Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนจัดการเรียนรู้ วรรณคดีลำนำ บทที่ ๕ กาเหว่าที่กลางกรุง

แผนจัดการเรียนรู้ วรรณคดีลำนำ บทที่ ๕ กาเหว่าที่กลางกรุง

Description: แผนจัดการเรียนรู้ วรรณคดีลำนำ บทที่ ๕ กาเหว่าที่กลางกรุง

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย(วรรณคดี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ เร่อื ง กาเหว่าที่กลางกรุง นางเยน็ ฤดี ค้มุ สุพรรณ โรงเรียนพณิ พลราษฎร์ ตงั้ ตรงจิตร ๑๒ สานกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษาพษิ ณโุ ลก เขต ๒

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๑ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๕ เรื่อง กาเหวา่ ท่กี ลางกรงุ เวลา ๑๑ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑ เรือ่ ง การสร้างประสบการณ์ทางเน้ือหา เวลา ๑ ชั่วโมง วันท่ี .......................................................................................................................................................... ************************************************************************************************* มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพื่อนาไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ญั หาใน การดาเนนิ ชีวิต และมีนิสยั รักการอา่ น ตัวชว้ี ดั ท ๑.๑ ป.๓ / ๔ ลาดบั เหตกุ ารณแ์ ละคาดคะเนเหตกุ ารณจ์ ากเร่ืองที่อา่ นโดยระบเุ หตุผลประกอบ สาระสาคญั การฟังเรื่อง เปน็ การสร้างประสบการณ์ทางเน้ือหาช่วยใหเ้ กิดทักษะในการจับใจความสาคญั ของเร่ือง สาระการเรยี นรู้ ๑. ฟงั เรื่อง “กาเหวา่ ทก่ี ลางกรงุ ” ๒. ตอบคาถามของเรอื่ ง ๓. เลา่ เรือ่ งและอ่านเรือ่ งที่เล่า ๔. คัดเรือ่ งลงในสมุด จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. ฟงั เรื่อง “กาเหว่าทก่ี ลางกรงุ ” แล้วตอบคาถามและเล่าเร่ืองได้ถกู ต้อง ๒. อา่ นเร่ืองท่ีเล่าไดถ้ ูกต้อง ๓. คดั เร่ือง “กาเหวา่ ทก่ี ลางกรุง” จากแผนภมู ิลงสมุดไว้ฝึกอา่ นได้ถูกต้อง สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ความสามารถในการแก้ปญั หา คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. รักและชนื่ ชมในเอกลกั ษณไ์ ทย ๒. มคี วามซอ่ื สัตย์สุจรติ ๓. มีวนิ ัยในตนเอง ๔. มีความสนใจใฝเ่ รยี นรู้ ๕. อยู่อยา่ งพอเพยี ง

สาระการเรยี นรู้ ๑. ฟงั เร่ือง “กาเหวา่ ทีก่ ลางกรุง” ๒. ตอบคาถามของเรอ่ื ง ๓. เล่าเรอ่ื งและอ่านเรอ่ื งทเ่ี ล่า ๔. คดั เรอ่ื งลงในสมุด กระบวนการจดั การเรียนรู้ นาส่กู ระบวนการเรยี นรู้ ๑. นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนการเรยี นรู้ หน่วยท่ี ๕ ๒. นกั เรยี นและครรู ว่ มกันสนทนาเก่ียวกับช่ือเรอ่ื ง “กาเหว่าท่กี ลางกรงุ ” ว่ามลี กั ษณะอย่างไร โดย ใชค้ าถามนา ดังนี้ ๑) ใครเคยเหน็ นกกาเหว่าบา้ ง ๒) ใครเคยได้ยินเสยี งนกกาเหวา่ รอ้ งบ้าง ๓) ใครเคยได้ยินเพลงกล่อมนกกาเหว่าบา้ ง ได้ยินที่ไหน เมื่อไหร่ กระบวนการเรียนรู้ ๑. นักเรียนทบทวนความรู้ เรือ่ ง การฟัง และการพูด (ภาคผนวก) ๒. นักเรียนดูภาพจากบทเรียนแลว้ รว่ มกันสนทนาเก่ียวกบั ภาพโดยตอบคาถามวา่ ใคร ทาอะไร ทีไ่ หน อยา่ งไร เหตกุ ารณต์ อนนีเ้ ป็นอยา่ งไร เพราะเหตุใด ๓. นักเรยี นฝกึ เลา่ หรือทานายเรอ่ื งจากภาพวา่ นา่ จะมเี หตุการณ์อยา่ งไร ๔. นกั เรยี นฟังครูอ่านเรอื่ งหรือเลา่ เร่อื ง “กาเหว่าที่กลางกรุง” จากบทเรยี นโดยเน้นมารยาทในการ ฟงั แลว้ นักเรยี นตอบคาถามปากเปล่า ดงั น้ี ๑) เรอ่ื ง“กาเหวา่ ทก่ี ลางกรุง” มตี วั ละครก่ีตวั ๒) ครอบครวั ของคาแพงไปเท่ียวทไ่ี หนมา ๓) คาแพงได้ยนิ เสยี งนกอะไรรอ้ ง ๕. นกั เรียนช่วยกันเล่าเรื่องท่ีฟงั ถ้าเลา่ ไม่ไดค้ รูถามนาแลว้ ใหน้ ักเรยี นตอบ ๖. ครูเขียนข้อความหรอื ประโยคหรือเร่ืองท่ีนักเรยี นเลา่ ลงในแผนภูมิ ๗. นกั เรียนอา่ นข้อความในแผนภูมิจนคลอ่ ง ๘. นกั เรยี นคดั ข้อความในแผนภูมลิ งในสมดุ เพื่อฝกึ อา่ นสง่ ตรวจ สรปุ กระบวนการเรียนรู้ ๑. นักเรียนและครชู ่วยกนั สรปุ เน้อื หาสาระการเรยี นรู้จากการฟัง ๒. นักเรยี นทาแบบฝึกพัฒนาการเรยี นรู้ (ภาคผนวก) ๓. มอบหมายใหน้ ักเรยี นทาแบบฝึกหัดทกั ษะภาษา ชุดภาษาเพ่ือชวี ิต หน่วยท่ี ๕ เปน็ การบ้าน

ส่อื และแหล่งการเรียนรู้ ๑. แบบทดสอบก่อนการเรยี นรู้ หน่วยท่ี ๕ ๒. บตั รคาใหม่, คายาก ๓. รปู ภาพจากบทเรยี น ๔. กระเป๋าผนัง ๕. พจนานุกรม ๖. หนงั สอื เรยี นภาษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ เล่ม ๒ วรรณคดลี านา ๗. แบบฝกึ หัดทักษะภาษา ชุดภาษาเพ่ือชีวติ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๓ ๘. แบบฝึกพัฒนาการเรียนรู้ กระบวนการวัดและประเมินผล ๑. วิธกี าร ๑.๑ สังเกต การฟงั และการเลา่ เรอ่ื ง การซักถาม การตอบคาถาม ความสนใจในการเรียน กระบวนการทางาน ๑.๒ ตรวจ แบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ สมดุ งาน แบบฝกึ หัด ๒. เครอ่ื งมอื การวัดและประเมนิ ผล แบบสงั เกตพฤติกรรม แบบทดสอบกอ่ นการเรียนรู้ แบบฝึกพฒั นาการเรียนรู้ ๓ เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล ใชก้ ารผา่ นเกณฑ์ร้อยละ ๗๐ ขน้ึ ไป กิจกรรมเสนอแนะ -

แบบทดสอบก่อนการเรยี นรู้ กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย หน่วยท่ี ๕ เรื่อง กาเหว่าท่ีกลางกรงุ ************************************************************************************************** คาชีแ้ จง นกั เรยี นทาเคร่ืองหมายกากบาท ทบั ตวั อักษร ก, ข, ค, ง หนา้ คาตอบท่ีถูกทีส่ ดุ เพยี งขอ้ เดียว ๑. ครอบครัวของคาแพงไปเที่ยวทไ่ี หนมา ก. วดั พระแกว้ ข. พระบรมมหาราชวัง ค. ย่านการค้าสาเพง็ ง. ถูกทุกขอ้ ๒. จากข้อ ๑ ครอบครัวของคาแพงไปเที่ยวเมอื่ ใด ก. เมือ่ วาน ข. เม่ือวานซืน ค. ๒ วนั ทผี่ า่ นมา ง ไมม่ ีข้อถูก ๓. ครอบครวั ของคาแพงไปเที่ยวและไปพักท่บี ้านใคร ก. ป้า ข. น้า ค. อ้า ง. ยาย ๔. กิจวตั รประจาวนั ยามเชา้ ของคาแพงคอื ข้อใด ก. วิ่งออกกาลัง ข. กายบรหิ าร ค. ทาบญุ ใสบ่ าตร ง. ไมม่ ีข้อถูก ๕. ครอบครวั ของคาแพงไปเท่ียวที่กรุงเทพฯ ในฤดูใด ก. ฤดรู ้อน ข. ฤดูหนาว ค. ฤดฝู น ง. ฤดูแล้ง

๖. คาแพงแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงนกอะไรร้องเสียงดัง ก. นกกระจอก ข. นกเขา ค. นกเอีย้ ง ง. นกกาเหวา่ ๗. สัตวช์ นดิ ใดท่ีมาไขแ่ ล้วทงิ้ ใหแ้ ม่กาฟักและเลี้ยงดูเปน็ อยา่ งดี ก. แมก่ า ข. แมน่ กกาเหว่า ค. แมน่ กเขา ง. แมน่ กเอ้ยี ง ๘. ในสมยั ก่อนทาไมนายพรานจงึ มอี าชพี ล่าสัตว์ ก. เป็นธรรมชาติของนายพราน ข. สมยั ก่อนมสี ตั ว์ปา่ มากมาย ค. ลา่ ไปขายและทาอาหาร ง. ขอ้ ข และ ข ถูก ๙. พอ่ ของคาแพงมีอาชีพอะไร ก. ครู ข. ตารวจ ค. ทหาร ง. แพทย์ ๑๐. แมจ่ าบทเพลง นกกาเหวา่ มาจากใคร ก. ตา ข. ยาย ค. ปู่ ง. ย่า

๑. ง ๒. ก เฉลย ๕. ข ๖. ง ๗. ข ๓. ก ๔. ค ๑๐. ข ๘. ง ๙. ก

ใบความรู้ เรอ่ื ง ข้อปฏบิ ัตใิ นการฟงั และการพูด การฟัง เปน็ การไดย้ นิ เร่ืองราวให้เกิดความเขา้ ใจในเรื่องที่ไดย้ ิน และ นามาพิจารณาวา่ เรื่องราวน้ัน ๆ ควรเชอ่ื ได้หรือไม่ นาไปใชป้ ระโยชน์ได้เพยี งใด ขอ้ ควรปฏิบตั ใิ นการฟัง ๑. ต้ังใจฟัง ไม่พดู หรือสนทนากันขณะฟังผู้อื่นพูด ๒. คดิ ตดิ ตามเรื่องฟังว่าเรื่องท่ีฟังเกย่ี วกับอะไร มีความถูกต้องเช่ือถอื ไดห้ รือไม่ ๓. การฟังคาบรรยายควรจดข้อความสาคัญท่ีไดจ้ ากการฟังไว้ มารยาทในการฟัง ๑. ตง้ั ใจฟัง มองผูพ้ ูด ๒. ไม่คุยหรือเลน่ ขณะฟงั ผู้อื่นพดู ๓. ไม่สง่ เสียงดังหรอื ทาความราคาญใหผ้ ู้อ่ืน ๔. ถา้ จะถามควรขออนญุ าตก่อน หรอื ใหผ้ ูพ้ ูดหยุดพดู กอ่ น ไม่ควรถามขณะผู้พูดยงั พูดไม่จบ การพูด เปน็ การแสดงความคดิ เหน็ หรือบอกเลา่ เรอื่ งราวโดยการพดู ใหผ้ ู้อน่ื ฟงั ผู้พูดต้องมีความคิด มีเรอ่ื งราว ทจี่ ะพดู และตอ้ งจัดลาดับความคดิ หรือเร่ืองราวที่จะพูดไม่ให้สับสน เพอ่ื ผู้ฟังจะได้เกิดความเข้าใจ ชัดเจน ผ้พู ดู ต้องพูดใหช้ ัดเจน ใช้ภาษาที่ถูกตอ้ ง

ข้อปฏบิ ัติในการพูด ๑. จะพูดเรื่องอะไร ต้องมคี วามรู้ในเรื่องนน้ั โดยการอา่ น การซกั ถามผอู้ ืน่ ใหเ้ ข้าใจก่อน ๒. ใชภ้ าษาพูดทถ่ี กู ต้อง สุภาพ ๓. พูดให้เสียงดัง ฟงั ชัด แตไ่ ม่ใชต่ ะโกน ๔. พูดให้ชัดเจน ใชค้ าแทนชอ่ื ใหถ้ ูกต้อง ๕. มองผู้พูด ๖. ขณะพูดตอ้ งนั่งหรอื ยนื ตวั ตรงในท่าสบาย ๗. ไม่เอามือลว้ ง ควัก แกะ เกา ขณะพูดหรือยนื เอามือไขว้หลงั มารยาทในการพูด ๑. ใช้นา้ เสยี งนมุ่ นวล ไม่พดู กระโชกโฮกฮาก ๒. ใชถ้ ้อยคาสภุ าพ ๓. พดู ดว้ ยใจจรงิ และยกย่องผู้ฟงั ๔. ไมน่ ินทาผู้อื่นหรือพูดวา่ รา้ ยผู้อ่ืน ๕. ไมแ่ สดงความโกรธเคืองผู้ฟัง ๖. รอจังหวะในการพดู ซักถาม ไม่พูดสอดขณะผอู้ ื่นกาลังพดู

ชอ่ื ……………………………………………………………………....เลขที่…………….……….ชนั้ ประถมศึกษาปีที่…………… วันท่ี ……………….. เดอื น ………………………………………………………พ.ศ. …………………… ************************************************************************************************** คาชีแ้ จง นกั เรยี นฟงั ครเู ล่าเรือ่ งแลว้ ดูภาพประกอบ และตอบคาถามให้ถกู ต้อง ๑. เรือ่ งนี้ตวั ละครมีใครบา้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒.เหตกุ ารณใ์ นเรือ่ งเกดิ ข้ึนที่ไหน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓.เหตุการณใ์ นเรือ่ งเกดิ ขึน้ ในเวลาใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. เสียงอะไรเป็นสาเหตุท่ที าให้เด็กหญิงคาแพงแปลกใจ ประหลาดใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕.นักเรียนคดิ วา่ วิถชี ีวิตในชนบทและในเมอื งตา่ งกนั อยา่ งไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๖.นกั เรยี นไดข้ ้อคิดอะไรบา้ ง ๖.๑)………………………………………………………………………….………………………………………………………… ๖.๒)……………………………………………………………………………………………………………….…………………… ๖.๓)……………………………………………………………………………………………………………………………………

ภาคผนวก ภาพจากบทเรยี น ภาพ หน่วยท่ี ๕

แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๓ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๕ เรื่องกาเหวา่ ทีก่ ลางกรุง เวลา ๑๑ ช่ัวโมง แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๒ เร่อื ง การสะกดคา เวลา ๒ ชั่วโมง วันท่ี ................................................................................................................. ************************************************************************************************** มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัติ ของชาติ ตัวชีว้ ัด ท ๔.๑ ป.๓ / ๑ เขยี นสะกดคาและบอกความหมายของคา สาระสาคัญ การสะกดคาแบบแจกลูกคา เป็นพ้นื ฐานการอา่ นคาต่างๆ ในบทเรียนได้อยา่ งถกู ต้อง สาระการเรยี นรู้ การสร้างประสบการณจ์ ากคา การอ่านและสะกดคายากและคาใหม่ การเขยี นคายากและคาใหม่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. สามารถสะกดคายากและคาใหม่ในบทเรยี นได้ ๒. สามารถเขยี นคายากและคาใหม่ไดถ้ ูกตอ้ ง ๓. สามารถทางานรว่ มกบั คนอ่นื ไดอ้ ย่างมีความสุข (เก่ง ดี มีสขุ ) สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต ความสามารถในการแก้ปัญหา คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีความรอบคอบในการทางาน ๒. เปน็ ผู้นาและผตู้ ามทดี่ ี ๓. มีความภาคภูมิใจในภาษาไทย ๔. มีความสนใจใฝเ่ รียนรู้ ๕. ใชภ้ าษาได้ถกู กาลเทศะ

กระบวนการจัดการเรยี นรู้ นาส่กู ระบวนการเรยี นรู้ นักเรียนเล่นเกมใบค้ า (ภาคผนวก) กระบวนการเรยี นรู้ ๑. นักเรยี นและครสู นทนาเก่ียวกับบทเรยี น โดยให้นกั เรียนอา่ นแผนภูมทิ ่ีครูและนักเรยี นช่วยกันเขยี น สรปุ ในช่ัวโมงท่ีแลว้ และฝึกสะกดคาคาใหม่หนว่ ยท่ี ๕ (บทท่ี ๕) ๒. นกั เรยี นดูภาพจากหนังสือเรยี นบทท่ี ๕ เรือ่ ง “กาเหวา่ ทีก่ ลางกรุง” แลว้ ใหน้ กั เรียนเขยี นคาศัพท์ ทพ่ี บเห็นจากภาพในบทเรยี นและฝึกอา่ นสะกดคา ๓. นกั เรยี นร่วมกนั อ่านแผนภูมคิ าจากเรื่องท่ีนักเรียนเลา่ เพ่ือทบทวนบทเรยี น ๔. นกั เรยี นร่วมกนั ฝกึ อ่านและเขยี นคายาก และสะกดคาจนคลอ่ ง ๕. นักเรียนขดี เส้นใต้คาใหมแ่ ละคายากจากแผนภูมิว่ามีก่ีคา ๖. นักเรียนร่วมกันนาคายากไปแตง่ ข้อความหรือประโยค ๗. นักเรยี นทกุ คนคัดคาใหมแ่ ละคายากลงสมุด ๘. แบง่ กลุ่มเปน็ ๓ กล่มุ ช่วยกันทาพจนานกุ รมคายากเพอ่ื เกบ็ ไวอ้ า่ นในชัน้ เรียน สรุปกระบวนการเรียนรู้ ๑. นกั เรยี นทบทวนบทเรยี นโดยอ่านสะกดคาใหม่และคายากจากแผนภมู อิ กี ครงั้ ๒. นักเรยี นทาแบบฝกึ พฒั นาการเรยี นรู้ (ภาคผนวก) ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้ ๑. บตั รคาใหม่ ๒. ภาพจากบทเรยี น ๓. หนงั สอื เรยี นภาษาไทย ป.๓ เล่ม ๒ วรรณคดีลานา ๔. แผนภมู ทิ ี่นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ๕. แบบฝึกพัฒนาการเรียนรู้ ๖. เกมใบค้ า กระบวนการวดั และประเมินผล ๑. วธิ กี าร ๑.๑. สังเกต การอ่านและสะกดคา การเขียนตามคาบอก ความสนใจในการเรียน กระบวนการทางานของแตล่ ะคน การซกั ถามและการตอบคาถาม

๑.๒. ตรวจผลงาน สมดุ งาน/แบบฝึกหัด แบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ ๒. เครอ่ื งมือการวดั และประเมนิ ผล แบบประเมินการเขียนตามคาบอก แบบฝึกพัฒนาการเรียนรู้ ๓. เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล ใชก้ ารผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ ๗๐ ขึน้ ไป กจิ กรรมเสนอแนะ -

ภาคผนวก เกมใบค้ า จุดประสงค์ นกั เรยี นสามารถวิเคราะห์ภาษาทางเป็นภาษาพดู และภาษาเขียนได้ วิธเี ลน่ ๑. เลือกอาสาสมคั ร ๕ คน เพอ่ื เปน็ ผู้แสดงทา่ ทาง ๒. ใหอ้ าสาสมัครยนื หน้าช้ันเรยี น แล้วรบั บัตรคาจากครู จากนั้นจึงใบ้คาโดยแสดงท่าทางตาม บัตรคาที่ได้ ตัวอยา่ ง การ์ตนู ข่าวสาร จดหมาย โทรทศั น์ หนังสือพิมพ์ วทิ ยุ โทรทศั น์ ถ่ายทอด ดาวเทยี ม บุรษุ ไปรษณยี ์ ๓. นกั เรยี นชว่ ยกนั ทายคาทีละคนโดยใครยกมือก่อนจะเป็นผู้ไดท้ าย ๔. ให้นักเรียนที่ทายถูกตอ้ งนาบตั รคากล่าวไปติดบนกระดานแม่เหล็กเพอื่ ทากิจกรรมในขั้นต่อไป หมายเหตุ ครูควรเตรยี มบัตรคาให้สอดคลอ้ งกับบทเรียน

สดใส บัตรคา มา่ น ทวิ ทัศน์ ธรรมชาติ ครอบครัว ลมหนาว พระบรมมหาราชวัง ยา่ นสาเพ็ง ยวดยาน บณิ ฑบาต กรงุ เทพฯ วัดพระแกว้ ชะโงก ใสบ่ าตร ย่านการค้า ประหลาด หูฝาด อ่อนโยน อบอ่นุ แซม สงสาร คุ้นเคย เจอ้ื ยแจว้ สนั นิษฐาน ป่าละเมาะ เศร้า กระวีกระวาด

แบบฝึกพัฒนาการเรยี นรู้ ชื่อ……………………………………………………………..เลขที่………………….….ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๓……………….. วันที่………..…….…..เดือน………………………….พ.ศ……………… คาช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นเขียนคาอ่านจากคาที่กาหนดให้อย่างถูกต้อง ตัวอยา่ ง สาราญ อ่านวา่ สา – ราน ๑. สมาชิก อา่ นว่า ………………………………….. ๒. ภาคอสี าน อา่ นว่า ………………………………….. ๓. ยวดยาน อา่ นวา่ ………………………………….. ๔.ความเจรญิ อา่ นวา่ ………………………………….. ๕. ทนั สมยั อา่ นวา่ ………………………………….. ๖. ทิวทศั น์ อ่านวา่ ………………………………….. ๗. เงยี บสงบ อ่านว่า ………………………………….. ๘. อทุ ร อ่านว่า ………………………………….. ๙. ธรรมชาติ อา่ นว่า ………………………………….. ๑๐.กฏหมาย อา่ นว่า …………………………………..

แบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ ชื่อ………………………………………………………..เลขท่ี………………..….ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓....... วนั ท่ี…………..เดือน………………………………………………….พ.ศ……………… คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นเขยี นคาจากคาอา่ นท่ีกาหนดใหต้ ่อไปนอี้ ย่างถูกต้อง ตวั อยา่ ง เถา - วนั เขยี นเปน็ เถาวัลย์ ๑. สง - สาน เขยี นเป็น………………………………….. ๒.ความ-เมด-ตา เขียนเปน็ ………………………………….. ๓. ขอบ - คุน เขียนเปน็ ………………………………….. ๔. เสา้ เขียนเป็น………………………………….. ๕. กด - หมาย เขยี นเปน็ ………………………………….. ๖. สงั -เกด เขยี นเป็น………………………………….. ๗. อา - ชีบ เขยี นเป็น………………………………….. ๘. สะ-มา-ชิก เขยี นเปน็ ………………………………….. ๙. กรุง - เทบ เขียนเปน็ ………………………………….. ๑๐. บนิ -ทะ-บาด เขยี นเป็น…………………………………..

แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๓ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๕ เร่ืองกาเหว่าทก่ี ลางกรงุ เวลา ๑๑ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ เรือ่ ง การสะกดคา เวลา ๒ ชว่ั โมง วันที่ ................................................................ ************************************************************************************************** มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคิดเพอ่ื นาไปใชต้ ัดสนิ ใจ แกป้ ญั หาใน การดาเนินชวี ติ และมนี สิ ยั รักการอ่าน ตวั ช้ีวัด ท ๑.๑ ป.๓ / ๓ ตง้ั คาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผลเก่ียวกับเรอื่ งท่ีอ่าน สาระสาคัญ การอา่ นในใจทดี่ ตี ้องสามารถจบั ใจความสาคญั ของเรื่องทอี่ ่านไดซ้ ึ่งต้องอาศัยการตง้ั คาถามว่าใคร ทา อะไร ท่ไี หน อยา่ งไร เพ่ือให้ไดค้ าตอบเรยี บเรยี งเปน็ คาพูด หรือเขยี นเรยี งลาดับเหตุการณ์ทีส่ าคัญของเร่ืองท่ี อา่ นนนั้ ได้ สาระการเรียนรู้ ๑. คาใหม่ในบทเรยี น ๒. บทเรียนเรื่อง กาเหว่าท่ีกลางกรุง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. นกั เรยี นสามารถต้งั คาถามจากเรอ่ื งทอี่ ่านได้ ๒. นกั เรยี นสามารถตอบคาถามจากเรือ่ งท่ีอา่ นได้ถกู ต้อง ๓. นักเรยี นสามารถอา่ นและบอกความหมายของคาใหม่ในบทเรียนได้ ๔. นกั เรียนสามารถแต่งประโยคปากเปลา่ จากคาใหมไ่ ด้ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ ความสามารถในการแก้ปญั หา คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. มีความรอบคอบในการทางาน ๒. เป็นผ้นู าและผูต้ ามทีด่ ี ๓. มคี วามภาคภูมใิ จในภาษาไทย ๔. มคี วามสนใจใฝเ่ รยี นรู้ ๕. ประหยดั และอยอู่ ย่างพอเพยี ง

สาระการเรยี นรู้ ๑. คาใหม่ในบทเรียน ๒. บทเรียนเรอ่ื ง กาเหวา่ ที่กลางกรงุ กระบวนการจดั การเรียนรู้ นาสกู่ ระบวนการเรียนรู้ ๑. นักเรยี นและครูร่วมกนั สนทนาเกยี่ วกับรูปภาพในบทเรียนบทที่ ๕ สนทนาถึงประโยชนข์ องการติดตอ่ สื่อสาร ๒. นกั เรียนสนทนาเกยี่ วกบั ภาพโดยตอบคาถามว่า ใครทาอะไร ท่ไี หน เม่ือไหร่ อยา่ งไร เพราะเหตุ ใด นักเรยี นและครรู ว่ มกนั สนทนาเพ่ือทบทวนเนื้อเรอ่ื งในบทเรียน โดยเลา่ เร่อื งต่อกนั คนละประโยคจน จบ กระบวนการเรยี นรู้ ๓. นักเรยี นฝึกเล่าหรือทานายเรอ่ื งจากภาพ วา่ น่าจะมีเหตกุ ารณ์อย่างไร ๔. นักเรียนอ่านคาใหม่ทเี่ ป็นคายากในบทเรยี น ถา้ คาใดอ่านไม่ได้ใหส้ ะกดคา ๕. นกั เรียนแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม แลว้ ช่วยกนั อ่านคาใหมใ่ นบทเรยี น พรอ้ มกบั หา ความหมาย ของคาจากพจนานกุ รม ๖. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมาอ่านคาใหม่หน้าช้ันเรยี น ให้ นักเรียนท้งั หมดอ่านตาม ๗. นักเรยี นฝกึ แต่งประโยคปากเปล่าจากคาใหม่บางคา ๘. นักเรียนอา่ นคาใหม่และคายากท้ายบทเรียน ๙. นกั เรยี นและครูชว่ ยกนั ตั้งจุดประสงค์การอา่ นในใจรว่ มกนั เพื่อจบั ใจความสาคัญของเรือ่ ง เพ่ือตั้ง คาถามและตอบคาถามจากเร่ือง แลว้ ใหน้ กั เรยี นอา่ นในใจประมาณ ๑๐ นาที ๑๐. ให้นักเรียนแบ่งกลมุ่ ๔ กลุม่ ๆ ละ ๔ - ๕ คน รว่ มกนั ตั้งคาถามจากเร่ืองท่ีอ่านกล่มุ ละ ๔ - ๕ คาถามและคาตอบ สรปุ กระบวนการเรยี นรู้ ๑. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานกลุ่มละ ๑ คาถาม และตอบคาถามโดยเขยี นกระดานดา ไม่ซา้ กนั ๒. นกั เรียนชว่ ยกันอา่ นคาถาม และคาตอบบนกระดานดาและคัดลงในสมดุ สง่ ครู ๓. นกั เรยี นทาแบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ (ภาคผนวก) ๔. มอบหมายให้นกั เรยี นทาแบบฝึกหดั ทักษะภาษา ชดุ ภาษาเพ่ือชวี ติ หนว่ ยท่ี ๕ เปน็ การบ้าน

สือ่ และแหล่งการเรยี นรู้ ๑. บตั รคาใหม่ ๒. บัตรคายากในบทเรียน ๓. แบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ ๔. รูปภาพ ๕. กระเป๋าผนัง ๖ พจนานุกรม ๖. หนงั สือแบบเรยี นภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ เล่ม ๑ ๗. แบบฝกึ หดั ทักษะภาษา ชุดภาษาเพื่อชวี ิต ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๓ เล่ม ๑ กระบวนการวดั ผลและประเมนิ ผล ๑.๑ วิธกี าร ๑. สังเกต การฟงั การเล่าเรอ่ื ง การซกั ถาม การตอบคาถาม การคดั ลายมือ ความสนใจในการเรียน กระบวนการทางาน ๑.๒ ตรวจ แบบฝึกพัฒนาการเรียนรู้ สมดุ งาน แบบฝึกหดั ๒. เคร่อื งมอื การวดั และประเมนิ ผล แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียน แบบฝึกพฒั นาการเรยี นรู้ ๓. เกณฑ์การวดั และประเมินผล ใชก้ ารผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๗๐ ขึ้นไป กิจกรรมเสนอแนะ -

สดใส บัตรคา ม่าน ทิวทัศน์ ธรรมชาติ ครอบครัว ลมหนาว พระบรมมหาราชวัง ยา่ นสาเพง็ ยวดยาน วดั พระแกว้ บิณฑบาต กรุงเทพฯ ใสบ่ าตร ชะโงก ยา่ นการค้า อ่อนโยน ประหลาด หูฝาด แซม สงสาร อบอุ่น สันนษิ ฐาน คนุ้ เคย เจอ้ื ยแจว้ เศร้า ป่าละเมาะ กระวกี ระวาด

แบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ ชือ่ ………………………………………………….…………....เลขท…่ี …………………….ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี…………………… ************************************************************************************************** คาช้ีแจง อ่านเรอ่ื ง กาเหว่าท่ีกลางกรุง แล้วตอบคาถามต่อไปนี้ให้ถูกตอ้ ง ๑. ครอบครัวของคาแพงไปเท่ียวท่ไี หนและไปเทย่ี วเม่ือใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………. ๒. ครอบครวั ของคาแพงไปเที่ยวและไปพักทบ่ี ้านใคร …………………………………………………………………….………………………………………………………………………………. ๓. กจิ วัตรประจาวันยามเชา้ ของคาแพงคือขอ้ ใด ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ๔. พอ่ ของคาแพงมอี าชีพอะไร ………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………. ๕. คาแพงแปลกใจและประหลาดใจเมอื่ ได้ยนิ เสียงอะไรรอ้ งเสียงดัง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…. ๖. แม่จาบทเพลง นกกาเหว่า มาจากใคร ………………………………………………………………………………………………………………………………….………………..……. ๗. นกั เรยี นคิดว่าทาไมนายพรานจึงมอี าชีพลา่ สัตว์ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ๘. เรอ่ื ง กาเหวา่ ที่กลางกรุง ใหข้ อ้ คิดกบั นักเรียนในเรอ่ื งใดบา้ ง …………………………………………………………………..……………………………………………………………………………….

แบบฝึกพัฒนาการเรยี นรู้ (การบา้ นหรอื งานนอกเวลา) เร่ือง การเขียนรายงานการอา่ นหนงั สือ ชอ่ื ............................................................................ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๓....................เลขท่ี................... คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นอา่ นหนังสอื แลว้ เตมิ ข้อความลงในแบบรายงานการอา่ นหนงั สือให้ไดใ้ จความสมบูรณ์ แบบรายงานการอา่ นหนงั สือ เร่ือง ……………………………………………………… ชอื่ ผแู้ ตง่ ……………………………………………………………………………………………………………………………..……………. ตัวละคร …………………………………………………………………………………..…………………………….………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….……… เนือ้ เรือ่ งย่อ …………………………………………………………………………………………………………………………………….... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ตัวละครทชี่ อบมากทสี่ ุด ……………………………………………………………………………………………..……………………… ชอบเพราะ …………………………………………………………………………………………………………………………….………... ตวั ละครท่ีไมช่ อบมากทส่ี ดุ …………………………………………………………………………………………………………………. ไมช่ อบเพราะ …………………………………………………………………………………………………………………………..……….. ขอ้ คิดท่ไี ด้จากเรื่อง…………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เมอื่ อ่านหนงั สือเล่มนี้แลว้ ชอบเพราะ …………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…… ไมช่ อบเพราะ …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………..……………………

แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๕ เรื่อง กาเหวา่ ท่กี ลางกรงุ เวลา ๑๑ ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๔ เรื่อง การสะกดคา เวลา ๒ ชัว่ โมง วันที่ ................................................................ *.************************************************************************************************* มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความร้แู ละความคดิ เพ่ือนาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปัญหาใน การดาเนนิ ชีวติ และมีนสิ ัยรักการอ่าน ตวั ชีว้ ดั ท ๑.๑ ป.๓ / ๑ อา่ นออกเสยี งคา ขอ้ ความ เร่อื งสั้นๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ ได้ถูกต้อง คล่องแคล่ว สาระสาคัญ การอา่ นออกเสยี งบทเรยี นจะต้องฝกึ ทกั ษะการอา่ นคาเป็นคายากโดยต้องอ่านได้ถูกต้องตาม หลักเกณฑก์ ารอา่ น ฝึกอ่านคา ประโยคและเนื้อเรอ่ื งในบทเรยี น โดยการแบ่งวรรคตอนการอา่ นใหถ้ กู ต้อง สาระการเรยี นรู้ ๑. บทเรียนหน่วยที่ ๕ เร่ือง กาเหวา่ ท่ีกลางกรงุ ๒. การอ่านออกเสยี งเนื้อเร่ืองในบทเรียน จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. นกั เรยี นสามารถอ่านออกเสียงคายากได้ถูกต้องชัดเจน ๒. นกั เรยี นสามารถตอบคาถามจากเรอ่ื งท่ีอ่านได้ถูกต้อง ๓. นกั เรียนสามารถอา่ นประโยคในบทเรยี นไดถ้ ูกต้อง ๔. นกั เรียนสามารถอ่านออกเสยี งในบทเรียนได้ถูกต้อง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีจติ สานกึ ในความเป็นไทย ๒. มคี วามสามัคคใี นหมู่คณะ ๓. ใชภ้ าษาสือ่ สารได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ๔. นาขอ้ คิดมาใช้ในชีวิตประจาวนั ๕. ประหยัดและอยู่อยา่ งพอเพยี ง กระบวนการจดั การเรยี นรู้ นาส่กู ระบวนการเรียนรู้ ๑. นักเรยี นเล่นเกมบัตรคาต่อคา (ภาคผนวก) ๒. นักเรยี นทบทวนบทเรียนโดยฝกึ อ่านหรือรอ้ งเพลง แม่ กาเหวา่ (ภาคผนวก)

กระบวนการเรียนรู้ ๑. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สนทนาความหมายของคายากโดยนกั เรียนเปดิ หาความหมายจาก พจนานกุ รม และนกั เรียนอาสาสมัครออกไปเขยี นบนกระดานดา ๒. นกั เรียนอ่านออกเสียงจากแถบประโยค หรือแผนภูมปิ ระโยคท่คี รูเขียนบนกระดานดา โดยสังเกต คาทีข่ ีดเสน้ ใต้ แล้วสนทนาเก่ียวกบั คาทขี่ ีดเสน้ ไต้ ๓. นักเรียนฝกึ อา่ นออกเสียงในบทเรยี น ดังน้ี ครอู า่ นใหน้ ักเรียนฟังเปน็ ตวั อย่าง นักเรยี นฝกึ อ่านคนละ ๑ ย่อหน้า จนจบเรื่อง นกั เรียนฝึกอา่ นในกลุ่มของตนเอง ๔. นกั เรยี นเขียนคาตามคาบอก ๑๐ คา สรปุ กระบวนการเรียนรู้ ๑. นกั เรียนและครรู ่วมกนั สรุปบทเรียน หน่วยที่ ๕ เรือ่ ง กาเหวา่ ทีก่ ลางกรุง ๒. นกั เรยี นทาแบบฝกึ พัฒนาการเรียนรู้ (ภาคผนวก) ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ ๑ บตั รคายาก ๒. แถบประโยค ๓. กระเป๋าผนงั ๔. พจนานุกรม ๕. แบบฝึกพฒั นาการเรียนรู้ ๖. หนงั สอื เรียนภาษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ เล่ม ๒ กระบวนการวัดและประเมินผล ๑. วธิ ีการ ๑.๑ สังเกต การอ่านออกเสียง การเขียนตามคาบอก ความสนใจในการเรยี น กระบวนการทางานของแต่ละคน ๑.๒ ตรวจผลงาน สมุดงาน แบบฝึกหัด แบบฝึกพฒั นาการเรยี นรู้

๒. เครื่องมอื การวดั และประเมินผล แบบประเมินพฤติกรรมการทางาน แบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ ๓. เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล ใช้การผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๗๐ ขนึ้ ไป กจิ กรรมเสนอแนะ -

บัตรคาเกมต่อคา ตัวอยา่ ง ๑. ดารง รับ จดหมาย ดารงรับจดหมาย ๒. บุรษุ ไปรษณีย์ นา มา จดหมาย สง่ บุรษุ ไปรษณีย์นาจดหมายมาส่ง ๓. ดารง รบั ได้ รางวัล การประกวดภาพวาด ดารงไดร้ ับรางวลั การประกวดภาพวาด ๔. ไป ดำรง เย่ียม ลงุ ปลื้ม ดารงไปเย่ียมลุงปล้มื ๕ ลงุ ปลม้ื สวน ทุเรียน ทา มอี ำชพี ลุงปลืม้ มีอาชีพทาสวนทุเรียน ***หมายเหตุ*** สามารถดดั แปลง ยืดหยนุ่ ปรับบัตรคาให้เข้ากับเนื้อหาของบทเรยี นได้

สดใส บัตรคา ม่าน ทิวทศั น์ ธรรมชาติ ลมหนาว พระบรมมหาราชวงั ครอบครัว ยวดยาน ยา่ นสาเพง็ วดั พระแกว้ บิณฑบาต ยา่ นการคา้ กรุงเทพฯ ใส่บาตร ชะโงก ประหลาด หูฝาด ออ่ นโยน อบอุน่ แซม สงสาร คุน้ เคย เจ้ือยแจว้ สนั นิษฐาน ป่ าละเมาะ เศร้า กระวกี ระวาด

ภาคผนวก บทรอ้ ยกรอง นกกาเหวา่ กาเหวา่ เอย ไข่ไวใ้ ห้มากาฟัก แมก่ ากห็ ลงรัก คิดวา่ ลกู ในอุทร คาบเอาขา้ วมาเผ่ือ ไปคาบเอาเหยื่อมาป้อน ถนอมไวใ้ นรังนอน ซ่อนเหยอ่ื มาให้กนิ ปกี เจา้ ยังอ่อนคลอแคล ทอ้ แทจ้ ะสอนบิน แม่กาพาไปกิน ทป่ี ากน้าพระคงคา ตีนเจา้ เหยยี บสาหร่าย ปากก็ไซห้ าปลา กินกุง้ แลกนิ กั้ง กินหอยกระพังแมงดา กนิ แลว้ กโ็ ผมา จับทีต่ น้ หวา้ โพทอง ยังมนี ายพราน เทีย่ วเย่ียมเยีย่ มมองมอง ยกปืนขน้ึ สอ่ ง จอ้ งเอาแม่กาดา ตัวหน่งึ วา่ จะตม้ อีกตัวหน่ึงนนั้ วา่ จะยา กนิ นางแม่กาดา คา่ วันนอ้ี แุ มน่ า

แบบฝกึ พฒั นาการเรยี นรู้ ชือ่ …………………………….…………………………..เลขท่ี……..………….ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓..................... คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นหาความหมายของคายากจากพจนานุกรมให้ถูกต้อง ตัวอย่าง บรเิ วณ หมายถึง พนื้ ที่ในขอบเขตทก่ี าหนด ๑.ทวิ ทศั น์ หมายถงึ ………………………………….. ๒.บณิ ฑบาต หมายถึง ………………………………….. ๓.สนั นิษฐาน หมายถงึ ………………………………….. ๔. ป่ าละเมาะ หมายถงึ ………………………………….. ๕.ยา่ นการคา้ หมายถงึ ………………………………….. ๖. ฉงน หมายถึง ………………………………….. ๗. สงสาร หมายถงึ ………………………………….. ๘. ออ่ นโยน หมายถงึ ………………………………….. ๙. กระวกี ระวาด หมายถงึ ………………………………….. ๑๐.ยวดยาน หมายถงึ …………………………………..

แบบฝึกพัฒนาการเรียนรู้ ชอ่ื ………………………………………………..……………………..เลขท่ี……………….ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๓……………….. คาชแ้ี จง ให้นักเรียนเขียนคาอ่านจากคาที่กาหนดให้อยา่ งถูกต้อง ตวั อยา่ ง สาราญ อ่านวา่ สา – ราน ๑. ความเจรญิ อา่ นวา่ ………………………………….. ๒.ความวนุ่ วาย อ่านว่า ………………………………….. ๓. สนั นิษฐาน อา่ นว่า ………………………………….. ๔. สงสาร อา่ นวา่ ………………………………….. ๕. ราชวงั อา่ นว่า ………………………………….. ๖. ฉงน อ่านว่า ………………………………….. ๗. เศรา้ อ่านวา่ ………………………………….. ๘. ถนน อา่ นวา่ ………………………………….. ๙. เงยี บสงบ อ่านว่า ………………………………….. ๑๐.ธรรมชาติ อ่านวา่ ………………………………….

แบบฝึกพฒั นาการเรยี นรู้ (การบา้ นหรอื งานนอกเวลา) เรอ่ื ง การเขียนรายงานการอ่านหนังสือ ชอ่ื ..................................................................................ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓........................เลขที่................... คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นอา่ นหนงั สือแลว้ เตมิ ข้อความลงในแบบรายงานการอ่านหนังสือให้ได้ใจความสมบูรณ์ แบบรายงานการอา่ นหนงั สือ เรื่อง ………………………………………………………………………… ชือ่ ผู้แต่ง ……………………………………………………………………………………………………………………………………….……. ตวั ละคร …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………….……………………………………….……… เน้ือเร่อื งย่อ …………………………………………………………………………………………………….……………………………….... ………………………………………………………………………………………………………………………………….……………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………….………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………..………… ตัวละครที่ชอบมากทสี่ ุด ……………………………………………………………………………………………………………………… ชอบเพราะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………... ตัวละครทไี่ ม่ชอบมากทสี่ ุด ………………………………………………………………………………………………………….………. ไมช่ อบเพราะ …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ข้อคิดที่ไดจ้ ากเร่ือง………………………………………………………………………………………………………………….…………... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เมือ่ อ่านหนังสอื เล่มน้แี ลว้ ชอบเพราะ …………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ไม่ชอบเพราะ …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๕ เร่ืองกาเหว่าทีก่ ลางกรงุ เวลา ๑๑ ช่ัวโมง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๕ เรอื่ ง การเขียนแผนภาพโครงเร่ือง เวลา ๑ ชั่วโมง วันท่ี ................................................................ *************************************************************************** มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเร่ืองราว ในรปู แบบต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ตวั ชี้วดั ท ๒.๑ ป.๓ / ๒ เขยี นบรรยายเกี่ยวกับสงิ่ ใดสิง่ หน่ึง ไดอ้ ย่างชัดเจน สาระสาคญั ๑. การอ่านในใจเพื่อใหส้ ามารถจบั ใจความสาคัญของเรอ่ื งได้ สามารถตอบคาถามจากเร่ือง บอก และเรยี งลาดบั เหตุการณท์ สี่ าคญั ในเร่ือง แล้วสามารถเขียนแผนภาพโครงเร่อื ง เพื่อสรุปเร่อื งหรือเลา่ เร่ืองโดย ใชค้ าพูดของตนเองตามแผนภาพโครงเร่อื งได้ ๒. แผนภาพโครงเร่ือง เป็นแผนภาพท่ีประกอบดว้ ยส่วนของคาถามเกี่ยวกบั เร่ืองดงั น้ี ใคร ทาอะไร ที่ไหน อยา่ งไร เพราะเหตใุ ด และขอ้ คิดจากเร่ือง ๓. แผนภาพโครงเรื่อง จะช่วยใหส้ ามารถบอกเหตุการณ์ของเรือ่ งเป็นตอน ๆ โดยอาศยั การคิดคาตอบ จากคาถามในแผนภาพ และชว่ ยลาดับเรอ่ื งได้อยา่ งต่อเนือ่ ง ทาใหส้ ามารถสรปุ เรื่องทงั้ หมดได้ สาระการเรียนรู้ ๑. การเขยี นแผนภาพโครงเรื่องจากบทเรียน เรือ่ ง กาเหว่าทกี่ ลางกรงุ ๒. การเขยี นเรื่องตามแผนภาพโครงเร่ือง ๓. การเล่าเร่ืองตามแผนภาพโครงเร่อื ง จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. นกั เรียนสามารถเขยี นแผนภาพโครงเร่อื งได้ ๒. นกั เรยี นสามารถเล่าเรอื่ งจากแผนภาพโครงเร่ืองได้ ๓. นักเรยี นสามารถเขียนเรื่องจากแผนภาพโครงเร่ืองได้ สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต ความสามารถในการแก้ปัญหา

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีจิตสานกึ ในความเปน็ ไทย ๒. มีความสามคั คีในหมูค่ ณะ ๓. ใชภ้ าษาสื่อสารได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ๔. นาข้อคดิ มาใช้ในชวี ิตประจาวนั ๕. ประหยัดและอยู่อย่างพอเพียง กระบวนการจัดการเรยี นรู้ นาสู่กระบวนการเรยี นรู้ ๑. นักเรียนเล่นเกมเรียงฉนั หนอ่ ย (ภาคผนวก) ๒. นักเรียนและครรู ่วมกนั สนทนาทบทวนเน้ือเรือ่ งในบทเรียน โดยเลา่ เรื่องตอ่ กัน คนละประโยคจนจบ กระบวนการเรยี นรู้ ๑.นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สนทนาทบทวนเน้ือเรื่องในบทเรยี น โดยใชค้ าถามถามนานกั เรียนให้ นักเรียนตอบคาถาม ดงั นี้ ครอบครวั คาแพงไปเทย่ี วทีไ่ หนมา เร่ือง“กาเหว่าท่กี ลางกรุง” มีตัวละครกตี่ ัว คาแพงได้ยินเสยี งนกอะไรร้อง ใครเคยเหน็ นกกาเหว่าบา้ ง ใครเคยได้ยนิ เสยี งนกกาเหว่าร้องบา้ ง ใครเคยได้ยินเพลงกล่อมนกกาเหว่าบา้ ง ได้ยินท่ีไหน เมือ่ ไหร่ ๒. ให้นกั เรยี นช่วยกันเลา่ เร่ือง น้าผ้งึ หยดเดยี ว ต่อกนั คนละประโยคจนจบด้วยภาษาของตนเอง ๓. ครนู าเสนอแผนภูมิแผนภาพโครงเร่ือง (ภาคผนวก) ใหน้ กั เรียนดบู นกระดานดา ๔ .นักเรยี นและครชู ่วยกนั อภิปราย และเตมิ คาถาม และเหตุการณต์ าม แผนภาพโครงเร่อื งไดด้ งั น้ี เช่น ใคร : ………………………………………………….. ท่ีไหน : ……………………………………………….…. เม่ือไร : ……………………………………………….…. เหตุการณ์ : ……………………………..…………………… อยา่ งไร : …………………………………………………… ขอ้ คดิ : …………………………………………………… ๕.นักเรียนอาสาสมัครออกมาเลา่ เรื่องตามเหตกุ ารณจ์ ากแผนภาพโครงเรื่องบนกระดานดา ให้เพ่อื น ๆ ฟงั ส่วนนักเรยี นคนอืน่ ๆคอยช่วย แกไ้ ขเพ่ิมเติม ถ้าเพ่ือนเลา่ เรือ่ งผดิ

๖. แบ่งกล่มุ นักเรียนตามความเหมาะสมแล้วให้นกั เรยี นแต่ละกล่มุ เขียนเรือ่ งตามแผนภาพโครงเรอ่ื ง ด้วยคาพดู ของนักเรียนเอง ลงในในแบบฝึกพฒั นาการเรียนรู้ (ภาคผนวก) สรปุ กระบวนการเรยี นรู้ ๑. ให้นักเรยี นที่อาสาสมคั รออกมานาเสนอผลงาน ๒ - ๓ คน ให้เพื่อน ๆ ฟัง สว่ นนักเรียนทเ่ี หลือ และครคู อยแก้ไขและเพม่ิ เตมิ ๒. มอบหมายใหน้ กั เรยี นทาแบบฝกึ หดั บทที่ ๕ (การบา้ น) ๓. นกั เรยี นทาแบบฝึกพฒั นาการเรียนรู้ (ภาคผนวก) ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ ๑. แผนภูมิแผนภาพโครงเรื่อง ๒. แถบประโยค ๓. กระเปา๋ ผนัง ๔. แบบฝึกพัฒนาการเรยี นรู้ ๕. หนังสอื แบบเรียนภาษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ เลม่ ๒ ๖. แบบฝึกหดั ทักษะภาษา ชุดภาษาเพ่ือชีวิต ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓ ๗. เกมเรียงฉันหน่อย กระบวนการวดั ผลและประเมนิ ผล ๑ วธิ ีการ ๑.๑ สังเกต การอา่ นในใจ การเลา่ เรอ่ื ง การเขียนแผนภาพโครงเรือ่ ง การซกั ถาม การตอบคาถาม ความสนใจในการเรยี น กระบวนการทางาน ๑.๒ ตรวจ แบบฝกึ พฒั นาการเรยี นรู้ สมุดงาน แบบฝกึ หัด ๒ เครือ่ งมอื การวดั และประเมนิ ผล แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี น แบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ ๓ เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล ใช้การผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป กิจกรรมเสนอแนะ

ภาคผนวก เกมเรียงฉนั หน่อย จดุ ประสงค์ เพือ่ เรยี งคาตามลาดบั พยัญชนะใหถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การเรียงคาในพจนานุกรม อปุ กรณ์ ๑. กระเป๋าผนงั ๒. บตั รคาใหม่ ๓. ฉลากรายชอื่ นักเรียน วิธีเลน่ ๑. วางบัตรคาทงั้ หมดลงบนโต๊ะ ๒. ครจู ับฉลากรายช่ือนกั เรียนใหน้ กั เรียนออกมาหาบตั รคาแลว้ เอาไปวางไว้ท่ีกระเปา๋ ผนังแล้วชว่ ยกัน เรยี งคาตามลาดับพยญั ชนะ ๓. นักเรยี นทุกคนคัดคาทีเ่ รยี งลาดบั ถกู ต้องแล้วลงในสมดุ เพื่อฝึกอา่ น

แบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ ชอ่ื ……………………………………………………....เลขท…่ี …………….……….ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี……….……… ************************************************************************************************* คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นเขยี นเลา่ เรื่องเรอื่ ง กาเหว่าท่ีกลางกรงุ โดยใชภ้ าษาของตนเองอยา่ งสั้น ๆ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................

แบบฝกึ พฒั นาการเรยี นรู้ ช่ือ…………………………....เลขท่ี…………….ช้ันประถมศึกษาปีที่…………… ******************************************************************************************** คาชีแ้ จง ให้นักเรียนเขยี นเร่ืองตามแผนภาพโครงเรื่องด้วยภาษาของนกั เรียนเอง ใคร แผนภาพโครงเรือ่ ง........................................... ที่ไหน : ………………………………………………………………… เม่ือไร …………………………….………………………………….. เหตุการณ์ : ………………………………………………………………… : ………………………………………………………………… : …………………………………………………………..……………… …………………………………………..……………………………… ………………………….. …………………………………………………………..……………… …………………………………………..……………………………… ………………………….. …………………………………………………………..……………… …………………………………………..……………………………… ………………………….. …………………………………………………………..……………… …………………………………………..……………………………… …………………………..

…………………………………………………………..……………… …………………………………………..……………………………… ………………………….. …………………………………………………………..……………… …………………………………………..……………………………… ………………………….. …………………………………………………………..……………… …………………………………………..……………………………… ………………………….. อย่างไร : ………………………………………………………………… ……………………………………………………………….. ข้อคดิ : ………………………………………………………………… …………………………………………………………………

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๖ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๕ เรื่อง กาเหว่าที่กลางกรุง เวลา ๑๑ ช่ัวโมง แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๖ เร่ือง การอา่ นคาสานวนท่ใี หเ้ สยี งและภาพ เวลา ๑ ช่วั โมง วนั ท่ี ............................................................................................................... ************************************************************************************************* มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพอื่ นาไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ัญหาใน การดาเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ตัวช้วี ัด ท ๑.๑ ป.๓ / ๑ อา่ นออกเสยี งคา ข้อความ เรื่องสนั้ ๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ ได้ถูกต้อง คล่องแคลว่ สาระสาคญั ๑. การรู้หลักเกณฑ์ทางภาษาเรื่องคาและสานวนท่ีให้เสียงใหภ้ าพ ชว่ ยทาใหก้ ารใชภ้ าษาในการ สอื่ สารได้อย่างถูกต้องและมปี ระสทิ ธภิ าพ ๒. การเรียนรู้ลกั ษณะของคาและสานวนทีใ่ ห้เสียงใหภ้ าพ และให้อารมณ์ ความรู้สึกเป็นพ้ืนฐานท่ี สาคญั ในการใช้ภาษาไทยท้ังในการพดู และการเขียน สาระการเรยี นรู้ ความรทู้ างภาษา เรอื่ ง คาและสานวนทใ่ี หเ้ สยี งให้ภาพและใหอ้ ารมณ์ ความรู้สึก จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. นักเรยี นสามารถบอกความหมายและบอกลักษณะของคาและสานวนท่ใี ห้เสยี งให้ภาพและให้ อารมณ์ ความรู้สกึ ได้ ๒. นกั เรียนสามารถใชค้ าและสานวนทใ่ี ห้เสยี งใหภ้ าพและใหอ้ ารมณ์ ความรูส้ ึกได้อย่าง ถกู ตอ้ ง สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต ความสามารถในการแกป้ ญั หา คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มคี วามรอบคอบในการทางาน ๒. เป็นผนู้ าและผ้ตู ามท่ดี ี ๓. มีความภาคภูมิใจในภาษาไทย ๔. มีความซอื่ สัตย์กตัญญู ๕. ประหยดั และอย่อู ย่างพอเพียง

กระบวนการจัดการเรยี นรู้ นาสกู่ ระบวนการเรยี นรู้ นกั เรียนและครูรว่ มกนั สนทนาถงึ คาและสานวนที่ให้เสียงใหภ้ าพและให้อารมณ์ ความรสู้ กึ วา่ มลี กั ษณะอย่างไร กระบวนการเรยี นรู้ ๑. แบ่งนักเรียนออกเป็นกลมุ่ (ตามความเหมาะสม) แล้วให้นักเรยี นศึกษาใบความรู้ เร่อื ง คาและ สานวนท่ีใหเ้ สียงให้ภาพ และให้อารมณ์ ความร้สู ึก (ภาคผนวก) ใหเ้ ข้าใจ ๒. ให้นักเรียนแต่งประโยคจากเรื่อง คาและสานวนที่ให้เสยี งใหภ้ าพ และใหอ้ ารมณ์ ความรสู้ ึก ปาก เปล่าคนละหน่ึงประโยค (ภาคผนวก) เขยี นลงในกระดาษที่ครูแจกใหแ้ ล้วนามาเสนอผลงานหนา้ ช้ันเรียนกลุ่ม ละ ๔ - ๕ ประโยค โดยไมใ่ ห้ซ้ากนั ๓. นกั เรียนและครูรว่ มกันสรุป การนาเสนอผลงานของแต่ละกล่มุ ๔. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกล่มุ ทาแบบฝึกพัฒนาการเรยี นรู้ (งานกลุ่ม) ๕. ให้นักเรยี นแข่งขนั กันเขยี นเรอื่ ง คาและสานวนท่ใี หเ้ สียงให้ภาพ และให้อารมณ์ ความร้สู ึกบน กระดานดาโดยกลุม่ ใดท่เี ขยี นประโยค ได้มากทส่ี ดุ เป็นฝ่ายชนะ สรุปกระบวนการเรยี นรู้ ๑. นักเรียนและครรู ่วมกันสรุปบทเรียน ๒. นักเรยี นทาแบบฝึกพฒั นาการเรียนรู้ (ภาคผนวก) สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ ๑. ใบความรู้ ๒. แบบฝึกพฒั นาการเรยี นรู้ ๓. หนงั สอื เรยี นภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๓ เล่ม ๒ วรรณคดีลานา ๔. แบบฝกึ หดั ทักษะภาษา ชุดภาษาเพื่อชีวิต ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ กระบวนการวัดและประเมนิ ผล ๑. วิธีการ ๑.๑ สังเกต การอ่านคาและประโยค การเขียนประโยค ความสนใจในการเรยี น กระบวนการทางานของแต่ละคน กระบวนการกล่มุ ๑.๒ ตรวจผลงาน

สมุดงาน แบบฝึกหดั แบบฝกึ พัฒนาการเรียนรู้ ๒. เคร่อื งมือการวัดและประเมนิ ผล แบบประเมนิ พฤติกรรมการทางาน แบบฝกึ พฒั นาการเรยี นรู้ ๓. เกณฑ์การวัดและประเมินผล ใชก้ ารผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ ๗๐ ข้นึ ไป กจิ กรรมเสนอแนะ -

ใบความรู้ เรอื่ ง คาและสานวนที่ใหเ้ สียง ใหภ้ าพ และใหอ้ ารมณค์ วามรู้สึก อ่านข้อความหรือบทประพันธ์เพอ่ื สงั เกตคาและสานวนที่ให้เสยี ง ใหภ้ าพ และให้ อารมณ์ความรู้สกึ เช่น 1. ยามเชา้ เริ่มตน้ อย่างสดใสลมหนาวพดั แผว่ เบาเขา้ มาทางหนา้ ต่าง ม่านสีขาวลายลกู ไม้พลว้ิ ไหว 2. คาแพงกเ็ หน่ือย เมือ่ คืนเธอหลับตงั้ แตห่ ัวยังไม่ทนั ถึงหมอน 3. ทุกคร้งั ท่ีได้ใส่บาตร คาแพงมีความสุขและร้สู กึ อิ่มอกอ่มิ ใจอย่างบอกไม่ถูก 4. มองออกไปทางไหนก็เหน็ แต่ตึกรามบ้านช่องเตม็ ไปหมด 5. ลมต้นฤดหู นาวพดั ผ่านมาอ่อนโยน 6. มอื ของแม่ทีโ่ อบเธอไว้อยา่ งคุ้นเคย ชา่ งอบอุ่นและอ่อนโยนเสียน่กี ระไร 7. คาบเอาข้าวมาเผ่ือ ไปคาบเอาเหย่ือมาป้อน ถนอมไว้ในรงั นอน ซอ่ นเหยอ่ื มาให้กนิ นักเรยี นลองหาคาและสานวนอื่น ๆ ทง้ั ในและนอกบทเรยี นที่ให้เสียงภาพ หรืออารมณ์ความรสู้ กึ รวบรวมไว้แลกเปลีย่ นกันอ่านกบั เพ่ือน ๆ

แบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ ช่ือ………………………………………………………….…....เลขท…่ี …………….…….ช้ันประถมศึกษาปที ี่…………… ************************************************************************************************* คาช้ีแจง ให้นกั เรยี นอธิบายความหมายของสานวนต่อไปนี้พรอ้ มทั้ง วาดภาพประกอบระบายสีให้สวยงาม คาบเอาขา้ วมาเผอ่ื ไปคาบเอาเหยอื่ มาป้อน ถนอมไวใ้ นรังนอน ซอ่ นเหยอื่ มาใหก้ นิ หมายความวา่ .................................................................................... ...................................................................................................................... ...................................................................................................................... ...................................................................................................................... ภาพประกอบ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๗ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๓ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๕ เรื่อง กาเหวา่ ทีก่ ลางกรุง เวลา ๑๑ ช่ัวโมง แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๗ เรอื่ ง การเขียนเร่อื งจากภาพ เวลา ๑ ช่ัวโมง วันที่ ................................................................ ************************************************************************************************** มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นส่ือสาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ และเขียนเรื่องราว ในรปู แบบต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้า อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ตวั ชี้วดั ท ๒.๑ ป.๓ / ๒ เขียนบรรยายเกยี่ วกับสิ่งใดสิง่ หนึง่ ไดอ้ ย่างชดั เจน สาระสาคัญ ๑. การเขยี นเชงิ สร้างสรรค์ เปน็ ความสามารถในการเขยี นคา ประโยคหรือเรื่องราวได้อยา่ งถกู ต้อง แปลกใหม่ไม่ซ้าแบบใคร มีคุณค่า โดยจะต้องเขียนได้อย่างหลากหลายและคลอ่ งแคลว่ เสรจ็ ทนั เวลาที่ กาหนด ๒. การฝึกให้ผเู้ รยี นแสดงความคดิ ต่อส่งิ หนึ่งส่งิ ใด ซึ่งอาจจะเป็นภาพ ข้อความ บุคคล หรือ เหตุการณ์ โดยไม่จากัดความคดิ เห็น เป็นการฝกึ ที่จะช่วยให้ผเู้ รียนเกดิ ความคิดสร้างสรรค์ท่ดี ีไดว้ ิธีหนงึ่ ๓. การฝกึ ใหผ้ เู้ รยี นเขียนเรือ่ งจากการวเิ คราะห์โครงเรื่อง จะทาให้ผ้เู รียนเปน็ คนทมี่ เี หตุผล รู้จัก วเิ คราะหว์ จิ ารณ์เรอ่ื ง ซง่ึ จะช่วยใหส้ ามารถเขียนเรื่องอย่างสรา้ งสรรค์ได้ สาระการเรียนรู้ ๑. การแตง่ ประโยค ๒. การเขียนเร่ืองจากโครงเรื่อง ๓. การเขียนเรื่องจากภาพ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. นกั เรยี นสามารถแต่งประโยคจากคาที่กาหนดให้ได้ ๒. นกั เรียนสามารถบอกแนวคดิ ของบทเรยี นไดถ้ ูกต้อง ๓. นักเรียนสามารถบอกลกั ษณะโครงเร่ืองในบทเรียนได้ ๔. นักเรยี นสามารถเขียนเรื่องใหมต่ ามแนวคิดในบทเรยี นได้ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ ความสามารถในการแกป้ ัญหา

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. มคี วามรอบคอบในการทางาน ๒. เป็นผ้นู าและผูต้ ามทด่ี ี ๓. มีความภาคภูมใิ จในภาษาไทย ๔. มคี วามซื่อสัตยก์ ตัญญู ๕. ประหยดั และอย่อู ย่างพอเพยี ง กระบวนการจัดการเรยี นรู้ นาสูก่ ระบวนการเรียนรู้ ๑. นกั เรยี นเลน่ เกมเรยี งคาทาความ (ภาคผนวก) ๒. นกั เรยี นอา่ นคาใหมจ่ ากบัตรคา แล้วฝึกแต่งประโยคปากเปล่าคนละหนงึ่ ประโยค กระบวนการเรยี นรู้ ๑. นกั เรยี นแบง่ กลุ่มออกเปน็ ๕ กลุ่ม ๆ ละ ๗ - ๘ คน แข่งขนั เขียนประโยคจากคาที่กาหนดใหม้ า ใหม้ ากทสี่ ดุ โดยครูกาหนดคาใหก้ ล่มุ ละ ๔ -๕ คา แต่ละคาใหส้ มาชิกในกลุ่มช่วยกนั เขยี นประโยคท่ีใช้คานั้นมา ให้มากท่สี ุด ตามเวลาท่กี าหนดลงบนกระดาษท่ีแจกให้ แล้วสง่ ตวั แทนออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรยี น ๒. นักเรยี นและครูรว่ มกนั ทบทวนแนวคิดของบทเรียนดังน้ี “หนูนดิ คนรุ่นใหม่ใสใ่ จความรู้ข่าวสาร” ๓. ครูเขยี นแผนภาพโครงเร่ือง ดงั นี้ หลกั การ : ........................................................ เหตุผล : ........................................................ รายละเอยี ด : ........................................................ บทสรุปและข้อคิด : ........................................................ ๔. นักเรยี นและครูร่วมกนั อภิปราย โดยใชค้ วามรูจ้ ากเรือ่ งกาเหว่าทีก่ ลางกรุง มาเขยี นโครงเร่อื ง ๕. นกั เรียนแต่ละคนเขยี นเร่อื งใหมต่ ามความคิดสรา้ งสรรค์ด้วยภาษาของตนเอง ลงในแบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ พร้อมกบั วาดภาพประกอบและระบายสีใหส้ วยงามโดยมขี น้ั ตอนดังน้ี นกั เรยี น และครรู ว่ มกันสนทนาเก่ยี วกบั รปู ภาพ นักเรียนบอกเหตกุ ารณใ์ นภาพเป็นตอนๆไปแลว้ เลา่ เร่ืองจากภาพตามความเข้าใจของ นกั เรยี น นักเรยี นเขียนบรรยายภาพประมาณ ๔ - ๕ บรรทดั พรอ้ มกบั เขยี นแนวคดิ จากเรื่องของ การกระทาในภาพ สรุปกระบวนการเรียนรู้ ๑. ให้นักเรียนอาสาสมัครนาเสนอผลงานของตนเองประมาณ ๒-๓ คนมอบหมายให้นักเรียนทา แบบฝึกหัดทักษะภาษา ชุดพ้นื ฐานชีวิต (การบา้ น)

๒. นกั เรยี นทาแบบฝกึ พัฒนาการเรียนรู้ (ภาคผนวก) สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ ๑. บัตรคา ๒. แผนภาพ ๓. แผนภูมโิ ครงสรา้ งของเร่อื ง ๔. แบบฝึกพัฒนาการเรยี นรู้ ๕. หนังสือแบบเรยี นภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓ เลม่ ๒ วรรณคดลี านา ๖. หนงั สอื แบบฝึกหัดทกั ษะภาษา ชดุ ภาษาเพื่อชวี ติ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ ๗. เกมเรยี งคาทาความ กระบวนการวัดและประเมินผล ๑. วิธีการ ๑.๑ สงั เกต การอ่าน การเขียนเร่ืองจากภาพ การเขียนจดหมาย ความสนใจในการเรียน กระบวนการทางานของแตล่ ะคน ๑.๒ ตรวจผลงาน แบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ แบบฝึกหดั ๒. เคร่อื งมือการวดั และประเมินผล แบบประเมินพฤตกิ รรมการทางาน แบบฝึกพฒั นาการเรยี นรู้ ๓. เกณฑ์การวดั และประเมินผล ใช้การผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป กิจกรรมเสนอแนะ -

ภาคผนวกทา้ ยแผน เกม เรยี งคาทาความ จุดประสงค์ เพื่อใหน้ กั เรียนสามารถหรอื รจู้ กั นาคา หรือข้อความเรียบเรยี งตอ่ กนั เป็นเรื่องราว ซึ่งเปน็ ที่มา ของการเขียนเรยี งความ เขยี นนทิ าน อุปกรณ์ บตั รคาเขยี นขอ้ ความ จัดไวเ้ ปน็ ชุดเทา่ กบั จานวนกลุ่มผู้เลน่ – กระดาษ – ดินสอ เท่ากับจานวน กลุ่มผเู้ ลน่ เชน่ กัน – นกหวดี – นาฬกิ าจับเวลา วิธเี ลน่ ๑. แบ่งผู้เล่นออกเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละประมาณ ๑๐ คน ๒. ครูอธบิ ายการเลน่ ใหน้ กั เรียนฟงั ดังน้ี - ให้แต่ละกลุ่มรับบัตรคากลุ่มละ ๑ ชุด อย่าเพ่ิงเปิดอ่านดูว่าเป็นคาอะไรจนกว่าจะให้สัญญาณ เพราะจะเปน็ การเอาเปรียบกลุ่มอนื่ - เมือ่ ให้สญั ญาณนกหวีด แต่ละกลุม่ จะตอ้ งชว่ ยกนั เรียบเรยี งข้อความต่าง ๆ ในกระดาษนามาเขียน เปน็ เนอ้ื เรื่องให้ได้ใจความท่ีถกู ต้อง - ครูจะให้เวลาเพยี ง ๖ นาที เมื่อไดย้ นิ เสียงนกหวีดใหร้ ีบหยุดทนั ที - ให้แตล่ ะกลุ่มนาผลงานออกมารายงานเลา่ เรือ่ งราวท่ีเรียบเรยี งไดใ้ ห้เพ่ือน ๆ ฟงั ๓. เมอ่ื เขา้ ใจกตกิ าการเล่นแลว้ ครใู ห้สญั ญาณนกหวีดเร่ิมเล่น นักเรียนเล่นเกมหรือเร่ิมกิจกรรมคือลง มอื ทันที เมือ่ ไดย้ ินเสียงนกหวดี อีกครง้ั ใหห้ ยุดทันที ๔. ครูเฉลยเร่ืองใหน้ กั เรยี นฟงั ๕. ในการตัดสินให้คะแนนควรดูที่การลาดับเรียบเรียงใจความว่า มีความถูกต้องเหมาะสมแค่ไหน เพียงใด

แบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ ชื่อ…………………………………………………….…....เลขที่…………………….….ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่……………………… ************************************************************************************************** คาช้ีแจง ให้นักเรียนฝกึ เขยี นเร่ืองจากภาพพร้อมกับต้งั ชื่อเรื่อง เร่ือง ...................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…