Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore TAP test

TAP test

Published by apinya.lertlam2524, 2018-03-24 04:36:55

Description: TAP test

Search

Read the Text Version

รหัสหน่วยสมรรถนะ 01093 ชอื่ หน่วยสมรรถนะ : ปฏิบัติงานขนั้ ตน้ เกี่ยวกบั ภาษีเงนิ ได้หกั ณ ทีจ่ า่ ย โดย1 นางอภญิ ญา เลศิ ลา้

จำแนกประเภทเงินไดพ้ ึงประเมนิ ตำมประมวลรษั ฎำกร ภาษเี งนิ ได้บคุ คลธรรมดา..... คอื ภาษที จ่ี ดั เกบ็ จาก 2บุคคลทวั่ ไป หรือจำกหน่วยภำษที ่มี ีลกั ษณะพิเศษ ตามที่กฎหมายกา้ หนดและมีรายได้เกดิ ข้นึ ตามเกณฑ์ทก่ี ้าหนด เนื่องจากผู้มีเงินได้ประกอบอาชีพแตกต่างกัน มีความยากง่ายหรือต้นทุนท่ีแตกต่างกัน เพื่อความ เป็นธรรมใ น ก ฎ ห ม า ย จึ ง ไ ด้ แ บ่ ง ลั ก ษ ณ ะ เ งิ น ไ ด้ ( พึ ง ป ร ะ เ มิ น )ออกเป็นกลุ่มๆ ตามความเหมาะสมเพื่อก้าหนด วิธีค้านวณภาษใี หเ้ กิดความเปน็ ธรรมมากท่ีสดุ ดงั น้ี

จำแนกประเภทเงินได้พงึ ประเมินตำมประมวลรัษฎำกรเงนิ ได้ประเภทท่ี 1 ไดแ้ ก่ เงนิ ไดเ้ นื่องจากการจ้างแรงงาน ไมว่ า่จะเปน็- เงินเดอื น คา่ จ้าง เบี้ยเลยี้ ง โบนัส เบ้ียหวัด บา้ เหนจ็ บา้ นาญ- เงินคา่ เชา่ บา้ นทไ่ี ดร้ บั จากนายจา้ ง- เงินทค่ี า้ นวณได้จากมูลค่าของการได้อยบู่ า้ น ซงึ่ นายจ้างใหอ้ ยู่โดยไมเ่ สียคา่ เช่า- เงินทน่ี ายจา้ งจ่ายชา้ ระหนีใ้ ด ๆ ซึง่ ลกู จา้ งมหี นา้ ท่ีตอ้ งชา้ ระ- เงิน ทรพั ย์สิน หรอื ประโยชน์ใด ๆ บรรดาทีไ่ ดเ้ น่ืองจากการจา้ งแรงงาน เชน่ มลู คา่ ของการได้รับประทานอาหาร เปน็ ตน้ 3

จำแนกประเภทเงินได้พึงประเมนิ ตำมประมวลรัษฎำกรเงนิ ได้ประเภทที่ 2 ได้แก่ เงินไดเ้ นอ่ื งจากหน้าทหี่ รอืต้าแหน่งงานทท่ี ้า หรือจากการรบั ทา้ งานให้ ไมว่ า่ จะเปน็- ค่าธรรมเนยี ม ค่านายหนา้ ค่าสว่ นลด- เงินอดุ หนุนในงานท่ีทา้ เบย้ี ประชุม บ้าเหน็จ โบนสั- เงนิ ค่าเช่าบ้านท่ีได้รบั เน่อื งจากหน้าทห่ี รือตา้ แหน่งงานท่ีท้า หรือจากการรบั ท้างานให้- เงนิ ทีค่ า้ นวณไดจ้ ากมลู คา่ ของการไดอ้ ยบู่ ้าน ทผ่ี ู้จา่ ยเงนิ ได้ใหอ้ ยโู่ ดยไม่เสยี ค่าเชา่ 4

จำแนกประเภทเงินไดพ้ งึ ประเมินตำมประมวลรัษฎำกร เงินได้ประเภทท่ี 2 ไดแ้ ก่ เงนิ ไดเ้ นอ่ื งจากหนา้ ทีห่ รอืต้าแหน่งงานที่ท้า หรือจากการรบั ท้างานให้ ไมว่ ่าจะเป็น- เงนิ ท่ีผู้จา่ ยเงนิ ได้จา่ ยช้าระหน้ใี ด ๆ ซง่ึ ผ้มู เี งนิ ได้มีหนา้ ที่ตอ้ งช้าระ- เงนิ ทรพั ยส์ นิ หรอื ประโยชนใ์ ด ๆ บรรดาท่ีได้เน่ืองจากหน้าทห่ี รอื ตา้ แหนง่ งานทท่ี ้าหรอื จากการรับท้างานให้น้นั ไมว่ า่ หน้าทห่ี รือตา้ แหน่งงาน หรืองานท่ีรับท้าใหน้ ั้นจะเป็นการประจ้าหรอื ช่ัวคราว 5

จำแนกประเภทเงนิ ได้พงึ ประเมนิ ตำมประมวลรัษฎำกร เงนิ ได้ประเภทที่ 3 ไดแ้ ก่ คำ่ แหง่ กู๊ดวลิ ล์ คา่ แห่งลขิ สิทธ์ิหรือสิทธอิ ย่างอืน่ เงินปี หรือเงินได้ทีม่ ีลกั ษณะ เปน็เงนิ รายปอี นั ได้มาจากพินัยกรรม นติ กิ รรมอยา่ งอนื่ หรอื คา้พิพากษาของศาล 6

จำแนกประเภทเงนิ ได้พงึ ประเมนิ ตำมประมวลรษั ฎำกร เงินได้ประเภทท่ี 4 ได้แก่ ดอกเบยี้ เงนิ ปนั ผล เงินสว่ นแบ่งกำไร เงนิ ลดทนุ เงนิ เพม่ิ ทนุ ผลประโยชนท์ ี่ได้จำกกำรโอนหนุ้ ฯลฯ เป็นตน้ 7

จำแนกประเภทเงินไดพ้ ึงประเมินตำมประมวลรัษฎำกร ก) ดอกเบย้ี พันธบัตร ดอกเบ้ียเงนิ ฝาก ดอกเบ้ียหุ้นกู้ ดอกเบย้ี ตว๋ั เงิน ดอกเบย้ี เงนิ กูย้ ืม ไม่วา่ จะมี หลกั ประกันหรอื ไม่ ดอกเบ้ยี เงินก้ยู ืมทีอ่ ย่ใู นบังคบั ตอ้ งถูกหักภาษไี ว้ ณ ทจ่ี า่ ยตาม กฎหมายวา่ ดว้ ยภาษเี งนิ ไดป้ ิโตรเลียมเฉพาะส่วนทเี่ หลอื จากถูกหกั ภาษี ไว้ ณ ทจ่ี ่ายตามกฎหมายดังกลา่ ว หรือผลตา่ งระหว่างราคาไถถ่ อน กับราคาจา้ หน่ายตว๋ั เงนิ หรอื ตราสารแสดงสทิ ธใิ นหน้ที บ่ี รษิ ทั หรอื ห้าง หนุ้ ส่วนนิตบิ ุคคล หรอื นติ ิบคุ คลอนื่ เปน็ ผู้ออกและจา้ หนา่ ยครงั้ แรกใน ราคาตา่้ กวา่ ราคาไถถ่ อน รวมทง้ั เงินได้ทีม่ ีลกั ษณะทา้ นองเดยี วกันกับ ดอกเบี้ย ผลประโยชนห์ รอื คา่ ตอบแทนอ่นื ๆ ที่ได้จากการใหก้ ู้ยมื หรือ 8 จากสิทธเิ รยี กร้องในหนที้ กุ ชนดิ ไม่ว่าจะมีหลกั ประกนั หรอื ไมก่ ต็ าม

จำแนกประเภทเงนิ ได้พึงประเมนิ ตำมประมวลรัษฎำกร (ข) เงนิ ปันผล เงินส่วนแบง่ ของกำไร หรือประโยชน์อื่นใดท่ีได้จากบริษทั หรอื หา้ งหุ้นส่วนนติ ิบคุ คล กองทุนรวมหรือสถาบนั การเงนิ ที่มีกฎหมายไทยใหจ้ ัดตง้ั ข้ึนโดยเฉพาะสา้ หรับใหก้ ู้ยมื เงิน ฯลฯ (ค) เงินโบนัสทจ่ี ่ายแกผ่ ถู้ ือหนุ้ หรือผู้เปน็ หุ้นส่วนในบรษิ ัทหรือห้างห้นุ ส่วนนิติบุคคล (ง) เงินลดทนุ ของบริษทั หรือห้างหุ้นส่วนนติ ิบุคคลเฉพาะสว่ นทจี่ า่ ยไม่เกินกว่ากา้ ไรและเงนิ ที่กนั ไว้รวมกนั 9

จำแนกประเภทเงินไดพ้ งึ ประเมนิ ตำมประมวลรัษฎำกร (จ) เงินเพ่มิ ทนุ ของบรษิ ัทหรือหา้ งหุ้นส่วนนิติบคุ คลซ่งึ ต้ังจากก้าไรท่ีไดม้ าหรอื รบั ช่วงกันไวร้ วมกัน (ฉ) ผลประโยชน์ท่ีไดจ้ ากการที่บริษทั หรอื ห้างหนุ้ สว่ นนติ ิบคุ คลควบเข้ากันหรือรบั ชว่ งกนั หรอื เลกิ กัน ซง่ึ ตีราคาเปน็เงินได้เกนิ กวา่ เงนิ ทนุ (ช) ผลประโยชนท์ ่ไี ด้จากการโอนการเป็นหุ้นส่วนหรอืโอนห้นุ หุ้นกู้ พนั ธบัตร หรอื ตัว๋ เงนิ หรือ ตราสารแสดงสิทธใิ นหนี้ ทีบ่ รษิ ัทหรือหา้ งหุน้ สว่ นนติ บิ คุ คล หรอื นิติบคุ คลอน่ื เป็นผู้ 10ออก ท้ังนี้เฉพาะซ่ึงตรี าคา เปน็ เงินได้เกนิ กว่าที่ลงทนุ

จำแนกประเภทเงินได้พึงประเมินตำมประมวลรษั ฎำกร เงินได้ประเภทท่ี 4 ในหลาย ๆ กรณี กฎหมำยให้สิทธิท่ีจะเลือกเสียภำษโี ดยวธิ ีหักภำษี ณ ทจี่ ่ำย แทนกำรนำไปรวมคำนวณกับเงินไดอ้ ืน่ ตำมหลกั ทัว่ ไป ซึง่ จะทา้ ให้ผูม้ เี งนิ ไดท้ ี่ตอ้ งเสยี ภาษีตามบัญชีอตั ราภาษี ในอตั ราทส่ี ูงกวา่ อตั ราภาษีหัก ณ ท่จี า่ ย สามารถประหยัดภาษีได้ 11

จำแนกประเภทเงนิ ได้พงึ ประเมนิ ตำมประมวลรัษฎำกร เงินได้ประเภทที่ 5 เงินได้จากการใหเ้ ชา่ ทรัพย์สนิ เงนิหรอื ประโยชนอ์ ยา่ งอ่นื ท่ีได้เนอื่ งจาก - การใหเ้ ชา่ ทรพั ยส์ ิน - การผิดสัญญาเชา่ ซือ้ ทรัพยส์ ิน - การผดิ สัญญาซอ้ื ขายเงินผอ่ นซ่ึงผขู้ ายไดร้ บั คนืทรัพยส์ นิ ที่ซ้อื ขายนั้นโดยไมต่ ้องคนื เงินหรอื ประโยชน์ทไี่ ด้รบั ไว้แลว้ 12

จำแนกประเภทเงนิ ไดพ้ งึ ประเมินตำมประมวลรษั ฎำกร เงินไดป้ ระเภทท่ี 6 ได้แก่ เงินไดจ้ ากวิชำชีพอสิ ระ คอืวิชากฎหมาย การประกอบโรคศลิ ป วศิ วกรรม สถาปตั ยกรรมการบญั ชี ประณีตศลิ ปกรรม หรอื วชิ าชีพอ่นื ซง่ึ จะไดม้ พี ระราชกฤษฎีกาก้าหนดชนิดไว้ 13

จำแนกประเภทเงนิ ได้พึงประเมนิ ตำมประมวลรษั ฎำกร เงินไดป้ ระเภทที่ 7 ได้แก่ เงินไดจ้ ากการรับเหมำที่ผู้รับเหมาต้องลงทุนด้วยการจัดหาสมั ภาระ ในส่วนส้าคญันอกจากเครือ่ งมือ เงนิ ไดป้ ระเภทที่ 8 ไดแ้ ก่ เงินได้จากกำรธรุ กจิ กำรพำณิชย์ กำรเกษตร กำรอุตสำหกรรม กำรขนส่ง กำรขำยอสังหำริมทรัพย์หรอื การอน่ื นอกจากทร่ี ะบไุ วใ้ นประเภทที่ 1ถึงประเภทท่ี 7 แล้ว 14

จำแนกประเภทเงนิ ได้พึงประเมินตำมประมวลรัษฎำกร เงนิ ได้พึงประเมนิ แต่ละกรณีจะคำนวณหกั คำ่ ใช้จ่ำยได้เท่ำใด? คา่ ใชจ้ า่ ยเปน็ องค์ประกอบหนงึ่ ในการคา้ นวณภาษี ถือเป็นสทิ ธปิ ระโยชน์ทางภาษีอย่างหนงึ่ ท่ีกฎหมายกา้ หนดไว้ สา้ หรับหักเป็นต้นทุนในการท้างาน เพื่อให้ไดเ้ งินได้หรือรายได้สุทธินน้ัมาคิดภาษตี ามบญั ชีอตั ราภาษี โดยมีอตั ราการหกั ค่าใชจ้ า่ ยมากหรือนอ้ ยตามแตล่ ะประเภทของเงนิ ได้ สรุปได้ดังน้ี 15

จำแนกประเภทเงนิ ได้พงึ ประเมินตำมประมวลรษั ฎำกรประเภทเงนิ ได้ หักค่ำใช้จ่ำย1. เงนิ เดอื น คา่ จา้ ง โบนัส 50%ไม่เกนิ 100,000บำท เบ้ียเลยี้ ง หำกมเี งินไดป้ ระเภทที่ 12. เงนิ ได้จากหนา้ ทห่ี รือ และ 2 ใหน้ ำเงนิ ได้ ตา้ แหน่งงานทท่ี ้า ทง้ั 2 ประเภท รวมกันแตห่ ักไดไ้ มเ่ กนิ หรอื จากการรับท้างานให้ 100,000 บำท ค่าธรรมเนยี ม 16 ค่านายหน้า ฯลฯ

จำแนกประเภทเงินไดพ้ งึ ประเมนิ ตำมประมวลรษั ฎำกรประเภทเงินได้ หักคำ่ ใชจ้ ่ำย3. ค่าแห่งกู๊ดวิลล์ คา่ แหง่ 50% ไม่เกนิ 100,000 ลิขสทิ ธห์ิ รอื สทิ ธิอย่างอ่นื บำท หรอื ตำมจริง 17

จำแนกประเภทเงนิ ไดพ้ งึ ประเมินตำมประมวลรัษฎำกรประเภทเงนิ ได้ หักค่ำใช้จำ่ ย4. ดอกเบ้ีย เงนิ ปนั ผล สว่ น หกั ค่ำใชจ้ ่ำยไมไ่ ด้ แบง่ ก้าไร ฯลฯ 18

จำแนกประเภทเงินได้พงึ ประเมินตำมประมวลรษั ฎำกรประเภทเงินได้ หักค่ำใชจ้ ำ่ ย5. รายไดจ้ ากการใหเ้ ช่า ตำมจริงหรอื อตั รำเหมำ ทรพั ยส์ ิน การผดิ สัญญา 30% เชา่ ซ้ือ การผิดสญั ญาซ้อื ขายเงนิ ผอ่ น - บ้าน โรงเรือน สิง่ ปลูกสรา้ ง แพ 19

จำแนกประเภทเงนิ ไดพ้ ึงประเมินตำมประมวลรัษฎำกรประเภทเงินได้ หักคำ่ ใช้จ่ำย - ทด่ี นิ ท่ีใช้ใน 20%การเกษตร 15% - ทด่ี ินท่มี ิได้ใช้ในการเกษตร 30% 10% - ยานพาหนะ - ทรพั ย์สินอ่ืน 20

จำแนกประเภทเงนิ ได้พึงประเมนิ ตำมประมวลรัษฎำกรประเภทเงนิ ได้ หักคำ่ ใช้จำ่ ย6. วชิ าชพี อิสระ ตำมจรงิ หรอื อัตรำเหมำ - ประกอบโรคศลิ ปะ 60% - กฎหมาย วศิ วกรรม 30% สถาปตั ยกรรม บญั ชี ประณตี ศลิ ปกรรม 21

จำแนกประเภทเงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ ตำมประมวลรัษฎำกรประเภทเงนิ ได้ หักคำ่ ใช้จ่ำย7. รับเหมาก่อสรา้ ง ตำมจริงหรืออตั รำเหมำ 60% 22

จำแนกประเภทเงินไดพ้ ึงประเมินตำมประมวลรัษฎำกรประเภทเงินได้ หักคำ่ ใชจ้ ำ่ ย8. รายไดอ้ น่ื นอกเหนือจาก ตำมจริงหรอื อตั รำเหมำ 1-7 * 40% และ 60%* ตำมพระรำชกฤษฎกี ำ (ฉบับที่ 629) พ.ศ.2560 23

จำแนกประเภทเงนิ ได้พึงประเมนิ ตำมประมวลรัษฎำกร ผ้มู ีเงนิ ได้มีสทิ ธหิ กั ลดหยอ่ นอะไรไดบ้ ้ำง? ค่าลดหย่อนและยกเวน้ เปน็ อกี หน่งึ องค์ประกอบในการค้านวณภาษีท่กี ฎหมายกา้ หนดให้น้าไปหักออกจากเงนิ ได้ได้อกีหลงั จากหักคา่ ใช้จ่ายแลว้ โดยมีการหกั ลดหย่อนกรณตี ่าง ๆแตกตา่ งกนั ออกไป สรปุ ได้ดงั น้ี 24

จำแนกประเภทเงนิ ได้พงึ ประเมินตำมประมวลรษั ฎำกร(1) กรณีบุคคลธรรมดำ หรือผูถ้ งึ แกค่ วำมตำยระหวำ่ งปีภำษี 1. ผู้มเี งนิ ได้ 60,000 บำท 2. คสู่ มรส (ไมม่ ีเงินได้) 60,000 บำท 3. ผู้มีเงนิ ได้หรอื คู่สมรสตา่ งฝา่ ยตา่ งมีเงินได้ ใหห้ กัลดหย่อนรวมกันได้ ไม่เกนิ 120,000 บำท 25

จำแนกประเภทเงนิ ไดพ้ ึงประเมนิ ตำมประมวลรัษฎำกร 4. บตุ รชอบดว้ ยกฎหมายและบุตรบญุ ธรรม หกั คำ่ลดหย่อนได้คนละ 30,000 บำท ต้องเขา้ เงื่อนไข ดังนี้ - บตุ รชอบด้วยกฎหมาย หกั ลดหย่อนได้ไม่จำกัดจำนวน - บุตรบญุ ธรรม หกั ลดหย่อนได้ไมเ่ กนิ 3 คน - กรณีมีบตุ รชอบด้วยกฎหมายท่ีมีชวี ิตอยู่จ้านวนต้ังแต่ 3 คน จะนำบุตรบญุ ธรรมมำหักอกี ไมไ่ ด้ 26

จำแนกประเภทเงินไดพ้ งึ ประเมนิ ตำมประมวลรษั ฎำกร - กรณมี ีบุตรชอบด้วยกฎหมายมจี ้านวนไม่ถึง 3 คนใหน้ า้ บุตรบญุ ธรรมมาหกั ได้รวมกับบุตรชอบดว้ ยกฎหมาย แต่รวมกนั ต้องไมเ่ กิน 3 คน 27

จำแนกประเภทเงินไดพ้ ึงประเมินตำมประมวลรัษฎำกร บตุ รทนี่ ำมำหักลดหย่อนต้องไมม่ เี งนิ ได้ตง้ั แต่ 30,000บำทข้ึนไป และเข้ำหลกั เกณฑ์ ดงั ต่อไปน้ี - เปน็ ผู้เยาว์ - บุตรมีอายุไมเ่ กิน 25 ปี และกา้ ลังศกึ ษาในระดบัมหาวิทยาลยั หรอื อดุ มศกึ ษา - เปน็ ผ้ทู ีศ่ าลส่งั ใหเ้ ปน็ คนไรค้ วามสามารถหรอื เสมือนไร้ความสามารถอนั อยู่ในความอปุ การะเล้ยี งดู การนับจ้านวนบุตรให้นบั เฉพาะบตุ รท่มี ีชวี ติ อย่ตู ามลา้ ดับอายุสงู สุดของบุตร โดยนับรวมบตั รทีอ่ ยู่ในเกณฑ์ได้รับการลดหยอ่ นดว้ ย 28

จำแนกประเภทเงนิ ไดพ้ งึ ประเมินตำมประมวลรัษฎำกร 5. คา่ อปุ การะเลย้ี งดูบดิ ามารดาท่มี ีอำยุ 60 ปีข้นึ ไปและอยใู่ นความอปุ การะเลี้ยงดขู องผมู้ ีเงินได้ โดยบิดามารดาต้องมเี งินไดพ้ งึ ประเมนิ ในปภี าษีทขี่ อหักลดหยอ่ นไมเ่ กิน30,000 บาท หกั ค่ำลดหย่อน คนละ 30,000 บำท และสำมำรถหกั ลดหย่อนสำหรับบิดำมำรดำของคู่สมรสได้อีกคนละ 30,000 บำท 29

จำแนกประเภทเงนิ ได้พึงประเมนิ ตำมประมวลรษั ฎำกร 6. คา่ อุปการะเลี้ยงดูคนพกิ ารหรอื คนทพุ พลภาพหกั ค่ำลดหย่อน คนละ 60,000 บำท 30

จำแนกประเภทเงนิ ได้พงึ ประเมนิ ตำมประมวลรษั ฎำกร 7. ค่าเบ้ยี ประกนั ชวี ิต (กรมธรรมอ์ ำยุ 10 ปีขึ้นไป)ของผู้มีเงินได้หกั ค่าลดหย่อนและไดร้ บั การยกเวน้ ภาษีเงินได้ส้าหรับเงนิ ได้เทำ่ ท่จี ่ำยจรงิ แต่ไม่เกิน 100,000 บำท ท้ังน้ีหากคสู่ มรสมีการประกันชวี ติ และความเป็นสามภี ริยาได้มอี ยู่ตลอดปภี าษี ผู้มเี งินได้มสี ิทธหิ ักลดหยอ่ น ส้าหรบั เบ้ยี ประกนัชวี ิตของคู่สมรสทไี่ ม่มเี งินไดต้ ามจา้ นวนทจี่ ่ายจรงิ แตไ่ มเ่ กนิ10,000 บาท แตห่ ากสามภี รยิ าต่างฝา่ ยต่างมเี งนิ ได้ 31

จำแนกประเภทเงนิ ไดพ้ ึงประเมินตำมประมวลรัษฎำกร (ก) ถ้าความเป็นสามีภรยิ ามิได้มอี ยตู่ ลอดปีภาษที ี่ไดร้ ับยกเวน้ ภาษี ใหส้ ามีและภริยาซึ่งเป็นผมู้ เี งนิ ได้ตา่ งฝ่ายตา่ งไดร้ บั ยกเวน้ ภาษีตามจ้านวนทจี่ า่ ยจรงิ เฉพำะส่วนท่เี กิน10,000 บำท แต่ไมเ่ กนิ 90,000 บำท ซง่ึ ไมเ่ กินเงนิ ได้พึงประเมนิ ของแต่ละคนหลงั จากหกั คา่ ใชจ้ ่าย ตามมาตรา 42 ทวิถึง มาตรา 46 แหง่ ประมวลรัษฎากรแล้ว 32

จำแนกประเภทเงนิ ไดพ้ ึงประเมินตำมประมวลรัษฎำกร (ข) ถ้าความเปน็ สามีภริยาไดม้ อี ยตู่ ลอดปภี าษีท่ไี ด้รับยกเวน้ ภาษีและภรยิ าไม่ใช้สิทธแิ ยกยื่นรายการและเสยี ภาษีตา่ งหากจากสามตี ามมาตรา 57 เบญจ แหง่ ประมวลรษั ฎากรใหส้ ามีและภริยาซงึ่ เป็นผู้มเี งินไดต้ ่างฝ่ายต่างไดร้ บั ยกเว้นภาษีตามจ้านวนทจ่ี ่ายจริง เฉพำะส่วนทเ่ี กนิ 10,000 บำท แตไ่ ม่เกิน 90,000 บำท ซ่งึ ไมเ่ กินเงนิ ไดพ้ ึงประเมินของแตล่ ะคนหลังจากหกั ค่าใชจ้ า่ ย ตามมาตรา 42 ทวิ ถึงมาตรา 46 แหง่ประมวลรษั ฎากรแลว้ 33

จำแนกประเภทเงินไดพ้ งึ ประเมนิ ตำมประมวลรัษฎำกร (ค) ถา้ ความเป็นสามีภรยิ าไดม้ อี ยตู่ ลอดปภี าษที ่ีไดร้ บัยกเว้นภาษีและภรยิ าใชส้ ิทธแิ ยกยื่นรายการและเสยี ภาษีต่างหากจากสามี ตามมาตรา 57 เบญจ แห่งประมวลรษั ฎากรใหส้ ามแี ละภริยาซง่ึ เปน็ ผมู้ เี งนิ ไดต้ ่างฝ่ายต่างได้รบั ยกเว้นภาษีตามจ้านวนท่จี ่ายจริง เฉพาะส่วนท่ีเกนิ 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 90,000 บาท ซงึ่ ไมเ่ กินเงินได้พึงประเมินของแตล่ ะคนหลังจากหกั คา่ ใช้จ่าย ตามมาตรา 42 ทวิ ถึงมาตรา 46 แหง่ประมวลรัษฎากรแล้ว 34

จำแนกประเภทเงินได้พึงประเมนิ ตำมประมวลรัษฎำกร 8. คา่ เบยี้ ประกนั สขุ ภาพบิดามารดาของผู้มเี งนิ ได้และคสู่ มรส หกั ค่ำลดหยอ่ นเท่ำที่จ่ำยจรงิ แต่ไมเ่ กนิ 15,000บำท ทั้งน้ี บิดามารดาของผู้มเี งนิ ไดแ้ ละคูส่ มรสต้องไมม่ ีเงนิ ได้พงึ ประเมินในปีภาษที ่ีใชส้ ิทธิยกเวน้ ภาษีเงินได้เกนิ 30,000บาท 35

จำแนกประเภทเงนิ ไดพ้ งึ ประเมินตำมประมวลรษั ฎำกร 9. เงินสะสมท่จี า่ ยเขา้ กองทุนสา้ รองเลย้ี งชีพ หักลดหย่อนไดต้ ำมจำนวนทไ่ี ด้จ่ำยไปจรงิ ในปภี ำษี แตไ่ มเ่ กนิ10,000 บำท สว่ นที่เกนิ 10,000 บำทแตไ่ ม่เกิน 490,000บำท ซงึ่ ไมเ่ กนิ ร้อยละ 15 ของค่ำจ้ำงใหห้ กั จำกเงินได้ 36

จำแนกประเภทเงนิ ได้พงึ ประเมนิ ตำมประมวลรษั ฎำกร10. เงินค่าซ้อื หนว่ ยลงทุนในกองทนุ รวมเพอื่ การเลยี้ งชีพ(RMF) ได้รบั ยกเว้นเทา่ ท่จี ่ายเงินค่าซ้อื หนว่ ยลงทุนในกองทนุรวมเพือ่ การเล้ยี งชพี ตามกฎหมายวา่ ด้วยหลักทรพั ยแ์ ละตลาดหลักทรัพย์ ในอตั ราไม่เกนิ รอ้ ยละ 15 ของเงินได้พงึ ประเมนิ ที่ได้รับซง่ึ ต้องเสียภาษเี งินได้ในปีภาษนี นั้ และเมอื่ รวมกบั เบ้ยี ประกันชวี ิตแบบบา้ นาญ เงนิ สะสมเข้ากองทุนสา้ รองเลี้ยงชีพ เงินสะสมเข้ากองทุนบ้าเหน็จบา้ นาญขา้ ราชการ เงนิ สะสมเขา้ กองทุนสงเคราะหต์ ามกฎหมายว่าดว้ ยโรงเรยี นเอกชน และเงินสะสมเขา้กองทุนการออมแหง่ ชาตแิ ลว้ ตอ้ งไมเ่ กนิ 500,000 บาท 37

จำแนกประเภทเงินได้พึงประเมนิ ตำมประมวลรัษฎำกร11. คา่ เบี้ยประกันชีวติ แบบบ้านาญ หักค่ำลดหย่อนในอตั รำร้อยละ 15 ของเงินไดท้ ี่นำมำเสียภำษีเงนิ ได้ในแตล่ ะปีแตไ่ มเ่ กนิ 200,000 บำทต่อปีท้ังน้ี ตอ้ งเปน็ คา่ เบย้ี ประกนั ชีวิตแบบบา้ นาญ ความคุม้ ครองตงั้ แต่ 10 ปีขนึ้ ไป และจา่ ยผลประโยชนเ์ งินบ้านาญเมื่อผมู้ เี งินได้อายุตง้ั แต่ 55ปขี ึน้ ไปถงึ อายุ 85 ปหี รอื กวา่ นั้น และเม่อื รวมกบั เงินสะสมเขา้ กองทนุ ส้ารองเลยี้ งชพี เงินสะสมเข้ากองทุนบา้ เหนจ็ บา้ นาญข้าราชการ (กบข.) เงินสะสมเขา้ กองทนุ สงเคราะหต์ ามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรงเรียนเอกชน เงนิ ทซี่ อื้ หน่วยลงทุนในกองทนุ รวมเพอ่ื การเล้ยี งชีพ (RMF) และเงนิ สะสมเขา้ กองทุนการออมแหง่ ชาติ ตอ้ งไมเ่ กนิ 500,000 บาท 38

จำแนกประเภทเงินไดพ้ ึงประเมินตำมประมวลรัษฎำกร 12. เงนิ สะสมกองทุนการออมแห่งชาติ ตำมจำนวนที่จำ่ ยจริง แตไ่ มเ่ กิน 500,000 บำท และเมื่อรวมกับเบ้ยีประกนั ชวี ิตแบบบา้ นาญ เงนิ สะสมเข้ากองทุนสา้ รองเลยี้ งชพีเงนิ สะสมเข้ากองทนุ บา้ เหน็จบ้านาญขา้ ราชการ เงินสะสมเขา้กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายวา่ ด้วยโรงเรียนเอกชน และเงินทีซ่ ื้อหนว่ ยลงทุนในกองทนุ รวมเพ่อื การเลย้ี งชพี (RMF)แลว้ ตอ้ งไมเ่ กนิ 500,000 บาท 39

จำแนกประเภทเงนิ ไดพ้ ึงประเมนิ ตำมประมวลรัษฎำกร 13. คา่ ซอ้ื หนว่ ยลงทนุ ในกองทุนรวมหนุ้ ระยะยาว(LTF) หักค่ำลดหย่อนเท่ำทีจ่ ่ำยจรงิ แตไ่ ม่เกนิ รอ้ ยละ15 ของเงินไดพ้ งึ ประเมินท่ีได้รบั ซงึ่ ต้องเสยี ภำษเี งินไดใ้ นปีน้ัน แต่ไม่เกิน 500,000 บำท และต้องถอื หนว่ ยลงทนุ ในกองทนุ รวมระยะยาวต่อเนือ่ งกันไม่นอ้ ยกวำ่ 7 ปีปฏิทนิ แต่ไม่รวมถงึ กรณผี ู้มีเงนิ ไดไ้ ถถ่ อนหนว่ ยลงทนุ รวมหุน้ ระยะยาวเพราะทุพพลภาพหรือตาย 40

จำแนกประเภทเงนิ ได้พึงประเมินตำมประมวลรษั ฎำกร 14. ดอกเบี้ยกู้ยืมทจ่ี า่ ยให้แก่ธนาคารหรือสถาบนั การเงินอนื่ บรษิ ทั ประกนั ชีวติ สหกรณ์ หรือนายจา้ ง ส้าหรบั การกู้ยืมเงินเพอ่ื ซื้อ เชา่ ซ้อื หรือสรา้ งอาคารอยู่อาศยั โดยจา้ นองอาคารทซี่ อื้ หรือสร้างเป็นประกนั การกูย้ มื หกั ค่ำลดหย่อนตำมจำนวนเทำ่ ทจ่ี ำ่ ยจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บำท 41

จำแนกประเภทเงินได้พึงประเมนิ ตำมประมวลรษั ฎำกร 15. เงินสมทบประกนั สังคม หักคำ่ ลดหยอ่ นเทำ่ ท่ีจำ่ ยจรงิ 16. ค่าเบ้ยี ประกันสุขภาพ หกั ค่ำลดหยอ่ นเทำ่ ทจ่ี ำ่ ยจริง แต่ไมเ่ กนิ 15,000 บำท แต่เมอ่ื รวมกับเบย้ี ประกันชีวิตส้าหรบั กรมธรรม์ประกนั ชวี ิตทม่ี กี า้ หนดตัง้ แต่ 10 ปขี ึ้นไปและเงินฝากทจ่ี ่ายไว้กบั ธนาคารทมี่ กี ฎหมายจดั ต้ังข้นึโดยเฉพาะแลว้ ต้องไมเ่ กนิ 100,000 บำท 42

จำแนกประเภทเงนิ ได้พึงประเมินตำมประมวลรษั ฎำกร 17. เงนิ บริจาค - เงนิ บริจาคสนบั สนนุ การศึกษา หักลดหย่อนได้2 เท่ำของทจ่ี ำ่ ยจริง แตไ่ ม่เกนิ รอ้ ยละ 10 ของเงินได้หลงัหักค่ำใช้จ่ำยและค่ำลดหยอ่ นอ่ืน - เงนิ บริจาคสาธารณประโยชน์ หกั ลดหย่อนได้ 2เทำ่ ของท่ีจำ่ ยจริง แต่ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ 10 ของเงินไดห้ ลังหกัคำ่ ใชจ้ ่ำยและค่ำลดหย่อนอนื่ 43

จำแนกประเภทเงนิ ได้พึงประเมนิ ตำมประมวลรษั ฎำกร - เงนิ บรจิ าคท่วั ไป หักลดหย่อนไดเ้ ทำ่ ที่จำ่ ยจริง แตไ่ ม่เกนิ ร้อยละ 10 ของเงนิ ไดห้ ลงั หกั คำ่ ใช้จำ่ ยและคำ่ ลดหยอ่ นอน่ื 44

จำแนกประเภทเงินไดพ้ งึ ประเมนิ ตำมประมวลรัษฎำกร(2) กรณหี ำ้ งห้นุ ส่วนสำมัญท่มี ใิ ช่นิตบิ ุคคล หรือคณะบคุ คลทไี่ ม่ใช่นิติบุคคล หักค่ำลดหย่อนไดค้ นละ 60,000บำท แตร่ วมกันตอ้ งไมเ่ กนิ 120,000 บำท 1. เงนิ บรจิ าคสนับสนุนการศกึ ษาและการกีฬา หกั ได้ 2เท่ำของทจ่ี ำ่ ยจรงิ แต่ไมเ่ กินรอ้ ยละ 10 ของเงินไดห้ ลงั หักค่ำใชจ้ ่ำยและค่ำลดหย่อน 2. เงนิ บริจาค หกั ได้เทำ่ ท่จี ่ำยจริง แต่ไม่เกินรอ้ ยละ 10ของเงินได้หลังหักคำ่ ใชจ้ ่ำยและคำ่ ลดหย่อน 45

จำแนกประเภทเงินได้พงึ ประเมนิ ตำมประมวลรัษฎำกร(3) กรณกี องมรดกทีย่ งั ไมไ่ ดแ้ บ่ง หกั ค่ำลดหย่อนได้60,000 บำท 1. เงนิ บริจาคสนบั สนนุ การศกึ ษาและการกีฬา หกั ได้ 2เท่ำของทีจ่ ำ่ ยจริง แตไ่ มเ่ กนิ รอ้ ยละ 10 ของ เงนิ ไดห้ ลงั หกัค่ำใช้จ่ำยและคำ่ ลดหยอ่ น 2. เงนิ บรจิ าค หักไดเ้ ทำ่ ที่จำ่ ยจริง แตไ่ ม่เกนิ รอ้ ยละ 10ของเงินได้หลังหกั ค่ำใช้จำ่ ยและคำ่ ลดหย่อน 46

เอกสำรเพื่อกำรนำส่งภำษเี งนิ ไดบ้ คุ คลธรรมดำ หัก ณ ทีจ่ ่ำย กำรออกหนงั สือรับรองภำษเี งินได้หัก ณ ทีจ่ ่ำย ให้ออกหนงั สือรับรองกำรหักภำษี ณ ทีจ่ ่ำย อยำ่ งนอ้ ยต้องมีข้อควำมตำมแบบที่อธบิ ดีกรมสรรพำกร กำหนด (ดตู วั อย่าง) ให้แกผ่ ถู้ กู หกั ภาษี ณ ที่จา่ ย 2 ฉบับมี ข้อความตรงกัน โดยหนังสือรบั รองการหักภาษี ณ ท่ีจ่าย ตอ้ ง มขี อ้ ความดา้ นบนแต่ละฉบบั ดังนี้ 47

เอกสำรเพื่อกำรนำส่งภำษีเงนิ ได้บุคคลธรรมดำ หกั ณ ที่จำ่ ย (1) ฉบบั ท่ี 1 มขี ้อความว่า “สำหรบั ผู้ถูกหักภำษี ณ ท่จี ่ำย ใช้แนบพร้อมกบั แบบแสดงรำยกำร” (2) ฉบับที่ 2 มขี อ้ ความว่า “สำหรบั ผถู้ กู หกั ภำษี ณ ทจ่ี ่ำยเกบ็ ไวเ้ ปน็ หลักฐำน” 48

เอกสำรเพือ่ กำรนำส่งภำษีเงนิ ไดบ้ ุคคลธรรมดำ หัก ณ ท่จี ่ำยกำหนดเวลำออกหนังสอื รับรองกำรหกั ภำษี ณ ที่จำ่ ย (1) กรณจี ำ่ ยเงนิ เดือน คำ่ จ้ำง ค่ำนำยหนำ้ บำเหน็จ ฯลฯ กรณจี า่ ยเงินไดพ้ งึ ประเมินประเภทเงินเดือน คา่ จา้ ง คา่ นายหน้า บ้าเหน็จ บ้านาญ ตามมาตรา 40 (1) (2) แหง่ ประมวลรัษฎากร ให้ออกหนังสือรบั รองกำรหกั ภำษี ณ ท่ี จ่ำย ภำยในวนั ท่ี 15 กมุ ภำพันธ์ ของปีถดั จำกปีภำษี (กรณี ผถู้ ูกหกั ภาษี ณ ทีจ่ ่ายท้างานจนถงึ ส้นิ ปภี าษี) หรือภายใน 1 เดอื น นบั แต่วันที่ผถู้ กู หักภาษี ณ ทีจ่ า่ ยออกจากงานในระหว่าง 49 ปีภาษี

เอกสำรเพ่อื กำรนำส่งภำษเี งนิ ได้บุคคลธรรมดำ หัก ณ ที่จำ่ ย (2) กรณีจ่ำยเงนิ ได้อ่ืน ๆ กรณีจ่ายเงินได้พงึ ประเมนิ ประเภทอืน่ ๆ ตามมาตรา 40 (3) (4) (5) (6) (7) หรือ (8) แห่งประมวล รษั ฎากร ให้ออกหนงั สอื รับรองกำรหกั ภำษี ณ ท่ีจำ่ ย ในทันทีทุกครัง้ ท่ีมกี ำรหักภำษี ณ ทจี่ ำ่ ย 50


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook