Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษา ป.6 ภาคเรียนที่ 2-2565

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษา ป.6 ภาคเรียนที่ 2-2565

Description: แผนการจัดการเรียนรู้พลศึกษา ป.6

Search

Read the Text Version

~ 88 ~ Step3 ข้ันปฏิบตั แิ ละสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ (Applying and Constructing the Knowledge) 5. นักเรยี นอบอุ่นรา่ งกายใหพ้ ร้อมส่าหรับการฝึกปฏบิ ตั ิ โดยการสังเกตและปฏิบตั ติ ามผสู้ อน 6. นกั เรียนฝึกปฏบิ ตั ิท่าโหมง่ โดยสงั เกตจากการสาธิตของผู้สอนและลงมือปฏิบตั ิ ซ่งึ จะมผี ู้สอนคอยตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง 7. นกั เรยี นจบั คู่ฝกึ ปฏบิ ตั ิท่าโหม่งแบบโต้ โดยสังเกตจากการสาธิตของผสู้ อนและลงมือปฏบิ ัติ ซึ่งจะมีผสู้ อน คอยตรวจสอบความถูกต้อง 8. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ฝกึ ปฏิบัตทิ ่าโหม่งแบบกลมุ่ โดยสังเกตจากการสาธิตของผูส้ อนและลงมือ ปฏิบัติ ซึ่งจะมีผู้สอนคอยตรวจสอบความถูกต้อง 9. นกั เรียนรว่ มกันสรปุ ส่งิ ทเ่ี ขา้ ใจเปน็ ความรรู้ ่วมกนั ดงั นี การเลน่ กีฬาไทย : ตะกร้อวง เป็นการสร้างเสรมิ ร่างกายให้มีสขุ ภาพทดี่ ีทงั กายและใจ ซึง่ ผู้เล่นต้องมีความ สามคั คี มนี ่าใจนักกฬี า ปฏิบัติตามกฎ กติกาอย่างเครง่ ครัด และประเมินทักษะการเล่นกฬี าของตนเองอย่างสม่าเสมอ เพือ่ นา่ ไปฝึกฝนพัฒนาศักยภาพใหเ้ ล่นกีฬาได้ดแี ละมคี วามปลอดภยั Step4 ขนั้ ส่อื สารและนาเสนอ (Applying the Communication Skill) 10. นักเรียนนา่ เสนอผลการฝึกปฏบิ ัติทา่ หลงั เท้า พร้อมบอกความรู้สึกและอุปสรรคในการปฏิบัติ 11. นกั เรยี นร่วมกนั อภิปรายสรุปเก่ียวกับวธิ กี ารท่างานให้เห็นการคิดเชงิ ระบบและวธิ ีการท่างานที่มแี บบแผน Step5 ขน้ั ประเมินเพอื่ เพ่ิมคณุ คา่ บรกิ ารสังคมและจติ สาธารณะ (Self-Regulating) 12. นักเรยี นนา่ ความรูท้ ี่ได้รับจากการเรียนเรือ่ งท่าพนื ฐานในการเลน่ ตะกร้อ ทา่ หลังเทา้ ไปฝกึ ปฏบิ ัติให้ ช่านาญและน่าไปแลกเปลี่ยนเรยี นรู้กบั เพื่อน สมาชิกในครอบครวั หรอื สมาชกิ ในชุมชนต่อไป 13.นักเรียนประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความร้สู ึกหลงั การเรยี นและหลงั การท่ากิจกรรม ในประเด็นต่อไปนี • สงิ่ ที่นักเรียนได้เรียนร้ใู นวนั นีคืออะไร • นกั เรียนมสี ว่ นรว่ มกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด • เพอื่ นนกั เรียนในกลมุ่ มีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด • นกั เรยี นพึงพอใจกับการเรียนในวันนีหรอื ไม่ เพียงใด • นักเรยี นจะนา่ ความรทู้ ไี่ ดน้ ไี ปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนแ์ กต่ นเอง ครอบครวั และสงั คมทั่วไปได้อยา่ งไร จากนันแลกเปลี่ยนตรวจสอบขนั ตอนการทา่ งานทกุ ขนั ตอนวา่ จะเพ่มิ คุณค่าไปสู่สังคม เกิดประโยชน์ตอ่ สงั คม ให้มากขึนกวา่ เดมิ ในขันตอนใดบา้ ง สา่ หรับการท่างานในครงั ตอ่ ไป 8. สอ่ื แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี น รายวชิ าพืนฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชันประถมศึกษาปที ่ี 6 ของสถาบันพฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.) 2. แหลง่ การเรียนรทู้ งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

~ 89 ~ 9. การวดั และการประเมินผล 1. ประเมินความรู้ เร่อื ง ตะกร้อวง ท่าโหมง่ (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมนิ กระบวนการทา่ งานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมิน 3. ประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นมวี นิ ัย มุ่งม่ันในการท่างาน (A) ดว้ ยแบบประเมนิ แบบประเมินตามสภาพจรงิ (Rubrics) แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม รายการการ ระดับคุณภาพ ประเมนิ 4 3 21 กระบวนการ ท่างานกลมุ่ มีการกา่ หนดบทบาท มีการก่าหนดบทบาท มีการก่าหนดบทบาท ไมม่ ีการก่าหนด สมาชิกชัดเจน และมีการ สมาชิกชัดเจน เฉพาะหัวหน้า บทบาทสมาชกิ ชีแจงเปา้ หมายการทา่ งาน มีการชแี จงเป้าหมาย ไม่มีการชีแจง และไม่มีการชแี จง มกี ารปฏบิ ัติงานรว่ มกัน อยา่ งชดั เจนและ เปา้ หมาย เปา้ หมาย สมาชกิ อย่างรว่ มมือร่วมใจพร้อมกบั ปฏบิ ัตงิ านรว่ มกัน อย่างชัดเจน ต่างคนต่างทา่ งาน การประเมินเปน็ ระยะ ๆ แตไ่ ม่มีการประเมิน ปฏิบตั งิ านรว่ มกัน เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทุกคน การประเมนิ ผลคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ ตวั ชวี ัดท่ี 4.1 ตังใจ เพียรพยายามในการเรียนและการเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ยยี่ ม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไม่ผ่าน (0) 4.1.1 ตังใจเรียน ตังใจเรยี น เอาใจใส่ ตังใจเรียน เอาใจใส่ ตงั ใจเรียน เอาใจใส่ ไม่ตงั ใจเรยี น 4.1.2 เอาใจใส่ และมีความเพยี ร และมีความเพียร และมีความเพยี ร และมคี วามเพยี รพยายามใน พยายามในการเรียนรู้ พยายามในการ พยายามในการเรยี นรู้ การเรียนรู้ เขา้ ร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ เขา้ รว่ ม เขา้ รว่ มกิจกรรมการ 4.1.3 สนใจเข้ารว่ ม เรยี นรู้ต่าง ๆเป็น กิจกรรมการเรียนรู้ เรยี นรตู้ า่ ง ๆ บางครัง กิจกรรมการเรยี นรตู้ ่าง ๆ ประจ่า ต่าง ๆ บ่อยครัง

~ 90 ~ ผลการพิจารณาแผนการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน ............................................................................................................................. ................................................................ ........................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................ ............................................................................................................................. .............................................................. อนุมัติ ปรบั ปรงุ ใหม่ ลงชื่อ..........................................................ผู้เสนอแผนฯ ลงช่ือ..........................................................ผูอ้ นุมตั ิ (นายเสกสรรค์ วะลัยใจ) (นางสาวเตยี งคา่ เตโช) ครู รับเงินเดือนอันดับ คศ.1 ผู้อ่านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั พชิ ัย บันทึกหลังการสอน 1.1 นกั เรยี นท่ีบรรลุตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ ......................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.............................................. 1.2 นกั เรียนท่ีไมบ่ รรลตุ ามจุดประสงค์การเรียนรู้ ..................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.............................................. ได้แก.่ ...................................................................................................................... ..................................... ............................................................................................................................. ....................................... .................................................................................................................................................................... 1.3 พฤติกรรมการเรียน การร่วมกิจกรรมการเรยี นร้.ู ....................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................... ........................................................................................................ ........................................................... 1.4 แนวทางการปรบั ปรุง แกไ้ ข พฒั นา........................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... ผลทเี่ กิดแก่ครผู ูส้ อน ปัญหา อปุ สรรคทีพ่ บ และแนวทางการปรับปรุงแกไ้ ข พัฒนา ............................................................................................................................. ........................................ .......................................................................................... ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ........................................................................................................................................... .......................... ลงช่ือ..........................................................ครูผู้สอน (นายเสกสรรค์ วะลัยใจ) ลงช่อื .........................................................ผตู้ รวจแผนฯ (นางสาวเตียงคา่ เตโช) ผู้อ่านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั พชิ ัย

~ 91 ~ แผนการจัดการเรียนรู้ 18 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 เวลาเรยี น 20 ชั่วโมง กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 การออกกาลังกายโดยการเล่นกฬี า ภาคเรยี นที่ 2 แผนการเรียนรทู้ ่ี 18 เร่อื งการแข่งขนั ตะกรอ้ วง สอนวนั ท่ี…………เดือน……………………..พ.ศ. …………… 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ดั  มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลอื่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกฬี า ตัวชวี้ ดั พ 3.1 ป.6/3 เลน่ กฬี าไทย กีฬาสากล ประเภทบคุ คลและประเภททีมอย่างละ 1 ชนดิ พ 3.1 ป.6/4 ใชท้ ักษะกลไกเพือ่ ปรับปรุงเพ่ิมพนู ความสามารถของตนและผ้อู ่ืนในการเล่นกีฬา มาตรฐาน พ 3.2 รักการออกกา่ ลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบตั เิ ป็นประจ่าอยา่ งสม่าเสมอ มีวินยั เคารพสทิ ธิ กฎ กติกา มนี า่ ใจนักกีฬา มีจิตวญิ ญาณในการแข่งขนั และชนื่ ชมในสนุ ทรียภาพของการกฬี า ตัวชี้วัด พ 3.2 ป.6/3 เลน่ กีฬาทตี่ นเองช่นื ชอบและสามารถประเมนิ ทักษะการเล่นของตนเปน็ ประจ่า พ 3.2 ป.6/4 ปฏิบตั ิตามกฎ กติกาตามชนิดกีฬาท่ีเลน่ โดยคา่ นึงถึงความปลอดภยั ของตนเองและผู้อน่ื พ 3.2 ป.6/5 จ่าแนกกลวธิ ีการรกุ การปอ้ งกนั และนา่ ไปใชใ้ นการเล่นกีฬา พ 3.2 ป.6/6 เลน่ เกมและกีฬาด้วยความสามคั คแี ละมีน่าใจนกั กีฬา 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายวิธีการเล่นเปน็ ทีม (K) 2. ปฏบิ ตั กิ ารแขง่ ขนั ตะกร้อวง (P) 3. มีความมงุ่ มนั่ ในการแข่งขันตะกรอ้ วง (A) 3. สาระการเรยี นรู้ การเล่นกฬี าไทย • วิธเี ล่นตะกรอ้ วง 4. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

~ 92 ~ 5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 6. อัตลักษณข์ องเดก็ แห่งมหานคร 1. รู้หนา้ ที่ 2. มจี ติ สาธารณะ 7. การจัดกระบวนการเรยี นรู้ คาถามสาคัญ นอกจากทกั ษะสว่ นบคุ คลแล้ว การเลน่ ตะกร้อวงให้ประสบความส่าเรจ็ ผ้เู ล่นในทีมต้องมีสิ่งใด Step1 ขั้นสงั เกต รวบรวมข้อมลู (Gathering) 1. นกั เรยี นชมวดิ ีโอไฮไลท์การแขง่ ขนั ตะกร้อวง และร่วมกนั สนทนาแลกเปล่ียนเรียนรู้ โดยตอบคา่ ถาม ดังนี • สนามท่ีใช้ในการแขง่ ขนั มลี ักษณะอย่างไร (ตวั อย่างค่าตอบ วงกลมสองชัน) • มีผู้เล่นในการแขง่ ขันทีมละกค่ี น (6 คน) • ผูแ้ ข่งขันมีการใช้ทักษะใดบ้างในการเล่น (ตัวอย่างค่าตอบ การเตะลูกท่าข้างเทา้ ดา้ นใน ทา่ เข่า ท่าหลังเท้า) • มีการนบั คะแนนในการแขง่ ขันอย่างไร (นับจากจา่ นวนครงั ในการเตะลูก) • ผู้แข่งขนั สามารถเข้าไปเลน่ ลูกในวงกลมชันในได้ครงั ละกี่คน (1 คน) 2. นักเรียนศกึ ษาความรู้และรวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกบั วิธเี ลน่ ตะกร้อวง จากแหล่งการเรยี นรู้ตา่ ง ๆ เชน่ หนงั สือเรียน อนิ เทอรเ์ นต็ Step2 ขัน้ คิดวิเคราะหแ์ ละสรุปความรู้ (Processing) 3. นักเรียนร่วมกนั วเิ คราะห์และแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับการแข่งขนั ตะกร้อวง โดยตอบค่าถาม ดังนี • ผู้เลน่ ในการแขง่ ขันแต่ละทีมจะตอ้ งมีผู้เลน่ อย่างนอ้ ยก่คี น (5 คน) • สนามในการแขง่ ขันตอ้ งมีลักษณะใด (ตวั อย่างค่าตอบ มีลักษณะเป็นวง สามารถท่าไดท้ ังวงเลก็ และวงใหญข่ นึ อยกู่ บั จา่ นวนผ้เู ล่น) • วธิ ีการเล่นในแบบท่ี 1 สามารถเลน่ ได้อย่างไร (ตัวอย่างค่าตอบ เตะตะกร้อภายในวง ถ้าใครเป็นคนทา่ ลูกเสยี ตอ้ งออกจากวง การเลน่ ไปเรือ่ ย ๆ จน เหลอื ผูเ้ ลน่ คนสุดท้ายเปน็ ผูช้ นะ) • วิธีการเลน่ ในแบบที่ 2 สามารถเล่นได้อย่างไร (ตัวอย่างค่าตอบ แบง่ ผู้เลน่ เป็นวง 2 วง จ่านวนคนเทา่ กัน ท่าการเตะตะกร้อภายในวง โดยนับจ่านวน ครัง วงใดทา่ ลกู ตกก่อนหรือเตะได้จา่ นวนครงั น้อยกวา่ เป็นฝา่ ยแพ)้ 4. นักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยตอบคา่ ถามกระตุน้ ความคิด ดงั นี • นอกจากทกั ษะสว่ นบคุ คลแล้ว การเลน่ ตะกร้อวงใหป้ ระสบความสา่ เรจ็ ผเู้ ลน่ ในทีมต้องมีสิ่งใด (ตัวอยา่ งค่าตอบ ความสามคั คีและการส่อื สารที่ดีในทีม)

~ 93 ~ Step3 ขัน้ ปฏบิ ัตแิ ละสรปุ ความรหู้ ลังการปฏบิ ัติ (Applying and Constructing the Knowledge) 5. นักเรียนเตรียมอปุ กรณ์และความพรอ้ มของสนามการแข่งขันรว่ มกบั ผู้สอน 6. นกั เรยี นแบ่งทีมในการแข่งขันทมี ละ 5-6 คน ตามความเหมาะสมของสมาชกิ ในชนั เรียน และปรกึ ษา วางแผนในการเลน่ 7. นักเรยี นอบอนุ่ ร่างกายใหพ้ ร้อมส่าหรับการแข่งขัน โดยการสงั เกตและปฏบิ ัตติ ามผู้สอน 8. นกั เรียนจดั การแขง่ ขันตะกร้อวง แบบนบั จา่ นวนครังในการเตะ โดยมผี ู้สอนเป็นผู้ตดั สินการแขง่ ขนั 9. นกั เรียนแบ่งกลุ่มเลน่ ตะกรอ้ วง กล่มุ ละ 5-6 คน จากนนั แต่ละกลุม่ ท่าการแขง่ ขนั เลน่ ตะกร้อวงแลว้ บนั ทึก ผลการเล่นลงในแบบบันทึกชนิ งานท่ี 16 เรอ่ื ง การแขง่ ขันตะกร้อวง 10. นักเรียนรว่ มกนั สรปุ สิ่งทเี่ ข้าใจเป็นความรรู้ ่วมกัน ดังนี การเล่นกฬี าไทย : ตะกรอ้ วง เปน็ การสร้างเสริมรา่ งกายให้มีสุขภาพท่ีดีทงั กายและใจ ซึ่งผเู้ ล่นต้องมคี วาม สามคั คี มีนา่ ใจนักกฬี า ปฏบิ ัตติ ามกฎ กติกาอย่างเครง่ ครัด และประเมินทกั ษะการเล่นกฬี าของตนเองอย่างสม่าเสมอ เพือ่ น่าไปฝกึ ฝนพฒั นาศักยภาพใหเ้ ลน่ กีฬาได้ดแี ละมคี วามปลอดภยั Step4 ข้นั สื่อสารและนาเสนอ (Applying the Communication Skill) 11. นกั เรยี นนา่ เสนอแบบบันทกึ ผลการแขง่ ขนั และรูปแบบแผนการเล่น พร้อมบอกความรู้สึกและอุปสรรคใน การแข่งขัน 12.นักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายสรปุ เก่ยี วกับวธิ กี ารทา่ งานใหเ้ ห็นการคดิ เชิงระบบและวิธกี ารท่างานที่มีแบบแผน Step5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา่ บรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating) 13. นักเรียนน่าความรูท้ ่ีไดร้ ับจากการเรียนเรื่องการจัดการแขง่ ขันตะกร้อวงไปจัดการแขง่ ขนั ขึนในสถานศึกษา โดยมผี ู้สอนช่วยเปน็ ผตู้ ดั สนิ เพื่อเป็นการเผยแพรค่ วามรู้และส่งเสริมการออกก่าลังกาย 14.นกั เรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรสู้ ึกหลงั การเรียนและหลังการท่ากิจกรรม ในประเดน็ ต่อไปนี • ส่ิงที่นกั เรียนได้เรียนรใู้ นวันนคี ืออะไร • นักเรยี นมีสว่ นรว่ มกจิ กรรมในกลุม่ มากนอ้ ยเพียงใด • เพื่อนนักเรียนในกลุม่ มีสว่ นร่วมกจิ กรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด • นกั เรียนพงึ พอใจกบั การเรียนในวันนหี รือไม่ เพียงใด • นักเรยี นจะน่าความรทู้ ี่ได้นีไปใชใ้ ห้เกิดประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมท่ัวไปได้อย่างไร จากนันแลกเปลีย่ นตรวจสอบขันตอนการท่างานทุกขนั ตอนวา่ จะเพมิ่ คณุ ค่าไปสสู่ งั คม เกิดประโยชนต์ อ่ สงั คมให้ มากขนึ กวา่ เดิมในขนั ตอนใดบ้าง ส่าหรับการทา่ งานในครังต่อไป 8. ส่อื แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสือเรยี น รายวิชาพืนฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชันประถมศึกษาปีที่ 6 ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.) 2. คลปิ วิดีโอไฮไลท์การแข่งขันตะกร้อวง 3. แหลง่ การเรยี นรทู้ งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น

~ 94 ~ 9. การวดั และการประเมนิ ผล 1. ประเมนิ ความรู้ เร่อื ง วธิ ีเลน่ ตะกร้อวง (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมนิ กระบวนการท่างานกลุม่ (P) ด้วยแบบประเมนิ 3. ประเมินชนิ งาน เร่อื ง การแข่งขนั ตะกร้อวง (P) ด้วยแบบประเมนิ 4. ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ด้านมวี นิ ยั ม่งุ ม่ันในการทา่ งาน (A) ด้วยแบบประเมิน แบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ (Rubrics) แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม รายการการ ระดับคุณภาพ ประเมิน 4 3 21 กระบวนการ ท่างานกลมุ่ มกี ารกา่ หนดบทบาท มกี ารก่าหนดบทบาท มกี ารกา่ หนดบทบาท ไม่มีการก่าหนด สมาชกิ ชดั เจน และมีการ สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหัวหน้า บทบาทสมาชิก ชีแจงเป้าหมายการท่างาน มีการชีแจงเปา้ หมาย ไม่มีการชีแจง และไมม่ ีการชีแจง มีการปฏบิ ตั ิงานรว่ มกัน อย่างชดั เจนและ เป้าหมาย เป้าหมาย สมาชกิ อยา่ งร่วมมือร่วมใจพร้อมกับ ปฏิบัติงานรว่ มกนั อยา่ งชัดเจน ตา่ งคนตา่ งท่างาน การประเมินเป็นระยะ ๆ แตไ่ ม่มกี ารประเมนิ ปฏบิ ตั ิงานร่วมกัน เปน็ ระยะ ๆ ไม่ครบทกุ คน การประเมินผลคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ ตวั ชวี ดั ที่ 4.1 ตงั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและการเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ยี่ยม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไม่ผา่ น (0) 4.1.1 ตังใจเรียน ตงั ใจเรยี น เอาใจใส่ ตงั ใจเรยี น เอาใจใส่ ตงั ใจเรียน เอาใจใส่ ไมต่ ังใจเรยี น 4.1.2 เอาใจใส่ และมีความเพยี ร และมีความเพยี ร และมคี วามเพยี ร และมคี วามเพยี รพยายามใน พยายามในการเรียนรู้ พยายามในการ พยายามในการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ เขา้ รว่ มกิจกรรมการ เรยี นรู้ เข้าร่วม เขา้ รว่ มกิจกรรมการ 4.1.3 สนใจเขา้ รว่ ม เรยี นรู้ต่าง ๆเป็น กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรยี นรตู้ ่าง ๆ บางครัง กจิ กรรมการเรียนรูต้ า่ ง ๆ ประจ่า ต่าง ๆ บ่อยครงั

~ 95 ~ แบบประเมินช้นิ งาน เรอ่ื ง การแข่งขนั ตะกรอ้ วง รายการการประเมนิ ระดบั คุณภาพ การบนั ทกึ 4 32 1 ผลการแขง่ ขัน บอกข้อบกพร่อง บนั ทึกผลการแข่งขัน บนั ทกึ ผลการแข่งขนั บันทึกผลการ บันทึกผลการ ทีค่ วรปรับปรงุ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง แข่งขนั อธิบายความมีน่าใจท่ี บอกข้อบกพร่อง ได้อย่างถูกต้อง แขง่ ขนั ได้อยา่ งถูกตอ้ ง แสดงออก ที่ควรปรับปรุง และบอกแนวทาง ได้อย่างถูกต้อง บอกข้อบกพร่อง ได้อยา่ งถูกต้อง การอนรุ ักษต์ ะกร้อวง อธิบายความมีน่าใจ ที่นกั เรยี นแสดงออก ท่ีควรปรบั ปรุง บอกขอ้ บกพร่อง ในการแข่งขนั บอกแนวทาง ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ท่คี วรปรบั ปรงุ การอนุรักษ์กีฬา ตะกร้อวง ได้อย่าง อธบิ ายความมนี ่าใจ ไดอ้ ย่างถูกต้อง ถูกต้อง ที่นกั เรียนแสดงออก ในการแข่งขนั

~ 96 ~ ผลการพจิ ารณาแผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน ............................................................................................................................. ................................................................ ........................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................ ............................................................................................................................. .............................................................. อนุมัติ ปรบั ปรุงใหม่ ลงชือ่ ..........................................................ผูเ้ สนอแผนฯ ลงชอ่ื ..........................................................ผอู้ นมุ ัติ (นายเสกสรรค์ วะลัยใจ) (นางสาวเตยี งคา่ เตโช) ครู รับเงินเดือนอนั ดับ คศ.1 ผู้อา่ นวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดพชิ ยั บนั ทึกหลังการสอน 1.1 นักเรยี นทีบ่ รรลุตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ ......................คน คดิ เป็นร้อยละ.............................................. 1.2 นักเรียนทีไ่ มบ่ รรลุตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ ..................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.............................................. ไดแ้ ก่....................................................................................................................... ..................................... ............................................................................................................................. ....................................... .................................................................................................................................................................... 1.3 พฤติกรรมการเรียน การร่วมกิจกรรมการเรยี นร.ู้ ....................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................... ........................................................................................................ ........................................................... 1.4 แนวทางการปรับปรุง แกไ้ ข พฒั นา........................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... ผลทีเ่ กดิ แก่ครูผ้สู อน ปัญหา อปุ สรรคที่พบ และแนวทางการปรับปรงุ แก้ไข พัฒนา .............................................................................................................................. ....................................... ........................................................................................... .......................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................................ ......................... ลงช่อื ..........................................................ครผู สู้ อน (นายเสกสรรค์ วะลัยใจ) ลงช่อื .........................................................ผู้ตรวจแผนฯ (นางสาวเตียงคา่ เตโช) ผู้อา่ นวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั พิชัย

~ 97 ~ แผนการจดั การเรยี นรู้ 19 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 เวลาเรยี น 20 ช่วั โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 การออกกาลังกายโดยการเลน่ กีฬา ภาคเรียนที่ 2 แผนการเรียนร้ทู ี่ 19 เรอื่ งการประเมนิ ทักษะและข้อควรปฏิบตั ิในการเล่นกีฬา สอนวนั ที่…………เดอื น……………………..พ.ศ. …………… 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ัด  มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 3.1 เขา้ ใจ มีทักษะในการเคลอ่ื นไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา ตวั ชว้ี ดั พ 3.1 ป.6/3 เลน่ กีฬาไทย กีฬาสากล ประเภทบุคคลและประเภททีมอยา่ งละ 1 ชนดิ พ 3.1 ป.6/4 ใช้ทักษะกลไกเพือ่ ปรบั ปรุงเพิ่มพนู ความสามารถของตนและผ้อู ่ืนในการเลน่ กีฬา มาตรฐาน พ 3.2 รกั การออกก่าลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กีฬา ปฏิบตั ิเป็นประจา่ อย่างสม่าเสมอ มวี ินยั เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีนา่ ใจนกั กีฬา มจี ิตวญิ ญาณในการแข่งขนั และชืน่ ชมในสนุ ทรียภาพของการกีฬา ตัวช้วี ัด พ 3.2 ป.6/3 เลน่ กีฬาท่ีตนเองชนื่ ชอบและสามารถประเมินทักษะการเล่นของตนเปน็ ประจา่ พ 3.2 ป.6/4 ปฏิบตั ิตามกฎ กติกาตามชนิดกฬี าที่เลน่ โดยคา่ นึงถึงความปลอดภยั ของตนเองและผู้อืน่ พ 3.2 ป.6/5 จ่าแนกกลวิธีการรกุ การป้องกัน และนา่ ไปใชใ้ นการเล่นกีฬา พ 3.2 ป.6/6 เลน่ เกมและกฬี าด้วยความสามคั คีและมีน่าใจนกั กีฬา 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายการประเมินทักษะและข้อควรปฏิบตั ใิ นการเลน่ กีฬา (K) 2. ปฏบิ ตั ิตนตามข้อควรปฏบิ ตั ใิ นการเล่นกฬี า (P) 3. เห็นความสา่ คัญของการประเมินทักษะ และข้อควรปฏบิ ัติในการเลน่ กีฬา (A) 3. สาระการเรยี นรู้ 1. การประเมินทักษะการเลน่ ของตนเอง เพอ่ื พฒั นาศักยภาพในการเลน่ กฬี า 2. ขอ้ ควรปฏิบตั ิในการเลน่ กีฬา 4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

~ 98 ~ 5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1.ใฝเ่ รยี นรู้ 6. อัตลกั ษณ์ของเด็กแห่งมหานคร 1. รู้หนา้ ท่ี 2. มจี ติ สาธารณะ 7. การจัดกระบวนการเรยี นรู้ คาถามสาคญั นกั เรยี นสามารถแสดงออกถงึ ความมนี ่าใจนักกีฬาไดอ้ ย่างไรบ้าง Step1 ขน้ั สังเกต รวบรวมข้อมลู (Gathering) 1. นกั เรียนรว่ มกันสนทนาแลกเปล่ยี นเรียนรู้ ทบทวนจากการฝกึ ปฏิบตั ิกฬี าทัง 3 ประเภท โดยตอบค่าถาม ดงั นี • กระโดดไกล วอลเลยบ์ อล และตะกรอ้ วง นกั เรียนฝึกปฏิบตั ิกฬี าชนดิ ใดไดด้ ที สี่ ดุ (ตวั อย่างค่าตอบ วอลเลยบ์ อล) • กฬี าชนดิ ใดทน่ี กั เรยี นควรจะพฒั นามากท่ีสุด (ตัวอย่างค่าตอบ ตะกร้อวง) • ทกั ษะพืนฐานการเล่นตะกรอ้ ที่ยากทีส่ ุดส่าหรบั นักเรียนคือทกั ษะใด (ตวั อยา่ งค่าตอบ ทา่ หลังเท้า) • ทักษะพืนฐานการเลน่ วอลเลย์บอลท่ียากทส่ี ดุ สา่ หรบั นกั เรียนคือทักษะใด (ตัวอย่างค่าตอบ การตบลูกวอลเลย์บอล) • ทักษะพนื ฐานการกระโดดไกลที่ยากทส่ี ุดส่าหรบั นกั เรยี นคือทกั ษะใด (ตวั อย่างค่าตอบ การลอยตวั ในอากาศ) 2. นักเรยี นศึกษาความรู้และรวบรวมขอ้ มูลเกีย่ วกับการประเมินทักษะการเล่นของตนเอง เพ่อื พัฒนาศักยภาพ ในการเลน่ กีฬา และข้อควรปฏิบัตใิ นการเล่นกีฬา จากแหล่งการเรยี นร้ตู า่ ง ๆ เชน่ หนงั สอื เรียน อินเทอร์เนต็ Step2 ข้ันคดิ วิเคราะหแ์ ละสรปุ ความรู้ (Processing) 3. นกั เรียนรว่ มกันวิเคราะห์และแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับการประเมินทักษะการเล่นของตนเอง เพื่อพฒั นา ศักยภาพในการเล่นกีฬา โดยตอบค่าถาม ดงั นี  จดุ ประสงคข์ องการประเมินทักษะการเลน่ คืออะไร (ตัวอยา่ งค่าตอบ ตรวจสอบพัฒนาการและหาข้อบกพรอ่ ง)  หากนักเรียนต้องการประเมินทกั ทักษะการเลน่ ของตนเอง เพ่ือพัฒนาศักยภาพในการเล่นกฬี าตะกร้อวง นกั เรียนจะมีวิธีในการปฏิบตั ิอย่างไร

~ 99 ~ (สามารถตอบในลกั ษณะของแผนภาพความคิด ดงั นี) 1. ทา่ การทดสอบเดาะลกู ตะกรอ้ ในเวลา 3 นาที แล้วจดบันทึกจา่ นวนครังที่ท่าได้ 2. ท่าการฝึกทกั ษะอย่างต่อเนื่องเปน็ ระยะเวลา 3-4 สัปดาห์ 3. ทา่ การทดสอบเดาะลูกตะกรอ้ ในเวลา 3 นาทีอกี ครัง แล้วจดบันทึกจา่ นวนครังที่ท่าได้ จากนันน่าไปเปรียบเทียบกบั การทดสอบในครงั แรก 4. นักเรยี นรว่ มกันวเิ คราะหแ์ ละแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั ข้อควรปฏิบัติในการเลน่ กีฬา โดยตอบคา่ ถาม ดงั นี  กอ่ นการแข่งขนั กีฬาทุกครังควรปฏิบตั อิ ยา่ งไร (ตัวอยา่ งค่าตอบ วางแผนการเล่นอยา่ งรอบคอบ และอบอุน่ ร่างกาย)  เมื่อมีการตดั สนิ จากผตู้ ัดสินควรปฏิบัติอยา่ งไร (ตวั อยา่ งค่าตอบ ยอมรบั ค่าตัดสนิ ไมแ่ สดงอาการไม่พอใจ)  หากทมี นักเรยี นเป็นฝ่ายแพก้ ารแขง่ ขันควรแสดงออกอยา่ งไร (ตวั อยา่ งค่าตอบ ยอมรับผลการแขง่ ขัน และแสดงความยนิ ดกี ับฝ่ายชนะ)  หากนักเรยี นถูกเข้าปะทะจากฝ่ายตรงข้ามนักเรียนควรปฏิบัตอิ ยา่ งไร (ตวั อยา่ งค่าตอบ ควบคมุ อารมณ์ รจู้ ักให้อภยั ) 5. นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ โดยตอบค่าถามกระตนุ้ ความคดิ ดังนี  นกั เรียนสามารถแสดงออกถึงความมีนา่ ใจนักกีฬาได้อย่างไรบ้าง (ตวั อย่างค่าตอบ เลน่ ตามกฎ กตกิ าของกฬี า ไมเ่ อาเปรยี บหรอื ทา่ รา้ ยฝา่ ยตรงขา้ ม) Step3 ขนั้ ปฏิบตั ิและสรปุ ความรหู้ ลังการปฏบิ ัติ (Applying and Constructing the Knowledge) 6. นักเรยี นแบง่ กล่มุ 5 กลุ่ม แตล่ ะกล่มุ สง่ ตัวแทนมาจับสลากประเภทกฬี า กล่มุ ละ 1 ประเภท และอธบิ ายข้อ ควรปฏิบตั ิในการเลน่ กีฬาประเภทนนั ใหถ้ กู ต้อง โดยมปี ระเภทกฬี า ดงั นี 1) กฬี าฟตุ บอล 2) กีฬาวอลเลย์บอล 3) กรีฑาประเภทลาน : กระโดดไกล 4) กรีฑาประเภทลู่ : วง่ิ 100 เมตร 5) กีฬาตะกร้อวง 7. นักเรียนรว่ มกนั สรุปสงิ่ ทเ่ี ข้าใจเปน็ ความรู้รว่ มกัน ดงั นี การเลน่ กีฬาเปน็ การสรา้ งเสริมร่างกายให้มสี ขุ ภาพทด่ี ีทังกายและใจ ซงึ่ ผู้เลน่ ต้องมีความสามัคคี มีน่าใจ นกั กฬี า ปฏิบัตติ ามกฎ กติกาอย่างเคร่งครัด และประเมินทักษะการเล่นกีฬาของตนเองอยา่ งสม่าเสมอ เพ่ือนา่ ไปฝึกฝน พัฒนาศักยภาพใหเ้ ล่นกีฬาได้ดีและมีความปลอดภยั

~ 100 ~ Step4 ขั้นสอ่ื สารและนาเสนอ (Applying the Communication Skill) 8. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ นา่ เสนอข้อควรปฏิบัติในการเลน่ กีฬาตามประเภทกีฬาท่ีกลุม่ ตนเองได้รบั 9. นกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ หลงั การปฏบิ ตั ขิ องเพื่อนครบทกุ กลมุ่ 10. นักเรียนร่วมกันอภปิ รายสรปุ เกย่ี วกบั วธิ กี ารทา่ งานให้เหน็ การคดิ เชงิ ระบบและวิธีการทา่ งานที่มีแบบแผน Step5 ขัน้ ประเมินเพอ่ื เพ่ิมคุณค่าบริการสงั คมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating) 11. นกั เรยี นนา่ ความร้ทู ี่ไดร้ ับจากการเรยี นเกยี่ วกับการประเมินทักษะการเลน่ ของตนเอง เพ่ือพฒั นาศกั ยภาพ ในการเล่นกีฬา และข้อควรปฏบิ ัติในการเล่นกีฬา ไปปรับใช้และนา่ ไปแลกเปล่ยี นเรียนรู้เพ่มิ เติมกับสมาชิกในครอบครัว และชุมชนตอ่ ไป 12. นกั เรยี นประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรูส้ ึกหลังการเรียนและหลงั การท่ากจิ กรรม ในประเดน็ ต่อไปนี • สง่ิ ทีน่ กั เรียนได้เรยี นรใู้ นวันนีคอื อะไร • นกั เรียนมีส่วนรว่ มกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพยี งใด • เพือ่ นนักเรียนในกลุ่มมสี ว่ นร่วมกจิ กรรมในกล่มุ มากน้อยเพียงใด • นกั เรียนพงึ พอใจกบั การเรียนในวนั นหี รอื ไม่ เพยี งใด • นกั เรียนจะนา่ ความรู้ท่ไี ด้นไี ปใช้ให้เกดิ ประโยชน์แกต่ นเอง ครอบครัว และสงั คมทั่วไปไดอ้ ย่างไร จากนันแลกเปลยี่ นตรวจสอบขันตอนการทา่ งานทุกขันตอนว่าจะเพมิ่ คุณคา่ ไปสูส่ งั คม เกดิ ประโยชน์ตอ่ สังคม ให้มากขึนกว่าเดิมในขันตอนใดบ้าง ส่าหรบั การทา่ งานในครงั ต่อไป 8. สอื่ แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี น รายวิชาพนื ฐาน สุขศกึ ษาและพลศึกษา ชนั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ของสถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) 2. แหลง่ การเรยี นร้ทู ังภายในและภายนอกโรงเรยี น 9. การวดั และการประเมินผล 1. ประเมนิ ความรู้ เรอื่ ง การประเมินทกั ษะการเล่นของตนเองเพ่อื พัฒนาศักยภาพในการเลน่ กีฬา ขอ้ ควรปฏบิ ัตใิ นการเลน่ กีฬา (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมนิ กระบวนการทา่ งานกลุ่ม (P) ดว้ ยแบบประเมิน 3. ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ด้านใฝเ่ รยี นรู้ มุง่ ม่นั ในการท่างาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

~ 101 ~ แบบประเมินตามสภาพจรงิ (Rubrics) แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม รายการการ ระดับคุณภาพ ประเมิน 4 3 21 กระบวนการ ท่างานกลมุ่ มีการก่าหนดบทบาท มีการก่าหนดบทบาท มกี ารก่าหนดบทบาท ไมม่ ีการกา่ หนด สมาชกิ ชัดเจน และมีการ สมาชิกชดั เจน เฉพาะหัวหนา้ บทบาทสมาชิก ชแี จงเป้าหมายการท่างาน มกี ารชีแจงเปา้ หมาย ไม่มีการชีแจง และไม่มีการชีแจง มีการปฏบิ ตั ิงานรว่ มกัน อย่างชดั เจนและ เปา้ หมาย เปา้ หมาย สมาชกิ อย่างร่วมมือรว่ มใจพรอ้ มกบั ปฏบิ ัตงิ านรว่ มกนั อยา่ งชดั เจน ตา่ งคนตา่ งท่างาน การประเมินเปน็ ระยะ ๆ แตไ่ ม่มีการประเมิน ปฏบิ ตั ิงานร่วมกนั เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทุกคน การประเมินผลคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ ตวั ชวี ดั ที่ 4.1 ตงั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและการเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ยี่ยม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไมผ่ า่ น (0) 4.1.1 ตังใจเรียน ตังใจเรียน เอาใจใส่ ตงั ใจเรียน เอาใจใส่ ตงั ใจเรยี น เอาใจใส่ ไม่ตงั ใจเรียน 4.1.2 เอาใจใส่ และมีความเพยี ร และมีความเพียร และมคี วามเพียร และมคี วามเพียรพยายามใน พยายามในการเรยี นรู้ พยายามในการ พยายามในการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ เขา้ ร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ เขา้ รว่ ม เขา้ ร่วมกจิ กรรมการ 4.1.3 สนใจเขา้ ร่วม เรียนร้ตู ่าง ๆเป็น กจิ กรรมการเรียนรู้ เรยี นรู้ต่าง ๆ บางครัง กจิ กรรมการเรียนรตู้ า่ ง ๆ ประจ่า ตา่ ง ๆ บ่อยครัง

~ 102 ~ ผลการพิจารณาแผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน ............................................................................................................................. ................................................................ ........................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................ ............................................................................................................................. .............................................................. อนุมตั ิ ปรบั ปรงุ ใหม่ ลงช่ือ..........................................................ผูเ้ สนอแผนฯ ลงชอ่ื ..........................................................ผูอ้ นมุ ัติ (นายเสกสรรค์ วะลยั ใจ) (นางสาวเตียงค่า เตโช) ครู รับเงนิ เดือนอนั ดบั คศ.1 ผู้อ่านวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวดั พชิ ยั บนั ทึกหลังการสอน 1.1 นกั เรียนทบ่ี รรลุตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ......................คน คดิ เปน็ ร้อยละ.............................................. 1.2 นักเรยี นทไ่ี มบ่ รรลุตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ..................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.............................................. ได้แก.่ ...................................................................................................................... ..................................... ............................................................................................................................. ....................................... .................................................................................................................................................................... 1.3 พฤติกรรมการเรยี น การรว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้........................................................................................ .......................................................................................................................................... .......................... ............................................................................................................................. ...................................... 1.4 แนวทางการปรบั ปรุง แก้ไข พัฒนา........................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ผลท่ีเกิดแก่ครผู ูส้ อน ปัญหา อปุ สรรคท่พี บ และแนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ข พัฒนา ............................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................. ........................................ ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ลงชอ่ื ..........................................................ครผู ้สู อน (นายเสกสรรค์ วะลัยใจ) ลงชื่อ.........................................................ผู้ตรวจแผนฯ (นางสาวเตียงคา่ เตโช) ผูอ้ ่านวยการสถานศกึ ษาโรงเรียนวัดพชิ ัย

~ 103 ~ แผนการจดั การเรยี นรู้ 20 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 7 การออกกาลังกายโดยการเล่นกีฬา เวลาเรียน 20 ช่ัวโมง แผนการเรยี นรทู้ ี่ 20 เร่ืองการเลน่ กีฬาอยา่ งปลอดภัย และประโยชน์ของการเลน่ กฬี า เวลาเรียน 1 ชั่วโมง สอนวันที่…………เดือน……………………..พ.ศ. …………… ภาคเรียนที่ 2 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั  มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคล่ือนไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา ตัวชี้วดั พ 3.1 ป.6/3 เล่นกีฬาไทย กีฬาสากล ประเภทบุคคลและประเภททีมอย่างละ 1 ชนิด พ 3.1 ป.6/4 ใชท้ กั ษะกลไกเพอ่ื ปรบั ปรุงเพ่ิมพูนความสามารถของตนและผอู้ ่ืนในการเลน่ กีฬา มาตรฐาน พ 3.2 รกั การออกกา่ ลังกาย การเลน่ เกม และการเลน่ กีฬา ปฏบิ ัติเปน็ ประจ่าอย่างสม่าเสมอ มวี ินยั เคารพสิทธิ กฎ กติกา มนี ่าใจนักกฬี า มจี ิตวญิ ญาณในการแขง่ ขนั และช่นื ชมในสุนทรียภาพของการกีฬา ตัวชว้ี ดั พ 3.2 ป.6/3 เลน่ กีฬาท่ตี นเองช่นื ชอบและสามารถประเมินทักษะการเล่นของตนเปน็ ประจ่า พ 3.2 ป.6/4 ปฏบิ ัตติ ามกฎ กติกาตามชนิดกีฬาท่ีเล่น โดยคา่ นึงถึงความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น พ 3.2 ป.6/5 จา่ แนกกลวธิ ีการรุก การปอ้ งกนั และนา่ ไปใช้ในการเลน่ กีฬา พ 3.2 ป.6/6 เล่นเกมและกีฬาด้วยความสามัคคีและมีน่าใจนกั กีฬา 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายการเล่นกีฬาอยา่ งปลอดภัยเพื่อสุขภาพและสมรรถภาพทางกาย และประโยชน์ของการเลน่ กฬี า (K) 2. ปฏิบัตติ นในการเลน่ กีฬาอย่างปลอดภยั เพื่อสขุ ภาพและสมรรถภาพทางกาย (P) 3. เหน็ ความสา่ คญั ของการเลน่ กีฬาอยา่ งปลอดภัยเพอ่ื สขุ ภาพและสมรรถภาพทางกาย และประโยชน์ของ การเลน่ กีฬา (A) 3. สาระการเรียนรู้ 1. การเลน่ กีฬาอย่างปลอดภยั เพื่อสขุ ภาพและสมรรถภาพทางกาย 2. ประโยชนข์ องการเลน่ กีฬา

~ 104 ~ 4. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1.ใฝเ่ รยี นรู้ 6. อัตลกั ษณข์ องเด็กแห่งมหานคร 1. รูห้ น้าท่ี 2. มจี ติ สาธารณะ 7. การจัดกระบวนการเรียนรู้ คาถามสาคัญ การเล่นกฬี าสง่ ผลดีต่อสุขภาพจิตอย่างไร Step1 ข้ันสังเกต รวบรวมข้อมลู (Gathering) 1. นกั เรยี นสังเกตภาพคนลืน่ ล้มในสนามฮอกกนี ่าแขง็ และรว่ มกนั สนทนาแลกเปลย่ี นเรียนรู้ โดยตอบคา่ ถาม ดังนี  จากภาพ มเี หตุการณใ์ ดเกิดขึน (มชี ายลม้ ลงไปท่พี ืน)  นกั เรยี นคิดว่าท่าไมเขาถงึ ล้มลง (ตวั อยา่ งค่าตอบ ลืน่ ล้ม เพราะรองเทา้ ไม่เหมาะกับพนื สนาม)  นักเรยี นทราบหรือไมว่ ่านี่คอื การแข่งขนั กฬี าใด (ฮอกกนี ่าแขง็ )  เพราะเหตุใดนักกฬี าต้องแต่งตวั โดยมีอปุ กรณ์ป้องกนั หลายอยา่ ง (ตวั อยา่ งค่าตอบ เพราะสนามเปน็ พนื นา่ แข็ง มีความล่นื เส่ียงต่อการเกิดอุบัติเหตุ)  มีกีฬาชนดิ ใดบา้ งท่ีมกี ติกาบังคับใหใ้ สอ่ ปุ กรณ์ป้องกนั (ตวั อย่างค่าตอบ ฟุตบอล มวย นักแข่งรถจักรยานยนต์)

~ 105 ~ 2. นกั เรยี นศึกษาความรู้และรวบรวมข้อมูลเกยี่ วกับการเลน่ กีฬาอยา่ งปลอดภยั เพ่ือสขุ ภาพและสมรรถภาพทาง กาย และประโยชนข์ องการเล่นกฬี า จากแหลง่ การเรยี นร้ตู ่าง ๆ เช่น หนงั สือเรยี น อินเทอร์เน็ต Step2 ขั้นคิดวเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความรู้ (Processing) 3. นักเรียนรว่ มกนั วิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับการเล่นกีฬาอย่างปลอดภยั เพ่ือสุขภาพและ สมรรถภาพทางกาย โดยตอบคา่ ถาม ดังนี  นักเรยี นควรเลือกเลน่ กีฬาประเภทตา่ ง ๆ อย่างไร (ตวั อยา่ งค่าตอบ เลือกใหเ้ หมาะสมกับวัยและสภาพร่างกายของตนเอง)  นักเรยี นควรแต่งกายอยา่ งไรในการเลน่ กีฬา (ตัวอยา่ งค่าตอบ เลือกให้เหมาะสมกับกีฬาทจ่ี ะเล่น เนน้ ให้รัดกมุ )  ชว่ งเวลาใดท่เี หมาะสมในการเลน่ กีฬา (ตวั อยา่ งค่าตอบ ตอนเย็นท่ีมีแสงแดดอ่อน ๆ)  นักเรยี นควรเลือกสถานทใี่ นการเล่นกฬี าอย่างไร (ตวั อยา่ งค่าตอบ เหมาะสมกับประเภทกีฬา มคี วามปลอดภยั มแี สงสว่างเพยี งพอ) 4. นักเรยี นรว่ มกันวเิ คราะหแ์ ละแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับประโยชนข์ องการเลน่ กีฬา โดยสรปุ เปน็ แผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง 1. ท่าให้ร่างกายสมบูรณ์ ประโยชน์ 2. รูส้ ึกกระปรกี ระเปร่า แข็งแรง ของการเลน่ กีฬา อารมณ์แจ่มใส ในการเลือกหาสินคา้ 5. รจู้ กั ใช้เวลาว่าง 4. ฝึกการเปน็ ผ้นู า่ หรือบริการ ใหเ้ กิดประโยชน์ พัฒนาทักษะในการคิด การวางแผน การตดั สนิ ใจ 3. สรา้ งความสามัคคี กระทา่ สิ่งตา่ ง ๆ 5. นักเรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยตอบคา่ ถามกระต้นุ ความคดิ ดงั นี  การเลน่ กฬี าสง่ ผลดีต่อสขุ ภาพจิตอย่างไร (ตวั อยา่ งค่าตอบ ทา่ ให้อารมณด์ ี ผอ่ นคลาย ไม่เครียด) Step3 ขน้ั ปฏิบัตแิ ละสรุปความรูห้ ลังการปฏิบัติ (Applying and Constructing the Knowledge) 6. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 5 คน แต่ละกลุ่มเลือกกีฬามา 1 ประเภท แลว้ บอกทักษะการเล่นกฬี า อย่างปลอดภัย และบอกประโยชนจ์ ากการเล่นกีฬาประเภทนัน 7. นกั เรยี นรว่ มกันสรุปสิ่งที่เข้าใจเปน็ ความรรู้ ว่ มกัน ดังนี การเลน่ กีฬาเปน็ การสร้างเสริมรา่ งกายให้มสี ุขภาพทดี่ ีทังกายและใจ ซง่ึ ผู้เล่นต้องมคี วามสามัคคี มีน่าใจ นกั กฬี า ปฏิบตั ติ ามกฎ กติกาอย่างเคร่งครัด และประเมนิ ทักษะการเล่นกีฬาของตนเองอยา่ งสม่าเสมอ เพ่ือนา่ ไปฝึกฝน พฒั นาศักยภาพใหเ้ ล่นกฬี าได้ดีและมีความปลอดภัย

~ 106 ~ Step4 ข้ันสือ่ สารและนาเสนอ (Applying the Communication Skill) 8. นักเรยี นแต่ละกลุ่มนา่ เสนอแนวทางการเล่นกีฬาอยา่ งปลอดภยั และประโยชน์ของการเล่นกฬี าตามประเภท กีฬาท่ีกลุ่มตนเองได้เลอื ก 9. นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ หลงั การปฏบิ ัติของเพื่อนครบทกุ กลุม่ 10.นักเรียนร่วมกนั อภิปรายสรปุ เก่ยี วกับวธิ กี ารท่างานให้เหน็ การคิดเชิงระบบและวธิ ีการทา่ งานท่มี ีแบบแผน Step5 ขัน้ ประเมนิ เพือ่ เพิ่มคุณคา่ บรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating) 11. นกั เรียนนา่ ความรู้ท่ีได้รับจากการเรยี นเกย่ี วกบั การเล่นกีฬาอย่างปลอดภยั เพื่อสุขภาพและสมรรถภาพ และ ประโยชนข์ องการเลน่ กีฬาไปปรบั ใช้ และนา่ ไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพ่มิ เติมกบั สมาชกิ ในครอบครัวและชุมชนต่อไป 12.นักเรยี นประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลงั การเรียนและหลงั การท่ากิจกรรม ในประเดน็ ต่อไปนี • สงิ่ ที่นักเรยี นไดเ้ รียนรใู้ นวนั นีคอื อะไร • นักเรยี นมีสว่ นร่วมกิจกรรมในกล่มุ มากน้อยเพยี งใด • เพื่อนนักเรยี นในกลมุ่ มีสว่ นร่วมกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพยี งใด • นักเรียนพงึ พอใจกบั การเรยี นในวันนหี รือไม่ เพยี งใด • นกั เรียนจะนา่ ความรทู้ ไ่ี ดน้ ไี ปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์แกต่ นเอง ครอบครัว และสงั คมทว่ั ไปได้อยา่ งไร จากนนั แลกเปลยี่ นตรวจสอบขันตอนการท่างานทกุ ขนั ตอนวา่ จะเพิม่ คุณคา่ ไปสู่สงั คม เกดิ ประโยชนต์ ่อสงั คม ใหม้ ากขนึ กว่าเดิมในขันตอนใดบ้าง สา่ หรบั การท่างานในครังตอ่ ไป 8. ส่ือแหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี น รายวิชาพนื ฐาน สุขศกึ ษาและพลศึกษา ชนั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) 2. ภาพคนล่นื ลม้ ในสนามฮอกกีนา่ แข็ง 3. แหล่งการเรยี นรทู้ งั ภายในและภายนอกโรงเรียน 9. การวดั และการประเมินผล 1. ประเมนิ ความรู้ เรื่อง การเล่นกีฬาอย่างปลอดภัยเพ่ือสขุ ภาพและสมรรถภาพทางกาย ประโยชน์ของการเล่นกีฬา (K) ด้วยแบบทดสอบ 2. ประเมนิ กระบวนการทา่ งานกลุ่ม (P) ด้วยแบบประเมิน 3. ประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ด้านใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมัน่ ในการท่างาน (A) ด้วยแบบประเมนิ

~ 107 ~ แบบประเมินตามสภาพจรงิ (Rubrics) แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม รายการการ ระดับคุณภาพ ประเมิน 4 3 21 กระบวนการ ท่างานกลมุ่ มีการก่าหนดบทบาท มีการก่าหนดบทบาท มกี ารก่าหนดบทบาท ไมม่ ีการกา่ หนด สมาชกิ ชัดเจน และมีการ สมาชิกชดั เจน เฉพาะหัวหนา้ บทบาทสมาชิก ชแี จงเป้าหมายการท่างาน มกี ารชีแจงเปา้ หมาย ไม่มีการชีแจง และไม่มีการชีแจง มีการปฏบิ ตั ิงานรว่ มกัน อย่างชดั เจนและ เปา้ หมาย เปา้ หมาย สมาชกิ อย่างร่วมมือรว่ มใจพรอ้ มกบั ปฏบิ ัตงิ านรว่ มกนั อยา่ งชดั เจน ตา่ งคนตา่ งท่างาน การประเมินเปน็ ระยะ ๆ แตไ่ ม่มีการประเมิน ปฏบิ ตั ิงานร่วมกนั เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทุกคน การประเมินผลคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ ตวั ชวี ดั ที่ 4.1 ตงั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและการเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ยี่ยม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไมผ่ า่ น (0) 4.1.1 ตังใจเรียน ตังใจเรียน เอาใจใส่ ตงั ใจเรียน เอาใจใส่ ตงั ใจเรยี น เอาใจใส่ ไม่ตงั ใจเรียน 4.1.2 เอาใจใส่ และมีความเพยี ร และมีความเพียร และมคี วามเพียร และมคี วามเพียรพยายามใน พยายามในการเรยี นรู้ พยายามในการ พยายามในการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ เขา้ ร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ เขา้ รว่ ม เขา้ ร่วมกจิ กรรมการ 4.1.3 สนใจเขา้ ร่วม เรียนร้ตู ่าง ๆเป็น กจิ กรรมการเรียนรู้ เรยี นรู้ต่าง ๆ บางครัง กจิ กรรมการเรียนรตู้ า่ ง ๆ ประจ่า ตา่ ง ๆ บ่อยครัง

~ 108 ~ ผลการพิจารณาแผนการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน ............................................................................................................................. ................................................................ ........................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................ ............................................................................................................................. .............................................................. อนุมตั ิ ปรับปรุงใหม่ ลงชื่อ..........................................................ผ้เู สนอแผนฯ ลงชื่อ..........................................................ผู้อนุมตั ิ (นายเสกสรรค์ วะลยั ใจ) (นางสาวเตียงค่า เตโช) ครู รับเงินเดอื นอันดบั คศ.1 ผู้อา่ นวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวัดพิชยั บันทึกหลังการสอน 1.1 นกั เรียนทบ่ี รรลุตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ ......................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.............................................. 1.2 นักเรียนทไ่ี มบ่ รรลุตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ ..................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.............................................. ไดแ้ ก.่ ...................................................................................................................... ..................................... ............................................................................................................................. ....................................... .................................................................................................................................................................... 1.3 พฤติกรรมการเรียน การรว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู.้ ....................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................... ........................................................................................... ........................................................................ 1.4 แนวทางการปรบั ปรุง แก้ไข พฒั นา........................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... ผลท่ีเกดิ แก่ครผู สู้ อน ปัญหา อปุ สรรคทีพ่ บ และแนวทางการปรบั ปรงุ แก้ไข พัฒนา ............................................................................................................................. ........................................ ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................... ...................................... ลงชอ่ื ..........................................................ครูผูส้ อน (นายเสกสรรค์ วะลยั ใจ) ลงชอ่ื .........................................................ผู้ตรวจแผนฯ (นางสาวเตยี งคา่ เตโช) ผูอ้ ่านวยการสถานศกึ ษาโรงเรียนวัดพชิ ัย

ปรชั ญาโรงเรียน สุวิชา โน ภวํ โหติ คอื ผูร้ ู้ดเี ปน็ ผู้เจรญิ  Website: www.wpcs.ac.th  Facebook: www.facebook.com/watpichai,  Email: [email protected]  โรงเรยี นวัดพิชยั สำนักงำนเขตบงึ ก่มุ กรุงเทพมหำนคร  เบอรโ์ ทรศพั ท์ 02 3776160