Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดการเรียนรู้ทางไกล ครั้งที่ 2/18 เรื่อง ข้อมูลและการจัดการฐานข้อมูล

ชุดการเรียนรู้ทางไกล ครั้งที่ 2/18 เรื่อง ข้อมูลและการจัดการฐานข้อมูล

Description: วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ รหัสวิชา 3001 -2001 สาขาวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ ประเภทวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ หลักสูตรระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)
ตามหลักสูตร สา นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พุทธศักราช 2557

Search

Read the Text Version

ชุดการเรียนรู้ทางไกล คร้ังที่ /18 Á¦ºn°Š…°o ¤¨¼ ¨³„µ¦‹—´ „µ¦“µœ…°o ¤¼¨ วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชีพ รหัสวชิ า 3001 -2001 สาขาวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศ ประเภทวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศ หลกั สูตรระดับ ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง (ปวส.) ตามหลกั สูตร สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พุทธศกั ราช 2557 ประทปี ผลจันทร์งาม เพ่ือการจดั ทาเน้ือหาและพฒั นาส่ือการสอนอาชีพและวิชาชีพ สาหรับการศึกษาทางไกลหรือเรียนฝึกงานในสถานประกอบการ ดว้ ยตนเอง วทิ ยาลยั เทคนิคระยอง สถาบนั การอาชีวศกึ ษาภาคตะวนั ออก สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ



สารบัญ 1. รายละเอียดหลกั สูตรรายวชิ า 1 2. ใบวเิ คราะห์หวั ขอ้ เร่ือง 4 3. แผนภมู ิปะการัง 6 4. โครงการจดั การเรียนรู้ 8 5. แผนการจดั การเรียนรู้ 12 6. เน้ือหา (ใบความรู้) 19 7. ส่ือประกอบการสอน 32 8. แบบทดสอบก่อนเรียน 49 9. แบบทดสอบหลงั เรียน 52 10. เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน 55 11. เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน 57 12. แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 59 13. แบบบนั ทึกหลงั การเรียนรู้ 61



1 1.รายละเอียดหลกั สูตรรายวชิ า

2 ช่ือวชิ า.เทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การจดั การอาชพี คาอธิบายรายวชิ า รหัสวชิ า300– แผ่นที่ 1 สาขาวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศ คาอธิบายรายวชิ า ( เดมิ ) 1. รหัสและช่ือวชิ า 3000–0203. วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเบอื้ งต้น 2. ระดบั รายวชิ า ระดบั ช้นั ปวส. ปี ท่ี 1 3. เวลาศึกษา 72 ชว่ั โมงตลอด 18 สัปดาห์ ทฤษฎี 2 ชว่ั โมง ปฏิบตั ิ 2 ชว่ั โมงต่อสปั ดาห์ 4. จานวนหน่วยกติ 3 หน่วยกิต 5. จุดประสงค์รายวชิ า 1. เเขา้ ใจเก่ยี วกบั คอมพวิ เตอร์ ระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์และสารสนเทศรจดั การสารสนเทศ 2. สามารถสบื ค้น จัดเก็บ คน้ คนื สง่ ผ่าน จดั ดำเนนิ การข้อมูลสารสนเทศ นำเสนอและสือ่ สารข้อมูล ส 3. มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและความรับผิดชอบในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพี 6. สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั หลักการและกระบวนการสบื ค้น จัดดำเนนิ การและสอ่ื สารขอ้ มลู ฯ 2. ใชค้ อมพวิ เตอรในการสืบค้นและสอื่ สารขอ้ มลู สารสนเทศผา่ นระบบ เครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 3. จัดเก็บ ค้นคนื สง่ ผ่านและจดั ดำเนินการขอ้ มูลสารสนเทศตามลักษณะงานอาชพี 4. นำเสนอและสื่อสารขอ้ มลู สารสนเทศในงานอาชพี โดยประยุกต์ใชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รปู 7. คาอธิบายรายวชิ า ศกึ ษาและปฏิบัติเก่ยี วกบั คอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณโ์ ทรคมนาคม ระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ และ สารสนเทศ การสบื ค้นข้อมูลสารสนเทศ การจดั เก็บ คน้ คืน ส่งผ่านและจัดดำเนนิ การขอ้ มูล สารสนเทศ การประยุกตใ์ ชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รปู ในการนำเสนอและสอ่ื สารข้อมลู สารสนเทศ ตามลกั ษณะงานอาชพี

3 ชื่อวชิ า.ทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชีพ คาอธิบายรายวชิ า รหสั วชิ า3001–2001 แผ่นท่ี 2 สาขาวชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศ คาอธิบายรายวชิ า ( เดมิ ) ศกึ ษาและปฏิบัตเิ กย่ี วกบั คอมพิวเตอร์และอปุ กรณ์โทรคมนาคม ระบบเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ และ สารสนเทศ การสบื ค้นข้อมูลสารสนเทศ การจัดเก็บ คน้ คนื ส่งผ่านและจัดดำเนินการขอ้ มลู สารสนเทศ การประยกุ ตใ์ ชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รูปในการนำเสนอและสื่อสารข้อมลู สารสนเทศ ขอ้ มลู สารสนเทศเพ่ือพฒั นางานอาชีพดว้ ยคอมพวิ เตอร์ คาอธิบายรายวชิ า ( ปรับปรุง ) ศึกษาเกยี่ วกบั พ้ืนฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ขอ้ มลู และการจดั การฐานขอ้ มลู การส่ือสารขอ้ มลู เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ เทคโนโลยซี อฟตแ์ วร์ ระบบปฏิบตั ิการคอมพวิ เตอร์ ความรู้พ้ืนฐานของเทคโนโลยเี ครือขา่ ย เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อินเตอร์เน็ต การสืบคน้ ขอ้ มูล ตามลักษณะงานอาชีพ ศกึ ษาและปฏิบตั ิเกย่ี วกบั งานทดสอบโปรแกรมการจดั การฐานขอ้ มูล MS-ACCESS งานประกอบ ไมโครคอมพวิ เตอร์PC งานทดสอบโปรแกรม MS-Word งานทดสอบโปรแกรม MS-Power Point งานทดสอบโปรแกรม MS-Excel งานติดต้งั และทดสอบระบบปฏิบตั ิการ Linux งานติดต้งั และ ทดสอบระบบปฏิบตั ิการ Windows XP งานทดสอบระบบเครือขายวนิ โดว์ งานทดสอบสาย UTP งาน ทดสอบสอบ Switching HUB งานทดสอบระบบเครือขายอินเทอร์เน็ต งานทดสอบ IP Address งาน ทดสอบการใชง้ าน Browser งานทดสอบการใช้ e-Mail งานทดสอบการสืบคน้ มูลผา่ นเครือข่าย อินเทอร์เน็ต

4 2. ใบวิเคราะห์หวั ขอ้ เร่ือง

5 ชื่อวชิ า.เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพี ใบวเิ คราะห์หัวข้อเรื่อง รหัสวชิ า300– สาขาวชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศ แผ่นท่ี 1 แหล่งข้อมูล หวั ข้อเรื่อง ( Topic ) ABCDE 1. พ้ืนฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร 2. ขอ้ มูลและการจดั การฐานขอ้ มลู /// / 3. การส่ือสารขอ้ มลู 4. เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ / //// 5. เทคโนโลยซี อฟตแ์ วร์ 6. ระบบปฏิบตั ิการคอมพิวเตอร์ / //// 7. ความรู้พ้ืนฐานของเทคโนโลยเี ครือข่าย 8. เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อินเตอร์เน็ต / //// 9. การสืบคน้ ขอ้ มูลสารสนเทศเพอ่ื พฒั นางานอาชีพดว้ ยเครือข่าย อินเตอร์เน็ต / //// / //// / //// / //// / //// หมายเหตุ A : คาอธิบายรายวชิ า B : ประสบการณ์ของผู้สอน C : ผู้เช่ียวชาญ D : ผู้ชานาญงาน E : เอกสาร / ตารา

6 3. แผนภมู ิปะการงั

9.1 การสบคนขอมลสารสนเทศบนอนเทอร์เน็ต 1.1 เทคโนโลยสารสนเทศ 2.1 ขอมลและสารสนเทศ 9.2 เทคนคการสบคนขอมล 1.2 วฒนาการเทคโนโลยสารสนเทศและการสอสาร 2.2 ฐานขอมลและการจดการฐานขอมล 9.3 เวบ็ ไซต์ทเกยวของเพอประโยชน์ในการศกษา 9. การสบคนขอมลสารสนเทศเพอพฒนา 1. พนฐานเทคโนโลย 2. ขอมลและการจดการ 3.1 รปแบบของการสอสารขอมล งานอาชพดวยเครอขายอนเตอรเ์ น็ต สารสนเทศและการสอสาร ฐานขอมล 3.2 ชนดของสญญาณ อเล็กทรอนกส์ 3.3 รหสทใชแทนขอมลในการสอสาร 8. เทคโนโลยสารสนเทศกบ วชา เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพีี 3. การสอสารขอมล 3.4 ระบบการสอสารอเลก็ ทรอนกส์ อนเตอร์เนต็ รหสั 3001–2001สาขาวิชาเทคโนโลยสารสนเทศ 3.5 ทศทางของการสอสารขอมล 3.6 สอและอปกรณร์ บสงขอมล 8.1 เครอขายอนเตอรเ์ นต็ 7. ความรพนฐานของ 4. เทคโนโลยคอมพวเตอร์ 4.1 คอมพวเตอรแ์ ละฮารด์ แวร์ 8.2 การบรการเครอขายอนเตอร์เน็ต เทคโนโลยเครอขาย 5. เทคโนโลยซอฟต์แวร์ 4.2 องคป์ ระกอบพนฐานของเครอง คอมพวเตอร์ 8.3 โพรโตคอล TCP/IP 6. ระบบปฏบตการ (Transmission Control คอมพวเตอร์ 4.3 ประเภทของคอมพวเตอร์ Protocol/Internet Protocol) 4.4 เทคโนโลยคอมพวเตอรส์ วนบคคล 4.5 แนะนาการเลอกซออปกรณ์คอมพวเตอร์ 8.5 การเชอมตอเขากบอนเตอรเ์ นต็ 4.6 คอมพวเตอรก์ บเครอขาย 8.6 การใชงานและบรการตางๆ บนเครอขาย อนเตอรเ์ นต็ Control (MAC) Method) 7.1 เปาหมายของเครอขายคอมพวเตอร์ 5.1 ซอฟตแ์ วรค์ อมพวเตอร์ 7.2 ประเภทระบบเครอขายคอมพวเตอร์ 8.7 การประยกตใ์ ชอนเตอรเ์ นต็ 5.2 ภาษาคอมพวเตอร์ 8.8 เครอขายอนทราเน็ต 7.3 ระบบเครอขายLAN (Local Area Network) 5.3 แนวทางการพฒนาซอฟตแ์ วร์ 7.4 สอทใชในการสงขอมล 6.1 ระบบปฏบตการ 6.2 ระบบปฏบตการ UNIX และ Linux 5.4 ซอฟตแ์ วรป์ ระยกต์ 7.5 อปกรณ์ทใชในการเชอมตอบนระบบเครอขาย 6.3 ระบบปฏบตการวนโดว์ (ตอนท่ 1 การใชงานโปรแกรม MS Word) 7.6 วธควบคมการเขาใชงานสอกลาง (Media Access Control 6.4 ระบบปฏบต Windows mobile 5.4 ซอฟตแ์ วรป์ ระยกต์ (ตอนท่ 2 การใชงานโปรแกรม MS Power Point ) (MAC) Method) 7.7 มาตรฐานระบบเครอขายแบบ LAN ชนดตางๆ 5.4 ซอฟตแ์ วรป์ ระยกต์ 7.8 โปรโตคอลของระบบเครอขาย (Network Protocol) (ตอนท่ 3 การใชงานโปรแกรมไมโครซอฟท์ MS Excel ) 7

8 4. โครงการจดั การเรียนรู้

9 โครงการสอนทางไกล วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การจดั การอาชีพ รหสั วชิ า 3001–2001 สาขาวชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศ หลกั สูตรระดับ ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง (ปวส.) ตามหลกั สูตร สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พทุ ธศกั ราช 2557 สอนคร้ังที่ หน่วยการ รายการสอน หมายเหตุ 1 เรียนท่ี 2 1. พนื้ ฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร 3 1 1.1 เทคโนโลยสี ารสนเทศ 2 1.2 วฒั นาการเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร 4 3 5 2. ข้อมูลและการจัดการฐานข้อมูล 3 2.1 ขอ้ มลู และสารสนเทศ 6 4 2.2 ฐานขอ้ มูลและการจดั การฐานขอ้ มูล 7 4 3. การสื่อสารข้อมูล 5 3.1 รูปแบบของการสื่อสารขอ้ มูล 3.2 ชนิดของสัญญาณ อิเล็กทรอนิกส์ 3.3 รหสั ท่ีใชแ้ ทนขอ้ มลู ในการสื่อสาร 3.4 ระบบการส่ือสารอิเลก็ ทรอนิกส์ 3.5 ทิศทางของการส่ือสารขอ้ มลู 3.6 ส่ือและอุปกรณ์รับส่งขอ้ มลู 4. เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ 4.1 คอมพิวเตอร์และฮาร์ดแวร์ 4.2 องคป์ ระกอบพ้ืนฐานของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ 4.3 ประเภทของคอมพิวเตอร์ 4.4 เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ส่วนบุคคล 4.5 แนะนาการเลือกซ้ืออุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ 4.6 คอมพวิ เตอร์กบั เครือขา่ ย 5. เทคโนโลยซี อฟต์แวร์ 5.1 ซอฟตแ์ วร์คอมพิวเตอร์

10 สอนคร้ังท่ี หน่วยการ รายการสอน หมายเหตุ เรียนที่ 8 5.2 ภาษาคอมพวิ เตอร์ 9 5 5.3 แนวทางการพฒั นาซอฟตแ์ วร์ 10 5 5.4 ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ 11 5 (ตอนที่ 1 การใชง้ านโปรแกรม MS Word) 12 6 5.4 ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ 13 (ตอนท่ี 2 การใชง้ านโปรแกรม MS Power Point ) 14 6 5.4 ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ 6 (ตอนท่ี 3 การใชง้ านโปรแกรมไมโครซอฟท์ MS 15 7 Excel ) 6. ระบบปฏิบตั กิ ารคอมพวิ เตอร์ 16 7 6.1 ระบบปฏิบตั ิการ 6.2 ระบบปฏิบตั ิการ UNIX และ Linux 8 6.3 ระบบปฏิบตั ิการวนิ โดว์ 6.4 ระบบปฏิบตั ิ Windows mobile 7. ความรู้พนื้ ฐานของเทคโนโลยเี ครือข่าย 7.1 เป้ าหมายของเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 7.2 ประเภทระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 7.3 ระบบเครือข่ายLAN (Local Area Network) 7.4 สื่อที่ใชใ้ นการส่งขอ้ มูล 7.5 อุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการเช่ือมตอ่ บนระบบเครือขา่ ย 7.6 วธิ ีควบคุมการเขา้ ใชง้ านสื่อกลาง (Media Access Control (MAC) Method) 7.7 มาตรฐานระบบเครือข่ายแบบ LAN ชนิดตา่ งๆ 7.8 โปรโตคอลของระบบเครือข่าย (Network Protocol) 8. เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อนิ เตอร์เน็ต 8.1 เครือขา่ ยอินเตอร์เน็ต 8.2 การบริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต 8.3 โพรโตคอล TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol)

สอนคร้ังท่ี หน่วยการ รายการสอน 11 เรียนที่ 8.4 ระบบชื่อโดเมน (Domain Name System) หมายเหตุ 17 8 8.5 การเช่ือมต่อเขา้ กบั อินเตอร์เน็ต 8.6 การใชง้ านและบริการตา่ งๆ บนเครือข่าย อินเตอร์เน็ตControl (MAC) Method) 8.7 การประยกุ ตใ์ ชอ้ ินเตอร์เน็ต 8.8 เครือขา่ ยอินทราเน็ต 18 9 9. การสืบค้นข้อมูลสารสนเทศเพอื่ พฒั นางานอาชีพด้วย เครือข่ายอินเตอร์เน็ต 9.1 การสืบคน้ ขอ้ มูลสารสนเทศบนอินเทอร์เน็ต 9.2 เทคนิคการสืบคน้ ขอ้ มูล 9.3 เวบ็ ไซตท์ ี่เกี่ยวขอ้ งเพอ่ื ประโยชน์ในการศึกษา

12 5. แผนการจดั การเรียนรู้

13 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 2 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การจดั การอาชีพ หน่วยที่ 2 ชื่อหน่วย ขอ้ มลู และการจดั การฐานขอ้ มูล ชั่วโมงรวม 2 ช.ม. ชื่อเร่ือง ขอ้ มูลและการจดั การฐานขอ้ มลู จานวน 2 ชั่วโมง 1.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมายของขอ้ มูลไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 2. อธบิ ายความหมายของสารสนเทศไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 3. อธบิ ายองคป์ ระกอบของระบบฐานขอ้ มลู ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 4. อธบิ ายความหมายของการจดั การฐานขอ้ มูลไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 2. หวั ข้อสาระการเรียนรู้ 1. ขอ้ มลู และสารสนเทศ 2. ฐานขอ้ มูลและการจดั การฐานขอ้ มลู 3. สาระสาคญั การเรียนรู้ การเก็บรวบรวมขอ้ มูลที่เกี่ยวขอ้ งกนั มาจดั เก็บไวใ้ นฐานเดียวกนั ด้วยหลกั การทางด้านการ จดั การฐานขอ้ มูลทาให้ขอ้ มูลมีความถูกตอ้ งและทนั สมยั อย่เู สมอ และยงั สามารถเรียกใช้ไดอ้ ย่าง รวดเร็ว และองค์ประกอบของระบบฐานขอ้ มูล ระบบฐานขอ้ มูลส่วนใหญ่เป็ นระบบที่มีการนา ระบบคอมพิวเตอร์เขา้ มาช่วยในการจดั เก็บ โดยมีโปรแกรม (software) ช่วยในการจดั การขอ้ มูล เหล่าน้ี เพ่ือให้ได้ข้อมูลตามท่ีผูใ้ ช้ต้องการ องค์ประกอบของฐานข้อมูลตามที่ผูใ้ ช้ต้องการ องคป์ ระกอบของฐานขอ้ มูลแบ่งออกเป็ น 5 ประเภท ได้แก่ 1) ฮาร์ดแวร์ (hardware) 2) ซอฟแวร์ (software) 3) ข้อมูล (data) 4)บุคลากร (people) 5) ข้นั ตอนการปฏิบัติงาน (procedure) ในระบบฐานขอ้ มูลที่ดีจะตอ้ งมีการจดั ทาเอกสารที่ระบุข้นั ตอนการทางานของหนา้ ท่ีต่าง ๆ ระบบ ฐานขอ้ มูลท้งั ในสภาวะปกติและในสภาวะท่ีระบบเกิดการขดั ขอ้ งหรือเกิดปัญหา ซ่ึงจะเป็ นข้นั ตอน การปฏิบตั ิงานสาหรับบุคลากรในทุกระดบั องคก์ ร

14 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังที่ 2 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การจัดการอาชพี หน่วยที่ 2 ชื่อหน่วย ขอ้ มลู และการจดั การฐานขอ้ มลู ช่ัวโมงรวม 2 ช.ม. 4. เนือ้ หาสาระ บทท่ี 2 ข้อมูลและการจัดการฐานข้อมูล 2.1 ขอ้ มูลและสารสนเทศ 2.2 ฐานขอ้ มลู และการจดั การฐานขอ้ มลู อา้ งอิงจากเอกสารประกอบการเรียนรู้ของ ประทีป ผลจนั ทร์งาม. วชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศเบอื้ งต้น .เอกสารประกอบการเรียนรู้.อดั สาเนา. เอกสารการพิมพว์ ทิ ยาลยั เทคนิคบา้ นค่าย. 2555. 5. กจิ กรรมการเรียนการสอน กจิ กรรมครู กจิ กรรมนักเรียน ข้นั เตรียม ข้นั เตรียม 1. จดั เตรียมสื่อที่ใชป้ ระกอบการเรียนรู้ให้ 1. เตรียมตวั และเอกสาร หรือวสั ดุ เคร่ืองมือที่ พร้อม สาหรับการเรียนการสอน ( ตามรายการ จาเป็นตอ้ งใชใ้ นการเรียนรู้ ในหวั ขอ้ ที่ ส่ือการเรียนรู้ เลือกส่ือการเรียนรู้ได้ 2. ใหค้ วามร่วมมือกบั ครูในการตรวจสอบรายช่ือ ตามความเหมาะสม ) เขา้ เรียน 2. ตรวจสอบรายช่ือนกั เรียนที่เขา้ เรียน 3. ถา้ เรียนรู้ผา่ นระบบ e-Learning ใหเ้ ขา้ สู่ระบบ เพ่อื เตรียมความพร้อมในการเรียนรู้ ข้นั สนใจปัญหา (Motivation) ข้นั สนใจปัญหา (Motivation) 1. ใหผ้ เู้ รียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน โดย 1. ทาแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ร่วมสนทนาและแสดงความคิดเห็น ใชเ้ วลา 30 นาที และครูตรวจคาตอบหลงั จาก เสร็จสิ้นการทดสอบ เพ่ือแจง้ ผลการทดสอบให้ นกั เรียนทราบหลงั เรียนจบบทเรียน 2. ใชส้ ่ือช่วยสอน นาเขา้ สู่บทเรียนดว้ ยภาพ แบบจาลอง ของตวั อยา่ ง หรือสิ่งที่จะช่วยดึงดูด ความสนใจ หรือคาถาม หมายเหตุ หากเรียนรู้จากสื่อวดี ีทศั น์ ทางไกลผา่ นดาวเทียม หรือผา่ นอินเทอร์เน็ต

15 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังที่ 2 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การจดั การอาชีพ หน่วยที่ 2 ชื่อหน่วย ขอ้ มูลและการจดั การฐานขอ้ มลู ชั่วโมงรวม 2 ช.ม. ตอ้ งทาการทดสอบก่อนเรียนใหแ้ ลว้ เสร็จก่อน การเรียนรู้ จากส่ือฯ ท่ีทาการออกอากาศ ข้นั ศึกษาข้อมูล (Information) (60 นาท)ี ข้นั ศึกษาข้อมูล (Information) 1. ใหผ้ เู้ รียนเริ่มเรียนรู้เน้ือหา หรือฝึก 1. ผเู้ รียนเร่ิมเรียนรู้เน้ือหา หรือฝึกปฏิบตั ิงาน ปฏิบตั ิงาน จากการฉายวดี ีทศั นใ์ นรูปแบบ จากการฉายวดี ีทศั น์ในรูปแบบ DVD หรือ ส่ือวดี ี DVD หรือ ส่ือวีดีทศั น์ทางไกลผา่ นดาวเทียม ทศั น์ทางไกลผา่ นดาวเทียม หรืออินเทอร์เน็ต หรืออินเทอร์เน็ต หรือแบบออฟไลน์ หรือแบบออฟไลน์ 2. ใหผ้ เู้ รียนไดส้ อบถามหรือขอ้ สงสยั จาก 2. ผเู้ รียนไดส้ อบถามหรือขอ้ สงสัย จากการ การเรียนรู้เน้ือหา เรียนรู้เน้ือหา ข้นั พยายาม (Application) (30 นาท)ี ข้นั พยายาม (Application) 1. หลงั การเรียนรู้เน้ือหาเสร็จสิ้น ใหผ้ เู้ รียน 1. หลงั การเรียนรู้เน้ือหาเสร็จสิ้นผเู้ รียนทา ทาแบบทดสอบหลงั เรียนหรือแบบฝึกปฏิบตั ิ แบบทดสอบหลงั เรียนหรือแบบฝึกปฏิบตั ิ 2. หรือใหผ้ เู้ รียนทาแบบทดสอบบน 2. หรือทาแบบทดสอบบนออนไลน์ และ ออนไลน์ และสามารถตรวจคาตอบไดท้ นั ที สามารถตรวจคาตอบทนั ที ข้นั สาเร็จผล (Progress) ข้นั สาเร็จผล (Progress) 1. ประเมินผลการปฏิบตั ิงานหรือ 1. รับผลการทดสอบ แบบทดสอบของผเู้ รียนหลงั ข้นั พยายามโดย 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปสาระสาคญั เทียบกบั วตั ถุประสงคก์ ารเรียนที่ต้งั ไว้ 3. นกั เรียนสอบถามขอ้ สงสัย 2. ผสู้ อนแจง้ ผลคะแนนการปฏิบตั ิงานหรือ 4. ฟังและปฏิบตั ิตามท่ีครูแนะนา การทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียนใหผ้ เู้ รียน 5. ผเู้ รียนที่มีคะแนนทดสอบหลงั การเรียนท่ีไม่ ทราบ เพ่อื เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ผา่ นเกณฑข์ ้นั ต่า ปฏิบตั ิตามขอ้ แนะนาตามเกณฑ์ ของตน การประเมินผล และคาแนะนาของครูผสู้ อน 3. ผสู้ อนแจง้ ให้ผเู้ รียนท่ีมีคะแนนหลงั เรียน ที่ไม่ผา่ นเกณฑข์ ้นั ต่า ปฏิบตั ิตามขอ้ แนะนาตาม เกณฑก์ ารประเมินผล 4. ผสู้ อนสรุปสาระสาคญั และตอบขอ้ สงสยั พร้อมแนะนาสิ่งที่เกี่ยวขอ้ งในการเรียนรู้คร้ังน้ี และแนะนาการเรียนรู้ในคร้ังตอ่ ไป

16 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 2 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การจัดการอาชพี หน่วยที่ 2 ชื่อหน่วย ขอ้ มูลและการจดั การฐานขอ้ มลู ชั่วโมงรวม 2 ช.ม. 6. ส่ือการเรียนการสอน สื่อการเรียนรู้ ใหค้ รูผสู้ อนและผเู้ รียนเลือกใชส้ ่ือประกอบการเรียนการสอนตามสภาพความ พร้อมของของตนเอง ดงั น้ี 6.1 ส่ือโสตทัศน์ 1) วดี ีทศั นใ์ นรูปแบบ DVD เรื่อง ขอ้ มูลและการจดั การฐานขอ้ มลู สาหรับผเู้ รียน ที่เรียนรู้ จากการฉายวดี ีทศั น์ 2) วดี ีทศั น์ทางไกลผา่ นดาวเทียม วงั ไกลกงั วล ตามตารางการออกอากาศ เร่ือง ขอ้ มลู และ การจดั การฐานขอ้ มูล สาหรับผเู้ รียนที่เรียนรู้ทางไกลผา่ นดาวเทียม 6.2 โสตทศั น์อุปกรณ์ 1) เครื่องเล่น DVD พร้อม TV ที่มีช่องรับสัญญาณ AV (AV IN) สาหรับผเู้ รียน ที่เรียนรู้ จากการฉายวดี ีทศั น์ 2) เคร่ืองรับสญั ญาณดาวเทียม ที่รับสญั ญาณจากมลู นิธิการศึกษาทางไกลผา่ นดาวเทียม วงั ไกลกงั วล พร้อม TV ที่มีช่องรับสัญญาณ AV (AV IN) สาหรับผเู้ รียนท่ีเรียนรู้ทางไกลผา่ น ดาวเทียม 6.3 สื่อสิ่งพมิ พ์ 1) สาเนาสื่อโปรแกรมนาเสนอ PowerPoint เร่ือง ขอ้ มูลและการจดั การฐานขอ้ มูล 2) เอกสารประกอบการเรียนรู้ เช่น ใบความรู้ แบบทดสอบฯลฯ 6.4 สื่อบทเรียนอเิ ล็กทรอนิกส์ 1) เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ที่สามารถเช่ือมตอ่ อินเทอร์เน็ตได้ และเขา้ เวบ็ ไซต์ url: http://edltv.vec.go.th 2) เคร่ืองคอมพิวเตอร์พร้อมติดต้งั ระบบ edltv เพ่อื พฒั นาอาชีพ แบบออฟไลน์ สามารถเขา้ ใช้ งานและเรียนรู้ไดโ้ ดยตรง

17 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 2 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจัดการอาชพี หน่วยที่ 2 ชื่อหน่วย ขอ้ มูลและการจดั การฐานขอ้ มลู ชั่วโมงรวม 2 ช.ม. 7. การวดั ผลและประเมนิ ผล 7.1 ก่อนเรียนรู้ วธิ ีการวดั ผล - ทดสอบก่อนเรียนรู้ เครื่องมือวดั - แบบทดสอบก่อนเรียนรู้ 7.2 ระหว่างเรียนรู้ วธิ ีการวดั ผล - ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล เคร่ืองมือวดั - แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 7.3 หลงั เรียน วธิ ีการวดั ผล - ทดสอบหลงั เรียนรู้ เครื่องมือวดั - แบบทดสอบหลงั เรียนรู้ 8. เกณฑ์การประเมินผล 8.1 เกณฑ์การวดั ผลสัมฤทธ์จิ ากแบบทดสอบและใบมอบงานมเี กณฑ์ดังนี้ ร้อยละ 80-100 หมายถึง ผลการเรียนรู้ดีมาก ร้อยละ 70-79 หมายถึง ผลการเรียนรู้ดี ร้อยละ 60-69 หมายถึง ผลการเรียนรู้ปานกลาง ร้อยละ 50-59 หมายถึง ผลการเรียนรู้ผา่ นเกณฑ์ ข้นั ต่า (ควรปรับปรุงดว้ ยการศึกษาทบทวน) ต่ากวา่ ร้อยละ 50 หมายถึง ผลการเรียนไมผ่ า่ นเกณฑ(์ ตอ้ งปรับปรุงและ เรียนซ่อมเสริมควรทดสอบการประเมินจนกวา่ จะผ่านข้นั ตา่ ) 8.2เกณฑ์การประเมนิ พฤตกิ รรมรายบุคคล 8-10 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมดี 5-7 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมพอใช้ ต่ากวา่ 5 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุง

18 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 2 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ การจัดการอาชีพ หน่วยท่ี 2 ช่ือหน่วย ขอ้ มลู และการจดั การฐานขอ้ มูล ชั่วโมงรวม 2 ช.ม. 8.3 เกณฑ์การตดั สิน 2 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ปฏิบตั ิสม่าเสมอ 1 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ปฏิบตั ิบางคร้ัง 0 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ไมป่ ฏิบตั ิ 8.4 เกณฑ์การประเมนิ 8 - 10 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมดี 5-7 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมพอใช้ ต่ากวา่ 5 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมท่ีตอ้ งปรับปรุง 9. แหล่งการเรียนรู้เพม่ิ เตมิ - ประทีป ผลจนั ทร์งาม. วชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศเบือ้ งต้น .เอกสารประกอบการเรียนรู้. อดั สาเนา. เอกสารการพมิ พว์ ทิ ยาลยั เทคนิคบา้ นค่าย. 2555. - สืบคน้ ขอ้ มลู จากแหล่งขอ้ มูลอื่นๆ ผา่ นเครือขายอินเทอร์เน็ต

19 6. เน้ือหา (ใบความรู้)

20 บทเรียนท่ี 2 เร่ือง ข้อมูลและการจัดการฐานข้อมูล - จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมายของขอ้ มลู และสารสนเทศไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 2. อธบิ ายความหมายและการจดั การระบบฐานขอ้ มลู ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง หวั ข้อเนื้อหา 1. ขอ้ มลู และสารสนเทศ 2. ฐานขอ้ มลู และการจดั การฐานขอ้ มลู 3. สรปุ

21 บทเรียนที่ 2 เรื่อง ข้อมูลและการจดั การข้อมูล 2.1 ข้อมูลและสารสนเทศ การใหค้ วามหมายของขอ้ มูลและสารสนเทศที่เก่ียวขอ้ งกบั การจดั การระบบสารสนเทศ เป็ นคาที่มีความหมายแตกต่างกนั ซ่ึงมีนกั วิชาการหลายท่านไดใ้ ห้ความหมายของคาท้งั สองคาน้ี ดงั น้ี วนั พร ป้ันเก่า และ ธนาวรรณ จนั ทรัตนไพบูลย์ (2538,1-4)ได้ให้ความหมายของ ขอ้ มูลว่าหมายถึง กลุ่มของขอ้ เทจ็ จริงที่เกิดข้ึนซ่ึงสามารถนามาประมวลผลเพื่อให้อยใู่ นรูปแบบท่ี สามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้ และสารสนเทศหมายถึง ผลที่ได้จากการประมวลผลขอ้ มูลซ่ึง สามารถนาไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ ไดส้ อดคลอ้ งกบั ฉลอง ทบั ศรี (2533,9)ไดก้ ล่าวถึงความหมายของ ขอ้ มูลและสารสนเทศวา่ ขอ้ มูลหมายถึงสาระ (data) ซ่ึงเป็ นขอ้ เทจ็ จริง (facts) หรือเป็ นตวั เลขที่ ยงั ไม่ได้รับการจดั ระบบอาจจะมีความหมายหรือไม่มีความหมายในตวั ของมนั เอง ขอ้ มูลจะ เปลี่ยนเป็ นสารสนเทศ (information)ก็ต่อเมื่อขอ้ มูลน้นั ไดร้ ับการจดั กระทาไดร้ ับการเปลี่ยนแปลง อาจเป็ นการสังเกตวิเคราะห์จดั ระเบียบและถูกนาเสนอในลกั ษณะท่ีมีความหมายเพ่ือการตดั สินใจ หรือเพ่ือการใช้ประโยชน์อื่น ๆ เช่นเดียวกนั กบั นิพทั ธุ์ อินทอง และ อาจารี นาโค (2540, 88) ไดก้ ล่าวถึงความหมายของคาวา่ ขอ้ มูลและสารสนเทศ สอดคลอ้ งกบั จรณิต แกว้ กงั วาล, ( 2536,10 ) ปทีป เมธาคุณวุฒิ, ( 2538 , 3) วรี ะ สุภากิจ( 2539, 1) และ Mcfadden & Hoffer, (1994, p.7) ดงั น้ี ข้อมูล หมายถึง ขอ้ เท็จจริงที่เก่ียวขอ้ งกบั สิ่งต่าง ๆ หรือสิ่งของท่ีเราสนใจ เช่น คน, สิ่งของ, หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ซ่ึงไดม้ าจากการนบั การชง่ั การตวง การวดั เป็ นขอ้ เท็จจริงข้นั ตน้ เป็นการบนั ทึกเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึน หรือกาลงั จะเกิดข้ึน ขอ้ เท็จจริงน้ีเป็ นอิสระไม่สัมพนั ธ์กนั และมี จานวนไม่กากดั ขอ้ มูลอาจเป็นตวั เลข ภาษาหรือสัญลกั ษณ์ที่ยงั ไมม่ ีการปรุงแต่งหรือประมวลผลใด ๆ ซ่ึงจะไมน่ าไปใชป้ ระกอบการตดั สินใจ

22 ภาพท่ี 2.1 แสดงตวั อยา่ งของขอ้ มูลท่ีจดั เก็นเขา้ ในระบบ สารสนเทศ หมายถึง ขอ้ มูลท่ีไดผ้ า่ นการประมวลผลแลว้ มกั จะนามาใชใ้ นการแสดง ถึงเร่ืองราวเรื่องใดเรื่องหน่ึง ซ่ึงจดั ให้อยูใ่ นรูปแบบที่นามาใชป้ ระโยชน์ได้ เป็ นขอ้ มูลท่ีเกิดจาก การวเิ คราะห์เลือกสรรแลว้ จดั ระเบียบใหเ้ ป็นขา่ วกรอง ซ่ึงจะใชเ้ ป็ นขอ้ อา้ งอิงหรือเป็ นพ้ืนฐาน ใน การคาดการณ์ล่วงหน้า หรือช่วยในการวินิจฉัยส่ังการได้ทนั ที เป็ นข้อมูลท่ีได้กระทาให้มี ความสัมพนั ธ์หรือมีความหมาย นาไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ เป็ นขอ้ มูลที่ผา่ นการเปล่ียนแปลง โดยการ นาข้อมูลต้ังแต่สองตัวข้ึนไปท่ีมีความเก่ียวข้องกัน มาจัดกระทาหรือประมวลผลเพ่ือให้มี ความหมายหรือมีคุณค่าเพิ่มข้ึนตามวตั ถุประสงคก์ ารใช้ ภาพท่ี 2.2 แสดงสารสนเทศท่ีไดจ้ ากผลการประมวลผลของขอ้ มูล

23 กล่าวโดยสรุป ขอ้ มูลและสารสนเทศมีความหมายดงั น้ีคือ ข้อมูล หมายถึง เอกสาร ข่าวสาร ข้อเท็จจริงทุกรูปแบบท่ียงั มิได้ผ่านการวิเคราะห์ ประมวลผล เช่น จานวนนิสิต จานวนอาจารย์ ฯลฯ เป็นตน้ สารสนเทศ หมายถึง ขอ้ มูลท่ีไดร้ ับการประมวลผล หรือวิเคราะห์ หรือการจดั ระบบแลว้ ที่อย่ใู นรูปแบบที่มีความหมายสามารถนามาใชป้ ระกอบการตดั สินใจไดท้ นั ทีตามจุดประสงค์ท่ี กาหนดไว้ 2.2 ฐานข้อมูลและการจดั การฐานข้อมูล การนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใชใ้ นหน่วยงานหรือองค์กร จาเป็ นจะตอ้ งศึกษา ถึงระบบและโครงสร้างของระบบอยา่ งละเอียด โดยเฉพาะการนาคอมพิวเตอร์มาใชง้ านในลกั ษณะ ของระบบเครือข่ายจะตอ้ งมีองค์ประกอบหลายดา้ น โดยเฉพาะการจดั เก็บระบบขอ้ มูลจะตอ้ งมี โปรแกรมที่ทาหน้าที่ในการจดั การระบบฐานขอ้ มูลท่ีมีประสิทธิภาพเพ่ือรองรับขอ้ มูลที่จดั เก็บ วเิ คราะห์ประมวล ผลและรายงานผลไดเ้ ป็ นอยา่ งดี รวมถึงการใชง้ านที่มีความสะดวก รวดเร็ว มี ระบบรักษาความปลอดภยั ที่สูง มีการกาหนดสิทธิการใช้งานตามหนา้ ท่ีของผใู้ ช้งานได้ เป็ นตน้ ดงั น้นั หน่วยงานจะตอ้ งมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องระบบฐานขอ้ มูลเป็ นอยา่ งดีดว้ ย จึงจะทาใหก้ ารใชง้ านมีประสิทธิภาพ ภาพที่ 2.3 แสดงตวั อยา่ งของระบบระบบการจดั การฐานขอ้ มลู

24 ซ่ึง วศิ ลั ย์ พวั รุ่งโรจน์ และไพรัช โมระสิทธิสวสิ ด์ิ ( 2540 , 51 ) ไดก้ ล่าวถึงฐานขอ้ มูล ว่าเป็ นแหล่งรวมของข้อมูลสารสนเทศที่มีเน้ือหาเกี่ยวกัน หรื อมีความสัมพนั ธ์กัน โดยมี จุดประสงค์เพื่อการจดั เก็บให้มีประสิทธิภาพและสามารถเรียกใช้ขอ้ มูลน้นั ไดต้ ลอดเวลาตามที่ ตอ้ งการซ่ึงตรงกบั ความเห็นของ สมจริตร อาจอินทร์ และงามนิจ อาจอินทร์ ( 2540 , 12-13) ได้ กล่าวถึงเรื่องของฐานขอ้ มูลวา่ เป็ นการจดั เก็บขอ้ มูลท่ีมีความสัมพนั ธ์ไวใ้ นที่เดียวกนั เพ่ือใชง้ าน ร่วมกนั ได้ เช่นเดียวกนั กบั ภทรวตั ปิ ตวรรณ และอนนั ต์ โชติช่วงนภา (2541 ,145) ไดแ้ สดง ทศั นะเกี่ยวกบั คานิยามของฐานขอ้ มูลวา่ หมายถึง การเก็บรวบรวมขอ้ มูลของผใู้ ช้ และสามารถที่ จะนาข้อมูลน้ันออกมาใช้ร่วมกันโดยไม่มีการซ้าซ้อนของขอ้ มูลหรือความขัดแยง้ ของข้อมูล โดยทว่ั ไปขอ้ มูลมกั จะประกอบดว้ ยขอ้ มูลยอ่ ยหลาย ๆ ส่วน โดยที่แต่ละส่วนจะไม่มีความหมาย เช่น ช่ือนิสิต ช่ือวิชา เกรด แต่ถา้ เอาหลายส่วนมารวมกนั จะเกิดความหมายข้ึน การที่เราเอา ขอ้ มูลของหลาย ๆ ส่วนมารวมกนั จะเกิดเป็ นรายการ และในกรณีท่ีเอาหลาย ๆ รายการมารวมกนั จะเกิดเป็ นแฟ้ มขอ้ มูล แต่ถา้ หากเอาหลายแฟ้ มขอ้ มูลมารวมกนั จะเกิดเป็ นฐานขอ้ มูล และนิพนั ธุ์ อินทอง และอาจารี นาโค (2540 , 89) ไดก้ ล่าวถึงระบบฐานขอ้ มูลวา่ เป็ นการนาแฟ้ มขอ้ มูลท่ี เก่ียวขอ้ งเขา้ ดว้ ยกนั ดว้ ยหลกั การทางดา้ นการจดั การฐานขอ้ มูลซ่ึงทาให้การเก็บขอ้ มูลไม่ซ้าซอ้ น กนั และสามารถเรียกใชข้ อ้ มูลไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว กล่าวโดยสรุป ฐานขอ้ มูล หมายถึง การเก็บรวบรวมขอ้ มูลท่ีเกี่ยวขอ้ งกนั มาจดั เก็บไว้ ในฐานเดียวกนั ดว้ ยหลกั การทางดา้ นการจดั การฐานขอ้ มูลทาให้ขอ้ มูลมีความถูกตอ้ งและทนั สมยั อยเู่ สมอ และยงั สามารถเรียกใชไ้ ดอ้ ยา่ งรวดเร็วอีกดว้ ย องคป์ ระกอบของระบบฐานขอ้ มูล ระบบฐานขอ้ มลู ส่วนใหญ่เป็นระบบท่ีมีการนาระบบ คอมพิวเตอร์เขา้ มาช่วยในการจดั เก็บ โดยมีโปรแกรม (software) ช่วยในการจดั การขอ้ มูลเหล่าน้ี เพื่อใหไ้ ดข้ อ้ มูลตามที่ผใู้ ชต้ อ้ งการ องคป์ ระกอบของฐานขอ้ มูลตามท่ีผใู้ ชต้ อ้ งการ องค์ประกอบ ของฐานขอ้ มูลแบ่งออกเป็ น 5 ประเภท คือ (วิเศษศกั ด์ิ โคตรอาษา , เดชอนนั ต์ บุญผนั , กฤษณา บุตรปาละ , ขวญั ใจ ดีจริง และเสรี หร่ายเจริญ , 2542 , 128 – 130) 1. ฮาร์ดแวร์ (hardware) ในระบบฐานขอ้ มูลที่มีประสิทธิภาพควรมีฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ที่พร้อมจะอานวยความสะดวกในการบริหารขอ้ มูลไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็ นความเร็ว รายงานหน่วยความจาสารองที่จะรองรับการประมวลผลขอ้ มูลในระบบไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 2. ซอฟแวร์ (software) ในการประมวลผลขอ้ มูลอาจจะใชซ้ อฟตแ์ วร์หรือโปรแกรมท่ี แตกต่างกนั ท้งั น้ีข้ึนอยกู่ บั คอมพิวเตอร์ท่ีนามาใช้ว่าเป็ นแบบใดโปรแกรมจะทาหน้าที่ดูแลการ สร้าง การเรียกใชข้ อ้ มูล การจดั ทารายงาน การปรับเปล่ียน แกไ้ ข โครงสร้างการควบคุมหรืออาจ

25 กล่าวไดอ้ ีกอยา่ งหน่ึงวา่ ระบบจดั การฐานขอ้ มูล(database management system : DBMS) คือ โปรแกรมประยกุ ตต์ ่าง ๆ ท่ีมีอยใู่ นฐานขอ้ มลู 3. ข้อมูล (data) ฐานขอ้ มูลเป็ นการจดั เก็บรวบรวมขอ้ มูลให้เป็ นศูนยก์ ลางของขอ้ มูล อยา่ งมีระบบ ซ่ึงขอ้ มูลเหล่าน้ีสามารถเรียกใชร้ ่วมกนั ได้ ผใู้ ชข้ อ้ มูลในระบบฐานขอ้ มูลจะมองภาพ ขอ้ มลู ในลกั ษณะที่แตกต่างกนั เช่น ผใู้ ชบ้ างคนมองภาพของขอ้ มูลท่ีถูกจดั เก็บไวใ้ นสื่อขอ้ มูลผใู้ ช้ บางคนมองภาพขอ้ มลู จากการใชง้ าน เป็นตน้ 4. บุคลากร (people) ในระบบฐานขอ้ มูลจะมีบุคลากรท่ีเก่ียวขอ้ งดงั น้ี คือ 4.1 ผใู้ ชท้ ว่ั ไป (user) หมายถึง บุคลากรที่ใชข้ อ้ มูลจากระบบฐานขอ้ มูลเพื่อให้งาน ลุล่วงได้ เช่น ระบบดูเกรดนกั ศึกษา ผใู้ ชท้ วั่ ไปคือนกั ศึกษา 4.2 พนกั งานปฏิบตั ิการ (operator) หมายถึง ผปู้ ฏิบตั ิการดา้ นประมวลผลการป้ อน ขอ้ มลู เขา้ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ 4.3 นักเขียนโปรแกรม (programmer)หมายถึง ผู้ท่ีมีหน้าท่ีเขียนโปรแกรม ประยกุ ตใ์ ชง้ านต่าง ๆ เพอื่ ใหจ้ ดั เก็บขอ้ มูล การเรียกใชข้ อ้ มูลเป็นไปตามตอ้ งการของผใู้ ช้ 4.4 นกั วิเคราะห์และออกแบบระบบ (system analyst) หมายถึง บุคลากรท่ีทา หนา้ ท่ีวเิ คราะห์ระบบฐานขอ้ มูลและออกแบบระบบงานที่จะนามาใช้ 4.5 ผบู้ ริหารฐานขอ้ มูล (database administrator) หมายถึง บุคลากรท่ีทาหนา้ ท่ี บริหารและควบคุมการบริหารของระบบฐานขอ้ มูล 5. ข้ันตอนการปฏิบัติงาน (procedure) ในระบบฐานขอ้ มูลที่ดีจะตอ้ งมีการจดั ทา เอกสารที่ระบุข้นั ตอนการทางานของหนา้ ที่ตา่ ง ๆ ระบบฐานขอ้ มลู ท้งั ในสภาวะปกติและในสภาวะ ท่ีระบบเกิดการขดั ขอ้ งหรือเกิดปัญหา ซ่ึงจะเป็ นข้นั ตอนการปฏิบตั ิงานสาหรับบุคลากรในทุก ระดบั องคก์ ร ประเภทของฐานข้อมูล โดยทวั่ ไปฐานขอ้ มูลจะถูกสร้างใหง้ ่ายตอ่ ความเขา้ ใจและการใช้ งานของผู้ใช้งานของผู้ใช้ ในด้านการออกแบบฐานข้อมูลได้มีการกาหนดการออกแบบ สถาปัตยกรรมของฐานขอ้ มูล ดงั น้ี 1. ฐานข้อมูลแบบลาดับช้ัน (hierarchical database) ซ่ึงลกั ษณะโครงสร้างคลา้ ย ตน้ ไมท้ ี่ควา่ หวั ลง จึงอาจเรียกไดว้ า่ เป็ นโครงสร้างแบบตน้ ไม้ (tree structure) โดยจะมีระเบียบที่ อยู่แถวบนซ่ึงเรียกวา่ เป็ นระเบียบพ่อแม่ (parent record) ระเบียบในแถวถดั ลงมาจะเรียกวา่ ระเบียบลูก (child record) ระเบียบพ่อแม่จะสามารถมีระเบียบลูกไดม้ ากกวา่ หน่ึงระเบียบ แต่ละ ระเบียบลูกแต่ละระเบียบพอ่ แมเ่ พยี งหน่ึงระเบียบเทา่ น้นั

m 26 n1 n2 n3 ภาพท่ี 2.4 แสดงตวั อยา่ งโครงร่างฐานขอ้ มูลแบบลาดบั ข้นั 2. ฐานข้อมูลแบบเครือข่าย (network database) ขอ้ มูลภายในฐานขอ้ มูลแบบน้ีมี ลกั ษณะการจดั แบบเช่ือมโยงถึงกนั หมดเป็ นโครงร่างขอ้ มูลที่มีความสัมพนั ธ์กนั หมด ซ่ึงอาจจะ เป็นแบบหน่ึงต่อหน่ึง หรือกลุ่มตอ่ กลุ่ม m nc dk ภาพที่ 2.5 แสดงตวั อยา่ งโครงร่างฐานขอ้ มลู แบบเครือขา่ ย 3. ฐานข้อมูลแบบเชิงสัมพนั ธ์ (relational database) เป็ นฐานขอ้ มูลที่ไดร้ ับความนิยม ใช้กนั มากในปัจจุบนั ซ่ึงสามารถใช้งานได้กบั คอมพิวเตอร์ไดท้ ุกระดบั ฐานขอ้ มูลแบบน้ีจะมี โครงสร้างขอ้ มูลที่เก็บอยใู่ นรูปแบบของตาราง (table) แฟ้ มขอ้ มูลแต่ละส่วนจะเป็ นอิสระต่อกนั ทาให้มีการแกไ้ ขปรับปรุง บารุงรักษาได้โดยง่าย และง่ายต่อการเขา้ ใจ ตารางแต่ละตารางมี ความสัมพนั ธ์กนั ช่ือของตารางเรียกวา่ เอนติต้ี (entity) ภายในตารางจะแบ่งออกเป็ นหลาย ๆ แถว (rows) และหลายคอลมั น์ (columns) แต่ละแถวเรียกวา่ ทพั เพิล (tuple) และแต่ละคอลมั น์ เรียกว่าแอตทริบิวต์ (attribute) ความสัมพนั ธ์ระหว่างตารางจะเป็ นแบบใดก็ได้ เช่น

27 ความสมั พนั ธ์กนั แบบหน่ึงต่อหน่ึง ความสมั พนั ธ์กนั แบบหน่ึงต่อกลุ่ม หรือความสัมพนั ธ์กนั แบบ กลุ่มตอ่ กลุ่ม แตโ่ ดยมากแลว้ จะเป็นความสัมพนั ธ์แบบหน่ึงต่อกลุ่ม ระบบจัดการฐานข้อมูล หรือ DBMS (database management system) ซ่ึงเป็ น โปรแกรมชนิดหน่ึงที่ถูกสร้างข้ึนเพ่ือช่วยในการสร้าง เรียกใชข้ อ้ มูลและปรับปรุงฐานขอ้ มูล โดย จะทาหน้าท่ีเสมือนตวั กลางระหว่างผูใ้ ช้และฐานขอ้ มูลให้สามารถติดต่อกันได้ (สมจิตร อาจ อินทร์ และงามนิจ อาจอินทร์ , 2540 , 12 – 13) ปทีป เมธาคุณวุฒิ (2538 , 54 – 55) ไดก้ ล่าวถึงระบบการจดั การฐานขอ้ มูล (DBMS) ในทานองเดียวกันว่าหมายถึง การรวบรวมโปรแกรมต่าง ๆ ที่สามารถทาให้ผูใ้ ช้สร้างและ ดาเนินการเก่ียวกบั ฐานขอ้ มูล เช่น สามารถกาหนดชนิดของขอ้ มูล การให้รายละเอียดของขอ้ มูล การสร้างฐานขอ้ มูล การเรียกขอ้ มูล การเปล่ียนแปลงแกไ้ ขขอ้ มูล และการออกรายงานท่ีไดจ้ าก ฐานขอ้ มูล ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั ที่ จรณิต แกว้ กงั วาล (2536 , 54) ไดใ้ ห้ความหมายของระบบ การจดั การฐานขอ้ มูลในด้านต่าง ๆ ไดแ้ ก่ การให้ คาจากดั ความของขอ้ มูลและเรคอร์ด การ กาหนดความสัมพนั ธ์ระหวา่ งฟิ ลด์ต่าง ๆ ในเรคอร์ด การจดั การประมวลผล ปรับเปลี่ยนแกไ้ ข ขอ้ มูล และการจดั การกาหนดควบคุมการใช้ขอ้ มูลท่ีมีอยอู่ ยา่ งมีระบบ จุดมุ่งหมายสาคญั ของ ระบบ DBMS จาแนกไดเ้ ป็ น 2 ดา้ น คือเพื่อจดั การควบคุมเพื่อสนบั สนุนการใช้ ขอ้ มูลภายใน องคก์ ารอยา่ งเป็นระบบดงั แสดงในภาพที่ 2.6 ระบบ การใช้ข้อมลู ร่วมกนั ในองค์การ (sharability) การจดั การ การใช้ ฐานข้อมลู การพฒั นาการใช้ข้อมลู (evolvability) การควบคุม ความสมบรู ณ์/เช่ือถือได้ของข้อมลู (integrity) ภาพที่ 2.6 จุดมุง่ หมายของระบบจดั การฐานขอ้ มลู การใชข้ อ้ มลู ร่วมกนั ในองคก์ าร หมายถึง การจดั การขอ้ มูลเพ่ือสนองตอบความตอ้ งการ ผใู้ ชร้ ะดบั ในระดบั ต่าง ๆ และการกาหนดมาตรฐานการใช้ขอ้ มูล การเชื่อมโยงขอ้ มูลท่ีเก่ียวขอ้ ง กนั เขา้ ดว้ ยกนั เพ่ือใหผ้ ลลพั ธ์เป็นเอาตพ์ ุตในรูปแบบตา่ ง ๆ กนั การพฒั นาการใช้ข้อมูล หมายถึง การจดั การขอ้ มูลให้ทนั สมยั ตรงต่อความเปล่ียนแปลง ของความตอ้ งการของผใู้ ชร้ ะบบ หรือความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยเี วลาท่ี ผา่ นไป

28 ความสมบูรณ์/เชื่อถือได้ของข้อมูลหมายถึง การควบคุมป้ องกันฐานข้อมูล (DB existance) ควบคุมการจดั เก็บรักษาสื่อท่ีใชจ้ ดั เก็บขอ้ มูล หรือไฟล์ฐานขอ้ มูลต่าง ๆเช่น เทป/ดิสต์ ป้ องกนั โอกาสท่ีจะทาใหเ้ กิดการเสียหายหรือสูญหายของขอ้ มลู และการควบคุมรักษาคุณภาพของ ฐานขอ้ มูล (DB quality) ควบคุมระบบการให้คาจากดั ความของแต่ละฟิ ลด์ ต้งั กาหนดกฎเกณฑ์ การตรวจสอบขอ้ มูล การใส่ขอ้ มูลและการจดั เก็บขอ้ มูลให้มีความถูกตอ้ งสมบูรณ์รวมท้งั การ ปกป้ องการร่ัวไหลของขอ้ มูล (DB privacy) กาหนดขอบข่ายขอ้ มูลวา่ ขอ้ มูลชุดใดเป็ นขอ้ มูล ปกปิ ด ขอ้ มูลชุดใดเผยแพร่ได้ ผใู้ ชร้ ะดบั ใดตอ้ งการใชข้ อ้ มูลใด ขอ้ มูลใดเป็ นขอ้ มูลส่วนบุคคล เท่าน้นั เป็นตน้ จากทศั นะดงั กล่าวขา้ งตน้ สามารถสรุปไดว้ ่า ระบบการจัดการฐานข้อมูล หมายถึง การรวบรวมโปรแกรมต่าง ๆ ที่ช่วยในการสร้าง เรียกใชข้ อ้ มูล และดาเนินการเกียวกบั ฐานขอ้ มูล เพือ่ สนบั สนุนการใชข้ อ้ มลู ภายในองคก์ ารอยา่ งเป็นระบบ ความสาคญั และประโยชน์ของระบบการจดั การฐานขอ้ มูล นิพนั ธุ์ อินทองและอาจารี นาโค (2540 , 111 – 112) ไดก้ ล่าวถึงประโยชน์ของการใชร้ ะบบการจดั การฐานขอ้ มูล สรุปได้ ดงั น้ี 1. ลดความซ้าซอ้ นของขอ้ มูล 2. สามารถหลีกเล่ียงความขดั แยง้ ของขอ้ มลู ได้ 3. สามารถใชข้ อ้ มลู ร่วมกนั ได้ 4. สามารถควบคุมความเป็นมาตรฐานได้ 5. สามารถจดั หาระบบความปลอดภยั ท่ีมีคุณภาพได้ 6. สามารถควบคุมการคงสภาพของขอ้ มูลได้ 7. สามารถสร้างสมดุลในความขดั แยง้ ของความตอ้ งการได้ 8. เกิดความเป็นอิสระของขอ้ มลู ซ่ึงตรงกบั ท่ีสมจิตร อาจอินทร์ และงามนิจ อาจอินทร์ (2540 , 15) ไดก้ ล่าวถึงขอ้ ดี ของการประมวลผลขอ้ มูลในฐานขอ้ มูลวา่ 1. ขอ้ มลู มีการเกบ็ อยรู่ วมกนั และสามารถใชข้ อ้ มลู ร่วมกนั ได้ 2. ลดความซ้าซอ้ นของขอ้ มูล 3. สามารถหลีกเล่ียงความขดั แยง้ กนั ของขอ้ มลู ที่อาจเกิดข้ึนได้ 4. การควบคุมความคงสภาพของขอ้ มูล 5. การจดั การขอ้ มลู ในฐานขอ้ มูลจะทาไดง้ ่าย 6. ความเป็นอิสระระหวา่ งโปรแกรมประยกุ ตแ์ ละขอ้ มลู 7. การมีผคู้ วบคุมระบบเพยี งคนเดียว

29 นอกจากน้นั ปทีป เมธาคุณวุฒิ (2538 , 59 – 60) ไดก้ ล่าวถึงขอ้ ดีของการจดั การ ฐานขอ้ มูลในแนวทางท่ีสอดคลอ้ งกนั วา่ 1. ฐานขอ้ มูลมีความเบ็ดเสร็จในตวั เอง ฐานขอ้ มูลประกอบดว้ ยรายละเอียดของขอ้ มูล และตวั ขอ้ มูลจริง รายละเอียดของข้อมูลจะบอกให้ทราบเกี่ยวกับโครงสร้างของแฟ้ มข้อมูล ประเภท และแบบแผนการเก็บขอ้ มลู แต่ละอยา่ ง รวมท้งั ขอ้ ตกลง และขอ้ จากดั ต่าง ๆ ของขอ้ มูล 2. การแยกกนั ระหวา่ งโปรแกรมและขอ้ มูล การจดั การขอ้ มูลจะใชก้ ระบวนการท่ีมีการ เขียนโปรแกรมเพ่ือ ทางานแยกเป็ นอิสระจากขอ้ มูล เช่น โปรแกรมที่เขียนไวใ้ ช้ตามขอ้ มูลท่ี กาหนดไวเ้ ดิม แต่ถา้ ใช้ตอ้ งการเพิ่มหรือเปล่ียนแปลงรายการในขอ้ มูลก็เพียงแต่เพิ่มหรือเปล่ียน รายละเอียดข้ึนในแฟ้ มขอ้ มูลส่วนโปรแกรมกย็ งั คงทางานไดต้ ามเดิมโดยไม่ตอ้ งเปล่ียนแปลง 3. การบรรจุหรือรวบรวมความเป็ นนามธรรมของขอ้ มูลเก็บไวโ้ ดยที่ผูใ้ ชไ้ ม่จาเป็ น จะตอ้ งเก่ียวขอ้ งหรือรับรู้ 4. การใหก้ ารสนบั สนุนผใู้ ชห้ ลาย ๆ กลุ่ม ฐานขอ้ มูลมีผใู้ ชห้ ลาย ๆ กลุ่ม ซ่ึงมีความ ตอ้ งการใชข้ อ้ มูลแตกต่างกนั ฐานขอ้ มูลสามารถจดั การได้ เช่น ผใู้ ช้กลุ่มหน่ึงตอ้ งการใช้ขอ้ มูล เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกบั ผลการเรียนของนิสิต ผใู้ ชอ้ ีกกลุ่มตอ้ งการตรวจสอบการเรียนวชิ าบงั คบั ก่อนการลงทะเบียนของนิสิต 5. ช่วยลดความซ้าซอ้ นของขอ้ มูล เช่น ฐานขอ้ มูลของมหาวิทยาลยั หน่วยทะเบียน และหน่วยงานคลงั ตอ้ งการเก็บขอ้ มูลของตนเอง ก็จะมีความซ้าซ้อนของการเก็บขอ้ มูล ถา้ เป็ น ฐานขอ้ มูลการจดั การ ก็จะใชข้ อ้ มูลร่วมกนั ไดต้ ามจุดมุ่งหมายของแตล่ ะหน่วยงาน 6. หลีกเล่ียงการเกิดความไม่ตรงกนั ของขอ้ มูล ถา้ หน่วยงานทะเบียนเก็บขอ้ มูลและ หน่วยงานคลงั เก็บขอ้ มูล อาจจะทาให้เกิดขอ้ มูลบางอย่างไม่ตรงกนั เช่น เม่ือมีการเปล่ียนแปลง แกไ้ ขขอ้ มูลของหน่วยงานหน่ึงแตอ่ ีกหน่วยงานหน่ึงแตอ่ ีก ยงั ไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากน้นั อาจเกิด จากการบนั ทึกขอ้ มูลผิดพลาดของแต่ละหน่วยงาน ปัญหาอื่น ๆ ท่ีเกิดข้ึนก็คือการทางานซ้าซอ้ น เสียเวลา และ สิ้นเปลืองเน้ือที่ในการเกบ็ ขอ้ มลู 7. สามารถใชข้ อ้ มูลร่วมกนั ได้ ผใู้ ชห้ ลาย ๆ คนสามารถใชข้ อ้ มูลร่วมกนั ไดใ้ นเวลา เดียวกนั และการควบคุมกส็ ามารถทาในเวลาปัจจุบนั ได้ 8. การกาหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อความปลอดภยั ของขอ้ มูล แมว้ า่ ผใู้ ชจ้ ะสามารถใช้ ฐานขอ้ มูลไดห้ ลาย ๆ คน แต่จะตอ้ งมีการกาหนดว่าไม่ใช่ทุกคนท่ีจะสามารถเรียกขอ้ มูลท้งั หมด ของฐานขอ้ มูลมาได้ ดงั น้นั ผใู้ ชแ้ ต่ละคนจะไดร้ ับสิทธิโดยผจู้ ดั ทาระบบมาตรการการรักษาความ ปลอดภยั ของฐานขอ้ มูล จะจดั การไวเ้ ป็นระบบยอ่ ยในระบบฐานขอ้ มูล 9. ฐานขอ้ มลู มีความสัมพนั ธ์กนั ในทุก ๆ ดา้ น เช่น ในขอ้ มูลนิสิตสัมพนั ธ์กบั ขอ้ มูลการ รายงานเกรด ซ่ึงสามารถที่จะเปล่ียนแปลงแกไ้ ขขอ้ มลู หรือเรียกดูขอ้ มลู ไดส้ ะดวกและรวดเร็ว

30 กล่าวโดยสรุป ประโยชน์หรือขอ้ ดีของการจดั การฐานขอ้ มูลก็คือ ช่วยลดความซ้าซ้อน ของ ขอ้ มูลสามารถใช้ขอ้ มูลร่วมกนั ได้ สามารถปรับแก้ไขขอ้ มูลเรียกดูขอ้ มูลไดอ้ ย่างสะดวก รวดเร็ว และกาหนดมาตรการเพื่อรักษาความปลอดภยั ของขอ้ มูลรวมท้งั ยงั สามารถควบคุมขอ้ มูล ไดง้ ่ายข้ึนไม่วา่ จะเป็นดา้ นความถูกตอ้ งของขอ้ มลู หรือการกาหนดขอบเขตสิทธิของผใู้ ชข้ อ้ มลู 2.3 สรุป การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ท่ีเกี่ยวขอ้ งกนั มาจดั เก็บไวใ้ นฐานเดียวกนั ดว้ ยหลกั การทางดา้ นการ จดั การฐานขอ้ มูลทาให้ขอ้ มูลมีความถูกตอ้ งและทนั สมยั อยเู่ สมอ และยงั สามารถเรียกใชไ้ ดอ้ ยา่ ง รวดเร็ว และองคป์ ระกอบของระบบฐานขอ้ มูล ระบบฐานขอ้ มูลส่วนใหญ่เป็ นระบบที่มีการนา ระบบคอมพิวเตอร์เขา้ มาช่วยในการจดั เก็บ โดยมีโปรแกรม (software) ช่วยในการจดั การขอ้ มูล เหล่าน้ี เพื่อให้ได้ข้อมูลตามท่ีผูใ้ ช้ต้องการ องค์ประกอบของฐานข้อมูลตามท่ีผูใ้ ช้ต้องการ องค์ประกอบของฐานขอ้ มูลแบ่งออกเป็ น 5 ประเภท ไดแ้ ก่ 1) ฮาร์ดแวร์ (hardware) 2) ซอฟแวร์ (software) 3) ข้อมูล (data) 4) บุคลากร (people) 5) ข้ันตอนการปฏิบัติงาน (procedure) ในระบบฐานขอ้ มูลที่ดีจะตอ้ งมีการจดั ทาเอกสารท่ีระบุข้นั ตอนการทางานของหนา้ ท่ี ต่าง ๆ ระบบฐานขอ้ มูลท้งั ในสภาวะปกติและในสภาวะท่ีระบบเกิดการขดั ขอ้ งหรือเกิดปัญหา ซ่ึง จะเป็นข้นั ตอนการปฏิบตั ิงานสาหรับบุคลากรในทุกระดบั องคก์ ร

31 แบบฝึ กหัด 1. จงอธิบายความหมายของขอ้ มลู และสารสนเทศ …………………….………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… …………………….………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………….…………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………….…………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………….……………………………………………………………………………………… …………………….………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… …………………….………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………….…………………………………………………………………………………… 2. จงอธิบายความหมายและการจดั การระบบฐานขอ้ มลู …………………….………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… …………………….………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………….…………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………….…………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… …………………….………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… …………………….………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………….……………………………………………………………………………………

32 7. ส่ือประกอบการสอน

33 ขอ้ มลู และการจดั การฐานขอ้ มลู จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายความหมายของข้อมูลได้อย่างถูกต้อง 2. อธิบายความหมายของสารสนเทศได้อย่างถูกต้อง 3. อธิบายความหมายของการจัดการฐานข้อมูลได้ อย่างถูกต้อง

34 หวั ขอ้ การเรียน 1. ขอ้ มลู และสารสนเทศ 2. ฐานขอ้ มูลและการจดั การฐานขอ้ มลู ความคิดรวบยอด ความหมาย โครงสรา้ ง องคป์ ระกอบ ของขอ้ มลู สารสนเทศ และการจดั การฐานขอ้ มลู เพื่อจะได้ นําไปใชป้ ระโยชนใ์ นการพฒั นา องคก์ ร หรือหน่วยงาน ไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ

35 1. ขอ้ มลู และสารสนเทศ 1.1 ความหมายของขอ้ มลู วนั พร ป้ันเก่า และ ธนาวรรณ จนั ทรตั นไพบลู ย์ (2538,1-4)ไดใ้ หค้ วามหมายของ ขอ้ มลู ว่าหมายถึง กลุ่มของขอ้ เท็จจริงที่เกิดข้ึน ซ่ึงสามารถนํามาประมวลผลเพื่อใหอ้ ย่ใู นรปู แบบ ท่ีสามารถนําไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ และสารสนเทศ หมายถึง ผลท่ีไดจ้ ากการประมวลผลขอ้ มลู ซึ่ง สามารถนําไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้

36 ฉลอง ทบั ศรี (2533,9)ไดก้ ล่าวถึง ความหมายของขอ้ มลู ว่า ขอ้ มูลหมายถึง สาระ (data) ซึ่งเป็ นขอ้ เท็จจริง (facts) หรือเป็ นตวั เลขที่ยงั ไม่ไดร้ บั การจดั ระบบ อาจจะมีความหมายหรือไม่มีความหมายใน ตวั ของมนั เอง รปู แสดง ตวั อย่างของขอ้ มลู สมาชิกใหม่ในระบบ

37 ขอ้ มลู จะตอ้ งมีคณุ สมบตั ิขน้ั พ้ืนฐานดงั น้ี 1. ความถกู ตอ้ ง 2. ความรวดเร็วและเป็ นปัจจุบนั 3. ความสมบรู ณ์ 4. ความชดั เจนและกะทดั รดั 5. ความสอดคลอ้ ง สรปุ ขอ้ มูล หมายถึง เอกสาร ข่าวสาร ขอ้ เท็จจริงทกุ รปู แบบที่ยงั มิไดผ้ ่านการ วิเคราะหป์ ระมวลผล เช่น จาํ นวนนิสิต จาํ นวนอาจารย์ ฯลฯ เป็ นตน้ ตามจุดประสงคท์ ี่กาํ หนดไว้

38 1.2 ความหมายของสารสนเทศ สารสนเทศ หมายถึง ขอ้ มูลนน้ั ไดร้ บั การจดั กระทาํ ไดร้ บั การเปลี่ยนแปลง อาจเป็ นการสงั เกตวิเคราะหจ์ ดั ระเบียบและ ถกู นําเสนอในลกั ษณะที่มีความหมายเพ่ือ การตดั สินใจหรือเพ่ือการใชป้ ระโยชนอ์ ื่น ๆ ฉลอง ทบั ศรี (2533,9) ระบบประมวลผล -DATA -INFORMATION Computer System Hardware Software Data management

39 ภาพแสดง นําเสนอสารสนเทศอตั รากาํ ลงั แบบตาราง บคุ ลากร ตํา่ กว่า ป.ตรี ป.โท ป.เอก จาํ นวน รอ้ ยละ ป.ตรี ผูบ้ ริหาร - - 4 - 4 2.2 ขา้ ราชการครู - 54 43 - 97 58.4 ขา้ ราชการพลเรียน 2 - - - 2 1.1 ลูกจา้ งประจาํ 18 - - - 18 10.2 อาจารยจ์ า้ งสอน 6 34 8 - 48 15.5 ลูกจา้ งชวั่ คราว 18 8 - - 26 14.6 รวม 44 96 55 - 195 100 ภาพแสดง นําเสนอสารสนเทศแบบกราฟ

40

41

42 สรปุ สารสนเทศ หมายถึง ขอ้ มลู ที่ไดร้ บั การ ประมวลผล หรือวิเคราะห์ หรือการจดั ระบบ แลว้ ท่ีอยู่ในรปู แบบที่มีความหมายสามารถ นํามาใชป้ ระกอบการตดั สินใจไดท้ นั ทีตาม จดุ ประสงคท์ ี่กาํ หนดไว้ 2.ฐานข้อมูลและการจดั การฐานข้อมูล

43 21 22

44 2.1 การจดั เก็บขอ้ มลู ขอ้ มลู งานบคุ คล ขอ้ มูลงานโครงการ งานบุคคล งานโครงการ •รหสั พนกั งาน [ENo] •รหสั โครงการ [PNo] •ช่ือพนกั งาน [EName] •ช่ือโครงการ [PName] •ตาํ แหน่ง [EJob] •วนั ท่ีเริ่มโครงการ [PSDate] •แผนก [EDep] •วนั ที่สิ้นสุดโครงการ [PTime] •เงินเดือน [ESalary] •ผลการดาํ เนินงาน [PEffect] •วนั ที่บรรจุ [ERDate] •งบประมาณ [PBudjet] •วนั เดือนปี เกิด [EBDate) •ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ [PName] •ท่ีอยู่ [EAddr] •ตาํ แหน่ง [PJob] แบบฟอรม์ เก็บขอ้ มลู แบบฟอรม์ เก็บขอ้ มลู

45

46 27