Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้

แผนการจัดการเรียนรู้

Published by bussakorn_t, 2021-09-14 07:44:18

Description: แผนการจัดการเรียนรู้

Search

Read the Text Version

บันทกึ ผลหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. ผลการสอน นกั เรยี นสามารถบอกความหมายของคำศพั ท์ ชว่ ยกนั สรปุ ใจความสำคญั ของเร่อื ง ทำแบบฝึกหัด รว่ มกนั จบั ใจความสำคญั (Main Idea) และตอบคำถามเกี่ยวกบั เร่ืองท่อี า่ นได้ 2. ปัญหา/อุปสรรค นกั เรียนบางคนเขา้ เรยี นแตไ่ ม่เปิดกลอ้ ง และไม่ร่วมกิจกรรม 3. ข้อเสนอแนะ แจง้ ครูท่ปี รกึ ษา ลงช่อื ครูผู้สอน (นางบศุ กร ไตรพัฒน)์ ตําแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู ำนาญการ



ใบงานท่ี 1 Pre-vocabulary Match the words to their definitions. 1. important a. an event in which people or teams compete with 2. competition each other to find out who is the best 3. talented b. a formal written, spoken or practical test, 4. musician especially at school or college, to see how much 5. exam you know about a subject, or what you can do 6. enjoy c. a period of time in which somebody is taught 7. lesson something d. having a natural ability to do something well e. to get pleasure from something f. a person who plays a musical instrument or writes music, especially as a job g. having a great effect on people or things; of great value

การประเมนิ ชิน้ งาน / ภาระงาน แบบประเมินงานเขียน ประเดน็ ระดับคะแนน / คำอธบิ ายระดบั คณุ ภาพ น้ำหนัก คะแนน รวม การประเมนิ 4 3 2 1 ความ 8 8 (ดมี าก) (ด)ี (พอใช)้ (ควรปรบั ปรุง) สำคญั 4 9. เนื้อหา เขยี นถกู ต้อง เขียนถกู ตอ้ ง เขียนผดิ บา้ ง และ เขียนผิดมาก 2 20 ครอบคลมุ ครอบคลมุ ไม่ครอบคลุม และใหข้ ้อมูล เนือ้ หาอย่าง เน้ือหาเป็นสว่ น เน้ือหา นอ้ ย สมบรู ณ์ ใหญ่ 10. คำศัพ ใชค้ ำศพั ท์ ใชค้ ำศัพท์ ใช้คำศพั ท์ ใชค้ ำศพั ท์ 2 ท์ สำนวน สำนวน และ สำนวน และ สำนวน และ สำนวน และ และ โครงสร้างภาษา โครงสรา้ งภาษา โครงสร้างภาษา โครงสร้างภาษา โครงสร้าง ถูกตอ้ ง ถูกต้องเหมาะสม แบบง่ายๆ และมี แบบง่ายๆ และมี ภาษา เหมาะสม และ ข้อผดิ บา้ ง ข้อผดิ มาก หลากหลาย 11. องคป์ ระ องค์ประกอบ องค์ประกอบ องค์ประกอบของ องคป์ ระกอบ 1 กอบ ของงานเขียน ของงานเขียน งานเขยี นนา่ สนใจ ของงานเขียน ของงาน แสดงใหเ้ ห็น มคี วามสมั พันธ์ ขาดความสมั พันธ์ ไม่นา่ สนใจ เขียน ความรเิ ร่ิม ตอ่ เนอ่ื ง ตอ่ เนอื่ ง สรา้ งสรรค์ น่าสนใจ มีความสมั พันธ์ ต่อเน่ือง นา่ สนใจ รวม 5 เกณฑก์ ารประเมนิ : นกั เรียนตอ้ งไดค้ ะแนนรวมไม่น้อยกว่า 60% หรือ 12 คะแนน จึงจะผา่ นเกณฑ์ วธิ คี ิดคะแนน: คา่ น้ำหนกั ความสำคัญ × ระดับคะแนนท่นี ักเรียนได้ = คะแนนรวม

แบบบันทึกการประเมินงานเขียน ลำดับ ประเด็น / คะแนน เนอ้ื หา คำศพั ท์ สำนวน องคป์ ระกอบ คะแน ท่ี และโครงสร้างภาษา ของงานเขยี น นรวม ช่อื - สกุล 8 8 4 20 ลงช่อื ...................................... ผปู้ ระเมิน (..............................................)

เฉลย แบบฝึกหดั ในหนงั สอื เรียน หนา้ 37-39 Vocabulary A 1. competition 2. violin 3. liked 4. important 5. tall B 1. very good at something 2. someone who plays a musical instrument 3. tests 4. had good fun doing something 5. time you spend with a teacher learning something In other words A 3 - To describe a young musician named Jennifer Pike. B 1. Paragraph 1 2. Paragraph 4 3. Paragraph 3 General understanding 1. T 2. T 3. F 4. F In detail 1. A music teacher. 2. Because she was much younger than the others. 3. Because she had to be careful not to hurt her hands. 4. At Oxford University. 5. She had to go back to school. In focus 1. 2002 2. 12 3. 5 4. 19 - 20 Taking you further 2. teacher 3. violin 4. talented 5. Wolfgang 6. Salzburg 7. piano 8. three

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 5 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 รายวชิ า ภาษาองั กฤษอา่ น-เขยี น 1 (อ30203) หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 English for entertainment เรอ่ื ง Karaoke กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) เวลาเรียน 2 ชวั่ โมง --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชว้ี ัด สาระท่ี 1: ภาษาเพื่อการส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอื่ งทฟี่ งั และอ่านจากส่ือประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน็ อย่างมีเหตุผล ต 1.1 (4) ระบหุ ัวขอ้ เรื่อง (topic) ใจความสำคัญ (main idea) และตอบคำถามจากการฟงั และอ่านบท สนทนา นิทาน และเรือ่ งส้ัน มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรู้สึก และความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ต 1.2 (4) พดู และเขียนเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มูล และแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกบั เรอ่ื งทฟ่ี ังหรืออา่ นอย่าง เหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรอื่ งตา่ งๆ โดยการพดู และ การเขียน ต 1.3 (2) พูด/เขยี นสรปุ ใจความสำคัญ/แก่นสาระ (theme) ท่ีไดจ้ ากการวเิ คราะห์เร่ือง/เหตุการณ์ ท่ีอยใู่ นความสนใจของสงั คม สาระที่ 4: ภาษากับความสัมพันธ์กับชมุ ชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทง้ั ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม ต 4.1 (1) ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกดิ ขน้ึ ในห้องเรยี น และสถานศึกษา 2. ความคิดรวบยอด การอา่ นเรือ่ งราวเกี่ยวกบั คาราโอเกะ แล้วสรุปใจความสำคญั วิเคราะหเ์ รอื่ ง โดยใช้ทกั ษะการอ่าน และการ คดิ รวมทัง้ การเขยี นแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคาราโอเกะ ทำให้ผเู้ รียนได้พัฒนาทักษะการเขยี นและการคดิ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา Language Features and Functions Vocabulary: คำศัพท์เกีย่ วกับคาราโอเกะ Grammar: Present simple tense Function: Expressing feelings and ideas I think… / In my opinion… / I like…

Language Skills การพูดถาม-ตอบ และแสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกบั เรื่องทอี่ ่าน Speaking: การอา่ นเน้ือเรอื่ งเพอื่ จบั ใจความสำคัญและตอบคำถาม Reading: การเขยี นตอบคำถามเก่ียวกบั เร่ืองทีอ่ า่ น และเขยี นแสดงความคิดเหน็ Writing: เกีย่ วกับคาราโอเกะ 4. ทักษะการคิด 3. ทกั ษะการนำความร้ไู ปใช้ 1. ทกั ษะการวเิ คราะห์ 2. ทกั ษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน 6. ชน้ิ งาน / ภาระงาน - งานเขียนแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกับคาราโอเกะ 7. การวดั และประเมินผล 7.1 การประเมินระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ - ตรวจแบบฝกึ หัดในหนงั สอื เรียน หนา้ 25-27 7.2 การประเมนิ ผลดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์และทักษะการคิด - ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ และประเมินทักษะการคดิ 7.3 การประเมนิ ช้นิ งาน / ภาระงาน - ประเมินการเขียนแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั คาราโอเกะ 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 8.1 ขั้นเตรยี มความพร้อมและทบทวนความรเู้ ดิม จุดประสงค์การเรยี นรู้ - สามารถคาดเดาเรือ่ งท่ีอ่านได้ 1. ครใู หน้ ักเรียนอ่านช่ือเรอ่ื งในหนังสือเรยี น หนา้ 24 แล้วถามว่า - Do you think what language is ‘karaoke’ from? - Who is your favourite singer? 2. ครถู ามคำถามนักเรยี นจากหนงั สือเรยี น หน้า 24 หัวขอ้ Before you read - Do you like singing?

- What is your favourite song? Have you ever sung it in front of a group of people? - Have you heard of karaoke? Have you ever sung karaoke? 3. ครูให้นักเรยี นลองเดาว่า วนั น้ีครจู ะสอนเกย่ี วกับเรื่องอะไรพจิ ารณาจากภาพประกอบและชอื่ เร่อื ง 8.2 ขัน้ ก่อนอา่ น จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - อา่ นออกเสียงและบอกความหมายของคำศพั ท์ได้ 1. ครใู ห้นักเรียนทำแบบฝกึ หดั คำศัพท์ก่อนเรยี น Pre-vocabulary (ใบงานที่ 1 ท้ายหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5) โดยครูถา่ ยเอกสารแจกนักเรยี น แล้วอธบิ ายคำสง่ั โดยใหน้ กั เรียนจับคคู่ ำศพั ท์และความหมายทีส่ มั พันธ์ กนั ครยู ำ้ ให้นกั เรยี นทำแบบฝึกหดั ด้วยตนเองโดยไม่ปรึกษาเพอ่ื น 2. ครูนำเสนอคำศัพท์จากเรอ่ื ง Karaoke ท่ีนักเรียนจะไดอ้ ่านในหนังสอื เรียน หนา้ 24 โดยเขียนคำศัพทบ์ น กระดาน แล้วอ่านออกเสียงให้นกั เรียนฟังและฝกึ ออกเสยี งตาม microphone excited pick up stage popular crowd famous จากนั้นครูให้นกั เรยี นช่วยกันบอกความหมายของคำศัพท์ โดยการเดาความหมายจากประโยคตัวอย่างท่ี ครูนำเสนอ microphone (n.) The interviewer asked her to speak into / use the microphone because he can’t hear her. excited (adj.) The children were excited about opening their presents. pick up (v.) She went over to the crying child and picked her up. stage (n.) The audience threw flowers onto the stage after the show had finished. popular (adj.) Skiing has become very popular recently. crowd (n.) Ken, a superstar, stayed in this hotel last week. He left the hotel surrounded by crowds of journalists. famous (adj.) J.K. Rowling became famous for her novels. Her novels were best sellers. 3. ครูสรุปความหมายของคำศัพทเ์ ปน็ ภาษาไทยใหน้ ักเรียนฟังอกี ครง้ั แลว้ ให้นกั เรยี นอา่ นคำศัพท์ พร้อม บอกความหมายพรอ้ มกนั microphone = ไมโครโฟน excite = ตืน่ เต้น pick up = หยบิ , เก็บ stage = เวที popular = เป็นท่ีนยิ ม crowd = ฝูงชน, กลุ่มคน famous = มีชอ่ื เสียง

4. ครใู ห้นกั เรียนรวบรวมใบงานคำศัพท์กอ่ นเรียน Pre-vocabulary ทีท่ ำเสรจ็ แลว้ สง่ ให้ครูตรวจความ ถูกตอ้ ง 1. d 2. c 3. a 4. f 5. g 6. e 7. b 5. ครทู บทวนหลกั ไวยากรณ์เรือ่ ง Present simple tense เพม่ิ เตมิ ดงั น้ี - Present simple tense ใช้แสดงถงึ เหตกุ ารณ์หรือการกระทำทเ่ี กิดขึ้นในปจั จุบนั และการกระทำทเี่ ปน็ กิจวตั ร (ทำเปน็ ประจำ) S + v.1 8.3 ขัน้ ระหว่างอา่ น จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - จบั ใจความสำคัญ (main idea) หาหวั ข้อเรอื่ ง (topic) และตอบคำถาม เกี่ยวกบั เรอ่ื งทอี่ ่าน 1. ครูใหน้ กั เรียนอ่านเนือ้ เรือ่ ง Karaoke ย่อหนา้ ที่ 1 ในหนงั สือเรียน หนา้ 24 แล้วครูเขยี นประโยคคำถาม บนกระดาน เมือ่ นักเรียนอ่านจบแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรยี นทีละคู่ ให้ตอบคำถามให้ถูกต้องตามเนือ้ เรื่อง - What did Tina Bonito use while she was singing? (A microphone.) - Where did Tina sing? (On a stage.) จากนั้นครูถามนกั เรยี นว่ายอ่ หน้าที่ 1 พูดเกยี่ วกบั ใคร แลว้ ครูเฉลยวา่ พดู ถึง Tina กำลงั รอ้ งคาราโอเกะ 2. ครูให้นกั เรยี นอา่ นเน้ือเรื่อง Karaoke ยอ่ หน้าท่ี 2 แล้วครูเขยี นประโยคคำถามบนกระดาน เมื่อนกั เรยี น อา่ นจบแล้ว ครใู หต้ อบคำถามใหถ้ ูกตอ้ งตามเน้ือเร่ือง - What does Tina do? (She is a university student.) - Where do Tina and her friends go to sing karaoke? (In Bath, England.) - How often do Tina and her friends go to the Karaoke Café? (Once a week.) จากน้ันครูถามนกั เรยี นวา่ ยอ่ หนา้ ที่ 2 นพี้ ูดถึงเรือ่ งใด แลว้ ครูเฉลยว่า ยอ่ หนา้ ท่ี 2 พดู ถงึ ชว่ งเวลาที่ Tina ร้องคาราโอเกะ 3. ครใู ห้นกั เรยี นอ่านเนือ้ เรอ่ื ง Karaoke ยอ่ หน้าท่ี 3 เม่ืออา่ นจบแล้วครูให้นักเรียนจบั คู่ข้อความให้สมั พันธ์ กันตามเนื้อเรอ่ื ง 1. The music plays on a CD… a. …you read the words. 2. While you sing a song… b. …in Japan. 3. There are thousands of… c. …when you sing karaoke. 4. Karaoke started in cafés d. …in America and Europe. and restaurants… e. …karaoke cafés and restaurants all over the 5. In 1980s karaoke became popular… world. Answers: 1. c 2. a 3. e 4. b 5. d

จากนน้ั ครูถามนกั เรียนว่า ย่อหนา้ ที่ 3 พดู ถงึ เร่ืองใด แล้วครเู ฉลยว่า พูดถึงความเป็นมาและลกั ษณะ ของคาราโอเกะ 4. ครูใหน้ กั เรียนอ่านเนอ้ื เรื่อง Karaoke ยอ่ หน้าท่ี 4 แลว้ ครเู ขยี นประโยคคำถามบนกระดาน เมือ่ นกั เรียน อา่ นจบแล้ว ครูให้ตอบคำถามใหถ้ ูกต้องตามเนอื้ เรือ่ ง - Who sang the song ‘I Will Survive’? (Jenny.) - Who is Jenny? (Tina’s friend.) - Was Tina excited to sing the song? (No.) จากนั้นครูถามนกั เรียนวา่ ยอ่ หน้าท่ี 4 พูดถึงเร่ืองใด แลว้ ครูเฉลยคำตอบวา่ พดู ถงึ Jenny รอ้ ง คาราโอเกะ 5. ครใู หน้ กั เรยี นอ่านเนื้อเร่ือง Karaoke ยอ่ หนา้ ท่ี 5 แล้วครูเขียนประโยคคำถามบนกระดาน เมอ่ื นักเรียน อ่านจบแลว้ ครใู ห้ตอบคำถามให้ถูกตอ้ งตามเนอื้ เรอ่ื ง - Who works at the Karaoke Café? (Dan Rice.) - Are there many kinds of people at the Karaoke Café? (Yes.) - Why do people come to the Karaoke Café although they aren’t all good singers? (Because they love about karaoke.) จากนน้ั ครถู ามนกั เรยี นว่า ยอ่ หน้าที่ 5 พดู ถงึ เร่อื งใด แลว้ ครูเฉลยว่าพูดถึง เหตุผลทคี่ นมาคาราโอเกะ หลกั การใช้ Present simple tense 1) เมื่อเหตกุ ารณ์ที่กลา่ วถึงเปน็ ความจริง เชน่ The earth moves around the sun. 2) ใช้กับเหตุการณท์ ก่ี ระทำอยู่เปน็ ประจำ เป็นนิสัย ในกรณีนมี้ ักจะมคี ำแสดงเวลา ร่วมอยดู่ ว้ ย คอื always, sometimes, generally, often, every day, every week, every month, etc. เช่น My son sometimes plays tennis with his father. ครใู ห้นกั เรยี นเลือกจากประโยคท่ีครูเขียนบนกระดานว่า ประโยคใดเปน็ Present tense และประโยคใด เปน็ Past tense โดยให้นักเรยี นขีดเสน้ ใต้คำกริยาของแต่ละประโยค และวงกลม คำบอกเวลาของแตล่ ะประโยค และให้เหตุผลวา่ ทำไมนกั เรียนจงึ คิดวา่ ประโยคน้ีเปน็ Present simple tense หรอื Past simple tense 1. She always went home late last month. 2. She always studies hard. 3. We left home at 6.30 yesterday. 4. Mary takes a bath three times a day. 5. I sometimes go shopping on Monday.

8.4 ขนั้ หลังการอา่ น จุดประสงค์การเรยี นรู้ - 1. ตอบคำถามเก่ยี วกับเรือ่ งทีอ่ ่านได้ 2. เขียนแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกบั การร้องคาราโอเกะ 10. นักเรียนทำแบบฝกึ หดั ในหนงั สอื เรียน หนา้ 25 โดยครูอธิบายคำสัง่ ดงั น้ี - กิจกรรม Vocabulary ขอ้ A ให้นักเรยี นเลือกคำท่ีกำหนดให้มาเตมิ ในประโยคให้ สมบูรณ์ โดยดจู ากความหมายของคำศพั ท์ และบรบิ ทในประโยค หรอื ใช้หลักไวยากรณ์ โดยดวู ่าคำทีจ่ ะเตมิ มหี น้าท่ีของคำเป็นอะไร แล้วครทู ำขอ้ 1 เป็นตัวอยา่ ง David is very about his holiday. He’s going to Disneyland. จากประโยคน้ี ตามหลักไวยากรณ์ very เปน็ คำกรยิ าวเิ ศษณ์ ใช้ขยายคำคุณศพั ท์ ดังนน้ั คำท่เี หมาะสมทจ่ี ะนำมาเติม คือ excited ซึ่งเปน็ คำคุณศัพท์ แปลว่า รสู้ ึกต่นื เตน้ - กิจกรรม Vocabulary ข้อ B ให้นักเรยี นเลือกคำหรือวลีทม่ี คี วามหมายเหมือนกบั คำที่ พิมพ์สฟี ้าในแตล่ ะประโยค โดยครูทำขอ้ 1 เปน็ ตวั อยา่ ง Everyone in the basketball team cheered when they won the game. จากความหมายของประโยค “ทกุ คนในทมี บาสเกตบอลโห่ร้องใหก้ ำลังใจ เมอ่ื พวกเราชนะการแข่งขัน” ดังน้ัน วลีท่ีมีความหมายเหมอื น cheered คอื shouted loudly because they were happy - กจิ กรรม In other words ข้อ A ให้นกั เรียนหาวา่ จดุ ประสงคห์ ลกั ของเรือ่ ง Karaoke คืออะไร - กจิ กรรม In other words ขอ้ B ให้นักเรยี นจบั คู่ topic กับย่อหน้าที่ 1-5 จากเร่อื ง Karaoke โดยพิจารณาวา่ แตล่ ะย่อหน้าพดู เก่ียวกบั เรื่องอะไร 11. นักเรยี นทำแบบฝึกหัดในหนังสือเรียน หนา้ 26 โดยครอู ธิบายการทำแบบฝกึ หัด ดังนี้ - กิจกรรม General understanding ให้นักเรยี นพจิ ารณาประโยคที่ให้มาว่าถูกต้องตาม เนือ้ เร่อื งทอ่ี ่านหรอื ไม่ ถา้ ถกู ต้องให้ตอบ T (True) ถา้ ไมถ่ กู ตอ้ งให้ตอบ F (False) - กิจกรรม In detail ให้นักเรียนตอบคำถามสั้นๆ เกยี่ วกบั เรอื่ ง Karaoke - กิจกรรม In focus ใหน้ ักเรยี นอา่ นขอ้ ความที่กำหนดให้ จากน้ันใหน้ ักเรยี นจับคขู่ อ้ ความ ใหถ้ กู ตอ้ ง โดยศึกษาจากเนอ้ื เรื่อง Karaoke เม่ือนักเรียนทำแบบฝกึ หดั เสรจ็ แล้ว ให้ชว่ ยกนั เฉลยคำตอบ และครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง 12. ครใู หน้ ักเรยี นอา่ นเกร็ดความรใู้ นการรอ้ งคาราโอเกะในหวั ขอ้ Taking you further หนังสอื เรยี น หน้า 27 เมอ่ื อา่ นจบแล้วครูถามนกั เรยี นวา่ ไดร้ บั ความรู้อะไรบา้ ง จากนั้นใหน้ ักเรียนทำกจิ กรรม Changing words โดยเปล่ียนคำศัพทจ์ ากคำว่า CAFÉ เปน็ คำวา่ SING ให้นกั เรียนใชค้ ำใบ้ที่ใหม้ าเพอ่ื หาคำศพั ทม์ า เตมิ ในช่องสเี่ หล่ยี ม และครูอธิบายว่าแต่ละคำจะเปลี่ยนอกั ษรเพียงหนึ่งตัวจากคำศัพท์ที่อยูด่ ้านบน ตวั อย่างเชน่ ขอ้ 1ไดค้ ำตอบวา่ CARE จากคำว่า CAFÉ ดา้ นบน โดยเปลีย่ นตัวอกั ษร 1 ตวั จาก F เป็น R เม่ือนกั เรยี นทำแบบฝึกหดั เสรจ็ แล้ว ให้ช่วยกนั เฉลยคำตอบ และครตู รวจสอบความถูกต้อง

4. ภาระงาน ครใู ห้นกั เรยี นเขียนแสดงความคิดเหน็ ว่าคาราโอเกะเปน็ ส่ิงจำเป็นหรือไม่ เพราะเหตุใด และ นักเรยี นชอบร้องคาราโอเกะหรือไม่ โดยเขยี นแสดงความคิดเหน็ ประมาณ 6-7 ประโยค เสรจ็ แลว้ ส่งใหค้ รูตรวจความถกู ต้อง 9. สือ่ / แหล่งการเรียนรู้ 9.1 ส่ือการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี น Focus on Reading 1 Unit 5 Karaoke 2. ใบงานท่ี 1 9.2 แหลง่ การเรียนรู้ - หอ้ งสมุด

บนั ทึกผลหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. ผลการสอน นกั เรียนสามารถอา่ นออกเสียงคำศพั ท์ และบอกความหมายของคำศัพท์ ร่วมทำกิจกรรมกลุ่มร่วมกัน ใน การหาความหมายของคำศพั ท์ แปลบทความ ตอบคำถามจากเนอื้ เร่ืองและรว่ มกนั สรปุ ใจความสำคัญและหาหวั ข้อ เรื่อง (Topic) ที่เหมาะสมได้ 2. ปญั หา/อปุ สรรค นักเรียนบางคนไมเ่ ข้าเรียน นกั เรยี นบางคนไม่สนใจทำกิจกรรม 3. ขอ้ เสนอแนะ ตดิ ตามกับเพอ่ื นและประสานกับครูท่ปี รกึ ษา ลงชือ่ ครูผู้สอน (นางบุศกร ไตรพัฒน์) ตําแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู ำนาญการ



ใบงานท่ี 1 Pre-vocabulary Match the words to their definitions. 1. microphone a. to take hold of somebody and lift them / it up 2.excite b. to be known about by many people 3.pick up c. to be happy, interested, or hopeful because something 4.stage good has happened or will happen 5.popular d. a thing that you use for making your voice louder 6.crowd when you are speaking or singing to an audience 7.famous e. a large number of people gathering together in a public place f. the raised area in a theatre which actors or singers stand on when they perform g. to be liked or enjoyed by a large number of people

การประเมินชน้ิ งาน / ภาระงาน แบบประเมนิ งานเขยี น ประเดน็ ระดับคะแนน / คำอธิบายระดับคุณภาพ น้ำหนัก คะแนน รวม การประเมนิ 4 3 2 1 ความ 8 8 (ดมี าก) (ด)ี (พอใช)้ (ควรปรับปรงุ ) สำคญั 4 12. เน้อื หา เขยี นถูกต้อง เขยี นถกู ตอ้ ง เขยี นผิดบา้ ง และ เขียนผดิ มาก 2 20 ครอบคลมุ ครอบคลมุ ไม่ครอบคลุม และใหข้ ้อมูล เนื้อหาอย่าง เนอ้ื หาเปน็ สว่ น เนอ้ื หา นอ้ ย สมบูรณ์ ใหญ่ 13. คำศพั ใชค้ ำศัพท์ ใชค้ ำศัพท์ ใช้คำศพั ท์ ใช้คำศพั ท์ 2 ท์ สำนวน สำนวน และ สำนวน และ สำนวน และ สำนวน และ และ โครงสร้างภาษา โครงสรา้ งภาษา โครงสรา้ งภาษา โครงสร้างภาษา โครงสรา้ ง ถกู ตอ้ ง ถูกต้องเหมาะสม แบบงา่ ยๆ และมี แบบง่ายๆ และมี ภาษา เหมาะสม และ ข้อผิดบา้ ง ข้อผดิ มาก หลากหลาย 14. องค์ประ องค์ประกอบ องค์ประกอบ องคป์ ระกอบของ องค์ประกอบ 1 กอบ ของงานเขียน ของงานเขียน งานเขยี นนา่ สนใจ ของงานเขียน ของงาน แสดงใหเ้ ห็น มคี วามสมั พนั ธ์ ขาดความสมั พันธ์ ไม่น่าสนใจ เขียน ความริเร่ิม ตอ่ เนอ่ื ง ต่อเนื่อง สรา้ งสรรค์ นา่ สนใจ มคี วามสมั พันธ์ ตอ่ เนอ่ื ง น่าสนใจ รวม 5 เกณฑ์การประเมนิ : นักเรียนตอ้ งไดค้ ะแนนรวมไม่นอ้ ยกว่า 60% หรือ 12 คะแนน จงึ จะผ่านเกณฑ์ วิธีคดิ คะแนน: คา่ น้ำหนกั ความสำคัญ × ระดับคะแนนทนี่ ักเรยี นได้ = คะแนนรวม

แบบบันทึกการประเมินงานเขียน ลำดับ ประเดน็ / คะแนน เนอ้ื หา คำศพั ท์ สำนวน องคป์ ระกอบ คะแน ท่ี และโครงสร้างภาษา ของงานเขยี น นรวม ช่อื - สกุล 8 8 4 20 ลงช่อื ...................................... ผปู้ ระเมิน (..............................................)

เฉลย แบบฝึกหัดในหนังสอื เรียน หนา้ 25-27 Vocabulary A 1. excited 2. stage 3. microphone 4. picked up 5. popular B 1. shouted loudly because they were happy 2. big group of people 3. known by many people 4. place where you can buy a cup of coffee or other drinks 5. place where people go to have a meal In other words A 1 - To explain how karaoke became popular. B 1. Paragraph 5 2. Paragraph 4 3. Paragraph 3 General understanding 1. F 2. T 3. F 4. F In detail 1. Friday night. 4. In the 1980s. 2. The Greatest Love of All. 5. I Will Survive. 3. In the 1970s. 6. All kinds of people. In focus 2. stage - The singer stands on it so that people can see him or her. 3. CD - The music from the song plays on it. 4. TV - The words of the song are shown on it. Changing words 2. fare 3. fire 4. fine 5. pine 6. pink 7. sink

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 6 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 รายวิชา ภาษาองั กฤษอา่ น-เขยี น 1 (อ30203) หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 English for entertainment เรอื่ ง Music at midnight กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) เวลาเรียน 2 ชว่ั โมง --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวช้ีวัด สาระที่ 1: ภาษาเพื่อการส่อื สาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรือ่ งทีฟ่ งั และอา่ นจากสือ่ ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเหน็ อยา่ งมเี หตุผล ต 1.1 (4) ระบุหวั ข้อเรื่อง (topic) ใจความสำคัญ (main idea) และตอบคำถามจากการฟังและอ่านบท สนทนา นทิ าน และเรื่องสน้ั มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสาร แสดงความร้สู กึ และความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ ต 1.2 (4) พดู และเขยี นเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มูล และแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกบั เรื่องท่ีฟงั หรืออ่านอยา่ ง เหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรือ่ งตา่ งๆ โดยการพดู และการ เขยี น ต 1.3 (2) พูด/เขียนสรปุ ใจความสำคัญ/แกน่ สาระ (theme) ท่ีได้จากการวิเคราะหเ์ รอื่ ง/เหตกุ ารณ์ ที่อยู่ในความสนใจของสังคม สาระที่ 4: ภาษากับความสมั พนั ธก์ บั ชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทง้ั ในสถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม ต 4.1 (1) ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองทีเ่ กดิ ขึ้นในหอ้ งเรยี น และสถานศกึ ษา 2. ความคิดรวบยอด การอ่านเรอ่ื งราวเกยี่ วกับอาชีพดเี จคล่นื วิทยขุ อง Tim Copeland แลว้ สรุปใจความสำคญั วเิ คราะหเ์ รื่อง โดยใชท้ กั ษะการอา่ นและการคิด รวมท้ังการเขียนตารางกจิ วัตรประจำวันของนักเรียน ทำใหผ้ ้เู รยี นไดพ้ ฒั นาทกั ษะ การเขียน 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า Language Features and Functions Vocabulary: คำศัพท์เก่ยี วกับชีวติ ประจำวันของ Tim Copeland Grammar: Present simple tense

Language Skills การพูดถาม-ตอบ และแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับเรอ่ื งทอี่ า่ น Speaking: การอา่ นเนือ้ เรอื่ งเพ่อื จบั ใจความสำคัญและตอบคำถาม Reading: การเขยี นตอบคำถามเก่ยี วกบั เรื่องท่ีอ่าน และเขียนนำเสนอข้อมูล Writing: 4. ทักษะการคิด 3. ทกั ษะการนำความรไู้ ปใช้ 1. ทกั ษะการวิเคราะห์ 2. ทักษะการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ 5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 6. ชน้ิ งาน / ภาระงาน - งานเขยี นตารางกิจวัตรประจำวันของนกั เรียน 7. การวดั และประเมินผล 7.1 การประเมนิ ระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ - ตรวจแบบฝึกหัดในหนงั สอื เรยี น หนา้ 29-31 7.2 การประเมนิ ผลด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์และทกั ษะการคิด - ประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ และประเมินทกั ษะการคิด 7.3 การประเมินช้ินงาน / ภาระงาน - ประเมนิ งานเขียนตารางกิจวตั รประจำวันของนกั เรียน 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ 8.1 ข้ันเตรียมความพร้อมและทบทวนความร้เู ดมิ จุดประสงค์การเรยี นรู้ - สามารถคาดเดาเร่ืองที่อ่านได้ 1. ครใู หน้ ักเรียนดูภาพในหนังสอื เรยี น หนา้ 28 แลว้ ถามว่า T: What do you want to do in the future? Ss: Students’ own answers 2. ครถู ามคำถามนักเรียนจากหนังสอื เรียน หน้า 28 หวั ข้อ Before you read - Do you like listening to the radio? What is your favourite radio station? - Do you have a favourite radio disc jockey? Why do you like him / her? - When do you usually listen to the radio? 3. ครูใหน้ กั เรยี นลองเดาว่า วนั นี้ครูจะสอนเก่ยี วกับเร่อื งอะไร โดยพจิ ารณาจากชอ่ื เรื่องและภาพประกอบ

8.2 ขั้นกอ่ นอ่าน จุดประสงค์การเรยี นรู้ - อา่ นออกเสียงและบอกความหมายของคำศัพท์ได้ 1. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หดั คำศพั ท์กอ่ นเรียน Pre-vocabulary (ใบงานที่ 1 ท้ายหน่วยการเรยี นรู้ท่ี 6) โดยครถู า่ ยเอกสารแจกนักเรียน แล้วอธบิ ายคำสง่ั โดยใหน้ กั เรียนจบั คูค่ ำศพั ท์และความหมายท่สี ัมพันธ์ กัน ครูยำ้ ใหน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหดั ดว้ ยตนเองโดยไม่ปรกึ ษาเพ่อื น 2. ครนู ำเสนอคำศัพท์จากเร่ือง Music at midnight ท่ีนกั เรียนจะได้อ่านในหนงั สอื เรยี น หน้า 28 โดยเขยี น คำศพั ท์บนกระดาน แลว้ อา่ นออกเสียงใหน้ ักเรยี นฟงั และฝึกออกเสียงตาม show daytime wake up midnight favourite university enjoy จากนั้นครูให้นกั เรยี นชว่ ยกนั บอกความหมายของคำศัพท์ โดยการเดาความหมายจากประโยคตวั อย่างที่ ครูนำเสนอ show (n.) The senator appeared on the CBS show ‘Face the Nation’. daytime (n.) I can’t sleep in the daytime because of the sunlight. wake up (v.) Wake up! It’s seven o’clock. You have to go to school. midnight (n.) Cinderella must leave the party before midnight. favourite (n.) Can I have strawberries? They’re my favourite. university (n.) He studied Physics at Chulalongkorn University. enjoy (v.) I enjoy playing tennis and squash. I play it every week. 3. ครูสรปุ ความหมายของคำศพั ทเ์ ป็นภาษาไทยให้นักเรยี นฟังอีกครง้ั แลว้ ใหน้ ักเรียนอา่ นคำศัพท์ พร้อม บอกความหมายพรอ้ มกนั show = การแสดง daytime = เวลากลางวนั wake up = ตนื่ นอน midnight = 24:00 น. / เท่ียงคืน favourite = ของโปรด, ของชอบ university = มหาวทิ ยาลัย enjoy = สนกุ สนาน 4. ครใู ห้นักเรยี นดูแบบฝึกหัดคำศัพท์กอ่ นเรียน Pre-vocabulary ท่นี ักเรยี นทำเสรจ็ แลว้ และชว่ ยกันเฉลย คำตอบ 1. d 2. a 3. f 4. g 5. b 6. e 7. c

5. ครูทบทวนหลักไวยากรณ์เรอ่ื ง Present simple tense เพ่มิ เติม ดงั น้ี - Present simple tense ใช้แสดงถงึ เหตุการณห์ รือการกระทำทเี่ กิดข้ึนในปจั จุบัน และการกระทำท่เี ปน็ กิจวตั ร (ทำเป็นประจำ) หลักการเปลี่ยนคำกรยิ า รปู คำกริยา (Verb Form) คือ คำกริยาช่องท่ี 1 ซึ่งมหี ลักการใช้ ดงั น้ี 1) ถา้ ประธานเปน็ I / We / You / They หรือพหพู จน์ คำกริยาไม่ตอ้ งเติม s เช่น I sing songs. (ฉนั รอ้ งเพลง) We sing songs. (พวกเรารอ้ งเพลง) You sing songs. (คุณรอ้ งเพลง) They sing songs. (พวกเขาร้องเพลง) Two birds sing songs. (นก 2 ตัว ร้องเพลง) 2) ถา้ ประธานเปน็ He / She / It หรอื เอกพจน์ คำกรยิ าตอ้ งเติม s เช่น He sings songs. (เขารอ้ งเพลง) She sings songs. (หล่อนร้องเพลง) It sings songs. (มนั รอ้ งเพลง) A bird sings songs. (นก 1 ตัว รอ้ งเพลง) หลกั การเตมิ s ท้ายคำกรยิ า 1) คำกรยิ าที่ลงท้ายดว้ ย o, ss, x, ch, sh ตอ้ งเติม es เชน่ go ---> goes (ไป) pass ---> passes (ผ่าน) fix ---> fixes (ซ่อมแซม, ติด) reach ---> reaches (ถงึ ) wash ---> washes (ลา้ ง, ซัก) 2) คำกรยิ าที่ลงทา้ ยด้วย y ใหพ้ ิจารณาดังน้ี - ถ้าตัวอกั ษรท่อี ยหู่ น้า y เปน็ พยญั ชนะต้องเปลยี่ น y เปน็ i กอ่ น แล้วจงึ เติม es เชน่ try ---> tries (พยายาม) cry ---> cries (รอ้ งไห้) - ถ้าตวั อักษรท่ีอย่หู นา้ y เป็นสระ (a, e, i, o, u) ใหเ้ ตมิ s ได้เลย เชน่ play ---> plays (เลน่ ) enjoy ---> enjoys (สนุก, พอใจ) 3) คำกริยาที่ไม่มลี กั ษณะพิเศษตามข้อ 1 และ 2 ใหเ้ ติม s ไดท้ นั ที เชน่ walk ---> walks (เดิน) run ---> runs (วิ่ง) 8.3 ขัน้ ระหวา่ งอา่ น จุดประสงค์การเรียนรู้ - จับใจความสำคัญ (main idea) หาหวั ข้อเรอื่ ง (topic) และตอบคำถาม เกีย่ วกบั เรอ่ื งทอ่ี ่าน 1. ครูให้นกั เรยี นจับคู่ อ่านเนอ้ื เร่ือง Music at midnight ยอ่ หน้าท่ี 1 ในหนังสือเรียน หนา้ 28 แลว้ ครู เขยี นประโยคบนกระดาน เมอ่ื นกั เรยี นอา่ นจบแลว้ ครูสมุ่ เรียกนักเรียนทีละคู่ ให้ตอบว่าประโยคใดถกู

หรือผิด ถ้าประโยคใดถูกใหต้ อบ True แตถ่ ้าประโยคใดผิดให้ตอบ False พร้อมทั้งแก้ไขประโยคให้ ถูกตอ้ ง - Tim Copeland starts working at 12:00 am. (False.) - His duty is opening the songs for audience. (True.) 2. ครูให้นกั เรยี นจับค่เู ดมิ อ่านเน้อื เรอ่ื ง Music at midnight ยอ่ หน้าท่ี 2 แลว้ ครูเขยี นข้อความบนกระดาน ใหน้ ักเรยี นเตมิ ขอ้ ความให้ถกู ต้องตามเนอื้ เรอื่ ง Tom is a (1) . He has (2) in San Diego. His show starts at (3) and ends 6 am. He loves pop music. He got (4) at radio station 2JAY FM when he left university. Answers: 1. DJ 2. a radio show 3. midnight 4. a job 3. ครใู หน้ ักเรยี นจบั คู่เดิม อา่ นเนือ้ เรอื่ ง Music at midnight ย่อหนา้ ที่ 3 แลว้ ครเู ขยี นประโยคบนกระดาน เมื่อนักเรยี นอา่ นจบแล้ว ครสู ่มุ เรยี กนักเรยี นทีละคู่ ให้ตอบว่าประโยคใดถูกหรือผิด ถา้ ประโยคใดถกู ให้ตอบ True แตถ่ ้าประโยคใดผิดให้ตอบ False พร้อมทง้ั แกไ้ ขประโยคใหถ้ ูกตอ้ ง - Tim isn’t happy when he works at midnight. (False.) - Tim favourite’s singers are Beyoncé and Kings of Leon only. (False.) 4. ครูให้นกั เรียนจับคเู่ ดิม อ่านเนื้อเรอ่ื ง Music at midnight ย่อหนา้ ท่ี 4 แลว้ ครเู ขยี นคำถามบนกระดาน ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามให้ถกู ต้อง - Why do people telephone to Tim? (Because they ask Tim to play their favourite song.) - Is Tim happy with his job? (Yes, he is.) 5. ครูใหน้ กั เรียนจับค่เู ดิม อ่านเน้ือเรื่อง Music at midnight ย่อหน้าท่ี 5 แล้วครเู ขยี นประโยคบนกระดาน เมอ่ื นกั เรยี นอ่านจบแลว้ ครสู ุ่มเรียกนกั เรียนทีละคู่ ให้ตอบวา่ ประโยคใดถูกหรือผิด ถ้าประโยคใดถกู ใหต้ อบ True แต่ถ้าประโยคใดผิดให้ตอบ False พร้อมทง้ั แกไ้ ขประโยคให้ถูกตอ้ ง - Tim has breakfast before he goes to work. (False.) - Tim sleeps during the time that people work. (True.) - Tim sleeps for 8 hours a day. (False.) 8.4 ขน้ั หลงั การอ่าน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - 1. ตอบคำถามเกีย่ วกับเรื่องที่อ่านได้ 2. เขยี นตารางกิจวัตรประจำวนั ของนักเรยี น 1. นักเรียนทำแบบฝึกหดั ในหนังสือเรียน หนา้ 29 โดยครอู ธิบายคำสงั่ ดังนี้ - กิจกรรม Vocabulary ข้อ A ให้นักเรยี นเลอื กคำท่กี ำหนดใหม้ าเติมในประโยคให้ สมบรู ณ์ โดยดจู ากความหมายของคำศพั ท์ และบริบทในประโยค หรอื ใชห้ ลักไวยากรณ์

โดยดวู า่ คำทจี่ ะเติมมีหนา้ ท่ีของคำเป็นอะไร แลว้ ครูทำข้อ 1 เปน็ ตวั อย่าง My dad to the news on the radio every morning. จากประโยค พ่อของฉัน .............. ข่าวทางวทิ ยทุ ุกเชา้ ตามหลกั ไวยากรณ์ My dad เป็นประธานของประโยค จะต้องตามดว้ ยคำกริยา (v) และในประโยคมีคำวา่ every day ซึ่งเป็น Present simple tense ประธานเป็น เอกพจน์ กรยิ าตอ้ งเติม s ดังนน้ั คำท่ีเหมาะสมที่จะนำมาเตมิ คือ listens แปลวา่ ฟัง - กิจกรรม Vocabulary ข้อ B ใหน้ ักเรยี นเลอื กคำหรือวลีทีม่ คี วามหมายเหมอื นกับคำที่ พิมพส์ ีฟ้าในแต่ละประโยค โดยครูทำข้อ 1 เปน็ ตัวอยา่ ง Pete always has toast for breakfast. He has it every morning. จากความหมายของประโยค “พีทปง้ิ ขนมปงั สำหรบั อาหารเช้าเสมอ เขากนิ มันทกุ เช้า” ดังน้นั วลีที่มีความหมายเหมอื น breakfast คอื the first meal of the day - กิจกรรม In other words ข้อ A ใหน้ ักเรียนหาวา่ จดุ ประสงคห์ ลกั ของเร่ือง Music at midnight คืออะไร - กจิ กรรม In other words ข้อ B ใหน้ กั เรยี นจับคู่ topic กบั ยอ่ หน้าท่ี 1-5 จากเรอื่ ง Music at midnight โดยพจิ ารณาวา่ แตล่ ะย่อหน้าพดู เกี่ยวกับเรื่องอะไร 2. นักเรียนทำแบบฝกึ หดั ในหนังสือเรยี น หนา้ 30 โดยครอู ธบิ ายการทำแบบฝกึ หัด ดังน้ี - กิจกรรม General understanding ใหน้ ักเรยี นพจิ ารณาประโยคท่ีใหม้ าว่าถูกต้องตาม เน้อื เร่ืองที่อ่านหรือไม่ ถ้าถกู ตอ้ งใหต้ อบ T (True) ถา้ ไมถ่ กู ตอ้ งให้ตอบ F (False) - กิจกรรม In detail ให้นักเรียนตอบคำถามส้นั ๆ เกี่ยวกับเรอ่ื ง Music at midnight - กิจกรรม In focus ใหน้ ักเรียนอ่านกจิ วัตรท่ี Tina ทำ แล้วเติมเวลาให้สอดคลอ้ งกบั กิจวตั รที่ทำ โดยศกึ ษาจากเน้ือเร่ือง Music at midnight เมอ่ื นักเรียนทำแบบฝกึ หัดเสรจ็ แล้ว ให้ช่วยกันเฉลยคำตอบ และครตู รวจสอบความถกู ตอ้ ง 3. ครูให้นักเรียนอา่ นบทวิจารณเ์ พลงในหวั ขอ้ Taking you further ในหนังสอื เรียน หน้า 31 เมือ่ นกั เรยี น อ่านจบแล้วให้ช่วยกนั สรปุ วา่ เป็นการวจิ ารณ์เพลงของใคร เสร็จแลว้ ครูสรุปให้นกั เรียนฟงั วา่ ใจความของ บทความคอื บทวิจารณ์เกีย่ วกับ CD เพลงท่ชี ื่อวา่ Bionic รอ้ งโดย Christina Aguilera เป็นบทวจิ ารณ์ ทางอนิ เทอรเ์ น็ต จากนนั้ ให้นักเรียนเตมิ บทวิจารณ์ของแอนด้ีใหส้ มบรู ณ์ด้วยคำทก่ี ำหนดให้ เม่อื นกั เรยี น ทำแบบฝึกหดั เสร็จแลว้ ให้ช่วยกันเฉลยคำตอบ และครตู รวจสอบความถกู ตอ้ ง 4. ภาระงาน ครูใหน้ กั เรยี นเขียนตารางกจิ วตั รประจำวนั ของนักเรียน โดยดูตัวอย่างตารางในกิจกรรม In focus หนงั สือเรียน หนา้ 30 9. ส่อื / แหลง่ การเรียนรู้ 9.1 สือ่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี น Focus on Reading 1 Unit 6 Music at midnight 2. ใบงานท่ี 1 9.2 แหล่งการเรยี นรู้ - ห้องสมุด

บันทกึ ผลหลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ผลการสอน นกั เรยี นสามารถตอบคำถามจากเรอ่ื งท่ีอา่ นและแปลความหมาย รวมทัง้ สามารถบอกช่อื ดเี จท่ีมีชื่อเสียง และอธิบายถึงลักษณะงานทที่ ำได้ นักเรยี นสามารถเขียนกิจวตั รประจำวนั ของตนเองตามโครงสรา้ งของ Present Simple Tense ได้ 2. ปญั หา/อุปสรรค นักเรยี นบางคนไมเ่ ขา้ เรียน 3. ข้อเสนอแนะ ตดิ ตามกับเพ่อื นและประสานกับครูที่ปรึกษา ลงชอื่ ครูผู้สอน (นางบุศกร ไตรพฒั น)์ ตําแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู ำนาญการ



ใบงานท่ี 1 Pre-vocabulary Match the words to their definitions. 1.show a. the period during the day between the time when 2.daytime it gets light and the time when it gets dark 3.wake up b. something that you like more than other things 4.midnight of the same kind 5.favourite c. to get pleasure from something 6.university d. programme on television or on the radio 7.enjoy e. an institution at the highest level of education where you can study for a degree or do a research f. to stop sleeping; to make somebody stop sleeping g. 12 o’clock at night

การประเมินชน้ิ งาน / ภาระงาน แบบประเมนิ งานเขยี น ประเดน็ ระดับคะแนน / คำอธิบายระดับคุณภาพ น้ำหนัก คะแนน รวม การประเมิน 4 3 2 1 ความ 8 (ดมี าก) (ด)ี (พอใช)้ (ควรปรับปรงุ ) สำคญั 8 15. เน้อื หา เขยี นถูกต้อง เขียนถกู ตอ้ ง เขยี นผิดบา้ ง และ เขียนผดิ มาก 2 4 ครอบคลมุ ครอบคลมุ ไม่ครอบคลุม และให้ข้อมูล 20 เนื้อหาอยา่ ง เนื้อหาเปน็ สว่ น เนอ้ื หา นอ้ ย สมบูรณ์ ใหญ่ 16. คำศพั ใชค้ ำศัพท์ ใชค้ ำศัพท์ ใช้คำศพั ท์ ใช้คำศพั ท์ 2 ท์ สำนวน สำนวน และ สำนวน และ สำนวน และ สำนวน และ และ โครงสร้างภาษา โครงสรา้ งภาษา โครงสรา้ งภาษา โครงสร้างภาษา โครงสรา้ ง ถกู ตอ้ ง ถูกต้องเหมาะสม แบบงา่ ยๆ และมี แบบงา่ ยๆ และมี ภาษา เหมาะสม และ ข้อผิดบา้ ง ข้อผดิ มาก หลากหลาย 17. องค์ประ องค์ประกอบ องคป์ ระกอบ องคป์ ระกอบของ องค์ประกอบ 1 กอบ ของงานเขียน ของงานเขียน งานเขยี นนา่ สนใจ ของงานเขยี น ของงาน แสดงใหเ้ ห็น มคี วามสมั พนั ธ์ ขาดความสมั พันธ์ ไม่น่าสนใจ เขยี น ความริเร่ิม ตอ่ เนอ่ื ง ต่อเนื่อง สรา้ งสรรค์ น่าสนใจ มีความสมั พันธ์ ต่อเนอ่ื ง น่าสนใจ รวม 5 เกณฑ์การประเมนิ : นักเรียนตอ้ งไดค้ ะแนนรวมไม่นอ้ ยกว่า 60% หรือ 12 คะแนน จึงจะผ่านเกณฑ์ วิธีคดิ คะแนน: คา่ น้ำหนกั ความสำคัญ × ระดับคะแนนทนี่ ักเรยี นได้ = คะแนนรวม

แบบบันทึกการประเมินงานเขียน ลำดับ ประเด็น / คะแนน เนอ้ื หา คำศพั ท์ สำนวน องคป์ ระกอบ คะแน ท่ี และโครงสร้างภาษา ของงานเขยี น นรวม ช่อื - สกลุ 8 8 4 20 ลงช่อื ...................................... ผู้ประเมิน (..............................................)

เฉลย แบบฝึกหดั ในหนงั สือเรียน หนา้ 29-31 Vocabulary A 1. listens 2. radio station 3. show 4. daytime 5. wakes up B 1. the first meal of the day 2. twelve o’clock at night 3. something you like best 4. a place you go to study after high school 5. likes very much In other words A 1 - To describe Tim Copeland’s job. B 1. Paragraph 5 2. Paragraph 2 3. Paragraph 1 General understanding 1. F 2. T 3. T 4. T In detail 1. Beyoncé. 2. A DJ. 3. 2JAY FM. 4. To have a radio show in the daytime. 5. Because they ask him to play their favourite song or they want to talk to him. 6. He has breakfast and then sleep. In focus 2. 8 a.m. 3. 3 p.m. 1. 6 a.m. 4. 12 p.m. Taking you further a. love b. best c. beautifully d. amazing e. must

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 7 รายวิชา ภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน 1 (อ30203) ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 English from animals เรอ่ื ง Baby elephants กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) เวลาเรยี น 2 ชว่ั โมง --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด สาระท่ี 1: ภาษาเพือ่ การสอื่ สาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งทฟ่ี งั และอา่ นจากสื่อประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมเี หตุผล ต 1.1 (4) ระบุหวั ขอ้ เรอื่ ง (topic) ใจความสำคัญ (main idea) และตอบคำถามจากการฟังและอ่านบท สนทนา นิทาน และเรื่องสน้ั มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และความคิดเหน็ อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ต 1.2 (4) พดู และเขียนเพ่อื ขอและให้ข้อมูล และแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกบั เรอ่ื งที่ฟังหรอื อา่ นอย่าง เหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่างๆ โดยการพดู และการ เขียน ต 1.3 (2) พูด/เขยี นสรุปใจความสำคัญ/แกน่ สาระ (theme) ที่ไดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ ร่ือง/เหตกุ ารณ์ ทอี่ ย่ใู นความสนใจของสังคม สาระท่ี 3: ภาษากบั ความสัมพันธก์ ับกลุ่มสาระการเรียนรอู้ ่ืน มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเช่ือมโยงความรกู้ ับกลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ่นื และเป็นพ้ืนฐานในการ พฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศน์ของตน ต 3.1 (1) คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจริงทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น จากแหล่งการเรียนรู้ และนำเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน สาระที่ 4: ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม ต 4.1 (1) ใชภ้ าษาส่อื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองท่เี กดิ ขึ้นในหอ้ งเรยี น และสถานศึกษา มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาต่างประเทศเปน็ เครือ่ งมอื พื้นฐานในการศึกษาตอ่ การประกอบอาชพี และการแลกเปล่ียนเรียนรู้กับสงั คมโลก ต 4.2 (1) ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นคว้าความร/ู้ ขอ้ มูลตา่ งๆ จากสอ่ื และ แหลง่ การเรียนร้ตู ่างๆ ในการศึกษาตอ่ และประกอบอาชีพ

2. ความคิดรวบยอด การอ่านเร่ืองราวเก่ียวกบั การดำรงชีวติ ของลกู ชา้ ง แลว้ สรุปใจความสำคัญ วิเคราะห์เร่อื ง โดยใช้ทักษะการ อ่าน และการคดิ รวมทัง้ ให้นักเรยี นคน้ ควา้ รวบรวมข้อมูลเกีย่ วกบั สตั ว์ทีน่ ักเรยี นชอบ พรอ้ มทั้งเขยี นบอกเหตุผล ทำ ให้ผเู้ รยี นได้พัฒนาทักษะการเขียนและการคิด 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า Language Features and Functions Vocabulary: คำศพั ท์เกย่ี วกบั วิถีการดำรงชีวิตของชา้ ง Grammar: Present continuous tense Function: Expressing feelings and ideas I think… / I like… Language Skills Speaking: การพดู ถาม-ตอบ และแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกบั เร่ืองที่อ่าน Reading: การอ่านเนือ้ เร่อื งเพอ่ื จบั ใจความสำคัญและตอบคำถาม Writing: การเขียนตอบคำถามเกี่ยวกบั เร่อื งทีอ่ ่าน และเขยี นนำเสนอขอ้ มูล 4. ทักษะการคิด 3. ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มูล 1. ทกั ษะการวิเคราะห์ 4. ทกั ษะการนำความรู้ไปใช้ 2. ทักษะการคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ 5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ม่งุ ม่ันในการทำงาน 1. มวี นิ ยั 6. ช้นิ งาน / ภาระงาน - งานเขียนเกีย่ วกบั สัตว์ท่นี ักเรยี นชืน่ ชอบ พรอ้ มบอกเหตผุ ล 7. การวัดและประเมินผล 7.1 การประเมินระหวา่ งการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ - ตรวจแบบฝกึ หัดในหนังสือเรยี น หนา้ 41-43 7.2 การประเมินผลด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคแ์ ละทกั ษะการคิด - ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ และประเมินทกั ษะการคดิ 7.3 การประเมนิ ชิน้ งาน / ภาระงาน - ประเมนิ งานเขียนเก่ียวกับสตั ว์ท่นี กั เรียนช่ืนชอบ พร้อมบอกเหตผุ ล

8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 8.1 ขั้นเตรยี มความพร้อมและทบทวนความรเู้ ดิม จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - สามารถคาดเดาเร่อื งท่ีอ่านได้ 1. ครใู ห้นักเรียนดูภาพในหนังสอื เรยี น หน้า 40 แล้วถามวา่ T: What can you see in the picture? Ss: Elephants. T: What do they eat? Ss: Students’ own answers 2. ครถู ามคำถามนักเรียนจากหนังสือเรยี น หน้า 40 หัวข้อ Before you read - Have you ever seen an elephant? Where did you see it? - Where do elephants live? - Why do people like elephants? 3. ครใู ห้นักเรยี นลองเดาว่า วันนี้ครูจะสอนเก่ียวกับเรอ่ื งอะไรโดยดูภาพประกอบ 8.2 ข้นั ก่อนอา่ น จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - อ่านออกเสยี งและบอกความหมายของคำศพั ท์ได้ 1. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หดั คำศัพทก์ ่อนเรียน Pre-vocabulary (ใบงานท่ี 1 ท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 9) โดยครถู า่ ยเอกสารแจกนักเรยี น แล้วอธบิ ายคำส่ัง โดยให้นักเรยี นจับคคู่ ำศพั ท์และความหมายทส่ี ัมพันธ์ กัน ครยู ้ำให้นกั เรยี นทำแบบฝึกหัดดว้ ยตนเองโดยไม่ปรกึ ษาเพอ่ื น 2. ครนู ำเสนอคำศัพท์จากเร่อื ง Baby elephants ที่นกั เรยี นจะได้อา่ นในหนงั สอื เรียน หน้า 40 โดยเขียน คำศัพท์บนกระดาน แลว้ อ่านออกเสยี งให้นกั เรียนฟงั และฝกึ ออกเสียงตาม hold look after climb noise trunk welcome close จากนนั้ ครูให้นักเรยี นชว่ ยกนั บอกความหมายของคำศพั ท์ โดยการเดาความหมายจากประโยคตวั อย่างท่ี ครูนำเสนอ hold (v.) He was holding the baby in his arms. look after (phr v.) Who’s going to look after your children while you’re away? climb (v.) The wall is too high to climb over. noise (n.) I was woken by the noise of a car starting up last night. trunk (n.) The elephant sucked up water into its trunk. welcome (v.) It is a pleasure to welcome you to our home. close (adj.) John’s house is close to mine. We go to school together.

3. ครูสรปุ ความหมายของคำศพั ท์เป็นภาษาไทยให้นักเรียนฟงั อีกครง้ั แล้วใหน้ กั เรียนอ่านคำศพั ท์ พร้อม บอกความหมายพร้อมกัน hold = ถอื , จับ look after = ดูแล climb = ปีน middle = ตรงกลาง noise = เสียง trunk = งวง (ชา้ ง) welcome = ตอ้ นรบั close = ใกล้ 4. ครูใหน้ กั เรียนรวบรวมใบงานคำศพั ทก์ ่อนเรยี น Pre-vocabulary ท่ที ำเสรจ็ แลว้ ส่งให้ครตู รวจความ ถกู ตอ้ ง 1. b 2. e 3. h 4. a 5. d 6. c 7. f 8. g 5. ครทู บทวนหลกั ไวยากรณ์เรื่อง Present continuous tense เพมิ่ เตมิ ดงั น้ี - Present continuous tense ใช้แสดงถงึ เหตกุ ารณ์หรอื การกระทำที่กำลังเกดิ ขน้ึ โครงสรา้ งประโยค 1) บอกเล่า S + v.to be + v.ing + (object). Ex. Many students are coming to school now. 2) ปฏเิ สธ S + v.to be + not + v.ing + (object). Ex. Many students are not coming to school now. 3) คำถาม v.to be + s + v.ing + (object)? Ex. Are many students coming to school now? Yes, they are. / No, they are not / aren’t. 8.3 ขั้นระหวา่ งอา่ น จุดประสงค์การเรียนรู้ - จบั ใจความสำคญั (main idea) หาหัวขอ้ เรือ่ ง (topic) และตอบคำถาม เก่ียวกับเร่ืองทอ่ี ่าน 1. ครใู ห้นกั เรยี นอ่านเนือ้ เรื่อง Baby elephants ย่อหน้าท่ี 1 ในหนังสือเรียน หนา้ 40 แล้วครูเขยี น ประโยคบนกระดาน เมื่อนักเรียนอ่านจบแลว้ ครสู มุ่ เรียกนกั เรียนทีละคนตอบว่าประโยคถูกหรอื ผิด ถ้า ประโยคใดถกู ให้ตอบ True แตถ่ า้ ประโยคใดผดิ ใหต้ อบ False พร้อมทง้ั แก้ไขประโยคให้ถกู ต้อง - The elephants are ignored when a baby elephant is born. (False.) - The elephants make lots of noise because a baby elephant is born. (True.) - When a baby elephant is born, the elephants go to the forest. (False.) จากนัน้ ครูใหน้ กั เรียนชว่ ยกันสรุปวา่ ยอ่ หนา้ น้ีพูดถงึ เรื่องอะไรเป็นภาษาไทย

2. ครใู หน้ กั เรยี นอา่ นเน้อื เรื่อง Baby elephants ย่อหนา้ ที่ 2 แล้วครเู ขยี นประโยคบนกระดาน เมื่อ นักเรยี นอา่ นจบแล้ว ครูใหต้ อบว่าประโยคถูกหรอื ผิด ถ้าประโยคใดถูกให้ตอบ True แตถ่ ้าประโยคใดผิด ใหต้ อบ False พรอ้ มทง้ั แก้ไขประโยคใหถ้ กู ต้อง - A baby elephant is 30 times bigger than a human baby. (False.) - Baby elephants drink a litre of milk per hour. (False.) จากนั้นครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั สรุปวา่ ในย่อหน้านี้พดู ถงึ เรอื่ งอะไรเปน็ ภาษาไทย 3. ครูให้นกั เรยี นอ่านเนอ้ื เรื่อง Baby elephants ยอ่ หนา้ ที่ 3 แลว้ ครูเขยี นประโยคบนกระดาน เมอื่ นักเรยี นอา่ นจบแลว้ ครูสุ่มเรยี กนกั เรียนทลี ะคน ให้ตอบว่าประโยคใดถูกหรอื ผิด ถ้าประโยคใดถกู ให้ตอบ True แตถ่ ้าประโยคใดผิดให้ตอบ False พร้อมทั้งแกไ้ ขประโยคให้ถูกตอ้ ง - A baby elephant is looked after by a mother elephant carelessly. (False.) - A mother elephant moves her baby under a giant tree if the sun is very hot. (False.) - If a baby elephant can’t do anything, its mother always helps it. (True.) จากนั้นครูใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันสรุปวา่ ย่อหน้าน้ีพูดถึงเร่อื งอะไรเปน็ ภาษาไทย 4. ครูให้นักเรยี นอา่ นเนื้อเรือ่ ง Baby elephants ย่อหน้าท่ี 4 เมอ่ื นักเรียนอ่านจบแลว้ ครใู หน้ ักเรียนปิด หนังสอื แลว้ เติมข้อความบนกระดานให้ถูกตอ้ งดว้ ยคำทก่ี ำหนดให้ the middle food and water stand close together tail Elephants walk from place to place looking for (1) ................................ . The baby holds. its mother’s (2) ...................................... when they are walking. If a lion comes close to them, the elephants stop and (3) ………………. with the babies in (4) ........................... . Answers: 1. food and water 2. tail 3. stand close together 4. the middle จากนัน้ ครูใหน้ กั เรยี นช่วยกนั สรุปว่าในยอ่ หนา้ นี้พดู ถงึ เรอ่ื งอะไรเป็นภาษาไทย 5. ครใู หน้ ักเรียนอา่ นเนอื้ เรื่อง Baby elephants ยอ่ หน้าที่ 5 แล้วครเู ขยี นประโยคบนกระดาน เมื่อ นกั เรยี นอ่านจบแลว้ ครูสุ่มเรยี กนกั เรยี นทีละคนตอบวา่ ประโยคถกู หรอื ผิด ถ้าประโยคถูกให้ตอบ True แต่ถ้าประโยคผิดให้ตอบ False พร้อมทงั้ แกไ้ ขประโยคให้ถูกตอ้ ง - The elephants really like to play in water. (True.) - The baby elephants are happy when they find water. (True) จากนน้ั ครสู ุม่ เรียกนักเรียนทลี ะคู่ ใหช้ ว่ ยกนั สรุปว่าในยอ่ หนา้ น้ี พดู ถึงเร่ืองอะไรเปน็ ภาษาไทย หลกั การใช้ Present continuous tense 1) เมอื่ การกระทำดำเนินอยใู่ นปัจจุบัน (ขณะพูด) เช่น My uncle is listening to the radio. (ลงุ ของผมกำลงั ฟังวทิ ย)ุ

2) การกระทำทเ่ี กดิ ขึ้น ต้องเกิดข้ึนขณะน้นั จริง เช่น More and more people are using Internet. (ผู้คนเรม่ิ เลน่ อนิ เทอรเ์ น็ตมากข้ึนทุกท)ี 3) แสดงเหตุการณ์ในอนาคต เกดิ ขึน้ แนน่ อน เช่น We are planning to go to the beach next week. (พวกเราวางแผนจะไปเท่ยี ว ทะเลอาทิตย์หนา้ ) 4) ถา้ ประโยคเชื่อมดว้ ย and (2 ประโยค) ให้ตัด verb to be ท่ีอยหู่ ลงั and ออก เช่น My father is smoking a cigarette and watching television. (คณุ พอ่ ของฉันกำลงั สูบบุหร่ีและดูโทรทศั น์) 8.4 ขน้ั หลังการอา่ น จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - 1. ตอบคำถามเกย่ี วกับเรอ่ื งทอ่ี ่านได้ 2. เขยี นและนำเสนอขอ้ มลู 13. นักเรียนทำแบบฝกึ หดั ในหนงั สอื เรียน หน้า 41 โดยครอู ธิบายคำสั่ง ดงั น้ี - กิจกรรม Vocabulary ข้อ A ให้นักเรยี นเลือกคำท่กี ำหนดใหม้ าเตมิ ในประโยคให้ สมบรู ณ์ โดยดูจากความหมายของคำศัพท์ และบรบิ ทในประโยค หรอื ใช้หลักไวยากรณ์ โดยดวู ่าคำที่จะเตมิ มหี น้าที่ของคำเป็นอะไร แล้วครทู ำข้อ 1 เปน็ ตวั อย่าง Jason kicked his football into Mr King’s garden. So he the fence to go and get it. ตามหลกั ไวยากรณห์ ลังประธานจะตอ้ งตามดว้ ยคำกรยิ า (verb) ดงั น้ัน คำท่ีเหมาะสม ทีจ่ ะนำมาเตมิ คอื climbed over แปลว่า ปนี - กิจกรรม Vocabulary ข้อ B ใหน้ ักเรยี นเลือกคำหรือวลีทม่ี ีความหมายเหมอื นกับคำท่ี พมิ พ์สีฟา้ ในแต่ละประโยค โดยครูทำขอ้ 1 เปน็ ตัวอย่าง Did you hear that noise? I think there’s someone at the door. จากความหมายของประโยค “คุณได้ยินเสียงน่ันไหม? ฉนั คิดว่ามีใครบางคนอย่ทู ี่ ประตู” ดังนนั้ วลีที่มีความหมายเหมือน noise คือ something you hear - กจิ กรรม In other words ข้อ A ให้นกั เรยี นหาวา่ จดุ ประสงค์หลักของเรอื่ ง Baby elephants คืออะไร - กิจกรรม In other words ขอ้ B ใหน้ ักเรียนจบั คู่ topic กบั ยอ่ หน้าท่ี 1-5 จากเรอื่ ง Baby elephants โดยพจิ ารณาวา่ แต่ละย่อหน้าพดู เกี่ยวกับเรื่องอะไร 14. นักเรียนทำแบบฝึกหัดในหนังสอื เรยี น หนา้ 42 โดยครูอธิบายการทำแบบฝึกหัด ดังนี้ - กิจกรรม General understanding ให้นกั เรียนพจิ ารณาประโยคที่ให้มาว่าถูกต้องตาม เน้อื เรือ่ งทีอ่ า่ นหรือไม่ ถา้ ถกู ต้องให้ตอบ T (True) ถา้ ไมถ่ ูกตอ้ งให้ตอบ F (False) - กจิ กรรม In detail ให้นักเรียนตอบคำถามสนั้ ๆ เก่ยี วกบั เรือ่ ง Baby elephants

- กิจกรรม In focus ให้นกั เรียนอา่ นขอ้ ความที่กำหนดให้ แล้วจับคู่ข้อความให้ถูกต้องโดยศกึ ษาจาก เนื้อเร่ือง Baby elephants เมื่อนกั เรยี นทำแบบฝึกหดั เสร็จแลว้ ให้ช่วยกนั เฉลยคำตอบ และครตู รวจสอบความถูกต้อง 15. ครใู หน้ กั เรียนอา่ นขอ้ ความในหัวข้อ Taking you further ในหนังสือเรยี น หนา้ 43 แลว้ บอกว่าขอ้ ความ เก่ยี วกับอะไร และครสู รปุ ให้นักเรียนฟงั วา่ ใจความของขอ้ ความทเี่ ขียนก็คอื เรอื่ งขำขนั เก่ยี วกบั ช้าง จากนน้ั ครใู ห้นกั เรียนทำกิจกรรม Your turn โดยครูอธบิ ายวา่ ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามเร่อื งขำขนั เกี่ยวกบั ชา้ ง โดยใช้ตวั เลือกทีก่ ำหนดให้ เมื่อนักเรยี นทำแบบฝกึ หดั เสรจ็ แลว้ ให้ช่วยกันเฉลยคำตอบ และครู ตรวจสอบความถกู ต้อง 16. ภาระงาน ครูใหน้ ักเรยี นค้นคว้า รวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกบั สัตว์ท่นี ักเรยี นชืน่ ชอบจากแหล่งการเรยี นรู้ตา่ งๆ แล้ว เขียนสรุปข้อมูล พร้อมบอกเหตุผลท่ีชอบสตั ว์ชนิดนน้ั เม่อื เขยี นเสร็จแลว้ ส่งใหค้ รตู รวจความถกู ต้อง แลว้ ครูสุ่มเรยี กนักเรียน 3-4 คน ออกมาพดู นำเสนอหนา้ ชน้ั เรียน 9. สือ่ / แหล่งการเรยี นรู้ 9.1 สอ่ื การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน Focus on Reading 1 Unit 9 Baby elephants 2. ใบงานที่ 1 9.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1. หอ้ งสมดุ 2. แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - เวบ็ ไซต์ http://animals.nationalgeographic.com/animals/

บันทกึ ผลหลังการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ผลการสอน นักเรยี นสามารถทำงานเปน็ ทมี แบง่ งานกนั ทำ ร่วมกนั ตอบคำถามจากเนอื้ เร่ือง Baby Elephants เขียนประโยคนำเสนอ หัวข้อ สัตว์ท่ตี นเองช่นื ชอบพรอ้ มบอกเหตุผลประกอบสั้นๆได้ นักเรยี นสามารถอา่ นออกเสยี งรายบคุ คลได้ 2. ปัญหา/อปุ สรรค นกั เรียนบางคนไมเ่ ข้าเรียน 3. ขอ้ เสนอแนะ ตดิ ตามกบั เพอื่ นและประสานกับครูทป่ี รึกษา ลงช่อื ครูผู้สอน (นางบุศกร ไตรพัฒน)์ ตําแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู ำนาญการ



ใบงานที่ 1 Pre-vocabulary Match the words to their definitions. 1.hold a. the part of something that is at an equal distance 2.look after from all its edges or sides 3.climb b. to carry something; to have someone / somebody 4.middle in your hand/arms, etc 5.noise c. the very long nose of an elephant 6.trunk d. a sound, especially when it is loud, unpleasant 7.welcome or disturbing 8.close e. to take care of somebody / something f. to be pleased that somebody has come or has joined an organisation, activity, etc. g. not far away h. to move up, down, or across something using your feet and hands

การประเมินชน้ิ งาน / ภาระงาน แบบประเมนิ งานเขยี น ประเดน็ ระดับคะแนน / คำอธิบายระดับคุณภาพ น้ำหนัก คะแนน รวม การประเมิน 4 3 2 1 ความ 8 8 (ดมี าก) (ด)ี (พอใช)้ (ควรปรับปรงุ ) สำคญั 4 18. เน้อื หา เขยี นถกู ต้อง เขียนถกู ตอ้ ง เขยี นผิดบา้ ง และ เขียนผดิ มาก 2 20 ครอบคลมุ ครอบคลมุ ไม่ครอบคลุม และให้ข้อมูล เนื้อหาอย่าง เนื้อหาเปน็ สว่ น เนอ้ื หา นอ้ ย สมบูรณ์ ใหญ่ 19. คำศพั ใชค้ ำศพั ท์ ใชค้ ำศัพท์ ใช้คำศพั ท์ ใช้คำศพั ท์ 2 ท์ สำนวน สำนวน และ สำนวน และ สำนวน และ สำนวน และ และ โครงสร้างภาษา โครงสรา้ งภาษา โครงสรา้ งภาษา โครงสร้างภาษา โครงสรา้ ง ถกู ตอ้ ง ถกู ต้องเหมาะสม แบบงา่ ยๆ และมี แบบงา่ ยๆ และมี ภาษา เหมาะสม และ ข้อผิดบา้ ง ข้อผดิ มาก หลากหลาย 20. องค์ประ องคป์ ระกอบ องคป์ ระกอบ องคป์ ระกอบของ องค์ประกอบ 1 กอบ ของงานเขียน ของงานเขียน งานเขยี นนา่ สนใจ ของงานเขยี น ของงาน แสดงใหเ้ ห็น มคี วามสมั พนั ธ์ ขาดความสมั พันธ์ ไม่น่าสนใจ เขียน ความรเิ ร่ิม ตอ่ เนอ่ื ง ต่อเนื่อง สรา้ งสรรค์ น่าสนใจ มคี วามสมั พันธ์ ตอ่ เนอ่ื ง น่าสนใจ รวม 5 เกณฑ์การประเมิน: นกั เรียนต้องไดค้ ะแนนรวมไม่นอ้ ยกว่า 60% หรือ 12 คะแนน จงึ จะผ่านเกณฑ์ วิธีคดิ คะแนน: คา่ น้ำหนกั ความสำคัญ × ระดับคะแนนทนี่ ักเรยี นได้ = คะแนนรวม

แบบบันทึกการประเมินงานเขียน ลำดับท่ี ประเด็น / คะแนน เนื้อหา คำศพั ท์ สำนวน องคป์ ระกอบ คะแน และโครงสร้างภาษา ของงานเขยี น นรวม ชื่อ - สกุล 8 8 4 20 ลงช่อื ...................................... ผู้ประเมิน (..............................................)

เฉลย แบบฝึกหัดในหนงั สือเรียน หนา้ 41-43 Vocabulary A 1. climbed over 2. times 3. middle 4. hold 5. look after B 1. something that you hear 2. the long thin part at the end of an animal’s body 3. an elephant’s long nose 4. show that you are happy to see someone 5. near In other words A 2 - To describe how mother and baby elephants live. B 1. Paragraph 3 2. Paragraph 1 3. Paragraph 4 General understanding 1. F 2. T 3. F 4. F In detail 1. The family is excited. 2. Twenty-eight times bigger than a human baby. 3. She moves the baby under her body. 4. Other young elephants. 5. When the elephants are walking. 6. In the middle of all the elephants. In focus 1. b 2. c 3. a 4. d Taking you further (Your turn) 1. d 2. d 3. e 4. a 5. c 6. b

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 8 รายวิชา ภาษาองั กฤษอา่ น-เขียน 1 (อ30203) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 3 English from animals เรอื่ ง The giant panda กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) เวลาเรยี น 2 ช่วั โมง --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชว้ี ัด สาระที่ 1: ภาษาเพ่ือการส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่อื งทฟ่ี งั และอา่ นจากสื่อประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น อยา่ งมีเหตุผล ต 1.1 (4) เลอื กหัวข้อเรือ่ ง ใจความสำคญั บอกรายละเอยี ดสนบั สนุน (supporting detail) และแสดง ความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั เร่ืองที่ฟงั และอ่าน พร้อมทง้ั ให้เหตุผลและยกตัวอยา่ งงา่ ยๆ ประกอบ มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรู้สกึ และความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ต 1.2 (4) พดู และเขียนเพอ่ื ขอและใหข้ ้อมูล บรรยาย และแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับเร่อื งทีฟ่ ังหรืออ่าน อยา่ งเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องตา่ งๆ โดยการพดู และเขียน ต 1.3 (2) พดู และเขียนสรุปใจความสำคญั /แกน่ สาระ หัวขอ้ เร่อื ง (topic) ที่ไดจ้ ากการวิเคราะห์เรอ่ื ง/ขา่ ว/ เหตกุ ารณท์ ี่อยู่ในความสนใจของสังคม สาระที่ 3: ภาษากบั ความสมั พนั ธ์กบั กลมุ่ สาระการเรียนร้อู นื่ มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเช่อื มโยงความรกู้ บั กลุ่มสาระการเรียนรูอ้ ่ืน และเปน็ พืน้ ฐานในการ พฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศนข์ องตน ต 3.1 (1) คน้ คว้า รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ข้อเท็จจรงิ ที่เกยี่ วขอ้ งกับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อน่ื จากแหลง่ เรยี นรู้ และนำเสนอด้วยการพูด/การเขียน สาระท่ี 4: ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั ชมุ ชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ท้ังในสถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม ต 4.1 (1) ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองทีเ่ กดิ ข้ึนในหอ้ งเรียน สถานศกึ ษา และ ชมุ ชน มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศเป็นเครอ่ื งมอื พน้ื ฐานในการศกึ ษาต่อ การประกอบอาชพี และการแลกเปลีย่ นเรยี นรู้กับสังคมโลก ต 4.2 (1) ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ /ค้นคว้า รวบรวม และสรุปความรู้/ข้อมูลตา่ งๆ จากสื่อและแหล่งการเรยี นรตู้ ่างๆ ในการศกึ ษาต่อและประกอบอาชพี

2. ความคิดรวบยอด การอ่านเร่ืองเกีย่ วกบั แพนด้าและสาเหตทุ ี่ทำให้แพนดา้ ใกลส้ ูญพันธ์ุ แลว้ วิเคราะห์เรอื่ ง ตอบคำถาม และสรปุ เรอ่ื ง โดยใชท้ กั ษะการอา่ นและการคดิ นอกจากนผี้ ู้เรียนยังได้ค้นควา้ รวบรวม สรุปข้อมลู เกย่ี วกบั สัตว์ที่ใกล้สญู พนั ธุ์ ชนิดอ่ืน แล้วสรุปความโดยเขยี นนำเสนอขอ้ มูล ทำใหผ้ ู้เรียนไดพ้ ฒั นาทักษะการอา่ น การคดิ และการเขยี น 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา Language Features and Functions Vocabulary: คำศัพท์เก่ียวกับพฤตกิ รรมของแพนดา้ สาเหตุท่ที ำใหใ้ กลส้ ูญพันธุ์ และการปกปอ้ งไมใ่ หส้ ญู พันธุ์ Function: Expressing feelings and ideas I think… / In my point of view… / In my opinion… Language Skills Speaking: การพดู ตอบคำถามเก่ียวกับเร่ืองทอี่ ่าน Reading: การอ่านเน้ือเรอื่ งเพื่อจบั ใจความสำคญั และตอบคำถาม Writing: การเขียนตอบคำถามเก่ยี วกับเรอ่ื งที่อา่ น และเขียนสรุปขอ้ มูลเก่ียวกับสัตว์ ทใี่ กล้สูญพนั ธ์ุ 4. ทกั ษะการคิด 3. ทักษะการรวบรวมขอ้ มูล 1. ทกั ษะการวเิ คราะห์ 4. ทกั ษะการนำความรู้ไปใช้ 2. ทักษะการคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ 5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 6. ชนิ้ งาน / ภาระงาน - การเขยี นสรปุ ข้อมลู เกย่ี วกบั สตั วท์ ี่ใกล้สูญพนั ธุ์ 7. การวดั และประเมนิ ผล 7.1 การประเมินระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ - ตรวจแบบฝกึ หัดในหนงั สอื เรียน หนา้ 41-43 - ประเมินการทำงานกล่มุ

7.2 การประเมินผลดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์และทักษะการคิด - ประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และประเมินทักษะการคดิ 7.3 การประเมนิ ชิ้นงาน / ภาระงาน - ประเมินการเขยี นสรุปข้อมูลเกย่ี วกบั สตั ว์ทใ่ี กล้สญู พันธุ์ 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 8.1 ขน้ั เตรยี มความพรอ้ มและทบทวนความรู้เดมิ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - สามารถคาดเดาเรอ่ื งทอ่ี า่ นได้ 1. ครูให้นักเรยี นดูภาพในหนังสือเรยี น หน้า 40 แล้วถามคำถามต่อไปน้ี T: What can you see in the picture? Ss: A panda. T: What country do you think pandas live in? Ss: China. 2. ครูใหน้ กั เรียนตอบคำถามจากหัวขอ้ Before you read หนงั สือเรียน หน้า 40 โดยครูอ่านคำถามให้ นกั เรยี นฟงั ทีละข้อ - Have you ever been to a zoo? - What animals live in the zoo? - Were there any endangered animals in the zoo? จากนั้นให้นกั เรียนลองเดาว่า วันน้ีนักเรียนจะไดอ้ า่ นเก่ียวกับเรอื่ งอะไร โดยพจิ ารณาจากภาพและช่ือ เรอื่ ง 8.2 ข้นั ก่อนอา่ น จุดประสงค์การเรียนรู้ - อ่านออกเสียงและบอกความหมายของคำศัพท์ได้ 1. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หดั คำศัพทก์ อ่ นเรียน Pre-vocabulary (ใบงานที่ 1 ท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 9) โดยครูถ่ายเอกสารใบงานแจกใหน้ ักเรยี นทกุ คน แล้วใหน้ กั เรยี นจบั คูค่ ำและความหมายท่ีสมั พันธ์กนั 2. ครนู ำเสนอคำศพั ท์จากเร่ือง The giant panda ในหนังสอื เรียน หน้า 40 โดยครูเขยี นคำศัพท์บน กระดาน แล้วออกเสยี งใหน้ ักเรยี นฟงั ทีละคำ ใหน้ ักเรยี นออกเสยี งตามพร้อมกนั destroy illegal extinct symbol diet habitat rare valuable

จากน้นั ครูให้นกั เรียนชว่ ยกันบอกความหมายของคำศัพท์ โดยการเดาความหมายจากประโยคตัวอย่างทค่ี ร นำเสนอ destroy (v.) Humans cut down trees. This destroys home of animals. illegal (adj.) There is a sign ‘No parking’ here, so it is illegal to park a car. extinct (adj.) Mammoths are never found today. It became extinct thousand years ago. symbol (n.) Jasmine is the symbol of Mother’s Day. diet (n.) Rice is a Thai’s diet. Noodle is a Chinese’s diet. habitat (n.) The mountains are bears’ habitat. They live there. rare (adj.) Pandas are rare animals. There are only about two thousand pandas in the world. valuable (adj.) The diamond is a valuable stone. It is very expensive. 3. ครูบอกความหมายของคำศพั ท์เป็นภาษาไทยให้นักเรียนฟงั อีกครง้ั แล้วให้นักเรียนอา่ นคำศัพท์ พร้อม บอกความหมายพร้อมกัน destroy = ทำลาย diet = อาหาร illegal = ผดิ กฎหมาย habitat = ถนิ่ ทอ่ี ยู่ extinct = สูญพันธุ์ rare = ซ่ึงหายาก, นอ้ ย symbol = สัญลักษณ์ valuable = ซ่งึ มีราคา, ซึ่งมคี า่ 4. ครูใหน้ ักเรยี นรวบรวมใบงานคำศัพท์ก่อนเรยี น Pre-vocabulary ทนี่ ักเรยี นทำเสร็จแล้ว ส่งใหค้ รูตรวจ ความถกู ต้อง 1. b 2. g 3. a 4. f 5. h 6. c 7. d 8. e 8.3 ขัน้ ระหวา่ งอ่าน จุดประสงค์การเรยี นรู้ - 1. จบั ใจความสำคัญ (main idea) หาหวั ข้อเรอื่ ง (topic) ตง้ั คำถามและ ตอบคำถามเก่ียวกับเร่ืองทีอ่ า่ น 2. เขยี นสรปุ เรอื่ งทอี่ ่าน 1. ครูเขียน topic 3 หวั ข้อ บนกระดาน แลว้ อธิบายวา่ เปน็ topic ของเน้ือเรอื่ งแต่ละย่อหน้า จากเร่อื ง The giant panda - Reasons why the giant panda is endangered - The World Wildlife Fund - Facts about the giant panda

2. ครูให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กล่มุ ละ 3-5 คน แล้วให้นักเรยี นอา่ นเน้ือเร่อื ง The giant panda ย่อหนา้ ที่ 1 ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 40 เม่อื อ่านจบแล้วครถู ามคำถามนักเรยี นทีละกลุ่ม - What is the duty of the World Wildlife Fund? (Protesting animals all over the world.) - What is the symbol of the World Wildlife Fund? (The giant panda.) จากนนั้ ครูถามนักเรียนว่าเนอื้ เรอ่ื งย่อหน้าที่ 1 ตรงกบั topic ใด ตามท่ีครเู ขยี นบนกระดาน แล้วครูเฉลย วา่ ย่อหน้าที่ 1 พดู ถึง The World Wildlife Fund 3. ครูใหน้ กั เรยี นกลมุ่ เดิมอ่านเน้อื เรอื่ ง The giant panda ยอ่ หน้าที่ 2 เม่ืออ่านจบแลว้ ครูถามคำถาม นกั เรยี นทลี ะกลุ่ม - What do giant pandas look like? (They have black and white coat. They are almost 2 metres long and they weigh about 160 kilograms.) - Where do the live? (High up on mountains in China.) - What is their diet? (Bamboo and small animals.) - Why do they have very strong mouths? (Because they eat bamboo.) - How long is their life if they live in the wild? (About fifteen years.) - How long is their life if they live in the zoo? (Twenty years.) จากนั้นครูถามนักเรยี นวา่ เน้อื เรื่องย่อหนา้ ท่ี 2 ตรงกบั topic ใด แลว้ ครูเฉลยวา่ ย่อหนา้ ท่ี 2 พดู ถึง Facts about the giant panda. 4. ครใู ห้นกั เรยี นกล่มุ เดิมอ่านเนอ้ื เรื่อง The giant panda ย่อหนา้ ที่ 3 เม่ืออ่านจบแลว้ ครูถามคำถาม นักเรียนทีละกลมุ่ - How many giant pandas left in the world? (About two thousand.) - Why are giant pandas endangered? (Because people destroyed their habitats and killed them.) - Why do people kill giant pandas? (Because their black and white coats are very valuable.) - Are giant pandas protected animals? (Yes, they are.) จากนน้ั ครูถามนักเรียนวา่ เน้อื เรื่องย่อหนา้ ท่ี 3 ตรงกบั topic ใด แลว้ ครเู ฉลยวา่ ยอ่ หน้าที่ 3 พดู ถงึ Reasons why the giant panda is endangered.

5. เมอื่ นักเรยี นอา่ นเนอื้ เรือ่ งครบทกุ ย่อหน้าแล้ว ครูใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ชว่ ยกันสรปุ เร่อื ง The giant panda แลว้ ใหแ้ ต่ละกลุม่ ออกมาเขยี นสรปุ บนกระดาน แล้วครูตรวจความถูกต้อง Suggested summarising The World Wildlife Fund protects animals all over the world. Its symbol is a giant panda. The giant pandas are 2 metres long and they weigh about 160 kilograms. They live high up on mountains in China. Their diet is bamboo and small animals. There are only about two thousand giant pandas in the world. They are endangered because people destroyed their habitats and killed them for their black and white coats. Now giant pandas are protected animals. It is illegal to kill them. 6. ครถู ามนักเรยี นว่า จากเร่อื งทอ่ี า่ นไดก้ ลา่ วถึงองค์กรหนึง่ ทใี่ หค้ วามชว่ ยเหลือสัตว์ ใหน้ กั เรยี นตอบวา่ คอื องคก์ รใด แล้วครูเฉลยว่า คือ World Wildlife Fund จากน้ันครูให้ความรูเ้ พ่ิมเติมแก่นักเรยี นเกยี่ วกบั World Wildlife Fund องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือกองทุนสัตว์ป่าโลก (World Wildlife Fund; WWF) เป็นองคก์ ารอนุรักษ์ส่ิงแวดลอ้ มระหว่างประเทศ โดยยบั ยั้งการทำลายส่ิงแวดล้อม และ สนับสนุนให้มนุษย์อยู่ร่วมกับธรรมชาติ และใช้พลังงานทดแทน ปจั จุบนั เน้นการทำงานในด้าน ปา่ ไม้ ระบบนเิ วศน์วิทยาของพืน้ น้ำ มหาสมุทร รวมท้งั ชายฝั่งทะเล สัตว์ใกล้สูญพนั ธ์ุ การบำบัด สารพิษทเ่ี กิดจากสารเคมี กองทุนสตั ว์ปา่ โลกก่อต้งั เมื่อวนั ท่ี 11 กนั ยายน พ.ศ. 2504 ท่เี มือง Morges ประเทศ สวติ เซอร์แลนด์ ในประเทศไทยมีสำนักงานต้ังอยู่ทีอ่ าคาร Outreach ภายในสถาบนั เทคโนโลยี แห่งเอเชีย มีสำนักงานสาขาเพื่อดำเนินการและกิจกรรมด้านการอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อมเชิงปลุก จิตสำนึก และให้ความรู้อยู่หลายแห่ง เช่น ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบกบางปูเฉลิมพระ เกยี รติ 72 พรรษามหาราชนิ ี จงั หวัดสมุทรปราการ ทมี่ า: http://en.wikipedia.org/wiki/World_Wide_Fund_for_Nature


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook