PNSPO!! ! บทท่ี 2 การติดตั้งและออกแบบระบบ 2.2 การออกแบบระบบ เราขอยกตัวอยางประกอบการออกแบบระบบควบคุมดังตัวอยางตอไปน้ี ซ่ึงเปนระบบ ควบคุมการเปดปดประตู(Shutter Control System) ของที่จอดรถยนต สวนรูปขางลางน้ีแสดงให เหน็ Workflow ในการออกแบบระบบควบคุม รูปที่ 2.5 แสดงWorkflow การออกแบบระบบ -43-
PNSPO!! ! บทที่ 2 การติดตั้งและออกแบบระบบ รปู ที่ 2.6 Shutter Control System 2.3 ขั้นตอนการทํางาน ข้นั ตอนการทาํ งานสาํ หรบั การใช CP1L เพอ่ื ควบคุมการเปด ปดประตแู สดงไดต าม Workflow ในรูปท่ี 2.5 สว นรปู ที่ 2.6 แสดงการทาํ งานของ Shutter Control การทาํ งานของระบบ Shutter Control • เมือ่ เซนเซอรต รวจจับไดว ามแี สงไฟหนา รถเปนเวลา 5 วนิ าที ประตูจะเปดออก • ประตสู ามารถเปด ปด และ หยุดดว ยการกดสวติ ช • เมือ่ เซนเซอรตรวจจบั วา มรี ถเขาจอดในโรงรถแลว ประตจู ะปด • เมอ่ื ตอ งการเอารถออกจากโรงจอดรถใหใ ชก ารกดสวติ ช อปุ กรณต า งๆ ในระบบ PLC • CP1L (14 I/O) อุปกรณก ารเขยี นโปรแกรม • CX-programmer • Computer • สาย USB อินพตุ • Shutter OPEN button : PB1 • Shutter STOP button : PB2 • Shutter CLOSE button : PB3 • Car detection sensor : SEN1 -44-
PNSPO!! ! บทท่ี 2 การติดต้ังและออกแบบระบบ • Headlight detection sensor : SEN2 • Limit switch, จะ ON เมื่อ shutter เปดสดุ : LS1 • Limit switch, จะ ON เม่ือ shutter ปด สุด : LS2 เอาตพ ตุ • คอนแทคส่ังให shutter motor เปด : MO1 • คอนแทคสง่ั ให shutter motor ปด : MO2 รูปท่ี 2.7 แสดงรายละเอยี ดอปุ กรณ การจดั สรรอินพตุ /เอาตพ ตุ สําหรบั Shutter control ในข้ันตอนน้จี ะทาํ การจดั สรร I/O ใหกบั อปุ กรณต างๆ ดงั นี้ อนิ พุต Device Contact Address OPEN button PB1 0.00 STOP button PB2 0.01 CLOSE button PB3 0.02 Care detection sensor SEN1 0.03 Light detection sensor SEN2 0.04 Upper limit LS LS1 0.05 Lower limit LS LS2 0.06 เอาตพ ุต Contact Address MO1 100.00 Device MO2 100.01 Escalation motor De-escalation motor -45-
PNSPO!! ! บทท่ี 2 การติดต้ังและออกแบบระบบ รปู ที่ 2.8 แสดงแอดเดรสท่จี ดั สรร การจดั สรร I/O ของ CP1L (รุน 14 I/O) จากรูปขา งลางนีแ้ สดงการจดั ตาํ แหนงอนิ พตุ เอาตพ ตุ ของ CP1L ขนาด 14 I/O ซง่ึ อนิ พตุ จะ เรมิ่ ตน word ท่ี ‘0’ สว นเอาตพตุ จะเริ่มตน word ที่ ‘100’ รปู ท่ี 2.9 การจดั ตําแหนง I/O และเทอรม ินอล การเขยี นแลดเดอรโ ปรแกรม ตอ ไปเปนขน้ั ตอนทีส่ าํ คัญเพราะวาตอ งใชความคิดและความรูพืน้ ฐานเกยี่ วกบั คาํ ส่งั ของ PLC จงึ จะสามารถเขียนโปรแกรมได ซ่งึ จะกลา วถงึ วธิ กี ารเขียนโปรแกรมและคําสง่ั ตา งๆ ของ พแี อลซใี นลาํ ดับตอไป -46-
PNSPO!! ! บทท่ี 2 การติดต้ังและออกแบบระบบ รูปท่ี 2.10 ตวั อยางแลดเดอรไ ดอแกรม -47-
บทที่ 3 ความรพู ้นื ฐานทางดา นดจิ ติ อล เนือ่ งจากพื้นฐานของ PLC นัน้ มาจากการทาํ งานของวงจรรเี ลย ซ่ึงมีสภาวะการทาํ งานแบบ ลอจกิ (0 และ 1) ซ่ึงก็คอื คา ทางดิจติ อลนนั่ เอง ดงั นน้ั กอ นการใชง าน PLC จะตอ งมีความรูพ ้นื ฐาน ในเร่ืองของเลขฐานและวธิ ีการแปลงเลขฐานกอ น เพอ่ื จะเขา ใจการทาํ งานที่แทจ รงิ และสามารถใช งาน PLC ไดด ี 3.1 ระบบเลขฐาน (Number System) ระบบเลขฐาน จดั เปน ระบบตวั เลขท่ใี ชง านอยใู น PLC ในบทน้จี ะยกตวั อยางเฉพาะการใช งานระบบเลขฐานสอง, เลขฐานสิบ และเลขฐานสบิ หกเทา นั้น • ระบบเลขฐานสอง (Binary: BIN) มีตวั เลขท่ไี มซ ้ํากนั อยูท้ังหมด 2 ตวั คือ 0 และ 1 • ระบบเลขฐาน BCD (Binary Code Decimal: BCD) มีตวั เลขท่ีไมซ าํ้ กนั อยทู ง้ั หมด 10 ตวั คือ 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 หรอื เรียกอกี อยา งหนง่ึ วา BCD code • ระบบเลขฐานสิบหก (Hexadecimal: HEX) มตี วั เลขท่ีไมซํ้ากนั อยทู ้งั หมด 16 ตวั คอื 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 A B C D E F (ตัวอักษร 6 ตวั แทน ตัวเลข 10 –15) ความสัมพันธข องเลข BIN, BCD และ HEX สามารถกําหนดใหเปน ตารางไดดงั ตารางท2่ี .1 -48-
PNSPO บทที่ 3 ความรพู น้ื ฐานทางดา นดิจิตอล ตารางที่ 3.1 แสดงความสัมพนั ธของเลขฐานตา งๆ HEX BCD FOUR DIGIT BINARY 0 23 = 8 22 = 4 21 = 2 20 = 1 1 0 2 0 0 00 1 3 0 4 1 0 00 1 5 0 6 2 0 01 1 7 0 8 3 0 01 1 9 0 A 4 0 10 1 B 0 C 5 0 10 1 D 0 E 6 0 11 1 F 0 7 0 11 1 หมายเหตุ 8 1 00 9 1 00 - 1 01 - 1 01 - 1 10 - 1 10 - 1 11 - 1 11 BIN (Binary) = ระบบเลขฐานสอง BCD (Binary Code Decimal) = ระบบเลขฐาน BCD HEX (Hexadecimal) = ระบบเลขฐานสิบหก ตัวอยา งที่ 3.1 การเปลยี่ นเลขฐานสบิ หก(HEX)ใหเปน เลขฐานสอง (BIN) โดยใชต ารางที่ 2.1 วิธีทาํ แปลงเลข 2F61 ฐานสบิ หกใหเปนเลขฐานสอง เลขฐานสบิ หก 2 F 6 1 เลขฐานสอง 0010 1111 0110 0001 - 49 -
PNSPO บทท่ี 3 ความรพู ้นื ฐานทางดา นดิจิตอล 3.2 การแปลงเลขฐาน 3.2.1 การแปลงเลขฐานสองใหเ ปน เลขฐานสบิ ตวั อยา งท่ี 3.2 ขอมลู ซ่งึ อยใู นระบบเลขฐานสองขนาด 16 บิต มีคา 0000 0000 1001 0110 ถาจะ เปลย่ี นเปน เลขฐานสิบ จะมคี าเทาใด วิธีทาํ 15 14 13 12 11 10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 0 Bit 0 0 0 0 0 0 0 0 1 0 0 1 0 1 1 0 ฐานสอง 215 214 213 212 211 210 29 28 27 26 25 24 23 22 21 20 Weight ในฐานสิบ 32768 16384 8192 4096 2048 1024 512 256 128 64 32 16 8 4 2 1 0 0 0 0 0 0 0 0 128 0 0 16 0 4 2 ขอ มูล 0000 0000 1001 01102 = 128 + 16 + 4 + 2 = 15010 ตอบ 3.2.2 การแปลงเลขฐานสิบใหเปน เลขฐานสอง ตวั อยา งที่ 3.3 ตองการเปล่ยี นเลขฐานสิบ 1,750 ใหเ ปนเลขฐานสอง ขนาด 16 บติ จะไดคาเทาใด วธิ ที ํา 215 214 213 212 211 210 29 28 27 26 25 24 23 22 21 20 Weight 32768 16384 8192 4096 2048 1024 512 256 128 64 32 16 21 ในฐานสบิ Weight 84 0 0 0 0 0 1024 512 0 128 64 0 16 0 4 2 0 175010 = 1024 + 512 + 128 + 64 + 16 + 4 + 2 = 0000 0110 1101 01102 - 50 -
PNSPO บทที่ 3 ความรูพ น้ื ฐานทางดานดิจิตอล 3.2.3 การแปลงเลขฐานสองเปน เลขฐานสบิ หก และการแปลงเลขฐานสบิ หกเปน เลขฐาน สอง • การแปลงเลขฐานสองใหเ ปน เลขฐานสิบหก จะกระทาํ ไดโ ดยแปลงเลขฐานสอง ทีละ 4 บติ เปนเลขฐานสบิ หก 1 หลกั • ถาตอ งการแปลงเลขฐานสองขนาด 16 บติ ใหเปน ฐานสบิ หก ตอ งแบง เลขฐาน สองเปน 4 กลุม กลมุ ละ4 บติ โดยแตละกลมุ จะแทนไดด ว ยเลขฐานสิบหก 1 หลกั (1 ดิจิต) หลักท่ี 4 หลักที่ 3 หลกั ที่ 2 หลกั ท่ี 0 เสลิบขหฐากน 1 0 A F 0 0 0 1 00 0 01 010 1110 15 14 13 12 11 10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 1 สเลอขงฐาน 0001 0000 1010 11112 = 10AF16 • เชน เดยี วกบั การแปลงเลขฐานสิบหกเปน เลขฐานสอง เราจะแปลงเลขสบิ หก 1 หลกั เปน เลขฐานสอง 4 บติ เชน 0001 0000 1010 11112=10AF1 3.3 การบวกและลบเลขฐาน 3.3.1 การบวกเลขฐานสอง เลขฐานสองมคี วามตางกนั ของคา น้าํ หนกั (Weight) ของเลข ฐานสองในแตล ะหลักท่อี ยูถ ดั กนั เทากบั 2 23 22 21 20 01 1 0 +0 1 0 1 10 1 1 3.3.2 การบวกเลขฐานสิบหก เลขฐานสบิ หกมีความตางกนั ของคา น้ําหนัก (Weight) ของ เลขฐานสบิ หกในแตล ะหลักที่อยูถ ัดกันเทากับ 16 163 162 161 160 0 4 B6 +0 C 6 4 111A - 51 -
PNSPO บทท่ี 3 ความรูพน้ื ฐานทางดานดิจิตอล 3.3.3 การลบเลขฐานสอง เลขฐานสองมีความตางกันของคา นาํ้ หนัก (Weight) ของเลข ฐาน สองในแตล ะหลกั ท่ีอยูถัดกนั เทากบั 2 ดงั นน้ั ในการลบของเลขฐานสองแตล ะหลกั นนั้ หากตวั ตงั้ มี คา นอยกวา ตัวลบ จะตองยมื คา จากหลักถดั ไปคร้ังละ 2 23 22 21 20 11 1 0 -0 1 0 1 10 0 1 3.3.4 การลบเลขฐานสิบหก เลขฐานสองมีความตางกันของคานา้ํ หนกั (Weight) ของเลข ฐานสองในแตล ะหลักทีอ่ ยถู ดั กนั เทา กบั 16 ดังนั้นในการลบของเลขฐานสิบหกแตละหลกั นนั้ หาก ตัวตั้งมคี า นอยกวาตวั ลบ จะตอ งยมื คา จากหลักถัดไปครง้ั ละ16 163 162 161 160 1 4 B6 -0 C 6 4 0852 3.4 ประเภทของขอ มลู ขอมูลภายใน PLC จะมีคําจาํ กดั ความทเี่ รยี กกนั คือ บิต (Bit), ไบต (Byte), เวริ ด (Word) หลกั การเรยี กและความหมายของแตล ะคาํ มดี งั นี้ 15 14 13 12 11 10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 0 เรยี กวา ขอ มลู ขนาด 16 บิต หรือ 1 เวิรดหรอื 1 Channel ก็ได 1 ดิจติ = 4 บติ = 1 ดจิ ิต 1 ไบต = 8 บิต = 1 ไบต 1 เวิรด = 16 บติ = 1 เวิรด - 52 -
PNSPO บทท่ี 3 ความรพู ืน้ ฐานทางดา นดิจิตอล ตวั อยา งท่ี 3.4 ขอ มลู ขนาด 256 กิโลบิต (kBits) จะสามารถเก็บขอมูลไดก ก่ี โิ ลไบต (kBytes) วธิ ที าํ 8 บิต = 1 ไบต 256 กโิ ลบิต = 256 x 1000 = 32,000 ไบต 8 = 32 กโิ ลไบต ตวั อยา งที่ 3.5 Data memory ขนาด 6 kWords ถา จะเปลี่ยนหนว ยเปน kBytes จะไดเ ทา ไร วิธีทํา 1 Word = 2 ไบต 6 kWord = 2 x 6 x 1000 = 12,000 ไบต = 12 กโิ ลไบต 3.5 หลักการพ้ืนฐานทางลอจกิ PLC ทาํ งานดว ยหลกั การของ binary คือ เปน อยางใดอยา งหน่ึงใน 2 สถานะ เชน สูงหรือตํา่ ปด หรือเปด , 0 หรอื 1 3.5.1 หลกั การของ AND A Y AB Y 00 0 B 01 0 10 0 11 1 3.5.2 หลกั การของ OR Y AY 0 B AB 1 00 1 01 1 10 11 - 53 -
PNSPO บทที่ 3 ความรพู น้ื ฐานทางดา นดิจิตอล 3.5.3 หลกั การของ NAND A Y AB Y 00 1 B 01 1 10 1 AY 11 0 B 3.5.4 หลกั การของ NOR AY B AB Y 00 1 AY 01 0 10 0 11 0 3.5.5 หลักการของ Exclusive OR AB Y 00 0 01 1 10 1 11 0 3.5.6 หลกั การของ NOT Y A 1 0 0 1 - 54 -
บทที่ 4 การอางแอสเดรสของ PLC การอางแอสเดรสของ PLC ถาเปรยี บเทียบงา ยๆ คือ การเรียกชอ่ื ตาํ แหนง ของอปุ กรณ อินพุต/เอาตพ ตุ ทนี่ าํ มาตอ รวมกบั PLC และเปน การเรยี กชื่อพ้ืนที่หนว ยความจาํ ใน PLC นน่ั เอง PLC แตละย่ีหอ อาจมีช่อื เรยี กทแี่ ตกตางกนั ออกไป 4.1 โครงสรางของขอมูล ในแตล ะบติ ของ Word (จาํ นวน 16 บติ ) จะบรรจุขอ มลู ในเลขฐานสอง (0 หรอื 1) และเมอ่ื แยกบติ ทั้ง 16 บิตออกเปน 4 กลมุ ๆ ละ 4 บิต จะสามารถแสดงขอมูลของแตล ะ Word หรือ Channel ในรูปของเลขฐานสิบหก 4 หลักหรือท่เี รยี กวา 4 ดจิ ิต 3210 ดจิ ิตท่ี 15 14 13 12 11 10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 0 บติ ที่ 0010111001000110 ขอ มลู ในเลขฐานสอง รูปท่ี 4.1 แสดงโครงสรา งของขอ มลู ใน Word หรอื Channel ท่ี 0 -55-
PNSPO! บทที่ 4 การอา งแอสเดรสของ PLC 4.2 การกําหนดเบอรข องรีเลย (Relay) ใน PLC โดยปกตแิ ลว PLC ของออมรอน จะกาํ หนดพน้ื ท่ีรเี ลย (Relay) เปน word หรอื Channel ซ่ึง แตล ะ Channel จะประกอบดว ยขอมลู ขนาด 16 บิต ในแตละบติ จะบรรจุขอ มลู ในเลขฐานสองคือ เลข 1 ซ่ึงแทนสถานะ ON และเลข 0 ซึ่งแทนสถานะ OFF ดังตวั อยา งขางลางน้ีคือ เวิรด 000 ซ่ึง ประกอบดว ย 16 บติ จากบติ ท่ี 00 ถึง บิตที1่ 5 การอางถงึ รเี ลยแ ตล ะบติ เราจะแทนดว ยเลข 5 หลัก สามหลักแรกเปน เวิรด (Word) หรอื Channel สวนสองหลักหลังเปน บติ (Bit) Internal Relay(IR) Word 000, หรอื Channel 000 15 14 13 12 11 10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 0 บิตท่ี 0 0 1 0 1 1 1 0 0 1 0 0 0 1 1 0 ขอมูลในเลขฐานสอง 000.15 000.06 000.00 สามหลักแรกหมายถึงเวิรด สองหลกั หลังหมายถงึ บติ (เวริ ด ท่ี 000) (บติ ที่ 10 ของเวิรด 000) รปู ที่ 4.2 แสดงการกาํ หนดเบอรร เี ลยของ PLC หมายเหตุ 1. ใน PLC บางรุน ใชเ ปน ตวั เลข 6 หลักโดย 4 หลักแรกเปน หมายเลข Channel สวน 2 หลักหลังเปน หมายเลขบิตเชน 0000.00 เปน ตน 2. ในกรณที ีท่ า นใชงาน Programming Console จะไมป รากฎจุดทศนยิ มระหวา ง หมายเลขเวิรด และบติ เชน เวริ ดท่ี 0 บิตที่ 10 จะแสดงเปน 00010 3. ในกรณีทที่ า นใชง าน CX-Programmer หรือซอตฟ แวรอ ่นื จะแสดงจุดทศนยิ ม ระหวา งหมายเลขเวิรดและบติ เชน เวิรด ท่ี 0 บติ ที่ 10 จะแสดงเปน 000.10 ทกี่ ลา วถึงขางตน เปน การอางถึงแตละบติ ของรเี ลยในสว นทเี่ รยี กวา CIO หรือ Internal Relay (IR) ซึ่งประกอบดว ย Input Area, Output Area และ Work Area สําหรับ PLC รนุ ใหม เชน CP1 จะเพ่ิมหนวยความจาํ Work Area ขนึ้ มาและมตี วั อักษรนาํ หนา W เชน W0.00 ซ่ึงสามารถนํา ไปใชเปน Internal Relay ในการเขยี นโปรแกรมได ในกรณีของรเี ลยชนดิ อื่นๆ กม็ กี ารกําหนดเบอรใ นลักษณะเดยี วกนั เชน Holding Relay, Link Relay ดังตวั อยา งตอ ไปนี้ - 56 -
PNSPO! บทท่ี 4 การอางแอสเดรสของ PLC Holding Relay HR 15.01 เวริ ดที่ 15 W 09.07 บิตที่ 01 Work Area เวริ ดที่ 9 บิตท่ี 07 นอกจากพื้นที่หนวยความจําท่ีกลาวถึงแลว PLC ยังแบงพ้ืนที่หนวยความจําออกเปน สว นยอยๆ อกี หลายสว น สามารถแสดงรายละเอยี ดใหเ ห็นดังตารางท่ี 4.1 4.3 ตารางแสดงขอ กาํ หนดของพน้ื ท่ีใชงานของ PLC ตารางที่ 4.1 พน้ื ที่หนว ยความจาํ ของ PLC (อา งองิ CP1L) Data area Words Bits Function CIO Input CIO 000 ถงึ CIO 099 0.00 ถึง 099.15 บติ เหลาน้ถี ูกใชตอไปยังข้ัว อินพุตเอาตพ ุต area area (100 words) (1,600 bits) ภายนอก แตขน้ึ อยูกบั รุนของ PLC ดว ยวา ใชก่ี Output CIO 100 ถึง CIO 199 100.00 ถงึ 199.15 บิต ดังน้ันบติ ทีเ่ หลอื จะใชงานเปน Work Bits area (100 words) (1,600 bits) หรือ Internal relay ได Work 3800 ถงึ 6143 3800.00 ถึง 6143.15 Work Bits สามารถนาํ ไปใชไดอยา งอิสระ area (2,344 words) (37,504 bits) ภายในโปรแกรม Work area W000 ถึง W511 W0.00 ถึง W511.15 บิตเหลา นีใ้ ชเปน Work bit (512 words) (8192 bits) DM D00000 ถึง D32767 ใชเกบ็ ขอ มูล (Data Memory ) HR area H000 ถึง H511 H0.00 ถงึ H511.15 บิตเหลา นี้ใชเก็บขอมูลและสถานะ ON/OFF (Holding Relay) (512 words) (8192 bits) ไวไ ดเมอ่ื เกิดไฟดับ AR area A000 ถึง A959 A0.00 ถึง A959.15 บิตเหลา นี้เปนบิตพิเศษภายในซึง่ มหี นาที่เฉพาะ (Auxiliary (960 words) (15,360 bits) อยางเชน ใชเปน Flags หรือ Control bits Relay) Timer T000 ถึง T4095 ใชเปน Timers Counter C000 ถงึ C4095 ใชเปน Counters - 57 -
PNSPO! บทท่ี 4 การอางแอสเดรสของ PLC 4.4 การระบตุ าํ แหนง อนิ พุต/เอาตพ ตุ ของ PLC 4.4.1 การระบุตําแหนง อินพตุ /เอาตพ ุตของ PLC ชนิดบลอ็ ก (ยกตัวอยา งรนุ CP1L) สาํ หรบั PLC แบบ Block นนั้ ตําแหนง ของอนิ พุต/เอาตพ ุตนน้ั จะแสดงหมายเลขไว ท่ี PLC อยแู ลว ยกตวั อยา งใหเหน็ ดังตอ ไปนี้ รูปที่ 4.3 แสดงตาํ แหนงของอินพตุ /เอาตพ ุตแตล ะขวั้ จากรูปท่ี 4.3 แสดงตําแหนง ของอนิ พุต/เอาตพุตของ PLC รนุ CP1L-L20DR ซงี่ มจี าํ นวน 20 จดุ เปน พ้ืนทห่ี นว ยความจําในสวนของ CIO หรอื IR เชนในการเขียนโปรแกรม ถาตอ งการใชง านอนิ พตุ ทีต่ ออยูกับอินพุตของ PLC บติ ท่ี 0 เวลา อา งตําแหนงจะกาํ หนดเปน 000.00 หมายถึงใช CIO เวริ ด ท่ี 0 บติ ที่ 0 (วิธกี ารกําหนดตําแหนง ดไู ด จากหวั ขอ 4.2 การกาํ หนดเบอรร เี ลยข อง CP1L) - 58 -
PNSPO! บทที่ 4 การอา งแอสเดรสของ PLC สาํ หรับ CP1L รนุ อนื่ สามารถดูไดจากตารางท่ี 4.2 ซงึ่ จะแสดงตําแหนงอินพตุ /เอาตพุตท่ี ตอรว มกบั Expansion I/O Unit ตารางที่ 4.2 ตารางแสดงจํานวนและตําแหนงอินพตุ /เอาตพุตบิตของ PLC รุน CP1L แตล ะ รุน เมอ่ื ใชรว มกบั Expansion I/O Units (CP1W-20EDR1) รุน CP1L-L20 CP1L-M30 CP1L-M40 ช่ือรุน Expansion จํานวน I/O IN OUT IN OUT IN OUT บนตวั - CPU 12 Points 8 Points 18 Points 12 Points 24 Points 16 Points - 000.00 100.00 000.00 100.00 000.00 100.00 - - - - - - 000.11 - 000.11 100.07 000.11 100.07 100.11 001.00 101.00 001.00 101.00 - - - - 001.05 101.03 001.11 101.07 IN OUT IN OUT IN OUT Expansion I/O 12 Points 8 Points 12 Points 8 Points 12 Points 8 Points CP1W-20EDR1 Unit ตวั ที่ 1 002.00 102.00 002.00 102.00 002.00 102.00 CPM1A-20EDT1 - - - Expansion I/O 002.11 - 002.11 - 002.11 - CP1W-20EDR1 Unit ตวั ที่ 2 102.07 102.07 102.07 CPM1A-20EDT1 IN IN Expansion I/O ไมส ามารถตอ ได OUT OUT CP1W-20EDR1 Unit ตัวที่ 3 12 Points 12 Points CPM1A-20EDT1 003.00 8 Points 003.00 8 Points - 103.00 - 103.00 003.11 003.11 - - IN 103.07 IN 103.07 ไมส ามารถตอ ได 12 Points OUT 12 Points OUT 004.00 004.00 - 8 Points - 8 Points 004.11 104.00 004.11 104.00 - - 104.07 104.07 CP1L Expansion ตัวท่ี1 Expansion ตวั ที่2 Expansion ตวั ท3ี่ รูปท่ี 4.4 แสดงการเชอ่ื มตอ ระหวา ง CP1L กับ Expansion I/O Unit - 59 -
PNSPO! บทที่ 4 การอา งแอสเดรสของ PLC 4.4.2 การระบตุ าํ แหนงอนิ พตุ /เอาตพตุ ของ PLC ชนดิ โมดลู สาํ หรับ PLC ชนิดโมดลู ของ OMRON นน้ั แบงเปน หลายรุนไดแ กร นุ CS1 และ CJ1 ซึง่ ทั้งสองรุนมีการอา งแอดเดรสเหมอื นกัน จะขอยกตวั อยา งการอา งแอสเดรสของแตล ะรุน ดงั นี้ • การอางแอสเดรสของ PLC รนุ CS1/CJ1 รปู ท่ี 4.5 ตัวอยางการอา งแอสเดรสของ PLC รนุ CS1/CJ1 การอางแอสเดรสของ PLC รนุ CS1/CJ1จะอา งตําแหนงตามการตดิ ต้งั ยนู ติ อนิ พุต/เอาตพ ตุ นน้ั โดยไมส นใจวา จะตดิ ตงั้ ท่ตี าํ แหนงใด การนบั แอสเดรสจะนบั เรยี งตอ กนั ไปเร่อื ยๆ ดังรปู * หมายเหตุ *การอา งแอสเดรสของ PLC รนุ CS1/CJ1 นนั้ กลาวถึงเฉพาะ Standard I/O Unit เทา นน้ั นอกจากนย้ี งั มี Special I/O Unit อื่นๆ ซึง่ มีการกําหนดแอสเสรสแตกตาง กนั ออกไป สามารถศกึ ษาเพม่ิ เตมิ ไดจาก PLC รนุ นนั้ ๆ สําหรบั เนื้อหาในบทตอ ไปเราจะกลาวถงึ คําสงั่ พ้นื ฐานตา งๆ ท่มี ีใชง านในการเขยี น โปรแกรม PLC - 60 -
บทท่ี 5 หลกั การเขียนแลดเดอรไดอะแกรม และคาํ สั่งพ้ืนฐาน แลดเดอรไดอะแกรม (Ladder Diagram) จัดเปน ภาษาสญั ลักษณทีเ่ ทยี บเคยี งมาจากวงจร รเี ลย สามารถดูตามโครงสรางแลว เขา ใจการทํางานได แตเวลาที่ PLC ทํางานจะอาศยั ชุดคาํ สั่ง (Instructions) ทํางานโดยวธิ กี ารเขียนลงในสว นหนวยความจําขอมูล ในหนว ยความจํานั้นจะจดั เกบ็ เปนรหสั (Code) ไมส ามารถจัดเกบ็ ในลกั ษณะของ Ladder Diagram ไดโ ดยตรง ดังนั้นผูใชจ งึ จาํ เปนตอ งเขา ใจชุดคําสัง่ เพราะชุดคาํ สงั่ นน้ั แปลงภาษามาจาก Ladder Diagram น่ันเอง 5.1 กลุม คําสง่ั พืน้ ฐาน (Ladder Instruction & Output Control) 5.1.1 การใชค ําสงั่ LOAD (LD), LOAD NOT (LD NOT) LOAD-LD B B : BIT LOAD NOT-LD NOT B CIO,A,T,C,IR,DR,D,TK,H,W พนื้ ท่หี นว ยความจาํ ทใ่ี ชกับคาํ สง่ั ได -61-
PNSPO!! ! ! ! !บทท่ี 5 หลกั การเขียนแลดเดอรไดอะแกรมและคําส่งั พ้ืนฐาน ตัวอยา งที่ 5.1 ชดุ คําสง่ั และการเขยี น Ladder Diagram คาํ สั่ง LD และ LD NOT I 0.00 Address Instruction Operands Instruction 00000 LD 0.00 00001 Instruction I 0.00 00002 LD NOT 0.00 Instruction 00003 Instruction การเขยี น Mnemonic อา งองิ มาจาก PLC รุน CP1L เขียนใน CX Programmer Version 7 และ ไมสามารถเขยี นใน Programming Console ได 5.1.2 การใชคําสงั่ AND, AND NOT AND-AND B B : BIT CIO,A,T,C,IR,DR,D,TK,H,W AND NOT-AND NOT B พืน้ ท่หี นว ยความจําทใี่ ชกับคาํ ส่งั ได *หลักการเขยี น Ladder Diagram และคาํ ส่ังพ้นื ฐาน อา งองิ มาจาก PLC รนุ CP1L* ตัวอยา งที่ 5.2 ชุดคาํ สั่งและการเขียน Ladder Diagram คําส่งั AND, AND NOT I 0.00 I 1.00 W 0.00 ddress Instruction Operands Instruction 00000 LD 0.00 00001 AND NOT 1.00 00002 AND W 0.00 00003 Instruction - 62 -
PNSPO!! ! ! ! !บทที่ 5 หลักการเขียนแลดเดอรไดอะแกรมและคําสงั่ พื้นฐาน 5.1.3 การใชค ําสงั่ OR, OR NOT OR-OR B B : BIT OR NOT-OR NOT B CIO,A,T,C,IR,DR,D,TK,H,W พน้ื ที่หนว ยความจาํ ทีใ่ ชคาํ ส่งั ได ตัวอยา งที่ 4.3 ชดุ คําสง่ั และการเขยี น Ladder Diagram คําสั่ง OR, OR NOT I 0.00 Instruction Address Instruction Operands I 1.00 00000 LD NOT 0.00 00001 OR NOT 1.00 W 0.00 00002 OR W 0.00 00003 Instruction 5.1.4 การใชค ําสงั่ OUT, OUT NOT เปนคาํ สงั่ ทีส่ งั่ ขับให OUTPUT ภายนอกทาํ งานหรอื ไมท าํ งานตามคาํ ส่งั OUTPUT-OUT B : BIT CIO,A,T,C,IR,DR,D,TK,H,W B พืน้ ทีห่ นว ยความจาํ ทีใ่ ชก ับคาํ สั่งได ตวั อยา งที่ 5.4 รูปแบบชดุ คําส่งั จาก Ladder Diagram I 0.00 Q 100.00 Address Instruction Operands 00000 LD 0.00 00001 OUT 100.00 - 63 -
PNSPO!! ! ! ! !บทที่ 5 หลกั การเขยี นแลดเดอรไดอะแกรมและคาํ สงั่ พ้ืนฐาน OUTPUT NOT-OUT NOT: การทาํ งานของคาํ สัง่ นจี้ ะตรงกนั ขา มกับคําส่งั OUT B B : BIT CIO,A,T,C,IR,DR,D,TK,H,W พื้นที่หนว ยความจําทใ่ี ชก ับคําสั่งได ตัวอยางที่ 5.5 จงเขยี นชดุ คาํ ส่งั จาก Ladder Diagram I 0.01 Q 100.00 Address Instruction Operands 00000 LD 0.01 00001 OUT NOT 100.00 5.1.5 การใชค าํ สงั่ END ( END 01 ) เมื่อสิ้นสุดการเขยี นโปรแกรมแลว จะตองจบดวยคําสง่ั END(01) เสมอ ถา ไมม ี คาํ สั่งน้ี เม่อื ผูใชส ั่ง Run โปรแกรมทเี่ ขยี นขนึ้ PLC จะเกดิ Error โดยสงั เกตท่ี PLC ไฟ Error/Alarm สีแดงจะตดิ คาง นั่นแสดงวาไมมคี ําส่งั END (01) ในกรณีนโี้ ปรแกรมจะไมสามารถ RUN ได เพราะฉะนนั้ เมอื่ เขียนโปรแกรมจบทุก คร้งั ควรใสค าํ ส่ัง END(01) ดว ย การเขยี นโปรแกรมดว ย CX-Programmer ไมจาํ เปนตองใสคาํ ส่งั END(01) เพราะวา ซอฟตแวรจะใสใหเ องอตั โนมัติ 5.1.6 การใชค าํ สง่ั AND LOAD (AND LD), OR LOAD (OR LD) คาํ สงั่ ทง้ั สองจะทาํ หนาทเี่ ชื่อมตอ กลมุ แลดเดอรไดอะแกรม (Ladder Diagram) ใน กรณที ่ตี อ อนกุ รม หรอื ขนานกันมากกวา 1หนา สัมผัส ซงึ่ การใชค ําส่ัง AND หรอื OR น้นั จะกระทาํ ทลี ะ 1 หนา สมั ผสั เทานน้ั จึงตอ งใช AND LD หรือ OR LD ในการเขยี นแลดเดอรไดอะแกรม (Ladder Diagram) ดว ยซอฟต แวรนัน้ ไมมี สญั ลกั ษณของ AND LD และ OR LD ดังนนั้ คาํ สง่ั ทงั้ 2 คําสัง่ นี้ตอ งเขยี นเปน Mnemonic หรือ Instruction list เทานั้น - 64 -
PNSPO!! ! ! ! !บทท่ี 5 หลกั การเขียนแลดเดอรไ ดอะแกรมและคําสง่ั พื้นฐาน ตวั อยางที่ 5.6 ชุดคําส่ังในรูปการเชื่อมแบบอนุกรมจะใชค าํ ส่งั AND LD I 0.00 I 0.02 Instruction Address Instruction Operands I 0.01 I0.03 00000 LD 0.00 00001 OR 0.01 00002 LD 0.02 00003 OR NOT 0.03 00004 AND LD ตัวอยางท่ี 5.7 ชดุ คาํ สงั่ ในรปู การเชือ่ มแบบขนานจะใชคาํ สั่ง OR LD I 0.00 I 0.02 Instruction Address Instruction Operands I 0.01 I0.03 00000 LD 0.00 00001 AND 0.02 00002 LD 0.01 00003 AND NOT 0.03 00004 OR LD --- ตวั อยา งที่ 5.8 การเขียนโปรแกรมโดยใชค าํ สงั่ AND LD และ OR LD AND LD คือ การเช่อื มโปรแกรม 2 block ในแบบอนกุ รม I0.02 I0.04 Q100.00 Address Instruction Data I0.03 I0.05 00000 LD 0.02 00001 OR 0.03 00002 LD 0.04 00003 OR NOT 0.05 00004 AND LD --- 00005 OUT 100.00 - 65 -
PNSPO!! ! ! ! !บทที่ 5 หลกั การเขียนแลดเดอรไดอะแกรมและคําสง่ั พ้ืนฐาน OR LD คือ การเชอื่ มโปรแกรม 2 block ในแบบขนาน I0.02 I0.03 Q100.01 Address Instruction Data I0.04 I0.05 00000 LD 0.02 00001 AND NOT 0.03 00002 LD 0.04 00003 AND 0.05 00004 OR LD --- 00005 OUT 100.01 5.2 ขอกาํ หนดในการเขียนแลดเดอรไ ดอะแกรม (Ladder Diagram) 5.2.1 จากแลดเดอรไ ดอะแกรม (Ladder Diagram) ขา งลาง จะไมส ามารถเขยี น โปรแกรมได จาํ เปน ตอ งแปลงชดุ Ladder Diagram กอ น I 0.00 I 0.02 Q 100.00 I 0.04 Q 100.01 I 0.01 I 0.03 แลดเดอรไ ดอะแกรม (Ladder Diagram) ทผี่ ิด - 66 -
PNSPO!! ! ! ! !บทที่ 5 หลกั การเขียนแลดเดอรไดอะแกรมและคาํ สั่งพื้นฐาน สามารถเขียนใหมได และวงจรทาํ งานเหมอื นเดิม คอื I 0.01 I 0.04 I 0.02 Q 100.00 I 0.00 I 0.04 I 0.04 I 0.03 Q 100.01 I 0.01 แลดเดอรไ ดอะแกรม (Ladder Diagram) ท่ถี ูก 5.2.2 สําหรบั แลดเดอรไ ดอะแกรม (Ladder Diagram) จะพิจารณาการทาํ งานจากซายไป ขวาเทานัน้ ดงั ตัวอยา งเชน I 0.00 I 0.04 Q 100.00 I 0.01 I 0.02 I 0.03 Q 100.01 แลดเดอรไดอะแกรม (Ladder Diagram) A จากแลดเดอรไ ดอะแกรม (Ladder Diagram) A ถา หนาสัมผัส 0.00, 0.02 และ 0.03 มีสภาวะ “ON” กไ็ มส ามารถทาํ ให เอาตพุต 100.01 น้ัน “ON” ไดเลย ดังนัน้ ผูใ ชจ ะตองทาํ การจดั โปรแกรมเสียใหมเพ่อื ใหก ารทํางานกระทาํ จากซายไปขวาดงั รูปแลดเดอรไ ดอะแกรม B - 67 -
PNSPO!! ! ! ! !บทที่ 5 หลกั การเขยี นแลดเดอรไ ดอะแกรมและคาํ ส่งั พ้ืนฐาน I 0.01 I 0.02 I 0.04 Q 100.00 I 0.00 I 0.00 I 0.02 I 0.03 Q 100.01 I 0.01 แลดเดอรไดอะแกรม (Ladder Diagram) B 5.2.3 จาํ นวนหนา คอนแทคทงั้ NO และ NC ของอินพตุ /เอาตพุต, รีเลยแ ละไทมเ มอร (TIM)/เคานเตอร (CNT) จะนํามาเขยี นโปรแกรมเปน จํานวนเทา ใดก็ไดต ามความประสงคข องผูใช แตถึงอยา งไรกต็ ามการเขียนโปรแกรมทด่ี จี ะตองพยายามประหยดั ขนาดของโปรแกรมใหมากทสี่ ดุ เทา ที่จะสามารถทาํ ได ซง่ึ จะเปรียบเทยี บใหเ ห็นในแลดเดอรไ ดอะแกรม (Ladder Diagram) A และ แลดเดอรไ ดอะแกรม (Ladder Diagram) B จะสงั เกตเห็นไดว าการเขียนในแลดเดอรไ ดอะแกรม (Ladder Diagram) B จะประหยดั คําสัง่ ได 2 คาํ ส่ัง ในขณะทโี่ ปรแกรมทาํ งานไดเหมอื นกัน Address Instruction Operands I 0.00 I 0.01 Q 100.00 00000 LD 0.00 I 0.02 I 0.03 00001 LD 0.01 00002 LD 0.02 00003 AND 0.03 00004 OR LD แลดเดอรไดอะแกรม (Ladder Diagram) A 00005 AND LD 00006 OUT 100.00 I 0.02 I 0.03 I 0.00 Q 100.00 Address Instruction Operands I 0.01 00000 LD 0.02 00001 AND 0.03 แลดเดอรไ ดอะแกรม (Ladder Diagram) B 00002 OR 0.01 00003 AND 0.00 00004 OUT 100.00 - 68 -
PNSPO!! ! ! ! !บทท่ี 5 หลกั การเขยี นแลดเดอรไดอะแกรมและคาํ สั่งพื้นฐาน 5.2.4 เมื่อตองการใหเ อาตพ ุต ON ตลอดเวลาเราจะใชแ ฟลค (Flag) ทีเ่ ปน แบบ “Always ON Flag” (CF113) มาเปนตัวสรา งเงอื่ นไขเพราะไมส ามารถตอ คอยลเ อาตพ ุตไดโ ดยตรงกับ Bus Bar แตกม็ ีขอยกเวนเปน บางคําส่ัง เชน INTERLOCK CLEAR, JUMP END และ STEP Q 100.00 OUT 100.00 END(01) แลดเดอรไ ดอะแกรม (Ladder Diagram) ท่ผี ดิ P_On Q 100.00 LD P_No Always ON Flag OUT 100.00 END(01) แลดเดอรไ ดอะแกรม (Ladder Diagram) ทถี่ กู 5.2.5 จํานวนหนา สมั ผัสท่ใี ชใ นการตออนุกรม หรอื ขนานไมม ขี ดี จํากัดจะใชเ ทา ใดกไ็ ด ขึ้นอยูกับความตองการของผูใ ช 5.2.6 เอาตพ ุตทุกๆ ตวั จะมี Auxiliary Contact เพือ่ ใชง านในโปรแกรมได และสามารถ ใชจ ํานวนไมจ าํ กดั 5.2.7 ไมส ามารถเขยี นโปรแกรมใหหนา สมั ผัสอยตู าํ แหนง หลงั จากคอยลได I0.00 Q 100.00 I0.01 แลดเดอรไ ดอะแกรม (Ladder Diagram) ที่ผดิ I0.00 I0.01 Q 100.00 แลดเดอรไดอะแกรม (Ladder Diagram) ทถ่ี กู - 69 -
PNSPO!! ! ! ! !บทที่ 5 หลกั การเขียนแลดเดอรไ ดอะแกรมและคาํ สัง่ พ้ืนฐาน 5.2.8 ไมส ามารถเขยี นโปรแกรมใหมเี อาตพ ตุ เบอรเ ดยี วกนั ซ้าํ หลายๆ คร้ังได ตอ งจัดรูป เสียใหม I 0.00 Q 100.00 I 0.01 Q 100.00 แลดเดอรไ ดอะแกรม (Ladder Diagram) ท่ีผดิ I 0.00 Q 100.00 I 0.01 แลดเดอรไ ดอะแกรม (Ladder Diagram) ที่ถูก 5.2.9 เอาตพุตคอยล สามารถเขียนโปรแกรมใหตอขนานไดเลย กรณีรับเงื่อนไขของ หนา สัมผัสชดุ เดยี วกัน I 0.00 I 0.01 Q 100.00 Q 100.01 5.2.10 PLC จะเรม่ิ ประมวลผลโปรแกรมจาก Address แรกสุดจนกระท่ังถึงคาํ ส่งั END ตาํ แหนงแรก โดยท่คี ําสั่ง END อาจจะมีหลายตาํ แหนงในโปรแกรมทเ่ี ปนเชน น้ีเพื่อจุดประสงค สาํ หรับการทดสอบโปรแกรม กรณที ตี่ อ งการแยกโปรแกรมออกเปน สว นๆ เพอ่ื ใหงายตอ การ ตรวจสอบและแกไ ขโปรแกรม - 70 -
PNSPO!! ! ! ! !บทท่ี 5 หลกั การเขยี นแลดเดอรไดอะแกรมและคาํ สัง่ พ้ืนฐาน 5.3 กลมุ คําสง่ั Program Control Instruction 5.3.1 การใชค ําสงั่ IL(02), ILC(03) คําสง่ั IL และ ILC จะตอ งใชร วมกันคือ ถา เร่มิ ตนมีการใชค าํ สั่งดว ย IL เมื่อใดแลว ถา ตอ งการสิ้นสุดการทาํ งานตอ งจบดว ย ILC เง่ือนไขของคาํ ส่งั คอื คอนแทคตรงหนา สว นของ IL มี สภาวะ “ON” จะทําใหโ ปรแกรมทีอ่ ยรู ะหวา ง IL และ ILC ทํางานเปน ปกติ แตถ าคอนแทคตําแหนง ดังกลา วมีสภาวะ “OFF” จะทาํ ใหก ารทํางานของโปรแกรมระหวา ง IL และ ILC ไมท ํางาน ใน ขณะเดยี วกนั Output Coil ในชวงนน้ั จะมสี ภาวะ “OFF” ดว ย ตัวอยางที่ 5.9 การใชคําสัง่ Ladder Diagram ชุดคําส่ัง I 0.02 Address Instruction Data I 0.03 I 0.04 I 0.05 IL(02) 00000 LD 0.02 I 0.06 Q100.00 Q100.01 00001 IL (02) - Q100.02 00002 LD 0.03 ILC(03) END(01) 00003 AND 0.04 00004 OUT 100.00 00005 LD 0.05 00006 OUT 100.01 00007 LD NOT 0.06 00008 OUT 100.02 00009 ILC(03) - 00010 END(01) - - 71 -
PNSPO!! ! ! ! !บทท่ี 5 หลกั การเขยี นแลดเดอรไดอะแกรมและคําสง่ั พื้นฐาน 5.3.2 การใชค าํ สงั่ JMP (04) และ JME (05) การใชง านของคําสง่ั คนู จ้ี ะตอ งใชง านคูก ัน เงื่อนไขตา งๆ ทีอ่ ยูระหวางคาํ ส่งั JMP และ JME จะมเี งอ่ื นไขการทาํ งานเปนปกติ ในกรณีทชี่ ดุ ของคอนแทคตรงสวนหนาของ JMP มี สภาวะเปน “ON” แตถาชดุ คอนแทคดงั กลาวมีสภาวะเปน “OFF” เมอ่ื ใด Output, Timer, Counter, Keep ท่อี ยรู ะหวา งคําส่งั ดงั กลาวจะยังคงคา งสภาวะเอาไวเ ชนเดิม และจะมกี ารเปลย่ี นแปลงอกี คร้งั ถาชุดของคอนแทคมสี ภาวะ “ON” เราใช JUMP 00 ไดหลายครงั้ ตามตองการ แต JUMP 01 ถึง 49 สามารถใชไ ดเ พยี งครัง้ เดยี ว Ladder Diagram JMP(04) ชุดคําสง่ั Operand #0 0.02 I 0.03 I 0.04 Address Instruction 0.03 Q100.00 0000 LD #0 I 0.02 0001 AND 0.04 I 0.05 Q100.01 0002 JMP(04) 100.00 I 0.06 0003 LD 0.05 Q100.02 0004 OUT 100.01 0005 LD 0.06 JME(05) 0006 OUT 100.02 #0 0007 LD #0 0008 OUT END(01) 0009 JME(05) 0010 END(01) - 72 -
PNSPO!! ! ! ! !บทที่ 5 หลกั การเขยี นแลดเดอรไ ดอะแกรมและคาํ สัง่ พ้ืนฐาน แบบฝก หดั ทดสอบความเขาใจเกีย่ วกับคําส่ังพื้นฐาน 1. จงเขียนโปรแกรมจาก Ladder Diagramใหเ ปนรปู Mnemonic Code Address Instruction Operands I 0.00 I 0.01 I 0.02 I 0.05 I 0.06 Q 100.00 00000 00001 0002 I 0.03 I 0.04 00003 00004 00005 END(01) 00006 00007 00008 00009 2. จงเขียนโปรแกรมจาก Mnemonic ใหเ ปน รูป Ladder Diagram Address Instruction Operands 00000 LD 0.00 00001 AND 0.01 00002 0.02 00003 LD NOT 0.03 00004 AND 00005 OR LD 0.04 00006 LD 0.05 00007 AND NOT 0.06 00008 LD NOT 0.07 00009 AND 00010 OR LD 100.00 00011 AND LD 00012 OUT END (01) - 73 -
PNSPO!! ! ! ! !บทที่ 5 หลกั การเขียนแลดเดอรไดอะแกรมและคาํ สัง่ พ้ืนฐาน 5.4 คําสงั่ ในกลุม Bit Control Instruction 5.4.1 การใชค ําสง่ั เซต (SET) และรเี ซต (RESET) คําส่งั SET จะทาํ ใหบ ิตท่ีถกู สั่ง “ON” และคงคา งอยจู นกวาจะมีคําส่งั RSET ทบ่ี ติ เดียวกนั บติ นน้ั จึงจะ “OFF” Ladder Symbol B: Bit CIO,W,H,A,IR SET RSET BB พนื้ ทห่ี นว ยความจําทีส่ ามารถใชกับคาํ สงั่ ได ตวั อยางที่ 5.10 ตองการใหห ลอดไฟทีเ่ อาตพตุ 100.00 ติดตลอดเวลา หลังจาก ON อินพตุ 000.00 แลว คร้ังเดยี วโดยไมต อง Hold คําสงั่ อินพุต จนกวา จะมกี าร Reset ที่อินพตุ 000.01 หลอดไฟ จะดับ Ladder Diagram SET ชุดคาํ สั่ง Operands Q 100.00 Address Instruction 0.00 I 0.00 RSET 00000 LD 100.00 Q 100.00 00001 SET 0.01 I 0.01 0002 LD 100.00 END(01) 00003 RSET 00004 END 5.4.2 การใชค ําสง่ั KEEP - KEEP(11) การทํางานของคาํ สั่ง KEEP จะเหมือนกบั คําสั่ง SET และ RESET เพียงแตจ ับขา SET/RESET ใหรวมอยใู นตัวเดียวกนั เพ่ือใหผ ูใชง านสามารถเลือกใชโ ปรแกรมไดสะดวกตาม ความเหมาะสม - 74 -
PNSPO!! ! ! ! !บทท่ี 5 หลักการเขียนแลดเดอรไดอะแกรมและคาํ ส่งั พ้ืนฐาน Ladder Symbol B: Bit CIO,W,H,A,IR S KEEP(11) RB พ้นื ท่ีหนว ยความจาํ ทสี่ ามารถใชกบั คําสั่งได เม่อื ขา S มีสถานะ “ON” บติ ท่ี B จะทํางานจนกวาขา R จะมีสถานะ “ON” บติ B ถงึ จะเลกิ ทํางาน ตวั อยางท่ี 5.11 ตอ งการใหเอาตพตุ 100.00 เปลีย่ นเปน “ON” ตลอดเวลาโดยการ ON อินพุต 0.00 ไมว า จะ “OFF” แลวก็ตามจนกวา อินพตุ 0.01 จะ ON (RESET) Ladder Diagram ชดุ คาํ สัง่ I 0.00 S KEEP (11) Address Instruction Operands R Q 100.00 00000 LD 0.00 I 0.01 00001 LD 0.01 END(01) 00002 KEEP 100.00 00003 END 5.4.3 การใชค ําสงั่ DIFFERENTIATE UP และ DOWN–DIFU(13), DIFD(14) คาํ สงั่ DIFU(13) และ DIFD(14) จะเปนคําสง่ั ที่ทํางานเพียงขอบขาขึ้น หรือขอบขา ลงของสญั ญาณอนิ พตุ เทา นั้น และจะทํางานเพียงชว งเวลา One Cycle เทานั้น Ladder Symbols B: Bit CIO,W,H,A,IR DIFU DIFD BB พ้ืนทีห่ นว ยความจาํ ทีส่ ามารถใชก ับคําสัง่ ได ตวั อยางที่ 5.12 ตองการใหอ ินพตุ 0.00 ทํางานเพอื่ ON บติ W2.00 ซงึ่ จะทําใหเอาตพ ตุ หลอดไฟ 100.00 ใหต ิดไดโ ดยอนิ พตุ 0.01 เปนตวั สัง่ OFF - 75 -
PNSPO!! ! ! ! !บทที่ 5 หลักการเขยี นแลดเดอรไดอะแกรมและคาํ สั่งพื้นฐาน Ladder Diagram DIFU(13) ชุดคําส่งั Operands W 2.00 0.00 I 0.00 I 0.01 Q 100.00 Address Instruction W2.00 00000 LD W2.00 W 2.00 END(01) 00001 DIFU 100.00 Q 100.00 0002 LD 00003 OR 100.00 00004 AND NOT 00005 OUT 00006 END 5.5 กลุมคาํ สง่ั Timer/Counter สาํ หรบั PLC บางรนุ Timer และ Counter จะใชพ น้ื ท่ีเดยี วกันซงึ่ เรยี กใชไดท ง้ั หมด 256 ตวั ตงั้ แตตวั ที่ 000 ถงึ 255 ภายใน 256 ตัวนส้ี ามารถกําหนดใหเปน Timer หรือ Counter ก็ไดโ ดยท่ีหาก ตวั ใดถกู กําหนดใหเ ปน Timer แลวจะนาํ ไปใชเ ปน Counter อีกไมไ ด ดงั นัน้ ตองดู Manual ของ PLC รุน นัน้ ประกอบดว ย ถา Timer/Counter อยใู นพืน้ ทเี่ ดยี วกัน จะไมส ามารถใชเ บอรเดียวกันได แต PLC บางรุน Timer/Counter จะอยูค นละพน้ื ที่ ดังนน้ั จงึ สามารถใช Timer และ Counter เบอรเ ดียวกันได เชน T000 และ C000 สําหรับคําส่ังในกลุม Timer/Counter มหี ลายคําส่ัง ในท่ีนจี้ ะยกตวั อยา งการใชง านคําสั่ง Timer/Counter แบบพน้ื ฐานคอื คําส่ัง TIM และ CNT ดงั นี้ 5.5.1 การใชค าํ สง่ั TIMER: TIM ใชใ นการจับเวลา, ตัง้ เวลา โดยพ้นื ฐานแลวตอ งเขาไปกําหนดคา 2 คา คือ N และ SV ตามตวั อยา งขางลาง TIM N: Timer Number (หมายเลขของ Timer) N T000-T4095 (CP1L) SV SV: Set Value (คา ตง้ั เวลา) คา คงท่ี (#) หรอื การอา งถึง CIO, W, H, A, T, C, D, E, E?_, @D, @E, @E?_, *D, *E, *E?_, DR, ,IR - 76 -
PNSPO!! ! ! ! !บทที่ 5 หลักการเขียนแลดเดอรไ ดอะแกรมและคาํ สง่ั พื้นฐาน N= Timer Number (เบอร 0000 - 4095) เลอื กวา จะใช Timer ตัวที่เทา ใด SV = Set Value คา ตงั้ เวลา ใชกาํ หนดวาจะให Timer ตั้งเวลานานเทา ใด ซึ่ง SV ที่ตง้ั น้ัน จะถูกคณู ดวย 0.1 เพอ่ื แปลงเปนระยะเวลาจริง ซง่ึ สามารถ หมายเหตุ 1. กําหนด SV เปน คาคงท่ี #0000-9999 (000.0-999.9 วนิ าที คูณดว ย 0.1 วินาท)ี 2. กําหนด SV เปน แอดเดรส CIO,A,T,C,IR,DR,D,TK,H,Wโดยใสค า ตง้ั เวลาทีเ่ ปนคา คงที่ 0000-9999 ไวใ น แอดเดรส ที่อา งถงึ อีกทีหน่งึ (คา ทีก่ ําหนดจะคณู ดว ย 0.1 วนิ าทีเชน เดยี วกบั การกาํ หนดแบบ คาคงท่ี) *ในทนี่ ย้ี กตวั อยางหมายเลข Timer ของ PLC รนุ CP1L เทา นน้ั สาํ หรบั PLC รุนอน่ื ๆ สามารถใช Timer ไดม ากกวา หรอื นอ ยกวา ที่ กาํ หนด เม่อื มสี ัญญาณส่ังให Timer ทํางาน (Contact B มีสถานะ “ON”) คาํ สั่ง Timer จะเรมิ่ นับ เวลาตามคาท่ตี ั้งไวใ น Timer เมอ่ื นบั ครบเวลา หนา Contact ของ Timer ตวั นนั้ ๆ กจ็ ะ “ON” แตถา สญั ญาณท่สี ง่ั ให Timer ทาํ งานหายไป (Contact B มีสถานะ OFF) Timer จะถกู Reset ตัวอยา งที่ 5.13 การใชง านของคําสั่ง Timer เมือ่ อินพุต 0.00 ทาํ งาน (ON) คางเปน เวลา 5 วนิ าที เอาตพ ุต 100.00 จะ ON และ เอาตพ ตุ 100.01 จะ OFF Ladder Diagram ชดุ คําสัง่ I 0.00 I 0.01 TIM Address Instruction Operands 0 T0000 #50 5 วินาที 00000 LD 0.00 T0000 Q 100.00 00001 AND NOT 0.01 Q 100.01 00002 TIM 000 #050 END(01) 00003 LD TIM0000 00004 OUT 100.00 00005 LD NOT TIM0000 00006 OUT 100.01 00007 END (01) - 77 -
PNSPO!! ! ! ! !บทท่ี 5 หลักการเขยี นแลดเดอรไ ดอะแกรมและคําสั่งพ้ืนฐาน 5.5.2 การใชคาํ สง่ั COUNTER - CNT เปนคาํ สง่ั ที่ใชน ับจํานวนครงั้ ของสัญญาณ อินพุต ที่ ON แตละคร้ัง ซึ่งเปน คําสง่ั ท่ี นับลงจากคา ทต่ี ง้ั ไว (Set Value) CP CNT N: Counter Number (หมายเลขของ Counter) N C000-C4095 (CP1L) R SV SV: Set Value (คา ตง้ั จาํ นวนนบั ) คาคงท่(ี #)หรอื การอางถงึ CIO, W, H, A, T, C, D, E, E?_, @D, @E, @E?_, *D, *E, *E?_, DR, ,IR N= Counter Number (เบอร 000- 4095) เลือกวา จะใช Counter ตัวท่เี ทาใด SV = Set Value คา ตัง้ จํานวนนับ ใชก าํ หนดวา จะให Counter นับสญั ญาณ อินพุตเปนจํานวนก่คี รงั้ หนา Contact เอาตพ ตุ ของ Counter จึงจะเร่มิ CP = ทาํ งานซ่ึงสามารถ R= 1. กาํ หนด SV เปนคาคงท่ี #0000-9999 หมายเหตุ 2. กําหนด SV เปน แอดเดรส CIO, W, H, A, T, C, D, E, E?_, @D, @E, @E?_, *D, *E, *E?_, #, DR, ,IR โดยใสคา ต้ังจาํ นวนนบั ทเ่ี ปน คาคงท่ี 0000-9999 ไวในแอดเดรส ท่อี า งถึงอกี ทหี นึง่ ขานับ เมื่อมีสัญญาณอินพุตในชว งทเี่ ปลยี่ นสถานะจาก OFF เปน ON เขามาที่ขานี้ Counter จะนับถอยหลงั ลง 1 ขา Reset เมื่อมีสญั ญาณอินพุตเขา มาที่ขาน้ี เอาตพ ุตของ Counter จะหยดุ ทํางานและคานบั ของ Counter จะถูก Reset กลับไปเทา กบั คาตั้งจํานวน นบั (SV) *ในทน่ี ย้ี กตวั อยางหมายเลข Counter ของ PLC รุน CP1L เทา นั้นสําหรบั PLC รุนอืน่ ๆ สามารถใช Counter ไดมากกวา หรือนอ ยกวา ทีก่ ําหนด *Memory Area ของ Timer และ Counter จะใชพ ืน้ ที่แยกกนั แตใ น PLC รุนเกา เชน CPM2A จะใช Timer และ Counter กบั เบอรเดียวกนั ไมได - 78 -
PNSPO!! ! ! ! !บทท่ี 5 หลักการเขยี นแลดเดอรไดอะแกรมและคาํ สัง่ พ้ืนฐาน ตวั อยา งท่ี 5.14 แสดงการใชค าํ ส่งั Counter สญั ญาณท่สี งเขา ท่ีขาสญั ญาณนบั จะทําให Counter นับถอยหลงั เม่อื เทยี บกบั SV ตวั Counter จะเร่ิมนับที่ขอบขาขึน้ ของสัญญาณอนิ พตุ และจะ นบั ใหมเม่ือสญั ญาณเปลี่ยนเปน OFF หรอื ‘0’ แลวกลับมา ON อีกครั้ง และจะทํางานเชนนไี้ ปจน ครบคา ทต่ี ัง้ ไว (SV) เอาตพตุ จงึ ON CP CNT CP CNT N N R SV R SV จังหวะการนับ จงั หวะการรีเซต ตวั อยางที่ 5.15 การใชง านของคาํ สั่ง Counter เมอ่ื อนิ พตุ 0.00 ทํางาน (ON) 1 ครัง้ Counter จะนบั 1 ครัง้ ถา อนิ พตุ 0.00 ทํางาน (ON) ครบ 10 คร้ัง จะทาํ ใหค าํ ส่ัง Counter ทาํ งาน พรอ มกบั Contact ของ Counter (CNT0000) จะทํางานดว ย และจะถกู Reset ดว ยอนิ พตุ 0.02 Ladder Diagram ชดุ คาํ สั่ง I 0.00 Address Instruction Operands CNT 00000 LD 0.00 I 0.02 0000 00001 LD 0.02 00002 CNT 001 #0010 C0000 #0010 00003 LD CNT0000 Q 100.02 00004 OUT 100.02 00005 END (01) END (01) - 79 -
PNSPO!! ! ! ! !บทท่ี 5 หลักการเขียนแลดเดอรไดอะแกรมและคําสัง่ พื้นฐาน • การประยุกตใ ชงานของ TIMER และ COUNTER ตวั อยางที่ 5.16 ตองการนับจาํ นวนคนดคู อนเสิรต สถานที่จัดงานสามารถจุคนดูได 20,000 คน ใช Photo Switch นับจํานวนคน หลงั จาก 20,000 คนแลวให OUTPUT LAMP 100.00 ทํางาน เพ่ือแสดงวาคน เตม็ แลว I/O ที่กําหนด PHOTO SWITCH 0.00 PB RESET 0.01 OUTPUT LAMP 100.00 Ladder Diagram ชุดคาํ สั่ง I 0.00 Count CNT Address Instruction Data C0001 Input C0001 I 0.01 Reset 0001 00000 LD 0.00 C0002 #0100 100 00001 LD CNT 0001 counts 0001 Count 00002 CNT Input CNT #0100 Reset 0002 200 00003 LD CNT 0001 #0200 counts 00004 LD 0.01 Q 100.00 00005 CNT 0002 END(01) 00006 LD #0200 CNT 0002 00007 OUT 100.00 00010 END (01) - 80 -
PNSPO!! ! ! ! !บทที่ 5 หลักการเขียนแลดเดอรไ ดอะแกรมและคําส่ังพ้ืนฐาน ตวั อยางที่ 5.17 เครอื่ งจกั รเครื่องหนึง่ ตองการอดั จารบหี ลังจากใชง านไปแลวครบ 1,000 ช่ัวโมง I/O ทกี่ าํ หนด PB START 0.00 PB RESET 0.01 VALUE LUBRICATE 100.00 Ladder Diagram ชดุ คาํ สงั่ I 0.00 TIM 0001 TIM Address Instruction Data T0001 0001 00000 LD 0.00 C0001 #6000 00001 AND-NOT TIM 0001 I 0.01 600 sec 00002 TIM 0001 C0002 Count # 6000 Input CNT TIM 0001 0.01 Reset 0002 00003 LD 0002 #6000 # 6000 600 00004 LD CNT 0002 counts 100.00 Q 100.00 00005 CNT END(01) 00006 LD 00007 OUT 00008 END (01) - 81 -
PNSPO!! ! ! ! !บทท่ี 5 หลักการเขียนแลดเดอรไ ดอะแกรมและคําสั่งพื้นฐาน ตัวอยา งที่ 5.18 มอเตอรป มนา้ํ ถา กดปุม PB-START หลอดไฟสีแดงจะตดิ เพื่อแสดงวาปม ทาํ งาน และปม นาํ้ จะหยดุ การทาํ งานพรอ มกบั หลอดไฟสีแดงดับ กต็ อเมอ่ื กด PB-STOP หลอดไฟสีเขียวจะติดแทน (ปมจะทํางานไดตอ งมนี าํ้ ในแทงคเ ทาน้นั ) Pump Tank PB-START PB-STOP หลอดไฟสแี ดง หลอดไฟสเี ขยี ว SENSOR DETECT LIQUID I/O ทก่ี ําหนด 0.00 PB-START INPUT 0.01 PB-STOP 0.02 SENSOR DETECT LIQUID OUTPUT 100.00 MOTOR PUMP 100.01 หลอดไฟสแี ดง 100.02 หลอดไฟสเี ขยี ว Ladder Diagram ชดุ คาํ ส่งั I 0.00 I 0.01 I 0.02 Q 100.00 Address Instruction Operand 00000 LD 0.00 Q100.00 Q 100.01 00001 OR 100.00 00002 AND NOT 0.01 Q100.00 Q 100.02 00003 AND 0.02 00004 OUT 100.00 END(01) 00005 OUT 100.01 00006 LD NOT 100.00 00007 OUT 100.02 00008 END (01) - 82 -
PNSPO!! ! ! ! !บทที่ 5 หลักการเขียนแลดเดอรไ ดอะแกรมและคําส่ังพื้นฐาน แบบฝกหัด จงเขยี นโปรแกรมต้ังเวลา 24 ช่วั โมง โดยเมื่อครบตามเวลาท่ีกาํ หนดตอ งการใหม อเตอรท าํ งาน Ladder Diagram Mnemonic Code Data Address Instruction 00000 00001 00002 00003 00004 00005 00006 00007 00008 00009 00010 - 83 -
PNSPO!! ! ! ! !บทท่ี 5 หลักการเขียนแลดเดอรไดอะแกรมและคาํ สั่งพื้นฐาน 5.5.3 การใชค าํ สงั่ Reversible Counter CNTR (FUN 12) หรือ UP/DOWN Counter คาํ สัง่ CNTR ใชอ นิ พตุ 3 อินพตุ ควบคุมการทํางานคือ II (Increment Input), DI (Decrement Input) และ Reset Input (R) การใชงานตองระบเุ บอรของตัวเคาทเ ตอรแ ละกาํ หนดคา การนับ (Set Value) เปน จํานวนเทาใดดว ย II CNTR(12) N: Counter Number DI N (หมายเลขของ Counter) R SV C000-C4095 II- คือขานบั สัญญาณแบบนบั ข้นึ DI- คือขานับสัญญาณแบบนบั ลง SV: Set Value (word, BCD) R- คือขา Reset CIO, W, H, A, T, C, D, E, E?_, @D, @E, @E?_, *D, *E, *E_, #, DR, ,IR พนื้ ที่หนว ยความจาํ ทีใ่ ชกบั คาํ สัง่ ได การกาํ หนดคา SV (คาท่จี ะตัง้ ใหน ับ) สามารถกําหนดเปน คา คงที่ หรือกาํ หนดผา น หนว ยความจาํ ตางๆ ทีก่ ําหนดไวใ หเ ชน DM ตอ งต้งั อยใู นยา น 1-9,999 ลักษณะการทํางานของ CNTR แสดงไดด ังนี้ Execution condition ON On increment (II) OFF Execution condition On decrement (DI) ON OFF Completion Flag ON SV PV OFF 00000 00001 SV-1 SV 00000 SV-2 SV-1 SV-2 - 84 -
PNSPO!! ! ! ! !บทที่ 5 หลกั การเขียนแลดเดอรไดอะแกรมและคําสง่ั พ้ืนฐาน ตวั อยา งที่ 5.19 การใชงาน Counter ชนิด UP/DOWN counter หรอื Reversible Counter Ladder Diagram ชุดคําสัง่ I 0.01 Address Operand Data CNTR(12) I 0.02 00000 LD 0.01 000 00001 LD 0.02 I 0.03 #10 00002 LD 0.03 00003 CNTR(12) 0000 C0000 00004 # 10 00005 LD CNT 0010 00006 OUT 100.00 Reversible Counter หรือเรียกอีกชื่อวา UP-DOWN Counter ทัง้ นเี้ พราะสามารถทําการนบั ขึน้ ในกรณที ่ีมสี ญั ญาณเขาที่ II และมกี ารนบั ลงเมื่อมีสัญญาณเขาที่ DI แตถา มสี ญั ญาณ UP และ DOWN ทอ่ี ินพุตพรอมกนั จะไมท ําใหเกดิ การนับในทศิ ทางใดๆ การนับจะนบั เปน ลักษณะวนหรือ ตอเนื่องกันไปเร่อื ยๆ กลา วคอื เม่อื นบั ครบตามจาํ นวนทก่ี ําหนดไวแ ลว จะวนกลบั มาเปน “0”หรือ “10” ใหม เปนเชนน้ไี ปเร่อื ย และการแสดงคาเอาตพุตของคาํ สั่ง CNTR จะมีสภาวะ “ON” เพยี ง 1 คร้ังเทา นนั้ ในจงั หวะทเ่ี ปน การวนคา เชน จาก “10” เปน “0” ในกรณที ี่มีการเพิ่มหรอื ลดถงึ คาท่ี กาํ หนดเอาไว สว นสญั ญาณ Reset ถอื วา เปน อกี อนิ พตุ หน่ึงของ CNTR ถา มสี ภาวะ “ON” เมอื่ ใดจะ ทาํ ใหคา ท่ีนับไดม คี าเร่ิมตน ท่ี “0000” ทนั ที - 85 -
PNSPO!! ! ! ! !บทที่ 5 หลกั การเขยี นแลดเดอรไ ดอะแกรมและคําส่งั พื้นฐาน 5.6 กลุมคําสงั่ Data Movement 5.6.1 การใชคําสง่ั MOVE – MOV(21) (@)MOV(21) S: Source word S D CIO, W, H, A, T, C, D, E, E?_, @D, @E, @E?_, *D, *E, *E?_, #, DR, ,IR พืน้ ทห่ี นว ยความจําทใี่ ชก ับคาํ ส่งั ได D: Destination word CIO, W, H, A, T, C, D, E, E?_, @D, @E, @E?_, *D, *E, *E?_, DR, ,IR พน้ื ท่หี นว ยความจาํ ทใี่ ชก ับคาํ สงั่ ได S = เวริ ดตน ฉบบั ทต่ี องการ Copy (Source word) D = เวริ ด ปลายทางที่ Copy (Destination word) เมื่อคําสง่ั น้ที าํ งาน มันจะทําการสําเนา (Copy) ขอ มลู จาก S ไปยัง D โดยท่ี S ยงั มีขอ มลู เดมิ อยู ถาใสส ัญลักษณ @ ขา งหนา คาํ สง่ั นีจ้ ะทาํ งานเพยี งแค 1 Scan time เทา นน้ั จะไมม กี ารสําเนา ขอ มลู จาก S ไปยัง D อกี แมว าจะยงั มสี ญั ญาณอนิ พตุ ON ทคี่ าํ สัง่ MOV - 86 -
PNSPO!! ! ! ! !บทท่ี 5 หลักการเขยี นแลดเดอรไดอะแกรมและคําสงั่ พื้นฐาน Source Input . Destination Output CH 000 . CH 010 . 00000 1 01000 1 00001 1 01001 1 00002 0 01002 0 00003 1 01003 1 00004 1 01004 1 00005 0 01005 0 00006 0 01006 0 00007 1 01007 1 00008 1 01008 1 00009 1 01009 1 00010 1 01010 1 00011 0 01011 0 00012 0 01012 0 00013 0 01013 0 00014 0 01014 0 00015 1 01015 1 ตัวอยา งท่ี 5.20 คาของ S = H 0001 (มีคา ขอ มลู คอื 1500) และ D = D 0005 (มีคาขอ มลู คงคือ 0050) เมอ่ื คาํ ส่งั MOV(21) ทาํ งาน คาที่ D จะมขี อมูลใหมค อื 1500 Ladder Diagram I 0.00 MOV(21) H0001 D0005 H 0001 S I0.00 = OFF 1500 0050 D 0005 D H0001 D0005 END(01) I0.00 = ON 1500 1500 - 87 -
PNSPO!! ! ! ! !บทที่ 5 หลกั การเขยี นแลดเดอรไดอะแกรมและคาํ สง่ั พ้ืนฐาน 5.7 กลุมคาํ ส่ัง Data Shifting 5.7.1 การใชคาํ ส่งั SHIFT REGISTER – SFT(10) Operand Ladder Symbol St : Starting word I SFT(10) CIO, W, H, A P St E : End word CIO, W, H, A RE I คือ ขา Data Input กําหนดคาท่ใี ชในการเลือ่ นขอมูลเปน “0” หรอื “1” P คือ ขา Pulse Input ใชปอ นสัญญาณพลั สเพอ่ื เลื่อนขอ มูลจาก I เขา ไป R คอื ขา Reset ใชกําหนดคา ขอมูลใน Starting Word ถงึ End Word ใหม คี า เปน 0 การทาํ งานจะเล่ือนขอ มูลทีละบิต จากบิต 0 ของ Starting word ไปจนถงึ บติ 15 ของ End word ถา มีการ ON ที่ขา P (Pulse) แตล ะคร้ัง ถาขา P ON หนึ่งครงั้ ขอ มลู กจ็ ะเล่อื นหน่ึงบิต ตัวอยางท่ี 5.21 15 . . . 03 02 01 00 Start Word Data Input 15 . . . 03 02 01 00 END Word 15 . . . 03 02 01 00 ทดลองเขียนคาํ ส่ัง SFT(10) โดยมี 1 Second clock puls (P_1s) ท่ีขา P และ Turn On สวิตช I0.00 ซึง่ เปนคา ขอมลู ทจ่ี ะเลือ่ นเขาไป โดยเาอตพ ตุ เวริ ด W0 จะ ON ต้ังแตบิตท่ี W0.00 แลวเลอ่ื น ไป ON ท่ี W0.01 Address Instruction Operands I 0.00 00000 LD 0.00 P_1s SFT(10) 00001 LD P_1s I 0.01 W0 00002 LD 0.01 00003 SFT(10) W0 W 0 W0 END(01) 00004 END(01) - 88 -
บทท่ี 6 การใชซอฟตแวรปอ นโปรแกรม ในบททผี่ า นมาเราไดกลา วถงึ หลกั การเขยี นแลดเดอรโปรแกรมและคาํ สั่งพืน้ ฐานตางๆ เพื่อนาํ ไปประยกุ ตก บั การใชง านจริงไดอ ยา งเหมาะสม ตอ จากนีไ้ ปเราจะเรม่ิ ตน การเขยี นโปรแกรมโดยจะใช ซอฟตแวร CX-programmer ในการสรางแลดเดอรไดอะแกรม 6.1 การติดตั้งซอฟตแ วร CX-Programmer 6.1.1 PLC ทสี่ ามารถใชงานกับซอฟตแ วร CX-Programmer CX-Programmer เปนซอฟตแ วรท ี่พฒั นาข้นึ มาแทนซอฟตแ วร Syswin สามารถใชง าน ไดกับ PLC ของ OMRON รนุ ตางๆ ไดดงั ตารางตอไปนี้ PLC Series รนุ CP-Series CP1L, CP1H CJ-Series CJ1G, CJ1G-H, CJ1H-H, CJ1M CS-Series CS1G, CS1G-H, CS1H, CS1H-H, CS1D-H, CS1D-S CV-Series CV1000, CV2000, CV500, CVM1, CVM1-V2 C-Series C1000H, C2000H, C200H, C200HE, C200HE-Z, C200HG, C200HGZ, C200HS, C200HX, C200HX- Z, CPM1A, CPM1, CPM2*, CPM2*-S*, CQM1, CQM1H SRM1 SRM1,SRM1-V2 หมายเหตุ สําหรับรุน ของ PLC ตามตารางนน้ั จะเปลีย่ นไปตามการพฒั นาซอฟตแวร ถา ซอฟตแวรส ูงขน้ึ รุน ของ PLC จะมใี หเลอื กเพ่ิมขนึ้ -89-
PNSPO บทที่ 6 การใชซ อฟตแ วรป อ นโปรแกรม 6.1.2 ขอแนะนําสาํ หรบั เครือ่ งคอมพิวเตอรท ่ใี ชง าน (System Requirements) CX-Programmer (และ CX-Server) สามารถทํางานไดก บั เครือ่ งคอมพวิ เตอร PC (IBM-AT หรอื NEC PC-98) ตง้ั แต Pentium II ขนึ้ ไป โดยทํางานภายใตระบบปฏบิ ตั ิการMS-Windows 95, 98, ME, XP หรอื Windows NT Service pack 5, 2000 (หรือ Version ทใ่ี หมกวา ) หมายเหต:ุ CX-Programmer (และ CX-Server) ไมร บั ประกนั การทํางานบนเคร่อื งคอม พิวเตอรทเ่ี ปนระบบปฏบิ ัติการอยางอื่นนอกเหนือจากของ MS-Windows ปกติ (เชน พวก Windows Emulation อยา ง Apple Macintosh, หรือเครอื่ ง PC ทใ่ี ชร ะบบปฏบิ ัตกิ าร Linux) อยา งไรก็ตามขอ แนะนาํ สําหรับของระบบคอมพวิ เตอรข ้นั ตํา่ ท่ี CX-Programmer (และ CX-Server) จะสามารถทํางานไดอยางมีประสิทธผิ ล มีดงั น้ี Minimum system Requirements Minimum Specification Recommended Minimum Specification Operating CPU Memory HDD Display CPU Memory HDD Display system Type (RAM) Space Type (RAM) Space Windows 95 Windows 98 Pentium 32Mb 100Mb 800x600 Pentium 64Mb 150Mb 1024x768 Windows NT (with SP5) Class SVGA Class II SVGA Windows 133MHz 200MHz 2000 Pentium 64Mb 100Mb 800x600 Pentium 64Mb 150Mb 1024x768 Windows ME Class 128Mb SVGA Class II SVGA 200MHz Windows XP 150MHz 100Mb 800x600 64Mb 150Mb 1024x768 Home SVGA Pentium SVGA Pentium Class II Windows XP Class II 200MHz Professional 300MHz หมายเหตุ แมวา จะสามารถทํางานโดยใช Keyboard ไดทัง้ หมด อยา งไรกต็ ามเพื่อความสะดวก ในการทํางานควรใช Mouse - 90 -
PNSPO บทที่ 6 การใชซอฟตแวรปอนโปรแกรม 6.1.3 การติดต้ังซอฟตแวร CX-Programmer ซอฟตแ วรตวั น้ีจะทํางานบนระบบปฏบิ ัติการ MS Windows95, 98, ME, NT หรอื 2000 ขึ้นไป 1.คลกิ ท่ี RUN บน Task bar จะปรากฏหนา จอดังน้ี 2. เลือก Browse เลอื ก Setup จะ ปรากฏหนาจอดงั นี้ 3. หลังจากเลอื ก Setup ของ CX-Programmer จะปรากฏหนา จอน้ี 4.คลิก OK เพอ่ื เลือก Setup จะขน้ึ หนา จอ เพ่ือใหเลอื กภาษา 5.เลอื กภาษาองั กฤษ เลอื กตกลง จะปรากฏ หนา จอดังน้ี - 91 -
PNSPO บทท่ี 6 การใชซอฟตแ วรปอ นโปรแกรม 6.เลือก NEXT 7.เลอื ก YES - 92 -
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265