Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การบรรจุภัณฑ์

การบรรจุภัณฑ์

Published by Sirichai Pongsiri, 2019-11-13 04:16:07

Description: การบรรจุภัณฑ์ ระดับ ปวส. สาขาวิชาอุตสาหกรรมเกษตร

Search

Read the Text Version

๒๕๖๒ การบรรจภุ ัณฑ์ หลักสูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชั้นสงู พทุ ธศกั ราช 2557 สาขาวชิ าอุตสาหกรรมเกษตร วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยกี าญจนบุรี |

1 ความร้เู บือ้ งต้นเกยี่ วกับบรรจุภัณฑ์ ความหมายของบรรจภุ ัณฑ์ บรรจุภัณฑ์หรือการบรรจุหีบห่อ หมายถึงศาสตร์และศิลป์ที่ใช้ในการบรรจุสินค้าโดยใช้เทคโนโลยีท่ีทันสมัย และเปน็ มติ รกบั ส่ิงแวดล้อม เพอ่ื การคมุ้ ครองปกป้องสินค้าจากผผู้ ลิตจนถงึ มือลูกค้าอยา่ งปลอดภัยด้วยตน้ ทนุ การผลิต ทเ่ี หมาะสม จากความหมายพอสรุปได้ว่าบรรจุภัณฑ์นั้นหมายถึง เร่ืองของวิทยาศาสตร์ และเรื่องของศิลปะที่ใช้เพ่ือ การบรรจุสินค้าโดยใช้เทคโนโลยีท่ีทันสมัยและทำให้เกิดความเสียหายกับส่ิงแวดล้อม และบรรจุภัณฑ์น้ันจะต้อง ปกป้องตัวสินค้าให้อยู่ในสภาพท่ีดีจากแหล่งผลิตจนถึงมือลูกค้าโดยไม่ให้ได้รับความเสียหาย ท้ังนี้บรรจุภัณฑ์นั้น ๆ จะต้องมีต้นทนุ ของการผลิตท่ไี ม่สูงจนเกินไป นยิ ามของคำว่าบรรจภุ ัณฑ์ (Packaging) มีนักวชิ าการและผเู้ ชีย่ วชาญ ได้กล่าวไว้ ดงั นี้ กองส่งเสริมอุตสาหกรรม(2517:19) กล่าวว่า บรรจุภัณฑ์ หมายถึง ภาชนะที่ใช้ในการขนส่งผลติ ภัณฑ์ไปยัง แหลง่ ใช้ประโยชน์ โดยความประหยัดและปลอดภยั นิไกโด เคล็คเจอร์(Nikaido Clecture) กล่าวว่า บรรจุภัณฑ์เป็นเทคนิคท่ีส่งเสริมการขายกับการประสาน ประโยชน์ระหว่างวตั ถุกบั ภาชนะบรรจุ โดยมคี วามมงุ่ หมายเพื่อการคุม้ ครองในระหวา่ งการขนส่งและการเก็บรกั ษาใน คลัง ในพจนานกุ รมใหม่ของ เวบ็ สเตอร์ส (Webster’s new collegiate Dictionary:1956) กลา่ วว่า บรรจุภัณฑ์ คือ กล่องหรอื หบี ห่อทท่ี ำขน้ึ เพ่อื เกบ็ รักษาหรือเพื่อการขนส่ง สดุ าดวง เรืองรุจิระ(2529:128) กล่าวว่า บรรจุภัณฑ์ หมายถึง กิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้น ตลอดขบวนการทาง การตลาดท่เี ก่ยี วเนือ่ งกบั การออกแบบ สร้างสรรคภ์ าชนะบรรจหุ รอื หีบหอ่ ให้กบั ผลติ ภัณฑ์ ประชิด ทิณบตุ ร(2531:20)กล่าวว่า บรรจภุ ณั ฑ์ หมายถึง หนว่ ยรปู แบบของวตั ถภุ ายนอกของผลติ ภัณฑ์ ท่ที ำ หน้าท่ีปกปอ้ งคุ้มครอง หรือห่อหุ้มผลิตภัณฑ์ภายในไม่ให้เกิดความเสียหาย สะดวกในการขนส่ง และเออื้ ประโยชน์ ในทางการค้าและตอ่ การบริโภค

2 บรสิ ตนั และนลี ล์(Briston And Neill,1972:1) ได้ให้ความหมายของบรรจภุ ัณฑ์ไว้ 2 ประการกว้างๆ คอื 1) การบรรจภุ ัณฑ์ คอื ศิลปะวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยีการตระเตรยี มสนิ ค้าเพื่อการขนสง่ และการขาย 2) การบรรจุภัณฑ์ คือวิธีการส่งมอบผลิตภัณฑ์ไปยังผู้บริโภคให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยสมบูรณ์และมีราคาที่ เหมาะสม ดารณี พานทอง(2524:29) กลา่ ววา่ บรรจุภัณฑ์ คือ สง่ิ ห่อหมุ้ หรือบรรจุผลิตภณั ฑ์รวมทั้งภาชนะท่ีใช้ในการ ขนสง่ ผลติ ภัณฑ์จากแหลง่ ผู้ผลติ ไปยงั แหล่งบรโิ ภคหรือแหลง่ ใช้ประโยชน์ เพื่อวตั ถุประสงคเ์ บอื้ งต้นในการปอ้ งกันและ รักษาผลิตภัณฑ์ให้คงสภาพ ตลอดจนคณุ ภาพใกล้เคียงกนั เม่ือแรกผลิตใหม้ ากทส่ี ุดนอกจากนี้อาจกล่าวได้วา่ หีบห่อ หรือบรรจุภัณฑ์เป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างหน่ึงในกระบวนการผลิตและหีบห่อ อาจสร้างข้ึนเพื่อวัตถุประสงค์ทางด้าน การตลาด วตั ถปุ ระสงคท์ างดา้ นการเกบ็ รักษา เปน็ ตน้ จรูญ โกสีย์ไกรนิรมล (2528:109) กล่าวว่า บรรจุภัณฑ์ คือการนำเอาวัสดุ เช่น กระดาษ พลาสติก แก้ว โลหะ ไม้ ประกอบเป็นภาชนะห่อหุ้มสินค้า เพ่ือประโยชน์ในการใชส้ อยที่มีความแข็งแรง สวยงามได้สดั สว่ นท่ถี ูกต้อง สร้างภาพพจน์ทด่ี ี มีภาษาในการตดิ ต่อสื่อสาร และทำให้เกิดความพงึ พอใจ จากผซู้ อื้ สินค้า นอกจากนยี้ งั มผี ูน้ ิยามความหมายของบรรจภุ ัณฑใ์ นอกี หลายความหมาย ได้แก่ การบรรจุภณั ฑ์ หมายถึง การออกแบบสร้างสรรค์ภาชนะบรรจุ หรือหีบห่อให้กบั ผลติ ภณั ฑ์ การบรรจภุ ัณฑ์ หมายถึง การนำวัสดุ (เช่น กระดาษ แก้ว โลหะ) มาประกอบเป็นภาชนะห่อหุ้มสินค้า เพื่อ ประโยชนด์ ้านความแขง็ แรง สวยงาม สรา้ งความพงึ พอใจจากผซู้ อื้ สินคา้ น้นั บรรจุภณั ฑ์ หมายถึง ส่ิงหอ่ หมุ้ หรอื บรรจุผลติ ภัณฑ์ รวมถึงภาชนะท่ีใช้เพื่อการขนสง่ ผลิตภัณฑ์ จากแหล่ง ผลติ ไปยังแหล่งผบู้ ริโภค เพือ่ ประโยชน์ในการปอ้ งกัน รักษาผลิตภณั ฑไ์ ม่ให้ชำรดุ เสียหาย ทมี่ า : https://tomzabee.wordpress.com/2015/05/26/ความหมายของบรรจภุ ัณฑ์ ความสำคญั ของบรรจุภัณฑ์ โดย ผศ.ประชดิ ทณิ บตุ รสาขาวชิ าศลิ ปกรรมมหาวทิ ยาลัยราชภฏั จนั ทรเกษม กทม. การบรรจุภัณฑ์ (Packaging) หรือการบรรจุหีบห่อนนั้ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญทัง้ ในทางเศรษฐกจิ การขนสง่ และ การจำหน่ายสนิ คา้ ทกุ ประเภท ทั้งนีเ้ พราะสนิ คา้ แทบทุกชนดิ จำเป็นตอ้ งอาศัยการบรรจุหีบห่อแทบทั้งสิ้น ผลิตภัณฑ์ มากกวา่ ร้อยละ 70 ต้องใช้บรรจุภัณฑ์ในรปู แบบใดรูปแบบหนงึ่ เพ่อื ทำหน้าท่ีปอ้ งกันผลิตภณั ฑ์จากสภาวะสิง่ แวดลอ้ ม

3 ภายนอก และรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ไว้ให้นานที่สุด พร้อมทั้งก่อให้เกิดความสะดวกในการนำผลิตภัณฑ์ไว้ให้ นานทีส่ ุด พร้อมทัง้ ก่อให้เกิดความสะดวกในการนำผลิตภัณฑอ์ อกใช้ นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ยังมีสว่ นในการเพ่ิมคณุ ค่า ของผลิตภณั ฑแ์ ละเร่งเร้าให้ เกิดความตอ้ งการเพ่อื ผลทางการตลาดอีกด้วย ด้วยเหตุดังกล่าว บรรจุภัณฑ์จึงได้รับความสำคัญข้ึนมาเป็นอย่างมาก และเป็นองค์ประกอบหลักท่ีผู้ผลิต นำมาเป็นเครื่องมือสำหรับการแข่งขัน ซ่ึงถ้าตัวสินค้าหรือผลิตภัณฑ์มีฐานะเป็นพระเอก (The Lead) บรรจุภัณฑ์ก็ เปรียบเสมือนพระรอง (The Subordinate)ที่นำมาเน้นย้ำการบริการตวั เองเปน็ ผู้ช่วยขายผลิตภัณฑ์ เพราะสามารถ แสดงตัวหรือตราสินค้า (Brand) ต่อผู้ใช้ประจำได้อย่างรวดเร็ว และยังพยายามที่จะจูงใจผู้ท่ีไม่เคยใช้ให้เกิดความ สนใจอยากท่ีจะทดลองใช้ เป็นคร้ังแรกอีกด้วย ดังสินค้าและบรรจุภณั ฑจ์ ึงเป็นของคกู่ ันมาตลอด ย่ิงสินคา้ ผลติ ภัณฑม์ ี การคิดค้น การผลิต การแข่งขันมากเท่าใด การบรรจุภัณฑ์ก็จะได้รับการพัฒนาข้ึนตามไปมากเท่านั้น จนกระท่ัง ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า บรรจุภัณฑ์มีความสำคัญสำหรับสินค้าและการตลาดอย่างจะขาดเสียซึ่งส่ิงหนึ่งใด มิได้ ท้งั น้ีเพราะบรรจุภณั ฑ์ไดแ้ สดงหนา้ ท่ีและบทบาทในการตลาด คือ 1.การบรรจุและการคุ้มครองป้องกนั (Containment and Protection) บรรจุภัณฑ์ที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นต้องเอ้ืออำนวยหน้าท่ีต่อการบรรจุและ การคุ้มครอง ซ่ึงภาชนะ จะต้องได้รับการออกแบบให้สามารถคุ้มครองผลิตภัณฑ์จากความเสียหาย อันเนือ่ งจากการขนส่ง ป้องกันการเน่าเสีย เกบ็ รักษางา่ ยไมเ่ สอ่ื สลายไว ท้ังนี้เพราะผ้บู รโิ ภคยอ่ มไม่ต้องการท่ีจะได้รับอันตรายจากอาหารทเ่ี ป็นพิษ หรือบาดแผล อันเนื่องมาจากบรรจุภณั ฑ์ท่ีไมเ่ รียบรอ้ ยสมบรู ณ์ 2. การบง่ ชี้ผลิตภัณฑ์ (Identification) บรรจุภัณฑ์ต้องแสดงให้เห็นด้วย ผลิตภัณฑ์ต่อผู้บริโภคทันที โดยการใช้ช่ือการค้า (Trade Name) เคร่ืองหมายการค้า (Trademark) ของผู้ผลิต แสดงชนิดและลักษณะประเภทของสินค้าเข้ามาเป็นเคร่ืองบ่งช้ี ให้ ผู้บริโภคมองเห็นได้ง่าย ด้วยการใช้รูปร่าง รูปทรง ขนาด ตัวอักษร สีสัน ที่เด่นชัดและแสดงความแตกต่างจาก ผลิตภณั ฑ์แข่งขนั อืน่ ๆ เพ่อื ให้จดจำได้ง่าย 3. การอำนวยความสะดวก (Convenience) ในแง่ของการผลิตและการตลาด นนั้ บรรจุภัณฑ์ตอ้ งเออ้ื อำนวยความสะดวกต่อการขนสง่ และการเกบ็ รักษา ในคลงั สินคา้ ซงึ่ ต้องมีความม่ันคงแขง็ แรง สามารถที่จะวางเรยี งซอ้ น (Stacking) กันได้งา่ ย ขนาดและรูปรา่ งจึงตอ้ งมี ความพอเหมาะ (Fitness Size) และยังต้องง่ายต่อการนำไปวางเรียงในช้ันวางของขายตามร้านค้าหรือแสดงโชว์ (Easy to Stack and Display) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการอำนวยความสะดวกต่อผู้บริโภคน้ัน เป็นการอำนวยความ

4 สะดวกในแง่ของการนำไปใช้สอยตามหน้าทขี่ องผลิตภัณฑแ์ ตล่ ะ ชนิด ซ่งึ มีความแตกต่างกันไปตามประเภทการใชง้ าน และการเก็บรักษา ดงั นั้นผู้ออกแบบจึงต้องออกแบบให้มีความเหมาะสมกับพฤติกรรมและสรรี ะรา่ งกาย ของผบู้ ริโภค เชน่ มขี นาดทเี่ หมาะกับมอื สะดวกตอ่ การจับ ถอื หวิ้ มีความปลอดภยั และเหมาะสมกับภาวะของการใช้งาน เป็นต้น 4. การดงึ ดูดความสนใจผบู้ ริโภค (Consumer Appeal) การท่ีบรรจุภัณฑ์จะ สามารถดึงดูดความสนใจผู้บริโภคได้ดีน้ัน เป็นผลมาจากองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง อาทิเช่น ขนาด รูปร่าง รูปทรง สีสัน วัสดุ ข้อความ ตัวอักษร การแนะนำวิธีใช้ ฯลฯ หรืออาจจะกล่าวได้ว่า สิ่งที่ ปรากฏเห็นเป็นบรรจุภัณฑ์มีการดึงดูดความสนใจผู้บริโภคน้ีเป็นหน้าที่ ของนักออกแบบท่ีจะต้องสร้างสรรค์ส่ิง ประกอบต่าง ๆ น้ี ให้เกิดประสิทธิภาพทางการสื่อสารและให้เกิดผลกระทบทางจิตใจ จิตวิทยาต่อผู้บริโภค หรือตรง กบั ความต้องการของผู้บริโภค (To Fit the Consumer’s Need) เช่น - ออกแบบให้บรรจุภัณฑ์มีหลายชนิด เพราะ ผ้บู รโิ ภคมีความตอ้ งการ ขนาดปรมิ าณ ตลอดจนงบประมาณการซอื้ ท่ีแตกตา่ งกนั - การใชส้ ีบนบรรจุภณั ฑ์ ที่ให้ความรู้สึกสมั พันธ์กบั ผลิตภัณฑ์ท่ีหอ่ หุ้ม อยู่ภายใน เช่น ใช้สีแดง ชมพู เขียว ฟ้า กับบรรจุภณั ฑ์ประเภทเคร่อื งสำอางหรืออาหาร เพื่อช่วยเสรมิ สร้างบรรยากาศใหร้ ู้สึกสดใส น่ารับประทาน นา่ ใช้เป็น ต้น - การใชร้ ูปรา่ งรปู ทรงบรรจุภัณฑ์ให้ตรงกบั มโนทัศน์ กาลเวลาและ โอกาส (Contemporary Period) ก็เป็น สิ่งหนึ่ง ที่สามารถดึงดูดความสนใจผู้บริโภคได้เช่นกัน เช่น เทศกาลวันแห่งความรัก วันข้ึนปีใหม่ ฯลฯ ซ่ึงรูปร่าง ลกั ษณะของตัวบรรจุภณั ฑ์จะเป็นตัวบ่งบอกให้ผู้บริโภคทราบว่าควรจะ นำไปใช้ในโอกาส เวลา หรือกรณใี ดจึงจะเป็น การเหมาะสม 5. การเศรษฐกจิ (Economy) บรรจุภัณฑ์มีบทบาทและหนา้ ที่สำคัญ อีก ประการหนึ่งก็คอื เป็นองค์ประกอบรว่ มในการกำหนดราคาขายผลติ ภณั ฑ์ เพราะถอื วา่ เป็นต้นทุนการผลิต (Production Cost) อีกอันหน่ึงที่ทำใหเ้ กิดผลกำไร เกดิ การจ้างงานตลอดจนการนำเอาทรพั ยากรอืน่ ๆ เขา้ มาใช้ และ ทำให้บรรจุภัณฑ์มีหน้าที่ดังท่ีกล่าวมาปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อการกำหนดราคาและทำให้เกิดการหมุนเวียนในแง่ของ การเศรษฐกจิ ก็ ได้แก่ - ราคาของวสั ดุบรรจุภณั ฑ์ (Cost of Packaging Materials) - ราคาของกรรมวิธีการผลิตบรรจุภัณฑ์ (Cost of Manufacturing the Package) - ราคาของการเก็บรักษาและการขนส่ง (Cost of Storage and Shipping)

5 - ราคาของเคร่ืองมือเคร่ืองจักรต่าง ๆ ท่ีใช้ในการผลิตและบรรจุภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ (Cost of Equipment used to Manufacture and Fill package) - ราคาของการใชแ้ รงงานที่เกย่ี วข้อง (Cost of Associated Labor) ปจั จยั ต่าง ๆ เหลา่ น้ี มิใช่เพียงแต่มีผลตอ่ การกำหนดราคาของสินคา้ เท่านั้น แต่ ยังทำให้ระบบเศรษฐกจิ เกิดการ หมุนเวียนไปอย่างครบวงจร บรรจุภัณฑ์จงึ นับว่าเป็นสง่ิ หนึ่งที่สามารถสะท้อนใหเ้ หน็ ถึงสภาพเศรษฐกจิ ของ ประเทศ ความกา้ วหน้าทางวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิถีการดำเนนิ ชวี ิต ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมของมวลมนุษยใ์ นแตล่ ะยุคสมัย ไดด้ ีอีกด้วย ท่มี าของบทความ : http://creativekanchanaburi.blogspot.com/2012/06/blog-post.html ที่มา : http://www.nkrpackage.com/site/wp-content/uploads/2011/02/contact1.jpg

6 ท่ีมา : http://netra.lpru.ac.th/~weta/c2/16.JPG ประเภทและชนดิ ของบรรจุภัณฑ์ ประเภทของบรรจุภัณฑส์ ามารถแบง่ ไดห้ ลายวธิ ตี ามหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ดงั น้ี 1. แบง่ ตามวธิ กี ารบรรจแุ ละวธิ ีการขนถา่ ย 2. แบ่งตามวัตถปุ ระสงค์ของการใช้ 3. แบ่งตามความคงรูป 4. แบง่ ตามวสั ดุบรรจภุ ัณฑ์ทีใ่ ช้ 1. ประเภทบรรจภุ ัณฑ์แบง่ ตามวธิ บี รรจุและวธิ ีการขนถา่ ย สามารถแบ่งได้ 3 ประเภท 1.1 บรรจภุ ัณฑ์เฉพาะหน่วย (Individual Package) คือ บรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสอยู่กับผลิตภัณฑ์ช้ันแรก เป็นส่ิง ท่ีบรรจุผลิตภัณฑ์เอาไว้เฉพาะหน่วย โดยมีวัตถุประสงค์ขั้นแรกคือ เพิ่มคุณค่าในเชิงพาณิชย์ (To Increase Commercial Value) เช่น การกำหนดให้มีลักษณะพิเศษเฉพาะหรอื ทำใหม้ ีรูปรา่ งทีเ่ หมาะแก่การจับถือ และอำนวย ความสะดวกต่อการใช้ผลิตภัณฑ์ภายใน พร้อมท้ังทำหน้าที่ให้ความปกป้องแก่ผลิตภัณฑ์โดยตรงอีกด้วย 1.2. บรรจุภัณฑ์ชนั้ ใน (Inner Package) คือ บรรจภุ ัณฑ์ที่อยู่ถัดออกมาเป็นชั้นท่ีสอง มีหน้าท่ีรวบรวมบรรจุ ภัณฑ์ขั้นแรกเข้าไว้ด้วยกันเป็นชุด ในการจำหน่ายรวมตั้งแต่ 2 – 24 ช้ินข้ึนไป โดยมีวัตถุประสงค์ขั้นแรก คือ การ ปอ้ งกันรักษาผลติ ภัณฑ์จากนำ้ ความช้นื ความร้อน แสง แรงกระทบกระเทือน และอกนวยความสะดวกแก่การขาย

7 ปลีกยอ่ ย เป็นต้น ตัวอย่างของบรรจุภณั ฑ์ประเภทนี้ ได้แก่ กล่องกระดาษแข็งทบี่ รรจุเครื่องด่ืมจำนวน ฝ 1 โหล , สบู่ 1 โหล เป็นตน้ 1.3. บรรจุภัณฑ์ชน้ั นอกสุด (Out Package) คอื บรรจุภณั ฑ์ท่ีเป็นหน่วยรวมขนาดใหญ่ที่ใช้ในการขนส่ง โดย ปกติแล้วผู้ซื้อจะไม่ได้เห็นบรรจุภัณฑ์ประเภทนี้มากนัก เนื่องจากทำหน้าที่ป้องกันผลิตภัณฑ์ในระหว่างการขนส่ง เทา่ น้ัน ลกั ษณะของบรรจภุ ัณฑป์ ระเภทน้ี ได้แก่ หีบ ไม้ ลัง กล่องกระดาษขนาดใหญท่ บี่ รรจสุ ินคา้ ไวภ้ ายใน ภายนอก จะบอกเพียงข้อมูลท่ีจำเป็นต่อการขนส่งเท่านั้น เช่น รหัสสินค้า (Code) เลขที่ (Number) ตราสินค้า สถานท่ีส่ง เป็น ต้น 2. การแบง่ ประเภทบรรจุภณั ฑ์ตามวัตถปุ ระสงค์ของการใช้ บรรจุภัณฑ์เพื่อการขายปลีก (Consumer Package) เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ผู้บริโภคซื้อไปใช้ไป อาจมีชั้นเดียว หรอื หลายช้นั ก็ได้ ซ่งึ อาจเปน็ Primary Package หรือ Secondary Package กไ็ ด้ บรรจุภัณฑ์เพ่ือการขนส่ง (Shopping หรือ Transportation Package) เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ใช้รองรับหรือ ห่อหุ้มบรรจุภัณฑ์ขั้นทุติยภูมิ ทำหน้าที่รวบรวมเอาบรรจุภัณฑ์ขายปลีกเข้าด้วยกัน ให้เป็นหน่วยใหญ่ เพ่ือความ ปลอดภัยและความสะดวกในการเก็บรักษา และการขนส่ง เช่น กล่องกระดาษลูกฟูกท่ีใช้บรรจุยาสีฟัน กล่องละ 3 โหล 3. การแบ่งบรรจุภัณฑ์ตามความคงรูป 3.1. บรรจุภัณฑ์ประเภทรูปทรงแข็งตัว (Rigid Forms) ได้แก่ เคร่ืองแก้ว (Glass Ware) เซรามิคส์ (Ceramic) พลาสติกจำพวก Thermosetting ขวดพลาสตกิ ส่วนมากเปน็ พลาสตกิ ฉีด เครอื่ งปั้นดินเผา ไม้ และโลหะ มีคุณสมบัติแข็งแกร่งทนทานเอ้ืออำนวยต่อการใช้งาน และป้องกันผลิตภัณฑ์จากสภาพแวดล้อมภายนอกได้ดี 3.2. บรรจุภัณฑ์ประเภทรูปทรงก่ึงแข็งตัว (Semirigid Forms) ได้แก่ บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกอ่อน กระดาษแข็งและอลูมิเนียมบาง คุณสมบัติท้ังด้านราคา น้ำหนักและการป้องกันผลิตภัณฑ์จะอยู่ในระดับปานกลาง 3.3. บรรจุภัณฑป์ ระเภทรปู ทรงยืดหยุน่ (Flexible Forms) ไดแ้ ก่ บรรจุภัณฑท์ ่ที ำจากวัสดอุ อ่ นตัว มลี ักษณะ เป็นแผ่นบาง ได้รับความนิยมสูงมากเนื่องจากมีราคาถกู ( หากใช้ในปริมาณมากและระยะเวลานาน ) น้ำหนักน้อย มี รปู แบบและโครงสร้างมากมาย

8 4. แบง่ ตามวสั ดบุ รรจุภณั ฑท์ ี่ใช้ การจัดแบ่งและเรยี กช่ือบรรจุภัณฑ์ในทรรศนะของผู้ออกแบบ ผ้ผู ลิต หรือนักการตลาด จะแตกต่างกันออกไป บรรจุ ภัณฑ์แต่ละประเภทก็ต้ังอยู่ภายใต้วัตถุประสงค์หลักใหญ่ (Objective Of Package) ที่คล้ายกันคือ เพื่อป้องกัน ผลิตภัณฑ์ (To Protect Products) เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ (To Distribute Products) เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ ผลิตภัณฑ์ (To Promote Products) ท่มี าของบทความ : http://www.mew6.com/composer/package/package_7.php ชนดิ ของวสั ดุที่ใชท้ ำบรรจุภณั ฑ์ วัสดทุ ่ใี ช้ในการผลติ บรรจุภณั ฑ์ท่นี ิยมใช้ มี 5 ประเภท คอื 1. เยื่อ และกระดาษ นับได้ว่าเย่ือและกระดาษนำมาใช้ทำบรรจุภัณฑ์มากที่สุด และมีแนวโน้มใช้มากย่ิงข้ึน สืบเนื่องจากการ รณรงค์ในเรื่องของสิ่งแวดล้อมและกระดาษท่ีใช้แล้ว สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ง่าย (Recycle) กระดาษเป็นวัสดุ บรรจุภัณฑ์ประเภทเดียวท่ีสามารถสร้างข้ึนมาใหม่ได้จากการปลูกป่าทดแทน ตัวอย่างบรรจุภัณฑ์จากเย่ือ และ กระดาษได้แก่ กล่องกระดาษแข็ง กลอ่ งกระดาษลกู ฟกู ถงุ กระดาษ เป็นตน้ ที่มา : http://www.rongpimjr.com/images/1187930611/paper_01.gif

9 ภาชนะบรรจุภณั ฑ์ทำด้วยกระดาษ มดี ังน้ี 1. ถงุ กระดาษ มี 2 ประเภท 1.1 ใช้กระดาษท่ีใช้แล้วได้แก่กระดาษหนังสือพิมพ์มาพับเป็นถุงใช้ทั่วไป เมื่อใช้บรรจุอาหารหมึกพิมพ์มี โอกาสปนเปอื้ นกบั อาหารได้ง่าย ทีม่ า : http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/988/988/images/NOKnoy/BAG.JPG 1.2 ถุงกระดาษสีน้ำตาล ทำจากกระดาษเหนียว( Kraft Paper) ผลติ เป็นอุตสาหกรรมมีหลายชนิดเช่นถุงปูน มีหลายชั้น หรือซองสีน้ำตาลบรรจุเอกสารเป็นต้น กระดาษประเภทน้ีถ้าไม่ผ่านการฟอกจะเป็นสีน้ำตาล ถ้าฟอกจะ เป็นสขี าว ท่มี า : http://waymagazine.org/wp-content/uploads/2012/09/bag2.jpg

10 2. กล่องกระดาษแขง็ 2.1 กระดาษไมเ่ คลอื บ 2.2 กระดาษเคลือบ ทมี่ า : http://media.yellowpages.co.th/yellowpages/products/th/52310095/10085466_004.jpg 3. กล่องกระดาษลกู ฟกู กล่องกระดาษลูกฟูกเป็นกลอ่ งที่สามารถออกแบบ ให้มีรูปทรงให้เหมาะกับตัวสินค้าได้ง่าย การจัดเก็บ และ การขนส่งก็สะดวกสบายเพราะสามารถพบั เก็บได้ มสี ินคา้ หลายชนดิ นยิ มใช้กล่องประเภทนเ้ี ชน่ ลังเบียร์ ลงั ผลไม้ เป็น ตน้ ทม่ี า : http://www.kscpackage.com/images/mainpic/Corrugations-Box.jpg 2. พลาสติก พลาสติกเป็นวสั ดุท่ีมีอัตราการเจริญเติบโตสูงมาก คุณประโยชน์ของพลาสตกิ คือ มีน้ำหนักเบาป้องกันการ ซึมผา่ นของอากาศ และก๊าซได้ระดับหน่ึงสามารถต่อต้านการทำลายของแบคทีเรียและเช้อื รา คุณสมบัติหลายอย่างท่ี สามารถเลือกใช้งานที่เหมาะสม พลาสติกบางชนดิ ยงั เป็นฉนวนกันความร้อนอกี ดว้ ย ตัวอยา่ งบรรจุภัณฑ์จากพลาสติก ได้แก่ ฟลิ ม์ พลาสติกรัดรปู ขวด ถาด กล่อง และโฟม ภาชนะบรรจภุ ณั ฑ์ทีท่ ำด้วยพลาสติก

11 ทมี่ า : http://www.tpipolene.co.th/Thai/Image/Product/p.044.jpg พลาสติกเป็นสารสังเคราะห์จำพวกโพลิเมอร์ มีหลายชนิดและมีคุณสมบัติท่ี แตกต่างกันออกไป เช่นกันการ ซึมของน้ำ อากาศ ไขมัน ทนต่อความเย็น และความร้อน ทนต่อกรด หรือด่าง ไม่เป็นตัวนำไฟฟ้า และความร้อน มี ลกั ษณะอ่อนและแขง็ และมหี ลายรูปทรง พลาสตกิ แบ่งตามรูปแบบได้ 2 ประเภทคือ 1. ฟลิ ม์ พลาสตกิ คอื พลาสติกทีเ่ ป็นแผ่นบางๆ ใชห้ ่อ หรอื ทำถุง เช่น 1.1 ถุงเย็น ทำมาจากพลาสติกชนิด พอลลิเอทีลีน(PE) ชนิดความหนาแน่นต่ำ(LDPE) ใช้บรรจุของเย็น สามารถบรรจุอาหารแช่แข็งได้ 1.2 ถุงร้อน ทำมาจากพลาสตกิ ชนิด พอลลิพอพิลีน(PP) มีลักษณะใสมากหรือ พอลลิเอทีลีน(PE) ชนิดความ หนาแน่นสงู (HDPE) กไ็ ด้ ทมี่ า : http://www.nitaphan.com/images/content/crop-1352174066861.png 1.3 ถงุ หูหิ้ว ทำมาจากพลาสติกชนิด พอลลเิ อทีลีน(PE) ชนดิ ความหนาแน่นต่ำ(LDPE) และเปน็ พลาสตกิ ท่ีใช้ แลว้ นำมาหลอมใชใ้ หม่

12 ท่มี า : http://www.visanplastic.com/images/sub_1264068803/Untitled-3.gif 1.4 ถงุ ซปิ เป็นถงุ ท่มี ีปากถงุ ล็อคไดท้ ำมาจากพลาสติกชนิด พอลลเิ อทลี ีน(PE) ชนดิ ความหนาแน่นตำ่ (LDPE) ทีม่ า : http://ddpromote.com/img/015/1d0/0151d02ad9e9e28e83034a9828fcc91d_1.jpg 1.5 ถุงพลาสติกหลายชั้นประกบติดกัน บางคร้ังเป็นพลาสติกชนิดต่างๆ บางคร้ังเป็นพลาสติกกับแผ่น อลูมิเนียม เรียกวา่ ลามิเนท (Laminate) ใช้บรรจอุ าหารที่สามารถอุ่นด้วยการนำถุงลงต้มในนำ้ เดือดได้ ถงุ ที่สามารถ ปอ้ งกนั ไม่ให้อากาศเขา้ ไดเ้ ลย ถุงทส่ี ามารถกันชนื้ กันไขมันและกนั แสงได้ เป็นตน้ 1.6 พลาสติกหดรัดรูป(Shrink Film) ฟิล์มชนิดน้ี จะหดตัวเมื่อได้รับความร้อน ตัวอย่างเช่นพลาสติกหุ้มห่อ กล่องนมท่ีแพคขายคราวละ 6 กล่องเป็นต้น หรือฉลากที่ใช้ระบบการพิมพ์ลงบนฟิล์มชนิดนี้ เช่น ฉลากของขวดโค๊ก เป็นต้น

13 ทม่ี า : http://www.agrofleet.com.my/images/Shrink-Film-4.jpg 2. ภาชนะพลาสตกิ 2.1 ขวดพลาสตกิ 2.1.1 ขวดทำจากพอลลิไวนิลคลอไรด(์ PVC) ใช้บรรจุนำ้ มัน น้ำผลไม้ 2.1.2 ขวดทำจากพอลลิเอทีลีน ( PE ) ชนิดความหนาแน่นสูงใช้บรรจุนม น้ำดื่ม ยา สารเคมี ผงซกั ฟอก เคร่อื งสำอาง ท่มี า : http://www.plasticflessen.nl/images/serie_voorpagina_transparant/basic_round.png 2.1.3 ขวดทำจากพอลลิเอสเธอร์ (PET) ใชบ้ รรจุน้ำอดั ลม เบียร์ 2.2 ถว้ ยพลาสตกิ ถวั ยไอศรมี ถ้วยสงั ขยา 2.3 ถาดและกลอ่ งพลาสตกิ แบบมีฝาและไมม่ ีฝา นยิ มใชบ้ รรจุอาหารสำเร็จรปู และก่งึ สำเร็จ 2.4 สกีนแพค (skin pack) และบรสิ เตอรแ์ พค(blister pack)เป็นภาชนะพลาสติกท่ีทำจากแผ่นพลาสติก ท่ี ข้นึ รปู ดว้ ยความรอ้ นแล้วนำมาประกบหรือประกอบกระดาษแข็ง ซึง่ แผ่นพลาสติกดังกล่าวทำมาจากพอลลไิ วนิลคลอ ไรด์ (PVC) ตวั อยา่ งเช่นเครอ่ื งเขยี น แปรงสีฟนั เปน็ ตน้

14 ท่ีมา : http://s.exaidea.com/upload/1/20110228/9b43ae70cf7d4586adf17060ba50ca10.jpg 3. แกว้ นับเป็นวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่มีความเฉื่อยต่อการทำปฏิกิริยา กับสารเคมีชีวภาพเมื่อเทียบกับวัสดุบรรจุภัณฑ์ชนิด อ่ืนๆ และยังรักษาคุณภาพภายในได้ดีมาก ข้อดีของแก้วคือ ความใสและทำเป็นสีต่าง ๆ ได้สามารถทนแรงกดได้สูง แต่เปราะแตกง่ายในกระบวนการบรรจุสามารถบรรจุได้ด้วยความเร็วสูงในด้านส่ิงแวดล้อม แก้วสามารถนำกลับมา ใชไ้ ดห้ ลายคร้งั อาจจะถึง 100 คร้ังและสามารถนำมาหลอมใชใ้ หม่ไดง้ า่ ย (Recycle) สิ่งทพ่ี งึ ระวังในเร่ืองการบรรจุคือ ฝาขวดแก้วจะต้องเลือกใช้ฝาทีไ่ ดข้ นาดและต้องสามารถปดิ ไดส้ นทิ แน่น เพอ่ื ชว่ ยรกั ษาคุณภาพและยืดอายุของสนิ ค้า ภาชนะบรรจทุ ่ีทำด้วยแก้ว 1 . ขวดปากแคบ ใช้บรรจอุ าหารชนิดท่ีเป็นของเหลว ได้แก่ เครื่องดม่ื และเคร่อื งปรุงรสท่ีเป็นน้ำต่าง ๆ 2. ขวดปากกวา้ ง ใชบ้ รรจุอาหารชนิดทเ่ี ปน็ ชิน้ และอาหารแห้ง ท่ีมา : http://www.silverlock.com.au/newsite/sites/default/files/glassjarsandbottles.jpg

15 4. โลหะ โลหะที่ใช้ทำบรรจุภณั ฑ์ มี 2 ชนดิ คอื 4.1 เหล็กเคลือบดีบุก เป็นบรรจุภัณฑ์ท่ีแข็งแรง ป้องกันอันตรายจากส่ิงแวดล้อม และสภาวะอากาศ การ ลงทนุ ในการผลิตไม่สงู นกั และไม่ซบั ซ้อนสามารถบรรจุอาหารได้ดีเนอ่ื งจากสามารถปิดผนึกได้สนิทและฆ่าเช้ือได้ด้วย ความร้อน ในแง่ของสิ่งแวดล้อมสามารถแยกออกจากขยะได้งา่ ยโดยใชแ้ ม่เหล็ก 4.2 อลูมิเนียม มักใช้ในรูปอลูมิเนียมเปลว หรือกระป๋องมีน้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับความแข็งแรง ทนต่อการ ซึมผ่านของอากาศ กา๊ ซ แสง และกล่ินรสได้ดีเย่ียม ในรูปของอลูมเิ นียมเปลวมกั ใช้ควบกับวัสดุอื่นซง่ึ ให้ภาพลกั ษณ์ที่ดี เน่ืองจากความเงาวบั ของอลูมเิ นยี ม ตวั อยา่ งบรรจภุ ัณฑจ์ ากโลหะได้แก่ กระป๋อง ปบี๊ ถัง และแผน่ เปลว อลมู เิ นยี ม ท่ี ม า : http://i01.i.aliimg.com/wsphoto/v0/1701910685_1/Free-Shipping-12x-Aluminum-Cosmetic- Packaging-100ml-Aluminum-Spray-font-b-Bottle-b-font-100ml-aluminum.jpg 5. ไม้ เป็นวัสดุท่ีใช้ทำบรรจุภัณฑ์ที่น้อยมาก เพราะเกิดการรณรงค์เร่ืองตัดไม้ทำลายป่าและนับวันจะมีการใช้ นอ้ ยลงมากเพราะสามารถหาส่งิ อื่นมาทดแทนไมไ้ ด้ แต่ท่ีพบเห็นอยู่บา้ งได้แก่ ลงั ไม้ เข่ง ตะกร้า เปน็ ต้น ทีม่ าต่างๆ ของการสรา้ งสรรค์บรรจุภัณฑ์ ความเปน็ มาของการบรรจุภณั ฑ์ ในยุคหินเมื่อมนุษย์ล่าสตั ว์ไดเ้ ขาก็จะใช้หนงั สัตว์ หรือใบไม้ห่อหุ้มสัตวท์ ี่ล่ามาได้เพื่อปอ้ งกันพวกแมลง แสงแดด และฝน นอกจากนี้ในการพกพาอาหารหรือวัตถุที่ต้องการ ส่ิงท่ีใช้ในการห่อหุ้มจะเป็น ใบไม้ เปลือกไม้ เปลือกหอย กระบอกไม้ กระเพาะสตั ว์ หนังสัตว์ ฯลฯ เปน็ ต้น การรจู้ ักการแก้ปัญหาด้วยการนำเอาวัตถุดบิ (Raw Materials) จาก

16 ธรรมชาติเจ้ามาเป็นอุปกรณ์ช่วยเคลื่อนย้ายวัตถุมวลสาร ก ารกระทำดังกล่าวจึงนับว่าเป็นที่มาของการ บรรจุ (Filling) ต่อมามนษุ ยเ์ ริม่ รู้จักการประดษิ ฐ์ คดิ ค้นภาชนะบรรจุดว้ ยการดดั แปลงคุณสมบัติทางกายภาพของวัสดุ ธรรมธรรมชาติให้มีรูปร่างและหน้าที่ใช้สอยเพิ่มข้ึนนี่เอง จึงจัดว่าเป็นการออกแบบบรรจุภัณฑ์ด้ังเดิม (Primitive Packaging Design) ที่มนุษย์ในสมัยก่อนได้กระทำข้ึนตามสภาพการเรียนรู้และการค้นพบวัสดุในแต่ละยุคการ ออกแบบการบรรจุภัณฑ์ จึงเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการค้าและการบริการ ในฐานะของสิ่งท่ีช่วยอำนวยความ สะดวกแก่การขนส่งสินค้า (Aid Transportation) โดยทำหน้าท่ีขั้นพ้ืนฐานอันดับแรกคือ ปกป้อง คุ้มครองสินค้าให้ ปลอดภัยจากความเสียหาย อันเนื่องมาจากการกระทบกระเทือน และป้องกันส่ิงปนเป้ือนที่ไม่พึง ประสงค์ (To Prevent Spillage And Contamination) ที่อาจจะเกิดข้ึนในระหว่างการขนส่งสินค้าผลิตภัณฑ์จากโรงงานผลิตไป จนกระทั่งถึงมือผบู้ ริโภค ซึ่งบทบาทนี้มีผลทำให้รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ (Package Form) มีการพัฒนาขน้ึ มารับรอง มีการออกแบบภาชนะบรรจุแบบปิด (Closed Container) เช่น ถังไม้ (Barrel) การรู้จักปิดผนึกบรรจุภัณฑ์ (Container Closure) เช่น มีฝาจุกปิดขวด (Bottle Plug Seals) ฯลฯ เป็นต้น เทคนิคและกรรมวิธีการบรรจุท่ี พัฒนาขึ้นตามหน้าท่ีใช้สอยเหล่านี้ จึงเป็นผลทำให้เกิดการพัฒนารูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลายลักษณะตาม กาลเวลา และการคน้ พบวัสดุหรอื เทคโนโลยีทน่ี ำมาใช้ในราว ค . ศ . 1200 รูปแบบของการบรรจุภัณฑ์ ท่ีปรากฏเป็น หลักฐาน ได้แก่ วัสดุ[ุMaterials] และ รูปแบบและการใช้ [Package Form And Use] หนัง[Leather] = การห่อ พับเป็น กระเป๋า ถุงผ้า [Cloth] = การห่อ พับเป็น ถุง กระสอบไม้ [Wood] = ถังไม้ หีบ ไม้ ลัง กำป่ันวัชพืชหรือ ผลิตภัณฑ์จากไม้[Grass/Split Wood] = ตะกรา้ เสื่อ ส่ิงทอหนิ [Stone] = กาน้ำ คณโฑดนิ [Earthenware] = หม้อ ถว้ ยชาม ฯลฯโลหะ [Metal] = หม้อ ถ้วยชาม กาน้ำแก้ว [Glass] = แก้วน้ำ ขวด ชาม คณโฑ ในสมยั ต่อมา เมื่อมี ความก้างหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์ ด้านศิลปศาสตร์และเทคโนโลยี เคร่ืองกลโรงงานต่าง ๆ ถูกคิดค้นพัฒนามากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงของการปฏิวัติทางอุตสาหกรรม (The Industrial Revolution) ที่เร่ิมมาตั้งแต่ต้น ศตวรรษที่ 17 ทำให้ระบบการผลิตกลายเป็นการผลิตแบบขนานใหญ่ (Mass Production) และทำให้เกิดการพัฒนารูปแบบของ บรรจุภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ สามารถสนองความสะดวกสบายต่อการขนส่งสินค้า ความต้องการด้านความปลอดภัย ความรวดเร็ว ความต้องการสินค้าท่ีมีคุณภาพ และความต้องการความหลากหลายของสินค้า ฯลฯ จึงทำให้เกิดการ ตรากฎหมาย (Legislation) หน่วยบรรจุภัณฑ์ (Unit Packaging) ตราสินค้า (Brand Identification) และการ โฆษณา (Advertising) - มกี ารตรากฎหมายข้ึนเพ่อื คุม้ ครองผู้บรโิ ภค ให้ผู้ผลิตเคารพในกรรมวธิ ีการผลติ ท่ีสะอาดบรสิ ทุ ธแ์ิ ละถูกต้อง ตามหลกั สขุ ภาพอนามยั (Respect To Sanitation And Purity) ไม่ปดิ ป้ายฉลาก หลอกลวงผู้บริโภคเกนิ ความจรงิ - หนว่ ยบรรจุ เกดิ ข้นึ เพราะให้ความคุ้มครองผลิตภณั ฑ์ไดด้ ีกว่า

17 - ตราฉลากสินค้าหรือยี่ห้อผลิตภัณฑ์ เร่ิมมีความสำคัญเพราะทำให้ผู้บริโภคสามารถจดจำ และเลือก ผลิตภณั ฑ์ทต่ี อ้ งการตามคณุ ภาพได้ - ผู้บริโภคมีความรแู้ ละประสบการณ์หลายดา้ นเก่ียวกับผลิตภัณฑ์ หรอื เลือกการบรโิ ภคอยา่ งแพร่หลาย โดย ผ่านวิธีการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ปรากฏการณ์เหล่าน้ีทำให้ตัวบรรจุภัณฑ์ (Package) เร่ิมเข้ามามีบทบาทแทน พนักงานขายมีความสำคัญมากในฐานะ “ ตัวแสดงสินคา้ ” (The Representation Of Product) ทต่ี ้องการแสดงให้ ผู้บริโภคเห็นถึงเน้ือในหรือเน้ือหา (Content) ของสินค้าด้วยการให้ข้อมูลรายละเอียดของสินค้าบนหีบห่อ โดยใช้ เทคนิควิธกี ารออกแบบสมัยใหมท่ ่ีสามารถดึงดูดผู้บริโภคได้ ดังนั้นหลังสงครามโลกครง้ั ท่ี 2 เป็นต้นมาจึงมีการพัฒนา กรรมวิธีการผลิตบรรจุภัณ ฑ์ หรือภาชน ะบรรจุ ความเร็ว ความเข้าใจด้าน ศิลปะ และกราฟิกดีไซน์ ด้วยเหตุและปัจจัยดังท่ีกล่าวมาแล้ว จึงเป็นผลให้เกิดอาชีพเฉพาะขึ้นในวงการอุตสาหกรรม คือ อาชีพนัก ออกแบบบรรจุภัณฑ์ (Packaging Designer) ท่ีเพิ่งเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมาน้ีเอง ซึ่งนับว่าเป็นอาชีพใหม่ท่ีมี ความสำคัญต่อวงการธุรกิจการค้าเป็นอย่างมาก ดังนั้น การออกแบบบรรจุภัณฑ์จึงเป็นวิทยาการท่ีเก่ียวข้องกับคน หลายวงการ หลายอาชพี และหลายวิทยาการ (Multidiscipline Profession) กลา่ วคอื นักออกแบบบรรจุภัณฑ์ต้อง ศึกษาหาความรู้ววิ ัฒนาการการออกแบบบรรจภุ ณั ฑ์ [THE EVOLUTION OF PACKAGING DESIGN] มนุษย์เรามีวิวัฒนาการจากยุคหน่ึงมาสู่อีกยุคหนึ่ง เช่นนี้ตลอดมา สิ่งนี้จะส่งผลสะท้อนต่อปัจจัย หรือ องค์ประกอบในการดำรงชีวิตของมนุษย์เป็นอย่างมาก จากแรกเร่ิมท่ีมนุษย์อยู่รวมกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ และดำรงชีวิต ง่าย ๆ ด้วยการอาศัยผลิตผลจากการเพาะปลูก หรอื การเลีย้ งสัตวเ์ พียงจำนวนไม่มาก มีการพ่ึงพาอาศัยและติดต่อกัน ในกลุ่มใกล้เคียงเท่าน้ัน ต่อมาเม่ือจำนวนประชากรมีมากขึ้น มีการแบ่งกลุ่มอาศัยออกเป็นหมู่เหล่า การผลิตเฉพาะ เพยี งบริโภคในครอบครวั เริม่ ไมพ่ อเพียง จึงเร่มิ มรี ะบบการแลกเปลี่ยนที่กวา้ งขวางขึ้น ในทส่ี ุดระบบการผลติ กเ็ ปลยี่ น รูปไปเกิดเป็นการผลิตแบบอุตสาหกรรม (Mass Production) ขึ้น การแลกเปล่ียนส่ิงของเคร่ืองใช้ หรืออาหาร จึง ขยายวงจากบคุ คลใกล้เคยี งไปเป็นการแลกเปลยี่ นกบั บุคลในกลมุ่ อื่น ในอาณาเขตทีก่ ว้างขวางขนึ้ ในระยะแรกของการแลกเปลี่ยน การเคล่ือนย้ายสิง่ ของเครอ่ื งใชท้ มี่ กี ารแลกเปล่ียน กอ็ าศัยภาชนะตามพ้ืนบา้ น ที่ใช้กันอยู่ในครัวเรือนตามสะดวกแต่ต่อมาเมื่อการแลกเปล่ียนขยายขอบเขตจนถึงขนาดมีการซ้ือขายและขยาย ขอบเขตวงกวา้ งออกไปมาก ๆ บรรจุภณั ฑ์ใหม่ ๆ จงึ เริม่ เขา้ มามีบทบาท เร่ิมมีการคดิ ค้นและประดิษฐบ์ รรจุภัณฑ์ตา่ ง ๆ เพ่ือสนองความต้องการในแต่ละกรณี เช่น ใช้ใบไม้มาทำกระทง ห่อขนม เอาก่ิงไม้หรือเปลือกไมม้ าสานทำกระจก ชะลอม ตะกร้า ฯลฯ ซ่ึงบรรจุภัณฑ์เหล่านี้เป็นพ้ืนฐานมาจากการคิดค้นจากวัสดุธรรมชาติ และพัฒนามาเป็นบรรจุ ภัณฑ์ในยคุ ต่อ มา ซ่ึงได้มีการคิดค้นวัสดุชนิดอ่ืน ๆ ท่ีจะสามารถตอบสนองประโยชน์ในการบรรจุภัณฑ์ได้กว้างขวาง และมปี ระสทิ ธิภาพยง่ิ ข้นึ

18 จากการศึกษาถงึ ววิ ฒั นาการของบรรจุภัณฑด์ ังกลา่ ว เราจึงอาจแบง่ ประเภทของบรรจภุ ัณฑอ์ อกได้อย่างกว้าง ๆ เป็น 2 ประเภท คือ 1. บรรจุภัณฑ์ท่ีเกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ ธรรมชาติได้สร้างหีบห่อขึ้นเพื่อป้องกันและรักษาผลผลิตทาง ธรรมชาติได้อย่างดีเย่ียมและชาญฉลาด โดยสร้างให้มีความเหมาะสมกับผลผลิตแต่ละชนิดไป อาทิเชน่ เปลือกผลไม้ เปลือกไข่ เป็นต้น 2. บรรจุภัณฑ์ที่มนุษย์สร้างขึ้น เป็นบรรจุภัณฑ์ที่เกิดจากการที่มนุษย์เป็นผู้สร้างข้ึน โดยได้คิดประดิษฐ์จาก วสั ดุต่าง ๆ เพือ่ สนองประโยชนน์ านาประการ เช่น เพื่อคุ้มครองป้องกันผลิตภัณฑ์เพ่ือความสะดวกในการขนส่ง เพื่อ การส่งเสรมิ การจำหน่าย ฯลฯ สำหรับประเทศไทยเรา คำวา่ “ บรรจุภณั ฑ์ ” ดูจะเป็นคำใหม่ซงึ่ คนไทยยงั ไม่ค้นุ เคยนกั แต่ในความเปน็ จริง แล้ว คนไทยนับว่าเป็นนักออกแบบบรรจุภัณฑ์ท่ีมีความสามารถยิ่ง จะเห็นได้จากวิธีการนำเอาวัสดุธรรมชาติมาใช้ ประโยชน์ไดอ้ ย่างดีย่ิง เชน่ การใช้ใบกล้วย ใบตาล ทางมะพร้าว ใบเตย ฯลฯ มาคดิ ประดษิ ฐเ์ ป็นห่ออาหารแบบต่าง ๆ การจักสานภาชนะต่าง ๆ จากไม้ไผ่ หวาย ต้นหญ้า ปอ ฯลฯ บรรจุภัณฑ์เหล่าน้ีมีรูปร่างลักษณะสวยงาม แปลกตา และสามารถสนองประโยชน์ได้อย่างดีในแต่ละกรณี เหมาะกับการบรรจุส่ิงของต่าง ๆ เช่น อาหารทั้งท่ีเป็นของแห้ง หรอื มนี ้ำ หรือสิ่งของทีต่ อ้ งการความปลอดภยั และความสะดวกในการเคลื่อนย้ายอื่น ๆจากการที่มนษุ ยไ์ ดค้ ิดนำวัสดุที่ มีตามธรรมชาติมาประดิษฐ์เป็นบรรจุภัณฑ์ใช้ในชีวิตประจำวันดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ความพยายามและความคิด สร้างสรรของมนุษย์กย็ ังไม่ส้ินสดุ เมื่อเกิดความต้องการขยายให้กว้างขึ้น เช่น การขยายขนาด และจำนวนของสินค้า การเคลื่อนย้ายของใหญ่ ๆ จำนวนมากต้องการบรรจุภัณฑ์ท่ีเหมาะสม และแม้เมื่อความเจริญก้าวหน้าทางด้าน การตลาดมากขน้ึ บรรจภุ ณั ฑ์ก็เข้ามามีบทบาทใช้เปน็ เครอื่ งมือในทางการตลาดดว้ ย เช่น ใชเ้ ป็นเคร่ืองช่วยในด้านการ ส่งเสริมการจำหน่าย ดังนั้นจึงได้มีการค้นคว้าคิดประดิษฐ์บรรจุภณั ฑ์แบบใหม่ ๆ ตลอดจนปรับปรุง และค้นหาวัสดุที่ ใช้ในการบรรจุให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น จนในท่ีสดุ ปัจจบุ ันเรามีวัสดุที่ใช้เพ่ือการบรรจุภัณฑ์มากมายหลายชนิด อาทิเช่น กระดาษชนิดต่าง ๆ แผ่นโลหะ ใยสงั เคราะห์ แก้ว พลาสตกิ ไม้ ฯลฯ ประโยชนข์ องบรรจภุ ัณฑ์ 1. การป้องกัน (Protection) เช่น กันน้ำ กันความช้ืน กันแสง กันแก๊ส เมื่ออุณหภูมิสูงหรือต่ำ ด้านทานมิให้ ผลิตภณั ฑ์แปรสภาพไมแ่ ต่ไมฉ่ ีกขาดง่าย ปกปอ้ งใหส้ นิ คา้ อยูใ่ นสภาพใหมส่ ดอยู่ในสภาวะแวดลอ้ มของตลาดไดใ้ นวงจร ยาว โดยไมแ่ ปรสภาพขนานแทแ้ ละดัง้ เดมิ

19 2. การจดั จำหน่ายและการกระจาย (Distribution) เหมาะสมต่อพฤติกรรมการซื้อขายเอ้ืออำนวยการแยกขาย ส่งต่อ การต้ังโชว์ การกระจาย การส่งเสริมจูงใจในตัว ทนต่อการขนย้าย ขนส่ง และการคลังสินค้า ด้วยต้นทุน สมเหตุสมผล ไมเ่ กิดรอยขดู ขดี / ชำรุด ต้ังแต่จุดผลิตและบรรจุจนถึงมือผู้ซอื้ / ผใู้ ช้ / ผบู้ รโิ ภค ทนทานตอ่ การเก็บไว้ นานได้ 3. การส่งเสริมการจำหน่าย (Promotion) เพ่ือยึดพื้นท่ีแสดงจุดเด่น โชวต์ ัวเองได้อย่างสะดุดตา สามารถระบุ แจง้ เงื่อนไข แจง้ ข้อมูลเก่ียวกับการเสนอผลประโยชนเ์ พิ่มเตมิ เพ่อื จงู ใจผู้บริโภค เม่ือต้องการจัดรายการเพื่อเสริมพลัง การแข่งขนั กส็ ามารถเปล่ยี นแปลงและจดั ทำได้สะดวก ควบคุมไดแ้ ละประหยดั 4. การบรรจภุ ณั ฑ์กลมกลนื กับสนิ คา้ และกรรมวิธกี ารบรรจุ (Packaging) เหมาะสมท้งั ในแง่การออกแบบ และ เพ่อื ให้มโี ครงสร้างเข้ากบั ขบวนการบรรจุ และเอื้ออำนวยความสะดวกในการหิ้ว – ถือกลับบ้าน ตลอดจนการใช้ได้กับ เครือ่ งมอื การบรรจุท่ีมอี ยูแ่ ล้ว หรอื จัดหามาได้ ด้วยอัตราความเร็วในการผลติ ที่ต้องการ ตน้ ทุนการบรรจุภณั ฑต์ ่ำหรือ สมเหตสุ มผล สง่ เสรมิ จรรยาบรรณและรบั ผดิ ชอบต่อสังคม ไม่กอ่ ให้เกดิ มลพษิ และอยูใ่ นทำนองคลองธรรมถูกตอ้ งตาม กฎหมายและพระราชบญั ญัติตา่ ง ๆ 5. เพม่ิ ยอดขาย เน่ืองจากในตลาดมีสินค้าและคู่แข่งเพ่ิมข้ึนตลอดเวลา หากบรรจุภัณฑ์ของสินค้าใดไดร้ ับการ ออกแบบเป็นอยา่ งดี จะสามารถดงึ ดูดตา ดึงดูดใจผู้บรโิ ภคและกอ่ ให้เกดิ การซอ้ื ในท่ีสุด รวมท้งั การลดตน้ ทุนการผลิต ปัจจุบนั บรรจุภัณฑ์เป็นปจั จยั สำคญั ในการจำหน่ายสนิ ค้า ทีต่ อ้ งผนวกวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การ จัดการและศิลปะเข้าด้วยกัน เพื่อสามารถคุ้มครองการเส่ือมสภาพและยืดอายสุ ินค้า เพิ่มความสะดวกในการลำเลียง ขนสง่ ตลอดจนสามารถดงึ ดูดลูกคา้ และโฆษณาประชาสัมพนั ธส์ ินคา้ ไปในตัว และเป็นการเพม่ิ มลู คา่ ให้กบั สนิ ค้าด้วย 1. การเลอื กใช้บรรจุภณั ฑใ์ หเ้ หมาะสมกบั สินคา้ 2. ดูประเภทของสนิ คา้ เชน่ อาหารสด อาหารแห้ง เปน็ ตน้

20 3. ดคู ุณสมบัติของสินคา้ เช่น สินคา้ มีความชนื้ สูง มคี วามเปน็ กรดหรอื ไม่ 4. ดูอายุการเก็บของอาหารเช่นนมสดพาสเจอไรซ์นมสดสเตอรไิ ลซ์ 5. เลือกเทคนิคการบรรจุ ขนส่ง จัดเก็บ และจัดจำหน่าย 6. ดคู วามเหมาะสมกับราคาของสนิ คา้ ทีม่ า : http://www.mew6.com http://www.tpabookcentre.com สรุป บรรจุภัณฑ์มีความสำคัญ สินค้าแทบทุกชนิดจำเป็นต้องมีการบรรจุหีบห่อทุกอย่างมี เพื่อทำหน้าท่ีป้องกันตัว ผลิตภัณฑ์ ให้ข้อมูลท่ีจำเป็นแก่บริโภคเก่ียวกับผลิตภัณฑ์นั้น รักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ตามอายุการใช้งาน ให้ ความสะดวกในการใชง้ าน เปน็ การสง่ เสริ มและโฆษณาสินค้า และสร้างภาพลักษณใ์ ห้แกต่ ัวสินค้า ประเภทของบรรจภุ ัณฑ์ แบง่ ไดด้ ังนี้แบง่ ตามวิธกี ารบรรจแุ ละวิธกี ารขนถา่ ย แบง่ ตามวัตถปุ ระสงค์ของการใช้ แบ่งตาม ความคงรปู แบง่ ตามวัสดุบรรจุภณั ฑท์ ีใ่ ช้ ชนิดของบรรจุภัณฑ์ ส่วนใหญ่ ผลิตมาจากบรรจุภัณฑ์ 5 อย่าง คือ เยื่อกระดาษ พลาสติก แก้ว โลหะ และไม้ มี คุณสมบัตแิ ตกต่างกัน สามารถเลอื กใช้ได้แตกตา่ งตามลักษณะและคุณสมบัตขิ องผลิตภณั ฑ์ บรรจุภัณฑ์มีการพัฒนามาเร่ือยๆ จนปัจจุบันตามความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์ และได้เพิ่มปัจจัยต่างๆในการ ออกแบบมาก ให้บรรจภุ ัณฑ์มปี ระสทิ ธภิ าพมากขึ้น จึงเกิดอาชพี ทเี่ รียกกันว่า \"นกั ออกแบบบรรจภุ ณั ฑ์\" หลกั การออกแบบบรรจภุ ัณฑ์ ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ นักออกแบบต้องคำนึงถึงศาสตรแ์ ละศิลปส์ ำหรับใชแ้ ก้ปญั หาการออกแบบบรรจภุ ัณฑ์ แต่ละด้านให้เกิดผลลพั ธ์การออกแบบบรรจุภณั ฑ์ทีม่ ีประสิทธภิ าพ ในการบรรลุวัตถุประสงค์หลักของบรรจภุ ัณฑส์ อง ข้อคอื การออกแบบโครงสรา้ งบรรจุภณั ฑ์ และการออกแบบกราฟกิ บรรจุภัณฑ์ ท่ลี ว้ นมรี ายละเอียดท่ตี อ้ งคำนงึ ทฤษฎี และหลักการทเี่ ก่ียวขอ้ ง ข้อกำหนดในการออกแบบโครงการบรรจภุ ัณฑ์ · ชนิดของวัสดมุ ีความเหมาะสม ปอ้ งกันสนิ ค้าได้ตลอดอายกุ ารวางขาย · รูปแบบกลมกลืนสอดคลอ้ งกับสนิ ค้า

21 · ขนาดพอดีและสามารถรับน้ำหนกั สินคา้ ได้ · การข้ึนรปู การบรรจุ เปิด-ปดิ สะดวก ไม่ยงุ่ ยาก การออกแบบกราฟฟคิ บนบรรจภุ ณั ฑ์ การออกแบบและการจัดวางรูปประกอบตัวอักษร ลวดลาย ถ้อยคำ เคร่ืองหมายหรือตราสัญลักษณ์ทาง การค้า โดยใช้หลักวิชาการทางศิลปะ การจัดภาพองค์ประกอบศิลป์เพื่อให้ผลงานมีความประสานกลมกลืนกันอย่าง สวยงามและสามารถบรรลวุ ัตถปุ ระสงคท์ วี่ างไว้ ข้อมลู ประกอบการออกแบบบรรจภุ ัณฑ์ - ข้อมูลดา้ นการตลาด ไดแ้ ก่ สถานทจี่ ัดจำหนา่ ย ฤดูกาล - รูปแบบการกระจายสนิ คา้ (ปลกี /สง่ ) พฤติกรรมผูบ้ ริโภค - ปรมิ าณและมูลค่าของสนิ คา้ ในตลาด (ส่วนแบง่ ทางการตลาด ) - ข้อมลู เกี่ยวกบั ผลติ ภณั ฑ์ ไดแ้ ก่ ประวัติความเปน็ มา - คำอธิบาย จดุ เด่น ประโยชน์ ขนาดปรมิ าณบรรจุ ความถ่/ี ปริมาณการใช้ท่ีใช้ตอ่ ครง้ั ราคาและต้นทุน ขอ้ ควรระวัง ขน้ั ตอนการออกแบบบรรจภุ ณั ฑ์ 1. กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ถือเป็นเรื่องสำคัญของการออกแบบบรรจุภัณฑ์เพราะกลุ่มเป้าหมายสามารถ ส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์ได้โดยตรง ผู้ประกอบการจะต้องศึกษาและเรียนรู้ความต้องการของตลาดและความ ต้องการของผู้บริโภค โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน เพ่ือที่จะได้สามารถออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ตรงต่อความ ต้องการของกลมุ่ เป้าหมายให้มากทีส่ ุด ตวั อยา่ ง กลุ่มเป้าหมาย เช่น วัยรุน่ วัยทำงาน แม่บ้าน เด็ก ฯลฯ เป็นตน้ กลุ่มเป้าหมายทไ่ี ด้ยกตัวอย่างนี้ นอกจากจะมีความสนใจและความต้องการที่แตกต่างกันแล้วกลุ่มเป้าหมาย เดียวกันแต่ช่วงอายุตา่ งกันและมสี ถานะทางสังคมที่แตกต่างกัน ก็ย่อมมีความต้องการแตกต่างกันด้วยเช่นกัน ซ่ึงทำ ให้ลักษณะของบรรจุภัณฑ์ก็ต้องมีความแตกต่างกันไปตามกลมุ่ เป้าหมายน้ันๆ หรือบางครั้งผลิตภัณฑ์บางอย่างผลิต ข้ึนมาเพื่อผู้บริโภคกลุ่มหน่ึง แต่ผู้บริโภคอีกกลุ่มหนึ่งกลับเป็นผู้เลือกและตัดสินใจซื้อ เช่น อาหารเสริมสำหรับเด็ก

22 หรือ นมผงสำหรับทารก จะเห็นได้ว่าผลิตภัณฑ์เหล่าน้ี ทารกและเด็กมิได้เป็น ผู้เลือกซื้อ แต่ผู้เลือกและตัดสินใจซ้ือ กลบั เปน็ ผู้ปกครอง ซ่ึงเป็นส่ิงที่แสดงให้เห็นว่าก่อนการออกแบบบรรจุภัณฑ์ผู้ประกอบการจำเป็นต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมาย เพื่อทำการศึกษาความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างละเอียดรอบครอบ และค้นหาวิธีว่าจะออกแบบอย่างไรให้ บรรจภุ ณั ฑ์ของทา่ นสามารถดึงดูดความสนใจของผบู้ ริโภคตามกลุม่ เป้าหมายให้ตัดสนิ ใจเลอื กซอ้ื ผลิตภัณฑข์ องท่าน 2. กำหนดช่ือตราสินค้า(Brand) ตราสิน ค้าใช้เป็น ชื่อหรือเคร่ืองหมายสำหรับการเรียกขาน ผลิตภัณฑ์ ผปู้ ระกอบการจะต้องทำการกำหนดช่อื ตราสนิ ค้าใหเ้ รียบรอ้ ยก่อนการออกแบบบรรจุภัณฑ์ โดยกำหนดให้ ชื่อตราสินค้ามีความเป็นเอกลักษณ์ ชัดเจน น่าสนใจ ท่ีสำคัญจะต้องเป็นท่ีจดจำได้ง่ายแก่ผู้บริโภคตราสินค้าท่ีดีนั้น สามารถยกตัวอย่างได้ดังนี้ คอื ตงั้ ตามช่ือเจา้ ของกิจการ ตั้งตามความเช่ืออันเป็นมงคล ตง้ั ตามแหล่งที่มาของผลิตภณั ฑ์ หรือต้ังโดยการผสมคำท่มี คี วามหมายใหเ้ กดิ เปน็ คำใหม่ที่มีเอกลกั ษณ์ ฯลฯ เป็นตน้ ลักษณะทด่ี ขี องตราสนิ ค้าที่ดี · ส้ัน กะทัดรดั จดจำได้งา่ ย ออกเสียงไดง้ า่ ยมคี วามโดดเดน่ เปน็ เอกลกั ษณ์เฉพาะตัว · แปลเป็นภาษาต่างประเทศไดง้ า่ ยมคี วามหมายทเ่ี หมาะสม · สามารถบอกถึงคุณสมบัติทส่ี ำคญั ของผลิตภัณฑ์ · สอดคล้องกับค่านิยมและวัฒนาธรรมของกลุ่มลูกคา้ เป้าหมายสามารถนำไปจดทะเบียนการค้าได้ต้องไม่ซ้ำกับ ของเดมิ ทมี่ ีอยู่ 3. วัสดุที่ใช้ทำบรรจุภัณฑ์ วัสดุมีความจำเป็นอย่างย่ิงต่อการออกแบบบรรจุภัณฑ์ การท่ีผู้ประกอบการ ตดั สินใจวา่ จะใช้วัสดุอะไรมาผลติ เป็นบรรจุภัณฑ์น้ัน ท่านควรคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค ความรับผิดชอบ ต่อสิง่ แวดลอ้ ม และคณุ สมบตั ิของวสั ดแุ ตล่ ะประเภท ที่จะนำมาผลิตบรรจภุ ณั ฑเ์ ป็นสำคัญ เน่ืองวสั ดุแตล่ ะชนดิ แต่ละ

23 ชนิดจะมีคุณสมบตั ิที่เป็นข้อดีและขอ้ เสยี ในการคุ้มครองผลิตภัณฑ์ให้คงคุณภาพ การยืดอายุผลติ ภัณฑ์ และการนำ กลับมาใช้ใหม่(Recycle) ท่ีแตกต่างกันไป หากท่านเลือกใช้วัสดุไม่ถูกต้องนอกจากจะทำให้เกิดผลกระทบต่อตัว ผลิตภัณฑ์ ผูบ้ รโิ ภคและสิ่งแวดลอ้ มแลว้ ยงั เป็นสาเหตุใหเ้ กดิ ตน้ ทนุ ในการผลติ บรรจภุ ณั ฑ์ที่เพ่ิมขน้ึ อีกดว้ ย 4. รูปทรง บรรจุภัณฑ์ ท่ีมีรปู ร่างสวยงาม สามารถสร้างความประทบั ใจให้กับผู้บรโิ ภค ถึงแม้ผู้บริโภคจะยัง มิได้สัมผัสกับตัวผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใน รูปทรงของบรรจุภัณฑ์สามารถสร้างความเป็นเอกลักษณ์ได้ กล่าวคือเม่ือ ผู้บริโภคเห็นรูปทรงสามารถรับรู้ได้ทันทีว่าเป็นผลิตภัณฑ์อะไรและมีชื่อตราสินค้าอะไร หรือจะเป็นผลิตภัณฑ์เดียว แตกตา่ งกนั ที่ชอ่ื ตราสนิ คา้ 5. สีสันและกราฟฟิค สสี ันและกราฟฟิคน้ีคอื การรวมของการใชส้ ัญลักษณ์ ตัวอักษร ภาพประกอบ ลวดลาย และพ้ืนผิว ซ่ึงส่วนประกอบท้ังหมดสามารถบ่งบอกถึงชื่อตราสินค้า ลักษณะผลิตภัณฑ์ ท่ีบรรจุอยู่ภายในได้และ สามารถแสดงถึงแหล่งทีม่ าของผลิตภณั ฑไ์ ด้ด้วย การออกแบบบรรจุภัณฑท์ ีด่ ี การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ให้มีความสวยงามและความแปลกตา เท่านี้คงไม่เพียงพอสำหรับบรรจุภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์อาหารเพราะหัวใจของบรรจุภัณฑ์ คือ การเก็บรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้คงอยู่ยืนยาว ดังน้ัน การ ออกแบบทีด่ ีผปู้ ระกอบการควรคำนงึ ถงึ หนา้ ทขี่ องบรรจภุ ณั ฑ์เป็นสำคัญ ดังน้ี 1. ป้องกันผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมในการบรรจุอาหารจะต้องสามารถป้องกันไม่ให้อาหารสัมผัส กบั บรรยากาศภายนอก ซ่ึงอาจจะเกิดการรวั่ การซึม แสง ความรอ้ นเยน็ 2. เก็บรกั ษาคุณภาพของผลติ ภณั ฑ์ บรรจุภณั ฑ์ที่ต้องสามารถรกั ษาคณุ ภาพของผลิตภัณฑม์ ิใหเ้ ปล่ยี นแปลง ไป ไม่ว่าจะเป็นกล่ินหรอื รสชาติ 3. ยืดอายุผลิตภัณฑ์ จะตอ้ งสามารถนำเทคโนโลยที ี่สลับซับซอ้ นมาช่วยในการออกแบบ เพื่อให้บรรจุภัณฑ์ สามารถยืดอายกุ ารเก็บรกั ษาผลิตภณั ฑใ์ หม้ อี ายุยืนยาว 4. ความสะดวกในการใช้งาน 5. ความประหยดั ในการขนส่ง

24 งานพิมพ์บรรจุภณั ฑ์ ในการพิมพ์ส่งิ พิมพ์ประเภทบรรจุภณั ฑ์ ควรให้ความสำคัญในการเลือกใช้หมึกพิมพ์ท่ีปลอดภัย โดยเฉพาะ อย่างย่ิงถ้าเป็นบรรจุภัณฑ์ประเภทอาหาร ควรเลือกสีชนิดFood grade และควรเป็นสีที่คงทนต่อการใช้งานท่ี ตอ้ งการ พิมพบ์ นวัสดุใชพ้ มิ พ์ท่ตี อ้ งการได้ เชน่ กระดาษแขง็ แผ่นกระดาษลูกฟูก โดยไม่ทำใหว้ สั ดใุ ช้พิมพเ์ สียหาย ในการออกแบบบรรจุภณั ฑ์ควรออกแบบให้ขนาดของช้ินงานกับขนาดกระดาษมาตรฐานที่ขึน้ ขึ้นแท่นพมิ พ์ พอดี ไม่เหลอื เศษขอบกระดาษมาก เพอื่ ความประหยดั ต้นทนุ กลอ่ งเปน็ บรรจุภัณฑเ์ พ่อื การขนส่ง The Box as Transit Container - เป็นบรรจภุ ณั ฑ์พ้นื ฐานท่มี ุ่งเนน้ การใชง้ าน - เนน้ เรอ่ื งราคา ในการตัดสนิ ใจซอื้ กล่องเปน็ เครอื่ งมือทางการตลาด The Box as a Marketing Tool - เปน็ บรรจภุ ัณฑ์ทใี่ ชเ้ ป็นส่อื โฆษณาและประชาสัมพันธน์ อกเหนอื จากการใชง้ าน - การวางแนวคดิ จะสอดคล้องกนั ระหวา่ งสนิ ค้าบรรจุภณั ฑช์ ้นั ใน และบรรจภุ ณั ฑช์ น้ั นอก - ออกแบบสวยงามเนน้ ตราสินคา้ และความเดน่ เม่อื โชวต์ ามรา้ นคา้ หนา้ ทข่ี องบรรจุภณั ฑด์ ้านการตลาด(Marketing Functions) 1. หนา้ ทีส่ ่งเสรมิ การขาย 2. หน้าทีส่ รา้ งมูลคา่ เพิ่ม 3. หนา้ ทใี่ หค้ วามถูกตอ้ ง รวดเร็วในการขาย 4. หน้าทรี่ ักษาสง่ิ แวดล้อม

25 5. หน้าท่ีในการรณรงคเ์ รอ่ื งต่างๆ เชน่ กนิ ของไทยใช้ของไทย ส่งเสรมิ การทอ่ งเทยี่ ว หลัก 5 P ของกลยุทธ์ทางการตลาด P1 = Product (ตัวสินค้า) P2 = Place (สถานท)่ี P3 = Price (ราคา) P4 = Promotion (การประชาสมั พนั ธ)์ P5 = Packaging (บรรจภุ ณั ฑ)์ หลักการออกแบบบรรจบุ รรจภุ ณั ฑ์ ประกอบดว้ ยการออกแบบท่สี ำคญั 2 ส่วนคอื 1. การออกแบบโครงสร้าง – เน้นคณุ สมบตั ขิ องวัสดุใช้ทำบรรจภุ ณั ฑ์และรูปแบบบรรจุภณั ฑ์ 2. การออกแบบกราฟิก – เนน้ การสื่อความหมายด้วยภาพวาดสญั ลักษณ์ตา่ งๆ ทีช่ ว่ ยส่งเสริมการขาย เน้อื หาการนำเสนอกราฟิกบนบรรจุภณั ฑ์ Product & product in use แสดงผลติ ภณั ฑแ์ ละการใช้ Ingredient แสดงเคร่ืองปรงุ และส่วนผสม Dramatize the benefit เนน้ ประโยชน์อยา่ งน่าสนใจ Heritage/ origin แสดงวัฒนธรรมและแหลง่ กำเนดิ Mood/ characteristic แสดงอารมณ์และบุคลิกของสนิ คา้ /ผู้ใช้ Type classification/family range แสดงชนิด/กลมุ่ สินค้า Cumulative effect แสดงผลของการรวมหมู่ Season & occasion แสดงความเป็นเทศกาล โอกาสพิเศษ

26 สบี นบรรจุภณั ฑ์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ สีนับว่าเป็นองค์ประกอบท่ีสำคัญอย่างหน่ึง เพราะสีเป็นสิ่งท่ีมีผลต่อประสาท สัมผัส เปน็ เครอ่ื งดดู ความสนใจทำใหเ้ กิดความรสู้ กึ อยากจบั ต้องอยากสัมผัส โดดเดน่ ความหมายของสี - เมอื่ ต้องการความสงบและการพักผอ่ นจะใชส้ ีฟ้าและสีขาว - เมอ่ื ตอ้ งการความสำคญั จะไดแ้ ก่ สมี ว่ ง แดงองนุ่ และขาว เหลืองทองคำ และดำ - เมื่อต้องการความงดงาม ใชส้ ีซง่ึ เขา้ กันอย่างกลมกลืน และสมดลุ ย์ - เมื่อต้องการความร่ืนรมยใ์ ห้ใช้สฟี า้ อ่อน ฟ้ากับขาว หรอื ขาวกบั แดง - เมื่อแต่ละตลาดมีลักษณะพิเศษของตนข้ึนอยู่กับรสนิยม ชนผิวสีไม่นิยมสีน้ำตาลไหม้ แต่จะชอบสีเหลือง ชาว ตะวนั ออกชอบสีสดใสสวา่ ง สีท่ีจะใช้กับผลิตภัณฑ์อาหารจะเป็นสีส้ม เหลืองอ่อน แดงสด เขียวอ่อน น้ำตาลอ่อน และสีน้ำตาล สำหรับ เครอื่ งด่ืมจะใช้เหลืองปนนำ้ ตาล เหลืองแดง หรือเขยี วปนฟ้า หรือฟ้า สีนำ้ ตาล ให้ความรู้สกึ ขึงขังและมปี ระโยชน์ ใสค่ วามรู้สกึ ของความสมบรู ณข์ องชีวติ และงานประจำ สีสม้ ใหค้ วามร้สู กึ ถึงรัศมี และแสดงออกย่งิ กวา่ สีแดง เป็นสคี วามเคล่ือนไหว ให้ความรู้ สึกอบอุ่นปลอดภยั เชน่ ไฟท่ีกำลังไหม้อย่ใู นเตาผงิ สฟี ้าหรือสีน้ำเงิน เป็นสีสรรท่ีลึกซ้ึงและเป็นผูห้ ญิง ให้ความรู้สึกพักผ่อน รู้สึกเป็นผู้ใหญ่ แต่กย็ ังให้ความทรง จำวัยเด็ก เปน็ สีที่ให้ชีวิตแตไ่ ม่เท่าสีแดง ขณะทีเ่ ป็นสีที่เงียบแต่ไม่เท่าสีเขยี วสอี ่อนจะดงึ ดูดน้อยกว่าสเี ขม้ การมองให้ ความรสู้ กึ สดช่นื สะอาด โดยเฉพาะเมอื่ รวมกบั สีขาว

27 สนี ำ้ ทะเล ให้พลังงานดงั เช่นไฟ แต่เป็นไฟเย็นท่ีมคี วามสดชืน่ ดงั น้ำทะเลในทะเลสาป สีเหลอื ง เป็นสีที่มีรัศมีที่สดุ เป็นสีสวา่ ง และมีเสียงดัง เป็นความอ่อนวัยในทางตรงข้ามกับสีฟ้า สีเหลืองทอง ใหค้ วามร้สู ึกมีชีวิตชีวา ขณะที่สีเหลืองแกมเขียวให้ความรู้สึกของความไม่สบาย เมื่อผสมกบั สีแดงจะทำให้สบายตา ให้ ความอบอนุ่ ความพอใจ ดงั เชน่ สที องของทุ่งนา สีมว่ ง ให้ความมืดและอดึ อัด มักจะเป็นสัญลักษณ์ของความหมดหวังและความตาย มีคณุ ลกั ษณข์ องความส้ิน หวังหมดโอกาส ความเงียบที่ไม่มีอนาคต ให้มีความรู้สึกเป็นกลุ่มก้อนท่ีแข็งแรง ให้ความรู้สึกของความสง่ างาม โดยเฉพาะอย่างย่ิงเมอ่ื มีผิวมัน สีขาว เป็นการแสดงออกถึงความบริสทุ ธิ์ โดยลกั ษณะสีสรรของสีขาวก่อให้เกิดความรูส้ ึกของความอ้างวา้ งไม่ มีจดุ จบ แตก่ ็ให้ความรู้สกึ สดชน่ื และความรู้สึกของความสะอาดเมื่อใชก้ บั สนี ้ำเงิน สีเทา ไม่มีคุณลักษณะเฉพาะตัวเหมือนสีขาว หรือให้ความรู้สึกในทางเข้มแข็งเหมือนสีดำ แต่แสดงออกซ่ึง ความเปน็ กลาง เป็นลกั ษณะของการไมต่ ัดสนิ ใจ ไม่มีพลงั งาน สีเทาออ่ นใหค้ วามรสู้ กึ กลัว สีเขยี ว แสดงถงึ ความมีชีวติ ชวี า มีลักษณะเข้มแข็ง และปราดเปรียว ให้ความรู้สึกสง่างาม และมเี สนห่ ์ สีแดง เป็นสีร้อน สีแดงจะสะดุดตาเมื่อแรกเห็น เราจะต้องมองไมว่ ่าเราจะต้องการมองหรือไม่ แต่ละโทนของ สีแดงยังมีคุณสมบัติเฉพาะตัว เช่น แดง ให้ความรู้สึกม่ังค่ัง มีอำนาจ และสง่างาม สีแดงปานกลางให้ความรู้สึกถึง พลังงาน การเคลอ่ื นไหว และความต้องการ เราสามารถเลือกโทนของสแี ดงมาใชโ้ ดยท่ีใหค้ วามร้สู ึกเบิกบานมีชีวิตชีวา สีชมพู ให้ความรสู้ ึกอ่อนหวาน เอียงอาย โรแมนติก แต่ขาดความมีชีวิตชวี า เป็นลกั ษณะของผู้หญงิ และความ รกั ให้ความรู้สึกของความออ่ นโยนและมเี สน่ห์ ขอ้ ควรคำนึงในการเลอื กใชส้ บี นบรรจุภณั ฑ์ - สีบรรจุภัณฑท์ ี่เลือกใชค้ วรกระตนุ้ ประสาททัง้ 5 เพือ่ ทำใหเ้ กิดความอยากซื้อ - สีท่ีใช้ควรเป็นสีที่จำง่าย สามารถทำให้นึกถึงย่ีห้อหรือผลิตภัณฑ์นั้นๆ ได้ทันที ใช้สีจดจำได้ง่ายดีกว่าใช้สี แปลกๆ ไมค่ ้นุ ตา - ถา้ การขายเป็นลักษณะแบบช่วยตนเอง สีแทเ้ ป็นสีทคี่ วรเลือกใช้ สำหรับการขายแบบตัวต่อตัว ก็ควรเลือกสีท่ี แตกต่างกนั ไป สีสว่างหรือสที คี่ ล้ายๆ กันมกั ใหค้ วามรู้สกึ ทด่ี ี สนี ่มุ ๆ เหมาะกบั สินค้าราคาค่อนขา้ งสูง - สีท่ใี ช้บนบรรจภุ ัณฑ์ควรเปน็ สที ีเ่ หมาะกบั ผู้บริโภคในทุกๆ สถานการณท์ ่ผี ู้บรโิ ภคนำมาใชง้ าน

28 - การเลือกใชส้ คี วรเลอื กตามลักษณะของลูกค้า เพศ สังคม เศรษฐกจิ สภาพภูมิประเทศ ทตี่ ง้ั ลักษณะตลาด - แสงท่ีใช้ในร้านค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ก็ต้องนำมาพิจารณาด้วย เพราะแสงไฟที่แตกต่างกันก็สามารถเปล่ียน ความรสู้ กึ ตอ่ สีได้ - การเลือกใชส้ ปี ระกอบบนบรรจุภณั ฑ์ 2 – 3 สที ่ีเราค้นุ เคย ไดผ้ ลดกี ว่าใชส้ ีแปลก - สที ี่เลือกใช้บนบรรจภุ ณั ฑค์ วรใช้สีเพอื่ ทำการเนน้ ส่วนทีต่ ้องการจะเนน้ ให้เดน่ ชดั นอกจากนน้ั ใชส้ ที ีส่ ามารถดึงดูดได้รองๆ ลงมาตามลำดับความสำคญั - สที เ่ี ลอื กควรเข้ากันไดก้ ับวัสดุที่เลือกใช้ดว้ ย - สีของผลิตภัณฑ์และสีของบรรจุภัณฑ์ควรเข้ากันได้ดี มิฉะนั้นจะเกิดความขัดแย้งเกิดข้ึน เม่ือเปิดสินค้าออก จากบรรจภุ ัณฑ์ - สีทีเ่ ลือกใชจ้ ะต้องดดู ีเมอ่ื พมิ พ์ขาว – ดำ หรือออกทีวีขาว- ดำ หรือลงนิตยสารอ่ืนๆดว้ ย - ข้อจำกดั ด้านราคามผี ลในการกำหนดขอบเขตของสดี ว้ ย - การใชส้ ที ่ีไม่ถูกตอ้ งทำใหด้ นู า่ เบ่ือและกลายเป็นส่งิ ส่งเสริมคู่แข่งได้ ประโยชน์ของสบี รรจุภัณฑ์ - เรียกรอ้ งความสนใจเมือ่ พบเห็น - จำได้เมือ่ เหน็ อีกคร้ัง (มองหาไดง้ ่าย) - จดจำได้งา่ ย - ข้อความชัดเจนอยา่ งงา่ ย - ใหผ้ ลทางด้านการมองเห็น - บ่งบอกถงึ สง่ิ ทบ่ี รรจุ - กระต้นุ ให้เกิดความร้สู กึ ทางบวกต่อสนิ คา้ - สนองความรสู้ กึ ในการบริโภคสินคา้

29 - ชว่ ยใหเ้ กดิ การยอมรับและความพอใจ - ชว่ ยแยกความแตกตา่ งในผลติ ภัณฑ์ท่ีเป็นชุด - โน้มนา้ วและให้ความมนั่ ใจแก่ผู้ซื้อ บทบาทของสบี นบรรจภุ ณั ฑ์ทม่ี ีต่อการขาย สีของบรรจุภณั ฑจ์ ะมคี วามสำคญั มากต่อการตดั สนิ ใจซือ้ ในกรณีท่ี - ความภกั ดขี องลกู คา้ ต่อสินค้าเสอ่ื มลง - ราคาและคุณภาพของสินค้าไม่ตา่ งกนั มาก - ยอดการจำหน่ายไม่แน่นอน เนื่องจากเหตุผลทั้งสองข้อแรก ทำให้ลูกค้าอาจซ้ือสินค้าทดแทนกันได้ ยอด จำหน่ายจงึ ไมแ่ น่นอน การใชส้ บี นบรรจุภณั ฑ์ ผลิตภณั ฑส์ ำหรับเดก็ มักเปน็ สีทแ่ี สดงความรู้สกึ อ่อนโยน ไมแ่ ข็งมาก เช่น สีขาว ชมพู ฟ้า เขียวอ่อน เหลืองอ่อน ฯลฯ เป็นส่วนท่ีพ้นื ท่ใี หญ่ๆ และอาจมีสีสดใสบางจุดบนบรรจุภณั ฑ์ เช่น ตัวหนงั สือกราฟิก ตา่ งๆ ให้ดนู ่าสนใจมากยง่ิ ข้นึ สที ่ีสามารถบง่ บอกถึงสถานะผ้บู รโิ ภคให้เป็นกลมุ่ ตามความเขา้ ใจท่วั ไปแบ่งได้ดังน้ี - สฟี า้ หรอื สนี ำ้ เงนิ แสดงถงึ ผลติ ภัณฑ์ของเด็กผูช้ าย - สชี มพหู รอื แดง แสดงถึง ผลิตภัณฑข์ องเด็กผู้หญิง แตบ่ างกรณีการใชส้ ีกอ็ าจจะไม่เปน็ ไปตามนี้กไ็ ด้ ในกรณที ่ีเปน็ สนิ ค้าท่ไี ม่มกี ารแบ่งเพศเชน่ บรรจุภัณฑ์สีชมพู หมายถึง ผลติ ภณั ฑ์ธรรมดา แต่บรรจุภณั ฑส์ ขี าว หมายถึง ผลติ ภณั ฑช์ นิดพิเศษ สำหรับสีที่เป็นท่นี ยิ มในการใช้เป็นสีบนบรรจภุ ัณฑ์มากที่สุดคือ สีขาว เนื่องจากใหค้ วามรสู้ ึกสะอาด ปลอดภยั บริสุทธ์ิ เหมาะสมสำหรับเด็ก การเลือกใช้สีบนบรรจุภัณฑ์ จึงมีความสำคัญต่อการเลือกซื้อของผู้บริโภคไม่น้อยไปกว่า องคป์ ระกอบอนื่ ๆ ดังทีก่ ล่าวมา

30 การพัฒนา ท่ีส่งผลตอ่ การออกแบบบรรจุภณั ฑ์ วถิ กี ารดำเนนิ ชวี ติ ผบู้ ริโภคสมัยใหม่ ท่สี ่งผลตอ่ การออกแบบบรรจภุ ณั ฑ์ · ประชากรผูบ้ รโิ ภคทมี่ อี ายสุ งู เพิ่มข้นึ · การแตง่ งานช้าลง ขนาดของครอบครวั เลก็ ลง · การอพยพเขา้ มาอยู่อาศัยและทำงานในเขตเมืองมากขน้ึ · เวลาในการปรุงอาหารเองจำกดั · คำนงึ ถึงเรือ่ งสุขภาพมากข้ึน อุปสรรคทางการคา้ ระหว่างประเทศ · ผลของความตกลงพหุภาคีขององค์กรการค้าโลก ทำให้เกิดมาตรการบังคับใช้ท่ีเก่ียวข้องกับข้อกำหนด กฎระเบียบ ในการนำเข้าและส่งออกสินคา้ อาหาร · EU framework Directive 89/109/EEC Article 2 วัสดุที่ใช้สัมผัสอาหารโดยตรงต้องผลิตจากหลักเกณฑ์ การผลิตทีด่ ี ( GMF ) · วสั ดุดงั กลา่ วตอ้ งไม่แพรอ่ งค์ประกอบในตวั วัตถุไปยังอาหารในประมาณทอี่ าจเกดิ อนั ตรายตอ่ สขุ ภาพ · EU Framework Directive 89/109/EEC Article 3 รายช่ือของวัสดุท่ียอมให้ใช้สัมผัสกับอาหาร ( positive list ) กฎหมาย ระเบียบ และขอ้ กำหนดอน่ื ๆ · การปดิ ฉลากและขอ้ ความท่ีต้องแสดงบนฉลาก · การให้ความคุ้มครองสทิ ธิบตั ร และสิทธติ า่ ง ๆ ของผูท้ ีเ่ กี่ยวข้อง · การจดั การปัญหาสิ่งแวดลอ้ ม ขยะชมุ ชน · ขอ้ กำหนดวสั ดุบรรจุภัณฑ์ เช่น Monomer Directive 89/109/EEC รายชอ่ื โมโนเบอรท์ ี่ยอมให้ใชผ้ ลติ เปน็ พลาสตกิ ทใ่ี ช้สัมผัสกับอาหารได้

31 ฉลากโภชนาการ คือ ฉลากอาหารท่ีมีการแสดงข้อมูล,โภชนาการ ของอาหารน้ันไว้บนฉลากโดยแสดงเป็น กรอบขอ้ มูลโภชนาการ BAR CODE หรือรหสั แท่ง · คือ สญั ลกั ษณ์ (Symbol)ท่อี ยใู่ นรูปแท่งบาร์ สามารถอา่ นไดด้ ว้ ยเครอื่ ง Scanner · บาร์เหล่าน้ีเป็นตัวแทนของตัวเลขและตัวอักษร · รหสั แทง่ ประกอบดว้ ย บารท์ ่มี ีสเี ขม้ และชอ่ งว่างสีออ่ น · สีแท่งบารค์ วรเป็นสีเข้ม เชน่ ดำ,นำ้ เงิน, มว่ ง และเขยี ว ฯลฯเลีย่ งการใชก้ ้ำกึ่งเช่นสเี ทา · แตท่ ดี่ ที ่ีสุดคอื แท่งบารส์ ดี ำรองพ้นื สขี าว เครื่องหมายฮาลาล (Halal) บรรจภุ ณั ฑส์ ินคา้ OTOP นยิ าม ผลิตภณั ฑ์ OTOP - ผลติ ภัณฑ์ท่ีผลติ โดยกลุ่มชมุ ชนท่ี สะท้อนใหเ้ หน็ ภมู ิปัญญาทอ้ งถ่นิ - ใช้วัตถุดิบในพื้นท่ีของแหล่งผลิต หรือพน้ื ที่ใกลเ้ คียง - กระบ วน ก ารผลิตไม่ทำลาย สภาพแวดลอ้ มและทรัพยากรท้องถิ่น - เปน็ ผลิตภณั ฑท์ ี่ชมุ ชนชว่ ยกันทำ ร่วมแรงทำเป็นกลมุ่ ชนิดผลติ ภณั ฑ์ OTOP 6 กลุ่ม คือ - อาหารและผลิตภณั ฑอ์ าหารแปรรปู - เครอ่ื งดม่ื ที่มีแอลกอฮอลแ์ ละไม่มแี อลกอฮอล์

32 - ผา้ และเครือ่ งแต่งกาย ทงั้ จากเสน้ ใยธรรมชาตแิ ละเสน้ ใยผสม - ของใช้และของประดับตกแต่ง เครือ่ งเรือน เคร่ืองใชส้ อยตกแต่ง รวมทั้งผลิตภัณฑใ์ นกลุ่มจักสาน - ศลิ ปะประดิษฐแ์ ละของท่รี ะลกึ ส่งิ ประดษิ ฐท์ ่ีสะทอ้ นวิถชี วี ิตและภูมปิ ัญญาท้องถิน่ - สมุนไพรทไ่ี ม่ใช่อาหาร เคร่อื งสำอางสมุนไพร น้ำมนั หอมระเหย เป็นตน้ หน่วยงานสนับสนุนเครือข่ายพัฒนาผลิตภณั ฑ์ OTOP - กรมการพัฒนาชุมชน - กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม - กรมสง่ เสริมสหกรณย์ อ่ ม - กรมส่งเสริมการส่งออก - กรมประชาสมั พนั ธ์ - การท่องเทยี่ วแหง่ ประเทศไทย - กรมทรพั ยส์ ินทางปัญญา - สถาบนั อาหาร - สถาบันรหสั สากล - สำนักงานส่งเสรมิ วิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาด - สถาบนั อดุ มศกึ ษา - กรมวิทยาศาสตรบ์ รกิ าร - สถาบนั วิจัยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งประเทศไทย

33 ปัญหาในการดำเนนิ งาน การผลติ การจดั จำหนา่ ยสนิ ค้า OTOP · สขุ ลักษณะของแหล่งผลิตโดยเฉพาะสนิ ค้า อาหาร เครื่องดมื่ สมนุ ไพร · ความเข้าใจในกฎระเบยี บและมาตรฐานทเี่ กย่ี วขอ้ ง เช่น อย. มผช. มกอช. · กระบวนการผลติ ยงั ไมเ่ หมาะสม ไมม่ ีมาตรฐาน · คณุ ภาพและความสมำ่ เสมอของสนิ ค้า เช่นอาหารมีอายุการเก็บส้ัน · การเลอื กชนิดของวสั ดุที่ใชท้ ำบรรจุภณั ฑ์ · การออกแบบทั้งตัวผลติ ภัณฑแ์ ละโครงสรา้ งรูปแบบบรรจุภัณฑ์ · การตลาด ช่องทางการจดั จำหน่าย · เงนิ ทนุ กรบริหารและการจัดการภายในกลุ่ม มาตรฐานท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั สนิ ค้า OTOP · มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช). – ข้อกำหนดคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยชุมชน(สมอ.รับผิดชอบ จัดทำขอ้ กำหนดและให้การรับรอง ขอการรับรองได้ที่อุตสาหกรรมจงั หวัดทกุ แห่งทัว่ ประเทศ) · มาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร (มกอช.) –สัญลักษณ์ตัว Q ให้การรับรองแหล่งผลิต ส่วนประกอบ วิธีการ ผลติ คุณภาพของสินค้าและความปลอดภยั · มาตรฐานที่ประกาศโดยกระทรวงสาธารณสขุ (มาตรฐาน อย.) เป็นมาตรฐานที่เก่ียวกบั สถานท่ีผลิต ผลิตภัณฑ์ การแสดงฉลากและการโฆษณา ปญั หาทพี่ บในการพัฒนาบรรจภุ ัณฑ์สินค้า OTOP · ปรมิ าณการผลิตสนิ ค้าของชมุ ชนแต่ละแหง่ มีนอ้ ย ทำใหต้ ้นทนุ การสั่งผลติ บรรจุภณั ฑ์ต่อหนว่ ยมรี าคาสูง · คณุ ภาพของสินค้าไม่สม่ำเสมอ เช่น ขนาดของผลิตภณั ฑ์ · สินค้าที่ผลิตส่วนหนึ่งมีมูลค่าน้อย ทำให้การเลือกชนิดของวัสดุบรรจุภัณฑ์สามารถทำได้จำกัด เช่น การใช้ ถงุ พลาสตกิ การใชข้ วดแกว้ มรี ปู แบบจำกัด · ผผู้ ลิตชุมชนขาดขอ้ มูลในการออกแบบบรรจภุ ณั ฑ์

34 แนวโน้มบรรจุภัณฑ์ OTOP · ผู้ผลิตชุมชนต้องรู้จักบทบาทและหน้าท่ีของบรรจุภัณฑ์ เพื่อสามารถเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ท่ีเหมาะสมกับสินค้า ของตน · การต่ืนตวั ของผู้ประกอบการ การสนับสนุนจากภาครฐั และความต้องการของผู้บริโภคจะเป็นแรงผลักดันการ พฒั นาและการใช้ บรรจภุ ณั ฑใ์ หม่ ๆ ท่ีมคี ุณภาพและได้มาตรฐานมากขึน้ · แรงกดดนั จากคู่คา้ ในต่างประเทศให้ปฏบิ ัติตามกฎระเบียบสากลทำให้สนิ คา้ ทม่ี ีศกั ยภาพและเป็นทต่ี ้องการของ ชาวต่างชาติต้องพัฒนาบรรจภุ ณั ฑ์ สรปุ ดงั นน้ั จึงเห็นได้ว่าในขั้นตอนของการออกแบบบรรจุภัณฑ์นั้น นกั ออกแบบต้อง ใช้ความรู้และข้อมูลจาก หลาย ๆ ด้านมาประกอบกัน จึงจะทำให้ผลงานออกแบบโครงสร้างน้ีผู้ออกแบบ จึงต้องเริม่ ต้ังแต่การสร้างแบบ ด้วย ใช้การร่างแบบตามแนวความคิดของรปู ร่างบรรจุภณั ฑ์และสร้างภาพประกอบรายละเอียดด้วยการเขียนแบบ แสดง รายละเอียดมาตราส่วนท่ีแน่นอนเพื่อแสดงให้ผู้ผลิตผู้เก่ียวข้องเข้าใจอ่านแบบได้ การใช้ทักษะทางศิลปะในการ ออกแบบคือเคร่ืองมือท่ีผู้ออกแบบ จะต้องกระทำขึ้นมาเพื่อเป็นการนำเสนอต่อเจ้าของงานหรือผู้ว่าจ้าง หรือ ผู้เก่ียวขอ้ งให้ช่วย พจิ ารณาปรบั ปรงุ เพ่ือให้ได้ผลงานทีส่ ำเรจ็ ออกมามปี ระสิทธิภาพในการใชง้ านจริง การตรวจสอบบรรจภุ ณั ฑ์ ทมี่ า:หนงั สอื บรรจภุ ณั ฑ์อาหาร โดย อาจารย์ ป่นุ -สมพร คงเจรญิ เกียรติ บทคัดย่อ สำหรับการทดสอบบรรจุภัณฑ์มีข้ันตอนและหลักการค่อนข้างละเอีด ดังน้ันการเริ่มต้นทดสอบควรมีการ กำหนดจดุ มุ่งหมาย วธิ ีการทดสอบ และบันทึกผล ท่ีชดั เจนเพ่ือให้สามารถวิเคราะห์ผลการทดสอบท่ีไดม้ ีความถูกตอ้ ง และแม่นยำ โดยต้องสัมพันธก์ ับมาตรฐานขององคก์ รณต์ ่างๆ ทีผ่ ู้ทำการทดสอบอา้ งถึงด้วย ซึ่งการทดสอบบรรจภุ ัณฑ์ สำหรบั วัสดุแต่ละประเภทจะมีวธิ ีการที่แตกต่างกัน รวมไปถึงการทดสอบเพ่ือการประเมินการใช้งานของบรรจุภณั ฑ์

35 ในสภาวะตา่ งๆ เช่นการขนส่ง การวางเรยี งในความสูงตา่ งๆ ซึง่ หากทางผู้ทดสอบ สามารถเข้าใจและมองเห็นอนั ตราย ท่ีอาจเกิดกับสินค้า จะทำให้การทดสอบตรงตามวัตถุประสงค์ และช่วยลดต้นทุนในการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ ได้อย่าง เหมาะสมอกี ดว้ ย การทดสอบวสั ดแุ ละบรรจภุ ณั ฑ์ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่ีเก่ียวข้องกับการใช้บรรจุภัณฑ์ต่างมีความ ต้องการใช้งานบรรจุภัณฑ์ให้มี ประสิทธิภาพสูงสุด คำถามคือ จะมีวิธีใดเพื่อให้ทราบได้ว่าบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ไม่ดีจนเกินไปทำให้เกิดต้นทุน ที่สูงเกิน ความจำเป็นหรือในทางกลบั กนั ไม่แย่จนเกินไป ทำใหส้ ินค้าท่ีตอ้ งการปอ้ งได้รบั ความเสียหายได้โดยงา่ ย ซ่ึงโดยปรกติ จะพบว่าหากบรรจุภัณฑ์ท่ีมีคุณภาพดีมักจะมีค่าใช้จ่ายในการควบคุมท่ีสูงข้ึน ดังแสดงในกราฟด้านล่าง ดังน้ันการ ทดสอบบรรจุภัณ ฑ์ เพ่ือหาความเหมาะสมกับสิน ค้า จึงเป็นส่ิงท่ีผู้ใช้บรรจุภัณ ฑ์ ควรไม่ควรมองข้าม 1. ข้ันตอนการทดสอบ 1.1 จุดมุ่งหมาย ก่อนการทดสอบวัสดุและบรรจุภัณฑ์ใดๆ จะต้องรู้ถึงจุดมุ่งหมายในการทดสอบ การทดสอบอาจมี จดุ มงุ่ หมายดงั ตอ่ ไปน้ี 1. เปรยี บเทยี บวัสดุตา่ งชนิดกนั โดยการทำการทดสอบพร้อมๆ กนั 2. ควบคุมคุณภาพของวัสดุที่ใช้จริงกับวัสดุท่ีเคยผ่านการทดสอบมาแล้วโดยการเปรียบเทียบผลที่เกิดจาก การทดสอบตา่ งชนดิ และตา่ งวาระกนั 3. ศกึ ษาถึงคณุ สมบตั ิการใชง้ านของวัสดุหรือบรรจุภณั ฑ์ เช่น การทดสอบความสามารถทนในการตก เพื่อ จำลองการวางสนิ คา้ ในระดบั ควาสงู ท่ีตา่ งกนั เปน็ ต้น

36 จดุ มงุ่ หมายที่ 3 เป็นการทดสอบที่สำคัญท่ีสุด เน่ืองจากเป็นการทดสอบเพื่อจำลองการใช้งานของวัสดุและ บรรจภุ ณั ฑ์ ส่วนการทดสอบตามจุดมุ่งหมายท่ี 1 และท่ี 2 อาจรวมสรุปได้วา่ เป็นการทดสอบเพอื่ บง่ บอกคุณลักษณะ ของวัสดุ (Identification Test) 1.2 มาตรฐานการทดสอบ จำนวนตวั อย่างท่ีใช้ในการทดสอบและวิธีการทดสอบจะข้ึนอยู่กับมาตรฐานที่ ใช้ในการทดสอบ เช่น มาตรฐานของ สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรมไทย หรือที่เรียกย่อๆ ว่า สมอ. นอกจากมาตรฐานของ สมอ. แล้ว มาตรฐานการ ทดสอบยงั อาจแบ่งได้หลายระดับ ดังต่อไปน้ี 1. มาตรฐานของแต่ละองคก์ ร บริษทั หรือหน่วยงานทมี่ ีการจดั ซอื้ จัดหาวสั ดุบรรจภุ ณั ฑ์ มาตรฐานของแต่ละ องค์กรเหล่านี้จะมีความตอ้ งการหรือรายละเอียดของการทดสอบ เฉพาะเจาะจงมากทีส่ ดุ 2. มาตรฐานของกลุ่มอาชีพเดียวกัน มาตรฐานการทดสอบใหม่ๆ ท่ีเกิดขึ้นมักจะเกิดจากองค์กร เหล่าน้ี เนอื่ งจากมีความพรอ้ มในห้องปฏบิ ัติการและนกั วิจัย กลุ่มอาชีพเหลา่ น้ีจะมกี ารจัดตั้งในแต่ละประเทศและมี การถา่ ยทอดแลกเปลี่ยน ความร้ทู างวชิ าการซง่ึ กันและกนั กลุม่ ท่ีมชี อ่ื เสียง ได้แก่ ● FEFCO, Federation Europeene des Fabricants de Carton Ondule Test Methods. (มาตรฐานทดสอบของสหพันธแ์ ปรรูปกล่องกระดาษลูกฟูกของยโุ รป) ● TAPPI หรอื The Technical Association of Pulp and Paper Industry, Atlanta. ● Uniform Freight Classification Committee, Atlanta. ● The American Society of Mechanical Engineers, New York. ● INCPEN, Industry Council for Packaging in the Environment, London. ● USDA, Forest Products Laboratory, Madison, Wisconsin. ● BPBMA, British Paper of Board Manufacturers Association. องค์การต่างๆ เหล่านี้ส่วนมากจะเป็นองค์กรเอกชนที่ไม่ได้แสวงหากำไร แต่เป็นการเผยแพร่ความรู้ให้กับ กลมุ่ อาชีพเดียวกัน เพ่ือยกระดบั มาตรฐานความรูใ้ นการประกอบวชิ าชีพ

37 3. มาตรฐานขององค์กรระดับประเทศและระหวา่ งประเทศ องค์กร สมอ. ของไทยเป็นองค์กรหนง่ึ ที่จัดอยู่ ในประเภทนี้ ซ่ึงประสานงานโดยตรงกบั ISO หรือ International Standard Organization สำหรับวงการบรรจุ ภัณฑ์มีองค์กรท่ีเรียกว่า ISTA (International Safe Transit Association) โดยเน้นในเรื่องการทดสอบก่อนทำ การขนส่งเพ่ือลดความเสียหายท่ีอาจเกิดขึ้น ในวงการอาหารมาตรฐานระหว่างประเทศท่ีได้รับการอ้างถึงมาก ที่ สุ ด คื อ Codex ซ่ึ ง มี ชื่ อ เต็ ม ว่ า Codex Alimentarius Commission ซ่ึ ง เป็ น อ ง ค์ ก ร ร่ ว ม ระหวา่ ง Food and Agriculture Organization of the United Nations และ World Health Organiz ationสว่ นองค์กรแต่ละประเทศท่มี รี า่ งมาตฐานเกี่ยวกับบรรจุภณั ฑ์ ได้แก่ ● ASTM, American Society for Testing and Materials. ● BS, British Standard. ● JIS, Japan Institute of Standard. ● Normes Francaise (มาตรฐานฝรั่งเศส) ● Deutsche Industrie Normen (มาตรฐานเยอรมันทร่ี ้จู กั ในนาม DIN) การเลือกใชม้ าตรฐานใดเปน็ แนวทางในการทดสอบต้องข้นึ อยู่กบั การใช้งาน ตัวอยา่ งเช่น มกี ารส่งสินค้าไป ประเทศใด ย่อมท่จี ะใช้มาตรฐานการทดสอบของประเทศน้ัน หรืออาจจะใช้มาตรฐานการทดสอบในจุดมุ่งหมาย 2 และ 3 เพ่อื เปน็ แนวทางในการกำหนดมาตรฐานของระดบั 1 1.3 การควบคมุ สภาวะ สง่ิ สำคัญมากอีกอย่างในการทดสอบบรรจภุ ัณฑ์ คือการควบคุมสภาวะก่อนทำการทดสอบและระหวา่ งการ ทดสอบ เพือ่ ให้แน่ใจว่าวัสดุบรรจภุ ณั ฑ์เป็นไปตามสภาวะทก่ี ำหนด การควบคุมสภาวะการทดสอบในแต่ละประเทศอาจจะแตกต่างกัน แล้วแต่สถานที่ต้ังทางภูมิศาสตร์ของ ประเทศน้ัน ตัวอย่างเช่น ประเทศอาร์เจนติน่า ออสเตรเลีย เบลเยี่ยม ฝร่ังเศส เยอรมัน เนเธอร์แลนด์และ อังกฤษ จะใช้สภาวะการทดสอบควบคุมอุณหภูมิ 23 ° C และความชื้นสัมพัทธ์ท่ีร้อยละ 65 ส่วนในประเทศ สหรัฐอเมริกาใช้สภาวะความชื้นสมั พทั ธ์ที่รอ้ ยละ 50 ทอ่ี ุณหภูมิเดียวกนั 23 ° C ในขณะท่ีประเทศไทย ทางสมอ. ได้ กำหนดไว้ท่ีอณุ หภูมิ 27 ° C และความช้นื สัมพัทธท์ ่ีร้อยละ 75 โดยยังต้องคำนึงถึงสภาพความเป็นจรงิ ที่บรรจุภัณฑ์ ต้องประสบ ตวั อย่างเชน่ ถา้ บรรจภุ ณั ฑ์จะส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา กค็ วรใชม้ าตรฐานของสภาวะการทดสอบของ

38 อเมริกาด้วย ห้องที่ใช้ในการทดสอบและเก็บวัสดุบรรจุภัณฑ์จึงต้องควบคุมอุณหภูมิและ ความชื้นด้วยระบบปรับ อากาศตามสภาวะควบคุมมาตรฐานที่ต้องการ เม่อื มีการควบคมุ สภาวะเป็นเวลาอยา่ งน้อย 24 ช่ัวโมงแล้วจึงเร่ิมทำการทดสอบ การทดสอบท่ดี ีต้องมคี วาม แมน่ ยำ (Precise) และไมแ่ ปรปรวนจากการทดสอบแต่ละคร้งั ความแมน่ ยำนมี้ ีความสมั พันธ์กบั ปจั จยั ต่อไปนี้ 1. ความสลบั ซบั ซ้อนของเคร่ืองมือหรืออุปกรณ์ที่ใชใ้ นการทดสอบ รวมท้ังการปรับเคร่อื ง (Calibration) 2. ขีดความสามารถของผูร้ ับผิดชอบในการทดสอบ รวมทงั้ ผบู้ ังคับบญั ชาท่ีทำการตัดสินใจและประเมินการ ทดสอบ 3. จำนวนครั้งในการทดสอบท่ีไม่ทำให้เสียค่าใช้จ่ายมากจนเกินไปและได้ผลที่ใกล้ เคียงความเป็นจริง ซึ่ง อาจจะต้องเปรียบเทียบกับมาตรฐานต่างๆ ท่ีมีอยู่ แล้วเลือกมาตรฐานท่ีเหมาะสมสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายในการ ทดสอบ ข้ันตอนสุดท้ายของการทดสอบ คือ การนำเอาผลจากการทดสอบไปใช้งาน ซ่ึงจะแปรตามประเภทและ จุดมงุ่ หมายของการทดสอบที่ไดต้ ้ังไว้ 2 ประเภทของการทดสอบ 2.1 การทดสอบเพื่อการบ่งบอก เป็นการทดสอบวัสดุท่ีใชผ้ ลติ ตัวบรรจุภัณฑเ์ พือ่ หาคุณลกั ษณะเฉพาะของวัสดนุ ัน้ การทดสอบเพ่ือการบ่งบอกคุณลักษณะของวัสดุบางประเภท ยังสัมพันธ์กับการใช้งานของบรรจุภัณฑ์ เช่น การวดั อตั ราการซึมผา่ นของน้ำและก๊าซ จะมคี วามสัมพันธก์ บั การคาดคะเนอายุของผลิตภัณฑ์อาหาร หรอื การทดสอบ ความแข็งแรงตามขอบของกระดาษลูกฟกู จะสมั พันธก์ ับความสามารถรับ แรงกดในแนวด่งิ ของกลอ่ งลกู ฟูก เปน็ ตน้ 2.2 การทดสอบเพอ่ื ประเมนิ การใชง้ าน บรรจุภัณฑ์ท่ีออกแบบมาใช้งานจะต้องทำหน้าท่ีต่างๆ กัน ตัวอย่างเช่น บรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูกมักจะใช้ใน การปอ้ งกนั อนั ตรายทางกายภาพระหว่างการเก็บ ในคลังสินคา้ หรอื การขนส่ง การทดสอบเพื่อการใช้งานในการเก็บคง คลังจะเป็นการทดสอบความสามารถรับแรงกดใน แนวดง่ิ (Compression Strength) เน่ืองจากในคลังสินค้ากล่องจะ ถูกเรียงซ้อนเป็นชั้นๆ แต่ละชั้นจะกดทับลงมายังกล่องที่อยู่ข้างล่าง ดังนั้นการทดสอบความสามารถรับแรงกดใน แนวดง่ิ จงึ เป็นการจำลอง (Simulation) การกดทับในคลังสนิ ค้าของการเรียงซอ้ นนัน่ เอง

39 นอกจากการแยกประเภทการทดสอบเป็นการบ่งบอกและการประเมินใช้งานแล้วยัง สามารถแยกตามความ คล้ายคลึงของลักษณะทดสอบ จากมาตรฐานขององคก์ รต่างๆ ดังที่กล่าวมาแล้ว โดยจดั แบ่งประเภทของการทดสอบ ที่คลา้ ยๆ กนั เปน็ 3 กลมุ่ ได้ดังน้ี กลมุ่ ท่ี 1 การทดสอบคุณสมบัตบิ รรจุภัณฑ์ด้านการป้องกันรักษาคุณภาพและการบรรจุ เช่น การซึมผ่านของ ไอนำ้ หรือกา๊ ซ และความเข้ากนั ได้ (Compatibility) ของบรรจุภณั ฑ์กับผลิตภัณฑอ์ าหาร กลมุ่ ที่ 2 การทดสอบคณุ สมบัติทางกายภาพของบรรจุภณั ฑ์ ได้แก่ ความหนาที่แปรปรวน ความแข็งแรงของ รอยปิดผนึก และสมั ประสิทธิ์ความเสียดทานซ่ึงมีผลต่อการเดินวัสดุบรรจภุ ณั ฑ์บน เครอื่ งจักร เปน็ ต้น กลุ่มที่ 3 การทดสอบคุณสมบัติทางด้านความสวยงานของบรรจุภัณฑ์สำเร็จรูป เช่น ความแวววาวเป็น ประกาย (Haze and Gloss) ความสามารถต้านทานต่อการเสียดสี และความสามารถในการจับฝุ่นจากอากาศ เป็น ต้น 3 การทดสอบวสั ดุ 3.1 การทดสอบกระดาษ เปลวอะลมู เิ นียม และฟลิ ์ม (1) น้ำหนกั มาตรฐาน ความหนา และความหนาแนน่ วสั ดบุ รรจภุ ณั ฑท์ เ่ี ป็นแผ่นๆ มกั จะซอ้ื ขายกันด้วยนำ้ หนักมาตรฐานหรือ Basis Weight ตัวอยา่ งเชน่ กระดาษ ท่ีเรียกว่า 100 กรัม ความจริงเป็นการเรียกจาก น้ำหนักมาตรฐานเป็นกรัมต่อตารางเมตร แต่เรียกง่ายๆ ว่า กรัม บางคร้ังอาจจะไดย้ ินคำวา่ gsm ซง่ึ ย่อมาจาก “gram per square-meter” หรือกรมั ตอ่ ตารางเมตรนน่ั เอง โดยจำเปน็ ตอ้ งใชเ้ คร่อื งช่ังดจิ ิทอลเขา้ มาเก่ียวขอ้ งเพอ่ื ใหไ้ ดผ้ ลที่ละเอียดชัดเจนยง่ิ ข้ึน สว่ นความหนาน้ันเป็นคุณสมบัติท่ีสองท่ีมักจะกลา่ วถงึ เน่ืองจากความหนามผี ลโดยตรงต่อความเหนียวหรือ ความสามารถในการงอพับของวัสดุ บรรจภุ ัณฑ์ และยังสัมพันธ์กับความสามารถในการซึมผ่านของไอน้ำหรือกา๊ ซของ วัสดบุ รรจุ ภณั ฑน์ ้ันๆ ศัพทค์ ำวา่ ความหนา ในภาษาองั กฤษ นอกจาก Thickness แลว้ บางคร้งั เรียกว่า Caliper สำหรบั กระดาษแขง็ ความหนาแนน่ จะไดจ้ ากการคำนวณของน้ำหนักและความหนา คือ มคี ่าเป็นน้ำหนักต่อ หน่วยปริมาตรเขยี นเปน็ สตู รได้วา่ ความหนาแน่นนี้เป็นคุณลักษณะที่จำเป็นต้องทราบของกระดาษประเภทต่างๆ เน่ืองจากความหนาแน่นที่ แตกตา่ งกันของกระดาษแต่ละชนดิ มผี ลตอ่ คุณสมบัตติ า่ งๆ ของกระดาษโดยตรง

40 (2) ความตา้ นทานตอ่ แรงดึง (Tensile Strength) การทดสอบความต้านทานตอ่ แรงดึงเปน็ การทดสอบศกั ยภาพความทนทานตอ่ แรงดงึ ของ วัสดุ โดยวัสดุบรรจุ ภัณฑ์จะถูกแรงดึงอย่างช้าๆ จนกระท่ังขาดออกจากกัน แล้ววัดคา่ แรงดึงสูงสุดขณะท่ีขาดและยืดตวั ของวสั ดุสุดท้าย ขณะท่ีขาด การทดสอบน้ีนับเป็นการทดสอบคุณสมบัติทางกลอย่างง่ายของวัสดุที่เป็นแผ่นหรือ ฟิล์ม การทดสอบ มกั จะทำใน 2 ทิศทาง คือ ในแนวทิศท่ีวัสดุผลิตจากเคร่ืองจักรแปรรูป เรียกว่า ทิศในแนวของเครอื่ งจักร (Machine Direction หรือ MD) และอีกทิศหนึ่ง คือแนวท่ีต้ังฉากกับ MD (Cross-Machine Direction หรือ CD) ดังแสดงใน ภาพ (3) ความต้านทานตอ่ แรงดันทะลุ (Bursting Strength) การทดสอบแรงดนั ทะลุเป็นการทดสอบขัน้ พน้ื ฐานของอุตสาหกรรมกระดาษ โดยการเพิม่ แรงดนั ต่อกระดาษ ทีถ่ ูกยึดไวใ้ หแ้ น่น เพอื่ ทดสอบวา่ กระดาษจะทนแรงดันไดม้ ากน้อยแค่ไหน การทดสอบนี้เป็นวิธีง่ายๆ ท่ีจะตรวจสอบความแขง็ แรงของวัสดุบรรจุภัณฑ์ซ่ึงใช้มากกับกระดาษลูกฟกู และ อาจ จะใช้กับพลาสตกิ บางประเภททย่ี ืดตัวได้น้อย ส่ิงท่ีควรตระหนักถงึ คือ การทดสอบนี้มิได้มีความสัมพันธ์โดยตรง กับความแขง็ แรงของบรรจภุ ัณฑท์ ่ีนำ วัสดุทีท่ ดสอบนี้ไปขน้ึ รูป แต่เปน็ การศกึ ษาความแข็งแรงขอวัสดุเทา่ นั้น กล่าวคือ กระดาษลูกฟูก โครงสร้าง A ท่ีมีค่า Burst Test สูงกว่าโครงสร้าง B เมื่อขึ้นรูปเป็นกล่อง กล่องที่ทำจากกระดาษ ลูกฟูกโครงสรา้ ง A ไม่จำเป็นเสมอไปว่าจะแขง็ แรงกว่ากล่องท่ที ำจากกระดาษลูกฟูก B ดังแสดงในภาพ อย่างไรกต็ าม การทดสอบน้ียงั นยิ มใช้เนื่องจากทดสอบได้งา่ ยและเร็ว

41 (4) ความตา้ นทานการฉีกขาด (Tear Strength) การทดสอบแบบนี้คลา้ ยคลงึ กับการทดสอบความต้านทานต่อแรงดันทะลุ คือ เป็นการทดสอบข้นั พื้นฐานเพ่ือ ศึกษาความแข็งแรงของวสั ดุ สว่ นมากใช้ทดสอบกบั กระดาษ การทดสอบความต้านทานการฉีกขาดมีอยู่หลายวิธี วิธีที่มีการใช้กันมาก คือ การใช้เคร่ืองมือที่มีชื่อว่า Elmendorf ดังแสงในภาพเป็นการวัดพลังงานท่ีใช้ในการฉีกกระดาษออกจากกัน ค่าพลังงานที่วัดได้จากสเกลบน เครื่องจะแปลงมาเปน็ แรงทใ่ี ช้ในการฉกี กระดาษ (5) อัตราการซึมผ่านของกา๊ ซ (Gas Transmission Rate – GTR) อัตราการซึมผ่านของวัสดุบรรจุภัณฑ์ประเภทแผ่นและฟิล์ม โดยนำกระดาษมาปิดท่ีปากแล้วเป่าลมผ่าน กระดาษไปยังมืออีกข้างท่ีปิดไว้อีก ด้านหนึ่งของกระดาษที่มือจะสามารถรับความรู้สึกของลมร้อนที่ผ่านออกจาก

42 กระดาษมาได้ ซงึ่ แสดงว่ากระดาษมีความต้านทานความสามารถหรือปลอ่ ยให้อากาศซึมผา่ นได้ คณุ สมบัตเิ ช่นนี้ก็มีใน ฟลิ ม์ พลาสติก เพยี งแต่วา่ การซึมผ่านของฟิลม์ พลาสตกิ นน้ั เกดิ ข้นึ ช้ากวา่ การทดสอบอัตราการซึมผ่านของก๊าซเป็นการวัดปริมาตรของก๊าซชนิดต่างๆ ที่สามารถซึมผ่านวัสดุบรรจุ ภัณฑ์ประเภทใดประเภทหน่ึง วิธีการทดสอบทำโดยการตัดวัสดุบรรจุภัณฑ์มาประกบตรงกลางระหว่างเซลล์ 2 ข้าง เซลล์แต่ละข้างจะมคี วามดันของก๊าซแตกต่างกัน กา๊ ซของด้านทม่ี ีความดันสูงจะสามารถดันก๊าซผา่ นฟิล์มไปยังอีกดา้ น หนงึ่ ปริมาตรของก๊าซทวี่ ัดได้จากการซึมผา่ นจะเป็นค่าคงที่ของวสั ดบุ รรจุภัณฑ์ ณ อณุ หภมู ิหนึ่งและพ้ืนที่ผวิ ที่กำหนด ไวม้ ีหน่วยเปน็ ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร หรือ ซซี /ี ตารางเมตร/วัน (6) อัตราการซึมผา่ นของไอนำ้ (Water Vapor Transmission Rate – WVTR) การทดสอบอัตราการซึมผ่านของไอน้ำเป็นการทดสอบท่ีมีหลักการคล้ายคลึงกับ การซึมผ่านของก๊าซแต่ แตกต่างกัน คือ แทนที่จะวัดเป็นปริมาตรจะวัดเป็นน้ำหนักแทน นอกจากนี้การวัดการซึมผ่านของไอน้ำจะวัดใน สถานะท่สี มดุลทีอ่ ณุ หภมู ิ 38°c ความชื้นสัมพทั ธท์ ่ี 90% โดยมีหน่วยเปน็ กรัม/ตารางเมตร/วนั ดงั แสดงในภาพ 3.2 การทดสอบกระดาษแขง็ และกระดาษลกู ฟูก การทดสอบอันดับแรกของบรรจุภัณฑ์กระดาษ คือ การทดสอบหาความช้ืนของกระดาษตามด้วยการหา น้ำหนักมาตรฐานและความหนาของกระดาษ อันดับต่อไปคือ การหาเกรนหรือแนวเยื่อเส้นใยของกระดาษว่าอยู่ใน แนวที่ต้องการหรือไม่เมื่อ ขึ้นรูปเป็นกล่อง แล้วจึงค่อยวัดขนาดมิติของกล่อง ซ่ึงอาจวัดมิติเม่ือขึ้นรูปเสร็จหรือมีการ แกะกล่องออกและแผ่เป็นแผ่นแนวราบ ในแง่ของการผลิตตัวกล่องกระดาษแข็งจะต้องถูกตรวจสอบความลึกและ ความกวา้ งของ การทบั เส้นเพื่อการขึ้นรปู กล่องไดง้ ่ายหรอื ยาก

43 สำหรับกล่องกระดาษลูกฟูก นอกเหนือจากน้ำหนักมาตรฐานและความหนาของกระดาษท่ีใช้ผลิต แผ่นกระดาษลูกฟูก การทดสอบที่นิยมมากคือ การทดสอบแรงดันทะลุซง่ึ เป็นการทดสอบความแข็งแรงแบบพ้ืนฐาน การทดสอบที่ให้ผลแนน่ อนกว่า คือ การทดสอบความแข็งแรงตามขอบของกระดาษลูกฟูก สำหรับการทดสอบความ แข็งแรงตามขอบนี้สามารถใช้ในการประเมินความแข็งแรงของกล่องลูกฟูก ในแง่ของความสามารถรับแรงกดใน แนวดิง่ (Compression Strength) ดงั แสดงในภาพ การทดสอบความแขง็ แรงตามขอบกระดาษลกู ฟกู การทดสอบการรบั แรงกดในแนวราบของกระดาษลกู ฟูก

44 3.3 การทดสอบประเภทของพลาสติก ข้นั ตอนอันดับแรกในการทดสอบ คอื การเผาหรือลนดว้ ยไฟ แลว้ สังเกตส่งิ ตา่ งๆ ดังน้ี 1. ลกั ษณะการไหมข้ องพลาสติก 2. สงั เกตสขี องเปลวไฟที่ไหม้ ถ้าพลาสตกิ นัน้ จดุ ไฟติด 3. พลาสติกทไ่ี หม้ติดไฟมคี วนั หรอื ไม่ 4. สีของควัน 5. ลกั ษณะการไหม้ของพลาสติกมเี ศษหรอื มีของเหลวหยดหรอื ไม่ 6. เม่ือดับไฟแลว้ การไหมย้ ังเปน็ ไปอย่างตอ่ เนื่องหรอื ไม่ 7. มีกล่ินจากการเผาไหมห้ รอื ไมใ่ นขณะท่ไี หม้นน้ั วิธีการบ่งบอกประเภทของพลาสติกด้วยการเผาน้ีควรจะเริ่มจากการลนไฟพลาสติก ที่รู้จักว่าเป็นอะไรก่อน เพ่อื สังเกตลกั ษณะของการเผาไหม้ และทำความคนุ้ เคยกบั ผลจากการเผาไหม้ของพลาสติกแต่ละประเภท ดังแสดงใน ตาราง ขั้นตอนต่อไปในการทดสอบ คือ การทำให้พลาสติกละลายในสารตัวทำละลาย (Solvents) ซ่ึงสารตัวทำ ละลายส่วนใหญค่ อ่ นขา้ งจะเป็นอันตราย การทดสอบในขนั้ ตอนนจี้ ึงควรระวงั อย่างย่งิ ข้ันตอนสุดท้ายคือ การหาความถ่วงจำเพาะ (Specific Gravity) โดยพลาสติกแต่ละประเภทจะมีความ หนาแนน่ ท่แี ตกตา่ งกัน ดงั แสดงในตาราง สำหรับวิธนี จ้ี ะชว่ ยให้สามารถทราบได้ว่าเปน็ พลาสตกิ ประเภทอะไร

45 4 การทดสอบบรรจุภัณฑ์ การทดสอบบรรจภุ ัณฑ์อาจแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ การทดสอบเพือ่ ควบคุมคณุ ภาพของบรรจุภัณฑ์และการ ทดสอบบรรจุภัณฑ์เพ่อื การขนส่ง การทดสอบทัง้ 2 ประเภทนเี้ ป็นการจำลองการใช้งานจริงของบรรจุภัณฑ์มาทำการ ทดสอบในหอ้ งปฏิบตั ิ การ 4.1 การทดสอบบรรจภุ ณั ฑเ์ พ่อื ควบคุมคุณภาพ (1) การทดสอบกระป๋องโลหะ โดยทั่วไปบรรจุภัณฑ์กระป๋องควรจะถูกบรรจุไม่ต่ำกว่า 90% ของความจุทั้งหมดตามมาตรฐานของ U.S. FDA มาตรฐานน้ี หมายถึงช่องว่างเหนืออาหารสุทธิ (Net Headspace) ของภาชนะไม่ควรมากกว่า 10% ของความ สงู ดา้ นในของกระปอ๋ ง โดยใช้กระปอ๋ งขนาดเบอร์ 2 เป็นเกณฑม์ าตรฐาน จุดมุ่งหมายของการทดสอบกระป๋องโลหะจะเน้นท่ีการหารอยรั่วของกระป๋อง ส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณที่มี รอยต่อของบรรจุภัณฑ์ทุกจุด การทดสอบรอยร่ัวจะกระทำภายใตน้ ้ำโดยกดกระป๋องให้จมน้ำเพ่ือสงั เกตฟองอากาศ ที่ จะออกมาจากบรเิ วณที่มีรอยร่วั โดยทว่ั ไปแลว้ โรงงานผู้ผลติ กระป๋องจะเป็นผู้ท่คี อยชว่ ยเหลือและให้คำ แนะนำเก่ียวกบั การตรวจสอบตะเข็บ ของกระป๋องแก่ลูกค้าของตน อาจจะมีเอกสารพร้อมรูปภาพแสดงวิธีการตรวจสอบ ปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวกับการ ตรวจสอบมีดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ตรวจสอบตะเข็บด้วยตาเปล่า ในระหว่างการดำเนินการปิดผนึกฝากระป๋อง จำเป็นจะต้องคอยตรวจดูเป็นระยะเพื่อตรวจหาตำหนิของ ตะเขบ็ อาทเิ ช่น ตะเข็บตาย (Dead Head) สนั แหลม (Cut Overs) และตำหนิอ่นื ของตะเขบ็ ขอคู่ โดยการสุ่มตวั อยา่ ง จากจุดที่ทำการปิดผนึกฝาและจดบันทกึ ผลการสังเกตผิดปกติ เช่น ทำงานช้าเกินควร เม่ือพบจดุ บกพรอ่ งควรทำการ แก้ไขโดยดว่ น 2. การตรวจสอบตะเข็บโดยการฉีกหรือเลาะตะเขบ็ ควรกระทำทุกๆ ช่วง 4 ช่ัวโมง หลังจากเร่มิ ตน้ การปิดผนึกฝากระป๋อง และเคร่ืองทำงานได้เตม็ ที่แล้ว ผลการ ตรวจสอบควรบนั ทึกไว้เปน็ หลกั ฐานรวมทัง้ การแก้ไข

46 3. การสงั เกตท่วั ไป ปจั จัยทม่ี ีอทิ ธิพลตอ่ คุณภาพของตะเขบ็ คู่ (Double Seam) มีดังนี้ – สภาพของเครือ่ งดื่มปดิ ผนึกไมว่ ่าเป็นเคร่อื งแบบใชม้ ือหรือไม่กต็ าม – วสั ดทุ ี่ทำกระปอ๋ ง เชน่ ความหนาท่ีแตกตา่ งกันของแผน่ ดีบุกทีใ่ ช้ทำกระป๋อง – ขนาดของกระป๋อง 4. การวัดตะเข็บที่จำเป็นและทีเ่ ลอื กใช้ – ระบบการวัดโดยใช้เคร่ืองส่องหรอื ฉายตะเข็บ (Seam Scope or Projector) การวัดท่ีเลือกใช้ คือ ความ กวา้ ง (ความสูง) ของฝา ความลกึ ของฝา และความหนา – ระบบการวัดโดยใชไ้ มโครมิเตอร์ (Micrometer) การวัดที่จำเป็น ไดแ้ ก่ ขอฝา ขอตัว ความหนา (หรือความสูง) ความแนน่ (สงั เกตจากรอยย่น) การวัดที่เลือกได้ ไดแ้ ก่ การเกยกัน (โดยการคำนวณ) ความ ลกึ ของฝา และความหนา ในเวลาที่ทำการผลิตจริง ควรจะมีการสุ่มตัวอย่างทุกๆ ช่วงเวลาหนึ่ง เพ่ือทดสอบหารอยร่ัว ของกระป๋องเหมือนกบั การทดสอบกระปอ๋ งเปลา่ นอกจากนยี้ งั ควรทีจ่ ะเกบ็ อาหารกระป๋องไวอ้ ีกประมาณ 30 วนั เพือ่ ตรวจสอบรอยร่วั อกี ครงั้ หนึง่ มีวิธีการในห้องปฏิบัติการท่ีใช้กันอย่างกว้างขวางในการทดสอบอาหารกระป๋องเพื่อให้ตรงตามมาตรฐาน มี ดังนี้ – สุญญากาศ (Vacuum) วดั สุญญากาศของอาหารกระป๋องด้วยมาตรวัดความดัน (Pressure Gauge) ควร อ่านค่าท่ีอุณหภูมิห้อง เพราะกระป๋องท่ีอุ่นกว่าจะมีสุญญากาศต่ำและกระป๋องท่ีเย็นจะมีช่องว่างเหนืออาหาร (Headspace) วัดระยะจากส่วนบนของตะเข็บขอค่ขู องกระป๋องหรือขอบบนของขวดแก้วถงึ ระดับผิว ของผลิตภัณฑ์ ในภาชนะบรรจุ วัดในแนวดิ่งประมาณตรงกลางกระป๋องจุ่มลงจนถึงผิวของของเหลว แล้วอ่านค่าปกติจะอ่านเป็น 1/32 นว้ิ – ชอ่ งว่างเหนอื อาหารสุทธิของภาชนะบรรจุที่มตี ะเข็บขอคู่ เช่น กระป๋องจะวดั จากระดับของของเหลวถึงฝา ดา้ นใน อาจประเมนิ ไดโ้ ดยหกั ด้วยความสูงเฉล่ียของตะเขบ็ ขอคู่ (ประมาณ 6/32 นว้ิ ) – น้ำหนักเน้ือ (Drained Weight) ของอาหารท่ีบรรจุในกระป๋อง ในห้องปฏิบัติการสามารถหาได้โดยเท อาหารในกระป๋องลงบนตะแกรง ผลิตภัณฑ์อ่ืนๆ ยกเว้นมะเขือเทศจะใช้ตะแกรงขนาด 8 mesh screen (0.097

47 in.sq. opening) และสำหรับมะเขือเทศจะใช้ตะแกรงขนาด 2 mesh (0.446 นิ้ว ใช้ลวดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.054 นว้ิ ) กระปอ๋ งขนาดต่ำกวา่ 48 ออนซใ์ ชต้ ะแกรงท่มี ีเส้นผ่าศูนย์กลาง 12 น้ิว ผลิตภัณฑ์ที่หานำ้ หนักเนื้อจะต้อง ทำให้กระจายได้ท่ัวบนตะแกรง ผลไม้ที่เป็นชิ้นอาจคว่ำบนฝ่ามือเพื่อถ่ายน้ำออกซ่ึงใช้เวลาประมาณ 2 นาทีหลังจาก ผลติ ภัณฑ์ถกู เทบนตะแกรง จากนน้ั จงึ ช่งั ของแขง็ ทเ่ี หลือ (Drain Solid) โดยวธิ ใี ดวธิ ีหนึง่ ดังตอ่ ไปนี้ – อาหารถูกชง่ั พรอ้ มตะแกรง แล้วจึงหักด้วยน้ำหนักตะแกรง บางคร้ังมีของเหลวขังอยู่ในช่องตะแกรงซ่ึงไม่ สามารถลา้ งออก (จึงต้องรวมลงในน้ำหนักตะแกรงปกตหิ นักประมาณ 0.05 – 0.10 ออนซ์) (2) การทดสอบบรรจภุ ัณฑแ์ กว้ ปัญหาส่วนใหญ่ท่ีจะเกิดกับบรรจุภัณฑ์แก้วมักจะอยู่ตรงบริเวณฝาปิด นอกจากน้ันก็จะเป็นการร้าวของบรรจุภัณฑ์ แก้วระหวา่ งการบรรจุ การล้าง และการขนสง่ การตรวจสอบบรรจภุ ัณฑ์แกว้ อนั ดับแรก คอื การวดั มติ ิ โดยเฉพาะอย่างย่งิ บริเวณปากขวดและความสงู ของ ขวดไม่ตอ้ งแปรเปล่ียนมากนัก อนั ดับต่อมา คือ การวัดปริมาตรและน้ำหนักของตัวบรรจุภัณฑ์ อันดับสุดทา้ ยคือ การ ทดสอบความสนิทแน่นของการปิดฝากับตัวบรรจุภัณฑ์แก้ว การวัดความสนิทแน่นจะวัดค่าโมเมนต์ของแรงบิดที่ต้อง ใช้ในการปิดและเปิดขวด การวัดค่าโมเมนต์ในการปิดจะใช้ในการต้ังเครื่องปิดขวดเพ่ือให้แน่นพอท่ี สนิ ค้าไม่ร่ัวออก บรเิ วณฝา แตต่ อ้ งไมแ่ น่นมากจนผู้บรโิ ภคไม่สามารถเปดิ ได้ ดว้ ยเหตนุ ี้จงึ ต้องมกี ารวดั คา่ โมเมนต์ของการเปิดด้วย (3) การเชื่อมด้วยความร้อนของบรเิ วณปดิ ผนกึ ซอง การทดสอบของบริเวณปิดผนกึ ซอง มีองค์ประกอบ 3 อย่างที่สัมพันธ์กันคือ ความดัน, อุณหภมิ และเวลาท่ี ใช้ในการเช่ือมติดความร้อนเพ่ือให้ได้ความแข็งแรงของบริเวณปิด ผนึกตามต้องการ ส่วนการทดสอบหารอยร่ัวของ บริเวณปิดผนึก จะทำการทดสอบภายใต้น้ำเพื่อสังเกตฟองอากาศที่จะออกจากรอยรั่ว คล้ายคลึงกับการทดสอบรอย รว่ั ของกระปอ๋ ง 4.2 การทดสอบบรรจุภัณฑเ์ พ่ือการขนส่ง การทดสอบบรรจุภัณฑ์เพ่ือการขนส่งต้องใช้อุปกรณ์ในการทดสอบท่ีมีราคาสูง กว่าเคร่ืองมือทดสอบต่างๆ ตามที่กล่าวมาแล้ว การทดสอบท่ีมีความสำคัญมากได้แก่ การทดสอบการสั่นกระแทกและความต้านทานแรงกดใน แนวดิ่ง

48 (1) การทดสอบการสัน่ กระแทก การทดสอบจะทำการปล่อยบรรจุภัณฑ์พร้อมสินค้าให้ตกกระแทกลงสู่พ้ืน (Drop Test) โดยครอบคลุม เหตุการณท์ ่ีมีโอกาสเกดิ ขน้ึ ได้ในสภาวะจริง ซึ่งเครอ่ื งมอื ท่ใี ชท้ ดสอบนีต้ ้องสามารถกำหนดตำแหน่การตกของสนิ ค้าได้ อยา่ ง แม่นยำ โดยในขณะที่ปล่อยตกลงมาจะไม่มีการหมุนตัวเพ่ือสามารถควบคุมบริเวณท่ีตก กระแทกได้ โดยจะมี การกำหนด ความสงู คงที่ ,จำนวนครัง้ ทปี่ ล่อยให้ตก ณ ความสูงนั้นๆ หรืออาจจะทดสอบโดยการเพ่ิมความสงู มากข้ึน เร่ือยๆ จนกระท่ังบรรจุภณั ฑ์ไมส่ ามารถปกป้องสินค้าตอ่ ไปได้ วธิ กี ารน้ีเหมาะสำหรบั ใช้ในการเปรียบเทียบบรรจภุ ณั ฑ์ ขนสง่ ตา่ งชนดิ กนั วา่ สามารถปอ้ งกันสนิ ค้าไดด้ กี วา่ กนั มากนอ้ ยแค่ไหน ดังแสดงในภาพ

49 การแสดงทดสอบการตกกระแทก ในห้องปฏิบัตกิ าร การทดสอบประเมินความสามารถของบรรจุภัณฑ์ที่จะป้องกนั ผลิตภณั ฑ์อาหารจากการตก กระแทกใช้เกณฑก์ ารทดสอบดังต่อไปนี้ การส่ันสะเทอื น เร่ิมจากการกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างความถี่และความเรง่ ของการส่นั สะเทอื นที่มโี อกาส เกิดระหวา่ งการขนส่ง นักออกแบบบรรจุภัณฑ์จึงจำต้องเลือกหาค่าความสัมพันธ์ระหว่างความเร่งและ ความถี่ พร้อมท้ังใช้ข้อมูล อ่ืนๆ ประกอบในการออกแบบเช่น ข้อมูลเก่ียวกับสินค้า สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างความเร่งและความถ่ีน้ี องค์ประกอบทจ่ี ะทำให้สินค้าแตกหกั คอื ค่า Amplitude ของความเรง่ ซึ่งสงู พอท่ีจะก่อให้เกดิ อนั ตรายตอ่ ชนิ้ ส่วนของ สินค้า พร้อมทั้งช่วงความถี่ท่ีก่อให้เกิดความเร่งนี้ โดยปกติในความถ่ีน้ีจะพิจารณาเฉพาะช่วง 1-200 Hz ซ่ึงเป็นช่วง ความถใี่ นสภาวะการขนสง่ จรงิ ดงั แสดงในภาพ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook