Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการดูแลตนเองสำหรับผู้ป่วยกระดูกสะโพกหักจากโรคกระดูกพรุน

คู่มือการดูแลตนเองสำหรับผู้ป่วยกระดูกสะโพกหักจากโรคกระดูกพรุน

Published by lerdsin.hospital, 2020-10-22 02:59:07

Description: คู่มือการดูแลตนเองสำหรับผู้ป่วยกระดูกสะโพกหักจากโรคกระดูกพรุน Osteoporosis

Search

Read the Text Version

ค่มู ือกำรดแู ลตนเอง สำ� หรับผู้ปว่ ยกระดกู สะโพกหัก จำกโรคกระดูกพรุน โดย งำนกำรพยำบำลผปู้ ว่ ยในออร์โธปดิ กิ ส์ ภำรกจิ ดำ้ นกำรพยำบำล โรงพยำบำลเลดิ สนิ กรมกำรแพทย์ กระทรวงสำธำรณสขุ



คมู่ อื การดแู ลตนเอง สำ� หรับผู้ป่วยกระดกู สะโพกหัก จากโรคกระดกู พรุน โดย งานการพยาบาลผปู้ ว่ ยในออร์โธปดิ ิกส์ ภารกิจด้านการพยาบาล โรงพยาบาลเลิดสนิ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

คู่มอื การดแู ลตนเอง ส�ำ หรับผ้ปู ่วยกระดกู สะโพกหกั จากโรคกระดกู พรนุ สงวนลขิ สิทธ์ิ พมิ พ์คร้ังท่ี 1 : กันยายน 2563 จำ� นวนพิมพ์ : 500 เลม่ ข้อมูลทางบรรณานุกรม สขุ ใจ ศรเี พยี รเอม, บรรณาธิการ. คู่มือการดูแลตนเอง ส�ำหรับผู้ป่วยกระดูกสะโพกหักจากโรคกระดูกพรุน. กรุงเทพฯ: งานการพยาบาลผู้ป่วยในออร์ โธปิดิกส์ ภารกิจด้านการพยาบาล โรงพยาบาลเลิดสนิ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข; 2563. 76 หนา้ : 21 ซม. 1. สะโพกหัก, การดูแล - - คู่มือ. I. สุนันท์ สนน่ิม, บรรณาธิการ. II. ปิยธิดา อยู่สุข, บรรณาธิการ. III. โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์. IV. งานการพยาบาลผ้ปู ่วยในออร์โธปดิ ิกส์ ภารกจิ ด้านการพยาบาล. WE855 จดั พมิ พ์โดย งานการพยาบาลผูป้ ่วยในออร์โธปิดกิ ส์ ภารกจิ ดา้ นการพยาบาล โรงพยาบาลเลดิ สิน กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เลขท่ี 190 ถนนสีลม แขวงสลี ม เขตบางรกั กรุงเทพฯ 10500 โทรศพั ท์ 0 2353 9892-3 โทรสาร 0 2353 9756 อเี มล:์ [email protected] พมิ พท์ ี่ : บรษิ ทั เทก็ ซ์ แอนด์ เจอรน์ ลั พบั ลเิ คชนั่ จำ� กดั โทรศพั ท:์ 0 2617 8611-2 ISBN 978-616-11-4421-0

ค�ำนำ� ผปู้ ว่ ยกระดกู สะโพกหกั จากโรคกระดกู พรนุ มแี นวโนม้ เพมิ่ ขนึ้ อย่างรวดเร็ว เม่ือกระดูกหักจะท�ำให้ความสามารถในการใช้ชีวิต ประจำ� วนั ดอ้ ยลง คณุ ภาพชวี ติ ลดลง และมคี วามเสยี่ งตอ่ การเสยี ชวี ติ เร็วกว่าเวลาอนั ควร การรกั ษาพยาบาลผปู้ ่วยกระดกู สะโพกหักมีทั้ง การรกั ษาแบบไมผ่ า่ ตดั และการรกั ษาแบบผา่ ตดั ใส่โลหะยดึ ตรงึ กระดกู หรือการผ่าตัดเปล่ียนข้อสะโพกเทียม การรักษาพยาบาลจะได้ผลดี เมอ่ื ผปู้ ว่ ยปฏบิ ตั ติ วั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งในทกุ ระยะ ตงั้ แตร่ ะยะกอ่ นผา่ ตดั ระยะหลังผา่ ตดั และระยะฟ้ืนฟสู มรรถภาพ คู่มือการดูแลตนเองส�ำหรับผู้ป่วยกระดูกสะโพกหักจากโรค กระดูกพรุนนี้ จัดท�ำขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้เก่ียวกับโรคกระดูกพรุน การรักษา การปฏิบัติตัวเม่ือกระดูกสะโพกหัก และการป้องกัน กระดกู หกั ซำ�้ เพอื่ ใหผ้ ปู้ ว่ ยมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และสามารถกลบั ไป ดแู ลตนเองตอ่ เนอื่ งทีบ่ ้านได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะการระมัดระวัง ไม่ใหเ้ กดิ การหกล้มอนั อาจเปน็ สาเหตใุ ห้เกิดกระดูกหกั ซ้ำ� ได้อกี สุขใจ ศรเี พยี รเอม สนุ ันท์ สนนม่ิ ปยิ ธดิ า อยู่สขุ 12 สิงหาคม 2563

สารบัญ หน้า 1 โรคกระดูกพรนุ 3 ปจั จัยทท่ี ำ� ให้เกิดโรคกระดูกพรุน 3 อาการ 4 การวินจิ ฉยั 5 การรกั ษา 6 การปอ้ งกันโรคกระดกู พรนุ 9 10 กระดูกสะโพกหกั 14 การรกั ษา 22 การปฏิบตั ิตวั กอ่ นผา่ ตัด การปฏิบตั ิตัวหลงั ผา่ ตดั 25 การฟนื้ ฟสู ภาพร่างกายหลังผ่าตดั 31 การปฏิบตั ิตวั เม่ือกลบั ไปอยูบ่ ้าน 38 การปฏิบตั ิตวั เฉพาะส�ำหรับผู้ป่วยเปลีย่ นขอ้ สะโพกเทยี ม 55 56 การปอ้ งกันกระดูกหกั ซ้�ำ ปจั จยั ทีท่ ำ� ใหเ้ กดิ การหกล้มและอาจเป็น 58 สาเหตใุ ห้เกิดกระดกู หักซ้ำ� การปฏบิ ัติตวั เพื่อป้องกนั การหกลม้ และ 66 การเกดิ กระดกู หกั ซำ�้ บรรณานุกรม

คมู่ ือการดแู ลตนเอง 1 สำ� หรับผู้ป่วยกระดูกสะโพกหักจากโรคกระดูกพรุน กโรระคดูกพรนุ

โรงพยาบาลเลิดสิน 2 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสขุ โรคกระดูกพรุน โรคกระดูกพรุนเกิดจากการท่ี โครงสร้างของกระดูกท่ัว ร่างกายมีการเส่ือมสภาพ มีการสร้างท่ีลดลง ร่วมกับมีการสลายที่ มากข้ึน ส่งผลให้มวลกระดูกลดลงกระดูกจึงเปราะบาง โดยเฉพาะ ในผู้สูงอายุเมื่อเกิดการหกล้มจะท�ำให้มีความเสี่ยงต่อการหักมากขึ้น ต�ำแหน่งกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุนท่ีพบได้บ่อย ได้แก่ บริเวณ กระดกู ขอ้ มือ กระดูกสันหลงั และกระดูกสะโพก1, 2 กระดกู ปกติ กระดกู พรนุ

ค่มู ือการดแู ลตนเอง 3 ส�ำหรบั ผปู้ ่วยกระดกู สะโพกหักจากโรคกระดกู พรนุ ปัจจัยทีท่ ำ� ใหเ้ กดิ โรคกระดูกพรนุ 2, 3 ปจั จยั ท่ีทำ� ใหเ้ กดิ โรคกระดกู พรนุ มีดงั นี้   1. กรรมพันธุ์ ที่ส่งผลต่อลักษณะโครงสร้างของกระดูก ดัชนีมวลกาย อายุทเ่ี ริม่ มปี ระจ�ำเดือน และหมดประจ�ำเดือน เป็นตน้   2. วยั สูงอายุ โดยเฉพาะผ้หู ญงิ วยั หมดประจำ� เดอื น   3. รูปร่างทผ่ี อมบาง   4. การขาดสารอาหาร โดยเฉพาะการขาดแคลเซียม วติ ามินดี และโปรตีน   5. การสูบบหุ รี่ หรอื ดื่มสรุ าจำ� นวนมากเปน็ ประจ�ำ   6. การไม่ออกกำ� ลังกาย หรือไมค่ ่อยเคล่อื นไหวรา่ งกาย      7. การเจ็บป่วยด้วยโรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคไทรอยดเ์ ปน็ พษิ และโรครมู าตอยด์ เปน็ ต้น 8. การใชย้ าบางชนดิ เปน็ เวลานาน เชน่ ยาสเตียรอยด์ หรอื ยาท่ีมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ยาลูกกลอน หรือยาชุดแก้ปวด รวมท้งั ยารักษาโรคข้ออกั เสบ โรคหอบหดื เป็นต้น อาการ2 โรคกระดูกพรุนมักไม่มีอาการแสดง โดยท่ัวไปผู้ป่วย สามารถดำ� เนนิ ชวี ติ ไดต้ ามปกติ แตบ่ างรายอาจพบวา่ มคี วามสงู ลดลง จากวัยหนุ่มสาว หากขาดการสังเกตตนเองในเรื่องความเสี่ยงต่อ โรคกระดูกพรุน ไม่ได้วัดส่วนสูงสม่�ำเสมอ ก็มักพบโรคนี้เมื่อเกิด ภาวะกระดูกหักจากแรงกระแทกที่ ไม่รุนแรง ซ่ึงแท้จริงแล้ว โรคกระดูกพรุนได้เกิดขึน้ มาก่อนการหกั เป็นเวลานาน

โรงพยาบาลเลิดสิน 4 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข การวนิ ิจฉยั 2, 4 1. ตรวจรา่ งกายพบอาการหลังค่อม หรือส่วนสูงลดลง 2. การถา่ ยภาพรงั สบี รเิ วณกระดกู สนั หลงั จะพบวา่ กระดกู บาง 3. ตรวจคัดกรองโดยใช้แบบประเมินความเสี่ยงการเกิด กระดูกหักขององค์การอนามัยโลก (Fracture Risk Assessment Tool: FRAX®) หรือแบบคัดกรองความเส่ียงต่อการเกิดโรคกระดูก พรุนของมหาวิทยาลัยขอนแก่น (Khon Kaen Osteoporosis Score: KKOS) เป็นต้น ความสงู ของรา่ งกายลดลงเมอ่ื อายมุ ากขนึ้

คู่มอื การดูแลตนเอง 5 ส�ำหรับผู้ปว่ ยกระดูกสะโพกหกั จากโรคกระดกู พรุน 4. การตรวจหาความหนาแน่นของกระดูก (Bone Mineral Density: BMD) ด้วยเครอื่ ง dual energy X-ray absorptiometry (DXA) เพื่อวนิ จิ ฉัย และประเมินความรนุ แรงของโรคกระดกู พรนุ 5. ตรวจหาสาเหตุทุติยภูมิของการเกิดโรคกระดูกพรุน เช่น โรคทางระบบตอ่ มไร้ท่อ เปน็ ตน้ การรกั ษา2, 4 1. การปรับเปล่ียนพฤติกรรม ได้แก่ การออกก�ำลังกาย แบบลงน้�ำหนักอย่างสม�่ำเสมอ เช่น การเดิน นอกจากนั้นควรงด สูบบหุ ร่ี และงดด่ืมเครอื่ งดืม่ ที่มีสว่ นผสมของแอลกอฮอล์ หลกี เล่ียง การใช้ยาท่ีท�ำให้เกิดกระดูกพรุน การได้รับแคลเซียม และวิตามินดี ทเ่ี พยี งพอโดยมุ่งเนน้ การไดร้ บั จากสารอาหารธรรมชาติ 2. การรักษาด้วยยา แพทย์จะพิจารณายารักษาโรค กระดูกพรุนตามความรุนแรงของโรค และความเสี่ยงต่อการเกิด กระดกู หกั รว่ มกบั เสรมิ แรธ่ าตแุ คลเซยี ม และวติ ามนิ ดอี ยา่ งเพยี งพอ การรักษาโรคกระดูกพรุนด้วยยาจะต้องกระท�ำร่วมกับการ ปรับเปล่ียนพฤติกรรมด้วยเสมอจึงจะได้ผลอย่างเต็มที่

โรงพยาบาลเลิดสิน 6 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสขุ การปอ้ งกันโรคกระดูกพรุน2, 5, 6 1. รับประทานอาหารท่ีมีแคลเซียม ในปริมาณท่ีเหมาะสม กบั แตล่ ะช่วงวัย ดังนี้ ชว่ งอายุ ปรมิ าณแคลเซยี มทค่ี วรไดร้ บั ในหนงึ่ วนั ทารก อายุนอ้ ยกว่า 6 เดือน 260 มิลลิกรัม เดก็ อายุ 1-3 ปี 500 มลิ ลกิ รมั เด็กอายุ 4-8 ปี 800 มิลลกิ รมั วัยรนุ่ อายุ 9-18 ปี 800-1,300 มลิ ลิกรมั ผู้ใหญ่ อายุนอ้ ยกวา่ 50 ปี 1,000 มิลลกิ รมั ผสู้ งู อายุ ทอ่ี ายมุ ากกวา่ 50 ปี 1,200 มิลลกิ รัม 2. หลกี เล่ียงการสบู บุหร่ี และด่มื เครอ่ื งดม่ื ท่มี ีส่วนผสมของ แอลกอฮอล์ 3. ควรออกก�ำลังกายแบบลงน�้ำหนัก และบริหารกล้ามเนื้อ ให้แข็งแรงอยู่เสมอ วันละประมาณ 30 นาที 3-5 คร้ัง/สัปดาห์ ควรเลือกออกก�ำลงั กายใหเ้ หมาะสมกบั อายุ และสภาพรา่ งกาย เชน่ เด็ก และวัยรุ่นสามารถออกก�ำลังกาย โดยการเล่นกีฬาที่มีการว่ิง หรอื กระโดดได้ แตผ่ สู้ งู อายคุ วรออกกำ� ลงั กายดว้ ยการเดนิ หรอื ไทเ้ กก๊ เป็นต้น

คู่มอื การดูแลตนเอง 7 สำ� หรับผูป้ ว่ ยกระดูกสะโพกหักจากโรคกระดูกพรนุ 4. ควรให้ร่างกายได้รับวิตามินดีอย่างเพียงพอ โดยการ ออกไปรับแสงแดดกลางแจ้งในช่วงเช้า หรือช่วงที่แดดไม่จัดเกินไป วันละประมาณ 30-45 นาที โดยให้แสงแดดสัมผัสผิวหนังโดยตรง เป็นพื้นที่มากที่สุด และรับประทานอาหารที่มีวิตามินดี เช่น น้�ำมัน ตบั ปลา ไข่ไก่ เป็นตน้ 5. ควบคุมน�้ำหนักตัวให้เหมาะสม และไม่ให้ผอม หรืออ้วน จนเกินไป ผู้ท่ีมีร่างกายผอมบางมักเส่ียงกับภาวะกล้ามเนื้อน้อย และกระดูกพรนุ ตามมา 6. หลีกเล่ียงการรับประทานยาที่มีผลต่อกระดูกโดย ไมจ่ ำ� เป็น เชน่ ยาสเตียรอยด์ หรือยาชุดแก้ปวด ยาลกู กลอน ยาขบั ปัสสาวะบางชนิด ยากันชัก และยาลดกรดในกระเพาะอาหาร เปน็ ต้น 7. รักษา หรือควบคุมอาการของโรคอื่นๆ ที่มีผลต่อ มวลกระดูก เช่น โรคเบาหวาน โรครมู าตอยด์ โรคไทรอยด์เป็นพิษ หรือโรคไตวาย เป็นต้น จากการท่ีผู้สูงอายุท่ีมีโรคกระดูกพรุน เม่ือได้รับแรง กระแทกแม้เพียงเล็กน้อยก็ท�ำให้เกิดกระดูกหักได้ง่าย โดยเฉพาะ อย่างย่ิงเมื่อหกล้ม ต�ำแหน่งท่ีพบว่าเกิดกระดูกหักได้บ่อยใน ผสู้ งู อายทุ ก่ี ระดกู พรนุ ไดแ้ ก่ กระดกู สนั หลงั กระดกู ขอ้ มอื และกระดกู สะโพก ซึ่งการหักของกระดูกสะโพกจะมีผลต่อคุณภาพชีวิตของ ผู้ป่วยมากที่สุด เพราะท�ำให้เดินไม่ได้ และจ�ำเป็นต้องเข้ารับการ รกั ษาในโรงพยาบาล

โรงพยาบาลเลดิ สิน 8 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสขุ

คู่มอื การดแู ลตนเอง 9 ส�ำหรบั ผู้ปว่ ยกระดูกสะโพกหักจากโรคกระดูกพรุน กระดูก สะโพกหัก

โรงพยาบาลเลดิ สนิ 10 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสขุ กระดกู สะโพกหกั กระดูกสะโพกหักเป็นปัญหาสุขภาพท่ีส�ำคัญและรุนแรง พบไดบ้ ่อยในผู้สูงอายุ 1 ใน 3 ของผู้หญงิ และ 1 ใน 5 ของผชู้ ายท่ี มีอายุมากกว่า 50 ปี7 มีความเสี่ยงที่จะเกิดกระดูกหักจากโรค กระดูกพรุน สาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากการหกล้ม เมื่อกระดูก สะโพกหักจะท�ำให้ผู้ป่วยสูญเสียความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตร ประจ�ำวัน สูญเสียค่าใช้จ่ายในอัตราที่สูง อาจท�ำให้เกิดความพิการ และมีอัตราเส่ียงสูงต่อการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนได้ ถ้าไม่รีบ รักษา การรกั ษา8 1. การรักษาแบบไม่ผ่าตัด เป็นการรักษาส�ำหรับผู้ป่วยที่ไม่ สามารถเดิน หรือช่วยตัวเองได้อยู่ก่อนแล้ว หรือเป็นผู้ป่วยท่ีมี โรคประจ�ำตัว หรือมีอาการเจ็บป่วยที่มีความเสี่ยงสูงต่อการผ่าตัด การรกั ษาจะทำ� โดยการดงึ ถว่ งนำ้� หนกั ผา่ นผวิ หนงั ของขาขา้ งทก่ี ระดกู สะโพกหักเพ่ือลดอาการบาดเจ็บของเนื้อเย่ืออ่อน และลดอาการ หดเกร็งของกล้ามเนื้อ หรือรักษาโดยการให้ผู้ป่วยนอนพักร่วมกับ

คู่มอื การดแู ลตนเอง 11 สำ� หรบั ผู้ป่วยกระดูกสะโพกหักจากโรคกระดกู พรุน รับประทานยาบรรเทาอาการปวด จนอาการปวดทุเลาลง แลว้ จึงให้ กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน ท้ังนี้ญาติ หรือผู้ดูแลอาจจ�ำเป็นต้องเตรียม รถเขน็ นงั่ ไวส้ ำ� หรบั ผปู้ ว่ ยซงึ่ สว่ นใหญ่ไมส่ ามารถเดนิ ได้ในระยะแรกหลงั การบาดเจบ็ เนอื่ งจากมอี าการปวด จะทำ� ไดเ้ พยี งนง่ั หรอื นอนอยบู่ นเตยี ง หรือลงน่ังบนรถเข็นเท่านั้น ส่ิงส�ำคัญในการรักษาแบบไม่ผ่าตัด คือ การดแู ลผปู้ ว่ ยไม่ใหเ้ กดิ ภาวะแทรกซอ้ น โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ การชว่ ย พลิกตะแคงตัว และการจัดท่าผู้ป่วยเพ่ือป้องกันการเกิดแผลกดทับ จากการนอนตดิ เตียงนานๆ การดงึ ถว่ งนำ้� หนกั เมอ่ื กระดกู สะโพกหกั

โรงพยาบาลเลดิ สนิ 12 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสขุ 2. การรกั ษาแบบผา่ ตดั มี 2 วธิ ี คอื 2.1 การผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงกระดูกท่ีหักให้เข้าท่ีด้วย โลหะชนิดต่างๆ โลหะท่ีใชย้ ดึ ตรงึ กระดกู

คู่มอื การดแู ลตนเอง 13 สำ� หรบั ผูป้ ่วยกระดกู สะโพกหกั จากโรคกระดูกพรุน 2.2 การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม โดยอาจผ่าตัด เปลย่ี นเฉพาะหวั ของกระดกู ตน้ ขา หรอื อาจเปลยี่ นทงั้ หวั กระดกู ตน้ ขา และเบ้าสะโพก สว่ นประกอบของขอ้ สะโพกเทยี ม ภายหลงั เปลย่ี นขอ้ สะโพกเทยี ม ผปู้ ว่ ยจะไดร้ บั การผา่ ตดั ดว้ ยวธิ ีใดนนั้ ขนึ้ อยกู่ บั ลกั ษณะการหกั ความแข็งแรงของกระดูก โรคร่วม และสภาพร่างกายของผู้ป่วย โดยแพทยจ์ ะเปน็ ผพู้ จิ ารณาตามความเหมาะสมของผปู้ ว่ ยแตล่ ะราย

โรงพยาบาลเลดิ สิน 14 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข การปฏบิ ตั ิตวั ก่อนผา่ ตดั 9 1. แจ้งแพทย์ หรือพยาบาลเกย่ี วกบั ยาท่รี ับประทานประจำ� โดยเฉพาะยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วาฟาริน ยาต้านการอักเสบ เช่น นาโปรเซน ไอบิวพรอเฟน รวมทั้งยาต้ม ยาหม้อ ยาลูกกลอน โสม หรือแปะก๊วย เน่ืองจากอาจจะต้องหยุด รบั ประทานยาเหลา่ นี้ อยา่ งนอ้ ย 5-10 วนั กอ่ นการผา่ ตดั หรอื ขนึ้ อยู่ กบั การพจิ ารณาของทมี แพทย์ผรู้ ักษา 2. ฝึกบริหารกล้ามเนื้อ และข้อต่อให้แข็งแรง เพ่ือเตรียม ความพรอ้ มส�ำหรับการฝกึ ยนื และเดินหลังผ่าตดั โดยให้ผู้ป่วยนอน หงายราบ และฝึกท�ำแต่ละท่า ค่อยๆ เพิ่มจ�ำนวนข้ึนเร่ือยๆ จนได้ อย่างนอ้ ย ทา่ ละ 100-200 ครั้ง/วัน ดังน้ี ทา่ ท่ี 1 ทา่ บรหิ ารกลา้ มเนอื้ ตน้ ขาดา้ นหนา้ โดยการเหยยี ดขาตรง ใช้ผ้าขนหนูม้วนสอดไว้ ใต้เข่าขณะบริหาร กดเข่าติดเตียง เกรง็ คา้ งไว้ นบั 1 ถงึ 5 แลว้ คลาย นบั เปน็ 1 ครง้ั

คู่มอื การดูแลตนเอง 15 สำ� หรับผ้ปู ว่ ยกระดูกสะโพกหักจากโรคกระดูกพรนุ ทา่ ที่ 2 ทา่ บรหิ ารขอ้ เทา้ โดยการกระดกขอ้ เทา้ ขน้ึ ทงั้ สองขา้ ง นบั 1 ถงึ 5 แลว้ คลาย หลงั จากนนั้ กระดกขอ้ เทา้ ลงทง้ั สองขา้ ง นบั 1 ถงึ 5 แลว้ คลาย นบั เปน็ 1 ครง้ั

โรงพยาบาลเลดิ สนิ 16 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ท่าท่ี 3 ท่าบริหารกล้ามเน้ือสะโพก โดยขมิบก้นค้างไว้ นบั 1 ถงึ 5 แลว้ คลาย นบั เปน็ 1 ครงั้

คู่มอื การดแู ลตนเอง 17 ส�ำหรบั ผปู้ ่วยกระดูกสะโพกหักจากโรคกระดูกพรุน ทา่ ท่ี 4 ทา่ บรหิ ารขอ้ สะโพก และเชงิ กราน ทา่ นจ้ี ะชว่ ยปอ้ งกนั การเกิดแผลกดทับ ท�ำโดยชันเข่าขาข้างดีข้ึน ขาข้างที่กระดูก หักเหยียดตรง พร้อมกับใช้ข้อศอกทั้งสองข้างช่วยยันท่ีนอน เพอ่ื ยกกน้ ใหล้ อยพน้ จากทนี่ อนเลก็ นอ้ ย นบั 1 ถงึ 5 แลว้ คอ่ ยๆ วางกน้ ลง นบั เปน็ 1 ครงั้

โรงพยาบาลเลิดสิน 18 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ท่าท่ี 5 ท่าบริหารกล้ามเน้ือแขน ท�ำโดยการยกน้�ำหนัก เช่น ยกขวดนำ้� แลว้ ชขู นึ้ จนสดุ แขน นบั 1 ถงึ 5 แลว้ คอ่ ยๆ วางลง นับเป็น 1 คร้ัง ท่าน้ีจะช่วยให้แขนมีก�ำลังในการฝึกเดินด้วย วอลค์ เกอร์ หรอื ไมค้ ำ�้ ยนั รกั แรภ้ ายหลงั ผา่ ตดั

ค่มู อื การดูแลตนเอง 19 สำ� หรับผ้ปู ่วยกระดกู สะโพกหกั จากโรคกระดูกพรุน 3. ฝึกการหายใจ และการไอ เพื่อป้องกันปอดติดเชื้อ หรือ ปอดอกั เสบ10 ดังนี้ 3.1 ฝึกการหายใจ โดยการนอนหงายศีรษะสูง 15-30 องศา หายใจเข้าทางจมูกลึกๆ จนหน้าท้องและทรวงอกขยายออก แล้วผ่อนลมหายใจออกทางปากช้าๆ จนทรวงอกและหน้าท้องคืนตัว ดังเดิม ท�ำ 5 ถึง 10 ครั้ง ทกุ ช่วั โมง ขณะต่นื 3.2 ฝึกการไอ โดยการสูดหายใจเข้าทางจมูกลึกๆ กลั้นหายใจไว้สักครู่ แล้วไอออกมา 2 คร้ังติดต่อกัน พักสักครู่ กอ่ นจะท�ำซำ�้ อกี 1-2 ครัง้ เพอ่ื ขบั เสมหะออกจากลำ� คอ ท้ังน้ี ผู้ป่วยท่ี ไม่ได้ผ่าตัดสามารถฝึกบริหารกล้ามเน้ือ และข้อต่อให้แข็งแรง ฝึกการหายใจ และการไอได้เช่นเดียวกัน เพ่ือป้องกนั ไม่ใหเ้ กิดกลา้ มเนอื้ ลบี ข้อยดึ ติด และปอดอักเสบติดเช้อื 4. เตรียมสภาพแวดล้อมทีบ่ ้าน และของใชท้ ่ีจ�ำเปน็ ใหพ้ ร้อม ดงั น1ี้ 1 4.1 จัดบ้านให้สะอาด โล่ง ไม่มีส่ิงกีดขวางทางเดิน พ้นื ต้องไม่ล่นื และมีแสงสวา่ งเพียงพอ 4.2 จดั เตรยี มทนี่ อน และควรใหผ้ ปู้ ว่ ยนอนชนั้ ลา่ งของบา้ น 4.3 จัดหาเตียงนอนที่มีความสูงระดับข้อพับเข่า และ เกา้ อท้ี ม่ี คี วามแขง็ แรง มพี นกั พงิ มที ท่ี า้ วแขน และมคี วามสงู พอเหมาะ เมื่อนัง่ แลว้ ขอ้ เข่าไมส่ งู กวา่ ข้อสะโพก และเทา้ วางราบกับพ้นื พอดี

โรงพยาบาลเลิดสิน 20 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข 4.4 จัดเตรียมห้องน้�ำให้มีราวส�ำหรับยึดจับ เพื่อให้ ผูป้ ว่ ยทรงตวั ได้ดี ป้องกันการลนื่ ลม้ และโถสว้ มควรเปน็ แบบนงั่ ราบ หากเปน็ โถส้วมแบบนงั่ ยองๆ และไมส่ ามารถปรับเปลย่ี นได้ ให้จดั หา เก้าอี้สุขภัณฑ์ หรืออาจใช้เก้าอ้ีพลาสติก หรือเก้าอ้ีไม้ เจาะรูวาง ครอบโถสว้ มแบบน่งั ยองๆ แทน พื้นหอ้ งน�้ำควรเป็นวสั ดกุ นั ลืน่ หรือ มีแผ่นรองกันลน่ื บริเวณพ้นื ทีอ่ าบน้�ำ หอ้ งนำ้� มรี าวสำ� หรบั ยดึ จบั

คู่มอื การดูแลตนเอง 21 สำ� หรบั ผ้ปู ว่ ยกระดูกสะโพกหกั จากโรคกระดกู พรุน เกา้ อส้ี ขุ ภณั ฑ์ เกา้ อเ้ี จาะรู

โรงพยาบาลเลดิ สนิ 22 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข การปฏิบัติตวั หลังผา่ ตัด10,12 1. ในรายท่ีผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงกระดูก ให้ผู้ป่วยวาง ขาขา้ งผา่ ตดั สงู บนหมอน 1 ใบ เพอื่ ชว่ ยลดอาการบวมและอาการปวด 2. ในรายท่ีผ่าตัดเปล่ียนข้อสะโพกเทียม ให้ผู้ป่วยนอน กางขาข้างที่ผ่าตัดประมาณ 15-30 องศา โดยใช้หมอนคั่นระหว่าง ขาทง้ั สองขา้ ง ทง้ั ขณะนอนหงาย และเมอ่ื พลกิ ตะแคงตวั โดยเฉพาะ อย่างย่ิงในช่วง 3 เดือนแรกหลังผ่าตัดเพ่ือป้องกันข้อสะโพกเทียม เคลื่อนหลุด ยกเว้นบางรายท่ีต้องนอนหุบขา ทั้งนี้ข้ึนอยู่กับวิธีการ ผา่ ตดั ซึ่งแพทย์ หรอื พยาบาลจะแจง้ ใหผ้ ้ปู ว่ ยทราบเป็นรายๆ ไป

คมู่ อื การดแู ลตนเอง 23 สำ� หรบั ผู้ปว่ ยกระดกู สะโพกหักจากโรคกระดกู พรนุ 3. ผู้ป่วยควรสูดลมหายใจเข้าทางจมูกลึกๆ แล้วผ่อน ลมหายใจออกทางปากชา้ ๆ ทำ� 10 ครงั้ ทกุ ชว่ั โมง ขณะตน่ื และหากมี เสมหะให้ผู้ป่วยสูดลมหายใจเข้าทางจมูกลึกๆ กล้ันหายใจไว้สักครู่ แล้วไอเอาเสมหะออกมาจากล�ำคอ ท�ำเช่นเดียวกันกับที่ฝึกไว้ก่อน ผา่ ตัด 4. ผู้ป่วยควรกระดกข้อเท้าข้ึนลงบ่อยๆ เพ่ือช่วยให้การ ไหลเวียนโลหิตดี ป้องกันไม่ให้เกิดล่ิมเลือดอุดตันในหลอดเลือดด�ำ ส่วนลึกของขา

โรงพยาบาลเลดิ สิน 24 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข 5. ผู้ป่วยควรบอกอาการปวดเป็นระดับคะแนน11, 13 เพ่ือให้ ได้รับการบรรเทาความปวดอย่างเหมาะสม โดยเร่ิมจากคะแนน 0 ซ่ึงหมายถึงผู้ป่วยไม่ปวดเลย และเพ่ิมขึ้นทีละ 1 คะแนน ไปเร่ือยๆ คะแนน 1-3 หมายถึงผู้ป่วยปวดน้อย คะแนน 4-6 หมายถึงผู้ป่วย ปวดปานกลาง และคะแนน 7-10 หมายถึงผู้ป่วยปวดมากท่ีสุด อาการปวดแผลผา่ ตัดนี้จะคอ่ ยๆ ลดลงภายใน 3-5 วนั คะแนนระดบั ความปวด

คู่มือการดแู ลตนเอง 25 สำ� หรบั ผู้ป่วยกระดกู สะโพกหักจากโรคกระดูกพรุน การฟ้ืนฟสู ภาพรา่ งกายหลงั ผา่ ตดั 9 ท้ังผู้ป่วยผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงกระดูก และผู้ป่วยผ่าตัด เปล่ียนขอ้ สะโพกเทียม มีขอ้ ควรปฏิบัติ ดังนี้ หลังผา่ ตดั วนั ที่ 1 1. บรหิ ารกลา้ มเนอ้ื และขอ้ เหมือนก่อนการผา่ ตดั ท่าท่ี 1-5 ในหนา้ ที่ 14-18 2. เปลี่ยนอิริยาบถโดยการพลิกตะแคงตัว ด้วยการเหนี่ยว ราวก้ันเตียง หรือใช้บาร์ โหนตัว ส�ำหรับผู้ป่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อ สะโพกเทียมต้องใชห้ มอนค่นั ระหวา่ งขาเสมอ 3. เร่ิมลุกนงั่ ได้ โดยเจา้ หนา้ ท่จี ะไขเตียงให้ศรี ษะสูง 30-45 องศา ควรระมัดระวังไม่ให้ทอ่ ระบายเลอื ดเลอื่ นหลดุ

โรงพยาบาลเลิดสิน 26 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข หลงั ผ่าตัดวันที่ 2-3 1. บรหิ ารกลา้ มเนื้อ และขอ้ เหมือนกอ่ นการผ่าตัด ทา่ ท่ี 1-5 ในหนา้ ท่ี 14-18 และเพ่ิมท่าบริหารกล้ามเนอื้ ข้อสะโพก เป็นท่าที่ 6 โดยการเกร็งกล้ามเน้ือต้นขา แล้วกางขาออกจากแนวกึ่งกลางล�ำตัว ในช่วงแรกอาจให้คนช่วยพยุงท่ีข้อเท้า และข้อพับขา เพื่อช่วยให้ ขยับขาไดง้ า่ ยขนึ้ นบั 1 ถึง 5 แลว้ จึงค่อยๆ หุบขาเข้าหาแนวกง่ึ กลาง ล�ำตัว ท�ำทีละข้าง ค่อยๆ เพิ่มจ�ำนวนข้ึนเรื่อยๆ จนได้อย่างน้อย 100-200 ครง้ั /วนั

ค่มู อื การดูแลตนเอง 27 ส�ำหรบั ผปู้ ว่ ยกระดกู สะโพกหักจากโรคกระดูกพรนุ 2. ลุกนั่งบนเตียง หรือนั่งห้อยขาข้างเตียง ส�ำหรับผู้ป่วย เปล่ียนข้อสะโพกเทียม ต้องระวังไม่งอข้อสะโพกเกนิ 90 องศา 3. ฝึกเคล่ือนย้ายจากเตียง มายังเก้าอ้ีข้างเตียง โดยน่ัง ห้อยขาข้างเตียง แล้วค่อยๆ ขยับก้นมาริมเตียง ให้ขาข้างท่ีผ่าตัด เหยียดออกไปด้านหน้าเล็กน้อย แล้วใช้มือจับที่ท้าวแขนของเก้าอ้ี ใหม้ ่นั คงเพอื่ ยนั ตวั ลุกขนึ้ ยืน แลว้ ลงนงั่ เก้าอี้ ดงั ภาพหน้า 28

โรงพยาบาลเลดิ สิน 28 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสขุ

คู่มอื การดูแลตนเอง 29 สำ� หรับผู้ปว่ ยกระดกู สะโพกหกั จากโรคกระดูกพรนุ หลงั ผา่ ตดั วนั ท่ี 4 จนถงึ วนั ทแ่ี พทยอ์ นญุ าตใหก้ ลบั บา้ น 1. ปฏิบัตเิ ชน่ เดียวกับหลังผา่ ตัดวนั ที่ 2-3 2. เพิ่มท่าบริหารข้อสะโพก และข้อเข่า เป็นท่าที่ 7 โดย ค่อยๆ ลากส้นเท้าเล่ือนเข้ามาใกล้ก้นให้มากที่สุด แล้วจึงค่อยๆ เล่ือนส้นเท้าออก จนขาเหยียดตรง (ท�ำเฉพาะขาข้างที่ผ่าตัด) ทำ� 10 คร้งั /รอบ อย่างน้อยวนั ละ 3-5 รอบ

โรงพยาบาลเลิดสิน 30 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข 3. ฝึกลงมายืนข้างเตียง และฝึกเดินโดยใช้วอล์คเกอร์ หรือไม้ค้�ำยันรักแร้ โดยเดินลงน้�ำหนักขาข้างท่ีผ่าตัดตามดุลยพินิจ ของแพทย์ (ดูวิธีการเดินด้วยวอล์คเกอร์ หรือไม้ค้�ำยันรักแร้ ในหนา้ ที่ 33-34)

ค่มู ือการดแู ลตนเอง 31 สำ� หรบั ผู้ปว่ ยกระดูกสะโพกหกั จากโรคกระดกู พรนุ การปฏิบัตติ ัวเม่ือกลับไปอยบู่ ้าน9, 10 ผู้ป่วยกระดูกสะโพกหักจากโรคกระดูกพรุนท่ี ได้รับการ ผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงกระดูก หรือผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม จ�ำเป็นท่ีจะต้องปฏิบัติตัวให้ถูกต้องเมื่อกลับไปอยู่บ้าน เพ่ือฟื้นฟู สภาพร่างกายให้ได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ และป้องกนั ไม่ให้เกิดภาวะ แทรกซ้อนตา่ งๆ ดงั น้ี 1. รับประทานยาตามแผนการรักษา เช่น ยาปฏิชีวนะ แคลเซียม วิตามินดี ยาโรคความดันโลหิตสูง ยาลดไขมันใน หลอดเลอื ด เปน็ ตน้ ยกเวน้ ถา้ มอี าการแพย้ า มผี นื่ คนั แนน่ หนา้ อก หรอื หายใจไมส่ ะดวก ให้หยุดรบั ประทานยา แล้วรบี ไปโรงพยาบาล หรอื สถานพยาบาลใกล้บ้าน พร้อมท้ังน�ำยาที่รับประทาน หรือซองยา ไปด้วย 2. ดูแลแผลผ่าตัดให้แห้งสะอาด เมื่อครบ 10-14 วัน หลัง ผา่ ตดั ผปู้ ่วยจะได้รบั การตดั ไหม หรอื เอาลวดท่ีเยบ็ ไวอ้ อก หรือแกะ เทปเหนยี วทย่ี ึดไวอ้ อก และต่อจากน้นั อกี 24 ชั่วโมง เม่ือแผลแหง้ ดี ผ้ปู ว่ ยจงึ จะอาบน้ำ� ได้ตามปกติ 3. ควรรบั ประทานอาหารใหค้ รบทง้ั 5 หมู่ ให้ได้ในปรมิ าณ ที่เหมาะสม เน้นอาหารท่ีมีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ เต้าหู้ ถวั่ เมลด็ แหง้ รวมทงั้ อาหารทม่ี แี คลเซยี มสงู เชน่ นมจดื และผลติ ภณั ฑน์ ม เตา้ หแู้ ขง็ ผกั ใบเขยี วเขม้ และยอดผกั รวมทง้ั อาหารทม่ี วี ติ ามนิ ดสี งู เช่น ปลาสวาย ปลาแซลมอน น้�ำมันตับปลา เป็นต้น ร่วมกับการ ออกก�ำลังกายเพ่ือช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงที่เหมาะกับ สภาพรา่ งกายของแตล่ ะบุคคล

โรงพยาบาลเลดิ สนิ 32 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสขุ 4. บริหารกล้ามเนื้ออย่างสม่�ำเสมอ ตามที่ได้ฝึกไว้ต้ังแต่ กอ่ นผ่าตัด และหลังผ่าตัด ทัง้ 7 ท่า และให้บรหิ ารกลา้ มเนอ้ื ต้นขา ดา้ นหนา้ เพิม่ เติม เป็นทา่ ที่ 8 โดยการนัง่ เกา้ อ้ที ่มี พี นักพงิ หลงั และ มีท่ีท้าวแขน แล้วยกเท้าข้ึนจากพ้ืนทีละข้าง ให้เข่าเหยียดตรง เกรง็ คา้ งไว้ นบั 1 ถึง 5 แล้วค่อยๆ งอเขา่ ลงชา้ ๆ จนเท้าวางบนพ้นื นบั เปน็ 1 ครงั้ ทำ� ซำ้� ขา้ งละ 10 ครง้ั รวมกนั ให้ได้ วนั ละ 100-200 ครงั้

คู่มอื การดูแลตนเอง 33 ส�ำหรับผปู้ ่วยกระดกู สะโพกหกั จากโรคกระดกู พรุน 5. ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน เช่น วอล์คเกอร์ หรือไม้ค้�ำยัน รักแร้ และให้ผู้ป่วยเดินลงน�้ำหนักตามค�ำแนะน�ำของแพทย์จนกว่า แพทยจ์ ะอนุญาตให้เลิกใช้ และให้เดินได้ตามปกติ ในผปู้ ่วยบางราย แพทยอ์ าจเหน็ สมควรให้ใช้รถเข็นนัง่ แทนการลุกเดนิ การใช้อุปกรณ์ ชว่ ยเดนิ มวี ธิ ีการใช้ ดังน้ี 5.1 การเดินด้วยวอล์คเกอร์9 ให้ผู้ป่วยจับวอล์คเกอร์ให้ม่ันคง แล้วยกวอล์คเกอร์ไป ทางด้านหน้า ก้าวขาข้างที่ท�ำผ่าตัดน�ำไปก่อน ให้น�้ำหนักตัวอยู่บน มือทง้ั สองข้าง แล้วจึงก้าวขาขา้ งทีด่ ีตามไป

โรงพยาบาลเลิดสนิ 34 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสขุ 5.2 การเดนิ ด้วยไม้ค้�ำยันรักแร้9 ให้ผู้ป่วยยืนทรงตัวให้ดี จับไม้ค�้ำยันรักแร้ ให้มั่นคง แล้วยกไมค้ �้ำยันรักแร้ทั้งสองข้าง พร้อมก้าวขาขา้ งที่ทำ� ผ่าตัดออกไป ทางด้านหน้าในระนาบเดียวกัน ให้น้�ำหนักตัวอยู่บนมือท้ังสองข้าง หลงั จากนน้ั จงึ กา้ วขาขา้ งดตี ามไป ใหข้ าขา้ งดเี ปน็ ขา้ งทร่ี บั นำ้� หนกั ตวั เมือ่ ทรงตัวดแี ลว้ จงึ ก้าวเดนิ ต่อไป 5.3 การขนึ้ ลงบนั ได9, 11 เพ่ือลดความเส่ียงเร่ืองการพลัดตกหกล้มจากการข้ึน ลงบนั ได ควรจดั ใหผ้ ปู้ ว่ ยอยชู่ นั้ ลา่ งของบา้ น หากจำ� เปน็ ตอ้ งอยชู่ น้ั บน ผู้ป่วยไม่ควรข้ึนลงบันไดตามล�ำพัง ต้องมีญาติ หรือผู้ดูแลคอยช่วย ในการขน้ึ ลงบันไดเสมอ

คมู่ ือการดูแลตนเอง 35 สำ� หรบั ผ้ปู ว่ ยกระดูกสะโพกหกั จากโรคกระดกู พรุน การขน้ึ บนั ได ให้ผู้ป่วยใช้มือข้างหนึ่งจับราวบันได และมืออีกข้างหน่ึง จบั วอล์คเกอร์ หรอื ไม้ค้ำ� ยันรักแร้ โดยขณะขนึ้ บันไดใหอ้ อกแรงกดที่ มือท้ังสองข้าง ก้าวขาข้างดีน�ำขึ้นไปก่อน แล้วจึงก้าวขาข้างที่ท�ำ ผา่ ตัดตามข้ึนไป พรอ้ มด้วยวอลค์ เกอร์ หรอื ไมค้ �ำ้ ยนั รักแร้

โรงพยาบาลเลดิ สนิ 36 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข การลงบนั ได เม่ือจะลงบันไดให้ท�ำกลับกันกับการข้ึนบันได โดยให้ ผู้ป่วยใชม้ อื ขา้ งหนึง่ จับราวบนั ได มอื อกี ข้างหนึง่ จบั วอลค์ เกอร์ หรือ ไม้ค้�ำยันรักแร้น�ำลงมาก่อน พร้อมก้าวขาข้างท่ีผ่าตัด ออกแรงกดท่ี มือท้งั สองข้าง แล้วก้าวขาขา้ งดตี ามลงมา

คูม่ อื การดูแลตนเอง 37 สำ� หรบั ผู้ปว่ ยกระดูกสะโพกหกั จากโรคกระดูกพรุน 6. การขับรถ ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดข้อสะโพกข้างซ้าย จะสามารถเรมิ่ ขบั รถได้ในระยะเวลาประมาณ 6-8 สปั ดาหห์ ลงั ผา่ ตดั 11 หากผ่าตัดข้อสะโพกข้างขวาอาจใช้เวลามากกว่านี้ เพื่อความ ปลอดภยั ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทจ่ี ะไปขบั รถ 7. การกลับไปท�ำงาน ขึ้นอยู่กับลักษณะงานท่ีท�ำ โดยท่ัวไป สามารถกลับไปท�ำงานได้ ในระยะเวลาประมาณ 2-3 เดือน หลงั ผ่าตดั ทง้ั นีค้ วรปรกึ ษาแพทยก์ อ่ น 8. ไปตรวจตามแพทย์นัด และควรไปพบแพทย์ทันทีโดยไม่ ต้องรอใหถ้ งึ วันนัด เมอ่ื มอี าการ ดังนี้ 8.1 มีไข้ แผลบวม แดง มเี ลือด หรือน้ำ� เหลืองซมึ ออกมา จากแผลผ่าตดั 8.2 ปวดสะโพกมากผิดปกติ ขณะเคลอื่ นไหว 8.3 เหนอ่ื ย หายใจล�ำบาก และเจบ็ หนา้ อก

โรงพยาบาลเลดิ สนิ 38 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสขุ การปฏบิ ตั ติ วั เฉพาะสำ� หรบั ผปู้ ว่ ยเปลย่ี นขอ้ สะโพกเทยี ม ข้อควรปฏิบัติส�ำหรับผู้ป่วยผ่าตัดเปล่ียนข้อสะโพกเทียมที่ ตอ้ งระมัดระวังเพื่อปอ้ งกันข้อสะโพกเทียมเคลอื่ นหลดุ มีดังนี้ 1. การน่งั เกา้ อ9้ี , 11, 12 ผูป้ ่วยควรนงั่ บนเก้าอ้ที แี่ ขง็ แรง มีพนักพงิ มีทที่ า้ วแขน และ มีความสูงพอเหมาะ เมื่อน่ังแล้วเท้าวางพอดีกับพ้ืน และข้อเข่าต้อง ไม่สูงกว่าข้อสะโพก ไม่น่ังเก้าอี้ที่มีระดับต�่ำกว่าข้อสะโพก ถ้าเก้าอ้ี ต่�ำเกินไปให้ ใช้เบาะรองนั่งเสริม และไม่ควรน่ังเก้าอ้ีท่ีเป็นโซฟา เก้าอนี้ อน เกา้ อีท้ ่มี ลี ้อเข็น หรอื เก้าอ้ีโยก เมื่อจะนั่งเก้าอ้ี ให้ผู้ป่วยหันหลังให้ขาชิดเก้าอี้ เหยียดขา ข้างที่ท�ำผ่าตัดไปด้านหน้า แล้วจึงเอ้ือมมือจากวอล์คเกอร์ไปจับท่ี ทา้ วแขนเก้าอี้ พร้อมทงั้ ย่อตวั ลงน่งั แล้วคอ่ ยๆ ขยบั ตวั นั่งให้หลังพงิ พนกั เก้าอ้ี ดังภาพหนา้ 39 เมื่อจะลุกจากเก้าอ้ี ให้ท�ำกลับกันกับการนั่งเก้าอี้ โดยให้ ผู้ป่วยเลื่อนตัวมาด้านหน้าเล็กน้อย เหยียดขาข้างท่ีท�ำผ่าตัดออกไป ทางด้านหน้า แล้วใช้มือจบั ท่ีท้าวแขนเกา้ อเ้ี พือ่ ยนั ตัวลกุ ข้นึ ยนื พร้อม ทง้ั เลอ่ื นมอื ไปจบั วอลค์ เกอรท์ ว่ี างอยทู่ างดา้ นหนา้ ผปู้ ว่ ย แลว้ จงึ ลกุ ขนึ้ วธิ กี ารนงั่ หรอื ลกุ จากเกา้ อนี้ ้ี สามารถนำ� ไปใช้ในการนงั่ เกา้ อี้ ส�ำหรับอาบน�้ำ นั่งในรถยนต์ หรือน่ังบนโถส้วมได้ แต่การน่ังบน โถสว้ มนั้น ต้องมีราวส�ำหรับจับยดึ ดว้ ย ตามภาพหน้า 20

คมู่ อื การดูแลตนเอง 39 สำ� หรับผ้ปู ่วยกระดกู สะโพกหกั จากโรคกระดกู พรนุ

โรงพยาบาลเลดิ สนิ 40 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสขุ 2. การขนึ้ รถ-ลงรถ12, 13 การขึ้นรถ-ลงรถยนต์ ให้ผู้ป่วยหันหลังเข้าหาที่นั่งโดยให้ขาสัมผัสกับบันไดรถ ใช้มือจับพนักเบาะรถให้ม่ันคง เหยียดขาข้างท่ีท�ำผ่าตัดไปด้านหน้า แล้วคอ่ ยๆ หยอ่ นตัวลงนั่ง ยกขาขา้ งท่ที ำ� ผา่ ตัดข้ึน แล้วตามด้วยขา ข้างดี เวลาลงจากรถให้ท�ำกลับกันโดยใช้ขาข้างท่ีดีก้าวลงมาก่อน แล้วก้าวตามลงมาด้วยขาข้างท่ีท�ำผ่าตัด ทั้งขณะข้ึน และลงจาก รถยนตต์ ้องระวงั ไม่ให้ข้อเขา่ สูงกวา่ ขอ้ สะโพก ดังภาพหน้า 41 การข้ึนรถ-ลงรถประจ�ำทาง เม่ือสภาพร่างกายผู้ป่วยแข็งแรงดีแล้ว ผู้ป่วยสามารถขึ้น รถโดยสาร หรือรถประจ�ำทางได้ โดยให้ผู้ป่วยใช้ขาข้างท่ีดีก้าวขึ้น บันไดรถไปก่อน จับราวบันไดรถให้มนั่ คง แลว้ ก้าวตามไปด้วยขาขา้ ง ที่ท�ำผ่าตัด เวลาลงจากรถให้ท�ำกลับกันโดยใช้ขาข้างที่ท�ำผ่าตัดก้าว ลงมากอ่ น แลว้ ก้าวตามลงมาด้วยขาขา้ งดี

คมู่ อื การดูแลตนเอง 41 สำ� หรับผ้ปู ่วยกระดกู สะโพกหกั จากโรคกระดกู พรนุ

โรงพยาบาลเลดิ สนิ 42 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข 3. การข้ึนเตยี งนอน-การลุกจากเตียงนอน13 การข้นึ เตียงนอน ใหผ้ ปู้ ่วยน่ังลงบนขอบเตียง พร้อมท้ังยก ขาข้างดีขึ้นมาบนเตียงก่อน แล้วตามด้วยขาข้างที่ท�ำผ่าตัด ค่อยๆ เอนตวั ลง ใชข้ อ้ ศอกชว่ ยยนั ท่นี อน โดยให้ขาข้างท่ที ำ� ผ่าตดั อยู่ในท่า กางออกเล็กนอ้ ย ดงั ภาพหนา้ 42-43 การลุกจากเตียงนอน ให้ท�ำกลับกันกับการขึ้นเตียงนอน โดยให้ผู้ป่วยเลื่อนตัวมาที่ขอบเตียงด้านเดียวกับขาข้างท่ีท�ำผ่าตัด และยกขาข้างที่ท�ำผ่าตัดลงมาจากเตียงก่อน แล้วใช้ข้อศอกยัน ที่นอน ค่อยๆ ขยับตัว แล้วตามมาด้วยขาข้างดี โดยให้ขาข้างที่ท�ำ ผา่ ตัดอยู่ในทา่ กางออกเลก็ นอ้ ย แล้วจงึ ลุกขน้ึ นงั่ บนเตยี ง

คมู่ อื การดูแลตนเอง 43 สำ� หรับผ้ปู ่วยกระดกู สะโพกหกั จากโรคกระดกู พรนุ

โรงพยาบาลเลิดสิน 44 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสขุ 4. การลุกจากพืน้ ข้นึ มาน่ังบนเก้าอ9ี้ ให้ผู้ป่วยใช้แขนทั้งสองข้างช่วยยันตัว และค่อยๆ ขยับตัว ลุกขึ้นน่ัง ทั้งน้ีญาติ หรือผู้ดูแลอาจช่วยประคองด้านหลัง จะท�ำให้ ผู้ป่วยลุกน่ังได้สะดวกขึ้น และเมื่อผู้ป่วยต้องการลงนอนกับพื้นก็ให้ ท�ำกลบั กัน โดยใชแ้ ขนท้ังสองข้างชว่ ยยนั ตัว คอ่ ยๆ ขยับ และเอนตัว ลงนอน เมื่อลุกขึ้นนั่งจากพ้ืนได้แล้ว ให้น�ำเก้าอ้ี และม้านั่งมาวางให้ ชดิ กน้ ของผ้ปู ่วย ให้ผปู้ ว่ ยค่อยๆ ขยบั ตัวลกุ ข้ึนจากพื้นมานง่ั บนมา้ นง่ั ก่อน โดยการใช้มือทั้งสองข้างจับที่ม้าน่ังพร้อมกับชันเข่าขาข้างดีข้ึน ใหอ้ อกแรงท่ีมือท้งั สองขา้ ง และขาข้างดีพร้อมกัน เพ่ือชว่ ยยนั และ ยกตัวข้ึนมานงั่ บนมา้ นงั่ แลว้ จงึ ขยบั ตวั จากม้านั่งลุกข้ึนมานั่งบนเกา้ อี้ ตามล�ำดับ ดังภาพหน้า 45 ทั้งนี้ผู้ป่วยควรมีญาติ หรือผู้ดูแลคอย ใหก้ ารชว่ ยเหลอื อยดู่ ว้ ย เมอื่ ผปู้ ว่ ยลกุ ขนึ้ นงั่ บนเกา้ อี้ไดเ้ รยี บรอ้ ยแลว้ หากต้องการลุกเดินก็ให้ ใช้อุปกรณ์ช่วยในการเดิน และเมื่อจะ ลงนั่งกับพื้นก็ให้ท�ำกลับกันกับการลุกข้ึนจากพ้ืน โดยค่อยๆ ขยับตัว จากเกา้ อี้ ลงมานั่งบนม้านงั่ ก่อน หลังจากนัน้ ให้ผู้ป่วยคอ่ ยๆ ขยับตวั จากมา้ น่ังลงมานั่งกบั พื้น