แผนปฏิบัติการ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563 . สานกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาประถมศึกษาลาปาง เขต 3 เอกสารลาดบั ท่ี 2/2563 กลมุ่ นโยบายและแผน สานกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาลาปาง เขต 3
คานา แผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2563 นี้ จัดทาข้ึนโดยความร่วมมือจากทุกกลุ่มงาน ในสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา มีส่วนร่วมในการวางแผนและดาเนินการ เพ่ือใช้เป็นเครื่องมือในการดาเนินงาน ขับเคลื่อนกลยุทธ์สู่ความสาเร็จตามเป้าหมาย โดยมีสาระสาคัญประกอบด้วยวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ กลยุทธ์ โครงการ กิจกรรม และงบประมาณ ซึ่งได้ดาเนินการวิเคราะห์ความสอดคล้องของแผนปฏิบัติการประจาปี กับนโยบายของรัฐบาล นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ นโยบายของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน และนโยบายของสานักงานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศึกษาลาปาง เขต 3 เพ่อื ให้การพฒั นาคุณภาพการศึกษา ในความรับผดิ ชอบ มคี ุณภาพ เกดิ ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธิผลสูงสุด โดยม่งุ สเู่ ปา้ หมายสดุ ท้ายคอื การพัฒนา ให้นกั เรียนไดร้ ับโอกาสทางการศกึ ษาอย่างท่วั ถึงและมีคุณภาพเต็มตามศกั ยภาพท่ีเท่าเทยี มกนั ขอขอบคุณทุกท่านท่ีมีส่วนร่วมในการจัดทาแผนปฏิบัติการ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ฉบับนี้ สาเร็จลุลว่ งไปดว้ ยดี สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาลาปาง เขต 3
สารบญั หนา้ คานา 1 ส่วนที่ 1 สภาพปัจจบุ นั ปัญหา และความต้องการในการพฒั นา 3 - สภาพทวั่ ไป 10 - ปญั หา อปุ สรรค และความตอ้ งการในการพฒั นา 13 สว่ นท่ี 2 บริบททีเ่ ก่ยี วข้องกบั การจดั ทาแผนปฏิบัติการ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563 16 สานกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาลาปาง เขต 3 20 - ยทุ ธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2561 – 2580) 22 - แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560 – 2564) - แผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ (พ.ศ.2560 – 2579) 29 - นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 37 - นโยบายสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน สว่ นที่ 3 สาระสาคัญของแผนปฏบิ ตั กิ าร ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563 44 สานักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศกึ ษาลาปาง เขต 3 42 - ทศิ ทางการดาเนนิ งานของสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาลาปาง เขต 3 48 สว่ นที่ 4 โครงการ/กิจกรรม 55 - สรปุ โครงการตามแผนปฏิบตั ิการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.25563 59 - รายละเอยี ดโครงการตามแผนปฏิบัตกิ ารประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2563 66 กลยุทธท์ ่ี 1 จัดการศกึ ษาเพอื่ ความมัน่ ของของมนุษย์และของชาติ 75 (1) โครงการน้อมนาพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลที่ 10 80 87 สู่การปฏบิ ตั ิ (2) โครงการพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาโรงเรียนพืน้ ทีส่ ูงในถ่ินทรุ กันดาร กลยุทธท์ ่ี 2 จัดการศกึ ษาเพอื่ เพ่ิมความสามารถในการแขง่ ขันของประเทศ (3) โครงการพฒั นาคุณภาพการศึกษาเพ่ือเพ่ิมขีดความสามารถในการแขง่ ขนั (4) โครงการแข่งขันทักษะทางวิชาการนักเรียน “งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน” (5) โครงการยกระดับคุณภาพการศกึ ษา กลยุทธท์ ่ี 3 พัฒนาและเสรมิ สร้างศกั ยภาพทรัพยากรมนษุ ย์ (6) โครงการพัฒนาและยกย่องเชดิ ชูเกียรตคิ รูและบคุ ลากรทางการศึกษา สู่ความเป็นมอื อาชพี กลยุทธ์ที่ 4 สร้างโอกาสในการเข้าถงึ บริการการศกึ ษาทมี่ ีคุณภาพ มีมาตรฐาน และลดความเหล่ือมล้าทางการศึกษา (7) โครงการสร้างโอกาสทางการศกึ ษาและลดความเหลื่อมล้าทางการศึกษา (8) โครงการยกระดบั และพัฒนาคุณภาพโรงเรยี นขนาดเล็ก กลยุทธท์ ่ี 5 จดั การศึกษาเพือ่ พฒั นาคุณภาพชีวิตทเี่ ป็นมิตรกับสง่ิ แวดลอ้ ม (9) โครงการจดั การศึกษาเพ่ือพัฒนาคณุ ภาพชีวติ ท่ีเปน็ มิตรกับสิง่ แวดลอ้ ม
สารบัญ (ตอ่ ) หน้า 87 กลยุทธ์ที่ 6 พัฒนาระบบการบริหารจดั การศกึ ษา 90 (10) โครงการพฒั นาประสทิ ธภิ าพการบริหารจดั การ สพป.ลาปาง เขต 3 (11) โครงการส่งเสริมกลุ่มเครอื ข่ายโรงเรียน เพื่อสนับสนุนการจัดการศึกษา 93 กลยุทธท์ ่ี 7 พัฒนาระบบเทคโนโลยีดจิ ิทัล (Digital Technology) มาใชใ้ นการบริหารจัดการศึกษา (12) โครงการพฒั นาระบบข้อมลู สารสนเทศและระบบเทคโนโลยดี ิจทิ ลั (Digital Technology) ภาคผนวก - คาส่งั สานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาลาปาง เขต 3 ที่ 232/2562 ลงวนั ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2562 เรอ่ื งแต่งตั้งคณะกรรมการพจิ ารณางบประมาณ โครงการ และจดั ทาแผนปฏิบัตกิ ารประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2563 สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษา ประถมศึกษาลาปาง เขต 3 - คาสง่ั สานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษาลาปาง เขต 3 ที่ 185/2562 ลงวันที่ 28 สงิ หาคม พ.ศ.2562 เรอ่ื งแตง่ ตั้งคณะกรรมการประชมุ เชิงปฏิบตั ิการ จัดทาแผนพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พ.ศ.2563 – 2565 และแผนปฏบิ ตั กิ าร ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2563 สานกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาลาปาง เขต 3 - คณะผูจ้ ดั ทา
สว่ นที่ 1 สภาพปจั จุบนั ปญั หา และความต้องการในการพฒั นา
ส่วนท่ี 1 สภาพปจั จุบนั ปัญหา และความตอ้ งการในการพฒั นา 1. สภาพทวั่ ไป 1.1 ทตี่ ั้ง สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาลาปาง เขต 3 เป็นส่วนราชการสังกัดสานักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ทาหน้าที่ส่งเสริม กากับ ติดตามการดาเนินงาน สถานศึกษา ในเขตอาเภอแจ้ห่ม อาเภอวังเหนือ และอาเภอเมืองปาน ตั้งอยู่เลขที่ 359 ตาบลแจ้ห่ม อาเภอแจ้ห่ม จังหวัดลาปาง อยู่ห่างจากจังหวัดลาปางข้ึนไปทางทิศเหนือ ตามเส้นทางถนนสายลาปาง – แจ้ห่ม ประมาณ 54 กิโลเมตร อาคารทที่ าการเปน็ อาคารเรียนแบบ 004 สรา้ ง พ.ศ. 2516 2 ช้ัน 12 ห้อง อาณาเขตตดิ ต่อของสานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาลาปาง เขต 3 ทิศเหนอื มีอาณาเขตตดิ ต่อกับจงั หวัดพะเยา , จงั หวดั เชยี งราย ทิศใต้ มีอาณาเขตตดิ ต่อกับอาเภอเมือง , อาเภอแม่เมาะ จังหวัดลาปาง ทศิ ตะวนั ตก มีอาณาเขตติดต่อกบั จงั หวัดเชยี งราย , จงั หวัดเชยี งใหม่ ทิศตะวันออก มอี าณาเขตติดต่อกับอาเภองาว จงั หวดั ลาปาง , จงั หวัดพะเยา ลักษณะภมู ิประเทศ สภาพพ้ืนท่ีโดยท่ัวไปของสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาลาปาง เขต 3 ประกอบด้วย โรงเรียนในเขตอาเภอแจ้ห่ม อาเภอวังเหนือ และอาเภอเมืองปาน มีพ้ืนท่ีทั้งหมด 3,248.47 ตารางกิโลเมตร สภาพของพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขามีป่าไม้ล้อมรอบ พื้นที่ป่าไม้ร้อยละ 61 ของพื้นที่ทั้งหมด มีที่ราบลุ่ม บริเวณท่ีราบใกล้แม่น้าเป็นบางส่วน มีแม่น้าสายสาคัญไหลผ่าน คือ แม่น้าวัง แม่น้าสอย แม่น้ามอญ แม่น้าปาน และแม่น้าตุ๋ย ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีประชากรจานวน 117,086 คน (ชายจานวน 58,532 คน หญงิ จานวน 58,554 คน) ลักษณะภูมิอากาศ จากลักษณะพ้นื ท่ีของจังหวัดที่เป็นแอ่งคล้ายก้นกระทะ จงึ ทาให้อากาศร้อนอบอา้ วเกือบตลอดปี ฤดูร้อนร้อนจัด และหนาวจัดในฤดูหนาว มีอุณหภูมิเฉล่ียสูงสดุ 41.6 องศาเซลเซียส เฉล่ียต่าสุด 10.5 องศาเซลเซียส ปรมิ าณนา้ ฝนวดั ได้ 1,105.0 มิลลิเมตรต่อปี ลกั ษณะภูมิอากาศแบ่งออกได้เป็น 3 ฤดู คอื ฤดูร้อน เริ่มประมาณต้นเดือนมีนาคมจนถึงปลายเดือนพฤษภาคม อากาศจะร้อนอบอ้าวมาก เดอื นท่มี ีอากาศร้อนท่ีสดุ คอื เดือนเมษายน ฤดฝู น เร่มิ ประมาณกลางเดอื นพฤษภาคม ฤดูหนาว เริ่มประมาณเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ อากาศจะหนาวเย็นมาก ช่วงที่มีอากาศหนาวจัดคอื เดือนมกราคม 1.2 ข้อมูลพ้นื ฐาน โรงเรียนในสังกดั จานวน 92 โรงเรยี น 1 สาขา - เปิดสอนช้นั อนบุ าล – ประถมศึกษา 79 โรงเรียน - เปิดสอนชนั้ อนบุ าล – ช้นั ม.ต้น 13 โรงเรยี น (โรงเรยี นทจ่ี ัดการเรียนการสอนจริง จานวน 69 โรงเรยี น ท่ีเหลือเป็นโรงเรยี นทีม่ าเรยี น รวม แตย่ งั ไม่สามารถดาเนนิ การเลิกสถานศึกษาขน้ั พื้นฐานได)้
ด้านการปกครอง สานกั งานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศกึ ษาลาปาง เขต 3 มีพืน้ ท่ีต้ังอยู่ในเขตปกครอง ดังนี้ • อาเภอ 3 อาเภอ • ตาบล 20 ตาบล • หมบู่ ้าน 200 หม่บู า้ น • จานวนครวั เรอื น 42,013 ครัวเรือน • จานวนประชากร 117,086 คน • องค์การบรหิ ารสว่ นตาบล 17 แหง่ • เทศบาลตาบล 6 แหง่ (ข้อมลู ณ เดอื นพฤศจิกายน 2562 : กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย) ด้านการศึกษา สถานศกึ ษา 96 แห่ง • สถานศกึ ษาของรัฐ 92 แหง่ (1 สาขา) • สถานศึกษาของเอกชน - แหง่ • สถานศกึ ษาของสงฆ์ 2 แห่ง • สถานศึกษาสงั กดั องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ 2 แหง่ นกั เรยี น 6,647 คน • ระดบั ปฐมวยั 1,319 คน • ระดับประถมศึกษา 4,758 คน • ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 570 คน (ข้อมลู ณ วนั ที่ 10 มิถุนายน 2562) ข้าราชการ 509 คน • ขา้ ราชการครู 483 คน • ผู้อานวยการสานกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษา/ 3 คน รองผ้อู านวยการสานกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษา • ศึกษานิเทศก์ 2 คน • บุคลากรทางการศึกษาอ่นื ม.38 ค.(2) 21 คน ลกู จ้าง 245 คน • ลกู จา้ งช่วั คราวสานกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษา 19 คน • พนกั งานราชการ 12 คน • ครูธุรการ 92 คน • ครรู ายเดอื น ขนั้ วิกฤต 25 คน • ครูพีเ่ ล้ียงเด็กพิการ 21 คน • บคุ ลากรด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ 18 คน • นักการภารโรง 49 คน (ขอ้ มูล ณ เดือนพฤศจกิ ายน 2562)
2. ปัญหา อุปสรรค และความต้องการในการพฒั นา การวิเคราะห์สภาพแวดล้อม (SWOT) ของสานักงานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศึกษาลาปาง เขต 3 ทงั้ สภาพแวดล้อมภายนอกและสภาพแวดลอ้ มภายใน ปรากฏดังน้ี การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก โดยวเิ คราะห์แบบ C-PEST C : ด้านพฤตกิ รรมของลกู ค้า ประเด็นทเ่ี ป็นโอกาส 1. ผู้ปกครองให้การสนับสนุนการจัดการศกึ ษาของโรงเรยี น สง่ ผลดตี อ่ การขับเคล่ือนการจดั การศกึ ษา 2. ชมุ ชน องค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ ภาคเอกชนและภาครัฐบาล เปน็ ภาคเี ครือข่ายทีด่ ี ในการส่งเสริมสนบั สนนุ มีสว่ นรว่ มในการจัดการศกึ ษา ประเด็นท่เี ป็นอปุ สรรค 1. ผู้ปกครองสว่ นหน่งึ ท่ีมฐี านะดี มคี า่ นิยมส่งบุตรหลานเขา้ เรยี นในโรงเรียนทีม่ ชี ื่อเสียง ส่งผล ให้ จานวนนักเรยี นในเขตบริการของโรงเรียนลดลง 2. นักเรียนทม่ี ีความต้องการจาเป็นพเิ ศษมจี านวนมาก สง่ ผลตอ่ การจดั การศึกษา 3. ประชาชนมีความรใู้ นด้านกฎหมายการศึกษาน้อย ยงั ไม่เหน็ ความสาคญั เทา่ ทค่ี วร สง่ ผล ตอ่ การมสี ว่ นรว่ มในการจัดการศึกษา P : ด้านการเมอื งและกฎหมาย ประเด็นที่เปน็ โอกาส 1. รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 , พระราชบัญญัติการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ.2542 และที่แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ , พระราชบญั ญัตกิ ารศึกษาภาคบงั คบั พ.ศ.2545 และพระราชบัญญตั กิ องทุนเพอื่ ความเสมอ ภาค ทางการศึกษา พ.ศ.2561 กาหนดให้ประชาชนทุกคน ไดร้ ับการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน ไมน่ อ้ ยกวา่ 12 ปี โดยไม่ต้อง เสียค่าใช้จา่ ย สง่ ผลใหผ้ ้เู รยี นได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างทวั่ ถึง 2. การปฏริ ปู ระบบบรหิ ารภาครัฐ และการปฏิรูปการศกึ ษาในทศวรรษที่ 2 ส่งผลให้มีการปรับเปลี่ยน การบรกิ ารทางการศกึ ษาเปน็ ไปในทิศทางทด่ี ี 3. นโยบายของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนการศึกษาแห่งชาติ 20 ปี แผนกระทรวงศึกษาธิการ และสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน สนับสนุนและเอื้อต่อการจัดการศึกษา 4. นโยบายรัฐบาลกาหนดให้มีการกระจายอานาจให้องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่นมสี ่วนร่วม ในการจัดการศกึ ษา ทาให้โรงเรยี นได้รับการสนับสนนุ การจัดการศึกษา 5. การปรับเปลีย่ นระบบงบประมาณโดยอิงยุทธศาสตรช์ าติ (SPBB) มีความชดั เจนในการกาหนด ตวั ชีว้ ัดในการพฒั นา 6. รฐั บาลกาหนดโครงการสนับสนนุ คา่ ใชจ้ า่ ยในการจดั การศกึ ษาตัง้ แตร่ ะดบั อนุบาลจนจบ การศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน สง่ ผลใหโ้ รงเรยี นสามารถจัดการศึกษาได้อย่างทว่ั ถึงและมีคุณภาพ ประเด็นทีเ่ ป็นอปุ สรรค 1. นโยบายดา้ นการศึกษาของรฐั บาลปรบั เปลย่ี นบ่อย ขาดความตอ่ เนื่อง เป็นอุปสรรคตอ่ การกาหนดทิศทางการจัดการศึกษา 2. นโยบายของหน่วยเหนือ ไม่สอดคล้องกับบริบทของโรงเรยี นและแก้ไขปัญหาระดับพน้ื ที่ได้ ไมค่ รอบคลมุ 3. ประกาศกระทรวงศึกษาธกิ าร เร่อื งการสง่ เด็กเขา้ เรียนในสถานศึกษา พ.ศ.2546 โรงเรียน บางสว่ นดาเนินการไมเ่ ปน็ ไปตามประกาศทกี่ าหนดไว้ ทาให้เดก็ ตกหล่นและขาดโอกาสทางการศึกษา
E : ด้านเศรษฐกจิ ประเด็นทเ่ี ปน็ โอกาส 1. การปรับเปล่ียนประเทศไทยไปส่ปู ระเทศไทย 4.0 โดยการปรบั โครงสร้างทางเศรษฐกจิ ของประเทศ ส่งผลให้เศรษฐกิจมแี นวโนม้ ดขี ึ้น 2. โครงการสวัสดกิ ารแหง่ รัฐ ทาให้ผู้ปกครองมรี ายได้มากข้ึน สง่ ผลดีตอ่ การสนับสนุนการศึกษา ของนักเรยี น 3. โครงการสนับสนุนค่าใชจ้ ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาข้ันพื้นฐาน ทาให้ผ้เู รยี นไดร้ บั โอกาสทางการศึกษาอยา่ งทว่ั ถึง ผปู้ กครองลดภาระค่าใช้จ่ายสาหรบั บุตรหลาน ประเดน็ ท่เี ปน็ อุปสรรค 1. ผปู้ กครองส่วนใหญ่มีรายได้ตา่ ฐานะยากจน การสนบั สนนุ การศึกษาได้ไมเ่ ต็มที่ สง่ ผลให้ นกั เรียนบางคนขาดโอกาสทางการศึกษา 2. ไม่มตี ลาดแรงงานขนาดใหญใ่ นทอ้ งถน่ิ ทาใหเ้ กดิ ภาวะการวา่ งงาน 3. ค่าครองชีพที่สงู ขึน้ มีผลกระทบต่อผ้ปู กครอง สง่ ผลตอ่ การจดั การศึกษา S : ดา้ นสังคมและวัฒนธรรม ประเด็นที่เปน็ โอกาส 1. เปน็ สังคมเกษตรกรรม มีการนาเทคโนโลยสี มัยใหมม่ าใช้และเปน็ ต้นแบบ สง่ เสรมิ กจิ กรรม การเรียนการสอน 2. สถาบนั ทางศาสนา มีบทบาทในการสง่ เสรมิ คุณธรรม จริยธรรมในสถานศกึ ษา 3. สภาพชุมชนเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สาคญั มีขนบธรรมเนียมประเพณแี ละวิถีชีวติ ท่เี อ้ือตอ่ การจัดการศกึ ษา ประเดน็ ทเ่ี ป็นอุปสรรค 1. ปัญหาส่ิงเสพตดิ ในชมุ ชน เปน็ ปัจจยั เส่ียงตอ่ ประชากรวยั เรียน 2. อัตราการเกดิ ของประชากรลดลง ส่งผลใหม้ ีโรงเรยี นขนาดเลก็ เพ่ิมขนึ้ 3. คา่ นิยมด้านวตั ถุ ส่งผลกระทบต่อวถิ ชี วี ิตของผูเ้ รียน 4. แนวโน้มครอบครวั มีอัตราการหย่ารา้ งสงู สง่ ผลตอ่ การเปลยี่ นแปลงพฤติกรรมของผเู้ รียน 5. วิถกี ารดารงชวี ติ ของชมุ ชน มีคา่ นยิ มที่ไมเ่ หมาะสม ส่งผลตอ่ การเลยี นแบบพฤตกิ รรม T : ด้านเทคโนโลยี ประเด็นทเ่ี ป็นโอกาส 1. การสนับสนนุ ใหโ้ รงเรยี นเขา้ ร่วมโครงการตามนโยบายของรัฐบาล ส่งผลให้โรงเรียนมแี หล่งเรยี นรู้ และมสี ่อื ทที่ ันสมยั 2. ความก้าวหนา้ ทางเทคโนโลยี ทาให้การส่อื สารท่วั ถึง ครอบคลมุ ทกุ พ้ืนทีข่ องชุมชน อานวย ความสะดวกในการปฏิบัตงิ านของเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาและโรงเรยี น ใหม้ ีความสะดวกและคล่องตัวมากย่งิ ข้นึ 3. เอกชนสนับสนุนระบบสญั ญาณอนิ เตอรเ์ นต็ ใหก้ ับโรงเรยี น สง่ ผลให้เข้าถึงสอ่ื ความร้ทู าง การศึกษา ได้อยา่ งสะดวกรวดเรว็ ประเด็นทีเ่ ป็นอปุ สรรค 1. ความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยี เกม อนิ เตอร์เน็ต ที่ไมเ่ หมาะสม ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรม ผเู้ รียน 2. การใช้เทคโนโลยที ่ีไม่คมุ้ คา่ ต่อการจดั การเรียนรู้
การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน โดยวิเคราะห์แบบ 7S S1 : ดา้ นโครงสรา้ ง ประเดน็ ที่เป็นจุดแขง็ 1. โครงสรา้ งการบรหิ ารสานักงาน กลมุ่ เครือข่าย รวมถึงโรงเรียน เป็นระบบ 2. โรงเรียนมีความพร้อมในการบรหิ ารจดั การ 3. กลุ่มเครือขา่ ยโรงเรยี น มสี ่วนร่วมในการบรหิ ารจัดการศึกษาร่วมกับเขตพื้นท่ีการศกึ ษา 4. เขตพ้ืนท่ีการศึกษาสามารถบริหารจัดการเป็นไปตามมาตรฐานสานักงานเขตพ้ืนท่ี ดาเนินงาน ตามระเบียบกฎหมายที่กาหนด มีการกาหนดบทบาท คุณลกั ษณะ ความรบั ผดิ ชอบ มอบหมายงานชดั เจน 5. การปรับเพิ่มกลมุ่ งานในเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษา เป็น 9 กลมุ่ กบั 1 หน่วย เพื่อเพมิ่ ประสิทธภิ าพ ในการปฏบิ ตั งิ านของบุคลากร ประเด็นทเี่ ปน็ จุดอ่อน 1. เขตพืน้ ท่ีการศึกษาขาดกระบวนการมีสว่ นรว่ มในการตัดสนิ ใจของกลุม่ เครือข่ายโรงเรียน 2. การดาเนนิ งานของศนู ย์พัฒนาวิชาการกลุ่มสาระการเรียนรู้ ยงั ไม่เปน็ ระบบ ขาดบุคลากร ในการขับเคลอ่ื น ขาดการประสานงาน ขาดการกากบั ติดตาม S2 : ด้านกลยุทธ์ของหนว่ ยงาน ประเด็นที่เป็นจดุ แข็ง 1. กาหนดวิสยั ทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ กลยุทธ์ ตวั ชวี้ ัด ชัดเจน และสอดคล้องกับบริบทของ หนว่ ยงาน ทุกฝา่ ยมสี ว่ นรว่ มในการดาเนนิ การ 2. การจดั ทาโครงการ/กจิ กรรม สอดคลอ้ งกบั กลยทุ ธข์ องหนว่ ยเหนือ โดยใชก้ ระบวนการ มสี ว่ นร่วมของผมู้ ีสว่ นเกย่ี วข้อง 3. การวางแผนการจดั การศกึ ษา เกิดจากการมีสว่ นร่วมของผู้มีส่วนไดส้ ่วนเสีย 4. กลยทุ ธข์ องเขตพนื้ ท่ีการศึกษามีเป้าหมายทส่ี ง่ ถึงผู้เรยี นโดยตรง ประเดน็ ทเ่ี ปน็ จุดอ่อน 1. โครงการบางโครงการยังไม่บรรลวุ ัตถุประสงค์ เน่ืองจากมีข้อจากับด้านงบประมาณ ระยะเวลา และกลุม่ เป้าหมาย 2. การติดตามประเมนิ ผลการดาเนินงาน ขาดความต่อเน่ือง ไม่เปน็ ไปตามปฏิทนิ ท่ีกาหนด รวมถึงขาดเคร่อื งมือท่ีชัดเจน S3 : ด้านระบบในการดาเนินงานของหน่วยงาน ประเดน็ ท่ีเปน็ จุดแขง็ 1. เขตพื้นท่ีการศึกษามีการกาหนดข้ันตอน แนวทางและคู่มือการปฏบิ ตั งิ านทีช่ ัดเจน มรี ะบบ การควบคมุ ภายในท่มี ปี ระสิทธภิ าพ รองรบั การกระจายอานาจ 2. เขตพืน้ ท่กี ารศึกษามีการบริหารจดั การ และมรี ะบบควบคุมดา้ นงบประมาณอย่างมีคณุ ภาพ การใชจ้ า่ ยเงินเปน็ ไปตามที่กาหนด 3. เขตพน้ื ที่การศึกษามรี ะบบการสรรหาและคัดเลือกบคุ ลากรท่ีชัดเจนโปร่งใส ตรวจสอบได้ บรหิ ารอตั รากาลังตามแผนอตั รากาลงั 4. เขตพื้นทีก่ ารศึกษาและโรงเรยี น มีระบบควบคมุ ใชว้ สั ดุ อุปกรณอ์ ย่างค้มุ ค่าและเตม็ ศกั ยภาพ 5. โรงเรียนมีระบบการประกันคุณภาพภายในท่ีมีประสิทธิภาพ
6. เขตพ้ืนท่กี ารศึกษาและโรงเรยี น มีระบบการตดิ ต่อสอื่ สารเทคโนโลยสี ารสนเทศท่ีหลากหลาย สนบั สนนุ การดาเนนิ งาน 7. เขตพ้นื ท่ีการศึกษา มรี ะบบการจดั ตัง้ งบประมาณ (ปร.4 ปร.5 ปร.6) อย่างมีประสิทธภิ าพ 8. เขตพื้นท่ีการศึกษา มีระบบการฝึกอบรม สัมมนา เพ่ือเพิ่มศกั ยภาพให้กับบคุ ลากรอย่าง ตอ่ เนื่อง 9. เขตพ้ืนท่ีการศึกษา มีระบบการบริการท่ีดี อานวยความสะดวกให้ผู้รบั บริการอยา่ งท่วั ถึง และ มีคณุ ภาพ ประเด็นทีเ่ ปน็ จดุ อ่อน 1. โรงเรียนบางแหง่ ยังไมใ่ ช้แผนเปน็ เคร่ืองมือในการดาเนนิ งาน 2. ระบบการจัดเก็บข้อมลู หรือคลังข้อมูลของเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา ไมเ่ ปน็ ปจั จุบัน ไมส่ ะดวกตอ่ การใช้งาน และทนั ต่อความต้องการใช้ 3. การให้บรกิ ารข้อมูลสารสนเทศแก่ผ้มู ีส่วนเกย่ี วขอ้ งไม่มปี ระสทิ ธภิ าพ 4. การส่งเสริมการสร้างองค์ความรู้ในหนว่ ยงาน (KM) ขาดการมีสว่ นร่วมและไม่มีความต่อเนอ่ื ง 5. ระบบงานสารบรรณระหว่างเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษาและโรงเรียน ช้าและขาดความต่อเนื่อง S4 : ด้านแบบแผนหรือพฤตกิ รรมในการบริหารจดั การ ประเด็นที่เปน็ จดุ แข็ง 1. ผู้บรหิ ารและบคุ ลากรในเขตพื้นท่ีการศกึ ษา มีความสามารถในการบริหารจดั การเชงิ กลยุทธ์ ได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ มคี ุณธรรมและจรยิ ธรรม มีทักษะการสัง่ การ การควบคุมการจงู ใจ สะท้อนถึงวัฒนธรรม หน่วยงาน 2. ผบู้ รหิ าร กระจายอานาจตัดสนิ ใจใหบ้ คุ ลากรไดใ้ ช้ศกั ยภาพทีม่ อี ยู่ ปฏบิ ัติงานอยา่ งเตม็ ความรู้ ความสามารถ และสมรรถนะทกี่ าหนด 3. การบริหารจดั การโรงเรยี นขนาดเลก็ ของเขตพน้ื ที่การศึกษาเป็นไปอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ประเดน็ ทเ่ี ป็นจุดอ่อน 1. ผบู้ รหิ ารสว่ นหน่ึง ยังใช้การบริหารแบบเดิม ยงั ไม่เป็นผู้นาทางวิชาการ 2. ผบู้ รหิ ารขาดการสง่ เสริมการวิจยั และพัฒนานวตั กรรมใหม่ ๆ เพื่อนามาใชใ้ นการบรหิ าร จัดการองค์กร 3. รปู แบบการบริหารจัดการของทมี บริหาร ไม่เอ้ือต่อการบริหารจัดการของเขตพ้ืนที่การศึกษา และโรงเรียน S5 : ด้านบุคลากร/สมาชกิ ในหนว่ ยงาน ประเดน็ ทเ่ี ปน็ จุดแข็ง 1. ผบู้ ริหารการศกึ ษาและผูบ้ ริหารโรงเรยี นได้รับการพฒั นาตามสมรรถนะ ด้วยวธิ กี ารทีห่ ลากหลาย 2. ครูและบคุ ลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาตามสมรรถนะ 3. ครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ไดร้ บั การเสรมิ สรา้ งความรู้เรอื่ งระเบยี บ กฎหมาย สง่ เสริมวนิ ยั คุณธรรมจริยธรรม และจรรยาบรรณวชิ าชีพ 4. บคุ ลากรในเขตพืน้ ที่การศึกษามีความรู้ ความสามารถตามมาตรฐานกาหนดตาแหน่ง มาตรฐานวชิ าชพี และบทบาทหน้าที่ 5. มีการส่งเสริม สร้างขวญั กาลังใจให้แก่ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาด้วยรูปแบบและวิธกี าร ท่หี ลากหลาย
ประเด็นทเ่ี ป็นจดุ อ่อน 1. อตั รากาลงั ครูในโรงเรยี น ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจรงิ ในการจัดการเรยี นการสอน โดยเฉพาะโรงเรียนขนาดเล็ก มคี รูสอนไมค่ รบชน้ั 2. ครูมีภาระงานอ่นื ที่ต้องรับผดิ ชอบนอกเหนือจากงานสอน 3. อัตรากาลังของบุคลากรในเขตพ้ืนที่และโรงเรยี น ไม่เพยี งพอกบั ภารกจิ งาน เน่ืองจากแนวโน้ม การเกษยี ณอายุราชการ และมีการยา้ ยออกเพ่ิมสงู ขึน้ 4. การปรบั อัตรากาลังลกู จ้างประจาของโรงเรียน (นักการภารโรง) ส่งผลต่อการบริหาร จดั การ ของเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาและโรงเรียน S6 : ด้านทกั ษะ ความรู้ ความสามารถของหน่วยงาน ประเดน็ ทีเ่ ปน็ จดุ แข็ง 1. บุคลากรมีศักยภาพและความรบั ผิดชอบต่อหนา้ ที่ สามารถปฏบิ ตั หิ นา้ ทีท่ ี่ไดร้ ับมอบหมาย ได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ 2. บุคลากรมีความรู้ ความสามารถและทักษะในการปฏิบัติงานตามสมรรถนะ/มาตรฐานวิชาชพี ประเด็นทเ่ี ป็นจุดอ่อน 1. ครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาสว่ นใหญ่ ขาดความรู้และทักษะด้านการส่อื สาร ภาษาองั กฤษ รวมถงึ ภาษาท่ีใชใ้ นกลุ่มอาเซียน 2. ขาดแคลนบคุ ลากรทีม่ ีความรู้ ความสามารถและทักษะด้าน ICT ดา้ นงานก่อสรา้ ง และ งานวจิ ยั ทางการศึกษา 3. บคุ ลากรสว่ นใหญข่ าดความตอ่ เนื่องในการจดั ทาแผนพัฒนาตนเอง 4. ครูไม่สามารถจัดการเรยี นรู้ให้นกั เรยี นมีผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น (NT , O-NET) ตาม เปา้ หมาย ทีเ่ ขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษากาหนด เนอื่ งจากโรงเรียนขนาดแคลนครู 5. ครบู างสว่ นไมใ่ ชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้และยังไมป่ รับเปลี่ยนวธิ ีการจดั การเรียนการสอน 6. บคุ ลากรในเขตพ้ืนที่การศึกษา ไมม่ ีการจดั ทาแผนพฒั นาตนเอง S7 : ดา้ นค่านิยมรว่ มกันของสมาชกิ ในหน่วยงาน ประเด็นที่เป็นจุดแขง็ 1. ครแู ละบุคลากรทางการศึกษา อนุรกั ษ์ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีไทยและทอ้ งถ่นิ 2. ครูและบุคลากรทางการศึกษา มจี ติ สานึกในการรกั ษาความสะอาดและอนรุ ักษ์ส่งิ แวดล้อม 3. บุคลากรส่วนใหญ่มีคา่ นิยมในการทางานแบบมุ่งผลสมั ฤทธ์ิ โปรง่ ใส ตรวจสอบได้ และ ทางานเป็นทีม มจี ติ สาธารณะ ประเด็นท่เี ป็นจุดอ่อน 1. ค่านยิ มองคก์ ร ไม่มีการนาไปสกู่ ารปฏิบตั ทิ ี่แท้จริง 2. ครูและบุคลากรทางการศึกษาบางสว่ น มคี ่านยิ มฟุ้งเฟ้อ 3. บคุ ลากรในเขตพน้ื ท่กี ารศึกษา ขาดความเชื่อม่ัน ขาดการประสานการทางานทด่ี ีในการ ดาเนนิ งาน
2. การประเมนิ สถานภาพของหน่วยงาน จากผลการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมของหน่วยงาน สรุปผลการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน สภาพแวดลอ้ มภายนอก และกาหนดเปน็ กราฟได้ดงั น้ี ตารางสรุปผลการวิเคราะห์สถานภาพของสภาพแวดลอ้ มภายนอก รายการปัจจัยสภาพแวดลอ้ ม น้าหนัก คะแนนเฉลี่ย น้าหนัก x คะแนนเฉลย่ี สรุปผล ภายนอก โอกาส อปุ สรรค โอกาส อปุ สรรค C : ด้านพฤตกิ รรมลูกค้า 0.20 2.00 3.00 0.40 0.60 -0.20 P : ด้านการเมอื งและกฎหมาย 0.25 3.00 2.00 0.75 0.50 +0.25 E : ดา้ นเศรษฐกจิ 0.15 3.00 2.00 0.45 0.30 +0.15 S : ดา้ นสงั คมและวฒั นธรรม 0.20 2.00 3.00 0.40 0.60 -0.20 T : ด้านเทคโนโลยี 0.20 3.00 2.00 0.60 0.40 +0.20 สรุปปจั จยั ภายนอก 2.60 2.40 เฉล่ียปจั จัยภายนอก 0.10 ตารางสรุปผลการวิเคราะหส์ ถานภาพของสภาพแวดล้อมภายใน รายการปัจจยั สภาพแวดลอ้ มภายใน น้าหนัก คะแนนเฉลีย่ น้าหนัก x คะแนนเฉลย่ี สรุปผล จุดแข็ง จดุ ออ่ น จดุ แขง็ จุดออ่ น 3.00 2.00 S1 : ดา้ นโครงสรา้ ง 0.12 3.00 2.00 0.36 0.24 +0.12 3.00 2.00 S2 : ด้านกลยุทธข์ องหนว่ ยงาน 0.12 0.36 0.24 +0.12 2.00 3.00 S3 : ดา้ นระบบในการดาเนนิ งาน 0.17 0.51 0.34 +0.17 2.00 3.00 ของหนว่ ยงาน 2.50 2.50 S4 : ดา้ นแบบแผนหรอื พฤตกิ รรม 0.16 0.32 0.48 -0.16 2.00 3.00 ในการบรหิ ารจดั การ S5 : ด้านบคุ ลากร/สมาชิก 0.15 0.30 0.45 -0.15 ในหน่วยงาน S6 : ด้านทักษะ ความรู้ 0.14 0.35 0.35 +0.00 ความสามารถ ของหน่วยงาน S7 : ดา้ นค่านิยมร่วมกันของสมาชิก 0.14 0.28 0.42 -0.14 ในหน่วยงาน 2.48 2.52 -0.02 สรปุ ปัจจัยภายใน เฉลีย่ ปัจจยั ภายใน
กราฟแสดงสถานภาพของหน่วยงาน จากกราฟ แสดงสถานภาพของหน่วยงานในลักษณะ Stars (เอ้ือและแข็ง) ซ่ึงบ่งบอกว่า สพป.ลาปาง เขต 3 ภาพรวมส่วนใหญ่มีปัจจัยภายนอกที่เป็นโอกาส และมีปัจจัยภายในท่ีแข็ง ซึ่งมีผลต่อการ กาหนดกลยทุ ธ์เชิงรกุ และต้อง รักษาความเปน็ Stars ใหย้ นื ยงและพฒั นางานให้ต่อยอดตอ่ ไป จากการวิเคราะห์สภาพแวดล้อม (SWOT) ของสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา ลาปาง เขต 3 ท้ังสภาพแวดล้อมภายนอกและสภาพแวดล้อมภายใน พบว่าจะต้องดาเนินงานเพื่อยกระดับและ พัฒนา คุณภาพการศึกษาให้ตอบสนองต่อพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลท่ี 10 ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ.2561 – 2580 แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ.2561 – 2580) นโยบายรัฐบาล นโยบาย กระทรวง ศึกษาธิการ และนโยบายของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ท้ังนี้เพ่ือเตรียม ความพรอ้ มก้าวเข้าสู่ ประเทศไทย 4.0 เชน่ การนอ้ มนาพระบรมราโชบายดา้ นการศึกษาของในหลวงรัชกาลท่ี 10 สู่การปฏิบัติ รักในสถาบันหลักของชาติ ยึดม่ันการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ มที ศั นคตทิ ่ีดีต่อบ้านเมือง เปน็ พลเมืองท่ีดีของชาติ การพฒั นาผ้เู รียนทุก คนให้มีคุณลักษณะและทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เพิ่มศักยภาพนักเรียนให้อ่านออกเขียนได้ การ ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 5 กลุ่มสาระวิชาหลัก ทักษะภาษาอังกฤษ และภาษาอาเซียน สร้างโอกาส ให้กับประชากรวยั เรยี นอย่างท่ัวถึง การพัฒนา การจัดการศึกษาโรงเรียนขนาดเลก็ โรงเรียนพื้นท่ีสูงในถิ่น ทุรกันดาร การพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานกาหนดตาแหน่งและ มาตรฐานวิชาชีพ ทักษะภาษาอังกฤษ ทักษะด้าน ICT และทักษะในการจัดการเรียนการสอนท่ีหลากหลาย โดย เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ การเพ่ิมประสิทธิภาพระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ DLTV DLIT เพ่ือการเรียนรู้ และการ บริหารจัดการสารสนเทศ (Big Data) และพัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology) เพื่อการ วางแผนบริหารจดั การศึกษา ตลอดจนสง่ เสริมใหท้ ุกภาคส่วนเขา้ มามีส่วนร่วมในการจดั การศึกษา
สว่ นที่ 2 บริบททเี่ กยี่ วข้องกับการจดั ทาแผนปฏบิ ัตกิ าร ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2563 สานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาลาปาง เขต 3
สว่ นท่ี 2 บริบทที่เกี่ยวข้องกับการจดั ทาแผนปฏิบตั กิ าร ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563 สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษาลาปาง เขต 3 ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2561 – 2580) วสิ ัยทัศน์ประเทศไทย “ประเทศไทยมคี วามม่นั คง ม่งั ค่ัง ยง่ั ยนื เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง” หรอื เป็นคตพิ จน์ประจาชาติว่า “มนั่ คง ม่ังคั่ง ยง่ั ยืน” เพอ่ื สนองตอบตอ่ ผลประโยชนแ์ หง่ ชาติ อันได้แก่ การมีเอกราช อธิปไตย การดารงอยู่อย่างมั่นคงและยั่งยืนของสถาบันหลักของชาติและปราศจากภัยคุกคาม ทุกรูปแบบ การอยรู่ ว่ มกนั ในชาติอยา่ งสนั ติสุขเป็นปึกแผ่น มคี วามมนั่ คงทางสงั คมทา่ มกลางพหสุ ังคมและการมเี กียรติ และศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ความเจริญเติบโตของชาติ ความเป็นธรรมและความอยู่ดีมีสุขของประชาชน ความยั่งยืนของฐานทรัพยากรธรรมชาติส่ิงแวดล้อม ความมั่นคงทางพลังงานและอาหาร ความสามารถในการรักษา ผลประโยชนข์ องชาติภายใตก้ ารเปล่ยี นแปลงของสภาวะแวดล้อมระหวา่ งประเทศและการอยู่รว่ มกันอย่างสันติ ประสานสอดคล้องกนั ด้านความม่นั คงในประชาคมอาเซียนและประชาคมโลกอยา่ งมเี กยี รติและศักดศิ์ รี ความม่ันคง หมายถึง การมีความม่ันคงปลอดภัยและการเปลี่ยนแปลงท้ังภายในประเทศและ นอกประเทศในทุกระดับ ทั้งระดับประเทศ สังคม ชุมชม ครัวเรือน และปัจเจกบุคคล และมีความมั่นคงในทุกมิติ ท้ังมิติทางการทหาร เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการเมือง เช่น ประเทศมีความมั่นคงในเอกราชและอธิปไตย มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีความเข้มแข็งเป็นศูนย์กลางและเป็นที่ยึดเหน่ียวจิตใจของประชาชน มีระบบการเมืองที่มั่นคงเป็นกลไกที่นาไปสู่ การบริหารประเทศท่ีต่อเนื่องและโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล สังคมมีความปรองดองและสามัคคี สามารถผนึก กาลังเพื่อพัฒนาประเทศ ชุมชนมีความเข้มแข็ง ครอบครัวมีความอบอุ่น ประชาชนมีความมั่นคงในชีวิต มีงาน และรายได้ที่มั่นคงพอเพียงกับการดารงชีวิต มีการออมสาหรับวัยเกษียณ ความม่ันคงของอาหาร พลังงานและน้า มีท่ีอยูอ่ าศยั และความปลอดภยั ในชีวติ ทรัพยส์ นิ ความม่ังค่ัง หมายถึง ประเทศไทยมีการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเน่ืองและมีความย่ังยืน จนเข้าสู่กลุ่มประเทศรายได้สูง ความเหล่ือมล้าของการพัฒนาลดลง ประชากรมีความอยู่มีมีสุข ได้รับผลประโยชน์ จากการพัฒนาอย่างเทา่ เทียมกันมากข้ึน และมกี ารพัฒนาอย่างทัว่ ถงึ ทุกภาคส่วน มคี ณุ ภาพชวี ิตตามมาตรฐาน ขององค์การสหประชาชาติ ไม่มีประชาชนท่ีอยู่ในภาวะความยากจน เศรษฐกิจในประเทศมีความเข้มแข็ง ขณะเดียวกันต้องมีความสามารถในการแข่งขันกับประเทศต่าง ๆ ทั้งในตลาดโลกและตลาดภายในประเทศ เพื่อให้สามารถสร้างรายได้ท้ังจากภายในและภายนอกประเทศ ตลอดจนมีการสร้างฐานเศรษฐกิจและสังคม แหง่ อนาคต เพื่อให้สอดรับกับบริบทการพัฒนาทเ่ี ปลีย่ นแปลงไป และประเทศไทยมีบทบาทท่ีสาคัญในเวทีโลก และมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างแน่นแฟ้นกับประเทศในภูมิภาคเอชีย เป็นจุดสาคัญของ การเชื่อมโยงภูมิภาค ท้ังการคมนาคมขนส่ง การผลิต การค้า การลงทุนและการทาธุรกิจ เพ่ือให้เป็นพลังในการพัฒนา นอกจากนี้ยังมีความสมบูรณ์ในทุนที่จะสามารถสร้างการพัฒนาต่อเน่ืองไปได้ ได้แก่ ทุนมนุษย์ ทุนทางปัญญา ทนุ ทางการเงิน ทนุ ทเ่ี ปน็ เครอ่ื งมอื เครือ่ งจักร ทุนทางสงั คม และทนุ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม
ความยั่งยืน หมายถึง การพัฒนาที่สามารถสร้างความเจริญ รายได้ และคุณภาพชีวิตของ ประชาชนให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซ่ึงเป็นการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจท่ีอยู่บนหลักการใช้ การรักษาและการฟ้ืนฟู ฐานทรัพยากรธรรมชาติอย่างย่ังยืน ไม่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติจนเกินพอดี ไม่สร้างมลภาวะต่อส่ิงแวดล้อมจนเกิน ความสามารถในการรองรับและเยียวยาของระบบนิเวศ การผลิตและการบริโภคท่ีเป็นมิตรกับสง่ิ แวดล้อมและ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาท่ีย่ังยืน ทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์มากข้ึนและส่ิงแวดล้อม มีคณุ ภาพดขี ึน้ คนมคี วามรับผิดชอบต่อสังคม มีความเอือ้ อาทร เสยี สละเพอื่ ผลประโยชน์สว่ นรวม รฐั บาลมีนโยบาย ท่มี งุ่ ประโยชนส์ ว่ นรวมอย่างยัง่ ยืนและให้ความสาคญั กับการมสี ่วนรว่ มของประชาชนและทกุ ภาคส่วน ในสงั คม ยึดถอื และปฏิบัติตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง เพ่อื การพัฒนาอยา่ งสมดุล มีเสถียรภาพและยั่งยืน ประเด็นยุทธศาสตรช์ าติ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถยกระดับการพัฒนาให้บรรลุตามวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีความม่ันคง มั่งค่ัง เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” และเป้าหมายการพัฒนา ประเทศข้างต้น จึงจาเป็นต้องกาหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศระยะยาวท่ีจะทาใหป้ ระเทศมีความมั่นคง ในเอกราชและอธิปไตย มีภูมิคุ้มกันต่อการเปล่ียนแปลงจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศในทุกมิติทุกรูปแบบ และทุกระดับ ภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการของประเทศ ได้รับการพัฒนายกระดับไปสู่ การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการสร้างมูลค่าเพ่ิมและพัฒนากลไกท่ีสาคัญในการขับเคล่ือนเศรษฐกิจใหม่ ที่จะสร้างและเพ่ิมศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ เพื่อยกระดับฐานรายได้ของประชาชนในภาพรวมและ การกระจายผลประโยชน์ไปสู่ภาคสว่ นตา่ ง ๆ ได้อย่างเหมาะสม คนไทยได้รบั การพัฒนาให้เป็นคนดี เก่ง มวี นิ ัย คานึงถึงผลประโยชนส์ ว่ นรวมและมีศักยภาพในการคิดวิเคราะห์ สามารถ “รู้ รับ ปรับใช้” เทคโนโลยีใหม่ได้อย่าง ต่อเนื่อง สามารถเข้าถึงบริการพ้ืนท่ี ระบบสวัสดิการและกระบวนการยุติธรรมได้อย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่มีใคร ถูกทง้ิ ไว้ข้างหลงั การพัฒนาประเทศในช่วงระยะเวลาของยุทธศาสตร์ชาติ จะมุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่าง การพัฒนาความม่ันคง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในรูปแบบ “ประชารฐั ” โดยประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสรา้ งความสามารถ ในการแข่งขัน ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิต ท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม และยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ โดยแตล่ ะยุทธศาสตรม์ เี ปา้ หมายและประเด็นการพัฒนา ดงั น้ี 1. ยุทธศาสตรด์ ้านความมั่นคง ยุทธศาสตร์ชาติด้านความม่ันคง มีเป้าหมายการพัฒนาท่ีสาคัญ คือ ประเทศชาติมั่นคง ประชาชน มีความสุข เน้นการบริหารจัดการสภาพวะแวดล้อมของประเทศให้มีความมั่นคง ปลอดภัย เอกราช อธิปไตย และมีความสงบเรียบร้อยในทุกระดบั ตงั้ แตร่ ะดบั ชาติ สังคม ชมุ ชน มุ่งเน้นการพัฒนาคน เครอื่ งมือเทคโนโลยี และระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ให้มีความพร้อมสามารถรับมือกับภัยคุกคามและภัยพิบัติได้ทุกรูปแบบ และ ที่อาจจะเกิดข้ึนในอนาคต ใช้กลไกการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการ ทั้งกับส่วนราชการ ภาคเอกชน ประชาสังคม และองค์กรท่ีไม่ใช่รัฐ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน และมิตรประเทศท่ัวโลก บนพื้นฐานของหลักธรรมาภิบาล เพื่อเอื้ออานวยประโยชน์ต่อการดาเนินการของยุทธศาสตร์ชาติด้านอ่ืน ๆ ให้สามารถขับเคลื่อนไปได้ตามทิศทาง และเปา้ หมายที่กาหนด
2. ยทุ ธศาสตร์ชาตดิ ้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน มีเป้าหมายการพัฒนาที่มุ่งเน้นการยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติบนพ้ืนฐาน แนวคิด 3 ประการ ได้แก่ (1) “ต่อยอดอดีต” โดยมองกลับไปที่รากเหง้าทางเศรษฐกิจ อัตลักษณ์วัฒนธรรม ประเพณีวิถีชีวิต และจุดเด่นทางทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย รวมท้ังความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของ ประเทศในด้านอ่ืน ๆ นามาประยุกต์ผสมผสานกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพ่ือให้สอดรับกับบริบทของเศรษฐกิจ และสังคมโลกสมัยใหม่ (2) “ปรับปัจจุบัน” เพ่ือปูทางสู่อนาคต ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานของประเทศ ในมิติต่าง ๆ ท้ังโครงข่ายระบบคมนาคมและขนส่ง โครงสร้างพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและดิจิทัล และ การปรับสภาพแวดล้อมให้เอ้ือต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการอนาคตและ (3) “สร้างคุณค่าใหม่ในอนาคต” ด้วยการเพ่ิมศักยภาพของผู้ประกอบการ พัฒนาคนรุ่นใหม่ รวมถึงปรับรูปแบบธุรกิจ เพ่ือตอบสนองต่อความ ต้องการของตลาด ผสมผสานกับยุทธศาสตร์ท่ีรองรับอนาคตบนพ้ืนฐานของการต่อยอดอดีตและปรับปัจจุบัน พร้อมท้ังการส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐ ให้ประเทศไทยสามารถสร้างฐานรายได้และการจ้างงานใหม่ ขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนในเวทีโลก ควบคู่ไปกับการยกระดบั รายได้และการกินดีอยดู่ ีรวมถึงการเพิม่ ข้ึน ของช้นั กลางและลดความเหลอ่ื มล้าของคนในประเทศได้ในคราวเดยี วกัน 3. ยุทธศาสตร์ชาตดิ ้านการพัฒนาและเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพทรัพยากรมนุษย์ มีเป้าหมายการพัฒนาท่ีสาคัญเพื่อพัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และ มีคุณภาพ โดยคนไทยมีความพร้อมทั้งกาย ใจ สติปัญญา มีพัฒนาการท่ีดีรอบด้านและมีสุขภาวะที่ดีในทุกช่วงวัย มีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อสังคมและผู้อื่น มัธยัสถ์อดออม โอบอ้อมอารี มีวินัย รักษาศีลธรรม และ เป็นพลเมืองดีของชาติ มีหลักคิดท่ีถูกต้อง มีทักษะท่ีจาเป็นในศตวรรษที่ 21 มีทักษะส่ือสารภาษาอังกฤษและ ภาษาที่สาม และอนุรักษ์ภาษาท้องถิ่น มีนิสัยรักการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิต สู่การเป็นคนไทยท่ีมีทักษะสูง เป็นนวัตรกร นักคิด ผู้ประกอบการ เกษตรกรยุคใหม่และอ่ืน ๆ โดยมีสัมมาชีพ ตามความถนัดของตนเอง 4. ยุทธศาสตร์ชาตดิ ้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสงั คม มีเป้าหมายการพัฒนาท่ีให้ความสาคัญกับการดึงเอาพลังงานของภาคสว่ นตา่ ง ๆ ทั้งภาคเอกชน ประชาสังคม ชุมชน ท้องถิ่น มาร่วมขับเคล่ือน โดยการสนับสนุนการรวมตัวของประชาชนในการร่วมคิดร่วมทา เพ่ือส่วนรวม การกระจายอานาจและความรับผิดชอบไปสู่กลไกบริหารราชการแผน่ ดินในระดับท้องถ่ิน การเสริมสรา้ ง ความเข้มแข็งของชุมชนในการจัดการตนเอง และการเตรียมความพร้อมของประชากรไทย ทั้งในมิติสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และสภาพแวดล้อม ให้เป็นประชากรท่ีมีคุณภาพ สามารถพ่ึงพาตนเอง และทาประโยชน์ แก่ครอบครัว ชุมชน และสังคมให้นานที่สุด โดยรัฐให้หลักประกันการเข้าถึงบริการและสวัสดิการที่มีคุณภาพ อย่างเป็นธรรมและทัว่ ถงึ 5. ยุทธศาสตรช์ าตดิ า้ นการสรา้ งการเติบโตบนคุณภาพชีวติ ทเ่ี ปน็ มิตรกบั ส่งิ แวดลอ้ ม มีเป้าหมายการพัฒนาที่สาคัญเพื่อนาไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ ท้ังด้านสังคม เศรษฐกิจ ส่ิงแวดล้อม ธรรมาภิบาล และความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างกัน ท้ังภายใน และภายนอกประเทศอย่างบูรณาการ ใชพ้ นื ที่เปน็ ตัวตั้งในการกาหนดกลยุทธ์และแผนงาน และการให้ทุกฝ่าย ที่เก่ียวข้องได้เข้ามามีส่วนร่วมในแบบทางตรงให้มากท่ีสดุ เท่าท่ีจะเป็นไปได้ โดยเป็นการดาเนินการบนพน้ื ฐาน การเติบโตร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิต โดยให้ความสาคัญกับการสร้างสมดลุ ท้งั 3 ด้าน อันจะนาไปสู่ความยั่งยืนเพ่ือคนรุ่นต่อไปอยา่ งแทจ้ ริง
6. ยทุ ธศาสตร์ชาตดิ า้ นการปรบั สมดุลและพัฒนาระบบการบรหิ ารจัดการภาครัฐ มีเป้าหมายการพัฒนาท่ีสาคัญเพื่อปรับเปล่ียนภาครัฐที่ยึดหลัก “ภาครัฐของประชาชน เพื่อประชาชน และประโยชน์สว่ นรวม” โดยภาครฐั ต้องมีขนาดท่เี หมาะสมกับบทบาทภารกิจ แยกแยะบทบาท หน่วยงานของรัฐท่ีทาหน้าที่ในการกากับหรือในการให้บริการในระบบเศรษฐกิจที่มีการแข่งขัน มีสมรรถนะสงู ยดึ หลกั ธรรมาภบิ าล ปรบั วฒั นธรรมการทางานให้มงุ่ ผลสัมฤทธิ์และผลประโยชน์สว่ นรวม มีความทนั สมยั และ พร้อมท่ีจะปรับตัวให้ทันต่อการเปล่ียนแปลงของโลกอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างย่ิงการนานวัตกรรม เทคโนโลยี ข้อมูลขนาดใหญ่ ระบบการทางานที่เป็นดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ใช้อย่างคุ้มค่าและปฏิบัติงานเทียบได้กับมาตรฐานสากล รวมท้ังมีลักษณะเปิดกว้าง เช่ือมโยงถึงกันและเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อตอบสนองความต้องการ ของประชาชนไดอ้ ย่างสะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส โดยทุกภาคส่วนในสังคมต้องร่วมกันปลูกฝงั ค่านิยมความซอื่ สตั ย์ สุจริต ความมัธยัสถ์ และสร้างจิตสานึกในการปฏิเสธไม่ยอมรับการทุจริตประพฤติมิชอบอย่างส้ินเชิง นอกจากน้ัน กฎหมายต้องมีความชัดเจน มีเพียงเท่าที่จาเปน็ มีความทันสมัย มีความเป็นสากล มีประสิทธิภาพ และนาไปสู่ การลดความเหลอ่ื มลา้ และเอื้อตอ่ การพัฒนา โดยกระบวนการยุติธรรม มกี ารบรหิ ารท่ีมีประสิทธิภาพเป็นธรรม ไมเ่ ลอื กปฏบิ ัตแิ ละการอานวยความยตุ ธิ รรมตามหลักนิติธรรม แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 12 (พ.ศ.2560 – 2564) หลักการพัฒนาประเทศที่สาคัญในระยะแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560 – 2564) ยดึ หลกั “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” “การพฒั นาที่ย่ังยืน” และ “คนเป็นศนู ย์กลาง การพัฒนา” จุดเปล่ียนสาคัญในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ.2560 – 2564) การเตรยี มพร้อมด้านกาลงั คนและการเสรมิ สรา้ งศักยภาพของประชากร ในทกุ ชว่ งวัย มุ่งเน้นการยกระดบั คุณภาพ ทุนมนุษย์ของประเทศ โดยพัฒนาคนให้เหมาะสมตามช่วงวัย เพ่ือให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ การหล่อหลอม ให้คนไทยมีค่านิยมตามบรรทัดฐานท่ีดีทางสังคม เป็นคนดี มีสุขภาวะท่ีดี มีคุณธรรมจริยธรรม มีระเบียบวินัย และมีจิตสานึกท่ีดีต่อสังคมส่วนรวม การพัฒนาทักษะที่สอดคล้องกับความต้องการในตลาดแรงงานและทักษะ ที่จาเป็นต่อการดารงชีวิตในศตวรรษท่ี 21 ของคนในแต่ละช่วงวัยตามความเหมาะสม การเตรียมความพร้อม ของกาลังคนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ท่ีจะเปล่ียนแปลงโลกในอนาคต ตลอดจนการยกระดับคุณภาพ การศึกษาสู่ความเป็นเลิศ การเสริมสร้างให้คนมีสุขภาพดีที่เน้นการปรับเปล่ียนพฤติกรรมทางสุขภาพและการ ลดปัจจัยเส่ียงด้านสภาพแวดล้อมที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ การสร้างความเป็นธรรมและลดความเหล่ือมล้า ให้ความสาคัญกับการจัดบริการของรัฐท่ีมีคุณภาพทั้งด้านการศึกษา สาธารณสุข ให้กับผู้ด้อยโอกาสและผู้ท่ีอาศัย ในพ้ืนท่ีห่างไกล การจัดสรรที่ดินทากิน สนับสนุนในเรื่องการสร้างอาชีพ รายได้ และสนับสนุนการเพ่ิมผลิตภาพ ผู้ดอ้ ยโอกาส สตรี และผสู้ งู อายุ รวมทั้งกระจายการจัดบรกิ ารภาครฐั ใหม้ ีความครอบคลุมและท่วั ถงึ ทั้งในเชงิ ปริมาณ และคณุ ภาพ การประเมนิ สภาพแวดลอ้ มการพฒั นาประเทศ สถานการณ์และแนวโน้มของสังคมไทย โครงสร้างประชากรไทย เปลี่ยนแปลงเข้าสู่สังคมสูงวัย อย่างสมบูรณ์เมื่อส้ินสุดแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560 – 2564) โดยปี 2557 ประชากรวัยแรงงานจะมีจานวนสูงสุดและเริ่มลดลงอย่างต่อเน่ือง คุณภาพคนไทยทุกกลุ่มวัยยังมีปัญหา คุณภาพการศึกษา และการเรียนรู้ของคนไทยยังอยู่ในระดบั ค่อนข้างต่า นอกจากน้ีคนไทยส่วนใหญ่ยังมีปัญหา ดา้ นคุณธรรมจรยิ ธรรม และไม่ตระหนกั ถึงความสาคัญของระเบยี บวินัย ความซ่ือสตั ย์ และการมจี ิตสาธารณะ
วตั ถปุ ระสงค์และเปา้ หมายการพฒั นาในชว่ งแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 เพ่ือวางรากฐานให้คนไทยเป็นคนที่สมบูรณ์ มีคุณธรรมจริยธรรม มีระเบียบวินัย ค่านิยมที่ดี มีจิตสาธารณะ และมีความสุข โดยมีสุขภาวะและสุขภาพท่ีดี ครอบครัวอบอุ่น ตลอดจนเป็นคนเก่งท่ีมีทักษะ ความรู้ ความสามารถและพฒั นาตนเองไดต้ อ่ เนื่องตลอดชีวติ ยุทธศาสตรท์ ่ี 1 การเสรมิ สรา้ งและพัฒนาศกั ยภาพทนุ มนุษย์ การเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์ของประเทศไทยยังมีปัญหาในด้านคุณภาพคน ในแตล่ ะชว่ งวัย โดยผลลพั ธ์ทางการศึกษาของเด็กวัยเรียนค่อนข้างต่า การพฒั นาความรแู้ ละทกั ษะของแรงงาน ไม่ตรงกับตลาดแรงงาน ในขณะท่ีคนไทยจานวนไม่น้อยยังไม่สามารถคัดกรองและเลือกรับ 12 วัฒนธรรม ไดอ้ ย่างเหมาะสม ซ่งึ ส่งผลต่อวกิ ฤตคา่ นิยม ทัศนคติ และพฤตกิ รรมในการดาเนนิ ชวี ติ การพัฒนาในระยะต่อไป จึงต้องให้ความสาคัญกับการวางรากฐานการพัฒนาคนให้มีความสมบูรณ์ เพ่ือให้คนไทยมีทัศนคติและพฤติกรรม ตามบรรทดั ฐานทดี่ ขี องสังคม ไดร้ ับการศกึ ษาท่ีมคี ุณภาพสงู ตามมาตรฐานสากล และสามารถเรยี นรดู้ ้วยตนเอง อย่างต่อเนื่อง มีสุขภาวะที่ดีข้ึน คนทุกช่วงวัยมีทักษะ ความรู้และความสามารถเพ่ิมข้ึน รวมท้ังสถาบันทางสังคม มคี วามเข้มแข็งและมีส่วนรว่ มในการพัฒนาประเทศเพิ่มขึ้น รวมทงั้ สถาบันทางสงั คมมีความเข้มแข็งและมสี ว่ นร่วม ในการพัฒนาประเทศเพิ่มข้ึน แนวทางการพัฒนาท่ีสาคัญ ประกอบด้วย (1) ปรับเปล่ียนค่านิยมคนไทยให้มี คณุ ธรรม จรยิ ธรรม มวี นิ ัย จติ สาธารณะ และพฤตกิ รรมที่พึงประสงค์ อาทิ ส่งเสรมิ ให้มีกจิ กรรมการเรียนการสอน ท้ังในและนอกห้องเรยี นท่ีสอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรม ความมรี ะเบียบวินยั และจติ สาธารณะ (2) การพัฒนา ศักยภาพคนให้มีทักษะ ความรู้ และความสามารถในการดารงชีวิตอย่างมีคุณค่า อาทิ ส่งเสริมเด็กปฐมวัยให้มี การพฒั นาทักษะทางสมองและทางสังคมที่เหมาะสม เดก็ วัยเรียนและวัยรุ่นมีทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ (3) ยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต อาทิ ปรับระบบบริหารจัดการสถานศึกษาขนาดเล็ก ให้มีการจัดทรัพยากรร่วมกันให้มีขนาดและจานวนที่เหมาะสม ปรับปรุงแหล่งเรียนรู้ในชุมชนให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เชงิ สร้างสรรค์และมชี วี ติ เปา้ หมายการพฒั นาที่ 1 คนไทยสว่ นใหญ่มีทัศนคติและพฤติกรรมตามบรรทัดฐานทีด่ ีของสงั คม ตวั ชี้วดั 1.1 ประชากรอายุ 13 ปีข้ึนไป มีกิจกรรมการปฏบิ ัติตนทส่ี ะทอ้ นการมคี ุณธรรม จริยธรรมเพม่ิ ขน้ึ ตัวชว้ี ดั 1.2 คดีอาญามีสัดสว่ นลดลง เป้าหมายการพัฒนาท่ี 2 คนในสังคมไทยทุกชว่ งวยั มที ักษะ ความรู้ และความสามารถเพ่ิมขึ้น 2.1 เด็กปฐมวัยมพี ัฒนาการเต็มตามศักยภาพ ตวั ชี้วัด 1 เดก็ มีพฒั นาการสมวยั ไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 85 2.2 เดก็ วยั เรยี นและวยั รุ่นมีสติปญั ญาและความฉลาดทางอารมณเ์ พ่ิมขน้ึ ตัวช้วี ัด 2 คะแนน IQ เฉล่ยี ไม่ตา่ กว่าเกณฑม์ าตรฐาน ตวั ชว้ี ัด 3 เด็กรอ้ ยละ 70 มคี ะแนน EQ ไม่ต่ากวา่ เกณฑ์มาตรฐาน ตัวชว้ี ัด 4 ผู้เรียนในระบบทวิภาคีเพม่ิ ข้นึ เฉลย่ี รอ้ ยละ 30 ตอ่ ปี เปา้ หมายการพฒั นาท่ี 3 คนไทยมกี ารศึกษาทม่ี ีคุณภาพตามมาตรฐานสากลและมีความสามารถ เรียนรดู้ ว้ ยตนเองอย่างตอ่ เน่อื ง ตัวชีว้ ัด 3.1 ผลคะแนนสอบ PISA ในแตล่ ะวชิ าไม่ตา่ กวา่ 500 ตัวชว้ี ัด 3.2 การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ เพ่ือการอา่ นหาความรูเ้ พ่ิมขึน้ ตัวชว้ี ัด 3.3 การอ่านของคนไทยเพมิ่ ข้นึ เปน็ ร้อยละ 85 ตัวชวี้ ดั แนวทางการพัฒนา
1. ปรับเปลี่ยนค่านิยมคนไทยให้มีคุณธรรม จริยธรรม มีวินัย จิตสาธารณะ และพฤติกรรม ท่พี งึ ประสงค์ - ส่งเสรมิ การเล้ียงดูในครอบครัวท่ีเนน้ การฝึกเด็กให้รูจ้ ักการพ่ึงพาตนเอง มีความซื่อสัตย์ มวี นิ ัย มศี ลี ธรรม คุณธรรม จริยธรรม มคี วามรับผิดชอบ ในรูปแบบของกิจกรรมที่เป็นกิจวัตรประจาวนั และให้พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครองเป็นแบบอยา่ งทีด่ ีใหเ้ ด็กสามารถเรยี นรู้และยึดถอื เป็นตน้ แบบในการดาเนินชวี ิต - ส่งเสริมให้มีกิจกรรมการเรียนการสอนท้ังในและนอกห้องเรียนที่สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ความมีวินัย จิตสาธารณะ รวมท้ังเร่งสร้างสภาพแวดล้อมภายในและโดยรอบสถานศึกษาให้ปลอดภัยจากอบายมุข อย่างจรงิ จัง 2. พฒั นาศกั ยภาพคนให้มีทักษะความรู้และความสามารถในการดารงชีวิตอย่างมีคุณค่า - ส่งเสริมใหเ้ ด็กปฐมวยั มีการพัฒนาทักษะทางสมองและทักษะทางสังคมท่ีเหมาะสม พัฒนา หลักสูตรการสอนท่ีอิงผลงานวิจัยทางวชิ าการและปรับปรุงสถานพัฒนาเด็กปฐมวยั ใหม้ ีคุณภาพตามมาตรฐาน ทเ่ี น้นการพัฒนาทักษะสาคญั ดา้ นต่าง ๆ อาทิ ทักษะทางสมอง ทกั ษะด้านความคดิ ความจา ทักษะการควบคุม อารมณ์ ทักษะการวางแผนและการจัดระบบ ทักษะการรู้จักประเมินตนเอง ควบคู่กับการยกระดับบุคลากร ในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีความพร้อมทั้งทักษะ ความรู้ จริยธรรม และความเป็นมืออาชีพ สนบั สนนุ การผลิต ส่ือสร้างสรรค์ท่ีมีรูปแบบหลากหลายท่ีให้ความรู้ในการเลี้ยงดูและพัฒนาเด็กปฐมวัย อาทิ ครอบครัวศึกษา อนามัยแม่และเด็ก วิธีการพัฒนาทักษะทางสมองและทักษะทางสังคม ผลักดันให้มีกฎหมายการพัฒนาเด็กปฐมวัย ใหค้ รอบคลุมท้ังการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ เนน้ การเตรียมความพร้อมเข้าสู่ระบบการศึกษา พฒั นาสขุ ภาพอนามัย ใหม้ พี ฒั นาการท่สี มวัย และการเตรยี มทกั ษะการอยใู่ นสังคมให้มพี ัฒนาการอยา่ งรอบดา้ น - พฒั นาเด็กวัยเรียนและวัยรุ่น ใหม้ ที กั ษะการคิดวเิ คราะห์อย่างเป็นระบบ มคี วามคิดสร้างสรรค์ มีทักษะการทางานและการใช้ชีวิตท่ีพร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงาน ปรับกระบวนการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้เด็กมีการเรียนรู้ จากการปฏิบัติจริง สอดคล้องกับพัฒนาการของสมองแต่ละช่วงวัย เน้นพัฒนาทักษะพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ด้านวิศวกรรมศาสตร์ ด้านคณิตศาสตร์ ด้านศิลปะ และด้านภาษาต่างประเทศ สนับสนุนให้เด็กเข้าร่วม กิจกรรมท้ังในและนอกห้องเรยี นท่เี อ้ือต่อการพฒั นา ทกั ษะชวี ิตและทักษะการเรยี นรอู้ ย่างต่อเนื่อง อาทิ การบาเพ็ญ ประโยชน์ทางสงั คม การดแู ลสขุ ภาพ การทางานรว่ มกันเป็นกลมุ่ การวางแผนชีวิต สรา้ งแรงจูงใจให้เดก็ เข้าสกู่ ารศึกษา ในระบบทวิภาคีและสหกิจศกึ ษา ทม่ี ่งุ การฝึกทกั ษะอาชีพใหเ้ ข้าสู่ตลาดงาน 3. ยกระดับคุณภาพการศกึ ษาและการเรยี นรู้ตลอดชีวติ - ปรับระบบบรหิ ารจัดการสถานศกึ ษาขนาดเล็กท่ีมีขนาดและจานวนผ้เู รียนต่ากว่าเกณฑ์มาตรฐาน ให้มีการจัดทรัพยากรร่วมกันให้มีขนาดและจานวนที่เหมาะสมตามความจาเป็นของพื้นท่ี และโครงสร้างประชากร ทมี่ ีสัดส่วนวัยเด็กลดลงอยา่ งตอ่ เนอื่ ง - ปรับหลกั สูตรการผลิตครูท่ีเน้นสมรรถนะ มีจิตวญิ ญาณความเป็นครู เปน็ ผู้แนะนาและสามารถ กระตุ้นการเรยี นรู้ของผเู้ รยี น สร้างมาตรการจงู ใจให้ผู้มีศักยภาพสูงเข้ามาเปน็ ครู ปรบั ระบบประเมินวทิ ยฐานะ ทางวชิ าชีพให้เชอ่ื มโยงกับพฒั นาการและผลสัมฤทธิ์ของผเู้ รยี น และสรา้ งเครือข่ายแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ในการจัด การเรียนการสอนทเี่ ป็นการพัฒนาสมรรถนะของครูอยา่ งต่อเน่ือง - พัฒนาระบบประเมินคุณภาพมาตรฐานท่ีสามารถวัดและประเมินผลคุณภาพผู้เรียน ทั้งด้าน ทักษะ ความรู้ ความสามารถ และสมรรถนะตามมาตรฐานการเรียนรแู้ ตล่ ะระดับการศึกษา - ส่งเสริมมาตรการสร้างแรงจูงใจให้สถานประกอบการขนาดกลางท่ีมีศักยภาพ เข้าร่วมระบบ ทวิภาคีหรือสหกิจศึกษา สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการ ครูฝึกหรือครูพี่เล้ียง ให้ร่วมวางแผนการจัด การเรียนการสอน การฝกึ ปฏิบตั ิ และการติดตามประเมินผลผเู้ รยี น - ขยายความร่วมมือระหว่างสถาบันอาชีวศึกษา สถาบันอุดมศึกษา ภาคเอกชน และผู้เชี่ยวชาญ ท้ังในและต่างประเทศ พัฒนาสาขาวิชาท่ีมีความเชย่ี วชาญเฉพาะด้านสคู่ วามเป็นเลศิ การพัฒนา งานวิจัยไปสู่ นวัตกรรม รวมทงั้ ขยายการจดั ทาและการใชห้ ลักสตู รฐานสมรรถนะให้มากขนึ้
- จัดทาส่ือการเรียนรู้ท่ีเป็นส่ืออิเล็กทรอนิกส์และสามารถใช้งานผ่านระบบอุปกรณ์ สื่อสาร เคลื่อนท่ีให้ทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้ง่าย สะดวก ท่ัวถึง ไม่จากัดเวลาและสถานท่ี และใช้มาตรการทางภาษีจูงใจ ใหภ้ าคเอกชนผลิตหนงั สอื สอ่ื การอา่ นและการเรียนรทู้ ่มี คี ณุ ภาพและราคาถูก ยทุ ธศาสตร์ท่ี 2 การสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้าในสงั คม เป้าหมายท่ี 2 เพม่ิ โอกาสการเข้าถึงบรกิ ารพ้ืนฐานทางสงั คมของภาครัฐ ตัวชี้วัดที่ 2.1 อัตราการเข้าเรียนสุทธิ (ท่ีปรับปรุง) ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเท่ากับร้อยละ 90 โดยไม่มี ความแตกต่างระหวา่ งกลมุ่ นักเรียน/นกั ศึกษาทค่ี รอบครัวมฐี านะทางเศรษฐกิจสังคมและระหว่างพื้นที่ ตัวช้ีวัด 2.2 สัดส่วนนักเรียนท่ีมีผลสัมฤทธ์ิทางการศึกษาทุกระดับช้ัน ผ่านเกณฑ์คะแนนร้อยละ 50 มีจานวน เพม่ิ ขนึ้ และความแตกต่างของคะแนนผลสมั ฤทธริ์ ะหว่างพ้นื ทแี่ ละภูมภิ าคลดลง แนวทางการพัฒนา ขยายโอกาสการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพให้แก่เด็กและเยาวชน ทีด่ ้อยโอกาสทางการศกึ ษาอยา่ งต่อเน่ืองโดยไม่ถกู จากดั ศักยภาพจากสภาพครอบครวั พ้ืนท่ี และสภาพร่างกาย การดูแลนักเรียนยากจนที่อาศัยในพื้นที่ห่างไกลท่ีครอบคลุมต้ังแต่การสรา้ งรายได้ของครัวเรือน การสนับสนุน ค่าเดินทางไปยังสถานศึกษา การปรับปรุงระบบคัดกรองและการให้เงินอุดหนุนปัจจัยพ้ืนฐานนักเรียนยากจน ของ สพฐ. ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการให้ทุนการศึกษาต่อระดับสูง เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กนักเรียนออกจาก โรงเรียนกลางคนั แผนการศึกษาแหง่ ชาติ (พ.ศ.2560 – 2579) สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษาได้จัดทาแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2560 – 2579 เพ่ือใช้ เปน็ แผนยทุ ธศาสตร์ระยะยาวสาหรับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องกับการศึกษาของประเทศ ไดน้ าไปใช้เป็นกรอบและ แนวทางการพัฒนาการศึกษาและเรยี นรู้สาหรับพลเมืองทุกช่วงวยั ตั้งแต่แรกเกิดจนตลอดชีวิต โดยจุดมุ่งหมาย ท่ีสาคัญของแผนคือ การมุ่งเน้นการประกันโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาและการศึกษาเพ่ือการมี งานทาและสร้างงานได้ ภายใต้บริบทเศรษฐกิจและสังคมของประเทศและของโลกท่ีขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งความเป็นพลวตั ร เพือ่ ให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามกับดกั ประเทศที่มีรายได้ ปานกลางไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว ซ่ึงภายใต้กรอบแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2560 – 2579 ได้กาหนดสาระ สาคัญสาหรับบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาการศึกษาใน 5 ประการ ได้แก่ การเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา (Access) ความเท่าเทียมทางการศึกษา (Equity) คุณภาพการศึกษา (Quality) ประสิทธิภาพ (Efficiency) และตอบโจทย์บรบิ ทเปลี่ยนแปลง (Relevancy) ในระยะ 15 ปีขา้ งหนา้ ดังน้ี วิสัยทัศน์ : คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ดารงชีวิต อย่างเป็นสุข สอดคลอ้ งกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเปล่ยี นแปลงของโลกศตวรรษท่ี 21 วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาระบบและกระบวนการจดั การศึกษาท่ีมีคุณภาพและมีประสทิ ธภิ าพ 2. เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นพลเมืองดี มีคุณลักษณะ ทักษะและสมรรถนะที่สอดคล้องกับ บทบญั ญัติของรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแห่งชาติ และยุทธศาสตร์ชาติ 3. เพอ่ื พฒั นาสงั คมไทยให้เป็นสงั คมแห่งการเรยี นรู้ และคุณธรรม จรยิ ธรรม รูร้ ักสามคั คี และ ร่วมมอื ผนึกกาลงั มุ่งสู่การพัฒนาประเทศอย่างย่ังยนื ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 4. เพื่อนาประเทศไทยก้าวข้ามกับดักประเทศท่ีมีรายได้ปานกลาง และความเหลื่อมล้าภายใน ประเทศลดลง
ยุทธศาสตร์ ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 1 การจัดการศึกษาเพื่อความม่ันคงของสังคมและประเทศชาติ เป้าหมาย 1. คนทุกช่วงวัยมีความรักในสถาบันหลักของชาติ และยึดม่ันการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมขุ 2. คนทุกช่วงวัยในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่พิเศษได้รับ การศึกษาและเรียนร้อู ย่างมีคณุ ภาพ 3. คนทกุ ช่วงวัยไดร้ บั การศึกษา การดูแลและป้องกันจากภัยคกุ คามในชวี ิตรปู แบบใหม่ แนวทางการพฒั นา 1. พัฒนาการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติและการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ 2. ยกระดับคุณภาพและส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จงั หวัดชายแดนภาคใต้ 3. ยกระดับคุณภาพและส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาในพ้ืนท่ีพิเศษ (พื้นท่ีสูง พื้นท่ี ตามแนวตะเข็บชายแดน และพ้ืนที่เกาะแก่ง ชายฝั่งทะเล ทั้งกลุ่มชนต่างเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม กล่มุ ชน-ชายขอบ และแรงงานตา่ งด้าว) 4. พัฒนาการจัดการศึกษาเพื่อการจัดระบบการดูแลและป้องกันภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ อาทิ อาชญากรรมและความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ ยาเสพติด ภัยพิบัติจากธรรมชาติภัยจากโรคอุบัติ ใหม่ ภยั จากไซเบอร์ เป็นตน้ ยุทธศาสตร์ท่ี 2 การผลิตและพัฒนากาลังคน การวิจัย และนวัตกรรมเพ่ือสร้างขีด ความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศ เป้าหมาย 1. กาลังคนมีทักษะที่สาคัญจาเป็นและมีสมรรถนะตรงตามความต้องการของตลาดงานและ การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ 2. สถาบันการศึกษาและหน่วยงานที่จัดการศึกษาผลิตบัณฑิตท่ีมีความเชี่ยวชาญและเป็นเลิศ เฉพาะดา้ น 3. การวิจัยและพัฒนาเพ่ือสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมที่สร้างผลผลิตและมูลค่าเพิ่มทาง เศรษฐกิจ แนวทางการพัฒนา 1. ผลิตและพัฒนากาลังคนให้มีสมรรถนะในสาขาที่ตรงตามความต้องการของตลาดงานและ การพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมของประเทศ 2. ส่งเสรมิ การผลิตและพัฒนากาลงั คนทมี่ คี วามเชยี่ วชาญและเปน็ เลศิ เฉพาะด้าน 3. ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมที่สร้างผลผลิตและมูลค่าเพ่ิม ทางเศรษฐกจิ
ยุทธศาสตร์ท่ี 3 การพฒั นาศกั ยภาพคนทุกช่วงวยั และการสร้างสังคมแหง่ การเรยี นรู้ เป้าหมาย 1. ผู้เรียนมีทักษะและคุณลักษณะพื้นฐานของพลเมืองไทยและทักษะและคุณลักษณะท่ีจาเป็น ในศตวรรษท่ี 21 2. คนทุกช่วงวัยมีทักษะความรู้ความสามารถและสมรรถนะตามมาตรฐานการศึกษาและ มาตรฐานวิชาชพี และพัฒนาคุณภาพชวี ิตได้ตามศกั ยภาพ 3. สถานศึกษาทุกระดับการศึกษาสามารถจดั กิจกรรม/กระบวนการเรียนรู้ตามหลักสูตรได้อย่าง มคี ุณภาพและมาตรฐาน 4. แหล่งเรียนรู้ ส่ือตาราเรียน นวัตกรรมและสื่อการเรียนรู้มีคุณภาพและมาตรฐาน และ ประชาชนสามารถเขา้ ถงึ ได้โดยไมจ่ ากดั เวลาและสถานที่ 5. ระบบและกลไกการวัด การตดิ ตามและประเมินผลมีประสิทธภิ าพ 6. ระบบการผลิตครู อาจารย์ และบคุ ลากรทางการศึกษาได้มาตรฐานระดับสากล 7. ครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศกึ ษาไดร้ ับการพฒั นาสมรรถนะตามมาตรฐาน แนวทางการพฒั นา 1. ส่งเสริม สนับสนุนให้คนทุกช่วงวัยมีทักษะ ความรู้ความสามารถ และการพัฒนาคุณภาพ ชีวติ อย่างเหมาะสม เต็มตามศกั ยภาพในแต่ละชว่ งวยั 2. ส่งเสริมและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ส่ือตาราเรียน และส่ือการเรียนรู้ต่างๆ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และประชาชนสามารถเข้าถงึ แหล่งเรียนรไู้ ดโ้ ดยไม่จากดั เวลาและสถานที่ 3. สรา้ งเสรมิ และปรับเปล่ยี นค่านยิ มของคนไทยให้มีวินยั จิตสาธารณะ และพฤตกิ รรมท่พี ึงประสงค์ 4. พัฒนาระบบและกลไกการติดตาม การวัดและประเมนิ ผลผูเ้ รยี นให้มปี ระสทิ ธภิ าพ 5. พฒั นาคลังข้อมลู สอื่ และนวัตกรรมการเรยี นรู้ ทม่ี ีคุณภาพและมาตรฐาน 6. พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการผลิตครู อาจารย์ และบคุ ลากรทางการศกึ ษา 7. พัฒนาคุณภาพครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ยุทธศาสตรท์ ่ี 4 การสรา้ งโอกาส ความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางการศึกษา เป้าหมาย 1. ผู้เรียนทุกคนได้รบั โอกาสและความเสมอภาคในการเขา้ ถึงการศกึ ษาท่ีมีคณุ ภาพ 2. การเพ่ิมโอกาสทางการศกึ ษาผา่ นเทคโนโลยีดจิ ทิ ัลเพื่อการศึกษาสาหรบั คนทุกชว่ งวยั 3. ระบบข้อมูลรายบุคคลและสารสนเทศทางการศึกษาท่ีครอบคลุม ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน เพื่อการวางแผนการบรหิ ารจดั การศกึ ษา การตดิ ตามประเมนิ และรายงานผล แนวทางการพัฒนา 1. เพมิ่ โอกาสและความเสมอภาคในการเขา้ ถึงการศึกษาทีม่ คี ุณภาพ 2. พฒั นาระบบเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั เพอ่ื การศึกษาสาหรับคนทุกชว่ งวยั 3. พฒั นาฐานขอ้ มูลด้านการศกึ ษาท่มี ีมาตรฐาน เช่ือมโยงและเข้าถึงได้ ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 5 การจัดการศึกษาเพอ่ื สร้างเสรมิ คณุ ภาพชีวิตทเ่ี ปน็ มิตรกับสงิ่ แวดล้อม เป้าหมาย 1. คนทุกช่วงวัย มีจิตสานึกรักษ์ส่ิงแวดล้อม มีคุณธรรม จริยธรรม และนาแนวคิดตามหลัก ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งส่กู ารปฏบิ ัติ
2. หลักสูตร แหล่งเรียนรู้ และสื่อการเรียนรู้ท่ีส่งเสริมคุณภาพชีวิตท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม คุณธรรม จริยธรรม และการนาแนวคดิ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งส่กู ารปฏิบตั ิ 3. การวิจัยเพ่อื พัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านการสร้างเสริมคุณภาพชวี ิตท่ีเปน็ มิตรกับ สง่ิ แวดลอ้ ม แนวทางการพัฒนา 1. สง่ เสรมิ สนับสนุนการสรา้ งจติ สานกึ รกั ษ์สิ่งแวดล้อม มคี ุณธรรม จริยธรรม และนาแนวคิด ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งสูก่ ารปฏบิ ัตใิ นการดาเนินชีวิต 2. ส่งเสริมและพัฒนาหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ และสื่อการเรียนรู้ต่างๆ ทเ่ี ก่ียวขอ้ งกับการสรา้ งเสริมคุณภาพชีวติ ท่เี ป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม 3. พัฒนาองค์ความรู้ งานวิจัย และนวัตกรรม ด้านการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตท่ีเป็นมิตรกับ สง่ิ แวดลอ้ ม ยุทธศาสตรท์ ี่ 6 การพฒั นาประสทิ ธิภาพของระบบบริหารจัดการศึกษา เปา้ หมาย 1. โครงสร้าง บทบาทและระบบการบริหารจัดการการศึกษามีความคล่องตัว ชัดเจนและ สามารถตรวจสอบได้ 2. ระบบการบริหารจัดการศึกษามีประสิทธิภาพและประสิทธิผลส่งผลต่อคุณภาพและ มาตรฐานการศกึ ษา 3. ทุกภาคส่วนของสังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาท่ีตอบสนองความต้องการของ ประชาชนและพื้นที่ 4. กฎหมายและรูปแบบการบริหารจดั การทรัพยากรทางการศกึ ษารองรบั ลกั ษณะท่ีแตกต่าง กนั ของผู้เรยี น สถานศึกษา และความตอ้ งการกาลังแรงงานของประเทศ 5. ระบบบริหารงานบุคคลของครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษามีความเป็นธรรม สร้างขวญั กาลังใจ และส่งเสรมิ ใหป้ ฏิบัตงิ านไดอ้ ยา่ งเต็มตามศกั ยภาพ แนวทางการพฒั นา 1. ปรบั ปรุงโครงสรา้ งการบรหิ ารจดั การศึกษา 2. เพ่ิมประสทิ ธภิ าพการบริหารจัดการสถานศึกษา 3. สง่ เสริมการมสี ว่ นร่วมของทุกภาคสว่ นในการจดั การศกึ ษา 4. ปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับระบบการเงินเพื่อการศึกษาที่ส่งผลต่อคุณภาพและประสิทธิภาพ การจดั การศึกษา 5. พัฒนาระบบบริหารงานบุคคลของครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศกึ ษา ปัจจยั และเงือ่ นไขความสาเร็จ การดาเนินการตามวัตถุประสงค์ เป้าหมายของแต่ละยุทธศาสตร์ตามที่กาหนดไว้ในแผนการศึกษา แห่งชาติ จะประสบผลสาเร็จตามที่ระบุไว้ในแต่ละยุทธศาสตร์และแนวทางการพัฒนาหน่วยงาน ทั้งระดับนโยบาย และระดบั ปฏิบัติการ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภมู ิภาค จงั หวดั เขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา ต้องยดึ เป็นแนวทาง ในการดาเนินงาน และมีการทบทวน ปรับปรุงมาตรการ เป้าหมายความสาเร็จให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดข้ึน ในแต่ละพนื้ ท่ีเพอื่ การพฒั นาศกั ยภาพผู้เรยี นในทุกชว่ งวยั ต้องดาเนนิ การ ดงั น้ี 1. การสร้างการรับรู้ ความเข้าใจและการยอมรับจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและประชาสังคม ในการสนับสนุนส่งเสริมการพัฒนาการศึกษาในลักษณะต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง มุ่งเน้นที่ การจัดระบบการศึกษา ที่ มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และมุ่งเน้นการพัฒนา คุณภาพของผเู้ รยี นในทุกระดบั
2. การสร้างความเข้าใจในเป้าหมายและยุทธศาสตร์การดาเนินงานของแผนฯ ของผู้ปฏิบัติ ทุกหนว่ ยงานทุกระดบั เพ่อื ใหก้ ารขับเคลือ่ นฯ ไปสู่การปฏิบัติ มีการบรหิ ารจัดการและการเช่อื มโยงยุทธศาสตร์ และแนวทางการพัฒนาใหบ้ รรลเุ ป้าหมายและวิสัยทัศน์ของการจดั การศึกษา มคี ณะกรรมการกากับดูแลแต่ละ ยุทธศาสตรใ์ หเ้ กิดการนาไปปฏบิ ัติ โดยมรี ะบบงบประมาณเป็นกลไกสนับสนุนใหบ้ รรลุอยา่ งเป็นรูปธรรม 3. การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของการจัดการศึกษา จากการเป็นผู้จัดการศึกษาโดยรัฐ มาเป็นการจัดการศึกษาโดยทุกภาคส่วนของสังคม ท่ีมุ่งการจัดการศึกษาเพ่ือความเท่าเทียมและทั่วถึง (Inclusive Education) ตลอดจนการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตสาหรับทุกคน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมาย การพัฒนาท่ียั่งยืน (Sustainable Development Goals) 4. การจัดใหแ้ ผนการศกึ ษาแห่งชาติ เปน็ เสมือนแผนงบประมาณด้านการจัดการศึกษาของรัฐ ระบบการจัดสรรงบประมาณประจาปีให้ยึดแผนงาน โครงการและเป้าหมายการพัฒนาท่ีกาหนดไว้ในยุทธศาสตร์ และแนวทางการพัฒนาของแผนฯ เป็นหลักในการพิจารณา เพ่ือให้การดาเนินงานพัฒนาการศึกษา เป็นไปใน ทิศทางและเป้าหมายการพัฒนาผู้เรียนแต่ละช่วงวัย และการพัฒนากาลังคนตามความต้องการของตลาดงาน และประเทศ เพื่อการจดั การศกึ ษาบรรลุผลตามยุทธศาสตร์ ตัวชวี้ ดั ในช่วงเวลาทก่ี าหนด 5. การปรับระบบการบริหารจัดการภาครัฐให้เกิดประสิทธิภาพ โดยปรับโครงสร้างการบริหารงาน ให้มีความชดั เจนในด้านบทบาท หนา้ ที่และการกระจายอานาจและการตัดสินใจ จากสว่ นกลางสู่ระดับภูมิภาค และสถานศึกษา รวมทั้งการปรับระบบการบริหารจัดการและการบริหารงานบุคคลในแต่ละระดับ ให้ส่งเสริม สนบั สนุนการจัดการศึกษาในสถานศึกษา ใหเ้ ป็นไปอย่างมีคุณภาพ ผูเ้ รียนไดร้ ับบริการการศึกษาท่ีมีมาตรฐาน อย่างเสมอภาคและเทา่ เทยี ม 6. การสร้างระบบข้อมูลและสารสนเทศท่ีบูรณาการและเช่ือมโยงกับระบบการประกันคุณภาพ ภายในและการประเมินคุณภาพภายนอกผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการรายงานต่อสาธารณชน จะเป็นกลไกในการสร้างการรับรู้ของผู้จัดการศึกษาและผู้เรียน เพ่ือการปรับประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และความรับผิดชอบตอ่ ผ้เู รยี น ผา่ นระบบการกากับ ตรวจสอบ ตดิ ตามและประเมนิ ผล 7. การปฏิรูประบบทรัพยากรและการเงินเพ่ือการศึกษา เพื่อให้รัฐสามารถใช้เคร่ืองมือทางการเงิน ในการกากับการดาเนนิ งานของสถานศึกษาให้เปน็ ไปตามแผนการศึกษาแห่งชาตแิ ละนโยบายรัฐบาล นโยบายกระทรวงศกึ ษาธิการ เพื่อให้การดาเนินการจัดการศึกษาและการบริหารจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ในปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ เป้าหมายของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ วัตถุประสงค์ของแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา และนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วน เรื่องการเตรียมคนสู่ศตวรรษท่ี 21 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 8 และมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงประกาศนโยบาย และจุดเนน้ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ดังนี้ หลักการ 1. ให้ความสาคัญกับประเด็นคุณภาพและประสิทธิภาพในทุกมิติ ท้ังผู้เรียน ครูและบุคลากร ทางการศึกษา ให้ข้าราชการพลเรือน และผู้บริหารทุกระดับ ตลอดจนสถานศึกษาทุกระดับทุกประเภท แล ะ เปน็ การศึกษาตลอดชีวติ
2. บูรณาการการทางานร่วมกันระหว่างส่วนราชการหลัก องค์การมหาชนในกากับของรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้มีความคล่องตัว รวมท้ังหน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษาธิการในพ้ืนท่ีภูมิภาค ใหส้ ามารถปฏิบัติงานรว่ มกันได้ เพ่ือดาเนนิ การปฏิรปู การศึกษารว่ มกบั ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ตามนโยบายประชารฐั ระดบั กอ่ นอนบุ าล เน้นประสานงานกับส่วนราชการและชุมชนในการเตรียมความพร้อมผู้เรียนในด้านสุขภาพ และโภชนาการ และจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ที่เชื่อมโยงกบั ระบบโรงเรียนปกติ ระดับอนบุ าล เนน้ สรา้ งความร่วมมือกบั พ่อแม่ ผู้ปกครอง และชุมชน เพื่ออกแบบกจิ กรรมการพัฒนาทักษะ ท่ีสาคัญด้านต่าง ๆ เช่น ทักษะทางสมอง ทักษะความคิดความจา ทักษะการควบคุมอารมณ์ ทักษะการรู้จักและ ประเมนิ ตนเอง ระดับประถมศกึ ษา มุง่ คานึงถงึ พหุปัญญาของผูเ้ รยี นรายบคุ คลทหี่ ลากหลายตามศักยภาพ ด้วยจดุ เน้นดงั น้ี 1. ปลูกฝังความมีระเบียบวินยั ทศั นคตทิ ถี่ ูกต้อง โดยใชก้ ระบวนการลกู เสือและยวุ กาชาด 2. เรยี นภาษาไทย เนน้ เพือ่ ใช้เปน็ เคร่อื งมือในการเรียนรวู้ ิชาอน่ื 3. เรยี นภาษาอังกฤษและภาษาพื้นถิ่น (ภาษาแม่) เนน้ เพ่ือการสอ่ื สาร 4. เรียนรู้ด้วยวิธีการ Active Learning เพื่อพัฒนากระบวนการคิด การเรียนรู้จากประสบการณ์จริง หรอื จากสถานการณ์จาลองผ่านการลงมือปฏบิ ัติ และเปดิ โลกทศั น์มมุ มองรว่ มกันของผู้เรียนและครดู ้วยการจัด การเรยี นการสอนในเชิงแสดงความคิดเหน็ ใหม้ ากข้ึน 5. สรา้ งแพลตฟอรม์ ดิจทิ ัลเพื่อการเรยี นรู้ และใช้ดจิ ิทัลเป็นเครอ่ื งมือการเรียนรู้ 6. จดั การเรยี นการสอนเพอ่ื ฝกึ ทกั ษะการคิดแบบมเี หตผุ ลและเปน็ ขัน้ ตอน (Coding) 7. พัฒนาครูใหม้ คี วามชานาญในการสอนภาษาองั กฤษ และภาษาคอมพวิ เตอร์ (Coding) 8. จัดให้มีโครงการ 1 ตาบล 1 โรงเรียนคุณภาพ โดยเน้นปรับสภาพแวดล้อมท้ังภายในและ ภายนอกบรเิ วณโรงเรียน ให้เออ้ื ตอ่ การสร้างคณุ ธรรม จริยธรรม และจติ สาธารณะ ระดบั มัธยมศกึ ษา ม่งุ ต่อยอดระดับประถมศึกษา 1. จัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม คณิตศาสตร์ (STEM) และ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาท่ีสาม) 2. จัดการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย เพ่ือสร้างทักษะพ้ืนฐานที่เช่ือมโยงสู่การสร้างอาชีพและการมี งานทา เชน่ ทกั ษะด้านกีฬาท่สี ามารถพฒั นาไปสนู่ ักกีฬาอาชีพ ทักษะภาษาเพื่อเปน็ มคั คุเทศก์ การขับเคลอ่ื นสกู่ ารปฏบิ ตั ิ 1. ทุกหนว่ ยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ต้องปรบั ปรุงแผนปฏิบัติราชการใหส้ อดคล้องกับ นโยบายของรฐั บาล 2. จดั ทาฐานข้อมลู (Big Data) ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ให้ครบถว้ น ถกู ต้อง ทนั สมัย 3. ใช้เทคโนโลยแี ละดจิ ิทัลเป็นเคร่ืองมือในการปฏบิ ตั ิงานทัง้ ระบบ เน้นการเรยี นรูแ้ ละการบริหาร จดั การ 4. ปรับปรุงโครงสร้างของกระทรวงศึกษาธิการให้เกิดความคลอ่ งตัว หากติดขัดในเร่ืองข้อกฎหมาย ใหผ้ บู้ รหิ ารระดบั สงู ร่วมหาแนวทางการแก้ไขรว่ มกนั 5. ให้หน่วยงานระดับกรมกาหนดแผนงานสนับสนุนทรัพยากร งบประมาณอัตรากาลังตามความ ต้องการจาเป็นให้แก่หนว่ ยงานในพน้ื ที่ภูมภิ าค
6. ใช้กลไกกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา มาบูรณาการการดาเนินงานกับหน่วยจัด การศึกษาและวางแผนการใช้งบประมารเป็นรายไตรมาส รวมทั้งใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ท่ีเกี่ยวขอ้ ง 7. เร่งทบทวน (ร่าง) พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ...... โดยปรับปรุงสาระสาคัญให้ เอือ้ ตอ่ การขบั เคลอ่ื นนโยบายของรฐั บาล 8. ในระดบั พ้ืนทหี่ ากเกิดปญั หาข้อติดขัดการปฏบิ ัตงิ าน ต้องศกึ ษา ตรวจสอบข้อมูล/ข้อเท็จจริง ท่ีเกดิ ขึ้น เช่น จานวนเด็กในพื้นที่น้อยลง ซ่ึงจาเป็นต้องมีการควบรวมโรงเรียนให้พิจารณาส่ือสารอธิบาย ทาความเขา้ ใจทช่ี ดั เจนกับชุมชน 9. วางแผนการใช้อัตรากาลังครู โดยเฉพาะครูระดับอนุบาล และครูระดับอาชีวศึกษาให้มี ประสิทธภิ าพ และจัดทาแผนการประเมินครูอย่างเปน็ ระบบ รวมทงั้ จัดทาหลกั สตู รการพัฒนาครใู ห้มอี งค์ความรู้ และทกั ษะในด้านพหุปญั ญาของผ้เู รียน 10. ให้ศึกษาธิการจังหวัดจัดทาแผนการจัดการศึกษาของแต่ละจังหวัด นาเสนอต่อ คณะกรรมการ ศึกษาธกิ ารจังหวดั และขบั เคลื่อนสกู่ ารปฏบิ ัติอย่างเปน็ รูปธรรม 11. ให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการและศึกษาธิการภาค มีบทบาทหน้าท่ีตรวจราชการ ตดิ ตามประเมนิ ผลในระดบั นโยบายและจดั ทารายงานเสนอตอ่ รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ นโยบายสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน วสิ ัยทัศน์ สร้างคุณภาพทุนมนษุ ย์ ส่สู งั คมอนาคตทย่ี ัง่ ยืน พันธกิจ 1. จัดการศึกษาเพ่ือเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติและการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมขุ 2. พฒั นาผู้เรียนให้มคี วามสามารถความเปน็ เลิศทางวชิ าการเพอื่ สรา้ งขีดความสามารถในการ แข่งขัน 3. พัฒนาศกั ยภาพและคณุ ภาพผเู้ รยี นใหม้ สี มรรถนะตามหลักสูตรและคุณลกั ษณะ ใน ศตวรรษที่ 21 4. สร้างโอกาส ความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้า ให้ผู้เรียนทุกคนได้รับบริการทางการศึกษา อยา่ งทว่ั ถึงและเทา่ เทยี ม 5. พฒั นาผบู้ รหิ าร ครู และบคุ ลากรทางการศึกษาใหเ้ ป็นมืออาชพี 6. จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง และเปา้ หมายการพฒั นาทย่ี งั่ ยนื (Sustainable Development Goals : SDGs) 7. ปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาทุกระดับ และจัดการศึกษาโดยใช้เทคโนโลยี ดิจิทลั (Digital Technology) เพอ่ื พัฒนามงุ่ สู่ Thailand 4.0
เปา้ หมาย 1. ผู้เรียนมีความรักในสถาบันหลักของชาติ และยึดม่ันการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีทัศนคติท่ีถูกต้องต่อบ้านเมือง มีหลักคิดที่ถูกต้อง และเป็นพลเมืองดีของชาติ มีคุณธรรม จริยธรรม มีค่านิยมที่พึงประสงค์ มีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อสังคมและผู้อ่ืน ซื่อสัตย์ สุจริต มัธยัสถ์ อดออม โอบออ้ มอารี มวี นิ ยั รกั ษาศลี ธรรม 2. ผู้เรียนทีม่ ีความสามารถพเิ ศษดา้ นวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ศลิ ปะ ดนตรี กีฬา ภาษาและ อนื่ ๆ ได้รบั การพัฒนาอย่างเตม็ ตามศกั ยภาพ 3. ผู้เรียน เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ คิดริเร่ิมและสร้างสรรค์นวัตกรรม มีความรู้ มีทักษะ มีสมรรถนะตามหลักสตู ร และคุณลักษณะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 มีสุขภาวะที่เหมาะสมตามวยั มีความสามารถ ในการพงึ่ พาตนเอง ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และการเป็นพลเมืองพลโลกที่ดี (Global Citizen) พรอ้ มกา้ วสสู่ ากล นาไปสูก่ ารสร้างความสามารถในการแข่งขนั ของประเทศ 4. ผู้เรียนท่มี ีความต้องการจาเป็นพิเศษ (ผ้พู ิการ) กลุ่มชาติพนั ธุ์ กลุม่ ผู้ดอ้ ยโอกาสและกลุ่มที่ อยู่ในพื้นทห่ี า่ งไกลทรุ กนั ดาร ไดร้ บั การศกึ ษาอยา่ งทัว่ ถงึ เทา่ เทยี ม และมีคณุ ภาพ 5. ผบู้ ริหาร ครู และบคุ ลากรทางการศึกษาเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีความร้แู ละจรรยาบรรณ ตามมาตรฐานวิชาชพี 6. สถานศึกษาจัดการศึกษาเพื่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) และเสรมิ สร้างคณุ ภาพชวี ิตทเี่ ปน็ มิตรกับสิง่ แวดล้อม ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจ พอเพียง 7. สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา สถานศึกษา มีสมดุมในการบริหารจัดการเชิงบูรณาการ มีการกากับ ติดตาม ประเมินผล มีระบบข้อมูลสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพ และการรายงานผลอยา่ งเป็นระบบ ใช้งานวจิ ยั เทคโนโลยีและนวตั กรรมในการขับเคล่อื นคุณภาพการศกึ ษา นโยบาย สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ได้กาหนดนโยบายประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2563 โดยยึดหลักของการพัฒนาท่ียั่งยืน และการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศในอนาคต เป็นแนวทาง ในการจัดการศึกษาจดั การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน และสอดคล้องกับยุทธศาสตรช์ าติ พ.ศ.2561 – 2580 แผนแม่บท ภายใตย้ ุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ.2561 - 2580) แผนปฏริ ปู ประเทศดา้ นการศึกษา แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2565) แผนการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ.2560 – 2579 และมุ่งสู่ Thailand 4.0 ดังน้ี นโยบายท่ี 1 ดา้ นการจัดการศึกษาเพื่อความมน่ั คงของมนุษย์และของชาติ นโยบายท่ี 2 ดา้ นการจัดการศึกษาเพอ่ื เพ่มิ ความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศ นโยบายท่ี 3 ดา้ นการพัฒนาและเสรมิ สร้างศักยภาพทรัพยากรมนษุ ย์ นโยบายท่ี 4 ดา้ นการสร้างโอกาสในการเข้าถงึ บรกิ ารการศึกษาทมี่ ีคุณภาพ มมี าตรฐานและลดความเหล่ือมลา้ ทางการศกึ ษา นโยบายท่ี 5 ด้านการจัดการศึกษาเพือ่ พฒั นาคุณภาพชีวิตทีเ่ ป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม นโยบายที่ 6 ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบรหิ ารจัดการศึกษา
นโยบายที่ 1 ดา้ นการจดั การศกึ ษาเพ่ือความมน่ั คงของมนุษย์และของชาติ เป้าประสงค์ 1. ผู้เรียนทุกคนมีพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความรักในสถาบันหลักของชาติ ยึดมั่นการปกครอง ในระบบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมุข 2. ผู้เรียนทุกคนมีทัศนคติท่ีดีต่อบ้านเมือง มีหลักคิดที่ถูกต้อง เป็นพลเมืองดีของชาติ มีคุณธรรมจริยธรรม มีค่านิยมอันพึงประสงค์ มีจิตสาธารณะ มีจิตอาสา รับผิดชอบต่อครอบครัว ผู้อื่น และ สงั คมโดยรวม ซือ่ สตั ย์ สจุ ริต มัธยสั ถ์ อดออม โอบออ้ มอารี มวี นิ ยั และรักษาศีลธรรม 3. ผู้เรียนทุกคนมีความรู้ ความเข้าใจ และมีความพร้อมสามารถรับมือกับภัยคุกคามทุกรูปแบบ ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง เช่น ภัยจากยาเสพติด ความรุนแรง การคุกคามในชีวิตและทรัพย์สิน การค้า มนษุ ยอ์ าชญากรรมไซเบอร์ และภัยพบิ ัตติ า่ ง ๆ เป็นต้น 4. ผู้เรียนในเขตพื้นท่ีเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับโอกาสและ การพฒั นาอยา่ งเตม็ ศักยภาพ และมีคณุ ภาพสอดคลอ้ งกบั บรบิ ทของพน้ื ท่ี 5. ผู้เรียนในเขตพ้ืนที่เฉพาะ กลุ่มชาติพันธ์ุ กลุ่มผู้ด้อยโอกาส และกลุ่มท่ีอยู่ในพ้ืนท่ีห่างไกล ทุรกันดาร เช่น พ้ืนท่ีสูง ชายแดน ชายฝ่ังทะเล และเกาะแก่ง เป็นต้น ได้รับบริการด้านการศึกษาขั้นพื้นฐาน ท่ีมีคณุ ภาพ และเหมาะสมตรงตามความต้องการ ตวั ชวี้ ัด 1. ร้อยละของผู้เรียนที่มีพฤติกรรมท่ีแสดงออกถึงความรักในสถาบันหลักของชาติ ยึดม่ัน การปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมุข 2. ร้อยละของผู้เรียนที่มีพฤติกรรมที่แสดงออกถึงการมีทัศนคติท่ีดีต่อบ้านเมือง มีหลักคิดท่ีถูกต้อง เป็นพลเมืองดีของชาติ มีคุณธรรม จริยธรรม มีค่านิยมท่ีพึงประสงค์ มีคุณธรรม จริยธรรม มีจิตสาธารณะ มีจิตอาสา รับผิดชอบต่อครอบครัว ผู้อื่น และสังคมโดยรวม ซื่อสัตย์ สุจริต มัธยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอารี มีวินัย และรักษาศีลธรรม 3. ร้อยละของผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ และมีความพร้อมสามารถรับมือกับภัยคุกคาม ทุกรูปแบบท่ีมีผลกระทบต่อความม่ันคง เช่น ภัยจากยาเสพติด ความรุนแรง การคุกคามในชีวิตและทรัพย์สิน การค้ามนษุ ย์อาชญากรรมไซเบอร์ และภยั พิบัตติ ่าง ๆ เปน็ ตน้ 4. ร้อยละของผู้เรียนในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับโอกาสและ การพฒั นาอยา่ งเตม็ ศกั ยภาพ และมีคุณภาพสอดคลอ้ งกบั บริบทของพ้ืนที่ 5. ร้อยละของผู้เรียนในเขตพ้ืนที่เฉพาะ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มผู้ด้อยโอกาส และกลุ่มที่อยู่ใน พ้ืนที่ห่างไกลทุรกันดาร เช่น พื้นท่ีสูง ชายแดน ชายฝั่งทะเล และเกาะแก่ง ได้รับบริการด้านการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ทีม่ คี ุณภาพ และเหมาะสมตรงตามความต้องการ สอดคล้องกบั บรบิ ทของพ้ืนที่ 6. จานวนสถานศึกษาที่น้อมนาพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวิชราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง ไปพฒั นาผเู้ รยี นใหม้ ีคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามทีก่ าหนดได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 7. จานวนสถานศึกษาที่จัดบรรยากาศส่ิงแวดล้อม และจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เรียน แสดงออกถึงความรักในสถาบันหลกั ของชาติ ยดึ ม่ันการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเปน็ ประมขุ มที ศั นคติท่ีดีตอ่ บา้ นเมอื ง มหี ลักคิดทีถ่ กู ตอ้ ง เปน็ พลเมอื งดีของชาติ มคี ุณธรรม จริยธรรม
นโยบายท่ี 2 ด้านการจัดการศกึ ษาเพ่ือเพ่มิ ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เป้าประสงค์ 1. ผู้เรยี นทุกระดบั มคี วามเป็นเลิศ มีทักษะท่ีจาเปน็ ในศตวรรษท่ี 21 2. ผู้เรยี นมคี วามเปน็ เลศิ ตามความถนัดและความสนใจ นาไปสกู่ ารพัฒนาทักษะวิชาชีพ เปน็ นักคดิ เปน็ ผสู้ ร้างนวตั กรรม เปน็ นวัตกร 3. ผู้เรียนไดร้ บั โอกาสเข้าสเู่ วทกี ารแข่งขนั ระดบั นานาชาติ ตัวชว้ี ดั 1. จานวนผเู้ รียนที่มีความเป็นเลิศทางดา้ นวชิ าการ มีทกั ษะความรู้ทส่ี อดคล้องกับทักษะทจ่ี าเป็น ในศตวรรษที่ 21 2. ผู้เรียนระดับมัธยมศึกษา ผ่านการประเมินสมรรถนะท่ีจาเป็นด้านการรู้เรื่องการอ่าน (Reading Literacy) ด้านการรู้เรื่องคณิตศาสตร์ (Mathematical Literacy) และด้านการรู้เร่ืองวิทยาศาสตร์ (Scientific Literacy) ตามแนวทางการประเมิน PISA 3. ร้อยละของผเู้ รยี นทมี่ ีศกั ยภาพ ได้รบั โอกาสเข้าสูเ่ วทีการแขง่ ขันระดบั นานาชาติ นโยบายที่ 3 ดา้ นการพฒั นาและเสริมสรา้ งศกั ยภาพทรพั ยากรมนษุ ย์ เป้าประสงค์ 1. หลักสูตรปฐมวัยและหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน มีการพัฒนาท่ีสอดคล้องกบั แนวโนม้ การพัฒนาของประเทศ 2. ผู้เรียนได้รับการพัฒนาตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตร และมีทักษะความสามารถที่สอดคล้อง กบั ทักษะ ที่จาเป็นในศตวรรษท่ี 21 มคี วามยืดหยุ่นทางด้านความคิด สามารถทางานรว่ มกับผู้อื่นได้ ภายใต้สังคม ที่เปน็ พหวุ ัฒนธรรม รวมถงึ การวางพืน้ ฐานการเรียนร้เู พ่ือการวางแผนชวี ิตทเ่ี หมาะสมในแตล่ ะชว่ งวัยและนาไป ปฏิบัตไิ ด้ 3. ผ้เู รียนไดร้ บั การพฒั นาให้มคี วามรแู้ ละทักษะนาไปสู่การพฒั นานวตั กรรม 4. ผู้เรยี นไดร้ บั การพฒั นาเต็มตามศักยภาพ เช่ือมโยงสู่อาชีพและการมีงานทา มที กั ษะอาชีพ ทสี่ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของประเทศ 5. ผู้เรียนได้รับการพัฒนาให้มีศักยภาพในการจัดการสุขภาวะของตนเองให้มีสุขภาวะที่ดี สามารถดารงชวี ิตอย่างมีความสขุ ทง้ั ด้านร่างกายและจิตใจ 6. ครู เปลี่ยนบทบาทจาก “ครูผสู้ อน” เป็น “Coach” ผ้ใู หค้ าปรกึ ษาข้อเสนอแนะการเรียนรู้ หรือผู้อานวยการการเรยี นรู้ 7. ครู มีความรู้ความสามารถในการจัดการเรียนการสอนและเป็นแบบอย่างด้านคุณธรรมและ จริยธรรม ตวั ชวี้ ดั 1. ผู้เรียนทุกระดับมีสมรรถนะสาคัญตามหลักสูตร มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 (3R8C) 2. ร้อยละของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 ที่มีคะแนนผลการทดสอบความสามารถพื้นฐาน ระดับชาติ (NT) ผา่ นเกณฑท์ ก่ี าหนด 3. ร้อยละของผู้เรียนท่ีมีคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพ้ืนฐาน (O-NET) มากกว่าร้อยละ 50 ในแต่ละวชิ าเพิ่มข้นึ จากปีการศึกษาทผี่ า่ นมา 4. ร้อยละของผู้เรียนท่ีจบการศึกษาช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 และช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 มีทักษะ การเรียนรู้ท่ีเชื่อมโยงสู่อาชีพและการมีงานทา ตามความถนัดและความต้องการของตนเอง มีทักษะอาชีพ ที่สอดคล้องกบั ความตอ้ งการของประเทศ วางแผนชีวิตและวางแผนทางการเงนิ ทเี่ หมาะสมและนาไปปฏบิ ัติได้
5. ผเู้ รียนทกุ คนมีทักษะพ้ืนฐานในการดารงชีวิต สามารถดารงชวี ิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข มคี วามยืดหยนุ่ ทางด้านความคดิ สามารถทางานร่วมกับผอู้ ่นื ได้ ภายใต้สงั คมทเี่ ปน็ พหวุ ัฒนธรรม 6. ผู้เรียนทุกคนมีศักยภาพในการจัดการสุขภาวะของตนเองให้มีสุขภาวะที่ดี สามารถดารงชีวติ อย่างมคี วามสขุ ทงั้ ด้านร่างกายและจิตใจ 7. ครูท่ีมีการเปลี่ยนบทบาทจาก “ผู้สอน” เป็น “Coach” ผู้ให้คาปรึกษาข้อเสนอแนะการเรยี นรู้ หรอื ผู้อานวยการการเรียนรู้ นโยบายที่ 4 ดา้ นการสร้างโอกาสในการเขา้ ถงึ บรกิ ารการศกึ ษาท่ีมีคุณภาพ มีมาตรฐานและลดความเหลื่อมล้าทางการศกึ ษา เปา้ ประสงค์ 1. สถานศึกษาจัดการศึกษาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายโลกเพ่ือการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Global Goals for Sustainable Development) 2. สถานศึกษากับองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ภาคเอกชน และหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องในระดับพื้นท่ี รว่ มมอื ในการจดั การศกึ ษา 3. สถานศึกษามีคณุ ภาพ และมีมาตรฐานตามบรบิ ทของพ้นื ที่ 4. งบประมาณและทรัพยากรทางการศึกษามีเพียงพอและเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพ ข้อเทจ็ จรงิ โดยคานงึ ถึงความจาเป็นตามสภาพพืน้ ท่ีภมู ศิ าสตร์ สภาพทางเศรษฐกจิ และท่ตี งั้ ของสถานศกึ ษา 5. งบประมาณเพ่ือเป็นค่าใช้จ่าย และงบลงทุนแก่สถานศึกษาเหมาะสม เพื่อให้สถานศึกษา บรหิ ารงานจัดการศึกษาอย่างมีประสทิ ธภิ าพ 6. นาเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology) มาเป็นเคร่ืองมือให้ผู้เรียนได้มีโอกาสเข้าถึง บริการดา้ นการศกึ ษาได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 6. พัฒนาระบบการติดตาม สนับสนุนและประเมินผล เพื่อสร้างหลักประกันสทิ ธิการได้รับการศกึ ษา ท่ีมคี ณุ ภาพของประชาชน ตัวชี้วัด 1. ผเู้ รียนทกุ คนสามารถเข้าเรียนในสถานศึกษาทม่ี ีคุณภาพเปน็ มาตรฐานเสมอกัน 2. ผู้เรียนทุกคนได้รับการจัดสรรงบประมาณอุดหนุนอย่างเพียงพอ และเหมาะสม สอดคล้องกับ สภาพข้อเท็จจริง โดยคานึงถึงความจาเป็นตามสภาพพื้นท่ีภูมิศาสตร์ สภาพทางเศรษฐกิจ และท่ีต้ังของสถานศึกษา และความตอ้ งการจาเปน็ พิเศษสาหรับผพู้ กิ าร 3. ผู้เรียนได้รับการสนับสนุน วัสดุ อุปกรณ์ และอุปกรณ์ดิจิทัล (Digital Device) เพ่ือใช้เป็น เครือ่ งมอื ในการเรยี นรู้อยา่ งเหมาะสม เพยี งพอ 4. ครไู ดร้ ับการสนับสนนุ วัสดุ อปุ กรณ์ และอุปกรณ์ดิจิทลั (Digital Device) เพื่อใช้เป็นเคร่ืองมือ ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้แกผ่ ูเ้ รียน 5. สถานศึกษาได้รับการพัฒนาให้มีมาตรฐานอย่างเหมาะสมตามบริบท ด้านประเภท ขนาด และพ้ืนที่ 6. สถานศกึ ษานาเทคโนโลยดี ิจิทลั (Digital Technology) มาใชเ้ ปน็ เคร่ืองมือในการจัดกิจกรรม การเรยี นรใู้ ห้แกผ่ เู้ รียนไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 7. สถานศึกษามรี ะบบการดูแลชว่ ยเหลือและค้มุ ครองนักเรยี นและการแนะแนวทมี่ ปี ระสทิ ธิภาพ 8. สถานศึกษาท่ีมีระบบฐานข้อมูลประชากรวัยเรียนและสามารถนามาใช้ในการวางแผน จัดการเรียนรูใ้ ห้แก่ผ้เู รียนได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ
นโยบายท่ี 5 ด้านการจัดการศกึ ษาเพอ่ื พัฒนาคณุ ภาพชีวิตทีเ่ ปน็ มติ รกับส่งิ แวดล้อม เปา้ ประสงค์ 1. สถานศกึ ษา นกั เรียน ไดร้ ับการส่งเสริมด้านความรู้ การสรา้ งจติ สานึกด้านการผลิตและบริโภค ทเ่ี ปน็ มติ รกับส่ิงแวดล้อม 2. สถานศึกษาสามารถนาเทคโนโลยีมาจัดทาระบบสารสนเทศการเก็บข้อมูลด้านความรู้ เรอ่ื งฉลากสเี ขียวเพื่อสง่ิ แวดล้อม ฯลฯ และสามารถนามาประยุกต์ใช้ในทกุ โรงเรียนตามแนวทาง Thailand 4.0 3. สถานศึกษามีการจดั ทานโยบายจดั ซอ้ื จัดจา้ งทีเ่ ป็นมิตรกบั ส่ิงแวดล้อม 4. สถานศึกษามีการบูรณาการหลักสูตร กิจกรรมเร่ืองวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์การผลิตและ บรโิ ภค สกู่ ารลดปรมิ าณคาร์บอนในโรงเรยี นคารบ์ อนต่าสู่ชมุ ชนคาร์บอนต่า 5. สานักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา โรงเรียน ทุกโรงเรียนในสงั กดั มีการปรบั ปรุงและพฒั นาเปน็ หน่วยงานต้นแบบสานักงานสีเขียว (GREEN OFFICE) เพ่ือให้ มบี รบิ ททเี่ ป็นแบบอย่าง เอือ้ หรือสนับสนนุ การเรียนรู้ของนักเรียนและชมุ ชน 6. สถานศึกษาในสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน จาก 225 เขต มีนโยบาย สง่ เสรมิ ความรูแ้ ละสรา้ งจิตสานกึ และจดั การเรยี นรูก้ ารผลิตและบรโิ ภคทเ่ี ป็นมิตรกับส่งิ แวดล้อม 7. มสี ถานศึกษานวัตกรรมต้นแบบในการนา 3RS มาประยุกต์ใช้ในการผลิตและบรโิ ภคท่ีเป็น มิตรกับส่งิ แวดล้อม จานวน 6,000 โรงเรียน 8. สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา 225 เขต มีการทานโยบายการจัดซ้ือจัดจ้างท่ีเป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม ตวั ช้ีวัด 1. สถานศึกษาในสังกัดมีนโยบายและจัดกิจกรรมให้ความรู้ ท่ีถูกต้องและสร้างจิตสานึกด้าน การผลติ และบรโิ ภคที่เปน็ มิตรกบั สิ่งแวดล้อมนาไปปฏิบตั ิใช้ท่ีบ้านและชุมชน เช่น การส่งเสรมิ อาชีพท่เี ป็นมิตร กับสิ่งแวดลอ้ ม การลดใช้สารเคมีจากปุ๋ยและยาฆา่ แมลง ฯลฯ 2. สถานศึกษามีการนาขยะมาใช้ประโยชน์ในรูปผลิตภัณฑ์และพลังงานเพื่อลดปริมาณขยะ และส่งเสริมการคดั แยกขยะในชมุ ชนเพ่ือลดปรมิ าณคารบ์ อนทโี่ รงเรยี นและชุมชน 3. สถานศึกษามีการบูรณาการเร่ืองการจัดการขยะแบบมีส่วนร่วมและการนาขยะมาใช้ ประโยชน์ รวมท้ังสอดแทรกในสารถการเรยี นรู้ที่เก่ียวข้อง 4. นักเรียนเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ มีการขยายผลแหล่งเรียนรู้ นักเรียน โรงเรียน ชุมชน เรียนรู้ด้าน การลดใช้พลังงาน การจัดการขยะและอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อมเพ่ือเป็นแหล่งเรียนรู้และตัวอย่างรูปแบบ ผลติ ภณั ฑ์ท่เี ปน็ มติ รกบั สงิ่ แวดล้อม เช่น โรงงานอตุ สาหกรรมสีเขียว ฯลฯ 5. นักเรียนและสถานศึกษามีการเก็บข้อมูลเปรียบเทียบการลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ ในการดาเนินกิจกรรมประจาวันในสถานศึกษาและที่บ้าน และข้อมูลของ Carbon Footprint ในรูปแบบ QR CODE และ Paper less 6. ครูมีความคิดสร้างสรรค์ สามารถพัฒนาสื่อ นวัตกรรม และดาเนินการจัดทางานวิจัยด้าน การสร้างสานึกด้านการผลิตและบรโิ ภคท่ีเป็นมิตรกับสง่ิ แวดล้อมได้ 7. ครูและนักเรียนสามารถนาสื่อนวัตกรรมที่ผ่านกระบวนการคิด มาประยุกต์ใช้ในโรงเรียน การจัดการเรียนรู้ และประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และชมุ ชนไดต้ ามแนวทาง Thailand 4.0 8. สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษามีการปรับปรุงและพัฒนาบุคลากรและสถานท่ี ให้เป็นสานักงานสีเขียวต้นแบบ มีนโยบายการจัดซ้ือจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของ นกั เรียนและชมุ ชน
นโยบายท่ี 6 ดา้ นการปรบั สมดุลและพัฒนาระบบการบรหิ ารจดั การศกึ ษา เปา้ ประสงค์ 1. สถานศึกษาหรือกลุ่มสถานศึกษา มีความเป็นอิสระในการบริหารและจัดการศึกษา ครอบคลุม ดา้ นการบรหิ ารวชิ าการ ด้านการบรหิ ารงบประมาณ ด้านการบริหารงานบคุ คล และด้านการบรหิ ารงานทัว่ ไป 2. หน่วยงานส่วนกลาง สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ต้องปรับเปล่ียนให้เป็นหน่วยงานให้มี ความทันสมัย พร้อมท่ีจะปรับตัวให้ทันต่อการเปล่ียนแปลงของโลกอยู่ตลอดเวลา เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ สนับสนนุ ส่งเสรมิ ตรวจสอบ ติดตาม เพื่อใหส้ ถานศึกษาสามารถจัดการศึกษาได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 3. หน่วยงานทุกระดับมีความโปร่งใส ปลอดการทุจริตและประพฤติมิชอบ บริหารจัดการ ตามหลักธรรมาภิบาล 4. หน่วยงานทุกระดับมีกระบวนการและวิธีการงบประมาณด้านการศึกษา เพื่อเพิ่มคุณภาพ และประสิทธิภาพการจัดการศึกษา โดยการจดั สรรงบประมาณตรงสผู่ เู้ รยี น 5. หน่วยงานทุกระดับ พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology) มาใช้ ในการเพิม่ ประสิทธิภาพการบริหารและการจัดการเรยี นการสอนอย่างเปน็ ระบบ ตวั ชวี้ ดั 1. สถานศึกษาได้รับการกระจายอานาจการบรหิ ารจดั การศกึ ษาอย่างเป็นอิสระ 2. สถานศึกษา สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา และสานักงานส่วนกลาง ได้รับการพัฒนาให้เป็น หน่วยงานท่ีมีความทันสมัย ยืดหยุ่น คล่องตัวสูง พร้อมท่ีจะปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่ตลอดเวลา เป็นหน่วยงานท่ีมีหน้าท่ีสนับสนุน ส่งเสริม ตรวจสอบ ติดตาม เพื่อให้สถานศึกษาสามารถจัดการศึกษาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ครอบคลมุ ทกุ ตาบล 3. สถานศึกษา สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา และสานักงานส่วนกลาง นานวัตกรรมและ เทคโนโลยดี จิ ิทลั (Digital Technology) มาใชใ้ นการบริหารจดั การและตัดสินใจ ทง้ั ระบบ 4. สถานศึกษา และหน่วยงานในสังกัดทุกระดับ มีความโปร่งใส ปลอดการทุจริตและ ประพฤติมิชอบ บริหารจดั การตามหลกั ธรรมาภบิ าล 5. สถานศึกษา หน่วยงานในสังกัดทุกระดับ ผ่านการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ในการดาเนนิ งานของหนว่ ยงานภาครัฐ (Integrity & Transparency Assessment : ITA) 6. สถานศึกษาทุกแห่งและหน่วยงานในสังกัด มีระบบฐานข้อมูลสารสนเทศวิชาการ ผู้เรียน ครู บคุ ลากรทางการศึกษา สถานศึกษา หน่วยงานในสงั กัด 7. สถานศึกษาทุกแห่งมีข้อมูลผู้เรียนรายบุคคลท่ีสามารถเช่ือมโยงกับข้อมูลต่าง ๆ นาไปสู่การ วิเคราะหเ์ พอื่ วางแผนการจัดการเรยี นรสู้ ู่ผ้เู รียนไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ (Big Data Technology) 8. สถานศึกษา สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา และสานักงานส่วนกลางมีแพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Platform) เพอ่ื สนบั สนนุ ภารกจิ ดา้ นบริหารจดั การศกึ ษา 9. สถานศึกษาทุกแห่งมีระบบข้อมูลสารสนเทศที่สามารถใช้ในการวางแผนการจัดการศึกษา ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ
สว่ นที่ 3 สาระสาคัญของแผนปฏิบัตกิ าร ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563 สานักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศึกษาลาปาง เขต 3
ส่วนที่ 3 สาระสาคัญของแผนปฏิบตั ิการ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563 สานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษาลาปาง เขต 3 ทิศทางการดาเนนิ งานของสานกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาลาปาง เขต 3 วสิ ัยทศั น์ ผูเ้ รียนมีคณุ ภาพ สูส่ งั คมในศตวรรษท่ี 21 อยา่ งยั่งยืน พันธกจิ 1. จัดการศกึ ษาระดบั ปฐมวัยและการศึกษาภาคบงั คบั เพ่อื เสริมสร้างความมัน่ คงของสถาบันหลัก ของชาติและการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั ริย์เปน็ ประมขุ 2. พัฒนาศักยภาพผู้เรียน เพ่ือเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ใหม้ คี วามรู้ ทกั ษะวชิ าการ ทกั ษะชีวิต และทกั ษะวชิ าชพี คณุ ลักษณะในศตวรรษท่ี 21 3. สร้างโอกาส ความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้าให้กับผู้เรียนทุกคนได้รับบริการทางการศึกษา อย่างท่ัวถงึ และเทา่ เทียม 4. สง่ เสริมการพัฒนาผบู้ รหิ าร ครู และบุคลากรทางการศึกษาใหเ้ ปน็ มอื อาชีพ 5. ส่งเสริมการจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาคุณภาพชวี ติ ท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดลอ้ ม ยึดหลักปรชั ญาของ เศรษฐกิจพอเพียง และเป้าหมายการพัฒนาทยี่ ง่ั ยนื (Sustainable Development Goals : SDGs) 6. พัฒนาระบบบริหารจัดการแบบบูรณาการและส่งเสริมให้ทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการจัด การศกึ ษา 7. ส่งเสรมิ การใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ิทลั มาใชใ้ นการบรหิ ารจดั การศึกษา (Digital Technology) เป้าประสงค์ 1. ผูเ้ รยี นมีความรกั ในสถาบนั หลักของชาติ และยดึ มนั่ การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมขุ เป็นพลเมอื งดขี องชาติ มคี ุณธรรม จริยธรรม มคี ่านิยมทีพ่ งึ ประสงค์ มจี ิตสาธารณะ รับผดิ ชอบต่อสงั คม 2. ผู้เรยี นทม่ี ีความสามารถพเิ ศษดา้ นวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ ศิลปะ ดนตรี กีฬา ภาษาและอ่นื ๆ ได้รบั การพฒั นาอยา่ งเตม็ ตามศักยภาพ 3. ผู้เรียนเป็นบุคคลแหง่ การเรียนรู้ คิดริเร่ิมและสร้างสรรค์นวัตกรรม มีความรู้ มีทักษะ มีสมรรถนะ ตามหลักสตู ร และคุณลกั ษณะของผ้เู รยี นในศตวรรษท่ี 21 มีสุขภาวะที่เหมาะสมตามวัย มคี วามสามารถในการพง่ึ พา ตนเอง ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และการเป็นพลเมืองพลโลกท่ีดี (Global Citizen) 4. ผู้เรียนท่ีมคี วามตอ้ งการจาเปน็ พิเศษ (ผู้พิการ) กลุม่ ชาตพิ นั ธ์ุ กล่มุ ผู้ด้อยโอกาสและกลมุ่ ทอ่ี ยู่ใน พ้นื ท่ีห่างไกลทรุ กันดาร ได้รับการศกึ ษาอย่างท่วั ถงึ เทา่ เทียม และมีคุณภาพ 5. ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษา เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีความรู้ และจรรยาบรรณ ตามมาตรฐานวิชาชพี
6. สถานศึกษาจัดการศึกษาเพื่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างย่ังยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) และสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี ง 7. สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา และสถานศึกษา มีสมดุลในการบรหิ ารจัดการเชิงบูรณาการ มกี ารกากบั ติดตาม ประเมินผล มีระบบข้อมลู สารสนเทศทม่ี ปี ระสิทธิภาพ และการรายงานผลอยา่ งเปน็ ระบบ กลยุทธ์ กลยทุ ธท์ ่ี 1 จดั การศึกษาเพ่อื ความมน่ั คงของมนุษย์และของชาติ กลยทุ ธ์ท่ี 2 จัดการศกึ ษาเพือ่ เพม่ิ ความสามารถในการแขง่ ขันของประเทศ กลยุทธ์ที่ 3 พฒั นาและเสรมิ สร้างศกั ยภาพทรัพยากรมนษุ ย์ กลยทุ ธท์ ่ี 4 สรา้ งโอกาสในการเข้าถึงบริการการศึกษาท่ีมคี ุณภาพ มีมาตรฐานและลดความ เหลือ่ มล้าทางการศึกษา กลยทุ ธท์ ี่ 5 จัดการศึกษาเพอื่ พัฒนาคุณภาพชวี ติ ที่เปน็ มิตรกับสิง่ แวดลอ้ ม กลยุทธท์ ่ี 6 พฒั นาระบบการบรหิ ารจัดการศกึ ษา กลยุทธ์ท่ี 7 พัฒนาระบบเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั (Digital Technology) มาใช้ในการบรหิ ารจดั การศึกษา เปา้ ประสงค์และตวั ชวี้ ัด กลยุทธท์ ่ี 1 จดั การศกึ ษาเพอื่ ความมน่ั คงของมนษุ ยแ์ ละของชาติ เปา้ ประสงค์ 1. ผู้เรียนทุกคนมีพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความรักในสถาบันหลักของชาติ ยึดมั่นการปกครอง ในระบบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ 2. ผู้เรียนทุกคนมีทัศนคติท่ีดีต่อบ้านเมือง มีหลักคิดที่ถูกต้อง เป็นพลเมืองดีของชาติ มีคุณธรรมจริยธรรม มีค่านิยมอันพึงประสงค์ มีจิตสาธารณะ มีจิตอาสา รับผิดชอบต่อครอบครัว ผู้อ่ืน และ สังคมโดยรวม ซอ่ื สัตย์ สจุ รติ มธั ยัสถ์ อดออม โอบออ้ มอารี มีวนิ ัย และรกั ษาศีลธรรม 3. ผู้เรียนทุกคนมีความรู้ ความเข้าใจ และมีความพร้อมสามารถรับมือกับภัยคุกคามทุกรูปแบบ ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง เช่น ภัยจากยาเสพติด ความรุนแรง การคุกคามในชีวิตและทรัพย์สิน การค้า มนุษยอ์ าชญากรรมไซเบอร์ และภัยพบิ ตั ิต่าง ๆ เปน็ ตน้ 4. ผู้เรียนกลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มผู้ด้อยโอกาส และกลุ่มท่ีอยู่ในพ้ืนที่สูง ห่างไกลทุรกันดาร ได้รับบริการ ด้านการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐานที่มคี ุณภาพ และเหมาะสมตรงตามความต้องการ สอดคล้องกบั บริบทของพ้ืนที่ ตัวช้วี ดั 1. ร้อยละของผู้เรียนท่มี ีพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความรักในสถาบนั หลักของชาติ ยึดมัน่ การปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมุข 2. ร้อยละของผู้เรียนที่มีพฤติกรรมท่ีแสดงออกถึงการมีทัศนคติท่ีดีต่อบ้านเมือง มีหลักคิด ที่ถูกต้อง เป็นพลเมืองดีของชาติ มีคุณธรรม จริยธรรม มีค่านิยมท่ีพึงประสงค์ มีคุณธรรม จริยธรรม มีจิตสาธารณะ มีจิตอาสา รับผิดชอบต่อครอบครัว ผู้อ่ืน และสังคมโดยรวม ซื่อสัตย์ สุจริต มัธยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอารี มีวินัย และรกั ษาศลี ธรรม
3. ร้อยละของผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ และมีความพร้อมสามารถรับมือกับภัยคุกคามทุกรูปแบบ ท่ีมีผลกระทบต่อความมั่นคง เช่น ภัยจากยาเสพติด ความรุนแรง การคุกคามในชีวิตและทรัพย์สิน การค้า มนุษย์อาชญากรรมไซเบอร์ และภยั พิบตั ติ า่ ง ๆ เปน็ ต้น 4. ร้อยละของผู้เรียนกลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มผู้ด้อยโอกาส และกลุ่มท่ีอยู่ในพ้ืนท่ีสูง ห่างไกล ทุรกันดาร ได้รับบริการด้านการศึกษาข้ันพ้ืนฐานที่มีคุณภาพ และเหมาะสมตรงตามความต้องการ สอดคล้อง กบั บรบิ ทของพน้ื ท่ี 5. จานวนสถานศึกษาที่น้อมนาพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวิชราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไปพัฒนาผเู้ รยี น ใหม้ คี ุณลักษณะอันพงึ ประสงคต์ ามท่ีกาหนดได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ 6. จานวนสถานศึกษาที่จัดบรรยากาศส่ิงแวดล้อม และจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เรียน แสดงออกถึงความรักในสถาบันหลักของชาติ ยดึ ม่นั การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข 7. ร้อยละของโรงเรียนวถิ ีพุทธที่ผ่านการประเมินผลการดาเนินการ 29 ประการ สู่ความเป็น โรงเรยี นวถิ พี ุทธ กลยทุ ธท์ ี่ 2 จดั การศกึ ษาเพื่อเพิ่มความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศ เป้าประสงค์ 1. ผ้เู รียนทกุ ระดับมที ักษะท่จี าเป็นในศตวรรษท่ี 21 2. ผูเ้ รยี นมีความเปน็ เลิศตามความถนัดและความสนใจ นาไปสูก่ ารพฒั นาทกั ษะวชิ าชพี 3. ผเู้ รยี นไดร้ บั โอกาสเขา้ สเู่ วทีการแข่งขนั ระดับนานาชาติ ตวั ชวี้ ดั 1. จานวนผ้เู รียนท่ีมีความเป็นเลิศทางดา้ นวชิ าการ มที ักษะความรู้ท่ีสอดคล้องกบั ทักษะทีจ่ าเป็น ในศตวรรษท่ี 21 2. ผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ผ่านการประเมินสมรรถนะท่ีจาเป็นด้านการรู้เรื่องการอ่าน (Reading Literacy) ด้านการรู้เร่ืองคณิตศาสตร์ (Mathematical Literacy) และด้านการรู้เร่ืองวิทยาศาสตร์ (Scientific Literacy) ตามแนวทางการประเมิน PISA 3. รอ้ ยละของผ้เู รยี นท่มี ศี ักยภาพ ได้รับโอกาสเขา้ สู่เวทีการแขง่ ขันระดบั นานาชาติ 4. รอ้ ยละของสถานศกึ ษาที่จดั การเรียนรู้ท่ใี ห้ผเู้ รียนได้เรียนร้ผู า่ นกิจกรรมการปฏิบัติจริง (Active Learning) 5. รอ้ ยละของสถานศกึ ษาท่ีมกี ารจดั การเรยี นรู้ใหผ้ เู้ รยี นในลักษณะของ STEM ศกึ ษา 6. ร้อยละของสถานศึกษาที่จัดการเรียนรู้ตามกระบวนการเรียนรู้บนั ได 5 ข้ัน (IS : Independent Study) 7. ร้อยละของสถานศึกษาทจ่ี ดั การเรียนรู้ และบรรยากาศสิง่ แวดลอ้ มทส่ี ่งเสริมสนับสนุนใหผ้ เู้ รียน ไดเ้ รียนรูแ้ ละฝึกทกั ษะดา้ นภาษาองั กฤษและภาษาท่ี 3 ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ
กลยทุ ธ์ที่ 3 พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรพั ยากรมนุษย์ เปา้ ประสงค์ 1. พัฒนางานตามหลักสูตรปฐมวัยและหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน เพ่ือให้ สอดคลอ้ งกบั แนวโนม้ การพฒั นาของประเทศ 2. ผู้เรียนได้รับการพัฒนาตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตร และมีทักษะความสามารถท่ีสอดคล้อง กับทักษะท่ีจาเป็นในศตวรรษที่ 21 มีความยืดหยุ่นทางด้านความคิด สามารถทางานร่วมกับผู้อื่นได้ ภายใต้สังคม ทเ่ี ปน็ พหุวฒั นธรรม รวมถงึ การวางพ้ืนฐานการเรยี นรเู้ พือ่ การวางแผนชวี ิตที่เหมาะสมในแตล่ ะชว่ งวัยและนาไป ปฏิบตั ไิ ด้ 3. ผูเ้ รยี นไดร้ บั การพัฒนาให้มีความรูแ้ ละทักษะนาไปสู่การพัฒนานวัตกรรม 4. ผู้เรียนได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ เช่อื มโยงสูอ่ าชีพและการมีงานทา มีทักษะอาชีพ ทสี่ อดคล้องกับความตอ้ งการของประเทศ 5. ผู้เรียนได้รับการพัฒนาให้มีศักยภาพในการจัดการสุขภาวะของตนเองให้มีสุขภาวะท่ีดี สามารถดารงชีวติ อย่างมคี วามสุขทั้งดา้ นร่างกายและจิตใจ 6. ครู เปลยี่ นบทบาทจาก “ครูผสู้ อน” เป็น “Coach” ผู้ให้คาปรกึ ษาขอ้ เสนอแนะการเรียนรู้ หรือผู้อานวยการการเรยี นรู้ 7. ครู มีความรู้ความสามารถในการจัดการเรียนการสอนและเป็นแบบอย่างด้านคุณธรรมและ จริยธรรม ตัวช้วี ดั 1. ผู้เรียนทุกระดับมีสมรรถนะสาคัญตามหลักสูตร มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 (3R8C) 2. ร้อยละของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 ท่ีมีคะแนนผลการทดสอบความสามารถพ้ืนฐาน ระดบั ชาติ (NT) ผา่ นเกณฑท์ ก่ี าหนด 3. ร้อยละของผู้เรียนท่ีมีคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) มากกว่าร้อยละ 50 ในแต่ละวชิ าเพม่ิ ข้นึ จากปีการศึกษาท่ีผา่ นมา 4. ร้อยละของผู้เรียนที่จบการศึกษาช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 และช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 มีทักษะ การเรียนรู้ ที่เช่ือมโยงสู่อาชีพและการมีงานทา ตามความถนัดและความต้องการของตนเอง มีทักษะอาชีพ ท่สี อดคลอ้ งกับความตอ้ งการของประเทศ วางแผนชวี ติ และวางแผนทางการเงินทเ่ี หมาะสมและนาไปปฏบิ ตั ิได้ 5. ผู้เรียนทุกคนมีทักษะพ้ืนฐานในการดารงชีวิต สามารถดารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสขุ มีความยืดหย่นุ ทางดา้ นความคดิ สามารถทางานร่วมกบั ผู้อ่นื ได้ ภายใตส้ งั คมที่เปน็ พหวุ ฒั นธรรม 6. ผู้เรียนทุกคนมีศักยภาพในการจัดการสุขภาวะของตนเองให้มีสุขภาวะที่ดี สามารถดารงชีวติ อย่างมคี วามสุขท้งั ด้านร่างกายและจติ ใจ 7. ครูท่ีมีการเปล่ียนบทบาทจาก “ผู้สอน” เป็น “Coach” ผู้ให้คาปรึกษาข้อเสนอแนะการเรียนรู้ หรอื ผูอ้ านวยการการเรยี นรู้ 8. สานกั งานเขตพื้นที่การศึกษา มรี ะบบการติดตามและตรวจสอบคุณภาพการศึกษาตามระบบ การประกนั คณุ ภาพ 9. รอ้ ยละของสถานศกึ ษาท่ีมีผลการประเมินภายนอกในระดับดีขน้ึ ไป 10. สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มีการยกย่องเชิดชูเกียรติครูและบุคลากรทางการศึกษา สคู่ วามเป็นมืออาชีพ
กลยทุ ธ์ท่ี 4 สรา้ งโอกาสในการเขา้ ถงึ บรกิ ารการศกึ ษาทีม่ คี ุณภาพ มมี าตรฐานและลดความเหลอ่ื มล้า ทางการศึกษา เปา้ ประสงค์ 1. สถานศึกษาจัดการศึกษาเพ่ือให้บรรลุเป้าหมายโลกเพ่ือการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Global Goals for Sustainable Development) 2. สถานศึกษากบั องคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และหนว่ ยงานที่เกย่ี วข้องในระดับพื้นที่ รว่ มมือในการจัดการศกึ ษา 3. สถานศกึ ษามีคณุ ภาพ และมมี าตรฐานตามบริบทของพื้นที่ 4. งบประมาณและทรัพยากรทางการศึกษามีเพียงพอและเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพ ขอ้ เทจ็ จริง โดยคานงึ ถึงความจาเปน็ ตามสภาพพ้นื ทีภ่ ูมศิ าสตร์ สภาพทางเศรษฐกิจ และทต่ี งั้ ของสถานศึกษา 5. งบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย และงบลงทุนแก่สถานศึกษาเหมาะสม เพื่อให้สถานศึกษา บรหิ ารงาน จดั การศกึ ษาอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 6. พัฒนาระบบการติดตาม สนับสนุนและประเมินผล เพ่ือสร้างหลักประกันสิทธิการได้รับ การศกึ ษา ทีม่ คี ุณภาพ 7. โรงเรียนขนาดเล็ก ได้รับการสนบั สนุนช่วยเหลือ สามารถบริหารจัดการโรงเรียนได้อย่างมี คณุ ภาพ ตัวช้ีวดั 1. ประชากรวัยเรียนทุกคนได้รับสิทธิและโอกาสทางการศึกษาข้ันพ้ืนฐานเท่าเทียมกัน ศึกษาต่อ ในระดับทีส่ ูงขน้ึ หรอื มคี วามรู้ ทกั ษะพื้นฐานในการประกอบอาชพี 2. ผู้เรียนทุกคนได้รับการจัดสรรงบประมาณอุดหนุนอย่างเพียงพอ และเหมาะสม สอดคล้องกับ สภาพข้อเท็จจริง โดยคานึงถึงความจาเป็นตามสภาพพ้ืนที่ภูมิศาสตร์ สภาพทางเศรษฐกิจ และที่ตั้งของ สถานศกึ ษา และความตอ้ งการจาเป็นพิเศษสาหรบั ผ้พู กิ าร 3. สถานศึกษามีระบบการดูแลช่วยเหลือและคุ้มครองนักเรียนและการแนะแนวที่มี ประสทิ ธิภาพ 4. สถานศึกษามีระบบข้อมูลประชากรวัยเรียนและสามารถนามาใช้ในการวางแผนจัดการ เรยี นรู้ใหแ้ กผ่ ้เู รียนได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ 5. สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา มีการส่งเสริม สนับสนุน การมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ข้ันพื้นฐานของบุคคล ครอบครัว เอกชน องค์กร ชุมชน องค์กรเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนาสถานประกอบการและสถาบันสังคมอ่นื 6. รอ้ ยละของผูเ้ รียน มี ID Plan และ Portfolio เพ่ือการศกึ ษาต่อและการประกอบอาชีพ 7. ร้อยละของโรงเรียนขนาดเล็ก ท่ีได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือ สามารถบริหารจัดการโรงเรียน ได้อย่างมคี ณุ ภาพ กลยทุ ธท์ ี่ 5 จดั การศึกษาเพือ่ พฒั นาคุณภาพชีวติ ที่เป็นมิตรกบั สงิ่ แวดลอ้ ม เป้าประสงค์ 1. สถานศึกษา นักเรียน ได้รับการส่งเสริมด้านความรู้ การสร้างจิตสานึกด้านการผลิตและบริโภค ท่ีเปน็ มิตรกบั ส่งิ แวดล้อม 2. สถานศึกษาสามารถนาเทคโนโลยีมาจัดทาระบบสารสนเทศการเก็บข้อมูลด้านความรู้ เรือ่ งฉลากสเี ขยี วเพื่อสง่ิ แวดล้อม ฯลฯ และสามารถนามาประยุกต์ใช้ในทุกสถานศึกษาตามแนวทาง Thailand 4.0 3. สถานศึกษามีการจดั ทานโยบายจัดซือ้ จดั จา้ งที่เป็นมติ รกับสง่ิ แวดล้อม 4. สถานศึกษามีการบูรณาการหลกั สตู ร กจิ กรรมเร่อื งวงจรชีวิตของผลิตภณั ฑ์การผลิตและบริโภค สกู่ ารลดปรมิ าณคารบ์ อนในโรงเรียนคารบ์ อนต่าสูช่ ุมชนคาร์บอนตา่
5. สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา และสถานศึกษา มีการปรับปรุงและพัฒนาเป็นหน่วยงาน ต้นแบบสานักงานสีเขียว (GREEN OFFICE) เพ่ือให้มีบริบทที่เป็นแบบอย่าง เอื้อหรือสนับสนุนการเรียนรู้ของ นักเรียนและชมุ ชน 6. สถานศึกษา ส่งเสริมความร้แู ละสร้างจติ สานึกและจัดการเรียนรู้การผลติ และบริโภคท่ีเป็นมิตร กับส่ิงแวดล้อม 7. สถานศึกษาต้นแบบนาขยะมาใช้ประโยชน์เพื่อลดปริมาณขยะ 8. มีสถานศึกษานวัตกรรมต้นแบบในการนา 3RS มาประยุกต์ใช้ในการผลิตและบริโภคท่ีเป็นมิตร กับส่ิงแวดลอ้ ม ตวั ชว้ี ดั 1. สถานศึกษาจัดกิจกรรมให้ความรู้ที่ถูกต้องและสร้างจิตสานึกด้านการผลิตและบริโภค ท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม นาไปปฏิบัติใช้ที่บ้านและชุมชน เช่น การส่งเสริมอาชีพที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การลดใชส้ ารเคมจี ากป๋ยุ และยาฆ่าแมลง ฯลฯ 2. สถานศึกษามีการนาขยะมาใช้ประโยชน์ในรูปผลิตภัณฑ์และพลังงานเพื่อลดปริมาณขยะ และส่งเสรมิ การคดั แยกขยะในชมุ ชนเพอ่ื ลดปรมิ าณคารบ์ อนท่โี รงเรยี นและชุมชน 3. สถานศึกษามีการบูรณาการเร่ืองการจัดการขยะแบบมีส่วนร่วมและการนาขยะมาใช้ประโยชน์ รวมทงั้ สอดแทรกในสารถการเรียนร้ทู ่เี กยี่ วขอ้ ง 4. นักเรียนเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ มีการขยายผลแหล่งเรียนรู้ นักเรียน โรงเรียน ชุมชน เรียนรู้ด้านการลดใช้พลังงาน การจัดการขยะและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพ่ือเป็นแหล่งเรียนรู้และตัวอย่างรูปแบบ ผลิตภัณฑ์ท่ีเป็นมติ รกบั ส่งิ แวดล้อม 5. นักเรียนและสถานศึกษามีการเก็บข้อมูลเปรียบเทียบการลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ ในการดาเนินกิจกรรมประจาวันในสถานศึกษาและท่ีบ้าน และข้อมูลของ Carbon Footprint ในรูปแบบ QR CODE และ Paper less 6. ครูมีความคิดสร้างสรรค์ สามารถพัฒนาสื่อ นวัตกรรมด้านการสรา้ งจิตสานึกด้านการผลิตและ บรโิ ภค ทีเ่ ปน็ มิตรกับส่ิงแวดล้อมได้ 7. ครูและนักเรียนสามารถนาส่ือนวัตกรรมท่ีผ่านกระบวนการคิด มาประยุกต์ใช้ในโรงเรียน การจดั การเรยี นรู้ และประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวันและชมุ ชนไดต้ ามแนวทาง Thailand 4.0 8. สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาและสถานศึกษามีการปรับปรุงและพัฒนาบุคลากรและสถานท่ี ให้เป็นสานักงานสีเขียวต้นแบบ มีนโยบายการจัดซ้ือจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่เอ้ือต่อการเรียนรู้ของ นกั เรยี นและชุมชน กลยุทธท์ ี่ 6 พฒั นาระบบการบริหารจดั การศึกษา เป้าประสงค์ 1. สถานศึกษาหรือกลุ่มสถานศึกษา มีความเป็นอิสระในการบริหารและจัดการศึกษา ครอบคลุม ดา้ นการบรหิ ารวชิ าการ ด้านการบริหารงบประมาณ ดา้ นการบริหารงานบุคคล และดา้ นการบริหารงานทั่วไป 2. สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ปรบั เปลีย่ นเป็นหน่วยงานท่ีมคี วามทนั สมัย พรอ้ มปรับตัวให้ ทันต่อการเปล่ียนแปลงของโลกอยู่ตลอดเวลา เป็นหน่วยงานท่ีมีหน้าท่ีสนับสนุน ส่งเสริม ตรวจสอบ ติดตาม เพอ่ื ให้สถานศึกษา สามารถจัดการศกึ ษาไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 3. สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาและสถานศึกษา มีความโปร่งใส ปลอดการทุจริตและ ประพฤติมิชอบ บรหิ ารจดั การตามหลกั ธรรมาภบิ าล 4. สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา มีกระบวนการและวิธีการงบประมาณ ดา้ นการศกึ ษา เพ่ือเพิ่มคณุ ภาพและประสทิ ธภิ าพการจัดการศึกษา โดยการจดั สรรงบประมาณตรงสู่ผ้เู รียน
ตวั ชว้ี ัด 1. สถานศกึ ษาไดร้ บั การกระจายอานาจการบริหารจัดการศึกษาอยา่ งเปน็ อสิ ระ 2. สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา ได้รับการพัฒนาให้เป็นหน่วยงานท่ีมีความทันสมัย ยืดหยุ่น คล่องตัวสูง พร้อมที่จะปรับตัวให้ทันต่อการเปล่ียนแปลงของโลกอยู่ตลอดเวลา เป็นหน่วยงานท่ีมีหน้าที่สนับสนุน ส่งเสริม ตรวจสอบ ติดตาม เพอ่ื ใหส้ ถานศึกษาสามารถจดั การศึกษาได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ครอบคลุมทกุ ตาบล 3. สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาทุกแห่ง มีความโปร่งใส ปลอดการทุจริตและ ประพฤตมิ ิชอบ บรหิ ารจัดการตามหลกั ธรรมาภบิ าล 4. สานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาและสถานศึกษา ผา่ นการประเมินคณุ ธรรมและความโปร่งใส ในการดาเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity & Transparency Assessment : ITA) 5. สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มีการติดตาม ตรวจสอบประเมินผล และนิเทศการจัด การศกึ ษาทีม่ ีประสทิ ธภิ าพ ตามภารกจิ หลัก 4 ดา้ น และการนานโยบายสกู่ ารปฏบิ ตั ิ 6. สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา ใช้แผนเป็นเครื่องมือในการบริหารและจัดการศึกษา และ มีการวางแผนการใช้งบประมาณอย่างเปน็ ระบบ 7. สานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาและสถานศึกษา ใช้กระบวนการจัดการความรู้ (Knowledge Management : KM) และการสร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) และนาองคค์ วามรมู้ าพัฒนาตนเอง พัฒนางานและพัฒนาองคก์ ารโดยใช้กระบวนการวจิ ัย กลยทุ ธ์ท่ี 7 พัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจทิ ลั (Digital Technology) มาใชใ้ นการบรหิ ารจดั การศกึ ษา เปา้ ประสงค์ 1. สานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาและสถานศึกษา นาเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั (Digital Technology) มาเปน็ เครื่องมือให้ผ้เู รียนได้มีโอกาสเขา้ ถึงบรกิ ารดา้ นการศึกษาไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ 2. สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology) มาใช้ในการเพ่มิ ประสทิ ธิภาพการบริหารและการจัดการเรยี นการสอนอยา่ งเป็นระบบ 3. สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา ใช้และพัฒนาเครือข่ายครูและบุคลากรด้าน นวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจทิ ัล (Digital Technology) ในการสร้างระบบและเพ่ิมประสิทธภิ าพการบริหารจัด การศกึ ษา ตวั ช้วี ดั 1. ผู้เรียนได้รับการสนับสนุน วัสดุ อุปกรณ์ และอุปกรณ์ดิจิทัล (Digital Device) เพื่อใช้เป็น เครอื่ งมอื ในการเรียนรอู้ ย่างเหมาะสม เพยี งพอ 2. ครูได้รับการสนับสนุน วัสดุ อุปกรณ์ และอุปกรณ์ดิจิทัล (Digital Device) เพื่อใช้เป็น เครือ่ งมอื ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ใหแ้ กผ่ ู้เรียน 3. สถานศึกษาได้รับการพัฒนาให้มีมาตรฐานอย่างเหมาะสมตามบริบท ด้านประเภทขนาด และพน้ื ท่ี 4. สถานศึกษานาเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology) มาใช้เป็นเครื่องมือในการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ให้แกผ่ เู้ รียนได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ 5. สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาและสถานศึกษา นานวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology) มาใช้ในการบริหารจดั การและตัดสนิ ใจ 6. สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาและสถานศึกษาทุกแห่ง มีระบบฐานข้อมูลสารสนเทศ วิชาการ ผเู้ รยี น ครู บุคลากรทางการศึกษา สถานศกึ ษา หน่วยงานในสงั กัด 7. สถานศึกษาทุกแห่งมีข้อมูลผู้เรียนรายบุคคลที่สามารถเช่ือมโยงกับข้อมูลต่าง ๆ นาไปสู่ การวิเคราะห์ เพ่ือวางแผนการจดั การเรยี นรสู้ ผู่ ูเ้ รยี นได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ (Big Data Technology)
8. สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาทุกแห่ง มีแพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Platform) เพ่ือสนบั สนุนภารกิจด้านบรหิ ารจัดการศึกษา 9. สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา มีข้อมูลสารสนเทศท่ีเป็นระบบ ความม่ันคงปลอดภัยใน cyber มีการประชาสัมพันธ์ ลดข้ันตอนและระยะเวลาการให้บริการ ผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มีความพึงพอใจ ในการบรหิ ารและจดั การศึกษา รวมท้งั การให้บริการ 10. สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาและสถานศึกษา มีเครือข่ายครูและบุคลากรด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยดี จิ ิทลั (Digital Technology) ในการสรา้ งระบบและเพ่มิ ประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษา
ส่วนท่ี 4 โครงการ/กจิ กรรม
ภาคผนวก
คณะผ้จู ัดทา 1. นายธรี ศกั ดิ์ สืบสุตนิ ผู้อานวยการกลุ่มนโยบายและแผน 2. น.ส.สวุ ารณิ ี โยยานะ นกั วเิ คราะหน์ โยบายและแผนชานาญการพเิ ศษ 3. นางเกษรา สิรชิ ทู รัพย์ นักวเิ คราะหน์ โยบายและแผนชานาญการพิเศษ 4. น.ส.สดุ ากานต์ ไชยรุง่ เรอื ง นกั วเิ คราะห์นโยบายและแผนปฏบิ ัติการ 5. นายนพดล ด้วงธวิ งศ์ นกั วเิ คราะห์นโยบายและแผนปฏิบัตกิ าร 6. น.ส.เสาวรีย์ ศรีจันทร์ เจ้าพนักงานธรุ การปฏบิ ัติงาน 7. นางภาณิณี ใจธรรม เจ้าหน้าที่ธุรการ 8. นายอิสระ ดีมาก เจ้าหน้าทโ่ี สตทศั นูปกรณ์ ***********************************
กลยทุ ธ์ที่ 1 จดั การศึกษาเพอ่ื ความม่นั คงของมนษุ ยแ์ ละของชาติ
โครงการ น้อมนาพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรชั กาลที่ 10 สกู่ ารปฏิบตั ิ หนว่ ยงานรับผดิ ชอบโครงการ กลมุ่ สง่ เสรมิ การจดั การศึกษา สานกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาลาปาง เขต 3 ผู้รบั ผดิ ชอบโครงการ นายชนนิ ทร์ บญุ มี , นางขวัญใจ ชะเอม , น.ส.เกศสดุ า ศรีใจ และ น.ส.พลอยชมพู วงศ์อินทร์ ลกั ษณะโครงการ ( ) ใหม่ ( / ) ต่อเนื่อง ระยะเวลาดาเนินการ ธนั วาคม 2562 – กันยายน 2563 สอดคล้องกับนโยบาย สพฐ. นโยบายที่ 1 ด้านการจดั การศึกษาเพื่อความม่ันคงของมนุษยแ์ ละของชาติ สอดคล้องกับกลยทุ ธ์ สพป. กลยทุ ธท์ ่ี 1 จัดการศึกษาเพ่ือความมน่ั คงของมนษุ ยแ์ ละชาติ 1. หลักการและเหตผุ ล สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงตอบรับเป็นพระมหากษัตริย์ เม่ือวันท่ี 1 ธันวาคม 2559 ความว่า “เพื่อสืบสานพระราชปณิธาน และเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทยท้ังปวง” กอปรกบั พระราชปณิธานด้านการศึกษาของพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร คือการสร้างคนดี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงทรงมีพระราโชบาย เพื่อสืบสานพระราชปณิธานแห่งองค์พระบรมชนกนาถ ในการสร้างคนดีให้แก่บ้านเมือง โดยทรงมุ่งให้การศึกษาต้องสร้างพื้นฐานแก่นักเรียน 4 ด้าน ประกอบด้วย (1) การมีทัศนคตทิ ถ่ี กู ต้องตอ่ บา้ นเมือง (2) การมีพ้ืนฐานชีวติ ทม่ี ั่นคง มคี ุณธรรม (3) การมงี านทา-มอี าชพี และ (4) การเป็นพลเมืองดี ดังนั้น เนื่องในวโรกาสท่ีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จเถลิงถวัลย์สิริราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาลาปาง เขต 3 จึงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตน้อมนา พระราโชบายดา้ นการศึกษา มาเป็นหลักชยั ในการสรา้ งนักเรียนเปน็ คนดแี ละพฒั นาให้เป็นคนเกง่ สู่การปฏิบัติ ตามรอยพระยคุ ลบาท อยา่ งเป็นรปู ธรรม จิตอาสา คือผู้ที่มีจิตใจเป็นผู้ให้อาจจะเป็นการให้ส่ิงของให้ความช่วยเหลือด้วยกาลังแรงกาย แรงสมอง ซึง่ เปน็ การเสยี สละ สิ่งท่ตี นเองมีแม้มี แมก้ ระทัง่ เวลาเพื่อเอื้อเฟื้อเผ่ือแผใ่ หแ้ ก่สว่ นรวม งานจติ อาสา เป็นอีกชอ่ งทางหนง่ึ ในการพัฒนายกระดับจิตใจใหเ้ ยาวชนคนรุ่นใหม่ให้มีความเข้าใจเอ้ือเอ้ือเฟอื้ เผ่ือแผ่ หันมา ทากิจกรรมเพื่อสังคมมากข้ึน เพราะงานจิตอาสาเป็นท่ีท่ีเยาวชนได้หันมาทาความเข้าใจในตนเองและสังคม เพ่ิมมากข้ึน ในปัจจุบันปัญหาสังคมเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นท้ังทางครอบครัว ชุมชนและสังคม หากไม่รีบ แก้ไขให้ทันท่วงที สังคมจะตกอยู่ภายใต้ความสับสนวุ่นวาย ซ่ึงไม่ใช่เรื่องดีนัก แต่การสร้างจิตสาธารณะ ให้เกิดขึ้นในหมู่เยาวชนได้มากเท่าไร สังคมแห่งการแบ่งปันเอ้ืออาทรก็ย่ิงมีมากข้ึน เท่าน้ัน นอกจากจะช่วยให้ เยาวชนเหลา่ น้ไี ดป้ ลดปลอ่ ยพลงั ที่มใี นตนเองแล้ว ยงั เปน็ การสร้างคุณลกั ษณะใหม้ ีผลดตี ่อสังคมอีกด้วย สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา ลาปาง เขต 3 ตระหนักในเรื่องการมีจิตอาสา จึงจัดทากิจกรรมจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดาริ หลกั สูตรจติ อาสา 904 หลักสตู รพ้นื ฐาน ซึ่งเปน็ กจิ กรรมเสรมิ สร้างคุณธรรม การมจี ิตอาสาในสถานศึกษา และ กาหนดให้โรงเรียนในสังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาลาปาง เขต 3 พัฒนายกระดับจิตใจ ให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ให้มีความเข้าใจเอื้อเอ้ือเฟ้ือเผื่อแผ่ หันมาทากิจกรรมเพื่อสังคมมากข้ึน เพราะงานจิตอาสา เป็นท่ีท่เี ยาวชนไดห้ ันมาทาความเขา้ ใจในตนเองและสงั คมเพ่ิมมากข้ึน
2. วตั ถุประสงค์ 2.1 เพ่ือส่งเสริมให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อบ้านเมือง มีโอกาสทาหน้าท่ีเป็นพลเมืองดี และ มีพ้นื ฐานชวี ติ ท่มี นั่ คงและมีคุณธรรม 2.2 เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้นักเรียนมีทักษะชีวิต ทักษะการเรียนรู้ทักษะทางสังคม ทักษะ อาชพี และความรู้เท่าที่จาเปน็ เสริมสร้างใหน้ ักเรียนรบั รู้และค้นพบความสามารถของตนเองด้านการประกอบ อาชีพใหน้ กั เรยี นมีพืน้ ฐานชวี ิตทมี่ ั่งคง 2.3 เพื่อสร้างจิตสานึกในด้านจิตสาธารณะหรือจิตอาสาให้แก่นักเรียนและฝึกกิจกรรม จิตสาธารณะอย่างต่อเนื่อง และมีพฤติกรรมจิตสาธารณะหรือจิตอาสาอย่างถาวร มพี ื้นฐานในการอยูร่ ่วมกบั สังคม อย่างเปน็ สุขตามหลักธรรมาภิบาล 3. เปา้ หมาย 3.1 เชิงปริมาณ (1) โรงเรียนในสังกัดทุกโรงเรียนน้อมนาพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวง รชั กาลท่ี 10 สู่การปฏิบตั ิ . (2) ผูเ้ รียนทุกช่วงวยั มคี วามรกั สถาบนั หลักของชาติ และยึดม่นั การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย อนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมขุ (3) ผูเ้ รียนรบั รู้ขดี ความสามารถของตนเพ่ือเป็นแนวทางในการประกอบอาชพี (4) ข้าราชการ ลูกจ้าง ในสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ผู้บริหารครูและนักเรียนในสังกัด สานกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาลาปาง เขต 3 3.2 เชิงคุณภาพ ข้าราชการ ลูกจ้าง ในสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ผู้บริหารครูและนักเรียนในพ้ืนที่ รับผิดชอบสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลาปาง เขต 3 มีความรู้ความเข้าใจพระราโชบาย ด้านการศึกษา ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว สู่การปฏิบัติ และปลุกจิตสานึกความรักชาติ ศาสนา และเทิดทูนพระมหากษัตริย์ ในพื้นท่ีรับผิดชอบ อยา่ งเป็นรปู ธรรม 4. วิธีการดาเนนิ งาน ที่ กจิ กรรม/ข้ันตอนการดาเนนิ งาน ระยะเวลาดาเนนิ งาน ผรู้ ับผิดชอบ 1 กิจกรรมที่ 1 ฝึกอบรมผูบ้ ังคบั บญั ชาลกู เสือ ธ.ค. 2562 – ส.ค. 2563 นางขวญั ใจ ชะเอม ทกั ษะชีวิต น.ส.พลอยชมพู วงศอ์ ินทร์ ขัน้ ตอนการดาเนนิ งาน 1. แจ้งประชาสัมพันธ์ใหท้ ุกโรงเรยี น ส่งผู้บังคบั บัญชาลูกเสือเข้ารบั การฝึกอบรม ลูกเสอื ทักษะชวี ติ 2. ประชมุ คณะกรรมการดาเนนิ งาน 3. ดาเนินการฝกึ อบรมตามหลักสตู ร 2 วัน 1 คืน 4. ดาเนนิ การตดิ ตามและประเมินผล 5. สรปุ รายงานผล
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118