87 ระดับช้ันการศึกษา ส่วนท่ี 2 แบบสอบถามเกี่ยวกับปัจจัยระดับบุคคล ได้แก่ ความรู้เร่ืองเพศศึกษา และการเห็นคุณค่าในตนเอง สว่ นที่ 3 แบบสอบถามเกย่ี วกับปจั จัยระหว่างบคุ คล ได้แก่ ความสมั พนั ธ์ ในครอบครัว ความเชื่อ ความศรัทธาที่มีต่อเพื่อน พ่อแม่ ครู และคู่นอน และส่วนที่ 4 แบบสอบถาม เก่ียวกับพฤตกิ รรมเสย่ี งทางเพศ ถา้ นกั เรียนไม่เขา้ ใจในขอ้ คาถาม ขอใหส้ อบถามจากผู้วจิ ยั ความเสี่ยงหรือความไม่สะดวกสบายของอาสาสมคั รวจิ ยั ทอ่ี าจได้รับ ผู้วิจยั ขอชแี้ จงถงึ ความเสี่ยงและความไมส่ บายทีอ่ าจเกิดข้นึ ดงั น้ี 1. นักเรียนอาจเสียเวลาในการตอบแบบทดสอบ และแบบสอบถาม การเก็บข้อมูล ต่างๆ น้ัน จะดาเนินการโดยไม่รบกวนเวลาเรียนของนักเรียน ดังนั้นนักเรียนจะไม่ได้รับค่าชดเชยการ เสยี เวลา ในการเขา้ รว่ มโครงการในครั้งน้ี 2. หากนักเรียนไม่อยากจะตอบแบบสอบถามหรือเกิดความไม่สบายใจในระหว่างตอบ แบบสอบถาม สามารถหยดุ ตอบแบบสอบถามได้ตลอดเวลา ความรับผดิ ชอบของผู้วจิ ัยเม่ือเกิดภาวะแทรกซ้อน ในการวิจัยคร้ังนี้ หากนักเรียนได้รับอันตรายใดๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับโครงการวิจัย ท่าน สามารถติดต่อผู้ทาวิจัย นางวิพรรษา คารินทร์ เจ้าพนักงานสาธารณสุขชานาญงาน โรงพยาบาล ส่งเสรมิ สขุ ภาพตาบลบา้ นโทกหวั ช้าง โทรศพั ท์ 089 559 5336 ไดต้ ลอด 24 ชัว่ โมง การเขา้ ร่วมและการสนิ้ สดุ การเข้าร่วมโครงการวจิ ยั การเข้าร่วมในโครงการวจิ ัยนี้เป็นไปดว้ ยความสมคั รใจ และนักเรียนสามารถถอนตัวจาก การเขา้ ร่วมโครงการไดต้ ลอดเวลา ซึ่งจะไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการเรียนของนกั เรยี น กระบวนการขอความยินยอมโดยได้รบั การบอกกล่าว (informed consent process) ก่อนดาเนินการวิจัย ผู้วิจัยจะไปพบผู้ปกครองหรือตัวแทนที่ได้รับมอบหมาย ในที่น้ี หมายถึงครูที่ผู้ดูแลนักเรียนแทนผู้ปกครอง และอาสาสมัครวิจัยท่ีโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตต์อารี ผู้วิจัยจะอธิบายรายละเอียดโครงการวิจัยพร้อมท้ังแจกเอกสารคาอธิบาย ให้ผู้ปกครองหรือตัวแทนที่ ได้รับมอบหมาย และอาสาสมัครวิจัย เมื่อผู้ปกครองหรือตัวแทนท่ีได้รับมอบหมายให้ความยินยอม และอาสาสมคั รวจิ ัยยินยอมสมัครใจเขา้ รว่ มโครงการวจิ ัย ผู้วจิ ยั จะขอให้ลงนามในเอกสารยินยอม
88 การปกป้องรกั ษาข้อมลู ความลบั ของอาสาสมคั รวจิ ัย ข้อมูลท่ีอาจนาไปสู่การเปิดเผยตัวนักเรียน จะได้รับการปกปิดไม่มีการเปิดเผยช่ือของ อาสาสมัครวิจัยโดยจะใช้การกาหนดรหัส การเสนอผลงานวิจัยและรายงานการวิจัยจะนาเสนอใน ภาพรวม อย่างไรก็ดีจะมีบุคคลบางกลุ่ม เช่น ผู้ตรวจสอบ คณะอนุกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน จะได้รบั อนุญาตใหเ้ ข้าถึงขอ้ มลู โดยตรงจากเอกสารอน่ื ๆ ท่ีเกี่ยวข้องเพื่อการตรวจสอบขั้นตอนการวจิ ัย โดยไม่ละเมิดการรักษาความลับของนักเรียน ภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายกาหนด ตามที่นักเรียนได้ลง นามในใบยินยอมที่เป็นลายลักษณ์อักษร และหากนักเรียนต้องการการยกเลิกสิทธ์ิดังกล่าว นักเรียน สามารถแจ้งหรือเขียนบันทึกขอยกเลิกการให้คายินยอม โดยแจ้งหรือส่งไปท่ี นางวิพรรษา คารินทร์ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลบ้านโทกหวั ช้าง ตาบล พระบาท อาเภอเมอื ง จังหวัดลาปาง 52000 โทรศพั ท์ (ทท่ี างาน) 081 469 6254 โทรศัพท์ทบี่ ้าน 054-241404 โทรศพั ท์มือถือ 089 559 5336 หากนักเรียนขอยกเลิกการให้คายินยอมหลังจากท่ีท่านได้เข้าร่วมโครงการวิจัยไปแล้ว ขอ้ มลู ของท่านจะไมถ่ ูกบนั ทกึ เพิม่ เตมิ และไม่ถูกนามาใชเ้ พื่อประเมินผลการวจิ ยั สทิ ธ์ิของผเู้ ขา้ ร่วมในโครงการวิจยั ในฐานะทีน่ กั เรียนเปน็ ผู้เข้ารว่ มในโครงการวจิ ัย นักเรยี นจะมีสทิ ธ์ิ ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. นักเรยี นจะไดร้ ับทราบถึงลกั ษณะและวตั ถุประสงค์ของการวจิ ยั ในคร้ังนี้ 2. นกั เรียนจะไดร้ บั การอธิบายเก่ยี วกบั วิธีการวิจัยและการเก็บข้อมลู 3. นกั เรียนจะไดร้ ับการอธิบายเกี่ยวกับความเส่ยี งและความไมส่ บายท่ีอาจได้รบั จากการ วจิ ยั 4. นักเรียนจะได้รบั การอธบิ ายถึงประโยชน์ท่นี ักเรียนอาจได้รบั จากการวิจัย 5. นักเรยี นจะมีโอกาสได้ซกั ถามเกีย่ วกบั งานวจิ ัยหรือขั้นตอนท่เี กีย่ วข้อง 6. นักเรียนสามารถขอถอนตัวจากโครงการเมื่อไรก็ได้ โดยท่ีนักเรียนจะไม่ได้รับ ผลกระทบใด ๆ และไม่มผี ลตอ่ การเรียนของนักเรยี น 7. นักเรียนจะได้รับสาเนาเอกสารข้อมูลคาอธิบายสาหรับผู้เข้าร่วมโครงการวิจัยและ เอกสารใบยนิ ยอมทม่ี ีทั้งลายเซ็นและลงวันท่ี 8. นักเรียนมีสิทธ์ิในการตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมโครงการวิจัยหรือไม่ก็ได้ โดยปราศจาก การบงั คับ ขม่ ขู่ หรอื หลอกลวง ห า ก นั ก เ รี ย น ไ ม่ ไ ด้ รั บ ก า ร ป ฏิ บั ติ ต า ม ข้ อ มู ล ดั ง ก ล่ า ว ส า ม า ร ถ ร้ อ ง เ รี ย น ไ ด้ ที่ คณะอนุกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชุดที่ 3 อาคารราชสุดา ช้ัน 1
89 ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โทรศัพท์ 02-986- 9213 ตอ่ 7373 โทรสาร 02-5165381
90 ภาคผนวก ข หนงั สอื แสดงความยินยอมเข้าร่วมการวจิ ยั ของอาสาสมัครวิจัย Informed Consent Form ทาท่ี พ.ศ. วันที่ เดอื น เลขท่ี อาสาสมคั รวิจยั ข้าพเจ้า ซึ่งได้ลงนามท้ายหนงั สอื นี้ ขอแสดงความยินยอมเข้ารว่ มโครงการวิจยั ช่อื โครงการวิจัย ปัจจยั ที่มีความสัมพนั ธ์กับพฤตกิ รรมเสีย่ งทางเพศของนกั เรยี นโรงเรยี นประจา ระดับชัน้ มัธยมศึกษา ช่อื ผู้วจิ ยั นางวพิ รรษา คารินทร์ ที่อยู่ทีต่ ิดตอ่ (ท่ที างาน) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลบา้ นโทกหัวช้าง ตาบล พระบาท อาเภอ เมือง จงั หวัดลาปาง 52000 (ท่บี า้ น) 520 หมู่ 5 ถนน ลาปาง-แม่ทะ ตาบล ชมพู อาเภอเมอื ง จงั หวดั ลาปาง 52100 โทรศัพท์ (ท่ีทางาน) 081 469 6254 โทรศพั ทท์ ่บี า้ น 054-241404 โทรศพั ท์มือถือ 089 559 5336 ขา้ พเจ้า ไดร้ ับทราบรายละเอยี ดเก่ยี วกบั ทมี่ าและวตั ถุประสงค์ในการทาวิจัย รายละเอียด ขนั้ ตอนต่างๆ ท่ีจะตอ้ งปฏิบัติหรอื ได้รับการปฏิบัติ ความเส่ียง/อันตราย และประโยชน์ซงึ่ จะเกิดขึ้นจาก การวิจัยเรื่องนี้ โดยได้อ่านรายละเอียดในเอกสารช้ีแจงอาสาสมัครวิจัยโดยตลอด และได้รับคาอธิบาย จากผวู้ จิ ยั จนเขา้ ใจเปน็ อย่างดีแล้ว ขา้ พเจา้ จึงสมัครใจเข้าร่วมในโครงการวิจัยนี้ ตามทีร่ ะบไุ ว้ในเอกสารชี้แจงอาสาสมัคร วจิ ยั โดยขา้ พเจ้ายินยอมสละเวลา ตอบแบบทดสอบ และสอบถาม จานวน 56 ขอ้ หนง่ึ คร้งั รวม 40 เม่ือเสรจ็ ส้ินการวจิ ัยแล้วข้อมูลท่เี ก่ยี วขอ้ งกับอาสาสมคั รวิจัย จะถูกทาลาย
91 ข้าพเจ้ามีสิทธิถอนตัวออกจากการวิจัยเมื่อใดก็ได้ตามความประสงค์ โดยไม่ต้องแจ้ง เหตุผลซ่ึงการถอนตัวออกจากการวิจัยน้ัน จะไม่มีผลกระทบในทางใดๆ และไม่มีผลต่อการเรียนต่อ ขา้ พเจ้าท้งั สิ้น ข้าพเจ้าได้รับคารับรองว่า ผู้วิจัยจะปฏิบัตติ ่อข้าพเจ้าตามข้อมูลทรี่ ะบไุ ว้ในเอกสารชี้แจง อาสาสมัครวิจัยและขอ้ มูลใดๆ ท่ีเกย่ี วขอ้ งกับข้าพเจา้ ผู้วจิ ัยจะเก็บรกั ษาเป็นความลบั โดยจะนาเสนอ ขอ้ มูลการวิจยั เปน็ ภาพรวมเทา่ น้ัน ไมม่ ีขอ้ มูลใดในการรายงานที่จะนาไปสู่การระบุตัวขา้ พเจ้า หากข้าพเจ้าไม่ได้รับการปฏิบัติตรงตามท่ีได้ระบุไว้ในเอกสารช้ีแจงอาสาสมัครวิจัย ข้าพเจ้าสามารถร้องเรียนได้ท่ี: คณะอนุกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชุดท่ี 3 อาคารราชสุดา ช้ัน 1 ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศนู ยร์ งั สิต โทรศัพท์ 02-986-9213 ต่อ 7373 โทรสาร 02-5165381 ข้าพเจ้าได้ลงลายมือช่ือไว้เป็นสาคัญต่อหน้าพยาน ท้ังนี้ข้าพเจ้าได้รับสาเนาเอกสาร ข้อมูลสาหรับอาสาสมัครวิจัย และสาเนาหนังสือแสดงความยินยอมเข้าร่วมการวิจัยของอาสาสมัคร วิจัยไว้แลว้ ลงชื่อ............................................................ ลงช่ือ......................................................... ( นางวพิ รรษา คารนิ ทร์ ) (.......................................................) ผวู้ จิ ัยหลกั อาสาสมัครวจิ ัย วันที่……..…/……….……./………… วันท่ี……..…/……….……./………… ลงช่อื ......................................................... ลงชอื่ ......................................................... (........................................................) (........................................................) พยาน พยาน วนั ท่ี……..…/……….……./………… วันท่ี……..…/……….……./…………
92 ภาคผนวก ค แบบสอบถาม เร่ือง ปจั จัยท่ีมคี วามสัมพันธก์ บั พฤตกิ รรมเส่ียงทางเพศของนกั เรยี นโรงเรยี นประจา ระดับชั้น มธั ยมศกึ ษา คาช้แี จง แบบสอบถามชดุ นี้มจี ดุ มุ่งหมายเพ่ือศึกษาปจั จัยที่มีความสัมพันธก์ ับพฤติกรรมเสีย่ งทางเพศ ของนักเรียนโรงเรียนประจา ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษา โดยแบบสอบถามแบง่ ออกเป็น 4 ตอน ดงั นี้ สว่ นที่ 1 แบบสอบถามขอ้ มลู ลกั ษณะประชากร จานวน 3 ขอ้ สว่ นท่ี 2 แบบสอบถามเกี่ยวกับปัจจยั ระดบั บุคคล จานวน 35 ขอ้ ส่วนที่ 3 แบบสอบถามเกีย่ วกับปจั จัยระหว่างบุคคล จานวน 12 ขอ้ สว่ นท่ี 4 แบบสอบถามเก่ยี วกับพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ จานวน 5 ข้อ สว่ นท่ี 1 ข้อมูลลักษณะประชากร คาช้ีแจง โปรดเติมขอ้ ความลงในชอ่ งว่าง หรอื เติมเครื่องหมาย (ถกู ) ลงใน [ ] หน้าข้อความ ทตี่ รงกบั ความเปน็ จรงิ 1. ปัจจบุ ันนักเรยี นมี อายุ ……………………..ปี (อายเุ ตม็ ) 2. เพศ [ ] ชาย [ ] หญิง 3. นักเรยี นกาลังศึกษาอยชู่ น้ั [ ] มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 [ ] มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 [ ] มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 [ ] มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 [ ] มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4
93 ส่วนท่ี 2 แบบทดสอบและแบบสอบถามเกีย่ วกับปจั จัยระดบั บุคคล ตอนท่ี 2.1 แบบทดสอบความรูเ้ ก่ียวกับเรือ่ งเพศ คาชีแ้ จง ให้นกั เรียนอา่ นคาถามแต่ละข้อ และทาเครื่องหมาย X (กากบาท) บนตัวเลอื ก ก ข ค และ ง ทเี่ ห็นวา่ เปน็ คาตอบท่ีถูกต้องท่สี ุดเพยี งขอ้ เดยี ว และความร่วมมือตอบให้ครบทุกข้อ 1. ขอ้ ใดแสดงวา่ เดก็ หญิงเข้าส่วู ุฒภิ าวะทางเพศหญิงทีส่ มบรณู ์แล้ว ก. การมสี ะโพกผาย ข. การมีสวิ ขน้ึ ค. การมปี ระจาเดอื นคร้งั แรก ง. การมีหน้าอกใหญข่ ้นึ 2. ข้อใดถือว่า ไม่ ถกู ต้อง ก. การทวี่ ัยรนุ่ ชายเมือ่ มคี วามรสู้ ึกทางเพศ อวยั วะเพศจะแข็งตวั ข. การหลัง่ น้าอสจุ ิออกมาขณะหลับเรียกว่า การฝันเปยี ก ค. เม่ือเขา้ สวู่ ัยร่นุ เพศชายจะมหี นวดและเครา มีขนข้นึ ท่หี นา้ แข้ง รกั แร้ และบริเวณหวั เหน่า ง. การฝันเปียก เป็นการแสดงออกทางเพศที่ผดิ ปกติ 3. อัณฑะ (testis) ในเพศชาย มีหน้าที่ใด ก. ผลติ อาหารแกต่ ัวอสุจิ และเป็นท่ีพักตัวอสุจิ ข. ผลติ ตวั อสุจิ และฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (testosterone) ค. สรา้ งสารหล่อลืน่ ท่อปัสสาวะ และสร้างสารที่เป็นเบสอย่างอ่อน ง. ถกู ทกุ ขอ้ 4. รงั ไข่ในเพศหญงิ มหี น้าทใี่ ด ก. ผลติ ไข่ ข. ผลิตฮอร์โมน ค. ผลติ ประจาเดอื น ง. ถกู ทัง้ ข้อ ก และข้อ ข
94 5. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ต้องเกีย่ วกบั ประจาเดือน ก. เลอื ดเสยี ทรี่ า่ งกายไม่ใชแ้ ล้วและขบั ออกมาทุกเดือน ข. การสลายตวั ของรงั ไข่กบั เลือดที่มาเล้ยี งเยื่อบุมดลกู ค. การทีเ่ ย่อื บุมดลูก หลุดลอกออกมาพร้อมกับเลือดที่ออกมาจากหลอดเลือดฝอยทมี่ าเลี้ยงเยือ่ บผุ นงั มดลูก ง. การสลายตวั ของสเปิร์มทีย่ ังไมผ่ สมไข่ 6. ข้อใดกล่าวถกู ต้องทสี่ ดุ เกยี่ วกับฮอรโ์ มนเทสโทสเทอโรน (testosterone) ก. เปน็ ฮอร์โมนเพศชาย มหี น้าที่ควบคุมลักษณะของเพศชาย เชน่ เสยี งแตก กระตุ้นการเจรญิ เติบโต ของร่างกายและอวัยวะเพศ กระตุ้นอารมณเ์ พศ ข. เปน็ ฮอร์โมนเพศหญิง มีหนา้ ที่ควบคมุ ลักษณะของเพศหญิง เช่น การมีประจาเดือน มีหนา้ อกใหญ่ ขึน้ สะโพกผายออก และกระตุน้ อารมณ์เพศ ค. เป็นฮอร์โมนท่ชี ่วยควบคุมการตกของไข่ในเพศหญงิ ง. เป็นฮอรโ์ มนทีช่ ่วยให้เพศชายมีสมรรถภาพทางเพศเพ่ิมมากขึน้ 7. ข้อใดกลา่ วถูกต้องท่ีสุดเกย่ี วกบั ฮอร์โมนเอสโทรเจน (estrogen) ก. เป็นฮอรโ์ มนเพศชาย มีหน้าท่ีควบคมุ ลักษณะของเพศชาย เชน่ เสียงแตก กระตุ้นการเจริญเติบโต ของรา่ งกายและอวยั วะเพศ กระต้นุ อารมณเ์ พศ ข. เป็นฮอรโ์ มนเพศหญงิ มีหน้าท่ีควบคุมลักษณะของเพศหญงิ เช่น การมีประจาเดือน มีหนา้ อกใหญ่ ข้ึน สะโพกผายออก และกระตุ้นอารมณเ์ พศ ค. เป็นฮอรโ์ มนทชี่ ่วยควบคุมการตกของไข่ในเพศหญงิ ง. เป็นฮอร์โมนทช่ี ่วยให้เพศชายมีสมรรถภาพทางเพศเพิม่ มากข้นึ 8. การฝันเปียก คอื อะไร ข. การฝนั ถึงอนาคตท่ีเป็นไปไม่ได้ ก. การปสั สาวะรดทีน่ อนขณะหลบั ง. การหล่ังน้าอสุจิออกมาขณะหลับ ค. การฝันว่าไปอาบน้า
95 9. การต้ังครรภ์เกดิ ขึ้นได้อย่างไร ก. การที่ตวั อสจุ ผิ สมกบั ไข่ แล้วอาศยั มดลูกเปน็ ทเี่ จริญเติบโต ข. การทตี่ วั อสุจิผสมกับตัวออ่ น แล้วอาศยั มดลูกเปน็ ทเ่ี จริญเตบิ โต ค. การทต่ี ัวอสุจิผสมกบั ไข่ แล้วอาศยั ท้องเพศหญงิ เป็นทเ่ี จริญเตบิ โต ง. การทีต่ วั อสุจผิ สมกบั ตัวอ่อน แล้วอาศยั ท้องเพศหญงิ เป็นทีเ่ จรญิ เติบโต 10. ขอ้ ใดกล่าวถงึ ความหมายของการคมุ กาเนดิ ได้ถูกต้องมากท่ีสุด ก. การกนิ ยาคุมกาเนิด การฉีดยาคุมกาเนิด และการทาหมัน ข. การป้องกันการต้ังครรภ์และการจากดั จานวนบุตร ค. การทาให้เกดิ ความไมส่ มดุลระหวา่ งตัวอสุจแิ ละไข่ ง. ถกู ทงั้ ข้อ ข. และข้อ ค. 11. วธิ คี ุมกาเนดิ แบบชวั่ คราวไดแ้ ก่ข้อใด ก. ยาเมด็ คุมกาเนิด ยาฉดี คุมกาเนิด ข. หมนั ชาย หมันหญงิ ค. ยาฝังคุมกาเนิด หว่ งอนามัย ง. ถูกท้ัง ก.และ ค. 12. โรคเอดส์ สามารถติดต่อได้ทางใด ข. ทางเลอื ดของผู้ป่วย ก.นา้ นมจากแมส่ ู่ลูก ง. ถกู ทุกข้อ ค. ทางเพศสัมพันธ์ 13. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ ลักษณะอารมณข์ องวัยรนุ่ ได้ถูกต้องมากท่สี ดุ ก. การมีอารมณเ์ ปล่ยี นแปลงงา่ ย หวน่ั ไหวงา่ ย ชอบอิสระ ข. การมีอารมณ์ มน่ั คง สงบ ค. การต้องการความชว่ ยเหลือจากผู้อน่ื ง. ถูกทุกข้อ 14. ข้อใดเป็นการปฏบิ ัตทิ เี่ หมาะสมท่ีสดุ ในการคบเพ่ือนต่างเพศของผู้หญงิ ก. การใหค้ วามสนิทสนมใกล้ชิดเหมือนเพศเดยี วกัน ข. การแสดงความน่ารัก ความอ่อนหวานเพื่อใหผ้ ู้ชายชว่ ยเหลอื ค. การรักนวลสงวนตวั ตามขอบเขตประเพณีไทย ง. การซื้อของไปฝากเพ่ือนต่างเพศเพ่ือแสดงความหว่ งใย
96 15. พฤติกรรมทเี่ หมาะสมท่ผี ูช้ ายควรปฏบิ ัตติ ่อเพ่ือนตา่ งเพศคือ ก. การทาตัวตามสบาย ให้ความใกลช้ ิดสนทิ สนมเหมือนเพศเดียวกัน ข. การจบั มอื จบั ศรี ษะ เพื่อแสดงความเป็นเพื่อนสนิทกนั ค. การปฏิบัติตัวอยา่ งสภุ าพบุรุษ ใหเ้ กียรติ ไม่ฉวยโอกาส และจรงิ ใจ ง. การแสดงความเปน็ ลูกผชู้ ายด้วยการเอาใจผ้หู ญิงทุกคนทคี่ ้นุ เคย ตอนท่ี 2.2 แบบสอบถามการเห็นคุณคา่ ในตนเอง คาช้ีแจง ให้นักเรียนอ่านคาถามแต่ละข้อ และทาเคร่ืองหมาย (ถูก) ลงในช่องคาตอบที่ตรงกับ ความคิดเห็นความรู้สึกของนักเรียนเพียงคาตอบเดียว และขอความร่วมมือ ตอบให้ครบทุกข้อ ใน คาถามแต่ละช่องมคี วามหมายดงั น้ี เห็นด้วยอย่างยิ่ง หมายถึง นักเรียนเห็นว่าข้อความในประโยคน้ันตรงกับความคิดเห็นของ นักเรยี นมากทสี่ ดุ เห็นด้วย หมายถึง นักเรียนเห็นว่าข้อความในประโยคน้ันตรงกับความคิดเห็นของนักเรียน มาก ไม่แน่ใจ หมายถึง นักเรียนเห็นว่าข้อความในประโยคน้ันตรงกับความคิดเห็นของนักเรียน มาก ก้าก่ึงเพียงคร่งึ หน่ึง ไม่เห็นด้วย หมายถึง นักเรียนเห็นว่าข้อความในประโยคน้ันไม่ตรงกับความคิดเห็นของ นกั เรยี นมาก ไม่เห็นดว้ ยอย่างย่ิง หมายถึง นักเรียนเห็นว่าข้อความในประโยคนั้นตรงกับความคิดเห็นของ นักเรียนมากที่สดุ การเห็นคุณคา่ ในตนเอง เหน็ ดว้ ย เห็นด้วย ไมแ่ น่ใจ ไม่เหน็ ด้วย ไม่เห็นดว้ ย อย่างยิ่ง อยา่ งย่งิ 1. นักเรียนชอบที่ตัวเองมี สุขภาพแข็งแรง 2. นักเรียนคิดว่านักเรียนมี สตปิ ญั ญาดี 3. นักเรียนรู้สึก ไม่มีความ เช่อื ม่ันในตนเอง 4. นักเรียนพอใจในรูปร่าง หนา้ ตาของตนเอง
97 การเหน็ คณุ ค่าในตนเอง เห็นดว้ ย เหน็ ด้วย ไมแ่ นใ่ จ ไมเ่ หน็ ดว้ ย ไม่เห็นด้วย อย่างยง่ิ อย่างยิ่ง 5. นั ก เ รี ย น เ ป็ น ค น ก ล้ า แสดงออก 6.นักเรียนรู้จักข้อเด่นและ ข้อดอ้ ยของตนเองดี 7. นักเรียนเป็นผู้ที่ครูและ เพื่อนๆ ยอมรับ 8.นักเรียนอยากเปลี่ยนแปลง รปู รา่ งหนา้ ตาเพื่อใหเ้ ปน็ ที่ช่ืน ชมของผพู้ บเห็น 9. นักเรยี นเปน็ นกั เรยี นทเ่ี ชือ่ ฟังคุณครแู ละเคารพ กฎระเบยี บของโรงเรยี น 10. นักเรียนไม่เอาตัวเองไป เปรียบเทยี บกับใคร 11. นั ก เ รี ย น รู้ สึ ก ว่ า ไ ม่ สามารถทาอะไรสาเร็จลุล่วง ไดด้ ว้ ยตวั เอง 12.นักเรียนอยากมีทุกอย่างท่ี เพื่อนมี
98 สว่ นที่ 3 แบบสอบถามเกย่ี วกับปัจจยั ระดับระหวา่ งบคุ คล ตอนท่ี 3.1 ความสมั พันธใ์ นครอบครวั ท่สี ่งผลต่อพฤตกิ รรมเส่ยี งทางเพศ คาชี้แจง ให้นักเรียนอ่านคาถามแต่ละข้อ และทาเครื่องหมาย (ถูก) ลงในช่องคาตอบท่ีตรงกับ ความคิดเห็นความรู้สึกของนักเรียนเพียงคาตอบเดียว และขอความร่วมมือ ตอบให้ครบทุกข้อ ใน คาถามแต่ละชอ่ งมคี วามหมายดงั น้ี จรงิ มากทีส่ ุด หมายถงึ เกิดขน้ึ เสมอทุกครัง้ จรงิ มาก หมายถงึ เกิดขน้ึ แทบทุกครงั้ จริงปานกลาง หมายถึงเกิดข้นึ ในบางโอกาส จรงิ เล็กน้อย หมายถึงเกดิ ขน้ึ นานๆคร้งั ไมจ่ ริงเลย หมายถึงไมเ่ คยเกดิ ขน้ึ เลย ลาดบั ข้อความ จริงมาก จริง จริงปาน จรงิ ไม่จริง ท่ี ท่ีสุด มาก กลาง เลก็ น้อย เลย 1 นักเรียนสามารถพดู คุย และขอ คาปรึกษาจากพ่อแม่ได้ทุกเรื่อง 2 พ่อแม่ของนักเรียนทะเลาะเบาะ แวง้ กนั เสมอ 3 พอ่ แมข่ องนักเรียนไม่มเี วลาว่าง ให้ 4 พ่อแมข่ องนักเรยี นไมเ่ คยสนใจ ปญั หาของนักเรียนเลย 5 เม่อื มีเวลาว่าง นกั เรยี นและพ่อ แมม่ ักมีกิจกรรมร่วมกัน เชน่ ดู ทวี ี กินข้าว หรือไปเทีย่ ว ด้วยกัน 6 พ่อแมข่ องนกั เรยี น ไมเ่ คยรบั ฟงั เหตผุ ล หรอื ความคิดเหน็ ของ นกั เรียน
99 ลาดบั ขอ้ ความ จรงิ มาก จริง จรงิ ปาน จริง ไม่จรงิ ที่ ที่สุด มาก กลาง เลก็ น้อย เลย 7 เมอ่ื เกิดปัญหาในครอบครัว พ่อ แมช่ ว่ ยกันคดิ แกไ้ ขปญั หา รว่ มกับนกั เรียน 8 นักเรียนรู้สึกพงึ พอใจกบั สัมพันธภาพในครอบครัว 3.2 ความเชือ่ ความศรัทธาทม่ี ีต่อเพือ่ น คาช้ีแจง ให้นักเรียนอ่านคาถามแต่ละข้อ และทาเคร่ืองหมาย (ถูก) ลงในช่องคาตอบที่ตรงกับ ความเป็นจริงของนกั เรยี นมากที่สุดเพียงคาตอบเดียว และขอความรว่ มมือ ตอบให้ครบทุกข้อ ลาดบั ที่ ขอ้ ความ ใช่ ไม่ใช่ 1 นกั เรยี นยอมรบั ในคาแนะนาของเพ่อื น 2 นกั เรียนมีความไวใ้ จในตัวของเพอ่ื น 3 นักเรยี นคล้อยตาม และพร้อมทีจ่ ะปฏบิ ัตติ ามคาแนะนาของเพื่อน 3.3 ความเช่อื ความศรัทธาที่มตี ่อพอ่ แม่ คาช้ีแจง ให้นักเรียนอ่านคาถามแต่ละข้อ และทาเคร่ืองหมาย (ถูก) ลงในช่องคาตอบที่ตรงกับ ความเปน็ จริงของนกั เรยี นมากทีส่ ดุ เพยี งคาตอบเดยี ว และขอความร่วมมือ ตอบให้ครบทุกขอ้ ลาดับท่ี ขอ้ ความ ใช่ ไม่ใช่ 1 นกั เรียนยอมรับในคาสง่ั สอนของพ่อแม่ 2 นกั เรยี นมีความไวใ้ จในตัวของพอ่ แม่ 3 นกั เรยี นคล้อยตาม และพร้อมท่ีจะปฏิบัตติ ามคาส่ังสอนของพอ่ แม่ 3.4 ความเชื่อ ความศรทั ธาทีม่ ีต่อครู คาชี้แจง ให้นักเรียนอ่านคาถามแต่ละข้อ และทาเคร่ืองหมาย (ถูก) ลงในช่องคาตอบที่ตรงกับ ความเป็นจริงของนกั เรยี นมากทส่ี ุดเพียงคาตอบเดียว และขอความรว่ มมือ ตอบให้ครบทกุ ขอ้ ลาดบั ท่ี ขอ้ ความ ใช่ ไมใ่ ช่ 1 นกั เรยี นยอมรบั ในคาสั่งสอนของครู
100 2 นักเรยี นมีความไวใ้ จในตัวของครู 3 นักเรียนคล้อยตาม และพร้อมท่ีจะปฏบิ ตั ิตามคาส่งั สอนของครู 3.5 ความเชอื่ ความศรัทธาที่มีต่อคูน่ อน คาช้ีแจง ให้นักเรียนอ่านคาถามแต่ละข้อ และทาเครื่องหมาย (ถูก) ลงในช่องคาตอบท่ีตรงกับ ความเปน็ จรงิ ของนักเรยี นมากทสี่ ดุ เพียงคาตอบเดียว และขอความร่วมมือ ตอบใหค้ รบทกุ ข้อ ลาดับท่ี ข้อความ ใช่ ไมใ่ ช่ 1 นกั เรียนยอมรับในคาแนะนาของคนู่ อน 2 นกั เรยี นไวใ้ จในตัวของคู่นอน 3 นกั เรียนคล้อยตาม และพร้อมท่จี ะปฏิบัติตามคาแนะนาของค่นู อน ส่วนที่ 4 แบบสอบถามเก่ยี วกับพฤตกิ รรมเส่ียงทางเพศ คาช้ีแจง กรุณาทาเคร่ืองหมาย (ถูก) ลงใน [ ] ชอ่ งคาตอบทตี่ รงกบั ความเป็นจรงิ ของนักเรยี น เพยี งคาตอบเดียว 1. นักเรยี นเคยมเี พศสัมพนั ธ์หรอื ไม่ [ ] เคย [ ] ไม่เคย (จบการตอบแบบสอบถาม) 2. การมเี พศสมั พันธ์นน้ั นักเรยี นใช้ถุงยางอนามยั หรอื ไม่ [ ] ใช้ [ ] ไม่ใช้ 3. การมีเพศสมั พันธน์ ั้นนกั เรยี นกนิ ยาคมุ กาเนดิ หรือไม่ [ ] กนิ [ ] ไม่กิน 4. นักเรยี นเคยตง้ั ครรภ์/ยุตกิ ารต้งั ครรภ์ หรือไม่ [ ] เคย [ ] ไมเ่ คย 5. นกั เรียนเคยมเี พศสัมพันธโ์ ดยไม่ยนิ ยอมหรอื ไม่ [ ] เคย [ ] ไมเ่ คย
101 ภาคผนวก ง ใบรับรองโครงการวจิ ัย
102 ภาคผนวก จ ร า ย น า ม ผู้ เ ช่ี ย ว ช า ญ ต ร ว จ ส อ บ เ ค รื่ อ ง มื อ ก า ร วิ จั ย ข อ ง แ บ บ ท ด ส อ บ แ ล ะ แ บ บ ส อ บ ถ า ม ปั จ จั ย ท่คี วามสมั พนั ธ์กับการมเี พศสัมพันธข์ องนักเรยี นระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษา โรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์ ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ สงั กัด 1.นางกลุ รตั น์ ไชยพรม พยาบาลวชิ าชีพชานาญการพิเศษ หวั หนา้ กลุ่มงานส่งเสรมิ สขุ ภาพ 2.นางกุหลาบทิพย์ เพ็ชรแสนงาม สานักงานสาธารณสุขจงั หวัดลาปาง 3.นายยงยทุ ธ วงค์วิชยั พยาบาลวิชาชพี ชานาญการ หัวหนา้ กลุ่มงานจิตเวช โรงพยาบาลหา้ งฉัตร นกั วชิ าการสาธารณสขุ ชานาญการ หัวหน้ากลุม่ งานควบคุมโรคติดตอ่ สานกั งานสาธารณสขุ จังหวดั ลาปาง
ชอ่ื 103 วนั เดือนปีเกิด วฒุ กิ ารศึกษา ประวตั ผิ เู้ ขยี น ตาแหนง่ นางวิพรรษา คารนิ ทร์ 9 ตุลาคม 2527 ประสบการณท์ างาน สาธารณสุขศาสตรบณั ฑิต มหาวทิ ยาลัยสุโขทัยธรรมาธริ าช เจ้าพนกั งานสาธารณสขุ ชานาญงาน สานักงานสาธารณสขุ อาเภอเมืองลาปาง ปี 2549 -2551 เจ้าพนักงานสาธารณสุข โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตาบลบา้ นค่าหลวง สานกั งานสาธารณสุขอาเภอเมอื งลาปาง ปี 2551- ปัจจุบนั เจา้ พนกั งานสาธารณสขุ ชานาญงาน โรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพตาบลบ้านโทกหัวชา้ ง สานักงานสาธารณสขุ อาเภอเมืองลาปาง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117