Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พระราชประวัติ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จย่า

พระราชประวัติ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จย่า

Description: พระราชประวัติ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จย่า

Search

Read the Text Version

ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอกระสงั

พระราชประวตั ิ สมเด็จพระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงมพี ระนามเดิมวา่ “สงั วาลย์” เสด็จพระราช สมภพท่เี มอื งนนทบรุ ี ในรชั สมยั รชั กาลท่ี ๕ แห่งกรงุ รตั นโกสนิ ทร์ เมอ่ื วันท่ี ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๔๓ ตรงกับวันอาทิตย์ แรม ๑๓ ค่า เดือน ๑๑ ปีชวด ทรงเป็นบุตรคนที่สามในพระชนกช่ือ “ชู” และ พระชนนชี อ่ื “คา่ ” ทรงมีพระภคนิ แี ละพระเชษฐารว่ มพระอุทรสองคน ซึ่งถงึ แก่กรรมต้งั แตย่ งั เยาวว์ ัย และมีพระอนุชาคนเดียว คือคุณถมยา ซึ่งมอี ายุน้อยกว่าพระองค์สองปี

การศกึ ษา สมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี ทรงเรยี นหนงั สอื เมอ่ื เรม่ิ แรกกบั พระชนนี ค่า และต่อมาทรงเข้าเรียนในโรงเรียนส่าหรับเด็กหญิงที่ต้ังข้ึนท่ีวัดอนงคารามท่ีอยู่ใกล้ บา้ น และตอ่ มาไดเ้ สดจ็ ไปเรยี นหนงั สอื ทีโ่ รงเรยี นสตรวี ทิ ยาจนถงึ ปี พ.ศ. ๒๔๕๖ ทรงจบชน้ั ประถมปีท่ี ๓ เมื่อพระชนมายุได้ ๑๓ พรรษา และได้ทรงเข้าศึกษาในโรงเรียนแพทย์ผดุง ครรภ์และหญิงพยาบาลแห่งศิริราช ซ่ึงเป็นโรงเรียนพยาบาลแห่งเดียวในประเทศไทยใน ขณะนนั้

นักเรยี นพยาบาล สมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนที รงเปน็ นกั เรียนท่ีมีอายุน้อยที่สดุ ใน ร่นุ ของพระองคซ์ ึ่งมีจ่านวนเพียง ๑๔ คน พระองค์ทรงเรียนได้ดีและทรงศึกษาส่าเร็จ ภายในสามปี และทรงท่างานต่อท่ีโรงพยาบาลศิริราช ตามข้อผูกพันของการเป็น นักเรยี นหลวง

เสดจ็ ประเทศสหรฐั อเมรกิ า ในช่วงเวลาที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงศึกษาและฝึกหัดการ พยาบาลอย่นู ัน้ ได้มีความพยายามปรับปรุงกิจการแพทย์และการสาธารณสุขในประเทศไทย เพอ่ื ใหท้ นั สมยั และมปี ระสทิ ธภิ าพยงิ่ ขน้ึ ส่วนหนงึ่ ของความพยายามนน้ั คอื การตระเตรยี มครทู ้งั ฝ่ายแพทยแ์ ละพยาบาล เพือ่ เป็นกา่ ลังสา่ คัญในการฝกึ หดั แพทยแ์ ละพยาบาลตอ่ ไป ในปี พ.ศ. ๒๔๖๐ สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงไดร้ บั ทนุ ให้ไปเรียน วิชาพยาบาลเพิ่มเติมท่ีสหรัฐอเมริกา พร้อมกับนางอุบล ลิปิธรรมศรีพยัตต์ (ขณะน้ัน คือ นางสาวอุบล ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา)

ทรงหมนั้ อภิเษกสมรส พระราชธดิ า และพระราชโอรส

ในการเสด็จไปเรียนท่ีสหรัฐอเมิรกาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และ “นางสาวอบุ ล” ไดพ้ ่านกั อยกู่ บั ครอบครวั สตรองทเี่ มอื งฮารต์ ฟอร์ด มลรัฐคอนเน็คติกัต และเข้า เรียนภาษาองั กฤษทีโ่ รงเรยี นนอรธ์ เวสเทิร์น (North Western) เพื่อฝึกฝนทักษะการพูด การอา่ น และการเขยี นภาษาองั กฤษใหช้ า่ นาญกอ่ นเขา้ เรยี นในมหาวิทยาลยั และเพอ่ื ใหไ้ ดเ้ รียนรู้ ขนบธรรมเนียมประเพณี วิถีชีวิต ตลอดจนความคิดจิตใจของชาวอเมรกิ นั ให้ดขี น้ึ สมเดจ็ พระบรมราชชนก ทรงหว่ งใย และมกั เสดจ็ มาเยย่ี มนกั เรยี นหญงิ ทง้ั สองคนใน วนั อาทติ ย์ และเมอื่ เวลาผา่ นไป สมเดจ็ พระบรมราชชนกทรงพอพระทยั ในสมเด็จพระบรมราชชนนี มากขึน้ ทง้ั ในพระสิรโิ ฉมและพระอปุ นิสัย ความรู้ความสามารถ ความเฉลียวฉลาด รวมท้ังพระ คุณสมบตั อิ ืน่ ๆ จนในท่ีสดุ ไดท้ รงมลี ายพระราชหัตถ์ กราบบังคมทลู สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกา เจ้า พระราชมารดา ขอพระราชทานพระราชานุญาตหมนั้ “นางสาวสงั วาลย์ ตะละภัฏ” เมื่อ ทรงไดร้ บั อนญุ าต จึงทรงหมน้ั “นางสาวสงั วาลย”์ อยา่ งเงยี บๆ ในปพี .ศ. ๒๔๖๒ ตอ่ มาเมือ่ วนั ศกุ ร์ที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๓ ทรงจัดพิธีอภิเษกสมรสท่ีวังสระปทุม ซึ่งเป็นที่ประทับของ สมเด็จพระพันวัสสาอยั ยิกาเจ้า หลังจากนน้ั ทง้ั สองพระองคเ์ สดจ็ ไปประทบั ทสี่ หรฐั อเมรกิ า สมเด็จพระบรมราชชนก ทรงเปลยี่ นมาศกึ ษาวชิ าสาธารณสขุ ศาสตรท์ มี่ หาวทิ ยาลยั ฮารว์ าร์ดและที่สถาบนั เอม็ ไอที (MIT Massachusetts Institute of Technology) ระหว่างที่สมเด็จพระบรมราช ชนกทรงศกึ ษาวชิ าสาธารณสขุ ศาสตรน์ น้ั สมเดจ็ พระบรมราชชนนไี ดเ้ สดจ็ ไปศกึ ษาหลักสตู รเตรียม พยาบาลที่วิทยาลยั ซมิ มอนส์ (Simmons College)

ในภาคฤดรู ้อนที่สถาบันเอ็มไอที ในปี พ.ศ. 2464 สมเด็จพระบรมราชชนกทรง ส่าเร็จการศึกษาได้รับประกาศนียบัตรการสาธารณสุข (Certificate of Public Health C.P.H.) จากนน้ั ได้เสดจ็ พร้อมดว้ ยหม่อมสังวาล ไปยุโรปเพ่ือท่องเที่ยว ดูงาน และ ทรงเจรจากับผู้แทนมูลนิธิร็อกก้ีเฟลเลอร์เร่ืองขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิเพื่อพัฒนาปรับปรุง การศึกษาดา้ นการแพทยข์ อง ไทยเขา้ ส่มู าตรฐานระดบั อุดมศกึ ษา ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๖๕ สมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนีทรงตามเสด็จสมเดจ็ พระบรมราชชนกกลบั กรงุ เทพฯ เนอ่ื งจากขณะนน้ั สมเดจ็ พระราชปติ จุ ฉาฯ กรมหลวงเพชรบรุ รี าชสิ รินธร พระเชษฐภคนิ ีของสมเดจ็ พระบรมราชชนกประชวรพระวักกะ (ไต) และเสด็จออกไปรักษา พระองค์ยังประเทศองั กฤษ และทรงพักฟ้ืนทป่ี ระเทศฝรั่งเศส สมเดจ็ พระบรมราชชนกและสมเด็จ พระบรมราชชนนีไดต้ ามเสดจ็ ฯ ด้วย ขณะประทบั อยทู่ กี่ รงุ ปารสี สมเดจ็ พระบรมราชชนกทรงพระประชวร สมเดจ็ พระศรี นครนิ ทราบรมราชชนนีจงึ ทรงเฝา้ ดแู ลพระอาการ เม่ือหายจากพระอาการประชวรแลว้ ก็ได้ตาม เสดจ็ ไปยังสกอ็ ตแลนด์ เพอ่ื สมเดจ็ พระบรมราชชนกได้ทรงศกึ ษาวชิ าแพทย์ที่เมืองเอดินเบอระ แต่ เนอ่ื งจากอากาศหนาวจดั ทา่ ให้ทรงพระประชวรจงึ ตอ้ งทรงเลิกเรยี น ระหวา่ งน้ันสมเด็จพระบรม ราชชนนี ได้ประสตู พิ ระราชธดิ าพระองคแ์ รก คือ สมเดจ็ พระเจา้ พน่ี างเธอ กรมหลวงนราธิวาสราช นครินทร์ เมื่อวนั ที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๖ ทกี่ รุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ พระราชธิดา ได้รับพระราชทานพระนามจากพระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยู่หัวว่า “หม่อมเจ้ากัลยาณิ วฒั นา มหิดล”

ตอ่ มาท้ังสามพระองค์เสด็จกลับประเทศไทยในเดอื นพฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๔๖๖ โดย สมเด็จพระบรมราชชนกทรงรับราชการในกระทรวงธรรมการ ต่าแหน่งอธิบดีกรมมหาวิทยาลัย พระองค์ตรากตร่าทรงงานหนักเกินพระก่าลังท่าให้ทรงมีพระพลานามัยทรุดโทรม แพทย์ถวาย ความเหน็ ให้เสด็จไปรกั ษาพระองคใ์ นต่างประเทศ จงึ ไดเ้ สดจ็ ไปทวีปยุโรปอีกครั้งหนึ่ง ในการเสด็จ ยโุ รปครง้ั นี้ สมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนแี ละพระราชธดิ าไดต้ ามเสดจ็ ไปประทบั ที่เมอื งไฮเดล เบอรก์ ประเทศเยอรมนั ท่ซี งึ่ สมเดจ็ พระบรมราชชนนไี ดป้ ระสตู พิ ระราชโอรสพระองคแ์ รกเมอ่ื วนั ท่ี ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๘ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระนาม วา่ “หมอ่ มเจ้าอานนั นทมหดิ ล” ตอ่ มาในปี พ.ศ. ๒๔๖๙ สมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนพี รอ้ มดว้ ยพระราชโอรส พระราชธดิ าไดต้ ามเสดจ็ สมเดจ็ พระบรมราชชนก ไปสหรฐั อเมรกิ า เพ่อื ทรงศกึ ษาวชิ าการแพทยต์ อ่ ที่ มหาวทิ ยาลยั ฮารว์ ารด์ และทป่ี ระเทศสหรฐั อเมริกาน้ี พระโอรสพระองค์ท่สี อง คอื พระบาทสมเด็จ พระเจา้ อยู่หวั ภูมิพลอดลุ ยเดช เสด็จพระราชสมภพ ณ โรงพยาบาลเมาท์ออเบิร์น เมืองเคมบริดจ์ เมอื่ วนั จนั ทรท์ ี่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๐ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจา้ อยู่หวั พระราชทานพระ นามว่า “พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภมู พิ ลอดุลยเดช” สมเดจ็ พระบรมราชชนกสนิ้ พระชนม์ ขณะท่ีทรงศกึ ษาวิชาแพทยใ์ นปีสุดท้ายทีป่ ระเทศสหรัฐอเมริกา สมเด็จพระบรมราช ชนกทรงประชวรโรคพระวักกะก่าเริบและพระโรคหวัด แต่ก็ทรงสามารถสอบไล่ได้ปริญญา แพทยศาสตร์ (Doctor of Medicine) ขนั้ เกียรตินยิ ม ในปีพ.ศ. ๒๔๗๑ หลงั จากทรง สอบเสรจ็ ทรงพระประชวรพระโรคไสต้ ิง่ อักเสบ ทรงตอ้ งรับการผ่าตัด สมเด็จพระศรีนครนิ ทราบรม ราชชนนไี ดเ้ ฝา้ ดแู ลพระอาการอยา่ งใกลช้ ดิ เมอื่ หายจากพระอาการประชวร ทง้ั สองพระองคไ์ ด้เสด็จ นวิ ัตปิ ระเทศไทยพรอ้ มดว้ ยพระราชโอรสพระราชธดิ าในเดอื นพฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๔๗๑ โดยประทับที่ พระต่าหนักใหม่ ซง่ึ สมเด็จพระบรมราชชนก โปรดฯ ให้สรา้ งข้ึนในวงั สระปทมุ ดา้ นถนนพญาไท

ในเดอื นเมษายน พ.ศ. ๒๔๗๒ สมเดจ็ พระบรมราชชนกทรงรบั เชิญจากโรงพยาบาล แมคคอร์มิค ที่จังหวัดเชียงใหม่ เสด็จไปทรงปฏิบัติหน้าที่เป็นแพทย์ประจ่าบ้าน ต่อมาในเดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๒ เมื่อพระองค์เสด็จกลับกรุงเทพฯ เพ่ือร่วมงานถวายพระเพลิงพระศพ สมเดจ็ พระราชปติ ลุ าบรมพงศาภิมขุ เจา้ ฟา้ ภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณพุ ันธุวงศ์วรเดช แลว้ ไดท้ รงมพี ระอาการประชวรและต้องประทับรกั ษาพระองคท์ ก่ี รงุ เทพ ฯ สมเด็จพระบรมราชชนกประชวรอยู่เป็นเวลา ๔ เดือน ก็ส้ินพระชนม์เม่ือวันที่ ๒๔ กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๗๒ ณ พระต่าหนักใหม่ วังสระปทมุ เม่อื สมเดจ็ พระบรมราชชนกส้ินพระชนม์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มี พระชนมายุเพียง ๒๙ พรรษา ต้องทรงรับพระราชภาระอบรมเล้ียงดูพระราชโอรสธิดาทั้งสาม พระองคซ์ งึ่ ยงั ทรงพระเยาว์ ขณะนน้ั สมเดจ็ พระเจา้ ฟา้ ฯ กรมหลวงนราธวิ าสราชนครนิ ทร์ พระราช ธิดาองคโ์ ตทรงมพี ระชนมายุ ๖ พรรษา พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั อานนั ทมหิดล พระราชโอรส องคท์ ส่ี องทรงมพี ระชนมายุ ครบ ๔ พรรษา และพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวภูมพิ ลอดุลยเดชทรง มพี ระชนมายเุ พียง ๑ พรรษา ๙ เดอื น สมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนที รงอบรมเลีย้ งดพู ระราชโอรสธิดาอย่างใกลช้ ดิ ด้วยความเอาพระทัยใส่ ไมว่ ่าจะเปน็ ด้านการเสวย บรรทม การศกึ ษาเลา่ เรยี น หรอื เล่น โดยทรง เน้นเร่ืองการอนามัย และการมีระเบียบวินัย เมื่อพระราชธิดาและพระราชโอรสท้ังสองพระองค์ เจริญพระชนมายุขึ้น ก็โปรดใหท้ รงเข้าศกึ ษาตามล่าดบั สมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนที รงประทบั อยใู่ นประเทศไทยจนถงึ เดอื นเมษายน พ.ศ. ๒๔๗๖ จึงเสด็จพร้อมด้วยพระราชโอรสและพระราชธิดา ไปประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อ อนาคตทางการศึกษาของพระราชโอรสธดิ าท้งั สามพระองค์

หนงึ่ ปตี อ่ มา พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ไดท้ รงสละราชสมบตั ิ เมอื่ วันท่ี ๒ มีนาคม พ.ศ.๒๔๗๗ โดยทรงสละพระราชสทิ ธใิ นการแตง่ ตง้ั ผสู้ บื ราชสมบตั ิ และทรงเหน็ ควรว่าต้องให้เป็นไปตามกฎมณเฑียรบาล ให้ “พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันท มหิดล” พระโอรสองค์โตของสมเด็จพระบรมราชชนนี เป็นผ้สู ืบราชสันตติวงศ์ เปน็ พระองค์ท่ี ๘ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ต้ังแต่วันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๗ ในขณะที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล มีพระชนมายุเพียง ๙ พรรษา และยังคง ประทับ ณ ประเทศสวิตเซอรแ์ ลนดต์ อ่ ไป เพอ่ื ทรงศึกษาตอ่ ในเดือนพฤศจกิ ายน พ.ศ.๒๔๘๑ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เสดจ็ นวิ ตั ประเทศไทยเปน็ คร้ังแรก พรอ้ มดว้ ยสมเด็จพระศรีนครนิ ทราบรมราชชนนี สมเด็จพระ เจา้ พนี่ างเธอ ฯ และสมเด็จพระอนชุ าธริ าช (คือพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภูมพิ ลอดุลยเดช) และเมื่อเสด็จฯ ถงึ ประเทศไทยไดห้ น่ึงวนั คณะผู้ส่าเร็จราชการแทนพระองค์ในพระปรมาภิไธย สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ไดป้ ระกาศสถาปนาพระอสิ รยิ ยศ พระราชชนนีศรีสงั วาลย์ข้ึนเป็น“สมเด็จ พระราชชนนีศรีสงั วาลย์” เม่อื วันท่ี ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๘๑ ท้ัง ๔ พระองคป์ ระทบั อยใู่ นประเทศไทยในระยะเวลาอนั สนั้ ก็ตอ้ งเสดจ็ พระราช ด่าเนนิ กลบั ไปประเทศสวติ เซอรแ์ ลนด์ เนือ่ งจากพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั อานนั ทมหดิ ล ตอ้ ง เสด็จพระราชดา่ เนนิ ไปทรงศกึ ษาตอ่ ตอ่ มา พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั อานนั ทมหดิ ลนวิ ตั ปิ ระเทศไทยเปน็ ครง้ั ทสี่ อง พรอ้ มกบั สมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี ขณะนน้ั พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ฯ ทรงมี พระชนมายคุ รบ ๒๐ พรรษา การเสดจ็ พระราชดา่ เนนิ กลบั ประเทศไทยในครง้ั นี้ ทา่ ใหส้ มเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนตี อ้ งทรงประสบกบั ความโทมนสั อยา่ งใหญห่ ลวงในพระชนมช์ พี พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั อานนั ทมหดิ ล

ตอ่ มาสภาผแู้ ทนราษฎรไดล้ งมตเิ ปน็ เอกฉนั ท์ ในวนั ที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙ กราบบังคม ทูลเชญิ “สมเดจ็ พระเจา้ นอ้ งยาเธอเจา้ ฟา้ ภมู พิ ลอดลุ ยเดช” พระราชโอรสพระองค์ท่ีสอง ข้ึนครอง สิริราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลท่ี ๙ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ด้วยพระชนมายุ เพียง ๑๘ พรรษา โดยมีสมเด็จพระบรมราชชนนีรับพระราชภาระถวายอภิบาลสมเด็จพระ เจา้ อยหู่ วั ตอ่ มาในชว่ ง พ.ศ. ๒๔๙๐ ในขณะทพี่ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ภมู พิ ลอดุลยเดชทรง เรยี นรฐั ศาสตร์ นติ ศิ าสตร์ และเศรษฐศาสตร์ ท่ีมหาวทิ ยาลยั โลซานน์นัน้ สมเด็จพระบรมราชชนนี ก็ได้ทรงลงทะเบียนเรียนแบบ audit ที่มหาวิทยาลัยนี้ด้วย ทรงศึกษาวิชาปรัชญาวรรณคดี ฝรงั่ เศส ภาษาบาลี และสนั สกฤต หลังจากที่พระโอรสทรงอภิเษกสมรสใน พ.ศ. ๒๔๙๓ สมเด็จ พระบรมราชชนนที รงยา้ ยจากพระตา่ หนกั วลิ ลา่ วฒั นาทป่ี ระทบั ของพระองคแ์ ละพระโอรสทเ่ี มอื งพุย ยมี่ า ประทบั ณ แฟลตเลขที่ ๑๙ ถนนอาวองโปสต์ ในเมืองโลซานน์ เม่อื พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภมู พิ ลอดลุ ยเดช เสด็จกลบั ประเทศไทยในปลาย พ.ศ. ๒๔๙๔ สมเดจ็ พระบรมราชชนนยี งั คงประทบั ทโี่ ลซานนจ์ นถงึ พ.ศ. ๒๕๐๖ ชว่ งนไ้ี ดเ้ สดจ็ กลบั ประเทศไทยเปน็ ครง้ั คราว ไม่มกี า่ หนดเวลาทแี่ นน่ อน ใน พ.ศ. ๒๕๐๗ ได้เสดจ็ กลบั มา ประทบั ทปี่ ระเทศไทยพรอ้ มกบั เรม่ิ เสดจ็ ประพาสหวั เมอื งและเสดจ็ พระราชดา่ เนนิ ออกเยย่ี มราษฎรใน ถ่ินทรุ กนั ดารทวั่ ประเทศ ไดท้ รงรเิ รมิ่ โครงการตา่ งๆ เพือ่ ประชาชนยากจนดอ้ ยโอกาส นบั จาก พ.ศ. ๒๕๐๗ เป็นตน้ มา

สมเดจ็ พระบรมราชชนนไี ดท้ รงงานในชนบทมาอย่างตอ่ เนอ่ื งจนถงึ วาระสุดท้ายของ พระชนม์ชีพ และเสด็จสวรรคตในวนั องั คารท่ี ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ ในด้านพระราช อธั ยาศยั และพระราชจรยิ วตั รสมเดจ็ พระบรมราชชนนโี ปรดการดา่ รงชวี ติ ที่เรยี บง่าย โปรดการทรง งานดว้ ยพระองคเ์ อง ทรงใชเ้ วลาใหเ้ ปน็ ประโยชนเ์สมอ ทรงใชจ้ า่ ยประหยดั เพอ่ื นา่ พระราชทรัพย์ไป ใชใ้ นกจิ การกศุ ล โปรดการเดนิ ปา่ ปีนเขา ทอดพระเนตรดอกไม้และทิวทศั น์ธรรมชาติ ทรงเปน็ คน เขม้ แขง็ และเป็นคนตรง ทรงเน้นการพึ่งตนเองและการทา่ งานเพอ่ื ประโยชนส์ ว่ นรวม ทรงยึดม่นั ใน หลักการประชาธิปไตย ทรงใฝร่ ศู้ กึ ษาวิชาการต่างๆ มาตลอดพระชนมช์ พี ทรงเลื่อมใสศรัทธา และศกึ ษาธรรมะในพระพุทธศาสนาอย่างลึกซ้ึง ทรงฝึกสมาธิและทรงด่าเนินพระชนม์ชีพอยู่ใน ธรรมะ ไม่ทรงยดึ ถอื ในลาภ ยศ สรรเสรญิ เคยมรี บั สง่ั ว่า “คนเราไม่ควรลืมตวั ไม่อวดดี ไมถ่ อื ว่า ตนเก่ง” สวรรคต สมเดจ็ พระบรมราชชนนี ทรงพระประชวรโรคพระหทยั และเสดจ็ เขา้ รกั ษาพระองคท์ ่ี โรงพยาบาลศริ ริ าชเมอื่ วันท่ี ๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๘ เสดจ็ สวรรคต เมอื่ วนั องั คารท่ี ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ รวมพระชนมายุ ๙๔ พรรษา ๘ เดอื น ๒๗ วนั

ขอบคณุ แหลง่ ทม่ี า : https://www.mfu.ac.th/about-mfu/princess- srinagarindra/princess.html

ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอกระสงั