5 5 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน แบบฝกึ หัด เรอ่ื ง สนกุ คดิ กับ KidBright 10 8-9 6-7 0-5 5 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน แบบฝึกหดั เรอื่ ง ตัวแปรและตนั ดำเนนิ การ 10 8-9 6-7 0-5 5 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน แบบฝึกหดั เรื่อง เซนเซอร์และการใช้งาน 10 8-9 6-7 0-5 5 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน

ระดบั คุณภาพ นำ้ หนกั ประเดน็ การประเมิน ดมี าก ดี (3) พอใช้ ปรบั ปรุง คะแนน (4) (2) (1) ใบงาน เรอ่ื ง ผงั งาน 4 32 1 5 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน กจิ กรรม การเขยี นโปรแกรมเบอื้ งตน้ ให้กับ ตวั บอร์ด 4 32 1 5 kidBright คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน กจิ กรรม ชอบร้อนหรือชอบเย็น 4 32 1 5 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน กิจกรรมที่ เร่ือง ตวั แปรดว้ ยโปรแกรม KidBright 4 32 1 5 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน กจิ กรรมนำเสนอแบบรา่ งโครงงาน 4 32 1 5 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน รวม 50

กจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 กจิ กรรมหลกั ของครู 1. ครเู ชค็ ช่ือเข้าชนั้ เรียน 2. ครเู กริ่นนำวา่ ถา้ หากเราจะตม้ ไข่ นกั เรียนแต่ละคนจะมวี ธิ ีอย่างไรกนั บ้าง 3. ครสู ุ่มให้นกั เรยี นบอกถึงวิธีต้มไขข่ องแต่ละคนวา่ จะมวี ิธที ี่แตกตา่ งกนั ไหม 4. ครูกล่าวถา้ หากนกั เรยี นจะต้มไขโ่ ดยใชว้ ิธีท่ีเหมือนกนั ล่ะจะทำยงั ไง 5. ครูยกตัวอย่างผังงานมา 1 ผังงานเรื่องการต้มไข่ และอธิบายว่าหน้าของการออกแบบอัลกอริทึมมี หน้าตาเป็นอยา่ งไร 6. ครูแจกใบงาน เร่อื ง ผงั งาน ให้นักเรยี นทำเกี่ยวกบั การแสดงอัลกอรทิ ึมในการแตง่ ตัว 7. ครูเกบ็ ใบงาน เร่ือง ผังงาน 8. ครสู รุปความหมายของผังงาน 9. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนถามในส่วนทไ่ี มเ่ ข้าใจ 10. ครูนัดหมายนกั เรียนในการเรียนครง้ั ตอ่ ไป ภาระงานของนกั เรยี น 1. นักเรียนบอกถึงวธิ ตี ม้ ไขข่ องแต่ละคนวา่ จะมีวิธีทีแ่ ตกตา่ งกันไหม 2. นักเรียนทำ ใบงาน เรื่อง ผังงาน

ชั่วโมงที่ 2 กจิ กรรมหลกั ของครู 1. ครูเช็คช่อื เข้าชั้นเรยี น 2. ครเู ปิด PowerPoint นำเสนอเกีย่ วกบั หลกั การในเขียนผงั งาน 3. ครูใหน้ กั เรียนทำกจิ กรรม ใบ้ดูคืออะไร 4. ครูนำรูปผังงาน มาให้นักเรยี นช่วยกันบอกวา่ ผังงานน้ีมหี ลกั การในเขยี นผงั งานในแบบใด 5. ครใู ห้นักเรียนเขา้ เว็บ Kahoot! เพือ่ ทำแบบทดสอบ 6. ครูอธิบายคำตอบไปเปน็ ข้อๆเพอ่ื ทบทวนและสร้างความเข้าใจให้กับนักเรียน 7. ครูสรุปคะแนนของนกั เรยี นและนดั หมายใหม้ าเรยี นในชั่วโมงต่อไป ภาระงานของนักเรยี น 1. นกั เรียนออกมานำเสนอ 2 คน 2. นักเรียนทำกิจกรรม ใบด้ ูคืออะไร 3. นกั เรยี นชว่ ยกนั ตอบหลักการในเขียนผงั งานในแบบใด 4. นกั เรยี นเข้าเว็บ Kahoot! เพื่อทำแบบทดสอบ ชัว่ โมงที่ 3 กิจกรรมหลักของครู 1. ครูเชค็ ชอื่ เขา้ ชัน้ เรยี น 2. ครใู ห้นักเรยี นมาหยิบบอร์ด kidbright และตรวจเชค็ วา่ มีอุปกรณ์ครบไหม แล้วบอกหมายเลขของตวั บอรด์ ใหค้ รู 3. ครูเปิด PowerPoint เร่ือง kidbright คอื อะไร และอธิบายให้นักเรียนฟัง 4. ครใู ห้นักเรียนดู PowerPoint เร่ือง kidbright และดูบอรด์ ตัวจรงิ ของตัวนักเรียนเองว่าส่วนประกอบ ไหนอยูต่ รงไหน 5. ครูอธิบายว่าการเขียนโปรแกรมของ kidbright นั้นเป็นการเขียนโปรแกรมแบบ Block Programming เปน็ การเขียนโปรแกรมแบบลากแล้ววาง 6. ครทู ำกจิ กรรม การเขียนโปรแกรมเบ้ืองต้นใหก้ ับ ตัวบอรด์ kidbright 7. ครเู กบ็ แบบฝึกหดั เร่อื ง ส่วนประกอบของ kidbright 8. ครสู รุปความหมาย kidbright 9. ครูนัดหมายนกั เรียนในการเรียนคร้งั ตอ่ ไป

ภาระงานของนกั เรียน 1. นักเรยี นตรวจ บอรด์ kidbright เชค็ ว่ามอี ปุ กรณ์ครบไหม แล้วบอกหมายเลขของตวั บอรด์ ใหค้ รู 2. นักเรียนเปดิ โปรแกรม kidbright 3. นกั เรยี นครูทำกจิ กรรม การเขียนโปรแกรมเบื้องต้นใหก้ ับ ตัวบอรด์ kidbright 4. นกั เรยี นทำ แบบฝกึ หัด เรอื่ ง สว่ นประกอบของ kidbright ชวั่ โมงท่ี 4 กิจกรรมหลักของครู 1. ครเู ชค็ ชือ่ เขา้ ช้นั เรียน 2. ครอู ธิบายขอบเขตและจุดประสงคข์ องเนื้อหาในชว่ั โมงน้ี 3. ครูให้นกั เรียนเขยี นโปรแกรมตามครู 4. ครอู ธิบายการทำงานของโปรแกรมท่นี ักเรียนทำ 5. ครูเดนิ ตรวจสอบการเขยี นโปรแกรมของนักเรยี น 6. ครูเปดิ โอกาสให้นกั เรยี นถามในเรอ่ื งทไ่ี มเ่ ข้าใจ 7. ครูนดั หมายนักเรยี นในการเรียนคร้งั ตอ่ ไป ภาระงานของนกั เรยี น 1. นักเรยี นนำบอร์ด Kidbright ของตนเองมา 2. นกั เรียน เปดิ โปรแกรม Kidbright 3. นกั เรียนเขียนโปรแกรมตามครู

ช่ัวโมงที่ 5 กิจกรรมหลักของครู 1. ครูเช็คชือ่ เข้าช้นั เรียน 2. ครอู ธบิ ายขอบเขตและจุดประสงค์ของเนื้อหาในชว่ั โมงน้ี 3. ครใู ห้นกั เรียนเขยี นโปรแกรมตามครู 4. ครอู ธิบายการทำงานของโปรแกรมท่ีนักเรยี นทำ 5. ครูใหท้ ำกจิ กรรม ชอบร้อนหรือชอบเย็น 6. ครเู ดินตรวจสอบการเขียนโปรแกรมของนักเรยี น และให้คะแนน 7. ครเู ก็บแบบฝึกหัด เรอ่ื ง สนุกคดิ กับ KidBright 8. ครูนัดหมายในการเรยี นในชว่ั โมงตอ่ ไป ภาระงานของนักเรยี น 1. นกั เรยี นนำบอร์ด Kidbright ของตนเองมา 2. นักเรยี น เปดิ โปรแกรม Kidbright 3. นกั เรียนเขียนโปรแกรมตามครู 4. นกั เรียนทำแบบฝึกหดั เร่อื ง สนุกคิด กบั KidBright ชั่วโมงที่ 6 กิจกรรมหลกั ของครู 1. ครูเชค็ ชื่อเข้าชั้นเรยี น 2. ครอู ธิบายขอบเขตและจดุ ประสงคข์ องเน้ือหาในช่วั โมงน้ี 3. ครนู ำเข้าส่บู ทเรียน 4. ครูสุ่มผู้เรียนหนึ่งคนออกมานับจำนวนนักเรียนชาย และจำนวนนักเรียนหญิงแล้วจดบันทึกบน กระดาน 5. นักเรยี นหน่งึ คนออกมานับจำนวนนักเรยี นชาย และจำนวนนักเรยี นหญิงแล้วจดบนั ทึกบนกระดาน 6. ครูสุ่มนักเรยี นหน่ึงคนหาจำนวนผลรวม และเขยี นผลรวมลงบนกระดาน ภายใตต้ วั แปร “รวม” 7. ครสู รปุ เชื่อมโยงไปสู่ตวั แปรที่ใช้ในการเขยี นโปรแกรม 8. ครูเปดิ โอกาสให้นกั เรยี นถามในเรื่องท่ไี ม่เข้าใจ 9. ครูนัดหมายนักเรยี นในการเรียนคร้งั ตอ่ ไป

ภาระงานของนักเรยี น 1. นกั เรียนนำบอร์ด Kidbright ของตนเองมา 2. นักเรียน เปิดโปรแกรม Kidbright 3. นกั เรยี นเขียนโปรแกรมตามครู 4. นักเรียนหน่งึ คนออกมานับจำนวนนักเรยี นชาย และจำนวนนักเรยี นหญงิ แลว้ จดบนั ทึกบนกระดาน 5. นักเรยี นหนึง่ คนหาจำนวนผลรวม และเขียนผลรวมลงบนกระดาน ภายใต้ตัวแปร “รวม” 6. นักเรยี น ทำกจิ กรรมที่ เรอื่ ง ตัวแปรด้วยโปรแกรม KidBright 7. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปเช่ือมโยงไปส่ตู ัวแปรทใ่ี ช้ในการเขียนโปรแกรม ช่วั โมงท่ี 7 กจิ กรรมหลักของครู 1. ครเู ช็คช่อื เขา้ ช้นั เรียน 2. ครอู ธิบายขอบเขตและจุดประสงค์ของเนื้อหาในชวั่ โมงน้ี 3. ครูทบทวนเน้ือหาในช่วั โมงท่ผี า่ นมา 4. ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกันถึงการประมวลผลทางคณิตศาสตร์ เช่น การบวก การลบ การคูณ การหาร และการเปรยี บเทยี บ 5. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรา้ งโปรแกรม แบง่ ขนม 6. ครสู มุ่ นักเรียนนำเสนอคำตอบ 7. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนถามในเรอื่ งทไี่ มเ่ ข้าใจ 8. ครูนัดหมายนักเรียนในการเรียนครั้งตอ่ ไป ภาระงานของนักเรยี น 1. นักเรียนนำบอร์ด Kidbright ของตนเองมา 2. นักเรยี น เปิดโปรแกรม Kidbright 3. นักเรยี นรว่ มกนั สรา้ งโปรแกรม แบง่ ขนม 4. นกั เรียนจบั คู่กันทำ แบบฝึกหัด เรือ่ ง ตวั แปรและตนั ดำเนนิ การ 5. นักเรยี นนำเสนอคำตอบ 6. นกั เรียนร่วมกันอภปิ รายถงึ การใช้งานตัวแปรและตวั ดำเนนิ การ

ชัว่ โมงที่ 8 กิจกรรมหลักของครู 1. ครูเชค็ ชื่อเขา้ ช้นั เรยี น 2. ครจู ัดกจิ กรรมละลายพฤตกิ รรม “แยกแยะสรา้ งสรรค์” 3. ครูบอกหัวข้อการสอนว่าวนั น้ีจะสอนเรื่อง เซนเซอร์และการใชง้ าน 4. ครูใหน้ กั เรยี นดู PowerPoint เกี่ยวกับของเซนเซอรพ์ นื้ ฐานของ kidbright และเซนเซอร์ภายนอก 5. ครูยกตัวอยา่ งเซนเซอร์ภายนอกตา่ งๆ 6. ครใู ห้นักเรยี นเปิดโปรแกรม kidbright เพื่อ ทำกจิ กรรม การเขยี นโปรแกรมแบบทางเลอื ก 7. ครเู ดนิ ตรวจนกั เรียนแต่ละคนว่าทำไดไ้ หมและใหค้ ะแนนในกิจกรรม 8. ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นถามในสว่ นทไี่ มเ่ ข้าใจ 9. ครนู ดั หมายนกั เรยี นในการเรียนครั้งตอ่ ไป ภาระงานของนักเรยี น 1. นกั เรียนนำบอร์ด Kidbright ของตนเองมา 2. นักเรยี น เปิดโปรแกรม Kidbright 3. นักเรียนทำกจิ กรรม การเขียนโปรแกรมแบบทางเลอื ก 4. นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั เรือ่ ง เซนเซอรแ์ ละการใชง้ าน ชั่วโมงที่ 9 กจิ กรรมหลักของครู 1. ครเู ช็คชือ่ เขา้ ชั้นเรยี น 2. ครใู หน้ ักเรียนเลน่ เกม ออมเงินเพอื่ เป็นการแบ่งกล่มุ ในการทำกิจกรรม 3. ครูให้นกั เรียนเขา้ เวบ็ ไซต์ https://www.kid-bright.org/ เพื่อสืบค้นหาขอ้ มูล 4. ครูยกตัวอยา่ งโครงงานวิทยาศาสตรท์ เี่ กย่ี วกบั kidbright ให้นกั เรียน 5. ครูให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่างโครงงานวิทยาศาสตร์ 6. ครเู ดินตรวจนักเรยี นแตล่ ะกลุม่ และสอบถามถงึ ปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน 7. ครเู กบ็ รวบรวมแบบรา่ งโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 8. ครูนัดหมายนักเรยี นในการเรียนคร้งั ตอ่ ไป

ภาระงานของนักเรยี น 1. นักเรียนเปิดอินเทอรเ์ น็ตเพื่อสืบคน้ ข้อมูล 2. นักเรียนเลน่ เกม ออมเงนิ เพือ่ เป็นการแบง่ กลุม่ ในการทำกิจกรรม 3. นักเรียนเขา้ เว็บไซต์ https://www.kid-bright.org/ เพ่ือสืบค้นหาข้อมลู 4. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มรา่ งโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ชว่ั โมงท่ี 10 กจิ กรรมหลกั ของครู 1. ครูเช็คช่อื เข้าชัน้ เรียน 2. ครใู หน้ กั เรยี นนง่ั ตามกล่มุ ทีแ่ บ่งไว้ในชวั่ โมงที่ผา่ นมา 3. ครูแจกอุปกรณ์ในการนำเสนองานให้กบั นักเรยี น เชน่ กระดาษบบู ปากกาเมจิก 4. ครูใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุม่ ช่วยกนั ทำ กจิ กรรมนำเสนอแบบรา่ งโครงงาน 5. ครูเดินตรวจสอบเพ่อื ให้นกั เรยี นได้สอบถาม และในคำแนะนำต่างๆ 6. ครสู รุปและให้คำแนะนำเกย่ี วกบั แบบร่างโครงงาน ของนกั เรยี นทนี่ ำเสนอ 7. ครนู ัดหมายนักเรียนในการเรียนครั้งตอ่ ไป ภาระงานของนักเรียน 1. นกั เรยี รบั อปุ กรณใ์ นการนำเสนองาน 2. นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ชว่ ยกันทำ กิจกรรมนำเสนอแบบรา่ งโครงงาน 3. นกั เรียนแตก่ ลมุ่ นำเสนอ แบบรา่ งโครงงาน ใหก้ ับเพื่อนๆ

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ช้ัน มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 ใช้เวลา 2 ช่วั โมง/คาบ หนว่ ย 2/1 เรือ่ ง การออกแบบอลั กอรทิ ึมเพอ่ื แก้ปัญหา วนั ท่ี เดือน พ.ศ. 1.มาตราฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชงิ คํานวณในการแกป้ ญั หาท่ีพบในชวี ิตจรงิ อยา่ งเป็นข้นั ตอนและเปน็ ระบบ ใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่า ทนั และมจี รยิ ธรรม 2.ตัวชี้วดั ว 4.2 ม. 1/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างงา่ ยเพ่ือแกป้ ญั หาทางคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ 3.จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. มคี วามรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกับความหมายของอลั กอริทมึ และการเขียนอัลกอริทึม 2. สามารถปฏิบัตกิ ารเขียนอัลกอรทิ มึ ในรูปแบบตา่ ง ๆ ได้ 4.สาระสำคญั 1. การออกแบบและเขียนโปรแกรมท่มี ีการใช้ตวั แปร เงอ่ื นไข วนซำ้ 2. การออกแบบอลั กอริทึม เพื่อแกป้ ัญหา ทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์อย่างงา่ ย อาจใช้แนวคดิ เชิง นามธรรมในการออกแบบเพื่อใหก้ ารแก้ปัญหามีประสทิ ธภิ าพ 3. การแก้ปัญหาอยา่ งเปน็ ข้นั ตอนจะช่วยใหแ้ กป้ ัญหาไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ 5.สาระการเรยี นรู้ อัลกอริทมึ (algorithm) เปน็ ระเบยี บวิธีหรอื ขั้นตอนวธิ ีทด่ี ำเนินการดว้ ยคอมพวิ เตอรเ์ พ่ือใช้ในการ แกป้ ัญหาตา่ ง ๆ อย่างมีระบบ มีลำดบั ขนั้ ตอนตั้งแต่ต้นจนกระท่งั ได้ผลลัพธ์ ซงึ่ สามารถเขียนได้หลายรปู แบบ การเลือกใช้ต้องเลือกใชข้ ัน้ ตอนวิธที ีเ่ หมาะสม กระชับและรัดกมุ

6.ด้านคณุ ลกั ษณะ 1. ซือ่ สัตยส์ ุจรติ 2. มีวนิ ัย 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. อยู่อย่างพอเพยี ง 5. มุ่งมนั่ ในการทำงาน 7.สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8.กิจกรรมการเรยี นรู้ ช่ัวโมงท่ี 1 ข้ันนำเข้าสบู่ ทเรียน(15 นาที) 11. ครูเช็คชอื่ เข้าชัน้ เรยี น 12. ครเู กรน่ิ นำวา่ ถา้ หากเราจะตม้ ไข่ นกั เรียนแตล่ ะคนจะมวี ธิ อี ยา่ งไรกันบ้าง 13. ครูสุ่มให้นักเรียนบอกถึงวธิ ีตม้ ไขข่ องแตล่ ะคนวา่ จะมีวธิ ีทีแ่ ตกตา่ งกนั ไหม 14. ครกู ล่าวถ้าหากนักเรยี นจะตม้ ไข่โดยใชว้ ธิ ีที่เหมือนกันล่ะจะทำยงั ไง (นักเรียนรว่ มตอบ แล้วครูถามอีก ครง้ั วา่ ถา้ เปน็ การทำงานที่ซบั ซอ้ นกว่าน้ีล่ะจะทำยังไง ) 15. ครบู อกหวั ข้อการสอนว่าวันนี้จะสอนเรื่อง การออกแบบอัลกอริทึมเพ่ือแกป้ ัญหา ข้ันกิจกรรมการเรียนการสอน(30 นาที) 1. ครูยกตัวอย่างผังงานมา 1 ผังงานเรื่องการต้มไข่ และอธิบายว่าหน้าของการออกแบบอัลกอริทึมมี หนา้ ตาเปน็ อย่างไร 2. ครถู ามนกั เรยี นว่าเห็นสญั ลกั ษณ์ในผังงานไหมแต่ละสญั ลักษณ์มันก็ต้องมีหนา้ ที่ของมนั 3. ครูใหน้ ักเรียนดู PowerPoint เกย่ี วกบั ความหมายของสญั ลกั ษณ์ท่ใี ชใ้ นการเขยี นผงั งาน 4. ครูให้นักเรียนลองช่วยกันจับเอาสัญลักษณ์ มาใส่ในผังงาน เรื่อง การต้มไข่ เพื่อทำความเข้าใจในการ ใช้สญั ลักษณ์ต่างๆ 5. ครูแจกใบงาน เร่อื ง ผังงาน ใหน้ กั เรียนทำเกย่ี วกบั การแสดงอลั กอริทมึ ในการแตง่ ตวั

ขั้นสรปุ (15 นาท)ี 1. ครเู ก็บใบงาน เรอ่ื ง ผงั งาน 2. ครสู รุปความหมายของผงั งาน 1.1.การแสดงขั้นตอนวิธีการที่ใช้สัญลักษณ์ที่เข้าใจได้ง่าย แต่ให้รายละเอียดได้น้อยกว่าคือ รูปภาพ (Image) หรือสัญลักษณ์(Symbol) ที่ใช้เขียนแทนขั้นตอน คำอธิบาย ข้อความ หรือคำพูด ที่ใช้ในอัลกอริทึม (Algorithm) เพราะการนำเสนอขั้นตอนของงานให้เข้าใจ ตรงกนั ระหว่างผู้เก่ียวขอ้ ง ดว้ ยคำพดู หรือข้อความ ทำได้ยากกว่า 3. ครูเปิดโอกาสให้นกั เรยี นถามในส่วนทไ่ี ม่เขา้ ใจ 4. ครูนดั หมายนกั เรยี นในการเรียนครั้งตอ่ ไป ชว่ั โมงท่ี 2 ข้ันนำเขา้ ส่บู ทเรียน(15 นาที) 1. ครเู ช็คชื่อเข้าชน้ั เรียน 2. ครถู ามเพ่ือทบทวนความรูเ้ ดมิ เดิมในชวั่ โมงท่ผี า่ นมาก 3. ครูถามวา่ มนี ักเรยี นคนไหนที่ทำ ใบงานแตกต่างบ้าง และสุ่มออกมานำเสนอ 2 คน ขน้ั กจิ กรรมการเรยี นการสอน(30 นาที) 1. ครถู ามนกั เรยี นท่ีเหลอื วา่ มใี ครอยากเสรมิ ผังงานทีเ่ พ่ือนทำไหม 2. ครเู ปดิ PowerPoint นำเสนอเกี่ยวกับ หลักการในเขียนผังงาน พรอ้ มยกตัวอย่าง 1.1.การทำงานแบบลำดับ (Sequence) 1.2.การทำงานแบบทางเลอื ก (Decision) 1.3.การทำซำ้ (Loop) 3. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรม ใบ้ดูคืออะไร (ใบนักเรียนตัวแทนมาเอากระดาษที่มีรูปของสัญลักษณ์แล้ว ใหค้ นทไี่ ด้สญั ลกั ษณ์อะไรให้ใบ้หนา้ มหี น้าอะไร ใหเ้ พอื่ ทายให้ถกู ) 4. ครูนำรูปผงั งาน มาใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันบอกว่า ผงั งานนม้ี หี ลกั การในเขียนผงั งานในแบบใด ขั้นสรปุ (15 นาที) 1. ครใู หน้ กั เรียนเข้าเว็บ Kahoot! เพอ่ื ทำแบบทดสอบโดยการแขง่ ขันกนั ในห้องเพื่อความ สนุกสนาน 2. ครูอธบิ ายคำตอบไปเป็นข้อๆเพือ่ ทบทวนและสรา้ งความเข้าใจใหก้ ับนกั เรยี น 3. ครสู รปุ คะแนนของนกั เรียนและนัดหมายใหม้ าเรียนในชัว่ โมงตอ่ ไป

9.สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้ 1. PowerPoint เร่อื ง อัลกอริทึม 2. ใบงาน เรอื่ ง ผงั งาน 3. แบบทดสอบหลังเรียน Kahoot! เรอ่ื ง สญั ลักษณผ์ งั งาน 4. กระดาษในการทำกิจกรรม ใบ้ดูคอื อะไร 10.การวัดผลและประเมินผล 10.1 การวัดผล จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วิธีการวดั เคร่อื งมือ แบบทดสอบหลงั ด้านความรู้ แบบทดสอบหลังเรยี น Kahoot! เร่ือง สญั ลกั ษณผ์ งั งาน เรยี น แบบประเมนิ ด้าน ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ใบงาน เรอ่ื ง ผงั งาน ทกั ษะกระบวนการ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ วดั โดยการสงั เกตคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ของ แบบประเมนิ ดา้ น สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ผู้เรยี น 5 ดา้ น ได้แก่ คณุ ลักษณะอนั พ่งึ 1. ซ่ือสตั ย์สุจรติ 2. มีวนิ ัย ประสงค์ 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง แบบประเมินดา้ น 5. มงุ่ มั่นในการทำงาน สมรรถนะสำคัญของ วัดโดยการสงั เกตสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 5 ด้าน 1. ความสามารถในการส่ือสาร ผูเ้ รียน 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

10.2 เกณฑก์ ารประเมินผล 1) ด้านความรู้ แบบทดสอบหลังเรยี น ( 10 คะแนน) 10 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 8-9 คะแนน หมายถงึ ดี 6-7 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0-5 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง หมายเหตุ ดา้ นความรูเ้ กณฑ์ผา่ น ร้อยละ 80 ทุกประเดน็ การประเมนิ แบบบันทึกการประเมนิ ดา้ นความรู้ แบบทดสอบหลงั เรียน Kahoot! เร่อื ง สญั ลักษณ์ผงั งาน เลขท่ี ช่อื -นามสกลุ แบบทดสอบหลังเรียน ร้อยละ ผลการประเมิน (10 คะแนน) ผา่ น ไมผ่ า่ น 1 เด็กชายจักรพรรด์ิ อนิ เหลา 2 เดก็ ชายชัยพิชติ จอมใจ 3 เดก็ ชายณฐั ภัทร สุต๋า 4 เดก็ ชายธนดล เบญจนาค 5 เดก็ ชายรฐั กาล วงศศ์ รี 6 เดก็ ชายศขิ รนิ ช่างซอ 7 เด็กชายอนุพงษ์ พานพระ 8 เด็กชายโอเลี้ยง ทองแดง 9 เด็กหญงิ จรนิ ทรท์ ิพย์ บุญประเสริฐ 10 เดก็ หญิงจริ าพร เมอื งใจมา 11 เดก็ หญิงจรี ดาภา ศรสี วสั ด์ิ 12 เด็กหญงิ ตรภี ตั ร วงศแ์ กว้ มูล 13 เด็กหญิงธิดารตั น์ เสรมิ สขุ 14 เดก็ หญงิ ป่นิ นุช มเี จริญ 15 เดก็ หญงิ วรัญญาภรณ์ เตชะนันท์ 16 เดก็ หญิงวีรภัทรา ศิรทิ รัพย์ 17 เด็กหญิงสุภัสสรา อนิ เลก็ 18 เดก็ ชายครรชิต พรมมา 19 เด็กชายอานนั ท์ ฟ้งุ สนั ติภาพ

20 เดก็ ชายธนโชติ ทองปาน 21 เด็กชายวริ ภัทร ขตั ิธิ 22 เดก็ ชายภานภุ ัทร เรือนมลู สาย 23 เดก็ หญิงอัมธิกา สันยสตทิ ศั น์ เฉล่ยี หมายเหตุ คะแนนจากแบบทดสอบหลงั เรยี น เกณฑผ์ ่าน รอ้ ยละ 80 ลงชอื่ .................................................. (.......................................................) ครผู ูส้ อน

2) ด้านทกั ษะกระบวนการ ใบงาน เรือ่ ง ผังงาน 1. สามารถบอกความหมายของสัญลักษณ์ได้ถูกต้องครบถ้วน 2. สามารถบอกหลกั การในเขียนผงั งานได้ 3. ใบงานมีความสะอาดเรยี บร้อย 4. ส่งตรงเวลาทีก่ ำหนด เกณฑ์การใหค้ ะแนนดา้ นทกั ษะกระบวนการ ดา้ นทักษะกระบวนการ ระดบั คะแนน ใบงาน เรือ่ ง ผังงาน 4 32 1 ทำใบงาน ทำใบงาน เรื่อง ผงั งาน ทำใบงาน ทำใบงาน เร่อื ง ผังงาน ไดต้ ามเกณฑ์ ได้ ตามเกณฑ์ ครบทกุ ข้อ เรือ่ ง ผังงาน เรอ่ื ง ผงั งาน 1ขอ้ ไดต้ ามเกณฑ์ ได้ตามเกณฑ์ 3 ข้อ 2 ข้อ แบบประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการ 4 คะแนน หมายถึง ดมี าก 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 3 ข้ึนไปทุกตัวชว้ี ัด ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ

แบบประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ เร่ือง ผงั งาน เลขท่ี ชอื่ -นามสกลุ คะแนนการประเมิน รอ้ ยละ ผลการประเมนิ ผ่าน ไม่ผา่ น 1 เด็กชายจักรพรรดิ์ อินเหลา 2 เด็กชายชัยพิชติ จอมใจ 3 เด็กชายณัฐภทั ร สุต๋า 4 เดก็ ชายธนดล เบญจนาค 5 เดก็ ชายรฐั กาล วงศ์ศรี 6 เด็กชายศขิ รนิ ชา่ งซอ 7 เด็กชายอนุพงษ์ พานพระ 8 เด็กชายโอเลี้ยง ทองแดง 9 เดก็ หญิงจรินทร์ทิพย์ บุญประเสรฐิ 10 เด็กหญงิ จิราพร เมอื งใจมา 11 เดก็ หญงิ จีรดาภา ศรีสวสั ดิ์ 12 เดก็ หญงิ ตรภี ตั ร วงศแ์ กว้ มูล 13 เด็กหญงิ ธดิ ารัตน์ เสริมสขุ 14 เด็กหญิงป่ินนชุ มีเจริญ 15 เด็กหญิงวรญั ญาภรณ์ เตชะนนั ท์ 16 เดก็ หญงิ วรี ภทั รา ศริ ทิ รัพย์ 17 เด็กหญงิ สภุ สั สรา อินเล็ก 18 เดก็ ชายครรชติ พรมมา 19 เด็กชายอานันท์ ฟุ้งสันตภิ าพ 20 เดก็ ชายธนโชติ ทองปาน 21 เด็กชายวิรภัทร ขตั ิธิ 22 เด็กชายภานุภัทร เรือนมลู สาย 23 เด็กหญงิ อัมธกิ า สนั ยสตทิ ศั น์ เฉลย่ี หมายเหตุ ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 3 ขน้ึ ไปทุกตวั ชว้ี ดั ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน ลงชอ่ื .................................................. (.......................................................) ครผู ้สู อน

3) ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ แบบประเมนิ ด้านคุณลักษณะอนั พึง่ ประสงค์ 4 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ หมายเหตุ ได้ระดบั คณุ ภาพ 3 ขนึ้ ไปทุกตัวชว้ี ัด ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ การประเมนิ ด้านสมรรถนะผเู้ รยี น เรอ่ื ง แนวคดิ เชิงคำนวณ ซื่อสัตยส์ ุจรติ 1. ไม่โกหก 2. ไมค่ ัดลอกงานของผู้อนื่ 3. มคี ณุ ธรรมต่อตนเองและผู้อ่นื 4. ไมล่ ักขโมยของผู้อื่น มวี นิ ยั 1. เข้าเรียนตรงต่อเวลา 2. ไมโ่ ดดเรียน 3. แต่งกายสุภาพเรยี บร้อย 4. สง่ การบ้านตรงต่อเวลา ใฝ่เรียนรู้ 1. ต้ังใจเรียน 2. สบื คน้ หาความร/ู้ ข้อมูลสมำ่ เสมอ 3. ร่วมทำกจิ กรรมในห้องเรียน 4. บันทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ข้อมูลจากสิ่งท่เี รียนรู้ อยูอ่ ย่างพอเพยี ง 1. ใชท้ รัพยส์ ินของตนเอง 2. ใช้ทรัพยากรของสว่ นรวมอย่างประหยัด คุ้มคา่ และเก็บรกั ษาดแู ลอยา่ งดี 3. ไมเ่ อาเปรียบผู้อน่ื และไมท่ ำให้ผอู้ ื่นเดอื ดร้อน พร้อมให้อภัยเมอื่ ผอู้ ่ืนกระทำผดิ พลาด 4. นำวัสดเุ หลือใช้มาสรา้ งงานตามที่คุณครูมอบหมาย

มุ่งม่นั ในการทำงาน 1. ตง้ั ใจและรับผดิ ชอบในการปฏิบตั หิ นา้ ท่ีการงาน 2. เอาใจใส่ต่อการปฏบิ ัติหน้าทที่ ี่ไดร้ บั มอบหมาย 3. ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบในการทำงานให้สำเร็จ 4. ปรบั ปรุงและพัฒนาการทำงานดว้ ยตนเอง เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอัน ระดับคุณภาพ พึงประสงค์ 4 3 2 1 มคี ุณลกั ษณะอัน มีคณุ ลักษณะอัน มีคณุ ลักษณะอนั มคี ุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ซอ่ื สัตยส์ ุจริต พึงประสงค์ พึงประสงค์ พึงประสงค์ 1 ข้อ ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ มคี ณุ ลกั ษณะอัน พึงประสงค์ มีคณุ ลกั ษณะอัน มีคณุ ลักษณะอนั มคี ณุ ลักษณะอัน 1 ข้อ มีวินัย พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ มคี ณุ ลักษณะอัน พึงประสงค์ ครบทุกข้อ 3 ข้อ 2 ขอ้ 1 ขอ้ มคี ณุ ลกั ษณะอัน มีคุณลกั ษณะอนั มคี ณุ ลักษณะอนั มคี ณุ ลักษณะอัน พึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ พึงประสงค์ พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ 1 ข้อ ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ มคี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มีคุณลักษณะอนั มีคุณลกั ษณะอนั มคี ุณลกั ษณะอนั 1 ข้อ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง พึงประสงค์ พึงประสงค์ พึงประสงค์ ครบทกุ ข้อ 3 ข้อ 2 ขอ้ มคี ุณลักษณะอนั มีคณุ ลักษณะอนั มคี ณุ ลกั ษณะอัน มุง่ ม่นั ในการทำงาน พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ พึงประสงค์ ครบทุกขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คุณภาพ 3 ข้ึนไปทุกตวั ช้ีวดั ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน

แบบประเมินด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เร่ือง การออกแบบอลั กอริทมึ เพ่ือแก้ปัญหา คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ผลการประเมิน เลขที่ ซื่อสตั ย์สจุ ริต มีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง มุ่งมนั่ ในการ ผ่าน ไม่ผา่ น หมายเหตุ ทำงาน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 เฉลย่ี หมายเหตุ ไดร้ ะดับคุณภาพ 3 ขน้ึ ไปทุกตัวชวี้ ัด ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน ลงชื่อ.................................................. (.......................................................) ครูผสู้ อน

4) ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน แบบประเมนิ ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 4 คะแนน หมายถึง ดีมาก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ หมายเหตุ ได้ระดบั คณุ ภาพ 2 ขึ้นไปทุกตวั ช้ีวดั ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน การประเมินดา้ นสมรรถนะผู้เรียน เรือ่ ง แนวคดิ เชิงคำนวณ ความสามารถในการส่ือสาร 1. มคี วามสามารถในการรับและสง่ สาร 2. เลอื กรับหรือไมร่ ับขอ้ มลู ข่าวสารด้วยหลกั เหตุผล 3. คำนึงถึงผลกระทบท่ีมตี ่อตนเองและสงั คม 4. การเจรจาต่อรองเพือ่ ขจัดและลดปญั หาความขดั แย้งตา่ ง ๆ ความสามารถในการคดิ 1. การคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ 2. การคิดเป็นระบบ 3. การคดิ สงั เคราะห์ 4. การคิดอย่างสรา้ งสรรค์ ความสามารถในการแก้ปญั หา 1. การแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ 2. มกี ารตัดสินใจท่ีมีประสิทธภิ าพโดยคำนึงถึงผลกระทบทีเ่ กดิ ข้ึนต่อตนเอง สังคมและสงิ่ แวดลอ้ ม 3. ประยุกต์ความรูม้ าใช้ในการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหา 4. เข้าใจความสัมพันธแ์ ละการเปล่ยี นแปลงของเหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 1. การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง 2. การเรยี นร้อู ย่างตอ่ เนื่อง 3. การรู้จักหลกี เลีย่ งพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงค์ทีส่ ่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่ืน 4. การปรบั ตัวใหท้ นั กับการเปลีย่ นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อม

ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1. ความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีดา้ นตา่ ง ๆ 2. มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 3. การแกป้ ัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม 4. มีคุณธรรมในการใช้เทคโนโลยี เกณฑ์การให้คะแนนดา้ นสมรรถนะผ้เู รียน ด้านสมรรถนะ 4 ระดับคณุ ภาพ 1 ผูเ้ รยี น 32 มีความสามารถใน ความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน การสื่อสาร 1 ขอ้ การส่ือสาร การสือ่ สาร การสือ่ สาร การสอ่ื สาร มีความสามารถใน ครบทุกข้อ 3 ขอ้ 2 ขอ้ การคดิ 1 ข้อ ความสามารถใน มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน การคิด การคิด การคิด การคิด การแก้ปัญหา 1 ขอ้ ครบทกุ ข้อ 3 ข้อ 2 ข้อ มคี วามสามารถใน ความสามารถใน มคี วามสามารถใน มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน การใช้ทักษะชวี ติ การแกป้ ัญหา การแก้ปัญหา การแกป้ ัญหา การแก้ปัญหา 1 ขอ้ มีความสามารถใน ครบทกุ ขอ้ 3 ข้อ 2 ขอ้ การใช้เทคโนโลย ความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน มคี วามสามารถใน 1 ข้อ การใช้ทักษะชวี ติ การใชท้ กั ษะชีวิต การใช้ทักษะชีวติ การใช้ทกั ษะชวี ติ ครบทุกขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ ความสามารถใน มคี วามสามารถใน มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน การใช้เทคโนโลยี การใช้เทคโนโลยี การใชเ้ ทคโนโลย การใชเ้ ทคโนโลย ครบทุกขอ้ 3 ข้อ 2 ขอ้ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 2 ขึ้นไปทุกตวั ช้วี ัด ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ

แบบประเมนิ ด้านสมรรถนะผู้เรียน เรอ่ื ง การออกแบบอัลกอริทึมเพอื่ แกป้ ญั หา สมรรถนะผเู้ รยี น ผลการประเมนิ เลขท่ี การส่อื สาร การคดิ การ การ การใช้ ผา่ น ไม่ผา่ น หมายเหตุ แก้ปัญหา ใช้ทกั ษะชีวติ เทคโนโลยี 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 เฉลี่ย หมายเหตุ ได้ระดบั คณุ ภาพ 2 ขึ้นไปทุกตัวชี้วัด ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน ลงช่ือ.................................................. (.......................................................) ครผู สู้ อน

11. ข้อเสนอแนะ  ใชส้ อนได้  ควรปรบั ปรงุ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 12.บันทึกหลงั การจัดการเรยี นรู้ ลงช่ือ.................................................. 1) ผลท่ีเกิดขึ้นแกผ่ ู้เรียน (.......................................................) ดา้ นความรู้ จำนวนนกั เรียนท่ีผา่ นเกณฑ์ ครูพ่เี ลี้ยง จำนวนนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ วนั ท.่ี ......เดือน................... พ.ศ.............. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ จำนวนนักเรียนท่ีผ่านเกณฑ์ คน คิดเป็นร้อยละ จำนวนนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ จำนวนนกั เรียนที่ผา่ นเกณฑ์ คน คดิ เปน็ ร้อยละ จำนวนนกั เรยี นที่ไมผ่ า่ นเกณฑ์ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ด้านสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน จำนวนนักเรยี นที่ผ่านเกณฑ์ คน คิดเป็นร้อยละ จำนวนนักเรยี นทไ่ี ม่ผ่านเกณฑ์ คน คิดเป็นร้อยละ คน คิดเป็นร้อยละ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 2) ปัญหาและอปุ สรรค ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. ............................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. .................................................

3)แนวทางการแกป้ ญั หา .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ.................................................. (.......................................................) ผ้สู อน วนั ท.่ี ......เดือน................... พ.ศ.............. 13.ความคิดเหน็ ของหัวหน้ากลุม่ สาระ/สายช้นั ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื .................................................. (.......................................................) หัวหน้ากล่มุ สาระ/สายชน้ั วันที่.......เดอื น................... พ.ศ.............. 14.ความคิดเหน็ ของฝา่ ยวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่ือ.................................................. (.......................................................) ฝา่ ยวชิ าการ วนั ที่.......เดอื น................... พ.ศ.............. 15.ความคิดเห็นของผู้อำนวยการโรงเรียน ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่อื .................................................. (.......................................................) ผอู้ ำนวยการโรงเรียน วันท่ี.......เดอื น................... พ.ศ..............

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 หน่วย 2/2 เรือ่ ง Kidbright คืออะไร ใชเ้ วลา 1 ช่วั โมง/คาบ วันท่ี เดือน พ.ศ. 1.มาตราฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชงิ คาํ นวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชวี ิตจริงอยา่ งเป็นขน้ั ตอนและเป็นระบบ ใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่า ทัน และมีจริยธรรม 2.ตัวชี้วัด ว 4.2 ม. 1/2 ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ยเพ่ือแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์หรอื วิทยาศาสตร์ 3.จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกส่วนประกอบของบอร์ด Kidbright ได้ 2. สามารถปฏิบัติการเขยี นโปรแกรมเบอ้ื งต้นใหบ้ อร์ด Kidbright ได้ 4.สาระสำคัญ 1. Kidbright คอื ไร 2. สว่ นประกอบของ Kidbright 3. การเขียนโค้ดของ บอรด์ kidbright 4. Kidbrightทำอะไรได้บ้าง 5. โปรแกรมท่ีใชใ้ นการใชง้ านสำหรับ kidbright 5.สาระการเรยี นรู้ Kidbright คอื บอร์ดสมองกลฝังตัว ขนาดเล็ก ทีป่ ระกอบไปด้วย ไมโครคอนโทรลเลอร์ ESP32 ทำ หน้าที่ ประมวลผล และควบคุมสง่ั งานอปุ กรณ์ ทป่ี ระกอบอยูบ่ นบอรด์ ซง่ึ ได้แกห่ น้าจอแสดงผลแบบ Matrix LED ขนาด 168 จดุ และเซ็นเซอร์ตรวจจับพนื้ ฐาน ท่สี ามารถปรบั ใช้ในชวี ิตประจำวนั ไดแ้ ก่ เซน็ เซอรว์ ัด ระดับความเขม้ ของแสง และ เซ็นเซอร์วดั อุณหภมู ิ

6.ด้านคุณลักษณะ 1. ซ่ือสัตยส์ จุ รติ 2. มีวนิ ยั 3. ใฝเ่ รียนรู้ 4. อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง 5. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 7.สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 8.กจิ กรรมการเรียนรู้ ชัว่ โมงที่ 1 ข้นั นำเขา้ ส่บู ทเรียน(15 นาที) 1. ครูเช็คช่อื เข้าช้ันเรยี น 2. ครูให้นักเรยี นมาหยิบบอร์ด kidbright และตรวจเชค็ ว่ามีอุปกรณ์ครบไหม แลว้ บอกหมายเลขของตวั บอรด์ ให้ครู (เพ่ือใหน้ กั เรียนรับผดิ ชอบบอรด์ kidbright ตามเลขเครื่องตนเองตลอดภาคเรียนน)้ี และ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเรยี นการสอน ข้ันกจิ กรรมการเรียนการสอน(30 นาที) 1. ครูเปิด PowerPoint เร่อื ง kidbright คืออะไร และอธบิ ายให้นกั เรียนฟงั 2. ครูให้นักเรียนดู PowerPoint เรื่อง kidbright และดูบอร์ดตัวจริงของตัวนักเรียนเองวา่ ส่วนประกอบ ไหนอยตู่ รงไหน 3. ครูให้นักเรียนเปิดโปรแกรม kidbright แล้วอธิบายว่าการเขียนโปรแกรมของ kidbright นั้นเป็นการ เขยี นโปรแกรมแบบ Block Programming เป็นการเขยี นโปรแกรมแบบลากแลว้ วาง 4. ครูอธบิ ายว่า kidbright สามารถทำอะไรไดบ้ ้าง 5. ครูและนักเรียนทำกิจกรรม การเขียนโปรแกรมเบื้องต้นให้กับ ตัวบอร์ด kidbright พร้อม ๆ กัน (ให้ นกั เรยี นโปรโปรแกรมให้ บอรด์ kidbright แสดงชอ่ื ของตนเองผ่านหน้าจอแสดงผล ) 6. ครูเดนิ ตรวจดูว่านกั เรียนทำการเขียนโปรแกรมไดถ้ กู ตอ้ งหรือไม่ และให้คะแนน 7. ครใู ห้นักเรียนทำ แบบฝึกหดั เรือ่ ง สว่ นประกอบของ kidbright

ข้นั สรุป(15 นาท)ี 1. ครูเก็บแบบฝึกหดั เร่ือง สว่ นประกอบของ kidbright 2. ครสู รปุ ความหมาย kidbright 2.1.Kidbright คือ บอร์ดสมองกลฝังตัว ขนาดเล็ก ที่ประกอบไปด้วย ไมโครคอนโทรลเลอร์ ESP32 ทำหน้าที่ ประมวลผล และควบคุมสั่งงานอุปกรณ์ ท่ีประกอบอยู่บนบอร์ด ซึ่งได้แก่ หนา้ จอแสดงผลแบบ Matrix LED ขนาด 168 จดุ และเซน็ เซอรต์ รวจจบั พ้ืนฐาน ท่สี ามารถ ปรับใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ไดแ้ ก่ เซน็ เซอร์วัดระดบั ความเข้มของแสง และ เซน็ เซอร์วัดอุณหภูมิ ครูเปดิ โอกาสให้นกั เรยี นถามในส่วนท่ีไม่เขา้ ใจ 2.2.การเขียนโปรแกรมของ kidbright นั้นเป็นการเขียนโปรแกรมแบบ Block Programming เป็นการเขียนโปรแกรมแบบลากแล้ววาง 2.3.โปรมแกรมที่ใช้ในการเขยี นโปรแกรม มี 1.โปรแกรมkidbright และ 2.โปรแกรม KB.IDE 3. ครูนัดหมายนกั เรยี นในการเรียนครงั้ ต่อไป 9.ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 1. บอร์ด kidbright 2. PowerPoint เรื่อง kidbright คอื อะไร 3. โปรแกรม kidbright 4. แบบฝกึ หดั เร่อื ง สว่ นประกอบของ kidbright

10.การวดั ผลและประเมินผล วิธีการวัด เคร่อื งมือ 10.1 การวัดผล แบบฝกึ หดั เรอ่ื ง สว่ นประกอบของ kidbright แบบฝกึ หัด จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ กิจกรรม การเขียนโปรแกรมเบอ้ื งตน้ ให้กบั ตวั บอร์ด แบบประเมินดา้ น ดา้ นความรู้ kidbright ทักษะกระบวนการ วดั โดยการสังเกตคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของ ด้านทักษะกระบวนการ ผเู้ รยี น 5 ดา้ น ได้แก่ แบบประเมินดา้ น 1. ซื่อสตั ย์สจุ ริต คุณลกั ษณะอนั พึ่ง คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 2. มวี นิ ยั 3. ใฝเ่ รยี นรู้ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 4. อยูอ่ ย่างพอเพียง 5. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน แบบประเมนิ ดา้ น วัดโดยการสังเกตสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 5 ด้าน สมรรถนะสำคัญของ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ ผเู้ รยี น 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

10.2 เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 1) ดา้ นความรู้ แบบทดสอบหลังเรยี น ( 10 คะแนน) 10 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 8-9 คะแนน หมายถึง ดี 6-7 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0-5 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง หมายเหตุ ดา้ นความรู้เกณฑ์ผ่าน ร้อยละ 80 ทุกประเดน็ การประเมนิ แบบบนั ทกึ การประเมนิ ดา้ นความรู้ แบบฝึกหดั เรอ่ื ง สว่ นประกอบของ kidbright เลขที่ ชอื่ -นามสกลุ แบบทดสอบหลังเรยี น รอ้ ยละ ผลการประเมนิ (10 คะแนน) ผา่ น ไม่ผ่าน 1 เด็กชายจกั รพรรด์ิ อนิ เหลา 2 เดก็ ชายชยั พชิ ติ จอมใจ 3 เด็กชายณัฐภทั ร สตุ ๋า 4 เด็กชายธนดล เบญจนาค 5 เดก็ ชายรัฐกาล วงศศ์ รี 6 เด็กชายศิขรนิ ชา่ งซอ 7 เดก็ ชายอนุพงษ์ พานพระ 8 เด็กชายโอเลี้ยง ทองแดง 9 เด็กหญิงจรินทรท์ ิพย์ บญุ ประเสริฐ 10 เด็กหญิงจิราพร เมืองใจมา 11 เด็กหญงิ จรี ดาภา ศรสี วัสดิ์ 12 เด็กหญงิ ตรีภัตร วงศ์แก้วมูล 13 เดก็ หญิงธดิ ารตั น์ เสรมิ สุข 14 เด็กหญิงป่นิ นุช มเี จริญ 15 เดก็ หญิงวรัญญาภรณ์ เตชะนันท์ 16 เดก็ หญิงวีรภัทรา ศิรทิ รัพย์ 17 เด็กหญงิ สภุ สั สรา อนิ เล็ก 18 เด็กชายครรชติ พรมมา 19 เด็กชายอานันท์ ฟุ้งสนั ติภาพ

20 เดก็ ชายธนโชติ ทองปาน 21 เด็กชายวริ ภัทร ขตั ิธิ 22 เดก็ ชายภานภุ ัทร เรือนมลู สาย 23 เดก็ หญิงอัมธิกา สันยสตทิ ศั น์ เฉล่ยี หมายเหตุ คะแนนจากแบบทดสอบหลงั เรยี น เกณฑผ์ ่าน รอ้ ยละ 80 ลงชอื่ .................................................. (.......................................................) ครผู ูส้ อน

2) ด้านทกั ษะกระบวนการ กิจกรรม การเขียนโปรแกรมเบอ้ื งตน้ ใหก้ ับ ตัวบอรด์ kidbright 1. สามารถทำกจิ กรรมใหส้ ำเร็จ 2. สามารถอธบิ ายในส่วนของทำงานได้ 3. มคี วามคดิ สร้างสรรค์ 4. ส่งตรงเวลาทก่ี ำหนด เกณฑ์การใหค้ ะแนนดา้ นทักษะกระบวนการ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ระดบั คะแนน กจิ กรรม การเขยี นโปรแกรม 4 32 1 เบื้องตน้ ให้กบั ตวั บอรด์ ทำกิจกรรม ทำกจิ กรรม kidbright ได้ตามเกณฑ์ ทำกิจกรรม ทำกจิ กรรม ไดต้ ามเกณฑ์ 1 ครบทกุ ข้อ ไดต้ ามเกณฑ์ ไดต้ ามเกณฑ์ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ แบบประเมนิ ด้านทักษะกระบวนการ 4 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ หมายเหตุ ได้ระดบั คณุ ภาพ 3 ขนึ้ ไปทุกตวั ช้วี ดั ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน

แบบประเมินดา้ นทกั ษะกระบวนการ เร่อื ง การเขยี นโปรแกรมเบ้ืองตน้ ให้กบั ตวั บอรด์ kidbright เลขที่ ช่ือ-นามสกุล คะแนนการประเมิน รอ้ ยละ ผลการประเมิน ผา่ น ไมผ่ ่าน 1 เดก็ ชายจกั รพรรดิ์ อินเหลา 2 เดก็ ชายชยั พิชิต จอมใจ 3 เด็กชายณฐั ภทั ร สุตา๋ 4 เด็กชายธนดล เบญจนาค 5 เด็กชายรฐั กาล วงศศ์ รี 6 เด็กชายศขิ ริน ช่างซอ 7 เดก็ ชายอนุพงษ์ พานพระ 8 เดก็ ชายโอเลยี้ ง ทองแดง 9 เด็กหญงิ จรินทรท์ ิพย์ บญุ ประเสริฐ 10 เด็กหญงิ จริ าพร เมอื งใจมา 11 เด็กหญงิ จีรดาภา ศรีสวัสด์ิ 12 เดก็ หญิงตรีภัตร วงศ์แกว้ มลู 13 เดก็ หญิงธิดารัตน์ เสรมิ สขุ 14 เดก็ หญงิ ปนิ่ นุช มีเจริญ 15 เดก็ หญิงวรัญญาภรณ์ เตชะนันท์ 16 เด็กหญงิ วีรภทั รา ศิริทรัพย์ 17 เดก็ หญงิ สภุ สั สรา อนิ เล็ก 18 เดก็ ชายครรชิต พรมมา 19 เดก็ ชายอานนั ท์ ฟุง้ สนั ติภาพ 20 เดก็ ชายธนโชติ ทองปาน 21 เดก็ ชายวิรภทั ร ขตั ิธิ 22 เดก็ ชายภานุภทั ร เรือนมูลสาย 23 เด็กหญงิ อัมธิกา สนั ยสติทศั น์ เฉลยี่ หมายเหตุ ได้ระดับคณุ ภาพ 3 ข้ึนไปทุกตวั ชว้ี ดั ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ ลงชื่อ.................................................. (.......................................................) ครูผู้สอน

3) ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ แบบประเมนิ ด้านคุณลักษณะอนั พึง่ ประสงค์ 4 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ หมายเหตุ ได้ระดบั คณุ ภาพ 3 ขนึ้ ไปทุกตัวชว้ี ัด ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ การประเมนิ ด้านสมรรถนะผเู้ รยี น เรอ่ื ง แนวคดิ เชิงคำนวณ ซ่อื สัตยส์ ุจรติ 1. ไม่โกหก 2. ไมค่ ัดลอกงานของผู้อนื่ 3. มคี ณุ ธรรมต่อตนเองและผู้อ่นื 4. ไมล่ ักขโมยของผู้อื่น มีวนิ ยั 1. เข้าเรียนตรงต่อเวลา 2. ไมโ่ ดดเรียน 3. แต่งกายสุภาพเรยี บร้อย 4. สง่ การบ้านตรงต่อเวลา ใฝ่เรยี นรู้ 1. ต้ังใจเรียน 2. สบื คน้ หาความร/ู้ ข้อมูลสมำ่ เสมอ 3. ร่วมทำกจิ กรรมในห้องเรียน 4. บันทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ข้อมูลจากสิ่งท่เี รียนรู้ อยูอ่ ย่างพอเพยี ง 1. ใชท้ รัพยส์ ินของตนเอง 2. ใช้ทรัพยากรของสว่ นรวมอย่างประหยัด คุ้มคา่ และเก็บรกั ษาดแู ลอยา่ งดี 3. ไมเ่ อาเปรียบผู้อน่ื และไมท่ ำให้ผอู้ ื่นเดอื ดร้อน พร้อมให้อภัยเมอื่ ผอู้ ่ืนกระทำผดิ พลาด 4. นำวัสดเุ หลือใช้มาสรา้ งงานตามที่คุณครูมอบหมาย

มุ่งม่นั ในการทำงาน 1. ตง้ั ใจและรับผดิ ชอบในการปฏิบตั หิ นา้ ท่ีการงาน 2. เอาใจใส่ต่อการปฏบิ ัติหน้าทที่ ี่ไดร้ บั มอบหมาย 3. ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบในการทำงานให้สำเร็จ 4. ปรบั ปรุงและพัฒนาการทำงานดว้ ยตนเอง เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นคณุ ลักษณะอัน ระดับคุณภาพ พึงประสงค์ 4 3 2 1 มคี ุณลกั ษณะอัน มีคณุ ลักษณะอัน มีคณุ ลักษณะอนั มคี ุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ซอ่ื สัตยส์ ุจริต พึงประสงค์ พึงประสงค์ พึงประสงค์ 1 ข้อ ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ มคี ณุ ลกั ษณะอัน พึงประสงค์ มีคณุ ลกั ษณะอัน มีคณุ ลักษณะอนั มคี ณุ ลักษณะอัน 1 ข้อ มีวินัย พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ มคี ณุ ลักษณะอัน พึงประสงค์ ครบทุกข้อ 3 ข้อ 2 ขอ้ 1 ขอ้ มคี ณุ ลกั ษณะอัน มีคุณลกั ษณะอนั มคี ณุ ลักษณะอนั มคี ณุ ลักษณะอัน พึงประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ พึงประสงค์ พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ 1 ข้อ ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ มคี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มีคุณลักษณะอนั มีคุณลกั ษณะอนั มคี ุณลกั ษณะอนั 1 ข้อ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง พึงประสงค์ พึงประสงค์ พึงประสงค์ ครบทกุ ข้อ 3 ข้อ 2 ขอ้ มคี ุณลักษณะอนั มีคณุ ลักษณะอนั มคี ณุ ลกั ษณะอัน มุง่ ม่นั ในการทำงาน พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ พึงประสงค์ ครบทุกขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คุณภาพ 3 ข้ึนไปทุกตวั ช้ีวดั ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน

แบบประเมินดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เร่อื ง Kidbright คืออะไร คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ผลการประเมนิ เลขท่ี ซ่อื สัตยส์ จุ ริต มวี ินัย ใฝเ่ รียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง ม่งุ มัน่ ในการ ผ่าน ไม่ผ่าน หมายเหตุ ทำงาน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 เฉล่ยี หมายเหตุ ได้ระดับคณุ ภาพ 3 ข้นึ ไปทุกตวั ชวี้ ดั ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ลงชื่อ.................................................. (.......................................................) ครผู สู้ อน

4) ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน แบบประเมินด้านสมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน 4 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง หมายเหตุ ได้ระดบั คณุ ภาพ 2 ขึ้นไปทุกตัวชี้วัด ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน การประเมินดา้ นสมรรถนะผู้เรียน เรือ่ ง แนวคดิ เชิงคำนวณ ความสามารถในการส่ือสาร 1. มีความสามารถในการรับและสง่ สาร 2. เลือกรับหรือไมร่ ับขอ้ มลู ข่าวสารด้วยหลกั เหตผุ ล 3. คำนึงถึงผลกระทบท่ีมตี ่อตนเองและสังคม 4. การเจรจาต่อรองเพือ่ ขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งตา่ ง ๆ ความสามารถในการคดิ 1. การคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ 2. การคิดเป็นระบบ 3. การคดิ สงั เคราะห์ 4. การคิดอย่างสรา้ งสรรค์ ความสามารถในการแก้ปญั หา 1. การแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ 2. มกี ารตัดสินใจท่ีมีประสิทธภิ าพโดยคำนึงถึงผลกระทบทีเ่ กดิ ขน้ึ ตอ่ ตนเอง สังคมและสง่ิ แวดลอ้ ม 3. ประยุกต์ความรูม้ าใช้ในการป้องกันและแก้ไขปญั หา 4. เข้าใจความสัมพันธแ์ ละการเปล่ยี นแปลงของเหตุการณต์ า่ ง ๆ ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 1. การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง 2. การเรยี นร้อู ย่างตอ่ เนื่อง 3. การรู้จักหลกี เลีย่ งพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงคท์ ี่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อน่ื 4. การปรบั ตัวใหท้ นั กับการเปลีย่ นแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ ม

ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1. ความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านตา่ ง ๆ 2. มที กั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 3. การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม 4. มคี ณุ ธรรมในการใช้เทคโนโลยี เกณฑก์ ารให้คะแนนดา้ นสมรรถนะผู้เรียน ดา้ นสมรรถนะ 4 ระดบั คุณภาพ 1 ผเู้ รยี น 32 มีความสามารถใน ความสามารถใน มีความสามารถใน มคี วามสามารถใน มคี วามสามารถใน การสื่อสาร 1 ข้อ การส่ือสาร การสอื่ สาร การสอื่ สาร การสอ่ื สาร มคี วามสามารถใน ครบทุกขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ การคดิ 1 ขอ้ ความสามารถใน มีความสามารถใน มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน มคี วามสามารถใน การคิด การคดิ การคิด การคดิ การแก้ปัญหา 1 ข้อ ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ มคี วามสามารถใน ความสามารถใน มคี วามสามารถใน มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน การใช้ทกั ษะชวี ติ การแกป้ ัญหา การแกป้ ัญหา การแก้ปัญหา การแกป้ ัญหา 1 ขอ้ มคี วามสามารถใน ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ การใชเ้ ทคโนโลย ความสามารถใน มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน มคี วามสามารถใน 1 ข้อ การใชท้ กั ษะชีวติ การใชท้ ักษะชวี ติ การใชท้ ักษะชวี ติ การใช้ทกั ษะชวี ติ ครบทุกข้อ 3 ข้อ 2 ข้อ ความสามารถใน มีความสามารถใน มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน การใช้เทคโนโลยี การใช้เทคโนโลยี การใช้เทคโนโลย การใชเ้ ทคโนโลย ครบทุกข้อ 3 ขอ้ 2 ขอ้ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 2 ขนึ้ ไปทุกตัวชี้วัด ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน

แบบประเมินด้านสมรรถนะผู้เรียน เรือ่ ง Kidbright คืออะไร เลขท่ี การส่อื สาร การคดิ สมรรถนะผ้เู รียน การใช้ ผลการประเมิน การ การใช้ทกั ษะ เทคโนโลยี ผ่าน ไมผ่ ่าน หมายเหตุ 1 2 แกป้ ญั หา ชวี ติ 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 เฉลี่ย หมายเหตุ ได้ระดับคุณภาพ 2 ขึน้ ไปทุกตัวชี้วัด ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน ลงชื่อ.................................................. (.......................................................) ครผู สู้ อน

11. ข้อเสนอแนะ  ใชส้ อนได้  ควรปรบั ปรงุ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 12.บันทึกหลงั การจัดการเรยี นรู้ ลงช่ือ.................................................. 1) ผลท่ีเกิดขึ้นแก่ผู้เรียน (.......................................................) ดา้ นความรู้ จำนวนนกั เรียนท่ีผา่ นเกณฑ์ ครูพ่เี ลี้ยง จำนวนนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ วนั ท.่ี ......เดือน................... พ.ศ.............. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ จำนวนนักเรียนท่ผี ่านเกณฑ์ คน คิดเป็นร้อยละ จำนวนนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ จำนวนนกั เรียนทผี่ ่านเกณฑ์ คน คดิ เปน็ ร้อยละ จำนวนนกั เรยี นที่ไมผ่ า่ นเกณฑ์ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ด้านสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน จำนวนนักเรยี นที่ผ่านเกณฑ์ คน คิดเป็นร้อยละ จำนวนนักเรยี นทไ่ี ม่ผ่านเกณฑ์ คน คิดเป็นร้อยละ คน คิดเป็นร้อยละ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 2) ปัญหาและอปุ สรรค ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. ............................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. .................................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook