ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่ิงแวดล้อม ในสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัย เพอื่ เด็กไทยสุขภาพดี
>>> กคูม่ารือจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม ในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพื่อเด็กไทยสุขภาพดี ISBN 978-616-11-4698-6 พมิ พค์ รั้งที่ 1 สงิ หาคม 2564 จ�ำนวนพมิ พ์ 1000 เลม่ จัดทำ� โดย: สำ� นกั อนามยั สงิ่ แวดลอ้ ม กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ ถนนตวิ านนท์ อ�ำเภอเมือง จังหวดั นนทบรุ ี 11000 ประเทศไทย โทรศพั ท์ 0-2590-4255 โทรสาร 0-2590-4255 เวบ็ ไซต์ http://env.anamai.moph.go.th ออกแบบและผลิตโดย: โครงการผลิตส่ือและมัลติมเี ดยี สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุน่ ) คู่มือ การจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพื่อเด็กไทยสุขภาพดี
คำ� น�ำ เด็กปฐมวัยเปน็ ช่วงวัยทส่ี �ำคัญในการพัฒนาดา้ นต่าง ๆ อย่างรวดเรว็ ที่สุด และเป็นรากฐาน ที่ส�ำคัญส�ำหรับพัฒนาการในช่วงวัยต่อ ๆ ไป เป็นวัยท่ีจะได้รับการอบรมเล้ียงดูจากพ่อแม่และ ครอบครัว แต่จากสภาพเศรษฐกิจและสังคมท่ีเปล่ียนไป สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยจึงมีบทบาท มากขน้ึ เนอ่ื งจากพอ่ แมผ่ ปู้ กครองตอ้ งทำ� งานนอกบา้ นทำ� ใหต้ อ้ งหาผดู้ แู ลแทน ดงั นน้ั สถานพฒั นา เดก็ ปฐมวยั ทด่ี จี ะตอ้ งมกี ารจดั การอนามยั สงิ่ แวดลอ้ มทเี่ หมาะสม ถา้ หากไมม่ กี ารจดั การทด่ี อี าจเปน็ สาเหตุของปัญหาสุขภาพที่เกีย่ วขอ้ งกับปจั จัยสงิ่ แวดลอ้ ม เชน่ การเกิดอบุ ตั ิเหตุ โรคระบบทางเดิน อาหาร โรคไขเ้ ลือดออก โรคมอื เท้าปาก เปน็ ตน้ คูม่ อื “การจัดการอนามัยส่ิงแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพื่อเด็กไทยสุขภาพดี” เลม่ นี้ จดั ทำ� ขนึ้ สำ� หรบั บคุ ลากรทางการศกึ ษา ทง้ั ครู ผดู้ แู ลเดก็ เจา้ หนา้ ทป่ี ฏบิ ตั งิ านในสถานพฒั นา เด็กปฐมวัย และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพ่ือใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ พัฒนาและปรับปรุงการจัดการ อนามัยส่ิงแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ให้สามารถอยู่ในระดับขั้นพัฒนาของมาตรฐาน สถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั แหง่ ชาติ อกี ทง้ั ชว่ ยยกระดบั และพฒั นาคณุ ภาพการจดั การอนามยั สง่ิ แวดลอ้ ม รอบตัวเด็กปฐมวัยได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ อนั จะขยายผลส่คู รอบครัว ชมุ ชน เพื่อใหเ้ ดก็ ปฐมวัยอยู่ ในสภาพแวดล้อมท่ีปลอดภยั ลดการเกิดโรค ส่งเสรมิ พัฒนาการท่สี มวัยของเดก็ ต่อไป คณะผจู้ ัดท�ำ หวงั เปน็ อย่างยิ่งวา่ เอกสารฉบบั นี้ จะเปน็ ประโยชนส์ �ำหรบั การจดั การอนามัย สิ่งแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพ่ือให้เด็กมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี เป็นการสร้าง พนื้ ฐานการดำ� รงชวี ติ เพอ่ื อยใู่ นสงั คมอยา่ งมคี วามสขุ ในอนาคต และขอขอบพระคณุ เจา้ ของผลงาน วิชาการตา่ ง ๆ ทไี่ ดน้ �ำมาอ้างอิงในเอกสารฉบบั น้ี ไว้ ณ โอกาสนี้ ส�ำนักอนามยั ส่งิ แวดลอ้ ม กรมอนามัย สิงหาคม 2564
4 >>> สารบัญ คำ� นำ� ................................................................................................................................................................................................................ 3 บทน�ำ ............................................................................................................................................................................................................ 5 บทที่ 1 การบรหิ ารจดั การดา้ นสภาพแวดลอ้ มเพอื่ ความปลอดภยั ................................................................................................. 11 บทที่ 2 การจดั การอาคารสถานที-่ โครงสรา้ งอาคาร ................................................................................................................. 15 บทที่ 3 การจัดการสภาพแวดล้อมบริเวณโดยรอบและอาคาร ....................................................................................... 19 บทที่ 4 การจัดการพื้นท่ีใช้สอยในอาคาร ............................................................................................................................ 23 บทท่ี 5 การจัดการสนามเดก็ เลน่ /เครื่องเลน่ สนาม และของเลน่ ที่ปลอดภัย ................................................................. 31 บทท่ี 6 การส่งเสริมให้เดก็ ปฐมวัยเดนิ ทางอยา่ งปลอดภัยและการป้องกนั ภัย จากบุคคลทั้งภายในและภายนอก .................................................................................................................................... 41 บทที่ 7 การปอ้ งกันอัคคีภัย ระบบรับเหตุฉกุ เฉิน ....................................................................................................................... 47 บทท่ี 8 การดแู ลเคร่ืองใช้ส่วนตวั อปุ กรณ์ ครุภณั ฑ์ ให้ปลอดภัย ......................................................................................... 51 บทที่ 9 การจดั การส้วมและสิ่งปฏกิ ูล .............................................................................................................................................. 57 บทที่ 10 การจัดการมลู ฝอย ................................................................................................................................................................ 65 บทท่ี 11 การควบคมุ สตั วแ์ ละแมลงพาหะน�ำโรค ....................................................................................................................... 71 บทที่ 12 การจดั การน�้ำอปุ โภคบรโิ ภค ............................................................................................................................................ 83 บทท่ี 13 การสขุ าภิบาลอาหาร .......................................................................................................................................................... 89 บทท่ี 14 การส่งเสริมพฤติกรรมสุขอนามยั เพอ่ื ป้องกนั โรคตดิ ตอ่ ........................................................................................ 103 บทท่ี 15 การจดั การภัยพบิ ตั ติ ามความเสยี่ งของพน้ื ที่ .............................................................................................................. 111 บทที่ 16 การจัดการฝ่นุ ละอองขนาดเล็ก ....................................................................................................................................... 123 บรรณานกุ รม ........................................................................................................................................................................................... 135 ภาคผนวก ภาคผนวกที่ 1 แบบบันทึกการส�ำรวจค้นหาจดุ เสี่ยง (Safety Round Record) .......................................................................... 137 ภาคผนวกท่ี 2 แบบประเมินสภาพแวดลอ้ มภายนอกอาคารเพือ่ ความปลอดภยั ........................................................................... 138 ภาคผนวกท่ี 3 แบบคัดกรองความเสีย่ งของพนื้ ที่เล่น/สนามเดก็ เล่น ...................................................................................................... 140 ภาคผนวกที่ 4 แบบประเมินสภาพแวดลอ้ มภายในเพอ่ื ความปลอดภยั ................................................................................................. 141 ภาคผนวกท่ี 5 แบบประเมนิ เครอื่ งใช้เพ่ือความปลอดภัย ................................................................................................................................. 143 ภาคผนวกที่ 6 แบบประเมินของเล่นเพอ่ื ความปลอดภัย .................................................................................................................................. 144 ภาคผนวกท่ี 7 แบบบนั ทกึ ผลติ ภัณฑ์ ของเล่น ของใช้อนั ตราย .................................................................................................................... 145 ภาคผนวกที่ 8 แบบประเมินการเดนิ ทางที่ปลอดภยั ส�ำหรบั เดก็ ปฐมวัย ............................................................................................... 146 ภาคผนวกที่ 9 แบบประเมนิ ระบบอัคคีภัย ................................................................................................................................................................... 147 คณะผจู้ ัดท�ำ ................................................................................................................................................................................................ 148 คู่มือ การจัดการอนามัยส่ิงแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพ่ือเด็กไทยสุขภาพดี
<<<<< 5 บทน�ำ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
6 >>> บทนำ� ความสำ� คัญของการพฒั นาเด็กปฐมวัย เดก็ ปฐมวยั เปน็ วยั เรม่ิ ตน้ ของชวี ติ และพฒั นาการในทกุ ดา้ น เปน็ ชว่ งวยั ทพี่ ฒั นาการทางดา้ น ต่าง ๆ เป็นไปอย่างรวดเร็วท่ีสุดและเป็นฐานรากที่ส�ำคัญส�ำหรับพัฒนาการในช่วงวัยต่อ ๆ ไป เดก็ ในวยั นจ้ี งึ เปน็ ทรพั ยากรบคุ คลทมี่ คี วามสำ� คญั อยา่ งยง่ิ ของประเทศ เดก็ ปฐมวยั ทไี่ ดร้ บั การดแู ล อย่างเหมาะสมตามช่วงวัยจะสามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีคุณภาพและจะเป็นกำ� ลังส�ำคัญของ ประเทศชาตติ อ่ ไปในอนาคต ดงั คำ� กลา่ วของ ศ.ดร.เจมส์ เจ เอคแมน นกั เศรษฐศาสตรร์ างวลั โนเบล ปี พ.ศ. 2542 ทีว่ า่ “การลงทนุ พฒั นาเด็กปฐมวยั เปน็ การลงทนุ ที่คมุ้ ค่าให้ผลตอบแทนแกส่ งั คมทดี่ ี ทส่ี ดุ ในระยะยาว” ดงั นน้ั การพฒั นาเดก็ ปฐมวยั จงึ เปน็ รากฐานทมี่ ผี ลตอ่ คณุ ภาพและประสทิ ธภิ าพ ของคนตลอดชีวิต และเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าท่ีสุด กล่าวคือเด็ก เยาวชนและผู้ใหญ่ท่ีมีสุขภาพดี มีความสามารถเรียนรู้ ทำ� งานได้เก่ง และเป็นพลเมืองดีท่ีจะนำ� ไปสู่ความส�ำเร็จในสังคมท่ีท้าทาย ในศตวรรษที่ 21 ตอ้ งไดร้ บั โอกาสการพฒั นาอยา่ งรอบดา้ นในชว่ งปฐมวยั แตค่ ณุ ภาพของเดก็ ปฐมวยั ยังเป็นจุดอ่อนที่เข้าขั้นวิกฤตของประเทศไทย ท่ีจ�ำเป็นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน ครอบครัว ชุมชน ภาครฐั ภาคเอกชน ภาคศาสนา ภาคธรุ กิจและทกุ ภาคสว่ นในสังคม จงึ ตอ้ งมคี วามร้คู วามเข้าใจใน ความสำ� คัญของชว่ งปฐมวัย ตระหนักในพนั ธกจิ และลงมอื ชว่ ยกันทำ� ให้เดก็ ปฐมวัยมโี อกาสพัฒนา อยา่ งเต็มศกั ยภาพในภาวะแวดล้อมที่ปลอดภัย คู่มือ การจัดการอนามัยส่ิงแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพื่อเด็กไทยสุขภาพดี
<<<<< 7 นยิ ามศพั ท์และความหมาย อนามัย ตามความหมายท่ีองค์การอนามัยโลกได้ให้ค�ำจ�ำกัดความไว้ว่า “การมีสุขภาพดี ทงั้ รา่ งกายและจติ ใจ และสามารถดำ� รงชพี อยใู่ นสงั คมไดด้ ว้ ยดี ซงึ่ ไมเ่ พยี งปราศจากโรค หรอื ไมท่ พุ พลภาพ เท่านั้น” (Health is defined as a state of complete physical, mental and social well-being and merely the absence of disease infirmity) (องคก์ ารอนามยั โลก, 2491) สงิ่ แวดลอ้ ม หมายถงึ สงิ่ ตา่ ง ๆ ทมี่ ลี กั ษณะทางกายภาพและชวี ภาพทอี่ ยรู่ อบตวั มนษุ ย์ ซง่ึ เกดิ ขึ้นโดยธรรมชาติและสิ่งท่ีมนุษย์ได้ท�ำข้ึน (พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม แห่งชาติ พ.ศ. 2535) อนามยั สง่ิ แวดลอ้ ม หมายถึง ความสมั พนั ธท์ ่ีเกี่ยวข้องกับสขุ ภาพและคุณภาพชีวิตของมนุษย์ ที่ถูกก�ำหนดโดยปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ เคมี ชีวภาพ สังคม สังคมจิตวิทยา รวมถึง การประเมนิ แกไ้ ข ควบคมุ และปอ้ งกนั ปจั จยั ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ มทสี่ ง่ ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพทงั้ ของคนรนุ่ ปัจจบุ ัน และรนุ่ ลูกหลานในอนาคต (องคก์ ารอนามยั โลก, 2491) กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
8 >>> เดก็ ปฐมวยั หมายถึง เด็กซ่ึงมีอายุยงั ไม่ครบหกปีบริบรู ณ์ และให้หมายความรวมถึง ทารก ในครรภม์ ารดาดว้ ย (ตามระเบียบสำ� นกั นายกรฐั มนตรีว่าด้วยการพฒั นาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2551) สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย (ตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ) หมายถึง สถานท่รี ับดูแล พัฒนา จัดประสบการณเ์ รยี นรู้และการศึกษาส�ำหรบั เด็กปฐมวัย ครอบคลมุ ต้ังแต่ ทารกแรกเกิดถึง 6 ปี หรือก่อนเข้าเรียนประถมศกึ ษาปีที่ 1 มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ หมายถึง เครื่องมือในการประเมินคุณภาพของ การด�ำเนนิ งานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทกุ สงั กัด ทดี่ แู ลเด็กในเวลากลางวนั ชว่ งอายุตัง้ แตแ่ รกเกิด ถึงอายุ 6 ปีบรบิ ูรณ์ หรือกอ่ นเข้าเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 ซึง่ ใชไ้ ด้กบั ทุกบรบิ ท โดยได้มีการ เทยี บเคยี งกบั มาตรฐานของทกุ หนว่ ยงานทมี่ อี ยแู่ ลว้ รว่ มกบั มาตรฐานคณุ ภาพของภมู ภิ าคอาเซยี นฯ คู่มือ การจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพ่ือเด็กไทยสุขภาพดี
<<<<< 9 เป็นมาตรฐานกลางของประเทศเพ่ือให้หน่วยงานและสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทั้งภาครัฐและ ภาคเอกชนทั่วประเทศ ใชเ้ ป็นแนวทางในการพัฒนาและยกระดบั คณุ ภาพ โดยด�ำเนนิ การรว่ มกับ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวง พฒั นาสงั คมและความม่นั คงของมนษุ ย์ ประกอบดว้ ยมาตรฐาน 3 ด้าน ไดแ้ ก่ มาตรฐานด้านท่ี 1 การบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย มาตรฐานด้านท่ี 2 ครู/ผู้ดูแลเด็กให้การดูแลและจัด ประสบการณก์ ารเรยี นรแู้ ละเลน่ เพอ่ื พฒั นาเดก็ ปฐมวยั มาตรฐานดา้ นที่ 3 คณุ ภาพของเดก็ ปฐมวยั การจดั การอนามยั สง่ิ แวดลอ้ มในสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั หมายถงึ การดแู ลและควบคมุ ปจั จยั ทางด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพของเด็กและบุคลากรในสถานพัฒนาเด็ก ปฐมวยั ซ่งึ ตอ้ งดำ� เนนิ การใหค้ รอบคลุมทง้ั ด้านกายภาพ เคมี ชีวภาพ และสังคม รวมถงึ ส่งเสรมิ ให้ มีการจัดการ ควบคุม ป้องกัน การแพร่กระจายของโรคติดต่อ รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการจัด สภาพแวดลอ้ มใหถ้ กู สขุ ลกั ษณะ นา่ อยู่ การบรหิ ารจดั การดา้ นอาคารสถานท่ี ใหม้ คี วามมนั่ คง แขง็ แรง ลดการบาดเจบ็ ตา่ ง ๆ จากอบุ ตั เิ หตหุ รอื จากสภาพแวดลอ้ มทไ่ี มป่ ลอดภยั และการจดั สภาพแวดลอ้ ม ท่ีเอื้อต่อการมีสุขภาพกาย จิตใจที่ดี พัฒนาการท่ีสมวัย มีสุขนิสัยและเสริมสร้างพฤติกรรม ด้านอนามยั สิง่ แวดลอ้ มท่ีดขี องเดก็ ปฐมวยั และบคุ ลากรในสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวัย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
10 >>> การจัดการอนามยั สงิ่ แวดลอ้ ม ในสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั ทเี่ อ้ือต่อสุขภาพดี เด็กปฐมวัยเป็นช่วงวัยที่พัฒนาการทางด้านต่าง ๆ เป็นไปอย่าง รวดเร็วและเป็นฐานรากที่ส�ำคัญส�ำหรับพัฒนาการในช่วงวัยต่อ ๆ ไป เด็กในวัยน้ีจึงเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีความส�ำคัญอย่างยิ่งของประเทศ เด็กปฐมวัยที่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมตามช่วงวัย อยู่ในสภาพ แวดล้อมท่ีเอ้ือให้เกดิ การพฒั นาท่ีสมวยั ทำ� ให้สามารถเตบิ โตเปน็ ผู้ใหญ่ ที่ดีมีคุณภาพและจะเป็นก�ำลังส�ำคัญของประเทศชาติต่อไปในอนาคต ซง่ึ การจัดใหม้ ีสภาพแวดล้อมหรอื อนามยั ส่ิงแวดลอ้ มทด่ี ี ถกู สุขลักษณะ ปลอดภยั นา่ อยู่ จะสง่ ผลใหเ้ กดิ การเรยี นรู้ พฒั นาการสมวยั สขุ ภาพกาย สุขภาพจติ ทด่ี ตี อ่ ไป คู่มือ การจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพื่อเด็กไทยสุขภาพดี
<<<<< 11 บทท่ี 1 การบรหิ ารจัดการดา้ นสภาพแวดล้อม เพ่อื ความปลอดภัย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
12 >>> บทที่ 1 การบริหารจดั การด้านสภาพแวดลอ้ มเพ่ือความปลอดภัย การบรหิ ารจดั การดา้ นสภาพแวดลอ้ มเพอ่ื ความปลอดภยั อยา่ งเปน็ ระบบ หมายถงึ การบรหิ าร จดั การภาวะสง่ิ แวดลอ้ มทางกายภาพ สง่ิ แวดลอ้ มทางสงั คม ซง่ึ เปน็ อนั ตรายตอ่ เดก็ ไดถ้ กู ควบคมุ ไว้ เพ่ือใหเ้ ดก็ มสี ขุ ภาพท่ดี ี ไมไ่ ดร้ บั บาดเจบ็ หรอื รับพิษจากสารอันตราย 1.1 ปัจจยั เส่ยี งในสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวัย ปจั จัยเสี่ยง คอื ตน้ เหตุ สาเหตุ หรือการรบั สมั ผสั ของบคุ คลท่ีเปน็ การเพ่ิมโอกาสของความ เสยี หาย อาการเจ็บปว่ ย บาดเจ็บ หรอื ผลกระทบตอ่ สุขภาพในทางใดทางหนึ่งของประชาชน โดย ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพหรอื ความเสยี หายตอ่ ชวี ติ และทรพั ยส์ นิ ดงั กลา่ วจะเกดิ ขนึ้ ภายใตส้ ถานการณ์ ท่ีไม่แน่นอน อาจยังไม่เกิดขึ้นในเวลาปัจจุบันแต่มีโอกาสเกิดข้ึนในอนาคตหลังจากมีการรับสัมผัส มาแลว้ ในระยะเวลาหนง่ึ และไม่มกี ารควบคมุ ความเสี่ยงดงั กล่าว คู่มือ การจัดการอนามัยส่ิงแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพื่อเด็กไทยสุขภาพดี
<<<<< 13 ปัจจัยเสี่ยงด้านอนามัยส่ิงแวดล้อม คือ สถานการณ์หรือองค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อม ทส่ี ่งผลใหเ้ กิดโอกาสความเสยี หาย อนั ตรายหรือผลกระทบตอ่ สขุ ภาพ โดยปจั จัยเสี่ยงด้านอนามัย สิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสุขภาพ เช่น อุบัติเหตุการจมน�้ำ อุบัติเหตุทางถนน หกล้มและพลัดตกจาก ท่ีสูง ไฟฟ้า/ของร้อน สัตว์และแมลงกัด การได้รับสารเคมีอันตราย ความปลอดภัยจากการใช้ ผลิตภัณฑ์รอบตัวเด็ก การบริโภคอาหารและน้�ำด่ืม ความปลอดภัยจากสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ จากอากาศ นำ้� ดิน จากกองขยะ ภัยพบิ ัติต่าง ๆ จากภยั ธรรมชาติ เป็นตน้ 1.2 การบริหารจัดการด้านสภาพแวดล้อมเพ่ือความปลอดภัยอย่างเป็นระบบ สรุปขั้นตอนส�ำคัญ ได้ดังนี้ 1) การกำ� หนดนโยบายด้านสภาพแวดล้อม มีการก�ำหนดนโยบายที่เป็นลายลักษณ์อักษร มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้รับผิดชอบ ทกุ ระดบั ได้รับรู้และปฏิบัติร่วมกันในการจัดสภาพแวดล้อมเพื่อความปลอดภัย มีแผนการจัดสภาพแวดล้อมและความปลอดภัยท่ีครอบคลุมทั้งโครงสร้างอาคาร บรเิ วณที่ตงั้ ภายในอาคาร ภายนอกอาคาร วสั ดอุ ปุ กรณ์ รวมท้ังปัจจัยอื่นทีเ่ กี่ยวขอ้ ง กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
14 >>> 2) การส�ำรวจเพอ่ื ประเมนิ ความเส่ยี งในสถานพฒั นาเด็กปฐมวัย ส�ำรวจข้อมูลความเส่ียงในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย โดยใช้แบบบันทึกการส�ำรวจ (Safety Round Record) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล โดยน�ำข้อมูลมาจัดล�ำดับความส�ำคัญ ก�ำหนด รปู แบบการดำ� เนนิ งาน กำ� หนดงบประมาณ กำ� หนดระยะเวลา บคุ ลากรตลอดจนองคก์ รทเี่ กยี่ วขอ้ ง เพื่อร่วมแก้ไขปญั หาได้อย่างเหมาะสม 3) การวางแผนการจดั การเพอื่ ลดและควบคมุ ความเสย่ี ง โดยนำ� ผลจากการประเมนิ ความเสยี่ ง ไปออกแบบและปรับปรุงสภาพแวดลอ้ ม 4) มีการปฏิบตั ิตามแผนอย่างเปน็ ระบบและตอ่ เนือ่ ง 5) มกี ารตดิ ตามผลการดำ� เนนิ งาน เชน่ การตดิ ตามผลวา่ การดำ� เนนิ งานนน้ั เหมาะสมหรอื ไม่ สามารถแก้ไขปัญหาได้มากน้อยเพียงใด เพ่ือจะได้ปรับปรุงในส่วนที่ไม่เหมาะสมให้ดีย่ิงข้ึน การดำ� เนนิ งานจะได้สัมฤทธิ์ผลตรงตามวตั ถุประสงค์ 6) การประเมนิ ผล โดยการสำ� รวจซ้�ำ ใช้แบบสำ� รวจเดิม เพอ่ื เปรียบเทียบกอ่ นและหลงั การ ด�ำเนนิ การ คู่มือ การจัดการอนามัยส่ิงแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพื่อเด็กไทยสุขภาพดี
<<<<< 15 บทที่ 2 การจดั การ อาคารสถานท่ี - โครงสรา้ งอาคาร กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
16 >>> บทที่ 2 การจัดการอาคารสถานท่ี - โครงสร้างอาคาร 2.1 บริเวณ/สถานท่ีต้งั 1) บรเิ วณทต่ี ้ังอาคารต้องเป็นพื้นท่เี รียบ ไม่มนี ้�ำขงั ไม่มีหลมุ ควรตั้งอยูห่ า่ งแหลง่ อบายมุข และไม่อย่ใู นพ้ืนทเี่ สยี่ งอันตราย เชน่ บรเิ วณขนถา่ ยแกส๊ นำ้� มนั สารเคมหี รอื สารพษิ แหลง่ ก�ำเนดิ มลภาวะทางอากาศ แสงและเสยี งทม่ี ากเกินควร 2) ไม่ควรอยูใ่ กลถ้ นนหรอื ใกลท้ างรถไฟ โดยเฉพาะท่มี กี ารจราจรคับค่ัง หากมคี วามจ�ำเปน็ ตอ้ งสรา้ งอาคารใหห้ า่ งจากแนวถนนไม่น้อยกวา่ 20 เมตร1 และมรี วั้ เพอื่ ปอ้ งกนั อนั ตราย 3) พื้นที่ก่อสร้างควรเป็นพ้ืนที่สามารถรับน�้ำหนักอาคารได้อย่างปลอดภัย และเป็นพื้นที่ ทนี่ ้ำ� ทว่ มไมถ่ ึง 1 กระทรวงมหาดไทย กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 55 (พ.ศ. 2543) ข้อ 1 คู่มือ การจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพ่ือเด็กไทยสุขภาพดี
<<<<< 17 2.2 โครงสรา้ งและตัวอาคาร 1) ตัวอาคารม่ันคง และปลอดภัย ท�ำด้วยวัสดุแข็งแรงทนทานอยู่ในสภาพดี เช่น อาคาร คอนกรตี เสริมเหลก็ อาคารไมเ้ นอื้ แขง็ 2 ถา้ พ้ืนอาคารอยูใ่ นระดบั ดิน ควรลาดพื้นดว้ ยคอนกรีตหรอื ซเี มนตส์ งู จากดนิ ไมน่ อ้ ยกวา่ 10 เซนตเิ มตร ถา้ เปน็ พนื้ ไม้ ควรสงู จากดนิ ไมน่ อ้ ยกวา่ 90 เซนตเิ มตร 2) นำ้� หนกั บรรทกุ บนอาคาร นอกเหนอื จากนำ�้ หนกั ของตวั อาคารหรอื สว่ นเครอื่ งจกั รอปุ กรณ์ ให้ค�ำนวณมวลน้�ำหนักโดยประมาณเฉลี่ยรับน�้ำหนักบรรทุกจรได้ ไม่น้อยกว่า 150 กิโลกรัมต่อ ตารางเมตร3 3) ประตรู ้วั ท�ำดว้ ยวสั ดุแข็งแรง มคี วามมั่นคง ปลอดภยั ควรมีประตูรั้วท่เี ปิดปดิ ได้ มคี วาม กวา้ งไมน่ อ้ ยกว่า 2 เมตร มีจดุ ยึดรองรบั และจุดล็อกที่แน่นหนากันล้ม ปลายรวั้ ดา้ นบนตอ้ งไมเ่ ปน็ ปลายแหลมคม 4) หลังคาควรเป็นหลังคากระเบื้อง เน่ืองจากมีความแข็งแรง ทนแดด ทนฝนและกัน ความรอ้ นได้ดี 5) ตวั อาคารต้องมีทางเขา้ -ออกอาคารอยา่ งน้อย 2 ทาง ขนาดของประตไู ดม้ าตรฐาน โดยมี ความกวา้ งและความสงู ขนาดไม่น้อยกวา่ 0.80 x 1.90 เมตร และต้องท�ำบานเปดิ ชนดิ ผลักออกสู่ ภายนอก สามารถเคล่ือนยา้ ยเดก็ ออกจากอาคารได้สะดวก4 และมีประตฉู ุกเฉนิ ขนาดไม่นอ้ ยกว่า 0.80x1.90 เมตร ไมม่ สี ง่ิ กดี ขวางและธรณปี ระตู 6) จำ� นวนช้ันของอาคารควรเปน็ อาคารชน้ั เดยี ว หากเป็นอาคาร 2 ชนั้ ขึ้นไป ควรจดั ให้ดแู ล เด็กอยู่ได้ไม่เกินช้ันที่สอง ความสูงของห้องจากระดับพ้ืนถึงเพดาน ต้องมีความสูงไม่น้อยกว่า 2.60 เมตร5 7) บันได ไมล่ าดหรอื ชันเกินไป ควรมคี วามกวา้ งแตล่ ะช่วงไมน่ ้อยกวา่ 1 เมตร ลกู ตง้ั ของ บนั ไดสงู ไมเ่ กิน 0.18 เมตร ลูกนอนกว้างไมน่ ้อยกวา่ 0.25 เมตร6 บนั ไดทกุ ขนั้ ตอ้ งมลี กู กรงและ 2 กระทรวงมหาดไทย กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 6 พ.ศ. (2527) ข้อ 1 3 กระทรวงมหาดไทย กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 6 พ.ศ. (2527) ขอ้ 15 ตารางที่ 3 4 กระทรวงมหาดไทย กฎกระทรวง ฉบับท่ี 55 พ.ศ. (2543) ขอ้ 31 5 กระทรวงมหาดไทย กฎกระทรวง ฉบับที่ 55 พ.ศ. (2543) ขอ้ 31 6 กระทรวงมหาดไทย กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 55 พ.ศ. (2543) ขอ้ 23 กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
18 >>> ราวบันไดท่ีมีขนาดเหมาะสมกับมือเด็ก ความสูงของราวบันไดอยู่ระหว่าง 0.55-0.65 เมตรและ ระยะห่างของลกู กรงประมาณ 0.08 เมตร ชานพักของบันไดแตล่ ะชว่ งตอ้ งไม่น้อยกว่าความกว้าง ของบันได7 ท้ังนี้ ให้ค�ำนึงถึงความปลอดภัยเด็กเป็นส�ำคัญ เช่น ปิดก้ันช่องบันไดและช่องลูกกรง บันได เป็นต้น 8) หน้าตา่ ง มคี วามแข็งแรง อย่ใู นสภาพใช้งานได้ดี ปลอดภัย ไมช่ �ำรดุ มีขนาดและจำ� นวน เหมาะสมกับขนาดพื้นท่หี ้อง หนา้ ตา่ งตอ้ งไม่เปน็ กระจกบานเกลด็ โดยความสูงของขอบหนา้ ตา่ ง สงู จากพนื้ ไมน่ อ้ ยกวา่ 0.90 เมตร ความกวา้ งและสงู ของหนา้ ตา่ งสงู ไมน่ อ้ ยกวา่ 1 เมตร รวมทง้ั ไมค่ วร ต้ังสิ่งของใด ๆ ในลักษณะกดี ขวางชอ่ งทางลมและแสงสวา่ ง 9) ผนงั ห้อง-พน้ื ห้อง (1) ผนังห้องควรท�ำความสะอาดได้ง่าย ควรเป็นสีขาวหรือสีอ่อน ๆ ช่วยท�ำให้เกิด การสะท้อนแสงได้ดี และท�ำให้ห้องสว่างขึ้น โดยสีที่ใช้ทาผนังห้องท้ังภายในและภายนอกอาคาร ตอ้ งไมเ่ ปน็ พิษเป็นไปตามขอ้ ก�ำหนดมาตรฐานของสปี ระเภทนัน้ ๆ8 (2) สภาพพน้ื หอ้ งทกุ หอ้ งตอ้ งไมล่ น่ื ไมช่ นื้ แฉะ ทำ� ความสะอาดงา่ ยและมสี ภาพทแี่ หง้ อยู่ เสมอ โดยใช้วัสดุทีม่ คี วามปลอดภยั 7 ข้อก�ำหนดความปลอดภัยของสนามเด็กเล่น ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก พ.ศ. 2545 8 มาตรฐานสที าอาคารภายนอก มอก.1123-2539 สภี ายนอกอาคาร มอก.272-2539 สีเคลือบ มอก.3527-2535 คู่มือ การจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพื่อเด็กไทยสุขภาพดี
<<<<< 19 บทที่ 3 การจดั การสภาพแวดล้อม บริเวณโดยรอบและอาคาร กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
20 >>> บทท่ี 3 การจัดการสภาพแวดลอ้ มบริเวณโดยรอบและอาคาร 3.1 สภาพแวดลอ้ มบรเิ วณโดยรอบอาคาร 1) บรเิ วณโดยรอบสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั มสี ภาพแวดลอ้ มทป่ี ลอดภยั สะอาด จดั วางสง่ิ ของ เป็นระเบยี บมกี ารแบง่ ขอบเขตของพืน้ ท่ี เชน่ รวั้ แนวตน้ ไม้ อยา่ งชดั เจน ไมค่ วรปลูกต้นไมท้ ี่ข้นึ รก มหี นามแหลมคม มียางและตน้ ไม้มีพิษ 2) หากมีการวางท่อระบายน้�ำ ต้องมีการดูแลให้ถูกสุขลักษณะ จะต้องเป็นรางระบายน้�ำ แบบปิด สภาพฝาปดิ รางระบายน้�ำไมช่ ำ� รดุ 3) บรเิ วณสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั ตอ้ งจดั สภาพแวดลอ้ มใหม้ คี วามสนุ ทรยี ภาพและกลมกลนื กับธรรมชาติเหมาะสมกับเดก็ ปฐมวยั 4) ระบบเกบ็ กกั บำ� บดั สงิ่ ปฏกิ ลู ของสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั ควรจดั ใหถ้ กู หลกั สขุ าภบิ าล และ มรี ะบบดกั จบั ไขมันจากอาคารลงสู่แหลง่ รองรบั น้�ำท้ิง9 9 กระทรวงมหาดไทย กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 51 (พ.ศ.2541) ข้อ 2 คู่มือ การจัดการอนามัยส่ิงแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพ่ือเด็กไทยสุขภาพดี
<<<<< 21 5) ติดตั้งอุปกรณ์เพ่ือป้องกันแมลงและสัตว์พาหะน�ำโรค และมีมาตรการในการดูแลรักษา ความสะอาดและปอ้ งกนั ด้านสขุ อนามัย 6) สถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั บางแหง่ มแี ปลงสาธติ เพอ่ื ปลกู ผักไวส้ �ำหรบั การสอนเด็ก และน�ำ ผลผลิตมาใช้ส�ำหรบั การบรโิ ภค ซ่งึ พ้ืนทค่ี วรเป็นพืน้ ทแี่ ยกเป็นสดั สว่ น และมกี ารดแู ลไม่ให้มีหญ้า ขึน้ สงู หรอื เดินเขา้ ยากลำ� บากซ่ึงอาจกอ่ ให้เกิดอนั ตรายตอ่ เด็ก 3.2 สภาพแวดล้อมภายในอาคาร 1) การระบายอากาศ (1) การระบายอากาศโดยวิธีธรรมชาติ ให้ใช้กับห้องในอาคารท่ีมีผนังด้านนอกอาคาร อย่างน้อยหน่ึงด้านให้มีช่องเปิดสู่ภายนอกอาคารได้ เช่น ประตู หน้าต่าง ซึ่งต้องเปิดไว้ระหว่าง ใชส้ อยหอ้ งนนั้ พน้ื ทข่ี องชอ่ งทเี่ ปดิ ตอ้ งเปดิ ไดไ้ มน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 10 ของพน้ื ทหี่ อ้ ง10 ไมม่ กี ลนิ่ เหมน็ อับช้ืน (2) การระบายอากาศโดยวธิ กี ล ใหใ้ ชก้ บั หอ้ งในอาคารลกั ษณะใดกไ็ ดโ้ ดยจดั ใหม้ อี ปุ กรณ์ เคลอื่ นทข่ี องอากาศ ซงึ่ ตอ้ งทำ� งานตลอดเวลาระหวา่ งทใ่ี ชส้ อยอาคารนน้ั เพอื่ ใหเ้ กดิ การนำ� อากาศ ภายนอกเข้ามาตามอัตราการระบายอากาศ ไมน่ ้อยกวา่ 7 เท่า ของปริมาตรของห้องใน 1 ชั่วโมง11 หากเป็นเคร่ืองปรับอากาศให้ควบคุมอุณหภูมิห้องอยู่ประมาณ 25-29 องศาเซลเซียสและมี เคร่ืองดูดอากาศถ่ายเท 10 กระทรวงมหาดไทย กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 50 (พ.ศ.2540) ข้อ 9 (1) 11 กระทรวงมหาดไทย กฎกระทรวงฉบบั ที่ 50 (พ.ศ.2540) ขอ้ 9 (2) กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
22 >>> 2) แสงสว่าง ควรเป็นแสงสว่างจากธรรมชาติสม�่ำเสมอท่ัวห้อง เอื้อต่อการจัดกิจกรรมเพ่ือ พฒั นาการเดก็ หรอื แสงทไี่ ดจ้ ากหลอดไฟฟา้ ตอ้ งใหส้ อ่ งสวา่ งบนพนื้ ทที่ กุ จดุ ในหอ้ งเพยี งพอ สามารถ อ่านหนังสือไดส้ บายตา ระดบั ความเขม้ ข้นของการส่องสวา่ งทย่ี อมรับได้ในแตล่ ะหอ้ ง คือ ช่องทาง เดนิ ภายในอาคาร 100 ลักซ์ หอ้ งทำ� กจิ กรรม หอ้ งเรยี น 200-300 ลักซ์ ห้องนอน ห้องน้�ำ ห้องส้วม 100 ลกั ซ์12 ไมค่ วรใหเ้ ดก็ อยูใ่ นหอ้ งทีใ่ ช้แสงสว่างจากไฟฟ้าตอ่ เน่อื งนานกว่า 2-3 ชัว่ โมง เพราะจะ ทำ� ใหเ้ กิดภาวะเครียดและมีผลถึงฮอรโ์ มนการเติบโตของเด็ก 3) ระดับเสียง ภายในอาคารระดบั เสียงขณะทำ� กิจกรรมท่วั ไปควรดงั ไม่เกิน 80 เดซเิ บล13 และขณะเด็กหลบั ระดับเสียงไม่เกนิ 40 เดซิเบล 12 กระทรวงมหาดไทย กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 39 (พ.ศ.2537) ตารางที่ 3 13 ประกาศกระทรวงมหาดไทย เร่อื งความปลอดภัยในการทำ� งานเกี่ยวกับภาวะส่ิงแวดล้อม ฉบับท่ี 103 ข้อ 13 คู่มือ การจัดการอนามัยส่ิงแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพื่อเด็กไทยสุขภาพดี
<<<<< 23 บทท่ี 4 การจดั การพื้นท่ใี ชส้ อยในอาคาร กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
24 >>> บทท่ี 4 การจัดการพื้นท่ีใช้สอยในอาคาร พื้นที่ใช้สอยต้องสะอาด ค�ำนึงถึงความปลอดภัย และเพียงพอเหมาะสมกับการจัด ประสบการณก์ ารเรยี นรแู้ ละจดั กจิ กรรมอน่ื ๆ ของเดก็ เชน่ บรเิ วณพนื้ ทสี่ ำ� หรบั การเลน่ การเรยี นรู้ การรับประทานอาหาร และการนอน โดยแยกเป็นสัดส่วนจากห้องประกอบอาหาร ห้องส้วม และห้องพักเด็กป่วย โดยพื้นที่ในการจัดกิจกรรมและกิจวัตรประจ�ำวันของเด็กเฉล่ียไม่น้อยกว่า 0.5-2.0 ตารางเมตรต่อเด็ก 1 คน หากไม่สามารถแยกเป็นแต่ละห้องได้อาจจัดรวมเป็น หอ้ งอเนกประสงคโ์ ดยใชพ้ นื้ ทเี่ ดยี วกนั แตต่ า่ งเวลา และปรบั เปลย่ี นวสั ดอุ ปุ กรณต์ ามความเหมาะสม และขอ้ จำ� กดั ของพน้ื ท่ี โดยมแี นวทาง ดงั นี้ 4.1 บรเิ วณพ้ืนทส่ี �ำหรับการนอน 1) ต้องค�ำนึงถึงความสะอาดเป็นหลัก อากาศถา่ ยเทสะดวก อุปกรณเ์ ครอื่ งใช้เหมาะสมและ เพียงพอกับจำ� นวนเด็ก มพี ื้นท่เี ฉลี่ยประมาณ 2 ตารางเมตรต่อเดก็ 1 คน คู่มือ การจัดการอนามัยส่ิงแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพื่อเด็กไทยสุขภาพดี
<<<<< 25 2) อปุ กรณ์เครอื่ งนอนตา่ ง ๆ มีความสะอาด โดยนำ� ผ้าปูท่นี อน ปลอกหมอน ไปปัดฝนุ่ ต้อง ซกั ตากแดดอยา่ งนอ้ ยสปั ดาหล์ ะ 1 ครงั้ 3) เครื่องนอน ผ้าปูท่ีนอน หมอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม มีสภาพดี และมเี ฉพาะ ส�ำหรับเด็กแต่ละคน โดยเขียนช่ือและ สัญลักษณ์ไว้ ไม่ใช้ร่วมกันเพ่ือป้องกันการ แพรก่ ระจายของเชือ้ โรค 4) บริเวณพื้น เพดานต้องสะอาด ไม่มีรอยแตกหรือช�ำรุด สีของห้องควรเลือกสีที่ไม่มี สารเคมีตกค้างและควรเป็นสอี ่อนสบายตา 5) มีมาตรการปอ้ งกันสัตว์และแมลงพาหะนำ� โรคในห้องนอนเด็กปฐมวยั เชน่ ติดตัง้ มงุ้ ลวด ไมร่ บั ประทานอาหารในหอ้ งนอน เปน็ ต้น 4.2 บรเิ วณพนื้ ทีส่ �ำหรบั การเลน่ และพฒั นาเด็ก สภาพพื้นที่ส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ เช่น ห้องนิทาน ห้องสมุด ต้องไม่ล่ืน และไม่ชื้น ควรเป็นพื้นไม้หรือวัสดุท่ีมีความปลอดภัยจากอุบัติเหตุ ท�ำความสะอาดง่าย และอยู่ในสภาพที่ สะอาดอยู่เสมอ จดั วางสง่ิ ของ เคร่อื งใช้ เชน่ ตู้ โตะ๊ เปน็ ระเบียบ และมกี ารยึดตดิ กับผนงั หรือพนื้ อยา่ งม่นั คง ในกรณีทเี่ ครอ่ื งใช้นัน้ ล้มไดง้ า่ ย เหลีย่ ม มมุ ที่แหลมคมของเครอื่ งใชต้ ่าง ๆ ต้องหมุ้ ดว้ ย วัสดทุ ีน่ มุ่ เพ่อื ป้องกนั การกระแทกของเด็ก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
26 >>> 4.3 บริเวณพน้ื ทใ่ี หน้ มบุตร สถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัยทร่ี ับดูแลเด็กอายุ น้อยกวา่ 2 ปี ควรจัดใหม้ ีสถานที่ ดังน้ี 1) ภายในห้องมีพ้ืนท่ีเพียงพอและเป็น สดั สว่ นใหม้ ารดาและเดก็ ทำ� กจิ กรรมรว่ มกนั ได้ มีเก้าอ้ีท่ีสะอาด แข็งแรงให้มารดาน่ังได้สะดวก รวมถงึ อปุ กรณเ์ ครอ่ื งใชต้ า่ ง ๆ สำ� หรบั บบี และเกบ็ นำ�้ นม ไดแ้ ก่ ตูเ้ ย็นส�ำหรับแช่น�ำ้ นม ถงุ หรอื ขวดเกบ็ น�ำ้ นม เครื่องปัม๊ น้�ำนม เปน็ ตน้ 2) มีการระบายอากาศทดี่ ี แสงสว่างเพียงพอ มองเหน็ ส่ิงตา่ ง ๆ ชัดเจน 3) มีอ่างลา้ งมือพรอ้ มสบู่หรอื เจลแอลกอฮอล์ และผา้ สะอาดเชด็ มือก่อนใหน้ มบตุ ร 4.4 หอ้ งอเนกประสงค์ ห้องอเนกประสงค์ส�ำหรบั ใช้จดั กิจกรรมพัฒนาเด็ก กรณีทไี่ มม่ หี ้องท่ีเปน็ สดั ส่วน ตอ้ งคำ� นึง ถึงความสะอาด และการจัดพ้ืนที่ใช้สอยให้เหมาะสมกับลักษณะของกิจกรรม หากเป็นอาคารชั้น เดยี วตอ้ งมีฝา้ ใตห้ ลังคา หากเปน็ อาคารท่มี มี ากกว่า 1 ชนั้ ควรจัดให้ช้นั บนสดุ มฝี ้าใต้หลังคา โดย มคี วามสงู จากพ้ืนถึงเพดานไม่นอ้ ยกวา่ 2 เมตร แต่กรณีที่มีความสูงเกินกว่า 2 เมตร อาจไม่มฝี า้ ใต้ เพดานก็ได้ 4.5 พ้นื ท่ีแปรงฟนั /ลา้ งมอื 1) สถานทแ่ี ปรงฟนั /อา่ งล้างมือ ตอ้ งอย่ใู นระดบั ที่ พอเหมาะกับตวั เด็ก สะอาด ไม่มีคราบสกปรก 2) มีน้�ำใช้ปริมาณเพียงพอ น�้ำต้องสะอาดไม่มีกลิ่นและ ตะกอน 3) จดั ใหม้ จี ำ� นวนกอ๊ กนำ�้ สำ� หรบั ลา้ งมอื 1 กอ๊ ก ตอ่ เดก็ จำ� นวน 10 คน และจัดพนื้ ทเ่ี กบ็ อปุ กรณ์ เช่น แกว้ น�ำ้ แปรงสฟี นั อยา่ งเปน็ ระเบียบ เพ่อื ใหเ้ ดก็ ใชง้ านอปุ กรณไ์ ดอ้ ยา่ งสะดวก ซงึ่ จะตอ้ งแยกอปุ กรณเ์ หลา่ นน้ั เปน็ รายบคุ คล ไมค่ วรใชง้ านอปุ กรณร์ ว่ มกนั คู่มือ การจัดการอนามัยส่ิงแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพ่ือเด็กไทยสุขภาพดี
<<<<< 27 4) มกี ารทำ� ความสะอาดอย่างสมำ�่ เสมอ จดั ให้มีสบ่สู ำ� หรบั ลา้ งมือใหเ้ พยี งพอต่อการใช้งาน 5) มีทางระบายน้ำ� ไม่เฉอะแฉะ ไม่มีน�ำ้ ขังเนา่ เสยี เป็นแหลง่ ของเช้ือโรค 6) บรเิ วณอา่ งแปรงฟนั ตอ้ งมกี ระจกเพอื่ ฝกึ ใหเ้ ดก็ แปรงฟนั อาจมกี ารสอนการแปรงฟนั และ การลา้ งมือเพ่ือสง่ เสรมิ ใหเ้ ด็กสามารถปฏิบตั ิได้อย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม 7) กรณีท่ยี ังไม่มสี ถานท่แี ปรงฟันทที่ �ำเปน็ โครงสร้างถาวรและมีกอ๊ กน�ำ้ ควรมภี าชนะตกั น้ำ� จากถงั ใสน่ ำ้� โดยเฉพาะ และใหค้ รผู ดู้ แู ลตกั นำ�้ ใสแ่ กว้ เดก็ ไมค่ วรใหเ้ ดก็ เอาแกว้ ลงไปตกั ในถงั กนั เอง เพราะอาจมีการปนเปอื้ นของเช้อื โรค 4.6 หอ้ งน�้ำ-ห้องส้วม 1) ห้องส้วมส�ำหรับเด็ก แยกเด็กชายและเด็กหญิงให้เป็นสัดส่วน หากมีประตูจะต้องไม่ ใสก่ ลอน หรอื กญุ แจ และมสี ว่ นสงู ทส่ี ามารถมองเหน็ เดก็ ไดจ้ ากภายนอก หากหอ้ งสว้ มอยภู่ ายนอก อาคาร จะต้องไม่ตั้งอยู่ในท่ีลับตาคน กรณีที่ไม่สามารถทำ� ห้องส้วมส�ำหรับเด็กเป็นการเฉพาะได้ อาจดดั แปลงห้องส้วมทีม่ อี ยแู่ ล้วใหเ้ หมาะสมและปลอดภัยสำ� หรบั เด็ก 2) ห้องน้�ำ ห้องสว้ ม สะอาด พ้ืนไม่มีน�้ำขัง ไม่ลื่น มีแสงสว่างเพยี งพอ อากาศถา่ ยเทสะดวก อยใู่ นสภาพดี ไม่ชำ� รุด 3) มสี ถานทีล่ ้างมืออยใู่ นสภาพดี ไมช่ ำ� รดุ สะอาด ขนาดพอเหมาะ กบั ตัวเดก็ และมสี บ่หู รือนำ�้ ยาล้างมอื สำ� หรบั เดก็ 4) โถส้วมของเด็กมีขนาดพอเหมาะกับตัวเด็กหรือสามารถดัดแปลง ให้เหมาะสมกับการใช้งานของเด็ก โดยมีจ�ำนวนโถส้วม โดยเฉลีย่ อย่างน้อย 1 โถ ต่อเด็ก 10 คน และมี อุปกรณช์ ่วยเสริมการใชส้ ้วมทป่ี ลอดภยั เช่น ราวจบั 5) มีอุปกรณ์ท�ำความสะอาดพร้อมใช้งาน เกบ็ ไวใ้ นทเ่ี หมาะสมและมกี ารทำ� ความสะอาดอยา่ ง นอ้ ยวันละ 2 ครั้ง มีระบบดแู ลความสะอาด รวมท้ังมี เจา้ หน้าทีร่ ับผิดชอบโดยตรง กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
28 >>> 4.7 พน้ื ท่แี ยกเด็กปว่ ย (ห้องพยาบาล) เปน็ หอ้ งท่ีมีความจ�ำเปน็ จะต้องจัดให้มีข้นึ ในสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวัย หากไม่มหี ้องสามารถ จดั พน้ื ทโี่ ดยกน้ั มมุ หอ้ งใดหอ้ งหนงึ่ มาดดั แปลงเปน็ มมุ พยาบาล เพอื่ ใชส้ ำ� หรบั ใหเ้ ดก็ ทม่ี อี าการปว่ ย พักผ่อน และป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคไปสู่เด็กคนอ่ืน ซึ่งห้องพยาบาลหรือมุมพยาบาลที่ดี นน้ั ควรมีลกั ษณะดังน้ี 1) ห้องพยาบาลควรอยูช่ ั้นล่างของอาคารเรียน จดั เปน็ สดั ส่วน และไม่อย่ใู นทีล่ ับตาคนเพือ่ สะดวกในการเคลอ่ื นย้ายผูป้ ว่ ยและควรอยใู่ กลก้ ับบริเวณอา่ งล้างมอื และห้องสว้ ม 2) พ้ืนท่ีขนาดของห้องให้เหมาะสมกับจ�ำนวนเด็กปฐมวัย สะอาด มีแสงสว่างเพียงพอ อยู่หา่ งจากสงิ่ รบกวนและเหตรุ ำ� คาญ พร้อมจัดวางอปุ กรณ์ตา่ งๆ ได้ถูกต้อง 3) มีอากาศถา่ ยเทได้สะดวก หรอื หากไมส่ ามารถจัดพน้ื ที่ส�ำหรบั หอ้ งปฐมพยาบาลไดค้ วรมี การจดั ชุดปฐมพยาบาล (First Aid Kit) พรอ้ มส�ำหรับการปฐมพยาบาลในเบอ้ื งตน้ 4) มยี าเวชภณั ฑแ์ ละอปุ กรณป์ ฐมพยาบาลทจ่ี ำ� เปน็ ตดิ ตง้ั ตยู้ าใหพ้ น้ มอื เดก็ จดั เกบ็ อยา่ งเปน็ ระเบียบมปี ้ายบอกช่อื ยาชดั เจน และยาไมห่ มดอายุ หากยาหมดอายตุ อ้ งเปลีย่ นใหม่ทนั ที 5) มีห้องส้วมอยู่ภายในหรืออยู่ใกล้เพ่ืออ�ำนวยความสะดวกให้แก่เด็กปฐมวัย หรือบุคลากร ทีเ่ จ็บป่วย คู่มือ การจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพื่อเด็กไทยสุขภาพดี
<<<<< 29 6) จดั ใหม้ นี ำ�้ ดม่ื ในหอ้ งพยาบาลเพยี งพอและไมใ่ ชแ้ กว้ นำ�้ รว่ มกัน 7) ท�ำความสะอาดห้องพยาบาลและตู้ยาอย่างสม่�ำเสมอ ควรเปลี่ยนผ้าปูท่ีนอนและปลอกหมอนทุกครั้งหลังการใช้ห้อง พยาบาล 8) มีสมุดทะเบียนรายการยา/เวชภัณฑ์ส�ำหรับควบคุม ก�ำกับการเบิกจ่ายยาและเวชภัณฑ์ และมีสมุดบันทึกการให้ บริการประจ�ำหอ้ งพยาบาลสำ� หรับบันทึกการให้บรกิ ารทุกคร้งั 9) มบี คุ ลากรทมี่ คี วามรใู้ หก้ ารดแู ลและปฐมพยาบาล รวมถงึ การใชย้ าเบอ้ื งตน้ และควรทราบ ระยะทางไปยงั โรงพยาบาลชุมชน รวมทั้งมรี ะบบการส่งต่อที่มปี ระสิทธิภาพ 4.8 บริเวณพืน้ ทร่ี ับประทานอาหาร 1) สถานทเ่ี ตรยี ม ปรงุ อาหารตอ้ งสะอาด เปน็ ระเบยี บ พนื้ ทำ� ดว้ ยวสั ดุ แขง็ เรยี บ ไมด่ ดู ซมึ นำ้� ทำ� ความสะอาดงา่ ย ผนงั เพดาน ควรใชส้ อี อ่ น สภาพดี สะอาด บรเิ วณโดยรอบเปน็ ระเบยี บ สะอาด ไม่มนี �ำ้ เสีย ขยะ และไมม่ ีสัตวน์ �ำโรค กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
30 >>> 2) โต๊ะ เกา้ อีส้ �ำหรับรับประทานอาหาร อย่ใู นสภาพดี ม่ันคง แข็งแรง พน้ื ผิวเรยี บ จัดเปน็ ระเบยี บไมม่ หี ลมุ หรอื เปน็ รอ่ ง ไมห่ ลดุ ลอกหรอื ถลอกจนกอ่ ใหเ้ กดิ ความสกปรก ไมม่ คี ราบเศษอาหาร หรอื คราบสกปรกที่ทง้ิ ไว้นานจนท�ำความสะอาดได้ยาก 3) บรเิ วณทรี่ บั ประทานอาหารควรโปรง่ มกี ารระบายอากาศทด่ี ี ไมร่ อ้ นอบอา้ ว ไมม่ ฝี นุ่ ไมม่ ี กลิน่ /ควัน จากการท�ำอาหารรบกวน ควรมีการป้องกันสตั วต์ า่ ง ๆ เชน่ สนุ ขั แมว ฯลฯ ไมใ่ ห้มา อาศัยหรือหาอาหารในโรงอาหาร และไม่ควรเล้ียงสัตว์ทุกชนิดในบริเวณโรงอาหาร ท้ังน้ีต้องเก็บ เศษอาหารให้มิดชดิ ไม่ใหเ้ ปน็ แหล่งอาหารของสตั ว์ต่าง ๆ คู่มือ การจัดการอนามัยส่ิงแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพ่ือเด็กไทยสุขภาพดี
<<<<< 31 บทท่ี 5 การจัดการสนามเดก็ เล่น/ เครอ่ื งเลน่ สนาม และของเลน่ ทป่ี ลอดภยั กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
32 >>> บทที่ 5 การจัดการสนามเดก็ เลน่ /เครอื่ งเล่นสนาม และของเล่นทปี่ ลอดภัย การเลน่ นอกจากเปน็ กจิ กรรมทที่ ำ� ใหเ้ กดิ ความสนกุ สนานแลว้ ยงั ทำ� ใหเ้ ดก็ ไดฝ้ กึ การประสานงาน ระหวา่ งกลา้ มเนอื้ และประสาทการรบั รู้ เปน็ การออกกำ� ลงั กายทเี่ พลดิ เพลนิ สง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ อยากรู้ อยากเหน็ รจู้ กั คดิ คน้ การแกป้ ญั หา รวมไปถงึ พฒั นาการดา้ นภาษา ความคดิ สรา้ งสวรรค์ สรา้ งความ เชอื่ มนั่ ในตนเอง เสรมิ สรา้ งความสมั พนั ธก์ บั สง่ิ แวดลอ้ มรอบตวั รวมทงั้ ประสบการณใ์ หม่ ๆ ทท่ี า้ ทาย การเล่นเป็นสิ่งส�ำคัญมากต่อพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจของเด็ก มีความแตกต่างกัน ตามอายุ ตัวอยา่ ง เชน่ เด็กเล็ก 1-3 ปี มีการเปลี่ยนแปลงร่างกายอย่างมาก ต้องการพัฒนากล้ามเน้ือมัดใหญ่ การเล่นท่ีเหมาะสม ได้แก่ เดิน วง่ิ กระโดด ปีนป่าย การเลียนแบบเสียงสัตว์ เสียงดนตรี ในวยั น้ี ก�ำลังแขนยงั ไมด่ พี อ จึงไม่ควรเล่นแบบห้อยโหน คู่มือ การจัดการอนามัยส่ิงแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพื่อเด็กไทยสุขภาพดี
<<<<< 33 เด็กวัย 4-5 ปี มีความเติบโตของร่างกาย กล้ามเน้ือเพ่ิมพละก�ำลังมากข้ึน มีความ คล่องแคล่วในการใช้อวัยวะต่าง ๆ มีความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการได้ดีและชอบเลียนแบบ การเคล่ือนไหว ได้แก่ กระโดด ว่ิง เขย่ง ควบม้า คลานหกสูง รวมท้ังจัดการเล่นเลียนแบบสัตว์ สิง่ ของ ยานพาหนะ การเล่นเหล่าน้ีเหมาะกับการเลน่ เดี่ยวและเลน่ เปน็ กลุ่ม จึงควรจดั กจิ กรรมให้ เด็กได้เลน่ อสิ ระกลางแจง้ และเครื่องเล่นสนาม 5.1 สนามเด็กเลน่ /เคร่อื งเลน่ ปลอดภยั สนามเด็กเล่นกับเคร่ืองเล่นมีประโยชน์ทั้งการพัฒนาก�ำลังกล้ามเน้ือมัดใหญ่ มัดเล็ก การประสานงาน การคดิ ตดั สนิ ใจ และยงั ชว่ ยพฒั นาการทางดา้ นอารมณ์ ในขณะเดยี วกนั การเลน่ สามารถก่อให้เกิดการบาดเจ็บที่รุนแรงได้ ดังนั้น เคร่ืองเล่นและสนามเด็กเล่นจึงต้องมีมาตรฐาน ความปลอดภัย การออกแบบท่ีดี มีการติดตั้งท่ีถูกวิธี มีการตรวจสอบเป็นระยะ และมีผู้ดูแลเด็ก ขณะเล่น 1) ความสูงของอุปกรณเ์ ครอ่ื งเล่นสนาม ระยะความสูงจากพื้นสนามถึงพื้นยกระดับของเคร่ืองเล่นสนามส�ำหรับเด็กปฐมวัย ไม่ควร เกนิ 1.20 เมตร (รวมอุปกรณเ์ ครื่องเลน่ ชุดรวมด้วย) ในกรณีทเี่ ครอ่ื งเลน่ สนามมีพน้ื ยกระดบั ทม่ี ี ความสูงมากกว่า 50 เซนติเมตร จะต้องมีราวกันตกหรือผนังกันตกท่ีมีราวบนสูงระหว่าง 75-85 เซนตเิ มตร และราวลา่ งสงู ไมน่ อ้ ยกวา่ 55 เซนตเิ มตร โดยออกแบบใหเ้ ดก็ เลก็ ไมส่ ามารถปนี ปา่ ยได้ เพื่อปอ้ งกันการบาดเจบ็ จากการตกและก่อให้เกดิ การบาดเจบ็ ที่รนุ แรงของศีรษะและสมอง 2) ขนาดชอ่ งวา่ งของอปุ กรณเ์ ครือ่ งเลน่ สนาม (1) กำ� หนดขนาดชอ่ งตอ้ งไมอ่ ยรู่ ะหวา่ ง 9-23 เซนตเิ มตร เพอ่ื ปอ้ งกนั ศรี ษะหรอื คอ เขา้ ไป ตดิ ในอุปกรณเ์ ครอ่ื งเลน่ สนาม กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
34 >>> (2) พนื้ ทเี่ ดนิ หรอื วง่ิ จะตอ้ งมชี อ่ งวา่ งไมเ่ กนิ 3 เซนตเิ มตร เพอื่ ปอ้ งกนั เทา้ หรอื ขาเขา้ ไปตดิ (3) เพื่อป้องกันน้ิวเข้าไปติดไม่ว่าจะด้วยการแหย่หรือลอดจะต้องไม่มีช่องว่างที่มีขนาด 0.5-1.2 เซนตเิ มตร (4) อุปกรณ์ที่มกี ารเคลือ่ นไหว เช่น หมุน พดั โยก ควรมวี ัสดปุ กคลมุ อปุ กรณ์เคลอื่ นไหว อยา่ งมิดชดิ เพ่ือป้องกันอุบัติเหตุ เช่น หนบี บด กด ทบั กระแทก ชน กระชากเดก็ หรือเสื้อผ้าเดก็ (5) ชิ้นส่วนที่จับหรือโหนมีขนาดระหว่าง 19-38 มิลลิเมตร เพื่อการทรงตัวควรอยู่ใน ลักษณะที่เด็กสามารถก�ำได้รอบและมั่นคง ในกรณีราวคู่ที่จับด้วยมือทั้งสองข้างพร้อมกัน ควรมี ระยะหา่ งไมเ่ กนิ 40 เซนตเิ มตร และมรี ะดบั ความสงู ของราวจบั ระหวา่ ง 55-65 เซนตเิ มตร จากพนื้ อปุ กรณ์ (6) ตวั นอตสว่ นทเี่ ปน็ หวั ตอ้ งเป็นหัวมนหรอื ซอ่ นหัวไว้ สว่ นปลายนอตยื่นไม่เกิน 6 รอบ เกลยี วอิสระ หรอื 6 มลิ ลิเมตร และทำ� ลายเกลียวหรอื มีอุปกรณป์ ิดส่วนทย่ี นื่ หรือฝังสว่ นท่ยี นื่ 14 3) การตดิ ต้ังเครอื่ งเล่นสนาม เพื่อให้ม่ันใจในการใช้งานของเครื่องเล่นสนาม หลังจากท�ำการติดตั้งเครื่องเล่นสนามตาม คำ� แนะนำ� จากผผู้ ลติ แลว้ เครอ่ื งเลน่ สนามนน้ั ตอ้ งสามารถรบั แรงสงู สดุ ทกี่ ระทำ� ตอ่ ตำ� แหนง่ ทอี่ อกแบบ ส�ำหรับใช้งาน ตอ้ งไมเ่ กดิ การพลิกคว�ำ่ เอยี ง เลอื่ น หรอื เคลอ่ื นตัวได้ ความแข็งแรงในการยึดหรอื ฝังฐานของเคร่ืองเล่นถือเป็นหัวใจส�ำคัญในการติดต้ังท่ีมีเสถียรภาพ เพราะเครื่องเล่นสนามแต่ละ ชนดิ จะถกู ออกแบบฐานรากทมี่ ขี นาด ความลกึ ทีแ่ ตกตา่ งกนั ขน้ึ อยูก่ ับน้�ำหนกั และแรงกระท�ำใน สนามน้นั ๆ ในการตั้งประกอบจงึ ตอ้ งปฏิบัติตามค่มู ือการตดิ ตั้งจากผู้ผลิตอยา่ งเครง่ ครดั 14 ประกาศกระทรวงอตุ สาหกรรมฉบบั ท่ี 3936 พ.ศ. 2551 ออกตามความในพระราชบญั ญตั มิ าตรฐานผลติ ภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรม พ.ศ. 2511 เรอ่ื งกำ� หนดมาตรฐานผลิตภณั ฑ์อตุ สาหกรรมสลักเกลียว หมดุ เกลียว แป้นเกลียว และอุปกรณ์ คู่มือ การจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพื่อเด็กไทยสุขภาพดี
<<<<< 35 4) การระบายน้ำ� (Drainage) พ้ืนสนามท่ีใช้ตั้งอุปกรณ์เคร่ืองเล่นสนามจะต้องไม่มีน้�ำขัง มีการต่อท่อระบายน�้ำภายใต้ ผิวพ้ืนท่ีที่จะติดต้ัง เพ่ือการระบายน้�ำได้อย่างดีเม่ือเกิดฝนตก โดยการปูพื้นสนามควรมีความ ลาดเอยี งอยา่ งน้อย 1:200 (ระยะ 2 เมตร ยก 1 เซนติเมตร) 5) การตรวจสอบและบำ� รงุ รกั ษา การตรวจสอบอุปกรณ์เพื่อดูสภาพความพร้อมใช้งานของอุปกรณ์เครื่องเล่นมีความส�ำคัญ เพราะทำ� ใหท้ ราบถงึ อปุ กรณ์ ช้นิ ส่วนตา่ ง ๆ ทส่ี ึกหรอ ช�ำรุด หลุดออก สีหลุดลอก การเกิดสนมิ รวมทง้ั อปุ กรณ์เสยี รปู และพ้ืนสนามทรดุ เปน็ ต้น โดยจัดท�ำบญั ชรี ายการตรวจสอบ (Checklist) ให้มีการตรวจสอบสนามเด็กเล่นและอุปกรณ์เคร่ืองเล่นสนามทุกวัน และตรวจสอบพร้อมบันทึก เปน็ หลกั ฐานทกุ 3 เดอื น โดยเจ้าหน้าที่ในสถานที่ทท่ี ำ� การตดิ ตงั้ และมเี จ้าหนา้ ทท่ี ีม่ คี วามชำ� นาญ ทางวิศวกรรมตรวจสอบและบันทึกเปน็ หลักฐานทุก 1 ปี 6) ครูผดู้ แู ลเด็ก ตอ้ งมกี ารฝกึ อบรมผดู้ แู ลเด็กให้มคี วามรใู้ นการเล่น การใช้เคร่ืองเล่นสนาม การระวงั การบาดเจบ็ และการปฐมพยาบาล สดั สว่ นผดู้ แู ลเดก็ กบั เดก็ มคี วามสำ� คญั อยา่ งยง่ิ เพราะ สง่ ผลใหเ้ ดก็ ได้รบั การดแู ลในระหว่างเล่นได้อยา่ งทวั่ ถึงและมคี ณุ ภาพ เช่น เด็กอายุ 3-4 ปี มผี ดู้ แู ล เดก็ 1 คน ตอ่ เดก็ 10 คน และเด็กอายุ 4-5 ปี มผี ดู้ ูแลเดก็ 1 คน ตอ่ เดก็ 15 คน เปน็ ต้น กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
36 >>> 5.2 พ้ืนทเ่ี ลน่ กลางแจ้ง 1) ส ถานพัฒนาเด็กปฐมวัยต้องมีพ้ืนท่ีเล่นกลางแจ้ง เป็นพื้นท่ีโล่งและเรียบ ไม่มีเศษวัสดุ หรือสิ่งกีดขวางทีอ่ าจก่อให้เกิดอันตรายจากการสะดดุ ลม้ ได้ พื้นท่ีเฉลี่ยไม่นอ้ ยกว่า 2 ตารางเมตร ต่อเดก็ จ�ำนวน 1 คน 2) จ ัดให้มีเคร่ืองเล่นกลางแจ้งที่ปลอดภัย มีเพียงพอกับจ�ำนวนเด็ก ในกรณีที่ไม่สามารถ จดั ใหม้ ที เี่ ลน่ กลางแจง้ เปน็ การเฉพาะหรอื ในสถานทอี่ นื่ ๆ ได้ ควรปรบั ใชใ้ นบรเิ วณทรี่ ม่ แทน โดยมพี น้ื ที่ ตามเกณฑ์ก�ำหนด หรืออาจจัดกิจกรรมกลางแจ้งส�ำหรับเด็กในสถานท่ีอื่น ๆ ที่เหมาะสม เชน่ ในบรเิ วณวัดหรือในสวนสาธารณะ เป็นตน้ 3) ต อ้ งใหเ้ ดก็ ปฐมวัยมีกจิ กรรมกลางแจง้ อยา่ งน้อย 1 ชั่วโมงในแต่ละวัน 5.3 พ้นื สนามเดก็ เลน่ ปลอดภัย พ้นื สนามเปน็ ปจั จัยความปลอดภยั ท่ีสำ� คญั (The most critical safety factor) พน้ื สนาม ที่ดีต้องประกอบด้วยวัสดุอ่อนนิ่มดูดซับพลังงานได้เพ่ือลดการบาดเจ็บจากการตก การบาดเจ็บ ศรี ษะรนุ แรง หากเปน็ พน้ื สนามทเี่ ปน็ พนื้ แขง็ เชน่ คอนกรตี อฐิ สนาม กอ้ นกรวด ยางมะตอย ทราย อัดแข็ง พนื้ หญ้าธรรมดา จะมีความเส่ยี งในการเกดิ อุบัตเิ หตุได้มากกว่า ซึ่งการจัดเตรียมพ้ืนสนาม เดก็ เลน่ มขี ้อพจิ ารณา ดังน้ี 1) พืน้ ทราย (1) ทรายที่จะน�ำมาใช้จะต้องเป็นทรายกลาง (โดยการน�ำทรายท่ีมีขายตามท้องตลาด รอ่ นผา่ นตะแกรงเบอร์ 8 แลว้ จงึ นำ� มาใชไ้ ด)้ เนอื่ งจากเปน็ ทรายทม่ี คี วามแหลมคมนอ้ ยกวา่ ทรายหยาบ (2) แหลง่ ที่มาของทรายมาจาก 2 แหล่ง คอื ทรายบกกับทรายแม่น้�ำ ในการทำ� พน้ื สนามควรเปน็ ทรายแมน่ ำ�้ เพราะมสี ารปนเปอ้ื นนอ้ ยกวา่ ทรายบก และต้องปราศจากสิง่ ปลอมปนท่ีมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า (3) พนื้ ทรายตอ้ งมคี วามหนาไมน่ อ้ ยกวา่ 20 เซนตเิ มตร ส�ำหรับเคร่ืองเล่นสูงไม่เกิน 1.20 เมตร หากเคร่ืองเล่น สูงเกินกวา่ ทีก่ �ำหนด พืน้ ทรายต้องมีความหนาไม่น้อยกว่า 30 เซนตเิ มตร คู่มือ การจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพื่อเด็กไทยสุขภาพดี
<<<<< 37 ตวั อยา่ งการทำ� ชนั้ พน้ื ทราย จดั ทำ� ไดโ้ ดยเตรยี มผวิ ชนั้ ดนิ เดมิ บดอดั ใหแ้ นน่ แลว้ ลงทรายหยาบ เบอร์ 4 ทับหน้า ก่อนทจ่ี ะปูด้วยตาข่ายพลาสติกส�ำเร็จรูป (Salan) จากนัน้ จึงลงทรายกลาง (ผ่าน ตะแกรงมาตรฐานเบอร์ 8) ส�ำหรับพื้นสนามเด็กเล่น ในทางปฏิบัติสามารถพลิกกลับทรายหรือ เปลี่ยนทรายใหมท่ กุ 6 เดือน โดยขน้ึ อยกู่ ับความสะอาดและคำ� นงึ ถงึ ความปลอดภัยเปน็ ส�ำคญั 2) ยางสังเคราะห์ ยางสังเคราะห์ต้องเป็นวัสดุดูดซับพลังงานจากการตกกระแทกได้ (shock absorbing) การปูพื้นสนามด้วยยางสังเคราะห์ต้องเลือกชนิดและความหนาให้เหมาะสมกับความสูงของ เคร่อื งเล่นสนาม เชน่ ยางสังเคราะหบ์ างชนดิ ก�ำหนดความหนาไว้ 4 เซนติเมตร ส�ำหรับเครอ่ื งเล่น สนามทส่ี งู ไมเ่ กนิ 1.20 เมตร หากเครอ่ื งเลน่ สนามสงู 1.80 เมตร ตอ้ งใชย้ างสงั เคราะหห์ นาถงึ 6.50 เซนตเิ มตร บริเวณสนามเด็กเล่น จะต้องแบ่งบริเวณให้ชัดเจน หากจะมีพื้นท่ีส�ำหรับติดตั้งเครื่องเล่น พน้ื ผวิ ต้องเปน็ ทรายหรือยางสงั เคราะหด์ ังกลา่ วและหากต้องการเปน็ พน้ื ท่วี ิง่ เล่น อาจจะพิจารณา เปน็ สนามหญา้ หรอื วสั ดอุ นื่ และควรจดั เตรยี มพน้ื ทสี่ ำ� หรบั การหยดุ พกั เลน่ ของเดก็ หรอื พนื้ ทส่ี ำ� หรบั ผู้ดูแลเด็ก ผปู้ กครอง เพือ่ ไมใ่ หก้ ีดขวางในการเลน่ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
38 >>> 5.4 ของเล่นปลอดภยั 1) ความส�ำคญั ของของเลน่ ที่มตี อ่ เดก็ ปฐมวยั ของเล่นที่ดีส�ำหรับเด็กนั้นควรเป็นส่ิงท่ีสามารถจับต้องได้ และท�ำให้เด็กมีความสนุกสนาน เพลดิ เพลนิ อารมณ์ดี มีความคิดสรา้ งสรรค์ สร้างจนิ ตนาการ ฝกึ ทกั ษะ พัฒนาสมองและอวัยวะ สว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย ทำ� ใหเ้ ดก็ เรยี นรกู้ ารควา้ สง่ิ ของ กำ� สงิ่ ของ คลาน วง่ิ ทรงตวั ปนี ปา่ ย กระโดด และสามารถควบคุมการเคล่ือนไหวของตัวเองได้ โดยต้องมีความปลอดภัยในการเล่น และ เหมาะสมกบั พฒั นาการตามวยั 2) ปัญหาสขุ ภาพของเดก็ จากของเล่น (1) การไดร้ บั สารพษิ จากวตั ถเุ จอื ปนในของเลน่ มกั พบสารเคมเี จอื ปนในสารเคลอื บเงา สี และสารทที่ ำ� ให้เกดิ ความอ่อนนุ่มของพลาสตกิ (2) การไดร้ บั อนั ตรายเนอื่ งจากเกดิ อบุ ตั เิ หตจุ ากของเลน่ ทำ� ใหบ้ าดเจบ็ พกิ าร และเสยี ชวี ติ ได้ เชน่ ของเล่นมคี มทิ่มแทงหรือ บาดผวิ หนงั ของเลน่ ชนิ้ เลก็ ตดิ คออดุ กน้ั หลอดลม ทำ� ใหห้ ายใจไมอ่ อก หรอื อดุ กน้ั หลอดอาหาร ของเลน่ ทเ่ี จอื ปนวตั ถทุ ท่ี ำ� ใหร้ ะเบดิ หรอื กา๊ ซ ทต่ี ดิ ไฟได้ เชน่ กา๊ ซไฮโดรเจนระเบดิ หรอื ทำ� ใหเ้ กดิ ไฟไหม้ เปน็ ตน้ 3) หลกั การเลือกของเล่นเด็กใหป้ ลอดภัย (1) เลอื กซอ้ื ของเลน่ ทไ่ี ดม้ าตรฐานสำ� หรบั เดก็ ปฐมวยั ตอ้ งมฉี ลากทมี่ ขี อ้ ความเปน็ คำ� เตอื น และวิธีเลน่ และมีสญั ลกั ษณ์รบั รองมาตรฐานผลิตภณั ฑเ์ ป็น “เคร่อื งหมายมาตรฐานบังคับ” เทา่ นน้ั และมีหมายเลขมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) กำ� กับตามกฎหมายซง่ึ ฉลากและสัญลกั ษณพ์ รอ้ ม หมายเลขมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) ส�ำหรับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ของเล่นเด็กที่ใช้ในปัจจุบัน คือ ฉลากและสัญลักษณ์พร้อมหมายเลขมาตรฐานอตุ สาหกรรม (มอก.) ดงั ภาพ ภาพที่ 1 เครอ่ื งหมายมาตรฐานการเลน่ ทปี่ ลอดภยั คู่มือ การจัดการอนามัยส่ิงแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพ่ือเด็กไทยสุขภาพดี
<<<<< 39 กรณีของเล่นท่ีมีสีสันฉูดฉาดอาจจะมีการปนเปื้อนของสารตะก่ัวซ่ึงอาจจะเข้าสู่ร่างกายของเด็กได้ ถ้ามีการใช้สารเคลือบ สารเคลือบนั้นจะต้องมีคุณสมบัติตามที่ส�ำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อตุ สาหกรรม (สมอ.) ก�ำหนด (2) การเลอื กของเล่นทเ่ี หมาะสมตามวัย วยั แรกเกดิ ถงึ 1 ปี เปน็ วยั ของการเรมิ่ เรยี นรแู้ ละเรมิ่ มพี ฒั นาการทกั ษะตา่ ง ๆ ดงั นน้ั ของเลน่ ต้องกระตุ้นให้เด็กมีการพัฒนาการสัมผัสท่ีดีขึ้นท้ังการมองเห็น การได้ยินเสียง และการสัมผัส ดว้ ยมือ เช่น ของเล่นทมี่ รี ปู ทรง ทส่ี ามารถเขย่าได้ หนังสอื ภาพ ตกุ๊ ตา เป็นตน้ อายมุ ากกวา่ 1 ปี ถึง 3 ปี เด็กวัยน้เี ร่มิ มพี ฒั นาการของอวยั วะส่วนต่าง ๆ และทักษะการใช้ อวัยวะมากขึ้นจึงซุกซนชอบเคลื่อนไหว ปีนป่าย ดังนั้น ของเล่นต้องมีความซับซ้อนมากขึ้น เช่น ของเล่นท่ีมหี ลายชนิ้ ในชุดเดียวกนั หรือของเลน่ ท่ีมีความเคลอื่ นไหวได้ ไดแ้ ก่ ลูกบอล รถลอ้ เล็ก ๆ ชุดครัว ของเล่นทีล่ ากจงู ได้ รถนงั่ สำ� หรับเข็นและลากจูง อายมุ ากกวา่ 3 ปี ถึง 5 ปี เดก็ วยั นีช้ อบซกุ ซน ชอบวิ่ง ปีนปา่ ย และมีพฤตกิ รรมเลยี นแบบ ผู้ใหญ่ จึงใช้จินตนาการกับของเล่นได้ดี ของเล่นจึงควรมีทั้งของเล่นส�ำหรับการปีนป่าย และ ของเลน่ ทจี่ �ำลองจากชีวติ จรงิ เชน่ รถยนต์จำ� ลอง ตกุ๊ ตาทมี่ เี ส้ือผา้ ต๊กุ ตาสตั ว์ บา้ นจำ� ลอง โทรศพั ท์ จำ� ลอง เป็นตน้ นอกจากนเี้ ดก็ วัยน้จี ะมกี ารพัฒนาทักษะ ความจ�ำต่าง ๆ อยา่ งรวดเรว็ เนอ่ื งจาก เป็นช่วงที่มีการพัฒนาของสมองและระบบประสาทท่ีดี ของเล่นจึงควรเป็นเกมแบบง่าย ๆ และ ของเล่นทีช่ ว่ ยฝึกวธิ คี ิด เชน่ เกมต่อภาพ ภาพระบายสี การปั้นดินน�้ำมนั เปน็ ตน้ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
40 >>> (3) คุณสมบัติด้านความปลอดภัยของของเล่น เช่น ต้องมีพื้นผิวเรียบบริเวณที่จับหรือ สมั ผสั โดยเฉพาะของเลน่ สำ� หรบั เดก็ อายตุ ำ่� กวา่ 3 ปี ตอ้ งใหม้ ขี นาดใหญเ่ กนิ กวา่ ทเ่ี ดก็ จะกลนื ลงคอ ได้ และไมม่ ชี น้ิ สว่ นขนาดเลก็ ทสี่ ามารถนำ� เขา้ ปากหรอื ใสร่ จู มกู ได้ หากเปน็ ของเลน่ ทม่ี เี สยี งตอ้ งดงั ไมเ่ กนิ ที่มาตรฐานกำ� หนด (4) ภาชนะทบี่ รรจขุ องเลน่ ท่ีเป็นกล่องตอ้ งสามารถเปิดไดง้ า่ ย ทำ� จากวัตถทุ ไี่ ม่กอ่ ใหเ้ กิด อันตราย 5.5 การทำ� ความสะอาดของเล่นเดก็ และดแู ลให้เด็กเลน่ อยา่ งปลอดภยั 1) ครแู ละผดู้ แู ลเดก็ ตอ้ งทำ� ความสะอาดของเลน่ เดก็ ทกุ สปั ดาห์ เพอื่ ปอ้ งกนั โรคตดิ ตอ่ ทจี่ ะเกดิ ขน้ึ ในเดก็ ในกรณขี องเลน่ เดก็ เลก็ ทน่ี ำ� เขา้ ปาก แนะนำ� ใหท้ ำ� ความสะอาดทกุ วนั และไดแ้ บง่ วธิ กี าร ท�ำความสะอาดของเล่นแตล่ ะประเภท ดงั นี้ (1) วธิ กี ารทำ� ความสะอาดของเลน่ ผา้ ซกั ดว้ ยผลติ ภณั ฑซ์ กั ผา้ ของเดก็ ตากแดดหรอื ผง่ึ ลม ให้แหง้ ตุ๊กตาตวั ใหญ่ที่ไม่สามารถซักได้ ให้น�ำมาปัดฝนุ่ ผงึ่ แดดเปน็ ประจ�ำ เพื่อลดการสะสมของ ไรฝุน่ และควรเก็บในต้ทู ีป่ ิดมิดชดิ (2) วิธีการท�ำความสะอาดของเลน่ ไม้ เช็ดท�ำความสะอาดเปน็ ประจำ� ดว้ ยผา้ แห้ง ไม่ควร ลา้ งนำ�้ หรอื ตากแดด เพราะอาจทำ� ใหเ้ นอื้ ไมข้ น้ึ ราหรอื เนอ้ื วสั ดเุ สยี หาย สำ� หรบั คราบฝงั แนน่ สามารถ ใช้ผา้ ชุบนำ�้ บดิ หมาดเชด็ ได้ แต่ควรใชผ้ ้าแหง้ เชด็ ตามทนั ที เพ่อื ไมใ่ หเ้ กดิ ความช้ืนทีเ่ นือ้ ไม้ (3) วธิ กี ารทำ� ความสะอาดของเลน่ พลาสตกิ เชด็ ทำ� ความสะอาดเปน็ ประจำ� ดว้ ยผา้ ชบุ นำ้� บดิ หมาดหรอื สำ� ลชี บุ แอลกอฮอล์ หรอื ทชิ ชเู่ ปยี ก สำ� หรบั คราบฝงั แนน่ ใหแ้ ชด่ ว้ ยนำ�้ ยาลา้ งจานเดก็ สบู่ออ่ น ๆ หรือน�ำ้ ยาฆา่ เช้อื แล้วล้างนำ้� ให้สะอาด เชด็ และผง่ึ ลม ให้แห้ง ไมค่ วรผ่งึ แดดเพราะวัสดอุ าจเส่ือมสภาพ 2) ครูผู้ดูแลเด็กควรดูแลเด็กในขณะที่เล่น มีการ ตรวจสอบความชำ� รดุ ของของเลน่ ดแู ลความสะอาด และ แยกแยะของเล่นทีเ่ สยี หายออกทุกอัน คู่มือ การจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพื่อเด็กไทยสุขภาพดี
<<<<< 41 บทท่ี 6 การสง่ เสริมใหเ้ ดก็ ปฐมวัยเดินทาง อย่างบปคุ ลคอลดทภัง้ ยัภแาลยะใกนาแรลปะภอ้ างยกนันอภกยั จาก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
42 >>> บทที่ 6 การสง่ เสรมิ ให้เดก็ ปฐมวัยเดินทางอย่างปลอดภัย และการป้องกันภยั จากบุคคลทงั้ ภายในและภายนอก 6.1 ข้อแนะน�ำส�ำหรับการรับ-ส่งเด็กปฐมวัย ส�ำหรับผู้ปกครอง พนักงานขับรถรับส่งนักเรียน และ ครูผดู้ ูแลเดก็ ควรปฏิบตั ดิ ังนี้ 1) นบั จำ� นวนเดก็ กอ่ นขน้ึ และหลงั ลงจากรถทกุ ครง้ั มกี ารตรวจตรากอ่ นลอ็ กประตรู ถ ตรวจ ดูให้ท่วั รถไม่ควรมองขา้ มเดก็ ทน่ี อนหลบั อยใู่ นรถ 2) ทุกครั้งท่ีจอดรถให้อุ้มหรือพาเด็กลงจากรถด้วยไม่ว่ากรณีใด ๆ หรือลงรถเพ่ือไปท�ำธุระ เพยี งเลก็ นอ้ ยกต็ าม เนอ่ื งจากเดก็ เลก็ สว่ นใหญม่ กั ซกุ ซน อาจไปเลน่ ปมุ่ หรอื ระบบตา่ ง ๆ ภายในรถ ได้ เช่น ระบบเซน็ ทรลั ลอ็ กประตู เบรกมือหรอื คันเรง่ ซ่ึงอาจจะทำ� ให้เกดิ อนั ตรายตามมา หากมี ความจำ� เปน็ ทจี่ ะตอ้ งปลอ่ ยลกู ไวใ้ นรถเพยี งลำ� พงั ผปู้ กครองตอ้ งลดกระจกรถลงทง้ั 4 ดา้ น ประมาณ เศษ 1 สว่ น 4 เพอื่ ใหภ้ ายในรถนน้ั มอี ากาศถา่ ยเทไดส้ ะดวก แตท่ ง้ั นไี้ มค่ วรปลอ่ ยลกู ทง้ิ ไวใ้ นรถนาน เกิน 10 นาที 3) กรณีท่ีเด็กข้ึนรถรับ-ส่ง พนักงานขับรถและเจ้าหน้าที่ประจ�ำรถท่ีรับเด็ก ต้องท�ำบัญชี รายชอ่ื เดก็ ทง้ั หมดทข่ี นึ้ รถ ผปู้ กครองลงชอ่ื เมอื่ สง่ ลกู เจา้ หนา้ ทป่ี ระจำ� รถลงชอื่ รบั เมอื่ เดก็ ขนึ้ รถจากบา้ น และเมอ่ื เดก็ ถงึ สถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั ครปู ระจำ� หอ้ งเดก็ ตอ้ งลงชอื่ รบั และผปู้ กครองลงชอื่ รบั เมอ่ื รถส่งถึงบา้ น คู่มือ การจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพื่อเด็กไทยสุขภาพดี
<<<<< 43 4) กรณีผู้ปกครองมารับ-ส่งเอง ครูประจ�ำห้องของเด็กต้องลงชื่อรับเม่ือผู้ปกครองเด็ก มาสง่ ถึงสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัย อกี ทั้งผ้ปู กครองตอ้ งลงช่อื รับเดก็ เมอ่ื เลิกเรียน หากเด็กขาดเรยี น ครปู ระจำ� ห้องเด็กตอ้ งสอบถามผู้ปกครองทกุ คร้งั 5) ครูผู้ดูแลเด็กและผู้ปกครอง ควรสอนให้เด็กรู้จักการร้องขอความช่วยเหลือโดยการกด แตรรถซ่ึงการกดแตรรถดัง ๆ เปน็ สงิ่ ท่งี า่ ยทสี่ ดุ และจะท�ำให้คนได้ยนิ และมาชว่ ยเหลอื ไดโ้ ดยเรว็ 6) หากพบเห็นเดก็ ถูกลมื ไวใ้ นรถ ขอให้เรียกหาเจ้าของรถ เพื่อให้มาเปดิ รถโดยเร็ว ถ้าหาก ไม่พบเจ้าของรถขอ ให้คนรอบข้างช่วยเหลือ และโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ โทร.1669 และสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422 6.2 ข้อแนะนำ� การจดั ระเบยี บการจราจรในโรงเรียน 1) มีทางเขา้ -ออกพร้อมปา้ ยแสดงท่ชี ดั เจน 2) มีป้าย และสัญลกั ษณก์ ารจราจรทช่ี ัดเจน เหมาะสม เชน่ ป้ายหยดุ ป้ายบอกทศิ ทาง ป้าย แจง้ ทางข้ามถนน ปา้ ยจดุ จอดรถรับ-สง่ เปน็ ต้น 3) มกี ารจัดบริเวณส�ำหรบั จอดรับ-ส่งเด็กโดยเฉพาะ 4) การเดินโดยทางเท้า จะตอ้ งเดินทางกับผปู้ กครอง ไมเ่ ดินทางโดยล�ำพัง กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
44 >>> 5) การเดนิ ทางโดยรถจกั รยาน ตอ้ งมที วี่ างเทา้ เพอ่ื ปอ้ งกนั เทา้ เขา้ ซลี่ อ้ และมเี ขม็ ขดั รดั ตวั เดก็ ปอ้ งกนั การพลัดตก 6) การเดนิ ทางโดยรถจกั รยานยนต์ ตอ้ งสวมหมวกนริ ภยั ทกุ ครง้ั และขนาดของหมวกกนั นอ็ ก ต้องพอดีกับศีรษะเด็ก ควรขบั ด้วยความเร็วน้อย และใชค้ วามระมดั ระวงั สงู สดุ 7) การเดนิ ทางโดยรถยนต์ ใชท้ นี่ ง่ั สำ� หรบั เดก็ ทเี่ หมาะสมกบั อายขุ องเดก็ และตดิ ตง้ั อยา่ งถกู วธิ ี 8) การเดนิ ทางโดยทางนำ�้ ตอ้ งสวมเสอ้ื ชชู พี ทมี่ ขี นาดเหมาะสมกบั ตวั เดก็ ทกุ ครง้ั และสวมใส่ ใหถ้ กู วธิ ี 6.3 แนวทางปอ้ งกันภยั จากบุคคลท้ังภายในและภายนอก 1) มีมาตรการป้องกันภัยจากบุคคลอย่างเป็นระบบ มีระบบควบคุมการปิด-เปิดประตูของ สถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัย มีกริง่ หรอื สญั ญาณเรยี กหนา้ ประตู หรอื ติดตัง้ ระบบกล้องวงจรปดิ 2) มกี ารเยย่ี มบ้าน จดบนั ทึกสมุดข้อมลู สุขภาพ พฒั นาการของเดก็ สำ� รวจร่างกายเด็กเพ่ือ ตรวจดูบาดแผล หรือรอ่ งรอยทีอ่ าจเกิดจากการกระทำ� ของบุคคลอน่ื คู่มือ การจัดการอนามัยส่ิงแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพ่ือเด็กไทยสุขภาพดี
<<<<< 45 3) มีระบบจัดท�ำประวัติ ท�ำบัตรแสดงตัวผู้รับ-ส่งเด็กท้ังบุคคลท่ีรับ-ส่งประจ�ำ และบุคคล รับ-สง่ ส�ำรอง โดยต้องแสดงบตั รทกุ ครง้ั ที่รบั -ส่ง 4) มีร้วั กน้ั บรเิ วณใหเ้ ปน็ สัดส่วน เพือ่ ความปลอดภัยของเด็ก และควรมีทางเขา้ -ออกไมน่ ้อย กวา่ 2 ทาง กรณีมีทางเดยี วต้องมคี วามกว้างไมน่ อ้ ยกว่า 2 เมตร 5) กรณีมบี อ่ น�ำ้ สระนำ้� น�้ำพุ ต้องมีรัว้ หรือวสั ดุ อน่ื ใดทกี่ นั้ อาณาเขตชดั เจน เพอ่ื ปอ้ งกนั มใิ หเ้ ดก็ พลดั ตก นำ�้ และควรแยกพน้ื ทเี่ ลน่ ของเดก็ ใหห้ า่ งจากแหลง่ นำ้� ดงั กลา่ ว หากมบี อ่ นำ้� ตน้ื บอ่ บาดาล ตอ้ งมฝี าปดิ มดิ ชดิ นอกจากน้ีควรมีป้ายเตือนอันตราย ค�ำแนะน�ำ หรืออปุ กรณช์ ่วยชีวติ อยู่บริเวณใกลเ้ คียง 6.4 การป้องกนั อุบัตภิ ัยทางน้ำ� การจมน�้ำในเดก็ การจมน้�ำ นับเป็นอุบัติเหตุที่พบได้บ่อยในเด็ก โดยพบว่ากลุ่มที่มีความเส่ียงสูงคือเด็กเล็ก วยั เรม่ิ หดั คลานหดั เดนิ สาเหตกุ ารจมนำ้� ของเดก็ เลก็ สว่ นหนง่ึ เกดิ จากระดบั พฒั นาการของเดก็ เอง เชน่ เปน็ วยั ทช่ี อบสำ� รวจ วง่ิ เลน่ แตค่ วามสามารถในการทรงตวั ยงั ไมค่ อ่ ยดนี กั พลดั ตกหกลม้ ไดง้ า่ ย ส่วนความเส่ียงอื่น ๆ เกิดจากปัจจัยด้านส่ิงแวดล้อม เช่น บ้านอยู่ใกลแ้ หลง่ นำ�้ ทไ่ี มม่ รี ว้ั กน้ั อยา่ ง ถกู ตอ้ ง ผดู้ แู ลไมต่ ระหนกั ถงึ ความเสยี่ งหรือผู้ดูแลต้องดูแลเด็กหลายคนในเวลาเดียวกัน ส�ำหรับ การป้องกันการจมน้ำ� ในเด็กเล็ก มีแนวทางดังนี้ 1) เน้นย้�ำให้ผู้ดูแลเด็กเข้าใจพัฒนาการของเด็กตามวัย เด็กเล็กท่ีเคล่ือนท่ีได้ ต้ังแต่วัยเร่ิม คลานกส็ ามารถเขา้ ถงึ แหลง่ นำ้� ในสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั หรอื ในบา้ น เชน่ หอ้ งนำ้� โถสว้ ม กะละมงั หรือบ่อปลาได้แลว้ จึงควรดแู ลอย่างใกล้ชดิ ไมป่ ล่อยใหเ้ ด็กปฐมวยั อยใู่ กล้แหล่งน้�ำโดยลำ� พงั แมเ้ พียงชว่ั ครเู่ ดียว กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
46 >>> 2) จดั สง่ิ แวดลอ้ มใหป้ ลอดภยั ปดิ ประตหู อ้ งนำ้� กน้ั รว้ั บรเิ วณแหลง่ นำ�้ เทนำ้� ออกจากภาชนะ ทันทีเมื่อไมใ่ ช้แลว้ เปน็ ตน้ 3) ควรจดั ให้มีอปุ กรณ์ชว่ ยชีวติ เช่น หว่ งชูชพี เสอ้ื ชูชีพท่มี ีขนาดเหมาะสมกับตัวเดก็ และมี โทรศพั ท์อยบู่ ริเวณสระน้�ำ เผอื่ ใชใ้ นกรณีฉกุ เฉนิ 4) การจดั การแหลง่ นำ�้ ให้ปลอดภยั สระว่ายน้ำ� ควรมีร้ัวก้นั ทเี่ หมาะสม รั้วควรสูงอย่างนอ้ ย 4 ฟุต โดยช่องว่างระหว่างซี่ร้ัวไม่ควรเกิน 4 นิ้ว เพ่ือป้องกันไม่ให้เด็กเล็กลอดเข้าไปได้ รวมทั้ง รูปแบบของร้ัวต้องไม่เอ้ืออ�ำนวยให้เด็กปีนข้ามได้ และประตูมีกลอนล็อก หรือกลอนที่สูงเกินเด็ก เอ้ือมถงึ รวมไปถึงระบบระบายน้�ำของสระควรมกี ารป้องกนั การทแี่ ขนขาหรอื ผมของเดก็ จะเขา้ ไป ตดิ ตามทอ่ เชน่ มีฝาปดิ ที่เหมาะสม คู่มือ การจัดการอนามัยส่ิงแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพ่ือเด็กไทยสุขภาพดี
<<<<< 47 บทที่ 7 การปอ้ งกนั อคั คภี ยั ระบบรบั เหตฉุ กุ เฉนิ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
48 >>> บทท่ี 7 การปอ้ งกนั อคั คภี ยั ระบบรบั เหตุฉุกเฉนิ 7.1 การป้องกันอคั คภี ัย15 1) ควรมแี บบแปลนอาคารตดิ ทกุ ชั้นและผงั แปลนหอ้ ง 2) ติดต้ังเคร่ืองดับเพลิงแบบมือถือ บรรจุสารเคมีน�้ำหนักไม่น้อยกว่า 4 กิโลกรัมต่อเครื่อง (นำ�้ หนักรวมไมเ่ กิน 10 กิโลกรัมตอ่ เครือ่ ง) ทุกระยะไมเ่ กนิ 45 เมตร หรอื 1,000 ตารางเมตร แต่ ไม่น้อยกว่าชน้ั ละ 1 เครอื่ ง และตดิ ต้ังเพิ่มในจดุ เสี่ยงจากการเกดิ อัคคีภัย เชน่ หอ้ งครวั หอ้ งซักรดี เคร่ืองดับเพลิงติดต้ังสูงไม่เกิน 1.5 เมตร จากพ้ืนถึงส่วนสูงสุดของถังในที่มองเห็น สามารถอ่าน ค�ำแนะนำ� การใชแ้ ละสามารถเข้าใช้สอยได้สะดวก 15 กระทรวงมหาดไทย กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 33 (พ.ศ. 2535) ฉบบั ท่ี 39 (พ.ศ. 2537) ฉบบั ท่ี 43 (พ.ศ.2540) ฉบับที่ 47 (พ.ศ. 2540) ฉบบั ที่ 55 (พ.ศ. 2543) ประกาศกรงุ เทพมหานคร เรอ่ื ง ขอ้ กำ� หนดลกั ษณะแบบของบนั ไดหนไี ฟหรอื ทางหนไี ฟ พ.ศ. 2531 คู่มือ การจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพื่อเด็กไทยสุขภาพดี
<<<<< 49 3) มีไฟฉุกเฉิน (Emergency light) หรือมีระบบจ่ายพลังงานไฟฟ้าส�ำรองแยกอิสระจาก ระบบอ่ืนและสามารถท�ำงานได้โดยอัตโนมัติ เม่ือระบบจ่ายไฟปกติหยุดท�ำงานต้องสามารถจ่าย พลงั งานไฟฟ้าสำ� หรับ 2 ช่ัวโมง 4) ไฟฟา้ สำ� รองเครื่องหมายป้ายสะทอ้ นแสง แสดงทางออกฉุกเฉนิ ทางเดนิ หอ้ งโถง บันได ใช้เวลาไมน่ อ้ ยกว่า 2 ชว่ั โมง 5) ควรมีระบบสญั ญาณเตอื นเพลงิ ไหมห้ รืออปุ กรณส์ ่งสัญญาณเพอ่ื ให้หนีไฟทพ่ี รอ้ มใชง้ าน 6) ต้องมีป้ายทางหนไี ฟ ปา้ ยสะท้อนแสงติดด้านในเหนือวงกบประตทู ุกชน้ั และมปี า้ ยบอก ทางเป็นระยะด้วยตัวอักษรที่มองเห็นชัดเจน พ้ืนสีเขียว ตัวอักษรสีขาว ขนาดตัวอักษรอย่างน้อย 10 เซนติเมตร หรอื ขนาดตามเทศบญั ญตั ขิ องท่ตี ้ังอาคาร 7.2 ระบบไฟฟ้า 1) ต้องจัดท�ำแบบผงั ระบบไฟฟา้ ตดิ ต้ังใกล้ตคู้ วบคมุ ไฟฟ้าของอาคาร16 2) ติดตงั้ แผงชดุ ควบคุม ปอ้ งกนั อุปกรณ์ไฟฟา้ ร่วั และลดั วงจร 3) ติดตั้งปลั๊กและสวิตช์ไฟให้สูงจากพ้ืนไม่น้อยกว่า 1.50 เมตร จะต้องมีฝาปิดครอบเพื่อ ป้องกันไม่ใหเ้ ดก็ เลน่ 4) กรณอี าคารอยโู่ ลง่ กลางแจง้ หลงั เดยี วและไมม่ อี าคารสงู ควรมรี ะบบปอ้ งกนั อนั ตรายจาก ฟา้ ผา่ ประกอบด้วย สายล่อฟา้ สายตวั นำ� สายน�ำลงดินและหลกั สายดนิ ที่เชอ่ื มโยงกันเปน็ ระบบ 5) การติดต้ังเครื่องท�ำน�้ำอุ่นหรือเคร่ืองท�ำน�้ำเย็น เพ่ือความปลอดภัยต้องมีอุปกรณ์ป้องกัน ไฟรัว่ และเดนิ สายดิน 16 กระทรวงมหาดไทย กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 33 พ.ศ. 2535 ข้อ 17 กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150