44 แบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๖ ท.่ี ................................ …..........(สว่ นราชการเจา้ ของหนงั สือ)............... ...........(วัน เดือน ป)ี ............... เรือ่ ง รายงานขา่ วสารและสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดยาเสพตดิ เรยี น เลขาธิการ ป.ป.ส. อา้ งถึง ๑. ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ว่าด้วยการแต่งตั้งการปฏิบัติหน้าที่ และ การกำกับดูแลการปฏิบตั หิ น้าที่ของเจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๕ ๒. ระเบียบสำนักงาน ป.ป.ส. ว่าด้วยการออกบัตรประจำตัวและการรายงานการปฏิบัติหน้าท่ีของ เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๖ สงิ่ ท่ีสง่ มาดว้ ย .............( แผนผงั พื้นทีแ่ พรร่ ะบาด/ภาพถ่ายบคุ คลเปา้ หมาย )............... ตามหนังสือทีอ่ ้างถงึ ได้กำหนดใหเ้ จ้าพนักงาน ป.ป.ส. รายงานขอ้ มูลขา่ วสารเก่ียวกับพฤตกิ ารณข์ อง ผู้ค้ายาเสพติด หรือสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นท่ี หรือในสถานประกอบการ ให้เลขาธิการ ป.ป.ส. ทราบตามความในข้อ ๑๓ และข้อ ๒๕(๓) ตามระเบียบที่อ้างถึง ๑ และตามความในข้อ ๑๙(๓) ตามระเบยี บที่อ้างถึง ๒ นัน้ ข้าพเจา้ ไดร้ ับขอ้ มูลขา่ วสารและสถานการณก์ ารแพร่ระบาดยาเสพตดิ ดังนี้ ๑. วนั ทไ่ี ดร้ ับข่าวสาร (วนั , เดือน, ป)ี ...............................................................................……….......... ๒. พื้นท่แี พร่ระบาด (อำเภอ, จงั หวัด) .............................…................................................................ ๓. รายละเอยี ด (บุคคล/สถานท/ี่ ยานพาหนะ ฯลฯ)…………................................................................. ……………………………………………………………………………………………………………………………….…..............................................….................... ……………………………………………………………………………………………………………………………….............................................................…………. ๔. พฤติการณ์ในการกระทำผิด……………………………………………………………….......................……………................….. ……………………………………………………………………………………………………………………………….…......…............................................................ …………………………………………………………………………………………………………………………….….............................................................………… ๕. อนื่ ๆ……………………………………………………................................…………………………………………………......................... ……………………………………………………………………………………………………………………………….…......…............................................................ …………………………………………………………………………………………………………………………….….............................................................………… จึงเรยี นมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนนิ การตามระเบยี บตอ่ ไป ขอแสดงความนบั ถือ (ลงช่ือ)................................................... (..................(พิมพ์ชอื่ เต็ม)...................) ....................(ตำแหนง่ )...................... เลขประจำตัว………………………………. .................(ส่วนราชการเจา้ ของเรอ่ื ง)............ โทร.................โทรสาร..........
45 แบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๗ ที่.................................. ……(สว่ นราชการเจา้ ของหนงั สือ)........ ...........(วัน เดือน ป)ี ............... เรื่อง รายงานการให้ความรว่ มมือในการปฏบิ ัติงาน เรยี น เลขาธกิ าร ป.ป.ส. อ้างถงึ ๑. ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ว่าด้วยการแต่งต้ัง การปฏิบัติหน้าท่ี และ การกำกับดแู ลการปฏบิ ตั ิหน้าที่ของเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๕ ๒. ระเบียบสำนักงาน ป.ป.ส. ว่าด้วยการออกบัตรประจำตัวและการรายงานการปฏิบัติหน้าท่ีของ เจา้ พนักงาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๖ สง่ิ ท่ีส่งมาด้วย..............(สำเนาบนั ทกึ ขอความร่วมมือ บันทกึ ตรวจค้น จับกุม) ............. ตามหนังสือที่อ้างถึง ได้กำหนดให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. รายงานผลการปฏิบัติตามคำร้องขอจาก เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ต่างสังกัดหรือผู้ที่เลขาธิการมอบหมายเก่ียวกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ให้เลขาธิการ ป.ป.ส. ทราบ ตามความในข้อ ๒๕ (๔) ตามระเบียบท่ีอ้างถึง ๑ และตามความในข้อ ๑๙ (๔) ตามระเบยี บทีอ่ า้ งถงึ ๒ นน้ั ข้าพเจ้าขอเรียนให้ทราบว่า เม่ือวันที่..............เดือน.............พ.ศ. ...........เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. หรือ ผู้ท่ีเลขาธิการมอบหมาย ช่ือ................................สังกัด.............................................ได้มาขอความร่วมมือในการ ปฏบิ ตั หิ น้าทีป่ ราบปรามยาเสพตดิ ดังน้ี ( ) ค้นบุคคล หรอื เคหสถาน หรอื สถานท่ี หรือยานพาหนะ ( ) จับกมุ บุคคลที่กระทำความผิดตามกฎหมายเก่ยี วกบั ยาเสพตดิ ( ) ยึด หรืออายัดยาเสพติด หรอื ทรพั ย์สนิ อ่นื ( ) ตรวจหรอื ทดสอบหาสารเสพติดในรา่ งกาย ( ) อ่นื ๆ (เชน่ ฝากควบคมุ ผ้ถู กู จับ เก็บรักษายาเสพตดิ ของกลาง) ข้าพเจ้า ได้ร่วมปฏิบัติงานตามท่ีขอความร่วมมือปรากฏผลการปฏิบัติงานโดยมีรายละเอียด ดังนี้ (ระบชุ ือ่ บคุ คล สถานที่ ยานพาหนะ ฯลฯ ท่เี กี่ยวข้อง)………………………………………..........................………………….…..………………. .................................................................................................................................................................................. จึงเรยี นมาเพ่ือโปรดพจิ ารณาดำเนินการตามระเบียบต่อไป ขอแสดงความนับถือ (ลงชอ่ื ).............................................. (..................(พิมพ์ชอ่ื เตม็ )...................) ..................(ตำแหน่ง)........................ เลขประจำตัว………………………………. .................(สว่ นราชการเจา้ ของเรอื่ ง)............ โทร.................โทรสาร...........
46 แบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๘ บนั ทกึ เหตแุ หง่ การตรวจคน้ เขยี นท.่ี ................................... วันท.่ี ............เดอื น..................พ.ศ. .......... วันนี้ (.......................) เวลา...........................ข้าพเจา้ ............................................................................... ตำแหนง่ .....................................เจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. หมายเลขประจำตัว ............................................................... มีอำนาจตามมาตรา ๑๔(๑) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ แก้ไขเพ่ิมเติม โดยพระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ ไดม้ าตรวจค้นบ้านเลขท.ี่ ................ หมูท่ ี.่ ....................ถนน...................................ตำบล/แขวง....................................อำเภอ/เขต................................. จงั หวัด.....................................ซึ่งมีนาย/นาง/นางสาว ..................................................................เป็นผ้คู รอบครอง โดยมเี หตอุ ันควรสงสัยตามสมควรวา่ ....................................................................................................................... ………………………………………………………………………………………………………………….............................................…………………....………………….. ………………………………………………………………………………………………………………….............................................…………………....………………….. ………………………………………………………………………………………………………………….............................................…………………....………………….. ประกอบกับมเี หตอุ นั ควรเช่อื วา่ .....................................................................................................................………….. ………………………………………………………………………………………………………………….............................................…………………....………………….. ………………………………………………………………………………………………………………….............................................…………………....………………….. ………………………………………………………………………………………………………………….............................................…………………....………………….. (ลงชอ่ื ) ........................................เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. (........................................) (ลงชือ่ ) .......................................ผคู้ รอบครองเคหสถาน (.......................................)/หรือสถานท่คี ้น (ลงชอ่ื ) ........................................พยาน (.........................................) (ลงชอ่ื ) .........................................พยาน (..........................................)
คู่มอื เจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. รายงานผลการปฏบิ ตั งิ านของเจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติด ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๘ สำนกั งานคณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ กระทรวงยุตธิ รรม
คู่มอื เจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. คำนำ ยาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ การปราบปรามผู้กระทำผิดต้องอาศัยความร่วมมือ จากสว่ นราชการหลายฝา่ ย จงึ ทำใหม้ กี ารตราพระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๑๙ และกำหนดให้มีเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. มีบทบาทภารกิจฐานะผู้บังคับใช้กฎหมายในการดำเนินการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด ตามท่ีกฎหมายให้อำนาจ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเป็นไปตามแผน แผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี ๒๕๕๘ ซ่ึงสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๘ - ๒๕๖๒ สำนักงาน ป.ป.ส. ในฐานะหน่วยงานกลาง ที่กำกับดูแลและติดตามการดำเนินงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. จัดทำขึ้นเป็นไปตาม บทบัญญัต ิ มาตรา ๑๔ วรรคท้าย ของพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ เพ่ือเสนอต่อ คณะรัฐมนตรรี ับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี และเสนอคณะรฐั มนตรี นำเสนอรายงานดังกล่าว พร้อมต้ังข้อสังเกตต่อสภาผู้แทนราษฏร และวุฒิสภา โดยเป็นการประมวลและสังเคราะห์รายงานผลการ ปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ท่ัวประเทศท่ีมีการใช้อำนาจปราบปรามผู้กระทำความผิดเก่ียวกับ ยาเสพติดโดยในลักษณะการเข้ามามีส่วนร่วมปฏิบัติการและลักษณะของการบูรณาการกับหน่วยงานท่ี เก่ียวขอ้ งเพอ่ื ให้บรรลุวัตถปุ ระสงคใ์ นการจดั การกบั ปัญหายาเสพติด สำนกั งานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
คู่มอื เจา้ พนักงาน ป.ป.ส. สารบัญ หน้า ๑ ๕ ๖ คำนำ ๗ บทสรปุ ผูบ้ ริหาร ๙ ส่วนท่ี ๑ บทนำ ๑๑ ๑.๑ ที่มาของเจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. ๑๕ ๑.๒ อำนาจของเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ๒๑ ๑.๓ การกำกับดแู ลและตดิ ตามผลการปฏิบตั ิงานของเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. สว่ นท่ี ๒ แผนปฏิบัติการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหายาเสพตดิ ประจำปี ๒๕๕๘ ส่วนที่ ๓ ผลการดำเนินการปราบปรามยาเสพตดิ ส่วนที่ ๔ ปญั หาอปุ สรรคและข้อเสนอแนะ ภาคผนวก ๒๔ ๓๒ - พระราชบัญญตั ิปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๑๙ ๓๘ - ระเบยี บคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามยาเสพติดว่าด้วยการแตง่ ต้ัง การปฏบิ ัติหน้าทแ่ี ละการกำกับดแู ลการปฏิบตั ิหนา้ ท่ีของเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๕ - ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ ว่าดว้ ยการออกบัตรประจำตัวและการรายงานการปฏบิ ัติหน้าท ่ี ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๖
คู่มือเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. บทสรปุ ผ้บู รหิ าร เจ้าพนักงาน ป.ป.ส เป็นเจ้าหน้าที่ซ่ึงมีอำนาจ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดของประเทศ ภายใต้แผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี ๒๕๕๘ ซึ่งต้องสอดคล้องกับแผน ยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๘ - ๒๕๖๒ คอื ยุทธศาสตร์ท่ี ๑ การป้องกันกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยมีเป้าหมายทาง ยุทธศาสตร์ คือ สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เด็กและเยาวชนและกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ตลอดจนสร้างความเข้มแข็ง ให้กับครอบครวั ชุมชน เพ่ือลดผูเ้ ขา้ ไปเกีย่ วข้องกบั ยาเสพตดิ รายใหม ่ ยทุ ธศาสตร์ที่ ๒ การแกไ้ ขปญั หาผเู้ สพผ้ตู ิดยาเสพตดิ เป้าหมายยทุ ธศาสตร์ คือ ลดจำนวนของ ผู้เสพผู้ติดยาเสพติดในพ้ืนท่ี โดยนำผู้เสพยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาที่มีมาตรฐานและ มีความเหมาะสมกับผู้เสพผู้ติด โดยมุ่งเน้นการดำเนินงานในเชิงคุณภาพ และการนำผู้เสพยาเสพติด เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาในระบบสมัครใจเป็นอันดับแรก ตามแนวทางประกาศคณะรักษาความสงบ แหง่ ชาติท่ี ๑๐๘/๒๕๕๗ การปรับปรงุ มาตรฐานการบำบัดรกั ษาทกุ ระบบ ยุทธศาสตร์ท่ี ๓ การสร้างและพฒั นาระบบรองรับการคนื คนดใี ห้สังคม เปา้ หมายยทุ ธศาสตรค์ ือ การตดิ ตาม ดแู ลให้ความช่วยเหลอื เพอ่ื พัฒนาผผู้ ่านการบำบัดฟื้นฟูใหส้ ามารถกลบั มาดำรงชีวิตได้ตามปกติ และไม่หวนกลับไปใช้ยาเสพติดซ้ำ และดูแลให้ความช่วยเหลือตามความเหมาะสมแก่ผู้ประสงค์ขอรับ ความช่วยเหลือทกุ คน ยุทธศาสตร์ที่ ๔ การควบคุมตัวยาและผู้ค้ายาเสพติด เป้าหมายยุทธศาสตร์ คือ ควบคุมการ ลักลอบการลำเลียงและนำเข้ายาเสพติด สกัดกั้นการลำเลียงทางขนส่งรถโดยสารประจำทาง รถไฟ พัสดุภัณฑ์ ท่าอากาศยานนานาชาติ เสริมสร้างความเข้มแข็งให้หมู่บ้าน/ชุมชนตามแนวชายแดน จับกุม ผู้กระทำความผิดรายสำคัญ จับกุมความผิดฐานสมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือ ดำเนินการด้านทรัพย์สิน ตามมาตรการทางกฎหมายตอ่ ผตู้ อ้ งหาคดยี าเสพตดิ รายสำคญั ยตุ กิ ารแพรร่ ะบาดในเรอื นจำ และดำเนนิ การ กบั เจ้าหนา้ ท่รี ัฐทีเ่ ขา้ ไปเกย่ี วขอ้ งกบั ยาเสพตดิ ยุทธศาสตร์ที่ ๕ ความร่วมมือระหว่างประเทศ เป้าหมายยุทธศาสตร์ คือ แสวงหา เสริมสร้าง และพัฒนาความร่วมมือในการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดกับประเทศเพ่ือนบ้านและ นานาประเทศตลอดจนองค์กรระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญยาเสพติด เพ่ือเพิ่มขีดความสามารถในการ สกัดกั้น ปราบปรามยาเสพติดจากต่างประเทศที่เข้าสู่ประเทศไทย และยกระดับบทบาทของประเทศไทย ในการเปน็ ผ้ปู ระสานงานหลักของการแกไ้ ขปัญหายาเสพตดิ ในภูมภิ าคอาเซียน ยุทธศาสตร์ท่ี ๖ การสร้างสภาพแวดล้อมเพอ่ื ป้องกนั ปญั หายาเสพติด เปา้ หมายยทุ ธศาสตรค์ อื เพอื่ สรา้ ง ควบคมุ และบรหิ ารจดั การสภาพแวดลอ้ มใหเ้ ออ้ื ตอ่ การปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หายาเสพตดิ อยา่ งยง่ั ยนื โดยให้ทุกจังหวัดกำหนดสถานประกอบการที่เป็นพ้ืนที่เส่ียงรอบสถานศึกษา เป็นเป้าหมายการดำเนินงาน เรง่ ด่วน
ยุทธศาสตร์ที่ ๗ การมีส่วนร่วมภาคประชาชน เป้าหมายยุทธศาสตร์ คือ แก้ไขปัญหาและ เสรมิ สรา้ งความเขม้ แขง็ ใหก้ บั หมบู่ า้ น/ชมุ ชน ทมี่ ปี ญั หามาก พฒั นาหมบู่ า้ น/ชมุ ชนเขม้ แขง็ เอาชนะยาเสพตดิ ขยายต้นกล้ากองทุนแม่ของแผ่นดิน สร้างการมีส่วนร่วมภาคประชาชนและสร้างเครือข่ายภาคประชาชน เอาชนะยาเสพติด ยุทธศาสตร์ท่ี ๘ การบริหารจัดการอย่างบูรณาการ เป้าหมายยุทธศาสตร์ คือ การพัฒนาระบบ บริหารจัดการ อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้การนำนโยบายไปสู่การปฏิบัต ิ อย่างแท้จริง โดยการจัดโครงสร้างพัฒนาระบบแผนงาน งบประมาณ ติดตามการใช้จ่ายงบประมาณ พัฒนาระบบกำกับติดตามและรายงานผลการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหา ยาเสพติด การปฏบิ ัติภารกจิ ในการปราบปรามการกระทำความผดิ เก่ยี วกบั ยาเสพติดของเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ไดด้ ำเนนิ ภารกจิ ในฐานะผู้ปฏบิ ตั ิการ หรือการมีสว่ นรว่ มปฏบิ ตั กิ ารและประสานการปฏบิ ตั ิ จากการปฏบิ ตั ิ ภารกจิ ของเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ เกิดผลสำเร็จต่อการแกไ้ ขปญั หายาเสพติด โดยสรปุ ดังน้ี ๑. การจับกุมคดียาเสพติดภาพรวมท่ัวประเทศ มีผลการจับกุม ๒๖๔,๙๗๔ คดี ผู้ต้องหา ๒๘๔,๔๙๙ คน ๒. การจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ เป้าหมายร้อยละ ๒๐ ของคดียาเสพติดภาพรวมท่ัวประเทศ (๒๖๔,๙๗๔ คดี) มผี ลการจับกมุ ๖๒,๕๙๔ คดี คิดเป็นรอ้ ยละ ๒๓.๖๒ ๓. ปริมาณของกลางยาเสพติด ยาบ้า ๘๗,๔๕๖,๒๐๗ เม็ด เฮโรอีน ๑๗๙.๒๔ กิโลกรัม ไอซ์ ๑,๔๔๒.๐๕ กโิ ลกรัม กัญชา ๒๒,๙๒๗.๘๒ กิโลกรมั ๔. การสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน เป้าหมายร้อยละ ๕๐ ของปริมาณยาเสพติดภาพรวม ทว่ั ประเทศ (ยาบา้ ๘๗,๔๕๖,๒๐๗ เมด็ ) จบั กมุ ของกลางยาบา้ ๔๖,๓๖๒.๕๒๓ เมด็ คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๕๓.๐๑ ๕. การดำเนินการฐานความผิดสมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับคำร้องขอ ข้อกลา่ วหาหรอื แจ้งข้อกลา่ วหาในฐานความผดิ สมคบ ๘๓๘ คดี ผู้ต้องหา ๒,๒๙๕ คน จบั กุมได้ ๕๕๙ คน ๖. การดำเนินงานการตรวจสอบทรัพย์สิน มีผลการตรวจสอบทรัพย์สินท้ังหมด ๒,๓๑๗ ราย มูลคา่ ทรัพย์สนิ ๙๙๖.๙๖ ลา้ นบาท อย่างไรก็ตามในการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. มีปัญหาอุปสรรคบางประการเก่ียวกับ การบูรณาการร่วมกันในการปฏิบัติงานระหว่างหน่วยและไม่มีความเช่ือใจกัน เนื่องจากปรากฎว่า จากข้อเท็จจริงที่เกิดข้ึนในบางครั้งพบว่าการข่าวล้มเหลว ทำให้การปฏิบัติการดังกล่าวต้องล้มเลิก ทั้งที่มีการเตรียมแผนปฏิบัติการและกำลังเจ้าหน้าท่ีพร้อมแล้ว จึงเป็นสาเหตุทำให้การปฏิบัติระหว่าง เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ตา่ งหนว่ ยอยบู่ นความไมไ่ วว้ างใจกนั ซงึ่ กระบวนการแตง่ ตง้ั เปน็ เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. นนั้ มีการตรวจสอบประวัติ พฤติการณ์ของผู้ยื่นคำขอแต่งต้ังท้ังการตรวจสอบจากประวัติคดียาเสพติด ข้อมูล การข่าว การให้สำนักงาน ป.ป.ส. ในพ้ืนที่ตรวจสอบพฤติการณ์ ซ่ึงกระบวนการตรวจสอบกระทำ โดยละเอียด แต่เม่ือได้รับการแต่งตั้งแล้วกลับพบว่ามีการนำอำนาจท่ีมีไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งผู้บังคับ บัญชาของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในแต่ละหน่วยควรจะต้องมีการกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด
คมู่ ือเจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. และการใช้อำนาจทุกคร้ังควรเน้นย้ำผู้ใต้บังคับบัญชาให้รายงานการปฏิบัติหน้าท่ีทุกคร้ัง สำหรับ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ท่ีเป็นผู้บังคับบัญชาย่อมมีหน้าท่ีจะต้องรายงานความก้าวหน้าของหน่วยงาน เพื่อรายงานภาพรวมของหน่วยงานเก่ียวกับการดำเนินการปราบปรามยาเสพติด และต้องเน้นย้ำกับ เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ใหร้ บั ทราบถงึ การรบั โทษเปน็ สามเทา่ ตามพระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ หากเจา้ พนักงานกระทำความผดิ จะตอ้ งรับโทษเป็นสามเทา่ ของโทษท่ีกฎหมายกำหนด
คู่มือเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. สว่ นที่ ๑ บทนำ
สว่ นที่ ๑ บทนำ ๑.๑ ทีม่ าของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ปัญหายาเสพติดส่งผลกระทบถึงความปลอดภัยของสังคมและความมั่นคงของชาติ รัฐบาลได้ ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญของพิษภัยยาเสพติดจะพึงบังเกิดแก่ประชาชน และความม่ันคงปลอดภัย ของประเทศชาติ จึงได้เร่งรัดให้มีการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและได้แต่งต้ังคณะกรรมการกลาง ปราบปรามยาเสพติดใหโ้ ทษ (ก.ป.ส.) เพือ่ ดำเนินการปราบปรามยาเสพติดโดยเฉพาะ และใหท้ ำหนา้ ท่ีเปน็ ศูนย์กลางการประสานงานของหน่วยราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ท่ัวราชอาณาจักร แต่โดยท่ีคณะกรรมการดังกล่าวเป็นคณะกรรมการซึ่งแต่งต้ังข้ึนตามมติของ คณะรัฐมนตรีมิได้มีพระราชบัญญัติเป็นกฎหมายรองรับและให้อำนาจไว้เป็นการเฉพาะ เมื่อเปล่ียนรัฐบาล คณะกรรมการนี้ก็ต้องหมดสภาพลง แม้ว่าคณะรัฐมนตรีจะได้มีมติให้แต่งตั้งคณะกรรมการข้ึนใหม่ในทุก รัฐบาล แต่การทำงานของคณะกรรมการต้องหยุดชะงักลงในบางคร้ัง จึงทำให้การดำเนินงานของ คณะกรรมการประสบกับปญั หาหลายประการ ฉะน้ัน เพ่ือให้การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและได้ผล เด็ดขาดย่ิงขึ้น รัฐบาลคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินภายใต้การนำของ นายธานินทร์ กรัยวิเชียร นายกรัฐมนตรีจึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.๒๕๑๙ ต่อสภาปฏิรูป การปกครองแผ่นดิน และได้ผ่านความเห็นชอบของสภาฯ ประกาศใช้เป็นกฎหมายต้ังแต่วันที่ ๑๘ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๑๙ และมกี ารกำหนดให้มีการแตง่ ตง้ั เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ข้นึ เพ่ือให้มาทำหน้าท่ี ปราบปรามบุคคลท่ีได้กระทำผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด โดยเป็นการบูรณาการบุคลากรจากส่วน ราชการตา่ ง ๆ ท่เี ก่ียวขอ้ งเพอื่ ใหม้ ารว่ มกนั แกไ้ ขปญั หายาเสพติดซงึ่ เป็นปัญหาสำคัญของประเทศ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ถือว่าเป็นเจ้าพนักงานประเภทหน่ึงตามกฎหมาย โดยได้รับการแต่งต้ัง ให้ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ ซึ่งได้มีการกำหนดให้ ข้าราชการจากส่วนราชการต่าง ๆ ที่มีภารกิจด้านปราบปรามยาเสพติด เข้ามาเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เพ่ือใช้อำนาจตามกฎหมายดังกล่าว และให้ เลขาธิการ ป.ป.ส. พิจารณาออกคำสั่งแต่งตั้งให้เป็น เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. โดยผ่านการพิจารณาอนุมัติการแต่งต้ังจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด (ป.ป.ส.) ซ่ึงหมายความรวมถึงการแต่งต้ังจากคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุมัติการแต่งตั้ง เจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดท่ีคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) แต่งตั้งด้วย ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ มีจำนวนเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. จำนวน ๑๓,๓๘๘ ราย จำแนกสงั กดั หน่วยงาน ดังน ้ี
คู่มอื เจา้ พนักงาน ป.ป.ส. หนว่ ยงาน จำนวนเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ๑๗ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย ๒๘ กองทัพบก ๑,๐๗๐ กองทพั เรือ ๔๐๓ กองทัพอากาศ ๑๑๓ กรมศุลกากร ๓๗๒ กรมสรรพสามติ ๑๖๑ สำนกั งานปลดั กระทรวงมหาดไทย ๑๘ กรมการปกครอง ๒,๒๔๓ กรมราชทัณฑ ์ ๑๑๑ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ๑๐๕ สำนักงาน ป.ป.ส. ๕๓๙ สำนกั งาน ป.ป.ท. ๗๖ สำนักงาน ปปง. ๑๑๓ สำนกั งานปลัดกระทรวงยุตธิ รรม ๑ สำนกั งานตำรวจแหง่ ชาต ิ ๘,๐๑๒ กองอำนวยการรักษาความมัน่ คงภายใน ๕ กรมการขนส่งทางบก ๑ ๑.๒ อำนาจของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. มอี ำนาจตามมาตรา ๑๔ แหง่ พระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๑๙ ตามรายละเอียด ดังน ้ี มาตรา ๑๔ เพ่ือดำเนินการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ใหก้ รรมการเลขาธิการ รองเลขาธกิ าร และเจา้ พนักงาน มอี ำนาจดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) เข้าไปในเคหสถานหรือสถานที่เพ่ือตรวจค้น เม่ือมีเหตุอันควรสงสัยตามสมควรว่ามีบุคคล ท่ีมีเหตุอันควรสงสัยว่ากระทำความผิดเก่ียวกับยาเสพติดหลบซ่อนอยู่ หรือมีทรัพย์สินซึ่งมีไว้เป็นความผิด หรือได้มาโดยการกระทำความผิด หรือได้ใชห้ รอื จะใช้ในการกระทำความผดิ เกี่ยวกับยาเสพตดิ หรอื ซ่งึ อาจ ใช้เป็นพยานหลักฐานได้ ประกอบกับมีเหตุอันควรเชื่อว่าเน่ืองจากการเนิ่นช้ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้
บุคคลนน้ั จะหลบหนไี ป หรือทรพั ย์สินนนั้ จะถูกโยกยา้ ย ซกุ ซ่อน ทำลาย หรอื ทำใหเ้ ปลีย่ นสภาพไปจากเดมิ (๒) ค้นบุคคล หรือยานพาหนะใด ๆ ที่มีเหตุอันควรสงสัยตามสมควรว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอย ู่ โดยไม่ชอบดว้ ยกฎหมาย (๓) จับกมุ บคุ คลใด ๆ ทก่ี ระทำความผดิ เกีย่ วกบั ยาเสพติด (๔) ยึดหรืออายัดยาเสพติดที่มีไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือทรัพย์สินอื่นใดท่ีได้ใช้ หรือจะใช้ใน การกระทำความผดิ เกย่ี วกบั ยาเสพติด หรือทอี่ าจใช้เป็นพยานหลกั ฐานได ้ (๕) ค้นตามบทบัญญัตแิ ห่งประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา (๖) สอบสวนผ้ตู อ้ งหาในคดคี วามผดิ เก่ยี วกบั ยาเสพตดิ (๗) มีหนังสือสอบถามหรือเรียกบุคคลใด ๆ หรือเจ้าหน้าท่ีของหน่วยราชการใด ๆ มาให้ถ้อยคำ หรือ ใหส้ ง่ บญั ชีเอกสารหรอื วัตถุใด ๆ มาเพ่อื ตรวจสอบ หรอื ประกอบการพิจารณา นอกจากนี้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ยังมีอำนาจหน้าท่ีอ่ืน ๆ ในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำ ความผดิ เกีย่ วกับยาเสพติด กล่าวคือ ๑) ในกรณีทีจ่ ำเปน็ และมเี หตผุ ลอนั ควรเชอื่ ไดว้ ่าบุคคลหรอื กล่มุ บคุ คลใดเสพยาเสพตดิ ในเคหสถาน สถานทใี่ ด ๆ หรอื ยานพาหนะ ใหเ้ จา้ พนกั งาน ป.ป.ส. มอี ำนาจตรวจหรอื ทดสอบหรอื สง่ั ใหร้ บั การตรวจ หรือ ทดสอบว่าบุคคลหรือกลุ่มบคุ คลนัน้ มสี ารเสพติดอยูใ่ นรา่ งกายหรอื ไม่ (มาตรา ๑๔ ทว)ิ ๒) การปฏบิ ตั หิ นา้ ทขี่ องเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามผกู้ ระทำความผดิ เกยี่ วกบั ยาเสพตดิ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. สามารถขอให้บุคคลใดช่วยเหลือในการปฏิบัติหน้าท่ีได้โดยให้ถือว่าบุคคลน้ันมีอำนาจ ช่วยการปฏิบัตงิ านของเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ได้ (มาตรา ๑๔ ตร)ี ๓) เจา้ พนักงาน ป.ป.ส. มอี ำนาจในการเขา้ ถึงข้อมูลขา่ วสาร กรณที ีม่ ีเหตอุ ันควรเชื่อได้วา่ เอกสาร หรือข้อมูลข่าวสารอ่ืนใด ซ่ึงส่งทางไปรษณีย์ โทรศัพท์ โทรเลข โทรสาร คอมพิวเตอร์ เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ในการส่ือสาร ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ถูกใช้หรืออาจถูกใช ้ เพอ่ื ประโยชนใ์ นการกระทำความผิดเกี่ยวกบั ยาเสพติด (มาตรา ๑๔ จตั วา) ๔) เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. มีอำนาจในการตรวจตราสถานประกอบการเกี่ยวกับมาตรการบุคคล และสถานท่ีรวมทั้งการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตามมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จากน้ันเจ้าพนักงานมีหน้าท่ีดำเนินการจัดทำรายงานการตรวจตราดังกล่าวเสนอคณะอนุกรรมการ กล่ันกรองการกระทำความผิดเก่ียวกับยาเสพติดในสถานประกอบการ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นก่อนท่ี จะนำเสนอคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดหรือเลขาธิการ ป.ป.ส. พิจารณาว่าควรมีคำสั่ง ปิดชั่วคราวหรือสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบการของสถานประกอบการ ในกรณีท่ีพบว่ามีการกระทำ ความผดิ เกี่ยวกบั ยาเสพตดิ (มาตรา ๑๓ ตร)ี ๕) เพ่ือประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าท่ีปราบปรามยาเสพติดตามมาตรา ๑๔ แห่งพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๑๙ ใหถ้ ือว่า เจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. ซ่ึงไดร้ บั มอบหมายใหม้ ีอำนาจ ตามมาตรา ๑๔ (๓) คือ อำนาจในการจับกุมบุคคลใด ๆ ท่ีกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มีอำนาจ หน้าท่ีเช่นเดียวกับ พนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้ท่ัวราชอาณาจักร และให้มีอำนาจควบคุมผู้ถูกจับตามมาตรา ๑๕ ไว้เพื่อทำการสอบสวนได้เป็นเวลาไม่เกินสามวัน
คู่มือเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. เม่ือครบกำหนดเวลาดังกล่าวหรือก่อนน้ันตามท่ีจะเห็นสมควรให้ส่งตัวผู้ถูกจับไปยังพนักงานสอบสวน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเพื่อดำเนินการต่อไป ท้ังน้ีโดยมิให้ถือว่าการควบคุม ผู้ถกู จบั ดังกลา่ วเปน็ การควบคุมของพนกั งานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ๑.๓ การกำกับดูแลและตดิ ตามผลการปฏิบัตงิ านของเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ว่าด้วยการแต่งต้ัง การปฏิบัติหน้าท ี่ และการกำกบั ดแู ลการปฏิบตั หิ นา้ ที่ของเจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้กำหนดว่าเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. จะต้องรายงานให้เลขาธิการ ป.ป.ส. ทราบภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันท่ีได้ทำการใช้อำนาจ ตามแบบที่ กำหนดเอาไว้ในหมวด ๓ การกำกับดูแล ทั้งน้ีเพื่อประโยชน์ของคณะกรรมการในการกำกับดูแล และ ติดตามประเมนิ ผลการปฏิบัติหนา้ ทข่ี องเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ซง่ึ การใชอ้ ำนาจตามระเบียบคือการทไี่ ด้ปฏิบตั ิ ดังนี ้ ๑) กรณตี รวจพบวา่ มีการกระทำความผดิ เกีย่ วกับยาเสพตดิ ในสถานประกอบการ (มาตรา ๑๓ ตร)ี ๒) การใชอ้ ำนาจในการปฏิบัติการตา่ ง ๆ (มาตรา ๑๔ (๑) - (๗)) ๓) การตรวจหรือทดสอบบุคคลเพือ่ หาสารเสพติดในรา่ งกาย (มาตรา ๑๔ ทว)ิ ๔) การขอให้บุคคลใดช่วยเหลือการปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. (มาตรา ๑๔ ตร)ี ๕) การขออนุมัติใหเ้ จา้ พนกั งานไดม้ าซงึ่ ขอ้ มลู ขา่ วสาร (มาตรา ๑๔ จตั วา) ๖) การควบคุมตวั ผ้ถู กู จับเอาไวเ้ พื่อการสืบสวนขยายผม (มาตรา ๑๕ ) และนอกจากการกำหนดให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ต้องรายงานผลการปฏิบัติหน้าท่ีหลังจากการใช้ อำนาจแล้ว เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ที่เป็นผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วยงานต้องรายงานความก้าวหน้าของ หน่วยงาน เพอื่ เป็นการรายงานผลการปฏิบัตงิ านในภาพรวมของหนว่ ยงาน รายงานปัญหาอุปสรรคจากการ ปฏิบัติงาน โดยรายงานมายังเลขาธิการ ป.ป.ส. อย่างน้อยปีละ ๑ คร้ัง ซ่ึงในเรื่องการในการใช้อำนาจของ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. น้ัน อาจกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซึ่งได้รับการรับรองหรือคุ้มครองตาม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เนื่องจากพระราชบัญญัติฉบับน้ีจะมีบทบัญญัติเก่ียวกับการจำกัดสิทธิ และเสรภี าพของบคุ คลตามรฐั ธรรมนญู แตท่ ง้ั นี้ เพอ่ื ประโยชนใ์ นการปราบปรามการกระทำความผดิ เกย่ี วกบั ยาเสพตดิ รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทยให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบญั ญัติแห่งกฎหมาย
10
คู่มอื เจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. 11 สว่ นที่ ๒ แผนปฏบิ ตั กิ ารป้องกนั และแก้ไขปญั หายาเสพตดิ ประจำปี ๒๕๕๘
12 สว่ นที่ ๒ แผนปฏิบตั กิ ารป้องกนั และแกไ้ ขปญั หายาเสพติด ประจำปี ๒๕๕๘ โดยแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี ๒๕๕๘ ต้องสอดคล้องกับแผน ยุทธศาสตร์การปอ้ งกนั และแกไ้ ขปัญหายาเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๘ - ๒๕๖๒ คือ ยุทธศาสตร์ที่ ๑ การป้องกันกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปเก่ียวข้องกับยาเสพติด โดยมีเป้าหมายทาง ยุทธศาสตร์ คือ สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เด็กและเยาวชนและกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งให้ กับครอบครัว ชุมชน เพื่อลดผเู้ ข้าไปเกยี่ วขอ้ งกับยาเสพติดรายใหม ่ ยทุ ธศาสตรท์ ่ี ๒ การแกไ้ ขปัญหาผเู้ สพผู้ตดิ ยาเสพติด เปา้ หมายยทุ ธศาสตร์ คอื ลดจำนวนของ ผู้เสพผู้ติดยาเสพติดในพ้ืนท่ี โดยนำผู้เสพยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาที่มีมาตรฐานและ มีความเหมาะสมกับผู้เสพผู้ติด โดยมุ่งเน้นการดำเนินงานในเชิงคุณภาพ และการนำผู้เสพยาเสพติด เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาในระบบสมัครใจเป็นอันดับแรก ตามแนวทางประกาศคณะรักษาความสงบ แห่งชาติที่ ๑๐๘/๒๕๕๗ การปรบั ปรงุ มาตรฐานการบำบดั รกั ษาทกุ ระบบ ยุทธศาสตรท์ ี่ ๓ การสรา้ งและพฒั นาระบบรองรบั การคืนคนดีใหส้ งั คม เปา้ หมายยทุ ธศาสตร์คือ การติดตาม ดูแลให้ความชว่ ยเหลอื เพ่ือพัฒนาผ้ผู ่านการบำบดั ฟื้นฟูใหส้ ามารถกลบั มาดำรงชวี ติ ไดต้ ามปกติ และไม่หวนกลับไปใช้ยาเสพติดซ้ำ และดูแลให้ความช่วยเหลือตามความเหมาะสมแก่ผู้ประสงค์ขอรับ ความช่วยเหลือทุกคน ยุทธศาสตร์ท่ี ๔ การควบคุมตัวยาและผู้ค้ายาเสพติด เป้าหมายยุทธศาสตร์ คือ ควบคุม การลักลอบการลำเลียงและนำเข้ายาเสพติด สกัดก้ันการลำเลียงทางขนส่งรถโดยสารประจำทาง รถไฟ พัสดุภัณฑ์ ท่าอากาศยานนานาชาติ เสริมสร้างความเข้มแข็งให้หมู่บ้าน/ชุมชนตามแนวชายแดน จับกุมผู้กระทำความผดิ รายสำคัญ จบั กมุ ความผิดฐานสมคบ สนบั สนุน ชว่ ยเหลอื ดำเนินการดา้ นทรัพย์สิน ตามมาตรการทางกฎหมายตอ่ ผตู้ อ้ งหาคดยี าเสพตดิ รายสำคญั ยตุ กิ ารแพรร่ ะบาดในเรอื นจำ และดำเนนิ การ กับเจา้ หน้าที่รฐั ที่เข้าไปเกย่ี วข้องกบั ยาเสพติด ยุทธศาสตร์ท่ี ๕ ความร่วมมือระหว่างประเทศ เป้าหมายยุทธศาสตร์ คือ แสวงหา เสริมสร้าง และพัฒนาความร่วมมือในการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดกับประเทศเพ่ือนบ้านและ นานาประเทศตลอดจนองคก์ รระหวา่ งประเทศในการแกไ้ ขปญั หายาเสพตดิ เพอื่ เพมิ่ ขดี ความสามารถในการ สกัดก้ัน ปราบปรามยาเสพติดจากต่างประเทศท่ีเข้าสู่ประเทศไทย และยกระดับบทบาทของประเทศไทย ในการเปน็ ผ้ปู ระสานงานหลักของการแกไ้ ขปัญหายาเสพติดในภมู ภิ าคอาเซียน ยุทธศาสตร์ท่ี ๖ การสร้างสภาพแวดล้อมเพื่อป้องกันปัญหายาเสพติด เป้าหมายยุทธศาสตร์คือ เพ่อื สร้าง ควบคมุ และบรหิ ารจดั การสภาพแวดลอ้ มใหเ้ อื้อต่อการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหายาเสพตดิ อย่างยงั่ ยืนโดยให้ทุกจังหวัดกำหนดสถานประกอบการท่ีเป็นพ้ืนท่ีเสี่ยงรอบสถานศึกษา เป็นเป้าหมาย การดำเนินงานเร่งดว่ น
คมู่ ือเจา้ พนักงาน ป.ป.ส.1 3 ยุทธศาสตร์ท่ี ๗ การมีส่วนร่วมภาคประชาชน เป้าหมายยุทธศาสตร์ คือ แก้ไขปัญหาและ เสรมิ สรา้ งความเขม้ แขง็ ใหก้ บั หมบู่ า้ น/ชมุ ชน ทมี่ ปี ญั หามาก พฒั นาหมบู่ า้ น/ชมุ ชนเขม้ แขง็ เอาชนะยาเสพตดิ ขยายต้นกล้ากองทุนแม่ของแผ่นดิน สร้างการมีส่วนร่วมภาคประชาชนและสร้างเครือข่ายภาคประชาชน เอาชนะยาเสพตดิ ยุทธศาสตรท์ ี่ ๘ การบริหารจดั การอย่างบรู ณาการ เปา้ หมายยุทธศาสตร์ คอื การพัฒนาระบบ บริหารจัดการ อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพ่ือให้การนำนโยบายไปสู่การปฏิบัต ิ อย่างแท้จริง โดยการจัดโครงสร้างพัฒนาระบบแผนงาน งบประมาณ ติดตามการใช้จ่ายงบประมาณ พัฒนาระบบกำกับติดตามและรายงานผลการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหา ยาเสพตดิ
14
คู่มือเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส.1 5 สว่ นท่ี ๓ ผลการดำเนินการปราบปรามยาเสพตดิ
16 ส่วนที่ ๓ ผลการดำเนินการปราบปรามยาเสพติด ๑. การจับกุมคดียาเสพติดภาพรวมทั่วประเทศ มีผลการจับกุม ๒๖๔,๙๗๔ คดี ผู้ต้องหา ๒๘๔,๔๙๙ คน ๒. การจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ เป้าหมายร้อยละ ๒๐ ของจำนวนคดียาเสพติดภาพรวม ท่ัวประเทศ (๒๖๔,๙๗๔ คดี) มีผลการจบั กุม ๖๒,๕๙๔ คดี คิดเป็นรอ้ ยละ ๒๓.๖๒ ๓. ปริมาณของกลางยาเสพติด ยาบ้า ๘๗,๔๕๖,๒๐๗ เม็ด เฮโรอีน ๑๗๙.๒๔ กิโลกรัม ไอซ์ ๑,๔๔๒.๐๕ กิโลกรัม กญั ชา ๒๒,๙๒๗.๘๒ กิโลกรัม ๔. การสกัดก้ันยาเสพติดตามแนวชายแดน เป้าหมายร้อยละ ๕๐ ของปริมาณยาเสพติดภาพรวม ทัว่ ประเทศ (ยาบ้า ๘๗,๔๕๖,๒๐๗ เม็ด) จับกมุ ของกลางยาบา้ ๔๖,๓๖๒,๕๒๓ เมด็ คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๕๓.๐๑ ๕. การดำเนินการฐานความผิดสมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับคำร้องขอ ข้อกล่าวหาหรอื แจ้งข้อกลา่ วหาในฐานความผดิ สมคบ ๘๓๘ คดี ผตู้ ้องหา ๒,๒๙๕ คน จับกุมได้ ๕๕๙ คน ๖. การดำเนินงานการตรวจสอบทรัพย์สิน มีผลการตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมด ๒,๓๑๗ ราย มลู ค่าทรพั ยส์ ิน ๙๙๖.๙๖ ลา้ นบาท การปราบปรามจบั กมุ เครือขา่ ยนกั ค้ายาเสพตดิ ภายในประเทศ ๑. วันท่ี ๒๓ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๘ สำนักงาน ป.ป.ส. จบั กุมผู้ต้องหา ๖ คน พรอ้ มไอซ์ ๒๕ กิโลกรัม รถยนต์กระบะ ๑ คัน โทรศพั ทม์ อื ถอื ๗ เครอ่ื ง เหตุเกิดท่ปี ๊มั แกส็ LPG ถ.เพชรเกษม ต.สนามจันทร์ อ.เมอื ง จ.นครปฐม ผู้ต้องหามีพฤติการณ์เป็นตัวแทนของเครือข่ายชนกลุ่มน้อยในพื้นท่ีชายแดนภาคเหนือจัดหา ยาเสพติดมาจำหน่ายในพื้นทก่ี ทม. ปรมิ ณฑล และภาคใต้ โดยลำเลียงยาเสพตดิ จากพืน้ ท่ภี าคเหนือซุกซอ่ น มากบั ถังไอศกรมี เขา้ เก็บพักในพืน้ ทีภ่ าคกลาง ๒. วันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๕๘ สำนกั งาน ป.ป.ส. รว่ มกับ ตำรวจภธู รจังหวดั เชียงราย แถลงผลการ ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น พ้ืนที่เป้าหมายยาเสพติดระหว่างวันท่ี ๗-๑๑ เมษายน ๒๕๕๘ ก่อนเทศกาล สงกรานต์ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้ ๗๖ ราย พร้อมยึดของกลางยาบ้า ๘๒,๘๘๑ เม็ด ไอซ์ ๗.๒ กิโลกรัม และผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยหน่ึงในจำนวนผู้ต้องหามี นางเหมย ศรีนทีทันดร อายุ ๓๐ ปี ที่อยู่ ๓๑๙/๒ หมู่ ๙ ต.โชคชัย อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย ภรรยา พ.ต.ท.ชำนาญ พุ่มไพจิตร อดตี รอง ผกก.ป.สภ.ไชยปราการ จ.เชยี งใหม่ ทถี่ กู สภ.แมส่ าย จ.เชยี งราย จบั กมุ พรอ้ มยาบา้ ๘๐๐,๐๐๐ เมด็ ไอซ์ ๑ กิโลกรัม เม่ือวันท่ี ๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๗ จากการสอบสวนขยายผลทราบว่า นางเหมย เป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือ พ.ต.ท.ชำนาญ ซ่ึงต่อมาศาลจังหวัดเชียงรายได้อนุมัติหมายจับท่ี ๒๘๙/๒๕๕๗ ลงวันท่ี ๑๙ กันยายน ๒๕๕๗ และเจ้าหน้าท่ี ท่ีควบคุมตัวนางเหมย ได้เม่ือวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๘ จากนั้นขยายผลเขา้ ตรวจยดึ อายัดบ้านพกั และรถยนตฟ์ อรจ์ ูนเนอร์ ๒ คนั ๓. วันที่ ๒-๓ มิถุนายน ๒๕๕๘ สภ.เมืองพะเยา ร่วมกับ ฝ่ายปกครองและกรมทหารราบที่ ๑๗ ตรวจยึดยาบ้า ๓๕๖,๐๐๐ เม็ด ท่ีบริเวณถนนเลียบชายทุ่ง บ้านจาป่าหวายเหนือ ต.จาป่าหวาย อ.เมือง
คมู่ อื เจา้ พนักงาน ป.ป.ส.1 7 จ.พะเยา สืบเนื่องจากวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๘ บก.สกส. บช.ปส.สืบสวนติดตาม กลุ่มชาวเขาเผ่าม้ง โดยสะกดรอยติดตามรถยนต์ต้องสงสัย จาก ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน จ.เชียงราย และได้เรียกตรวจค้น รถคันหน่ึงท่ีปั๊มน้ำมัน ปตท. แต่ไม่พบยาเสพติด ต่อมาเจ้าหน้าท่ีได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบรถยนต์ กระบะฟอร์ดสีเทา ทะเบียน บน ๗๘๓๖ พิจิตร จอดทิ้งอยู่ที่ถนนเลียบชายทุ่ง พื้นที่บ้านจาป่าหวายเหนือ จึงเข้าตรวจสอบตรวจค้นภายในรถพบยาบ้า ๗๘,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณแค็ปที่น่ังหลังคนขับ ยาบ้า ๑๕๘,๐๐๐ เม็ดซุกซ่อนอยู่ในช่องข้างกระบะ และในเช้าวันท่ี ๓ มิถุนายน ๒๕๕๘ เจ้าหน้าท ่ี เข้าตรวจสอบพ้ืนที่เกิดเหตุโดยรอบอีกคร้ัง พบยาบ้า ๑๒๐,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนในโพรงหญ้าใกล้เคียง บริเวณท่ีจอดรถ รถยนต์กระบะฟอร์ด สีเทา ทะเบียน บน ๗๘๓๖ พิจิตร ผู้ถือกรรมสิทธิ์ นายขวัญนภัส ล้ีเจรญิ สุวรรณ ชาวเขาเผา่ ลีซอ อายุ ๒๖ ปี ทอี่ ยู่ ๑๘/๑๘ ม.๑๓ ต.ชอ่ งแคบ อ.พบพระ จ.ตาก ๕. วันท่ี ๑๒-๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๘ สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ปฏิบัติการ ตามยุทธการ “ขยายผลตัดวงจรการเงินเครือข่ายยาเสพติด คร้ังท่ี ๒” โดยมุ่งตัดวงจรการเงินทำลาย เครือข่ายนักค้ายาเสพติด ๕ เครือข่าย พุ่งเป้าเครือข่ายนักค้ายาเสพติดระดับประเทศท่ีมีผู้ร่วมขบวนการ กว่า ๒๕ คน รวมเป้าหมายบุคคลที่จะดำเนินการในครั้งนี้ ๓๒ ราย พร้อมตรวจค้น ๓๔ พ้ืนท่ี ใน ๑๐ จังหวัด ได้แก่ พ้ืนที่กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี สมุทรสาคร ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด สุรินทร์ บุรีรัมย์ เชียงใหม่ เชียงราย เพ่ือยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่ายนักค้ายาเสพติด รวมมูลค่าทรัพย์สินท่ียึดอายัด รว่ ม ๙๑ ลา้ นบาท รายละเอยี ดดังน ี้ - เครือข่ายท่ี ๑ เครอื ขา่ ย นายเกรียงไกร หรอื เกง่ - เครอื ข่ายที่ ๒ เครอื ขา่ ย น.ส.อรวรรณ - เครอื ข่ายที่ ๓ เครอื ขา่ ยนายจรูญ - เครือขา่ ยที่ ๔ เครอื ข่ายนางสาวลิ าวลั ย ์ สำหรับยุทธการ “ขยายผลตัดวงจรการเงินเครือข่ายยาเสพติด” เป็นการดำเนินการตามกฎหมาย ตามหลกั ฐานทมี่ หี รอื สาวไปถงึ โดยจะยดึ ทรพั ยจ์ บั บคุ คลทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เพอ่ื ทำลายเครอื ขา่ ยและโครงสรา้ งการคา้ ยาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ภาคต่าง ๆ ท่ีส่งผลกระทบต่อสภาพปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดของ ประเทศ โดยการใช้อำนาจของกฎหมายตาม พ.ร.บ. มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเก่ียวกับ ยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ (มาตรการสมคบและอายัดทรัพย์สิน) รวมไปถึงมาตรการตามกฎหมายฟอกเงิน เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลท่ีเน้นการปราบปรามนักค้ายาเสพติด รายสำคัญ ท่ีผู้มีบทบาทเป็นนายทุนผู้สั่งการหรือผู้อยู่เบ้ืองหลังท่ีรับผลประโยชน์จากการค้ายาเสพติด ไม่ว่าจะโดยการครอบครองทรัพยส์ ินตา่ ง ๆ ท้ังในช่ือตนเองหรอื ของบุคคลอน่ื รวมไปถึงกระทำการฟอกเงิน ในลักษณะใด ๆ โดยใช้มาตรการริบทรัพย์เป็นสำคัญ เพื่อลิดรอนหรือตัดวงจรทางการเงินของเครือข่าย การค้ายาเสพติด ๖. วันท่ี ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๘ สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ ตำรวจภูธรภาค ๕ และทุกภาคส่วน เข้าปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นและยึดทรัพย์สินคดียาเสพติดตามแผนปฏิบัติการ “รหัสลับอินทนนท์ ๑/๔” ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งน้ีผลการปฏิบัติได้ผู้ต้องหา ๔ คน ประกอบด้วยผู้ต้องหาความผิดร่วมฟอกเงิน ๒ คน คือ นางสมพร อายุ ๔๙ ปี และนายบัญชา อายุ ๒๗ ปี สองแมล่ ูกชาว จ.เชยี งใหม่ ซงึ่ นายบัญชา
18 ถูกจับในความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ ไว้ในความครอบครองเพ่ือจำหน่าย จึงได้ขยายผลเข้า จับกุมนางสมพรในฐานร่วมกันฟอกเงินพร้อมตรวจยึดทรัพย์สิน ได้แก่หอพักสุรินทร์แมนชั่น ๑ แห่ง ที่ดินและส่ิงปลูกสร้าง ๑ แห่ง ที่ดินเปล่า ๒๗ แปลง เนื้อที่ ๖๕ ไร่ ๒ งาน ๕๖ ตารางวา ทองรูปพรรณ ๒๒ รายการ นำหนกั รวม ๒๑๔.๓ กรัม หรือกวา่ ๑๔ บาท รถยนต์ ๖ คัน รถจักรยานยนต์ ๘ คนั เงนิ ฝาก สมดุ บัญชีธนาคาร ๗ บัญชี ยาบ้า ๓๐,๐๐๐ เม็ด รวมมูลค่า ๒๒๕,๑๐๐,๐๐๐ ลา้ นบาท สว่ นอกี คดจี บั กมุ ผู้ต้องหา ๒ คน ได้แก่ นายวรวุฒิ อายุ ๓๕ ปี และนางสาวณิชาภัทร อายุ ๓๓ ปี ชาว จ.เชียงใหม่ ถูกเจ้าหน้าท่ีตำรวจ สภ.แม่ปิง พร้อมของกลาง ยาบ้า ๓๐,๐๑๐ เม็ด บริเวณหน้าห้องน้ำภายในป๊ัมนำมัน ต.ทา่ ศาลา อ.เมืองเชียงใหม ่ การปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดต่างชาติ ๑. วนั ท่ี ๑๘ เมษายน ๒๕๕๘ สำนกั งาน ป.ป.ส. รว่ มกับ ศุลกากรท่าอากาศยานนานาชาติภเู ก็ต กองบัญชาการตำรวจปราบรามยาเสพติด จบั กมุ ผตู้ ้องหา ๔ คน คอื น.ส.มินตรา อายุ ๒๖ ป/ี นายวลิ เล่ม ปีเตอร์ กร็อบเลอร์ อายุ ๒๖ ปี สัญชาติแอฟริกาใต้/ นายโอนูอคิ บู แอนซีเลม ชิคาโด อายุ ๔๐ ปี สัญชาติ ไนจีเรีย/ นายโจเซฟ แอนแยฮี โอนอู ิคบู อายุ ๓๗ ปี สัญชาตไิ นจีเรยี พรอ้ มโคเคน ๓.๘ กิโลกรมั โทรศัพท์ มือถือ ๙ เครื่อง และรถยนต์เก๋ง ๑ คัน เหตุเกิดท่ีท่าอากาศยานนานาชาติ จ.ภูเก็ต ต่อเนื่องลานจอดรถ เอ.พี.เพลส ซอยรามคำแหง ๕๓ แขวงพลบั พลา เขตวังทองหลาง กทม. และห้องพักเลขท่ี ๔/๔ อาคาร A๑ อาคารชดุ ลมุ พินวี วิ พฒั นาการ-เพชรบุรีตดั ใหม่ ซอยพัฒนาการ ๒๓ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม. ๒. วันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๕๘ จับกุมนายเจมาไน อิกคซ์ าน อายุ ๖๓ ปี สญั ชาตอิ ินโดนีเซยี พร้อม โคเคน ๕.๒ กิโลกรมั ธนบตั รรูเปีย ธนบัตรไทย ๔๘,๐๐๐ บาท ได้ทที่ ่าอากาศยานนานาชิตภเู กต็ เจ้าหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่บริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าเรียกตรวจค้นนายเจมาไน อิกค์ซาน สัญชาติอินโดนีเซีย โดยนายเจมาไนเดินทางมาจากเมืองโบโกต้า ประเทศโคลัมเบีย-เมืองปานามาซิตี้ ประเทศปานามา-เมือง เซาเปาโล ประเทศบราซิล-เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ จากนั้นเดินทางต่อไปยังประเทศสิงคโปร์ โดยสาร สายการบินซิลค์แอร์ เท่ียวบินท่ี MI ๗๕๘ ปลายทางท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ผลการตรวจค้นพบ โคเคน ๕.๒ กโิ ลกรมั ซุกซอ่ นอยใู่ นหนงั สือปกแขง็ ๓ เลม่ และซุกซ่อนในแกนม้วนกระดาษแฟกซ์ ๖ ม้วน ๓. วันท่ี ๒๒ เมษายน ๒๕๕๘ สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ ศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต จับกุม MS. DIANA BATISHCJEVA อายุ ๒๑ ปี สัญชาตริ ัสเซยี พร้อมโคเคน ๑ กิโลกรัม เหตุเกดิ ท่ที า่ อากาศยาน นานาชาติภูเก็ต สืบสวนเครือข่ายรัสเซียในประเทศไทย พบว่านาย DJ Lenz มีพฤติการณ์จัดหาโคเคน จากประเทศบราซิล มาจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในไทย มี MS. DIANA BATISHCJEVA เป็นบุคคลในกลุ่มเครือข่าย เจ้าหน้าที่สืบสวนเฝ้าติดตามพฤติการณ์เครือข่ายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง กระท่ังพบ MS. DIANA เดินทางจากเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล-ประเทศสิงคโปร์ มายังประเทศไทย โดยสายการบินซลิ คแ์ อร์ เทีย่ วบนิ ท่ี MI ๗๕๒ (สงิ คโปร-์ ภูเกต็ ) จงึ ขอตรวจคน้ พบโคเคน ๑ กิโลกรมั ซุนซอ่ น ในขวดโลออนและขวดโลชน่ั ๔. วันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๘ ปปส.กทม ร่วมกับ บก.น.๖ จบั กมุ ชาวไนจีเรยี ๒ คน คอื นายชนิ าดู อยี าดา อายุ ๓๓ ปี และนายโอกาฟอร์ ซนั เดย์ พรอสเปอร์ อายุ ๒๙ ปี พร้อมของกลางไอซ์ ๖.๓ กโิ ลกรัม กระเปา๋ สะพายสภุ าพสตรี ๑๙ ใบ โทรศัพทม์ ือถือและซิมการด์ ๖ เครื่อง กาวตราช้าง ๒ หลอด เทปกาวใส
คู่มือเจา้ พนักงาน ป.ป.ส.1 9 ๑ อัน และใบมีดคัตเตอร์ ๑ เล่ม ตรวจยึดสมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาเดอะมอล์บางกะปิ สาขารามคำแหง ๒ ของ น.ส.สรุ ินทรา คำขวา อายุ ๒๙ ปี ทอ่ี ยู่ ๕๐/๑ ม.๙ ต.หนองกุงธนสาร อ.ภเู วียง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาให้การว่าจากประเทศจีน มาหีบห่อใหม่แล้วซุกซ่อนในกระเป๋าสตรีและว่าจ้างหญิง ชาวเอเชียลำเลยี งไปสง่ ที่ประเทศมาเลเซยี ๕. วันท่ี ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๓.๐๐ ผู้แทนสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมแถลงข่าวจับกุม เครือข่ายยาเสพติดจากประเทศเพ่ือนบ้าน ผู้ต้องหาจำนวน ๖ คน พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน ๑,๖๐๘,๐๐๐ เมด็ ภายใต้ความรว่ มมือของ ๔ ประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจนี , สาธารณรฐั ประชาธปิ ไตย ประชาชนลาว, สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และประเทศไทยตามแผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย ระยะ ๒ ๖. วันท่ี ๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๘ สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยปราบปรามยาเสพติดสุวรรณภูมิ จบั กุมชาวไต้หวนั ๒ คน คอื นายหวง จิ้น เจย๋ี (MR.Huang Jyun Jie) อายุ ๒๑ ปี หนังสือเดนิ ทางเลขท่ี ๓๑๑๒๗๗๐๓๒ และนายเล่ียว ป่ิง เสียง (Mr.Liao Ping Hsiang) อายุ ๒๒ ปี หนังสือเดินทางเลขท่ี ๓๑๑๒๗๗๓๐๔ พร้อมของกลาง ไอซ์ ๑๒.๐๗ กก. ของกลางอ่ืน ๆ กระเปา๋ เดินทาง ๓ ใบ โทรศพั ท์มอื ถือ ๒ เครื่อง ตั๋วโดยสารเท่ียวบินท่ี TG ๔๙๑ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-โอ๊คแลนด์ และธนบัตรนิวซีแลนด์ ๒,๘๒๐ ดอลลา่ ร์ เหตุเกิดทีท่ ่าอากาศยานสวุ รรณภูมิ จ.สมทุ รปราการ ๗. วันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๘ สำนักงาน ปปส.ภาค ๖ ร่วมกับ บก.สส.ภ.๖ จับกุม นางศุภากร นิธิเมธารัต อายุ ๓๘ ปี และนายโดนัลด์ หยาง อายุ ๔๓ ปี เช้ือชาติ ม้ง-ลาว สัญชาติอเมริกัน หนังสือเดินทางประเทศสหรัฐอเมริกาเลขที่ ๔๘๘๘๗๕๔๖๙ พร้อมยาบ้า ๒๒๐,๐๐๐ เม็ด เหตุเกิดบ้าน เลขที่ ๑๑/๒๓ ถ.รามคำแหง ต.หัวเดียด อ.เมือง จ.ตาก ต่อเน่ืองบ้านเลขท่ี ๘๘/๙๓ หมู่บ้านจิรโชติ ของนางศภุ ากร ที่ จ.พิษณุโลก สามารถตรวจยดึ ทรพั ยส์ นิ ตาม พรบ.มาตรการฯ ๘๘ รายการ ประกอบดว้ ย บา้ นพร้อมทดี่ ิน รสี อร์ท เคร่ืองเงิน เงินสด รถยนต์รวมมูลคา่ กว่า๑๓ ลา้ นบาท ๘. วันท่ี ๗ กันยายน ๒๕๕๘ สำนักงาน ปปส.ภาค ๒ ร่วมกับกองกำกับการสืบสวนสอบสวน ภธู รจังหวดั ระยอง สภ.หนองกรับ และฝ่ายปกครอง จับกุมผ้ตู ้องหา ๓ คน คอื นาย Joseph Uyammado สญั ชาติไนจเี รยี นาย Umeano Tochukwu Emmanuel สญั ชาตไิ นจเี รีย และ นาย Gomez Escobedo Armando William สญั ชาตเิ ปรู พรอ้ มโคเคนนำ้ หนกั ประมาณ ๑๘๐ กรัม สารเคมที ีใ่ ชเ้ ปน็ สารสกัดหลาย รายการ และรถเกง๋ ๒ คนั (ทะเบยี น ฆผ ๘๔๗๓ กรุงเทพฯ เลขทะเบยี น ฆฌ ๔๖๕๙ กรุงเทพฯ) ข้อหา “รว่ มกนั ผลิตยาเสพตดิ ใหโ้ ทษประเภท ๒ (โคเคน) และรว่ มกันมียาเสพตดิ ให้โทษประเภท ๒ (โคเคน) ไว้ใน ความครอบครองเพ่ือจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” เหตุเกิดท่ีบ้านเลขที่ ๒๙/๑ ม.๖ ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
20
ค่มู อื เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส.2 1 สว่ นที่ ๔ ปัญหาอุปสรรคและขอ้ เสนอแนะ
22 ส่วนท่ี ๔ ปัญหาอปุ สรรคและขอ้ เสนอแนะ ปัญหาอปุ สรรคท่พี บ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ที่ได้รับการแต่งต้ังในแต่ละหน่วยงานยังขาดการบูรณาการร่วมกันในการ ปฏิบัติงานระหว่างหน่วยและไม่มีความเช่ือใจกัน เน่ืองจากปรากฎว่าจากข้อเท็จจริงท่ีเกิดข้ึนในบางครั้ง พบว่าการข่าวล้มเหลว ทำให้การปฏิบัติการดังกล่าวต้องล้มเลิกทั้งที่มีการเตรียมแผนปฏิบัติการและ กำลังเจา้ หน้าท่พี ร้อมแล้ว จึงเป็นสาเหตทุ ำใหก้ ารปฏิบัติระหวา่ งเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. ต่างหน่วยอยู่บนความ ไมไ่ ว้วางใจกัน ขอ้ เสนอแนะเพอื่ แก้ไขปญั หา กระบวนการแต่งต้ังเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. มีการตรวจสอบประวัติ พฤติการณ์ของผู้ย่ืนคำขอ แตง่ ตงั้ ท้ังการตรวจสอบจากประวัตคิ ดยี าเสพติด ขอ้ มูลการขา่ ว การใหส้ ำนักงาน ป.ป.ส.ในพ้นื ที่ตรวจสอบ พฤติการณ์ ซ่ึงกระบวนการตรวจสอบกระทำโดยละเอียด แต่เมื่อได้รับการแต่งต้ังแล้วกลับพบว่ามีการนำ อำนาจท่มี ีไปใชใ้ นทางท่ไี ม่ถูกตอ้ ง ซ่ึงผูบ้ ังคบั บญั ชาของเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. ในแตล่ ะหน่วยควรจะต้องมกี าร กำกบั ดูแลผใู้ ตบ้ ังคับบญั ชาอยา่ งใกล้ชิด และการใชอ้ ำนาจทุกครัง้ ควรเนน้ ยำ้ ผใู้ ต้บงั คบั บัญชาให้รายงานการ ปฏิบัติหน้าที่ทุกคร้ัง สำหรับเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ที่เป็นผู้บังคับบัญชาย่อมมีหน้าที่จะต้องรายงาน ความก้าวหน้าของหน่วยงาน เพื่อรายงานภาพรวมของหน่วยงานเก่ียวกับการดำเนินการปราบปราม ยาเสพติดและต้องเน้นย้ำกับเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ให้รับทราบถึงการรับโทษเป็นสามเท่าตาม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หากเจ้าพนักงานกระทำความผิดจะต้องรับโทษ เป็นสามเทา่ ของโทษท่ีกฎหมายกำหนด
23 ภาคผนวก
24 พระราชบัญญตั ิ ปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๑๙ (๑) ภูมพิ ลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันท่ี ๑๖ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๑๙ เป็นปที ี่ ๓๑ ในรชั กาลปัจจบุ ัน พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ ใหป้ ระกาศวา่ โดยท่ีเปน็ การสมควรมกี ฎหมายว่าดว้ ยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเก่ียวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซ่ึงมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๑ มาตรา ๓๕ มาตรา ๓๗ มาตรา ๔๘ มาตรา ๕๐ มาตรา ๒๓๗ และมาตรา ๒๓๘ ของรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย บัญญตั ใิ ห้กระทำไดโ้ ดยอาศยั อำนาจตามบทบญั ญัติแห่งกฎหมาย(๒) จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติข้ึนไว้ โดยคำแนะนำและยินยอมของสภาท่ีปรึกษา ของนายกรฐั มนตรีทำหน้าที่สภาปฏริ ูปการปกครองแผ่นดนิ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชบญั ญัติน้ีเรียกว่า “พระราชบญั ญัตปิ อ้ งกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙” (๓) มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินใี้ ห้ใช้บงั คบั ตง้ั แต่วนั ถดั จากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปน็ ต้นไป มาตรา ๓ ในพระราชบญั ญตั ิน้ี (๔) “ยาเสพติด” หมายความว่า ยาเสพติดให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ วัตถุออกฤทธิ์ ตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธ์ิต่อจิตและประสาท และสารระเหยตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันการใช ้ สารระเหย (๑) แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๔ แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๓ และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ (๒) ข้อความดังกล่าวเพ่ิมเติมโดย พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๓ ซึ่งประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา เลม่ ๑๑๗ ตอนท่ี ๓๗ ก ลงวนั ที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๔๓ และ พ.ร.บ. ปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งประกาศใน ราชกจิ จานุเบกษา เลม่ ๑๑๙ ตอนที่ ๙๖ ก ลงวันท่ี ๓๐ กันยายน ๒๕๔๕ (๓) ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบบั พเิ ศษ เล่ม ๙๓ ตอนท่ี ๑๔๔ ลงวนั ท่ี ๑๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๑๙ (๔) ขอ้ ความเดมิ ถกู ยกเลกิ โดย พ.ร.บ. ปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๓ และใหใ้ ชข้ อ้ ความทพี่ มิ พไ์ วน้ แี้ ทน หมายเหตุ : พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ฉบับที่ ๒) ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๐๘ ตอนที่ ๑๗๐ ลงวนั ท่ี ๒๗ กนั ยายน ๒๕๓๔
25 (๕) “กฎหมายเก่ียวกับยาเสพติด” หมายความว่า กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ กฎหมายว่าด้วย วัตถุท่ีออกฤทธ์ิต่อจิตและประสาท กฎหมายว่าด้วยการป้องกันการใช้สารระเหย และกฎหมายว่าด้วย มาตรการในการปราบปรามผกู้ ระทำความผดิ เกี่ยวกับยาเสพติด (๖) (๗) “ความผดิ เก่ยี วกบั ยาเสพตดิ ” หมายความว่า ความผิดตามท่ีบญั ญตั ไิ ว้ในกฎหมายเก่ยี วกบั ยาเสพติด “คณะกรรมการ” หมายความวา่ คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด “กรรมการ” หมายความว่า กรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และหมายความรวมถึง ประธานกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติดดว้ ย “เลขาธิการ” หมายความวา่ เลขาธกิ ารคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด “รฐั มนตรี” หมายความว่า รฐั มนตรีผู้รักษาการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี “เจ้าพนกั งาน” หมายความว่า ผซู้ ึง่ เลขาธกิ ารแตง่ ตัง้ ใหป้ ฏบิ ตั ิการตามพระราชบัญญตั นิ ้ี มาตรา ๔ พระราชบัญญัตินี้ไม่กระทบกระเทือนถึงอำนาจหน้าท่ีของส่วนราชการ หรือของเจ้าหน้าท่ี ของส่วนราชการใดตามกฎหมายเกีย่ วกับยาเสพตดิ ในกรณีมีปัญหาเก่ียวกับการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าท่ีของคณะกรรมการหรือเจ้าพนักงาน และของ ส่วนราชการหรือเจ้าหน้าท่ีของส่วนราชการที่มีอำนาจเก่ียวกับยาเสพติด ให้คณะกรรมการเป็นผู้วินิจฉัยและ วางระเบยี บเก่ยี วกับการปฏบิ ตั ริ าชการและการประสานงาน (๘) มาตรา ๕ ให้มคี ณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เรยี กโดยย่อวา่ “ป.ป.ส.” ประกอบดว้ ย นายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซ่ึงนายกรัฐมนตรีมอบหมาย รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงตา่ งประเทศ รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงพัฒนาสังคมและ ความม่ันคงของมนุษย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่การ กระทรวงแรงงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวง ยตุ ธิ รรม ผอู้ ำนวยการสำนกั งบประมาณ ผบู้ ญั ชาการทหารสงู สดุ ผบู้ ญั ชาการทหารบก ผบู้ ญั ชาการตำรวจแหง่ ชาติ อธิบดีกรมศุลกากร อธิบดีกรมสรรพากร เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน อัยการสูงสุด เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่คณะรัฐมนตรีแต่งต้ังไม่เกินสามคน และเลขาธกิ ารเป็นกรรมการและเลขานุการ ให้คณะกรรมการแต่งต้ังข้าราชการในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จำนวน ไมเ่ กนิ สองคน เปน็ ผ้ชู ว่ ยเลขานกุ าร มาตรา ๖ กรรมการซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งต้ัง มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสองปี กรรมการซึ่งพ้น จากตำแหนง่ อาจได้รบั การแต่งต้งั อีกได้ (๕) ข้อความเดิมถูกยกเลิกโดย พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๓ และให้ใช้ข้อความ ที่พมิ พ์ไวน้ แี้ ทน (๖) หมายถึง พ.ร.บ. ยาเสพตดิ ให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแกไ้ ขเพิ่มเตมิ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๒๘ (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๓๐ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๓ และ (ฉบบั ท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ร.บ. วัตถุทอี่ อกฤทธต์ิ ่อจติ และประสาท พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึง่ แก้ไขเพิ่มเตมิ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๒๘ (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ.๒๕๓๕ (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๔๓ พ.ร.ก.ป้องกันการใช้สารระเหย พ.ศ.๒๕๓๓ ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติมโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.ปอ้ งกันการใชส้ ารระเหย พ.ศ.๒๕๓๓ พ.ศ.๒๕๔๒ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๓ และ (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๐ และ พ.ร.บ.มาตรการใน การปราบปรามผ้กู ระทำความผดิ เกีย่ วกบั ยาเสพติด พ.ศ.๒๕๓๔ ซ่งึ แก้ไขเพม่ิ เติม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ.๒๕๔๓ (๗) บทนิยามคำว่า “ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด” เพมิ่ เตมิ โดย พ.ร.บ. ปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๓ (๘) ข้อความเดิมถูกยกเลิกโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับท่ี ๑๐๙/๒๕๕๗ ลงวันท่ี ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ และใหใ้ ช้ขอ้ ความท่พี ิมพ์ไวน้ ้ีแทน
26 มาตรา ๗ กรรมการซึ่งคณะรฐั มนตรแี ต่งตัง้ พ้นจากตำแหนง่ ก่อนวาระ เม่ือ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) คณะรฐั มนตรีใหอ้ อก (๔) เปน็ คนไรค้ วามสามารถหรือเสมือนไรค้ วามสามารถ (๕) ไดร้ บั โทษจำคกุ โดยคำพพิ ากษาถงึ ทสี่ ุดให้จำคุก เม่ือกรรมการพ้นจากตำแหนง่ ก่อนวาระ คณะรฐั มนตรีอาจแต่งตง้ั ผ้อู น่ื แทนได้ กรรมการซง่ึ ได้รบั แตง่ ตั้งซ่อมหรือแต่งตงั้ เพม่ิ อย่ใู นตำแหนง่ เท่าวาระทเี่ หลืออยขู่ องกรรมการอืน่ มาตรา ๘ ในการประชมุ ของคณะกรรมการ ถา้ ประธานไม่มาประชมุ หรอื ไม่อยใู่ นท่ปี ระชมุ ใหก้ รรมการ ที่มาประชมุ เลอื กกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในทปี่ ระชุม มาตรา ๙ การประชุมทุกคร้ัง ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่าก่ึงจำนวนของจำนวนกรรมการ ทั้งหมดจึงจะเปน็ องคป์ ระชุม การวินิจฉัยช้ีขาดให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหน่ึงในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียง เท่ากัน ใหป้ ระธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มข้ึนอกี เสียงหนึ่งเปน็ เสยี งชีข้ าด (๙) มาตรา ๑๐ คณะกรรมการจะตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาหรือคณะอนุกรรมการ เพื่อพิจารณาหรือ ทำการใดๆ แทนคณะกรรมการกไ็ ด้ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามวรรคหน่ึงให้กรรมการท่ีปรึกษาหรืออนุกรรมการเป็นเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา (๑๐) มาตรา ๑๑ ให้มีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เรียกโดยย่อว่า “สำนักงาน ป.ป.ส.” เป็นหนว่ ยงานในกระทรวงยุตธิ รรม(๑๑) มีอำนาจหน้าทีด่ ังต่อไปนี้ (๑) ดำเนนิ งานในฐานะหน่วยงานปฏบิ ัติของคณะกรรมการตามอำนาจและหนา้ ที่ท่กี ำหนด (๒) ประสานนโยบาย แผน งบประมาณ และการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกับหน่วย งานอ่นื ท่เี ก่ียวข้องทงั้ ภาครฐั และเอกชน (๓) สนับสนุนข้อมูล ข่าวสาร วชิ าการ ตลอดจนพฒั นาบคุ ลากรของหนว่ ยงานที่เก่ียวข้องทงั้ ภาครัฐและ เอกชนในประเทศและต่างประเทศ (๔) ปฏิบตั ิงานด้านการประชาสัมพันธ์ต่อตา้ นยาเสพตดิ (๕) ประสานความร่วมมือกับต่างประเทศและองค์กรระหว่างประเทศในด้านการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด (๖) ประสาน ตรวจสอบ ตลอดจนติดตามและประเมินผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปราม ยาเสพติดของหน่วยงานทเี่ กยี่ วข้อง (๙) ขอ้ ความเดมิ ถกู ยกเลิกโดย พ.ร.บ. ปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๕ และให้ใชข้ อ้ ความทพี่ ิมพไ์ วน้ แ้ี ทน (๑๐) ข้อความเดมิ ถกู ยกเลิกโดย พ.ร.บ. ปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๖ และใหใ้ ชข้ อ้ ความท่พี ิมพ์ไวน้ ้แี ทน (๑๑) แกไ้ ขเปลี่ยนแปลงโดย พ.ร.บ.ปรบั ปรงุ กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๓๓ และ พ.ร.ฎ.โอนกิจการบริหารและอำนาจหน้าที่ของ ส่วนราชการใหเ้ ปน็ ไปตาม พ.ร.บ.ปรบั ปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๑๑๒
27 (๗) ปฏิบตั ริ าชการอืน่ ตามทคี่ ณะกรรมการมอบหมายหรอื ตามทก่ี ฎหมายกำหนด (๑๒) มาตรา ๑๒ ให้มีเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดมีหน้าท่ีควบคุมดูแล โดยทั่วไปซ่ึงราชการของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ข้ึนตรงต่อรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงยุติธรรม(๑๓) และเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการในสำนักงาน และให้มีรองเลขาธิการเป็น ผูช้ ่วยปฏิบัติราชการ มาตรา ๑๓ ใหค้ ณะกรรมการมีอำนาจและหน้าท่ีดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) (๑๔) กำหนดยทุ ธศาสตร์ นโยบาย แผนงาน มาตรการและกลไกในการสกัดกั้น ป้องกนั และปราบปราม บำบัดรักษา และแก้ไขปัญหายาเสตพิด ในทุกพื้นที่ เพ่ือให้ทุกส่วนราชการท่ีเกี่ยวข้องสามารถบูรณาการการ ดำเนินงานรว่ มกนั อยา่ งเปน็ เอกภาพ ครบวงจร เกดิ ปรสทิ ธิภาพและประสทิ ธผิ ลสงู สดุ (๒) (๑๕) กหนดยทุ ธศาสตรแ์ ละแนวทางในการประสานความรว่ มมือกับประเทศตา่ งๆ หรอื องคก์ ารระหวา่ ง ประเทศ เพ่ือปราบปรามการลักลอบผลิตและค้ายาเสพติด รวมท้ังประสานงานการข่าวเพ่ือสกัดกั้นและ ปราบปรามจับกมุ ขบวนการและเครอื ข่ายการคา้ ยาเสพตดิ ระหวา่ งประเทศ (๓) (๑๖) ควบคุม เร่งรัด และประสานงาน เพ่ือการปฏิบัติงานของส่วนราชการท่ีมีอำนาจหน้าที่ในการ สบื สวน สอบสวน ปราบปราม การฟ้องคดี และการบงั คับโทษตามกฎหมายเก่ียวกับยาเสพตดิ (๔) (๑๗) กำหนดสถานะของพ้ืนที่หรือกลุ่มพ้ืนที่ในแต่ละปี หรือพื้นที่ท่ีมีความจำเป็นเร่งด่วนและกำหนด ผู้รับผิดชอบในพื้นที่ดังกล่าวเพ่ือป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พร้อมกับกำหนดให้มีกลไกโครงสร้าง และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งจัดสรรทรัพยากรท่ีเหมาะสมกับสถานะของปัญหาและให้ส่วนราชการ ใหก้ ารสนบั สนุนตามท่ีรอ้ งขอ (๕) (๑๘) วางโครงการและดำเนินการ ตลอดจนส่ังให้ส่วนราชการท่ีเกี่ยวข้องดำเนินการเผยแพร่ความรู้ เก่ยี วกบั ยาเสพติด (๖) (๑๙) เสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีเพ่ือให้มีการปรับปรุงการปฏิบัติราชการหรืองาน แผนงานหรือ หรือโครงการของสว่ นราชการท่มี อี ำนาจหนา้ ทใ่ี นการปฏบิ ัติการตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด (๗) (๒๐) ประสานงานและกำกบั การเกยี่ วกบั การบำบดั รักษาและฟืน้ ฟูสมรรถภาพผตู้ ิดยาเสพตดิ (๘) (๒๑) พิจารณาอนุมัติหรือมอบหมายให้คณะอนุกรรมการพิจารณาอนุมัติการแต่งตั้งเจ้าพนักงานเพื่อ ปฏิบตั ิการตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ (๙) (๒๒) เสนอความเห็นตอ่ คณะรัฐมนตรี เพือ่ กำหนดมาตรการป้องกนั และปราบปรามการกระทำความผิด เกย่ี วกบั ยาเสพตดิ ในสถานประกอบการและกำหนดใหส้ ถานทซี่ งึ่ ใชใ้ นการประกอบธรุ กจิ ใดๆ เปน็ สถานประกอบการ ท่ีอยภู่ ายใต้บังคบั ของมาตรการดงั กลา่ ว (๒๓) (๑๐) เสนอความเห็นเก่ียวกับการให้ความดีความชอบหรือโยกย้ายหรือลงโทษทางวินัยต่อข้าราชการ พนักงานส่วนท้องถ่ิน พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐท่ีได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าท่ี เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเก่ียวกับยาเสพติด ตลอดจนขอให้ ส่วนราชการเจ้าสังกัดเร่งรัดการดำเนินการท่ีเก่ียวข้อง รวมทั้งให้ความคุ้มครองแก่ข้าราชการและเจ้าหน้าท่ีของรัฐ ท่ปี ฏิบตั งิ านดา้ นยาเสพติด (๑๒) ข้อความเดมิ ถกู ยกเลกิ โดย พ.ร.บ. ป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๖ และให้ใชข้ ้อความทพี่ ิมพ์ไวน้ ้ีแทน (๑๓) เนื่องจาก พ.ร.ฎ.โอนกิจการบริหารและอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๑๑๒ มาตรา ๑๑๓ (๑) ได้โอนบรรดากจิ การ อำนาจหน้าท่ี ทรัพย์สนิ งบประมาณ หน้ี สิทธิภาระ ผกู พัน ข้าราชการ ลูกจา้ ง และ อัตรากำลังของสำนกั นายกรฐั มนตรี ในส่วนของสำนักงาน ป.ป.ส. มาเป็นของสำนักงาน ป.ป.ส. กระทรวงยุติธรรม ดงั น้นั สำนักงาน ป.ป.ส. จึงขน้ึ ตรงตอ่ รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงยตุ ธิ รรม (๑๔) (๑๕) (๑๖)(๑๗) ขอ้ ความเดิมถูกยกเลิกโดยประกาศคณะรกั ษาความสงบแห่งชาติ ฉบับท่ี ๑๐๙/๒๕๕๗ ลงวนั ที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ และใหใ้ ช้ ข้อความทีพ่ ิมพไ์ วน้ แี้ ทน (๑๘) (๑๙) (๒๐)(๒๑) ขอ้ ความเดมิ ถูกยกเลกิ โดยประกาศคณะรกั ษาความสงบแห่งชาติ ฉบบั ที่ ๑๐๙/๒๕๕๗ ลงวนั ที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ และใหใ้ ช้ ขอ้ ความทพี่ มิ พไ์ ว้นแ้ี ทน (๒๒) (๒๓) (๒๔)(๒๕)(๒๖) ข้อความเดิมถูกยกเลิกโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับท่ี ๑๐๙/๒๕๕๗ ลงวันท่ี ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ และให้ใช้ข้อความทพ่ี มิ พ์ไวน้ ีแ้ ทน
28 (๒๔) (๑๑) พิจารณาและดำเนินการจัดสรรงบประมาณด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้แก ่ หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด รวมทั้งกำกับและติดตาม การใชง้ บประมาณของหน่วยงานดงั กลา่ ว (๑๒) (๒๕) สนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปราม ยาเสพตดิ (๒๖) (๑๓) ปฏิบตั ิการอนื่ ใดตามทพ่ี ระราชบัญญัติน้บี ัญญตั ิให้เป็นอำนาจหนา้ ทข่ี องคณะกรรมการ (๒๗) มาตรา ๑๓ ทว ิ ให้นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี มีอำนาจออกประกาศกำหนด มาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการและประกาศ กำหนดให้สถานที่ซึ่งใช้ในการประกอบธุรกิจใดๆ เป็นสถานประกอบการที่อยู่ภายใต้บังคับของมาตรการดังกล่าว ทง้ั น้ี โดยประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา (๒๘) มาตรา ๑๓ ตรี ในกรณีท่ีเจ้าพนักงานตรวจพบว่ามีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถาน ประกอบการตามมาตรา ๑๓ ทวิ หากเจา้ ของหรือผ้ดู ำเนินกิจการสถานประกอบการดังกลา่ ว ไม่สามารถชี้แจงหรอื พสิ จู น์ให้คณะกรรมการเชอื่ ไดว้ ่าตนไดใ้ ชค้ วามระมดั ระวงั ตามสมควรแก่กรณแี ล้ว ใหค้ ณะกรรมการมีอำนาจสัง่ ปดิ สถานประกอบการแหง่ น้นั ช่วั คราว หรอื สัง่ พกั ใช้ใบอนญุ าตประกอบการสำหรับการประกอบธรุ กิจน้ัน แลว้ แตก่ รณี เว้นแต่ ในกรณจี ำเปน็ เรง่ ด่วน ให้เลขาธิการมอี ำนาจในการดำเนนิ การดังกลา่ ว ทัง้ นี้ ตอ้ งไม่เกินครงั้ ละสามสิบวนั นับแต่วันทเ่ี จา้ ของหรอื ผ้ดู ำเนินกจิ การสถานประกอบการน้ันทราบคำสง่ั ในกรณีที่สถานประกอบการซ่ึงถูกส่ังปิดชั่วคราวหรือถูกส่ังพักใช้ใบอนุญาตประกอบการตามวรรคหนึ่ง เป็นสถานประกอบการซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมการประกอบธุรกิจตามกฎหมายอ่ืน ให้เลขาธิการแจ้งให ้ หน่วยงานซึง่ ควบคุมการประกอบธุรกิจนนั้ ทราบ และให้หนว่ ยงานดงั กล่าวถือปฏิบตั ิตามนน้ั การส่ังปิดชั่วคราวหรือการสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบการ และการแจ้งให้เจ้าของ หรือผู้ดำเนินกิจการ สถานประกอบการทราบตามวรรคหนึ่ง และการแจ้งให้หน่วยงานทราบตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงือ่ นไขทรี่ ฐั มนตรีประกาศกำหนด (๒๙) มาตรา ๑๔ เพ่ือดำเนินการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเก่ียวกับยาเสพติด ให้กรรมการ เลขาธกิ าร รองเลขาธิการและเจ้าพนกั งานมอี ำนาจดังต่อไปนี ้ (๑) เข้าไปในเคหสถาน หรือสถานที่ใดๆ เพ่ือตรวจค้นเม่ือมีเหตุอันควรสงสัยตามสมควรว่ามีบุคคลท่ีมี เหตุอันควรสงสัยว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดหลบซ่อนอยู่ หรือมีทรัพย์สินซึ่งมีไว้เป็นความผิดหรือได้มา โดยการกระทำความผดิ หรือได้ใช้หรือจะใชใ้ นการกระทำความผิดเกีย่ วกบั ยาเสพติด หรอื ซ่งึ อาจใช้เป็นพยานหลัก ฐานได้ ประกอบกับมเี หตุอนั ควรเชื่อวา่ เนอื่ งจากการเนิ่นช้ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้ บคุ คลน้นั จะหลบหนีไป หรือ ทรัพย์สนิ นนั้ จะถกู โยกย้าย ซกุ ซอ่ น ทำลาย หรอื ทำให้เปล่ียนสภาพไปจากเดมิ (๒) ค้นบุคคล หรือยานพาหนะใดๆ ท่ีมีเหตุอันควรสงสัยตามสมควรว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ โดยไม่ชอบดว้ ยกฎหมาย (๓) จบั กุมบุคคลใดๆ ท่ีกระทำความผดิ เกย่ี วกับยาเสพตดิ (๔) ยึดหรืออายัดยาเสพติดที่มีไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือทรัพย์สินอ่ืนใดท่ีได้ใช้หรือจะใช้ในการ กระทำความผิดเก่ียวกับยาเสพติด หรอื ท่อี าจใช้เปน็ พยานหลกั ฐานได้ (๒๗) มาตรา ๑๓ ทวิ เพิม่ เติมโดย พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๔ (๒๘) ข้อความเดิมถกู ยกเลกิ โดยประกาศคณะรักษาความสงบแหง่ ชาติ ฉบับที่ ๑๐๙/๒๕๕๗ ลงวนั ที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ และใหใ้ ช้ ขอ้ ความที่พมิ พ์ไว้นแ้ี ทน (๒๙) ขอ้ ความเดมิ ถกู ยกเลิกโดย พ.ร.บ. ป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๘ และใหใ้ ช้ข้อความทพี่ มิ พ์ไว้นแ้ี ทน
29 (๕) ค้นตามบทบญั ญตั ิแห่งประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา (๖) สอบสวนผูต้ ้องหาในคดีความผดิ เกยี่ วกับยาเสพติด (๓๐) (๗) มีหนังสือสอบถามหรือเรียกบุคคลใดๆ หรือเจ้าหน้าที่ของหน่วยราชการใดๆ มาให้ถ้อยคำ หรือให้ส่งบญั ช ี เอกสาร หรือวัตถใุ ดๆ มาเพ่อื ตรวจสอบหรอื ประกอบการพจิ ารณา การใช้อำนาจตามวรรคหนึ่ง (๑) ให้เจ้าพนักงานผู้ค้นปฏิบัติตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด และ แสดงความบริสุทธ์ิก่อนการเข้าค้น รายงานเหตุผลและผลการตรวจค้นเป็นหนังสือต่อผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไป และบันทึกเหตุอันควรสงสัยตามสมควรและเหตุอันควรเชื่อท่ีทำให้สามารถเข้าค้นได้เป็นหนังสือให้ไว้แก ่ ผู้ครอบครองเคหสถาน หรือสถานที่ค้น แต่ถ้าไม่มีผู้ครอบครองอยู่ ณ ที่น้ัน ให้เจ้าพนักงานผู้ค้นส่งมอบสำเนา หนังสือนั้นให้แก่ผู้ครอบครองดังกล่าวในทันทีที่กระทำได้ และหากเป็นการเข้าค้นในเวลากลางคืนภายหลัง พระอาทิตย์ตก เจ้าพนักงานผู้เป็นหัวหน้าในการเข้าค้นต้องเป็นข้าราชการพลเรือนตำแหน่งต้ังแต่ระดับ ๗ ข้ึนไป หรือข้าราชการตำรวจตำแหน่งต้ังแต่สารวัตรหรือเทียบเท่าขึ้นไป หรือข้าราชการทหารตำแหน่งต้ังแต่ผู้บังคับกอง รอ้ ยหรือเทียบเทา่ ข้นึ ไป เจ้าพนักงานตำแหน่งใดหรือระดับใดจะมีอำนาจหน้าท่ีตามที่ได้กำหนดไว้ตามวรรคหน่ึงท้ังหมด หรือ แต่บางส่วนหรือจะต้องได้รับอนุมัติจากบุคคลใดก่อนดำเนินการ ให้เป็นไปตามท่ีเลขาธิการกำหนดด้วยความเห็น ชอบของคณะกรรมการ โดยทำเอกสารมอบหมายใหไ้ วป้ ระจำตวั เจา้ พนักงานผู้ไดร้ บั มอบหมายนนั้ (๓๑) เจ้าพนักงานผู้ได้รับมอบหมายตามวรรคหนึ่ง ต้องแสดงเอกสารมอบหมายน้ันต่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทกุ คร้งั ในการปฏบิ ตั ิการตามมาตราน้ใี ห้กรรมการ เลขาธกิ าร รองเลขาธกิ าร และเจา้ พนักงานเปน็ เจา้ พนกั งาน ตามประมวลกฎหมายอาญา ให้เลขาธิการจัดทำรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรา ๑๔ เสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพ่ือรายงานผล การปฏิบัติงานประจำปี โดยให้รายงานข้อเท็จจริง ปัญหาอุปสรรค ปริมาณการปฏิบัติงาน และผลสำเร็จของ การปฏิบัติงานโดยละเอียด เพื่อให้คณะรัฐมนตรีเสนอรายงานดังกล่าวพร้อมข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี ตอ่ สภาผแู้ ทนราษฎรและวฒุ ิสภา (๓๒) มาตรา ๑๔ ทวิ ในกรณีจำเป็นและมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดเสพยาเสพติด ในเคหสถาน สถานทีใ่ ดๆ หรอื ยานพาหนะ ให้กรรมการ เลขาธกิ าร รองเลขาธกิ าร และเจ้าพนักงานมอี ำนาจตรวจ หรอื ทดสอบหรือสั่งให้รับการตรวจหรือทดสอบวา่ บุคคลหรอื กล่มุ บคุ คลน้นั มีสารเสพติดอยู่ในร่างกายหรือไม ่ วิธีการตรวจหรือทดสอบตามวรรคหน่ึงให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขที่คณะกรรมการ กำหนดโดยประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา ม (๓๓) าตรา ๑๔ ตรี ในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานตามมาตรา ๑๔ หรือมาตรา ๑๔ ทวิ ถ้า เจ้าพนักงานได้ขอให้บุคคลใดช่วยเหลือการปฏิบัติหน้าท ี่ ให้บุคคลน้ันมีอำนาจช่วยการปฏิบัติงานของ เจ้าพนกั งานได ้ (๓๐) อำนาจสอบสวนตามมาตรา ๑๔ (๖) กฎหมายจำกัดเฉพาะในเรื่องท่ีเกี่ยวกับการสอบสวนผู้ต้องหาเท่านั้น จะตีความให้มีความหมายว่า เป็นอำนาจสอบสวนโดยทั่วไปมิได้ (ตามหนังสือตอบข้อหารือของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาท่ี สร ๐๖๐๑/๑๔๐๘ ลงวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๒๕) (๓๑) คอื บตั รประจำตัวเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. (๓๒) มาตรา ๑๔ ทวิ เพมิ่ เตมิ โดย พ.ร.บ. ปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๕ (๓๓) มาตรา ๑๔ ตรี เพิ่มเตมิ โดย พ.ร.บ. ปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๙
30 (๓๔) มาตรา ๑๔ จัตวา ในกรณีท่ีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า เอกสารหรือข้อมูลข่าวสารอื่นใดซ่ึงส่งทางไปรษณีย์ โทรเลข โทรศัพท์ โทรสาร คอมพิวเตอร์ เคร่ืองมือ หรืออุปกรณ์ในการสื่อสาร สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อทาง เทคโนโลยีสารสนเทศใด ถูกใช้หรืออาจถูกใช้เพื่อประโยชน์ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเจ้าพนักงาน ซง่ึ ไดร้ ับอนุมัตจิ ากเลขาธิการเป็นหนังสอื จะยื่นคำขอฝ่ายเดียวต่ออธบิ ดผี พู้ พิ ากษาศาลอาญาเพอื่ มคี ำสัง่ อนุญาตให้ เจา้ พนักงานได้มาซึง่ ข้อมลู ขา่ วสารดังกล่าวได้ การอนุญาตตามวรรคหนงึ่ ใหอ้ ธิบดผี ู้พพิ ากษาศาลอาญา พจิ ารณาถึงผลกระทบตอ่ สทิ ธิส่วนบุคคล หรือ สิทธอิ น่ื ใดประกอบกับเหตุผลและความจำเปน็ ดังต่อไปน้ี (๑) มีเหตุอนั ควรเชื่อว่ามีการกระทำความผดิ หรอื จะมีการกระทำความผิดเกี่ยวกบั ยาเสพติด (๒) มีเหตุอันควรเช่ือว่าจะได้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดจากการ เขา้ ถงึ ข้อมูลขา่ วสารดงั กลา่ ว (๓) ไม่อาจใช้วิธกี ารอนื่ ใดทเี่ หมาะสมหรอื มีประสิทธภิ าพมากกวา่ ได้ การอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาส่ังอนุญาตได้คราวละไม่เกินเก้าสิบวัน โดยกำหนดเง่ือนไขใด ๆ ก็ได้ และให้ผู้เกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารในสิ่งสื่อสารตามคำสั่งดังกล่าวจะต้อง ให้ความร่วมมือเพื่อให้เป็นไปตามความในมาตราน้ี ภายหลังที่มีคำส่ังอนุญาต หากปรากฏข้อเท็จจริงว่าเหตุผล ความจำเป็นไม่เปน็ ไปตามทีร่ ะบุหรือพฤติการณ์เปล่ียนแปลงไป อธิบดีผพู้ พิ ากษาศาลอาญาอาจเปล่ียนแปลงคำสั่ง อนุญาตไดต้ ามที่เห็นสมควร เมื่อเจ้าพนักงานได้ดำเนินการตามท่ีได้รับอนุญาตแล้ว ให้รายงานการดำเนินการให้อธิบดีผู้พิพากษา ศาลอาญาทราบ บรรดาข้อมูลข่าวสารที่ได้มาตามวรรคหน่ึง ให้เก็บรักษาและใช้ประโยชน์ในการสืบสวนและใช้เป็น พยานหลกั ฐานในการดำเนินคดเี ท่าน้นั ทั้งนี ้ ตามระเบยี บที่คณะกรรมการกำหนด มาตรา ๑๕ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัตกิ ารตามมาตรา ๑๔ ให้ถอื ว่ากรรมการ เลขาธกิ าร รองเลขาธิการ และเจา้ พนกั งานซึง่ ไดร้ บั มอบหมายใหม้ ีอำนาจตามมาตรา ๑๔(๓) มีอำนาจหนา้ ที่เชน่ เดยี วกบั พนกั งานสอบสวน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้ทั่วราชอาณาจักร และให้มีอำนาจควบคุมผู้ถูกจับตาม มาตรา ๑๔(๓) ไว้เพื่อทำการสอบสวนได้เป็นเวลาไม่เกินสามวัน เมือ่ ครบกำหนดเวลาดังกล่าว หรอื กอ่ นน้ันตามท่ี จะเห็นสมควร ให้ส่งตัวผู้ถูกจับไปยังพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเพ่ือ ดำเนินการต่อไป ทั้งนี้โดยมิให้ถือว่าการควบคุมผู้ถูกจับดังกล่าวเป็นการควบคุมของพนักงานสอบสวน ตามประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา ม (๓๕) าตรา ๑๕ ทวิ เจ้าของหรือผู้ดำเนินกิจการสถานประกอบการผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตาม ประกาศตามมาตรา ๑๓ ทวิ ต้องระวางโทษปรับต้งั แต่หน่งึ หมื่นบาทถงึ ห้าหมื่นบาท (๓๖) มาตรา ๑๖ ผู้ใดไม่ให้ความสะดวก หรือไม่ให้ถ้อยคำ หรือไม่ส่งบัญชีเอกสาร หรือวัตถุใดแก่กรรมการ เลขาธกิ าร รองเลขาธิการ หรือเจา้ พนกั งานซง่ึ ปฏิบตั ิการตามมาตรา ๑๔ หรือไมย่ นิ ยอม ใหต้ รวจหรือทดสอบตาม มาตรา ๑๔ ทวิ ตอ้ งระวางโทษจำคกุ ไม่เกินหกเดอื นหรอื ปรบั ไมเ่ กนิ หน่ึงหม่ืนบาท(๓๗) (๓๔) มาตรา ๑๔ จตั วา เพิ่มเติมโดย พ.ร.บ. ป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๙ (๓๕) มาตรา ๑๕ ทวิ เพม่ิ เติมโดย พ.ร.บ. ปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๖ (๓๖) ข้อความเดิมถกู ยกเลกิ โดย พ.ร.บ. ปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๗ และให้ใชข้ ้อความท่ีพมิ พ์ไวน้ แี้ ทน (๓๗) ดูเปรยี บเทยี บมาตรา ๙๐ แห่ง พ.ร.บ. ยาเสพติดใหโ้ ทษ พ.ศ. ๒๕๒๒
31 ถ้ (๓๘) าการกระทำตามวรรคหน่ึงเป็นการกระทำต่อผู้ที่ช่วยเหลือการปฏิบัติหน้าท่ีของเจ้าพนักงาน ตามมาตรา ๑๔ ตรี ผู้กระทำต้องระวางโทษเช่นเดยี วกับทบ่ี ัญญตั ไิ วใ้ นวรรคหนึง่ (๓๙) มาตรา ๑๖/๑ ผู้ใดรู้หรือได้มาซ่ึงข้อมูลข่าวสารท่ีได้มาตามมาตรา ๑๔ จัตวา กระทำด้วยประการใด ๆ ให้ผู้อ่ืนรู้หรืออาจรู้ข้อมูลข่าวสารดังกล่าวต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหน่ึงแสนบาท เว้นแต่ เปน็ การเปดิ เผยในการปฏิบัตหิ นา้ ทีห่ รือตามกฎหมาย ถ้าการกระทำตามวรรคหน่ึงเป็นการกระทำโดยกรรมการ เลขาธิการ รองเลขาธิการ หรือเจ้าพนักงาน ผู้กระทำต้องระวางโทษเปน็ สามเทา่ ของโทษที่กำหนดไว้ในวรรคหน่ึง มาตรา ๑๗ กรรมการ เลขาธิการ รองเลขาธิการ และเจ้าพนักงานผู้ใดกระทำความผิดใดๆ ตาม กฎหมายเก่ียวกบั ยาเสพติดเสียเอง ตอ้ งระวางโทษเป็นสามเทา่ ของโทษทีก่ ำหนดไวส้ ำหรับความผิดนัน้ ๆ (๔๐) มาต (๔๑) รา ๑๗ ทวิ บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ีที่มีโทษปรับสถานเดียว ให้คณะกรรมการ หรือผ้ซู ่ึงคณะกรรมการมอบหมายมีอำนาจเปรยี บเทียบปรับได้ มาตรา ๑๘ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม(๔๒) รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจ ออกขอ้ บังคับหรือระเบยี บเพือ่ ปฏิบตั กิ ารตามพระราชบัญญัตินี้ ผรู้ ับสนองพระบรมราชโองการ ธานนิ ทร ์ กรัยวเิ ชียร นายกรฐั มนตร ี (๓๘) วรรคสอง ของมาตรา ๑๖ เพิม่ เติมโดย พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๑๐ (๓๙) มาตรา ๑๖/๑ เพมิ่ เตมิ โดย พ.ร.บ. ปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๑๑ (๔๐) ดเู ปรยี บเทียบมาตรา ๑๐๐ แห่ง พ.ร.บ.ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ และมาตรา ๑๐ แห่ง พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผกู้ ระทำ ความผิด เก่ยี วกบั ยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๓๔ (๔๑) มาตรา ๑๗ ทวิ เพ่มิ เตมิ โดย พ.ร.บ. ปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๘ (๔๒) แก้ไขเปลย่ี นแปลงโดย พ.ร.บ.ปรบั ปรงุ กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๓๓ และ พ.ร.ฎ.แกไ้ ขบทบัญญัติใหส้ อดคลอ้ งกับการ โอนอำนาจหน้าท่ีของสว่ นราชการใหเ้ ปน็ ไปตาม พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๗๔
32 ระเบยี บคณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ วา่ ด้วยการแตง่ ต้งั การปฏิบตั ิหน้าทแี่ ละการกำกบั ดแู ลการปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ี ของเจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๕ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๔ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ และมาตรา ๑๔ แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ ซ่ึงแก้ไข เพมิ่ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ อันเปน็ พระราชบัญญัตทิ ่มี ี บทบัญญัติบางประการเก่ียวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๑ มาตรา ๓๕ มาตรา ๓๗ มาตรา ๔๘ มาตรา ๒๓๗ และมาตรา ๒๓๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติ ให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จึงออกระเบยี บไว้ ดงั ตอ่ ไปนี้ ข้อ ๑ ระเบียบน้ี เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ว่าด้วยการแต่งต้ัง การปฏบิ ตั หิ นา้ ที่และการกำกับดแู ลการปฏิบตั ิหนา้ ทข่ี องเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๕” ขอ้ ๒ ระเบียบนใี้ หใ้ ชบ้ งั คบั ต้งั แต่วันถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเป็นตน้ ไป* ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ว่าด้วยการแต่งต้ังการปฏิบัติ หนา้ ท่แี ละการกำกับดแู ลการปฏบิ ัตหิ น้าทีข่ องเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๑ ข้อ ๔ ระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับ คำสั่งหรือแนวปฏิบัติอื่นใดซึ่งมีกำหนดไว้แล้วในระเบียบน้ี หรือ ซึง่ ขดั หรอื แยง้ กับระเบียบนี้ ใหใ้ ชร้ ะเบยี บน้ีแทน ขอ้ ๕ ในระเบียบนี้ (๑) “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และให้หมายความ ความถึงคณะอนกุ รรมการท่ีคณะกรรมการแต่งต้ังให้พิจารณาอนุมตั ิการแตง่ ต้ังเจา้ พนกั งานตามระเบยี บน้ี “ผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วยงาน” หมายความว่า ผู้ซ่ึงดำรงตำแหน่งต้ังแต่ผู้อำนวยการกอง ผู้บังคับการ ตำรวจ ผ้บู งั คับการกรมหรอื เทียบเท่าขนึ้ ไป ซ่ึงเปน็ ผู้บังคับบญั ชาโดยตรงของเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. หรอื ผู้ซงึ่ จะได้รบั การแต่งตง้ั เปน็ เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. “เจ้าพนักงาน ป.ป.ส.” หมายความว่า ผู้ซึ่งเลขาธิการ แต่งตั้งให้เป็นเจ้าพนักงานตามพระราชบัญญัติ ปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ “บัตรประจำตัว” หมายความว่า เอกสารมอบหมายท่ีเลขาธิการมอบไว้ประจำตัวเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ตามมาตรา ๑๔ ขอ้ ๖ ให้เลขาธิการเป็นผู้รักษาการตามระเบียบน้ี และให้มีอำนาจออกระเบียบประกาศหรือคำสั่ง เพื่อปฏิบตั ิการตามระเบียบน้ี * ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา เลม่ ๑๒๐ ตอนพเิ ศษ ๑๒ ง ลงวนั ที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๔๖ (๑) กำหนดขึ้นใหม่ตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดว่าด้วยการแต่ง การปฏิบัติหน้าท่ีและการกำกับดูแลการ ปฏิบตั หิ น้าทข่ี องเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ.๒๕๕๗ มีผลใช้ตัง้ แตว่ ันท่ี ๒๐ ธนั วาคม ๒๕๕๗
33 หมวด ๑ คณุ สมบัติและการแต่งตง้ั เจา้ พนักงาน ป.ป.ส. (๒) ข้อ ๗ ผ้ซู ่ึงจะได้รับการแต่งตง้ั เป็นเจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. ตอ้ งมีคุณสมบัติ ดังน้ี (๑) เปน็ ขา้ ราชการพลเรอื นสามญั ตำแหนง่ ประเภทบรหิ าร ตำแหนง่ ประเภทอำนวยการ ตำแหนง่ ประเภท วิชาการ หรอื ตำแหน่งประเภททั่วไประดับชำนาญงานขนึ้ ไป (๒) เปน็ ข้าราชการตำรวจ หรือขา้ ราชการทหารชัน้ สญั ญาบัตร (๓) เปน็ ขา้ ราชการกรงุ เทพมหานคร ประเภทขา้ ราชการกรงุ เทพมหานครสามญั ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการเขต (๔) เปน็ พนกั งานเมอื งพทั ยา ประเภทอำนวยการทอ้ งถนิ่ ระดบั สงู ตำแหนง่ หวั หนา้ สำนกั ปลดั เมอื งพทั ยา (๕) เปน็ ผทู้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมายเปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษรจากผบู้ งั คบั บญั ชาหวั หนา้ หนว่ ยงานใหม้ หี นา้ ทปี่ ราบปราม ผู้กระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกบั ยาเสพตดิ และ (๖) เป็นผู้ที่ไม่เคยมีประวัติมัวหมองเก่ียวกับยาเสพติด การทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ หรือ บกพรอ่ งในศีลธรรมอันด ี ขอ้ ๘ ให้หัวหน้าส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกรมหรือเทียบเท่ากรมขึ้นไป เสนอชื่อผู้มีคุณสมบัติในสังกัด ตามข้อ ๗ ท่ีเห็นสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ต่อเลขาธิการตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ี เลขาธกิ ารกำหนด ขอ้ ๙ ให้เลขาธิการพจิ ารณาเสนอช่ือบคุ คลตามข้อ ๘ ให้คณะกรรมการพจิ ารณาอนุมัตกิ ารแตง่ ตัง้ และ เสนอด้วยว่าจะกำหนดให้ผู้นั้นมีอำนาจหน้าที่ตามท่ีบัญญัติไว้ในมาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง ท้ังหมดหรือแต่บางส่วน หรือจะต้องไดร้ บั อนุมัตจิ ากบคุ คลใดก่อนดำเนนิ การ ข้อ ๑๐ เม่ือคณะกรรมการได้อนุมัติการแต่งตั้งและให้ความเห็นชอบในการกำหนดอำนาจหน้าท ี่ ผูท้ เ่ี ลขาธิการเสนอแล้ว ให้เลขาธกิ ารมคี ำสงั่ แตง่ ต้ังผู้นั้นเปน็ เจา้ พนักงาน ป.ป.ส. หากภายหลังเลขาธิการเห็นสมควรเปลี่ยนแปลงอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ใดให้เลขาธิการ เสนอตอ่ คณะกรรมการเพอื่ ใหค้ วามเหน็ ชอบ แลว้ ดำเนนิ การแกไ้ ขเปลยี่ นแปลงคำสง่ั ตามวรรคหนง่ึ ใหเ้ ปน็ ไปตามนน้ั ขอ้ ๑๑ เม่ือมีคำส่ังแต่งต้ังผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และผู้น้ันได้ผ่านการฝึกอบรมเก่ียวกับการปฏิบัติ หน้าที่ตามหลักสูตรที่เลขาธิการกำหนดแล้ว ให้เลขาธิการออกบัตรประจำตัวให้แก่ผู้นั้น บัตรประจำตัว ดงั กล่าวให้เปน็ ไปตามแบบท่ีเลขาธกิ ารกำหนดและประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้บัตรประจำตัวมีอายสุ องปี นับแต่วนั ออกบตั ร ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. แจ้งต่อเลขาธิการเพื่อขอมีบัตรประจำตัวใหม่ได้ภายในสามสิบวันก่อนวันท ี่ บัตรดังกล่าวจะส้ินอายุ โดยให้แนบคำรับรองของผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วยงานไปด้วย ทั้งนี้ ตามแบบและ วิธีการท่เี ลขาธกิ ารกำหนด ขอ้ ๑๒ การเป็นเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. สน้ิ สดุ ลงเมอ่ื (๑) ผ้นู น้ั ขาดคุณสมบัตติ ามข้อ ๗ (๒) ผู้บงั คบั บญั ชาหวั หนา้ หน่วยงานของผ้นู นั้ เสนอใหย้ กเลกิ การแตง่ ต้งั (๓) ผนู้ ั้นไมด่ ำเนินการขอมีบตั รประจำตัวใหม่เม่ือบัตรประจำตัวสน้ิ อายเุ กินกว่าหกเดือน (๔) ผนู้ นั้ ฝา่ ฝนื หรอื ไมป่ ฏบิ ตั อิ ยา่ งหนงึ่ อยา่ งใดตามทก่ี ำหนดในหมวด ๒ หรอื หมวด ๓ ของระเบยี บน้ี หรอื (๕) เลขาธกิ ารเห็นสมควรให้ยกเลกิ การแต่งตัง้ ให้เลขาธิการมีคำส่ังยกเลิกคำส่ังแต่งตั้งเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ตามวรรคหนึ่ง และรายงานให ้ คณะกรรมการทราบ (๒) ข้อความเดิมถูกยกเลิก โดยระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ว่าด้วยการแต่งตั้ง การปฏิบัติหน้าท่ีและการกำกับ ดูแลการปฏิบัตหิ น้าที่ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐ มผี ลบังคบั ใชต้ งั้ แต่วันที่ ๘ มิถนุ ายน ๒๕๖๐ และใหใ้ ชข้ อ้ ความ ทีพ่ มิ พไ์ วน้ ้แี ทน
34 หมวด ๒ การปฏิบัติหน้าทข่ี องเจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. ข้อ ๑๓ การปฏิบัติหน้าท่ีตามมาตรา ๑๓ ตรี ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ปฏิบัติตามประกาศสำนักนายก รัฐมนตรี เร่ือง มาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการและ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เร่ือง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการส่ังปิดชั่วคราว หรือการพักใช้ใบ อนุญาตประกอบการของสถานประกอบการท่ีมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เม่ือดำเนินการเสร็จให้ รายงานตามแบบท่เี ลขาธิการกำหนด แลว้ ส่งใหเ้ ลขาธิการทราบภายใน ๑๕ วัน นับแต่วนั ตรวจพบ ข้อ ๑๔ การเข้าไปในเคหสถานหรือสถานที่เพ่ือตรวจค้น จะต้องมีคำส่ังหรือหมายศาลเว้นแต่มีเหต ุ ให้ค้นโดยไมต่ ้องมคี ำส่งั หรือหมายศาล การดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. จดั การตามหมายคน้ แลว้ ใหบ้ นั ทึกรายละเอยี ดใน การค้นนน้ั วา่ จดั การตามหมายไดห้ รอื ไม ่ และสง่ บันทึกนนั้ ไปยังศาลท่ีออกหมายภายในระยะเวลาทศ่ี าลกำหนด ใหน้ ำความในขอ้ ๑๕ มาใช้บงั คบั โดยอนโุ ลม ข้อ ๑๕ ในการเขา้ ไปในเคหสถานหรือสถานท่ตี ามมาตรา ๑๔ (๑) ให้เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ปฏิบัตดิ งั น ้ี (๑) แจง้ ใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชาชนั้ เหนอื ขน้ึ ไปหนง่ึ ระดบั ทราบกอ่ นดำเนนิ การ เวน้ แตเ่ ปน็ กรณเี รง่ ดว่ น ใหด้ ำเนนิ การ ไปกอ่ นแลว้ รายงานใหท้ ราบโดยเรว็ (๒) กอ่ นลงมอื ตรวจคน้ ตอ้ งแสดงความบรสิ ทุ ธแิ์ ละแสดงบตั รประจำตวั ตอ่ ผคู้ รอบครอง ผดู้ แู ลหรอื บคุ คล ในครอบครวั ของผนู้ นั้ (๓) การค้นใหค้ น้ ต่อหนา้ บุคคลใน (๒) หากหาบุคคลดงั กลา่ วไมไ่ ด้ ก็ให้คน้ ต่อหน้าบคุ คลอนื่ อยา่ งน้อย สองคน ซงึ่ เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ไดร้ อ้ งขอใหม้ าเปน็ พยาน กรณที ล่ี งมอื คน้ ในเวลากลางวนั ถา้ ยงั ไมเ่ สรจ็ จะคน้ ตอ่ ไปในเวลากลางคนื กไ็ ด้ (๔) ทำบันทึกระบุเหตุอันควรสงสัยตามสมควรและเหตุอันควรเช่ือท่ีทำให้สามารถเข้าค้นได้ให้ไว้แก่ ผู้ครอบครองเคหสถาน หรือสถานที่ค้น ตามแบบท่ีเลขาธิการกำหนด แต่ถ้าไม่มีผู้ครอบครองอยู่ ณ ที่นั้น ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ส่งมอบสำเนาบันทึกดังกล่าวให้แก่ผู้ครอบครองเคหสถาน หรือสถานที่ค้นในทันท ี ที่กระทำได้ (๕) เม่ือค้นเสร็จให้บันทึกรายละเอียดแห่งการค้นและบัญชีสิ่งของที่ค้นได้แล้วอ่านให้บุคคลตาม (๒) หรอื พยานบุคคลตาม (๓) ฟงั และลงลายมือชือ่ รับรองไว้ หากบุคคลดังกล่าวไม่ยอมลงลายมอื ชือ่ ให้หมายเหตไุ ว้ใน บันทกึ การคน้ แลว้ รายงานการค้นให้ผบู้ งั คับบญั ชาทราบ (๖) ทำรายงานตามแบบที่เลขาธิการกำหนด พร้อมสำเนาบันทึกการค้นให้เลขาธิการ ทราบภายใน ๑๕ วนั นับแตว่ นั ค้น (๓) (๗) การค้นในเวลากลางคืนภายหลังพระอาทิตย์ตก นอกจากต้องปฏิบัติตาม (๑) - (๖) แล้ว เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้เป็นหัวหน้าในการเข้าค้นต้องเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งประเภทบริหาร ตำแหน่งประเภทอำนวยการ ตำแหน่งประเภทวิชาการระดับชำนาญการข้ึนไป ตำแหน่งประเภทท่ัวไประดับอาวุโส ขึ้นไป หรือข้าราชการตำรวจตำแหน่งต้ังแต่สารวัตรหรือเทียบเท่าชั้นไป หรือข้าราชการทหารตำแหน่งผู้บังคับกอง ร้อยหรอื เทยี บเท่าขนึ้ ไป (๓) กำหนดข้ึนใหม่ตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดว่าด้วยการแต่งต้ัง การปฏิบัติหน้าที่และการกำกับดูแลการ ปฏบิ ตั ิหน้าท่ีของเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗ มีผลใชต้ ้งั แตว่ นั ท่ี ๒๐ ธนั วาคม ๒๕๕๗
35 ข้อ ๑๖ การคน้ บุคคลหรือยานพาหนะตามมาตรา ๑๔ (๒) ให้เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ปฏิบัติดังน้ี (๑) ก่อนลงมือตรวจค้น ต้องแสดงความบริสุทธ์ิและแสดงบัตรประจำตัวต่อผู้ที่จะถูกค้นหรือ ผู้ครอบครองยานพาหนะ (๒) เมื่อค้นเสร็จให้บันทึกรายละเอียดแห่งการค้นและบัญชีส่ิงของท่ีค้นได้ แล้วอ่านให้บุคคลตาม (๑) ฟังและลงลายมือชื่อรับรองไว ้ หากบุคคลดังกล่าวไม่ยอมลงลายมือชื่อ ให้หมายเหตุไว้ในบันทึกการค้น แลว้ รายงานการค้นใหผ้ ู้บังคับบญั ชาทราบ (๓) ทำรายงานตามแบบท่ีเลขาธิการกำหนด พร้อมสำเนาบันทึกการค้นให้เลขาธิการทราบภายใน ๑๕ วนั นบั แตว่ นั ค้น ข้อ ๑๗ การปฏบิ ตั ิหน้าทีต่ ามมาตรา ๑๔ (๓) ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ปฏิบัติดังนี้ (๑) กรณีจับตามหมายจับ เมื่อพบผู้กระทำความผิดตามหมายจับ ให้แสดงหมายจับและบัตรประจำตัว ต่อผ้นู น้ั กอ่ นจับกุม หากมีเหตุอันควรสงสัยว่าผู้กระทำความผิดตามหมายจับจะหลบหนี ให้ดำเนินการจับกุมไปก่อน แล้ว แสดงหมายจบั และบัตรประจำตวั (๒) กรณจี ับโดยไม่มีหมายจับใหแ้ สดงบตั รประจำตวั ตอ่ ผู้นนั้ กอ่ นจับกมุ (๓) ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ทำการจับ เอาตัวผู้ถูกจับไปยังท่ีทำการของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. หรือ ของพนักงานสอบสวนโดยทันที และเม่ือถึงท่ีน้ันแล้ว ให้แจ้งข้อกล่าวหาและรายละเอียดแห่งการจับให้ผู้ถูกจับ ทราบโดยไมช่ ักช้า ถา้ มีหมายจบั ให้แจง้ ผถู้ กู จบั ทราบและอา่ นให้ฟัง (๔) ให้แจ้งผถู้ กู จบั ว่าถอ้ ยคำทผ่ี ถู้ ูกจับกล่าวน้ันอาจใช้เปน็ พยานหลกั ฐานยันเขาในการพจิ ารณาคดไี ด้ (๕) ทำบันทึกการจบั กุมและให้ผถู้ กู จบั ลงลายมอื ชือ่ ไว้ หากผถู้ กู จับไมย่ อมลงลายมือช่อื ให้หมายเหตุไว้ ในบันทกึ การจับกมุ (๖) ทำรายงานตามแบบที่เลขาธิการกำหนด พร้อมสำเนาบันทึกการจับกุมให้เลขาธิการทราบภายใน ๑๕ วนั นบั แต่วันจับกุม ขอ้ ๑๘ การปฏิบัติหน้าทต่ี ามมาตรา ๑๔ (๔) ให้เจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. ปฏิบตั ดิ ังนี้ (๑) ทำบันทึกการยึดหรืออายัดพร้อมบัญชีเก่ียวกับยาเสพติดที่มีไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและ ทรพั ย์สนิ อน่ื ใดท่ีไดใ้ ชห้ รอื จะใชใ้ นการกระทำความผิดหรอื ทีอ่ าจใชเ้ ป็นพยานหลักฐาน (๒) ทำรายงานตามแบบทเ่ี ลขาธกิ ารกำหนดพร้อมสำเนาบนั ทึกการยดึ หรืออายัด สง่ ให้เลขาธิการทราบ ภายใน ๑๕ วนั นบั แตว่ ันทย่ี ึดหรืออายดั หรือบนั ทึกการยดึ หรอื อายัดไวท้ า้ ยรายงานตามขอ้ ๑๕ (๖) ข้อ ๑๖ (๓) หรอื ข้อ ๑๗ (๖) แล้วแต่กรณี ข้อ ๑๙ การปฏบิ ัตติ ามมาตรา ๑๔ (๖) ใหเ้ จา้ พนักงาน ป.ป.ส. ปฏิบัตดิ งั นี้ (๑) การสอบสวนผู้ต้องหาในคดีความผิดเก่ียวกับยาเสพติด ให้แจ้งข้อกล่าวหาและรายละเอียด แห่งการจบั ให้ผตู้ ้องหาทราบ ถ้ามหี มายจับใหแ้ จง้ ผ้ตู ้องหาทราบ (๒) แจง้ สิทธขิ องผู้ต้องหาทีจ่ ะไม่ให้ถอ้ ยคำเปน็ ปฏิปกั ษต์ ่อตนเองอันอาจทำใหต้ นถูกฟอ้ งคดอี าญา (๓) แจ้งสิทธิขอให้เจ้าพนักงานแจ้งให้ญาติหรือผู้ซึ่งผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหาไว้วางใจทราบถึงการถูกจับและ สถานทีท่ ถ่ี กู ควบคุมในโอกาสแรก (๔) แจ้งสิทธิในการพบและปรึกษาทนายความเป็นการเฉพาะตัว สิทธิได้รับการเย่ียมตามสมควร และ สทิ ธิได้รบั การรกั ษาพยาบาลโดยเร็วเมอื่ เกดิ การเจ็บปว่ ย (๕) ทำบันทกึ รายละเอียดแห่งการสอบสวน โดยระบสุ ิทธขิ องผูต้ อ้ งหาตาม (๑) - (๔) พร้อมทง้ั ระบวุ ่า ผูต้ ้องหาปฏิเสธหรอื ยินยอมให้สอบปากคำดว้ ยความสมคั รใจ พร้อมรายละเอียดเก่ยี วกบั ข้อเทจ็ จริงหรอื พฤติการณ์
36 ในการกระทำความผิดเก่ียวกับยาเสพติด เมื่อทำบันทึกเสร็จแล้วให้อ่านให้ผู้ต้องหาฟังและลงลายมือชี่อรับรองไว ้ หากผู้ตอ้ งหาไมย่ อมลงลายมือชือ่ ใหห้ มายเหตุไวใ้ นบนั ทึกการสอบสวน ขอ้ ๒๐ การปฏบิ ตั หิ นา้ ทตี่ ามมาตรา ๑๔ (๗) ให้เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ปฏบิ ตั ดิ ังนี้ (๑) ทำหนงั สือโดยระบุ ชื่อ ตำแหนง่ สังกัด และอำนาจทีไ่ ดร้ บั มอบหมายมอบให้กับผู้เก่ยี วข้องทุกครงั้ (๒) ทำรายงานตามแบบท่ีเลขาธิการกำหนด ส่งให้เลขาธิการทราบภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันท่ีได ้ ปฏิบตั ิหน้าที่ ขอ้ ๒๑ การปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ตามมาตรา ๑๔ ทวิ ให้เจา้ พนักงาน ป.ป.ส. ปฏบิ ัตติ ามประกาศคณะกรรมการ ป้องกนั และปราบปรามยาเสพตดิ เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงอื่ นไขการตรวจหรอื ทดสอบว่าบคุ คลหรือ กลมุ่ บคุ คลใดมีสารเสพตดิ อยู่ในรา่ งกายหรือไม่ แล้วใหร้ ายงานตามแบบที่เลขาธกิ ารกำหนดส่งใหเ้ ลขาธิการทราบ ภายใน ๑๕ วัน นบั แตว่ นั ทดี่ ำเนนิ การเสรจ็ ข้อ ๒๒ การปฏบิ ัตหิ น้าที่ตามมาตรา ๑๔ ตรี ใหเ้ จา้ พนักงาน ป.ป.ส. ขอความช่วยเหลือจากบุคคลในการ ปฏบิ ัติหน้าท่ตี ามลำดบั ดังต่อไปน้ี (๑) เจ้าพนกั งานฝา่ ยปกครองหรอื ตำรวจ (๒) เจ้าพนักงาน ข้าราชการ พนักงานส่วนท้องถิ่น พนักงานองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือ พนกั งานรัฐวสิ าหกจิ (๓) บุคคลทั่วไป การปฏิบัติหน้าท่ีตามวรรคหน่ึงจะบังคับให้บุคคลใดช่วยเหลือโดยอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลน้ันไม่ได้ และให้บนั ทกึ รายละเอยี ดการช่วยเหลือไวท้ า้ ยรายงาน หรือบนั ทกึ ตามขอ้ ๑๕ (๕) ข้อ ๑๖ (๒) ข้อ ๑๗ (๕) หรอื ขอ้ ๒๑ แลว้ แต่กรณี ข้อ ๒๓ การปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๑๔ จัตวา ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ปฏิบัติตามระเบียบ คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ วา่ ดว้ ยการไดม้ า การใชป้ ระโยชนแ์ ละการเกบ็ รกั ษาขอ้ มลู ขา่ วสาร ขอ้ (๔) ๒๔ การควบคุมผู้ถูกจับเพื่อสอบสวนตามมาตรา ๑๕ จะกระทำได้เฉพาะเพื่อประโยชน์ในการ สอบสวนผู้ถูกจับเพ่ือรวบรวมพยานหลักฐานเก่ียวกับการกระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด เท่านั้น ในกรณีที่เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ท่ีเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งประเภทวิชาการระดับปฏิบัติการ ตำแหน่ง ประเภทท่ัวไประดับชำนาญงานหรือข้าราชการตำรวจช้ันยศต้ังแต่ร้อยตำรวจเอกลงมาหรือข้าราชการทหารชั้นยศ ตั้งแต่ร้อยเอกหรือเทียบเท่าลงมา เป็นผู้ควบคุมผู้ถูกจับจะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้บังคับบัญชาเหนือข้ึนไป หนง่ึ ระดบั หากจะควบคมุ เกินยี่สบิ สี่ชว่ั โมงต้องได้รบั ความเห็นชอบจากผู้บังคบบญั ชาหัวหนา้ หนว่ ยงาน เมื่อมกี ารควบคมุ ตามวรรคหนงึ่ ใหบ้ ันทกึ การควบคุมไวท้ า้ ยรายงานตามข้อ ๑๗ (๕) ด้วย (๔) กำหนดขึ้นใหม่ตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดว่าด้วยการแต่งต้ัง การปฏิบัติหน้าที่และการกำกับดูแลการ ปฏิบตั หิ น้าที่ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗ มผี ลใช้ต้ังแตว่ นั ที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๗
37 หมวด ๓ การกำกบั ดูแล ข้อ ๒๕ เพ่ือประโยชน์ของคณะกรรมการในการกำกับดูแลและติดตามประเมินผลการปฏิบัติการตาม ระเบยี บน้ี ใหเ้ จ้าพนกั งาน ป.ป.ส. ปฏิบตั ดิ งั ตอ่ ไปนี้ (๑) กรณีท่ีได้ปฏิบัติหน้าท่ีตามมาตรา ๑๓ ตรี มาตรา ๑๔ มาตรา ๑๔ ทวิ มาตรา ๑๔ ตรี มาตรา ๑๔ จัตวา หรือมาตรา ๑๕ แลว้ ใหร้ ายงานเลขาธิการทราบทุกครั้ง ตามทก่ี ำหนดไวใ้ นหมวด ๒ (๒) กรณีมีหน้าที่กำกับดูแลบังคับบัญชาการปราบปรามยาเสพติด ให้รายงานความก้าวหน้าในการ ปฏิบตั ิหนา้ ทีข่ องหน่วยงานในสงั กดั ใหเ้ ลขาธกิ ารทราบ อยา่ งนอ้ ยปลี ะหนึง่ ครงั้ ตามแบบทีเ่ ลขาธิการกำหนด (๓) กรณีท่ีได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับพฤติการณ์ของผู้ค้ายาเสพติดหรือสถานการณ์การแพร่ระบาด ของยาเสพตดิ ในพื้นที่ ใหส้ ่งข้อมลู ขา่ วสารดงั กล่าว ให้เลขาธกิ ารทราบตามแบบท่เี ลขาธกิ ารกำหนด (๔) กรณีท่ีได้รับการร้องขอจากเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ต่างสังกัด หรือผู้ท่ีเลขาธิการมอบหมายเก่ียวกับ การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ให้รายงานผลการปฏิบัติตามคำร้องขอดังกล่าวให้เลขาธิการทราบตามแบบ ทีเ่ ลขาธิการกำหนด ขอ้ ๒๖ กรณีท่ีเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. หรือผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ตกเป็นผู้ต้องหาหรือ จำเลย เนื่องจากการปฏิบัติหน้าท่ีปราบปรามยาเสพติด ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. หรือผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผ้นู น้ั รายงานข้อเทจ็ จรงิ และพฤติการณ์แห่งคดีใหเ้ ลขาธิการทราบโดยเรว็ เมื่อเลขาธกิ ารได้รับรายงานตามวรรคหนึ่ง ให้พจิ ารณาดำเนินการช่วยเหลอื ตามควรแกก่ รณี ข้อ ๒๗ เม่ือเลขาธิการได้รับรายงานการปฏิบัติหน้าท่ีของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ตามข้อ ๒๕ และ การท่ีเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. หรือผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ตกเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยตามข้อ ๒๖ แลว้ ให้เลขาธกิ ารรายงานใหค้ ณะกรรมการทราบ ประกาศ ณ วนั ที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ พลเอก ชวลิต ยงใจยทุ ธ ประธานกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด
38 ระเบยี บสำนกั งานคณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ วา่ ดว้ ยการออกบตั รประจำตวั และการรายงานการปฏบิ ตั หิ นา้ ทข่ี องเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๖ อาศยั อำนาจตามความในข้อ ๖ และขอ้ ๑๑ แห่งระเบยี บคณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ ว่าดว้ ยการแตง่ ตั้ง การปฏบิ ตั หิ นา้ ทีแ่ ละการกำกบั ดแู ลการปฏบิ ตั ิหน้าทขี่ องเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. พ.ศ.๒๕๔๕ เพ่ือ ให้การออกบัตรประจำตัวและการรายงานการปฏิบัติหน้าท่ีของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จงึ กำหนดระเบยี บปฏิบตั ิไว้ ดังนี้ ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด วา่ ดว้ ยการออกบัตรประจำตวั และการรายงานการปฏบิ ัตหิ น้าท่ีของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๖” ข้อ ๒ ระเบยี บน้ีใหใ้ ช้บังคบั ตั้งแต่วนั ถดั จากวันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป* ขอ้ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบสำนักงาน ป.ป.ส. ว่าด้วยการออกบัตรประจำตัวและการรายงานการปฏิบัติ หนา้ ที่ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๑ ข้อ ๔ ในระเบยี บน้ี “ระเบียบคณะกรรมการ” หมายความว่า ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ว่าดว้ ยการแต่งตัง้ การปฏิบัตหิ น้าท่ีและการกำกับดแู ลการปฏิบัตหิ นา้ ที่ของเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๕ “บัตรประจำตัว” หมายความว่า เอกสารมอบหมายท่ีเลขาธิการมอบไว้ประจำตัวเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ มาตรา ๑๔ ตามแบบท้าย ระเบียบนี้ ข้อ ๕ ให้ผู้อำนวยการกองกฎหมายรักษาการตามระเบียบน้ี หมวด ๑ การออกบตั รประจำตัว ข้อ ๖ การขอแต่งต้ังเปน็ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ให้ผขู้ อรบั การแต่งตงั้ สง่ หลักฐานตามรายการต่อไปน้ี (๑) คำขอแต่งต้ังเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และคำรับรองของผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วยงาน ตามแบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๑
39 (๒) คำขออนมุ ตั อิ อกบัตรประจำตวั เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ตามแบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๓ (๓) ภาพถา่ ยหนา้ ตรงแตง่ เคร่อื งแบบข้าราชการ ไม่สวมหมวก ขนาดหนง่ึ นวิ้ จำนวน ๓ ภาพ (๔) สำเนาทะเบยี นบ้าน ๑ ฉบบั (๕) สำเนาคำสั่งมอบหมายใหม้ ีหน้าทใ่ี นการปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ ขอ้ ๗ การขอแต่งตงั้ เป็นเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. ให้ผขู้ อรบั การแต่งตัง้ ยนื่ คำขอแต่งตง้ั ตอ่ บุคคลตอ่ ไปน้ี (๑) สำหรับข้าราชการสำนกั งาน ป.ป.ส. ให้ยน่ื ต่อผ้อู ำนวยการกองหรอื เทยี บเท่าข้ึนไป (๒) สำหรับข้าราชการสว่ นราชการอนื่ ใหย้ ื่นต่ออธิบดีหรอื หวั หน้าส่วนราชการเทียบเทา่ อธิบดี ข้อ ๘ เมื่อผู้รับคำขอตามข้อ ๗ พิจารณาเห็นควรให้แต่งต้ังเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ให้ส่งคำขอ แตง่ ตงั้ พรอ้ มหลักฐานตามขอ้ ๖ ไปยังเลขาธิการ ขอ้ ๙ ให้กองกฎหมาย ตรวจสอบหลักฐานประวัติ และพฤติการณ์อื่น ๆ ที่เก่ียวข้องของผู้ขอรับการ แต่งตั้ง แล้วเสนอเลขาธิการว่าสมควรแต่งต้ังเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. หรือไม่ กรณีท่ีมีความเห็นว่าสมควรแต่งตั้ง ให้เสนอด้วยวา่ ควรแตง่ ต้ังใหม้ อี ำนาจหน้าที่ตามมาตรา ๑๔ วรรคหนึ่งทงั้ หมดหรือบางส่วน ขอ้ ๑๐ ให้เลขาธิการนำรายช่ือท่ีเห็นสมควรแต่งตั้งเสนอคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติการแต่งตั้ง และใหค้ วามเห็นชอบในการกำหนดอำนาจหนา้ ท่ีตามมาตรา ๑๔ วรรคหน่ึง ขอ้ ๑๑ ให้เลขาธิการมีคำสั่งแต่งต้ังผู้ซึ่งคณะกรรมการอนุมัติแล้ว และไม่ว่าจะมีการแต่งตั้งตามคำขอ หรอื ไม่ ใหเ้ ลขาธิการแจ้งใหบ้ ุคคลตามขอ้ ๗ ทราบ ข้อ ๑๒ ให้กองกฎหมาย ดำเนินการออกบัตรประจำตัวให้แก่เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ซึ่งได้มีคำสั่งแต่งต้ัง เป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. แลว้ ข้อ ๑๓ ให้กองกฎหมาย จัดทำทะเบียนประวัติเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และรายละเอียดต่างๆ ท่ีจำเป็น ตอ่ การรายงานและการประสานงาน ขอ้ ๑๔ บัตรประจำตัวให้ใช้ได้ภายในระยะเวลาตามท่ีกำหนดในบัตร เม่ือบัตรจะส้ินอายุและมีความ ประสงค์จะขอมีบัตรประจำตัวเพ่ือใช้แทนบัตรประจำตัวเก่า ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. แจ้งขอมีบัตรประจำตัวใหม่ได้ ภายในสามสบิ วัน ก่อนวนั ท่บี ัตรดังกล่าวจะสน้ิ อายุ ขอ้ ๑๕ การขอมบี ตั รประจำตัวกรณีที่บัตรประจำตวั สิน้ อายุ ให้สง่ หลกั ฐานตามรายการต่อไปน้ี (๑) คำขอมีบัตรประจำตัวและคำรบั รองของผู้บังคับบัญชาหวั หนา้ หนว่ ยงานตามแบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๒ (๒) คำขออนุมตั อิ อกบัตรประจำตวั เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ตามแบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๓ (๓) ภาพถ่ายหนา้ ตรงแต่งเคร่ืองแบบข้าราชการ ไมส่ วมหมวก ขนาดหน่ึงน้วิ จำนวน ๒ ภาพ (๔) บตั รประจำตัวฉบับเก่า หรือสำเนากรณีบตั รประจำตัวยงั ไม่หมดอายุ (๕) สำเนาทะเบยี นบา้ นเฉพาะกรณมี กี ารเปลยี่ นแปลงท่ีอยู่ใหม่ ข้อ ๑๖ ในกรณีที่ส่งหลักฐานเป็นสำเนาบัตรประจำตัวตามข้อ ๑๕ (๔) เม่ือได้รับบัตรประจำตัว ฉบับใหม่แลว้ ให้สง่ บตั รประจำตัวฉบบั เก่าคืนสำนกั งาน ป.ป.ส. ขอ้ ๑๗ ในกรณีที่บัตรประจำตัวชำรุด สูญหาย หรือถูกทำลายด้วยประการใด ๆ ให้ผู้น้ันรีบรายงาน ต่อผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วยงานเพ่ือแจ้งสำนักงาน ป.ป.ส. พร้อมบัตรประจำตัวหรือหลักฐานการแจ้ง ความตอ่ เจ้าหนา้ ทตี่ ำรวจแลว้ แตก่ รณี
40 ถ้าเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้น้ันประสงค์ให้สำนักงาน ป.ป.ส. ออกบัตรประจำตัวใหม่ให้ส่งหลักฐานตาม รายการในข้อ ๑๕ พร้อมบัตรประจำตวั หรือหลักฐานการแจง้ ความต่อเจ้าหนา้ ที่ตำรวจ แลว้ แตก่ รณ ี ขอ้ ๑๘ ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เสนอคำขอมีบัตรตามข้อ ๑๕ หรือข้อ ๑๗ พร้อมหลักฐานผ่าน ผู้บังคับบญั ชาหัวหนา้ หนว่ ยงานเพอ่ื สง่ สำนกั งาน ป.ป.ส. ดำเนินการต่อไป หมวด ๒ การรายงานการปฏิบัติงาน ข้อ ๑๙ ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. รายงานการปฏิบัติหน้าที่ให้เลขาธิการทราบตามแบบที่กำหนด ดังตอ่ ไปนี้ (๑) การรายงานการปฏิบัติหน้าท่ีตามระเบียบคณะกรรมการ ข้อ ๑๕ (๖) ข้อ ๑๖ (๓) ขอ้ ๑๗ (๖) ขอ้ ๑๘ (๒) ข้อ ๒๐ (๒) และขอ้ ๒๑ ให้ใชแ้ บบรายงานการปฏิบตั ิหนา้ ที่ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ตามแบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๔ (๒) การรายงานการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบคณะกรรมการ ข้อ ๒๕ (๒) ให้ใช้แบบรายงาน ความก้าวหน้าในการปฏิบตั ิหนา้ ทขี่ องหนว่ ยงาน ตามแบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๕ (๓) การรายงานการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบคณะกรรมการ ข้อ ๑๓ ข้อ ๒๕ (๓) ให้ใช้แบบ รายงานข่าวสารและสถานการณ์การแพรร่ ะบาดยาเสพติด ตามแบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๖ (๔) การรายงานการปฏิบัติหน้าท่ีตามระเบียบคณะกรรมการ ข้อ ๒๕ (๔) ให้ใช้แบบรายงาน การใหค้ วามรว่ มมือในการปฏิบตั ิงาน ตามแบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๗ ขอ้ ๒๐ การทำบันทึกเหตุอันควรสงสัยตามสมควรและเหตุอันควรเชื่อท่ีทำให้สามารถเข้าค้นได้ ตามระเบยี บคณะกรรมการ ขอ้ ๑๕ (๔) ใหใ้ ช้แบบบนั ทึกเหตุแห่งการตรวจค้น ตามแบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๘ ข้อ ๒๑ การรายงานตามที่กำหนดในข้อ ๑๙ ในกรณีท่ีเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. หลายคนร่วมปฏิบัติงาน ในคดีหรือเร่ืองเดียวกันจะรายงานรวมกันในคราวเดียวกันก็ได้ ท้ังน้ีให้ระบุช่ือและเลขประจำตัวของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ทุกคนในแบบรายงานดว้ ย ข้อ ๒๒ ให้กองกฎหมาย รวบรวมรายงานการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และจัดทำสรุป รายงานผลการปฏบิ ัตหิ นา้ ทขี่ องเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. เสนอใหเ้ ลขาธกิ ารทราบทกุ สามเดือน ข้อ ๒๓ กรณีท่ีกองกฎหมาย ได้รับรายงานการปฏิบัติหน้าท่ีของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และเป็นกรณีท่ี จำเป็นจะต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้กองกฎหมายรายงานให้เลขาธิการทราบโดยเร็ว แล้วแจ้งให ้ หนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วข้องดำเนินการต่อไป ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๖ กิตต ิ ลม้ิ ชัยกิจ เลขาธกิ ารคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 587
Pages: