ค่มู อื ครู Teacher Script 6การงานอาชพี ป. ชัน้ ประถมศึกษาปท่ี 6 ตามมาตรฐานการเรยี นรแู ละตวั ชีว้ ัด กลุมสาระการเรยี นรกู ารงานอาชีพ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ผเู รยี บเรียงหนังสือเรยี น ผตู รวจหนงั สือเรยี น บรรณาธกิ ารหนังสอื เรียน นางอรัญญา ฤกษงาม นางศศวิ รรณ ศรีธนาอุทัยกร ผศ.จรสั ศรี พวั จนิ ดาเนตร นายไพโรจน กระโจมทอง นายเกรยี งศกั ด์ิ ฤกษง าม นายมนตรี สมไรข ิง นางจุรี สุวรรณศ ิลป นางจนิ ตนา แสงธรรมครองอาตม ผเู รยี บเรยี งคูมอื ครู/บรรณาธิการคมู ือครู นางศริ ริ ัตน สมไรข งิ นายสมเกยี รติ ภรู ะหงษ พิมพค รั้งที่ 4 สงวนลิขสทิ ธิ์ตามพระราชบัญญตั ิ รหสั สินคา 1647055
ค�ำแนะน�ำกำรใช้ คูมือครู การงานอาชีพ ป.6 จัดท�าขึ้นเพ่ือให้ครูผู้สอนใช้เป็น แนวทางวางแผนการจัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนและประกันคุณภาพผู้เรียน ตามนโยบายของส�านักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน (สพฐ.) เพิ่ม คทาแนะนาท การใช ชวยสรำงควำมเขำใจ เพื่อใชคูมือครูได นํา นํา สอน สรุป ประเมิน โซน 1 อยำงถูกตองและเกิดประสทิ ธิภำพสูงสดุ เพม่ิ คาท อธบิ ายรายวชิ า แสดงขอบขำยเนอ้ื หำสำระของรำยวชิ ำ ขนั้ นาํ ๔) ภาชนะทใ่ี ชใสอาหาร เชน ซงึ่ ครอบคลมุ มำตรฐำนกำรเรยี นรแู ละตวั ชวี้ ดั ตำมทหี่ ลกั สตู ร สังเกต จาน กำ� หนด 1. ครูใหนักเรียนดูคลิปวิดีโอรายการแขงขัน ใชใ สขา วสวยและ ชาม อาหารประเภทยาํ ผดั ใชใสอ าหารประเภทนาํ้ เพม่ิ Pedagogy ชวยสรำงควำมเขำใจในกระบวนกำรออกแบบ ประกอบอาหาร 1 รายการ ทอด หรอื อาหารวา ง เชน แกงจดื แกงเผ็ด กำรจัดกำรเรียนกำรสอนแบบ Active Learning ไดอยำงมี 2. ครูถามคําถามกระตนุ ความคิด ประสทิ ธภิ ำพ ถว ย โถขา ว • นกั เรยี นไดอะไรบางจากการดรู ายการ ใชใสอาหารประเภทท่ี 1 ใชใ สข าวสวย แขง ขันประกอบอาหารนี้ มนี ้ํานอ ย เชน น้ําพรกิ (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น น้าํ จมิ้ โดยใหอ ยใู นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู อน) เพิ่ม Teacher Guide Overview ชวยใหเ หน็ ภำพรวมของกำร จัดกำรเรียนกำรสอนทั้งหมดของรำยวิชำกอนที่จะลงมือ 3. ครเู ชอื่ มโยงใหน กั เรยี นลาํ ดบั การประกอบอาหาร สอนจรงิ จากรายการแขงขันประกอบอาหาร โดยให นกั เรยี นแสดงความคดิ เห็นในประเด็น ดังนี้ • วัตถดุ ิบท่ีใชในการแขง ขนั ประกอบอาหาร • อปุ กรณท ่ใี ชใ นการแขง ขันประกอบอาหาร • เครอื่ งปรงุ ทใ่ี ชใ นการแขง ขนั ประกอบอาหาร • วิธีการและเทคนิคในการแขงขันประกอบ อาหาร • การจดั อาหารในการแขง ขนั ประกอบอาหาร เพม่ิ Chapter Overview ชว ยสรำ งควำมเขำ ใจและเหน็ ภำพรวม »ÅÍ´ÀÂÑ äÇ¡Œ ‹Í¹ ในกำรออกแบบแผนกำรจัดกำรเรยี นรแู ตล ะหนวยกำรเรียนรู ควรจดั เกบ็ อปุ กรณเ ครอื่ งใชท มี่ นี า้ํ หนกั มากไวด า นลา งของชน้ั วางหรอื ตเู กบ็ อปุ กรณเ สมอ ไมค วร เพิ่ม Chapter Concept Overview ชวยใหเห็นภำพรวม วางไวในท่ีสงู เกินไปเพอื่ ความปลอดภัย Concept และเน้อื หำส�ำคญั ของหนว ยกำรเรยี นรู ˹·Ù íÒä´Œ ๑๘ การเลอื กภาชนะใสอ าหาร ทาํ ไดด ี พอทาํ ได ทาํ อีกครั้ง เพ่ิม ขอสอบเนนการคิด เพื่อเตรียมควำมพรอมของผูเรียน นักเรียนควรรู กิจกรรม เสรมิ สรางคุณลักษณะอันพงึ ประสงค สูก ำรสอนในระดับตำง ๆ 1 น้าํ พริก คอื การนาํ สมุนไพร เชน พรกิ กระเทยี ม หัวหอม เคร่ืองเทศ มาโขลก ครูใหนักเรยี นทาํ กิจกรรม “ภาชนะรักษโ ลก” โดยการออกแบบ เพม่ิ กิจกรรม 21st Century Skills กจิ กรรมที่จะชวยพัฒนำ รวมกันในครกหรือบดรวมกัน นิยมรับประทานกับเครื่องเคียงตางๆ เชน ดอกแค ภาชนะใสอาหารท่ีทาํ มาจากวสั ดธุ รรมชาติ เชน ใบตอง ผักตบชวา ผูเรียนใหมีทักษะท่ีจ�ำเปนส�ำหรับกำรเรียนรูและกำรด�ำรงชีวิต มะเขือยาวแตงกวา ถ่ัวฝกยาว ถ่ัวพู ปลา กุง การเรียกชื่อน้ําพริกมักจะเรียกตาม ลงในสมุด แลว ออกมานาํ เสนอหนาชนั้ เรียน เพอ่ื เปน การปลูกฝง ให สวนประกอบหลกั ท่นี าํ มาทาํ ซ่ึงอาจเปนเนอ้ื สัตวหรือพชื ผัก เชน นํา้ พรกิ ขงิ นาํ้ พริก นกั เรยี นใชท รัพยากรธรรมชาติอยางประหยดั และคุมคา ในโลกแหงศตวรรษท่ี 21 กะป น้ําพรกิ ปลารา นา้ํ พรกิ นํ้าปู โซน 3 บูรณาการอาเซยี น เพม่ิ STEM Project แนวทำงกำรจัดกำรศึกษำใหผูเรียนเกิด กำรเรียนรูและสำมำรถบูรณำกำรควำมรูทำงวิทยำศำสตร์ ครูนําบัตรภาพอาหารประจําชาติในประเทศในอาเซียนมาใหนักเรียนดู เทคโนโลยี กระบวนกำรทำงวศิ วกรรม และคณติ ศำสตร์ไปใช ไดแ ก ไทย-ตม ยาํ กงุ เมยี นมา-โมฮนิ กา เวยี ดนาม-เปาะเปย ะเวยี ดนาม กมั พชู า- เชอื่ มโยงและแกป ญหำในชีวิตจรงิ อาม็อก ลาว-ซุปไก มาเลเซีย-นาซิเลอมัก อินโดนีเซีย-กาโด สิงคโปร- โซน 2ลกั ซา บรไู น-อมั บยู ัต และฟลปิ ปนส-อโดโบ และใหน กั เรียนแสดงความคดิ เห็น เกีย่ วกับการจดั อาหารชนิดนน้ั ใหดูนา รับประทาน T24 โซน 1 ชว่ ยครูจัด โซน 2 ชว่ ยครูเตรยี มสอน กำรเรยี นกำรสอน โดยประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ ทเี่ ปน็ ประโยชนส์ า� หรบั ครู แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ครูผู้สอน เพ่ือน�าไปประยกุ ต์ใช้จัดกจิ กรรมการเรยี นรูใ้ นชั้นเรยี น โดยแนะน�าขั้นตอนการสอนและการจัดกิจกรรมอย่างละเอียด เพื่อใหน้ ักเรียนบรรลุผลสมั ฤทธิต์ ามตัวชวี้ ดั เกร็ดแนะครู นำ� สอน สรุป ประเมิน ความรู้เสริมสา� หรับคร ู ข้อเสนอแนะ ข้อสงั เกต แนวทางการจดั กิจกรรม และอื่น ๆ เพอื่ ประโยชน์ในการจัดการเรยี นการสอน นกั เรียนควรรู ความรู้เพ่มิ เติมจากเนอ้ื หาส�าหรับอธบิ ายเสรมิ เพิม่ เตมิ ใหก้ ับนกั เรียน
โดยใช้หนงั สือเรียน การงานอาชพี ป.6 และแบบวัดฯ การงานอาชีพ ป.6 ของบรษิ ัท อกั ษรเจรญิ ทัศน์ อจท. จ�ากัด เปน็ สอื่ หลกั (Core Material) ประกอบการสอนและการจดั กจิ กรรมการเรยี นรใู้ หส้ อดคลอ้ งตามมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชว้ี ดั การงานอาชพี ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 โดยคมู่ อื ครมู อี งคป์ ระกอบทง่ี า่ ยตอ่ การใชง้ าน ดงั นี้ โซนนํา 1 สอน สรุป ประเมนิ โซน 3 ช่วยครูเตรียมนักเรยี น ò ¡Òè´Ñ ÍÒËÒà ขน้ั สอน ประกอบด้วยแนวทางการจัดกิจกรรมและเสนอแนะ แนวขอ้ สอบ เพอ่ื อา� นวยความสะดวกใหแ้ ก่ครูผูส้ อน การจัดอาหารมีความส�าคัญเพราะช่วยให้อาหารดูน่ารับประทาน วิเคราะห์วิจารณ์ การจดั อาหารสามารถนา� ผกั ผลไม้ทม่ี สี สี ันมาหัน่ หรอื แกะสลัก แลว้ น�าไป 1. ครูเชื่อมโยงรายการแขงขันประกอบอาหารวา กิจกรรม 21st Century Skills จัดตกแต่งในภาชนะที่ใส่อาหาร การแขง ขนั ประกอบอาหาร นอกจากจะตอ งใช กิจกรรมที่ให้นักเรียนได้ประยุกต์ใช้ความรู้ท่ีเรียนมาสร้าง ๑. หลกั ในการจัดอาหาร วัตถุดิบท่ีดี ใชอุปกรณในการประกอบอาหาร ชนิ้ งานหรือทา� กจิ กรรมรวบยอด เพอื่ ให้เกิดคณุ ลักษณะท่ีระบุ ที่ถูกตอง ประกอบอาหารตามข้ันตอน และ ในทกั ษะศตวรรษท ่ี 21 หลักในการจัดอาหาร อาหารมีรสชาติอรอยแลว การจัดจานใหดูนา รบั ประทานกม็ สี ว นสาํ คญั โดยการเปรยี บเทยี บ ขอสอบเนน การคิด ๑. ใ ชภ้ าชนะที่มีความสวยงามและเหมาะสมกบั อาหาร การจัดอาหารของผูแขงขัน และใหนักเรียน ๒. จ ดั วางอาหารในปริมาณท่พี อดีกบั ภาชนะ ไมว่ างแผ่ รว มกันวิเคราะหว จิ ารณ ตัวอย่างข้อสอบท่ีมุ่งเน้นการคิด มีท้ังปรนัย-อัตนัย พร้อม 2. นักเรียนแตละกลุมรวมกันแสดงความคิดเห็น เฉลยอยา่ งละเอยี ด กระจายจนยากต่อการรับประทาน เรื่อง การจัดอาหาร และเขียนเปนแผนผัง ๓. อ าจจดั วางเครอ่ื งปรงุ ต่าง ๆ ไวพ้ ร้อมกับอาหารท่ีเสริ ฟ์ ความคดิ ลงในใบงานท่ี 2.1 จากแผนการจดั การ ขอ สอบเนนการคดิ แนว O-NET ๔. ใช้ศิลปะในการจดั อาหาร เช่น การวางแตงกวาเรียงรอบ เรยี นรู 3. ครูอธิบายความรูเพมิ่ เตมิ เรอ่ื ง การจัดอาหาร ตวั อยา่ งขอ้ สอบทมี่ งุ่ เนน้ การคดิ และเปน็ แนวขอ้ สอบ O-NET ขอบจาน การใชส้ สี ันของอาหารเพ่อื เน้นให้จานโดดเดน่ โดยใช PowerPoint มีทั้งปรนยั -อตั นัย พร้อมเฉลยอย่างละเอยี ด 4. ครูถามคําถามกระตุนความคดิ ๒. การเลือกใช้ภาชนะในการจัดอาหาร • นักเรียนคิดวา ระหวางการจัดอาหารให กจิ กรรมเสริมสรา งคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ การเลอื กใชภ้ าชนะในการจดั อาหารควรปฏิบัติ ดงั นี้ สวยงามกบั การจดั อาหารใหส ะอาด แบบใด กิจกรรมเสนอแนะแนวทางการเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึง เครอ่ื งจ้มิ ต่าง ๆ ควรจัด อาหารประเภทน�้า ควรใส่ อาหารประเภทผัด ควรจัด ผลไม้ ควรล้างให้สะอาด สาํ คญั มากกวากัน เพราะเหตุใด ประสงค์ต่าง ๆ นา้� พรกิ ใสถ่ ว้ ยกน้ ลกึ แลว้ จดั ชาม โดยไม่ตักให้มากจน ใส่จานแบน ๆ หรือชาม เมอ่ื ลา้ งเสรจ็ บางชนดิ ตอ้ ง (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น วางในจานแบนใบใหญห่ รอื ล้น หรือไมน่ อ้ ยจนเกินไป ก้นตื้น โดยเลือกจานท่ีมี ปอกเปลอื ก แลว้ หน่ั เปน ชน้ิ โดยใหอ ยใู นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู อน) กจิ กรรมทา ทาย จานหลมุ จัดผักส�าหรบั ขนาดเหมาะสมกบั ปรมิ าณ พอประมาณ และจดั ใสจ่ าน แกล้มให้เรียบรอ้ ย อาหาร เชน่ มะละกอ สบั ปะรด ขน้ั สรปุ เสนอแนะแนวทางการจดั กจิ กรรม เพอื่ ตอ่ ยอดสา� หรบั นกั เรยี น ที่เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและต้องการท้าทายความสามารถใน ËนทÙ �าä´Œ ๑๙ สรุป ระดบั ที่สงู ข้ึน การจัดและเลอื กภาชนะในการจัดอาหาร ทา� ไดด้ ี พอท�าได้ ทา� อกี คร้ัง สมาชิกในแตละกลุมรวมกันสรุปความรูใน กจิ กรรมสรางเสรมิ เทคนคิ การจัดจานอาหารใหส วยงาม การประกอบอาหารจากคลปิ วดิ โี อรายการแขง ขนั ประกอบอาหารทคี่ รใู หด ตู น ชั่วโมง เสนอแนะแนวทางการจัดกิจกรรมซ่อมเสริมส�าหรับนักเรียน ที่ควรได้รบั การพัฒนาการเรยี นรู้ ขน้ั ประเมนิ กิจกรรม Geo-Literacy ครูตรวจใบงานท่ี 2.1 จากแผนการจัดการ เรยี นรู เสนอแนะแนวทางการจดั กจิ กรรม เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจลกั ษณะ ทางกายภาพของโลกปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งมนษุ ยก์ บั สง่ิ แวดลอ้ ม ขอสอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู และนา� ความร้ไู ปปรับใช้ในชีวติ ประจา� วันได้ นารีซื้อแกงเขียวหวานไกมารับประทาน เธอควรใสแกงใน ครูนําภาพการจัดจานอาหารจากภัตตาคารหรืออาหารที่ใสในภาชนะ ภาชนะแบบใด ทท่ี าํ จากวสั ดุ จากธรรมชาตมิ าใหน กั เรยี นดู แลว อธบิ ายเพม่ิ เตมิ วา การจดั อาหาร มีความสําคัญเปนอยางมาก เพราะนอกจากจะทําใหอาหารนารับประทานแลว 1. จาน ยงั สามารถเพมิ่ มูลคาใหก บั อาหารไดอีกดวย 2. ชาม 3. แกว ส่ือ Digital 4. ถาด นกั เรยี นสแกน QR Code เทคนคิ การจดั จานอาหารใหส วยงาม เพอื่ นาํ ไปใช โซน 3(วิเคราะหคําตอบ : จานเหมาะสําหรับใสขาว อาหารประเภทยํา ขยายความรเู ก่ียวกบั การจัดจานอาหาร ผัด ทอด หรืออาหารวา ง ชามเหมาะสาํ หรับใสอ าหารประเภทนา้ํ โซน 2 เชน แกงจดื แกงเผด็ แกวเหมาะสาํ หรบั ใสเ ครอื่ งด่มื ถาดเหมาะ สําหรับใสผลไม จาน หรือแกว เมื่อตองการเคล่ือนยาย ดังน้ัน ขอ 2. จึงเปนคาํ ตอบที่ถกู ตอ ง) T25 บรู ณาการอาเซียน ความรเู้ สรมิ หรือการเชือ่ มโยงในเรอื่ งทีเ่ กยี่ วขอ้ งกับประชาคมอาเซียน สอื่ Digital การแนะน�าแหลง่ เรยี นรู้และแหล่งค้นควา้ จากสื่อ Digital ตา่ ง ๆ บรู ณาการเชือ่ มสาระ แนะน�าแนวทางการจัดกิจกรรมเช่ือมกับสาระหรือกลุ่มสาระการเรียนรู้ หรือวิชาอืน่ ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง
ค�ำอธิบายรายวิชา กลมุ่ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชพี เวลาเรยี น 40 ช่วั โมง / ปี การงานอาชีพ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 ศึกษาแนวทางในการท�ำงานและปรับปรุงการท�ำงานแต่ละข้ันตอน การจัดการในการท�ำงานและการท�ำงานร่วมกับ ครอบครัวและผู้อ่ืนอย่างมีมารยาท ส�ำรวจตนเองเพ่ือวางแผนในการเลือกอาชีพ ความรู้ ความสามารถ และคุณธรรมที่ สัมพันธก์ ับอาชพี ทส่ี นใจ อธบิ าย อภปิ ราย ปฏบิ ตั ิ สรา้ ง รวบรวม เลอื ก ใช้ เกบ็ รกั ษา นำ� เสนอ สำ� รวจ ระบ ุ โดยใชท้ กั ษะกระบวนการ ท�ำงาน ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการท�ำงานร่วมกัน ทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรม และลักษณะนิสัยในการท�ำงาน มีจิตส�ำนึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากรอย่างประหยัดและคุ้มค่าในการด�ำรงชีวิต ใช้ทักษะ ทจี่ ำ� เป็น ใชป้ ระสบการณ์ เห็นแนวทางในอาชีพ เพ่ือให้มีคุณธรรมและมีลักษณะนิสัยในการท�ำงาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีจิตส�ำนึกความรับผิดชอบ ประหยัด ในการใชพ้ ลังงาน ทรพั ยากรและสง่ิ แวดล้อม เพ่อื การดำ� รงชีวิตและครอบครวั ตัวชว้ี ัด ง 1.1 ป.6/1 อภิปรายแนวทางในการทำ� งานและปรบั ปรุงการทำ� งานแต่ละข้ันตอน ง 1.1 ป.6/2 ใชท้ กั ษะการจดั การในการทำ� งาน และมีทกั ษะการทำ� งานรว่ มกัน ง 1.1 ป.6/3 ปฏิบตั ิตนอยา่ งมีมารยาทในการทำ� งานกับครอบครัวและผู้อนื่ ง 2.1 ป.6/1 สำ� รวจตนเองเพ่ือวางแผนในการเลือกอาชพี ง 2.1 ป.6/2 ระบุความรู้ ความสามารถ และคุณธรรมท่ีสมั พนั ธ์กับอาชพี ที่สนใจ ร วม 5 ตัวชี้วดั
Pedagogy คมู่ ือครู การงานอาชีพ ป.6 จัดท�ำข้ึนเพื่อให้ผู้สอนน�ำไปใช้เป็นแนวทางวางแผนพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของ ผู้เรียน โดยสามารถวางแผนการจดั การเรยี นรูป้ ระกอบการใช้หนังสือเรียน การงานอาชพี ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ท่ที าง บริษทั อกั ษรเจริญทัศน์ อจท. จ�ำกัด จัดพิมพจ์ ำ� หน่าย เพอื่ ให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้วี ดั กลุ่มสาระ การเรยี นรกู้ ารงานอาชพี ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 โดยออกแบบกจิ กรรมการเรียนรู้ (Instructional Design) ให้ผู้เรยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ความสามารถ ทักษะกระบวนการท�ำงานทส่ี ะท้อนสมรรถนะสำ� คัญ และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคข์ องผเู้ รยี น ดังน้ี เป้าหมายการจัดการเรยี นการสอนสาระการงานอาชีพ ทักษะกระบวนการทำ� งาน หมายถึง การลงมอื ท�ำงานต่าง ๆ ดว้ ยตนเองให้บรรลตุ ามเปา้ หมาย โดยมีข้นั ตอน ดังน้ี สามารถแจกแจงงานท่ีจะท�ำได้ว่า สามารถวางแผนวา่ จะทำ� งานอยา่ งไร เป็นงานประเภทใดหรือลักษณะใด แบง่ หนา้ ทกี่ นั อยา่ งไร ตอ้ งใชว้ สั ดแุ ละ ต้องใช้เคร่ืองมือและอุปกรณ์อะไร อุปกรณ์อะไรในการท�ำงานครั้งน้ี บา้ ง มีขน้ั ตอนการปฏิบัตอิ ย่างไร ต้องใช้เงินในการลงทุนมากน้อย เทา่ ไร ตลอดจนหาวิธีการท�ำงานให้ ะห์ งาน ในกกาารรทวา กา ิวรเ ททคำราเปน็ ข้นั ตอนจนงานสำ� เร็จ อททำงาน สมรรถนะส�ำคัญ งแผำท นงานทกั ษะคุณลักษณะ กากรปารท อันพึงประสงค์ สามารถประเมินผลทั้งการวางแผน กระบวน ก่อนการท�ำงาน ขณะปฏิบัติงาน การทำ�งาน สามารถท�ำงานตามล�ำดับขั้นตอน และเมื่อท�ำงานส�ำเร็จ โดยขั้นตอน ที่วางแผนไว้ ฝึกให้มีลักษณะนิสัย ในการวางแผนก่อนการท�ำงานให้ ำท งารนะเมิน การลงมื ที่ดีในการทำ� งาน เชน่ พูดจาสุภาพ ประเมินว่าได้วางแผนไว้รอบคอบ เหมาะสม มีน้�ำใจ เอื้อเฟื้อเผ่ือแผ่ รดั กมุ หรอื ไม่ ขณะปฏบิ ตั ิใหป้ ระเมนิ ขยัน อดทน ซ่ือสัตย์ นอกจากน ้ี ว่าวิธีการท�ำงานเป็นอย่างไร มีข้อ ยังสามารถตรวจสอบการท�ำงาน บกพร่องท่ีควรแก้ไขอย่างไร เมื่อ ของตนเองไดเ้ ป็นระยะ งานส�ำเร็จให้ประเมินว่าผลงานท่ี ออกมาเปน็ ไปตามจดุ มงุ่ หมายหรอื ไม่ มขี อ้ ด-ี ขอ้ ดอ้ ยอยา่ งไร และปรบั ปรงุ ผลงานให้ดขี ึ้น การจดั การเรยี นการสอนตามแนวทางดังกล่าว จะท�ำใหผ้ ้เู รียนได้พัฒนาทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 อนั จะน�ำไปสู่การ ปรบั ใชไ้ ด้จริงในการด�ำเนนิ ชีวิต เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนไดร้ เู้ ท่าทันตอ่ การเปลีย่ นแปลงตา่ ง ๆ ทอ่ี าจเกิดขน้ึ ในอนาคตได้
Teacher Guide Overview การงานอาชีพ ป.6 หน่วย ตัวชี้วดั ทักษะทีไ่ ด้ เวลาที่ การประเมนิ สื่อท่ีใช้ การเรยี นรู้ ใช้ 1 ง 1.1 ป.6/1 อภปิ ราย 1. ทกั ษะการเรียง - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นและหลงั เรยี น - หนังสือเรยี น แนวทางในการทำ� งานและ ล�ำดับ - ตรวจใบงานที่ 1.1 การงานอาชีพ ป.6 การดแู ลของใช้ ปรับปรงุ การทำ� งานแต่ละ 2. ทกั ษะการ - ตรวจใบงานท่ี 1.2 - ใบงานที่ 1.1 ในบ้าน ขน้ั ตอน เชอ่ื มโยง - ตรวจใบงานท่ี 1.3 - ใบงานท่ี 1.2 ง 1.1 ป.6/2 ใช้ทักษะการ 3. ท ักษะการนำ� - ตรวจใบงานที่ 1.4 - ใบงานที่ 1.3 จัดการในการทำ� งาน และมี ความรู้ไปใช้ - ตรวจแบบวัดฯ - ใบงานท่ี 1.4 ทกั ษะการทำ� งานรว่ มกัน 6 - ประเมินการนำ� เสนอผลงาน - แ บบวัดฯ ง 1.1 ป.6/3 ปฏบิ ตั ติ นอยา่ ง ชว่ั โมง - สงั เกตพฤติกรรมการท�ำงาน การงานอาชีพ ป.6 มีมารยาทในการท�ำงานกับ รายบุคคล - คลปิ วิดีโอการ ครอบครัวและผู้อื่น - สังเกตพฤตกิ รรมการท�ำงานกลมุ่ แขง่ ขันทำ� อาหาร - สังเกตคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ - อุปกรณก์ าร ท�ำความสะอาด - PowerPoint 2 ง 1.1 ป.6/1 อภปิ ราย 1. ท กั ษะการ - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นและหลงั เรยี น - ห นงั สือเรียน แนวทางในการทำ� งานและ รวบรวมขอ้ มูล - ตรวจใบงานท่ี 2.1 การงานอาชพี ป.6 การประกอบ ปรับปรุงการทำ� งานแต่ละ 2. ทกั ษะการ - ตรวจใบงานท่ี 2.2 - บัตรภาพ อาหาร ขั้นตอน เชอื่ มโยง - ตรวจแบบวดั ฯ - แบบบันทกึ การ ง 1.1 ป.6/2 ใช้ทักษะการ 3. ทักษะการนำ� - ประเมินการนำ� เสนอผลงาน ประกอบอาหาร จัดการในการทำ� งาน และมี ความรู้ไปใช้ - สงั เกตพฤตกิ รรมการท�ำงาน - เครือ่ งปรงุ วสั ดุและ ทักษะการทำ� งานร่วมกนั 4. ทักษะการเรยี ง รายบคุ คล อุปกรณใ์ นการ ง 1.1 ป.6/3 ปฏบิ ตั ติ นอยา่ ง ล�ำดบั - สงั เกตพฤตกิ รรมการท�ำงานกล่มุ ประกอบอาหาร มีมารยาทในการท�ำงานกับ - สงั เกตคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - ใบงานที่ 2.1 ครอบครัวและผอู้ ่นื - ใบงานท่ี 2.2 6 - แบบวดั ฯ ชว่ั โมง การงานอาชพี ป.6 - PowerPoint
หนว่ ย ตวั ชี้วัด ทักษะที่ได้ เวลาที่ การประเมิน สอ่ื ท่ีใช้ การเรียนรู้ ใช้ 3 ง 1.1 ป.6/1 อภิปราย 1. ทักษะการ - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นและหลงั เรยี น - ห นังสอื เรยี น แนวทางในการทำ� งานและ รวบรวมขอ้ มลู - ตรวจใบงานท่ี 3.1 การงานอาชพี ป.6 งานเกษตร ปรบั ปรงุ การท�ำงานแตล่ ะ 2. ทักษะการ - ตรวจใบงานท่ี 3.2 - วสั ดุและอุปกรณ ์ ข้นั ตอน เชื่อมโยง - ตรวจใบงานที่ 3.3 การปลกู ง 1.1 ป.6/2 ใชท้ ักษะการ 3. ทกั ษะการเรยี ง - ตรวจใบงานที่ 3.4 ไมด้ อกไม้ประดับ จดั การในการท�ำงาน และมี ล�ำดบั - ตรวจใบงานท่ี 3.5 - วัสดแุ ละอุปกรณ์ ทกั ษะการทำ� งานร่วมกัน 4. ทักษะการ - ตรวจใบงานที่ 3.6 การปลกู ผกั สวนครัว ง 1.1 ป.6/3 ปฏบิ ตั ติ นอยา่ ง เปรียบเทยี บ - ตรวจแบบวัดฯ - บัตรภาพงานเกษตร มีมารยาทในการท�ำงานกับ 5. ทักษะการนำ� - ประเมินการนำ� เสนอผลงาน - บัตรภาพ/บัตรคำ� พืช ครอบครัวและผอู้ ่ืน ความรู้ไปใช้ 8 - สงั เกตพฤตกิ รรมการท�ำงาน - บัตรภาพปลากัด ชัว่ โมง - ใบงานที่ 3.1 รายบคุ คล - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานกล่มุ - ใบงานท่ี 3.2 - สงั เกตคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - ใบงานที่ 3.3 - ใบงานที่ 3.4 - ใบงานที่ 3.5 - ใบงานท่ี 3.6 - แ บบวดั ฯ การงานอาชีพ ป.6 - PowerPoint 4 ง 1.1 ป.6/1 อภิปราย 1. ทักษะการ - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นและหลงั เรยี น - หนงั สอื เรียน แนวทางในการทำ� งานและ รวบรวมข้อมูล - ตรวจใบงานที่ 4.1 การงานอาชีพ ป.6 งานชา่ ง ปรบั ปรุงการท�ำงานแตล่ ะ 2. ทักษะการเรียง - ตรวจใบงานที่ 4.2 - บัตรภาพงานชา่ ง ขั้นตอน ล�ำดบั - ตรวจแบบวดั ฯ - บตั รภาพอปุ กรณ์ ง 1.1 ป.6/2 ใช้ทักษะการ 3. ทักษะการ - ประเมินการนำ� เสนอผลงาน ที่ใชใ้ นการติดต้งั / จัดการในการท�ำงาน และมี เช่อื มโยง - สงั เกตพฤตกิ รรมการท�ำงาน ประกอบของใช้ ทกั ษะการท�ำงานรว่ มกนั 4. ทกั ษะการ รายบคุ คล - ใบงานท่ี 4.1 ง 1.1 ป.6/3 ปฏบิ ตั ติ นอยา่ ง เปรียบเทียบ 6 - สังเกตพฤติกรรมการทำ� งานกลมุ่ - ใบงานที่ 4.2 มีมารยาทในการท�ำงานกบั ชั่วโมง - สังเกตคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ - แบบวดั ฯ ครอบครัวและผูอ้ ่นื การงานอาชพี ป.6 - พดั ลม โคมไฟ - อปุ กรณ์ท่ีใช้ในการ ติดตงั้ และประกอบ ของใช้ - PowerPoint
Teacher Guide Overview การงานอาชีพ ป.6 หน่วย ตัวชีว้ ดั ทักษะทไี่ ด้ เวลาท่ี การประเมิน สอื่ ที่ใช้ การเรยี นรู้ ใช้ 5 ง 1.1 ป.6/1 อภิปราย 1. ท กั ษะการ - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นและหลงั เรยี น - หนงั สือเรียน แนวทางในการทำ� งานและ รวบรวมขอ้ มูล - ตรวจใบงานที่ 5.1 การงานอาชีพ ป.6 งานประดษิ ฐ์ ปรับปรงุ การท�ำงานแตล่ ะ 2. ทักษะการเรียง - ตรวจใบงานที่ 5.2 - บตั รภาพ ข้นั ตอน ล�ำดบั - ตรวจแบบวัดฯ - อุปกรณท์ ใี่ ชใ้ น ง 1.1 ป.6/2 ใช้ทกั ษะการ 3. ทกั ษะการ 6 - ประเมนิ การนำ� เสนอผลงาน งานประดิษฐ์ จดั การในการทำ� งาน และมี เช่ือมโยง ชั่วโมง - สังเกตพฤตกิ รรมการท�ำงาน - ใบงานท่ี 5.1 ทกั ษะการทำ� งานรว่ มกนั 4. ทักษะการ รายบุคคล - ใบงานท่ี 5.2 ง 1.1 ป.6/3 ปฏบิ ตั ติ นอยา่ ง ประเมนิ - สังเกตพฤติกรรมการทำ� งานกล่มุ - แบบวัดฯ มมี ารยาทในการท�ำงานกบั - สังเกตคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ การงานอาชีพ ป.6 ครอบครัวและผู้อื่น - PowerPoint 6 ง 1.1 ป.6/1 อภปิ ราย 1. ทักษะการ - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นและหลงั เรยี น - หนังสอื เรียน แนวทางในการทำ� งานและ รวบรวมข้อมูล - ตรวจใบงานที่ 6.1 การงานอาชีพ ป.6 งานธรุ กจิ ปรบั ปรุงการท�ำงานแตล่ ะ 2. ทักษะการ - ตรวจใบงานที่ 6.2 - บัตรภาพ ขั้นตอน เชอ่ื มโยง - ตรวจใบงานท่ี 6.3 - ใบงานที่ 6.1 ง 1.1 ป.6/2 ใช้ทกั ษะการ 3. ทกั ษะการเรยี ง 4 - ตรวจแบบวัดฯ - ใบงานที่ 6.2 จดั การในการทำ� งาน และมี ล�ำดบั ชั่วโมง - ประเมนิ การนำ� เสนอผลงาน - ใบงานที่ 6.3 ทกั ษะการทำ� งานรว่ มกนั 4. ทกั ษะการ - สงั เกตพฤตกิ รรมการท�ำงาน - แบบวัดฯ ง 1.1 ป.6/3 ปฏบิ ตั ติ นอยา่ ง ประเมิน รายบุคคล การงานอาชพี ป.6 มีมารยาทในการท�ำงานกบั - สงั เกตพฤติกรรมการทำ� งานกลุ่ม - PowerPoint ครอบครัวและผู้อ่นื - สงั เกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์
หนว่ ย ตวั ชวี้ ัด ทักษะทีไ่ ด้ เวลาที่ การประเมิน สื่อทใ่ี ช้ การเรียนรู้ ใช้ 7 ง 2.1 ป.6/1 สำ� รวจตนเอง 1. ทกั ษะการ - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นและหลงั เรยี น - หนังสือเรียน เพื่อวางแผนในการเลอื ก จ�ำแนกประเภท - ตรวจใบงานท่ี 7.1 การงานอาชพี ป.6 การประกอบ อาชีพ 2. ทกั ษะการ - ตรวจแบบวดั ฯ - บตั รภาพ อาชีพ ง 2.1 ป.6/2 ระบคุ วามรู้ จดั กล่มุ - ประเมินการนำ� เสนอผลงาน - บัตรคำ� อาชีพ ความสามารถ และคณุ ธรรม 3. ทักษะการ 4 - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน - ใบงานท่ี 7.1 ทีส่ มั พันธก์ บั อาชพี ที่สนใจ เชอื่ มโยง ชัว่ โมง รายบุคคล - แ บบวดั ฯ - สังเกตพฤตกิ รรมการทำ� งานกลมุ่ 4. ทักษะ การงานอาชพี ป.6 กระบวนการ - สงั เกตคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ - PowerPoint แกป้ ญั หา 5. ทกั ษะการ ประเมนิ
สำรบัญ Chapter Title Chapter Teacher Overview Script หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 กำรดแู ลของใชใ้ นบ้ำน T5-T14 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 2 กำรประกอบอำหำร T1-T4 T17-T30 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 งำนเกษตร T15-T16 T35-T50 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 4 งำนช่ำง T31-T34 T53-T60 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 งำนประดิษฐ T51-T52 T63-T70 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 งำนธรุ กจิ T61-T62 T73-T82 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 7 กำรประกอบอำชพี T71-T72 T85-T92 T83-T84 โครงงำนกำรงำนอำชีพ T93 กิจกรรมบรู ณำกำรเศรษฐกิจพอเพียง T93 บรรณำนุกรม T94
Chapter Overview แผนการจดั สื่อที่ใช้ จดุ ประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลกั ษณะ การเรียนรู้ อันพึงประสงค์ แผนฯ ท่ี 1 - หนังสือเรยี น 1. บอกทกั ษะการจดั การ วธิ ีสอนโดยเนน้ - ตรวจแบบทดสอบ 1. ทกั ษะการ 1. มีวินยั ทักษะการจดั การ การงานอาชีพ ป.6 ในการทำ� งานได้ กระบวนการ ก่อนเรยี น หน่วยการ เรียงลำ� ดบั 2. ตรงตอ่ เวลา ในการทำ� งาน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 2. ใชท้ กั ษะการจดั การ สร้างความ เรียนร้ทู ่ี 1 2. ทกั ษะการ 3. มคี วาม - PowerPoint ในการทำ� งานและ ตระหนกั - ตรวจแผนผังความคดิ เชื่อมโยง 1 - คลปิ วดิ โี อการแขง่ ขนั มที กั ษะการทำ� งาน - ประเมินการนำ� เสนอ รบั ผิดชอบ ทำ� อาหาร รว่ มกนั ชวั่ โมง 3. มีมารยาทท่ดี ใี น ผลงาน 1. มวี ินยั - สังเกตพฤติกรรม 2. ใฝเ่ รยี นรู้ การท�ำงานรว่ มกบั การทำ� งานรายบคุ คล 3. ม่งุ มน่ั ในการ ผ้อู นื่ - สังเกตพฤติกรรม ทำ� งาน การทำ� งานกลุ่ม - สงั เกตความมวี ินยั ตรงตอ่ เวลา และ มคี วามรบั ผดิ ชอบ แผนฯ ที่ 2 - หนังสอื เรียน 1. บอกวธิ กี ารดแู ลรกั ษา วิธสี อนแบบ - ตรวจใบงานที่ 1.1 1. ทกั ษะการ การงานอาชพี ป.6 สง่ิ ของเครื่องใช้ กระบวนการ - ตรวจกิจกรรมที่ 1.1 เรยี งลำ� ดับ การดูแลรักษา หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ภายในบ้านได้ กลุ่มสมั พนั ธ์ เคร่ืองเรอื น - แบบวดั ฯ 2. ดแู ลรักษาส่ิงของ จากแบบวัดฯ 2. ทักษะการ การงานอาชีพ ป.6 เคร่อื งใช้ภายในบ้าน การงานอาชีพ ป.6 เชื่อมโยง 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 โดยใช้ทักษะการ - สงั เกตพฤตกิ รรม 3. ทักษะการนำ� - อปุ กรณ์การทำ� จัดการในการทำ� งาน การทำ� งานรายบุคคล ความรไู้ ปใช้ ช่วั โมง - สงั เกตพฤตกิ รรม การทำ� งานกลุม่ ความสะอาด ได้อย่างเป็นขน้ั ตอน - สงั เกตความมีวินยั - ใบงานที่ 1.1 การดูแล 3. ปฏิบตั ิตนอยา่ งมี ใฝเ่ รยี นรู้ และม่งุ มั่น รักษาสงิ่ ของเครือ่ งใช้ มารยาทในการ ในการทำ� งาน ภายในบ้าน ท�ำงานกับครอบครัว และผู้อ่นื 4. มีจติ สำ� นกึ ในการใช้ พลงั งานและ ทรพั ยากรอย่าง ประหยดั และคุ้มค่า T1
Chapter Overview แผนการจดั ส่ือท่ีใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทกั ษะที่ได้ คณุ ลักษณะ การเรยี นรู้ อนั พงึ ประสงค์ - หนงั สอื เรียน 1. บอกวธิ กี ารดแู ลรักษา วธิ ีสอนแบบ - ตรวจกจิ กรรมท่ี 1.2 1. ทักษะการ แผนฯ ที่ 3 การงานอาชีพ ป.6 หอ้ งนอนได้ กระบวนการ ข้อ 1 แบบวดั ฯ เรยี งลำ� ดับ 1. มวี นิ ยั หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 2. ดูแลรักษาห้องนอน กลุ่มสมั พันธ์ การงานอาชีพ ป.6 2. ทักษะการ 2. ตรงตอ่ เวลา การดูแลรักษา - แบบวัดฯ การงาน โดยใชท้ ักษะการ - ตรวจกจิ กรรมท่ี 1.2 เช่ือมโยง 3. มีความ ความสะอาด อาชีพ ป.6 จัดการในการทำ� งาน ขอ้ 2 จากแบบวดั ฯ 3. ทักษะการนำ� หอ้ งนอน รับผิดชอบ 1 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 ได้อยา่ งเปน็ ข้ันตอน การงานอาชพี ป.6 ความรู้ไปใช้ - อุปกรณก์ ารท�ำ 3. ปฏิบัตติ นอย่าง - ตรวจใบงานที่ 1.2 ชั่วโมง ความสะอาด มีมารยาทในการ - สังเกตพฤติกรรม - ใบงานท่ี 1.2 การดแู ล ทำ� งานกับครอบครวั การทำ� งานรายบคุ คล รกั ษาความสะอาด และผอู้ ่นื - สังเกตพฤติกรรม ห้องนอน 4. มจี ติ สำ� นึกในการ การทำ� งานกลมุ่ ใช้พลงั งานและ - สังเกตความมวี นิ ยั ทรัพยากรอยา่ ง ตรงตอ่ เวลา และ ประหยัดและคมุ้ ค่า มีความรับผดิ ชอบ T2
Chapter Overview แผนการจัด ส่ือที่ใช้ จดุ ประสงค์ วธิ สี อน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลกั ษณะ การเรยี นรู้ อนั พงึ ประสงค์ - หนงั สือเรยี น 1. บอกวธิ ีการดแู ลรักษา วิธสี อนแบบ - ตรวจกิจกรรมที่ 1.3 1. ทกั ษะการ แผนฯ ท่ี 4 การงานอาชพี ป.6 ห้องนำ้� ได้ กระบวนการ ขอ้ 2 จากแบบวัดฯ เรยี งลำ� ดบั 1. มวี ินัย หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 2. ดูแลรักษาห้องนำ้� โดย กล่มุ สมั พนั ธ์ การงานอาชีพ ป.6 2. ทักษะการ 2. ตรงตอ่ เวลา การดแู ลรักษา - แบบวดั ฯ ใชท้ กั ษะการจัดการ 3. มีความ ความสะอาด การงานอาชพี ป.6 ในการทำ� งานได้อยา่ ง - ตรวจใบงานท่ี 1.3 เช่อื มโยง หอ้ งน�้ำ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เปน็ ขนั้ ตอน - สงั เกตพฤตกิ รรมการ 3. ทกั ษะการนำ� รบั ผิดชอบ - อปุ กรณก์ ารท�ำ 3. ปฏิบตั ิตนอย่างมี 1 ความสะอาด มารยาทในการ ทำ� งานรายบคุ คล ความรไู้ ปใช้ 1. มีวินยั - ใบงานท่ี 1.2 การดแู ล ทำ� งานกับครอบครวั - สังเกตพฤติกรรมการ 2. ตรงต่อเวลา ชว่ั โมง รักษาความสะอาด และผู้อนื่ 3. มคี วาม ห้องน้�ำ 4. มจี ติ สำ� นึกในการใช้ ทำ� งานกลมุ่ แผนฯ ท่ี 5 พลงั งานและ - สงั เกตความมวี ินยั รับผิดชอบ การดูแลรกั ษา ตรงต่อเวลา และ ความสะอาด มีความรบั ผิดชอบ หอ้ งรับแขก ทรัพยากรอยา่ ง 1 ประหยดั และค้มุ ค่า ชัว่ โมง - หนงั สือเรียน 1. บอกวธิ ีการดแู ลรักษา วธิ สี อนโดยใช้ - ตรวจกิจกรรมที่ 1.2 1. ทักษะการ การงานอาชีพ ป.6 ห้องรับแขกได้ การสาธิต ข้อ 1 จากแบบวัด เรยี งลำ� ดบั หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 การงานอาชพี ป.6 2. ทกั ษะการ 2. ดแู ลรกั ษาห้อง - แบบวดั ฯ รับแขกโดยใช้ทกั ษะ - สงั เกตพฤติกรรม เชอ่ื มโยง การงานอาชีพ ป.6 การจัดการในการ การทำ� งานรายบุคคล 3. ทักษะการนำ� หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 ท�ำงานได้อย่างเป็น ขัน้ ตอน - สังเกตพฤติกรรม ความรูไ้ ปใช้ - อปุ กรณ์การทำ� ความ การทำ� งานกลุ่ม สะอาด 3. ปฏิบตั ิตนอยา่ งมี มารยาทในการ - สงั เกตความมวี ินัย ท�ำงานกับครอบครวั ตรงตอ่ เวลา และ และผูอ้ ่นื มคี วามรับผิดชอบ 4. มีจิตสำ� นกึ ในการใช้ พลังงานและ ทรพั ยากรอย่าง ประหยัดและค้มุ ค่า T3
Chapter Overview แผนการจดั ส่อื ที่ใช้ จุดประสงค์ วธิ ีสอน ประเมนิ ทกั ษะท่ีได้ คณุ ลกั ษณะ การเรียนรู้ อนั พึงประสงค์ - หนงั สอื เรียน 1. บอกวิธีการดแู ลรักษา วธิ สี อนโดยเน้น - ตรวจแบบทดสอบ 1. ทักษะการ แผนฯ ท่ี 6 การงานอาชพี ป.6 ห้องครวั ได้ กระบวนการ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรยี งลำ� ดับ 1. มีวนิ ัย หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 2. ดแู ลรกั ษาหอ้ งครัว ปฏบิ ตั ิ จากแบบวดั ฯ 2. ทักษะการ 2. ตรงต่อเวลา การดแู ลรกั ษา - แบบวดั ฯ โดยใช้ทกั ษะการ การงานอาชพี ป.6 เชอ่ื มโยง 3. มีความ ความสะอาด การงานอาชีพ ป.6 จดั การในการทำ� งาน - ตรวจใบงานท่ี 1.4 3. ทักษะการนำ� หอ้ งครวั รับผิดชอบ 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ได้อยา่ งเป็นขั้นตอน - ตรวจแบบทดสอบ ความรไู้ ปใช้ - อปุ กรณก์ ารท�ำ 3. ปฏบิ ัติตนอยา่ งมี หลงั เรียน ชว่ั โมง ความสะอาด มารยาทในการ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 - ใบงานท่ี 1.4 การดแู ล ทำ� งานกบั ครอบครวั - สงั เกตพฤติกรรม รักษาความสะอาด และผอู้ ื่น การทำ� งานรายบคุ คล ห้องครัว 4. มจี ติ สำ� นกึ ในการใช้ - สงั เกตพฤติกรรม พลังงานและ การทำ� งานกลมุ่ ทรพั ยากรอยา่ ง - สงั เกตความมวี นิ ยั ประหยัดและคมุ้ ค่า ตรงตอ่ เวลา และ มคี วามรับผดิ ชอบ T4
นาํ สสออนน สรุป ประเมิน ñ ¡Òôá٠ŢͧãªãŒ ¹ºÒŒ ¹Ë¹Ç‹ ¡ÒÃàÃÂÕ ¹Ã·ŒÙ Õè ขนั้ นาํ กจิ กรรมนา� Êก‹Ù ารàรÂÕ น เพ่อื น ๆ มวี ิธดี ูแลรกั ษา 1. นักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวยการ ของใชในบานอยางไร เรยี นรทู ่ี 1 การดแู ลของใชใ นบา น จากแผนการ จดั การเรยี นรู 2. ครใู หน กั เรยี นดคู ลปิ วดิ โี อ การแขง ขนั ทาํ อาหาร แบบกลุม จากรายการแขงขันทําอาหารของ เดก็ เชน รายการมาสเตอรเ ชฟจเู นียร 3. ครถู ามคําถามกระตุนความคิด • กลมุ เดก็ ๆ ในคลปิ ทาํ อาหารสาํ เรจ็ ไดอ ยา งไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอ ยใู นดลุ ยพินจิ ของครูผูสอน) 4. ครแู ละนักเรยี นรว มกันสรุปขอ คิดทไ่ี ดจากการ ดูคลิปวิดีโอ ขนั้ สอน สงั เกต 1. ครถู ามนกั เรยี นเกยี่ วกบั การทาํ งานบา นทนี่ กั เรยี น เคยทาํ วา มีขั้นตอนในการทํางานบา นอยางไร แลว ใหน กั เรยี นจบั คกู บั เพอื่ นผลดั กนั บอกลาํ ดบั ข้นั ตอนในการทํางานบาน 2. ครสู มุ ตวั แทนนกั เรยี นออกมาเลา ลาํ ดบั ขน้ั ตอน ในการทาํ งานบา น แลว ครเู สรมิ ความรเู พม่ิ เตมิ ใหนกั เรียนเขา ใจ ÊÒÃÐÊÒí ¤ÞÑ à»Ò‡ ËÁÒ¡ÒÃàÃÂÕ ¹Ã»ŒÙ ÃШÒí ˹Nj ¡ÒÃàÃÂÕ ¹Ã·ŒÙ Õè ñ บ้านเปน็ ที่อยู่อาศัย เราจงึ ตอ้ งช่วยกันดแู ล ๑. อภปิ รายแนวทางในการดแู ลรกั ษาของใชใ้ นบา้ น (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๑) รกั ษาบา้ นและสง่ิ ของเครอ่ื งใชใ้ นบา้ นใหส้ ะอาด ๒. ด ูแลรักษาของใช้ในบ้านอย่างเป็นข้ันตอนตามล�าดับที่วางแผนไว้ เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อให้บ้านสะอาดและ นา่ อย ู่ ซงึ่ สมาชกิ ทกุ คนในครอบครวั ควรชว่ ยกนั และประเมนิ ทุกขน้ั ตอนเพือ่ การแก้ไขและปรบั ปรงุ ผลงาน ทา� ความสะอาดบา้ นและปฏบิ ตั ติ นอยา่ งมมี ารยาท (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๑) ในการท�างานรว่ มกบั ครอบครวั และผอู้ น่ื ๓. ใช้ทักษะการจัดการในการท�างานและมีทักษะการท�างานร่วมกัน ในการดแู ลรักษาของใช้ในบา้ น (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๒) ๔. ปฏบิ ตั ติ นอยา่ งมมี ารยาทในการทา� งานรว่ มกบั ครอบครวั และผอู้ น่ื (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๓) ๕. มีจิตส�านึกในการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างประหยัดและ คมุ้ ค่า (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๓) กิจกรรม เสรมิ สรางคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค เกร็ดแนะครู ครูนําภาพอุปกรณการทําความสะอาด เชน แปรงขัดหองนํ้า ครูจัดกระบวนการเรยี นรูโดยการใหน กั เรียนปฏบิ ัติ ดงั นี้ แผนใยขัด ไมกวาดดอกหญา ไมกวาดขนไก มาติดบนกระดาน • สืบคน ขอ มลู เกยี่ วกับการดแู ลของใชใ นบา น แลวใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นวา นักเรียนเคยทําความ • อภปิ รายวธิ กี ารดแู ลของใชในบา น สะอาดบานดวยอุปกรณเหลาน้ีหรือไม อุปกรณเหลาน้ีมีวิธีการ • ฝก ดแู ลของใชใ นบา น ใชง านและการดแู ลรกั ษาอยา งไร จากนน้ั ใหน กั เรยี นชว ยผปู กครอง จนเกดิ เปน ความรคู วามเขา ใจวา การศกึ ษาขนั้ ตอนและวธิ กี ารดแู ลของใช ทําความสะอาดบานอยางนอยสัปดาหละ 1 คร้ัง และรายงานผล ในบา นเปนสิ่งท่ีจําเปน เพราะชวยใหดูแลของใชในบานไดอยางมีประสิทธิภาพ กับครูเปนประจําทกุ สัปดาห ประหยัดเวลา และปลอดภยั T5
นาํ สอน สรุป ประเมนิ ขนั้ สอน ñ ¡Ãкǹ¡Ò÷íÒ§Ò¹ วิเคราะห์วิจารณ์ การท�างานตา่ ง ๆ เชน่ การท�างานบา้ น ควรวางแผนโดยใช้ทักษะการ จดั การในการทา� งาน ทา� งานอยา่ งเปน็ ขนั้ ตอน และมมี ารยาทในการทา� งาน 1. ครูถามคําถามกระตนุ ความคดิ ร่วมกนั เพ่อื ใหท้ �างานไดส้ �าเรจ็ ครบถ้วน • เพราะเหตใุ ด กอ นทนี่ กั เรยี นจะลงมอื ทาํ งาน ตามที่ไดรับมอบหมาย นักเรียนตองมีการ ๑. ทกั ษะการจัดการในการท�างาน วางแผนในการทํางาน (แนวตอบ : เพราะการวางแผนในการทํางาน ทกั ษะการจดั การ หมายถงึ กระบวนการดา� เนนิ งานทที่ า� อยา่ งเปน็ จะทําใหร ขู น้ั ตอนในการทาํ งาน และทาํ งาน ระบบ เพ่อื ใหท้ า� งานต่าง ๆ ไดส้ ะดวกและสา� เร็จตามเปา หมาย ไดสําเรจ็ ตามเวลา) ขน้ั ตอนการใชท กั ษะการจดั การในการทาํ งาน 2. ครูยกตัวอยางการทํางานบานท่ีมีการวางแผน ลวงหนากับการทํางานบานที่ไมมีการวางแผน ๑ สาํ รวจและ ๒ วางแผน ๓ ปฏบิ ตั งิ าน ลวงหนา แลวนักเรียนชวยกันวิเคราะหถึงผล ที่เกดิ ข้ึน วเิ คราะหงาน การทํางาน และสรุปผลงาน 3. นักเรียนศึกษาความรูจากหนังสือเรียน เกบ็ รวบรวมข้อมูล กา� หนดแนวทางขนั้ ตอน ทา� งานตามแนวทาง การงานอาชีพ ป.6 เรื่อง ทักษะการจัดการ รายละเอียดของงาน การท�างานและวิธีการ หรอื ขน้ั ตอนทกี่ า� หนดไว้ ในการทํางาน แลวใหน กั เรียนคเู ดมิ รวมแสดง เพื่อใหก้ ารท�างาน ทา� งานไวล้ ว่ งหนา้ อยา่ ง และสรปุ ผลของการ ความคิดเห็น โดยเขียนเปนแผนผังความคิด ประสบผลส�าเร็จ เป็นระบบและชัดเจน ทา� งานเพือ่ ตรวจสอบ ตามเปา หมาย หาขอ้ บกพร่องและ 4. ครูใหนักเรียนดูภาพการทํางานรวมกัน ครู แนวทางการแก้ไขและ สนทนากับนักเรียนวาเคยทํางานรวมกับผูอื่น ปรับปรงุ หรือไม และการทํางานรวมกับผูอื่นมีวิธีการ อยางไร ประโยชน ของการใชท้ ักษะการจดั การในการท�างาน ๑. ทา� ใหท้ ราบลว่ งหนา้ วา่ ตอ้ งทา� อะไร เมอื่ ใด และควรทา� อะไรกอ่ นหรอื หลงั 5. ครใู หน กั เรยี นแสดงความคดิ เหน็ วา “ถา นกั เรยี น ๒. ท า� ใหแ้ บง่ หนา้ ทกี่ นั ทา� งานไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ทา� งานทร่ี บั ผดิ ชอบไดค้ รบ ตอ งทาํ งานรว มกบั คขู องตนเอง นกั เรยี นตอ งมี มารยาทในการทํางานอยางไรบาง” โดยเขียน ทุกรายการ และช่วยให้งานส�าเรจ็ ตามเปา หมาย เปนแผนผังความคดิ ๓. ท�าให้เป็นคนมีความรบั ผดิ ชอบ มเี หตุผล และมีความรอบคอบ ๔. ใชเ้ วลาในการท�างานให้เกดิ ประโยชน์และคุ้มคา่ 6. ครใู หค วามรเู กยี่ วกบั มารยาทในการทาํ งานรว ม กบั ผอู นื่ ๒ กจิ กรรม สรางเสรมิ บรู ณาการเชอ่ื มสาระ ครใู หน กั เรยี นหาภาพหอ งตา งๆ ภายในบา นของตนเอง 1 หอ ง ครูใหนักเรียนนําทักษะการจัดการในการทํางานทั้ง 3 ข้ันตอน คือ เพื่อเขียนบรรยายวิธีการทําความสะอาดโดยใชทักษะการจัดการ 1. สาํ รวจและวิเคราะหง าน 2. วางแผนการทาํ งาน 3. ปฏบิ ตั ิงานและสรปุ จากนนั้ นาํ มาแลกเปลย่ี นกันดูกบั เพือ่ น ผลงาน จากหนังสือเรียนการงานอาชีพ ป.6 มาใชใ นการทํางานในวิชาอ่ืนๆ เชน การใชท กั ษะการจดั การในการทาํ รายงานวชิ าสงั คมศกึ ษา การใชท กั ษะ การจดั การในการทํางานศิลปะ แลว ใหนักเรียนออกมานําเสนอหนาชัน้ เรียน T6
นาํ สอน สรปุ ประเมิน ๒. มารยาทในการทา� งานร่วมกนั ขน้ั สอน การทา� งานตา่ ง ๆ รว่ มกบั ผอู้ น่ื จา� เปน็ ตอ้ งมมี ารยาทในการทา� งาน สรุป เพ่ือให้งานที่ท�าส�าเร็จตามเปาหมาย และท�างานร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างมี ความสุข มารยาทในการท�างานท่ีนักเรยี นควรรแู้ ละปฏิบตั ิ ได้แก่ 1. ครถู ามคาํ ถามกระตนุ ความคดิ • เพราะเหตุใด การทํางานรวมกับผูอื่นจึง ๑ ตรงต่อเวลาและมีความรับผิดชอบต่องานที่ไดร้ บั มอบหมาย จาํ เปน ตอ งรบั ฟง ความคดิ เห็นของผูอ่ืน ๒ แบง่ หน้าท่ีในการทา� งานกนั อย่างเหมาะสม (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น ๓ ตงั้ ใจท�างาน ใส่ใจในรายละเอยี ดตา่ ง ๆ และกระตอื รือรน้ ในการทา� งาน โดยใหอ ยูในดลุ ยพนิ ิจของครูผสู อน) ๔ มมี นษุ ยสมั พนั ธท์ ดี่ ตี อ่ เพอื่ นรว่ มงานและกลา่ วชน่ื ชมเพอ่ื นรว่ มงานตามความเหมาะสม ๕ รบั ฟงั ความคิดเห็นของผ้อู ื่นและแสดงความคิดเหน็ ในการทา� งานอยา่ งมีเหตผุ ล 2. นกั เรยี นออกมานาํ เสนอแผนผงั ความคดิ การใช ทักษะการจัดการในการทํางานและมารยาท ò ¡ÒôÙáźŒÒ¹áÅÐÊè§Ô ¢Í§à¤ÃèÍ× §ãªŒ ในการทาํ งานรว มกบั ผอู นื่ และรวมกันสรุป การดูแลรกั ษาบ้านและสงิ่ ของเคร่อื งใชใ้ นบา้ นให้สะอาด เป็นระเบียบ ขน้ั สรปุ เรียบร้อยอยู่เสมอ ช่วยท�าให้บ้านนา่ อยอู่ าศยั และปลอดภัยจากอุบตั เิ หตุ ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูที่ไดรับจาก ๑. การใช้ทักษะการจดั การในการทา� งานบา้ น การใชท กั ษะการจดั การในการทาํ งานและมารยาท ในการทาํ งานรว มกับผอู นื่ การท�างานบ้านสามารถน�าทักษะการจัดการมาใช้ ดังนี้ ขน้ั ประเมนิ µÇÑ ÍÂÒ‹ § การทาํ ความสะอาดหอ งนอน ครูตรวจแผนผังความคิดการใชทักษะการ จัดการในการทํางานและมารยาทในการทํางาน รวมกบั ผอู ่ืน ๑ สาํ รวจและวเิ คราะหง าน ๒ วางแผนการทาํ งาน • งานบ้านท่ีต้องท�า • ข้นั ตอนที่ ๑ - ทา� ความสะอาดหอ้ งนอน • - ทา� ความสะอาดเพดานและผนงั หอ้ ง ขน้ั ตอนท่ี ๒ • ผรู้ ับผิดชอบ • - เ ปลยี่ นผา้ ปทู นี่ อนและปลอกหมอน ขน้ั ตอนที่ ๓ - ฉันและพีช่ าย - ทา� ความสะอาดพืน้ ห้องและถูพน้ื ๓ ปฏบิ ตั งิ านและสรปุ ผลงาน • วสั ดอุ ุปกรณทใ่ี ช้ - ไมก้ วาดหยากไย ่ ไมก้ วาดขนไก่ ไม้กวาดดอกหญ้า ท่ตี กั ผง ไมถ้ พู ้ืน และถงั น�า้ ••• ปฏบิ ัติตามแผนที่วางไว้ สรุปผลและตรวจสอบขอ้ บกพรอ่ ง • ระยะเวลา ๑ ชั่วโมง หาวธิ ีแกไ้ ขขอ้ บกพรอ่ งจนส�าเร็จ ๓ ขอสอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู ใครมมี ารยาทในการทํางานรวมกับผูอ่นื ครจู ัดกระบวนการเรียนรูโดยใหนกั เรียนปฏบิ ตั ิ ดงั นี้ 1. นิดทํางานเฉพาะของตนเอง • สืบคนขอ มูลเกีย่ วกบั มารยาทในการทํางานรวมกัน 2. หนอ ยกบั เพอื่ นคยุ เสยี งดงั เวลาทํางาน • อภปิ รายวธิ กี ารดแู ลรกั ษาบา นและสง่ิ ของเครอ่ื งใชภ ายในบา นรว มกบั ผอู นื่ 3. นํ้าใชความคดิ เหน็ สว นตัวในการวางแผนงาน 4. นุชแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นกับเพอื่ นกอ นลงมือทาํ งาน อยา งมมี ารยาท • ฝก ดแู ลของใชใ นบา นรวมกบั สมาชิกในครอบครัว เชน ผปู กครอง พน่ี อ ง (วเิ คราะหค าํ ตอบ:การทาํ งานรว มกบั ผอู นื่ ควรพดู คยุ และแลกเปลยี่ น ความคิดเห็นกับเพ่ือนรวมงานกอนลงมือทํางานเสมอ เพ่ือใหได อยางมมี ารยาท ขอตกลงในการทํางานรวมกันและสามารถทํางานใหสําเร็จตาม เพ่ือใหเกิดเปนความรูความเขาใจวา การมีมารยาทในการทํางานตางๆ เปา หมายได ดังน้นั ขอ 4. จงึ เปน คําตอบทีถ่ กู ตอ ง) รว มกบั ผอู ื่นเปน สงิ่ ที่จําเปน และทําใหง านสําเรจ็ ตามเปา หมาย T7
นาํ นาํ สอน สรุป ประเมิน ขน้ั นาํ ๒. การดูแลรักษาส่ิงของเครือ่ งใชใ้ นบ้าน นาํ เข้าสบู ทเรียน สง่ิ ของเครอ่ื งใชใ้ นบา้ นมหี ลายประเภท หลายลกั ษณะ แตกตา่ งกนั ไปตามประโยชน์ในการใช้สอยและวสั ดทุ ่ผี ลติ เช่น ชั้นวางของ ตูเ้ สือ้ ผา้ 1. ครเู ตรยี มตวั อยา งอปุ กรณใ นการทาํ ความสะอาด เครอ่ื งใชไ้ ฟฟา โตะ เราควรดแู ลรกั ษาสง่ิ ของเครอ่ื งใชแ้ ตล่ ะชนดิ ใหถ้ กู ตอ้ ง เครอ่ื งเรอื นใหนกั เรียนดู เพอ่ื ใหส้ งิ่ ของเครอ่ื งใชน้ น้ั มอี ายกุ ารใชง้ านทย่ี าวนานขนึ้ นอกจากน ้ี ยงั เปน็ การชว่ ยประหยัดทรัพยากรและรจู้ กั ใชส้ ิ่งของเครื่องใชใ้ หค้ มุ้ ค่า 2. นกั เรยี นแบง กลมุ ตามความสมคั รใจ แลว ชว ยกนั เรยี งลาํ ดบั การใชง านอปุ กรณท ค่ี รจู ดั เตรยี มมา การดูแลรักษาสง่ิ ของเครอ่ื งใชในบาน 3. ครูใหความรูเก่ียวกับความสําคัญในการเลือก ๑ เคร่ืองเรอื นท่ที าํ มาจากไม พลาสติก หรอื กระจก ใชอ ปุ กรณก ารทาํ ความสะอาดและการวางแผน เชน่ ตเู้ สอ้ื ผา้ โตะ เก้าอี้ จัดลาํ ดบั ข้ันตอนในการทาํ งาน • ใชไ้ มก้ วาดขนไกป่ ดั ฝนุ แลว้ ใชผ้ า้ ชบุ นา�้ บดิ หมาด ๆ เชด็ จนสะอาด ขน้ั สอน • ใช้น�้ายาท�าความสะอาดส�าหรับไม้หรือกระจก โดย ทา� ตามคา� แนะน�าการใช้บนบรรจุภณั ฑ์ การจดั การเรียนรู้ ๒ เครื่องเรอื นท่ที าํ มาจากหนัง 1. ครูใหนักเรียนศึกษาความรูจากหนังสือเรียน เช่น โซฟา เก้าอ้ี การงานอาชีพ ป.6 เรื่อง การดูแลรักษา • ใชไ้ มก้ วาดขนไกป่ ัดฝุน สิ่งของเครื่องใชในบาน แลวรวมกันอภิปราย • ใชผ้ า้ ชบุ นา�้ ยาขดั เงาเชด็ ใหท้ ว่ั แลว้ ใชผ้ า้ แหง้ และสรุปขอมูลความรูท่ีไดจากการศึกษาจน ถูจนข้นึ เงา มีความเขา ใจ ๓ ภาชนะที่เปน อะลูมิเนียมหรือพลาสติก 2. ครูนํานักเรียนไปที่หองการงานอาชีพหรือครู เชน่ กะละมงั หมอ้ กระทะ จดั เตรยี มหอ งเรยี นไว เพอ่ื ใหน กั เรยี นฝก ปฏบิ ตั ิ • เมอ่ื ใชเ้ สรจ็ แลว้ ตอ้ งลา้ งใหส้ ะอาดดว้ ยนา้� ยาลา้ งจาน การดแู ลรกั ษาสิง่ ของเครอื่ งใชใ นบาน • ถ้าภาชนะท่ีเปน็ อะลมู เิ นียมมีรอยร่วั ตอ้ งรบี ปะหรือ ออุะดลรูมูรั่วเิ นทยีันมท1ปี โะดทยี่รเอชย็ดรภ่ัวา ชแนล้วะกใหดแ้ ใหห้เ้งรสยี นบทิ และใช้แผน่ 3. สมาชกิ ในกลมุ วางแผนการทาํ งานรว มกนั แลว ๔ ใหนักเรียนสํารวจส่ิงของเคร่ืองใชภายในบาน ทค่ี รูจัดเตรียมไว 4. นักเรียนแตละกลุมสาธิตวิธีการดูแลรักษา ส่ิงของเครื่องใชในบาน แลวตรวจสอบ ความถูกตองของกลุมตนเองและฝกปฏิบัติ ตามตัวอยาง ครูสังเกตการปฏิบัติและให ขอ เสนอแนะและวิธีการแกไข นักเรียนควรรู กจิ กรรม สรางเสริม 1 แผน อะลมู เิ นยี ม คอื เทปกาวทผ่ี ลติ จากแผน อะลมู เิ นยี มฟอยล เหมาะกบั งาน ครูแจกบัตรภาพเครื่องใชในบาน เชน โตะ เกาอ้ี ไมกวาด ซอมแซมรอยรว่ั ตางๆ เชน หลงั คา ทอ น้ํา รางนา้ํ สามารถยดึ เกาะกับวัสดุไดด ี หมอ กระทะ ใหนักเรียนกลุมละ 1 ใบ แลวใหนักเรียนรวมกัน ทนความรอ นและความชื้นได อภิปรายวธิ กี ารดแู ลรกั ษา จากนน้ั ออกมานาํ เสนอทห่ี นาช้นั เรียน T8
นํา สอน สรุป ประเมิน ๔ เครอื่ งมือ เครอ่ื งใชในการทาํ งานตาง ๆ ¹éíÒÁѹ¨Ñ¡Ã ขนั้ สอน เชน จอบ เสียม เลือ่ ย กรรไกร • เมือ่ ใชง านเสรจ็ แลว ตอ งรีบทาํ ความสะอาดให สรุปและนําหลักการไปประยกุ ต์ใช้ เครวยี รบชรโอ ลยมถนาํ้าเมคันรอ่ืจงักมร1อืตชรนงสดิ วนนนั้ ทม่ีเสี ปว นนโทลเี่หปะน โลเพหื่อะ ปอ งกนั การเกดิ สนิม แลวเกบ็ เขาที่ใหเ รียบรอย 1. ตัวแทนนักเรียนของแตละกลุมออกมาสรุป • ถา พบวา เครอื่ งมอื ชนดิ ใดชาํ รดุ ควรรบี ซอ มแซม ข้ันตอนและวิธีการดูแลรักษาสิ่งของเคร่ืองใช กอ นนาํ ไปเกบ็ และควรแยกเกบ็ เครอื่ งมอื ใหเ ปน ในบา น หมวดหมู เพ่ือใหหยิบใชไดสะดวก 2. นักเรียนทํากิจกรรมเรียนรูปูพ้ืนฐาน ขอ 1-2 ๕ เคร่ืองใชไฟฟา หนวยการเรียนรูที่ 1 จากแบบวัดฯ การงาน เปน เครอ่ื งใชท ต่ี อ งใชไ ฟฟา จงึ ทาํ งานได เชน ตเู ยน็ โทรทศั น เตารดี พดั ลม หมอ หงุ ขา ว อาชพี ป.6 เตาอบ กระติกนํา้ รอน ซ่ึงการดแู ลรกั ษาเคร่อื งใชไฟฟา ตาง ๆ ควรปฏิบตั ิ ดังนี้ • ตง้ั เครอื่ งใชไ ฟฟา หา งจากผนงั อยา งนอ ย ๑๕ เซนตเิ มตร เพอื่ ชว ยระบายความรอ น ขน้ั สรปุ และชวยประหยดั คาไฟฟา • หมน่ั ตรวจสอบและทาํ ความสะอาดเครือ่ งใชไ ฟฟาอยเู สมอ ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรเู กย่ี วกบั การ • ใชเ ครอ่ื งใชไ ฟฟา ตา ง ๆ ตามความจาํ เปน และเมอ่ื ดูแลรักษาส่งิ ของเครอ่ื งใชใ นบาน ใชเ สร็จใหถ อดปลก๊ั ออกทกุ ครง้ั (ยกเวน ตเู ยน็ ) ñ«õÁ. วัดและประเมินผล • เลือกขนาดเคร่ืองใชไฟฟาใหเหมาะสมกับจํานวน สมาชิกในครอบครวั เพือ่ ชวยประหยดั คา ไฟฟา 1. นกั เรยี นทาํ กจิ กรรมตามตวั ชว้ี ดั กจิ กรรมท่ี 1.1 • ใชเคร่ืองใชไฟฟาอยางถูกวิธี เชน ไมควรทําให หนวยการเรียนรูที่ 1 จากแบบวัดฯ การงาน กนหมอ ตวั ในของหมอ หุงขา วไฟฟาบบุ เพราะจะ อาชีพ ป.6 ทําใหข าวสกุ ชาและเปลืองไฟ 2. นกั เรยี นทาํ ใบงานที่ 1.1 เร่ือง การดแู ลรักษา ส่ิงของเครื่องใชในบาน จากแผนการจัดการ เรียนรู จากน้ันครูและนักเรียนรวมกันเฉลย คําตอบในใบงาน ขน้ั ประเมนิ ครูตรวจใบงานที่ 1.1 เร่ือง การดูแลรักษา สิง่ ของเคร่อื งใชใ นบา น »ÅÍ´ÀÑÂäÇ¡Œ Í‹ ¹ ควรตรวจดสู ายไฟ ปลกั๊ ไฟ สวติ ช ใหอ ยูในสภาพดกี อ นใชง าน หากมรี อยชาํ รดุ จะตอ งซอ มแซม โดยผูท ีม่ ีความรูความเช่ยี วชาญหรือเปล่ยี นใหมก อ นนํามาใชงาน ˹ٷÒí ä´Œ ดูแลรกั ษาสิง่ ของเคร่อื งใชใ นบาน ทาํ ไดดี พอทําได ทาํ อีกครัง้ ๕ ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู ขอใดเปน การใชเครอ่ื งใชไ ฟฟาทไ่ี มป ลอดภยั 1 น้ํามันจักร ใชสําหรับหยอดใสบริเวณจุดเชื่อมตอช้ินสวนเคร่ืองจักร เพื่อ 1. เก็บปลก๊ั ไฟไวบนท่สี ูงใหพน มอื เดก็ ปองกันการเกิดสนิมและหลอลื่นใหเคร่ืองจักรใชงานไดอยางมีประสิทธิภาพ 2. จบั อุปกรณไ ฟฟาขณะที่ตวั ไมเปยก เชน จกั รเย็บผา เครื่องยนต เครื่องใชไ ฟฟา บานพับ เครือ่ งมือชาง ขอควรระวงั 3. ใหเ ด็กเลก็ ตอ ปลัก๊ หรอื ปดเปดสวติ ชเ อง ในการใชน้ํามันจักร คือ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวหนังโดยตรงเปนเวลานาน 4. เมอ่ื เหน็ สายไฟฟาชาํ รดุ ใหร ีบบอกผูใหญ ควรจัดเกบ็ ใหพ น มอื เด็ก และหา งจากเปลวไฟ (วิเคราะหคําตอบ : ปล๊ักหรือสวิตชเปนส่ิงท่ีมีกระแสไฟฟา เกร็ดแนะครู ซ่ึงอาจเปนอันตรายทําใหถูกไฟฟาดูดได การตอปลั๊กหรือปดเปด สวิตชจึงควรเปนหนาท่ีของผูใหญหรืออยูในการควบคุมดูแล ครอู ธิบายเพ่มิ เติมใหนกั เรยี นทราบวา การตง้ั เคร่ืองใชไ ฟฟา เชน โทรทัศน ของผูใหญเพื่อความปลอดภัย ดังน้ัน ขอ 3. จึงเปนคําตอบ ตเู ยน็ ไมโครเวฟ ควรต้ังใหหา งจากผนงั ประมาณ 15 เซนติเมตร จะชวยระบาย ที่ถกู ตอ ง) ความรอนใหเครื่องใชไฟฟามีอากาศผานเขา-ออกไดดี และประหยัดพลังงาน และไมค วรวางสงิ่ ของใกลก บั เครอื่ งใชไ ฟฟา อนื่ ๆ เพราะจะทาํ ใหม คี วามรอ นมาก T9
นํา นาํ สอน สรุป ประเมิน ขน้ั นาํ ๓. การดแู ลรกั ษาความสะอาดห้องต่าง ๆ นาํ เข้าสบู ทเรยี น บ้านโดยทวั่ ไปจะแบง่ ออกเป็นห้องตา่ ง ๆ เพื่อความเหมาะสมกับ ประโยชน์ใช้สอย เราจึงควรดูแลรักษาห้องต่าง ๆ ให้สะอาดและสวยงาม 1. ครูกระตุนความสนใจของนักเรียน โดยให อยู่เสมอ นักเรียนสแกน QR Code ในหนังสือเรียน การงานอาชีพ ป.6 หนา 6 แลวแสดงความ ๑) ห้องนอน เป็นห้องท่ีใช้ส�าหรับพักผ่อนนอนหลับ และท�า คดิ เหน็ รว มกนั เกย่ี วกกั ารทาํ ความสะอาดบา น กิจกรรมต่าง ๆ ท่ีต้องการความเป็นส่วนตัว ห้องนอนท่ีสะอาดจะท�าให้ ใหป ราศจากไรฝนุ ผู้อยูอ่ าศยั มสี ุขภาพทดี่ ี ดงั นน้ั เราจงึ ควรดูแลรักษาความสะอาดอยู่เสมอ 2. ครูใหนักเรียนตอบคําถามเก่ียวกับการทํา การดแู ลรกั ษา ความสะอาดหอ งนอน ความสะอาดหอ งนอนและหอ งนํา้ • อปุ กรณท ใ่ี ชใ นการทาํ ความสะอาดหอ งนอน ๑ เมอ่ื ตน่ื นอนแล้ว ควรจดั หมอนและพับผา้ ห่มใหเ้ รยี บรอ้ ย และหอ งนา้ํ มอี ะไรบา ง ๒ จดั เก็บของใชต้ า่ ง ๆ ให้เป็นระเบยี บและหม่ันท�าความสะอาดอยูเ่ สมอ (แนวตอบ : อุปกรณในการทําความสะอาด ๓ กวาดและถูพื้นห้องนอนทกุ วันหรืออยา่ งนอ้ ยสปั ดาหล์ ะ ๑ ครั้ง หองนอน เชน ไมกวาดดอกหญา ไมถูพ้ืน ๔ ท�าความสะอาดเคร่ืองนอนอยู่เสมอ เช่น ที่นอน หมอน หมอนข้าง น�าไปผ่ึงแดด อปุ กรณในการทําความสะอาดหองนํ้า เชน แผน ใยขดั แปรงพลาสตกิ ขดั พน้ื ) ผ้าปูท่ีนอนและปลอกหมอน ควรเปลี่ยนและซักท�าความสะอาดประมาณเดือนละ ๑-๒ ครัง้ 3. นักเรียนกลุมเดิมบอกวิธีการดูแลรักษาความ ๕ หม่ันทา� ความสะอาดผนงั หอ้ ง เพดานห้อง หน้าตา่ ง และประตอู ยเู่ สมอ สะอาดหอ งนอนและหอ งนา้ํ ทเี่ คยปฏบิ ตั ิ แลว นาํ มาแลกเปลีย่ นขอ มลู กบั เพอ่ื นในกลมุ จากน้ัน ËนÙท�าä´Œ สมุ ตวั แทนนกั เรยี นของแตล ะกลมุ ออกมาอธบิ าย วธิ กี ารดแู ลหอ งนอนและหองนา้ํ ใหเ พือ่ นฟง ดูแลรกั ษาความสะอาดห้องนอน ทา� ได้ดี พอทา� ได้ ท�าอีกครง้ั ขน้ั สอน ๖ การดแู ลรักษาหอ้ งนอนใหป้ ราศจากไรฝนุ การจัดการเรียนรู้ 1. ครใู หน กั เรยี นแตล ะกลมุ ศกึ ษาความรู เรอื่ ง การ ดูแลรักษาความสะอาดหองนอนและหองน้ํา จากหนังสือเรยี น การงานอาชีพ ป.6 2. นักเรียนแตละกลุมรวมกันสรุปวิธีการดูแล รักษาความสะอาดหองนอนและหองน้ําตาม ประเดน็ ทีค่ รูกําหนด 3. ครใู หค วามรเู พมิ่ เตมิ เกยี่ วกบั วธิ กี ารดแู ลรกั ษา ความสะอาดหองนอนและหองน้ํา และเนน ใหนักเรียนมีจิตสํานึกในการใชพลังงานอยาง ประหยดั สื่อ Digital กจิ กรรม สรางเสริม ครใู หน กั เรยี นสแกน QR Code เรื่อง การดูแลรักษาหอ งนอนใหป ราศจาก ครูใหนักเรยี นนาํ ความรทู ่ีไดจ ากการศกึ ษา QR Code เรอ่ื ง ไรฝุน จากหนงั สอื เรียน การงานอาชพี ป.6 หนา 6 เพ่อื ศกึ ษาวธิ กี ารดูแลรักษา การดูแลรักษาหองนอนใหปราศจากไรฝุน ไปปฏิบัติจริง จากนั้น หองนอนใหป ราศจากไรฝุน จากนั้นใหน กั เรยี นสรปุ ออกมาเปนแผนผงั ความคดิ ออกมาเลา ใหเ พ่ือนฟง หนาชั้นเรยี นในชว่ั โมงถัดไป T10
นาํ สอน สรุป ประเมนิ ๒) ห้องน้�า เปน็ หอ้ งที่ใช้ส�าหรบั อาบน้า� ขับถ่ายของเสยี หรอื ทา� ขนั้ สอน ธุระสว่ นตวั ซ่ึงสว่ นมากสมาชกิ ในครอบครวั มกั จะใช้รว่ มกัน ห้องนา้� เปน็ แหล่งแพร่เช้ือโรคได้ง่ายหากไม่รักษาความสะอาด เราจึงต้องดูแลรักษา สรุปและนาํ หลักการไปประยกุ ต์ใช้ ความสะอาดอยูเ่ สมอ ๆ 1. ครใู หน ักเรยี นทาํ ใบงานท่ี 1.2 เรื่อง การดแู ล การดแู ลรกั ษา ความสะอาดหอ งนาํ้ รกั ษาความสะอาดหองนอน และใบงานที่ 1.3 เรื่อง การดแู ลรักษาความสะอาดหองนา้ํ จาก ๑ จัดวางเคร่อื งใชใ้ นหอ้ งน้า� เชน่ สบู่ แชมพู แปรงสฟี นั ใหเ้ ป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย เพื่อ แผนการจดั การเรียนรู หยิบใช้ได้สะดวก 2. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั เฉลยคาํ ตอบและรว มกนั ๒ ท�าความสะอาดเคร่ืองสุขภัณฑ์ เช่น อ่างล้างมือ โถส้วมให้สะอาด โดยใช้น�้ายาล้าง สรปุ ความรู เรอ่ื ง วธิ กี ารดแู ลรกั ษาความสะอาด หอ้ งนา�้ และขดั ท�าความสะอาดทุกวันหรอื อย่างนอ้ ยสัปดาห์ละ ๑ ครง้ั หองนอนและหอ งน้าํ ๓ แทผ�าค่นวใยามขสัด1ะขอดั าทดฝ่ี ฝาาผผนนังังแแลละะใพชื้น้แปหร้องงพนล�้าา สโดตยิกรขาดั ดพนน้ื �้าหยาอ้ ลง้านงา้� หให้อ้สงนะอ�้าาตดามสัดส่วน แล้วใช้ ขน้ั สรปุ ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ วธิ กี ารทาํ ความสะอาด และประโยชนท ไี่ ดจ ากการทาํ ความสะอาดหอ งนอน และหองนํ้า ขนั้ ประเมนิ วดั และประเมนิ ผล 1. ครปู ระเมนิ ความรคู วามเขา ใจเกยี่ วกบั การดแู ล รักษาความสะอาดหองนอนและหองน้ําจาก การปฏิบตั กิ จิ กรรมและการทาํ ใบงาน 2. นกั เรยี นทาํ กจิ กรรมตามตวั ชวี้ ดั กจิ กรรมที่ 1.2 ขอ 2 และกจิ กรรมท่ี 1.3 ขอ 2 หนว ยการเรยี นรู ที่ 1 จากแบบวัดฯ การงานอาชพี ป.6 »ÅÍ´ÀÂั äÇŒกÍ‹ น นา้� ยาลา้ งหอ้ งนา�้ เปน็ สารอนั ตราย ควรสวมถงุ มอื ยาง รองเทา้ บตู และใชผ้ า้ ปด จมกู เพอ่ื หลกี เลยี่ ง การสัมผสั สารเคมแี ละการสูดดมเขา้ สรู่ า่ งกาย เมื่อใช้เสร็จควรรบี ลา้ งมอื และเทา้ ให้สะอาด ËนทÙ า� ä´Œ ดแู ลรกั ษาความสะอาดหอ้ งนา�้ ท�าไดด้ ี พอทา� ได้ ท�าอีกคร้งั ๗ ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู ขอ ใดเปนวธิ ีการทาํ ความสะอาดหอ งนา้ํ อยางปลอดภัย 1 แผน ใยขดั คอื แผน ใยสงั เคราะห สาํ หรบั ทาํ ความสะอาดพน้ื ผนงั กระเบอื้ ง 1. ขดั ลา งหอ งน้าํ อยางรวดเร็ว ปูน ไม หรือเหมาะกับงานขัดลางทั่วไป แผนใยขัดสําหรับหองน้ํามักมีรูปทรง 2. ใชแ ผน ใยขัดและน้าํ ยาลางหองนา้ํ ราคาแพง หัวจรวด พรอมดามจับพลาสติก ซ่ึงชวยใหจับถนัดและเขาถึงซอกมุมไดงาย 3. ไมเ คลอื่ นยายสิง่ ของเครอ่ื งใชใ นหองนํ้ากอนขดั ลา ง การดแู ลรักษาแผน ใยขัด คือ เมอ่ื ใชงานเสร็จแลว ควรลา งดว ยนํ้าสะอาดทุกครง้ั 4. สวมถงุ มอื ยาง รองเทา บตู และผา ปด จมกู ขณะขดั ลา งหอ งนา้ํ และไมค วรใชแ ผนใยขัดกับนาํ้ ยาทําความสะอาดชนิดท่รี ุนแรง (วิเคราะหคําตอบ : วิธีการทําความสะอาดหองนํ้าอยางปลอดภัย ควรสวมถุงมือยาง รองเทาบตู และผา ปด จมกู ขณะขดั ลา งหอ งนา้ํ เพื่อปองกันสารเคมีจากน้ํายาขัดหองนํ้าและเช้ือโรคตางๆ เขาสู รา งกาย ดังนั้น ขอ 4. จงึ เปนคําตอบที่ถูกตอง) T11
นาํ นาํ สอน สรุป ประเมนิ ขนั้ นาํ ๓) หอ้ งรบั แขกหรอื หอ้ งนง่ั เลน่ เปน็ หอ้ งท่ีใชส้ า� หรบั ตอ้ นรบั ผทู้ มี่ า เย่ียมบ้าน หรือให้สมาชิกในครอบครัวใช้พักผ่อนและท�ากิจกรรมร่วมกัน 1. ครถู ามนักเรียนวา “ในหองรับแขกมอี ะไรบาง” เช่น ดูโทรทศั น์ นง่ั สนทนา เราจึงควรดูแลรกั ษาความสะอาดอยเู่ สมอ 2. นักเรียนรวมกันเขียนสิ่งที่มีอยูในหองรับแขก การดแู ลรกั ษา ความสะอาดหอ งรบั แขกหรอื หอ งนงั่ เลน ลงในกระดาษใหไดมากทสี่ ดุ จากนั้นครตู รวจ คําตอบของนกั เรยี น ๑ จดั วางส่งิ ของต่าง ๆ เช่น แจกนั ดอกไม ้ หมอนองิ 1 หนังสือ ให้เป็นระเบยี บ สวยงาม ไม่เกะกะกดี ขวางทาง ขนั้ สอน ๒ ทา� ความสะอาดเคร่ืองเรอื น เชน่ โตะ โซฟา ตู ้ ใหส้ ะอาดอยูเ่ สมอ เตรยี มการสาธติ ๓ ทา� ความสะอาดพ้ืนห้องรับแขกโดยการกวาดและถพู ้ืนทุกวนั ๔ ทา� ความสะอาดผนังหอ้ งและเพดานห้องประมาณสัปดาห์ละ ๑ คร้งั ครจู ดั เตรยี มอปุ กรณท ใี่ ชใ นการทาํ ความสะอาด หอ งรับแขกเพือ่ ใชในการสาธติ ๔) ห้องครัว เป็นห้องที่ใช้ส�าหรับประกอบอาหาร เก็บเครื่องใช้ ในครัวและเก็บเครือ่ งปรุงอาหารตา่ ง ๆ ดงั น้ัน เราจึงควรท�าความสะอาด สาธิต อยู่เสมอ เพ่อื สขุ อนามยั ทีด่ ีของสมาชกิ ในครอบครัว 1. ครูทําความสะอาดหองรับแขกที่ครูจัดเตรียม การดแู ลรกั ษา ความสะอาดหอ งครวั สถานที่ไวใหนักเรียนดูเปนตัวอยาง พรอม อธิบายประกอบทีละขนั้ ตอน ๑ ทา� ความสะอาดเคร่ืองครัวตา่ ง ๆ เช่น จาน ชาม กระทะ ทุกครั้งเมอื่ ใช้เสรจ็ แล้วเก็บ เข้าที่ใหเ้ รียบร้อย 2. นกั เรยี นรว มกนั ทาํ ความสะอาดหอ งรบั แขกไป พรอ มกบั ครู ๒ ทา� ความสะอาดเตาทกุ ครง้ั หลงั ใชง้ านเสรจ็ โดยทา� ความสะอาดเมอ่ื เตาคลายความรอ้ น แลว้ สรุปการสาธิต ๓ ทา� ความสะอาดพน้ื หอ้ งครวั โดยการกวาด ถพู นื้ หอ้ ง และเชด็ ถชู นั้ วางของ อปุ กรณต์ า่ ง ๆ นกั เรยี นรว มกนั สรปุ ขน้ั ตอนการทาํ ความสะอาด ทกุ วัน หอ งรับแขกและประโยชนท ่ีไดร บั ๔ ทา� ความสะอาดเพดานและฝาผนงั หอ้ งครวั อยา่ งนอ้ ยสปั ดาหล์ ะ ๑ ครงั้ เพอื่ ขจดั คราบ วดั ผลประเมินผล น�า้ มนั จากการประกอบอาหาร ครวู ดั และประเมนิ ความรคู วามเขา ใจของนกั เรยี น ËนÙทา� ä´Œ จากการทาํ ความสะอาดหอ งรบั แขก และการสรปุ ๘ ดแู ลรักษาความสะอาดห้องรบั แขกและหอ้ งครวั ท�าไดด้ ี พอทา� ได้ ทา� อกี คร้งั ขัน้ ตอนการทาํ ความสะอาดหองรบั แขก ขนั้ สรปุ ตรวจสอบผล นกั เรยี นทาํ กจิ กรรมตามตวั ชวี้ ดั กจิ กรรมที่ 1.2 ขอ 1 หนว ยการเรียนรูท่ี 1 จากแบบวดั ฯ การงาน อาชีพ ป.6 ขนั้ ประเมนิ ครูตรวจกิจกรรมตามตัวชี้วัด กิจกรรมที่ 1.2 จากแบบวัดฯ การงานอาชพี ป.6 นักเรียนควรรู กิจกรรม เสริมสรางคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค 1 หมอนอิง เปนหมอนสําหรับใชพิงหลังหรือแขนเวลานั่งหรือเอกเขนก ครใู หน กั เรยี นจดบนั ทกึ การทาํ ความสะอาดบา นของตนเองเปน หมอนอิงมีท้ังแบบถอดปลอกซักไดและแบบไมมีปลอก หมอนอิงมีรูปทรง เวลา 7 วนั แลว ใหน กั เรยี นออกมานาํ เสนอหนา ชน้ั เรยี น โดยแตล ะวนั หลายแบบ ทงั้ รปู ทรงเหลยี่ ม วงกลม วงรี ปจ จบุ นั นยิ มนาํ หมอนองิ มาใชต กแตง บา น ใหน ักเรยี นบันทึกขอมูลลงในสมุด ดังน้ี ซึ่งการเลือกโทนสีและลวดลายของหมอนอิง จึงควรเลือกใหเขากับบรรยากาศ โดยรวมของบานหรืออาจเนนใหดูนาสนใจมากข้ึน ดวยการเลือกหมอนอิงที่มี • หองทท่ี ําความสะอาด น้ําหนักสีออนหรือเขมและมีลวดลายโดดเดน ท่ีสําคัญควรเลือกขนาดของ • วิธีการทาํ ความสะอาด หมอนอิงใหเหมาะกับพืน้ ท่ีนัน้ ๆ ไมเ ลก็ หรอื ใหญจ นเกินไป • ระยะเวลาในการทําความสะอาด • ผลทไ่ี ดร บั จากการทําความสะอาด • ความรสู กึ ของนกั เรียนเม่ือไดทาํ ความสะอาดบา น T12
นํา สสออนน สรุป ประเมนิ กจิ กรรมพฒั นาการทา� งาน ขน้ั นาํ ถามมาหนูตอบได้ ครูขออาสาสมัครนักเรียนเลาวิธีการหรือ ข้ันตอนการทําความสะอาดหองครัวและอุปกรณ ๑. ก ารรบั ฟังความคิดเหน็ ของผู้อื่นมีประโยชนอ์ ย่างไร ในการทําความสะอาดหองครัวท่ีนักเรียนเคยทํา ๒. ถา้ นักเรยี นทา� ความสะอาดของใช้ในบา้ นโดยไมว่ างแผนจะเกดิ ผล ใหเ พอื่ นฟง หนา ชนั้ เรยี น แลว นกั เรยี นคนอน่ื รว มกนั แสดงความคิดเหน็ เพ่ิมเตมิ อย่างไร ๓. เพราะเหตใุ ด จงึ ตอ้ งดูแลรักษาสิ่งของและเคร่อื งใชภ้ ายในบา้ น ขน้ั สอน เรยี นรู้กจิ กรรมทักษะการท�างาน C21 CorLiefeSuSabkinllds CareerLearning aSnkdillIsnnovation TIencform สังเกต รับรู้ jects and 21st Centur atihonno,MloyegdyThiaeSk,mailelnssd 1. นักเรียนชวยกันบอกอุปกรณท่ีใชในการ SCPtaruoLnrefrdeiacasrusnridlouinsnmgaalEnanDdnvediArvoIesnnslesomtsprsuemmcnteetisonnntts ทําความสะอาดหองครัว แลวรวมกันวางแผน การทาํ ความสะอาดหองครัว แบง่ กลมุ่ กลุ่มละ ๓-๕ คน แลว้ วิเคราะหว์ ่า ถา้ นกั เรียนมีหน้าที่ดูแล รักษาหอ้ งตา่ ง ๆ ๑ ห้อง และท�างานตามแผนทว่ี างไว ้ นักเรียนจะมวี ิธกี าร 2. ครูพานักเรียนไปท่ีหองครัวของโรงเรียน แลว ท�างานอย่างไร จากน้ันเขียนบันทึกผลการปฏิบัติลงในสมุด และออกมา ครูทําความสะอาดหองครัวใหนักเรียนดูเปน แสดงบทบาทสมมตุ หิ นา้ ช้ันเรยี น แบบอยา ง พรอมอธิบายประกอบทลี ะข้ันตอน อยา งละเอียด หนรู ูส้ กึ อยา่ งไร ทาํ ตามแบบ ๑. หากบา้ นของนกั เรยี นไมเ่ ปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย นกั เรยี นจะรสู้ กึ อยา่ งไร และมวี ธิ ีแกป้ ญั หาอยา่ งไร นักเรียนรวมกันทบทวนลําดับขั้นตอนการ ทําความสะอาดหองครัว แลวทําความสะอาด ๒. ป ระโยชน์ของการใช้ทักษะการจัดการในการท�างานในการดูแลรักษา ตามลาํ ดบั ขนั้ ตอนที่ครปู ฏิบัตใิ หดู ของใช้ในบา้ นมีอะไรบ้าง 9 ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู การดแู ลเครอื่ งเรือนประเภทไมใ นขอใดไมถกู ตอ ง ครใู หน กั เรยี นเลอื กหอ งภายในบา นคนละ 2 หอ ง โดยหอ งท่ี 1 ทาํ ความสะอาด 1. ผา ขรี้ ้วิ ใชถ ู โดยไมใ ชท กั ษะการจดั การ และหอ งที่ 2 ทาํ ความสะอาดโดยใชท กั ษะการจดั การ 2. ใชไ มป ดขนไกปดฝนุ ออก ที่ไดเรียนในหนังสือเรียนการงานอาชพี ป.6 ดงั น้ี 3. น้ํายาเช็ดทําความสะอาดไม 4. ฉดี ยาฆาแมลงปองกันมดหรอื มอด 1. สํารวจและวิเคราะหงาน 2. วางแผนการทาํ งาน (วเิ คราะหค ําตอบ : ขอ 1. ผา ขร้ี ว้ิ เหมาะสําหรบั ใชช บุ นํ้าถู ขอ 2. 3. ปฏิบัตงิ านและสรปุ ผลงาน ไมปดขนไก เหมาะสําหรับปดฝุนออก ขอ 3. น้ํายาเช็ดทําความ จากนั้นใหนักเรียนจดบันทึกเปรียบเทียบวา การทําความสะอาดบาน สะอาดไม เหมาะสําหรับชุบผาถูที่เคร่ืองเรือนประเภทไม ขอ 4. ท้งั 2 แบบ มีขอดี ขอ เสีย และมีความแตกตา งกนั อยางไร แลวออกมานําเสนอ ฉดี ยาฆา แมลงปอ งกนั มดหรอื มอด ไมจ าํ เปน ตอ งทาํ กบั เครอื่ งเรอื น หนา ชนั้ เรยี น ประเภทไม เพราะทําความสะอาดดวยผาชุบนํ้าหรือไมปดขนไก ก็เพยี งพอแลว ดงั นน้ั ขอ 4. จงึ เปน คาํ ตอบที่ถูกตอ ง) T13
นาํ สอน สรปุ ประเมิน ขนั้ สอน Ẻ»ÃÐàÁ¹Ô ¡Ò÷íÒ§Ò¹ ส�าห ทาํ เองโดยไมม แี บบ ค�าชแี้ จง : ให้นกั เรียนประเมินการทา� งานของตนเองตามรายการ รับนักเรียน ทกี่ �าหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกับระดบั คะแนน นักเรียนแตละกลุมทําความสะอาดหองครัว รายการ ท�าได้ดี พอท�าได้ ปรบั ปรุง ตามลาํ ดบั ข้นั ตอน โดยไมม แี บบอยา ง ๑. ใช้ทักษะการจดั การทา� งานให้เกดิ ประโยชน์ ฝก ทาํ ใหช้ าํ นาญ ๒. มีมารยาทในการท�างานรว่ มกัน ตัวอยางตารางบันทึกผล ครูใหสมาชิกทุกกลุมรวมกันจัดเวรทําความ ๓. ดแู ลรกั ษาส่ิงของเครื่องใชใ้ นบ้านอยา่ งเหมาะสม สะอาดหองครัว แลวทําความสะอาดตามวันท่ี ๔. ดูแลรกั ษาหอ้ งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม กลุมของตนเองเปนเวรทําความสะอาด เพื่อให เกิดความชํานาญ โดยบันทึกลงในใบงานท่ี 1.4 รวมทาํ ไดดี = ๓ พอทาํ ได = ๒ ปรับปรงุ = ๑ เรื่อง การดูแลรักษาความสะอาดหองครัว จาก แผนการจดั การเรียนรู Ẻ»ÃÐàÁ¹Ô ·¡Ñ ÉСÒ÷Òí §Ò¹ C21 Life Sakinllds CareerLearning aSnkdillIsnnovation TIencform Core Sub jects and 21st Centur atihonno,MloyegdyThiaeSk,mailelnssd ขน้ั สรปุ SCPtaruoLnrefrdeiacasrusnridlouinsnmgaalEnanDdnvediArvoIesnnslesomtsprsuemmcnteetisonnntts 1. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ การทาํ ความสะอาด หองครัวและประโยชนท่ีไดจากการทําความ คา� ชแี้ จง : ให้ผสู้ อนประเมนิ ทักษะการทา� งาน C21 ตามรายการ สา� หรับครู สะอาดหอ งครัว ทก่ี �าหนด แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งทีต่ รงกับระดับคะแนน รายการ 2. นักเรียนทําแบบทดสอบหนวยการเรียนรูท่ี 1 ทา� ไดด้ ี พอท�าได้ ปรับปรงุ จากแบบวัดฯ การงานอาชีพ ป.6 ทําใบงาน ที่ 1.4 และแบบทดสอบหลังเรียน หนวยการ ๑. แบง่ หน้าที่กนั อย่างเหมาะสม เรียนรูท ่ี 1 จากแผนการจดั การเรยี นรู ๒. รว่ มมือกันทา� งานจนสา� เร็จ ตัวอยางตารางบันทึกผล ขน้ั ประเมนิ ๓. แสดงความคิดเห็นอย่างเหมาะสม ๔. รับฟังความคดิ เหน็ ของคนในกลมุ่ 1. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมพัฒนาการทํางาน ๕. การแสดงบทบาทสมมตุ ิ จากน้ันใหนักเรียนประเมินตนเองจากแบบ ประเมินการทาํ งาน รวมทาํ ไดด ี = ๓ พอทาํ ได = ๒ ปรับปรุง = ๑ 2. ครปู ระเมนิ ทกั ษะการทาํ งาน C21 ของนกั เรยี น ๑๐ 3. ครูตรวจแบบทดสอบหนวยที่การเรียนรู 1 จากแบบวดั ฯ การงานอาชพี ป.6 ใบงานท่ี 1.4 จากแผนการจัดการเรียนรูและแบบทดสอบ หลังเรียนหนวยการเรียนรูที่ 1 จากแผนการ จัดการเรียนรู แนวทางการวัดและประเมินผล ครศู กึ ษาแนวทางการวัดและประเมนิ ผล เพื่อประเมนิ ชนิ้ งานของนักเรยี นจากแบบประเมินช้นิ งานที่แนบทา ยแผนการจดั การเรียนรู การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด ) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ แบบประเมนิ การทางานบ้าน คาช้ีแจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ลงในช่องที่ คาชีแ้ จง : ใหผ้ ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ลงในช่องท่ี คาช้ีแจง : ให้ผูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ลงในชอ่ งท่ี ตรงกับระดับคะแนน ตรงกับระดับคะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน ตรงกบั ระดับคะแนน 321 ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน การแสดง การยอมรับ การทางาน ความมี การมี รวม คุณลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 32 ความ ฟังคนอน่ื ตามทไ่ี ด้รับ นา้ ใจ สว่ นร่วมใน 15 อันพงึ ประสงค์ด้าน 321 1 การกาหนดแนวทางในการทางานและปรับปรุงการทางานแต่ 1 ชื่อ – สกุล คิดเหน็ มอบหมาย การปรับปรุง คะแนน ละขนั้ ตอน 1 การแสดงความคิดเหน็ ลาดบั ที่ ของนักเรยี น ผลงานกลุ่ม 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติได้ 2 ใช้ทกั ษะการจดั การในการทางานและมีทกั ษะการทางาน กษัตริย์ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมทสี่ ร้างความสามัคคี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ รว่ มกัน 2 การยอมรับฟังความคิดเหน็ ของผอู้ น่ื 32132132132132 1 ต่อโรงเรยี น 3 การมมี ารยาทในการทางานร่วมกบั ครอบครวั และผู้อน่ื 3 การทางานตามหน้าท่ีทไ่ี ด้รับมอบหมาย 1.3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏบิ ัติตามหลักศาสนา รวม 4 ความมนี ้าใจ 5 การตรงต่อเวลา ตวั อยา งแบบประเมนิลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ 1.4 เข้าร่วมกจิ กรรมท่ีเก่ยี วกับสถาบันพระมหากษตั รยิ ต์ ามทโี่ รงเรยี นจดั ข้นึ รวม จากแผนการจัดการเรียนรู............../.................../................ 2. ซื่อสัตย์ สจุ ริต 2.1 ใหข้ ้อมูลท่ีถูกต้อง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏิบัติในสง่ิ ทีถ่ กู ต้อง 3. มีวินยั รับผดิ ชอบ 3.1 ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคบั ของครอบครวั มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติกิจกรรมตา่ ง ๆ ในชีวิตประจาวัน ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ 4. ใฝเ่ รียนรู้ 4.1 รู้จักใชเ้ วลาว่างให้เป็นประโยชน์ และนาไปปฏิบตั ิได้ ............../.................../................ 4.2 รู้จกั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม 4.3 เชอ่ื ฟงั คาสง่ั สอนของบิดา - มารดา โดยไม่โตแ้ ย้ง 4.4 ต้ังใจเรยี น 5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรัพยส์ นิ และสิง่ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยัด เกณฑ์การให้คะแนน 5.2 ใช้อุปกรณก์ ารเรียนอยา่ งประหยดั และร้คู ุณค่า ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมิน 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงิน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน ............../.................../............... ให้ 1 คะแนน 6. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 6.1 มคี วามตง้ั ใจและพยายามในการทางานทไี่ ด้รบั มอบหมาย ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ 6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแท้ตอ่ อุปสรรคเพ่ือให้งานสาเรจ็ ดี = 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจติ สานึกในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาไทย พอใช้ = 2 คะแนน ปรับปรงุ = 1 คะแนน 8-9 ดี เกณฑ์การให้คะแนน 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ 5-7 พอใช้ เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ให้ 3 คะแนน 8. มีจติ สาธารณะ 8.1 รูจ้ ักชว่ ยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครทู างาน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ต่ำกว่ำ 5 ปรบั ปรุง ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ให้ 1 คะแนน 8.2 รู้จกั การดแู ลรกั ษาทรัพยส์ มบัติและสิ่งแวดลอ้ มของห้องเรยี นและ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั โรงเรยี น 12 - 15 ดี ลงชือ่ ...................................................ผ้ปู ระเมนิ ............../.................../................ 8 - 11 พอใช้ เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรุง ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 12 - 15 ดี เกณฑ์การใหค้ ะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัติชดั เจนและสมา่ เสมอ 8 - 11 พอใช้ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมท่ีปฏิบัติชดั เจนและบอ่ ยครัง้ ให้ 2 คะแนน ตา่ กว่า 8 ปรับปรุง T14
Chapter Overview แผนการจดั สื่อท่ีใช้ จดุ ประสงค์ วธิ ีสอน ประเมิน ทกั ษะที่ได้ คุณลักษณะ การเรยี นรู้ อนั พึงประสงค์ - ห นังสอื เรียน แผนฯ ท่ี 1 การงานอาชพี ป.6 1. บอกหลกั ในการเลือก วธิ สี อน - ตรวจแบบทดสอบ 1. ทักษะการ 1. มวี นิ ยั วัตถดุ ิบไดอ้ ย่าง แบบสืบเสาะ กอ่ นเรยี น รวบรวมข้อมูล 2. อยู่อยา่ ง การเตรียม - บตั รภาพ ถกู ต้อง หาความรู้ - ประเมินการ 2. ทกั ษะการ พอเพยี ง ประกอบอาหาร - PowerPoint 2. ร้จู กั เครื่องปรงุ รส (5Es น�ำเสนอผลงาน เรียงลำ� ดบั 3. มุง่ ม่ันในการ ในการประกอบอาหาร Instructional - สังเกตพฤติกรรม 3. ทักษะการ ท�ำงาน 2 3. บอกอุปกรณ์ทใี่ ช้ใน Model) การทำ� งานรายบคุ คล เช่อื มโยง การประกอบอาหาร - สังเกตพฤติกรรม 4. ทกั ษะการนำ� ช่ัวโมง ได้อย่างถกู ตอ้ ง การทำ� งานกลุ่ม ความร้ไู ปใช้ 4. สบื ค้นขอ้ มลู การ - สังเกตความมวี นิ ยั เลอื กวัตถดุ ิบ เครือ่ ง อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ปรงุ รส และอุปกรณ์ และมุ่งมนั่ ในการ ทีใ่ ชใ้ นการประกอบ ทำ� งาน อาหารได้ถูกต้อง 5. ปฏิบตั ิตนอย่างมี มารยาทในการ ทำ� งานรว่ มกับ ผอู้ ื่น 6. มจี ติ สำ� นึกในการ ใชพ้ ลังงานและ ทรพั ยากรอย่าง ประหยัดและคุ้มคา่ แผนฯ ที่ 2 - หนังสอื เรยี น 1. บอกหลักในการจดั วิธีสอน - ตรวจใบงานท่ี 2.1 1. ทกั ษะการ 1. มีวินัย การงานอาชพี ป.6 อาหารไดถ้ กู ต้อง โดยเนน้ - ประเมนิ การ รวบรวมข้อมลู 2. ตรงต่อเวลา การจัดอาหาร กระบวนการ - วดี ทิ ัศน์รายการ 2. วเิ คราะหว์ ิจารณ์ สร้างความ นำ� เสนอผลงาน 2. ทกั ษะการ 3. มุ่งมนั่ ในการ 1 แขง่ ขันประกอบ การจัดอาหารได้ ตระหนัก - สงั เกตพฤตกิ รรม เรยี งลำ� ดบั ท�ำงาน ช่วั โมง อาหาร 3. ปฏิบัตติ นอย่างมี การทำ� งานรายบุคคล 3. ทักษะการ - ใบงานที่ 2.1 มารยาทในการ - สังเกตพฤตกิ รรม เชื่อมโยง - PowerPoint ท�ำงานร่วมกบั ผูอ้ ืน่ การทำ� งานกลมุ่ 4. ทกั ษะการนำ� - สงั เกตความมีวินัย ความร้ไู ปใช้ ตรงต่อเวลา และ มุ่งมัน่ ในการท�ำงาน T15
Chapter Overview แผนการจัด สือ่ ท่ีใช้ จุดประสงค์ วธิ ีสอน ประเมนิ ทกั ษะท่ีได้ คุณลักษณะ การเรยี นรู้ อนั พงึ ประสงค์ - ห นงั สือเรียน แผนฯ ท่ี 3 การงานอาชีพ ป.6 1. เลอื กวตั ถดุ บิ วิธสี อนโดย - ตรวจใบงานที่ 2.2 1. ทักษะการ 1. มวี ินยั ในการประกอบ ใชท้ กั ษะ - ตรวจแบบทดสอบ รวบรวมขอ้ มูล 2. ตรงตอ่ เวลา การประกอบ - แบบวัดฯ อาหารได้อย่าง การจัดการ หลงั เรยี น 2. ทักษะการ 3. ม่งุ มน่ั ในการ อาหาร การงานอาชีพ ป.6 ถกู ต้อง ในการทำ� งาน - ประเมนิ การ เรยี งลำ� ดับ ท�ำงาน 2. รจู้ กั เครอื่ งปรุงรสและ นำ� เสนอผลงาน 3. ทกั ษะการ 3 - แบบบนั ทกึ ปรงุ รสในการ - สังเกตพฤตกิ รรม เชื่อมโยง การประกอบอาหาร ประกอบอาหารได้ การทำ� งานรายบุคคล 4. ทักษะการนำ� ชัว่ โมง - วัตถดุ บิ เครอ่ื งปรงุ และอุปกรณ์ในการ เหมาะสม - สังเกตพฤตกิ รรม ความรไู้ ปใช้ ประกอบอาหาร 3. ใช้อุปกรณใ์ นการ การทำ� งานกล่มุ - ใบงานท่ี 2.2 ประกอบอาหารได้ - สงั เกตความมวี ินัย - PowerPoint อย่างถูกต้อง ตรงต่อเวลา และ 4. ประกอบอาหารได้ มุ่งมั่นในการท�ำงาน ถกู ต้องตามข้นั ตอนท่ี วางไว้ โดยใชท้ กั ษะ การจัดการในการ ท�ำงาน 5. ปฏบิ ตั ิตนอยา่ งมี มารยาทในการ ทำ� งานร่วมกบั ผ้อู ื่น 6. มีจิตสำ� นกึ ในการใช้ พลงั งานและ ทรพั ยากรอยา่ ง ประหยัดและคุ้มค่า T16
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมิน ò ¡ÒûÃСͺÍÒËÒÃ˹Nj ¡ÒÃàÃÂÕ ¹Ã·ŒÙ èÕ ขน้ั นาํ กิจกรรมน�าÊก‹Ù ารàรÂÕ น เพอื่ น ๆ มวี ธิ กี ารเตรียม กระตุ้นความสนใจ ประกอบอาหาร 1. ครทู ักทายนักเรียน แลวช้แี จงเนื้อหาท่ีนักเรยี น ทีเ่ พอ่ื น ๆ ชอบอยางไร ตอ งเรยี นรูใ นหนวยการเรยี นรทู ่ี 2 ใหนกั เรยี น ทราบ 2. นักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวยการ เรียนรูท ี่ 2 การประกอบอาหาร จากแผนการ จัดการเรียนรู 3. ครูถามคาํ ถามกระตุนความคิด • นักเรียนรจู กั อาหารอะไรบา ง และเคย ประกอบอาหารหรือไม (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอ ยใู นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู อน) 4. ครใู หน ักเรียนทํากจิ กรรมนาํ สูการเรยี น โดยถามคําถาม แลวสมุ ใหน กั เรียนตอบ ÊÒÃÐÊÒí ¤ÑÞ à»Ò‡ ËÁÒ¡ÒÃàÃÂÕ ¹Ã»ŒÙ ÃШÒí ˹Nj ¡ÒÃàÃÂÕ ¹Ã·ŒÙ Õè ò การประกอบและการปรุงอาหารเปนการ ๑. อภิปรายแนวทางในการประกอบอาหารและปรับปรุงการท�างาน ทา� ใหอ้ าหารสุก มีสนี า่ รับประทาน มกี ลนิ่ หอม แตล่ ะขั้นตอน (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๑) และมรี สชาติอร่อย ซ่ึงเราควรเลอื กรบั ประทาน อาหารทดี่ ี ปรงุ สกุ ใหม ่ ๆ สะอาด และมปี ระโยชน์ ๒. ประกอบอาหารอย่างเปนข้ันตอนตามล�าดับท่ีวางแผนไว้และ ต่อร่างกาย ประเมินทกุ ขน้ั ตอนเพือ่ การแกไ้ ขและปรับปรุงผลงาน (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๑) ๓. ใชท้ กั ษะการจดั การในการทา� งานและมที กั ษะการทา� งานรว่ มกนั ใน การประกอบอาหาร (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๒) ๔. ปฏบิ ตั ติ นอยา่ งมมี ารยาทในการทา� งานรว่ มกบั ครอบครวั และผอู้ น่ื (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๓) ๕. มีจิตส�านึกในการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างประหยัดและ คมุ้ ค่า (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๓) ขอสอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู ส่ิงใดสาํ คญั ท่ีสุดในการประกอบอาหาร ครูจัดกระบวนการเรยี นรโู ดยการใหนักเรียนปฏบิ ัติ ดังนี้ 1. ความสะอาด • สืบคน ขอมลู เกย่ี วกบั การเตรียมประกอบอาหาร 2. ความรวดเรว็ • อภปิ รายวิธีการเตรยี มประกอบอาหาร 3. ความสวยงาม • ฝกเตรยี มประกอบอาหารและประกอบอาหาร 4. ความประหยัด จนเกดิ เปนความรูความเขาใจวา การประกอบอาหารใหมคี ณุ ภาพ ควรศึกษาวิธกี ารและขนั้ ตอนตา งๆ กอนเสมอ (วิเคราะหคําตอบ : ความสะอาดเปนส่ิงท่ีสําคัญที่สุดในการ ประกอบอาหาร เพราะหากอาหารไมสะอาด ผรู บั ประทานอาหาร อาจไดรับเชื้อโรคและทําใหเจ็บปวยได เชน มีอาการทองเสีย เพราะอาหารเปน พษิ ดงั น้นั ขอ 1. จึงเปนคาํ ตอบทถี่ กู ตอ ง) T17
นํา นาํ สอน สรุป ประเมนิ ขน้ั นาํ ñ ¡ÒÃàµÃÂÕ Á»ÃСͺÍÒËÒà 5. นกั เรยี นแบง กลุม กลมุ ละ 4-5 คน การเตรยี มประกอบอาหาร หมายถงึ วธิ กี ารตา่ ง ๆ ทจี่ ดั เตรยี มอาหาร 6. ครนู ํารูปภาพอาหาร 1 ชนิด ติดบนกระดาน สด อาหารแหง้ และเครอ่ื งปรงุ รส เพอื่ ความสะดวก รวดเรว็ ในการประกอบ อาหาร การเตรยี มประกอบอาหารมีวิธกี าร ดงั นี้ 7. ครถู ามคาํ ถามกระตุน ความคดิ • นกั เรยี นคดิ วา อาหารในภาพมสี ว นประกอบ ๑. การเลือกวัตถดุ ิบในการประกอบอาหาร อะไรบาง (แนวตอบ: อาหารในภาพ คอื ตม ยาํ กงุ ประกอบ วัตถุดิบที่น�ามาประกอบเปนอาหารควรเลือกท่ีสดใหม่ สะอาด ดว ยกุง เหด็ ฟาง ตะไคร ใบมะกรูด ขา ผักชี แผลละดปตี ลอ่ อสดขุ ภอัยน ามเพยั 1รขาอะงทผ�ารู้ ใบัหป้อราะหทาารนน่ารับประทาน รสชาติอร่อย และเกิด ผักชฝี ร่งั มะนาว) ๑) การเลือกซ้ือผักผลไม้ ควรเลือกท่ีสดใหม่ ไม่มีรอยช�้าหรือ 8. นักเรียนตอบคําถาม โดยครูจดบันทึกไวบน เหีย่ ว และมีในทอ้ งถ่นิ หรอื มตี ามฤดูกาล เพราะจะได้ผักผลไมท้ ีม่ ีคุณภาพ กระดานเปนแผนผงั ความคดิ และราคาไม่แพง 9. ครูสอบถามนักเรียนวา จากแผนผังความคิด µÇÑ ÍÂÒ‹ § การเลือกซื้อผักผลไม แตงกวา นกั เรยี นคดิ วา สว นประกอบของอาหารในภาพ ครบแลวหรือไม แลวรวมกันสรุป ผักกาดขาว ควรเลอื กลกู ทผี่ ิวเปน สเี ขยี วสดใส ไม่ขรุขระ ควรเลือกหัวทม่ี นี า้� หนัก ผลมลี ักษณะตรงกลม มาก เนื้อผกั แนน่ ไม่มี รอยช�้าหรอื เหย่ี ว ผักบุง สม เขยี วหวาน ควรเลอื กทม่ี ลี า� ตน้ อวบ ควรเลอื กผลท่ีกลม แข็งเลก็ นอ้ ย ไมอ่ ่อน แปน มีเปลือกบาง มีใบและมยี อดตดิ อยู่ ไม่มีรอยชา�้ ใบต้องมีสเี ขียวสด ไม่มรี อยช�า้ ๑2 นักเรียนควรรู กิจกรรม สรางเสรมิ 1 สุขอนามัย คือ การดูแลสุขภาพเพื่อใหมีรางกายที่ดีและจิตใจที่แจมใส ครูใหนักเรียนหาภาพวัตถุดิบในการประกอบอาหาร เชน การดแู ลสขุ อนามยั แบบ 6 อ. แนะนาํ โดยสาํ นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสรา งเสรมิ เนอื้ สตั ว ผกั ผลไม อยา งละ 2 ชนดิ มาตดิ ลงในสมดุ แลว เขยี นบอก สุขภาพ (สสส.) มดี งั นี้ วธิ กี ารเลอื กซอ้ื และเกบ็ รกั ษาวตั ถดุ บิ ในการประกอบอาหาร จากนนั้ นาํ มาแลกเปลยี่ นกนั ดกู บั เพ่ือน 1. อ. อาหาร รบั ประทานอาหารท่ีมีประโยชน ครบ 5 หมู 2. อ. ออกกาํ ลังกาย อยางนอยสัปดาหล ะ 3 คร้ัง 3. อ. อารมณ รูจกั ควบคุมอารมณอ ยางเหมาะสม 4. อ. อนามัยสิ่งแวดลอ ม ท่ดี ที ง้ั ในบานและชมุ ชน 5. อ. อโรคยา หลีกเลีย่ งปจ จัยเสีย่ งทจี่ ะทาํ ใหเกดิ โรค 6. อ. อบายมุข หลกี เลยี่ งบหุ รี่ สุรา ยาเสพตดิ และการพนนั T18
นาํ สอน สรปุ ประเมิน ๒) การเลือกซ้ือเนอื้ สัตว ควรเลือกที่สดใหม่ สะอาด ไม่มีกลิ่น ขนั้ สอน เหมน็ แบง่ ได ้ ๒ ประเภท ดงั นี้ สํารวจค้นหา µÇÑ ÍÂÒ‹ § การเลอื กเน้ือสตั ว เนอื้ วัว 1. ครถู ามคาํ ถามกระตุนความคดิ ๑. สัตวบก เชน่ เนื้อไก่ เน้ือววั ควรเลอื กเน้ือสีแดงสด • ถา เราจะประกอบอาหารในภาพที่ตดิ บน ไมเ่ ขยี วคล้า� ไขมนั มี กระดาน เราตองทําอยางไร เน้อื ไก (สไีเขหพ่ ลยือางธ ไ)ิ1มม่ เี มด็ สาคู (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอ ยใู นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู อน) ควรเลือกซื้อเนอ้ื ท่มี ี ปู สีชมพอู ่อนใส หากเปน 2. นกั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกนั ศกึ ษาความรเู กย่ี วกบั สว่ นนอ่ งควรหลีกเล่ยี ง ควรเลอื กตัวทห่ี นกั การประกอบอาหารจากภาพทคี่ รกู าํ หนด ตาม น่องทสี่ ซี ดี หรือมี เนอ้ื แน่น ไม่ม ี หวั ขอ ตอไปนี้ เลือดไหลซมึ เพราะ กล่นิ เหมน็ • วัตถดุ ิบทใ่ี ชใ นการประกอบอาหาร อาจเปน น่องไกท่ ่ีไมส่ ด • เครื่องปรุงทใี่ ชในการประกอบอาหาร ปลา • อุปกรณท ใ่ี ชใ นการประกอบอาหาร ๒. สัตวนา้� เช่น ก้งุ หอย ป ู ปลา • วิธีการประกอบอาหาร หากเปนปลาที่ไมม่ ี กุง เกล็ด ควรเลอื กตัวท่ีม ี 3. ครูอธิบายความรูเพ่มิ เตมิ โดยใช PowerPoint หนงั มัน หากเปนปลา ตามหัวขอตอไปน้ี ควรเลือกที่หัวตดิ ที่มเี กล็ด ควรเลือกตวั • การเลอื กวัตถุดิบในการประกอบอาหาร แนน่ อยูก่ บั ลา� ตวั ทเ่ี กล็ดติดแนน่ ตาใส • เคร่ืองปรงุ ที่ใชใ นการประกอบอาหาร ตาใส 2 ตัวใส เปลือกใส เหงอื กแดง ท้อง • อปุ กรณท ่ีใชใ นการประกอบอาหาร มนั กุ้งมสี ีแดง ไม่แตก เนอ้ื แนน่ กดแลว้ ไม่มีรอยบมุ หอย ๑3 ควรเลือกตวั ที่ปากปด สนิท หรือหุบลงทันที ทส่ี มั ผสั ถ้าเปน หอย ที่แกะเปลอื กออกแลว้ ต้องอยู่ในสภาพดี สด และตวั หอยไมข่ าด ออกจากกัน ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู นักเรียนควรเลอื กซื้ออาหารในขอใด 1 ไขพ ยาธิ คอื ไขข องพยาธติ วั ตดื มลี กั ษณะเปน ถงุ นาํ้ ใสๆ เลก็ ๆ สขี าวคลา ย 1. เนอ้ื หมูทม่ี ีจุดขาวๆ เม็ดสาคู ซ่ึงติดอยูกับผนังลําไสของหมู หากรับประทานเนื้อหมูท่ีไมสุก หรือ 2. ผักสดที่มตี ามฤดูกาล เนอื้ หมทู มี่ ไี ขพ ยาธติ วั ตดื เขา ไป ไขเ หลา นจี้ ะเจรญิ เตบิ โตเปน ตวั แลว ไชทะลผุ นงั 3. ปลาสดท่เี หงือกเปด ตลอดเวลา ลําไสเ ขา ไปในกระแสเลือดหรือสว นตา งๆ ของรา งกายและอาจเปนอันตรายถึง 4. อาหารกระปอ งทบ่ี บุ และเปน สนมิ ชวี ิตได 2 มนั กงุ คอื ตบั และตบั ออ นของกงุ มสี แี ดงอมสม อยทู ส่ี ว นหวั ของกงุ ทาํ หนา ท่ี (วเิ คราะหค าํ ตอบ : การเลอื กซอ้ื อาหารควรเลอื กซอื้ ใหถ กู หลกั เชน กรองสารพิษและเชื้อโรคในระบบอาหารของกุง คนนิยมรับประทานเพราะมี เน้ือหมูเกลี้ยงและบางพอดี ไมมีจุดสีขาว ผักสดท่ีมีตามฤดูกาล ความมัน รสชาติอรอย แมวามันกุงจะมีหนาที่กรองสารพิษและเช้ือโรคตางๆ จะใชสารเคมีในการเรง การเจรญิ เติบโตนอย มีราคาถูกและหาซอ้ื ใหกับกุง แตยังไมมีขอมูลวิจัยยืนยันวา มันกุงจะเปนแหลงสะสมของโรคและ ไดงา ย ปลามีเหงือกสแี ดงสด อาหารกระปอ งที่กระปองไมบ ุบหรอื สารพิษ หรอื เปนอนั ตรายสูคน แตอยางไรกต็ าม มนั กงุ น้ันมีคอเลสเตอรอลสูง เปนสนิม ดังน้ัน ขอ 2. จงึ เปนคาํ ตอบทถ่ี ูกตอง) หากรับประทานมากเกินไปอาจทาํ ใหเ กิดภาวะไขมนั ในเลือดสงู ได T19
นํา สอน สรุป ประเมนิ ขนั้ สอน ๓) การเลือกซื้ออาหารแห้ง อาหารแห้ง คือ อาหารที่ผ่าน กระบวนการประกอบอาหารหรือแปรรูป เชน่ การอบ การตากแหง้ การ อธิบายความรู้ ดอง เพ่ือใหเ้ กบ็ ไวไ้ ด้นานกว่าอาหารสด เช่น พริกแหง้ ปลาเคม็ ไข่เค็ม กะป อาหารกระปอง 1. นกั เรยี นแตล ะกลมุ ออกมานําเสนอผล การศึกษาหาความรู ครใู หค ําแนะนําเพม่ิ เตมิ 2. ครูและนักเรียนรวมกันเปรียบเทียบความรูที่ แตละกลมุ ไดศึกษา เพื่อเพิ่มเตมิ ความรใู หกับ ตนเอง µÇÑ ÍÂÒ‹ § การเลือกซอื้ อาหารกระปอ ง 080919 ตอ้ งบรรจใุ นภาชนะทปี่ ด มิดชดิ บอกวนั เดอื น ปท ผ่ี ลิตสินค้า หรือวนั หมด สะอาด ถูกสุขลกั ษณะ กระปอง อายุไวด้ ว้ ย เช่น ผลติ 080919 คอื ต้องไม่บบุ เบี้ยวหรอื เปน สนิม ผลติ เมื่อวนั ท ่ี ๘ กนั ยายน ค.ศ. ๒๐๑๙ (พ.ศ. ๒๕๖๒) ระบแุ หล่งผลติ ท่ีชดั เจน และ 008800961292 ต้องได้รับอนญุ าตจาก หน่วยงานทีค่ วบคมุ ดูแล 080622 ใหถ้ กู ตอ้ งตามกรรมวิธ ี เช่น หมดอายุ 080622 คอื ควรบริโภคกอ่ น 92-1-076213-1-0005 วนั ท ี่ ๘ มถิ นุ ายน ค.ศ. ๒๐๒๒ (พ.ศ. ๒๕๖๕) เครื่องหมาย อย. แสดงวา่ ผา่ นการขึ้นทะเบียนต�ารับ อาหารและยา จากสา� นกั งาน คณะกรรมการอาหารและยา µÇÑ ÍÂÒ‹ § การเลอื กซอื้ พรกิ แหง กระเทยี ม และถว่ั เมลด็ แหง ควรเลือกพรกิ แห้ง กระเทียม และถ่ัว ตา่ ง ๆ ที่แหง้ สนทิ ไมม่ แี มลงกดั แทะ ไมข่ ้นึ รา ไมม่ ีกลน่ิ อับ ËนทÙ �าä´Œ ๑๔ การเลือกวัตถุดิบในการประกอบอาหาร ท�าไดด้ ี พอทา� ได้ ทา� อกี ครั้ง นักเรียนควรรู กจิ กรรม สรางเสรมิ 1 เครอื่ งหมาย อย. เปน เครอ่ื งหมายทแี่ สดงการขน้ึ ทะเบยี นตาํ รบั อาหารและยา ครูแจกอาหารแหง เชน ไขเ ค็ม อาหารกระปอง ถวั่ เมลด็ แหง โดยจะมตี ัวเลขอยดู า นหลังเครือ่ งหมาย ตัวเลขดังกลา วใหความหมาย ดงั นี้ ใหน ักเรียนกลมุ ละ 1 ชนดิ แลวใหน ักเรียนรวมกนั อภปิ รายวิธีการ เลอื กซอ้ื จากน้ันออกมานาํ เสนอหนาชั้นเรียน แลสะถหานนว่ ะยขงอางนสทถ่ีอานนญุ ทาี่ ต เลขจังหวดั ท่ีตั้ง เลขประจา� สถานทผี่ ลติ ของสถานทผ่ี ลติ เลขท้ายของป พ.ศ. ทีอ่ นญุ าต XX-X-XXXXX-Y-YYYY หน่วยงานท่ี เลขลา� ดบั ที่ของผลิตภณั ฑ์ อนุญาตผลิตภณั ฑ์ ทผ่ี ่านการอนุญาต T20
นาํ สอน สรุป ประเมนิ ๒. เครือ่ งปรุงรสท่ีใช้ในการประกอบอาหาร ขนั้ สอน เครอ่ื งปรงุ รสที่ใชใ้ นการประกอบอาหาร หมายถงึ สงิ่ ที่ใชป้ รงุ แตง่ ขยายความเข้าใจ อาหารมีทั้งของแห้งและของเหลว ใช้ในปริมาณไม่มากนัก เพื่อท�าให้ อาหารมีรสชาติและกล่นิ ท่ีดขี ึน้ ครใู หน กั เรยี นแตล ะกลุม ทาํ กจิ กรรมเรียนรู ปพู ื้นฐาน หนวยการเรียนรูท ี่ 2 ประกอบอาหาร จากแบบวดั ฯ การงานอาชพี ป.6 µÇÑ ÍÂÒ‹ § เครอ่ื งปรุงรสท่ีใชในการประกอบอาหาร รสเค็ม รสเปร้ียว เช่น เกลอื น้�าปลา เชน่ น�้าส้มสายช ู ซอสถ่ัวเหลอื ง 1 น�้ามะขามเปย ก ซอี วิ๊ ขาว เตา้ เจีย้ ว นา้� มะนาว ซอสหอยนางรม เครือ่ งเทศ รสหวาน เช่น อบเชย กานพลู เช่น น้�าตาลทราย พริกไทย จะชว่ ยให้ นา้� ตาลปบ สารให้ อาหารมีกล่นิ หอม ความหวานแทน น�้าตาล »ÅÍ´ÀัÂäÇŒก‹Íน ๑๕ เราควรรับประทานเครื่องปรุงรสในปริมาณที่พอดี เพราะหากรับประทานในปริมาณ ที่มากเกินไป อาจเส่ียงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ เช่น น้�าตาลเส่ียงต่อโรคเบาหวาน นา�้ ปลาเสีย่ งตอ่ โรคไต ขอ สอบเนน การคิด นักเรียนควรรู เครอ่ื งปรงุ รสในขอใดเพิม่ รสชาติใหต ม ยํากุง 1 เตาเจ้ียว เปนการแปรรูปถั่วเหลืองโดยการหมัก เพ่ือใหเก็บไวไดนาน 1. ซอี ว๊ิ เตาเจี้ยวนํามาใชเปนสวนประกอบของการปรุงรสชาติอาหาร ซึ่งนอกจาก 2. มะนาว จะไดร สชาตทิ ดี่ แี ลว ยงั เปน การเพม่ิ โปรตนี ในอาหารโดยปราศจากเนอื้ สตั ว เชน 3. เตาเจย้ี ว อาหารเจ อาหารมงั สวริ ตั ิ คนไทยนยิ มนาํ เตาเจี้ยวมาทําเปน เครอ่ื งจิ้มที่เรียกวา 4. ซอสหอยนางรม หลนเตาเจ้ียว เชน หลนเตาเจ้ียวหมูสับ หลนเตาเจ้ียวกุงสับ และยังสามารถ นํามาทําน้ําจิ้ม เชน น้ําจ้ิมขาวมันไก หรือนํามาทําเปนเคร่ืองปรุงรสในการ (วเิ คราะหค าํ ตอบ : ตม ยาํ กงุ เปน อาหารทใี่ หร สชาตเิ ปรยี้ วและเผด็ ประกอบอาหารตามตาํ รบั จีน เชน แปะซะ ราดหนา ผัดผกั ชนดิ ตา งๆ กลมกลอ ม ซอี ว๊ิ เตา เจยี้ ว และซอสหอยนางรม เปน เครอ่ื งปรงุ รสที่ ใหร สเคม็ และนยิ มใชใ นอาหารประเภทนง่ึ และผดั สว นมะนาวเปน เครอื่ งปรุงรสทใี่ หรสเปรี้ยว ดงั นน้ั ขอ 2. จึงเปนคาํ ตอบท่ีถกู ตอ ง) T21
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สรปุ ๓. อุปกรณและภาชนะท่ใี ชใ้ นการประกอบอาหาร ตรวจสอบผล การใช้อุปกรณ์และภาชนะท่ีเหมาะสมในการประกอบอาหารหรือ ใสอ่ าหาร ทา� ให้เราประกอบอาหารไดส้ ะดวก ปลอดภัย และประหยัดเวลา สมาชกิ ในแตล ะกลมุ รว มกนั สรปุ ความรใู นการ และท�าให้อาหารน่ารับประทาน อุปกรณ์และภาชนะท่ีใช้ในการประกอบ ประกอบอาหารจากภาพทคี่ รูใหด ูตนชว่ั โมง อาหาร มดี ังนี้ ๑) อปุ กรณท ใี่ ชเ้ ตรยี มอาหาร เชน่ กะละมงั หรอื กระชอน ตะกรา ใช้กรองอาหารหรือ ใชล้ า้ งหรือใสผ่ กั ผลไม้ กรองนา�้ กะทิ เนอื้ สัตว์ 1 มีด เขยี ง ใช้ปอก หั่น สับ ซอยอาหาร ใช้รองรบั การหัน่ สับ ซอยอาหาร »ÅÍ´ÀÂั äÇกŒ Í‹ น เมอ่ื ใช้ของมคี มตอ้ งระมดั ระวงั และเลอื กใชใ้ ห้เหมาะสมกบั ประเภทของงาน ๑๖ เชน่ เมอ่ื ปอกผลไม ้ ไมค่ วรใชม้ ดี อโี ต ้ เพราะวา่ มดี อโี ตม้ นี า�้ หนกั มาก อาจทา� ใหม้ ดี บาดมอื ได้ นักเรียนควรรู กิจกรรม สรางเสรมิ 1 เขยี ง ทนี่ ยิ มใชกนั ในปจ จบุ ันมี 2 ประเภท ไดแก ครแู จกอปุ กรณท ใี่ ชใ นการเตรยี มอาหาร เชน กะละมงั ตะกรา 1. เขยี งไม ทํามาจากไมหลายชนิด เชน ไมม ะขาม ไมต าล เขียงไมม ีอายุ เขยี ง กระชอน ใหน ักเรยี นกลมุ ละ 1 ชนดิ แลว ใหน ักเรยี นรวมกัน การใชงานคอนขางนาน รองรับการหั่นเน้ือสัตวที่มีความเหนียวได อภปิ รายวิธีการใช จากนน้ั ออกมานําเสนอหนา ชั้นเรยี น มากกวา เขยี งทท่ี าํ จากพลาสตกิ มนี า้ํ หนกั มาก และหากทาํ ความสะอาด ไมถ ูกวธิ ี เขยี งไมจ ะกลายเปน แหลง สะสมของเชือ้ ราได 2. เขยี งพลาสตกิ ทาํ มาจากการนาํ พลาสตกิ หลอ ใหเ ปน รปู ทรงตามตอ งการ มนี าํ้ หนกั เบา เคลอื่ นยา ยไดส ะดวก ทาํ ความสะอาดไดง า ย หากเปย กนาํ้ จะแหง ไดอ ยา งรวดเรว็ แตร องรบั การหน่ั อาหารทมี่ คี วามหนา เชน เนอื้ สตั ว ไดค อ นขา งนอ ย และตอ งออกแรงมากกวาปกติ T22
นาํ สอน สรปุ ประเมิน ๒) อุปกรณท ีใ่ ช้ในการประกอบอาหาร เชน่ ทพั พี ขน้ั ประเมนิ หมอ ใช้คนหรือตกั อาหาร 1. ครูตรวจแบบทดสอบกอนเรยี น การงานอาชพี ป.6 จากแผนการจัดการเรยี นรู ใช้ประกอบอาหาร ประเภทต้มหรือแกง 2. ครูตรวจกิจกรรมเรียนรูปูพื้นฐาน หนวยการ เรียนรทู ่ี 2 จากแบบวัดฯ การงานอาชพี ป.6 กระทะ ตะหลิว ใช้ประกอบอาหาร ใช้ผัดหรอื พลกิ อาหาร ประเภทผดั หรอื ทอด และตกั อาหารออกจาก กระทะ ลงั ถงึ ชอ นตวง ใชน้ ่ึงอาหาร ใชต้ วงปรมิ าณ สว่ นประกอบ ๓) อปุ กรณทใี่ ชใ้ นการตักอาหาร เชน่ ชอ นส้ัน ชอ นสอม ใช้ตกั อาหารเพอื่ รบั ประทาน ห1รือใช้ ใชค้ ู่กนั เพือ่ ตักอาหาร เปน ชอ้ นกลาง รับประทาน ËนÙทา� ä´Œ การเลือกอปุ กรณ์ในการประกอบอาหาร ทา� ไดด้ ี พอทา� ได้ ท�าอกี คร้งั ๑๗ ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู ขอใดจัดเปนมารยาททดี่ ีในการรบั ประทานอาหาร 1 ชอนกลาง คือ ชอนท่ีอยูในภาชนะอาหารสําหรับรับประทานรวมกัน 1. เคยี้ วอาหารเสยี งดัง ซง่ึ ผูรบั ประทานอาหารจะใชชอ นกลางตักอาหารไปไวในภาชนะของตนเองกอ น 2. น่ังเทาขอศอกบนโตะ แลว จงึ ใชช อ นของตนเองรบั ประทานอาหารนน้ั ๆ ไมค วรนาํ ชอ นกลางตกั อาหาร 3. สนทนาระหวางเค้ียวอาหาร ใสปากของตนเอง 4. รวบชอนสอ มหลังรับประทานอาหาร ชอนกลางเปรียบเสมือนกําแพงปองกันเช้ือโรคไมใหเขาสูรางกาย การใช (วเิ คราะหค าํ ตอบ : การเคยี้ วอาหารเสยี งดงั นงั่ เทา ขอ ศอกบนโตะ ชอ นกลางจะชว ยลดการปนเปอ นเชอ้ื โรคจากนา้ํ ลายลงสอู าหาร ทาํ ใหอ าหารบดู สนทนาระหวา งเคยี้ วอาหารเปน สงิ่ ทไ่ี มค วรปฏบิ ตั ขิ ณะรบั ประทาน เสยี ไดช า ลง การใชช อ นกลางเปน เรอ่ื งของพฤตกิ รรมการรบั ประทานอาหารทถ่ี กู อาหาร แตการรวบชอนสอมหลังรับประทานอาหารเปนมารยาท สขุ ลกั ษณะ เหมาะสาํ หรบั การรบั ประทานอาหารรว มกบั ผอู นื่ ทง้ั ในครวั เรอื นของ ที่ดีท่ีควรปฏิบัติ เพราะแสดงถึงความเปนระเบียบเรียบรอย และ ตนเองหรือของผอู ื่น ในงานเลีย้ ง ภตั ตาคาร รา นอาหารตา งๆ การใชช อ นกลาง ทําใหผ อู นื่ ทราบวา เรารบั ประทานอาหารเสร็จแลว ดงั นน้ั ขอ 4. ถือเปนมารยาททางสังคมท่ีดีอยางหนึ่ง รวมทั้งยังชวยปองกันการแพรเช้ือโรค จึงเปนคําตอบทถ่ี กู ตอ ง) ไดอ กี ทางหนง่ึ T23
นํา นํา สอน สรุป ประเมนิ ขนั้ นาํ ๔) ภาชนะท่ีใชใสอ าหาร เชน ชาม สังเกต จาน ใชใ สอ าหารประเภทน้ํา เชน แกงจดื แกงเผด็ 1. ครูใหนักเรียนดูคลิปวิดีโอรายการแขงขัน ใชใสข าวสวยและ ประกอบอาหาร 1 รายการ อาหารประเภทยํา ผัด โถขาว ทอด หรืออาหารวาง 2. ครูถามคาํ ถามกระตุน ความคิด ใชใสข า วสวย • นกั เรียนไดอ ะไรบางจากการดรู ายการ ถวย แขงขนั ประกอบอาหารนี้ (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น ใชใสอาหารประเภทท่ี 1 โดยใหอ ยใู นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู อน) มีนา้ํ นอย เชน นาํ้ พริก นา้ํ จ้มิ 3. ครเู ชอื่ มโยงใหน กั เรยี นลาํ ดบั การประกอบอาหาร จากรายการแขงขันประกอบอาหาร โดยให นักเรียนแสดงความคิดเหน็ ในประเด็น ดังนี้ • วตั ถุดิบที่ใชในการแขงขันประกอบอาหาร • อปุ กรณทใี่ ชในการแขง ขันประกอบอาหาร • เครอื่ งปรงุ ทใ่ี ชใ นการแขง ขนั ประกอบอาหาร • วิธีการและเทคนิคในการแขงขันประกอบ อาหาร • การจดั อาหารในการแขง ขนั ประกอบอาหาร »ÅÍ´ÀÑÂäÇ¡Œ ‹Í¹ ควรจดั เกบ็ อปุ กรณเ ครอื่ งใชท ม่ี นี า้ํ หนกั มากไวด า นลา งของชน้ั วางหรอื ตเู กบ็ อปุ กรณเ สมอ ไมค วร วางไวในท่สี งู เกนิ ไปเพ่ือความปลอดภัย ˹·Ù íÒä´Œ ๑๘ การเลือกภาชนะใสอ าหาร ทําไดด ี พอทาํ ได ทําอีกคร้ัง นักเรียนควรรู กิจกรรม เสรมิ สรา งคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค 1 นาํ้ พรกิ คอื การนาํ สมนุ ไพร เชน พรกิ กระเทยี ม หวั หอม เครอ่ื งเทศ มาโขลก ครูใหน กั เรยี นทาํ กจิ กรรม “ภาชนะรักษโ ลก” โดยการออกแบบ รวมกนั ในครกหรอื บดรวมกนั นยิ มรบั ประทานกบั เครอื่ งเคยี งตา งๆ เชน ดอกแค ภาชนะใสอ าหารที่ทาํ มาจากวัสดธุ รรมชาติ เชน ใบตอง ผักตบชวา มะเขอื ยาวแตงกวา ถว่ั ฝก ยาว ถว่ั พู ปลา กงุ การเรยี กชอื่ นาํ้ พรกิ มกั จะเรยี กตาม ลงในสมดุ แลว ออกมานาํ เสนอหนา ชน้ั เรียน เพ่ือเปน การปลกู ฝง ให สว นประกอบหลกั ทนี่ าํ มาทาํ ซง่ึ อาจเปน เนอ้ื สตั วห รอื พชื ผกั เชน นาํ้ พรกิ ขงิ นา้ํ พรกิ นกั เรยี นใชทรัพยากรธรรมชาติอยางประหยัดและคุมคา กะป นํา้ พริกปลารา น้ําพรกิ น้ําปู บรู ณาการอาเซยี น ประเทศสมาชิกอาเซียนหลายประเทศมีวัฒนธรรมการรับประทานอาหาร ทคี่ ลา ยกนั แตล ะชาตจิ ะมอี าหารทเี่ ปน เอกลกั ษณเ ฉพาะตวั ทแ่ี ตกตา งกนั ออกไป ไดแก ไทย-ตมยํากุง เมียนมา-โมฮินกา เวียดนาม-เปาะเปยะเวียดนาม กมั พชู า-อามอ็ ก ลาว-ซปุ ไก มาเลเซยี -นาซเิ ลอมกั อนิ โดนเี ซยี -กาโด สงิ คโปร- ลกั ซา บรไู น-อมั บยู ตั และฟล ปิ ปน ส- อโดโบ T24
นํา สอน สรุป ประเมิน ò ¡ÒèѴÍÒËÒà ขนั้ สอน การจัดอาหารมีความส�าคัญเพราะช่วยให้อาหารดูน่ารับประทาน วิเคราะห์วจิ ารณ์ การจดั อาหารสามารถน�าผักผลไมท้ ่มี ีสสี นั มาหนั่ หรือแกะสลัก แล้วน�าไป จัดตกแต่งในภาชนะที่ใส่อาหาร 1. ครูเชื่อมโยงรายการแขงขันประกอบอาหารวา การแขง ขนั ประกอบอาหาร นอกจากจะตอ งใช ๑. หลักในการจดั อาหาร วัตถุดิบที่ดี ใชอุปกรณในการประกอบอาหาร ท่ีถูกตอง ประกอบอาหารตามข้ันตอน และ หลักในการจัดอาหาร อาหารมีรสชาติอรอยแลว การจัดจานใหดูนา รบั ประทานกม็ สี ว นสาํ คญั โดยการเปรยี บเทยี บ ๑. ใ ช้ภาชนะท่ีมคี วามสวยงามและเหมาะสมกับอาหาร การจัดอาหารของผูแขงขัน และใหนักเรียน ๒. จ ัดวางอาหารในปริมาณที่พอดีกับภาชนะ ไมว่ างแผ่ รว มกันวิเคราะหวิจารณ กระจายจนยากต่อการรับประทาน 2. นักเรียนแตละกลุมรวมกันแสดงความคิดเห็น ๓. อาจจัดวางเครอื่ งปรงุ ต่าง ๆ ไวพ้ รอ้ มกบั อาหารท่ีเสริ ฟ์ เรื่อง การจัดอาหาร และเขียนเปนแผนผัง ๔. ใ ชศ้ ิลปะในการจดั อาหาร เช่น การวางแตงกวาเรียงรอบ ความคดิ ลงในใบงานที่ 2.1 จากแผนการจดั การ เรยี นรู ขอบจาน การใชส้ สี ันของอาหารเพอื่ เน้นใหจ้ านโดดเด่น 3. ครอู ธบิ ายความรูเพ่ิมเติม เรอื่ ง การจดั อาหาร ๒. การเลือกใช้ภาชนะในการจัดอาหาร โดยใช PowerPoint การเลือกใชภ้ าชนะในการจัดอาหารควรปฏบิ ัติ ดงั น้ี 4. ครูถามคาํ ถามกระตนุ ความคิด • นักเรียนคิดวา ระหวางการจัดอาหารให เครื่องจม้ิ ตา่ ง ๆ ควรจดั อาหารประเภทน้�า ควรใส่ อาหารประเภทผัด ควรจัด ผลไม้ ควรล้างให้สะอาด สวยงามกบั การจดั อาหารใหส ะอาด แบบใด นา้� พรกิ ใสถ่ ว้ ยกน้ ลกึ แลว้ จดั ชาม โดยไม่ตักให้มากจน ใส่จานแบน ๆ หรือชาม เม่ือลา้ งเสรจ็ บางชนดิ ต้อง สาํ คญั มากกวา กัน เพราะเหตุใด วางในจานแบนใบใหญห่ รอื ล้น หรือไม่น้อยจนเกนิ ไป ก้นต้ืน โดยเลือกจานท่ีมี ปอกเปลอื ก แลว้ หน่ั เปน ชน้ิ (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น จานหลุม จัดผักส�าหรบั ขนาดเหมาะสมกบั ปรมิ าณ พอประมาณ และจดั ใสจ่ าน โดยใหอ ยใู นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู อน) แกล้มใหเ้ รยี บร้อย อาหาร เชน่ มะละกอ สบั ปะรด ขนั้ สรปุ ËนÙท�าä´Œ ๑๙ สรุป การจดั และเลือกภาชนะในการจดั อาหาร ท�าได้ดี พอทา� ได้ ท�าอีกครงั้ สมาชิกในแตละกลุมรวมกันสรุปความรูใน เทคนิคการจัดจานอาหารใหสวยงาม การประกอบอาหารจากคลปิ วดิ โี อรายการแขง ขนั ประกอบอาหารท่ีครใู หด ูตนชวั่ โมง ขน้ั ประเมนิ ครูตรวจใบงานท่ี 2.1 จากแผนการจัดการ เรียนรู ขอสอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู นารีซ้ือแกงเขียวหวานไกมารับประทาน เธอควรใสแกงใน ครูนําภาพการจัดจานอาหารจากภัตตาคารหรืออาหารท่ีใสในภาชนะ ภาชนะแบบใด ทที่ าํ จากวสั ดจุ ากธรรมชาตมิ าใหน กั เรยี นดู แลว อธบิ ายเพม่ิ เตมิ วา การจดั อาหาร มีความสําคัญเปนอยางมาก เพราะนอกจากจะทําใหอาหารนารับประทานแลว 1. จาน ยังสามารถเพ่มิ มูลคาใหกับอาหารไดอกี ดว ย 2. ชาม 3. แกว สื่อ Digital 4. ถาด นกั เรยี นสแกน QR Code เทคนคิ การจดั จานอาหารใหส วยงาม เพอ่ื นาํ ไปใช (วิเคราะหคําตอบ : จานเหมาะสําหรับใสขาว อาหารประเภทยํา ขยายความรเู กยี่ วกบั การจดั จานอาหาร ผดั ทอด หรอื อาหารวา ง ชามเหมาะสําหรับใสอาหารประเภทน้ํา เชน แกงจืด แกงเผด็ แกว เหมาะสําหรบั ใสเ ครอ่ื งดมื่ ถาดเหมาะ สําหรับใสผลไม จาน หรือแกว เมื่อตองการเคลื่อนยาย ดังน้ัน ขอ 2. จงึ เปนคาํ ตอบท่ีถูกตอ ง) T25
นํา นํา สอน สรปุ ประเมิน ขน้ั นาํ ó µÇÑ ÍÂÒ‹ §¡ÒûÃСͺÍÒËÒà 1. นักเรียนแบงกลุมตามเดิม ๑µÇÑ ÍÂÒ‹ §·Õè ตมยาํ 1กงุ 2. ครูนํารูปภาพอาหารชนิดตางๆ มาติดบน สว นผสมตม ยํากุง กระดาน 3. ครูใหนักเรียนเลนเกมทายชื่ออาหาร โดยให ๑. ผกั ชี ๒. กุง ๒๐๐ กรัม แกะเปลือกและผาหลัง นักเรียนออกไปเขียนบนกระดานวา ภาพ ๓. ใบมะกรดู ๕ ใบ ฉีกคร่งึ อาหารตางๆ นั้นมีชื่อวาอะไรใหไดมากที่สุด ๔. ขา ๕ ชน้ิ ห่ันบาง ๆ เพอ่ื หากลมุ ทช่ี นะและไดเ ลอื กภาพอาหารกอ น ๕. ตะไคร ๒ ตน ห่นั ยาว ๒-๓ ซม. หรือใชวิธีการจับสลาก ๖. หอมแดง ๕ หัว หน่ั แบง ๔ สวน 4. ครูแจงใหนักเรียนทราบวา แตละกลุมตอง ประกอบอาหารตามภาพที่กลุมไดเลือก โดย ใชความคิดสรางสรรค มีจิตสํานึกในการใช พลงั งานและทรพั ยากรอยา งประหยดั และคมุ คา ๗. พริกขีห้ นู ๓-๕ เม็ด บุบพอแตก ๘. เห็ดฟาง ๑๐๐ กรัม ผา ๒ หรือ ๔ ชิ้น ๙. นํ้าปลา ๑ ชอ นโตะ ๑๐. นา้ํ พรกิ เผา ๒ ชอนโตะ ๑๑. น้ํามะนาว ๒๒๒๑ชอ ถนว โยตตะ วง ๑๒. นา้ํ ซปุ ไก (ตม นาํ้ กบั ซี่โครงไก) ขนั้ ตอนการทาํ ตม ยาํ กงุ ๑ นําน้ําซุปใสหมอ ตั้งไฟออน ใสขา ตะไคร หอมแดง ใบมะกรูด เม่ือนํ้าเดือดใส เห็ดฟางและกงุ ลงไป ๒ ปรงุ รสดว ยพริกขห้ี นู นํา้ ปลา น้ําพรกิ เผา ๓ ปดไฟ แลวปรงุ รสดว ยนํา้ มะนาว ตกั ใสช าม โรยหนาดวยผักชี à¡Ãç´¡Ò÷íÒ§Ò¹ • วธิ กี ารทาํ นา้ํ ซปุ ไก ตม นา้ํ สะอาดใหเ ดอื ด ใสโ ครงไกล งไป ตามดว ยรากผกั ชี กระเทยี ม • พหารกกิ ตไทอ ยงก(สาราทมาําเรปถนใสตห มอยมําหกวังุ ในห้าํ ญขน หใหวั ผใ สกั นกมาดส)ดเป๔๑ด ไถฟวอยอ ตนวงตม ประมาณ ๑ ชวั่ โมง ๒๐ นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคดิ 1 ตม ยาํ เปน อาหารพนื้ เมอื งทคี่ นไทยคนุ เคยดี เพราะมใี หร บั ประทานทกุ ภาค ขณะปรุงอาหาร ผปู รุงอาหารตอ งระวงั เก่ียวกบั เร่ืองใดมากทีส่ ุด และเปนทน่ี ยิ มสาํ หรบั ชาวตางชาติ ตม ยาํ มี 2 ประเภท ไดแ ก 1. การชิมรสชาติอาหาร 2. ทา ทางการปรุงอาหาร 1. ตม ยาํ นา้ํ ใส เปน ตน ตาํ รบั ของตม ยาํ ซง่ึ อาหารไทยในอดตี มกั จะไมใ สน ม 3. การไอหรอื จามรดอาหาร หรือกะทิ และปรงุ อยางเรียบงาย โดยตมยาํ นํ้าใสจะมีสวนประกอบหลกั 4. การแตง กายสฉี ดู ฉาด คอื เนื้อสตั ว เชน กบ ปลาชอน ไกบาน และมเี คร่อื งเทศหลัก คอื ตะไคร ใบมะกรดู พรกิ สด พรกิ แหง ขา (วเิ คราะหค าํ ตอบ : ขณะปรงุ อาหาร ผปู รงุ อาหารตอ งระวงั เกยี่ วกบั การไอหรือจามรดอาหาร เพราะเชื้อโรคจากการไอหรือจาม จะ 2. ตมยําน้ําขน พัฒนามาจากตมยําน้ําใส ซ่ึงในชวงท่ีรัชกาลท่ี 6 เสด็จ สามารถกระจายเขาสูอาหาร และผูรับประทานอาหารอาจไดรับ ประพาสรานอาหารจีนบริเวณสามยาน พระองคไดเสวยตมยํากุงใสนม เชื้อโรคน้ันเขาสูในรางกาย ทําใหเกิดอาการเจ็บปวยได ดังน้ัน ซ่ึงเปนแบบนํ้าขนในรานอาหารจีนแหงหน่ึง หลังจากนั้นตมยําน้ําขน ขอ 3. จึงเปนคาํ ตอบท่ีถกู ตอ ง) จึงเปน ท่ีนยิ มสืบตอ กันมาจนถึงปจ จุบนั T26
นาํ สอน สรปุ ประเมิน ๒µÇÑ ÍÂÒ‹ §·èÕ ผดั ไทย1กุง สด ขนั้ สอน สํารวจและวิเคราะห์งาน 1. นกั เรยี นแตล ะกลมุ วเิ คราะหภ าพอาหารทกี่ ลมุ ของตนเองไดวา เปนอาหารชนดิ ใด 2. นักเรียนสืบคนขอมูลอาหารท่ีกลุมของตนเอง ได ตามหัวขอตอไปนี้ • วัตถุดบิ ทใ่ี ชในการประกอบอาหาร • เครอื่ งปรงุ ท่ีใชในการประกอบอาหาร • อปุ กรณท ่ใี ชใ นการประกอบอาหาร • ข้ันตอนการประกอบอาหาร • การจดั อาหาร 3. ครูใหนักเรียนนําใบงานท่ี 2.2 จากแผนการ จัดการเรียนรูมาใชประกอบการสํารวจและ วเิ คราะหง าน สว นผสมน้ําผัดไทย 2 ๑. นนน้าาํ้ํา้ํ เมมปะันลขถาา่วั มเ๒๑หเปลถยอื ว กงยต๑๑วงถชวอ ยนตโตวงะ ๒. ๓. ๔. พรกิ ข้ีหนูปน ๑ ชอ นโตะ ๕. เกลือปน ๑ ชอนชา ๖. นํา้ ตาลปบ ๕๐๐ กรัม อาตหาํ ารราไทย ๗. นซหอีํา้อต๊ิวมาขแลาดทวงรส๔๑าบั ยลถะ๔๑วเยอถตียววดยงต๕วงหวั ๘. ๙. ขนั้ ตอนการทาํ นา้ํ ผดั ไทย ๑ ตั้งหมอ ใสน าํ้ มันถวั่ เหลอื ง หอมแดงสับละเอยี ด ผดั พอสกุ ๒ ใสน้าํ เปลา นา้ํ ตาลปบ นํ้าตาลทราย คนจนนํา้ ตาลละลาย ๓ ใสนํ้าปลา น้ํามะขามเปยก เกลอื ปน ซีอิว๊ ขาว พรกิ ขห้ี นปู น คนใหเขากัน ๒๑ ขอ สอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู “หมิวนํานํ้ามันใสกระทะเล็กนอย แลวตั้งไฟใหนํ้ามันรอน 1 ผดั ไทย เปนอาหารท่ไี ดรบั อทิ ธิพลจากอาหารจนี เดิมเรยี กอาหารชนดิ น้ีวา พอประมาณ จึงใสไกและผักลงในกระทะและพลิกอาหารไปมา “กว ยเตีย๋ วผัด” และไดร บั การเปลี่ยนแปลงดานรสชาตใิ หมต ามอยา งอาหารไทย จนสกุ ” หมวิ มวี ธิ ปี ระกอบอาหารคลา ยกบั ขอ ใด มากขนึ้ ในเวลาตอ มา ปจ จบุ ันผัดไทยไดก ลายเปนหนึ่งในอาหารทมี่ ชี ่อื เสยี งของ ไทย 1. ไกท อด 2 มะขาม เปน พืชทใ่ี ชทาํ อาหารไดห ลายสวน ทั้งใบออน ฝกออน ฝก แก และ 2. ไขเ จียว เมล็ด เมล็ดมะขามฝกแกนํามาทํามะขามเปยกซึ่งเปนเครื่องปรุงรสเปร้ียว 3. แกงจืดเตา หู ทีส่ าํ คญั ในอาหารไทย เชน แกงสม ตม สม นํ้าปลาหวาน นอกจากน้ี ฝกมะขาม 4. ผดั กระเพราไก ยงั ใชท าํ ขนมไดอ กี หลายชนดิ เชน มะขามแชอ ม่ิ มะขามแกว มะขามคลกุ มะขาม กวน ยอดและใบมะขามออน สามารถนําไปยําหรือใสในตมเพ่ือเพ่ิมรสเปรี้ยว (วิเคราะหคําตอบ : การปรุงอาหารโดยนํานํ้ามันเพียงเล็กนอย เมลด็ มะขามกส็ ามารถนาํ มาควั่ รบั ประทานได ใสกระทะ ตั้งไฟใหรอน แลวใสอาหารลงในกระทะ พลิกไปมา จนสุก เปนการผัด จึงตรงกับผัดกระเพราไก สวนขอ 1. ขอ 2. T27 เปน การทอด และขอ 3. เปนการตม ดังน้นั ขอ 4. จึงเปนคําตอบ ที่ถกู ตอ ง)
นาํ สอน สรุป ประเมนิ ขน้ั สอน สวนผสมผัดไทย วางแผนการทํางาน ๑. ตเสนน กกุยวชยาเยต1๋ีย๕วเสตนนเลก็ ๑๐๐ กรมั ๑๐. กุง แหงสับ ๒ ชอนโตะ ๒. ๑๑. นเนหคา้ํํ้าอรเผมอื่ปดัแงลไเดาทคงยียส๔๑งบั ๓๑ถเช๑วถนยวชตยอมวตนงะวนโงตาะวผา ซกี 1. ครูใหนักเรียนดูตัวอยางการประกอบอาหาร ๓. กงุ สด ๕ ตวั ๑๒. โดยใช PowerPoint ๔. หวั ผักกาดหวาน ๒ ชอ นโตะ ๑๓. ๕. ไขไก ๒ ฟอง ๑๔. หัวปลี 2. นกั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกนั วางแผนการประกอบ ๖. นเหตาํ้น่ั ามเหปนั ูเนหถล่วัลกูเือหเงตลาอื๒๑งก๒อนชอนโตะ อาหารของกลมุ ตนเอง โดยใชข อ มลู ทไ่ี ดส าํ รวจ ๗. และวเิ คราะห ๘. ถัว่ ลิสงค่ัว ๒ ชอ นโตะ ปฏิบัตงิ านและสรปุ ผล ๙. ถว่ั งอก ๑๐๐ กรัม 1. นักเรียนแตละกลุมประกอบอาหารตามท่ีได ขน้ั ตอนการทาํ ผดั ไทย วางแผนไว โดยทําแบบบันทึกการประกอบ อาหาร ๑ ตั้งกระทะ ใสน ้ํามนั ถ่ัวเหลอื ง กุงสด ผัดพอสุก ตกั ใสจ านพกั ไว ๒ ใสห อมแดงสบั ผดั พอเหลือง ใสเ ตาหูเ หลอื ง หัวผักกาดหวาน กุงแหงสับ 2. ครูตรวจดูการทํางานของแตละกลุมและคอย ๓ ใสเ สนกวยเต๋ยี วเสนเลก็ นํา้ ผัดไทย ผดั จนเสนนุม ใสไข ผัดใหเขา กัน ใหคาํ แนะนาํ ๔ ใสถ ั่วงอก ใบกยุ ชา ย ผัดใหเขา กัน ๕ ตกั ใสจาน ตกแตง ดว ยกงุ เสริ ฟ พรอ มเคร่อื งเคยี ง ผกั ตา ง ๆ เชน ถว่ั งอก ตน กุยชา ย 3. นักเรียนแตละกลุมออกมานําเสนอผลการ ทาํ งานของตนเอง บอกปญ หาและวธิ กี ารแกไ ข ผักกาดหอม ถว่ั ลสิ งค่วั มะนาวผา ซีก หัวปลี 4. ครูชิมอาหารของแตละกลุมและเสนอแนะ »ÅÍ´ÀÑÂäÇ¡Œ ‹Í¹ เพมิ่ เตมิ เมอ่ื ยกกระทะหรอื หมอ ลงจากเตา ควรใชผ า ทมี่ คี วามหนาจบั รองทห่ี กู ระทะหรอื หมอ เพอ่ื ปอ งกนั 5. ใหเพื่อนตางกลุมรวมกันชิมอาหารของกลุม ความรอ น ตนเองและเสนอแนะเพ่มิ เติม ˹·Ù Òí ä´Œ 6. ครใู หน กั เรยี นแตล ะกลมุ บนั ทกึ การทาํ งานของ ๒๒ การประกอบอาหาร ทําไดด ี พอทาํ ได ทําอีกครงั้ กลมุ ตนเองลงในกจิ กรรมตามตวั ชวี้ ดั กจิ กรรม ท่ี 2.1 และแบบทดสอบท่ี 2 จากแบบวัดฯ การงานอาชีพ ป.6 นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคดิ 1 กุยชาย เปนพืชผักสมนุ ไพรชนิดหน่ึง มีลักษณะเปน ไมลมลกุ ใบแบน ตรง เมือ่ ประกอบอาหารเสร็จแลว ผปู ระกอบอาหารควรทําอยา งไร โคนมกี าบบางซอ นสลบั กนั ไปมา โดยจะออกดอกเปน ชอ สขี าว มกี ลนิ่ หอม กยุ ชา ย จงึ จะเหมาะสม มี 2 ชนิด คอื กุยชา ยเขยี วและกยุ ชายขาว สามารถนํามารบั ประทานไดห ลาย วิธี ดังน้ี 1. อาบน้ํา 2. ถายรปู อาหารทท่ี าํ 1. นํามาทําขนม แมวากยุ ชายจะจัดอยูในประเภทผกั แตสามารถนํามาทาํ 3. นําอาหารไปแชใ นตเู ยน็ ขนมได เชน ขนมกุยชายดอกไม ขนมกยุ ชา ยทอด ขนมกุยชายแปง สด 4. ทาํ ความสะอาดอุปกรณท ี่ใช 2. นาํ มาทาํ อาหาร กยุ ชา ยสามารถนาํ มาทาํ อาหารไดอ ยา งหลากหลาย เชน (วิเคราะหคําตอบ : เม่ือประกอบอาหารเสร็จแลว ควรทําความ ผดั ดอกกุยชา ยตบั ไก กุยชายผดั หม่ี สะอาดภาชนะและอุปกรณท่ีใชประกอบอาหารใหเรียบรอย ดังนน้ั ขอ 4. จึงเปนคาํ ตอบท่ถี ูกตอง) 3. นํามาทํายาสมุนไพร กุยชายมีฤทธิ์ในการรักษาและบรรเทาอาการของ โรคหลายชนดิ ตามตาํ รับสมนุ ไพร เชน บรรเทาอาการทอ งเสีย โดยนาํ ตน กยุ ชา ยมาคนั้ นาํ้ และผสมกบั เกลอื เลก็ นอ ย อาการทอ งเสยี จะบรรเทาลง T28
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ กจิ กรรมพฒั นาการทา� งาน ขน้ั สรปุ ครูและนกั เรียนรวมกันสรปุ ผลการประกอบ อาหารของแตล ะกลมุ ถามมาหนตู อบได้ ๑. เราต้องเตรยี มอปุ กรณ์และวตั ถดุ ิบก่อนการประกอบอาหารเพ่อื อะไร ๒. การเลือกซ้ืออาหารเพื่อบรโิ ภคโดยยึดหลัก ๓ ป. (ป.ประโยชน ์ ป.ปลอดภัย ป.ประหยดั ) มีประโยชน์อย่างไร ๓. เ พราะเหตใุ ด นักเรยี นจึงควรเลอื กซ้ือผกั ผลไมต้ ามฤดกู าล เรียนรกู้ จิ กรรมทักษะการท�างาน C21 erCorLiefeSuSabkinllds CareLearning aSnkdillIsnnovation TIencform jects and 21st Centur atihonno,MloyegdyThiaeSk,mailelnssd SCPtaruoLnrefrdeiacasrusnridlouinsnmgaalEnanDdnvediArvoIesnnslesomtsprsuemmcnteetisonnntts ๑. อา่ นสถานการณต์ ่อไปนี้ แล้วเขียนหลักในการซื้ออาหารตามท่ีกา� หนด ลงในสมดุ คณุ พอ่ จะทา� ผดั ผกั รวม แตอ่ าหารสด อาหารแหง้ และเครอื่ งปรงุ ในครวั หมด คณุ พ่อจึงใหน้ ักเรยี นไปซ้อื อาหารและเครอื่ งปรงุ ของผัดผักรวม ๒. แบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๓-๕ คน รว่ มกนั คิดรายการอาหารจานเดียว กลมุ่ ละ ๑ อยา่ ง แล้วท�าอาหาร จากนน้ั เขยี นบันทกึ ผลการปฏบิ ัติ ลงในสมุด แลว้ ออกมาน�าเสนอหนา้ ช้นั เรียน หนูรู้สกึ อย่างไร ๑. นักเรียนคดิ วา่ การเรียนร้กู ารประกอบอาหารมีประโยชนอ์ ย่างไร ๒. เม่ือนักเรียนสามารถประกอบอาหารได้ด้วยตนเองอย่างถูกวิธีและ ปลอดภยั นักเรียนรู้สึกอยา่ งไร 23 กิจกรรม เสรมิ สรางคุณลักษณะอนั พึงประสงค เกร็ดแนะครู ครูใหนักเรียนทําความสะอาดและจัดเก็บภาชนะท่ีใชในการ ครูอธิบายเสริมความรูเพิ่มเติมใหนักเรียนทราบวา หากนักเรียนตองการ รบั ประทานอาหารในโรงเรียน เชน จาน ชาม ชอน สอ ม ใหเ ปน ประกอบอาชีพเก่ียวกับการทําอาหาร ควรมคี ณุ สมบัติ ดังน้ี ระเบียบเรยี บรอ ย แลว บันทกึ ผลการปฏิบตั ิเปนเวลา 5 วนั จากนน้ั สมุ ตวั แทนออกมานาํ เสนอหนา ชนั้ เรยี นวา มวี ธิ ที าํ ความสะอาดและ 1. มีความรูแ ละความสามารถในการประกอบอาหาร เชน อาหารไทย จดั เกบ็ อยางไร อาหารฝรงั่ อาหารจีน การทาํ ขนมหรือของหวาน 2. มีใจรกั การทาํ อาหารและการบรกิ าร 3. มคี วามอดทน สามารถทํางานภายใตส ภาวะความกดดนั ตามความ ตอ งการของลกู คา 4. มีรางกายและสขุ ภาพแข็งแรง 5. สามารถยอมรบั คําตชิ มจากลกู คา และหมัน่ ศึกษาหาความรูและ ประสบการณใ หมๆ อยูเสมอ 6. มีไหวพรบิ ในการแกไขปญหาเฉพาะหนา 7. ซ่ือสตั ย ขยนั และรักความสะอาด 8. มคี วามสามารถในดานการจดั การ บรหิ ารธุรกจิ T29
นาํ สอน สรปุ ประเมิน ขน้ั ประเมนิ Ẻ»ÃÐàÁ¹Ô ¡Ò÷Òí §Ò¹ ส�าห 1. ครตู รวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว ยการเรยี นรู ค�าชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นประเมนิ การทา� งานของตนเองตามรายการ รับนักเรียน ที่ 2 จากแผนการจัดการเรยี นรู ที่กา� หนด แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน รายการ ท�าไดด้ ี พอท�าได้ ปรับปรงุ 2. ครตู รวจใบงานที่ 2.2 จากแผนการจดั การเรยี นรู 3. ครูตรวจแบบบันทึกการประกอบอาหาร จาก ๑. เ ลือกวัตถุดบิ ในการประกอบอาหารไดเ้ หมาะสม แผนการจัดการเรียนรู ๒. เลอื กอปุ กรณแ์ ละภาชนะท่ีใช้ ในการประกอบ ตัวอยางตารางบันทึกผล 4. ครูตรวจกิจกรรมตามตัวชี้วัด กิจกรรมท่ี 2.1 อาหารได้เหมาะสม จากแบบวัดฯ การงานอาชีพ ป.6 ๓. เ ลือกภาชนะที่ใช ้ใสอ่ าหารและจัดอาหารได้ 5. ครตู รวจแบบทดสอบท่ี 2 จากแบบวดั ฯ การงาน เหมาะสม อาชพี ป.6 ๔. ประกอบอาหารได้ รวมทําไดดี = ๓ พอทําได = ๒ ปรบั ปรงุ = ๑ Ẻ»ÃÐàÁÔ¹ ·Ñ¡ÉСÒ÷íÒ§Ò¹ C21 Life Sakinllds CareerLearning aSnkdillIsnnovation TIencform Core Sub jects and 21st Centur atihonno,MloyegdyThiaeSk,mailelnssd SCPtaruonrfrdeicasusridlousnmaalnaDdnedAvIesnslesotsprsummcteeionnntts Learning Environments ค�าชีแ้ จง : ใหผ้ ูส้ อนประเมินทักษะการทา� งาน C21 ตามรายการ สา� หรับครู ที่กา� หนด แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องท่ีตรงกบั ระดับคะแนน รายการ ทา� ไดด้ ี พอท�าได้ ปรับปรงุ ๑. แบ่งหน้าที่อยา่ งเหมาะสม ๒. ร่วมมอื กันท�างานจนสา� เร็จ ตัวอยางตารางบันทึกผล ๓. แสดงความคิดเหน็ อย่างเหมาะสม ๔. รบั ฟง ความคดิ เห็นของคนในกลุ่ม ๕. การน�าเสนอผลงาน รวมทําไดด ี = ๓ พอทําได = ๒ ปรับปรุง = ๑ 2๔ แนวทางการวัดและประเมินผล ครศู ึกษาแนวทางการวัดและประเมนิ ผล เพ่อื ประเมินช้นิ งานของนกั เรยี นจากแบบประเมินช้นิ งานทีแ่ นบทายแผนการจดั การเรียนรู การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด ) แบบประเมินการนาเสนอผลงาน แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ แบบประเมินการประกอบอาหาร คาช้แี จง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในช่องทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน คาช้แี จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน คาช้ีแจง : ให้ผ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ลงในช่องทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คาชี้แจง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในชอ่ งทต่ี รงกับระดับคะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ 3 ระดับคะแนน 1 ลาดับที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน ระดบั คะแนน การมี คณุ ลกั ษณะ ระดบั คะแนน 2 32 32 ส่วนรว่ มในการ อันพึงประสงค์ดา้ น 321 1 ลาดบั ท่ี รายการประเมิน การทางาน 1. รกั ชาติ ศาสน์ รายการประเมิน 1 การกาหนดแนวทางในการทางานและปรับปรงุ การทางานแตล่ ะ 1 การแสดง การยอมรบั ฟงั ตามท่ไี ดร้ ับ ปรบั ปรงุ รวม กษัตริย์ ขั้นตอน 1 เนื้อหาละเอียดชัดเจน ลาดับท่ี ชื่อ–สกลุ ความคิดเห็น ผู้อ่ืน มอบหมาย ความมีน้าใจ ผลงานกลุ่ม 15 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติและร้องเพลงชาติได้ 1 การแสดงความคิดเหน็ ของนกั เรียน 321 321 คะแนน 2. ซ่อื สัตย์ สจุ ริต 1.2 เข้ารว่ มกิจกรรมท่ีสร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ 2 ใชท้ กั ษะการจดั การในการทางานและมีทกั ษะการทางานรว่ มกนั 321 321 32 1 3. มีวินยั รับผิดชอบ 2 ความถกู ต้องของเน้ือหา 2 การยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อ่ืน 4. ใฝเ่ รียนรู้ ต่อโรงเรยี น 3 การมีมารยาทในการทางานร่วมกบั ครอบครวั และผู้อื่น 1.3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตามหลักศาสนา 3 ภาษาทีใ่ ช้เข้าใจงา่ ย 3 การทางานตามหน้าที่ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 1.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมท่เี กีย่ วกับสถาบนั พระมหากษัตรยิ ต์ ามทีโ่ รงเรยี น รวม 4 ประโยชนท์ ี่ได้จากการนาเสนอ 4 ความมนี า้ ใจ 6. มุง่ มน่ั ในการทางาน จัดข้นึ 7. รักความเป็นไทย 2.1 ให้ข้อมลู ทถี่ กู ต้องและเป็นจริง 5 วิธีการนาเสนอผลงาน 5 การตรงต่อเวลา 8. มจี ติ สาธารณะ 2.2 ปฏบิ ัตใิ นสิ่งที่ถกู ตอ้ ง รวม รวม 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของครอบครวั ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ตวั อยางแบบประเมินเกณฑก์ารให้คะแนน ............../.................../................ มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมต่าง ๆ ในชวี ิตประจาวัน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบูรณ์ชดั เจน 4.1 รู้จักใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์และนาไปปฏิบตั ิได้ ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เป็นสว่ นใหญ่ ลงชอ่ื ...................................................ผูป้ ระเมนิ ลงชอ่ื ...................................................ผ้ปู ระเมนิ 4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาให้เหมาะสม .........../................./................ ............../.................../................ 4.3 เชอ่ื ฟงั คาสัง่ สอนของบิดา-มารดา โดยไม่โตแ้ ยง้ จากแผนการจดั การเรยี นรูผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน 4.4 ตง้ั ใจเรยี น เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 5.1 ใช้ทรพั ยส์ ินและสง่ิ ของของโรงเรียนอยา่ งประหยดั ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ให้ 2 คะแนน 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรู้คณุ คา่ ดี = 3 คะแนน ให้ 1 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงิน พอใช้ = 2 คะแนน 6.1 มีความตัง้ ใจและพยายามในการทางานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ปรบั ปรงุ = 1 คะแนน 8-9 ดี ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมนิ 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แท้ตอ่ อปุ สรรคเพ่ือให้งานสาเร็จ 5-7 พอใช้ ............../.................../............... 7.1 มจี ิตสานึกในการอนรุ ักษ์วัฒนธรรมและภูมิปญั ญาไทย ต่ากว่า 5 ปรบั ปรงุ ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน 7.2 เห็นคณุ คา่ และปฏบิ ัตติ นตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รู้จกั ชว่ ยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทางาน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 8.2 ร้จู กั การดแู ลรกั ษาทรัพย์สมบตั ิและสิ่งแวดล้อมของห้องเรียนและ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน โรงเรยี น 2 คะแนน 12-15 ดี 12-15 ดี ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน 8-11 พอใช้ 8-11 พอใช้ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง ให้ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรงุ ต่ากว่า 8 ปรับปรงุ เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ตา่ กว่า 8 ปรับปรงุ ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมท่ีปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั บิ างครง้ั T30
Chapter Overview แผนการจัด สอื่ ที่ใช้ จดุ ประสงค์ วธิ ีสอน ประเมิน ทักษะท่ีได้ คณุ ลกั ษณะ การเรยี นรู้ อนั พงึ ประสงค์ - ห นงั สือเรียน แผนฯ ท่ี 1 การงานอาชพี ป.6 1. บอกประเภทของงาน วิธสี อนโดย - ตรวจแบบทดสอบ 1. ทกั ษะการ 1. มีวินยั หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 เกษตรได้ จดั การเรียนรู้ ก่อนเรยี น หน่วยการ รวบรวมขอ้ มลู 2. ตรงตอ่ เวลา ประเภทงาน 2. มีทกั ษะการทำ� งาน แบบรว่ มมอื : เรยี นร้ทู ี่ 3 2. ทักษะการ 3. มีความ เกษตร - บ ัตรภาพงานเกษตร รว่ มกนั ในการทำ� งาน เทคนิคคู่คิด - สงั เกตพฤติกรรม เช่ือมโยง รับผดิ ชอบ รว่ มกับผ้อู ื่น การทำ� งานรายบคุ คล 3. ทักษะการ 1 3. ปฏิบตั ติ นอยา่ งมี - สงั เกตพฤตกิ รรม เรยี งล�ำดบั มารยาทในการ การทำ� งานกลุม่ 4. ทกั ษะการนำ� ช่ัวโมง ทำ� งานกับผอู้ น่ื - สงั เกตความมีวนิ ัย ความรู้ไปใช้ ตรงตอ่ เวลา และ ความรบั ผิดชอบ แผนฯ ที่ 2 - หนังสือเรยี น 1. บอกประเภทของ วิธสี อนโดย - ตรวจใบงานที่ 3.1 1. ทกั ษะการ 1. มวี ินัย การงานอาชีพ ป.6 พันธุพ์ ืช การคดั เลือก จดั การเรียนรู้ - ตรวจใบงานที่ 3.2 รวบรวมข้อมูล 2. ตรงต่อเวลา การปลูกพืช หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 พันธพุ์ ืช การขยาย แบบรว่ มมือ : - ตรวจใบงานที่ 3.3 2. ทกั ษะการ 3. มคี วาม - แบบวัดฯ พันธพุ์ ืช การเลอื ก เทคนคิ เรียนรู้ - สังเกตพฤตกิ รรม เปรยี บเทยี บ รบั ผิดชอบ 1 การงานอาชีพ ป.6 ดินและป๋ยุ ได้ ร่วมกัน การทำ� งานรายบุคคล 3. ทักษะการ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 3 2. มที ักษะการทำ� งาน - สังเกตพฤตกิ รรม เรยี งลำ� ดับ ชว่ั โมง - ใบงานท่ี 3.1 เร่อื ง รว่ มกนั ในการทำ� งาน การทำ� งานกลมุ่ ประเภทและประโยชน์ ร่วมกับผอู้ ่นื - สงั เกตความมวี ินัย ของพนั ธุพ์ ืช 3. ปฏบิ ตั ิตนอยา่ งมี ตรงต่อเวลา และ - ใบงานท่ี 3.2 เรือ่ ง มารยาทในการ ความรบั ผดิ ชอบ การขยายพันธุ์พชื ท�ำงานกับผอู้ น่ื - ใบงานท่ี 3.3 เรื่อง ดินและปุย๋ - บัตรภาพ/บัตรค�ำพชื T31
Chapter Overview แผนการจดั สื่อที่ใช้ จดุ ประสงค์ วิธสี อน ประเมิน ทกั ษะที่ได้ คณุ ลักษณะ การเรียนรู้ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 3 - หนังสอื เรียน 1. บอกวธิ กี ารปลกู วธิ ีสอนโดยใช้ - ตรวจใบงานที่ 3.4 1. ทักษะการ 1. มวี นิ ัย การปลกู ไมด้ อก การงานอาชีพ ป.6 ไมด้ อกไม้ประดบั การสาธติ - สงั เกตพฤติกรรม รวบรวมขอ้ มูล 2. ตรงต่อเวลา หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 ไดต้ ามขน้ั ตอน การทำ� งานรายบุคคล 2. ทักษะการ 3. มีความ ไม้ประดบั - ใบงานท่ี 3.4 เรอ่ื ง 2. ใชท้ ักษะการจดั การ - สังเกตพฤตกิ รรม เชอื่ มโยง รับผิดชอบ การปลูกไมด้ อก ในการทำ� งานและ 1 ไมป้ ระดับ มที ักษะการทำ� งาน การทำ� งานกลมุ่ 3. ทกั ษะการ รว่ มกันในการปลูก - สงั เกตความมีวนิ ยั เรียงลำ� ดบั ช่วั โมง - วัสดุและอปุ กรณ์การ ตรงตอ่ เวลา และ 4. ทักษะการนำ� ปลกู ไมด้ อกไมป้ ระดบั ไม้ดอกไมป้ ระดบั ความรับผิดชอบ ความรไู้ ปใช้ 3. ปฏบิ ตั ิตนอยา่ ง มีมารยาทในการ ทำ� งานกบั ผูอ้ ่ืน T32
Chapter Overview แผนการจัด ส่ือที่ใช้ จุดประสงค์ วิธสี อน ประเมนิ ทักษะที่ได้ คุณลกั ษณะ การเรยี นรู้ อนั พึงประสงค์ - หนังสอื เรยี น 1. บอกวธิ ีการปลกู ผัก วธิ สี อนโดยใช้ - ตรวจใบงานที่ 3.5 1. ทักษะการ แผนฯ ที่ 4 การงานอาชีพ ป.6 สวนครัวไดอ้ ย่างเป็น การสาธิต - ตรวจกิจกรรมที่ 3.1 รวบรวมขอ้ มูล 1. มวี นิ ยั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ข้ันตอน 2. ตรงต่อเวลา การปลกู ผกั ขอ้ 1 จากแบบวัดฯ 2. ทักษะการ 3. มคี วาม สวนครัว - แบบวัดฯ 2. ใช้ทักษะการจดั การ การงานอาชีพ ป.6 เชือ่ มโยง การงานอาชพี ป.6 ในการท�ำงานและ - สังเกตพฤตกิ รรม 3. ทกั ษะการ รบั ผิดชอบ 1 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 3 มที กั ษะการท�ำงาน การทำ� งานรายบคุ คล เรียงลำ� ดบั ร่วมกันในการปลูก - สงั เกตพฤติกรรม 4. ทักษะการน�ำ ช่วั โมง - ใบงานที่ 3.5 เรอ่ื ง ผกั สวนครวั การทำ� งานกลุ่ม ความรู้ไปใช้ การปลูกผกั สวนครวั - สังเกตความมีวินัย 3. ปฏิบตั ิตนอยา่ ง ตรงต่อเวลา และ - วสั ดุและอปุ กรณ์การ มีมารยาทในการ ความรับผิดชอบ ปลูกผักสวนครัว ท�ำงานกับผูอ้ น่ื แผนฯ ที่ 5 - หนงั สือเรียน 1. บอกประเภทของ วิธีสอนแบบ - ตรวจใบงานที่ 3.6 1. ทักษะการ 1. มวี นิ ัย การงานอาชพี ป.6 สตั วเ์ ลย้ี ง การคดั เลอื ก กระบวนการ - สังเกตพฤตกิ รรม รวบรวมข้อมลู 2. ตรงต่อเวลา การเล้ียงสตั ว์ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 พนั ธส์ุ ตั ว์ และการ กลุ่มสัมพันธ์ การทำ� งานรายบุคคล 2. ทักษะการ 3. มีความ ขยายพันธ์สุ ัตวไ์ ด้ - สังเกตพฤตกิ รรม เชือ่ มโยง รบั ผิดชอบ 2 - แบบวดั ฯ การทำ� งานกลมุ่ 3. ทักษะการ การงานอาชพี ป.6 2. มที ักษะการทำ� งาน - สงั เกตความมีวนิ ยั เรยี งล�ำดับ ชัว่ โมง หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 3 รว่ มกันในการทำ� งาน รว่ มกับผูอ้ นื่ - ใบงานท่ี 3.6 เร่อื ง ตรงต่อเวลา และ 4. ทกั ษะการน�ำ การเลี้ยงสัตว์ 3. ปฏบิ ตั ติ นอย่าง ความรับผิดชอบ ความรไู้ ปใช้ มมี ารยาทในการ ท�ำงานกับผอู้ น่ื T33
Chapter Overview แผนการจัด สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วธิ ีสอน ประเมนิ ทักษะที่ได้ คณุ ลักษณะ การเรยี นรู้ อนั พึงประสงค์ - หนงั สอื เรียน แผนฯ ท่ี 6 การงานอาชพี ป.6 1. บอกวิธกี ารเล้ยี ง วิธีสอนโดยเนน้ - ตรวจกิจกรรม 3.1 1. ทกั ษะการ 1. มวี นิ ัย หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ปลากัดได้ กระบวนการ ข้อ 2 จากแบบวดั ฯ รวบรวมข้อมูล 2. ตรงตอ่ เวลา การเล้ียงปลา 2. สามารถเลย้ี งปลากดั เรียนความรู้ การงานอาชีพ ป.6 2. ทักษะการ 3. มีความ สวยงาม - แบบวดั ฯ ไดต้ ามขั้นตอน ความเขา้ ใจ - ตรวจแบบทดสอบ เชื่อมโยง รับผดิ ชอบ การงานอาชพี ป.6 3. ปฏบิ ตั ติ นอยา่ งมี หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 3. ทกั ษะการ 2 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 มารยาทและมที ักษะ จากแบบวดั ฯ เรยี งลำ� ดบั การทำ� งานรว่ มกัน การงานอาชพี ป.6 4. ทักษะการนำ� ชวั่ โมง - บตั รภาพปลากัด ในการท�ำงานร่วมกับ - ตรวจแบบทดสอบ ความรูไ้ ปใช้ ผู้อืน่ หลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 - สังเกตพฤตกิ รรม การทำ� งานรายบคุ คล - สังเกตพฤตกิ รรม การทำ� งานกลุม่ - สังเกตความมวี ินัย ตรงตอ่ เวลา และ ความรบั ผดิ ชอบ - ตรวจแบบบนั ทึก การเลย้ี งสัตว์ T34
นํา นาํ สอน สรุป ประเมนิ ó §Ò¹à¡ÉµÃ˹Nj ¡ÒÃàÃÂÕ ¹Ã·ŒÙ Õè ขน้ั นาํ กÔ¨กÃÃÁนÒí ÊÙ่กÒÃàÃยÕ น 1. นักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวยการหน่วยการเรียนรู้ท่ี3งานเกษตร เรียนรูท่ี 3 งานเกษตร จากแผนการจัดการ เรยี นรู 2. ครูใหนักเรียนดูบัตรภาพ แลวรวมกันแสดง ความคิดเหน็ วา ภาพใดบา งเปน งานเกษตร หากตองการขยาย หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 3 งานเกษตร หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 3 งานเกษตร พันธ์ุพชื หรอื สัตว์ ตองเตรียมตวั อยางไร หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 งานเกษตร 18 การงานอาชีพ ป.6 18 การงานอาชพี ป.6 19 การงานอาชีพ ป.6 19 การงานอาชพี ป.6 ÊÒÃÐÊíÒ¤ÞÑ à»Ò‡ ËÁÒ¡ÒÃàÃÂÕ ¹Ã»ŒÙ ÃШÒí ˹Nj ¡ÒÃàÃÂÕ ¹Ã·ŒÙ Õè ó การปลกู พชื และการเลย้ี งสตั ว์ ตอ้ งมคี วามรู้ ๑. อภิปรายแนวทางในการปลกู ไม้ดอกไมป้ ระดับ ปลูกผัก หรอื เลยี้ ง ในการคัดเลือกพันธุ์ การขยายพันธุ์ การดูแล ปลาสวยงาม และปรับปรุงการทา� งานแต่ละข้ันตอน การเก็บผลผลิต ตลอดจนการน�าผลผลิตไปใช้ (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๑) ประโยชนอ์ ย่างคมุ้ ค่า ๒. ใชท้ ักษะการจัดการในการท�างาน และมที ักษะการท�างานร่วมกัน (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๒) ๓. ปฏิบตั ิตนอย่างมีมารยาทในการท�างานกับครอบครวั และผอู้ ่ืน (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๓) ขอ สอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู หากตองการปลูกพืชเพื่อไปใชประกอบอาหาร ควรเลือก ครจู ดั กระบวนการเรยี นรู โดยการใหนกั เรียนปฏบิ ัติ ดงั น้ี ปลูกพชื ชนิดใด • ใหนักเรียนเลือกพืชและสัตวท่ีสนใจอยางละ 1 ชนิด แลวสืบคนขอมูล 1. กะหลาํ่ ดอก ผกั บุง สะระแหน เกี่ยวกับองคประกอบในการเจริญเติบโตของพืชและสัตววามีอะไรบาง 2. ข้ีเหลก็ หวั หอม พทุ ธรักษา เชน ดิน นํ้า อาหาร แสงแดด ออกซิเจน 3. ฟก เขยี ว กวางตุง จาํ ป • อภปิ รายรายละเอยี ดเกยี่ วกบั องคป ระกอบในการเจรญิ เตบิ โตของพชื และ 4. บวบ ชบา ชงโค สตั วช นดิ นัน้ • เขยี นแผนผงั ความคดิ เกยี่ วกบั องคป ระกอบในการขยายพนั ธพุ ชื และสตั ว (วเิ คราะหค าํ ตอบ : กะหลา่ํ ดอก ผกั บงุ สะระแหน เปน พชื สวนครวั ท่ีนกั เรยี นสนใจ ท่ใี ชประกอบอาหารได สวนขอ 2. พุทธรกั ษา เปน ไมดอก ขอ 3. จนเกิดเปนความรูความเขาใจวา การขยายพันธุพืชและสัตวใหมีคุณภาพ จําป เปน ไมประดบั ขอ 4. ชบา ชงโค เปนไมด อก ดังนั้น ขอ 1. ควรศึกษาองคป ระกอบ วธิ กี ารและขน้ั ตอนตา งๆ กอนเสมอ จงึ เปนคาํ ตอบท่ีถูกตอง) T35
นํา สอน สรุป ประเมิน ขน้ั สอน ñ §Ò¹à¡ÉµÃ 1. นกั เรยี นแตล ะคนเขยี นแผนผงั ความคดิ ประเภท งำนเกษตร คือ การทา� งานเกีย่ วกับการใช้ท่ดี นิ เพาะปลูกพชื รวมถึง ของงานเกษตร ตามความคิดของตนเอง การเลี้ยงสัตว์ การประมง การเกษตรแบบผสมผสาน โดยอาศัยความรู้ ประสบการณ์ ทรัพยากรธรรมชาติ และเงินทุน เพื่อให้พืชและสัตว์ 2. นักเรียนจับคูตามความสมัครใจ แลวรวมกัน เจรญิ เติบโต ให้ผลผลติ ส่ผู ทู้ �างานเกษตร แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเภทของงาน เกษตร จากน้ันรวมกันศึกษาความรู เร่ือง งานเกษตร สามารถแบง่ ได้ ๔ ประเภท ดังนี้ ประเภทของงานเกษตร จากหนงั สอื เรียนตาม ประเด็นท่ีกําหนด ประเภทของงานเกษตร 3. นักเรียนแตละคูรวมกันอภิปรายเพ่ือถายทอด ๑ การเพาะปลูกพืช ๒ การเล้ยี งสตั ว์ ๓ การประมง ความรทู ไ่ี ดจ ากการศกึ ษาใหเ พอื่ นในชนั้ เรยี นฟง เป็นการประกอบอาชีพ เป็นการท�างานเก่ียวกับ • พ ืชสวน เชน่ กลว้ ยไม้ เลย้ี งสัตว์บนบก เพ่อื การจับสตั วน์ �า้ และการ 4. ครูนําบัตรภาพงานเกษตรใหนักเรียนดู และ การบรโิ ภค การจา� หนา่ ย เพาะเลย้ี งสตั วน์ �้าทุกชนดิ ชวยกันตอบวา เปน งานเกษตรประเภทใด เฟอ งฟา กวางต้งุ ผลติ ภณั ฑ์จากสตั ว์ เช่น เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา มะเขือ โหระพา วัว เปด็ ไก่ การใช้ 5. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปประเภทของงาน แรงงาน เช่น ม้า ควาย เกษตรจากบัตรภาพ • พืชไร่ เชน่ ขา้ ว ออ้ ย • ส มวันนสปา� ปา 1ทะหป่ี ลลังูกขน้ึ มา ๔ การเกษตรแบบผสมผสาน ขน้ั สรปุ เป็นการจัดกิจกรรมการเกษตร ได้แก่ ปลูกพืช ทดแทนปาทถ่ี ูกทา� ลาย เล้ียงสตั ว์ ประมง ให้มีการผสมผสานและเกือ้ กูล ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรเู รอื่ ง ประเภท หรือปาเสอื่ มโทรม ในการผลิตซึ่งกันและกัน เช่น การเล้ียงหมูและ ของงานเกษตร เพอื่ ชว่ ยปองกนั น้า� ท่วม ลดความแรงของน�้า ขนั้ ประเมนิ ปลกู ผกั โดยไดป้ ุ๋ยจากมลู หมมู าปลกู ผกั และ 1. ครตู รวจสอบการอภปิ รายประเภทของงานเกษตร 2. ครวู ดั และประเมนิ ผลนกั เรยี นจากแบบทดสอบ กอ นเรยี น หนวยการเรียนรทู ี่ 3 จากแผนการ จัดการเรยี นรู ไดเ้ ศษผกั มาเปน็ อาหารหมอู กี ทอดหน่งึ ๒๖ นักเรียนควรรู กจิ กรรม ทา ทาย 1 สวนปา ในปจ จบุ นั มพี ระราชบญั ญตั กิ าํ หนดชนดิ ของพรรณไมท ส่ี ามารถปลกู ครูใหนกั เรยี นแบงกลมุ แลว หาขอมลู เกีย่ วกับการเกษตรแบบ เปน สวนปา ไว 58 ชนดิ เชน สกั พะยงู ชงิ ชนั แดง ประดปู า ประดบู า น มะคา โมง ผสมผสาน จากนนั้ ใหน กั เรยี นวางแผนการทาํ เกษตรแบบผสมผสาน เตง็ รงั ตะเคียนทอง ไมส กลุ ยาง สะเดา มะขามปอ ม หวา จามจรุ ี กนั เกรา และเก้ือกลู ผลผลติ ซงึ่ กนั และกนั กลุม ละ 1 กิจกรรม แลว ออกมา ซ่ึงพรรณไมสวนใหญมักเปนไมที่มีมูลคาทางเศรษฐกิจ เพื่อใชไมทําเคร่ืองเรือน นําเสนอหนา ชั้นเรียน เย่อื กระดาษ หรอื อนุรักษพรรณไมท่ีใกลจ ะสญู พนั ธุ T36
นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ ò ¡ÒûÅÙ¡¾×ª ขน้ั นาํ ๑. ประเภทของพันธ์ุพืช 1. ครูแจกบัตรภาพ/บัตรคําใหนักเรียนแตละคน จากน้ันใหน กั เรยี นจับกลุม โดยใหภ าพ/คาํ น้นั การเรียนรู้เกี่ยวกับพันธุ์พืชต่าง ๆ ท�าให้จัดประเภทของพันธุ์พืช สัมพนั ธก ัน ได้ถูกต้อง และสามารถน�าพันธุ์พืชมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมและ • ตัวอยา งบตั รภาบพตั รภ/าบพ/บตั ัตรรคาคาํ ตรงตามความตอ้ งการ พนั ธุพ์ ชื สามารถแบ่งเป็นประเภทได้ ดงั น้ี ดินร่วนปนทราย ไมดอก ไมประดบั พืชผกั สวนครัว มดี อกสวยงาม มลี �าต้นและใบสวยงาม ใช้รบั ประทาน เพาะเมล็ด ผกั สวนครัว ชวนชม ล้ินมังกร1 มะเขือเปราะ 2. นักเรียนแตละกลุมบอกวา กลุมของตนเองได บัตรภาพ/บัตรคําอะไร มีความสัมพันธกัน อยา งไร เข็ม แกวกาญจนา คะนา ประโยชน์ ของพนั ธุ์พชื ประเภทตาง ๆ • ใชป้ ระกอบอาหาร • ใชป้ ระดับตกแตง่ สถานที่ • ใใชช้เ้ปปร็นะกสอมบุนอไพาหรราักรษาโรค2 • เชน่ นา� ใบกะเพรามาตม้ นา้� เชน่ ยา� ดอกไม้ทอด ต่าง ๆ ให้สวยงาม แลว้ ดื่ม จะช่วยแก้อาการ • ใช้ประดับตกแตง่ สถานท่ี • จ�าหนา่ ยเพือ่ เป็นรายได้ ท้องอืด ทอ้ งเฟอ ต่าง ๆ ใหส้ วยงาม ของครอบครัว • จา� หน่ายเพือ่ เปน็ รายได้ • จา� หนา่ ยเพื่อเปน็ รายได้ ของครอบครัว ของครอบครวั ๒๗ ขอ สอบเนน การคิด นักเรียนควรรู ขอใดคือลักษณะเดนของไมป ระดบั 1 ล้ินมังกร เปนพืชที่มีใบสีเขียวเขม เติบโตในท่ีแหงแลงท่ีเปนดินทราย 1. นยิ มใชเ ปนสมนุ ไพรรกั ษาโรค ลักษณะใบเรียวยาวตรง นิยมปลูกไวในบานหรือสํานักงาน เพราะมีขนาด 2. ใชป ระกอบอาหารเพอ่ื รบั ประทานเปนหลกั กะทัดรดั และยงั มคี ุณสมบัตใิ นการชว ยฟอกอากาศไดด ี 3. มดี อกสวยงาม สามารถจาํ หนา ยเปน รายไดเสริม 2 สมุนไพรรักษาโรค มีสรรพคุณทางยาแตกตางกันไป ซ่ึงเราสามารถปลูก 4. มีลําตนและใบสวยงาม ใชป ระดบั ตกแตง สถานทตี่ างๆ สมุนไพรเหลา นี้ไดเองในครวั เรอื น เชน (วิเคราะหคําตอบ : ไมประดับเปนพืชที่ไมมีดอก แตมีลําตนและ • ขิง มีฤทธ์ิเผ็ดรอน ชวยบรรเทาอาการทองอืด ขับลม และชวยเรื่อง ใบทสี่ วยงาม ใชป ระดบั ตกแตง สถานทตี่ า งๆ หรอื จาํ หนา ยเพอ่ื เปน ระบบไหลเวียนโลหติ รายไดของครอบครวั ดงั นนั้ ขอ 4. จงึ เปนคาํ ตอบทีถ่ ูกตอง) • บวั บก แกรอนใน ชํ้าใน และลดความดันโลหติ สูง • มะกรูด แกอาการหนามืด ผอนคลายความเครียด บรรเทาอาการไอ และขบั เสมหะ • วานหางจระเข ชวยรักษาแผลไฟไหม น้ํารอนลวก บรรเทาอาการ แสบรอน ผ่นื แดง และลดการอกั เสบของผวิ T37
นํา นํา สอน สรปุ ประเมิน ขน้ั นาํ ๒. กำรคดั เลือกพนั ธุ์พืช 3. ครูตรวจสอบการจบั กลมุ โดยดูจากสหี รอื กำรคัดเลือกพันธุ์พืช เป็นการคัดต้นพืชท่ีมีลักษณะดี ตรงตาม สัญลกั ษณห ลงั บตั รภาพ/บัตรคํา ความต้องการ มาใช้ในการปรับปรุงพันธุ์ ขยายพันธุ์ ซึ่งหลักในการ คัดเลือกพนั ธ์พุ ชื มีดังนี้ 4. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ขอ มลู จากบตั รภาพ/ บตั รคาํ วา ประกอบไปดว ยพชื ประเภทของพชื วิธกี ารขยายพันธุ และดินทใี่ ชป ลกู ๑ ทใหน้ผตลอ่ ผโลรคติ แสลูงะศตั รพู ชื 1 ๒ ๓ ตรงกบั ความตอ้ งการของตลาด เชน่ ผลมรี สอร่อย ๔ เหมาะสมกบั สภาพอากาศแตล่ ะทอ้ งถิ่น ๕ ดแู ลรักษาได้งา่ ย เพ่อื ให้พชื เจรญิ งอกงามและใหผ้ ลผลิตที่ดี ๓. กำรขยำยพนั ธ์พุ ืช กำรขยำยพันธุ์พชื เปน็ การเพมิ่ จา� นวนพืชใหม้ ีมากข้นึ ตลอดจน รกั ษา ควบคมุ ลกั ษณะ และคณุ ภาพของพชื ทด่ี ีใหค้ งไวต้ ามเดมิ หรอื พฒั นา พนั ธุพ์ ืชใหด้ ยี ่งิ ขน้ึ การขยายพันธุ์พืชมหี ลายวิธี ดังน้ี การขยายพันธ์ุ จากเมล็ดของพชื การเพาะเมล็ด เป็นการใช้ เมล็ดพันธุ์ปลูกลงในดินที่ เตรยี มไว้ ๒๘ นักเรียนควรรู กิจกรรม สรางเสริม 1 ศัตรูพืช หมายถึง ส่ิงท่ีเปนสาเหตุทําใหการเพาะปลูกไมไดผลดีหรือกอ ครูใหนักเรียนแบงกลุม แลวเลือกพืชมา 1 ชนิด จากน้ัน ความเสียหายตอ พืช ศัตรพู ืชทีส่ าํ คัญ มีดังน้ี บอกวิธีการขยายพันธุพืช พรอมบอกเหตุผลวา การขยายพันธุ มีความเหมาะสมกบั พชื ท่ีเลือกอยา งไร และมขี อ ดอี ยางไร 1. แมลงศตั รูพชื เชน หนอนผเี สอ้ื ตัก๊ แตน ดว ง เพลี้ย ปลวก จิ้งหรดี ตอ แตน ซง่ึ จะทําลายตนไมด ว ยการดูดกินน้ําเลยี้ งหรือกัดกินใบ ทําใหพ ชื ขาดท่สี ะสมอาหารหรอื ขาดยอดออนสาํ หรบั การเจริญเตบิ โต 2. โรคพชื เชน โรคพชื ทเี่ กดิ จากเชอื้ ไวรสั เชอื้ ไมโครพลาสมา เชอื้ แบคทเี รยี เชอื้ รา ลักษณะอาการ คือ ใบหด ใบหงิก ใบดา งเหลอื ง ใบมว น กง่ิ แหง ตาย ลําตน ทรุดโทรม และไมใหผลผลติ 3. วัชพชื เชน กาฝาก หญาแมมด เปน พืชทไี่ มต อ งการใหขึ้นในทเ่ี พาะปลูก เพราะจะแยงธาตุอาหาร แสงแดด นํ้า จากพืช ทาํ ใหผลผลิตลดลง 4. ศตั รูอนื่ ๆ เชน นก หนู กระรอก ปู ไรแดง หอยทาก มักจะทําลายพชื ผล คอ นขางเฉพาะชนิด แตทาํ ความเสียหายตอ ผลผลติ อยา งมาก T38
นํา สอน สรุป ประเมิน การขยายพนั ธจุ ากกงิ่ ของพชื ขนั้ สอน การตอก่ิง เปนการใชกิ่ง การทาบกิ่ง เปนการนํา การตอนก่งิ เปนการควนั่ 1. นักเรียนแตละกลุมรวมกันสืบคนขอมูลจาก พขอันงธพดุ ชืี มตาน เตสอีย1บซแง่ึ ทเปนน ยพอชืด พืชตนตอที่ตัดกิ่ง กาน รอบ ๆ ก่ิงพันธุดี แลว บัตรภาพ/บัตรคําของกลุมตนเองวา มีวิธี หรือใบออกแลว ใหเ หลือ ลอกเปลอื ก ขดู ทอ อาหาร การปลูกพืชอยางไร จากหนังสือเรียนหรือสื่อ ในตระกลู เดยี วกัน รากและลําตนสั้น ๆ ไป ออก หุมดวยดนิ รวนหรือ การเรยี นรตู า งๆ โดยสรปุ เปน แผนผงั ความคดิ ทาบติดกับกิ่งพันธุดี ซ่ึง ขุยมะพราวที่ชุมน้ํา หอ ตามประเด็นท่ีกําหนด • ช่ือพืช • ประเภทของพืช • วธิ กี ารขยายพนั ธุ • วธิ กี ารคดั เลือกพันธุ • วิธีการปลูก • วธิ ีการดูแลรกั ษา • วธิ ีการเกบ็ เก่ยี ว เปน พชื ในตระกลู เดยี วกนั พลาสตกิ ทงิ้ ไวจ นกงิ่ พนั ธดุ ี งอกรากใหมอ อกมา การขยายพนั ธจุ ากหวั หนอ ตา หรือลาํ ตน ของพืช การติดตา เปน การนาํ ตา การปกชาํ เปนการใชก ง่ิ การแยกหัวหรือหนอ ของพืชพันธุดีไปติดกับ หรือลําตนของพืชพันธุดี เปนการตัดหัวหรือหนอ สวนของพืชตนตอ ซ่ึง ปกในน้ํา ดิน หรือวัสดุ ของพืชพันธุดีไปปลูก เปน พชื ในตระกลู เดยี วกนั ปลูก เพอื่ ใหง อกรากใหม เพ่ือใหเจริญเติบโตเปน พชื ตนใหม ˹ٷíÒä´Œ ขยายพนั ธพุ ชื ดว ยวธิ ตี า ง ๆ ทาํ ไดดี พอทําได ทาํ อีกครั้ง ๒๙ ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู กานดาตอ งการกรดี เปลยี่ นตน ตอ เฉอื นแผน ตา และเตรยี มแผล 1 ตนตอ หมายถึง สวนของตนพืชท่ีทําหนาที่เปนระบบราก คอยหาอาหาร ตางๆ บนตน ตอ เธอควรเลือกใชเครื่องมิอื ในขอใด หลอเลี้ยงตน พชื แบง ได 2 ชนิด คอื 1. กรรไกรตัดกงิ่ 1. ตน ตอที่ไดจ ากการเพาะเมล็ด นิยมใชกับพชื ประเภทไมผ ล เชน มะมว ง 2. มีดดายหญา ขนนุ ทเุ รยี น มะขาม ตน ตอที่มีลักษณะดตี อ งมลี าํ ตน ต้ังตรง ไมบิดคด 3. เล่ือยตดั ก่งิ หรือมีรอยตอระหวางตนและรากเปนแบบคอหานซ่ึงเกิดจากการวาง 4. มีดตอนกง่ิ เมลด็ ลงเพาะผิดวธิ ี (วิเคราะหคําตอบ : ขอ 1. ใชสําหรับตัดแตงกิ่งไมขนาดเล็กหรือ 2. ตน ตอทไ่ี ดจ ากการตดั ชํา ตอนก่ิง หรือแยกหนอ สวนมากนิยมใชกบั พืช ตัดกงิ่ พนั ธุ ขอ 2. ใชส ําหรบั ดายหญา หรือถางหญาที่ข้ึนสงู ขอ 3. ประเภทไมดอกไมป ระดับ เชน กหุ ลาบ ชบา เข็ม โกสน เฟองฟา โมก เหมาะกบั งานตดั กงิ่ ไมท ม่ี ขี นาดใหญเ กนิ กวา ทก่ี รรไกรตดั กงิ่ จะตดั ผกากรอง ขอเสียของตนตอตัดชํา คือ มีระบบรากต้ืน หากนําไปเปน ได ขอ 4. ใชสําหรบั กรีดเปล่ยี นตน ตอ เฉอื นแผน ตา และเตรยี ม ตน ตอสาํ หรบั ไมผล จะตอ งเสรมิ รากเพ่มิ ข้นึ แผลตา งๆ บนตนตอ ดังนัน้ ขอ 4. จงึ เปนคําตอบที่ถกู ตอ ง) T39
Search