Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนจัดการเรียนรู้ วรรณคดีลำนำ บทที่ ๒ แม่ไก่อยู่ในตะกร้า (บันทึกอัตโนมัติ)

แผนจัดการเรียนรู้ วรรณคดีลำนำ บทที่ ๒ แม่ไก่อยู่ในตะกร้า (บันทึกอัตโนมัติ)

Description: แผนจัดการเรียนรู้ วรรณคดีลำนำ บทที่ ๒ แม่ไก่อยู่ในตะกร้า (บันทึกอัตโนมัติ)

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย(วรรณคด)ี ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๒ เรื่อง แม่ไกอ่ ยู่ในตะกรา้ นางเยน็ ฤดี คุ้มสพุ รรณ โรงเรยี นพิณพลราษฎร์ ต้งั ตรงจิตร ๑๒ สานกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาพิษณุโลก เขต ๒

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๑ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ เร่ืองแม่ไก่อย่ใู นตะกร้า เวลา ๑๑ ชั่วโมง แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๑ เร่ือง การสรา้ งประสบการณท์ างเน้ือหา เวลา ๑ ช่ัวโมง วนั ที่ ....................................................................................................................... ************************************************************************************************** มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความร้แู ละความคดิ ไปใช้ตัดสินใจแก้ปญั หา และสรา้ ง วิสยั ทัศนใ์ นการดาเนินชีวิต และมีนิสยั รกั การอ่าน ตวั ชวี้ ดั มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๓ / ๔ ลาดบั เหตุการณ์และคาดคะเนเหตุการณจ์ ากเร่ืองที่อ่านโดยระบเุ หตผุ ล ประกอบ สาระสาคัญ การฟังเร่ือง เป็นการสรา้ งประสบการณ์ทางเน้ือหาชว่ ยใหเ้ กดิ ทกั ษะในการจับใจความสาคัญของเรือ่ ง ความสามารถในการส่อื สาร ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต สาระการเรียนรู้ ๑. ฟังเร่ือง “แมไ่ กอ่ ยู่ในตะกร้า” ๒. ตอบคาถามของเร่อื ง ๓. เลา่ เร่อื งและอ่านเรื่องที่เล่า ๔. คัดเรอ่ื งลงในสมดุ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. ฟังเร่ือง “แมไ่ ก่อยู่ในตะกร้า” แลว้ ตอบคาถามและเลา่ เรื่องได้ถกู ต้อง ๒. อา่ นเร่ืองที่เลา่ ไดถ้ ูกต้อง ๓. คัดเร่อื ง “แม่ไก่อยใู่ นตะกร้า” จากแผนภมู ลิ งสมดุ ไวฝ้ ึกอา่ นได้ถูกตอ้ ง สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. รกั และชื่นชมในเอกลักษณไ์ ทย ๒. มีความซ่ือสัตยส์ ุจรติ ๓. มวี ินยั ในตนเอง

๔. มีความสนใจใฝ่เรยี นรู้ ๕. อย่อู ย่างพอเพยี ง กระบวนการจดั การเรียนรู้ นาสู่กระบวนการเรียนรู้ ๑. นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนการเรียนรู้ ๒. ตดิ แผนภูมเิ พลง “แม่ ก กา” แล้วร้องเพลงให้นักเรียนฟัง ๒ – ๓ จบและนกั เรยี น ฝึกร้องตามจน คล่อง กระบวนการเรียนรู้ ๑. นกั เรยี นดูภาพตวั ละครในเรอื่ ง เช่น มะยม ป่ชู ม ฯลฯ ๒. นักเรยี นสนทนาเก่ยี วกับภาพโดยตอบคาถามว่า ใครทาอะไร ท่ไี หน อย่างไร เหตุการณ์ตอนนี้ เป็นอยา่ งไร เพราะเหตุใด ๓. นกั เรียนฝึกเลา่ หรือทานายเรอ่ื งจากภาพว่าน่าจะมเี หตกุ ารณ์อย่างไร ๔. นกั เรียนฟังครูอ่านเรื่องหรือเลา่ เร่ือง “แมไ่ ก่อยู่ในตะกร้า” จากบทเรียนโดยเนน้ มารยาทในการฟัง แล้วนกั เรียนตอบคาถามปากเปลา่ ดังนี้ ๑) เร่ือง“แมไ่ กอ่ ยู่ในตะกร้า” มตี วั ละครกีต่ ัว ๒) บา้ นของมะยมรม่ ร่ืนน่าอยู่หรอื ไม่ เพราะเหตุใด ๓) ปู่ชมนง่ั ทาอะไร ๔) ป่ชู มท่องบทกลอนอะไร ๕) เรือ่ งนี้ให้ข้อคดิ อะไรกบั นักเรียนบา้ ง ๕. นักเรยี นช่วยกนั เล่าเรอ่ื งท่ีฟงั ถา้ เลา่ ไม่ได้ครถู ามนาแล้วใหน้ กั เรียนตอบ ๖. ครูเขยี นข้อความหรือประโยคหรอื เร่อื งทีน่ กั เรียนเลา่ ลงในแผนภมู ิ ๗. นกั เรยี นอ่านข้อความในแผนภูมจิ นคล่อง ๘. นักเรยี นคัดข้อความในแผนภูมิลงในสมดุ เพ่ือฝกึ อ่านสง่ ตรวจ สรุปกระบวนการเรียนรู้ ๑. นักเรยี นและครชู ่วยกันสรุปเนอื้ หาสาระการเรียนรูจ้ ากการฟัง ๒. มอบหมายให้นกั เรยี นทาแบบฝึกหัดทักษะภาษา เปน็ การบ้าน ๓. นักเรียนทาแบบฝึกพฒั นาการเรียนรู้ (ภาคผนวก) สือ่ และแหล่งการเรียนรู้ ๑. แบบทดสอบก่อนการเรียนรู้ ๒. บัตรคาใหม่, คายาก ๓. รูปภาพจากบทเรียน ๔. กระเป๋าผนงั ๕. พจนานกุ รม ๖. หนังสือเรยี นภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓ เล่ม ๒ วรรณคดลี านา

๗. แบบฝกึ หดั ทักษะภาษา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๓ ชดุ ภาษาเพื่อชวี ิต ๘. แบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ กระบวนการวัดและประเมนิ ผล ๑. วิธกี าร ๑.๑ สงั เกต การฟัง การเล่าเรอื่ ง การซักถาม การตอบคาถาม ความสนใจในการเรยี น กระบวนการทางาน ๑.๒ ตรวจ แบบฝึกพัฒนาการเรียนรู้ สมุดงาน / แบบฝกึ หดั ๒. เคร่ืองมือการวดั และประเมินผล แบบสงั เกตพฤติกรรม แบบทดสอบกอ่ นการเรียนรู้ แบบฝึกพฒั นาการเรยี นรู้ ๓. เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล ใช้การผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๗๐ ข้นึ ไป กจิ กรรมเสนอแนะ ขอ้ เสนอแนะเพิ่มเติม กิจกรรมนาเข้าสู่กระบวนการเรยี นรู้ อาจให้นักเรียนทากิจกรรมสนุกสนานอน่ื ๆ ก็ได้ (ยดื หยนุ่ ได้ ตามความเหมาะสม) อาจเปน็ การเล่นเกม เลน่ ปริศนาคาทาย การรอ้ งเพลง เพ่ือใหเ้ กดิ ความสนุกสนาน เปน็ เตรยี มความพร้อมก่อนเรยี น หรอื อาจใหน้ ักเรยี นปรบมือ ทาทา่ ทางประกอบจังหวะตามจินตนาการอย่างอสิ ระ ของแต่ละคนกไ็ ด้ ซึง่ จะเปน็ ผลดตี อ่ การจัดกิจกรรมในโอกาสต่อไป

แบบทดสอบกอ่ นการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ ๒ แม่ไกอ่ ยใู่ นตะกรา้ ชือ่ ................................................................................ช้ัน........................เลขท่ี................... ******************************************************************* ๑. ใครนง่ั ท่องหนังสือมาจากแคร่ไม้ไผใ่ ต้ร่มมะม่วง ก. ชม ค. ปู่ ข. ตาชม ง. ตายม ๒. คณุ ปู่กาลังทาอะไรอยู่ ก. สานตะกรา้ หวาย ค. สานตะกรา้ พลาสตกิ ข. สานตะกรา้ ง. สานตะกร้าไม้ไผ่ ๓. ปนู่ งั่ ท่องท่องบทกลอน “แมไ่ ก่อยใู่ นตะกรา้ ” ซึ่งจามาจากหนังสืออะไร ก. หนังสือกอ ไก่ ค. หนงั สอื ประถม ก กา ข. หนังสือนิทานรอ้ ยบรรทดั ง. หนงั สือจินดามณี ๔. ปขู่ องมะยมมีอายกุ ป่ี ี ก. ๖๐ ปี ค. ๘๐ ปี ข. ๗๐ ปี ง. ๙๐ ปี ๕. หนังสอื แบบหัดอา่ น เขียนของเด็กไทยสมัยก่อน มชี อื่ ว่าอยา่ งไร ก. หนังสือ ก ไก่ ข. หนังสือ ก กา ค. หนังสือ ประถม ก กา ง. หนังสอื หัดอา่ นเร็ว ๖. ในสมยั ก่อน ๆ เด็กๆ จะเรียนหนงั สือกันท่ีไหน ก. บา้ น ข. วดั ค. โรงเรียน ง. ท้องนาท้องไร่ ๗. คาใดเปน็ คาในแม่ ก กา ก. ตะกรา้ แม่กา ข. ไม้ไผ่ ปแู สม ค. ปนู า หมาใหญ่ ง. ถูกทุกขอ้ ๘. คาในแม่ ก กก ยกเวน้ ข้อใด ก. นกแสก นกกระสา ข. น้าลกึ ปูแสม ค. น้าหมกึ น้าหมาก ง. จกั ตอก ตะกรา้ ๙. คาในแม่ ก กง ยกเว้นข้อใด ก. โอ่ง นมะแว้ง ข. แห้งแล้ง ของแพง ค. นา้ มนั กะละมัง ง. กะละมัง ลิงคา่ ง ๑๐. ขอ้ ใดเขยี นไมถ่ ูกต้อง ก. แมลงปอ่ ง ข. แมลงผง้ึ ค. ปลากะพง ง. ปลากระสง

เฉลย ๑. ก ๒. ง ๓. ค ๔. ข ๕. ค ๖. ข ๗. ง ๘. ง ๙. ค ๑๐. ค

แบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ ชอื่ ................................................................ชัน้ ..................เลขท.่ี .................. คาชี้แจง นกั เรยี นฟงั ครเู ล่าเรื่องแลว้ ดูภาพประกอบ และตอบคาถามให้ถกู ต้อง ๑. ใครท่องหนังสือ เสยี งดงั มาจากแครใ่ ต้รม่ มะม่วง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. ป่ชู มจาบทกลอนมาจากหนงั สอื อะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. ปชู่ มมอี ายุกป่ี ี ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……..… ๔. ปชู่ มร้องเพลงเปน็ ทานองอะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๕. สมัยกอ่ นไม่มคี รู ใครเปน็ คนสอนหนงั สอื เด็กๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………

ใบความรู้ เรื่อง หนังสือประถม ก กา ๑. ประถม ก กา เป็นหนงั สือสาหรับเด็กที่เริ่มหดั อา่ นและเขียนภาษาไทย ซ่งึ ใชเ้ ป็นแบบเรยี นของ เด็กไทยมานานแลว้ หนังสือเลม่ นีแ้ ตง่ ขน้ึ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนัง่ เกลา้ เจ้าอยหู่ วั รัชกาลที่ ๓ แต่ไม่ ทราบชื่อผูแ้ ตง่ ๒. หนังสอื ประถม ก กา แต่งด้วยบทร้อยกรองง่ายๆ ผู้แต่งนาคาท่สี ะกดในมาตราตวั สะกดแม่ต่าง ๆ มารอ้ ยเรยี งเป็นบทร้อยกรองขนาดสั้น เชน่ แม่ ก กา แมก่ ก แม่กง แมก่ ด ฯลฯ แต่ที่เลอื กมาใหน้ ักเรียน อ่านในชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๓ นี้ เลือกมาเพยี งบางส่วนเท่านน้ั นกั เรยี นท่สี นใจอาจหาตอนอื่น ๆ มาอ่าน เพิ่มเติมได้ ๓. บทร้อยกรองทุกบทใน ประถม ก กา จดจาง่ายชว่ ยฝกึ คาท่ีอ่านแจกลกู ใหน้ ักเรยี นอ่านได้คล่อง ขึน้ นอกจากน้ียงั แทรกความรเู้ ร่ืองตา่ ง ๆ ทเี่ ปน็ ประโยชน์ไวด้ ว้ ย เช่น ความร้เู กี่ยวกับธรรมชาติ ความรู้ เกย่ี วกับชวี ติ ของชาวไทยในสมยั กอ่ น บางตอนก็แทรกคาแนะนาสงั่ สอนท่เี ป็นประโยชน์แก่เด็ก ๆ เชน่ ความรู้เรอ่ื งธรรมชาตขิ องสตั ว์ เตา่ นาแลเตา่ ดา อยใู่ นนา้ กะจระเข้ ปลาทูอยู่ทะเล ปลาขีเ้ หรไ่ ม่สู้ดี ความรเู้ กี่ยวกับชีวติ ของชาววงั สมยั ก่อน ชาววงั นั่งในห้อง ชักจอ้ งหน่องดังโหน่งเหน่ง คาแนะนา สั่งสอนเด็ก ๆ เดก็ ๆ ดูกระจก อย่าให้ตกมักจักแตก ปลูกเผอื กผักถากหญา้ แพรก หญา้ คาแฝกอยา่ ใหร้ ก

ใบความรู้ เร่ือง ข้อปฏิบัติในการฟังและการพดู การฟงั เป็นการได้ยนิ เรื่องราวใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจในเรอื่ งทไี่ ดย้ ินและ นามาพิจารณาว่าเร่ืองราวน้ัน ๆ ควรเชอ่ื ไดห้ รือไม่ นาไปใช้ประโยชนไ์ ด้เพียงใด ข้อควรปฏบิ ตั ใิ นการฟงั ๑. ต้ังใจฟัง ไม่พูดหรือสนทนากันขณะฟังผ้อู นื่ พูด ๒. คิดติดตามเร่ืองฟังว่าเรื่องท่ีฟงั เก่ียวกับอะไร มีความถูกต้องเชอ่ื ถือไดห้ รือไม่ ๓. การฟังคาบรรยายควรจดข้อความสาคัญท่ีไดจ้ ากการฟังไว้ มารยาทในการฟัง ๑. ต้ังใจฟัง มองผพู้ ดู ๒. ไม่คุยหรือเล่นขณะฟังผู้อ่นื พดู ๓. ไม่ส่งเสยี งดังหรือทาความราคาญใหผ้ อู้ น่ื ๔. ถ้าจะถามควรขออนุญาตก่อน หรอื ให้ผู้พดู หยุดพดู กอ่ น ไมค่ วรถามขณะผู้พูดยงั พูดไม่จบ การพดู เปน็ การแสดงความคิดเหน็ หรอื บอกเลา่ เร่ืองราว โดยการพูดให้ผอู้ ืน่ ฟัง ผู้พดู ต้องมคี วามคดิ มี เร่ืองราวท่จี ะพูด และต้องจัดลาดบั ความคิดหรือเรือ่ งราวทจ่ี ะพดู ไม่ให้สับสน เพอื่ ผูฟ้ งั จะได้เกิด ความเขา้ ใจชดั เจน ผู้พดู ต้องพดู ให้ชดั เจน ใช้ภาษาทีถ่ ูกต้อง

ขอ้ ปฏิบัตใิ นการพูด ๑. จะพูดเรื่องอะไร ตอ้ งมีความรใู้ นเรอ่ื งน้นั โดยการอ่าน การซักถามผูอ้ ื่นให้เข้าใจก่อน ๒. ใช้ภาษาพดู ท่ีถกู ต้อง สภุ าพ ๓. พูดให้เสยี งดัง ฟงั ชดั แตไ่ ม่ใช่ตะโกน ๔. พูดให้ชดั เจน ใช้คาแทนชอื่ ให้ถูกตอ้ ง ๕. มองผู้พดู ๖. ขณะพดู ต้องน่ังหรือยนื ตัวตรงในทา่ สบาย ๗. ไม่เอามือลว้ ง ควัก แกะ เกา ขณะพดู หรือยนื เอามอื ไขว้หลงั มารยาทในการพูด ๑. ใช้นา้ เสยี งน่มุ นวล ไมพ่ ดู กระโชกโฮกฮาก ๒. ใช้ถ้อยคาสภุ าพ ๓. พูดดว้ ยใจจรงิ และยกย่องผู้ฟงั ๔. ไมน่ ินทาผอู้ น่ื หรือพูดวา่ ร้ายผอู้ ืน่ ๕. ไมแ่ สดงความโกรธเคืองผู้ฟัง ๖. รอจังหวะในการพูดซกั ถาม ไมพ่ ูดสอดขณะผูอ้ ่ืนกาลังพูด

ภาคผนวก ภาพจากบทเรยี น ภาพ หน่วยที่ ๓

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ เร่ืองแมไ่ ก่อยู่ในตะกรา้ เวลา ๑๑ ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๒ เรือ่ ง การสะกดคา เวลา ๒ ชัว่ โมง วันท่ี ................................................................ ************************************************************************************************** มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัติ ของชาติ ตวั ชว้ี ัด ท ๔.๑ ป.๓ / ๑ เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา สาระสาคัญ การสะกดคาแบบแจกลูกคา เปน็ พ้ืนฐานการอ่านคาตา่ งๆ ในบทเรยี นได้อยา่ งถูกตอ้ ง สาระการเรียนรู้ การสรา้ งประสบการณจ์ ากคา การอ่านและสะกดคายากและคาใหม่ การเขยี นคายากและคาใหม่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. สามารถสะกดคายากและคาใหม่ในบทเรียนได้ ๒. สามารถเขียนคายากและคาใหม่ไดถ้ กู ต้อง ๓. สามารถทางานรว่ มกบั คนอ่นื ไดอ้ ยา่ งมีความสุข (เก่ง ดี มสี ุข) สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๑. มีความรอบคอบในการทางาน ๒. เป็นผู้นาและผูต้ ามทดี่ ี ๓. มีความภาคภูมใิ จในภาษาไทย ๔. มีความสนใจใฝเ่ รยี นรู้ ๕. ใช้ภาษาไดถ้ กู กาลเทศะ สาระการเรียนรู้ การสรา้ งประสบการณจ์ ากคา การอ่านและสะกดคายากและคาใหม่ การเขยี นคายากและคาใหม่

กระบวนการจดั การเรยี นรู้ นาสูก่ ระบวนการเรียนรู้ ๑.นกั เรยี นทบทวนโดยรอ้ งเพลง “แม่ ก กา” พร้อมกับปรบมือประกอบจังหวะหรืออ่านบทร้อยกรอง แม่ ก กา ๒.นกั เรียนเลน่ เกมใบ้คา (ภาคผนวก) กระบวนการเรียนรู้ ๑. นกั เรยี นและครสู นทนาเก่ียวกับบทเรียน โดยให้นกั เรียนอา่ นแผนภูมิท่ีครแู ละนักเรยี นชว่ ยกัน เขยี นสรุปในช่ัวโมงทแี่ ลว้ และฝึกสะกดคาคาใหมห่ น่วยท่ี ๓ (บทที่ ๒) ๒. นกั เรียนรว่ มกันดูภาพจากหนังสอื เรียนบทท่ี ๒ เร่ือง “แม่ไกอ่ ยู่ตะกรา้ ” แลว้ ใหน้ กั เรียนเขยี นคา จากภาพในบทเรียนและฝึกอ่านสะกดคา ๓. นักเรียนรว่ มกันอ่านแผนภูมิคาจากเรอ่ื งท่ีนกั เรยี นเลา่ เพอ่ื ทบทวนบทเรียน ๔. นกั เรยี นร่วมกันฝึกอา่ นและเขียนคายาก และสะกดคาจนคลอ่ ง ๕. นกั เรยี นขดี เส้นใตค้ าใหมแ่ ละคายากจากแผนภมู ิวา่ มกี ค่ี า ๖. นกั เรยี นร่วมกนั นาคายากไปแต่งข้อความหรือประโยค ๗. นกั เรียนทุกคนคัดคาใหม่และคายากลงสมุด ๘. แบ่งกล่มุ เป็น ๓ กล่มุ ชว่ ยกันทาพจนานุกรมคายากเพือ่ เก็บไว้อ่านในช้ันเรยี น สรปุ กระบวนการเรียนรู้ ๑. นกั เรียนทบทวนบทเรียนโดยอา่ นสะกดคาใหม่และคายากจากแผนภมู ิอีกครั้ง ๒. นักเรยี นทาแบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ (ภาคผนวก) สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ ๑. บัตรคาใหม่ ๒. ภาพจากบทเรยี น ๓. หนงั สือเรยี นภาษาไทย ป.๓ เลม่ ๑ ๔. แผนภมู ทิ ี่นักเรียนรว่ มกนั สรุป ๕. แบบฝึกพฒั นาการเรียนรู้ ๖. เกมใบ้คา กระบวนการวัดและประเมินผล ๑. วิธีการ ๑.๑. สังเกต การอ่านและสะกดคา การเขยี นตามคาบอก ความสนใจในการเรียน กระบวนการทางานของแต่ละคน

๑.๒. ตรวจผลงาน สมุดงาน/แบบฝึกหดั แบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ ๒. เครือ่ งมือการวัดและประเมินผล แบบประเมินการเขยี นตามคาบอก แบบฝกึ พัฒนาการเรียนรู้ ๓. เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล ใชก้ ารผา่ นเกณฑ์ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป กจิ กรรมเสนอแนะ -

ภาคผนวก เกมใบค้ า จุดประสงค์ นกั เรียนสามารถวเิ คราะห์ภาษาทางเป็นภาษาพูดและภาษาเขียนได้ วิธเี ล่น ๑. เลือกอาสาสมคั ร ๕ คน เพ่อื เปน็ ผูแ้ สดงทา่ ทาง ๒. ใหอ้ าสาสมัครยนื หนา้ ช้นั เรยี น แล้วรบั บัตรคาจากครู จากนนั้ จึงใบ้คาโดยแสดงทา่ ทางตาม บัตรคาท่ีได้ ตวั อยา่ งบตั รคา (ควรสอดคล้องกับคาใหม่หรือคายากในบทเรยี น) กล้วย กลว้ ยตาก กลว้ ยบวชชี กล้วยไม้ กะปิ ขนมตาล นา้ พรกิ ปลาทู ๓. นักเรยี นช่วยกันทายคาทีละคนโดยใครยกมือก่อนจะเปน็ ผู้ไดท้ าย ๔. ใหน้ กั เรยี นทท่ี ายถูกตอ้ งนาบตั รคากล่าวไปตดิ บนกระดานแม่เหล็กเพื่อทากิจกรรมในขั้น ตอ่ ไป หมายเหตุ บัตรคาควรสอดคล้องกบั บทเรียน

กง บตั รคา กงั้ ก่ี ตะกร้า พลาสติก กระถาง อารมณ์ ประถมศึกษา ก้งุ จระเข้ เลา้ แคร่ ปลาทู ปลาขีเ้ หร่ วรรค จกั ตอก ปมู า้ จอ้ งหน่อง ดอกบุก ตาช่งั วหิ ารราย ปลากระสง ฉง่ิ ตาเตง็

แบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ ชือ่ ……………………………………………………………..…..เลขที่……………….….ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๓………….. วันที่……………..เดือน……………………………………..………….พ.ศ……………… คาชีแ้ จง ให้นักเรียนเขียนคาอ่านจากคาที่กาหนดให้อยา่ งถูกต้อง ตัวอยา่ ง สาราญ อา่ นว่า สา – ราน ๑. หญา้ คา อา่ นว่า ………………………………….. ๒. หญา้ แพรก อา่ นว่า ………………………………….. ๓. เลา้ อ่านว่า ………………………………….. ๔. แคร่ อา่ นว่า ………………………………….. ๕. พลาสตกิ อ่านว่า ………………………………….. ๖. ตะกรา้ อา่ นว่า ………………………………….. ๗. วิหาร อา่ นว่า ………………………………….. ๘. ตาชงั่ อา่ นว่า ………………………………….. ๙. ขยบั อา่ นวา่ ………………………………….. ๑๐.วรรค อ่านว่า …………………………………..

แบบฝึกพัฒนาการเรยี นรู้ ชื่อ…………………………………………………………….……..เลขท่ี………………..….ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๓…………. วนั ท่ี………..…..เดอื น………………………..……………….พ.ศ……………… คาชแ้ี จง ให้นกั เรยี นเขียนคาจากคาอา่ นที่กาหนดให้ต่อไปน้ีอย่างถูกต้อง ตวั อย่าง เถา - วนั เขียนเป็น เถาวัลย์ ๑. สนั - ยา เขียนเป็น………………………………….. ๒.ระ - คงั เขยี นเปน็ ………………………………….. ๓. มะ - แลง เขยี นเป็น………………………………….. ๔.คอ้ ง - ใหญ่ เขียนเป็น………………………………….. ๕. กระ - บงุ เขียนเป็น………………………………….. ๖. ตะ - กรา้ เขยี นเปน็ ………………………………….. ๗. บด - อา่ น เขียนเปน็ ………………………………….. ๘. วิ - หาน เขยี นเป็น………………………………….. ๙. ขะ - เหยบิ เขียนเป็น………………………………….. ๑๐.เนิบ – นาบ เขียนเปน็ …………………………………..

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๓ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๒ เรื่องแม่ไกอ่ ยู่ในตะกรา้ เวลา ๑๑ ชว่ั โมง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๓ เรอ่ื ง การอ่านในใจ เวลา ๑ ช่ัวโมง วันท่ี ................................................................ ********************************************************************************** มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความร้แู ละความคดิ เพอ่ื นาไปใช้ตัดสินใจ แก้ปญั หาใน การดาเนนิ ชีวิต และมนี ิสยั รักการอา่ น ตวั ชวี้ ดั ท ๑.๑ ป.๓ / ๓ ต้งั คาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผลเกย่ี วกับเรอ่ื งทอี่ ่าน สาระสาคญั การอา่ นในใจท่ีดตี ้องสามารถจับใจความสาคัญของเรือ่ งทอี่ ่านได้ซง่ึ ต้องอาศัยการตง้ั คาถามว่าใคร ทา อะไร ท่ีไหน อยา่ งไร เพื่อใหไ้ ดค้ าตอบเรยี บเรียงเป็นคาพดู หรือเขียนเรยี งลาดบั เหตกุ ารณ์ทส่ี าคญั ของเรื่องท่ี อ่านนั้นได้ สาระการเรียนรู้ ๑. คาใหม่ในบทเรียน ๒. บทเรยี นเร่อื ง แมไ่ ก่อยู่ในตะกร้า จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. นักเรยี นสามารถตัง้ คาถามจากเรือ่ งทอ่ี า่ นได้ ๒. นกั เรียนสามารถตอบคาถามจากเร่ืองที่อา่ นได้ถูกต้อง ๓. นกั เรียนสามารถอา่ นและบอกความหมายของคาใหม่ในบทเรยี นได้ ๔. นักเรยี นสามารถแต่งประโยคปากเปลา่ จากคาใหม่ได้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๑. มคี วามรอบคอบในการทางาน ๒. เป็นผ้นู าและผู้ตามทด่ี ี ๓. มคี วามภาคภูมิใจในภาษาไทย ๔. มคี วามสนใจใฝ่เรียนรู้ ๕. ประหยัดและอยอู่ ยา่ งพอเพียง

กระบวนการจดั การเรียนรู้ นาสกู่ ระบวนการเรียนรู้ ๑. นักเรยี นเล่นเกมบัตรคาปริศนาคาทาย (ภาคผนวก) ๒. ครูและนักเรียนช่วยกันทบทวนเนอื้ เร่อื งในบทเรยี น โดยเลา่ เรือ่ งต่อกันคนละประโยคจนจบ กระบวนการเรียนรู้ ๑. นักเรียนและครรู ว่ มกนั สนทนาเกี่ยวกบั รูปภาพในบทเรยี นที่ ๓ สนทนาถึงประโยชน์ของไกแ่ ละไข่ ๒. นกั เรยี นสนทนาเกย่ี วกบั ภาพโดยตอบคาถามวา่ ใครทาอะไร ที่ไหนอยา่ งไร เพราะเหตใุ ด ๓. นักเรียนฝกึ เล่าหรือทานายเรอ่ื งจากภาพ ว่าน่าจะมีเหตุการณ์อย่างไร ๔. นกั เรียนอา่ นคาใหมท่ ีเ่ ป็นคายากในบทเรยี นคาใดอ่านไมไ่ ดใ้ หส้ ะกดคา ๕. นกั เรียนแบง่ กลุ่มตามความเหมาะสม แล้วชว่ ยกันอ่านคาใหม่พรอ้ มกับหาความหมาย ๖. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมาอ่านคาใหมห่ น้าช้ันเรยี นใหน้ ักเรยี นทั้งหมดอา่ นตาม ๗. นกั เรยี นฝกึ แต่งประโยคปากเปลา่ จากคาใหม่บางคา ๘. นักเรยี นอ่านคาใหมแ่ ละคายากทา้ ยบทเรียน ๙. นักเรียนและครชู ่วยกนั ต้งั จุดประสงค์การอา่ นในใจร่วมกนั เพ่ือจบั ใจความสาคัญของเรอื่ ง เพื่อต้ัง คาถามและตอบคาถามจากเร่ือง แล้วใหน้ ักเรยี นอ่านในใจประมาณ ๑๐ นาที ๑๐. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม ๔ กลุ่ม ๆ ละ ๔ - ๕ คน ร่วมกนั ต้ังคาถามจากเรื่องท่ีอา่ นกลุ่มละ ๔ - ๕ คาถามและคาตอบ สรุปกระบวนการเรียนรู้ ๑. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอผลงานกล่มุ ละ ๑ คาถาม และตอบคาถามโดยเขยี นกระดานดา ไมซ่ า้ กนั ๒. นกั เรยี นชว่ ยกันอ่านคาถาม และคาตอบบนกระดานดาและคัดลงในสมดุ ส่งครู ๓. นกั เรียนทาแบบฝึกพฒั นาการเรยี นรู้ (ภาคผนวก) ๔. มอบหมายให้นักเรียนทาแบบฝึกหัดทักษะภาษา หนว่ ยที่ ๓ เปน็ การบ้าน ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้ ๑. บตั รคาใหม่ ๒. แบบฝึกพัฒนาการเรียนรู้ ๓. รปู ภาพ ๔. กระเป๋าผนงั ๕. หนงั สอื แบบเรยี นภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๓ เลม่ ๒ วรรณคดลี านา ๖. แบบฝกึ หัดทักษะภาษา ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๓ ชดุ ภาษาเพื่อชวี ติ

กระบวนการวัดและประเมินผล ๑. วธิ ีการ ๑.๑ สังเกต การฟงั การเล่าเรือ่ ง การซักถาม การตอบคาถาม การคดั ลายมือ กระบวนการทางาน ๑.๒ ตรวจ แบบฝกึ พัฒนาการเรียนรู้ สมุดงาน แบบฝกึ หดั ๒. เครื่องมอื การวดั และประเมินผล แบบสงั เกตการทากจิ กรรม แบบทดสอบกอ่ นการเรียนรู้ แบบฝึกพฒั นาการเรยี นรู้ ๓. เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล ใชก้ ารผา่ นเกณฑ์ร้อยละ ๗๐ ข้นึ ไป กิจกรรมเสนอแนะ -

กง บตั รคา กงั้ ก่ี ตะกร้า พลาสติก กระถาง อารมณ์ ประถมศึกษา ก้งุ จระเข้ เลา้ แคร่ ปลาทู ปลาขีเ้ หร่ วรรค จกั ตอก จอ้ งหน่อง ปมู า้ ดอกบุก ตาช่งั ปลากระสง วหิ ารราย ฉง่ิ ตาเตง็

บัตรคาปริศนาคาทาย อะไรเอ่ย (เฉลย ........มะพร้าว) มะน้มี ีอะ นามาทากะทิ (เฉลย ........ทหาร) ลองมาซิ มะนค้ี อื อะไร (เฉลย ........ตลาด) ตอบ.....................(เฉลยอยู่ด้านหลงั ) (เฉลย ........จราจร) อะไรเอย่ ทะนี้ไม่มีอะ เรามักจะเหน็ ท่ัวไป รไู้ หมทะอะไร ตอบมาไวไมย่ ากเลย ตอบ....................................................... อะไรเอย่ ตะนี้ไม่มอี ะ ผคู้ นจะไปซื้อขาย ขา้ วของมีมากมาย ตะอะไรรู้ไหมเธอ ตอบ....................................................... อะไรเอ่ย จะนี้อะไม่มี ทาหนา้ ทตี่ ามถนน ดแู ลรถและคน ไม่สบั สนจะอะไร ตอบ..................................................

ชอื่ ……………………………………………………..…....เลขท…ี่ …………….……….ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี……………….……… วนั ที่ ………………….... เดอื น …………………………….…………พ.ศ. …………………..………… คาช้ีแจง นกั เรียนตอบคาถามให้ถกู ต้อง ๑. ใครท่องหนังสือเสียงดังมาจากแคร่ใต้ร่มมะมว่ ง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….… …………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………… ๒. ปชู่ มจาบทกลอนมาจากหนังสืออะไร …………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…… ๓. ปู่ชมมอี ายุกป่ี ี …………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ๔. ปชู่ มรอ้ งเพลงเป็นทานองอะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… ๕. สมัยกอ่ นไม่มคี รู ใครเป็นคนสอนหนงั สอื เด็กๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ชอื่ …………………………………….…………………….เลขท…่ี …………….….ชั้นประถมศึกษาปีที่………………… วนั ที่ ………….. เดอื น …………………………………………พ.ศ. …………………… คาช้แี จง นกั เรยี นเขยี นคาจากภาพให้ถูกต้องแลว้ นาคาไปแตง่ ประโยคใหส้ มบูรณ์ ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖.

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๔ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๓ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๒ เร่ืองแมไ่ กอ่ ยใู่ นตะกร้า เวลา ๑๑ ช่ัวโมง แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๔ เร่อื ง การอ่านสะกดคา เวลา ๑ ช่ัวโมง วนั ท่ี ................................................................ ************************************************************************************************** มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนาไปใชต้ ัดสนิ ใจ แกป้ ญั หาใน การดาเนนิ ชีวติ และมนี สิ ยั รักการอ่าน ตวั ชี้วัด ท ๑.๑ ป.๓ / ๑ อา่ นออกเสียงคา ข้อความ เรื่องส้นั ๆ และบทร้อยกรองงา่ ยๆ ไดถ้ ูกต้อง คล่องแคล่ว สาระสาคญั การฝกึ อ่านคาตา่ งๆ ในภาษาไทยจะช่วยให้มที ักษะพื้นฐานดา้ นการสะกดคา เหล่านั้นได้ถกู ตอ้ ง สาระการเรียนรู้ การอ่านคาท่ีมบี อกเสียง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. สามารถอ่านสะกดคาและแจกลูกคาได้ ๒. สามารถเขยี นตามคาบอกได้ถกู ต้อง ๓. สามารถเขียนและแต่งประโยคได้ ๔. สามารถทางานรว่ มกบั คนอนื่ ได้อย่างมีความสุข (เกง่ ดี มีสขุ ) สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. มีจติ สานึกในความเปน็ ไทย ๒. มคี วามสามัคคีในหมคู่ ณะ ๓. ใชภ้ าษาสอื่ สารได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ๔. นาขอ้ คิดมาใช้ในชวี ติ ประจาวนั ๕. ประหยดั และอยู่อยา่ งพอเพยี ง กระบวนการจัดการเรียนรู้ นาสูก่ ระบวนการเรียนรู้ นักเรยี นเลน่ เกมยิ้มรบั ดอกไม้ (ภาคผนวก)

กระบวนการเรยี นรู้ ๑.ทบทวนคาต่าง ๆ จากบทเรียน โดยให้นักเรียนอ่านแผนภูมิที่ครูและนักเรียนช่วยกันเขียนสรุปไว้ แล้ว โดยอ่านคาทเ่ี รายงั ไมไ่ ดเ้ รยี นหรืออา่ นยังไม่ไดว้ ่ามอี ะไรบ้าง ๒. แจกแบบฝึกอ่านคายาก (ภาคผนวก) ใหน้ กั เรียนฝกึ อา่ นเป็นกลุ่ม เป็นคู่และเปน็ รายบคุ คล ๓. นักเรียนศกึ ษาใบความรู้ เร่อื ง คาทบี่ อกเสียง (ภาคผนวก) ๔. นักเรียนฝึกอ่านคาเหล่านี้ตามครู ๒ - ๓ เท่ียว โดยอา่ นทลี ะคนและอ่านเปน็ กล่มุ เช่น เสยี งนมุ่ เสียงทมุ้ เสยี งกอ้ ง เสยี งกังวาน เสียงห้าว เสยี งอ้อู ้ี ฯลฯ ๕. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปหลักเกณฑก์ ารอา่ นคาบอกเสียง พรอ้ มกับอธิบายความหมายของคา ๖. แบ่งนกั เรียนออกเป็น ๒ กล่มุ แลว้ ใหน้ กั เรียนเลน่ เกมแขง่ ขนั กนั หาคาที่บอกเสียง จากบทเรยี น บทท่ี ๓ แล้วเขียนบนกระดานดา กลมุ่ ใดเขยี นได้มากที่สุดภายในเวลาที่กาหนดเป็นฝา่ ยชนะ ๗. นักเรียนคัดคาท่ีมบี อกเสียงลงในสมดุ ของแตล่ ะกลมุ่ เพื่อฝกึ อ่าน(ถ้านักเรียนทาไม่เสร็จก็ให้ทาเป็น การบา้ น) ๘. นกั เรียนเขียนตามคาบอก ๑๐ คา (ภาคผนวก) สรปุ กระบวนการเรียนรู้ ๑. นักเรียนช่วยกันนาคาทบ่ี อกเสยี งในบทเรียนมาแตง่ ประโยคปากเปล่า ๒. นักเรยี นทาแบบฝึกพฒั นาการเรยี นรู้ (ภาคผนวก) ๓. นักเรยี นทาแบบฝึกหดั ทักษะภาษา หนว่ ยท่ี ๓ (เปน็ การบ้าน) ๔. นักเรยี นและครูช่วยกนั สรุปบทเรียน โดยท่องบทร้อยกรอง แม่ ก กา (ภาคผนวก) สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑. บตั รคา ๒. ใบความรู้ ๓. แบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ ๔. หนังสอื เรยี นภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ เล่ม ๒ วรรณคดีลานา ๕. เกม “ย้ิมรับดอกไม้” กระบวนการวัดผลและประเมินผล ๑. วธิ กี าร ๑.๑ สงั เกต การอ่านออกเสียง การเขียนคาท่อี ่านบอกเสียง ความสนใจในการเรยี น กระบวนการทางานของแต่ละคน

๑.๒ ตรวจผลงาน สมุดงาน แบบฝกึ หดั แบบฝกึ พัฒนาการเรียนรู้ ๒. เครอ่ื งมอื การวัดและประเมนิ ผล แบบประเมินพฤติกรรมการทางาน แบบฝึกพฒั นาการเรียนรู้ ๓. เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล ใชก้ ารผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๗๐ ข้นึ ไป กจิ กรรมเสนอแนะ -

ใบความรู้ อา่ นคาบอกเสียง อ่านกาพยก์ ันดไี หม ส่งเสียงใดเสนาะดี อย่าออกเสียงอู้อ้ี ไม่ไพเราะตอ้ งศึกษา มหี ลายหลากช่วยกันหา คาบอกเสยี งมมี าก แหบ สนั่ พร่า ก้อง กังวาน ลองทาเสยี งนานา ตัวอยา่ งคาบอกเสียง เสยี งน่มุ เสยี งท้มุ เสยี งกอ้ ง เสยี งกังวาน เสยี งห้าว เสียงออู้ ้ี เสียงใส เสยี งดี เสยี งไพเราะ เสยี งเสนาะ เสียงเพราะ เสยี งหวาน เสยี งเนิบนาบ เสยี งกระแทกกระทนั้ เสียงสั่นเครือ เสียงแหบ เสียงเครอื เสียงส่นั เสียงพร่า เสียงขุน่ เสยี งเขยี ว

ภาคผนวก แม่ ก กา แม่ ก กา แม่ไก่อยใู่ นตะกร้า ไข่ ๆ มาสห่ี ้าใบ อีแมก่ าก็มาไล่ อแี ม่ไกไลต่ กี า หมูในเล้าแลดหู มา หมาใหญก่ ไ็ ล่เห่า กะปมู า้ ปทู ะเล ปูแสมและปูนา อยูใ่ นน้ากะจระเข้ ปลาข้เี หรไ่ ม่ส้ดู ี เต่านาและเตา่ ดา ฯลฯ ปลาทอู ยทู่ ะเล (ประถม ก กา. ฉบบั หอสมุดแห่งชาติ)

แบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ ชอื่ .......................................................................ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ เลขท่ี.............. วนั ท่ี…….… เดอื น ………..…………………………… พ.ศ………………… คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนเขยี นคาบอกเสยี งใหถ้ กู ต้องแล้วนาคาไปแต่งประโยคใหส้ มบูรณ์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………

ชอื่ .......................................................................ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๓ เลขท่ี.............. วันที่……..… เดอื น …………………..………………… พ.ศ……………… คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นคัดบทรอ้ ยกรอง คาบอกเสยี ง ด้วยตวั บรรจงครึง่ บรรทัด อ่านกาพย์กันดีไหม สง่ เสียงใดเสนาะดี อย่าออกเสียงออู้ ี้ ไมไ่ พเราะตอ้ งศึกษา มหี ลายหลากช่วยกันหา คาบอกเสยี งมมี าก แหบ สั่น พรา่ ก้อง กงั วาน ลองทาเสียงนานา ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..…

ภาคผนวก เกม “ย้มิ รับดอกไม”้ จุดประสงค์ ๑. เพอ่ื ฝึกการอ่าน ๒. เพอ่ื ความสนุกกับบทเรียน อปุ กรณ์และวธิ ที า ๑. กระดาษแขง็ ใช้ทาบัตรคา คาใหม่ ตดั เปน็ รปู ดอกไม้ จานวนกี่บัตรก็ได้ แล้วแต่ เวลาทก่ี าหนดให้นกั เรยี นเลน่ ๒. จานวนผเู้ ล่น ไม่จากัดจานวน ๓. แผนภูมิเพลง “ยิม้ รบั ดอกไม้” โดยใหน้ ักเรียนอ่านและร้องใหไ้ ดก้ ่อนเล่นเกม เพลง “ยิม้ รบั ดอกไม้” สง่ ดอกไม้แลว้ กส็ ง่ ย้ิม เธอจงย้มิ แลว้ รับดอกไม้ โปรดถนอมอยา่ ใหร้ ว่ งหลน่ เราทกุ คนรกั ษาใหไ้ ด้ ย้มิ ยิ้ม ย้ิม แล้วสง่ ดอกไม้ ไดด้ อกไมแ้ ลว้ ก็จงย้มิ หลั่น ลนั ลา ลันลา ลนั ลา หลั่น ลันลา ลนั ลา ลนั ลา กจิ กรรม ๑. ใหน้ กั เรยี นยืนเปน็ วงกลม รอ้ งเพลง “ยิ้มรับดอกไม้” ๒. ครูส่งบัตรคาให้ทีละบัตร ขณะที่ครูและนักเรียนร้องเพลง บัตรคาที่ครูส่งให้ จะตอ้ งอา่ นแล้วส่งต่อไปเร่ือย ๆ ๓. ครูให้สัญญาณหยุดร้องเพลง บัตรคาอยู่ในมือใคร ผู้นั้นจะต้องอ่านบัตรคาใหม่ (อาจสะกดด้วยก็ได้ ใครอ่านได้ถูกต้อง เพ่ือน ๆ จะปรบมือให้ หมุนเวียนไป เชน่ นจ้ี นครบทกุ คน)

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๕ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๓ หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๒ เร่ืองแม่ไก่อยู่ในตะกร้า เวลา ๑๑ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๕ เรือ่ ง การอา่ นออกเสียง เวลา ๑ ช่วั โมง วนั ท่ี ................................................................ ********************************************************************************** มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความร้แู ละความคดิ เพอ่ื นาไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ญั หาใน การดาเนินชีวติ และมีนสิ ยั รักการอา่ น ตัวช้ีวดั มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๓ / ๑ อ่านออกเสียงคา ขอ้ ความ เร่อื งสน้ั ๆ และบทรอ้ ยกรองง่ายๆ ได้ ถูกตอ้ ง คลอ่ งแคลว่ สาระสาคญั การอ่านออกเสยี งบทเรียน จะต้องฝึกทักษะการอา่ นคาเป็นคายากโดยต้องอ่านได้ถูกต้องตาม หลกั เกณฑก์ ารอ่าน ฝกึ อ่านคา ประโยคและเนื้อเรอ่ื งในบทเรยี น โดยการแบ่งวรรคตอนการอา่ นให้ถกู ต้อง สาระการเรยี นรู้ ๑. บทเรียนหน่วยที่ ๓ เรื่อง แม่ไกอ่ ยูใ่ นตะกรา้ ๒. การอ่านออกเสียงเน้ือเรื่องในบทเรียน จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. นกั เรยี นสามารถอา่ นออกเสียงคายากไดถ้ ูกต้องชัดเจน ๒. นกั เรยี นสามารถตอบคาถามจากเรื่องที่อ่านได้ถูกต้อง ๓. นักเรยี นสามารถอา่ นประโยคในบทเรียนได้ถูกต้อง ๔. นกั เรยี นสามารถอา่ นออกเสียงในบทเรียนได้ถกู ต้อง สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. รกั และชืน่ ชมในเอกลกั ษณไ์ ทย ๒. คิดวิเคราะห์เร่อื งราวตา่ งๆได้ ๓. มีวนิ ยั ในตนเอง ๔. มีความสนใจใฝ่เรียนรู้ ๕. อยู่อย่างพอเพยี ง

กระบวนการจัดการเรยี นรู้ นาสกู่ ระบวนการเรยี นรู้ ๑. นักเรียนเลน่ เกมบัตรคาต่อคา (ภาคผนวก) ๒.นักเรยี นฝกึ อา่ นคายากในบทเรยี นจากบตั รคา ๓. นักเรยี นฝึกท่อง บทร้อยกรอง แม่ กก (ภาคผนวก) พร้อมกัน กระบวนการเรียนรู้ ๑. นักเรียนและครรู ่วมกนั สนทนาความหมายของคายาก โดยนักเรยี นเปดิ หาความหมาย จากพจนานุกรม และนักเรียนอาสาสมคั รออกไปเขยี นบนกระดานดา และใหน้ ักเรยี นทาแบบฝึกพัฒนาการ เรียนรู้ ๒. นักเรียนอา่ นออกเสียงจากแถบประโยค หรือแผนภูมิประโยคทค่ี รูเขยี นบนกระดานดา โดยสังเกตคาท่ีขีดเสน้ ใต้ ๓. นักเรยี นฝกึ อา่ นออกเสยี งในบทเรยี น ดังนี้ ครอู ่านใหน้ ักเรียนฟังเปน็ ตวั อยา่ ง นักเรยี นฝกึ อา่ นคนละ ๑ ยอ่ หนา้ จนจบเร่ือง นกั เรียนฝกึ อา่ นในกลมุ่ ของตนเอง สรุปกระบวนการเรยี นรู้ ๑. ใหน้ ักเรยี นอา่ นบทร้อยกรองคาบอกเสยี งแล้วใสท่ านองเพลง ตามใจชอบและสนทนา ความหมายของเนื้อเพลง ๒. นักเรียนทาแบบฝึกพัฒนาการเรียนรู้ที่ ๒ (ภาคผนวก) ๓. มอบหมายให้นกั เรียนทาแบบฝึกหดั ทกั ษะภาษา หน่วยท่ี ๒ (การบ้าน) ส่อื และแหล่งการเรียนรู้ ๑ บัตรคายาก ๒. แถบประโยค ๓. กระเป๋าผนงั ๔. พจนานกุ รม ๕. แบบฝึกพัฒนาการเรยี นรู้ ๖. หนงั สือเรียนภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๓ เล่ม ๒ วรรณคดลี านา ๗. แบบฝกึ หัดทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ กระบวนการวัดผลและประเมินผล ๑. วิธกี าร ๑.๑ สังเกต การอา่ นออกเสียง การเขยี นตามคาบอก

ความสนใจในการเรยี น กระบวนการทางานของแต่ละคน ๑.๒ ตรวจผลงาน สมดุ งาน แบบฝกึ หดั แบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ ๒. เครือ่ งมอื การวดั และประเมินผล แบบประเมินพฤตกิ รรมการทางาน แบบฝึกพฒั นาการเรยี นรู้ ๓. เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล ใช้การผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ ๗๐ ขน้ึ ไป กจิ กรรมเสนอแนะ -

บัตรคาเกมตอ่ คา ๑. ไป นอ้ ง โรงเรียน น้องไปโรงเรยี น ๒. นกั เรียน ในสนาม วงิ่ เล่น นักเรยี นวง่ิ เลน่ ในสนาม ๓. คุณแม่ คุณแม่ คุณแม่ คุณแม่ ฉันช่วยคณุ แม่ทางาน ๔. ด่ืม ฉนั ทุกวนั นม ฉันด่มื นมทกุ วัน ๕ ทุกวนั ฉนั และผลไม้ ผกั ชอบทาน ฉนั ชอบทานผกั และผลไม้ทกุ วนั

ภาคผนวก แมก่ ก นกแสกนกกระสา แกรก ๆ มาเวลาดึก นา้ มาแลน้าลึก แลน้าหมึกและน้าหมาก แลปักหลักแลครกสาก ปลาอุกปลาดกุ ดัก จะผูกจากใหจ้ กั ตอก ชักเสาเอาเชอื กลาก ลกู มะดกู ลูกมะกอก ไม้กระบอกแลดอกบกุ ปลูกกี่ไว้ทอหกู ไม้แตกให้ใส่ปลอก ผ่าไม้ซีกใหแ้ ตกหัก ไดร้ จู้ ักทักเรียกแขก ฯลฯ อย่าใหต้ กมักจักแตก นกมีปากแลมปี กี หญา้ คาแฝกอย่าให้รก ไปปะพวกท่รี ัก เลือกปลาดุกทาหอ่ หมก เด็ก ๆ ดูกระจก ถูกศอกอกหกถลา ปลกู เผือกผกั ถากหญ้าแพรก เข้าเปลอื กและเข้าสุก ดา่ ทอต่อตชี ก (ประถม ก กา. ฉบับหอสมุดแห่งชาติ)

ชื่อ………………………………………..เลขท่ี…….ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๓.......... วนั ท่ี…….………..เดอื น…………………….พ.ศ……………… ****************************************************************************************************************************** คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนให้นักเรียนหาความหมายของคายากจากพจนานุกรมให้ถูกต้อง ๑. กง หมายถงึ ………………………………….. ๒.กระถาง หมายถงึ ………………………………….. ๓. กง้ั หมายถงึ ………………………………….. ๔. กงุ้ หมายถงึ ………………………………….. ๕. แคร่ หมายถึง ………………………………….. ๖. จกั ตอก หมายถงึ ………………………………….. ๗. ตะกรา้ หมายถึง ………………………………….. ๘. ตาชงั่ หมายถงึ ………………………………….. ๙. ทกุ งั หมายถึง ………………………………….. ๑๐.แฝก หมายถึง ………………………………….. ตวั อย่าง บริเวณ หมายถึง พ้ืนทีใ่ นขอบเขตท่กี าหนด

แบบฝกึ พฒั นาการเรยี นรู้ ชื่อ…………………………………………………………………..เลขท…ี่ …………….ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓……………. วันท่ี……………………..เดอื น……………………………….…………….พ.ศ………………………… ****************************************************************************************************************************** คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นคาอ่านจากคาท่ีกาหนดให้อยา่ งถูกต้อง ตัวอย่าง สาราญ อ่านวา่ สา – ราน ๑. กลองหนงั อา่ นวา่ ………………………………….. ๒.กระทง อ่านวา่ ………………………………….. ๓. กระบงุ อา่ นวา่ ………………………………….. ๔.นกยาง อา่ นว่า ………………………………….. ๕. อง่ึ อา่ ง อา่ นว่า ………………………………….. ๖. คางคก อา่ นวา่ ………………………………….. ๗. ลกู ตาลงึ อา่ นวา่ ………………………………….. ๘. จอ้ งหน่อง อา่ นว่า ………………………………….. ๙. มงุ้ อ่านวา่ ………………………………….. ๑๐.คา่ ง อา่ นวา่ …………………………………..

ชือ่ ……………………………………………………….….เลขท่ี……………………….ชนั้ ประถมศึกษาปีที่………………… วันที่ ………….….. เดอื น ……………………..…………………พ.ศ. …………………… คาชแ้ี จง นกั เรยี นเขยี นคาจากภาพใหถ้ ูกต้องแล้วนาคาไปแตง่ ประโยคให้สมบรู ณ์ ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖.

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๖ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๓ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๒ เรื่องแมไ่ ก่อยู่ในตะกร้า เวลา ๑๑ ชั่วโมง แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๖ เรอ่ื ง การเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง เวลา ๑ ช่ัวโมง วนั ที่ ................................................................................................................................. ************************************************************************************************** มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขยี นเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเร่ืองราว ในรูปแบบต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้า อย่างมีประสิทธภิ าพ ตัวช้ีวดั มาตรฐาน ท ๒.๑ ป.๓ / ๒ เขยี นบรรยายเก่ียวกบั ส่งิ ใดสงิ่ หนึ่ง ได้อย่างชดั เจน สาระสาคัญ ๑. การอ่านในใจเพ่ือให้สามารถจับใจความสาคัญของเร่ืองได้ สามารถตอบคาถามจากเร่ือง บอก และเรียงลาดับเหตุการณท์ ส่ี าคัญในเร่ือง แลว้ สามารถเขียนแผนภาพโครงเรื่อง เพอ่ื สรุปเร่อื งหรอื เล่าเร่ืองโดย ใช้คาพดู ของตนเองตามแผนภาพโครงเรอ่ื งได้ ๒. แผนภาพโครงเร่ือง เปน็ แผนภาพทปี่ ระกอบดว้ ยสว่ นของคาถามเกย่ี วกับเร่ืองดงั นี้ ใคร ทาอะไร ท่ีไหน อยา่ งไร เพราะเหตุใด และข้อคดิ จากเร่ือง ๓. แผนภาพโครงเรื่อง จะช่วยใหส้ ามารถบอกเหตุการณ์ของเร่ืองเปน็ ตอน ๆ โดยอาศัยการคดิ คาตอบ จากคาถามในแผนภาพ และชว่ ยลาดบั เร่อื งได้อยา่ งต่อเน่อื ง ทาให้สามารถสรุปเรื่องท้งั หมดได้ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. นักเรียนสามารถเขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื งได้ ๒. นกั เรยี นสามารถเลา่ เรือ่ งจากแผนภาพโครงเรื่องได้ ๓. นักเรยี นสามารถเขียนเร่ืองจากแผนภาพโครงเรื่องได้ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. รกั และช่ืนชมในเอกลักษณ์ไทย ๒. คดิ วิเคราะห์เร่ืองราวตา่ งๆได้ ๓. มีวินยั ในตนเอง ๔. มีความสนใจใฝเ่ รียนรู้ ๕. อย่อู ยา่ งพอเพียง

สาระการเรียนรู้ ๑. การเขยี นแผนภาพโครงเรื่องจากบทเรยี น เร่อื ง แม่ไก่อยใู่ นตะกร้า ๒. การเขียนเรื่องตามแผนภาพโครงเร่ือง ๓. การเลา่ เรื่องตามแผนภาพโครงเรอื่ ง กระบวนการจดั การเรียนรู้ นาสกู่ ระบวนการเรียนรู้ ๑. นักเรยี นเล่นเกมเรยี งฉันหนอ่ ย (ภาคผนวก) ๒. นกั เรยี นและครรู ่วมกนั สนทนาทบทวนเน้ือเร่ืองในบทเรียน โดยเล่าเรื่องตอ่ กนั คนละประโยคจนจบ กระบวนการเรยี นรู้ ๑. ครนู าเสนอแผนภมู ิแผนภาพโครงเรื่อง (ภาคผนวก) ใหน้ กั เรียนดูบนกระดานดา ๒. นกั เรียนและครชู ่วยกนั อภิปราย และเตมิ คาถาม และเหตุการณ์ตามแผนภาพโครงเรื่อง ได้ดงั น้ี เช่น ใคร : ………………………………………………… ทไี่ หน : ………………………………………………… เมอ่ื ไร : ………………………………………………… เหตุการณ์ : ………………………………………………… ………………………………………………… ………………………………………………… ………………………………………………… อยา่ งไร : ………………………………………………… ข้อคิด : ………………………………………………… ………………………………………………… …………………………………………………. ๓. นักเรยี นอาสาสมคั รล่าเรื่องตามเหตุการณจ์ ากแผนภาพโครงเรอื่ งบนกระดานดา ให เพ่ือนๆ ฟัง สว่ นนกั เรยี นคนอื่น ๆ แก้ไขเพ่มิ เติม ถา้ ผู้เล่าเรอ่ื งผิด ๑ - ๒ คน ๔. นกั เรียนแตล่ ะคนเขยี นเร่อื งตามแผนภาพโครงเร่อื ง ดว้ ยคาพูดของนักเรียนเอง ลงใน กระดาษทค่ี รูแจกให้ (ในแบบฝกึ พัฒนาการเรียนรู้) สรุปกระบวนการเรียนรู้ ๑. ให้นกั เรียนทอี่ าสาสมัครออกมานาเสนอผลงาน ๒-๓ คน ใหเ้ พ่ือน ๆ ฟัง ส่วนนักเรยี น ทเ่ี หลอื และครคู อยแกไ้ ขและเพิ่มเตมิ ๒. มอบหมายใหน้ กั เรียนทาแบบฝกึ หดั บทที่ ๒ (การบ้าน) สือ่ และแหล่งการเรยี นรู้ ๑. แผนภมู ิแผนภาพโครงเร่ือง ๒. แถบประโยค

๓. กระเป๋าผนงั ๔. แบบฝึกพัฒนาการเรยี นรู้ ๕. หนงั สอื แบบเรยี นภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ เลม่ ๒ วรรณคดลี านา ๖. แบบฝึกหัดทักษะภาษา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๓ ๗. เกมเรียงฉนั หน่อย กระบวนการวดั และประเมินผล ๑.๑ วธิ ีการ ๑.๑ สงั เกต การอา่ นในใจ การเลา่ เรอื่ ง การเขยี นแผนภาพโครงเร่อื ง การซกั ถาม การตอบคาถาม ความสนใจในการเรยี น กระบวนการทางาน ๑.๒ ตรวจ แบบฝึกพัฒนาการเรียนรู้ สมดุ งาน แบบฝกึ หดั ๑.๒ เครื่องมอื การวัดและประเมินผล แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียน แบบฝึกพัฒนาการเรยี นรู้ ๑.๓ เกณฑ์การวัดและประเมินผล ใชก้ ารผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๗๐ ขนึ้ ไป กจิ กรรมเสนอแนะ -

เกมเรียงฉันหน่อย จุดประสงค์ เพ่อื เรียงคาตามลาดับพยัญชนะให้ถูกต้องตามหลกั การเรยี งคาในพจนานุกรม อุปกรณ์ ๑. กระเป๋าผนงั ๒. บัตรคาใหม่ ๓. ฉลากรายชอื่ นักเรียน วธิ เี ล่น ๑. วางบัตรคาทัง้ หมดลงบนโต๊ะ ๒. ครจู ับฉลากรายช่ือนักเรียน ใหน้ กั เรียนออกมาหาบัตรคาแลว้ เอาไปวางไว้ท่ีกระเป๋าผนงั แล้วช่วยกนั เรยี งคาตามลาดับพยัญชนะ ๓. นกั เรยี นทุกคนคัดคาทีเ่ รยี งลาดับถูกต้องแลว้ ลงในสมุดเพอ่ื ฝึกอา่ น

แบบฝึกพัฒนาการเรียนรู้ (งานกลมุ่ ) วนั ท่ี………เดอื น………………………….พ.ศ…………… ************************************************************************************************** คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนเขียนแผนภาพโครงเร่ือง เร่ือง แมไ่ กอ่ ยใู่ นตะกร้าโดยใชภ้ าษาของตนเองอย่างสั้น ๆ โดยการเขยี นสรปุ เร่อื งท่ีสาคัญ และเรียงลาดบั เหตกุ ารณ์ให้ต่อเนื่อง และมสี าระ ใคร : ……………………………………………………………………………………… ทไ่ี หน : ……………………………………………………………………………………… เมอื่ ไร : ……………………………………………………………………………………… : เหตกุ ารณ์ …………………………………………………………..……………… …………………………………………..……………………………… ………………………….. …………………………………………………………..……………… …………………………………………..……………………………… ………………………….. …………………………………………………………..……………… …………………………………………..……………………………… ………………………….. …………………………………………………………..……………… …………………………………………..……………………………… …………………………..

…………………………………………………………..……………… …………………………………………..……………………………… ………………………….. …………………………………………………………..……………… …………………………………………..……………………………… ………………………….. …………………………………………………………..……………… …………………………………………..……………………………… ………………………….. อยา่ งไร : ………………………………………………………………… ขอ้ คิด : ………………………………………………….…………….. ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… รายชื่อสมาชกิ กลุ่ม 1………………………………….…… 2……………………..………………….. 3…………………………….………… 4……………………………..………….. 5……………………………….……… 6……………………………..…………..

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๗ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๒ เร่ืองแมไ่ กอ่ ยใู่ นตะกร้า เวลา ๑๑ ช่ัวโมง แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๗ เร่ือง การเขียนเรอ่ื งจากภาพ เวลา ๑ ชั่วโมง วันท่ี ......................................................................................... ************************************************************************************************* มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี นเขียนสื่อสาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเร่ืองราว ในรปู แบบต่างๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ตัวช้วี ัด มาตรฐาน ท ๒.๑ ป.๓ / ๕. เขียนเรอื่ งตามจินตนาการ สาระสาคญั ๑. การเขยี นเชงิ สร้างสรรค์ เป็นความสามารถในการเขียนคา ประโยคหรอื เรื่องราวได้อย่างถูกต้อง แปลกใหม่ไม่ซา้ แบบใคร มีคุณค่า โดยจะต้องเขียนได้อย่างหลากหลายและคล่องแคลว่ เสร็จทันเวลาที่ กาหนด ๒. การฝกึ ให้ผ้เู รียนแสดงความคิดต่อสิง่ หนง่ึ สิง่ ใด ซ่ึงอาจจะเปน็ ภาพ ข้อความ บคุ คล หรือ เหตุการณ์ โดยไมจ่ ากัดความคิดเหน็ เป็นการฝึกทีจ่ ะชว่ ยให้ผู้เรียนเกดิ ความคิดสรา้ งสรรคท์ ด่ี ไี ดว้ ิธหี นงึ่ ๓. การฝึกใหผ้ เู้ รียนเขียนเรื่องจากการวเิ คราะหโ์ ครงเรื่อง จะทาใหผ้ เู้ รียนเปน็ คนที่มีเหตุผล ร้จู กั วิเคราะหว์ ิจารณเ์ รือ่ ง ซ่งึ จะช่วยใหส้ ามารถเขยี นเรื่องอย่างสรา้ งสรรคไ์ ด้ สาระการเรยี นรู้ ๑. การแตง่ ประโยค ๒. การเขยี นเรื่องจากโครงเรอ่ื ง ๓. การเขียนเร่ืองจากภาพ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. นักเรยี นสามารถแต่งประโยคจากคาทีก่ าหนดใหไ้ ด้ ๒. นักเรยี นสามารถบอกแนวคิดของบทเรียนได้ถูกต้อง ๓. นกั เรียนสามารถบอกลกั ษณะโครงเร่ืองในบทเรยี นได้ ๔. นักเรยี นสามารถเขียนเร่ืองใหม่ตามแนวคิดในบทเรียนได้ สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ๑. มคี วามรอบคอบในการทางาน ๒. เปน็ ผนู้ าและผู้ตามที่ดี ๓. มคี วามภาคภูมิใจในภาษาไทย ๔. มีความซ่ือสตั ย์กตญั ญู ๕. ประหยัดและอยูอ่ ย่างพอเพยี ง กระบวนการจดั การเรียนรู้ นาสกู่ ระบวนการเรยี นรู้ ๑. นกั เรียนเลน่ เกมเรียงคาทาความ (ภาคผนวก) ๒. นกั เรยี นอ่านคาใหมจ่ ากบัตรคา เชน่ ไมก้ ระบอง, ลกู ตาลึง , นกยาง, อึ่งอา่ ง, คางคก, กระทง, กระบงุ ตาชงั่ ฯลฯ แลว้ แต่งประโยคปากเปลา่ คนละหนึง่ ประโยค กระบวนการเรียนรู้ ๑. นักเรยี นแบง่ กลุ่มออกเป็น ๕ กล่มุ ๆ ละ ๗ - ๘ คน แข่งขนั เขยี นประโยคจากคาท่ีกาหนดให้มา ใหม้ ากทสี่ ุด โดยครูกาหนดคาใหก้ ลมุ่ ละ ๔ -๕ คา แต่ละคาใหส้ มาชกิ ในกลมุ่ ชว่ ยกนั เขียนประโยคที่ใชค้ านั้นมา ให้มากท่สี ดุ ตามเวลาทก่ี าหนดลงบนกระดาษท่ีแจกให้ แล้วส่งตวั แทนออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชัน้ เรียน ๒. นักเรยี นและครรู ่วมกันทบทวนแนวคดิ ของบทเรยี นดังน้ี “อา่ นหนงั สือมาก มีประโยชน์ต่อตวั เรา” ๓. ครูเขียนแผนภาพโครงเรื่อง ดงั นี้ หลกั การ : ........................................................ เหตุผล : ........................................................ รายละเอยี ด : ........................................................ บทสรปุ และข้อคิด : ........................................................ ๔. นักเรียนและครรู ่วมกันอภิปราย โดยใชค้ วามรจู้ ากเร่อื งแม่ไก่อยใู่ นตะกรา้ มาเขียนโครงเรื่อง ๕. นกั เรยี นแตล่ ะคนเขยี นเร่ือง“อา่ นหนงั สือมาก มีประโยชนต์ อ่ ตัวเรา” ดว้ ยภาษาของตนเอง ลงใน แบบฝกึ พัฒนาการเรียนรู้ พร้อมกับวาดภาพประกอบและระบายสใี ห้สวยงามโดยมขี ้นั ตอนดงั น้ี นักเรยี น และครูร่วมกันสนทนาเก่ยี วกบั รูปภาพ นกั เรยี นบอกเหตุการณใ์ นภาพเป็นตอนๆ ไป แล้วเลา่ เรอ่ื งจากภาพตามความเขา้ ใจ ของนักเรียน นักเรียนเขยี นบรรยายภาพประมาณ ๔ - ๕ บรรทัด พร้อมแนวคิด สรุปกระบวนการเรียนรู้ ๑. ใหน้ กั เรียนอาสาสมคั รนาเสนอผลงานของตนเองประมาณ ๒ –๓ คน ๒. มอบหมายใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหดั ที่ ๓ ขอ้ ๑๒ (การบา้ น) ๓. นกั เรียนและครูร่วมกนั อา่ นบทรอ้ ยกรอง แม่ กง จากแผนภูมิ

ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้ ๑. บัตรคา ๒. แผนภาพ ๓. แผนภูมิโครงสรา้ งของเร่อื ง ๔. แบบฝึกพฒั นาการเรยี นรู้ ๕. หนงั สือแบบเรยี นภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ เล่ม ๒ ๖. หนังสือแบบฝึกหดั ทักษะภาษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ๗. เกมเรียงคาทาความ ๘. บทรอ้ ยกรอง แม่ กง กระบวนการวดั และประเมนิ ผล ๑. วธิ กี าร ๑.๑ สงั เกต การอ่าน การเขียนเรื่องจากภาพ ความสนใจในการเรียน กระบวนการทางานของแตล่ ะคน ๑.๒ ตรวจผลงาน แบบฝกึ พัฒนาการเรียนรู้ แบบฝึกหดั ๒. เครอ่ื งมอื การวัดและประเมินผล แบบประเมนิ พฤติกรรมการทางาน แบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ ๓. เกณฑ์การวัดและประเมินผล ใช้การผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป กจิ กรรมเสนอแนะ -