Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บัตรความรู้ศาสนาและหน้าที่พลเมือง - Copy

บัตรความรู้ศาสนาและหน้าที่พลเมือง - Copy

Published by kaina_jibjib555, 2021-09-08 07:46:52

Description: บัตรความรู้ศาสนาและหน้าที่พลเมือง - Copy

Search

Read the Text Version

บทเรยี นท่ี 1 5 เรือ่ ง ศาสนาตา่ ง ๆ และหลกั ธรรมท่สี ำคัญของศาสนา ช่ือ.....................................................สกลุ ...................................................................... รหัสนักศึกษา.....................................กศน.ตำบล...........................................................

6 คำแนะนำการใชบ้ ทเรียน 1. บทเรียนที่ 1 เรอื่ ง ศาสนาตา่ ง ๆ และหลกั ธรรมท่ีสำคญั ของศาสนา ใช้เวลาไมจ่ ำกัด ผูเ้ รยี นสามารถศึกษาได้ตามอัธยาศยั จนกว่าสามารถเรียนรู้และมีความเข้าใจในเนอื้ หา บทเรียน 2. ใหผ้ ้เู รียนอ่านและศกึ ษาเนื้อหาในบทเรยี นน้ีทลี ะกรอบห้ามข้ามกรอบแล้วทำความ เข้าใจในเน้ือหาในแตล่ ะกรอบโดยเริ่มจากกรอบบทนำ กรอบความรตู้ อ่ จากนนั้ ศึกษา กรอบตวั อย่าง ตามดว้ ยกรอบกจิ กรรม จนครบทกุ กจิ กรรมแลว้ ศึกษากรอบบทสรปุ 3. เมอ่ื ศกึ ษาครบทกุ กรอบแลว้ ให้ผเู้ รียนทำแบบทดสอบท้ายบทเรียนพร้อมศึกษาเฉลย คำตอบ 4. ขณะศึกษาบทเรยี นผู้เรียนต้องมีความซื่อสตั ยต์ อ่ ตนเองโดยไมเ่ ปดิ ดเู ฉลยคำตอบ 5ก.อ่ นเมท่อืจ่ี ผะู้เตรอียบนคตำอถบาคมำใถนาแมตใ่ลนะแกติจล่ กะรกรจิ มกรตรัวมชแลี้ว้วัดใหต้ รวจคำตอบด้วยตนเอง ถา้ ผู้เรยี น ตอบผิดให้ย้อนกลับไปอา่ นเน้ือหาความร้ใู หม่อีกครงั้ แลว้ แก้คำตอบทีผ่ ิดน้ันใหถ้ ูกต้อง 6. เมอ่ื มาพบกลุม่ ใหผ้ เู้ รยี นนำบทเรียนนตีม้ ัวาชแลีว้ กดั เปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนผ้เู รียนและ ครูผ้สู อน เพื่อเพ่ิมเตมิ ความรู้ความเขา้ ใจทม่ี ตี ่อบทเรยี นให้มากย่ิงขนึ้ ตัวช้วี ดั 1. รูแ้ ละเข้าใจในศาสนาต่างๆและหลกั ธรรมท่สี ำคัญของแต่ละศาสนาในโลก จุดประสงค์ 1. บอกความหมายของศาสนา และหลักธรรมที่สำคัญของแตล่ ะศาสนาในโลกได้ ตวั ชว้ี ัด

7 สวัสดคี ่ะนกั ศกึ ษาทน่ี ่ารักของครู ขณะน้เี รากำลังศกึ ษาเรื่อง ศาสนาตา่ งๆและหลักธรรมท่ีสำคญั ของศาสนา ตั้งใจเรียนนะคะ ไปเรยี นกันเลยค่ะบทนำ สวสั ดคี ่ะนกั ศกึ ษาท่ีน่ารกั ของครู ความรู้ กขาณระปนกี้เครราอกงำรละังบศเรอกึ บษอื่ รางะเรชอื่คางธวิปาไตมยหมายของการกครอง และอ่ืนๆ ต้ังใจเรียนนะคะ่ คนดี บทเรียนทค่ี รนู ำมาฝากเปน็ เรอ่ื งใกล้ ตวั สามารถนำมาประยุกต์ใชใ้ น ชีวิตประจำวันได้ ไปเรียนกนั เลยค่ะ

8 ความรู้ เรือ่ ง ศาสนาตา่ งๆและหลกั ธรรม ทส่ี ำคญั ของศาสนา ใบความร้เู ร่ือง ความหมายของการปกครอง ความหมายของศาสนา หมายถึง คำสอนที่ศาสดานำมาเผยแผ่ สง่ั สอน แจกแจง แสดงให้มนุษย์ละเวน้ จาก ความ ชว่ั กระทำแต่ความดี ซ่งึ มนุษย์ยึดถอื ปฏบิ ตั ิตามคำสอนน้นั ด้วยความเคารพเล่ือมใสและศรัทธา คำ สอนดังกลา่ วจะมีลกั ษณะเป็นสัจธรรม ศาสนามีความสำคัญตอ่ บคุ คลและสงั คม ทำให้ มนุษย์ทกุ คน เปน็ คนดแี ละอยู่ร่วมกันอยา่ งสนั ตสิ ขุ ศาสนาในโลกนมี้ ีอย่มู ากมายหลายศาสนาด้วยกัน แต่ วตั ถปุ ระสงค์อนั สำคญั ย่ิงของทกุ ๆศาสนาเปน็ ไปในทางเดยี วกนั กลา่ วคอื จูงใจให้คนละความช่วั ประพฤตคิ วามดีเหมือนกนั หมด หากแต่การปฏิบัติพิธีกรรมย่อมแตกตา่ งกันไปตามความเชื่อของแต่ ละศาสนา ศาสดาของศาสนาพทุ ธ พระพุทธศาสนา เชื่อเร่ืองการเวยี นว่าย ตาย เกดิ ในวัฏสงสาร ถ้าสัตวโ์ ลกยังมกี เิ ลสคือรัก โลภ โกรธหลง จะต้องเกดิ ในไตรภมู ิ คือ 3 โลก ได้แก่ นรกภูมิ โลกมนุษย์ และเทวโลก พระพุทธเจ้าไดบ้ ำเพ็ญบารมมี าทุกภพทกุ ชาติและบำเพ็ญบารมีอยา่ งยิ่งยวดใน 10 พระชาตสิ ดุ ทา้ ย เรยี กว่า ทศชาติ ดงั นี้ นักศึกษาสามารถค้นคว้า เพมิ่ เตมิ ในหนังสือเรยี น สค31002 วิชาศาสนา หนา้ ทีพ่ ลเมืองระดับ ม.ปลาย

9 1. เตมีย์ชาดก (พระเตมียใ์ บ้) เปน็ ชาดกทแ่ี สดงถึงการบำเพญ็ เนกขมั มบารมี คือการออกบวชหรือออกจากกาม 2. มหาชนกชาดก (พระมหาชนก) เป็นชาดกที่แสดงถงึ การบำเพ็ญวิริยบารมี คือ ความเพยี ร 3. สวุ รรณสามชาดก (สุวรรณสาม) เปน็ ชาดกท่ีแสดงถึงการบำเพ็ญเมตตาบารมี คือการแผไ่ มตรจี ิตเพ่ือใหส้ ตั ว์ทง้ั ปวงเป็นสขุ ถว้ นหนา้ 4. เนมิราชชาดก (พระเนมริ าช) เปน็ ชาดกท่ีแสดงถงึ การบำเพ็ญอธษิ ฐานบารมี คือความต้ังใจมนั่ คง 5. มโหสถชาดก (พระมโหสถ) เป็นชาดกแสดงถึงการบำเพญ็ อธิษฐานบารมี คือ ความตั้งใจมน่ั คง 6. ภูรทิ ตั ชาดก (พระภูรทิ ัต) เป็นชาดกท่ีแสดงถึงการบำเพ็ญศลี บารมี คือ การรักษาศลี 7. จนั ทกมุ ารชาดก (พระจันทราช) เปน็ ชาดกที่แสดงถึงการบำเพ็ญขันติบารมี คือ ความอดทน 8. นารทชาดก (พระพรหมนารท) เปน็ ชาดกที่แสดงถงึ การบำเพ็ญอุเบกขาบารมี คือ การวางเฉย 9. วทิ ูรชาดก (พระวิทรู ) เป็นชาดกที่แสดงถึงการบำเพญ็ สจั จบารมี คือ ความซ่ือสตั ย์ 10. เวสสนั ดรชาดก (พระเวสสันดร) เปน็ พระชาตสิ ุดท้ายของพระพทุ ธเจ้าชาติก่อนจงึ จะเกดิ เป็นพระพทุ ธเจ้าใน พระชาติต่อไป เป็นชาดกที่แสดงถงึ การบำเพ็ญทานบารมคี ือ การบริจาคทาน ประวตั พิ ระพุทธเจ้า กกกกกกกพระพุทธเจ้าทรงมีพระนามเดิมว่า “สิทธตั ถะ”ทรงเป็นพระราชโอรสของ“พระเจ้า สุทโธทนะ” กษัตริย์ผู้ ครองกรงุ กบิลพัสด์ุ แควน้ สักกะ และ “พระนางสิริมหามายา”พระราชธิดาของกษัตริย์ราชสกุล โกลิยวงศ์ แห่งกรุง เทวทหะ แคว้นโกลิยะในคืนที่พระพทุ ธเจ้าเสด็จปฏสิ นธใิ นครรภ์พระนางสิริมหามายา พระนางสริ ิมหามายา ทรงพระ สุบินนิมิตว่ามีช้างเผือกมีงาสามคู่ได้เข้ามาสู่พระครรภ์ ณ ท่ีบรรทมก่อนที่พระนางจะมีพระประสูติกาลท่ีใต้ต้นสาละ ณ สวนลุมพินีวัน เมื่อวันศุกร์ข้ึนสิบห้าค่ำเดือนวิสาขะ ปีจอ 80 ปี ก่อนพุทธศักราช (ปัจจุบันสวนลุมพินีวัน อยู่ ใน ประเทศเนปาล)ทันทีที่ประสูติเจ้าชายสิทธัตถะทรงดำเนินด้วยพระบาท 7 ก้าวและมีดอกบัวผุดขึ้นมารองรับพระ บาทพร้อมเปล่งวาจาว่า “เราเป็นเลิศท่ีสุดในโลก ประเสริฐท่ีสุดในโลกการเกิดคร้ังนี้เป็นครั้งสุดท้ายของเรา”แต่ หลังจากเจ้าชายสิทธัตถะประสูติกาลได้แล้ว 7 วันพระนางสิริมหามายาก็เสด็จสวรรคต เจ้าชายสิทธัตถะจึงอยู่ใน ความดูแลของพระนางประชาบดโี คตมี ซ่งึ เป็นพระขนิษฐาของพระนางสิริมหามายาตอ่ มา พราหมณ์ท้ัง 8 ไดท้ ำนาย ว่าเจ้าชายสิทธัตถะมีลักษณะเป็นมหาบุรุษ คือ หากดำรงตนในฆราวาสจะได้เป็นจักรพรรดิ ถ้าออกบวชจะได้เป็น ศาสดาเอกของโลก แต่โกณฑญั ญะพราหมณ์ ผ้อู ายนุ ้อยที่สุดในจำนวนนน้ั ยืนยนั หนักแนน่ ว่าพระราชกมุ าร สิทธัตถะ จะเสด็จออกบวชและจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเจ้าชายสิทธัตถะทรงศึกษาเล่าเรียนจนจบศิลปศาสตร์ท้ัง 18 ศาสตร์ ในสำนักครูวิศวามิตรและเนื่องจากพระบิดาไม่ประสงค์ให้เจ้าชายสิทธัตถะเป็นศาสดาเอกของโลก ตามคำ ทำนายจึงพยายามทำให้เจ้าชายสิทธัตถะ พบเห็นแต่ความสุขโดยการสร้างปราสาท 3 ฤดูให้อยู่ประทับเม่ือมี พระชนมายุ 16 พรรษา ทรงอภิเษกสมรสกับพระนางพิมพาหรือยโสธราพระธิดาของพระเจ้ากรุงเทวทหะซ่ึงเป็น พระญาตฝิ ่ายมารดา จนเม่ือมีพระชนมายุ 29 พรรษา พระนางพิมพาได้ประสตู ิพระราชโอรสมีพระนามว่า “ราหุล” ซึ่งหมายถึง “บ่วง”วนั หน่ึงเจ้าชายสิทธัตถะ ชวนสารถีทรงรถม้าประพาสอุทยานครั้งน้ันได้ทอดพระเนตรเห็นคนแก่ คนเจ็บ คนตาย และนักบวช ซึ่งแตกต่างจากสถานท่ีที่พระองค์ประทับอยู่ในปราสาท 3 ฤดู ท่ีมีแต่ความสุข

10 ได้พยายามเสาะแสวงทางพ้นทุกข์ด้วยการศึกษาในสำนักอาฬารดาบสกาลามโคตร และ อุทกดาบสรามบุตร และทรงเห็นว่านี่ยังไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ จากนั้นพระองค์ได้เสด็จไปท่ีแม่น้ำเนรญั ชรา ในตำบลอุรุเวลาเสนานิคม และทรงบำเพ็ญทุกข์กิริยาด้วยการขบฟันด้วยฟัน กลั้นหายใจและอดอาหารจนร่างกายซูบผอม ทรงเห็นว่านี่ ยังไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ จึงทรงเลิกบำเพ็ญทุกข์กิริยา ต่อมา ท้าวสักกะเทวราช ได้ทรง ดีดพิณ เพ่ือเป็นกุศลโล บายใหพ้ ระองค์เป็นแนวทางในการบำเพ็ญเพียร คือ เม่ือทรงดดี พณิ สายแรก ท่ีขงึ ไว้ตงึ เกินไป เสียงก็จะแหลม เลก็ เมื่อดีดพิณสายที่สอง ที่ขงึ ไว้หย่อนเกินไป เสียงกจ็ ะทุ้ม ไม่ไพเราะ และเม่อื ดดี พณิ สายที่สาม ทข่ี ึงไว้พอดี เสียงจะดังกงั วาลไพเราะ เมื่อพระองค์ได้ฟังเสียงพิณทั้งสามสายของท้าวสักกะเทวราชแล้ว พระองค์ก็ทรงคิด ได้ว่าการปฏิบัติทเี่ ข้มงวดเกินไป ร่างกายก็จะซบู ผอมไม่มีเรีย่ วแรง แตห่ ากทรงปฏิบัตทิ ี่หย่อนยานเกนิ ไป การ ปฏบิ ัติกจ็ ะไม่ประสบความสำเร็จ พระองค์จึงใช้ทางสายกลางมาเป็นแนวทางในการปฏบิ ัติมีนางสุชาดา อาศัย อยู่ในหมู่บ้านละแวกน้ัน ได้เดินผ่านมาพบพระองค์ คิดว่าเป็นเทวดา จึงได้ถวายข้าวมธุปายาสแด่พระองค์ หลังจากพระองค์ได้เสวยข้าวมธุปายาสแล้ว ก็ได้นำถาดไปเส่ียงอธิษฐานว่า หากพระองค์บำเพ็ญเพียรสำเร็จ ก็ขอให้ถาดลอยทวนน้ำ ปรากฏว่าถาดลอยทวนน้ำได้อย่างน่าอัศจรรย์ โดยพระองค์ได้ประทับน่ังใต้ต้นโพธิ์ และได้ตรัสรู้ สัมมาโพธิญาณใต้ต้นโพธิ์ เมื่อยามสาม ริมฝ่ังแม่น้ำเนรัญชรา ตรงกับวันเพ็ญเดือนหก ขณะท่ีมี พระชนมายุ 35 พรรษาหลังจากตรัสรู้แล้ว พระองค์ทรงเสวยวิมุตติสุขอยู่เป็นเวลา 7 สัปดาห์ แล้วเสด็จไป โปรดปญั วคั คีย์ ทป่ี ่าอิสิปตนมฤคทายวัน โดยไดแ้ สดงธรรม “ธัมมจกั กัปปวัตนสูตร” ซง่ึ ถือเป็นการแสดงพระ ธรรมเทศนาคร้งั แรกในวนั เพ็ญ 15 ค่ำ เดอื น 8 ตรงกับวันอาสาฬหบชู า ศาสดาของศาสนาอิสลาม กกกกกกกศาสดาของศาสนาอิสลาม คือ นบีมูฮัมหมัด ศาสนาอิสลามเกิดข้ึนในดินแดนทะเลทรายอาหรับ เมืองเมกกะประเทศซาอุดีอาระเบีย ในยุคน้ันชาวอาหรับแตกออก เป็นหลายกลุ่มขาดความสามัคคี ยากแก่ การปกครอง มีการรบมุ่งฆ่าฟันกันตลอดเวลาไม่มีศาสนาเป็นแก่นสารคนส่วนใหญ่นับถือเทพเจ้าและรูป เคารพต่างๆ ประชาชนไม่มีศีลธรรม สตรีจะถูกข่มเหงรังแกมากที่สุด นบีมูฮัมหมัดเกิดข้ึนท่ามกลางสภาพ สงั คมทเี่ ส่ือมทรามเชน่ น้ี จงึ คิดหาวธิ ีท่จี ะช่วยปรบั ปรุงแก้ไขสถานการณน์ ีใ้ ห้ดีขึน้ นบมี ฮู ัมหมัดเปน็ ผู้ทฝี่ ักใฝ่ใน ศาสนาหาความสงบและบำเพ็ญสมาธิท่ีถ้ำฮีรอบนภูเขานูร์ ในคืนหนึ่งของเดือนรอมฎอน กาเบรียลทูตของ พระเจ้าได้นำโองการของอัลลอฮ์มาประทาน นบีมูฮัมหมัดได้นำคำสอน เหล่าน้ีมาเผยแผ่จนเกิดเป็นศาสนา อิสลามขึ้น ในระยะแรกของการเผยแผ่ศาสนาไดร้ ับการ ต่อต้านเป็นอยา่ งมากถงึ กบั ถกู ทำร้ายจนตอ้ งหลบหนี ไปอยู่เมืองมะดีนะฮ์ จนเป็นที่ยอมรับและมีคนนับถือมากมาย ก็กลับมายึดเมืองเมกกะทำการเผยแผ่ศาสนา อสิ ลามอย่างเต็มที่ การเผยแผ่ศาสนาของอิสลามออกไปยังประเทศต่างๆ ในยุคหลังเป็นไปโดยไร้สงครามเข้า

11 ศาสดาของศาสนาคริสต์ กกกกกกกศาสนาคริสต์ เป็นศาสนาประเภทเอกเทวนิยม คือเชื่อว่ามีพระเจ้าสูงสุดเพียงองค์เดียวเป็นผู้สร้างโลก และสรรพส่ิง พระเจ้าองค์นั้นคือ พระยะโฮวาห์ ศาสนาคริสต์เชื่อว่ามนุษย์มีบาปมาแต่กำเนิดพระเจ้าจึงส่งพระ เยซู มาไถบ่ าป เช่อื ว่าวิญญาณเป็นอมตะ เมื่อถึงวันตัดสินโลกมนุษย์จะไปอยู่ในสวรรค์ หรอื ในนรกช่ัวนริ ันดร์ เชื่อ ว่ามีเทวดาอยมู่ ากมายท้ังฝา่ ยดีและฝ่ายช่ัว ซาตานเปน็ หวั หน้าฝ่ายชัว่ ในท่สี ดุ ก็จะถูกพระเจา้ ทำลาย ศาสนาครสิ ต์ เป็นศาสนาท่ีมีผู้นับถือมากท่ีสุดในโลก ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาท่ีพัฒนามาจากศาสนายูดาย หรือ ยิว เพราะ ศาสนาคริสต์นับถือพระเจ้าองค์เดียวกันกับศาสนายูดายคือพระยะโฮวาห์ พระเยซเู ป็นชาวยิว มิได้ปรารถนาท่ีจะ ต้งั ศาสนาใหมแ่ ตท่ รงต้องการปฏริ ูปศาสนายวิ ให้บรสิ ุทธ์ิขน้ึ ทรง กล่าวว่า“อย่าคิดว่าเรามาทำลายพระบญั ญัติและ คำของศาสดาพยากรณ์เสีย เรามิได้มาทำลายแต่มาเพ่ือทำให้สำเร็จ”ก่อนหน้าท่ีพระเยซูประสูติ ประเทศ ปาเลสไตน์ได้ตกเป็นเมืองขึ้นของจักรวรรดิใกล้เคียงติดต่อกันเป็นระยะเวลากว่า 100 ปี เร่ิมตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์กาล ตกเป็นเมืองข้ึนของอัสซีเรีย บาบิโลเนียจักรวรรดิเปอร์เซีย จักรวรรดิ กรีกในสมัยพระเจ้าอเล็ก ซานเดอร์มหาราชและในที่สุดตกเป็นของอาณานิคมจักรวรรดิโรมัน ตลอดเวลา ท่ีตกเป็นเมืองขึ้นนี้ ผู้พยากรณ์ หลายท่านได้พยากรณ์ถึงพระเมสสิอา (Messiah) พระผู้ช่วย ให้รอด ซึ่งเป็น พระบุตรของพระเจ้าท่ีจะเสด็จมา ปลดแอกชาวยิวให้ได้รับเสรีภาพและจะทรงไถ่บาปให้ชาวยิวพ้นจากความหายนะและได้รับความรอดช่ัวนิรันดร ในสมัยน้ันชาวยิวเชื่อใน คำพยากรณ์นี้มากและพระเยซูประสูติในช่วงเวลาน้ันพอดี พระเยซูเกิดท่ีหมู่บ้านเบธเล เฮม แขวงยูดาย กรุงเยรูซาเล็ม มารดาช่ือมาเรีย บิดาช่ือโยเซฟ ตามประวัติมาเรียน้ันต้ังครรภ์ มาก่อนขณะที่ยัง เป็นคู่หม้ันกับโยเซฟ เทวทูตจึงมาเข้าฝันบอกโยเซฟว่าบุตรในครรภ์มาเรีย เป็นบุตรของพระเจ้าให้ต้ังชื่อว่าเยซู ต่อมาจะเป็นผู้ไถ่บาปให้กับชาวยิว โยเซฟจึงปฏิบัติตามและรับมาเรียมาอยู่ด้วยโดยไม่สมสู่เย่ียงภริยา พระเยซู ได้รับการเล้ียงดูอย่างดีเป็นศิษย์ของโยฮัน ศึกษาพระคัมภีร์เก่าจนแตกฉาน ท่านมีนิสัยใฝ่สงบชอบวิเวก เม่ืออายุ 30 ปี ได้รับศีลล้างบาปท่ีแม่น้ำจอร์แดน ต้ังแต่น้ันมาถือ ว่าท่านสำเร็จภูมิธรรมสูงสุดในศาสนาพระองค์ มีสาวก 12 คน เป็นหลักในศาสนาทำหน้าที่สืบศาสนามีนักบุญเปโตร (SaintPeter) เป็นหัวหน้าผู้สืบตำแหน่งนักบุญ เปโตรต่อๆ มาจนถึง ปัจจุบันเรียกว่าสมเด็จพระสันตะปาปา พระเยซูเผยแผ่ศาสนาท่ัวดินแดนปาเลสไตน์เป็น เวลา 3 ปี มีพวกปุโรหติ ธรรมาจารยแ์ ละพวกซีซา่ รเ์ กลยี ดชัง ขณะท่ีพระองค์รบั ประทานอาหารมอื้ ค่ำกบั สาวก 12 คนเป็นม้ือสุดท้าย ทหารโรมันจับตัวท่านในข้อหาเป็นกบฎและถูกตัดสินให้ลงโทษประหารชีวิตโดยตรึงกับไม้ กางเขนไว้ จนสิ้นพระชนม์

12 ศาสดาของศาสนาพราหมณ์หรือฮนิ ดู ศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู เกิดในเอเชียใต้ คือ ประเทศอินเดียเม่ือประมาณ 1,400 ปีก่อน คริสต์ศักราช เกิดจากพวกอารยันที่อพยพเข้ามาในประเทศอินเดีย ถือกันว่าเป็นศาสนาท่ีเก่าแก่ท่ีสุดในโลก พระเวทเป็นคัมภีร์ศาสนาพราหมณ์ได้รับการยกย่องว่า เป็นคัมภีร์ท่ีเก่าแก่ท่ีสุดในโลก และเป็นวรรณคดีท่ี เก่าแก่ที่สุดในโลก ช่ือของศาสนาเปล่ียนไปตามกาลเวลาในตอนแรกเริ่มเรียกตัวเองว่า “พราหมณ์” ต่อมา ศาสนาเส่ือมลงระยะหน่ึงและได้มาฟื้นฟูปรับปรุงให้เป็นศาสนาฮินดูโดยเพ่ิมบางส่ิงบางอย่างเข้าไป มีการ ปรับปรุงเนื้อหาหลักธรรมคำสอนให้ดีข้ึน คำว่า“ฮินดู” เป็นคำท่ีใช้เรียกชาวอารยันที่อพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐาน ในลมุ่ แม่น้ำสินธแุ ละเป็นคำที่ใช้เรียกลูกผสมของชาวอารยันกับชาวพื้นเมืองในชมพูทวีปและชนพื้นเมืองน้ีได้ พัฒนาศาสนาพราหมณ์โดยการเพ่ิมเติมอะไรใหม่ๆ ลงไปแล้วเรียกศาสนาของพวกนี้ว่า “ศาสนาฮินดู” เพราะฉะน้ันศาสนาพราหมณ์จึงมีอีกชื่อในศาสนาใหม่ว่า “ฮนิ ดู” จนถึงปัจจุบนั ในอดีตศาสนาพราหมณ์หรือ ฮนิ ดูจะมีการจัดคัมภีร์ออกเป็น 3 พวก ตามการยกย่องนับถือเทวะท้ัง 3 โดยแยกเป็น 3 นิกายใหญ่ๆ นิกาย ใดนับถือเทวะองค์ใดก็ยกย่องว่า เทวะองค์นั้นสูงสุดต่อมานักปราชญ์ชาวฮินดูได้กำหนดให้เทวะท้ัง 3 องค์ เป็นใหญ่สูงสุดเสมอกัน เทวะท้ัง 3 องค์นี้รับการนำมารวมกันเรียกว่า “ตรีมูรติ” ใช้คำว่าสวดว่า “โอม” ซ่ึง ย่อมาจาก “อะอุมะ” แตล่ ะพยางค์แทนเทวะ3 องค์ คือ 1. “อะ”แทนพระวิษณหุ รอื พระนารายณ 2. “อุ” แทนพระศิวะหรอื อศิ วร ทกุ ศาสนาสอนใหเ้ รา 3. “มะ”แทนพระพรหม เป็นคนดี เรียนหน้า ถดั ไปเลยคะ่

13 ศาสดาของศาสนาซิกข์ กกกกกกกศาสนาซิกข์ เป็นศาสนาประเภทเอกเทวนิยม มีท่านคุรุนานักเทพเป็นศาสดาองค์ท่ี 1สืบต่อ มาถึงท่านคุรุโควินทสิงห์เป็นศาสดาองค์ที่ 10 มีสุวรรณวิหารตั้งอยู่ท่ีเมืองอัมริสสา แคว้นปัญจาป ประเทศอินเดียเป็นศูนย์ชาวซิกข์ท่ัวโลกพระคมั ภีร์เป็นสิ่งสำคญั ทต่ี ้องเคารพสูงสุดจัดวางในท่ีสูงบนแท่น บูชา จะต้องมีผู้ปรนนิบัติพระคัมภีร์อยู่เสมอคือการศึกษาและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ชาวซิกข์ทุกคน จะต้องถอดรองเท้าและโพกศีรษะก่อนเข้าไปในโบสถ์จะต้องเข้าไปกราบพร ะคัมภีร์ด้วยความเคารพ เสียก่อนคัมภีร์ของศาสนาซิกข์เรยี กว่า ครันถ-ซาหิปหรือคันถะ (ในภาษาบาลี) หมายความว่าคัมภีร์หรือ หนังสือ ส่วนใหญ่เป็นคำร้อยกรองสั้นๆ รวม 1,430 หน้ามีคำไม่น้อยกว่าล้านคำมี 5,894 โศลก โศลก เหล่านี้เข้ากับทำนองสังคตีได้ถึง 30 แขนง จัดเป็นเล่มได้ 37 เล่ม ภาษาที่ใช้ในคัมภีร์มีอยู่ 6 ภาษาหลัก คือ ปัญจาบี (ภาษาประจำแคว้นปัญจาปอันเป็นถิ่นเกิด ของศาสนา)มุลตานี เปอร์เซียน ปรากริตฮินดี และมารถีศาสนาซิกข์โบราณประมาณร้อยละ 90 เช่นเดียวกับศาสนิกชนในศาสนาอ่ืนที่ไม่เคยรอบรู้ คัมภรี ์ของศาสนาของตน ดังน้ัน คัมภีร์จงึ กลายเป็นวัตถศุ ักด์ิสิทธ์ิ ผู้ไม่เก่ียวข้องไม่สามารถแตะต้องได้ ท่ีหริมณเฑียรหรือสุวรรณวิหาร ในเมืองอมฤตสรา แค้วนปัญจาป มีสถานท่ีประดิษฐานคัมภีร์ถือเป็น ศูนย์กลางศาสนาซิกข์ในวิหารของศาสนาซิกข์ไม่บังคับให้รูปมีเคารพ นอกจากคัมภีร์ ให้ถือว่าคัมภีร์น้ัน คอื ตัวแทนของพระเจ้า ทุกเวลาเช้าผู้รักษาวิหารจะนำผ้าปักด้ินราคาแพงมาหุ้มห่อคัมภีร์เป็นการเปล่ียน ผ้าคลุมทำความสะอาด วางคัมภีร์ลงบนแท่นภายในม่าน ซ่ึงปักด้วยเกล็ดเพชร ก่อนพิธีสวดในเวลาเช้า ครน้ั ตกเย็นกน็ ำคัมภรี ไ์ ปประดิษฐานไว้บนตั่งทองในห้องพเิ ศษไมใ่ หฝ้ ุ่นละอองจบั ต้องได้

14 หลักธรรมสำคัญของศาสนาตา่ งๆ หลักธรรมของพระพุทธศาสนา อรยิ สัจ 4 แปลวา่ ความจริง อันประเสรฐิ มีอยูส่ ปี่ ระการคือ 1. หลกั ธรรมเพ่ือความหลดุ พน้ เฉพาะตัว 1.1 ทกุ ข์ คอื สภาพท่ที นได้ยากภาวะที่ทนอย่ใู นสภาพเดิมไม่ไดส้ ภาพที่บีบค้นั ได้แก่ ชาติ (การเกิด) ชรา (การแก่ การเก่า) มรณะ (การตาย การสลายไป การสูญสิน้ ) การประสบกับส่ิงอันไม่เปน็ ท่ีรกั พลดั พรากจากส่ิง อันเปน็ ที่รักการปรารถนาสิง่ ใดแล้วไมส่ มหวังในสิ่งนน้ั 1.2 สมทุ ยั คอื สาเหตทุ ที่ ำใหเ้ กิดทุกข์ ไดแ้ ก่ ตัณหา 3 คือ กามตัณหา ความทะยานอยากในกามความ อยากไดท้ างกามารมณ,์ ภวตัณหา ความทะยานอยากในภพ ความอยากเปน็ โน่นเป็นนี่ และวิภวตณั หา–ความ ทะยานอยากในความปรารถนาจากภพ ความอยาก ไม่เปน็ โนน่ ไม่เปน็ น่ี 1.3 นิโรธ คือความดบั ทุกข์ ได้แก่ ดบั สาเหตทุ ่ที ำใหเ้ กิดทุกข์กลา่ ว คอื ดบั ตัณหาทง้ั 3 ได้อย่างสิ้นเชงิ 1.4 มรรค คือแนวปฏบิ ตั ิท่ีนำไปสู่หรอื นำไปถึงความดบั ทุกข์ มีองค์ประกอบอยแู่ ปดประการคือ (1) สมั มาทฏิ ฐิ – ความเห็นชอบ (2) สมั มาสงั กปั ปะ-ความดำหรชิ อบ(3) สัมมาวาจา-เจรจาชอบ (4) สมั มากัมมนั ตะ-ทำการงานชอบ (5) สัมมาอาชีวะ-เล้ยี งชพี ชอบ(6) สัมมาวายามะ-พยายามชอบ (7) สมั มาสติ-ระลึกชอบและ (8) สมั มาสมาธิ-ตง้ั ใจชอบซ่งึ ร่วมเรยี กอีกช่อื หน่งึ ไดว้ ่า “มชั ฌิมาปฏิปทา” หรอื ทางสายกลาง 2. หลกั ธรรมเพ่ือการอยู่ร่วมกนั ในสังคม 2.1 สปั ปุริสธรรม 7 คอื หลกั ธรรมของคนดหี รอื หลักธรรมของสัตตบุรษุ 2.2 อิทธบิ าท 4 คือ หลักธรรมทน่ี ำไปสู่ความสำเร็จแห่งกิจการ 2.3 กศุ ลธรรมบถ 10 หนทางแห่งการทำความดีงามทางแหง่ กุศลซึ่งเปน็ หนทางนำไปสู่ความสุขความเจรญิ 2.4 สังคหวัตถุ 4 เป็นวิธปี ฏิบัติเพอื่ ยึดเหนย่ี วจิตใจของคนทยี่ ังไมเ่ คยรักใคร่นับถอื ให้มีความรักความนับ ถือ เปน็ หลักธรรมทช่ี ่วยผูกไมตรีซ่ึงกนั และกันให้แน่นแฟ้นย่งิ ขน้ึ 2.5 ศีล 5 เป็นการรกั ษาหรอื ควบคุมกาย 2.6 โลกบาลธรรมหรือธรรมคุ้มครองโลก เป็นหลกั ธรรมทช่ี ่วยใหม้ นษุ ยท์ ุกคนในโลกอยูก่ นั อย่างมคี วามสุข หลกั ธรรมของศาสนาอสิ ลาม แนวประพฤตปิ ฏบิ ัตแิ ละหลกั คำสอนของศาสนาอิสลามประกอบดว้ ยรายละเอยี ดท่ีสำคญั ๆ ดงั ต่อไปน้ี คือ 1. ศรัทธาต่ออัลเลาะห์ ให้ศรัทธาโดยปราศจากข้อสงสัยใดๆ ว่าพระอัลเลาะห์ทรงมีอยู่จริงทรงดำรงอยู่ด้วย พระองค์ ทรงมีมาแต่ด้ังเดิม โดยไม่มีสิ่งใดมาก่อนพระองค์ทรงดำรงอยู่ตลอดกาล ไม่มีส่ิงใดอยู่หลังจาก พระองคท์ รงสรา้ งทกุ อย่างในท้องฟา้ เพียบพร้อม ดว้ ยคณุ ลักษณะอนั ประเสรฐิ 2. ศรทั ธาตอ่ มลาอกิ ะฮุซ่ึงเปน็ บ่าวอลั เลาะหป์ ระเภทหนงึ่ ท่ไี มอ่ าจมองเห็นตวั ตนหรือ ทราบรปู ร่างทแี่ ทจ้ ริง บรรดามลาอกิ ะฮนุ ีป้ ราศจากความผดิ พลาดบริสทุ ธิ์จากความมวั หมองท้งั ปวง มคี ุณสมบตั ิไมเ่ หมอื นมนษุ ย์คอื ไม่กนิ ไมน่ อน ไม่มีเพศ สามารถจำแลงร่างได้ 3. ศรัทธาในพระคัมภรี ์ของพระเจ้า คอื ศรัทธาว่าอัลเลาะห์ทรงประทานคัมภีรใ์ ห้กับบรรดาศาสนทตู เพื่อนำไป ประกาศให้ประชาชนไดท้ ราบหลกั คำสอน

15 หลกั ธรรมของศาสนาครสิ ต์ ศาสนาครสิ ตจ์ ารึกหลักธรรมไว้ในคัมภีร์ไบเบ้ิล หลกั ธรรมของพระเยซูบางข้อตรงขา้ มกับศาสนายิวบาง ขอ้ ใหก้ ารปฏริ ูปและประยุกตเ์ สยี ใหม่ เชน่ 1. พระเจ้าทรงเป็นบิดาที่ดีพร้อมท่ีจะประทานอภัยให้แก่บุตรท่ีกลับใจแต่ขณะเดียวกันก็ทรงเป็น ผู้ ทรงไวซ้ ึง่ ความเดด็ เดย่ี วลงโทษผูท้ ี่ไม่เชือ่ ฟงั 2. พระเยซูทรงเป็นผปู้ ระกาศข่าวดีโดยแจง้ ให้ทราบว่าอาณาจักรของพระเจ้า มาถึงแล้ว ผู้ที่ศรัทธาจะ ได้รบั มหากรุณาธคิ ุณจากพระเจา้ 3. หลกั การสำนกึ ผดิ ใหพ้ จิ ารณาตนเองวา่ ใหท้ ำผิดอะไรและตงั้ ใจทจ่ี ะเลกิ ทำความชวั่ น้ันเสยี 4. หลักความเสมอภาค คอื ความรักความเมตตาของพระเจ้าท่ีมีต่อมนษุ ย์ทัง้ มวลโดยไมเ่ ลือกชัน้ วรรณะ ผู้ทท่ี ำความดแี ล้วตอ้ งไดร้ บั รางวลั จากพระเจ้าโดยเสมอภาคกนั 5. ให้ละความเคียดแค้นพยาบาท การจองเวรซึ่งกันและกัน ใครรักก็รักตอบใครอาฆาตมุ่งร้าย ก็ต้องใหอ้ ภยั หลักธรรมของศาสนาพราหมณ์หรือฮนิ ดู 1. ธฤติ ได้แก่ ความมนั่ คง ความเพียร ความพอใจในส่ิงท่ีตนมี 2. กษมา ได้แก่ ความอดทนอดกลนั้ และมีเมตตากรณุ า 3. ทมะ ได้แก่ การข่มจติ มใิ ห้หวัน่ ไหวไปตามอารมณ์ มีสติอยู่เสมอ 4. อัสเตยะ ได้แก่ การไม่ลักขโมย ไมก่ ระทำโจรกรรม 5. เศาจะ ได้แก่ การทำตนให้สะอาดท้งั กายและใจ 6. อินทรียนคิ รหะ ไดแ้ ก่ การข่มการระงบั อนิ ทรีย์ 10 คอื ตา หู จมกู ลน้ิ ผิวหนงั มือเท้า ทวารหนัก ทวารเบา และลำคอ ให้เป็นไปในทางที่ถกู ต้องอยู่ในขอบเขต 7. ธี ไดแ้ ก่ การมสี ติ ปญั ญา รู้จักการดำเนนิ ชวี ติ ในสงั คม 8. วิทยา ไดแ้ ก่ ความรู้ทางปรัชญา 9. สัตยา ได้แก่ ความจรงิ คอื ความซ่ือสัตย์สจุ ริตต่อกนั 10. อโกธะ ความไมโ่ กรธ หลักอาศรม 4 1. พรหมจารี ศึกษาเล่าเรยี นและประพฤติพรหมจรรย์จนถึงอายุ 25 ปี ศึกษาจบจึงกลับบา้ น 2. คฤหัสถ์ ครองเรือน จบจากการศึกษา กลับบ้าน ช่วยบิดามารดาทำงานแต่งงานเพื่อรักษาวงศ์ ตระกลู ประกอบอาชพี โดยยดึ หลักธรรมเปน็ เคร่อื งดำเนินชีวติ 3. วานปรัสถ์ สังคมกาล มอบทรัพย์สมบัติให้บุตรธิดา ออกอยู่ป่าแสวงหาความสงบบำเพ็ญประโยชน์ ต่อสังคมการออกอยู่ป่าอาจจะทำเปน็ ครั้งคราวก็ได้ 4. สันยาสี ปริพาชก เป็นระยะสุดท้ายแห่งชีวิต สละความสุขทางโลกออกบวชเป็นปริพาชกเพื่อหลุด พน้ จากสังสารวฎั

16 หลกั ธรรมของศาสนาซิกข์ ยึดคำสอนตามคัมภีร์ครุ กุ รันต-ซาหิป ซ่งึ บรรดาทา่ นครุ ุทั้งหลายได้ประกาศไว้เก่ยี วกับจรยิ ธรรมอันเป็น เคร่ืองยังสังคมและประเทศชาติให้มั่นคงอยู่ได้ และยังจิตใจของผู้ปฎิบัติ ให้บรรลุถึงความผาสุกข้ัน สดุ ท้ายได้มนี ัยโดยสงั เขปคือ เกยี่ วกับพระเจ้า “รูปท้ังหลายปรากฏข้ึนตามคำส่งั ของพระเจ้า (อกาลปุรุษ) สิ่งมีชีวิตทั้งหลายอุบัติมาตามคำส่ังของพระเจ้า บุตรธิดาจะได้รู้ถึงกำเนิดบิดามารดาได้ อยา่ งไร โลกท้งั หมดร้อยไวด้ ้วยเส้นด้ายคือคำสงั่ ของพระเจ้า” “มนษุ ย์ท้ังหลายมพี ระบิดาผู้เดยี ว เราทง้ั หลายเป็นบุตรของท่านเราจงึ เปน็ พ่นี ้องกนั ” “พระเจา้ ผู้สรา้ งโลก (อกาลปุรษุ ) สงิ สถติ อยใู่ นสง่ิ ทง้ั หลายที่พระเจ้าสรา้ งและสิ่ง ทงั้ หลายกอ็ ย่ใู นพระเจา้ ” “อา้ หล่า (อัลลอห) ได้สร้างแสงสวา่ งเปน็ ครง้ั แรก สัตว์ทัง้ หลายอบุ ตั มิ าเพราะศกั ดิ์ ของอา้ หลา่ สงิ่ ทอ่ี า้ หล่าสร้างข้นึ เกิดมาแต่แสงสว่างนน้ั เองจงึ ไม่มีใครสงู ไม่มีใครต่ำ ใครจะไม่ถามถงึ วรรณะ และกำเนดิ ของทา่ น ทา่ นจงแสวงหาความจรงิ ซ่ึงพระเจา้ แสดงแกท่ ่าน วรรณะและกำเนดิ ของทา่ นเปน็ ไปตามจารีตของทา่ นเอง” “อยา่ ใหใ้ ครถือตัวเพราะวรรณะของตน ผซู้ ่งึ ร้จู กั พรหมนั่นแหละเป็นพราหมณ์ อยา่ ถือ ตวั เพราะวรรณะความถือตวั เช่นนี้เปน็ บอ่ เกดิ แหง่ ความชัว่ ฯลฯ “คนท้ังหลาย บ้างก็เป็นอุทาสี สันยาสี โยคี พรหมจารี ยติ ฮินธุ ฯลฯ บางคนเป็นอิมานซาฟิจึงถือว่า คนท้งั หลายเป็นวรรณะเดียวกันหมด กรตุ า (ผสู้ รา้ งโลกตามสำนวนฮนิ ด)ู และกรีม (อา้ หล่าตามสำนวน มุสลิม) เป็นผู้เดียวกัน เป็นผู้เผื่อแผ่ประทานอภัยอย่าเข้าใจผิดเพราะความสงสัยและเช่ือไปว่ามีพระ เจ้าองค์ท่ีสอง คนท้ังหลายจงปฏิบัติแต่พระเจ้าองคเ์ ดียวคนทั้งหลายย่อมมีพระเจ้าเดียว ท่านจงรู้ไว้ซ่ึง รูปเดยี ว และวิญญาณเดยี ว” เกง่ มากเลยค่ะละอ่อน ทงั้ หลาย ให้พวกเจา้ ทง้ั หลายศกึ ษาเพิ่มเติมใน คมั ภีรท์ น่ี ายแม่จะแนะนำ คือ รายวิชาศาสนาหน้าท่ี พลเมือง สค31002 ระดับ ม.ปลายนะคะคนดี

17 ตวั อย่าง 1. คำส่ัง ใหท้ ำเคร่ืองหมายถกู (√) หนา้ ขอ้ ท่ีอา่ นและคดิ ว่าถูกและทำเคร่ืองหมายผิด (×)หน้าขอ้ ท่ี อ่านและคดิ ว่าผดิ 1.................... ศาสนา หมายถงึ คำสอนทศี่ าสดานำมาเผยแผ่ สั่งสอน แจกแจง แสดงให้มนษุ ย์ละ เว้นจาก ความชั่ว กระทำแต่ความดี ซ่ึงมนุษย์ยึดถือปฏิบัติตามคำสอนนั้นด้วยความเคารพ เล่อื มใสและศรทั ธา 2.....................ไตรภมู ิ คอื 3 โลก ได้แก่ นรกภมู ิ โลกมนษุ ย์ และเทวโลก 1...√....ศาสนา หมายถึง คาสอนที่ศาสดานามาเผยแผ่ ส่ังสอน แจก แจง แสดงให้มนษุ ย์ละเวน้ จาก ความช่ัว กระทาแตค่ วามดี ซ่งึ มนษุ ย์ ยึดถือปฏบิ ัตติ ามคาสอนน้ันด้วยความเคารพเล่อื มใสและศรทั ธา 2.... √....ไตรภูมิ คอื 3 โลก ได้แก่ นรกภมู ิ โลกมนษุ ย์ และเทวโลก 2. คำสงั่ ใหน้ ำตวั อักษรหนา้ ข้อความด้านขวามาใส่หน้าข้อตัวเลขท่คี ิดวา่ สัมพันธก์ นั .....................1. เป็นชาดกท่ีแสดงถงึ การบำเพ็ญเนกขัมมบารมี ก. มหาชนกชาดก คอื การออกบวชหรอื ออกจากกาม (พระมหาชนก) .....................2. เปน็ ชาดกท่แี สดงถงึ การบำเพ็ญวริ ยิ บารมี ข. เตมยี ช์ าดก (พระเตมีย์ใบ้) คอื ความเพียร เกง่ มากเลยคะ่ ใครทำ เฉลย 1. ข 2. ก 3. 1ค.ำส่ังสุวใหรร้อณ่านสโาจมทชยาถแ์ดกู ลกหว้ไม(เดสขดเุ้วียลมรนยารคนรณำบัะสตคราอาะมบง)วสลั้ันหๆมลางยใถนึงช..อ่...ง.ว..า่..ง..ห...ล..ัง..ค...ำ..ต..อ..บ............................................. 2. เนมิราชชาดก (พระเนมริ าช) หมายถงึ ............................................................................... เฉลย 1. เปน็ ชาดกทีแ่ สดงถึงการบาเพ็ญเมตตาบารมี คือการแผ่ไมตรีจติ เพอ่ื ใหส้ ตั ว์ทั้งปวงเปน็ สุขถว้ นหนา้ 2. เปน็ ชาดกที่แสดงถงึ การบาเพญ็ อธิษฐานบารมี คือความต้งั ใจ ม่นั คง

18 กจิ กรรมที่ 1 1. คำส่งั ให้ทำเคร่ืองหมายถูก (√) หนา้ ข้อที่อา่ นและคิดว่าถูกและทำเครือ่ งหมายผดิ (×)หน้าขอ้ ที่ อา่ นและคดิ วา่ ผิด 1.....................วตั ถุประสงค์อันสำคัญยิง่ ของทุกๆศาสนาเป็นไปในทางเดยี วกัน กลา่ วคือ จงู ใจ ให้คนละความชัว่ ประพฤติความดเี หมือนกันหมด 2.....................พระพทุ ธเจ้าได้บำเพ็ญบารมีมาทุกภพทุกชาตแิ ละบำเพญ็ บารมีอยา่ งยิ่งยวดใน 10 พระชาตสิ ดุ ทา้ ยเรียกว่า ทศชาติ 3....................เมอื่ เจ้าชายสทิ ธตั ถะพระชนมายุได้ 16 พรรษา ทรงอภเิ ษกสมรสกบั พระนาง พิมพาหรอื ยโสธราพระธดิ าของพระเจ้ากรุงเทวทหะซ่ึงเป็นพระญาติฝา่ ยมารดา จนเม่ือมี พระชนมายุ 29 พรรษา พระนางพิมพาไดป้ ระสตู ิพระราชโอรสมพี ระนามว่า “ราหลุ ” ซ่ึง หมายถึง “บ่วง” 4....................พระพุทธเจ้าทรงเสวยวิมุตติสขุ อยเู่ ป็นเวลา 7 สัปดาห์ แลว้ เสดจ็ ไปโปรดปญั วัคคีย์ ที่ป่าอสิ ปิ ตนมฤคทายวัน โดยได้แสดงธรรม “ธัมมจักกัปปวตั นสูตร” ซ่ึงถือเป็นการแสดง พระธรรมเทศนาคร้ังแรกในวันเพญ็ 15 ค่ำ เดอื น 8 ตรงกับวันอาสาฬหบชู า 5.................ผู้ท่ีได้ดดี พิณ เพื่อเป็นกุศลโลบายให้พระองคเ์ ป็นแนวทางในการบำเพ็ญเพียร คอื ทา้ วสักกะเทวราช เก่งมากเลยคะ่ ทำ แบบทดสอบ เยอะๆนะคะจะได้ เก่งๆ 1........√............ 2........√............ 3. ......√............ 4. ......√............ 5. . ....√............

19 กจิ กรรมที่ 2 1. คำสง่ั ใหน้ ำตวั อักษรหน้าข้อความด้านขวามาใสห่ นา้ ข้อตัวเลขทค่ี ิดว่าสมั พนั ธ์กนั ....................1. ศาสดาของศาสนาอสิ ลาม คือ นบมี ูฮัมหมัดศาสนาอิสลาม เกดิ ขน้ึ ในดนิ แดนทะเลทรายอาหรับเมืองเมกกกะปกิ รกะจิเทกศรซรามอดุทีอี่1าระเบีย ก. คมั ภีรไ์ บเบิ้ล ข. ครนั ถ-ซาหปิ หรอื คันถะ ....................2. ศาสนาคริสต์ เปน็ ศาสนาประเภทเอกเทวนิยม คือเชอ่ื ว่า ค. คัมภีรอ์ ลั กุรอาน มพี ระเจา้ สูงสุดเพียงองคเ์ ดียวเป็นผู้สร้างโลกและสรรพส่ิง พระเจ้าองคน์ ั้น ง. คมั ภรี พ์ ระเวท คอื พระยะโฮวาห์ จ. พระไตรปิฎก .......................3. พระพทุ ธเจา้ ทรงมีพระนามเดมิ วา่ “สทิ ธัตถะ” ทรงเปน็ พระราชโอรสของ “พระเจา้ สุทโธทนะ” กษัตรยิ ์ผูค้ รองกรุงกบิลพสั ดุ์ แควน้ สกั กะ .......................4. ศาสนาพราหมณ์หรอื ฮนิ ดู เกิดในเอเชียใต้ คอื ประเทศอินเดีย เม่อื ประมาณ 1,400 ปกี ่อนคริสต์ศกั ราช เกดิ จากพวกอารยันทอ่ี พยพเข้ามาใน ประเทศอนิ เดีย ถือกนั วา่ เป็นศาสนาท่ีเก่าแก่ท่สี ดุ ในโลก ........................5. ศาสนาซิกข์ เปน็ ศาสนาประเภทเอกเทวนยิ ม มที า่ นคุรุนานักเทพ เป็นศาสดาองค์ที่ 1 สบื ต่อมาถงึ ทา่ นคุรโุ ควินทสงิ ห์เป็นศาสดาองค์ท่ี 10 มสี ุวรรณวหิ าร ตั้งอยทู่ ่เี มืองอัมริสสา แคว้นปญั จาป ประเทศอนิ เดยี เก่งจังเลยคะ่ ตอบถูก ทกุ ข้อเลยใช่ไหมคะ มาดูแลยกนั เลย เฉลย 1......ค.............. 2......ก.............. 3......จ............... 4......ง............... 5......ข................

20 กจิ กรรมที่ 3 1. คำส่งั ใหอ้ า่ นโจทยแ์ ล้วเขียนคำตอบสัน้ ๆลงในชอ่ งวา่ งหลังคำตอบ ประชาชน และหลกั นิติธรรม บทสรปุ 1. ศาสนา หมายถงึ ................................................................................................................................................. ........................................................................................................ ..................................... 2. ศาสนาซิกข์ เป็นศาสนาประเภท ............................................................................................................................................... .. ................................................................................................................................. ............ 3. ศาสดาของศาสนาอิสลาม คือ ............................................................................................................................. .................... ........................................................................................ ..................................................... 4. ศาสนาคริสต์ เปน็ ศาสนาประเภท ............................................................................................................................. .................... ............................................................................................................................................. 5. ศาสนาพราหมณม์ ีอกี ช่ือในศาสนาใหม่วา่ ............................................................................................................. .................................. เฉลย 1. คำสอนที่ศาสดานำมาเผยแผ่ ส่งั สอน แจกแจง แสดงให้มนุษย์ ละเวน้ จาก ความชัว่ กระทำแตค่ วามดี 2. เอกเทวนิยม 3. นบีมฮู ัมหมัด 4. เอกเทวนิยม 5. “ฮนิ ดู”

21 กจิ กรรมท่ี 4 1. คำส่งั ใหท้ ำเคร่ืองหมายถูก (√) หนา้ ข้อท่ีอ่านและคดิ ว่าถูกและทำเคร่ืองหมายผดิ (×)หน้าข้อที่ อ่านและคดิ วา่ ผดิ 1....................อริยสัจ 4 แปลวา่ ความจริง อันประเสริฐ มีอยูส่ ่ีประการ 2..................สมุทัย คือสภาพที่ทนได้ยากภาวะที่ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้สภาพที่บีบคั้น การประสบกบั สงิ่ อันไม่เป็นทร่ี กั พลัดพรากจากสิ่งอนั เป็นทีร่ ักการปรารถนาส่งิ ใดแลว้ ไม่สมหวังใน สงิ่ นัน้ 3.....................นิโรธ คือความดับทุกข์ ได้แก่ ดับสาเหตุท่ีทำให้เกิดทุกข์กล่าว คือดับตัณหาท้ัง 3 ไดอ้ ยา่ งสนิ้ เชิง 4....................มรรค คอื แนวปฏิบัติท่นี ำไปส่หู รอื นำไปถงึ ความดบั ทกุ ข์ 5....................ทกุ ข์ คือสาเหตทุ ่ที ำให้เกิดทุกข์ ไดแ้ ก่ ตณั หา 3 คือ กามตัณหา ความทะยานอยาก ในกามความอยากได้ทางกามารมณ,์ ภวตัณหา ความทะยานอยากในภพ ความอยากเป็นโนน่ เป็นนี่ และ วิภวตณั หาความทะยานอยากในความปรารถนาจากภพ ความอยาก ไม่เปน็ โนน่ ไม่เปน็ นี่ งา่ ยมากเลยใช่ไหมคะ่ นักศึกษา ทำบ่อยๆนักศึกษาของครูก็จะ เก่งและสอบได้คะแนนดีๆครู เปน็ กำลังใจให้นะคะ เฉลย 1........√............. 2........×............ทกุ ข์ 3.........√............. 4.........√............ 5........×..............สมุทยั

22 กจิ กรรมท่ี 5 1. คำสง่ั ให้นำตวั อักษรหนา้ ข้อความด้านขวามาใส่หนา้ ข้อตวั เลขท่คี ดิ ว่าสมั พนั ธก์ นั 1. ......................1. หลกั การสำนึกผิด ใหพ้ จิ ารณาตนเอง 2. วา่ ให้ทำผดิ อะไรและตั้งใจทจ่ี ะเลิก ทำความชว่ั น้นั เสยี ก. หลักธรรมของศาสนาอสิ ลาม .....................2. อนิ ทรียนิครหะ ไดแ้ ก่ การข่มการ ข. หลักธรรมของศาสนาคริสต์ ระงับอนิ ทรยี ์ 10 คอื ตา หู จมกู ลิ้น ผิวหนงั มอื เท้า ทวารหนกั ทวารเบา และลำคอ ใหเ้ ป็นไปในทางท่ีถูกต้องอยู่ในขอบเขต ค. หลกั ธรรมของศาสนาพราหมณ์ หรอื ฮินดู ........................3. วานปรัสถ์ สงั คมกาล มอบทรพั ย์สมบตั ิ ให้บุตรธดิ า ออกอยูป่ า่ แสวงหาความสงบบำเพ็ญประโยชน์ ง. หลักธรรมของศาสนาซกิ ข์ ต่อสังคมการออกอย่ปู า่ อาจจะทำเปน็ คร้ังคราวก็ได้ .....................4. “มนุษยท์ ้ังหลายมีพระบดิ าผู้เดียว เราทง้ั หลายเปน็ บตุ รของท่านเราจงึ เปน็ พนี่ อ้ งกัน” “พระเจ้าผสู้ ร้างโลก (อกาลปุรุษ) สิงสถติ อยูใ่ นสิง่ ทง้ั หลายทพี่ ระเจ้าสรา้ งและสงิ่ ทั้งหลายก็อยใู่ นพระเจ้า” .....................5. ศรัทธาตอ่ อัลเลาะห์ ให้ศรัทธาโดยปราศจาก ขอ้ สงสยั ใดๆ วา่ พระอลั เลาะหท์ รงมีอยู่จริงทรงดำรงอยดู่ ้วยพระองค์ ทรงมมี าแตด่ ง้ั เดมิ โดยไม่มีส่งิ ใดมากอ่ นพระองค์ทรงดำรงอยู่ตลอดกาล ไมม่ ีสง่ิ ใดอย่หู ลงั จากพระองคท์ รงสร้างทุกอยา่ งในทอ้ งฟ้าเพียบพร้อม ดว้ ยคณุ ลกั ษณะอันประเสริฐ มาดูเฉลยกนั เลยค่ะ 1. ข 2. ค 3. ค 4. ง 5. ก

23 บทสรปุ มาสรปุ ความรู้พร้อมกันนะคะ ศาสนาทไี่ ด้กลา่ วมาข้างตน้ มี 5 ศาสนา ดงั นี้ ศานาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์หรอื ฮนิ ดู และศาสนาซิกข์ - ศาสนาพทุ ธมีศาสดาคือพระพุทธเจา้ - ศาสนาอิสลามมศี าสดาคือ นบมี ูฮัมหมดั - ศาสนาคริสต์มีศาสดาคือพระจซี ัสไครสต์ หรือทเี่ รยี ก กันวา่ พระเยซูคริสต์ - ศาสนาพราหมณ์หรือฮินดูเป็นศาสนาที่ไม่มีศาสดาแต่ จะนับถือพระเจ้าหลายพระองค์ เช่นพระวษิ ณุหรือพระ นารายณ์พระศิวะหรอื อศิ วรและพระพรหม - ศาสนาซิกข์ศาสดาคอื ครุ ุ แห่งศาสนาซกิ ซ์ มี10ทา่ น และศาสดาองค์ที1่ 0(คุรโุ ควินทส์ ิงห)์ ได้ประกาศให้ถอื พระคมั ภีรเ์ ปน็ ศาสดาตลอดกาล แต่ละศาสนาล้วนมีหลักธรรมคำสอนที่แตกตา่ งกนั ออกไปแต่ทุก ศาสนาเป็นที่ยึดเหนีย่ วจิตใจและสอนให้คนเป็นคนดี อยา่ ลืมทำแบบทดสอบท้ายบทกนั นะคะ

24 แบบทดสอบทา้ ยบทเรยี น 1. คำสง่ั ใหท้ ำเคร่ืองหมายถกู (√) หน้าข้อท่ีอ่านและคดิ ว่าถูกและทำเครื่องหมายผิด (×)หน้าข้อที่ อา่ นและคิดวา่ ผดิ 1..................... ศาสนาอสิ ลาม สปั ปุรสิ ธรรม 7 คอื หลกั ธรรมของคนดหี รือหลักธรรมของสัตตบุรุษ 2.....................ศาสนาพทุ ธ ศรทั ธาในพระคมั ภรี ข์ องพระเจ้า คือศรัทธาว่าอลั เลาะห์ทรงประทาน คัมภรี ใ์ หก้ ับบรรดาศาสนทูตเพ่ือนำไปประกาศให้ประชาชนได้ทราบหลกั คำสอน 3.....................ศาสนาพรามณ์หรือฮนิ ดูใหล้ ะความเคยี ดแค้นพยาบาท การจองเวรซง่ึ กนั และกนั ใครรกั กร็ ักตอบใครอาฆาตมุ่งรา้ ยก็ต้องใหอ้ ภัย 4.....................ศาสนาพรามณ์หรือฮินดู พรหมจารี ศึกษาเล่าเรยี นและประพฤตพิ รหมจรรยจ์ นถงึ อายุ 25 ปี ศึกษาจบจงึ กลับบ้าน 5.................... ศาสนาซิกข“์ อย่าใหใ้ ครถอื ตวั เพราะวรรณะของตน ผู้ซง่ึ รจู้ ักพรหมน่นั แหละเป็น พราหมณอ์ ย่า ถอื ตัวเพราะวรรณะความถอื ตัวเชน่ นเ้ี ปน็ บอ่ เกดิ แหง่ ความชัว่ ฯลฯ งา่ ยมากเลยใช่ เพื่อนถูกทกุ ข้อ ไหมคะสู้ๆนะ เลยใชไ่ หมคะ มาดูเฉลยกนั เพอ่ื นๆ เลยค่ะ เฉลย 2. ..×..... ศาสนาอิสลาม 1..×.....ศาสนาพุทธ 4.....√........ 3..×.....ศาสนาครสิ ต์ 5.....√........

25 บทเรียนท่ี 2 เร่อื ง วฒั นธรรมประเพณใี นประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ ในโลก ช่ือ.....................................................สกุล...................................................................... รหสั นักศึกษา.....................................กศน.ตำบล...........................................................

26 คำแนะนำการใชบ้ ทเรยี น 1. บทเรยี นท่ี 2 เร่อื ง วฒั นธรรมประเพณใี นประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ ในโลก ใช้เวลาไมจ่ ำกดั ผูเ้ รยี นสามารถศึกษาได้ตามอธั ยาศยั จนกว่าสามารถเรียนรู้และมคี วาม เข้าใจในเน้ือหาบทเรียน 2. ใหผ้ ู้เรียนอ่านและศึกษาเนื้อหาในบทเรยี นนี้ทีละกรอบห้ามขา้ มกรอบแล้วทำความเขา้ ใจ ในเนื้อหาในแต่ละกรอบโดยเร่ิมจากกรอบบทนำ กรอบความรตู้ ่อจากนัน้ ศกึ ษากรอบ ตัวอย่าง ตามด้วยกรอบกิจกรรม จนครบทุกกจิ กรรมแลว้ ศกึ ษากรอบบทสรปุ 3. เม่ือศกึ ษาครบทุกกรอบแล้วให้ผู้เรยี นทำแบบทดสอบท้ายบทเรียนพร้อมศึกษาเฉลย คำตอบ 4. ขณะศึกษาบทเรยี นผู้เรยี นต้องมีความซื่อสัตยต์ ่อตนเองโดยไมเ่ ปิดดูเฉลยคำตอบก่อนท่ี จะตอบคำถามในแตล่ ะกจิ กรรม 5. เม่อื ผูเ้ รยี นตอบคำถามในแต่ละกจิ กรรมแล้วให้ตรวจคำตอบดว้ ยตนเอง ถ้าผูเ้ รยี นตอบ ผิดใหย้ ้อนกลับไปอา่ นเน้ือหาความรใู้ หม่อกี คร้ังแล้วแก้คำตอบทผ่ี ดิ นัน้ ให้ถูกต้อง 6. เมื่อมาพบกล่มุ ให้ผูเ้ รยี นนำบทเรียนน้มี าแลกเปล่ยี นเรียนรู้กบั เพ่ือนผู้เรยี นและครผู ูส้ อน เพอ่ื เพม่ิ เติมความรู้ความเขา้ ใจทมี่ ีต่อบทเรยี นใหม้ ากยิ่งขน้ึ ตัวช้วี ัด 1. ร้แู ละเขา้ ใจในวัฒนธรรมประเพณใี นประเทศไทยและประเทศตา่ ง ๆ ในโลก จุดประสงค์ 1. บอกความหมายของวฒั นธรรมประเพณีในประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ ในโลกได้

27 บทนำ นกั ศึกษาท่ีนา่ รกั ของครมู าต่อกนั ทบี่ ทเรยี นที่ 2 มาเรยี นกนั ตอ่ นะคะขณะนีเ้ รากำลังศึกษา เร่อื งวัฒนธรรมประเพณีในประเทศไทยและ ประเทศตา่ ง ๆ ในโลกไปเรียนกนั เลยคะ่

28 ความรู้ เรอ่ื ง วฒั นธรรมประเพณีในประเทศไทยและประเทศตา่ ง ๆ ในโลก กกกกกกกวัฒนธรรมประเพณีเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศซง่ึ มีความคล้ายคลงึ และแตกตา่ งกนั ไมว่ า่ จะเปน็ เรื่อง ภาษา การแตง่ กาย อาหาร และประเพณี ที่สำคัญๆ ดังนั้น ความแตกต่างที่เกดิ ข้ึนในโลกน้ี ทำใหเ้ กิดความงาม ความ เช่ือ ความศรทั ธา และกลายเปน็ อตั ลักษณใ์ นแต่ละประเทศ ดงั น้ี ท่ี ประเทศ ภาษา การแต่งกาย อาหาร วฒั นธรรม/ประเพณี 1 บรูไน ภาษามาเลย์ ชดุ ประจำชาติของบรไู นคล้ายกบั อมั บยู ัต -สตรีจะไม่ ยน่ื มือให้ ดารสุ ซา เป็นภาษา ชุดประจำชาติของผชู้ ายประเทศ (Ambuyat) บรุ ุษ ลาม ราชการ มาเลเซยี เรยี กว่า บาจู มลายู -การชนี้ ิว้ ไปทคี่ นหรือ รองลงมาเปน็ (Baju Melayu)สว่ นชดุ ของผ้หู ญงิ สง่ิ ของถือวา่ ไมส่ ุภาพ องั กฤษและจีน เรยี กวา่ บาจูกุรงุ (Baju Kurung) แต่จะใชห้ วั แม่มือช้แี ทน แต่ผ้หู ญงิ บรไู นจะแต่งกายด้วย เส้อื ผ้าทม่ี สี สี ันสดใส โดยมาก มกั จะเปน็ เส้อื ผา้ ที่คลมุ ร่างกาย ต้งั แต่ศรี ษะจรดเท้า สว่ นผ้ชู ายจะ แต่งกายดว้ ยเสื้อแขนยาว ตวั เสอ้ื ยาวถงึ เขา่ น่งุ กางเกงขายาวแลว้ นุง่ โสร่ง เป็นการสะทอ้ นวฒั นธรรม สงั คมแบบอนุรกั ษน์ ิยม เพราะ บรูไนเปน็ ประเทศมสุ สิมจึงต้องแตง่ กายมดิ ชดิ และสุภาพเรยี บร้อย 2 กมั พูชา ภาษาเขมร เป็น ชุดประจำชาติของกมั พชู าคือ ซัม อาม็อก -ระบำอัปสรา ภาษาราชการ ปอต (Sampot) หรือผ้านุ่งกัมพูชา (Amok) (Apsara Dance) รองลงมาเปน็ ทอด้วยมือ มที ั้งแบบหลวมและ อังกฤษ,ฝร่ังเศส, แบบพอดี คาดทับเสื้อบรเิ วณเอว เวียดนามและ ผ้าทใี่ ชม้ กั ทำจากไหมหรือฝ้าย หรอื จีน ทง้ั สองอย่างรวมกัน ซมั ปอต สำหรบั ผู้หญิงมคี วามคลา้ ยคลึงกบั ผา้ นุ่งของประเทศลาวและไทย ท้ังน้ี ซัมปอดมีหลายแบบซง่ึ จะ แตกตา่ งกนั ไปตามชนชัน้ ทางสงั คม ของชาวกัมพูชา ถ้าใช้ใน ชวี ติ ประจำวันจะใชว้ ัสดรุ าคาไมส่ งู ซ่ึงจะส่งมาจากประเทศญ่ปี ุ่น นยิ ม ทำลวดลายตามขวาง ถา้ เป็นชนิด

29 ที่ ประเทศ ภาษา การแต่งกาย อาหาร วฒั นธรรม/ประเพณี 3 อนิ โดนี ภาษาอนิ โดนเี ซยี เกบาย่า (Kebaya) เปน็ ชดุ ประจำ กาโด กาโด -ระบำบารอง เซีย เปน็ ชาติของประเทศอนิ โดนีเซยี สำหรบั (Gado (Barong Dance) ภาษาราชการ ผหู้ ญงิ มลี กั ษณะเปน็ เสื้อแขนยาว Gado) -ผ้าบาติก (Batik) ผ่าหน้ากลัดกระดุม ตัวเสอ้ื จะมสี สี นั สดใส ปกั ฉลเุ ปน็ ลายลกู ไม้ สว่ นผา้ ถงุ ทใี่ ช้จะเป็นผ้าถุงแบบบา ติก สว่ นการแต่งกายของผชู้ ายมักจะ สวมใสเ่ ส้ือแบบบาตกิ และน่งุ กางเกง ขายาวหรอื เตลกุ เบสคาพ (Teluk Beskap) ซ่งึ เปน็ การแต่งกายแบบ ผสมผสานระหวา่ งเสื้อคลมุ สนั้ แบบ ชวาและโสร่ง และนุ่งโสรง่ เม่อื อยู่ บา้ นหรือประกอบพธิ ลี ะหมาดที่ มสั ยิด 4 ลาว ภาษาลาว เปน็ ผหู้ ญงิ ลาวนุง่ ผา้ ซ่ิน และใสเ่ สอื้ แขน สลดั หลวง -รำวงบาสโลบ ภาษาราชการ ยาวทรงกระบอก สำหรบั ผ้ชู ายมัก พระบาง (Budsiob) แตง่ กายแบบแสบากบลทหดรือสนอ่งุ บโจทง ้ายบท(เLรuยี anนg -การตักบาตรขา้ วเหนียว กระเบน สวมเสื้อชนั้ นอกกระดุมเจ็ด Prabang เมด็ คล้ายเสอื้ พระบราทชทเรานยี ขนอทงไที่ 2ย Salad) 5 มาเลเซยี ภาษามาเลย์ เร่อื งชุดรปปู ระแจบำชบาตกิมาารเลปเซกียคขอรงอผชู้งารยะบอบนปาซริ เะลชอมากั ธปิ ไ-ตกายรรำซาบนิ (Zabin) เปน็ ภาษา เรียกว่า บาจู มลายู (BajuMelayu) (Nasi -เทศกาลทาเดา คาอา ราชการ ประกอบด้วยเสื้อแขนยาวและ Lemak) มาตนั (Tadau รองลงมาเป็น กางเกงขายาวทท่ี ำจากผา้ ไหม ผา้ Kaamatan) อังกฤษ และจนี ฝา้ ย หรือโพลเี อสเตอร์ที่มีสว่ นผสม ของผา้ ฝ้ายส่วนชดุ ของผู้หญงิ เรียกวา่ บาจูกรุ ุง ประกอบดว้ ยเสอ้ื คลมุ แขน ยาว และกระโปรงยาว 6 เมียน ภาษาพมา่ เปน็ ชุดประจำชาตขิ องชาวพม่าเรียกวา่ หลา่ เพด็ -ประเพณีปอยสา่ งลอง (Poy Sang Long) มาร์ ภาษาราชการ ลองยี เป็นผา้ โสร่งทน่ี งุ่ ทัง้ ผชู้ าและ (Lahpet) -งานไหว้พทุ ธเจดยี ์ หรือพมา่ ผู้หญงิ ในวาระพิเศษตา่ ง ๆ ผ้ชู ายจะ ใสเ่ สอ้ื เชต้ิ คอปกจีนแมนดารนิ และ ประจำปี เสือ้ คลมุ ไม่มปี ก บางครั้งจะใสผ่ า้ โพกศรี ษะท่เี รยี กว่า กอง บอง ดว้ ย สว่ นผหู้ ญงิ พมา่ จะใสเ่ สอ้ื ติดกระดุม หน้าเรยี กวา่ ยนิ ซี หรอื เสอื้ ตดิ กระดมุ ขา้ งเรยี กวา่ ยนิ บอน (Yinbon) และใสผ่ า้ คลมุ ไหล่ทบั

30 ท่ี ประ ภาษา การแตง่ กาย อาหาร วฒั นธรรม/ประเพณี เทศ - เทศกาลอาตหิ าน ภาษาอังกฤษ เปน็ ผูช้ ายจะนงุ่ กางเกงขายาวและสวม อโดโบ้ (Ati - Atihan) 7 ฟลิ ปิ ภาษาราชการ -เทศกาลซินูล็อก ปนิ ส์ รองลงมาเป็น เสอื้ ทีเ่ รยี กว่า บารองตากาลอ็ ก (Adobo) (Sinulog) สเปน, จีน 8 สงิ ค ฮกเกี้ยน, จีน (barong Tagalog) ซง่ึ ตดั เย็บดว้ ย -เทศกาลตรษุ จีน โปร์ แตจ้ ว๋ิ ฟลิ ิปปินส์ -เทศกาล Hari Raya มีภาษาประจำ ผ้าใยสปั ปะรดมีบ่า คอต้ัง แขนยาว Puasa 9 เวยี ด ชาติคือ ภาษาตา นาม กาลอ็ ก ทปี่ ลายแขนเสื้อทีข่ ้อมือจะปัก -เตด็ เหวียนดาน ภาษามาเลย์ เปน็ (TetNguyen Dan) ภาษาราชการองลง ลวดลายส่วนผหู้ ญิงนุ่งกระโปรงยาว -เทศกาลกลางฤดู มาคอื จนี กลาง ใบไม้ร่วง สง่ เสริมให้พูดได้ 2 ใสเ่ สื้อสคี รีมแขนสนั้ จับจีบยกตง้ั ข้นึ ภาษาคือจีนกลาง และใหใ้ ช้อัง กฤษ เหนือไหล่คล้ายปีกผเี สือ้ เรียกวา่ เพ่ือติดต่องานและ ชวี ิตประจำวัน บาลินตาวัก(balintawak) ภาษาเวยี ดนาม สงิ คโปร์ไมม่ ีชุดประจำชาติเป็นของ ลกั ซา เป็นภาษาราชการ ตนเอง เน่อื งจากประเทศสงิ คโปร์ (Laksa) แบง่ ออกเป็น 4 เช้ือชาตหิ ลกั ๆ ได้แก่ จีน มาเลย์อนิ เดีย และชาว ยโุ รป ซงึ่ แตล่ ะเชือ้ ชาตกิ ็มชี ดุ ประจำชาติเป็นของตนเอง เช่น ผหู้ ญิงมลายูในสงิ คโปร์ จะใส่ชุดเก บาย่า (Kebaya) ตัวเสื้อจะมีสีสนั สดใส ปกั ฉลุเปน็ ลายลูกไม้ หากเปน็ ชาว จีน ก็จะสวมเส้ือแขนยาว คอจีน เสอื้ ผา้ หนา้ ซอ่ นกระดุม สวม กางเกงขายาว โดยเสอื้ จะใชผ้ ้าสี เรยี บหรอื ผ้าแพรจีนก็ได้ อา่ วหญา่ ย (Ao dai) เป็นชุดประจำ เปาะเปีย๊ ะ ชาตขิ องประเทศเวยี ดนามที่ เวยี ดนาม ประกอบไปดว้ ยชดุ ผ้าไหมที่พอดตี วั (Vietname สวมทบั กางเกงขายาวซ่ึงเป็นชดุ ที่ seSpring มกั สวมใส่ในงานแตง่ งานและพธิ ี Rolls) การสำคัญของประเทศ มลี กั ษณะ คลา้ ยชดุ กเี่ พ้าของจีนในปจั จุบัน เป็นชุดท่ไี ดร้ ับความนยิ มจากผู้หญงิ เวยี ดนาม สว่ นผู้ชายเวยี ดนามจะสวมใส่ชดุ

31 ท่ี ประเทศ ภาษา การแตง่ กาย อาหาร วฒั นธรรม/ ประเพณี 10 ไทย ภาษาไทย สำหรับชุดประจำชาติอยา่ งเป็น ตม้ ยำกุ้ง (Tom เป็นภาษา ทางการของไทย รู้จักกันในนาม Yam Goong) -การไหว้ ราชการ ว่า \"ชุดไทยพระราชนิยม\" โดยชดุ -โขน ประจำชาตสิ ำหรับสภุ าพบุรษุ จะ เรยี กวา่ \"เสื้อพระราชทาน\"หรับ -สงกรานต์ สุภาพสตรีจะเป็นชุดไทยทีร่ ะ กอบด้วยสไบเฉียงใชผ้ ้ายกมีเชิง หรือยกทง้ั ตวั ซ่ินมจี ีบยกข้างหนา้ มีชายพกใช้เข็มขัดไทยคาด ส่วน ทอ่ นบนเปน็ สไบ จะเย็บให้ติดกบั ซนิ่ เป็นทอ่ นเดยี วกนั หรอื จะมผี ้า สไบห่มต่างหากก็ได้ เปดิ บา่ ข้าง หนง่ึ ชายสไบคลมุ ไหล่ ทิง้ ชาย ด้านหลังยาวตามทีห่ น็ สมควร ความสวยงามอยู่ที่เนื้อผ้าการเย็บ และรูปทรงของผู้ท่ีสวม ใช้ครอื่ ง ประดบั ได้งดงามสมโอกาสใน เวลาค่ำคืน นกั ศึกษาของครตู ั้งใจกนั ทุกคน เลยเก่งมากค่ะจำใหไ้ ด้นะคะว่า ความแตกต่างของภาษา การ แตง่ กาย อาหาร และประเพณี ของแตล่ ะประเทศ มีความ เหมอื นและแตกตา่ งกนั อย่างไร

32 ตวั อยา่ ง 1. คำส่ัง ให้ทำเครื่องหมายถกู (√) หน้าข้อท่ีอา่ นและคดิ ว่าถูกและทำเครอ่ื งหมายผิด (×)หน้าข้อท่ีอ่าน และคิดว่าผิด 1....................ประเทศบรไู นภาษามาเลยเ์ ป็นภาษาราชการรองลงมาเป็นองั กฤษและจีน 2....................ประเทศกัมพูชาภาษาเขมร เปน็ ภาษาราชการรองลงมาเปน็ อังกฤษ,ฝรงั่ เศส, เวียดนามและจนี เฉลย 1......√..........ประเทศบรูไนภาษามาเลยเ์ ปน็ ภาษาราชการ รองลงมาเปน็ อังกฤษและจีน 2......√..........ประเทศกัมพชู าภาษาเขมร เปน็ ภาษาราชการ รองลงมาเปน็ องั กฤษ,ฝรง่ั เศส,เวยี ดนามและจีน เวยี ดนามและจีน 2. คำส่งั ให้นำตวั อักษรหนา้ ข้อความด้านขวามาใสห่ น้าข้อตัวเลขทค่ี ิดว่าสัมพนั ธก์ ัน .....................1. อมั บยู ัต (Ambuyat) ก. กัมพชู า ………………… 2. อาม็อก (Amok) ข. บรไู น ดารสุ ซาลาม เฉลย 1. ข 2. ก 3. คำสงั่ ให้อ่านโจทย์แล้วเขยี นคำตอบสัน้ ๆลงในช่องวา่ งหลังคำตอบ 1. ชุดประจำชาติของผ้ชู าย เรียกวา่ บาจู มลายู (Baju Melayu)สว่ นชดุ ของผู้หญงิ เรยี กวา่ บาจู กุรุง (Baju Kurung)ทก่ี ล่าวมา เป็นชุดประจำชาตขิ องประเทศ................................................ 2. ชุดประจำชาตคิ ือ ซัมปอต (Sampot) หรอื ผ้านุ่ง ทอดว้ ยมือ มีทั้งแบบหลวมและแบบพอดี คาด ทบั เสือ้ บรเิ วณเอว ผ้าทีใ่ ช้มักทำจากไหมหรอื ฝา้ ย หรือทง้ั สองอย่างรวมกนั ซัมปอตสำหรับ ผู้หญงิ มคี วามคล้ายคลึงกับผ้านงุ่ ของประเทศลาวและไทยที่กลา่ วมาเปน็ ชุดประจำชาติของ ประเทศ .......................................................... เฉลย 1. 1. บรไู น ดารสุ ซาลาม 2. 2. กมั พูชา

33 กิจกรรมท่ี 1 1. คำสงั่ ใหท้ ำเคร่ืองหมายถูก (√) หน้าข้อท่ีอา่ นและคิดวา่ ถูกและทำเครือ่ งหมายผดิ (×)หน้าข้อท่ี อ่านและคดิ วา่ ผดิ 1......................ประเทศกัมพชู า สตรีจะไม่ย่ืนมือใหบ้ รุ ุษ การชี้นว้ิ ไปท่คี นหรือส่ิงของถอื ว่าไมส่ ภุ าพ แต่จะใชห้ วั แมม่ ือชแ้ี ทน 2......................ประเทศบรูไน มีวฒั นธรรมประเพณีคือ ระบำอปั สรา (Apsara Dance) 3......................ประเทศอนิ โดนีเซียมวี ฒั นธรรมประเพณีคือ ระบำบารอง (Barong Dance) ผ้าบาตกิ (Batik) 4......................ประเทศลาวมีวฒั นธรรมประเพณีคือ รำวงบาสโลบ(Budsiob) การตกั บาตรข้าวเหนียว 5.................... ประเทศมาเลเซยี มวี ัฒนธรรมประเพณีคือการรำซาบนิ (Zabin) เทศกาลทาเดา คาอา มาตนั (TadauKaamatan) เร่อื งน้งี า่ ยมากเลยใชไ่ หมคะ่ นกั ศึกษาเรยี นรไู้ ว้ หากวัน ไหนเราไดไ้ ปเท่ียวประเทศ เพื่อนบา้ น ข้อมลู เหลา่ น้ีจะ ชว่ ยเราไดม้ าก เฉลย 1....×....บรไู น ดารสุ ซาลาม 2....×... กมั พูชา 3....√....... 4. ....√....... 5....√.......

34 กจิ กรรมที่ 2 1. คำส่งั ใหน้ ำตวั อักษรหนา้ ข้อความด้านขวามาใสห่ น้าข้อตัวเลขทีค่ ดิ วา่ สัมพนั ธก์ นั ....................1. ประเพณปี อยสา่ งลอง ก. ไทย (Poy Sang Long) งานไหวพ้ ุทธเจดยี ์ประจำปี ข. เวียดนาม ค. สิงคโปร์ ....................2. เทศกาลอาติหาน (Ati - Atihan) ง. ฟิลปิ ปินส์ เทศกาลซนิ ลู อ็ ก (Sinulog) จ. เมียนมาร์ หรอื พม่า ....................3. เทศกาลตรษุ จีน เทศกาล Hari RayaPuasa สวัสดีครบั ผมตั้งใจเรยี น ....................4. เตด็ เหวียนดาน (TetNguyen Dan) เพอื่ นๆกเ็ ชน่ กนั ใช่ เทศกาลกลางฤดูใบไมร้ ่วง .....................5. การไหว้ โขน สงกรานต์ ไหมครับ เฉลย 1. จ 2. ง 3. ค 4. ข 5. ก

35 กิจกรรมท่ี 3 4. คำสง่ั ให้อา่ นโจทยแ์ ล้วเขียนคำตอบสน้ั ๆลงในช่องวา่ งหลงั คำตอบ 1. ประเทศทีใ่ ชภ้ าษา เขมร เป็นภาษาราชการรองลงมาเป็นองั กฤษ,ฝร่ังเศส, เวยี ดนามและจนี คือ ประเทศ........................................................................................... 2. ประเทศท่ีใช้ภาษามาเลย์ เป็นภาษาราชการรองลงมาเปน็ อังกฤษและจีนมีอยู่ 2 ประเทศ ไดแ้ ก่ ประเทศ.................................................................................................................... 3. ประเทศทใ่ี ช้ภาษามาเลย์ เปน็ ภาษาราชการองลงมาคือจีนกลาง ส่งเสริมให้พดู ได้ 2 ภาษา คือจนี กลาง และให้ใชอ้ งั กฤษ เพอ่ื ติดตอ่ งานและใช้ชวี ติ ประจำวนั คอื ประเทศ ............................................................................................................... .............................. 4. ประเทศท่ใี ช้ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ รองลงมาเป็นสเปน, จนี ฮกเกย้ี น, จนี แตจ้ ิ๋ว และมภี าษาประจำชาตคิ ือ ภาษาตากาล็อก คือ ประเทศ ........................................................................................................................................... 5. ประเทศที่ใชภ้ าษาราชการตามชอ่ื ประเทศ มีอยู่ 5 ประเทศ ไดแ้ ก่ประเทศ ....................................................................................................................................... ..... เฉลย 1. ประเทศกมั พชู า 2. ประเทศบรูไนดารุสซาลามและประเทศมาเลเซีย 3. ประเทศสงิ คโปร์ 4. ประเทศฟลิ ปิ ปินส์ 5. ประเทศไทย ประเทศเวยี ดนาม ประเทศลาว ประเทศอนิ โดนเี ซยี และประเทศพมา่

36 กิจกรรมที่ 4 1. คำสัง่ ให้ทำเคร่ืองหมายถูก (√) หน้าข้อท่ีอ่านและคดิ วา่ ถูกและทำเครือ่ งหมายผดิ (×)หน้าข้อท่ี อา่ นและคิดว่าผดิ ..................1. อมั บูยัต (Ambuyat) เปน็ อาหารประจำชาติของประเทศ มาเลเซยี ...................2. อามอ็ ก (Amok) เปน็ อาหารประจำชาตขิ องประเทศ บรูไนดารสุ ซาลาม ...................3. กาโด กาโด (Gado Gado) เปน็ อาหารประจำชาตขิ องประเทศ กัมพูชา ...................4. สลดั หลวงพระบาง(LuangPrabang Salad) เป็นอาหารประจำชาติ ของประเทศลาว ....................5. นาซิ เลอมัก (Nasi Lemak) เป็นอาหารประจำชาติ ของประเทศ เวยี ดนาม เฉลย 1....×........ประเทศบรไู น ดารุสซาลาม 2....×.........ประเทศกัมพูชา 3. ..×.........ประเทศอินโดนเี ซีย 4. ...√......... 5. ..×.........ประเทศมาเลเซีย

37 กจิ กรรมที่ 5 1. คำส่ัง ใหน้ ำตวั อักษรหนา้ ข้อความด้านขวามาใสห่ นา้ ข้อตัวเลขทคี่ ดิ ว่าสมั พันธก์ นั .......................1. หลา่ เพด็ (Lahpet) ก. ไทย .......................2. อโดโบ้ (Adobo) ข. เวยี ดนาม .......................3. ลกั ซา (Laksa) ค. สงิ คโปร์ .......................4.เปาะเปยี๊ ะเวียดนาม ง. ฟิลปิ ปินส์ จ. เมยี นมาร์ (VietnameseSpring Rolls) ฉ. หรือพม่า .......................5. ตม้ ยำก้งุ (TomYam Goong) วนั นี้แมม่ ดใจดีไมเ่ อายาพิษทา แอปเป้ิลให้สโนว์ไวท์กนิ และวันนี้ แมม่ ดจะมาเฉลยขอ้ สอบให้ นักศกึ ษาท่ไี ด้ทำไปแล้วว่าถูกไหม มาดกู นั เลย........ เฉลย 1. จ 2. ง 3. ค 4. ข 5. ก

38 บทสรปุ เรามาสรุปบทเรยี นพรอ้ มกนั นะคะนกั ศึกษา วัฒนธรรม หมายถึง ทุกสงิ่ ทุกอย่างทม่ี นษุ ยส์ รา้ ง ข้นึ มา นับตัง้ แต่ภาษาขนบธรรมเนียม ประเพณี ศาสนา กฎหมาย ศลิ ปะ จริยธรรม ตลอดจน วิทยาการและเทคโนโลยตี า่ ง ๆ ประเพณี เปน็ กิจกรรมทมี่ ีการปฎิบัตสิ ืบเนือ่ งกนั มา เปน็ เอกลกั ษณแ์ ละมีความสำคัญตอ่ สงั คม เชน่ การแต่งกาย ภาษา วฒั นธรรม ศาสนา ศลิ ปกรรม กฎหมายคุณธรรม ความเช่ือไม่วา่ วฒั นธรรมสากลหรอื วัฒนธรรมไทยย่อมมีความ แตกตา่ งกนั ทั้งทางดา้ นครอบครัว คา่ นิยมความ เชื่อ ด้านภาษา ดา้ นอาหาร ด้านเครื่องนุ่งหม่ ดา้ นเศรษฐกจิ และการเมือง แนวโนม้ ในการ เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของสังคมของชาติต่างๆ หากนำมาปรบั ใช้อย่างเหมาะสมจะไม่เกิดการ จะ ทำให้เกดิ การอยรู่ ่วมกันอย่าง มคี วามสขุ นะคะ อย่าลืมทำแบบทดสอบทา้ ยบทนะคะ

39 แบบทดสอบท้ายบทเรยี น คำสัง่ ให้ทำเครื่องหมายถูก (√) หน้าขอ้ ท่ีอ่านและคดิ ว่าถูกและทำเคร่อื งหมายผดิ (×) หน้าข้อที่ อา่ นและคิดว่าผิด ..............................1. ชุดประจำชาติของบรูไนคล้ายกับชุดประจำชาตขิ องผู้ชายประเทศมาเลเซีย เรียกวา่ บาจู มลายู (Baju Melayu)ส่วนชดุ ของผูห้ ญิงเรยี กวา่ บาจกู ุรุง ผู้ชายจะ แต่งกายดว้ ยเส้อื แขนยาว ตัวเส้อื ยาวถึงเขา่ นุ่งกางเกงขายาวแล้วนงุ่ โสร่ง ………………………….2. ชุดประจำชาติของกัมพูชาคือ ซมั ปอต (Sampot) หรือผา้ นงุ่ กัมพูชา ทอด้วยมือ คาดทับเสื้อบริเวณเอว ผา้ ทใ่ี ชม้ ักทำจากไหมหรอื ฝา้ ย หรือท้งั สองอย่างรวมกัน ซัมปอตสำหรบั ผู้หญิงมีความคล้ายคลงึ กบั ผา้ นุ่งของประเทศลาวและไทย …………………………..3. เกบาย่า (Kebaya) เป็นชุดประจำชาตขิ องประเทศอินโดนเี ซียสำหรบั ผู้หญิง มีลักษณะเปน็ เสื้อแขนยาว ผา่ หน้ากลดั กระดมุ สว่ นการแตง่ กายของผู้ชายมักจะ สวมใส่เสื้อแบบบาตกิ และน่งุ กางเกงขายาวหรือเตลกุ เบสคาพ (Teluk Beskap) …………………………..4. นาซิ เลอมกั (Nasi Lemak) เป็นอาหารประจำชาติประเทศมาเลเซยี …………………………….5. ประเทบรูไนดารสุ ซาลาม สตรจี ะไม่ ยื่นมือให้บรุ ษุ การช้นี ้วิ ไปท่ีคนหรอื ส่ิงของ ถอื ว่าไมส่ ุภาพแตจ่ ะใช้หัวแม่มือชี้แทน งา่ ยมากเลยใชไ่ หมคะ นกั ศึกษาทบทวนเยอะๆ จะไดเ้ ก่งๆ ครเู อา เฉลยมาฝากคะ่ ตวั ชี้วัด 1......√...... 2. ...√....... 1. ร้แู ละเข้าใจระบอบการเมืองการปกครองต่างๆทใี่ ช้อยูใ่ นปัจ43จ.. ุบ.. นั√√.............. 5. . √.......

40 แบบทดสอบวัดความรหู้ ลังใชบ้ ทเรยี นสำเรจ็ รปู คำช้แี จง 1. แบบทดสอบฉบับนจ้ี ัดทำข้ึนเพื่อให้นักศึกษาที่ศึกษาบทเรยี นสำเร็จรูปรายวิชา สค31002 ศาสนาและ หน้าท่ีพลเมือง ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เร่ือง ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี ได้ตอบหลังเสร็จส้ินการเรียนรู้ ดว้ ยตนเองครบถ้วนทกุ บทเรียนแล้ว เพื่อประเมินพฒั นาการการเรียนรขู้ องนักศึกษา ขอให้นกั ศกึ ษาตอบใหค้ รบ ทุกขอ้ ตามความรู้ ความเข้าใจทไี่ ด้ศกึ ษามา 2. แบบทดสอบฉบับน้ีมีลักษณะเป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ4 ตัวเลือกจำนวน 20 ข้อให้นักศึกษา เลอื กคำตอบท่ีเห็นว่าถกู ตอ้ งท่ีสุดเพยี งคำตอบเดยี ว แลว้ ทำเครื่องหมายกากบาท (×)ทบั ตวั อกั ษรหน้าข้อทีเ่ ลอื ก ในแผ่นกระดาษคำตอบทแ่ี จกให้ ห้ามขีดเขียน หรือทำเครือ่ งหมายใดๆในแบบทดสอบฉบับน้ี ใช้เวลาทำข้อสอบ 20 นาที 3. ให้นักศึกษานำแผ่นกระดาษคำตอบท่ีตอบเสร็จสิ้นแล้ว พร้อมเอกสารแบบทดสอบฉบับนี้ ส่งคืน ครผู ้สู อนเพ่อื นำไปตรวจให้คะแนน และแจ้งผลการประเมินพัฒนาการการเรยี นรู้ของนักศึกษาไดร้ บั ร้ตู ่อไป 4. ก่อนทำแบบทดสอบฉบับนี้ให้นักศึกษาเขียนช่ือ.......สกุล.......รหัสนักศึกษา......ในช่องว่างส่วนหัวของ กระดาษคำตอบที่แจกให้ ใหค้ รบถ้วนเรียบรอ้ ย 1. ก 1. √ 2. ข 2. √ 3. √ 1.ข 2. ข 4. √ 5. √ 3. ข 4.ก 5. ก 1. (1) หลกั การอำนาจอธิปไตยเปน็ ของปวงชน (2) หลักเสรภี าพ (3) หลกั ความเสมอภาค (4) หลักนติ ิธรรม (5)หลกั การเสียงขา้ งมาก 2. หลกั การอำนาจอธปิ ไตยเป็นของปวงชน

41 แบบทดสอบวดั ความรหู้ ลังใช้บทเรียนสำเร็จรปู ข้อ 1. ขอ้ ใดคือความหมายของศาสนา ก. คำสอนที่มพี ระคัมภรี เ์ ป็นส่ิงสำคญั ทีต่ ้องเคารพสงู สดุ ข. คำสอนที่พระบิดาท่ีดีพรอ้ มท่ีจะประทานอภยั ใหแ้ กบ่ ตุ ร ค. คำสอนของศาสดาเช่ือว่ามพี ระเจา้ สูงสุดเพียงองค์เดยี วเป็นผ้สู ร้างโลกและสรรพสิ่ง ง. คำสอนท่ศี าสดานำมาเผยแผ่ สั่งสอน แจกแจง แสดงให้มนษุ ยล์ ะเวน้ จาก ความช่ัว ข้อ 2. อะไรท่ีแสดงถึงความแตกต่างระหว่างศาสนาต่าง ๆ ก. ความเชือ่ ข. ปฏิบตั ิพธิ กี รรม ค. จงู ใจใหค้ นละความชัว่ ง. แสดงให้มนุษย์เวน้ จากความชวั่ ข้อ 3. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ หลักอริยสัจ 4 ก. ทุกข์ ข. สมุทัย ค. พโิ รธ ง. มรรค ขอ้ 4. ขอ้ ใดเปน็ หลกั ธรรมที่ผูกไมตรีให้แนน่ แฟ้นย่ิงขนึ้ ก. ศลี 5 ข. อริยสัจ 4 ค. สังคหวัตถุ 4 ง. กุศลธรรมบถ 10 ขอ้ 5. หลกั คำสอนท่ีว่าให้ศรัทธาต่ออัลเลาะห์ ให้ศรัทธาโดยปราศจากข้อสงสัยใด ๆ วา่ พระอัลเลาะห์ ทรงมี อยูจ่ รงิ ทรงดำรงอยู่ด้วยพระองค์ คือหลกั คำสอนของศาสนาใด ก. ซกิ ข์ ข. คริสต์ ค. อสิ ลาม ง. พราหมณ์

42 แบบทดสอบวดั ความรหู้ ลงั ใชบ้ ทเรียนสำเรจ็ รปู (ตอ่ ) ข้อ 6. หลกั ธรรมของศาสนาพราหมณห์ รือฮนิ ดูท่ใี ห้รู้จักการขม่ จิตมใิ หห้ วน่ั ไหวไปตามอารมณ์มสี ติอยู่เสมอ คอื ข้อใด ก. ทมะ ข. ธฤติ ค. กษมา ง. อัสเตยะ ข้อ 7. ศาสนาแตล่ ะศาสนา มสี ิ่งใดทใ่ี ช้เป็นแนวทางในการประพฤติปฏบิ ัติ ก. ความเชอ่ื ข. กฎหมาย ค. แรงบันดาลใจ ค. หลักธรรมคำสอน ขอ้ 8. การป้องกนั และแก้ไขความขดั แย้งทางศาสนาที่ให้ทุกฝ่ายทุกศาสนาเปดิ เผยความจรงิ และแลกเปล่ียน ข้อมลู ซึ่งกันและกนั คือวิธีการในข้อใด ก. ยอมกนั ข. หลกี เลีย่ ง ค. ผสมผสาน ง. ประนปี ระนอม ข้อ 9. จติ ทส่ี งบต้ังมนั่ อย่ใู นเร่ืองใดเร่ืองหนึ่งไม่ฟงุ้ ซ่าน หรือการจัดระเบยี บความคดิ ได้ คอื ความหมายของข้อใด ก. สติ ข. สมาธิ ค. ปัญญา ง. ศรทั ธา ขอ้ 10. อนิ ทรียนิครหะ ได้แก่ การข่มการระงบั อินทรีย์ 10 คือ ตา หู จมูก ลิ้น ผวิ หนัง มอื เทา้ ทวารหนกั ทวารเบา และลำคอ ให้เปน็ ไปในทางที่ถกู ต้องอยูใ่ นขอบเขต เปน็ หลกั ธรรมคำสอนของศานาใด ก. ซกิ ข์ ข. คริสต์ ค. อสิ ลาม ง. พราหมณ์ หรือฮินดู

43 แบบทดสอบวัดความรหู้ ลงั ใช้บทเรียนสำเรจ็ รปู (ต่อ) ข้อ 11. “มนุษยม์ ฐี านะสูงสดุ เพราะมีโอกาสบำเพญ็ ธรรมเป็นการฟอกวิญญาณให้สะอาด”คือคำสอน ของศาสนาใด ก. ซิกข์ ข. ครสิ ต์ ค. อสิ ลาม ง. พราหมณ์ ขอ้ 12. ข้อใด ไม่ใช่ ไตรลกั ษณใ์ นพระพุทธศาสนา ก. ทุกขัง ข. เวทนา ค. อนิจจัง ง. อนัตตา ขอ้ 13. สัปปรุ ิสธรรม 7 เปน็ หลักธรรมของศาสนาใด ก. พุทธ ข. ครสิ ต์ ค. อิสลาม ง. พราหมณ์ ขอ้ 14. ข้อใดเปน็ เอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทย ก. ภาษา ข. ศิลปกรรม ค. สถาบนั ครอบครัว ค. วัฒนธรรมพน้ื บา้ น ข้อ 15. กล่มุ ภาษาใดทีป่ ระชากรสว่ นใหญ่ของทวปี เอเซยี ใชม้ ากท่ีสุด ก. จีน ข. สลาวกิ ค. อเิ รเนียน ง. อินโด-อารยัน

44 แบบทดสอบวัดความรหู้ ลังใช้บทเรยี นสำเร็จรปู (ตอ่ ) ขอ้ 16. การสบื ทอดวัฒนธรรมไทยทีไ่ ด้ผลมากทสี่ ุดคือข้อใด ก. เกบ็ ข้อมูล ข. การบอกเล่า ค. การนำมาปฎิบตั ิ ง. ช้ีแจงใหเ้ หน็ คณุ คา่ และประโยชน์ ขอ้ 17. บาจู มลายู (BajuMelayu) เป็นชุดประจำชาติของประเทศใด ก. ลาว ข. เมียนมาร์ ค. มาเลเซยี ง. อนิ โดนเี ซีย ข้อ 18. ประเพณีปอยส่างลอง(Poy Sang Long) เป็นวัฒนธรรมประเพณขี องประเทศใด ก. ลาว ข. เมยี นมาร์ ค. มาเลเซีย ง. อินโดนเี ซีย ข้อ 19. อา่ วหญ่าย (Ao dai) เปน็ ชุดประจำชาติของประเทศใด ก. ไทย ข. เวียดนาม ค. สงิ คโปร์ ค. ฟิลิปปินส์ ข้อ 20. ระบำอัปสรา (Apsara Dance) เป็นวัฒนธรรมประเพณขี องประเทศใด ก. ลาว ข. กมั พูชา ค. มาเลเซีย ง. บรูไน ดารุสซาลาม

45 ขอ้ 1. ง เฉลยแบบทดสอบวดั ความรหู้ ลงั ใช้บทเรียนสำเรจ็ รปู ขอ้ 2. ข ขอ้ 3. ค สค310012 ศาสนาและหนา้ ท่ีพลเมือง ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย ข้อ 4. ค ข้อ 5. ค ข้อ 6. ก ข้อ 7.ค ขอ้ 8.ค ขอ้ 9.ข ขอ้ 10.ง ข้อ 11.ก ข้อ 12.ข ข้อ 13.ก ข้อ 14.ก ข้อ 15.ก ขอ้ 16.ค ขอ้ 17.ค ขอ้ 18.ข ขอ้ 19.ข ข้อ 20.ข


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook