โลกและการเปลี่ยนแปลง

โลกและ การเปลีย่ นแปลง

โครงสร้างของโลก แบ่งตามองคป์ ระกอบทางเคมี มีองคป์ ระกอบหลักเปน็ สารประกอบ เปลือกโลก ซลิ ิคอน (Si) อะลมู เิ นียม (AI) มอี งค์ประกอบหลกั เปน็ สารประกอบ เน้อื โลก ซิลิคอน (Si) แมกนเี ซียม (Mg) แกน่ โลก เหลก็ (Fe) มีองคป์ ระกอบหลักเปน็ เหล็ก (Fe) นิกเกลิ (Ni)

โครงสรา้ งของโลก แบ่งตามองค์ประกอบทางกายภาพ เมโซเฟยี ร์ แก่นโลกชนั้ ใน ฐานธรณภี าค ธรณภี าค แก่นโลกช้ันนอก ท่ีมาภาพ : https://images.app.goo.gl/LiCfXEcWudxUazMA9

โครงสร้างของโลก ท่มี า : https://www.aksorn.com/interactive3D/RK861

โครงสร้างของโลก อุปกรณ์ในการทา กระดาษสี กรรไกร กาว ตาไก่

โครงสร้างของโลก

โครงสรา้ งของโลก เกดิ จากกระบวนการเปลย่ี นแปลงท่เี กิดขึ้นอยา่ งชา้ ๆ ใช้เวลาหลายพนั ปจี ึงจะเหน็ การเปลยี่ นแปลง เรยี กวา่ ภมู ิลักษณห์ รอื ธรณสี ณั ฐาน แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. การผพุ ังอยู่กับที่ 2. การกร่อน 3. การสะสมตวั ของตะกอน

โครงสร้างของโลก 1 การทห่ี ินเปน็ ส่วนประกอบของโลกผพุ ังทลายลงดว้ ยการกระทาของนา้ ลม ธารนา้ แข็ง แรงโน้มถว่ งของโลก และการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ

โครงสรา้ งของโลก การผพุ ัง การผพุ งั ทางเคมี การผุพงั ทางกายภาพ

โครงสร้างของโลก การผพุ งั ทางกายภาพ เป็นกระบวนการผุพังของหินที่ทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของขนาดและ รปู ร่างภายนอก โดยไมก่ อ่ ใหเ้ กิดการเปล่ยี นแปลงภายในเน้อื หิน ปจั จยั ทีเ่ กดิ ขึน้ การกระทาของน้า ลม พชื มนุษย์และสัตวเ์ ปน็ สาเหตทุ ่ีทาใหเ้ กิดการผุพัง ทางกายภาพ

โครงสร้างของโลก

โครงสร้างของโลก การผุพังทางกายภาพ ในเวลากลางวนั ความรอ้ นจากดวงอาทิตย์จะทาให้ หินเกิดการขยายตัว เมื่อถึงเวลากลางคืน หรือ เมื่อมีฝนตกลงมา ทาให้อุณหภูมิในบรรยากาศลด ตา่ ลง สง่ ผลให้อุณหภูมิภายในหินลดลง ทาให้หิน เกิดการหดตัว ซึ่งการเพิ่มและลดอุณหภูมิของ อากาศสลับกันอย่างรวดเร็วซ้ากันต่อเนื่องเป็น เวลานาน ส่งผลให้หนิ เกิดรอยแตกร้าวและผพุ งั ได้

โครงสร้างของโลก การผุพังทางเคมี เกิดจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายใน โดยอาศัยการทาปฏิกิริยาทาง เคมีระหว่างแร่ธาตภุ ายในหนิ และปัจจยั ต่าง ๆ ในธรรมชาติ ปัจจัยทเี่ กิดข้ึน นา้ ฝน ออกซเิ จนและคาร์บอนไดออกไซด์ซง่ึ สามารถทาใหเ้ กดิ สนิมหรือเกดิ กรดชนดิ ตา่ ง ๆ ทส่ี ามารถกัดกร่อนหินจนเกิดโพรงหรอื ถ้าต่าง ๆ

โครงสร้างของโลก การผุพงั ทางเคมี แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่ลอยปะปนอยู่ใน อากาศจะทาปฏิกิริยากับน้าฝน กลายเป็นกรดคาร์บอนิก (H2CO3) ที่มีสมบัติเป็นกรด สามารถทาปฏิกิริยากับ สารประกอบแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO2) ปฏิกิริยา เคมีที่เกิดขึ้น จะกร่อนหินจนกระทั่งกลายเป็นโพรงหรือ ถ้าใต้ดิน เมื่อพื้นที่ด้านบนของโพรงหรือถ้าใต้ดินยุบตัว และพังทลายลงจะกลายเป็นหลุมยุบ ทาให้เกิดลักษณะ ภูมปิ ระเทศ ที่เรยี กว่า คาสต์ (karst)

การกรอ่ น โครงสร้างของโลก การเกดิ หินงอก หินยอ้ ยภายในถ้า กระบวนการทที่ าใหห้ ินกรอ่ นไปโดยมตี ัวนาพาทาง ธรรมชาติ คือ ลานา้ หรือธารนา้ แขง็ รว่ มกับปจั จัยอ่นื ๆ เมื่อน้าฝนทาปฏิกิริยากับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) กลายเป็น กรดคาร์บอนิก (H2CO3) แล้วไหลซึมไปตามภูเขาหินปูน ซึ่งมี แคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) เป็นองค์ประกอบ กรดคาร์บอนิกจะ เกิดปฏิกิริยาเคมีกับหินปูนได้สารละลายแคลเซียมไฮโดรเจน คาร์บอเนต (Ca(HCO3)2) มีสมบัติละลายน้าได้ เมื่อสารละลาย แคลเซียมไฮโดรเจนคาร์บอเนตไหลซึมลงมาตามเพดานถ้าและหยด ลงสู่พื้นถ้า เมื่อเวลาผ่านไปน้าในสารละลายระเหยไปหมด กลายเป็น หินปูนเกาะอยู่ที่เพดานถ้า เรียกว่า หินย้อย (stalactite) และ หินปูนที่อยู่บนพื้นถ้า เรียกว่า หนิ งอก (stalagmite)

การสะสมตัวของตะกอน โครงสร้างของโลก เสาเฉลยี ง จงั หวัดอบุ ลราชธานี การสะสมตวั ของวัตถุเนื่องจากการนาพาของน้า ลม หรอื ธารน้าแขง็ ในธรรมชาติเมื่อหินซึ่งเป็นส่วนประกอบของเปลือกโลก เกิดการผุพังกลายเป็นตะกอนขนาดเล็กทับถมอยู่ริมฝั่ง ตะกอนจะถูกน้ากัดเซาะและพัดพาไปตามลาน้า โดย ตะกอนที่มีขนาดเล็กจะถูกพัดพาไปได้ไกลกว่าตะกอนที่ มี ขนาดใหญ่ ในระหว่างที่ตะกอนถูกพัดพาไปกับน้า ตะกอนจะเกิดการขัดสีกันเอง ทาให้ตะกอนมีขนาดเล็กลง เรอื่ ย ๆ

โครงสร้างของโลก กระบวนการที่ทาให้หินกรอ่ นไปโดยมีตวั นาพาทางธรรมชาติ คือ ลาน้า ธารน้าแข็ง ร่วมกบั ปัจจัยอื่นๆ ได้แก่ ลมฟ้าอากาศ สารละลาย เช่น การกดั เซาะของน้าทาให้บริเวณริมตลง่ิ มีรอยคดโคง้

โครงสร้างของโลก ทีม่ าภาพ : https://ngthai.com/science/29988/erosion/

โครงสร้างของโลก กระบวนการทท่ี าให้หินกรอ่ นไปโดยมีตวั นาพาทางธรรมชาติ คือ ลาน้า ธารนา้ แข็ง รว่ มกับปจั จยั อน่ื ๆ ไดแ้ ก่ ลมฟ้าอากาศ สารละลาย เชน่ การกดั เซาะของนา้ ทาให้บรเิ วณรมิ ตลิ่งมรี อยคดโคง้

โครงสร้างของโลก กจิ กรรม.......เรามาทดสอบความรู้กนั เถอะ