Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักการบัญชีเบื้องต้น 1

หลักการบัญชีเบื้องต้น 1

Published by Maliwan, 2022-03-07 10:09:56

Description: หลักการบัญชีเบื้องต้น 1

Search

Read the Text Version

E-BOOK หลักการ บัญชีเบื้องต้น Introductory to Accounting ผู้จัดทำ นางสาวมะลิวรรณ ศรีอุดร นางสาวเบญจมาศ มุงคุล

สารบัญ หน่วยที่ 1 ความรู้เบื้องต้นทางการบัญชี หน้า ความหมายของการบัญชี 1 วัตถุประสงค์ของการบัญชี 2 ประโยชน์ของข้อมูลการบัญชี 2 แม่บทการบัญชี 3 คำศัพท์บัญชี 9 แบบฝึกหัดท้ายหน่วย หน่วยที่ 1 10 ใบงานที่ 1.1 14 แบบฝึกปฏิบัติหน่วยที่ 1 16 หน่วยที่ 2 สินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าของ สินทรัพย์ตามแม่บทการบัญชี 17 ใบงานที่ 2.1 22 ใบงานที่ 2.2 22 หนี้สินตามแม่บทการบัญชี 23 ใบงานที่ 2.3 26 ส่วนของเจ้าของตามแม่บทการบัญชี 27 ใบงานที่ 2.4 28 คำศัพท์บัญชี 29 แบบฝึกหัดท้ายหน่วย หน่วยที่ 2 31 แบบฝึกปฎิบัติหน่วยที่ 2 35

สารบัญ หน่วยที่ 3 สมการบัญชี หน้า ความหมายของสมการบัญชี 38 การเขียนสมการบัญชีและการคำนวณ 38 ใบงานที่ 3.1 42 ใบงานที่ 3.2 43 คำศัพท์บัญชี 44 แบบฝึกหัดท้ายหน่วย หน่วยที่ 3 45 แบบฝึกปฏิบัติหน่วยที่ 3 50 หน่วยที่ 4 การวิเคราะห์รายการค้า ประเภทของธุรกิจและการดำเนินธุรกิจ 52 รายการค้า 55 หลักการวิเคราะห์รายการค้า 57 ผลกระทบของรายการค้าต่อสมการบัญชี 61 การวิเคราะห์รายการค้าตามหลักบัญชีคู่ 64 ใบงานที่ 4.1 79 ใบงานที่ 4.2 80 ใบงานที่ 4.3 81 ใบงานที่ 4.4 82 คำศัพท์บัญชี 83 แบบฝึกหัดท้ายหน่วย หน่วยที่ 4 85 แบบฝึกปฎิบัติหน่วยที่ 4 90

สารบัญ หน้า หน่วยที่ 5 การบันทึกรายการค้าในสมุดรายวันทั่วไป ความหมายของสมุดรายวันทั่วไป 92 ประโยชน์ของสมุดรายวันทั่วไป 92 ประเภทของสมุดบัญชี 93 รูปแบบของสมุดรายวันทั่่วไป 94 หลักการบันทึกรายการค้า 96 ใบงานที่ 5.1 100 ใบงานที่ 5.2 107 คำศัพท์บัญชี 108 แบบฝึกหัดท้ายหน่วย หน่วยที่ 5 110 แบบฝึกปฏิบัติหน่วยที่ 5 114 หน่วยที่ 6 การผ่านรายการไปยังบัญชีแยกประเภท ความหมายของบัญชีแยกประเภท 118 ประเภทของสมุดบัญชีแยกประเภท 119 ใบงานที่ 6.1 121 ใบงานที่ 6.2 121 การหายอดคงเหลือในบัญชีแยกประเภท 122 ใบงานที่ 6.3 134 คำศัพท์บัญชี 134 แบบฝึกหัดท้ายหน่วย หน่วยที่ 6 136 แบบฝึกปฎิบัติหน่วยที่ 6 141

สารบัญ หน่วยที่ 7 งบทดลอง หน้า ความหมายของงบทดลอง 143 ประโยชน์ของงบทดลอง 143 หลักการจัดทำงบทดลอง 145 ใบงานที่ 7.1 148 คำศัพท์บัญชี 149 แบบฝึกหัดท้ายหน่วย หน่วยที่ 7 150 แบบฝึกปฏิบัติหน่วยที่ 7 154 หน่วยที่ 8 กระดาษทำการ 6 ช่อง ความหมายของกระดาษทำการ 156 ประโยชน์ของกระดาษทำการ 156 ขั้นตอนในการจัดทำกระดาษทำการ 6 ช่อง157 ใบงานที่ 8.1 163 คำศัพท์บัญชี 164 แบบฝึกหัดท้ายหน่วย หน่วยที่ 8 165 แบบฝึกปฎิบัติหน่วยที่ 8 169

1 หน่วยที่ 1 ความรู้เบื้องต้นทางการบัญชี ความหมายของการบัญชี การบัญชี (Accounting) หมายถึง การรวบรวม วิเคราะห์ การจดบันทึกข้อมูลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานตามเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นก่อน - หลัง ในรูปของเงินตรา และจำแนกออกเป็นหมวด หมู่ รวมถึงการสรุปข้อมูลในรูปของรายงานทางการเงิน การบัญชีมีความหมายที่สำคัญ 2 ประการ คือ 1. การทำบัญชี (Bookkeeping) เป็นหน้ าที่ของผู้ทำบัญชี มีดังนี้ 1.1 การรวบรวม (Collecting) หมายถึง การรวบรวม ข้อมูลหรือรายการค้าที่เกิดขึ้นประจำวัน และหลักฐานที่เกี่ยวกับ การดำเนินธูรกิจ เช่น การซื้อ-ขาย การรับ-จ่ายเงิน เป็นต้น 1.2 การบันทึก (Recording) หมายถึง การจดบันทึก รายการค้าที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งให้ถูกต้องตามหลักบัญชี 1.3 การจำแนก (Classifying) การนำข้อมูลที่จดบันทึก ไว้แล้วมาจำแนกให้เป็ นหมวดหมู่ของบัญชีประเภทต่างๆ 1.4 การสรุปข้อมูล (Summarizing) เป็นการนำข้อมูลที่ ได้จำแนกให้เป็นหมวดหมู่แล้ว มาสรุปเป็นรายงานทางการเงิน 2. การให้ข้อมูลทางการเงิน เพื่อประโยชน์แก่บุคคลที่เกี่ยว ข้องหลายฝ่าย เช่น ฝ่ายบริหาร ผู้ให้กู้ เจ้าหนี้ รัฐบาล นักลงทุน เป็ นต้น

2 วัตถุประสงค์ของการบัญชี 1. เพื่อช่วยให้เจ้าของกิจการสามารถควบคุมรักษาสินทรัพย์ของ ตนเองได้ 2. เพื่อช่วยให้ทราบผลการดำเนินงานของกิจการในรอบระยะ เวลาใดเวลาหนึ่ ง 3. เพื่อช่วยให้ทราบฐานะการเงินของกิจการ ณ วันใดวันหนึ่ง 4. การทำบัญชีเป็นการรวบรวมสถิติอย่างหนึ่งที่ช่วยในการบริหาร งานและให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ในการวางแผนการดำเนิน และ ควบคุมกิจการให้ประสบความสำเร็จตามความมุ่งหมาย 5. เพื่อบันทึกรายการค้าที่เกิดขึ้นตามลำดับก่อนหลัง และจำแนก ประเภทของรายการค้าไว้ 6. เพื่อให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการทำบัญชีของ กิจการ ต่างๆ ประโยชน์ของข้อมูลการบัญชี เมื่อมีการจัดทำบัญชีอย่างถูกต้องตามวัตถุประสงค์แล้ว ก็จะส่ง ผลทำให้กิจการได้รับประโยชน์ของข้อมูลการบัญชีมากมาย ดังนี้ 1. เพื่อเป็นเครื่องมือวัดความสำเร็จในการดำเนินธรุกิจ 2. เพื่อช่วยในการวางแผนและตัดสินใจของธุรกิจ 3. เพื่อช่วยในการวางแผนกำไร และควบคุมค่าใช้จ่ายของ กิจการ 4. เพืื่อเป็นเครื่องมือช่วยในการหาแหล่งเงินทุน 5. เพื่อให้มีระบบการควบคุมภายในที่ดี และเป็นสัญญาณ เตือนภัยของกิจการ 6. เพื่อประโยชน์ในการวางแผน เพื่อเสียภาษีได้อย่างถูกต้อง และประหยัด

3 แม่บทการบัญชี แม่บทการบัญชี (Accounting Framework) ไม่ถือเป็น มาตรฐานการบัญชี แต่เป็นกรอบหรือแนวคิดขั้นพื้นฐานในการจัดทำ และนำเสนองบการเงิน กำหนดและนำมาตรฐานการบัญชีมาปฏิบัติ และเป็ นแนวทางในการปฎิบัติสำหรับเรื่ องที่ยังไม่มีมาตรฐานการ บัญชีรองรับเพื่ อให้ผู้ใช้งบการเงินทุกฝ่ ายเข้าใจและปฏิบัติแนวทาง เดียวกัน แม่บทการบัญชีเกี่ยวข้องกับเรื่องต่อไปนี้ วัตถุประสงค์ของงบการเงิน งบการเงิน จัดทำขึ้นเพื่อ 1. ให้ข้อมูลเกี่ยวกับฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน การ เปลี่ยนแปลงฐานะการเงินของกิจการ ซึ่งแสดงไว้ในงบแสดงฐานะ ทางการเงิน งบกำไรขาดทุน และงบกระแสเงินสดรวมถึงหมายเหตุ ประกอบงบการเงิน รายละเอียดประกอบและข้อมูลอื่นๆ ซึ่งระบุไว้ ว่าเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงิน โดยฝ่ายบริหารของกิจการมีหน้ าที่ รับผิดชอบในการจัดทำและนำเสนองบการเงิน 2. ข้อมูลในงบการเงินต้องมีประโยชน์ต่อการตัดสินใจเชิง เศรษฐกิจของผู้ใช้สามารถตอบสนองความต้องการทั่วไปของผู้ใช้ได้ 3. แม่บทการบัญชีมิได้เน้ นถึงความสำคัญของผู้ใช้งบการเงิน กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ แต่ให้ถือความต้องการของผู้ลงทุนเป็น เกณฑ์ งบการเงินไม่อาจให้ข้อมูลทุกประเภทที่ผู้ใช้ต้องการได้ เนื่องจากข้อมูลส่วนใหญ่แสดงถึงผลกระทบทางการเงินจากเหตุ - การณ์ในอดีต โดยไม่จำเป็นต้องแสดงข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลทางการ เงิน แม้จะเป็นข้อมูลในอดีตแต่ช่วยให้ผู้ใช้ประมาณการและคาด การณ์ในอนาคตเพื่อตัดสินใจทางเศรษฐกิจได้ รวมถึงประเมินผลการบริหารงาน ความสมารถในการทำกำไร และก่อกระแสเงินสดของกิจการเพื่ อใช้ตัดสินใจในกรณีใดกรณีหนึ่ ง

4 ข้อสมมติฐานทางบัญชี แม่บทการบัญชีได้กำหนดข้อสมมติไว้ 2 ประการ คือ 1. เกณฑ์คงค้าง (Accrual Basis) การบันทึกรายการทางบัญชี จะบันทึกก็ต่อเมื่อรายการนั้นได้เกิดขึ้นแล้ว โดยบันทึกถูกต้องตรง ตามงวดบัญชีที่เกี่ยวข้อง นอกจากจะให้ข้อมูลแก่ผู้ใช้งบการเงิน เกี่ยวกับรายการค้าในอดีตที่เกี่ยวข้องกับการรับและจ่ายเงินสดแล้ว ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาระผูกพันที่กิจการต้องจ่ายเป็ นเงินสดใน อนาคต และข้อมูลเกี่ยวกับทรัพยากรที่ได้รับเป็นเงินสดในอนาคต ด้วย ดังนั้นจึงให้ข้อมูลรายการและเหตุการณ์ทางบัญชีในอดีตซึ่ง เป็ นประโยชน์แก่ผู้ใช้งบการเงินในการตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจ 2. การดำเนินงานต่อเนื่ อง (Going Concern) งบการเงินจัด ทำขึ้นภายใต้ข้อสมมุติที่ว่า กิจการจะดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง และ ดำเนินอยู่ต่อไปในอนาคตโดยไม่มีเจตนาหรือความจำเป็ นที่จะเลิก กิจการหรือลดขนาดของการดำเนินงานอย่างมีสาระสำคัญ หาก กิจการมีเจตนาหรือความจำเป็นงบการเงินต้องจัดทำขึ้น โดยใช้ เกณฑ์อื่ นและต้องเปิ ดเผยเกณฑ์นั้นในงบการเงิน ลักษณะเชิงคุณภาพของงบการเงิน ตามที่แม่บทการบัญชีกำหนดไว้ มีดังนี้ 1. ความเข้าใจได้ ข้อมูลในงบการเงินต้องเข้าใจได้ในทันทีที่ ผู้ใช้งบการเงินใช้ข้อมูลภายใต้ข้อสมมุติที่ว่า ผู้ใช้งบการเงินมีความ รู้ตามควรเกี่ยวกับธุรกิจ กิจกรรมเชิงเศรษฐกิจและการบัญชีรวมทั้ง มีความตั้งใจตามควรที่จะศึกษาข้อมูลดังกล่าว 2. ความเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ ต้องเป็นข้อมูลที่ช่วยให้ ผู้ใช้งบการเงินสามารถประเมินเหตุการณ์ในอดีต ปัจจุบัน และ อนาคต และช่วยยืนยันหรือชี้ข้อผิดพลาดของผลการประเมินที่ผ่าน มาของผู้ใช้ได้ ผู้ใช้ควรคำนึงถึงความมีนัยสำคัญในการพัฒนาความ เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของข้อมูลนั้น ข้อมูลจะถือว่ามีนัยสำคัญ เมื่อมีการละเว้นที่จะแสดงข้อมูลนั้น

5 3. ความเชื่อถือได้ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต้องเชื่อถือได้ โดย เป็ นข้อมูลที่ปราศจากความผิดพลาดที่มีนัยสำคัญและความลำเอียง ซึ่งประกอบด้วยลักษณะดังต่อไปนี้ 3.1 การเป็นตัวแทนอันเที่ยงธรรม 3.2 เนื้อหาสำคัญกว่ารูปแบบ 3.3 ความเป็นกลาง 3.4 ความระมัดระวัง 3.5 ความครบถ้วน 4. การเปรียบเทียบกันได้ ผู้ใช้งบการเงินต้องเปรียบเทียบ งบการเงินในรอบระยะเวลาต่างกันของกิจการเดียวกันในรอบระยะ เวลาเดียวกันของแต่ละกิจการได้ แต่มิได้หมายความว่าข้อมูลต้อง อยู่ในรูปแบบเดียวกันตลอดไป และไม่ยกเป็นข้ออ้างที่จะไม่นำ มาตรฐานการบัญชีที่เหมาะสมกว่ามาถือปฏิบัติ เพื่อให้ข้อมูลสามารถเปรียบเทียบกันได้ ช่วยให้ผู้ใช้งบการเงิน สามารถคาดคะเนถึงแนวโน้ มของฐานะการเงินและผลการดำเนิน งานของกิจการนั้น รวมทั้งเปรียบเทียบแนวโน้ มกับกิจการอื่นก่อน ที่จะตัดสินใจลงทุน คำนิยาม การรับรู้และการวัดมูลค่าขององค์ประกอบ ต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นงบการเงิน องค์ประกอบของงบการเงินและคำนิยาม คือประเภทของ รายการและเหตุการณ์ทางบัญชีตามลักษณะเชิงเศรษฐกิจของราย- การและเหตุการณ์นั้นที่แสดงไว้ในงบการเงิน ซึ่งแม่บทการบัญชีได้ ให้คำนิยามองค์ประกอบต่างๆ เพื่อประโยชน์ในการตีความเพื่อจำแนกรายการต่างๆ ในงบการ เงินโดยมีรายละเอียด ดังนี้

6 - องค์ประกอบซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการวัดฐานะการเงินใน งบแสดงฐานะทางการเงิน ได้แก่ ก. สินทรัพย์ หมายถึง ทรัพยากรที่อยู่ในความควบคุมของ กิจการ ทรัพยากรดังกล่าวเป็นผลของเหตุการณ์ในอดีตซึ่งคาดว่าจะ ได้รับประโยชน์เชิงเศรษฐกิจจากทรัพยากรนั้นในอนาคต ข. หนี้สิน หมายถึง ภาระผูกพันในปัจจุบันของกิจการ ภาระผูกพันดังกล่าวเป็นผลของเหตุการณ์ในอดีต โดยคาดว่าจะส่ง ผลให้กิจการสูญเสียทรัพยากรที่มีประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ ค. ส่วนของเจ้าของ หมายถึง ส่วนได้เสียคงเหลือใน สินทรัพย์ของกิจการหลังจากหักหนี้สินทั้งสิ้นออกแล้ว - องค์ประกอบซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการวัดผลการดำเนิน งานในงบกำไรขาดทุน ได้แก่ ก. รายได้ หมายถึง การเพิ่มขึ้นของประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ ในรอบระยะเวลาบัญชีในรูปกระแสเข้าหรือการเพิ่มค่าของสินทรัพย์ หรือการลดลงของหนี้สิน อันส่งผลให้ส่วนของเจ้าของเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ไม่รวมถึงเงินทุนที่ได้รับจากผู้มีหุ้นส่วนในส่วนของเจ้าของ ข. ค่าใช้จ่าย หมายถึง การลดลงของประโยชน์เชิงเศรษฐ- กิจในรอบระยะเวลาบัญชีในรูปกระแสออก หรือการลดค่าของ สินทรัพย์ หรือการเพิ่มขึ้นของหนี้สินอันส่งผลให้ส่วนของเจ้าของ ลดลง ทั้งนี้ไม่รวมถึงการแบ่งปันส่วนทุนให้กับผู้มีส่วนร่วมในส่วน ของเจ้าของ

7 การรับรู้องค์ประกอบของงบการเงิน การรับรู้รายการ หมายถึง การรวบรวมรายการเข้าเป็นส่วน หนึ่งของงบแสดงฐานะทางการเงินและงบกำไรขาดทุน หากรายการ นั้นเป็ นไปตามคำนิยามและเข้าเกณฑ์การรับรู้รายการทุกข้อ ดังต่อไปนี้ 1) มีความเป็นไปได้ที่ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคตของ รายการจะเข้าหรือออกจากกิจการ ซึ่งยึดหลักความน่าจะเป็นในการ พิจารณาการบันทึกรายการในงบการเงิน 2 รายการดังกล่าวมีราคาทุนหรือมูลค่าที่สามารถวัดได้อย่าง น่าเชื่อถือ ซึ่งยึดหลักการประมาณที่สมเหตุสมผลในการพิจารณา การบันทึกรายการในงบการเงิน สำหรับรายการที่ไม่เข้าเกณฑ์ กิจการไม่ควรรับรู้รายการนั้นแต่ควรเปิ ดเผยในหมายเหตุประกอบ งบการเงิน หรือคำอธิบายเพิ่มเติมหากรายการนั้นมีความเกี่ยวข้อง กับการตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจของผู้ใช้ การวัดมูลค่าองค์ประกอบของงบการเงิน การวัดมูลค่า คือ การกำหนดจำนวนเงินเพื่อรับรู้องค์ประกอบของ งบการเงินในงบแสดงฐานะทางการเงินและงบกำไรขาดทุน การวัด มูลค่าจะเกี่ยวข้องกับการเลือกใช้เกณฑ์วัดค่าต่างๆ ดังนี้ 1) ราคาทุนเดิม หมายถึง การบันทึกราคาสินทรัพย์ด้วยจำนวน เงินที่จ่ายไปหรือบันทึกด้วยมูลค่ายุติธรรมของสิ่งของที่นำไปแลก สินทรัพย์มา ณ วันที่เกิดรายการ และการบันทึกหนี้สินด้วยจำนวน เงินที่คาดว่าจะต้องจ่ายเพื่อชำระหนี้ที่เกิดจากการดำเนินงานตาม ปกติของกิจการ 2) ราคาทุนปัจจุบัน หมายถึง การแสดงสินทรัพย์ด้วยราคา ในปัจจุบันโดยเทียบกับจำนวนเงินที่ต้องจ่ายในขณะนั้น สำหรับ สินทรัพย์ชนิดเดียวกัน หรือสินทรัพย์ที่เท่าเทียมกัน และการแสดง หนี้สินด้วยราคาในปัจจุบัน โดยเทียบกับจำนวนเงินที่ต้องใช้ชำระ ภาระผูกพันธ์ในขนาดนั้น

8 3) มูลค่าที่จะได้รับ หมายถึง การแสดงสินทรัพย์ด้วยจำ นวนเงินที่อาจได้มาในขณะนั้น หากกิจการขายสินทรัพย์โดยมิใช่ การบังคับขาย การแสดงหนี้สินด้วยมูลค่าที่คาดว่าจะต้องจ่ายเพื่อ ชำระหนี้สินที่เกิดจากการดำเนินงานตามปกติ 4) มูลค่าปัจจุบัน หมายถึง การแสดงสินทรัพย์และหนี้สิน ด้วยมูลค่าปั จจุบันของกระแสเงินสดในอนาคตภายใต้การดำเนิน งานตามปกติของกิจการ

9 คำศัพท์บัญชี ศัพท์บัญชี ศัพท์ภาษาอังกฤษ การบัญชี Accounting การทำบัญชี Bookkeeping การรวบรวม Collecting การบันทึก Recording การจำแนก Classifying การสรุปข้อมูล Summarizing แม่บทการบัญชี Accounting Framework เกณฑ์คงค้าง Accrual Basis การดำเนินงานต่อเนื่ อง Going Concern

10 แบบฝึกหัดท้ายบท คำชี้แจง : จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องเพียงข้อเดียว 1ค.ำกชี้าแรจบังญชี หมายถึง ก. การจัดหาข้อมูลทางการเงินของกิจการค้า ข. การจัดทำบัญชีรับ-จ่ายเงินสด ค. การจดบันทึกรวบรวมและสรุปผลข้อมูลทางการเงิน ง. การจดบันทึก จำแนก การสรุปผล และการรายงานเกี่ยว กับการเงินโดยใช้หน่วยเงินตรา 2. ข้อใดถือเป็นการรวบรวมข้อมูล ก. บันทึกรายการค้าในสมุดรายวัน ข. จัดหมวดหมู่บัญชี ค. หลักฐานรายรับและรายจ่าย ง. การทำงบการเงิน 3. การทำบัญชี คือข้อใด ก. Bookkeeping ข. Bookkeeper ค. Accounting ง. Report 4. ผู้มีหน้ าที่ในการจัดทำบัญชีคือใคร ก. Bookkeeping ข. Bookkeeper ค. Accounting ง. Report 5. ข้อมูลทางการเงินมีประโยชน์ต่อบุคคลใดบ้าง ก. ผู้ลงทุน เจ้าหนี้ ลูกหนี้ ข. เจ้าหนี้ รัฐบาล ผู้ลงทุน ค. รัฐบาล ง. ข้อ ข. และ ค.

11 6. ข้อใดแสดงถึงการให้ข้อมูลทางการเงิน ก. ใบกำกับสินค้า ข. งบกำไรขาดทุน ค. งบประมาณเงินสด ง. การบันทึกรายการค้า 7. ข้อใดหมายถึง \"Collecting\" ก. การรวบรวม ข. การบันทึก ค. การจำแนก ง. การสรุป 8. ข้อใดหมายถึง \"Recording\" ก. การรวบรวม ข. การบันทึก ค. การจำแนก ง. การสรุป 9. ข้อใดเป็นลักษณะของการสรุปข้อมูล ก. ใบกำกับสินค้า ข. งบกำไรขาดทุน ค. การวางระบบบัญชี ง. สมุดรายวันทัั่วไป 10. ข้อใดเป็นวัตถุประสงค์ของการจัดทำบัญชี ก. ควบคุมรักษาสินทรัพย์กิจการ ข. ทราบผลการดำเนินงานกิจการ ค. ทราบฐานะการเงินของกิจการ ง. ถูกทุกข้อ 11. ข้อใดคือประโยชน์ของข้อมูลการบัญชี ก. ช่วยวางแผนและตัดสินใจ ข. ช่วยหาแหล่งเงินทุน ค. ช่วยให้มีระบบควบคุมภายในที่ดี ง. ถูกทุกข้อ 12. ข้อใดเป็นกาารเขียนตัวเลขที่ใส่เครื่องหมายถูกต้อง ก. 5,550 ข. 6,956.- ค. \"5,250\" ง. 2,500.25.-

12 13. ข้อใดหมายถึงแม่บทการบัญชี ก. Financial Statements ข. Accounting Framework ค. Accounting ง. Framework 14. การเก็บใบเสร็จหรือหลักฐานการซื้อและขายเกี่ยวกับการ ดำเนินธุรกิจคือลักษณะข้อใด ก. การรวบรวมข้อมูล ข. การจดบันทึก ค. การจำแนก ง. การสรุปข้อมูล 15. การแบ่งหมวดหมู่ของบัญชีประเภทต่างๆ คือข้อใด ก. กาารบันทึก ข. การจำแนก ค. การสรุปข้อมูล ง. การให้ข้อมูล 16. ข้อสมมติทางบัญชีมีกี่ประการ ก. 1 ประการ ข. 2 ประการ ค. 3 ประการ ง. 4 ประการ 17. การบัญชีมีความหมายที่สำคัญอยู่ 2 ประการ คือ ก. การทำบัญชี , การให้ข้อมูลทางบัญชี ข. การรวบรวม , การบันทึก ค. การรวบรวม , การทำบัญชี ง. การทำบัญชี , การสรุปผล

13 18. หน่วยงานใดรับผิดชอบร่างมาตรฐานการบัญชีในปัจจุบัน ก. สมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่ง ประเทศไทย ข. กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ค. สภาวิชาชีพบัญชี ในพระราชูปถัมภ์ ง. คณะกรรมการสภาวิชาชีพบัญชี 19. \"เงินเบิกเกินบัญชีธนาคาร\" เป็นรายการประเภทใด ก. สินทรัพย์หมุนเวียน ข. สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ค. หนี้สินหมุนเวียน ง. หนี้สินไม่หมุนเวียน 20. บัญชีมีทั้งหมดกี่หมวด ก. 3 หมวด ข. 4 หมวด ค. 5 หมวด ง. 6 หมวด

14 ใบงานที่ 1.1 คำชี้แจง : ให้เขียนตัวเลข หรือตัวอักษรให้ถูกต้องตามหลัก บัญชี แต่ละกรณี ดังนี้ 1. เขียนเครื่องหมายจุลภาค ( , ) ในจำนวนเงินต่อไปนี้ให้ถูก ต้องตามหลักบัญชีที่รับรองทั่วไป จำนวนเลข จำนวนเงิน บาท สต. 10000 100000 1000000000 2. เขียนตัวเลขต่อไปนี้เป็นตัวอักษรให้ถูกต้อง จำนวนเงิน (ตัวเลข) จำนวนเงิน (ตัวอักษร) 21,345.10 59,999.50 14,552.20 2,234,550.50

15 3. เขียนจำนวนเงินตัวอักษรต่อไปนี้ให้เป็นตัวเลขและรวมยอด ให้ถูกต้อง จำนวนเงิน (ตัวอักษร) จำนวนเงิน (ตัวเลข) สองหมื่นห้าสิบบาทถ้วน หนึ่ งหมื่ นสี่พันสามสิบบาทยี่สิบสตางค์ หนึ่ งแสนสามร้อยห้าสิบบาทถ้วน สามล้านห้าแสนหกหมื่นเจ็ดร้อย บาทถ้วน

16 แบบฝึกปฏิบัติหน่วยที่ 1 คำชี้แจง : จงเติมคำในช่วงว่างให้สมบูรณ์ 1. การบัญชี (Accounting) หมายถึงอะไร จงอธิบาย ............................................................................................. ............................................................................................. ............................................................................................. 2. การบัญชีมีวัตถุประสงค์อย่างไร ............................................................................................. ............................................................................................. ............................................................................................. 3. การบัญชีมีประโยชน์อย่างไร ............................................................................................. ............................................................................................. ............................................................................................. 4. สาระสำคัญของแม่บทการบัญชี คืออะไร จงอธิบาย ............................................................................................. ............................................................................................. ............................................................................................. 5. ข้อสมมติทางบัญชีตามแม่บทการบัญชีได้กำหนดข้อสมมติ ไว้อย่างไรบ้าง ............................................................................................. ............................................................................................. .............................................................................................

17 หน่วยที่ 2 สินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าของ สินทรัพย์ตามแม่บทการบัญชี สินทรัพย์ (Asset) หมายถึง สิ่งที่มีมูลค่าเป็นตัวเงินที่บุคคล หรือกิจจการเป็นเจ้าของ ทรัพยากรที่อยู่ในความควบคุมของ กิจการ ทรัพยากรดังกล่าวเป็นผลของเหตุการณ์ในอดีตซึ่งกิจการ คาดว่าจะได้รับประโยชน์เชิงเศรษฐกิจจากทรัพยากรนั้นในอนาคต เช่น เงินสด (Cash) เงินฝากธนาคาร ( Deposits at financial institutions) ลูกหนี้การค้า (Account receivables) รถยนต์ อาคาร เครื่องใช้สำนักงาน ที่ดิน ลิขสิทธิ์ (Copyright) สิทธิบัตร (Patent) ค่าความนิยม (Goodwill) สัมปทาน (Franchises) เครื่องหมายการค้า (Tradmarks) เป็นต้น ประเภทของสินทรัพย์ สินทรัพย์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. สินทรัพย์หมุนเวียน (Current Asset) 2. สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (Non-Current Asset)

18 สินทรัพย์หมุนเวียน (Current Asset) สินทรัพย์หมุนเวียน หมายถึง สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสามารถ เปลี่ยนมาเป็นเงินสด หรือขาย หรือจะใช้หมดไปภายในเวลา 1 ปี หรือน้ อยกว่านั้น ซึ่งเป็นไปตามการดำเนินธุรกิจขององค์กร เช่น เงินสด (Cash) หรือสินทรัพย์อื่นที่สามารถเปลี่ยนมาเป็นเงินสดได้ โดยเร็ว เงินฝากธนาคาร ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น (Trade and other receivles) และสินค้าคงเหลือ (Inventories) รวมทั้ง สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น (Other current assets) เป็นต้น สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (Non-Current Asset) สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน หมายถึง สินทรัพย์ที่ไม่สามารถเปลี่ยน เป็นเงินสดได้โดยเร็ว หรือเป็นสินทรัพย์ที่กิจการมีไว้ใช้งาน และ มีอายุการใช้งานนานเกินกว่า 1 ปี เช่น เงินลงทุนระยะยาว (Long- term inverstments) ที่ดิน อาคาร อุปกรณ์ (Property , Plant and Equipment) นอกจากนั้นยังอาจมีสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตน เช่น ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร สัมปทาน เป็นต้นและสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น (Other non-current assest) ได้โดยแต่ละรายการแยกย่อยได้อีก

19 ตัวอย่างที่ 1 เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2564 นายเอ ได้สำรวจ ตนเองพบว่ามีทรัพย์สินส่วนตัว ดังนี้ เงินสด 100,000 บาท รถยนต์ 172,000 บาท อุปกรณ์สำนักงาน 200,000 บาท รวมทั้งสิ้น 472,000 บาท หมายเหตุ 1. ทรัพย์สินดังกล่าวนี้ในทางบัญชีเรียกว่า \"สินทรัพย์\" 2. จะเห็นได้ว่านายเอมีสินทรัพย์ส่วนตัวทั้งสิ้นจำนวน 472,000 บาท ตัวอย่างที่ 2 ต่อไปนี้เป็ นรายการสินทรัพย์ของร้านจำลอง บริการ ซึ่งมีนายจำลองเป็นเจ้าของ เงินสด 100,000 บาท เงินฝากธนาคาร 60,000 บาท เครื่องตกแต่ง 80,000 บาท อาคาร 200,000 บาท 840,000 บาท รวม ร้านจำลองบริการมีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 84,000 บาท ซึ่งเป็ นสินทรัพย์ส่วนตัว

20 ลักษณะของสินทรัพย์ ลักษณะของสินทรัพย์ตามแม่บทบัญชีมีดังต่อไปนี้ 1. ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคตของสินทรัพย์ หมายถึง ศักยภาพของสินทรัพย์ในการก่อให้เกิดกระเเสเงินสด และรายการ เทียบเท่าเงินสดแก่กิจการททั้งทางตรงและทางอ้อม ศักยภาพดัง กล่าวอาจอยู่ในรูปของการเพิ่มประโยชน์ซึ่งเป็ นส่วนหนึ่ งของ กิจกรรมดำเนินงาน หรืออาจอยู่ในรูปของความสามารถในการ เปลี่ยนเป็นเงินสดหรือรายการเทียบเท่าเงินสด หรือสามารถในการ ลดกระแสเงินสดจ่าย เช่น การบวนการผลิตใหม่ที่ชวยลดต้นทุน การผลิต 2. โดยทั่วไป กิจการใช้สินทรัพย์เพื่อผลิิตสินค้าหรือบริการที่ สามารถตอบสนองความต้องการหรือความจำเป็นของลูกค้า เมื่อ สินค้าหรือบริการนั้นตอบสนองความต้องการหรือความจำเป็ นของ ลูกค้าได้ ลูกค้าจึงพร้อมที่จะจ่ายเงินให้กิจการเพื่อซื้อสินค้าหรือ บริการ ซึ่งทำให้กิจการได้รับกระแสเงินสดที่จะเป็นประโยชน์ใน การจัดหาทรัพยากรอื่น 3. กิจการอาจได้รับประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคตจาก สินทรัพย์ในหลายลักษณะ เช่น 3.1 กิจการอาจใช้สินทรัพย์หรือนำสินทรัพย์มาใช้ร่วมกับ สินทรัพย์อื่นเพื่อผลิตสินค้า หรือให้บริการ 3.2 กิจการอาจนำสินทรัพย์ที่มีอยู่ไปแลกกับสินทรัพย์อื่น 3.3 กิจการนำสินทรัพย์ไปชำระหนี้สิน 3.4 กิจการนำสินทรัพย์มาจ่ายให้กับเจ้าของ

21 4. สินทรััพย์หลายประเภทเป็นสินทรัพย์ที่มีรูปแบบทาง กายภาพ เช่น ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม รูป แบบทางกายภาพมิใช่เรื่องสำคัญที่กำหนดว่าสินทรัพย์มีอยู่จริง ดัง นั้นลิขสิทธิ์และสิทธิบัตรถือเป็นสินทรัพย์ของกิจการได้ หากคาด คะเนได้ว่ากิจการจะได้รับประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคตจาก ลิขสิทธิ์และสิทธิบัตร และอยู่ในความควบคุมของกิจการ 5. สินทรัพย์หลายประเภทเกี่ยวข้องกับสิิทธิทางกฎหมายรวม ถึงกรรมสิทธิ์ในสินทรัพย์นั้น เช่น ลูกหนี้การค้า และที่ดิน 6. สินทรัพย์ของกิจการเป็นผลของรายการและเหตุการณ์ทาง บัญชีในอดีต โดยทั่วไปกิจการได้สินทรัพย์มาโดยการซื้อหรือผลิต สินทรัพย์ขึ้นเอง แต่กิจการอาจได้สินทรัพย์มาจากรายการและ เหตุการณ์ทางบัญชีในลักษณะอื่น 7. การเกิดรายจ่ายอาจเกี่ยวพันอย่างไกล้ชิดกับการได้มาซึ่ง ทรัพย์สิน แต่ไม่จำเป็นต้องเกิดพร้อมกันเสมือไป ดังนั้น รายจ่ายที่ เกิดขึ้นอาจเป็ นหลักฐานที่ทำให้สรุปได้ว่ารายจ่ายนั้นเป็ นสินทรัพย์ ตามคำนิยามในททำนองเดียวกัน สินทรัพท์อาจเป็นไปตามคำ นิยามแม้จะไม่มีรายจ่ายเกิดขึ้น

22 ใบงานที่ 2.1 คำชี้แจง : จงปฏิบัติกิจกรรมดังต่อไปนี้ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2564 ร้านปราณีบริการมีสินทรัพย์ต่างๆ ดังนี้ เงินสด 120,000 บาท ลูกหนี้การค้า 50,000 บาท เครื่องตกแต่ง 80,000 บาท อาคาร 250,000 บาท รถยนต์ 500,000 บาท 1. อยากทราบว่าร้านปราณีมีสินทรัพย์ทั้งสิ้น...............บาท 2. สินทรัพย์หมุนเวียนมีจำนวน..................บาท 3. สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนมีจำนวน................บาท ใบงานที่ 2.2 คำชี้แจง : จงยกตัวอย่างสินทรพย์หมุนเวียน และสินทรัพย์ ไม่หมุนเวียนมาอย่างละ 5 ชนิด สินทรัพย์หมุนเวียน สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน

23 หนี้สินตามแม่บทการบัญชี หนี้สิน (Liability) ตามแม่บทการบัญชี หมายถึง ภาระผูกพัน ในปั จจุบันของกิจการที่ต้องจ่ายชำระคืนแก่บุคคลภายนอกใน อนาคต ภาระผูกพันธ์ดังกล่าวเป็นผลของเหตุการณ์ในอดีตซึ่งการ ชำระภาระผูกพันนั้นคาดว่าจะส่งผลให้กิจการสูญเสียทรัพยากรที่มี ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ เช่น เจ้าหนี้การค้า เงินกู้ เงินเบิกเกินบัญชี เจ้าหนี้จำนอง เป็นต้น ประเภทของหนี้สิน หนี้สินแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1. หนี้สินหมุนเวียน (Current Liabilities) หมายถึง หนี้สินที่ ถึงกำหนดชำระภายใน 12 เดือนนับจากวันที่แสดงที่แสดงในงบ การเงิน และกิจการคาดว่าจะชำระหนี้สินนั้นคืนภายในรอบระยะ เวลาดำเนินงานปกติ มีลักษณะดังนี้ 1) หนี้สินที่มีระยะเวลาการชำระคืนภายใน 12 เดือนหรือ ภายในรอบระยะเวลาการดำเนินงานตามปกติของกิจการ 2) ชำระเงินด้วยสินทรัพย์หมุนเวียน หรือ 3) การก่อหนี้สินระยะสั้นอื่นเเทน ตัวอย่างหนี้สินหมุุนเวียน ได้แก่ เจ้าหนี้การค้า (Accouts Payable) เจ้าหนี้อื่น (Other paybles) เงินกู้ยืมระยะสั้นจาก สถาบันการเงิน (Shot-term borrowing frome financial instituons) เงินเบิกเกินบัญชีธนาคาร (Bank Overdrafts) ตั๋วเงิน จ่าย (Notes Payable) เงินกู้ยืมระยะสั้น (Shot-term borrowings) ภาษีค้างจ่าย (Current Income tax payable) และ หนี้สินหมุนเวียนอื่น (Other current liabilities) เช่น ค่าใช้จ่ายค้าง จ่าย รายได้รับล่วงหน้ า เป็นต้น

24 2. หนี้สินไม่หมุนเวียน (Non-Current Laibilities) คือหนี้สิน ที่มีระยะเวลาการชำระเงินมากกว่า 1 ปี หรือเกินกว่ารอบระยะเวลา การดำเนินงานตามปกติของกิจการ หนี้สินไม่หมุนเวียนอาจเกิด จากการกู้ยืมมาใช้ในกิจการเพื่อซื้อสินทรัพย์ที่มีราคาสูง การแสดง หนี้สินไม่หมุนเวียนในงบแสดงฐานะทางการเงินจะเปิ ดเผยข้อมูล เกี่ยวกับภาระผูกพันและข้อตกลงต่างๆ เช่น อัตราดอกเบี้ยวันครบ กำหนดชำระ ลักษณะของภาระผูกพัน ได้แก่ เงินกู้ยืมระยะยาว (Long-term borrowings) หนี้สินภาษีเงินได้รอตัดบัญชี (Deferred tax liabilities) ภาระผูกพันผลประโยชน์พนักงานประมาณการหนี้ สินระยะยาว และหนี้สินไม่หมุนเวียนอื่น (Other non-current liabilities) ตัวอย่างที่ 3 นางสาวเกษแก้วเปิดร้านเสริมสวยได้ซื้ออุปกรณ์ 250,000 บาท เป็นเงินเชื่อจากร้านบิวตี้ ดังนั้น จึงต้องชำระเงินให้ ร้านบิวตี้ในภายหน้ า ซึ่งเป็นเจ้าหนี้นางสาวเกษแก้ว ดังนี้ เจ้าหนี้ - ร้านบิวตี้ 250,000 บาท

25 ลักษณะของหนี้สิน ลักษณะของหนี้สินตามแม่บทบัญชีมีดังต่อไปนี้ 1. ลักษณะสำคัญของหนี้สิน คือ ต้องเป็นภาระผูกพันของ กิจการ ภาระผูกพัน หมายถึง หน้ าที่หรือความรับผิดชอบที่ต้องปฏิบัติด้วย วิธีใดวิธีหนึ่ง ภาระผูกพันอาจมีผลบังคับตามกฎหมาย เนื่ องจากเป็ นสัญญาผูกมัดหรือเป็ นข้อบังคับตามกฎหมาย 2. กิจการต้องแยกภาระผูกพันในปัจจุบันออกจากภาระผูกพันใน อนาคตอย่างชัดเจน 3. ตามปกติกิจการต้องสละทรัพยกรที่มีประยชน์เชิงเศรษฐกิจ เพื่อชำระภาระผูกพันในปัจจุบัันให้กับผู้อื่น การชำระภาระผูกพันใน ปัจจุบันอาจเกิดได้หลายลักษณะ เ่ช่น การจ่ายเงินสด การโอนสิน ทรัพย์อื่นๆ การให้บริการ การเปลี่ยนภาระผูกพันเดิมเป็นภาระ ผูกพันใหม่ และการแปลงหนี้ให้เป็นทุน นอกจากนี้ภาระผูกพันอาจ สิ้นสุดลงด้วยวิธีอื่น เช่น การที่เจ้าหนี้ยกหนี้ให้ เป็นต้น 4. หนี้ิสินเป็นผลของรายการและเหตุการณ์ทางบัญชีในอดีต เช่น การได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการ จึงก่อให้เกิดเจ้าหนี้การค้า เป็นต้น 5. หนี้สินบางประเภทจะวัดค่าได้จากการประมาณเท่านั้น กิจการเรียกหนี้สินประเภทนี้ว่า ประมาณการหนี้สิน

26 ใบงานที่ 2.3 คำชี้แจง : เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2564 ร้านเต๊ะไดนาโมมี สินทรัพย์ และหนี้สินต่างๆ ดังนี้ รายการบัญชี สินทรัพย์ หนี้สิน สินทรัพย์ หมุนเวียน สินทรัพย์ ไม่หมุนเวียน เงินสด 120,000 ลูกหนี้การค้า 50,000 อาคาร 250,000 เจ้าหนี้การค้า 50,000 เงินเบิกเกินบัญชี230,000 ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย 13,000 รายได้รับล่วงหน้ า 16,000 เงินกู้ยืม (5ปี) 500,000 ภาษีเงินได้ค้างจ่าย12,000 รวม

27 ส่วนของเจ้าของตามแม่บทการบัญชี ส่วนของเจ้าของ (Owner's Equity) หมายถึง ส่วนได้เสียคง เหลือในสินทรัพย์ของกิจการ หลังจากหักหนี้สินทั้งสิ้นออกแล้ว กรรมมสิทธิ์ที่เจ้าของกิจการมีในสินทรัพย์ เรียกว่า สินทรัพย์สุทธิ (สิินทรัพย์-หนี้สิน) ลักษณะส่วนของเจ้าของกิจการแบ่งได้ 3 ประเภท คือ 1. ส่วนของเจ้าของกิจการเจ้าของคนเดียว 2. ส่วนของเจ้าของกิจการห้างหุ้นส่วน 3. ส่วนของเจ้าของกิจการบริษัทจำกัด ส่วนของเจ้าของ = จำนวนเงินที่เจ้าของนำมาลงทุน+ผล กำไร-ถอนใช้ (เงินถอน)-ผลขาดดทุน (ถ้ามี) ตัวอย่างที่ 4 ต่อไปนี้เป็นสินทรัพย์ส่วนตัวของนายราชัน ดังนี้ เงินสด 100,000 บาท เงินฝากธนาคาร 100,000 บาท รถยนต์ 300,000 บาท อาคาร 300,000 บาท 800,000 บาท รวมสินทรัพย์ นายราชันมีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 800,000 บาท แสดงว่าเขามีสิทธิใน ทรัพย์สิน 800,000 บาท หรือส่วนของเจ้าของ 800,000 บาท

28 ใบงานที่ 2.4 คำชี้แจง : จงปฏิบัติกิจกรรมดังต่อไปนี้ ต่อไปนี้เป็นสินทรัพย์ส่วนตัวของนายพิภพ ดังนี้ เงินสด 100,000 บาท เงินฝากธนาคาร 100,000 บาท รถยนต์ 300,000 บาท อาคาร 300,000 บาท เจ้าหนี้การค้า 100,000 บาท 1. สินทรัพย์หมุนเวียนมีจำนวน.......................บาท 2. สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนมีจำนวน......................บาท 3. หนี้สินหมุนเวียนมีจำนวน........................บาท 4. หนี้สินไม่หมุนเวียนมีจำนวน........................บาท 5. ส่วนของเจ้าของมีจำนวน...........................บาท

29 คำศัพท์บัญชี ศัพท์บัญชี ศัพท์ภาษาอังกฤษ สินทรพย์ Asset เงินสด Cash เงินฝากธนาคาร Deposits at financial institutions ลูกหนี้การค้า Account receivables ลิขสิทธิ์ Copyright สิทธิบัตร Patent ค่าความนิยม Goodwill สัมปทาน Franchises เครื่องหมายการค้า Tradmarks สินทรัพย์หมุนเวียน Current Asset สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน Non-Current Asset) เงินลงทุนระยะยาว Long-term inverstments สินค้าคงเหลือ Inventories

30 คำศัพท์บัญชี ศัพท์บัญชี ศัพท์ภาษาอังกฤษ หนี้สิน Liability หนี้สินหมุนเวียน Current Liabilities เจ้าหนี้การค้า Accouts Payable เจ้าหนี้อื่น Other paybles เงินกู้ยืมระยะสั้นจาก Shot-term borrowing สถาบันการเงิน frome financial instituons เงินเบิกเกินบัญชีธนาคาร Bank Overdrafts ตั๋วเงินจ่าย Notes Payable เงินกู้ยืมระยะสั้น Shot-term borrowings ภาษีค้างจ่าย Current Income tax payable หนี้สินหมุนเวียนอื่น Other current liabilities หนี้สินไม่หมุนเวียน Non-Current Laibilities เงินกู้ยืมระยะยาว Long-term borrowings หนี้สินภาษีเงินได้รอตัดบัญชี Deferred tax liabilities ส่วนของเจ้าของ Owner's Equity

31 แบบฝึกหัดท้ายบท คำชี้แจง : จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องเพียงข้อเดียว 1ค.ำขชี้้อแใจดงคือสินทรัพย์ ก. เงินเบิกเกินบัญชี ข. เงินเดือนค้างจ่าย ค. เจ้าหนี้การค้า ง. ลิขสิทธิ์ 2. ข้อใดคือสินทรัพย์หมุนเวียน ก. ที่ดิน ข. เครื่องใช้สำนักงาน ค. ลูกหนี้การค้า ง. อาคารและอุปกรณ์ 3. ข้อใดคือหนี้สินหมุนเวียน ก. เงินกู้ระยะเวลา 3 ปี ข. เจ้าหนี้การค้า ค. เงินกู้ระยะยาว ง. ถูกทุกข้อ 4. ข้อใดคือสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ก. ลูกหนี้การค้า ข. สินค้าคงเหลือ ค. เครืองคอมพิวเตอร์ ง. เงินฝากธนาคาร 5. นายเพชรมีเงินสด 100,000 บาท เงินฝากธนาคาร 50,000 บาท อาคาร ที่ดิน และอุปกรณ์ 600,000 บาท เงินกู้ยืมธนาคาร 220,000 บาท อยากทราบว่าเค้ามีสินทรัพย์ทั้งสิ้นจำนวนเท่าใด ก. 530,000 บาท ข. 750,000 บาท ค. 150,000 บาท ง. 600,000 บาท 6. จากข้อ 5 อยากทราบว่านายเพชรมีหนี้สินทั้งสิ้นจำนวน เท่าใด ก. 50,000 บาท ข. 150,000 บาท ค. 220,000 บาท ง. 530,000 บาท

32 7. จากข้อ 5 อยากทราบว่านายเพชรมีส่วนของเจ้าของทั้งสิ้น จำนวนเท่าใด ก. 750,000 บาท ข. 530,000 บาท ค. 220,000 บาท ง. 150,000 บาท 8. \"เงินเบิกเกินบัญชีธนาคาร\" เป็นรายการประเภทใด ก. สินทรัพย์หมุนเวียน ข. สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ค. หนี้สินหมุนเวียน ง. หนี้สินไม่หมุนเวียน 9. ข้อใดหมายถึงส่วนของเจ้าของ ก. สินทรัพย์ + หนี้สิน ข. สินทรัพย์ - หนี้สิน ค. หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ ง. สินทรัพย์หารหนี้สิน 10. รายการสินทรัพย์ หนี้สินของร้านเสริมสวยบริการ ซึ่งมี นางสวยเป็นเจ้าของ มีดังนี้ เงินสด 15,000 บาท อุปกรณ์ 50,000 บาท รถยนต์ 300,000 บาท อาคาร 500,000 บาท เจ้าหนี้ 24,000 บาท อยากทราบว่าเค้ามีสินทรัพย์ทั้งสิ้นจำนวนเท่าใด ก. 65,000 บาท ข. 24,000 บาท ค. 800,000 บาท ง. 865,000 บาท 11. จากข้อ 10 มีหนี้สินทั้งสิ้นจำนวนเท่าใด ก. 15,000 บาท ข. 24,000 บาท ค. 65,000 บาท ง. 300,000 บาท

33 12. จากข้อ 10 อยากทราบว่ามีส่วนของเจ้าของจำนวนเท่าใด ก. 24,000 บาท ข. 65,000 บาท ค. 80,000 บาท ง. 84,100 บาท โจทก์ประกอบใช้ตอบคำถามข้อ13 -19 ต่อไปนี้เป็นสินทรัพย์ของนายเคนซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา ดังนี้ เงินสด 150,000 บาท เงินฝากธนาคาร 120,000 บาท รถยนต์ 400,000 บาท ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ 500,000 บาท เจ้าหนี้การค้า 110,000 บาท เงินเบิกเกินบัญชี 50,000 บาท เงินกู้ยืม (5ปี) 200,000 บาท 13. อยากทราบว่ามีหนี้สินหมุนเวียนจำนวนเท่าใด ก. 120,000 บาท ข. 150,000 บาท ค. 270,000 บาท ง. 900,000 บาท 14. อยากทราบว่ามีสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนจำนวนเท่าใด ก. 900,000 บาท ข. 500,000 บาท ค. 400,000 บาท ง. 270,000 บาท 15. สินทรัพย์ทั้งสิ้นมีจำนวนเท่าใด ก. 1,170,000 บาท ข. 1,530,000 บาท ค. 900,000 บาท ง. 270,000 บาท 16. อยากทราบว่ามีหนี้สินหมุนเวียนจำนวนเท่าใด ก. 110,000 บาท ข. 50,000 บาท ค. 200,000 บาท ง. 160,000 บาท

34 17. อยากทราบว่ามีหนี้สินไม่หมุนเวียนจำนวนเท่าใด ก. 110,000 บาท ข. 50,000 บาท ค. 200,000 บาท ง. 360,000 บาท 18. หนี้สินทั้งสิ้นมีจำนวนเท่าใด ก. 50,000 บาท ข. 110,000 บาท ค. 200,000 บาท ง. 360,000 บาท 19. ส่วนของเจ้าของเท่ากับเท่าใด ก. 810,000 บาท ข. 840,000 บาท ค. 360,000 บาท ง. 860,000 บาท 20. ข้อใดกล่าวถูกต้อง ก. สินทรัพย์มีค่าเท่ากับหนี้สิน ข. สินทรัพย์เท่ากับส่วนของเจ้าของ ค. สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ ง. สินทรัพย์ = หนี้สิน - ส่วนของเจ้าของ

35 แบบฝึกปฏิบัติหน่วยที่ 2 คำชี้แจง : จงแสดงวิธีทำ และเติมคำตอบลงในช่องว่าง ให้สมบูรณ์ 1 จงยกตัวอย่างสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าของ โดยเขียนลงในช่องว่างที่กำหนดไว้ สินทรัพย์ (Asset) หนี้สิน (Liability) ส่วนของเจ้าของ (Owner's Equity) 2

36 2 ให้พิจารณาว่ารายการใดเป็นสินทรัพย์หมุนเวียน สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน หนี้สินหมุนเวียน และหนี้สินไม่หมุนเวียน โดยใช้เครื่องหมาย ตามแบบฟอร์มที่กำหนดให้ รายการ สินทรัพย์ สินทรัพย์ หนี้สิน หนี้สิน หมุนเวียน ไม่หมุนเวียน หมุนเวียน ไม่หมุนเวียน 1. เงินสด 2. เงินฝากธนาคาร 3. ลิขสิทธิ์ 4. สิทธิบัตร 5. อาคาร 6. เจ้าหนี้การค้า 7. สัมปทาน 8. เงินเบิกเกินบัญชี 9. ค่าความนิยม 10. เงินกู้ 2 ปี

37 3 จงระบุว่ารายการใดเป็นสินทรัพย์ (Asset = A) หนี้สิน (Liability = L) และส่วนของเจ้าของ (Owner's Equty = OE) รายการ ประเภท 1. เงินสด 2. เงินฝากธนาคาร 3. เจ้าหนี้การค้า 4. เงินเบิกเกินบัญชี 5. ลูกหนี้การค้า 6. อุปกรณ์สำนักงาน 7. ทุน - นายเสาร์ 8. ตั๋วเงินจ่าย 9. เงินกู้ 5 ปี 10. ลิขสิทธิ์

38 หน่วยที่ 3 สมการบัญชี ความหมายของสมการบัญชี สมการบัญชี (Accounting Equation) หมายถึง การแสดงถึงทรัพยากรของกิจการเชิงเศรษฐกิจที่มีอยู่ ในการดูแลและควบคุมของกิจการ และมีสิทธิในการครอบครอง ทั้งหมดที่มีในทรัพยากรนั้น ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์ หนี้สิน และ ส่วนของเจ้าของ โดยสามารถแสดงความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าของตามแม่บทบัญชี ดังนี้ สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ Asset = Liability + Owner's Oquity A = L + OE การเขียนสมการบัญชีและการคำนวณ การจำแนกสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าของจะนำไปสู่การ คำนวณหาความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของ เจ้าของเพื่อจัดทำสมการบัญชี ซึ่งผู้จัดทำบัญชีจะเขียนสมการบัญชี ในรูปแบบใดก็ตาม ความสมดุลระหว่างสินทรัพย์หนี้สิน และส่วน ของเจ้าของจะยังคงอยู่ตลอดไปตามหลักของแม่บทการบัญชี ซึ่ง สามารถเขียนได้หลายลักษณะ ดังนี้

39 1 การเขียนสมการบัญชีกรณีไม่มีหนี้สิน เขียนสมการได้ดังนี้ สินทรัพย์ = ส่วนของเจ้าของ A = OE การคำนวณสมการบัญชีกรณี ไม่มีหนี้สิน การคำนวณสมการบัญชีสามารถจะสับเปลี่ยนที่กันได้หรือ เขียนใหม่จากสมการเดิมได้ซึ่งมีลักษณะเหมือนกันกับการ คำนวณสมการโดยทั่วไป ตัวอย่างที่ 1 ต่อไปนี้เป็ นสินทรัพย์ของร้านช่างทองบริการ ซึ่งมีนายช่างทองเป็ นเจ้าของดังนี้ หน่วย : บาท เงินสด 120,000 เงินฝากธนาคาร 240,000 ลูกหนี้การค้า 45,000 รถบรรทุก 300,000 ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ 550,000 เเทนค่าสมการบัญชีได้ดังนี้ สินทรัพย์ = ส่วนของเจ้าของ A = OE 1,255,000 = ส่วนของเจ้าของ ดังนั้นสินทรัพย์ของนายช่างทอง 1,255,000 มีค่าเท่ากับส่วนของเจ้าของ สินทรัพย์ 1,255,000 บาท = ส่วนของเจ้าของ 1,255,000 บาท

39 2 การเขียนสมการบัญชีกรณีมีหนี้สิน เขียนสมการได้ดังนี้ สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ A = L + OE ตัวอย่างที่ 2 ต่อไปนี้เป็ นสินทรัพย์ของร้านอุ้มบุญบริการ ซึ่งมีนายอุ้มบุญเป็ นเจ้าของดังนี้ หน่วย : บาท เงินสด 120,000 เงินฝากธนาคาร 240,000 ลูกหนี้การค้า 45,000 รถบรรทุก 300,000 ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ 550,000 เจ้าหนี้การค้า 300,000 เงินกู้จำนอง 50,000 เเทนค่าสมการบัญชีได้ดังนี้ สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ A L + OE 1,255,000 = 350,000 + ส่วนของเจ้าของ ส่วนของเจ้าของ = 1,255,000 - 350,000 ดังนั้น ส่วนของเจ้าของ = 905,000 บาท =

40 3 การเขียนสมการบัญชีกรณีสมการบัญชีเปลี่ยนที่ กันได้ เขียนสมการได้ดังนี้ หนี้สิน = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ A = L + OE ตัวอย่างที่ 3 ให้ใช้ข้อมูลจากตัวอย่างที่ 2 เเทนค่าสมการบัญชีได้ดังนี้ หนี้สิน = สินทรพย์ - ส่วนของเจ้าของ L = A - OE 350,000 = 1,255,000 - 905,000 350,000 = 350,000 บาท

41 4 การเขียนสมการบัญชีกรณีของค่าสุทธิของกิจการ (สินทรัพย์สุทธิ) โดยหลักการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไปที่สำคัญนั้นเรียกว่า สินทรัพย์สุทธิ จะคำนวณหาโดยนำสินทรัพย์ทั้งหมด หัก หนี้สินทั้งหมด เขียนสมการได้ดังนี้ ส่วนของเจ้าของ = สินทรัพย์ - หนี้สิน OE = A - L ตัวอย่างที่ 4 ให้ใช้ข้อมูลจากตัวอย่างที่ 2 เเทนค่าสมการบัญชีได้ดังนี้ ส่วนของเจ้าของ = สินทรพย์ - หนี้สิน OE = A-L 905,000 = 1,255,000 - 350,000 905,000 = 905,000 บาท

42 ใบงานที่ 3.1 คำชี้แจง : รายการสินทรัพย์ หนี้สินของร้านซักรีดไหมไทย บริการซึ่งมีนางไหมไทยเป็นเจ้าของ ดังนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 มีเงินสด 60,000 บาท เงินฝาก ธนาคาร 80,000 บาท ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ 60,000 บาท รถยนต์ 400,000 บาท และเจ้าหนี้การค้า 120,000 บาท ให้ทำ : แทนค่าในสมการบัญชี .............................................................................................. .............................................................................................. .............................................................................................. .............................................................................................. .............................................................................................. .............................................................................................. ..............................................................................................

43 ใบงานที่ 3.2 คำชี้แจง : ให้ผู้เรียนคำนวณสมการบัญชีดังต่อไปนี้ ต่อไปนี้เป็ นสินทรัพย์ของร้านปลูกแปลงบริการ ซึงมีนายปลูกแปลงเป็นเจ้าของ ดังนี้ เงินสด หน่วย : บาท เงินฝากธนาคาร ลูกหนี้การค้า 18,0000 รถบรรทุก 140,000 ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ 40,000 200,000 400,000 แทนค่าสมการบัญชีได้ดังนี้ ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ......................................................................................

44 คำศัพท์บัญชี ศัพท์บัญชี ศัพท์ภาษาอังกฤษ สินทรพย์ Asset สมการบัญชี Accounting Equation เงินฝากธนาคาร Deposits at financial institutions ลูกหนี้การค้า Account receivables ลิขสิทธิ์ Copyright สิทธิบัตร Patent ค่าความนิยม Goodwill สัมปทาน Franchises เครื่องหมายการค้า Tradmarks สินทรัพย์หมุนเวียน Current Asset สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน Non-Current Asset) เงินลงทุนระยะยาว Long-term inverstments สินค้าคงเหลือ Inventories


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook