Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Nutrition-Note

Nutrition-Note

Published by Kream Sanitmatjaro, 2020-10-01 11:44:43

Description: Nutrition-Note

Search

Read the Text Version

อาหารในทอ้ งถน่ิ 3 จังหวดั ชายแดนใต้ อาหารคาว ช่ือเฉพาะของอาหาร ภาพอาหาร นาซดิ าแฆ ไก่กอและ หรือ ไก่ฆอและ ข้าวยำปักใต้ หรือ นาซิกาบู ละซอ

ซาเต รอเญาะ ซอเลาะลาดอ อาหารว่างและอาหารหวาน

ช่ือเฉพาะของอาหาร ภาพอาหาร โรตี ขา้ วเหนียวสังขยาหรือปูโละกายอ ตูปะซูตงหรอื หมึกต้มหวานยัดไสข้ ้าวเหนยี ว กือโป๊ะ

ขนมอาเกา๊ ะ โรตปี าแย มะตะบะ โรคไตและสมนุ ไพรท่เี ก่ยี วขอ้ ง/ความเช่อื

• กระวาน แพทยแ์ ผนไทยใช้กระวานเป็นยาขับลม ซงึ่ สามารถนำทกุ ส่วนของกระวานมาต้มรวมกัน ด่ืม คล้ายๆ กับชาทว่ั ไป หากดื่มเป็นประจำจะช่วยบำรงุ ไตทางอ้อมเพราะสามารถลดปริมาณของเสีย ในเลอื ดทำใหไ้ ตไม่ต้องทำงานหนักมาก ถา้ ไม่มีผลแหง้ สามารถใช้แกน่ ของต้นหรือใบแก่ตากแห้ง แทนผลแหง้ ได้ แต่ตวั ยาจะเขม้ ข้นมาก ควรดืม่ วนั เว้นวนั หรอื น้อยกว่านน้ั • กระเจย๊ี บแดง ส่วนทนี่ ำมาใช้เป็นสมุนไพรฟอกเลือดบำรุงไตใหเ้ น้นไปที่ดอกสแี ดงสด โดยนำไปชงกับนำ้ รอ้ นดม่ื • งา งาขาวบดต้มกบั น้ำ ด่ืมเป็นยาบำรงุ ร่างกาย วิธีง่ายๆใช้งาขาวหนึง่ หยบิ มือ บดในครกบดยาจน แตกละเอียด ต้มกบั น้ำประมาณ 300 ซ.ี ซ.ี หรือ ละลายกับน้ำร้อนประมาณ 250 ซ.ี ซี. ดม่ื บำรงุ รา่ งกายผู้ป่วยโรคไตควรดื่มบ่อยงาขาวบ่อย ๆ จะชว่ ยลดภาระการทำงานของไต เพราะชว่ ยขับ เลือดเสยี ตลอดจนขบั พิษที่อยู่ในเลือด เปน็ การทำความสะอาดเลอื ดเบื้องตน้ ทำให้ไตทำงาน น้อยลง สง่ ผลให้ไตของผูป้ ่วยชะลอการเสอ่ื มไดย้ งิ่ ดี • ใบบวั บก ใบบวั บกนับว่ามีประโยชน์โดยตรงสำหรบั ผู้ที่เป็นโรคไต เพราะมีสารสำคัญหลายอย่างท่เี กย่ี วข้อง กบั ระบบโลหติ โดยตรง เชน่ ไตรเตอพีนอยด์ (อะซเิ อติโคไซ) ช่วยเพ่ิมประสิทธภิ าพในการสร้าง คอลลาเจน เพ่มิ ความแข็งแรงของผนงั หลอดเลือด ทำใหผ้ นงั หลอดเลอื ดมคี วามหยืดหยุน่ เพื่มมาก ข้ึน ช่วยลดความดันโลหิตสูง และป้องกนั เส้นเลอื ดฝอยแตกได้เปน็ อย่างดี น้ำใบบัวบกจงึ มี สรรพคณุ ในการชว่ ยชะลอการเสื่อมของไต ในผ้ปู ่วยโรคไตไดเ้ ปน็ อย่างดี ผู้ทด่ี ่ืมนำ้ ใบบัวบก นอกจากจะไม่เครียดแลว้ ยงั ชว่ ยขยายหลอดเลอื ดทำใหเ้ กดิ การแลกเปลีย่ นออกซเิ จนในเสน้ เลือด ฝอยเพิ่มมากขึ้น ร่างกายจะสามารถจบั ออกซเิ จนอิสระได้เพ่มิ มากขึน้ ทำใหเ้ ลือดสะอาด เป็นการ ฟอกเลอื ดไปในตัว • เหด็ หลินจือ เหด็ หลินจือมีคุณค่าสูงมากในทางสมุนไพร ท้ังในศาสตรข์ องแพทย์ แผนจีนและแผนไทย เปน็ ท่ี คาดหวังกันไว้วา่ จะสามารถบรรเทาหรือรักษาโรคไตเร้ือรังได้อาจารยค์ ณะแพทยศ์ าสตร์ จุฬาฯ ได้ นำสรรพคุณของเห็ดหลนิ จือมาทดลองรกั ษาผู้ปว่ ยโรคไต ปรากฏว่าชว่ ยลดปริมาณไขข่ าวใน ปสั สาวะได้ และช่วยชะลออาการไตเส่อื มได้ดี ปัญหาของผปู้ ่วยโรคไตคอื จะมสี ารทกี่ ่อใหเ้ กดิ การ อกั เสบอยใู่ นเลอื ดสูงในขณะทส่ี ารตา้ นการอกั เสบจะลดต่ำลง จากการศกึ ษาพบว่าเห็ดหลนิ จอื ช่วยลดการอักเสบของเยื้อเยื่อในร่างกายได้ ในตำราแพทย์แผนไทยใชเ้ ห็ดหลินจอื เป็นยาขับ ปัสสาวะกันมานานมากแลว้ จะใชต้ ม้ กับน้ำทำเป็นยาหม้อด่ืมเพ่อื ใช้ล้างพิษที่ตกคา้ งในไต ขับ ปัสสาวะ และ ใชเ้ ป็นยาบำรุงไตขนานเอก

• ขิง ขิงเป็นสมุนไพรท่ใี ช้กนั แพร่หลาย รจู้ ักกนั ดีถึงสรรพคณุ ในการกำจดั พิษไข้ และ ดม่ื เพือ่ บำรุงกษยั นำ้ ขิงรอ้ นๆใชเ้ ป็นยากระจายเลอื ด ขับเลือดเสียได้อย่างดี วธิ ีใชไ้ มว่ ่นุ วาย สำหรับผทู้ ี่เป็นโรคไตดมื่ บ่อย ๆ จะดี ดื่มเพื่อบำรงุ ไต เพราะชว่ ยลดการอกั เสบภายใน ตลอดจนเป็นยาขบั ปสั สาวะอ่อนๆ ชว่ ยขบั ปัสสาวะท่ีคง่ั คา้ งอยู่ภายใน สลายนิว่ และสงิ่ อดุ ตัน ชว่ ยลดไขมันในหลอดเลือด ตลอดจน ช่วยกำจดั พิษที่ตกค้างก็ไดเ้ ชน่ กนั • เก๋ากฉ้ี ่าย เก๋าก้เี ปน็ เครือ่ งยาจีนทสี่ ำคญั ถกู ใชเ้ ขา้ ตวั ยาหลายขนานด้วยกนั หลกั ๆจะเปน็ ยาขับพิษ ขับเลือด ขับปสั สาวะ และบำรงุ อวยั วะภายใน จัดเปน็ ยาบำรงุ ช้ันดี รวมไปถึงใชเ้ ปน็ ยาบำรุงสายตา รักษา โรคตาฟาง โรคตอ้ ชนดิ ตา่ ง ๆ เพิ่มความสามารถในการมองเห็น ผู้ที่มคี วามดนั โลหิตสูงดื่มบอ่ ยๆ จะช่วยลดความดนั โลหติ ทำให้หวั ใจแขง็ แรง สำหรบั ผู้ป่วยโรคไต ชาเก๋าก้จี ะชว่ ยลดภาระให้แก่ ไตของคณุ ไมว่ ่าจะเปน็ การลดไขมันในกระแสเลอื ด ช่วยดูดซึมนำ้ ตาล ช่วยขับปสั สาวะ ชะลอการ เส่ือมของไต ชนิดสูตรนมผงเดก็ ตามวยั นมผงแบ่งออกเปน็ 3 สตู ร ดังนี้ 1. นมสตู ร 1 หรือนมผงดดั แปลงสำหรับทารกวยั แรกเกิด – 1 ปี

มกี ารดัดแปลงให้มีส่วนประกอบใกลเ้ คียงนมแม่ โดยเฉพาะโปรตีน จะตอ้ งมปี ริมาณใกลเ้ คียงนม แม่ คือ 1.3 กรัม/100 มล. และเตมิ ไขมันท่ีย่อยง่าย พร้อมสารอาหารอ่ืน ๆ เพื่อส่งเสริมการ พัฒนาสมองและภูมิคุม้ กนั ควรดแู ลให้ลกู ได้รบั นมในปรมิ าณท่เี หมาะสมตามท่ีรา่ งกายตอ้ งการ ตวั อยา่ งนมสูตร 1 • นมผง Dumex Dupro 2 productnation • S-26 Progress productnation • Dumex Gold Plus 1 productnation • DG-1 Advance Gold productnation 2. นมสูตร 2 หรือนมผงดัดแปลงสตุ รต่อเนอื่ งสำหรบั เดก็ วัย 6 เดอื น- 3 ปี มกี ารเพ่มิ ปริมาณโปรตนี แคลเซยี ม และฟอสฟอรัส จากสตู ร 1 เพ่ือส่งเสรมิ การเรียนรู้ และ รองรบั ความตอ้ งการการใช้พลังงานจากการเคลอื่ นไหวของกลา้ มเน้อื ท่เี พิ่มขนึ้ ตวั อยา่ งนมสูตร 2 • Hi-Q Supergold producination • NAN HA นมผงสำหรบั เดก็ ชว่ งวยั ท่ี 1 HA 1 productnation • Similac Advance LF productnation 3. นมสูตร 3 หรือนมผงสำหรบั ด็กวยั 1 ปีขน้ึ ไป และทุกคนในครอบครวั มกี ารเพิม่ ปริมาณโปรตนี ใหม้ ากขนึ้ จากเดิม มีวติ ามินและแร่ธาตุ เพ่ือช่วยเสริมสรา้ งพัฒนาการ ทางสมอง เสริมสรา้ งกระดูกให้แขง็ แรง และการเรยี นรู้ส่ิงต่าง ๆ รอบตวั อย่างมีประสิทธภิ าพ ตวั อย่างนมสูตร 3 • Bear Brand 3 Milk Powder Plain • CARNATION 1+ and 3+ Milk Powder • Similac 3+ NVE AIQ+ productnation Percent of free water in enteral formulas

Formular Density % free water (kcal/mL) 1.0 84 1.2 81 1.5 75 2.0 70

การประเมนิ ภาวะการเจริญเตบิ โตของเดก็ ทุกวยั



























ค่าในการวนิ จิ ฉยั และเปา้ หมายในการติดตาม ค่าในการวนิ ิจฉัยและเป้าหมายในการติดตามโรคเบาหวาน ตารางการแปลผลระดบั พลาสมากลโู คสและ A1C เพ่ือการวนิ ิจฉัย ปกติ ระดบั นำ้ ตาลในเลอื ดที่เพิม่ ความเส่ยี งการ โรคเบาหวาน เปน็ เบาหวาน ≥126 มก./ดล. ≥200 มก./ดล. impaired impaired glucose ≥200 มก./ดล. fasting glucose tolerance (IGT) ≥6.5% (IFG) พลาสมากลโู คสขณะอด <100 มก./ดล. 100-125 มก./ดล. - อาหาร (FPG) พลาสมากลูโคสที่ 2 <140 มก./ดล. - 140-199 มก./ดล. ชวั่ โมงหลัง ดม่ื นำ้ ตาล กลโู คส 75 กรัม 2 h-PG (OGTT) พลาสมากลูโคสท่เี วลา - - - ใดๆ ในผ้ทู ี่มีอาการ ชดั เจน ฮโี มโกลบนิ เอวนั ซี < 5.7 % 5.7-6.4% (A1C) *IFG เป็นภาวะระดับน้ำตาลในเลอื ดขณะอดอาหารผิดปกติ *IGT เป็นภาวะระดบั น้ำตาลในเลอื ดสูงหลังไดร้ ับกลูโคส

เป้าหมายในการติดตามโรคเบาหวาน - เป้าหมายในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวานสูงอายุ และผู้ป่วยระยะ สุดทา้ ย สภาวะผู้ป่วยเบาหวานสูงอายุ เปา้ หมายระดับ A1C ผ้มู สี ขุ ภาพดี ไม่มโี รครว่ ม <7% ผูม้ โี รคร่วม ช่วยเหลอื ตัวเองได้ 7.0-7.5% ผู้ป่วยที่ต้องไดร้ บั การช่วยเหลือ ไม่เกนิ 8.5% มีภาวะเปราะบาง ไม่เกิน 8.5% มภี าวะสมองเสือ่ ม ผ้ปู ว่ ยทค่ี าดว่าจะมชี ีวิตอย่ไู ดไ้ ม่นาน หลีกเลย่ี งภาวะน้ำตาลในเลือดสูงจนทำให้เกดิ อาการ - เป้าหมายการควบคุมเบาหวานสำหรับผ้ใู หญ่ การควบคุม เบาหวาน ควบคมุ เข้มงวดมาก เป้าหมาย ควบคุมไมเ่ ข้มงวด >70-110 มก./ดล. ควบคมุ เข้มงวด 140-170 มก./ดล ระดับนำ้ ตาลในเลือดขณะอดอาหาร 80-130 มก./ดล ระดับน้ำตาลในเลือดหลงั อาหาร 2 ช่ัวโมง <140 มก./ดล - - - - ระดับนำ้ ตาลในเลอื ดสงู สดุ หลังอาหาร 7.0-8.0% A1C (% of total hemoglobin) <6.5% <180 มก./ดล <7.0%

- เปา้ หมายการควบคมุ ปจั จยั เสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่หลอดเลือด การควบคุม/การปฏบิ ตั ิตวั เปา้ หมาย ระดับไขมันในเลอื ด* <100 มก./ดล ระดบั ไขมนั ในเลอื ด ระดับแอล ดี แอลค <150 มก./ดล. ≥40 มก./ดล เลสเตอรอล* ≥ 50 มก./ดล ระดับไตรกลเี ซอไรด์ ระดบั เอช ดี แอล คอเลสเตอรอล: ผู้ชาย <140 มม. ปรอท <90 มม.ปรอท ผูห้ ญงิ ความดันโลหติ ** 18.5-22.9 กก./ม.² หรือใกล้เคยี ง ความดันโลหติ ซิสโตลคิ (systolic BP) ไมเ่ กนิ ส่วนสงู หารด้วย 2 ความดันโลหิตไดแอสโตลคิ (diastolic BP) <90 ซม. <80 ซม. นำ้ หนกั ตัว ดัชนีมวลกาย ไมส่ บู บหุ รแ่ี ละหลีกเลี่ยงการรบั ควันบุหรี รอบเอวจำเพาะบุคคล (ท้งั สองเพศ)*** ตามคำแนะนำของแพทย์ รอบเอว : ผชู้ าย ผู้หญงิ การสบู บหุ รี่ การออกกำลังกาย * ถ้ามีโรคหลอดเลือดหัวใจหรือมีปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจหลายอย่างร่วมด้วยควรควบคุมให้ LDL-C ตำ่ กว่า 70 มก./ดล. ** ผปู้ ่วยที่มคี วามเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ความดนั โลหติ ซิสโตลคิ ไมค่ วรต่ำกว่า 110 มม.ปรอท ผู้ป่วย ที่อายุนอ้ ยกวา่ 40 ปีหรือมีภาวะแทรกซ้อนทางไตร่วมด้วยควรควบคุมความดันโลหิตให้ น้อยกว่า 130/80 มม.ปรอท ถา้ ไม่ทำให้เกดิ ภาวะแทรกซ้อนของการรักษา

การตรวจวนิ ิจฉยั โรคและตรวจคัดกรองเบาหวานขณะตงั้ ครรภ์ - เกณฑ์ของ Carpenter และ Coustan หญงิ ตัง้ ครรภ์ด่ืมน้ำทลี่ ะลายนำ้ ตาลกลโู คส 100 กรัม (100 gm OGTT) เวลา ระดับน้ำตาลในเลือด (มก./ดล.) กอ่ นดม่ื นำ้ ตาล 100 กรมั 95 หลงั ดม่ื นำ้ ตาล 1 ชั่วโมง 180 หลังดม่ื น้ำตาล 2 ชว่ั โมง 155 หลงั ด่ืมนำ้ ตาล 3 ชว่ั โมง 140 *ต้ังแต่ 2 ค่าขน้ึ ไปจะถอื ว่าเป็นโรคเบาหวาน ขณะตง้ั ครรภ์ - เกณฑ์ของ International Diabetes Federation (IDF) หญงิ ตงั้ ครรภ์ดื่มนำ้ ทล่ี ะลายน้ำตาลกลโู คส 75 กรัม (75 gm OGTT) เวลา ระดับนำ้ ตาลในเลอื ด (มก./ดล.) ก่อนด่มื น้ำตาล 100 กรัม 92 หลงั ดืม่ นำ้ ตาล 1 ชว่ั โมง 180 หลงั ด่ืมนำ้ ตาล 2 ช่วั โมง 153 *ตง้ั แต่ 1 ค่าข้นึ ไปจะถอื วา่ เปน็ โรคเบาหวานขณะตงั้ ครรภ์

เปา้ หมายของระดบั นำ้ ตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เวลา ระดบั นำ้ ตาลในเลอื ด (มก./ดล.) ก่อนอาหารเช้าอาหารม้ืออื่น และก่อน 60-95 นอน <140 หลงั อาหาร 1 ชวั่ โมง <120 หลงั อาหาร 2 ชั่วโมง >60 เวลา 02.00 – 04.00 น. ที่มา: แนวทางเวชปฏบิ ัตสิ ำหรบั โรคเบาหวาน 2559

กำหนดคารบ์ ในแตล่ ะมอ้ื สำหรับหญิงตั้งครรภ์ (GDM) Nutrient or food type recommendation Meal planning tips Energy Intake should be sufficient to Include 3 small- to moderate promote adequate , but not sized meals and 2-4 snacks. Carbohydrate excessive , weight gain to support Space snacks and meals least 2 fetal development and to avoid hours apart. A bedtime snack ( Protein ketonuria . Daily minimum of or even a snack in the middle Fat 1700-1800 kcal is an appropriate of the night) is recommended to diminish of hours fasting. Sodium starting goal A minimum of 175 g CHO daily , Common carbohydrate allowing for the approximately 33 guidelines : 2 carbohydrate choices (15-30 g) at breakfast , needed for fetal brain 3-4 choices (45-60g) for lunch development. Recommendations and evening meal, 1-2 choices are based on effect of intake on (15 to 30 g) for snacks. blood glucose levels. Intake Recommendations should be should be distributed throughout modified based on individual assessment and blood glucose the day. Frequent feedings, self-monitoring test results. smaller portions, with intake Protein foods do not raise post- sufficient to avoid ketonuria. meal blood glucose levels. Add protein to meals and snacks to 1.1 g/kg help provide enough calories and to satisfy appetite. Limit saturated fat. Fat intake may be increased because of increased protein take; focus on leanerprotein choices. Not routinely restricted

Fiber For relief of constipation , Use whole grains and raw fruits Non-nutritive sweeteners gradually increase intake and and vegetables.Activity and Vitamins and mineral increase fluids. fluids help relieve constipation. Alcohol Use only FDA-approved Saccharin crosses the placenta sweeteners. but has not been shown to be harmful Preconception folate . Assess for Take prenatal vitamin, if it specific individual need : causes nausea,try taking at multivitamin throughout bedtime. pregnancy ,iron at12 weeks, and calcium, especially in the last trimester and while lactating Avoid all alcohol even in cooking การตรวจระดับนำ้ ตาลในเลอื ดด้วยตนเอง ขอ้ บ่งชก้ี ารทำ SMBG 1. ผปู้ ว่ ยเบาหวานทม่ี ีความจำเปน็ ในการทำ SMBG 1.1 ผู้ที่ต้องการคุมเบาหวานอย่างเข้มงวด ได้แก่ ผู้ป่วยเบาหวานที่มีครรภ์ (pre-gestational DM) และผ้ปู ่วยเบาหวานขณะตัง้ ครรภ์ (gestational DM) 1.2 ผู้ปว่ ยเบาหวานชนิดท่ี 1 1.3 ผู้ป่วยเบาหวานทีม่ ีภาวะน้ำตาลต่ำในเลือดบ่อยๆ หรือ รุนแรง หรือมีภาวะน้ำตาลต่ำในเลือด โดยไม่มีอาการเตือน 2. ผู้ปว่ ยเบาหวานทคี่ วรทำ SMBG 2.1 ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ซ่งึ ได้รับการรักษาดว้ ยการฉีดอนิ ซูลนิ

3. ผ้ปู ่วยเบาหวานทอี่ าจพจิ ารณาใหท้ ำ SMBG 3.1 ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ซง่ึ ไมไ่ ด้ฉดี อินซูลินแต่เบาหวานควบคุมไม่ได้ พจิ ารณาให้ทำ SMBG เมอ่ื ผปู้ ่วย และ/หรอื ผู้ดูแลพร้อมท่ีจะเรียนรู้ ฝกึ ทกั ษะ และนำผลจาก SMBG มาใช้ปรับเปลี่ยน พฤติกรรม เพือ่ ควบคมุ ระดับนำ้ ตาลในเลอื ดใหไ้ ดต้ ามเป้าหมาย 3.2 ผูท้ เี่ พงิ่ ได้รับการวินจิ ฉัยว่าเปน็ เบาหวาน เพอ่ื เรียนรใู้ นการดแู ลตนเองท้งั เร่ืองอาหาร การออก กำลังกาย หรือได้ยาลดระดับน้ำตาลในเลอื ดใหเ้ หมาะสมกับกจิ วตั รประจำวัน ความถขี่ องการทำ SMBG ความถีข่ องการทำ SMBG 1. ผู้ป่วยเบาหวานระหว่างการตั้งครรภ์ควรทำ SMBG ก่อนอาหารและหลังอาหาร 1 หรือ 2 ช่วั โมง ท้งั 3 ม้อื และกอ่ นนอน (วันละ 7 ครงั้ ) อาจลดจำนวนครัง้ ลงเมื่อควบคุมระดบั นำ้ ตาลในเลือดได้ดี 2. ผปู้ ว่ ยเบาหวานชนดิ ท่ี 1 ทไี่ ดร้ ับการรักษาด้วย insulin pump ควรทำ SMBG วนั ละ 4-6 ครั้ง 3. ผู้ป่วยเบาหวานที่ฉีดอินซูลินตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป ควรทำ SMBG ก่อนอาหาร 3 มื้อทุกวัน ควร ทำ SMBG ก่อนนอน และหลังอาหาร 2 ชม.เป็นครั้งคราว หากสงสัยว่ามีภาวะน้ำตาลตำ่ ในเลอื ดกลางดึก หรอื มี ความเส่ียงที่จะเกิด ควรตรวจระดบั น้ำตาลในเลอื ดช่วงเวลา 02.00-04.00 น. 4. ผู้ป่วยเบาหวานที่ฉีดอินซูลินวันละ 2 ครั้ง ควรทำ SMBG อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยตรวจ ก่อน อาหารเช้าและเย็น อาจมีการตรวจก่อนอาหารและหลังอาหารม้ืออื่นๆ เพื่อดูแนวโน้มการ เปลีย่ นแปลงของ ระดบั น้ำตาลในเลอื ด และใช้เป็นขอ้ มลู ในการปรบั ยา 5. ควรทำ SMBG เมื่อสงสัยว่ามีภาวะน้ำตาลต่ำในเลือดและหลังจากให้การรักษาจนกว่าระดับ นำ้ ตาล ในเลอื ดจะกลบั มาปกตหิ รือใกล้เคยี งปกติ 6. ควรทำ SMBG ก่อนและหลังการออกกำลงั กาย หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยง เช่น การขับรถ ใน ผปู้ ว่ ย เบาหวานท่ไี ด้รบั ยาซง่ึ มคี วามเสยี่ งท่จี ะเกดิ ภาวะน้ำตาลตำ่ ในเลอื ด 7. ในภาวะเจ็บป่วยควรทำ SMBG อย่างนอ้ ยวันละ 4 คร้ัง ทกุ 4 ถึง 6 ชว่ั โมง หรอื กอ่ นมื้ออาหาร เพอื่ ค้นหาแนวโนม้ ที่จะเกิดภาวะนำ้ ตาลตำ่ ในเลอื ดหรือระดับน้ำตาลในเลือดสงู เกนิ ควร 8. ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งฉีดอินซูลินก่อนนอน ควรทำ SMBG ก่อนอาหารเช้าทุกวันหรือ อย่าง น้อย 3 ครั้ง/สัปดาห์ในช่วงที่มีการปรับขนาดอินซูลิน อาจมีการทำ SMBG ก่อนและหลังอาหารม้ือ อ่ืนๆ สลบั กัน เพื่อดูแนวโนม้ การเปลี่ยนแปลงของระดบั น้ำตาลในเลอื ด ถา้ ยงั ไม่ไดค้ า่ A1C ตามเปา้ หมาย ท่ีมา: แนวทางเวชปฏิบัตสิ ำหรับโรคเบาหวาน 2559

ค่าในการวินิจฉยั ความดันโลหิตสูง ตารางการจำแนกโรคความดนั โลหติ สงู ตามความรุนแรงในผูใ้ หญ่อายุ18 ปี ข้ึนไป Category SBP DBP (มม.ปรอท) (มม.ปรอท) Optimal < 120 และ < 80 Normal 120-129 และ/หรอื 80/84 High normal 130-139 และ/หรือ 85-89 Grade 1 hypertension (mild) 140-159 และ/หรือ 90-99 Grade 2 hypertension (moderate) 160-179 และ/หรอื 100-109 Grate 3 hypertension (severe) >180 และ/หรือ >110 Isolated systolic hypertension (ISH) >140 และ < 90 หมายเหตุ:SBP = systolic blood pressure; DBP = diastolic blood pressure. เมื่อความรุนแรง ของ SBP และ DBP อยู่ต่างระดับกัน ให้ ถือระดับที่รุนแรงกว่าเป็นเกณฑ์ สำหรับ ISH ก็แบ่งระดับ ความ รุนแรงเหมือนกนั โดยใชแ้ ต่SBP ทม่ี า:แนวทางการรกั ษาโรคความดันโลหิตสงู ในเวชปฏบิ ัติทว่ั ไป พ.ศ.2558

Classification of Blood Cholesterol Levels คา่ ทีใ่ ชใ้ นการติดตาม Source: American Association Of Clinical Endocrinologists Medical Guidelines for Clinical Practice, 2012

BMI ผู้สงู อายุ ก่อนและหลังอายุ60ปี ภาวะโภชนาการ BMI(kg/m2) ผอม ระดับ 1 18.5 – 19.9 ระดับ 2 17.0 – 18.4 ระดบั 3 16.0 – 16.9 ระดับ 4 < 16 ปกติ 18.5 - 24.9 อว้ น ระดบั 1 25 - 29.99 ระดับ 2 30.0 - 39.9 ระดับ 3 ≥ 40.00

ไตเฉียบพลนั (NS) ส่วนใหญใ่ นเดก็ • คำนวณพลงั งานในเด็ก = 100 Kcal/kg/day Holiday-Segar = 50 Kcal/kg/day นำ้ หนกั 10 กโิ ลกรมั แรก นำ้ หนกั 10 กิโลกรมั ต่อมา = 20-30 Kcal/kg/day นำ้ หนักทีเ่ หลอื วิธีที่ 1 จาก Recommended Dietary Allowance (RDA) อายุ (ปี) พลงั งานเฉลีย่ (kcal/kg) โปรตีนเฉลี่ย (k/kg) 2.2 0.06 108 1.6 1.2 0.06-0.12 98 1.1 1.0 1-3 102 4-6 90 7-10 70 อายุเด็ก <10 ปี 1000 kcal ในขวบปแี รก + ( 100 kcal x อายเุ ด็ก – 10 ปี ) เดก็ ผ้หู ญิง 11-15 ปี 1000 kcal ในขวบปีแรก + ( 100 kcal x 10 ปี ) + ( 100 kcal x อายุหลัง 10 ปี ) เด็กผหู้ ญงิ >15 ปี คำนวณเหมือนผู้ใหญ่ เด็กผชู้ าย 11-15 ปี 1000 kcal ในขวบปีแรก + ( 100 kcal x 10 ปี ) + ( 200 kcal x อายุหลัง 10 ปี ) เดก็ ผู้ชาย >15 ปี - very active 50 kcal/kg - normal activity 40 kcal/kg - sedentary 30-35 kcal/kg

• โภชนบำบดั โรคไตในเดก็ NS AGN ▪ พลงั งานเพียงพอ ▪ พลงั งานเพยี งพอ ▪ เน้นโปรตีนคณุ ภาพดี ถา้ โปรตนี ร่วั มากใหบ้ วก ▪ เน้นโปรตนี คณุ ภาพดี ▪ จำกัดโซดียม 1-2 g/d ปริมาณโปรตีนท่สี ญู เสยี ในปัสสาวะด้วย ▪ จำกัดน้ำ ( เลย่ี งอาหารท่เี ป็นน้ำ ) ▪ จำกัดโซเดยี ม < 2 g/d ▪ จำกดั K ▪ Low fat diet ▪ จำกัด Phos < 800 mg/d ในรายท่ีมี Phos สูง ▪ อาหารปรงุ สุก ( low bacterial diet ) • โภชนบำบัดในระยะที่มีปัสสาวะมาก 1. โปรตนี ในระยะทีค่ า่ Urea และ Cr ยังไมล่ ดลงหรือลดลงไม่มาก ควรให้โปรตีน 0.5 g/BW 1 kg/d และเม่ือค่าเป็นปกติแลว้ ใหเ้ พ่มิ เป็น 1 g/BW 1 kg/d 2. น้ำ จำเปน็ ตอ้ งใหอ้ ย่างเพยี งพอ ซึ่งอาจมีปสั สาวะได้มากถึง 2 – 3 L/d ดังนน้ั ควรใหเ้ ทา่ กบั ปริมาณนำ้ ทส่ี ูญเสยี ทงั้ ปัสสาวะและอืน่ ๆอีก ประมาณ500 – 600 mL/d 3. โซเดียม ระยะนไี้ ม่จำกัดโซเดียม เน่ืองจากมกี ารสูญเสยี โซเดียมไปกับปัสสาวะจำนวนมาก 4. โปแตสเซียม เหตุผลเช่นเดยี วกบั โซเดียม ในระยะท่ีมปี สั สาวะ มากกวา่ 1000 mL/d จะมกี าร สญู เสยี โปแตสเซยี ม

กระดกู หักเนอื่ งจากกระดกู พรุน (FLS) • เกณฑก์ ารวนิ จิ ฉยั โรคกระดกู พรนุ Normal : BMD T-score> -1.0 Osteopenia: BMD T-score-1.0 to-2.5 Osteoporosis: BMD T-score below -2.5> Severe osteoporosis: Fragile fracture with BMD below -2.5 • การรกั ษาโรคกระดกู พรนุ การรักษาโดยไมใ่ ชย้ า (Non-pharmacological treatment) เนน้ ใช้ในผปู้ ่วยท่ีมโี รค กระดูกพรุนทุกราย 1. การออกกำลังกายอยา่ งสม่ำเสมอ และเปน็ ชนิดที่มีการแบกรับน้ำหนัก (weight bearing exercise) 2. สารอาหาร (Nutrition) - ได้รับแคลเซยี มอย่างเพียงพอ สำหรับคนไทย คือ 1,000 มิลลิกรัมต่อวนั สำหรบั ผ้ชู าย และ 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน สำหรับผูห้ ญิงหลังหมดประจำเดือน ( อาหารท่ีมี แคลเซียมสงู เช่น นม ปลาตัวเลก็ ทก่ี นิ พร้อมกระดูก กุง้ ฝอย งาและผกั ใบเขียว ) - ไดร้ ับวิตามนิ ดีอยา่ งเพียงพอ สำหรบั คนไทย คือ 400-600 IU ต่อวนั สำหรับผู้หญิง ก่อนวยั หมดประจำเดือน และ 800 IU ต่อวันสำหรบั ผูห้ ญงิ หลังหมดประจำเดอื น ( อาหารทมี่ ีวติ ามนิ ดสี ูง เชน่ ปลา แมคเคอเรล ปลาทูนา่ ไขแ่ ดง นม เนย ) 3. อาหารโปรตีนในปริมาณท่เี หมาะสม 4. ได้รับแสงแดดออ่ นๆ อย่างเพียงพอวันละ 10-15 นาที เพ่ือใหผ้ ิวหนงั สร้างวิตามินดี 5. หยดุ สบู บุหรี่ ดื่มสรุ า การรักษาด้วยยา (Pharmacological treatment) ยารักษากระดกู พรุน มีกลไก และ ตำแหนง่ การออกฤทธิแ์ ตกต่างกนั แบ่งไดอ้ อกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ 2 กลุ่ม 1. Anti-resorptive agents 2. Anabolic/Bone forming agent

คำนวณพลงั งานในเดก็ • วธิ ปี ระเมินความตอ้ งการพลังงานในเดก็ วิธที ี่ 1 จาก Recommended Dietary Allowance (RDA) อายุ (ปี) พลังงานเฉล่ยี (kcal/kg) โปรตีนเฉลี่ย (k/kg) 0.06 108 2.2 0.06-0.12 98 1.6 1-3 102 1.2 4-6 90 1.1 7-10 70 1.0 วิธีที่ 2 การคำนวณพลังงานในเดก็ หญงิ 11-15 ปี การคำนวณพลังงานในเด็กหญงิ 11-15 ปี 1000 กโิ ลแคลอรีในขวบปแี รก + ( 100 กิโลแคลอรี x อายุเดก็ ถงึ 10 ปี ) เดก็ ผ้หู ญงิ 11-15 ปี บวก ( <100 กิโลแคลอรี x อายหุ ลังจาก 10 ปี ) ตัวอย่าง เดก็ หญงิ อาย1ุ 4 ปี ตอ้ งการพลังงาน = 1000+(100 x 10)+(100 x 4) = 2400 กิโลแคลอรี เดก็ ผู้หญิง >15 ปี คำนวณเหมือนผู้ใหญ่ การคำนวณพลงั งานในเด็กชายเดก็ ผชู้ าย 11-15 ปี บวก ( 200 กโิ ลแคลอร่ี x อายหุ ลงั จาก 10 ปี ) เดก็ ผ้ชู าย > 15 ปี - very active 50 กิโลแคลอร/ี นำ้ หนกั ตัว 1 กโิ ลกรมั - normal activity 40 กิโลแคลอรี/น้ำหนักตวั 1 กโิ ลกรมั 30-35 กโิ ลแคลอรี/นำ้ หนกั ตัว 1 กโิ ลกรัม sedentary วธิ ีท่ี 3 การคำนวณพลังงานในเด็ก

1000 กิโลแคลอรีในขวบปแี รก - เดก็ ผู้ชาย บวก ( 125 กิโลแคลอรี x อายุเดก็ ) - เดก็ ผู้หญิง บวก ( 100 กโิ ลแคลอรี x อายเุ ดก็ ) - กรณที ่เี ด็ก active เพิม่ พลงั งานไมเ่ กนิ 20% เด็กวัยเตาะแตะ 1-3 ปี พลังงาน = 40 กิโลแคลอรี /ส่วนสูง 1 น้ิว

อาหารทางการแพทย์ สูตรอาหารทางการแพทย์ ชนดิ ผง ลกั ษณะการใช้ ไอโซคาล ผูป้ ว่ ยทว่ั ไป แพนเอน็ เทอราล ผู้ป่วยท่ัวไป อะมโิ นเลแบน ผู้ป่วยโรคตับ หรอื งดไขมนั เจนฟอร์มลู า่ อาหารเสรมิ ทไ่ี ม่มีโคเลสเตอรอล นโี อ - มลู ผู้ปว่ ยต้องการโปรตนี และพลังงานสูง เปปทาเมน ผ้ปู ่วยที่มปี ัญหาในการย่อยและดูดซึมอาหาร นวิ เทรน ออติมลั ผ้ปู ว่ ยสงู อายุ , มะเร็ง นวิ เทรน บาลานซ์ ผ้ปู ว่ ยที่ตอ้ งการควบคุมปริมาณน้ำตาล นิวเทรน ไฟเบอร์ ผปู้ ่วยทตี่ อ้ งการเสริมใยอาหาร แนน AL อาหารทารกท่ีมีอาการแหวะนม , อาเจียน โอแลค ทารกที่มรี ะบบการย่อยนมผิดปกติ ไอโซมลิ ทารกทม่ี ีระบบการย่อยนมผิดปกติ ซิมแิ ลค LF ทารกที่มรี ะบบการย่อยแลคโตสผดิ ปกติ แนนแลคโตสฟรี ทารกที่มรี ะบบการย่อยแลคโตสผดิ ปกติ พดี ีชวั ร์ คอมพลีท สำหรับเดก็ เบอ่ื อาหาร ซมิ แิ ลค นโี อชัวร์ ทารกคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวต่ำ นตู รามีเยน สำหรับทารกทแี่ พ้โปรตีนหรือมปี ัญหาเกย่ี วกับระบบการ ย่อยและดดู ซึมแล็คโตส โปรชวั ร์ ผู้ปว่ ยเบือ่ อาหาร ทีต่ ้องการโปรตีนสูง เนปโป ผปู้ ว่ ยโรคไต เจวิต้ี ผปู้ ว่ ยทั่วไป กลเูซอร์นา่ ผปู้ ว่ ยเบาหวาน เอน็ ชัวร์ ผู้ป่วยทวั่ ไป กลเซู อร์นา่ ผปู้ ว่ ยเบาหวาน Gen-DM ผปู้ ว่ ยเบาหวาน

% ของ free water ในอาหาร • การจำแนกตามคา่ แอคติวติ ขี องนำ้ (water activity) สามารถแบ่งอาหารตามค่า water activity ออกเปน็ 3ประเภทดังน้ี 1. อาหารสด (fresh food) เป็นอาหารทเ่ี นา่ เสยี ง่าย (perishable food) ที่มีคา่ water activity มากกว่า 0.85 เชน่ เน้ือสตั ว์ ผกั ผลไม้ อาหารทะเล 2. อาหารก่ึงแหง้ (intermediate moisture food) หมายถงึ อาหารท่ีมีค่า water acitivity ระหว่าง 0.6-0.85 เช่น นมข้นหวาน ผลไม้แช่อม่ิ กุ้งปรงุ รส 3. อาหารแหง้ (dried food) หมายถึงอาหารทม่ี คี า่ water activity น้อยกว่า 0.6 เช่น นมผง ผกั ผลไม้อบแหง้ กุ้งแหง้ นำ้ ผลไม้ผง เกก๊ ฮวยผงชงด่ืม กระชายผงชงดืม่ หมูหยอง

water activity อาหาร 0.95 อาหารสด เช่น ผกั ผลไม้ เนือ้ สัตว์ เช่น เนือ้ หมู ไก่ เน้อื วัว 0.91 นำ้ นม ไข่ ไส้กรอกสุก เชน่ ไส้กรอก แฟรงค์เฟอร์เตอร์ ขนมปัง 0.85 เนยแขง็ (cheese) บางชนิด เช่น Cheddar cheese, Swiss cheese, Provolone) , cured meat เชน่ แฮม, นำ้ ผลไม้ 0.80 เข้มขน้ 0.75 ไสก้ รอกหมัก, sponge cakes, dry cheese, margarine, foods with 65% sucrose or 15% NaCl 0.65 0.60 นำ้ ผลไมเ้ ข้มขน้ , นมข้นหวาน , condensed milk, น้ำเชือ่ ม, 0.50 flour, high-sugar cakes, some meat jerky products 0.40 0.30 แยม, marmalade, glace fruits, marzipan, 0.03 marshmallow, some meat jerky products Rolled oats with 10% moisture, jelly, molasses, nuts ผลไม้แห้ง 15-20% moisture, caramel, toffee, honey Noodle with 12% moisture, spice with 10% moisture ไข่ผง ที่มีความชน้ื 5% Cookies, crackers, bread crusts with 3-5% moisture Whole milk powder with 2-3% moisture, dehydrated soups

การคำนวณพลงั งานอาหารทางหลอดเลือดดำ ความหมายของอาหารทางหลอดเลือดดำ : เป็นส่วนประกอบที่อยู่ในรูปของแร่ธาตุ หรือสารอาหารก่อน ยอ่ ย มาจาก • คารโ์ บไฮเดรท : นำ้ ตาลเดกโตส (dextrose) • โปรตนี : กรดอะมิโน (amino acids) • ไขมนั : ไขมันอมิ ลั ชัน (lipid emulsion) อาหารทางหลอดเลือดดำ แบง่ เปน็ 2 ประเภท 1. PPN : Peripherol Parenteral : การใหอ้ าหารผ่านทางหลอดเลอื ดดำสว่ นปลาย 2. TPN : Total Parenteral Nutrition : การให้อาหารผา่ นทางเส้นเลือดดำใหญ่ ข้อบง่ ชีใ้ นการใช้อาหารทางหลอดเลือดดำ • ระบบทางเดินอาหารไม่ทำงาน (non functioning GI tract) เช่น severe malabsorption, short bowel syndrome. • ตอ้ งการใหร้ ะบบทางเดนิ อาหารได้พัก (bowet rest) เชน่ Severe Pancreatitis • ผู้ป่วยมีภาวะทุพโภชนาการอย่างรุนแรง (Severe malnutrition)หรืออยู่ในภาวะ hypercata bolic state และไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้มากกวา่ 5 วัน • ผ้ปู ว่ ยไม่สามารถไดร้ บั สารอาหารเพียงพอเมอ่ื ใชว้ ธิ ผี า่ นทางปาก • ผู้ปว่ ยที่ตบั อ่อนอักเสบอยา่ งรุนแรง (Severe acute pancreatitis) • ผู้ปว่ ยทตี่ ัดตอ่ ลำไส้ (Severe shot bowel syndrome) • ผปู้ ่วยเสน้ เลือดทเ่ี ลย้ี งลำไสข้ าดเลือด (Mesenteric ischemia) • ผู้ป่วยทลี่ ำไส้ไม่บบี ตัว (Paralytic ileus) • ผู้ป่วยที่ลำไล้เลก็ อุดตนั (Small bowel obstruction) • ผู้ป่วยทรี่ ะบบทางดนิ อาหารทะลุ (GI fistula) การให้สารอาหารผ่านทางหลอดเลอื ดดำใหญ่ : Total Parenteral Nutrition (TPN) • ส่งสารอาหารผ่านทางหลอดเลือด femoral lines, interal jugular lines และ subclavian vein • Peripherally inserted central catheters (PICC) ถูกสอดสายให้อาหารผ่านทาง cephalic และ basilic veins • จะให้อาหารผ่านทางเส้นเลือดดำใหญ่ ในกรณีถ้าให้ผ่านทางหลอดเลือดดำส่วนปลายเกิดการ อกั เสบในระหวา่ งการักษาเน่อื งจากค่า pH, osmolality และปริมาณสารอาหาร

การให้สารอาหารผ่านทางหลอดเลือดดำส่วนปลาย • คาดว่าทำการรกั ษาในระยะเวลาสั้น ( 10-14 ) วัน • ความต้องการพลงั งานและโปรตีนอย่ใู นระดับปานกลาง • กำหนดคา่ osmolality อยใู่ นระหว่าง <600-900 mOsml • ไมจ่ ำกดั สารนำ้ คาร์โบไฮเดรต ▪ แหลง่ สารอาหาร : Monohydrous dextrose ▪ คุณสมบตั ิ : เป็นแหล่งพลงั งานและเปน็ แหล่งท่ีมไี นโตรเจน : 3.4 Kcal/g : Hyperosmolar Coma : ภาวะนำ้ ตาลในเลือดสงู มาก ▪ ปริมาณท่แี นะนำ : 2-5 mg/kg/min 50-60% of total calories กรดอะมิโน ▪ แหลง่ สารอาหาร : Crystalline amino acids - standard or specialty ▪ คณุ สมบัติ : 4.0 kcal/g : กรดอะมีโนจำเป็น EAM (Essential amino acids) 40-50% : กรดอะมีโนไม่จำเป็น NEAA (Non Essential amino acids) 50-60% Glutamine / Cysteine ปรมิ าณทแี่ นะนำ: 0.8-2.0 gke/day 15-2096 of total calories ไขมนั ▪ แหลง่ สาอาหาร: น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันถัวเหลอื ง ไข่ ▪ คณุ สมบตั ิ : เปน็ ไตรกล่ีซอไรดส์ ายยาว (Lorg chain triglycerides) : เป็นสารละลายนอกเซลล์ที่มีความเข้มข้นที่น้อยกว่าเซลล์และเท่ากับเซลล์ (lsotonic or hypotonic) : เปน็ สารอิมลั ชน่ั 10 Kcal/g - ป้องกันการขาดกรดไขมนั ทจ่ี ำเปน็ ▪ ปริมาณท่แี นะนำ: 0:5 - 1:5 g/kg/day (not >2 g/kg) 12 - 24 hour infusion rate

ปริมาณความตอ้ งการไขมนั ▪ ให้กรดไขมันจำเป็น (Essential amino acids) 4% - 10% kcals หรือ linoleic acid 2% - 4% kcals ▪ โดยทั่วไปให้ 500 mL มีไขมัน 10% 2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือให้ 500 mL มีไขมัน 20% 1ครั้งต่อ สัปดาห์ เพ่ือปอ้ งกัน EFAD(Essential amino acids Deficiency) ***ระดบั ปกติ 25% to 35% of total kcals ***ระดบั สูงสดุ 60% of kcal หรือ 2 g fat/kg ความต้องการโปรตนี และพลังงานในผูใ้ หญ่ โปรตีน ปกติ 0.8 – 1.0 g/kg Catabolic patients 1.2 – 2 g/kg พลังงาน พลังงานท้ังหมด 25 – 30 kcal/kg ปริมาตรสารนำ้ ท่ีควรจะไดร้ ับ 20 – 40 mL/kg ท่ีมา: งานพัฒนาคณุ ภาพและวิจัย กลุ่มงานโภชนศาสตร์ โรงพยาบาลขอนแกน่ การคำนวณพลงั งานจากนำ้ ยาลา้ งไตผ่านช่องท้อง ความเขม้ ข้นของนำ้ ยาล้าง Glucose Absorption rate Calories ไต (g) (~60%) (kcal) (%w/v) 30 18 67 1.5% 50 30 110 2.5% 85 51 190 $.25%

คำศัพทท์ างการแพทย์ • คำย่อทีใ่ ช้ในการบนั ทกึ คำย่อ คำศัพทเ์ ตม็ ความหมาย CC Chief Complaint ประวัติสำคัญท่ีมารพ. PI Present illness ประวตั ิปัจจบุ ัน PH Past history ประวัติอดตี FH Family history ประวตั ทิ างกรรมพนั ธุ์ HPI History of present illness ประวตั ปิ จั จบุ นั ในเรือ่ งอาการ, Past medical history ปัญหา SH Social history ภาวะสังคมผปู้ ่วย, อาชีพ ROS Review of system การเจบ็ ป่วยและสุขภาพท่ัวไป PMH Past medical history ประวตั ิอดีตของการรกั ษา U/D Underlying disease โรคประจำตวั PE Physical Examination การตรวจรา่ งกาย BP Blood Pressure ความดนั โลหิต PR Pulse Rate อตั ราชีพจร RR Respiratory Rate อตั ราการหายใจ HEENT Head Ear Eye Nose Throat ศรี ษะ หู ตา จมูก คอ Abd Abdomen ชอ่ งท้อง IVF Intravenous Fluid สารน้ำทางหลอดเลือดดำ V/S Vital sign สัญญาณชีพ I/O Intake/Outtake ปรมิ าณน้ำเขา้ ออกในแตล่ ะวัน N/S Neurosign สัญญาณชีพทางระบบประสาท GCS Glas glow coma score คะแนนการประเมินการตอบสนองทาง ระบบประสาท AWS Alcohol Withdrawal score การประเมินกลุ่มอาการจากการถอน แอลกอฮอล์ Dx Diagnosis การวินจิ ฉยั โรค

• คำยอ่ ทีใ่ ช้ในการวนิ ิจฉยั โรคที่ใช้กันทว่ั ๆไป คำย่อ คำศพั ทเ์ ตม็ ความหมาย Fx Fracture กระดูกหัก DHF Dangue Hemorrahic Fever ไข้เลอื ดออกจากเช้ือ dangue (เปน็ ไวรสั ชนิดหนึ่ง) DF Dangue Fever ไขเ้ ลือดออกระยะแรก URI Upper Respiratory Infection การติดเชือ้ ทางเดินหายใจส่วนบน COPD Chronic Obstructive Pulmonar โรคหลอดลมอุดก้ันเรือ้ รงั Disease AE Acute exaerbation การกำเริบฉบั พลัน DM Diabetes Mellitus โรคเบาหวาน HT Hypertension โรคความดนั โลหติ สูง DLD Dyslipidemia โรคไขมันในเลือดสงู CVA Cerebro Vascular Accident โรคทางหลอดเลือดสมอง SDH Subdural hematoma เลอื ดออกใต้เย่อื หมุ้ สมองชน้ั ดรู า EDH Epidural hematoma เลอื ดออกใต้เยือ่ หมุ้ สมอง SAH Subarachnoid hemorrhage เลอื ดออกใต้เย่อื หุ้มสมองชน้ั อะราชนอยด์ ICH Intra cerebral hemorrhage เลือดออกในสมอง UTI Urinary Tract Infection การติดเช้ือทางเดินปัสสาวะ ARF Acute Renal Failure ไตวายฉับพลนั CRF Chronic Renal Failure ไตวายเร้ือรงั ESRD End Stage Renal Disease โรคไตวายเร้ือรงั ระยะสดุ ท้าย ATN Acute Tubular Necrosis โรคไตวายฉับพลัน CAPD Continuous Ambulatory การล้างไตทางช่องท้องชนิดตอ่ เนอื่ ง Peritoneal Dialysis ดว้ ยตนเอง AF Atrial Fibrillation หวั ใจเต้นผดิ จังหวะจากหอ้ งส่วนบน VF Ventricular Fibrillation หวั ใจเต้นส่นั พลว้ิ VT Ventricular Tachycardia หวั ใจเต้นผดิ จังหวะจากห้องสว่ นลา่ ง SVT Supra Ventricular Tachycardia หวั ใจเต้นผิดจังหวะจากห้องส่วนบน AMI Acute Myocardial Infarction โรคหวั ใจวายฉบั พลนั STEMI ST Elevated Myocardial โรคหวั ใจวายฉับพลนั Infarction

NSTEMI Non-ST Elevated Myocardial โรคหวั ใจวายฉับพลนั PVC Infarction CHF Premature Ventriular หัวใจห้องล่างเตน้ ผิดจงั หวะ NF Contracture LBP MFPS Congestive Heart Failure หัวใจวาย CTS HNP Necrotizing Fasciitis แผลติดเช้อื เนือ้ ตายลกุ ลามถึงชั้น BPH STD พังผดื AGE CA Low Back Pain ปวดหลัง DC CDA Myofascial Pain Syndrome ปวดเมื่อยกล้ามเนอ้ื Carpal Tunnel Syndrome โรคเสน้ ประสาทท่ีขอ้ มือถูกกดรดั Herniated Nucleus Pulposus หมอนรองกระดูกเคลอ่ื น Benign Prosthetic Hypertrophy ต่อมลกู หมากโต Sexual transmitted disease โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พันธ์ Acute Gastroenteritis ลำไสอ้ กั เสบฉบั พลนั Cancer โรคมะเรง็ Dental Caries โรคฟนั ผุ Chronic Dento Alveolar abscess เปน็ ฝที เ่ี หงอื กเรื้อรัง (โรครำมะนาด)

ปรมิ าณสารอาหาร • โซเดียม ความต้องการปริมาณโซเดียมในแตล่ ะวยั วยั ปรมิ าณความตอ้ งการโซเดียม/วนั วัยทารก 800 มลิ ลกิ รมั (ไดจ้ ากนมแม่) วยั เดก็ 225-950 มิลลิกรมั วัยรุ่น ผู้ชาย 400-1,600 ผูห้ ญิง 350-1,300 มิลลิกรมั วัยทำงาน ผูช้ าย 500-1,600 ผหู้ ญงิ 400-1,200 มิลลิกรัม วัยสงู อาย ผู้ชาย 500-1,200 ผหู้ ญิง 350-1,100 มิลลิกรมั หญงิ ให้นมบุตร เพมิ่ จากปกติ 150-350 มลิ ลิกรมั ทมี่ า: กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ ปรมิ าณโซเดียมในเครื่องปรุงรส เคร่อื งปรุง ปรมิ าณ โซเดยี ม (มลิ ลิกรัม) 2,000 เกลือ 1 ช้อนชา 960 600 ผงปรงุ รส 1 ช้อนชา 400 400 ผงชูรส 1 ช้อนชา 400 340 น้ำปลา 1 ชอ้ นชา 450 280 ซีอ๊ิวขาว 1 ชอ้ นชา 220 210 ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา 140 ผงฟู 1 ชอ้ นชา ซอสหอยนางรม 1 ชอ้ นโต๊ะ น้ำจม้ิ สุก้ี 1 ชอ้ นโต๊ะ ซอสพริก 1 ชอ้ นโตะ๊ น้ำจิ้มไก่ 1 ช้อนโต๊ะ ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ ท่มี า: สมาคมนกั กำหนดอาหารแหง่ ประเทศไทย

• โพแทสเซยี ม การจำแนกผกั และผลไม้เปน็ กลมุ่ ตามปรมิ าณโพแทสเซียมในผกั และผลไมจ้ ำนวน 1 สว่ น กลุ่มผกั ผลไม้แยก ผกั หรอื ผลไม้ 1 สว่ น ตามปริมาณโพแทสเซียม ปรมิ าณ โพแทสเซยี ม คา่ เฉลย่ี (มลิ ลิกรมั ) (มิลลกิ รมั ) ต่ำ 1-100 70 ปานกลาง 101-200 150 สงู 201-300 270 ทมี่ า: ศนู ยศ์ รพี ฒั น์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ โพแทสเซียมในผกั โพแทสเซยี มสูง โพแทสเซยี มปานกลาง โพแทสเซียมต่ำ ถงั่ ฝกั ยาว แตงร้าน ผักกาดขาว ผกั คะน้า แตงกวา เห็ดหูหนูสด ผกั บ้งุ จนี ฟักเขียว บวบ ผกั ค่นื ฉา่ ย ถวั่ งอก หอมใหญ่ เห็ดฟาง มะเขือยาว ถว่ั พู มะเขือเปราะ พรกิ หวาน มันฝร่ัง ถั่วลันเตา ฟกั ทอง มะเขือเทศ กะหล่ำปลี มะระจีน แครอท บล็อคโคลี่ ขา้ วโพดอ่อน ทม่ี า:กลุ่มงานสุขศึกษา โรงพยาบาลพระน่ังเกล้า จังหวดั นนทบุรี

โพแทสเซียมในผลไม้ โพแทสเซียมปานกลาง โพแทสเซยี มตำ่ โพแทสเซยี มสูง ลำไย เงาะ มะละกอสุก ฝรง่ั องนุ่ มงั คดุ แก้วมงั กร กลว้ ยหอม ลองกอง สละ นอ้ ยหนา่ ทุเรียน สตอเบอรร์ ่ี สาลี่ ขนุน ผลไมแ้ หง้ สม้ เขยี วหวาน มะเฟอื ง ชมพู่ ส้มโอ พุทรา สบั ปะรด แตงโม มะมว่ งน้ำดอกไม้ แคนตาลปู แอปเปิ้ลฟูจิ ทมี่ า: กลุมงานสุขศกึ ษา โรงพยาบาลพระน่ังเกลา จังหวัดนนทบรุ ี • ฟอสฟอรสั ฟอสฟอรัสต่ำ : < 100 มก. หรืออาหารที่มีปริมาณฟอสฟอรัส น้อยกว่า 5% ของพลังงานท่ี ควรบรโิ ภคใน 1 วนั ฟอสฟอรัสกลาง : 100-200 มก. หรืออาหารที่มีปริมาณ ฟอสฟอรัสน้อยกว่า 5-15% ของ พลังงานทีค่ วรบรโิ ภคใน 1 วนั ฟอสฟอรัสสูง : > 200 มก. หรืออาหารที่มีปริมาณฟอสฟอรัส สูงกว่า 15% ของพลังงานท่ี ควรบรโิ ภคใน 1 วนั อาหารทม่ี ีปริมาณฟอสฟอรัสสูง นมและผลิตภัณฑ์ นมสดรสจืด ชนิดหวาน นมพร่องมันเนย นมขาดมัน เนย นมข้น นมผง นมปรุงแต่งกลิ่นรส นมเปรี้ยว โยเกิร์ตชนิดข้นและชนิดดื่มได้ ไอศกรีม คัสตาร์ดครมี ชีส ชอ็ กโกแลต และเนยแขง็ ทกุ ชนดิ ถ่ัวเมล็ดแหง้ และผลิตภัณฑ์ ถั่วคั่ว ถั่วทอด เนยถั่ว นมถั่วเหลือง ลูกชุบ กระยา สารท เตา้ ฮวย และเต้าหู้ เปน็ ตน้ เมล็ดพืชแห้ง ธัญพืชและ เมล็ดแตงโม เมล็ดฟักทอง เมล็ดดอกทานตะวัน ข้าว ผลิตภณั ฑ์ บาร์เล่ย์มอลต์ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ อัลมอนด์ ข้าว โอต๊ ข้าวกล้อง ลูกเดอื ย งาดำ เครอ่ื งดมื่ ธญั พืชต่างๆ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook