(4) เรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว

หมวด ๑ สภาชนเผ่าพ้ืนเมืองแหง่ ประเทศไทย มาตรา ๖ ใหม้ ีสภาชนเผ่าพืน้ เมอื ง ประกอบด้วยสมาชิกท่มี าจากกลุ่มชนเผ่าพ้นื เมืองซง่ึ เลือกกนั เองภายในแตล่ ะกลุ่ม ชนเผา่ พืน้ เมอื งท่ีได้ขน้ึ ทะเบียนไว้กับสภาแล้ว จ�ำนวนกลุ่มละไมเ่ กินห้าคน การเลอื กกันเองตามวรรคหนงึ่ ให้เป็นไปตามหลกั เกณฑ์และวิธีการท่ปี ระธานสภาก�ำหนด โดยค�ำนงึ ถึงสดั ส่วนหญิง ชาย และ ตวั แทนเยาวชน เท่าเทยี มภายในระหวา่ งกลุ่มชนเผ่าพื้นเมืองและมคี วามสอดคล้องทางวัฒนธรรม ชนเผา่ พนื้ เมอื งแต่ละกล่มุ มาขึ้นทะเบยี นกบั ส�ำนักงานตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการที่สภาชนเผา่ พืน้ เมืองก�ำหนด มาตรา ๗ สมาชกิ ตอ้ งมีคุณสมบัติและไมม่ ีลักษณะต้องหา้ มดังต่อไปนี้ (๑) มีสญั ชาติไทย หรือเป็นบุคคลที่มถี น่ิ ทอ่ี ยู่ในประเทศไทย (๒) มอี ายสุ บิ แปดปบี รบิ ูรณข์ ้ึนไป (๓) ไมเ่ ปน็ บคุ คลวิกลจรติ หรือจิตฟั่นเฟอื นไมส่ มประกอบ มาตรา ๘ ใหส้ มาชิกมีวาระการด�ำรงต�ำแหนง่ ส่ีปีนบั แต่วันประกาศรายชื่อสมาชิกในราชกจิ จานุเบกษา และอาจได้รบั การคัดเลอื กใหม่ได้ แต่จะด�ำรงต�ำแหนง่ ตดิ ตอ่ กันเกนิ สองวาระมไิ ด้ สมาชกิ ซ่งึ พ้นจากต�ำแหนง่ ตามวาระต้องปฏิบัตหิ นา้ ทต่ี อ่ ไป จนกว่าสมาชิกซง่ึ ไดร้ ับการเลือกใหมจ่ ะเข้ารบั หน้าท่ี มาตรา ๙ สมาชิกพน้ จากต�ำแหน่งดังตอ่ ไปนี้ (๑) พน้ ตามวาระ (๒) ตาย (๓) ลาออก (๔) ขาดคณุ สมบตั หิ รอื มีลักษณะต้องหา้ มตามมาตรา ๗ (๕) ขาดการประชุมโดยไมม่ ีเหตุอันควรและไมไ่ ด้รับอนุญาตจากประธานสภาสามคร้งั ตดิ ต่อกัน (๖) สภาชนเผ่าพ้นื เมืองมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกวา่ สองในสาม ของจ�ำนวนสมาชกิ เท่าทม่ี อี ยูใ่ หถ้ อดถอนออกจาก ต�ำแหนง่ เพราะเหตุมคี วามประพฤติในทางเสอ่ื มเสยี ต่อการปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ี หรือประพฤติผดิ ศีลธรรมและจริยธรรมของการเปน็ สมาชกิ (๗) ถูกถอดถอนโดยกล่มุ ชนเผา่ พ้ืนเมืองที่คัดเลอื กกันเองตามทกี่ �ำหนดในหลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการคัดเลอื กและถอดถอน สมาชิก เมื่อบุคคลซ่ึงเปน็ สมาชิกท่ีมาจากกล่มุ ใดพน้ จากต�ำแหนง่ กอ่ นวาระตามวรรคหนง่ึ ให้กลมุ่ ชนเผ่าพน้ื เมืองนัน้ ท�ำการคัด เลอื กบคุ คลอน่ื เป็นสมาชกิ แทนต�ำแหนง่ ที่วา่ งภายในระยะเวลาสามสบิ วัน นบั แต่วันพน้ ต�ำแหนง่ สมาชิกทไ่ี ด้รับการคดั เลือกเข้ามาแทนให้อยูใ่ นต�ำแหนง่ เทา่ กับวาระทเ่ี หลอื อยูข่ องสมาชกิ ทีต่ นแทน แตถ่ ้าเวลาเหลอื นอ้ ยกว่าเกา้ สิบวันไม่ต้องด�ำเนนิ การเพื่อหาสมาชกิ ใหมแ่ ทนต�ำแหน่งทีว่ ่าง มาตรา ๑๐ ประธานสภามอี �ำนาจหน้าทีด่ งั ต่อไปนี้ (๑) ด�ำเนินการประชุมและมอี �ำนาจออกค�ำสั่งใด ๆ ตามความจ�ำเป็นในการประชมุ สภาชนเผ่าพืน้ เมอื งและคณะ กรรมการ (๒) เปน็ ผ้แู ทนสภาในกจิ การของสภาชนเผ่าพ้นื เมือง ทเี่ กย่ี วกับบุคคลภายนอก 10 รา่ งพระราชบัญญตั สิ ภาชนเผา่ พื้นเมอื งแห่งประเทศไทย พ.ศ. ...

(๓) อ�ำนาจและหน้าที่อืน่ ตามทีม่ ีกฎหมายบญั ญัติไว้ (๔) ควบคุมและด�ำเนนิ การต่าง ๆ ให้เป็นไปตามมตแิ ละข้อบงั คบั ของสภา มาตรา ๑๑ รองประธานสภามีอ�ำนาจและหนา้ ที่ช่วยประธานสภาในกิจการอันเปน็ อ�ำนาจหนา้ ที่ของประธานสภา หรอื ปฏิบตั ิการตามที่ประธานสภามอบหมาย มาตรา ๑๒ เลขานกุ ารสภามีอ�ำนาจหน้าที่จดั ท�ำรายงานการประชุม และรบั ผดิ ชอบงานธรุ การของสภา มาตรา ๑๓ ใหม้ ีการประชุมสภาชนเผา่ พน้ื เมอื งคร้ังแรกภายในหนง่ึ รอ้ ยยสี่ ิบวนั นับแตว่ นั ท่มี กี ารประกาศรายช่ือ สมาชิกในราชกจิ จานเุ บกษา เพอื่ เลือกคณะกรรมการ ใหม้ กี ารประชุมสมัยสามัญสภาชนเผ่าพื้นเมอื งภายในเดอื นสิงหาคมของทกุ ปี คณะกรรมการอาจมมี ตใิ ห้มกี ารประชุมสมัยวสิ ามัญสภาชนเผา่ พน้ื เมอื ง เมอื่ มีเหตจุ �ำเปน็ ทีต่ อ้ งมกี ารปรึกษาหารอื เป็นการเร่งดว่ น คณะกรรมการต้องจดั ใหม้ ีการประชมุ สมยั วิสามัญสภาชนเผา่ พื้นเมอื ง เม่ือสมาชิกเขา้ ชื่อกนั จ�ำนวนหนึ่งในห้าของ จ�ำนวนสมาชกิ สภาทม่ี อี ยู่ขอให้มกี ารประชมุ สภา มาตรา ๑๔ การประชมุ สภาชนเผ่าพื้นเมือง ต้องกระท�ำโดยเปิดเผยและตอ้ งมสี มาชิกมาประชมุ ไมน่ อ้ ยกว่ากึง่ หนึ่งของ สมาชิกเท่าที่มอี ยู่ จึงจะเปน็ องค์ประชมุ ให้ประธานสภาเป็นประธานในท่ปี ระชุม ถา้ ประธานสภาไมอ่ ยู่หรอื ไมอ่ าจปฏิบตั หิ น้าทไ่ี ด้ ให้รองประธานสภาคนใดคน หนง่ึ เปน็ ผปู้ ฏบิ ัติหนา้ ท่ีแทนประธานสภา การลงมติ สมาชิกคนหนง่ึ ให้มีหนงึ่ เสียงในการลงคะแนนและใหถ้ ือหลักฉันทามติ ยกเว้นเปน็ เรอื่ งเกีย่ วกบั การเงนิ แผน งาน โครงการ หรือเร่อื งอนื่ ใดทีม่ ีลักษณะเปน็ งานประจ�ำ ใหถ้ อื เสยี งขา้ งมากเปน็ ประมาณ ในกรณนี ี้ถา้ คะแนนเสียงเทา่ กันให้ ประธานในทป่ี ระชมุ ออกเสยี งเพ่ิมข้ึนอกี เสยี งหน่งึ เปน็ เสียงช้ีขาด ในการพจิ ารณาว่าเร่อื งใดยกเวน้ ไม่ตอ้ งใชห้ ลักฉันทามติหรอื ไม่ ใหป้ ระธานน�ำเรือ่ งดังกลา่ วหารอื กับคณะผอู้ าวุโสเพือ่ หาขอ้ ยุติ ความเห็นของคณะผู้อาวโุ สถือเปน็ ทีส่ ุด มาตรา ๑๕ สภาชนเผา่ พ้ืนเมอื ง คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะท�ำงานทสี่ ภาแต่งต้ังจะเชญิ ขา้ ราชการ พนักงาน หรือลกู จา้ งของหน่วยราชการ หน่วยงานของรฐั รัฐวสิ าหกิจ หรือราชการส่วนท้องถนิ่ หรือบุคคลหนึ่งบคุ คลใดมาให้ ข้อเทจ็ จรงิ หรือแสดงความคิดเหน็ หรอื ให้จัดสง่ เอกสาร หรือข้อมลู เพ่ือประกอบการพิจารณาไดต้ ามทเ่ี หน็ สมควร ให้ข้าราชการ พนักงาน หรอื ลูกจ้างของหนว่ ยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรอื ราชการส่วนท้องถิน่ ให้ความร่วมมือแกส่ ภาชนเผา่ พื้นเมอื ง คณะกรรมการ คณะอนกุ รรมการ และคณะท�ำงานทส่ี ภาชนเผา่ พ้ืนเมอื งแต่งตง้ั มาตรา ๑๖ ใหส้ มาชิก คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะท�ำงานทส่ี ภาชนเผา่ พนื้ เมืองแตง่ ตงั้ ได้รบั เบย้ี ประชมุ และคา่ ใชจ้ ่ายในการด�ำเนนิ งานตามทีก่ าหนดในพระราชกฤษฎีกา มาตรา ๑๗ สภาชนเผ่าพืน้ เมือง มีอ�ำนาจตราขอ้ บงั คบั การประชุมและข้อบังคับอืน่ ทเี่ ก่ียวข้องกับการปฏิบตั ิ 11 รา่ งพระราชบญั ญัตสิ ภาชนเผา่ พน้ื เมอื งแห่งประเทศไทย พ.ศ. ...

หมวด ๒ อำ�นาจ หนา้ ท่ี มาตรา ๑๘ สภาชนเผ่าพ้นื เมอื ง ท�ำหนา้ ท่ีจัดท�ำนโยบาย และ ส่งเสริมการแก้ไขปญั หาเศรษฐกจิ สังคม การเมอื ง วัฒนธรรม การศกึ ษา ภูมปิ ัญญา ทรพั ยากรธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม พนื้ ทีท่ างจิตวญิ ญาณ และสิทธมิ นุษยชนของชนเผ่าพื้นเมอื ง เพอื่ เสนอแนะแกอ่ งค์กร หน่วยงานตา่ ง ๆ ทเี่ ก่ียวข้องท้ังภาครัฐและภาคเอกชน โดยมอี �ำนาจหนา้ ที่ดังตอ่ ไปนี้ (๑) เป็นศนู ย์กลางในการประสานงาน แลกเปล่ียน เรยี นรู้ ประชาสมั พนั ธ์ และเผยแพร่ เก่ียวกบั เศรษฐกิจ สังคม วฒั นธรรม และข้อมูลขา่ วสารของชนเผา่ พ้นื เมอื ง (๒) ส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมขุ (๓) อนุรักษ์ ส่งเสรมิ และฟนื้ ฟู อตั ลกั ษณ์ ภาษา วฒั นธรรมอนั ดีงาม ภมู ิปัญญา อาหาร สมนุ ไพร พันธพ์ุ ชื พ้ืนท่ีท�ำมา หากนิ และตามจารีตประเพณีของชนเผา่ พนื้ เมอื ง (๔) สนับสนนุ สง่ เสริม วจิ ยั และพัฒนาศกั ยภาพและความเขม้ แขง็ ขององค์กร ชุมชน ชมรม สตรี เยาวชน และผนู้ �ำของ ชนเผา่ พน้ื เมืองในประเทศไทย (๕) สง่ เสรมิ ใหม้ ีระบบสื่อสารสนเทศของชนเผ่าพน้ื เมืองในภาษาของกลุ่มชาตพิ ันธ์ุต่าง ๆ (๖) สร้างความร่วมมอื กับหน่วยงานต่าง ๆ เพอื่ จดั ท�ำแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรมทีเ่ ป็นการส่งเสริมและพัฒนา ศักยภาพชนเผา่ พนื้ เมอื ง (๗) ค้มุ ครองและส่งเสริมเร่ืองอาชพี และการจัดการสง่ิ แวดลอ้ มทส่ี อดคลอ้ งกบั วถิ ีวฒั นธรรม ส่งเสรมิ และสนับสนับสนุนการจัดการความขัดแยง้ และอยรู่ ว่ มกนั อย่างสันติ (๘) เปน็ กลไกในการแสวงหาความรว่ มมอื ในการพิทกั ษ์และปกปอ้ งสทิ ธมิ นุษยชน ทรพั ย์สินทางปัญญา สทิ ธชิ นเผา่ พ้ืน เมืองของกล่มุ ประชากรชนเผ่าพ้นื เมือง ในระดับพ้นื ที่ ระดับประเทศ และระดับนานาประเทศ (๙) เสนอแนวทางการแก้ไขปญั หา ท่ีสง่ ผลกระทบตอ่ วิถชี วี ติ จากนโยบายหรอื กิจการหรือโครงการใด ๆ ตอ่ รัฐและ หนว่ ยงานอนื่ ทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง (๑๐) จดั ท�ำรายงาน ศกึ ษา ตดิ ตาม และประเมนิ ผลกระทบ ในนโยบายหรอื กจิ การหรือโครงการใด ๆ ทอ่ี าจสง่ ผลกระ ทบตอ่ วิถชี วี ิตของชนเผ่าพ้นื เมือง (๑๑) จดั ท�ำรายงานและข้อเสนอในประเด็นชนเผ่าพื้นเมอื ง เพอื่ เสนอตอ่ คณะรฐั มนตรี รัฐสภา และองคก์ ารระหวา่ ง ประเทศท่เี กีย่ วข้อง (๑๒) แต่งตั้งคณะท่ปี รกึ ษา คณะอนุกรรมการ และคณะท�ำงาน ตามทีส่ ภาเห็นชอบ (๑๓) พจิ ารณาให้ความเหน็ ชอบแผนงาน โครงการ และงบประมาณของสภาชนเผ่าพื้นเมือง (๑๔) จดั ตง้ั สถาบนั ชนเผ่าพน้ื เมือง (๑๕) ออกกฎ ระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับตามพระราชบัญญตั ิ (๑๖) หนา้ ที่อน่ื ตามทก่ี ฎหมายก�ำหนด 12 รา่ งพระราชบญั ญตั ิสภาชนเผา่ พ้นื เมืองแหง่ ประเทศไทย พ.ศ. ...

หมวด ๓ คณะกรรมการสภาชนเผ่าพ้ืนเมืองแห่งประเทศไทย มาตรา ๑๙ ให้สภาชนเผ่าพน้ื เมอื งมีคณะกรรมการประกอบด้วย ประธานสภาหนึ่งคน รองประธานสภาห้าคน เลขานุการสภาหนึง่ คน และกรรมการสภาสิบหกคน เมอ่ื มกี ารประชมุ สภาชนเผ่าพืน้ เมืองเป็นคร้ังแรก ให้สมาชกิ ที่มอี ายุสูงสดุ หรอื สมาชิกผมู้ ีอายสุ งู ล�ำดับถดั ลงไปเม่อื สมาชิกผมู้ อี ายุสูงกวา่ สละสิทธ์ิ ท�ำหนา้ ท่ีเป็นประธานชวั่ คราว เพือ่ คดั เลอื กประธานสภา และใหป้ ระธานสภาท�ำหนา้ ท่เี ป็น ประธานตอ่ ไป ให้ประธานสภาเสนอชอื่ เลขานุการสภาหนง่ึ คนเพอื่ ใหท้ ปี่ ระชมุ สภารบั รอง ให้สมาชิกจากแต่ละภูมิภาคเสนอรายชื่อตัวแทนในภูมิภาคของตนเองท่ีเป็นชายหน่ึงคนและหญิงหนึ่งคนเพ่ือให้ท่ี ประชุมสภาเลือกเป็นรองประธานในต�ำแหน่งรองประธานจ�ำนวนห้าคนโดยกระจายตามภูมิภาคละหนึ่งคนและในจ�ำนวนนี้ให้มี ผหู้ ญิง ให้สมาชกิ คดั เลือกกนั เองเปน็ กรรมการจ�ำนวนสบิ หกคน ท้งั นตี้ ้องใหม้ คี วามเท่าเทยี มกนั ในเรือ่ งของสดั ส่วนจากแต่ละ ภูมิภาค เยาวชน และผู้หญงิ ผแู้ ทนของกลมุ่ ชนเผา่ พ้ืนเมอื งใดจะเปน็ คณะกรรมการเกนิ กว่าหนึ่งต�ำแหนง่ ไม่ได้ คณะกรรมการมวี าระอยใู่ นต�ำแหนง่ เทา่ กบั วาระท่ีตนเป็นสมาชกิ มาตรา ๒๐ คณะกรรมการตอ้ งไมม่ ีลกั ษณะต้องห้ามดังตอ่ ไปน้ี (๑) เปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร สมาชกิ วฒุ ิสภา ข้าราชการการเมือง สมาชกิ สภาทอ้ งถ่นิ ผูบ้ ริหารท้องถิ่น หรือด�ำรง ต�ำแหน่งในพรรคการเมือง (๒) เป็นข้าราชการประจ�ำ (๓) ด�ำรงต�ำแหน่งก�ำนนั ผ้ใู หญ่บ้าน สารวตั รก�ำนัน หรอื ผูช้ ว่ ยผู้ใหญบ่ ้าน (๔) เปน็ พระภกิ ษุ สามเณร นกั พรต หรอื นกั บวช มาตรา ๒๑ คณะกรรมการพ้นจากต�ำแหนง่ ดังตอ่ ไปนี้ (๑) พน้ จากต�ำแหนง่ สมาชิกตามมาตรา ๙ (๒) มีลกั ษณะตอ้ งห้ามตามมาตรา ๗ (๓) ถกู ถอดถอนรายบคุ คลเฉพาะต�ำแหน่งคณะกรรมการ เพราะเหตุมคี วามประพฤติในทางเสอื่ มเสียต่อการปฏบิ ตั ิ หน้าท่ี หรอื ประพฤติผิดศีลธรรมและจริยธรรมของการเป็นคณะกรรมการ ดว้ ยคะแนนเสยี งเกินก่งึ หนงึ่ ของจ�ำนวนสมาชกิ ทั้งหมดที่มีอยู่ มาตรา ๒๒ คณะกรรมการสภาชนเผา่ พนื้ เมือง มอี �ำนาจหนา้ ที่ในการบรหิ ารและด�ำเนินงานตา่ ง ๆ ซ่งึ สภาได้ใหค้ วาม เห็นชอบแลว้ มาตรา ๒๓ ให้คณะกรรมการมกี ารประชุมตามภารกจิ อย่างน้อยสองเดอื นต่อคร้ัง ประธานสภาเปน็ ผู้เรียกประชมุ คณะ กรรมการ องค์ประชุม การประชุม และการลงมตขิ องทีป่ ระชมุ คณะกรรมการ ให้ปฏบิ ัติตามมาตรา ๑๙ โดยอนุโลม 13 ร่างพระราชบัญญัติสภาชนเผ่าพืน้ เมอื งแหง่ ประเทศไทย พ.ศ. ...

หมวดท่ี ๔ คณะผู้อาวโุ ส มาตรา ๒๔ ใหค้ ณะกรรมการ พจิ ารณาเชิญผู้อาวโุ สท่เี ป็นชนเผา่ พน้ื เมือง หรอื ผู้ท่ชี นเผา่ พนื้ เมอื งใหค้ วามเคารพนบั ถือ จ�ำนวนสิบหา้ คน เปน็ คณะผอู้ าวุโส จ�ำนวนคณะผอู้ าวุโสใหค้ �ำนึงถึงสดั สว่ นหญิง ชาย และใหก้ ระจายสัดส่วนไปตามกล่มุ ชาตพิ ันธ์ุ ความเชยี่ วชาญ และ ภมู ิภาคอยา่ งเหมาะสม โดยค�ำนงึ ถงึ การยอมรับตามระบบจารีตประเพณีของชนเผา่ พน้ื เมือง ตา่ ง ๆ ดว้ ย มาตรา ๒๕ ผอู้ าวุโส มีคณุ สมบัติดังต่อไปน้ี (๑) เป็นผูร้ ู้ ผ้มู ีความเชย่ี วชาญเกี่ยวกับชนเผา่ พน้ื เมอื ง หรอื ปราชญช์ าวบา้ น (๒) มีความประพฤตดิ ี เป็นแบบอย่าง และไดร้ บั การยอมรบั จากชนเผา่ พื้นเมอื ง (๓) มคี วามเสยี สละ และมีจติ อาสาเปน็ ชนเผา่ พ้ืนเมอื ง หรือผูท้ ีท่ �ำคุณประโยชนใ์ หก้ บั ชนเผ่าพื้นเมอื ง มาตรา ๒๖ คณะผูอ้ าวโุ ส มบี ทบาทหนา้ ทีด่ ังนี้ (๑) ใหค้ �ำปรึกษาหารอื แกส่ มาชิก สภา คณะกรรมการ คณะอนกุ รรมการ และส�ำนกั งาน ในเร่อื งต่าง ๆ ท่เี ก่ยี วขอ้ ง (๒) ใหค้ วามคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะตอ่ แผนงานและแผนงบประมาณของสภา (๓) ไกล่เกลี่ยกรณที ี่เกิดขอ้ พพิ าท มคี วามคิดเห็นท่ีแตกต่างไมส่ ามารถหาข้อยตุ ิได้ ตามทบ่ี คุ คลตาม (๑) ร้องขอ (๔) เขา้ รว่ มประชมุ สภาสมัยสามัญ หรือสมัยวิสามัญ หมวด ๕ ส�ำ นักงานสภาชนเผา่ พืน้ เมืองแห่งประเทศไทย มาตรา ๒๗ ให้มสี �ำนักงานสภาชนเผา่ พ้นื เมอื งแห่งประเทศไทยที่ เป็นหน่วยงานนติ ิบคุ คลและอยภู่ ายใต้การก�ำกบั ดแู ล ของประธานสภา มาตรา ๒๘ ให้มสี �ำนักงาน มีหน้าท่ีดังต่อไปนี้ (๑) จัดท�ำแผนงาน และโครงการตามมตขิ องสภา เพ่ือเสนอคณะกรรมการพิจารณาด�ำเนินการเพื่อเสนอตอ่ สภาชนเผา่ พน้ื เมอื ง ตามมาตรา ๑๘ (๒) รับผดิ ชอบเก่ียวกับกิจการทว่ั ไปและงานธรุ การของสภา (๓) จดั ท�ำรายงานประจ�ำปเี กย่ี วกับผลงานและอุปสรรคในการด�ำเนินงานของสภาชนเผ่าพน้ื เมอื ง เพือ่ เสนอต่อคณะ รฐั มนตรแี ละรัฐสภา 14 ร่างพระราชบัญญัติสภาชนเผ่าพื้นเมืองแหง่ ประเทศไทย พ.ศ. ...

(๔) ประสานงานและบรกิ ารทางวิชาการให้แก่สภาชนเผ่าพื้นเมือง (๕) ด�ำเนินการต่าง ๆ ในการคดั สรรสมาชิกสภาชนเผา่ พน้ื เมอื ง (๖) จัดใหม้ ฐี านขอ้ มูลประชากรชนเผา่ พื้นเมืองในประเทศไทยในด้านต่าง ๆ ทั้งในระดับกลมุ่ ชาตพิ ันธแ์ุ ละในภาพรวม (๗) ปฏบิ ตั กิ ารอ่นื ใดตามทส่ี ภาชนเผา่ พ้ืนเมอื งมอบหมาย มาตรา ๒๙ ใหม้ ีเลขาธิการส�ำนักงาน เปน็ ผู้ควบคมุ ดูแลโดยท่ัวไปซ่ึงกจิ การของส�ำนกั งาน และมีอ�ำนาจก�ำหนดระเบียบ ท่เี กยี่ วขอ้ งในการบริหารจัดการส�ำนักงาน โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ใหเ้ ลขานุการสภาเปน็ เลขาธกิ ารส�ำนักงานโดยต�ำแหนง่ หมวด ๖ กองทนุ สภาชนเผา่ พ้นื เมืองแหง่ ประเทศไทย มาตรา ๓๐ ให้จดั ต้ังกองทนุ สภาชนเผ่าพนื้ เมอื ง มีวตั ถปุ ระสงค์เพ่ือ (๑) สนับสนนุ กิจกรรมโครงการของสภาชนเผา่ พนื้ เมอื ง ตามมาตรา ๑๘ (๒) สนบั สนุนการด�ำเนนิ งานของคณะกรรมการ (๓) สนับสนุนการบริหารงานของส�ำนักงานสภา ตามมาตรา ๒๘ (๔) สนบั สนุนกจิ กรรมโครงการของกลุม่ ประชากรชนเผ่าพ้ืนเมือง เพ่ือสง่ เสริมการแก้ไขปญั หาเศรษฐกิจ สงั คม การเมือง วัฒนธรรม การศกึ ษา ภมู ปิ ัญญา สิง่ แวดล้อม พ้นื ทท่ี างจติ วญิ ญาณ กองทนุ ประกอบด้วยเงนิ และทรัพย์สิน ดังตอ่ ไปนี้ (๑) เงนิ ทุนประเดิมทีร่ ัฐบาลจดั สรรให้ตามมาตรา ๓๘ (๒) เงนิ อดุ หนุนที่รฐั บาลจัดสรรใหจ้ ากงบประมาณแผ่นดิน (๓) เงินหรอื ทรพั ยส์ ินทม่ี ีผบู้ ริจาคให้เพ่อื สมทบกองทุนโดยไม่มีเง่ือนไข (๔) ดอกผลหรอื รายได้อ่นื (๕) เงนิ และทรัพย์สินอนื่ ทตี่ กเป็นของกองทนุ มาตรา ๓๑ ใหค้ ณะรัฐมนตรีจัดสรรงบประมาณอดุ หนนุ ให้กองทนุ สภาชนเผา่ พื้นเมืองเป็นรายปี ในการสร้างความเข้ม แขง็ และเพยี งพอต่อการด�ำเนินงานของสภาชนเผา่ พืน้ เมอื ง มาตรา ๓๒ ให้คณะกรรมการกองทุน ประกอบดว้ ย กรรมการสภาทค่ี ัดเลือกกนั เองจ�ำนวนเจ็ดคน ผู้แทนส�ำนักนายก รัฐมนตรจี �ำนวนหนงึ่ คน ผู้แทนส�ำนกั งบประมาณจ�ำนวนหนง่ึ คน และผ้เู ชย่ี วชาญดา้ นการเงนิ และดา้ นชนเผ่าพืน้ เมืองด้านละ หน่งึ คน การแต่งตัง้ วาระการด�ำรงต�ำแหนง่ และการพ้นจากต�ำแหน่งของผู้ทรงคณุ วุฒติ ามวรรคหนงึ่ ให้เป็นไปตามระเบยี บที่ สภาชนเผ่าพ้นื เมืองก�ำหนด มาตรา ๓๓ ให้มีคณะกรรมการตติ ตาม ประเมิน ตรวจสอบการด�ำเนินงานของกองทนุ ประกอบด้วย ผทู้ รงคณุ วุฒทิ ม่ี ี ความเช่ียวชาญด้านการติตตาม ประเมิน ตรวจสอบ จ�ำนวนเจด็ คน ซง่ึ ไดร้ บั การคัดเลือกจากสภาชนเผา่ พ้นื เมอื ง 15 รา่ งพระราชบัญญตั ิสภาชนเผา่ พ้ืนเมืองแหง่ ประเทศไทย พ.ศ. ...

การแต่งต้ัง วาระการด�ำรงต�ำแหน่ง และการพน้ จากต�ำแหน่งของผ้ทู รงคณุ วุฒติ ามวรรคหนงึ่ ให้เป็นไปตามระเบยี บที่ สภาชนเผา่ พ้นื เมอื งก�ำหนด มาตรา ๓๔ ใหก้ องทุนสภาชนเผ่าพ้นื เมอื ง เปน็ นิตบิ ุคคล เงินและทรพั ยส์ ินตามมาตรา ๓๐ วรรคสอง ใหส้ ง่ เข้ากองทนุ โดยไมต่ อ้ งน�ำสง่ คลงั เปน็ รายได้แผน่ ดินตามกฎหมายว่า ด้วยเงินคงคลงั และกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ มาตรา ๓๕ บรรดาอสังหาริมทรพั ย์ท่กี องทุนได้มาตามมาตรา ๓๐ วรรคสอง โดยมีผบู้ ริจาคใหห้ รอื ได้มาโดยการซื้อด้วย เงินรายได้ของกองทุน หรอื แลกเปล่ียนกบั ทรพั ยส์ นิ ของกองทนุ ให้เป็นกรรมสิทธขิ์ องกองทนุ มาตรา ๓๖ ผบู้ ริจาคเงนิ แกก่ องทุนตามมาตรา ๓๐ วรรคสอง (๓) มีสทิ ธิน�ำจ�ำนวนเงนิ ท่บี รจิ าคไปหักเป็นค่าลดหยอ่ น ตามทีอ่ ธบิ ดีกรมสรรพากรก�ำหนด มาตรา ๓๗ ให้จดั ท�ำงบดลุ รายงานการเงินของกองทุนทผ่ี ตู้ รวจสอบบัญชรี ับรองแลว้ เสนอตอ่ รฐั มนตรเี มอื่ สิ้นปีบัญชงี บ ประมาณทุกปี ผตู้ รวจสอบบัญชตี ามวรรคแรก ต้องเปน็ ผูต้ รวจสอบบญั ชที ส่ี �ำนักงานตรวจเงนิ แผน่ ดินใหก้ ารรบั รอง 16 ร่างพระราชบญั ญัติสภาชนเผ่าพื้นเมอื งแห่งประเทศไทย พ.ศ. ...

บทเฉพาะกาล มาตรา ๓๘ ในวาระเร่ิมแรกใหส้ �ำนักนายกรฐั มนตรที �ำหนา้ ท่ีเปน็ ส�ำนักงานสภาชนเผ่าพื้นเมอื งร่วมกับเครือข่ายชนเผ่า พ้ืนเมืองท่มี อี ยู่ ด�ำเนนิ การเลือกสมาชิกสภาภายในหนึง่ รอ้ ยยี่สิบวัน และใหด้ �ำเนนิ การจัดตง้ั ส�ำนักงานตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ ภายในหนงึ่ ปี นบั แต่วันท่พี ระราชบญั ญตั นิ ้ีใช้บงั คับ รวมถงึ ด�ำเนนิ การรวบรวมจดั ท�ำทะเบยี นประชากรชนเผ่าพ้นื เมือง มาตรา ๓๙ ให้คณะรฐั มนตรีจัดสรรงบประมาณเบ้ืองต้นอย่างเพยี งพอ ส�ำหรับเปน็ ค่าใช้จ่ายใหแ้ กส่ �ำนกั งานตามมาตรา ๒๘ และเมื่อจัดตัง้ ส�ำนักงานได้แลว้ ให้โอนรายการทรพั ยส์ นิ ทั้งหมดที่มีอยใู่ หก้ องทนุ สภาชนเผ่าพ้ืนเมืองต่อไป ผ้รู ับสนองพระบรมราชโองการ ..................................... นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ : เหตผุ ลในการมีพระราชบัญญัตนิ ค้ี ือ เพอ่ื ใหส้ ภาชนเผ่าพื้นเมอื งแห่งประเทศไทย เป็นกลไกหลกั ในการส่งเสริม ประสานงาน และแก้ไขปญั หากลุม่ ประชากรดงั กลา่ วไดอ้ ยา่ งทัว่ ถึงทกุ ด้าน สอดคลอ้ งกบั หลักกฎหมายระหว่างประเทศ อนสุ ัญญาทีป่ ระเทศไทยไดล้ งนามเปน็ ภาคี และเจตนารมณข์ องปฏญิ ญาสหประชาชาตวิ า่ ดว้ ยสิทธิชนเผา่ พ้นื เมือง 17 ร่างพระราชบญั ญัติสภาชนเผ่าพน้ื เมอื งแห่งประเทศไทย พ.ศ. ...

ภาคผนวก ง รายนามเจา้ หนา้ ทป่ี ระจาคณะอนกุ รรมาธกิ าร

รายนามเจ้าหนา้ ทปี่ ระจาคณะอนกุ รรมาธกิ าร เจา้ หนา้ ท่ีประจากลุ่มงานคณะกรรมาธิการกิจการเดก็ เยาวชน สตรี ผู้สงู อายุ ผู้พิการ กล่มุ ชาตพิ ันธ์ุ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สานักกรรมาธกิ าร ๓ โทร. ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ ต่อ ๗๑๒๐ – ๑ ๑. นายสเุ ทพ เอีย่ มคง ผบู้ งั คับบัญชากลมุ่ งาน ๒. นางสาวมณฑชิ า ผลหาญ นิตกิ รชานาญการพเิ ศษ ๓. นายดารง วรรณสอน นิตกิ รชานาญการพิเศษ ๔. นางสาวรตั ตยิ า พนาจันทร์ นิตกิ รชานาญการ ๕. นางสาวศิริรัตน์ เต็มศริ ิ วิทยากรปฏิบัตกิ าร ๖. นางสาวบุญแท้ โดดเครือ เจ้าพนักงานธรุ การอาวุโส ๗. นางอาพรพันธุ์ อนิ ทรแพทย์ เจ้าพนักงานธรุ การชานาญงาน

ภาคผนวก จ รายนามผู้จัดทา

๑. นายสุรพงษ์ กองจันทึก รายนามผจู้ ัดทา เลขานุการคณะอนุกรรมาธกิ าร ผู้จัดทา ๒. นายชพู นิ ิจ เกษมณี ผ้จู ดั ทา ทีป่ รกึ ษาคณะอนุกรรมาธิการ ผู้จดั ทา ผจู้ ัดพมิ พ์ ๓. นายดารง วรรณสอน นติ กิ รชานาญการพเิ ศษ ๔. นางอาพรพนั ธ์ุ อนิ ทรแพทย์ เจ้าพนกั งานธุรการชานาญงาน