Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การยิงปืนพก

การยิงปืนพก

Published by teaksupara, 2021-03-28 09:17:02

Description: การยิงปืนพก

Search

Read the Text Version

๙๔ ¢ŒÍ ö กฎการยิงปนพกขน้ั พืน้ ฐาน ๖.๑ ในการฝกยิงครั้งแรกผูยิงตองไดรับการฝกอบรมหลักการยิงปนภาคทฤษฎี ไมน อยกวา ๑๖ ชวั่ โมง และในภาคปฏบิ ัติตอ งทาํ การยิงอยางนอ ย ๓ คร้งั และใหนําผลของการยงิ ชดุ ท่ีดีท่ีสุดเปน เกณฑ ๖.๒ ผยู งิ ทจ่ี ะยงิ ปน พกกง่ึ อตั โนมตั ติ อ งผา นการยงิ ปน พกลกู โมใ นระบบนม้ี ากอ น โดยจะตอ งมีเกณฑผา นรอ ยละ ๗๕ ๖.๓ กอนทําการยิงจะตองเขียนยศ ช่ือตัว ช่ือสกุล สังกัด และรายละเอียด อืน่ ๆ ตามที่กําหนดลงบนแผน เปา กรณีฝาฝนถอื เปน โมฆะ ๖.๔ หามทําตําหนิ จุดเล็ง หรือเคร่ืองหมายใดๆ บนแผนเปา กรณีฝาฝน ถอื เปน โมฆะ ๖.๕ หา มผยู งิ บรรจุกระสุนปน กอนทีจ่ ะไดร ับคําสั่งใหบ รรจุ ๖.๖ ในระหวางยิงท้ังปนพกลูกโมและปนพกก่ึงอัตโนมัติหากเกิดเหตุขัดของ ทําใหเสยี เวลาในการยงิ ตามกําหนดเวลา ซึ่งมิใชเกดิ จากความบกพรองของผยู ิง เชน กระสุนปนดาน ปนขัดลํา เปน ตน ใหป ฏิบตั ิดังน้ี ในการยิงชาใหผูยิงแกไขภายในเวลาท่ีกําหนด สวนในการยิงเรง ยิงเร็ว และยิงเปาหุนเงาคนใหผูควบคุมชองยิงตรวจสอบเหตุขัดของ หากพบวากระสุนปนดาน ปนขัดลํา ใหผคู วบคุมการยิงส่ังใหผูยิงยิงแกไข โดยใหเฉล่ียเวลาตามข้ันตอนการยิงและตามจํานวนกระสุนปน นัดทเ่ี กิดเหตขุ ัดขอ ง ๖.๗ หามยิงกอนคําสั่งหรือสัญญาณเริ่มยิง หรือยิงหลังคําสั่งหรือสัญญาณ หยุดยิง หากฝา ฝน ใหต ัดคะแนนสูงสดุ ในชุดยงิ นนั้ ตามจํานวนนัดทไ่ี ดยงิ ไป ๖.๘ หากปรากฏวาผูใดไมเชื่อฟงคําส่ังหรือไมปฏิบัติตามคําส่ังหรือคําแนะนํา ของผคู วบคมุ การยงิ ผคู วบคมุ การยงิ มอี ํานาจสง่ั ใหผนู น้ั ออกไปนอกบรเิ วณสนามยิงปน ไดท ันที ๖.๙ การตดั สนิ ของผคู วบคมุ การยงิ ใหถือเปน อนั ยตุ ิ ¢ŒÍ ÷ การนบั คะแนน ๗.๑ เปาวงกลมนับคะแนนต้งั แต ๕ – ๑๐ คะแนน สวนวง X ใหน บั คะแนนเปน ๑๐ คะแนน ๗.๒ เปา หุนเงาคนบรเิ วณพื้นทอี่ กั ษร ต เทากบั ๑๐ คะแนน และบริเวณพนื้ ที่ อักษร พ เทา กบั ๕ คะแนน ๗.๓ การนบั คะแนนใหนบั คะแนนตามเสน เขตท่แี บงไวใ นเปา รอยกระสุนปน ตองตดั เสนแบงเขตเปาขาดใหถือคาคะแนนตามบริเวณคะแนนท่ีสงู กวา ๗.๔ หา มแตะตอ งหรอื สมั ผสั รอยกระสนุ ปน บนแผน เปา ตรวจสอบพบถอื เปน โมฆะ

๙๕ ๗.๕ คะแนนเตม็ แตล ะเปา เปน ๑๐๐ คะแนน สําหรบั ปน พกลูกโมทกุ เปารวม ๔๐๐ คะแนน สว นปน พกกึง่ อตั โนมัตทิ กุ เปา รวม ๓๐๐ คะแนน ๗.๖ กรณีรอยกระสุนปนเกนิ อยใู นเปา ๗.๖.๑ ตรวจสอบรอยกระสุนปนจากเปาทางซายและขวา ถามี รอยกระสุนปน ในเปา ของทางซายหรอื ขวาไมค รบ ใหต ดั คะแนนของรอยกระสนุ ปน ท่ไี ดคะแนนตํา่ สุด ทปี่ รากฏในเปา ทเ่ี กนิ ออกไป ๗.๖.๒ ถาตรวจสอบรอยกระสุนปนจากเปาทางซายและขวาแลว ปรากฏวา มรี อยกระสุนปนของเปาทางซา ยและขวาครบ ใหตดั คะแนนสูงสุดของรอยกระสุนปนท่เี กิน ออกไป ¢ÍŒ ø เครอื่ งหมายแมนปน มลี กั ษณะดังนี้ เคร่ืองหมายแมนปนมีลักษณะเปนรูปสี่เหล่ียมผืนผา ยกขอบ มีขนาดกวาง ๒.๓ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร หนา ๐.๑๕ เซนตเิ มตร ภายในประกอบดวยรูปดาว ๘ แฉก มีรูปปนพกลูกโมอยูดานขวาและปนพกก่ึงอัตโนมัติอยูดานซายอยางละกระบอก มีแถบริบบ้ินโคง ตามวงสว นลาง และมอี ักษร “ตาํ รวจภธู รภาค ๔” จารกึ บนภาพแพรแถบสีลายสีทอง ดามปน ติดกัน โดยปลายกระบอกปน เฉียง ๔๕ องศา หนั ออกดา นนอก สขี องเคร่อื งหมายแตกตางกัน ดงั นี้ ชนั้ ที่ ๑ สขี องเคร่อื งหมายเปนสีทอง ช้ันท่ี ๒ สขี องเครื่องหมายเปนสีเงิน ช้นั ท่ี ๓ สีของพ้นื เปน สที องแดง รูปดาว ๘ แฉก และรปู ปนพกลูกโมแ ละปนพก กง่ึ อัตโนมตั เิ ปน สีเงนิ ชนั้ กติ ติมศักดม์ิ ีลกั ษณะเชนเดียวกบั เครื่องหมายแมน ปนช้ันท่ี ๑ แตกตางท่ีแถบ ริบบิน้ ขอ ความ “ตํารวจภธู รภาค ๔” เปนแบบลงยาสีแดง ลกั ษณะของเครือ่ งหมายแมนปน ตามแบบทา ยบทนี้ ¢ÍŒ ù การเทียบวุฒิ ชั้นที่ ๑ ตองไดคะแนน ๓๖๐ – ๔๐๐ คะแนน ชัน้ ที่ ๒ ตองไดค ะแนน ๓๒๑ – ๓๕๙ คะแนน ชน้ั ท่ี ๓ ตอ งไดคะแนน ๒๘๐ – ๓๒๐ คะแนน (ระเบียบสํานักงานตํารวจแหงชาติ วาดวยประมวลระเบียบการตํารวจไมเกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ ๕๘ ระบบการยงิ ปนของสาํ นกั งานตาํ รวจแหงชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙ ลงวนั ท่ี ๒๔ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๙)

๙๖ ÀÒ¾à¤Ã×èͧËÁÒÂáÁ¹‹ »¹„ ËÅ¡Ñ ÊÙμáÒÃÂ§Ô »¹„ ¾¡¢Ñ¹é ¾¹é× °Ò¹¢Í§ตําÃǨÀ¸Ù ÃÀÒ¤ ô เครื่องหมายแมน ปน ชัน้ ที่ ๑ เปนเครอื่ งหมายแมน ปนทอง เคร่ืองหมายแมนปน ช้นั ที่ ๒ เปนเคร่อื งหมายแมน ปนเงนิ เคร่อื งหมายแมนปนชนั้ ท่ี ๓ เปนเครอ่ื งหมายแมน ปนทองแดง เคร่อื งหมายแมนปน ช้นั กติ ติมศักดิ์

๙๗ ÀÒ¾Å¡Ñ É³Ðà»Ò‡ ǧ¡ÅÁáÅÐ໇Ò˹‹Ø à§Ò¤¹ ËÅ¡Ñ ÊÙμáÒÃÂÔ§»¹„ ¾¡¢¹Ñé ¾é×¹°Ò¹¢Í§ตาํ ÃǨÀ¸Ù ÃÀÒ¤ ô

๙๘ Å¡Ñ É³Ð·èÕ õø ¡ÒÃÂ§Ô »¹„ ¢Í§สํา¹¡Ñ §Ò¹ตําÃǨáË‹§ªÒμÔ º··Õè ñó ËÅÑ¡Êμ٠áÒýƒ¡Â§Ô »„¹¾¡ã¹ÃкºμÍ‹ ÊÙጠÅл‡Í§¡Ñ¹μÇÑ ÀÒÂãμÊŒ ÀÒÇФÇÒÁ¡´´¹Ñ ¢Í§¡Í§º§Ñ ¤Ñº¡ÒûÃÒº»ÃÒÁ PRESSURED CIRCUMSTANCES HANDGUN DEFENSE (P.H.D.) OF CRIME SUPPRESSION DIVISION การยิงปนพกในระบบตอสูและปองกันตัวภายใตสภาวะความกดดันของกองบังคับการ ปราบปราม กองบญั ชาการตาํ รวจสอบสวนกลาง เปน การฝก ยงิ ปน ทม่ี งุ หวงั ใหข า ราชการตาํ รวจมที กั ษะ ในการใชอาวุธปน พกเพ่อื ใชในการปฏิบตั ิหนาท่ี โดยใหผรู บั การฝก ไดฝ ก การใชอ าวธุ ปนในสถานการณ ทรี่ า งกายอยภู ายใตค วามเหนือ่ ยลา ตน่ื เตน และมเี วลาจาํ กัดซึ่งเปนสภาวะกดดนั เพื่อจาํ ลองใหผ ูรบั การฝกใชอาวุธปนเสมือนปฏิบัติหนาท่ีจริง โดยไดจัดจําลองลักษณะของสนามใหใกลเคียงกับ ภมู ปิ ระเทศที่ขาราชการตาํ รวจจะตองพบระหวางปฏิบัติหนา ท่ี มีหลกั เกณฑและขน้ั ตอนการยงิ ดงั น้ี ¢ŒÍ ñ อาวธุ ปน ๑.๑ ปน พกลกู โม ขนาด .๓๘ นวิ้ .๓๕๗ นว้ิ หรอื .๔๕ นว้ิ มคี วามยาวลาํ กลอ งปน ไมเ กิน ๔ นว้ิ ๑.๒ ปน พกก่ึงอัตโนมตั ิ ขนาด ๙ มลิ ลิเมตร ๑๐ มลิ ลเิ มตร หรือ ๑๑ มิลลเิ มตร มคี วามยาวลํากลองปน ไมเกิน ๕ นิ้ว ซองกระสนุ ปน ถา เปน ปน ทใ่ี ชซ องบรรจกุ ระสนุ ปน ชนดิ บรรจกุ ระสนุ ปน เรยี งเดย่ี ว ตอ งใชซ อง กระสนุ ปน จาํ นวน ๑๐ ซอง บรรจกุ ระสนุ ปน ซองละ ๖ นดั ถา เปน ปน ทใ่ี ชซ องบรรจกุ ระสนุ ปน ชนดิ บรรจุ กระสุนปน เรยี งคูตอ งใชซ องกระสนุ ปน จํานวน ๕ ซอง บรรจกุ ระสุนปนซองละ ๑๒ นดั อาวุธปนทุกประเภทเปนไปตามมาตรฐานของโรงงานผูผลิต ลาํ กลอ งไมเ จาะรเู พือ่ ลดแรง สะบัด ไมต ดิ ต้ังเครอื่ งชว ยเลง็ ¢ÍŒ ò กระสนุ ปน ๒.๑ ปน พกลูกโม ใชกระสุนปนขนาด .๓๘ นวิ้ หรือ .๓๕๗ น้ิว หรือ .๔๕ นิ้ว จาํ นวน ๖๐ นัด ๒.๒ ปน พกกง่ึ อัตโนมัติ ใชก ระสนุ ปน ขนาด ๙ มิลลเิ มตร ๑๐ มิลลเิ มตร หรือ ๑๑ มิลลิเมตร จาํ นวน ๖๐ นัด

๙๙ ¢ŒÍ ó ซองปน ซองปน ชนดิ พกนอกหุมโกรงไกปน สําหรับใชกบั เครอ่ื งแบบคาดติดเขม็ ขดั หามใชซ องปน คาดตา่ํ กวา แนวเขม็ ขดั ชนดิ ผกู ตดิ ขา ซองเปลอื ย หรอื มองเหน็ ลาํ กลอ งปน และเปน ซองทใี่ สป น แลว ปน ไมต กหลนไดงาย ¢ÍŒ ô เปาปน เปาหุนเงาคน จํานวน ๑ แผน มีรูปรางลักษณะคลายคนคร่ึงตัว มีความสูงตั้งแตศีรษะ ถึงเอว ๒๗ น้ิว มีความกวางตั้งแตแขนขวาถึงแขนซาย ๒๔ นิ้ว แขนขวาของเปาหุนคนทําทาชักปน แขนซา ยปลอ ยหอ ย บรเิ วณกลางลาํ ตวั มวี งกลมซอ นกนั ๓ วง วงในสดุ มอี กั ษรตวั X มเี สน ผา ศนู ยก ลาง ๑.๕ นิ้ว วงกลางมีเสนผาศูนยกลาง ๓.๕ นิ้ว วงนอกสุดมีเสนผาศูนยกลาง ๖ นิ้ว มีพื้นท่ีอักษร ต มีคา คะแนน ๑๐ คะแนน บริเวณนอกลําตัวมพี ื้นทอ่ี ักษร พ มคี าคะแนน ๕ คะแนน พน้ื ทีท่ ง้ั สองมีเสน แบงคะแนนเปน เปา ยงิ ปนในระบบ N.R.A. (National Rifle Association) ลกั ษณะเปา ตามแบบ ทา ยบทน้ี ¢ŒÍ õ ลักษณะของสนาม ๕.๑ สนามมคี วามยาวจากแนวยงิ ถงึ แนวเปา ๓๐ หลา มี ๒ ชอ งยงิ แตล ะชอ งยงิ กวาง ๒๕ เมตร กาํ หนดระยะยิงท่ี ๓๐ หลา ๒๕ หลา ๑๕ หลา และ ๗ หลา ๕.๒ ทร่ี ะยะยงิ ๒๕ หลา มสี ว นจาํ ลองเปน ทก่ี าํ บงั รปู บานประตวู างตงั้ ฉากกบั พนื้ สูง ๑๙๐ เซนติเมตร กวาง ๓๐ เซนติเมตร ๕.๓ ที่ระยะยิง ๑๕ หลา มีสวนจําลองเปนคานขวางทิศทางยิง คานยาว ๑.๒๐ เมตร มีเสาอยทู ่หี วั และทายคาน เสาสูง ๔๐ เซนติเมตร เปน ชอ งลอด ๕.๔ ทรี่ ะยะยงิ ๗ หลา มสี ว นจาํ ลองเปน ทก่ี าํ บงั ตงั้ บนพน้ื สนามขวางทศิ ทางยงิ ทกี่ าํ บงั กวา ง ๓.๕๐ เมตร สงู ๒.๓๐ เมตร ทางขวาของทกี่ าํ บงั เปน บานประตปู ด - เปด ไดส งู ๑.๙๐ เมตร กวา ง ๙๐ เซนติเมตร ทางดานซา ยของทกี่ ําบังมชี องสีเ่ หล่ียมจตั รุ สั ขนาด ๑ เมตร สงู จากพน้ื ๑ เมตร ระหวางชองส่ีเหล่ียมจัตุรัสและบานประตูมีชองเปนรูปวงกลมขนาดเสนผาศูนยกลาง ๑ เมตร อยูสูง จากพ้นื ๑ เมตร ๕.๕ สว นจําลองภูมปิ ระเทศที่เปน สง่ิ กีดขวาง ประกอบดวย ๕.๕.๑ แผงลวดหนามกวาง ๑.๕๐ เมตร ยาว ๑๐ เมตร วางนอนราบ บนพนื้ สนาม สงู จากพนื้ สนาม ๔๐ เซนติเมตร มีเสารับทมี่ ุมทงั้ ส่ี แผงวางความยาวขนานกบั แนวเปา อยูระหวางชองยิงทั้งสอง หา งจากแนวเปา ๗ หลา ๕.๕.๒ แผงลวดหนามขนาดยาว ๕ เมตร กวา ง ๑.๕๐ เมตร ตดิ ตงั้ ชอ งยงิ ละ ๒ แผง วางความยาวตอกนั แผงท้งั สองหางกนั ๑ เมตร สูงจากพน้ื ๔๐ เซนติเมตร แตล ะแผงมเี สารับ ที่มุมท้ังสี่ชองยิงซายวางขนานกับขอบสนามดานซาย ชองยิงขวาวางขนานกับขอบสนามดานขวา หางจากแนวยิง ๗ หลา หา งจากขอบสนาม ๑.๕๐ เมตร

๑๐๐ ๕.๕.๓ กาํ แพงสงู ๒.๕๐เมตรกวา ง๒.๕๐เมตรมบี นั ได๔ขนั้ วางตดิ กาํ แพง ปน ขึ้นบนั ไดขามกาํ แพงไปลงบนั ไดอีกดา นหน่ึง หนาบันไดทั้งสองดานมียางรถยนตว างดานละ ๓ วง วางติดกันตอเปนแถว กําแพงติดตั้งอยูระหวางชองยิงท้ังสอง ความยาวของกําแพงขนานกับแนวยิง หางจากแนวเปา ๑๕ เมตร ¢ÍŒ ö ขน้ั ตอนทา ทางการยิง ๖.๑ หลักสูตรการยิงปนพกในระบบตอสูและปองกันตัวภายใตสภาวะ ความกดดัน แบงออกเปน ๒ ภาค ๖.๑.๑ ภาคทฤษฎี เปนการฝกใหรูจักกฎแหงความปลอดภัย การใช อาวุธปน การจับปน การเล็ง การล่นั ไก การชักอาวุธปน ทาทางการยงิ การบรรจุกระสุนปน การแกไข ปญ หาขอ ขัดของ กฎ กตกิ า และวิธกี ารยงิ ใชเ วลาไมนอ ยกวา ๑๖ ชั่วโมง ๖.๑.๒ ภาคปฏบิ ตั ิ เปน การฝก ยงิ ดว ยกระสนุ ปน หลงั จากการฝก ภาคทฤษฎี ใชเ วลาฝก ไมน อยกวา ๑๖ ชัว่ โมง ¢ÍŒ ÷ อาวธุ ปน พกทใ่ี ชใ นการฝก ยงิ ในระบบตอ สแู ละปอ งกนั ตวั ภายใตส ภาวะความกดดนั มี ๒ ประเภท คอื ประเภทปน พกลกู โม และประเภทปน พกกง่ึ อตั โนมตั ิ วธิ กี ารยงิ ของปน พกทงั้ ๒ ประเภท แบงการปฏิบัติเปน ๖ ข้ันตอน ปฏิบัติตอเนื่อง โดยผูควบคุมการยิงจะสั่งปฏิบัติเฉพาะการเริ่มตน ข้นั ตอนท่ี ๑ และเมอ่ื เสรจ็ ส้นิ ขัน้ ตอนที่ ๖ เทา นั้น ๗.๑ วธิ กี ารยงิ ประเภทปน พกลกู โม ผยู งิ จดั ทา ทางการยงิ เสรจ็ แลว ชกั อาวธุ ปน ออกจากซองหรอื จบั ปน ใหย กขน้ึ ในระดบั สายตา ลาํ กลอ งปน ชไ้ี ปยงั เปา มอื ทจี่ บั ปน ดนั ปน ไปขา งหนา มือท่ีไมไดจับปนชวยประคองปนดึงปนเขาหาตัว แขนทั้งสองขางเหยียดตึง เล็งศูนยปนใหชัดเจน แลว ปฏิบตั ิตามขั้นตอนตอ ไป ขั้นตอนท่ี ๑ การวิ่ง ¼¤ÙŒ Ǻ¤ØÁ¡ÒÃÂÔ§ ส่ัง “ผูยิงประจําที”่ ผูยงิ ทงั้ สองเขา ยืนประจาํ ที่ที่จดุ ยงิ ท่ี ๑ ¼ŒÙ¤Çº¤ØÁ¡ÒÃÂ§Ô ส่ัง “ตรวจอาวุธ” ¼ÙŒÂÔ§ กาวเทาขวาไปดานหลังครึ่งกาว ยืนทํามุม ๔๕ องศา กับแนวเปา ชกั อาวธุ ปน ออกจากซอง ตรวจสอบอาวธุ ปน วา อยใู นสภาพพรอ มใชง านหรอื ไม ในลาํ กลอ งปน ไมม สี ง่ิ ใด อยูภายใน หมดุ ยึดตัวปนและลกู โมไมหลวมคลอน เสร็จแลวปด ลกู โม เกบ็ ปน ใสซอง ¼¤ŒÙ Ǻ¤ÁØ ¡ÒÃÂ§Ô จะตรวจสอบผยู งิ วา มกี ระสนุ ปน ทต่ี วั อยคู รบตามจาํ นวน ท่กี ําหนดไว คอื ๖๐ นดั ¼¤ŒÙ Ǻ¤ØÁ¡ÒÃÂ§Ô สงั่ “๖ นดั บรรจ”ุ ¼ÙŒÂÔ§ กาวเทาขวาไปดานหลังคร่ึงกาว ชักอาวุธปนออกจากซอง บรรจุ กระสนุ ปนจาํ นวน ๖ นดั เก็บปนใสซ อง ทาํ ซา ยหันอยใู นทาตรง

๑๐๑ ¼Ù¤Œ Ǻ¤ÁØ ¡ÒÃÂÔ§ สั่ง “ผูยงิ พรอ ม” ¼ÙÂŒ §Ô ตอบวา “พรอ ม” ผูยงิ อยูในทาตรงพรอมท่ีจะเคลือ่ นทีโ่ ดยการว่ิง ¼ŒÙ¤Çº¤ØÁ¡ÒÃÂÔ§ “เปานกหวีดเสยี งสนั้ ๑ ครง้ั ” พรอ มกับเรมิ่ จับเวลาเปน สญั ญาณใหผ ูยิงเริม่ ปฏิบตั ิตงั้ แตเร่ิมวง่ิ ตอ เนือ่ งกนั ไปจนสน้ิ ขัน้ ตอนที่ ๖ ใชเ วลารวม ๘ นาที ¼ŒÙÂ§Ô ว่งิ จาํ นวน ๕ รอบ ตอเน่ือง ดงั นี้ รอบที่ ๑ ผูยิงทั้งสองวิ่งเปนรูปสี่เหลี่ยมผืนผาทิศทางทวนเข็มนาฬกาไป ตามแนวขอบสนามผา นชอ งวา งระหวา งสว นจาํ ลองทเ่ี ปน บานประตตู าม ๕.๒ กบั สว นจาํ ลองทเี่ ปน คาน มีชองลอดตาม ๕.๓ กลับมาถงึ จดุ ยิงท่ี ๑ รอบท่ี ๒ ผยู ิงทงั้ สองว่ิงไปตามแนวของรอบท่ี ๑ แตเมือ่ ว่ิงถงึ สวนจําลอง ท่เี ปนแผงลวดหนามตาม ๕.๕.๑ ตองนอนลงคลานลอดผา นแผงลวดหนาม แลว ว่งิ ไปยงั จุดยิงท่ี ๑ รอบท่ี ๓ ผยู ิงทง้ั สองจะว่งิ เชนเดียวกับรอบที่ ๑ รอบที่ ๔ ผยู ิงทัง้ สองวิ่งไปตามแนวของรอบที่ ๑ แตเ มอ่ื วิง่ ถงึ สว นจําลอง ทเี่ ปน แผงลวดหนามตาม ๕.๕.๒ ของชอ งยงิ ท่ี ๒ จะวงิ่ ผา นชอ งวา งระหวา งสว นจาํ ลองทเี่ ปน แผงลวดหนาม ตาม ๕.๕.๒ ผา นยางรถยนตกาวละวงไปขึน้ บันไดสวนจาํ ลองตาม ๕.๕.๓ ขามกาํ แพงลงบนั ไดอีกดานหนึ่ง ผานยางรถยนตก า วละวง ว่ิงผา นชอ งวา งระหวา งแผงลวดหนามของชองยิงท่ี ๑ รอบที่ ๕ ผูย ิงทง้ั สองวิง่ เชนเดียวกับรอบท่ี ๑ ไปหยุดยนื ท่จี ุดยิงท่ี ๑ ขั้นตอนที่ ๒ ทร่ี ะยะยงิ ๗ หลา ยงิ ทจี่ ดุ ยงิ ท่ี ๑ และ ๒ ยงิ ตอ เนอ่ื ง ๒ ทา ยงิ ใชก ระสุนปน จาํ นวน ๑๒ นัด ยิงโดยไมงางนกปน ดงั นี้ ท่จี ุดยิงที่ ๑ นั่งคุกเขาสูงยิงสองมือดวยมือท่ีถนัดจํานวน ๖ นัด ผานชองวงกลมของสว นจําลองตาม ๕.๔ ท่จี ุดยิงที่ ๒ ยืนยิงสองมือดว ยมือทถ่ี นัดจาํ นวน ๖ นดั โดยเปดประตู แลว ยงิ ผา นชองประตูของสวนจาํ ลองตาม ๕.๔ ¼ÙŒÂÔ§ ท่ีระยะยิง ๗ หลา จุดยิงท่ี ๑ ลดตัวลงในทาคุกเขาดานท่ีถนัด หัวเขาและปลายเทาสัมผัสพื้น ลําตัวและขาทอนบนต้ังฉากกับพื้น สวนขาท่ีไมถนัดอยูดานหนา ขาทอนบนต้ังฉากกับลําตัว ขาทอนลางต้ังฉากกับพื้น ฝาเทาวางราบกับพ้ืน พรอมกับ ใชมือท่ีถนัดชักอาวุธปนออกจากซอง ปฏิบัติตาม ๗.๑ ยิงตอเนื่องจํานวน ๖ นัด ยิงเสร็จเลิกบรรจุ แลวบรรจุกระสุนใหมจาํ นวน ๖ นดั ลุกขึ้นยืนไมต องเก็บปน ใสซอง เคลื่อนทีไ่ ปยงั จุดยงิ ที่ ๒ ดานขวามอื ใชมือท่ีไมถนัดเปดประตูของสวนจําลอง ยืนแยกเทาหางกันประมาณ ๑ ชวงไหล ท้ิงนํ้าหนักตัวท่ีเทาทั้งสองขาง ขาเหยียดตึง มือที่ถนัดจับปน ปฏิบัติตาม ๗.๑ ยิงตอเนื่อง จํานวน ๖ นัด ยิงเสร็จเลิกบรรจุ แลวบรรจุกระสุนใหมจํานวน ๖ นัด เก็บปนใสซอง จากนั้นเคลื่อนที่ โดยการคลานลอดผา นสว นจาํ ลอง ๕.๕.๒ ไปหยุดที่ระยะ ๓๐ หลา จุดยงิ ที่ ๓ ขั้นตอนที่ ๓ ทรี่ ะยะยิง ๓๐ หลา ยิงทีจ่ ุดยิงท่ี ๔ และ ๕ ยงิ ตอ เนื่อง ๒ ทายงิ ใชกระสุนปน จาํ นวน ๑๒ นัด

๑๐๒ ที่จดุ ยิงท่ี ๓ นอนยิงสองมอื ดวยมอื ที่ถนัดจาํ นวน ๖ นดั ทจี่ ุดยิงท่ี ๔ คุกเขาสูงยงิ สองมอื ดว ยมือทถี่ นดั จํานวน ๖ นัด ¼ŒÙÂÔ§ ท่รี ะยะยิง ๓๐ หลา จุดยิงท่ี ๓ คกุ เขา ทั้งสองขาง ทรุดตวั ลงนอนควาํ่ ขาท้ังสองขา งเหยยี ดตรง ใชมอื ท่ถี นดั ชักอาวุธปนออกจากซอง ปฏิบตั ิตาม ๗.๑ ยิงตอ เนอ่ื งจาํ นวน ๖ นดั และยิงผานชองสเี่ หลีย่ มของสว นทีจ่ ดั จาํ ลองตาม ๕.๔ โดยไมง างนกปน ยงิ เสร็จเลิกบรรจุ แลว บรรจุ กระสนุ ใหมจํานวน ๖ นัด ในทานอน ไมตอ งเกบ็ ปนใสซอง ใชมอื ไมถ นัดดนั ตวั ลกุ ขึน้ เคล่ือนทไ่ี ปยัง จุดยิงท่ี ๔ น่ังคุกเขาดานท่ีถนัด หัวเขาและปลายเทาสัมผัสพ้ืน ลําตัวและขาทอนบนตั้งฉากกับพ้ืน สวนขาท่ีไมถนัดอยูดานหนา ขาทอนบนต้ังฉากกับลําตัว ขาทอนลางตั้งฉากกับพื้น ฝาเทาวางราบกับพ้ืน พรอมกบั ใชม อื ท่ีถนดั ชกั อาวธุ ปนออกจากซอง ปฏบิ ัติตาม ๗.๑ ยิงตอเนื่องจํานวน ๖ นัด ยงิ เสรจ็ เลิก บรรจุ แลวบรรจกุ ระสนุ ใหมอีกจาํ นวน ๖ นดั เก็บปน ใสซอง เคลื่อนท่ีไปทร่ี ะยะ ๒๕ หลา จุดยงิ ที่ ๕ ขนั้ ตอนที่ ๔ ทร่ี ะยะยิง ๒๕ หลา ยงิ ท่ีจุดยิงท่ี ๕ ๖ และ ๗ ยงิ ตอเนือ่ ง ๓ ทา ยิง ใชกระสนุ ปนจาํ นวน ๑๘ นัด ท่จี ดุ ยงิ ท่ี ๕ ยืนยงิ สองมือดวยมอื ทไ่ี มถนัดหลังท่กี าํ บงั จํานวน ๖ นัด ทีจ่ ุดยงิ ที่ ๖ ยนื ยงิ สองมือดว ยมอื ทถ่ี นัดหลังทกี่ าํ บงั จาํ นวน ๖ นดั ทจ่ี ุดยิงที่ ๗ ยืนยงิ สองมือดวยมอื ทถ่ี นัดไมม ที ก่ี าํ บังจํานวน ๖ นดั ¼ÂŒÙ Ô§ ทร่ี ะยะยงิ ๒๕ หลา จดุ ยิงท่ี ๕ หลงั ที่กาํ บัง กา วเทา ขางท่ถี นดั ไป ดา นหนา ครง่ึ กา ว ขาทง้ั สองขา งเหยยี ดตงึ มอื ทถ่ี นดั ชกั อาวธุ ปน ออกจากซองสง ใหม อื ทไ่ี มถ นดั ปฏบิ ตั ติ าม ๗.๑ ยงิ ตอ เนอ่ื งจาํ นวน ๖ นดั โดยไมง า งนกปน ยงิ เสรจ็ เลกิ บรรจุ แลว บรรจกุ ระสนุ ใหมจ าํ นวน ๖ นดั ไมต อ ง เกบ็ ปน ใสซ อง เคลอ่ื นทไ่ี ปยงั จดุ ยงิ ท่ี ๖ หลงั ทกี่ าํ บงั กา วเทา ขา งทไี่ มถ นดั ไปดา นหนา ครงึ่ กา ว ขาทงั้ สองขา ง เหยยี ดตงึ มอื ทถ่ี นดั จบั ปน ปฏบิ ตั ติ าม ๗.๑ ยงิ ตอ เนอื่ งจาํ นวน ๖ นดั ยงิ เสรจ็ เลกิ บรรจุ แลว บรรจกุ ระสนุ ใหม จาํ นวน ๖ นดั ไมต อ งเกบ็ ปน ใสซ อง เคลอื่ นทไี่ ปยงั จดุ ยงิ ท่ี ๗ ทางดา นขวามอื ยนื แยกเทา หา งกนั ประมาณ ๑ ชว งไหล กา วเทา ขา งทไี่ มถ นดั ไปดา นหนา ประมาณครงึ่ ฝา เทา ขาทงั้ สองยอ เลก็ นอ ย ใชม อื ทถี่ นดั จบั ปน ปฏบิ ัติตาม ๗.๑ ยิงตอเน่ืองผานสวนจาํ ลองทีเ่ ปนคานมชี องลอดจาํ นวน ๖ นัด ยงิ เสรจ็ เลกิ บรรจุ แลว บรรจกุ ระสนุ ใหมจ ํานวน ๖ นัด เกบ็ ปนใสซ อง เคลื่อนทไี่ ปท่รี ะยะยงิ ๑๕ หลา ทีจ่ ดุ ยงิ ที่ ๘ ข้ันตอนที่ ๕ ท่ีระยะยงิ ๑๕ หลา ยงิ ทจ่ี ดุ ยิงที่ ๘ และ ๙ ยงิ ตอเน่อื ง ๒ ทายิง ใชกระสุนปน จาํ นวน ๑๒ นดั ท่ีจดุ ยงิ ที่ ๘ ทานอนพลิกตวั ยงิ สองมอื ยิงดว ยมอื ทถี่ นัดจํานวน ๖ นดั ทจี่ ดุ ยิงที่ ๙ ทา ยนื ยอ ยิงมือเดยี วดว ยมือที่ไมถนดั จาํ นวน ๖ นดั ¼ÙÂŒ §Ô ที่ระยะยิง ๑๕ หลา จุดยงิ ท่ี ๘ ผา นชอ งลอด คกุ เขาท้ังสองขา ง ทรุดตัวลงในทานอนควํ่า ขาทั้งสองขางเหยียดตรง ใหรางกายชิดดานใดดานหนึ่งของชองลอด ใชมือท่ีถนัดชักอาวุธปนออกจากซอง ปฏิบัติตาม ๗.๑ หามปนล้ําชองลอด ยิงผานชองลอดตาม ๕.๓ จํานวน ๒ นัด ผานชองสี่เหลี่ยมของสวนที่จัดจําลองตาม ๕.๔ โดยไมงางนกปน จากน้ัน

๑๐๓ พลิกหมุนตัวไปอีกดานของชองลอด นอนควํ่า ขาทั้งสองขางเหยียดตรง ใหรางกายชิดดานใดดาน หน่ึงของชองลอด มือท่ีถนัดจับปน ปฏิบัติตาม ๗.๑ หามปนลํ้าชองลอด ยิงผานชองลอด จํานวน ๒ นัด จากนั้นพลิกหมุนตัวไปอีกดานของชองลอดใหรางกายชิดดานใดดานหน่ึงของ ชอ งลอด นอนคว่าํ ขาท้ังสองขางเหยียดตรง มอื ท่ถี นดั จับปน ปฏิบัตติ าม ๗.๑ หามปนลํ้าชองลอด ยิงผานชองลอดจํานวน ๒ นัด ยิงเสร็จเลิกบรรจุ แลวบรรจุกระสุนใหมจํานวน ๖ นัด ในทานอน ไมตอ งเกบ็ ปนใสซอง ใชม อื ทไี่ มถนดั ดนั ตัวลุกขน้ึ ยืน ทจี่ ุดยิงที่ ๙ กาวเทาขางที่ไมถ นัดไปดา นหนา ประมาณ ครึ่งกาว ยอเขาเล็กนอย มือที่ถนัดกําหลวมยกข้ึนปดหนาอก มือที่ไมถนัดจับปนยกปนขึ้นในระดับสายตา ลํากลองปนช้ีไปยังเปา แขนเหยียดตึง เล็งศูนยปนใหชัดเจน ยิงจํานวน ๖ นัด ยิงเสร็จเลิกบรรจุ แลว บรรจกุ ระสุนใหมจาํ นวน ๖ นัด เกบ็ ปน ใสซ อง เคลือ่ นทไ่ี ปท่รี ะยะ ๗ หลา ท่ีจุดยิงที่ ๑๐ ขั้นตอนท่ี ๖ ทรี่ ะยะยงิ ๗ หลา ยงิ ทจ่ี ดุ ยงิ ที่ ๑๐ มี ๑ ทา ยงิ ใชก ระสนุ ปน จํานวน ๖ นดั ในระหวา งนถี้ า เหลือเวลาอกี ๑ นาที ผูควบคุมการยงิ จะเตือนดว ยการเปานกหวดี เสียงยาว ๑ คร้ัง ท่ีจุดยิงที่ ๑๐ ทา ยืนยอ ยิงมอื เดยี วดว ยมือทีถ่ นดั จาํ นวน ๖ นัด ¼ÙŒÂÔ§ ท่ีระยะยิง ๗ หลา ที่จุดยิงที่ ๑๐ กาวเทาขางท่ีถนัดไปดานหนา ประมาณคร่ึงกาว ยอเขาเล็กนอย มือท่ีไมถนัดกําหลวมยกข้ึนปดหนาอก มือท่ีถนัดชักอาวุธปน ออกจากซอง ยกปนขึ้นในระดับสายตา ลํากลองปนชี้ไปยังเปา แขนเหยียดตึง เล็งศูนยปนใหชัดเจน ยิงตอ เนือ่ งจาํ นวน ๖ นัด จากนน้ั เลิกบรรจุ แลวเก็บปนใสซ อง รอฟง คาํ ส่งั จากผคู วบคุมการยิง ผคู วบคุมการยิง ใหส ญั ญาณดว ยการเปา นกหวดี เสยี งสน้ั ๑ ครงั้ เมอื่ หมด เวลายิง ผูค วบคมุ การยิง สง่ั “ตรวจอาวธุ ” ¼ÙŒÂÔ§ ตรวจอาวุธปนตามแบบฝกวาไมมีกระสุนปนบรรจุอยูในลูกโม ของปน แลว เกบ็ ปน ใสซอง ๗.๒ วิธีการยิงประเภทปนพกก่ึงอัตโนมัติ มีข้ันตอนการปฏิบัติและวิธีการยิง เชน เดียวกับการยิงประเภทปนพกลูกโม แตจ ะมีการปฏิบัตทิ แี่ ตกตางกัน ดังนี้ ๗.๒.๑ การปฏบิ ตั แิ ละการยงิ ตงั้ แตเ รม่ิ วงิ่ ตอ เนอื่ งกนั ไปจนสนิ้ ขนั้ ตอนที่ ๖ ใชเวลารวม ๕ นาที ๓๐ วนิ าที ๗.๒.๒ เมื่อบรรจุซองกระสุนปนใสตัวปนแลว ถาจะเก็บปนใสซอง ตอ งหามไกทกุ ครัง้ ๗.๒.๓ เมอื่ ยงิ จบในข้ันตอนที่ ๒ ใหท าํ การปลดซองกระสนุ ปนเกา ออก แลวใหป ด ลําเลื่อนปน นกปนอยูในลกั ษณะชิดโครงปน บรรจซุ องกระสุนปน ใหมใ สต วั ปน ๗.๒.๔ เม่ือช้ีปนไปยังเปา กอนยิงในขั้นตอนท่ี ๒ ในจุดยิงท่ี ๑ และ ข้ันตอนที่ ๓ ในจดุ ยงิ ท่ี ๓ ตอ งใชม อื ที่ไมถนดั ดงึ ลําเลื่อนปน

๑๐๔ ๗.๒.๕ ถา เปน อาวธุ ปน ทใ่ี ชซ องกระสนุ ปน ชนดิ บรรจกุ ระสนุ ปน เรยี งเดยี่ ว เมอ่ื ยงิ ครบ ๖ นัด หรอื ใชซ องกระสุนปนชนิดบรรจกุ ระสนุ ปน เรียงคเู ม่อื ยงิ ครบ ๑๒ นดั ตอ งปลดซอง กระสนุ ปน แลว บรรจุซองกระสุนปนใหมต ามชนดิ ของปน แลวปดลําเล่อื นปน ขอ ๘ กฎการยิงปนพกสนั้ ในระบบตอ สแู ละปอ งกันตัวภายใตสภาวะความกดดัน (P.H.D.) ๘.๑ กอนทาํ การยงิ จะตอ งเขยี นชื่อตัว ชื่อสกลุ สงั กัด และรายละเอียดอ่นื ๆ ตามทก่ี ําหนดลงบนแผนเปา กรณีฝาฝน ถือเปนโมฆะ ๘.๒ สําหรับผูที่จะทําการฝกการยิงปนพกประเภทก่ึงอัตโนมัติจะตองผาน การฝกยิงปนในหลักสูตรการยิงปนพกประเภทปนพกลูกโมของหลักสูตรน้ี และตองไดคะแนน ไมนอยกวารอ ยละ ๖๗ หรือคณุ วุฒิเหรยี ญทองแดงขน้ึ ไป ๘.๓ กรณีที่ผูยิงทําการยิงผิดทาหรือขามทาไมเปนไปตามลักษณะของทาทาง การยิง การบรรจุ ตามลักษณะของปนทก่ี าํ หนด หรือลําดับของทายงิ ถือวา การยงิ ในครั้งนัน้ เปน โมฆะ ๘.๔ อนญุ าตใหผ ยู งิ นาํ กระสนุ ปน อยทู ตี่ วั ไดจ าํ นวน ๖๐ นดั เทา นนั้ โดยตอ งตรวจ กระสุนปนใหครบกอนเขาสูการยิง หากตรวจพบจํานวนกระสุนปนท่ีเกินกวากําหนดกอนหรือหลัง ทาํ การยิงใหถอื วาการยิงบันทึกผลคร้ังนน้ั เปนโมฆะ ๘.๕ หามผยู ิงบรรจุกระสุนปนกอ นไดรับคาํ สั่งใหทาํ การบรรจุ ๘.๖ หามผูยิงบรรจุกระสุนปนเกินกวาที่กําหนด หากบรรจุเกินกวาท่ีกําหนด ใหถ อื วาการยิงในครง้ั นนั้ เปนโมฆะ ๘.๗ กอนและหลังทําการยิงตองทําการตรวจอาวุธปนกอนทุกคร้ัง กรณีของ ปนพกก่งึ อตั โนมตั ิท่ตี รวจอาวธุ ปนแลวตอ งลดนกปน ใหชิดโครงปน ทุกครั้ง ๘.๘ ขณะเคล่ือนที่หามชักอาวุธปนออกจากซอง เวนแตจะถึงตําแหนงที่ตอง ทําการยิง ๘.๙ กรณปี น พกลกู โมห า มผยู งิ ทาํ การงา งนกหรอื ขนึ้ นกยงิ หากฝา ฝน ใหต ดั นดั ละ ๑๐ คะแนน ๘.๑๐ หามยิงหลังสัญญาณหยุดยิง หากฝาฝนใหตัดคะแนนเทากับนัดท่ียิงเกิน นดั ละ ๑๐ คะแนน ๘.๑๑ ผยู งิ ตอ งทาํ การยงิ ใหค รบทา ยงิ หากยงิ ไมค รบทา ยงิ จะถอื วา การยงิ บนั ทกึ ผล ครง้ั นน้ั เปนโมฆะ ๘.๑๒ เมื่อทําการเริ่มยิงกระสุนปนไมครบ ดาน หรือชํารุด ไมวาจะเปนเพราะ กระสุนปนหรืออาวุธปนถือวาหมดสิทธิ์ในนัดน้ัน ไมมีการรองขอเปล่ียนทดแทนท้ังกระสุนปน และอาวธุ ปน รวมทั้งไมม ีการตอ เวลา ๘.๑๓ อาวธุ ปน ขดั ขอ งใหแ กไ ขภายในเวลาทก่ี าํ หนด ไมม กี ารตอ เวลาและไมม กี าร เปลี่ยนอาวุธปน ขณะยงิ

๑๐๕ ๘.๑๔ ถาผูยิงอยูในอาการหรือมีลักษณะที่ผูควบคุมการยิงเห็นวาไมปลอดภัย สําหรบั ผเู ขา ยิงและบคุ คลอ่ืน สามารถใหออกจากการยงิ ได ๘.๑๕ ผูใดไมเช่ือฟง ไมปฏิบัติตามคําสั่งหรือคําแนะนําของผูควบคุมการยิง ผูควบคมุ การยิงมอี าํ นาจสง่ั ใหผ นู น้ั ออกไปนอกบริเวณสนามยิงปนไดทันที ๘.๑๖ ในการบันทึกผลคะแนนเพื่อปรับคุณวุฒิสําหรับผูที่เคยผานการฝกอบรม มาแลว ใหทาํ ไดเฉพาะรว มกบั การปรับคุณวุฒกิ บั การฝก ๘.๑๗ การบันทึกผลเพื่อรับคุณวุฒิหรือปรับคุณวุฒิจะตองเปนไปอยางยุติธรรม และจะตอ งมกี รรมการผูท ี่ไดรบั การแตง ต้งั ใหเปน ครูฝก เปนสักขีพยานอยา งนอย ๓ คน ๘.๑๘ หนวยงานอื่นในสังกัดสํานักงานตํารวจแหงชาติสามารถทําการฝกได หากแตตองไดรับอนุมัติจากผูบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง รวมถึงผูที่ ควบคมุ การฝก ตอ งเปน ผทู ไ่ี ดร บั การรบั รองจากกองบงั คบั การปราบปรามวา เปน บคุ คลผา นการฝก อบรม และเปน ผูที่มีความสามารถเปน ครูฝก ในหลกั สตู รการยิงปนน้ีได ๘.๑๙ การรับรองคุณวุฒิใหผูบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตํารวจ สอบสวนกลาง เปน ผูรับรอง ¢ÍŒ ù การนับคะแนน ๙.๑ เปาหุน เงาคนบริเวณพน้ื ท่ีอกั ษร ต เทากับ ๑๐ คะแนน และบริเวณพื้นท่ี อักษร พ เทา กบั ๕ คะแนน ๙.๒ การนับคะแนนใหนับคะแนนตามเสนเขตที่แบงไวในเปา รอยกระสุนปน ตอ งตัดเสนแบงเขตเปาขาดใหถ ือคาคะแนนตามบริเวณคะแนนที่สูงกวา ๙.๓ หา มแตะตองหรือสมั ผสั รอยกระสนุ ปนบนแผน เปา ตรวจสอบพบถือเปน โมฆะ ๙.๔ การนับคะแนนใหนับคะแนนตามรอยกระสุนปนท่ีปรากฏอยูในเปา โดยคะแนนรวมเทา กบั ๖๐๐ คะแนน คดิ เปน รอยละ ๑๐๐ ¢ÍŒ ñð เครอื่ งหมายแมน ปน มี ๒ ประเภท มีรูปรา งลกั ษณะของเหรยี ญ ดังนี้ ๑๐.๑ ประเภทปน พกลกู โม มีลกั ษณะเปนรปู สี่เหลย่ี มผืนผา ยกขอบ มีขนาดกวา ง ๒ เซนติเมตร ยาว ๓ เซนติเมตร หนา ๐.๑๕ เซนตเิ มตร ตรงกลางมรี ปู เปา วงกลมสดี าํ มีรปู ปน คู ๒ กระบอก เปน ปน พก ลูกโม (REVOLVER) ยกนูนเห็นเดนชัด มีใบมะกอก ๒ ชอ รองอยู มีรูปดาว ๘ แฉก ๘ ดวง อยูเหนือรูปอารม และท่ีบริเวณขอบของเหรียญมีลายไทย แถบหอยชั้นลางตอจากตัวเหรียญเขียน เปน หลกั สตู รการยงิ วา “ระบบตอสู” เปนรปู แบบตรง สีของเคร่อื งหมายแตกตางกัน ดงั นี้ ชั้นเยี่ยม สีของพ้ืน ปนพกลูกโม ใบมะกอก รูปดาว รูปอารม ลายไทย แถบหอ ยชัน้ ลา งตวั หนังสอื เขียน “ระบบตอ สู” เปน สที อง รปู เปา วงกลมลงยาสแี ดง

๑๐๖ ชนั้ ที่ ๑ สีเคร่ืองหมายเปนสที อง ช้ันที่ ๒ สีเครื่องหมายเปนสีเงิน ชนั้ ท่ี ๓ สีเครอื่ งหมายเปนสที องแดง ชน้ั กติ ตมิ ศกั ดม์ิ ลี กั ษณะเชน เดยี วกบั เครอื่ งหมายแมน ปน ชน้ั ที่ ๑ แตกตา งที่ แถบหอยช้ันลางตอจากตัวเหรียญเขียนเปนหลักสูตรการยิงวา “ระบบตอสู” เปนรูปแบบหยัก โดยผบู งั คบั การปราบปรามเปน ผมู อี าํ นาจมอบใหแ กผ บู งั คบั บญั ชาชน้ั สงู หรอื ผทู ที่ าํ คณุ ประโยชนใ หก บั ชมรมยงิ ปน กองบงั คบั การปราบปราม กองบงั คบั การปราบปราม กองบญั ชาการตาํ รวจสอบสวนกลาง หรือสํานกั งานตาํ รวจแหงชาติ ๑๐.๒ ประเภทปนพกกง่ึ อตั โนมตั ิ มลี กั ษณะเชนเดยี วกับเครื่องหมายแมน ปนประเภทปนพกลูกโม แตกตาง ทร่ี ปู จาํ ลองปน เปน ปน พกกง่ึ อตั โนมตั ิ โดยการฝก ยงิ ปน หลกั สตู รนใี้ นประเภทปน พกกง่ึ อตั โนมตั จิ ะไมม ี เครอื่ งหมายแมน ปน ชนั้ กิตติมศักด์ิ ลักษณะของเคร่ืองหมายแมนปนแตล ะประเภทตามแบบทา ยบทน้ี ¢ŒÍ ññ การเทียบคุณวุฒิ (คะแนน) ในการยิงปนพกในระบบตอสูและปองกันตัวภายใตสภาวะความกดดันจะใหยิงทดสอบ ๓ ครง้ั จะเอาครงั้ ทีด่ ที ีส่ ดุ ในจาํ นวน ๓ คร้ัง เปน คะแนนเพื่อจัดคณุ วฒุ ิ โดยการนับคะแนนเพื่อเทยี บ คณุ วฒุ ใิ หน บั คะแนนตามทป่ี รากฏอยใู นเปา รวมกนั เทา ใดใหท าํ การหารดว ย ๖ ผลลพั ธจ ะออกมาเปน รอ ยละไมป ด เศษ แลว นาํ ผลทไี่ ดม าพจิ ารณาตามเกณฑเ พอ่ื รบั คณุ วฒุ แิ ละเหรยี ญเชดิ ชเู กยี รติ แบง ออก เปน ๔ อันดับ ดงั นี้ ช้ันเย่ยี ม ไดแก เหรยี ญทองพิเศษ ตองไดคะแนนรอยละ ๑๐๐ ชน้ั ที่ ๑ ไดแ ก เหรยี ญทอง ตอ งไดคะแนนรอยละ ๙๗ ขึน้ ไป แตไมถึงรอ ยละ ๑๐๐ ชัน้ ท่ี ๒ ไดแ ก เหรยี ญเงิน ตอ งไดค ะแนนรอ ยละ ๘๗ ขนึ้ ไป แตไ มถ ึงรอ ยละ ๙๗ ช้ันที่ ๓ ไดแ ก เหรยี ญทองแดง ตอ งไดค ะแนนรอยละ ๖๗ ขนึ้ ไป แตไ มถงึ รอยละ ๘๗

๑๐๗ ÀÒ¾à¤Ã×èͧËÁÒÂáÁ‹¹»¹„ ËÅ¡Ñ ÊÙμáÒý¡ƒ Â§Ô »¹„ ¾¡ã¹Ãкºμ‹Íʌ٠áÅл‡Í§¡Ñ¹μÑÇÀÒÂãμÊŒ ÀÒÇФÇÒÁ¡´´Ñ¹¢Í§¡Í§ºÑ§¤ºÑ ¡ÒûÃÒº»ÃÒÁ »ÃÐàÀ·»„¹¾¡ÅÙ¡âÁ‹ เครอื่ งหมายแมนปน ชนั้ เย่ยี ม เคร่อื งหมายแมน ปนชั้นท่ี ๑ เครอ่ื งหมายแมน ปน ช้นั ท่ี ๒ เคร่ืองหมายแมน ปน ชน้ั ที่ ๓ เคร่อื งหมายแมน ปนช้ันกติ ติมศกั ด์ิ

๑๐๘ ÀÒ¾à¤Ã×èͧËÁÒÂáÁ¹‹ »„¹ËÅ¡Ñ ÊÙμáÒý¡ƒ Â§Ô »¹„ ¾¡ã¹Ãкºμ‹ÍÊÙŒ áÅл‡Í§¡¹Ñ μÑÇÀÒÂãμŒÊÀÒÇФÇÒÁ¡´´¹Ñ ¢Í§¡Í§º§Ñ ¤ºÑ ¡ÒûÃÒº»ÃÒÁ »ÃÐàÀ·»¹„ ¾¡¡Öè§ÍÑμâ¹ÁÑμÔ เครอื่ งหมายแมนปน ชั้นเย่ยี ม เครือ่ งหมายแมนปน ชัน้ ท่ี ๑ เครอ่ื งหมายแมน ปน ช้นั ท่ี ๒ เครอื่ งหมายแมน ปน ชั้นท่ี ๓

๑๐๙ ÀҾ໇ÒËØ‹¹à§Ò¤¹ËÅ¡Ñ Êμ٠áÒý¡ƒ Â§Ô »¹„ ¾¡ã¹Ãкºμ‹Íʌ٠áÅл͇ §¡¹Ñ μÑÇÀÒÂãμÊŒ ÀÒÇФÇÒÁ¡´´¹Ñ ¢Í§¡Í§º§Ñ ¤Ñº¡ÒûÃÒº»ÃÒÁ

ÀÒ¾ÅѡɳÐʹÒÁÂÔ§»„¹ ๑๑๐ เปา ๕๐ เมตร เปา ลวด ๕ หลา สวนจัดจําลอง หนาม ๗ หลา สว นจัดจาํ ลอง 10 1 2 10 1 2 ๑๕ หล๒า๕ หลา ๑.๕ เมตร เสนทางวิง่ รอบท่ี ๑, ๒, ๓, ๕ ๓๐ หลา เสนทางว่ิงรอบท่ี ๑, ๒, ๓, ๕ คนที่ ๒ ลวด คนที่ ๑ ลวดหนาม ๑๐ เมตร ทางวง่ิ รอบท่ี ๔ หนาม ทางวิ่งรอบที่ ๔ ชองลอดยิง ลวด กําแพงจําลอง หนาม ลวด ชองลอดยิง หนาม 9 8 เสน ทางการวง่ิ 98 ทก่ี ําบงั ทายืน ทีก่ ําบงั ทายืน 5 67 5 67 34 34

ÊÇ‹ ¹¨´Ñ จําÅͧªÍ‹ §ÅÍ´ÂÔ§áÅлÃÐμÙ ๐.๙ เมตร ๑ เมตร ๑ เมตร ๑.๙ เมตร ๒.๓ เมตร ๑ เมตร ๑ เมตร ๓.๕ เมตร ๑๑๑

ÊÇ‹ ¹¨Ñ´จาํ Åͧกําᾧ ๑๑๒ ๒.๕ เมตร ๒.๕ เมตร

ÊÇ‹ ¹¨´Ñ จาํ Åͧª‹Í§ÅÍ´Â§Ô ·èÕÃÐÂÐ ñõ ËÅÒ ๑.๒ เมตร ๐.๔ เมตร ๑๑๓

ʋǹ¨Ñ´จําÅͧÅǴ˹ÒÁ ๑๑๔ ๑๐ เมตร ๐.๔ เมตร ๑.๕ เมตร

๑๑๕

๑๑๖ จัดพมิ พโ ดย โรงพิมพตํารวจ ถ.เศรษฐศิริ ดุสติ กรงุ เทพฯ ๑๐๓๐๐ โทรศัพท ๐-๒๖๖๘-๒๘๑๑-๓ โทรสาร ๐-๒๒๔๑-๔๖๕๘

“เปนองคกรบังคับใชกฎหมายที่นําสมัย ในระดับมาตรฐานสากล เพ�อใหประชาชนเช�อมั่นศรัทธา” พลตํารวจเอก สุวัฒน แจงยอดสุข ผูบัญชาการตํารวจแหงชาติ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook