1
คำนำ การวางแผนเป็นบทบาทและขั้นตอนของการบริหารจัดการและการทางาน เพราะเป็นกระบวนการ ตัดสินใจเพื่อกาหนดเป้าหมายและทิศทางตลอดทั้งการกาหนดแนวทางการปฏิบัติ จัดสรรทรัพยากร เพ่ือเตรยี มงาน/โครงการ/กิจกรรมสาหรับผู้มีหน้าทเี่ กยี่ วขอ้ งนาไปสกู่ ารปฏบิ ตั ิ การกากับติดตามเป็นกระบวนการที่โรงเรียนต้องดาเนินการอย่างต่อเนื่องในทุกงาน/โครงการและ กิจกรรม เนือ่ งดว้ ยการดาเนนิ งานของโรงเรียนไดก้ าหนดแนวทางการปฏิบตั ิเพื่อสูค่ ณุ ภาพมาตรฐานการศึกษา ดังน้ันการกากับติดตามจึงต้องมีผู้รับผิดชอบเพ่ือดาเนินงานหลังประเมินผลเพื่อตรวจสอบการบรรลุตาม มาตรฐานของโรงเรียนด้วยการประเมินตนเอง (School Self Evaluation) แล้วจัดทารายงานผลการ ดาเนินงาน ระบบและกลไกการบริหารจัดการคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาเพื่อการประกันคุณภาพ มี 5 องค์ประกอบ ดังนี้ องค์ประกอบท่ี 1 การกาหนดเป้าหมายมาตรฐานคุณภาพ องค์ประกอบท่ี 2 การขับเคล่ือนคุณภาพสู่มาตรฐาน องคป์ ระกอบที่ 3 การประเมินความสาเรจ็ ตามมาตรฐาน องค์ประกอบท่ี 4 การนาการแปลงสู่สถานศึกษาและการสร้างคุณค่าแก่วงวิชาการ และองค์ประกอบท่ี 5 การเกิดวัฒนธรรม คุณภาพการพัฒนาที่ย่ังยืน เอกสารฉบับนี้เป็นการรายงานผลกาดาเนินงานตามองค์ประกอบทั้ง 5 ดังกล่าว เพ่ือแสดงให้ผู้เกี่ยวขอ้ งและสาธารณชนได้รับทราบถึงระบบและกลไกการบริหารจดั การคุณภาพและมาตรฐาน การศึกษาเพื่อการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาของโรงเรียนเกาะคาวิทยาคม เพื่อสร้างความเช่ือมั่นใน การจัดการศึกษาท่ีสนองตอบความสนใจและความตอ้ งการของผู้เรียน ผ้ปู กครอง ชมุ ชน และสังคม โรงเรยี นเกาะคาวทิ ยาคม
สำรบญั หนำ้ 1 คำนำ 1 ส่วนท่ี 1 : ขอ้ มูลพืน้ ฐำนของสถำนศึกษำ 3 4 ข้อมลู ทวั่ ไป 4 โครงสร้างการบริหารงาน 5 ขอ้ มลู ครแู ละบุคลากรของสถานศึกษา 5 ข้อมลู นกั เรียน 6 ขอ้ มลู ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นระดับสถานศึกษา 6 ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาติขน้ั พ้ืนฐาน (O-NET) 8 แหลง่ เรยี นรูภ้ ายในและภายนอกโรงเรียน ขอ้ มูลชมุ ชน 8 ส่วนท่ี 2 : กำรรำยงำนผลกำรดำเนินงำนตำมระบบและกลไกกำรบรหิ ำรจดั กำรคุณภำพ 11 และมำตรฐำนกำรศึกษำเพอื่ กำรประกันคุณภำพ 19 องค์ประกอบที่ 1 การกาหนดเป้าหมายมาตรฐานคณุ ภาพ 20 องคป์ ระกอบท่ี 2 การขับเคลื่อนคณุ ภาพสู่มาตรฐาน องค์ประกอบที่ 3 การประเมนิ ความสาเร็จตามมาตรฐาน 30 องค์ประกอบที่ 4 การนาการเปลี่ยนแปลงสู่สถานศึกษา 33 และการสรา้ งคุณค่าแก่วงวิชาการ 33 องค์ประกอบท่ี 5 การเกดิ วัฒนธรรมคุณภาพทีส่ ะท้อนการพัฒนาที่ยัง่ ยนื สว่ นที่ 3 : ภำคผนวก 35 - คาสัง่ แต่งตงั้ คณะกรรมการดาเนนิ งานประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา ภายในสถานศึกษา ปีการศกึ ษา 2564 37 - คาส่งั แต่งตัง้ คณะกรรมการดาเนินงานประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา ภายในสถานศกึ ษา ปกี ารศึกษา 2564 (ฉบับแกไ้ ข) - ประกาศโรงเรยี นเกาะคาวทิ ยาคม เรอ่ื ง การใช้มาตรฐานการศกึ ษา ของสถานศกึ ษาระดบั การศึกษาขั้นพ้ืนฐานและการกาหนดคา่ เปา้ หมาย เพอื่ การประกันคุณภาพภายในของสถานศกึ ษา ปีการศกึ ษา 2564
๑ ส่วนท่ี 1 ข้อมูลพื้นฐำนของสถำนศกึ ษำ 1. ขอ้ มลู ท่วั ไป โรงเรยี นเกาะคาวทิ ยาคม ตั้งอยู่ เลขที่ 1 หมู่ที่ 5 บา้ นเกาะคา ตาบลเกาะคา อาเภอเกาะคา จังหวัดลาปาง รหัสไปรษณี ย์ 52130 เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดเล็ก ประเภทสหศึกษา สังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษาลาปาง ลาพูน สานักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ โทรศัพท์ : 0 54 - 281382 โทรสาร : 0 54 - 28138 1 E-Mail:[email protected] Website http://www.kwslp.ac.th เปิดสอนระดับมัธยมศึกษา ปที ี่ 1 ถงึ ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาชัน้ ปที ่ี 6 มเี น้ือท่จี านวน ๑๖๙ ไร่ ประวตั โิ รงเรยี นเกำะคำวทิ ยำคม โรงเรียนเกาะคาวิทยาคม เป็นโรงเรียนประเภทสหศึกษา แต่เดิมตั้งอยู่ที่บ้านไหล่หิน ตาบลไหล่หิน อาเภอเกาะคา จังหวัดลาปาง ในเน้ือท่ี ๘๐ ไร่ โดยการริเร่ิมของราษฎรตาบลไหล่หิน และ ตาบลใกล้เคียง ซึ่งได้เริม่ ก่อสร้างอาคารไม้ช้ันเดียวพื้นคอนกรีต หลังคามุงกระเบ้ือง ขนาด 4 ห้องเรียน จานวน 1 หลัง และทาการเปิดสอนครั้งแรก วันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๑๔โดยมีนายสถาพร สุติน ข้าราชการ ครโู รงเรียนไหลห่ นิ ในขณะน้ัน รักษาการในตาแหนง่ ครูใหญ่ ต่อมากระทรวงศึกษาธกิ าร ได้ประกาศจัดตั้งอย่าง เปน็ ทางการโดยให้ชื่อวา่ “โรงเรยี นเกาะคาวิทยาคม” เม่ือวนั ที่ ๒๓ มิถนุ ายน ๒๕๑๕ (วนั สถาปนาโรงเรยี น) เน่ืองจากสถานที่ต้ังเดิมน้ัน อยู่ไกลจากชุมชน การคมนาคมไม่สะดวกและยากต่อการขยาย ชนั้ เรียน อาคารเรียนและพื้นท่ีเพื่อรองรบั นักเรียนในอนาคต ตามที่ ดร. ก่อ สวัสดิพานิชย์ อธิบดี กรมสามัญ ศึกษาในขณะน้ัน ได้ให้ข้อเสนอในครั้งท่ีมาตรวจราชการและมาเย่ียมโรงเรียนเกาะคาวิทยาคม เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๑๕ทางคณะกรรมการจึงได้ย้ายมาต้ัง ณ สถานที่แห่งใหม่คือบรเิ วณหลัง วดั ท่าผา ตาบลเกาะคา อาเภอเกาะคา จังหวัดลาปาง ในพ้ืนที่ จานวน ๑๖๙ ไร่เศษ อันเป็นท่ีดินที่ได้รับบริจาคจากผู้ท่ีมีจิตศรัทธา บริจาคให้ทางราชการและได้รับจัดสรรงบประมาณ เพ่ือใช้ปรับพื้นที่สร้างโรงเรียนแห่งใหม่ พร้อมกันนี้กรม สามญั ศึกษาได้มีคาสั่งแต่งตง้ั ให้ นายแพง สระพินครบรุ ี ผู้ชว่ ยอาจารยใ์ หญโ่ รงเรยี นห้างฉตั รวทิ ยา ย้ายมาดารง ตาแหน่งครูใหญ่เป็นคนแรก ปัจจบุ นั นายเจนภพ ยศบญุ เรอื ง ดารงตาแหน่งผอู้ านวยการโรงเรยี น ปัจจุบันโรงเรียนเกาะคาวิทยาคม บริหารงานโดยเน้นการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพ ของโรงเรียนของทุก ๆ ฝ่าย สร้างทีมงานนิเทศติดตามและการรายงานที่มีคุณภาพ เข้าสู่ยุคปฏิรูปการศึกษา ความเปน็ สากล ในปี 2564 โรงเรียนรับการประเมินจากสานักรับรองและประเมินมาตรฐานการศึกษา (สมศ.) ซง่ึ เป็นองค์กรภายนอก ผลการประเมิน โรงเรียนได้รับการรบั รองมาตรฐานการศึกษา โดยผ่านการประเมนิ ทุกตัว บง่ ช้ี ผลการประเมนิ เฉลี่ยอย่ใู นระดับ ดี ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โรงเรียนได้รับจัดสรรงบประมาณจาก สพฐ. เพ่ือปรับปรุง ซอ่ มแซมบา้ นพกั ครู จานวน 1 หลงั เปน็ เงนิ จานวน 150,000 บาท ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โรงเรียนได้รับจัดสรรงบประมาณจาก สพฐ. เพื่อปรับปรุง ซอ่ มแซม อาคารเรียน อาคารประกอบและส่ิงก่อสร้างอืน่ รายการ ปรับปรุงซอ่ มแซม อาคารเรียน แบบ 216 ก จานวน 1 หลงั เปน็ เงินจานวน 397,900 บาท
แผนผงั โรงเรยี นเกำะคำวิทยำคม 1.1. วสิ ยั ทศั น์ (Vision) “โรงเรียนเกาะคาวิทยาคมเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้มุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนมีทักษะด้านการ เรยี นรู้ คู่คุณธรรม ดาเนินชีวติ ตามวิถีไทย ใสใ่ จสงิ่ แวดล้อม นอ้ มนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ กา้ วทันการเปลยี่ นแปลงของโลกศตวรรษท่ี 21” 1.2 พนั ธกจิ (Mission) 1. พัฒนาระบบและกระบวนการจดั การศึกษาที่ผ้เู รียนเข้าถงึ โอกาสในการศึกษา สร้างความ เสมอภาคดา้ นการศึกษาแก่ผู้เรยี น ยกระดบั คุณภาพและประสิทธิภาพของการจัดการศึกษา และจดั การศกึ ษา ท่ีสอดคลอ้ งเพ่ือรองรบั กระแสการเปลยี่ นแปลงของโลกศตวรรษท่ี 21 2. พัฒนาคุณภาพของผู้เรียนให้เป็นผู้มคี วามรู้ คุณลกั ษณะ และทกั ษะการเรยี นรู้ในศตวรรษ ที่ 21 สามารถพัฒนาศักยภาพและเรียนรูไ้ ดด้ ว้ ยตนเองอย่างต่อเนอื่ ง 3. พัฒนาสถานศึกษาให้เป็นสังคมแห่งการเรยี นรู้ และสงั คมคุณธรรม จริยธรรม อยู่ร่วมกัน อย่างปลอดภยั สงบสขุ มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษส์ ่งิ แวดล้อม และพอเพียงอยา่ งย่ังยืน 4. พัฒนาศกั ยภาพความสามารถในการแข่งขัน และลดความเหลื่อมล้าในสังคมด้วยการเพ่ิม ผลิตภาพของกาลังแรงงาน (productivity) ให้มีทักษะ และสมรรถนะท่ีสอดคล้องกับความต้องการของตลาด งานพรอ้ มรับการเปลี่ยนแปลงของโลกศตวรรษที่ 21 ภายใตย้ คุ เศรษฐกิจและสังคมไทยแลนด์ 4.0
๓ 1.3 เป้ำประสงค์ (Goals) 1. เพอ่ื พฒั นาระบบและกระบวนการจัดการศึกษาทีม่ คี ุณภาพและมีประสทิ ธิภาพ 2. เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เป็นพลเมืองดี มีคุณลักษณะ ทักษะ และสมรรถนะที่สอดคล้องกับ บทบัญญัติของรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พระราชบญั ญัติการศกึ ษาแหง่ ชาติ และ ยุทธศาสตร์ชาติ 3. เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้มี คุณธรรม จริยธรรม รู้รักสามัคคี และ ดาเนนิ ชวี ติ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 4. เพือ่ ลดความเหลือ่ มลา้ ทางการศึกษา 1.4 กลยุทธ์ (Strategy) โรงเรียนเกาะคาวิทยาคมได้กาหนดกลยุทธ์ไว้ 6 ประการ เพ่ือเป็นแนวทางในการจัด การศกึ ษาให้ครอบคลมุ ทุกดา้ น ดังนี้ กลยุทธ์ที่ 1 : การจัดการศึกษาเพอ่ื ความมนั่ คงของสงั คมและประเทศชาติ กลยทุ ธ์ที่ 2 : การผลติ และพัฒนากาลังคน การวิจยั และนวตั กรรรม เพ่อื สรา้ งขดี กลยุทธท์ ่ี 3 : การพฒั นาศกั ยภาพผเู้ รยี นและการสร้างสังคมแหง่ การเรียนรมู้ ี กลยุทธท์ ี่ 4 : การสร้างโอกาส ความเสมอภาค และความเทา่ เทยี มทางการศึกษา กลยุทธท์ ่ี 5 : การจัดการศกึ ษาเพื่อสร้างเสริมคณุ ภาพชีวิตท่ีเปน็ มิตรกบั สิง่ แวดลอ้ ม กลยุทธ์ที่ 6 : การพัฒนาประสทิ ธิภาพของระบบบรหิ ารจดั การศึกษา 1.5 เอกลกั ษณ์ “ การจัดการดา้ นสิง่ แวดล้อม” 1.6 อัตลักษณ์ “ วิถีไทย วถิ พี ุทธ ” 2. โครงสร้ำงกำรบรหิ ำรงำน
3. ข้อมลู บคุ ลำกรของสถำนศึกษำ 3.1 จานวนบคุ ลากร บุคลากร ผบู้ รหิ าร ขา้ ราชการครู พนกั งาน ครูอตั ราจ้าง เจา้ หน้าที่ รวมท้งั หมด ราชการ 4 อ่ืนๆ 21 จานวน 2 11 1 3 3.2 วฒุ กิ ารศกึ ษาสงู สุดของบุคลากร บุคลากร ต่ากวา่ ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก รวมทงั้ หมด ปริญญาตรี 3 - 21 จานวน 1 17 3.3 สาขาวิชาทจ่ี บการศึกษาและภาระงานสอน สาขาวิชา จานวน (คน) ภาระงานสอนเฉลยี่ ของครู 1 คน ในแตล่ ะสาขาวชิ า (ชม./สปั ดาห์) บรหิ ารการศึกษา 2 ภาษาไทย 2 6.00 คณติ ศาสตร์ 2 18.00 วทิ ยาศาสตร์ 4 24.00 สงั คมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม 2 24.00 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 1 15.00 ศลิ ปศึกษา 2 21.5 การงานอาชพี และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 1 18.00 ภาษาต่างประเทศ 4 16.50 19 19.00 รวม 18.00 4. ขอ้ มลู นกั เรียน จานวนนกั เรียน ปกี ารศกึ ษา 2564 รวม 114 คน ระดบั ช้นั เรียน จานวนห้อง เพศ รวม เฉล่ยี ตอ่ ห้อง ชาย หญงิ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 1 11 10 21 21 มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 1 15 18 33 33 มัธยมศึกษาปีท่ี 3 1 14 12 26 26 มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 1 3 8 11 11 มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 1 2 12 14 14 มัธยมศึกษาปีที่ 6 2 18 9 9 รวมท้งั หมด 6 46 68 114 114
๕ 5. ผลกำรทดสอบทำงกำรศึกษำระดบั ชำติขั้นพื้นฐำน (O-NET) 5.1 ระดับชัน้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 3 1) ผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาตขิ ้ันพื้นฐาน (O-NET) ปีการศกึ ษา 2564 ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษำปที ่ี 3 รายวิชา ระดับโรงเรียน คะแนนเฉลย่ี ระดับประเทศ ระดบั สพฐ. ภาษาไทย 48.03 52.13 51.19 คณติ ศาสตร์ 28.79 30.79 31.11 วทิ ยาศาสตร์ 17.14 24.75 24.47 ภาษาองั กฤษ 29.71 31.67 31.45 2) การเปรยี บเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาตขิ นั้ พ้ืนฐาน (O-NET) ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีที่ 3 ปีการศกึ ษา2562 - 2563 คะแนนเฉล่ยี รายวชิ า ปีการศกึ ษา 2563 ปีการศึกษา 2564 ผลต่าง ระหวา่ งปกี ารศึกษา ภาษาไทย 58.13 48.03 -10.1 คณติ ศาสตร์ 31.25 28.79 -2.46 วทิ ยาศาสตร์ 23.20 17.14 -6.06 ภาษาอังกฤษ 28.32 29.71 1.39 5.2 ระดับชั้นมัธยมศึกษำปที ่ี 6 1) ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติข้ันพ้ืนฐาน (O-NET) ปกี ารศกึ ษา2564 ระดับชน้ั มัธยมศึกษำปีท่ี 6 รายวชิ า ระดับโรงเรียน คะแนนเฉล่ีย ระดับประเทศ ระดับ สพฐ. ภาษาไทย 43.13 47.74 46.40 สงั คม 35.41 37.45 36.87 คณติ ศาสตร์ 21.21 25.83 25.56 วิทยาศาสตร์ 20.16 21.83 21.28 ภาษาอังกฤษ 24.58 29.04 28.65 2) การเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพนื้ ฐาน (O-NET) ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษำปีท่ี 6 ปีการศึกษา2563 - 2564 คะแนนเฉล่ยี รายวชิ า ปกี ารศึกษา 2563 ปกี ารศึกษา 2564 ผลต่าง ระหว่างปีการศกึ ษา ภาษาไทย 35.25 43.13 7.88 สงั คม 33.50 35.41 1.91 คณติ ศาสตร์ 24.83 21.21 -3.62 วทิ ยาศาสตร์ 17.90 20.16 2.26 ภาษาองั กฤษ 28.20 24.58 -3.62
6. ขอ้ มูลเกี่ยวกบั สภำพชุมชนท่ีตัง้ โรงเรียน เขตพ้ืนที่บริการของโรงเรียนเกาะคาวิทยาคม เป็นพื้นท่ีส่วนใหญ่ของอาเภอเกาะคา จานวน ๗ ตาบล จาก ๙ ตาบล (ยกเวน้ ตาบลไหล่หนิ และตาบลใหมพ่ ฒั นา) ลกั ษณะที่ต้งั อาเภอเกาะคา ตงั้ ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๗ เดมิ ช่ืออาเภอสบยาว ต่อมาทางราชการเปลี่ยนช่อื ใหม่ เป็น “อาเภอเกาะคา” ในปี พ.ศ. ๒๔๕๙ ต้ังอยทู่ างทศิ ใต้ของจงั หวัดลาปาง อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ ๑๕ กโิ ลเมตร ตั้งอยพู่ ิกัดที่ NA ๔๒๓๑๑๓ อาณาเขตตดิ ต่อ ทิศเหนอื ติดตอ่ อาเภอหา้ งฉตั ร จงั หวัดลาปาง ทิศใต้ ตดิ ต่อ อาเภอสบปราบ จังหวัดลาปาง ทิศตะวันตก ตดิ ตอ่ อาเภอเสรมิ งาม จงั หวดั ลาปาง ทิศตะวนั ออก ติดตอ่ อาเภอเมืองและอาเภอแม่ทะ จงั หวัดลาปาง แผนท่ีแสดงทต่ี ง้ั และเขตติดต่ออาเภอเกาะคา
๗ สว่ นที่ 2 กำรรำยงำนผลกำรดำเนินงำนตำมระบบและกลไกกำรบรหิ ำรจัดกำรคุณภำพ และมำตรฐำนกำรศกึ ษำเพือ่ กำรประกันคุณภำพ โรงเรียนเกาะคาวิทยาคมได้ดาเนินงานตามแผนการพัฒนาคุณภาพโดยมีระบบการบริหารจัดการ นวัตกรรม กระบวนการบรหิ ารและการจดั การ มีการจัดการอย่างเป็นระบบและเนน้ การทางานแบบมสี ่วนร่วม โดยใช้ Kokha Cooperation MODEL ในการขับเคลื่อน ดาเนินโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ ไปสู่เป้าหมายของ โรงเรียน บุคลากรทุกส่วน ได้แก่ผู้บริหารสถานศึกษา หัวหน้างาน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ คณะครูและ บุคลากร ใช้หลักการ Kokha Cooperation ในกำรขับเคล่ือนกำรปฏิบัติงำน โดยใช้กระบวนกำรด้วยระบบ ด้วยวงจรคณุ ภำพ PDCA ภำพ รูปแบบกำรบริหำรแบบ Kokha Cooperation Model องคป์ ระกอบท่ี 1 กำรกำหนดเปำ้ หมำยมำตรฐำนคุณภำพ ประเด็นพจิ ำรณำ 1.1 บุคลากรทุกฝ่ายของสถานศึกษาและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียร่วมกันกาหนดมาตรฐานศึกษา ของสถานศกึ ษาท่ีสอดคล้องกับมาตรฐานการศกึ ษาท่ีกระทรวงศกึ ษาธกิ ารประกาศ เป้าประสงค์ของหนว่ ยงาน ต้นสงั กดั ปรชั ญา การจดั การศึกษา และวตั ถปุ ระสงค์การจัดตั้งสถานศึกษา 1.2 สถานศึกษาระบุองค์ประกอบ ตัวชี้วัด ประเด็นการพิจารณา และเกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ทีส่ อดคลอ้ งกับบรบิ ทของสถานศกึ ษาไวใ้ นมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศึกษาอย่างครบถ้วนและชัดเจน 1.3 สถานศึกษามีการกาหนดเป้าประสงค์ด้านคุณภาพการจัดการศึกษาในระยะ 3 -5 ปี และสอดคลอ้ งกับวสิ ยั ทัศน์ พันธกจิ ค่านยิ มและความโดดเด่นเฉพาะของสถานศึกษา 1.4 สถานศึกษามีการกาหนดและทบทวนปรับเปลี่ยนเป้าหมายคุณภาพรายปีท่ีท้าทายตอ่ การพฒั นา คุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาโดยการมีส่วนรว่ มของบคุ ลากรทกุ ฝ่ายของสถานศึกษาและผู้มี ส่วนได้ส่วนเสยี
1.5 สถานศกึ ษามีการนาผลการประเมนิ คุณภาพภายใน ผลการประเมินคุณภาพภายนอกและผลการ ประเมินการจัดการศึกษาของทุกหน่วยงานที่เก่ียวข้องมาเป็นข้อมูลฐาน (Baseline data) ในการกาหนด เป้าหมายความสาเร็จของการดาเนินงานและเปา้ ประสงค์ของสถานศกึ ษา กำรดำเนินงำน ในปกี ารศกึ ษา 2564 โรงเรียนเกาะคาวทิ ยาคม กาหนดเป้าหมายมาตรฐานคณุ ภาพการจัดการศกึ ษา โดยแต่งต้ังคณะกรรมการดาเนนิ งานท่ีประกอบดว้ ยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ศึกษาวเิ คราะห์ มาตรฐานการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการประกาศใช้เป้าประสงค์การจัดการศึกษาของสานักงาน ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ก า ร ศึ ก ษ า ขั้ น พื้ น ฐ าน แ ล ะ ส า นั ก ง า น เข ต พ้ื น ที่ ก า ร ศึ ก ษ ามั ธ ย ม ศึ ก ษ า ล า ป า ง ล า พู น ปรัชญ าการศึก ษาและวัตถุประ สงค์การจั ดต้ังโรงเรียน ร่วมกั น กาหน ดมาตรฐานก ารศึกษ าข้ัน พื้ นฐาน ขอ ง โรงเรยี นและจัดทาแนวทางการประกันคุณภาพตามมาตรฐานศกึ ษาท่ีมีองค์ประกอบตามมาตรฐานการศึกษา ขั้นพื้นฐาน 21 ประเด็นพิจารณา 28 ตัวชี้วัดและเกณฑ์การตัดสินคุณภาพ 5 ระดับคือ ยอดเยี่ยม ดีเลิศ ดี ปานกลาง และกาลังพฒั นา ตามบริบทของโรงเรยี นเกาะคาวิทยาคม โรงเรียนมีการประชมุ คณะกรรมการกาหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาเพื่อสรา้ งความรูค้ วาม เข้าใจและความตระหนักในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน มาตรฐานการศึกษาระดับต่าง ๆ กระบวนการ จัดทามาตรฐานการศึกษาของสถานศกึ ษา ประโยชนข์ องมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาท่ี จะทาให้การดาเนินงานเป็นในแนวทางเดียวกัน กาหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาและเป้าหมาย ความสาเร็จ สังเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาที่ ครอบคลุมคุณภาพผู้เรียนทั้ง ๓ ด้าน และสอดคล้องกับบริบทความต้องการ เอกลักษณ์และอัตลักษณ์ สถานศึกษา เพ่ือกาหนดมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียน โดยการศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศย้อนหลัง ของโรงเรยี น มีการกาหนดเปา้ หมาย วสิ ัยทัศน์ และพนั ธกิจไว้อย่างชัดเจน สอดคล้องกบั บริบทของสถานศึกษา ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอก ชุมชนและศิษย์เก่า ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ สถานศึกษา ตวั แทนผู้ปกครอง ชมุ ชน ในการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของมาตรฐานการศึกษา ซ่ึงประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๘๐) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๖๔) แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๗๙ มาตรฐานการศึกษาของชาติ ซึ่ง ประกอบด้วย ผู้เรยี นรู้(เพอื่ สรา้ งงานและคุณภาพชวี ิตทีด่ )ี ผู้ร่วมสร้างสรรค์นวตั กรรม (เพ่ือสงั คมท่มี ่ันคง มงั่ ค่ัง ยั่งยืน) และพลเมืองที่เข้มแข็งเพ่ือสันติสุข มีค่านิยมร่วม ความเพียร ความพอเพียง วิถีประชาธิปไตย ความเท่าเทียม เสมอภาค นโยบายและจุดเน้นของเขตพ้ืนท่ีการศึกษา จังหวัดและภาค จุดเน้น บริบท ความตอ้ งการ เอกลักษณแ์ ละอตั ลกั ษณข์ องสถานศึกษา มีการกาหนดเป้าประสงค์ด้านคุณภาพการจัดการศึกษา ไว้ในแผนพัฒนาการศึกษาระยะ 4 ปี วเิ คราะห์กลยุทธ์ จัดทาแผนกลยุทธ์ วเิ คราะห์กลยทุ ธ์ จดั ทาแผนภายใตม้ ุมมอง 4 ด้าน ดา้ นประสทิ ธผิ ล ด้าน คณุ ภาพการให้บรกิ าร ดา้ นประสทิ ธิผลของการปฏิบัติงาน และดา้ นการพฒั นาองคก์ รโดยวเิ คราะห์เป้าประสงค์ ในแต่ละประเด็นกลยุทธ์ เพ่ือตอบสนองความท้าทาย และความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ โอกาสในการสร้าง นวัตกรรมทางการศึกษาของโรงเรียน แลว้ นาแผนพัฒนาการศึกษา ผลการประเมินสถานภาพโรงเรียน (SWOT Analysis) วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ กลยุทธ์มาวิเคราะห์จัดทาแผนกลยุทธ์ และกรอบประมาณการ
๙ รายจา่ ยล่วงหนา้ ระยะปานกลาง โดยผูบ้ ริหาร หวั หนา้ กลุม่ สาระการเรียนรู้ หัวหน้างานและผ้เู กีย่ วข้องประชุม พจิ ารณาประเดน็ นโยบายทางการศึกษา และรายงานผลการดาเนนิ งานพร้อมขอ้ เสนอแนะของปที ี่ผา่ นมา เป็น ข้อมูลในการจัดทาแผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณของโรงเรียนและกาหนดปฏิทินการดาเนินงานของ โรงเรียนโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ของโรงเรียนก่อนนาไปสู่การปฏิบัติ โรงเรียนคานึงถึงการปฏิบัติงานตามโครงสร้างบริหารงานของโรงเรียนในการนากลยุทธ์สู่การปฏิบัติโดยยึด หลกั การมสี ว่ นร่วม มีการจัดทาแผนปฏิบัตกิ ารประจาปงี บประมาณ การกาหนดโครงการกิจกรรมแผนปฏิบัติการมาจากการมีส่วนร่วมของบุคลากรในกลุ่มงาน และกลุ่ม สาระการเรียนรู้ของโรงเรียน โดยใช้ระบบวงจรคณุ ภาพ Deming Cycle (PDCA) ในการปฏิบตั ิงานเริม่ จากการ วางแผน (Plan) การดาเนินงาน การลงมือปฏิบัติตามข้ันตอนของกิจกรรม (Do) การติดตามผลการ ปฏิบัติงานในแต่ละขั้นตอน จนสาเร็จ (Check) การประเมินผลและนาผลประเมินมาวิเคราะห์ เพื่อติดตาม ผลการปฏิบัติงานในแต่ละขั้นตอน รวมท้ังผลลัพธ์สุดท้ายว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่ (Action) การ ปรบั ปรงุ แก้ไขดาเนินการให้เหมาะสมตามผลการประเมิน หากผลทอี่ อกมาดี ก็นามาเป็นมาตรฐานเพ่อื เป็นแนว ปฏิบัติงานในครั้งต่อๆไปให้ดีขึ้น ผู้รับผิดชอบโครงการ กิจกรรม จะประเมินผลสาเร็จเม่ือเสร็จสิ้นโครงการ กิจกรรมทุกภาคเรียน งานแผนงานจะรวบรวมผลการประเมินต่างๆเป็นข้อมูลป้อนกลับ ใช้ในการทบทวน จัดทาแผนปฏิบัติการปีต่อไป โดยกลุ่มบริหารงบประมาณมีหน้าที่กากับติดตาม การปฏิบัติงานและการใช้ งบประมาณ ตามแผนปฏิบัติการประจาปี และปฏิทินโรงเรียนผู้รับผิดชอบโครงการจะบันทึกการขอใช้ งบประมาณ ในแบบสรุปการขอใช้งบประมาณ ท่ีงานแผนงานทุกครั้ง งานพัสดุดาเนินการจัดซื้อจัดจ้างท่ีผ่าน การอนุมัติตามลาดับ เมื่อดาเนินโครงการเสร็จส้ินแล้ว ผู้รับผิดชอบโครงการสรุปรายงานผลการปฏิบัติงานส่ง งานแผนงาน และงานประกันคุณภาพการศึกษาจะรวบรวมข้อมูล จัดทารายงานผลการดาเนินงานประจาปี ของสถานศกึ ษา (SAR) เมือ่ สิน้ ปีการศกึ ษา ในการประเมินผลการดาเนินการ กลุ่มบริหารงบประมาณมีหน้าที่ทบทวนผลการดาเนินงานปีละ 2 ครั้ง โดยใช้ผลการดาเนินงานเปรียบเทียบกับตัวช้ีวัดที่ระบุ ไว้ในเป้าหมายเชิงปริมาณ และคุณภาพความ คุ้มค่ากับงบประมาณและเวลา ตรงตามวัตถุประสงค์ และสรุปผลเป็นรายงานประประจาปีของสถานศึกษา (SAR) เมื่อส้ินปีการศึกษา ผู้รับผิดชอบโครงการและหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องมีหน้าท่ีพิจารณาแนวโน้ม และ เปรียบเทียบ ที่บ่งบอกถึงระดับความสาเร็จและความล้มเหลว โดยการวิเคราะห์ถึงสาเหตุและปัจจัยของ ความสาเร็จ และความลม้ เหลวเพื่อนาไปพิจารณาปรับปรุงแผนหรือการนาไปจัดทาแผนปฏิบัติการในปีต่อไป และโรงเรยี นประชุมคณะกรรมการบรหิ ารโรงเรยี น หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณะกรรมการดาเนินงานตาม คาส่ังโรงเรียน เพ่ือปรึกษาหารือเพื่อแสดงความคิดเห็น จัดนิเทศทางการศึกษา ซ่ึงมีการส่ือสารแลกเปลี่ยน เรียนรู้ ด้านแนวทางการปฏิบัติ กรณีศึกษาของโรงเรยี นชั้นนา ด้านวิชาการ และกระบวนการจัดการ รวมท้ัง การสนับสนุนให้บุคลากรเข้ารับการอบรม สัมมนากับหน่วยงานภายนอก เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ประสบการณ์ และเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างบุคลากร เมอ่ื ส้ินปีการศึกษาโรงเรียนจัดแสดงผลการปฏิบัติงานของครู ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อให้ครไู ด้เกิดการแลกเปลี่ยนเรยี นรู้สามารถเลือกวิธปี ฏิบัติ ท่ีเป็นเลศิ ไปปรับใช้ใน การจัดการเรียนการสอนของตนตอ่ ไป
โดยคณะกรรมการท่ีโรงเรยี นแตง่ ต้ัง ศึกษาวเิ คราะห์ข้อมลู ผลการดาเนินงานตามแผน กลยทุ ธ์ ผลการ ดาเนนิ งานตามมาตรฐานการศึกษา ผลการประเมินภายใน และผลการประเมินคุณภาพภายนอกปีท่ผี า่ นมา ใช้ เป็นข้อมูลฐาน (Baseline data) พิจารณาเปรียบเทียบค่าเป้าหมายในแผนกลยุทธ์ระยะ 4 ปี ของการ กาหนดค่าเป้าหมายในแผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณและค่าเป้าหมาย มาตรฐานการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ของโรงเรยี น นาสู่การปฏิบตั ิ องค์ประกอบที่ 2 กำรขับเคลือ่ นคณุ ภำพสมู่ ำตรฐำน ประเดน็ พจิ ารณา 2.1 ผู้บริหารสถานศึกษาเปน็ ผูน้ าการขบั เคลื่อนคุณภาพ และสอื่ สาร สรา้ งความตระหนกั ให้ บุคลากร มคี วามรู้ ความเข้าใจในกระบวนการขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาและเป้าประสงค์ท่ีกาหนดไว้อยา่ งท่ัวถึงและ ตอ่ เน่อื ง 2.2 สถานศึกษาออกแบบระบบการบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาสู่มาตรฐานการศึกษาท่ี กาหนดไว้ โดยครอบคลุมภาระงาน บทบาทหน้าที่ และสอดคล้องกับสภาพการเปล่ียนแปลง โดยการมีส่วน รว่ มของบุคลากร ทเี่ กย่ี วขอ้ งทกุ ฝ่ายและผูม้ ีสว่ นได้สว่ นเสีย 2.3 สถานศึกษาจัดทาแผนพัฒนาการจัดการศึกษาเพ่ือสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษาและบรรลุตามเปา้ ประสงค์ทีก่ าหนดไว้ 2.4 สถานศึกษาจัดทาแผนปฏิบัติการประจาปีเพื่อบรรลุตามเป้าหมายรายปี โดยจัดสรร ทรัพยากร เพ่ือสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพ และมีปฏิทินการขับเคลื่อนคุณภาพตามแผนงานในรอบปีท่ีชัดเจนและ ปฏบิ ัตไิ ด้ 2.5 ผู้บริหารสถานศึกษาสนับสนุนผู้รับผิดชอบดาเนินงานตามแผนปฏิบัติการประจาปี และกากับ ตดิ ตาม ตรวจสอบ และนิเทศงานอยา่ งสม่าเสมอตามปฏทิ ินการขับเคลอ่ื นคุณภาพ 2.6 สถานศึกษากาหนดการรายงานความก้าวหน้าของดาเนินงานเป็นระยะๆ อย่างต่อเน่ือง และใช้ กระบวนการ ชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ (PLC) ในการปรับปรุงพัฒนางานพัฒนาบุคลากร และให้ความ ชว่ ยเหลือ 2.7 สถานศึกษามีการศึกษารปู แบบการขับเคลือ่ นคุณภาพและใชน้ วตั กรรมเพ่ือเพมิ่ ประสิทธิภาพการ ปฏบิ ตั ิงานอยา่ งต่อเนอื่ ง กำรดำเนินงำน 2.1 ผู้บริหำรสถำนศึกษำเป็นผู้นำกำรขับเคล่ือนคุณภำพและส่ือสำรสร้ำงควำมตระหนักให้ บุคลำกรมีควำมรู้ควำมเข้ำใจในกระบวนกำรขับเคลื่อนคุณภำพกำรศึกษำและเป้ำประสงค์ที่กำหนดไว้ อย่ำงท่วั ถึงและต่อเนื่อง การขับเคล่ือนคุณภาพและสื่อสารสร้างความตระหนักให้บุคลลากรโดยใช้กระบวนการสร้าง ชมุ ชนแห่งการเรียนรทู้ างวิชาชพี อยา่ งสมา่ เสมอและต่อเน่ือง มีแนวทางการดาเนินงาน ดงั น้ี 1. แต่งต้ังคณะกรรมการขับเคลื่อนกระบวนการ PLC โรงเรียนเกาะคาวิทยาคม ได้แต่งตั้งคณะกรรมการ ดาเนินงาน PLC ในภาพรวมของโรงเรียน และแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ เพ่ือให้ดาเนินการสร้างชุมชนการ เรียนรู้ทางวิชาชีพร่วมกันในทุกส่วนตามโครงสร้างของโรงเรียน และเพื่อให้ความรู้ในการพัฒนาคุณภาพ การศึกษาอยา่ งชดั เจนร่วมกัน
๑๑ 2. กาหนดแผนงานการขับเคล่ือนกระบวนการ PLC โรงเรียนเกาะคาวิทยาคม ได้กาหนด แผนการขับเคลื่อนกระบวนการ PLC บูรณาการกับคู่มือชุมชนแห่งการเรียนรู้ของสานักงานคณะกรรมการ การศึกษาข้ันพื้นฐาน เป็นแผนการดาเนินงานบูรณาการในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและการ ดาเนนิ งานตามโครงการนโยบายของหน่วยงานต้นสงั กัด 3. การขบั เคล่อื นกระบวนการ PLCส่กู ารปฏิบตั ิ การขับเคลอื่ นกระบวนการ PLC สกู่ ารลง มือปฏิบัติ โดยใช้แนวทาง PLC ของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน เพ่ือให้การแก้ไขสภาพ ปญั หาและข้อค้นพบประสบความสาเร็จบรรลตุ ามเปา้ หมาย 4. กากับ ตดิ ตามนิเทศ และประเมนิ ผลการดาเนนิ การตามกระบวนการ PLC ของสถานศกึ ษา ภำพ คาส่งั แตง่ ตัง้ คณะกรรมการขบั เคลอ่ื นชุมชนแหง่ การเรยี นร้(ู PLC) 2.2 สถำนศกึ ษำออกแบบระบบกำรบริหำรจดั กำรคณุ ภำพของสถำนศึกษำส่มู ำตรฐำนกำรศึกษำที่ กำหนดไว้โดยครอบคลุมภำระงำนบทบำทหน้ำที่และสอดคล้องกับสภำพกำรเปลี่ยนแปลงโดยกำรมีส่วน รว่ มของบคุ ลำกรทเี่ กี่ยวขอ้ งทกุ ฝ่ำยและผมู้ สี ่วนได้สว่ นเสยี โร ง เรี ย น ด าเนิ น ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร ศึ ก ษ า โด ย ใช้ ห ลั ก ธ ร ร ม า ภิ บ า ล แ ล ะ ใช้ โ ร ง เรี ย น เป็ น ฐ า น (School-Based Management : SBM) กาหนดโครงสร้างบริหารงานเป็น 4 กลุ่มคือ กลุ่มบริหารวิชาการ กลุ่มบริหารงบประมาณ กลุ่มบริหารงานบุคคลและกลุ่มบริหารทั่วไป วางแผนจัดการศึกษาดาเนินการ วเิ คราะหส์ ภาพปัญหาบรบิ ทของโรงเรยี นจากการมสี ว่ นร่วมของผู้เกยี่ วข้องทุกฝ่าย ไดแ้ ก่ กรรมการสถานศึกษา ข้ันพ้ืนฐาน ศิษย์เก่า ผู้ปกครอง ผู้แทนครู และฝ่ายบริการของโรงเรียนประชุมร่วมกันวิเคราะห์สภาพปัจจัย ภายในและปัจจัยภายนอก โดยใช้เทคนิค SWOT (SWOT Analysis) กาหนดวิสัยทัศน์พันธกิจ เป้าประสงค์
เชงิ กลยุทธ์ โดยใชแ้ นวคดิ ในการกาหนดวัตถปุ ระสงค์ เชิงกลยทุ ธ์ แผนงาน โครงการ/กจิ กรรม ใหส้ อดคลอ้ งกับ นโยบายรฐั บาล นโยบายตน้ สังกัด ชุมชน และทอ้ งถน่ิ ภำพ การประชุมคณะกรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน คณะกรรมการเครือข่ายผูป้ กครอง 2.3 สถำนศึกษำจัดทำแผนพัฒนำกำรจัดกำรศึกษำเพื่อสนับสนุนกำรพัฒนำคุณภำพตำม มำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศึกษำและบรรลตุ ำมเป้ำประสงคท์ ีก่ ำหนดไว้ โรงเรียนจัดทาแผนพฒั นาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน ระยะ 4 ปี แผนปฏิบัติการประจาปีและนา ผลการประเมนิ ไปใชพ้ ัฒนาโรงเรยี น โดยมขี ั้นตอน กระบวนดงั นี้ ขั้นตอนกำรจัดทำแผนยทุ ธศำสตร์โดยกำรมสี ่วนร่วมของผู้มสี ่วนได้สว่ นเสียต่อสถำนศกึ ษำ ขั้นตอน กจิ กรรม ผ้เู ข้ำรว่ มกจิ กรรม 1 เตรียมงานโดยหน่วยงานทร่ี บั ผดิ ชอบดา้ นการจัดทาแผนของสถานศึกษา ผูร้ ับผดิ ชอบในการจดั ทา 1.1 ร่างรายช่ือคณะทางานรว่ มระหว่างผ้บู ริหารสถานศกึ ษาและตวั ของครู แผนของสถานศกึ ษา ใน สถานศกึ ษา (Internal Stakeholders)เพอ่ื เสนอขอความเห็นชอบจาก ผ้บู รหิ าร 1.2 รา่ งรายชอ่ื ผู้มสี ่วนไดส้ ่วนเสียจากภายนอก ประกอบดว้ ย ผมู้ ีส่วนได้ ส่วนเสยี โดยตรงในการรบั บริการ (Marketplace Stakeholders) และผู้มี สว่ นไดส้ ่วนเสียในสังคมแต่อยู่นอกหนว่ ยงาน (External Stakeholders) เพือ่ เสนอขอความเหน็ ชอบจากผบู้ ริหาร 1.3 รวบรวมนโยบายทเ่ี ก่ยี วข้องกบั การศกึ ษา และหนว่ ยงานตน้ สังกัดทกุ ระดบั 1.4 รวบรวมขอ้ มูลเชิงปริมาณจากรายงานสถติ ทิ ี่เกยี่ วกับการวิเคราะห์ สภาพแวดลอ้ มภายในและสภาพแวดล้อมภายนอกของสถานศกึ ษา
๑๓ ข้ันตอน กิจกรรม ผู้เข้ำรว่ มกจิ กรรม 1.5 รวบรวมขอ้ มูลเชงิ คณุ ภาพจากเอกสารทเี่ กี่ยวข้องกบั การวเิ คราะห์ สภาพแวดล้อมภายในและสภาพแวดล้อมภายนอกของสถานศึกษา 2 ประชุมเชงิ ปฏิบตั ิการเพื่อวเิ คราะห์สภาพแวดล้อม (SWOT Analysis) คณะทางาน และครูใน 2.1 วเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ มภายนอก สถานศกึ ษา 2.2 วเิ คราะห์สภาพแวดลอ้ มภายใน 2.3 ประเมินสถานภาพของสถานศึกษาจากผลการวิเคราะห์ สภาพแวดลอ้ ม 3 ประชมุ คณะทางานเพอื่ จัดทารา่ งทิศทางการจดั การศกึ ษาของสถานศึกษา คณะทางาน 3.1 จัดทารา่ งวิสัยทศั น์ พันธกิจ ประเด็นยุทธศาสตรห์ ลัก 3.2 จดั ทารา่ งเป้าประสงค์ภายใต้ประเด็นยุทธศาสตร์ 3.3 ประชมุ คณะทางานเพ่อื จดั ทาร่างกรอบการวดั ผลและกลยุทธ์ คณะทางาน 4 4.1 จดั ทารา่ งตัวชว้ี ัด ค่าเป้าหมายภายใตเ้ ป้าประสงค์ คณะทางาน 4.2 จดั ทาร่างกลยุทธ์ในแต่ละเป้าประสงค์ คณะทางาน 4.3 ประชมุ คณะทางานเพื่อจดั ทาร่างแผนปฏบิ ตั ิการระยะ 4 ปี 5 5.1 วเิ คราะห์โครงการเพือ่ บรรจุในแผนปฏิบัตกิ าร ระยะ 4 ปี คณะทางาน 5.2 จดั ทารายละเอยี ดโครงการเพ่ือบรรจใุ นแผนปฏบิ ตั ิการ ระยะ 4 ปี ผู้ มี ส่ ว น ได้ ส่ ว น เสี ย 3 5.3 ประชมุ เชงิ ปฏิบัติการเพอ่ื ให้ข้อคดิ เห็นในการจดั วางทิศทางการจัด ประเภท การศกึ ษา การกาหนดกลยุทธ์ และโครงการ โดยผ้มู ีสว่ นได้สว่ นเสียภายใน หนว่ ยงาน (Internal Stakeholders) ผ้มู สี ่วนได้ส่วนเสียโดยตรงในการรบั บริการ (Marketplace Stakeholders) และผู้มสี ่วนไดส้ ว่ นเสยี ในสังคมแต่ อยูน่ อก หนว่ ยงาน (External Stakeholders)
ข้นั ตอน กจิ กรรม ผู้เข้ำร่วมกิจกรรม ผู้ มี ส่ ว น ได้ ส่ ว น เสี ย 3 6 6.1 ใหข้ ้อคิดเห็นในการวเิ คราะห์สภาพแวดล้อมและการประเมิน ประเภท สถานภาพของหน่วยงาน คณะทางาน 6.2 ให้ข้อคิดเหน็ ในรา่ งทิศทางการจัดการศึกษา(วสิ ัยทศั น์ พนั ธกจิ คณะทางาน ประเด็น ยุทธศาสตร์หลกั เป้าประสงค์ ตัวช้วี ดั กลยุทธ์ และโครงการ) ผู้รับผดิ ชอบนโยบาย 6.3 ประชมุ คณะทางานเพื่อจดั ทารา่ งเอกสารแผนก่อนนาเสนอ ผูร้ บั ผิดชอบนโยบาย คณะกรรมการ สถานศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน ใหค้ วามเห็นชอบ 7 7.1 รวบรวมข้อมูลจากการวเิ คราะห์ จัดทาเปน็ เอกสารแผนพฒั นา การศกึ ษา ขนั้ พ้ืนฐาน 7.2 นาเสนอรา่ งแผนของความเห็นชอบผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา 7.3 การเสนอของความเห็นชอบและเผยแพรแ่ ผนตอ่ สาธารณะ 8 8.1 เสนอแผนของความเหน็ ชอบคณะกรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน และแผน 8.2 จดั พิมพ์แผนแจกจ่ายผ้มู สี ่วนเก่ยี วข้อง 8.3 เผยแพร่บน Website เพื่อให้ประชาชนและผสู้ นใจสามารถให้ ขอ้ คิดเหน็ เพมิ่ เตมิ ภำพ ประชมุ จดั ทาแผนพัฒนาการศึกษา
๑๕ ภำพ แสดงเอกสารแผนพฒั นาการจดั การศึกษา ระยะ 4 ปี (2564-2567) 2.4 สถำนศกึ ษำจดั ทำแผนปฏบิ ตั ิกำรประจำปเี พื่อบรรลุตำมเป้ำหมำยรำยปโี ดยจัดสรรทรัพยำกร เพื่อสนับสนุนกำรพัฒนำคุณภำพและมีปฏิทินกำรขับเคลื่อนคุณภำพตำมแผนงำนในรอบปีที่ชัดเจนและ ปฏิบัตไิ ด้ โรงเรียนขับเคล่ือนแผนปฏิบัติการประจาปีของโรงเรียน โดยใช้ระบบวงจรคุณภาพ PDCA ในการ ปฏิบัติงาน ทุกฝ่ายกลมุ่ งานมีหน้าท่ีกากับติดตาม การดาเนินงานให้เป็นไปตามปฏิทินโรงเรียน ซ่ึงกาหนดจาก แผนปฏิบัติการประจาปีของกลุ่มงานตน ผู้รับผิดชอบโครงการมีหน้าท่ีสรุปรายงานผลการดาเนินงาน เม่ือ ดาเนินโครงการกิจกรรมเสร็จสน้ิ ส่งให้หัวหน้างานแผนงานเพื่อรวบรวมเป็นข้อมูลย้อนกลับใช้ในการทบทวน จดั ทาแผนปฏิบตั กิ ารในปตี อ่ ไป ภำพ ประชุมจดั ทาแผนพัฒนาการศึกษา
2.5 ผบู้ รหิ ำรสถำนศกึ ษำสนับสนุนผ้รู ับผิดชอบดำเนินงำนตำมแผนปฏิบัติกำรประจำปแี ละกำกับ ติดตำมตรวจสอบและนิเทศงำนอยำ่ งสมำ่ เสมอตำมปฏิทินกำรขบั เคลอื่ นคณุ ภำพ ผู้บริหารส่งเสริมและสนับสนุนผู้รับผิดชอบดาเนินงานตามแผนปฏิบัติการประจาปี โดยการ รว่ มกนั จัดแนวทางการดาเนินงานใหเ้ ปน็ ไปตามโครงสรา้ งการบริหารงานของโรงเรยี น มอบหมายหัวหน้ากลุ่ม บริหารงานโรงเรียนเป็นผู้กากับ นิเทศติดตาม พร้อมกับผู้บริหารหรือเป็นการนิเทศ กากับ ติดตามโดยคณะ ดาเนินงาน เพ่ือเป็นการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้แห่งวิชาชีพให้เกิดในโรงเรียนอย่างหลากหลาย ในการ ดาเนินงานโครงการตามแผนปฏบิ ตั กิ ารประจาปี มขี ัน้ ตอน ดงั น้ี ๑.จดั ทาปฏิทินการนเิ ทศงานตามกลุ่มงานบรหิ าร ๒.ทาบนั ทึกขออนุมัตโิ ครงการผ่านหัวหน้ากลุ่มบริหารงาน หัวหน้างาน หัวหน้าแผนงาน หัวหน้าการ งาน เพื่อเป็นการติดตาม ตรวจสอบโครงการอยา่ งมสี ว่ นร่วม ๓.งานแผนงาน นาบันทกึ ขอดาเนนิ การโครงการมอบงานพสั ดุดาเนนิ งานตามระเบียบฯ ๔.ดาเนนิ งานตามโครงการ ๕.รายงานผลการดาเนินงานตามแบบฟอรม์ ทโ่ี รงเรยี นกาหนด ภำพ แสดงการดาเนนิ การตามแผนบริหารงบประมาณสูก่ ารปฏบิ ัติในโรงเรียน ภำพ แสดงปฏิทินปฏิบัตงิ านรายเดอื นตามแผนปฏบิ ัตกิ ารประจาปงี บประมาณ
๑๗ 2.6 สถำนศึกษำกำหนดกำรรำยงำนควำมก้ำวหนำ้ ของดำเนินงำนเป็นระยะ ๆ อย่ำงต่อเน่ืองและ ใช้กระบวนกำรชมุ ชนแห่งกำรเรียนรู้เชิงวิชำชีพ (PLC) ในกำรปรับปรุงพัฒนำงำนพัฒนำบุคลำกรและให้ ควำมชว่ ยเหลอื โรงเรียนมีการกาหนดการรายงานความก้าวหน้าของการดาเนินงานออกเป็น ๓ ระยะ เพ่ือศึกษา สภาพ บรบิ ท แนวทางการดาเนินงาน การสรา้ งความเขา้ ใจในกระบวนการดาเนินงานโดยการใช้ชมุ ชนแห่งการ เรียนรทู้ างวิชาชีพ (PLC) เป็นกระบวนการหลักในการดาเนินงานทกุ ระยะ 2.7 สถำนศกึ ษำมีกำรศึกษำรูปแบบกำรขบั เคล่ือนคุณภำพและใช้นวัตกรรมเพ่ือเพิม่ ประสทิ ธภิ ำพ กำรปฏิบตั งิ ำนอย่ำงต่อเน่ือง โรงเรียน มีก ารน ารูปแบบก ารขับเคล่ือน คุณภาพ และ การใช้น วั ตกร รมการ บริหารเป็น แนว ทางการ ดาเนินงานในโรงเรียนทุกกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เป็นแนวทางเดียวกัน โดยใช้รูปแบบการพัฒนาเชิงกลยุทธ์ ของ Kokha Cooperation MODEL ในการขับเคล่ือน ดาเนินโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ ไปสู่เป้าหมายของ โรงเรียน บุคลากรทุกส่วน ได้แก่ผู้บริหารสถานศึกษา หัวหน้างาน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ คณะครูและ บุคลากร ด้วยระบบวงจรคุณภาพ PDCA รวมถึงโรงเรียนยังใช้รูปแบบนวัตกรรมด้วย 3X2ช เพ่ือพัฒนาส่ือ นวตั กรรมอย่างตอ่ เน่อื ง 3X2ช MODEL
องค์ประกอบที่ 3 กำรประเมินควำมสำเรจ็ ตำมมำตรฐำน ประเดน็ พิจำรณำ 3.1 สถานศกึ ษามีระบบและกลไกในการประเมินคุณภาพภายในทีส่ อดคลอ้ งตามบริบทของ สถานศึกษา และเปน็ ไปตามกฎกระทรวงท่กี าหนดไว้ 3.2 สถานศกึ ษามีคณะกรรมการทป่ี ระกอบดว้ ยผู้มสี ่วนร่วมเก่ยี วขอ้ งทุกฝา่ ยและผ้ทู รงคุณวุฒิจาก ภายนอกและใชเ้ ครอื่ งมอื วธิ กี ารที่หลากหลาย และเหมาะสมตามบริบทเพ่ือประเมินคุณภาพภายใน สถานศกึ ษา 3.3 สถานศกึ ษามีการตดิ ตาม ตรวจสอบคณุ ภาพและมาตรฐาน เปน็ ระยะๆ 3.4 สถานศกึ ษามีสารสนเทศและผลการประเมนิ ตนเองทีต่ รงตามสภาพจริงและเชอ่ื ถือได้ 3.5 สถานศกึ ษาจดั ทารายงานผลการประเมินเพื่อสอื่ สารแก่ผู้ทเี่ กี่ยวขอ้ งทุกฝ่าย 3.6 สถานศึกษานาสารสนเทศจากการประเมิน และศกึ ษาแนวคิด วธิ กี ารปฏิบัตทิ ด่ี ี เพ่ือปรบั ปรงุ พัฒนา ระบบงานอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง กำรดำเนินงำน โรงเรยี นดาเนนิ การตามระบบประกนั คณุ ภาพในภายในสถนศกึ ษาดงั น้ี
๑๙ โรงเรียนมีแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาท่ีผ่านกระบวนการวิเคราะห์สภาพแวดล้อม ภายในและ ภายนอกสถานศึกษา ทาให้ทราบจุดเด่น จุดด้อย โอกาส และอุปสรรคของโรงเรียน จึงได้กาหนด เป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจไว้อย่างชัดเจน สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ความต้องการของชุมชน ท้องถ่ิน โดยให้ผ้มู ีส่วนเกี่ยวข้องกับทางโรงเรียนมีส่วนในการวางแผนบริหารจัดการศึกษา โรงเรียนดาเนินการ พัฒนา คุณภาพการศึกษาตามโครงการที่กาหนดไว้ในแผนพฒั นาคุณภาพการศึกษา การนาแผนไปปฏิบัติเพอ่ื พัฒนา คุณภาพการศึกษามีการตรวจสอบประเมินผลและปรับปรุงพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง มีระบบนิเทศ ภายใน มี การนาข้อมูลมาใช้ในการพัฒนาบุคลากรและผู้ท่ีเก่ียวข้องทุกฝ่าย มีส่วนร่วมในการวางแผน ปรับปรุง และ พัฒนา ตลอดจนการร่วมรบั ผดิ ชอบตอ่ ผลการจัดการศึกษา โรงเรยี นจัดสภาพแวดลอ้ มในโรงเรียนให้ เหมาะสม กับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เช่น พัฒนาห้องปฏิบัติการเรียนรู้ โดยนาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ให้ เหมาะสมกับ กระบวนการเรยี นรู้ในยุคปจั จุบนั ในสว่ นของการพัฒนาครูและบุคลากรในสถานศึกษา โรงเรยี นมี การส่งเสริม และสนับสนุนครูและบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถ มีคุณธรรม จริยธรรม เพ่ือให้สามารถ ปฏิบัติงานใน หนา้ ที่ไดอ้ ยา่ งเต็มศักยภาพ โรงเรียนได้มีการจดั อบรมการใชแ้ ละพัฒนาสงิ่ ในการจัดการเรียนการ สอนในเวลา ตอนเย็นทุก ๆ วันอังคาร เพ่ือให้การจัดการเรียนการสอนของครูผู้สอนสามารถปรับให้ทันและ เหมาะสมกับ สถานการณป์ ัจจบุ นั องคป์ ระกอบท่ี 4 กำรนำกำรเปล่ยี นแปลงสู่สถำนศกึ ษำและกำรสรำ้ งคณุ ค่ำแกว่ งวชิ ำกำร ประเด็นพจิ ารณา 4.1 ระบบประกนั คุณภำพภำยในมีประสทิ ธิผล ก่อใหเ้ กิดกำรพฒั นำด้ำนคุณภำพผู้เรียนอยำ่ งเปน็ รปู ธรรม ในระยะ 3 ปี ที่สะท้อนกำรพฒั นำสูงขน้ึ อยำ่ งตอ่ เนอ่ื ง พิจำรณำจำก 4.1.1 ผลสมั ฤทธิ์ทางวิชาการของผเู้ รยี น 1) มคี วามสามารถในการอ่าน การเขยี น การสอื่ สาร และการคดิ คานวณ
2) มคี วามสามารถในการคิดวเิ คราะห์ คิดอยา่ งมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปล่ยี นความคดิ เห็น และ แก้ปัญหา 3) มีความสามารถในการสร้างนวตั กรรม
๒๑ 4) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร 5) มผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นตามหลักสูตรสถานศึกษา
6) มีความรู้ ทกั ษะพนื้ ฐาน และเจตคติทด่ี ตี ่องานอาชพี โรงเรียนเกาะคาวิทยาคมมกี ารดาเนินกิจกรรมสง่ เสรมิ และยกระดบั ผลสัมฤทธิท์ างวชิ าการของผู้เรยี น ในแตล่ ะระดับช้นั โรงเรยี นจัดการเรียนรู้ตามหลกั สตู รสถานศึกษา และหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน ครผู ู้สอนจัดการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเปน็ สาคญั พัฒนาการความสามารถของนักเรียนเป็นรายบคุ คล การ ใช้เทคนิคการสอนท่ีหลากหลาย เน้นกระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในช้ันเรียน การจัดทาสื่อนวัตกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียนแบบ สถานการณ์จาลอง บทบาทสมมติ การเรยี นรู้แบบรว่ มมอื เน้นกระบวนการกล่มุ การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง การถามตอบ ความคิดรวบยอด มีการใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น เทคนิคกลุ่มสืบค้น (GI : Group Investigation) เทคนิคการเรียนร่วมกัน (Learning Together) เทคนิคร่วมกันคิด (Number Heads Together) มาจัดการ เรยี นรู้ เพื่อพัฒนาทักษะการคดิ ทักษะการแก้ปัญหา ทกั ษะการเรียนรู้ และทักษะกระบวนการกล่มุ ผเู้ รียนได้ ฝกึ ทักษะกระบวนการคิด วิเคราะห์ และอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ตลอดจนหาแนวทางแก้ปัญหาใน การทางาน เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถใช้เทคโนโลยีในการออกแบบช้ินงาน ปฏิบัติงาน และสืบค้นข้อมูลจาก อนิ เทอร์เน็ตได้ โรงเรียนมีการดาเนินการจดั การเรยี นการสอนออนไลน์ในทกุ รายวชิ าผ่านระบบ Zoom และ ช่องทาง Google Classroom กระตุ้นผู้เรียนให้เกิดความต้องการเรียนรู้ ท้ังในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ซึ่ง เป็นการส่งเสริมให้ครูผู้สอนและผู้เรียนได้ใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้โรงเรียนมีการ สง่ เสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้านทักษะอาชพี ในหลกั สูตรวชิ าชีพระยะสนั้ โดยการเรียนร้กู ับเครือข่ายนกั เรียนได้ ไปศกึ ษานอกสถานที่ มกี ารเชญิ วทิ ยากรท่ีเช่ยี วชาญท้ังภายในและภายนอกมาใหค้ วามรู้
๒๓ 4.1.2 คณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ของผู้เรียน 1) มคี ณุ ลกั ษณะและค่านิยมทีด่ ตี ามท่สี ถานศึกษากาหนด 2) ความภมู ใิ จในท้องถ่นิ และความเปน็ ไทย
3) การยอมรับที่จะอยู่ร่วมกนั บนความแตกต่างและหลากหลาย ผู้เรยี นยอมรับและอยู่รว่ มกนั บนความ แตกตา่ งระหวา่ งบคุ คลในด้านเพศ วัย เชือ้ ชาติ ศาสนา ภาษา วฒั นธรรม ประเพณี 4) สุขภาวะทางรา่ งกาย และจติ สังคม ผูเ้ รยี นมกี ารรักษาสุขภาพกาย สขุ ภาพจิต อารมณ์ และสงั คม แสดงออกอย่างเหมาะสมในแต่ละชว่ งวยั สามารถอยูร่ ่วมกนั กับคนอื่นอย่างมคี วามสุข เข้าใจผอู้ ื่น ไม่มคี วาม ขัดแยง้ กบั ผ้อู ืน่
๒๕ โรงเรียนเกาะคาวิทยาคมดาเนินงานด้านการส่งเสริมคุณลักษณะและค่านิยมที่ดี ตามท่ีสถานศึกษา กาหนดอย่างเป็นระบบ มกี ิจกรรมส่งเสริมทักษะชีวิตให้กับนกั เรียนผ่านการเรยี นรู้ท้งั กิจกรรมชุมนุม กจิ กรรม ลดเวลาเรียนเพ่ิมเวลารู้ กิจกรรมลูกเสือเนตรนารี กิจกรรมบาเพ็ญประโยชน์ และกิจกรรมการเรียนรู้ในและ นอกห้องเรียน โครงการและกิจกรรมที่ได้ดาเนินการส่งเสริมให้นักเรียนมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามท่ี สถานศึกษากาหนด ตลอดปีการศึกษา นอกจากนี้ยังส่งเสรมิ ให้ผ้เู รียนมีสขุ ภาวะทางร่างกายและจิตใจท่ีดี โดย จัดกิจกรรมทดสอบสมรรถภาพทางกายของผู้เรยี น โครงการกีฬาสีภายใน มีการจดั กิจกรรมค่ายพุทธบตุ รและ ค่ายคุณธรรมให้กับนักเรียนใหม่ทุกปีการศึกษา เพื่อให้นักเรียนได้มีทักษะชีวิตในการอยู่ในสังคม ชุมชน โรงเรียนได้ด้วยความสุข และการยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย มีความภูมิใจใน ทอ้ งถน่ิ และความเปน็ ไทย 4.2 ระบบประกันคณุ ภำพภำยในมีประสิทธผิ ล กอ่ ให้เกิดกำรพัฒนำดำ้ นกระบวนกำรบริหำรและ กำรจดั กำร 4.2.1 มเี ปา้ หมาย วิสยั ทัศน์ และพันธกจิ ทสี่ ถานศกึ ษากาหนดชัดเจน โรงเรียนมีเป้าหมาย วิสัยทัศน์และพันธกิจที่สถานศึกษากาหนดชัดเจนสอดคล้องกับบริบทของ สถานศึกษา ความตอ้ งการของชุมชน นโยบายรฐั บาล แผนการศึกษาแหง่ ชาตทิ นั ตอ่ การเปลยี่ นแปลงของสงั คม สรปุ ผลกำรวิเครำะหส์ ภำพแวดลอ้ มภำยนอกและภำยในของสถำนศกึ ษำ 4.2.2 มีระบบบรหิ ารจดั การคุณภาพของสถานศึกษา โรงเรียนมีกระบวนการบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา มีการจัดการอยา่ งเป็นระบบและเน้น การทางานแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบการพัฒนานวัตกรด้วย 3x2ช และใช้โมเดล 3S5R Kokha Cooperation Model ในการดาเนนิ โครงการ/กจิ กรรมต่าง ๆ ในโรงเรียน มีการสร้างภาคีเครือข่ายรว่ มพัฒนา การศกึ ษาทัง้ ในระดบั ทอ้ งถน่ิ ระดับสานักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษา
รูปแบบกำรบริหำรแบบ Kokha Cooperation Model โดยใชก้ ำรทำงำนอยำ่ งเปน็ ระบบดว้ ยวงจรคุณภำพ PDCA P (Plan) คือ การวางแผนจากวัตถุประสงค์ หรอื เปา้ หมายทวี่ างไว้ โดยวางแผนทัง้ ขั้นตอนวิธีการดาเนนิ การ เวลาทใ่ี ช้ ทรพั ยากรต่างๆเช่น คน ส่ิงของ ผลลพั ธ์ทตี่ ้องการ และงบประมาณต่างๆ D (Do) คอื การปฏิบัติตามแผน โดยทาความเขา้ ใจ กระจายงานไปให้แตล่ ะทมี หรอื บุคคลากรในทีม แล้ว ลงมอื ทาตามแผนให้ได้ผลลัพธห์ รอื เปา้ หมายที่วางแผนไว้ C (Check) คือ การตรวจสอบ หรือการประเมินผลและนาผลประเมินมาวิเคราะห์ เพื่อติดตามผลการ ปฏิบัตงิ านในแต่ละข้นั ตอน รวมท้ังผลลพั ธส์ ดุ ท้ายวา่ เปน็ ไปตามแผนท่ีวางไว้หรือไม่ A (Action) คือ การปรับปรุงแก้ไขดาเนินการให้เหมาะสมตามผลการประเมิน หากผลที่ออกมาดี ก็นามา เป็นมาตรฐานเพ่ือเป็นแนวปฏิบัติงานในครั้งต่อๆไป และเป็นองค์ความรู้สาหรับผู้ที่มารับงานหรือดาเนินงาน รุ่นต่อไป หากผลท่ีออกมาต่ากว่ามาตรฐาน หาวิธีการดาเนินการปรับปรุงแก้ไขต่อไปเพ่ือให้ได้ ตามเป้าท่ีต้ังไว้ เมื่อมีการปรับปรุงแก้ไขดาเนินการ จะทาให้มาตรฐานหรือคุณภาพสูงข้ึนเร่ือยๆ จึงเรียกว่า วงจรบรหิ ารงานคณุ ภาพ 4.2.3 ดาเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษาและทุก กลุ่มเป้าหมาย โรงเรียนดาเนินการแต่งต้ังคณะกรรมการ ที่ประกอบด้วยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ได้แก่ ผ้อู านวยการโรงเรียน รองผู้อานวยการ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ หัวหน้างานต่างๆ ท่ีเกีย่ วข้อง จดั ทาและ พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน ผู้ท่ีมีส่วนเก่ียวข้องและความทันต่อ ทิศทางการศึกษาในอนาคต เป็นหลักสูตรท่ีมีโครงสร้าง องค์ประกอบของหลักสูตรครบถ้วน สอดคล้องกับ วัตถปุ ระสงค์ของแผนการศกึ ษาชาติ หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551สอดคลอ้ งกับ การเปล่ยี นแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม วฒั นธรรม สภาพแวดล้อม และความรทู้ างวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ี เจรญิ ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ตอบสนองวิสัยทัศน์ พันธกิจ และจุดเน้นของสถานศึกษา ผ่านความเห็นชอบของ คณะกรรมการสถานศกึ ษาข้ันพื้นฐานของโรงเรยี น และนาสู่การปฏิบัติโดยครูนาไปจัดทามาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชี้วัด ลาดับเน้ือหาสาระตามกระบวนการเรียนรู้ บูรณาการสภาพปัญหาและความต้องการของท้องถ่ินใน
๒๗ รายวิชาพ้ืนฐานและหรือรายวชิ าเพิ่มเติมอย่างเหมาะสม ออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้องิ มาตรฐานและแผนการ จัดการเรียนรู้หลักสูตรมีความหลากหลายสนองตอบต่อความต้องการ วิเคราะห์กาหนดรายวิชาเพ่ิมเติมและ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่มีเน้ือหา/สาระการเรียนรู้/กิจกรรมเหมาะสมตามโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษาของ นักเรียนทุกระดับ ชั้น อย่างหลากหลายเพียงพอตามความต้องการ ความถนัดและความสนใจ ผู้เรียน มีการ จัดกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ อย่างหลากหลายในทุกระดับชั้น มีกิจกรรมหลักสูตรวิชาชีพระยะส้ัน โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากท้ังภายในและภายนอก และติดตามประเมินผลการใช้หลักสูตรสถานศึกษานา ข้อมูลผลการประเมินไปทบทวน ปรบั ปรุงพฒั นาหลกั สตู รสถานศกึ ษา 4.2.4 พฒั นาครแู ละบุคลากรให้มีความเชีย่ วชาญทางวชิ าชพี โรงเรียนมีโครงการพัฒนาบุคลากรสู่มืออาชีพ และส่งเสริมพัฒนาศักยภาพครูและบุคลากร ทั้งด้าน ความรู้ ความสามารถและทักษะตามมาตรฐานตาแหน่งทั้ง 3 ด้าน โดยใช้กระบวนการ PLC (Professional Learning Community) ในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ของครูทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ด้วยวิธีการท่ีหลาก หลาย ได้แก่ การทาแผนพัฒนาตนเองของครูและบุคลากรทางการศึกษา ( Id Plan) เพ่ือกาหนดประเด็น ที่จะพัฒนา การอบรมสัมมนา หลักสูตรต่างๆ ตามความสนใจและเน้ือหาวิชาของกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆ และหลักสูตรอื่นๆ เพ่ือเพ่ิมพูนความรู้ของครูและบุคลากร มีการนิเทศติดตามแบบกัลยาณมิตรทั้งภายใน โรงเรียนและจากหน่วยงานภายนอก นอกจากนี้ยงั สง่ เสริมใหค้ รูและบคุ ลากรไดพ้ ฒั นาวชิ าชีพเพื่อขอเลือ่ นหรือ ขอมวี ทิ ยฐานะในระดับทส่ี งู ขึ้นเมือ่ ครบรอบเวลาที่จะต้องส่งผลงานเพ่อื รับการประเมนิ 4.2.5 จัดสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพและสงั คมท่เี อ้ือตอ่ การจดั การเรียนรู้ โรงเรียนมีแผนงาน / โครงการ / กิจกรรม รักษาความปลอดภัยของอาคารสถานที่และสิ่งแวดล้อม อยเู่ สมอ พฒั นาอาคารสถานทใี่ หห้ อ้ งเรียน ห้องปฏบิ ัตกิ าร ห้องน้า โรงอาหาร หอประชุม อาคารประกอบการ ฯลฯ เป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด มีความมั่นคงแข็งแรง และปลอดภัย ภายในห้องเรียนมีส่ิงอานวย ความสะดวกในการเรียนรู้ ได้แก่ โปรเจคเตอร์ เคร่ืองขยายเสียง และส่ือต่าง ๆ จัดสิ่งอานวยความสะดวก ในการเรียนรู้อย่างเพียงพอกับผู้เรียน และพร้อมใช้งาน จัดให้มีแหล่งเรียนรู้ ห้องสมุด ห้องปฏิบัติการ ห้องศูนย์การเรียนรู้และพิพิธภัณฑสถาน ท่ีสอดคลอ้ งกับการเรยี นรู้อย่างหลากหลายของผเู้ รยี น พัฒนาแหล่ง เรียนรูใ้ ห้มีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ทนั สมัย เพียงพอ และสะดวกต่อการใช้งาน 4.2.6 จดั ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจดั การและการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนมีการกาหนดผู้รับผิดชอบจัดทาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อใช้ในการบริหารจัดการ ของโรงเรียนโดย กาหนดหมวดหมู่ข้อมูลให้ถูกต้อง ครอบคลุม และพร้อมใช้ โดยจัดหาฮาร์ดแวร์ท่ีมี ประสิทธิภาพใช้งานง่าย สะดวก ถูกต้อง ปลอดภัย โดยการกาหนดรหัสแต่ละระดับของผู้ใช้งาน และ สารสนเทศกลุ่มงานท้ัง 4 กลุ่มงาน คือ กลุ่มบริหารวิซาการ กลุ่มบริหารงบประมาณ กลุ่มบริหารงานบุคคล กลุ่มบริหารทั่วไป และ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้มีการกาหนด ผู้รับผิดชอบจัดทาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ท่ีครอบคลมุ ภารกิจ แต่งต้ังคณะกรรมการงานสารสนเทศจากทุกกลุ่มงานที่เก่ียวข้อง มกี ารประชุมคณะกรรม การเพื่อวางแผนในการดาเนินการจัดเก็บข้อมูล กาหนดเวลา แจ้งผู้รับผิดชอบของแต่ละกลุ่มงาน กลุ่มสาระ การเรยี นรู้ในการรายงานขอ้ มูล ดาเนินการจัดการข้อมูลที่สาคัญของหน่วยงานตนใหเ้ ปน็ ปัจจบุ ัน และนาไปใช้ ในการวางแผนการจัดการศึกษาท่ีครอบคลุมภารกิจท้ัง 4 กลุ่มงาน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ จัดทาและให้ บริการข้อมูลสารสนเทศท่ีเป็นระบบแก่ผู้ต้องการใช้ทุกฝ่าย บุคลากรทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้สะดวก รวดเร็วเป็นปัจจุบันผ่านเว็บไซต์โรงเรียน นาข้อมูลสารสนเทศที่สาคัญย้อนหลัง 3 ปี ใช้เป็นข้อมูล ในการทบทวนปรับปรุงพัฒนางาน มีการจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนให้นักเรียน มีความรู้
ความเข้าใจ สามารถใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ และสืบค้นหาข้อมูลเพื่อการเรียนรู้ได้อย่างคล่องแคล่ว โดยโรงเรียนขับเคล่ือนโครงการการพัฒนาคุณภาพการศึกษาดว้ ยเทคโนโลยีสารสนเทศ (DLIT/ ในการจัดการ เรียนรู้ เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง อีกท้ังเป็นช่องทางให้ครูมอบหมาย และติดตามภาระงาน ติดต่อสื่อสารระหวา่ งครูกับนักเรียนและนกั เรียนกับนักเรียนในประเด็นต่าง 1 ซ่งึ เป็นการสร้างสังคมแห่งการ เรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยีเป็นส่ือและเป็นการปลูกฝังให้นักเรียนสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในกา รสืบค้น สรา้ งช้ินงาน นาเสนองานอย่างมปี ระสิทธภิ าพ สรา้ งสรรค์ และมคี ณุ ธรรม 4.3 ระบบประกนั คุณภำพภำยในมปี ระสทิ ธผิ ล ก่อให้เกิดคณุ ภำพด้ำนกระบวนกำรจัดกำรเรียน กำรสอนท่ีเนน้ ผเู้ รียนเป็นสำคัญ 4.3.1 จัดการเรียนรผู้ ่านกระบวนการคิดและปฏบิ ัติจริง ครทู ุกคนมกี ารวเิ คราะห์มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชวี้ ัด/ ผลการเรียนรู้เพื่อจัดทาโครงสรา้ งหลักสูตร/ โครงการสอน มีการจัดทาหน่วยการเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับคาอธิบายรายวิชา สาระการเรียนรู้เหมาะสมกับ ผเู้ รยี นและบริบทของสถานศกึ ษา มีกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยวธิ กี ารปฏบิ ตั ิ (Active Learning) โดยเลอื กรปู แบบ การจัดการเรียนรู้ ส่ือนวัตกรรม เทคโนโลยี แหล่งเรียนรู้ และการวัดและประเมินผลเพ่ือให้ผู้เรียนได้รับการ พฒั นาเตม็ ตามศักยภาพเพ่ือบรรลตุ ามมาตรฐานการเรยี นรู้ 4.3.2 ใช้สอ่ื เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ท่ีเอ้ือต่อการเรียนรู้ โรงเรียนกระตุ้นให้ครูทุกคนมีวิธีการจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่อ เคร่ืองมือ รูปแบบ เทคนิค และวิธีการ อย่างหลากหลาย มีการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้โดยใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ใช้แหล่งเรียนรู้ภายใน และภายนอก ทีเ่ ออื้ ตอ่ การเรยี นรใู้ นการจัดการเรียนการสอน 4.3.3 มกี ารบริหารจัดการชน้ั เรียนเชิงบวก โรงเรียนกระตุ้นให้ครูออกแบบหน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐานและแผนการจัดการเรียนรู้ท่ีเน้น ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้และใช้กระบวนการกลุ่มในการปฏิบัติงานร่วมกัน เพื่อก่อให้ เกิดปฏสิ ัมพันธ์ระหวา่ งครูกับนักเรยี น และนักเรียนกับนักเรียน โดยจัดให้มีการนิเทศการสอน สังเกตการสอน ในห้องเรยี น เพ่ือให้ครูจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ที่เนน้ การเรียนรเู้ ชงิ รุก (Active Learning) ให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ และแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง โดยให้คาแนะนา และข้อเสนอแนะอย่างกัลยาณมิตร เพ่ือนามาปรับปรุง พฒั นาการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ทาใหผ้ ู้เรยี นรกั ที่จะเรียนรู้ และสามารถเรียนรูร้ ว่ มกนั ได้อย่างมีความสุข 4.3.4 ตรวจสอบและประเมินผเู้ รยี นอย่างเป็นระบบ และนาผลมาพฒั นาผ้เู รียน โรงเรียนกาหนดให้มีระบบการตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบโดยให้ครูทุกคนมีกา ร วัดและประเมินผลตามสภาพจริงดว้ ยวธิ ีทห่ี ลากหลาย มกี ารบันทึกหลังแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และนา ผลจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้มาพัฒนาผู้เรียนด้วยกระบวนการทาวิจัยในชั้นเรียน เพ่ือแก้ไขและพัฒนา ทกั ษะของผู้เรยี น และมกี ารนิเทศการจดั การเรยี นรู้ในทุกภาคเรียน 4.3.5 มีการแลกเปลี่ยนเรียนรแู้ ละใหข้ อ้ มูลปอ้ นกลบั เพื่อปรับปรุงและพฒั นาการจัดการเรยี นรู้ โรงเรียนกาหนดให้ครูทุกคนรวมกลุ่มกันเพื่อแก้ปัญหาการจัดการเรียนรู้เก่ียวกับนักเรียนโดยใช้ กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวชิ าชีพ (PLC) การรวมกลุ่มกันน้ันมลี ักษณะสอนระดับช้ันเดียวกนั สอน ในช่วงชั้นเดียวกัน หรือตามลักษณะงาน โดยกาหนดชั่วโมงไว้ในตารางสอนของครูทุกคนเมื่อสิ้นสุด กระบวนการครูทุกคนเขียนรายงานสรุปผลการดาเนินการขับเคล่ือนกระบวนการ PLC เสนอผู้อานวยการ เพอื่ พฒั นาและปรบั ปรุงการจดั การเรียนรู้
๒๙ องคป์ ระกอบที่ 5 กำรเกิดวัฒนธรรมคณุ ภำพทสี่ ะท้อนกำรพฒั นำที่ยัง่ ยืน ประเด็นการพิจารณา 5.1 ผู้บริหารสถานศึกษามีภาวะผู้นาทางวิชาการ สร้างทีมงานคุณภาพ สามารถบริหารจัดการ กระตุ้น หนุนเสริมให้บุคลากรเก่ียวข้องและมีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายร่วมกันขับเคลื่อนระบบการประกัน คุณภาพภายในทสี่ ะท้อนการพฒั นาทีย่ ง่ั ยนื สรา้ งความเช่อื ม่ัน และเป็นท่ยี อมรับของผทู้ ่ีเกี่ยวข้อง 5.2 สถานศกึ ษาเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) และบุคลากรสถานศกึ ษาเป็น บุคคลแห่งการเรียนรู้ ร่วมกันพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายใน โดยใช้กระบวนการสร้างชุมชน แห่งการ เรียนรทู้ างวชิ าชพี (PLC) อย่างต่อเนือ่ ง 5.3 การบริหารจัดการคุณภาพเกิดขึ้นท้ังในระดับรายบุคคล ระดับห้องเรียน ระดับกลุ่มสาระการ เรียนรู้ และระดับสถานศึกษา ท่สี ะท้อนถงึ ความตระหนักในคุณค่า และเกิดวัฒนธรรมคุณภาพในตวั บคุ คลและ องค์กรในภาพรวม 5.4 สถานศกึ ษามีโครงสร้างการบริหารจัดการ กาหนดบทบาทหน้าที่ผรู้ ับผิดชอบงาน มีค่มู อื และแนว ทางการปฏิบัตงิ านตามระบบประกันคุณภาพภายในสถานศกึ ษา ที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและความเส่ยี งที่ จะเกดิ ข้นึ ในอนาคต 5.5 สถานศึกษามีการบริหารจัดการระบบข้อมูลสารสนเทศที่ทันสมัย มีข้อมูลท่ีถูกต้อง เชื่อถือได้ ครบถ้วน เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ เพียงพอ ครอบคลุมภารกิจของสถานศึกษา ท่ีพร้อมใช้งานได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ มีการปอ้ งกันและรักษาความปลอดภัยของระบบ 5.6 สถานศึกษาได้รับความร่วมมือในการบริหารจัดการคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา จากผู้ที่ เกย่ี วขอ้ งทง้ั ภายในและภายนอกสถานศึกษา ในการสง่ เสรมิ สนบั สนนุ ช่วยเหลืออย่างต่อเนือ่ ง กำรดำเนินงำน โรงเรียนเกาะคาวิทยาคมมีการจัดการองค์กรโดยกาหนดโครงสรา้ งการบรหิ ารเป็น 4 กล่มุ บริหาร คือ กลุ่มบริหารวิชาการ กลุ่มบริหารงบประมาณ กลุ่มบริหารงานบุคคล และกลุ่มบริหารท่ัวไป ซึ่งมีการกาหนด ขอบเขตงานในแต่ละกลุ่มบรหิ ารอย่างชดั เจน มีการพรรณนางานในหน้าทีข่ องแตล่ ะงานในกลุ่มบริหารทุกกลุ่ม และกาหนดตัวบุคคลผู้รับผิดชอบโดยการแต่งตั้งในคาส่ังของโรงเรียนตั้งแต่คณะกรรมการบริหารโรงเรียน คณะกรรมการกลุ่มบรหิ ารแต่ละกลุ่ม และหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ มีการนาองคโ์ ดยกระบวนการมีส่วนรว่ ม ของผู้รับผิดชอบงานในทุกระดับเพื่อกากับ ควบคุม และติดตามการดาเนินงานให้เป็นไปตามแผนการพัฒนา สถานศึกษา และแผนงานท่ีวางไว้ โดยใช้กระบวนการของการประชุมปรึกษาหารือตั้งแต่การประชุม คณะกรรมการบริหารโรงเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พื้นฐาน การประชุมข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา การประชุมเครือข่ายผู้ปกครอง และการประชุมอ่ืน ๆ ท่ีเกี่ยวเน่ืองเช่ือมโยงกับการบริหาร จัดการองค์กร เพื่อให้เกิดการรับรู้และมีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาที่เป็นหนึ่งเดียว และมองทิศทางการพัฒนา สถานศกึ ษาให้เปน็ ไปในทิศทางเดยี วกนั โรงเรียนเกาะคาวิทยาคมเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ซ่ึงได้กาหนดไว้ในวิสัยทัศน์ของโรงเรียน โดย บุคลากรทุกคนเปน็ บุคคลแห่งการเรียนรู้ ทกุ คนมีส่วนร่วมในการพฒั นาการประกนั คุณภาพภายในสถานศกึ ษา ผ่านกระบวนสรา้ งชุมชนแหง่ การเรยี นร้ทู างวิชาชีพ (PLC) ท้ังกระบวนการท่ีเปน็ กลุ่มใหญ่ อาทิ ครูท้งั โรงเรยี น หรือกลุ่มย่อย อาทิ คณะกรรมการบริหารโรงเรียน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้ บุคลากรในกลุ่มบริหารต่าง ๆ เพื่อส่งผลตอ่ การพัฒนาคุณภาพทางการศึกษาตามแนวทางการประกันคุณภาพ
ภายในสถานศกึ ษา อนั จะส่งผลให้เกดิ การพัฒนาคุณภาพทางการศึกษาให้สูงข้นึ และเป็นไปตามเป้าหมายของ การประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาทไ่ี ดว้ างไว้ โรงเรียนเกาะคาวิทยาคมใช้ระบบวงจรคุณภาพ Deming Cycle (PDCA) ในการปฏิบัติงานทุกระดับ ตั้งแต่ระดับตัวบุคคลในการวางแผนการจัดการเรียนรู้ และการปฏิบัติ ระดับกลุ่มสาระการเรียนรู้ ระดับกลุ่ม บรหิ าร และระดับโรงเรียน ทาใหเ้ กดิ การปฏิบัติหนา้ ทีด่ ว้ ยคุณภาพอย่างต่อเน่อื งตง้ั แตร่ ะดับเลก็ ๆ ไปจนกระทั่ง ถงึ ระดับภาพรวมท้ังโรงเรยี น โดยเฉพาะอย่างยิง่ การปฏิบัติงานตามแผนปฏบิ ตั ิการประจาปี ท่ผี ู้รับผดิ ชอบต้อง ดาเนินโครงการ/กิจกรรม ให้เป็นไปตามแผน โดยใช้กระบวนการ PDCA กล่าวคือ โครงการ/กิจกรรมจะเริ่ม จากการวางแผน (Plan) จากนน้ั ก็ลงสู่การปฏบิ ัติลงมือทา (Do) มกี ารตดิ ตามตรวจสอบทัง้ ขณะปฏบิ ัติกจิ กรรม จนกระทั่งทาจนสาเร็จเสร็จเรียบร้อย (Check) จากน้ันนาผลที่เกิดขึ้นมากาหนดแนวทางเพื่อปรับปรุงพัฒนา งานให้ดีขึ้น (Act) เม่ือดาเนินการจนสาเร็จเป็นท่ียอมรับก็จะนาไปสู่การสร้างสรรค์งานให้เกิดคุณภาพ จนกระทั่งเปน็ วิธีปฏิบัตทิ ่เี ป็นเลิศ (Best Practice) ต่อไป โรงเรียนเกาะคาวิทยาคมมีการจัดโครงสร้างการบริหารจัดการ กาหนดบทบาทหน้าที่และความ รบั ผดิ ชอบชัดเจน มีคาสงั่ แต่งตัง้ และคู่มอื การปฏบิ ัติงานเป็นไปตามแนวทางของระบบประกันคุณภาพภายใน สถานศึกษา ท่ีจะสามารถดาเนินงานให้เป็นไปตามแผนพัฒนาการศึกษาท่ีโรงเรียนได้วางไว้ และพร้อมท่ีจะ ปรับเปลี่ยนรับกับการเปล่ียนแปลงต่าง ๆ ที่จะเกิดข้ึนในอนาคตได้เป็นอย่างดี ทาให้ระบบการบริหารจัดการ ภายในโรงเรียนมคี วามเข้มแข็ง และตอ่ เนื่อง ถึงแม้จะมีการเปล่ียนตัวของบุคลากร หรือผู้นาองคก์ ร แตอ่ งคก์ ร กส็ ามารถขบั เคลือ่ นไปได้อย่างมคี ณุ ภาพ โรงเรียนเกาะคาวิทยาคมมีการบริหารจัดการระบบข้อมูลสารสนเทศท่ีทันสมั ยผ่านเครือข่าย อนิ เทอรเ์ น็ต โดยรวบรวมสารสนเทศไว้บนเว็บไซต์ของโรงเรียน ซ่ึงมีข้อมูลท่ีถูกต้อง เช่ือถือได้ ครบถ้วน เป็น ปัจจุบัน สมบูรณ์ เพียงพอ โดยการอิงฐานข้อมูลจากระบบสารสนเทศของสานักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน ครอบคลมุ ภารกิจของสถานศึกษา ท่ีพร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการป้องกันและรกั ษา ความปลอดภัยของระบบ โดยกาหนดผู้รับผิดชอบในการดาเนินงาน (Admin) เพื่อนาเข้าข้อมูล และปรับปรุง ข้อมูลให้ทันสมัย เป็นปัจจุบัน และพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา อีกทั้งยงั จดั ให้มกี ารแสดงสารสนเทศในประเด็น สาคัญ ๆ ไว้ตามบอร์ดต่าง ๆ ของอาคารสานักงาน อาทิ การเปรียบเทียบจานวนประชากรของสถานศึกษา ในช่วง 3 ปีย้อนหลัง การเปรียบเทียบค่าสถิติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน งบประมาณต่าง ๆ เป็นต้น ทาใหบ้ ุคคลภายนอกสามารถทราบถึงสารสนเทศของโรงเรียนท้ังผ่านระบบเครือข่ายอินเทอรเ์ นต็ และ สารสนเทศแบบปกติ โรงเรยี นเกาะคาวิทยาคมได้รบั ความร่วมมอื ในการบรหิ ารจัดการคณุ ภาพและมาตรฐานการศกึ ษา จาก ผ้ทู เี่ ก่ียวข้องทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา ไมว่ ่าจะเป็นคณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานท่ีมีส่วนร่วม ในการกาหนดค่าเป้าหมายการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ร่วมวางแผนและให้ความเห็นชอบใน แผนปฏิบตั ิการประจาปี การเก็บเงินบารุงการศึกษา การจัดหาหนังสือแบบเรียน และการระดมทรัพยากรเพ่ือ การศึกษา นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายอ่ืน ๆ ท่ีให้ความร่วมมือในการบริหารจัดการท้ังในด้านงบประมาณ บุคลากร วัสดุอุปกรณ์ อาทิ ชมรมศิษย์เก่า ชมรมครูเก่า สมาคมผู้ปกครอง ครู เครือข่ายผู้ปกครอง และ เครือข่ายร่วมพัฒนาบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จากัด ที่ให้การส่งเสริมสนับสนุนช่วยเหลืออย่างต่อเน่ือง ทาให้ โรงเรียนเกาะคาวิทยาคมได้รับการพัฒนาทั้งด้านผู้เรียน ครู บุคลากร และสิ่งแวดล้อม ให้เกิดคุณภาพ และ เปน็ ไปตามเปา้ หมายของการประกันคณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษา นอกจากน้ี บุคลากรของสถานศึกษาทุกคนยังสามารถปฏิบัตหิ น้าท่ีได้เป็นอย่างดภี ายในความศรัทธา ในองค์กร ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือการสร้างองค์กรให้เป็นองค์กรท่ีมีคณุ ภาพภายใต้ระบบประกันคุณภาพ
๓๑ ภายในสถานศกึ ษา ท่ีใช้หลักการขับเคล่อื นการพัฒนาแบบมสี ่วนรว่ มจากทุกภาคสว่ นทร่ี ะดมสรรพกาลังทงั้ ด้าน งบประมาณ บคุ ลากร วสั ดุอุปกรณ์ และแนวความคิดมาช่วยในการพัฒนาโรงเรียน เพอื่ ให้เกิดความเจรญิ งอก งามแก่เยาวชนในพื้นท่ี และลดความเหลื่อมล้าทางการศึกษาตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และ เป้าหมายของสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษาลาปาง ลาพูน สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ัน พน้ื ฐาน และกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ส่วนท่ี 3 ภำคผนวก - คาสง่ั แต่งตง้ั คณะกรรมการดาเนินงานประกันคุณภาพการศกึ ษาภายในสถานศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา 2564 - คาส่งั แต่งต้งั คณะกรรมการดาเนนิ งานประกันคณุ ภาพการศกึ ษาภายในสถานศกึ ษา ปีการศึกษา 2564 (ฉบบั แกไ้ ข) - ประกาศโรงเรียนเกาะคาวทิ ยาคม เร่ือง การใช้มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาระดับการศึกษา ข้นั พนื้ ฐานและการกาหนดคา่ เป้าหมาย เพื่อการประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษาปีการศึกษา 2564 - ประกาศโรงเรยี นเกาะคาวทิ ยาคม เรอ่ื ง การแตง่ ตั้งคณะกรรมการประเมนิ คณุ ภาพการศกึ ษาภายใน สถานศึกษาปกี ารศึกษา 2564 โดยมีรำยละเอยี ด ดงั นี้ ๑.แต่งตั้งคณะกรรมกำรกำหนดมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศึกษำ ประกอบด้วย ผู้บรหิ ำร สถำนศกึ ษำ และคณะครู
๓๓
- คาสั่งแต่งตงั้ คณะกรรมการดาเนนิ งานประกนั คณุ ภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา ปกี ารศึกษา 2564 (ฉบบั แกไ้ ข) คำส่งั แต่งตั้งคณะกรรมกำรกำหนดมำตรฐำนกำรศกึ ษำของสถำนศกึ ษำ ประจำปี ๒๕๖4 ประชุมคณะกรรมกำรกำหนดมำตรฐำนกำรศกึ ษำของสถำนศึกษำ ประจำปี ๒๕๖4 ประชุมคณะกรรมการกาหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาเพ่ือสรา้ งความรู้ความเข้าใจและ ความตระหนักในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน มาตรฐานการศึกษาระดับต่าง ๆ กระบวนการ จัดทามาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ประโยชน์ของมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาที่จะทาให้การ
๓๕ ดาเนินงานเป็นในแนวทางเดียวกัน วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของมาตรฐานการศึกษา ซ่ึงประกอบด้วย ยทุ ธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๘๐) แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ฉบับท่ี ๑๒ (พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๖๔) แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๗๙ มาตรฐานการศึกษาของชาติ ซ่ึงประกอบด้วย ผู้เรียนรู้(เพื่อสร้างงานและคุณภาพชีวิตที่ดี) ผู้ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรม (เพ่ือสังคมท่ีมั่นคง ม่ังค่ัง ยั่งยืน) และพลเมืองท่ีเข้มแข็งเพื่อสันติสุข มีค่านิยมร่วม ความเพียรอันบริสุทธิ์ ความพอเพียง วิถีประชาธิปไตย ความเท่าเทียม เสมอภาค นโยบายและจุดเน้นของเขตพื้นท่ีการศึกษา จังหวัดและภาค จดุ เนน้ บรบิ ท ความต้องการ เอกลักษณแ์ ละอัตลกั ษณข์ องสถานศึกษา กาหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาและเป้าหมายความสาเร็จ สังเคราะห์ข้อมูลท่ีได้จากการ วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาที่ครอบคลุมคุณภาพผู้เรียนท้ัง ๓ ด้าน และ สอดคล้องกับบริบทความตอ้ งการ เอกลักษณ์และอัตลักษณ์สถานศึกษา เพ่ือกาหนดมาตรฐานการศกึ ษาของ โรงเรียน โดยการศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศย้อนหลังของโรงเรียน ๓ ปี เพ่ือเป็นข้อมูลในการกาหนด มาตรฐานการศึกษาของโรงเรียน และเป้าหมาย ค่าเปา้ หมายความสาเร็จทส่ี อดคล้องกับประเด็นพิจารณา ตาม มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา โรงเรยี นศกึ ษาเสนอรา่ งมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาใหผ้ ู้เก่ยี วข้องทุกฝา่ ยตรวจสอบทบทวนและ เสนอคณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พนื้ ฐานใหค้ วามเหน็ ชอบ ประชมุ คณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน ปี 2564
ประกำศมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศกึ ษำ ประจำปี ๒๕๖4 มำตรฐำนกำรศกึ ษำของสถำนศกึ ษำ ระดับกำรศึกษำขน้ั พ้ืนฐำน
๓๗ โรงเรยี นเกำะคำวทิ ยำคม มำตรฐำนกำรศึกษำ ระดบั กำรศกึ ษำข้นั พ้ืนฐำน จานวน 3 มาตรฐาน ไดแ้ ก่ มำตรฐำนท่ี 1 คุณภำพของผเู้ รยี น 1.1 ผลสัมฤทธิท์ างวิชาการของผเู้ รียน 1.2 คณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ของผูเ้ รียน มำตรฐำนท่ี 2 กระบวนกำรบรหิ ำรและกำรจดั กำร มำตรฐำนที่ 3 กระบวนกำรจดั กำรเรียนกำรสอนท่เี นน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญ แต่ละมาตรฐาน มีรายละเอียด ดังน้ี มำตรฐำนที่ 1 คณุ ภำพผ้เู รยี น 1.1 ผลสัมฤทธ์ทิ างวิชาการของผเู้ รยี น 1) มีความสามารถในการอ่าน การเขยี น การสือ่ สาร และการคิดคานวณ 2) ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ คดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ อภปิ รายแลกเปลย่ี น ความคดิ เห็น และแก้ปัญหา 3) มคี วามสามารถในการสร้างนวตั กรรม 4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร 5) มีผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นตามหลักสูตรสถานศึกษา 6) มีความรู้ ทกั ษะพื้นฐาน และเจตคติท่ดี ีต่องานอาชพี 1.2 คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ของผเู้ รียน 1) การมีคณุ ลกั ษณะและค่านิยมที่ดตี ามที่สถานศึกษากาหนด 2) ความภมู ิใจในทอ้ งถนิ่ และความเปน็ ไทย 3) การยอมรบั ท่ีจะอยู่ร่วมกนั บนความแตกต่างและหลากหลาย 4) สขุ ภาวะทางรา่ งกาย และจติ สงั คม มำตรฐำนท่ี 2 กระบวนกำรบรหิ ำรและกำรจัดกำร 2.1 การมีเปา้ หมาย วสิ ยั ทศั น์ และพันธกจิ ทสี่ ถานศกึ ษากาหนดชัดเจน 2.2 มีระบบบรหิ ารจัดการคุณภาพของสถานศกึ ษา 2.3 ดาเนินงานพัฒนาวิชาการทีเ่ นน้ คณุ ภาพผู้เรยี นรอบดา้ นตามหลักสูตรสถานศึกษา และทุกกลุ่มเปา้ หมาย 2.4 พฒั นาครูและบคุ ลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวชิ าชีพ 2.5 จดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมท่ีเอื้อต่อการจัดการเรียนรอู้ ยา่ งมีคุณภาพ 2.6 จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือสนบั สนนุ การบริหารจดั การและการเรียนรู้ มำตรฐำนท่ี 3 กระบวนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนทเ่ี น้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั 3.1 จัดการเรียนรผู้ ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง และสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ ได้ 3.2 ใช้สอ่ื เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหลง่ เรียนร้ทู ี่เอื้อตอ่ การเรียนรู้ 3.3 มกี ารบริหารจดั การช้นั เรยี นเชิงบวก 3.4 ตรวจสอบและประเมินผูเ้ รยี นอย่างเป็นระบบ และนาผลมาพฒั นาผูเ้ รียน 3.5 มกี ารแลกเปลยี่ นเรยี นรแู้ ละใหข้ อ้ มูลสะท้อนกลบั เพอ่ื พฒั นาและปรบั ปรงุ การจดั การเรยี นรู้ กำรกำหนดระดบั คณุ ภำพแนบท้ำยประกำศ โรงเรียนเกำะคำวิทยำคม
เรื่อง กำรกำหนดระดบั คณุ ภำพกำรพฒั นำตำมมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศึกษำ ระดบั กำรศึกษำขั้นพืน้ ฐำน เพอ่ื กำรประกนั คณุ ภำพภำยในสถำนศึกษำ ฉบบั ลงวนั ท่ี 16 กรกฎำคม พ.ศ. 2564 เกำ่ มำตรฐำนกำรศกึ ษำ ระดับคณุ ภำพ มำตรฐำนท่ี 1 คณุ ภำพของผเู้ รยี น ดี 1.1. ผลสมั ฤทธทิ์ างวิชาการของผเู้ รยี น 1.2 คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงคข์ องผ้เู รยี น ดีเลิศ มำตรฐำนท่ี 2 กระบวนกำรบริหำรและกำรจดั กำร ยอดเย่ยี ม มำตรฐำนที่ 3 กระบวนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอน ที่เนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคญั ดเี ลิศ มำตรฐำนโดยรวม
๓๙ มำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศึกษำแนบทำ้ ยประกำศโรงเรียนเกำะคำวทิ ยำคม เรือ่ ง กำรใช้มำตรฐำนกำรศกึ ษำของสถำนศกึ ษำ ระดับกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน เพอื่ กำรประกนั คุณภำพภำยในของสถำนศึกษำ ปกี ำรศึกษำ 2564 มำตรฐำนกำรศึกษำ ระดับคุณภำพ มำตรฐำนที่ ๑ คณุ ภำพของผู้เรียน ระดบั ดี ระดบั ดี ๑.๑ ผลสัมฤทธท์ิ ำงวชิ ำกำรของผเู้ รียน ปำนกลำง ๑.๑.๑ มีควำมสำมำรถในกำรอำ่ น กำรเขียน กำรสอ่ื สำรและกำรคดิ คำนวณ ดี ๑. ผู้เรยี นรอ้ ยละ 65 ของผ้เู รยี นมที ักษะในการอ่าน เขยี น การส่ือสาร ภาษาไทย จาก ปานกลาง ผลการการเรียนรายวิชาภาษาไทยพื้นฐานตามหลักฐานตามหลักสูตรแกนกลางในแต่ ละระดบั ชั้นตั้งแตร่ ะดบั ๓ ขน้ึ ไป ปรบั ปรงุ ๒. ผู้เรียนร้อยละ 50 ของผู้เรียนมีทักษะในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร ภาษาอังกฤษ จากผลการเรียนรายวิชาภาษาอังกฤษพ้ืนฐานตามหลักสูตรแกนกลางใน ปานกลาง แต่ละระดบั ชัน้ ต้งั แต่ระดับ ๓ ข้นึ ไป ดี ๓. ผ้เู รียนร้อยละ 45 ของผู้เรยี นมีทักษะในการคดิ คานวณ วดั ผลการเรยี นรายวชิ า ดี คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ตามหลักสูตรแกนกลางในแต่ละระดับช้ัน ตั้งแตร่ ะดบั ๓ ขึน้ ไป ดเี ลศิ ดีเลศิ ๔. ผเู้ รยี นร้อยละ 50 ของผู้เรียนได้รับการจัดการเรียนการสอนดว้ ยภาษาจนี มีทักษะ การอ่าน การเขียน การสอื่ สาร จากผลการเรียนตามหลกั สูตรสถานศึกษา ตั้งแต่ระดับ ดีเลิศ ๓ ข้ึนไป ยอดเยี่ยม ๑.๑.๒ มีควำมสำมำรถในกำรคิดวิเครำะห์ คดิ อยำ่ งมีวิจำรณญำณ อภิปรำยแลกเปล่ียน ดี ควำมคดิ เห็น และแก้ปญั หำ ยอดเยย่ี ม ๑. ผู้เรียนรอ้ ยละ ๗๐ มคี วามสามารถในการนาเสนอการคิดวเิ คราะหค์ ิดอย่างมี วจิ ารณญาณ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และวิธีการแก้ปัญหาจากกจิ กรรมหลักสูตร บูรณาการทอ้ งถ่ิน ๑.๑.๓ มีควำมสำมำรถในกำรสรำ้ งนวตั กรรม ๑. ผู้เรียนร้อยละ 80 มีความสามารถในการสร้างชิ้นงาน โครงการ โครงงาน หรือ ผลผลิต ตามที่ปรากฏในประมวลรายวิชาในทุกระดับชั้น อย่างน้อยภาคเรียนละ ๑ ชิ้นงาน ๑.๑.๔ มคี วำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยสี ำรสนเทศและกำรสื่อสำร ๑. ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ด้วย การใช้อเี มล์ การตรวจสอบผลการเรียน ตารางเรยี น และตารางสอบออนไลน์ ๒. ผเู้ รียนร้อยละ 65 สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ จากผลการเรยี นรายวิชา คอมพวิ เตอร์ ตามหลกั สูตรสถานศกึ ษาในแต่ละระดับชนั้ ต้งั แต่ระดบั ๓ ขนึ้ ไป ๓. ผู้เรียนทุกคนสามารถสร้างช้ินงานที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ท่ีมีความ เหมาะสมตามระดบั ช้ันได้อยา่ งนอ้ ย ๑ ช้นิ งาน
มำตรฐำนกำรศกึ ษำ ระดบั คุณภำพ ๑.๑.๕ มผี ลสัมฤทธท์ิ ำงกำรเรียนตำมหลักสตู รสถำนศกึ ษำ ปรับปรุง ๑. ผู้เรียนร้อยละ ๖5 ที่มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเฉลี่ยตามหลักสูตรสถานศึกษาในปี ดี การศกึ ษา ๒๕๖4 ตง้ั แต่ ๓ ข้ึนไป ปรบั ปรงุ ๒. คะแนนเฉลี่ยร้อยละ ๔๐ ขึ้นไป ของคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษา ระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ระดับโรงเรียน จานวน ๔ รายวิชา ของนักเรียน ปรับปรุง ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ (ขน้ั พน้ื ฐาน) ยอดเยี่ยม ๓. คะแนนเฉลี่ยร้อยละ ๓๕ ข้ึนไป ของคะแนนเฉล่ียผลการทดสอบทางการศึกษา ยอดเย่ยี ม ระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ระดับโรงเรียน จานวน ๕ รายวิชา ของนักเรียน ยอดเยย่ี ม ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ขัน้ พ้ืนฐาน) ๑.๑.๖ มคี วำมรู้ ทักษะพน้ื ฐำน และเจตคตทิ ีด่ ตี ่องำนอำชีพ ๑. ผเู้ รยี นทกุ คนมีความรแู้ ละทกั ษะพ้ืนฐานเจตคตทิ ี่ดีตอ่ งานอาชพี ทตี่ นเองสนใจ อยา่ งน้อย ๑ อาชพี ๒. ผู้เรียนช้ันม.๓ และม.๖ ร้อยละ ๙๐ เข้ารับการศึกษาต่อในระดบั การศึกษาที่สงู ข้นึ ๑.๒ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องผเู้ รียน ระดับยอดเยย่ี ม ๑.๒.๑ กำรมคี ณุ ลักษณะและค่ำนยิ มท่ดี ตี ำมทส่ี ถำนศกึ ษำกำหนด ยอดเยีย่ ม ๑. ผู้เรียนร้อยละ ๙๕ ของผู้เรียนผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตาม ยอดเย่ียม หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ตงั้ แตร่ ะดบั ดขี ึน้ ไป ยอดเยย่ี ม ๒. ผูเ้ รียนทกุ คน มคี วามเป็นวิถีไทย วิถพี ุทธ ตามหลักสูตรท่ีสถานศึกษากาหนด ยอดเยย่ี ม ยอดเยี่ยม ๑.๒.๒ ควำมภมู ใิ จในท้องถ่ินและควำมเปน็ ไทย ยอดเย่ยี ม ๑. ผู้เรียนร้อยละ 90 แต่งกายด้วยชุดพน้ื เมืองทกุ วันศุกร์ ๒. ผูเ้ รยี นทุกคนเข้าร่วมกจิ กรรม วันสาคัญทางศาสนา ประเพณีของท้องถ่นิ และมี ยอดเยย่ี ม สว่ นรว่ มในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและส่ิงแวดลอ้ ม ไมน่ อ้ ยกว่า ๓ กจิ กรรมต่อปี ยอดเย่ียม การศึกษา ๑.๒.๓ กำรยอมรบั ท่จี ะอยูร่ ว่ มกนั บนควำมแตกต่ำงและหลำกหลำย ๑. ผู้เรียนทุกคนมีส่วนร่วมกิจกรรมกีฬาสีภายในสถานศึกษาของแต่ระดับช้ัน เปดิ บา้ น วิชาการ กิจกรรมวันอาเซียน กิจกรรมสัปดาห์วิทยาศาสตร์กิจกรรมวันสาคัญทาง พระพทุ ธศาสนา กิจกรรมทศั นศึกษาในระดับชนั้ อย่างนอ้ ย 3 กจิ กรรมขึ้นไป ๒. ผเู้ รยี นทกุ คนสามารถเรียนรรู้ ว่ มกบั ผเู้ รียนพเิ ศษเรียนรว่ มได้ ยอดเย่ยี ม
๔๑ มำตรฐำนกำรศึกษำ ระดบั คณุ ภำพ ๑.๒.๔ สขุ ภำวะทำงรำ่ งกำยและจติ สงั คม ยอดเย่ียม ดีเลิศ ๑. ผู้เรียนร้อยละ ๘5 มีน้าหนักเทียบกับส่วนสูงอยู่ในเกณฑ์ที่เป็นไปตามเกณฑ์การ เจริญเติบโตตามช่วงวยั ตามเกณฑ์ของสานกั โภชนาการ กรมอนามยั ยอดเยย่ี ม ระดบั ดีเลศิ ๒. ผู้เรียนทุกคน มีสุขภาพจิต อารมณ์ สังคม และแสดงออกอย่างเหมาะสมกับ กิจกรรมกีฬาแต่ละระดับช้ัน โดยสามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนอย่างมีความสุข ไม่มีความ ดีเลศิ ขัดแย้งกบั ผู้อ่นื ดเี ลิศ มำตรฐำนท่ี ๒ กระบวนกำรบรหิ ำรและกำรจัดกำร ดเี ลิศ ๒.๑ มเี ป้ำหมำยวิสยั ทศั น์ และพนั ธกิจทสี่ ถำนศกึ ษำกำหนดชดั เจน ดีเลศิ ๑. สถานศึกษามเี ป้าหมาย วสิ ัยทัศน์และพนั ธกิจท่สี ถานศึกษากาหนดชดั เจนสอดคล้อง กับบริบทของสถานศึกษา ความต้องการของชุมชน นโยบายรัฐบาล แผนการศึกษา แห่งชาติทนั ตอ่ การเปลี่ยนแปลงของสังคม ๒.๒ มีระบบบริหำรจดั กำรคณุ ภำพของสถำนศกึ ษำ ๑. สถานศึกษามีกระบวนการบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาโดยใช้ระบบ G2SL รูป แบ บ ก ารพั ฒ น าน วัตก รด้วย 3 x2ช และ ใช้โมเดล 3 S5R Kokha Cooperation Model ๒. สถานศกึ ษามีการสร้างภาคเี ครือข่ายรว่ มพฒั นาการศึกษา ทัง้ ในระดับท้องถน่ิ ระดับ สานักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษา ๒.๓ ดำเนินงำนพฒั นำวิชำกำรทีเ่ น้นคณุ ภำพผเู้ รียนรอบด้ำนตำมหลกั สตู รสถำนศึกษำ และทุกกล่มุ เปำ้ หมำย ๑. สถานศึกษามีการรายงานการใช้หลกั สูตรสถานศกึ ษาทกุ ปกี ารศกึ ษา ๒. สถานศึกษามกี ารปรับปรงุ หลักสตู รสถานศกึ ษาให้สอดคล้องกบั ความตอ้ งการของ ผเู้ รยี น ผ้ทู ม่ี ีสว่ นเก่ยี วขอ้ งและความทนั ตอ่ ทศิ ทางการศึกษาในอนาคต ๓. สถานศึกษาเปดิ กิจกรรมชุมนมุ ไม่นอ้ ยกวา่ 10 ชุมนมุ ต่อปีการศกึ ษา โดยครอบคลมุ ทุกกลมุ่ สาระการเรียนรู้ตอบสนองความต้องการของผเู้ รียน ๔. สถานศึกษามีการจัดกิจกรรมลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้ อย่างหลากหลายในทุก ระดบั ช้ัน ๒.๔ พฒั นำครูและบุคลำกรใหม้ ีควำมเชี่ยวชำญทำงวชิ ำชีพ ๑. สถานศึกษามโี ครงการพฒั นาและส่งเสริมครูใหม้ ีความเช่ียวชาญทางวิชาชพี ตาม ความสนใจและความต้องการของสถานศึกษา ๒. สถานศกึ ษามกี ารจดั กิจกรรม PLC เพ่อื แลกเปล่ยี นประสบการณ์ในทกุ กลุม่ งาน ๓. ครรู ้อยละ ๘5 มีการพฒั นาตนเองในด้านวชิ าชพี อย่างน้อย ๒๐ ชว่ั โมง ต่อปี การศกึ ษา
มำตรฐำนกำรศกึ ษำ ระดับคณุ ภำพ ๒.๕ จัดสภำพแวดลอ้ มทำงกำยภำพและสังคมทเ่ี อ้อื ต่อกำรจดั กำรเรยี นร้อู ยำ่ งมีคุณภำพ ดเี ลิศ ๑. สถานศึกษามีการติดตั้งอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์ โปรเจคเตอร์หรือโทรทัศน์ใน ระดับคุณภำพ ห้องปฏบิ ัตกิ ารไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ ๘5 ของห้อง ดีเลศิ ๒. สถานศึกษามีการตรวจสอบ ปรับปรงุ และรกั ษาความปลอดภยั ของอาคารสถานที่ และส่ิงแวดลอ้ ม ระดบั ยอดเยยี่ ม ยอดเยย่ี ม ๓. สถานศึกษามีการจดั ใหม้ ีแหลง่ เรียนรู้ หอ้ งสมุด ห้องปฏบิ ัติการ หอ้ งศนู ย์การเรียนรู้ ยอดเยย่ี ม และพพิ ิธภัณฑสถาน ทสี่ อดคล้องกับการเรยี นรอู้ ย่างหลากหลาย ยอดเยย่ี ม มำตรฐำนกำรศกึ ษำ ดเี ลศิ ระดับยอดเยยี่ ม ๒.๖ จัดระบบเทคโนโลยีสำรสนเทศเพอ่ื สนบั สนนุ กำรบรหิ ำรจัดกำรและกำรจดั กำรเรียนรู้ ยอดเยี่ยม ๑. สถานศึกษามีการติดตัง้ สญั ญาณอินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย มากกว่า 12 ตาแหน่ง ยอดเย่ียม เพอ่ื การสนับสนนุ การบรหิ ารจดั การและการจดั การเรยี นรู้ ยอดเยี่ยม ๒. สถานศึกษามีเช่าซือ้ การตดิ ตัง้ ระบบอนิ เทอร์เน็ตท่ีมคี วามเรว็ ไมต่ า่ กวา่ 150/150 Mbps ทเี่ อื้อต่อการจดั การเรยี นร้แู ละการบริหารจดั การ ๓. สถานศึกษามีการจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพ่ือสนับสนุนการบริหารจัดการ และการจดั การเรยี นรู้ มำตรฐำนที่ ๓ กระบวนกำรจดั กำรเรียนกำรสอนทเ่ี น้นผเู้ รียนเปน็ สำคัญ ๓.๑ จดั กำรเรยี นรทู้ ่ีผ่ำนกระบวนกำรคดิ และปฏบิ ัติจริงและสำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ใน กำรดำเนนิ ชวี ิต ๑. ครูทุกคนมีการวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้เพ่ือจัดทา โครงสร้างหลักสตู ร/โครงการสอน ๒. ครูทุกคนมีการจดั ทาหน่วยการเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับคาอธิบายรายวิชา ธรรมชาติ ของสาระการเรียนรู้ เหมาะสมกับผู้เรียนและบริบทของสถานศึกษา มีกิจกรรมการ เรียนรู้ด้วยวิธีการปฏิบัติ (Active Learning) โดยเลือกรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ส่ือ นวัตกรรม เทคโนโลยี แหล่งเรยี นรู้ และการวัดและประเมินผลเพือ่ ให้ผู้เรียนได้รับการ พฒั นาเต็มตามศกั ยภาพ บรรลุตามมาตรฐานการเรยี นรู้ ๓. ครูร้อยละ 85 มีการวิเคราะห์ผู้เรียนเพ่ือรู้จักผู้เรียนเป็นรายบุคคล และนาผล การศึกษามาวางแผนการจัดการเรียนรู้ ๓.๒ ใชส้ อ่ื เทคโนโลยสี ำรสนเทศและแหลง่ เรยี นรทู้ ่ีเอือ้ ต่อกำรเรยี นรู้ ๑.ครูทกุ คนมวี ิธกี ารจดั การเรียนรูโ้ ดยใชส้ ื่อ เคร่อื งมือ รูปแบบ เทคนคิ และวธิ กี ารอย่าง หลากหลาย ๒.ครทู ุกคนมกี ารจัดกจิ กรรมการเรียนรู้โดยใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศท่เี อ้อื ตอ่ การเรียนรู้ ๓.ครูทุกคนมีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ภายในหรือภายนอกท่ีเอื้อ ต่อการเรียนรู้
๔๓ มำตรฐำนกำรศกึ ษำ ระดบั คณุ ภำพ ๓.๓ มกี ำรบริหำรจดั กำรข้ันเรยี นเชงิ บวก ระดบั ดเี ลิศ ๑. ครรู อ้ ยละ ๘๐ มผี ลการประเมนิ ความพงึ พอใจต่อการจดั การเรยี นรโู้ ดยผู้เรียน ดีเลศิ อยูใ่ นระดับมาก ขนึ้ ไป ระดับยอดเยี่ยม ๓.๔ ตรวจสอบและประเมินผเู้ รยี นอยำ่ งเปน็ ระบบและนำผลมำพัฒนำผูเ้ รยี น ยอดเยยี่ ม ยอดเย่ียม ๑. ครทู ุกคนมีการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง อย่างหลากหลาย ระดบั ยอดเยยี่ ม ๒. ครูทุกคนทาการบันทึกหลังแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และนาผลจากการจัด ยอดเยย่ี ม กิจกรรมการเรยี นรู้มาพัฒนาผู้เรยี นดว้ ยกระบวนการวจิ ยั ในชน้ั เรยี น ๓.๕ มีกำรแลกเปล่ียนเรยี นรู้และให้ขอ้ มูลสะทอ้ นกลบั เพอ่ื พฒั นำปรับปรุงกำรจัดกำรเรียนรู้ ๑. ครูทกุ คนมีการรว่ มสะทอ้ นผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรูภ้ ายในกลมุ่ สาระการเรียนรู้ เพอ่ื พัฒนาและปรับปรงุ การจดั การเรยี นรู้ เกณฑท์ ่ีใชใ้ นกำรพจิ ำรณำกำหนดคำ่ เป้ำหมำย / ระดับคุณภำพ กรณีกำหนดเปำ้ หมำยเชงิ ปริมำณ ระดบั คณุ ภำพ รอ้ ยละตำมเกณฑ์ ยอดเยย่ี ม (5) ต้งั แต่ร้อยละ 90 ข้ึนไป ดีเลิศ (4) ร้อยละ 80-89 ดี (3) ร้อยละ 60-79 ปานกลาง (2) รอ้ ยละ 50-59 ปรับปรุง (1) ตา่ กวา่ ร้อยละ 50 กรณกี ำหนดเปำ้ หมำยเชงิ คณุ ภำพ ระดับคณุ ภำพ หลักฐำน/ รำงวลั รำยละเอียด รอ่ งรอย สูงกว่าเป้าหมายท่ีกาหนด / เป็นแบบอย่าง / ยอดเยย่ี ม (5) มี ระดบั ประเทศ/นานาชาติ มคี วามเป็นเลิศ / มีการพัฒนาอย่างต่อเน่ือง / มนี วตั กรรม ดเี ลิศ (4) มี ระดับภาค/จงั หวัด มกี ารพัฒนา / เป็นระบบ / มีการบรู ณาการ / หลากหลายรูปแบบ ดี (3) มี ระดับหน่วยงานตน้ สงั กัด/ เป็นท่ียอมรับ / เป็นไปตามเกณฑ์ที่กาหนด / หนว่ ยงานในกากบั ครบกระบวนการ/ เหมาะสม / เพียงพอ ปำนกลำง (2) มี ระดับโรงเรยี น / ศนู ย์ / มีบางสว่ น/ เปน็ ไปตามเป้าหมายบางส่วน เครือข่าย/ กลุม่ โรงเรียน ต่ากว่าค่าเป้าหมายท่ีกาหนด/ ต่ากว่าเกณฑ์ ปรบั ปรงุ (1) มี/ไม่มี ไม่มี มาตรฐาน/ ไม่สอดคล้อง / ไม่เป็นไปตาม เปา้ หมาย / ไมส่ ง่ เสรมิ / ไม่ส่งผล
สถานศึกษามีการนาผลการประเมินคุณภาพภายใน ผลการประเมินคุณภาพภายนอกและผลการ ประเมินการจัดการศึกษาของทุกหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องมาเป็นข้อมูลฐาน (Baseline data) ในการกาหนด เปา้ หมายความสาเรจ็ ของการดาเนนิ งานและเปา้ ประสงค์ของตนเองและหน่วยงานตน้ สงั กดั ผลกำรประเมินคณุ ภำพภำยใน ผลกำรประเมินมำตรฐำนกำรศึกษำระดบั กำรศึกษำข้ันพนื้ ฐำน โรงเรียนเกำะคำวทิ ยำคม มำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศกึ ษำโดยรวม : ดีเลศิ ระดบั คณุ ภำพ มำตรฐำนกำรศึกษำ ดเี ลศิ ดีเลศิ มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรยี น ดีเลิศ มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจดั การ มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ มำตรฐำนที่ 1 คุณภำพของผู้เรยี น ระดบั คณุ ภำพ: ดีเลิศ จดุ เน้น - พัฒนาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนและคณุ ภาพผู้เรยี นให้มีคณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา - พฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ มอันพงึ ประสงค์และสมรรถนะหลักสาคัญของผเู้ รยี น - ส่งเสริมประเพณี ศิลปวัฒนธรรมไทย สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นและดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง - ส่งเสริม พัฒนาทักษะการดารงชีวิต มีจิตสานึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และแสดงออกอย่าง เหมาะสมตามวถิ ไี ทย - พฒั นาทักษะวชิ าชพี อย่างหลากหลาย - พฒั นาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน 1. กระบวนกำรดำเนินกำร 1.1 ผลสัมฤทธ์ิทำงวชิ ำกำรของผเู้ รยี น โรงเรียนเกาะคาวิทยาคมมกี ารดาเนินกิจกรรมสง่ เสริมและยกระดบั ผลสัมฤทธทิ์ างวชิ าการของผ้เู รียน ในแต่ละระดบั ชัน้ โรงเรียนจดั การเรยี นรู้ตามหลกั สูตรสถานศึกษา และหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ครูผสู้ อนจัดการเรียนการสอนที่เนน้ ผู้เรียนเป็นสาคัญ พัฒนาการความสามารถของนักเรียนเปน็ รายบุคคล การ ใช้เทคนิคการสอนที่หลากหลาย เน้นกระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในช้ันเรียน การจัดทาสื่อนวัตกรรมเพ่ือพัฒนาผู้เรียนแบบ สถานการณ์จาลอง บทบาทสมมติ การเรยี นรู้แบบรว่ มมอื เน้นกระบวนการกลุม่ การศึกษาคน้ คว้าด้วยตนเอง การถามตอบ ความคิดรวบยอด มีการใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น เทคนิคกลุ่มสืบค้น (GI : Group Investigation) เทคนิคการเรียนร่วมกัน (Learning Together) เทคนิคร่วมกันคิด (Number Heads Together) มาจัดการ เรียนรู้ เพ่ือพัฒนาทักษะการคดิ ทักษะการแกป้ ัญหา ทกั ษะการเรียนรู้ และทักษะกระบวนการกลมุ่ ผู้เรียนได้ ฝกึ ทักษะกระบวนการคิด วิเคราะห์ และอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ตลอดจนหาแนวทางแก้ปัญหาใน
๔๕ การทางาน เพื่อให้ผู้เรียนสามารถใช้เทคโนโลยีในการออกแบบชิ้นงาน ปฏิบัติงาน และสืบค้นข้อมูลจาก อนิ เทอร์เน็ตได้ โรงเรียนมกี ารดาเนนิ การจัดการเรียนการสอนออนไลน์ในทุกรายวชิ าผ่านระบบ Zoom และ ช่องทาง Google Classroom กระตุ้นผู้เรียนให้เกิดความต้องการเรียนรู้ ท้ังในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ซึ่ง เป็นการส่งเสริมให้ครูผู้สอนและผู้เรียนได้ใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้อย่างเต็มท่ี นอกจากน้ีโรงเรียนมีการ ส่งเสริมให้ผูเ้ รียนไดเ้ รียนรู้ดา้ นทักษะอาชีพในหลกั สตู รวิชาชพี ระยะสนั้ โดยการเรียนรูก้ ับเครือข่ายนักเรียนได้ ไปศกึ ษานอกสถานที่ มีการเชญิ วิทยากรท่ีเช่ียวชาญท้งั ภายในและภายนอกมาให้ความรู้ 1.2 คณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ของผเู้ รยี น โรงเรียนเกาะคาวิทยาคมดาเนินงานด้านการส่งเสริมคุณลักษณะและค่านิยมที่ดี ตามท่ีสถานศึกษา กาหนดอย่างเป็นระบบ มกี ิจกรรมส่งเสริมทกั ษะชีวติ ให้กับนกั เรียนผ่านการเรียนรู้ทั้งกจิ กรรมชุมนุม กิจกรรม ลดเวลาเรียนเพ่ิมเวลารู้ กิจกรรมลูกเสือเนตรนารี กิจกรรมบาเพ็ญประโยชน์ และกิจกรรมการเรียนรู้ในและ นอกห้องเรียน โครงการและกิจกรรมที่ได้ดาเนินการส่งเสริมให้นักเรียนมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่ สถานศึกษากาหนด ตลอดปีการศึกษา นอกจากน้ียงั ส่งเสรมิ ให้ผเู้ รียนมีสขุ ภาวะทางร่างกายและจิตใจท่ีดี โดย จัดกิจกรรมทดสอบสมรรถภาพทางกายของผู้เรยี น โครงการกีฬาสีภายใน มกี ารจดั กิจกรรมค่ายพุทธบตุ รและ ค่ายคุณธรรมให้กับนักเรียนใหม่ทุกปีการศึกษา เพื่อให้นักเรียนได้มีทักษะชีวิตในการอยู่ในสังคม ชุมชน โรงเรียนได้ด้วยความสุข และการยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย มีความภูมิใจใน ท้องถิน่ และความเปน็ ไทย 2. ผลกำรดำเนินงำน 2.1 ผลสมั ฤทธิ์ทำงวิชำกำรของผู้เรยี น 1) จากการดาเนินกิจกรรมส่งเสริมและยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน เพื่อพัฒนา ความสามารถในการอ่าน เขยี น การส่ือสาร และการคดิ คานวณตามเกณฑ์ของแตล่ ะระดบั ช้ัน สง่ ผลให้มผี ลการ ดาเนินงาน ดังน้ี - ผู้เรียนร้อยละ 44.29 ของผูเ้ รียนมีทักษะในการอา่ น เขียน การสอ่ื สาร ภาษาไทย จากผล การการเรียนรายวิชาภาษาไทยพ้ืนฐาน ตามหลักสตู รแกนกลางในแตล่ ะระดับชั้นตั้งแต่ระดับ ๓ ข้ึนไป ต่ากว่า คา่ เป้าหมาย คอื รอ้ ยละ 65 - ผเู้ รียนรอ้ ยละ 42.30 ของผูเ้ รียนมที ักษะในการอ่าน เขียน การสื่อสาร ภาษาอังกฤษ จาก ผลการการเรียนรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ตามหลักสูตรแกนกลางในแตล่ ะระดับชั้นตั้งแต่ระดับ ๓ ขึ้นไป ต่ากว่าค่าเปา้ หมาย คอื รอ้ ยละ 50 - ผู้เรียนร้อยละ 42.03 ของผู้เรียนมีทักษะในการคิดคานวณ วัดผลการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ตามหลกั สูตรแกนกลางในแต่ละระดับช้ัน ตั้งแต่ระดับ ๓ ขนึ้ ไป ต่ากวา่ ค่าเป้าหมาย คอื รอ้ ยละ 45 - ผ้เู รียนร้อยละ 46.44 ของผู้เรยี นไดร้ ับการจดั การเรียนการสอนด้วยภาษาจีน มีทักษะการ อ่าน การเขียน การสื่อสาร จากผลการเรียนตามหลกั สูตรสถานศึกษา ต้ังแต่ระดับ ๓ ขึน้ ไป ต่ากว่าคา่ เป้าหมาย คอื ร้อยละ 50 2) ผู้เรียนร้อยละ 76.41 มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแก้ปัญหา สูงกว่าค่าเป้าหมาย คือ ร้อยละ 70 ของผู้เรียนที่มีความสามารถใน การคดิ วิเคราะห์ คิดอย่างมีวจิ ารณญาณ อภิปรายแลกเปล่ียนความคดิ เห็น และแกป้ ญั หา
3) ผู้เรียนร้อยละ 77.33 มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม ต่ากว่าค่าเป้าหมาย คือ ร้อยละ 80ของผเู้ รยี นสามารถในการสรา้ งนวัตกรรม 4) ผ้เู รียนร้อยละ 76.76 มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสื่อสาร สูงกวา่ ค่าเปา้ หมาย คือ รอ้ ยละ 65 ของผ้เู รยี นท่ีมีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยีส่อื สาร 5) จากการดาเนินกิจกรรมส่งเสริมและยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน เพื่อพัฒนา ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา - ผู้เรียนร้อยละ 67.79 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา สูงกว่าค่า เป้าหมาย คือ รอ้ ยละ 65 ของผู้เรยี นที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลยี่ ตามหลักสูตรสถานศึกษาในปีการศึกษา ๒๕๖4 ตัง้ แต่ ๓ ขึน้ ไป - ผู้เรียนร้อยละ 93.33 มีคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ระดับโรงเรียน จานวน ๔ รายวิชา ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ (ขั้นพ้ืนฐาน) สูงกว่า คา่ เฉล่ียระดบั ประเทศรวมทกุ กลมุ่ สาระ ร้อยละ 32.14 ซง่ึ ต่ากว่าคา่ เป้าหมาย คอื รอ้ ยละ 40 - ผู้เรียนร้อยละ 88.88 มีคะแนนเฉล่ียผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ระดับโรงเรียน จานวน 5 รายวิชา ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 (ขั้นพื้นฐาน) สูงกว่า ค่าเฉลีย่ ระดบั ประเทศรวมทุกกลมุ่ สาระ ร้อยละ 37.50 สูงกวา่ ค่าเปา้ หมาย คอื รอ้ ยละ 35 6) ผ้เู รยี นช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 3 และ 6 ร้อยละ 91.67 เขา้ รบั การศึกษาตอ่ ในระดบั การศึกษาทสี่ งู ขึ้น ต่ากว่าคา่ เปา้ หมาย คอื รอ้ ยละ 90 2.2 คุณลักษณะที่พงึ ประสงคข์ องผู้เรยี น 1) การมีคุณลักษณะและคา่ นิยมทด่ี ตี ามทีส่ ถานศึกษากาหนด - ผ้เู รยี นร้อยละ 88.51 ผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ตั้งแตร่ ะดับดขี นึ้ ไป ตา่ กวา่ คา่ เป้าหมาย คอื ร้อยละ 95 - ผู้เรียนร้อยละ 89.61 มีความเป็นวิถีไทย วิถีพุทธ ตามหลักสูตรท่ีสถานศึกษากาหนด ต่า กวา่ คา่ เปา้ หมาย คือ รอ้ ยละ 90 2) ผู้เรียนร้อยละ 89.61 แต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองทุกวันศุกร์ และเข้าร่วมกิจกรรม วันสาคัญทาง ศาสนา ประเพณขี องท้องถิ่น และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม 3) ผเู้ รยี นรอ้ ยละ 100 มีสว่ นร่วมกิจกรรมกีฬาสีภายในสถานศกึ ษาของแต่ระดับชนั้ เปดิ บา้ นวชิ าการ กิจกรรมวันอาเซียน กิจกรรมสัปดาห์วิทยาศาสตร์กิจกรรมวันสาคัญทางพระพุทธศาสนา กิจกรรมทัศนศึกษา ในระดบั ชนั้ และสามารถเรียนรรู้ ่วมกบั ผเู้ รยี นพิเศษเรยี นร่วมได้ 4) ผู้เรียนร้อยละ 71.05 มีน้าหนักเทยี บกับส่วนสูงอยู่ในเกณฑ์ที่เป็นไปตามเกณฑ์การ เจริญเติบโต ตามช่วงวัย ตามเกณฑ์ของสานักโภชนาการ กรมอนามัย มีสุขภาพจิต อารมณ์ สังคม และแสดงออกอย่าง เหมาะสมกับกจิ กรรมกีฬาแตล่ ะระดับช้ัน โดยสามารถอยู่รว่ มกับผู้อนื่ อย่างมคี วามสุข ไมม่ คี วามขัดแย้งกับผู้อื่น สูงกว่าคา่ เป้าหมาย คือ รอ้ ยละ 85 เอกสาร หลักฐาน ร่องรอยเชงิ ประจักษ์ท่เี กยี่ วข้องกบั มาตรฐานท่ี 1 คณุ ภาพผู้เรียน - รายงานผลการเรยี น ปีการศึกษา 2564 - ผลการทดสอบระดบั ชาติ ปกี ารศกึ ษา 2564
Search