7. กจิ กรรมการเรยี นการสอน (ใช้รปู แบบการจดั การเรียนการสอนแบบ 5Es) 1.ขั้นสร้างความสนใจ (engagement) 1. ครนู าบัตรภาพส่งิ ประดิษฐ์จากวัสดเุ หลือใช้มาใหน้ ักเรยี นดู จากน้นั ครูต้ังประเดน็ คาถาม กระตนุ้ ความสนใจนักเรยี นวา่ - สิง่ เหลา่ นเี้ รยี กว่าอะไร ทามาจากวสั ดุอะไรบ้าง นามาใช้ประโยชน์ในดา้ นใดบา้ ง - เราสามารถนาวสั ดุท่ีใชแ้ ล้วกลับมาใชใ้ หม่ได้อยา่ งไรบา้ ง 2. ขั้นสารวจค้นหา (exploration) 1. ครูจัดเตรยี มวสั ดุ-อุปกรณ์ที่จะใชใ้ นการทากิจกรรมที่ 1 “การนาวสั ดุท่ใี ช้แล้วกลับมาใช้ใหม่” - ถุงพลาสตกิ ใส 1 ถงุ - กระดาษหนังสือพมิ พ์เกา่ 1 ฉบบั - เศษผ้าเก่า 1 ผืน - ขวดพลาสติก 1 ขวด 2. ครูใหน้ กั เรียนแบง่ กล่มุ กลุ่มละ 5-6 คน แล้วมารับอปุ กรณ์ที่ครูเตรียมให้ นกั เรยี นแต่ละกล่มุ ชว่ ยกันระดมความคิดว่า “เราสามารถนาวสั ดุทใี่ ช้แล้วเหล่าน้ี กลับมาใช้ใหม่แล้วชว่ ยกันบันทึกผลลง ในใบงานกิจกรรมท่ี 1 “การนาวัสดทุ ี่ใชแ้ ล้วกลับมาใช้ใหม่”จากนนั้ ให้แต่ละกลุม่ เลือกวัสดุมากลมุ่ ละ 1 อย่าง แล้วชว่ ยกันออกแบบว่า จะนาวสั ดทุ ใ่ี ชแ้ ล้วกลบั มาใช้ใหม่ไดอ้ ย่างไร ตัวอย่าง เช่น ประดิษฐ์ พเู่ ชยี ร์กฬี าจากถุงพลาสตกิ สานหมวกจากกลอ่ งนม โดยใหอ้ อกแบบลงในกระดาษท่คี รแู จกให้ 3. ครคู อยสงั เกตและให้คาแนะนาการทางานของแต่ละกลมุ่ จากน้ันครูย้าเตอื นนกั เรยี นก่อนหมด เวลาว่า ให้นกั เรียนนาผลงานทีอ่ อกแบบไวม้ าประดิษฐ์ หรอื สร้างเปน็ ชนิ้ งานในช่ัวโมงต่อไป 3. ขน้ั อธิบายความรแู้ ละลงขอ้ สรปุ (explanation) 1. ครนู ารปู ตวั อยา่ งชิน้ งานประดษิ ฐ์แบบต่าง ๆ ท่ีทาจากวัสดุท่ีหลากหลาย มาให้นักเรียนดู ตวั อย่าง ชนิ้ งานประดษิ ฐ์ เช่น งานประดษิ ฐ์จากกระดาษ งานประดิษฐจ์ ากเศษไม้ งานประดษิ ฐ์จากผ้า เป็นตน้ 2. นักเรียนแบ่งกลมุ่ (กลมุ่ เดิม) จากชว่ั โมงที่ผ่านมา โดยใหแ้ ต่ละกลมุ่ เตรียมความพร้อม และนาผลงานการออกแบบไว้จากชั่วโมงท่ีแล้ว มาประดษิ ฐห์ รือสร้างชิ้นงานตามที่แต่ละกลมุ่ ออกแบบไว้ 3. เมอื่ ทกุ กลุม่ ประดษิ ฐ์ชิ้นงานเสร็จ ครูสมุ่ จับสลากเลือกนักเรียนทีละกลมุ่ จากน้ันให้นกั เรียนแตล่ ะ กลุม่ นาช้นิ งานท่ปี ระดิษฐ์ โดยการออกแบบของแต่ละกล่มุ ออกมานาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น พรอ้ มทั้ง บอกประโยชน์จากการนาวสั ดทุ ีใ่ ชแ้ ลว้ กลับมาใช้ใหม่ (หมายเหตุ : ครูเรม่ิ ประเมินนักเรียน โดยใชแ้ บบประเมินการนาเสนอผลงาน) 4. เมอ่ื ทุกกลมุ่ นาเสนอช้ินงานเสร็จ ครใู ห้แตล่ ะกล่มุ นาชน้ิ งานมาจัดแสดงไวห้ น้าช้นั เรียน ใหเ้ พื่อน ๆ ไดช้ ืน่ ชมผลงาน และรว่ มกันอภปิ รายเสนอแนะขอ้ บกพร่อง 4. ขนั้ ขยายความเขา้ ใจ (elaboration) 1. ใหน้ ักเรียนแต่ละคนสรุปประโยชนจ์ ากการนาวสั ดุท่ีใชแ้ ลว้ กลบั มาใชใ้ หม่”ทาเปน็ แผนทค่ี วามคิด สรุปลงสมดุ
5.ข้นั สรปุ ผล (evaluation) ครูและนกั เรยี นอภปิ รายรว่ มกนั สรปุ ความร้เู ร่อื ง การนาวัสดทุ ีใ่ ช้แล้วกลับมาใชใ้ หม่ กค็ อื การนาวสั ดุท่ี เหลอื ใชก้ ลบั มาปรับเปล่ยี นรปู แบบ หรือพัฒนารปู รา่ งใหม่ ให้สามารถนาใช้ประโยชน์ในรูปแบบอน่ื ๆ เชน่ ของเลน่ ของใช้ เพือ่ เป็นการลดปริมานขยะที่มีอยู่ เป็นการใช้ทรัพยากรอยา่ งค้มุ คา่ ทัง้ ยงั เปน็ ช่วย อนุรักษส์ ่งิ แวดล้อมไดด้ ว้ ย ฯลฯ 6. การวดั และประเมินผล รายการวัด วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมิน - รอ้ ยละ 70 ผ่านเกณฑ์ 1) ผลการปฏิบัติ - ใบงานกิจกรรมที่ 1 การนาวัสดทุ ่ีใช้แล้ว กจิ กรรมท่ี 1 - ใบงานกจิ กรรมท่ี 1 กลับมาใช้ใหม่ การนาวสั ดทุ ใี่ ช้แลว้ การนาวสั ดุท่ีใชแ้ ล้ว กลบั มาใชใ้ หม่ กลับมาใช้ใหม่ 2) การนาเสนอ - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมินการ - ระดบั คุณภาพ 2 ผลงาน/ผลการ ผลงาน/ผลการปฏบิ ัติ นาเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์ ปฏิบัติกจิ กรรม กจิ กรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคณุ ภาพ 2 3) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม การทางานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์ ทางานกลุม่ การทางานกลุ่ม 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 วัสดรุ อบตัวเรา 2) วสั ดุ-อปุ กรณ์ทีใ่ ชใ้ นกจิ กรรมท่ี 1 การนาวัสดทุ ี่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ 3) บัตรภาพสิง่ ประดิษฐ์จากวสั ดุเหลือใช้ 4) ใบงานกิจกรรมที่ 1 เรื่องการนาวัสดุทใี่ ชแ้ ล้วกลบั นามาใช้ใหม่ 5) สมุดประจาตวั
กิจกรรมที่ 1 การนาวัสดทุ ่ีใช้แล้วนากลับมาใช้ใหม่ รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ (ว12101) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2563 ตอนที่ 1 ให้นักเรียนสงั เกตวสั ดทุ ่ไี ด้รับ แล้วชว่ ยกันระดมความคิดวา่ วัสดใุ ดบา้ งที่สามารถนากลับมาใช้ใหม่ บันทกึ ขอ้ ความลงในตารางให้ถกู ต้อง วสั ดุ ไดแ้ ก่ 1. ถงุ พลาสตกิ 2.เศษผ้าเกา่ 3.กระดาษหนงั สอื พมิ พ์เกา่ 4.ขวดพลาสติก การตง้ั คาถาม : วัสดชุ นิดใดบ้างท่ีใช้แล้วสามารถนากลบั มาใช้ใหม่ได้ คาดคะเนคาตอบ …………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………….. ตาราง บนั ทกึ แนวคดิ ในการนาวสั ดุที่ใชแ้ ลว้ กลบั มาใชใ้ หม่ วัสดุทใ่ี ชแ้ ลว้ แนวคิดการนากลับมาใชใ้ หม่ 1.ถงุ พลาสติก ……………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………….. 2. เศษผ้าเกา่ ……………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………….. 3. กระดาษ ……………………………………………………………………….. หนงั สือพมิ พเ์ ก่า ……………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………….. 4.ขวดพลาสติก ……………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………..
ออกแบบสิง่ ประดษิ ฐ์จากวัสดทุ ี่ใชแ้ ลว้ นากลับมาใชใ้ หม่ ตอนท่ี 2 ให้นักเรียนออกแบบส่ิงประดษิ ฐ์ จากวัสดุท่ใี ชแ้ ล้วนากลับมาใช้ใหม่ สิง่ ของทป่ี ระดิษฐ์ ช่อื วา่ ………………………………………………… (วาดภาพสิง่ ประดษิ ฐ์ ) อปุ กรณท์ ใี่ ช้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
วิธกี ารประดิษฐ์ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… การนามาใช้ประโยชน์ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สรปุ ผล จากกิจกรรมพบว่า วัสดทุ ี่ใช้แล้วบางชนิดสามารถนากลบั มาใช้ใหมไ่ ด้ ไดแ้ ก่ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. การนากลับมาใช้ใหม่ ทาโดย ……………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ดังนั้น จึงสรปุ ไดว้ า่ …………………………………………………………………………………………………………….……………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. โดยผลการทากจิ กรรมนี้ …………………….. ตาคาตอบท่คี าดคะเนไว้ ชือ่ กล่มุ …………………………………………………. ชน้ั ป.2/……….. สมาชิกในกลุ่ม 1. …………………………………………………… 2. …………………………………………………………….. 3. ……………………………………………………. 4. …………………………………………………………….. 5. …………………………………………………….. 6. ……………………………………………………………..
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม กลุ่มที่ ............ ช้นั ..............ภาคเรยี นที่...........ปกี ารศกึ ษา.............. คาช้แี จง การบันทกึ ใส่เครื่องหมาย ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั พฤติกรรมทเ่ี กดิ ข้นึ จรงิ ระดบั การปฏิบัติ ท่ี พฤตกิ รรม เป็นประจา บางครงั้ น้อยครง้ั ไม่ทาเลย (0) (3) (2) (1) 1 มคี วามรบั ผดิ ชอบในหน้าทกี่ ารงาน 2 ตง้ั ใจและเอาใจใสต่ ่อการปฏบิ ัตหิ น้าท่ีท่ี ไดร้ ับมอบหมาย 3 ทางานด้วยความเพียรพยายาม 4 รู้จกั แกป้ ญั หาในการทางานเม่ือมี อปุ สรรค 5 อดทนเพ่อื ให้งานสาเร็จตามเป้าหมาย 6 ปรับปรุงและพฒั นาการทางานใหด้ ีข้ึน ด้วยตนเอง ผูป้ ระเมนิ ลงชื่อ.....................................................ผ้ปู ระเมิน (...................................................) เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ เกณฑ์การตัดสิน ดเี ยย่ี ม ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 15-18 คะแนน และไมม่ ีผลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่ึงตา่ กว่า 2 คะแนน ดี ได้คะแนนรวมระหว่าง 11 – 14 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่ึงต่ากว่า 0 คะแนน พอใช้ ได้คะแนนรวมระหว่าง 6 - 10 คะแนน และไมม่ ีผลการประเมิน ข้อใดขอ้ หนึ่งต่ากวา่ 0 คะแนน ปรับปรุง ได้คะแนนรวมระหว่าง 0 - 5 คะแนน
ความเห็นและบันทกึ หลงั การสอน แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่.……...หน่วยการเรียนรทู้ ่ี..…….สอนวนั ท่ี………………………………เวลา 2 ชว่ั โมง ความเหน็ และขอ้ เสนอแนะของผ้บู ริหาร/ผทู้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย • เหมาะสม ใชส้ อนได้ • ควรปรบั ปรงุ ในเร่ือง................................................................................................................ ลงชื่อ.................................................................. (นางอชั ลยี ์ บวั ทรง) หัวหนา้ สายชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 วนั ที่.......เดอื น........................พ.ศ. .......... บนั ทึกหลังสอน ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. นกั เรียนเกดิ ทักษะใดบ้าง ทาเคร่ืองหมาย ในช่องว่างทีต่ รงกบั สิง่ ทท่ี าได้ การสังเกต การวัด การใชจ้ านวน การจาแนกประเภท การหาความสมั พันธ์ระหว่าง สเปซกบั สเปซ สเปซกบั เวลา การจดั กระทาและการส่อื ความหมายขอ้ มูล การพยากรณ์ การลงความเห็นจากขอ้ มูล การตั้งสมมติฐาน การกาหนดนิยามเชิงปฏิบตั ิการ การกาหนดและควบคมุ ตัวแปร การทดลอง การตคี วามหมายและลงข้อสรปุ การสรา้ งแบบจาลอง นกั เรียนเกิดทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ใดบา้ ง ทาเครือ่ งหมาย ในชอ่ งว่างท่ตี รงกบั ทักษะทเ่ี กิด การสร้างสรรค์ การคดิ อย่างมีวิจารณญาณ การแก้ปัญหา การสือ่ สาร ความรว่ มมอื การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื .................................................................. (นางสาววาสนา มดั ทองหลาง) ตาแหน่ง ครู
สรุปผังมโนทศั นป์ ระจาบทท่ี 1 วสั ดรุ อบตัวเรา วันท่.ี ......เดือน........................พจ.ศา.น..ว..น....1.. ชวั่ โมง แลกเปล่ียนเรียนรู้ แบบฝกึ หัดท้ายบทที่ 1 การนาวัสดทุ ใ่ี ชแ้ ลว้ กลับมาใช้ใหม่ จานวน 1 ชว่ั โมง 1. สรปุ ผงั มโนทัศนป์ ระจาบทที่ 1 วัสดุรอบตวั เรา - ให้นกั เรียนร่วมกันกาหนด หัวข้อ ประเดน็ หลัก และประเด็นรอง และเขียนสรุปผังมโนทัศนป์ ระจาบทที่ 1 การนาวสั ดุทใ่ี ชแ้ ล้วกลบั มาใช้ใหม่ (ครูเป็นทปี่ รึกษาในกิจกรรม) หวั ขอ้ ประเดน็ หลัก ประเด็นรอง 1. การนากลบั มาใชใ้ หม่ การนาวัสดุทีใ่ ช้แล้วกลับมาใช้ - การเลอื กวสั ดุ ใหม่ - ประโยชน์การนาวัสดุกลับมาใช้ ใหม่ - นาข้อมูลจากตารางจาแนกหัวข้อ ประเด็นหลัก และประเด็นรอง มาเขียนสรุปผังมโนทัศน์ประจาบทท่ี 1 การนาวสั ดุทใ่ี ชแ้ ล้วกลบั มาใชใ้ หม่ (ตวั อย่าง) การนาวัสดทุ ี่ใช้แล้วกลับมาใชใ้ หม่ การเลือกวัสดุ ประโยชนใ์ นการนาวสั ดุทีใ่ ชแ้ ล้วกลับมาใช้ใหม่ ถุงพลาสตกิ ขวดพลาสติก กระดาษหนงั สอื เศษผ้าเกา่ ชว่ ยเพมิ่ มลู คา่ ของขยะ ทาเปน็ ของใช้ 3.กระดาษ ชว่ ยลดปริมานขยะ เป็นของเลน่ หนังสือพิมพ์ . แลกเปลย่ี นเรียนรู้เกผ่าังม4โน.ขทวศัดน์ประจาบทที่ 1 การเรยี นร้กู ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ - ครูและนกั เรยี นร่วพมลกาันสศตึกกิ ษาผงั มโนทศั นป์ ระจาบทท่ี 1 การนาวสั ดทุ ใ่ี ช้แล้วกลับมาใชใ้ หม่ - ใหน้ ักเรยี นทาแบถบงุ พฝึกลหาสดั ตทิก้ายบทท่ี 1 การนาวัสดุที่ใช้แล้วกลับมาใชใ้ หม่ (ครเู ป็นท่ปี รกึ ษาในกจิ กรรม) 2.เศษผ้าเกา่ 3.กระดาษ หนงั สือพิมพ์ เกา่ 4.ขวด พลาสตกิ
แผนการจดั การเรยี นรู้ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 3 : บรู ณาการเรยี นรู้เร่ืองการใชท้ รพั ยากรอย่างประหยัดและค้มุ คา่
วสั ดุนา่ รู้ หน่วยการ ช่ือหน่วยการเรยี นร/ู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ เวลา เรยี นร้ทู ่ี ช่วั โมง 1 วสั ดุน่ารู้ : การใช้ทรพั ยากรอย่างประหยัดและคุ้มคา่ 5 บทที่ 1 วสั ดุ แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 1 เร่ืองการใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและคุม้ คา่ 2 สรปุ ผงั มโนทศั น์ประจาบทท่ี 1 การใช้ทรัพยากรอยา่ งประหยัดและคมุ้ คา่ 1 แลกเปล่ียนเรยี นรู้ แบบฝกึ หัดทา้ ยบทที่ 1 การใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและคุ้มค่า 1
บูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ครู ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล การมภี มู ิคมุ้ กันในตัวทด่ี ี 1.ออกแบบการจัดกจิ กรรม ตรงตาม 1.ออกแบบการเรยี นรสู้ ่งเสริมกระบวนการคิด 1. ศึกษาแนวทางการจัดการเรยี นรูล้ ว่ งหน้า ตวั ชี้วัด 2. ใชเ้ ทคนคิ การจัดการเรียนรูท้ ี่หลากหลาย 2. จดั เตรียมการวัดผลประเมนิ ผล และแบบ 2. เลอื กสอื่ แหลง่ เรียนรเู้ หมาะสม สงั เกตพฤติกรมนักเรียน 3. วัดผลประเมินผลตรงตามเนอื้ หา เง่ือนไขความรู้ เงอ่ื นไขคุณธรรม 1. รู้จักเทคนิคการสอนทีส่ ่งเสรมิ กระบวนการคิด และนกั เรยี น 1. มีความขยัน เสยี สละ และมุ่งมน่ั ในการจัดหาส่อื มาพัฒนานกั เรยี น สามารถเรียนรู้ได้อยา่ งมีความสขุ ใหบ้ รรลตุ ามจดุ ประสงค์ 2. มีความรเู้ กี่ยวกบั การนาวสั ดทุ ใี่ ช้แลว้ นากลับมาใช้ใหมไ่ ด้ การใช้ 2. มีความอดทนเพ่ือพฒั นานกั เรยี นโดยใชเ้ ทคนิคการสอนที่ ทรพั ยากรอย่างประหยดั และคุ้มคา่ หลากหลาย นกั เรยี น ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การมภี ูมิคุ้มกันในตัวท่ีดี 1. การใชเ้ วลาในการทากิจกรรม/ 1. ฝึกกระบวนการทางานเปน็ กลมุ่ 1. วางแผนการศกึ ษาใบงาน/ใบกจิ กรรม ภาระงานไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ทนั เวลา 2. ฝกึ กระบวนการสงั เกต อธบิ าย ทกั ษะ 2. นาความรู้เรอ่ื งการเรยี นรสู้ ่ิงตา่ งๆรอบตวั ไปใชใ้ น 2. เลือกสมาชิกกลุม่ ไดเ้ หมาะสมกับ การสืบเสาะหาความรู้ การวัด การใช้ ชีวิตประจาวนั ได้ เนื้อหาทเ่ี รยี นและศักยภาพของตน จานวนทางวทิ ยาศาสตร์ และการ ทดลองตา่ งๆ ตลอดจนการเลอื กใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ในการทดลอง เงอ่ื นไขความรู้ เงือ่ นไขคณุ ธรรม 1. มีความรู้เรอื่ ง การนาวัสดทุ ี่ใชแ้ ลว้ นากลับมาใชใ้ หมไ่ ด้ 1. มคี วามรับผดิ ชอบ และปฏบิ ัติตามข้อตกลงของกลุม่ การใช้ทรพั ยากรอยา่ งประหยดั และคุ้มค่า (Recycle) ชว่ ย 2. มสี ติ มสี มาธชิ ว่ ยเหลือกันในการทางานร่วมกัน ให้ปรมิ าณของขยะลดลง สง่ ผลตอ่ การพฒั นา 4 มติ ิใหย้ ง่ั ยืนยอมรบั ต่อการเปลี่ยนแปลงในยคุ โลกาภวิ ฒั น์ วัตถุ สงั คม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ความรู้ (K) อธบิ ายการนาวัสดทุ ี่ใช้แล้ว มีความรแู้ ละเขา้ ใจ มคี วามรู้และเข้าใจเกยี่ วกบั มีความร้แู ละเข้าใจ ทกั ษะ (P) กลบั มาใช้ใหมไ่ ด้ กระบวนการทางานกลมุ่ ส่ิงแวดล้อมและสง่ิ ต่างๆ การช่วยเหลือ คา่ นิยม (A) รอบตัว แบ่งบัน สามารถสร้างช้ินงาน ผลงาน อธิบายการนาวสั ดทุ ี่ใชแ้ ล้ว ใชแ้ หล่งเรยี นรโู้ ดยไมท่ าลาย ช่วยเหลือ แบ่งบนั ซ่ึง เรอ่ื งการใช้ทรัพยากรอยา่ ง กลับมาใชใ้ หมไ่ ดถ้ กู ต้องตาม สง่ิ แวดลอ้ ม กนั และกนั ประหยัดและคมุ้ ค่า ขั้นตอน ทางานไดส้ าเรจ็ ตาม เปา้ หมาย ด้วยกระบวนการ กลุม่ ตระหนักถึงประโยชนข์ อง ตระหนักถึงผลกระทบของ เหน็ คุณค่าของการนาวัสดุท่ีใช้ ปลูกฝงั นสิ ัยการ ทรัพยากรธรรมชาติ ขยะเหน็ ความสาคัญของวสั ดุ แลว้ นากลบั มาใชใ้ หม่ ชว่ ยเหลอื แบ่งบัน ที่ใช้แล้วนามาเพิ่มมลู ค่า
แผนการจัดการเรยี นรู้ วิชา วิทยาศาสตร์ รหัสวชิ า 13101 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 วัสดนุ ่ารู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 การใชท้ รพั ยากรอย่างประหยัดและคมุ้ ค่า เวลา 2 ชัว่ โมง วันท่ี 15 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ครูผู้สอน นางสาวสุนสิ า สินสถาน ************************************************************************************************** * 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ัด มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ิของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พนั ธ์ระหว่างสมบตั ขิ องสสารกบั โครงสรา้ ง และแรงยดึ เหน่ยี วระหวา่ งอนุภาค หลักและธรรมชาตขิ องการเปล่ยี นแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี ตวั ช้ีวัด ป.3/1 อธบิ ายว่าวัตถุประกอบขึ้นจากชน้ิ ส่วนย่อย ๆ ซง่ึ สามารถแยกออกจากกันไดแ้ ละประกอบกัน เปน็ วัตถุชิ้นใหมไ่ ด้ โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษ์ 2. สาระการเรียนรู้ การประกอบวตั ถชุ ้ินใหมจ่ ากช้ินสว่ นยอ่ ย มนุษย์ตอ้ งช่วยกนั ดแู ลและรู้จักใช้ทรัพยากรธรรมชาตอิ ยา่ ง ประหยัดและค้มุ ค่า เพ่ือให้มีการใชไ้ ดน้ านและยัง่ ยืน 3. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด วัตถุอาจทาจากช้ินส่วนยอ่ ย ๆ ซึง่ แต่ละช้นิ มลี ักษณะเหมือนกันมาประกอบเข้าด้วยกัน เม่อื แยกชน้ิ ส่วนยอ่ ย ๆ แต่ละชิ้นของวัตถอุ อกจากกนั สามารถนาชิ้นสว่ นเหลา่ นัน้ มาประกอบเปน็ วัตถุช้ินใหมไ่ ด้ เชน่ กาแพงบา้ นมีกอ้ นอิฐหลาย ๆ ก้อน ประกอบเขา้ ด้วยกนั และสามารถนาก้อนอฐิ จากกาแพงบา้ นมาประกอบ เปน็ พื้นทางเดนิ ได้ ทรพั ยากรธรรมชาตเิ ป็นส่งิ จาเปน็ ในการดารงชีวิตของมนษุ ย์ จึงควรร่วมใจกนั ใชท้ รัพยากรธรรมชาติ อย่างประหยัดและค้มุ ค่ามนษุ ยต์ อ้ งช่วยกนั ดูแลและรู้จกั ใชท้ รพั ยากรธรรมชาตอิ ย่างประหยดั และคุ้มค่า เพื่อให้ มีการใช้ไดน้ าน และย่ังยืน 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายวตั ถทุ ่ีประกอบข้ึนจากชิน้ ส่วนย่อย ๆ ได้และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างประหยัดและ ค้มุ ค่าได้ (K) 2. สืบค้นวตั ถุท่ีประกอบข้นึ จากชิน้ ส่วนยอ่ ย ๆ ได้ (P) 3. เลอื กใช้วัสดแุ ละสิ่งของต่าง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม (A)
5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 2. ซือ่ สตั ยส์ จุ ริต 3. มวี ินัย 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 6. มุง่ มั่นในการทางาน 5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง 4. ใฝ่เรยี นรู้ 8. มจี ิตสาธารณะ 7. รักความเปน็ ไทย 6. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 2. ความสามารถในการคดิ 1. ความสามารถในการส่ือสาร 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 1. การสงั เกต 2. การทดลอง 3. การตั้งสมมติฐาน 4. การลงความเห็นจากข้อมูล 5. การตคี วามหมายข้อมูลและลงขอ้ สรปุ 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ วธิ สี อนโดยใช้การ สาธิต ข้นั ที่ 1 สรา้ งความสนใจ (engagement) สือ่ การเรยี นรู้ : 1. บัตรภาพ 2. อุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการประดษิ ฐ์ 1. ครูนาภาพขวดน้าพลาสติกและถุงพลาสติก มาใหน้ กั เรยี นดู แล้วถามนกั เรียนวา่ สงิ่ ของในภาพทงั้ 2 ภาพน้ี สามารถนามาใชป้ ระโยชนไ์ ดอ้ กี ครัง้ หรือไม่ ยกตัวอย่างมาอย่างละ 2 ข้อ 2. ครสู นทนากบั นกั เรยี นเกยี่ วกบั การใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อยา่ งประหยัดและค้มุ ค่า 3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด - สงิ่ ของอะไรบา้ งท่สี ามารถนากลบั มาใช้ประโยชนใ์ หมไ่ ด้ (พิจารณาตามคาตอบของ นักเรียน โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน) ขนั้ ท่ี 2 สารวจและค้นหา (exploration) สอ่ื การเรยี นรู้ : 1. เอกสารประกอบการสอน 2. อปุ กรณ์ท่ีใช้ในการประดษิ ฐ์ 1. ครูถามนกั เรยี นว่า กระดาษหนงั สือพิมพเ์ กา่ สามารถนากลบั มาใช้ประโยชน์ไดอ้ ยา่ งไร 2. ครยู กตวั อย่างงานประดิษฐ์เปเปอร์มาเช่ แล้วจัดเตรียมอุปกรณ์ที่ใชใ้ นการประดษิ ฐเ์ พอ่ื สาธติ ให้ นกั เรยี นดู 3. ครสู าธิตวิธีการทาเปเปอรม์ าเช่ตามขน้ั ตอนในเอกสารประกอบการสอน ใหน้ กั เรยี นดู
ขนั้ ที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) ส่อื การเรียนรู้ : - 1. นักเรยี นรว่ มกนั สรปุ ผลการประดษิ ฐเ์ ปเปอร์มาเช่และอธิบายว่า งานประดิษฐ์เปเปอรม์ าเชเ่ ป็นการใช้ ทรพั ยากรธรรมชาติอย่างประหยัดและคมุ้ ค่าอยา่ งไร 2. ครูสรุปเพิ่มเติมให้นกั เรียนฟังว่า การทางานประดิษฐ์เปเปอร์-มาเช่ เป็นการนากระดาษท่ใี ชแ้ ลว้ กลับมาใชใ้ หม่ เพอ่ื ใหส้ ามารถใช้ประโยชนไ์ ด้อีกครง้ั หนงึ่ ซงึ่ เปน็ การชว่ ยประหยัดทรพั ยากรธรรมชาติ คอื ป่าไม้ เพราะกระดาษเป็นวสั ดุทผี่ ลิตจากต้นไม้ 3. นักเรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด - ถ้าบ้านของนกั เรยี นมถี ุงพลาสติกจานวนมาก นกั เรยี นจะนาถงุ พลาสติกมาประดษิ ฐ์เปน็ ของใช้ อะไรได้ (เชน่ นามาทาดอกไมต้ กแตง่ บา้ น เปน็ ต้น) - นักเรียนจะเลือกวัตถุที่ทามาจากวัสดุชิ้นเดียวหรือทามาจากวัสดุหลายช้ิน เพ่ือมา ประกอบเปน็ วตั ถชุ ิน้ ใหม่ เพราะอะไร (แนวตอบ วสั ดชุ นิดเดียว เพราะวตั ถุชน้ิ ใหมท่ ่สี ร้างขึน้ มคี วามสวยงามดเู ปน็ ชนิ้ งานท่ีมเี น้ือหา เดยี วกนั วัสดุหลายชิน้ เพราะวัตถชุ น้ิ ใหม่ประกอบจากวสั ดุหลายชิน้ จะมีองคป์ ระกอบท่เี หมาะสมตอ่ การใชง้ าน) 4. ครยู กตวั อย่าง ตะกร้า ทามาจากไม้ไผท่ เ่ี ปน็ เสน้ หลาย ๆ เส้นประกอบกนั - ยกตวั อย่างวถิ กี ารใชช้ ีวิตของชาวบ้านหมบู่ ้านกรงุ พัฒนา หมู่ที1่ 0 ตาบลโคกกุง อาเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ร่วมกันใช้ตะกร้าจ่ายตลาดแทนถุงพลาสติก-ลดขยะในชุมชน เป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การลด เลิกใช้ถุงพลาสติกและโฟม ผลที่ได้คือความสะอาด สิ่งแวดล้อมท่ีน่าอยู่ และเป็นหมู่บ้านที่สามารถ จัดการปัญหาขยะในชุมชนได้เหลือ 0 % อย่างยัง่ ยนื ทาให้สภาพแวดล้อมดขี ้ึน และรว่ มกันสร้างจิตสานึกใน การรกั ษาสภาพแวดลอ้ มใหย้ ง่ั ยืนกับคนรุน่ หลงั ตอ่ ไป นาไปสู่ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง เป็นกรอบแนวคิด ซ่ึงมุ่งให้ทุกคนสามารถพึ่งพา ตวั เองได้ รวมถึงการพฒั นาให้ดยี ่ิงขน้ึ จนเกิดความย่งั ยนื คาว่า พอเพียง คอื การดาเนนิ ชวี ิตแบบทางสายกลาง โดยตัง้ อยบู่ นหลกั สาคัญสามประการ คอื ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมคิ ้มุ กนั ทด่ี ี ความพอประมาณ คอื การดารงชีวิตให้เหมาะสม พอประมาณในการใช้จา่ ย หมายถึง การใชจ้ ่ายให้ เหมาะกับฐานะความเป็นอยู่ ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยหรือใช้จ่ายเกินตัว เลือกใช้สิ่งที่มีมีในท้องถ่ินและใน ขณะเดยี วกนั กใ็ ช้จา่ ยในการดแู ลตนเอง และครอบครวั อยา่ งเหมาะสม ไมอ่ ย่อู ย่างลาบาก ความมีเหตุผล การดารงชีวิตประจาวัน มีการตัดสินใจ คานึงถึงผลที่อาจตามหากถ้าชาวบ้านยัง เลอื กใช้ถุงพลาสตกิ ต่อไป อาจทาใหเ้ กดิ ภาวะขยะลน้ และเกิดภาวะโลกร้อน การมีภูมิคุ้มกันท่ีดี การเตรียมตัวให้พร้อมรับกับความเปล่ียนแปลง เรียนรู้ที่จะดารงอยู่ได้ด้วยการ พ่งึ พาตนเอง และตัง้ อยู่ในความไมป่ ระมาทอยู่เสมอ เชน่ นาวัสดุเหลอื ใช้มาประดษิ ฐเ์ ปน็ ของใชช้ นดิ ใหม่ ข้นั ท่ี 5 ประเมนิ (evaluation) สอื่ การเรยี นรู้ : ใบงาน นกั เรียนแตล่ ะคนทาใบงาน เรอื่ ง การใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและคมุ้ คา่ เสร็จแล้วนาส่ง ครเู พ่ือประเมินผล ครูประเมนิ การเรยี นรู้ของนกั เรียน ดังนี้ สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นขณะทางานร่วมกัน สงั เกตการตอบคาถามของนักเรียนในช้นั เรียน ประเมนิ แผนภาพความคดิ และประเมินทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 โดยใชแ้ บบประเมนิ ตามสภาพจริง
8. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ ส่อื การเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการสอน 2. อปุ กรณ์ที่ใชใ้ นการประดิษฐเ์ ปเปอรม์ าเช่ 3. บัตรภาพ 4. ใบงาน เรอื่ ง การใชท้ รพั ยากรอย่างประหยัดและคุ้มคา่ แหล่งการเรยี นรู้ 1. หอ้ งสมดุ 2. ป้ายนเิ ทศ 3. อนิ เทอร์เน็ต 9. การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการ เครอื่ งมอื เกณฑ์ ใบงาน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงาน แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตความรบั ผิดชอบ ใฝเ่ รียนร้แู ละมงุ่ มน่ั ใน แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ การทางาน สังเกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ
เอกสารประกอบการสอน อปุ กรณ์ การทาเปเปอรม์ าเช่ 1. หนงั สือพมิ พ์เก่า 1 ฉบบั 2. เครื่องปนั่ น้าผลไม้ 1 เครือ่ ง 3. กะละมงั 1 ใบ 4. กาวลาเท็กซ์ 1 ขวด 5. แกนกระดาษทชิ ชู 1 แกน 6. สีน้าหรอื สีโปสเตอร์ 7. น้า วิธีทา 1. ฉกี กระดาษหนังสือพมิ พ์แล้วนาไปแช่นา้ ขยาให้กระดาษเปียกแล้วนามาปั่นให้ละเอียด โดยใช้เครือ่ งปั่นนา้ ผลไม้ อีกครงั้ หนง่ึ 2. เมอ่ื ป่นั กระดาษเสรจ็ แลว้ ให้บบี น้าออกจากกระดาษ หลงั จากนัน้ เทกาวลาเท็กซ์ผสมลงไป แล้วคลุกเคลา้ จนเป็น เนอื้ เดียวกนั 3. นากระดาษท่ีผสมกาวแลว้ มาป้ัน แล้วติดลงไปบนแกนกระดาษทิชชู ให้เปน็ รปู รา่ งตามตอ้ งการ 4. เม่ือได้รปู รา่ งตามต้องการแล้วนาไปผง่ึ แดดให้แห้งสนิท หลังจากนัน้ นามาระบายสี และตกแต่งให้สวยงาม
บตั รภาพ ภาพขวดน้าพลาสติก ภาพถุงพลาสตกิ
ใบงาน การใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและค้มุ ค่า คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นวาดภาพหรอื ตดิ ภาพส่งิ ของ แล้วยกตวั อยา่ งการนาสิ่งของนนั้ กลับมาใชป้ ระโยชน์ อยา่ งละ 3 ข้อ 1. สิ่งของชนดิ น้ี คือ สามารถนากลับมาใชป้ ระโยชนไ์ ด้ ดงั นี้ 2. สิ่งของชนิดน้ี คอื 3. สิ่งของชนิดนี้ คอื สามารถนากลับมาใช้ประโยชนไ์ ด้ ดังนี้
ใบงาน การใชท้ รพั ยากรอย่างประหยดั และค้มุ ค่า คาช้แี จง ให้นักเรียนติดภาพหรือตดิ ภาพสงิ่ ของ แลว้ ยกตวั อย่างการนาส่ิงของนัน้ กลับมาใชป้ ระโยชน์ อยา่ งละ 3 ขอ้ 1. สงิ่ ของชนิดน้ี คือ กระดาษหนังสอื พมิ พ์ (ตวั อยา่ ง) สามารถนากลับมาใชป้ ระโยชนไ์ ด้ ดังนี้ 1) นามาห่อสิง่ ของ 2) นามาเช็ดกระจก 3) นามาพบั ถงุ ใส่ของ 2. สิ่งของชนิดน้ี คือ สามารถนากลับมาใชป้ ระโยชน์ได้ ดงั นี้ 3. สิ่งของชนิดน้ี คอื
ความเหน็ และบนั ทึกหลังการสอน แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่.……...หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี..…….สอนวนั ท่ี………………………………เวลา 2 ชวั่ โมง ความเห็นและข้อเสนอแนะของผู้บรหิ าร/ผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย • เหมาะสม ใช้สอนได้ • ควรปรบั ปรงุ ในเรอื่ ง................................................................................................................ ลงชื่อ.................................................................. (นางสาวศิริกาญจนา สรชาติ) หัวหน้าสายชั้นประถมศึกษาปที ่ี 3 วันท.่ี ......เดอื น........................พ.ศ. .......... บนั ทกึ หลงั สอน ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. นกั เรียนเกดิ ทกั ษะใดบ้าง ทาเครอ่ื งหมาย ในชอ่ งวา่ งทตี่ รงกับสงิ่ ท่ที าได้ การสงั เกต การวัด การใชจ้ านวน การจาแนกประเภท การหาความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง สเปซกบั สเปซ สเปซกบั เวลา การจัดกระทาและการสอ่ื ความหมายขอ้ มูล การพยากรณ์ การลงความเหน็ จากข้อมูล การตง้ั สมมตฐิ าน การกาหนดนยิ ามเชิงปฏิบัตกิ าร การกาหนดและควบคุมตวั แปร การทดลอง การตคี วามหมายและลงข้อสรุป การสรา้ งแบบจาลอง นักเรยี นเกิดทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ใดบ้าง ทาเครอื่ งหมาย ในชอ่ งวา่ งที่ตรงกบั ทักษะทีเ่ กิด การสรา้ งสรรค์ การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ การแกป้ ญั หา การสอื่ สาร ความร่วมมือ การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .................................................................. (นางสาวสนุ สิ า สนิ สถาน) ตาแหนง่ ครู
สรปุ ผงั มโนทศั น์ประจาบทท่ี 1 วสั ดุน่ารู้ วันท.่ี ......เดือน........................พจ.ศา.น..ว..น....1.. ชั่วโมง แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ แบบฝึกหัดทา้ ยบทท่ี 1 การใชท้ รพั ยากรอย่างประหยดั และคุ้มคา่ จานวน 1 ชว่ั โมง 1. สรุปผงั มโนทศั น์ประจาบทท่ี 1 วัสดุน่ารู้ - ให้นักเรียนรว่ มกันกาหนด หัวข้อ ประเดน็ หลัก และประเด็นรอง และเขียนสรุปผังมโนทัศน์ประจาบทท่ี 1 การนาวสั ดทุ ใี่ ช้แลว้ กลบั มาใชใ้ หม่ (ครูเปน็ ทปี่ รกึ ษาในกิจกรรม) หวั ข้อ ประเด็นหลกั ประเด็นรอง การใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด 1. การนาทรพั ยากรกลับมาใชใ้ หม่ - การเลือกวสั ดุ และคุ้มคา่ - ประโยชน์การใช้ทรัพยากรอย่าง ประหยดั และคุม่ ค่า - นาข้อมูลจากตารางจาแนกหัวข้อ ประเด็นหลัก และประเด็นรอง มาเขียนสรุปผังมโนทัศน์ประจาบทท่ี 1 การนาวสั ดทุ ่ใี ชแ้ ลว้ กลับมาใช้ใหม่ (ตวั อยา่ ง) การใช้ทรัพยากรอยา่ งประหยัดและคุ้มคา่ โลหะ วสั ดุ การใชท้ รัพยากรอย่างประหยัดและคมุ้ ค่า พลาสติก ไม้ ผ้า กระดาษ นาทรัพยากรมาประดษิ ฐ์ นาทรพั ยากรมาประดษิ ฐ์ เปน็ ของเลน่ เป็นของใช้ . แลกเปล่ียนเรยี นรู้ ผงั มโนทศั นป์ ระจาบทท่ี 1 การเรียนรู้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ - ครแู ละนกั เรียนร่วมกันศกึ ษาผงั มโนทัศนป์ ระจาบทที่ 1 การใชท้ รัพยากรอย่างประหยัดและคมุ้ ค่า - ใหน้ ักเรียนทาแบบฝกึ หัดทา้ ยบทที่ 1 การใชท้ รัพยากรอย่างประหยัดและคุ้มคา่ (ครเู ป็นทป่ี รึกษาในกจิ กรรม)
แผนการจัดการเรยี นรู้ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 : บรู ณาการเรยี นรู้เรอื่ งสมบตั ิวัสดุ (การยอ่ ยสลายของ ขยะประเภทต่างๆ)
วัสดุและสสาร หน่วยการ ชอื่ หน่วยการเรยี นร/ู้ แผนการจัดการเรียนรู้ เวลา เรยี นร้ทู ี่ ชว่ั โมง 1 วัสดุและสสาร 4 บทท่ี 1 สมบัตทิ างกายภาพของวัสดุ 1 แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 เรื่อง ความแข็งของวัสดุ 3 กิจกรรมท่ี 1 วัสดุแตล่ ะชนดิ มคี วามแข็งและการยอ่ ยสลายของวัสดุเปน็ อย่างไร แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 2 เรอ่ื ง สภาพยืดหยุ่นของวสั ดุ กิจกรรมที่ 2 วสั ดุแตล่ ะชนิดมีสภาพยืดหยุ่นและเวลาในการย่อยสลายเป็นอยา่ งไรเปน็ อยา่ งไร
บรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ครู ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การมีภมู คิ ้มุ กันในตัวที่ดี 1.ออกแบบการจดั กิจกรรม ตรงตาม 1.ออกแบบการเรียนรูส้ ง่ เสริมกระบวนการคดิ 1. ศึกษาแนวทางการจัดการเรยี นรลู้ ว่ งหน้า ตัวชี้วดั 2. ใช้เทคนคิ การจดั การเรียนรู้ท่ีหลากหลาย 2. จัดเตรยี มการวัดผลประเมินผล และแบบ 2. เลอื กสอ่ื แหลง่ เรยี นรู้เหมาะสม สังเกตพฤตกิ รมนกั เรียน 3. วัดผลประเมนิ ผลตรงตามเนื้อหา เงือ่ นไขความรู้ เง่ือนไขคณุ ธรรม 1. ร้จู ักเทคนคิ การสอนที่ส่งเสรมิ กระบวนการคดิ และนกั เรียน 1. มีความขยนั เสยี สละ และมุ่งมน่ั ในการจดั หาสอ่ื มาพัฒนานกั เรียน สามารถเรยี นรูไ้ ดอ้ ย่างมีความสุข ให้บรรลตุ ามจดุ ประสงค์ 2. มคี วามร้เู ก่ยี วกับวัสดุและสสาร ในเร่ืองสมบัติทางกายภาพของ 2. มคี วามอดทนเพ่ือพัฒนานกั เรยี นโดยใชเ้ ทคนิคการสอนที่ วสั ดุ และสถานะของสสาร หลากหลาย นักเรยี น ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การมภี มู ิคุ้มกันในตวั ท่ดี ี 1. การใช้เวลาในการทากจิ กรรม/ภาระงาน 1. ฝกึ กระบวนการทางานเปน็ กล่มุ 1. วางแผนการศกึ ษาใบงาน/ใบกจิ กรรม ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ทันเวลา 2. ฝึกกระบวนการสังเกต อธบิ าย ทกั ษะการ 2. นาความรูเ้ รือ่ งวัสดุและสสาร ไปปรับใชใ้ น 2. เลอื กสมาชิกกลมุ่ ได้เหมาะสมกบั เน้ือหาที่ สืบเสาะหาความรู้ การจาแนกประเภท การลง ชีวติ ประจาวนั ได้ เรียนและศกั ยภาพของตน ความเห็นจากขอ้ มูล และการทดลองตา่ งๆ เง่อื นไขความรู้ เง่ือนไขคุณธรรม 1. มีความร้เู กี่ยวกับวสั ดุและสสาร ในเรอื่ งสมบตั ิทางกายภาพของวสั ดุ 1. มคี วามรับผดิ ชอบ และปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลงของกลุ่ม และสถานะของสสาร และสามารถสรา้ ง จดั ทาชนิ้ งาน ผลงานและใบ 2. มีสติ มสี มาธชิ ว่ ยเหลือกนั ในการทางานรว่ มกัน งานไดต้ ามวัตถปุ ระสงค์ ส่งผลตอ่ การพัฒนา 4 มิติใหย้ ั่งยืนยอมรบั ตอ่ การเปลย่ี นแปลงในยคุ โลกาภิวัฒน์ วัตถุ สังคม สิง่ แวดล้อม วัฒนธรรม ความรู้ (K) มีความรู้ความเข้าใจเก่ยี วกับวสั ดุและสสาร มคี วามร้แู ละเขา้ ใจ มีความรูแ้ ละเข้าใจ มีความร้แู ละเขา้ ใจการ ในเร่ืองสมบัตทิ างกายภาพของวสั ดุ และ กระบวนการทางาน เก่ียวกบั วัสดุและ ช่วยเหลอื แบ่งบัน สถานะของสสาร กลุ่ม สสารในสิ่งแวดล้อม ต่างๆและใน ชีวติ ประจาวัน ทักษะ (P) สามารถสรา้ งช้นิ งาน ผลงาน ใบงาน ทางานได้สาเร็จตาม ใช้แหลง่ เรยี นร้โู ดยไม่ ช่วยเหลือ แบ่งบนั ซ่ึง แบบทดสอบเรื่องสมบตั ทิ างกายภาพของ เป้าหมาย ด้วย ทาลายส่งิ แวดลอ้ ม กัน และกัน วัสดุ และสถานะของสสารมวล ได้ตรงตาม กระบวนการกลุ่ม วตั ถุประสงค์ ค่านิยม (A) เห็นประโยชนข์ อง การเรียนร้สู งิ่ ต่างๆ เหน็ คณุ คา่ และ เห็นคุณคา่ ของการใช้ ปลกู ฝังนิสัยการ รอบตัว ในเร่อื งสมบัตทิ างกายภาพของ ภาคภมู ใิ จในการ แหล่งเรียนร้โู ดยไม่ ช่วยเหลือแบง่ บัน วสั ดุ และสถานะของสสาร ทางานรว่ มกันได้ ทาลายสิ่งแวดลอ้ ม สาเร็จ
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา 14101 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 วัสดุและสสาร เวลา 4 ชว่ั โมง ครูผสู้ อน นายเอกพงศ์ ป่ินเงนิ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 ความแขง็ ของวสั ดุ วนั ที่ 15 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2562 มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสารองค์ประกอบของสสารความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสมบัติของสสารกบั โครงสร้างและแรงยึดเหนย่ี วระหว่างอนุภาคหลกั และธรรมชาติของการเปลีย่ นแปลงสถานะของสสารการเกดิ สารละลายและการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี ตัวช้ีวดั ว 2.1 ป.4/1 เปรียบเทียบสมบัตทิ างกายภาพดา้ นความแข็งสภาพยดื หย่นุ การนาความร้อน และการนาไฟฟา้ ของวัสดโุ ดยใชห้ ลักฐานเชิงประจักษ์จากการทดลองและระบุการนาสมบัตเิ รอ่ื งความแข็ง สภาพยดื หยุน่ การนาความรอ้ นและการนาไฟฟ้าของวัสดุไปใช้ในชีวติ ประจาวันผา่ นกระบวนการออกแบบ ชนิ้ งาน ว 2.1 ป.4/2 แลกเปล่ียนความคิดกับผู้อืน่ โดยการอภิปรายเกยี่ วกบั สมบัติทางกายภาพของวัสดุ อย่างมเี หตผุ ลจากการทดลอง มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชงิ คานวณในการแก้ปัญหาทีพ่ บในชวี ติ จริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ รู้เท่าทัน และมีจรยิ ธรรม ตัวช้ีวัด ว 4.2 ป.4/1 ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การอธบิ ายการทางาน การคาดการณผ์ ลลัพธ์ จาก ปัญหาอยา่ งงา่ ย ว 4.2 ป.4/2 ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ หรอื สือ่ และตรวจหา ขอ้ ผดิ พลาดและแกไ้ ข ว 4.2 ป.4/3 ใชอ้ ินเทอร์เนต็ ค้นหาความรู้ และประเมินความนา่ เชือ่ ถอื ของข้อมูล ว 4.2 ป.4/4 รวบรวม ประเมิน นาเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศ โดยใชซ้ อฟต์แวรท์ ห่ี ลากหลาย เพือ่ แกป้ ญั หาในชีวิตประจาวัน ว 4.2 ป.4/5 ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย เขา้ ใจสทิ ธแิ ละหนา้ ท่ีของตน เคารพในสิทธิ ของผ้อู ่ืน แจ้งผูเ้ ก่ียวข้องเมื่อพบขอ้ มลู หรือบคุ คลท่ไี มเ่ หมาะสม จุดประสงค์การเรยี นรู้สตู่ วั ช้วี ดั 1. มีความรูเ้ ก่ียวกับสมบัตทิ างกายภาพด้านความแขง็ ของวสั ดุ (K) 2. สามารถเปรียบเทียบสมบัติทางกายภาพด้านความแขง็ ของวสั ดโุ ดยใช้หลักฐานเชิงประจักษจ์ ากการ ทดลอง (P) 3. เปน็ คนช่างสงั เกต ช่างคิด ชา่ งสงสัย และเป็นผู้ที่มีความกระตือรือร้นในการเสาะแสวงหาความรู้ (A)
สาระสาคัญ ผเู้ รียนจะได้เรียนรู้เกีย่ วกับ สมบตั ทิ างกายภาพดา้ นความแขง็ ของวสั ดุ ผ่านการทดลอง ทดสอบ และ นาสมบตั ิดา้ นความแข็งของวัสดมุ าใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจาวนั สาระการเรยี นรู้ ความแขง็ หมายถงึ ความทนทานตอ่ กรตดั และการขดู ขดี วัสดุท่มี คี วามแข็งมากจะทนทานต่อการ ขดู ขีดมาก เช่น ตะปกู บั ไม้ เมื่อเราเอาตะปไู ปขูดกับไม้ จะพบว่า ไมเ้ กิดรอย น้ันแสดงวา่ วัสดใุ ดทีเ่ กิดรอยจะมี ความแข็งน้อยกวา่ วสั ดุทไ่ี มเ่ กดิ รอย แสดงวา่ ตะปูมีความแขง็ มากกวา่ ไม้ สง่ิ สาคญั ท่ีต้องคานึงมดี ังน้ี 1. วสั ดุทีถ่ ูกขดู เกิดรอย แสดงวา่ ความแข็งนอ้ ยกว่าวสั ดทุ ี่ใชข้ ูด 2. วัสดทุ ถี่ กู ขดู ไม่เกดิ รอย แสดงว่า ความแขง็ มากกวา่ วัสดุท่ใี ชข้ ดู ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 1. การสรา้ งสรรค์ 2. การคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ 3. การส่อื สาร 4. การแก้ปญั หา 5. ความรว่ มมือ 6. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความร)ู้ แผนผงั สรุปผลการทดลอง “วสั ดุแต่ละชนดิ มีความแขง็ และวสั ดใุ ดยอ่ ยสลายไดห้ รอื ไม่ไดแ้ ละเวลาใน การยอ่ ยสลายใชเ้ วลาเท่าไรเป็นอย่างไร การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขนั้ ที่ 1 สร้างความสนใจ (engagement) ครูนาเขา้ สู่บทเรยี นให้นกั เรยี นสงั เกตสิง่ ของตอ่ ไปนี้ (แผน่ ไม้ แผ่นพลาสตกิ แผ่นเหล็ก แผน่ กระจก และแผน่ อะลมู ิเนียม) และเรม่ิ กระบวนการจดั การเรยี นรโู้ ดยใช้แนวทางการสอน ทานาย สังเกต และอธบิ าย Predict Observe Explain (POE) ในข้ันตอน Predict โดยใหน้ กั เรียนทานายวา่ วสั ดุใดมคี วามแขง็ ทส่ี ดุ และ วสั ดุใดยอ่ ยสลายไดห้ รอื ไมไ่ ด้และเวลาในการยอ่ ยสลายใชเ้ วลาเท่าไร โดยใหน้ กั เรียนเรยี งลาดับวัสดุท่คี ดิ วา่ มี ความแขง็ มากทีส่ ุดไปหานอ้ ยท่สี ุดและเรยี งลาดับวสั ดุใดย่อยสลายมากที่สดุ ไปหานอ้ ยท่ีสุด ข้นั ท่ี 2 สารวจและคน้ หา (exploration) 1. ใหน้ ักเรยี นแบ่งกลุม่ กลมุ่ ละ 5 คน จากนนั้ ให้นกั เรียนทากจิ กรรม วสั ดุแต่ละชนิดมคี วามแขง็ เป็น อย่างไร และวสั ดุใดย่อยสลายได้หรือไมไ่ ดแ้ ละเวลาในการย่อยสลายใช้เวลาเท่าไร 2. ดาเนินการในขน้ั ตอน Observe โดยใช้นกั เรยี นทดลองและสังเกตผลการทดลอง จากกิจกรรม วัสดุ แต่ละชนิดมีความแขง็ เป็นอยา่ งไร 3. คณุ ครูเปน็ ท่ปี รึกษาในการดาเนินกิจกรรม
ขน้ั ที่ 3 อธิบายและลงข้อสรปุ (explanation) 1. ดาเนินการในขน้ั ตอน Explain โดยให้นักเรยี นร่วมกันอธิบายผลการทดลองรว่ มกนั ในกลุ่ม และ ร่วมกันสรปุ ผลการทดลองของกลุม่ ตนเอง 2. ใหผ้ ้แู ทนนักเรียนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอผลการทากิจกรรม หน้าชั้นเรียน เพื่อเปรยี บเทยี บและ ตรวจสอบความถกู ต้อง 3. ให้นกั เรียนรว่ มกันอภิปรายเก่ียวกับผลการทากิจกรรม จากนนั้ ฝึกถามคาถามที่สงสัย ดว้ ยการถามเพ่ือนโดยไม่จาเปน็ ต้องถามครูอย่างเดยี ว ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ใหน้ ักเรยี นทาแผนผงั สรปุ ผลการทดลอง “วสั ดุแตล่ ะชนดิ มีความแข็งเป็นอย่างไรและวสั ดุใดยอ่ ย สลายไดห้ รอื ไมไ่ ดแ้ ละเวลาในการย่อยสลายใชเ้ วลาเทา่ ไร” 2. คุณครูเปน็ ทปี่ รกึ ษาในการดาเนินกจิ กรรม ขั้นที่ 5 ประเมิน (evaluation) ครูประเมินการเรียนรู้ของนกั เรยี น ดงั นี้ สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนขณะทางานรว่ มกนั สงั เกตการตอบคาถามของนักเรียนในช้ันเรยี น ประเมินแผนภาพความคดิ และประเมนิ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 โดยใช้แบบประเมนิ ตามสภาพจริง สอื่ /แหล่งการเรียนรู้ วัสดุอปุ กรณ์ กจิ กรรม “วสั ดุแตล่ ะชนิดมีความแข็งเป็นอย่างไรและวัสดุใดย่อยสลายได้หรือไมไ่ ดแ้ ละ เวลาในการย่อยสลายใชเ้ วลาเทา่ ไร”
แบบประเมินการเรียนรู้ เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมนิ ปฏบิ ตั ิการทดลองของนักเรยี น ตัวชีว้ ดั 4 ระดบั คะแนน 2 1 3 ทดลองไมถ่ กู ตอ้ งตามวิธีการ และขนั้ ตอนทีก่ าหนดไว้ 1. การทดลองตาม ทดลองตามวิธีการและข้นั ตอนที่ ทดลองตามวธิ ีการและ ทดลองตามวธิ ีการและ ไมม่ ีการปรบั ปรงุ แกไ้ ข แผนทกี่ าหนด กาหนดไวอ้ ย่างถูกตอ้ งดว้ ยตนเอง ขั้นตอนท่กี าหนดไว้ดว้ ย ขั้นตอนทกี่ าหนดไว้ ใชอ้ ุปกรณแ์ ละ/หรอื เครื่องมือ ในการทดลองไมถ่ ูกต้อง และ มกี ารปรับปรงุ แก้ไขเป็นระยะ ตนเอง มีการปรับปรงุ แก้ไข โดยมีครหู รือผอู้ ่ืนเปน็ ไม่มคี วามคลอ่ งแคล่วในการใช้ บ้าง ผแู้ นะนา บนั ทกึ ผลไมค่ รบ ไม่มกี าร ระบุหนว่ ย และไม่เปน็ ไปตาม 2. การใชอ้ ปุ กรณแ์ ละ/ ใช้อุปกรณ์และ/หรือเคร่อื งมือในการ ใช้อปุ กรณ์และ/หรือเคร่อื งมือ ใช้อปุ กรณ์และ/หรอื เครือ่ งมือ การทดลอง หรือเคร่ืองมือ ทดลองไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งตามหลักการ ในการทดลองไดอ้ ย่างถูกต้อง ในการทดลองไดอ้ ย่างถูกต้อง จดั กระทาข้อมลู อย่างไมเ่ ปน็ ระบบ และมกี ารนาเสนอ ปฏบิ ตั ิ และคลอ่ งแคล่ว ตามหลักการปฏิบตั ิ โดยมคี รูหรือผู้อื่นเป็น ไมส่ อื่ ความหมาย และไมช่ ดั เจน แตไ่ ม่คล่องแคล่ว ผแู้ นะนา สรปุ ผลการทดลองตามความรู้ 3. การบนั ทกึ ผลการ บันทกึ ผลเปน็ ระยะอยา่ งถูกตอ้ ง มี บันทึกผลเป็นระยะอย่าง บนั ทกึ ผลเปน็ ระยะ แต่ไมเ่ ป็น ท่พี อมอี ยู่ โดยไมใ่ ชข้ อ้ มลู จาก การทดลอง ทดลอง ระเบียบ มกี ารระบหุ นว่ ย มกี าร ถูกต้อง มรี ะเบียบ มีการ ระเบยี บ ไม่มีการระบุหน่วย ไม่ดูแลอปุ กรณแ์ ละ/หรอื เครอื่ งมอื ในการทดลองและ อธิบายข้อมูลใหเ้ ห็นความเช่อื มโยง ระบหุ น่วย มกี ารอธบิ าย และไม่มกี ารอธบิ ายขอ้ มลู ไม่สนใจทาความสะอาด รวมทั้งเก็บไมถ่ กู ต้อง เปน็ ภาพรวม เปน็ เหตเุ ปน็ ผล และ ขอ้ มลู ให้เหน็ ถึงความสมั พันธ์ ให้เห็นถงึ ความสัมพนั ธข์ อง เป็นไปตามการทดลอง เป็นไปตามการทดลอง การทดลอง 4. การจัดกระทา จดั กระทาข้อมลู อย่างเป็นระบบ จัดกระทาข้อมลู อยา่ งเป็น จดั กระทาข้อมลู อยา่ งเป็น ข้อมูลและการ มกี ารเชอื่ มโยงให้เหน็ เปน็ ภาพรวม ระบบ มีการจาแนกขอ้ มลู ระบบ มกี ารยกตวั อยา่ ง นาเสนอ และนาเสนอดว้ ยแบบตา่ ง ๆ อย่าง ให้เหน็ ความสัมพนั ธ์ เพมิ่ เตมิ ให้เข้าใจงา่ ยและ ชัดเจนถกู ตอ้ ง นาเสนอด้วยแบบตา่ ง ๆ ได้ นาเสนอดว้ ยแบบต่าง ๆ แต่ แตย่ ังไม่ชัดเจน ยงั ไมช่ ัดเจน และไม่ถูกตอ้ ง 5. การสรปุ ผลการ สรุปผลการทดลองได้อยา่ งถูกตอ้ ง สรปุ ผลการทดลองไดถ้ กู ตอ้ ง สรุปผลการทดลองได้ ทดลอง กระชับ ชดั เจน และครอบคลุม แต่ยังไม่ครอบคลุมข้อมลู จาก โดยมคี รู หรือผู้อืน่ แนะนาบา้ ง ข้อมลู จากการวิเคราะห์ท้ังหมด การวเิ คราะหท์ ัง้ หมด จงึ สามารถสรุปได้ถูกต้อง 6. การดแู ลและการ ดแู ลอุปกรณ์และ/หรอื เครื่องมอื ใน ดแู ลอปุ กรณ์และ/หรอื ดแู ลอปุ กรณ์และ/หรือ เก็บ การทดลองและมกี ารทาความ เครอ่ื งมอื ในการทดลองและ เครอื่ งมือในการทดลอง อปุ กรณ์และ/หรอื สะอาดและเก็บอยา่ งถกู ต้องตาม มกี ารทาความสะอาดอยา่ ง มกี ารทาความสะอาด เครอื่ งมอื หลักการและแนะนาใหผ้ ู้อื่นดูแล ถกู ตอ้ ง แต่เกบ็ ไมถ่ กู ต้อง แต่เกบ็ ไมถ่ กู ต้อง ต้องให้ครู และเกบ็ รกั ษาได้ถกู ต้อง หรอื ผูอ้ ื่นแนะนา
ความเหน็ และบนั ทกึ หลงั การสอน แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่.ี ……...หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี..…….สอนวันท่ี………………………………เวลา 4 ชว่ั โมง ความเหน็ และข้อเสนอแนะของผูบ้ รหิ าร/ผ้ทู ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย • เหมาะสม ใชส้ อนได้ • ควรปรบั ปรงุ ในเรอ่ื ง................................................................................................................ ลงชอ่ื .................................................................. (นางสาวพัชนี แว่วสอน) หัวหน้าสายชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4 วนั ท.่ี ......เดือน........................พ.ศ. .......... บนั ทกึ หลงั สอน ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. นกั เรยี นเกดิ ทกั ษะใดบา้ ง ทาเคร่อื งหมาย ในชอ่ งวา่ งท่ตี รงกบั สิง่ ทท่ี าได้ การสังเกต การวัด การใชจ้ านวน การจาแนกประเภท การหาความสมั พันธร์ ะหวา่ ง สเปซกับสเปซ สเปซกับเวลา การจดั กระทาและการสือ่ ความหมายขอ้ มูล การพยากรณ์ การลงความเหน็ จากข้อมูล การตงั้ สมมติฐาน การกาหนดนิยามเชงิ ปฏิบตั กิ าร การกาหนดและควบคุมตวั แปร การทดลอง การตคี วามหมายและลงขอ้ สรปุ การสร้างแบบจาลอง นักเรียนเกิดทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ใดบา้ ง ทาเครือ่ งหมาย ในช่องวา่ งที่ตรงกบั ทักษะที่เกิด การสรา้ งสรรค์ การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ การแกป้ ญั หา การส่อื สาร ความร่วมมอื การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร ปญั หาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื .................................................................. (นายเอกพงศ์ ป่ินเงิน) ตาแหน่ง ครูอัตราจา้ ง วนั ที่.......เดือน........................พ.ศ. ..........
แผนการจัดการเรยี นรู้ วชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า 14101 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 วสั ดุและสสาร แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 สภาพยืดหยุน่ ของวสั ดุและเวลาในการยอ่ ยสลายเปน็ อยา่ งไร เวลา 3 ช่วั โมง วันที่ 15 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ครูผสู้ อน นายเอกพงศ์ ปนิ่ เงนิ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ิของสสารองค์ประกอบของสสารความสัมพันธ์ระหว่างสมบัตขิ องสสารกับ โครงสร้างและแรงยึดเหน่ยี วระหว่างอนุภาคหลักและธรรมชาตขิ องการเปล่ียนแปลงสถานะของสสารการเกดิ สารละลายและการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี ตวั ชี้วัด ว 2.1 ป.4/1 เปรียบเทียบสมบตั ทิ างกายภาพดา้ นความแข็งสภาพยืดหย่นุ การนาความร้อน และการนาไฟฟ้าของวสั ดุโดยใช้หลักฐานเชงิ ประจกั ษจ์ ากการทดลองและระบกุ ารนาสมบตั เิ ร่อื งความแข็ง สภาพยืดหยนุ่ การนาความรอ้ นและการนาไฟฟา้ และเวลาในการย่อยสลายใช้เวลาเทา่ ไรของวัสดุไปใชใ้ น ชีวิตประจาวนั ผ่านกระบวนการออกแบบช้นิ งาน ว 2.1 ป.4/2 แลกเปลีย่ นความคิดกับผู้อน่ื โดยการอภิปรายเกีย่ วกบั สมบตั ทิ างกายภาพและการใช้ เวลายอ่ ยของวสั ดอุ ย่างมเี หตุผลจากการทดลอง มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชิงคานวณในการแก้ปญั หาทพ่ี บในชีวติ จรงิ อย่างเป็นขนั้ ตอนและเป็น ระบบใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแกป้ ัญหาได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ รเู้ ท่าทัน และมจี รยิ ธรรม ตวั ชี้วัด ว 4.2 ป.4/1 ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปญั หา การอธิบายการทางาน การคาดการณผ์ ลลพั ธ์ จาก ปัญหาอยา่ งงา่ ย ว 4.2 ป.4/2 ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใช้ซอฟตแ์ วร์ หรือสอ่ื และตรวจหา ขอ้ ผดิ พลาดและแก้ไข ว 4.2 ป.4/3 ใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตค้นหาความรู้ และประเมนิ ความน่าเชอื่ ถือของขอ้ มูล ว 4.2 ป.4/4 รวบรวม ประเมนิ นาเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศ โดยใช้ซอฟตแ์ วรท์ ี่หลากหลาย เพ่อื แก้ปัญหาในชวี ติ ประจาวัน ว 4.2 ป.4/5 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย เขา้ ใจสิทธแิ ละหนา้ ทีข่ องตน เคารพใน สทิ ธขิ องผอู้ ืน่ แจง้ ผู้เกี่ยวขอ้ งเมอื่ พบขอ้ มูล หรอื บุคคลทไี่ มเ่ หมาะสม
จุดประสงค์การเรยี นรู้สตู่ ัวช้ีวดั 1. มีความรูเ้ กีย่ วกบั สมบัตทิ างกายภาพดา้ นความยืดหยุน่ ของวัสดุ (K) 2. สามารถเปรยี บเทยี บสมบัติทางกายภาพด้านความยดื หยนุ่ ของวสั ดโุ ดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประจักษจ์ าก การทดลอง (P) 3. เป็นคนชา่ งสังเกต ช่างคิด ช่างสงสัย และเป็นผู้ที่มีความกระตอื รอื รน้ ในการเสาะแสวงหาความรู้ (A) สาระสาคญั ผเู้ รยี นจะได้เรียนรเู้ ก่ยี วกับ สมบตั ิทางกายภาพดา้ นความยืดหยุน่ และเวลาในการย่อยสลายของวัสดุ ผา่ นการทดลอง ทดสอบ และนาสมบัติด้านความยดื หยุ่นและเวลาในการยอ่ ยสลายของวัสดมุ าใช้ประโยชนใ์ น ชีวิตประจาวนั สาระการเรยี นรู้ ความยืดหยนุ่ หมายถึง ลกั ษณะทว่ี ัตถนุ นั้ สามารถกลบั คืนรูปรา่ งทรงเดิมได้ หลังจากแรงท่มี ากระทา ตอ่ วัตถหุ ยุดกระทาตอ่ วัตถุนน้ั วสั ดุท่ีถกู แรงกระทาแล้วสามารถเปลยี่ นรูปร่างหรอื ขนาดของวัสดุ และเมือ่ เรา หยดุ ออกแรงวสั ดุนัน้ จะกลบั คนื สสู่ ภาพเดิม เรียกว่า วัสดุน้นั มสี ภาพความยืดหยุ่น เชน่ ถุงมอื ยาง ยางยดื ฟองนา้ วัสดแุ ต่ละชนิดมีสภาพยืดหยุน่ ไม่เทา่ กนั บางชนิดต้องออกแรงมากๆ สภาพยดื หยนุ่ ยงั คงอยู่ แตบ่ าง ชนดิ เม่อื ออกแรงมากเกนิ ไปก็หมดสภาพยืดหยนุ่ ได้ สว่ นวัสดุท่ีเราออกแรงกระทาแลว้ วัสดุเกิดการเปลีย่ นรปู รา่ งหรอื ขนาด แตเ่ ม่ือหยุดออกแรง วสั ดไุ ม่ คนื สภาพเดมิ เราเรยี กวสั ดุนนั้ ว่า วัสดไุ ม่มคี วามยืดหยุ่น เชน่ ดนิ น้ามนั ไม้ แผ่นพลาสตกิ กระดาษ การใช้ความยืดหยุ่นในชีวิตประจาวัน เชน่ การใช้ยางรัดผม การใชย้ างยดื ทาขอบกางเกง ใชเ้ ส้นเอน็ ทาไม้แบดมนิ ตันหรือไม้เทนนิส ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 1. การสรา้ งสรรค์ 2. การคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ 3. การสื่อสาร 4. การแก้ปัญหา 5. ความรว่ มมอื 6. การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร
ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความร)ู้ แผนผงั สรุปผลการทดลอง “วสั ดแุ ตล่ ะชนิดมีสภาพยดื หยุ่นและเวลาในการยอ่ ยสลายเป็นอย่างไร” ชิ้นงานเชงิ สร้างสรรค์ “สภาพยดื หยุ่นของวัสดุในชวี ติ ประจาวนั ” การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 1 ขัน้ ท่ี 1 สรา้ งความสนใจ (engagement) ครูนาเข้าสู่บทเรยี นให้นักเรยี นสงั เกตภาพน้ายางสดจากตน้ ยาง และถามคาถามนา “นักเรียนร้หู รอื ไม่ ว่าคอื อะไร เอาไปใชท้ าอะไรได้บา้ ง มสี มบตั ิอย่างไร ข้นั ที่ 2 สารวจและคน้ หา (exploration) 1. ใหน้ ักเรยี นแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 5 คน จากน้ันใหน้ กั เรยี นศกึ ษาใบความรู้ “ยางพารา”และร่วมกนั สรปุ ความรู้ที่ไดร้ ับ 2. คุณครเู ป็นที่ปรึกษาในการดาเนินกิจกรรม ขั้นท่ี 3 อธิบายและลงขอ้ สรปุ (explanation) 1. ให้ผู้แทนนักเรยี นแตล่ ะกลุ่มนาเสนอผลการแลกเปลยี่ นเรียนรู้เรื่องยางพารา หน้าช้นั เรียน เพ่ือ เปรียบเทยี บและตรวจสอบความถูกต้อง 2. ให้นกั เรยี นรว่ มกันอภิปรายเก่ียวกับผลการแลกเปลยี่ นเรียนร้เู รอื่ งยางพารา จากนั้นฝึกถามคาถามท่ี สงสัยด้วยการถามเพื่อนโดยไมจ่ าเป็นต้องถามครูอย่างเดยี ว ข้นั ท่ี 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ใหน้ กั เรยี นทาแผนภาพความคิด “ยางพารา” 2. คณุ ครเู ป็นท่ปี รกึ ษาในการดาเนนิ กจิ กรรม ขนั้ ที่ 5 ประเมนิ (evaluation) ครูประเมินการเรียนรู้ของนกั เรยี น ดังน้ี สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นขณะทางานร่วมกนั สงั เกตการตอบคาถามของนกั เรยี นในชั้นเรยี น ประเมนิ แผนภาพความคิด และประเมนิ ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 โดยใช้แบบประเมินตามสภาพจรงิ ชว่ั โมงที่ 2 ขั้นท่ี 1 สรา้ งความสนใจ (engagement) ครูนาเข้าสู่บทเรยี นใหน้ กั เรยี นสงั เกตวสั ดตุ ่อไปนี้ (เสน้ เอ็นไนลอน และเสน้ เอน็ ยดื ) และเร่ิม กระบวนการจดั การเรยี นรู้โดยใช้แนวทางการสอน ทานาย สังเกต และอธบิ าย Predict Observe Explain (POE) ในขั้นตอน Predict โดยให้นกั เรียนทานายวา่ วัสดุใดมีความยืดหย่นุ ดีท่ีสดุ
ขั้นท่ี 2 สารวจและค้นหา (exploration) 1. ให้นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ 5 คน จากน้ันใหน้ ักเรียนทากิจกรรม วสั ดุแต่ละชนดิ มสี ภาพยืดหยนุ่ เปน็ อย่างไร 2. ดาเนินการในขั้นตอน Observe โดยใช้นกั เรียนทดลองและสังเกตผลการทดลอง จากกิจกรรม วัสดุ แตล่ ะชนิดมสี ภาพยืดหยนุ่ เป็นอย่างไร 3. คณุ ครเู ปน็ ทปี่ รกึ ษาในการดาเนินกจิ กรรม ขน้ั ที่ 3 อธิบายและลงขอ้ สรปุ (explanation) 1. ดาเนินการในขั้นตอน Explain โดยให้นกั เรียนร่วมกนั อธบิ ายผลการทดลองรว่ มกนั ในกลมุ่ และ ร่วมกนั สรปุ ผลการทดลองของกลมุ่ ตนเอง 2. ให้ผู้แทนนกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มนาเสนอผลการทากจิ กรรม หน้าชน้ั เรยี น เพือ่ เปรยี บเทียบและ ตรวจสอบความถูกตอ้ ง 3. ให้นักเรียนร่วมกนั อภิปรายเกีย่ วกบั ผลการทากิจกรรม จากนนั้ ฝกึ ถามคาถามท่ีสงสัย ดว้ ยการถามเพอื่ นโดยไม่จาเป็นต้องถามครูอยา่ งเดียว ขั้นท่ี 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ใหน้ ักเรียนทาแผนผงั สรุปผลการทดลอง “วสั ดุแต่ละชนิดมสี ภาพยดื หย่นุ และเวลาในการยอ่ ยสลาย เปน็ อยา่ งไร” 2. คุณครเู ป็นที่ปรึกษาในการดาเนินกิจกรรม ขน้ั ท่ี 5 ประเมนิ (evaluation) ครูประเมินการเรยี นรู้ของนักเรียน ดงั น้ี สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นขณะทางานร่วมกัน สงั เกตการตอบคาถามของนักเรียนในชั้นเรยี น ประเมนิ แผนภาพความคิด และประเมินทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 โดยใช้แบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ และมอบหมายงานใหน้ ักเรยี นไปสบื ค้นเกย่ี วกับวัสดุตา่ งๆใน ชีวิตประจาวนั ทมี่ ีสภาพยดื หยุ่นและเวลาในการย่อยสลาย ชั่วโมงที่ 3 ขน้ั ที่ 1 สร้างความสนใจ (engagement) ครนู าเข้าสู่บทเรียนใหน้ กั เรยี นสงั เกตโฟมห่อผลไม้ และถามคาถามนาว่า ใหส้ าหรบั ทาอะไร มี คณุ สมบตั แิ ละเวลาในการยอ่ ยสลายอย่างไร เป็นต้น ขั้นท่ี 2 สารวจและคน้ หา (exploration) 1. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน จากนัน้ ให้นกั เรยี นแลกเปลี่ยนความรทู้ ่ไี ด้ไปสืบคน้ ขอ้ มูล เก่ยี วกบั วสั ดุในชวี ติ ประจาวันทม่ี ีสภาพยืดหยุ่นและเวลาในการย่อยสลาย 2. คณุ ครเู ป็นทปี่ รึกษาในการดาเนนิ กจิ กรรม ข้นั ที่ 3 อธบิ ายและลงข้อสรปุ (explanation) 1. ให้ผูแ้ ทนนักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลการแลกเปลย่ี นความร้ทู ีไ่ ดไ้ ปสบื ค้นขอ้ มูลเกย่ี วกบั วัสดุใน ชีวติ ประจาวนั ทมี่ ีสภาพยืดหยนุ่ และเวลาในการย่อยสลาย
2. ให้นักเรียนรว่ มกันอภิปรายเกี่ยวกับผลการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ จากนน้ั ฝึกถามคาถามท่ีสงสยั ด้วยการ ถามเพ่อื นโดยไมจ่ าเป็นต้องถามครอู ยา่ งเดยี ว ขนั้ ท่ี 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ให้นักเรียนทาชิ้นงานเชงิ สร้างสรรค์ “สภาพยืดหยนุ่ และเวลาในการย่อยสลายของวสั ดใุ น ชีวติ ประจาวัน” 2. คุณครเู ปน็ ทป่ี รกึ ษาในการดาเนินกิจกรรม ขัน้ ท่ี 5 ประเมนิ (evaluation) ครปู ระเมินการเรยี นรู้ของนักเรียน ดงั น้ี สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนขณะทางานรว่ มกัน สังเกตการตอบคาถามของนกั เรียนในชนั้ เรยี น ประเมนิ แผนภาพความคดิ และประเมนิ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 โดยใช้แบบประเมนิ ตามสภาพจริง สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้ ภาพน้ายางสดจากต้นยาง วสั ดอุ ุปกรณ์ กิจกรรม “วัสดุแต่ละชนดิ มสี ภาพยดื หยุ่นและเวลาในการยอ่ ยสลายเปน็ อย่างไร” โฟมหอ่ ผลไม้ แบบประเมนิ การเรยี นรู้ เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบประเมนิ การจดั กระทาและนาเสนอแผนภาพความคดิ “ยางพารา” ตัวช้ีวัด 4 ระดบั คะแนน 1 32 การจดั กระทาและ จดั กระทาแผนภาพ จดั กระทาแผนภาพ จดั กระทาแผนภาพ จัดกระทาแผนภาพ นาเสนอแผนภาพ ความคิด “ยางพารา” ความคิด “ยางพารา” ความคดิ “ยางพารา”ได้ ความคิด “ยางพารา” ความคิด “ยางพารา” อย่างเป็นระบบ และ อยา่ งเป็นระบบ มกี าร อยา่ งไม่เป็น นาเสนอด้วยแบบทีช่ ดั เจน มีการจาแนกข้อมูล ยกตวั อย่างเพมิ่ เติม และ ระบบ และนาเสนอ ถกู ตอ้ ง ครอบคลุมและมี ใหเ้ หน็ ความสัมพันธ์ นาเสนอด้วยแบบตา่ ง ๆ ไมส่ ่อื ความหมาย การเชอ่ื มโยงให้เหน็ และนาเสนอด้วยแบบท่ี แต่ยังไมค่ รอบคลุม และไม่ชดั เจน เปน็ ภาพรวม ครอบคลมุ
เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมนิ การจดั กระทาและนาเสนอชิ้นงานเชงิ สรา้ งสรรค์ “สภาพยืดหยุน่ และ เวลาในการย่อยสลายของวสั ดุในชีวิตประจาวัน” ตัวชีว้ ดั 4 ระดับคะแนน 1 32 การจัดกระทาและ จัดกระทาชิ้นงานเชิง จัดกระทาชิ้นงานเชิง จดั กระทาชนิ้ งานเชงิ จัดกระทาช้ินงานเชงิ นาเสนอชน้ิ งานเชิง สร้างสรรค์ “สภาพ สรา้ งสรรค์ “สภาพ สรา้ งสรรค์ “สภาพ สรา้ งสรรค์ “สภาพ สรา้ งสรรค์ “สภาพ ยดื หยุ่นและเวลาในการ ยดื หยนุ่ และเวลาในการ ยดื หยนุ่ และเวลาในการ ยดื หยนุ่ และเวลาในการ ยดื หย่นุ ของวัสดใุ น ยอ่ ยสลายของวัสดใุ น ยอ่ ยสลายของวสั ดุใน ยอ่ ยสลายของวสั ดุใน ยอ่ ยสลายของวัสดุใน ชีวติ ประจาวนั ”อย่างเป็น ชวี ติ ประจาวนั ” อย่างเปน็ ชีวิตประจาวัน”ได้ มีการ ชีวิตประจาวนั ”อยา่ งไม่ ชวี ิตประจาวัน” ระบบ และนาเสนอดว้ ย ระบบ มกี ารจาแนกขอ้ มูล ยกตวั อย่างเพม่ิ เตมิ และ เปน็ ระบบ และนาเสนอ แบบท่ชี ัดเจน ถูกตอ้ ง ใหเ้ หน็ ความสมั พนั ธ์ นาเสนอด้วยแบบต่าง ๆ ไม่สอ่ื ความหมาย ครอบคลุมและมีการ และนาเสนอด้วยแบบที่ แต่ยงั ไมค่ รอบคลมุ และไม่ชัดเจน เช่ือมโยงให้เหน็ เปน็ ครอบคลุม ภาพรวม
ความเห็นและบนั ทกึ หลังการสอน แผนการจัดการเรียนร้ทู .่ี ……...หนว่ ยการเรยี นรูท้ .่ี .…….สอนวันท่ี………………………………เวลา 3 ชวั่ โมง ความเหน็ และข้อเสนอแนะของผ้บู ริหาร/ผู้ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย • เหมาะสม ใช้สอนได้ • ควรปรับปรงุ ในเรอ่ื ง................................................................................................................ ลงชอื่ .................................................................. (นางสาวพัชนี แว่วสอน) หวั หน้าสายชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 วันท่.ี ......เดือน........................พ.ศ. .......... บนั ทึกหลังสอน ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. นักเรยี นเกิดทักษะใดบา้ ง ทาเครอื่ งหมาย ในช่องวา่ งทตี่ รงกับสิ่งท่ที าได้ การสังเกต การวัด การใชจ้ านวน การจาแนกประเภท การหาความสมั พนั ธร์ ะหว่าง สเปซกับสเปซ สเปซกบั เวลา การจดั กระทาและการสอื่ ความหมายขอ้ มูล การพยากรณ์ การลงความเหน็ จากข้อมูล การต้ังสมมตฐิ าน การกาหนดนยิ ามเชิงปฏิบตั กิ าร การกาหนดและควบคุมตัวแปร การทดลอง การตคี วามหมายและลงข้อสรปุ การสร้างแบบจาลอง นกั เรียนเกดิ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ใดบา้ ง ทาเครอื่ งหมาย ในชอ่ งวา่ งที่ตรงกับทักษะท่เี กิด การสรา้ งสรรค์ การคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ การแกป้ ัญหา การสอื่ สาร ความร่วมมอื การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ .................................................................. (นายเอกพงศ์ ปน่ิ เงนิ ) ตาแหนง่ ครูอตั ราจ้าง วันท.่ี ......เดือน........................พ.ศ. ..........
แผนการจัดการเรยี นรู้ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 5 : บรู ณาการเรยี นรเู้ รื่องการจัดกระทาข้อมลู ปรมิ าณขยะ และเสน้ ทางขยะ
เสน้ ทางขยะจากมอื เรา หน่วยการ ชอื่ หน่วยการเรยี นร/ู้ แผนการจดั การเรียนรู้ เวลา เรยี นรู้ที่ ช่ัวโมง 1 การเรียนรู้สิง่ ตา่ งๆรอบตัว : เส้นทางขยะจากมอื เรา 5 บทที่ 1 การเรยี นรู้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เร่ือง เส้นทางขยะจากมือเรา 3 สรปุ ผงั มโนทัศน์ประจาบทท่ี 1 การเรยี นรู้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 1 แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ แบบฝกึ หัดท้ายบทท่ี 1 การเรียนร้กู ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 1
บูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ครู ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมีภมู ิคุ้มกันในตวั ท่ดี ี 1.ออกแบบการจัดกิจกรรม ตรงตาม 1.ออกแบบการเรียนรู้ส่งเสรมิ กระบวนการคดิ 1. ศึกษาแนวทางการจัดการเรยี นรูล้ ว่ งหนา้ ตวั ช้วี ดั 2. ใชเ้ ทคนคิ การจดั การเรียนรูท้ ่ีหลากหลาย 2. จัดเตรียมการวัดผลประเมนิ ผล และแบบ 2. เลอื กส่ือ แหล่งเรยี นรู้เหมาะสม สงั เกตพฤตกิ รมนกั เรยี น 3. วัดผลประเมนิ ผลตรงตามเนอื้ หา เงื่อนไขความรู้ เงื่อนไขคุณธรรม 1. ร้จู กั เทคนิคการสอนท่ีส่งเสรมิ กระบวนการคิด และนกั เรยี น 1. มีความขยนั เสียสละ และมุ่งมัน่ ในการจัดหาส่อื มาพัฒนานักเรยี น สามารถเรยี นรู้ไดอ้ ยา่ งมีความสุข ให้บรรลตุ ามจุดประสงค์ 2. มคี วามรเู้ ก่ียวกับการเรียนรสู้ ่งิ ต่างๆรอบตวั ในเรือ่ งการสืบ 2. มคี วามอดทนเพื่อพฒั นานกั เรียนโดยใช้เทคนิคการสอนที่ เสาะหาความรทู้ างวิทยาศาสตร์ การจัดกระทาและส่ือความหมาย หลากหลาย ขอ้ มูล การสรา้ งแบบจาลองและ การพยากรณ์ นกั เรยี น ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การมีภูมิคมุ้ กนั ในตวั ทด่ี ี 1. การใชเ้ วลาในการทากจิ กรรม/ภาระงาน 1. ฝึกกระบวนการทางานเป็นกลมุ่ 1. วางแผนการศึกษาใบงาน/ใบกจิ กรรม ได้อยา่ งเหมาะสม ทันเวลา 2. ฝกึ กระบวนการสังเกต อธิบาย ทักษะการ 2. นาความรเู้ รอื่ งการเรียนรสู้ ิ่งตา่ งๆรอบตัว ไป 2. เลอื กสมาชกิ กลมุ่ ได้เหมาะสมกบั เนือ้ หาท่ี สืบเสาะหาความรู้ การวดั การใช้จานวนทาง ใช้ในชวี ติ ประจาวันได้ เรยี นและศักยภาพของตน วทิ ยาศาสตร์ และการทดลองต่างๆ ตลอดจน การเลอื กใชว้ ัสดอุ ปุ กรณใ์ นการทดลอง เงือ่ นไขความรู้ เง่อื นไขคณุ ธรรม 1. มีความรเู้ ร่ือง การเรียนรู้สงิ่ ตา่ งๆรอบตวั ในเรือ่ งการสบื เสาะหา 1. มีความรบั ผิดชอบ และปฏิบตั ติ ามข้อตกลงของกลุ่ม ความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์ การจดั กระทาและส่อื ความหมายขอ้ มลู การ 2. มสี ติ มสี มาธิชว่ ยเหลือกันในการทางานร่วมกัน สร้างแบบจาลองและ การพยากรณ์ ตลอดจนสามารถสรา้ งจัดทา ชิ้นงาน ผลงานและใบงานได้ตามวตั ถุประสงค์ ส่งผลตอ่ การพฒั นา 4 มิติใหย้ งั่ ยืนยอมรบั ต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคโลกาภิวฒั น์ วตั ถุ สังคม สิง่ แวดลอ้ ม วัฒนธรรม ความรู้ (K) มคี วามรูค้ วามเข้าใจเก่ียวกบั การเรียนรสู้ ่ิง มคี วามรูแ้ ละเขา้ ใจ มคี วามรูแ้ ละเข้าใจ มีความรู้และเข้าใจการ ต่างๆรอบตัว ในเร่อื งการสบื เสาะหา กระบวนการทางานกล่มุ เกี่ยวกบั ช่วยเหลอื แบ่งบนั ความรทู้ างวทิ ยาศาสตร์ การจัดกระทา สิ่งแวดลอ้ มและสิง่ และสือ่ ความหมายข้อมลู การสรา้ ง ต่างๆรอบตัว แบบจาลองและ การพยากรณ์ ทักษะ (P) สามารถสร้างช้นิ งาน ผลงาน ใบงาน สามารถคดั แยกขยะ ใชแ้ หลง่ เรยี นรูโ้ ดย ชว่ ยเหลอื แบ่งบันซึง่ กนั แบบทดสอบเร่ืองการสืบเสาะหาความรู้ ประเภทต่างๆได้ และ ไมท่ าลาย และกัน ทางวทิ ยาศาสตร์ การจัดกระทาและส่อื ทางานไดส้ าเร็จตาม สิ่งแวดล้อม ความหมายข้อมูล การสร้างแบบจาลอง เป้าหมาย ด้วย และ การพยากรณไ์ ดต้ รงตามวัตถปุ ระสงค์ กระบวนการกลมุ่ คา่ นิยม (A) เหน็ ประโยชน์ของ การเรยี นรสู้ งิ่ ตา่ งๆ ตระหนักถงึ ผลกระทบของ เหน็ คุณค่าของการ ปลูกฝังนสิ ัยการ รอบตัว ในเรอ่ื งการสืบเสาะหาความรู้ทาง ขยะ ใชแ้ หล่งเรยี นรู้โดย ช่วยเหลือแบง่ บัน วิทยาศาสตร์ การจัดกระทาและส่ือ เหน็ ความสาคัญของการ ไมท่ าลาย ความหมายขอ้ มูล การสร้างแบบจาลอง จัดการขยะในชมุ ชน สิง่ แวดลอ้ ม และ การพยากรณ์
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ า วิทยาศาสตร์ รหสั วชิ า 15101 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 การเรยี นรสู้ ง่ิ ต่างๆรอบตัว เวลา 3 ชว่ั โมง ครูผสู้ อน นางพรพรรณ ปนิ่ เงิน แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 1 เสน้ ทางขยะจากมือเรา วันท่ี 15 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2562 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชงิ คานวณในการแก้ปัญหาทพ่ี บในชวี ิตจริงอยา่ งเปน็ ขนั้ ตอนและ เป็นระบบใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรยี นรู้ การทางาน และการแก้ปญั หาได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ รู้เท่าทนั และมีจรยิ ธรรม ตัวช้ีวัด ว 4.2 ป.5/1 ใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะในการแก้ปัญหา การอธบิ ายการทางาน การคาดการณ์ผลลัพธ์ จาก ปัญหาอยา่ งง่าย ว 4.2 ป.5/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมที่มีการใช้เหตุผลเชิงตรรกะอย่างงา่ ย ตรวจหาขอ้ ผิดพลาดและ แกไ้ ข ว 4.2 ป.5/3 ใช้อินเทอร์เนต็ คน้ หาข้อมลู ติดตอ่ สือ่ สารและทางานรว่ มกนั ประเมนิ ความนา่ เชื่อถือของ ขอ้ มูล ว 4.2 ป.5/4 รวบรวม ประเมิน นาเสนอ ขอ้ มูลและสารสนเทศ ตามวตั ถปุ ระสงค์โดยใช้ซอฟต์แวรห์ รือ บรกิ ารบนอนิ เทอรเ์ นต็ ท่หี ลากหลาย เพอื่ แก้ปญั หาในชีวติ ประจาวนั ว 4.2 ป.5/5 ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีมารยาท เข้าใจสิทธิและหนา้ ท่ีของตน เคารพใน สิทธิของผอู้ ื่น แจ้งผู้เก่ียวข้องเม่ือพบขอ้ มูลหรือบคุ คลท่ีไม่เหมาะสม ทกั ษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จดุ ประสงค์การเรยี นรสู้ ู่ตัวชว้ี ดั 1. อธิบายและใช้ทักษะการจัดกระทาและส่อื ความหมายขอ้ มูล (P) 2. มคี วามร้คู วามเข้าใจเก่ยี วกับทกั ษะการจดั กระทาและส่ือความหมายขอ้ มูล (K) 3. เปน็ คนชา่ งสงั เกต ชา่ งคดิ ชา่ งสงสยั และเปน็ ผู้ทม่ี ีความกระตือรอื รน้ ในการเสาะแสวงหาความรู้ (A) สาระสาคัญ ผ้เู รยี นจะไดเ้ รียนรเู้ ก่ียวกับ การจดั กระทาและสื่อความหมายขอ้ มูล การสรา้ งแบบจาลองและ การ พยากรณ์ ผา่ นทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ซงึ่ สามารถนามาใช้ในการสบื เสาะหาความรูท้ าง วทิ ยาศาสตร์ เพื่อตอบคาถามทีอ่ ยากรเู้ กี่ยวกบั สิง่ ตา่ ง ๆ
สาระการเรยี นรู้ ทักษะการจดั ทาและสือ่ ความหมายข้อมลู เป็นการนาผลการสังเกต การวัด การทดลองจากแหล่ง ต่างๆ โดยการหาความถี่ เรยี งลาดับ จัดแยกประเภท หรือคานวณหาคา่ ใหม่ เพอ่ื ให้ผอู้ ่นื เข้าใจความหมาย ของ ขอ้ มูลดีย่ิงขน้ึ โดยอาจเสนอในรูปแบบของตาราง แผนภมู ิ แผนภาพ วงจร กราฟ สมการ และการเขียน บรรยาย ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 1. การสรา้ งสรรค์ 2. การคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ 3. การสือ่ สาร 4. การแก้ปญั หา 5. ความร่วมมอื 6. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร ชนิ้ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู้) การนาเสนอข้อมูล “ขยะจากมอื เรา” การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชว่ั โมงท่ี 1 ขนั้ ท่ี 1 สรา้ งความสนใจ (engagement) ครนู าเขา้ สู่บทเรียนโดยการทบทวนทกั ษะการจาแนกประเภท การใชจ้ านวนและตรวจสอบความร้เู ดิม เกีย่ วกบั ทกั ษะการจัดกระทาและสอื่ ความหมายข้อมลู โดยใช้สถานการณ์ตอ่ ไปน้ี “ในแต่ละวันเกิดขยะมลู ฝอย มากมาย เชน่ เศษอาหาร ถุงพลาสติก ขวดน้า หลอดไฟ ขยะแบง่ ตามประเภทของขยะได้ 4 ประเภท ไดแ้ ก่ ขยะย่อยสลายได้ ขยะรไี ซเคิล ขยะทั่วไป และขยะอันตรายหรือขยะพิษ ขยะแต่ละประเภทมปี รมิ าณแตกตา่ ง กนั คือ ขยะยอ่ ยสลายไดม้ รี ้อยละ 46 ขยะรไี ซเคิลมรี อ้ ยละ 42 ขยะท่ัวไปมีร้อยละ9 และขยะอันตรายหรือขยะ พษิ มรี อ้ ยละ 3” จากนน้ั ครตู รวจสอบความเข้าใจเกี่ยวกบั ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์โดยใช้คาถาม ดงั น้ี - ขยะจาแนกไดก้ ป่ี ระเภท อะไรบา้ ง ใชอ้ ะไร เป็นเกณฑใ์ นการจาแนก - ขยะทว่ั ไปมปี รมิ าณน้อยกว่าขยะย่อยสลายไดร้ อ้ ยละเท่าใด - จากข้อมูลน้ี นกั เรยี นสามารถนามาจัดกระทาไดอ้ ยา่ งไรเพ่ือใหเ้ ขา้ ใจไดถ้ กู ตอ้ งและรวดเร็วข้นึ
ข้นั ท่ี 2 สารวจและคน้ หา (exploration) 1. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กล่มุ ละ 5 คน จากนั้นใหน้ ักเรยี นสงั เกตขอ้ มูลรปู ภาพในหนังสือเรยี น (ภาพถัง ขยะ 4 ประเภท พรอ้ มปรมิ าณรอ้ ยละ) 2. ให้นกั เรียนรว่ มกับแลกเปล่ยี นเรยี นรู้จากประสบการณ์ และร่วมกันตอบคาถามต่อไปน้ี - จากภาพเป็นการนาเสนอข้อมลู เกย่ี วกับอะไร (ประเภทของขยะ) - ขยะแบง่ ไดก้ ปี่ ระเภทอะไรบา้ ง (4 ประเภท ได้แก่ ขยะยอ่ ยสลายได้ ขยะรีไซเคลิ ขยะทวั่ ไป และขยะอันตรายหรอื ขยะพษิ ) - ขยะประเภทใดมีปริมาณมากท่ีสุด รู้ไดอ้ ย่างไร - ภาพนี้เปน็ การจดั กระทาข้อมูลในรปู แบบใด - การจดั กระทาขอ้ มูลมีรปู แบบอะไรบา้ ง ยกตวั อย่าง ขน้ั ท่ี 3 อธิบายและลงขอ้ สรุป (explanation) 1. ให้ผู้แทนนักเรียนแต่ละกลมุ่ นาเสนอผลการทากิจกรรมในข้นั ท่ี 2 หนา้ ชั้นเรยี น เพื่อเปรยี บเทยี บ และตรวจสอบความถูกตอ้ ง 2. ใหน้ ักเรียนร่วมกนั อภปิ รายเกย่ี วกับผลการทากิจกรรม จากนน้ั ฝกึ ถามคาถามที่สงสยั ดว้ ยการถามเพือ่ นโดยไม่จาเป็นต้องถามครูอย่างเดียว 3. ใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรขู้ ยะประเภทต่างๆ 4. ครูเชอื่ มโยงความรเู้ กย่ี วกบั การจดั กระทาขอ้ มูลในรูปแบบต่างๆ ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ใหน้ กั เรียนจดั กระทาขอ้ มูล การนาเสนอข้อมลู “ขยะจากมอื เรา” จากภาพในหนังสอื เรียน ตาม รูปแบบของกลุ่มตนเอง 2. ครูเป็นที่ปรึกษาในการดาเนินกจิ กรรม ขั้นท่ี 5 ประเมิน (evaluation) ครปู ระเมินการเรยี นรู้ของนักเรียน ดังน้ี สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นขณะทางานร่วมกัน สังเกตการตอบคาถามของนกั เรียนในช้นั เรียน ประเมนิ แผนภาพความคิด และประเมินทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 โดยใช้แบบประเมินตามสภาพจริง ช่วั โมงท่ี 2 ขั้นท่ี 1 สรา้ งความสนใจ (engagement) ครูนาเข้าสู่บทเรยี นโดยใชค้ าถาม เก่ยี วกบั ขยะและการจัดการขยะในชุมชนของนักเรียนโดย ใช้คาถามวา่ ขยะในครัวเรือนของนกั เรยี นมีอะไรบา้ ง นกั เรียนทาอย่างไร กบั ขยะเหลา่ นัน้
ขนั้ ท่ี 2 สารวจและค้นหา (exploration) 1. ใหน้ ักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 5 คน จากนัน้ ให้นักเรียนดบู ัตรภาพไดแ้ ก่ ขยะ ถงั ขยะ รถเก็บขยะ โรงแยกขยะ 2. ให้นักเรียนสงั เกต และร่วมกนั แลกเปลย่ี นเรียนรู้จากประสบการณ์ เพอื่ ตอบคาถามต่อไปนี้ - บัตรภาพทั้งสี่ใบคืออะไร - บัตรภาพทั้งส่ีใบแสดงถึงอะไรไดบ้ า้ ง 3. ครเู ปน็ ท่ปี รกึ ษาในการดาเนินกิจกรรม ขั้นที่ 3 อธิบายและลงขอ้ สรปุ (explanation) 1. ให้ผ้แู ทนนักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลการทากิจกรรม จากขัน้ ท่ี 2 หน้าช้นั เรียน เพ่อื เปรยี บเทียบ และตรวจสอบความถูกตอ้ ง 2. ใหน้ กั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายเกยี่ วกบั ผลการทากิจกรรม จากนัน้ ฝกึ ถามคาถามที่สงสัยดว้ ยการถาม เพ่อื นโดยไม่จาเปน็ ตอ้ งถามครูอยา่ งเดยี ว 3. ครแู ละนักเรียนร่วมกบั สรุป และเสรมิ ความรเู้ กี่ยวกับเสน้ ทางของขยะจากมือเรา การจัดการขยะ ของชมุ ชนตา่ ง ๆ ซึง่ มีวธิ แี ตกตา่ งกนั ไปตามการบรหิ ารจัดการของชุมชนนน้ั ๆ ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ใหน้ ักเรียนร่วมกนั อา่ นเนอื้ เรอื่ ง “เสน้ ทางขยะจากมือเรา” พรอ้ มทาแผนผงั เสน้ ทางขยะจากมือเรา และตอบคาถามต่อไปน้ี - พอเพียงอยากรูอ้ ะไร (พอเพยี งอยากรูว้ า่ เหตุใดถังขยะจึงมีสแี ตกต่างกัน) - พอเพยี งใช้วธิ กี ารใดเพ่อื หาคาตอบ (สบื คน้ ข้อมูล) - ขยะสว่ นใหญ่นาไปทาอะไร (ทาปุ๋ยหมัก) - ขยะประเภทใดทนี่ าไปฝงั กลบ (ขยะทน่ี ามาทาปุ๋ยหมักไม่ได้และขยะทีน่ ากลับมาใช้ใหม่ไม่ได)้ 2. ครูเป็นทปี่ รึกษาในการดาเนินกิจกรรม ขน้ั ท่ี 5 ประเมิน (evaluation) ครูประเมินการเรยี นรู้ของนกั เรยี น ดังนี้ สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นขณะทางานรว่ มกัน สังเกตการตอบคาถามของนักเรยี นในชัน้ เรยี น ประเมินแผนภาพความคิด และประเมนิ ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 โดยใช้แบบประเมนิ ตามสภาพจริง ชวั่ โมงท่ี 3 ขั้นท่ี 1 สรา้ งความสนใจ (engagement) ครูนาเขา้ สู่บทเรยี นโดยการทบทวนความรเู้ ดิม เกี่ยวกบั เส้นทางขยะในมือเรา และถามคาถามเพ่ิมเตมิ - การพยากรณค์ อื อะไร (การคาดการณ์เหตุการณ์ที่จะเกดิ ขน้ึ โดยอาศัยข้อมลู ทร่ี วบรวมไวอ้ าจได้ จากการสงั เกตหรอื การวัดหรอื อ่ืน ๆ) - การจัดกระทาและส่อื ความหมายขอ้ มลู คอื อะไร (การนาข้อมลู มาเรียบเรยี ง หรือนาเสนอให้ เขา้ ใจง่ายขน้ึ )
- รูปแบบของการจัดกระทาและส่อื ความหมายขอ้ มลู มอี ะไรบา้ ง ยกตัวอยา่ ง (ตาราง แผนภูมิ กราฟ แบบจาลอง) - แบบจาลองคอื อะไร (สงิ่ ท่ีเราสร้างขน้ึ เพือ่ เปน็ ตัวแทนของจรงิ ตา่ ง ๆ) - แบบจาลองมลี กั ษณะอยา่ งไรบ้าง ยกตวั อย่าง (แบบจาลองมีหลายลกั ษณะ เช่น แบบจาลองสอง มิติ เชน่ แผนภาพ แบบจาลองสามมติ ิ เช่น รูปป้นั สือ่ เคลอ่ื นไหวเสมือนจรงิ โปรแกรมคอมพิวเตอร์) ขั้นท่ี 2 สารวจและคน้ หา (exploration) 1. ใหน้ กั เรยี นแบ่งกลุม่ กลุ่มละ 5 คน จากนนั้ ใหน้ ักเรียนทากจิ กรรมท่ี 1 จัดกระทาและส่ือ ความหมายขอ้ มูลและสรา้ งแบบจาลองไดอ้ ย่างไรศกึ ษาใบกจิ กรรม การใชจ้ านวนทาไดอ้ ยา่ งไร และร่วมกันทา กิจกรรม การใชจ้ านวนทาได้อย่างไร 2. ครูเปน็ ท่ีปรกึ ษาในการดาเนินกจิ กรรม ขน้ั ที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (explanation) 1. ให้ผแู้ ทนนกั เรยี นแต่ละกลุ่มนาเสนอผลการทากจิ กรรมหนา้ ช้ันเรยี น เพ่อื เปรยี บเทยี บและ ตรวจสอบความถูกตอ้ ง 2. ให้นกั เรียนรว่ มกันอภปิ รายเกยี่ วกับผลการทากิจกรรม จากนนั้ ฝึกถามคาถามท่ีสงสยั ด้วยการถามเพอ่ื นโดยไมจ่ าเปน็ ต้องถามครอู ย่างเดียว ขน้ั ที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ให้นกั เรยี นทาแบบบันทึกกิจกรรมที่ 1 จัดกระทาและสือ่ ความหมายขอ้ มลู และสร้างแบบจาลองได้ อยา่ งไร 2. ครูเปน็ ทป่ี รกึ ษาในการดาเนินกจิ กรรม ขั้นที่ 5 ประเมิน (evaluation) ครูประเมินการเรยี นรู้ของนกั เรยี น ดังนี้ สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นขณะทางานรว่ มกนั สังเกตการตอบคาถามของนักเรยี นในชั้นเรียน ประเมนิ แผนภาพความคิด และประเมนิ ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 โดยใช้แบบประเมินตามสภาพจรงิ ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้ ภาพประเภทขยะและปริมาณร้อยละ บตั รภาพไดแ้ ก่ ขยะ ถงั ขยะ รถเกบ็ ขยะ โรงแยกขยะ วสั ดุอุปกรณก์ ิจกรรมที่ 1 จัดกระทาและส่ือความหมายขอ้ มลู และสรา้ งแบบจาลองไดอ้ ยา่ งไร
แบบประเมินการเรียนรู้ เกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมนิ การจัดกระทาข้อมลู การนาเสนอขอ้ มลู “ขยะจากมอื เรา” ตัวชีว้ ัด 4 ระดับคะแนน 1 32 การจัดกระทาขอ้ มลู จดั กระทาข้อมูล การ จดั กระทาขอ้ มลู การ จดั กระทาข้อมูล การ จัดกระทาข้อมูล การ การนาเสนอข้อมูล นาเสนอข้อมลู “ขยะจาก นาเสนอข้อมลู “ขยะจาก นาเสนอขอ้ มูล “ขยะจาก นาเสนอขอ้ มลู “ขยะจาก “ขยะจากมือเรา” มือเรา” อย่างเป็นระบบ มอื เรา” อย่างเปน็ ระบบ มอื เรา” ได้ มีการ มอื เรา” อย่างไม่เปน็ และนาเสนอด้วยแบบท่ี มีการจาแนกขอ้ มลู ยกตัวอย่างเพม่ิ เตมิ และ ระบบ และนาเสนอ ชดั เจน ถกู ต้อง ให้เห็นความสัมพันธ์ นาเสนอด้วยแบบต่าง ๆ ไมส่ ่ือความหมาย ครอบคลมุ และมีการ และนาเสนอด้วยแบบท่ี แต่ยงั ไมค่ รอบคลมุ และไมช่ ัดเจน เช่ือมโยงใหเ้ หน็ เปน็ ครอบคลุม ภาพรวม เกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินปฏบิ ัติการทดลองของนกั เรยี น ตวั ชว้ี ดั 4 ระดบั คะแนน 2 1 3 ทดลองไมถ่ ูกตอ้ งตามวิธกี าร และขน้ั ตอนท่กี าหนดไว้ 1. การทดลองตาม ทดลองตามวธิ กี ารและขน้ั ตอนท่ี ทดลองตามวธิ ีการและ ทดลองตามวธิ กี ารและ ไม่มกี ารปรบั ปรงุ แกไ้ ข แผนที่กาหนด กาหนดไวอ้ ยา่ งถูกตอ้ งดว้ ยตนเอง ขนั้ ตอนท่ีกาหนดไวด้ ้วย ข้นั ตอนท่ีกาหนดไว้ ใชอ้ ปุ กรณแ์ ละ/หรือเครือ่ งมือ ในการทดลองไม่ถูกต้อง และ มกี ารปรบั ปรุงแกไ้ ขเปน็ ระยะ ตนเอง มกี ารปรับปรงุ แก้ไข โดยมคี รูหรอื ผู้อื่นเปน็ ไม่มีความคล่องแคลว่ ในการใช้ บ้าง ผู้แนะนา บันทึกผลไมค่ รบ ไมม่ ีการ ระบหุ น่วย และไม่เป็นไปตาม 2. การใช้อปุ กรณแ์ ละ/ ใช้อปุ กรณ์และ/หรือเครอ่ื งมอื ในการ ใช้อปุ กรณ์และ/หรอื เครื่องมอื ใช้อปุ กรณ์และ/หรือเคร่อื งมือ การทดลอง หรอื เครอื่ งมือ ทดลองได้อย่างถูกตอ้ งตามหลกั การ ในการทดลองได้อย่างถูกต้อง ในการทดลองไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง จดั กระทาข้อมลู อยา่ งไมเ่ ปน็ ระบบ และมกี ารนาเสนอ ปฏบิ ัติ และคล่องแคลว่ ตามหลกั การปฏิบตั ิ โดยมีครูหรือผู้อื่นเป็น ไมส่ ือ่ ความหมาย และไม่ชัดเจน แต่ไม่คล่องแคล่ว ผู้แนะนา สรปุ ผลการทดลองตามความรู้ 3. การบนั ทึกผลการ บนั ทึกผลเปน็ ระยะอย่างถกู ตอ้ ง มี บนั ทึกผลเป็นระยะอย่าง บันทึกผลเป็นระยะ แต่ไม่เปน็ ที่พอมอี ยู่ โดยไมใ่ ช้ขอ้ มลู จาก การทดลอง ทดลอง ระเบียบ มกี ารระบหุ นว่ ย มีการ ถูกต้อง มรี ะเบียบ มกี าร ระเบียบ ไม่มกี ารระบุหนว่ ย ไม่ดแู ลอุปกรณแ์ ละ/หรอื เครื่องมอื ในการทดลองและ อธบิ ายขอ้ มูลให้เห็นความเช่ือมโยง ระบุหนว่ ย มกี ารอธบิ าย และไม่มีการอธบิ ายขอ้ มูล ไมส่ นใจทาความสะอาด รวมทั้งเกบ็ ไมถ่ ูกต้อง เปน็ ภาพรวม เปน็ เหตุเป็นผล และ ข้อมูลให้เหน็ ถงึ ความสมั พันธ์ ใหเ้ ห็นถงึ ความสัมพันธ์ของ เปน็ ไปตามการทดลอง เป็นไปตามการทดลอง การทดลอง 4. การจดั กระทา จัดกระทาขอ้ มลู อย่างเปน็ ระบบ จัดกระทาข้อมลู อยา่ งเปน็ จัดกระทาข้อมลู อย่างเปน็ ขอ้ มลู และการ มกี ารเชอ่ื มโยงใหเ้ ห็นเปน็ ภาพรวม ระบบ มกี ารจาแนกขอ้ มูล ระบบ มกี ารยกตวั อย่าง นาเสนอ และนาเสนอด้วยแบบตา่ ง ๆ อย่าง ใหเ้ หน็ ความสมั พันธ์ เพม่ิ เติมให้เขา้ ใจงา่ ยและ ชดั เจนถูกต้อง นาเสนอดว้ ยแบบตา่ ง ๆ ได้ นาเสนอดว้ ยแบบต่าง ๆ แต่ แต่ยงั ไม่ชดั เจน ยังไม่ชดั เจน และไมถ่ กู ต้อง 5. การสรปุ ผลการ สรุปผลการทดลองไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง สรปุ ผลการทดลองได้ถกู ตอ้ ง สรปุ ผลการทดลองได้ ทดลอง กระชับ ชัดเจน และครอบคลมุ แต่ยงั ไม่ครอบคลมุ ข้อมูลจาก โดยมีครู หรือผู้อ่นื แนะนาบา้ ง ขอ้ มลู จากการวิเคราะหท์ ั้งหมด การวเิ คราะหท์ งั้ หมด จงึ สามารถสรปุ ไดถ้ ูกต้อง 6. การดแู ลและการ ดูแลอุปกรณแ์ ละ/หรอื เครอ่ื งมือใน ดูแลอุปกรณ์และ/หรือ ดูแลอุปกรณแ์ ละ/หรอื เกบ็ การทดลองและมกี ารทาความ เคร่ืองมอื ในการทดลองและ เคร่อื งมอื ในการทดลอง อปุ กรณแ์ ละ/หรือ สะอาดและเกบ็ อย่างถกู ตอ้ งตาม มีการทาความสะอาดอยา่ ง มีการทาความสะอาด เครื่องมือ หลักการและแนะนาให้ผอู้ น่ื ดูแล ถกู ต้อง แต่เกบ็ ไม่ถกู ต้อง แตเ่ ก็บไม่ถูกต้อง ต้องใหค้ รู และเก็บรกั ษาได้ถูกต้อง หรือผ้อู ่นื แนะนา
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบประเมินการจัดกระทาและนาเสนอแผนภาพแบบจาลอง “เส้นทางขยะจากมอื เรา” ตวั ช้ีวัด 4 ระดับคะแนน 1 32 การจดั กระทาและ จดั กระทาแผนภาพ จัดกระทาแผนภาพ จดั กระทาแผนภาพ จัดกระทาแผนภาพ นาเสนอแผนภาพ แบบจาลอง “เส้นทางขยะ แบบจาลอง “เส้นทาง แบบจาลอง “เส้นทาง แบบจาลอง “เส้นทาง แบบจาลอง “เสน้ ทาง จากมือเรา”อย่างเป็นระบบ ขยะจากมือเรา”อย่างเปน็ ขยะจากมอื เรา”ได้ มกี าร ขยะจากมอื เรา”อย่างไม่ ขยะจากมือเรา” และนาเสนอด้วยแบบท่ี ระบบ มีการจาแนกขอ้ มลู ยกตวั อย่างเพมิ่ เตมิ และ เปน็ ระบบ และนาเสนอ ชดั เจน ถูกต้อง ให้เห็นความสัมพันธ์ นาเสนอด้วยแบบต่าง ๆ ไมส่ อ่ื ความหมาย ครอบคลุมและมกี าร และนาเสนอด้วยแบบท่ี แตย่ ังไมค่ รอบคลุม และไม่ชดั เจน เชื่อมโยงใหเ้ หน็ ครอบคลุม เป็นภาพรวม
ความเห็นและบันทกึ หลังการสอน แผนการจัดการเรยี นรู้ท.่ี ……...หน่วยการเรยี นรทู้ .ี่ .…….สอนวนั ท่ี………………………………เวลา 3 ชัว่ โมง ความเห็นและข้อเสนอแนะของผู้บริหาร/ผู้ที่ได้รบั มอบหมาย • เหมาะสม ใช้สอนได้ • ควรปรบั ปรุงในเร่อื ง................................................................................................................ ลงชือ่ .................................................................. (นางสาวพรรณธร บุญโกต์ิ) หวั หน้าสายชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 5 วนั ท.่ี ......เดือน........................พ.ศ. .......... บันทกึ หลงั สอน ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. นักเรยี นเกิดทกั ษะใดบ้าง ทาเครื่องหมาย ในชอ่ งวา่ งทต่ี รงกับสิ่งทีท่ าได้ การสังเกต การวดั การใช้จานวน การจาแนกประเภท การหาความสัมพันธร์ ะหว่าง สเปซกบั สเปซ สเปซกบั เวลา การจัดกระทาและการสือ่ ความหมายขอ้ มูล การพยากรณ์ การลงความเห็นจากข้อมูล การต้งั สมมตฐิ าน การกาหนดนยิ ามเชิงปฏบิ ตั ิการ การกาหนดและควบคุมตวั แปร การทดลอง การตีความหมายและลงขอ้ สรปุ การสรา้ งแบบจาลอง นักเรียนเกดิ ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ใดบ้าง ทาเครื่องหมาย ในช่องวา่ งทต่ี รงกบั ทักษะที่เกิด การสรา้ งสรรค์ การคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ การแก้ปัญหา การสือ่ สาร ความร่วมมอื การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ปัญหาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ .................................................................. (นางพรพรรณ ปิ่นเงิน) ตาแหน่ง ครู วนั ที.่ ......เดือน........................พ.ศ. ..........
สรุปผงั มโนทัศน์ประจาบทท่ี 1 การเรยี นรู้สง่ิ ต่างๆรอบตัว จานวน 1 ช่วั โมง แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ แบบฝกึ หัดท้ายบทท่ี 1 การเรียนรู้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จานวน 1 ชว่ั โมง 1. สรปุ ผังมโนทศั นป์ ระจาบทท่ี 1 การเรยี นร้กู ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ - ใหน้ กั เรียนรว่ มกันกาหนด หวั ขอ้ ประเด็นหลัก และประเด็นรอง และเขียนสรปุ ผงั มโนทศั น์ประจาบทท่ี 1 การเรียนรู้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ (ครูเป็นที่ปรกึ ษาในกิจกรรม) หัวขอ้ ประเดน็ หลกั ประเดน็ รอง 1. เส้นทางขยะจากมอื เรา การเรยี นรกู้ ระบวนการทาง - การจดั กระทาขอ้ มูล วิทยาศาสตร์ 2. แบบจาลองเสน้ ทางขยะจากมอื เรา - การส่ือความหมายข้อมูล - การสรา้ งแบบจาลอง - การใชแ้ บบจาลอง - นาข้อมูลจากตารางจาแนกหัวข้อ ประเดน็ หลัก และประเด็นรอง มาเขียนสรุปผังมโนทัศน์ประจาบทท่ี 1 การเรยี นรู้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ (ตัวอยา่ ง) การจดั กระทาขอ้ มูล............ การสือ่ ความหมายขอ้ มูล ...................... เสน้ ทางขยะจากมอื เรา การเรียนรกู้ ระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ แบบจาลองเส้นทางขยะจากมอื เรา การสรา้ งแบบจาลอง การใช้แบบจาลอง ................................... ................................... . แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ ผงั มโนทัศน์ประจาบทท่ี 1 การเรียนรู้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ - ครแู ละนกั เรียนร่วมกันศกึ ษาผังมโนทศั น์ประจาบทท่ี 1 การเรียนรู้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ - ให้นกั เรยี นทาแบบฝกึ หัดท้ายบทที่ 1 การเรยี นรกู้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (ครเู ป็นทีป่ รึกษาใน กจิ กรรม)
แผนการจัดการเรยี นรู้ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 : การใช้พลงั งานไฟฟา้ อยา่ งประหยดั และปลอดภยั
ไฟฟา้ หน่วยการ ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้/แผนการจัดการเรียนรู้ เวลาช่วั โมง เรียนรทู้ ่ี 2 1 เรอื่ ง ไฟฟา้ 1 1 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 เรื่อง สารวจการใชไ้ ฟฟ้าในบา้ น แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 เรือ่ ง การใชไ้ ฟฟา้ อย่างประหยดั และปลอดภยั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117