1
2 คำนำ แผนปฏิบัติการประจําปี 2566 ของโรงเรียนปากชมวิทยา เล่มน้ี จัดทําขึ้นเพ่ือดําเนินการใช้ งบประมาณต่างๆสถานศึกษากับให้สอดคล้องกับหลักสูตร สภาพปัจจุบันของท้องถ่ินและชุมชน อีกทั้ง แนวนโยบาย จดุ เน้นการพัฒนาคุณภาพการจดั การเรยี นการสอนเพือ่ เป็นกรอบ แนวทางการใช้งบประมาณใน การพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาทีเ่ น้นการปฏิรปู ระบบการศกึ ษาและการเรียนรู้ ทางโรงเรียนขอขอบคุณคณะครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพื้นฐานและองค์การ ปกครอง ส่วนท้องถิน่ ส่วนราชการต่างๆท่ีเกย่ี วข้องทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือในการให้ขอ้ มูล ส่งเสริม สนับสนุนทุกๆ ด้านจนได้รับความสําเร็จ อย่างมีประสิทธิภาพ หวังเป็นอย่างย่ิงว่าแผนปฏิบัติการ ประจําปี 2566 เล่มนี้จะส่งผลที่ดีต่อ การพัฒนาคุณภาพการศึกษา การจัดการเรียนการสอนอย่างมีคุณภาพ ขอขอบคณุ ทกุ ฝา่ ยทใี่ หค้ วามร่วมมืออย่างดียง่ิ ....................................................... (นางนัยนา ย้ิมชน่ื ) ผอู้ ํานวยการโรงเรยี นปากชมวทิ ยา
สำรบญั 3 คาํ นํา หน้ำ สารบญั สว่ นที่ 1 บทนาํ ก ข ข้อมูลและสภาพท่ัวไป ข้อมลู ครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา 1 ขอ้ มลู ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นระดับสถานศกึ ษาปีการศกึ ษา 2565 3 ผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาติขน้ั พน้ื ฐาน (O-NET) 3 การใช้แหล่งเรยี นรู้ภายในและภายนอกสถานศกึ ษา 5 โครงสรา้ งการจัดองค์กร / ขอบข่ายและภารกจิ การบริหารสถานศกึ ษา 8 แผนผังที่ตงั้ โรงเรียนปากชมวทิ ยา 10 ส่วนที่ 2 ทิศทางการพฒั นาคณุ ภาพสถานศีกษา 11 นโยบายสํานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พืน้ ฐานปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 นโยบายของสาํ นักงานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษามธั ยมศึกษา เลย หนองบวั ลาํ ภู 13 กรอบยทุ ธศาสตร์ ของโรงเรยี นปากชมวทิ ยา 15 แนวทางการบรหิ ารแผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาของโรงเรยี น 18 ส่วนที่ 3 รายละเอียดของแผนงาน โครงการ/กจิ กรรม และประมาณการงบประมาณ 20 การจดั สรรงบประมาณ จําแนกตามกลุ่มงาน รายละเอยี ดโครงการ กจิ กรรม 44 ส่วนที่ 4 การกาํ กับ ตดิ ตาม ประเมินและรายงาน 45 แนวคดิ เก่ยี วกับการกํากบั ติดตาม ประเมนิ และรายงาน สาระสําคญั ของการติดตามและประเมินผล 101 ระบบและกลไกในการติดตามและประเมนิ ผล 107 แผนการตดิ ตามและประเมินผลการดาํ เนินงานตามแผน 107 การปรับแผนปฏิบตั กิ ารประจําปี 109 110
4 ส่วนท่ี 1 ขอ้ มูลพืน้ ฐำนของสถำนศึกษำ 1.1 ข้อมลู ทวั่ ไป โรงเรียนปากชมวทิ ยา รหัสโรงเรียน 1042520466 ท่ตี ั้ง ตาํ บลปากชม อําเภอปากชม จังหวัดเลย สงั กัดสาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน โทรศัพท์ 0-4288-1088 e-mail : [email protected] website : http://data.boppobec.info/web/index.php?School_ID=1042520466 ก่อตงั้ เมือ่ วนั ที่ 2 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2518 จํานวน 1 ห้องเรียน เปดิ เฉพาะช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 จํานวน นกั เรียนชาย 20 คน นกั เรียนหญงิ 12 คน โดยอาศยั อาคารเรียนหอประชมุ โรงเรยี นชุมชนบา้ นปากชม “ประชานเุ คราะห์” สังกดั องค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย นายองอาจ วงศ์ตะนา ศึกษาธิการอาํ เภอ ทาํ หน้าที่ ครูใหญ่ ต่อมาทางอําเภอปากชมเหน็ ว่า อาํ เภอปากชมยงั ไมม่ ีโรงเรียนมธั ยมศึกษา นักเรียนต้องไปเรียนต่อชั้น มัธยมศึกษา ท่ีโรงเรียนต่างอําเภอ และโรงเรียนในจังหวัด จึงได้เสนอขอจัดตั้งโรงเรียน ไปจังหวัดและกรม สามัญศึกษา จนเวลาต่อมาเม่ือวันที่ 4 เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2518 กรมสามัญศึกษาได้อนุมัติให้เปิดเป็น โรงเรียนทําการเรยี นการสอนได้ ตามประกาศของกระทรวงศึกษาธกิ าร เรื่องตั้งโรงเรียนรัฐบาลหมายเลข 4 โรงเรียนปากชมวิทยา อําเภอปากชม จังหวัดเลย ประกาศ ณ วันที่ 18 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2518 ตาม หนังสือด่วนที่ 23/9510 โดยมเี นอ้ื ทจ่ี ํานวน 78 ไร่ 69 ตารางวา โรงเรียนปากชมวิทยา ได้จัดทําการเรียนการสอนในระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น ตั้งแต่ พ.ศ. 2518 เป็นต้นมา เมื่อปี พ.ศ. 2536 ได้รับอนุญาตให้ขยายการศึกษาถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยเริ่มเปิดสอน มธั ยมศึกษาชนั้ ปีที่ 4 ตามหลกั สูตรมธั ยมศึกษาตอนปลาย พ.ศ. 2533 รายนามผบู้ รหิ ารโรงเรียน จากอดตี ถงึ ปจั จุบนั มดี ังน้ี 1. นายสเุ ทพ ทิพรส ดํารงตําแหน่ง ในปี พ.ศ. 2518-2526 2. นายวิวฒั น์ ไป่ทาฟอง ดํารงตําแหน่ง ในปี พ.ศ. 2526-2540 3. นายตระกลู สุวรรณดี ดาํ รงตําแหนง่ ในปี พ.ศ. 2540-2546 4. นายสิทธศิ ักด์ิ สีทาดี ดาํ รงตาํ แหนง่ ในปี พ.ศ. 2546-2556 5. นางวรากร มังบูแ่ วน่ ดาํ รงตําแหน่ง ในปี พ.ศ. 2556-2561 6. วา่ ที่ ร.ต.อดลุ ย์ สุชัยราช ดาํ รงตาํ แหน่ง ในปี พ.ศ.2561-2565 7. นางนยั นา ยิม้ ชนื่ ดํารงตําแหน่ง ในปี พ.ศ.2565-ปจั จบุ ัน ปัจจุบัน เปิดสอนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 จํานวนนักเรียน 471 คน จํานวนบคุ ลากรของโรงเรยี น 33 คน
5 ศำลพระภมู ิ ศำลเจำ้ พ่อกดุ สลำคำและศำลเจำ้ แมส่ ีดำ อักษรยอ่ สัญลักษณข์ องโรงเรียน ป.ช.ว. คติพจน์ ปรัชญำของโรงเรยี น รูปหงส์ สีประจำโรงเรยี น สติมำ สุขเมธติ ตน้ ไม้ประจำโรงเรยี น คนมีสติยอ่ มไดร้ บั ควำมสุข เอกลักษณส์ ถำนศึกษำ ควำมประพฤตนิ ำหนำ้ วิชำกำรเขม้ แข็ง อัตลกั ษณข์ องนกั เรยี น แกร่งกำรกีฬำ พฒั นำงำนอำชีพ เขียว – ทอง ต้นคณู สรำ้ งคนดี มีทักษะอำชพี “กริ ยิ ำดี มีจติ อำสำ”
6 1.2. ขอ้ มลู บคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ 1) จาํ นวนบุคลากร 33 คน บุคลำกร ผ้บู รหิ ำร ครูผสู้ อน พนกั งำน ครอู ัตรำจำ้ ง เจ้ำหน้ำทอ่ี น่ื ๆ รำชกำร ปกี ารศกึ ษา 2565 2 21 -4 คิดเป็นร้อย 6.06 63.64 6 0 12.12 18.18 2) วุฒิการศึกษาสงู สุดของบุคลกร จํานวน 33 คน วุฒสิ งู สุด ปริญญำตรี ปริญญำโท ปริญญำเอก อ่ืนๆ จาํ นวน(คน) 24 9 - - คดิ เป็นร้อยละ 72.73 - - 27.27
7 1.3 ขอ้ มลู นักเรยี น ตารางท่ี 1 แสดงขอ้ มูลนักเรยี นในปีการศกึ ษา 2565 ระดับชน้ั จำนวนหอ้ ง เพศ หญงิ รวม เฉล่ียต่อหอ้ ง ชำย 40 40 94 32 ม.1 3 54 39 83 44 119 70 34 ม.2 2 43 36 247 44 78 28 ม.3 2 31 47 67 24 127 73 25 รวม 7 128 259 218 465 ม.4 3 42 ม.5 3 23 ม.6 3 26 รวม 9 91 รวมทั้งหมด 17 224 แผนภมแิ สดงจำนวนนกั เรยี นปีกำรศกึ ษำ 2565 60 54 49 42 44 43 40 42 41 44 40 31 27 26 20 0 ม.2 ม.3 ม.4 ม.5 ม.6 เพศ ชาย เพศ หญงิ ม.1
8 ร้อยละของนักเรียนท่ีมเี กรดเฉล่ยี ผลสัมฤทธทิ์ ำงกำรเรยี นแตล่ ะรำยวชิ ำตั้งแต่ 3.00 ขึน้ ไป ชั้นมัธยมศึกษำปที ่ี 1- 6 ปกี ำรศึกษำ 2565 ภำษำไทย ค ิณตศำสต ์ร ิวทยำศำสต ์รและ เทคโนโลยี สังคม ึศกษำศำสนำ และ ัวฒนธรรม ุสข ึศกษำและพล ึศกษำ ภำษำ ่ตำงประเทศ ิศลปะ กำรงำนอำ ีชพ ระดบั ชนั้ ม.1 86 113 331 204 198 183 99 62 ม.2 43 80 142 76 159 95 56 94 ม.3 62 33 167 140 176 135 114 105 ม.4 56 92 281 231 172 209 121 53 ม.5 64 97 212 140 158 175 162 81 ม.6 85 173 275 108 183 186 182 96 รวม 396 588 1408 899 1046 983 734 491 จาํ นวนทเี่ รียน 918 1,328 3,531 2,371 1,814 2,072 1,197 977 ร้อยละ 43.14 44.28 39.88 37.92 57.66 47.44 61.32 50.26 ร้อยละของนักเรยี นทมี่ เี กรดเฉลยี่ ผลสมั ฤทธิ์ทำงกำรเรยี นแตล่ ะรำยวชิ ำ ต้ังแต่ 3.00 ข้นึ ไป ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีที่ 1- 6 ปีกำรศกึ ษำ 2565 80.00 43.14 44.28 39.88 37.92 57.66 47.44 61.32 50.26 60.00 40.00 20.00 0.00
9 ภำคเรียนท่ี 1 ปีกำรศกึ ษำ 2565 ระดบั ช้นั จำนวน ไมผ่ ำ่ น ผลกำรประเมนิ ระดบั ดี ร้อยละ นกั เรยี น - ผำ่ น ดี ดีเยี่ยม ขน้ึ ไป ม.1 - - 64 ม.2 94 - - 54 30 94 100 ม.3 83 - - 42 ม.4 70 - - 41 29 83 100 ม.5 78 - - 39 ม.6 67 - - 41 28 70 100 รวม 73 - - 281 รอ้ ยละ 465 - 60.43 37 78 100 100 28 67 100 32 73 100 184 465 100 39.57 100.00 100.00 ภำคเรยี นท่ี 2 ปีกำรศึกษำ 2565 ระดับชั้น จำนวน ผลกำรประเมิน ระดับดี รอ้ ยละ นกั เรียน ข้ึนไป ม.1 ไม่ผำ่ น ผำ่ น ดี ดีเยยี่ ม 100 ม.2 94 94 100 ม.3 83 - - 65 29 80 100 ม.4 70 70 100 ม.5 78 - - 41 39 78 100 ม.6 67 67 100 รวม 73 - - 49 21 73 100 รอ้ ยละ 465 465 100.00 100 - - 45 33 100.00 - - 51 16 - - 48 25 - - 299 163 - - 64.30 35.05
10 ภำคเรยี นท่ี 1 ปกี ำรศกึ ษำ 2565 ระดบั ชั้น จำนวน ผลกำรประเมนิ ระดบั ดีขึ้นไป ร้อยละ นักเรียน ไม่ผำ่ น ผ่ำน ดี ดีเยย่ี ม ม.1 94 - - 58 36 94 100 ม.2 83 - - 61 22 83 100 ม.3 70 - - 39 31 70 100 ม.4 78 - - 42 36 78 100 ม.5 67 - - 29 38 67 100 ม.6 73 - - 41 36 37 100 รวม 465 - - 270 199 465 100 ร้อยละ 100 - - 58.06 42.80 100.00 100.00 ภำคเรียนท่ี 2 ปกี ำรศึกษำ 2565 ระดับช้นั จำนวน ผลกำรประเมิน ระดับดีขน้ึ ไป รอ้ ยละ นักเรยี น ไมผ่ ่ำน ผ่ำน ดี ดเี ยย่ี ม ม.1 94 - - 42 52 94 100 ม.2 83 - - 47 36 83 100 ม.3 70 - - 49 21 70 100 ม.4 78 - - 40 38 78 100 ม.5 67 - - 41 26 67 100 ม.6 73 - - 37 36 73 100 รวม 465 - - 256 209 465 100 รอ้ ยละ 100 - - 55.05 44.95 100.00 100.00
11 1.4 สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 5 ดำ้ น 1) ดำ้ นควำมสำมำรถในกำรสือ่ สำร จำนวน จำนวน/ร้อยละของนักเรียนตำมระดบั คุณภำพ นกั เรยี น ดำ้ นควำมสำมำรถในกำรสอื่ สำร (ภำษำไทย) ระดับชั้น ท้ังหมด ไมผ่ ่ำน ร้อยละ ผำ่ น รอ้ ยละ ดี ร้อยละ ดีเยีย่ ม รอ้ ยละ 38.30 ม. 1 94 - - 20 21.28 38 40.43 36 36.14 44.29 ม. 2 83 - - 21 25.30 32 38.55 30 37.18 53.73 ม. 3 70 - - 12 17.14 27 38.57 31 42.47 41.51 ม. 4 78 - - 24 30.77 25 32.05 29 ม. 5 67 - - 12 17.91 19 28.36 36 ม. 6 73 - - 28 38.36 14 19.18 31 รวม 465 - - 117 25.16 155 33.33 193 ระดบั ผ่ำน 465 ร้อยละระดบั ผำ่ น 100 60 40.43 ร้อยละของจำนวนนกั เรยี นท่มี ผี ลกำรประเมนิ สมรรถนะ25.3038.5730.7717.9138.36 50 38.30 ด้ำนควำมสำมำรถในกำรส่อื สำรภำษำไทย จำแนกตำมระดับคณุ ภำพ38.5544.2932.0528.3642.47 40 53.73 30 ม.2 ม.3 ม.4 ม.5 ม.636.1437.18 20 ผา่ น ดี ดีเยีย่ ม 10 21.28 17.14 19.18 0 ม.1
12 จำนวน จำนวน/รอ้ ยละของนักเรยี นตำมระดบั คณุ ภำพ ดำ้ นควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร (ภำษำตำ่ งประเทศ) นกั เรียน ระดบั ชั้น ทง้ั หมด ไมผ่ ำ่ น รอ้ ยละ ผ่ำน ร้อยละ ดี รอ้ ยละ ดเี ยีย่ ม ร้อยละ - 35 37.23 30 31.91 29 30.85 ม. 1 94 - - 38 45.78 32 38.55 13 15.66 - 24 34.29 24 34.29 22 31.43 ม. 2 83 - - 36 46.15 29 37.18 13 16.67 - 29 43.28 28 41.79 10 14.93 ม. 3 70 - - 34 46.58 15 20.55 24 32.88 42.15 158 33.98 111 23.87 ม. 4 78 - - 196 465 ม. 5 67 - 100 ม. 6 73 - รวม 465 - ระดับผ่ำน ร้อยละระดบั ผำ่ น 50 37.23 45.78 ร้อยละของจำนวนนกั เรยี นที่มผี ลกำรประเมนิ สมรรถนะ46.1543.2846.58 45 31.91 38.55 ด้ำนควำมสำมำรถในกำรสื่อสำรภำษำต่ำงประเทศ จำแนกตำมระดบั คุณภำพ37.1841.7920.55 40 30.85 35 ม.2 ม.3 ม.4 ม.5 ม.634.29 32.88 30 ผา่ น ดี ดีเยย่ี ม34.29 25 31.43 20 15 15.66 16.67 14.93 10 5 0 ม.1
13 2) ด้ำนควำมสำมำรถในกำรคดิ จำนวน จำนวน/รอ้ ยละของนักเรยี นตำมระดบั คุณภำพ นักเรยี น ดำ้ นควำมสำมำรถในกำรคิด ระดบั ช้นั ทงั้ หมด ไม่ผ่ำน รอ้ ยละ ผำ่ น ร้อยละ ดี ร้อยละ ดเี ย่ยี ม รอ้ ยละ ม. 1 94 5 5.32 29 30.85 24 25.53 36 38.30 ม. 2 83 1 1.20 34 40.96 22 26.51 26 31.33 ม. 3 70 - - 21 30.00 15 21.43 34 48.57 ม. 4 78 - - 41 52.56 20 25.64 17 21.79 ม. 5 67 - - 24 35.82 19 28.36 24 35.82 ม. 6 73 - - 24 32.88 32 43.84 17 23.29 รวม 465 6 1.29 173 37.20 132 28.39 154 33.12 ระดับผำ่ น 465 รอ้ ยละระดบั ผ่ำน 100 60 รอ้ ยละของจำนวนนกั เรียนที่มีผลกำรประเมินสมรรถนะ 50 ดำ้ นควำมสำมำรถในกำรส่ือสำร จำแนกตำมระดับคณุ ภำพ 40 30 ม.2 ม.3 ม.4 ม.5 ม.6 20 ผา่ น ดี ดีเยี่ยม 10 30.85 25.53 0 ม.1 38.30 40.96 26.51 31.33 30.00 21.43 48.57 52.56 25.64 21.79 35.82 28.36 35.82 32.88 43.84 23.29
14 3) ดำ้ นควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ จำนวน นกั เรียน จำนวน/รอ้ ยละของนกั เรียนตำมระดับคณุ ภำพด้ำนควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ ระดับช้ัน ท้ังหมด ม. 1 ไม่ผำ่ น รอ้ ยละ ผ่ำน ร้อยละ ดี รอ้ ยละ ดีเยยี่ ม ร้อยละ ม. 2 ม. 3 94 2 2.13 30 31.91 26 27.66 36 38.30 ม. 4 ม. 5 83 - - 30 36.14 25 30.12 28 33.73 ม. 6 รวม 70 1 1.43 19 27.14 17 24.29 33 47.14 78 - - 41 52.56 20 25.64 17 21.79 67 3 4.48 19 28.36 22 32.84 23 34.33 73 - - 20 27.40 33 45.21 20 27.40 465 6 1.29 159 34.19 143 30.75 157 33.76 ระดับผ่ำน 465 รอ้ ยละระดับผ่ำน 100 60 31.91 ร้อยละของจำนวนนักเรยี นท่ีมผี ลกำรประเมนิ สมรรถนะ 50 27.66 ด้ำนควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ 40 30 38.30ม.2 ม.3 ม.4 ม.5 ม.6 20 36.14 ผา่ น ดี ดีเย่ยี ม 10 30.12 33.73 0 27.14 ม.1 24.29 47.14 52.56 25.64 21.79 28.36 32.84 34.33 27.40 45.21 27.40
15 4) ดำ้ นควำมสำมรถในกำรใช้ทกั ษะชีวิต จำนวน จำนวน/รอ้ ยละของนักเรยี นตำมระดับคณุ ภำพ ดำ้ นควำมสำมำรถในกำรใชท้ ักษะชีวิต นกั เรียน ผำ่ น รอ้ ยละ ดี ร้อยละ ดเี ยี่ยม ระดบั ชน้ั ทัง้ หมด 15 15.96 33 35.11 45 12 14.46 35 42.17 36 ไมผ่ ่ำน รอ้ ยละ 8 11.43 25 35.71 36 รอ้ ยละ 15 19.23 36 46.15 27 47.87 ม. 1 94 1 1.06 14 20.90 21 31.34 30 43.37 17 23.29 22 30.14 34 51.43 ม. 2 83 - - 81 17.42 172 36.99 208 34.62 44.78 ม. 3 70 1 1.43 465 46.58 100 44.73 ม. 4 78 - - ม. 5 67 2 2.99 ม. 6 73 - - รวม 465 4 0.86 ระดบั ผ่ำน รอ้ ยละระดบั ผำ่ น 60 35.11 14.46 ร้อยละของจำนวนนักเรียนที่มีผลกำรประเมนิ สมรรถนะ35.7146.1520.9023.29 50 47.87 42.17 ดำ้ นควำมสำมำรถในกำรใช้ทกั ษะชีวิต51.4334.6231.34 30.14 40 43.37 44.78 46.58 30 ม.2 ม.3 ม.4 ม.5 ม.619.23 20 15.96 ผา่ น ดี ดีเย่ียม 10 11.43 0 ม.1
16 5) ด้ำนควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี จำนวน จำนวน/ร้อยละของนักเรียนตำมระดับคณุ ภำพ นักเรยี น ระดบั ชั้น ทง้ั หมด ด้ำนควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี ไมผ่ ำ่ น ร้อยละ ผำ่ น ร้อยละ ดี ร้อยละ ดีเยี่ยม รอ้ ยละ ม. 1 94 2 2.13 10 10.64 24 25.53 58 61.70 ม. 2 83 1 1.20 9 10.84 24 28.92 49 59.04 ม. 3 70 - - 5 7.14 18 25.71 47 67.14 ม. 4 78 1 1.28 12 15.38 27 34.62 38 48.72 ม. 5 67 1 1.49 8 11.94 16 23.88 42 62.69 ม. 6 73 1 1.37 13 17.81 14 19.18 45 61.64 รวม 465 6 1.29 57 12.26 123 26.45 279 60.00 ระดบั ผ่ำน 465 ร้อยละระดับผำ่ น 100 80 10.64 10.84 รอ้ ยละของจำนวนนักเรยี นท่ีมผี ลกำรประเมินสมรรถนะ7.1434.6211.9417.81 70 25.53 28.92 ดำ้ นควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี25.7148.72 23.88 19.18 60 61.70 59.04 67.14 62.69 50 ม.2 ม.3 ม.4 ม.5 ม.615.38 61.64 40 ผา่ น ดี ดีเยีย่ ม 30 20 10 0 ม.1
17 1.8 ผลกำรทดสอบทำงกำรศึกษำระดบั ชำติขนั้ พื้นฐำน (O-NET) คะแนนเฉล่ียผลกำรทดสอบทำงกำรศึกษำระดับชำตขิ ้นั พน้ื ฐำน (O-Net) ช้ันมัธยมศกึ ษำปที ่ี 3 ปีกำรศกึ ษำ 2565 กล่มุ สำระกำรเรยี น คะแนนเฉลี่ยผลกำรทดสอบ ภาษาไทย 52.44 คณิตศาสตร์ 24.13 วทิ ยาศาสตร์ 32.96 ภาษาอังกฤษ 27.32 ค่ำเฉลย่ี รวม 34.21 คะแนนเฉลย่ี ผลกำรทดสอบทำงกำรศกึ ษำระดับชำตขิ ้นั พ้ืนฐำน (O-net) ชนั้ มัธยมศกึ ษำปที ี่ 3 ปีกำรศึกษำ 2565 60 52.44 49.91 53.91 52.95 50 40 24.13 23.26 30 24.66 24.39 32.96 32 33.67 33.32 27.32 29.69 31.75 32.05 20 10 0 คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย โรงเรียน จงั หวัด สงั กดั ประเทศ โรงเรียน ภำษำไทย คณิตศำสตร์ วทิ ยำศำสตร์ ภำษำองั กฤษ จังหวัด 52.44 24.13 32.96 27.32 สังกัด 49.91 23.26 32 29.69 ประเทศ 53.91 24.66 33.67 31.75 52.95 24.39 33.32 32.05
18 คะแนนเฉล่ยี ผลกำรทดสอบทำงกำรศกึ ษำระดับชำตขิ ้นั พืน้ ฐำน (O-Net) ชนั้ มธั ยมศึกษำปีท่ี 6 ปกี ำรศกึ ษำ 2565 กลุ่มสำระกำรเรยี น คะแนนเฉล่ียผลกำรทดสอบ ภาษาไทย 39.05 คณิตศาสตร์ 19.08 วิทยาศาสตร์ 26.08 ภาษาอังกฤษ 21.32 สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม 29.08 คำ่ เฉลี่ยรวม 26.92 คะแนนเฉล่ียผลกำรทดสอบทำงกำรศึกษำระดับชำติขน้ั พน้ื ฐำน (O-net) ช้ันมธั ยมศกึ ษำปีที่ 6 ปกี ำรศกึ ษำ 2565 39.05 41.42 45.79 44.09 50 45 26.08 29.08 40 26.88 31.59 35 33.62 30 28.78 33 25 28.08 20 19.08 21.32 15 19.54 21.86 10 5 22.33 23.59 0 21.61 23.44 ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ สังคมศึกษา โรงเรียน จงั หวดั สังกัด ประเทศ โรงเรยี น ภำษำไทย คณติ ศำสตร์ วิทยำศำสตร์ ภำษำองั กฤษ สงั คมศกึ ษำ จงั หวัด 39.05 19.08 26.08 21.32 29.08 สงั กัด 41.42 19.54 26.88 21.86 31.59 ประเทศ 45.79 22.33 28.78 23.59 33.62 44.09 21.61 28.08 23.44 33
19 สว่ นที่ 2 ผลกำรประเมินตนเองของสถำนศึกษำ มาตรฐานท่ี 1 คณุ ภาพของผู้เรียน ระดบั คุณภาพ : ดเี ลศิ วธิ ีการพัฒนา/กระบวนการ ขอ้ มลู หลักฐาน เอกสารเชงิ ประจกั ษ์ ทสี่ นับสนุนผลการประเมินตนเอง 1.1 ผลสมั ฤทธ์ิทางวิชาการของผู้เรยี นกระบวนการพฒั นาและผลการดาเนินงาน ผู้เรียนมีความสามารถในการอ่านการเขียนการส่อื สารและการคิดคานวณสถานศกึ ษามีกระบวน การพัฒนาผูเ้ รยี นด้วยวธิ กี ารท่ีหลากหลายครูจัดการเรยี นรใู้ หเ้ ป็นไปตามศักยภาพของผู้เรียนของผู้เรียนและเป็ นไปตามมาตรฐานและตวั ชี้วี ดั ของหลักสูตรมีกี ารออกแบบการจัดการเรียนรู้ทเ่ี หมาะสมกับผีู้เรีียนโดยมีการจัด การเรยี นรู้ท้งั รูปแบบการระดมสมองแบบลงมือปฏบิ ตั ิจริงแบบร่วมมอื กนั เรยี นรู้แบบใช้กระบวนการคิด กระบวนการใช้ปญั หาเป็นหลักและเน้นเรอ่ื งการอาี่ นการเขีียนการสอ่ื สารและการคิดคำนวณของผเู้ รยี นเปน็ เร่ือ งสาคัญท่ีสดุ โดยม่งุ พัฒนาให้ผูเ้ รียนทกุ คนอา่ นออกเขียนได้สอื่ สารเขา้ ใจกล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทยและกลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ ภาษาจีน) ได้ดาเนินการพัฒนา รูปแบบของกจิ กรรมดังน้ี กิจกรรมพัฒนาศักยภาพผ้เู รยี นด้านภาษาไทย การเขยี นเรียงความ การสรปุ ความ การเขยี นตามคาบอกี การอ่านจบั ใจความกจิ กรรมรักการอ่าน/บันทกึ การอ่านการทาสมุดเล่มเลก็ สว่ นภาษาองั กฤษและภาษาจีนเปน็ กิจกรรมอา่ นออกเสยี งการท่องศพั ทก์ ารจบั ค่สู นทนาเหตีุการณ์ีในชีวีิตประจาวัีนการแตง่ ประโยคสาหรบั ดา้ นกา รคานวณกลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตรไ์ ด้ดาเนินการจัดการเรียนการสอนตามมาตรฐานและตัวชี้วดั ของหลกั สูตรสถานศกึ ษาฝึกทกั ษะในการคดิ คานวณการท่องสตู รคูณฝกึ ใหน้ กั เรียนคิดในใจการจดั กจิ กรรมเพ่ิมทกั ษะ การคดิ เลขเร็ว เวทคณิต สมการเอแม็ท เนอื่ งจากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอื้ ไวรสั โควดิ 19ทาให้การจัดกจิ กรรมบางสวนต้องจา กดั เวลาสถานทที่ ุกกลุม่ สาระการเรียนรมู้ กี ารปรบั วิธกี ารเรยี นเปลยี่ นวธิ ีการสอนโดยการใช้สือ่ เทนโนโลยเี ข้ามา ชว่ ยในการจดั การเรยี นการสอน ผลการดาเนินงาน ผเู้ รยี นมคี วามสามารถในการอ่าน การเขยี น การส่ือสาร และการคิดคานวณ ผู้เรียนสามารถนาทักษะดา้ นการ ฟงั พดู อา่ น เขยี นภาษาองั กฤษ ภาษาไทย และภาษาจีน ไปใช้ใน ชีวิตประจาวันได้ และสามารถนาเสนอรปู แบบวธิ ีคิด คานวณ และวิธแี ก้ปญั หาอยา่ งน่าสนใจและชัดเจน ประเมนิ จากผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนรายวิชาภาษาไทยและภาษาองั กฤษ ภาษาจนี และคณติ ศาสตรม์ ีผลการ ประเมนิ ดังนี้ ร้อยละ 43.14 ผู้เรยี นมีความสามารถในการอ่าน การเขยี น การส่อื สาร ภาษาไทย อยูใ่ นระดบั ผา่ น ขน้ึ ไป (เกรด 3 ขนึ้ ไป) รอ้ ยละ 47.44 ผูเ้ รยี นมีีความสามารถในการอ่าน การเขยีี น การสืี่อสาร ภาษาอีังกฤษ ภาษาจีน อยู่ในี ระดับผ่านขน้ึ ไป (เกรด 3 ขึ้นไป) ร้อยละ 44.28 ผู้เรยี นมีความสามารถตามตัวชี้วดั ในการคิดคานวณรายวิชาคณติ ศาสตร์ระดับ ผ่าน ขน้ึ ไป (เกรด 3 ข้นึ ไป) ดา้ นผูเ้ รยี นมคี วามสามารถในการคิดวิเคราะหค์ ิดอย่างมวี ิจารณญาณอภิปรายแลกเปลีย่ นความ คดิ เห็นและแกป้ ัญหา ทุกกลมุ่ สาระการเรียนรไู้ ด้มโี ครงการยกระดบั ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น และการรู้จัดกิจกรรมการเรียน การสอนเพ่ือใหน้ กั เรียนมคี วามสามารถในการคิดวเิ คราะห์ การคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ โดยใชเ้ หตุผล
20 ประกอบการตัดสนิ ใจและแกป้ ญั หาได้ โดยพัฒนารูปแบบของกจิ กรรม มีการจัดการเรยี นร้ทู ้ังรูปแบบ การ ระดมสมองแบบลงมอื ปฏบิ ัติจรงิ แบบร่วมมอื กันเรยี นรู้ แบบใช้กระบวนการคดิ กระบวนการใช้ปัญหาเป็น หลกั ี การจดั กจิ กรรมการสอนแบบโครงงาน การสอนแบบ STEM ของกลมุ่ สาระการเรียนรู้วีิทยาศาสตรี์และี เทคโนโลยี รวมถึงกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนที่ทาให้ผู้เรียนได้รวมกลมุ่ กนั ทางาน การออกความคดิ เหน็ และการ นาเสนอ ผลการดาเนนิ งาน ผู้เรียี นสามารถคีดิ โดยใชข้ ี้อมลู ขี้อความรู้ ประกอบการคิดพีิจารณา วิเคราะหี์อย่างี อย่างมีวิจารณญาณ อภิปราย แลกเปลีย่ นความคิดเหน็ แปลความหมาย สรุปข้อมูลอยา่ งสมเหตุผล แยกแยะ ข้อมูลวา่ ข้อมูลใดคอื ขอ้ เท็จจรงิ ข้อมลู ใดคือความคิดเห็น ตลอดจนพจิ ารณาความนา่ เชอ่ื ถอื ของข้อมลู และ สามารถหาแนวทางแก้ไขปัญหาได้ การประเมินดังน้ี รอ้ ยละ 100 ของผูเ้ รียนมผี ลการประเมนิ อีา่ นคิดวิเคราะห์ อยใู่ นระดบั ดีี ร้อยละ 100 ของผู้เรียนมคี วามสามารถในการอภิปรายแลกเปล่ียนความคิดเห็น โดยใช้เหตุผลี ประกอบการตัดสนิ ใจและแกป้ ญั หา อยู่ในระดับดี ผู้เรียนมคี วามสามารถในการสร้างนวัตกรรม โรงเรยี นให้ทุกกล่มุ สาระการเรียนร้ไู ด้ดาเนนิ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรูต้ ามมาตรฐาน/ตัวชวี้ ัด เพอื่ ให้ ผเู้ รียนไดส้ ร้างสรรค์นวตั กรรมท่ีเกิดจากการเรยี นรู้ และนกั เรยี นได้ฝึกการนาเสนอผลงาน เช่น กลุ่มสาระการ เรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ได้ดาเนนิ การพฒั นาในรูปแบบของการจดั กจิ กรรมหลากหลายทสี่ ่งเสริม ความสามารถในการสร้างนวัตกรรม ส่งเสริมให้นกั เรยี นไดส้ รา้ งสรรคผ์ ลงาน กิจกรรมสง่ เสริมสมรรถนะด้าน ICT โครงงานวิทยาศาสตร์ กจิ กรรมวนั วิทยาศาสตร์ กิจกรรมการแสดงทางวิทยาศาสตร์ (Science Show) เปน็ ตี้น กลุ่มสาระการเรียนรูี้การงานอาชีีพไดี้มีีการจัีดการเรีียนการสอนทีีน่ ัีกเรีียนได้ีลงมอีื ปฏีิบีัติีเชี่น งานไมี้ งานคหกรรม จดั โครงการอบรมทักษะอาชพี กลุม่ สาระการเรียนร้ศู ลิ ปศึกษา มกี ารแสดงดนตรี พนื้ บ้าน ดนตรสี ากลทง้ั รว่ มการแสดงด้านนาฎศิลป์ทั้งในและนอกโรงเรยี น กลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ ได้มีการจัด กิจกรรมค่าย English on Tour วันคริสต์มาส และกจิ กรรมตรษุ จีน เปน็ ตน้ ผลการดาเนินงาน ทาให้ผู้เรยี นมคี วามสามารถกาหนด ออกแบบ สร้างนวัตกรรม โดยอาศัย องคค์ วามรู้ในการแก้ปัญหาโดยอาศยั กระบวนการคิด ตามท่ีตนเองสนใจและประดษิ ฐ์ส่งิ ทเี่ กดิ ประโยชน์ นักเรียนมีผลการประเมนิ ดังน้ี ร้อยละ 70 ของผเู้ รยี น มีความรแู้ ละทักษะพนื้ ฐานในการสร้างผลงาน การทาโครงงาน/ผลงาน ประดษิ ฐใ์ หมี่ และสามารถอธิบายหลกั การี แนวคิดี ขนั้ ตอนการทางานี และปัญหาอุปสรรคของการทางานได้ ในระดับผา่ นขึน้ ไป ผเู้ รยี นมีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร โรงเรยี นได้ดาเนนิ การพฒั นาระบบอนิ เทอร์เนต็ ความเรว็ สูงแบบไฟเบอร์ออฟติก (Fiber Optic) กระจายสีญั ญาณอิีนเทอรี์เน็ตไร้สาย (WIFI) ครอบคลมุ พื้ีนที่ของโรงเรีียน และยังรองรับการเรีียนการสอนแบบี Application for Education ไดแ้ ก่ Google Classroom Google Site Canva เพอื่ ให้ครูผู้สอนสามารถผลิต ส่ือและบทเรยี นออนไลนแ์ ละจัดการเรยี นรูอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพสูงสดุ และกล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (วิชาคอมพิวเตอร)์ ได้จัดการเรยี นการสอนให้ผูเ้ รียนได้เรยี นรู้และพัฒนาทักษะเกีย่ วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศในทุกระดับช้นั ตามมาตรฐานี ตัวชี้วัดของหลกั สูตร ทาให้นกั เรยี นสามารถนาเทคโนโลยี มาใชเ้ พ่ือการสืบค้นข้อมูลและนาเสนอขอ้ มลู อกี ทง้ั จัดกจิ กรรมส่งเสรมิ สมรรถนะดา้ น ICT ให้กบั นกั เรยี นทุก ระดีับชั้ีน และโรงเรีียนไดี้ติีดตั้ง TV ในทีุกหี้องเรียี น เพืี่อครผู ูส้ อนสามารถใชี้สีื่อและบทเรีียนออนไลน์ ในการจัดการเรีียนการทําใหก้ ารสอนมีความนา่ สนใจยง่ิ ขึน้
21 ผลการดาเนนิ งาน ผูเ้ รียนมคี วามสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สารเพอ่ื พฒั นา ตนเองและสงั คมในด้านการเรียนรู้การส่ือสาร การทางานอยา่ งสรา้ งสรรค์และมคี ุณธรรม ผู้เรียนสามารถสืบค้นขอ้ มูลหรอื แสวงหาความร้จู ากส่อื เทคโนโลยไี ด้ ด้วยตนเอง ผลการประเมิน ดังน้ี ร้อยละ 98.71 ของผู้เรยี น มคีี วามรแู้ ละทีักษะพีื้นฐานในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารี ในระดับผา่ นข้ึนไป ผู้เรยี นมผี ลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นตามหลกั สูตรสถานศกึ ษา งานหลกั สูตรไดว้ เิ คราะห์ข้อมลู วางแผนการพฒั นาหลักสตู รให้มคี วามสอดคลอ้ งกบั สภาพปญั หา ความตอ้ งการของผูเ้ รยี น ชมุ ชน วสิ ยั ทัศน์ พีันธกจิ กลยุทธ์ของโรงเรยี น กลยทุ ธขี์ องสพฐ แต่งตั้งคณะกรรมการี พัฒนา ทบทวนและปรบั ปรุงหลกั สูตร ครูทกุ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้พฒั นาหลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ หลักสูตรระดบั ชั้นเรยี น โรงเรยี นได้จัดกจิ กรรมการเรียนการสอนโดยทกุ กลุม่ สาระการเรียนรูร้ ว่ มกนั ในการ พัฒี นาผลสมีั ฤทธิท์ างวิชาการของผู้เรยี นวา่ีนักเรียนไมี่น้ีอยกว่ารอ้ ยละ 50 จะต้องมีผลการเรยี น ระดับ 3 ขึน้ ไปี ในกลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ และนักเรียนไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 50 จะตอ้ งมผี ลการเรยี นระดบั 3 ข้ึนไปในกลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย สังคมศกึ ษา สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ศิลปะ และการงานอาชีพ โดยจะใหม้ กี ารวัดผลและประเมนิ ผลผเู้ รยี นอย่างเป็นระบบ เหมาะสมกับเน้อื หาวิชา และธรรมชาติของผเู้ รียน มกี ารให้ข้อมลู ผลการเรียนสะทอ้ นกับแกน่ ักเรียนและผู้ปกครองของนกั เรียน เพอ่ื รว่ มกนั ชน่ื ชม หรือแก้ไขปัญหาผลการเรยี นของผเู้ รยี น จัดทาแผนการเรยี นรแู้ ละจัดทาแผนบรู ณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ครูทุกกลมุ่ สาระการเรยี นรนู้ าแผนการจัดการเรยี นรู้ไปใช้ในการพฒั นาผเู้ รียน ผเู้ รยี นไดร้ บั การพัฒนาทงั้ การจดั การเรียนการสอนอยา่ งมคี ุณภาพ โรงเรยี นได้ดาเนินการกาหนดใหท้ ุกกลุม่ สาระการเรียนรจู้ ัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนทีเ่ นน้ ผเู้ รียนเป็นสาคัญ โดยออกแบบกิจกรรมการเรียนรทู้ เี่ นน้ ทกั ษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ คิดวจิ ารญาณ และคดิ แก้ปัญหาจัดโครงการ/กจิ กรรมท่สี ่งเสรมิ สมรรถนะทัง้ 5 ดา้ น คอื การสือ่ สาร การคดิ การแก้ปัญหา การใชท้ กั ษะชีวิต และการใช้เทคโนโลยี รวมทัง้ สอดแทรก คุณลักษณะอันี พึีงประสงค์ เพอื่ ให้ผูเ้ รยี นสอบเลื่อนชีั้นหรืีอจบการศึกี ษาตามแนวปฏิบีัติีการวีัดและประเมีินผลี การเรยี นรู้ตามท่ีหลีักสตู รสถานศีกึ ษากำหนดและพร้ีอมทจ่ี ะศีกึ ษาต่ีอในระดบั ท่ีสีูงขนึ้ รวมไปถึีงไดี้ตระหนีักถึงีี บทบาทหนา้ ทีข่ องตนเองทม่ี ีตอ่ สว่ นรวมตลอดจนสง่ เสริมการพฒั นาครูอยา่ งต่อเนื่องจดั แหล่งเรียนรอู้ ย่างหลาก หลายทงั้ ภายในและภายนอกให้กา้ วทันเทคโนโลยีท่ีเปลยี่ นแปลงและมโี ครงการยกระดับผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียน 8 กลมุ่ สาระ ประเมนิ ด้านผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นเปน็ ไปตามเป้าหมายท่สี ถานศกึ ษากาหนด ผลการดาเนนิ งาน ผเู้ รยี นมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นในกลุม่ สาระต่างๆ ตั้งแตร่ ะดับ 3 ขึน้ ไป ไดแ้ ก่ กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทยคิดเป็นร้อยละ 43.14 กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตรค์ ดิ เป็นร้อยละ 44.28 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์คิดเป็นร้อยละ39.88กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษคิดเป็น รอ้ ยละ 47.44 กล่มุ สาระการเรยี นรู้สัีงคมศึกษาคดิี เป็นรอ้ ยละ 37.92 กล่มุ สาระการเรียนรู้สขีุ พลศึกษาคิีดเปี็น รอ้ ยละี57.66ีกลุม่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปศกึ ษาคิดเปน็ ร้อยละี61.32ีกลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพคิดเป็น รอ้ ยละ 50.26 แต่ดว้ ยสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของเชื้อไวรสั โคโรนา (COVID-19) ทาใหม้ ผี ลการ ประเมินสมรรถนะสาคญั ตามหลกั สตู รไม่เปน็ ไปตามเกณฑแ์ ละผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนบางกลมุ่ สาระการ เรียนรไู้ มเ่ ปน็ ไปตามเป้าหมายทีต่ ั้งไว้ ผลการทดสอบระดับชาติ (O-NET) ของ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ี คอื ภาษาไทยี คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ี ภาษาอังกฤษ สงั คมศึกษาี ในระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ี 3ี ผลการสอบในปกี ารศึกษาี 2565ี มี คา่ เฉลีย่ ดังน้ี วิชาภาษาไทย 52.44 วชิ าภาษาอังกฤษ 27.32 วิชาวิทยาศาสตร์ 32.96 ส่วนวชิ าคณิตศาสตร2์ 4.13ีี ค่าเฉล่ียรวม 34.21
22 ผลการทดสอบระดับชาติ (O-NET) ของ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ี คือ ภาษาไทยี คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตรี์ ภาษาองั กฤษ สงั คมศึกษาี ในระดับช้ันมธั ยมศึกษาปที ีี่ 6ี ผลการสอบในปกี ารศกึ ษาี 2565ี มี คา่ เฉล่ียดงั น้ี วิชาภาษาไทย 39.05 วิชาภาษาองั กฤษ 21.32 วิชาวทิ ยาศาสตร์ 26.08 ส่วนวิชาคณิตศาสตร์ 19.08 วิชาสังคมศึกี ษาี 29.08 คา่ เฉลี่ยรวม 26.92 ผ้เู รียน มีความรู้ ทักษะพ้นื ฐาน และเจตคตทิ ี่ดีต่องานอาชีพ โรงเรียนไดพ้ ฒั นาผ้เู รยี นโดยให้ทุกกล่มุ สาระการเรยี นรจู้ ัดกจิ กรรมการเรียนการสอนที่หลากหลาย เนน้ ผูเ้ รียนเป็นสาคญั และเปน็ ไปตามมาตรฐานและตวั ชี้วัด มีผลการจัดการเรยี นรู้เป็นไปตามเกณฑข์ อง สถานศกึ ษา ผเู้ รียนไดร้ ับการพัฒนาทักษะทง้ั จากกจิ กรรมในชนั้ เรยี นและกิจกรรมของโรงเรยี น มีกจิ กรรม ส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นวางแผนการี ทางานอย่างเปน็ ข้ันตอน ทางานเปน็ ทมี ี มีการตรวจสอบทบทวนกระบวนการ ทางาน ปรับปรงุ แกไ้ ขผล มกี ารประเมินผลการปฏิบตั งิ าน มีผลงานบรรลตุ ามเป้าหมาย เชน่ กิจกรรมกีฬา ภายใน ส่งเสริมคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ กจิ กรรมวันวิทยาศาสตร์ กิจกรรมชุมนมุ การแสดงดา้ นศลิ ปะ/ ดนตร/ี นาฏศิลป์ การจัดกจิ กรรมแนะแนว การจดั ทาแบบสอบถามความถนดั เก่ยี วกบั ความเหมาะสมกบั อาชีพ เพ่ือช่วยใหน้ ักเรียนมี ความร้คู วามเข้าใจเก่ียวกบั การศึกษาต่อ สายสามัญและสายอาชีพ การสอบตรง การ คีัดเลือกบุคคลเขี้าศีึกษาใน ระดีับอุีดมศีึกษา (Admission) ซีึ่งจะส่งผลให้นี ักเรยี นตีัดสินใจเลือกศีึกษาตีอ่ ได้ี ตามความสนใจความสามารถและความถนดั ของตนเอง นอกจากนยี้ งั ส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นมเี จตคติดแี ละยดึ มั่นในแนวทางการประกอบอาชพี สุจริต เข้ารว่ ม กิจกรรมท่เี ก่ยี วข้องกบั อาชพี สุจรติ และสามารถหาข้อมลู จากแหลง่ เรยี นร้ทู ่หี ลากหลายเก่ียวกบั การประกอบ อาชพี ทนี่ า่ สนใจ เชน่ การสรา้ งสรรคอ์ าชพี อสิ ระตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงอยา่ งยงั่ ยืน งานแนะ แนวท่ีสร้างโอกาสให้ผูเ้ รยี นได้รูจ้ ักโลกแห่งอาชพี ท้ังจากเอกสาร ประสบการณก์ ารทางาน เชญิ วิทยากรจาก สถาบันต่างี ๆี มาใหค้ วามรู้ี และอานวยความสะดวกให้ผเู้ รยี นได้ไปเรยี นรู้ในสถาบนั ตา่ งี ๆี จัดกจิ กรรมศึกษา หาความรู้ กิจกรรมแนะแนวการศกึ ษาต่อและอาชพี งานแนะแนวยงั กาหนดให้นักเรียนจัดทา PORTFOLIO รายบคุ คล เพือ่ เก็บรวบรวมประวัติและผลงานสาหรับใช้ในการศึกษาตอ่ ในระดับท่สี ูงขน้ึ ผลการดาเนินงาน ทาใหผ้ ู้เรียนมสี ามารถทางานอย่างเป็นระบบ โดยมกี ารวางแผนการทางาน ตามแผนอยา่ งรอบคอบเอาใจใส่ มานะ พากเพยี ร มีการตรวจสอบทบทวนการทางานเป็นระยะ ๆ จนงานที่ ดาเนนิ การบรรลุผลสาเรจ็ ตามวัตถุประสงค์ และเปา้ หมายทีก่ าหนดจนสาเรจ็ อย่างมคี ุณภาพ ทางานอยา่ งมี ความสขุ มงุ่ มน่ั พัฒนางานและภมู ใิ จในผลงานของตนเอง สามารถทางานเปน็ หมู่คณะได้ มคี วามรู้สึกทดี่ ตี ่อ อาชพี สจุ รติ สามารถบอกแหล่งข้อมลู เกี่ยวกบั อาชพี และหาความรู้เก่ยี วกบั อาชีพทีต่ นเองสนใจพบว่า รอ้ ยละี90.50ีของผู้เรียนีในระดบั ช้นั ีม.6ีศกึ ษาตอ่ ในระดบั ท่ีสูงขึน้ /ประกอบอาชพี ีและนักเรียนสามารถเข้า ศึกษาตอ่ ในระดับสงู ขึ้นได้ ร้อยละ 89.52 ของผู้เรียน ในระดับชน้ั ม.3 จบหลกั สูตรการศึกษาภาคบังคบั ร้อยละ 95.75 ของผเู้ รียน ในระดบั ชน้ั ม.6 จบหลักสูตรการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน 1.2 คุณลกั ษณะทีพ่ ่ึงประสงค์ของผูเ้ รียนกระบวนการและผลการดาเนินงาน ผเู้ รยี นมีคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ตามหลักสตู รตามท่ีสถานศึกษากาหนด โรงเรียนสง่ เสริมใหผ้ ้เู รยี นมีคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลกั สตู รตามทสี่ ถานศึกษากาหนดีผ่านการ จัดการเรยี นการสอนี8ีกล่มุ สาระการเรียนรู้ีผเู้ รียนได้รับการปลูกฝังโดยจดั กิจกรรมสอดแทรกในการเรยี นการ สอน การพัฒนาคณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงคใ์ นรายวิชาทกุ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ เพ่ือพัฒนาทกั ษะชีวติ ของผูเ้ รียน เพอื่ ใหอ้ ย่ใู นสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุขีเน้นการพฒั นาด้านคณุ ธรรมีจริยธรรมีท่ีเหมาะสมกับวยั ของผูเ้ รยี นีและ เนน้ ใหผ้ ู้เรียนี เก่งี ดีี มีความสขุ นอกจากนมี้ โี ครงการและกจิ กรรมของกลุม่ งานกจิ การนกั เรียน เสริมสร้าง
23 ความม่ันคงของสถาบันหลกั ของชาติ โรงเรยี นคณุ ธรรม โครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพ่ือพัฒนาคณุ ธรรม จริยธรรมและค่านิยมท่เี หมาะสม ซ่งึ มีกิจกรรมทหี่ ลากหลาย เช่น กจิ กรรมปลูกฝงั คุณธรรมจริยธรรม กิจกรรมไหว้ครู กจิ กรรมวนั สาคัญของชาติี ศาสนาี พระมหากษตั ริย์ี จัดกจิ กรรมการพฒั นาให้เหมาะสมกับวยั ี พฒั นาคุณธรรมผู้เรยี นตามหลักสูตร กจิ กรรม ส่งเสรมิ ประชาธิปไตย เน้นใหผ้ เู้ รียนมวี ินยั ซื่อสัตย์ี รับผิดชอบี และมีจิตสาธารณะโดยทุกหอ้ งเรียนมเี ขตพื้นที่ รับผิดชอบเพอ่ื ดูแลความสะอาดีดูและห้องนา้ ีมีระบบการแนะแนวีและการดแู ลสุขภาวะจติ ีและมีการเรยี นรู้ ในโลกกวา้ ง ส่งเสริมการออกกำลงั กาย ผลการดาเนินงาน ทาให้ผู้เรยี นเปน็ พลเมืองดขี องชาติ มคี วามสามัคคี ภูมิใจในความเปน็ ไทย ปฏิบัตติ ามหลัก ศาสนาที่ตนนบั ถอื แสดงความจงรกั ภักดีต่อสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลงกฎเกณฑ์ และระเบียบ ขอ้ บังคับของโรงเรยี น และสงั คมเป็นปกตไิ มล่ ะเมดิ สิทธิผ้อู ื่น ยดึ หลกั ความเปน็ จรงิ ี ความถูกต้องในการดาเนนิ ชีวิตเพีียรพยายามในการเรียนและเข้ีาร่วมกิจี กรรมการเรียนรีู้ แสวงหาความรูี้จากแหลี่งเรีียนรีู้ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรียนอยา่ งสมา่ เสมอดว้ ยการเลือกใชส้ อื่ ตาม ความเหมาะสม สรปุ เป็นองค์ความรู้ แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ ถา่ ยทอด เผยแพร่ และนาไปใช้ในชีีวิตประจาวีันไดี้ อยู่รว่ มกีับผู้อีื่น ไมเ่ บียดเบียนผู้ีอืนี่ เหี็นีคณุ คา่ ของทรพั ยากรต่างๆปฏิบัติหนา้ ทีท่ ี่ได้รับมอบหมายด้วย ความเพยี รพยายาม มคี วามภูมิใจ เหน็ คุณค่า ชื่นชม มีส่วนร่วมในการอนุรกั ษ์ีสืบทอด เผยแพร่ภีูมิปัญญาไทย ขนบธรรมเนยี มประเพนี ศลิ ปะและวัฒนธรรมีไทยมีความกตัญญูกตเวทใี ชภ้ าษาไทยในการส่ือสาร อยา่ งถูกต้ีองเหมาะสม ช่วยเหลือี ผ้อู นื่ ทาีประโยชน์แก่สว่ นรวม เข้าใจเหน็ ใจผอู้ ื่นที่เดือดร้อน ร้อยละ 100 ของผู้เรียนมผี ลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ ในระดบั ดี ข้ึนไป ร้อยละ 89.14 มคี วามรบั ผดิ ชอบ มีวนิ ยั มีภาวะผ้นู าและจติ อาสาตามเกณฑ์ประเมินของสถานศึกษา มีความภูมใิ จในท้องถน่ิ และความเป็นไทย โรงเรยี นส่งเสรมิ ผูเ้ รียนได้เรยี นรแู้ ละได้รับการปลูกฝงั ความภูมใิ จในท้องถ่นิ และความเปน็ ไทยอย่าง ตอ่ เนอ่ื งผ่านการจัดการเรยี นการสอนตามหลักสตู ร ไดแ้ ก่ การจดั กิจกรรมตามโครงการซึ่งมกี จิ กรรมท่ี หลากหลาย เชน่ การจดั กิจกรรมเนืี่องในวนั สุีนทรภูี่และวนั ภาษาไทยแหี่งชาติ กจิ กรรมในวันสาคัญต่าง ๆ เชี่นี วันพ่อแห่งชาตีิ วันแมแ่ หง่ ชาติี วนั ขนึ้ ปใี หม่ี การแสดงของนกั เรียนวงวงดนตรลี ูกท่งุ วงคนตรีสากล ทบี่ ูรณาการนาวฒั นธรรมและประเพณีไทยรวมทัง้ ภมู ปิ ญั ญาไทยมาประยุกต์ใชใ้ นการแสดง มีความภมู ใิ จใน ทอ้ งถ่นิ ีเหน็ คณุ คา่ ของความเป็นไทยีการรว่ มกจิ กรรมทางศาสนาและประเพณีของชุมชนีเชน่ ีวันลอยกระทง งานเทศกาลกินปลาหรืองานบญุ อน่ื ๆการทาบุญตกั บาตรในวนั สาคัญตา่ งๆการถวายเทยี นพรรษาแก่วัดในชมุ ชน กิจกรรมสถานศึกี ษาสีีขาวปลอดยาเสพตดีิ และอบายมุีขกจิ กรรมวันไหว้ีครกู จิ กรรมอบรมคุณธรรม จรีิยธรรมและได้มกี ารประเมินผลตามมาตรฐาน/ตัวช้ีวัดในรายวชีิ าหน้าที่การเขี้าไปศึกษากบั ภมู ปิ ีัญญาใน ชมุ ชนรอบี ๆสถานศกึ ษาี โรงเรยี นเป็นศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ดา้ นการศึกษา นาภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่ินมารว่ มกนั วางแผนการจัดการเรียนการสอนและเพิ่มเวลารเู้ รอ่ื งอาชพี โดยจัดกิจกรรม ชุมนุมจักสาน การปลกู พีืชผกั สวนครัว การผลิตของใช้จากเศษวัสดุ เปน็ ต้น ผลการดาเนนิ งาน ผ้เู รยี นแตง่ กายตามระเบียบของโรงเรียน มมี ารยาทแบบไทย มสี มั มาคารวะ กตญั ญูกตเวทตี อ่ ผมู้ พี ระคุณ ร่วมกิจกรรมทีเ่ กย่ี วข้องกบั ประเพณี ศลิ ปะ และวฒั นธรรมไทยีีใช้ภาษาไทยใน การสอ่ื สารอยา่ งถูกต้องเหมาะสม นาภมู ิปัญญาไทยมาใชใ้ ห้เหมาะสมในวถิ ชี วี ิต รว่ มกจิ กรรมท่เี กย่ี วข้องกับ ภูมิปัญญาไทยและมสีี ่วนร่วมในการสืบทอดภมู ปิ ัญญาไทยผลการประเมนิ ดังน้ี ร้อยละ 90.75 ของผ้เู รยี น มีผลการประเมินความรู้และทักษะพนื้ ฐาน ทัศนคติท่ีดีตอ่ บา้ นเมือง การเปน็ พลเมืองทด่ี ขี องชาติและของโลกี ในระดับผา่ นขึน้ ไป ร้อยละี 95.00ี ของผู้เรียนี มีผลการประเมนิ ความภูมิใจ
24 ในท้องถ่ินและความเปน็ ไทย ในระดับผา่ นขนึ้ ไป ร้อยละ 96.56 ของผ้เู รียน มีสว่ นรว่ มในการอนุรกั ษ์ วัฒนธรรม ประเพณีไทย และภมู ปิ ัญญาท้องถ่ิน จากการจดั กจิ กรรมวนั สาคัญตา่ งๆ ของสถานศกึ ษา ยอมรับทจี่ ะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย ผู้เรยี นได้รับการพัฒนาโดยการจดั โครงการและกจิ กรรมการเรียนรู้ภาษาและวฒั นธรรมทห่ี ลากหลาย ท้งั กจิ กรรมในและนอกหอ้ งเรยี น ทาให้ผ้เู รียนเกิดการเรยี นรู้และฝกึ ประสบการณ์ เชน่ กิจกรรมวันคริสต์มาส กจิ กรรมการเรียนรวู้ ฒั นธรรมตะวนั ตกและการเรยี นรู้วฒั นธรรมของประเทศตา่ ง ๆ ในอาเซยี น มีกจิ กรรม เลือกตีั้งสภานีักเรยี นี กีิจกรรมตอ้ นรัีบนอ้ี งใหม่ นอกจากนี้มีีกิีจกรรมพีัฒนาทกีั ษะการอยีู่รว่ มกีัน เช่ีน คี่ายลูกเสือเนตรนารีอีกท้ังมีการดาเนินงานโครงการกจิ การนักเรียนซึง่ ประกอบดว้ ยกิจกรรมทส่ี ง่ เสรมิ การยอม รับทจ่ี ะอยู่ ร่วมกันบนความแตกตา่ งและหลากหลายของนกั เรียน ได้แก่ งานแกไ้ ขพฤติกรรมโรงเรียน เพือ่ ปรับพฤติกรรม นกั เรียนีเปน็ ต้น ผลการดาเนินงาน ทาให้ผเู้ รยี นแสดงความคิดเห็นของตนเองอย่างสภุ าพยอมรับรับความคิดเห็นของ ผู้อ่นื ด้วยความเข้าใจ เห็นประโยชนจ์ ากการแลกเปล่ยี นความคิดซ่งึ กนั และกัน ยอมรบั และเห็นความงามใน ความแตกต่างทางวัฒนธรรม เช่น กฎกตกิ ามรรยาท การแต่งกาย การพูด ภาษาเขียน ศาสนา พธิ ีกรรม ความคดิ ความเชื่อี เปน็ ตน้ ี และสามารถแก้ปญั หา อยรู่ ่วมกันได้ด้วยความเขา้ ใจที่ถูกตอ้ ง มีการส่อื สารอยา่ ง สรา้ งสรรค์ รวมถงึ มคี วามเข้าใจเรอ่ื งความแตกต่างระหวา่ งบคุ คล และระหว่างวัย ทงั้ น้ี มผี ลการดาเนนิ งาน เชงิ ประจักษี์ เคร่ืองมือท่ีใช้สาหรับการประเมนิ คอื แบบประเมิีน ประเมนิ ผ้เู รยี นทุกคนมผี ลการประเมิน ดังนีี้ ผเู้ รียนรอ้ ยละ89.14มีความรบั ผดิ ชอบมีวนิ ยั มีภาวะผู้นามีจติ อาสายอมรบั ความคิดเหน็ และอยู่รว่ มกบั คนอน่ื อย่างมีความสขุ เข้าใจผ้อู ื่นไมม่ คี วามขดั แย้งกบั ผ้อู ื่นผ้เู รียนรอ้ ยละ100เข้าใจและยอมรบั ในความแตกตา่ งทาง วัฒนธรรมเชอื้ ชาติ ศาสนา สามารถอยู่รว่ มกันในสังคมได้อย่างมคี วามสขุ มสี ขุ ภาวะทางร่างกายและจิตสังคม กลมุ่ สาระสขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษาไดจ้ ดั กิจกรรมทสี่ ่งเสริมสขุ ภาวะทางร่างกายและจติ ใจ เชน่ กจิ กรรมการแขง่ ขนั กฬี าสี การแข่งขนั ฟตุ บอลตา้ นยาเสพตดิ และงานอนามยั โรงเรยี น กจิ กรรมทดสอบและ พฒั นานาหนกั ส่วนสงู และสมรรถภาพทางกาย กิจกรรมออกกาลังกายเพ่อื สุขภาพ กิจกรรมโรงเรียนสขี าว ปลอดยาเสพตดิ และอบายมขุ กจิ กรรมการหลีกเลย่ี งสภาวะทีเ่ สย่ี งตอ่ ความรนุ แรงโรคภัย กิจกรรมรู้เทา่ ทนั ปัญหาทางเพศ กิจกรรมรณรงค์ปอ้ งกนั และลดอุบตั ิเหตุ (สุขบัญญัติ 10 ประการ) กจิ กรรมตรวจสุขภาพ นกั เรียน จดั ทาป้ายนเิ ทศความรู้เก่ียวกับการปี้องกีันโรค กจิ กรรมวาดภาพระบายสีในวนั สำคัีญ กิีจกรรมดนตรีี (ดนตรสี ากล/นาฏศิลป์)) กจิ กรรมส่งเสรมิ นกั เรยี นใหเ้ ล่นกีีฬาี และออกกำลังกายเพื่อสรา้ งความสามัคคี มนี า้ ใจนกั กีฬาเออ้ื อาทรต่อกันผู้เรยี นมรี า่ งกายแขง็ แรงมจี ติ ใจอารมณร์ ่าเริงแจ่มใสมีกจิ กรรมสร้างความสมั พนั ธ์ อันดีในครอบครวั ี ชุมชนี และี สงั คมี เชน่ ี กิจกรรมร้จู กั นกั เรียนเปน็ รายบคุ คลและ คัดกรองนกั เรยี นี กิจกรรมประชมุ ผู้ปกครองนัีกเรยี นี กิจกรรมเยย่ี มบา้ นนักเรียน ผลการดาเนนิ งานผเู้ รยี นมีวิธีการรักษาสขุ ภาพของตนเองใหแ้ ขง็ แรง รกั ษาอารมณแ์ ละสขุ ภาพจติ ให้ดีอยู่เสมอีพรอ้ มท้งั เรียนรู้และมีวิธกี ารป้องกันตนเองจากการล่อลวงีขม่ เหงีรังแกีไมเ่ พกิ เฉยต่อการกระทา สิ่งทไี่ มถ่ ูกตอ้ งีและอยรู่ ว่ มกันดว้ ยดใี นครอบครัวีชุมชนและสังคมีผเู้ รียนรู้และตระหนักถงึ โทษและพษิ ภัยของ สิ่งเสพติดต่าง ๆ เลอื กรับประทานอาหารท่ีสะอาด และมีประโยชน์ รักการออกกาลงั กาย นกั เรยี นทุกคน สามารถเล่นกีฬาได้อยา่ งน้อยคนละประเภท แลีผลการประเมิน ดงั นี้
25 ร้อยละ 95.49 ของผเู้ รยี น มนี ้าหนัก สว่ นสงู และพัฒี นาการทางรา่ งกายเจริญเตบิ โตตามเกณฑี์ มาตรฐานของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ตามเกณฑ์ รอ้ ยละ 85.35 ของผเู้ รยี น มีสมรรถภาพทางกาย ตามเกณฑม์ าตรฐานของกรมพลศกึ ษา ในระดับผา่ น ขอ้ มูล หลกั ฐาน เอกสารเชงิ ประจักษ์ ทีส่ นบั สนนุ ผลการประเมินตนเอง 1) แผนการจัดการเรยี นรทู้ ีม่ ีระบบการจัดการเรยี นการสอน หลกั สูตรที่เหมาะสมกบั บริบทและี นกั เรยี น มกี ารจดั การเรียนการสอนทเี่ นน้ ผู้เรียนเป็นสาคญั 2) รายงานวิจยั ในช้นั เรยี นท่พี ฒั นาการเรยี นรูข้ องนกั เรยี นโดยใช่สอ่ื หรือนวัตกรรมทเ่ี หมาะสม สอดคล้องกบั หลักสูตรและบรบิ ทนกั เรยี น 3) หลักสูตรสถานศึกษาและหลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้ 4) แผนการจัดการเรยี นร้ขู องครผู สู้ อน 5) แบบประเมนิ แผนการจดั การเรยี นรูข้ องครผู สู้ อน 6) แบบประเมินการนเิ ทศครผู ู้สอนรายบุคคล 7) รายงานผลสีมั ฤทธิท์ างการเรยี น แบบรายครูผู้สอน/รายกล่มุ สาระการเรยี นร/ู้ ภาพรวมท้ังโรงเรยี นี ปกี ารศึกษา 2564 8) ผลการทดสอบทางการศีึกษาระดบั ชาติีพื้นี ฐาน (O-NET) ช้ันมธั ยมศึีกษาปีท่ี 3 และ ชั้นมัธยมศึีกษาปีท่ี 6 ปีีการศีึกษา 2565 9) รายงานสรุปผลการประเมินคณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงคข์ องผู้เรยี น 10) รายงานสรุปผลการประเมนิ การอา่ นคดิ วเิ คราะห์ ของผเู้ รยี น 11) รายงานสรปุ ผลการประเมินสมรรถนะท่สี าคญั ของผเู้ รียน 12) ภาพถ่าียการรว่ มกจิ กรรมตา่ ง ๆ เชนี่ วนั สาคญั ทางศาสนา กจิ กรรมเลือกตง้ั ประธานนักเรียนี กจิ กรรมวันไหว้ครู กิจกรรมวนั ขน้ึ ปใี หม่ กิจกรรม รด.จติ อาสา เป็นตน้ 13) เอกสารสรปุ รายงานพฤติกรรมนกั เรยี นของงานระเบยี บวินัย 14) ช้ินงานทีเ่ กดิ จากการใชเ้ ทคโนโลยี 15) รายงานการศกึ ษาต่อของนักเรยี น ปกี ารศึกษา 2565 16) แบบสรปุ ผลการประเมนิ สมรรถภาพทางกาย 17) แบบรายงานการประเมนิ ตนเอง (Self-Assessment Report) ของครู จดุ เดน่ จุดที่ควรพัฒนา แผนพัฒนาคุณภาพเพอ่ื ยกระดับให้สงู ขนึ้ จุดเด่น สถานศึกษามีการวเิ คราะหผ์ ลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นและได้กาหนดเปน็ เปา้ หมายทางการเรียนโดย จัดทาแผนการจัดการเรยี นรู้ทีส่ อดคล้องกบั หลกั สูตร จดั กิจกรรมการเรยี นการสอนเนน้ การปฏิบัติ และเทคนิค ทหี่ ลากหลาย ผูเ้ รยี นอ่าน เขียนเพอื่ การสือ่ สารไดท้ ุกคน สามารถใช้เทคโนโลยีในการแสวงหาความรู้ไดด้ ว้ ย ตนเอง สง่ ผลให้ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ของนกั เรยี นอยู่ในระดับดี สง่ เสรมิ การเข้าร่วมกจิ กรรมการแขง่ ขนั ของนักเรยี นในระดบั ต่าง ๆ ผ้เู รยี นมสี ุขภาพร่างกายแข็งแรง มีสมรรถภาพทางกายและนา้ หนกั ส่วนสูงตาม เกณฑี์ มีระเบยี บวินยั ีเป็นที่ยอมรบั ของชุมชนโดยรอบในเรอ่ื งีความมีวนิ ยั ีเคารพกฎกตกิ าีมารยาทของสงั คม ได้แก่ีการเขาี้ คิวชอ้ื อาหารี ผ้เู รยี นเปน็ ผู้มจี ีิตสาธารณะชว่ ยกันี ดีูแลเขตพ้ืนที่ีรบั ผดิ ชอบในการทำความสะอาดี บริเวณโรงเรยี นี มสี ว่ นร่วมในการอนุรกั ษธ์ี รรมชาติ
26 จุดทคี่ วรพฒั นา การจดั กิจกรรมทม่ี งุ่ เนน้ ยกระดบั ผลสมั ฤทธิ์ ยงั ขาดการปฏิบตั ทิ ่ีต่อเนอ่ื งจริงจัง การยกระดับ ผลสมั ฤทธิ์แต่ละกลมุ่ สาระประสบผลสาเร็จในระดบั หนงึ่ นักเรยี นสว่ นใหญย่ งั ต้องไดร้ บั การพฒั นาตอ่ ไป ผลสัมฤทธ์ริ ะดับชาตขิ องนกั เรยี นมีแนวโนม้ เปล่ยี นแปลงพัฒนาข้นึ โดยรวม แต่ไม่ผ่านเกณฑ์ในบางกลุ่มี สาระ การเรยี นรู้ จึงตอ้ งมงุ่ เนน้ พฒั นาต่อไป จัดกิจกรรมดา้ นการอา่ น การเขียน คานวณให้กับนกั เรียนเรียนร่วม เปรยี บเทียบความกา้ วหนา้ และการพัฒนาของนกั เรียนเป็นรายบุคคลแผนบรู การหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ พอเพียงี บรู ณาการส่งิ แวดลอ้ มใชเ้ ทคโนโลยีและสารสนเทศในการเรยี นรขู้ องนักเรยี นผเู้ รยี นต้อง ไดร้ บั การสง่ เสริมในด้านทศั นคติทด่ี ีี ต่อความเปน็ ไทยีไมห่ ลงใหลกับคา่ นิยมตา่ งชาติีจนเกิดการลอกเลยี นแบบ ทาให้ลืมวัฒนธรรมอันดี แผนพฒั นาคุณภาพเพื่อยกระดับให้สูงขึ้น 1) พฒั นาให้นักเรยี นมที กั ษะในการอา่ นี การเขยี นี การสอ่ื สารี และการคิดคานวณเป็นไปตามเกณฑ์ ทโ่ี รงเรยี นกาหนดในแต่ระดับชน้ั 2) พฒั นาให้นักเรียนมีความสามารถในการคิดจาแนก แยกแยะ ใครค่ รวญไตรต่ รอง พิจารณาอยา่ ง รอบคอบโดยใช้เหตุผลประกอบการตัดสินใจ มีการอภปิ รายแลกเปลย่ี นความคิดเห็น และแกป้ ัญหาอยา่ งมี เหตผุ ล 3) จดั กิจกรรมการเรยี นการสอนทเ่ี น้นทัีกษะกระบวนการ เช่นการเรียนรโู้ ดยใช้โครงงาน 4) พัฒนาใหน้ ักเรียนมคี วามสามารถในการรวบรวมความรูไ้ ด้ทง้ั ด้วยตนเองและการทางานเปน็ ทมี เชือ่ มโยงองคค์ วามรูี้ และประสบการณม์ าใช้ในการสร้างสรรค์สงิ่ ใหม่ ๆ 5) พฒั นาใหน้ ักเรียน มีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารเพ่อื พฒั นาตนเอง และสังคมในด้านการเรียนรู้ การสื่ีอสาร การทำงาน อย่างสรา้ งสรรค์ และมีคี ุณธรรม 6) พัฒี นาให้นีักเรยี น มีความก้าวหนา้ ในการเรยี นรตู้ ามหลกั สตู รสถานศึกี ษาจากพีนื้ ฐานเดมิ ในด้านี ความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ กระบวนการต่าง ๆ 7) พฒั นาให้นักเรียนมคี วามกา้ วหน้าในผลการทดสอบระดบั ชาติ มีความรู้ ทักษะพน้ื ฐานในการ จดั การเจตคติท่ดี พี ร้อมทจี่ ะศกึ ษาต่อในระดับช้นั ที่สงู ขนึ้ ีมีพฤติกรรมเปน็ ผู้ที่มีคุณธรรม จรยิ ธรรมีเคารพใน กฎ และกติกา 8) พัฒนาให้นักเรยี นมคี ่านิยมและจติ สานึกตามทีส่ ถานศึกษามีความภูมิใจในท้องถิน่ เหน็ คุณค่าของ ความเป็นไทย มีส่วนร่วมในการอนรุ ักษ์วี ัฒนธรรมประเพณไี ทยรวมทงั้ ภมู ิปญั ญาไทย 9) พฒั นาใหน้ ักเรยี นีมีการรกั ษาสุขภาพกายีสุขภาพจิตีอารมณ์ีและสงั คมีแสดงออกอย่างเหมาะสม ในแตล่ ะช่วงวยั มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ ารและการจดั การ ระดับคุณภาพ : ดีเลศิ การมีเปา้ หมาย วิสัยทศั น์ และพนั ธกจิ ทสี่ ถานศกึ ษากาหนดชดั เจน กระบวนการพัฒนาและผลการดาเนินงาน โรงเรยี นมกี ารกาหนดทิศทางการพฒั นาการจัดการศึกษา โดยกาหนดวสิ ยั ทัศน์ กลยุทธ์ เป้าประสงค์ และพนัี ธกิจของสถานศึกษา โดยจัดทาแผนพัฒี นาคุณภาพการศึกษา ระยะ 5 ปี ( ปกี ารศึกี ษา 2561-2565 ) ท่สี อดคลอ้ งกีับนโยบายสำนกั งานการศึกษาขน้ั พนี้ื ฐานและนโยบายทีส่ ง่ เสรีิมการมสี ่วนร่วมจากภาคส่วนตี่าง ๆี ซ่งึ มีข้นั ตอน/กระบวนการจัดทาแผนพัฒนาการศึกษา โดยแต่งต้ังคณะกรรมการจากผ้มู ีสว่ น เกยี่ วขอ้ งทุกฝาย
27 (คณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน ผู้บริหารคณะกรรมการบรหิ ารโรงเรียน คณะครู ผ้แู ทนชมุ ชน และ ผแู้ ทนนกั เรยี น) จดั ประชมุ พจิ ารณาและระดมความคิดเหน็ ศึกษาวิเคราะหส์ ภาพปญั หาและความตอ้ งการ จาเป็นของโรงเรยี นอย่างเปน็ ระบบโดยใชข้ อ้ มูลตามสภาพจริง ทบทวนผลการดาเนินงานท่ผี า่ นมาจากรายงาน ประเมินตนเอง (SAR) วิเคราะหส์ ภาพปญั หาผลการจัดการศกึ ษาท่ผี ่านมาโดยใช้เทคนคิ SWOT Analysis โดยการศกึ ษาขอ้ มูล สารสนเทศจากผลการนเิ ทศ ตดิ ตาม ประเมนิ การจัดการศกึ ษาตามนโยบายการปฏริ ปู การศกีึ ษาี เพี่อื วางแผนร่วมกันี กาหนดเป้าหมายี ปรับวสิี ยั ทัศน์ กาหนดพนัี ธกิจี กลยุทธี์ ในการจัดการศึกษาี ของสถานศกึ ษาเพื่อพฒั นาคุณภาพผูเ้ รียน มีการปรบั แผนพฒั นาคุณภาพจัดการศึกษา แผนปฏิบัติการ ประจาปี ให้สอดคล้องกบั สภาพปัญหาความตอ้ งการพฒั นาและนโยบายการปฏิรปู การศกึ ษา ผลการ ดาเนนิ งาน ทาใหส้ ถานศกีึ ษามีเป้าหมายวิสยัี ทัีศน์และพัีนธกจิ ท่สี ถานศึีกษากาหนดชัดเจน สอดคล้องกบัี บรีิบที ของสถานศกึ ษา ความต้องการชุมชน นโยบายรัฐบาล แผนการศึกษาแหง่ ชาติ เปน็ ไปได้ในการปฏิบตั ทิ ันต่อ การเปลีย่ นแปลง มรี ะบบบริหารจดั การคณุ ภาพของสถานศึกษา กระบวนการพัฒนาและการดาเนนิ งาน โรงเรยี นปากชมวิทยามีระบบการบรหิ ารจดั การโดยเน้นในเร่ืองความมีประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธิผล เพ่ือใหก้ ารดาเนินการตา่ งๆบรรลเุ ป้าหมายโดยเน้นประโยชน์สงู สุดทเ่ี กิดกบั ผู้เรยี นและโรงเรยี นจัดโครงสร้างหรื อระบบ การบรหิ ารของสถานศกึ ษาครอบคลุม 4 ฝ่ายี คอื ี ฝ่ายบริหารงานทวั่ ไป ฝ่ายบรหิ ารงานวชิ าการ ฝา่ ยบรหิ ารงานงบประมาณ และฝา่ ยบรหิ ารงานบุคคล ทีเ่ อือ้ ต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามระบบ ประกันคณุ ภาพการศกึ ษา ใชร้ ะบบการบริหารงานด้วยวงจรเดมมงิ่ (Deming Cycle) เปน็ กระบวนการบริหาร คณุ ภาพท่ีก่ีอใหเ้ กิดประสิทธิภาพและมีีการพัีฒนาอย่างต่อี เนืี่องีประกอบด้วย การวางแผน (Plan) แต่งตง้ั คณะกรรมการประกนั คุณภาพการศึกษาในการกาหนดแนวทางและ วธิ ดี าเนินการประกนีั คุณภาพการศีึกษาภายในท่ีสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการศีึกษาข้ันพืีน้ ฐานี เป็นกรอบในการี จดั ทาแผนพฒั นาคุีณภาพการศกึ ษาระยะ 5 ปี (2561-2565) จัดทาแผน/ปฏทิ ินปฏิบัตีิงาน/โครงการ/กิจี กรรมี ตา่ ง ๆเปน็ ปัจจุบนั 1 ครัง้ /ปกี ารศกึี ษา เพีื่อให้การดาเนินการประกนีั คุณภาพบรรลเุ ป้าหมายตามทีี่กาหนดไว้ การปฎิบตั ิใหเ้ ป็นไปตามแผน (Do) มกี ารจัดทาแผนปฏิบตั กิ ารประจาปี ดาเนนิ ตามแผนงานท่ไี ด้ กาหนดไว้ โดยเก็บรวบรวมข้อมูลและบันทึกขอ้ มลู ที่เกยี่ วขอ้ งกับการปฏิบัติงานเพ่ือใช้เปน็ ข้อมูลในการ ดาเนินงานในขน้ั ตอนตอ่ ไป การตรวจสอบผลการปฎิบัติงานให้เป็นไปตามแผน (Check) คณะกรรมการติดตามตรวจสอบ คุณภาพการศึกษา อย่างน้อย 1 คร้ัง/ภาคเรียน และประเมินผลการดาเนินงานให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องและ บรรลุเป้าหมายท่ีกาหนดไว้อย่างน้อย 1 ครั้ง/ปีการศึกษา สรุปจัดทารายงานประจาปีที่เป็นรายงานประเมิน คุณภาพภายในของโรงเรียนที่สะท้อนคุณภาพผู้เรียนและผลสาเร็จของการบริหารจัดการศึกษาอย่างชัดเจน ครอบคลุมมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาตามรูปแบบที่หน่วยงานต้นสังกัดกาหนดโดยผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง กับการพัฒนาคุณภาพการศีึกษาเข้ามามีสี ว่ นร่วมในการดาเนินงานทีุกฝ่าย การนาผลมาปรับปรุงพัฒนา (Act) นาผลการประเมินคุณภาพภายใน การประเมินภายนอกและของ หน่วยงานที่เก่ียวข้องต่างๆ และมีการแลกเปล่ียนเรียนรู้ด้านการบริหารจัดการ มาวิเคราะห์ สังเคราะห์และ เลือกสรรข้อมูลสารสนเทศโดยให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม เพื่อนาไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการ พัฒนาการบริหารและการเรียนการสอนอย่างต่อเน่ือง เพื่อพัฒนาความเป็นเลิศในการจัดการศึกษาโดย สามารถบริหารจัดการได้อย่างคล่องตัวตามสภาพความต้องการและจาเป็น และมีกระบวนการนิเทศภายใน กากบั ีตดิ ตามีตรวจสอบีและนาผลไปปรับปรุงการเรยี นการสอนอย่างสม่าเสมออย่างเปน็ รูปธรรม โรงเรียนมี
28 การบริหารจัดการด้วยหลักธรรมาภิบาล อย่างมีคุณภาพ และจัดระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียนท่ีมีประสิทธภิ าพ และครอบคลมุ ผ้เู รยี นทุกคน ดาเนินงานพัฒนาวิชาการท่เี นน้ คุณภาพผ้เู รียนรอบด้านตามหลกั สตู รสถานศึกษาและ ทกุ กลมุ่ เป้าหมาย กระบวนการและการดาเนินงาน ฝา่ ยบริหารวชิ าการมีีการจดั โครงสรา้ งงานเพื่อกาหนดกรอบ ภารกจิ ภาระหน้าที่ให้ครอบคลมุ ข่ายงานี ของงานวิชาการทั้งหมด โดยเน้นการจัดวางคนที่มีความสามารถเหมาะสมกับงาน เพื่อมุ่งผลสัมฤทธิ์ในการ ดาเนินงานให้บรรลุเป้าหมาย วิสัยทัศน์ที่สถานศึกษากาหนด กาหนดเป้าหมายของแต่ละงานท่ีจะพัฒนาในปี การศึกษา 2565 อย่างชัดเจน จากน้ันดาเนินการโดยยึดวงจรคุณภาพ PDCA มีการเขียนแผนงาน/โครงการ เพ่ือรองรับเป้าหมายท่ีกาหนด ซ่ึงเป็นเป้าหมายท่ีสอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ครูผู้สอนทาวิจัยในชั้นเรียนีจากปัญหาท่ีเกิดขึ้นจากกระบวนการเรียนการสอน มีการดาเนินการนิเทศภายใน กากบั ีติดตามตรวจสอบีและนาผลไปปรบั ปรงุ การเรียนการสอนสะทอ้ นผลการจัดการเรยี นรู้ โดยครูผู้สอนทา การบันทึกหลังแผนการจัดการเรียนรู้ และการทาวิจัยในช้ันเรียน เพ่ือนาผลไปปรับปรุงพัฒนากิจกรีรมการ เรียนการสอนในปีการศึกษาถัดไป โดยมีการตรวจเอกสารบันทึกผลหลังการสอน ซึ่งเป็นรายงานการใช้ แผนการเรียนรู้ และรายงานวิจัยในช้ันเรียนตามลาดับขั้นตอนสะท้อนผลการจัดทาหลักสูตรกลุ่มสาระการ เรียนรู้ หลักสูตรระดับชั้นเรียน สะท้อนผลการนิเทศการจัดการเรียนการสอนแก่คณะครูและนาผลการนิเทศ ไปปรับปรงุ การจดั การเรยี นการสอน ผลการดาเนินงาน การพัฒี นาวิีชาการท่ีเน้ีนคุีณภาพผีู้เรยี นรอบดี้านตามหลีักสูตรสถานศกึี ษาและทีกุ กลุ่ีมเปี้าหมายทำให้ี โรงเรียนมีหลักสูตรที่หลากหลายตอบสนองความต้องการของผู้เรียน มีการดาเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้น คุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษาและทุกกลุ่มเป้าหมายเช่ือมโยงกับชีวิตจริงและเป็นแบบ อย่างได้ีมีหลักฐานร่องรอยีคือ หลักสูตรสถานศึกษาีหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ีหลักสูตรระดับช้ันเรียน หน่วยการเรียนรีู้ แผนการจัดการเรียนร้ีู รายงานการใชแ้ ผนการจดั การเรียนร้ีู รายงานวิจัยในชั้นเรียนีรายงาน ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนีรายงานการใช้สื่อ/นวตั กรรมีสรุปผลการนิเทศภายในของสถานศกึ ษาีแผนปฏิบตั ิการ ประจาปี ฝ่ายบริหารวชิ าการ คาสงั่ แตง่ ตง้ั หน้าท่ีพเิ ศษตามสายงาน กลุ่มงานบริหารวชิ าการ รายงานผลการ ดาเนินโครงการ/กิจกรรมตามแผนงาน ฝ่ายบริหารวชิ าการี โล่รางวัล/เกยี รตบิ ัตรการพัีฒนาครูและรายงาน การประเมินตนเองรายบคุ คล พัฒนาครแู ละบุคลากรให้มคี วามเช่ยี วชาญทางวิชาชีพ กระบวนการและการดาเนนิ งาน ฝ่ายบริหารงานบุคคลวิเคราะห์สภาพปัญหาผลการจัดการศึกษาท่ีผ่านมาประเมินการกระบวนการ บริหารจัดการและจัดประชุมระดมความคิดเห็นเพอื่ วางแผนร่วมกันกาหนดกระบวนการบริการจัดการ มีการ วางแผนการดาเนินงานพัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ โดยมีการปรับแผนปฏิบัติการ ประจาปีของฝ่ายบริหารงานบุคคลให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาความต้องการพัฒนามอบหมายงานให้ ผู้รับผิดชอบดาเนินการพัฒนาตามแผนงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายท่ีกาหนดไว้ มีการดาเนินการนิเทศกากับ ตดิ ตามประเมนิ ผลการดาเนนิ งานและสรุปผลการดาเนินงาน มีกรอบภาระงานีได้แก่ การประสานกับสถาบัน การพีัฒนาครูหรือหน่วี ยงานอีืน่ ๆ เพีื่อคี้นหาหลักสูีตรทีี่มีีคีุณภาพให้ีสอดคล้อี งกีับความตี้องการพีัฒนาตนเองี ของบุคลากรในโรงเรียน สนับสนุนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา วางแผนและเข้ารับการพัฒนาตาม หลักสูตรท่ีตนเลือกและเป็นหลักสูตรท่ีเชื่อมโยงความก้าวหน้าในวิชาชีพ (Career Path) รวมถึงการจัดการ
29 พัฒนาครูตามแผนปฏิบัติการของโรงเรียน ส่งเสริมและพัฒนาครูให้ออกแบบการเรียนรู้ีการจัดการเรียนรีู้ ให้ สอดคลอ้ งกบั การวัดประเมินผลทเ่ี น้นทกั ษะการคดิ ขั้นสูง(Higher Order Thinking) ผ่านกจิ กรรมการปฏิบัติ จริง(ActiveLearning) ส่งเสริมและพัฒนาครูให้มีความรู้และทักษะในการสร้างเครื่องมือการวัดและ ประเมนิ ผลการเรยี นร้ดู า้ นทกั ษะการคดิ ข้ันสูง (Higher Order Thinking) ส่งเสรมิ สนบั สนุนให้ครพู ฒั นาตนเอง ผ่านระบบีOnline ประเมินครีู โดยเน้นการประเมนิ สมรรถนะีในการจดั การเรยี นการสอนโดยผลสัมฤทธ์ิของ ผู้เรียนเป็นหลัีก ประเมีินการปฏบิ ัตี ีิงานในหน้ีาทีี่และจรรยาบรรณของครู ปีละ 2 ครั้งี ประเมีินผลด้ีานพัฒนาี ครูและบุคลากรให้มีความเช่ียวชาญทางวิชาชีพีพบว่าีร้อยละี100ีของครูและบุคลากรได้รบั การพัฒนาให้มี ความเช่ียวชาญทางวิชาชีพตรงตามความต้องการของครูและสถานศึกษา ร้อยละ 100 ของครูและบุคลากรมี ส่วนร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพ่ือพัฒนางาน (PLC) ร้อยละ 100 ของครูและบุคลากรได้รับ การศึกษาดูงาน/การอบรมพัฒนาครู ตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพ นอกจากนี้ ผู้บริหารและครู ได้รับรางวัล เกียรติบัตรเชดิี ชูเกียรตติ ่าง ๆ เชน่ี รางวัล ครดู ีศรเี มอื งเลย ครดู ีของแผน่ ดนิ ครดู ศี รปี ากชม เปน็ ตน้ จดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพและสงั คมท่ีเอ้ือต่อการจดั การเรยี นรู้อย่างมคี ณุ ภาพ กระบวนการและการดาเนนิ งาน ฝ่ายบริหารทั่วไปได้การวางแผนการจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสิ่งแวดล้อมท่ีเอื้อต่อการ จัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมท่ีเอ้ือต่อการเรียนรู้ มีการพัฒนา ปรับปรุงห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ ห้องน้า โรงอาหาร ห้องประชุม ให้มีความสะอาด ปลอดภัย มั่นคงและ แขี็งแรง มีีสิ่งอำนวยความสะดวกในการเรีียนรีู้ เชี่น สื่อวีัสดอีุ ีุปกรณี์ต่าีง ๆ เพีียงพอตี่อผู้เรียี นและอยูี่ในสภาพี ใช้การได้ดี ปรับปรุงภูมิทัศน์เพ่ือแสดงออกซ่ึงอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของโรงเรียน ปากวิทยา ให้มี สภาพแวดล้อมท่ีสวยงาม ร่มร่ืนและมีแหล่งเรียนรู้แก่ผู้เรียน จัดห้องสมุดให้มีระบบบริหารจัดการทรัพยากร สารสนเทศท่ีทันสมัยสอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน โดยผู้เรียนสามารถเข้าถึงสารสนเทศได้อย่าง รวดเร็ว เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และสร้างนิสัยรักการอ่าน จัดโครงการ/กิจกรรมท่ีส่งเสริม สุขภาพ อนามยั และความปลอดภยั ของผู้เรียน เช่น กิจกรรมโรงเรยี นสขี าวปลอดยาเสพตดิ และอบายมุข ผลการดาเนนิ งาน โรงเรยี นปากชมวทิ ยา มีการจดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอ้อื ต่อการจัดการเรยี นรู้ อยา่ งมีคุณภาพและมคี วามปลอดภยั สะอาดี โรงเรียนมีแหลง่ เรียนรูภ้ ายในทเี่ พียงพอี ได้แก่ ศูนยก์ ารเรยี นรู้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงดา้ นการศึกษา ห้องสมดุ โรงเรียน ห้องอจั ฉรยิ ะภาพต่างๆ ห้องคอมพิวเตอรี์ หอ้ งอตุ สาหกรรมีห้องคหกรรม และแหลง่ เรยี นรู้อ่ืีน ๆ จัดระบบสารสนเทศเพอื่ สนับสนุนการบริหารจัดการและการจดั การเรียนรู้ กระบวนการและการดาเนินงาน โรงเรียนปากชมวทิ ยาี จัดใหม้ ีบคุ ลากรทมี่ คี วามรู้ความสามารถี ในการดแู ลข้อมูลสารสนเทศ รวมถงึ ดูแลรักษาฮาร์ดแวร์ ซอฟแวร์ วสั ดุอปุ กรณ์ และทาหนา้ ที่เตรยี มพร้อมให้ใช้งานได้อย่างต่อเนอ่ื ง แม้ กรณีภาวะฉุกเฉินโรงเรียนมวี ิธีดาเนินการในการทากลไกความพร้อมใชง้ านของขอ้ มลู สารสนเทศรวมถึงระบบ ฮารด์ แวรแ์ ละซอฟแวรท์ นั ต่อความตอ้ งการและทศิ ทางการศกึ ษาและบริการและทันต่อการเปล่ียนแปลงของ เทคโนโลยีสภาพแวดล้ีอมของการปฏบิี ตั ิงานอยเู่ สมอี วีิธกี ารดำเนินการเร่ิมจากการวางแผนเตรียมความพรี้อมี ท้งั เร่อื งของบคุ ลากร ภาระงาน ทรัพยากร และอื่น ๆ โดยแต่งตง้ั คณะกรรมการในการดาเนินงานทกุ ฝา่ ยท่ี เกีย่ วขอ้ งี มีงานแผนงานและสารสนเทศเป็นแกนหลกีั มีงานเทคโนโลยีสารสนเทศและเครอื ขีา่ ย สนับสนนุ การี ดแู ลในเรอื่ งของฮารด์ แวรแ์ ละซอฟตแ์ วรท์ ีต่ ้องการ เชน่ เตรยี มความพร้อมในเรื่องระบบในการจดั เก็บขอ้ มลู การกระจายสญั ญาณเครอื ข่าย LAN ให้ท่ัวถงึ พร้อมสาหรับการเขา้ ถึงทุกตาแหนง่ ของโรงเรยี น พัฒนาระบบ
30 หรอื จัดหาระบบที่ต้องการและติดตงั้ ระบบใหพ้ รอ้ มใชง้ าน เมอื่ ระบบเครอื ขา่ ยพรอ้ ม จึงทาการจัดเก็บข้อมลู โดยการแจกแบบฟอร์ม และขอความร่วมมอื จากทกุ ฝา่ ยในการให้ขอ้ มลู เพือ่ ทาการจดั เก็บเขา้ ระบบสารสนเทศ ตา่ ง ๆ ของโรงเรียน เชน่ ระบบ SMIS OBEC CCT SMSS เพื่อใหไ้ ด้ขอ้ มูลท่ผี ่านการประมวลผลเป็น สารสนเทศทถ่ี ูกี ตอ้ ง แม่นยาน่าเชื่อถอื และเปน็ ปัจจบุ ัน กาหนดใหม้ กี ารแต่งตง้ั ผู้มี ีีหน้าทใี่ นการปอ้ นขี้อมูลี และี ตรวจสอบแกไ้ ข ความถูกตอ้ งของขอ้ มลู บันทึกข้อมูลสารสนเทศในระบบคอมพวิ เตอร์ ข้อมูลพน้ื ฐานของ โรงเรียนใน โปรแกรม Education Management Information Systems (EMIS) Data Management Center (DMC) มกี ารจัดทาเวบ็ ไซตใ์ นนามของ https://data.bopp-obec.info/web https://www.facebook.com/pakchomwittaya เพื่อเผยแพรข่ า่ วสาร ขอ้ มูล สารสนเทศต่างี ๆี แบง่ ปันแลกเปล่ียนเรยี นรู้สผู่ ู้ปกครอง นักเรียนี และสาธารณะท่คี นท่วั ไปสามารถเขา้ ถึงได้ นอกจากนั้นโรงเรียนได้ดาเนินการพฒั นาระบบอินเทอรเ์ น็ตความเร็วสูงแบบไฟเบอรอ์ อฟติก ( Fiber Optic) กระจายสญั ญาณอนิ เทอร์เน็ตไรส้ าย (WIFI) ครอบคลุมพืน้ ท่ขี องโรงเรียน และยงั รองรับการเรียนการสอน แบบ Application for Education ได้แก่ Google Classroom Google Site เพอ่ื ใหค้ รผู ู้สอนสามารถผลติ สื่อและ บทเรียนออนไลน์และจัดการเรียนรู้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ ผลการดาเนนิ งาน ทาใหโ้ รงเรียนมีการจดั ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ สนับสนนุ การบรหิ ารจดั การที่เหมาะสมกับ สภาพของสถานศึกษา ร้อยละ 90.75 ของครแู ละบุคลากรใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อสนบั สนนุ การบรหิ าร จดั การและการจดั การเรียนรู้ ข้อมูล หลกั ฐาน เอกสารเชงิ ประจักษ์ ท่ีสนับสนนุ ผลการประเมนิ ตนเอง 1) โรงเรยี นมเี ปา้ หมายวสิ ยั ทศั น์ และพันธกจิ ท่ีโรงเรยี นกาหนดชดั เจน สอดคล้องกับบริบทของ โรงเรยี นและความต้องการของชมุ ชน 2) แผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา แผนปฏิบตั ิการประจาปี 3) มกี ารจดั โครงสร้างงานเพื่อกาหนดกรอบ ภารกจิ ี ภาระหนา้ ท่ีให้ครอบคลมุ ขา่ ยงานของทกุ ฝ่ายงานโดยเนน้ การจดั วางคนท่ีมคี วามสามารถเหมาะสมกบั งาน มคี าสง่ั แต่งตั้งหนา้ ทพี่ เิ ศษตามสายงาน 4) หลักสูตรสถานศีกึ ษา หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนรู้ 5) หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ รายงานการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ 6) รายงานวีิจยั ในช้นีั เรยี น รายงานผลสัีมฤทธทิ์ างการเรียน รายงานการใชี้สอ่ื /นวัตกรรม 7) สรุปผลการนเิ ทศภายในของสถานศกึ ษา 8) สรุปผลการจัดทาโครงการ/กิจกรรม 9) รายงานผลการดาเนนิ โครงการ/กจิ กรรมตามแผนงาน ประจาปี 2565 10) แบบรายงานการประเมนิ ตนเอง (Self-Assessment Report) ของครู และรายงานผลการ ประเมินตนเองของสถานศึกษา (SAR) 11) เกียรติบตั รการพฒั นาครู หรอื จากการนานกั เรียนเขา้ รว่ มแข่งขนั ในรายการต่าง ๆ 12) ขอ้ มูลสารสนเทศของโรงเรยี น ระบบเทคโนโลยใี นการเพ่มิ ประสทิ ธภิ าพการดาเนินงาน จดุ เด่น จุดที่ควรพัฒนา แผนการพฒั นาคุณภาพเพื่อยกระดบั คุณภาพมาตรฐานใหส้ งู ข้นึ จุดเด่น 1) โรงเรียนมรี ะบบบริหารจัดการคณุ ภาพอย่างมีประสิทธิภาพ มกี ระบวนการบรหิ ารและการ จัดการด้วยวงจรคุณภาพ PDCA
31 2) มีการพัีฒนาบุคลากรเพื่อพฒัี นางาน ผมู้ สี ่วนเกี่ยวขี้องทุกี ฝา่ ย ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกี ษาี เครือข่ีายผูป้ กครองี สมาคมศิษย์เก่าและชมุ ชน ใหค้ วามรี่วมมือี ส่งเสรมิ สนบั สนนุ กากีับ ตดิ ตาม นิเทศและี ร่วมพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาของโรงเรยี นให้มคี ุณภาพอย่างมัน่ คงและยั่งยืน 3) ผ้มู สี ่วนเกยี่ วขอ้ งทกุ ฝ่ายให้ความรว่ มมือ ในการวางระบบและดาเนนิ งานประกันคณุ ภาพภายใน สถานศกึ ษา ทาให้มีขัน้ ตอนชดั เจน มีความเป็นไปได้ในการปฏบิ ตั ิ ส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียนอยา่ งเป็นรปู ธรรม 4) มีการนิเทศ กากีับ ตดิ ตาม และประเมนิ ผลการบริหารงานจากหน่วยงานต้นสงีั กีดั อย่างต่อเนอ่ื ง 5) มีหลกั สูตรสถานศึกษาทส่ี อดคลอ้ งกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน ทีป่ รบั เหมาะสม กับบรบิ ทและสนองต่อความต้องการของนีักเรียนและชมุ ชน และนาหลักสูตรลงสู่การปฏบิ ตั ิอย่างเป็นรูปธรรม 6) มีระบบการจัดทาแผนปฏิบตั กิ ารและการบรหิ ารงบประมาณ การบริหารงานพสั ดแุ ละสนิ ทรพั ย์ท่ีมี ประสิทธภิ าพ 7) โรงเรยี นจดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพท้งั ภายใน และภายนอกห้องเรยี นและสภาพแวดล้อมทาง สงั คมที่ีเอีื้อต่อการจัดการเรียนรแู้ ละมีีความปลอดภัย 8) พัีฒนาครูและบุคลากรใหม้ ีคี วามเช่ยี วชาญทางวิชาชีีพ สอดคลอ้ งกบีั บริบทสถานศีกึ ษา และความี ตอ้ งการของนักเรยี นและผู้ปกครอง 9) จดั ระบบสารสนเทศเพือ่ สนบั สนุนการบรหิ ารจดั การและการจดั การเรียนรู้บริหาร จดั การระบบ เครือข่าีย สือ่ อุีปกรณ์ เทคโนโลยีให้มีความพอเพีียงและพรอ้ มในการเพิี่มประสิทธภิ าพงานทุีกกลมุ่ งาน จุดทคี่ วรพัฒนา 1) ครแู ละบคุ ลากรควรตระหนักเร่ืองการประกนั คณุ ภาพการศกึ ษาภายในของสถานศึกษาเพือ่ พฒั นา คุณภาพการศึกี ษาอย่างยั่งยืนและพร้อมรบั การประเมนิ คุณี ภาพภายนอก 2) พฒั นาวชิ าการทีเ่ น้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศกึ ษาและใหค้ รอบคลมุ ทุก กลุ่มเป้าหมายยิง่ ขนึ้ 3) ควรนาเทคโนโลยมี าใช้ในการจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนนุ การบรหิ ารและการ จัดการเรยี นรทู้ ่เี หมาะสมให้มากยงิ่ ข้นึ และมีประสิทธิภาพมากขึน้ 4) จัดสภาพแวดล้อมที่เน้นการดูแลส่ิงแวดลอ้ มและสง่ เสริมสงั คมทเี่ ออ้ื ต่อการจดั การเรยี นรู้ ให้ ครอบคลุมทุกกลุม่ สาระการเรียนรู้ แผนพัฒนาคุณภาพเพื่อยกระดบั ใหส้ ูงขน้ึ 1) พฒั นาการบรหิ ารจัดการให้เปน็ ไปตามมาตรฐานของสถานศึกษา 2) การพัฒนาด้านวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษาและทุก กลุม่ เป้าหมาย เชอื่ มโยงกีับชวี ิตจรงิ และเป็นแบบอย่างได้ 3) การพฒั นาครแู ละบคุ ลากรให้มีความเช่ียวชาญทางวชิ าชีพตรงตามความต้องการของครูและ สถานศึกษา และจัดให้มีชมุ ชนการเรยี นรู้ทางวชิ าชีพเพอื่ พฒั นางานอย่างต่อเนือ่ ง 4) โรงเรยี นจัดสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพทง้ั ภายใน และภายนอกหอ้ งเรยี นและสภาพแวดล้อมทาง สงั คมที่เี อื้ีอตอ่ การจัดการเรยี นรู้และมีีความปลอดภัย 5) การพฒั นาการจัดระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือสนบั สนุนการบริหารจัดการและการจัดการ เรียนรู้ทเี่ หมาะสมกบั สภาพของสถานศกึ ษา 6) พฒัี นาการวัดผลประเมนิี ผลท่มี ีคุณภาพท่ใี ชใ้ นการประเมีนิ ผลสัีมฤทธท์ิ างการเรยี นของผู้เรียน
32 มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจดั การเรียนการสอนทเ่ี นน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคญั ระดับคุณภาพ : ดีเลิศ กระบวนการพฒั นาและผลการดาเนนิ งาน โรงเรียนปากชมวทิ ยา กาหนดกลยุทธ์ในการพัฒนาคุณภาพการจัดการศีึกษา ที่สอดคล้องกับี ี มาตรฐานดา้ นกระบวนการจดั การเรียนการสอนท่ีเน้นผ้เู รียนเปน็ สาคญั คือ พฒั นาหลกั สตู รและพฒั นาแหล่ง เรยี นรู้ สอ่ื เทคโนโลยี โดยมตี ัวชว้ี ดั สาคญั คือ มหี ลักสตู รท่ีสนองความต้องการของผเู้ รยี น มีกระบวนการ จดั การเรียนการสอนทเี่ น้นผู้เรยี นเปน็ สาคญั และบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง นักเรยี นและ ผู้ปกครองพึงีพอใจในหลักสูตี รและกระบวนการจัดการเรียนรู้ นกั เรยี นี ผป้ีู กครองและชีุมชนพึีงพอใจในระบบี ดูแลชวี่ ยเหลืีอนักเรียี น โรงเรียนมีกระบวนการพฒั นา ผลการดาเนนิ การและหลกั ฐานร่องรอยด้านกระบวนการี จัดการเรยี นการสอนทีเ่ น้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญ ดงั ต่อไปน้ี จัดกระบวนการเรียนร้ผู ่านกระบวนการคิดและปฏบิ ตั จิ รงิ และสามารถนาไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตได้ กระบวนการพฒั นาและผลการดาเนนิ งาน โรงเรยี นปากชมวิทยา ดาเนินการพฒั นากระบวนการเรยี นการสอนทีเ่ น้นผเู้ รยี นเปน็ สาคัญโดย วธิ ีทหี่ ลากหลาย โดยมุ่งเนน้ การพัฒี นาผเ้ีู รยี นใหส้ อดคล้องกัีบวสิ ัยทัศนี์ของโรงเรียน สง่ ผลใหก้ ระบวนการเรียี นี การสอนทเี่ นน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคญั อย่ใู นระดบั ดีเลิศ โดยสง่ เสริมใหค้ รูจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ที่เน้นผเู้ รยี นเปน็ สาคญั แบบ ( Active Learning) ด้วยเทคนคิ ทหี่ ลากหลาย จดั การเรียนการสอนทเ่ี น้นทักษะการคิด เชน่ จัดการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project-based Learning) การเรียนรู้แบบแผนผังความคิด (Concept Mapping) การสอนแบบใช้ปญั หาเปน็ ฐาน (Problem based Learning) การจัดการเรียนรูแ้ นวสเตม็ ศึกษา (STEM Education) การเรียนรแู้ บบใช้เกมี การปฏิีบตั ิจรงิ ี และนาความรไู้ ปประยีุกต์ใีช้ในชีีวิตประจำวัีนไดี้ ครูมกี ารมอบหมายหน้าที่ให้นักเรยี นจัดป้ายนเิ ทศ และบรรยากาศตามสถานท่ตี ่าง ๆีทัง้ ภายในหอ้ งเรยี น และ นอกหอ้ งเรยี นี โดยการดาเนินกจิ กรรมอยา่ งหลากหลายี ไดแ้ กี่ งานหลักสูตรมกี ารประชมุ ปฏบิ ตั ิการี ปรับปรงุ หลกั สตู รสถานศกึ ษา มกี ารบูรณาการ ภาระงาน ช้ินงาน โดยทกุ ระดบั ช้ันจัดทาหน่วยบรู ณาการ เศรษฐกิจ พอเพยี ง ปรบั โครงสร้างรายวชิ า หน่วยการเรยี นรู้ สดั ส่วนคะแนนแต่ละหนว่ ย กาหนดคณุ ลกั ษณะอันพึง ประสงค์ทีี่สอดคลี้องกับหน่วยการเรียนรู้ สนับสนุนใหค้ รูจัดการเรีียนการสอนท่ีสร้ีางโอกาสใหี้นีักเรีียนทีุกคนมีี ส่วนรว่ มไดล้ งมือปฏบิ ตั ิจริงจนสรุปความรไู้ ดด้ ้วยตนเอง การประเมินคณุ ภาพและประสิทธภิ าพของสอ่ื การ สอนท่ใี ช้ ครูทกุ คนทางานวจิ ยั ในชนั้ เรียน 1) ครูร้อยละ 90 จัดการเรียนร้ผู า่ นกระบวนการคิด และปฏิบัติจริงตามมาตรฐานการศึกษาและ ตัวชี้วดั ตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา ส่งผลให้ผู้เรียนสรา้ งองค์ความร้แู ละจัดระบบการเรยี นรูไ้ ดด้ ว้ ยตนเองและ ผู้เรยี นสามารถนาความรู้ไปประยุกต์ใชใ้ นชวีี ติ จรงิ ได้ 2) ครูรอ้ ยละ 95.50 มนี วัตกรรมในการจดั การเรียนรู้ แบบ Active learning (แผนการจดั การเรียนรู้ วจิ ยั /สื่อการสอน/รปู แบบ/วธิ กี าร) ใชส้ ือ่ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหลง่ เรยี นรทู้ ี่เออ้ื ตอ่ การเรยี นรู้ กระบวนการพฒั นาและผลการดาเนินงาน ฝ่ายบรหิ ารงานวชิี าการเน้นการจัดระบบสารสนเทศเพื่อสนบั สนุนการบรหิ ารจดั การและการี จดั การเรียนรูเ้ ป็นหลัก เพ่อีื สนองต่ีอมาตรฐานการศึกษา เชน่ มีการจัดทาฐานข้ีอมูลพ้นีื ฐานผ่านระบบ SESA และ EMIS ระบบสารสนเทศงานทะเบยี นใช้โปรแกรม SEMESTER งานวดั ผลใชโ้ ปรแกรม Bookmark
33 เช็คชื่อการเขา้ ช้ันเรยี น/ห้องเรยี น ใชร้ ะบบ SMSS สนบั สนุนใหค้ รูจัดเก็บข้อมูลพืีน้ ฐานรายบุคคลผ่านระบบ Big data และยงั ม่งุ เน้นใหค้ รจู ัดกระบวนการเรียนรู้โดยใชเ้ ทคโนโลยีเป็นฐานผ่านระบบออนไลน์ ส่งเสริมให้ครมู ีความเชี่ยวชาญี ในการนาส่ืีอ เทคโนโลยีมาใชี้ในการจดั การเรียนรูี้อยา่ งเป็นระบบ โดยมกี ารวางแผนการจัดการเรยี นรู้ และการี ออกแบบการเรียนในแต่ละรายวชิ าใหช้ ัดเจนี เชน่ ี กาหนดภาระงานเพื่อใหน้ ีักเรยี นไปศกึ ษาค้นคว้าจากสือ่ ี ต่างๆ เช่น google TikTok YouTube Channel เว๊ปไซต์ สสวทีเว๊ปี ีไซต์ สทศ DLTV และนาเสนองานจาก แอปพลเิ คชนั ทง่ี า่ ยตอ่ การใช้งาน Application for Education ซึ่งนกั เรยี นเข้าถึงีได้สะดวกรวดเร็ว เชน่ google classroom Google form Google site Canva เพืีอ่ ใหค้ รผู ู้สอนสามารถผลิตส่ือและ บทเรยี นออนไลน์และจัดการเรียนรอู้ ย่างมีปี ระสทิ ธภิ าพ ผลการดาเนนิ งาน ครรู ้อยละ 90.75ใช้ส่ือเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการจดั การเรยี นการสอนอย่างมีประสิทธภิ าพ และสร้างโอกาสให้ผ้เู รียนแสวงหาความรดู้ ้วยตนเองดว้ ยวธิ กี ารทหี่ ลากหลาย และครูรอ้ ยละ 75.55ใช้แหล่ง เรียนรภู้ ายในและภายนอกโรงเรยี นและภูมิปญั ญาทอ้ งถน่ิ บรู ณาการในการจัดการเรียนการสอนเอือ้ ตอ่ การ เรียนรู้ีให้ผ้ีูเรียนฝึกปฏีิบีัติีได้ีจรงิีี ผู้เรียนมีีความสามารถในการใช้ีเทคโนโลยีสี ารสนเทศและการสีื่อสาร (ICT) อนิ เตอร์เน็ตี(Internet)ีและสื่อสงั คมออนไลน์ (Social Media)ในการเรยี นร้มู กี ารแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ และเรยี นรู้รว่ มกันและสามารถใชเ้ ทคโนโลยนี าเสนอผลงานอยา่ งสรา้ งสรรค์ี ไดจ้ ัดกิจกรรมการใชส้ ่ือเทคโนโลยีี สารสนเทศทเ่ี อ้อื ต่อการใชง้ านในชีวิตประจาวันและกิจกรรมในอนาคต มีการบริหารจัดการชัน้ เรียนเชงิ บวก กระบวนการพฒั นาและผลการดาเนนิ งาน ฝา่ ยบริหารงานวิชาการได้ดาเนินการพฒั นาและกำกับติดตามนิเทศการเรยี นการสอนของครูในรูป ของกจีิ กรรมดงั น้ีกิจกรรมนิเทศภายในจาการดาเนินการโครงการ/กิจกรรมต่างๆจึงทาให้ครจู ัดสิ่งอานวย ความสะดวกภายในชน้ั เรียนเพียงพอพรอ้ มใชง้ านได้ตลอดเวลาซึง่ ประกอบดว้ ยโต๊ะเก้าอีท้ ง้ั ของผเู้ รยี นและครผู ู้ สอนบอรด์ สาหรบั จัดนิทรรศการจัดกิจกรรมการมปี ฏิสัมพันธ์ระหว่างนกั เรียนกับครูผู้สอนในรปู แบบตา่ งี ๆี ตามกิจกรรมประกอบการเรียนการสอนในแตล่ ะรายวิชาี ครผู ้สู อนมีการบรหิ ารจัดการชน้ั เรียนโดยเนน้ การมีปฏสิ ัมพันธ์เชงิ บวก โดยครเู ปน็ แบบอย่างท่ีดมี องผูเ้ รยี นในแงด่ ี มีความหวงั ในการแก้ปญั หาเสมอ สรา้ ง ความสัมพันธ์ทด่ี ีี รับฟังปัญหาี ไม่ตาหนีิ หรอื ส่ังสอนเรว็ เกินไปี ท่าทีเปน็ กลางี เขา้ ใจปญั หาี หาขอ้ มลู เพ่ือใหร้ ู้ สาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา การบรหิ ารจดั การช้ันเรยี นเชงิ บวก เพ่อื ให้เดก็ รักการเรยี นร้แู ละเรียนรู้ ร่วมกันอย่าง มีความสขุ เอาใจใส่ตอ่ ผู้เรียนทุกคนอยา่ งเท่าเทียมกนั ี ไม่เลอื กปฏบิ ัติดาเนินการตรวจสอบและ ประเมินผู้เรียนอยา่ งเป็นระบบ และใช้กจิ กรรมกฬี า ดนตรีี ศิลปะี และค่ายวิชาการี ชว่ ยในการสรา้ งความรกั สามัคคีีในกลมุ่ รักทีจ่ ะเรยี นร้สู ามารถเรยี นรูร้ ว่ มกีันอยา่ งมีีความสุข เครอ่ื งมอื ทใ่ี ช้สาหรับการประเมนิ คอื แบบประเมิน แบบบนั ทึกการนเิ ทศมีผลการประเมิน ดังน้ี ครูร้อยละี 100ี มีการบริหารจดั การชน้ั เรยี นเชงิ บวกี มปี ฏสิ ัมพันธเ์ ชงิ บวก สง่ ผลให้ผู้เรียนรกั การเรยี นรีู้ และ เรยี นรอู้ ย่างมคี วามสุข ตรวจสอบและประเมินผเู้ รียนอย่างเปน็ ระบบและนาผลมาพัฒนาผู้เรยี น กระบวนการพัฒนาและผลการดาเนินงาน โรงเรยี นมกี ารตรวจสอบและประเมินผ้เู รยี นอยา่ งเปน็ ระบบและนาผลมาพัฒนาผู้เรยี น โดยงานวัดผลประเมนิ ผล ฝ่ายวิชาการดาเนินงานกิจกรรมวดั ผลประเมินผลกลางภาคและปลายภาคเรียน จัดทา ปพ.1 ปพ.2 ปพ.3 ปพ.5 ปพ.6 และ ปพ.7 มีกระบวนการดาเนนิ งานเป็นขน้ั ตอนต้งั แต่
34 สารวจสภาพปญั หาวเิ คราะหข์ อ้ มูลประชมุ วางแผนกาหนดกรอบการดาเนินการวัดและประเมินผลการจัดการี เรยี นรู้ทุกกลมุ่ สาระการเรียนรไู้ ดม้ กี ารร่วมแลกเปลย่ี นเรียนรู้และนาข้อมูลมารว่ มพฒั นาปรับปรงุ การจัดการเรีย นรแู้ ละสอน ตามแผนี ผลิตนวตั กรรมี แผนการจัดการเรียนรู้ กาหนดสัดสว่ นคะแนนแต่ละหนว่ ยี กาหนดคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ทีส่ อดคล้องกับหน่วยการเรียนรู้ ดาเนินการวัดผลประเมินผล จดั ระบบการรายงานผลการประเมินผลการเรียนรู้โรงเรยี นมีการตรวจสอบและประเมนิ ผเู้ รยี นอย่างเปน็ ระบบ และนาผลมาพัฒนาผู้เรียนโดยงานวดั ผลประเมนิี ผลฝ่ายวิชาการดาเนินงานกิจกรรมวดั ผลประเมนิ ผลกลางภาค และปลายภาคเรีียน จัดทา ปพ.1 ปพ.2 ปพ.3 ปพ.5 ปพ.6 และ ปพ.7 มีกระบวนการดาเนินงานเปน็ ขน้ั ตอนตง้ั แต่สารวจสภาพปัญหาวิเคราะห์ข้อมูลประชมุ วางแผนกาหนดกรอบ การดาเนนิ การวดั และประเมินผลการจดั การเรยี นร้ทู ุกกลมุ่ สาระการเรยี นรูไ้ ดม้ ีการร่วมแลกเปล่ยี นเรียนรแู้ ละ นาขอ้ มูลมารว่ มพฒั นาปรบั ปรงุ การจัดการเรยี นรแู้ ละี สอน ตามแผน ผลิตนวตั กรรมี แผนการจัดการเรยี นรู้ กาหนดสดั สว่ นคะแนนแตล่ ะหนว่ ยี กาหนดคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคท์ ีส่ อดคลอ้ งกับหน่วยการเรยี นรู้ ดาเนนิ การวดั ผลประเมินผล จัดระบบการรายงานผลการประเมินผล การเรยี นรู้ี จดั ลงทะเบียนนีักเรีียน และครทู ุกระดบั ช้ันทุกรายวีิชาด้วยโปรแกรมBookmarkแจ้งผลการประเมินี แกน่ ักเรียนติดตามการแกไ้ ขผล การเรยี น สรปุ และรายงานผลการดาเนินงาน มีการนาผลการประเมินมา ปรบั ปรุงการจดั การเรียนรู้ และปรบั ปรงุ การวัดและประเมนิ ผลใหม้ คี วามเหมาะสม โดยประเมนิ ผู้เรยี นจากสภาพจรงิ มขี ั้นตอนตรวจสอบและประเมินอยา่ งเป็นระบบใชเ้ ครอ่ื งมอื และวธิ กี ารวัดและประเมนิ ผลที่เหมาะสม หลากหลาย ครอบคลมุ ตามตวั ชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้/ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เชน่ การทดสอบ การ สงั เกต การปฏิบัติ การตรวจผลงานี เปน็ ตน้ ให้นักเรยี นมีส่วนรว่ มในการวัดและประเมนิ ผล และให้ข้อมลู ยอ้ นกลบั แกผ่ เู้ รยี นและผู้เรียนนาไปใชพ้ ฒั นาตนเองอย่างทันทว่ งที นอกจากน้ยี งั มีการจดั ประชมุ ปฏบิ ัตกิ าร วิเคราะห์และข้อสอบมาตรฐานไปใช้ในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ การประเมนิ การใชแ้ ผนการเรียนรู้ ระบวุ ิธกี ารดาเนนิ งาน วธิ ีการวัดและ ประเมินผลอย่างเปน็ ระบบ และ สรุปผลการดาเนนิ งานี หาปญั หาและอุปสรรคี โดยมกี ารแสดงขั้นตอนการใชี้ เครอ่ื งมอื ี มงุ่ เนน้ การพฒั นาการ เรยี นรูด้ ้วยวธิ กี ารทีห่ ลากหลาย เช่น มีการแสดงข้อมูลเชิงพัฒี นาการของผู้เรยี นเปน็ รายบุคคล การประเมินี ผลี ในภาพรวมของทุกรายวิชา เปน็ ตน้ ครูมีการให้ขอ้ มูลยอ้ นกลบั แก่ผูเ้ รยี น ผู้มีสว่ นเกย่ี วขอ้ ง เพ่ือนาไปใช้ พัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรยี นเป็นรายบคุ คล ผลการดาเนินงาน ทาให้โรงเรยี นมกี ารตรวจสอบและประเมินผ้เู รยี นอย่างเปน็ ระบบและนาผลมาพฒั นาผ้เู รยี นและมี ประสิทธภิ าพประเมนิ ไดจ้ ากร้อยละ 90.75 ของครแู ละบคุ ลากรใช้เครอ่ื งมือและวิธกี ารวัดและประเมนิ ผลที่ เหมาะสมกบั เปา้ หมายในการเรียนรู้ ให้ข้อมูลยอ้ นกลับแกผี่ ีู้เรียนและนำผลมาพีัฒนาผูี้เรียนี มีระบบการวัีดผลี ประเมิีนผลและรายงานผลการเรียนร้ทู ี่มีคีุณภาพมีกี ารแลกเปล่ยี นเรียนรแู้ ละให้ข้อี มีูลสะท้ีอนกลบั เพ่ือพัฒนาแ ละปรบั ปรงุ การจัดการเรียนรู้ีกระบวนการพฒั นาและผลการดาเนนิี งาน ครูมสี ว่ นร่วมในการแลกเปลีย่ นเรยี นรแู้ ละนาขอ้ มลู มาร่วมพัฒนาปรบั ปรงุ การจดั การเรยี นรู้และสอนี ตามแผน ผลิตนวีัตกรรม แผนการจัดการเรีียนรู้ี กาหนดสัดสี่วนคะแนนแตี่ละหน่ีวย กาหนดคีุณลักษณะทีี่พึีงี ประสงคท์ ี่สอดคล้องกบั หน่วยการเรยี นรู้ ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ดาเนินการจดั ตง้ั ชมุ ชนแห่งการเรียนรู้ทาง
35 วิชาชีพ มีการประชมุ แลกเปลี่ยนเรยี นรตู้ ลอดภาคเรียนตามตารางสอนและนอกเวลาในตารางสอน และนา แนวทางที่ได้ไปปรับปรุง /พฒั นาการจัดการเรยี นรู้ สนับสนุนให้ครูผู้สอนทาวิจยั ในช้ันเรยี น จากปญั หาที่ เกิดขึน้ จากกระบวนการเรียนการสอน ดาเนนิ การพฒั นา และกากับตดิ ตามนิเทศการเรียนการสอนของครูใน รูปของกิจกรรมี ดงั นีี้ กิจกรรมนเิ ทศภายในี สะท้อนผลการนเิ ทศการจัดการเรียนการสอนแก่คณะครู และนา ผลการนิเทศไปพัฒนาการจดั การเรยี นการสอน ดาเนินการตรวจสอบและประเมินผเู้ รยี นอย่างเป็นระบบ และ นาผลมาพัฒนาผู้เรีียน จากการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ีและให้ข้ีอมูลสะท้ีอนกลบั เพืี่อพฒีั นาและปรีับปรีุงการจีัดการี เรียนรูี้ พบวา่ รอ้ ยละ 85 ของครแู ละบุคลากรมีส่วนเก่ียวข้องรว่ มแลกเปลี่ยนเรียนรู้และใหข้ ้อมลู สะทอ้ นกลับ เพ่อื พฒั นาและปรบั ปรงุ การจัดการเรียนรู้ ครรู ้อยละ 95 เข้าร่วมชุมชนแหง่ การเรยี นรทู้ างวชิ าชพี (Professional Learning Community: PLC) ระหว่างครูและผูเ้ กี่ยวขอ้ ง พรอ้ มทั้งแลกเปลย่ี นเรียนรแู้ ละให้ ข้อมลู สะท้อนกลบั เพ่อื พัฒนาการจัดการเรียนรูใ้ หม้ ีประสทิ ธิภาพมากย่ิงขึน้ และร้อยละ 100 ของครูและ บุคลากรได้รบั การติดตามนเิ ทศการจัดการเรยี นการสอน อย่างนอ้ ยภาคเรียนละ 1 คร้ัง ข้อมลู หลกั ฐาน เอกสารเชงิ ประจักษ์ ทีส่ นับสนนุ ผลการประเมนิ ตนเอง 1) หลกั สตู รสถานศึกษา 2) แผนการจัดการเรยี นรู้/บันทกึ หลงั สอน 3) เคร่อื งมือ/เอกสารการวัดและประเมินผล 4) รายงานสรปุ ผลการดาเนินโครงการ/กิจกรรม 5) ส่ือการเรียนรู้ ทะเบียนสอ่ื แหลง่ เรยี นรู้ 6) ผลงาน/ชิ้นงานของนักเรียน/โครงงานนกั เรียน /สมดุ งานของนักเรยี น 7) สภาพแวดล้อม/บรรยากาศท้ังภายในและภายนอกห้องเรยี น 8) กจิ กรรม/โครงการ ต่าง ๆของโรงเรียนที่สง่ เสริมการพฒั นาคุณภาพผู้เรียน 9) ผลการนิเทศกระบวนการจดั การจดั การเรียนรู้แบบ Active Learning 10) บันทึีกการประชุมแลกเปลย่ี นเรียนรู้ ชมุ ชนแห่งการเรยี นรู้ทางวิชาชีพ (PLC) 11) รางวัลระดบั เขตี ระดับจงั หวีดั และระดบั ภาค และในการเขา้ ร่วมแขง่ ขันี ทักษะวชิ าการ 12) ผลการประเมินความพึงพอใจของนกั เรยี นที่มตี ่อการจดั การเรียนรู้ 13) แฟี้มระบบดูแลชีว่ ยเหลีอื นกั เรียน/แฟ้ีมงานครีูท่ปี รกึ ษา 14) การจัดการกิจกรรมการเรียนการสอนในหอ้ งเรยี น 15) การจัดนทิ รรศการของนกั เรยี น 16) รายงานวจิ ัยในชน้ั เรียนท่พี ฒั นาการเรียนรขู้ องนักเรียนโดยใช้สื่อหรือนวตั กรรมท่ี เหมาะสม สอดคลอ้ งกับหลักสูตรและบริบทนักเรยี น จดุ เด่น จุดที่ควรพัฒนา แผนการพัฒนาคุณภาพเพื่อยกระดับคณุ ภาพมาตรฐานใหส้ ูงขน้ึ จดุ เด่น 1) โรงเรยี นมรี ะบบและโครงการพฒั นาการจดั การเรียนการสอนท่ีเนน้ นกั เรยี นเป็นสาคัญอย่างชดั เจน พร้อมท้งั มีีการพีัฒนาครูอี ยา่ งต่อเนื่อง 2) มีระบบการจัดการเรยี นการสอน หลกั สูตรท่ีเหมาะสมกับบริบทและนักเรียน พฒั นาหลกั สูตร บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 3) มีระบบดแู ลช่ีวยเหลืีอนกั เรีียนทมี่ ปี ระสิทธิภาพ สามารถดแู ลช่วี ยเหลือี นักเรียนได้ รอ้ ยละ 100 4) พี่อแมี่ ผู้ปกครองี คณะกรรมการสถานศึีกษาี ชมุ ชน/ท้องถน่ิ ี และผมู้ สี ่วนเกีย่ วขี้องมีี ความมัน่ ใจต่ีอระบบการบริหารและการจัดการของสถานศึีกษาในระดบั สงู
36 จุดทคี่ วรพฒั นา 1) ครูควรวางแผนการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน ผลิตสื่อการเรียนการสอน สรา้ งนวตั กรรมการ เรียนรู้โดย ใช้เทคโนโลยเี พื่อี การศึกษา สอดคลี้องและเหมาะสมกับความต้ีองการของผูเ้ รียนในศตวรรษทีี่ 21 2) ควรใชี้ส่อื และแหล่งเรียนรทู้ ีเ่ ออ้ื ตอ่ การเรยี นร้ทู ี่หลากหลาย การจดั การเรยี นการสอนให้เหมาะสมี และควรนาภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่นิ ใหเ้ ขา้ มามีสี ว่ นร่วมในการจดั กิจี กรรมใหน้ ักเรียนไดเ้ รียนรู้ และการใหี้ข้อมูลี ยอ้ นกลับแก่นกั เรยี นทนั ที เพอ่ื นักเรยี นนาไปใชพ้ ฒั นาตนเอง 3) ชุมชนแห่งการเรยี นร้ทู างวชิ าชีพระหว่างครแู ละผ้เู กี่ยวข้ีองี ควรมีความตี่อเนอ่ื งและจรีิงจังชัดเจน 4) วธิ ีการวัดและประเมินผลควรเน้นการประเมินตามสภาพจริง สามารถวดั สมรรถนะ คีุณลกั ษณะที่ี พงึ ประสงคไ์ ดช้ ัดเจนและนาผลมาพฒั นาผ้เู รยี น 5) การสง่ เสริมให้ครูใช้กระบวนการวจิ ัยเพ่ือพฒั นาการจัดการเรียนการสอน และพัฒนาการจัดการ เรยี นร้แู กผ่ ้เู รียนในรปู แบบการวิจัย และส่งเสรมิ ให้เกดิ การพัฒนาทกั ษะทางภาษา แผนการพัฒนาคณุ ภาพเพื่อยกระดบั คุณภาพมาตรฐานใหส้ งู ข้ึน 1) พฒัี นาศักี ยภาพครูในกระบวนการจดั การเรียนรู้ีการสอนให้มปี ระสทิ ธิภาพ โดยการจัดอบรมี สมั มนาหรอื ศึกษาดงู าน 2) มีการนเิ ทศการสอนของครอู ย่างเป็นระบบี กากบั ติดตามี นเิ ทศกระบวนการจดั การเรยี นรขู้ องครู ให้เนน้ นักเรียนเปน็ สาคญั อย่างแทจ้ รงิ ี ส่งเสรมิ กระบวนการจดั การเรียนรู้เชิงบวกี ทาให้เด็กรักท่ีจะเรียนรู้และ เรียนรู้รว่ มกนั อย่างมคี วามสขุ 3) แผนการพัฒนาคณุ ภาพของแบบทดสอบที่ใชใ้ นการประเมนิ ผลสมั ฤทธิข์ องนกั เรียนโดยสง่ เสริมใหม้ ี การวัดผลตามสภาพจริง และตรงตามตวั ชว้ีี ดั เนน้ กระบวนการเรียนการสอนในชั้นเรียน 4) การพัฒนาชมุ ชนแห่งการเรียนรูท้ างวิชาชีพระหวา่ งครูและผเู้ กย่ี วข้องเพ่อื พฒั นาและปรบั ปรุงการ จดั การเรยี นรู้ ครู และผเู้ กยี่ วข้องมีการแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ นาผลการวิจยั ในชนั้ เรียนและกระบวนการ PLC เป็น ข้อมูลสะทอ้ นกลับเพืีอ่ พีัฒนาและปรบั ปรุงการจดั การเรยี นรีู้ ใหส้ อดคล้องกับสมรรถนะของผเู้ รยี นรายบีุคคล 5) การพัีฒนาจัดการเรยี นรู้ผี่านกระบวนการคดิ และปฏบิ ัตีิจริงตามมาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชว้ี ัดของี หลักสตู รสถานศกึ ษา มีแผนการจดั การเรยี นรตู้ ามหลักของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงี ที่สามารถนาไปจดั กิจกรรมได้จริง และสามารถนำไปประยุีกตใ์ ช้ในชีวิตได้ 6) การพัฒนาการตรวจสอบและประเมนิ ผเู้ รยี นอย่างเป็นระบบ มขี ั้นตอนโดยใชเ้ ครอื่ งมือและวิธกี าร วัดและประเมินผลท่เี หมาะสมกับเป้าหมายในการจดั การเรยี นรู้ ให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้เรยี นและนาผลมา พัฒนาผเู้ รียน
59 ผลการประกันคณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษา ปีการศึกษา 2565 โรงเรยี นปำกชมวิทยำ อำเภอปำกชม จังหวดั เลย มาตรฐาน / ประเดน็ การพิจารณา ระดับคุณภาพ มาตรฐานที่ 1 คณุ ภาพของผู้เรียน ดี 1.1 ผลสัมฤทธ์ิทางวชิ าการของผเู้ รียน ดี 1) มคี วามสามารถในการอา่ น การเขยี น การส่อื สารและการคิดคานวณ ดี 2) มคี วามสามารถในการวเิ คราะหแ์ ละคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ อภิปราย แลกเปลย่ี นความคิดเหน็ ดีเลศิ และแกป้ ัญหา 3) มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม ดี 4) มีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ และการสอ่ื สาร ยอดเย่ียม 5) มีผลสัีมฤทธ์ิทางการเรยี นตามหลกั สีูตรสถานศีึกษา ปานกลาง 6) มคี วามรู้ ทักษะพืนี้ ฐานและเจตคติที ี่ดีต่อี งานอาชีพ ยอดเยย่ี ม 1.2 คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงคข์ องผ้เู รียน ดีเลศิ 1) การมีคุณลักษณะและคา่ นยิ มทีด่ี ีตามที่สี ถานศีึกษากาหนด ยอดเยี่ยม 2) ความภูมิใจในท้องถ่ินและความเป็นไทย ยอดเยยี่ ม 3) การยอมรบั ท่ีจะอยูร่ ว่ มกนั บนความแตกต่างและหลากหลาย ดเี ลิศ 4) สขุ ภาวะทางร่างกายและลกั ษณะจติ สงั คม ยอดเยย่ี ม มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบริหารและจดั การ ดเี ลศิ 2.1 การมีเปา้ หมาย วสิ ัยทัศน์ และพนั ธกิจท่ีสถานศกึ ษากาหนดชัดเจน ดีเลศิ 2.2 มรี ะบบบรหิ ารจัดการคุณภาพของสถานศกึ ษา ดีเลศิ 2.3 ดาเนินงานพัฒนาวชีิ าการที่เน้นคุณภาพผเู้ รียนรอบด้านตามหลกั สีูตรสถานศีึกษาและ ทุกกล่มุ เป้าหมาย ดีเลศิ 2.4 พัฒี นาครูและบคุ ลกรให้มี ีความเชยี่ วชาญทางวิชาชพี ดเี ลิศ 2.5 จัดสภาพแวดล้อี มทางกายภาพและสังคมที่เอี้ือตอ่ การจดั การเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ ดเี ลศิ 2.6 จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ สนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรยี นรู้ ดีเลศิ มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจดั การเรียนการสอนท่ีเน้นผเู้ รยี นเป็นสาคญั ดีเลิศ 3.1 จดั การเรยี นรผู้ า่ นกระบวนการคดิ และปฏบิ ตั ิจรงิ และสามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ ยอดเยย่ี ม 3.2 ใช้ส่ืีอ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหลง่ เรยี นรูี้ทเี่ อื้อต่อี การเรยี นรู้ ยอดเยย่ี ม 3.3 มีการบริหารจัดการชนั้ เรยี นเชิงบวก ยอดเย่ียม 3.4 ตรวจสอบและประเมินผูเ้ รยี นอย่างเป็นระบบ และนาผลมาพัฒนาผู้เรยี น ยอดเยย่ี ม 3.5 มีการแลกเปล่ียนเรียนรูแ้ ละใหข้ ้อมูลสะทอ้ นกลับเพ่อื พฒั นาและปรับปรุงการจดั การเรยี นรู้ ยอดเยี่ยม สรปุ ผลการประเมินในภาพรวมของสถานศึกษา ยอดเยี่ยม
60 สว่ นที่ 3 สรปุ ผล/แนวทางการพฒั นา ผลการประเมินมาตรฐานการศึกษาของสถานศกึ ษา ถือเปน็ ข้อมูลสารสนเทศสาคญั ท่ีสถานศกึ ษา จะตี้องนำไปวิีเคราะห์ีสังเคราะห์ีเพีอ่ื สรีุปนำไปสีู่การเชืี่อมโยงหรีือสะที้อนภาพความสำเรี็จกีบั แผนพีัฒนาการี จัดการศึกษาของสถานศึกษา (5 ปี) และนาไปใช้ในการวางแผนพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศกึ ษา จากผลการดาเนินงานสามารถสรุปผลการประเมินในภาพรวมของวธิ ีการพฒั นา/กระบวนการ ผลการพฒั นา ขอ้ มลู หลกั ฐาน เอกสารเชิงประจกั ษ์ ที่สนบั สนนุ ผลการประเมินตนเอง จดุ เดน่ จดุ ควรพฒั นาของแตล่ ะ มาตรฐานี พร้อมทง้ั แผนการพฒั นาคณุ ภาพเพื่อยกระดับคณุ ภาพมาตรฐานให้สงู ข้ึน ท้ังี 3ี มาตรฐาน ดงั นี้ มาตรฐานการศึกษาของสถานศกึ ษา โดยรวม ระดับคณุ ภาพ ยอดเยี่ยม 1.วธิ ีการพัฒนา/ผลที่เกดิ จากการพฒั นาตนเอง โรงเรียนปากชมวทิ ยามกี ระบวนการพฒั นาผู้เรยี นด้วยวิธกี ารทห่ี ลากหลาย โดยมโี ครงการและ กจิ กรรมตา่ ง ๆ เช่นี ี โครงการและกีิจกรรมยกระดับผลสัมี ฤทธ์ิทกุ กลมุ่ สาระการเรียนีกจิ กรรมพฒั นาการเรีียนี การสอนอย่างเปน็ ระบบ งานหลักสตู รมกี ารประชมุ ปฏบิ ตั ิการ ปรบั ปรงุ หลักสูตรสถานศึกษา ตามมาตรฐาน การเรียนรู้และตัวชวี้ ัดฯ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2562) เพือ่ ให้ครใู ช้เปน็ กรอบในการจดั การเรียนการสอน การ พัฒนาผู้เรียน ครูจดั การเรียนรู้ ให้เป็นไปตามศักยภาพของผูเ้ รียน และเป็นไปตามมาตรฐานและตวั ช้ีวดั ของ หลักสตู ร มกี ารออกแบบการจัดการเรียนรูท้ ่เี หมาะสมกบั ผู้เรียน โดยมีการจดั การเรียนรู้ทงั้ รูปแบบ การจัด กิจกรรมการสอนแบบโครงงาน การสอนแบบ STEM ของกลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ รวมถงึ กจิ กรรม พฒั นาผู้เรยี นีทท่ี าใหผ้ ู้เรียนได้รวมกลุ่มกนั ทางานีการออกความคิดเหน็ ีและการนาเสนอีการระดมสมองแบบ ลงมอื ปฏบิ ตั จิ รงิ ี แบบร่วมมือกันเรียนรู้ี แบบใช้กระบวนการคิดี กระบวนการใชป้ ญั หาเป็นหลักี และเน้นเร่ือง การอี่านออกของผู้เรียนเป็นเรืี่องสำคีัญทีี่สดีุ โดยมีุ่งพีฒั นาให้ผีู้เรียนทีุกคนอี่านออกและเขียี นได้ีพีัฒนาครูทุกี ี คนใหม้ ีความสามารถในการนาเทคนิควิธีสอนให้ตรงตามศักยภาพผู้เรียน มโี ครงการพฒั นาทักษะในการ แสวงหาความร้อู ยา่ งต่อเนื่อง กจิ กรรมพัฒนาห้องสมดุ สู่มาตรฐานสากล ส่งเสรมิ ให้นักเรียนได้สร้างสรรค์ ผลงาน กิจกรรมส่งเสริมสมรรถนะด้าน ICT ใช้ส่ือเทคโนโลยใี นการจดั การเรียนการสอนมีแหลง่ เรยี นรแู้ ละ แหลง่ สบื ค้นขอ้ มูลี ได้แก่ี หอ้ งสมดุ ห้องคอมพวิ เตอร์ หอ้ งศูนย์การเรียนรู้ ครูกาหนดแผนการจัดการเรียนรู้ การวดั และประเมนิ ผลแบบ บูรณาการ ครเู นน้ การใช้คาถามเพื่อพัฒนาทักษะการคดิ ของผเู้ รยี นี นอกจากนมี้ ี โครงการและกิจกรรมของกลุม่ งานกิจการนกั เรียน เสริมสรา้ งความมัน่ คงของสถาบนั หลักของชาติโรงเรียน คุณธรรม เพือ่ พฒั นาคุณธรรมี จรยิ ธรรมและค่านิยมทเ่ี หมาะสมี ซง่ึ มกี จิ กรรมทห่ี ลากหลาย เช่นี กจิ กรรมปลูกฝังคณุ ธรรมจริยธรรม ผเู้ รียนได้รับการพัฒนาโดยการจัดโครงการและกิจกรรมการเรียนรู้ ภาษาและวฒั นธรรมทห่ี ลากหลายทัง้ กิจกรรมในและนอกหอ้ งเรียน ทาใหผ้ ู้เรยี นเกดิ การเรียนรู้และฝึก ประสบการณ์ี โรงเรียนได้มุ่งพีฒั นาใหผ้ ูี้เรียนเปน็ คนดี มปี ัญญา มีความสุข ดงั น้นั โรงเรียนจงึ กาหนดมาตรฐานี การศกีึ ษาด้านคุณภาพผเู้ รียนจานวน 2 ดา้ น ไดแ้ ก่ี1) ดา้ นผลสีมั ฤทธิ์ทางการเรยี นและ 2) ด้านคณุ ลักษณะอีันี พงึ ประสงคข์ องผเู้ รียน ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นมงุ่ เนน้ ให้นกั เรียนมีความสามารถในการอ่าน การเขยี น การสอื่ สาร การคิดคานวณ รวมทง้ั การมผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นตามหลกั สูตรสถานศกึ ษาี มีความสามารถใน การวีิเคราะห์ีคีิดอย่างมีีวีิจารณญาณ มีีความสามารถในการสร้ีางนวัตี กรรม การใชี้เทคโนโลยีีสารสนเทศ การี สื่อสาร และการมีีความรู้ี ทีักษะพีื้นฐาน เจตคตีิทีี่ดีีต่ีองานอาชีีพี สำหรับด้ีานคุีณลักษณะอีันพึีงประสงคี์ของี ผเู้ รียนมุง่ เน้นใหผ้ ู้เรยี นมีคณุ ลกั ษณะและค่านิยมที่ดีตามท่ีสถานศกึ ษากาหนด และ มีสุขภาวะทางร่างกายและ สงั คมความภมู ใิ จในท้องถ่นิ และความเป็นไทยการยอมรบั ที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลายเพอ่ื ใ หบ้ รรลตุ ามกระบวนการบริหารและการจดั การคุณภาพของสถานศกึ ษา โรงเรียนได้ดาเนินการ วิเคราะหส์ ภาพปญั หา ผลการจัดการศึกษาท่ีผา่ นมา สารสนเทศจากผลการนิเทศ ติดตาม ประเมินการจัด
61 การศกึ ษาตามนโยบายการ ปฏริ ูปการศึกษา ศกึ ษาขอ้ มลู โดยใช้ข้อมูลเปน็ ฐานในการกาหนดเป้าหมาย วิสยั ทศั นแ์ ละพนั ธกิจอยา่ งชัดเจน และจดั ประชุมระดมความคิดเห็น จากบคุ ลากรในสถานศึกษาเพ่ือวางแผน รว่ มกนั กาหนดเป้าหมาย ปรับวสิ ัยทัศน์ กาหนดพนั ธกิจ กลยุทธ์ ในการจดั การศกึ ษาของสถานศกึ ษาเพอ่ื พัฒนาคุณภาพผ้เู รียนี มีการปรบั แผนพัฒนาคุณภาพจัดการศกึ ษา แผนปฏิบัตกิ ารี ประจาปีี ใหส้ อดคล้องกับ สภาพปญั หา ความตอ้ งการพฒั นา และนโยบายการปฏริ ปู การศกึ ษา ในการดาเนนิ การพัฒนาวชิ าการท่เี น้น คุณภาพผู้เรียนรอบดา้ น ตามหลกั สตู รสถานศึกษาทกุ กล่มุ เป้าหมาย เช่ือมโยงกบั ชวี ติ จรงิ ี จัดทาแผนพฒั นา คณุ ภาพจัดการศึกษา ดาเนินงานพฒั นาครูและบุคลากรใหม้ ีความเช่ียวชาญทางด้านวิชาชีพ ตามความ ต้องการของครูและสถานศึกษา จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสงั คมท่ีเอ้ือต่อการจัดการเรี ยนรู้อยา่ งมี คณุ ภาพ และจัดระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ เพื่อสนับสนนุ การบรหิ ารจดั การและการเรียนรู้ทเี่ หมาะสมกบั สภาพของโรงเรยี น พร้อมทัง้ จัดหาทรัพยากร จัดสรรงบประมาณ มอบหมายงานให้ผู้รบั ผิดชอบ ดาเนินการ พัฒนาีตามแผนงานเพอื่ ให้บรรลุเป้าหมายทก่ี าหนดไว้ีมกี ารดาเนินการนเิ ทศีกากับีติดตามีประเมินีผลการ ดาเนนิ งาน และสรุปผลการดาเนนิ งาน โรงเรียนดาเนินการส่งเสริมให้ครูจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ โดยการดาเนินงาน/ กจิ กรรมอยา่ งหลากหลายีไดแ้ ก่ีงานหลกั สูตรมีการประชุมปฏิบัติการีปรับปรุงหลกั สูตรสถานศึกษาีพัฒนาสู่ ประชาคมอาเซียนและมาตรฐานสากลีมีการบูรณาการีภาระงาน ชน้ิ งานีโดยทกุ ระดับชั้นจัดทาหน่วยบูรณา การอาเซียน เศรษฐกิจพอเพียง ปรับโครงสร้างรายวิชา หน่วยการเรียนรู้ ลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้ สัดส่วน คะแนนแต่ละหน่วย กาหนดคุีณลักษณะอีันพึงีประสงค์ที ี่สอดคลี้องกีับหน่วยการเรีียนรู้ สนับสนีุนใหี้ครีูจีัดการี เรียนการสอนทส่ี ร้างโอกาสใหน้ กั เรียนทุกคนมสี ่วนร่วมได้ลงมอื ปฏิบัตจิ รงิ จนสรุปความรไู้ ด้ด้วยตนเองีจดั การ เรียนการสอนทีเ่ น้นทัีกษะการคดิ เชน่ จัดการเรยี นรู้ด้วยโครงงาน ครมู ีการมอบหมายหนี้าทีี่ให้นีักเรีียนจีัดปี้ายี นิเทศ และบรรยากาศตามสถานท่ีต่าง ๆีท้ังภายในห้องเรียน และนอกห้องเรียน ครูใช้ส่ือการเรียนการสอน นวัตกรรมและเทคโนโลยี ภูมิปัญญาท้องถ่ิน มีการประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพของส่ือการสอนท่ีใช้ ครู ทกุ คนทางานวจิ ยั ในช้ันเรียน จากผลการดาเนินงานโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ส่งผลให้สถานศึกษาจัดการพัฒนาคุณภาพ การศึกษาประสบผลสาเร็จตามที่ต้ังเป้าหมายไว้ในแต่ละมาตรฐาน จากผลการประเมินสรุปภาพรวมได้ระดับ ยอดเยี่ยม โดยมาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน มีผลการประเมินอยู่ในระดับดี มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบริหารและการจัดการศึกษา มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีเลิศ มาตรฐานที่ 3 กระบวนการ จัดการเรยี นการสอนทีเ่ นน้ ผู้เรียนเป็นสาคญั มีผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ดเี ลศิ คุณภาพของผเู้ รยี น โรงเรียนไดก้ าหนดมาตรฐานการศึกษาดา้ นคณุ ภาพผ้เู รียนจานวน 2 ด้าน ไดแ้ ก่ 1) ดา้ นผลสมัี ฤทธท์ิ างการเรียนและ 2) ด้านคุณลักษณะอันี พึงีประสงคข์ องผู้เรยี น โรงเรียนไดก้ าหนดโครงการี และกจิ กกรมเพอ่ื ส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นมีทกั ษะในการฟัง พดู อ่าน เขียนและตั้งคาถามเพ่ือคน้ ควา้ หาความรู้ เพ่ิมเติมี เรยี นรูร้ ่วมกนั เปน็ กลุ่มี แลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ เพอ่ื การเรยี นรู้ระหวา่ งกันี ใชเ้ ทคโนโลยีในการเรียนรู้ และนาเสนอผลงาน มีความร้สู ึกที่ดีต่ออาชีพสุจริตและหาความรู้เก่ียวกบั อาชพี ท่ีตนเองสนใจ ทางานร่วมกับ ผู้อีื่นได้ีทางานอย่างมีีความสขีุ พีัฒนางาน และภีูมีิใจในผลงานของตนเอง วางแผนการทางานและดาเนีินการี จนสาเรจ็ นักเรียนมีมนษุ ยสมั พนั ธ์ที่ดี และให้เกียรตเิ อ้อื อาทรผู้อ่นื และกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคณุ มนี ้าหนกั สว่ นสูง และมีสมรรถภาพทางกายตามเกณฑ์มาตรฐาน ปอ้ งกนั ตนเองจากสงิ่ เสพติดให้โทษ และหลีกเลีย่ ง ตนเองจากสภาวะท่เี ส่ยี งตอ่ ความรนุ แรงโรคภยั อบุ ัติเหตแุ ละปัญหาทางเพศสร้างผลงานจากเข้าร่วมกจิ กรรม ด้านศลิ ปะ ดนตรนี าฏศลิ ป์ กีฬา และนนั ทนาการตามจินตนาการ มีคุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ตามหลักสูตร ยอมรับความคิดและวัฒนธรรมทแี่ ตกตา่ ง และมหี ลักฐานและขอ้ มูลการดาเนนิ งานของโรงเรยี นท่สี นับสนุนผล
62 กระบวนการบริหารและการจดั การโรงเรียนมีการจดั กจิ กรรมท่ีส่งเสรมิ ให้ผูเ้ รียนบรรลตุ ามเปา้ หมาย วิสยั ทัศน์ ปรชั ญาและจุดเนน้ ของสถานศกึ ษา มกี ิจกรรมพิเศษเพ่ือตอบสนองนโยบาย จดุ เน้น ตามแนวทาง การปฏริ ูปการศกึ ษา และมีผลการดาเนนิ งานบรรลุตามเป้าหมายมผี บู้ ริหารท่ีมีวสิ ยั ทศั นแ์ ละมีความสามารถ เป็นส่วนใหญ่ จงึ ทาใหก้ ารบรหิ ารจัดการด้านตา่ ง ๆ มปี ระสิทธภิ าพ ระบบสารสนเทศของโรงเรยี นเป็น หมวดหมีู่ เป็นปัจจุีบีัน ทาให้การบริีหารจีัดการของโรงเรีียนมีีประสิีทธภิี าพ มีีระบบการบริีหารทีี่เปิีดโอกาสให้ีีีี ผเู้ ก่ยี วข้องทกุ ฝ่ายมีส่วนรว่ มในการกาหนดมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศึกษาท่สี อดคล้องกบั มาตรฐาน การศกึ ษาระดับการศึกษาขน้ั พื้นฐานและอตั ลักษณท์ สี่ ถานศึกษากาหนด จัดทาแผนพฒั นาการศึกษาของ สถานศึกษาท่ีสอดรบั กับมาตรฐานทส่ี ถานศกึ ษากาหนด และดาเนนิ การตามแผน มีการประเมนิ ผลและ ตรวจสอบคุณภาพภายในสถานศึกษา ตดิ ตามผลการดาเนินงาน และจัดทารายงานผลการประเมินตนเอง ประจาปี นาผลการประเมนิ ไปปรีับปรงุ และพัฒี นาคุีณภาพสถานศึีกษา โดยผู้ปกครองและผเู้ ก่ียี วขี้องทุกี ฝี่ายมีี ส่วนร่วม และจดั ส่งรายงานผลการประเมินตนเองใหห้ นว่ ยงานตน้ สงั กัดหลักสตู รสถานศกึ ษามีความเหมาะสม และสอดคลอ้ งกับท้องถ่นิ มกี ารนเิ ทศภายใน กากับีติดตามตรวจสอบ และนาผลไปปรบั ปรุงการเรียนการสอน อยา่ งสมา่ เสมอ จดั รายวชิ าเพมิ่ เติมทห่ี ลากหลายให้ผเู้ รียนเลอื กเรยี นตามความถนดั ความสามารถและความ สนใจ จัดกิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี นทีส่ ง่ เสรมิ และตอบสนองความตอ้ งการตามความสามารถ ความถนดั และความ สนใจของผเู้ รียน ครูไดป้ ฏบิ ตั ิหน้าท่ีตรงกบั ความร้คู วามสามารถหรอื คุณวฒุ ทิ างการศึกษา สง่ ผลให้ งานมีคณุ ภาพได้รบั การยอมรบั จากผปู้ กครองและชมุ ชนในการจดั การศึกษาส่งเสริมและพัฒนาครูและบคุ ลากร ใหม้ ี สมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพ นาผลที่ได้จากการรบั มอบหมาย มาปรบั ใช้ พัฒนาโรงเรียนจนส่งผลให้ นักเรียน ผ้ปู กครอง และชุมชนเกิดความพงึ พอใจในผลของการบริหารการจัดการศึกษา ผู้ บรหิ ารและ คณะกรรมการบริหารโรงเรยี นให้คาแนะนาคาปรึกษาทางด้านวชิ าการและเอาใจใส่การจัดการศกึ ษาอย่างเตม็ ศกั ยภาพ หอ้ งเรียน หอ้ งปฏบิ ตั ิการ อาคารเรียนมนั่ คง สะอาดและปลอดภัยมีสิง่ อานวยความสะดวกพอเพียง อยู่ในสภาพใชก้ ารได้ดี สภาพแวดลอ้ มรม่ รืน่ และมแี หล่งเรียนรสู้ าหรบั ผ้เู รียน จัดโครงการกจิ กรรมทีส่ ง่ เสริม สขุ ภาพอนามยั และความปลอดภยั ของผเู้ รียน จดั หอ้ งสมดุ ท่ีใหบ้ รกิ ารส่อื และเทคโนโลยีสารสนเทศทเี่ อื้อให้ ผเู้ รียนเรียนรู้ด้วยตนเองและหรอื เรยี นร้แู บบมสี ่วนรว่ ม มีการสรา้ งและพัฒนาแหลง่ เรียนรู้ภายในสถานศกึ ษา และใชป้ ระโยชน์จากแหลง่ เรยี นรู้ ทงั้ ภายในและภายนอกสถานศกึ ษา เพ่อื พฒั นาการเรยี นรู้ของผเู้ รียนและ บคุ ลากรของสถานศึกษารวมทง้ั ผู้ที่เกยี่ วข้อง แลกเปลยี่ นเรยี นรรู้ ะหว่างบคุ ลากรภายในสถานศกึ ษา ระหว่าี ง สถานศึกษากบั ครอบครัว ชุมชน และองคก์ รทเี่ ก่ียวขอ้ งโรงเรียนใหบ้ รกิ ารสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและส่อื สาร การเรียนร้เู พืี่อสนัีบสนุนี การจัดประสบการณ์ โดยบรกิ าร internet ท่ีครอบคลมุ พืี้นที่ีสะดวกีมีีระบเทคโนโลยีี สารสนเทศเป็นแหล่ีงเรียนรทู้ ีท่ ันสมยั ทาให้นกั เรียนสามารถพฒีั นาตนเองได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพี ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ โรงเรียนสง่ เสรมิ ให้ครจู ดั ีี กระบวนการเรยี นการสอนท่ีเน้นผูเ้ รียนเป็นสาคัญแบบ (Active learning) โดยใหผ้ ู้เรียนผา่ นกระบวนการคดิ ปฏบิ ตั ิจริง เพื่อนาไปสู่การเรียนรทู้ ลี่ กึ ซ้งึ และคงทน ตามมาตรฐานและตวั ชีว้ ัดของหลักสตู รมีแผนการจัดการ เรยี นรู้ทส่ี ามารถนาไปจดั กจิ กรรมได้จริงี มกี ารตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอยา่ งเป็นระบบี มขี น้ั ตอนโดยใช้ เคร่ืองมือและวธิ กี ารวัดและประเมินผลท่ีเหมาะสมกับเป้าหมายในการจดั การเรยี นรู้ มรี ะบบการจดั การเรียน การสอน มีหลกั สูตรที่เหมาะสมกบั บรบิ ทและนกั เรียน พัฒนาหลักสตู รบรู ณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจีี พอเพยี ง มกี ารใชว้ ธิ กี ารและแหลง่ เรยี นรูท้ ีห่ ลากหลาย ให้ผู้เรยี นแสวงหาความรู้จากสื่อเทคโนโลยีด้วยตนเอง อยา่ งต่อเนอื่ งและสามารถนาไปประยุกต์ใชใ้ นชีวิตได้ ครูมีความตัง้ ใจ มงุ่ มนั่ ในการพฒั นาการสอน มีกระบวนการจดั การเรยี นการสอนท่ีเน้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญทาให้นกั เรียนมีคุณภาพ ผลิตงานอยา่ งสร้างสรรค์ และสถานศกึ ษาจดั กิจกรรมสง่ เสรมิ นักเรยี นทีม่ ีความสามารถพิเศษในทุกด้าน ดา้ นทัศนศิลปแ์ ละด้านกีฬาี มี
63 ผลงานเชงิ ประจกั ษจ์ ากการเข้ารว่ มแข่งขนั ี ทงั้ ในระดับเขตี และระดับชาติ กาหนดคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ที่สอดคลอ้ งกบั หน่วยการเรียนรู้ สนับสนุนให้ครูจดั การเรียนการสอนท่สี รา้ งโอกาสให้นักเรยี นทุกคนมสี ว่ นรว่ ม ไดล้ งมือปฏบิ ตั ิจรงิ จนสรปุ ความร้ไู ดด้ ้วยตนเอง จัดการเรียนการสอนที่เน้นทักษะการคิด เชน่ จัดการเรยี นรู้ ดี้วยโครงงาน มีีการจัดปี้ายนิีเทศ และบรรยากาศตามสถานทีี่ตาี่ ง ๆทีั้งภายในห้อี งเรียี นและนอกห้องเรียี น ครูี ใช้สอ่ื การเรยี นการสอนี นวัตกรรมและเทคโนโลยีี ภมู ิปัญญาท้องถ่นิ ี มกี ารประเมนิ คุณภาพและประสทิ ธภิ าพของส่อื การสอนครมู งี านวิจยั ในชั้นเรยี นเพอ่ื การแกป้ ญั หาและพัฒนา ผู้เรียนอย่างต่อเนอื่ ง มีระบบดแู ล ชว่ ยเหลอื นกั เรยี นทม่ี ปี ระสิทธภิ าพสามารถดูแลช่วยเหลือนกั เรยี นได้รอ้ ยละ 100จนทาใหน้ ักเรยี นพ่อแม่ผ้ปู กครองคณะกรรมการสถานศึกษาชมุ ชน/ทอ้ งถน่ิ และผมู้ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ งมีความมน่ั ใจตอ่ ระบบการ บรหิ ารและการจัดการของสถานศึกษาในระดับสูง 2. ขอ้ มลู หลักฐาน เอกสารเชงิ ประจักษ์ ที่สนบั สนุนผลการประเมินตนเอง ขอ้ มูล หลักฐาน เอกสารเชิงประจกั ษ์ ทสี่ นับสนนุ ผลการประเมินตนเอง ได้แก่ รายงานผลสมั ฤทธิ์ ทางการเรยี น แบบรายงานครผู ู้สอน/รายกลุ่มสาระการเรยี นร/ู้ ภาพรวมท้งั โรงเรยี น ปกี ารศกึ ษา 2565 แผนพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา แผนปฏบิ ตั ิการประจาปี การจัดโครงสรา้ งงานเพื่อกาหนดกรอบ ภารกิจ ภาระหน้าที่ มหี ลกั สตู รสถานศึกษาี หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรูี้ หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรียนร/ู้ บนั ทกึ หลังสอน เคร่อื งมือ/เอกสารการวดั และประเมนิ ผล รายงานการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรีู้ รายงานวิจยั ในช้ันเรียนี ส่ีอื การเรียนรู้ ทะเบียนสื่ีอ แหล่งเรียนรู้ ผลงาน/ช้ินงานของนีักเรียน/โครงงานนีักเรีียน /สมดุี งานี ของนักเรยี น ผลการนิเทศภายในของสถานศกึ ษาี คาส่งั ี บนั ทึกการประชมุ รายงานผลการดาเนินโครงการ/ กิจกรรมตามแผนปฏิบัติการประจาปี แบบรายงานการประเมินตนเอง (Self-Assessment Report) ของครู รายบุคคล และรายงานผลการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา (SAR) บันทึกการประชุมแลกเปล่ียนเรยี นรู้ ชมุ ชนแหง่ การเรยี นรู้ทางวิชาชีพี (PLC) รางวลั ระดบั เขต ผลการประเมินความพงึ พอใจของนักเรียนทีม่ ีตอ่ การจัดการเรียนรู้ เกยี รตบิ ตั รการพัฒนาครีู หรอื จากการนานักเรยี นเขา้ รว่ มแขง่ ขันในรายการต่างี ๆ ระบบ ขอ้ มูลสารสนเทศของโรงเรียน ระบบเทคโนโลยีในการเพิ่มประสทิ ธภิ าพการดาเนนิ งาน สภาพแวดล้อม/ บรรยากาศทง้ั ภายในและภายนอกห้องเรยี นทเี่ อื้อต่อการเรียนรู้ี
64 3. จดุ เด่น จุดท่ีควรพฒั นา แผนการพฒั นาคุณภาพเพ่ือยกระดบั คณุ ภาพมาตรฐานให้สูงขน้ึ จดุ เด่น และจดุ ควรพฒั นา จุดเดน่ จดุ ควรพัฒนา ด้านคุณภาพผู้เรยี น 1) สถานศกึ ษามีการวเิ คราะห์ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน 1) พฒั นาผู้เรียนให้มี ทักษะในการแสวงหา และไดก้ าหนดเป็นเปา้ หมายทางการเรยี นโดยจัดทา ความรูด้ ้วยตนเอง การคิดข้ันสูงสรปุ องค์ความรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ทส่ี อดคลอ้ งกับหลกั สตู ร จัด การคีดิ แก้ปญั หาในชีวิีตประจาวนีั คดิ ีสรา้ งสรรค์ กิจกรรมการเรียนการสอนเน้นการปฏิบตั ิ และเทคนคิ ที่ นาเสนอผลงานท้ังในห้องเรยี น โรงเรียน หลากหลาย ผเู้ รยี นอา่ น เขียนเพอื่ การสอ่ื สารได้ทุกคน และภายนอก ภายใต้ความมีระเบยี บวนิ ยั สามารถใชเ้ ทคโนโลยีในการแสวงหาความรไู้ ด้ด้วยตนเอง ความรับผิดชอบต่อสงั คม สง่ ผลให้ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น ของนักเรียนอยู่ใน ระดบั ดี2) รูปแบบการจดั กระบวนการเรียนการสอน 2) ผ้เู รยี นมีคณุ ลักษณะท่พี ่ึงประสงคท์ สี่ ถานศกึ ษา และการวดั ประเมนิ ผลทเ่ี น้นผ้เู รียนเป็น มุ่งหวังใหี้ ผ้เู รียนีมสี ขุ ภาพรา่ งกายท่ีแขง็ แรงีสขุ ภาพจติ ศนู ยก์ ลางแห่งการเรียนรู้เพอืี่ พฒัี นาผลี ท่ดี ี เปน็ ทีย่ อมรบั ของชมุ ชนโดยรอบในเรื่อง การมีวนิ ยั ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นของผูเ้ รยี นทงั้ 8 กลมุ่ เคารพกฎกติกาีมารยาทของสงั คม ไดแ้ กี่ การเขา้ ควิ ช้ือ สาระการเรยี นรู้ โดยนาส่อื เทคโนโลยี มาใช้ใน อาหาร ผู้เรียนเป็นผู้มีจิตสาธารณะช่วยกันดูแล การจดั การเรยี นการสอนใหม้ ปี ระสิทธภิ าพมาก หอ้ งเรียน และเขตพื้นทที่ ่ีรบั ผิดชอบในการทาความ ยง่ิ ขนึ้ สะอาดบริเวณโรงเรียน มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ 3) หาแนวทางในการพัฒนาการจัดการเรยี น ธรรมชาติ การสอนท่ีใหม้ ีประสทิ ธิภาพในสถาณะการการ แพร่ระบาดของเช้อื ไวรสั โคโรนา 19 (COVID- 19)
ด้านกระบวนการบรหิ ารและการจัดการ 65 1) ผ้บู รหิ ารสถานศึกษาี มีความต้ังใจมีความมงุ่ มั่ีนี จุดควรพฒั นา มหี ลกั การบรหิ ารและมีวิสัยทศั น์ท่ีดีในการบรหิ ารงาน สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีในการทางาน และ คณะกรรมการสถานศกึ ษามีความตงั้ ใจ และมคี วาม พร้อมในการปฏิบัติหน้าท่ีตามบทบาท 2) โรงเรียนมีการบรหิ ารและการจดั การอย่างเปน็ ระบบ โรงเรยี นได้ใช้เทคนิคการประชุมทีห่ ลากหลายวิธี เช่น การประชุมแบบมสี ่วนร่วม การประชุมระดมสมอง การ ประชมุ กลมุ่ เพื่อให้ ทุกฝา่ ยมีส่วนร่วมในการกาหนด วิสัยทัศน์ พันธกจิ เป้าหมายที่ชัดเจน มกี ารปรบั แผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศกึ ษา แผนปฏิบัติการ ประจาปที ่ีสอดคลอ้ งกบั ผลการจัดการศกึ ษา สภาพ ปัญหา ความตอ้ งการพฒั นา และนโยบายการปฏริ ปู การศึกี ษาท่ีมุงี่ เนน้ การพัฒี นาให้ผีูเ้ รยี นมีคีณุ ภาพตาม จดุ เด่น มาตรฐานหลกั สูตรของสถานศึกษา ครผู ู้สอนสามารถ จัดการเรียนรู้ได้อย่างมีคณุ ภาพีมกี ารดาเนินการีนเิ ทศ กากบั ตดิ ตามประเมนิ ผลการดาเนนิ งาน และจัดทา รายงานผลการจดั การศกึ ษา และโรงเรียนได้รวบรวม ข้อมูลมาใช้เป็นฐานในการวางแผนพัฒนาคุณภาพ สถานศกึ ษารับผิดชอบต่อผลการจดั การศกึ ษา และการ ขบั เคลอื่ นคณุ ภาพการจัดการศกึ ษาและมเี พิม่ เครือข่าย ความร่วมมือ 3) โรงเรียนไดน้ านโยบายต่างๆมาขบัี เคลอ่ื นสู่การปฏบิ ตั ีิ เพี่อื ใหก้ ารดาเนินงานเป็นรปู ธรรม และนําผลการกํากับ ติดตามประเมินผลการบรหิ าร และการจัดการศกึ ษา ไปใช้ ประโยชน์ในการ พัฒนาให้ครอบคลมุ ครบทกุ ฝ่ายอยา่ งเป็น รูปธรรม
66 ดา้ นกระบวนการเรยี นการสอนทเี่ น้นผู้เรยี นเปน็ สาคญั 1) โรงเรยี นมีระบบการพัฒนาครูในการจดั การเรยี นการ 1) ส่งเสริมให้ครูพัฒนาสื่อ นวัตกรรม สอนอย่างตอ่ เน่ืองและชัดเจน กระบวนการเรยี นรู้ทเ่ี น้นผเู้ รียนเป็นสาคัญ 2) ครูพฒัี นาตนเองอยู่เสมอ มีความตงั้ ใจ มงุ่ ม่ันี ในการี นาเสนอแลกเปลย่ี นเรยี นรูก้ ับครูในโรงเรยี นและ ปฏบิ ตั หิ นา้ ทีอ่ ย่างเตม็ เวลา และความสามารถ จดั ต่างโรงเรียนใหม้ ากขีนึ้ กจิ กรรมใหน้ กั เรยี นแสวงหาความรู้ จากส่ือเทคโนโลยี 2) การสรา้ งโอกาสให้ผูเ้ รยี นทุกคนมีส่วนรว่ มมี ดว้ ยตนเองอยา่ งตอ่ เนือ่ ง การตรวจสอบและประเมนิ ผลความรู้ความ 3) ครจู ัดการเรยี นการสอนดว้ ยวิธี การท่หี ลากหลาย เข้าใจของผู้เรยี นอย่างเป็นระบบและมี สอดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นรตู้ วั ช้วี ดั ตามหลักสตู ร ประสทิ ธภิ าพ อาจดาเนนิ การได้ดงั ตอ่ ไปนี้ ใน การศีกึ ษาขนั้ พนีื้ ฐานและฝกึ ใหน้ ักเรียนได้คี ิดวเิ คราะหี์ เวลาเรียนจดั กิจกรรมใหไ้ ด้ปฏบิ ัติ รว่ มกนั เรยี นรู้ ได้ปฏบิ ัตจิ รงิ ดว้ ยวิธกี ารและการนำความรู้จากแหลี่งเรีียนรีู้ร่วมกนั ทางานหรอื ฝกึ ปฏิบัติ ทางานเป็นกล่มุ / สอื่ ีเทคโนโลยใี ห้มากข้นึ เปน็ ทมี นอกเวลาเรยี นซ่งึ อาจหมายถึงช่วงที่อยู่ 4) ครพู ฒั นาสื่อ แหลง่ เรียนรู้ จดั เตรยี มห้องปฏบิ ัติการ ในครอบครัวหรือในชมุ ชน อาจมอบหมายงาน ใหอ้ ย่ใู นสภาพดีและพร้อมใช้งานเสมอโดยนักเรยี นมี ใหท้ าในลกั ษณะโครงงาน ส่วนร่วมในการจดั บรรยากาศ สภาพแวดลอ้ มทเ่ี อื้อตอ่ การเรยี นรู้ 4. แผนการพฒั นาการศึกษาของสถานศกึ ษาเพอ่ื ยกระดับคณุ ภาพให้สูงขน้ึ 1) แผนการจัดทาโครงการ/กิจกรรมทีส่ ง่ เสริมเพ่ือให้มรี ะดับคุณภาพในมาตรฐานท่ี 1 ดา้ นคณุ ภาพของผู้เรยี นสงู ขึ้นหรอื คงสภาพ ดังน้ี 1) โครงการ/กจิ กรรม ยกระดบั ผลสมีั ฤทธ์ิทางการเรียน 8 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ 2) โครงการ/กจิ กรรม การจัีดการศีึกษาด้านอาชพี 3) โครงการ/กจิ กรรมเสรมิ สร้างความมนั่ คงของสถาบนั ของชาติ 4) โครงการ/กิจกรรมสถานศึกษาปลอดยาเสพติดและอบายมุข 5) โครงการ/กิจกรรมภมู ใจในท้องถ่นิ และความเปน็ ไทย 6) โครงการ/กจิ กรรมโรงเรยี นคุณธรรมและโรงเรยี นวีิถีีพุีทธ 7) โครงการ/กจิ กรรมโรงเรียนสุจรติ 8) โครงการ/กิจกรรมเยย่ี มบ้านนกั เรียน 9) โครงการ/กจิ กรรมพฒั นางานแนะแนว 10) โครงการ/กิจกรรมพัฒี นาผู้เรียน 11) พฒั นาศกั ยภาพด้านกฬี าและนันทนาการ 12) รณรงคป์ อ้ งกนั และแกี้ไขปญั หายาเสพตดิ ในสถานศึกษา (TO BE NUMBER ONE)
67 2) แผนการจดั ทาโครงการ/กจิ กรรมทสี่ ่งเสริมเพอื่ ใหม้ ีระดบั คณุ ภาพในมาตรฐานที่ 2 ดา้ นกระบวนการบรหิ ารและการจัดการสูงขนึ้ หรือคงสภาพ ดังนี้ 1) จดั ทาแผนพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาระยะยาว 5 ปี ให้มีความเหมาะสม ทันต่อการ เปลีย่ นแปลง 2) การพัฒนาครูและบุคลากรใหม้ ีความเชยี่ วชาญทางวชิ าชีพตรงตามความต้องการของ ครแู ละสถานศกีึ ษา และจดั ใหม้ ีชุมชนการเรยี นรทู้ างวิชาชีพเพือี่ พัีฒนางานอย่างต่อเนืี่อง 3) พฒั นางานระบบประกนั คณุ ภาพการศึกษา 4) พฒั นาดา้ นวิชาการที่เนน้ คุณภาพผเู้ รยี นรอบด้านตามหลกั สูตรสถานศึกษาและทุก กลุม่ เปา้ หมาย เชื่อมโยงกีบั ชีวิตจรงิ และเป็นแบบอยา่ งได้ 5) การพัฒนาสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสงั คมท่เี อ้อื ต่อการจดั การเรยี นรอู้ ย่างมี คณุ ภาพและมคี วามปลอดภยั 6) การพฒั นาการจดั ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื สนบั สนนุ การบริหารจดั การและ การจดั การเรียนรทู้ ่ีและเอ้อื ต่อการศกึ ษาค้นควา้ ด้วยตวั เองของผู้เรยี น เพ่อื สรา้ งสงั คมแห่งการเรยี นรู้ 7) สรา้ งเครอื ข่ายความรว่ มมอื จากชมุ ชนในการพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศกึ ษา 3) แผนการจัดทาโครงการ/กจิ กรรมที่ส่งเสริมเพ่อื ใหม้ รี ะดบั คุณภาพในมาตรฐานที่ 3 ด้านกระบวนการจัดการเรยี นการสอนท่เี นน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สาคญั สงู ขนึ้ หรอื คงสภาพ ดงั นี้ 1) พัฒี นากระบวนการจัดการเรียนรู้ของครูให้ีมปี ระสิทธภิ าพ โดยการจดั อบรม สมั มนา หรอื ศกึ ษาดงู าน 2) การนิเทศการสอนและการปฏิบัติงานของครูอย่างเปน็ ระบบ กากบั ตดิ ตาม นเิ ทศ กระบวนการจดั การเรียนรู้ของครูใหเ้ น้นนกั เรยี นเปน็ สาคัญอยา่ งแท้จรงิ สง่ เสริมกระบวนการจดั การเรยี นรู้เชงิ บวก ทาใหเ้ ดก็ รักทีจ่ ะเรยี นรแู้ ละเรยี นรู้ร่วมกนั อยา่ งมีความสุข 3)การพัฒนาชมุ ชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชพี ระหวา่ งครแู ละผเู้ กยี่ วขอ้ งเพ่อื พฒั นา และปรบั ปรุงการจัดการเรียนรู้ ครู และผ้เู ก่ยี วข้องมีการแลกเปล่ยี นเรียนรู้ นาผลการวจิ ยั ในชน้ั เรยี นและ กระบวนการ PLC เป็นข้อี มลู สะท้อนกลับเพื่อี พีัฒนาและปรบั ปรงุ การจดั การเรยี นรีู้ ใหี้สอดคลอ้ งกบัี ี สมรรถนะของผเู้ รยี นรายบุคคล 4) การพฒัี นาจัดการเรียนรผู้ า่ นกระบวนการคดิ และปฏิบัตีิจริงตามมาตรฐานการเรยี นรี ตวั ช้ีวดั ของหลักสูตรสถานศีึกษาี มแี ผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ีสามารถนาไปจัีดกิจกรรมไดจ้ รงิ และสามารถนำไปีประยุกต์ใชใ้ นชีวี ิตได้ 5) การพัฒนาการใช้สอ่ื ีเทคโนโลยีสารสนเทศและแหลง่ เรยี นรู้ีรวมทง้ั ภูมปิ ัญญา ทอ้ งถิน่ ทเี่ ออ้ื ต่อการเรียนรู้ โดยสรา้ งโอกาสให้ผเู้ รียนได้แสวงหาความรูด้ ว้ ยตนเอง 6) การพฒั นาการตรวจสอบและประเมนิ ผเู้ รยี นอย่างเปน็ ระบบ มขี ั้นตอนโดยใช้ เครื่องมือและวิธกี ารวดั และประเมินผลทีเ่ หมาะสมกับเปา้ หมายในการจดั การเรียนรู้ ให้ขอ้ มลู ยอ้ นกลบั แก่ ผู้เรยี นและนาผลมาพฒั นาผู้เรียน 7) ส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนทพี่ ฒั นาผูเ้ รยี นให้มีสมรรถนะหรอื ให้มีทกั ษะการ เรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี 21 มคี วามเปน็ เลศิ ด้านวิชาการ นาไปสู่การสร้างขดี ความสามารถในการแข่งขันี
68 สว่ นที่ 3 บัญชีสรุปรำยละเอยี ด แผนงำน/โครงกำร โครงกำรงบประมำณตำมกลยุทธ์ โครงกำรงบประมำณเพิม่ เตมิ
69 ยอดเงินท่ไี ดร้ ับกำรจดั สรร ปีงบประมำณ 2566 ท่ี รำยกำร จำนวนเงิน ร้อยละ 2,340,723 100 งบประมำณ หกั งบกลำง 48,647.00 65.23 1 งบสาํ รอง 250,000.00 24.00 2 คา่ ไฟฟา้ 1,000.00 2.38 3 คา่ โทรศพั ท์ 150,000.00 8.39 4 คา่ น้ําประปา 15,000.00 100.00 3,500.00 5 คา่ นา้ํ มนั เชื้อเพลิง 150,000.00 งบเทศบำล 6 น้าํ ดมื่ 96,600.00 7 คา่ เบีย้ เล้ยี ง 4,400.00 20,000 8 โครงการจ้างบคุ ลากรพเิ ศษ(แมบ่ ้าน) 719,147 9 คา่ ประกันสังคม 1,621,576.00 20,000 1,057,754 รวมหกั งบกลำง 389,178 25,000 คงเหลอื งบประมำณนำไปจัดสรร 1 ฝ่ายวิชาการ 38,594 20,000 2 ฝา่ ยบริหารทวั่ ไป 136,050 3 ฝ่ายงบประมาณ 1,621,576.00 30,000 4 ฝ่ายบริหารบุคคล งบโรงเรยี น 20,000 รวม 8 เงินนอกงบประมำณ (เทศบำล ) 10,000 20,000 8.1 ค่ำยสง่ เสริมคุณธรรม จรยิ ธรรม “ คำ่ ยรวมใจ หัวใจใฝ่ธรรม คนดศี รปี ำกชม” (เทศบำล) 8.2 โครงกำรส่งเสริมบุคลิกภำพวยั ทนี ด้วย \"กฬี ำฟตุ ซอล\" 5,000 30,000 8.3 โครงกำร English On Tour (English Camp) 8.4 โครงกำรพัฒนำผเู้ รียนใหม้ สี นุ ทรียภำพทำงดำ้ นนำฏศลิ ป์ 3,000 20,000 8.5 โครงกำรกีฬำภำยในตำ้ นยำเสพตดิ เขยี ว - ทอง เกมส์ประจำปกี ำรศึกษำ 2566 8.6 โครงกำรสง่ เสริมกำรเรียนรทู้ ักษะชวี ติ และทกั ษะพฒั นำอำชพี 2,000 205,000 8.7 โครงกำร (TO BE NUMBER ONE) 8.8 โครงกำรสง่ เสรมิ และพฒั นำกีฬำฟตุ บอลสูค่ วำมเปน็ เลศิ 20,000 8.9 โครงกำรแข่งขันกฬี ำวอลย์บอลปำกกชมต้ำนยำเสพติด 10,000 รวม 5,000 2,000 2,000 59,000
70 สว่ นท่ี 4 กำรกำกบั ตดิ ตำม ประเมนิ ผล และรำยงำน 1. กำรกำกบั ควบคมุ กำรใชง้ บประมำณ 1.1 ผู้รับผิดชอบโครงการ เสนอบนั ทกึ ขอ้ ความเพื่อขอใชง้ บประมาณท่ีผ่านการอนมุ ตั ิแลว้ ตอ่ งาน นโยบาย แผนงานและจดั สรรงบประมาณ เพอ่ื เสนอต่อผูบ้ ริหารเพ่อื อนมุ ัตกิ ารใชง้ บประมาณ 1.2 งานนโยบาย แผนงาน และจดั สรรงบประมาณทําบนั ทกึ รายการขอใชง้ บประมาณของงาน/ โครงการ เพือ่ เป็นข้อมลู สารสนเทศสาํ หรบั การสรุปรายงานการดําเนินงานตามแผนงาน/โครงการ 1.3 งานนโยบาย แผนงานและจัดสรรงบประมาณ จัดทําบันทกึ การใช้เงินงบประมาณทีไ่ ด้รับอนุมัติ ตามงาน/ โครงการมอบใหง้ านบรหิ ารพสั ดแุ ละสนิ ทรัพย์ ดําเนินการจดั ทาํ บัญชีควบคุมการใช้เงนิ งบประมาณ ของ หน่วยงานผู้รับผดิ ชอบงาน/โครงการ 2. กำรนิเทศติดตำม 2.1 ฝา่ ยบริหาร หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ และหวั หน้างาน ตดิ ตามการปฏิบตั ิตามงาน/โครงการ และให้ กําลังใจในการปฏิบัติงาน 2.2 หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ หวั หน้างานหรอื ผรู้ ับผิดชอบงาน/โครงการ รายงานผลการ ดําเนนิ งานตาม งาน/โครงการ โดยสรุปผลการดาํ เนินงานตามแบบฟอร์มหรือรูปเล่มอย่างน้อย 3 เล่ม และ นําไปมอบให้งาน พฒั นาระบบประกันคณุ ภาพภายในและมาตรฐานการศกึ ษา 1 เลม่ 2.3 งานนโยบาย แผนงาน และจัดสรรงบประมาณประสานงานกับงานบรหิ ารพัสดแุ ละสินทรพั ย์ จดั ทาํ รายงาน สรุปผลการดําเนนิ งานตลอดปีงบประมาณ 3. กำรประเมินผล 3.1 จัดตง้ั คณะกรรมการดําเนนิ การวางแผนการประเมนิ ผลงาน/โครงการ 3.2 กาํ หนดวิธกี ารประเมิน และระยะเวลาการประเมิน 3.3 จดั ทาํ เอกสารแผนการประเมนิ 3.4 เสนอผบู้ ริหารขออนุมตั ิแผนการประเมิน 3.5 ดาํ เนินการประเมินตามแผน 3.6 สรปุ และรายงานผลการประเมนิ 4. กำรจัดทำรำยงำนประจำปี 4.1 รายงานผลการปฏิบตั งิ านในรอบปี โดยเปรยี บเทียบกับเปา้ หมายที่กําหนดไวต้ ามแผนปฏิบตั กิ าร 4.2 รายงานความก้าวหนา้ ของการดําเนนิ การ 4.3 รายงานสภาพปัญหาและอุปสรรคจากการดาํ เนินงาน
71 แบบฟอรม์ กำรเขยี นโครงกำรของกลมุ่ บรหิ ำร โครงกำร............................................................................................................................................................ ลักษณะโครงกำร โครงการต่อเนอื่ ง โครงการใหม่ ผู้รบั ผดิ ชอบโครงกำร ...................................................................................................................................... ฝ่ำย..................................................................................................................................................................... ระยะเวลำดำเนินกำร........................................................................................................................................... สนองกลยทุ ธ์ สพฐ. ข้อท่ี ................................................................................................................................... สนองกลยทุ ธ์ สพฐ. ข้อท่ี ................................................................................................................................... สนองกลยทุ ธ์ สพม. เลย หนองบวั ลำภู ขอ้ ท่ี ..................................................................................................................................................................... ขอ้ ท่ี ..................................................................................................................................................................... สนองกลยทุ ธข์ องโรงเรียนข้อที่ .......................................................................................................................... สนองพันธกิจของโรงเรียนขอ้ ท่ี ...................................................................................................................... สนองมำตรฐำนกำรศกึ ษำ มำตรฐำนที่ 1 คุณภำพของผเู้ รียน ข้อท่ี 1.1 ผลสัมฤทธ์ทิ างวิชาการของผเู้ รยี น ตัวบง่ ชยี้ ่อยที่ .............. ขอ้ ท่ี 1.2 คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ของผเู้ รยี น ตัวบง่ ชี้ยอ่ ยท่ี ............... มำตรฐำนท่ี 2 กระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำรของผ้บู รหิ ำรสถำนศกึ ษำ ตวั บง่ ช้ยี อ่ ยท่ี ............... มำตรฐำนท่ี 3 กระบวนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนที่เนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคัญ ตัวบ่งชย้ี ่อยที่ ............... 1. หลกั กำรและเหตุผล .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. วตั ถปุ ระสงค์ 2.1.......................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. 2.2.......................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. 2.3.......................................................................................................................................................... ..............................................................................................................................................................................
72 3. เป้ำหมำย 3.1 เชิงปริมำณ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3.2 เชงิ คณุ ภำพ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 4. กจิ กรรมและวิธีกำรดำเนินงำน กจิ กรรม ระยะเวลำ ผู้รบั ผดิ ชอบ ดำเนินกำร กิจกกรมท่ี 1 ............................................................................................................................. .................. 1. ขน้ั เตรยี ม (Plan) ........................................................................................................... ........................................................................................................... 2. ขน้ั ปฏบิ ัติ (DO) ........................................................................................................... ........................................................................................................... 3. ข้ันติดตำมผล (Check) ........................................................................................................... ........................................................................................................... 4. ขน้ั สรุปรำยงำนผล (Action) ........................................................................................................... ........................................................................................................... 5. งบประมำณทใ่ี ช้ โครงการนใี้ ช้งบประมาณ ........................... บาท จําแนกรายการใช้จ่ายดังนี้ งบประมำณจำแนกตำมรำยกำรและ กิจกรรมและคำชแี้ จง กจิ กรรม กำรใชง้ บประมำณ งบประมำณ ตอบแทน ใช้สอย วัสด/ุ กจิ กรรมท่ี 1 ......................................... ครุภณั ฑ์ ............................................................. - -
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 489
Pages: