Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษา ป.6 ภาคเรียนที่ 2-2565

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษา ป.6 ภาคเรียนที่ 2-2565

Description: แผนการจัดการเรียนรู้พลศึกษา ป.6

Search

Read the Text Version

~ 38 ~ ผลการพิจารณาแผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน ............................................................................................................................. ................................................................ ........................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................ ............................................................................................................................. .............................................................. อนมุ ัติ ปรับปรุงใหม่ ลงช่ือ..........................................................ผเู้ สนอแผนฯ ลงชอื่ ..........................................................ผู้อนมุ ัติ (นายเสกสรรค์ วะลัยใจ) (นางสาวเตียงค่า เตโช) ครู รับเงนิ เดอื นอันดบั คศ.1 ผอู้ า่ นวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดพชิ ยั บนั ทกึ หลังการสอน 1.1 นกั เรยี นทบ่ี รรลตุ ามจุดประสงค์การเรยี นรู้ ......................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.............................................. 1.2 นกั เรียนท่ไี มบ่ รรลุตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ..................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.............................................. ได้แก่....................................................................................................................... ..................................... ............................................................................................................................. ....................................... .................................................................................................................................................................... 1.3 พฤติกรรมการเรยี น การร่วมกจิ กรรมการเรยี นร้.ู ....................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................... ........................................................................................... ........................................................................ 1.4 แนวทางการปรบั ปรุง แกไ้ ข พัฒนา........................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... ผลทเ่ี กดิ แก่ครูผูส้ อน ปัญหา อปุ สรรคทพี่ บ และแนวทางการปรบั ปรงุ แก้ไข พัฒนา ............................................................................................................................. ........................................ ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................... ...................................... ลงช่ือ..........................................................ครผู ูส้ อน (นายเสกสรรค์ วะลยั ใจ) ลงช่ือ.........................................................ผ้ตู รวจแผนฯ (นางสาวเตยี งคา่ เตโช) ผู้อา่ นวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวัดพิชัย

~ 39 ~ แผนการจัดการเรยี นรู้ 8 ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เวลาเรียน 20 ชว่ั โมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 การออกกาลังกายโดยการเลน่ กฬี า ภาคเรยี นท่ี 2 แผนการเรียนรู้ท่ี 8 เรือ่ งการเสิร์ฟ สอนวนั ท่ี…………เดอื น……………………..พ.ศ. …………… 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้วี ดั  มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลอ่ื นไหว กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา ตวั ช้วี ดั พ 3.1 ป.6/3 เลน่ กฬี าไทย กีฬาสากล ประเภทบคุ คลและประเภททีมอย่างละ 1 ชนิด พ 3.1 ป.6/4 ใช้ทักษะกลไกเพอ่ื ปรับปรุงเพ่ิมพนู ความสามารถของตนและผู้อ่ืนในการเล่นกีฬา มาตรฐาน พ 3.2 รกั การออกก่าลงั กาย การเลน่ เกม และการเล่นกีฬา ปฏิบตั ิเปน็ ประจา่ อย่างสม่าเสมอ มวี ินยั เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีนา่ ใจนักกฬี า มจี ิตวญิ ญาณในการแข่งขัน และชื่นชมในสุนทรียภาพของการกีฬา ตัวชี้วดั พ 3.2 ป.6/3 เลน่ กีฬาทต่ี นเองชนื่ ชอบและสามารถประเมินทักษะการเล่นของตนเป็นประจา่ พ 3.2 ป.6/4 ปฏบิ ตั ติ ามกฎ กติกาตามชนิดกีฬาท่ีเล่น โดยคา่ นึงถึงความปลอดภัยของตนเองและผู้อืน่ พ 3.2 ป.6/5 จ่าแนกกลวธิ ีการรุก การปอ้ งกัน และน่าไปใชใ้ นการเลน่ กีฬา พ 3.2 ป.6/6 เล่นเกมและกีฬาด้วยความสามคั คีและมนี า่ ใจนกั กีฬา 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกวธิ ีการเสริ ฟ์ ลูกมือบนดา้ นหนา้ และการเสริ ์ฟลกู มือล่าง (K) 2. ปฏิบัติการเสิร์ฟลกู มือบนด้านหน้า และการเสริ ์ฟลกู มือล่าง (P) 3. มีความมุ่งมนั่ ในการปฏบิ ัติการเสิร์ฟลูกมือบนดา้ นหน้า และการเสิร์ฟลกู มือล่าง (A) 3. สาระการเรยี นรู้ กีฬาประเภททีม • วอลเลยบ์ อล การเสิร์ฟ 4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

~ 40 ~ 5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 6. อัตลักษณ์ของเดก็ แห่งมหานคร 1. ร้หู น้าท่ี 2. มีจติ สาธารณะ 7. การจดั กระบวนการเรียนรู้ คาถามสาคัญ นกั เรียนคดิ วา่ ระหว่างการเสริ ์ฟลกู มือบนด้านหนา้ กบั การเสิรฟ์ ลกู มือล่าง การเสริ ์ฟใน ลกั ษณะใดทสี่ รา้ งความอันตรายกับฝ่ายตรงข้ามมากกว่ากัน Step1 ขน้ั สงั เกต รวบรวมข้อมลู (Gathering) 1. นักเรียนร่วมกนั สนทนาแลกเปลยี่ นเรยี นรู้เกย่ี วกับทกั ษะพืนฐานในการเล่นวอลเลย์บอล โดยตอบค่าถาม ดังนี  นกั เรยี นคิดวา่ การเล่นวอลเลย์บอลตอ้ งใช้ทกั ษะใดบ้าง (ตวั อย่างค่าตอบ การเสริ ์ฟ การเล่นลกู มอื ลา่ ง การตบ)  การเสริ ฟ์ จะถกู ใชเ้ มอ่ื ใด (ตัวอยา่ งค่าตอบ เริ่มเล่นคะแนนใหม่)  ผู้เล่นที่เป็นฝา่ ยเสริ ์ฟจะเสยี คะแนนในกรณีใด (ตวั อยา่ งค่าตอบ ส่งลูกไม่ข้ามตาข่าย)  หากนักเรยี นเสริ ์ฟลูกไปพลกิ ตาขา่ ยลงฝา่ ยตรงข้ามจะได้คะแนนหรอื เสยี คะแนน (ได้คะแนน)  การเสิร์ฟท่ีมีประสิทธภิ าพคือการเสริ ์ฟในลักษณะใด (ตัวอยา่ งค่าตอบ การเสิรฟ์ ท่มี ีทงั ความแรงและความแมน่ ยา่ ) 2. นกั เรยี นศกึ ษาความรู้และรวบรวมขอ้ มูลเกยี่ วกบั กีฬาวอลเลย์บอล การเสิร์ฟจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น หนังสือเรยี น อินเทอร์เน็ต Step2 ข้ันคิดวิเคราะหแ์ ละสรปุ ความรู้ (Processing) 3. นกั เรียนร่วมกันวเิ คราะห์และแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั การเสริ ์ฟลกู มือบนด้านหนา้ โดยตอบค่าถาม ดังนี  การเสิร์ฟลูกมือบนด้านหนา้ สามารถทา่ ได้ 2 ลกั ษณะ คืออะไรบา้ ง (การยนื เสริ ์ฟ และการเคลอ่ื นทเ่ี สริ ์ฟ)  การยืนเสิรฟ์ ลกู มอื บนด้านหนา้ ควรยนื อย่างไร (ตวั อยา่ งค่าตอบ ยนื เทา้ แยกประมาณชว่ งไหล่ หรือเท้าซ้ายอยหู่ นา้ หากตลี ูกวอลเลย์ด้วยมือขวา)  การเคลอื่ นทเี่ สริ ฟ์ ลกู มอื บนด้านหน้าทา่ ได้อยา่ งไร (ตวั อยา่ งค่าตอบ โยนลูกวอลเลย์บอลขึนไปขา้ งหน้าเลก็ น้อย หากเสริ ์ฟด้วยมือขวาใหย้ กแขนขวา ยกศีรษะ แอน่ ท้อง บดิ ลา่ ตวั ไปทางขวาเล็กนอ้ ย) 4. นักเรียนรว่ มกันวิเคราะหแ์ ละแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั การเสิร์ฟลูกมือลา่ ง โดยตอบค่าถาม ดังนี  การเสริ ์ฟลูกมอื ล่าง ผูเ้ สริ ฟ์ ควรยืนในลักษณะใด

~ 41 ~ (ตวั อยา่ งค่าตอบ แยกเท้าหา่ งกันประมาณชว่ งไหล่ หากจะเสิรฟ์ ดว้ ยมือขวาให้ก้าวเท้าซา้ ยอยหู่ น้า)  ท่าไมเมือ่ เสริ ์ฟไปแลว้ ต้องเหว่ียงแขนตามลูก (ตัวอยา่ งค่าตอบ เพื่อช่วยบงั คับลูกวอลเลยใ์ ห้ไปในทิศทางท่ีตอ้ งการ) 5. นกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยตอบค่าถามกระตุน้ ความคิด ดังนี  นักเรยี นคดิ วา่ ระหวา่ งการเสิร์ฟลกู มือบนด้านหนา้ กับการเสิรฟ์ ลูกมือลา่ ง การเสิร์ฟในลักษณะใดท่สี รา้ ง ความอันตรายกับฝา่ ยตรงข้ามมากกว่ากนั (ตวั อยา่ งค่าตอบ การเสริ ์ฟลกู มอื บนด้านหนา้ ) Step3 ขั้นปฏิบตั ิและสรุปความร้หู ลังการปฏิบัติ (Applying and Constructing the Knowledge) 6. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน ในกลมุ่ จบั คู่ศึกษาการปฏบิ ตั ทิ ักษะการเสิร์ฟจากการสาธิตของผู้สอน โดยมีทักษะ ดงั นี 1) การเสริ ์ฟลกู มอื บนด้านหน้า 2) การเสิรฟ์ ลูกมือลา่ ง 7. นกั เรยี นอบอุน่ ร่างกายให้พร้อมส่าหรับการฝึกปฏบิ ตั ิ โดยการสงั เกตและปฏบิ ัตติ ามผู้สอน 8. นกั เรียนแต่ละคู่ฝึกการเสิร์ฟลูกมอื บนดา้ นหนา้ โดยมผี ู้สอนคอยตรวจสอบความถูกตอ้ งและคอยให้ค่าแนะนา่ 9. นักเรยี นแตล่ ะค่ฝู กึ การเสริ ์ฟลูกมอื ลา่ ง โดยมผี สู้ อนคอยตรวจสอบความถูกต้องและคอยให้คา่ แนะนา่ 10. นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ สิ่งท่ีเขา้ ใจเปน็ ความรรู้ ว่ มกนั ดงั นี การเล่นกีฬาวอลเลยบ์ อล เป็นการสร้างเสริมร่างกายใหม้ ีสุขภาพที่ดีทงั กายและใจ ซึ่งผู้เลน่ ตอ้ งมคี วาม สามัคคี มนี ่าใจนกั กีฬา ปฏบิ ัติตามกฎ กติกาอยา่ งเคร่งครัด และประเมินทักษะการเล่นกฬี าของตนเองอย่างสม่าเสมอ เพอ่ื นา่ ไปฝกึ ฝนพัฒนาศักยภาพใหเ้ ลน่ กีฬาได้ดแี ละมคี วามปลอดภยั Step4 ขัน้ ส่ือสารและนาเสนอ (Applying the Communication Skill) 11. นักเรียนแตล่ ะกลุม่ น่าเสนอผลการฝกึ ปฏิบัตกิ ารเสริ ์ฟลูกมือบนดา้ นหนา้ และการเสริ ฟ์ ลูกมอื ล่าง พร้อมบอก อปุ สรรคในการปฏบิ ัติ 12. นกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นหลังจากการนา่ เสนอของเพอ่ื น 13.นักเรียนร่วมกันอภปิ รายสรุปเกย่ี วกบั วิธีการท่างานใหเ้ หน็ การคดิ เชงิ ระบบและวิธีการท่างานทีม่ ีแบบแผน Step5 ขน้ั ประเมนิ เพ่อื เพ่ิมคณุ คา่ บรกิ ารสงั คมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating) 14. นกั เรียนน่าความรูท้ ่ีไดร้ ับจากการเรยี นเรื่องการเสริ ์ฟไปฝกึ ปฏิบัติใหช้ า่ นาญและนา่ ไปแลกเปล่ยี นเรยี นรกู้ ับ เพือ่ น สมาชิกในครอบครัว หรือสมาชกิ ในชุมชนต่อไป 15. นกั เรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรสู้ ึกหลงั การเรยี นและหลงั การท่ากิจกรรม ในประเด็นต่อไปนี • สิง่ ทีน่ ักเรยี นได้เรียนรู้ในวนั นีคอื อะไร • นกั เรยี นมีส่วนรว่ มกิจกรรมในกลุม่ มากน้อยเพยี งใด • เพ่ือนนักเรยี นในกลมุ่ มีส่วนรว่ มกจิ กรรมในกลุ่มมากน้อยเพยี งใด • นักเรยี นพงึ พอใจกับการเรียนในวันนีหรือไม่ เพียงใด • นกั เรียนจะน่าความรู้ท่ไี ด้นีไปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์แกต่ นเอง ครอบครวั และสงั คมท่ัวไปไดอ้ ยา่ งไร จากนนั แลกเปล่ียนตรวจสอบขันตอนการทา่ งานทกุ ขันตอนวา่ จะเพ่ิมคุณค่าไปสู่สงั คม เกดิ ประโยชนต์ อ่ สงั คม ใหม้ ากขึนกว่าเดิมในขันตอนใดบา้ ง ส่าหรบั การทา่ งานในครังต่อไป

~ 42 ~ 8. สื่อแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี น รายวิชาพืนฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชนั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) 2. ภาพการแข่งขนั กีฬาวอลเลยบ์ อล 3. แหลง่ การเรียนรทู้ ังภายในและภายนอกโรงเรยี น 9. การวัดและการประเมนิ ผล 1. ประเมนิ ความรู้ เรือ่ ง วอลเลย์บอล การเสริ ์ฟ (K) ด้วยแบบทดสอบ 2. ประเมนิ กระบวนการท่างานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมนิ 3. ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ด้านมวี นิ ัย มุ่งม่ันในการท่างาน (A) ดว้ ยแบบประเมนิ แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics) แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม รายการการ ระดับคณุ ภาพ ประเมนิ 4 3 21 กระบวนการ ท่างานกลุ่ม มีการกา่ หนดบทบาท มีการกา่ หนดบทบาท มกี ารกา่ หนดบทบาท ไม่มีการกา่ หนด สมาชิกชัดเจน และมีการ สมาชิกชดั เจน เฉพาะหัวหนา้ บทบาทสมาชกิ ชีแจงเปา้ หมายการทา่ งาน มีการชีแจงเปา้ หมาย ไมม่ ีการชีแจง และไม่มีการชแี จง มกี ารปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั อยา่ งชัดเจนและ เปา้ หมาย เป้าหมาย สมาชิก อยา่ งรว่ มมือร่วมใจพรอ้ มกบั ปฏิบตั งิ านรว่ มกนั อยา่ งชัดเจน ตา่ งคนตา่ งท่างาน การประเมินเป็นระยะ ๆ แต่ไม่มกี ารประเมิน ปฏบิ ัติงานรว่ มกนั เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทุกคน การประเมินผลคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ ตวั ชีวดั ที่ 4.1 ตงั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและการเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ย่ยี ม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไมผ่ ่าน (0) 4.1.1 ตงั ใจเรยี น ตงั ใจเรียน เอาใจใส่ ตงั ใจเรยี น เอาใจใส่ ตงั ใจเรยี น เอาใจใส่ ไมต่ ังใจเรยี น 4.1.2 เอาใจใส่ และมีความเพียร และมีความเพียร และมีความเพยี ร และมีความเพียรพยายามใน พยายามในการเรียนรู้ พยายามในการ พยายามในการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ เขา้ ร่วมกิจกรรมการ เรยี นรู้ เข้ารว่ ม เขา้ รว่ มกิจกรรมการ 4.1.3 สนใจเข้ารว่ ม เรยี นรู้ต่าง ๆเป็น กจิ กรรมการเรียนรู้ เรยี นร้ตู ่าง ๆ บางครงั กิจกรรมการเรยี นร้ตู ่าง ๆ ประจา่ ต่าง ๆ บ่อยครัง

~ 43 ~ ผลการพจิ ารณาแผนการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน ............................................................................................................................. ................................................................ ........................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................ ............................................................................................................................. .............................................................. อนุมัติ ปรบั ปรงุ ใหม่ ลงช่ือ..........................................................ผู้เสนอแผนฯ ลงช่ือ..........................................................ผูอ้ นุมตั ิ (นายเสกสรรค์ วะลัยใจ) (นางสาวเตยี งคา่ เตโช) ครู รบั เงินเดือนอันดับ คศ.1 ผู้อ่านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั พชิ ัย บันทกึ หลังการสอน 1.1 นกั เรยี นท่ีบรรลุตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ ......................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.............................................. 1.2 นักเรียนท่ีไมบ่ รรลตุ ามจุดประสงค์การเรียนรู้ ..................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.............................................. ได้แก.่ ...................................................................................................................... ..................................... ............................................................................................................................. ....................................... .................................................................................................................................................................... 1.3 พฤติกรรมการเรียน การร่วมกิจกรรมการเรยี นร้.ู ....................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................... ........................................................................................................ ........................................................... 1.4 แนวทางการปรบั ปรุง แกไ้ ข พฒั นา........................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... ผลที่เกดิ แก่ครผู ูส้ อน ปัญหา อปุ สรรคทีพ่ บ และแนวทางการปรับปรุงแกไ้ ข พัฒนา ............................................................................................................................. ........................................ .......................................................................................... ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ........................................................................................................................................... .......................... ลงช่ือ..........................................................ครูผู้สอน (นายเสกสรรค์ วะลัยใจ) ลงช่อื .........................................................ผตู้ รวจแผนฯ (นางสาวเตียงคา่ เตโช) ผู้อ่านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั พชิ ัย

~ 44 ~ แผนการจัดการเรียนรู้ 9 ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 เวลาเรยี น 20 ชวั่ โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา เวลาเรียน 1 ชั่วโมง หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 7 การออกกาลังกายโดยการเล่นกีฬา ภาคเรยี นท่ี 2 แผนการเรยี นรทู้ ่ี 9 เร่ืองการเลน่ ลกู สองมือลา่ ง สอนวนั ท่ี…………เดือน……………………..พ.ศ. …………… 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั  มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 3.1 เขา้ ใจ มีทักษะในการเคลือ่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกฬี า ตวั ชว้ี ัด พ 3.1 ป.6/3 เล่นกีฬาไทย กีฬาสากล ประเภทบุคคลและประเภททีมอย่างละ 1 ชนิด พ 3.1 ป.6/4 ใช้ทักษะกลไกเพ่อื ปรับปรุงเพ่ิมพูนความสามารถของตนและผู้อนื่ ในการเลน่ กีฬา มาตรฐาน พ 3.2 รักการออกกา่ ลงั กาย การเลน่ เกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัตเิ ป็นประจา่ อย่างสม่าเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มนี า่ ใจนักกฬี า มีจิตวญิ ญาณในการแขง่ ขนั และชน่ื ชมในสนุ ทรยี ภาพของการกีฬา ตวั ชว้ี ัด พ 3.2 ป.6/3 เลน่ กีฬาทต่ี นเองชน่ื ชอบและสามารถประเมนิ ทักษะการเล่นของตนเป็นประจา่ พ 3.2 ป.6/4 ปฏิบตั ติ ามกฎ กติกาตามชนิดกฬี าที่เลน่ โดยค่านึงถึงความปลอดภยั ของตนเองและผู้อนื่ พ 3.2 ป.6/5 จา่ แนกกลวิธกี ารรกุ การปอ้ งกนั และนา่ ไปใช้ในการเลน่ กีฬา พ 3.2 ป.6/6 เลน่ เกมและกฬี าด้วยความสามคั คแี ละมีนา่ ใจนักกีฬา 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกวิธกี ารเล่นลูกสองมือลา่ ง (K) 2. ปฏบิ ตั กิ ารฝึกเลน่ ลูกสองมอื ล่าง (P) 3. มคี วามมุ่งม่ันในฝกึ ปฏิบตั เิ ลน่ ลกู สองมือลา่ ง (A) 3. สาระการเรียนรู้ กฬี าประเภททีม • วอลเลยบ์ อล การเลน่ ลกู สองมือล่าง 4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

~ 45 ~ 5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 6. อัตลกั ษณข์ องเด็กแห่งมหานคร 1. ร้หู น้าที่ 2. มจี ิตสาธารณะ 7. การจดั กระบวนการเรยี นรู้ คาถามสาคัญ วิธีการจับมอื ในการเลน่ ลกู สองมือลา่ งรูปแบบใดเป็นท่ีนยิ มมากทส่ี ุด Step1 ขน้ั สังเกต รวบรวมข้อมูล (Gathering) 1. นกั เรยี นรว่ มกนั สนทนาแลกเปลี่ยนเรียนรเู้ ก่ยี วกับการเล่นวอลเลย์บอล โดยตอบค่าถาม ดังนี • นักเรยี นพอใจกับทักษะการเสิรฟ์ ในชัว่ โมงท่ผี ่านมาของตนเองหรือไม่ (พอใจ/ไมพ่ อใจ) • ทักษะการเสริ ์ฟรูปแบบใดทนี่ ักเรยี นสามารถปฏบิ ตั ิไดด้ ี (ตวั อยา่ งค่าตอบ การเสิร์ฟลูกมอื ลา่ ง) • ทกั ษะการเสริ ์ฟในรูปแบบใดที่นักเรยี นควรพัฒนา (ตวั อยา่ งคา่ ตอบ การเสริ ฟ์ ลูกมือบนด้านหน้า) • ชั่วโมงนจี ะเป็นการฝึกปฏบิ ัติการเล่นลกู สองมอื ลา่ ง หรือเรียกกนั วา่ ลูกอนั เดอร์ นักเรียนมคี วามพร้อมใน การฝกึ ปฏบิ ัติหรือไม่ (ตวั อย่างค่าตอบ มีความพรอ้ ม) • นักเรยี นคดิ ว่าการเล่นลูกสองมอื ลา่ งจะง่ายหรือยากกวา่ การเสิร์ฟ (ตัวอยา่ งค่าตอบ ง่ายกว่าการเสิร์ฟ) 2. นักเรียนศึกษาความรู้และรวบรวมข้อมลู เก่ียวกบั กีฬาวอลเลย์บอล การเลน่ ลูกสองมือจากแหลง่ การเรียนรู้ ตา่ ง ๆ เชน่ หนังสือเรยี น อนิ เทอร์เนต็ Step2 ขนั้ คดิ วิเคราะห์และสรปุ ความรู้ (Processing) 3. นกั เรยี นร่วมกนั วเิ คราะหแ์ ละแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับการเล่นลูกสองมือล่างหรอื อนั เดอร์ โดยตอบคา่ ถาม ดงั นี • การเลน่ ลกู มือล่าง มกี ารจับมือก่ลี กั ษณะ (3 ลกั ษณะ) • วิธซี ้อนมือ มีการจับมืออย่างไร (ใช้มือหนึ่งวางซ้อนทบั อีกมือหนงึ่ แลว้ ใหห้ ัวแม่มือชิดติดกนั ) • วธิ กี ารโอบมือ มีการจับมืออย่างไร (ใช้มอื ใดมือหนึง่ กา่ หมัด แล้วใชอ้ ีกมือหน่ึงโอบหมัด นิวหวั แม่มือทังสองชดิ ติดกนั ) • วธิ ีกา่ มือทังสองข้างชิดกนั มีการจบั มอื อย่างไร (ก่ามือทงั สองข้างแล้วน่ามาชิดกัน พยายามใหน้ ิวหัวแมม่ ือทงั สองขา้ งเสมอกัน • การยนื เตรียมพร้อมเพื่อเล่นลกู สองมือล่าง ควรยืนในลักษณะใด (ยนื แยกเท้าประมาณช่วงไหล่หรือกว้างกวา่ เล็กน้อย ปลายเทา้ ทังสองขา้ งเสมอกนั หรอื เท้าใดเท้าหนึ่ง อยู่ข้างหน้า) 4. นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยตอบค่าถามกระตนุ้ ความคดิ ดงั นี • วิธีการจบั มอื ในการเล่นลกู สองมอื ล่างรปู แบบใดเป็นท่ีนิยมมากทีส่ ดุ (วิธซี ้อนมอื )

~ 46 ~ Step3 ขัน้ ปฏิบัติและสรปุ ความรหู้ ลังการปฏิบัติ (Applying and Constructing the Knowledge) 5. นกั เรยี นอบอุน่ ร่างกายให้พร้อมส่าหรับการฝึกปฏิบตั ิ โดยการสังเกตและปฏิบัตติ ามผู้สอน 6. นักเรียนฝกึ ลกู สองมือลา่ งหรืออนั เดอร์แบบเดี่ยว โดยสังเกตจากการสาธติ ของผู้สอนและลงมอื ฝึกปฏิบตั ิ ซ่ึง จะมีผ้สู อนคอยตรวจสอบความถูกต้องและคอยใหค้ ่าแนะน่า 7. นักเรียนฝึกลูกสองมือล่างหรืออันเดอร์แบบเดี่ยวด้วยวิธีการตีกระทบผนัง โดยสงั เกตจากการสาธิตของผูส้ อน และลงมือฝึกปฏบิ ตั ิ ซึ่งจะมผี ู้สอนคอยตรวจสอบความถกู ต้องและคอยให้ค่าแนะนา่ 8. นกั เรียนจับคฝู่ กึ ลกู สองมือล่างหรืออนั เดอรก์ ับคู่ โดยสังเกตจากการสาธติ ของผ้สู อนและลงมือฝกึ ปฏิบัติ ซึ่ง จะมีผู้สอนคอยตรวจสอบความถกู ต้องและคอยให้ค่าแนะน่า 9. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 6-8 คน ฝึกลูกสองมือล่างหรืออันเดอรแ์ บบโต้แลว้ วิ่งไปต่อท้ายแถว โดยสงั เกต จากการสาธิตของผ้สู อนและลงมอื ฝึกปฏิบัติ ซึ่งจะมีผูส้ อนคอยตรวจสอบความถูกต้องและคอยใหค้ ่าแนะนา่ 10. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 6-8 คน ฝึกลูกสองมือลา่ งหรืออันเดอร์เปน็ วง โดยสังเกตจากการสาธติ ของ ผู้สอนและลงมือฝึกปฏบิ ัติ ซึง่ จะมผี สู้ อนคอยตรวจสอบความถูกต้องและคอยให้ค่าแนะน่า 11. นักเรียนรว่ มกนั สรุปสง่ิ ทเี่ ข้าใจเปน็ ความรรู้ ่วมกนั ดงั นี การเล่นกฬี าวอลเลย์บอล เป็นการสรา้ งเสริมรา่ งกายให้มสี ุขภาพท่ดี ีทังกายและใจ ซ่ึงผ้เู ล่นต้องมคี วาม สามคั คี มีน่าใจนักกฬี า ปฏิบัตติ ามกฎ กติกาอยา่ งเครง่ ครัด และประเมนิ ทกั ษะการเลน่ กีฬาของตนเองอย่างสม่าเสมอ เพ่ือน่าไปฝกึ ฝนพัฒนาศักยภาพใหเ้ ล่นกีฬาได้ดีและมคี วามปลอดภัย Step4 ขัน้ ส่ือสารและนาเสนอ (Applying the Communication Skill) 12. นกั เรียนน่าเสนอผลการฝกึ ลูกสองมือล่างหรืออันเดอร์ พร้อมบอกความรสู้ ึกและอุปสรรคในการปฏบิ ตั ิ 13. นกั เรยี นรว่ มกันอภปิ รายสรุปเกยี่ วกับวธิ กี ารท่างานให้เห็นการคิดเชิงระบบและวิธีการท่างานที่มีแบบแผน Step5 ข้นั ประเมินเพ่อื เพ่ิมคุณค่าบริการสงั คมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating) 14. นักเรยี นน่าความร้ทู ่ีไดร้ บั จากการเรียนเรอื่ งการฝึกลกู สองมือล่างหรืออันเดอร์ ไปฝึกปฏิบัตใิ ห้ชา่ นาญและ น่าไปแลกเปลี่ยนเรยี นรู้กับเพ่ือน สมาชกิ ในครอบครัว หรอื สมาชิกในชมุ ชนต่อไป 15.นักเรียนประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรสู้ ึกหลงั การเรยี นและหลังการท่ากจิ กรรม ในประเด็นต่อไปนี • ส่งิ ที่นักเรยี นได้เรยี นรู้ในวันนคี อื อะไร • นกั เรยี นมสี ่วนร่วมกจิ กรรมในกลมุ่ มากน้อยเพียงใด • เพ่ือนนักเรยี นในกลมุ่ มสี ว่ นร่วมกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพียงใด • นักเรียนพึงพอใจกับการเรยี นในวันนีหรอื ไม่ เพียงใด • นกั เรียนจะนา่ ความรู้ท่ีไดน้ ไี ปใชใ้ ห้เกิดประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครวั และสังคมท่ัวไปได้อย่างไร จากนันแลกเปล่ียนตรวจสอบขันตอนการทา่ งานทุกขันตอนวา่ จะเพม่ิ คุณคา่ ไปสู่สังคม เกิดประโยชน์ตอ่ สงั คมให้ มากขึนกวา่ เดิมในขนั ตอนใดบ้าง ส่าหรบั การท่างานในครงั ต่อไป 8. สอ่ื แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพืนฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชันประถมศึกษาปีท่ี 6 ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) 2. ภาพการแขง่ ขนั กฬี าวอลเลยบ์ อล 3. แหล่งการเรียนรทู้ งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น

~ 47 ~ 9. การวัดและการประเมินผล 1. ประเมินความรู้ เรือ่ ง วอลเลย์บอล การเล่นลูกสองมือลา่ ง (K) ด้วยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทา่ งานกล่มุ (P) ด้วยแบบประเมิน 3. ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ดา้ นมวี นิ ยั มงุ่ มัน่ ในการทา่ งาน (A) ดว้ ยแบบประเมนิ แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics) แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม รายการการ ระดับคุณภาพ ประเมนิ 4 3 21 กระบวนการ ทา่ งานกลุม่ มีการก่าหนดบทบาท มกี ารก่าหนดบทบาท มีการก่าหนดบทบาท ไมม่ ีการก่าหนด สมาชิกชดั เจน และมีการ สมาชิกชัดเจน เฉพาะหวั หน้า บทบาทสมาชกิ ชีแจงเปา้ หมายการท่างาน มีการชีแจงเป้าหมาย ไมม่ ีการชแี จง และไม่มีการชีแจง มกี ารปฏิบัตงิ านร่วมกัน อย่างชดั เจนและ เป้าหมาย เปา้ หมาย สมาชิก อย่างรว่ มมือรว่ มใจพร้อมกับ ปฏบิ ตั ิงานร่วมกัน อย่างชดั เจน ต่างคนต่างทา่ งาน การประเมินเปน็ ระยะ ๆ แตไ่ ม่มีการประเมนิ ปฏิบตั งิ านรว่ มกนั เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทกุ คน การประเมนิ ผลคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ ตวั ชวี ดั ท่ี 4.1 ตังใจ เพียรพยายามในการเรียนและการเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ย่ียม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไมผ่ า่ น (0) 4.1.1 ตังใจเรยี น ตงั ใจเรียน เอาใจใส่ ตังใจเรยี น เอาใจใส่ ตังใจเรยี น เอาใจใส่ ไม่ตังใจเรียน 4.1.2 เอาใจใส่ และมีความเพยี ร และมีความเพียร และมคี วามเพยี ร และมีความเพยี รพยายามใน พยายามในการเรยี นรู้ พยายามในการ พยายามในการเรียนรู้ การเรยี นรู้ เข้าร่วมกิจกรรมการ เรยี นรู้ เข้าร่วม เข้าร่วมกิจกรรมการ 4.1.3 สนใจเข้ารว่ ม เรยี นรตู้ ่าง ๆเป็น กจิ กรรมการเรียนรู้ เรียนรู้ต่าง ๆ บางครงั กิจกรรมการเรยี นรูต้ า่ ง ๆ ประจา่ ต่าง ๆ บอ่ ยครงั

~ 48 ~ ผลการพิจารณาแผนการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน ............................................................................................................................. ................................................................ ........................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................ ............................................................................................................................. .............................................................. อนุมัติ ปรบั ปรงุ ใหม่ ลงชื่อ..........................................................ผู้เสนอแผนฯ ลงช่ือ..........................................................ผูอ้ นุมตั ิ (นายเสกสรรค์ วะลัยใจ) (นางสาวเตยี งคา่ เตโช) ครู รับเงินเดือนอันดับ คศ.1 ผู้อ่านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั พชิ ัย บันทึกหลังการสอน 1.1 นกั เรยี นท่ีบรรลุตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ ......................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.............................................. 1.2 นกั เรียนท่ีไมบ่ รรลตุ ามจุดประสงค์การเรียนรู้ ..................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.............................................. ได้แก.่ ...................................................................................................................... ..................................... ............................................................................................................................. ....................................... .................................................................................................................................................................... 1.3 พฤติกรรมการเรียน การร่วมกิจกรรมการเรยี นร้.ู ....................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................... ........................................................................................................ ........................................................... 1.4 แนวทางการปรบั ปรุง แกไ้ ข พฒั นา........................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... ผลทเี่ กิดแก่ครผู ูส้ อน ปัญหา อปุ สรรคทีพ่ บ และแนวทางการปรับปรุงแกไ้ ข พัฒนา ............................................................................................................................. ........................................ .......................................................................................... ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ........................................................................................................................................... .......................... ลงช่ือ..........................................................ครูผู้สอน (นายเสกสรรค์ วะลัยใจ) ลงช่อื .........................................................ผตู้ รวจแผนฯ (นางสาวเตียงคา่ เตโช) ผู้อ่านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั พชิ ัย

~ 49 ~ แผนการจัดการเรยี นรู้ 10 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 เวลาเรียน 20 ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษา เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 การออกกาลงั กายโดยการเลน่ กีฬา ภาคเรียนที่ 2 แผนการเรยี นรู้ท่ี 10 เรื่องการเลน่ ลกู มอื บน สอนวันท่ี…………เดือน……………………..พ.ศ. …………… 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ัด  มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลือ่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา ตวั ชี้วดั พ 3.1 ป.6/3 เลน่ กฬี าไทย กีฬาสากล ประเภทบคุ คลและประเภททีมอยา่ งละ 1 ชนิด พ 3.1 ป.6/4 ใชท้ ักษะกลไกเพื่อปรับปรุงเพ่ิมพนู ความสามารถของตนและผูอ้ ื่นในการเลน่ กีฬา มาตรฐาน พ 3.2 รกั การออกก่าลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กีฬา ปฏบิ ัตเิ ปน็ ประจา่ อยา่ งสม่าเสมอ มวี ินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มนี า่ ใจนกั กฬี า มจี ิตวญิ ญาณในการแข่งขนั และชนื่ ชมในสนุ ทรยี ภาพของการกีฬา ตัวช้วี ัด พ 3.2 ป.6/3 เลน่ กฬี าที่ตนเองช่ืนชอบและสามารถประเมินทักษะการเล่นของตนเป็นประจ่า พ 3.2 ป.6/4 ปฏิบตั ิตามกฎ กติกาตามชนดิ กฬี าท่ีเล่น โดยค่านึงถึงความปลอดภัยของตนเองและผู้อน่ื พ 3.2 ป.6/5 จา่ แนกกลวธิ ีการรกุ การป้องกนั และนา่ ไปใช้ในการเลน่ กีฬา พ 3.2 ป.6/6 เลน่ เกมและกีฬาดว้ ยความสามคั คีและมนี ่าใจนักกีฬา 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกวิธกี ารเลน่ ลกู มอื บน (K) 2. ปฏิบัตกิ ารฝึกเล่นลูกมือบน (P) 3. มีความมุง่ ม่นั ในฝึกปฏบิ ัติเล่นลกู มอื บน (A) 3. สาระการเรยี นรู้ กฬี าประเภททมี • วอลเลย์บอล การเลน่ ลูกมือบน 4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

~ 50 ~ 5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 6. อัตลกั ษณข์ องเด็กแห่งมหานคร 1. รู้หน้าท่ี 2. มีจติ สาธารณะ 7. การจัดกระบวนการเรียนรู้ คาถามสาคญั การแข่งขันวอลเลยบ์ อลนิยมใชก้ ารเล่นลกู มอื บนหรือเซตในสถานการณ์ใด Step1 ข้ันสงั เกต รวบรวมข้อมลู (Gathering) 1. นกั เรียนรว่ มกนั สนทนาแลกเปล่ียนเรยี นรู้เกีย่ วกับการเลน่ ลกู สองมือลา่ งหรอื อันเดอร์ โดยตอบค่าถาม ดังนี • นักเรียนพอใจกับทกั ษะการเล่นลกู สองมือล่างหรืออันเดอรใ์ นชัว่ โมงทีผ่ ่านมาของตนเองหรือไม่ (พอใจ/ไมพ่ อใจ) • การฝกึ ลูกสองมือลา่ งหรอื อนั เดอร์แบบใดท่ีตนเองสามารถปฏิบัตไิ ดด้ ี (ตัวอย่างค่าตอบ การฝกึ แบบเด่ียว) • การฝึกลกู สองมือล่างหรืออนั เดอร์แบบวง สิง่ ใดท่มี คี วามสา่ คัญอยา่ งมาก (ตัวอยา่ งค่าตอบ การส่อื สารกันในวง) • ชัว่ โมงนจี ะเปน็ การฝึกปฏบิ ัติการเล่นลกู มือบน หรือเป็นท่ีนยิ มเรียกกันวา่ อะไร (การเซต) 2. นกั เรียนศกึ ษาความรู้และรวบรวมขอ้ มูลเกี่ยวกบั กีฬาวอลเลย์บอล การเลน่ ลกู มือบนจากแหล่งการเรยี นรู้ ต่าง ๆ เช่น หนงั สือเรียน อนิ เทอรเ์ นต็ Step2 ขนั้ คิดวเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความรู้ (Processing) 3. นกั เรยี นร่วมกันวิเคราะหแ์ ละแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั การเลน่ ลูกมือบนหรือเซต โดยตอบคา่ ถาม ดงั นี • การเล่นลกู มือบนหรอื เซต ต้องใชก้ ี่มือในการเล่น (ไดท้ ังมือเดียวและสองมือ) • หลักการเซตในขันที่ 1 ปฏิบตั ิอย่างไร (ยกมือขนึ กางนวิ และกางศอกออก) • หลกั การเซตในขนั ที่ 2 ปฏิบัติอย่างไร (วางมือเพื่อเซต) • หลักการเซตในขันที่ 3 ปฏิบัติอยา่ งไร (ยนื ยอ่ เข่า เปิดส้นเทา้ เล็กน้อย) • หลักการเซตในขนั ท่ี 4 ปฏบิ ัติอย่างไร (การส่งแรงสปริงนวิ มือ เหยยี ดแขนเซตลกู วอลเลย์บอลออกไป) 4. นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยตอบคา่ ถามกระตุ้นความคิด ดังนี • การแข่งขันวอลเลย์บอลนิยมใชก้ ารเล่นลกู มือบนหรือเซตในสถานการณ์ใด (ตัวอยา่ งค่าตอบ ตังลูกให้เพ่ือนในทีมตบเพอื่ ท่าคะแนน)

~ 51 ~ Step3 ขัน้ ปฏิบัติและสรปุ ความร้หู ลังการปฏบิ ัติ (Applying and Constructing the Knowledge) 5. นักเรียนอบอุ่นรา่ งกายใหพ้ ร้อมสา่ หรบั การฝกึ ปฏิบตั ิ โดยการสังเกตและปฏิบัติตามผู้สอน 6. นกั เรียนฝึกลกู มือบนหรืออันเดอร์แบบเดี่ยว โดยสงั เกตจากการสาธิตของผู้สอนและลงมือฝึกปฏบิ ตั ิ ซึง่ จะมี ผูส้ อนคอยตรวจสอบความถูกตอ้ งและคอยใหค้ า่ แนะนา่ 7. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม จบั คูฝ่ ึกลกู มือบนหรอื อันเดอร์กบั คู่ โดยสงั เกตจากการสาธิตของผ้สู อนและลงมือฝึกปฏิบตั ิ ซ่ึงจะมผี ้สู อนคอยตรวจสอบความถูกต้องและคอยให้คา่ แนะนา่ 8. นกั เรียนรว่ มกนั สรุปส่ิงที่เข้าใจเปน็ ความรู้รว่ มกัน ดงั นี การเล่นกฬี าวอลเลย์บอล เป็นการสรา้ งเสรมิ รา่ งกายให้มสี ุขภาพที่ดีทังกายและใจ ซ่ึงผู้เล่นต้องมีความ สามัคคี มีน่าใจนักกฬี า ปฏิบัติตามกฎ กติกาอย่างเครง่ ครัด และประเมนิ ทกั ษะการเล่นกฬี าของตนเองอย่างสม่าเสมอ เพ่อื น่าไปฝึกฝนพัฒนาศักยภาพใหเ้ ล่นกีฬาได้ดีและมคี วามปลอดภัย Step4 ขั้นสอื่ สารและนาเสนอ (Applying the Communication Skill) 9. นักเรียนนา่ เสนอผลการฝึกลกู มือบนหรืออนั เดอร์ พร้อมบอกความรสู้ กึ และอปุ สรรคในการปฏบิ ตั ิ 10. นักเรียนร่วมกนั อภปิ รายสรุปเกย่ี วกับวธิ ีการท่างานให้เหน็ การคิดเชิงระบบและวิธีการทา่ งานท่ีมีแบบแผน Step5 ขนั้ ประเมนิ เพ่อื เพ่ิมคุณค่าบรกิ ารสงั คมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating) 11. นักเรียนนา่ ความรูท้ ่ีไดร้ ับจากการเรยี นเรื่องการฝึกลูกมอื บนหรืออนั เดอร์ ไปฝึกปฏบิ ตั ใิ หช้ า่ นาญและนา่ ไป แลกเปลี่ยนเรยี นรูก้ บั เพ่ือน สมาชิกในครอบครัว หรือสมาชิกในชมุ ชนต่อไป 12.นกั เรยี นประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรสู้ ึกหลังการเรยี นและหลงั การท่ากจิ กรรม ในประเด็นต่อไปนี • ส่งิ ทีน่ ักเรยี นได้เรียนรูใ้ นวนั นคี อื อะไร • นกั เรยี นมสี ่วนร่วมกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพียงใด • เพือ่ นนักเรียนในกลมุ่ มสี ่วนรว่ มกจิ กรรมในกลมุ่ มากน้อยเพียงใด • นกั เรียนพึงพอใจกบั การเรยี นในวันนีหรอื ไม่ เพยี งใด • นกั เรียนจะนา่ ความรู้ที่ได้นีไปใชใ้ ห้เกิดประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทวั่ ไปได้อยา่ งไร จากนนั แลกเปล่ยี นตรวจสอบขนั ตอนการท่างานทุกขนั ตอนวา่ จะเพิม่ คุณค่าไปสูส่ งั คม เกิดประโยชนต์ อ่ สงั คมให้ มากขนึ กว่าเดิมในขนั ตอนใดบ้าง ส่าหรบั การท่างานในครงั ต่อไป 8. สอ่ื แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียน รายวิชาพืนฐาน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ชันประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ของสถาบันพัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) 2. ภาพการแขง่ ขันกฬี าวอลเลย์บอล 3. แหลง่ การเรยี นรูท้ ังภายในและภายนอกโรงเรียน 9. การวดั และการประเมินผล 1. ประเมินความรู้ เรือ่ ง วอลเลย์บอล การเลน่ ลกู มือบน (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการท่างานกลุ่ม (P) ดว้ ยแบบประเมิน 3. ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ด้านมีวินยั มุ่งมั่นในการท่างาน (A) ด้วยแบบประเมิน

~ 52 ~ แบบประเมินตามสภาพจรงิ (Rubrics) แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม รายการการ ระดับคุณภาพ ประเมนิ 4 3 21 กระบวนการ ท่างานกลุม่ มกี ารก่าหนดบทบาท มีการกา่ หนดบทบาท มีการก่าหนดบทบาท ไมม่ ีการกา่ หนด สมาชกิ ชัดเจน และมีการ สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหวั หน้า บทบาทสมาชิก ชีแจงเป้าหมายการท่างาน มีการชแี จงเปา้ หมาย ไมม่ ีการชีแจง และไม่มีการชีแจง มกี ารปฏิบัตงิ านร่วมกนั อย่างชดั เจนและ เปา้ หมาย เปา้ หมาย สมาชกิ อยา่ งรว่ มมือรว่ มใจพร้อมกบั ปฏิบตั งิ านร่วมกนั อยา่ งชดั เจน ตา่ งคนตา่ งท่างาน การประเมนิ เป็นระยะ ๆ แตไ่ ม่มีการประเมนิ ปฏบิ ตั งิ านร่วมกนั เปน็ ระยะ ๆ ไม่ครบทุกคน การประเมินผลคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ ตัวชวี ัดท่ี 4.1 ตงั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและการเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดเี ยี่ยม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไมผ่ า่ น (0) 4.1.1 ตงั ใจเรยี น ตงั ใจเรียน เอาใจใส่ ตังใจเรยี น เอาใจใส่ ตังใจเรยี น เอาใจใส่ ไม่ตงั ใจเรียน 4.1.2 เอาใจใส่ และมีความเพียร และมีความเพยี ร และมีความเพยี ร และมคี วามเพียรพยายามใน พยายามในการเรยี นรู้ พยายามในการ พยายามในการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ เข้ารว่ มกิจกรรมการ เรียนรู้ เข้ารว่ ม เข้าร่วมกิจกรรมการ 4.1.3 สนใจเขา้ ร่วม เรียนรู้ต่าง ๆเป็น กจิ กรรมการเรียนรู้ เรียนรู้ตา่ ง ๆ บางครัง กิจกรรมการเรยี นร้ตู ่าง ๆ ประจ่า ต่าง ๆ บ่อยครงั

~ 53 ~ ผลการพิจารณาแผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน ............................................................................................................................. ................................................................ ........................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................ ............................................................................................................................. .............................................................. อนมุ ัติ ปรับปรุงใหม่ ลงช่ือ..........................................................ผเู้ สนอแผนฯ ลงชอื่ ..........................................................ผู้อนมุ ัติ (นายเสกสรรค์ วะลัยใจ) (นางสาวเตียงค่า เตโช) ครู รับเงนิ เดอื นอันดบั คศ.1 ผอู้ า่ นวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดพชิ ยั บนั ทกึ หลังการสอน 1.1 นกั เรยี นทบ่ี รรลตุ ามจุดประสงค์การเรยี นรู้ ......................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.............................................. 1.2 นกั เรียนท่ไี มบ่ รรลุตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ..................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.............................................. ได้แก่....................................................................................................................... ..................................... ............................................................................................................................. ....................................... .................................................................................................................................................................... 1.3 พฤติกรรมการเรยี น การร่วมกจิ กรรมการเรยี นร้.ู ....................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................... ........................................................................................... ........................................................................ 1.4 แนวทางการปรบั ปรุง แกไ้ ข พัฒนา........................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... ผลทเ่ี กดิ แก่ครูผูส้ อน ปัญหา อปุ สรรคทพี่ บ และแนวทางการปรบั ปรงุ แก้ไข พัฒนา ............................................................................................................................. ........................................ ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................... ...................................... ลงช่ือ..........................................................ครผู ูส้ อน (นายเสกสรรค์ วะลยั ใจ) ลงช่ือ.........................................................ผ้ตู รวจแผนฯ (นางสาวเตยี งคา่ เตโช) ผู้อา่ นวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวัดพิชัย

~ 54 ~ แผนการจดั การเรยี นรู้ 11 ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 เวลาเรียน 20 ชวั่ โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษา เวลาเรียน 1 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 7 การออกกาลงั กายโดยการเลน่ กฬี า ภาคเรียนท่ี 2 แผนการเรยี นรทู้ ี่ 11 เรอ่ื งการตบลกู วอลเลย์บอล สอนวนั ที่…………เดอื น……………………..พ.ศ. …………… 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั  มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลอื่ นไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกฬี า ตัวช้ีวดั พ 3.1 ป.6/3 เลน่ กฬี าไทย กีฬาสากล ประเภทบคุ คลและประเภททีมอย่างละ 1 ชนิด พ 3.1 ป.6/4 ใช้ทักษะกลไกเพือ่ ปรับปรุงเพ่ิมพูนความสามารถของตนและผู้อนื่ ในการเลน่ กีฬา มาตรฐาน พ 3.2 รกั การออกก่าลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กีฬา ปฏิบัตเิ ป็นประจ่าอย่างสม่าเสมอ มีวินัย เคารพสทิ ธิ กฎ กติกา มนี า่ ใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และชืน่ ชมในสนุ ทรียภาพของการกีฬา ตัวชีว้ ดั พ 3.2 ป.6/3 เล่นกฬี าทีต่ นเองชนื่ ชอบและสามารถประเมนิ ทักษะการเล่นของตนเป็นประจา่ พ 3.2 ป.6/4 ปฏบิ ัติตามกฎ กติกาตามชนิดกีฬาที่เล่น โดยคา่ นึงถึงความปลอดภัยของตนเองและผู้อนื่ พ 3.2 ป.6/5 จา่ แนกกลวิธีการรกุ การปอ้ งกัน และนา่ ไปใชใ้ นการเลน่ กีฬา พ 3.2 ป.6/6 เลน่ เกมและกฬี าด้วยความสามคั คแี ละมีน่าใจนักกีฬา 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกวิธกี ารตบลกู วอลเลย์บอล (K) 2. ปฏิบัตกิ ารฝึกตบลูกวอลเลยบ์ อล (P) 3. มคี วามมุ่งมน่ั ในการฝึกปฏบิ ัติตบลูกวอลเลยบ์ อล (A) 3. สาระการเรยี นรู้ กฬี าประเภททมี • วอลเลยบ์ อล การตบลกู วอลเลยบ์ อล 4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

~ 55 ~ 5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 6. อตั ลักษณ์ของเด็กแห่งมหานคร 1. รหู้ นา้ ท่ี 2. มจี ิตสาธารณะ 7. การจดั กระบวนการเรยี นรู้ คาถามสาคัญ หากนักเรียนเปน็ นักกีฬาที่ตวั เลก็ ควรพัฒนาในเร่ืองใดเพ่ือให้การตบลกู วอลเลยบ์ อลมี ประสทิ ธิภาพ Step1 ขนั้ สังเกต รวบรวมข้อมูล (Gathering) 1. นกั เรยี นสังเกตภาพการตบลูกวอลเลยบ์ อลและรว่ มกันสนทนาแลกเปล่ยี นเรียนรู้ โดยตอบค่าถาม ดังนี ทีม่ า : http://sport.trueid.net  นักกีฬาวอลเลย์บอลในภาพก่าลังท่าส่ิงใด (ตบลูกวอลเลยบ์ อล)  เป้าหมายของการตบลกู วอลเลยบ์ อลคอื อะไร (การทา่ คะแนน)  นักเรียนคิดว่าสว่ นสงู ของนักกีฬาทา่ ใหเ้ กิดความไดเ้ ปรยี บในการตบหรือไม่ (ตัวอยา่ งค่าตอบ ทา่ ให้เกิดความไดเ้ ปรียบ)  ในขณะทมี รุกท่าการตบ ทีมรับจะทา่ สง่ิ ใด (ตัวอยา่ งค่าตอบ ท่าการบล็อก)  ในการแข่งขนั จะนยิ มท่าการตบทา่ คะแนนบริเวณใดของสนาม (ตัวอย่างค่าตอบ หวั เสา ตรงกลางสนาม) 2. นกั เรยี นศึกษาความรู้และรวบรวมข้อมลู เกีย่ วกับกีฬาวอลเลยบ์ อล การตบลูกวอลเลย์บอล จากแหลง่ การเรียนรู้ ตา่ ง ๆ เชน่ หนงั สอื เรียน อินเทอร์เนต็

~ 56 ~ Step2 ขัน้ คิดวิเคราะหแ์ ละสรุปความรู้ (Processing) 3. นกั เรียนร่วมกนั วเิ คราะหแ์ ละแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับการตบลูกวอลเลยบ์ อล โดยตอบคา่ ถาม ดังนี • ขนั ตอนในการฝึกการตบลกู วอลเลยบ์ อลประกอบไปดว้ ยกี่ขนั ตอน (3 ขนั ตอน) • ขนั ตอนท่ี 1 ปฏิบัติอยา่ งไร (ว่ิงเข้าหาจุดทล่ี กู วอลเลยบ์ อลจะตก งอเขา่ เล็กนอ้ ย โน้มตัวไปขา้ งหน้า กระโดดเหวีย่ งแขนไปด้านหลัง) • ขนั ตอนท่ี 2 ปฏบิ ัตอิ ยา่ งไร (แอน่ ล่าตัวไปข้างหลงั เหยียดแขนตบลกู วอลเลยบ์ อลด้วยฝ่ามือ แล้วหกั ข้อมือลง) • ขันตอนที่ 3 ปฏิบัตอิ ย่างไร (ลงสูพ่ ืนดว้ ยปลายเท้าทังสองขา้ งพร้อมงอเข่าพบั ตวั เลก็ น้อย เพือ่ ช่วยในการทรงตวั เตรยี มพร้อมในการรับ) • ในการตบลูกวอลเลยบ์ อลหากตบลูกโดยไม่หกั ข้อมอื ลงจะเกิดอะไรขึน (ตัวอย่างค่าตอบ ท่าให้ลูกออกนอกสนามซึ่งจะเสยี คะแนน) 4. นกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็น โดยตอบค่าถามกระตนุ้ ความคิด ดงั นี • หากนกั เรียนเป็นนักกีฬาทีต่ วั เล็กควรพัฒนาในเรื่องใดเพื่อใหก้ ารตบลูกวอลเลย์บอลมปี ระสิทธิภาพ (ตัวอยา่ งค่าตอบ การกระโดดใหส้ งู และความแขง็ แรงของกลา้ มเนือ) Step3 ขน้ั ปฏิบัติและสรุปความร้หู ลังการปฏิบตั ิ (Applying and Constructing the Knowledge) 5. นักเรยี นอบอุ่นรา่ งกายให้พร้อมส่าหรับการฝึกปฏิบัติ โดยการสงั เกตและปฏิบัติตามผู้สอน 6. นกั เรียนแบ่งกลุ่มฝกึ การตบลกู วอลเลย์บอลแบบการกระโดดตบลกู ด้วยมอื เปลา่ โดยสงั เกตจากการสาธิตของ ผสู้ อนและลงมือฝึกปฏิบตั ิ ซง่ึ จะมีผู้สอนคอยตรวจสอบความถกู ต้องและคอยใหค้ ่าแนะน่า 7. นักเรียนจับค่ฝู ึกการตบลูกวอลเลย์บอลแบบการกระโดดตบลกู ดว้ ยการโยนลูกจากคู่ โดยสงั เกตจากการ สาธิตของผู้สอนและลงมือฝกึ ปฏิบัติ ซ่งึ จะมีผู้สอนคอยตรวจสอบความถูกต้องและคอยใหค้ า่ แนะนา่ 8. นกั เรยี นรว่ มกันสรปุ สง่ิ ที่เขา้ ใจเป็นความรู้รว่ มกนั ดงั นี การเลน่ กีฬาวอลเลย์บอล เป็นการสรา้ งเสริมร่างกายใหม้ ีสุขภาพทด่ี ีทังกายและใจ ซึ่งผูเ้ ลน่ ตอ้ งมคี วาม สามคั คี มีนา่ ใจนกั กฬี า ปฏบิ ัตติ ามกฎ กติกาอยา่ งเครง่ ครัด และประเมินทักษะการเล่นกฬี าของตนเองอย่างสม่าเสมอ เพอื่ นา่ ไปฝกึ ฝนพัฒนาศักยภาพให้เล่นกีฬาได้ดแี ละมคี วามปลอดภัย Step4 ข้นั ส่ือสารและนาเสนอ (Applying the Communication Skill) 9. นกั เรียนน่าเสนอผลการฝึกการตบลูกวอลเลย์บอล พร้อมบอกความร้สู ึกและอุปสรรคในการปฏบิ ตั ิ 10. นักเรยี นร่วมกนั อภิปรายสรุปเกี่ยวกับวิธีการท่างานใหเ้ หน็ การคิดเชิงระบบและวธิ ีการทา่ งานทมี่ ีแบบแผน Step5 ข้ันประเมนิ เพอ่ื เพ่ิมคุณคา่ บรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating) 11. นักเรียนนา่ ความรทู้ ่ีได้รับจากการเรียนเรื่องการฝกึ ลูกมือบนหรอื อนั เดอร์ ไปฝึกปฏบิ ัติให้ช่านาญและนา่ ไป แลกเปลย่ี นเรียนรกู้ ับเพือ่ น สมาชกิ ในครอบครวั หรอื สมาชิกในชุมชนตอ่ ไป 12.นกั เรียนประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรสู้ ึกหลงั การเรียนและหลงั การท่ากิจกรรม ในประเด็นต่อไปนี • ส่งิ ทน่ี กั เรียนได้เรียนรูใ้ นวันนคี อื อะไร • นักเรยี นมีสว่ นร่วมกจิ กรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพียงใด • เพ่ือนนักเรยี นในกลมุ่ มสี ว่ นรว่ มกจิ กรรมในกล่มุ มากน้อยเพียงใด • นักเรยี นพงึ พอใจกับการเรียนในวนั นหี รอื ไม่ เพียงใด

~ 57 ~ • นกั เรียนจะน่าความรทู้ ี่ได้นีไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครวั และสังคมทั่วไปได้อย่างไร จากนันแลกเปลย่ี นตรวจสอบขนั ตอนการทา่ งานทุกขันตอนว่าจะเพม่ิ คุณค่าไปสู่สังคม เกิดประโยชนต์ อ่ สังคมให้ มากขึนกวา่ เดิมในขนั ตอนใดบ้าง สา่ หรบั การทา่ งานในครังต่อไป 8. สื่อแหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสือเรยี น รายวชิ าพนื ฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชันประถมศึกษาปที ่ี 6 ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.) 2. ภาพการตบลกู วอลเลยบ์ อล 3. แหลง่ การเรยี นรู้ทังภายในและภายนอกโรงเรียน 9. การวดั และการประเมนิ ผล 1. ประเมินความรู้ เร่ือง วอลเลย์บอล การตบลกู วอลเลยบ์ อล (K) ด้วยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทา่ งานกลุ่ม (P) ดว้ ยแบบประเมนิ 3. ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ด้านมวี นิ ยั มุง่ ม่ันในการทา่ งาน (A) ดว้ ยแบบประเมนิ แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics) แบบประเมินกระบวนการทางานกลุ่ม รายการการ ระดบั คุณภาพ ประเมิน 4 3 21 กระบวนการ ท่างานกลมุ่ มีการกา่ หนดบทบาท มกี ารก่าหนดบทบาท มกี ารก่าหนดบทบาท ไม่มีการกา่ หนด สมาชกิ ชัดเจน และมีการ สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หน้า บทบาทสมาชกิ ชีแจงเปา้ หมายการทา่ งาน มกี ารชแี จงเป้าหมาย ไม่มีการชีแจง และไม่มกี ารชแี จง มกี ารปฏบิ ตั ิงานรว่ มกัน อยา่ งชดั เจนและ เปา้ หมาย เปา้ หมาย สมาชิก อยา่ งรว่ มมือร่วมใจพรอ้ มกับ ปฏิบตั งิ านร่วมกัน อย่างชัดเจน ตา่ งคนต่างท่างาน การประเมินเปน็ ระยะ ๆ แต่ไม่มกี ารประเมนิ ปฏิบัตงิ านร่วมกนั เปน็ ระยะ ๆ ไมค่ รบทุกคน การประเมนิ ผลคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ ตวั ชวี ดั ท่ี 4.1 ตังใจ เพียรพยายามในการเรยี นและการเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ พฤติกรรมบ่งชี้ ดเี ยย่ี ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไม่ผ่าน (0) 4.1.1 ตงั ใจเรียน ตงั ใจเรยี น เอาใจใส่ ตงั ใจเรียน เอาใจใส่ ตังใจเรียน เอาใจใส่ ไม่ตังใจเรียน 4.1.2 เอาใจใส่ และมีความเพียร และมีความเพยี ร และมีความเพียร และมคี วามเพียรพยายามใน พยายามในการเรยี นรู้ พยายามในการ พยายามในการเรียนรู้ การเรียนรู้ เขา้ รว่ มกิจกรรมการ เรียนรู้ เขา้ ร่วม เข้าร่วมกิจกรรมการ 4.1.3 สนใจเขา้ ร่วม เรียนร้ตู ่าง ๆเป็น กจิ กรรมการเรียนรู้ เรยี นร้ตู า่ ง ๆ บางครงั กิจกรรมการเรยี นรตู้ ่าง ๆ ประจา่ ต่าง ๆ บ่อยครงั

~ 58 ~ ผลการพจิ ารณาแผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน ............................................................................................................................. ................................................................ ........................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................ ............................................................................................................................. .............................................................. อนุมัติ ปรบั ปรุงใหม่ ลงชือ่ ..........................................................ผูเ้ สนอแผนฯ ลงชอ่ื ..........................................................ผอู้ นมุ ัติ (นายเสกสรรค์ วะลัยใจ) (นางสาวเตยี งคา่ เตโช) ครู รับเงินเดือนอนั ดับ คศ.1 ผู้อา่ นวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดพชิ ยั บนั ทึกหลังการสอน 1.1 นักเรยี นทีบ่ รรลุตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ ......................คน คดิ เป็นร้อยละ.............................................. 1.2 นักเรียนทีไ่ มบ่ รรลุตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ ..................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.............................................. ไดแ้ ก่....................................................................................................................... ..................................... ............................................................................................................................. ....................................... .................................................................................................................................................................... 1.3 พฤติกรรมการเรียน การร่วมกิจกรรมการเรยี นร.ู้ ....................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................... ........................................................................................................ ........................................................... 1.4 แนวทางการปรับปรุง แกไ้ ข พฒั นา........................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... ผลทีเ่ กดิ แก่ครูผ้สู อน ปัญหา อปุ สรรคที่พบ และแนวทางการปรับปรงุ แก้ไข พัฒนา .............................................................................................................................. ....................................... ........................................................................................... .......................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................................ ......................... ลงช่อื ..........................................................ครผู สู้ อน (นายเสกสรรค์ วะลัยใจ) ลงช่อื .........................................................ผู้ตรวจแผนฯ (นางสาวเตียงคา่ เตโช) ผู้อา่ นวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั พิชัย

~ 59 ~ แผนการจดั การเรยี นรู้ 12 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 เวลาเรยี น 20 ชั่วโมง กลุม่ สาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 7 การออกกาลงั กายโดยการเล่นกีฬา ภาคเรียนท่ี 2 แผนการเรยี นรู้ที่ 12 เรอ่ื งการแขง่ กีฬาวอลเลย์บอล สอนวันที่…………เดอื น……………………..พ.ศ. …………… 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ัด  มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคล่ือนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา ตวั ช้วี ดั พ 3.1 ป.6/3 เล่นกฬี าไทย กีฬาสากล ประเภทบุคคลและประเภททีมอยา่ งละ 1 ชนดิ พ 3.1 ป.6/4 ใชท้ ักษะกลไกเพื่อปรบั ปรุงเพิ่มพนู ความสามารถของตนและผู้อน่ื ในการเลน่ กีฬา มาตรฐาน พ 3.2 รกั การออกก่าลงั กาย การเล่นเกม และการเลน่ กีฬา ปฏิบัตเิ ปน็ ประจา่ อยา่ งสม่าเสมอ มีวินยั เคารพสทิ ธิ กฎ กติกา มนี า่ ใจนกั กฬี า มจี ิตวญิ ญาณในการแข่งขัน และช่ืนชมในสุนทรยี ภาพของการกฬี า ตัวชว้ี ดั พ 3.2 ป.6/3 เลน่ กฬี าทีต่ นเองช่ืนชอบและสามารถประเมินทักษะการเล่นของตนเป็นประจ่า พ 3.2 ป.6/4 ปฏิบัติตามกฎ กติกาตามชนดิ กฬี าท่ีเล่น โดยคา่ นึงถึงความปลอดภัยของตนเองและผู้อน่ื พ 3.2 ป.6/5 จา่ แนกกลวธิ ีการรุก การปอ้ งกัน และนา่ ไปใชใ้ นการเล่นกีฬา พ 3.2 ป.6/6 เล่นเกมและกฬี าด้วยความสามคั คีและมีน่าใจนกั กีฬา 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายหลักการเล่นเป็นทีม (K) 2. ปฏิบัตกิ ารแขง่ ขันกีฬาวอลเลย์บอล (P) 3. มีความมงุ่ มนั่ ในการแขง่ ขันกีฬาวอลเลยบ์ อล (A) 3. สาระการเรียนรู้ กีฬาประเภททีม • วอลเลยบ์ อล การแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอล 4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

~ 60 ~ 5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 6. อัตลกั ษณข์ องเดก็ แห่งมหานคร 1. รูห้ น้าที่ 2. มจี ติ สาธารณะ 7. การจัดกระบวนการเรียนรู้ คาถามสาคัญ การเล่นเกมรบั มหี ลกั ในการปฏบิ ัติอยา่ งไร Step1 ขนั้ สงั เกต รวบรวมข้อมูล (Gathering) 1. นักเรยี นชมวดิ โี อไฮไลท์การแขง่ ขันวอลเลย์บอล และร่วมกันสนทนาแลกเปลย่ี นเรียนรู้ โดยตอบค่าถาม ดังนี  ในการแข่งขันนยิ มใช้การเสริ ์ฟด้วยวธิ ใี ด (ตัวอย่างค่าตอบ การเสริ ฟ์ ลกู มือบนด้านหน้า)  ผเู้ ลน่ ที่ชุดแข่งขันตา่ งจากเพ่ือน คือผู้เลน่ ต่าแหน่งใด (ต่าแหนง่ ลิเบอโร่ หรอื ตัวรับอิสระ)  ผ้เู ล่นในตา่ แหน่งลเิ บอโร่แตกต่างจากผเู้ ล่นตา่ แหนง่ อ่นื อยา่ งไร (เลน่ เฉพาะเกมรับ และสามารถเปลย่ี นตัวกับผูเ้ ลน่ ในสนามไดต้ ลอดเวลา)  แตล่ ะทีมมสี ิทธเิ ลน่ ลูกวอลเลย์บอลได้กี่ครัง (3 ครงั )  ผทู้ ีท่ า่ หนา้ ที่ตงั ลกู ใหต้ วั ตบคือผเู้ ลน่ ต่าแหน่งใด (ตา่ แหนง่ ตวั เซต) 2. นกั เรียนศึกษาความรู้และรวบรวมข้อมลู เกยี่ วกับกีฬาวอลเลย์บอล การแข่งขนั กีฬาวอลเลย์บอล จากแหล่งการ เรยี นรตู้ า่ ง ๆ เช่น หนังสอื เรียน อินเทอรเ์ น็ต Step2 ขัน้ คิดวเิ คราะหแ์ ละสรุปความรู้ (Processing) 3. นกั เรยี นรว่ มกันสรุปความรเู้ ก่ียวกับหลักการเล่นเป็นทีมของกฬี าวอลเลย์บอล โดยตอบค่าถาม ดงั นี  ผูเ้ ล่นทเ่ี ป็นตา่ แหนง่ เสิร์ฟในคนท่ี 1 คอื ผู้เลน่ ในตา่ แหนง่ ใด (ต่าแหนง่ หลังขวา)  การหมุนต่าแหน่งในการแข่งขันจะหมุนในลักษณะใด (ตามเข็มนาฬิกา)  ในการเล่นเกมรกุ ควรมีการก่าหนดคนอยา่ งไร (ตวั อย่างค่าตอบ ก่าหนดตามความเหมาะสม ตามความถนัดของผู้เล่น เช่น คนใดเป็นคนตังบอล คนใดเป็นคนตบ)  การกา่ หนดตา่ แหนง่ ในการเล่นท่าได้อย่างไร (ตัวอยา่ งค่าตอบ กา่ หนดวา่ ผูเ้ ลน่ ใดอยใู่ นต่าแหนง่ ใดก็จะเล่นแบบนัน เช่น ผูเ้ ลน่ แดนหน้าเป็นผ้ตู บหัวเสา)  การตังรบั ท่ีมีประสทิ ธภิ าพคอื การตังรบั ทีเ่ กิดผลอยา่ งไร (ตัวอย่างค่าตอบ สกัดกนั ลูกตบของฝา่ ยตรงข้ามอยา่ งไดผ้ ล)

~ 61 ~ 4. นกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เห็น โดยตอบคา่ ถามกระตนุ้ ความคิด ดงั นี  การเล่นเกมรบั มหี ลกั ในการปฏิบตั ิอย่างไร (ตวั อยา่ งค่าตอบ พยายามอย่าให้มีท่วี า่ งเกดิ ขึน รบั ผดิ ชอบตา่ แหน่งของตนเอง และคอยชว่ ยเพ่อื นในทีม) Step3 ขน้ั ปฏิบตั แิ ละสรปุ ความรหู้ ลังการปฏิบัติ (Applying and Constructing the Knowledge) 5. นกั เรยี นเตรียมอุปกรณ์และความพร้อมของสนามการแข่งขันร่วมกบั ผสู้ อนและแบง่ ทีมในการแขง่ ขันตาม ความเหมาะสมของสมาชกิ ในชนั เรียน ซ่งึ อย่างนอ้ ยแตล่ ะทีมต้องมผี ู้เลน่ 6 คน แล้วรว่ มกันปรึกษาวางแผนก่าหนด ต่าแหนง่ ในการเลน่ 6. นกั เรียนอบอุ่นร่างกายใหพ้ ร้อมสา่ หรับการแข่งขัน โดยการสังเกตและปฏบิ ตั ติ ามผู้สอน 7. นักเรยี นแตล่ ะทีมท่าการแขง่ ขันวอลเลยบ์ อล โดยมผี ู้สอนเป็นผู้ตัดสนิ การแขง่ ขนั จากนันบันทึกผลลงในแบบ บนั ทึกชินงานท่ี 15 เรื่อง การแข่งขนั วอลเลย์บอล 8. นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ สิ่งท่ีเขา้ ใจเปน็ ความรรู้ ว่ มกัน ดังนี การเลน่ กฬี าวอลเลย์บอล เป็นการสร้างเสริมร่างกายใหม้ ีสุขภาพทดี่ ีทังกายและใจ ซึ่งผูเ้ ล่นตอ้ งมีความสามัคคี มนี า่ ใจนกั กฬี า ปฏบิ ตั ติ ามกฎ กติกาอยา่ งเคร่งครดั และประเมนิ ทักษะการเลน่ กีฬาของตนเองอย่างสมา่ เสมอ เพ่ือนา่ ไป ฝึกฝนพัฒนาศักยภาพให้เล่นกฬี าไดด้ แี ละมคี วามปลอดภยั Step4 ขั้นสื่อสารและนาเสนอ (Applying the Communication Skill) 9. นกั เรยี นนา่ เสนอแบบบนั ทกึ ผลการฝกึ การแขง่ ขนั และรูปแบบการวางแผนในการแขง่ ขันพร้อมบอก ความร้สู ึกและอปุ สรรคในการแขง่ ขัน 10.นักเรียนรว่ มกันอภิปรายสรปุ เกยี่ วกบั วิธกี ารท่างานให้เห็นการคดิ เชงิ ระบบและวธิ กี ารท่างานที่มีแบบแผน Step5 ขนั้ ประเมินเพอ่ื เพ่ิมคุณคา่ บรกิ ารสงั คมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating) 11. นักเรยี นน่าความรทู้ ี่ได้รับจากการเรียนเรือ่ งการจดั การแขง่ ขันวอลเลยบ์ อลไปจัดการแข่งขนั ในสถานศึกษา โดยมผี สู้ อนชว่ ยเป็นผู้ตัดสนิ เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้และสง่ เสรมิ การออกก่าลงั กาย 12. นกั เรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรูส้ ึกหลงั การเรียนและหลงั การท่ากจิ กรรม ในประเดน็ ต่อไปนี • สงิ่ ที่นกั เรียนได้เรยี นรู้ในวนั นคี ืออะไร • นกั เรยี นมสี ว่ นร่วมกจิ กรรมในกล่มุ มากน้อยเพยี งใด • เพื่อนนกั เรียนในกลมุ่ มีส่วนร่วมกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพยี งใด • นกั เรยี นพึงพอใจกับการเรียนในวนั นีหรือไม่ เพียงใด • นกั เรียนจะนา่ ความรู้ทไี่ ดน้ ีไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนแ์ กต่ นเอง ครอบครัว และสังคมทวั่ ไปไดอ้ ย่างไร จากนนั แลกเปล่ียนตรวจสอบขนั ตอนการท่างานทกุ ขนั ตอนวา่ จะเพ่มิ คุณค่าไปสสู่ ังคม เกิดประโยชน์ต่อสังคม ใหม้ ากขึนกวา่ เดมิ ในขนั ตอนใดบ้าง สา่ หรับการทา่ งานในครงั ตอ่ ไป 8. ส่ือแหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน รายวชิ าพืนฐาน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ชนั ประถมศึกษาปีท่ี 6 ของสถาบันพฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) 2. คลิปวิดโี อไฮไลท์การแข่งขันวอลเลยบ์ อล 3. แหล่งการเรยี นรู้ทงั ภายในและภายนอกโรงเรียน

~ 62 ~ 9. การวดั และการประเมินผล 1. ประเมนิ ความรู้ เรื่อง วอลเลย์บอล การแข่งขนั กีฬาวอลเลย์บอล (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการท่างานกล่มุ (P) ดว้ ยแบบประเมนิ 3. ประเมินชนิ งาน เร่อื ง การแขง่ ขันวอลเลย์บอล (P) ดว้ ยแบบประเมนิ 4. ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นมีวินัย มงุ่ มนั่ ในการทา่ งาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics) แบบประเมินกระบวนการทางานกลุ่ม รายการการ ระดับคุณภาพ ประเมนิ 4 3 21 กระบวนการ ทา่ งานกลมุ่ มกี ารกา่ หนดบทบาท มีการก่าหนดบทบาท มกี ารก่าหนดบทบาท ไมม่ ีการก่าหนด สมาชิกชดั เจน และมีการ สมาชิกชดั เจน เฉพาะหัวหน้า บทบาทสมาชกิ ชแี จงเปา้ หมายการทา่ งาน มีการชแี จงเปา้ หมาย ไมม่ ีการชแี จง และไม่มกี ารชแี จง มีการปฏิบตั งิ านร่วมกัน อยา่ งชัดเจนและ เป้าหมาย เปา้ หมาย สมาชิก อย่างรว่ มมือรว่ มใจพร้อมกบั ปฏิบัติงานร่วมกัน อยา่ งชดั เจน ต่างคนต่างท่างาน การประเมนิ เปน็ ระยะ ๆ แตไ่ ม่มกี ารประเมิน ปฏิบตั ิงานรว่ มกัน เปน็ ระยะ ๆ ไม่ครบทกุ คน การประเมินผลคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ ตัวชีวดั ท่ี 4.1 ตังใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและการเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดเี ย่ียม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไม่ผา่ น (0) 4.1.1 ตงั ใจเรยี น ตังใจเรียน เอาใจใส่ ตงั ใจเรยี น เอาใจใส่ ตงั ใจเรยี น เอาใจใส่ ไมต่ ังใจเรียน 4.1.2 เอาใจใส่ และมีความเพยี ร และมีความเพียร และมคี วามเพียร และมคี วามเพียรพยายามใน พยายามในการเรยี นรู้ พยายามในการ พยายามในการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ เข้ารว่ มกิจกรรมการ เรยี นรู้ เข้ารว่ ม เข้ารว่ มกิจกรรมการ 4.1.3 สนใจเข้าร่วม เรียนร้ตู ่าง ๆเป็น กจิ กรรมการเรียนรู้ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ บางครงั กจิ กรรมการเรียนรู้ตา่ ง ๆ ประจา่ ตา่ ง ๆ บอ่ ยครัง

~ 63 ~ แบบประเมนิ ชนิ้ งาน เรือ่ ง การแข่งขนั วอลเลยบ์ อล รายการการ ระดับคณุ ภาพ ประเมิน 4 3 2 1 การบนั ทกึ บนั ทกึ ผลการแขง่ ขัน บนั ทกึ ผลการแข่งขัน บันทกึ ผลการแขง่ ขัน บนั ทึกผลการแขง่ ขัน ผลการแขง่ ขนั ได้อย่างถูกตอ้ งอธิบาย ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง อธบิ ายกลวิธี กลวิธใี นการแขง่ ขัน อธบิ ายกลวิธี อธิบายกลวธิ ใี นการ ในการแข่งขัน ทังกลวิธใี นการรุก ในการแข่งขนั แขง่ ขันทงั กลวธิ ใี นการ อธบิ ายความ และกลวิธีในการรบั ทงั กลวิธใี นการรุก รุก และกลวธิ ใี นการ สามคั คแี ละความมี ได้อยา่ งถกู ต้อง และกลวิธใี นการรบั รับไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง นา่ ใจในการแขง่ ขัน อธบิ ายความสามัคคี ได้อยา่ งถกู ต้อง และบอก และความมีน่าใจ อธิบายความสามัคคี คุณลกั ษณะ ทน่ี กั เรียนแสดงออก และความมีน่าใจ อนั พึงประสงค์ ในระหว่างการแขง่ ขัน ที่นักเรยี นแสดงออก ท่นี ่ามาใช้ บอกคุณลกั ษณะ ในระหวา่ งการ ในการแข่งขนั อันพึงประสงค์ดา้ นมี แขง่ ขัน วนิ ยั และมงุ่ มนั่ ในการ ทา่ งานท่ีน่ามาใช้ใน การแขง่ ขันได้อย่าง ถกู ต้อง

~ 64 ~ ผลการพจิ ารณาแผนการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน ............................................................................................................................. ................................................................ ........................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................ ............................................................................................................................. .............................................................. อนุมัติ ปรบั ปรงุ ใหม่ ลงช่ือ..........................................................ผู้เสนอแผนฯ ลงช่ือ..........................................................ผูอ้ นุมตั ิ (นายเสกสรรค์ วะลัยใจ) (นางสาวเตยี งคา่ เตโช) ครู รบั เงินเดือนอันดับ คศ.1 ผู้อ่านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั พชิ ัย บันทกึ หลังการสอน 1.1 นกั เรยี นท่ีบรรลุตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ ......................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.............................................. 1.2 นักเรียนท่ีไมบ่ รรลตุ ามจุดประสงค์การเรียนรู้ ..................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.............................................. ได้แก.่ ...................................................................................................................... ..................................... ............................................................................................................................. ....................................... .................................................................................................................................................................... 1.3 พฤติกรรมการเรียน การร่วมกิจกรรมการเรยี นร้.ู ....................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................... ........................................................................................................ ........................................................... 1.4 แนวทางการปรบั ปรุง แกไ้ ข พฒั นา........................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... ผลที่เกดิ แก่ครผู ูส้ อน ปัญหา อปุ สรรคทีพ่ บ และแนวทางการปรับปรุงแกไ้ ข พัฒนา ............................................................................................................................. ........................................ .......................................................................................... ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ........................................................................................................................................... .......................... ลงช่ือ..........................................................ครูผู้สอน (นายเสกสรรค์ วะลัยใจ) ลงช่อื .........................................................ผตู้ รวจแผนฯ (นางสาวเตียงคา่ เตโช) ผู้อ่านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั พชิ ัย

~ 65 ~ แผนการจดั การเรยี นรู้ 13 ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 เวลาเรยี น 20 ช่ัวโมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เวลาเรียน 1 ช่วั โมง หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 การออกกาลงั กายโดยการเลน่ กีฬา ภาคเรียนท่ี 2 แผนการเรยี นรทู้ ่ี 13 เร่อื งเร่ือง การเล่นกฬี าไทย : ตะกรอ้ วง สอนวันที่…………เดือน……………………..พ.ศ. …………… 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ดั  มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 3.1 เข้าใจ มที ักษะในการเคลื่อนไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี า ตวั ชว้ี ัด พ 3.1 ป.6/3 เล่นกีฬาไทย กีฬาสากล ประเภทบคุ คลและประเภททีมอย่างละ 1 ชนิด พ 3.1 ป.6/4 ใชท้ กั ษะกลไกเพื่อปรับปรุงเพิ่มพนู ความสามารถของตนและผู้อน่ื ในการเล่นกีฬา มาตรฐาน พ 3.2 รกั การออกก่าลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กีฬา ปฏบิ ตั ิเปน็ ประจา่ อยา่ งสม่าเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มนี า่ ใจนักกฬี า มีจติ วิญญาณในการแข่งขนั และชน่ื ชมในสนุ ทรียภาพของการกฬี า ตวั ชวี้ ดั พ 3.2 ป.6/3 เล่นกฬี าท่ตี นเองชื่นชอบและสามารถประเมินทักษะการเล่นของตนเปน็ ประจา่ พ 3.2 ป.6/4 ปฏิบตั ติ ามกฎ กติกาตามชนดิ กฬี าท่ีเล่น โดยคา่ นึงถึงความปลอดภยั ของตนเองและผู้อน่ื พ 3.2 ป.6/5 จ่าแนกกลวิธีการรกุ การปอ้ งกัน และนา่ ไปใช้ในการเล่นกีฬา พ 3.2 ป.6/6 เลน่ เกมและกฬี าด้วยความสามัคคแี ละมีนา่ ใจนกั กีฬา 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายวิธกี ารเล่นกีฬาตะกรอ้ วง (K) 2. ปฏิบัตทิ ักษะพนื ฐานในการเล่นตะกร้อ (P) 3. มีความมุ่งมัน่ ในการฝกึ ปฏิบตั ิทกั ษะพนื ฐานในการเล่นตะกรอ้ (A) 3. สาระการเรยี นรู้ การเล่นกีฬาไทย • ตะกร้อวง 4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

~ 66 ~ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 6. อัตลกั ษณ์ของเด็กแห่งมหานคร 1. รหู้ น้าที่ 2. มีจติ สาธารณะ 7. การจดั กระบวนการเรยี นรู้ คาถามสาคัญ ส่ิงที่ไดเ้ รยี นรู้จากการสรา้ งความคนุ้ เคยกับลูกตะกร้อคืออะไร Step1 ข้ันสังเกต รวบรวมข้อมลู (Gathering) 1. นกั เรียนสงั เกตภาพการแขง่ ขันตะกร้อวงและรว่ มกันสนทนาแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ โดยตอบค่าถามดงั นี  นกั เรยี นเคยเห็นการแข่งขนั กีฬาในภาพนีหรือไม่ (เคยเห็น/ไมเ่ คยเห็น)  การแข่งขนั กีฬาในภาพ คอื กีฬาชนิดใด (ตะกร้อวง)  จากภาพ มีอปุ กรณท์ ่ีใชใ้ นการแขง่ ขนั อะไรบา้ ง (ลกู ตะกรอ้ )  นักเรียนคดิ ว่าใน 1 ทีมตอ้ งมีผู้แขง่ ขนั กีค่ นขนึ ไป (ตัวอย่างค่าตอบ 5 คนขนึ ไป)  ผลแพ้-ชนะในกีฬาตะกร้อวง ดจู ากอะไร (จา่ นวนครังทีเ่ ตะได้) 2. นกั เรยี นศึกษาความรู้และรวบรวมข้อมลู เกย่ี วกับกีฬาตะกร้อวง จากแหล่งการเรยี นรตู้ ่าง ๆ เช่น หนงั สอื เรียน อินเทอรเ์ นต็

~ 67 ~ Step2 ขน้ั คดิ วิเคราะห์และสรุปความรู้ (Processing) 3. นักเรยี นรว่ มกนั วิเคราะห์และแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั การสรา้ งความคนุ้ เคยกับลกู ตะกร้อ โดยตอบค่าถาม ดงั นี  การสรา้ งความคนุ้ เคยกบั ลูกตะกร้อคืออะไร (ตวั อยา่ งค่าตอบ การสร้างคุ้นเคยกบั ขนาดและน่าหนกั ของลูกตะกร้อ)  การสร้างความคุ้นเคยในขนั ตอนที่ 1 ปฏิบัติอยา่ งไร (โยนลูกตะกร้อขึนในอากาศ แลว้ เอามอื รบั )  การสรา้ งความคนุ้ เคยขนั ตอนที่ 2 ปฏบิ ัตอิ ยา่ งไร (โยนลูกตะกร้อขนึ ในอากาศ แลว้ ให้ตกลงกระดอนกบั พืน 1 ครงั แลว้ เอามือรับ)  การสรา้ งความคุ้นเคยขันตอนท่ี 3 ปฏบิ ัตอิ ยา่ งไร (โยนลกู ตะกร้อไปให้คูแ่ ลว้ เอามอื รับ ทา่ สลับกนั )  การสรา้ งความคนุ้ เคยขันตอนที่ 4 ปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร (โยนลูกตะกร้อแลว้ เดาะ 1 ครัง แลว้ จบั ใหท้ ัน ดว้ ยท่าทางต่าง ๆ) 4. นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ โดยตอบคา่ ถามกระต้นุ ความคดิ ดังนี  ส่งิ ที่ได้เรยี นรูจ้ ากการสร้างความคุ้นเคยกับลูกตะกร้อคืออะไร (ตวั อย่างค่าตอบ ความเรว็ ของลกู ตะกร้อทังขณะลอยในอากาศ และกระดอนกบั พนื ) Step3 ขั้นปฏิบตั แิ ละสรปุ ความรูห้ ลังการปฏิบตั ิ (Applying and Constructing the Knowledge) 5. นักเรยี นอบอุ่นร่างกายให้พร้อมส่าหรบั การฝกึ ปฏิบตั ิ โดยการสงั เกตและปฏบิ ัตติ ามผูส้ อน 6. นกั เรยี นฝึกปฏิบัติการโยนลกู ตะกร้อขนึ ในอากาศแล้วรับ โดยสังเกตจากการสาธติ ของผู้สอนและลงมือปฏิบตั ิ ซงึ่ จะมีผสู้ อนคอยตรวจสอบความถูกต้อง 7. นักเรียนฝึกปฏบิ ตั กิ ารโยนลูกตะกร้อใหก้ ระดอนกับพืนแลว้ รับ โดยสังเกตจากการสาธิตของผู้สอนและลงมือ ปฏิบัติ ซ่งึ จะมีผู้สอนคอยตรวจสอบความถูกต้อง 8. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม แลว้ จบั คู่ในกลุ่มฝกึ ปฏิบตั กิ ารโยนลูกตะกร้อรบั -ส่งกบั คู่ โดยสงั เกตจากการสาธิตของ ผ้สู อนและลงมือปฏิบัติ ซง่ึ จะมีผู้สอนคอยตรวจสอบความถูกตอ้ ง 9. นกั เรียนฝึกปฏิบตั กิ ารเดาะหรือเตะแลว้ จบั ลกู ตะกรอ้ โดยสังเกตจากการสาธิตของผู้สอนและลงมือปฏบิ ัติ ซง่ึ จะมีผ้สู อนคอยตรวจสอบความถูกต้อง 10. นกั เรียนร่วมกนั สรปุ สิง่ ท่เี ขา้ ใจเปน็ ความรูร้ ว่ มกัน ดงั นี การเล่นกฬี าไทย : ตะกร้อวง เปน็ การสรา้ งเสริมร่างกายให้มีสุขภาพท่ดี ีทงั กายและใจ ซ่งึ ผเู้ ล่นต้องมีความ สามคั คี มนี ่าใจนกั กฬี า ปฏบิ ัติตามกฎ กติกาอยา่ งเคร่งครัด และประเมินทกั ษะการเล่นกีฬาของตนเองอยา่ งสม่าเสมอ เพอ่ื น่าไปฝึกฝนพัฒนาศักยภาพใหเ้ ล่นกีฬาได้ดีและมีความปลอดภยั Step4 ขนั้ สือ่ สารและนาเสนอ (Applying the Communication Skill) 11. นักเรยี นแต่ละกลุม่ นา่ เสนอผลการฝกึ ปฏบิ ตั ิการสร้างความคุ้นเคยกบั ลูกตะกรอ้ พรอ้ มบอกความรสู้ ึกและ อปุ สรรคในการปฏบิ ัติ 12.นกั เรียนรว่ มกันอภิปรายสรุปเกย่ี วกับวธิ ีการทา่ งานให้เหน็ การคดิ เชงิ ระบบและวธิ กี ารทา่ งานทีม่ ีแบบแผน

~ 68 ~ Step5 ขั้นประเมนิ เพ่อื เพิ่มคุณคา่ บรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating) 13. นักเรยี นนา่ ความรทู้ ่ีไดร้ บั จากการเรียนเรื่องตะกร้อวง ไปจัดป้ายนิเทศให้ความรู้กบั สมาชิกในสถานศึกษา 14. นักเรยี นประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรู้สึกหลงั การเรียนและหลังการท่ากิจกรรม ในประเด็นต่อไปนี • สิ่งทนี่ ักเรียนได้เรยี นรใู้ นวันนีคอื อะไร • นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ มกจิ กรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพยี งใด • เพอ่ื นนักเรียนในกลมุ่ มีส่วนรว่ มกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพียงใด • นักเรียนพงึ พอใจกบั การเรยี นในวันนีหรือไม่ เพยี งใด • นกั เรยี นจะน่าความรูท้ ่ีไดน้ ีไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทัว่ ไป ไดอ้ ย่างไร จากนนั แลกเปลย่ี นตรวจสอบขนั ตอนการทา่ งานทุกขนั ตอนว่าจะเพมิ่ คณุ คา่ ไปสสู่ งั คม เกิดประโยชน์ตอ่ สังคมให้ มากขนึ กว่าเดมิ ในขันตอนใดบ้าง ส่าหรบั การทา่ งานในครังต่อไป 8. สือ่ แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน รายวชิ าพืนฐาน สุขศกึ ษาและพลศึกษา ชนั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 2. ภาพการแข่งขันตะกร้อวง 3. แหลง่ การเรยี นรู้ทังภายในและภายนอกโรงเรยี น 9. การวดั และการประเมินผล 1. ประเมนิ ความรู้ เร่อื ง การเลน่ กีฬาไทย : ตะกร้อวง (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการท่างานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมิน 3. ประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ดา้ นมีวนิ ยั ม่งุ ม่ันในการท่างาน (A) ด้วยแบบประเมิน แบบประเมินตามสภาพจรงิ (Rubrics) แบบประเมินกระบวนการทางานกลุ่ม รายการการ ระดบั คุณภาพ ประเมิน 4 3 21 กระบวนการ ทา่ งานกลุ่ม มีการก่าหนดบทบาท มีการกา่ หนดบทบาท มีการกา่ หนดบทบาท ไม่มีการกา่ หนด สมาชิกชัดเจน และมีการ สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหัวหนา้ บทบาทสมาชิก ชแี จงเปา้ หมายการทา่ งาน มีการชแี จงเป้าหมาย ไมม่ ีการชแี จง และไมม่ กี ารชแี จง มกี ารปฏิบตั งิ านรว่ มกนั อยา่ งชัดเจนและ เปา้ หมาย เป้าหมาย สมาชิก อยา่ งรว่ มมือร่วมใจพร้อมกบั ปฏิบัติงานร่วมกนั อย่างชดั เจน ตา่ งคนต่างท่างาน การประเมนิ เป็นระยะ ๆ แตไ่ ม่มีการประเมิน ปฏิบัตงิ านร่วมกนั เปน็ ระยะ ๆ ไมค่ รบทกุ คน

~ 69 ~ การประเมินผลคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ ตัวชวี ัดท่ี 4.1 ตงั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและการเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ยย่ี ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไม่ผ่าน (0) 4.1.1 ตังใจเรยี น ตงั ใจเรียน เอาใจใส่ ตังใจเรยี น เอาใจใส่ ตังใจเรียน เอาใจใส่ ไมต่ ังใจเรยี น 4.1.2 เอาใจใส่ และมีความเพียร และมีความเพียร และมคี วามเพยี ร และมคี วามเพียรพยายามใน พยายามในการเรยี นรู้ พยายามในการ พยายามในการเรียนรู้ การเรยี นรู้ เข้าร่วมกิจกรรมการ เรยี นรู้ เขา้ รว่ ม เข้ารว่ มกจิ กรรมการ 4.1.3 สนใจเข้าร่วม เรียนรตู้ ่าง ๆเป็น กิจกรรมการเรยี นรู้ เรยี นรตู้ า่ ง ๆ บางครงั กจิ กรรมการเรยี นรตู้ า่ ง ๆ ประจา่ ต่าง ๆ บ่อยครัง

~ 70 ~ ผลการพจิ ารณาแผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน ............................................................................................................................. ................................................................ ........................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................ ............................................................................................................................. .............................................................. อนุมัติ ปรบั ปรุงใหม่ ลงชือ่ ..........................................................ผูเ้ สนอแผนฯ ลงชอ่ื ..........................................................ผอู้ นมุ ัติ (นายเสกสรรค์ วะลัยใจ) (นางสาวเตยี งคา่ เตโช) ครู รับเงินเดือนอนั ดับ คศ.1 ผู้อา่ นวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดพชิ ยั บนั ทึกหลังการสอน 1.1 นักเรยี นทีบ่ รรลุตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ ......................คน คดิ เป็นร้อยละ.............................................. 1.2 นักเรียนทีไ่ มบ่ รรลุตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ ..................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.............................................. ไดแ้ ก่....................................................................................................................... ..................................... ............................................................................................................................. ....................................... .................................................................................................................................................................... 1.3 พฤติกรรมการเรียน การร่วมกิจกรรมการเรยี นร.ู้ ....................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................... ........................................................................................................ ........................................................... 1.4 แนวทางการปรับปรุง แกไ้ ข พฒั นา........................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... ผลทีเ่ กดิ แก่ครูผ้สู อน ปัญหา อปุ สรรคที่พบ และแนวทางการปรับปรงุ แก้ไข พัฒนา .............................................................................................................................. ....................................... ........................................................................................... .......................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................................ ......................... ลงช่อื ..........................................................ครผู สู้ อน (นายเสกสรรค์ วะลัยใจ) ลงช่อื .........................................................ผู้ตรวจแผนฯ (นางสาวเตียงคา่ เตโช) ผู้อา่ นวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั พิชัย

~ 71 ~ แผนการจัดการเรยี นรู้ 14 ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เวลาเรียน 20 ช่วั โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 7 การออกกาลงั กายโดยการเลน่ กีฬา ภาคเรียนที่ 2 แผนการเรยี นร้ทู ี่ 14 เร่ืองตะกรอ้ วง ท่าขา้ งเทา้ ดา้ นใน สอนวันท่ี…………เดือน……………………..พ.ศ. …………… 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ดั  มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 3.1 เขา้ ใจ มีทักษะในการเคลือ่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา ตวั ช้ีวัด พ 3.1 ป.6/3 เล่นกฬี าไทย กีฬาสากล ประเภทบุคคลและประเภททีมอย่างละ 1 ชนดิ พ 3.1 ป.6/4 ใช้ทกั ษะกลไกเพ่อื ปรับปรุงเพิ่มพูนความสามารถของตนและผู้อ่นื ในการเล่นกีฬา มาตรฐาน พ 3.2 รักการออกกา่ ลังกาย การเลน่ เกม และการเล่นกีฬา ปฏบิ ัติเปน็ ประจ่าอย่างสม่าเสมอ มวี ินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มนี ่าใจนกั กีฬา มจี ติ วิญญาณในการแขง่ ขัน และชื่นชมในสุนทรียภาพของการกีฬา ตวั ชีว้ ดั พ 3.2 ป.6/3 เลน่ กีฬาท่ตี นเองชน่ื ชอบและสามารถประเมินทักษะการเล่นของตนเปน็ ประจ่า พ 3.2 ป.6/4 ปฏิบัติตามกฎ กติกาตามชนดิ กีฬาที่เลน่ โดยค่านึงถึงความปลอดภยั ของตนเองและผู้อื่น พ 3.2 ป.6/5 จา่ แนกกลวิธกี ารรุก การปอ้ งกนั และน่าไปใช้ในการเล่นกีฬา พ 3.2 ป.6/6 เล่นเกมและกีฬาด้วยความสามัคคีและมนี า่ ใจนักกีฬา 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกวิธกี ารฝึกทา่ ข้างเท้าด้านในหรือลกู แป (K) 2. ปฏบิ ัตทิ กั ษะทา่ ข้างเท้าดา้ นในหรอื ลกู แป (P) 3. มีความมงุ่ ม่นั ในการฝึกปฏิบัติทักษะท่าขา้ งเท้าดา้ นในหรือลกู แป (A) 3. สาระการเรยี นรู้ การเล่นกฬี าไทย • ตะกร้อวง ท่าขา้ งเทา้ ด้านใน 4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

~ 72 ~ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 6. อัตลกั ษณข์ องเดก็ แห่งมหานคร 1. รู้หนา้ ที่ 2. มจี ิตสาธารณะ 7. การจดั กระบวนการเรยี นรู้ คาถามสาคญั หากตอ้ งการเตะลูกตะกร้อได้งา่ ยขนึ ต้องวางเท้าในการเตะอยา่ งไร Step1 ข้ันสงั เกต รวบรวมข้อมลู (Gathering) 1. นกั เรียนรว่ มกนั สนทนาแลกเปลีย่ นเรียนรู้เก่ยี วกบั ทกั ษะพืนฐานการเลน่ ตะกร้อ โดยตอบคา่ ถามดังนี  ในการเลน่ ตะกร้อสามารถใช้อวยั วะใดบ้างในการเลน่ (เทา้ ศรี ษะ เข่า)  ทักษะพนื ฐานใดบ้างที่จ่าเป็นสา่ หรบั การเลน่ ตะกรอ้ (ตัวอย่างค่าตอบ ลูกแป ท่าโหม่ง ทา่ เข่า และทา่ หลังเท้า)  ทา่ ทักษะพนื ฐานเหลา่ นจี ะใชใ้ นการเลน่ ตะกร้อประเภทใด (ตัวอย่างค่าตอบ ใช้ท่าพนื ฐานเหล่านีเกือบทุกประเภท)  ลูกแป คอื ลูกท่ีเตะในลักษณะใด (ลูกท่ีเตะด้วยข้างเทา้ ดา้ นใน)  จากชั่วโมงที่แล้วท่ีนักเรยี นได้สร้างความคุ้นเคยกับลูกตะกรอ้ ไปแล้ว ทา่ ให้นักเรยี นคุ้นเคยมากขึนหรือไม่ (ตัวอยา่ งค่าตอบ คุ้นเคยมากขนึ ) 2. นกั เรยี นศึกษาความรู้และรวบรวมข้อมลู เกยี่ วกับกีฬาตะกร้อวง ทา่ ขา้ งเท้าด้านใน จากแหล่งการเรยี นรูต้ ่าง ๆ เชน่ หนงั สือเรียน อินเทอรเ์ น็ต Step2 ขัน้ คิดวิเคราะห์และสรปุ ความรู้ (Processing) 3. นกั เรยี นร่วมกันวิเคราะหแ์ ละแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั การฝึกท่าข้างเท้าด้านใน โดยตอบค่าถาม ดังนี  การฝึกท่าข้างเท้าด้านใน (ลูกแป) มขี ันตอนในการฝึกก่ีขันตอน (3 ขันตอน)  ขันตอนท่ี 1 ปฏิบัตอิ ยา่ งไร (ยืนเตรียมพร้อมดว้ ยเท้าคขู่ นาน ย่อเข่าตามองลูก)  ขนั ตอนที่ 2 ปฏบิ ตั อิ ย่างไร (การก้าวเท้าเพื่อหาจังหวะ ให้กา้ วด้วยเท้าข้างท่ีไม่ถนัดเข้าหาตา่ แหนง่ การยืนทีเ่ หมาะสมในการเตะ)  ขนั ตอนที่ 3 ปฏิบัตอิ ยา่ งไร (เม่อื ไดจ้ งั หวะให้ยกเท้าทถ่ี นดั ขนึ เตะด้วยข้างเท้าด้านใน ให้ตะกร้อกระทบบริเวณใต้ตาตุ่ม) 4. นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ โดยตอบค่าถามกระตุ้นความคดิ ดังนี  หากตอ้ งการเตะลกู ตะกร้อได้งา่ ยขนึ ตอ้ งวางเทา้ ในการเตะอยา่ งไร (ตัวอยา่ งค่าตอบ เกรง็ ข้อเท้าให้ปลายเทา้ และส้นเท้าขนานกับพนื )

~ 73 ~ Step3 ขน้ั ปฏิบตั แิ ละสรุปความรูห้ ลังการปฏิบัติ (Applying and Constructing the Knowledge) . นักเรียนอบอุ่นร่างกายให้พร้อมส่าหรบั การฝกึ ปฏบิ ตั ิ โดยการสงั เกตและปฏิบตั ิตามผู้สอน 6. นักเรยี นฝึกปฏิบัติท่าข้างเท้าด้านในหรอื ลูกแป โดยสังเกตจากการสาธิตของผสู้ อนและลงมือปฏบิ ัติ ซึง่ จะมี ผ้สู อนคอยตรวจสอบความถูกต้อง 7. นกั เรยี นจบั คูฝ่ กึ ปฏบิ ตั ิท่าข้างเทา้ ด้านในหรือลูกแปแบบโต้ โดยสงั เกตจากการสาธิตของผู้สอนและลงมือ ปฏิบตั ิ ซง่ึ จะมีผู้สอนคอยตรวจสอบความถูกต้อง 8. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ 5-6 คน ฝกึ ปฏบิ ตั ทิ ่าขา้ งเท้าดา้ นในหรอื ลูกแปแบบกลมุ่ โดยสังเกตจากการสาธิต ของผูส้ อนและลงมือปฏิบตั ิ ซ่ึงจะมีผสู้ อนคอยตรวจสอบความถูกต้อง 9. นกั เรยี นรว่ มกันสรุปสงิ่ ทีเ่ ขา้ ใจเป็นความร้รู ว่ มกัน ดงั นี การเล่นกีฬาไทย : ตะกรอ้ วง เปน็ การสร้างเสริมรา่ งกายให้มสี ขุ ภาพทด่ี ีทังกายและใจ ซง่ึ ผเู้ ล่นต้องมคี วาม สามัคคี มนี ่าใจนักกฬี า ปฏิบัติตามกฎ กติกาอย่างเครง่ ครัด และประเมนิ ทกั ษะการเล่นกีฬาของตนเองอย่างสม่าเสมอ เพือ่ นา่ ไปฝึกฝนพัฒนาศักยภาพใหเ้ ล่นกีฬาได้ดีและมีความปลอดภยั Step4 ข้ันสอ่ื สารและนาเสนอ (Applying the Communication Skill) 10. นักเรียนน่าเสนอผลการฝึกปฏบิ ตั ทิ า่ ข้างเท้าด้านในหรอื ลูกแป พรอ้ มบอกความร้สู ึก และอุปสรรคในการ ปฏิบัติ 11. นกั เรยี นรว่ มกันอภิปรายสรปุ เกี่ยวกบั วิธกี ารท่างานให้เห็นการคดิ เชงิ ระบบและวิธีการทา่ งานทีม่ ีแบบแผน Step5 ขัน้ ประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา่ บรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating) 12. นกั เรยี นน่าความรู้ท่ีไดร้ บั จากการเรยี นเร่อื งทา่ พนื ฐานในการเล่นตะกร้อ ท่าขา้ งเท้าด้านในหรอื ลกู แปไปฝึก ปฏิบตั ิให้ชา่ นาญและนา่ ไปแลกเปลย่ี นเรียนรกู้ บั เพ่ือน สมาชกิ ในครอบครัวหรอื สมาชกิ ในชมุ ชนต่อไป 13.นกั เรยี นประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรูส้ ึกหลงั การเรียนและหลงั การท่ากิจกรรม ในประเด็นต่อไปนี • สิง่ ทนี่ ักเรียนไดเ้ รียนรูใ้ นวันนีคืออะไร • นกั เรยี นมีสว่ นรว่ มกิจกรรมในกลุม่ มากน้อยเพียงใด • เพือ่ นนกั เรยี นในกลมุ่ มีสว่ นร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด • นกั เรียนพงึ พอใจกับการเรียนในวันนีหรอื ไม่ เพยี งใด • นกั เรยี นจะนา่ ความรู้ทไี่ ดน้ ีไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครัว และสงั คมทวั่ ไปได้อย่างไร จากนันแลกเปล่ยี นตรวจสอบขนั ตอนการทา่ งานทุกขนั ตอนวา่ จะเพิ่มคุณคา่ ไปสู่สังคม เกิดประโยชนต์ ่อสังคม ให้มากขึนกวา่ เดิมในขนั ตอนใดบา้ ง ส่าหรับการทา่ งานในครังต่อไป 8. ส่อื แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี น รายวิชาพืนฐาน สุขศกึ ษาและพลศึกษา ชันประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.) 2. ภาพการแขง่ ขนั ตะกร้อวง 3. แหลง่ การเรยี นรู้ทงั ภายในและภายนอกโรงเรียน

~ 74 ~ 9. การวดั และการประเมินผล 1. ประเมนิ ความรู้ เร่อื ง ตะกร้อวง ทา่ ข้างเท้าดา้ นใน (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการท่างานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมนิ 3. ประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ด้านมวี ินัย มุง่ มนั่ ในการท่างาน (A) ดว้ ยแบบประเมนิ แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics) แบบประเมินกระบวนการทางานกลุ่ม รายการการ ระดับคณุ ภาพ ประเมิน 4 3 21 กระบวนการ ท่างานกลมุ่ มกี ารกา่ หนดบทบาท มกี ารกา่ หนดบทบาท มีการกา่ หนดบทบาท ไม่มีการกา่ หนด สมาชิกชัดเจน และมีการ สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหวั หน้า บทบาทสมาชกิ ชแี จงเปา้ หมายการท่างาน มีการชแี จงเปา้ หมาย ไมม่ ีการชแี จง และไมม่ ีการชแี จง มกี ารปฏิบัติงานรว่ มกัน อย่างชัดเจนและ เป้าหมาย เปา้ หมาย สมาชิก อยา่ งรว่ มมือร่วมใจพร้อมกับ ปฏบิ ตั ิงานร่วมกัน อย่างชัดเจน ต่างคนต่างทา่ งาน การประเมนิ เปน็ ระยะ ๆ แต่ไม่มกี ารประเมนิ ปฏบิ ัตงิ านร่วมกนั เปน็ ระยะ ๆ ไม่ครบทุกคน การประเมนิ ผลคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ ตวั ชีวัดท่ี 4.1 ตังใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและการเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเยย่ี ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ า่ น (0) 4.1.1 ตงั ใจเรยี น ตงั ใจเรยี น เอาใจใส่ ตงั ใจเรยี น เอาใจใส่ ตงั ใจเรยี น เอาใจใส่ ไมต่ งั ใจเรยี น 4.1.2 เอาใจใส่ และมีความเพียร และมีความเพียร และมีความเพียร และมคี วามเพียรพยายามใน พยายามในการเรยี นรู้ พยายามในการ พยายามในการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ เข้ารว่ มกิจกรรมการ เรยี นรู้ เข้าร่วม เขา้ ร่วมกิจกรรมการ 4.1.3 สนใจเข้าร่วม เรยี นรตู้ ่าง ๆเป็น กิจกรรมการเรยี นรู้ เรียนรู้ตา่ ง ๆ บางครัง กจิ กรรมการเรยี นรตู้ ่าง ๆ ประจ่า ตา่ ง ๆ บอ่ ยครงั

~ 75 ~ ผลการพิจารณาแผนการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน ............................................................................................................................. ................................................................ ........................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................ ........................................................................................................................................................................................... อนมุ ตั ิ ปรบั ปรงุ ใหม่ ลงช่ือ..........................................................ผเู้ สนอแผนฯ ลงช่อื ..........................................................ผู้อนุมัติ (นายเสกสรรค์ วะลยั ใจ) (นางสาวเตยี งค่า เตโช) ครู รบั เงนิ เดือนอันดบั คศ.1 ผ้อู า่ นวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวดั พชิ ัย บนั ทึกหลังการสอน 1.1 นักเรียนที่บรรลตุ ามจุดประสงค์การเรียนรู้ ......................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.............................................. 1.2 นกั เรียนท่ีไมบ่ รรลตุ ามจุดประสงค์การเรยี นรู้ ..................คน คิดเปน็ ร้อยละ.............................................. ได้แก่....................................................................................................................... ..................................... ............................................................................................ ........................................................................ ............................................................................................................................. ....................................... 1.3 พฤติกรรมการเรียน การร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้........................................................................................ ............................................................................................................................. ....................................... ............................................................................................................................. ...................................... 1.4 แนวทางการปรบั ปรุง แก้ไข พัฒนา........................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................................ ....................... ............................................................................................................................. ...................................... ผลทีเ่ กดิ แก่ครผู ู้สอน ปัญหา อุปสรรคท่พี บ และแนวทางการปรับปรุงแก้ไข พัฒนา ................................................................................................................................................ ..................... ............................................................................................................. ........................................................ ............................................................................................................................. ........................................ .............................................................................................................................................................. ....... ลงชอื่ ..........................................................ครูผู้สอน (นายเสกสรรค์ วะลยั ใจ) ลงช่อื .........................................................ผู้ตรวจแผนฯ (นางสาวเตียงคา่ เตโช) ผอู้ า่ นวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวัดพชิ ัย

~ 76 ~ แผนการจัดการเรียนรู้ 15 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 เวลาเรยี น 20 ชว่ั โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 การออกกาลังกายโดยการเลน่ กีฬา ภาคเรยี นท่ี 2 แผนการเรยี นร้ทู ี่ 15 เรือ่ งตะกรอ้ วง ท่าหลังเทา้ สอนวนั ที่…………เดือน……………………..พ.ศ. …………… 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั  มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา ตัวช้วี ัด พ 3.1 ป.6/3 เล่นกีฬาไทย กีฬาสากล ประเภทบคุ คลและประเภททีมอย่างละ 1 ชนิด พ 3.1 ป.6/4 ใชท้ กั ษะกลไกเพ่อื ปรบั ปรุงเพ่ิมพูนความสามารถของตนและผู้อน่ื ในการเล่นกีฬา มาตรฐาน พ 3.2 รักการออกกา่ ลังกาย การเล่นเกม และการเลน่ กีฬา ปฏบิ ัติเป็นประจ่าอย่างสมา่ เสมอ มีวินยั เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน่าใจนกั กีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และชื่นชมในสนุ ทรียภาพของการกฬี า ตวั ชีว้ ดั พ 3.2 ป.6/3 เล่นกฬี าทต่ี นเองช่นื ชอบและสามารถประเมนิ ทักษะการเล่นของตนเป็นประจ่า พ 3.2 ป.6/4 ปฏบิ ัติตามกฎ กติกาตามชนิดกีฬาที่เล่น โดยค่านึงถึงความปลอดภัยของตนเองและผู้อนื่ พ 3.2 ป.6/5 จา่ แนกกลวธิ ีการรุก การป้องกัน และนา่ ไปใช้ในการเล่นกีฬา พ 3.2 ป.6/6 เล่นเกมและกีฬาด้วยความสามัคคีและมีน่าใจนักกีฬา 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกวธิ กี ารฝึกทา่ หลังเท้า (K) 2. ปฏบิ ตั ิทกั ษะท่าหลังเท้า (P) 3. มีความมงุ่ ม่นั ในการฝกึ ปฏิบตั ิทกั ษะท่าหลังเทา้ (A) 3. สาระการเรียนรู้ การเลน่ กฬี าไทย • ตะกร้อวง ทา่ หลังเทา้ 4. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

~ 77 ~ 5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 6. อตั ลกั ษณข์ องเด็กแห่งมหานคร 1. รหู้ น้าท่ี 2. มจี ิตสาธารณะ 7. การจัดกระบวนการเรียนรู้ คาถามสาคัญ นักเรยี นคดิ ว่าการฝึกท่าหลงั เท้าจะง่ายกว่าหรือยากกว่าท่าขา้ งเทา้ ด้านใน เพราเหตใุ ด Step1 ขนั้ สงั เกต รวบรวมข้อมูล (Gathering) 1. นกั เรยี นร่วมกนั สนทนาแลกเปล่ียนเรยี นรู้เกยี่ วกับการฝกึ ทักษะการฝกึ ท่าข้างเทา้ ด้านในหรือลูกแป โดยตอบ ค่าถาม ดังนี  นกั เรยี นพึงพอใจกบั การฝึกท่าข้างเทา้ ด้านในหรอื ลูกแปของตนเองหรอื ไม่ (ตัวอย่างค่าตอบ พอใจ)  นกั เรียนเดาะลูกข้างเท้าด้านในได้สูงสุดกีค่ รัง ตอ่ การตก 1 ครงั (ตัวอย่างค่าตอบ 10 ครัง)  นกั เรยี นไดล้ องฝกึ เดาะลกู ขา้ งเท้าดา้ นในโดยใชข้ าข้างที่ไม่ถนดั หรือไม่ (ตวั อย่างค่าตอบ ไดท้ ดลองฝึก)  นกั เรยี นใชข้ าข้างท่ีไม่ถนัดเดาะลกู ขา้ งเทา้ ดา้ นในได้กี่ครัง (ตวั อยา่ งค่าตอบ 3 ครัง)  อุปสรรคของการฝึกลูกข้างเท้าดา้ นในแบบกลุ่มคืออะไร (ตวั อยา่ งค่าตอบ การสื่อสารกันในกลุม่ ) 2. นักเรียนศึกษาความรู้และรวบรวมข้อมลู เกยี่ วกับกีฬาตะกร้อวง ท่าหลงั เท้า จากแหล่งการเรียนร้ตู า่ ง ๆ เชน่ หนงั สอื เรียน อินเทอร์เน็ต Step2 ข้นั คิดวเิ คราะห์และสรปุ ความรู้ (Processing) 3. นกั เรยี นร่วมกนั วเิ คราะห์และแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกบั การฝึกทา่ หลังเทา้ โดยตอบคา่ ถาม ดังนี  การฝึกท่าหลงั เท้ามีขนั ตอนในการฝึกก่ีขนั ตอน (3 ขันตอน)  ขันตอนที่ 1 ปฏบิ ัติอยา่ งไร (ยนื เตรยี มพร้อมด้วยเท้าคู่ขนาน ยอ่ เขา่ ตามองลกู )  ขันตอนที่ 2 ปฏิบตั อิ ย่างไร (การก้าวท้าเพ่ือหาจังหวะ ให้ก้าวดว้ ยเทา้ ขา้ งทีไ่ ม่ถนดั เขา้ หาตา่ แหน่งการยนื ท่ีเหมาะสมในการเตะ)  ขันตอนที่ 3 ปฏบิ ัติอย่างไร (การเตะ ใหย้ ่อเข่าขา้ งที่ไม่ถนัด แล้วยกเท้าทถ่ี นัดเตะดว้ ยหลงั เทา้ ใหล้ กู ตะกร้อกระทบบรเิ วณโคนนวิ เท้า ปลายเท้างุ้ม) 4. นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็น โดยตอบคา่ ถามกระตุ้นความคิด ดังนี

~ 78 ~  นกั เรียนคิดว่าการฝึกท่าหลังเทา้ จะง่ายกว่าหรือยากกวา่ ท่าขา้ งเท้าด้านใน เพราเหตุใด (ตวั อยา่ งค่าตอบ ยากกว่า เพราะหลังเทา้ มีพนื ท่ีในการกระทบลกู ตะกรอ้ น้อยกว่าขา้ งเท้า) Step3 ข้นั ปฏิบตั แิ ละสรุปความรหู้ ลังการปฏบิ ัติ (Applying and Constructing the Knowledge) 5. นักเรยี นอบอุ่นรา่ งกายให้พร้อมสา่ หรับการฝึกปฏิบัติ โดยการสังเกตและปฏิบัติตามผสู้ อน 6. นักเรยี นฝึกปฏิบตั ิท่าหลงั เท้า โดยสงั เกตจากการสาธิตของผู้สอนและลงมือปฏบิ ตั ิ ซ่งึ จะมีผูส้ อนคอย ตรวจสอบความถูกตอ้ ง 7. นกั เรียนจับคู่ฝกึ ปฏิบตั ทิ ่าหลังเท้าแบบโต้ โดยสังเกตจากการสาธิตของผู้สอนและลงมือปฏบิ ตั ิ ซงึ่ จะมผี สู้ อน คอยตรวจสอบความถูกตอ้ ง 8. นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 5-6 คน ฝกึ ปฏิบตั ิท่าหลังเทา้ แบบกลุ่ม โดยสงั เกตจากการสาธิตของผสู้ อนและลง มือปฏบิ ัติ ซึง่ จะมผี ู้สอนคอยตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 9. นักเรียนรว่ มกันสรปุ สง่ิ ทเี่ ข้าใจเปน็ ความรรู้ ว่ มกนั ดงั นี การเลน่ กีฬาไทย : ตะกรอ้ วง เป็นการสรา้ งเสรมิ ร่างกายให้มีสขุ ภาพทด่ี ีทังกายและใจ ซง่ึ ผ้เู ลน่ ตอ้ งมีความ สามคั คี มีน่าใจนกั กีฬา ปฏบิ ัตติ ามกฎ กติกาอยา่ งเครง่ ครัด และประเมนิ ทกั ษะการเล่นกฬี าของตนเองอยา่ งสม่าเสมอ เพอ่ื น่าไปฝึกฝนพัฒนาศักยภาพใหเ้ ล่นกีฬาได้ดแี ละมคี วามปลอดภยั Step4 ขั้นสื่อสารและนาเสนอ (Applying the Communication Skill) 10. นกั เรยี นน่าเสนอผลการฝึกปฏบิ ตั ทิ า่ หลังเท้า พรอ้ มบอกความร้สู ึกและอุปสรรคในการปฏิบัติ 11. นกั เรียนรว่ มกันอภปิ รายสรุปเก่ยี วกบั วธิ กี ารท่างานให้เหน็ การคดิ เชิงระบบและวธิ ีการทา่ งานท่ีมีแบบแผน Step5 ขน้ั ประเมนิ เพื่อเพ่ิมคุณค่าบริการสังคมและจติ สาธารณะ (Self-Regulating) 12. นกั เรยี นนา่ ความรทู้ ี่ไดร้ บั จากการเรยี นเรือ่ งท่าพืนฐานในการเล่นตะกร้อ ทา่ หลงั เท้าไปฝึกปฏบิ ัตใิ ห้ ช่านาญและนา่ ไปแลกเปล่ียนเรียนร้กู บั เพื่อน สมาชกิ ในครอบครวั หรอื สมาชกิ ในชมุ ชนต่อไป 13.นกั เรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรสู้ ึกหลังการเรยี นและหลงั การท่ากจิ กรรม ในประเด็นต่อไปนี • ส่งิ ท่ีนักเรียนไดเ้ รยี นร้ใู นวันนีคอื อะไร • นักเรยี นมสี ่วนรว่ มกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด • เพื่อนนักเรยี นในกลมุ่ มสี ่วนรว่ มกจิ กรรมในกล่มุ มากน้อยเพยี งใด • นกั เรยี นพึงพอใจกับการเรียนในวนั นีหรือไม่ เพียงใด • นกั เรียนจะนา่ ความร้ทู ่ีไดน้ ไี ปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทว่ั ไปไดอ้ ยา่ งไร จากนนั แลกเปลยี่ นตรวจสอบขนั ตอนการทา่ งานทกุ ขันตอนว่าจะเพิ่มคุณคา่ ไปสูส่ งั คม เกิดประโยชน์ต่อสังคม ให้มากขึนกว่าเดมิ ในขันตอนใดบ้าง สา่ หรบั การท่างานในครงั ตอ่ ไป 8. สอื่ แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน รายวิชาพืนฐาน สุขศกึ ษาและพลศึกษา ชันประถมศึกษาปีที่ 6 ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 2. แหล่งการเรยี นรู้ทงั ภายในและภายนอกโรงเรียน

~ 79 ~ 9. การวัดและการประเมินผล 1. ประเมนิ ความรู้ เรื่อง ตะกร้อวง ท่าหลงั เทา้ (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทา่ งานกลมุ่ (P) ด้วยแบบประเมิน 3. ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ด้านมีวินัย มงุ่ มั่นในการทา่ งาน (A) ด้วยแบบประเมนิ แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics) แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม รายการการ ระดับคุณภาพ ประเมิน 4 3 21 กระบวนการ ทา่ งานกลุ่ม มีการกา่ หนดบทบาท มกี ารก่าหนดบทบาท มกี ารกา่ หนดบทบาท ไมม่ ีการกา่ หนด สมาชกิ ชดั เจน และมีการ สมาชกิ ชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ บทบาทสมาชิก ชแี จงเปา้ หมายการท่างาน มกี ารชแี จงเป้าหมาย ไม่มีการชแี จง และไมม่ ีการชแี จง มกี ารปฏบิ ตั ิงานร่วมกนั อย่างชดั เจนและ เป้าหมาย เป้าหมาย สมาชกิ อยา่ งรว่ มมือร่วมใจพรอ้ มกบั ปฏบิ ัตงิ านรว่ มกัน อย่างชดั เจน ต่างคนต่างทา่ งาน การประเมินเป็นระยะ ๆ แต่ไม่มีการประเมนิ ปฏบิ ตั ิงานร่วมกนั เป็นระยะ ๆ ไมค่ รบทุกคน การประเมินผลคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ ตัวชีวัดที่ 4.1 ตังใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและการเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดีเยยี่ ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไม่ผา่ น (0) 4.1.1 ตังใจเรยี น ตงั ใจเรยี น เอาใจใส่ ตงั ใจเรยี น เอาใจใส่ ตงั ใจเรียน เอาใจใส่ ไม่ตงั ใจเรียน 4.1.2 เอาใจใส่ และมีความเพียร และมีความเพียร และมีความเพยี ร และมีความเพยี รพยายามใน พยายามในการเรียนรู้ พยายามในการ พยายามในการเรียนรู้ การเรยี นรู้ เขา้ รว่ มกิจกรรมการ เรียนรู้ เข้าร่วม เขา้ รว่ มกจิ กรรมการ 4.1.3 สนใจเข้าร่วม เรียนรูต้ ่าง ๆเป็น กิจกรรมการเรียนรู้ เรยี นรู้ต่าง ๆ บางครงั กิจกรรมการเรยี นรตู้ ่าง ๆ ประจา่ ต่าง ๆ บ่อยครงั

~ 80 ~ ผลการพิจารณาแผนการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน ............................................................................................................................. ................................................................ ........................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................ ........................................................................................................................................................................................... อนุมตั ิ ปรบั ปรุงใหม่ ลงชอ่ื ..........................................................ผู้เสนอแผนฯ ลงชือ่ ..........................................................ผู้อนมุ ัติ (นายเสกสรรค์ วะลัยใจ) (นางสาวเตียงค่า เตโช) ครู รับเงินเดอื นอนั ดบั คศ.1 ผู้อา่ นวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวัดพชิ ยั บนั ทกึ หลังการสอน 1.1 นกั เรยี นทีบ่ รรลุตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ......................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.............................................. 1.2 นกั เรียนทไี่ ม่บรรลุตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ..................คน คิดเป็นร้อยละ.............................................. ได้แก.่ ...................................................................................................................... ..................................... ............................................................................................ ........................................................................ ............................................................................................................................. ....................................... 1.3 พฤติกรรมการเรียน การรว่ มกจิ กรรมการเรียนร้.ู ....................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................... ............................................................................................................................. ...................................... 1.4 แนวทางการปรับปรุง แกไ้ ข พฒั นา........................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................ ....................................................................... ผลที่เกิดแก่ครผู ู้สอน ปัญหา อุปสรรคทพี่ บ และแนวทางการปรับปรุงแก้ไข พัฒนา ............................................................................................................... ...................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ................................................................................................................................................................ ..... ............................................................................................................................. ........................................ ลงชอ่ื ..........................................................ครูผสู้ อน (นายเสกสรรค์ วะลัยใจ) ลงชื่อ.........................................................ผตู้ รวจแผนฯ (นางสาวเตียงคา่ เตโช) ผูอ้ า่ นวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดพชิ ัย

~ 81 ~ แผนการจดั การเรียนรู้ 16 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 เวลาเรียน 20 ช่วั โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา เวลาเรียน 1 ช่วั โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 7 การออกกาลงั กายโดยการเลน่ กีฬา ภาคเรยี นที่ 2 แผนการเรียนรทู้ ี่ 16 เรือ่ งตะกรอ้ วง ทา่ เข่า สอนวนั ที่…………เดือน……………………..พ.ศ. …………… 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วดั  มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 3.1 เข้าใจ มที ักษะในการเคลอื่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา ตวั ชวี้ ดั พ 3.1 ป.6/3 เลน่ กีฬาไทย กีฬาสากล ประเภทบคุ คลและประเภททีมอย่างละ 1 ชนิด พ 3.1 ป.6/4 ใช้ทกั ษะกลไกเพ่อื ปรับปรุงเพิ่มพูนความสามารถของตนและผู้อนื่ ในการเล่นกีฬา มาตรฐาน พ 3.2 รกั การออกก่าลงั กาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏบิ ตั เิ ป็นประจ่าอยา่ งสมา่ เสมอ มวี ินัย เคารพสทิ ธิ กฎ กติกา มนี ่าใจนักกีฬา มีจิตวญิ ญาณในการแข่งขนั และช่นื ชมในสนุ ทรยี ภาพของการกีฬา ตัวช้วี ัด พ 3.2 ป.6/3 เลน่ กีฬาท่ตี นเองชืน่ ชอบและสามารถประเมนิ ทักษะการเล่นของตนเปน็ ประจา่ พ 3.2 ป.6/4 ปฏบิ ตั ติ ามกฎ กติกาตามชนดิ กีฬาท่ีเลน่ โดยคา่ นึงถึงความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น พ 3.2 ป.6/5 จ่าแนกกลวิธีการรกุ การป้องกัน และน่าไปใช้ในการเล่นกีฬา พ 3.2 ป.6/6 เล่นเกมและกฬี าด้วยความสามคั คแี ละมีน่าใจนักกีฬา 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกวิธกี ารฝึกท่าเขา่ (K) 2. ปฏิบัตทิ กั ษะทา่ เข่า (P) 3. มีความมุ่งมัน่ ในการฝึกปฏิบตั ิทักษะท่าเข่า (A) 3. สาระการเรียนรู้ การเลน่ กฬี าไทย • ตะกร้อวง ท่าเข่า 4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

~ 82 ~ 5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 6. อตั ลักษณข์ องเด็กแห่งมหานคร 1. รู้หน้าท่ี 2. มีจติ สาธารณะ 7. การจัดกระบวนการเรยี นรู้ คาถามสาคัญ การฝึกปฏบิ ัตทิ ่าเข่าที่มปี ระสิทธิภาพ ต้องให้ลูกตะกรอ้ กระทบบรเิ วณใดของเขา่ Step1 ขนั้ สงั เกต รวบรวมข้อมลู (Gathering) 1. นักเรียนร่วมกนั สนทนาแลกเปลีย่ นเรยี นร้เู ก่ยี วกบั การฝึกทักษะท่าหลงั เทา้ โดยตอบคา่ ถามดงั นี • นกั เรียนพงึ พอใจกับการฝกึ ท่าหลังเท้าของตนเองหรอื ไม่ (ตวั อยา่ งค่าตอบ พอใจ) • นกั เรยี นเดาะทา่ หลงั เทา้ ได้สงู สดุ กีค่ รงั ตอ่ การตก 1 ครงั (ตวั อยา่ งค่าตอบ 5 ครัง) • นักเรียนไดล้ องฝกึ เดาะท่าหลังเทา้ โดยใชข้ าข้างท่ีไมถ่ นัดหรือไม่ (ตัวอย่างค่าตอบ ได้ทดลองฝึก) • นักเรยี นใชข้ าข้างท่ีไม่ถนดั เดาะท่าหลงั เท้าได้ก่ีครงั (ตวั อยา่ งค่าตอบ 2 ครัง) • อุปสรรคของการฝกึ ทา่ หลังเท้าในแบบกล่มุ คอื อะไร (ตวั อยา่ งค่าตอบ การส่ือสารกันในกลุม่ ) 2. นักเรียนศึกษาความรู้และรวบรวมข้อมลู เกย่ี วกับกีฬาตะกร้อวง ทา่ เข่า จากแหล่งการเรยี นรตู้ ่าง ๆ เช่น หนังสือเรียน อินเทอร์เนต็ Step2 ขั้นคิดวเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความรู้ (Processing) 3. นักเรยี นร่วมกันวเิ คราะหแ์ ละแสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับการฝกึ ท่าเข่า โดยตอบค่าถาม ดังนี • การฝึกทา่ เข่ามีขันตอนในการฝึกก่ีขนั ตอน (4 ขันตอน) • ขนั ตอนที่ 1 ปฏิบตั ิอย่างไร (ยนื เตรยี มพร้อมดว้ ยเทา้ ค่ขู นาน ย่อเขา่ ตามองลกู ) • ขันตอนที่ 2 ปฏิบตั ิอยา่ งไร (การกา้ วเทา้ เพ่ือหาจงั หวะ ให้ก้าวดว้ ยเทา้ ข้างที่ไมถ่ นดั เข้าหาต่าแหน่งการยนื ทเี่ หมาะสม แล้วยอ่ เขา่ ) • ขันตอนท่ี 3 ปฏิบตั อิ ย่างไร (เมื่อได้จังหวะให้ยกเขา่ ขนึ กระทบลกู ตะกร้อทันที ให้ลูกตะกร้อกระทบเหนือเข่าขึนมาประมาณ 1 ฝา่ มอื ) • ขนั ตอนที่ 4 ปฏบิ ตั อิ ย่างไร (หลงั จากปฏิบตั ิขันตอนที่ 3 ใหก้ ลบั เข้าสทู่ า่ เตรียมพร้อมทันที) 4. นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเห็น โดยตอบค่าถามกระตุ้นความคิด ดังนี

~ 83 ~ • การฝกึ ปฏิบตั ิทา่ เขา่ ที่มปี ระสิทธภิ าพ ตอ้ งใหล้ ูกตะกรอ้ กระทบบรเิ วณใดของเข่า (ตวั อย่างค่าตอบ เหนือเขา่ ขนึ มาประมาณ 1 ฝา่ มือ) Step3 ข้ันปฏิบตั ิและสรปุ ความรู้หลังการปฏบิ ัติ (Applying and Constructing the Knowledge) 5. นกั เรยี นอบอนุ่ รา่ งกายให้พร้อมสา่ หรบั การฝึกปฏิบัติ โดยการสงั เกตและปฏบิ ตั ติ ามผูส้ อน 6. นักเรยี นฝึกปฏิบตั ทิ ่าเขา่ โดยสังเกตจากการสาธติ ของผ้สู อนและลงมือปฏบิ ัติ ซง่ึ จะมคี รูผสู้ อนคอยตรวจสอบ ความถูกต้อง 7. นกั เรียนจับคูฝ่ ึกปฏบิ ัติท่าเข่าแบบโต้ โดยสังเกตจากการสาธิตของผสู้ อนและลงมือปฏบิ ัติ ซึ่งจะมผี ู้สอนคอย ตรวจสอบความถูกต้อง 8. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ 5-6 คน ฝึกปฏบิ ัติทา่ เข่าแบบกลุ่ม โดยสงั เกตจากการสาธติ ของผสู้ อนและลงมือ ปฏบิ ตั ิ ซง่ึ จะมีผ้สู อนคอยตรวจสอบความถูกต้อง 9. นกั เรียนรว่ มกันสรปุ ส่งิ ที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกนั ดังนี การเล่นกฬี าไทย : ตะกรอ้ วง เปน็ การสรา้ งเสรมิ ร่างกายให้มีสุขภาพที่ดีทงั กายและใจ ซึง่ ผูเ้ ลน่ ตอ้ งมีความ สามัคคี มีน่าใจนักกีฬา ปฏิบัติตามกฎ กติกาอยา่ งเครง่ ครัด และประเมินทักษะการเล่นกีฬาของตนเองอยา่ งสม่าเสมอ เพ่อื น่าไปฝึกฝนพฒั นาศักยภาพใหเ้ ล่นกีฬาได้ดีและมีความปลอดภัย Step4 ขั้นส่ือสารและนาเสนอ (Applying the Communication Skill) 10. นกั เรยี นน่าเสนอผลการฝึกปฏิบัตทิ า่ หลงั เทา้ พรอ้ มบอกความรสู้ ึกและอุปสรรคในการปฏิบัติ 11. นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายสรปุ เกีย่ วกบั วธิ ีการท่างานให้เหน็ การคดิ เชงิ ระบบและวิธีการท่างานท่มี ีแบบแผน Step5 ข้ันประเมินเพ่ือเพิ่มคุณค่าบรกิ ารสังคมและจติ สาธารณะ (Self-Regulating) 12. นักเรยี นนา่ ความรู้ท่ีได้รบั จากการเรียนเรือ่ งทา่ พืนฐานในการเล่นตะกร้อ ท่าหลงั เทา้ ไปฝึกปฏบิ ตั ิให้ ช่านาญและนา่ ไปแลกเปล่ียนเรยี นรกู้ บั เพื่อน สมาชกิ ในครอบครัว หรือสมาชกิ ในชมุ ชนต่อไป 13.นกั เรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรสู้ ึกหลงั การเรยี นและหลังการท่ากจิ กรรม ในประเดน็ ต่อไปนี • สง่ิ ท่ีนกั เรยี นไดเ้ รียนรู้ในวนั นคี อื อะไร • นกั เรียนมสี ว่ นรว่ มกจิ กรรมในกลมุ่ มากนอ้ ยเพยี งใด • เพอ่ื นนักเรยี นในกลุ่มมีส่วนร่วมกิจกรรมในกล่มุ มากน้อยเพยี งใด • นักเรียนพึงพอใจกับการเรยี นในวันนีหรอื ไม่ เพยี งใด • นักเรียนจะนา่ ความรูท้ ไี่ ดน้ ีไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์แกต่ นเอง ครอบครวั และสังคมท่ัวไปได้อยา่ งไร จากนันแลกเปล่ียนตรวจสอบขนั ตอนการทา่ งานทกุ ขนั ตอนวา่ จะเพ่ิมคุณคา่ ไปสูส่ งั คม เกดิ ประโยชนต์ ่อสงั คม ใหม้ ากขึนกวา่ เดมิ ในขันตอนใดบา้ ง ส่าหรับการท่างานในครังตอ่ ไป 8. สอ่ื แหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียน รายวิชาพนื ฐาน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ชันประถมศึกษาปีท่ี 6 ของสถาบันพฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 2. แหลง่ การเรียนรทู้ ังภายในและภายนอกโรงเรยี น

~ 84 ~ 9. การวดั และการประเมนิ ผล 1. ประเมินความรู้ เร่ือง ตะกร้อวง ทา่ เขา่ (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทา่ งานกลุม่ (P) ด้วยแบบประเมิน 3. ประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นมีวนิ ัย มุ่งมั่นในการทา่ งาน (A) ด้วยแบบประเมิน แบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ (Rubrics) แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมนิ 4 3 21 กระบวนการ ทา่ งานกล่มุ มีการกา่ หนดบทบาท มีการกา่ หนดบทบาท มีการกา่ หนดบทบาท ไม่มีการก่าหนด สมาชิกชดั เจน และมีการ สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหวั หน้า บทบาทสมาชกิ ชีแจงเป้าหมายการทา่ งาน มกี ารชแี จงเปา้ หมาย ไม่มีการชแี จง และไมม่ ีการชแี จง มกี ารปฏบิ ัติงานรว่ มกัน อย่างชดั เจนและ เปา้ หมาย เป้าหมาย สมาชกิ อย่างร่วมมือร่วมใจพร้อมกับ ปฏบิ ัติงานร่วมกนั อย่างชัดเจน ต่างคนตา่ งท่างาน การประเมนิ เปน็ ระยะ ๆ แต่ไม่มกี ารประเมิน ปฏบิ ัติงานร่วมกนั เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทกุ คน การประเมนิ ผลคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ ตัวชีวดั ที่ 4.1 ตงั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและการเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดีเยีย่ ม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไมผ่ า่ น (0) 4.1.1 ตงั ใจเรียน ตงั ใจเรยี น เอาใจใส่ ตังใจเรยี น เอาใจใส่ ตงั ใจเรียน เอาใจใส่ ไม่ตังใจเรียน 4.1.2 เอาใจใส่ และมีความเพียร และมีความเพียร และมคี วามเพยี ร และมีความเพียรพยายามใน พยายามในการเรียนรู้ พยายามในการ พยายามในการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ เข้าร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ เขา้ รว่ ม เข้ารว่ มกจิ กรรมการ 4.1.3 สนใจเขา้ ร่วม เรียนร้ตู ่าง ๆเป็น กิจกรรมการเรียนรู้ เรยี นรู้ต่าง ๆ บางครงั กิจกรรมการเรยี นร้ตู ่าง ๆ ประจ่า ต่าง ๆ บ่อยครัง

~ 85 ~ ผลการพิจารณาแผนการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน ............................................................................................................................. ................................................................ ........................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................ ............................................................................................................................. .............................................................. อนุมัติ ปรบั ปรงุ ใหม่ ลงชื่อ..........................................................ผู้เสนอแผนฯ ลงช่ือ..........................................................ผูอ้ นุมตั ิ (นายเสกสรรค์ วะลัยใจ) (นางสาวเตยี งคา่ เตโช) ครู รับเงินเดือนอันดับ คศ.1 ผู้อ่านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั พชิ ัย บันทึกหลังการสอน 1.1 นกั เรยี นท่ีบรรลุตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ ......................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.............................................. 1.2 นกั เรียนท่ีไมบ่ รรลตุ ามจุดประสงค์การเรียนรู้ ..................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.............................................. ได้แก.่ ...................................................................................................................... ..................................... ............................................................................................................................. ....................................... .................................................................................................................................................................... 1.3 พฤติกรรมการเรียน การร่วมกิจกรรมการเรยี นร้.ู ....................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................... ........................................................................................................ ........................................................... 1.4 แนวทางการปรบั ปรุง แกไ้ ข พฒั นา........................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... ผลทเี่ กิดแก่ครผู ูส้ อน ปัญหา อปุ สรรคทีพ่ บ และแนวทางการปรับปรุงแกไ้ ข พัฒนา ............................................................................................................................. ........................................ .......................................................................................... ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ........................................................................................................................................... .......................... ลงช่ือ..........................................................ครูผู้สอน (นายเสกสรรค์ วะลัยใจ) ลงช่อื .........................................................ผตู้ รวจแผนฯ (นางสาวเตียงคา่ เตโช) ผู้อ่านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั พชิ ัย

~ 86 ~ แผนการจัดการเรียนรู้ 17 ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 เวลาเรยี น 20 ช่ัวโมง กลุม่ สาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 7 การออกกาลังกายโดยการเล่นกฬี า ภาคเรียนที่ 2 แผนการเรยี นร้ทู ่ี 17 เร่ืองตะกรอ้ วง ท่าโหม่ง สอนวนั ท่ี…………เดือน……………………..พ.ศ. …………… 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ัด  มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 3.1 เข้าใจ มที ักษะในการเคลือ่ นไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกฬี า ตวั ชว้ี ดั พ 3.1 ป.6/3 เล่นกีฬาไทย กีฬาสากล ประเภทบคุ คลและประเภททีมอย่างละ 1 ชนิด พ 3.1 ป.6/4 ใช้ทกั ษะกลไกเพื่อปรบั ปรุงเพ่ิมพูนความสามารถของตนและผ้อู ืน่ ในการเล่นกีฬา มาตรฐาน พ 3.2 รกั การออกก่าลังกาย การเล่นเกม และการเลน่ กีฬา ปฏิบัตเิ ป็นประจ่าอยา่ งสม่าเสมอ มีวินยั เคารพสิทธิ กฎ กติกา มนี า่ ใจนกั กีฬา มจี ิตวิญญาณในการแข่งขนั และชืน่ ชมในสุนทรียภาพของการกฬี า ตวั ช้วี ัด พ 3.2 ป.6/3 เล่นกฬี าทต่ี นเองช่ืนชอบและสามารถประเมินทักษะการเล่นของตนเป็นประจ่า พ 3.2 ป.6/4 ปฏิบัติตามกฎ กติกาตามชนดิ กฬี าที่เล่น โดยคา่ นึงถึงความปลอดภยั ของตนเองและผู้อน่ื พ 3.2 ป.6/5 จ่าแนกกลวธิ กี ารรกุ การปอ้ งกัน และน่าไปใช้ในการเล่นกีฬา พ 3.2 ป.6/6 เลน่ เกมและกฬี าดว้ ยความสามคั คแี ละมนี ่าใจนักกีฬา 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกวธิ ีการฝึกทา่ โหม่ง (K) 2. ปฏิบัตทิ กั ษะท่าโหมง่ (P) 3. มคี วามมุ่งมัน่ ในการฝกึ ปฏิบัติทักษะทา่ โหม่ง (A) 3. สาระการเรียนรู้ การเลน่ กีฬาไทย • ตะกร้อวง ท่าโหมง่ 4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

~ 87 ~ 5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 6. อัตลักษณข์ องเดก็ แห่งมหานคร 1. รู้หน้าที่ 2. มจี ติ สาธารณะ 7. การจดั กระบวนการเรียนรู้ คาถามสาคัญ หากตอ้ งการควบคมุ ทิศทางในการโหมง่ ใหม้ ีประสทิ ธิภาพ นักเรยี นต้องปฏบิ ตั ิอยา่ งไร Step1 ขัน้ สังเกต รวบรวมข้อมลู (Gathering) 1. นักเรยี นร่วมกันสนทนาแลกเปลี่ยนเรยี นรูเ้ กี่ยวกบั การฝกึ ทักษะทา่ เข่า โดยตอบคา่ ถามดังนี • นักเรียนพงึ พอใจกับการฝึกท่าเข่าของตนเองหรือไม่ (ตวั อย่างค่าตอบ พอใจ) • นักเรยี นเดาะท่าเข่าไดส้ ูงสดุ กี่ครงั ต่อการตก 1 ครงั (ตวั อยา่ งค่าตอบ 7 ครงั ) • นักเรยี นได้ลองฝึกเดาะทา่ เขา่ โดยใช้เขา่ ขา้ งที่ไม่ถนดั หรือไม่ (ตวั อยา่ งค่าตอบ ไดท้ ดลองฝึก) • นกั เรยี นใชเ้ ข่าข้างท่ีไม่ถนัดเดาะท่าเขา่ ได้กค่ี รงั (ตัวอย่างค่าตอบ 3 ครัง) • อุปสรรคของการฝึกทา่ เข่าในแบบกลุ่มคืออะไร (ตวั อยา่ งค่าตอบ ลูกไม่ค่อยลอยเหมือนทักษะท่าอ่ืน ท่าให้ต้องใชแ้ รงเพม่ิ ขนึ ในการสง่ ลูก) 2. นกั เรยี นศึกษาความรู้และรวบรวมขอ้ มูลเก่ียวกบั กีฬาตะกร้อวง ทา่ โหมง่ จากแหลง่ การเรียนรตู้ ่าง ๆ เชน่ หนังสือเรียน อินเทอรเ์ นต็ Step2 ขน้ั คดิ วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความรู้ (Processing) 3. นกั เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะห์และแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั การฝกึ ท่าโหมง่ โดยตอบค่าถาม ดงั นี • การฝกึ ท่าโหม่งมีขนั ตอนในการฝึกกข่ี นั ตอน (3 ขนั ตอน) • ขนั ตอนที่ 1 ปฏบิ ัติอยา่ งไร (ยืนเตรยี มพร้อมด้วยเท้าคูข่ นาน ย่อเขา่ ตามองลกู ) • ขนั ตอนที่ 2 ปฏบิ ัติอยา่ งไร (การก้าวเทา้ เพื่อหาจังหวะเล่นลกู ให้กา้ วเทา้ ทังคเู่ ข้าไปยงั บริเวณทล่ี ูกตะกร้อจะตก แล้วย่อเขา่ ) • ขันตอนท่ี 3 ปฏบิ ัติอยา่ งไร (เมือ่ ไดจ้ ังหวะให้ยืดตวั ขึนโหม่งลกู ตะกร้อทันที ด้วยหน้าผากด้านบน เกรง็ คอ และควรหันหนา้ เข้าหา เป้าหมายเสมอ) 4. นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยตอบค่าถามกระต้นุ ความคดิ ดงั นี • หากต้องการควบคมุ ทิศทางในการโหมง่ ให้มีประสทิ ธภิ าพ นักเรยี นตอ้ งปฏบิ ัติอย่างไร (ตวั อยา่ งค่าตอบ พยายามให้ลูกตะกร้อกระทบบริเวณหนา้ ผาก เกร็งคอ และหันหนา้ ไปยังเปา้ หมาย)