Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรปฐมวัย

หลักสูตรปฐมวัย

Published by kaew.xxxxxx, 2021-08-24 12:24:01

Description: หลักสูตรปฐมวัย

Keywords: หลักสูตรปฐมวัย

Search

Read the Text Version

ความนา กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายพัฒนาการศึกษาปฐมวัยอย่างจริงจังและต่อเน่ือง โดยได้ ประกาศให้ใช้หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช ๒๕๖๐ เพ่ือใช้ในการจัดการศึกษาปฐมวัยแก่ สถานศึกษาทุกแห่งท่ีต้องพัฒนาเด็กต้ังแต่แรกเกิด – ๖ ปี ให้มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปญั ญาท่ีเหมาะสมกับวัย ความสามารถ และความแตกต่างระหว่างบุคคลเป็นการเตรียม ความพร้อมที่จะเรียนรู้และสร้างรากฐานชีวิตใช้พัฒนาเด็กปฐมวัยไปสู่ความเป็นมนุษย์ท่ีสมบูรณ์ เป็นคนดี มีวินัย ภูมิใจในตนเอง และมีความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม และ ประเทศชาติ อาศัยความตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ (๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๑๐ กาหนดไว้ว่า “การจัดการศึกษาต้องจัดให้บุคคลมีสิทธิและโอกาสเสมอ กันในการรับการศึกษาขั้นพ้ืนฐานไม่น้อยกว่าสิบสองปีท่ีรัฐต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพโดยไม่ เสียค่าใช้จ่าย” และพระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสาหรับคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๕ กาหนดให้คนพกิ ารมสี ิทธิทางการศึกษาโดยไม่เสียคา่ ใช้จา่ ยต้ังแตแ่ รกเกิดหรือพบความพิการจนตลอด ชีวิต พร้อมท้ังได้รับเทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก ส่ือ บริการและความช่วยเหลืออ่ืนใดทาง การศึกษา เลือกบริการทางการศึกษา สถานศึกษา ระบบ และรูปแบบการศึกษาโดยคานึงถึง ความสามารถ ความสนใจ ความถนัดและความตอ้ งการจาเป็นพิเศษเฉพาะบุคคลนั้น ดังนั้น เพื่อให้การจัดการศึกษาสาหรับเด็กพิการได้รับการพัฒนาต้ังแต่แรกเกิดถึง ๖ ปี ให้มี พัฒนาการดา้ นรา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คมและมสี ติปญั ญาทเี่ หมาะสมเตม็ ศักยภาพ สานัก บริหารงานการศึกษาพิเศษได้แต่งตั้งคณะทางานพัฒนาหลักสูตร การศึกษาปฐมวัยสาหรับ เด็กท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษ พุทธศักราช ๒๕๖2 โดยคณะทางานได้เพ่ิมทักษะจาเป็นเฉพาะ ความพิการสาหรับเด็กพิการแต่ละประเภท เพ่ือให้สอดคล้องกับสภาพความพิการและศักยภาพ ของแต่ละบคุ คล หลักสตู รนจี้ ึงเหมาะสาหรับศูนย์การศึกษาพิเศษ นอกจากนี้สถานศึกษา สถานพัฒนา เด็กเล็ก และหน่วยงานท่ีมีเด็กท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษ สามารถนาไปใช้เป็นกรอบและแนวทาง ในการพัฒนาเด็กท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษระดับปฐมวัยให้มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สติปญั ญา และทกั ษะทีจ่ าเปน็ สาหรับเด็กพิการแต่ละประเภทเพอ่ื ใหด้ ารงชวี ิตอยู่ในสังคม ไดอ้ ย่างมีความสขุ

๒ ปรัชญาการศึกษาปฐมวยั สาหรบั เด็กทม่ี คี วามต้องการจาเป็นพเิ ศษ การศึกษาปฐมวัยสาหรับเด็กที่มีความต้องการจาเป็นพิเศษ เป็นการพัฒนาเด็กตั้งแต่แรก เกิดถงึ ๖ ปีบริบูรณ์ อย่างเปน็ องคร์ วมบนพืน้ ฐานการอบรมเลี้ยงดแู ละการสง่ เสริมกระบวนการเรียนรู้ ท่สี นองต่อธรรมชาติและพัฒนาการตามสภาพความพิการของเด็กแต่ละบุคคลให้เต็มศักยภาพ ภายใต้ บริบทสังคมและวัฒนธรรมท่ีเด็กอาศัยอยู่ ด้วยความรัก ความเอ้ืออาทร และความเข้าใจของทุกคน เพ่ือสร้างรากฐาน คุณภาพชีวิตให้เด็กพัฒนาไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เกิดคุณค่าต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ วสิ ัยทัศน์ หลักสูตรการศกึ ษาปฐมวัยสาหรับเดก็ ท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษ มุ่งพัฒนาเด็กทุกคนให้ ได้รับการพัฒนาด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สติปัญญา และทักษะท่ีจาเป็นสาหรับเด็กพิการ แต่ละประเภท อย่างมีคุณภาพและต่อเนื่อง ได้รับการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้อย่างมีความสุขและ เหมาะสมตามศกั ยภาพ มีทักษะชวี ิตและปฏิบตั ติ นตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นคนดี มี วินัย และสานึกความเป็นไทย โดยความร่วมมือระหว่างสถานศึกษา พ่อแม่ ครอบครัว ชุมชนและทุก ฝ่ายท่เี ก่ียวข้องกับการพฒั นาเด็ก หลักการ เด็กทุกคนมีสทิ ธิทจ่ี ะได้รบั การอบรมเล้ียงดูและการส่งเสริมพฒั นาการตามอนสุ ัญญาวา่ ดว้ ย สิทธิเด็ก ตลอดจนไดร้ ับการจัดประสบการณ์การเรียนรอู้ ย่างเหมาะสม ดว้ ยปฏิสัมพันธท์ ี่ดรี ะหว่างเด็ก กับพ่อแม่ เด็กกับผู้สอน เด็กกับผู้เล้ียงดู หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการอบรมเลี้ยงดู การพัฒนา และให้ การศึกษาแก่เด็กปฐมวัย เพื่อให้เด็กมีโอกาสพัฒนาตนเองตามลาดับข้ันของพัฒนาการทุกด้าน อย่าง เปน็ องค์รวม มีคุณภาพ และเต็มตามศักยภาพ โดยกาหนดหลกั การ ดงั น้ี ๑. ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาการท่ีครอบคลุมเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการ จาเป็นพิเศษทุกคน ๒. ยึดหลักการอบรมเลี้ยงดูและให้การศึกษาท่ีเน้นเด็กเป็นสาคัญ โดยคานึงถึง ความแตกต่างระหว่างบุคคล และวิถชี ีวติ ของเด็กตามบรบิ ทของชมุ ชน สังคม และวัฒนธรรมไทย ๓. ยึดพัฒนาการและการพัฒนาเด็กโดยองค์รวม ผ่านการเล่นอย่างมีความหมาย มีกจิ กรรมทีห่ ลากหลาย ได้รบั เทคโนโลยี สอื่ สิ่งอานวยความสะดวก บริการและความช่วยเหลืออ่ืนใด ทางการศึกษา ได้ลงมือกระทาในสภาพแวดล้อมที่เอ้ือต่อการเรียนรู้ เหมาะสมกับสภาพความพิการ และมกี ารพักผ่อนเพยี งพอ ๔. จดั ประสบการณ์การเรียนรู้ให้เด็กมที ักษะชีวิต และสามารถปฏบิ ัตติ นตามหลักปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพยี ง เป็นคนดี มวี นิ ัย และมีความสุข ๕. สร้างความรู้ ความเข้าใจ และประสานความร่วมมือในการพัฒนาเด็กระหว่าง สถานศึกษากับพ่อแม่ ครอบครัว ชุมชน และทุกฝ่ายท่ีเกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีมี ความตอ้ งการจาเปน็ พิเศษ

๓ หลักสูตรการศกึ ษาปฐมวยั สาหรบั เด็กทม่ี คี วามตอ้ งการจาเปน็ พเิ ศษ ตงั้ แต่แรกเกิด - ๖ ปี

๔ หลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวัยสาหรบั เดก็ ทมี่ ีความตอ้ งการจาเป็นพเิ ศษ สาหรับ เด็กอายุแรกเกดิ -๖ ปี หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยสาหรับเด็กท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษ อายุแรกเกิด -๖ ปี เป็นการจัดการศึกษาในลักษณะของการอบรมเล้ียงดูและให้การศกึ ษา เด็กจะได้รับการพัฒนาทั้งด้าน รา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สติปญั ญา และทักษะท่จี าเป็นสาหรบั เดก็ พกิ ารแต่ละประเภทตามสภาพ ความพกิ าร และความสามารถของแต่ละบุคคล จุดหมาย หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยสาหรับเด็กท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษ มุ่งให้เด็กที่มี ความต้องการจาเป็นพิเศษมีพัฒนาการเต็มตามศักยภาพ และมีความพร้อมในการเรียนรู้ต่อไป จึงกาหนดจุดหมายเพอ่ื ให้เกดิ กบั เด็กเม่ือจบการศึกษาระดบั ปฐมวยั ดังนี้ ๑. ร่างกายเจรญิ เตบิ โตตามวยั แขง็ แรง และมสี ขุ นิสยั ทีด่ ี ๒. สขุ ภาพจิตดี มสี นุ ทรียภาพ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และจิตใจท่ดี งี าม ๓. มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีวินัย และอยู่ ร่วมกบั ผูอ้ ืน่ ได้อยา่ งมีความสขุ ๔. มีทักษะการคดิ การใชภ้ าษาสือ่ สาร และการแสวงหาความรไู้ ดเ้ หมาะสมกับวัย ๕. มที กั ษะทจ่ี าเปน็ เฉพาะความพกิ ารสาหรับเด็กพิการแต่ละประเภท กลมุ่ เป้าหมาย กลุ่มเป้าหมายตามหลักสูตรปฐมวัยสาหรับเด็กท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษ ตามประกาศ กระทรวงศึกษาธกิ าร เรือ่ งกาหนดประเภทและหลกั เกณฑข์ องคนพิการทางการศึกษา พ.ศ.2552 ๑. บุคคลท่ีมีความบกพร่องทางการเห็น ได้แก่ บุคคลที่สูญเสียการเห็นตั้งแต่ระดับ เลก็ นอ้ ยจนถงึ ตาบอดสนิท ซ่งึ แบ่งเปน็ ๒ ประเภทดงั น้ี ๑.๑ คนตาบอด หมายถึง บุคคลท่ีสญู เสียการเห็นมาก จนต้องใช้ส่ือสัมผัสและสื่อเสียง หากตรวจวัดความชัดของสายตาข้างดีเมื่อแก้ไขแลว้ อยใู่ นระดับ ๖ ส่วน ๖๐ (๖/๖๐) หรือ ๒๐ ส่วน ๒๐๐ (๒๐/๒๐๐) จนถงึ ไม่สามารถรบั รูเ้ รอ่ื งแสง ๑.๒ คนเห็นเลือนราง หมายถึง บุคคลท่ีสูญเสียการเห็น แต่ยังสามารถอ่านอักษร ตัวพิมพ์ขยายใหญ่ด้วยอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการ หรือเทคโนโลยีส่ิงอานวยความสะดวก หากวัด ความชดั เจนของสายตาข้างดีเม่อื แกไ้ ขแล้วอยูใ่ นระดับ ๖ สว่ น ๑๘ (๖/๑๘) หรอื ๒๐ ส่วน ๗๐ (๒๐/๗๐) ๒. บคุ คลที่มคี วามบกพร่องทางการได้ยิน ได้แก่ บุคคลท่ีสูญเสยี การได้ยนิ ตง้ั แต่ระดับหูตึง น้อยจนถงึ หหู นวก ซึ่งแบ่งเป็น ๒ ประเภท ดังน้ี ๒.๑ คนหูหนวก หมายถึง บุคคลท่ีสูญเสียการได้ยินมากจนไม่สามารถเข้าใจการพูด ผ่านทางการได้ยินไม่ว่าจะใส่หรือไม่ใส่เครื่องช่วยฟัง ซ่ึงโดยท่ัวไปหากตรวจการได้ยินจะมีการสูญเสีย การได้ยนิ ๙๐ เดซเิ บลขึน้ ไป ๒.๒ คนหูตึง หมายถึง บุคคลท่ีมีการได้ยินเหลืออยู่เพียงพอที่จะได้ยินการพูดผ่าน ทางการได้ยิน โดยทั่วไปจะใส่เคร่ืองช่วยฟัง ซ่ึงหากตรวจวัดการได้ยินจะมีการสูญเสียการได้ยิน นอ้ ยกวา่ ๙๐ เดซิเบลลงมา ถึง ๒๖ เดซิเบล

๕ ๓. บุคคลท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา ได้แก่ บุคคลท่ีมีความจากัดอย่างชัดเจน ในการปฏิบัติตนในปัจจุบัน ซึ่งมีลักษณะเฉพาะ คือ ความสามารถทางสติปัญญาต่ากว่าเกณฑ์เฉล่ีย อย่างมีนัยสาคัญร่วมกับความจากัดของทักษะการปรับตัวอีกอย่างน้อย ๒ ทักษะ จาก ๑๐ ทักษะ ไดแ้ ก่ การส่ือความหมาย การดูแลตนเอง การดารงชวี ิตภายในบ้าน ทกั ษะทางสังคม/การมปี ฏิสมั พนั ธ์ กับผู้อ่ืน การรู้จักใช้ทรัพยากรในชุมชน การรู้จักดูแลควบคุมตนเอง การนาความรู้มาใช้ใน ชีวิตประจาวันการทางาน การใช้เวลาว่าง การรักษาสุขภาพอนามัยและความปลอดภัย ทั้งนี้ได้แสดง อาการดงั กล่าวก่อนอายุ ๑๘ ปี ๔. บุคคลท่ีมีความบกพร่องทางร่างกายหรือการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ ซ่ึงแบ่งเป็น ๒ ประเภทดังน้ี ๔.๑ บุคคลที่มีความบกพร่องทางร่างกายหรือการเคล่ือนไหว ได้แก่ บุคคลท่ีมีอวัยวะ ไม่สมส่วนหรือขาดหายไป กระดูกหรือกล้ามเนื้อผิดปกติ มีอุปสรรคในการเคลื่อนไหว ความบกพร่อง ดังกล่าวอาจเกิดจากโรคทางระบบประสาท โรคของระบบกล้ามเน้ือและกระดูก การไม่สมประกอบ มาแตก่ าเนิด อบุ ัตเิ หตแุ ละโรคติดต่อ ๔.๒ บุคคลที่มีความบกพร่องทางสุขภาพ ได้แก่ บุคคลท่ีมีความเจ็บป่วยเร้ือรังหรือ มีโรคประจาตัวซึ่งจาเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเน่ือง และเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา ซึ่งมีผล ทาให้เกดิ ความจาเป็นตอ้ งไดร้ ับการศกึ ษาพิเศษ ๕. บุคคลที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ได้แก่ บุคคลท่ีมีความผิดปกติในการทางาน ของสมองบางส่วนที่แสดงถึงความบกพร่องในกระบวนการเรียนรู้ที่อาจเกิดขึ้นเฉพาะความสามารถ ด้านใดด้านหน่ึงหรือหลายด้าน คือ การอ่าน การเขียน การคิดคานวณ ซึ่งไม่สามารถเรียนรู้ในด้าน ทบ่ี กพรอ่ งได้ ทั้งท่มี รี ะดบั สติปญั ญาปกติ ๖. บุคคลที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา ได้แก่ บุคคลที่มีความบกพร่อง ในการเปล่งเสียงพูด เช่น เสียงผิดปกติ อัตราความเร็วและจังหวะการพูดผิดปกติ หรือบุคคลที่มี ความบกพร่องในเร่ืองความเข้าใจหรือการใช้ภาษาพูด การเขียนหรือระบบสัญลักษณ์อื่นที่ใช้ ในการตดิ ตอ่ สื่อสาร ซง่ึ อาจเก่ยี วกบั รูปแบบ เน้อื หาและหนา้ ทข่ี องภาษา ๗. บุคคลที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมหรอื อารมณ์ ไดแ้ กบ่ ุคคลทม่ี ีพฤติกรรมเบีย่ งเบน ไปจากปกติเป็นอย่างมาก และปัญหาทางพฤติกรรมน้ันเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ซ่ึงเป็นผลจาก ความบกพร่องหรือความผิดปกติทางจิตใจหรือสมองในส่วนของการรับรู้ อารมณ์หรือความคิด เช่น โรคจติ เภท โรคซมึ เศรา้ โรคสมองเสอื่ ม เป็นตน้ ๘. บุคคลออทิสติก ได้แก่ บุคคลที่มีความผิดปกติของระบบการทางานของสมองบางส่วน ซ่ึงส่งผลต่อความบกพร่องทางพัฒนาการด้านภาษา ด้านสังคมและการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และ มีข้อจากัดด้านพฤติกรรม หรือมีความสนใจจากัดเฉพาะเร่ืองใดเรื่องหนึ่ง โดยความผิดปกติน้ันค้นพบ ไดก้ ่อนอายุ ๓๐ เดอื น ๙. บุคคลพิการซ้อน ได้แก่ บุคคลที่มีสภาพความบกพร่องหรือความพิการมากกว่า หนง่ึ ประเภทในบุคคลเดยี วกัน

๖ มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยสาหรับเด็กที่มีความต้องการจาเป็นพิเศษ กาหนดมาตรฐาน คุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์จานวน ๑๓ มาตรฐาน ประกอบดว้ ย ๑. พัฒนาการด้านรา่ งกาย ประกอบดว้ ย ๒ มาตรฐาน คือ มาตรฐานที่ ๑ ร่างกายเจริญเตบิ โตและมีสุขนิสัยท่ีดี มาตรฐานท่ี ๒ กลา้ มเน้ือใหญ่และกล้ามเน้ือเล็กแขง็ แรง ใชไ้ ด้อย่างคล่องแคลว่ และประสาน สมั พนั ธก์ นั ๒. พัฒนาการดา้ นอารมณ์ จติ ใจ ประกอบด้วย ๓ มาตรฐาน คือ มาตรฐานท่ี ๓ มีสุขภาพจิตดีและมคี วามสขุ มาตรฐานที่ ๔ ช่ืนชมและแสดงออกทางศลิ ปะ ดนตรี และการเคลือ่ นไหว มาตรฐานที่ ๕ มีคณุ ธรรม จริยธรรม และมีจิตใจทีด่ ีงาม ๓. พฒั นาการดา้ นสงั คม ประกอบด้วย ๓ มาตรฐาน คือ มาตรฐานท่ี ๖ มีทักษะชวี ติ และปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง มาตรฐานท่ี ๗ รักธรรมชาติ สง่ิ แวดล้อม วฒั นธรรมและความเปน็ ไทย มาตรฐานที่ ๘ อย่รู ่วมกบั ผู้อ่ืนได้อย่างมีความสุขและปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกทด่ี ีของสงั คม ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมขุ ๔. พัฒนาการด้านสติปัญญา ประกอบดว้ ย ๔ มาตรฐาน คอื มาตรฐานท่ี ๙ ใชภ้ าษาส่ือสารได้เหมาะสมตามศกั ยภาพ มาตรฐานท่ี ๑๐ มีความสามารถในการคดิ ท่เี ป็นพ้นื ฐานในการเรยี นรตู้ ามศกั ยภาพ มาตรฐานท่ี ๑๑ มจี ินตนาการและความคดิ สรา้ งสรรค์ตามศักยภาพ มาตรฐานท่ี ๑๒ มเี จตคติที่ดตี ่อการเรยี นรู้และมีความสามารถในการแสวงหาความรูไ้ ด้ ตามศักยภาพ ๕. ดา้ นทักษะทีจ่ าเป็นเฉพาะความพิการ ประกอบด้วย ๑ มาตรฐาน คือ มาตรฐานที่ ๑๓ มีการพฒั นาทกั ษะจาเป็นเฉพาะความพิการแต่ละประเภท ในมาตรฐานน้ี แบง่ มาตรฐานได้ 8 ประเภทความพิการ คือ มาตรฐานที่ ๑๓.๑ มีการพัฒนาทักษะจาเป็นเฉพาะความบกพร่องทางการเห็น มาตรฐานที่ ๑๓.๒ มีการพฒั นาทกั ษะจาเป็นเฉพาะความความบกพร่องทางการได้ยนิ มาตรฐานที่ ๑๓.๓ มกี ารพฒั นาทักษะจาเป็นเฉพาะความบกพร่องทางสตปิ ญั ญา มาตรฐานท่ี ๑๓.๔ มีการพัฒนาทักษะจาเป็นเฉพาะความบกพร่องทางร่างกายหรือ การเคลือ่ นไหวหรือสขุ ภาพ มาตรฐานที่ ๑๓.๕ มกี ารพฒั นาทกั ษะจาเป็นเฉพาะความบกพร่องทางการเรยี นรู้ มาตรฐานท่ี ๑๓.๖ มกี ารพัฒนาทกั ษะจาเป็นเฉพาะความบกพร่องทางการพูดและภาษา

๗ มาตรฐานท่ี ๑๓.๗ มกี ารพัฒนาทกั ษะจาเป็นเฉพาะความบกพร่องทางพฤติกรรม หรืออารมณ์ มาตรฐานที่ ๑๓.๘ มกี ารพฒั นาทักษะจาเป็นเฉพาะบุคคลออทสิ ตกิ ตวั บง่ ชี้ ตวั บ่งชี้เป็นเป้าหมายในการพัฒนาเด็กที่มีความสมั พันธ์สอดคล้องกับมาตรฐานคุณลักษณะ ทพ่ี ึงประสงค์ สภาพทพี่ ึงประสงค์ สภาพที่พึงประสงค์เป็นพฤติกรรมหรือความสามารถตามวัยที่คาดหวังให้เด็กเกิด บน พ้ืนฐานพัฒนาการตามวัยหรือความสามารถตามธรรมชาติในแต่ละระดับอายุ เพื่อนาไปใช้ในการ กาหนดสาระการเรียนรู้ในการจัดประสบการณ์ และประเมินพัฒนาการเด็ก โดยมีรายละเอียดของ มาตรฐาน คุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ ตวั บง่ ช้ี และสภาพทีพ่ ึงประสงค์ ดังนี้ มาตรฐานที่ ๑ รา่ งกายเจรญิ เติบโตตามวยั และมสี ขุ นสิ ัยทีด่ ี ตัวบง่ ชี้ ๑.๑ นา้ หนัก สว่ นสูงและเสน้ รอบศีรษะตามเกณฑ์ อายพุ ัฒนาการ สภาพทีพ่ ึงประสงค์ แรกเกดิ – ๓ ปี 1. นา้ หนักและสว่ นสงู ตามเกณฑ์ 2. เสน้ รอบศรี ษะตามเกณฑ์ ๓ – ๖ ปี 1. น้าหนกั และส่วนสงู ตามเกณฑข์ องกรมอนามยั ตัวบง่ ชี้ ๑.๒ มสี ุขภาพอนามัยสขุ นสิ ัยทดี่ ี อายพุ ัฒนาการ สภาพท่ีพงึ ประสงค์ แรกเกดิ – ๓ ปี 1. มีภูมติ า้ นทานโรค ไม่ป่วยบ่อย ขับถ่ายเปน็ เวลา รับประทานอาหาร นอนและพักผ่อนเหมาะสมกับวยั ๒. กจิ กรรมการเคล่ือนไหวสอดคล้องตามพัฒนาการ ๓ – ๔ ปี 1. ยอมรับประทานอาหารท่มี ีประโยชนแ์ ละด่ืมนา้ ท่สี ะอาดเมอ่ื มีผชู้ แี้ นะ 2. ล้างมอื ก่อน-หลังรับประทานอาหารและหลังจากขับถา่ ย การใชห้ ้องนา้ หอ้ งส้วมเมื่อมีผชู้ ้ีแนะ ๓. ดแู ลสขุ ภาพชอ่ งปากและฟนั โดยมีผู้ชี้แนะ ๔. นอนพักผอ่ นเปน็ เวลา ๕. ออกกาลงั กายอยา่ งสม่าเสมอ

๘ อายพุ ัฒนาการ สภาพทพ่ี ึงประสงค์ ๔ – ๕ ปี 1. รบั ประทานอาหารที่มปี ระโยชน์และด่ืมนา้ สะอาดดว้ ยตนเอง 2. ล้างมือกอ่ น-หลงั รบั ประทานอาหารและหลงั จากขับถ่าย การใช้ห้องน้า ๕ – ๖ ปี ห้องสว้ มได้ด้วยตนเอง ๓. ดูแลสุขภาพชอ่ งปากและฟันโดยการบว้ นปาก/แปรงฟันได้ดว้ ยตนเอง ๔. นอนพักผอ่ นเป็นเวลา ๕. ออกกาลงั กายเปน็ เวลา 1. รับประทานอาหารท่ีมปี ระโยชน์ตามหลักโภชนาการอาหารหลัก 5 หมู่ และดมื่ น้าสะอาดได้ดว้ ยตนเอง 2. ล้างมือก่อน-หลังรับประทานอาหารและหลงั จากขับถา่ ย การใชห้ อ้ งน้า ห้องส้วมไดด้ ้วยตนเอง ๓. ดแู ลสขุ ภาพชอ่ งปากและฟันโดยการแปรงฟันได้ดว้ ยตนเอง ๔.นอนพกั ผ่อนเปน็ เวลา ๕. ออกกาลังกายเปน็ เวลา ตัวบง่ ช้ี ๑.๓ รกั ษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อ่นื อายพุ ัฒนาการ สภาพท่ีพึงประสงค์ ๓ – ๔ ปี 1. เล่นและทากจิ กรรมอย่างปลอดภยั เมอื่ มีผูช้ ้แี นะ ๔ – ๕ ปี 1. เลน่ และทากิจกรรมอยา่ งปลอดภัยดว้ ยตนเอง ๕ – ๖ ปี 1. เล่น ทากจิ กรรมและปฏบิ ัติต่อผอู้ ่ืนอย่างปลอดภัย มาตรฐานท่ี ๒ กลา้ มเน้ือใหญแ่ ละกลา้ มเนื้อเลก็ แข็งแรง ใช้ได้อย่างคลอ่ งแคลว่ และ ประสานสมั พนั ธก์ นั ตวั บ่งชี้ ๒.๑ เคล่ือนไหวร่างกายอยา่ งคล่องแคล่วประสานสัมพันธ์และทรงตัวได้ อายพุ ัฒนาการ สภาพที่พึงประสงค์ แรกเกิด – ๒ เดือน 1. นอนคว่า ยกศรี ษะและหันไปข้างใดข้างหนึ่งได้ ๒ – ๔ เดอื น 1. นอนควา่ ยกศีรษะและอกพ้นพน้ื 2. เม่ือจบั ยนื เร่มิ ลงนา้ หนักทเ่ี ท้าทัง้ สองข้างได้ ๔ – ๖ เดอื น 1. ยันหน้าอกพ้นพื้น โดยใช้แขนชว่ ย 2. นั่งได้ โดยตอ้ งมีผปู้ ระคอง นั่งโดยใช้มอื ยันพืน้ ด้วยตนเอง ๖ – ๙ เดือน 1. นง่ั หลงั ตรงและเอ้ยี วตวั ใชม้ ือเลน่ ได้อย่างอิสระ 2. คลานโดยใช้มือและเข่า 3. ยนื เกาะเคร่ืองเรือนสงู ระดับอกได้ ๙ เดอื น – ๑ ปี 1. ยืนทรงตัว (ต้งั ไข่) ไดช้ ว่ งสน้ั ๆ 2. หยอ่ นตัวลงน่งั จากทา่ ยืน ๑ ปี – ๑ ปี ๖ เดอื น 1. ลุกขน้ึ ยนื ด้วยตนเอง 2. ยนื ไดเ้ องอย่างอิสระ

๙ อายพุ ัฒนาการ สภาพที่พงึ ประสงค์ 3. ยืนแลว้ ก้มลงหยบิ ของที่พ้ืนได้ 4. เดนิ ไดเ้ องโดยปลอ่ ยแขนเป็นอิสระและแกว่งแขนตามสบาย 5. เร่ิมวงิ่ หรอื เดนิ เรว็ ๆ ได้ ๑ ปี ๖ เดือน – ๒ ปี 1. เดนิ ขน้ึ บันได โดยมอื ข้างหนึง่ จับราวบันไดอีกมือจับมือผใู้ หญ่กา้ วเท้า โดยมีการพักเท้าในขน้ั เดียวกนั 2. วิ่งและหยดุ ไดท้ ันที และเร่ิมวงิ่ ใหม่ ๒ – ๓ ปี 1. นงั่ ยองๆ เลน่ โดยไม่เสียการทรงตัว 2. เดินถอยหลงั ได้ 3. เดนิ ขึ้นลงบันได โดยมอื ขา้ งหนง่ึ จับราวและก้าวเท้าโดยมีการพักเท้าใน ขัน้ เดียวกนั 4. กระโดดอยู่กับท่ี โดยเทา้ ทั้งสองข้างลอยพน้ พ้นื 5. ยืนขาเดยี วได้ ๓ – ๔ ปี 1. เดนิ ตามทศิ ทางทกี่ าหนดได้ 2. กระโดดสองขาขน้ึ ลงบนพ้ืนต่างระดบั ได้ 3. กระโดดข้ามส่ิงกีดขวางได้ 4.วิ่งแลว้ หยดุ ได้ตามที่กาหนด 5. รับลกู บอลโดยใชม้ อื และลาตวั ช่วย ๔ – ๕ ปี 1. เดนิ ต่อเทา้ ไปข้างหนา้ เป็นเสน้ ตรงได้โดยไม่ต้องกางแขน 2. กระโดดขาเดียวอยู่กบั ที่ได้ โดยไม่เสยี การทรงตัว 3. วิ่งหลบหลกี สงิ่ กดี ขวางได้ 4. รับลกู บอลโดยใช้มือท้งั สองขา้ ง ๕ – ๖ ปี 1. เดนิ ตอ่ เทา้ ถอยหลังเป็นเส้นตรงได้โดยไม่ตอ้ งกางแขน 2. กระโดดขาเดียวไปขา้ งหน้าได้อย่างตอ่ เน่อื งโดยไมเ่ สยี การทรงตัว 3. ว่งิ หลบหลีกส่ิงกีดขวางได้อยา่ งคล่องแคล่ว 4. รบั ลูกบอลท่ีกระดอนขึ้นจากพน้ื ได้ ตวั บง่ ช้ี ๒.๒ ใช้มือ-ตาประสานสมั พันธก์ ัน อายพุ ัฒนาการ สภาพท่พี งึ ประสงค์ แรกเกดิ – ๒ เดอื น 1. จอ้ งมองได้มองเห็นในระยะหา่ ง ๘-๑๒ นิว้ ๒ – ๔ เดือน 1. มองตามวตั ถุท่เี คลือ่ นไหว 2. กาหรือจบั สงิ่ ของทใ่ี ส่ให้ในมือ ๔ – ๖ เดือน 1. เออ้ื มควา้ ใกล้ๆ ตัวได้ 2. เปลี่ยนมอื ถือของได้ทลี ะมือ ๖ – ๙ เดือน 1. มองตามของตก 2. จับของมากระทบกันดว้ ยมือ ๒ ขา้ ง 3. เรมิ่ ใชน้ ิว้ หัวแมม่ ือนวิ้ ช้แี ละน้ิวกลางหยิบของช้นิ เลก็ ๆ

๑๐ อายพุ ัฒนาการ สภาพท่พี ึงประสงค์ ๙ เดอื น – ๑ ปี 1. หยบิ ของใส่และเอาออกจากภาชนะได้ 2. ถอื กดั และเคี้ยวอาหารได้ด้วยตนเอง ๑ ปี – ๑ปี ๖ เดือน 1. วางกอ้ นไมซ้ ้อนกันได้ ๒ ก้อน 2. เปดิ หนังสือทีละ ๓-๔ หนา้ ๑ ปี ๖ เดือน – ๒ ปี 1. วางกอ้ นไมซ้ ้อนกันได้ ๔-๖ ก้อน 2. เปิดพลกิ หน้าหนังสอื ได้ทลี ะแผ่น ๒ – ๓ ปี 1. จบั สีเทียนแทง่ ใหญเ่ พ่ือขีดเขยี นได้ 2. เลียนแบบลากเสน้ เปน็ วงต่อเน่อื งหรือเส้นตรงแนวดง่ิ ๓ – ๔ ปี 1. ใชก้ รรไกรตดั กระดาษขาดจากกันไดโ้ ดยใช้มือเดยี ว ๔ – ๕ ปี 2. เขียนรูปวงกลมตามแบบได้ 3. รอ้ ยวัสดทุ ม่ี รี ูขนาดเส้นผ่านศนู ย์กลาง ๑ ชม. ได้ 1. ใชก้ รรไกรตดั กระดาษตามแนวเสน้ ตรงได้ 2. เขยี นรปู สเ่ี หลี่ยมตามแบบไดอ้ ยา่ งมมี ุมชดั เจน 3. ร้อยวสั ดทุ ม่ี ีรูขนาดเสน้ ผ่านศูนยก์ ลาง ๐.๕ ชม. ได้ ๕ – ๖ ปี 1. ใชก้ รรไกรตดั กระดาษตามแนวเสน้ โค้งได้ 2. เขยี นรปู สามเหลีย่ มตามแบบได้อย่างมีมุมชดั เจน 3. รอ้ ยวสั ดทุ ี่มรี ูขนาดเสน้ ผ่านศูนยก์ ลาง ๐.๒๕ ชม. ได้ มาตรฐานที่ ๓ มสี ขุ ภาพจติ ดีและมคี วามสุข ตัวบง่ ช้ี ๓.๑ แสดงออกทางอารมณ์ได้อยา่ งเหมาะสม อายพุ ัฒนาการ สภาพทพี่ งึ ประสงค์ แรกเกดิ – ๓ ปี 1. อารมณ์ดี ยิม้ แยม้ หวั เราะงา่ ย แววตามีความสขุ ๓ – ๔ ปี 1. แสดงอารมณ์ความรู้สกึ ไดเ้ หมาะสมกบั บางสถานการณ์ ๔ – ๕ ปี 1. แสดงอารมณ์ความรสู้ ึกได้ตาม สถานการณ์ ๕ – ๖ ปี 1. แสดงอารมณ์ ความรูส้ ึกได้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างเหมาะสม ตัวบ่งช้ี ๓.๒ มคี วามรสู้ ึกที่ดีตอ่ ตนเองและผู้อนื่ อายพุ ัฒนาการ สภาพทพ่ี ึงประสงค์ แรกเกดิ – ๒ เดอื น 1. ยิม้ และหัวเราะได้เม่ือพอใจ หรอื เหน็ หน้าคนคุ้นเคย 2. สบตา จ้องหนา้ พอ่ แม่หรือผูเ้ ล้ียงดู ๒ – ๔ เดอื น 1. ผกู พันกับพ่อแม่ หรอื ผูเ้ ลย้ี งดใู กล้ชดิ 2. ยม้ิ ทักทายเมื่อเหน็ หน้าคนคนุ้ เคย ๔ – ๖ เดอื น ๖ – ๙ เดือน 1. แสดงอารมณท์ ี่หลากหลายผา่ นการสง่ เสียง 1. แสดงอารมณต์ ามความรสู้ ึก 2. แสดงอาการกลัวคนแปลกหนา้

๑๑ อายพุ ัฒนาการ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ๙ เดอื น – ๑ ปี 1. แสดงความสนใจติดผู้เล้ยี งดูตนเองมากกวา่ คนอนื่ ๑ ปี – ๑ ปี ๖ เดือน 2. แสดงความต้องการของตนเองมากข้นึ ๑ ปี ๖ เดือน – ๒ ปี 1. แสดงความชอบไมช่ อบส่วนตวั อย่างชดั เจน ๒ – ๓ ปี 1. แสดงความรกั ตอ่ ผู้อ่นื ๓ – ๔ ปี 2. แสดงความกงั วลเม่ือแยกจากคนใกลช้ ดิ ๔ – ๕ ปี 1. แสดงความภาคภูมใิ จเมื่อทาส่ิงตา่ งๆ สาเร็จ ๕ – ๖ ปี 1. กลา้ พูดกลา้ แสดงออก 2. แสดงความพอใจในผลงานตนเอง 1. กลา้ พูดกลา้ แสดงออกอย่างเหมาะสมบางสถานการณ์ 2. แสดงความพอใจในผลงานและความสามารถของตนเอง 1. กลา้ พูดกล้าแสดงออกอยา่ งเหมาะสมตามสถานการณ์ 2. แสดงความพอใจในผลงานและความสามารถของตนเองและผอู้ ื่น มาตรฐานที่ ๔ ชื่นชมและแสดงออกทางศลิ ปะ ดนตรี และการเคล่ือนไหว ตัวบง่ ชี้ ๔.๑ สนใจ มคี วามสุขและแสดงออกผา่ นงานศิลปะดนตรี และการเคล่ือนไหว อายพุ ัฒนาการ สภาพที่พงึ ประสงค์ แรกเกดิ – ๒ เดือน 1. หยุดรอ้ งไห้เม่ือมคี นอ้มุ ๒ – ๔ เดอื น 1. มปี ฏกิ ิรยิ าโตต้ อบดว้ ยการเคล่อื นไหวร่างกายเมื่อเห็นหรือได้ยิน เสยี งคนและสิ่งท่ีคุ้นเคย ๔ – ๖ เดอื น 1. ยม้ิ ทกั ทายแสดงอาการดใี จ เม่อื เหน็ สิง่ ทตี่ วั เองพอใจ ๖ – ๙ เดอื น 2. จาหนา้ แมแ่ ละคนคนุ้ เคยได้ 3. เลน่ ของเล่นท่มี เี สยี งได้ ๙ เดอื น – ๑ ปี ๑ ปี – ๑ ปี ๖ เดอื น 1. แสดงออกถงึ การรับรู้อารมณ์และความรสู้ กึ ของผอู้ ่นื ๑ ปี ๖ เดอื น – ๒ ปี 2. เลยี นแบบกริ ยิ าท่าทางของผอู้ น่ื อย่างง่ายๆ ๒ – ๓ ปี 1. มองผู้ใหญห่ รือเด็กคนอื่นๆทากิจกรรมอยา่ งใกล้ชดิ ๓ – ๔ ปี 1. เริ่มคนุ้ เคยกับคนอนื่ 2. ขอความชว่ ยเหลอื เมอ่ื ตอ้ งการ 1. ชอบการออกไปเทย่ี วนอกบ้าน 2. แสดงความเป็นเจ้าของ 1. สนใจหรอื มีความสุขเม่ือได้ยนิ เสยี งดนตรี 1. สนใจ มีความสขุ และแสดงออกผ่านงานศิลปะ 2. สนใจ มคี วามสขุ และแสดงออกผา่ นเสียงเพลง ดนตรี 3. สนใจ มคี วามสขุ และแสดงท่าทาง/เคลอื่ นไหวประกอบเพลง จังหวะ และดนตรี

๑๒ อายพุ ัฒนาการ สภาพที่พึงประสงค์ ๔ – ๕ ปี 1. สนใจ มีความสุข และแสดงออกผ่านงานศลิ ปะ ๕ – ๖ ปี 2. สนใจ มคี วามสุข และแสดงออกผา่ นเสียงเพลง ดนตรี 3. สนใจ มคี วามสขุ และแสดงท่าทาง/เคลอ่ื นไหวประกอบเพลง จังหวะ และดนตรี 1. สนใจ มคี วามสุข และแสดงออกผ่านงานศิลปะ 2. สนใจ มีความสุข และแสดงออกผ่านเสียงเพลง ดนตรี 3. สนใจ มีความสุข และแสดงทา่ ทาง/เคลอื่ นไหวประกอบเพลง จังหวะ และดนตรี มาตรฐานที่ ๕ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และมจี ิตใจท่ีดีงาม ตวั บง่ ช้ี ๕.๑ ซื่อสัตยส์ ุจรติ อายพุ ัฒนาการ สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ๓ – ๔ ปี 1. บอกหรือชไ้ี ดว้ า่ ส่ิงใดเปน็ ของตนเองและส่งิ ใดเป็นของผู้อ่นื ๔ – ๕ ปี 1. ขออนญุ าตหรือรอคอยเมอื่ ต้องการสิง่ ของของผอู้ น่ื ๕ – ๖ ปี 1. ขออนุญาตหรือรอคอยเมื่อตอ้ งการส่ิงของของผู้อนื่ ดว้ ยตนเอง ตวั บง่ ช้ี ๕.๒ มีความเมตตากรุณา มีน้าใจและช่วยเหลอื แบง่ ปนั อายพุ ัฒนาการ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ๓ – ๔ ปี 1. แสดงความรักเพ่ือนและมเี มตตาสตั ว์เลย้ี ง ๒. แสดงความมีนา้ ใจ ช่วยเหลอื แบง่ ปัน บคุ คลอ่นื ๔ – ๕ ปี 1. แสดงความรักเพื่อนและมเี มตตาสตั ว์เลย้ี ง ๒. แสดงความมีน้าใจ ช่วยเหลอื แบ่งปนั บคุ คลอื่น ๕ – ๖ ปี 1. แสดงความรักเพื่อนและมีเมตตาสตั วเ์ ลี้ยง ๒. แสดงความมนี า้ ใจ ช่วยเหลือ แบ่งปัน บคุ คลอืน่ ตัวบ่งชี้ ๕.๓ มคี วามเหน็ อกเหน็ ใจผ้อู ่นื อายพุ ัฒนาการ สภาพทพ่ี ึงประสงค์ ๓ – ๔ ปี ๑. แสดงสีหน้าหรอื ท่าทางรบั รู้ความรู้สกึ ผ้อู ่ืน ๔ – ๕ ปี 1. แสดงสหี น้าและทา่ ทางรบั รู้ความรู้สึกผ้อู น่ื ๕ – ๖ ปี 1. แสดงสหี นา้ และท่าทางรบั รูค้ วามรู้สึกผู้อนื่ อย่างสอดคล้องกบั สถานการณ์ ตัวบ่งช้ี ๕.๔ มคี วามรับผิดชอบ อายพุ ัฒนาการ สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ ๓ – ๔ ปี 1. ทางานที่ได้รับมอบหมายจนสาเรจ็ ๔ – ๕ ปี 1. ทางานท่ีได้รับมอบหมายจนสาเร็จ ๕ – ๖ ปี 1. ทางานที่ได้รับมอบหมายจนสาเรจ็ ด้วยตนเอง

๑๓ มาตรฐานท่ี ๖ มีทักษะชวี ติ และปฏิบตั ติ นตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตวั บ่งช้ี ๖.๑ ชว่ ยเหลือตนเองในการปฏบิ ตั กิ จิ วัตรประจาวัน อายพุ ัฒนาการ สภาพทพ่ี ึงประสงค์ ๖ – ๙ เดอื น 1. ตอ้ งการถือขวดนมด้วยตนเอง ๙ เดอื น – ๑ ปี 1. หยบิ อาหารกินได้ 2. ดมื่ นา้ จากแกว้ 3. ใหค้ วามรว่ มมอื เวลาแตง่ ตัว ๑ ปี – ๑ ปี ๖ เดอื น 1. ถอดเครอ่ื งแต่งกายงา่ ยๆ ได้ 2. เร่มิ ช่วยเหลอื ตนเองในการแปรงฟันล้างมือ โดยมีผใู้ หญ่ดูแล 3. เรม่ิ ฝึกขับถ่าย ๑ ปี ๖ เดือน – ๒ ปี 1. ใชช้ ้อนตกั อาหารเขา้ ปาก แต่หกบา้ ง 2. ชอบชว่ ยเหลืองานบา้ นงา่ ยๆ ๒ – ๓ ปี 1. สวมเสือ้ ผ้าโดยมคี นชว่ ย 2. บอกไดว้ ่าตนเองต้องการขับถา่ ย ๓ – ๔ ปี 1. แต่งตวั ง่ายๆ 2. รบั ประทานอาหารด้วยตนเอง 3. ใชห้ ้องน้าหอ้ งส้วม โดยมีผูช้ ว่ ยเหลือ ๔ – ๕ ปี 1. แตง่ ตัวด้วยตนเอง 2. รับประทานอาหารดว้ ยตนเอง 3. ใช้ห้องนา้ หอ้ งส้วมด้วยตนเอง ๕ – ๖ ปี 1. แตง่ ตวั ดว้ ยตนเองได้อยา่ งคลอ่ งแคล่ว 2. รบั ประทานอาหารด้วยตนเองอย่างถูกวิธี 3. ใช้และทาความสะอาดหลังใช้หอ้ งนา้ ห้องส้วม ด้วยตนเอง ตวั บง่ ช้ี ๖.๒ มีวินยั ในตนเอง อายพุ ัฒนาการ สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ๓ – ๔ ปี 1. เกบ็ ของเล่นของใช้เข้าที่ 2. เข้าแถวตามลาดบั ก่อนหลังไดเ้ ม่ือมผี ู้ช้ีแนะ ๔ – ๕ ปี 1. เกบ็ ของเลน่ ของใช้เข้าทด่ี ว้ ยตนเอง 2. เขา้ แถวตามลาดบั ก่อนหลังไดด้ ว้ ยตนเอง ๕ – ๖ ปี 1. เกบ็ ของเล่นของใช้เขา้ ท่ีอย่างเรียบรอ้ ยด้วยตนเอง 2. เขา้ แถวตามลาดับก่อนหลังไดด้ ว้ ยตนเอง ตวั บง่ ชี้ ๖.๓ ประหยัดและพอเพยี ง อายพุ ัฒนาการ สภาพทพี่ ึงประสงค์ ๓ – ๔ ปี 1. ใชส้ ิง่ ของเครอื่ งใชอ้ ย่างประหยดั และพอเพียง โดยการช่วยเหลอื ๔ – ๕ ปี 1. ใช้ส่ิงของเครื่องใชอ้ ย่างประหยัดและพอเพยี ง เม่ือมผี ชู้ ีแ้ นะ ๕ – ๖ ปี 1. ใชส้ ่งิ ของเครอื่ งใชอ้ ยา่ งประหยัดและพอเพียง ดว้ ยตนเอง

๑๔ มาตรฐานท่ี ๗ รกั ธรรมชาติ สงิ่ แวดล้อม วฒั นธรรมและความเป็นไทย ตวั บง่ ช้ี ๗.๑ สนใจและเรยี นรสู้ ่งิ ตา่ งๆ รอบตวั อายพุ ัฒนาการ สภาพท่พี งึ ประสงค์ แรกเกิด – ๒ เดือน 1. สนใจมอง ใบหน้าคนมากกวา่ ส่งิ ของ ๒ – ๔ เดือน 1. กรอกตามองตามสิ่งของหรอื สงิ่ ทีม่ ีเสียง ๔ – ๖ เดอื น 1. มองสิง่ ของที่อยู่รอบๆ และในระยะใกล้ 2. แสดงความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกบั สิง่ ต่างๆ และพยายามหยิบของใน ระยะท่เี อื้อมถึง ๖ – ๙ เดอื น 1. เรม่ิ รูจ้ กั สิ่งของในชวี ิตประจาวนั ๙ เดือน – ๑ ปี 1. รับรู้และแสดงออกถึงการกลับมาของบุคคลหรือสงิ่ ของ ๑ ปี – ๑ปี ๖ เดือน 1. สารวจสง่ิ ของ โดยใชห้ ลายๆวธิ ี ๑ ปี ๖ เดือน – ๒ ปี 1. สงั เกต สารวจลองผดิ ลองถกู กับคุณสมบัติของสิ่งต่างๆ ๒ – ๓ ปี 1. อยากเรียนรูส้ ิ่งต่างๆ 2. ถามบ่อยถามซ้า 3. จดจอ่ ตอ่ สิ่งใดส่ิงหนง่ึ ได้ยาวนานขึ้น ตวั บง่ ช้ี ๗.๒ ดแู ลรักษาธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม อายพุ ัฒนาการ สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ ๓ – ๔ ปี 1. มีสว่ นร่วมดูแลรกั ษาธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม 2. เก็บและทิ้งขยะไดถ้ ูกท่ี ๔ – ๕ ปี 1. มีส่วนร่วมดแู ลรักษาธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม 2. เกบ็ และทิ้งขยะไดถ้ ูกท่ี ๕ – ๖ ปี 1. ดแู ลรกั ษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดว้ ยตนเองและเปน็ แบบอยา่ ง 2. เก็บและทง้ิ ขยะไดถ้ ูกท่ีดว้ ยตนเองและเปน็ แบบอยา่ ง ตวั บง่ ช้ี ๗.๓ มมี ารยาทตามวัฒนธรรมไทย และรักความเปน็ ไทย อายพุ ัฒนาการ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ๓ – ๔ ปี 1. ปฏบิ ัตติ นตามมารยาทไทยไดเ้ มื่อมผี ู้ชี้แนะ 2. กลา่ วคาขอบคุณและขอโทษเม่อื มีผู้ชี้แนะ 3. หยดุ ยืนเมอ่ื ไดย้ ินเพลงชาติไทยและเพลงสรรเสริญพระบารมี ๔ – ๕ ปี 1. ปฏบิ ัติตนตามมารยาทไทยได้ดว้ ยตนเอง 2. กลา่ วคาขอบคุณและขอโทษดว้ ยตนเอง 3. ยนื ตรงเม่ือไดย้ ินเพลงชาติไทยและเพลงสรรเสริญพระบารมี ๕ – ๖ ปี 1. ปฏิบตั ิตนตามมารยาทไทยได้ตามกาลเทศะ 2. กลา่ วคาขอบคุณและขอโทษด้วยตนเอง 3. ยืนตรงและรว่ มร้องเพลงชาตไิ ทยและเพลงสรรเสรญิ พระบารมี มาตรฐานที่ ๘ อยูร่ ่วมกบั ผู้อื่นได้อยา่ งมคี วามสุขและปฏบิ ัตติ นเปน็ สมาชกิ ทดี่ ขี องสงั คม

๑๕ ในระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ ตัวบ่งชี้ ๘.๑ ยอมรับความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งบุคคล อายพุ ัฒนาการ สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ๓ – ๔ ปี 1. เลน่ และทากจิ กรรมรว่ มกับเดก็ ทีแ่ ตกตา่ งไปจากตน ๔ – ๕ ปี 1. เลน่ และทากิจกรรมร่วมกับเด็กท่แี ตกตา่ งไปจากตน ๕ – ๖ ปี 1. เล่นและทากิจกรรมร่วมกับเดก็ ทแ่ี ตกต่างไปจากตน ตวั บ่งช้ี ๘.๒ มีปฏสิ มั พันธท์ ี่ดีกบั ผอู้ น่ื อายพุ ัฒนาการ สภาพที่พงึ ประสงค์ ๓ – ๔ ปี 1. เล่นรว่ มกบั เพอื่ น 2. ยิ้มหรอื ทักทายผใู้ หญแ่ ละบุคคลที่คุ้นเคย ๔ – ๕ ปี 1. เลน่ หรือทางานร่วมกบั เพือ่ นเป็นกล่มุ 2. ย้มิ ทักทายหรอื พดู คุยกบั ผใู้ หญ่และบคุ คลท่ีคุ้นเคยได้ด้วยตนเอง ๕ – ๖ ปี 1. เลน่ หรือทางานรว่ มมือกบั เพ่ือนอย่างมีเป้าหมาย 2. ยิม้ ทกั ทายและพูดคุยกับผู้ใหญแ่ ละบุคคลท่ีค้นุ เคยไดเ้ หมาะสมกับ สถานการณ์ ตัวบง่ ชี้ ๘.๓ ปฏิบตั ติ นเบ้ืองตน้ ในการเปน็ สมาชิกทด่ี ขี องสังคม อายพุ ัฒนาการ สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ๓ – ๔ ปี 1. ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลง 2. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผนู้ าและผตู้ าม 3. ยอมรับการประนปี ระนอมแก้ไขปญั หาเม่ือมผี ชู้ แี้ นะ ๔ – ๕ ปี 1. มีส่วนร่วมสรา้ งขอ้ ตกลงและปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลง 2. ปฏิบัติตนเปน็ ผู้นาและผตู้ ามไดด้ ้วยตนเอง 3. ประนีประนอมแก้ไขปัญหาโดยปราศจากการใช้ความรุนแรง เม่ือมีผู้ ช้แี นะ ๕ – ๖ ปี 1. มีสว่ นรว่ มสร้างขอ้ ตกลงและปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลงดว้ ยตนเอง 2. ปฏิบตั ติ นเปน็ ผนู้ าและผ้ตู ามได้เหมาะสมกบั สถานการณ์ 3. ประนปี ระนอมแก้ไขปญั หาโดยปราศจากการใชค้ วามรุนแรงด้วย ตนเอง มาตรฐานท่ี ๙ ใชภ้ าษาสื่อสารได้เหมาะสมตามศกั ยภาพ ตวั บ่งช้ี ๙.๑ รบั รแู้ ละเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ อายพุ ัฒนาการ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ แรกเกดิ – ๒ เดอื น 1. ตอบสนองตอ่ เสียง ๒ – ๔ เดอื น 1. หยดุ ฟังเสยี ง และหันตามเสียงเคาะ ๔ – ๖ เดอื น 1. หนั ตามเสยี งจอ้ งมองปากคน ๖ – ๙ เดือน 1. รับรภู้ าษาและแสดงสหี นา้ ท่าทาง

๑๖ ๙ เดือน – ๑ ปี 2. หนั หาเม่ือเรยี กช่ือ 3. ตอบสนองต่อคาสง่ั ง่ายๆ ๑ ปี – ๑ ปี ๖ เดอื น ๑ ปี ๖ เดือน – ๒ ปี 1. รวู้ า่ คา แตล่ ะคามีความหมายตา่ งกัน อย่างน้อย 3-5 คา 2. ปฏบิ ัตติ ามคาสง่ั ง่าย ๆ โดยใชท้ า่ ทางประกอบ ๒ – ๓ ปี 3. ตอบสนองต่อคาโดยใช้ท่าทางประกอบคา 1. หยบิ หรอื ชีต้ ามคาบอก 2. ชส้ี ว่ นตา่ งๆ ของรา่ งกายตามคาบอกอย่างน้อย ๑ ส่วน 1. ปฏิบัตติ ามคาส่ังได้ ทีละ 1 คาส่ัง 2. สนใจของจาลองหรือรูปภาพตามระยะเวลาท่ีครกู าหนดไว้ 1. ฟงั และสนใจดูหนงั สือนิทานภาพ 2. แสดงท่าทางประกอบเพลง 3. ชีส้ ่วนตา่ งๆ ของร่างกายตามคาบอกอยา่ งน้อย 7 สว่ น ตวั บง่ ชี้ ๙.๒ แสดงออกและ/หรอื พดู เพื่อสื่อความหมายได้ อายพุ ัฒนาการ สภาพท่ีพึงประสงค์ แรกเกดิ – ๒ เดอื น 1. ส่งเสียงในคอ ๒ – ๔ เดอื น 1. สง่ เสียง ออ้ แอ้ โต้ตอบ ๔ – ๖ เดือน 1. สง่ เสยี งท่ีไม่มีความหมาย 2. สง่ เสียงได้หลายเสียง ๖ – ๙ เดือน 1. พยายามเลยี นเสยี งตา่ งๆ 2. ทาเสียงซา้ ๆ เช่น หม่า หม่า ๙ เดือน – ๑ ปี 1. รูจ้ ักเชอื่ มโยงคาพูดกบั การกระทา เชน่ ไม่จะส่ันหัว 2. พดู คาพยางคเ์ ดียวได้อยา่ งน้อย ๒ คา ๑ ปี – ๑ ปี ๖ เดือน 1. พดู คาพยางค์เดยี ว ทีม่ ีความหมายได้อย่างน้อย ๒ คา ๑ ปี ๖ เดือน – ๒ ปี 1. พูดคาตามพยางคท์ า้ ย ๒ – ๓ ปี 1. พดู เปน็ วลสี น้ั ๆ เชน่ ไปเท่ียว กนิ ขา้ ว 2. มักจะถามคาถาม “อะไร” และ “ทาไม” ตวั บง่ ช้ี ๙.๓ สนทนาโต้ตอบและเลา่ เร่ืองให้ผู้อืน่ เขา้ ใจ อายพุ ัฒนาการ สภาพท่ีพึงประสงค์ ๓ – ๔ ปี 1. แสดงอาการรับร้หู รือเข้าใจจากเรอื่ งทีฟ่ งั 2. ตอบคาถามงา่ ย ๆ เก่ียวกับตนเองได้ ๔ – ๕ ปี 1. แสดงอาการรบั รู้หรือเขา้ ใจและสนทนาโต้ตอบจากเร่ืองทฟี่ งั 2. ตอบคาถามเก่ยี วกบั เร่ืองรอบตัว ๕ – ๖ ปี 1. บอกความต้องการของตนเองได้ 2. ตอบคาถามเก่ียวกบั เรื่องเลา่ หรือนิทาน ๓. เลา่ เรอื่ งเป็นประโยคอย่างต่อเนื่อง

๑๗ ตัวบง่ ชี้ ๙.๔ อา่ น เขยี นภาพและสญั ลกั ษณ์ได้ อายพุ ัฒนาการ สภาพทีพ่ ึงประสงค์ ๓ – ๔ ปี 1. อ่านภาพ และเข้าใจความหมายของภาพ 2. เขียนขดี เขย่ี อย่างอิสระ ๔ – ๕ ปี 1. อ่านภาพ สญั ลักษณ์ คา พรอ้ มทงั้ ช้หี รือกวาดตามองขอ้ ความตาม บรรทัด 2. เขียนเส้นพื้นฐาน 13 เสน้ 3. เขียนคลา้ ยตวั อกั ษร ๕ – ๖ ปี 1. อา่ นภาพสญั ลักษณ์ คา ดว้ ยการชห้ี รือกวาดตามอง จดุ เร่ิมต้นและ จดุ จบของขอ้ ความ 2. เขียนตัวอกั ษรตามรอยปะ 3. การเขยี นชอื่ ของตนเองตามแบบ เขยี นข้อความด้วยวธิ ีทีค่ ิดขึน้ เอง มาตรฐานท่ี ๑๐ มคี วามสามารถในการคดิ ทเี่ ปน็ พืน้ ฐานในการเรียนรตู้ ามศกั ยภาพ ตัวบ่งชี้ ๑๐.๑ มคี วามสามารถในการคดิ รวบยอด อายพุ ัฒนาการ สภาพที่พึงประสงค์ ๓ – ๔ ปี 1. บอกลักษณะของสิ่งต่างๆ จากการสงั เกตโดยใช้ประสาทสัมผัส 2. จบั คหู่ รือเปรียบเทียบส่ิงต่างๆ โดยใชล้ ักษณะหรอื หนา้ ทีก่ ารใช้งาน เพียงลกั ษณะเดยี ว 3. คดั แยกส่งิ ต่างๆ ตามลกั ษณะหรอื หน้าทก่ี ารใชง้ าน ๔ – ๕ ปี 1. บอกลักษณะ และสว่ นประกอบของสิง่ ต่างๆ จากการสงั เกตโดยใช้ ประสาทสัมผัส 2. จบั คู่และเปรียบเทยี บความแตกต่างหรอื ความเหมือนของสง่ิ ตา่ งๆ โดยใชล้ ักษณะที่สังเกตพบเพยี งลักษณะเดียว 3. จาแนกและจดั กลุ่มสิง่ ต่างๆ โดยใชอ้ ยา่ งน้อยหนงึ่ ลักษณะเปน็ เกณฑ์ 4. เรยี งลาดบั ขนาดของสงิ่ ของ อย่างน้อย 3 ลาดับ ๕ – ๖ ปี 1. บอกลักษณะสว่ นประกอบ การเปล่ยี นแปลงหรอื ความสมั พนั ธข์ อง ส่งิ ต่างๆ จากการสงั เกตโดยใช้ประสาทสมั ผสั 2. จบั คแู่ ละเปรยี บเทียบความแตกตา่ งและความเหมือนของสิ่งต่างๆ โดยใชล้ ักษณะที่สังเกตพบสองลกั ษณะขึน้ ไป 3. จาแนกและจดั กล่มุ สิง่ ตา่ งๆ โดยใช้ตัง้ แตส่ องลกั ษณะขึน้ ไปเป็นเกณฑ์ 4. เรียงลาดับขนาดของส่งิ ของอยา่ งน้อย 4 ลาดบั ตวั บ่งช้ี ๑๐.๒ มคี วามสามารถในการคิดเชงิ เหตผุ ล

๑๘ อายพุ ัฒนาการ สภาพที่พึงประสงค์ ๓ – ๔ ปี ๔ – ๕ ปี 1. ระบุผลท่เี กิดขึน้ ในเหตุการณห์ รอื การกระทา ๕ – ๖ ปี 1. ระบสุ าเหตุหรือผลที่เกดิ ข้ึนในเหตุการณห์ รือการกระทา 2. คาดเดา หรอื คาดคะเนส่ิงท่อี าจจะเกดิ ข้นึ 1. อธิบายเชอื่ มโยงสาเหตุและผลทเี่ กิดขนึ้ ในเหตุการณห์ รือการกระทา ด้วยตนเอง 2. คาดเดา หรือคาดคะเน ส่งิ ที่อาจจะเกิดขึ้น หรือมีสว่ นร่วมในการลง ความเห็นจากข้อมลู ตัวบ่งช้ี ๑๐.๓ มีความสามารถในการคดิ แก้ปญั หาและตัดสินใจ อายพุ ัฒนาการ สภาพทพี่ ึงประสงค์ ๓ – ๔ ปี 1. ตดั สนิ ใจในเรือ่ งง่ายๆ 2. แกป้ ัญหาโดยลองผิดลองถูก ๔ – ๕ ปี 1. ตดั สนิ ใจในเร่อื งงา่ ยๆ และเรม่ิ เรยี นร้ผู ลทเ่ี กิดขึ้น 2. ระบปุ ัญหา และแก้ปญั หาโดยลองผดิ ลองถูก ๕ – ๖ ปี 1. ตัดสินใจในเร่อื งงา่ ยๆ และยอมรับผลทีเ่ กิดข้ึน 2. ระบปุ ัญหาสร้างทางเลือกและเลอื กวธิ แี ก้ปญั หา มาตรฐานที่ ๑๑ มจี นิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ตามศักยภาพ ตวั บง่ ชี้ ๑๑.๑ ทางานศลิ ปะตามจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ อายพุ ัฒนาการ สภาพที่พึงประสงค์ ๓ – ๔ ปี 1. สรา้ งผลงานศลิ ปะเพ่อื สื่อสารความคดิ อย่างอสิ ระ ๔ – ๕ ปี 1. สร้างผลงานศลิ ปะเพอ่ื ส่ือสารความคดิ ความรสู้ ึกของตนเอง ๕ – ๖ ปี 1. สร้างผลงานศิลปะเพ่ือสื่อสารความคดิ ความร้สู ึกของตนเองโดยมี การดัดแปลงแปลกใหมจ่ ากเดิม ตัวบง่ ชี้ ๑๑.๒ แสดงท่าทาง/เคลอ่ื นไหวตามจินตนาการอยา่ งสรา้ งสรรค์ อายพุ ัฒนาการ สภาพทพี่ ึงประสงค์ ๓ – ๔ ปี 1. เคลื่อนไหวท่าทางเพ่ือส่ือสารความคิด ความรสู้ ึกของตนเอง ๔ – ๕ ปี 1. เคลือ่ นไหวท่าทางเพ่ือสอ่ื สารความคิด ความรูส้ ึกของตนเองอย่าง หลากหลายหรอื แปลกใหม่ ๕ – ๖ ปี 1. เคลื่อนไหวทา่ ทางเพื่อสื่อสารความคดิ ความรูส้ ึกของตนเองอย่าง หลากหลายและแปลกใหม่

๑๙ มาตรฐานที่ ๑๒ มเี จตคตทิ ีด่ ตี อ่ การเรียนรู้และมคี วามสามารถในการแสวงหาความรไู้ ด้ ตามศักยภาพ ตัวบ่งช้ี ๑๒.๑ มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ อายพุ ัฒนาการ สภาพที่พงึ ประสงค์ ๓ – ๔ ปี 1. กระตือรือรน้ ในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม 2. สนใจฟังด้วยตนเอง ๔ – ๕ ปี 1. กระตอื รือรน้ ในการเข้าร่วมกจิ กรรม 2. สนใจเกี่ยวกบั สัญลักษณ์หรือตัวหนังสือท่ีพบเหน็ ๕ – ๖ ปี 1. กระตือรือรน้ ในการร่วมกิจกรรมตง้ั แต่ตน้ จนจบ 2. สนใจหยิบหนังสือมาอ่านส่ือความคิดดว้ ยตนเอง ตัวบง่ ชี้ ๑๒.๒ มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ อายพุ ัฒนาการ สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ๓ – ๔ ปี 1. ใช้ประโยคคาถามว่า “ใคร” “อะไร” ในการค้นหาคาตอบ ๔ – ๕ ปี 1. คน้ หาคาตอบของขอ้ สงสัยต่างๆ ตามวธิ กี ารท่ีมผี ชู้ แี้ นะ 2. ใชป้ ระโยคคาถามวา่ “ทไี่ หน” “ทาไม” ในการคน้ หาคาตอบ ๕ – ๖ ปี 1. ค้นหาคาตอบของขอ้ สงสัยต่างๆ ตามวธิ ีการของตนเอง 2. ใช้ประโยคคาถามวา่ “เม่อื ไร” “อย่างไร” ในการคน้ หาคาตอบ มาตรฐาน ๑๓ มีการพัฒนาทกั ษะจาเป็นเฉพาะความพิการแตล่ ะประเภท มาตรฐาน ๑๓.๑ การพฒั นาทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความบกพรอ่ งทางการเหน็ ตวั บง่ ช้ี สภาพทพ่ี ึงประสงค์ ๑. มคี วามสามารถในการบรู ณาการ ๑.๑ รับรู้ตอ่ การใช้ประสาทสัมผสั ทางการเห็นที่ ประสาทสัมผัสทเี่ หลืออย่ใู นการ เหลืออยู่ (สาหรบั บุคคลสายตาเลอื นราง) ในการมอง ดารงชวี ิต สง่ิ ต่างๆ รอบตัวได้ ๑.๒ รบั รู้ตอ่ การใชป้ ระสาทสัมผัสทางการไดย้ นิ เสยี ง ตา่ งๆ ในสภาพแวดลอ้ มได้ ๑.๓ รบั รู้ต่อการใชป้ ระสาทสัมผสั ทางการดมกลนิ่ สงิ่ ต่างๆ รอบตวั ได้ ๑.๔ รับรู้ตอ่ การใชป้ ระสาทสัมผสั ทางการชิมรสสิง่ ต่างๆในชีวติ ประจาวนั ได้ ๑.๕ รบั รู้ตอ่ การ ใชป้ ระสาทสัมผัสทางผิวกายสัมผสั สิ่ง ต่างๆ รอบตัวและในสภาพแวดล้อมได้ ๑.๖ รับรู้ต่อการใช้ประสาทการรบั รู้การทรงตัวได้ ๑.๗ รบั รู้ตอ่ การใชป้ ระสาทการรบั ร้กู ารเคล่อื นไหว เอ็นและข้อต่อได้

๒๐ ตวั บง่ ช้ี สภาพทพ่ี ึงประสงค์ ๒. มีความสามารถในการสรา้ ง ๑.๘ การรับรู้ต่อการใช้ประสาทสัมผสั ในการ ความค้นุ เคยกับสภาพแวดล้อม รบั ประทานอาหาร และการเคล่อื นไหวของคนตาบอด ๒.๑ มีความคิดรวบยอดที่เกีย่ วขอ้ งกบั การสรา้ ง ความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม และการ เคล่อื นไหวของคนตาบอด ๒.๒ เดนิ ทางกบั ผูน้ าทางไดอ้ ย่าง เหมาะสมและ ปลอดภัย ๒.๓ เดนิ โดยอสิ ระในสถานที่คุน้ เคยได้อยา่ งอสิ ระและ และปลอดภยั 3. มีการเตรียมความพร้อมในการอ่าน ๓.๑ เคลอ่ื นท่มี อื และนิ้วมือในการสัมผัสจุดนูน เสน้ นนู อกั ษรเบรลล์ และภาพนูนได้ตามแบบ 4. มีการเตรยี มความพร้อมในการเขยี น 4.๑ ใสแ่ ละเลอ่ื นกระดาษในสเลส (Slate) ไดอ้ ยา่ ง อักษรเบรลล์ ถูกวธิ ี ๕. มีความสามารถในการอ่านอกั ษร ๔.๒ จบั สไตลัส (Stylus) ในการเขยี นจดุ นนู ได้อย่าง เบรลลพ์ ยัญชนะไทยท่ีมีเซลล์เดยี ว ถูกวธิ ี และตวั เลข ๕.๑ การอ่านอักษรเบรลล์ไทยทเ่ี ปน็ พยญั ชนะเซลล์ ๖. มคี วามสามารถในการเขียนอักษร เดียวและตัวเลข เบรลลพ์ ยัญชนะไทยที่มีเซลล์เดยี ว และตวั เลข ๖.๑ การเขียนอกั ษรเบรลล์ทเ่ี ป็นพยัญชนะไทยเซลล์ เดียวและตวั เลข ๗. มีความสามารถในการใช้ลกู คิด 8. สามารถใช้เทคโนโลยีสิ่งอานวยความ ๗.๑ การใชล้ กู คดิ ในการบวกลบงา่ ยๆ 8.๑ ใชอ้ ุปกรณ์ช่วยในการสอ่ื สารทางเลอื ก สะดวก เครื่องช่วยในการเรยี นรู้ 8.๒ ใชอ้ ปุ กรณ์ชว่ ยในการเขา้ ถงึ คอมพวิ เตอรเ์ พ่อื การ เรียนรู้ 8.๓ ใชโ้ ปรแกรมเสรมิ ผ่านคอมพิวเตอรเ์ พื่อช่วยในการ เรยี นรู้ มาตรฐาน ๑๓.๒ การพฒั นาทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความบกพร่องทางการไดย้ นิ ตัวบง่ ชี้ สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ๑. สามารถใชแ้ ละดูแลเครื่องช่วยฟงั หรอื ๑.๑ บอกส่วนต่าง ๆ ของเครื่องชว่ ยฟงั หรือเครือ่ ง เครือ่ งประสาทหูเทียม ประสาทหเู ทียม ๑.๒ ใชเ้ ครอื่ งชว่ ยฟังได้ถกู ต้องหรอื เคร่ืองประสาทหู เทยี ม ๑.๓ ดแู ลรกั ษาเคร่อื งชว่ ยฟงั หรือเคร่ืองประสาทหูเทยี ม

๒๑ ๒. สามารถใช้การได้ยนิ ทห่ี ลงเหลอื อยู่ใน ๒.๑ รวู้ ่ามเี สยี ง/ไม่มีเสยี ง ชวี ิตประจาวนั ๒.๒ บอกเสียงท่ไี ดย้ นิ ๒.๓ บอกแหลง่ ท่มี าของเสียง ๓. สามารถเปล่งเสยี งหรือพูดตามแบบ ๓.๑ เปลง่ เสยี งคาที่ไมม่ ีความหมายตามแบบ ๓.๒ พูดคาง่ายๆ ทมี่ ีความหมายตามแบบ ๓.๓ พูดเปน็ วลีงา่ ยๆ ตามแบบ ๓.๔ พูดเป็นประโยคง่ายๆตามแบบ ๔. สามารถอา่ นริมฝปี าก ๔.๑ อา่ นริมฝีปากและเขา้ ใจความหมาย ๔.๒ ทารปู ปากเป็นคาท่ีมีความหมายและผู้อืน่ เข้าใจได้ ๕. สามารถใช้ภาษาท่าทางและภาษามือ ๔.๓ ทารปู ปากเปน็ วลงี า่ ยๆ และผอู้ ่นื เข้าใจได้ ในการสอื่ สาร ๔.๔ ทารปู ปากเป็นประโยคง่ายๆ และผู้อ่ืนเขา้ ใจได้ ๖. สามารถสะกดน้ิวมือ ๕.๑ ใช้ภาษาท่าทางในการส่ือสาร ๕.๒ ใช้ภาษามอื บอกชอื่ สง่ิ ต่างๆ รอบตัว 7. สามารถใช้เทคโนโลยสี งิ่ อานวยความ ๕.๓ ใช้ภาษามือเพ่ือการสนทนาและสือ่ สาร สะดวก เครอ่ื งช่วยในการเรยี นรู้ ๖.๑ สะกดนวิ้ มือพยัญชนะไทย ๖.๒ สะกดนว้ิ มือ สระและสระเปลยี่ นรปู ๖.๓ สะกดนว้ิ มอื วรรณยกุ ต์ ๖.๔ สะกดนิ้วมือชื่อตนเอง ๖.๕ สะกดนิ้วมอื คาง่ายๆ ๖.๖ สะกดน้วิ มืออักษรภาษาอังกฤษ 7.๑ ใชอ้ ุปกรณช์ ่วยในการสือ่ สารทางเลอื ก 7.๒. ใช้อปุ กรณช์ ว่ ยในการเข้าถงึ คอมพวิ เตอรเ์ พ่อื การ เรยี นรู้ 7.๓ ใช้โปรแกรมเสรมิ ผา่ นคอมพวิ เตอร์เพื่อชว่ ยในการ เรยี นรู้ มาตรฐาน ๑๓.๓ การพฒั นาทักษะจาเป็นเฉพาะความบกพร่องทางสติปัญญา ตัวบง่ ชี้ สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ ๑. สามารถส่อื สารได้เหมาะสมกบั ๑.๑ สอื่ สารได้เหมาะสมกับสถานการณ์ สถานการณ์ ๒. สามารถดูแลตนเองและความปลอดภัย ๒.๑ ดแู ลตนเองและความปลอดภัยในชีวิตประจาวนั ในชวี ิตประจาวนั ๓. มีปฏสิ ัมพนั ธท์ างสงั คมกบั ผ้อู ่นื อย่าง ๓.๑ มีปฏิสมั พนั ธท์ างสงั คมกับผูอ้ น่ื อยา่ งเหมาะสม เหมาะสม ๔. รจู้ กั ใชท้ รัพยากรในชุมชน ๔.๑ ใช้สิ่งของสาธารณะอย่างเหมาะสม 5. สามารถใช้เทคโนโลยสี ิง่ อานวยความ 5.๑ ใช้อปุ กรณ์ชว่ ยในการสื่อสารทางเลือก สะดวก เคร่อื งชว่ ยในการเรียนรู้

๒๒ 5.๒ ใชอ้ ุปกรณ์ช่วยในการเขา้ ถึงคอมพวิ เตอร์เพอ่ื การ เรียนรู้ 5.๓ ใชโ้ ปรแกรมเสรมิ ผา่ นคอมพวิ เตอรเ์ พ่ือชว่ ยใน การเรยี นรู้ มาตรฐาน ๑๓.๔ การพฒั นาทักษะจาเป็นเฉพาะความบกพรอ่ งทางร่างกายหรอื การ เคล่อื นไหว หรือสขุ ภาพ ตัวบง่ ชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ๑. ดูแลสขุ อนามัยเพ่ือปอ้ งกนั ๑.๑ ดแู ลหรอื ทาความสะอาดแผลกดทบั ได้ ภาวะแทรกซ้อน ๑.๒ บริหารกลา้ มเน้ือและขอ้ ตอ่ เพ่ือคงสภาพได้ ๑.๓ จัดท่านั่ง ท่านอน หรือทากิจกรรมในทา่ ทางที่ ถูกต้อง ๑.๔ ดูแลอปุ กรณ์ เครื่องชว่ ยส่วนตัวได้ ๒. สามารถใช้และดูแลรกั ษาอุปกรณ์ ๒.๑ เคล่อื นยา้ ยตนเองในการใช้อุปกรณเ์ ครอ่ื งช่วย เครือ่ งช่วยในการเคลื่อนยา้ ยตนเอง ๒.๒ ทรงตวั อยูใ่ นอุปกรณเ์ ครื่องช่วยในการ (Walker รถเข็น ไม้เทา้ ไม้คา้ ยนั ฯลฯ) เคล่อื นยา้ ยตนเองได้ ๒.๓ เคลื่อนย้ายตนเองดว้ ยอุปกรณเ์ คร่ืองช่วย บนทาง ราบและทางลาดได้ ๒.๔ เกบ็ รักษาและดูแลอปุ กรณ์เครอื่ งชว่ ยในการ เคลอ่ื นย้ายตนเองได้ ๓. สามารถใช้และดูแลรกั ษากาย ๓.๑ ถอดและใส่กายอปุ กรณเ์ สรมิ กายอุปกรณ์ อุปกรณ์เสรมิ กายอุปกรณ์ อุปกรณ์ อุปกรณ์ดดั แปลง ดัดแปลง ๓.๒ ใช้กายอุปกรณเ์ สรมิ กายอปุ กรณ์ อุปกรณ์ ดัดแปลงในการทากิจกรรม ๓.๓ เกบ็ รักษาและดแู ลกายอุปกรณ์เสรมิ กายอปุ กรณ์ อุปกรณ์ดัดแปลง ๔. สามารถใช้เทคโนโลยีสิง่ อานวยความ ๔.๑ ใช้อุปกรณช์ ว่ ยในการสือ่ สารทางเลือก สะดวก เครื่องชว่ ยในการเรยี นรู้ ๔.๒. ใชอ้ ุปกรณช์ ว่ ยในการเข้าถึงคอมพิวเตอรเ์ พอ่ื การเรียนรู้ ๔.๓ ใชโ้ ปรแกรมเสรมิ ผา่ นคอมพิวเตอร์เพ่ือช่วยใน การเรียนรู้ ๕. ควบคุมอวัยวะที่ใช้ในการพดู การเคีย้ ว ๕.๑ ควบคุมกลา้ มเนือ้ รอบปากได้ และการกลนื ๕.๒ ควบคมุ การใชล้ ิน้ ได้ ๕.๓ เป่าและดูดได้ ๕.๔ เค้ยี วและกลืนได้ ๕.๕ ควบคุมน้าลายได้

๒๓ มาตรฐาน ๑๓.๕ การพฒั นาทักษะจาเป็นเฉพาะความบกพรอ่ งทางการเรยี นรู้ ตวั บง่ ชี้ สภาพทพ่ี ึงประสงค์ ๑. มคี วามสามารถในการรบั รู้การไดย้ ิน ๑.๑ จาเสยี งจากสิง่ ทไี่ ด้ยินในชวี ติ ประจาวัน ๑.๒ จาแนกเสยี งทแี่ ตกต่าง ๑.๓ แยกเสยี งท่กี าหนดให้ออกจากเสยี งอนื่ ๆได้ ๒. มีความสามารถในการรับรู้การเห็น ๒.๑ การจาภาพที่เห็นในชีวติ ประจาวัน ๒.๒. การแยกวตั ถุ ภาพ ตัวพยัญชนะทกี่ าหนดใหอ้ ยู่ ในพื้นฉากท่ีตา่ งกัน ๒.๓ ตากับมอื เคล่ือนไหวสัมพันธก์ นั ๒.๔ การบอกสว่ นทีห่ ายไปของรูปภาพทีก่ าหนด ๒.๕ บอกความสมั พันธ์ของคุณลักษณะตาแหนง่ ลาดบั รูปร่างของส่งิ ทอี่ ยู่รอบตัว ๓. มีความสามารถในการจัดลาดับความคิด ๓.๑ เรียงลาดบั เหตกุ ารณ์ ขนั้ ตอนในการเลน่ หรอื การ ทากจิ กรรมได้ ๔. มีความสามารถในการจัดระเบียบ ๔.๑ จดั การตนเองได้ ตนเอง ๔.๒ จดั ลาดับกจิ กรรมตนเองได้ ๕. มคี วามสามารถในการบอกตาแหน่ง/ ๕.๑ บอกทศิ ทางหรือตาแหน่งของสงิ่ ต่างๆ ทิศทาง 6. สามารถใช้เทคโนโลยสี ง่ิ อานวยความ 6.๑ ใช้อุปกรณ์ช่วยในการสอ่ื สารทางเลือก สะดวก เครื่องชว่ ยในการเรียนรู้ 6.๒. ใช้อุปกรณช์ ว่ ยในการเข้าถงึ คอมพิวเตอร์เพ่อื การ เรียนรู้ 6.๓ ใชโ้ ปรแกรมเสรมิ ผา่ นคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยในการ เรียนรู้ มาตรฐาน ๑๓.๖ การพฒั นาทกั ษะจาเป็นเฉพาะความบกพร่องทางการพดู และภาษา ตวั บ่งช้ี สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ๑. สามารถควบคุมอวัยวะในการออกเสียง ๑.๑ เคล่อื นไหวอวยั วะในการพูด ๑.๒ ควบคุมอวยั วะในการพูด ๒. สามารถออกเสยี งตามหนว่ ยเสยี งได้ ๒.๑ การออกเสียง หนว่ ยเสยี งสระได้ชัดเจน ชัดเจน ๒.๒ การออกเสยี ง หนว่ ยเสยี งพยญั ชนะไดช้ ดั เจน ๒.๓ การออกเสียงคาได้ชดั เจน ๓. สามารถเปลง่ เสียงให้เหมาะสมกบั ๓.๑ เปล่งเสยี งในระดับเสยี งทท่ี าให้ผอู้ ื่นฟงั ได้ ธรรมชาตขิ องแตล่ ะคน ๔. สามารถควบคุมจังหวะการพูด ๔.๑ ควบคุมจังหวะการพูดได้เปน็ จงั หวะปกติ (๗๐-๑๐๐ คาตอ่ นาที)

๒๔ ตวั บง่ ช้ี สภาพทพ่ี ึงประสงค์ 5. สามารถใช้เทคโนโลยสี ง่ิ อานวยความ ๔.๒ พูดได้คล่องหรือลดภาวะการตดิ อ่าง สะดวก เครือ่ งช่วยในการเรียนรู้ ๔.๓ พูดเวน้ วรรคตอนไดถ้ ูกต้อง 5.๑ ใชอ้ ปุ กรณ์ช่วยในการส่ือสารทางเลอื ก 5.๒. ใชอ้ ุปกรณช์ ่วยในการเข้าถงึ คอมพวิ เตอรเ์ พ่ือการ เรยี นรู้ 5.๓ ใช้โปรแกรมเสริมผ่านคอมพวิ เตอรเ์ พื่อชว่ ยในการ เรยี นรู้ มาตรฐาน ๑๓.๗ การพัฒนาทกั ษะจาเป็นเฉพาะความบกพรอ่ งทางพฤติกรรมหรือ อารมณ์ ตัวบง่ ชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ๑. สามารถจัดการกับอารมณ์ของตนเองได้ ๑.๑ ควบคมุ ความรสู้ ึกหรืออารมณข์ องตนเองได้ ๑.๒ แสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสมตาม สถานการณ์ ๒. สามารถควบคุมพฤติกรรมของตนเอง ๒.๑ ควบคมุ ตนเองในการทากจิ กรรมรว่ มกับเพื่อนได้ ได้อย่างเหมาะสม อย่างเหมาะสม ๓. สามารถปรบั ตัวในการอยรู่ ่วมกบั สงั คม ๓.๑ การปฏิบตั ิตามกฎกตกิ าและมารยาททางสังคมได้ อย่างถูกต้อง ๔. สามารถใช้เทคโนโลยสี งิ่ อานวยความ ๔.๑ ใช้อุปกรณช์ ว่ ยในการสอ่ื สารทางเลือก สะดวก เครื่องช่วยในการเรียนรู้ ๔.๒ ใช้อปุ กรณช์ ่วยในการเขา้ ถึงคอมพวิ เตอรเ์ พ่อื การ เรยี นรู้ ๔.๓ ใช้โปรแกรมเสริมผา่ นคอมพวิ เตอรเ์ พ่ือชว่ ยในการ เรยี นรู้ มาตรฐาน ๑๓.๘ การพัฒนาทกั ษะจาเป็นเฉพาะบุคคลออทิสติก ตัวบง่ ชี้ สภาพทพี่ ึงประสงค์ ๑. ตอบสนองตอ่ สิง่ เร้าจากประสาทสมั ผัส ๑.๑ ตอบสนองตอ่ การทรงตวั ได้เหมาะสม ไดเ้ หมาะสม ๑.๒ ตอบสนองตอ่ การเคลื่อนไหวเอ็นและขอ้ ต่อได้ เหมาะสม ๑.๓ ตอบสนองตอ่ กายสมั ผัสได้เหมาะสม ๑.๔ ตอบสนองต่อการดมกลิ่นไดเ้ หมาะสม ๑.๕ ตอบสนองต่อเสยี งท่ีไดย้ ินได้เหมาะสม ๑.๖ ตอบสนองต่อการเหน็ ได้เหมาะสม ๑.๗ ตอบสนองตอ่ การลมิ้ รสได้เหมาะสม

๒๕ ตวั บง่ ชี้ สภาพท่พี งึ ประสงค์ ๒. เข้าใจภาษาและแสดงออกทางภาษาได้ ๒.1 ปฏิบัติตามคาสงั่ ได้ อย่างเหมาะสม ๒.๒ สอ่ื สารโดยการใชท้ ่าทาง รปู ภาพ สญั ลกั ษณ์ คาพูดในชีวิตประจาวัน ๓. แสดงพฤตกิ รรมท่เี หมาะสมตาม ๓.๑ รบั รแู้ ละแสดงอารมณ์ของตนเองและบุคคลอ่ืน สถานการณ์ อยา่ งเหมาะสม ๓.๒ ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลงของห้องเรียนและโรงเรียน ๓.๓ ปฏบิ ัติตนเหมาะสมตามสถานการณ์ ตา่ ง ๆ 3.4 สามารถรอคอยในสถานการณต์ า่ งๆได้ 3.5 เข้าใจและยอมรบั การเปลีย่ นแปลงในสถานการณ์ ตา่ งๆ ได้ 3.6 สามารถควบคุมตนเองในสถานการณต์ ่างๆได้ ๔. สามารถใชเ้ ทคโนโลยสี ิ่งอานวยความ ๔.๑ ใชอ้ ุปกรณช์ ว่ ยในการสื่อสารทางเลือก สะดวก เคร่อื งช่วยในการเรยี นรู้ ๔.๒. ใชอ้ ุปกรณ์ช่วยในการเข้าถึงคอมพิวเตอร์เพอื่ การ เรียนรู้ ๔.๓ ใช้โปรแกรมเสริมผา่ นคอมพิวเตอร์เพ่ือชว่ ยในการ เรยี นรู้ การจดั เวลาเรียน หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยสาหรับเด็กท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษ กาหนดกรอบ โครงสร้างเวลาในการจัดประสบการณ์ให้กับเด็ก ใน 1 ปีการศึกษาโดยประมาณ มีเวลาเรียนไม่น้อย กว่า ๑๘๐ วัน ในแต่ละวันจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า ๕ ช่ัวโมง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอายุของเด็กท่ีเริ่มเข้า สถานศกึ ษาหรือศูนย์การศึกษาพิเศษ เวลาเรียนจึงขน้ึ อยู่กับความพร้อม พัฒนาการและศักยภาพของ เด็กพิการตามประเภทและสภาพความพิการของแต่ละบคุ คล สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ เป็นส่ือกลางในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับเด็ก เพื่อส่งเสริม พัฒนาการเด็กทุกด้าน ให้เป็นไปตามจุดหมายของหลักสูตรท่ีกาหนด ประกอบด้วย ประสบการณ์ สาคัญ และสาระที่ควรเรยี นรู้ ดังนี้ ๑. ประสบการณ์สาคัญ ประสบการณ์สาคัญเป็นแนวทางสาหรับผู้สอนนาไปใช้ ในการออกแบบการจัดประสบการณ์ให้เด็กปฐมวัยเรียนรู้ ลงมือปฏิบัติ และได้รับการส่งเสริม พัฒนาการครอบคลมุ ทุกด้าน ดังนี้ ๑.๑ ประสบการณส์ าคัญทสี่ ง่ เสรมิ พัฒนาการด้านร่างกาย เป็นการสนับสนุนให้เด็ก ได้มีโอกาสพัฒนาการใชก้ ล้ามเน้อื ใหญ่ กล้ามเนื้อเล็ก และการประสานสมั พันธ์ระหว่างกล้ามเนื้อและ ระบบประสาท ในการทากิจวัตรประจาวันหรือทากิจกรรมต่างๆ และสนับสนุนให้เด็กมีโอกาสดูแล สขุ ภาพและสขุ อนามัย สุขนสิ ัย และการรกั ษาความปลอดภัย ดังนี้

๒๖ มาตรฐานที่ ๑ ร่างกายเจริญเตบิ โตตามวยั และมสี ขุ นสิ ัยทีด่ ี ตัวบง่ ช้ี ๑.๑ น้าหนัก สว่ นสูงและเสน้ รอบศีรษะตามเกณฑ์ อายุ สภาพท่พี งึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคญั พัฒนาการ แรกเกดิ – ๓ 1. นา้ หนกั และส่วนสูงตามเกณฑ์ ได้รับการตรวจ และประเมิน น้าหนัก ปี 2. เสน้ รอบศีรษะตามเกณฑ์ ส่วนสูงเส้นรอบศีรษะตามเกณฑ์ของ กรมอนามยั ๓ – ๖ ปี 1. น้าหนกั และส่วนสูงตามเกณฑข์ อง กรมอนามยั ตวั บ่งชี้ ๑.๒ มีสุขภาพอนามัยสขุ นิสยั ที่ดี ประสบการณ์สาคญั อายุ สภาพทพี่ งึ ประสงค์ (1) ฝึกปฏิบัติตามสุขบัญญัติเก่ียวกับ พฒั นาการ สุขอนามยั -ล้างมือก่อน-หลังรับประทานอาหาร แรกเกิด – ๓ 1. มีภูมิต้านทานโรค ไม่ป่วยบ่อย ขบั ถา่ ย -ทาความสะอาดหลังเข้าห้องน้า ปี เปน็ เวลา ห้องส้วม รับประทานอาหาร นอนและพกั ผ่อน -รับประทานอาหารตามหลัก เหมาะสมกับวยั โภชนาการ อาหารหลัก ๕ หมู่ ๒. กิจกรรมการเคลื่อนไหวสอดคล้องตาม -ออกกาลังกาย พฒั นาการ -ดูแลรักษาความสะอาดตนเองและ ของใช้ส่วนตัว ๓ – ๔ ปี 1. ยอมรับประทานอาหารทม่ี ีประโยชน์ และด่ืมน้าทีส่ ะอาด (2) ทากจิ กรรมการเคลอื่ นไหวที่ 2. ลา้ งมอื ก่อน-หลงั รบั ประทานอาหาร สอดคล้องตามพฒั นาการ เชน่ และหลงั จาก นอน นงั่ ตบมือ คบื คลาน เดิน ว่ิง ขบั ถ่าย การใชห้ ้องนา้ ห้องส้วม กระโดด ๓. ดูแลสุขภาพชอ่ งปากและฟนั ๔. นอนพักผอ่ นเป็นเวลา ๕. ออกกาลังกายอย่างสม่าเสมอ ๔ – ๕ ปี 1. รับประทานอาหารท่ีมีประโยชน์และด่มื นา้ สะอาดได้ 2. ลา้ งมือกอ่ น-หลงั รบั ประทานอาหาร และหลังจาก ขับถ่าย การใช้ห้องนา้ ห้องส้วม ๓. ดูแลสขุ ภาพชอ่ งปากและฟนั โดยการ บ้วนปาก/แปรงฟนั ได้ ๔. นอนพักผ่อนเปน็ เวลา ๕. ออกกาลงั กายเปน็ เวลา

๒๗ อายุ สภาพท่พี ึงประสงค์ ประสบการณ์สาคัญ พฒั นาการ 1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ตาม ๕ – ๖ ปี หลักโภชนาการ อาหารหลัก 5 หมู่และด่ืมน้าสะอาดได้ 2. ลา้ งมอื ก่อน-หลงั รับประทานอาหาร และหลงั จาก ขบั ถ่าย การใช้หอ้ งนา้ ห้องส้วมได้ ๓. ดูแลสุขภาพชอ่ งปากและฟันโดยการ แปรงฟนั ได้ ๔.นอนพักผ่อนเปน็ เวลา ๕. ออกกาลังกายเป็นเวลา ตวั บ่งช้ี ๑.๓ รักษาความปลอดภัยของตนเองและผอู้ ืน่ อายุ สภาพที่พงึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคญั พัฒนาการ ๓ – ๔ ปี 1. เลน่ และทากจิ กรรมอย่างปลอดภยั (๑) ปฏบิ ตั ิตนใหป้ ลอดภยั ในกิจวตั ร ประจาวัน ๔ – ๕ ปี 1. เลน่ และทากิจกรรมอยา่ งปลอดภัย (๒)ฟังนิทาน เรื่องราว เหตุการณ์ เกี่ยวกับการป้องกัน และการรักษา ๕ – ๖ ปี 1. เล่น ทากจิ กรรมและปฏิบัตติ อ่ ผอู้ นื่ ความปลอดภัย อย่างปลอดภัย (๓) เล่นเคร่ืองเล่นอยา่ งปลอดภยั (๔) เล่นบทบาทสมมตเิ หตุการณ์ต่าง ๆ มาตรฐานที่ ๒ กล้ามเนือ้ ใหญแ่ ละกลา้ มเนื้อเล็กแขง็ แรง ใช้ไดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคล่วและ ประสานสัมพันธก์ นั ตัวบ่งชี้ ๒.๑ เคล่ือนไหวร่างกายอยา่ งคล่องแคล่วประสานสมั พันธ์และทรงตัวได้ อายุ สภาพท่ีพึงประสงค์ ประสบการณส์ าคญั พฒั นาการ แรกเกิด – 6 1. นอนควา่ ยกศรี ษะและหันไปขา้ งใด (1) ฝึกเคลอื่ นไหวอยู่กับที่ เดือน ข้างหนง่ึ ได้ - นอน นั่ง ต บมือ ผ งกศี รษ ะ ๒ – ๔ เดือน 1. นอนคว่ายกศีรษะและอกพน้ พ้ืน เคล่ือนไหวไหล่ เอว มือ และแขน น้ิว 2. เม่อื จับยนื เริ่มลงน้าหนกั ที่เท้าทั้งสอง และน้ิวมอื เคาะเทา้ เท้าและปลายเท้า ขา้ งได้ อยู่กับท่ี ๔ – ๖ เดอื น 1. ยนั หน้าอกพ้นพืน้ โดยใชแ้ ขนช่วย (2) ฝึกเคลื่อนไหวเคลอ่ื นที่ 2. นง่ั ได้ โดยต้องมผี ู้ประคอง นง่ั โดยใช้ มอื ยนั พนื้ ด้วยตนเอง

๒๘ อายุ สภาพที่พึงประสงค์ ประสบการณส์ าคญั พัฒนาการ ๖ – ๙ เดอื น 1. น่งั หลังตรงและเอีย้ วตวั ใช้มอื เล่นได้ - คืบ คลาน เดิน วิ่ง กระโดด ก้าว กระโดด เคลื่อนที่ไปข้างหน้า ข้างหลัง อย่างอิสระ ขา้ งซา้ ย ข้างขวา หมุนตัว 2. คลานโดยใช้มือและเข่า 3. ยืนเกาะเคร่ืองเรือนสงู ระดับอกได้ - ฝึกเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของ ๙ เดือน – ๑ 1. ยนื ทรงตวั (ตั้งไข)่ ได้ชว่ งสน้ั ๆ ร่างกาย ตามจงั หวะดนตรี ปี 2. หยอ่ นตวั ลงนงั่ จากทา่ ยืน (3) ฝึกเคล่ือนไหวพร้อมวสั ดอุ ปุ กรณ์ ๑ ปี – ๑ ปี ๖ 1. ลุกขึน้ ยืนดว้ ยตนเอง - การเคล่ือนไหวส่วนต่าง ๆ ของ เดอื น 2. ยืนได้เองอย่างอสิ ระ ร่างกาย โดยใช้วัสดุอุปกรณ์ เช่น ราว 3. ยืนแลว้ กม้ ลงหยิบของท่ีพ้ืนได้ ฝึกเดนิ เชอื ก ผา้ วสั ดุอ่นื ๆ 4. เดนิ ได้เองโดยปล่อยแขนเป็นอสิ ระ (4) ฝกึ เคลอ่ื นไหวที่ใชก้ ารประสาน และแกว่งแขนตามสบาย สัมพนั ธข์ องการใช้กลา้ มเนื้อใหญใ่ น 5. เดินเร็วๆ ได้ การกล้งิ การขว้าง การจบั การโยน ๖. วง่ิ ได้ การรบั การเตะ (5) ฝกึ เล่นเครื่องเลน่ สนามอยา่ งอสิ ระ ๑ ปี ๖ เดือน 1. เดินขึน้ บันได โดยมือข้างหนง่ึ จับราว – ๒ ปี บันไดอีกมือจับมือผู้ใหญก่ ้าวเทา้ โดยมี - เล่นอสิ ระ เล่นเครอ่ื งเล่นในสนาม การพักเทา้ ในขัน้ เดยี วกนั เลน่ ปนี ปา่ ย โหน มดุ ลอดเครือ่ งเล่น 2. ว่ิงและหยุดไดท้ นั ที และเร่ิมวิง่ ใหม่ ปน่ั จกั รยานสามล้อ ๒ – ๓ ปี 1. น่ังยองๆ เล่น โดยไมเ่ สียการทรงตัว 2. เดนิ ถอยหลังได้ 3. เดนิ ขึ้นลงบันได โดยมอื ขา้ งหนึ่งจบั ราวและกา้ วเทา้ โดยมีการพักเท้าในขัน้ เดียวกัน 4. กระโดดอยกู่ ับท่ี โดยเทา้ ท้ังสองขา้ ง ลอยพ้นพ้ืน 5. ยนื ขาเดยี วได้ ๓ – ๔ ปี 1. เดินตามทศิ ทางทกี่ าหนดได้ 2. กระโดดสองขาข้นึ ลงบนพ้ืนตา่ ง ระดับได้ 3. กระโดดข้ามสิง่ กดี ขวางได้ 4.วิ่งแลว้ หยุดได้ตามท่ีกาหนด 5. รับลกู บอลโดยใชม้ อื และลาตวั ชว่ ย ๔ – ๕ ปี 1. เดินตอ่ เท้าไปข้างหน้าเปน็ เส้นตรงได้ โดยไมต่ ้องกางแขน 2. กระโดดขาเดยี วอยู่กับที่ได้ โดยไม่ เสยี การทรงตัว

๒๙ อายุ สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคัญ พฒั นาการ 3. วง่ิ หลบหลกี ส่ิงกดี ขวางได้ ๕ – ๖ ปี 4. รับลูกบอลโดยใช้มือทงั้ สองขา้ ง 1. เดินต่อเท้าถอยหลังเป็นเส้นตรงได้ โดยไม่ตอ้ ง กางแขน 2. กระโดดขาเดียวไปข้างหน้าไดอ้ ย่าง ต่อเนือ่ งโดยไม่เสยี การทรงตัว 3. ว่งิ หลบหลีกสงิ่ กีดขวางได้อย่าง คล่องแคล่ว 4. รบั ลกู บอลท่กี ระดอนขึน้ จากพ้ืนได้ ตัวบง่ ช้ี ๒.๒ ใชม้ ือ-ตาประสานสมั พนั ธก์ ัน อายุ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคญั พฒั นาการ แรกเกดิ – ๒ 1. จ้องมองไดม้ องเหน็ ในระยะห่าง ๘- (1) ฝึกเล่นเครื่องเล่นสัมผัสและ เดอื น ๑๒ นว้ิ การสรา้ งสิง่ ตา่ งๆ จากแท่งไม้ บลอ็ ก ๒ – ๔ เดอื น 1. มองตามวตั ถุทเ่ี คลื่อนไหว - ต่อเลโก้ น็อตปักหมุด กระดาน 2. กาหรอื จับส่งิ ของที่ใสใ่ ห้ในมอื ตะปู บลอ็ กไม้หรือพลาสตกิ ๔ – ๖ เดอื น 1. เอ้ือมคว้าใกล้ๆ ตวั ได้ (2) ฝกึ เขยี นภาพและการเลน่ กบั สี 2. เอื้อมมือหยิบวตั ถใุ นทา่ นอนหงาย -เขียนภาพด้วยสีเทียน สีไม้ สี ๖ – ๙ เดอื น 1. มองตามของตก จากวัสดุธรรมชาติ เล่นกับสีน้า เช่น 2. เปลย่ี นมอื ถอื ของไดท้ ลี ะมือ เป่าสี ทับสี พับสี หยดสี ละเลงสี กล้ิง 3. จับของมากระทบกันดว้ ยมือ ๒ ข้าง สี 4. เร่มิ ใชน้ ้ิวหัวแมม่ อื น้ิวช้แี ละนิว้ กลาง (3) ฝึกปั้น -ป้ันดินเหนียว ดินน้ามัน ปั้นแป้ง หยิบของช้ินเล็กๆ ๙ เดอื น – ๑ 1. หยิบของใส่และเอาออกจากภาชนะ โดว์ (4) ฝกึ ประดิษฐส์ ่งิ ต่างๆ ด้วยเศษวสั ดุ ปี ได้ 2. ถอื กัด และเค้ยี วอาหารได้ด้วยตนเอง -สร้างชิ้นงานจากวัสดุธรรมชาติ หรอื วัสดุเหลอื ใช้ ๑ ปี – ๑ปี ๖ 1. วางกอ้ นไมซ้ ้อนกันได้ ๒ ก้อน (5) ฝึกหยิบจับ การพับ การใช้ เดอื น 2. เปิดหนงั สือทีละ ๓-๔ หน้า ๑ ปี ๖ เดือน 1. วางก้อนไมซ้ ้อนกันได้ ๔-๖ ก้อน กรรไกร การฉีก การตัด การปะ และ – ๒ ปี 2. เปิดพลิกหนา้ หนังสือได้ทีละแผ่น การร้อยวสั ดุ ๒ – ๓ ปี 1. จับสีเทียนแท่งใหญเ่ พ่ือขีดเขียนได้ 2. เลยี นแบบลากเสน้ เป็นวงตอ่ เน่ือง หรือเสน้ ตรงแนวด่งิ

๓๐ อายุ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคัญ พฒั นาการ ๓ – ๔ ปี 1. ใช้กรรไกรตดั กระดาษขาดจากกนั ได้ โดยใช้มอื เดียว ๔ – ๕ ปี 2. เขียนรปู วงกลมตามแบบได้ 3. ร้อยวัสดทุ ม่ี ีรขู นาดเส้นผา่ นศนู ย์กลาง ๕ – ๖ ปี ๑ ชม. ได้ 1. ใช้กรรไกรตัดกระดาษตามแนว เสน้ ตรงได้ 2. เขยี นรปู สเี่ หลี่ยมตามแบบไดอ้ ยา่ งมี มมุ ชัดเจน 3. ร้อยวัสดทุ ม่ี รี ขู นาดเส้นผา่ นศูนยก์ ลาง ๐.๕ ชม. ได้ 1. ใชก้ รรไกรตัดกระดาษตามแนวเส้น โค้งได้ 2. เขียนรูปสามเหล่ียมตามแบบไดอ้ ย่าง มีมมุ ชัดเจน 3. ร้อยวสั ดทุ ีม่ รี ขู นาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ๐.๒๕ ชม.ได้ ๑.๒ ประสบการณ์สาคัญทสี่ ่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ จติ ใจ เปน็ การสนับสนนุ ใหเ้ ด็ก ได้แสดงออกทางอารมณ์และความรู้สึกของตนเองท่ีเหมาะสมกับวัย ตระหนักถึงลักษณะพิเศษเฉพาะ ท่เี ป็นอัตลักษณ์ ความเป็นตวั ของตวั เอง มคี วามสุข ร่าเริงแจ่มใส การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ได้พฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม สุนทรียภาพ ความรสู้ กึ ทีด่ ตี อ่ ตนเอง และความเช่ือมนั่ ในตนเองขณะปฏบิ ัติกิจกรรมต่างๆ ดงั นี้ มาตรฐานที่ ๓ มีสุขภาพจิตดีและมคี วามสขุ ตวั บง่ ช้ี ๓.๑ แสดงออกทางอารมณไ์ ด้อยา่ งเหมาะสม อายุ สภาพท่ีพึงประสงค์ ประสบการณส์ าคัญ พฒั นาการ แรกเกดิ – ๓ 2. อารมณ์ดี ยิ้มแยม้ หัวเราะงา่ ย แววตา (1) ฟังนิทานท่ีเกี่ยวกับการส่งเสริมด้าน ปี มคี วามสขุ อารมณ์จิตใจ โดยคานึงถึงอายุพัฒนาการ ของเดก็ (2) ฟังเพลงและเคลื่อนไหวประกอบเพลง ตามอิสระ (๓) เลน่ ของเลน่ ท่ีมเี สยี งเหมาะสมกบั วัย เชน่ ลกู แซก ระนาดไม้จาลอง (๔) เลน่ อิสระ

๓๑ ๓ – ๔ ปี 1. แสดงอารมณ์ความรสู้ ึกได้เหมาะสมกับ (๑) เล่นบทบาทสมมติตามเหตุการณ์ต่าง ๆ ๔ – ๕ ปี ๕ – ๖ ปี บางสถานการณ์ (๒) เคลอื่ นไหวตามเสียงเพลงและดนตรี 1. แสดงอารมณ์ความรู้สกึ ได้ตาม (๓) ทางานศลิ ปะ สถานการณ์ (๔) รอ้ งเพลง 1. แสดงอารมณ์ ความรู้สึกได้สอดคล้อง (๕) ฝึกแสดงออกอารมณ์ตามรูปภาพแสดง อารมณ์ กบั สถานการณอ์ ย่างเหมาะสม (๖) ฟังนทิ านทีเ่ หมาะสมกบั วัย (๗) เล่นเกมสท์ ายอารมณ์จากสีหนา้ (๘) พดู สะทอ้ นความรสู้ ึกของตนเองและ ผูอ้ ่นื (๙) เล่นบทบาทสมมติตามเหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ ตัวบง่ ช้ี ๓.๒ มคี วามรูส้ ึกทด่ี ีตอ่ ตนเองและผู้อืน่ อายุ สภาพท่พี งึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคัญ พฒั นาการ แรกเกิด – ๒ 1. ย้ิมและหัวเราะไดเ้ ม่อื พอใจ หรือเห็น (๑) เล่นอสิ ระ/เล่นกบั เดก็ ในวยั เดียวกัน เดอื น หนา้ คนคนุ้ เคย (๒) ฟังนิทานที่เกี่ยวกับการส่งเสริมด้าน 2. สบตา จอ้ งหนา้ พอ่ แม่หรอื ผู้เลี้ยงดู อารมณ์จิตใจ โดยคานึงถึงอายุพัฒนาการของ 2 - 4 เดอื น 1. ผกู พนั กับพ่อแม่ หรือผูเ้ ลย้ี งดูใกลช้ ดิ เด็ก 2. ยมิ้ ทักทายเหน็ หน้าคนคุ้นเคย (๓) ฟังเพลงและเคล่ือนไหวประกอบเพลง ๔ - ๖ 1. แสดงอารมณท์ หี่ ลากหลายผ่านการสง่ เสยี ง ตามอสิ ระ เดอื น (5) เล่นหน้ากระจกเพื่อรู้จักอารมณ์ของ ตนเอง ๖ - ๙ เดือน 1. แสดงอารมณ์ตามความรู้สึก 2. แสดงอาการกลวั คนแปลกหนา้ ๙ เดอื น - ๑ 1. แสดงความสนใจติดผู้เล้ียงดูตนเอง ปี มากกวา่ คนอนื่ 2. แสดงความต้องการของตนเองมากขึน้ ๑ ปี – ๑ ปี ๖ 1. แสดงความชอบไม่ชอบสว่ นตวั อย่าง เดอื น ชดั เจน ๑ ปี ๖ เดือน 1. แสดงความรักต่อผู้อนื่ – ๒ ปี 2. แสดงความกังวลเมือ่ แยกจากคน ใกลช้ ดิ ๒ – ๓ ปี 1. แสดงความภาคภมู ิใจเมื่อทาสง่ิ ต่าง ๆ (๑) ฝกึ แสดงทา่ ทาง อารมณ์เม่อื ทาสิ่งต่าง ๆ สาเร็จ สาเรจ็ ๓ – ๕ ปี 1. กลา้ พดู กล้าแสดงออก (1) เลน่ บทบาทสมมติ 2. แสดงความพอใจในผลงานตนเอง (2) แสดงท่าทางประกอบเพลง

๓๒ อายุ สภาพท่ีพึงประสงค์ ประสบการณ์สาคญั พฒั นาการ ๔ – ๕ ปี 1. กลา้ พูดกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม (3) แสดงการทกั ทายเพ่ือน ครู และผู้อนื่ ๕ – ๖ ปี บางสถานการณ์ (๔) ฝึกแสดงท่าทางหรือพูดแสดงความช่ืนชม 2. แสดงความพอใจในผลงานและ เช่น ปรบมือ การยกนิ้วโป้ง การเอ่ยชม เช่น ความสามารถของตนเอง เกง่ มาก เยีย่ ม 1. กลา้ พูดกล้าแสดงออกอยา่ งเหมาะสม (๕) ฝึกแนะนาตัวหรือเล่าเร่ืองเก่ียวกับตนเอง ตามสถานการณ์ หนา้ ช้นั เรยี น 2. แสดงความพอใจในผลงานและ (๖) ฝกึ การเป็นผู้นาในการทากิจกรรม (๗) ฝกึ การนาเสนอผลงานตนเอง ความสามารถของตนเองและผูอ้ ืน่ มาตรฐานท่ี ๔ ช่นื ชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี และการเคลอ่ื นไหว ตัวบง่ ช้ี ๔.๑ สนใจ มีความสุขและแสดงออกผา่ นงานศิลปะดนตรี และการเคล่อื นไหว อายุ สภาพทพี่ ึงประสงค์ ประสบการณ์สาคญั พัฒนาการ แรกเกิด – ๒ 1. หยดุ รอ้ งไห้เม่ือมคี นอุ้ม (1) เคลอ่ื นไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี เดอื น (2) เลน่ รายบคุ คล กลุ่มย่อย และกล่มุ ใหญ่ ๒ – ๔ เดือน 1. มีปฏกิ ริ ยิ าโตต้ อบด้วยการเคล่อื นไหว (๓) ออกไปเลน่ นอกบา้ นหรอื ไป ร่างกายเม่ือเหน็ หรอื ไดย้ นิ เสยี งคนและสง่ิ สวนสาธารณะ (๔) รูจ้ ักสง่ิ ของท่ีเปน็ ของตนเอง ที่คนุ้ เคย ๔ – ๖ เดือน 1. ย้มิ ทกั ทายแสดงอาการดใี จ เมื่อเห็นสิง่ (๕) เลน่ ของเลน่ ท่ีมแี สง สี เสียง (๖) ฝกึ แสดงทา่ ทาง ขอ หรือ ชี้ ทตี่ ัวเองพอใจ 2. จาหน้าแมแ่ ละคนค้นุ เคยได้ 3. เล่นของเลน่ ทมี่ ีเสียงได้ ๖ – ๙ เดือน 1. แสดงออกถึงการรบั ร้อู ารมณ์และ ความรู้สึกของผูอ้ ืน่ 2. เลยี นแบบกริ ยิ าท่าทางของผู้อืน่ อย่าง ง่ายๆ ๙ เดือน – ๑ 1. มองผู้ใหญห่ รือเด็กคนอนื่ ๆ ทากิจกรรม ปี อย่างใกล้ชดิ ๑ ปี – ๑ ปี ๖ 1. เรม่ิ ค้นุ เคยกบั คนอ่นื เดือน 2. ขอความช่วยเหลอื เมอื่ ตอ้ งการ ๑ ปี ๖ เดือน 1. ชอบการออกไปเทยี่ วนอกบ้าน – ๒ ปี 2. แสดงความเปน็ เจ้าของ ๒ – ๓ ปี 1. สนใจหรือมคี วามสขุ เม่ือได้ยิน ๑. เคลอ่ื นไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี เสยี งดนตรี

๓๓ อายุ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคัญ พฒั นาการ 3 – ๔ ปี 3. สนใจ มคี วามสุข และแสดงออกผ่าน (1) ฟังเพลง การร้องเพลง และการแสดง ปฏกิ ริ ิยาโตต้ อบเสยี งดนตรี ๔ – ๕ ปี งานศิลปะ (2) เล่นเครอ่ื งดนตรีประกอบจงั หวะ ๕ – ๖ ปี 4. สนใจ มคี วามสุข และแสดงออกผ่าน (3) เคลอื่ นไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี (4) ทอ่ งคาคล้องจอง เสยี งเพลง ดนตรี (5) เลน่ บทบาทสมมติ (6) ทากิจกรรมศิลปะตา่ ง ๆ 3. สนใจ มคี วามสขุ และแสดงท่าทาง/ (7) สรา้ งสรรค์งานศิลปะ เคลอ่ื นไหวประกอบเพลง จงั หวะ และ ดนตรี 1. สนใจ มคี วามสุข และแสดงออกผ่าน งานศิลปะ 2. สนใจ มคี วามสขุ และแสดงออกผา่ น เสียงเพลง ดนตรี 3. สนใจ มีความสขุ และแสดงท่าทาง/ เคลื่อนไหวประกอบเพลง จงั หวะ และ ดนตรี 1. สนใจ มคี วามสุข และแสดงออกผ่าน งานศิลปะ 2. สนใจ มคี วามสุข และแสดงออกผา่ น เสยี งเพลง ดนตรี 3. สนใจ มีความสขุ และแสดงทา่ ทาง/ เคลอ่ื นไหวประกอบเพลง จังหวะ และ ดนตรี มาตรฐานท่ี ๕ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และมจี ิตใจท่ีดีงาม ตัวบ่งช้ี ๕.๑ ซื่อสตั ย์สุจรติ อายุ สภาพท่พี งึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคญั พฒั นาการ ๓ – ๔ ปี 1. บอกหรือช้ีได้ว่าสิง่ ใดเปน็ ของตนเอง (1) ฝกึ ใชส้ ญั ลักษณ์ประจาตวั แสดงความ และส่งิ ใดเป็นของผู้อนื่ เปน็ เจา้ ของ (๒) ปฏิบัติตนตามหลักศาสนาทีน่ บั ถอื (๓) ฟงั นิทานเกย่ี วกับคุณธรรม จรยิ ธรรม ๔ – ๕ ปี 1. ขออนญุ าตหรือรอคอยเมื่อตอ้ งการ (1) เล่นบทบาทสมมติตามเหตุการณ์ต่าง ๆ สิง่ ของของผู้อืน่ (2) ฟังนทิ านเก่ียวกับคุณธรรม จรยิ ธรรม ๕ – ๖ ปี 1. ขออนุญาตหรือรอคอยเม่อื ต้องการ (๓) ฝึกการขออนญุ าตโดยใช้ท่าทางหรือ ส่งิ ของของผู้อนื่ ดว้ ยตนเอง รปู ภาพ

๓๔ ตัวบ่งชี้ ๕.๒ มคี วามเมตตากรณุ า มีนา้ ใจและชว่ ยเหลือแบง่ ปัน อายุ สภาพท่พี ึงประสงค์ ประสบการณส์ าคญั พัฒนาการ ๓ – ๖ ปี 1. แสดงความรักเพ่ือนและมีเมตตาสัตว์ (๑) ฟังนิทานเกี่ยวกับคุณธรรม จรยิ ธรรม เลี้ยง (๒) แบง่ ปันสง่ิ ของ อาหาร ให้บุคคลอ่นื ๒. มนี ้าใจ ชว่ ยเหลือ แบง่ ปัน บุคคลอ่นื (3) เลน่ กับสตั วแ์ ละให้อาหารสัตว์ ๔ – ๕ ปี 1. แสดงความรักเพื่อนและมีเมตตาสัตว์ (4) เลน่ กับเพ่ือนในวยั เดยี วกัน เลีย้ ง ๕ – ๖ ปี 1. แสดงความรักเพื่อนและมเี มตตาสัตว์ เล้ยี ง ตัวบ่งชี้ ๕.๓ มีความเหน็ อกเหน็ ใจผู้อืน่ ประสบการณ์สาคญั อายุ สภาพท่ีพึงประสงค์ (๑) ฝึกรับรูอ้ ารมณโ์ ดยใช้รูปภาพแสดง พัฒนาการ อารมณ์ (๒) ฝึกแสดงท่าทางตอบสนองตอ่ อารมณ์และ ๓ – ๕ ปี ๑. แสดงสีหน้าหรอื ท่าทางรับร้คู วามรู้สึก ความรู้สกึ ของผู้อ่นื เชน่ กอด จับมือ ผอู้ น่ื (๓) ฟังนทิ าน (๔) เล่นบทบาทสมมติ ๔ – ๕ ปี 1. แสดงสีหน้าและทา่ ทางรบั รคู้ วามรูส้ ึก ผู้อนื่ ๕ – ๖ ปี 1. แสดงสีหน้าและทา่ ทางรับรู้ความรู้สึก ผูอ้ ่นื อยา่ งสอดคล้องกบั สถานการณ์ ตวั บง่ ช้ี ๕.๔ มคี วามรับผดิ ชอบ อายุ สภาพทีพ่ ึงประสงค์ ประสบการณส์ าคัญ พัฒนาการ ๓ – ๔ ปี 1. ทางานที่ได้รบั มอบหมายจนสาเร็จ เม่ือ (1) ฝกึ ทางานโดยใช้รปู ภาพแสดงขนั้ ตอน มผี ูช้ ่วยเหลือ (๒) ฝกึ ทางานที่ได้รับมอบหมายตามหน้าที่ ๔ – ๕ ปี 1. ทางานทไี่ ดร้ ับมอบหมายจนสาเร็จ เมื่อ งาน มีผู้ช้ีแนะ ๕ – ๖ ปี 1. ทางานที่ไดร้ บั มอบหมายจนสาเร็จดว้ ย ตนเอง ๑.๓ ประสบการณ์สาคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้มี โอกาสปฏสิ มั พนั ธ์กบั บคุ คลและสิ่งแวดลอ้ มต่างๆ รอบตวั จากการปฏบิ ัติกจิ กรรมต่างๆ ผา่ นการเรียนรู้ ทางสังคม เชน่ การเลน่ การทางานกบั ผ้อู น่ื การปฏิบตั ิกจิ วตั รประจาวนั การแก้ปัญหาขอ้ ขัดแย้งตา่ งๆ มาตรฐานที่ ๖ มีทักษะชีวิตและปฏิบตั ิตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ตวั บง่ ช้ี ๖.๑ ชว่ ยเหลือตนเองในการปฏิบัติกิจวตั รประจ้าวนั

๓๕ อายุ สภาพท่พี งึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคัญ พฒั นาการ 1. ตอ้ งการถือขวดนมด้วยตนเอง ๖ – ๙ เดอื น (1) ใชม้ อื ทัง้ สองข้างจับขวดนม ๙ เดอื น – ๑ 1. หยบิ อาหารกินได้ (2) ใชม้ อื ข้างใดข้างหนึง่ จับก้นขวดขวดนม 2. ด่มื น้าจากแกว้ ขนาดเล็ก ปี 3. ใหค้ วามรว่ มมอื เวลาแต่งตวั (1) ฝึกคว้าหยบิ จบั สงิ่ ของ เช่น ขนม ของ เลน่ โมบาย ตัวต่อ ฯลฯ ๑ ปี – ๑ ปี 1. ถอดเคร่อื งแต่งกาย ได้ (2) ดื่มนา้ จากแกว้ ท่ีมหี จู บั สองข้าง ๖ เดือน 2. เร่มิ ช่วยเหลือตนเองในการแปรงฟนั (3) ฝึกการด่ืมน้าจากแก้ว ล้างมอื โดยมีผ้ใู หญด่ ูแล (4) ทาตามคาสงั่ ในแต่งตวั เช่น ยกแขนขึน้ ๑ ปี ๖ เดือน 3. เริม่ ฝึกขบั ถา่ ย ยกขา ฯลฯ – ๒ ปี (1) ฝกึ ถอดหมวก 1. ใช้ช้อนตักอาหารเขา้ ปาก แต่หกบ้าง (2) ฝกึ ถอดรองเทา้ ๒ – ๓ ปี 2. ชอบชว่ ยเหลืองานบ้านง่ายๆ (3) ฝกึ จับแปรงสีฟันด้วยตนเอง (4) ฝกึ เล่นบทบาทสมมตุ แิ ปรงฟันใหต้ ุ๊กตา ๓ – ๔ ปี 1. สวมเสอ้ื ผ้าโดยมคี นชว่ ย (5) ฝกึ แปรงฟนั โดยจับแปรงสฟี ันดว้ ย 2. บอกได้วา่ ตนเองต้องการขับถ่าย ตนเอง (6) ฝึกการขบั ถา่ ยโดยการนั่งกระโถนเปน็ 1. แต่งตัวง่ายๆ เป็นเวลา 2. รบั ประทานอาหาร (1) ฝึกการจับชอ้ นตักสิ่งของ 3. ใชห้ อ้ งนา้ ห้องสว้ มได้ โดยมผี ชู้ ่วยเหลอื (2) ฝึกการใช้ช้อนตักตักนา้ ในชาม (3) ฝึกการใชช้ ้อนตักอาการในชามเข้าปาก (4) ฝกึ การท้ิงขยะเปน็ ท่ี (5) ฝกึ เกบ็ เสื้อผ้าลงตะกร้า (1) ฝึกการถอดเสื้อ (2) ฝึกการถอดกางเกงหรอื กระโปรง (3) ฝึกการถอดถุงเทา้ (4) ดงึ เชือกหรือโบทผี่ ูกใหห้ ลุดออก (5) แกะกระดุมแป๊ะหรือปลดกระดมุ (เม็ด ใหญ)่ บนเส้อื ผ่าหน้า (6) ฝกึ เข้าห้องน้าเป็นเวลา (7) ฝกึ บอกความต้องการก่อนการเข้า ห้องน้า (1) ฝึกการแตง่ ตัวจากตุ๊กตา (2) ฝกึ การใสแ่ ละถอดเส้ือกล้าม (3) ฝกึ การใส่และถอดเส้ือยดื (4) ฝึกการใสแ่ ละถอดกางเกงขาส้นั (5) ฝึกการใช้ชอ้ นและส้อม

๓๖ อายุ สภาพท่พี ึงประสงค์ ประสบการณส์ าคัญ พัฒนาการ ๔ – ๕ ปี 1. แตง่ ตวั ไดด้ ว้ ยตนเอง (6) ฝึกการไปเขา้ ห้องน้าตามลาพัง 2. รบั ประทานอาหารได้ (7) ฝึกการชาระหรือลา้ งชักโครกหลงั จาก ๕ – ๖ ปี 3. ใชห้ อ้ งน้าหอ้ งสว้ มได้ด้วยตนเอง ขบั ถ่าย (1) ฝึกการแตง่ ตัวจากตุ๊กตา 1. แตง่ ตวั ได้ถกู วธิ ีด้วยตนเองอยา่ ง (2) ฝึกการใสแ่ ละถอดเส้ือกล้าม คล่องแคล่ว (3) ฝึกการใสแ่ ละถอดเสื้อยดื 2. รับประทานอาหารได้ดว้ ยตนเองอยา่ ง (4) ฝึกการใสแ่ ละถอดกางเกงขาสน้ั ถกู วธิ ี (5) ฝึกการใช้ช้อนและส้อม 3. ใชแ้ ละทาความสะอาดหลังใชห้ อ้ งน้า (6) ฝึกการไปเขา้ ห้องนา้ ตามลาพัง หอ้ งส้วม ด้วยตนเอง (7) ฝึกการชาระหรือลา้ งชกั โครกหลังจาก ขบั ถา่ ย (8) ฝึกการใชส้ ายชาระลา้ งทาความสะอาด หลงั จากการขบั ถา่ ย (1) ฝึกการใสแ่ ละถอดผา่ หนา้ (2) ฝกึ การใส่และถอดเส้ือยืดแขนยาว (3) ฝกึ การใสแ่ ละถอดกางเกงขายาว (4) ฝึกรบั ประทานอาหารใช้ชอ้ นสอ้ มโดยไม่ หกเลอะเทอะ (5) ฝกึ การเข้าอาบนา้ โดยถอู วัยวะต่าง ๆ ได้เชน่ ท้อง หลัง รกั แร้ หน้า ศรี ษะ แขน ขา กน้ (6) ฝกึ การเขา้ ห้องน้าทกุ ตอนตามลาพัง ตวั บ่งชี้ ๖.๒ มีวนิ ยั ในตนเอง อายุ สภาพทีพ่ ึงประสงค์ ประสบการณ์สาคญั พฒั นาการ ๓ – ๔ ปี 1. เกบ็ ของเล่นของใชเ้ ขา้ ท่ี (1) ฝึกเก็บของเลน่ ได้ 15-20 ชน้ิ ลง 2. เขา้ แถวตามลาดับก่อนหลังได้เม่ือมผี ู้ ตะกรา้ ชี้แนะ (2) ฝกึ เข้าแถวตามลาดับก่อนหลัง โดยการ จับไหลค่ นข้างหน้า ๔ – ๕ ปี 1. เกบ็ ของเล่นของใชเ้ ข้าท่ี (1) ฝกึ เก็บของเลน่ ได้ 20-35 ช้ิน ลง 2. เข้าแถวตามลาดับก่อนหลังได้ดว้ ย ตะกรา้ ตนเอง (2) ฝกึ การเขา้ แถวตามลาดับกอ่ นหลงั โดย การยืนตามจดุ เวน้ ระยะหา่ งทางสังคม ๕ – ๖ ปี 1. เกบ็ ของเลน่ ของใชเ้ ข้าที่อย่างเรียบร้อย (1) ฝกึ เกบ็ ของเลน่ ได้ 35-50 ชน้ิ ลง ดว้ ยตนเอง ตะกรา้

๓๗ 2. เขา้ แถวตามลาดบั ก่อนหลังได้ดว้ ย (2) ฝกึ การเข้าแถวตามลาดบั กอ่ นหลงั โดย ตนเอง เวน้ ระยะ 1 ช่วงแขน ตวั บง่ ชี้ ๖.๓ ประหยัดและพอเพียง ประสบการณ์สาคัญ อายุ สภาพทีพ่ ึงประสงค์ (1) ฝกึ เก็บเครอื่ งเขยี นใส่กล่องดนิ สออยา่ ง พัฒนาการ เป็นระเบยี บ (2) ฝกึ ออมเงินใสใ่ นกระปกุ ออมสนิ ๓ – ๔ ปี 1. ใช้สิ่งของเครือ่ งใชอ้ ย่างประหยัดและ (3) ฝกึ การคัดแยกขยะ เชน่ กลอ่ งนม ขวด พอเพยี ง โดยการชว่ ยเหลอื นา้ ๔ – ๕ ปี 1. ใชส้ ่งิ ของเครอื่ งใชอ้ ย่างประหยดั และ พอเพียง เม่ือมผี ูช้ แ้ี นะ ๕ – ๖ ปี 1. ใชส้ ิ่งของเครื่องใชอ้ ยา่ งประหยัดและ พอเพียง ดว้ ยตนเอง มาตรฐานท่ี ๗ รกั ธรรมชาติ สง่ิ แวดล้อม วฒั นธรรมและความเป็นไทย ตัวบ่งช้ี ๗.๑ สนใจและเรียนร้สู ่งิ ตา่ งๆ รอบตัว อายุ สภาพทพี่ ึงประสงค์ ประสบการณ์สาคญั พฒั นาการ แรกเกดิ – ๒ 1. สนใจมอง ใบหนา้ คนมากกว่าสง่ิ ของ 1) ย้มิ และส่งเสยี งเม่ือมีคนพูดคยุ เล่นหรือ เดือน สมั ผสั ตัว ๒ – ๔ เดอื น 1. กรอกตามองตามสิ่งของหรอื สงิ่ ท่มี ี 1) มีปฏกิ ิริยาโตต้ อบด้วยการเคล่อื นไหว ๔ – ๖ เดอื น เสียง รา่ งกาย เมื่อเหน็ หรอื ไดย้ นิ เสียงเม่อื ค้นุ เคย เชน่ การส่ันวัตถุทีม่ เี สยี ง ด้านหน้า ดา้ นหลงั ๖ – ๙ เดอื น 1. มองสิ่งของท่ีอยู่รอบๆ และใน และบน-ลา่ ง, ซา้ ย-ขวา ระยะใกล้ 1) สนใจของเล่นท่ีมที สี่ ดใส มีเสยี งเมอื่ เขยา่ ๙ เดือน – ๑ 2. แสดงความอยากรู้อยากเห็นเกีย่ วกับ 2) เออ้ื มหยิบจบั และคบื ไปหาสง่ิ ตา่ งๆ ที่ ปี ส่ิงตา่ งๆ และพยายามหยบิ ของในระยะท่ี สนใจ เอ้ือมถึง 3) กลงิ้ ของเล่นให้เด็กมองตาม 1. เร่ิมรูจ้ ักสิง่ ของในชีวติ ประจาวนั 1) คลานหยิบจับของเลน่ หรือสงิ่ ของใน 1. รับรู้และแสดงออกถึงการกลับมาของ ชีวิตประจาวันท่ีสนใจ บคุ คลหรือสงิ่ ของ 2) สนใจของเล่นทเ่ี ป็นแบบจาลองส่งิ ของใน ชีวติ ประวัน เชน่ เคร่ืองครัวจาลอง ผัก ผลไม้ จาลอง (1) เข้าใจท่าทางและสหี นา้ คนอ่ืน เชน่ ดีใจ เสยี ใจ โกรธ

๓๘ อายุ สภาพท่ีพึงประสงค์ ประสบการณส์ าคัญ พัฒนาการ 1. สารวจสิง่ ของ โดยใชห้ ลายๆวธิ ี (1) สารวจหาของท่ีซอ่ นไว้ที่ซับซ้อน เช่น ๑ ปี – ๑ปี ๖ ยา้ ยท่ีซ่อนสองครั้งแลว้ ให้เด็กหาวา่ อยู่ท่ไี หน เดือน 1. สงั เกต สารวจลองผดิ ลองถกู กับ (1)ปดิ -เปิดสวิตซ์ไฟและรวู้ า่ ทาให้ไฟ คณุ สมบัติของสงิ่ ตา่ งๆ ปิด -เปิด ๑ ปี ๖ เดือน (2) ปดิ -เปดิ รโี มทและทาใหร้ ู้ว่าปิด – เปิด – ๒ ปี โทรทศั น์ (1) เลียนแบบการต่อบล็อกไมเ้ รียงตอ่ เป็น ๒ – ๓ ปี 1. อยากเรยี นร้สู ่ิงตา่ งๆ แถวยาว 4 ชิน้ 2. ถามบ่อยถามซา้ (2) รอ้ ยลกู ปดั ลูกใหญ่ได้ 5 ลูก 3. จดจ่อต่อส่ิงใดส่ิงหนงึ่ ได้ยาวนานขึ้น (3) เสียบหมุดในกระดานปักหมุดได้ (4) สนใจ สารวจ ทดลอง แสดงจินตนาการ กบั ของเลน่ โดยนามาสัมผสั จับต้อง ทดสอบ ตอ่ สรา้ ง ร้ือ และทลาย เชน่ เลน่ กับบล็อกไม้ ตุ๊กตา (5) เลียนแบบการต่อบล็อกไม้เรียงตอ่ เป็น แถวยาว 6 ช้ิน ตวั บง่ ช้ี ๗.๒ ดแู ลรกั ษาธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม อายุ สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคญั พัฒนาการ ๓ – ๔ ปี 1. ใหค้ วามร่วมมอื ดูแลรักษาธรรมชาติ (1) มีสว่ นรว่ มรับผดิ ชอบดแู ลรกั ษา และส่ิงแวดลอ้ ม สง่ิ แวดล้อมทัง้ ภายในและภายนอก 2. เกบ็ และทง้ิ ขยะได้ถูกท่ี หอ้ งเรยี น เช่น ดูแลรกั ษาความสะอาด ๔ – ๕ ปี 1. มีสว่ นร่วมดแู ลรกั ษาธรรมชาติและ หอ้ งเรยี น รดน้าต้นไม้ เก็บขยะ (2) ใชว้ สั ดแุ ละสง่ิ ของเครื่องใช้อย่างคุ้มค่า สิง่ แวดลอ้ ม นาวสั ดุเหลอื ใชม้ าสร้างชิ้นงาน ใชส้ ง่ิ ของ 2. เก็บและท้ิงขยะไดถ้ ูกที่ ๕ – ๖ ปี 1. ดูแลรกั ษาธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม อย่างประหยดั เช่น ดินสอ กระดาษสี (3) ทางานศลิ ปะที่นาวสั ดุหรือสิ่งของ ดว้ ยตนเองและเป็นแบบอย่าง 2. เกบ็ และทงิ้ ขยะไดถ้ ูกที่ดว้ ยตนเองและ เครื่องใช้ที่ใช้แล้ว มาใช้ซ้า หรือแปรรปู แล้ว นากลบั มาใชใ้ หม่ เปน็ แบบอยา่ ง (4) เพาะปลูกและดูแลตน้ ไม้ (5) เลยี้ งสตั วแ์ ละดแู ลให้อาหารสัตว์ เช่น ปลา ไก่ นก (6) สนทนาข่าวและเหตกุ ารณท์ ี่เก่ยี วกับ ธรรมชาติและ สงิ่ แวดลอ้ มในชวี ติ ประจาวนั

๓๙ ตวั บ่งช้ี ๗.๓ มีมารยาทตามวัฒนธรรมไทย และรกั ความเป็นไทย อายุ สภาพทพี่ ึงประสงค์ ประสบการณส์ าคัญ พฒั นาการ ๓ – ๔ ปี 1. ปฏิบตั ติ นตามมารยาทไทยไดเ้ มื่อมีผู้ (1) กล่าวคาสวัสดี ชีแ้ นะ (2) กล่าวคาขอบคุณหรือขอโทษตาม 2. กลา่ วคาขอบคุณและขอโทษเมื่อมผี ู้ สถานณ์ ชีแ้ นะ (3) แสดงความเคารพธงชาติเม่ือไดย้ นิ เพลง 3. หยุดยนื เมือ่ ไดย้ ินเพลงชาติไทยและ ชาติและเพลงสรรเสรญิ พระบารมี เพลงสรรเสริญพระบารมี ๔ – ๕ ปี 1. ปฏบิ ัตติ นตามมารยาทไทยได้ด้วย (1) กล่าวคาสวัสดี ตนเอง (2) ควบคุมตนเองให้อยูใ่ นความสงบเม่ืออยู่ 2. กล่าวคาขอบคุณและขอโทษดว้ ย ในทช่ี ุมชน ตนเอง (3) กล่าวคาขอบคุณหรือขอโทษตาม 3. ยนื ตรงเมือ่ ได้ยนิ เพลงชาติไทยและ สถานณ์ เพลงสรรเสริญพระบารมี (4) แสดงความเคารพธงชาติเม่อื ไดย้ ินเพลง ชาติและเพลงสรรเสรญิ พระบารมี ๕ – ๖ ปี 1. ปฏิบตั ิตนตามมารยาทไทยได้ตาม (1)กล่าวคาขอบคณุ หรือขอโทษตาม กาลเทศะ สถานณ์ 2. กลา่ วคาขอบคุณและขอโทษดว้ ย (2)กล่าวคาขออนุญาต ตนเอง (3) แสดงความเคารพธงชาติเมื่อได้ยินเพลง 3. ยืนตรงและร่วมร้องเพลงชาตไิ ทยและ ชาตแิ ละเพลงสรรเสรญิ พระบารมี เพลงสรรเสรญิ พระบารมี มาตรฐานท่ี ๘ อยูร่ ่วมกับผอู้ ื่นได้อยา่ งมคี วามสุขและปฏิบตั ติ นเปน็ สมาชิกทดี่ ีของสังคม ในระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมุข ตัวบง่ ช้ี ๘.๑ ยอมรบั ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างบคุ คล อายุ สภาพท่พี งึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคญั พฒั นาการ ๓ – ๔ ปี 1. เล่นและทากจิ กรรมรว่ มกับเด็กที่ (1) เล่นตามจินตนาการ เช่น การต่อบล๊อค แตกตา่ งไปจากตน ไม้ จก๊ิ ซอว์ ๔ – ๕ ปี 1. เล่นและทากจิ กรรมร่วมกับเด็กท่ี (2) เล่นสมมุติ เชน่ เล่น พอ่ แมล่ กู ขายของ (3) เลน่ อิสระ เชน่ ป้นั ดินนา้ มนั วาดรูป แตกตา่ งไปจากตน ๕ – ๖ ปี 1. เลน่ และทากิจกรรมร่วมกับเด็กที่ เล่นทราย (4)เล่นกลางแจง้ เช่น เครื่องเลน่ ในสนาม แตกต่างไปจากตน เด็กเลน่ เกมนันทนาการ

๔๐ ตัวบ่งช้ี ๘.๒ มีปฏสิ มั พันธท์ ่ีดกี ับผ้อู นื่ อายุ สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคัญ พฒั นาการ ๓ – ๔ ปี 1. เล่นร่วมกบั เพ่อื น (1) การรว่ มกาหนดข้อตกลงของห้องเรยี น 2. ยม้ิ หรือทักทายผู้ใหญแ่ ละบคุ คลท่ี (2) การปฏบิ ตั ิตนเป็นสมาชิกที่ดขี อง ค้นุ เคย ห้องเรยี น ๔ – ๕ ปี 1. เล่นหรือทางานรว่ มกับเพ่ือนเป็นกลุ่ม (3) การให้ความรว่ มมือในการปฏิบัติ 2. ยิม้ ทกั ทายหรือพูดคยุ กับผู้ใหญ่และ กจิ กรรมต่าง ๆ บุคคลทค่ี ้นุ เคย (4) การดแู ลห้องเรยี นร่วมกนั ๕ – ๖ ปี 1. เลน่ หรอื ทางานรว่ มมอื กับเพ่อื นอยา่ งมี (5) การรว่ มกจิ กรรมวนั สาคัญ เป้าหมาย 2. ย้มิ ทักทายและพดู คุยกบั ผู้ใหญแ่ ละ บคุ คลท่คี ้นุ เคยไดเ้ หมาะสมกับสถานการณ์ ตวั บง่ ช้ี ๘.๓ ปฏิบัติตนเบ้อื งต้นในการเปน็ สมาชิกท่ีดขี องสงั คม อายุ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคัญ พฒั นาการ ๓ – ๔ ปี 1. ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลงเมือ่ มผี ู้ชี้แนะ (1) เล่นร่วมกบั เพ่ือนได้ 2-4 คน ๔ – ๕ ปี 2. ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผนู้ าและผตู้ ามเมอ่ื มผี ู้ (2) ทกั ทายบุคคลท่ีคุ้นเคยได้ โดยการยิ้ม ชแี้ นะ หรือสวัสดี 3. ยอมรับการประนปี ระนอมแก้ไขปัญหา เม่ือมีผชู้ ีแ้ นะ 1. มสี ว่ นรว่ มสรา้ งขอ้ ตกลงและปฏบิ ัติ (1) ร่วมมอื ในการทากจิ กรรมต่าง ๆ เป็น ตามข้อตกลง กล่มุ รว่ มกับเพื่อน 2. ปฏิบัติตนเปน็ ผนู้ าและผตู้ ามได้ด้วย (2) ทักทายผใู้ หญ่โดยการสวสั ดี ตนเอง 3. ประนปี ระนอมแก้ไขปญั หาโดย ปราศจากการใชค้ วามรนุ แรง เมอ่ื มผี ู้ ชแ้ี นะ ๕ – ๖ ปี 1. มสี ่วนร่วมสร้างข้อตกลงและปฏบิ ัติ (1) ปฏิบัติงานกลุ่มร่วมกบั เพื่อนจนสาเรจ็ ตามข้อตกลงด้วยตนเอง เชน่ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ ตอนเช้า ด่ืมนม 2. ปฏิบตั ิตนเปน็ ผ้นู าและผู้ตามได้ รบั ประทานอาหารกลางวนั เหมาะสมกบั สถานการณ์ด้วยตนเอง (2) ทักทายผู้ใหญ่ที่ไมค่ ุ้นเคย โดยการสวสั ดี 3. ประนีประนอมแก้ไขปัญหาโดย ปราศจากการใชค้ วามรนุ แรงด้วยตนเอง

๔๑ ๑.๔ ประสบการณ์สาคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา เป็นการสนับสนุนให้เด็ก ได้รับรู้และเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวผ่านการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม บุคคลและส่ือต่างๆ ด้วย กระบวนการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กพัฒนาการใช้ภาษา จินตนาการความคิด สร้างสรรค์ การแก้ปัญหา การคิดเชิงเหตุผล และการคิดรวบยอดเก่ียวกับส่ิงต่างๆ รอบตัวและมี ความคดิ รวบยอดทางคณิตศาสตรท์ ่ีเปน็ พ้นื ฐานของการเรยี นรู้ในระดบั ท่สี งู ขึน้ ต่อไป มาตรฐานท่ี ๙ ใช้ภาษาสื่อสารได้เหมาะสมตามศกั ยภาพ ตวั บง่ ช้ี ๙.๑ รบั รู้และเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ อายุ สภาพที่พงึ ประสงค์ ประสบการณ์ทสี่ าคญั พัฒนาการ แรกเกิด – ๒ 1. ตอบสนองตอ่ เสียง (1) จ้องมองหน้าผู้พูดคุย 5 วนิ าที เช่น เล่น เดือน จะ๊ เอ๋ ๒ – ๔ เดอื น ๑. หยุดฟงั เสียง และหันตามเสียงเคาะ (2) ฝกึ สังเกตวัตถุหรือสิง่ ของที่มีสีสันและ รูปทรงท่ีแตกต่างกนั เชน่ หนั ตามลูกบอล ๔ – ๖ เดอื น 1. หันตามเสียงจ้องมองปากคน แสง จ้องมองโมบายหลากสีสัน ๖ – ๙ เดือน (3) ฝกึ ฟังเสยี งตา่ งๆ รอบตัว เช่น เสยี ง 1. รบั รูภ้ าษาและแสดงสีหน้าทา่ ทาง กระดง่ิ กลอง กรับ ทาใหเ้ กดิ เสียงบริเวณ 2. หันหาเมอื่ เรยี กชือ่ หน้าห้อง หลังห้อง หรือมุมต่างๆ 3. ตอบสนองตอ่ คาสง่ั ง่ายๆ (4) ฝกึ มองรมิ ฝีปาก เช่นการมองผ่าน ๙ เดือน – ๑ 1. รวู้ า่ คา แตล่ ะคามีความหมายต่างกัน หนา้ กาก ปี อย่างน้อย 3-5 คา (5) หันศรีษะตามเสยี งท่ไี ดย้ ิน เคาะกลอง 2. ปฏิบัตติ ามคาสั่งง่าย ๆ โดยใช้ท่าทาง สนั กระพรวน เสียงปรบมือ หันตามเสียง ประกอบ กลอง ซ้าย ขวา สลับกนั หันตามเสียง 3. ตอบสนองต่อคาโดยใช้ท่าทางประกอบ เรียกชอ่ื คา (6) ทาตามคาสง่ั ต่างๆเมื่อใช้ทา่ ทาง ๑ ปี – ๑ ปี ๖ 1. หยบิ หรอื ช้ีตามคาบอก ประกอบ เชน่ ยกมือ โบกมือ ตบมือ บา๊ ย บาย ฯลฯ เดอื น 2. ชี้ส่วนตา่ งๆ ของร่างกายตามคาบอก (7) ทาตามคาส่งั งา่ ยๆโดยไม่มที ่าทาง อยา่ งน้อย ๑ สว่ น ประกอบ ๑ ปี ๖ เดือน 1. ปฏบิ ตั ิตามคาส่ังได้ ทีละ 1 คาส่งั เช่น ยกมอื โบกมือ ตบมือ บา๊ ยบาย ฯลฯ – ๒ ปี 2. สนใจของจาลองหรือรปู ภาพตาม (8) ช้อี วยั วะ 1 สว่ น เชน่ หู ตา จมูก ปาก ระยะเวลาท่ีครกู าหนดไว้ (9) เลือกวัตถุตามคาสง่ั 2-4 ชนดิ เชน่ แก้ว ๒ – ๓ ปี 1. ฟงั และสนใจดหู นังสอื นิทานภาพ นา้ สีแดง แตงโมผลใหญ่ 2. แสดงทา่ ทางประกอบเพลง (10) สนใจฟงั นทิ านหรือเรื่องราวสั้นๆได้ 5 3.ช้ีส่วนตา่ งๆ ของร่างกายตามคาบอก นาที เช่น นทิ านรองเท้าสแี ดง ลกู หมี อะไร อย่างน้อย 7 ส่วน เอ๋ย ขอบคณุ ครบั

อายุ สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ ๔๒ พฒั นาการ ประสบการณ์ทสี่ าคัญ (11) วางวตั ถไุ ว้ “ข้างบน” “ข้างใต้”ไดต้ าม คาสงั่ (12) ชีอ้ วยั วะ 7 ส่วน เช่น หู ตา จมูก ปาก ผม ฟนั ล้นิ ตัวบ่งชี้ ๙.๒ แสดงออกหรือพูดเพือ่ ส่ือความหมายได้ อายุ สภาพที่พงึ ประสงค์ ประสบการณท์ ่ีสาคญั พัฒนาการ (1) ยมิ้ ตอบสนองต่อเสียงพูดและสง่ เสยี ง แรกเกิด – ๒ 1. สง่ เสียงในคอ อ้อแอ้ โต้ตอบ เชน่ เมอ่ื อุ้มหรือสมั ผสั ตัวเด็ก เดือน เบาๆมองสบตา และพดู คยุ (2) หัวเราะหรือสง่ เสยี งแสดงความพอใจ ๒-๔ เดือน ๑. สง่ เสียง อ้อแอ้ โตต้ อบ เช่น เม่อื ได้อย่กู บั บุคคลท่ีคนุ้ เคย (พ่อ แม่ ผู้ ๔ – ๖ เดอื น 1. ส่งเสียงที่ไมม่ ีความหมาย เลย้ี งดู) (3) แสดงออกตามอารมณ์ความรสู้ ึก เช่น 2. สง่ เสียงได้หลายเสยี ง ร้องไห้ ยิ้ม หวั เราะ กลัว หันหนา้ หนี (4) แสดงความชอบไม่ชอบอยา่ งชดั เจน เช่น ๖ – ๙ เดอื น 1. พยายามเลียนเสียงต่างๆ เมือ่ พบส่งิ ที่ชอบจะ หัวเราะ ตบมอื ย้มิ เม่อื 2. ทาเสียงซา้ ๆ เช่น หมา่ หม่า พบสงิ่ ที่ไม่ชอบจะ หนั หนา้ หนีหรือรอ้ งไห้ (5) เลียนเสียงคาพูดที่คนุ้ เคยไดอ้ ยา่ งน้อย 1 ๙ เดือน – ๑ 1. รจู้ ักเช่ือมโยงคาพูดกับการกระทา เชน่ คา เชน่ หม่า หม่า มะ ปี ไมจ่ ะส่นั หัว (6) พูดคาพยางคเ์ ดียว หรือคาโดดได้ 2 คาที่ 2. พูดคาพยางค์เดียวได้อย่างน้อย ๒ คา มเี สียงสูง ต่า คอ่ ย ดัง เชน่ มอๆ เหมยี วๆ อ๊บๆ ๑ ปี – ๑ ปี ๖ 1. พูดคาพยางคเ์ ดยี ว ท่มี ีความหมายได้ (7) พดู คาตามพยางค์ท้าย เช่น ไปเท่ยี ว พดู เดอื น อย่างน้อย ๒ คา คาวา่ “เทีย่ ว” กนิ ขา้ วพูดคาว่า “ข้าว” (8) บอกชื่อหรือคาจากบัตรภาพ เช่น พ่อ ๑ ปี ๖ เดือน 1. พูดคาตามพยางค์ท้าย แมห่ มา แมว หมอน ส้ม เสือ้ ชอ้ น – ๒ ปี ๒ – ๓ ปี 1. พดู เป็นวลีสัน้ ๆ เชน่ ไปเท่ียว กนิ ข้าว ตัวบ่งช้ี ๙.๓ สนทนาโต้ตอบและเล่าเรอื่ งใหผ้ ู้อนื่ เขา้ ใจ อายุ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคัญ พฒั นาการ 1. แสดงอาการรบั รหู้ รือเขา้ ใจจากเรอื่ งที่ ๓ – ๔ ปี ฟงั

๔๓ อายุ สภาพที่พึงประสงค์ ประสบการณ์สาคัญ พัฒนาการ 2. ตอบคาถามง่าย ๆ เกยี่ วกับตนเอง (๑) ฟังเสยี งตา่ งๆ รอบตัวและบอกเสียงทีไ่ ด้ ๔ – ๕ ปี ได้ ยิน เชน่ เสียงหายใจ ลมพัด นกร้อง รถยนต์ 1. แสดงอาการรับรหู้ รอื เขา้ ใจและ คนเดิน สัตว์รอ้ ง สนทนาโต้ตอบจากเรื่องทฟี่ งั (2) ฟงั และปฏบิ ตั ติ ามคาแนะนา เชน่ การ 2. ตอบคาถามเกย่ี วกับเร่ืองรอบตัว เล่นเกม การเคลือ่ นไหวตามคาบรรยาย รวมทัง้ ข้อตกลงในห้องเรียน ๕ – ๖ ปี 1. บอกความต้องการของตนเองได้ (3) พดู แสดงความคิดเหน็ ความร้สู กึ ความ 2. ตอบคาถามเกย่ี วกับเรื่องเล่าหรือ ต้องการในสิ่งต่างๆ ใช้คาถาม ใคร อะไร นิทาน ทาไม อยา่ งไร ในสิ่งที่ต้องการทราบ ๓ เลา่ เรอ่ื งเป็นประโยคอยา่ งตอ่ เนอื่ ง (4) เลา่ เหตกุ ารณ์ท่ีเกิดข้ึนในนทิ าน เช่น เมือฟังนิทานจบแลว้ สามารถตอบคาถาม เกีย่ วกับนทิ านได้ (5) พูดบอกลกั ษณะสิง่ ของที่สังเกต เล่า ประสบการณ์ เชน่ กจิ กรรมที่ทาในวนั หยุด กิจกรรมที่ไดท้ าด้วยตนเอง หรือทาร่วมกับ เพื่อนและครู หรือเหตุการณท์ ่ีเกิดขึน้ ตามลาดับหรอื ตามชว่ งเวลา (6) เลา่ สงิ่ ท่ีกาลงั เลน่ กาลังทา พูดให้กาลงั ใจ ปลอบใจ คาแนะนาเพ่อื นในการเล่นและการ ทางาน อธบิ ายวิธเี ลน่ ให้เพื่อนฟัง (7) ตอบคาถามและมมี ารยาทในการพูด เช่น ยกมอื ก่อนพูด ไม่พูดแทรกในขณะท่ผี ู้อื่น กาลังพูด (8) เรยี งคาพดู ในสิ่งท่ีคิดเพ่ืออธิบายใหผ้ อู้ น่ื เข้าใจ เช่น พูดเลา่ เร่ืองจากภาพหรือ เหตุการณท์ ่ีพบเห็น ตัวบง่ ช้ี ๙.๔ อ่าน เขียนภาพและสญั ลักษณไ์ ด้ อายุ สภาพท่พี งึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคัญ พฒั นาการ ๓ – ๔ ปี 1. อ่านภาพ และเข้าใจความหมายของ (1) อ่านภาพ นิทาน เชน่ อา่ นปา้ ยที่มี ภาพ รปู ภาพสัญลกั ษณ์ท่เี ด็กสนใจ อย่างอสิ ระ ๔ – ๕ ปี 2. เขียน ขีด เขยี่ อย่างอิสระ (2) อา่ นรว่ มกัน โดยครูแนะนาสว่ นต่างๆ 1. อ่านภาพ สัญลกั ษณ์ คา พรอ้ มทง้ั ช้ี ของหนังสือต้งั แต่ปกหน้าจนถึงปกหลงั แล้ว หรอื กวาดตามองข้อความตามบรรทัด

๔๔ อายุ สภาพที่พงึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคัญ พฒั นาการ 2. เขียนเส้นพื้นฐาน 13 เสน้ เป็นผู้นาการอ่านโดยชี้คาในหนังสอื จากซา้ ย ๕ – ๖ ปี 3. เขยี นคลา้ ยตัวอักษร ไปขวา เดก็ ช้ีและอา่ นตามครูพร้อมกัน 1. อา่ นภาพสัญลักษณ์ คา ด้วยการช้ี (3) อา่ นโดยมีผ้ชู แี้ นะ โดยครูเปน็ ผู้นาการ หรือกวาดตามอง จดุ เริ่มต้นและจุดจบ อ่านกบั เด็กกลุ่มยอ่ ย ๓ - ๕ คน เช่น การเลา่ ของข้อความ นิทาน หนา้ กระดาน 2. เขยี นตวั อักษรตามรอยปะ (4) ดูครชู ้ีคาและกวาดสายตาจากการอ่าน 3. การเขยี นชือ่ ของตนเองตามแบบ หนังสือนิทาน ป้าย บัตรข้อความ แถบ เขียนขอ้ ความด้วยวธิ ที ่ีคิดขนึ้ เอง ประโยค (5) กวาดสายตาอ่านตวั อักษร คา และ ข้อความจากซ้ายไปขวาและบรรทดั บนลง บรรทดั ลา่ ง (6) กวาดสายตาและชค้ี า อ่านขอ้ ความ หนังสอื นิทาน จากซ้ายไปขวา บรรทดั บนลง บรรทัดล่าง (7) ชหี้ รือบอกตัวอัก ษรบางตัวท่คี ้นุ เคยใน ช่ือ -นามสกลุ ตัวเองกบั เพื่อนว่ามีอักษรตัว ไหนท่ีเหมือนกนั (8 )สังเกตทิศทางการเขียนตัวพยญั ชนะหรอื คาทค่ี นุ้ เคยของครู เชน่ การเขียนบนทราย หรอื การเขยี นในอากาศ ขดดินนา้ มันเป็นตวั พยญั ชนะที่คุ้นเคย เช่น พยญั ชนะตน้ ชอื่ ของ ตนเอง ตวั บง่ ชี้ ๙.๔ อา่ น เขยี นภาพและสญั ลกั ษณไ์ ด้ อายุ สภาพที่พึงประสงค์ ประสบการณส์ าคญั พัฒนาการ 1. อ่านภาพ และเข้าใจความหมายของ (1) สงั เกตตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ เชน่ ป้าย ๓ – ๔ ปี ภาพ ชือ่ ครู ป้ายช่อื ตนเอง ปฏิทนิ ใน ชีวิตประจาวนั ๔ – ๕ ปี 2. เขยี นขีดเขยี่ อย่างอิสระ (2) เลียนแบบการเขียน เช่น เส้นตรง แนวด่งิ เส้นตรงแนวตง้ั เสน้ ตรงแนวนอน 1. อา่ นภาพ สญั ลกั ษณ์ คา พร้อมทงั้ ช้ี จากซ้ายไปขวา เส้นตรงแนวนอนจากขวาไป หรือกวาดตามองขอ้ ความตามบรรทดั ซ้าย เส้นทแยงลงซ้าย เส้นทแยงลงขวา เสน้ 2. เขยี นเส้นพนื้ ฐาน 13 เส้น ทแยงขึ้นซ้าย เสน้ ทแยงขึ้นขวา เส้นทแยง 3. เขยี นคล้ายตวั อักษร

๔๕ อายุ สภาพทพ่ี ึงประสงค์ ประสบการณส์ าคัญ พฒั นาการ 1. อา่ นภาพสญั ลักษณ์ คา ดว้ ยการช้ี ขน้ึ -ลงต่อเน่ืองกัน เส้นโคง้ คว่า เสน้ โคง้ หงาย ๕ – ๖ ปี หรือกวาดตามอง จุดเริ่มตน้ และจุดจบ วงกลมทวนเขม็ นาฬิกา วงกลมตามเข็ม ของขอ้ ความ นาฬิกา 2. เขยี นตวั อกั ษรตามรอยปะ 3. การเขยี นชือ่ ของตนเองตามแบบ เขยี นข้อความดว้ ยวธิ ีทีค่ ิดขน้ึ เอง มาตรฐานท่ี ๑๐ มีความสามารถในการคดิ ท่ีเปน็ พน้ื ฐานในการเรยี นรู้ตามศกั ยภาพ ตวั บ่งชี้ ๑๐.๑ มคี วามสามารถในการคดิ รวบยอด อายุ สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคญั พัฒนาการ ๓ – ๔ ปี 1. บอกลักษณะของสง่ิ ต่างๆ จากการ (1)ใช้ประสาทสัมผสั ในการสงั เกตและบอก สงั เกตโดยใชป้ ระสาทสมั ผัส ลักษณะหรอื ส่วนประกอบของสง่ิ ตา่ งๆ เชน่ ๔ – ๕ ปี 2. จบั คหู่ รอื เปรียบเทียบส่งิ ต่างๆ โดยใช้ รา่ งกายของตนเอง สัตว์ พืช สง่ิ ของเครอ่ื งใช้ ลักษณะหรือหน้าท่ีการใช้งานเพยี ง ดนิ นา้ ท้องฟา้ บริเวณตา่ งๆ ๕ – ๖ ปี ลักษณะเดียว (2) สังเกตและบอกการเปลยี่ นแปลงของส่งิ 3. คัดแยกสิ่งตา่ งๆ ตามลักษณะหรอื ตา่ งๆ เชน่ การเปลีย่ นแปลงของรา่ งกาย หนา้ ท่ีการใช้งาน มนุษย์ สตั ว์ พชื เมือ่ เจริญเติบโต การ เปลย่ี นแปลงของลมฟา้ อากาศการ 1. บอกลกั ษณะ และส่วนประกอบของ เปลยี่ นแปลงของวตั ถแุ ละสิ่งของเครื่องใช้ ส่งิ ต่างๆ จากการสงั เกตโดยใช้ประสาท (3) สงั เกตและบอกความสัมพันธ์ของสง่ิ สมั ผัส ต่างๆ เช่น การนาสิง่ ต่างๆ มาใช้ประโยชน์ 2. จบั ค่แู ละเปรยี บเทียบความแตกตา่ ง ความสัมพันธ์ระหวา่ งการกระทาบางอย่าง หรือความเหมือนของส่งิ ต่างๆ โดยใช้ กบั ผลทีเ่ กิดขน้ึ เช่น ถา้ รบั ประทานอาหาร ลกั ษณะท่ีสงั เกตพบเพียงลักษณะเดียว แล้วไม่แปรงฟนั ฟันจะผุ ถ้าใส่นา้ ตาลลงไป 3. จาแนกและจัดกลมุ่ ส่ิงต่างๆ โดยใช้ ในน้าแล้วน้าตาลจะละลาย ถ้าปลอ่ ยสงิ่ ของ อย่างน้อยหนง่ึ ลกั ษณะเปน็ เกณฑ์ จากท่ีสูงแลว้ สง่ิ ของจะตกลงมา 4. เรียงลาดับขนาดของสิ่งของ อยา่ ง (4) สังเกตส่ิงของ หรือสารวจสถานทตี่ ่างๆ นอ้ ย 3 ลาดับ หรอื เลน่ ปีนปา่ ยเคร่ืองเลน่ สนาม ลอดอุโมงค์ และบอกหรือวาดภาพเกย่ี วกับลกั ษณะ พนื้ ท่ี 1. บอกลกั ษณะส่วนประกอบ การ ระยะ ตาแหน่งของส่ิงของสถานที่ หรือ เปล่ยี นแปลงหรือความสัมพนั ธ์ของสิ่ง เครอ่ื งเลน่ จากมมุ มองตา่ งๆ ตา่ งๆ จากการสงั เกตโดยใช้ประสาท (5) สารวจสิง่ ต่างๆ ทอี่ ยู่ในบริเวณหนึ่ง เช่น สมั ผสั ส่ิงของทีอ่ ยบู่ นโต๊ะ สง่ิ ของท่ีอยู่ในหอ้ ง และ 2. จับคูแ่ ละเปรยี บเทยี บความแตกต่าง และความเหมือนของสงิ่ ต่างๆ โดยใช้ ลกั ษณะที่สังเกตพบสองลักษณะขึ้นไป

๔๖ อายุ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคญั พัฒนาการ 3. จาแนกและจัดกลมุ่ สง่ิ ตา่ งๆ โดยใช้ บอกหรือวาดภาพแสดงตาแหนง่ ทิศทาง ต้งั แตส่ องลกั ษณะข้นึ ไปเปน็ เกณฑ์ หรอื ระยะทางของสง่ิ นัน้ ๆ 4. เรียงลาดบั ขนาดของสง่ิ ของอยา่ งน้อย (5) สารวจสถานทตี่ า่ งๆ ถ่ายภาพ วาดภาพ 4 ลาดบั หรือเขยี นแผนผังสถานทีน่ ัน้ ๆ แล้วนา รูปภาพมาอธบิ ายตาแหนง่ ทิศทาง หรือ ระยะทางของสถานท่ี (6) เลน่ เกมเกีย่ วกับมติ สิ ัมพันธ์ เช่น วาง สิ่งของในตาแหน่งที่กาหนด บอกชอ่ื สงิ่ ของท่ี อยใู่ นตาแหน่งท่ีกาหนดบอกตาแหนง่ ทศิ ทาง หรือระยะทางของสิ่งของที่กาหนด ใช้ร่างกายเคล่ือนท่ีไปยงั ตาแหนง่ หรือไปตาม ทศิ ทางทีก่ าหนด (7) เล่นสารวจ จาแนกและบอกลักษณะ ส่ิงของรอบตวั ท่มี ีลักษณะเหมือนหรอื คล้าย ทรงกลม ทรงกระบอกทรงส่ีเหล่ียมมมุ ฉาก และทรงกรวย ตัวบง่ ชี้ ๑๐.๑ มคี วามสามารถในการคิดรวบยอด อายุ สภาพที่พงึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคญั พัฒนาการ ๓ – ๔ ปี 1. บอกลกั ษณะของสง่ิ ต่างๆ จากการ (1)เลน่ สารวจบอกสงิ่ ของรอบตัวที่มลี ักษณะ สงั เกตโดยใช้ประสาทสัมผัส เหมือนหรอื คลา้ ยภาพวงกลม สีเ่ หลี่ยม ๔ – ๕ ปี 2. จบั คหู่ รอื เปรยี บเทียบส่งิ ต่างๆ โดยใช้ สามเหลย่ี ม และวงรี ลกั ษณะหรอื หน้าทก่ี ารใช้งานเพยี ง (2)เลน่ เกมจาแนกภาพหรือส่ิงของที่มี ลักษณะเดยี ว ลกั ษณะเหมือนหรอื คล้ายวงกลม สเี่ หลี่ยม 3. คัดแยกสิง่ ต่างๆ ตามลักษณะหรือ สามเหลย่ี ม และวงรี หน้าทก่ี ารใช้งาน (3)ปั้นดินน้ามันเป็นทรงกลม ทรงกระบอก 1. บอกลกั ษณะ และสว่ นประกอบของ ทรงสเ่ี หลยี่ มทรงกรวย และตัดตามแนวนอน สง่ิ ตา่ งๆ จากการสังเกตโดยใช้ประสาท แนวตงั้ แนวเฉยี งนาส่วนหนา้ ตัดไปพิมพ์ภาพ สมั ผัส (4)วาดภาพ พับ ตัด ต่อเติมภาพจากรปู 2. จับคู่และเปรียบเทียบความแตกตา่ ง วงกลม ส่เี หล่ยี มสามเหล่ยี ม และวงรี หรือความเหมือนของสิ่งตา่ งๆ โดยใช้ (5)คัดแยก จาแนก จัดกลุม่ ส่งิ ตา่ งๆ ตาม ลักษณะที่สงั เกตพบเพียงลักษณะเดยี ว ลกั ษณะ รปู ร่าง รปู ทรง หรือตามเกณฑ์

๔๗ อายุ สภาพที่พึงประสงค์ ประสบการณส์ าคัญ พัฒนาการ 3. จาแนกและจดั กลมุ่ สิ่งต่างๆ โดยใช้ ตา่ งๆ ที่กาหนด เชน่ สัตว์ ผลไม้ ใบไม้ ๕ – ๖ ปี อย่างน้อยหนงึ่ ลักษณะเปน็ เกณฑ์ ดอกไม้ ดิน หนิ ของเล่น ส่งิ ของเครื่องใช้ 4. เรยี งลาดบั ขนาดของส่ิงของ อย่าง รอบตัว นอ้ ย 3 ลาดับ (6)เล่นต่อหรือประกอบช้ินสว่ นของของเลน่ 1. บอกลักษณะสว่ นประกอบ การ ชิ้นเลก็ ใหเ้ ป็นชิน้ ใหญ่ทส่ี มบรู ณ์ตามเง่ือนไขที่ เปลยี่ นแปลงหรอื ความสัมพนั ธ์ของส่ิง กาหนดหรือตามจินตนาการ เช่น จก๊ิ ซอว์ไม้ ตา่ งๆ จากการสังเกตโดยใช้ประสาท หมดุ จ๊กิ ซอวร์ ปู ภาพภาพตดั ต่อ ตวั ต่อ สัมผัส บล็อก และแยกชนิ้ ส่วนของเล่นเก็บเข้าท่ี 2. จับค่แู ละเปรยี บเทยี บความแตกต่าง (7)ประดิษฐช์ ิ้นงานจากวัสดุต่างๆ ทเี่ ป็นช้ิน และความเหมือนของสิ่งต่างๆ โดยใช้ เลก็ ให้เปน็ ชิน้ ใหญ่ เช่น ร้อยลูกปดั รอ้ ย ลกั ษณะท่ีสังเกตพบสองลักษณะข้ึนไป ดอกไม้ รอ้ ยวัสดุตา่ งๆ สร้างภาพจากวสั ดุ 3. จาแนกและจดั กล่มุ ส่งิ ตา่ งๆ โดยใช้ จากธรรมชาตหิ รอื เศษวัสดุรอบตวั ตง้ั แต่สองลักษณะขึน้ ไปเป็นเกณฑ์ (8) สารวจหาแบบรปู จากสง่ิ ต่างๆ เชน่ ลวดลายบนเส้ือผา้ หรือสง่ิ ของเคร่อื งใช้ 4. เรยี งลาดบั ขนาดของสงิ่ ของอย่างน้อย ลวดลายของกระเบ้ืองปพู ื้นหรือผนังหอ้ งใน 4 ลาดบั เร่ืองสี ลวดลาย ขนาด รูปรา่ ง รูปทรง และ แบบรปู จากทา่ ทาง เสยี ง (9) วางแบบรูปใหเ้ หมือนตน้ แบบ หรอื ตอ่ เติมจากที่กาหนด หรือสรา้ งแบบรปู ใหม่ขึน้ เอง โดยการเลน่ เกมใช้ของจริง เชน่ วาง บลอ็ ก ไม้ไอศกรมี ใบไม้ เปลือกหอยฝาขวด หรอื วัสดุอนื่ ๆ ให้เป็นแบบรูป และโดยการ สร้างชิน้ งานหรือวิธกี ารภายใตเ้ ง่อื นไขที่ กาหนด เชน่ ร้อยลกู ปัดร้อยดอกไม้ ทาโม บาย ทาทา่ ทาง สรา้ งเสยี ง (10) ร้องเพลงหรือท่องคาคล้องจองท่ี เกย่ี วกับชือ่ เรยี กจานวน ตัวบง่ ช้ี ๑๐.๒ มคี วามสามารถในการคดิ เชงิ เหตุผล อายุ สภาพท่พี งึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคญั พฒั นาการ 1. ระบผุ ลที่เกิดขึน้ ในเหตุการณห์ รอื (1) บอกอนั ดับท่ขี องตนเองหรือเพื่อน ๓ – ๔ ปี การกระทา ที่ยืนอยู่ในแถว

๔๘ อายุ สภาพทพ่ี ึงประสงค์ ประสบการณส์ าคญั พฒั นาการ ๔ – ๕ ปี 1. ระบสุ าเหตหุ รือผลทีเ่ กดิ ขึ้นใน (2) ช้ี หยิบ หรือวางสิง่ ของตามอันดบั ที่ เหตุการณห์ รือการกระทา ทกี่ าหนด ๕ – ๖ ปี 2. คาดเดา หรอื คาดคะเนส่ิงที่อาจจะ (3) สนทนาและบอกเกี่ยวกบั อันดับท่ี เกิดขน้ึ ในชวี ิตประจาวันหรอื ในกิจกรรม เชน่ เปน็ ลกู คนทเ่ี ท่าไหร่ของครอบครวั ใคร 1. อธิบายเชอ่ื มโยงสาเหตุและผลท่ี มาถงึ โรงเรียนอันดบั ท่หี นง่ึ อันดับที่ เกดิ ขึ้นในเหตุการณห์ รือการกระทา สอง อันดับทสี่ าม บอกอนั ดับทก่ี าร ดว้ ยตนเอง เลือกมุมเลน่ เช่น หนูเลือกเล่นมมุ 2. คาดเดา หรอื คาดคะเน สิง่ ท่ีอาจจะ บลอ็ ก เปน็ กจิ กรรมท่ีหน่ึงหรือสอง เกดิ ขึน้ หรอื มสี ่วนรว่ มในการลง (4) เลน่ บทบาทสมมติรา้ นขายของ ชั่ง ความเห็นจากข้อมูล น้าหนักส่ิงต่างๆ เช่น ผลไม้ ขนม โดย ช่งั อย่างง่ายและใชว้ สั ดุทมี่ รี ปู ร่างขนาด และน้าหนักเท่ากนั เปน็ หน่วยในการชัง่ น้าหนกั เช่น ไมบ้ ล็อก ลูกแก้ว เหรียญ เลน่ ตวงทรายหรือน้า โดยใชภ้ าชนะตา่ งๆ โดย ช้อน แก้ว ขวด และบอกปรมิ าตรของทรายหรือ นา้ ท่ีตวง (5) เปรียบเทยี บและบอกความเหมอื น และความแตกต่างของลกั ษณะของ สง่ิ ของสองสง่ิ เช่น สี รปู ร่าง ผิวสมั ผสั ส่วนประกอบของผลไม้ ดอกไม้ ตน้ ไม้ ใบไม้ สัตว์ วัตถุหรือสงิ่ ของเครอื่ งใช้ ความยาวหรอื ความสูงของสงิ่ ของสอง สิ่งที่มคี วามยาวหรือความสูงแตกตา่ ง กนั ชดั เจน (6) เปรยี บเทียบส่ิงของสองชน้ิ ที่มีน้า หนักแตกต่างกันอย่างชัดเจน เช่น ลูก ฟตุ บอลกับลูกเทนนิส ขวดที่ใส่น้าเต็ม ขวดกับขวดเปล่า โดยลองยกดว้ ยมือ แลว้ บอกว่าสงิ่ ของชิ้นใดหนกั กวา่ หรอื เบากวา่ (7) สังเกตและเปรยี บเทียบปรมิ าตร ของส่งิ ของ เชน่ ทราย นา้ แป้ง ทีอ่ ยู่ใน ภาชนะทม่ี ีรูปร่างเหมือนกัน ขนาด เทา่ กัน สองใบวา่ สงิ่ ของในภาชนะใบ

อายุ สภาพทพี่ ึงประสงค์ ๔๙ พัฒนาการ ประสบการณส์ าคัญ ไหนมีปรมิ าตรมากกว่า หรือน้อยกวา่ โดยดูจากความสงู ของส่งิ ของในภาชนะ ตวั บง่ ชี้ ๑๐.๒ มีความสามารถในการคิดเชงิ เหตุผล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook