Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore (4) เรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว

(4) เรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว

Published by agenda.ebook, 2020-12-03 11:06:06

Description: (4) เรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 2 ครั้งที่ 9 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันที่ 16 ธันวาคม 2563

Search

Read the Text Version

- ๓๗ - ๔. ขอ้ สังเกตของคณะกรรมาธิการ จากการพิจารณาศึกษาสภาพปญั หาและแนวทางสง่ เสรมิ และคมุ้ ครองกลมุ่ ชาตพิ ันธใ์ุ นประเทศไทย ซ่ึงรัฐัาลและหน่วยงานท่ีเก่ียว้้องมีหน้าที่สื่อสารสร้างความเ้้าใจอย่างต่อเนื่องระหว่างรัฐกัักลุ่มชาติพันธ์ุ คณะกรรมาธิการไดท้ าการวิเคราะหส์ ภาพปัญหาและมี้้อสังเกต ดงั นี้ ๑) รัฐบาลควรมีการเร่งรัดให้มีการตรา “ร่างพระราชบัญญัตสิ ่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพนั ธุ์ พ.ศ. ....” ้ึ้นโดยเร็ว เนื่องจากเป็นกฎหมายที่เร่งด่วนและมีความจาเป็น โดยศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ดาเนินการใหแ้ ล้วเสร็จภายในปี พศศศ ๒๕๖๔ เพื่อเป็นการรััรองและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธ์ุ ตามรัฐธรรมนูญ สอดรัักัักฎหมายระหว่างประเทศ และเพ่ือเป็นการเ้้าถึงสิทธิหน้าท่ี้องประชาชน ให้ครอัคลุมทุกกลุ่มมาก้นึ้ ซง่ึ ในเน้ือหา้องร่างพระราชััญญัตดิ ังกล่าวอย่างนอ้ ยต้องประกอัด้วยเนื้อหา ดังน้ี ๑ศ๑) หมวดัทท่ัวไป ๑ศ๑ศ๑ ความหมาย้องกลุ่มชาติพันธุ์ กลมุ่ ชาติพันธ์ุให้หมายรวมถึงชนเผา่ พน้ื เมืองด้วย ๑ศ๑ศ๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคง้องมนุษย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รักษาการพระราชััญญัติน้ี และมีอานาจออกระเัียัและประกาศ เพ่ือปฏัิ ตั กิ ารพระราชััญญตั นิ ้ี ท้งั นีใ้ นส่วนทเ่ี ก่ียวกัั ราชการ้องกระทรวงนัน้ ๑ศ๒) หมวดการส่งเสริมและคุม้ ครองกลุ่มชาติพันธ์ุ ๑ศ๒ศ๑ ประเทศไทยเปน็ ประเทศพหชุ าติพันธุ์ และพหวุ ัฒนธรรม ๑ศ๒ศ๒ ไมม่ ีการเหยยี ดหยาม สรา้ งความเกลียดชงั หรือเลอื กปฏิััตทิ างชาติพนั ธุ์ ๑ศ๒ศ๓ กลุ่มชาติพันธุ์มีสิทธิอนุรักษ์ ฟ้ืนฟู และส่งเสริมภูมิปัญญา ศิลปะวัฒนธรรม ้นัธรรมเนียม และจารีตประเพณอี ันดีงาม ๑ศ๒ศ๔ กลมุ่ ชาติพันธม์ุ ีสทิ ธิจดั การ ัารุงรักษา และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สงิ่ แวดล้อม และความหลากหลายทางชวี ภาพอยา่ งสมดลุ และยง่ั ยืน ตามวถิ ชี วี ิตและวัฒนธรรม ๑ศ๒ศ๕ กลมุ่ ชาตพิ นั ธุม์ ีสิทธไิ ด้รััการสง่ เสริมในการพัฒนาคณุ ภาพชวี ิต กล่มุ ชาตพิ นั ธมุ์ ีสทิ ธิได้รััการส่งเสริมในการมีส่วนรว่ มในกระัวนการทางสังคม โดยไดร้ ัั การจัดสรรท่คี านึงถงึ สัดส่วน้องกลุม่ ชาติพันธ์ุ ๑ศ๒ศ๖ กลุ่มชาติพันธุ์มีสิทธิได้รััการส่งเสริมให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อประโยชน์ ้องชมุ ชนและสังคม รวมทั้งไดร้ ััการคุ้มครองในการดาเนินกจิ กรรมเพื่อประโยชน์้องชมุ ชนและสังคม ๑ศ๒ศ๗ กลุ่มชาติพันธุ์ได้รััการคุ้มครองและเ้้าถึงสิทธิ้้ันพ้ืนฐานและสิทธิมนุษยชน อาทิ ไดร้ ััเอกสารรัั รองตวั ัคุ คล (ัตั รประจาตวั ) ไดร้ ัั การศึกษา ได้รัั สิทธริ ักษาพยาัาล เป็นตน้ ๑ศ๒ศ๘ กลุ่มชาติพันธ์ุได้รััการคุ้มครอง มีสิทธิครอัครองและสิทธิในการจัดการ พนื้ ทช่ี มุ ชนทอ้ งถนิ่ ดง้ั เดมิ พื้นที่อยอู่ าศัย พื้นทที่ ากิน พืน้ ท่ีทางวัฒนธรรมและจติ วญิ ญาณ ๑ศ๒ศ๙ กลุ่มชาติพันธุ์มีสิทธิและเ้้าถึงการคุ้มครองทางกฎหมาย และได้รััการส่งเสริม ด้านพหุนยิ มทางกฎหมาย ๑ศ๓) หมวดคณะกรรมการส่งเสริมและคมุ้ ครองกลมุ่ ชาตพิ ันธุ์ ๑ศ๓ศ๑ ใหม้ ีคณะกรรมการส่งเสริมและค้มุ ครองกลุม่ ชาติพนั ธ์ุแหง่ ชาติ ๑ศ๓ศ๒ ใหม้ สี ดั สว่ นผู้แทนกลมุ่ ชาติพนั ธใุ์ นคณะกรรมการ ๑ศ๓ศ๓ ให้มคี ณะกรรมการสง่ เสริมและคุม้ ครองกล่มุ ชาตพิ นั ธ์กุ รงุ เทพมหานครและจงั หวัด ๑ศ๓ศ๔ ให้มสี ัดสว่ นผู้แทนกลมุ่ ชาติพันธ์ุในคณะกรรมการ ๑ศ๓ศ๕ ให้มีสานักงานเล้านุการคณะกรรมการส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ แห่งชาติและศูนย์ประสานงานส่งเสริมและค้มุ ครองกลุ่มชาติพันธุ์กรุงเทพมหานครและจังหวัด สังกัดกระทรวง การพัฒนาสังคมและความมน่ั คง้องมนษุ ย์

- ๓๘ - ๑ศ๔) หมวดสภากลมุ่ ชาติพันธุ์ ๑ศ๔ศ๑ ใหม้ สี ภากล่มุ ชาติพันธุ์แหง่ ชาติ ๑ศ๔ศ๒ ตามแนวทางร่างพระราชััญญัติสภาชนเผ่าพ้ืนเมืองแห่งประเทศไทย พศศศ ศศศศ ซ่ึงเสนอโดยคณะกรรมการปฏริ ปู กฎหมาย ๑ศ๔ศ๓ ให้มสี ภากลุม่ ชาตพิ ันธุร์ ะดััทอ้ งถน่ิ ๑ศ๕) หมวดกองทุนส่งเสริมและพฒั นากล่มุ ชาตพิ นั ธุ์ ๑ศ๕ศ๑ ใหม้ คี ณะกรรมการัริหารกองทนุ ๑ศ๕ศ๒ ใหม้ ีคณะกรรมการติดตามและประเมนิ ผลการดาเนินงานกองทนุ ๑ศ๖) หมวดัทลงโทษ ๑ศ๖ศ๑ ผเู้ หยยี ดหยาม สรา้ งความเกลียดชัง หรือเลือกปฏัิ ัตทิ างชาตพิ ันธุ์ ๑ศ๖ศ๒ ผู้ละเมิดพ้ืนท่ีชุมชนท้องถ่ินด้ังเดิม พ้ืนที่อยู่อาศัย พื้นท่ีทากิน พ้ืนที่ทาง วัฒนธรรมและจติ วิญญาณ้องกล่มุ ชาติพนั ธ์ุ ๑ศ๗) หมวดัทเฉพาะกาล ๑ศ๗ศ๑ ให้สารวจและจัดทา ้้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์ ้้อมูลชุมชน พื้นที่ชุมชนท้องถ่ิน ด้ังเดิม พ้ืนที่อยู่อาศัย พ้ืนท่ีทากิน พื้นท่ีทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณ โดยในระหว่างการดาเนินการสารวจ และจัดทาพ้นื ที่ดังกลา่ ว ให้กลุ่มชาตพิ นั ธุ์สามารถใช้สิทธใิ นพืน้ ทีด่ งั กล่าวตามวิถีชีวิตและวัฒนธรรม ๑ศ๗ศ๒ ให้ศูนย์พัฒนาราษฎรันพื้นท่ีสูงและกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง้องมนุษย์ ปฏิััติหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานส่งเสริมและคุ้มครอง กลุ่มชาติพันธ์ุและสานักงานเล้านุการคณะกรรมการส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์แห่งชาติ จนกว่า จะมีการจัดต้ังศูนย์ประสานงานส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์และสานักงานเล้านุการคณะกรรมการ ส่งเสรมิ และคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุแ์ หง่ ชาติแล้วเสรจ็ ๒) ศนู ย์มานุษยวทิ ยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ควรมีการพิจารณาบรู ณาการร่างพระราชบัญญัติ ที่จะเกิดขึ้นใหม่ (ร่างพระราชััญญัติส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ พศศศ ศศศศ) เ้้ากััมติคณะรัฐมนตรีว่าด้วย การฟ้ืนฟูวิถีชีวิตชาวเล เมื่อวันท่ี ๒ มิถุนายน ๒๕๕๓ และมติคณะรัฐมนตรี เม่ือวันท่ี ๓ สิงหาคม ๒๕๕๓ เรื่อง แนวนโยัายในการฟ้ืนฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง และร่างพระราชััญญัติสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย พศศศ …. ซ่ึงเป็นร่างพระราชััญญัติ้องภาคประชาชนท่ีเคยนาเสนอโดยคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายต่อรัฐัาล แต่ยังไม่ผ่านการพิจารณา ต่อมาสภาชนเผ่าพ้ืนเมืองแห่งประเทศไทยได้เสนอต่อคณะกรรมาธิการการสังคม เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส สภานิติััญญัติแห่งชาติ แต่ยังไม่ผ่านการพิจารณาเช่นกัน จะทาใหเ้ น้ือหาครอัคลุมและตรงกััเจตนารมณ์้องรัฐธรรมนูญและ้องประชาชนมากทสี่ ดุ ๓) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม โดยกรมอุทยานแห่งชาติสัตวป์ ่าและพันธพ์ุ ืช และกรมป่าไม้ ควรปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี วนั ท่ี ๓ สิงหาคม ๒๕๖๓ เร่ือง แนวนโยบายในการฟื้นฟูวิถีชีวิต ชาวกะเหรี่ยง และชะลอการดาเนินคดีกับประชาชน อันเป็นผลจากการัังคััใช้พระราชััญญัติป่าชุมชน พศศศ ๒๕๖๒ พระราชััญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พศศศ ๒๕๖๒ และพระราชััญญัติอุทยานแห่งชาติ พศศศ ๒๕๖๒ ท่ีจะส่งผลกระทัต่อชวี ติ ความเปน็ อยู่หรอื วถิ ีชวี ิต้องกลุ่มชาติพันธุโ์ ดยตรง กลายเปน็ ผู้กระทาผิด กฎหมายท้ังที่อยู่มาก่อนเป็นชุมชนท้องถิ่นด้ังเดิม ซ่ึงอยู่กันมาหลายช่ัวอายุคนที่ในระดัันานาชาติให้การยอมรัั เร่ือง Ancestor Domain อีกทั้งยังไม่สอดคล้องกััหลักการและเจตนารมณ์้องอนุสัญญาว่าด้วยความ หลากหลายทางชีวภาพ และการสารวจรังวัดที่ดินไม่สามารถทาให้แล้วเสร็จภายใน ๒๔๐ วัน ประกอักัั รัฐมีหน้าท่ีต้องสร้างความเ้้าใจต่อประชาชนตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๗๗ วรรคหน่ึง ััญญัติว่า “รัฐพึงจัดให้มีกฎหมายเพียงเท่าท่ีจาเป็น และยกเลิกหรือปรััปรุงกฎหมาย



ภาคผนวก

ภาคผนวก ก คาสั่งแตง่ ตง้ั คณะอนุกรรมาธกิ าร









ภาคผนวก ข ภาพกิจกรรม

การประชมุ คณะอนุกรรมาธกิ ารเพ่อื พิจารณาศกึ ษาดา้ นผู้สงู อายุ ผู้พกิ าร และกล่มุ ชาตพิ ันธ์ุ

วันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๒ คณะกรรมาธิการเข้ารับฟังปัญหาและพบปะตัวแทน กลุ่มชาติพันธ์ุในพ้ืนที่ จานวน ๕ ชนเผ่า (ม้ง ปกาเกอะญอ ลีซอ เม่ียน อาข่า) ณ องค์การบริหาร ส่วนตาบลคีรีราษฎร์ อาเภอพบพระ จงั หวัดตาก

วันท่ี ๒๖ กันยายน ๒๕๖๒ คณะกรรมาธิการศึกษาดูงานในพ้ืนที่จริงที่เกิดปัญหาด้าน ท่ีอยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์กรณีพ้ืนที่อยู่อาศัย ท่ีดินทากินทับซ้อนหรืออยู่ในเขตพ้ืนท่ีอนุรักษ์ ณ บ้านแม่กลองน้อย บ้านแม่กลองใหญ่ เขตติดต่ออาเภอพบพระ และอาเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ลงพ้นื ทศี่ กึ ษาดูงานทัง้ ๒ หมู่บ้าน (บา้ นแมก่ ลองน้อย บ้านแม่กลองใหญ่)

วันท่ี ๑๙ มกราคม ๒๕๖๓ คณะกรรมาธิการเข้ารับฟังการบรรยายสรุปเก่ียวกับสภาพ ปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ชาวเขา ณ ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพ้ืนที่สูงจังหวัดเชียงใหม่ และเย่ียมชม พิพิธภัณฑ์เรียนรูร้ าษฎรบนพนื้ ท่สี ูง จงั หวัดเชียงใหม่ (พพิ ธิ ภัณฑ์ชาวเขา) (ช่วงเช้า)

คณะกรรมาธิการเยี่ยมชมสมาคมศูนย์รวมการศึกษาและวัฒนธรรมของชาวไทยภเู ขา ในประเทศไทย (ช่วงบา่ ย)

วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๖๓ คณะกรรมาธิการเข้ารว่ มการจดั เสวนา เรอ่ื ง “กฎหมายว่าด้วย การส่งเสริมและอนุรักษ์วิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์” ณ ห้องประชุมนรสิงห์ วิทยาลัยบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลยั แมโ่ จ้ อาเภอสนั ทราย จงั หวดั เชยี งใหม่

ภาคผนวก ค เอกสารทีเ่ กยี่ วขอ้ ง

มตคิ ณะรัฐมนตรีว่าดว้ ยการฟ้นื ฟวู ิถชี วี ติ ชาวเล วนั ที่ ๒ มถิ นุ ายน ๒๕๕๓

มติคณะรฐั มนตรวี ่าด้วยการฟนื้ ฟูวิถีชีวติ ชาวเล ๒ มถิ นุ ายน ๒๕๕๓ ๑. มาตรการฟื้นฟรู ะยะสนั้ ดาเนินการภายใน ๖-๑๒ เดือน หนว่ ยงานท่ีรบั ผิดชอบ ๑.๑ การสร้างความม่ันคงด้านที่อยู่อาศยั ด้วยการจดั ทาโฉนดชุมชนเพื่อเปน็ กระทรวงมหาดไทย (มท.) เขตสังคมและวัฒนธรรมพเิ ศษสาหรับกล่มุ ชาวเล โดยให้มกี ารพสิ ูจน์สิทธิในท่ี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ อยู่อาศัยของชมุ ชนผา่ นภาพถ่ายทางอากาศและดว้ ยวธิ ีอื่น ๆ ท่ีไม่ใช้เอกสาร และสงิ่ แวดล้อม (ทส.) สทิ ธแิ ตเ่ พยี งอย่างเดยี ว และให้แต่งตงั้ อนุกรรมการแก้ไขปัญหาทด่ี ิน เพื่อการ พสิ จู น์ทดี่ ิน ชมุ ชนชาวเลเป็นการเฉพาะ ๑.๒ การใหช้ าวเลสามารถประกอบอาชีพประมง หาทรัพยากรตามเกาะต่าง ทส. ๆ ได้ และเสนอผ่อนปรนพเิ ศษในการประกอบอาชีพประมงที่ใช้อุปกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดง้ั เดมิ ของกล่มุ ชาวเลในการเขา้ ไปทามาหากนิ ในพน้ื ท่ีอุทยานและเขต (กษ.) อนุรกั ษ์อ่ืน ๆ และกันพนื้ ท่ีจอด ซอ่ มเรือ เสน้ ทางเข้า-ออกเรือ เน่ืองจาก สว่ นมากทับซ้อนพน้ื ที่เพ่ือการท่องเท่ยี ว มคี วามขดั แย้งกนั เปน็ ระยะ รวมถึง การควบคุมเขตการทาประมงอวนลากและอวนรนุ ใหเ้ ปน็ ไปตามข้อตกลง อย่างแทจ้ ริง (รุกลา้ เขตประมงชายฝัง่ ) ๑.๓ การช่วยเหลือดา้ นสาธารณสุขเพื่อฟน้ื ฟูสาหรับผไู้ ดร้ บั ผลกระทบจาก กระทรวงสาธารณสขุ (สธ.) การประกอบอาชพี หาปลา/ดาน้าทาให้เกิดโรคน้าหนบี และการมีปญั หาดา้ น สขุ ภาพ ๑.๔ การชว่ ยแกป้ ญั หาสัญชาติในกลุม่ ชาวเลทไี่ ม่มบี ัตรประชาชน มท. ๑.๕ การสง่ เสรมิ ด้านการศึกษาแก่เด็กและสนับสนุนทนุ การศกึ ษาอยา่ ง กระทรวงศกึ ษาธิการ (ศธ.) ตอ่ เน่ือง พร้อมกบั จัดตั้งการศึกษาพิเศษ/หลักสูตรท้องถ่นิ ที่สอดคล้องกับวถิ ี ชวี ติ ชมุ ชน เนือ่ งจากเด็กชาวเลออกจากโรงเรียนก่อนจบการศึกษาภาคบังคบั ๑.๖ การแกป้ ัญหาอคติทางชาตพิ ันธแุ์ ละให้มองชาวเลอย่างมศี ักด์ิศรมี ีความ วธ. เปน็ มนษุ ย์ ๑.๗ การสง่ เสรมิ ด้านภาษาและวัฒนธรรมทอ้ งถ่ินของชาวเลและสนบั สนนุ วธ. งบประมาณจดั กิจกรรมต่อเน่ือง เชน่ สง่ เสรมิ ใหม้ โี รงเรยี นสอนภาษา ศธ. วัฒนธรรมในชุมชน ส่งเสรมิ ให้มกี ารสอนศิลปวฒั นธรรมชาวเลในหลกั สูตร สามญั ส่งเสรมิ ชมรมท้องถิน่ ในโรงเรยี น เช่น ชมรมภาษา ชมรมรอ็ งแง็ง ส่งเสรมิ การใช้สื่อทีห่ ลากหลาย สอื่ บุคคล สือ่ พืน้ บา้ น สื่อสมยั ใหม่ ในการ อนรุ ักษว์ ัฒนธรรมชมุ ชน เป็นตน้ ๑.๘ ชุมชนท่ีมีกลมุ่ องค์กรทเ่ี ข้มแขง็ อยแู่ ลว้ ขอให้ภาครัฐดาเนินการแก้ไข กระทรวงการพัฒนาสงั คมและ ปัญหาต่าง ๆ และส่งเสริมชุมชนให้เกิดกจิ กรรมท่ีมีความต่อเนื่อง ความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ๑.๙ การจัดสรรงบประมาณเพอ่ื สง่ เสรมิ การทางานของเครือข่ายชาวเล ให้ พม. เกิดขึน้ เปน็ รูปธรรมและใหม้ ีงบประมาณสง่ เสรมิ \"วันนัดพบวฒั นธรรมชาวเล\" วธ. เพอ่ื จดั กิจกรรมและการพบปะแลกเปลีย่ น (ในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี) โดยขอสนับสนนุ งบประมาณจากหน่วยงานภาครฐั ศนู ยม์ านุษยวิทยาสิรินธร หรือองคก์ รทเ่ี ก่ียวข้อง โดยชมุ ชนขอเป็นหลกั ในการจัดกิจกรรมดังกล่าว ๒. มาตรการการฟื้นฟูในระยะยาว ดาเนนิ การภายใน ๑-๓ ปี หนว่ ยงานรบั ผดิ ชอบ ๒.๑ พจิ ารณากาหนดพ้นื ท่ีเขตวัฒนธรรมพิเศษที่เอื้อต่อกลุ่มชาติพันธ์ุทีม่ ี ทส.มท.พม.ศธ.วธ. ลักษณะสังคมวฒั นธรรมจาเพาะ

มตคิ ณะรฐั มนตรีวา่ ดว้ ย เรอื่ ง แนวนโยบายในการฟืน้ ฟูวถิ ชี ีวติ ชาวกะเหรย่ี ง วันที่ ๓ สงิ หาคม ๒๕๕๓







ระเบยี บสานกั นายกรฐั มนตรีวา่ ดว้ ยการบริหาร การพฒั นาชมุ ชน ส่งิ แวดลอ้ ม และ ควบคมุ พชื เสพติดบนพื้นทสี่ ูง พ.ศ. ๒๕๔๐

































คาส่ังนายกรฐั มนตรี ที่ ๖๖/๒๕๒๓ เรื่อง นโยบายการตอ่ สเู้ พ่ือเอาชนะคอมมิวนสิ ต์













รา่ งพระราชบญั ญัติสภาชนเผา่ พื้นเมืองแหง่ ประเทศไทย พ.ศ. .... (ฉบบั สภาชนเผา่ พื้นเมอื งแหง่ ประเทศไทย)

บนั ทึกหลกั การและเหตผุ ลประกอบ รา่ งพระราชบัญญตั สิ ภาชนเผ่าพ้นื เมืองแหง่ ประเทศไทย พ.ศ. .... ---------------------------------------- หลักการ ใหม้ กี ฎหมายว่าด้วยสภาชนเผา่ พ้นื เมอื งแหง่ ประเทศไทย เหตผุ ล โดยที่รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พันธกรณีระหว่างประเทศ ที่ประเทศไทยได้ลงนามเป็นภาคี และเจตนารมณ์ ของปฏิญญาสหประชาชาตวิ ่าดว้ ยสทิ ธิชนเผา่ พ้ืนเมือง ซึง่ ทป่ี ระชุมสมัชชาใหญแ่ หง่ สหประชาชาตใิ ห้การรบั รองเม่ือวันที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๐ ถอื เปน็ พนั ธะของรัฐบาลทีจ่ ะตอ้ งให้การส่งเสรมิ ค้มุ ครอง และปกป้องสิทธขิ องชนเผา่ พืน้ เมืองท่มี อี ยู่ใน ประเทศของตน กลมุ่ ประชากรชนเผ่าพน้ื เมอื งในประเทศไทยเปน็ ชมุ ชนท้องถิน่ ด้ังเดิมทต่ี ง้ั ถิ่นฐานอย่ใู นประเทศไทยมายาวนาน มวี ถิ ี ชีวิตและวัฒนธรรมท่ีหลากหลาย มอี ตั ลกั ษณ์เฉพาะแตกตา่ งกันไป กระจายตัวอยู่ตามภมู ภิ าคตา่ งๆ กลมุ่ ประชากรเหลา่ นม้ี ีองค์ ความรูแ้ ละภมู ปิ ญั ญา รวมท้ังมีความมงุ่ มน่ั ที่จะอนุรกั ษ์ พัฒนาและสืบทอดวิถีชวี ิต อัตลกั ษณแ์ ละระบบแบบแผนภูมิปัญญาของ ตนเอง แต่กล่มุ คนเหลา่ นีส้ ว่ นใหญ่ยงั เปน็ ผู้ดอ้ ยหรอื ขาดโอกาสจากกระบวนการพฒั นาของรฐั ท�ำให้ถูกจ�ำกดั สิทธใิ นการพัฒนา ซ่งึ กอ่ ใหเ้ กดิ ความเหลอ่ื มล�้ำและไม่เปน็ ธรรมในการด�ำรงวถิ ชี ีวติ เพอ่ื ใหเ้ กิดกลไกหลักในการส่งเสรมิ ประสานงาน และแก้ไข ปญั หากล่มุ ชนเผ่าพืน้ เมอื งดงั กล่าวไดอ้ ยา่ งทว่ั ถงึ ทุกดา้ นและสอดคลอ้ งกับวิถวี ฒั นธรรมท่หี ลากหลาย จงึ มีความจ�ำเปน็ ต้องตรา พระราชบัญญัตินี้ 8 ร่างพระราชบญั ญัติสภาชนเผ่าพน้ื เมืองแห่งประเทศไทย พ.ศ. ...

(รา่ ง) พระราชบัญญัติ สภาชนเผา่ พืน้ เมอื งแหง่ ประเทศไทย พ.ศ. ...... ............................. ........................................................................ ........................................................................ ....................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ....................... โดยทเ่ี ปน็ การสมควรใหม้ ีกฎหมายวา่ ด้วยสภาชนเผา่ พ้นื เมืองแหง่ ประเทศไทย พระราชบัญญตั ินี้มบี ทบัญญัติบางประการเกีย่ วกับการจ�ำกัดสทิ ธิเสรภี าพของบุคคล ซง่ึ มาตรา....... ประกอบกับ มาตรา........ของรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย บญั ญตั ใิ หก้ ระท�ำไดโ้ ดยอาศยั อ�ำนาจตามบทบญั ญัตแิ ห่งกฎหมาย ......................................................................................................................................................................................... ....................... มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้ เรียกวา่ “พระราชบัญญตั สิ ภาชนเผ่าพ้ืนเมอื งแห่งประเทศไทย พ.ศ. ......” มาตรา ๒ พระราชบญั ญตั นิ ใี้ หใ้ ช้บังคบั ตั้งแตว่ นั ถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นตน้ ไป มาตรา ๓ ในพระราชบญั ญัติน้ี “ชนเผ่าพื้นเมือง” หมายความวา่ บคุ คลทร่ี วมกลมุ่ และตั้งถ่นิ ฐานร่วมกนั โดยมีการสืบทอด อนรุ ักษ์ และพฒั นาพ้ืนท่ี ของบรรพบรุ ษุ และอัตลกั ษณท์ างชาตพิ นั ธุ์ ตลอดจนภาษาและมีแบบแผนทางวัฒนธรรมของตนเองมาจนถึงปัจจุบนั “สมาชกิ ” หมายถงึ สมาชกิ สภาชนเผ่าพื้นเมอื งแหง่ ประเทศไทย “คณะกรรมการ” หมายถงึ คณะกรรมการสภาชนเผ่าพน้ื เมอื งแห่งประเทศไทย “สภาชนเผา่ พน้ื เมอื ง” หมายถงึ สภาชนเผา่ พน้ื เมืองแห่งประเทศไทย “ส�ำนกั งาน” หมายถงึ ส�ำนกั งานสภาชนเผา่ พ้ืนเมอื งแหง่ ประเทศไทย มาตรา ๔ ชนเผา่ พนื้ เมืองแตล่ ะกลุ่มมาข้ึนทะเบียนกบั ส�ำนักงาน ตามหลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการทส่ี ภาชนเผา่ พนื้ เมือง ก�ำหนด มาตรา ๕ ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตนิ ี้ และใหม้ ีอ�ำนาจออกกฎระเบียบเพือ่ ปฏบิ ตั กิ ารตาม พระราชบญั ญตั ินี้ กฎระเบียบน้ัน เม่อื ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้บังคบั ใชไ้ ด้ 9 ร่างพระราชบญั ญตั ิสภาชนเผา่ พ้ืนเมอื งแหง่ ประเทศไทย พ.ศ. ...


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook