Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดการเรียนรู้ทางไกล ครั้งที่ 15/18 เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศกับอินเตอร์เน็ต (ตอนที่ 1)

ชุดการเรียนรู้ทางไกล ครั้งที่ 15/18 เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศกับอินเตอร์เน็ต (ตอนที่ 1)

Description: วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ รหัสวิชา 3001 -2001 สาขาวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ ประเภทวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ หลักสูตรระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)
ตามหลักสูตร สา นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พุทธศักราช 2557

Search

Read the Text Version

ชุดการเรียนรู้ทางไกล คร้ังท่ี 15/18 เรื่อง Áš‡ÃœÃ¨¥­¸ µ¦­œÁš«„´ °œ· Á˜°¦Ár œ˜È  ˜°œš¸n วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชีพ รหสั วชิ า 3001 -2001 สาขาวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศ ประเภทวชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศ หลกั สูตรระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง (ปวส.) ตามหลกั สูตร สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา พุทธศกั ราช 2557 ประทีป ผลจันทร์งาม เพื่อการจดั ทาเน้ือหาและพฒั นาส่ือการสอนอาชีพและวชิ าชีพ สาหรับการศกึ ษาทางไกลหรอื เรียนฝกึ งานในสถานประกอบการด้วยตนเอง วทิ ยาลัยเทคนคิ ระยอง สถาบันการอาชีวศึกษาภาคตะวันออก สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ



สารบัญ 1. รายละเอียดหลกั สูตรรายวชิ า 1 2. ใบวเิ คราะห์หวั ขอ้ เร่ือง 4 3. แผนภมู ิปะการัง 6 4. โครงการจดั การเรียนรู้ 8 5. แผนการจดั การเรียนรู้ 12 6. เน้ือหา (ใบความรู้) 19 7. ส่ือประกอบการสอน 40 8. แบบทดสอบก่อนเรียน 71 9. แบบทดสอบหลงั เรียน 74 10. เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน 77 11. เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน 79 12. แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 81 13. แบบบนั ทึกหลงั การเรียนรู้ 83

1 1.รายละเอียดหลกั สูตรรายวชิ า

2 ช่ือวชิ า.เทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การจดั การอาชพี คาอธิบายรายวชิ า รหัสวชิ า300– แผ่นที่ 1 สาขาวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศ คาอธิบายรายวชิ า ( เดมิ ) 1. รหัสและช่ือวชิ า 3000–0203. วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเบอื้ งต้น 2. ระดบั รายวชิ า ระดบั ช้นั ปวส. ปี ท่ี 1 3. เวลาศึกษา 72 ชว่ั โมงตลอด 18 สัปดาห์ ทฤษฎี 2 ชว่ั โมง ปฏิบตั ิ 2 ชว่ั โมงต่อสปั ดาห์ 4. จานวนหน่วยกติ 3 หน่วยกิต 5. จุดประสงค์รายวชิ า 1. เเขา้ ใจเก่ยี วกบั คอมพวิ เตอร์ ระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์และสารสนเทศรจดั การสารสนเทศ 2. สามารถสบื ค้น จัดเก็บ คน้ คนื สง่ ผ่าน จดั ดำเนนิ การข้อมูลสารสนเทศ นำเสนอและสือ่ สารข้อมูล ส 3. มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและความรับผิดชอบในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพี 6. สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั หลักการและกระบวนการสบื ค้น จัดดำเนนิ การและสอ่ื สารขอ้ มลู ฯ 2. ใชค้ อมพวิ เตอรในการสืบค้นและสอื่ สารขอ้ มลู สารสนเทศผา่ นระบบ เครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 3. จัดเก็บ ค้นคนื สง่ ผ่านและจดั ดำเนินการขอ้ มูลสารสนเทศตามลักษณะงานอาชพี 4. นำเสนอและสื่อสารขอ้ มลู สารสนเทศในงานอาชพี โดยประยุกต์ใชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รปู 7. คาอธิบายรายวชิ า ศกึ ษาและปฏิบัติเก่ยี วกบั คอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณโ์ ทรคมนาคม ระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ และ สารสนเทศ การสบื ค้นข้อมูลสารสนเทศ การจดั เก็บ คน้ คืน ส่งผ่านและจัดดำเนนิ การขอ้ มูล สารสนเทศ การประยุกตใ์ ชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รปู ในการนำเสนอและสอ่ื สารข้อมลู สารสนเทศ ตามลกั ษณะงานอาชพี

3 ชื่อวชิ า.ทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชีพ คาอธิบายรายวชิ า รหสั วชิ า3001–2001 แผ่นท่ี 2 สาขาวชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศ คาอธิบายรายวชิ า ( เดมิ ) ศกึ ษาและปฏิบัตเิ กย่ี วกบั คอมพิวเตอร์และอปุ กรณ์โทรคมนาคม ระบบเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ และ สารสนเทศ การสบื ค้นข้อมูลสารสนเทศ การจัดเก็บ คน้ คนื ส่งผ่านและจัดดำเนินการขอ้ มลู สารสนเทศ การประยกุ ตใ์ ชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รูปในการนำเสนอและสื่อสารข้อมลู สารสนเทศ ขอ้ มลู สารสนเทศเพ่ือพฒั นางานอาชีพดว้ ยคอมพวิ เตอร์ คาอธิบายรายวชิ า ( ปรับปรุง ) ศึกษาเกยี่ วกบั พ้ืนฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ขอ้ มลู และการจดั การฐานขอ้ มลู การส่ือสารขอ้ มลู เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ เทคโนโลยซี อฟตแ์ วร์ ระบบปฏิบตั ิการคอมพวิ เตอร์ ความรู้พ้ืนฐานของเทคโนโลยเี ครือขา่ ย เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อินเตอร์เน็ต การสืบคน้ ขอ้ มูล ตามลักษณะงานอาชีพ ศกึ ษาและปฏิบตั ิเกย่ี วกบั งานทดสอบโปรแกรมการจดั การฐานขอ้ มูล MS-ACCESS งานประกอบ ไมโครคอมพวิ เตอร์PC งานทดสอบโปรแกรม MS-Word งานทดสอบโปรแกรม MS-Power Point งานทดสอบโปรแกรม MS-Excel งานติดต้งั และทดสอบระบบปฏิบตั ิการ Linux งานติดต้งั และ ทดสอบระบบปฏิบตั ิการ Windows XP งานทดสอบระบบเครือขายวนิ โดว์ งานทดสอบสาย UTP งาน ทดสอบสอบ Switching HUB งานทดสอบระบบเครือขายอินเทอร์เน็ต งานทดสอบ IP Address งาน ทดสอบการใชง้ าน Browser งานทดสอบการใช้ e-Mail งานทดสอบการสืบคน้ มูลผา่ นเครือข่าย อินเทอร์เน็ต

4 2. ใบวิเคราะห์หวั ขอ้ เร่ือง

5 ชื่อวชิ า.เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพี ใบวเิ คราะห์หัวข้อเรื่อง รหัสวชิ า300– สาขาวชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศ แผ่นท่ี 1 แหล่งข้อมูล หวั ข้อเรื่อง ( Topic ) ABCDE 1. พ้ืนฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร 2. ขอ้ มูลและการจดั การฐานขอ้ มลู /// / 3. การส่ือสารขอ้ มลู 4. เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ / //// 5. เทคโนโลยซี อฟตแ์ วร์ 6. ระบบปฏิบตั ิการคอมพิวเตอร์ / //// 7. ความรู้พ้ืนฐานของเทคโนโลยเี ครือข่าย 8. เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อินเตอร์เน็ต / //// 9. การสืบคน้ ขอ้ มูลสารสนเทศเพอ่ื พฒั นางานอาชีพดว้ ยเครือข่าย อินเตอร์เน็ต / //// / //// / //// / //// / //// หมายเหตุ A : คาอธิบายรายวชิ า B : ประสบการณ์ของผู้สอน C : ผู้เช่ียวชาญ D : ผู้ชานาญงาน E : เอกสาร / ตารา

6 3. แผนภมู ิปะการงั

9.1 การสบคนขอมลสารสนเทศบนอนเทอร์เน็ต 1.1 เทคโนโลยสารสนเทศ 2.1 ขอมลและสารสนเทศ 9.2 เทคนคการสบคนขอมล 1.2 วฒนาการเทคโนโลยสารสนเทศและการสอสาร 2.2 ฐานขอมลและการจดการฐานขอมล 9.3 เวบ็ ไซต์ทเกยวของเพอประโยชน์ในการศกษา 9. การสบคนขอมลสารสนเทศเพอพฒนา 1. พนฐานเทคโนโลย 2. ขอมลและการจดการ 3.1 รปแบบของการสอสารขอมล งานอาชพดวยเครอขายอนเตอรเ์ น็ต สารสนเทศและการสอสาร ฐานขอมล 3.2 ชนดของสญญาณ อเล็กทรอนกส์ 3.3 รหสทใชแทนขอมลในการสอสาร 8. เทคโนโลยสารสนเทศกบ วชา เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพีี 3. การสอสารขอมล 3.4 ระบบการสอสารอเลก็ ทรอนกส์ อนเตอร์เนต็ รหสั 3001–2001สาขาวิชาเทคโนโลยสารสนเทศ 3.5 ทศทางของการสอสารขอมล 3.6 สอและอปกรณร์ บสงขอมล 8.1 เครอขายอนเตอรเ์ นต็ 7. ความรพนฐานของ 4. เทคโนโลยคอมพวเตอร์ 4.1 คอมพวเตอรแ์ ละฮารด์ แวร์ 8.2 การบรการเครอขายอนเตอร์เน็ต เทคโนโลยเครอขาย 5. เทคโนโลยซอฟต์แวร์ 4.2 องคป์ ระกอบพนฐานของเครอง คอมพวเตอร์ 8.3 โพรโตคอล TCP/IP 6. ระบบปฏบตการ (Transmission Control คอมพวเตอร์ 4.3 ประเภทของคอมพวเตอร์ Protocol/Internet Protocol) 4.4 เทคโนโลยคอมพวเตอรส์ วนบคคล 4.5 แนะนาการเลอกซออปกรณ์คอมพวเตอร์ 8.5 การเชอมตอเขากบอนเตอรเ์ นต็ 4.6 คอมพวเตอรก์ บเครอขาย 8.6 การใชงานและบรการตางๆ บนเครอขาย อนเตอรเ์ นต็ Control (MAC) Method) 7.1 เปาหมายของเครอขายคอมพวเตอร์ 5.1 ซอฟตแ์ วรค์ อมพวเตอร์ 7.2 ประเภทระบบเครอขายคอมพวเตอร์ 8.7 การประยกตใ์ ชอนเตอรเ์ นต็ 5.2 ภาษาคอมพวเตอร์ 8.8 เครอขายอนทราเน็ต 7.3 ระบบเครอขายLAN (Local Area Network) 5.3 แนวทางการพฒนาซอฟตแ์ วร์ 7.4 สอทใชในการสงขอมล 6.1 ระบบปฏบตการ 6.2 ระบบปฏบตการ UNIX และ Linux 5.4 ซอฟตแ์ วรป์ ระยกต์ 7.5 อปกรณ์ทใชในการเชอมตอบนระบบเครอขาย 6.3 ระบบปฏบตการวนโดว์ (ตอนท่ 1 การใชงานโปรแกรม MS Word) 7.6 วธควบคมการเขาใชงานสอกลาง (Media Access Control 6.4 ระบบปฏบต Windows mobile 5.4 ซอฟตแ์ วรป์ ระยกต์ (ตอนท่ 2 การใชงานโปรแกรม MS Power Point ) (MAC) Method) 7.7 มาตรฐานระบบเครอขายแบบ LAN ชนดตางๆ 5.4 ซอฟตแ์ วรป์ ระยกต์ 7.8 โปรโตคอลของระบบเครอขาย (Network Protocol) (ตอนท่ 3 การใชงานโปรแกรมไมโครซอฟท์ MS Excel ) 7

8 4. โครงการจดั การเรียนรู้

9 โครงการสอนทางไกล วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การจดั การอาชีพ รหสั วชิ า 3001–2001 สาขาวชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศ หลกั สูตรระดับ ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง (ปวส.) ตามหลกั สูตร สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พทุ ธศกั ราช 2557 สอนคร้ังที่ หน่วยการ รายการสอน หมายเหตุ 1 เรียนท่ี 2 1. พนื้ ฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร 3 1 1.1 เทคโนโลยสี ารสนเทศ 2 1.2 วฒั นาการเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร 4 3 5 2. ข้อมูลและการจัดการฐานข้อมูล 3 2.1 ขอ้ มลู และสารสนเทศ 6 4 2.2 ฐานขอ้ มูลและการจดั การฐานขอ้ มูล 7 4 3. การสื่อสารข้อมูล 5 3.1 รูปแบบของการสื่อสารขอ้ มูล 3.2 ชนิดของสัญญาณ อิเล็กทรอนิกส์ 3.3 รหสั ท่ีใชแ้ ทนขอ้ มลู ในการสื่อสาร 3.4 ระบบการส่ือสารอิเลก็ ทรอนิกส์ 3.5 ทิศทางของการส่ือสารขอ้ มลู 3.6 ส่ือและอุปกรณ์รับส่งขอ้ มลู 4. เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ 4.1 คอมพิวเตอร์และฮาร์ดแวร์ 4.2 องคป์ ระกอบพ้ืนฐานของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ 4.3 ประเภทของคอมพิวเตอร์ 4.4 เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ส่วนบุคคล 4.5 แนะนาการเลือกซ้ืออุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ 4.6 คอมพวิ เตอร์กบั เครือขา่ ย 5. เทคโนโลยซี อฟต์แวร์ 5.1 ซอฟตแ์ วร์คอมพิวเตอร์

10 สอนคร้ังท่ี หน่วยการ รายการสอน หมายเหตุ เรียนที่ 8 5.2 ภาษาคอมพวิ เตอร์ 9 5 5.3 แนวทางการพฒั นาซอฟตแ์ วร์ 10 5 5.4 ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ 11 5 (ตอนที่ 1 การใชง้ านโปรแกรม MS Word) 12 6 5.4 ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ 13 (ตอนท่ี 2 การใชง้ านโปรแกรม MS Power Point ) 14 6 5.4 ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ 6 (ตอนท่ี 3 การใชง้ านโปรแกรมไมโครซอฟท์ MS 15 7 Excel ) 6. ระบบปฏิบตั กิ ารคอมพวิ เตอร์ 16 7 6.1 ระบบปฏิบตั ิการ 6.2 ระบบปฏิบตั ิการ UNIX และ Linux 8 6.3 ระบบปฏิบตั ิการวนิ โดว์ 6.4 ระบบปฏิบตั ิ Windows mobile 7. ความรู้พนื้ ฐานของเทคโนโลยเี ครือข่าย 7.1 เป้ าหมายของเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 7.2 ประเภทระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 7.3 ระบบเครือข่ายLAN (Local Area Network) 7.4 สื่อที่ใชใ้ นการส่งขอ้ มูล 7.5 อุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการเช่ือมตอ่ บนระบบเครือขา่ ย 7.6 วธิ ีควบคุมการเขา้ ใชง้ านสื่อกลาง (Media Access Control (MAC) Method) 7.7 มาตรฐานระบบเครือข่ายแบบ LAN ชนิดตา่ งๆ 7.8 โปรโตคอลของระบบเครือข่าย (Network Protocol) 8. เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อนิ เตอร์เน็ต 8.1 เครือขา่ ยอินเตอร์เน็ต 8.2 การบริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต 8.3 โพรโตคอล TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol)

สอนคร้ังท่ี หน่วยการ รายการสอน 11 เรียนที่ 8.4 ระบบชื่อโดเมน (Domain Name System) หมายเหตุ 17 8 8.5 การเช่ือมต่อเขา้ กบั อินเตอร์เน็ต 8.6 การใชง้ านและบริการตา่ งๆ บนเครือข่าย อินเตอร์เน็ตControl (MAC) Method) 8.7 การประยกุ ตใ์ ชอ้ ินเตอร์เน็ต 8.8 เครือขา่ ยอินทราเน็ต 18 9 9. การสืบค้นข้อมูลสารสนเทศเพอื่ พฒั นางานอาชีพด้วย เครือข่ายอินเตอร์เน็ต 9.1 การสืบคน้ ขอ้ มูลสารสนเทศบนอินเทอร์เน็ต 9.2 เทคนิคการสืบคน้ ขอ้ มูล 9.3 เวบ็ ไซตท์ ี่เกี่ยวขอ้ งเพอ่ื ประโยชน์ในการศึกษา

12 5. แผนการจดั การเรียนรู้

13 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังที่ 15 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเเพอื่ การจัดการอาชพี หน่วยท่ี 8 ช่ือหน่วย เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อินเตอร์เน็ต ช่ัวโมงรวม 2 ช.ม. ชื่อเร่ือง เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อินเตอร์เน็ต ตอนที่ 1 จานวน 2 ช่ัวโมง 1.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายเครือข่ายอินเตอร์เน็ตไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 2. อธบิ ายการบริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ตไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 3. อธบิ ายโพรโตคอล TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol) ไดอ้ ยา่ ง ถกู ตอ้ ง 4. อธบิ ายระบบชื่อโดเมน (Domain Name System)ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 2. หวั ข้อสาระการเรียนรู้ 1. เครือข่ายอินเตอร์เน็ต 2. การบริการเครือขา่ ยอินเตอร์เน็ต 3. โพรโตคอล TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol) 4. ระบบชื่อโดเมน (Domain Name System) 3. สาระสาคญั การเรียนรู้ ในบทน้ี ผู้เรยี นจะไดเ้ รยี นรเู้ กย่ี วกบั ความสมั พนั ธร์ ะหว่างระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศกบั เครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ต โดยช่วงแรกจะกล่าวถงึ พน้ื ฐานความรเู้ ก่ยี วกบั ระบบเครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ต ซง่ึ ถอื ไดว้ ่าเป็นเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรท์ ม่ี ขี นาดใหญ่ทส่ี ุดในโลกในปจั จุบนั และเป็นแหล่งรวบรวม ขอ้ มลู ขา่ วสารและสารสนเทศขนาดมหมึ าทค่ี รอบคลุมศาสตรท์ ุกแขนง รวมถงึ บรกิ ารต่างๆ ทม่ี อี ยู่ มากมายบนเครอื ข่ายอนิ เตอรเ์ น็ต นอกจากน้ียงั จะไดเ้ รยี นรเู้ ก่ยี วกบั ลกั ษณะการเช่อื มต่อเขา้ กับ ระบบเครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ต และการนาอนิ เตอรเ์ น็ตไปประยกุ ตใ์ ชง้ านในดา้ นต่างๆ อนิ เตอรเ์ น็ต (Internet) มาจากคาว่า Interconnection Network เป็น เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ ขนาดใหญ่ทเ่ี ชอ่ื มต่อกนั ทวั่ โลกโดยมมี าตรฐานการรบั สง่ ขอ้ มลู ระหว่างกนั เป็นแบบเดยี วกนั ซง่ึ คอมพวิ เตอรภ์ ายในเครอื ขา่ ยแต่ละเครอ่ื งสามารถรบั และสง่ ขอ้ มลู ในรปู แบบต่างๆ ไดห้ ลากหลาย รปู แบบ เช่น ตวั อกั ษร ภาพกราฟิค และเสยี ง เป็นตน้ \"

14 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 15 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชีพ หน่วยท่ี 8 ชื่อหน่วย เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อินเตอร์เน็ต ช่ัวโมงรวม 2 ช.ม. 4. เนือ้ หาสาระ บทท่ี 8 เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อนิ เตอร์เน็ต 8.1 เครือข่ายอินเตอร์เน็ต 8.2 การบริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต 8.3 โพรโตคอล TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol) 8.4 ระบบช่ือโดเมน (Domain Name System) จากเอกสารประกอบการเรียนรู้ของ ประทีป ผลจนั ทร์งาม. วชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศเบอื้ งต้น .เอกสารประกอบการเรียนรู้.อดั สาเนา. เอกสารการพิมพว์ ทิ ยาลยั เทคนิคบา้ นค่าย. 2555. 5. กจิ กรรมการเรียนการสอน กจิ กรรมครู กจิ กรรมนักเรียน ข้นั เตรียม ข้นั เตรียม 1. จดั เตรียมสื่อท่ีใชป้ ระกอบการเรียนรู้ให้ 1. เตรียมตวั และเอกสาร หรือวสั ดุ เคร่ืองมือที่ พร้อม สาหรับการเรียนการสอน ( ตามรายการ จาเป็นตอ้ งใชใ้ นการเรียนรู้ ในหวั ขอ้ ท่ี สื่อการเรียนรู้ เลือกสื่อการเรียนรู้ได้ 2. ใหค้ วามร่วมมือกบั ครูในการตรวจสอบรายช่ือ ตามความเหมาะสม ) เขา้ เรียน 2. ตรวจสอบรายช่ือนกั เรียนที่เขา้ เรียน 3. ถา้ เรียนรู้ผา่ นระบบ e-Learning ใหเ้ ขา้ สู่ระบบ เพือ่ เตรียมความพร้อมในการเรียนรู้ ข้นั สนใจปัญหา (Motivation) ข้นั สนใจปัญหา (Motivation) 1. ใหผ้ เู้ รียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน โดย 1. ทาแบบทดสอบก่อนเรียน ใชเ้ วลา 30 นาที และครูตรวจคาตอบหลงั จาก 2. ร่วมสนทนาและแสดงความคิดเห็น เสร็จสิ้นการทดสอบ เพื่อแจง้ ผลการทดสอบให้ นกั เรียนทราบหลงั เรียนจบบทเรียน 2. ใชส้ ่ือช่วยสอน นาเขา้ สู่บทเรียนดว้ ยภาพ แบบจาลอง ของตวั อยา่ ง หรือสิ่งที่จะช่วยดึงดูด ความสนใจ หรือคาถาม หมายเหตุ หากเรียนรู้จากสื่อวดี ีทศั น์

15 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 15 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชพี หน่วยท่ี 8 ช่ือหน่วย เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อินเตอร์เน็ต ช่ัวโมงรวม 2 ช.ม. ทางไกลผา่ นดาวเทียม หรือผา่ นอินเทอร์เน็ต ตอ้ งทาการทดสอบก่อนเรียนใหแ้ ลว้ เสร็จก่อน การเรียนรู้ จากสื่อฯ ที่ทาการออกอากาศ ข้ันศึกษาข้อมูล (Information) (60 นาท)ี ข้นั ศึกษาข้อมูล (Information) 1. ใหผ้ เู้ รียนเริ่มเรียนรู้เน้ือหา หรือฝึก 1. ผเู้ รียนเร่ิมเรียนรู้เน้ือหา หรือฝึกปฏิบตั ิงาน ปฏิบตั ิงาน จากการฉายวดี ีทศั น์ในรูปแบบ จากการฉายวดี ีทศั น์ในรูปแบบ DVD หรือ สื่อวีดี DVD หรือ ส่ือวดี ีทศั นท์ างไกลผา่ นดาวเทียม ทศั นท์ างไกลผา่ นดาวเทียม หรืออินเทอร์เน็ต หรืออินเทอร์เน็ต หรือแบบออฟไลน์ หรือแบบออฟไลน์ 2. ใหผ้ เู้ รียนไดส้ อบถามหรือขอ้ สงสัย จาก 2. ผเู้ รียนไดส้ อบถามหรือขอ้ สงสัย จากการ การเรียนรู้เน้ือหา เรียนรู้เน้ือหา ข้นั พยายาม (Application) (30 นาท)ี ข้นั พยายาม (Application) 1. หลงั การเรียนรู้เน้ือหาเสร็จสิ้น ใหผ้ เู้ รียน 1. หลงั การเรียนรู้เน้ือหาเสร็จสิ้นผเู้ รียนทา ทาแบบทดสอบหลงั เรียนหรือแบบฝึกปฏิบตั ิ แบบทดสอบหลงั เรียนหรือแบบฝึกปฏิบตั ิ 2. หรือใหผ้ เู้ รียนทาแบบทดสอบบน 2. หรือทาแบบทดสอบบนออนไลน์ และ ออนไลน์ และสามารถตรวจคาตอบไดท้ นั ที สามารถตรวจคาตอบทนั ที ข้นั สาเร็จผล (Progress) ข้นั สาเร็จผล (Progress) 1. ประเมินผลการปฏิบตั ิงานหรือ 1. รับผลการทดสอบ แบบทดสอบของผเู้ รียนหลงั ข้นั พยายามโดย 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปสาระสาคญั เทียบกบั วตั ถุประสงคก์ ารเรียนท่ีต้งั ไว้ 3. นกั เรียนสอบถามขอ้ สงสยั 2. ผสู้ อนแจง้ ผลคะแนนการปฏิบตั ิงานหรือ 4. ฟังและปฏิบตั ิตามที่ครูแนะนา การทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียนใหผ้ เู้ รียน 5. ผเู้ รียนที่มีคะแนนทดสอบหลงั การเรียนที่ไม่ ทราบ เพ่ือเปรียบเทียบผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน ผา่ นเกณฑ์ข้นั ต่า ปฏิบตั ิตามขอ้ แนะนาตามเกณฑ์ ของตน การประเมินผล และคาแนะนาของครูผสู้ อน 3. ผสู้ อนแจง้ ใหผ้ เู้ รียนที่มีคะแนนหลงั เรียน ที่ไม่ผา่ นเกณฑข์ ้นั ต่า ปฏิบตั ิตามขอ้ แนะนาตาม เกณฑก์ ารประเมินผล 4. ผสู้ อนสรุปสาระสาคญั และตอบขอ้ สงสยั พร้อมแนะนาสิ่งท่ีเก่ียวขอ้ งในการเรียนรู้คร้ังน้ี

16 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 15 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ การจดั การอาชีพ หน่วยที่ 8 ชั่วโมงรวม 2 ช.ม. ชื่อหน่วย เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อินเตอร์เน็ต และแนะนาการเรียนรู้ในคร้ังตอ่ ไป 6. ส่ือการเรียนการสอน สื่อการเรียนรู้ ใหค้ รูผสู้ อนและผเู้ รียนเลือกใชส้ ื่อประกอบการเรียนการสอนตามสภาพความ พร้อมของของตนเอง ดงั น้ี 6.1 สื่อโสตทัศน์ 1) วดี ีทศั น์ในรูปแบบ DVD เร่ือง เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อนิ เตอร์เน็ต ตอนท่ี 1 สาหรับ ผเู้ รียน ที่เรียนรู้จากการฉายวดี ีทศั น์ 2) วดี ีทศั นท์ างไกลผา่ นดาวเทียม วงั ไกลกงั วล ตามตารางการออกอากาศ เร่ือง เทคโนโลยี สารสนเทศกบั อนิ เตอร์เน็ต ตอนท่ี 1 สาหรับผเู้ รียนท่ีเรียนรู้ทางไกลผา่ นดาวเทียม 6.2 โสตทศั น์อปุ กรณ์ 1) เคร่ืองเล่น DVD พร้อม TV ที่มีช่องรับสญั ญาณ AV (AV IN) สาหรับผเู้ รียน ท่ีเรียนรู้ จากการฉายวดี ีทศั น์ 2) เคร่ืองรับสญั ญาณดาวเทียม ท่ีรับสัญญาณจากมูลนิธิการศึกษาทางไกลผา่ นดาวเทียม วงั ไกลกงั วล พร้อม TV ท่ีมีช่องรับสัญญาณ AV (AV IN) สาหรับผเู้ รียนที่เรียนรู้ทางไกลผา่ น ดาวเทียม 6.3 สื่อส่ิงพมิ พ์ 1) สาเนาส่ือโปรแกรมนาเสนอ PowerPoint เร่ือง เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อนิ เตอร์เน็ต ตอนที่ 1 2) เอกสารประกอบการเรียนรู้ เช่น ใบความรู้ แบบทดสอบฯลฯ 6.4 สื่อออนไลน์ 1) เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ท่ีสามารถเช่ือมตอ่ อินเทอร์เน็ตได้ และเขา้ เวบ็ ไซต์ url: http://edltv.vec.go.th 2) เคร่ืองคอมพิวเตอร์พร้อมติดต้งั ระบบ edltv เพื่อพฒั นาอาชีพ แบบออฟไลน์ สามารถเขา้ ใช้ งานและเรียนรู้ไดโ้ ดยตรง

17 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 15 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพี หน่วยท่ี 8 ช่ือหน่วย เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อินเตอร์เน็ต ช่ัวโมงรวม 2 ช.ม. 7. การวดั ผลและประเมนิ ผล 7.1 ก่อนเรียนรู้ วธิ ีการวดั ผล - ทดสอบก่อนเรียนรู้ เครื่องมือวดั - แบบทดสอบก่อนเรียนรู้ 7.2 ระหว่างเรียนรู้ วธิ ีการวดั ผล - ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล เครื่องมือวดั - แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 7.3 หลงั เรียน วธิ ีการวดั ผล - ทดสอบหลงั เรียนรู้ เคร่ืองมือวดั - แบบทดสอบหลงั เรียนรู้ 8. เกณฑ์การประเมนิ ผล 8.1 เกณฑ์การวดั ผลสัมฤทธ์จิ ากแบบทดสอบและใบมอบงานมเี กณฑ์ดังนี้ ร้อยละ 80-100 หมายถึง ผลการเรียนรู้ดีมาก ร้อยละ 70-79 หมายถึง ผลการเรียนรู้ดี ร้อยละ 60-69 หมายถึง ผลการเรียนรู้ปานกลาง ร้อยละ 50-59 หมายถึง ผลการเรียนรู้ผา่ นเกณฑผ์ า่ น ข้นั ต่า (ควรปรับปรุงดว้ ยการศึกษาทบทวน) ต่ากวา่ ร้อยละ 50 หมายถึง ผลการเรียนไม่ผา่ นเกณฑ(์ ตอ้ งปรับปรุงและ เรียนซ่อมเสริมควรทดสอบการประเมินจนกวา่ จะผ่านข้นั ต่า) 8.2เกณฑ์การประเมนิ พฤติกรรมรายบุคคล 8-10 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมดี 5-7 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมพอใช้ ต่ากวา่ 5 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมท่ีตอ้ งปรับปรุง

18 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังที่ 15 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพี หน่วยท่ี 8 ชื่อหน่วย เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อินเตอร์เน็ต ช่ัวโมงรวม 2 ช.ม. 8.3 เกณฑ์การตัดสิน 2 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ปฏิบตั ิสม่าเสมอ 1 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ปฏิบตั ิบางคร้ัง 0 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ไม่ปฏิบตั ิ 8.4 เกณฑ์การประเมนิ 8 - 10 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมดี 5 - 7 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมพอใช้ ต่ากวา่ 5 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมท่ีตอ้ งปรับปรุง 9. แหล่งการเรียนรู้เพมิ่ เติม - ประทีป ผลจนั ทร์งาม. วิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศเบอื้ งต้น .เอกสารประกอบการเรียนรู้. อดั สาเนา. เอกสารการพิมพว์ ทิ ยาลยั เทคนิคบา้ นค่าย. 2555. - สืบคน้ ขอ้ มลู จากแหล่งขอ้ มูลอื่นๆ ผา่ นเครือขายอินเทอร์เน็ต

19 6. เนือ้ หา (ใบความรู้)

20 บทเรียนที่ 8 เรื่อง เทคโนโลยีเครอื ข่ายอินเตอรเ์ น็ต จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความหมายของเครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ตไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 2. อธบิ ายการบรกิ ารเครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ตไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 3. อธบิ ายระบบการส่อื สารโพรโตคอล TCP/IP ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 4. อธบิ ายโครงสรา้ งระบบชอ่ื โดเมนไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 5. จาแนกวธิ กี ารเช่อื มต่อระบบเครอื ขา่ ยอนิ เตอรไ์ ดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 6. อธบิ ายการใชง้ านและบรกิ ารต่าง ๆ บนเครอื ขา่ ยอนิ เตอรไ์ ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 7. อธบิ ายการประยกุ ตใ์ ชง้ านเครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ตไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 8. อธบิ ายความหมายและการใชง้ านเครอื ขา่ ยอนิ ทราเน็ตไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง หวั ข้อเนื้อหา 1. บทนา 2. เครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ต 3. การบรกิ ารเครอื ข่ายอนิ เตอรเ์ น็ต 4. โพรโตคอล TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol) 5. ระบบชอ่ื โดเมน (Domain Name System) 6. การเชอ่ื มต่อเขา้ กบั อนิ เตอรเ์ น็ต 7. การใชง้ านและบรกิ ารต่างๆ บนเครอื ข่ายอนิ เตอรเ์ น็ต 8. การประยกุ ตใ์ ชอ้ นิ เตอรเ์ น็ต 9. เครอื ขา่ ยอนิ ทราเน็ต 10. สรปุ

21 บทเรียนที่ 8 เทคโนโลยีเครือข่ายอินเตอรเ์ น็ต 8.1 บทนา ในบทน้ี ผเู้ รยี นจะไดเ้ รยี นรเู้ กย่ี วกบั ความสมั พนั ธร์ ะหว่างระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศกบั เครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ต โดยช่วงแรกจะกล่าวถงึ พน้ื ฐานความรเู้ กย่ี วกบั ระบบเครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ต ซง่ึ ถอื ไดว้ ่าเป็นเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรท์ ม่ี ขี นาดใหญ่ทส่ี ดุ ในโลกในปจั จบุ นั และเป็นแหลง่ รวบรวมขอ้ มลู ขา่ วสารและสารสนเทศขนาดมหมึ าทค่ี รอบคลุมศาสตรท์ กุ แขนง รวมถงึ บรกิ ารต่างๆ ทม่ี อี ยมู่ ากมาย บนเครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ต นอกจากน้ียงั จะไดเ้ รยี นรเู้ กย่ี วกบั ลกั ษณะการเช่อื มต่อเขา้ กบั ระบบ เครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ต และการนาอนิ เตอรเ์ น็ตไปประยกุ ตใ์ ชง้ านในดา้ นต่างๆ 8.2 เครือข่ายอินเตอรเ์ น็ต อนิ เตอรเ์ น็ต (Internet) มาจากคาวา่ Interconnection Network เป็น เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ ขนาดใหญ่ทเ่ี ชอ่ื มต่อกนั ทวั่ โลกโดยมมี าตรฐานการรบั ส่งขอ้ มลู ระหว่างกนั เป็นแบบเดยี วกนั ซง่ึ คอมพวิ เตอรภ์ ายในเครอื ขา่ ยแต่ละเครอ่ื งสามารถรบั และส่งข้อมลู ในรปู แบบต่างๆ ไดห้ ลากหลาย รปู แบบ เชน่ ตวั อกั ษร ภาพกราฟิกส์ และเสยี ง เป็นตน้ \" กดิ านนั ท์ มลทิ อง (2540 , 321) ไดก้ ล่าวถงึ ความหมายของอนิ เตอรเ์ น็ตว่าหมายถงึ ระบบ ของการเช่อื มโยงขา่ ยงานคอมพวิ เตอรข์ นาดใหญ่มากครอบคลุมไปทวั่ โลก เพ่อื อานวยความสะดวก ในการใหบ้ รกิ ารส่อื สารขอ้ มลู ดงั นนั้ อนิ เตอรเ์ น็ตจงึ เป็นวธิ ใี นการเช่อื มโยงขา่ ยงานคอมพวิ เตอรท์ ม่ี ี อยซู่ ง่ึ ขยายออกไปอยา่ งกวา้ งขวาง เพอ่ื การเขา้ ถงึ แต่ละระบบทม่ี สี ว่ นรว่ มอยู่ สมนึก ครี โี ต , สุรศกั ดิ ์ สงวนพงษ์ และสมชาย นาประเสรฐิ ชยั (2538 , 1) ไดก้ ล่าว เพม่ิ เตมิ ว่า อนิ เตอรเ์ น็ตเป็นกลุ่มเครอื ข่ายยอ่ ยคอมพวิ เตอรท์ ่ตี ่อเช่อื มเขา้ ดว้ ยกนั ภายใต้มาตรฐาน การส่อื สาร (โปรโตคอล) เดยี วกนั ภายในอนิ เตอรเ์ น็ตมบี รกิ ารมากมายหลายรูปแบบ อาทิ จดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกส์ การถ่ายโอนแฟ้มขอ้ มลู บรกิ ารคน้ หาขอ้ มลู และเอกสารต่าง ๆ จานวนมาก ขา่ วสารในอนิ เตอรเ์ น็ตนบั เป็นแหลง่ ขอ้ มลู ขนาดใหญ่ทส่ี ดุ เท่าทม่ี ปี รากฎอยู่ นอกจากน้ี นิพนั ธุ์ อนิ ทอง และอาจารี นาโค (2540, 143) ไดใ้ ห้ความหมายของ อนิ เตอรเ์ น็ตในทานองเดยี วกนั ว่า อนิ เตอรเ์ น็ต คอื เครอื ข่ายคอมพวิ เตอรท์ ม่ี ขี นาดใหญ่ทส่ี ุดในโลก เป็นเครอื ข่ายท่เี ช่อื มโยงคอมพวิ เตอรส์ ่วนบุคคล เครอื ข่ายคอมพวิ เตอรห์ ลาย ๆ เครอื ขา่ ยเขา้

22 ดว้ ยกนั ไมว่ ่าจะเป็นเครอื ข่ายเอกชนฯ หรอื เครอื ขา่ ยของหน่วยงานราชการ โดยมปี จั จยั หลกั อยู่ 3 ประการคอื 1. อนิ เตอรเ์ น็ตยอมใหค้ อมพวิ เตอรแ์ ละเครอื ขา่ ยหลากหลายประเภทส่อื สารกนั ได้ 2. ไมม่ อี งคก์ รใดเป็นเจา้ ของหรอื จดั การวางระเบยี บในอนิ เตอรเ์ น็ต 3. อนิ เตอรเ์ น็ตเป็นสงั คมทเ่ี ตม็ ไปดว้ ยจติ สานึก ผใู้ ชอ้ นิ เตอรเ์ น็ตตอ้ งมมี ารยาทใน การใชท้ รพั ยากรรว่ มกนั ในเครอื ข่ายอนิ เตอรเ์ น็ต จากความหมายของนกั การศกึ ษาทก่ี ล่าวมาขา้ งตน้ ทาใหท้ ราบวา่ อนิ เตอรเ์ น็ต คอื เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรท์ มี่ ขี นาดใหญ่ทเี่ ชอื่ มโยงขา่ ยงานทงั้ หมดทวั่ โลกเขา้ ดว้ ยกนั มมี าตรฐานการ สอื่ สารขอ้ มลู แบบเดยี วกนั ภายในเครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ตมบี รกิ ารมากมายหลายรปู แบบ ทสี่ ามารถ สอื่ สารขอ้ มลู ถงึ กนั ไดอ้ ย่างสะดวก รวดเรว็ แมน่ ยาและมปี ระสทิ ธภิ าพ อนิ เตอรเ์ น็ตถอื กาเนดิ ขน้ึ ในยคุ สงครามเยน็ (ปี ค.ศ.1969) โดยหน่วยงานของ กระทรวงกลาโหม ประเทศสหรฐั อเมรกิ า คอื Advanced Research Projects Agency (ARPA) ซง่ึ ได้ ให้ การสนับสนุนงานวจิ ยั แก่หน่วยงาน ต่างๆ เพอ่ื ทาการวจิ ยั ทางดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ตในช่วงแรกนนั้ รจู้ กั กนั ในนามของ \"อารพ์ าเน็ต (ARPANET)\" ซง่ึ เรมิ่ จาก การ เช่อื มต่อคอมพวิ เตอรร์ ะหว่างสถาบนั การศกึ ษา 4 แห่งไดแ้ ก่ 1) มหาวทิ ยาลยั แคลฟิ อรเ์ นยี ทล่ี อสแอง เจลสิ 2) มหาวทิ ยาลยั ยทู าห์ 3) มหาวทิ ยาลยั แคลฟิ อรเ์ นียทซ่ี านตาบารบ์ ารา และ 4) สถาบนั วจิ ยั แห่ง มหาวทิ ยาลยั สแตนฟอรด์ คอมพวิ เตอรท์ เ่ี ช่อื มต่อกนั ในเครอื ขา่ ยทท่ี าการวจิ ยั น้จี ะมอี ยู่ หลากหลาย ชนดิ รวมทงั้ ใชร้ ะบบปฏบิ ตั กิ ารทแ่ี ตกต่างกนั อกี ดว้ ย ภาพท่ี 8.1 แสดงการเช่อื มต่อคอมพวิ เตอรท์ ใ่ี ชร้ ะบบปฎบิ ตั กิ ารทท่ี แ่ี ตกต่างกนั เครอื ขา่ ยอารพ์ าเน็ตมจี ุดมงุ่ หมายหลกั ใหค้ อมพวิ เตอรจ์ ากหน่วยหน่งึ สามารถเช่อื มต่อกบั อกี หน่วยหน่งึ โดย ขอ้ มลู ทส่ี ่งระหว่างกนั สามารถทจ่ี ะมเี สน้ ทางออกไปยงั ปลายทางไดม้ ากกวา่ หน่งึ

23 เสน้ ทาง ระบบเครอื ขา่ ยยงั คงจะตอ้ งสามารถทางานไดอ้ ยถู่ งึ แมว้ ่าจะมคี อมพวิ เตอรบ์ างหน่วยถูก ทาลายไป เช่น ในกรณถี ูกโจมตจี ากฝ่ายขา้ ศกึ ตรงกนั ขา้ ม ภายหลงั ไดม้ หี น่วยงานทงั้ ภาครฐั และเอกชนจานวนมากเลง็ เหน็ ถงึ ความสาคญั และ ประโยชน์ของการเช่อื มต่อกบั เครอื ขา่ ยอารพ์ าเน็ต จงึ ไดม้ กี ารนาเอาเครอื ข่ายของตนเองทม่ี อี ยมู่ า เช่อื มต่อเขา้ กบั ระบบเครอื ขา่ ยอารพ์ าเน็ต ทาใหเ้ ครอื ขา่ ยขยายขนาดมากขน้ึ เรอ่ื ยๆ จนกระทงั่ ในปี ค.ศ.1984 เครอื ขา่ ยน้ถี กู ขนานนามวา่ \"อนิ เตอรเ์ น็ต (Internet)\" และใชน้ ามน้มี าจนถงึ ปจั จบุ นั ภาพท่ี 8.2 แสดงการเช่อื มต่อระบบเครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ต ทกุ วนั น้ี เครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ตถอื เป็นเครอื ขา่ ยสาธารณะทเ่ี ปิดโอกาสใหท้ กุ คนสามารถทจ่ี ะ เขา้ สรู่ ะบบเครอื ขา่ ยไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง โดยทางกายภาพแลว้ เครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ตถอื ไดว้ า่ เป็นสว่ น หน่งึ ของทรพั ยากรทถ่ี กู ใชส้ าหรบั การ สง่ ผา่ นขอ้ มลู ในเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรท์ งั้ หมดทม่ี อี ยใู่ น ปจั จบุ นั ซง่ึ เครอ่ื งคอมพวิ เตอรต์ ่างๆ ทจ่ี ะเชอ่ื มต่อเขา้ สเู่ ครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ตนนั้ จะตอ้ งใชม้ าตรฐาน ของ รปู แบบในการส่อื สารหรอื โปรโตคอล (Protocol) คอื TCP/IP (Transmission Control Protocol / Internet Protocol) นอกจากน้ยี งั ไดม้ กี ารพฒั นาและประยกุ ตร์ ะบบเครอื ขา่ ย อนิ เตอรเ์ น็ตใหเ้ ป็นระบบ เครอื ขา่ ยในลกั ษณะของเครอื ขา่ ยอนิ ทราเน็ต (Intranet) และเครอื ขา่ ยเอก็ ทราเน็ต (Extranet) ซง่ึ จะมี โปรโตคอลหลกั เป็น TCP/IP เช่นเดยี วกนั ซง่ึ จะกล่าวถงึ ในหวั ขอ้ ถดั ๆ ไป

24 8.3 การบริการ บนเครือข่ายอินเตอรเ์ น็ต จากความหมายของนกั การศกึ ษาทก่ี ลา่ วมาขา้ งตน้ ทาใหท้ ราบวา่ อนิ เตอรเ์ น็ต คอื เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรท์ ม่ี ขี นาดใหญ่ทเ่ี ชอ่ื มโยงขา่ ยงานทงั้ หมดทวั่ โลกเขา้ ดว้ ยกนั ภายในอนิ เตอรเ์ น็ต มบี รกิ ารมากมายหลายรปู แบบ ทส่ี ามารถส่อื สารขอ้ มลู ถงึ กนั ไดอ้ ยา่ งสะดวก การใชง้ านในอนิ เตอรเ์ น็ต การใชง้ านหรอื การบรกิ ารในอนิ เตอรเ์ น็ตมหี ลายประเภทดว้ ยกนั กดิ านนั ท์ มลทิ อง (2540 , หน้า 326 – 328) ไดก้ ล่าวถงึ การใชง้ านในอนิ เตอรเ์ น็ต ดงั น้ี 1. ไปรษณียอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ (electronics mail : e-mail) หรอื ทเ่ี รยี กกนั สนั้ ๆ ว่า “อ-ี เมล”์ เป็นการรบั ส่งขอ้ ความผา่ นขา่ ยงานคอมพวิ เตอร์ ผใู้ ชส้ ามารถส่งขอ้ ความขา่ ยงานทต่ี นใชอ้ ยไู่ ป ยงั ผรู้ บั อ่นื ๆ ในขา่ ยงานเดยี วกนั หรอื ขา้ มขา่ ยงานอ่นื ในอนิ เตอรเ์ น็ตไดท้ วั่ โลกในทนั ที นอกจาก ขอ้ ความทเ่ี ป็นตวั อกั ษรแลว้ ยงั สามารถส่งแฟ้มภาพและเสยี งร่วมไปด้วยได้เพ่อื ใหผ้ ู้รบั ได้อ่านทงั้ ตวั อกั ษร ดภู าพน่งิ และภาพเคล่อื นไหว รวมทงั้ เสยี งพดู หรอื เสยี งเพลงประกอบดว้ ย 2. การถ่ายโอนแฟ้ ม (เอฟทพี )ี file transfer protocol : FTP) เป็นการถ่ายทอดโอน แฟ้มขอ้ มลู ประเภทต่าง ๆ เชน่ แฟ้มขา่ ว แฟ้มภาพ แฟ้มเสยี งเพลง ฯลฯ จากคอมพวิ เตอรเ์ ครอ่ื งอ่นื บรรจุลง (download) ไวใ้ นคอมพวิ เตอรข์ องเรา หรอื จะเป็นการบรรจุน้ี (upload) ขอ้ มลู จาก คอมพวิ เตอรข์ องเราสง่ ไปทเ่ี ครอ่ื งบรกิ ารแฟ้มเพอ่ื ใหผ้ อู้ ่นื นาไปใชไ้ ดเ้ ช่นกนั 3. การค้นหาแฟ้ ม เน่ืองจากอนิ เตอรเ์ น็ตเป็นระบบใหญ่ทค่ี รอบคลุมกว้างขวางทวั่ โลก โดยมแี ฟ้มขอ้ มลู ต่าง ๆ มากมายหลายล้านแฟ้มบรรจอุ ยใู่ นระบบเพ่อื ใหผ้ ูใ้ ชส้ ามารถสบื คน้ ใชง้ าน ดงั นัน้ จงึ จาเป็นต้องมรี ะบบหรอื โปรแกรมเพ่อื ช่วยในการคน้ หาแฟ้มอย่างสะดวกรวดเรว็ โปรแกรมทน่ี ิยมใชก้ นั โปรแกรมหน่ึง ไดแ้ ก่ อารค์ ี (archic) ทช่ี ่วยในการคน้ หาแฟ้มทเ่ี ราทราบช่อื แต่ไม่ทราบว่าแฟ้มนนั้ อย่ใู นเคร่อื งบรกิ ารใด ๆ ในอนิ เตอรเ์ น็ต โปรแกรมน้ีจะสรา้ งบตั รรายการแฟ้ม ไวใ้ นฐานขอ้ มลู เมอ่ื ต้องการคน้ ว่าแฟ้มนัน้ อย่ใู นเคร่อื งบรกิ ารใดกเ็ พยี งแต่เรยี กใชอ้ ารค์ แี ลว้ พมิ พช์ ่อื แฟ้มขอ้ มลู ทต่ี ้องการนัน้ ลงไป อารค์ จี ะตรวจค้นฐานขอ้ มูลและแสดงช่อื แฟ้มพรอ้ มรายช่อื เคร่อื ง บรกิ ารท่เี ก็บแฟ้มนัน้ ให้ทราบ เม่อื ทราบช่อื เคร่อื งบรกิ ารแล้วก็สามารถใช้เอฟทพี เี พ่อื ถ่ายโอน แฟ้มขอ้ มลู มาบรรจลุ งใน คอมพวิ เตอรข์ องเราได้ 4. การค้นหาข้อมลู ด้วยระบบเมนู เป็นการใชใ้ นระบบยนู ิกซโ์ ดยใชโ้ ปรแกรมโกเฟอร์ (gopher) เพ่อื เปิดคน้ หาขอ้ มลู และขอใชบ้ รกิ ารดว้ ยระบบเมนู โกเฟอรเ์ ป็นโปรแกรมทม่ี รี ายการเลอื ก เพ่อื ช่วยเหลอื ผใู้ ชใ้ นการคน้ หาแฟ้มขอ้ มลู ความหมาย และทรพั ยากรอ่นื ๆ เก่ยี วกบั หวั ขอ้ ทร่ี ะบุไว้ การใชโ้ กเฟอรจ์ ะเป็นสง่ิ ท่ไี ม่เหมอื นกบั กฎเกณฑก์ ารถ่ายโอนแฟ้ม (FIP) และอารค์ ี (archic) ทงั้ น้ี เน่ืองจากผู้ใช้โกเฟอร์ไม่จาเป็นต้องทราบและใช้รายละเอียดของคอมพิวเตอร์ท่ีเช่อื มโยงอยู่กับ อนิ เตอรเ์ น็ต สารบบ หรอื ช่อื แฟ้มขอ้ มลู ใด ๆ ทงั้ สน้ิ เราเพยี งแต่เลอื กอ่านในรายการเลอื กและกด

25 แป้น Enter เทา่ นนั้ เมอ่ื พบสง่ิ ทน่ี ่าสนใจ ในการใชน้ ้ีเราจะเหน็ รายการเลอื กต่าง ๆ พรอ้ มดว้ ยสง่ิ ทใ่ี ห้ เลอื กใชม้ ากขน้ึ จนกระทงั่ เราเลอื กสง่ิ ทต่ี ้องการและมขี อ้ มลู แสดงขน้ึ มา เราสามารถอ่านขอ้ มลู หรอื เกบ็ บนั ทกึ ขอ้ มลู นนั้ ไวใ้ นคอมพวิ เตอรข์ องเราได้ 5. การขอเข้าใช้ระบบจากระยะไกล (remote login) โปรแกรมทใ่ี ชเ้ ทลเน็ตจะเป็นการ ใหผ้ ใู้ ชส้ ามารถเขา้ ไปใชท้ รพั ยากรหรอื ขอใชบ้ รกิ ารจากคอมพวิ เตอรเ์ คร่อื งอ่นื และใหค้ อมพวิ เตอร์ เครอ่ื งนนั้ ทาหน้าทป่ี ระมวลโดยผใู้ ชป้ ้อนคาสงั่ ผ่านคอมพวิ เตอรข์ องตน แลว้ จงึ ส่งผลลพั ธก์ ลบั มา แสดงบนหน้า จอภาพ นอกจากน้ี ถา้ เราเดนิ ทางไปต่างจงั หวดั หรอื ต่างประเทศกย็ งั สามารถใช้ เทลเน็ตตดิ ต่อมายงั คอมพวิ เตอรท์ ศ่ี ูนยบ์ รกิ ารอนิ เตอรเ์ น็ตทเ่ี ป็นสมาชกิ อยเู่ พ่อื ตรวจดูว่ามอี ี-เมลส์ ่ง มาถงึ เราหรอื ไม่ หรอื ถา้ ตอ้ งการสง่ ขอ้ มลู ไปยงั คอมพวิ เตอรเ์ ครอ่ื งอ่นื ๆ สามารถสง่ ไปไดเ้ ชน่ กนั 6. การสนทนาในข่ายงาน (internet relay chat : IRC) เป็นการทผ่ี ูใ้ ชฝ้ า่ ยหน่ึงสนทนา กบั ผู้ใช้อกี ฝ่ายหน่ึงโดยมกี ารโต้ตอบกนั ทนั ทโี ดยมกี ารพมิ พข์ อ้ ความหรอื ใชเ้ สยี ง โดยอาจสนทนา เป็นกลุ่มหรอื ระหว่างบุคคลเพยี ง 2 คนกไ็ ด้ การสนทนาในรปู แบบน้ีเป็นทน่ี ิยมใชก้ นั มากเน่ืองจาก สามารถเป็นการแลกเปล่ียนความคิดเห็นพูดคุยกันได้ทนั ทีในเวลาจรงิ ทาให้ไม่ต้องรอคาตอบ เหมอื นกบั การส่งทางไปรษณยี อ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 7. กล่มุ อภิปรายหรือกล่มุ ข่าว (newsgroup) เป็นการรวมกลุ่มของผใู้ ชอ้ นิ เตอรเ์ น็ตได้ดมี ี ความสนใจเรอ่ื งเดยี วกนั เพ่อื ส่งขา่ วหรอื อภปิ รายแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ในเร่อื งทส่ี นใจนนั้ เร่อื งของ ดาวองั คาร เพลงของเอลวสิ ฯลฯ ผูท้ ่รี ่วมอย่ใู นกลุ่มอภปิ รายจะส่งขอ้ ความไปยงั กลุ่มและ ผอู้ านวยการในกล่มุ จะมกี ารอภปิ รายสง่ ขอ้ ความกลบั มายงั ผสู้ ่งโดยตรงหรอื เขา้ ไปในกลุ่มเพ่อื ใหผ้ อู้ ่นื อ่านด้วยได้การร่วมอย่ใู นกลุ่มอภปิ รายจะมปี ระโยชน์มากเน่ืองจากสามารถได้ขอ้ มูลในเร่อื งนัน้ ๆ จากบคุ คลต่าง ๆ หลากหลายความคดิ เหน็ สามารถนาไปใชใ้ นการคน้ ควา้ วจิ ยั หรอื เพ่อื ความสนุก เพลนิ เพลนิ ได้ กลุม่ อภปิ รายน้จี ะในกระดานขา่ ว (bulletin board) หรอื ในยสู เน็ต (usenet) กไ็ ด้ 8. บริหารสารสนเทศบริเวณกว้าง (เวส) (wide area information server : WAIS) เน่ืองจากอนิ เตอรเ์ น็ตมฐี านขอ้ มลู กระจดั กระจายอย่หู ลายแห่งทวั่ โลกจงึ ทาใหไ้ ม่สะดวกในการคน้ หา แยกตามมาฐานขอ้ มลู จงึ ต้องมกี ารใช้เวสเพ่อื เช่อื มโยงศูนยข์ อ้ มลู ทอ่ี ยใู่ นอนิ เตอรเ์ น็ตเขา้ ด้วยกนั เม่อื มกี ารใช้เวบในการค้นหาขอ้ มูลจะทาให้ใช้เหน็ เสมอื นว่ามฐี านขอ้ มูลอย่เู พยี งฐานเดยี วจงึ ทาให้ สะดวกในการคน้ หา 9. ส่ิงพิมพอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ (electronic publisher) หนังสอื พมิ พ์ วารสาร และนิตยสาร เช่น TIME , ELLE จะมกี ารบรรจุเน้ือหาและภาพทล่ี งพมิ พเ์ หล่านัน้ ลงในเวบ็ ไซดข์ องคนเพ่อื ให้ คน้ ควา้ หาความรไู้ ดด้ ว้ ย สงิ่ พมิ พอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ สเ์ หล่าน้ีเรยี กกนั สนั้ ๆ ว่า “e-magazine” , “e-journal” และ “e-text” เป็นตน้

26 10. สมุดรายช่ือ เป็นการตรวจหาช่อื และท่อี ยู่ของผู้ท่เี ราต้องการจะตดิ ต่อด้วยใน อนิ เตอรเ์ น็ต โปรแกรมในการคน้ หาทน่ี ิยมใชก้ นั ไดแ้ ก่ finger และ whois การใช้ finger จะช่วยใน การค้นหาช่อื บญั ชผี ู้ใช้หรอื ช่อื จรงิ รวมถงึ ขอ้ มูลเบอ้ื งต้นหรอื สถานะของผู้นัน้ และยงั ใชใ้ นการ ตรวจสอบว่าผนู้ นั้ กาลงั ใชง้ านอย่ใู นระบบหรอื ไม่ ส่วน whois เป็นสมุดรายช่อื ผใู้ หเ้ พ่อื ใชใ้ นการหา ทต่ี งั้ ของเลขทอ่ี ย่ไู ปรษณยี อ์ เิ ลก็ ทรอนิกสแ์ ละหลายหมายเลขโทรศพั ท์ รวมถงึ สารสนเทศอ่นื ๆ ของ บุคคลนนั้ ดว้ ย 11. เวิลดไ์ วดเ์ วบ็ (world wide web : WWW) หรอื ทเ่ี รยี กกนั สนั้ ๆ ว่า “เวบ็ ” เป็นการ สบื คน้ สารสนเทศทอ่ี ยใู่ นอนิ เตอรเ์ น็ตในระบบขอ้ ความหลายมติ ิ (hypertext) โดยคลกิ ทจ่ี ดุ เช่อื มโยง เพ่อื เสนอหน้าเอกสารอ่นื ๆ ทเ่ี ก่ยี วกนั สารสนเทศทเ่ี สนอจะมรี ปู แบบทงั้ ในลกั ษณะของตวั อกั ษร ภาพนง่ิ ภาพเคล่อื นไหว และเสยี ง นอกจากน้ี เวลิ ดไ์ วดเ์ วบ็ ยงั รวมการใชง้ านอ่นื ๆ ทก่ี ล่าวมาแลว้ ขา้ งต้นเอาไวด้ ว้ ย เช่น ไปรษณียอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์ การถ่ายโอนแฟ้ม กลุ่มอภปิ ราย การคน้ หาแฟ้ม ฯลฯ การเขา้ สู่ระบบเวลิ ด์ไวดเ์ วบ็ จะต้องใชโ้ ปรแกรมการทางานซง่ึ โปรแกรมท่นี ิยมใชก้ นั มากใน ปจั จบุ นั ไดแ้ ก่ เน็ตสเคป นาวเิ กเตอร์ (nestscape navigator) อนิ เตอรเ์ น็ต เอก็ ซพรอเลอร์ (internel explorer) และ (mosaic) โปรแกรมเหล่าน้ีช่วยใหก้ ารใชเ้ วลิ ไ์ วดเ์ วบ็ ไนอนิ เตอรเ์ น็ตเป็นไปไดอ้ ยา่ ง สะดวกสบาย และสามารถใชใ้ นการคน้ หาขอ้ มลู ไดห้ ลากหลายรปู แบบในลกั ษณะสอ่ื หลายมติ ิ เครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ตจดั เป็นเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรท์ ย่ี งิ่ ใหญ่ทส่ี ุดในขณะน้ี ดงั ท่ี รงั สมิ า เพช็ รเมด็ ใหญ่ (2542 , 63-71) ไดอ้ ธบิ ายไวว้ ่าอนิ เตอรเ์ น็ตมพี ฒั นาการทางเทคโนโลยอี ยา่ งกา้ วหน้า เรว็ มาก บรกิ ารสารสนเทศอนิ เตอรเ์ น็ตท่ไี ดร้ บั ความนิยมมากท่สี ุดคอื การเรยี กอ่านขอ้ มลู จาก เครอื ขา่ ยเวลิ ดไ์ วดเ์ วบ็ (world wide web หรอื WWW) ซง่ึ บรรจุขอ้ มลู ข่าวสารในรปู เอกสารหลาย มติ (ิ hypertext) เครอื ขา่ ย WWW ไดส้ รา้ งมติ ใิ หม่ใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงวถิ กี ารดาเนินงานของ องคก์ รต่าง ๆ โดยเฉพาะในดา้ นธุรกจิ และการศกึ ษา มกี ารประยุกตใ์ ชใ้ นหลายรปู แบบทส่ี าคญั คอื เป็นแหล่งทรพั ยากรสารสนเทศ (information resource) มจี ุดเด่นคอื ใชง้ านงา่ ย และรปู แบบการ แสดงผลมสี สี นั สวยงาม สามารถแสดงขอ้ มลู ไดท้ งั้ ขอ้ ความและขอ้ มลู มลั ตมิ เี ดยี ทป่ี ระกอบดว้ ย เสยี ง ภาพน่ิง และภาพเคล่อื นไหว การนาเสนอขอ้ มลู ต่าง ๆ ใชก้ ารกาหนดรปู แบบเอกสารไฮเปอรเ์ ทก็ ซ์ ซง่ึ เป็นเอกสารทส่ี ามารถกาหนดการเช่อื มโยงไปยงั แฟ้มขอ้ มลู อ่นื ไมว่ ่าจะเป็นเอกสารภายในชุด เดยี วกนั หรอื เอกสารภายนอกทเ่ี ป็น รปู ภาพ ขอ้ มลู เสยี ง ขอ้ มลู หรอื วดี ที ศั น์ เป็นต้น ภาษาท่ี ใชเ้ ขยี นเอกสาร ไฮเฟอรเ์ ทก็ ซ์ คอื HTML (hyper text markup language) นอกจากน้ีเป็นแหล่ง อานวยความสะดวกในการสบื คน้ สารสนเทศในดา้ นต่าง ๆ อกี ดว้ ย เครอ่ื งมอื ทช่ี ่วยสบื คน้ ขอ้ มลู มี มากเช่น Yahoo , Excite , Infoseek เป็นตน้

27 องคป์ ระกอบของ WWW ประกอบด้วยองคป์ ระกอบ 4 ส่วน ดงั นี้ 1. ตวั บริการ WWW (WWW server) คอื โปรแกรมทท่ี าหน้าทใ่ี หบ้ รกิ ารดา้ น WWW ดงั นนั้ คอมพวิ เตอรเ์ คร่อื งใดทม่ี บี รกิ าร WWW ไดจ้ ะต้องมกี ารตดิ ตงั้ โปรแกรม WWW server ก่อน ซง่ึ เรยี กวา่ HTTP (hypertext transfer protocol) 2. ตวั ค้น WWW (WWW browser) คอื โปรแกรมทใ่ี ชอ้ ่านขอ้ มลู แบบไฮเปอรเ์ ทก็ ซใ์ น WWW สามารถแบง่ บราวเซอร์ (browser) ได้ 2 ประเภทใหญ่ ๆ คอื 2.1 Text Mode Browser เป็นบราวเซอรส์ าหรบั คน้ ดขู อ้ มลู ใน WWW ทม่ี ลี กั ษณะ เป็นตวั อกั ษรเทา่ นนั้ 2.2 Graphic Mode Browser เป็นบราวเซอรซ์ ง่ึ สามารถคน้ ดขู อ้ ความและขอ้ มลู ทเ่ี ป็น ภาพน่ิง , ภาพเคลอ่ื นไหว และขอ้ มลู เสยี งได้ 3. HTML (hypertext markup language) เน่ืองจากว่า WWW กาหนดใหใ้ ชข้ อ้ มลู ใน รปู แบบสารทส่ี ามารถเช่อื มโยงถงึ กนั ในแบบไฮเปอรเ์ ทก็ ซด์ งั นนั้ ขอ้ มลู หรอื เอกสารจะต้องเขยี นให้ อยรู่ ปู แบบทเ่ี ป็นมาตรฐานเดยี วกนั ทเ่ี รยี กวา่ HTML 4. URL (uniform resource locator) เป็นมาตรฐานของการระบุตาแหน่งของขอ้ มลู ใน ระบบเครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ตมรี ปู แบบดงั น้ี ช่อื โปรโตคอล :// ชอ่ื เครอ่ื ง/ชอ่ื ไคเรคทอร/่ี ช่อื แฟ้ม รปู แบบและลกั ษณะของขอ้ มลู สารสนเทศบน WWW มลี กั ษณะเป็นโฮมเพจ (homepage) เป็นเสมอื นแหล่งบา้ นของขอ้ มลู และสารสนเทศท่แี ต่ละหน่วยหรอื บุคคลสรา้ งขน้ึ เพ่อื เป็นส่อื นาเสนอ ขอ้ มลู และสารสนเทศต่าง ๆ อ่านเครอื ขา่ ย WWW การเขา้ ส่เู ครอื ข่าย WWW กค็ อื เปิดเขา้ ไปอ่าน ขอ้ ความหรอื รบั ขอ้ มลู ทป่ี รากฏในโฮมเพจต่าง ๆ อาจมกี ารเช่อื มโยงขอ้ ความตาแหน่งต่าง ๆ ภายใน โฮมเพจ หรอื เช่อื มโยงจากโฮมเพจหน่ึงไปยงั อกี โฮมเพจหน่ึง มลี กั ษณะต่าง ๆ ภายในโฮมเพจหน่ึง ไปยงั อกี โฮมเพจหน่ึงมลี กั ษณะท่องไปท่องมา ทาใหผ้ ใู้ ชส้ ามารถยอ้ นกลบั ไปมาระหว่างโฮมเพจต่าง ๆ ได้ ธรรมชาตขิ องขอ้ มูลขา่ วสารทอ่ี ย่บู นเครอื ขา่ ย WWW มกี ารเปลย่ี นแปลงอยตู่ ลอดเวลา เช่น การเพม่ิ เตมิ ขอ้ มลู การลบทง้ิ การปรบั ปรงุ มกี ารเพม่ิ จานวนของโฮมเพจขน้ึ มากมาย กระจดั กระจายอยทู่ วั่ โลกไมม่ กี ารจดั ระเบยี บโครงสรา้ งของขอ้ มลู ข่าวสารใหเ้ ป็นระเบยี บเดยี วกนั หากมกี าร จดั การจดั ระบบให้เป็นหมวดหมู่เดียวกันในระบบท่ีเป็นมาตรฐานก็จะช่วยให้การสืบค้นข้อมูล สารสนเทศบนเครอื ขา่ ย WWW เป็นไปอยา่ งสะดวกรวดเรว็ และถกู ตอ้ งตามตอ้ งการ

28 การสบื คน้ หาสารสนเทศใน WWW ดว้ ยคาหรอื ขอ้ ความ (text searching) ขน้ึ กบั เครอ่ื งมอื ชว่ ยคน้ (search engine) โดยมหี ลกั การทจ่ี ะช่วยใหป้ ระสบความสาเรจ็ ในการสบื คน้ 3 ขอ้ คอื 1. ความสามารถในการกาหนดคา หรอื ขอ้ ความใหต้ รงกบั คาทป่ี รากฏในเอกสารนนั้ 2. ขนาดและเน้อื หาของฐานขอ้ มลู ทเ่ี ลอื กใช้ 3. คณุ สมบตั แิ ละความสามารถของเครอ่ื งมอื ชว่ ยคน้ เช่น การงา่ ยในการใช้ สมรรถ ภาพการออกแบบฟอรม์ สาหรบั การสบื คน้ ความสามารถขนั้ สงู ในการสบื คน้ เป็นตน้ ดงั นนั้ อนิ เตอรเ์ น็ตจงึ มกี จิ กรรมหลาย ๆ อย่างทท่ี าผใู้ ชง้ านอนิ เตอรเ์ น็ตสามารถใชเ้ วลา เป็นชวั่ โมง ๆ อย่ใู นโลกอนิ เตอรเ์ น็ตไดโ้ ดยไม่รสู้ กึ ถงึ เวลาทผ่ี ่านไปในโลกของความเป็นจรงิ ผวู้ จิ ยั จงึ สรปุ การใชง้ านหรอื กจิ กรรมทม่ี ใี นอนิ เตอรเ์ น็ต ดงั น้ี 1. ส่งจดหมายอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (electronic mail : e-mail) หรอื เรยี กว่าอเี มลไ์ ปไดท้ วั่ ไป 2. ดงึ ขอ้ มลู หรอื ซอฟตแ์ วรจ์ ากแหลง่ ต่าง ๆ (download) เช่น ขอ้ มลู การศกึ ษาคน้ ควา้ หรอื วจิ ยั จากหอ้ งสมดุ ของมหาวทิ ยาลยั 3. สมคั รเป็นสมาชกิ แมก็ กาซนี หรอื นิตยสารผา่ นระบบอนิ เตอรเ์ น็ต 4. สงั่ ซอ้ื สนิ คา้ ต่าง ๆ ทป่ี ระกาศขายบนอนิ เตอรเ์ น็ต โดยการจา่ ยเงนิ ดว้ ยวธิ ปี ้องกนั รหสั ของบตั รเครดติ และทอ่ี ยู่ ทส่ี ามารถจะสง่ ของไปได้ 5. พดู คุยแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ กบั บุคคลต่าง ๆ ทเ่ี ช่อื มต่อกบั อนิ เตอรเ์ น็ตในเร่อื งทม่ี ี ความสนใจตรงกนั เชน่ การเมอื ง ทหาร ศลิ ปะ ดนตรี และวฒั นธรรม เป็นตน้ 6. สบื คน้ ขอ้ มลู ในดา้ นต่าง ๆ เพ่อื การศกึ ษา วจิ ยั หรอื วทิ ยาศาสตร์ เป็นตน้ จาก ฐานขอ้ มลู ต่าง ๆ ทวั่ โลกทม่ี บี รกิ ารในอนิ เตอรเ์ น็ต 7. รบั ฟงั ขา่ วสารต่าง ๆ จากสานกั ขา่ วอาทเิ ช่น VOA , BBC และอ่นื ๆ ผ่านระบบ มลั ตมิ เี ดยี 8. เลอื กชมภาพยนตต์ วั อย่างหรอื นักแสดงทช่ี ่นื ชอบ หรอื อาจจะตดิ ต่อขอลายเซน็ ผ่าน ระบบมลั ตมิ เี ดยี 9. เล่นเกมกบั บุคคลอ่นื ๆ ทอ่ี ยใู่ นอกี ซกี โลกหน่งึ ได้ 10. พูดคุยกบั เพ่อื นหรอื บุคคลอ่นื ในอกี ซกี โลกหน่ึงไดเ้ หมอื นกบั การโทรศพั ทท์ างไกลใน ราคาค่าโทรศพั ทภ์ ายในประเทศ 8.4 โพรโตคอล TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol) ถกู พฒั นาโดย U.S. Department of Defense ซง่ึ ไดเ้ จอปญั หาการเชอ่ื มโยงคอมพวิ เตอร์ จานวนมากทแ่ี ตกต่างกนั ในเวลาต่อมา Defense Advanced Research Projects Agency (DARPA) ไดม้ ี

29 การคน้ ควา้ วจิ ยั คอมพวิ เตอรต์ ่างประเภท และส่งขอ้ มลู ระหวา่ งประเทศ เพ่อื พฒั นามาตรฐานของ โพรโตคอล และโพรโตคอล TCP/IP ไดพ้ ฒั นาปรบั ปรงุ มาจากงานวจิ ยั ทส่ี ถาบนั MIT ปจั จบุ นั การ เชอ่ื มโยงดว้ ย TCP/IP มใี ชก้ นั อยา่ งแพรห่ ลายตามการขยายตวั ของระบบอนิ เทอรเ์ น็ต/อนิ ทราเน็ต TCP (Transmission Control Protocol) ทางานเมอ่ื Packet ถกู จดั สง่ ไปยงั อนิ เทอรเ์ น็ตแอด เด รส และแอปพลเิ คชนั่ พอรต์ ทถ่ี กู ตอ้ ง ซอฟตแ์ วรท์ ท่ี าตามมาตรฐาน TCP จะทางานบนแต่ละเครอ่ื ง สรา้ งการเช่อื มต่อกนั และกนั และจดั การกบั การส่อื สาร 8.4.1 IP Address IP (Internet Protocol) เม่อื ต้องการส่งข้อมูลไปในระบบเครอื ข่ายนัน้ ต้องอาศัยการ Encapsulation (รวมขอ้ มลู ) ไปกบั IP เพ่อื ทจ่ี ะนาขอ้ มลู ผ่านไปยงั จดุ หมายปลายทาง การอ้างองิ ใน ระบบเครอื ขา่ ย หรอื การใช้ IP Address เพ่อื ใหเ้ ป็นหมายเลขอ้างองิ ประจาของเครอ่ื งคอมพวิ เตอรห์ รอื อุปกรณ์ตวั นนั้ ๆ ทงั้ น้ี หมายเลข IP Address จะตอ้ งไมซ่ ้ากนั ภายในเครอื ขา่ ยเดยี วกนั หรอื ทวั่ โลกต้อง ใชไ้ อพจี รงิ (Real IP Address) ไมซ่ า้ กนั อาจพบปญั หาการลม่ ของระบบในกรณที ห่ี มายเลข IP ซา้ กนั เครอ่ื งคอมพวิ เตอรท์ ุกเครอ่ื งทใ่ี ชใ้ นเครอื ข่ายอนิ เตอรเ์ น็ตหรอื เครอื ขา่ ยอนิ ทราเน็ตจะ สามารถตดิ ต่อถงึ กนั ไดน้ นั้ เครอ่ื งคอมพวิ เตอรต์ น้ ทางจะตอ้ งระบุทอ่ี ย่ขู องเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ ปลายทางทต่ี อ้ งการตดิ ต่อดว้ ย ซง่ึ ทอ่ี ยู่ ของเครอ่ื งคอมพวิ เตอรน์ ้จี ะถูกกาหนดใชม้ าตรฐานเดยี วกนั ท่ี เรยี กว่า หมายเลขไอพี (IP Address) ซง่ึ เป็นขอ้ มลู ตวั เลขระบบดจิ ติ อลหรอื เลขฐานสองขนาด 32 บติ อนั ประกอบดว้ ยตวั เลขจานวนเตม็ 4 กลุม่ กลมุ่ ละ 8 บติ ในแต่ละกลุม่ มที ศนิยมคนั่ ไว้ ในการใชง้ าน จรงิ ตอ้ งเปลย่ี นตวั เลขระบบดจิ ติ อลหรอื ระบบเลขฐานสอง ใหอ้ ยใู่ นรปู ของตวั เลขฐานสบิ ในแต่ละกลมุ่ เมอ่ื เปลย่ี นเป็นเลขฐานสบิ จะมคี ่าอย่รู ะหว่างชว่ ง 0-255 ได้ และใชจ้ ดุ เป็นตวั แบ่งกลุ่ม เชน่ 161.200.93.1 หรอื 202.44.135.9 เป็นตน้ ดงั แสดงในรปู

30 ภาพท่ี 8.3 แสดงหมายเลขไอพี (IP Address) ประจาเครอ่ื งคอมพวิ เตอรใ์ นโปรโตคอล TCP/IP 8.4.2 การจดั สรรหมายเลข IP หมายเลขไอพหี น่ึงๆ จะแสดงถงึ ขอ้ มลู ดา้ นเครอื ขา่ ยอยู่ 2 ส่วนดว้ ยกนั สว่ นแรกเป็นส่วน แสดงหมายเลขเครอื ข่าย (Network Address) ส่วนทส่ี องเป็นสว่ นแสดงหมายเลขคอมพวิ เตอร์ (Host Address)ทอ่ี ยใู่ นเครอื ขา่ ยหมายเลขนนั้ เช่นเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ 2 เครอ่ื งมหี มายเลขเครอ่ื งดงั น้ี เป็น การยกตวั อยา่ ง ในคลาส C โดยมหี มายเลขไอพปี ระจาเครอ่ื งดงั น้ี 192.168.74.2 และ 192.168.74.3 จะพบว่าเครอ่ื งคอมพวิ เตอรท์ งั้ 2 มคี ่าหมายเลขเครอื ข่ายเดยี วกนั คอื 192.168.74 และมหี มายเลข ประจาเครอ่ื งคอื 2 และ 3 การจดั แบ่งหมายเลขไอพสี ามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น 5 คลาส (Class) คอื A, B, C, D และ E แต่โดยทวั่ ไปนนั้ จะใชง้ านหลกั อยเู่ พยี ง 3 คลาส ไดแ้ ก่ คลาส A, B และ C หมายเลข IP Address แบง่ เป็น 3 คลาสคอื Class A บติ แรกของ Byte แรกสดุ จะเป็น 0 Class B 2 บติ แรกของ Byte แรกสุดจะเป็น 1 และ 0 Class C 3 บติ แรกของ Byteแรกสุดจะเป็น 1, 1 และ 0 ภาพท่ี 8.4 ลกั ษณะการแบ่งคลาสในระบบหมายเลขไอพี

31 จากในรปู เป็นมาตรฐานการกาหนดหมายเลขไอพแี ต่ละชนั้ ในแต่ละชนั้ จะกาหนดค่า ความหมายของตวั เลขเป็นสองส่วนคอื จานวนวงเครอื ขา่ ยหรอื หมายเลขเครอื ขา่ ย (Network Number) และจานวนเครอ่ื ง (Host Number) แต่ละคลาสจะมปี รมิ าณจานวนไมเ่ ท่ากนั อยทู่ ก่ี ารกาหนดจานวนบติ เช่น คลาส A ตงั้ แต่บติ ท่ี 0 ถงึ 15 เป็นจานวนเครอื ขา่ ย และบติ หลกั ท่ี 16 ถงึ 31 เป็นจานวนของ เครอ่ื งหรอื หมายเลขประจาเครอ่ื งในวงเครอื ขา่ ยคลาส A ดงั แสดงในรปู Class A 114.161.58.18 00111010 00010010 01110010 10100001 Host ID Network ID Class B 178.161.58.18 10110010 10100001 00111010 00010010 Network ID Host ID Class C 210.161.58.18 11010010 10100001 00111010 00010010 Network ID Host ID Class Start IP Address (HOST ID) Sub Netmark A 0.0.0.0 - 127.255.255.255 16,777,214 255.0.0.0 B 128.0.0.0 - 191.255.255.255 C 192.0.0.0 - 223.255.255.255 65,536 255.255.0.0 256 255.255.255.0 ภาพท่ี 8.5 แสดงการกานดชนั้ การใชง้ านของ IP Address การกาหนด Network ID นนั้ ใน Class C IP Address Range = ตงั้ แต่ 192.255.255.255 ถงึ 223.255.255.255 nerwork ID ใชใ้ นการบอกหมายเลขระบบเครอื ขา่ ยท่ี host นนั้

32 อยู่ โดย host แต่ละเครอ่ื งทอ่ี ยภู่ าพในระบบเครอื ขา่ ยเดยี วกนั ทางกายภาพจะตอ้ งถูกกาหนดใหม้ ี หมายเลข Network ID เหมอื นกนั จงึ จะสามารถส่อื สารกนั ได้ 8.4.3 Subnet Mask เป็นกลุ่มตวั เลขฐานสองทโ่ี ปรโตคอล TCP/IP ใชใ้ นการระบวุ า่ ค่าจานวนเตม็ ของจานวน ปรมิ าณเครอื ขา่ ย (Network ID) เชน่ Class A มี Subnet Mark เท่ากบั 255.255.255.0 เลข 0 ตวั ทา้ ยคอื สว่ นระบบวา่ มจี านวนเครอ่ื งคอมพวิ เตอรป์ ระจาเครอื ข่ายทงั้ หมดของแต่ละชนั้ Network ID, Subnet Mask มขี นาด 32 บติ เช่นเดยี วกบั IP Address และ Subnet Mask ใชบ้ อกจานวน IP Address แต่ละ Class ซง่ึ มคี า่ ดงั น้ี Class A มี Subnet Mask คอื 11111111 00000000 00000000 0000000 เขยี นในรปู Dotted decimal notation คอื 255.0.0.0 Class B มี Subnet Mask คอื 11111111 11111111 00000000 0000000 เขยี นในรปู Dotted decimal notation คอื 255.255.0.0 Class C มี Subnet Mask คอื 11111111 11111111 11111111 0000000 เขยี นในรปู Dotted decimal notation คอื 255.255.255.0 ส่วนการกาหนด Network ID มขี อ้ กาหนดดงั น้ี  Network ID ในแต่ละระบบเครอื ขา่ ยจะตอ้ งไม่ซา้ กนั  หลกั แรกของ Network ID จะตอ้ งไมข่ น้ึ ตน้ ดว้ ย 127 ซง่ึ หมายเลข 127 ถกู สงวนไวใ้ ช้ ในการทา Loopback  หลกั แรกของ Network ID จะตอ้ งไมข่ น้ึ ตน้ ดว้ ย 255 ซง่ึ หมายเลข 255 ถูกสงวนไวใ้ ช้ ในการทา broadcast  หลกั แรกของ Network ID จะตอ้ งไมข่ น้ึ ตน้ ดว้ ย 0 ในการใชง้ านโปรโตคอล TCP/IP ภายในระบบเครอื ขา่ ยภายใน เราสามารถกาหนด Network ID เองไดต้ ามตอ้ งการ แต่การใช้ TCP/IP เพอ่ื เชอ่ื ต่อระบบแลนของหน่วยงานกบั ระบบ Internet จะตอ้ งทาการขอ Network ID จากหน่วยงานช่อื InterNIC หรอื บรษิ ทั ISP (Internet Service Provider) ต่างๆ ซง่ึ จะทาการกาหนด Network ID มาใหต้ ามความเหมาะสมของหน่วยงานทต่ี อ้ งการ การกาหนด Host ID จะมขี อ้ กาหนดดงั น้ี - host ID จะตอ้ งไมซ่ ้ากบั host ID ของเครอ่ื งอ่นื ทม่ี ี Network ID เดยี วกนั

33 - ทกุ บติ ของ host ID ไมส่ ามารถเป็น 1 หมดได้ เพราะถูกสงวนไวใ้ ชใ้ นการ Broadcast - ทุกบติ ของ host ID ไมส่ ามารถเป็น 0 หมดได้ เพราะจะหมายถงึ host ใน Network นนั้ หมดทุกเครอ่ื ง ค่าของ IP Address จะมหี น่วยงานกลางในการควบคมุ การแจกจา่ ย หมายเลข IP คอื หน่วยงานทเ่ี รยี กวา่ InterNIC (Inter Network Information Center) ทาหน้าทบ่ี รหิ ารการแจกจ่าย หมายเลข IP ใหก้ บั องคก์ รต่างๆ ซง่ึ IP Address จะแบง่ ลกั ษณะการใชง้ านออกเป็น 2 ลกั ษณะคอื 1. Real IP Address เป็น IP จรงิ ทท่ี าง ISP จดั สรรมาใหผ้ เู้ ช่าทข่ี องหมายเลข IP ถอื วา่ เป็น IP จรงิ ทส่ี ามารถตดิ ต่อสารกนั ไดท้ วั่ โลกจะไมซ่ า้ กนั เลย 2. Private IP Address เป็น IP เสมอื นจรงิ ทก่ี าหนดการใชใ้ นเครอื ขา่ ยส่วนตวั ของแต่ละ องคก์ รซง่ึ ไมส่ ามารถใชส้ ่อื สารตดิ ต่อกบั เครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ตโดยตรงได้ 8.4.4 Subnet การกาหนด IP Address ในคลาส AและB นนั้ มเี ครอ่ื งลกู ขา่ ยมากเกนิ ความจาเป็น(ภายใน องคก์ ร) ดงั นนั้ การใชง้ านหลกั จะใชค้ ลาส C เป็นหลกั แต่สว่ นมากกไ็ มม่ อี งคก์ รใดจะใชเ้ ช่อื มต่อเครอ่ื ง ลกู ขา่ ยมากถงึ 256 เครอ่ื ง หากตอ้ งการมอี ุปกรณ์หรอื การใช้ IP Address นนั้ เพยี งไม่กเ่ี ครอ่ื ง ดงั นนั้ จะ เหลอื IP Address ทเ่ี หลอื เป็นจานวนมาก และไมส่ ามารถนา IP Address น้ไี ปใหผ้ อู้ ่นื ใชไ้ ด้ ดงั นนั้ จงึ มี การสรา้ ง Subnet หรอื Sub Network ขน้ึ มาทาใหส้ ามารถแบง่ เครอื ขา่ ยออกเป็นสว่ นๆ และทาใหใ้ ช้ IP Address ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ตารางท่ี 8.1 แสดงการสรา้ ง Subnet ในคลาส C Subnet Mask จานวนเครอื ขา่ ยยอ่ ย จานวนเครอ่ื งลกู ขา่ ย (Host Address) (Subnet) 1 254 255.255.255.0 2 62 255.255.255.192 6 30 255.255.255.244 14 14 255.255.255.240 30 6 255.255.255.248 62 2 255.255.255.252 8.4.5 Private Network

34 Private Network คอื เน็ตเวริ ก์ ส่วนตวั ซง่ึ ถกู แบ่งแยกออกมาจาก Public Network ตวั Public Network หรอื ทเ่ี รยี กว่า Internet หรอื อภมิ หาเครอื ขา่ ย ซง่ึ ต่อโยงเป็นใยกนั ไปทวั่ โลกนนั้ เอง โดยปกตกิ ารต่อโยงของคอมพวิ เตอรใ์ น Public Network นนั้ ใชโ้ พรโตคอล TCP/IP ซง่ึ เป็น Unique คอื เป็นกฎตายตวั ว่าอุปกรณ์เครอื ขา่ ย (Network Device) แต่ละตวั ตอ้ งมเี ลข IP ทไ่ี มซ่ ้ากนั ถา้ ซ้ากนั กจ็ ะ ใชง้ านไมไ่ ดเ้ ลย การเตบิ โตของกลุ่มเครอื ขา่ ยส่วนตวั (Private Network) ทาใหต้ อ้ งมกี ารกาหนด IP Address เฉพาะ ซง่ึ เป็นขอ้ ตกลงสากลทก่ี ลุ่มเครอื ขา่ ยสว่ นตวั (Private Network) สามารถนาเลข IP เหล่าน้ไี ปใชไ้ ด้ โดยไมต่ อ้ งกงั วลว่าจะซ้ากบั ใคร IANA ทเ่ี ป็นองคก์ รกาหนดนโยบายเกย่ี วกบั เน็ตเวริ ก์ ตาม rfc 1918 ของ IANA ว่าดว้ ย private ip ทม่ี ใี หใ้ ชอ้ ยู่ มรี ะบดุ งั ตารางต่อไปน้ี ขอ้ มลู อา้ งองิ อ่านไดท้ เ่ี วบ็ ไซตข์ อง IANA หรอื rfc1918.txt ตารางท่ี 8.2 แสดงการกาหนด Private IP Address ตาม RFC 1597 อยา่ งไรกต็ าม จากเอกสารกาหนดจดั การ Router ของ 3com (OfficeConnect) ซง่ึ เป็น ขอ้ มลู อา้ งองิ จากคมู่ อื การกาหนดคา่ ของเราตเ์ ตอร์ ,IP Sharing ของอุปกรณ์เครอื ขา่ ย ยห่ี อ้ 3COM เลข IP ทน่ี าไปใชไ้ ดม้ ดี งั ตารางต่อไปน้ี ตารางท่ี 8.3 แสดงการใช้ Private IP Address ทน่ี ิยมใชง้ าน จะเหน็ ว่าทงั้ สองตารางนนั้ แตกต่างกนั ตารางแรกนัน้ เป็นไปตามขอ้ กาหนดของ IANA

35 แต่ตารางทส่ี องเป็นไปตามขอ้ กาหนดของการตดิ ตงั้ ระบบเครอื ขา่ ยเวลาใชง้ านจรงิ จะเหน็ ว่าเลข 0 กบั 255 จะไมค่ อ่ ยมกี ารกาหนดการใชง้ าน กลุ่มทน่ี ยิ มในการใชง้ านกม็ ที งั้ 10 , 169 , 192 โดยมากจะ เป็น 10 กบั 192 ทน่ี ยิ มกนั แลว้ แต่องคก์ ร ถา้ ขนาดเลก็ กใ็ ช้ 192 แต่ถา้ ขนาดใหญ่กใ็ ช้ 10 นอกจากน้จี ะ มกี ลมุ่ หมายเลข 169.254.0.1- 169.254.254.254 ขน้ึ มาดว้ ย ซง่ึ ถงึ แมว้ า่ จะไมส่ อดคลอ้ งตามขอ้ กาหนด ของ IANA แต่กถ็ กู นามาใช้ เพราะกลุ่มเลขดงั กลา่ วไมม่ กี ารไปใชก้ บั อุปกรณ์เครอื ขา่ ยใดๆ เวลาท่ี ตอ้ งการตดิ ตงั้ VPN (Virtual Private Network) โดยมาก ถา้ เอาตามความถกู ตอ้ งและความเคยชนิ แลว้ เขากม็ กั จะใชค้ ่า IP เหลา่ น้ใี นการกาหนดของแต่ละกลุม่ กนั แต่อยา่ งไรกต็ าม ถา้ ไมท่ าตามน้จี ะเกดิ ความเสยี หายอะไรหรอื ไม่ คาตอบกค็ อื โดยมากไมพ่ บว่าเกดิ ความเสยี หาย เพราะโดยสว่ นใหญ่การ ต่อเช่อื มเขา้ ใชง้ านบรรดาเครอื ขา่ ยสาธารณะ (Public Network) จะมอี ุปกรณ์เราตเ์ ตอรใ์ นการแปลง หมายเลข IP โดยใชเ้ ทคโนโลยี NAT (Network Address Transferring) กนั อยแู่ ลว้ แต่ทางทด่ี ี เพ่อื ป้องกนั ปญั หาทงั้ หมด ควรใชเ้ ลข IP ทก่ี าหนดไวด้ งั ตารางขา้ งบนดกี ว่า แต่ปญั หาจะเกดิ ขน้ึ เมอ่ื ซอ้ื อุปกรณ์ต่อเช่อื มอนิ เทอรเ์ น็ตพวก SOHO อยา่ ง 3COM Office Connect , Intel Internet Station ส่วน ใหญ่อุปกรณ์เหล่าน้ีจะกาหนดมาเป็นมาตรฐานวา่ ตวั Gateway และตวั DHCP จะกระจายค่า IP ในกล่มุ Private IP น้ใี หก้ บั Client อย่แู ลว้ ซง่ึ ไมค่ วรไปเปลย่ี นแปลงแต่อยา่ งใด เน่อื งจากจานวนคอมพวิ เตอรท์ วั่ โลกทท่ี าการเช่อื มต่อเขา้ ส่เู ครอื ขา่ ยอนิ เตอรไ์ ดเ้ พมิ่ ขน้ึ อยา่ งต่อเน่อื ง ดงั นัน้ อกี ในไมช่ า้ น้ีระบบหมายเลขไอพที ใ่ี ชใ้ นปจั จบุ นั ซง่ึ เป็นขอ้ มลู ตวั เลขขนาด 32 บติ จะไม่ เพยี งพอทจ่ี ะกาหนดใหแ้ ก่คอมพวิ เตอรไ์ ดท้ วั่ โลก ดงั นนั้ จงึ ได้มกี ารเตรยี มคดิ คน้ ระบบหมายเลข ไอพแี บบใหมโ่ ดยขยายขนาดเป็นขอ้ มลู ตวั เลขขนาด 128 บติ ซง่ึ มชี ่อื เรยี กวา่ Internet Protocol Version 6 หรอื เรยี กโดยยอ่ วา่ IPv6 ในการทค่ี อมพวิ เตอรแ์ ต่ละเครอ่ื งถูกกาหนดใหม้ หี มายเลขไอพที ไ่ี มซ่ ้ากนั เลยนนั้ จะเหน็ ได้ ว่าเป็นวธิ ที ส่ี ะดวกทค่ี อมพวิ เตอรก์ บั คอมพวิ เตอรด์ ว้ ยกนั จะสามารถทจ่ี ะใชอ้ า้ งองิ เพ่อื ตดิ ต่อถงึ กนั ได้ แต่สาหรบั ผใู้ ชง้ านเครอื ขา่ ยนนั้ คงจะเกดิ ความยงุ่ ยากและสบั สนเป็นอยา่ งมากในการทจ่ี ะตอ้ งจดจา หมายเลขไอพขี องเครอ่ื งคอมพวิ เตอรต์ ่างๆ ทต่ี อ้ งการ ตดิ ต่อดว้ ยจานวนมาก ดงั นนั้ เพอ่ื เป็นการ อานวยความสะดวกใหแ้ ก่ผใู้ ชง้ านจงึ เกดิ แนวคดิ ในการสรา้ งระบบ \"ชอ่ื โดเมน (Domain Name)\" เพ่อื ใชอ้ า้ งองิ ในระดบั ผใู้ ชง้ านแทนระบบหมายเลขไอพซี ง่ึ กจ็ ะคงถูกใชอ้ า้ งองิ ในระดบั คอมพวิ เตอรข์ น้ึ มา 8.5 ระบบช่ือโดเมน (Domain Name System) เครอ่ื งคอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณ์สอ่ื สารต่าง ๆทต่ี ดิ ตงั้ อยบู่ นระบบเครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ต แต่ละ อุปกรณ์จะตอ้ งมเี ลข IP Address ทไ่ี มซ่ ้ากนั การตดิ ต่อระหวา่ งอุปกรณ์จะตอ้ งใชเ้ ลข IP Address ตดิ ต่อกนั แต่การทผ่ี ใู้ ชค้ อมพวิ เตอรต์ อ้ งคอยจดจาเลข IP Address ในการตดิ ต่อกบั อุปกรณ์บนระบบ

36 เครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ตเป็นเร่อื งทค่ี ่อนขา้ งยาก จงึ จาเป็นทจ่ี ะตอ้ งมรี ะบบชอ่ื โดเมน (Domain name system) หรอื เรยี กวา่ DNS เพ่อื ใชเ้ ป็นระบบทใ่ี ชต้ งั้ ชอ่ื ใหก้ บั ทรพั ยากรเครอื ขา่ ย แต่ทใ่ี ชก้ นั โดยทวั่ ไป คอื การตงั้ ชอ่ื เครอ่ื งคอมพวิ เตอรห์ รอื ช่อื Host แทนการใช้ IP Address เช่น www.edutrain.ac.th จะมี IP Address เป็น 203.146.74.13 เป็นตน้ การแปลงช่อื Host เป็น IP Address เรยี กวา่ Forward mapping เช่น แปลง www.edutrain.ac.th เป็น IP Address 203.146.74.13 ส่วนการแปลง IP Address ใหเ้ ป็นช่อื Host เรยี กว่า Reverse mapping เช่น แปลง IP Address 203.146.74.13 เป็นช่อื Host www.edutrain.ac.th โครงสรา้ งของ DNS จะมโี ครงสรา้ งตามลาดบั ชนั้ แบบโครงสรา้ งตน้ ไมก้ ลบั หวั ดงั รปู ท่ี Top level domains Second level domain Generic Country domains domains ภาพท่ี 8.6 โครงสรา้ งลาดบั ชนั้ ของ DNS จากรปู ท่ี 5.6 จะเหน็ ว่าโครงสรา้ งของ DNS มลี กั ษณะคลา้ ยคลงึ กบั ตน้ ไมก้ ลบั หวั แตก กงิ่ กา้ นสาขาออกมาจากจดุ บนสดุ คอื Root บางทเี รยี กว่า . (DOT) หรอื จดุ แลว้ แตกกง่ิ กา้ นลงมาท่ี Top level domain ลาดบั ต่อมาคอื Second level domain และแตกกงิ่ กา้ นลงมาเรอ่ื ย ๆ 8.5.1 Domain name

37 Domain name คอื ชอ่ื ทก่ี ากบั อยทู่ ่ี Node และเรยี กชอ่ื โดยไล่ลาดบั จาก Node นนั้ ตามเสน้ ทาง ขน้ึ ไปยงั Root การเขยี น Domain name ใหค้ นั่ แต่ละ Node ดว้ ยจดุ เช่น www.edutrain.ac.th เป็นตน้ Domain name อาจประกอบดว้ ย Domain ยอ่ ยกล่ี าดบั ชนั้ กไ็ ดต้ ามแต่ผดู้ แู ล Domain เหน็ วา่ เหมาะสม จานวนชนั้ ของ Domain ไมม่ คี วามผกู พนั กบั IP Address แต่อยา่ งใด Node ทอ่ี ยภู่ ายใต้ Root หน่งึ ระดบั เรยี กว่า Top level domain ถอื ว่าเป็นชอ่ื ทไ่ี มส่ งั กดั อยู่ ภายใต้ Domain ใด ๆ จงึ ไม่เรยี กวา่ Domain ยอ่ ย Domain อ่นื ตอ้ งอยภู่ ายใต้ Top level domain เสมอ Top level domain สามารถแบง่ ออกไดเ้ ป็น 3 กลุ่มใหญ่ ดงั น้ี 1) Arpa domain เป็นโดเมนพเิ ศษซง่ึ ใชส้ าหรบั การแปลงกลบั (Reverse mapping) IP Address เป็น Domain name เช่น 13.74.146.203.in-addr.arpa สามารถแปลงกลบั เป็นช่อื โดเมน เชน่ 13.74.146.203.in-addr.arpa สามารถแปลงกลบั เป็นชอ่ื โดเมน คอื www.edutrain.ac.th 2) Generic domain เป็น Domain name ทม่ี ตี วั อกั ษร 3 ตวั มอี ยู่ 7 Domain และจากดั การใชอ้ ยู่ เฉพาะในสหรฐั อเมรกิ า ตารางท่ี 8.4 แสดงการกาหนด Generic domain Domain name ใช้สาหรบั com องคก์ รธรุ กจิ edu สถาบนั การศกึ ษา gov หน่วยงานราชการ int องคก์ รระหว่างประเทศ mil หน่วยงานราชการ net ผใู้ หบ้ รกิ ารเครอื ขา่ ย org องคก์ รอ่นื ๆ 3) Country domain เมอ่ื อนิ เทอรเ์ น็ตเรมิ่ ขยายตวั ไปมากจงึ มกี ารสรา้ ง Top level domain เพ่อื ใชง้ านกบั ประเทศต่าง ๆ โดยใชร้ หสั ยอ่ ประจาชอ่ื ประเทศ เรยี กว่า Country domain มตี วั อกั ษร 2 ตวั เช่น th เป็น Domain ทแ่ี ทนประเทศไทย (Thailand) เป็นตน้ สง่ิ ทเ่ี ป็นหน้าทห่ี ลกั สาหรบั Domain name คอื การกระจายความรบั ผดิ ชอบใน DNS (Domain name system) ส่วนใดเพยี งส่วนเดยี วไมส่ ามารถจดั การในทุกลาดบั ชนั้ ได้ ดงั นนั้ จงึ จาเป็นทจ่ี ะตอ้ งมี หน่วยงานทก่ี ระจายความรบั ผดิ ชอบจากระดบั Top level domain ไปสรู่ ะดบั อ่นื ๆ ในแต่ละ zone ซง่ึ

38 เรยี กกนั ว่า NIC สาหรบั ในประเทศไทยจะมหี น่วยงาน THNIC เป็นผดู้ แู ล Top level domain จะ กระจายความรบั ผดิ ชอบในการดแู ลใหก้ บั ลาดบั ชนั้ ทต่ี ่ากว่าลงมาเรอ่ื ย ๆ เมอ่ื ความรบั ผดิ ชอบไดก้ ระจายไปสแู่ ต่ละ Zone แลว้ ผทู้ ร่ี บั ผดิ ชอบ Zone จะตอ้ งจดั หา Name server ซง่ึ เป็นเครอ่ื งคอมพวิ เตอรท์ ม่ี ซี อฟแวรส์ าหรบั ทาหน้าทเ่ี กบ็ ฐานขอ้ มลู และใหบ้ รกิ ารแปลงช่อื และ IP Address Zone รับผิดชอบ ของ th ภาพท่ี 8.7 ความรบั ผดิ ชอบใน Zone ต่อมาหลายๆ ประเทศไดท้ าการเชอ่ื มเครอื ข่ายเขา้ กบั เครอื ข่ายอนิ เตอรเ์ น็ต จงึ มกี ารใชโ้ ดเมน ระดบั บนสดุ แทนดว้ ยอกั ษรยอ่ ของประเทศนนั้ ๆ ยกตวั อยา่ ง เชน่

39 ตารางท่ี 8.5 แสดงการใชโ้ ดเมนระดบั บนสดุ ของแต่ละประเทศ สาหรบั โดเมนระดบั บนสุดทม่ี กี ารระบุประเทศไวน้ นั้ จะมโี ดเมนยอ่ ยซง่ึ สามารถแบ่งประเภท หน่วยงานยอ่ ยลงไปอกี ยกตวั อยา่ งเช่น co.it แทน บรษิ ทั ในประเทศอติ าลี ac.au แทน สถาบนั การศกึ ษาในออสเตรเลยี or.th แทน องคก์ รไมห่ วงั ผลกาไรในประเทศไทย go.jp แทน หน่วยงานรฐั บาลในประเทศญป่ี นุ่ การเรยี กช่อื เครอ่ื งคอมพวิ เตอรด์ ว้ ยระบบช่อื โดเมนนัน้ มปี ระโยชน์ในแงข่ องการจดจาง่าย สาหรบั ผใู้ ชง้ านโดยทวั่ ๆ ไปแต่สาหรบั การทางานในระดบั คอมพวิ เตอรด์ ว้ ยกนั แลว้ กย็ งั อาศยั การ อา้ งองิ ตามระบบหมายเลขไอพอี ยเู่ ชน่ เดมิ

40 7. ส่ือประกอบการสอน

41 คร้ังท่ี 15 บทที่ 8 เครือข่ายคอมพวิ เตอร์และเครือข่ายอนิ เทอร์เน็ต (ตอนท่ี 1)

42 เนือ้ หา เครือข่ายอนิ เทอร์เน็ต เครือข่ายอนิ เทอร์เน็ต เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายที่ประกอบดว้ ยเครื่อง คอมพวิ เตอร์ที่ใชช้ ุดโพรโตคอล TCP/IPเป็นมาตรฐานใน การสื่อสาร TCP (Transmission Control Protocol) ซ่ึงทาํ หนา้ ที่สร้าง การติดต่อและควบคุมการสื่อสารระหวา่ งโปรแกรมที่ทาํ หนา้ ท่ีขอใชบ้ ริการและโปรแกรมที่ทาํ หนา้ ที่ใหบ้ ริการ IP (Internet Protocol) ซ่ึงทาํ หนา้ ท่ีในการส่งขอ้ มลู จาก เครื่องคอมพิวเตอร์ตน้ ทางไปยงั เครื่องคอมพิวเตอร์ ปลายทาง

สําห ัรบเค ืรอ ่ขายขนาด 43 ตาํ แหน่งของคอมพวิ เตอร์ในเครือข่ายอนิ เทอร์เน็ต กาํ หนดเป็นเลขฐานสองขนาด 32 บิต เรียกวา่ เลขตาํ แหน่ง ในเครือข่ายและมีชื่อเรียกเฉพาะวา่ IP Address แบ่งออกเป็น 4 ชุด ชุดละ 8 บิต คนั่ ดว้ ยเคร่ืองหมายจุด นิยมเขียนเป็นเลขฐานสิบ แต่ละชุดจะมีค่าระหวา่ ง 0-255 ตวั อย่าง เช่น  10.4.1.39 เป็ นหมายเลข IP ของเครื่อง seashore.buu.ac.th  10.16.64.24 เป็ นหมายเลข IP ของเครื่อง www.cs.buu.ac.th กล่มุ และรูปแบบของ IP Address แยก IP Address ออกเป็ น Class เพอ่ื กาํ หนดขนาดของ เครือข่าย ใหญ่ กลาง เลก็

44 Subnet Mask เป็นเลขฐานสองขนาด 32 บิต ท่ีใชใ้ นการกาํ หนดขอบเขต ของเครือข่ายและสมั พนั ธ์กบั Class ของ IP Address เช่นเครือข่ายที่มีหมายเลขเครือข่ายใน Class C จะมีค่าโดย ปริยายเป็น 255.255.255.0 ใชใ้ นการทดสอบวา่ เครื่องคอมพิวเตอร์ตน้ ทางและ ปลายทางอยใู่ นเครือข่ายเดียวกนั หรือไม่ หมายเลขเครือข่าย = หมายเลข IP Subnet mask AND Operator ตวั อย่างการหาหมายเลขเครือข่าย เคร่ือง A เคร่ือง B IP ADDRESS : 192.168.1.2 IP ADDRESS : 192.168.1.8 SUBNET MASK : 255.255.255.0 SUBNET MASK : 255.255.255.0

45 ตวั อย่างการหาหมายเลขเครือข่าย 128 64 32 16 8 4 2 1 เครื่อง A 1 1000000 192 128 64 32 16 8 4 2 1 . 1 0101000 168 128 64 32 16 8 4 2 1 . 0 0000001 1 128 64 32 16 8 4 2 1 . 0 0000010 2 การหาหมายเลขเครือข่ายเคร่ือง A IP ADDRESS = 192.168.1.2 SUBNET MASK = 255.255.255.0 11000000 . 10101000 . 00000001 . 00000010 IP ADDRESS 11111111 . 11111111 . 11111111 . 00000000 AND SUBNET MASK 11000000 . 10101000 . 00000001 . 00000000 NETWORK NO. NETWORK NUMBER = 192.168.1

46 ตวั อย่างการหาหมายเลขเครือข่าย 128 64 32 16 8 4 2 1 เคร่ือง B 1 1000000 192 128 64 32 16 8 4 2 1 . 1 0101000 168 128 64 32 16 8 4 2 1 . 0 0000001 1 128 64 32 16 8 4 2 1 . 0 0001000 8 การหาหมายเลขเครือข่ายเคร่ือง B IP ADDRESS = 192.168.1.8 SUBNET MASK = 255.255.255.0 11000000 . 10101000 . 00000001 . 00001000 IP ADDRESS 11111111 . 11111111 . 11111111 . 00000000 AND SUBNET MASK 11000000 . 10101000 . 00000001 . 00000000 NETWORK NO. NETWORK NUMBER = 192.168.1

47 ตวั อย่างการหาหมายเลขเครือข่าย เครื่อง A เครื่อง B IP ADDRESS : 192.168.1.2 IP ADDRESS : 192.168.1.8 SUBNET MASK : 255.255.255.0 SUBNET MASK : 255.255.255.0 NETWORK NUMBER : 192.168.1 NETWORK NUMBER : 192.168.1 แสดงว่า เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ A และเครื่องคอมพวิ เตอร์ B อยู่ในเครือข่ายเดยี วกนั การตดิ ต่อระหว่างเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ในเครือข่าย เครื่องคอมพิวเตอร์ตน้ ทางตอ้ งรู้ IP Address ของเครื่อง คอมพวิ เตอร์ปลายทางเสมอ และ เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ในเครือข่ายแต่ละเครือข่าย ตอ้ งรู้ IP Address ของอุปกรณ์กาํ หนดเสน้ ทางประจาํ เครือข่ายหรือ Default Gateway ของเครือข่ายน้นั ดว้ ยเช่นกนั