Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-book ภาษาไทยในชีวิตประจำวัน

E-book ภาษาไทยในชีวิตประจำวัน

Published by teenoy0001, 2022-02-21 12:21:53

Description: E-book

Search

Read the Text Version

๑๔๒ ภาษไทยพืน้ ฐาน ๒.๓ ลกั ษณะของการกรอกแบบฟอร์ม ๒.๓.๑ กรอกข้อความในคาร้อง เป็ นเอกสารที่ย่ืนต่อบุคคลหรือหน่วยงานโดยเฉพาะของ ราชการเพ่ือขอใหป้ ฎิบตั หรือรับทราบเร่ืองใดเรื่องหน่ึง เช่น ขอคดั สาเนาทะเบียนบา้ น ขอเปลี่ยนชื่อ ตวั หรือสกุล หรือขอผ่อนผนั กิจการท่ีต้องปฏิบตั ตามกฎหมาย เป็ นต้น ในการเขียนคาร้องต้อง คานึงถึงสิ่งตอ่ ไปน้ี ๑) อา่ นขอ้ ความในแบบกรอกใหเ้ ขา้ ใจ ๒) กรอกขอ้ ความในช่องท่ีกาหนดให้ตรงประเด็น กะทดั รัด ชัดเจน และรัดกุม ๓) เขียนใหส้ ะอาด ไมค่ วรใหม้ ีขีดลบ/ขดู ฆา่ ๔) คาร้องบางประเภทตอ้ งปิ ดอากรแสตมป์ ควรปิ ดใหถ้ ูกตอ้ ง ๒.๓.๒ การกรอกข้อความในหนังสือสัญญา ไดแ้ ก่ หนงั สือสัญญาที่ทาข้ึนเป็ นหลกั ฐาน สาหรับบุคคล ๒ ฝ่ าย ที่ตกลงกันในเรื่องใดเร่ืองหน่ึง เช่น ผูซ้ ้ือกับผูข้ าย เรียกว่าสัญญาซ้ือขาย ระหว่างผูจ้ ้างและผูร้ ับจา้ ง เรียกว่า หนังสือสัญญจ้าง หรือระหว่างผูย้ ืมเงินกับผูใ้ ห้กู้ยืม เรียกว่า หนงั สือสัญญากูเ้ งินเป็นตน้ หนงั สือสญั ญาตอ้ งจดั ทาข้ึนไมน่ อ้ ยกวา่ ๒ ฉบบั โดยมีขอ้ ความตรงกนั ให้แต่ละฝ่ าย ถือไวเ้ ป็ นหลกั ฐาน เพ่ือป้อนกนั การผิดสัญญาของฝ่ ายใดฝ่ ายหน่ึงอีกฝ่ ายหน่ึงจะไดม้ ีหลกั ฐานท่ีจะ ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายหรือกระทาการอ่ืนใดอนั เนื่องจากการผิดสัญญาของอีกฝ่ ายหน่ึง สัญญามี หลายประเภทไดแ้ ก่ ๑) สัญญาซ้ือขาย เป็นสัญญาที่ผซู้ ้ือและผขู้ ายตา่ งปฏิบตั ิตอบแทนกนั ๒) สญั ญาขายฝาก เป็นสัญญาซ้ือขายซ่ึงกรรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินตกไปยงั ผูซ้ ้ือโดยมี ขอ้ ตกลงร่วมกนั ๓) สัญญาจานอง เป็ นสัญญาประกนั การชาระหน้ีระหวา่ งผูจ้ านองและผูร้ ับจานา นอง ๔) สญั ญาจานา เป็นสญั ญาประกนั การชาระหน้ีระหวา่ งผจู้ านาและผรู้ ับจานา ๒.๓.๓ การกรอกใบสมัคร ไดแ้ ก่ ใบสมคั รเขา้ ศึกษาต่อและใบสมคั รงาน ผูก้ รอกตอ้ งเขียน ใหส้ ามารถอา่ นไดง้ ่าย ไม่ขูดขีดหรือลบจนทาใหข้ อ้ ความเลือนหรือสกปรก ขอ้ ความในใบสมคั รมกั เป็ นขอ้ มูลส่วนตวั ของผูก้ รอกเช่น ชื่อ-นามสกุล วนั เดือน ปี เกิด ท่ีอยู่ ความรู้ ประสบการณ์ การ กรอกใบสมคั รเป็ นการทดสอบความสามารถโดยทว่ั ไปข้นั แรกของผูส้ มคั รงาน ผูส้ มคั รตอ้ นเขียน ดว้ ยความรอบคอบ ลายมือสวยงาม สะอาด ชดั เจน อ่านคาแนะนาในการกรอบใบสมคั รและคาสั่ง อ่ืนๆใหล้ ะเอีนดและปฏิบตั ตามอยา่ งเคร่งครัด แนบหลกั ฐานตา่ งๆ ประกอบใหเครบถว้ น เช่น รูปถ่าย สาเนา-ทะเบียนบา้ น สาเนาบตั รประจาตวั ประชาชน ใบรับรองการศึกษา ใบอนุญาตขบั รถ ควรเซ้ นชื่อกากบั ตอนทา้ ยของใบสมคั รและลงวนั ที่กากบั ช่องวา่ งใดที่ไม่กรอกให้ใส่เคร่ืองหมาย(-)เพื่อใบ สมคั รสมบูรณ์

การเขยี นจดหมายตดิ ต่อกจิ ธุระ การกรอบแบบฟอร์ม และการเขียนประวตั ย่อ ๑๔๓ ตวั อย่าง การกรอบใบสมคั รงาน ใบสมัครงาน รูปภาพ (Application Form) Photo ตาแหน่งงาน : นักวชิ าการอาชีวศึกษา Position : Academic Vocational Training เงินเดือนทตี่ ้องการ : xx,xxx baht Expected starting salary : xx,xxx ประวตั ิส่วนตวั (Personal information) ช่ือ นาย นาง นางสว กลุ กลั ยา นามสกลุ ผาสุกดี Mr. / Mrs. / Miss Kulkanlaya Phasukdee วนั เดือน ปี เกดิ ๒๔ ตุลาคม ๒๕xx อายุ xx ปี Date of birth 24 October 19xx Age years xx บัตรประจาตัวประชาชนเลขที่ ๐๑๒๓๔๕๖๗๘๙๙๙๙ บตั รหมดอายุ xx Ldentity card no. 0123456789999 Expiration date 23 October 20xx เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พทุ ธ Race Thai Nationality Thai Religion Buddha ส่วนสูง ๑๖๐นา้ หนัก ๔๗ Heigh 160 Weight 47 สถานภาพ โสด แต่งงาน หมา้ ย หยา่ ร้าง Marital status Single  Married Widowed Separated สถานะทางทหาร ไดร้ ับการยกเวน้ ผา่ นการเกณฑทหาร ยงั ไมไดร้ ับการเกณฑ์ Military status Exempted Discharged Not yet served ทอ่ี ย่ปู ัจจุปัน / .. . Present address 50 /3 Village No.3 Chang Pi Sub-District, Sikhorapumi Distict, Surin Province, 32000 โทรศัพท์ ๐๒-๑๒๓-๔๕๖๗ มือถือ ๐๘-๑๑๒๓-๔๕๖๗ อเี มล [email protected] Tel. 02-123-4567 Mobile 08-1123-4567 E-mail [email protected]

๑๔๔ ภาษไทยพืน้ ฐาน ประวตั การศึกษา (Educational Information) ระดบั กรศึกษา วชิ าที่ศึกษา/วตุ ิที่ไดร้ ับ สถาบนั การศึกษา ปี การศึกษา Education LeveL Courses Institution Year Attended จาก ถงึ มธั ยมศึกษา Taken/Completed ร.ร.วดั เขมมาภิรตาราม From To Secondary อาชีวศึกษา มธั ยมศึกษาตอนปลาย พ.ศ. ๒๕xx มี.ค. ๒๕xx Vocational อนุปริญญา - - -- Higher Vocational ปริญญาตรี ประกาศนียบตั ร มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยี พ.ศ. ๒๕xx มี.ค. ๒๕xx Bachelor Degree วชิ าชีพช้นั สูง(ปวส.) ราชมงคลพระนคร พ.ศ. ๒๕xx มี.ค. ๒๕xx สูงกว่าปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕xx มี.ค. ๒๕xx Post-Graduate ครุศาสตร์บณั ฑิต มหวทิ ยาลยั ราชภฏั (คบ.) หมบู่ า้ นจอมบึง การศึกษามหาบณั ฑิต มหาวทิ ยาลยั (กศ.ม.) ศรีนครินทรวโิ ร ประวตั การทางาม (Working Exprience) ระยะเวลา Time ตาแหน่งงาน เงินเดือน สาเหตุที่ออก Reasons of สถานที่ทางาน จาก ถึง Position Salary resignation Company From To สถาบันพฒั นาเดก็ สมองไว กมุ ภาพนั ธ์ ปัจจปุ ัน อาจารย์ xx,xxxบาท เพื่อศึกษาตอ่ ๒๕xx CHILDREN DEVELOPMENT INSTTUTE

การเขียนจดหมายตดิ ต่อกจิ ธุระ การกรอบแบบฟอร์ม และการเขยี นประวตั ย่อ ๑๔๕ ความสามารถทางภาษา (Language Ability)

๑๔๖ ภาษไทยพืน้ ฐาน ๒.๓.๔ การกรอกบนั ทกึ ข้อความในหน่วยงาน เป็นขอ้ ความท่ีผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชาเสนอตอ่ ผบู้ งั คบั บญั ชาหรือ ผบู้ งั คบั บญั ชาสัง่ การแก่ผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชาหรือเจา้ หนา้ ท่ีใชต้ ิดต่อกนั ในการปฏิบตั ิงานหลกั การกรอบบนั ทึก ขอ้ ความ ไดแ้ ก่ ๑) เขียนใหถ้ ูกตอ้ งชดั เจน รัดกมุ กะทดั รัดและบรรลุวตั ถุประสงค์ ๒) สรุปความสาคญั ของการเขียนโดยใชเ้ หตุและผล เน้ือหาส้ันไดใ้ จความที่ชดั เจน ๓) ใชว้ รรคตอนในการเขียนที่ถูกตอ้ งและเลือกใชค้ าท่ีเหมาะสม ๔) มีคาวา่ “บนั ทึกขอ้ ความ” บนหวั กระดาษ ๕) ระบุหน่วยงานของเจา้ ของหนงั สือที่ออกบนั ทึกขอ้ ความพร้อมหมายเลขโทรศพั ท์ ๖) ระบุเลขท่ีออกหนงั สือตามท่ีหน่วยงานกาหนด เช่น พว/ว.๐๐๑๒ ๗) ระบุวนั เดือน ป่ี ท่ีออก ๘) เร่ือง (ถา้ มี) เพื่อใหผ้ อู้ ่านเขา้ ใจถึงความตอ้ งการ ควรจะกาหนดหวั เร่ืองส้ันๆไดใ้ จความ ๙) ระบุวา่ เขียนใคร ๑๐) ลงช่ือเจา้ ของเร่ือง ตาแหน่งเจา้ ของเรื่อง ในบนั ทึกขอ้ ความไม่ตอ้ งมีการแสดงคาลงทา้ ย เช่น ขอแสดงความนบั ถือ

การเขียนจดหมายติดต่อกจิ ธุระ การกรอบแบบฟอร์ม และการเขยี นประวตั ย่อ ๑๔๗ ๓. การเขยี นประวตั ิย่อ การเขียนประวตั ิยอ่ มีความสาคญั เท่าๆ กบั การเขียนจดหมายสมคั รงาน เนื่องจากในการสมคั รงาน มกั จะระบุให้ผูส้ มคั รส่งประวตั ิย่อแนบไปพร้อมกบั ใบสมคั รงานดว้ ย การเขียนประวตั ิย่อท่ีดีควร คานึงถึงสิ่งตา่ งๆดงั น้ี ๓.๑ ส่วนประกอบทส่ี าคญั ของประวตั ยิ ่อ ๓.๑.๑ หวั เร่ือง ประกอบดว้ ยช่ือผเู้ ขียน ที่อยแู่ ละหมายเลขโทรศพั ท์ ๓.๑.๒ จุดมุ่งหมายหรือตาแหน่งทตี่ ้องการสมัครงาน สายงานท่ีตนตอ้ งการปฏิบตั ิงาน ๓.๑.๓ ระบุการศึกษา ประสบการณ์ คุณสมบตั ิพิเศษ เช่น ความสามารถทางดา้ นภาษา ๓.๑.๔ รายละเอียดส่วนตัว ไดแ้ ก่ เพศ อายุ วนั เดือน ปี เกิด สถานท่ีเกิด สัญชาติ เช้ือชาติ ความสูง น้าหนกั ท่ีอยู่ สถานการสมรส ศาสนา สถานภาพทางการทหาร งานอดิเรก ๓.๑.๕ บุคคลอา้ งอิง ไดแ้ ก่ บุคคลที่เป็ นนายจา้ งเก่า ครู อาจารยท์ ี่สอบ บุคคลที่มีชื่อเสียงแต่ ตอ้ งไม่ใชญ้ าติหรือเพ่ือนสนิทของเราที่จะสามารถตรวจสอบประวตั ิและความประพฤติของผเู้ ขียน ประวตั ิได้ และควรอา้ งอิง ๒-๓ ทา่ น พร้อมท้งั ระบุที่อยทู่ ่ีติดตอ่ ไดแ้ ละอาชีพบุคคลอา้ งอิง

๑๔๘ ภาษไทยพืน้ ฐาน ๓.๒ การเขียนประวตั ิส่วนตัว ๑. เขียนใหก้ ระชบั ชดั เจน อา่ นง่าย เน้ือหาประกอบไปดว้ ยรายละเอียดของขอ้ มูลที่ จาเป็ นและประโยชน์ ๒. การใชภ้ าษาท่ีเหมาะสมและสามรถทาใหผ้ อู้ ่านเขา้ ใจไดอ้ นั เวลารวดเร็ว ๓. เขียนแต่ส่ิงที่เป็นจริง ไมค่ รวเขียนเทจ็ หรือโออ้ วดจนเกินจริง ๔. ตรวจสอบความถูกตอ้ งของไวยากรณ์และตวั สะกด ๕. ไมค่ วรใชห้ วั กระดาษจดหมายของหน่วยงานต่างๆมาใช้ ตัวอย่าง การเขียนประวตั ยอ่ กลุ กลั ยา ผาสุกดี เลขท่ี ๕๐/๓ หมู่ ๓. ต. ช่างปี่ อ.ศีขรภูมิ จ. สุรินทร์ ๓๒๐๐๐ โทร. (๐๒)๑๒๓-๔๔๖๗ (๐๘)๑๑๒๓-๔๔๖๗ E-mail [email protected] ข้อมูลส่ วนตัว วนั ท่ีเกิด : ๒๔ ตุลาคม ๒๕xx อายุ : xx ปี เพศ : หญิง สถาพภาพ : โสด ศาสนา : พทุ ธ ส่วนสูง : xxx ซม. น้าหนกั : xx กก. สญั ชาติ : ไทย เช้ือชาติ : ไทย ประสบการณ์การทางาน กุมภาพนั ธ์ ๒๕xx- ปัจจุปัน ตาแหน่ง อาจารยป์ ระจาสถาบนั พฒั นาเดก็ สมองไว้CHILDREN DEVELOPMENT INSTITUTE การศึกษา ระดับการศึกษา ปริญญาโท มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ วฒุ ิการศึกษา การศึกษามหาบณั ฑิต (กศ.ม.) สาเร็จการศึกษา ๑๐ กนั ยายยน ๒๕xx เกรดเฉลี่ย ๓.๔๕ ระดับการศึกษา ปริญญาตรี สถาบนั ราชภฏั หมู่บา้ นจอมบึง วฒุ ิการศึกษา ครุศาสตรบณั ฑิต (คบ.) สาเร็จการศึกษา ๑๕ มีนาคม ๒๕xx เกรดเฉลี่ย ๓.๕๐

การเขยี นจดหมายตดิ ต่อกจิ ธุระ การกรอบแบบฟอร์ม และการเขียนประวตั ย่อ ๑๔๙ ระดับการศึกษา ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง(ปวส.)สถาบนั เทคโนโลยรี าชมงคลวทิ ยาเขตโชติเวช วฒุ ิการศึกษา ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง(ปวส.) สาขาวชิ าอุตสาหกรรมศิลปะประดิษฐ์ สาเร็จการศึกษา ๑๘ มีนาคม ๒๕xx เกรดเฉล่ีย ๓.๖๐ ระดับการศึกษา มธั ยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนวดั เขมาภิรตาราม วฒุ ิการศึกษา มธั ยมศึกษาตอนปลาย (สาขาศิลป์ -คานวณ) สาเร็จการศึกษา ๓๑ มีนาคม ๒๕xx เกรดเฉล่ีย ๓.๘๐ ระดับการศึกษา มธั ยมศึกษาตอนตน้ โรงเรียนกรุงเทพศึกษา วฒุ ิการศึกษา มธั ยมศึกษาตอนตน้ สาเร็จการศึกษา ๓๑ มีนาคม ๒๕xx เกรดเฉลี่ย ๓.๔๐ ระดบั การศึกษา ประถมศึกษา โรงเรียนวดั ปากน้า (พิบูลสงคราม) วฒุ ิการศึกษา ประถมศึกษา สาเร็จการศึกษา ๓๑ มีนาคม ๒๕xx เกรดเฉล่ีย ๙๕% การฝึ กอบรม - การประชุมทางวิชาการระดบั ชาติ ประจาปี ๒๕๕๕ ศรีนครินทรวิโรฒวิชาการคร้ังท่ี ๖ วนั ที่ ๒๙-๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕ - การประชุมทางวิชาการระดบั ชาติ ประจาปี ๒๕๕๕ ศรีนครินทรวิโรฒวิชาการคร้ังที่ ๕ วนั ที่ ๑๗ -๑๘ มีนาคม ๒๕๕๔ มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ - ศึกษาดูงานการบริหารจดั การของวิทยาลยั แม่ฟ้าหลวงและมหาวิทยสลยั ราชภฏั เชียงราย วนั ที่ ๑๐-๑๓ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๔ - การประชุมทางวิชาการ ที่ประชุมอธิการรบดีแห่งประเทศไทย ประจาปี ๒๕๕๓ วนั ที่ ๒๔ ธนั วาคม ๒๕๕๓ ณ อาคารวจิ ยั และการศึกษาต่อเนื่อง สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ มหาวทิ ยาลยั ศรีนคริ นทรวโิ รฒ - ทิศทางประเมินคุณภาพภายนอก รอบสาม (พ.ศ.๒๕๕๔-๒๕๕๘) ๒๐-๒๑ ธนั วาคม ๒๕๕๓ - การประชุมวิชาการระดบั ชาติ ประจาปี ๒๕๕๓ อุดมศึกษาร่วมสร้างประเทศไทยน่าอยู่ วนั ที่ ๑๓-๑๕ ธนั วาคม ๒๕๕๓ - โครงการเสริมศกั พภาพนิสิต เรื่อง กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดบั อุดมศึกษา: จากแนวคิดสู่การ ปฏิบตั ิ วนั ที่ ๑๙ กนั ยายน ๒๕๕๓ งานอดเิ รก ทาอหาร,ทอ่ งเทียว,เล่นกีฬา จุดเด่น มนุษยสมั พนั ธ์ดีเยย่ี ม บุคลิกภาพดี และมีความกระตือรือร้นพร้อมทางานอยา่ งเตม็ ที่เสมอ

๑๕๐ ภาษไทยพืน้ ฐาน ความสามาถพเิ ศษ - สามารถพูด-อ่าน-เขียนภาษาองั กฤษไดด้ ี - ใชง้ านคอมพิวเตอร์กราฟิ ก เช่น Microsoft office โปรแกรมกราฟิ กต่างๆ เช่น Adobe PageMaker, adobe Phoshop และ Adobe Illustrator สามารถใชอ้ ินเทอร์เน็ตและรับ-ส่งอีเมลได้ บุคคลอ้างองิ - ดร. ไพรัช วงศย์ ทุ รไกร คณศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ - รศ. ดร.อจั ฉรา วตั นาณรงค์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศรินครินทรวโิ รฒ - รศ.ดรสุชาดา สุธรรมรักษ์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศรินครินทรวโิ รฒ สรุป การเขียนจดหมายติดต่อธุระเป็ นการเขียนจดหมายเพ่ือติดต่อกบั ุคคลหรือองคก์ รต่างๆ ภาษาท่ี เขียนในจดหมายติดต่อธุระเป็นภาษาทางการ กระชบั ตรงประเด็น เขียนตามแบบ การกรอบแบบฟอร์มเป็ นการกรอบเอกสารโดยเติมขอ้ ความลงในช่องวา่ ง เอกสารจดั ทาข้ึนเพื่อ ความสะดวกแก่ผรู้ วบรวมจดั เกบ็ ขอ้ มูล และนาไปใชป้ ระโยชนด์ า้ นต่างๆ การเขียนประวตั ยอ่ มีความสาคญั เท่าๆ กบั การเขียดจดหมายสมคั รงาน เนื่องจากในการสมคั ร งานมกั จะระบุใหผ้ สู้ มคั รส่งประวตั ยอ่ แนบไปพร้อมกบั ใบสมครั งานดว้ ย กจิ รรมตรวจสอบความเข้าใจ คาช้ีแจง กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจเป็นกิจกรรมฝึกทกั ษะเฉพาะดา้ นความร-ู้ ความจา เพือ่ ใชใ้ นการตรวจสอบความเขา้ ใจตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ คาสั่ง จงตอบคาถามต่อไปนี้ ๑. การเขียนประวตั ยอ่ มีประโยชนอ์ ยา่ งไร จงอธิบายพร้อมยกตวั อยา่ งประกอบ ๒. การกรอบแบบฟอร์มมีหลกั การในการปฏิบตั อยา่ งไร จงอธิบายโดยสงั เขป ๓. การเขียนจดหมายติดต่อกิจธุระใหเ้ กิดสมั ฤทธิผลควรคานึงถึงเร่ืองใดบา้ ง

การเขยี นจดหมายตดิ ต่อกจิ ธุระ การกรอบแบบฟอร์ม และการเขียนประวตั ย่อ ๑๕๑ กจิ กรรมส่งเสริมการเรียนรู้ คาช้ีแจง กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ประกอบดว้ ยกิจกรรมหลากหลายท่ีฝึกทกั ษะทุกดา้ นตาม จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมเพือ่ ใหเ้ กิดสมรรถนะในการเรียนรู้ สามารถปฏิบตั ิกิจิกรรม ท้งั ในแลนอกสถานที่ตามความเหมาะสมกบั ผเู้ รียนและส่ิงแวดลอ้ มของสถานศึกษา ๑. ใหผ้ เู้ รียนเขียนจดหมายติดต่อธุระ ๑ ฉบบั ๒. ผสู้ อนแจกแบบฟอร์มใหผ้ ูเ้ รียนกรอบแบบฟอร์ม ๑ ประเภท เป็ นแบบกรอบขอ้ มูลการสมคั รงาน ๑ ฉบบั ๓. ใหผ้ เู้ รียนเขียนประวตั ยอ่ ความยาวไม่เกิน ๒ หนา้ กระดาษา สรุปผลการทากริกรรม หมายเหตุ เกณฑก์ ารประเมินผลการทากิจกรรมมีวตั ถุประสงคเ์ พอ่ื ประเมินวา่ ผเู้ รียนเกิดสมรรถนะจากกสรเรียนรู้ ตามบริบทตา่ งๆ หรือไม่ โดยแบ่งเป็น ๓ ดา้ น คือ ความรู้หรือพทุ ธิพิสัย = Knowledge (K) ทกั ษะหรือ ทกั ษพสิ ยั = Practice (P) คณุ ลกั ษณะหรือพสิ ยั = Attitude (A)

๑๕๒ ภาษไทยพืน้ ฐาน แบบทดสอบ คาส่ัง จงเลือกคาตอบทถ่ี ูกต้องทสี่ ุดเพยี งคาตอบเดียว ๑. ขอ้ ใดหมายถึงจดหมายติดตอ่ กิจธุระ ๑. จดหมายท่ีบุคคลติดต่อคนอื่นเพอ่ื การคา้ ๒. จดหมายท่ีบุคคลติดตอ่ คนอื่นเพือ่ งานราชการ ๓. จดหมายท่ีบุคคลติดตอ่ คนอ่ืนเพอื่ ถามขา่ วคราวครอบครัว ๔. จดหมายท่ีบุคคลติดต่อคนอื่นเพ่ือธุระท่ีไมใ่ ชก้ ารคา้ ขาย ๕. จดหมายที่บุคคลติดตอ่ กบั หน่วยงานของตนเพือ่ รายงานการปฏิบตั ิงาน ๒.ขอ้ ใดไมจ่ ดั อยใู่ นประเภทของแบบฟอร์ม ๑. แบบฟอร์มสัญญา ๒. แบบฟอร์มการอธิบาย ๓. แบบฟอร์มภายในองคก์ ร ๔. แบบฟอร์มที่ผอู้ ื่นขอความร่วมมือใหก้ รอบ ๕. แบบฟอร์มท่ีใชต้ ิดต่อกบั หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ๓. การแกไ้ ขเ้ มื่อกรอบแบบฟอร์มผดิ ขอ้ ใดถือวา่ ปฏิบตั ิถูกตอ้ ง ๑. ใชย้ างลบลบคาเขียนผดิ ๒. ใชป้ ากกามากกวา่ ๑ สีกรอบขอ้ ความ ๓. ขีดฆา่ คาเขียนผดิ เขียนคาใหม่ แลว้ ลงชื่อกากบั ๔. ใชน้ ้ายาลบคาผดิ เมื่อเขียนผดิ แลว้ เขียนคาที่ถูกตอ้ งแทน ๕. ขีดฆ่าคาที่กรอบผดิ แลว้ แกไ้ ขใหมด่ ว้ ยหมึกสีแดง ๔. ในการกรอบแบบฟอร์ม ขอ้ ใดเขียนผดิ ๑. บุคคลอา้ งอิง ดร.ผศ. พฒั นา อารยพฒั น์ ๒. เบอร์โทรศพั ท์ 08-4333-3444 ๓. วนั เดือน ปี เกิด ๒๑ มิถุนายน ๒๕๓๑ ๔. ตาแหน่ง เจา้ หนา้ ที่พสิ ูจนอ์ กั ษร ๕. รหสั ไปษณีย์ 10110

การเขียนจดหมายติดต่อกจิ ธุระ การกรอบแบบฟอร์ม และการเขยี นประวตั ย่อ ๑๕๓ ๕. ขอ้ ใดไมค่ วรกล่าวถึงเม่ือเขียนประวตั ิยอ ๑. ส่วนสูง ๒. น้าหนกั ๓. โรคประจาตวั ๔. สีผมที่ช่ืนชอบ ๕. ระดบั ความส้ัน-ยาวของสายตา ๖. ภาษาท่ีใชใ้ นการการเขียนจดหมายติดต่อธุระควรเป็นอยา่ งไร ๑. สุภาพ กระชบั ๒. ขยายความมาก ๓. ใชค้ าศพั ทภ์ าษาต่างประเทศมาก ๔. ใชข้ อ้ ความซ้าคาเดิมไปมา ๕. ไมแ่ สดงความตอ้ งการชดั เจน ๗. เร่ือง...ในขอ้ ใดเป็นลกั ษณะของจดหมายติต่อกิจธุระ ๑. เรื่อง ขอสัง่ ซ้ือสินคา้ ๒. เร่ือง ขอใหช้ าระหน้ี ๓. เร่ือง ขอเชิญร่วมประชุม ๔. เร่ือง ขอตรวจสอบสินคา้ ๕. เร่ือง ขอลาออกจากราชการ ๘. การเขียนที่ตอ้ งระบุขอ้ ความวา่ “ขอแสดงความนบั ถือ” คือการเขียนขอ้ ใด ๑. การเขียนจดหมายติดตอ่ กิจธุระ ๒. การกรอกแบบฟอร์ม ๓. การเขียนประวตั ยอ่ ๔. การเขียนบนั ทึก ๕. การเขียนโครงการ ๙. ถา้ ผเู้ ขียนอยากใหน้ ายอาเภอมาใหข้ อ้ มลู แก่ชาวบา้ นเร่อื งการเพ่มิ ผลติ ทางเกษตร ในหมบู่ า้ นของตน ผเู้ รียนจะตอ้ งเขียนจดหมายลกั ษณะใด ๑. จดหมายชีแ้ จง ๒. จดหมายเชญิ เป็นวิทยากร ๓. จดหมายเชญิ เป็นเกษตรกร ๔. จดหมายเชญิ แสดงวิสยั ทศั น์ ๕. จดหมายเชิญเขา้ รว่ มรบั การฝึกอบรม

๑๕๔ ภาษไทยพืน้ ฐาน ๑๐. การลงช่ือรับรองวา่ ส่ิงที่กล่าวมาเป็นความจริงทุกประการในตอนทา้ ย ควรอยใู่ นการเขียนอะไร ๑. การเขียนจดหมายติดต่อกิจธุระ ๒. การกรอกแบบฟอร์ม ๓. กรเขียนประวตั ิยอ่ ๔. การเขียนบนั ทึก ๕. การเขียนคาสั่ง

หน่วยการเรียนรู้ที่ การเขียนรายงานเชิงวชิ าการ ๘ สาระสาคัญสาคัญ รายงานเชิงวชิ าการ คือการนาเสนอผลงานท่ีไดจ้ ากการศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมีระเบียบแผน ตามหลกั วชิ า เพื่อการศึกษามีความน่าเช่ือถือและไดร้ ับการยอมรับทางวชิ าการ สาระการเรียนรู้ ๑. ความหมายของการเขียนายงานเชิงวชิ าการ ๒. ส่วนประกอบการเขียนรายงานเชิงวชิ าการ ๓.ข้นั ตอนการเขียนรายงานเชิงวชิ าการ

๑๕๖ ภาษไทยพืน้ ฐาน สมรรถนะประจาหน่วย ๑. แสดงควมรู้เก่ียวกบั การเขียนรายงานเชิงวชิ าการ ๒. เขียนรายงานเชิงวชิ าการตามหลกั การ จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกความหมายของการเขียนรายงานเชิงวชิ าการได้ ๒. อธิบายส่วนประกอบการเขียนรายงานเชิงวชิ าการได้ ๓. อธิบายข้ขั ตอนการเขียนรายงานเชิงวชิ าการได้ ผงั สาระการเรียนรู้ ความหมายของการเขียนายงานเชิงวชิ าการ ส่วนประกอบการเยนรายงานเชิงวชิ าการ การเขียน รายงานเชิง ข้นั ตอนการเขียนงานเชิงวชิ าการ วชิ าการ

การเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ ๑๕๗ ๑. ความหมายของการเขียนรายงายเชิงวชิ าการ การเขียนรายงานเชิงวชิ าการ หมายถึงการนาเสนอผลงานการศึกษาอยา่ งมีระบบ โดยมีการอา้ งอิง หลกั ฐานอยา่ งมีระเบียบแบบแผน การใชภ้ าษาในการเขียนรายงานควรส้ัน กระซบั สื่อความหมายได้ ชดั เจน ๒. ส่วนประกอบของการเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ ๒.๑ ส่วนประกอบตอนต้น ประกอบดว้ ยภาพท่ี ๘.๑ ปกรายงาน ๒.๑.๑ ปกนอก คือปกหุม้ รายงาน ปกหน้าและปกหลงั ในหนา้ ปกจะระบุช่ือเรื่อง เสนอผู้ใดช่ือ และขอ้ มูลผเู้ ขียนรายงาน ภาคการศึกษา และปี การศึกษา ส่วนปกหลงั ปล่อยเวน้ วา่ ง ๒.๑.๒ ใบรองปก เป็นกระดาษเปล่า ๑ แผน่ อยถู่ ดั จากปกนอก ๒.๑.๓ ปกใน คือส่วนที่อยถู่ ดั จากไปรองปก ปกในมีขอ้ ความทุกอยา่ งเหมือนกบั ปกนอก ๒.๑.๔ คานา คือขอ้ ความท่ีผูเ้ ขียนอธิบายช้ีแจงสาเหตุหรือวตั ถุประสงค์ ขอบข่ายของเรื่องที่ทา รายงาน ประโยชนท์ ี่ผอู้ า่ นจะไดร้ ับ และคาขอบคุณผทู้ ี่มีส่วนช่วยเหลือในการทารายงาน ๒.๑.๕ สารบัญ คือส่วนที่บอกให้ผูอ้ ่านทราบว่ารายงานน้ีมีเน้ือหาอะไรบา้ ง การเขียนสารบญั ตอ้ งเรียงตามลาดบั เร่ืองต้งั แต่บกนาของเร่ืองจนถึงบทสุดทา้ ยและบรรณานุกรม ควรมีการระบุเลข หนา้ ของเร่ืองต่างๆ ๒.๒ ส่วนประกอบตอนกลางหรือเนื้อเรื่อง เน้ือเร่ืองเป็ นการรายงานเน้ือหาที่ไดจ้ ากการศึกษาคน้ ควา้ ผูเ้ ขียนรายงานจะตอ้ งเขียนเน้ือเร่ือง โดยเรียงลาดบั หวั ขอ้ ให้เหมาะสม แบ่งเป็ นบท ซ่ึงจานวนบทในการเขียนรายงานน้นั ข้ึนอยูก่ บั ความ เหมาะสม แตอ่ ยา่ งนอ้ ยควรมี ๓ บท ดงั น้ี ๒.๒.๑ บทนา แสดงสาระสังเขปของรายงาน เพอื่ ใหผ้ อู้ ่านทาความเขา้ ใจในเบ้ืองตน้ ก่อนนาเขา้ สู่บทที่เป็ นรายละเอียดองเน้ือหา

๑๕๘ ภาษไทยพืน้ ฐาน ๒.๒.๒ บทที่เป็ นรายละเอียดของเนื้อหา แสดงการวิเคราะห์วิจารณ์ขอ้ มูลตามวตั ถุประสงค์และ ขอบเขตของหวั ขอ้ รายงาน ในส่วนน้ีมีไดม้ ากากวา่ ๑บท ๒.๒.๓ บทท่ีสรุป เป็ นการเน้นย้าประเด็นสาคญั ของการศึกษา ผลของการศึกษา ปภิปรายผลของ การศึกษา ตลอดจนแสดงขเอเสนอแนะอนั เป็นประโยชน์ตอ่ ผทู้ ี่สนใจศึกษาคน้ คว้ า้ ต่อไป ๒.๓ ส่วนประกอบตอนท้าย ประกอบดว้ ย ๒.๓.๑ บรรณานุกรม คือรายงานชื่อเอกสารประกอบคน้ ควา้ ท้งั หมด การเขียนบรรณานุกรมมี ส่วนประกอบหลกั คือช่ือผแู้ ตง่ ชื่อหนงั สือ คร้ังท่ีพิมพ์ ผจู้ ดั พิมพ์ และปี ที่พมิ พ์ การเรียงลาดบั บรรณานุกรมตอ้ งเรียงตามอกั ษช่ือผแู้ ต่ง ส่วนรูปแบบการเขียนบรรณานุกรมมีหลายระบบ เช่น ระบบ แวนคูเวอร์ (Vancouver style) ระบบเอพีเอ (APA Style) แต่ควรใชใ้ หเ้ หมือนกนั ทงั่ เล่ม ในที่น้ีจะกล่าว เฉพาะระบบแวนคูเวอร์ซ่ึงมีรายละเอียด ดงั น้ี การเขียนบรรณานุกรมหนงั สือระบบแวนคูเวอร์ เรียงลาดบั ดงั น้ี ช่ือผแู้ ต่ง. ช่ือหนังสือ. คร้ังท่ีพิมพ.์ ชื่อสานกั พิมพ,์ ปี ที่พิมพ์ กรณผี ้แู ต่ง ๒ คน วราวธุ สุธีธร และเสริมสกลุ โทณะวณิก. ไดโนเสาร์ในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: นามมีบุค๊ ส์พบั ลิเคชนั่ ส์, ๒๕๕๓. กรณผี ้แู ต่ง ๓ คน บุญรักษ์ กาญจนวรรริชย,์ อรวรรณ สัมฤทธ์ิเดชขจร และมาริสา คุณธนวงค.์ ส่ิงประดิษฐ์ MIMIC ธรรมชาติ. กรุงเทพฯ: สารคดี, ๒๕๕๓ กรณผี ้แู ต่ง ๓ คน ขนึ้ ไป นภาลยั สุวรรณธาดา และคณะ. การเขียนผลงานวชิ การการและบทความ. กรุงเทพฯ: ภาพพมิ พ,์ ๒๕๓๗ กรณอี ้างองิ บทความจากหนังสือ ชื่อผแู้ ตง่ . ช่ือบทความ.” ชื่อหนังสือ. คร้ังที่พิมพ.์ ช่ือเมื่องท่ีพมิ พ,์ ปี ท่ีพมิ พ.์ ประมน ปิ ติ. “ภาษาไทยของคนไทย, การใช้ภาษา. กรุงเทพฯ: ร่วมมือ, ๒๕๔๔. กรณอี ้างองิ วทิ ยานิพนธ์ ผเู้ ขียนวทิ ยานิพนธ์. “ช่ือวทิ ยานิพนธ์.” ระดบั ของวทิ ยานิพนธ์ ช่ือแผนกวชิ าหรือ ภาควชิ า คณะมหาวทิ ยาลยั , ปี ที่พิมพ์ นฤมล อนุศาสนนนั ทน์. “ชุมชนออนไลน์ชองเยาวชน: กรณีศึกษา www.dek-d.com” วทิ ยานิพนธ์ปริญญามหาบณั ฑิต คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , ๒๕๕๑

การเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ ๑๕๙ กรณอี ้างองิ การสัมภาษณ์ ผใู้ หส้ มั ภาษณ์. ตาแหน่ง(ถา้ มี). สัมภาษณ์, วนั ท่ีเดือน ปี . นนั ทิยา กลนั่ กสิกรณ์. สัมภาษณ์, วนั ท่ี ๑ ธนั วาคม ๒๕๕๒ กรณอี ้างองิ ข้อมูลจากเวบ็ ไซต์ ผแู้ ตง่ . “ชื่อเรื่อง.” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: ชื่อเวบ็ ไซต์ ปี ท่ีสืบคน้ สุจิตต์ วงษเ์ ทศ. “ภาษาและวรรมไทยกบั อาเซียน ในอุษาคเนย์ 2,500 ปีมาแลว้ .” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: http://www.sujitwonghes.com/2016/05/academic 13052559/ ๒๕๕๙ ๒.๓.๒ ภาคผนวก เป็นรายละเอียดเพ่ิมเติมที่ช่วยใหผ้ ูเ้ ขียนและผอู้ ่านเขา้ ใจเน้ือเรื่องมากข้ึน ๓. ข้นั ตอนการเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ การเขียนรายงานเชิงวชิ าการมีลาดบั ข้นั ตอน ดงั น้ี ๓.๑ การเลือกเรื่องทเ่ี ขยี นรายงาน คือการพิจารณาวา่ จะเขียนหรือรายงานเก่ียวกบั เรื่องอะไรโดยพิจารณาจากวิชาท่ีเรียนเพ่ือให้ สอดคลอ้ งสัมพนั ธ์กนั เวน้ แต่เร่ืองท่ีจะเขียนน้นั ไดร้ ับมอบหมายจากอาจารยผ์ ูส้ อน การเลือกเร่ืองท่ีจะ เขียนควรคานึงถึงหลกั เกณฑต่างๆดงั ตอ่ ไปน้ี ๓.๑.๑ เลือกเรื่องทส่ี นใจ พจิ ารณาวา่ ผเู้ ขียนมีความสนใจในดา้ นใด การเลือกเรื่องที่สนใจจะทาให้ผเู้ ขย รายงานกระตืรือร้นและสนุกกบั การศึกษาคน้ ควา้ ทาใหร้ ายงานมีคุณภาพ ๓.๑.๒ เลือกเร่ืองท่ีมีประสบการณืหรือมีความถนัด การเลือกเรื่องที่ผูเ้ ขียนมีความถนัดหรือมี ประสบการณ์มาแลว้ จะทาใหผ้ ูเ้ ขียนสามารถถ่ายทอดความรู้ หรือคน้ ควา้ หาความรู้ไดต้ รงประเด็นและ ชดั เจน ๓.๑.๓ เลือกเร่ืองทกี่ าลงั เป็ นท่สี นใจในขณะน้ัน การเลือกเร่ืองท่ีกาลงั เป็ นทสี่ นใจน้นั จะทาใหร้ ายงาน เป็นที่สนใจของบุคคลทว่ั ไปและสามารถเขา้ ถึงแหล่งขอ้ มูลไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง ๓.๑.๔ เลือกเร่ืองทเี่ ป็ นประโยชน์ต่อผ้อู ่านและสังคม การเลือกเร่ืองที่สามารถใหป้ ระโยชน์ต่อผูอ้ ื่นได้ น้นั จะทาใหง้ านมีคุณค่าเป็นท่ียอมรับทวั่ ไป ๓.๑.๕ เลือกเรื่องท่ีมีแปลงใหม่ทยี่ งั ไม่ค่อยมีผู้นามาเขียนอย่างแพร่หลาย การเลือกเรื่องท่ีแปลกใหม่ จะทาให้ผูเ้ ขียนรายงานรู้สึกทา้ ทา้ ยและสนุกกบั การเป็ นผูร้ ิเริ่มความรู้ ความคิดใหม่ๆ ผูเ้ ขียนจะไม่เบื่อ หน่ายกบั การคน้ ควา้ ขอ้ มูลตา่ งๆ ๓.๒ การวางโครงเรื่อง คือการกาหนดหวั ขอ้ อยา่ งคร่าวๆเป็นการวางแผนการศึกษาหรือกาหนดทิศทางในการคน้ ควา้ ให้ เห็นขอบเขตท่ีชดั เจน ทาใหก้ ารศึกษาเป็ นไปอยา่ งมีระบบ มีเป้าหมายและทิศทางท่ีถูกตอ้ ง ชดั เจนทาให้ สะดวกในการคน้ ควา้

๑๖๐ ภาษไทยพืน้ ฐาน ๓.๒.๑ การระดมความคิดและการจัดข้อมูลให้เป็ นหมวดหมู่ การวางโครงเรื่องที่ดีน้นั ควรมีการระดม ความคิดเน้ือหารายงานก่อน เม่ือไดค้ วามคิดเป็ นประเด็นหรือหัวขอ้ ท่ีหลายแลว้ ควรจดั ประเด็นต่างๆ เป็นหมวดหมู่หรือเนคลงั ขอ้ มูล ๓.๒.๒ การจัดข้อมูลให้เป็ นระบบ จัดลาดับความคิด แจกแจงประเด็นหลกั ประเด็นรองและประเด็น ย่อย คือการนาขอ้ มูลที่ได้มาเขา้ กลุ่มเป็ นหมวดหมู่ท่ีชดั เจน เรียบเรียงตามลาดบั ในโครงเรื่องเพื่อให้ สะดวกในการจดั ทาฉบบั ร่างต่อไป การเรียงลาดับข้อมูลควรให้เน้ือหาเป็ นไปตามประเด็นหหลัก ประเด็นรอง และประเด็นยอ่ ยใหถ้ ูกตอ้ ง ๓.๒.๓ การขยายความคิด เพิ่มเติมรายละเอียดให้ชันเจน เมื่อจดั ข้อมูลเป็ นระบบแล้วควรขยาย รายละเอียดประเดน็ ตา่ งๆ ท่ีไดร้ วบรวมไวช้ ดั เจน ๓.๓ การค้นคว้าและรวบรวมข้อมูล คือการเขียนรายงานจากการศึกษาคน้ ควา้ ส่วนใหญ่เป็ นการศึกษาจากตารา หนงั สือ หรือ เอกสาร ต่างๆ และอาจมีขอ้ มูลภาคสนาม เช่น การสัมภาษณ์ แลว้ รวบรวมขอ้ มูลดว้ ยการจดบนั ทึกจากเอกสาร หรือแหล่งขอ้ มูลต่างๆ ท่ีไดส้ ารวจไวแ้ ลว้ โดยการบนั ทึกขอ้ มูลตามลาดบั ในโครงเรื่อง ๓.๔ การเรียบเรียงเนื้อหา คือการนาขอ้ มูลท่ีไดบ้ นั ทึกไวม้ าประมวลเขา้ ดว้ ยกนั เขียนดว้ ยภาษาสานวนของผูเ้ ขียนรายงาน โดย ยึดหลกั การถ่ายทอดความรู้ความคิดให้เป็ นไปตามลาดบั ในโครงเรื่อง การเขียนแต่ละหวั ขอ้ ใหค้ านึงถึง ความสันธ์สอดคลอ้ งกนั ของเร่ืองท่ีอา่ นใหก้ ระชบั ชดั เจน และถูกตอ้ ง อยา่ งไรก็ตามก่อนลงมือเรียบเรียง ผูเ้ ขียนจะตอ้ งศึกษารูปแบบของรายงานให้เขา้ ใจก่อน เช่น การย่อหน้า เวน้ วรรค การข้ึนหัวขอ้ ใหญ่ หวั ขอ้ รอง และหวั ขอ้ ย่อย ระบบการอา้ งอิงในรายงาน รูปแบบการเขียนเชิงอรรถเพ่ือที่จะไม่ตอ้ งแกไ้ ข้ ในข้นั ตอนต่อไป ๓.๕ การตรวจสอบและประเมนิ ผล คือการตรวจความถูกตอ้ งของเน้ือหา รูปแบบการใชภ้ าษา การสะกดคา การ์นต์ ภาพประกอบตาราง การอา้ งอิง การตรวจแกไ้ ขน้ อกจากผูเ้ ขียนจะตรวจแกไ้ ขด้ ว้ ยตนเองแลว้ อาจใหผ้ ูอ้ ่ืนช่วยตรวจแกจ้ ะทา ใหพ้ บขอ้ ผดิ พลาดไดด้ ี สรุป การเขียนรายงานวิชาการ หมายถึงการนาเสนอผลงานการศึกษาคน้ ควา้ อย่างมีระบบโดยมีการ อา้ งอิงหลกั ฐานอยา่ งมีระเบียบแบบแผน การใชภ้ าษาในการเขียนรายงานควรส้ัน กระชบั ส่ือความหมาย ไดช้ ดั เจน การเขียนรายงานเชิงวชิ าการ มีส่วนประกอบ ๓ ส่วน ไดแ้ ก่ ส่วนประกอบตอนตน้ ประกอบดว้ ย ปกนอก ใบรองปก ปกใน คานา สารบญั ส่วนประกอบตอนเน้ือเร่ือง และส่วนประกอบตอนทา้ ย ไดแ้ ก่ บรรณานุกรม และภาคผนวก ท้งั ยงั มีหลกั การหรือข้นั ตอนในการเขียนรายงานเชิงวิชาการที่สาคญั ๕ ประการ ไดแ้ ก่ การเลือกเร่ืองที่ขียนรายงาน การวางโครงเรื่อง การคน้ ควา้ และรวบรวมขอ้ มูล การเรียบ เรียงเน้ือหา และการตรวจสอบและประเมินผลงาน

การเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ ๑๖๑ กจิ รรมตรวจสอบความเข้าใจ คาช้ีแจง กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจเป็นกิจกรรมฝึกทกั ษะเฉพาะดา้ นความรู้-ความจา เพื่อใชใ้ นการตรวจสอบความเขา้ ใจตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ คาส่ัง จงตอบคาถามต่อไปนี้ การเขียนรายงานเชิงวชิ าการท่ีควรเขียนอยา่ งไร จงอธิบายพร้อมยกตวั อยา่ ง กจิ กรรมส่งเสริมการเรียนรู้ คาช้ีแจง กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ประกอบดว้ ยกิจกรรมหลากหลายที่ฝึกทกั ษะทุกดา้ นตาม จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมเพอื่ ใหเ้ กิดสมรรถนะในการเรียนรู้ สามารถปฏิบตั ิกิจิกรรม ท้งั ในแลนอกสถานที่ตามความเหมาะสมกบั ผเู้ รียนและสิ่งแวดลอ้ มของสถานศึกษา ใหผ้ เู้ รียนแบง่ กลุ่มรายงานเชิงวชิ าการ เรื่องขอ้ บกพร่องเกี่ยวกบั การใชภ้ าษาไทยในชีวติ ประจาวนั ตามหลกั การจดั ทารายงาน สรุปผลการทากริกรรม หมายเหตุ เกณฑก์ ารประเมินผลการทากิจกรรมมีวตั ถุประสงคเ์ พอื่ ประเมินวา่ ผเู้ รียนเกิดสมรรถนะจากกสรเรียนรู้ ตามบริบทตา่ งๆ หรือไม่ โดยแบ่งเป็น ๓ ดา้ น คือ ความรู้หรือพทุ ธิพิสัย = Knowledge (K) ทกั ษะหรอื ทกั ษพสิ ยั = Practice (P) คณุ ลกั ษณะหรอื พสิ ยั = Attitude (A)

๑๕๒ ภาษไทยพืน้ ฐาน แบบทดสอบ คาสั่ง จงเลือกคาตอบทถี่ ูกต้องทสี่ ุดเพยี งคาตอบเดยี ว ๑. ขอ้ ใดไมใ่ ชส้ ่วนประกอบของการเขียนรายงานเชิงวชิ าการ ๑. ปกนอก ๒. ปกใน ๓. คานา ๔. บทคดั ยอ่ ๕. เน้ือเรื่อง ๒.ขอ้ ใดเรียงลาดบั การเขียนบรรณานุกรมหนงั สือเล่มไดถ้ ูกตอ้ ง ๑. ช่ือ-นามสกุลผแู้ ตง่ . ช่ือหนังสือ. สถานที่พิมพ:์ สานกั พิมพ,์ ปี่ ท่ีพิมพ์ ๒. ช่ือผเู้ ขียนบทความ. “ชื่อบทความ” ชื่อวารสาร. ป่ี ที่, ฉบบั ท่ี. (เดือน ปี ) :เลขที่หนา้ อา้ งอิง. ๓. ชื่อผแู้ ต่ง, “ชื่อวทิ ยานิพนธ์ หรือสารนิพนธ์.” สาขา และสถาบนั การศึกษา,ปี การศึกษา. ๔. ช่ือผแู้ ต่ง. ช่ือหนังสือ. ชื่อผแู้ ปล. สถานที่พิมพ:์ สานกั พมิ พ,์ ปี ท่ีพมิ พ์ ๕. ชื่อผแู้ ต่ง. ชื่อหนงั สือ. ป่ี ที่พิมพ.์ สานกั พมิ พ.์ เลขท่ีหนา้ อา้ งอิง. ๓. การกล่าวขอบคุณผทู้ ่ีช่วยใหก้ ารจดั ทารายงานเชิงวชิ าการประสบผลสาเร็จควรอยใู่ นส่วนใด ๑. คานา ๒. บทนา ๓. เน้ือหา ๔. บทสรุป ๕. ภาคผนวก ๔. ขอ้ ใดสามารถเป็นหวั ขอ้ ยอ่ ยของหวั ขอ้ รายงาน “ภาษาไท”ได้ ๑. ภาษาลาว ๒. ภาษาพม่า ๓. ภาษาเขมร ๔. ภาษาจีน ๕. ภาษาชวา

การเขียนรายงานเชิงวชิ าการ ๑๖๓ ๕. ทุกขอ้ เป็นส่วนประกอบของการเขียนรายงานเชิงวชิ าการที่อยกู่ ่อน “บทสรุป” ยกเวน้ ขอ้ ใด ๑. ใบรองปก ๒. สารบญั ๓. บทนา ๔. ภาคผนวก ๕. คานา ๖. จงเรียงลาดบั ชื่อผแู้ ต่งตอ่ ไปน้ีใหถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การเขียนบรรณานุกรม (ก) สมเด็จพระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดารงราชานุภาพ (ข) ชิต บุรทตั (ค) ทองแถม นาถจานง (ง) ช่วง มูลพินิจิ ๑. (ข) (ง) (ค) (ก) ๒. (ง) (ข) (ค) (ก) ๓. (ก) (ข) (ง) (ค) ๔. (ก) (ข) (ง) (ค) ๕. (ง) (ข) (ก) (ค) ๗. ขอ้ ใดป็นการเขียนรายงานเชิงวชิ าการ ๑. พรทารายงานการตรวจเครื่องแต่งกายนกั เรียน ๒. ตาลทารายงานการประชุมวชิ าการ ๓. แป้งทารายงานท่ีเรียบเรียงข้ึนจากศึกษาคน้ ควา้ ตามวตั ถุประสงค์ ๔. บิวทารายงานการปฏิบตั ิหนา้ ที่เสนอตอ่ ผบู้ งั คบั บญั ชา ๕. โบทารายงานสถิติขาด ลา มาสาย ของบุคลากร ๘. ขอ้ ใดไม่ใชส้ ่วนประกอบของการเขียนรายงานเชิงวชิ าการ ๑. พาดหวั ๒. คานา ๓. สารบญั ๔. บรรณานุกรม ๕. ภาคผนวก

๑๖๔ ภาษไทยพืน้ ฐาน ๙. สว่ นประกอบของการเขียนรายงานเชงิ วชิ าการขอ้ ใดท่ีตอ้ งบอกถงึ ท่ีมาของการทารายงานนนั้ ๆ ๑. คานา ๒. เนือ้ เร่อื ง ๓. สารบญั ๔. ภาคผนวก ๕. ขอ้ เสนอแนะ ๑๐. ขอ้ ใดไมใ่ ชป้ ระโยชนข์ องการเขียนรายงานเชิงวชิ าการ ๑. ส่งเสริมการเรียนรู้ ๒. เพมิ่ พูนองคค์ วามรู้ ๓. สร้างทกั ษธการส่ือสาร ๔. ส่งเสริมกระบวนการคิดวเิ คราะห์ ๕. ปูพ้นื ฐานการเขา้ สังคม

หน่วยการเรียนรู้ที่ การเขียนโครงการ ๙ สาระสาคญั สาคญั การเขียนโครงการเป็ นแผนการดาเนินงานหรือกิจกรรมซ่ึงมีวตั ถุประสงค์มีกรอบ ระยะเวลาในการดาเนินงาน และมีระเบียบวธิ ีปฏิบตั ชดั เจน สาระการเรียนรู้ ๑. ความหมายโครงการ ๒. ลกั ษณะของโครงการที่ดี ๓.วตั ถุประสงคข์ องการเขียนโครงการ ๔. ประเภทของโครงการ ๕. หลกั การเขียนโครงการ

๑๖๖ ภาษไทยพืน้ ฐาน สมรรถนะประจาหน่วย ๑. แสดงควมรู้เกี่ยวกบั การเขียนโครงการ ๒. เขียนโครงการตามหลกั การ จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกความหมายของการเขียนโครงการ ๒. อธิบายลกั ษณะของโครงการที่ดี ๓. บอกวตั ถุประสงคข์ องการเขียนโครงการได้ ๔. จาแนกประเภทของโครงการได้ ๕. เขียนโครงการตามหลกั การที่ถูกตอ้ งได้ ผงั สาระการเรียนรู้ การเขียน ความหมายโครงการ รายงานเชิง ลกั ษณะของโครงการท่ีดี วชิ าการ วตั ถุประสงคข์ องการเขียนโครงการ ประเภทของโครงการ หลกั การเขียนโครงการ

การเขียนโครงการ ๑๖๗ ๑. ความหมายของโครงการ โครงการ หมายถึงแผนงานยอ่ ย แผนการดาเนินงาน หรือกิจกรรมท่ีสามารถนาไปฎิบตั ิไดโ้ ดยมี วตั ถุประสงคใ์ นการดาเนินงานอยา่ งชดั แจง้ มีระยะเวลาเร่ิมตน้ มีระเบียบแบบแผนในการปฏิบตั ิเพือ่ เป็นแนวทางปฏิบตั ใหเ้ ป็นไปตามเป้าหมายท่ีกาหนด ๒. ลกั ษณธของโครงการทด่ี ี การเขียนโครงการท่ีดีมีลกั ษณะดงั ตอ่ ไปน้ี ๑. สามารถตอบสนองความตอ้ งการหรือแกป้ ัญหาขององคห์ รือหน่วยงานได้ ๒. มวั ตั ถุประสงคแ์ ละเป้าหมายที่ชดั เจน สามารถดาเนินงานแลปฏิบตั ิได้ ๓. รายละเอียดของโครงการมีความสอดคลอ้ งและสัมพนั ธ์กนั หลกั การและเหตุผล และวธิ ีการ ดาเนินงานตอ้ งสอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงค์ สะดวกต่อการดาเนินงานตามโครงการ สามารถติดตาม และประเมินผลได้ ๔. กาหนดโครงการข้ึนจากขอ้ มูลที่มีความเป็นจริงและเป็นขอ้ มูลที่ไดร้ ับการวิเคราะห์อยา่ ง รอบคอบไดร้ ับการสนบั สนุนในดา้ นทรัพยากรบริหารอยา่ งเหมาะสม ๕. โครงการตอ้ งมีระยะเวลาในการดาเนินงาน กล่าวคือ ตอ้ งระบุถึงวนั เวลาท่ีเร่ิมตน้ และสิ้นสุด โครงการ ๓.วตั ถุประสงค์ของการเขยี นโครงการ วตั ถุประสงคข์ องการเขียนโครงการ ไดแ้ ก่ ๑. เพือ่ ใหไ้ ดค้ วามรู้ ทกั ษธ ประสบการณ์ในการแสวงหาความรู้และขอ้ มูลต่างๆ จากแหล่งเรียนรู้ หลากหลาย เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรคค์ วามรับผดิ ชอบและการทางานร่วมกบั ผอู้ ื่น ๒. เพ่ือใหไ้ ดใ้ ชก้ ระบวนการการคิดทางวทิ ยาศาสตร์ คน้ ควา้ ทดลองอยา่ งมีระบบ ๓. เพื่อใหม้ ีความรู้ในเน้ือหาวชิ าน้นั ๆ อยา่ งลึกซ้ึงและกวา้ งขวาง ๔.ประเภทของโครงการ โครงการ มี ๔ประเภท ดงั น้ี ๔.๑ โครงการประเภทสารวจ เป็ นโครงการท่ีศึกษา สารวจรวบรวมขอ้ มูลที่ผเู้ รียนตอ้ งการศึกษา แลว้ นาขอ้ มูลมาจดั ระเบียบ เป็นหมวดหมู่นาเสนอในรูปแบบตาราง กราฟ สถิต แผนภูมิตวั เลข ประกอบคาอธาย เช่น การสารวจ พชื สมุนไพรในชุมชน

๑๖๘ ภาษไทยพืน้ ฐาน ๔.๒ โครงการประเภททดลอง โครงการน้ีต้องการศึกษาเพ่ือหาคาตอบของปัญหา จะมีการทดลอง กาหนดปัญหา ต้งั สมมติฐาน ออกแบบการทดลอง รวบรวมขอ้ มูล แปลผลและสรุปผลการทดลอง ตวั อยา่ งเช่นการทา สบู่จากสมุนไพรไทย การผลิตยาสระผมจากอญั ชนั หรือมะกรูด การใชก้ ระบวกการจดั การขยะมูลฝอย ๔.๓โครงการประเภทสิ่งประดิษฐ์ โครงการประเภทน้ีเป็ นการนาเสนอทฤษฏีมาสร้างหรือประดิษฐ์เป็ นของเล่น เคร่ืองมือหรือ ประดิษฐส์ ่ือใหม่ๆ เช่น การประดิษฐข์ องเล่นพ้นื บา้ นจากทอ้ งถิ่น การประดิษฐก์ งั หนั ลม ๔.๔ โครงการประเภทพฒั นาผลงาน โครงการประเภทน้ีเป็นการนาเสนอทฤษฎี หลกั การ หรือแนวคิดใหม่ ผทู้ าโครงการจะตอ้ ง มีความรู้พ้ืนฐานในเรื่องน้นั ๆ เป็ นอยา่ งดี เช่น การเกษตรทฤษฎีใหม่ การผลิตอาหารสาเร็จรูปแนวใหม่ ฯลฯ ๔.วตั ถุประสงค์ของการเขยี นโครงการ ในการเขียนโครงการมีหลกั การดงั ต่อไปน้ี ๑. กาหนดเป้าหมายในการทาโครงการเพ่ือให้เกิดผลดา้ นใดดา้ นหน่ึง มีวตั ถุประสงคห์ ลกั อยา่ งไร บา้ ง การกาหนดเป้าหมายในการทาโครงการจะช่วยใหผ้ ทู้ าโครงการสามารถดาเนินงานไดอ้ ยา่ งมีระบบ มีข้นั ตอนที่ชดั เจน ๒. ออกแบบโครงการหลายๆ แบบ ให้สอดคล้องกบั เป้าหมาย ควรระดมความคิดและออกแบบ โครงการหลายๆ ลกั ษณะ หลายๆแบบ เพื่อเป็ นตวั เลือกว่าโครงการแบบใดที่ตรงและสอดคลอ้ งกบั เป้าหมายที่กาหนดไวม้ ากที่สุด ๓.เลือกเรื่องท่ีจะทาโครงการวา่ ตอ้ งการศึกษาอะไร ทาไม่ตอ้ งการศึกษาเร่ืองน้นั ๆ ๔. วางแผนการทางาน การวางเคา้ โครงถือเป็ นการวางแผนการทางานหลหั ๆที่จะช่วยใหโ้ ครงการ ดาเนินการไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ รัดกุม รอบคอบ และไม่สับสน แลว้ นาเสนอต่อผูส้ อนหรืออาจารย์ ท่ีปรึษาเพอื่ ขอความเห็นชอบก่อนดาเนินการข้นั ตอยต่อไป ๕. เขียนโครงการ เพอ่ื แสดงแนวคิด แผนงานและข้นั ตอนการทาโครงการ ประกอบดว้ ย (๑) ชื่อโครงการ ช่ือโครงการ หมายถึงชื่อเร่ืองหรือหัวเรื่องที่ตอ้ งการจดั โครงการ การต้งั ชื่อโครงการควรมี ลกั ษณะบง่ บอกถึงสิ่งท่ีตอ้ งการดาเนินการอยา่ งชดั เจน (๒) ผ้รู ับผดิ ชอบโครงการ ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ คือผจู้ ดั ทาโครงการและควบคุมการดาเนินโครงการ

การเขยี นโครงการ ๑๖๙ (๓) หลกั ารและเหตุผล ส่วนน้ีเป็นการอธิบายภูมิหลงั หรือที่มาของการจดั ทาโครงการวา่ มีความจาเป็ น สาคญั หรือ มีความน่าสนใจอย่างไร และเกิดปัญหาอะไรข้ึนกับเร่ืองดังกล่าว ซ่ึงเป็ นเหตุผลในการจดั ทา โครงการน้ี (๔) วตั ถุประสงค์ของโครงการ ในการเขียนโครงการการกาหนดวตั ถุประสงคห์ รือเป้าหมายของการจดั ทาโครงการถือ เป็นส่วนท่ีมีความสาคญั ยงิ่ เพราะเป็นกรอบสาหรับกาหนดแนวทางปฏิบตั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ชดั เจน (๕) เป้าหมายโครงการ เป้าหมายโครงการ คือส่ิงที่ตอ้ งการที่จะได้รับเพ่ือตอบสนองวตั ถุประสงค์ของโครงการ เป้าหมายส่วนใหญ่เป็ นส่ิงท่ีวดั ได้ เป็ นรูปธรรม เช่น โครงการจดั ทาน้าผลไม้เพื่อสุขภาพที่ดี มี เป้าหมายคือการทาน้าผลไมใ้ หไ้ ดจ้ านวน ๑๐๐ ขวด ฯลฯ การเขียนเป้าหมายโครงการเขียนไดท้ ้งั เชิง ปริมาณและเชิงคุณภาพ (๖) สถานทดี่ าเนินการ สถานท่ีดาเนินการ คือสถานท่ีสาหรับจดั ทาหรือดาเนินโครงการ เช่น หอ้ งประชุม วดั สนาม กีฬาประจาจงั หวดั ฯลฯ (๗) ระยะเวลาดาเนินการโครงการ ระยะเวลาในการดาเนินโครงการโครงการข้ึนอยูก่ บั ความเหสมาะสมของแต่ละโครงการ อาจใชเ้ วลาส้ัน บางโครงการอาจใชเ้ วลาหลายเดือน (๘) วธิ ีดาเนินโครงการ วธิ ีหรือข้นั ตอนในการดาเนินโครงการ แบ่งเป็ น ๔ ข้นั ตอน ไดแ้ ก่ ข้นั เตรียมการ (Plan) ข้นั ดาเนินการ (Do) ข้นั ประเมินผล (Check) และข้นั ขยายผล (Action) (๙) งบประมาณหรือค่าใช้จ่ายของโครงการ ในท่ีน้ีหมายถึงงบประมาณท้งั หมดในการจดั โครงการ เช่น ค่าอุปกรณ์ ค่าวตั ถุดิบ ค่าสถานท่ี ฯลฯ (๑๐) การประเมนิ โครงการ การประเมินโครงการการเป็ นส่วนที่ประเมินผลการดาเนินโครงการท้งั หมดว่าประสบ ผลสาเร็จหรือไม่ อยา่ งไร (๑๑) ผลทคี่ าดว่าจะได้รับ ผลท่ีคาดจะไดร้ ับ คือส่ิงท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับเมื่อการดาเนินโครงการเสร็จสิ้น

๑๗๐ ภาษไทยพืน้ ฐาน ตวั อย่าง โครงการ ชื่อโครงการ สวนรรณคดใี นวทิ ยาลยั ๑. ชื่อโครงการ สวนวรรณคดีในวทิ ยาลยั ๒. ผู้รับผดิ ชอบโครงการ นกั ศึกษาชมรมรักษบ์ า้ น วทิ ยาลยั เทคนิคดอนเม่ือง ๓. หลกั การและเหตุผล จากการสารวจพ้ืนท่ีภายในวิทยาลัยพบว่า มีต้นไม้หลายชนิด วิทยาลัยมีพ้ืนท่ี กวา้ งขวางและยงั พบตน้ ไมท้ ่ีเหมาะสมบริเวณวทิ ยาลยั ถึง ๓๐ ตน้ พ้ืนท่ีในวิทยาลยั สามารถ ใชป้ ลูกตน้ ไมเ้ พิ่มไดอ้ ีกจึงจะปลูกตน้ ไมเ้ พ่ิมอีก ๘๐ ตน้ รวมเป็ น ๑๑๐ ตน้ นอกจากน้ียงั นา คาประพนั ธ์มาจากวรรณคดี ๘๐ บทและแตง่ คาประพนั ธ์เอง ๓๐ บท โครงการน้ีจึงเกิดข้ึนโดยจะปรับปรุงใหม้ ีป้ายช่ือที่ตน้ ไมแ้ ละเพิ่มป้ายความรู้กี่ยวกบั คาประพนั ธ์เพ่ือใหไ้ ดศ้ ึกษา และจะหาพรรณไมใ้ นทอ้ งถิ่มมาปลูกเพ่ิมเติม เพ่ือให้สวยงาม และร่มร่ืนติดป้ายประกาศท่ีตน้ ไมท้ ุกตน้ ทาใหไ้ ดค้ วามรู้เก่ียวกบั วรรณคดีตา่ งๆมากข้ึน ๔. วตั ถุประสงค์ของโครงการ ๑) เพ่ือส่งเสริมความเป็นไทย ๒) เพ่ือส่งเสริมการเห็นคุณคา่ ภาษาไทย ๓) เพื่อส่งเสริมการมีจิตสาธารณธ ๔) เพอ่ื ส่มเสริมการเรียนรู้แบบบรูณาการ ๕) เพ่อื ส่งเสริมปรัญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ๕.เป้าหมายโครงการ ๑) ติดป้ายช่ือและป้ายความรู้เก่ียวกับตน้ ไม้ในวรรคดีที่ต้นไมใ้ นวรรคดีบริเวณ วทิ ยาลยั ๓๐ ตน้ และปลูกตน้ ไมเ้ พมิ่ อีก ๘๐ ตน้ รวม ๑๑๐ ตน้ ๒) ทาป้ายคาประพนั ธ์จากวรรณคดี ๘๐ บทและแตง่ คาประพนั ธ์เอง ๓๐ บท ๖. สถานทดี่ าเนินการ วทิ ยาลยั เทคนิดดอนเมือง ๗. ระยะเวลาดาเนินการโครงการ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๒ – ๓๐ กนั ยายน ๒๕๖๒ ๘. วธิ ีดาเนินการ ๘.๑ ข้นั เตรียมการ ๑) สารวจต้นไมใ้ นวิทยาลัยสารวจต้นไมใ้ นท้องถิ่น สารวจคาประพนั ธ์ที่ เก่ียวกบั ตน้ ไมใ้ นวรรณคดีต่างๆ หาเศษวสั ดุเหลือใช้ และสอบถามปราชญช์ าวบา้ นเกี่ยวกบั ตน้ ไมต้ า่ งๆคน้ ควา้ หาความรู้จากเกกสารหนงั สือตา่ งๆ

การเขียนโครงการ ๑๗๑ ๒) สารวจตน้ ไมใ้ นวทิ ยาลยั มีตน้ ไมท้ ่ีเหมาะสม ๓๐ ตน้ ๘.๒ ข้นั ดาเนินงาน ๑) หาตน้ ไมเ้ พ่ิมได้ ๘๐ ตน้ จากทอ้ งถิ่น ๒) หาคาประพนั ธ์ชื่อตน้ ไมจ้ ากวรรณคดี ๓) หาความรู้เก่ียวกบั ชื่อตน้ ไม้ ๔) สอบถามความรู้เก่ียวกบั ช่ือตน้ ไมจ้ ากปราชญช์ าวบา้ น ๕) แตง่ คาประพนั ธ์ชื่อตน้ ไมต้ ่างๆ ๖) หาเศษวสั ดุไมเ้ หลือใช้ เขียนป้ายประกาศและคาประประพนั ธ์ ๗) ปลูกตน้ ไมเ้ ดือนละ ๒๕ ตน้ สปั ดาห์ละ ๖-๗ ตน้ ติดป้ายประกาศ ๘.๓ ข้นั เผยแพร่ขยายผล ๑) ประชาสมั พนั ธ์ผา่ นสื่อมวลชน ๒) จดั นิทรรศการ และเชิญบุคคลภายนอกชมสวนวรรคดีไทย ๙. งประมาณ ๑) คา่ จดั ทาป้าย ๕๐๐ บาท ๒) คา่ พรรณไม้ ๓๐๐ บาท ๑๐. การประเมนิ โครงการ โครงการประสบความสาเร็จ เสร็จงานทนั เวลา บุคลากรพึงพอใจ ๑๑. ผลที่คาดวา่ จะไดร้ ับ ๑) วทิ ยาลยั มีสวนวรรณคดีท่ีสวยงานและร่มรื่น ๒) ไดร้ ับความรู้เกี่ยวกบั ชื่อตน้ ไมใ้ นวรรณคดี ไดแ้ ต่งคาประพนั ธ์สาเร็จ ไดใ้ ช้ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งหาตน้ ไมจ้ ากทอ้ งถ่ิน และมีความสุขท่ีไดท้ าประโยชนใ์ หว้ ทิ ยาลยั ดู สวยงาม สรุป การเขียนโครงการ หมายถึงแผนงานย่อย แผนการดาเนินงาน หรือกิจกรรมท่ีสามารถนาไป ปฏิบตั ิได้ โดยมีวตั ถุประสงค์ในการดาเนินงานอยา่ งชดั แจง้ มีระยะเวลาเริ่มตน้ มีระเบียบแบบแผนใน การปฏิบตั ิเพื่อเป็นแนวทางปฏิบตั ิใหเ้ ป็นไปตามเป้าหมายที่กาหนด

๑๗๒ ภาษไทยพืน้ ฐาน กจิ รรมตรวจสอบความเข้าใจ คาช้ีแจง กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจเป็นกิจกรรมฝึกทกั ษะเฉพาะดา้ นความรู้-ความจา เพอื่ ใชใ้ นการตรวจสอบความเขา้ ใจตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ คาสั่ง จงตอบคาถามต่อไปนี้ การเขียนโครงการท่ีดีมีหลกั ในการเขียนอยา่ งไร จงอธิบายพร้อมยกตวั อยา่ ง กจิ กรรมส่งเสริมการเรียนรู้ คาช้ีแจง กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ประกอบดว้ ยกิจกรรมหลากหลายที่ฝึกทกั ษะทุกดา้ นตาม จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมเพอ่ื ใหเ้ กิดสมรรถนะในการเรียนรู้ สามารถปฏิบตั ิกิจิกรรม ท้งั ในแลนอกสถานที่ตามความเหมาะสมกบั ผเู้ รียนและส่ิงแวดลอ้ มของสถานศึกษา ให้ผู้เรี ยนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๓-๕คนเขียนโครงการท่ีเก่ียวข้องกับการใช้ภาษาไทยใน ชีวติ ประจาวนั มากลุ่มละ ๑ โครงการ สรุปผลการทากริกรรม หมายเหตุ เกณฑก์ ารประเมินผลการทากิจกรรมมีวตั ถุประสงคเ์ พอ่ื ประเมินวา่ ผเู้ รียนเกิดสมรรถนะจากกสรเรียนรู้ ตามบริบทตา่ งๆ หรือไม่ โดยแบ่งเป็น ๓ ดา้ น คือ ความรู้หรือพุทธิพิสัย = Knowledge (K) ทกั ษะหรอื ทกั ษพสิ ยั = Practice (P) คณุ ลกั ษณะหรอื พิสยั = Attitude (A)

การเขยี นโครงการ ๑๗๓ แบบทดสอบ คาส่ัง จงเลือกคาตอบทถ่ี ูกต้องทส่ี ุดเพยี งคาตอบเดียว ๑. ขอ้ ใดไมใ่ ชล้ กั ษณะของโครงการท่ีดี ๑. มีวตั ถุประสงคแ์ ละเป้าหมายชดั เจน ๒. สามารถแกไ้ ขป้ ัญหาชองชุมชนหรือองคก์ รได้ ๓. คน้ ควา้ ขอ้ มูลหรือเอกสารอยา่ งรอบดา้ นก่อนเขียนโครงการ ๔. นาผลิตภณั ฑข์ องผอู้ ื่นมาเป็นผลิภณั ฑข์ องตนเพื่อประหยดั เวลาดาเนินการ ๕. รายละเอียดของโครงการสอดคลอ้ งและสมั พนั ธ์กบั วตั ถุประสงคแ์ ละเป้าหมายโครงการ ๒.ทุกขอ้ กาหนดเป้าหมายโครงการเหมาะสม ยกเวน้ ขอ้ ใด ๑. ปลูกตน้ ไม้ ๓๐๐ ตน้ ๒. ซ่อมเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า ๒๐ ชิ้น ๓. ตดั ผมนกั รียนชาย ๑๐๐ คน ๔. ทาแกว้ กระดาษจานวน ๕๐๐ ใบ ๕. ผหู้ ญิงรูปร่งอว้ น ๑๐๐ คน มีความมน่ั ใจในการแต่งตวั ๓. ขอ้ ใดจดั วา่ เป็นโครงการประเภทสารวจ ๑. การศึกษาตูอ้ บพลงั งานแสงอาทิตย์ ๒. การศึกษาจานวนประชากรในประเทศอาเซียน ๓. การศึกษาและจานวนของสตั วเ์ ล้ือยคลาน ๔. การศึกษาจานวนชนิดตวั หนอนที่เป็นศตั รูของตน้ ขา้ ว ๕. การศึกษาความคิดเห็นจากเยาชนไทยเร่ืองการใชภ้ าษา ๔. ขอ้ ใดไมใ่ ชอ้ งคป์ ระกอบของการเขียนโครงการ ๑. วธิ ีดาเนินโครงการ ๒. สถานที่ดาเนินโครงการ ๓. ระยะเวลาดาเนินโครงการ ๔. งบประมาณในการดาเนินโครงการ ๕. ผตู้ รวจสอบการดาเนินโครงการ

๑๗๔ ภาษไทยพืน้ ฐาน ๕. ส่วนที่กล่าวถึงผมู้ ีอานาจหนา้ ที่ในการทาใหโ้ ครงการดาเนินไปไดจ้ นประสบผลสาเร็จที่ ระบุไวใ้ นการเขียนโครงการคือส่วนใด ๑. ส่วนของผอู้ นุมตั โครงการ ๒. ส่วนของผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ ๓. ส่วนของผตู้ รวจสอบดาเนินโครงการ ๔. ส่วนของผปู้ ระเมินผลโครงการ ๕. ส่วนของผบู้ ริหารองคก์ ร ๖. ขอ้ ใดเป็นองคป์ ระกอบของการเขียนโครงการ ๑. หลกั การและเหตุผล ๒. สรุปผลการดาเนินโครงการ ๓. คานิยามศพั ท์ ๔. บรรณานนุกรม ๕. ภาคผนวก ๗. ขอ้ ใดต่อไปน้ี สามารถเป็นวตั ถุประสงคข์ องโครงการ “น้าหนกั ชีวภาพปราบศตั รูพืช”ได้ ๑. เพอื่ ส่งเสริมความเป็นไทย ๒. เพ่ือฟ้ื นฟูอาชีพเกษตรกร ๓. เพ่ือลดตน้ ทุนการผลิต ๔. เพอื่ อนุรักษพ์ นั ธ์พชื ๕. เพือ่ ประชาสัมพนั ธ์โครงการ ๘. การเขียนโครงการไมค่ วรเร่ิมตน้ จากส่ิงใด ๑. กาความสนใจ ๒. ความช่ืมชอบ ๓. เป็นประโยชน์ตอ่ สังคม ๔. มีความเช่ียวชาญเป็นพเิ ศษ ๕. ไม่ตอ้ งลงมือทาเอง ๙. ในการเขียนโครงการ การระบสุ ่ิงท่ีสามารถวดั ไดด้ าเนินการประสบผลสาเรจ็ คือสว่ นใด ๑. ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงการ ๒. สถานท่ีดาเนินการ ๓. วิธีดาเนนิ การ ๔. งบประมาณ ๕. การประเมนิ โครงการ

การเขยี นโครงการ ๑๗๕ ๑๐. ขอ้ ใดไมใ่ ชป้ ระโยชนข์ องการเขียนโครงการ ๑. สรา้ งเสรมิ การเรยี นรู้ ๒. เพ่มิ พนู องคค์ วามรู้ ๓. ฝึกทกั ษะการส่ือสาร ๔. สง่ เสรมิ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ ๕. คดั เลือกบคุ คลทางาน

บรรณานุกรม กาชยั ทองหล่อ. หลกั ภาษาไทย. พมิ พค์ ร้ังที่ ๑๐. กรุงเทพฯ : รวมสาส์น, ๒๕๔๐ คาร์เนกี, เดล. การพดู ในทช่ี ุมนุม. แปลโดย อาษา ขอจิตตเ์ มตต.์ พมิ พค์ ร้ังที่ ๑๐. กรุงเทพฯ : ขอจิตต,์ ๒๕๒๙ งามพรรณ เวชชาชีวะ. ความสุขของกะท.ิ พิมพค์ ร้ังท่ี ๕๕. กรุงเทพฯ : แพรว, ๒๕๕๑ จิตตน์ ิภา ศรีไสย.์ คู่มือหลกั ภาษา. กรุงเทพฯ ทวกี ิจพิมพ,์ ๒๕๒๓ ฉนั ทสั ทองช่วย. คาภาษามลายูท่ีสัมพันธ์กับภาษาไทย. รายงานประกอบการศึกษาปริญญาดุฎีบณั ฑิต วิชา สัมมนา ภาษาต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับภาษาไทย แผนกวิชาภาษาไทย บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลยั , ๒๕๒๐. ฉ่า ทองคาวรรณ. หลกั ภาษเขมร. พระนคร : ราชบณั ฑิตยสถาน, ๒๕๐๓. ปราณี กายอรุณสิทธ์ิ. “คายืมภาษาจีนในภาษาไทยปัจจุปัน.” วิทยานิพนธ์ปริญญหมาบณั ฑิต. จุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลยั , ๒๕๒๖. พนั ธุ์ทิพา หลาบเลิศบุญ และคณะ. ภาษาไทย ๓. พิมพค์ ร้ังท่ี ๔. กรุงเทพฯ : สานกั พิมพแ์ ห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลยั , ๒๕๔๒ ราชบณั ฑิตยสถาน. พจนานุกรม ฉับบราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๔. กรุงเทพฯ : ราชบณั ฑิตรสถาน, ๒๕๕๖. วิจิตรมาตรา, ขุน. สารานุกรมไทยสาหรับเยาชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเสร็จพระเจ้าอยู่หัว. กรุงเทพฯ : รุ่งศิลป์ การพมิ พ,์ ๒๕๔๘ ศึกษาธิการ, กระทรวง กรมวชิ าการ. กจิ กรมมส่งเสริมการอ่าน. กรุงเทพฯ : โรงพิมพก์ ารศาสนา, ๒๕๓๑. .ภาษาวนั นี้ เล่ม ๑ . กรุงเทพฯ : องคก์ ารคา้ ของคุรุสภา, ๒๕๔๑. ศึกษาธิการ, กระทรวง สานกั งานปลดั กระทรวง. พระบรมราโชวาท. พระราชทานแก่นกั ศึกษาในโอกาสที่เขา้ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระที่น้ังอมั พรสถาน พระราชวงั ดุสิต เม่ือวนั เสาร์ที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๑๖. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พค์ ุรุสภาลาดพร้าว, ๒๕๑๗. สถาบนั ภาษาไทย. บรรทดั ฐานภาษาไทย เล่ม ๑-๓. กรุงเทพฯ : สถาบนั ภาษาไทย สานกั วชิ าการ, ม.ป.ป. สมพร แพง่ พพิ ฒั น.์ ภาษาไทยเพ่ือการสื่อสารและการสืบค้น. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์, ๒๕๔๗. สาธารณสุข, กระทรวง กรมอนามยั . โภชนาการดชี ีวมี สี ุข. กรุงเทพฯ : สามเจริพาณิชย,์ ๒๕๔๓. สุจิตรา กลิ่มเกสร. “บญั ญติศัพท์-ศัพท์บัญญตั ิ.” สถาบนั ภาษาไทย๒,๒(๒๕๓๘). อวพพร พานิชและคณะ. ภาษาและหลกั การเขียนเพ่ือการส่ือสาร. พิมพค์ ร้ังที่ ๓. กรุงเทพฯ : สานกั พิมพแ์ ห่ง จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , ๒๕๔๗. อจั จิมา เกิดผล, หม่องหลวง และคณะ. ภาษาไทยเพ่ือการส่ือสารอย่างมีประสิทธิผล. กรุงเทพฯ : คณะครุ ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , ๒๕๔๖

โครงการ เรื่อง การพฒั นาส่ือการสอน E-book เรื่องภาษาไทยในชีวติ ประจาวนั จดั ทาโดย 1.นายเมธิส อยเู่ สนาสน์ ปวส. 2/3 รหสั ประจาตวั 4002 2. นายนายภาณุวชิ ญ์ กล่าเหวา่ ปวส. 2/3 รหสั ประจาตวั 4034 อาจารย์ทปี่ รึกษา อาจารย์ จนั ทร์เพญ็ มะโนนอ้ ม นำสนอ อาจารย์ วชิ ยั ดิษฐ์ มิตรศรี สถานศึกษา วทิ ยาลยั อาชีวศึกษาเอเชีย ปี การศึกษา 2564


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook