แผนจัดการเรียนรู้ วรรณคดีลำนำ บทที่ ๔ ลูกแกะของซาฟียะ

แผนการจดั การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย(วรรณคดี) ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๓ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๔ เรื่อง ลกู แกะของซาฟยิ ะห์ นางเย็นฤดี คมุ้ สุพรรณ โรงเรียนพณิ พลราษฎร์ ตัง้ ตรงจติ ร ๑๒ สานกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาพษิ ณุโลก เขต ๒

แผนการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๓ หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๔ เรื่องลูกแกะของซาฟิยะห์ เวลา ๑๒ ช่ัวโมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑ เรอ่ื ง การสรา้ งประสบการณท์ างเนื้อหา เวลา ๑ ช่ัวโมง วันท่ี ...................................................................................................................................... ********************************************************************************** มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคดิ เพื่อนาไปใชต้ ัดสนิ ใจ แกป้ ัญหาใน การดาเนินชวี ิต และมนี สิ ัยรักการอ่าน ตวั ชี้วดั ท ๑.๑ ป.๓ /๔ ลาดับเหตกุ ารณแ์ ละคาดคะเนเหตกุ ารณจ์ ากเร่ืองท่ีอา่ นโดยระบุเหตุผลประกอบ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. ฟังเร่ือง “ลูกแกะของซาฟียะห์” แล้วตอบคาถามและเล่าเร่อื งได้ถกู ต้อง ๒. อ่านเรื่องทเี่ ล่าได้ถูกต้อง ๓. คัดเรื่อง“ลูกแกะของซาฟียะห์” จากแผนภมู ิลงสมดุ ไว้ฝกึ อ่านได้ถกู ต้อง สาระสาคญั การฟังเร่ือง เป็นการสร้างประสบการณ์ทางเนื้อหาช่วยให้เกดิ ทกั ษะในการจับใจความสาคัญของเรอ่ื ง สาระการเรียนรู้ ๑. ฟังเรื่อง “ลูกแกะของซาฟียะห์” ๒. ตอบคาถามของเรอื่ ง ๓. เลา่ เรื่องและอ่านเรอื่ งทเ่ี ล่า ๔. คัดเรือ่ งลงในสมดุ สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน ๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. รักและชืน่ ชมในเอกลักษณ์ไทย ๒. มีความซื่อสัตย์สุจรติ ๓. มีวินัยในตนเอง ๔. มคี วามสนใจใฝ่เรยี นรู้ ๕. อยู่อย่างพอเพยี ง

กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ๑. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนการเรยี นรู้ จานวน ๒๐ ขอ้ ๒. นักเรยี นดูภาพตัวละครในเรอื่ ง เชน่ ซาฟยี ะห์ ลกู แกะ ลูกแพะ เรือกอและ และเพ่ือนๆ ของ ซาฟียะห์ ๓. นักเรยี นสนทนาเกีย่ วกับภาพโดยตอบคาถามวา่ ใครทาอะไร ท่ีไหน อยา่ งไร เหตุการณต์ อนน้ีเป็น อยา่ งไร เพราะเหตใุ ด ๔. นักเรียนฝึกเลา่ หรอื ทานายเร่อื งจากภาพว่านา่ จะมเี หตุการณ์อย่างไร ๕. นักเรียนอ่านเร่อื ง “ลกู แกะของซาฟียะห์” จากบทเรียนโดยเน้นมารยาทในการอ่าน แล้วนกั เรยี น ตอบคาถามปากเปลา่ ดังน้ี เรื่อง“ลูกแกะของซาฟียะห์” มีตวั ละครกต่ี ัว บา้ นของซาฟยี ะห์ อยู่ท่ีไหน หมบู่ ้านของซาฟยี ะหป์ ระกอบอาชพี อะไร ซาฟยี ะห์ ชว่ ยเหลืองานที่บ้านอะไรบา้ ง เรอื่ งน้ีให้ข้อคิดอะไรกบั นกั เรยี นบา้ ง ๖. นกั เรยี นชว่ ยกนั เลา่ เร่อื งที่ฟงั ถ้าเล่าไม่ได้ครูถามนาแลว้ ให้นักเรยี นตอบ ๗. นักเรยี นและครูช่วยกันสรุปเนื้อหาสาระการเรยี นรู้จากการฟงั ๘. มอบหมายใหน้ ักเรยี นทาแบบฝกึ หัดทกั ษะภาษา ชุดภาษาเพื่อชีวิตเป็นการบ้าน ๙. นกั เรียนทาแบบฝึกพฒั นาการเรียนรู้ สอื่ และแหล่งการเรียนรู้ ๑. แบบทดสอบก่อนการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ ๒ ๒. บตั รคาใหม่, คายาก ๓. รปู ภาพจากบทเรียน ๔. กระเป๋าผนัง ๕. พจนานุกรม ๖. หนงั สือเรียนภาษาไทย วรรณคดลี านา ชุดภาษาเพอ่ื ชวี ติ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๓ เลม่ ๒ ๗. แบบฝึกหดั ทักษะภาษา ชดุ ภาษาเพ่ือชวี ิต ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๓ ๘. แบบฝึกพฒั นาการเรียนรู้

กระบวนการวดั และประเมินผล ๑.๑ วิธกี าร ๑.๑ สงั เกต การฟงั / การเล่าเรื่อง การซกั ถาม การตอบคาถาม ความสนใจในการเรยี น กระบวนการทางาน ๑.๒ ตรวจ แบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ สมดุ งาน แบบฝกึ หัด ๑.๒ เคร่ืองมือการวัดและประเมินผล แบบสงั เกตพฤติกรรม แบบทดสอบกอ่ นการเรียนรู้ แบบฝกึ พัฒนาการเรียนรู้ ๑.๓ เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล ใช้การผา่ นเกณฑ์ร้อยละ ๗๐ ข้นึ ไป

แบบทดสอบกอ่ นการเรียนรู้ หน่วยท่ี ๔ ลูกแกะของซาฟยิ ะห์ ช่ือ..........................................................................ชัน้ .........................เลขท.่ี .................. ******************************************************************* คาชแ้ี จง นักเรียนทาเคร่ืองหมายกากบาททับตัวอกั ษร ก, ข, ค, ง หนา้ คาตอบที่ถูกท่ีสดุ เพยี งข้อเดียว ๑. บ้านของซาฟยี ะ อยใู่ นภาคใด ก. ภาคเหนือ ข. ภาคใต้ ค. ภาคกลาง ง. ภาคตะวนั ออก ๒. หมูบ่ า้ นบา้ นของซาฟียะ ประกอบอาชีพอะไร ก. ขายปลา ข. ประมง ค. เกษตรกรรม ง. ทาสวน ๓. ข้อใดคือลกั ษณะของซาฟียะห์ ก. ร่างเลก็ ข. ผิวคล้า ค. ผมยาว ง. ถูกทุกขอ้ ๔. ลกั ษณะของหวั เรอื กอและ เป็นอยา่ งไร ก. สีเขม้ สวยงาม ข. ประดบั ธงทิวสวยงาม ค. วาดลวดลายสสี นั สดใสสวยงาม ง. ถกู ทกุ ข้อ ๕. เรือกอและ เป็นเรอื ขนาดใด ก. ขนาดใหญ่ ข. ขนาดปานกลาง ค. ขนาดเลก็ ง. ขนาดใหญ่มาก ๖. ทาไมแกะกับแพะของซาฟียะจงึ ไมม่ าวง่ิ เล่นทช่ี ายหาดทะเล ก. ไมช่ อบทะเล ข. กลวั ทะเล ค. กลวั คลน่ื ง. ไมม่ ีข้อถูก ๗. ซาฟียะหไ์ ปเลีย้ งแกะกับแพะเวลาใด ก. ก่อนไปโรงเรยี น ข. เลกิ โรงเรยี น ค. วนั เสาร์อาทติ ย์ ง. วันหยดุ ๘. เม่อื เดือนท่ีแล้วแมแ่ กะตวั หนึ่งของซาฟยี ะออกลกู ประมาณก่ีตวั ก. ๔ ตวั ข. ๓ ตวั ค. ๑ ตวั ง. ๒ ตวั ๙. ลกู แกะจะมีความสุขเม่ือซาฟยี ะทาอะไรให้ ก. เกาคาง ข. ลูบขน ค. ลกู หวั ง. ข้อ ก และ ข ถูก

๑๐. ซาฟยี ะเล่านทิ านเร่ืองอะไรใหล้ ูกแกะฟงั ก. ราชสหี ก์ บั หนู ข. หมาปา่ กบั ลูกแกะ ค. เดก็ เลี้ยงแกะ ง. ข้อ ข และ ค ถูกต้อง ๑๑. หลังจากท่ีซาฟียะเล่านิทานใหล้ ูกแกะฟงั แลว้ เกิดอะไรขึ้น ก. ลูกแกะหลับปยุ๋ ข. ลกู แกะยิ้ม ค. ลูกแกะไม่เข้าใจ ง. ข้อ ก และ ค ถูก ๑๒. ขอ้ ใดไมถ่ ูกต้องเกย่ี วกับการเล่าเรอ่ื งเหตุการณ์ที่นกั เรียนประทับใจ ก. ยซู ุปเลา่ เร่อื งการออกเรือไปหา ข. นทีเลา่ เรื่องวนั หยดุ อนั แสนวิเศษ ค. ซาฟียะเลา่ เรือ่ งลกู แกะนอ้ ย ง. ไม่มขี ้อถูก ๑๓. นิทานเร่ืองหมาป่ากับลูกแกะ จะสอนและใหข้ ้อคิดเก่ียวกบั เรื่องอะไร ก. คบคนพาล พาลไปหาผิด ข. คนพาลมักจะหาเรื่องรังแกคนอื่นเสมอ ค. คนชวั่ ก็ต้องชวั่ เสมอ ง. การร้จู ักเอาตัวรอดเป็นยอดดี ๑๔. เด็กเลย้ี งแกะมนี ิสยั อยา่ งไร ก. ชอบพูดจากเหลวไหล ข. พดู จาตลกคนองเป็นเนืองนิตย์ ค. ชอบป้นั นา้ ให้เป็นตวั ง. ถกู ทกุ ข้อ ๑๕. ขอ้ ใดมคี วามหมายเหมือนกบั ทะเล ก. สาคร ข. ชลธาร ค. สมุทร ง. ถกู ทกุ ขอ้ ๑๖. ขอ้ ใดมีความหมายเหมือนกับ ภูเขา ก. ครี ี ข. พนม ค. สงิ ขร ง. ถกู ทุกข้อ ๑๗. ขอ้ ใดมคี วามหมายเหมือนกบั ดาว ก. ดวงดาว ข. ดารา ค. ดารากร ง. ถกู ทุกขอ้ ๑๘.ขอ้ ใดมคี วามหมายเหมือนกบั พระอาทิตย์ ก. ตะวนั ข. รวี ค. สรุ ิยา ง. ถกู ทุกข้อ ๑๙. ข้อใดมคี วามหมายเหมือนกบั พระจนั ทร์ ก. เดือน ข. แข ค. โสม ง. ถกู ทุกขอ้ ๒๐. ขอ้ ใดมคี วามหมายไมเ่ หมือนกบั พระจันทร์ ก. ศศิธร ข. จนั ทร ค. สรุ ิยา ง. จนั ทรา

๑. ข ๒. ข เฉลย ๕. ค ๖. ข ๗. ก ๓. ง ๔. ค ๑๐. ง ๑๑. ง ๑๒. ง ๘. ข ๙. ข ๑๕. ง ๑๖. ง ๑๗. ง ๑๓. ง ๑๔. ข ๒๐. ค ๑๘. ง ๑๙. ง

แบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ เรื่อง การสรา้ งประสบการณท์ างเนือ้ หา ชื่อ……………………………………………….………….…….เลขที่……………….….ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓/..... วนั ท่ี ……………….... เดอื น ……………………………….…………พ.ศ. …………………………..……… ******************************************************************** คาชี้แจง นักเรียนฟงั ครเู ล่าเรอ่ื งแลว้ ดูภาพประกอบ และตอบคาถามให้ถูกต้อง ๑. บ้านของซาฟยี ะห์ประกอบอาชีพอะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ๒. บา้ นของซาฟยี ะห์ อย่บู รเิ วณใด ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. ซาฟียะห์ เลี้ยงแกะกบั แพะเวลาใด ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. แม่แกะของซาฟียะห์ ออกลูกมากตี่ ัว ……………………………………………………………………………………………………………………………………….………………… ๕. ซาฟยี ะห์ เลา่ นิทานใหล้ ูกแกะกับลกู แพะฟังเรื่องอะไรบ้าง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๖. ลกู แกะของซาฟียะห์ จะหลับตาอย่างมีความสขุ เม่ือใด ……………………………………………………………………………………………………………………………………..……………… ๗. คุณครูท่ีโรงเรยี นให้นกั เรยี นแตล่ ะคนออกมาเล่าเหตุการณ์ท่ตี นเองประทับใจ ๗.๑) ยูซุเลา่ เรือ่ งอะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ๗.๒) นทเี ลา่ เร่อื งอะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ๗.๓) ซาฟียะเล่าเรอ่ื งอะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ๘. เรื่อง “ลูกแกะของซาฟยี ะ” ใหข้ ้อคิดอะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ใบความรู้

เรอื่ ง ขอ้ ปฏิบัติในการฟงั และการพดู การฟงั เป็นการไดย้ ินเร่ืองราวให้เกดิ ความเข้าใจในเรือ่ งทไ่ี ด้ยิน และนามาพจิ ารณาวา่ เร่ืองราวน้ัน ๆ ควรเชอ่ื ไดห้ รอื ไม่ นาไปใช้ประโยชนไ์ ด้เพียงใด ขอ้ ควรปฏิบัติในการฟัง ๑. ตง้ั ใจฟัง ไม่พูดหรือสนทนากนั ขณะฟงั ผู้อน่ื พดู ๒. คดิ ติดตามเร่ืองฟังวา่ เรื่องทีฟ่ งั เกยี่ วกบั อะไร มคี วามถูกตอ้ งเชอื่ ถือไดห้ รอื ไม่ ๓. การฟังคาบรรยายควรจดข้อความสาคัญที่ไดจ้ ากการฟังไว้ มารยาทในการฟงั ๑. ตั้งใจฟัง มองผู้พูด ๒. ไม่คุยหรอื เลน่ ขณะฟงั ผู้อื่นพูด ๓. ไมส่ ่งเสยี งดังหรอื ทาความราคาญใหผ้ อู้ นื่ ๔. ถ้าจะถามควรขออนญุ าตก่อน หรือใหผ้ ู้พูดหยุดพดู กอ่ น ไม่ควรถามขณะผู้พูดยังพดู ไม่จบ การพูด เปน็ การแสดงความคดิ เห็นหรือบอกเล่าเร่อื งราวโดยการพูดให้ผอู้ ่ืนฟังผพู้ ูดต้องมีความคิด มีเรื่องราว ท่จี ะพูด และต้องจัดลาดบั ความคดิ หรือเร่อื งราวที่จะพดู ไม่ให้สับสน เพ่อื ผู้ฟังจะไดเ้ กิดความเขา้ ใจชดั เจน ผพู้ ดู ต้องพูดให้ชัดเจน ใชภ้ าษาที่ถกู ต้อง

ขอ้ ปฏิบัติในการพูด ๑. จะพูดเรือ่ งอะไร ตอ้ งมีความรใู้ นเรอ่ื งน้นั โดยการอ่าน การซักถามผูอ้ ื่นให้เข้าใจก่อน ๒. ใช้ภาษาพดู ท่ีถกู ต้อง สภุ าพ ๓. พูดให้เสียงดัง ฟงั ชดั แตไ่ ม่ใช่ตะโกน ๔. พูดให้ชดั เจน ใช้คาแทนชอื่ ให้ถูกตอ้ ง ๕. มองผู้พดู ๖. ขณะพดู ตอ้ งน่ังหรือยนื ตัวตรงในทา่ สบาย ๗. ไม่เอามือล้วง ควัก แกะ เกา ขณะพดู หรือยนื เอามอื ไขว้หลงั มารยาทในการพูด ๑. ใช้นา้ เสยี งน่มุ นวล ไมพ่ ดู กระโชกโฮกฮาก ๒. ใช้ถ้อยคาสภุ าพ ๓. พูดดว้ ยใจจรงิ และยกย่องผู้ฟงั ๔. ไมน่ ินทาผอู้ น่ื หรือพูดวา่ ร้ายผอู้ ืน่ ๕. ไมแ่ สดงความโกรธเคืองผู้ฟัง ๖. รอจังหวะในการพูดซกั ถาม ไมพ่ ูดสอดขณะผูอ้ ่ืนกาลังพูด

ภาคผนวก ภาพจากบทเรยี น ภาพ หน่วยท่ี 2

แผนการจดั การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๓ หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๔ เรื่อง ลกู แกะของซาฟียะห์ เวลา ๑๒ ช่ัวโมง แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๒ เรอ่ื ง การสรา้ งประสบการณใ์ นการฟงั เวลา ๑ ชัว่ โมง วันท่ี ..................................................................................................... *************************************************************************** มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชว้ี ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงั และดูอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และความร้สู กึ ในโอกาสตา่ งๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์ ตัวชว้ี ัด ท ๓.๑ ป.๓ / ๑ เลา่ รายละเอยี ดเกีย่ วกบั เรื่องท่ีฟังและดูทง้ั ทีเ่ ป็นความรแู้ ละความบนั เทงิ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. ฟังนิทานอสี ปแล้วตอบคาถามและเล่าเรอื่ งไดถ้ ูกต้อง ๒. อา่ นเรื่องทเี่ ลา่ ได้ถูกตอ้ ง ๓. คดั นิทานอสี ปจากแผนภูมลิ งสมุดไวฝ้ ึกอ่านได้ถกู ต้อง สาระสาคญั การฟังเร่ือง เป็นการสรา้ งประสบการณ์ทางเน้ือหาช่วยใหเ้ กดิ ทักษะในการจบั ใจความสาคัญของเร่อื ง สาระการเรยี นรู้ ๑. ฟังเร่ือง “หมาปา่ กับลกู แกะ” และ “เดก็ เลย้ี งแกะ” ๒. ตอบคาถามของเรื่อง ๓. เล่าเร่ืองและอ่านเรือ่ งทเี่ ล่า ๔. คัดเรอ่ื งลงในสมุด สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. รกั และชน่ื ชมในเอกลักษณไ์ ทย ๒. คิดวเิ คราะห์เรือ่ งราวต่างๆได้ ๓. มีวนิ ัยในตนเอง ๔. มีความสนใจใฝ่เรียนรู้

๕. อยู่อย่างพอเพยี ง กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ๑. สนทนากบั นกั เรยี นเก่ียวกับความเป็นมาของนิทานอสี ปจากใบความรู้ (ภาคผนวก) ๒. นักเรียนดภู าพตัวละครในเร่อื ง เชน่ หมาป่า ลูกแกะ เด็กเล้ียงแกะ ๓. นักเรยี นสนทนาเกย่ี วกับภาพโดยตอบคาถามวา่ ใครทาอะไร ที่ไหน อย่างไร เหตุการณ์ตอนนี้ เป็นอย่างไร เพราะเหตใุ ด ๔. นกั เรียนฝึกเลา่ หรือทานายเร่ืองจากภาพวา่ นา่ จะมีเหตุการณ์อย่างไร ๕. นกั เรียนฟงั ครูอ่านหรือเล่านิทานอีสป เร่ือง “หมาปา่ กับลูกแกะ” และ “เด็กเล้ยี งแกะ” จาก บทเรยี นโดยเน้นมารยาทในการฟงั แลว้ นักเรยี นตอบคาถามปากเปลา่ ดงั นี้ ๑) เร่อื ง “หมาปา่ กบั ลกู แกะ” และ “เด็กเลี้ยงแกะ” มตี ัวละครกี่ตัว ๒) หมาป่ามีลกั ษณะนิสัยอยา่ งไร ๓) เด็กเลยี้ งแกะมีลักษณะนิสัยอย่างไร ๔) เรอื่ งนใี้ หข้ ้อคิดอะไรกับนกั เรยี นบา้ ง ๖. นกั เรียนช่วยกันเล่าเรื่องท่ีฟัง ถา้ เลา่ ไม่ไดค้ รูถามนาแล้วใหน้ ักเรียนตอบ ๗. ครเู ขยี นข้อความหรอื ประโยคหรอื เรอ่ื งทนี่ กั เรยี นเล่าลงในแผนภูมิ ๘. นักเรยี นอา่ นข้อความในแผนภูมจิ นคลอ่ ง ๙. นักเรยี นคัดขอ้ ความในแผนภูมิลงในสมดุ เพ่ือฝึกอ่านสง่ ตรวจ ๑๐. นักเรยี นและครชู ่วยกนั สรุปเน้อื หาสาระการเรยี นรจู้ ากการฟงั ๑๑. มอบหมายใหน้ ักเรียนทาแบบฝกึ หัดทักษะภาษา ชุดภาษาเพ่ือชีวติ เป็นการบา้ น ๑๒. นกั เรยี นทาแบบฝึกพฒั นาการเรยี นรู้ ส่อื และแหล่งการเรียนรู้ ๑. บัตรคาใหม่, คายาก ๒. รูปภาพจากบทเรยี น ๓. ใบความรู้ ๔. หนงั สือเรยี นภาษาไทย วรรณคดีลานา ชดุ ภาษาเพ่ือชวี ติ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๓ ๕. แบบฝกึ หัดทักษะภาษา ชุดภาษาเพ่ือชีวิต ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๓ ๖. แบบฝกึ พัฒนาการเรียนรู้ กระบวนการวดั และประเมนิ ผล ๑. วธิ ีการ ๑.๑ สงั เกต การฟัง / การเลา่ เรือ่ ง การซกั ถาม การตอบคาถาม ความสนใจในการเรยี น

กระบวนการทางาน ๑.๒ ตรวจ แบบฝกึ พฒั นาการเรยี นรู้ สมดุ งาน แบบฝกึ หัด ๑.๒ เครือ่ งมอื การวัดและประเมินผล แบบสังเกตพฤติกรรม แบบฝกึ พฒั นาการเรยี นรู้ ๑.๓ เกณฑ์การวดั และประเมินผล ใช้การผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป

ใบความรู้สาหรับครู ๑. นิทานอีสป เป็นนิทานที่ได้รับความนิยมมานับพันปี และแพร่หลายไปท่ัวโลก ผู้เล่า นิทานอีสปคือ“อีสป”ซึ่งเป็นนักเล่านิทานชาวกรีกโบราณ คนไทยรู้จักนิทานอีสปมานาน และมีการแปล เป็นภาษาไทยหลายสานวนสานวนที่คัดเลือกมาให้นักเรียนอ่านในบทเรียน เร่ือง หมาป่ากับลูกแกะ เป็น สานวนของมหาอามาตย์โทพระยาเมธาธิบดี (สาตร์ สุทธิเสถียร) ส่วนเรื่อง เด็กเลี้ยงแกะ เป็นสานวน ของขนุ สุภาเสพ (ช่วง) ทง้ั สองเร่ืองเคยใชเ้ ป็นแบบสอนอ่านสาหรับเดก็ ๒. เหตทุ คี่ นไทยชอบนทิ านอีสปเพราะเปน็ นทิ านท่ีมีเรื่องราวสนกุ สนานใหค้ ติสอนใจที่ สามารถนามาเป็นแนวทางในการดาเนนิ ชวี ติ ได้ตวั ละครในนทิ านอีสปมักเปน็ สตั ว์แต่ผกู เร่อื งใหแ้ สดง ลักษณะนิสัยเทียบเคียงกับลกั ษณะนสิ ยั ของบางคนและเหตุการณท์ านองเดียวกันกับในนิทานอสี ปอาจเกิด ขน้ึ กบั บางคนในชวี ติ จริงได้

แบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ เร่ือง การสรา้ งประสบการณใ์ นการจบั ใจความ ชอื่ ………………………………………………………….เลขที่… ….ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๓ วนั ที่ ……….. เดอื น ……………………………………………พ.ศ. …………………… ******************************************************************** คาชี้แจง นกั เรยี นฟงั ครูเล่าเรอื่ งแล้วดภู าพประกอบ และตอบคาถามให้ถกู ต้อง ๑. เรอ่ื ง หมาปา่ กับลกู แกะ ให้ขอ้ คิดอะไรบา้ ง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ๒. เรือ่ ง เด็กเล้ียงแกะ ให้ข้อคดิ อะไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………….………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๓. หากนักเรียนพบคนที่มีนสิ ัยเหมือนหมาป่าในนทิ านเร่ือง หมาป่ากับลูกแกะ นกั เรียนจะทา อย่างไร ………………………………………………………………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ๔. นักเรียนชอบตวั ละครใดในนทิ านสองเรื่องนีม้ ากทสี่ ุดเพราะเหตใุ ด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ใบความรู้ เร่อื ง ขอ้ ปฏิบัติในการฟงั และการพูด การฟัง เปน็ การได้ยินเร่ืองราวให้เกดิ ความเขา้ ใจในเรื่องท่ีไดย้ นิ และ นามาพจิ ารณาว่าเร่ืองราวนั้น ๆ ควรเชอ่ื ไดห้ รือไม่ นาไปใช้ประโยชนไ์ ด้เพียงใด ข้อควรปฏบิ ัตใิ นการฟงั ๑. ตงั้ ใจฟัง ไม่พดู หรือสนทนากนั ขณะฟังผอู้ น่ื พูด ๒. คดิ ติดตามเรือ่ งฟงั ว่าเร่ืองท่ีฟังเกยี่ วกับอะไร มคี วามถูกต้องเช่อื ถอื ได้หรอื ไม่ ๓. การฟังคาบรรยายควรจดข้อความสาคัญที่ได้จากการฟังไว้ มารยาทในการฟงั ๑. ตั้งใจฟัง มองผู้พดู ๒. ไม่คุยหรอื เลน่ ขณะฟงั ผู้อ่ืนพดู ๓. ไม่สง่ เสียงดังหรือทาความราคาญให้ผอู้ ่นื ๔. ถ้าจะถามควรขออนญุ าตก่อน หรือใหผ้ ้พู ดู หยุดพูดก่อน ไม่ควรถามขณะผพู้ ูดยงั พูดไม่จบ การพดู เป็นการแสดงความคิดเหน็ หรือบอกเล่าเรื่องราวโดยการพดู ใหผ้ ู้อ่นื ฟงั ผู้พูดต้องมีความคิด มีเรอ่ื งราว ทจ่ี ะพูด และต้องจดั ลาดับความคดิ หรือเร่ืองราวที่จะพดู ไม่ใหส้ ับสน เพือ่ ผู้ฟังจะไดเ้ กดิ ความเข้าใจชัดเจน ผู้พดู ตอ้ งพูดใหช้ ัดเจน ใช้ภาษาท่ีถูกต้อง ขอ้ ปฏิบตั ิในการพูด ๑. จะพูดเรอื่ งอะไร ตอ้ งมีความรใู้ นเรอ่ื งน้ันโดยการอ่าน การซักถามผอู้ น่ื ใหเ้ ข้าใจก่อน ๒. ใชภ้ าษาพดู ที่ถกู ต้อง สภุ าพ ๓. พดู ใหเ้ สยี งดัง ฟังชัด แตไ่ ม่ใช่ตะโกน ๔. พดู ใหช้ ัดเจน ใชค้ าแทนช่อื ให้ถูกต้อง ๕. มองผู้พดู ๖. ขณะพูดต้องน่ังหรือยืนตัวตรงในทา่ สบาย ๗. ไม่เอามือล้วง ควกั แกะ เกา ขณะพดู หรือยืนเอามือไขว้หลัง มารยาทในการพูด ๑. ใชน้ า้ เสียงนมุ่ นวล ไม่พดู กระโชกโฮกฮาก ๒. ใชถ้ ้อยคาสภุ าพ ๓. พูดดว้ ยใจจริงและยกย่องผู้ฟัง ๔. ไม่นนิ ทาผู้อื่นหรือพดู วา่ ร้ายผู้อ่ืน ๕. ไม่แสดงความโกรธเคืองผู้ฟัง ๖. รอจังหวะในการพดู ซกั ถาม ไม่พูดสอดขณะผ้อู ่ืนกาลังพูด

แผนการจัดการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๓ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๔ เร่ืองลูกแกะของซาฟิยะห์ เวลา ๑๒ ช่ัวโมง แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๓ เรื่อง การสรา้ งประสบการณ์ในการสะกดคา เวลา ๒ ชั่วโมง วันท่ี ...................................................................................................................................... ********************************************************************************** มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัติ ของชาติ ตวั ช้ีวัด ท ๔.๑ ป.๓ / ๑ เขยี นสะกดคาและบอกความหมายของคา สาระสาคญั การสะกดคาแบบแจกลกู คา เป็นพื้นฐานการอา่ นคาตา่ งๆ ในบทเรียนได้อยา่ งถูกตอ้ ง สาระการเรียนรู้ การสรา้ งประสบการณจ์ ากคา การอา่ นและสะกดคายากและคาใหม่ การเขียนคายากและคาใหม่ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. สามารถสะกดคายากและคาใหมใ่ นบทเรียนได้ ๒. สามารถเขยี นคายากและคาใหม่ไดถ้ กู ต้อง ๓. สามารถทางานร่วมกับคนอน่ื ได้อยา่ งมคี วามสขุ (เก่ง ดี มีสุข) สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีความรอบคอบในการทางาน ๒. เปน็ ผูน้ าและผู้ตามทดี่ ี ๓. มีความภาคภมู ใิ จในภาษาไทย ๔. มีความสนใจใฝ่เรยี นรู้

๕. ใช้ภาษาไดถ้ กู กาลเทศะ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๑. นกั เรียนเล่นเกมใบ้คา ๒. นักเรยี นและครสู นทนาเกย่ี วกับบทเรียน โดยใหน้ กั เรยี นอา่ นแผนภูมทิ ี่ครูและนักเรียนช่วยกันเขียน สรปุ ในชว่ั โมงที่แลว้ และฝกึ สะกดคา คาใหม่ ๓. นกั เรยี นรว่ มกนั ดูภาพจากหนังสอื เรยี นบทที่ ๔ เร่ือง “ลูกแกะของซาฟียะห์” แล้วให้นักเรียนเขียน คาจากภาพในบทเรยี นและฝึกอา่ นสะกดคา ๔. นกั เรยี นรว่ มกนั อา่ นแผนภมู ิคาจากเรอ่ื งทน่ี ักเรียนเลา่ เพอ่ื ทบทวนบทเรียน ๕. นกั เรียนรว่ มกันฝึกอ่านและเขยี นคายาก และสะกดคาจนคล่อง ๖. นกั เรยี นขดี เส้นใต้คาใหม่และคายากจากแผนภมู วิ ่ามกี ่คี า ๑) นกั เรยี นรว่ มกนั นาคายากไปแตง่ ขอ้ ความหรือประโยค ๒) นักเรยี นทุกคนคัดคาใหม่และคายากลงสมุด ๓) แบ่งกลมุ่ เปน็ ๓ กลุ่ม ชว่ ยกนั ทาพจนานุกรมคายากเพื่อเก็บไว้อา่ นในชน้ั เรียน ๗.นักเรียนสรปุ บทเรียนโดยอ่านสะกดคาใหม่จากแผนภมู ิอีกครั้ง ๘.นกั เรยี นทาแบบฝึกพัฒนาการเรียนรู้ สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้ ๑. บตั รคาใหม่ ๒. ภาพจากบทเรยี น ๓. แบบเรยี นภาษาไทย ชุดวรรณคดลี านา ชุดภาษาเพอ่ื ชีวติ ป.๓ เลม่ ๒ ๔. หนังสือเรียนแบบฝึกหดั ทักษะภาษา ชุดภาษาเพอื่ ชวี ิต ป.๓ ๕. แผนภูมิท่ีนักเรยี นร่วมกนั สรปุ ๖. แบบฝึกพัฒนาการเรียนรู้ ๗. เกมใบ้คา กระบวนการวดั และประเมินผล ๑. วธิ ีการ ๑.๑. สงั เกต การอา่ นและสะกดคา การเขียนตามคาบอก ความสนใจในการเรียน กระบวนการทางานของแต่ละคน ๑.๒ ตรวจผลงาน สมุดงาน แบบฝึกหัด

แบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ ๒. เคร่ืองมอื การวดั และประเมนิ ผล แบบประเมินการเขียนตามคาบอก แบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ ๓. เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล ใชก้ ารผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป

ภาคผนวก เกมใบ้คา จุดประสงค์ นกั เรียนสามารถวิเคราะห์ภาษาทางเปน็ ภาษาพูดและภาษาเขียนได้ วิธีเล่น ๑. เลือกอาสาสมคั ร ๕ คน เพือ่ เปน็ ผู้แสดงท่าทาง ๒. ใหอ้ าสาสมัครยืนหนา้ ชั้นเรียน แล้วรับบตั รคาจากครู จากนั้นจงึ ใบ้คาโดยแสดงทา่ ทางตาม บัตรคาที่ได้ ตัวอยา่ ง(ควรใช้คาในบทเรียน) กลอน กลนิ่ การบา้ น กลว้ ยน้าวา้ เกียจคร้าน คณุ ค่า บรรจุ เกา้ อ้นี วม ๓. นกั เรยี นช่วยกันทายคาทลี ะคนโดยใครยกมือก่อนจะเปน็ ผูไ้ ดท้ าย ๔. ให้นกั เรยี นที่ทายถูกต้องนาบัตรคากลา่ วไปติดบนกระดานแมเ่ หล็กเพือ่ ทากิจกรรมในขั้นตอ่ ไป

บัตรคา เหตกุ ารณ์ ประทับใจ โคลงเคลง ชายทุง่ วเิ ศษ สาหรา่ ย นัยนต์ า ปา่ แสม สลวย เรือกอและ ลวดลาย ประกาย สาหรา่ ย ดาวประกายพรึก เนอื งนติ ย์ สลวย สคี ราม ชายหาด สงสาร ความชอบธรรม นยั น์ตา เผอญิ ต่อล้อต่อเถียง ตะวัน ชาติช่วั พทุ โธ่ อันตราย ตะโกน สัตว์เลี้ยง หลับปุ๋ย

แบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ ช่ือ.................................................................ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓.............เลขที่.............. วันท่ี……………………….เดอื น…………………………..………พ.ศ……………….. ******************************************************************** คาช้แี จง ให้นักเรยี นเขียนคาอ่านจากคาที่กาหนดให้อยา่ งถกู ต้อง ตวั อย่าง สาราญ อ่านว่า สา – ราน ๑. ละแวก อา่ นวา่ ………………………………….. ๒.ทยอย อ่านว่า ………………………………….. ๓. ผงกหวั อา่ นวา่ ………………………………….. ๔. สาหสั อา่ นว่า ………………………………….. ๕. สนุ ขั อ่านวา่ ………………………………….. ๖. อาวธุ อ่านว่า ………………………………….. ๗. ป่ าแสม อา่ นวา่ ………………………………….. ๘. วิเศษ อา่ นว่า ………………………………….. ๙. เหตกุ ารณ์ อา่ นว่า ………………………………….. ๑๐.สลวย อา่ นวา่ …………………………………..

แบบฝึกพัฒนาการเรยี นรู้ ชือ่ .................................................................ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๓.............เลขท่ี.............. วนั ท่ี……….เดือน…………………พ.ศ….. ******************************************************************** คาชแี้ จง ให้นักเรียนเขยี นคาจากคาอ่านท่ีกาหนดใหต้ ่อไปน้อี ย่างถูกต้อง ตวั อยา่ ง เถา - วัน เขียนเปน็ เถาวัลย์ ๑. ใน - ตา เขยี นเป็น………………………………….. ๒.สะ - หลวย เขียนเป็น………………………………….. ๓. ประ - โหยด เขียนเป็น………………………………….. ๔. ลา - ทาน เขียนเปน็ ………………………………….. ๕. ชอบ - ทา เขียนเป็น………………………………….. ๖. ชาด - ชวั่ เขยี นเปน็ ………………………………….. ๗. อา - หาน เขียนเป็น………………………………….. ๘.อนั – ตะ - เขียนเป็น………………………………….. ราย เขียนเป็น………………………………….. ๙. สง - สาน เขียนเปน็ ………………………………….. ๑๐.ขะ – หยบั

แผนการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๔ เร่ืองลูกแกะของซาฟิยะห์ เวลา ๑๒ ช่ัวโมง แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๔ เร่อื ง การอ่านในใจบทเรยี น เวลา ๑ ชั่วโมง วันที่ ...................................................................................................................................... ********************************************************************************** มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้วี ัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพ่อื นาไปใชต้ ัดสนิ ใจ แก้ปัญหาใน การดาเนนิ ชีวติ และมนี ิสยั รักการอ่าน ตัวชว้ี ัด ท ๑.๑ ป.๓ /๓ ต้งั คาถามและตอบคาถามเชงิ เหตผุ ลเก่ยี วกับเร่ืองท่ีอ่าน สาระสาคัญ การอ่านในใจทดี่ ีต้องสามารถจับใจความสาคญั ของเร่อื งทอ่ี ่านไดซ้ ่ึงต้องอาศยั การตง้ั คาถามวา่ ใคร ทา อะไร ทไี่ หน อย่างไร เพอื่ ให้ไดค้ าตอบเรยี บเรียงเป็นคาพูด หรือเขยี นเรยี งลาดบั เหตกุ ารณท์ ่ีสาคญั ของเร่ืองที่ อา่ นนัน้ ได้ สาระการเรียนรู้ ๑. คาใหม่ในบทเรียน ๒. บทเรยี นเร่อื ง ลูกแกะของซาฟียะห์ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. นกั เรียนสามารถตั้งคาถามจากเรอื่ งท่อี ่านได้ ๒. นักเรยี นสามารถตอบคาถามจากเรอ่ื งที่อา่ นได้ถกู ต้อง ๓. นักเรยี นสามารถอ่านและบอกความหมายของคาใหม่ในบทเรียนได้ ๔. นักเรียนสามารถแตง่ ประโยคปากเปลา่ จากคาใหม่ได้ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ๑. มคี วามรอบคอบในการทางาน ๒. เป็นผนู้ าและผู้ตามทีด่ ี ๓. มคี วามภาคภมู ใิ จในภาษาไทย ๔. มีความสนใจใฝ่เรียนรู้

๕. ประหยดั และอยู่อย่างพอเพยี ง กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๑. นักเรียนและครรู ่วมกันสนทนาเก่ยี วกับนิทานอีสป ดังน้ี เชน่ - ใครเคยฟังนิทานอสี ปบา้ ง - ทาไมคนไทยจงึ ชอบนทิ านอีสป - นทิ านอีสป เมอ่ื ฟงั แล้วให้คตสิ อนใจหรอื ไม่ - นกั เรียนอยากฟงั นิทานอสี ปเรอื่ งอะไรบา้ ง ๒. นกั เรยี นและครูร่วมกนั สนทนาเก่ยี วกับรปู ภาพของแกะและแพะถึงประโยชนข์ องแกะและแพะ ๓. นกั เรียนสนทนาเกีย่ วกับภาพโดยตอบคาถามว่า ใครทาอะไร ทไี่ หนอย่างไร เพราะเหตใุ ด ๔. นกั เรยี นฝึกเล่าหรือทานายเรอ่ื งจากภาพ ว่านา่ จะมีเหตุการณ์อยา่ งไร ๕. นักเรียนอ่านคาใหม่ทเ่ี ป็นคายากในบทเรยี นคาใดอ่านไมไ่ ดใ้ หส้ ะกดคา ๖. นักเรยี นแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม แล้วใหช้ ว่ ยกันอ่านคาใหม่พรอ้ มกบั หาความหมาย ๗. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมาอ่านคาใหมห่ น้าช้ันเรยี น ให้นกั เรยี นทงั้ หมดอ่านตาม ๘. นกั เรยี นฝกึ แตง่ ประโยคปากเปลา่ จากคาใหมบ่ างคา ๙. นกั เรยี นอ่านคาใหม่และคายากท้ายบทเรยี น ๑๐. นักเรยี นและครชู ่วยกันต้ังจดุ ประสงค์การอ่านในใจร่วมกนั เพื่อจับใจความสาคัญของเรื่อง เพ่ือต้งั คาถามและตอบคาถามจากเรื่อง แลว้ ใหน้ กั เรียนอา่ นในใจประมาณ ๑๐ นาที ๑๑. ใหน้ กั เรยี นแบ่งกลมุ่ ๔ กล่มุ ๆ ละ ๔ - ๕ คน รว่ มกนั ตั้งคาถามจากเร่ืองท่ีอา่ นกลมุ่ ละ ๔ - ๕ คาถามและคาตอบ ๑๒. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ออกมานาเสนอผลงานกลมุ่ ละ ๑ คาถาม และตอบคาถามโดยเขยี นกระดาน ดาไมซ่ ้ากัน ๑๓. นกั เรียนช่วยกนั อา่ นคาถาม และคาตอบบนกระดานดาและคดั ลงในสมดุ ส่งครู ๑๔. นักเรยี นทาแบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ (ภาคผนวก) ๑๕. มอบหมายให้นกั เรียนทาแบบฝกึ หดั ทักษะภาษาเปน็ การบา้ น ส่อื และแหล่งการเรียนรู้ ๑. บตั รคาใหม่ ๒. บัตรคายากในบทเรียน ๓. แบบฝึกพัฒนาการเรียนรู้ ๔. รปู ภาพ ๕. กระเป๋าผนงั ๖ พจนานุกรม ๖. หนงั สือแบบเรยี นภาษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ เล่ม ๑ ๗. แบบฝึกหดั ทักษะภาษา ชดุ ภาษาเพื่อชีวติ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓

กระบวนการวดั และประเมินผล ๑. วิธกี าร ๑.๑ สังเกต การฟงั การเล่าเรอื่ ง การซกั ถาม การตอบคาถาม การคดั ลายมือ ความสนใจในการเรียน กระบวนการทางาน ๑.๒ ตรวจ แบบฝึกพฒั นาการเรยี นรู้ สมดุ งาน แบบฝกึ หดั ๑.๒ เครอ่ื งมอื การวดั และประเมินผล แบบสังเกตการทากจิ กรรม แบบฝึกพัฒนาการเรยี นรู้ ๑.๓ เกณฑ์การวดั และประเมินผล ใช้การผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๗๐ ขึน้ ไป

เหตกุ ารณ์ ภาคผนวกตัวอย่างบัตรคา โคลงเคลง วเิ ศษ ประทบั ใจ ชายทุ่ง สลวย ปา่ แสม สาหร่าย ลวดลาย นยั น์ตา ดาวประกายพรกึ ประกาย เรอื กอและ สลวย สีคราม ชายหาด เนอื งนติ ย์ นัยน์ตา สาหร่าย ความชอบธรรม ตะวัน ตะโกน เผอญิ สัตว์เล้ยี ง ชาตชิ วั่ พทุ โธ่ อนั ตราย สงสาร หลบั ปุ๋ย ต่อล้อต่อเถยี ง

แบบฝึกพัฒนาการเรยี นรู้ ชื่อ.................................................................ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓.............เลขท.ี่ ............. วนั ท่ี…………….เดอื น…………………………..………พ.ศ………………….. ******************************************************************** คาชีแ้ จง นกั เรยี นตอบคาถามให้ถกู ตอ้ ง ๑. จากนทิ านเรอ่ื ง หมาปา่ กับลกู แกะ และ เดก็ เลีย้ งแกะ แลว้ นกั เรียนเคยอา่ นนทิ านอสี ปเรื่องใดอีกบ้าง ลองเลา่ ให้เพ่ือน ๆ ฟงั ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. เรือ่ งหมาปา่ กบั ลูกแกะ และเรอื่ ง เด็กเล้ียงแกะ ให้ขอ้ คิดอะไรบา้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๓. หากนักเรียนพบคนทม่ี ีนสิ ัยเหมือนหมาป่าในนิทานเรื่อง หมาปา่ กับลูกแกะนกั เรียนจะทาอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๔. นกั เรียนชอบตัวละครใดในนิทานสองเร่ืองนี้มากทสี่ ดุ เพราะเหตุใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

แบบฝึกพฒั นาการเรียนรู้ (การบ้านหรืองานนอกเวลา) เรอ่ื ง การเขยี นรายงานการอ่านหนังสือ ชอื่ ……………………………………………………เลขที่…………………………... ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๓ คาช้ีแจง ให้นักเรียนอ่านหนังสือแลว้ เติมข้อความลงในแบบรายงานการอ่านหนังสือให้ไดใ้ จความสมบรู ณ์ แบบรายงานการอา่ นหนังสือ เรื่อง ……………………………………………… ชื่อผู้แต่ง ………………………………………………………………………………………………………………………………… ตัวละคร ………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… เนอ้ื เร่อื งย่อ ………………………………………………………………………………………………………………….………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ตัวละครที่ชอบมากท่สี ดุ …………………………………………………………………………………………..……………… ชอบเพราะ ………………………………………………………………………………………………………………..…………… ตัวละครท่ีไมช่ อบมากทีส่ ดุ …………………………………………………………………………………………….………… ไมช่ อบเพราะ ………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อคิดที่ไดจ้ ากเรื่อง…………………………………………………………………………………………………….…………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. เมือ่ อ่านหนงั สอื เล่มนี้แลว้ ชอบเพราะ ………………………………………………………………………………………. ชอบเพราะ …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….

แผนการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๔ เร่ือง ลูกแกะของซาฟิยะห์ เวลา ๑๒ ชั่วโมง แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๕ เรอื่ ง คาท่ีมีความหมายเหมือนกัน เวลา ๑ ช่ัวโมง วนั ท่ี ...................................................................................................................................... ********************************************************************************** มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวดั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน การดาเนนิ ชีวติ และมีนิสัยรักการอา่ น ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๓ / ๑ อ่านออกเสียงคา ข้อความ เร่ืองสน้ั ๆ และบทรอ้ ยกรอง ง่ายๆ ไดถ้ ูกต้อง คล่องแคล่ว สาระสาคัญ การฝึกอา่ นคาตา่ งๆ ในภาษาไทยจะช่วยให้มที ักษะพนื้ ฐานด้านการสะกดคาเหล่าน้นั ไดถ้ ูกต้อง สาระการเรยี นรู้ ๑. การอ่านคายากและการอา่ นสะกดคายากในบทเรียน ๒. การหาความหมายของคาในบทเรยี น ๓. การอา่ นคาบอกสจี ากธรรมชาติ ๔. การอ่านคาทม่ี คี วามหมายเหมือนกัน จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. สามารถอ่านสะกดคาและแจกลูกคาได้ ๒. สามารถอา่ นคาทีม่ ีความหมายเหมือนกันได้ ๓. สามารถเขียนและแต่งประโยคได้ ๔. สามารถหาความหมายของคาได้ ๕. สามารถอา่ นคาบอกสจี ากธรรมชาตไิ ด้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น ๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มจี ติ สานึกในความเป็นไทย ๒. มคี วามสามัคคใี นหมคู่ ณะ

๓. ใชภ้ าษาสอ่ื สารได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ๔. นาข้อคิดมาใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ๕. ประหยดั และอยู่อยา่ งพอเพียง กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๑. นักเรยี นเลน่ เกมยิม้ รับดอกไม้ ๒. ทบทวนคาต่าง ๆ จากบทเรียน โดยให้นักเรียนอ่านแผนภูมิท่ีครูและนักเรียนช่วยกันเขียนสรุปไว้ แลว้ โดยอา่ นคาทเี่ รายังไม่ไดเ้ รียนหรืออา่ นยงั ไมไ่ ด้วา่ มอี ะไรบ้าง ๓. แจกแบบฝกึ การอา่ นและความหมายของคาใหน้ ักเรียนฝกึ อ่านเป็นกลุ่ม เปน็ คู่ และเป็นรายบคุ คล ๔. นกั เรียนศึกษาใบความรู้ เร่อื ง การอ่านคาและหาความหมายของคา ๕. นักเรยี นอ่านคาเหลา่ นตี้ ามครู ๒ - ๓ เทีย่ ว โดยอา่ นทลี ะคนและอ่านเป็นกลุ่ม เช่น ซาฟยี ะ อา่ นวา่ ซา – ฟี – ยะ หมายถึง สดใส บริสุทธ์ิ นที อา่ นวา่ นะ – ที หมายถึง แม่น้า ป๊ะ อ่านวา่ ปะ๊ หมายถึง พ่อ ฯลฯ ๖. นักเรยี นรว่ มกนั สรุปหลกั เกณฑ์การอ่านคาและหาความหมายของคา ๗. นกั เรยี นศึกษาใบความรู้ เรอื่ ง การหาคาท่ีมีความหมายเหมอื นกนั ๘. ตวั แทนหรอื นักเรยี นอาสาสมัครออกมาสรุปรายงานหน้าชนั้ เรยี นเรอื่ ง การหาคาที่มีความหมาย เหมือนกนั โดยครแู ละเพื่อนๆ ช่วยกนั เติมเต็มในสว่ นทบ่ี กพร่องไมส่ มบรู ณ์ ๙. แบง่ นกั เรียนออกเป็น ๒ กลมุ่ แลว้ ใหน้ ักเรยี นเลน่ เกมแข่งขันกนั หาคาบอกสจี ากธรรมชาติ แล้ว เขียนบนกระดานดา กลุ่มใดเขียนได้มากท่สี ดุ เป็นฝา่ ยชนะ ๑๐.นักเรียนคดั คาทบี่ อกสจี ากธรรมชาติ ลงในสมุดของแต่ละกลุ่มเพื่อฝึกอา่ น (ถา้ นักเรียนทาไมเ่ สรจ็ ก็ให้ทาเป็นการบา้ น) ๑๑. นกั เรยี นชว่ ยกนั นาคาบอกสจี ากธรรมชาติ ในบทเรียนมาแต่งประโยคปากเปล่า ๑๒. นักเรยี นทาแบบฝึกพัฒนาการเรยี นรู้ (ภาคผนวก) ๑๓. มอบหมายให้นกั เรียนทาแบบฝึกหดั ทักษะภาษา ชุดภาษาเพื่อชีวิต สือ่ และแหล่งการเรยี นรู้ ๑. บัตรภาพคา ๒. ใบความรู้ ๓. แบบฝึกพัฒนาการเรียนรู้ ๔. หนงั สือเรยี นภาษาไทย ชดุ วรรณคดีลานา ชุดภาษาเพื่อชวี ติ ช้นั ป. ๓ ๕. แบบฝึกหดั ทักษะภาษา ชุดภาษาเพ่ือชวี ติ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๓

๖. เกม “ยิ้มรบั ดอกไม้” กระบวนการวดั และประเมินผล ๑. วธิ ีการ ๑.๑ สังเกต การอา่ นออกเสยี ง การเขียนคา ความสนใจในการเรยี น กระบวนการทางานของแตล่ ะคน ๑.๒ ตรวจผลงาน สมุดงาน แบบฝึกหดั แบบฝึกพัฒนาการเรียนรู้ ๒. เครือ่ งมือการวดั และประเมนิ ผล แบบประเมินพฤตกิ รรมการทางาน แบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ ๓. เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล ใช้การผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๗๐ ขนึ้ ไป

ภาคผนวกตวั อยา่ งบตั รคา เหตุการณ์ ประทบั ใจ โคลงเคลง วเิ ศษ ป่าแสม ชายทงุ่ สลวย นยั น์ตา สาหรา่ ย ลวดลาย ประกาย ดาวประกายพรึก สคี ราม ชายหาด เรือกอและ นัยน์ตา สาหร่าย สลวย ตะโกน เผอิญ เนอื งนิตย์ ชาตชิ ั่ว พุทโธ่ อนั ตราย สงสาร ความชอบธรรม หลบั ปุ๋ย ต่อลอ้ ต่อเถียง ตะวนั สัตว์เลย้ี ง ใบความรู้

อา่ นคาบอกสีจากธรรมชาติ จากบทเรยี น นักเรยี นจะเห็นถ้อยคาท่ที าใหม้ องเหน็ ภาพ ช่วยขยายความนกึ คิดให้ชดั เจน ขนึ้ โดยใช้คาบอกสีจากธรรมชาติ เช่น ซาฟยี ะห์ผวิ คลา้ เหมือนสนี า้ ผ้งึ ชอบนา้ ทะเลสีคราม กลา่ ว ไดว้ ่าสีมอี ิทธิพลตอ่ ความคดิ จินตนาการ คนท่ัวไปจึงนามาใช้ประกอบการพดู และเขียนเสมอ ในภาษาไทยมคี าบอกสีท่มี าจากธรรมชาตเิ ปน็ จานวนมาก เช่น สีของโลหะ อญั มณี พืช สตั ว์ ทอ้ งฟา้ ทะเล อาหาร ฯลฯ ทาใหผ้ อู้ ่าน ผู้ฟังนกึ ถึงสเี หล่าน้ีได้ชัดเจนทันที โดยนึกเชอ่ื มโยง สีกบั ส่งิ ตา่ ง ๆ ที่เคยเหน็ หรอื รู้จักมาก่อน นักเรยี นอา่ นคาบอกสีต่อไปนี้แลว้ ชว่ ยกันแยกแยะท่ีมาของสี และคดิ คาบอกสีอืน่ ๆ เพิม่ เตมิ ด้วย สฟี ้าหม่น สีนา้ ทะเล สีหมอก สที อง สีสนิมเหล็ก สีเงิน สไี พล สีทับทิม สีนิล สีเนื้อ สงี าช้าง สีไขไ่ ก่ สีปูนแห้ง สีกลบี บัว สกี หุ ลาบ สีบานเยน็ สที ราย สีนา้ ตาลไหม้ สีหมากสุก สีเขยี วใบไม้ สตี องอ่อน ใบความรู้

อา่ นคาที่มีความหมายเหมือนกัน ภาษาไทยเปน็ ภาษาทร่ี า่ รวยถ้อยคา มคี าเปน็ จานวนมากที่มีรูปและเสียงต่างกันแต่มีความหมาย เหมอื นกัน ให้เลอื กสรรใชส้ ือ่ สารในงานเขียนและโอกาสตา่ ง ๆ นกั เรียนอา่ นคาที่มีความหมายเหมอื นกันต่อไปนี้ แลว้ คิดคาอ่ืน ๆ ทม่ี คี วามหมายเหมือนกนั แต่ มรี ปู และเสยี งตา่ งกันเพม่ิ เติมอีก ทะเล สาคร ชลธาร สมุทร ภูเขา ครี ี พนม สิงขร ดาว ดวงดาว ดารา ดาริกา ดารากร พระอาทติ ย์ ตะวนั ดวงตะวัน สุริยา รวี พระจันทร์ เดือน ดวงเดือน แข โสม จนั ทรา จันทร ศศธิ ร

แบบฝึกพฒั นาการเรียนรู้ ช่ือ.................................................................ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓.............เลขท่ี.............. วนั ท่ี……………….เดือน…………………………………พ.ศ………………………….... ******************************************************************** คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนเขยี นคาท่ีบอกสี แล้วแยกแยะท่ีมาของสใี ห้ถกู ต้อง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………..……………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………….………..…………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………….…………………………..………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………….………..……………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………….…………………………..………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………….………..……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………….…………………………..………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………….………..……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………….…………………………..………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………….………..……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………….…………………………..………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………….………..……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………

แบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ ช่ือ.................................................................ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๓.............เลขท่ี.............. วนั ท่ี……….เดือน……………………………………….…………พ.ศ……………………... ******************************************************************** คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนเขียนคาทีค่ าที่มคี วามหมายเหมือนกันลงในช่องวา่ งท่ีกาหนดให้ พระจันทร์ คาที่มคี วามหมาย ดาว เหมือนกนั ใช้เรียกช่ือ ทะเล

ภาคผนวก เกม “ยิ้มรบั ดอกไม้” จุดประสงค์ ๑. เพ่อื ฝึกการอ่าน ๒. เพ่ือความสนกุ กบั บทเรยี น อปุ กรณ์และวิธีทา ๑. กระดาษแข็งใช้ทาบัตรคา คาใหม่ ตัดเป็นรูปดอกไม้ จานวนกี่บัตรก็ได้ แล้วแต่เวลาที่ กาหนดใหน้ ักเรียนเล่น ๒. จานวนผู้เล่น ไม่จากดั จานวน ๓. แผนภูมิเพลง “ย้มิ รบั ดอกไม”้ โดยให้นักเรยี นอ่านและร้องใหไ้ ดก้ ่อนเล่นเกม เพลง “ยิ้มรับดอกไม้” สง่ ดอกไมแ้ ลว้ กส็ ่งยิ้ม เธอจงยิม้ แล้วรบั ดอกไม้ โปรดถนอมอยา่ ให้ร่วงหลน่ เราทกุ คนรักษาใหไ้ ด้ ยมิ้ ยิม้ ยม้ิ แล้วส่งดอกไม้ ไดด้ อกไม้แล้วกจ็ งย้ิม หลั่น ลันลา ลันลา ลนั ลา หล่นั ลันลา ลนั ลา ลันลา กิจกรรม ๑. ให้นกั เรียนยืนเป็นวงกลม ร้องเพลง “ยมิ้ รบั ดอกไม”้ ๒. ครสู ่งบตั รคาให้ทีละบัตร ขณะทคี่ รูและนกั เรยี นร้องเพลง บัตรคาท่ีครูสง่ ให้จะต้องอ่านแล้วส่งต่อไป เรื่อย ๆ ๓. ครใู ห้สญั ญาณหยดุ รอ้ งเพลง บัตรคาอยู่ในมือใคร ผู้นั้นจะต้องอ่านบัตรคาใหม่ (อาจสะกดด้วยก็ได้ ใครอ่านได้ถกู ตอ้ ง เพ่ือน ๆ จะปรบมือให้ หมุนเวียนไปเช่นน้จี นครบทุกคน)

แผนการจัดการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๓ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๔ เร่ือง ลูกแกะของซาฟียะห์ เวลา ๑๒ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๖ เร่ือง การอ่านออกเสียงบทเรียน เวลา ๑ ชั่วโมง วันท่ี ...................................................................................................................................... ********************************************************************************** มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชวี้ ดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคิดเพอ่ื นาไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ญั หาใน การดาเนนิ ชีวติ และมนี สิ ัยรักการอา่ น ตวั ช้วี ัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๓ / ๑ อ่านออกเสยี งคา ข้อความ เร่ืองสน้ั ๆ และบทรอ้ ยกรองง่ายๆ ได ถกู ต้อง คล่องแคลว่ สาระสาคัญ การอ่านออกเสียงบทเรียนจะต้องฝกึ ทกั ษะการอา่ นคาเป็นคายากโดยต้องอ่านได้ถูกต้องตาม หลักเกณฑก์ ารอ่าน ฝกึ อ่านคา ประโยคและเนื้อเร่อื งในบทเรียน โดยการแบง่ วรรคตอนการอ่านให้ถกู ต้อง สาระการเรียนรู้ ๑. บทเรยี นหนว่ ยที่ ๒ เรอ่ื ง ลกู แกะของซาฟยี ะห์ ๒. การอ่านออกเสยี งเนื้อเรื่องในบทเรยี น จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. นักเรยี นสามารถอ่านออกเสยี งคายากได้ถูกต้องชัดเจน ๒. นกั เรยี นสามารถตอบคาถามจากเร่อื งท่ีอ่านได้ถกู ต้อง ๓. นักเรยี นสามารถอา่ นประโยคในบทเรยี นไดถ้ ูกตอ้ ง ๔. นกั เรียนสามารถอ่านออกเสยี งในบทเรยี นได้ถกู ต้อง สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๔. นักเรียนสามารถอา่ นออกเสยี งในบทเรียนได้ถูกต้อง คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. มีจิตสานึกในความเปน็ ไทย ๒. มคี วามสามคั คใี นหมู่คณะ ๓. ใชภ้ าษาสอ่ื สารได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ

๔. นาขอ้ คดิ มาใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ๕. ประหยัดและอยู่อย่างพอเพียง สาระการเรยี นรู้ ๑. บทเรยี นหนว่ ยที่ ๒ เรอื่ ง ลกู แกะของซาฟยี ะห์ ๒. การอ่านออกเสยี งเนื้อเรื่องในบทเรยี น กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๑. นักเรียนฝกึ อา่ นคายากในบทเรียนจากบัตรคา ๒. นักเรียนอา่ นแบบฝึกอ่านท้ายบทเรียนใหจ้ นคล่อง ๓. นกั เรยี นและครูร่วมกนั สนทนาความหมายของคายาก โดยนกั เรียนเปิดหาความหมายจาก พจนานกุ รม และนักเรยี นอาสาสมคั รออกไปเขียนบนกระดานดา และใหน้ ักเรยี นทาแบบฝึกพัฒนาการเรยี นรู้ ๔. นกั เรียนอา่ นออกเสียงจากแถบประโยค หรือแผนภมู ิประโยคทค่ี รูเขียนบนกระดานดา โดยสงั เกต คาทข่ี ีดเสน้ ใต้ ดังน้ี ซาฟยี ะห์เกิดทีห่ มู่บา้ นเล็กๆ ในชายแดนของภาคใต้ เพอ่ื นบา้ นนาเรอื กอและออกไปหาปลา หมาป่ากินนา้ อยู่ท่ตี ้นลาธารแหง่ หนง่ึ ยูซปุ เลา่ เร่ืองท่ีได้ออกเรือไปหาปลาในทะเล ๕. แบง่ นกั เรยี นออกเปน็ กลุ่มตามความเหมาะสม โดยตกลงการเรยี นรู้รว่ มกัน ๖. นกั เรียนฝึกอ่านออกเสียงในบทเรยี น ดงั น้ี ครูอา่ นให้นักเรียนฟังเปน็ ตัวอยา่ ง นักเรียนฝึกอา่ นคนละ ๑ ยอ่ หนา้ จนจบเร่อื ง นกั เรยี นฝึกอ่านในกลมุ่ ของตนเอง นกั เรียนแต่ละกลุ่มค้นหาคายากและความหมายของคาในบทเรียน ตัวแทนกลมุ่ นาเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรยี น ๗. ครูและนักเรยี นชว่ ยกันสรุปบทเรยี น ๘. นกั เรยี นทาแบบฝึกหดั ทักษะภาษา ชดุ ภาษาเพ่อื ชวี ิตหนว่ ยที่ ๒ (การบ้าน) สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ ๑ บตั รคายาก ๒. แถบประโยค ๓. กระเป๋าผนัง ๔. พจนานุกรม ๕. แบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ ๖. หนงั สอื เรียนภาษาไทย ชดุ วรรณคดลี านา ๗. แบบฝกึ หดั ทักษะภาษา

กระบวนการวัดและประเมินผล ๑. วิธกี าร ๑.๑ สงั เกต การอ่านออกเสียง การเขยี นตามคาบอก ความสนใจในการเรียน กระบวนการทางานของแต่ละคน ๑.๒ ตรวจผลงาน สมุดงาน แบบฝึกหัด แบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ ๒. เครอ่ื งมอื การวัดและประเมินผล แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการทางาน แบบฝึกพัฒนาการเรียนรู้ ๓. เกณฑ์การวดั และประเมินผล ใชก้ ารผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๗๐ ขน้ึ ไป

ภาคผนวกตวั อยา่ งบัตรคา เหตุการณ์ ประทับใจ โคลงเคลง วิเศษ ปา่ แสม ชายทุ่ง สลวย นยั น์ตา สาหรา่ ย ลวดลาย ประกาย ดาวประกายพรึก สคี ราม ชายหาด เรือกอและ นัยน์ตา สาหร่าย สลวย ตะโกน เผอิญ เนอื งนิตย์ ชาติช่ัว พุทโธ่ อนั ตราย สงสาร ความชอบธรรม หลบั ปุ๋ย ตอ่ ลอ้ ต่อเถียง ตะวนั สตั ว์เลยี้ ง

แบบฝึกพัฒนาการเรียนรู้ ช่อื .................................................................ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๓.............เลขที่.............. วนั ที่……………...เดอื น……………………………………………………พ.ศ………………………. ******************************************************************** คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนเขยี นคาอา่ นจากคาท่ีกาหนดให้อย่างถูกต้อง ตัวอย่าง สาราญ อา่ นว่า สา – ราน ๑. ซาฟี ยะห์ อา่ นว่า ………………………………….. ๒.นที อ่านวา่ ………………………………….. ๓. ปูแสม อา่ นว่า ………………………………….. ๔.เรอื กอและ อา่ นวา่ ………………………………….. ๕. ลาธาร อ่านว่า………………………………….. ๖. ยูซุป อ่านวา่ ………………………………….. ๗. อบั ดลุ เลาะห์ อ่านว่า………………………………….. ๘. ฮาซานะฮ์ อ่านวา่ ………………………………….. ๙. ทยอย อา่ นว่า………………………………….. ๑๐.ผงกหวั อ่านวา่ …………………………………..

แผนการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง ลกู แกะของซาฟยิ ะห์ เวลา ๑๒ ชว่ั โมง แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๗ เรือ่ ง การเขียนแผนภาพโครงเร่ือง เวลา ๑ ชว่ั โมง วนั ท่ี ...................................................................................................................................... ********************************************************************************** มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนส่ือสาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ และเขียนเรื่องราว ในรปู แบบต่างๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ตวั ชว้ี ดั ท ๒.๑ ป.๓ / ๒ เขียนบรรยายเก่ียวกับสง่ิ ใดส่งิ หน่งึ ได้อยา่ งชัดเจน สาระสาคญั ๑. การอ่านในใจเพือ่ ให้สามารถจับใจความสาคัญของเรือ่ งได้ สามารถตอบคาถามจากเร่ือง บอกและ เรียงลาดับเหตกุ ารณ์ที่สาคญั ในเร่อื ง แล้วสามารถเขยี นแผนภาพโครงเร่ือง เพ่อื สรปุ เร่ืองหรือเลา่ เร่ืองโดยใช้ คาพูดของตนเองตามแผนภาพโครงเรอ่ื งได้ ๒. แผนภาพโครงเรื่อง เป็นแผนภาพที่ประกอบดว้ ยส่วนของคาถามเก่ียวกับเรื่องดังน้ี ใคร ทาอะไร ที่ไหน อย่างไร เพราะเหตใุ ด และข้อคิดจากเรอื่ ง ๓. แผนภาพโครงเรือ่ ง จะช่วยให้สามารถบอกเหตุการณ์ของเรอ่ื งเปน็ ตอน ๆ โดยอาศัยการคดิ คาตอบ จากคาถามในแผนภาพ และช่วยลาดบั เรอ่ื งได้อย่างต่อเน่อื ง ทาใหส้ ามารถสรปุ เร่ืองท้ังหมดได้ สาระการเรียนรู้ ๑. การเขยี นแผนภาพโครงเร่ืองจากบทเรียน เร่ือง ลูกแกะของซาฟยี ะห์ ๒. การเขียนเรื่องตามแผนภาพโครงเรือ่ ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. นกั เรียนสามารถเขยี นแผนภาพโครงเร่อื งได้ ๒. นักเรยี นสามารถเล่าเรอ่ื งจากแผนภาพโครงเรื่องได้ ๓. นักเรยี นสามารถเขยี นเรื่องจากแผนภาพโครงเรื่องได้ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ๑. ความสามารถในการสือ่ สาร ๒. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. รักและชนื่ ชมในเอกลักษณ์ไทย ๒. คิดวิเคราะหเ์ ร่อื งราวตา่ งๆได้ ๓. มีวินัยในตนเอง ๔. มคี วามสนใจใฝเ่ รยี นรู้ ๕. อย่อู ย่างพอเพียง กระบวนการจดั การเรียนรู้ ๑. นักเรยี นและครรู ่วมกันสนทนาทบทวนเนื้อเรื่องในบทเรยี น ๒. นักเรยี นเล่นเกมเรียงฉนั หนอ่ ย ๓. นกั เรียนอา่ นบทเรียนในใจอีกคร้ังเพื่อจับใจความสาคัญของเร่ือง ๔. นกั เรยี นและครูช่วยกันอภปิ รายและเตมิ ข้อความของคาถามในแผนภาพโครงเร่ืองได้ดงั น้ี ใคร : ………………………………………………………………………………………… ท่ไี หน : ………………………………………………………………………………………… เมอ่ื ไร : ………………………………………………………………………………………… เหตกุ ารณ์ : …………………………………………………………….…………………………… …………………………………………………………………………….…………… …………………………………………………………………………………….…… …………………………………………………………...……………………………… ……………………………………………………………………………………….… อย่างไร : ………………………………………………………………………………………..… ข้อคดิ : ……………………………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………………….……… …………………………………………………………………………………….…… ๕. แบ่งนักเรยี นออกเปน็ กลมุ่ ตามความเหมาะสม ๓ กลุม่ ให้นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ มารับใบงานกลมุ่ ดงั นี้ ๕.๑ กลมุ่ ท่ี ๑ เขยี นแผนภาพโครงเร่อื ง เร่อื ง ลกู แกะของซาฟียะห์ ๕.๒ กลมุ่ ที่ ๒ เขียนแผนภาพโครงเรื่อง เรอื่ ง หมาป่ากับลกู แกะ ๕.๓ กลมุ่ ท่ี ๑ เขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง เรอื่ ง เดก็ เลี้ยงแกะ ๖. ใหน้ ักเรยี นตวั แทนกลมุ่ ออกมาเลา่ เร่ืองตามแผนภาพโครงเรือ่ งให้เพื่อน ฟังโดยครูและนกั เรยี นคน อนื่ ๆ หรอื กลุ่มอนื่ ๆ คอยเติมเต็มในสว่ นทข่ี าดหายไป ๗. มอบหมายให้นักเรยี นแต่ละคนเขยี นเร่ืองตามแผนภาพโครงเรื่องดว้ ยคาพูดของตนเอง ในแบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ ที่ครแู จกให้แลว้ สง่ ครูตรวจ ๘. นกั เรียนอาสาสมคั รออกมานาเสนอผลงาน ประมาณ ๒ -๓ คน ๙. มอบหมายให้นกั เรียนทาแบบฝึกหดั ทักษะภาษา เปน็ การบ้าน

สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ ๑. แผนภูมิแผนภาพโครงเร่ือง ๒. แถบประโยค ๓. กระเป๋าผนัง ๔. แบบฝึกพัฒนาการเรยี นรู้ ๕. หนังสอื แบบเรียนภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ ๖. แบบฝึกหัดทักษะภาษา ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๓ ๗. เกมเรียงฉนั หน่อย กระบวนการวัดและประเมินผล ๑. วิธกี าร ๑.๑ สังเกต การอา่ นในใจ การเลา่ เรอื่ ง การซักถาม การตอบคาถาม ความสนใจในการเรยี น กระบวนการทางาน ๑.๒ ตรวจ แบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ สมดุ งาน แบบฝึกหัด ๑.๒ เคร่ืองมือการวัดและประเมนิ ผล แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี น แบบฝึกพฒั นาการเรยี นรู้ ๑.๓ เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล ใชก้ ารผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๗๐ ขึน้ ไป

เกม เรยี งฉันหน่อย จุดประสงค์ เพอ่ื เรียงคาตามลาดับพยัญชนะให้ถูกตอ้ งตามหลักการเรยี งคาในพจนานกุ รม อุปกรณ์ ๑. กระเป๋าผนัง ๒. บตั รคาใหม่ ๓. ฉลากรายชื่อนักเรียน วธิ ีเลน่ ๑. วางบัตรคาทั้งหมดลงบนโตะ๊ ๒. ครูจับฉลากรายช่ือนกั เรียน ใหน้ กั เรียนออกมาหาบัตรคาแล้วเอาไปวางไว้ที่ กระเป๋าผนัง แลว้ ชว่ ยกันเรียงคาตามลาดับพยญั ชนะ ๓. นกั เรียนทุกคนคัดคาทเี่ รียงลาดับถูกต้องแล้วลงในสมดุ เพื่อฝกึ อา่ น

แบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ (งานกลุ่ม) วนั ที่………..…เดอื น………………….……………………….พ.ศ……………….…… คาช้แี จง ใหน้ กั เรยี นเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง เร่ือง ลูกแกะของซาฟียะห์ โดยใช้ภาษาของตนเองอยา่ งสน้ั ๆ โดยการเขียนสรปุ เร่ืองทีส่ าคญั และเรียงลาดับเหตุการณใ์ ห้ต่อเน่ือง และมีสาระ ใคร : …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………….…….. ทีไ่ หน เมือ่ ไร : ……………………………………………………………..…………… เหตุการณ์ : ……………………………………………………………………..…… : …………………………………………………………..……………… …………………………………………..……………………………… ………………………….. …………………………………………………………..……………… …………………………………………..……………………………… ………………………….. …………………………………………………………..……………… …………………………………………..……………………………… ………………………….. …………………………………………………………..……………… …………………………………………..……………………………… ………………………….. …………………………………………………………..……………… …………………………………………..……………………………… …………………………..

…………………………………………………………..……………… …………………………………………..……………………………… ………………………….. …………………………………………………………..……………… …………………………………………..……………………………… ………………………….. อย่างไร : …………………………………………………………………………….… ……………………………………………………………………………... ข้อคดิ : ……………………………………………………………………..…………… ………………………………………………………………………………… รายชื่อสมาชิกกลุ่ม 1………………………………… 2………………………………….. 3………………………………… 4………………………………….. 5………………………………… 6…………………………………..