การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบระบบ System Analysis And Design 1
ระบบ (SYSTEM) กลุ่มองคป์ ระกอบตา่ งๆ ทม่ี ีความสมั พนั ธ์กนั และทางานรว่ มกัน เพือ่ จุดประสงค์อันเดยี วกัน ถกู กาหนดด้วยขอบเขต แตล่ ะขอบเขตเรยี กวา่ ระบบย่อย ตัวอยา่ ง : 2 ระบบคอมพิวเตอร์ ประกอบดว้ ยองค์ประกอบหลัก 3 สว่ น คอื ฮารด์ แวร์ ซอฟต์แวร์และบุคลากร ทั้งสามส่วนน้ตี อ้ งทางานร่วมกัน เพ่ือใหบ้ รรลุวัตถปุ ระสงค์ของการทางานอย่างใดอย่างหนึ่ง ในการประมวลผลด้วยคอมพวิ เตอร์
ระบบธรุ กิจ (BUSINESS SYSTEM) 3 ระบบทท่ี างานเพือ่ จุดประสงคด์ า้ นธรุ กจิ ซึง่ มีจุดประสงค์ แตกต่างๆกันออกไป ระบบธรุ กิจมกั แบ่งย่อยๆลงไปไดอ้ กี - ระบบ ย่อยๆ มารวมกนั เปน็ ระบบใหญ่ เชน่ ระบบการผลิต ระบบการตลาด ระบบบญั ชี ระบบ คลงั สินค้า ระบบงานบุคคล หรืออน่ื ๆ รวมกนั เปน็ ระบบธุรกจิ นักวเิ คราะหต์ ้องทราบขั้นตอนการทางานในระบบท่ไี ด้รับมอบหมายและ ทาความเขา้ ใจใหด้ ี
การทางานของระบบธุรกิจ แต่ละระบบยอ่ ยลว้ นแตม่ ีความสัมพนั ธ์กนั ในดา้ นกิจกรรมและด้านการ 4 แลกเปลีย่ นขอ้ มลู -สารสนเทศ ระบบธรุ กิจต้องอาศัยขอ้ มลู จากสงิ่ แวดลอ้ มภายนอก (Environment) เพอื่ ชว่ ยในการตดั สนิ ใจทางานด้านตา่ งๆ เชน่ สภาพอากาศ ภมู ิประเทศ สภาพเศรษฐกิจ สงั คม ฯลฯ ปัจจยั เหล่าน้ลี ้วนสง่ ผลต่อการดาเนินงานทางธรุ กิจ กรรมวธิ ีการดาเนินงานภายในระบบธุรกิจทีด่ ี ต้องมรี ะบบย่อยท่ี สามารถทางานรว่ มกันได้เปน็ อย่างดีเสยี ก่อน หากระบบยอ่ ยระบบใด ระบบหนึ่งทางานไดไ้ มด่ ี จะส่งผลกระทบต่อระบบยอ่ ยอ่ืนๆทเ่ี กย่ี วข้อง สัมพนั ธ์กนั ไปเรอื่ ยๆ ทงั้ ระบบ
แนวทางการศึกษาระบบต่างๆ 5 เม่อื มกี ารศกึ ษาระบบงานใดๆ ควรพิจารณาจากมมุ มองทัง้ 4 คอื What ระบบทาอะไร - วัตถุประสงค์ของระบบคืออะไร มี แผนงานอยา่ งไรเพ่อื นาไปสคู่ วามสาเรจ็ Who ทาโดยใคร - มบี ุคคลหรอื คณะใดรบั ผดิ ชอบการทางาน When ทาเมือ่ ไร – การดาเนินงานและผลสาเรจ็ ของงานจะ เกิดข้นึ เมือ่ ใด มีตารางการทางานแต่ละสว่ นเปน็ อยา่ งไร How ทาอยา่ งไร – มีวิธีการทางานเปน็ อยา่ งไร ใชเ้ คร่อื งมอื ใด เพื่อทางานใหส้ าเร็จไดอ้ ยา่ งรวดเรว็
ประเภทของระบบ มี 2 ประเภท ระบบปดิ (Closed System) ไมม่ ีปฏิสมั พันธก์ ับภายนอกระบบ เปน็ ระบบทีม่ ีการควบคมุ การทางาน และ การแก้ไขด้วยตัวของระบบเอง ระบบนี้ต้องมี มาตรฐาน (Standards) รองรับการทางานของระบบ ระบบเปดิ (Open System) มีปฏสิ ัมพันธก์ ับภายนอกระบบ เป็นระบบทีต่ อ้ งอาศยั ปัจจัยภายนอกมาชว่ ยควบคมุ การทางาน โดย ปัจจัยภายนอกนี้เรียกว่า Feedback จะส่งผลการตอบรับจากภายนอก ระบบกลบั มาให้ระบบทราบถึงการทางานของระบบเอง 6
ตวั อย่าง การควบคุมของระบบปดิ 7 บริษัทมกี ารควบคุมการสง่ั ซือ้ สินคา้ โดย เมื่อสินคา้ ในมอื มจี านวนต่ากว่าที่ กาหนด จะออกรายการส่งั ซ้ือสินคา้ ทันที ** การควบคุมระบบปดิ ท่ีดี ต้องมี การตรวจในตวั เอง(Self regulation) และการปรับปรุงในตัว (Self adjustment) ตัวอย่าง การควบคมุ ของระบบเปดิ บรษิ ทั ขายสินคา้ หรอื บรกิ าร ในราคาสงู แตค่ ุณภาพตา่ ยอดขาย คือ ตัว Feedback จาเป็นตอ้ งมีการปรับปรงุ สินค้า หรอื วธิ กี ารผลติ
องค์กรและระบบสารสนเทศ องคก์ ร (Organization) คือ โครงสรา้ งทางสังคมทเี่ ปน็ ทางการและอยตู่ วั มีการนาทรพั ยากรจากสภาพแวดล้อมมาผา่ นกระบวนการผลิตเพอื่ ให้ ได้ผลผลิตออกมา ประกอบด้วยกล่มุ คนต้ังแตส่ องคนขน้ึ ไปท่ีมาทางานร่วมกันเพือ่ ให้ บรรลุเปา้ หมายร่วมกนั 8
องค์กรจะดารงอยแู่ ละทางานได้สมั ฤทธ์ผิ ลตามเปา้ หมายตอ้ งอาศยั กระบวนการบริหารทด่ี ี รู้จักใชเ้ ทคนคิ วิธีการต่างๆ ร้จู ักใชส้ ารสนเทศให้เกดิ ประโยชน์ 9
ระบบสารสนเทศ (INFORMATION SYSTEM) ส่วนตา่ งๆของระบบที่ทางานรว่ มกันเพ่ือให้เกิดสารสนเทศตามตอ้ งการ มกี ารจดั เตรยี มบุคคล ข้อมลู กระบวนการทางาน และเทคโนโลยเี ข้ามา ใช้ในการทางานร่วมกนั ช่วยจัดการขอ้ มลู ที่ต้องการใช้ในระบบธุรกจิ ช่วยเกบ็ ตัวเลขและขา่ วสาร เพ่ือช่วยในการดาเนินธุรกิจและการตัดสินใจ 10
ความสาคญั ของระบบสารสนเทศตอ่ องค์กร ในปจั จุบันระบบสารสนเทศมีความสาคญั ของต่อองค์กรเน่อื งจาก องค์กรต่างๆ พบวา่ สามารถใชร้ ะบบสารสนเทศเพอ่ื การจัดการขอ้ มลู ได้ ดีและทาใหไ้ ดเ้ ปรยี บในเชิงแข่งขัน สามารถใช้ระบบสารสนเทศในการจดั การเพอ่ื เพิม่ ผลผลติ การบูรณาการฐานข้อมูลทีเ่ ปน็ ประโยชน์และทาการเผยแพรส่ ารสนเทศ ขององคก์ รไดม้ ากขนึ้ 11
บทบาทของนักวิเคราะหร์ ะบบ นกั วิเคราะห์ระบบมบี ทบาทกับ องค์กรและระบบสารสนเทศอยา่ งไร ??? 12
นักวิเคราะหร์ ะบบ (SYSTEM ANALYSIS) เป็นตวั กลางในการติดต่อระหว่างระบบสารสนเทศกับกลมุ่ ผ้เู ก่ยี วข้องกบั ระบบสารสนเทศ 3 กลุม่ คือ เจ้าของระบบ (System Owners) ผู้ใชร้ ะบบ (System Users) ผสู้ รา้ งระบบ (System Builders) เพือ่ พัฒนาระบบสารสนเทศขององค์กรขน้ึ มา 13
หนา้ ทีห่ ลักของนกั วเิ คราะหร์ ะบบ วิเคราะหร์ ะบบ (System Analysis) - การศึกษา วิเคราะห์ และ แยกแยะถงึ ปญั หาที่เกิดข้ึนในระบบ พร้อมทัง้ เสนอแนว ทางแก้ไขตามความตอ้ งการของผูใ้ ช้งานและความเหมาะสมตอ่ สถานะทางการเงินขององค์กร ออกแบบระบบ (System Design) - ออกแบบ และกาหนด คณุ สมบตั ทิ างเทคนิคโดยนาระบบคอมพวิ เตอร์มาประยุกต์ใช้ เพอื่ แก้ปญั หาทไ่ี ดท้ าการวเิ คราะหม์ าแล้ว 14
หนา้ ท่ขี องนักวเิ คราะห์ระบบ จดั ทาแบบสอบถาม เป็นผ้ใู หค้ าปรกึ ษา รวบรวมข้อมลู เป็นผ้ปู ระสานงาน จดั ทาเอกสาร เปน็ ผู้แก้ไขปัญหา ออกแบบระบบ เปน็ ตวั แทนการเปลย่ี นแปลง สร้างแบบจาลอง เปน็ ผู้เตรยี มขอ้ มลู ใหก้ บั องคก์ ร ทดสอบโปรแกรมท่ีพัฒนาข้นึ บารุงรกั ษา ตดิ ต้งั และทาการปรับเปล่ยี นระบบ ประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ านของระบบ จดั ทาคู่มือ 15
16
ทกั ษะและความรู้ของนกั วเิ คราะห์ระบบ ทกั ษะและความรูท้ างเทคนคิ (Technical Knowledge and Skill) ทักษะและความรทู้ างธรุ กจิ (Business Knowledge and Skill) ทกั ษะและความรู้เก่ียวกบั คน (People Knowledge and Skill) ความซอ่ื สัตย์และจรรยาบรรณในวิชาชพี (Personal Integrity and Ethics) 17
คณุ สมบตั ขิ องนักวเิ คราะหร์ ะบบ มีความชานาญหลากหลายในศาสตรค์ อมพวิ เตอร์ มีความเข้าใจในระบบธุรกจิ มคี วามเขา้ ใจในความตอ้ งการของผ้ใู ช้ระบบเป็นอยา่ งดี ตอ้ งเปน็ นักสารวจ ทีช่ า่ งสงั เกต มจี รรยาบรรณต่อองค์กรทพ่ี ัฒนาระบบให้ 18
คุณสมบตั ขิ องนักวิเคราะหร์ ะบบ (ต่อ) 19 ต้องทางานเปน็ ทมี ได้เป็นอยา่ งดี มมี นุษย์สมั พนั ธ์ท่ีดี สามารถเรยี นรูส้ ิ่งใหม่ๆ ไดด้ ว้ ยตนเอง มีความสามารถสงู ในการนาเสนอขอ้ มลู มีความสามารถในการติดตอ่ สื่อสารเปน็ ภาษาองั กฤษไดด้ ี สามารถทางานภายใต้ภาวะกดดันได้ เปน็ นักจิตวทิ ยา
นักวิเคราะห์ระบบทางานอยู่ท่ีใด?? 1. ทางานอยใู่ นงานธรุ กิจแบบดัง้ เดมิ และแบบร่วมสมยั 2. ทางานอยูใ่ นงานธรุ กิจใหค้ าปรึกษา 3. ทางานอยใู่ นงานธุรกจิ Out source 4. ทางานอยู่ในงานธรุ กิจพฒั นาซอฟต์แวร์ 20
โอกาสในอาชพี นักวเิ คราะห์ระบบสมยั ใหม่ นักวเิ คราะห์ระบบ (Junior Systems Analyst/Programmer , Junior Applications Programmer) นักวิเคราะหร์ ะบบอาวุโส (Senior Systems Analyst) ผ้บู รหิ ารจัดการฐานข้อมูล (Database Administrator) ผูช้ านาญการด้านความปลอดภยั บนระบบคอมพวิ เตอร์ (Computer Security Specialist) วิทยากรฝกึ อบรม (Training Specialist) 21
โอกาสในอาชีพนักวิเคราะหร์ ะบบสมยั ใหม่ (ตอ่ ) ผ้บู ริหารโครงการ (Project Manager) ผู้จดั การระบบสารสนเทศ (Information Systems Manager) ผู้ชานาญการดา้ นเทคนคิ (Technical Specialists for Database, Telecommunications, Microcomputers) นกั วิเคราะห์ระบบอาวโุ สด้านสนบั สนุนเทคนคิ (Senior Technical Support Analyst) ผู้บริหารสารสนเทศระดับสูง (Vice-President of MIS หรือ บางคร้งั อาจเรียกว่า Chief Information Officer: CIO) 22
ระบบสารสนเทศ (INTRODUCTION TO INFORMATION SYSTEM) 23
ระบบสารสนเทศจะมีอทิ ธพิ ลมากต่อวิธีจัดองค์การและ 24 กระบวนการดาเนินการในหนา้ ท่ีตา่ งๆ ทางธรุ กจิ องคก์ ารตา่ งๆ ไดพ้ บว่าสามารถใช้ระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การ เพ่ือความได้เปรียบในเชิงแขง่ ขนั องคก์ ารตา่ งๆ สามารถใช้ระบบสารสนเทศในการจดั การเพอื่ เพม่ิ ผลผลติ ผู้บริหารองคก์ ารไดต้ ระหนักถงึ ความสาคัญเชิงกลยุทธ์ของการ บรู ณาการฐานข้อมูลทเ่ี ป็นประโยชน์ และทาการเผยแพรส่ ารสนเทศ ขององคก์ ารมากขน้ึ
ความแตกตา่ งระหว่างขอ้ มลู กบั สารสนเทศ ข้อมูล (Data) คอื เหตุการณ์จริงท่ีเกดิ ขึ้นประจาวันในการดาเนนิ ธุรกจิ ขององค์กร สารสนเทศ (Information) คือ ข้อมูลท่ผี ่านกระบวนการเก็บรวบรวม และเรียบเรยี ง เพอ่ื เป็นแหล่งขอ้ มูลที่เปน็ ประโยชน์ต่อผใู้ ช้ 25
ชนิดของระบบสารสนเทศ ระบบการประมวลผลข้อมลู (Transaction Processing Systems: TPS) ระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การ (Management Information Systems : MIS) ระบบช่วยการตัดสนิ ใจ (DECISION SUPPORT SYSTEM : DSS) ระบบผู้เชย่ี วชาญ (EXPERT SYSTEM AND ARTIFICIAL INTELLIGENCE) 26
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: